ลักษณะงานเขยี นท่มี วี ิจารณญาณ
รใู้ นส่งิ ทจ่ี ะเขียน ผา่ นการคดิ พจิ ารณา เขียนออกมาเปน็ ตัวหนังสอื
o มโี ครงสร้าง = ประเดน็ + เนอ้ื หา + ข้อมลู สนับสนุน + ขอ้ สรปุ
o มีประโยคใจความสาคัญ + มีการขยายความ + มีการยกตวั อย่าง + มีการสรปุ ความ
o เขียนให้ส้ันและกระชับ: เลอื กใช้คาท่ีมีความหมายชัดเจน อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไมเ่ ขยี นวกวน
ไม่ใช้คาฟุ่มเฟือย ไมใ่ ช้ประโยคปฏิเสธซ้อนปฏเิ สธ
o เขยี นใหต้ รงประเด็น: เขยี นใหข้ อ้ มลู และรายละเอียดเฉพาะที่เก่ียวข้องกับเนื้อหาและ
จุดมุ่งหมาย
o เขยี นเสนอความคดิ อยา่ งสมเหตผุ ล: เปน็ ความจริงหรอื ตรรกะที่ผู้อ่านยอมรับได้
วิธกี ารพัฒนาทกั ษะการเขียน
วธิ ีพฒั นาขณะลงมือ วธิ พี ฒั นาหลงั การ
เขยี น เขยี น
วธิ พี ฒั นากอ่ นการ
เขียน
วธิ กี ารพฒั นากอ่ นการเขียน
เปน็ นักอา่ น
นักออกแบบ การ เป็นนกั จด
เขียน
เปน็ นักวิเคราะห์ เป็นนกั เรียนรู้
วิธกี ารพัฒนาขณะลงมือเขียน
เขยี นตามโครงเร่ืองทกี่ าหนดไว้ คานึงถงึ ลักษณะ รูปแบบ การ
นาเสนอของงานแตล่ ะประเภท
ข้อมูลทนี่ ามาใช้ตอ้ งผา่ นการคน้ ควา้ และ
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
วิธีการพัฒนาหลังการเขยี น
พจิ ารณางานเขียนทีเ่ ขยี นกบั • รูปแบบ • การนาเสนอ
ประเภทของงานเขยี น • ลกั ษณะ
• การใช้ประโยค
• คาผดิ • การใช้ภาษา
หาความผิดพลาดในงานเขยี น • การใชค้ า
มารยาทในการเขียน
o ไม่คัดลอกขอ้ มลู ของผู้อน่ื โดยอา้ งว่าเป็นผลงานของตนเอง
o ไมค่ วรเขยี นโดยปราศจากความรู้เก่ียวกบั เรอ่ื งนนั้ ๆ
o ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง: รปู แบบ การสะกดคา ความถกู ต้องของเน้อื หา ความนา่ เชื่อถอื ของ
แหล่งข้อมูล
o เขียนโดยใชภ้ าษาสภุ าพ ถูกต้องตามหลกั ภาษาไทย
o ไมเ่ ขยี นเพือ่ สร้างความแตกแยก
o ไม่เขียนเพือ่ เนน้ สร้างประโยชนใ์ ห้ตนเองและพวกพอ้ ง
กิจกรรม
ทาแบบฝกึ หดั หน่วยที่ 6 หนา้ 82
เฉลยกจิ กรรมหนว่ ยท่ี 6
คาถาม เฉลย
1. การเขียนหมายถงึ อะไร o การเขียน เปน็ การถ่ายทอดเรอื่ งราว ความรู้ ความคดิ ความรู้สกึ ความตอ้ งการ และ
ใหน้ กั ศกึ ษาอธบิ าย พรอ้ ม ประสบการณข์ อผเู้ ขยี นโดยใช้สัญลกั ษณ์ ส่ือไปยงั ผู้อา่ นให้เขา้ ใจตามจุดประสงค์ทตี่ ้องการ
ยกตัวอย่าง o ตวั อย่าง เช่น การเขยี นคาตอบในการทาขอ้ สอบแบบอตั นัย
2. การจาแนกประเภทของ o ขนึ้ อยู่กับเกณฑ์ เช่น ตามจดุ มงุ่ หมาย ตามรูปแบบของการเขียน ตามลกั ษณะของการเขียน
