The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Aj Sunisa Patumchai, 2018-08-26 04:54:55

Performance appraisal

Portfolio

Keywords: sunisa

6. นาใบไมจ๎ ากฟักทองและใบไม๎จากแครอทวางตรงสวํ นโคนให๎เฉียงเขา๎ หากนั เลก็ น๎อยเพ่ือชํวยใหก๎ อต๎นไม๎
สวยงามขนึ้

ภาพท่ี 5.3.4 การจดั ตกแตงํ เป็นชํอดอกไม๎แนวตั้ง แบบท่ี 1
2. การจัดตกแต่งเปน็ ชอ่ ดอกไม้แนวต้งั แบบท่ี 2

1. แกะสลกั ดอกไมจ๎ ากแครอทจานวนสามดอก
2. แกะสลกั ใบไมจ๎ ากแตงร๎านหนึง่ ใบ
3. ตดั ก๎านดอกก๎ุยฉาํ ยและดอกกุ๎ยฉาํ ยยาวตามต๎องการดัดให๎งอเลก็ น๎อย
4. นาใบหอมกรีดดา๎ นหน่ึงตามขวางของใบหอมใหเ๎ ฉยี งและกรีดตามความยาวตรงสํวนที่กรีดเฉียง
นาไปแชํนา้ สักพักใบหอมจะบานออกและงอสวยงาม
5. นาดอกไม๎จากแครอทวางท่ีขอบจานด๎านใดดา๎ นหน่งึ โดยวางใหอ๎ ยูหํ าํ งกนั สามระดับและนากา๎ น
ดอกก๎ยุ ฉาํ ยวางตํอจากดอกไม๎จากแครอทและใหส๎ ํวนโคนเสมอกันเพื่อใหเ๎ ป็นกา๎ นดอกไม๎
6. นาดอกกุ๎ยฉํายวางใหส๎ ํวนโคนเสมอเทํากับโคนกา๎ นดอกก๎ุยฉํายและจดั ให๎ได๎ลกั ษณะกอต๎นไม๎
7. นาใบหอมวางตรงสํวนโคนและนาใบไมจ๎ ากแตงรา๎ นวางทับตรงสํวนโคนกอตน๎ ไม๎เพื่อความสวยงาม
และชํวยปดิ สวํ นโคนของกอต๎นไม๎ใหส๎ วยงาม

ภาพที่ 5.3.5 การจดั ตกแตํงเปน็ ชอํ ดอกไม๎แนวต้งั แบบที่ 2
3. การจดั ตกแต่งเปน็ ช่อดอกไม้แนวตั้ง แบบที่ 3

1. นาแตงร๎านผําแบงํ ครึ่งตามความยาวของลูกและนาแตํละสํวนหัน่ ใหเ๎ ปน็ ชิ้นโดยหน่ั ใหร๎ มิ ด๎านหนึ่ง
ขาดออกจากกันจานวน 3 ชิน้ และรมิ อีกดา๎ นหนง่ึ ติดกันอยูํ จบั ปลายดา๎ นหนง่ึ ของชน้ิ ที่อยูํตรงกลางงอและเสียบ
เข๎าไปในสํวนริมทตี่ ดิ กันอยํไู ด๎ดอกไมแ๎ รกแย๎ม

2. นาใบหอมใบเล็กๆ ตัดยาวตามตอ๎ งการตัดให๎เฉยี งด๎านใดดา๎ นหนึ่งใหถ๎ ่ีและเรยี งตํอกันไปเร่อื ยนาไป
แชนํ ้าสักพักหน่ึงใบจะโค๎งงอสวยงาม

3. นาใบหอมใบเล็กๆ กรดี ด๎านหนง่ึ ตามขวางของใบหอมให๎เฉยี งและกรีดตามความยาวตรงสวํ นทก่ี รีด
เฉยี งนาไปแชํนา้ สักพักใบหอมจะบานออกและงอสวยงาม

