Project Approach Rice โครงการข้าว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/4 IEP ครูที่ปรึกษา : ครูภัทรดา ภูจันทึก
ที่มาของโครงการ โครงการนี้เกิดจากการที่นักเรียนและครูได้พูดคุยกันถึงโครงการที่เราจะเรียนในเทอม 1/2566 ว่าเราจะเรียนเรื่องอะไรดี ครูได้ให้แนวคิดว่าควรจะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราและเราสามารถ ไปเรียนรู้จากสถานที่จริงได้ โรงเรียนเรามีแหล่งให้เราได้เรียนรู้หลายแห่ง ที่สวน PAPA GARDEN มีแปลงเกษตรให้เราปลูกผักได้ ที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติสีคิ้ว นักเรียนสามารถเรียนรู้ ได้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ไก่ เป็ด ไข่ ผักสวนครัว ข้าว มะม่วง กล้วย ดิน น้้า ไผ่ เรา สามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจ เรื่องที่นักเรียนสนใจอยากจะเรียนรู้มีหลายเรื่อง แต่สุดท้ายสรุปได้ว่าอยากเรียนรู้ เรื่องข้าว มากที่สุด อยากรู้ว่าข้าวปลูกอย่างไร ข้าวมีกี่ชนิด ข้าวมีกี่สี ข้าวน้าไปท้าอะไรได้บ้าง ข้าวมีประโยชน์อย่างไร และยังมีอีกหลายค้าถามที่อยากรู้เกี่ยวกับข้าว และนี่คือที่มาว่าท้าไมเรา จึงเรียนเรื่องข้าว ถ้าพร้อมแล้วเราจะไปเรียนรู้และหาค้าตอบเรื่องข้าวพร้อมกันค่ะ
01 เลือกหัวข้อที่อยากเรียนรู้ นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและเสนอหัวข้อเรื่องที่สนใจอยากเรียนรู้ มีหลาย เรื่อง ได้แก่ ไข่ มะละกอ มะเขือเทศ มะม่วง แตงโม แคร์รอต ข้าว ถั่ว ดอกไม้ และผักสลัด สรุป แล้วนักเรียนอยากเรียนรู้เรื่องข้าวมากที่สุดจ้านวน 11 คน และเรื่องที่อยากเรียนรู้น้อยที่สุดคือ เรื่อง แตงโม มะละกอ และผักสลัด เรื่องละ 1 คน 16 พ.ค. 2566
01 เลือกหัวข้อที่อยากเรียนรู้ 16 พ.ค. 2566
02 ประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับข้าว 23 พ.ค. 2566 นักเรียนเล่าเรื่องประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับข้าว ซึ่งแต่ละคนมีประสบการณ์เดิมที่แตกต่าง จากเพื่อนๆ บางคนก็มีประสบการณ์เดิมเหมือนกับเพื่อนๆ เช่น ฉันไปซื้อข้าวที่ตลาด หนูไปปลูกข้าวที่ นากับปู่ หนูช่วยพ่อหุงข้าว นักเรียนสามารถบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่เคยเรียนรู้หรือเคยท้าได้
02 ประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับข้าว 23 พ.ค. 2566 หลังจากที่นักเรียนได้เล่าประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับข้าวแล้ว นักเรียนได้วาดภาพ ประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับข้าวและระบายสีให้สวยงาม พร้อมกับเขียนข้อความประสบการณ์เดิมของ ตนเองประกอบภาพวาด กิจกรรมนี้ได้บูรณาการกับวิชาภาษาไทยในเรื่องการเขียนประโยคและวิชา ศิลปะในเรื่องการวาดภาพระบายสี นักเรียนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ จากความคิด ของตนเองออกมาเป็นภาพวาดได้