การเขียน ข้ึนอย่กู ับอะไร o มี 3 ประเภท
การเขียนมกี ปี่ ระเภท - ตามจดุ มุ่งหมาย : เพื่อจดบันทึก เพอื่ สอ่ื สาร
- ตามรูปแบบการเขียน : การเขยี นที่เปน็ แบบแผน (การเขียนวพิ ากษ์ การเขียนบทความ)
การเขียนท่ีไมเ่ ป็นแบบแผน
- ตามลกั ษณะของการเขียน : รอ้ ยแก้ว รอ้ ยกรอง (วรรณกรรมประเภทบรรยาย พรรณนา
บทละคร)
เฉลยกจิ กรรมหนว่ ยท่ี 6
คาถาม เฉลย
3. การเขยี น มี o ผูเ้ ขียน + เนือ้ หาสาระ + เคร่อื งเขยี น + ผู้อ่าน
องค์ประกอบทสี่ าคัญ
อะไรบ้าง
4. การเขียนมปี ระโยชน์กับ o แงส่ ่วนตวั
มนุษยใ์ นแงส่ ่วนตวั และ - ใช้ส่อื สารความคดิ อารมณ์ ความตอ้ งการ
สังคมอย่างไร - เป็นเครอ่ื งมือถ่ายทอดมรดกสตปิ ัญญาของมนษุ ย์
- เป็นเครอื่ งมอื บนั ทึกความจา เป็นหลกั ฐานได้
- ประกอบอาชีพได้
o แง่สังคม : สร้างท้ังส่งิ ดีและไม่ดตี ่อสงั คม
เฉลยกิจกรรมหน่วยท่ี 6
คาถาม เฉลย
5. งานเขยี นท่ีมีวจิ ารณญาณ o ความเหมอื น : มีการกลนั่ กรองความคดิ เน้ือหา วธิ ีการนาเสนอมาก่อน
กับงานเขียนที่ดเี หมอื นหรือ เปน็ งานเขยี นทมี่ ีลกั ษณะการเขียนท่ีดี คอื มีโครงสรา้ ง ประโยคใจความสาคญั ส้ัน กระชับ
ต่างกนั อย่างไร ตรงประเด็น เสนอความคดิ อย่างสมเหตสุ มผล
6. หากนกั ศกึ ษาตอ้ งการเปน็ o ก่อนเขยี น: อา่ นเยอะๆ จดเยอะๆ เป็นนกั เรียนรู้ เป็นนกั ออกแบบ
นักเขียนท่ีดี จะมีวิธกี ารพัฒนา o ขณะลงมอื เขียน : เขียนตามโครงเรอื่ งทว่ี างไว้ ขยายความ ยกตวั อย่าง โดยคานึงถึง
ตนเองอยา่ งไร ลกั ษณะ รูปแบบ การนาเสนอของงานแตล่ ะประเภท และท่สี าคญั ขอ้ มลู ตอ้ งมาจาก
แหลง่ ท่ีนา่ เช่ือถอื
o หลงั การเขียน : ทบทวนเนอื้ หา + ตรวจทานคาผิด การใชป้ ระโยค ภาษา + ฝึกเขยี น
อยา่ งสมา่ เสมอ
เฉลยกิจกรรมหนว่ ยที่ 6
คาถาม เฉลย
7. คณุ ธรรม มารยาทในการ o ไมค่ ดั ลอกผลงานผอู้ ืน่ โดยไมอ่ ้างองิ
เขยี นมีกี่ประการ o ไมเ่ ขียนโดยปราศจากความรู้
o ตรวจสอบความถกู ต้อง
o เขียนด้วยภาษาสุภาพ
o ไม่เขียนเพ่ือประโยชนส์ ว่ นตนเองและพวกพอ้ ง
การสื่อสารขา้ มวฒั นธรรม
หน่วยท่ี ๗
อาจารย์ ดร.สังกมา สารวตั ร
ความเปน็ มาของการสอ่ื สารขา้ มวฒั นธรรม
ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยี
โลกแคบข้ึน
มนุษย์ติดตอ่ สอ่ื สารเป็นสว่ นหนงึ่ ของชวี ิต
มนุษย์ตอ้ งเรยี นร้คู วามแตกต่างทางวัฒนธรรม
มนุษย์เขา้ ใจคนอน่ื
ความหมายของการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม
