46
พีรณัฐ : เปล่าอะกูแค่อยากทำตามใจ ใจกูอยากทำยังไงกูก็อยาก
ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น ตอนนี้กูอยากอยู่กับมึง แต่ต่อไปกูอาจ
ระแวงขนึ้ มาอีกกไ็ ด้
(คณุ หมปี าฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 7)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพจิ ารณาได้จากคำบ่งชี้แสดงความตั้งใจ คอื แคอ่ ยากทำตามใจ ผู้สนทนาใช้ถอ้ ยคำนี้เพ่ือการกล่าวที่มี
เจตนากล่าวเพื่อแสดงให้เห็นว่าจะกระทำการบางอย่างเพื่อคู่สนทนาอย่างมุ่งมั่นอย่างใจจดใจจ่อต่อสิ่งที่จะ
กระทำ เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า เปล่าอะกูแค่อยากทำตามใจ ใจกูอยากทำยังไงกูก็อยากปล่อยให้มัน
เป็นแบบนั้น ตอนนี้กูอยากอยู่กับมึง แต่ต่อไปกูอาจระแวงขึ้นมาอีกก็ได้ หมายความว่า ผู้สนทนาแสดงความ
ตง้ั ใจที่จะอยูก่ บั คสู่ นทนาอย่างไม่มีขอ้ แม้ ในบรบิ ทท่ที ง้ั สองเปน็ ผ้ชู ายและตอ้ งอย่ดู ้วยกนั
บทสนทนาที่ 3
เต้าหู้ : คุณป้ายอมรับพี่ณัฐได้ตั้งนานแล้วใช่มั้ยฮะ คุณป้าถึง
ยอมรับผมได้อีกคน
มนทนา : ป้าไม่เคยคิดจะไล่เต้าหู้ไปอย่างที่ณัฐเค้ากลัวเลยนะ ป้า
ขอบคุณเต้าหู้ด้วยซ้ำที่เข้ามาในชีวิตเราสองคน ใครจะพูดอะไรปา้
กไ็ มส่ นใจทง้ั นน้ั
(คุณหมีปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 11)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้แสดงความตั้งใจ คือ ใครจะพูดอะไรป้าก็ไม่สนใจทั้งนั้น ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำน้ี
เพื่อการกลา่ วท่ีมีเจตนากลา่ วเพื่อแสดงให้เห็นวา่ จะกระทำการบางอย่างเพือ่ คู่สนทนาอย่างมุ่งมั่นอย่างใจจดใจ
จ่อต่อสิ่งที่จะกระทำ เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า ป้าไม่เคยคิดจะไล่เต้าหู้ไปอย่างที่ณัฐเค้ากลัวเลยนะ ป้า
ขอบคุณเต้าหู้ด้วยซ้ำที่เข้ามาในชีวิตเราสองคน ใครจะพูดอะไรป้าก็ไม่สนใจทั้งนั้น หมายความว่า ผู้สนทนา
แสดงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะไม่สนใจคำพูดจากใครทั้งน้ัน ในบริบทที่ลูกชายของผู้สนทนามีความสมั พันธ์
แบบชายรกั ชายโดยทีต่ นเองยอมรับความสมั พนั ธแ์ บบชายรักชายและไมส่ นใจวา่ ใครจะไมย่ อมรับก็ตาม
1.1.3.2 สัญญา เป็นวัจนกรรมที่ผู้สนทนามีเจตนาจงใจให้มีผลกับคู่สนทนา เพื่อให้คู่
สนทนาตระหนักในผลที่จะเกิดขึ้นร่วมกันระหว่างคนสองคนอาจเป็นการทำข้อตกลงร่วมกัน การรับปาก การ
สาบานและการใหค้ ำมนั่ มจี ำนวน 2 บทสนทนา ดังตอ่ ไปนี้
บทสนทนาท่ี 1
เต้าหู้ : ผมจะพยายามทำตัวดี ๆ ฮะจะทำตัวให้น่าไว้ใจ และก็ให้
พี่ณัฐเชื่อใจในตัวผมถึงแม้ว่าตัวตนผมมันอาจดูไม่ค่อยน่าไว้ใจสัก
47
เท่าไหร่อะ แต่ทุกอย่างที่ผมทำให้พี่ณัฐผมทำให้ด้วยความบริสุทธิ์
ใจจรงิ ๆ นะฮะ สักวันนงึ พี่ณัฐจะต้องรับรู้ถึงความจรงิ ใจของผมฮะ
ผมสัญญา ประมาณน้โี อเคม้ัยฮะ
พีรณัฐ : เออ พอแล้วมงึ สญั ญาแล้วนะ กจู ะรอดู
(คณุ หมปี าฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 7)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้สัญญา คือ ผมสัญญา ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เพื่อการกล่าวที่มีเจตนากล่าวเพื่อ
เป็นการทำข้อตกลงร่วมกัน การรับปาก การสาบานและการให้คำมั่น เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า ผมจะ
พยายามทำตัวดี ๆ ฮะจะทำตัวให้น่าไว้ใจ และก็ให้พี่ณัฐเชื่อใจในตัวผมถึงแม้ว่าตัวตนผมมันอาจดูไม่ค่อยน่า
ไว้ใจสักเท่าไหรอ่ ะ แต่ทกุ อย่างทผี่ มทำใหพ้ ่ีณฐั ผมทำใหด้ ว้ ยความบรสิ ุทธิ์ใจจรงิ ๆ นะฮะ สักวันนึงพ่ีณัฐจะต้อง
รับรู้ถึงความจริงใจของผมฮะ ผมสัญญา ประมาณนี้โอเคมั้ยฮะ หมายความว่า ผู้สนทนาให้คำมั่น สัญญากับคู่
สนทนาวา่ จะทำตัวดี ๆ ทำใหค้ สู่ นทนารับรูไ้ ด้ถึงความจรงิ ใจของตน ในบริบทที่ท้งั สองกำลังเปดิ ใจใหก้ นั
บทสนทนาท่ี 2
เต้าหู้ : ผมสัญญานะ ผมจะอยู่กับพี่ณัฐตลอดไป
พีรณัฐ : งั้นคนื เน่ยี มึงอยู่กับกูนะ (จบู )
(คุณหมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 9)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้สัญญา คือ ผมสัญญานะ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เพื่อการกล่าวที่มีเจตนากล่าว
เพื่อเป็นการทำข้อตกลงร่วมกัน การรับปาก การสาบานและการใหค้ ำมั่น เห็นได้จากการทีผ่ ู้สนทนาพูดว่า ผม
สัญญานะ ผมจะอยู่กบั พ่ีณัฐตลอดไป หมายความว่า ผู้สนทนาใหค้ ำมั่น สัญญากับคู่สนทนาว่าจะทำตัวดี ๆ ทำ
ให้คู่สนทนารับรไู้ ดถ้ ึงความจริงใจของตน ในบรบิ ทที่ท้ังสองกำลงั คบหาดูใจกัน
1.1.3.3 ปลอบโยน เป็นวัจนกรรมที่ผู้สนทนา มีเจตนาให้ผู้ที่ถูกกระทำให้เสียใจหรือ
มีความทุกข์เกิดความรู้สึกคลายจากความทุกข์ความรู้สึกผิดหรือความเศร้าเสียใจ มีจำนวน 1 บทสนทนา
ดังต่อไปน้ี
เกณฑส์ ทิ ธิ์ : กถู ามจริง ๆ นะมีปัญหาไรวะ
พีรณัฐ : กูแค่เครียดเรื่องงานอะ กูคิดฉากหวาน ๆ ฟิน ๆ ให้พี่เจือ
ไมไ่ ด้
เกณฑ์สิทธิ์ : ทำไมว่ะ ไหนว่าเรื่องมาจากชีวิตมึงไง หรือว่ามึงกบั พ่ี
หน่งึ จบกนั ไมด่ ี
พีรณฐั : กไู ม่เคยคบกบั พี่หน่งึ
48
เกณฑ์สทิ ธิ์ : ถ้างนั้ มึงคบกับใครอะ ไอณัฐถา้ มงึ คดิ ถึงอะไรแล้วไม่มี
ความสขุ อะ มงึ ก็อยา่ ไปคิดอย่าไปจมอยกู่ ับมันดวิ ่ะ
(คุณหมีปาฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 6)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชีป้ ลอบโยน คือ อย่าไปจมอยู่กับมันดิว่ะ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เพ่ือการกล่าวทีม่ ี
เจตนาใหผ้ ้ทู ีถ่ กู กระทำให้เสยี ใจหรอื มีความทกุ ข์เกิดความรสู้ ึกคลายจากความทกุ ข์ความรูส้ กึ ผิดหรือความเศร้า
เสยี ใจ เห็นไดจ้ ากการทีผ่ ูส้ นทนาพูดวา่ ไอณัฐถา้ มึงคิดถงึ อะไรแล้วไมม่ ีความสุขอะ มงึ กอ็ ย่าไปคิดอย่าไปจมอยู่
กบั มันดวิ ะ่ หมายความว่า ผู้สนทนามเี จตนาให้คู่สนทนาคลายจากความทุกขค์ วามผิดหวัง ในบริบทที่คู่สนทนา
ยังไม่หลุดพน้ จากเรอ่ื งราวความรักในอดีตซ่ึงเปน็ ความรกั แบบชายรกั ชาย
1.1.4 วัจนกรรมแสดงความรู้สึก (expressives) เป็นถ้อยคำที่บ่งบอกถึงอารมณ์ความรู้สึก
ตลอดจนทัศนคติของผู้สนทนาที่มีต่อคู่สนทนา โดยไม่ได้ต้องการให้ผู้สนทนาทราบถึงข้อมูล แต่มีเจตนาที่
จะสื่อสารความรู้สึกในการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย พบวัจนกรรมแสดงความรู้สึก เป็นจำนวน 4
บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 3 โดยใช้วัจนกรรมแสดงความรู้สึกด้านบวก 3 รูปแบบ วัจนกรรมได้แก่ ให้กำลังใจ
ขอบคุณ และแสดงความยนิ ดี ดงั นี้
1.1.4.1 ด้านบวก เป็นวัจนกรรมทผ่ี ู้สนทนาแสดงความรสู้ กึ ทดี่ งี ามหรอื สรา้ งสรรค์ซ่ึง
อาจทำใหเ้ กดิ กำลงั ใจและกำลังกายได้ ประกอบดว้ ย
(1) ใหก้ ำลังใจ มีจำนวน 2 บทสนทนา ดังตอ่ ไปน้ี
บทสนทนาที่ 1
เกณฑส์ ิทธ์ิ : ไอณฐั เลกิ นอยดไ์ ด้แล้วนะมงึ อะ พ่ีเจือเค้าไม่ไช่ไม่เอา
ของมงึ เวย้ มันโอเค แต่แคบ่ รษิ ัทเราไม่เคยทำเร่ืองแนวน้ี มันก็เลย
เสี่ยง (ถอนหายใจ) กูบอกว่าอย่านอยด์ อย่านอยด์ ๆ มึงก็แค่
กลับไปพัฒนามาให้เค้าดูอีกทีเนี่ย พี่เจือเค้าไว้ใจมึงนะณัฐ กูก็
ไว้ใจมึงนะเว้ย ทำได้อยแู่ ล้ว
พีรณัฐ : เออกูก็รู้ กูก็ไม่ได้จะยอมแพ้ อุตส่าห์ได้โอกาสมาลองทำ
ทง้ั ที ยังไงกกู ส็ ู้เต็มท่ีอยู่แลว้
เกณฑส์ ทิ ธ์ิ : ตอ้ งอย่างงด้ี ิวะ่
(คุณหมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 6)
จะเหน็ ไดว้ ่าบทสนทนาขา้ งต้นเป็นวจั นกรรมการยอมรบั ความสัมพนั ธ์แบบ
ชายรักชายโดยพจิ ารณาไดจ้ ากคำบ่งช้ใี ห้กำลงั ใจ คอื ไมไ่ ชไ่ ม่เอาของมึงเว้ย มนั โอเค/พ่ีเจอื เคา้ ไว้ใจมึงนะณัฐ
กูก็ไว้ใจมึงนะเว้ย ทำได้อยูแ่ ล้ว ผู้สนทนาใชถ้ ้อยคำนีเ้ พื่อการกล่าวที่มีเจตนากล่าวเพื่อให้กำลังใจแก่คูส่ นทนา
49
เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า ไอณัฐเลิกนอยด์ได้แล้วนะมึงอะ พี่เจือเค้าไม่ไช่ไม่เอาของมึงเว้ย มันโอเค แต่
แคบ่ ริษัทเราไมเ่ คยทำเรอ่ื งแนวน้ี มันก็เลยเสีย่ ง (ถอนหายใจ) กบู อกวา่ อย่านอยด์ อย่านอยด์ ๆ มึงก็แค่กลับไป
พัฒนามาให้เค้าดูอีกทีเนี่ย พ่ีเจือเค้าไว้ใจมึงนะณัฐ กูก็ไว้ใจมึงนะเว้ย ทำได้อยู่แล้ว หมายความว่า ผู้สนทนา
แสดงความรู้สกึ ในดา้ นบวกใหก้ ำลงั ใจคสู่ นทนาในการเขียนบทซรี ีสว์ ายจากเรื่องจริงของคู่สนทนา แสดงให้เห็น
ถงึ การยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรกั ชายของผสู้ นทนา
บทสนทนาท่ี 2
แสน : ละไม่ว่าณัฐจะเป็นยังไงอะณัฐคิดถูกแล้วนะ ที่เลือกที่จะ
ยืนยันในตัวตนของตัวเอง ยืนยันในความรักของตัวเอง การที่
คนเราจะรักษาความรักให้มั่นคงไปตลอดเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องง่าย
ถ้าณฐั กับเต้าหมู้ คี วามสขุ ลุงก็ยินดดี ้วย
พรี ณัฐ : (ย้มิ )
(คุณหมปี าฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 13)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบ
ชายรักชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้ใหก้ ำลงั ใจ คือ ณัฐคิดถูกแล้วนะ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เพือ่ การกลา่ วทีม่ ี
เจตนากล่าวเพื่อให้กำลังใจแก่คู่สนทนา เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า ละไม่ว่าณัฐจะเป็นยังไงอะณัฐคิดถูก
แล้วนะ ที่เลือกที่จะยืนยันในตัวตนของตัวเอง ยืนยันในความรักของตัวเอง การที่คนเราจะรักษาความรักให้
มั่นคงไปตลอดเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าณัฐกับเต้าหู้มีความสุข ลุงก็ยินดีด้วย หมายความว่า ผู้สนทนาแสดง
ความรู้สึกในด้านบวกให้กำลังใจคู่สนทนาว่าคู่สนทนาคิดถูกแล้วที่เลือกยืนยันในการเป็นตัวเองและมีความสุข
กับสง่ิ ทีเ่ ลอื ก ในบริบททผี่ ู้สนทนาเป็นเกยแ์ ละยืนยันความสัมพนั ธแ์ บบชายรักชาย
(2) ขอบคุณ มจี ำนวน 1 บทสนทนา ดงั ต่อไปน้ี
พีรณัฐ : ขอบคุณนะที่มึงมาที่นี่อะ ขอบคุณที่ใส่ใจกู ขอบคุณที่มึง
ทำใหก้ ทู ุกเรอ่ื ง ถ้าไมม่ ีมงึ กูกไ็ ม่ร้วู ่ากูจะผา่ นอะไรมาได้บา้ ง
เต้าหู้ : คุณป้าบอกว่า ความรักไม่ใช่แค่การทำอะไรให้ แต่มันคือ
การทำให้ด้วยความใสใ่ จ ผมรักพณี่ ัฐหมดใจเลยฮะ
พรี ณัฐ : เออกรู ้แู ลว้
เตา้ หู้ : อยากอยอู่ ย่างง้ีไปนาน ๆ จงั เลยฮะ พี่ณัฐตวั หอม ผมกห็ อม
(คณุ หมีปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 9)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างตน้ เป็นวัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบ
ชายรักชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้ขอบคุณ คือ ขอบคุณนะ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เพื่อการกล่าวที่มีเจตนา
กลา่ วเพอ่ื แสดงความขอบคณุ แกค่ สู่ นทนา เห็นได้จากการท่ผี ู้สนทนาพดู ว่า ขอบคณุ นะทีม่ งึ มาทนี่ อี่ ะ ขอบคณุ ท่ี
50
ใสใ่ จกู ขอบคณุ ทมี่ ึงทำให้กูทุกเรื่อง ถ้าไมม่ มี งึ กูก็ไม่รู้วา่ กูจะผา่ นอะไรมาได้บ้าง หมายความว่า ผู้สนทนาแสดง
ความรสู้ กึ ในด้านบวกขอบคุณคสู่ นทนาท่คี อยอยู่ข้าง ๆ ร่วมผา่ นเรอ่ื งราวรา้ ย ๆ มาดว้ ยกันในบริบทท่ีผู้สนทนา
เปน็ เกยแ์ ละกำลังคบหาดูใจกบั ค่สู นทนา
(3) แสดงความยนิ ดี มจี ำนวน 1 บทสนทนา ดงั ตอ่ ไปน้ี
พรี ณฐั : มึงตามกูมาทำไมเนยี่
เกณสทิ ธิ์ : ใครว่ากูตามกแู ค่ผา่ นมาเห็นเลยแปลกใจ รอ้ ยวนั พนั ปีกู
ไม่เคยเห็นมึงไปไหนมาไหนกับแม่มึงเลยอะ กูก็เลยอยากจะรู้ว่า
วันนเี้ พ่ือนมอี ะไรพิเศษรเึ ปลา่
พรี ณัฐ : ไมไ่ ด้พเิ ศษ กูกแ็ ค่พาแมม่ าซื้อของเฉย ๆ อะ
เกณฑ์สิทธิ์ : กดู ีใจนะเวย้ ทม่ี งึ มีความสขุ กูรอวันนี้มานานละ
(คุณหมีปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 12)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างตน้ เป็นวัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบ
ชายรักชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้แสดงความยินดี คือ กูดีใจนะเว้ยที่มึงมีความสุขกูรอวันนี้มานานละ
ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำน้ีเพื่อการกล่าวที่มีเจตนากล่าวเพื่อแสดงความยินดีแก่คู่สนทนา เห็นได้จากการท่ีผู้สนทนา
พูดว่า กดู ใี จนะเวย้ ที่มึงมคี วามสุขกูรอวนั นีม้ านานละ หมายความว่า ผู้สนทนาแสดงความรสู้ ึกในด้านบวกแสดง
ความยนิ ดแี กค่ สู่ นทนาทค่ี ู่สนทนามคี วามสุขกบั ครอบครัวทีย่ อมรบั ในความสมั พนั ธแ์ บบชายรกั ชาย
1.2 วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle
Of Teddy Bear เป็นถ้อยคำที่ใช้สื่อความหมายตามเจตนาของผู้พูดเพื่อต้องการให้เกิดผล อย่างใดอย่างหนึ่ง
ต่อผู้ฟัง โดยพิจารณาตัวถ้อยคำที่ผู้พูดใช้ในการสนทนากับคู่สนทนาเป็นหลัก ที่สื่อสารกัน ในปริบทใดปริบท
หนึง่ โดยในระหวา่ งการสนทนามกี ารพูดถงึ ความสมั พันธแ์ บบชายรกั ชายและใชถ้ ้อยคำทีแ่ สดงให้เห็นถึงเจตนา
ของการไม่ยอมรับในความสัมพันธ์แบบชายรักชาย พบวัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย
จำนวน 36 บทสนทนา คดิ เป็นรอ้ ยละ 20.70 โดยพบวัจนกรรมบอกกล่าว วัจนกรรมชีน้ ำ และวจั นกรรมแสดง
ความรสู้ กึ เรียงตามความถ่ีที่ปรากฏในบทสนทนามรี ายละเอียดดงั ตอ่ ไปน้ี
1.2.1 วัจนกรรมบอกกล่าว (assertives) เป็นถ้อยคำที่ผู้สนทนามีจุดมุ่งหมายเพื่อบอกกล่าว
ข้อมูลข้อเทจ็ จรงิ เกย่ี วกบั ส่ิงต่าง ๆ ทีเ่ กดิ ข้ึนรอบ ๆ ตัวโดยทีค่ สู่ นทนายงั ไมท่ ราบหรอื สงิ่ น้ันจะเป็นประโยชน์ต่อ
ผู้สนทนาและสื่อสารมุมมองทัศนคตทิ ี่มีต่อการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรกั ชายกับคู่สนทนาพบวัจนกร
รมบอกกล่าว เป็นจำนวน 14 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 39 โดยใช้วัจนกรรมการกล่าว 4 รูปแบบวัจนกรรม
ได้แก่ การกล่าว บรรยาย คาดคะเน และคาดหวงั ดังน้ี
51
1.2.1.1 การกล่าว เป็นวัจนกรรมทีค่ ูส่ นทนามีเจตนาในการบอกกลา่ ว บอกให้ทราบ
แสดงให้เห็นเจตนาอย่างชัดเจน คล้ายกับวัจนกรรมประเภทบรรยายแต่ต่างกนั ที่การกล่าวจะเป็นถ้อยคำสั้น ๆ
ไมม่ งุ่ อธบิ ายหรอื ขยายความใด ๆ มจี ำนวน 10 บทสนทนา ดังตัวอยา่ ง
ตวั อยา่ งท่ี 1
สอง : ห้วู พ่อหนุม่ วายป่ะเนีย่