4. ตัดกา๎ นดอกก๎ุยฉาํ ยให๎ยาวตามต๎องการดดั ใหโ๎ ค๎งงอเลก็ น๎อย
5. นาดอกไม๎แรกแยม๎ จากแตงร๎านวางท่ีขอบจานด๎านใดด๎านหนงึ่ โดยวางให๎อยหํู ํางกนั เจ็ดระดับและนา
ก๎านดอกก๎ยุ ฉํายวางตอํ จากดอกไม๎แรกแยม๎ และใหส๎ ํวนโคนเสมอกนั เพื่อให๎เป็นก๎านดอกไม๎
6. นาใบหอมวางทส่ี วํ นโคนของกอต๎นไมใ๎ ห๎สวยงามตามต๎องการและนาใบหอมที่งอหยิกวางปิดสวํ น
โคนของกอต๎นไม๎ใหส๎ วยงาม

ภาพท่ี 5.3.6 การจัดตกแตํงเป็นชอํ ดอกไม๎แนวตง้ั แบบที่ 3
สรปุ

การจดั ตกแตงํ ผักและผลไมเ๎ ป็นการนาผกั ทห่ี ั่นในรูปแบบตํางๆ ทผี่ แ๎ู กะสลักต๎องการนามาใช๎ในการจัด
ตกแตงํ จานสาหรบั ใสํอาหารหรืออาจนาผลงานแกะสลกั ทเี่ ป็นดอกไมต๎ ํางนามาใชจ๎ ัดตกแตํงจานอาหารให๎
สวยงามเป็นเอกลักษณข๑ องอาหารนน้ั ๆ ซึ่งมีหลายรูปแบบท่ีผจ๎ู ัดจะคดิ ออกแบบในการจัดวางใหส๎ วยงามตาม
ตอ๎ งการทมี่ ที ้ังการจัดตกแตํงทจ่ี ัดวางรอบขอบจาน การตกแตํงที่จัดวางให๎เปน็ ชํอสวยงามทัง้ ชอํ ตามลกั ษณะ
แนวนอน การตกแตงํ ท่จี ัดวางให๎เป็นชํอสวยงามท้งั ชํอตามลักษณะแนวตั้ง ท้ังน้ีขนึ้ อยํูกับวัตถปุ ระสงค๑ของผูใ๎ ช๎
ต๎องการตกแตํงอยาํ งไรใหส๎ วยงาม

ความรูพ้ ้นื ฐานกา
เพอ่ื ตกแ

หน่วยท่ี 2

ารแกะสลกั เชิงธุรกจิ
แต่งหวั จาน

ความหมายขอ

องการแกะสลกั

การปอกควา้ น

หมายถงึ การใช้อุปก
วธิ ีการต่างๆทาให้สิ่งที่ต้อง

กรณ์เคร่ืองมือมาทาการด้วย
งการหลุดออกจากกนั

การแกะสลกั

หมายถึง การนาวสั ดุต
และวสั ดุอื่นๆ มาประดษิ ฐ์เป
ต่างๆ โดยใช้เครื่องมือตดั จ
คว้านออกจากชิ้นเดิม จนส

ต่างๆ เช่น พืชผกั สบู่ ขผี้ งึ้
ป็ น รูปลกั ษณ์ลวดลาย
จกั เฉือน เกลา แกะ แซะ
สาเร็จรูป

หลกั การจดั และแกะสล

ผกั สดท่ีจะใชแ้ กะสล
ไดค้ ลา้ ยคลึงกนั ทง้ั น้ีข้ึนอย
สามารถแกะสลกั เป็ นใบไมช
ทง้ั ดอกไมท้ ่ีมีกลีบดอกช้นั เ
ซอ้ นกนั หลายชน้ั

ลกั ผกั

ลกั ทุกชนิด สามารถแกะสลกั
ยู่กบั ความตอ้ งการท่ีจะใช้ ซ่ึง
ช้ นิดต่างๆ ดอกไมห้ ลายแบบ
เดียวและดอกไมท้ ่ีมีกลีบดอก