การส่อื สาร วัฒนธรรม
กระบวนการถ่ายทอดเนื้อหาจาก ส่งิ ทส่ี ่ังสมมาจากการเรยี นรู้ของมนษุ ย์ เป็น
ผสู้ ่งสารไปยังผ้รู ับสาร เพอื่ การประกอบกันของความคดิ ความเชอื่ วิถี
กอ่ ใหเ้ กดิ ความเข้าใจท่ตี รงกนั ปฏิบัติ ความคุ้นชนิ และรปู แบบทางความคิด
โดยผ่านสอื่ ตา่ งๆ ที่เปน็ ตัวแบบสาหรับการรับรู้และตคี วาม
เนอื้ หาของสารที่ไดร้ บั
ปจั จุบนั กิจกรรมเกี่ยวข้องกบั การสอ่ื สารระดบั ระหว่างประเทศ และโลก ดังนัน้ จึงต้อง
ตระหนักระมัดระวังในการสือ่ สารขา้ มวัฒนธรรม เพ่ือป้องกันการสอื่ สารทีล่ ม้ เหลว
ความสาคญั ของการสือ่ สารข้ามวัฒนธรรม
ชว่ ยใหเ้ ข้าใจความแตกตา่ งทางพฤตกิ รรมของคู่ส่อื สาร
ช่วยใหเ้ กิดความเข้าใจระหว่างกลมุ่ คนที่ตา่ งวฒั นธรรม
ช่วยให้บคุ คลเกดิ การรับรใู้ นวฒั นธรรมอน่ื ทม่ี คี วามแตกต่าง
มผี ลตอ่ ความสงบสขุ และความมั่นคงของคนในประเทศและภูมภิ าค
มีผลต่อเศรษฐกจิ ของประเทศ
ทาให้เกดิ การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ระหวา่ งวัฒนธรรม
อทิ ธพิ ลของวัฒนธรรมทีม่ ตี ่อการส่อื สาร
อิทธิพลตอ่ การรับรู้ อทิ ธพิ ลตอ่ ภาษา
- ภาษา - คนตา่ งภูมภิ าค
- รปู ภาพ - ศาสนา
- สญั ลักษณ์ - เพศ
- ยคุ สมัย
- ชนชั้น
อิทธพิ ลของวฒั นธรรมต่อการเจรจาต่อรอง
o เข้าใจวัฒนธรรมในการเจรจาตอ่ รอง
o พธิ กี าร
o ภาษา
o บุคลิกภาพ
o ลักษณะการเจรจาตอ่ รอง
o คดั เลือกผู้เจรจาที่เหมาะสมกบั วฒั นธรรม
o เขา้ ร่วมเจรจาตอ่ รองใหต้ รงเวลา
วัฒนธรรมของคนในกลุ่มสหภาพยุโรป
o ใหค้ วามสาคญั กับเวลา
o มคี วามคิดเห็นเป็นปจั เจกบุคคล
o มรี ะเบยี บ วิจัย และรบั ผิดชอบ ดังนน้ั จึงต้องสือ่ สารดว้ ยความชัดเจน
o มีความมั่นใจ
o ไม่ชอบการสมั ผสั
o มปี ัญหาจะถามอย่างตรงไปตรงมา
วฒั นธรรมของคนในอเมรกิ าเหนอื
o มีความยดื หยนุ่ กว่าคนยุโรป
o ให้ความสาคญั กบั เวลา
o มอี ิสระในการแสดงความคดิ เห็น
วฒั นธรรมของคนในเอเชยี แปซิฟกิ และโอเซียเนยี
o เน้นธรรมเนยี มปฏบิ ตั ิ
o ให้ความสาคญั กับการเคารพผอู้ าวโุ ส
o ตดั สินใจแบบกลุม่
o เกรงใจต่อผูม้ พี ระคุณ
o ใหค้ วามสาคัญกับเครอื ญาติ
วฒั นธรรมของคนในละตินอเมริกา
o ไม่เร่งรบี เรือ่ งเวลา
o ความเปน็ ปัจเจกบคุ คลกบั กลมุ่
o รกั สนกุ
o ไม่เครง่ ครดั ในพธิ ีการ
o ให้ความสาคญั กบั การช่วยเหลอื และการตอบแทน
o มีระบบพรรคพวก
วฒั นธรรมของคนในแอฟรกิ า
o รักษาเวลา
o ยึดโยงกบั กลุ่ม เครง่ ครดั เรอื่ งในชนเผ่า