พ.ต.ท.อนกิ : เอย้ จะบา้ หรือไง มันเก่ียวกบั คดีที่พอ่ ทำ
สอง : เด๋ียวน้ีพ่อมคี ดแี นวนดี้ ้วยออ๋ ทนั สมยั นะเราเนย่ี
พ.ต.ท.อนิก : เอ้า ก็ใช่น่ะสิ ก็คดีเพื่อนพี่หนึ่งนั้นแหละ พ่อก็เพิ่งรู้
ว่า เคา้ ไม่แมน
สอง : (สตั้น) ไม่แมน การที่เค้าเป็นผู้ชายชอบผู้ชาย มันจะไม่แมน
เลยหรอพ่อ
พ.ต.ท.อนิก : เฮ้ย เดี๋ยว ๆ นี่แกเข้าใจว่ายังไง ห้ะ ไอแมนที่พ่อพูด
ถึงเนี่ยคือความเป็นลูกผู้ชาย ต่อให้เป็นเพศไหนก็แมนได้ แล้วแก
เข้าใจวา่ ไงวะ่ (หัวเราะ)
สอง : (อาการเศรา้ ผิดหวัง) พ่อทำงานตอ่ เถอะ เด๋ียววันเน่ียสองจะ
เปน็ เชฟเอง พ่อจะทานอะไร มีไขด่ าว ไขเ่ จียว ไขต่ ๋นุ
พ.ต.ท.อนกิ : อือ ไมต่ อ้ ง เด๋ียวเชฟพอ่ จัดกการเอง แกไปอาบน้ำไป
ตัวเหมน็ แล้ววะ่ ไป๊
(คณุ หมปี าฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 5)
จะเห็นได้วา่ บทสนทนาข้างต้นเป็นวจั นกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพจิ ารณาได้จากคำบง่ ช้ีการกลา่ ว คอื พอ่ ก็เพงิ่ รู้วา่ เค้าไม่แมน ผูส้ นทนาใชถ้ ้อยคำนี้เพ่ือการกล่าวให้ผู้
สนทนาทราบจุดประสงค์ที่ผู้สนทนาต้องการสือ่ เห็นไดจ้ ากการทีผ่ ู้สนทนาพูดว่า เอ้ย จะบ้าหรือไง มันเกี่ยวกบั
คดีที่พ่อทำ เอ้า ก็ใช่น่ะสิ ก็คดีเพื่อนพี่หนึ่งนั้นแหละ พ่อก็เพิ่งรู้ว่า เค้าไม่แมน หมายความว่า ผู้สนทนามี
การกล่าวซ่งึ แสดงถงึ การไมย่ อมรับรบั ความสัมพันธ์แบบชายรักชาย
ตัวอย่างที่ 2
พณี ัฐ : ตอ้ งมสี ิครบั เดีย๋ วนีม้ นั กไ็ มใ่ ชเ่ รือ่ งแปลกแลว้ นะครบั
ครูปริตร : แต่มนั ก็ไมใ่ ช่เร่ืองปกติ
พีรณัฐ : ถ้าความปกติของครู ต้องคิดเหมือนครูเท่านั้น คงมีคน
ผดิ ปกติกนั ครงึ่ โลก แต่สำหรับผมทุกคนคือคนปกติ แคผ่ มมรี สนิยม
ไม่เหมือนครู หรือใครอีกหลายคน มันไม่ได้หมายความว่าผม
52
ผิดปกติ ครูรอติดตามผลงานผมด้วยนะครับ บางทีซีรีส์เรื่องเนี่ย
อาจทำให้ครูเข้าใจความหลากหลายทางเพศมากขึ้น และก็ให้
เกียรติคนทุกคนไม่ว่าเค้าจะเด็กกว่าหรือว่าเป็นเพศไหน ผมขอตัว
ไปทำงานก่อนนะครบั
(คณุ หมปี าฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 5)
จะเห็นไดว้ า่ บทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้การกล่าว คือ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องปกติ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เพื่อการกล่าวให้ผู้
สนทนาทราบจุดประสงค์ที่ผู้สนทนาต้องการสื่อ เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องปกติ
หมายความว่า ว่า ผู้สนทนามีการกล่าวถึงความสัมพันธ์แบบชายรักชายว่าไม่ใช่เรื่องปกติ ซึ่งแสดงถึง
การไม่ยอมรับรับความสัมพนั ธ์แบบชายรักชาย
ตัวอยา่ งที่ 3
มนทนา : อย่าหาเรื่องกันได้มั้ย แค่เรื่องลูกแม่ก็กลุ้มใจจะแย่อยู่
แลว้
สิบหมื่น : นั้นมันความรับผิดชอบของแม่ไง แม่เลี้ยงลูกยังไงลูกมนั
ถงึ ไดอ้ อกมาเป็นอยา่ งนนั้ เน่ยี หะ้
มนทนา : แล้วมันเป็นความผิดของแม่คนเดียวหรือไง เราก็เลี้ยง
ณฐั มาดว้ ยกันสองคนอะแหละ
สิบหมืน่ : เลี้ยงลูกมันหนา้ ท่แี ม่ไมใ่ ช่หน้าท่ีพ่อ หน้าที่พ่อคือออกไป
ทำงานหาเงิน ลูกมันเป็นอย่างงี้เพราะแม่แหละถูกแล้ว ถ้าจะไม่ใช่
เพราะแมอ่ ะนะ กเ็ พราะว่ามนั ได้เชอื้ พ่อมนั มาเยอะไง
(คุณหมีปาฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 13)
จะเหน็ ไดว้ า่ บทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งช้ีการกลา่ ว คือ แค่เรื่องลูกแม่กก็ ลุ้มใจจะแย่อยู่แล้ว/แล้วมนั เป็นความผิดของ
แม่คนเดียวหรอื ไง ผู้สนทนาใชถ้ ้อยคำน้เี พือ่ การกล่าวให้ผู้สนทนาทราบจดุ ประสงคท์ ี่ผู้สนทนาต้องการส่ือ เห็น
ได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า แล้วมันเป็นความผิดของแม่คนเดียวหรือไง เราก็เลี้ยงณัฐมาด้วยกันสองคนอะ
แหละ หมายความว่า ผ้สู นทนามีความกงั วลและกลุ้มใจกับส่งิ ท่ีลกู ชายเปน็ และกลา่ วโทษผู้เปน็ พ่อด้วยซ่ึงแสดง
ถงึ การไมย่ อมรับรบั ความสัมพนั ธแ์ บบชายรกั ชาย
53
1.2.1.2 บรรยาย เป็นวัจนกรรมที่ผู้สนทนามีเจตนาชี้แจง อธิบาย ขยายความ
เรอื่ งราวหรอื สงิ่ ตา่ ง ๆ รวมถงึ การบอกเลา่ ให้ผูส้ นทนารบั ทราบหรือเข้าใจขอ้ เท็จจริงท่ผี พู้ ดู ตอ้ งการจะส่ือสาร มี
จำนวน 2 บทสนทนา ดังตอ่ ไปน้ี
บทสนทนาที่ 1
มนทนา : อย่าหาเรื่องกันได้มั้ย แค่เรื่องลูกแม่ก็กลุ้มใจจะแย่อยู่
แลว้
สิบหมื่น : นั้นมันความรับผิดชอบของแม่ไง แม่เลี้ยงลูกยังไงลูก
มนั ถึงไดอ้ อกมาเปน็ อย่างนัน้ เน่ยี หะ้
มนทนา : แลว้ มนั เป็นความผดิ ของแมค่ นเดยี วหรอื ไง เรากเ็ ล้ยี งณัฐ
มาดว้ ยกนั สองคนอะแหละ
สิบหมื่น : เลี้ยงลูกมันหน้าที่แม่ไม่ใช่หน้าที่พ่อ หน้าที่พ่อคือ
ออกไปทำงานหาเงิน ลูกมันเป็นอย่างงี้เพราะแม่แหละถูกแล้ว ถ้า
จะไมใ่ ช่เพราะแม่อะนะ กเ็ พราะวา่ มนั ได้เชือ้ พ่อมนั มาเยอะไง
(คุณหมีปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 13)
จะเหน็ ไดว้ า่ บทสนทนาขา้ งต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชบี้ รรยาย คอื มนั ความรบั ผดิ ชอบของแมไ่ ง / เลี้ยงลกู มนั หนา้ ทแ่ี ม่ไมใ่ ช่หน้าท่ี
พ่อ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เพื่อ การกล่าวอธิบายขยายความเรื่องราวหรือสิ่งต่าง ๆ รวมถึงการบอกเล่าให้ผู้
สนทนารับทราบหรือเข้าใจข้อเท็จจริง เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า เลี้ยงลูกมันหน้าที่แม่ไม่ใช่หน้าที่พ่อ
หน้าที่พ่อคือออกไปทำงานหาเงิน ลูกมันเป็นอย่างงี้เพราะแม่แหละถูกแล้ว ถ้าจะไม่ใช่เพราะแม่อะนะ ก็
เพราะว่ามันได้เชื้อพ่อมันมาเยอะไง หมายความว่า ผู้สนทนามีเจตนาอธิบายว่าการที่ลูกเป็นเกย์นั้นเป็น
ความผิดของแม่ที่เลี้ยงดูมาไม่ดีและไม่ใช่ความผิดของตนเพราะไม่ใช่หน้าที่ แสดงถึงการไม่ยอมรั บรับ
ความสมั พันธ์แบบชายรกั ชาย
บทสนทนาที่ 2
ครูปริตร : ครูขอโทษเธออีกทีนะพีรณัฐ ครูรู้ว่าโลกกำลังก้าวไป
ข้างหน้า แล้วคนในวัยของครูเนี่ยะกำลังเดินถอยหลัง ครูกำลัง
พยายาม กำลังค่อย ๆ เรียนรู้อะไรหลายอย่าง วันนี้ครูอาจจะไม่
เขา้ ใจทุกอย่าง และบางอยา่ งครกู อ็ าจจะไมเ่ ห็นด้วย
พีรณัฐ : ครูไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับผมทุกเรื่องหรอกครับ แค่ครู
พยายามทำความเข้าใจแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอะ แค่นั้นมันก็
พอแล้วครับครู ถ้าเราเข้าใจกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่ครูกับผม ไม่ใช่แค่
54
ในโรงเรียนแต่เริ่มกันในครอบครัวบางทีสักวันเราอาจเข้าใจกัน
ท้งั หมดก็ไดน้ ะครบั
(คุณหมีปาฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 14)
จะเหน็ ไดว้ ่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้บรรยาย คือ วันนี้ครูอาจจะไม่เข้าใจทุกอย่าง และบางอย่างครูก็อาจจะไม่
เห็นด้วย ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เพื่อการกล่าวอธิบายขยายความเรื่องราวหรือสิ่งต่าง ๆ รวมถึงการบอกเล่าให้ผู้
สนทนารบั ทราบหรอื เขา้ ใจข้อเท็จจรงิ เหน็ ไดจ้ ากการทผ่ี สู้ นทนาพูดว่า ครขู อโทษเธออกี ทนี ะพีรณฐั ครรู ้วู ่าโลก
กำลังก้าวไปข้างหน้า แล้วคนในวัยของครูเนี่ยะกำลังเดินถอยหลัง ครูกำลังพยายาม กำลังค่อย ๆ เรียนรู้อะไร
หลายอย่าง วันนี้ครูอาจจะไม่เข้าใจทุกอย่าง และบางอย่างครูก็อาจจะไม่เห็นด้วย หมายความว่า ผู้สนทนา
อธิบายเหตุผลของตนเองที่ไม่เห็นด้วยและไม่เข้าใจกับสิ่งที่พีรณัฐต้องการจะสื่อสารในการแสดงออกถึงตัวตน
ของพีรณฐั แสดงให้เหน็ ถึงการไมย่ อมรับรบั ความสมั พันธ์แบบชายรักชาย
1.2.1.3 คาดคะเน เป็นวัจนกรรมที่ผู้สนทนามีเจตนานึกไว้ หมายไว้ คาดหมายไว้
กะประมาณ หรอื คดิ ประมาณการไว้ครา่ ว ๆ โดยไมแ่ น่ใจ มจี ำนวน 1 บทสนทนา ดังต่อไปน้ี
พรี ณัฐ : ณฐั ก็ไมอ่ ยากมพี ่อเฮงซวยแบบนีเ้ หมอื นกนั
สิบหม่นื : ไอณัฐ มงึ กล้าด่ากหู รอ มึงกล้าดา่ พ่อมึงหรอ วิปริตอยา่ ง
มึงไม่มีวันเจริญหรอก พวกมึงไม่มีทางไปกันรอด ถ้ามึงจะรักกัน
ขา้ มศพกไู ปกอ่ น เปิด กบู อกใหเ้ ปดิ
(คณุ หมปี าฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 11)
จะเหน็ ได้วา่ บทสนทนาข้างต้นเป็นวจั นกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้คาดคะเน คือ วิปริตอย่างมึงไม่มีวันเจริญหรอก พวกมึงไม่มีทางไปกันรอด
ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้มีเจตนาเพื่อนำเสนอความคิดท่ีนึกไว้ คิดประมาณการไว้คร่าว ๆ โดยไม่แน่ใจ เห็นได้จาก
การที่ผู้สนทนาพดู วา่ ไอณัฐ มึงกล้าด่ากูหรอ มึงกล้าด่าพ่อมึงหรอ วิปริตอย่างมงึ ไม่มีวันเจริญหรอก พวกมึงไม่
มีทางไปกันรอด ถา้ มงึ จะรกั กันขา้ มศพกูไปกอ่ น หมายความวา่ ผ้สู นทนาเสนอความคิดท่ีนกึ ไว้ถึงความสัมพันธ์
ของลูกชายที่ไม่น่าไปกันรอด และการเป็นเกย์นั้นเป็นสิ่งวิปริตไม่มีวันเจริญได้แสดงถึงการไม่ยอมรับรับ
ความสมั พันธแ์ บบชายรกั ชาย
1.2.1.4 คาดหวัง เป็นวัจนกรรมที่ผู้สนทนามีเจตนาหมายปองไว้ใคร่อยากได้
มคี วามประสงค์ คาดคดิ ไวด้ ้วยความใส่ใจหรอื ปรารถนาไว้อย่างต้ังใจ มีจำนวน 1 บทสนทนา ดงั ต่อไปน้ี
สอง : พ่อคือว่า สองกบั ลุงเขาเราก็เป็น
พ.ต.ท.อนิก : (สายเข้า) ว่าไงไอสุวัตเป็นไงสบายดีไม่ได้เจอกันต้ัง
นานเลย หาลูกแกแต่งงานเหรอเมื่อไหร่นะ โอโหไม่อยากเชื่อเลย
55
ว่าลูกแกโตเป็นสาวแต่งงานได้แล้วเนี่ย เห้ยลูกชายฉันพึ่งเรียนปี
หนึ่งไม่รีบหรอกเด็กสมัยนีค้ ิดเรว็ ทำเร็ววันน้ีเป็นแบบนี้วนั หนา้ อาจ
เปลีย่ นใจก็ได้ฉันยงั ไม่แกร่ อไดเ้ ว้ย คงได้อุ้มหลานสกั วนั นั้นแหละ
(คุณหมปี าฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 12)
จะเหน็ ไดว้ า่ บทสนทนาข้างต้นเป็นวจั นกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้คาดหวัง คือ คงได้อุ้มหลานสักวันนั้นแหละ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้มีเจตนาเพอ่ื
การกล่าวที่มีเจตนาคาดคิดหวังไว้ด้วยความใส่ใจหรือปรารถนาไว้อย่างตั้งใจ เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า
ว่าไงไอสุวัตเป็นไงสบายดีไม่ได้เจอกันตั้งนานเลย หาลูกแกแต่งงานเหรอเม่ือไหร่นะ โอโหไม่อยากเช่ือเลยว่าลูก
แกโตเป็นสาวแตง่ งานได้แล้วเนี่ย เห้ยลูกชายฉนั พึง่ เรยี นปีหนง่ึ ไม่รีบหรอกเด็กสมัยนี้คิดเร็วทำเร็ววันน้ีเป็นแบบ
นี้วันหน้าอาจเปลี่ยนใจก็ได้ฉันยังไม่แก่รอได้เว้ย คงได้อุ้มหลานสักวันนั้นแหละ หมายความว่า ผู้สนทนา
คาดหวังในตัวลูกชายว่าสักวันคงได้อุ้มหลาน ในบริบทที่ลูกเป็นเกย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้สนทนามีชุดความคิด
และคาดหวังอยากให้ลูกเป็นผูช้ าย แสดงถงึ การไมย่ อมรบั รับความสัมพันธแ์ บบชายรักชาย
1.2.2 วัจนกรรมชีน้ ำ (directives) เปน็ ถ้อยคำทแี่ สดงถงึ ความพยายามของผ้สู นทนาทตี่ ้องการ
ให้ผู้สนทนากระทำการบางอย่างเพื่อผลประโยชน์ของคู่สนทนา ที่ชี้นำนำพาให้คู่สนทนาคล้อยตามไปกับสิ่งที่
ต้องการสื่อสารในประเด็นการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย พบวัจนกรรมชี้นำ เป็นจำนวน 10 บท
สนทนา คิดเป็นร้อยละ 28 โดยใช้วัจนกรรมชี้นำ 4 รูปแบบวัจนกรรมได้แก่ คำถาม คำสั่ง ขอร้อง
และเสนอแนะ ดังนี้
1.2.2.1 คำถาม เปน็ วัจนกรรมทผี่ ู้สนทนามีเจตนากลา่ วเพอื่ ขอคำตอบหรือตั้งปัญหา
เพ่ือใหต้ อบ ไขข้อสงสยั มีจำนวน 19 บทสนทนา ดังตัวอยา่ ง
ตัวอยา่ งที่ 1
ครูปริตร : เรื่องเกี่ยวกับชีวิตในโรงเรียนมัธยม เธอคงไม่เอา
ประสบการณ์จริงมาเขยี นหรอกนะ
พีรณัฐ : ประสบการณ์จริงสิครับ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะตอนน้ัน
ผมมีทั้งความทรงจำที่ดี และก็ไม่ดี ผมอยากถ่ายทอดผ่านมุมมอง
ของผม แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่ชีวิตประจำวันของเด็กนะครับ มัน
สะทอ้ นสงั คมในรัว้ โรงเรยี น ระบบชนช้นั อำนาจ และก็การกดขี่
ครปู ริตร : น่าสนใจ แลว้ มเี รอื่ งรกั ของเธอดว้ ยรเึ ปล่าละ่
(คณุ หมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 5)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวจั นกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้คำถาม คือ เธอคงไม่เอาประสบการณ์จริงมาเขียนหรอกนะ/แล้วมีเรื่องรัก
56
ของเธอด้วยรึเปล่าล่ะ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เป็นการกล่าวที่มีเจตนาเพื่อขอคำตอบหรือตั้งปัญหาเพื่อให้ตอบ
ไขขอ้ สงสยั เห็นได้จากการที่ผ้สู นทนาพดู ว่า เรื่องเกี่ยวกับชีวติ ในโรงเรียนมธั ยม เธอคงไมเ่ อาประสบการณ์จริง
มาเขยี นหรอกนะ นา่ สนใจ แลว้ มีเรือ่ งรกั ของเธอด้วยรึเปล่าล่ะ หมายความวา่ ผู้สนทนามีเจตนถามไขข้อสงสัย
วา่ คสู่ นทนาคงไมเ่ อาเร่ืองราวความสมั พนั ธ์แบบชายรักชายในวยั เรยี นมาเขียน ในบรบิ ทท่ผี ู้สนทนาไม่ยอมรบั ใน
ความสัมพนั ธแ์ บบชายรกั ชาย
ตวั อยา่ งท่ี 2
สัจจารีย์ : แหมไม่ต้องเขินหรอกจ้า น้าเข้าใจสมัยนี้โลกมัน
เปลยี่ นไปแลว้
พีรณัฐ : แต่น้าจันยังไม่เปลี่ยนเลยนะครับ ยังชอบยุ่งเรื่องของ
ชาวบ้านเหมือนเดิม
สัจจารีย์ : ชาวบ้านที่ไหนณัฐก็เหมือนหลานน้า น้าก็ต้องคอย
สอดส่องแทนแม่ อย่าคดิ มากเลยจะ๊ แม่ณฐั เค้าคุ้มดีคมุ้ รา้ ยไมม่ ีเวลา
มาใส่ใจณัฐหรอก อึม เต้าหู้ก็อยุ่บ้านมาเป็นเดือน ๆ แล้ว เมื่อไหร่
จะเปิดตัวล่ะจ๊ะ เฮ้! แล้วคุณน้าเค้ารู้หรือยังว่าเต้าหู้เนี่ยเค้าเข้ามา
อยู่ในสถานะอะไร ลกู เขยหรือว่าลูกสะใภล้ ่ะจะ้ (หัวเราะ)
พรี ณัฐ : จะฐานะอะไรมนั กไ็ ม่ใช่เร่ืองของน้าจัน
สัจจารยี ์ : หนีทำไมล่ะแคย่ อมรบั วา่ ชอบผชู้ ายยงั ไม่กล้าเลย ทแ่ี ทก้ ็
หนคี วามจริงท้งั แม่ทง้ั ลกู
(คณุ หมปี าฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 9)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชาย
รักชายโดยพจิ ารณาได้จากคำบ่งชี้คำถาม คือ เมื่อไหร่จะเปิดตวั ละ่ จ๊ะ/ลูกเขยหรอื ว่าลูกสะใภ้ละ่ จ้ะ ผู้สนทนา
ใช้ถ้อยคำนี้เป็นกล่าวที่มีเจตนาเพื่อขอคำตอบหรอื ตัง้ ปัญหาเพื่อให้ตอบ ไขข้อสงสัย เห็นได้จากการที่ผู้สนทนา
พูดว่า ชาวบ้านที่ไหนณัฐก็เหมือนหลานน้า น้าก็ต้องคอยสอดส่องแทนแม่ อย่าคิดมากเลยจ๊ะแม่ณัฐเค้า
คุ้มดคี ุม้ รา้ ยไมม่ เี วลามาใส่ใจณัฐหรอก อมึ เตา้ หกู้ อ็ ยุ่บ้านมาเป็นเดอื น ๆ แล้ว เมือ่ ไหร่จะเปิดตวั ล่ะจ๊ะ เฮ้! แล้ว