หลกั การจดั และแกะสล

ผกั บางอย่างสามารถแก
ขม้ินขาว กระชาย ฯลฯ สามา
จาปี ฯลฯ หรือแตงกวากบั ม
ดอกไมแ้ ละใบไมไ้ ดก้ ารจดั ผ
แกะสลกั เรียบรอ้ ยแลว้ ท่ีมีขน
แกะสลกั เป็นช้ินเลก็ วางต่อปร

ลกั ผกั (ต่อ)

กะสลกั ไดเ้ หมือน ๆกนั เช่น ขิง
ารถแกะสลกั ไดท้ ง้ั ดอกข่า ดอก
มะเขือ สามารถแกะสลกั เป็ น
ผกั ใส่ในภาชนะควรเลือกผกั ท่ี
นาดใหญ่เป็ นจุดศูนยก์ ลางผกั ท่ี
ระกอบตกแต่ง

หลกั การจดั และแกะส

ผลไมแ้ ต่ละชนิดสาม
เดียวกนั ได้ เช่น ละมุดกบั
แกะสลกั คลา้ ยกนั ไดเ้ ช่นแตงโ

สลกั ผลไม้

มารถท่ีจะแกะสลกั เป็ นแบบ
บพุทรา หรือบางชนิดอาจจะ
โมกบั แคนตาลูป

1. ผลไมช้ นิดท่รี บั ประทา

เช่น ละมุด พทุ รา ชมพ
บางเราสามารถรบั ประทานเป
เปลอื กก็ได้ จะแกะสลกั ตามท
ภาชนะอน่ื ๆ เช่น ถาด จาน

านทง้ั เปลอื ก

พู่ ซ่ึงผลไมจ้ าพวกน้ีมีเปลือก
ปลือกได้ หรือไม่รบั ประทาน
ท่ีออกแบบไว้ แลว้ นามาจดั ใส่

2. ผลไมช้ นิดท่ปี อกเปลอื

เช่น แตงโม สม้ โอ สบั ป
เปลอื กหนารบั ประทานไม่ได้ แ
ท่เี ปลอื กใหส้ วยงามแลว้ นาเน้ือ
อน่ื ๆ ได้ พรอ้ มกนั น้ีผลไมล้ ูกใ
แคนตาลูป

อกกอ่ นรบั ประทาน

ปะรด ฯลฯ ผล ไมจ้ าพวกน้ีมี
แตเ่ ราสามารถตกแตง่ แกะสลกั
อมาจดั ใสใ่ นลูกเดิมแทนภาชนะ
ใหญ่ประเภท แตงโม สม้ โอ

วสั ดทุ ่ใี ชใ้ นการแกะสลกั

ผกั หมายถงึ พชื ลม้ ล
ต่าง ๆ ของพืชยืนตน้ ท่ียงั อ
โบอ่อน ดอกหรือผลอ่อน เป
คุณค่าทางโภชนาการซ่ึงอ
ร่างกาย แป้ งและน้าตาลซ่ึงเป



ลกุ ท่ีมีลกั ษณะอวบน้า หรอื สว่ น
ออ่ นหรือ อวบน้าเช่น ยอดอ่อน
ป็ นตน้ ประโยชน์ของผกั ผกั มี
อุดมดว้ ยวิตามินท่ีจาเป็ นต่อ
ป็ นแหลง่ พลงั งาน

วสั ดทุ ่ใี ชใ้ นการแกะสลกั

ผลไม้ หมายถึงผลชนิดต
ๆ ผลไมส้ ่วนใหญ่จะมีเน้ือนุ่มกร
หรอื เปร้ยี วจดั บางชนิดกลน่ิ หอม
มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพรา
มากมาย เช่น วิตามิ เกลือแร่
รา่ งกายแข็งแรง ระบบขบั ถา่ ยดี ไ

ก (ต่อ)