o ชอบทางานเป็นกล่มุ
o มคี วามเปน็ มิตรและเปดิ เผย
o มีความออ่ นไหว
กิจกรรม
ทาแบบฝกึ หดั หน่วยที่ 7 หนา้ 91
เฉลยกจิ กรรมหน่วยที่ 7
คาถาม เฉลย
1. การสอ่ื สารข้ามวฒั นธรรมคอื
อะไร o กระบวนการถ่ายทอดเนือ้ หาสาระจากผู้สง่ สารไปยงั ผู้รบั สารทมี่ คี วามคดิ ความเช่ือ
วถิ ีปฏบิ ตั ิ ความคุน้ ชิน และรปู แบบทางความคดิ ทแี่ ตกตา่ งจากผ้สู ง่ สาร เพอื่ ให้การ
2. การสือ่ สารขา้ มวฒั นธรรมเปน็ ส่ือสารน้นั บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์
ผลมาจากเรือ่ งใด และอะไรท่ีเปน็
จดุ เปล่ียนครงั้ ใหญข๋ องการให้ o มาจากความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี ทาให้ผคู้ นใกลช้ ิดย่งิ ขึน้ มกี ารติอตอ่ สื่อสารกัน
ความสาคัญกบั การสื่อสารขา้ ม มากขนึ้
วฒั นธรรม
o การรับรถู้ ึงวฒั นธรรมอ่ืนท่ีมีความแตกต่างกัน และการเคารพตอ่ วัฒนธรรมของคู่
ส่ือสาร เพราะจะทาใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจในวฒั นธรรมของคสู่ อื่ สาร มีสว่ นช่วยใหก้ าร
สอื่ สารประสบความสาเร็จด้วยดี
การรู้ดิจิทลั
หน่วยที่ ๘
อาจารย์ ดร.จุฑารตั น์ ชา่ งทอง
ความเป็นมาและความหมายของการรูด้ จิ ิทลั
ความก้าวหน้า การเปลย่ี นแปลงและผลกระทบ ประชากรต้องมีความสามารถ
ทางเทคโนโลยี • การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยี และทักษะในการใชเ้ ทคโนโลยี
และดิจทิ ัล : • การหลอมรวมกจิ กรรม สารสนเทศและการสอ่ื สาร
มีการใช้มาก • ผบู้ รโิ ภคกลายเปน็ ผ้ผู ลติ และส่ือดจิ ทิ ลั เพอ่ื การค้นหา
ยง่ิ ขึน้ • การแข่งขันบนฐานวฒั นธรรม ประเมิน สรา้ ง และสอ่ื สาร
• ยคุ ของระบบอจั ฉริยะ สารสนเทศตามตอ้ งการได้
• การแขง่ ขนั ดว้ ยข้อมูล อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพและ
• การแพร่ระบาดของภยั ไซเบอร์ จริยธรรม = การรูด้ ิจทิ ัล
• การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
กาลังคน
องคป์ ระกอบของการรู้ดจิ ทิ ลั
1. ทกั ษะการปฏบิ ัติ 2. ทักษะการคิด 3. ทักษะการรว่ มมือ 4. ทักษะการตระหนกั รู้
• โปรแกรม • การคดิ เชิงวิเคราะห์ • คนใน • ความถูกตอ้ งดงี ามของ
คอมพิวเตอร์ และสังเคราะห์ สภาพแวดล้อม สังคม
• เขา้ ใจ • กฎระเบยี บและ
เบื้องต้น • ประเมนิ ดจิ ิทัล
• โปรแกรมค้นหา • สร้างสรรค์การใช้ • คนทีม่ ีพ้นื ฐาน กฎหมาย
• เทคโนโลยีใหม่ • มารยาทในใชง้ าน
เทคโนโลยแี ละสื่อ ตา่ งกัน • การปอ้ งกนั ตนเองจาก