คุณน้าเคา้ รู้หรือยงั ว่าเตา้ หู้เน่ียเคา้ เข้ามาอยู่ในสถานะอะไร ลูกเขยหรือวา่ ลูกสะใภล้ ่ะจ้ะ (หัวเราะ) หนีทำไมล่ะ
แค่ยอมรับว่าชอบผู้ชายยังไม่กล้าเลย หมายความว่า ผู้สนทนามีเจตนาถามเพื่อขอคำตอบและไขข้อสงสัยใน
ความสัมพันธแ์ ละตัวตนของคู่สนทนาที่แฝงเจตนาการไมย่ อมรบั ความสมั พันธแ์ บบชายรกั ชายอยู่
ตัวอย่างท่ี 3
สอง : ไมค่ ดิ ว่าพอ่ จะมา
57
พ.ต.ท.อนิก : ก็อยากมาเชียร์ไง ก็เห็นชวนพ่อตั้งหลายหนละไม่
ไดม้ าสักท่ี ไม่เหน็ บอกพอ่ เลยวา่ เล่นซรี สี ์วาย
สอง : พอ่ ไมว่ ่าไรใช่ปะ่
พ.ต.ท.อนิก : จะว่าทำไมก็แค่การแสดง ก็สองไม่ไดเ้ ปน็ จรงิ ๆ หนิ
ใชม่ ้ยั
(คณุ หมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 9)
จะเห็นได้วา่ บทสนทนาขา้ งต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้คำถาม คือ ไม่เห็นบอกพ่อเลยว่าเล่นซีรีส์วาย/ก็สองไม่ได้เป็นจริง ๆ หนิ
ใช่มั้ย ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เป็นการกล่าวที่มีเจตนาเพื่อขอคำตอบหรือตั้งปัญหาเพื่อให้ตอบ ไขข้อสงสัย เห็น
ได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า ก็อยากมาเชยี ร์ไง ก็เห็นชวนพ่อตั้งหลายหนละไม่ได้มาสักที่ ไม่เห็นบอกพ่อเลยวา่
เล่นซีรีส์วาย จะว่าทำไมก็แค่การแสดง ก็สองไม่ได้เป็นจริง ๆ หนิ ใช่มั้ย หมายความว่า ผู้สนทนามีเจตนาถาม
เพื่อขอคำตอบและไขข้อสงสัยวา่ ลกู ของตนไม่ได้มคี วามสมั พนั ธ์แบบชายรกั ชายตามซีรสี ว์ ายทเี่ ลน่ แสดงใหเ้ ห็น
ว่าผูส้ นทนายอมรับความสมั พนั ธแ์ บบชายรักชายในสังคม แตไ่ มใ่ ชก่ ับการยอมรบั ความสมั พันธ์แบบชายรักชาย
ของลกู ตวั เอง
1.2.2.2 คำสั่ง เป็นวัจนกรรมที่ส่งผลต่อผู้สนทนาโดยมีเจตนาบังคับเพื่อให้ทำหรือ
ปฏิบตั ติ ามทีต่ นเองต้องการหรือกำหนดใหท้ ำ มจี ำนวน 2 บทสนทนา ดังต่อไปน้ี
บทสนทนาที่ 1
มนทนา : สชี มพูนมี่ นั เปน็ สีของผหู้ ญงิ นะ่ ลกู
พีรณัฐ : แล้วสีของผู้ชายเป็นสีอะไร ทำไมสีชมพูเป็นสีของผู้ชาย
ไม่ไดล้ ะฮะ
สบิ หม่นื : พอ่ บอกกค่ี รงั้ แล้ววา่ อยา่ ใหณ้ ัฐมนั เล่นพวกน้ีอะ
(คณุ หมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 10)
จะเหน็ ไดว้ า่ บทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้คำสั่ง คือ อย่าให้ณัฐมันเล่นพวกนี้ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เป็นการกล่าวที่มี
เจตนาเพื่อให้คู่สนทนาทำหรือปฏิบัติตามที่ตนเองต้องการหรือกำหนดให้ทำ เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า
พ่อบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าให้ณัฐมันเล่นพวกนี้อะ หมายความว่า ผู้สนทนามีเจตนาสั่งหรือกำหนดไม่ให้ลูกของ
ตนเองเลน่ ของเล่นเดก็ ผ้หู ญงิ เพราะกลวั ว่าลูกจะมพี ฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ แสดงให้เห็นถึงการไมย่ อมรับรับ
ความสมั พันธ์แบบชายรักชาย
บทสนทนาท่ี 2
58
ครูปริตร : มนั เกิดขึน้ ทโ่ี รงยมิ ฉันเอาของข้นึ ไปเกบ็ ทชี่ ้ันสอง ทห่ี อ้ ง
เก็บของของโรงยิม แต่สิ่งที่ฉันเห็นก็คือ พีรณัฐกับตาธารกำลัง
จบู กนั
พ่อ/แม่ : (ทา่ ทางโกรธมากเสียใจมาก)
สิบหม่ืน : ถ้ามงึ ไมเ่ ลิกคบกับมันมึงไม่ตอ้ งมาเรยี กกูว่าพอ่ เลย
(คุณหมปี าฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 10)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้คำสั่ง คือ ถ้ามึงไม่เลิกคบกับมันมึงไม่ต้องมาเรียกกูว่าพ่อเลย ผู้สนทนาใช้
ถ้อยคำนี้เป็นการกล่าวที่มีเจตนาเพื่อให้คู่สนทนาทำหรือปฏิบัติตามที่ตนเองต้องการหรือกำหนดให้ทำ เห็นได้
จากการท่ีผู้สนทนาพดู ว่า ถ้ามึงไม่เลิกคบกับมันมึงไม่ต้องมาเรียกกูว่าพอ่ เลย หมายความวา่ ผู้สนทนามีเจตนา
สั่งหรือกำหนดใหล้ ูกชายเลิกมีความสัมพนั ธ์กับคนรักซึ่งเป็นผู้ชาย แสดงถึงการไม่ยอมรับรบั ความสัมพันธ์แบบ
ชายรกั ชาย
1.2.2.3 ขอรอ้ ง เป็นวจั นกรรมทผ่ี ้สู นทนามีเจตนาขอให้ช่วยเหลอื วิงวอนหรือขอให้คู่
สนทนาทำตามทต่ี นเองรอ้ งขอ มีจำนวน 1 บทสนทนา ดังต่อไปน้ี
พ.ต.ท.อนิก : สอง พ่อก็ขอโทษเหมอื นกัน พ่อรู้ว่าที่ผ่านมาพอ่ อาจ
ใสใ่ จสองไม่มากพอ พอ่ รแู้ ลว้ วา่ สองเป็นยังไง ให้เวลาพอ่ หน่อย ขอ
เวลาพ่อหน่อยนะ
สอง : สองรกั พอ่ นะ
พ.ต.ท.อนกิ : พอ่ กร็ ักแกไอลกู หมา
(คุณหมีปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 15)
จะเห็นไดว้ า่ บทสนทนาขา้ งต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้ขอร้อง คือ ขอเวลาพ่อหน่อยนะ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เป็นการกล่าวที่มีเจตนา
วิงวอนหรือขอใหค้ ู่สนทนาทำตามท่ีตนเองรอ้ งขอ เห็นได้จากการทีผ่ ู้สนทนาพดู วา่ สอง พ่อก็ขอโทษเหมือนกัน
พ่อรู้ว่าที่ผ่านมาพ่ออาจใส่ใจสองไม่มากพอ พ่อรู้แล้วว่าสองเป็นยังไง ให้เวลาพ่อหน่อย ขอเวลาพ่อหน่อยนะ
หมายความว่า ผู้สนทนามีเจตนาขอร้องวิงวอนให้คู่สนทนาเข้าใจ และขอเวลาสำหรับการทำใจยอมรับ
ความสัมพันธ์แบบชายรกั ชาย แสดงถึงการยงั ไมพ่ ร้อมทีไ่ ม่ยอมรบั รบั ความสัมพนั ธแ์ บบชายรกั ชายในขณะนั้น
1.2.2.4 เสนอแนะ เป็นวัจนกรรมที่ผู้สนทนามีเจตนาชี้แจงให้ผู้สนทนาทำหรือ
ปฏิบตั โิ ดยอาจจะเปน็ การแนะนำแนวทางใหป้ ฏิบตั ิตามหรือนำไปปฏบิ ัติตาม จำนวน 1 บทสนทนา ดงั ตอ่ ไปน้ี
59
มนทนา : พ่อเค้าโกรธไม่นานหรอกณัฐทำตัวดี ๆ เดียวพ่อเค้าก็
หายโกรธ ถ้าณัฐอยากไปหาหมอ
พีรณัฐ : ณัฐเป็นเกย์ ณฐั ไมไ่ ด้เปน็ โรคนะแม่ มันไมม่ วี นั หายหรอก
(คุณหมีปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 11)
จะเห็นได้วา่ บทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้เสนอแนะ คือ ถ้าณัฐอยากไปหาหมอ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เป็นการกล่าวที่มี
เจตนาชี้แจงให้ผู้สนทนาทำหรือปฏิบัติโดยอาจจะเป็นการแนะนำแนวทางให้ปฏิบัติตามหรือนำไปปฏิบัติตาม
เหน็ ได้จากการท่ผี สู้ นทนาพูดว่า พอ่ เค้าโกรธไมน่ านหรอกณฐั ทำตวั ดี ๆ เดียวพอ่ เค้ากห็ ายโกรธ ถ้าณัฐอยากไป
หาหมอ หมายความว่า ผู้สนทนามีเจตนาเสนอแนวทางต้องการให้ลกู ไปหาหมอเนือ่ งจากคิดว่าที่ลูกเป็นเกย์จะ
สามารถรักษาได้ แสดงถึงการไม่ยอมรับรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายและอยากให้ลูกของตนหายจากการ
เป็นเกย์ซงึ่ การเป็นเกย์ไมใ่ ชโ่ รคที่จะรกั ษาได้
1.2.3 วจั นกรรมแสดงความรสู้ ึก
1.2.3.1 ด้านลบ เป็นวัจนกรรมที่ผู้สนทนาแสดงความรู้สึกออกมาในทางที่ไม่ดีหรือ
ทำลายบั่นทอนกำลงั ใจและกำลังกาย ประกอบดว้ ย
(1) ตำหนิ มจี ำนวน 9 บทสนทนา ดังตัวอย่าง
ตัวอยา่ งที่ 1
มนทนา : ณัฐอยากไดเ้ ค้กรูปอะไรครบั
พีรณัฐ : ณฐั อยากไดร้ ปู ร้งุ กินนำ้ เอาสีหวาน ๆ แบบนี้ได้ม้ัยแม่
มนทนา : หู้ว ยากเหมือนกันนะเนีย่ ถ้าอย่างนัน้ ณัฐตอ้ งชว่ ยแม่ทำ
นะ
พรี ณัฐ : ครับ
สิบหมื่น : เป็นผู้ชายจะมาชอบสีรุ้งหวาน ๆ อะไรเนี่ยห้ะ
ไมเ่ ข้าทา่ เลย (ฉกี กระดาษ) หดั สอนมนั ซะบา้ งนะ วา่ อะไรถูกอะไร
ควร ไมใ่ ชอ่ ะไรกต็ ามใจไปซะทกุ อย่าง
(คุณหมปี าฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 9)
จะเหน็ ไดว้ ่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวจั นกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้ตำหนิ คือ เป็นผู้ชายจะมาชอบสีรุ้งหวาน ๆ อะไรเนี่ยห้ะ ไม่เข้าท่าเลย ผู้
สนทนาใชถ้ ้อยคำนี้เพอื่ การกล่าวที่มีเจตนากลา่ วเพอื่ ตำหนคิ ่สู นทนา เหน็ ได้จากการท่ผี ้สู นทนาพดู วา่ เปน็ ผ้ชู าย
จะมาชอบสีรุ้งหวาน ๆ อะไรเนี่ยห้ะ ไม่เข้าท่าเลย (ฉีกกระดาษ) หัดสอนมันซะบ้างนะ ว่าอะไรถูกอะไรควร
60
ไมใ่ ชอ่ ะไรก็ตามใจไปซะทุกอย่าง หมายความวา่ ผู้สนทนาตำหนพิ ฤตกิ รรมคู่สนทนาทีเ่ ปน็ ผชู้ ายแต่กลับชอบทำ
พฤติกรรมเหมือนผ้หู ญิงนั้นแสดงใหเ้ ห็นถึงการไมย่ อมรบั รับความสมั พนั ธแ์ บบชายรักชาย
ตวั อยา่ งท่ี 2
มนทนา : พอ่ พ่อไม่น่าทำขนาดนเ้ี ลยนะ
สิบหมื่น : เงียบไปเลยนะ คิดน้อยแบบนี้ลูกมันถึงได้เหมือนตุ๊ด
เข้าไปทกุ วนั
มนทนา : ณฐั ก็แค่เปน็ เด็กเรียบรอ้ ย
สิบหมื่น : นี่ไม่ต้องมาเถียงเลย เป็นลูกผู้ชายมันต้องเข้มแข็ง เป็น
แมย่ ังไงเนย่ี ถึงให้ท้ายลูกผดิ ๆ
(คณุ หมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 10)
จะเห็นไดว้ ่าบทสนทนาขา้ งต้นเป็นวจั นกรรมการไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้ตำหนิ คือ เงียบไปเลยนะ คิดน้อยแบบนี้ลูกมันถึงได้เหมือนตุ๊ดเข้าไปทุกวัน/
เป็นแม่ยังไงเนี่ยถึงให้ท้ายลูกผิด ๆ ผู้สนทนาใช้ถ้อยคำนี้เพื่อการกล่าวที่มีเจตนากล่าวเพื่อตำหนิคู่สนทนา
เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า เงียบไปเลยนะ คิดน้อยแบบนี้ลูกมันถึงได้เหมือนตุ๊ดเข้าไปทุกวัน
นี่ไม่ต้องมาเถียงเลย เป็นลูกผู้ชายมันต้องเข้มแข็ง เป็นแม่ยังไงเนี่ยถึงให้ท้ายลูกผิด ๆ หมายความว่า ผู้สนทนา
ตำหนิคู่สนทนาผู้เป็นแม่ที่ดูแลลูกไม่ดี จนมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศและกล่าวหาว่าเป็นความผิดของคู๋
สนทนา ซง่ึ แสดงให้เหน็ ถึงการไม่ยอมรบั รับความสัมพนั ธแ์ บบชายรักชายของผ้สู นทนา
ตวั อยา่ งท่ี 3
สิบหมื่น : มนั แอบไปเจอไอนั้นมา มันไปกอดกนั ในห้างกูบอกให้มึง
เลิกกบั มนั แลว้ นะ มงึ ยงั จะแอบไปเจอกับมันอกี หรอ มึงอยากลอง
ดีกบั กูใช่มัย้ (เดนิ เข้ามาจะตีณัฐ)
มนทนา : พอ่ อย่า ๆ พ่ออย่า พ่อ
(ณฐั วิ่งจะเขา้ ไปตอ่ ยพ่อ)
สิบหมื่น : มึงจะสู้กูหรอ มึงไม่เห็นหัวกูใช่มั้ย มึงไม่เคารพกูแล้ว
หรือไง หะ้
พีรณัฐ : ถ้าอยากให้เคราพอะกท็ ำตวั ให้มันน่าเคารพสิวะ
สิบหมื่น : ไอณัฐ (ตบ เตะ ณัฐแม่เข้ามาห้าม) มึงเกิดมาทำไมเนี่ย
หะ้ ไอลกู ตดุ๊ เกิดมาทำไม
(คุณหมปี าฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 11)
61
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์
แบบชายรกั ชายโดยพจิ ารณาไดจ้ ากคำบ่งช้ตี ำหนิ คอื มึงยังจะแอบไปเจอกบั มนั อีกหรอ/มึงไมเ่ ห็นหัวกูใช่มั้ย/
ไอลกู ตดุ๊ เกิดมาทำไม ผู้สนทนาใชถ้ ้อยคำน้ีเพือ่ การกล่าวท่ีมีเจตนากล่าวเพือ่ ตำหนิคู่สนทนา เห็นได้จากการที่
ผู้สนทนาพูดว่า มันแอบไปเจอไอน้ันมา มันไปกอดกันในห้างกบู อกให้มึงเลิกกับมันแล้วนะ มึงยังจะแอบไปเจอ
กับมันอีกหรอ มึงอยากลองดีกับกูใช่มั้ย (เดินเข้ามาจะตีณัฐ) มึงจะสู้กูหรอ มึงไม่เห็นหัวกูใช่มั้ย มึงไม่เคารพกู
แล้วหรือไง ห้ะ ไอณัฐ (ตบ เตะ ณัฐแม่เข้ามาห้าม) มึงเกิดมาทำไมเนี่ยห้ะ ไอลูกตุ๊ด เกิดมาทำไมหมายความวา่
ผู้สนทนาตำหนิคู่สนทนาผู้เป็นลูกที่มีพฤติกรรมไม่เห็นหัวกันแล้วอีกทั้งยังแสดงพฤติกรรมอ่อนแอและเป็นเกย์
แสดงใหเ้ หน็ ว่าผู้สนทนาไม่ยอมรับรบั ความสมั พนั ธแ์ บบชายรกั ชายโดยการตำหนิและด่าทออยา่ งรุนแรง
(2) เสยี ดสี มจี ำนวน 3 บทสนทนา ดงั ต่อไปน้ี
บทสนทนาท่ี 1
พรบิ พรี : ไม่อยากเช่ือเลยนะคะวา่ ทกุ คนจะรจู้ กั กันหมด
สัจจารีย์ : เคา้ ถงึ วา่ โลกมนั กลมไงจะ๊ เหมอื นเปน็ ญาติกนั ทงั้ โลก ไม่
ญาติทางสายเลอื ดกญ็ าติบนเตยี ง
แสน : ถา้ ไมร่ จู้ ะพูดอะไรก็เงยี บก็ได้นะ
สจั จารยี ์ : แคพ่ ดู ขำ เองอะ
(คณุ หมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 13)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาข้างต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์
แบบชายรักชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งชี้เสียดสี คือ ไม่ญาติทางสายเลือดก็ญาติบนเตียง ผู้สนทนาใช้
ถ้อยคำนี้เพื่อการกล่าวที่มีเจตนากล่าวเพื่อเสียดสีคู่สนทนา เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า เค้าถึงว่าโลกมั น
กลมไงจ๊ะ เหมือนเป็นญาติกันทั้งโลก ไม่ญาติทางสายเลือดก็ญาติบนเตียง หมายความว่า ผู้สนทนามีเจตนา
เสียดสีคู่สนทนาในความสัมพันธ์ของตาธารและเต้าหู้ซึ่งเป็นผู้ชายกับผู้ชาย แสดงถึงการไม่ยอมรับรับ
ความสมั พันธแ์ บบชายรักชายของผสู้ นทนา
บทสนทนาท่ี 2
พีรณัฐ : นี่ถ้าผมรู้ว่าน้าจันอยากมาเที่ยวด้วยเนี่ยผมคงชวนตั้งแต่
แรก
สัจจารีย์ : เที่ยวกับน้าจะสนุกเหมือนพวกไม้ เอ่อครอบครัว
เดียวกันได้ยังไง นี่คุณนาคงจะแฮปปี้มากเลยสินะที่ลูกชายกับ
เพ่ือนลูกชายพาทวั ร์
(คุณหมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 13)
62
จะเหน็ ไดว้ า่ บทสนทนาข้างต้นเป็นวจั นกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งช้ีเสียดสี คือ จะสนุกเหมือนพวกไม้ เอ่อครอบครัวเดียวกันไดย้ ังไง ผู้สนทนาใช้
ถอ้ ยคำนเี้ พือ่ การกล่าวทม่ี เี จตนากลา่ วเพ่อื เสียดสีค่สู นทนา เหน็ ได้จากการทีผ่ สู้ นทนาพูดวา่ เท่ยี วกบั นา้ จะสนุก
เหมือนพวกไม้ เอ่อครอบครัวเดียวกันได้ยังไง นี่คุณนาคงจะแฮปปี้มากเลยสินะที่ลูกชายกับ เพื่อนลูกชายพา
ทัวร์ หมายความว่า ผู้สนทนามีเจตนาเสียดสีคู่สนทนาที่เป็นเกย์โดยใช้คำว่าไม้ป่า แสดงถึงการไม่ยอมรับรับ
ความสัมพันธแ์ บบชายรักชายของผสู้ นทนา
บทสนทนาท่ี 3
สิบหมื่น : แม่มึงเขาไม่ได้ไปหาญาติ ไปหาเพื่อน ถ้าแม่มึงไม่ได้ไป
หาไอแสนแล้วจะไปหาใคร แม่มึงกับลุงมึงเค้ารักกันมาตั้งแต่ไหน
แต่ไรละไง เพราะมันแพ้กูมันก็แอบมากินกันลับหลังกู ไอขี้แพ้
อ่อนแอแบบมันถึงได้มีลูกอ่อนแอเป็นตุ๊ดแบบมึงเนี่ย กูไม่ได้มีลูก
ออ่ นแอแบบมึง มงึ มนั ลกู ชู้
(คณุ หมีปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 11)
จะเห็นได้ว่าบทสนทนาขา้ งต้นเป็นวัจนกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายโดยพิจารณาได้จากคำบ่งช้ีเสียดสี คอื มลี กู อ่อนแอเป็นตุ๊ดแบบมงึ เน่ีย ผู้สนทนาใชถ้ ้อยคำน้ีเพ่ือการกล่าว
ที่มีเจตนากลา่ วเพ่ือเสียดสีคูส่ นทนา เห็นได้จากการที่ผู้สนทนาพูดว่า เพราะมันแพ้กมู ันก็แอบมากินกันลับหลัง
กู ไอขี้แพ้อ่อนแอแบบมันถึงได้มีลูกอ่อนแอเป็นตุ๊ดแบบมึงเนี่ย กูไม่ได้มีลูกอ่อนแอแบบมึง มึงมันลูกชู้
หมายความว่า ผู้สนทนามีเจตนาเสยี ดสีพฤตกิ รรมลูกชายทอี่ อ่ นแอและไมย่ อมรับว่าน่ีเปน็ ลูกชายของตนเป็นลกู
ของคนท่อี อ่ นแอ แสดงถงึ การไม่ยอมรบั รับความสมั พันธแ์ บบชายรักชายของผ้สู นทนา
2. ภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์
The Miracle Of Teddy Bear
2.1 ภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์