02 ประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับข้าว 23 พ.ค. 2566
02 ประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับข้าว 23 พ.ค. 2566
02 ประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับข้าว 23 พ.ค. 2566
03 ทัศนศึกษาเรื่องการเกี่ยวข้าว 30 พ.ค. 2566 เนื่องจากเป็นช่วงที่นาข้าวศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมีข้าวพร้อมเก็บเกี่ยว เราจึงได้ไปเรียนรู้เรื่อง การเกี่ยวข้าว สังเกตลักษณะของต้นข้าวเมื่อถึงระยะสุกแก่พร้อมเก็บเกี่ยวมีลักษณะอย่างไร เรียนรู้การ นวดข้าวหรือการฟาดข้าวให้หลุดจากรวง และได้ลงมือเกี่ยวข้าวด้วยตนเอง ได้สัมผัสกับบรรยากาศ ธรรมชาติ นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงจากการลงมือปฏิบัติ รู้จักขั้นตอนการเกี่ยวข้าว การตีข้าวหรือ การฟาดข้าวเป็นการนวดข้าวแบบโบราณดั้งเดิม ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชนบท เป็นการด้าเนินชีวิตแบบเรียบ ง่าย พอเพียง เพื่อให้ข้าวเปลือกหลุดจากรวงข้าว เป็นการรักษาวัฒนธรรมและอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่มีการสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เห็นคุณค่าและความส้าคัญของข้าว
03 ทัศนศึกษาเรื่องการเกี่ยวข้าว 30 พ.ค.2566
03 ทัศนศึกษาเรื่องการเกี่ยวข้าว 30 พ.ค. 2566
03 ทัศนศึกษาเรื่องการเกี่ยวข้าว 30 พ.ค.2566
03 ทัศนศึกษาเรื่องการเกี่ยวข้าว 30 พ.ค.2566
03 ทัศนศึกษาเรื่องการเกี่ยวข้าว 30 พ.ค. 2566
03 ทัศนศึกษาเรื่องการเกี่ยวข้าว 30 พ.ค. 2566
04 ค าถามที่อยากรู้เกี่ยวกับข้าว นักเรียนอยากรู้อะไร สงสัยอะไรเกี่ยวกับข้าวให้นักเรียนตั้งค้าถาม และเราจะช่วยกัน ค้นหาค้าตอบแต่ละข้อจากเรื่องที่เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับข้าว ซึ่งการฝึกตั้งค้าถามเริ่มต้นมาจากการ สงสัยก่อนและการรู้จักสังเกตจึงเกิดความคิดเชื่อมโยงท้าให้นักเรียนอยากรู้ อยากเห็นและอยากค้นหา ค้าตอบที่ตัวเองและเพื่อน ๆ อยากรู้นั่นเอง 6 มิ.ย. 2566
04 หาค าตอบจากค าถามที่อยากรู้เกี่ยวกับข้าว 6 มิ.ย. 2566 ข้าวปลูกอย่างไร ตอบ การปลูกข้าวแบบนาด า 1.เลือกเมล็ดพันธุ์ข้าว น าไปแช่น้ า 1-2 คืน เพื่อน าไปหว่านเป็นต้นกล้า 2.ไถนา เพื่อหว่านต้นกล้าไว้ปักด า ท าก่อนนาด า 1 เดือน จึงถอนต้นกล้าได้ 3.ถอนต้นกล้าอายุประมาณ 30 วัน มัดเป็นก า ตัดส่วนปลายใบออก 4.ดึงต้นกล้า 3-5 ต้นปักลงในนาข้าวให้เป็นแถวให้ทั่วทั้งพื้นนา ข้าวมีกี่ชนิด ตอบ มี 4 ชนิด คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ข้าวเหนียว และข้าวเพื่อสุขภาพ