ต่าง ๆ ท่ีนามารบั ประทานไดส้ ด
รอบ มีรสหวาน หวานอมเปร้ียว
มดว้ ยประโยชนข์ องผลไม้ ผลไม้
าะอุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร
น้าตาลเป็ นตน้ ผลไมช้ ่วยให้
ไม่

อปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นการแกะสลกั แ

1. มีดแกะสลกั หรือมีดควา้ น เป็
และขอ้ สาคญั มีดควา้ นจะตอ้ ง
มขี ุยตดิ และผกั หรอื ผลไมน้ ้นั

2. มดี ปอก เป็นมดี บางสาหรบั ใช
ต่างๆ กนั แลว้ แต่ผูผ้ ลิต วสั
เหลอื ง

3. หนิ ลบั มีด ใชส้ าหรบั ลบั มีดใหค
เลก็ กไ็ ดห้ รอื จะเป็นรูปแบบต่า

และจดั ตกแต่งอาหาร

ปนมีดท่ีมีลกั ษณะเล็กเรียวปลายแหลม
งคมเพ่อื ใหเ้ สน้ หรือกลีบท่ีแกะสลกั ไม่
นไม่ช้า
ชห้ นั่ หรอื ปอก ผกั ผลไม้ ซ่ึงจะมรี ูปร่าง
สดุท่ีใชค้ วรเป็ น สแตนเลสหรือทอง

ค้ มอยู่ตลอดเวลา จะเป็นกอ้ นใหญ่หรอื
างๆ แลว้ แต่ผูผ้ ลติ

อปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นการแกะสลกั แล

4. เขียง ใชส้ าหรบั รองของเวลาจะห
เป็นเขียงไม้ หรอื พลาสตกิ กไ็ ด้ รูป

5. กะละมงั ใชส้ าหรบั ใส่น้าลา้ งผกั แ
ผลไมท้ ่ยี งั ไม่ไดแ้ กะสลกั รูปแบบแ

6. ถาด ใชส้ าหรบั ใสผ่ กั และผลไมท้ ่ยี
สาหรบั รองเศษผกั ผลไมท้ ่แี กะสล
ผูผ้ ลติ

7. จาน ใชส้ าหรบั ใสผ่ กั และผลไมท้ ่ยี

ละจดั ตกแตง่ อาหาร (ต่อ)

หนั่ หรือรองเพ่ือจะปอกของช้ินใหญ่ จะ
ปแบบต่าง ๆ กนั แลว้ แตผ่ ูผ้ ลติ
และผลไมท้ ่ีจะแกะสลกั หรือสาหรบั ใส่
และขนาดแตกตา่ งกนั แลว้ แต่ผูผ้ ลติ
ยงั ไม่ไดแ้ กะสลกั หรอื แกะสลกั แลว้ หรือ
ลกั แลว้ ก็ได้ มีรูปแบบต่าง ๆ กนั แลว้ แต่

ยงั ไม่ไดแ้ กะสลกั หรอื แกะสลกั แลว้

อปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นการแกะสลกั แล

8. ผา้ เช็ดมอื ใชส้ าหรบั เช็ดมอื เช็ดอ
สภาพเดิมเสมอมีรูปแบบต่าง ๆ ก

9. ผา้ กนั เป้ือน ใชส้ าหรบั กนั เส้อื ผา้ แ
10. อน่ื ๆ เช่น ไมไ้ ผ่ ไมเ้ สยี บลูกช้ิน ฯ

ละจดั ตกแตง่ อาหาร (ต่อ)

อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหแ้ หง้ และอยู่ใน
กนั
และชดุ ของผูแ้ กะสลกั ไม่ใหส้ กปรก
ฯลฯ

การตดั และหนั่ เพอ่ื ใชใ้ น

การตดั และหนั่ ผกั และผลไ
การนาผกั และผลไมม้ าตดั หรือหนั่
ตกแต่งใหไ้ ดร้ ูปแบบตา่ งๆใหส้ วยงา
รวดเรว็ และบางครง้ั มีการแกะสลกั แ
วิธีการตดั หนั่ ผกั และผลไมผ้ ูแ้ กะ
ดดั แปลงใหไ้ ดด้ อกไมแ้ บบต่างๆไ
เพยี งเลก็ นอ้ ยจะไดด้ อกไมแ้ บบอน่ื