The Miracle Of Teddy Bear ผา่ นตวั ละครชายรักชาย
2.1.1 พรี ณัฐ
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 38 บทสนทนา
และใชว้ ัจนกรรมการไม่ยอมรบั ความสมั พนั ธแ์ บบชายรักชายจำนวน 1 บทสนทนา ดังตัวอยา่ งตอ่ ไปนี้
ตัวอยา่ งท่ี 1
เตา้ หู้ : คุณตาธารใชไ่ หมฮะ
63
พีรณัฐ : อือ เขาเปน็ คนทำให้กูเขา้ ใจความเช่ือท่ีวา่ เกย์ไม่ใช่โรค
ไม่ใช่กรรมเก่า ไม่ได้อารมณ์รุนแรง และไม่ได้ตลกตลอดเวลา เป็น
เกย์น่ะไม่จำเป็นต้องชอบทุกคนที่เป็นเพศเดียวกันแต่สามารถรัก
ใครรักจริงได้เหมอื นผู้ชายนัน้ แหละ
(คณุ หมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 12)
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าตัวละครพีรณัฐเป็นตัวละครชายรักชายที่เป็นภาพแทน
ของการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย จากบทสนทนาข้างต้นเป็นการอธิบายถึงความเป็นเกย์ และ
ธรรมชาติของความเปน็ เกยซ์ ึง่ ไม่ไดแ้ ตกต่างไปจากชายหรือหญิงท่รี กั ใครรกั จริงได้เชน่ เดียวกนั
ตวั อยา่ งท่ี 2
พีรณฐั : กลับไดแ้ ล้วไป เดย่ี วกูไปส่งหนา้ บา้ น ไปดิ
เต้าหู้ : ผมไม่อยากไปหนิฮะ
พีรณัฐ : (ถอนหายใจ) ไม่อยากไปก็ต้องไป ไปเร็ว ไป ลุก ไป
เด๋ียวแม่กูตน่ื ลกุ ไป แล้วเสือ้ ผา้ มงึ อยู่ไหนเนยี่ เอาของกไู ปใส่ก่อน
ละกนั ไป
(คณุ หมีปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 1)
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าตัวละครพีรณัฐมีการแสดงพฤติกรรมไม่ยอมรับกับสิ่งท่ี
เกิดขึ้น แม้ว่าจะเป็นตัวละครที่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายแต่เพราะบริบทที่ตนได้พาผู้ชายเข้าไปใน
บา้ นและมคี วามกังวลกลวั วา่ แม่จะตน่ื มาเหน็ และรับไม่ได้หรอื ไมย่ อมรบั ทำใหไ้ ดแ้ สดงพฤตกิ รรมการไม่ยอมรับ
ออกมา
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครพีรณัฐเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของการ
ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตนาที่แฝงอยู่ในวัจ
นกรรมที่ส่ือสารออกมากับคู่สนทนาทุกคนโดยตัวละครพีรณัฐจะเป็นตัวละครชายรักชายที่ยอมรับในตัวเองแต่
ไม่ได้รับการยอมรับและถูกกดทับจากครอบครัว เมื่อโตขึ้นจึงต้องการที่จะเรียกร้องให้คนทุกคนในครอบครัว
รวมทั้งสังคมยอมรับและให้ความเท่าเทียมกับคนทุกคนทุกเพศอย่างเสมอภาคในบางครั้งอาจแสดงพฤติกรรม
การไม่ยอมรับออกมาบ้างด้วยเหตุผลเพื่อปกป้องความรู้สึกของครอบครัวจากการไม่ยอมรับของสังคม จึง
สามารถสรุปได้ว่าพีรณัฐเป็นตัวละครชายรักชายที่ยอมรับในตนเองและต้องการให้สังคมยอมรับความสัมพันธ์
แบบชายรักชายจึงเป็นภาพแทนของการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์
The Miracle Of Teddy Bear ผา่ นตวั ละครชายรกั ชาย
2.1.2 เกณฑ์สทิ ธ์ิ
64
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรบั ความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 20 บทสนทนาดัง
ตัวอย่างตอ่ ไปนี้
ตัวอยา่ งที่ 1
สัจจารยี ์ : น้ารนู้ ะว่าเด็กสมยั นีต้ ้องพดู ด้วยหลักการและเหตุผล ถึง
น้าจะเป็นคนรุ่นเก่า น้าก็จะพยายามทำความเข้าใจละกนั คนสมัย
น้าเค้าเรยี กรกั ร่วมเพศว่าพวกลกั เพศ แต่สมัยน้ีเคา้ คงพูดกนั ว่า คน
สองคนรักกันรกั ไมม่ เี พศอะไรแบบนนั้ ใชม่ ั้ย
เกณฑ์สิทธ์ิ : ทุกคนบนโลกนี้มเี พศครบั เราจะเป็นเพศอะไรก็ได้ที่
เราอยากเปน็ แล้วทกุ เพศกม็ คี วามเท่าเทยี มกนั การที่คุณนา้ บอกว่า
รักไม่มีเพศมันอาจฟังดูแล้วโรแมนติกดีนะครับแต่บางที่มันก็
แสดงออกถึงการที่ไม่ยอมรับในตัวตนของพวกผมเหมือนกันการที่
ระบุเพศก็ถือว่าเป็นการให้เกียรติอย่างหนึ่งถ้าคุณน้ายังไม่เข้าใจ
เนี่ยไว้ว่าง ๆ คุยกับผมได้นะผมยินดีครับยังมีอีกหลายเรื่องเลยที่
ต้องปรบั ความเขา้ ใจกนั นะครับคณุ นา้
(คุณหมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 12)
จากบทสนทนาผู้สนทนาต้องการแสดงเจตนาให้คู่สนทนาทราบและเข้าใจ
ในความสัมพันธ์แบบชายรักชายเพื่อให้เกิดการยอมรับจากคู่สนทนาที่อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนใน
ความสัมพันธแ์ บบชายรกั ชายโดยการอธิบายว่าทุกคนมีเพศและไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรกค็ วรมีการยอมรบั อย่าง
เทา่ เทยี ม และถือเป็นการให้เกยี รติซึ่งกันและกนั
ตัวอย่างที่ 2
พรี ณฐั : มงึ ตามกูมาทำไมเนย่ี
เกณสทิ ธิ์ : ใครว่ากตู ามกูแค่ผา่ นมาเหน็ เลยแปลกใจ ร้อยวนั พันปีกู
ไม่เคยเห็นมึงไปไหนมาไหนกับแม่มึงเลยอะ กูก็เลยอยากจะรู้ว่า
วันน้เี พ่ือนมีอะไรพเิ ศษรึเปลา่
พรี ณฐั : ไม่ได้พเิ ศษ กกู ็แค่พาแมม่ าซอื้ ของเฉย ๆ อะ
เกณฑส์ ิทธ์ิ : กดู ีใจนะเวย้ ทม่ี งึ มคี วามสุขกูรอวนั นีม้ านานละ
(คุณหมปี าฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 12)
65
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าผู้สนทนารู้สึกยินดีที่ได้เห็นคู่สนทนามีความสุขใน
ความสัมพนั ธ์แบบชายรักชายและไดร้ บั การยอมรับจากครอบครัว
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครเกณฑ์สิทธิ์เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตนาที่แฝงอยู่
ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคู่สนทนาทุกคนโดยตวั ละครเกณฑ์สิทธิ์จะเป็นตัวละครชายรักชายท่ียอมรับใน
ตัวเองและได้รับการยอมรับจากครอบครัวและคนรอบข้าง หรืออยู่ท่ามกลางสังคมทีย่ อมรับความสัมพันธแ์ บบ
ชายรักชาย รวมท้ังเป็นตัวละครทีต่ ้องการให้สังคมเกดิ การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายอย่างเท่าเทยี ม
จึงสามารถสรุปได้ว่าเกณฑ์สิทธิ์เป็นตัวละครชายรักชายที่ยอมรับในตนเอง ผู้อื่น และต้องการให้สังคมยอมรับ
ความสัมพันธ์แบบชายรักชายจึงเป็นภาพแทนของการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณ
หมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ผา่ นตวั ละครชายรักชาย
2.1.3 เต้าหู้
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 13 บทสนทนา
ดงั ตัวอย่างตอ่ ไปนี้
ตวั อย่างที่ 1
เต้าหู้ : เดี๋ยวครับพีณ่ ัฐทำไมเราจับมือกนั ไม่ได้อะฮะกอ่ นน้าจันมา
เรายงั จบั มือกนั ดี ๆ อย่เู ลยฮะ
พรี ณฐั : (เงยี บลงจากรถเดินหนี)
เตา้ หู้ : พีณ่ ฐั (เดินตาม)
พีรณัฐ : ก็กูไม่ชอบเปน็ จุดสนใจไง กูไม่อยากให้คนเอาไปพูดกันทง้ั
ตลาด มึงก็เหน็ แล้วหนิแค่ปากนา้ จันคนเดยี วกแ็ ทบแย่ละ
เตา้ หู้ : แลว้ การที่เดนิ จับมือกนั อยบู่ ้านเดยี วกัน เราชอบกันมันผิด
ตรงไหนหรอฮะ หรือวา่ การทผ่ี ้ชู ายชอบกันมนั ผดิ กฎหมายหรอฮะ
พีรณฐั : เปล่า
เต้าหู้ : ถา้ ไมใ่ ช่แล้วมันเดือดร้อนใครหรอฮะ ผชู้ ายก็คนเหมือนกัน
ชอบกนั ไมเ่ หน็ จะผิดตรงไหนเลย
พรี ณัฐ : (ถอนหายใจ) กกู ็อยากรู้เหมอื นกนั วา่ ทำไม
(คณุ หมีปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 9)
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าผู้สนทนาตั้งคำถามกับสังคมถึงการยอมรับความสัมพันธ์
แบบชายรักชายว่าเหตุใดถึงจบั มือกันในที่สาธารณะไม่ได้ การที่ผู้ชายสองคนรักกันเป็นเรื่องทีผ่ ดิ กฎหมายหรอื
66
มันทำให้ใครเดือดร้อนหรือไม่ แสดงให้เห็นภาพแทนการยอมรับและอยากให้สังคมยอมรับโดยการตั้งคำถาม
ความสมั พนั ธแ์ บบชายรักชายของตวั ละครเตา้ หู้
ตวั อยา่ งท่ี 2
พีรณัฐ : กูขอโทษนะ ที่ทำให้มึงรู้สึกไม่ดีอะ ทั้ง ๆ ที่มันก็ไม่ใช่
ความผดิ ของมงึ เลย
เต้าหู้ : พี่ณัฐไม่ต้องโทษตัวเองหรอกฮะ ผมรู้ว่าพี่ณัฐรู้สึกยังไง
พณ่ี ัฐกลวั คณุ ปา้ จะรเู้ ร่ืองเราแลว้ เสยี ใจใชม่ ั้ยฮะ พณ่ี ฐั ฮะการรักใคร
มันไมใ่ ช่เร่อื งผิดเลยนะฮะ ความรักไม่ได้ผิด พณี่ ัฐไม่ได้ทำผิดอะไร
ผมจะจับมือพี่ณัฐไว้แบบนี้นะฮะ จับจนกว่าพี่ณัฐจะไม่ปัดมือผม
จนกวา่ จะจับมือผมได้อย่างสบายใจ
(คณุ หมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 9)
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าผู้สนทนาต้องการที่จะอธิบายว่าการรักกันของผู้ชายกับ
ผู้ชายไม่ใช่เรื่องที่ผิดเพราะความรกั ไม่ได้ผิด แสดงให้เห็นถึงภาพแทนการยอมรบั ความสมั พันธ์แบบชายรักชาย
ของตวั ละครเตา้ หู้
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครเต้าหู้ เป็นตัวละครที่เป็นภาพแท นของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตนาที่แฝงอยู่
ในวจั นกรรมท่สี อื่ สารออกมากบั คู่สนทนาทุกคนโดยตวั ละครเตา้ หู้จะเป็นตัวละครชายรักชายที่ยอมรับในตัวเอง
และไม่ถูกครอบงำด้วยค่านิยมใด ๆ ของสังคมจึงมีพฤติกรรมที่เปิดรับ ยอมรับ ในค่านิยมที่เป็นความถูกต้อง
และเท่าเทียมกันของคนในสังคมโดยตัวละครเต้าหู้เป็นตัวละครชายรักชายที่ถูกสร้างมาเพื่อสะท้อนให้เห็นว่า
ความรักก็คือความรักไม่มีเงื่อนไขเรื่องเพศและอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวละครพยายามเสนอให้เห็นถึง
การเท่าเทยี มกนั ของทกุ เพศในสังคม จงึ สามารถสรุปได้ว่าเตา้ หูเ้ ป็นตัวละครชายรกั ชายที่ยอมรบั ในตนเอง ผูอ้ ื่น
และตั้งคำถามกับสังคมเสมอถึงความเท่าเทียมของทุกเพศในสังคม เต้าหู้จึงเป็นภาพแทนของการยอมรับ
ความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ผ่านตัวละคร
ชายรักชาย
2.1.4 ตาธาร
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้
จากความถ่ีของการใช้วจั นกรรมการยอมรับความสมั พนั ธ์แบบชายรักชายในการสอ่ื สาร จำนวน 13 บทสนทนา
ดังตัวอยา่ งต่อไปนี้
67
ตัวอยา่ งที่ 1
พีรณฐั : ผมถามพหี่ น่อยดิ ทำไมพีถ่ งึ ยอมรับไดง้ า่ ย ๆ
ตาธาร : เรือ่ งทีพ่ ่ีชอบผชู้ ายอะเหรอ
พรี ณัฐ : พ่ีไมม่ ชี ่วงเวลาสบั สนบา้ งเลยเหรอ
ตาธาร : มนั มกี นั ทกุ คนแหละ แต่พี่แค่ร้จู กั ตัวเองเร็ว ตอนท่ีพ่ีบอก
พ่อกับแม่พี่อะพวกเขายังบอกเลยนะว่าไม่จำเป็นต้องมาสารภาพ
เพราะถึงพ่ีจะเป็นลูกของพวกเขาแต่ก็มีความเป็นมนษุ ย์เท่า ๆ กัน
แต่แม่พี่ยังบอกอีกนะว่า เกย์มันมีอีกความหมายหนึ่งคือ Joyful
เป็นเกย์ไม่ได้ผิดใชช้ ีวิตสนกุ ๆ เหมือนเพศอ่ืนได้
(คุณหมีปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 12)
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าผู้สนทนาพยายามจะอธิบายให้คู่สนทนาเข้าใจ
ถึงธรรมชาติของการเปน็ เกยว์ ่าการเปน็ เกย์คอื เร่ืองปกติเหมือนกับเพศอื่น ๆ และจงมั่นใจในการเป็นตัวตนของ
ตวั เองเพราะทกุ คนมีคววามเปน็ มนษุ ย์เท่า ๆ กนั
ตัวอยา่ งท่ี 2
ตาธาร : ถ้าณฐั บอกแลว้ ทำให้ใช้ชีวิตลำบากหรอื สร้างความทุกข์ใจ
ให้ใคร แต่ถ้าบอกแล้วมันทำให้ณัฐมีความสุขณัฐก็เลือกบอกตอน
ท่ีณัฐพรอ้ ม
พีรณฐั : ถ้าณัฐพิสจู น์ตัวเองให้พอ่ กบั แม่ยอมรับแลว้
ตาธาร : ทำไมอะ ทำไมเป็นเกย์แล้วต้องดิ้นรนพยายามเพื่อให้รับ
การยอมรับมากกว่าใคร เป็นเกย์แล้วต้องหล่อ ต้องเก่ง ต้องดูดี
เหรอถงึ ได้รบั การยอมรบั อะ แล้วทำไมเขาถึงไม่ยอมรับเราในฐานะ
มนุษย์ธรรมดา ๆ อะ เหมือนเพศอื่นบ้างอะ ณัฐไม่จำเป็นต้อง
พิสูจน์อะไรเลย ณัฐแค่เป็นตัวของณัฐเอง ใช้ชีวิตในแบบที่ณัฐ
อยากใชก้ ็พอ เข้าใจนะ
(คุณหมปี าฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 12)
จากบทสนทนาจะเห็นไดว้ ่าผู้สนทนาพยายามอธิบายกับคู่สนทนาใหใ้ ช้ชีวิต
เป็นตัวเอง ไม่ต้องพยายามให้ใครมายอมรับ เพราะทุกคนทุกเพศควรได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียม ไม่
จำเป็นต้องพิสจู นต์ ัวเองเพ่ือใคร
68
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครตาธารเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตนาที่แฝงอยู่
ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคู่สนทนาทุกคนโดยตัวละครตาธารจะเป็นตัวละครชายรักชายที่ยอมรับใน
ตัวเอง และได้รับการยอมรับจากครอบครัวรวมทั้งคนแวดล้อมของตัวละคร ตัวละครตาธารจึงมีพฤติกรรมที่
มนั่ ใจในตวั ตนของตัวเองและเห็นคุณคา่ ในตัวเอง เหน็ ความสำคญั ของความเทา่ เทยี มกันของทุกเพศของทุกคน
ในสังคม ตัวละครตาธารจึงถูกสร้างขึ้นมาเป็นตัวละครทีอ่ อกมาเรียกร้องในประเด็นของความเทา่ เทียมในเรือ่ ง
ต่าง ๆ โดยเฉพาะประเด็นความเท่าเทียมทางเพศผ่านวิธีต่าง ๆ เช่น ภาพวาด งานเขียน เป็นต้น จึงสามารถ
สรุปได้ว่าตาธารเป็นตัวละครชายรักชายที่ยอมรับในตนเอง ผู้อื่น และผลักดัน ชี้นำให้คนรอบข้างยอมรับใน
ความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ตระหนักถึงความเท่าเทียมของทุกเพศในสังคมโดยการเริ่มต้นจากตัวเอง
ตาธารจึงเป็นภาพแทนของการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The
Miracle Of Teddy Bear ผา่ นตัวละครชายรักชาย
2.1.5 สอง
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 14 บทสนทนา
ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอยา่ งที่ 1
สอง : ลุงอย่าพึ่งถอดใจนะ เดี๋ยวผมจะลองคุยกับพ่อดูก่อนเรามา
ทำให้พ่อยอมรับกันเถอะ ยังไงผมก็ไม่ ยอมแพ้ ลุงก็ไม่คิดจะยอม
เหมือนกนั ใช่ไหม
เกณฑ์สทิ ธ์ิ : กจู ะยอมแพ้ไดย้ งั ไงมึงมาจีบกูก่อนแล้วกูเองก็มั่นใจว่า
กูมีดีไม่แพ้ใคร พ่อมึงมีสิทธิ์ไรมาไม่ยอมรับในตัวกู ถ้ามึงคิดว่าพ่อ
มึงค่อนข้างเปิดกว้างเขาอาจจะแค่ยังตั้งตัวไม่ทันกไ็ ด้เราแค่ค่อย ๆ
เป็นคอ่ ย ๆ ไปค่อย ๆ ชนิ เหมอื นท่มี งึ เคยพูดกับแฟนคลบั ไง
สอง : ดจี ังอะท่ไี ดร้ กั ลุงอะ
(คณุ หมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 12)
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าผู้สนทนาต้องการเชิญชวนให้คู่สนทนาร่วมมือ
กับตนในการทำให้พ่อยอมรับในความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ยอมรับในตัวตนของผู้สนทนาและคู่สนทนาซ่ึง
เป็นคนรกั ของตน
69
ตวั อยา่ งที่ 2
สอง : สองกับลุงเราคบกันครับพ่อ จริง ๆ สองตั้งใจจะบอกพ่อ
ตัง้ แตต่ อนอยเู่ ชียงใหมแ่ ล้ว แตว่ า่ ตอนน้นั ไม่มีจงั หวะได้บอกอะ
พ.ต.ท.อนกิ : ตง้ั แตเ่ มือ่ ไหร่ทำไมสองไม่บอกพอ่
สอง : สองเคยคิดว่าคงไม่ต้องบอกอะ เพราะเราอยู่ด้วยกันตลอด
พอ่ นา่ จะรู้อยู่แลว้ วา่ ลูกของพ่อเป็นยังไงแตส่ องลืมไปว่าจรงิ ๆ แล้ว
เราได้อยู่ด้วยกันน้อยมาก สองมัวแต่เรียนที่นี่ พ่อก็ยุ่งกับงานที่น้นู