04 หาค าตอบจากค าถามที่อยากรู้เกี่ยวกับข้าว 6 มิ.ย. 2566 ข้าวกล้องมีประโยชน์อย่างไร ตอบ ช่วยน าพลังงานจากอาหารมาใช้ในร่างกายและช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง กระตุ้นการท างานของล าไส้ ส่งผลดีต่อการขับถ่าย แก้ปัญหาท้องผูก ข้าวน าไปท าเมนูอะไรได้บ้าง ตอบ ท าได้หลายเมนู เช่น ไข่พระอาทิตย์ ข้าวต้มหมู ข้าวผัดกุ้ง ข้าวห่อไข่ ข้าวเหนียวแดง ข้าวเหนียวเปียกล าไย ข้าวเหนียวท าเมนูอะไรได้บ้าง ตอบ ท าได้หลายเมนู เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง สังขยา ข้าวหลาม ข้าวแต๋น
04 หาค าตอบจากค าถามที่อยากรู้เกี่ยวกับข้าว 6 มิ.ย. 2566 ข้าวปลูกในดินอะไรได้บ้าง ตอบ ข้าวสามารถปลูกได้ในสภาพดินทรายถึงดินเหนียว แต่ในดินเหนียวจะมี การเจริญเติบโตได้ดีกว่า ข้าวใช้ระยะเวลาปลูกกี่วัน ตอบ ประมาณ 3-4 เดือน หรือ ประมาณ 120 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ข้าวอะไรที่มีประโยชน์มากที่สุด ตอบ ข้าวกล้องที่ยังมีจมูกข้าวและร าข้าวติดอยู่ เพราะจะท าให้ร่างกายได้รับ สารอาหารที่มีคุณค่า
04 หาค าตอบจากค าถามที่อยากรู้เกี่ยวกับข้าว 6 มิ.ย. 2566 ข้าวหอมมะลิมีรสชาติอย่างไร ตอบ นุ่ม หอมคล้ายใบเตย อร่อยละมุนลิ้น ข้าวไรซ์เบอร์รี่สีอะไร ตอบ สีม่วงเข้ม ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีรสชาติอย่างไร ตอบ หอมมัน เหนียวนุ่ม
04 หาค าตอบจากค าถามที่อยากรู้เกี่ยวกับข้าว 6 มิ.ย. 2566 ข้าวมีกี่สี ตอบ ข้าวที่คนไทยนิยมรับประทานมี 7 สี คือ 1.สีขาว เช่น ข้าวขาวเสาไห้ 2.สีขาวนวล เช่น ข้าวหอมมะลิ 105 3.สีขาวขุ่น เช่น ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 4.สีม่วงเข้ม เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ 5.สีขาวขุ่นออกนวล ๆ เช่น ข้าวญี่ปุ่น 6.สีน้ าตาลอ่อน เช่น ข้าวกล้อง 7.สีขาวอมเหลือง เช่น ข้าวอาโบริโอ
04 หาค าตอบจากค าถามที่อยากรู้เกี่ยวกับข้าว 6 มิ.ย. 2566 ข้าวน าไปท าอะไรได้บ้าง ตอบ 1.ท าเป็นของหวาน 2.ฟางข้าว ใช้ท าปุ๋ย ปลูกเห็ด ท าของเล่น 3.เมล็ดข้าว ท าเป็นเครื่องประดับ ท างานศิลปะ ข้าวเปลือกมีประโยชน์อย่างไร ตอบ 1.เป็นอาหารสัตว์ 2.เป็นพันธุ์ข้าว 3.เปลือกข้าว หรือ แกลบ ใช้เผาถ่าน
04 หาค าตอบจากค าถามที่อยากรู้เกี่ยวกับข้าว 6 มิ.ย. 2566 ข้าวมีประโยชน์อย่างไร ตอบ - วิตามินบี 1 ป้องกันโรคเหน็บชา - แร่ธาตุฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน - สารอาหารโปรตีน ช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอของร่างกาย - เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานและความอบอุ่น เพาะต้นกล้าข้าวใช้เวลากี่วัน ตอบ 20-30 วัน สามารถน าไปปักด าได้