นการจดั ตกแต่ง

ไมเ้ พ่ือนาไปใชใ้ นการตกแต่งเป็ น
นใหไ้ ดร้ ูปแบบต่างๆ แลว้ นาไปวาง
ามตามตอ้ งการ สามารถทาไดอ้ ย่าง
แบบงา่ ยๆ ผสมในงานน้นั ๆ สาหรบั
ะสลกั สามารถนาวิธีการตดั หรือหนั่
ไดม้ ากมายโดยวิธีเปล่ียนรูปแบบ
นๆ

วธิ ที าการหนั่ เพอ่ื การจดั

ดตกแตง่ หวั จาน1

การแกะสลกั เบ้อื งตน้

การแกะสลกั ผกั อย่างง่าย
นาไปใชเ้ ป็ นผกั เคร่ืองจ้มิ หรอื ใชใ้ น
เป็ นการแกะสลกั เป็ นใบไมแ้ ละดอ
เดียวและไม่ซ้าซอ้ นกนั มากงา่ ยต่อ
การฝึกจบั เคร่อื งมอื แกะสลกั ใหเ้ กดิ
มีความชานาญข้ึนไปใชใ้ นการแกะ
กลบี ซ้าซอ้ นและยากข้ึน

ยเป็ นการแกะสลกั ผกั ลูกเล็กเพ่ือ
นการตกแต่งจานอาหารใหส้ วยงาม
อกไมแ้ บบง่ายๆ กลีบดอกไมม้ ีชน้ั
อการฝึกหดั แกะสลกั ใหม่ๆ เพอ่ื เป็น
ดความคลอ่ งตวั กอ่ นท่จี ะนาทกั ษะท่ี
ะสลกั ดอกไมห้ รือผกั และผลไมท้ ่ีมี

วธิ ีทาการแกะส

สลกั แบบง่าย

ใบง

1. ให้นักเรียนฝึ กปฏบิ ตั ิ ห
ตกแต่งจาน โดยใช้วตั ถุดบิ
กวา ให้สวยงาม

2. ให้นักเรียนม้วนกหุ ลาบ
คนละ1 ดอก

งาน

ห่ันแบบง่าย เพ่ือจดั
บ คือ แตงร้าน และแต่ง

บจากดอกมะเขือเทศ

แบบทดสอบก่อนเรียน

วิชา ศิลปะการจดั ตกแต่งอาหาร รหัสวิชา 2701-2110

คาสงั่ ให้นักเรียนทาเครือ่ งหมาย (X) หนา้ ขอ้ ท่ีถกู ตอ้ งลงในกระดาษคาตอบเพียงข้อเดยี ว
1. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของการ “แกะสลัก” ถกู ตอ้ งท่สี ดุ

ก. การประดษิ ฐ์ผกั หรือผลไมใ้ ห้มลี วดลายต่างๆ
ข. การป้ันวสั ดุให้มีรปู ร่างสวยงามตามธรรมชาติ
ค. การสรา้ งสิง่ ต่างๆ ใหม้ ลี วดลายสวยงามตามธรรมชาติ
ง. การตกแตง่ วสั ดุ ตา่ งๆ ใหม้ ีลวดลาย สวยงามตามต้องการ
2. อาหารประเภทใดนิยมใชผ้ ักในการจดั ตกแต่ง
ก. ประเภทยา
ข. ประเภทแกงจืด
ค. ประเภทแกงเผ็ด
ง. ประเภทนา้ พรกิ
3. ขอ้ ใดกล่าวถึงหลกั การจัดตกแตง่ ผกั และผลไม้ไม่ถูกต้อง
ก. ควรเลือกผักผลไม้ทีม่ ีความสดใหม่ สะอาด
ข. ควรเลอื กสีของผักและผลไม้ใหก้ ลมกลนื กัน
ค. ควรเลอื กภาชนะท่ีมรี าคาแพง สสี นั สวยงาม
ง. ควรเลือกภาชนะทเ่ี หมาะสมในการจดั ตกแตง่
4. วสั ดุชนดิ ใดนิยมนามาประดิษฐเ์ ปน็ ถาดเพอ่ื ใชใ้ นการจัดตกแต่งอาหาร
ก. ใบเตย
ข. ใบลาน
ค. ใบตอง
ง. ใบมะพร้าว