เราอาจไม่ได้เข้าใจกันมากอย่างท่ีคิด ถึงสองจะยังเด็กยังเป็นไอลกู
หมาในสายตาพ่อ แต่ว่าเรื่องนี้สองมั่นใจ สองขอโทษนะพ่อที่สอง
คงจะแต่งงานมลี กู มีครอบครวั แบบท่ีพ่อฝัน แบบทลี่ ูกชายคนอืน่ ๆ
ทำไม่ได้แล้วอะ สองรู้นะว่าเรื่องนี้มันอาจทำให้พ่อตกใจ เสียใจ
และผิดหวังแต่เราเคยสัญญากันแล้วหนิ ว่ามีอะไรเราจะพูดกัน
ตรง ๆ สองเลยอยากบอกพ่อด้วยตัวเองดีกว่าพ่อไปรู้จากคน
อื่น ๆ อะ
(คุณหมีปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 12)
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าผู้สนทนาคาดคะเนไว้ว่าผู้เป็นพ่อจะทราบและ
เขา้ ใจในตัวตนของผสู้ นทนาท่ีมีความสมั พนั ธ์แบบชายรกั ชาย จึงไม่ได้บอกกลา่ วกับผูเ้ ปน็ พ่อโดยตรง
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครสองเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตนาที่แฝงอยู่
ในวัจนกรรมที่ส่ือสารออกมากับคู่สนทนาทุกคนโดยตัวละครสองจะเป็นตัวละครชายรักชายที่ยอมรับในตัวเอง
และคาดหวงั ว่าจะไดร้ ับการยอมรับจากครอบครัวรวมทั้งคนแวดล้อมของตัวละคร ตัวละครสองจึงมีพฤติกรรม
ที่แสดงออกในตัวตนของตนเองอย่างเปิดเผย จึงสามารถสรุปได้ว่าสองเป็นตัวละครชายรักชายที่ยอมรับใน
ตนเอง ผู้อื่น และคาดหวังที่จะได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างโดยเฉพาะครอบครัว สองจึงเป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear
ผ่านตวั ละครชายรกั ชาย
2.1.6 ลงุ ชู
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 3 บทสนทนา
ดงั ตัวอยา่ งตอ่ ไปนี้
70
ตัวอย่างท่ี 1
น้าโหน่ง : เห็นแล้วแล้วแอบอิจฉาไม่ได้เนาะ บ้านเราจัดงานไม่ได้
อยู่กันแค่สองคน เพื่อนก็ไม่มี ญาติพี่น้องก็ไม่มีใครอีกแล้ว เหลือ
กนั สองคนนะ่
ลุงชู : เออ ๆ อย่าไปอิจฉาเขาเลยนะ ครอบครัวเราอยู่กันแบบมี
ความสุขน่ะดีแลว้ ครอบครัวไม่ตอ้ งใหญ่ ครอบครัวไม่จำเป็นต้องมี
ลูกมีหลานมีเต้าไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนสมรส คนอื่นจะมองเรา
ยังไงกต็ ามช่างเขา อยทู่ ่ีเราสองคนนะ เราคอื ครอบครวั
(คณุ หมปี าฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 15)
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าผู้สนทนากำลังอธิบายให้แก่คู่สนทนาซึ่งเป็นคน
รักของตนเข้าใจและยอมรับ ซึ่งแสดงให้เห็นการยอมรับในตัวตนของตัวละครลุงชูโดยไม่ได้คาดหวังให้สังคม
หรือคนอนื่ ยอมรับในความสัมพนั ธข์ องเอง
ตวั อย่างท่ี 2
สัจจารีย์ : บันเทิงไหมละคะบ้านเนี่ยะ ไม่รู้ว่าดูแลกันถึงซอกถึงมุม
ไหนถึงกับต้องแก้ผ้าดูแลอะคะ แล้วคุณป้ายังเรียกเจ้าชายน้อย
เจ้าชายนอ้ ยอกี ไมป่ ว่ ยจริงทำไมไ่ ดน้ ะคะเนี่ย
ลุงชู : คดิ มากไปรึเปลา่ ครับคุณจนั ทร์ มนั อาจจะไมเ่ ป็นอย่างน้ันก็
ไดน้ ะผมวา่
สัจจารีย์ : ไม่อยา่ งน้ันแลว้ มนั ยังไงคะ
(คุณหมปี าฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 2)
จากบทสนทนาจะเหน็ ไดว้ ่าผ้สู นทนากำลังอธิบายให้กับคู่สนทนาเขา้ ใจโดย
มีเจตนาทไี่ ม่ต้องการให้คูส่ นทนาเข้าใจหรอื มองความสมั พันธ์แบบชายรกั ชายในทางท่ีไมด่ ี
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครลุงชู เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตน าที่แฝงอยู่
ในวัจนกรรมที่ส่ือสารออกมากับคู่สนทนาทกุ คนโดยตัวละครลงุ ชูจะเป็นตัวละครชายรักชายที่ยอมรับในตัวเอง
โดยไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับการยอมรับจากสังคม ตัวละครลุงชูจึงไม่ได้มีพฤติกรรมที่แสดงออกในตัวตนของ
ตนเองอย่างเปิดเผย ตวั ละครลุงชูจงึ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสะท้อนภาพแทนความสมั พันธ์แบบชายรักชายที่มีอยู่ใน
หลากหลายชว่ งวยั จงึ สามารถสรปุ ได้ว่าลงุ ชเู ปน็ ตวั ละครชายรกั ชายทีย่ อมรับในตนเอง ผู้อน่ื และคาดหวังท่ีให้
สังคมยอมรับในความสัมพันธ์แบบชายรักชายต่อคนรุ่นใหม่ ลุงชูจึงเป็นภาพแทนของการยอมรับความสัมพันธ์
แบบชายรักชายในละครเร่อื งคณุ หมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ผ่านตวั ละครชายรกั ชาย
71
2.1.7 นา้ โหนง่
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน1 บทสนทนา
ดังตัวอยา่ งตอ่ ไปนี้
ตัวอยา่ งท่ี 1
น้าโหนง่ : เหมอื นที่เต้าหเู้ ปน็ ครอบครัวของณัฐใชไ่ หม
พีรณัฐ : ใชค่ รบั เปน็ ยิ่งกวา่ ครอบครวั
(คุณหมีปาฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 14)
จากบทสนทนาผู้สนทนาต้องการที่จะถามย้ำกับคู่สนทนาถึงความสัมพันธ์
ของคูส่ นทนาดว้ ยเจตนายนิ ดีในความสมั พนั ธ์
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครน้าโหน่งเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการย อมรับและเจตนาที่แฝงอยู่
ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคู่สนทนาทุกคนโดยตัวละครน้าโหน่งจะเป็นตัวละครชายรักชายที่ยอมรับใน
ตัวเอง และยินดีในความสัมพันธ์แบบชายรักชายของผู้อื่น ตัวละครน้าโหน่งจึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสะท้อน
ภาพแทนความสัมพันธ์แบบชายรักชายที่มีอยู่ในหลากหลายชว่ งวยั จึงสามารถสรุปได้ว่าน้าโหน่งเป็นตัวละคร
ชายรกั ชายท่ยี อมรับในตนเอง ผอู้ ่นื ยนิ ดใี นความสัมพนั ธช์ ายรกั ชายของคนอืน่ และคาดหวังให้สงั คมยอมรับใน
ความสัมพันธ์แบบชายรักชายต่อคนรุ่นใหม่ น้าโหน่งจึงเป็นภาพแทนของการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรกั
ชายในละครเร่ืองคุณหมปี าฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ผา่ นตวั ละครชายรกั ชาย
2.2 ภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์
The Miracle Of Teddy Bear ผา่ นตวั ละครชาย
2.2.1 เจือ
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 4 บทสนทนา
ดังตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี
ตัวอย่างที่ 1
พเ่ี จอื : มัน คอื มนั เครียดไปอะณฐั
พีรณัฐ : มนั เครียดยังไงพี่ ไหนพ่บี อกช่องต้องการวายแนวน้ีไง
พี่เจือ : ก็ใช่ ช่องต้องการวายแนวน้ี แต่เป็นวายที่สดใสวยั รักแรก
รนุ่ ปง๊ิ ปัง๊ ปิ๊งปง๊ั ปง๊ิ ป๊งั อะ เนี่ยอย่างเนยี่ ะใครจะไปดู เครียดฉบิ หาย
พีรณัฐ : พีก่ ลวั คนไม่ดูหรอื โฆษณาไมเ่ ขา้ กนั แนพ่ ี่
72
พี่เจือ : โอ้โห ณัฐยังไม่เข้าใจอะไรวะ ช่องขายสปอนเซอร์ไม่ได้
อะไรมันจะเกิดขึ้นตามมา เป็นชอต ๆ ฉาก ๆ สปอนเซอร์ไม่
จ่ายเงินช่อง ช่องไม่จ่ายเงนิ เรา และเงินลงทุนท่ีพี่ลงไป เหอะ หาย
หมดไมม่ ีเงินจา่ ยพวกแก คดิ บา้ งสิ กลบั ไปทำมา แก้ดว้ ย
(คุณหมีปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 2)
จากบทสนทนาผู้สนทนาต้องการสื่อสารอธิบายให้คู่สนทนาเข้าใจถึงส่ิ งที่
สังคมตอ้ งการซรี สี ว์ ายในอดุ มคติท่นี ำเสนอความรกั ความสัมพันธ์แบบรักสดใสไมส่ ะท้อนความเป็นจริงในสังคม
โดยทีผ่ ้สู นทนาไม่ไดม้ ีเจตนาไม่ยอมรับความสัมพันธแ์ บบชายรกั ชาย
ตวั อยา่ งที่ 2
พ่ีเจือ : ฉันวา่ ทแ่ี กวาดเนยี่ เพราะยงั ลืมเค้าไม่ลงละสิ
พรบิ พรี : นร่ี ักแรกเลยนะน้าเจอื Frist love อะ Frist love ใครจะ
ไปลมื ลง
พีเ่ จือ : Frist love ท่ีเปน็ เกย์อะหรอ
พรบิ พรี : น้าเจือ
พี่เจือ : (หัวเราะ) หลานฉัน อกหกั ป๊ปุ เป็นสาววายปัป๊ ทง่ึ จรงิ ๆ
พริบพรี : เลือดวายในกายพรบิ มนั รนุ แรงอะ
พเี่ จือ : เอาอย่างงงี้ านใหมก่ ็เขา้ ทางแกสวิ ะ
พริบพรี : งานอะไรอะ
(คุณหมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 3)
จากบทสนทนาผู้สนทนาต้องการถามคู่สนทนาโดยมีเจตนาหยอกล้อคู่
สนทนา ไมไ่ ดไ้ ม่ยอมรบั ความสัมพันธ์แบบชายรักชาย
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครพ่ี เจือเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตนาที่แฝงอยู่
ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคสู่ นทนาทุกคนโดยตวั ละครพ่เี จือจะเปน็ ตัวละครชายท่ยี อมรับในความสมั พนั ธ์
แบบชายรกั ชาย โดยตวั ละครพ่ีเจือถกู สรา้ งให้เป็นตัวละครสะทอ้ นภาพส่ิงทีส่ ังคมมองความสมั พนั ธแ์ บบชายรัก
ชายที่เป็นความสัมพันธ์เชิงอุดมคติสะท้อนภาพการยอมรับจากสังคมแบบผิวเผิน จึงสามารถสรุปได้ว่าพี่เจือ
เป็นตัวละครชายที่ยอมรับในความสัมพันธแ์ บบชายรักชาย และต้องการให้คนในสังคมยอมรบั ผ่านการส่ือสาร
ในซีรีส์ที่ตนกำกับ พี่เจือจึงเป็นภาพแทนของการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมี
ปาฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ผา่ นตัวละครชาย
73
2.2.2 สิทธา
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 4 บทสนทนา
ดงั ตัวอยา่ งต่อไปน้ี
ตวั อยา่ งที่ 1
กัญญา : เอานี่ แล้วไหนบอกไปธุระกับณัฐมาไง แล้วไม่ชวนมากิน
ด้วยล่ะ
เกณฑ์สทิ ธิ์ : ผมชวนมันละครบั แต่วา่ มนั ไม่ว่าง
กญั ญา : ไมว่ า่ งหรอ เอ๊อสงสัยไปเดทนะ
สิทธา : ไอเกณฑ์ ปล่อยเพื่อนแซงได้ไงว่ะ เสียชื่อลูกผู้พันสิทธา
หมดเลย บอกแลว้ ไงว่าพอ่ จะแนะนำทหารหนมุ่ ๆ หลอ่ ๆ ให้ก็ไม่
เอา
กัญญา : พ่อ (หัวเราะ)
เกณฑ์สิทธิ์ : ไอณัฐมันไปทำธรุ ะครับ ไม่ได้ไปเดท แล้วเกณฑ์ก็เคย
บอกแลว้ ไงวา่ เกณฑห์ าเองได้
(คณุ หมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 3)
จากบทสนทนาผ้สู นทนาต้องการเสนอแนะ แนะนำทหารหนุ่มหล่อท่ีเป็นลกู
ชายให้กบั ลูกชายตนเองซึง่ แสดงให้เหน็ วา่ ผู้สนทนามกี ารยอมรับความสมั พันธแ์ บบชายรกั ชาย
ตวั อยา่ งที่ 2
กญั ญา : เอ๊ะ ลกู มากับใครอะพอ่ สองหรอ
สทิ ธา : ก็คล้าย ๆ สองนะ หรอื จะพามาเปดิ ตวั
(คณุ หมปี าฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 3)
จากบทสนทนาผู้สนทนาต้องการถามโดยมีเจตนาที่แสดงให้เห็นถึงการ
เปดิ รับเปิดกว้างโดยไม่วา่ ลกู จะพาผู้หญงิ หรอื ผชู้ ายมาแนะนำกบั พ่อแมใ่ นฐานะคนรัก
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครสิทธาเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตนาที่แฝงอยู่
ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคู่สนทนาทุกคน โดยตัวละครสิทธาจะเป็นตัวละครชายที่ยอมรับใน
ความสัมพนั ธ์แบบชายรักชาย โดยตวั ละครสิทธาถกู สร้างให้เป็นตวั ละครสะทอ้ นภาพครอบครวั ท่ีเปิดกว้างและ
ให้การยอมรับความสมั พันธแ์ บบชายรกั ชายอยา่ งเขา้ อกเข้าใจและตอ้ งการให้เกิดการยอมรับในวงกว้างมากข้ึน
จึงสามารถสรุปได้ว่าสิทธาเป็นตัวละครชายที่ยอมรับในความสัมพันธ์แบบชายรักชาย สิทธาจึงเป็นภาพแทน
74
ของการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear
ผา่ นตวั ละครชาย
2.2.3 สบิ หมืน่
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 14 บทสนทนา
ดงั ตวั อยา่ งตอ่ ไปนี้
ตัวอยา่ งท่ี 1
พรี ณัฐ : ณฐั ก็ไม่อยากมีพ่อเฮงซวยแบบนเ้ี หมือนกนั
สบิ หมืน่ : ไอณัฐ มงึ กลา้ ด่ากหู รอ มึงกล้าด่าพ่อมึงหรอ วิปรติ อยา่ ง
มึงไม่มีวันเจริญหรอก พวกมึงไม่มีทางไปกันรอด ถ้ามึงจะรักกัน
ขา้ มศพกไู ปกอ่ น เปิด กบู อกให้เปดิ
(คุณหมีปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 11)
จากบทสนทนาผู้สนทนาคาดคะเนความสัมพันธ์ของลูกชายกับคนรักที่เป็น
ผู้ชายในความสัมพนั ธ์แบบชายรักชายว่าไมม่ ีทางไปกันรอด และมองว่าความสัมพันธ์แบบชายรักชายเป็นเรือ่ ง
วปิ ริตผดิ ธรรมชาตไิ มม่ ีวันเจริญ
ตวั อยา่ งท่ี 2
มนทนา : อย่าหาเรื่องกันได้มั้ย แค่เรื่องลูกแม่ก็กลุ้มใจจะแย่อยู่
แล้ว
สิบหมื่น : นั้นมันความรับผิดชอบของแม่ไง แม่เลี้ยงลูกยังไงลูก
มนั ถึงได้ออกมาเป็นอย่างน้ันเน่ียหะ้
มนทนา : แลว้ มันเป็นความผดิ ของแม่คนเดยี วหรือไง เราก็เลย้ี งณัฐ
มาดว้ ยกันสองคนอะแหละ
สิบหมื่น : เลี้ยงลูกมันหน้าที่แม่ไม่ใช่หน้าที่พ่อ หน้าที่พ่อคือ
ออกไปทำงานหาเงิน ลูกมันเป็นอย่างงี้เพราะแม่แหละถูกแล้ว ถ้า
จะไมใ่ ชเ่ พราะแม่อะนะ ก็เพราะวา่ มนั ได้เชอ้ื พ่อมันมาเยอะไง
(คณุ หมีปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 13)
จากบทสนทนาผสู้ นทนาต้องการจะตำหนแิ ละกลา่ วโทษผสู้ นทนา วา่ เปน็
ความผดิ ของคู่สนทนาทเ่ี ลี้ยงดลู กู จนมีพฤตกิ รรมเบี่ยงเบนทางเพศ แสดงให้เห็นถงึ เจตนาทีไ่ มย่ อมรบั
ความสมั พนั ธ์แบบชายรกั ชาย
75
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครสิบหมื่นเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การไม่ยอมรบั ความสัมพันธ์แบบชายรักชายท้ังจากความถี่ของการใชว้ จั นกรรมการไม่ยอมรับและเจตนาทีแ่ ฝง
อยู่ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคู่สนทนาทุกคน โดยตัวละครสิบหมื่นจะเป็นตัวละครชายที่ไม่ยอมรับใน
ความสัมพันธ์แบบชายรักชายด้วยการตำหนิกล่าวโทษด่าทอ โดยตัวละครสิบหมื่นถูกสร้างให้เป็นตัวละคร
สะท้อนภาพครอบครัวที่ไม่เข้าใจ ไม่เปิดกว้างและไม่ให้การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย คิดว่าการมี
พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศของลูกจะส่งผลให้ลูกเป็นชายรักชายซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดจึงพยายามทำทุกวิถีทาง
กระทั่งใช้ความรุนแรงเพื่อสกดั กั้นไมใ่ หล้ ูกชายของตนกลายเป็นเกย์ จึงสามารถสรุปได้ว่าสิบหมื่นเป็นตัวละคร
ชายท่ไี ม่ยอมรบั ในความสมั พันธ์แบบชายรักชาย สบิ หมื่นจึงเปน็ ภาพแทนของการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบ
ชายรักชายในละครเร่อื งคณุ หมีปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ผา่ นตัวละครชาย
2.2.4 แสน
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 1 บทสนทนา
ดงั ตวั อย่างต่อไปนี้
แสน : ละไม่ว่าณัฐจะเป็นยังไงอะณัฐคิดถูกแล้วนะ ที่เลือกที่จะ
ยืนยันในตัวตนของตัวเอง ยืนยันในความรักของตัวเอง การท่ี
คนเราจะรักษาความรักให้มั่นคงไปตลอดเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องง่าย
ถา้ ณัฐกับเต้าหมู้ ีความสุข ลุงก็ยนิ ดีดว้ ย
พรี ณฐั : (ย้มิ )
(คุณหมปี าฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 13)
จากบทสนทนาผู้สนทนามีเจตนายืนยันกับคู่สนทนาว่าสิ่งที่คู่สนทนาเลือก
เป็นสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม และผู้สนทนาเองพร้อมที่จะสนับสนุนในความสัมพันธ์แบบชายรักชายของ