05 เพาะกล้าข้าว 13 มิ.ย. 2566 มีค้าถามที่นักเรียนสงสัยว่าข้าวปลูกมาจากอะไร ข้าวเกิดขึ้นได้อย่างไร วันนี้นักเรียนจะได้ค้าตอบ ให้หายสงสัยเลยทีเดียว เพราะเราจะได้เรียนรู้เรื่องการเพาะกล้าข้าว รู้ขั้นตอนและวิธีการท้าให้เมล็ดข้าวงอก เป็นต้นกล้าที่จะน้าไปปักด้าในนาข้าว และเจริญเติบโตเป็นต้นข้าวจนออกรวงให้เราได้เก็บเกี่ยวผลผลิต การ ที่ชาวนาจะปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตเยอะและคุณภาพดี ต้องเริ่มจากการเพาะกล้าก่อน เพราะการเพาะกล้าถือ เป็นหัวใจส้าคัญในการเริ่มต้นการปลูกข้าวแบบนาด้านั่นเอง แต่วันนี้เราเพาะกล้าข้าวแบบท้านาโยน การ เพาะกล้าไม่ยาก อย่างแรกเราต้องเตรียมอุปกรณ์ในการเพาะกล้า คือ เมล็ดพันธุ์ข้าว ถาดเพาะกล้า ดิน ขั้นตอนการเพาะกล้ามี 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ด้วยกันคือ 1. น้าเมล็ดพันธุ์ข้าวแช่น้้า 24-48 ชั่วโมง 2. น้าดินใส่ถาดเพาะกล้าที่จัดเตรียมไว้ 3. โรยเมล็ดพันธุ์ข้าวลงในถาดเพาะกล้า และโรยดินกลบเมล็ดข้าว 4. หมั่นดูแลรดน้้า ประมาณ 30 วัน น้ากล้าข้าวไปโยนลงในนาข้าวได้เลยค่ะ
05 เพาะกล้าข้าว 13 มิ.ย.2566 เรามาดูนักเรียนเพาะกล้าข้าวกันค่ะ
05 เพาะกล้าข้าว 13 มิ.ย. 2566
05 เพาะกล้าข้าว 13 มิ.ย. 2566 ขอขอบคุณวิทยากร ดร.มาวิน ด่านกุล ที่มาให้ความรู้ในครั้งนี้ค่ะ
05 เพาะกล้าข้าว#2 6 ก.ค.2566 วันนี้นักเรียนมาเพาะกล้าข้าวครั้งที่ 2 ค่ะ เนื่องจากครั้งแรกที่เราเพาะกล้าข้าวนั้นเราน้าไป วางไว้ในบริเวณหลังอาคารเรียนซึ่งเป็นบริเวณที่มีนกลงมาหาอาหารและจิกกินเมล็ดข้าวที่เราเพาะ เอาไว้เกือบหมด เราจึงท้าการเพาะกล้าข้าวใหม่อีกรอบ เพื่อที่เราจะได้ท้าการสังเกตการงอกของเมล็ด ข้าวและเจริญเติบโตเป็นกล้าข้าวต่อไปค่ะ การเพาะกล้าข้าวรอบที่ 2 นี้ ท้าให้นักเรียนรู้ว่าเมื่อเราท้าสิ่งใดผิดพลาดหรือไม่ส้าเร็จ ให้เรากลับมา แก้ไขหรือท้าใหม่ แม้ว่าการกลับมาท้าใหม่จะส้าเร็จหรือไม่ก็ตาม ฝึกให้นักเรียนคิดและรู้จักการแก้ปัญหา
05 เพาะกล้าข้าว#2 6 ก.ค. 2566
05 เพาะกล้าข้าว#2 6 ก.ค. 2566
05 เพาะกล้าข้าว#2 6 ก.ค. 2566 หลังจากที่นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติการเพาะกล้าข้าว ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปขั้นตอนการ เพาะกล้าข้าวลงในใบงาน เป็นการฝึกให้นักเรียนสรุปการท้ากิจกรรมเป็นล้าดับ เป็นขั้นตอน และรู้จัก การจดบันทึก วาดภาพประกอบสื่อความหมายของกิจกรรมที่ท้า การสรุปและจดบันทึกเหมือนจะเป็น งานยากส้าหรับนักเรียนชั้น ป.1 แต่เมื่อนักเรียนได้ช่วยกันสรุปขั้นตอนการเพาะกล้าและจดบันทึกลงใน ใบงานจนเสร็จ ผลงานที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจมากค่ะ
05 เพาะกล้าข้าว#2 6 ก.ค. 2566