5. ผลไมช้ นดิ ใดเมือ่ นามาแกะสลักทงั้ ผลจะทาใหเ้ กดิ จุดเด่นมากที่สุด
ก. แตงโม
ข. แอปเปล้ิ
ค. มะละกอ
ง. สับปะรด

6. งานแกะสลักรูปแบบใดนยิ มนามาใชใ้ นการจัดตกแตง่ หัวจานมากทสี่ ุด
ก. ตวั สตั วต์ ามธรรมชาติ
ข. ดอกไม้ตามจนิ ตนาการ
ค. ตัวสตั วต์ ามจนิ ตนาการ
ง. ดอกไม้ ใบไมต้ ามธรรมชาติ

7. ขอ้ ใดเป็นการเลอื กผกั ผลไมแ้ กะสลกั เพื่อจดั ตกแตง่ หวั จาน
ก. มีเน้ืออ่อนน่ิม
ข. มสี สี นั ฉูดฉาด
ค. รบั ประทานสะดวก
ง. สามารถเก็บได้นาน

8. อปุ กรณ์ใดต่อไปนีไ้ มใ่ ชอ่ ุปกรณ์สาหรับการแกะสลกั
ก. มีดสับ
ข. มีดหั่น
ค. มดี คว้าน
ง. มดี ปลอก

9. การทางานแกะสลกั ใหป้ ระสบความสาเร็จควรทาอะไรเป็นสิ่งแรก
ก. วางแผนการทางาน
ข. เตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์
ค. ศกึ ษาวธิ ีการใช้เครื่องมือ
ง. ศึกษาลักษณะของช้นิ งาน

10. ผักในข้อใดท่นี ิยมนามาแกะสลักเพื่อจัดตกแตง่ หวั จานมากท่สี ุด
ก. แครอท
ข. ต้อหอม
ค. แตงกวา
ง. หัวไซเทา้

11. จานที่นามาจดั ตกแตง่ อาหารนยิ มใชข้ นาดเท่าไหร่
ก. 7 นว้ิ
ข. 8 นิ้ว
ค. 9 น้วิ
ง. 12 นิว้

12. การแกะสลักเป็นงานทต่ี ้องใช้ความสามารถดา้ นใดเปน็ พิเศษ
ก. ใจรัก
ข. ทักษะความชานาญ
ค. มีความรู้งานแกะสลกั
ง. มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์

13. การแกะสลกั ผกั ผลไม้ มีความสาคัญอย่างไร
ก. ทาให้อรอ่ ยข้นึ
ข. ทาให้เพ่ิมคณุ คา่ ทางโภชนาการ
ค. ทาให้เกดิ ความภาคภูมใิ จในตวั เอง
ง. เปน็ งานฝีมือที่เปน็ ศลิ ปะมีความประณีต สวยงาม

14. ข้อใดไม่ใชล่ กั ษณะของมีดแกะสลัก
ก. ขนาดเล็ก
ข. นา้ หนักเบา
ค. ใบมดี มีความยาว
ง. ปลายมดี เรียวแหลม

15. วัสดขุ อ้ ใดใช้แกะสลักเป็นภาชนะใส่นา้ พริกไดส้ วยงานและเหมาสมทสี่ ดุ
ก. เผือก
ข. น้าเตา้
ค. แตงโม
ง. แตงรา้ น