คสู่ นทนา
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครแสนเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตนาที่แฝงอยู่
ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคูส่ นทนา โดยตัวละครแสนจะเป็นตัวละครชายที่ยอมรับในความสัมพันธ์แบบ
ชายรักชาย ยินดีและพร้อมที่จะสนับสนุนความสัมพันธ์แบบชายรักชาย โดยตัวละครแสนถูกสร้างให้เป็นตัว
ละครที่เป็นคู่เทียบกับตัวละครสิบหมื่นที่แสดงออกถึงการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย จึงสามารถ
สรุปได้ว่าแสนเปน็ ตวั ละครชายที่ยอมรบั ในความสัมพันธ์แบบชายรักชาย แสนจึงเป็นภาพแทนของการยอมรบั
ความสมั พนั ธแ์ บบชายรกั ชายในละครเร่อื งคุณหมปี าฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ผ่านตัวละครชาย
76
2.2.5 อนกิ
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายซึ่งมีพัฒนาการมาจาก
การไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ปรากฏความถี่จำนวน 4 บทสนทนา และวัจนกรรมการยอมรับ
ความสัมพันธแ์ บบชายรกั ชาย ปรากฏความถจ่ี ำนวน 1 บทสนทนา ดังตวั อย่างต่อไปนี้
ตวั อยา่ งที่ 1
สอง : พ่อคอื วา่ สองกบั ลงุ เขาเรากเ็ ป็น
พ.ต.ท.อนิก : (สายเข้า) ว่าไงไอสุวัตเป็นไงสบายดีไม่ได้เจอกันตั้ง
นานเลย หาลูกแกแต่งงานเหรอเมื่อไหร่นะ โอโหไม่อยากเชื่อเลย
ว่าลูกแกโตเป็นสาวแต่งงานได้แล้วเนี่ย เห้ยลูกชายฉันพึ่งเรียนปี
หนึ่งไม่รีบหรอกเด็กสมัยนีค้ ิดเร็วทำเร็ววันน้ีเป็นแบบนี้วันหนา้ อาจ
เปล่ียนใจก็ได้ฉนั ยงั ไม่แก่รอได้เวย้ คงได้อมุ้ หลานสกั วนั นัน้ แหละ
(คณุ หมีปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 12)
จากบทสนทนาผู้สนทนาแสดงเจตนาคาดหวัง ให้ลูกชายของตนสร้าง
ครอบครัวมีลูกตามขนบธรรมเนียมค่านิยมแบบชายหญิง แสดงให้เห็นว่าผู้สนทนายังเชื่อในค่านิยมเก่าและ
ไม่ยอมรับความสัมพันธแ์ บบชายรักชาย
ตวั อย่างที่ 2
สอง : เร่อื งสองกับลุง ถึงตอนนพี้ ่อจะยังไมเ่ ห็นด้วยยงั ไงเราสองคน
ก็จะไม่ถอดใจง่าย ๆ สองอยากให้พ่อรู้ว่าพวกเราสองคนจริงจัง
ยงั ไงเราสองคนกจ็ ะยังรกั กันเหมือนเดมิ สองขอโทษนะที่อาจจะทำ
ใหพ้ อ่ ไมส่ บายใจอะ
พ.ต.ท.อนกิ : จรงิ ๆ พ่อรู้มาตั้งนานละ ตง้ั แต่ตอนท่พี ่อไปกองซีรสี ์
สอง : พอ่ รู้
พ.ต.ท.อนิก : ใช่ ตอนนั้นพ่อทำตวั ไมถ่ ูกก็ไม่รู้ว่าจะตัง้ รับกบั เรือ่ งน้ี
ยังไงก็พ่อไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกชายพ่อจะชอบผู้ชายแต่ก็ไม่ได้
หมายความว่าพ่อจะรับไม่ได้ พ่อแค่เป็นห่วง แต่ตอนนี้พ่อรู้แล้ว
ว่าไม่ต้องห่วง พ่อเห็นลูกมีความสุขที่ได้คบกันพ่อเห็นแล้วว่าลูก
สองคนดูแลกันได้ ถ้าคบกนั แลว้ มคี วามสุขกค็ บไปเถอะ
(คุณหมีปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 16)
77
จากบทสนทนาผู้สนทนามีเจตนาแสดงให้เห็นถึงการยอมรับความสัมพันธ์
แบบชายรกั ชายจากการยอมรับในตัวตนของลูกและคนรกั ของลกู
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครอนิกเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายที่มีพัฒนาการมาจากการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทงั้
จากความถ่ขี องการใชว้ จั นกรรมการยอมรับและไม่ยอมรับ รวมทง้ั เจตนาทีแ่ ฝงอยู่ในวัจนกรรมท่ีส่ือสารออกมา
กับคู่สนทนา โดยตัวละครอนิกจะเป็นตัวละครชายที่ยอมรับในความสมั พันธ์แบบชายรักชายของสังคมแต่ไมไ่ ด้
เปิดรับยอมรับคนในครอบครัวของตน โดยตัวละครอนิกถูกสร้างให้เป็นตัวละครที่มีพัฒนาการเรียนรู้เปิดรับ
อย่างเข้าใจในความสัมพันธ์แบบชายรักชายในฐานะคนในครอบครัวเป็นคู่เทียบของครอบครัวที่ค่อย ๆ เข้าใจ
ลูก จึงสามารถสรุปได้ว่าอนิกเป็นตัวละครชายที่ยอมรับในความสัมพันธ์แบบชายรักชาย อนิกจึงเป็นภาพแทน
ของการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear
ผา่ นตัวละครชาย
2.2.6 ตำรวจ
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 1 บทสนทนา
ดงั ตัวอยา่ งตอ่ ไปน้ี
ตำรวจ : อะไรกันเน่ยี วุน่ วายกนั ไปหมดเลย
ชาวบ้าน : ก็ไอโรคจิตน่ีสิค่ะคุณตำรวจ มันอะเข้ามาขโมยชดุ ช้นั ใน
ฉันอะจับมันได้คาราวตากผา้ เลยนะคะ
ตำรวจ : อ้าว ไอน้องนี้เมอ่ื คืนน้ี จบู กับผ้ชู ายไม่ใชห่ รอื
ชาวบา้ น : หะ (ตกใจ)
ตำรวจ : แล้ววันนี้มาขโมยชุดชั้นในผู้หญิงอีก ตกลงว่าสายไหน
ฮะเรา
(คุณหมีปาฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 7)
จากบทสนทนาแสดงให้เห็นว่าผู้สนทนาต้องการคำตอบจากคู่สนทนาโดยมี
เจตนาหยอกล้อคู่สนทนาด้วย แต่ไม่ได้มีการแสดงพฤติกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบ
ชายรักชายแตอ่ ยา่ งใด
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครตำรวจเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตนาที่แฝงอยู่
ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคู่สนทนา โดยตัวละครตำรวจจะเป็นตัวละครที่ชายที่ยอมรับในความสัมพันธ์
แบบชายรักชายที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีเจตนาแสดงให้เห็นถึงการยอมรับอย่างหลายหลายจากคนหลากหลาย
78
อาชีพในสังคม จึงสามารถสรุปได้ว่าตำรวจเป็นตัวละครชายที่ยอมรับในความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ตำรวจ
จึงเป็นภาพแทนของการยอมรับความสมั พนั ธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of
Teddy Bear ผ่านตัวละครชาย
2.3 ภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์
The Miracle Of Teddy Bear ผ่านตัวละครหญิง
2.3.1 มนทนา
เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายซึ่งมีพัฒนาการมาจาก
การไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ปรากฏความถี่จำนวน 5 บทสนทนา และวัจนกรรมการยอมรับ
ความสมั พนั ธแ์ บบชายรกั ชาย ปรากฏความถี่จำนวน 13 บทสนทนา ดังตัวอย่างตอ่ ไปน้ี
ตัวอย่างที่ 1
มนทนา : พ่อเค้าโกรธไม่นานหรอกณัฐทำตัวดี ๆ เดียวพ่อเค้าก็
หายโกรธ ถา้ ณัฐอยากไปหาหมอ
พีรณฐั : ณฐั เป็นเกย์ ณฐั ไม่ไดเ้ ป็นโรคนะแม่ มันไมม่ วี ันหายหรอก
(คณุ หมีปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 11)
จากบทสนทนาต้องการแนะนำยื่นข้อเสนอแนะให้กับคู่สนทนาไปหาหมอ
เพื่อรักษาพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ โดยที่ผู้สนทนาคิดว่าสามารถรักษาให้หายได้แสดงให้เห็นถึงการ
ไม่ยอมรบั ความสมั พันธ์แบบชายรักชาย
ตัวอย่างท่ี 2
มนทนา : เพราะว่าป้าฝังใจกับการมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ป้าก็
เลยต้องการให้ครอบครัวของป้าสมบูรณ์แบบ แต่ในโลกนี้มันไม่มี
อะไรที่สมบูรณ์แบบหรอก ป้าเคยกลัวว่าการที่ณัฐเป็นแบบนี้มัน
คือการผิดปกติ แต่จริง ๆ แล้วคนเปน็ เกย์ก็เป็นคนปกติ ยิ่งวันนีป้ า้
เห็นณัฐโตขึ้นยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง มีคนยอมรับมีเพื่อนดี ๆ
ไม่ต่างจากคนทั่วไป ป้ารู้แล้วว่าลูกควรได้เป็นตัวเอง ได้เลือกเดิน
ในเส้นทางที่ตัวเองเลือก โดยที่มีพ่อแม่แค่คอยประคับประคอง
ไมใ่ ช่ตีกรอบ เพราะว่าชวี ิตลกู เปน็ ของลกู ไม่ใช่ของพ่อแม่
(คณุ หมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 11)
จากบทสนทนาผู้สนทนาตอ้ งการอธบิ ายให้คู่สนทนาเขา้ ใจวา่ การเป็นเกย์
เปน็ เรอื่ งปกติท่คี นในสงั คมควรใหก้ ารยอมรับอยา่ งเทา่ เทยี ม จึงแสดงให้เหน็ ถงึ การยอมรบั ความสมั พนั ธแ์ บบ
ชายรกั ชายของผสู้ นทนา
79
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครมนทนาเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายที่มีพัฒนาการมาจากการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้ง
จากความถ่ขี องการใช้วจั นกรรมการยอมรับและไมย่ อมรับ รวมท้ังเจตนาทีแ่ ฝงอย่ใู นวัจนกรรมที่ส่ือสารออกมา
กับคู่สนทนา โดยตัวละครมนทนาจะเป็นตัวละครหญิงที่ยอมรับในความสัมพันธ์แบบชายรักชายเพราะเห็นว่า
การเป็นเกย์หรือมีความสัมพันธ์แบบชายรักชายก็เหมือนกับคนอื่น ๆ ทั่วไปที่สามารถเป็นที่ยอมรับของ
คนทุกคนได้ โดยตัวละครมนทนาถูกสร้างให้เป็นตัวละครที่มีพัฒนาการเรียนรู้เปิดรับอย่างเข้าใจใน
ความสัมพันธ์แบบชายรกั ชายในฐานะคนในครอบครัวเป็นคู่เทยี บของครอบครวั ท่ีคอ่ ย ๆ เข้าใจลูกซึ่งพัฒนามา
จากการไม่รู้วิธีการดูแลที่ถูกต้องและพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการไม่ยอมรับความสัมพันธืแบบชายรักชายใน
ตอนต้นนั้นมีเจตนาเป็นห่วงลูกจากการใช้ชีวิตในสังคมในฐานะแม่ จึงสามารถสรุปได้ว่ามนทนาเป็นตัวละครช
หญิงที่ยอมรับในความสมั พันธ์แบบชายรักชาย มนทนาจึงเป็นภาพแทนของการยอมรบั ความสัมพันธ์แบบชาย
รักชายในละครเรอ่ื งคณุ หมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ผ่านตวั ละครหญิง
2.3.2 พรบิ พรี
เป็นตัวละครหญิงที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 10 บทสนทนา
ดังตวั อย่างต่อไปน้ี
ตวั อย่างที่ 1
สอง : ใคร ๆ ก็สนใจเรื่องพวกนี้ได้ทั้งนั้นและครับอยู่ที่ว่าจะเอา
เวลาไปสนใจหรอื เปลา่
พริบพรี : เรื่องสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมกันเนี่ยเค้าพูดกนั
มานานแล้วนะคะ ถึงเราไม่ได้เป็น LGBTQ+ เราก็เรียกร้องสิทธิ์
ให้ LGBTQ+ ได้
(คุณหมีปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 13)
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าผู้สนทนาต้องการบอกกับคู่สนทนาถึงวิธีการ
แสดงการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย โดยแม้จะไม่เป็น LGBTQ+ ก็สามารถที่จะร่วมเรียกร้องสิทธิ์
ใหก้ ับคนกลุ่มดังกลา่ วไดใ้ นฐานะมนุษยท์ ี่เทา่ เทยี ม
ตวั อย่างที่ 2
พริบพรี : เรยี บรอ้ ยดคี ะ่ เน่ียะพรบิ กำลงั จะกลบั เดยี๋ วเอารูปไปให้ดู
บอกเลยวา่ ถ้านา้ เจือเห็นแลว้ เผ่อื จะเอาไปเปน็ ref ในซรี สี ์ไดบ้ ้าง
พเ่ี จือ : อย่างนัน้ เลยเหรอวะ
พรบิ พรี : ได้ฟิล pre wedding เลยแหละนา้ พเ่ี กณฑ์ทำดมี าก
พเี่ จอื : อ่อ งน้ั สายวายอย่างแกคงฟินเวอร์ไปเลยนะสิ
80
พริบพรี : จะฟินกว่านี้อะ ถ้าเป็นจริงได้อะ อยากให้มีกฎหมาย
สมรสเท่าเทียมจัง ในเมื่อกฎหมายถูกสร้างมาให้ทุกคน ทุกคนก็
ควรจะไดใ้ ชส้ ทิ ธต์ิ ามกฎหมายไมใ่ ชเ่ หรอ
(คุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 14)
จากบทสนทนาผู้สนทนามเี จตนาคาดหวังอยากให้มีกฎหมายสมรสเท่าเทยี ม
ซึ่งทุกคนควรจะได้ใช้สิทธิอ์ ย่างเทา่ เทียมกันไม่ว่าเพศใดก็ตาม แสดงให้เหน็ ถึงการยอมรับและคาดหวังให้สงั คม
ยอมรับความสัมพนั ธแ์ บบชายรักชาย
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครพริบพรีเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตนาที่แฝงอยู่
ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคู่สนทนา โดยตัวละครพริบพรีจะเป็นตัวละครหญิงที่ยอมรับในความสัมพันธ์
แบบชายรักชายที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีเจตนาแสดงให้เห็นถึงคนรุ่นใหม่ที่มีการยอมรับและเรียกร้องให้สังคม
ยอมรบั จึงสามารถสรปุ ได้ว่าพรบิ พรีเป็นตวั ละครหญิงทีย่ อมรบั ในความสมั พันธแ์ บบชายรักชาย พรบิ พรจี งึ เป็น
ภาพแทนของการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of
Teddy Bear ผ่านตัวละครหญิง
2.3.3 กญั ญา
เป็นตัวละครหญิงที่เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้จาก
ความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 5 บทสนทนา
ดังตวั อยา่ งตอ่ ไปนี้
ตัวอยา่ งท่ี 1
กัญญา : นี่ ๆ แล้วที่บอกว่าหาเองได้อะ สรุปคือหาไว้แล้วใช่ม้ัย
หึ้ยหนมุ่ ทีไ่ หน
เกณฑส์ ทิ ธ์ิ : แม่ ไมไ่ ด้หาอะไรท้ังนนั้ แหละ แล้วนก่ี ไ็ มใ่ ช่หนมุ่ ที่ไหน
ดว้ ย กแ็ คเ่ ด็กกวนตนี อะ
(คุณหมปี าฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 3)
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าผู้สนทนาต้องการจะถามลูกชายเรื่อง
ความสมั พนั ธโ์ ดยมีเจตนาหยอกล้อซ่ึงแสดงใหเ้ หน็ ถงึ การยอมรบั ความสมั พนั ธ์แบบชายรกั ชาย
ตวั อย่างท่ี 2
สิทธา : เอ้าแลว้ ไปเจอกันทีไ่ หนอะ
เกณฑส์ ทิ ธ์ิ : แหะ ๆ ทีบ่ า้ น เกณฑไ์ ปคุยธุระ
กัญญา : อุ้ย ลกู ฉนั ไปหาผูช้ ายถงึ บ้าน นั่นแน่
81
(คณุ หมีปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 6)
จากบทสนทนาจะเห็นได้วา่ ผูส้ นทนาบอกกล่าวกับคู่สนทนาวา่ ลูกของตนไป
หาผู้ชายถงึ บ้านโดยมีเจตนาหยอกลอ้ ซง่ึ แสดงให้เหน็ ถึงการยอมรับความสัมพนั ธ์แบบชายรักชาย
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครกัญญาเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการยอมรับและเจตนาที่แฝงอยู่
ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคู่สนทนาทุกคน โดยตัวละครกัญญาจะเป็นตัวละครหญิงที่ยอมรับใน
ความสัมพันธ์แบบชายรักชาย โดยตัวละครกัญญาถูกสร้างให้เป็นตัวละครสะท้อนภาพครอบครัวที่เปิดกว้าง
และให้การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายอย่างเข้าอกเข้าใจและต้องการให้เกิดการยอมรับในวงกว้าง
มากขึ้น จึงสามารถสรุปได้ว่ากัญญาเป็นตัวละครชายที่ยอมรับในความสัมพันธ์แบบชายรักชาย กัญญาจึงเป็น
ภาพแทนของการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of
Teddy Bear ผ่านตวั ละครหญิง
2.3.4 ครูปรติ ร
เป็นตัวละครหญิงที่เป็นภาพแทนการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งจะเห็นได้
จากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร จำนวน 5
บทสนทนา ดังตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี
ตวั อยา่ งที่ 1
พีณัฐ : ต้องมสี คิ รับ เด๋ียวนม้ี ันกไ็ ม่ใช่เร่ืองแปลกแล้วนะครับ
ครปู ริตร : แตม่ ันกไ็ มใ่ ช่เร่อื งปกติ
พีรณัฐ : ถ้าความปกติของครู ต้องคิดเหมือนครูเท่านั้น คงมีคน
ผิดปกติกนั คร่ึงโลก แต่สำหรบั ผมทกุ คนคอื คนปกติ แค่ผมมรี สนิยม
ไม่เหมือนครู หรือใครอีกหลายคน มันไม่ได้หมายความว่าผม
ผิดปกติ ครูรอติดตามผลงานผมด้วยนะครับ บางทีซีรีส์เรื่องเน่ีย
อาจทำให้ครูเข้าใจความหลากหลายทางเพศมากขึ้น และก็ให้
เกียรติคนทุกคนไม่ว่าเค้าจะเด็กกว่าหรือว่าเป็นเพศไหน ผมขอตัว