เชน่ cloud • เพอ่ื ให้งานหรือ
ดจิ ิทัล การใช้งานเทคโนโลยี
computing • เขา้ ใจบรบิ ทท่ี กจิ กรรมประสบ
สารสนเทศและสือ่
เกยี่ วกบั เนอื้ หา ความสาเร็จ
ดจิ ทิ ลั
ประโยชน์ของการรู้ดิจทิ ัล : การเรยี น
การเรยี น 1. เพิม่ ประสทิ ธภิ าพและช่องทางในการสื่อสารรว่ มกัน
2. อานวยความสะดวกในการใชเ้ ครอื่ งมือต่างๆ เพอ่ื การศึกษา
3. อานวความสะดวกในการเข้าถึงแหลง่ ข้อมูลตา่ งๆ
4. ขยายขดี ความเปน็ ไปได้ในการใชค้ วามคดิ สร้างสรรค์
5. เตรียมพร้อมสาหรับการใช้ชีวิตและการทางาน
6. อานวความสะดวกและเพิ่มชอ่ งทางในการศึกษาหาความรนู้ อกหอ้ งเรียน
7. สง่ เสริมทศั นคตทิ ี่ดตี อ่ การเรยี นรู้ตลอดชีวิต
ประโยชนข์ องการรดู้ ิจทิ ลั : การเรยี นออนไลน์
แอปพลเิ คชนั เพอ่ื การเรยี น แนวทางการเรยี นออนไลน์ให้ประสบความสาเร็จ
• สงั คมการเรยี นรู้ : แจ้งให้ผ้สู อนทราบ มปี ฏสิ มั พันธก์ บั เพอื่ นทีเ่ รยี นด้วย
ออนไลน์
• Google classroom สรา้ งกลุ่มในโซเชียลเนต็ เวิร์ค เคารพและใหเ้ กียรตกิ นั
• Google meet • เทคนคิ การเรยี น : ฝกึ ฝนทักษะเพือ่ ให้การเรยี นรู้ม่นั คง ใชเ้ ทคนคิ เก่ียวกับ
• Microsoft Team
• Zoom วดิ โี อในการเรยี นออนไลน์ ใชป้ ระโยชน์จากกล่มุ ย่อย
• สภาพแวดลอ้ ม : เกบ็ ขอ้ มูลที่จาเปน็ ใหห้ าง่าย เตรียมความพร้อมด้าน
เทคโนโลยี ใช้ไวไฟใหน้ อ้ ยท่ีสุด บันทึกงานบ่อยๆ
• การบรหิ ารเวลา : จดั เวลาในการเรยี น จัดเวลาสง่ งาน กาจัดสิง่ ท่ีทาให้
วอกแวก
ประโยชนข์ องการร้ดู จิ ทิ ัล : การทางาน
การ 1. ทางานได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพและประสบผลสาเร็จมากขึ้น
ทางาน
2. ทางานได้ยืดหยนุ่ มากข้ึน
3. ขยายโอกาสและความกา้ วหน้าในการทางาน
4. ดึงดูดความสนใจใหก้ บั นายจา้ งด้วยคุณสมบตั ิ
ความสามารถทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ
ประโยชน์ของการรูด้ จิ ทิ ลั : การใช้ชวี ติ
การใช้ 1. สามารถติดต่อส่อื สารและมีปฏิสัมพนั ธไ์ ดอ้ ย่างสะดวกมากขึน้
ชวี ิต
2. เข้าถึงแหล่งขอ้ มลู ขา่ วสารหรือบรกิ ารต่างๆ ทเ่ี ปน็ ประโยชนใ์ นการใช้ชวี ิต
ไดม้ ากขน้ึ
3. เสริมสรา้ งความมน่ั ใจและความสามารถ ในการพัฒนาตนเองดา้ นการใช้
เทคโนโลยี และเตรยี มความพร้อมสาหรับเทคโนโลยที พ่ี ฒั นาต่อในอนาคต
4. สามารถศกึ ษาหาความรทู้ ี่เป็นประโยชนใ์ นการดาเนนิ ชีวิตไดอ้ ยา่ งไม่หยุดนิ่ง
และเขา้ ถงึ แหล่งขอ้ มูลความรู้ไดห้ ลากหลายมากยิง่ ข้ึน