05 ติดตามการเจริญเติบโตของต้นกล้าอายุ 6 วัน 11 ก.ค. 2566 หลังจากที่นักเรียนได้เพาะกล้าข้าวแล้ว ได้ท้าการดูแล รดน้้า และติดตามการเจริญเติบโต ของกล้าข้าว จนกล้าข้าวมีอายุ 6 วัน เราจะท้าการวัดความสูงของต้นกล้า วัดความกว้างและความยาว ของใบ และนับจ้านวนใบ จดบันทึกลงในใบงาน ก่อนที่จะท้าการวัดต้นกล้าครูให้ความรู้เกี่ยวเครื่องมือ ในการวัด และสอนวิธีการวัดความยาวความสูงของต้นและใบ จนเข้าใจ จึงท้าการวัดความเจริญเติบโต ของต้นกล้า
05 ติดตามการเจริญเติบโตของต้นกล้าอายุ 6 วัน 11 ก.ค. 2566
05 11 ก.ค. 2566 นักเรียนแต่ละคนจะท้าการวัดต้นกล้าของตัวเอง และท้าการจดบันทึกลงในใบงาน จะเห็นว่า ต้นกล้าของนักเรียนแต่ละคนมีการเจริญเติบโตไม่เท่ากัน บางต้นสูงใบยาวมีหลายใบ บางต้นไม่สูงมีใบ เดียว ครูให้นักเรียนช่วยกันหาสาเหตุว่าท้าไมต้นกล้าจึงมีความแตกต่างกัน ค้าตอบที่ได้คือ บางเมล็ดไม่ สมบูรณ์ เวลาปลูกไม่เอาดินกลบเมล็ดท้าให้ขาดความชุ่มชื้น หรือรดน้้าไม่ชุ่ม เป็นการฝึกให้นักเรียน รู้จักสังเกต คิดวิเคราะห์และหาค้าตอบจากข้อสงสัยหรือค้าถาม ติดตามการเจริญเติบโตของต้นกล้าอายุ 6 วัน
05 18 ก.ค. 2566 วันนี้ต้นกล้ามีอายุ 13 วัน นักเรียนจะท้าการวัดความสูงของต้นกล้า วัดความกว้างและความ ยาวของใบ และนับจ้านวนใบ และจดบันทึกการเจริญเติบโตลงในใบงานเหมือนเดิมค่ะ ติดตามการเจริญเติบโตของต้นกล้าอายุ 13 วัน
05 3 ส.ค. 2566 ต้นกล้ามีอายุ 29 วัน นักเรียนจะท้าการวัดความสูงของต้นกล้า วัดความกว้างและความยาว ของใบ และนับจ้านวนใบ และจดบันทึกการเจริญเติบโตลงในใบงานเหมือนเดิมค่ะ ติดตามการเจริญเติบโตของต้นกล้าอายุ 29 วัน กิจกรรมการติดตามการเจริญเติบโตของต้นกล้าฝึกให้นักเรียนรู้จักหน้าที่ ของตนเอง มีความรับผิดชอบ รู้จักการดูแลต้นกล้า มีความอดทด รู้จักการ สังเกต รู้จักการจัดบันทึก รู้จักและใช้เครื่องมือการวัดความยาวความสูงได้ ถูกต้อง และน้าไปปรับใช้ในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เรื่องการวัดความยาว เป็นเซ็นติเมตรด้วยความเข้าใจและใช้เครื่องมือวัดความยาวได้อย่างถูกต้อง
06 ประเภทของข้าว 20 มิ.ย.2566 ครูและนักเรียนท้าการค้นคว้าเรื่องประเภทของข้าวในประเทศไทยที่เรานิยมบริโภค แบ่ง ออกเป็นกี่ประเภท โดยท้าการสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และร่วมกันสรุปความรู้ลงในกระดาษปรู๊ฟ คือ ข้าวแบ่งเป็น 4 ประเภท 1. ข้าวหอมมะลิ มีถิ่นก้าเนิดในไทย มีลักษณะกลิ่นหอมคล้ายใบเตย พันธุ์ที่นิยมปลูกและบริโภคกัน อย่างแพร่หลาย 2. ข้าวเหนียว พื้นที่ปลูกข้าวเหนียวพันธุ์ดีส่วนใหญ่ของประเทศไทยอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3. ข้าวขาว ข้าวขาวที่ปลูกกันอยู่โดยทั่วไปมีหลายพันธุ์ 4. ข้าวเพื่อสุขภาพ ข้าวพวกนี้จะเป็นข้าวที่ยังไม่ได้ผ่านการขัดสี ข้าวที่ได้จึงยังคงคุณค่าของวิตามิน และกากใยไว้สูง