ไปทำงานกอ่ นนะครบั
(คณุ หมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 5)
จากบทสนทนาจะเหน็ ไดว้ ่าผสู้ นทนาบอกกลา่ วแสดงทัศนคตขิ องตนเองทม่ี ี
ตอ่ ความสมั พนั ธ์แบบชายรกั ชายว่าเปน็ เร่ืองไมป่ กตซิ ึ่งแสดงถงึ การไมย่ อมรบั ความสัมพนั ธ์แบบชายรกั ชาย
ตัวอยา่ งท่ี 2
ครูปริตร : ครูขอโทษเธออีกทีนะพีรณัฐ ครูรู้ว่าโลกกำลังก้าวไป
ข้างหน้า แล้วคนในวัยของครูเนี่ยะกำลังเดินถอยหลัง ครูกำลัง
82
พยายาม กำลังค่อย ๆ เรียนรู้อะไรหลายอย่าง วันนี้ครูอาจจะไม่
เข้าใจทกุ อย่าง และบางอย่างครกู ็อาจจะไมเ่ หน็ ดว้ ย
พีรณัฐ : ครูไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับผมทุกเรื่องหรอกครับ แค่ครู
พยายามทำความเข้าใจแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอะ แค่นั้นมันก็
พอแล้วครับครู ถ้าเราเข้าใจกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่ครูกับผม ไม่ใช่แค่
ในโรงเรียนแต่เริ่มกันในครอบครัวบางทีสักวันเราอาจเข้าใจกัน
ท้ังหมดกไ็ ด้นะครบั
(คุณหมปี าฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนที่ 14)
จากบทสนทนาจะเห็นได้ว่าผู้สนทนาอธิบายแสดงทัศนคติของตนเองที่มีตอ่
ความสัมพันธ์แบบชายรักชายว่าเป็นเรื่องไม่ปกติ ไม่เข้าใจ และยังไม่เห็นด้วย ซึ่งแสดงถึงการไม่ยอมรับ
ความสมั พนั ธ์แบบชายรกั ชาย
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครครูปริตรเป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การไม่ยอมรบั ความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถ่ีของการใช้วจั นกรรมการไม่ยอมรบั และเจตนาทีแ่ ฝง
อยู่ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคู่สนทนาทุกคน โดยตัวละครครูปริตรจะเป็นตัวละครหญิงที่ไม่ยอมรับใน
ความสัมพันธ์แบบชายรักชายด้วยการตำหนิ กล่าวอธิบายทัศนคติความเชื่อของตนซึ่งมองความสัมพันธ์แบบ
ชายรักชายเป็นด้านลบไม่ใช่เรื่องปกติ โดยตัวละครครูปริตรถูกสร้างให้เป็นตัวละครสะท้อนภาพของคน
รุ่นก่อนที่ไม่เปิดกว้างและไม่ให้การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย คิดว่าการมีพฤติกรรมไม่ตรงไปตาม
ขนบถือเป็นเรื่องที่ผิด จึงสามารถสรุปได้ว่าครูปริตรเป็นตัวละครหญิงที่ไม่ยอมรับในความสัมพันธ์แบบ
ชายรักชาย ครูปริตรจึงเป็นภาพแทนของการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมี
ปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ผา่ นตวั ละครหญิง
2.3.5 สัจจารยี ์
เป็นตัวละครหญิงที่เป็นภาพแทนที่มีทั้งการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชาย ซึ่งจะเห็นได้จากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในการสื่อสาร
จำนวน 7 บทสนทนา และความถี่ของการใช้วจั นกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายจำนวน 2 บท
สนทนา ดงั ตวั อย่างตอ่ ไปน้ี
ตัวอย่างท่ี 1
สัจจารีย์ : อุ้ยควงกันมาซือ้ ของดว้ ย นา่ รกั จัง
พรี ณัฐ : (ณฐั ปลอ่ ยมือออกจากเตา้ ห้)ู หมายถงึ ใครหรอครบั
สัจจารยี ์ : ก็ณัฐกบั เต้าหู้ไงจ๊ะ
พีรณฐั : ผมหมายถึงใครถาม
83
สัจจารีย์ : แหมไม่ต้องเขินหรอกจ้า น้าเข้าใจสมัยนี้โลกมัน
เปลย่ี นไปแลว้
พีรณัฐ : แต่น้าจันยังไม่เปลี่ยนเลยนะครับ ยังชอบยุ่งเรื่องของ
ชาวบ้านเหมือนเดิม
สัจจารีย์ : ชาวบ้านที่ไหนณัฐก็เหมือนหลานน้า น้าก็ต้องคอย
สอดส่องแทนแม่ อยา่ คดิ มากเลยจะ๊ แมณ่ ฐั เค้าคุ้มดีคุ้มร้ายไมม่ ีเวลา
มาใส่ใจณัฐหรอก อึม เต้าหู้ก็อยุ่บ้านมาเป็นเดือน ๆ แล้ว เมื่อไหร่
จะเปิดตัวล่ะจ๊ะ เฮ้! แล้วคุณน้าเค้ารู้หรือยังว่าเต้าหู้เนี่ยเค้าเข้ามา
อยใู่ นสถานะอะไร ลูกเขยหรอื วา่ ลกู สะใภ้ล่ะจะ (หวั เราะ)
พีรณัฐ : จะฐานะอะไรมันก็ไมใ่ ชเ่ ร่ืองของนา้ จนั
สัจจารีย์ : หนีทำไมละ่ แค่ยอมรบั วา่ ชอบผู้ชายยงั ไม่กลา้ เลย ท่ีแท้ก็
หนีความจริงทง้ั แมท่ งั้ ลูก
(คณุ หมีปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 9)
จากบทสนทนาแสดงให้เห็นว่าผู้สนทนาเข้าใจสังคมที่เปลี่ยนไป มีการ
ยอมรับและใหค้ วามเทา่ เทยี มกนั กบั ทกุ เพศมากขนึ้ แสดงให้เห็นเจตนาการยอมรับความสัมพนั ธแ์ บบชายรักชาย
ตวั อย่างที่ 2
สจั จารยี ์ : นา้ รู้นะว่าเดก็ สมัยนตี้ ้องพดู ดว้ ยหลกั การและเหตุผล ถึง
น้าจะเป็นคนรุ่นเก่า น้าก็จะพยายามทำความเข้าใจละกัน คน
สมัยน้าเค้าเรียกรักร่วมเพศว่าพวกลักเพศ แต่สมัยนี้เค้าคงพูดกัน
ว่า คนสองคนรกั กนั รกั ไมม่ เี พศอะไรแบบน้นั ใช่ม้ยั
เกณฑ์สิทธิ์ : ทุกคนบนโลกนี้มีเพศครับ เราจะเป็นเพศอะไรก็ไดท้ ี่
เราอยากเป็นแลว้ ทกุ เพศก็มีความเทา่ เทยี มกนั การทค่ี ณุ นา้ บอกว่า
รักไม่มีเพศมันอาจฟังดูแล้วโรแมนติกดีนะครับแต่บาง ที่มันก็
แสดงออกถึงการที่ไม่ยอมรับในตัวตนของพวกผมเหมือนกันการที่
ระบุเพศก็ถือว่าเป็นการให้เกียรติอย่างหนึ่งถ้าคุณน้ายังไม่เข้าใจ
เนี่ยไว้ว่าง ๆ คุยกับผมได้นะผมยินดีครับยังมีอีกหลายเรื่องเลยท่ี
ต้องปรับความเข้าใจกนั นะครับคุณนา้
(คณุ หมปี าฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตอนท่ี 13)
จากบทสนทนาแสดงให้เห็นว่าผู้สนทนาเขา้ ใจสังคมท่ีเปล่ียนไป แต่มีเจตนา
ไม่ตอ้ งการจะยอมรบั ความสัมพนั ธ์แบบชายรกั ชายของคูส่ นทนา
84
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าตัวละครสัจจารีย์เป็นตัวละครที่เป็นภาพแทนของ
การไม่ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรักชายทั้งจากความถี่ของการใช้วัจนกรรมการไม่ยอมรบั และเจตนาทีแ่ ฝง
อยู่ในวัจนกรรมที่สื่อสารออกมากับคู่สนทนาทุกคน โดยตัวละครสัจจารีย์จะเป็นตัวละครหญิงที่ไม่ยอมรับใน
ความสัมพนั ธ์แบบชายรักชายด้วยการเสียดสีโดยใชค้ ำถามตอกย้ำกดทบั ซึ่งมองความสมั พันธ์แบบชายรักชาย
เป็นด้านลบ โดยตัวละครสัจจารีย์ถูกสร้างให้เป็นตัวละครสะท้อนภาพของคนที่ยอมรับอย่างไม่จริงใจ อย่าง
ไม่เปิดกว้างและไม่ให้การยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวของตัวละครและใช้
อคติในการตัดสิน จึงสามารถสรุปได้ว่าสัจจารีย์เป็นตัวละครหญิงที่ไม่ยอมรับในความสัมพันธ์แบบ
ชายรักชาย สัจจารีย์จึงเป็นภาพแทนของการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมี
ปาฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ผ่านตัวละครหญงิ
85
บทท่ี 4
สรปุ และอภิปราย
จากการศึกษาวัจนกรรมการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายที่สะท้อนภาพแทน
สังคมชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ซึ่งออกอากาศทางช่อง 3
เวลา 20.25 – 22.25 น. ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2565 ถึง
1 พฤษภาคม พ.ศ.2565 ท้งั หมดจำนวน 16 ตอน โดยนำเสนอแนวคดิ วจั นกรรมของจอห์น อาร์ เซอรล์ (John
R. Searle) ที่ได้แบ่งประเภทวัจนกรรมออกเป็น 5 ประเภท มาใช้ในการวิเคราะห์ โดยมี 2 วัตถุประสงค์ คือ
ศกึ ษาวัจนกรรมการยอมรับและไมย่ อมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย นำมาจดั กลมุ่ ตามประเภทของวัจนกร
รมต่าง ๆ เพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ ถงึ เจตนาท่ีแฝงอยใู่ นถอ้ ยคำนั้น ๆ และวิเคราะหภ์ าพแทนการยอมรบั และไม่ยอมรับ
ความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear เพื่อให้ทราบถึง
การนำเสนอที่สะท้อนภาพแทนผ่านการสนทนาโดยการใช้ถ้อยคำหรือคำพูดวัจนกรรมในการยอมรับและไม่
ยอมรับความสมั พันธ์แบบชายรักชายของตัวละครที่ปรากฎและสือ่ สารออกมาผ่านละครเรือ่ งคณุ หมีปาฏิหาริย์
The Miracle Of Teddy Bear สรปุ ผลการวจิ ยั และอภปิ รายผล ดงั ต่อไปน้ี
จากผลการศกึ ษาวัจนกรรมการยอมรับและไม่ยอมรบั ความสมั พนั ธ์แบบชายรักชายท่ีสะท้อนภาพแทน
สังคมชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ผู้วิจัยได้เก็บรวบข้อมูลมี
จำนวนขอ้ มลู ทงั้ หมด 174 ข้อมลู มาวิเคราะห์โดยใชแ้ นวคดิ วจั นกรรมของจอห์น อาร์ เซอรล์ (John
R. Searle) ท่ไี ดแ้ บ่งประเภทวจั นกรรมออกเปน็ 5 ประเภท ซ่ึงปรากฏวจั นกรรมการใชถ้ อ้ ยคำ ในการ
แสดงเจตนาของผู้พูดที่มีต่อผู้ฟังหรอื คู่สนทนาถึงความสัมพันธ์แบบชายรักชายและใช้ถ้อยคำที่แสดงให้เห็นถงึ
เจตนาของการยอมรับและไม่ยอมความสมั พันธ์แบบชายรักชาย ผู้วิจัยพบว่ามีวัจนกรรม 4 ประเภท คือ 1. วัจ
นกรรมบอกกล่าว (assertives) 2. วัจนกรรมชี้นำ (directives) 3. วัจนกรรมผูกมัด (commissives) 4. วัจ
นกรรมแสดงความรู้สึก (expressives) และไม่พบวัจนกรรมแถลงการณ์ (declaratives) ท่ีสามารถแบ่ง
ออกเปน็ 2 ขอบเขตในด้านเนอื้ หา สรุปได้ดงั นี้
1. วัจนกรรมการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์
The Miracle Of Teddy Bear ผู้วิจัยพบว่ามีวัจนกรรมการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายจำนวน 174 บทสนทนา
1.1 วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์
The Miracle Of Teddy Bear ผู้วิจัยพบว่ามีวัจนกรรมการยอมรับ 138 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 79.31
และสามารถจดั กลุม่ วจั นกรรมได้ 4 ประเภท ดงั น้ี
1.1.1 วัจนกรรมบอกกลา่ ว
1.1.1.1 การกลา่ ว
86
1.1.1.2 บรรยาย
1.1.1.3 ยนื ยนั
1.1.1.4 คาดคะเน
1.1.1.5 คาดหวัง
1.1.2 วจั นกรรมชี้นำ
1.1.2.1 คำถาม
1.1.2.2 ชักชวน
1.1.2.3 เสนอแนะ
1.1.2.4 คำสั่ง
1.1.2.5 ท้าทาย
1.1.3 วจั นกรรมผกู มดั
1.1.3.1 แสดงความต้ังใจ
1.1.3.2 สญั ญา
1.1.3.3 ปลอบโยน
1.1.4 วัจนกรรมแสดงความรสู้ กึ
1.1.4.1 ด้านบวก
1.1.4.1.1 แสดงความยินดี
1.1.4.1.2 ขอบคณุ
1.1.4.1.3 ใหก้ ำลงั ใจ
1.2 วัจนกรรมการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle
Of Teddy Bear ผู้วิจยั พบว่ามวี ัจนกรรมไมก่ ารยอมรับ 36 บทสนทนา คิดเป็นรอ้ ยละ 20.69 และสามารถจัด
กลมุ่ วจั นกรรมได้ 3 ประเภท ดงั น้ี
1.2.1 วัจนกรรมบอกกลา่ ว
1.2.1.1 การกล่าว
1.2.1.2 บรรยาย
1.2.1.3 คาดคะเน
1.2.1.4 คาดหวัง
1.2.2 วจั นกรรมชน้ี ำ
1.2.2.1 คำถาม
1.2.2.2 ขอรอ้ ง
1.2.2.3 เสนอแนะ
1.2.2.4 คำสั่ง
87
1.2.3 วัจนกรรมแสดงความรสู้ ึก
1.2.3.1 ด้านลบ
1.2.3.1.1 ตำหนิ
1.2.3.1.2 เสยี ดสี
2. ภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์
The Miracle Of Teddy Bear ผ้วู ิจัยพบว่ามีตัวละครทสี่ ะทอ้ นภาพแทนการยอมรบั และไมย่ อมรบั ทงั้ หมด 18
ตวั ละคร และสามารถแบ่งออกไดเ้ ปน็ 3 กลุ่ม ดังน้ี
2.1 ภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมี
ปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ผ่านตัวละครชายรักชาย ผวู้ จิ ัยพบว่ามีจำนวนตัวละครทั้งหมด 7 ตัว
ละคร และเป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพนั ธแ์ บบชายรักชายท้งั หมด 7 ตวั ละคร
2.2 ภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมี
ปาฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear ผ่านตวั ละครชาย ผ้วู จิ ยั พบวา่ มีจำนวนตัวละครทั้งหมด 6 ตัวละคร
เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งหมด 4 ตัวละคร และ เป็นภาพแทนการไม่ยอมรับ
ความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งหมด 2 ตัวละคร
2.3 ภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมี
ปาฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ผา่ นตัวละครหญิง ผู้วิจยั พบว่ามีจำนวนตวั ละครท้งั หมด 5 ตัวละคร
เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายทั้งหมด 3 ตัวละคร และ เป็นภาพแทนการไม่ยอมรับ
ความสัมพนั ธแ์ บบชายรักชายท้งั หมด 2 ตวั ละคร
จากการศึกษาวัจนกรรมการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมี
ปาฏหิ ารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ผ้วู จิ ยั สรุปผลเปน็ ตาราง และแผนภูมิเพอื่ อภิปรายผลดังต่อไปน้ี
88
ภาพที่ 1 แผนภูมิเปรยี บเทยี บความถี่วัจนกรรมการยอมรบั และไมย่ อมรับความสมั พันธ์แบบชายรกั ชาย
จากแผนภูมิดังกล่าวแสดงความถี่วัจนกรรมการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์ แบบชายรักชาย
ในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ปรากฏวัจนกรรมการยอมรับมากที่สุดจำนวน
138 บทสนนทนา จำแนกออกเป็นประเภทวัจนกรรมย่อย 4 ประเภท ดังนี้ วัจกรรมการบอกกล่าวมากที่สุด
จำนวน 102 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 58.62 วจั นกรรมช้ีนำจำนวน 26 บทสนทนา คดิ เป็นรอ้ ยละ 14.94 วจั
นกรรมผกู มัดจำนวน 6 บทสนทนา คดิ เป็นรอ้ ยละ 3.45 และวจั นกรรมแสดงความรู้สึกจำนวน 4
บทสนทนา คดิ เปน็ รอ้ ยละ 2.30
นอกจากนี้ยังพบวัจนกรรมการไม่ยอมรับจำนวน 36 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 20.69 จำแนก
ออกเป็นประเภทวัจนกรรมย่อย 3 ประเภท ตามลำดับได้แก่ วัจกรรมการบอกกล่าว 14 บทสนทนา คิดเป็น
รอ้ ยละ 8.05 วจั นกรรมช้ีนำจำนวน 10 บทสนทนา คดิ เปน็ ร้อยละ 5.75 และวัจนกรรมแสดงความรสู้ ึกจำนวน
12 บทสนทนา คดิ เปน็ รอ้ ยละ 6.90
จากผลการศึกษาความถี่วัจนกรรมการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย ในละคร
เรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ผู้วิจัยสามารถอธิบายได้ว่าละครเรื่องนี้พบการใช้
วัจนกรรมการยอมรบั ความสัมพันธ์แบบชายรกั ชายมากท่สี ดุ แสดงใหเ้ หน็ วา่ ละครเรือ่ งน้ตี ้องการจะนำเสนอให้
เห็นถึงการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรกั ชายซึง่ มีมากกว่าการไมย่ อมรบั ความสัมพันธแ์ บบชายรักชาย
89
ตารางที่ 1 ตารางเปรียบเทียบความถี่การยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในแต่ละ
กลมุ่ วจั นกรรม
กลุ่ม กลุม่ ยอ่ ย ความถ่ีทพ่ี บ
วัจนกรรม ยอมรับ ร้อยละ ไมย่ อมรบั รอ้ ยละ
วัจนกรรม การกลา่ ว (56) 46 33.33 10 27.78
บรรยาย (35)
บอกกลา่ ว ยนื ยนั (9) 33 23.91 2 5.56
9 6.52 0 0.00
คาดคะเน (5) 4 2.90 1 2.78
คาดหวงั (11) 10 7.25 1 2.78
วจั นกรรม คำถาม (24) 18 13.04 6 16.67
ชี้นำ ขอร้อง (1) 0 0.00 1 2.78
ชกั ชวน (1) 1 0.72 0 0.00
เสนอแนะ (6) 5 3.62 1 2.78
คำสัง่ (3) 1 0.72 2 5.56
ทา้ ทาย (1) 1 0.72 0 0.00