เฉลยกิจกรรมหน่วยท่ี 8
คาถาม : การใช้ประโยชนจ์ าก เฉลย
Cloud (cloud computing)
o หมายถงึ เป็นพ้ืนทีจ่ ดั เกบ็ ข้อมลู ดจิ ิทัลท่ีคณุ เก็บไฟล์ทง้ั หมดของคณุ ได้ ความ
แตกตา่ งทส่ี าคญั คือ หากเปน็ หนว่ ยพืน้ ท่จี ดั เกบ็ ขอ้ มลู คณุ ตอ้ งไปท่ีนนั่ ด้วยตนเอง
เพ่อื เขา้ ถึงขอ้ มลู ของคุณ แตห่ ากคณุ ใชค้ ลาวด์ คุณจะสามารถเขา้ ถึงข้อมลู จาก
อุปกรณ์ใดๆ ก็ไดต้ ราบท่มี ีการเชอ่ื มต่ออนิ เทอรเ์ นต็
o ประโยชน์ จดั เกบ็ ขอ้ มลู ดจิ ิทลั ได้ ไม่เสยี ค่าใช้จา่ ย ใช้ในการติดต่อสือ่ สาร รับ-แชร์
ไฟลไ์ ด้
เฉลยกจิ กรรมหนว่ ยที่ 8
คาถาม : การใชป้ ระโยชนจ์ าก เฉลย
IoT (Internet of Things)
o หมายถึง สิ่งของทกุ อย่างบนโลกใบน้ที ่สี ามารถเช่ือมตอ่ กับเครือข่าย เพ่อื
แลกเปลยี่ นและแบง่ ปนั ข้อมลู ได้ โดยมีเปา้ หมายวา่ อปุ กรณเ์ หล่าน้จี ะเชอื่ มโยง
ขอ้ มูลระหว่างกันโดยมีมนษุ ยเ์ กี่ยวข้องน้อยทสี่ ดุ และทาหน้าที่เชื่อมประสาน
ระหว่างข้อมูลจากโลกดจิ ทิ ลั กับโลกทางกายภาพใหใ้ กล้ชิดกันท่สี ุด
o ประโยชน์ รับส่งข้อมูลแบบดิจิทัล ใช้งานได้ตลอดเวลาและแบบเรียลไทม์ มี AI เขา้
มาเกย่ี วขอ้ งจึงลดภาระงานของบคุ คล สามารถตรวจสอบในจุดท่ีคนเข้าไมถ่ งึ
เฉลยกิจกรรมหน่วยที่ 8
คาถาม : การใชป้ ระโยชนจ์ าก เฉลย
Wearable device
o หมายถงึ อุปกรณ์ทเ่ี ข้ามาเก่ียวข้องกับชีวติ ของมนุษย์ โดยมนุษยส์ ามารถนามาสวม
ใส่ ทางานและควบคุมดว้ ยระบบคอมพวิ เตอร์ เชน่ เคร่อื งนบั กา้ ว เครื่องวดั ระดับ
การนอนหลับ เครอื่ งวดั ความดัน ปลอกคอสาหรับปอ้ งกนั สุนัขหาย
o ประโยชน์ รับสง่ ข้อมลู แบบดิจิทัล ใชง้ านได้ตลอดเวลาและแบบเรียลไทม์ มี AI เข้า
มาเกี่ยวข้องจึงลดภาระงานของบุคคล สามารถตรวจสอบในจดุ ที่คนเข้าไมถ่ ึง
เฉลยกิจกรรมหน่วยที่ 8
คาถาม : การใช้ประโยชนจ์ าก เฉลย
Big data o หมายถงึ การเชอ่ื มโยงกนั ของขอ้ มูลจานวนมากๆ
o ประโยชน์ สามารถใช้ในการเขา้ ถงึ ข้อมูลตา่ งๆ ไดจ้ ากจุดๆ เดยี ว
เฉลยกจิ กรรมหน่วยท่ี 8
คาถาม : การใช้ประโยชนจ์ าก เฉลย
Smart Home
o ต่อยอดมาจาก IoT โดยการทาใหอ้ ุปกรณ์ที่เป็นเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ในบ้าน รองรับการ
ใชง้ านอนิ เทอร์เนต็ เพ่อื สั่งการอปุ กรณผ์ า่ นแอปพลิเคชั่นบน Smartphone ได้
o ประโยชน์ ใช้ชวี ิตไดส้ ะดวกและงา่ ยดายขึน้
คาถาม เฉลยกจิ กรรมหน่วยที่ 8
Smart City
เฉลย