06 ประเภทของข้าว 20 มิ.ย. 2566
07 พันธุ์ข้าวที่นิยมบริโภคในประเทศไทย 27 มิ.ย. 2566 เรารู้ว่าข้าวแบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ข้าวเหนียวและข้าวเพื่อ สุขภาพ อาทิตย์นี้เราจะเรียนรู้พันธุ์ข้าวที่นิยมบริโภคในประเทศไทยมีสายพันธุ์อะไรบ้าง เรา ท้าการค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตท้าให้ทราบว่า มีข้าวทั้งหมด 12 สายพันธุ์ที่คนไทยนิยมบริโภค ข้าวทั้ง 12 สายพันธุ์นี้อยู่ในข้าว 4 ประเภทที่เราได้เรียนมาแล้ว คือ 1. ข้าวหอมมะลิ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ 105 ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา 2. ข้าวเหนียว ได้แก่ ข้าวเหนียวพันธุ์ กข.6 ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ข้าวเหนียว ด้าหรือข้าวก่้า 3. ข้าวขาว ได้แก่ ข้างเหลืองประทิวชุมพร ข้าวเจ๊กเชยเสาไห้ 4. ข้าวเพื่อสุขภาพ ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวมันปู ข้าวสังข์หยดพัทลุง นักเรียนได้รู้จักข้าวทั้ง 12 สายพันธุ์ที่คนไทยนิยมบริโภค ซึ่งข้าวแต่ละสายพันธุ์มีความ พิเศษเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น รสชาติ และที่ส้าคัญมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราค่ะ
07 พันธุ์ข้าวที่นิยมบริโภคในประเทศไทย 27 มิ.ย. 2566
08 ส่วนประกอบของต้นข้าว 4 ก.ค. 2566 จากการที่นักเรียนได้ไปทัศนศึกษาการเกี่ยวข้าว นักเรียนได้สังเกต ได้สัมผัสต้นข้าวว่ามี ส่วนประกอบใดบ้าง จากนั้นมาช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบของต้นข้าวและให้นักเรียน วาดรูปต้นข้าว ชี้บอกส่วนประกอบของต้นข้าว นักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ได้สัมผัส ได้ เห็น สามารถบอกส่วนประกอบของต้นข้าวได้ถูกต้อง และน้าไปบูรณาการกับวิชาวิทยาศาสตร์ใน เรื่องโครงสร้างภายนอกของพืชได้
08 ส่วนประกอบของต้นข้าว 4 ก.ค. 2566
08 ส่วนประกอบของต้นข้าว 4 ก.ค. 2566
09 วิธีการปลูกข้าวของประเทศไทย 11 ก.ค. 2566 ครูให้ความรู้เรื่องวิธีการปลูกข้าวของประเทศไทย โดยเปิด Powerpoint ให้นักเรียนดูพร้อมกับ อธิบายเพิ่มเติมถึงวิธีการปลูกข้าวแต่ละวิธี นักเรียนตั้งใจเรียนรู้วิธีการปลูกข้าวและได้เห็นภาพวิธีการปลูก ข้าวที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น การปลูกข้าวแบบขั้นบันได นักเรียนเกิดความตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ครูอธิบาย ถึงวิธีการปลูกข้าว ดังนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม ประชาชนส่วนใหญ่บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก ชาวนาจึงเป็นต้องพยายามปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ในปัจจุบันมีการแบ่งวิธีการปลูกข้าวอยู่ 4 วิธี คือ 1.