วจั นกรรม แสดงความตั้งใจ (3) 3 2.17 0 0.00
ผูกมดั สัญญา (2) 2 1.45 0 0.00
ปลอบโยน (1) 1 0.72 0 0.00
วจั นกรรม ดา้ นลบ ตำหนิ 0 0.00 9 25.00
(12) เสยี ดสี 0 0.00 3 8.33
แสดง ด้าน ใหก้ ำลังใจ 2 1.45 0 0.00
1 0.72 0 0.00
ความร้สู ึก บวก ขอบคุณ 1 0.72 0 0.00
(4) แสดงความยินดี 100.00 36 100.00
ผลรวม 138
90
ภาพที่ 2 แผนภมู เิ ปรยี บเทยี บความถี่การยอมรบั และไม่ยอมรบั ความสมั พันธแ์ บบชายรกั ชายในแต่ละกลุ่มวัจนกรรม
จากตารางและแผนภูมิดังกล่าวแสดงความถ่ีวัจนกรรมการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์
แบบชายรักชายจากละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear จำนวนข้อมูลบทสนทนา
ทั้งหมด 174 บทสนทนา ปรากฏวัจนกรรมการยอมรับมากที่สุด โดยเรียงตามความถี่ที่ปรากฏในบทสนทนา
พบวัจนกรรมการยอมรับ 4 ประเภท วัจนกรรรมบอกกล่าว วัจนกรรมชี้นำ วัจนกรรมผูกมัด และวัจนกรรม
แสดงความรู้สึก โดยพบวัจนกรรมบอกกล่าวมากที่สุด ซึ่งมีวัจนกรรมกลุ่มย่อย 5 กลุ่มย่อย ปรากฏการกล่าว
จำนวน 46 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 33.33 บรรยายจำนวน 33 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 23.91 คาดหวัง
จำนวน 10 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 7.25 ยืนยันจำนวน 9 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 6.52 และคาดคะเน
จำนวน 5 บทสนทนา คดิ เปน็ ร้อยละ 2.90 พบวัจนกรรมชี้นำ มวี ัจนกรรมกลุ่มยอ่ ย 5 กลมุ่ ยอ่ ย ปรากฏคำถาม
จำนวน 18 บทสนทนา คดิ เปน็ รอ้ ยละ 13.04 เสนอแนะจำนวน 5 บทสนทนา คดิ เป็นรอ้ ยละ 3.62 คำสงั่
จำนวน 1 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 0.72 ชักชวนจำนวน 1 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 0.72 ท้าทายจำนวน
1 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 0.72 พบวัจนกรรมผูกมัด มีวัจนกรรมกลุ่มย่อย 3 กลุ่มย่อย ปรากฏ แสดงความ
ตั้งใจจำนวน 3 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 2.17 สัญญาจำนวน 2 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 1.45 ปลอบโยน
จำนวน 1 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 0.72 พบวัจนกรรมแสดงความรู้สกึ มีวัจนกรรมกลุ่มย่อยแสดงความรู้สึก
ด้านบวก 3 กลุ่มย่อย ปรากฏให้กำลังใจจำนวน 2 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 1.45 ขอบคุณจำนวน 1 บท
สนทนา คดิ เป็นร้อยละ 0.72 แสดงความยนิ ดจี ำนวน 1 บทสนทนา คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.72
91
นอกจากนี้ยังปรากฏวัจนกรรมการไม่ยอมรับ โดยเรียงตามความถี่ที่ปรากฏในบทสนทนา พบ
วัจนกรรมการไม่ยอมรับ 3 ประเภท วัจนกรรรมบอกกล่าว วัจนกรรมชีน้ ำ และวัจนกรรมแสดงความรูส้ ึก โดย
พบวัจนกรรมบอกกล่าวมากทสี่ ุด ซึง่ มวี ัจนกรรมกลุ่มย่อย 4 กลุม่ ย่อย ปรากฏการกลา่ วจำนวน 10 บทสนทนา
คิดเป็นร้อยละ 27.78 บรรยายจำนวน 2 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 5.56 คาดหวังจำนวน 1 บทสนทนา คิด
เป็นร้อยละ 2.78 และคาดคะเนจำนวน 1 บทสนทนา คดิ เป็นร้อยละ 2.78 พบวัจนกรรมช้นี ำ มีวัจนกรรมกลุ่ม
ย่อย 4 กลุ่มย่อย ปรากฏคำถามจำนวน 6 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 16.67 คำสั่งจำนวน 2 บทสนทนา
คิดเป็นร้อยละ 5.56 และเสนอแนะจำนวน 1 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ 2.78 พบวัจนกรรมแสดงความรู้สึก
มีวัจนกรรมกลุ่มย่อยแสดงความรู้สึกด้านลบ 2 กลุ่มย่อย ปรากฏตำหนิจำนวน 9 บทสนทนา คิดเป็นร้อยละ
25.00 และเสยี ดสจี ำนวน 3 บทสนทนา คดิ เปน็ ร้อยละ 8.33
จากผลการศึกษาพบว่าละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear มีการนำเสนอ
เรื่องราวโดยการใช้วัจนกรรมในการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายมากที่สุด เป็นวัจนกรรมกลุ่ม
การบอกกล่าวแบบการกล่าวมากที่สุด รองลงมาเป็นบรรยาย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะวัจนกรรมกลุ่มบอกกล่าว
เปน็ วัจนกรรมทมี่ นษุ ยใ์ ช้ส่ือสารเป็นปกตทิ มี่ ีเจตนาเพื่อให้คู่สนทนาหรอื ผ้ฟู ังรับทราบข้อมูล ที่มจี ดุ มุ่งหมายเพื่อ
บอกกล่าวข้อมูลข้อเทจ็ จริงเก่ียวกับสิ่งต่าง ๆ รวมทั้งการบรรยายที่มีเจตนาชี้แจง อธิบาย ขยายความเรื่องราว
หรือสิ่งต่าง ๆ รวมถึงการบอกเล่าให้ผู้สนทนารับทราบหรือเข้าใจข้อเท็จจริงที่ผู้พูดต้องการจะสื่อสาร สิ่ง ท่ี
เกดิ ข้นึ รอบ ๆ ตัวโดยทคี่ ู่สนทนายงั ไมท่ ราบหรือสิ่งน้ันจะเปน็ ประโยชน์ต่อคสู่ นทนาและสื่อสารมุมมองทัศนคติ
ที่มีต่อการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายกับคูส่ นทนา และนอกจากน้ียังปรากฏวัจนกรรมกลุ่มชี้นำแบบ
คำถามรองลงมาเปน็ ลำดับทีส่ าม ซ่ึงผ้วู จิ ยั ต้งั ข้อสังเกตว่าการใช้วัจนกรรมชี้นำแบบคำถามในเร่ืองมีเจตนากล่าว
เพื่อขอคำตอบหรือตั้งปัญหาเพื่อให้ตอบ ไขข้อสงสัย โดยต้องการให้ผู้สนทนากระทำการบางอย่างเพื่อ
ผลประโยชน์ของคู่สนทนา ที่ชี้นำนำพาให้คู่สนทนาคล้อยตามไปกับส่ิงทีต่ อ้ งการสือ่ สารในประเด็นการยอมรับ
ความสัมพันธ์แบบชายรักชาย และพบเฉพาะวัจนกรรมแสดงความรู้สึกด้านบวกเท่านั้น ทั้งนี้ในละครเรื่องคุณ
หมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ยังมีการนำเสนอเรื่องราวโดยใช้วัจนกรรมการไม่ยอมรับ
ความสัมพันธ์แบบชายรักชายปรากฏอยู่ด้วยซึ่งพบวัจนกรรมบอกกล่าวแบบการกล่าวที่แสดงการไม่ยอมรับ
มากท่ีสุด ซึ่งผู้วิจัยตั้งข้อสังเกตเช่นเดียวกันกับการยอมรับเพราะวัจนกรรมการกล่าวเป็นวัจนกรรมที่มนุษย์ใช้
สื่อสารอยู่โดยทั่วไป อีกทั้งพบวัจนกรรมกลุ่มแสดงความรู้สึกด้านลบแบบตำหนิรองลงมาเป็นลำดับที่สองซ่ึง
แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การไมย่ อมรับอยา่ งชดั เจน
92
ตารางท่ี 2 ตารางเปรียบเทียบความถ่กี ารยอมรับและไม่ยอมรับความสมั พนั ธ์แบบชายรกั ชายในแต่ละตัวละคร
ช่อื ตวั ละคร ประเภทตัวละคร ความถวี่ จั นกรรม
การยอมรบั และไมย่ อมรบั
1. พีรณฐั ชาย หญิง ชายรกั ชาย
2. เกณฑส์ ทิ ธิ์ ยอมรบั ไมย่ อมรบั
3. เตา้ หู้ /
4. ตาธาร / 38 1
5. สอง / 20 0
6. ลุงชู / 13 0
7. น้าโหน่ง / 80
8. เจอื / 14 0
9. สิทธา / 30
10. สบิ หมนื่ 10
11. แสน / 40
12. อนิก / 40
13. ตำรวจ / 0 14
14. มนทนา / 10
15. พริบพรี / 14
16. กญั ญา / 10
17. ครูปริตร 13 5
18. สจั จารยี ์ / 10 0
/ 50
/ 05
/ 27
/
93
ภาพท่ี 3 แผนภมู ิเปรียบเทียบความถี่การใช้วจั นกรรมการยอมรับและไมย่ อมรับความสัมพนั ธ์แบบชายรกั ชายของตวั ละคร
จากแผนภูมิดงั กล่าวแสดงความถ่ีการใช้วัจนกรรมการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรกั
ชายของตัวละคร ที่สะท้อนภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายผ่านตัวละคร
ท้ังหมด 18 ตัวละคร และสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ กลมุ่ ทหี่ นงึ่ ภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับ
ความสัมพนั ธแ์ บบชายรกั ชายในละครเร่ืองคณุ หมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ผ่านตวั ละครชาย
รักชาย พบว่ามีจำนวนตัวละครทั้งหมด 7 ตัวละคร ได้แก่ พีรณัฐ เกณฑ์สิทธิ์ เต้าหู้ ตาธาร สอง ลุงชู และน้า
โหน่ง ตัวละครทั้งหมดเป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย กลุ่มที่สองภาพแทนการยอมรบั
และไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear
ผ่านตัวละครชาย พบว่ามีจำนวนตัวละครท้ังหมด 6 ตัวละคร เป็นภาพแทนการยอมรบั ความสัมพันธ์แบบชาย
รักชายทั้งหมด 4 ตัวละคร ได้แก่ เจือ สิทธา แสน ตำรวจ และเป็นภาพแทนการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบ
ชายรักชายทั้งหมด 2 ตัวละคร ได้แก่ สิบหมื่น และอนิก กลุ่มที่สามภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับ
ความสมั พันธแ์ บบชายรกั ชายในละครเร่อื งคุณหมปี าฏิหารยิ ์ The Miracle Of Teddy Bear ผา่ นตัวละครหญงิ
ผู้วิจัยพบว่ามีจำนวนตัวละครทั้งหมด 5 ตัวละคร เป็นภาพแทนการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย
ทั้งหมด 3 ตัวละคร ได้แก่ พริบพรี กัญญา มนทนา และเป็นภาพแทนการไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรัก
ชายทั้งหมด 2 ตัวละคร ไดแ้ ก่ ครูปริตร สจั จารีย์
จากผลการศึกษาพบว่าจากตัวละครทั้งหมด 18 ตัวละคร เป็นตัวละครชายรักชาย 7 ตัวละคร
เปน็ ตวั ละครชาย 6 ตัวละครและเป็นตัวละครหญิง 5 ตวั ละคร ปรากฏเป็นตวั ละครท่ีเป็นภาพแทนการยอมรับ
ความสัมพันธ์แบบชายรักชายมากที่สุด 14 ตัวละคร ปรากฏตัวละครที่เป็นภาพแทนการไม่ยอมรับ
ความสัมพันธ์แบบชายรักชายเพียงแค่ 4 ตัวละคร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตัวละครเรือ่ งนี้ได้นำเสนอภาพแทนสังคม
94
ของการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายผ่านตัวละครทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นตัวละครชาย ตัวละครหญิง
หรือตัวละครชายรักชาย ตลอดจนปรากฏตัวละครในทุกช่วงอายุและหลากหลายอาชีพที่แสดงถึงการยอมรับ
ความสัมพนั ธ์แบบชายรักชายทั้งการยอมรบั ในตัวตนของตัวเอง คนในครอบครัว และยอมรับถึงในระดบั สังคม
อีกทั้งมีการเรียกร้องให้เกิดการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายให้เกิดขึ้นอย่างเท่าเทียมผ่านภาพแทน
ตัวละครต่าง ๆ ด้วยการใช้ถ้อยคำ ภาษา และวัจนกรรมในการยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละคร
เร่ืองคณุ หมปี าฏหิ าริย์ The Miracle Of Teddy Bear
จากผลการศึกษาวัจนกรรมการยอมรบั และไม่ยอมรบั ความสมั พนั ธแ์ บบชายรกั ชายทีส่ ะทอ้ นภาพแทน
สังคมชายรักชายในละครเรื่องคุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ตามวัตถุประสงค์ คือ
เพื่อศึกษาวัจนกรรมการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในละครเรื่องคุณหมี
ปาฏิหาริย์The Miracle Of Teddy Bear และเพื่อวิเคราะห์ภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์
แบบชายรักชายในละครเรอื่ งคณุ หมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear ผูว้ ิจัยพบวา่ ผลการศึกษาคร้ังน้ี
สอดคล้องกบั คำพดู ของ ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบลู ย์ (2565 : Online) ผ้จู ดั และผ้กู ำกบั ละครเรอ่ื งคุณหมีปาฏหิ ารยิ ์
ท่ีไดใ้ หส้ ัมภาษณถ์ งึ การทำละครวายเรอ่ื งนี้ซ่ึงถือเป็นละครวายเรื่องแรกของช่อง 3 ไวว้ ่า ละครสมัยน้ีเปลี่ยนไป
มากจะมาเล่าละครในแบบทีเ่ คยเป็นไมไ่ ดแ้ ล้ว กอ่ นทำเรอื่ งนี้เรากไ็ ปดูวา่ ละครวายเขาทำอะไรกัน แต่ก็มองเห็น
ว่าการเล่าเรื่องยังค่อนข้างจะเบา ๆ เพ้อฝันเลยอยากทำเร่ืองที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเข้าใจของครอบครัวกับ
คนต่างวัยต่างรุ่นที่ต้องทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง ละครเรื่องนี้นอกจากจะต้องเชียร์พระเอกกับนาย
เอกใหจ้ น้ิ กันแลว้ ยังมเี ร่อื งราวของครอบครัวท่ตี อ้ งเรียนร้แู ละทำความเขา้ ใจกนั ไปดว้ ย ละครเรอ่ื งนถ้ี กู ทำมาให้
เป็นละครวายที่คนปกติดูได้ไม่ใช่เพียงแค่คนชอบดูวาย แล้วก็ได้ประโยชน์จากการดูละครวายเรื่องนี้ จากบท
สัมภาษณ์ดังกล่าวสะท้อนผลการศึกษาในคร้ังนี้ว่าละครเรื่องนี้เป็นละครทีน่ ำเสนอความวายหรือความสมั พันธ์
แบบชายรักชายที่ต่างออกไปจากเรื่องอื่น ๆ เพราะเรื่องนี้ได้นำเสนอสื่อสารการยอมรับผ่านวัจนกรรมการ
ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายในทุกตอนของละครทั้งที่เป็นการนำเสนอที่ให้เห็นการยอมรับในตัวตน
ของตัวละคร ยอมรับผู้อื่นในสังคม และเรียกร้องให้สังคมเกิดการยอมรับอย่างเท่าเทียมผ่านบทสนทนา
การกล่าว การบรรยาย และการตง้ั คำถามกบั สังคมถึงการยอมรบั ที่ควรจะเกิดขึน้ ความสุภาพ การเปรยี บเทยี บ
ระหว่างการใช้ถ้อยคำหรือคำพูด(วัจนกรรม) ในการสื่อสารถึงการยอมรับและผลของการไม่ยอมรับที่จะเป็น
ประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ฟังในฐานะผู้ชมละครเรื่องนี้ถึงการใช้ถ้อยคำอย่างเข้าใจต่อคนทุกคน ทุกเพศและทกุ วัย
อย่างเท่าเทียมและเหมาะสมเหมือนตัวละครในเรื่องที่พยายามจะนำเสนอให้เห็นประโยชน์การยอมรับอย่าง
เข้าใจและผลเสียของการไม่เข้าใจและไม่ยอมรับผ่านครอบครัวสองครอบครัวในเรือ่ ง ดังที่ครอบครัวพีรณัฐซ่ึง
เป็นครอบครัวที่ไม่ยอมรับในช่วงต้นจึงนำไปสู่ปัญหาสะสมจนเกิดความรุนแรงภายในครอบครัวตรงกันข้ามกับ
ครอบครวั ของเกณฑ์สิทธิท์ ย่ี อมรับอยา่ งเขา้ ใจและเปดิ กว้างทเี่ ปน็ ภาพแทนของครอบครัวแสนสขุ นอกจากน้ีใน
ละครเรอื่ งนีไ้ มไ่ ด้แสดงเพียงแค่คู่เทยี บของภาพแทนการยอมรับและไม่ยอมรับ แตย่ ังแสดงภาพแทนพัฒนาการ
การยอมรับของตัวละครดังจะเห็นไดจ้ ากตัวละครมนทนาที่เดิมในตอนแรกมีการใช้วัจนกรรมในการไม่ยอมรับ
เพียงเพราะไม่เข้าใจและเป็นห่วงลูก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเกิดการเรียนรู้เข้าใจในตัวตนของลูกมากขึ้นและเห็น
95
การยอมรับจากสังคมมากขึน้ จึงเปลี่ยนมาใช้วัจนกรรมในการยอมรับท่ีแสดงเจตนายอมรับและตอ้ งการให้ผูอ้ น่ื
ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชาย เช่นเดียวกันกับตัวละครอนิกที่ค่อย ๆ เปิดใจยอมรับความสัมพันธ์แบบ
ชายรักชายของคนในครอบครัว
ดังนั้นจากการศึกษาผู้วิจัยจึงสรุปได้ว่าละครเรื่องนี้ถือเป็นละครอีกหนึ่งเรื่องที่จะช่วยเปิดการยอมรับ
อย่างเข้าใจในความสัมพันธ์แบบชายรักชายที่ไม่ใช่การนำเสนอเฉพาะเรื่องความรักของผู้ชายกับผู้ชายเพื่อคน
เฉพาะกลมุ่ เท่าน้ัน แตเ่ ป็นละครทีท่ กุ คนควรดูเพื่อเรยี นรู้และเขา้ ใจในความสมั พันธ์แบบชายรักชายผ่านถ้อยคำ
คำพูด วัจนกรรมการยอมรับและไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบชายรักชายที่สะท้อนภาพแทนสังคมชายรักชาย
ในละครเรือ่ งนี้ ทงั้ เป็นการนำเสนอใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ เรียกรอ้ งให้เกดิ ความเทา่ เทียมกนั ในสังคม เพอื่ สนับสนุน
ใหค้ นทกุ เพศ ทกุ วัย อยู่ในโลกใบนที้ ี่ทกุ อย่างปกติ เท่าเทยี มกนั อย่างมคี วามสุข