o เมอื งทใ่ี ชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมทีท่ นั สมัยมาเพิม่ ประสทิ ธิภาพของการใหบ้ ริการและการบริหารจดั การเมอื ง โดย Smart
City แบง่ เปน็ 7 ประเภทหลักๆ ได้แก่
- สิ่งแวดลอ้ มอัจฉริยะ (Smart Environment) คือการใช้เทคโนโลยีเขา้ มาชว่ ยบริการจัดการอย่างเปน็ ระบบ คานงึ ถึงส่ิงแวดล้อม และสภาวะการ
เปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศเปน็ หลกั
- เศรษฐกิจอจั ฉริยะ (Smart Economy) หมายถงึ เมอื งทใ่ี ชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทัลเพ่ือสร้างมูลคา่ เพิ่มในระบบเศรษฐกิจและบริหารจดั การ ทรัพยากร
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
- พลังงานอัจฉรยิ ะ (Smart Energy) หมายถึง การบริหารจัดการด้านพลังงานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความสมดุลระหว่างการผลติ และการใช้
พลังงานในพนื้ ที่เพ่ือสร้างความมัน่ คงทางพลงั งานและลดการพ่งึ พาพลังงานจากระบบโครงขา่ ยไฟฟ้าหลกั
- การบรหิ ารภาครัฐอัจฉรยิ ะ (Smart Governance) หมายถงึ การพัฒนาระบบบริการภาครัฐ เพอ่ื อานวยความสะดวก แก่ประชาชน มงุ่ เน้น
ความโปรง่ ใสและการมสี ว่ นร่วม และมีการปรับปรงุ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งผา่ นการประยุกต์ใชน้ วัตกรรมบรกิ าร
- การดารงชวี ติ อัจฉริยะ (Smart Living) หมายถงึ การพัฒนาสิง่ อานวยความสะดวกโดยคานงึ ถึงหลกั อารยสถาปตั ย์ ใหป้ ระชาชนมีสขุ ภาพและ
คุณภาพชวี ติ ท่ีดี มีความปลอดภัย และมีความสุขในการดารงชวี ติ
-การเดนิ ทางและขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) หมายถึง มุง่ เนน้ พฒั นาระบบจราจรและขนสง่ อัจฉรยิ ะเพ่มิ ประสทิ ธิภาพและความเช่อื มโยง
ของระบบขนสง่ และการสญั จรที่หลากหลาย เพม่ิ ความสะดวกและความปลอดภยั ในการเดินทางและขนสง่ รวมถึงเปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดล้อม
- พลเมอื งอัจฉรยิ ะ (Smart People) หมายถงึ มุ่งพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และสง่ิ แวดลอ้ ม ทีเ่ ออื้ ต่อการเรียนรู้ตลอดชีวติ ลดความเหลื่อมลา้ ทาง
สงั คมและเศรษฐกิจตลอดจนเปดิ กว้างสาหรับความคดิ สร้างสรรค์ นวัตกรรม และการมสี ว่ นรว่ มของประชาชน
การเข้าถงึ สอ่ื ดจิ ทิ ลั
หนว่ ยท่ี ๙
อาจารย์ ดร.จุฑารัตน์ ช่างทอง
ความหมายของส่ือดิจิทลั
สื่อ ส่ือดจิ ทิ ลั เนอ้ื หาดจิ ทิ ัล
ส่งิ ทีท่ าให้ปรากฏด้วย (Digital media) (Digital content)