การปลูกข้าวนาด า 2.การปลูกข้าวนาหว่าน 3.การปลูกข้าวนาไร่ 4.การปลูกข้าวนาขั้นบันได ซึ่งการปลูกข้าวในแต่ละวิธีก็จะขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นที่นั้นๆ เช่น ในพื้นที่ราบลุ่มก็จะมีการปลูกข้าวแบบ ข้าวนาหว่านหรือข้าวนาด้า ส่วนในพื้นที่สูง หรือบนดอยก็จะปลูกข้าวแบบข้าวไร่หรือข้าวนาขั้นบันได เป็นต้น
09 วิธีการปลูกข้าวของประเทศไทย 11 ก.ค. 2566 1. การปลูกข้าวนาด า การปลูกข้าวนาด้า หมายถึง การปลูกข้าวนาสวนในสภาพพื้นที่ลุ่ม น้้าขัง โดยใช้ต้นกล้าข้าวท้าการ ปักด้าลงไปในดินแปลงนา ซึ่งจะมีขั้นตอนของการปลูกข้าวแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะต้นกล้า และระยะปักด้า โดยในแต่ระยะจะสามารถน้าเครื่องจักรกลเกษตรมาใช้
09 วิธีการปลูกข้าวของประเทศไทย 11 ก.ค. 2566 2. การปลูกข้าวนาหว่าน หมายถึง การปลูกข้าวนาสวนในสภาพพื้นที่ลุ่มน้้าขัง โดยใช้ เมล็ดพันธุ์ข้าวหว่านในพื้นที่แปลงนา ในการปลูกข้าวนาหว่านจะมีอยู่ 2 แบบ คือ การหว่านข้าวนาน้ า ตม และ การหว่านข้าวนาแห้ง ซึ่งทั้ง 2 แบบขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นที่ โดยแต่ละวิธีมีการใช้ เครื่องจักรกลเกษตรในแต่ละขั้นตอนการปลูก 2.1 การหว่านข้าวนาน้ าตม เป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวในพื้นที่ที่มีน้้าหรือในเขตชลประทาน ซึ่งจะต้องมีการเตรียมพื้นที่ท้า นาให้เป็นตมเสียก่อนที่จะท้าการหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เพาะให้งอกเล็กน้อยลงไป โดยมีการใช้ เครื่องจักรกลเกษตรในแต่ละขั้นตอนการปลูกข้าวมาใช้
09 วิธีการปลูกข้าวของประเทศไทย 11 ก.ค. 2566 2.2 การปลูกข้าวนาแห้ง หรือเรียกว่า หว่านส้ารวย เป็นการหว่านข้าวในพื้นที่ที่ไม่มีน้้า หรือหว่านเพื่อรอฝนตก ซึ่งจะต้องมีการเตรียมพื้นที่ในลักษณะการไถพลิกหน้าดินก่อนรอบแรกเพื่อท้า การตากหน้าดิน จากนั้นจึงใช้พรวนจานอีกครั้งเพื่อท้าการย่อยดินให้ละเอียดมากขึ้น แล้วจึงค่อยท้าการ หว่านข้าวหรือท้าพร้อมกับการพรวนดินรอบสองก็ได้ โดยมีการใช้เครื่องจักรกลเกษตรในแต่ละขั้นตอน การปลูกข้าว
09 วิธีการปลูกข้าวของประเทศไทย 11 ก.ค. 2566 3. การปลูกข้าวนาไร่ หมายถึง การปลูกข้าวในสภาพที่ไม่มีน้้าขัง และจะต้องใช้น้้าฝน เท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่สูง เชิงเขา ที่ดอนหรือบนดอยสูง ซึ่งการปลูกข้าวจะใช้วิธีการหยอด เป็นหลุม หรือการโรยเป็นแถว ในการใช้เครื่องจักรกลเกษตรส่วนใหญ่จะใช้เครื่องจักรกลเกษตรขนาด เล็กเท่านั้น ไม่สามารถใช้เครื่องจักรกลเกษตรขนาดใหญ่ได้เนื่องสภาพพื้นที่มีความลาดชันสูง โดยมีการ ใช้เครื่องจักรกลเกษตรในแต่ละขั้นตอน