16. วสั ดุในขอ้ ใดสามารถนามาแกะสลักตกแต่งหวั จานได้งา่ ยและรวดเร็ว
ก. แครอท
ข. แต่งกวา
ค. ต้อนหอม
ง. หวั ไซเท้า

17. วสั ดุในข้อใดไมน่ ิยมนามาแกะสลกั ตกแต่งหวั จาน
ก. พรกิ
ข. ถวั่ พู
ค. แตงรา้ น
ง. กะหล่าปลี

18. การแกะสลักผัก ผลไม้สาหรบั รับประทานควรคานงึ ถึงข้อใดมากที่สดุ
ก. สสี ัน
ข. การเลือกช้ือ
ค. ความสะอาด
ง. ความสวยงาม

19. ข้อใดเปน็ วัตถุประสงค์ของการจกั ตกแตง่ หวั จาน
ก. ความสวยงาม
ข. ความสะดวกในการรบั ประทาน
ค. ความพงึ พอใจของผรู้ บั ประทาน
ง. ถูกทุกข้อ

20. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วตั ถุประสงค์ของการแกะสลักผักและผลไม้
ก. ใช้ในการประกอบอาชพี
ข. ใชส้ าหรับจดั ตกแต่งอาหาร
ค. ใช้สาหรบั จดั ตกแตง่ งานบวชใช้
ง. เป็นแนวทางในการดารงไว้ซึง่ เอกลกั ษณ์ไทย

แบบทดสอบหลังเรยี น
วชิ า ศิลปะการจดั ตกแต่งอาหาร รหัสวิชา 2701-2110
คาสง่ั ให้นักเรยี นทาเคร่ืองหมาย (X) หนา้ ข้อท่ถี กู ต้องลงในกระดาษคาตอบเพียงข้อเดยี ว
1. วสั ดขุ ้อใดใชแ้ กะสลักเปน็ ภาชนะใสน่ ้าพริกไดส้ วยงานและเหมาสมทสี่ ุด
ก. เผอื ก
ข. นา้ เต้า
ค. แตงโม
ง. แตงรา้ น
2. วัสดใุ นข้อใดสามารถนามาแกะสลกั ตกแต่งหวั จานไดง้ า่ ยและรวดเรว็
ก. แครอท
ข. แต่งกวา
ค. ต้อนหอม
ง. หวั ไซเท้า
3. วัสดุในข้อใดไม่นิยมนามาแกะสลักตกแต่งหวั จาน
ก. พรกิ
ข. ถั่วพู
ค. แตงรา้ น
ง. กะหล่าปลี
4. การแกะสลกั ผกั ผลไมส้ าหรบั รับประทานควรคานงึ ถึงข้อใดมากท่ีสุด
ก. สีสัน
ข. การเลอื กช้ือ
ค. ความสะอาด
ง. ความสวยงาม

5. ขอ้ ใดเปน็ วัตถุประสงค์ของการจกั ตกแตง่ หัวจาน
ก. ความสวยงาม
ข. ความสะดวกในการรบั ประทาน
ค. ความพึงพอใจของผรู้ บั ประทาน
ง. ถูกทกุ ขอ้

6. ผกั ในขอ้ ใดท่ีนยิ มนามาแกะสลักเพื่อจัดตกแต่งหัวจานมากท่สี ดุ
ก. แครอท
ข. ตอ้ หอม
ค. แตงกวา
ง. หัวไซเท้า

7. จานทนี่ ามาจัดตกแตง่ อาหารนยิ มใชข้ นาดเท่าไหร่
ก. 7 น้วิ
ข. 8 น้ิว
ค. 9 น้ิว
ง. 12 นิว้

8. การแกะสลกั เป็นงานที่ตอ้ งใชค้ วามสามารถด้านใดเป็นพเิ ศษ
ก. ใจรกั
ข. ทักษะความชานาญ
ค. มคี วามรงู้ านแกะสลัก
ง. มีความคดิ ริเร่มิ สร้างสรรค์

9. การแกะสลักผกั ผลไม้ มีความสาคญั อย่างไร
ก. ทาใหอ้ ร่อยขึ้น
ข. ทาให้เพม่ิ คณุ คา่ ทางโภชนาการ
ค. ทาใหเ้ กดิ ความภาคภมู ิใจในตัวเอง
ง. เป็นงานฝมี อื ทีเ่ ป็นศลิ ปะมีความประณีต สวยงาม

10. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะของมีดแกะสลัก
ก. ขนาดเล็ก
ข. นา้ หนักเบา
ค. ใบมดี มคี วามยาว
ง. ปลายมดี เรียวแหลม

11. ข้อใดไม่ใชว่ ตั ถุประสงค์ของการแกะสลักผักและผลไม้
ก. ใช้ในการประกอบอาชพี
ข. ใชส้ าหรบั จดั ตกแต่งอาหาร
ค. ใช้สาหรับจัดตกแต่งงานบวชใช้
ง. เปน็ แนวทางในการดารงไว้ซง่ึ เอกลักษณไ์ ทย

12. ผลไมช้ นดิ ใดเมื่อนามาแกะสลักทงั้ ผลจะทาใหเ้ กดิ จุดเด่นมากทีส่ ดุ
ก. แตงโม
ข. แอปเป้ลิ
ค. มะละกอ
ง. สับปะรด

13. งานแกะสลักรปู แบบใดนิยมนามาใชใ้ นการจัดตกแต่งหัวจานมากท่สี ดุ
ก. ตวั สตั ว์ตามธรรมชาติ
ข. ดอกไม้ตามจินตนาการ
ค. ตัวสตั ว์ตามจินตนาการ
ง. ดอกไม้ ใบไม้ตามธรรมชาติ

14. ข้อใดเป็นการเลือกผกั ผลไม้แกะสลักเพื่อจดั ตกแต่งหัวจาน
ก. มเี นอ้ื อ่อนน่มิ
ข. มีสีสันฉดู ฉาด
ค. รบั ประทานสะดวก
ง. สามารถเกบ็ ไดน้ าน

15. อุปกรณ์ใดต่อไปน้ีไมใ่ ช่อุปกรณ์สาหรับการแกะสลัก
ก. มีดสบั
ข. มีดหน่ั
ค. มดี คว้าน
ง. มดี ปลอก

16. การทางานแกะสลกั ใหป้ ระสบความสาเร็จควรทาอะไรเป็นสงิ่ แรก
ก. วางแผนการทางาน
ข. เตรยี มวสั ดุ อปุ กรณ์
ค. ศกึ ษาวธิ กี ารใช้เครื่องมอื
ง. ศึกษาลกั ษณะของช้ินงาน

17. ขอ้ ใดให้ความหมายของการ “แกะสลกั ” ถูกต้องทส่ี ุด
ก. การประดิษฐ์ผักหรือผลไม้ใหม้ ลี วดลายต่างๆ
ข. การป้นั วัสดใุ ห้มรี ูปรา่ งสวยงามตามธรรมชาติ
ค. การสร้างส่งิ ต่างๆ ใหม้ ีลวดลายสวยงามตามธรรมชาติ
ง. การตกแต่งวสั ดุ ต่างๆ ให้มีลวดลาย สวยงามตามตอ้ งการ

18. อาหารประเภทใดนิยมใช้ผกั ในการจัดตกแตง่
ก. ประเภทยา
ข. ประเภทแกงจดื
ค. ประเภทแกงเผ็ด
ง. ประเภทนา้ พริก

19. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ หลักการจดั ตกแตง่ ผกั และผลไม้ไม่ถูกต้อง
ก. ควรเลือกผกั ผลไม้ที่มีความสดใหม่ สะอาด
ข. ควรเลอื กสขี องผกั และผลไมใ้ หก้ ลมกลนื กนั
ค. ควรเลือกภาชนะที่มรี าคาแพง สสี ันสวยงาม
ง. ควรเลือกภาชนะที่เหมาะสมในการจดั ตกแต่ง


Click to View FlipBook Version