ตัวอกั ษร เครือ่ งหมาย ส่ือทมี่ กี ารนาเอาขอ้ ความ สารสนเทศทมี่ รี ูปแบบดิจทิ ลั
ภาพ หรอื เสียง กราฟฟกิ ภาพเคลอ่ื นไหว เสียง โดยอาศัยการสอ่ื หรือการแสดง
หรอื วดิ โี อ มาเรยี บเรียง เนื้อหาผา่ นอุปกรณ์ดิจทิ ลั ตา่ งๆ
ผสมผสานเขา้ ด้วยกนั จนเกดิ เปน็
ส่ือทีใ่ หค้ วามหลากหลายและ
เข้าถงึ ผรู้ บั สารอยา่ งตรงเป้าหมาย
ท่ีสุด
• เป็นองค์ประกอบของ องคป์ ระกอบของสื่อดจิ ทิ ัล • ใชแ้ สดงรายละเอยี ดหรอื เนื้อหาของเรื่องท่นี าเสนอ
• ข้อความสามารถได้จากการ (1) การพมิ พ์
มลั ติมีเดยี ข้อความ
• มขี นาดใหญ่ (2) การสแกน (3) ไฮเปอรเ์ ทก็ ซ์
• สตรมี ม่ิง วิดีโอ เสยี ง
สื่อดิจิทัล • จัดเกบ็ ในรูปสัญญาณดิจิทลั
• มเี สยี งทส่ี อดคลอ้ งกับเน้อื หา
• สร้างความนา่ สนใจและน่าติดตามได้
• นามสกลุ ไฟล์ .wav .wma เปน็ ต้น
• ภาพกราฟฟิกทีม่ กี าร ภาพ ภาพนิ่ง • ภาพวาด ภาพถา่ ย ภาพลายเส้น
เคล่ือนไหว เคลอื่ นไหว • ให้ผลการเรียนรไู้ ดด้ กี วา่ ขอ้ ความ
• นามสกลุ ไฟล์ .jpg .jpeg .gif .png .bmp
.bitmap .tiff
ข้อดี - ขอ้ เสยี ของส่อื ดิจิทัล
ข้อดี ข้อเสยี
o มคี วามคงทน o อาจเกดิ ปญั หาจากการใชง้ านร่วมกนั
o สามารถนาไปใชง้ านได้หลายวิธี o งา่ ยต่อการกระทาผดิ เรื่องละเมดิ สทิ ธิของผ้อู ่นื
o นาไปผสมผสานกบั สอ่ื รปู แบบอื่น
o สามารถปรบั แตง่ ใหด้ ขี นึ้ กวา่ เดมิ ได้ การละเมดิ ลิขสทิ ธิ์
การใช้งานส่ือดิจิทลั
https://transliteration.orst.go.th
การบรหิ ารจดั การแฟ้มดิจทิ ัล การสร้างเอกสารงานพมิ พท์ มี่ คี ณุ ภาพ การสร้างสอ่ื นาเสนอที่มีคณุ ภาพ
1. การจดั การโฟลเดอร์ 1. การใชร้ ะบบปฏิบตั กิ าร 1. โปรแกรมทใี่ ช้
2. การต้งั ชอ่ื แฟ้มเอกสาร 2. การใช้ฟอนต์ 2. การดาเนินการกอ่ นการผลติ
3. การพิมพ์เอกสาร 3. การใช้ฟอนต์
4. การใชท้ ับศัพท์ 4. การใช้สไลด์
5. บรรณานกุ รม 5. การนาเสนอในสไลด์
การคน้ หาและเขา้ ถึงข้อมลู สารสนเทศ และสื่อดิจิทลั
วเิ คราะหแ์ ละกาหนด สบื คน้ สารสนเทศทาง กาหนดกลยุทธ์การคน้ ประเมนิ คณุ ภาพของ
ความต้องการ อินเทอรเ์ น็ต ดว้ ย สารสนเทศท่ีไดร้ บั
สารสนเทศ Search engine
o ความนา่ เชอื่ ถือ
ค้นดว้ ย Advance o ความถูกตอ้ ง
Search เพอ่ื กาหนด o การเขา้ ถงึ ได้ง่าย
รูปแบบการคน้ o ความชดั เจน
o ความสมบูรณ์
o การตรงกบั ความตอ้ งการ
o การทนั เวลา
o ความทันสมัย
o การพิสจู นไ์ ด้
กิจกรรม
การสบื ค้นด้วย Google เพอื่ การหาภาพตน้ ฉบบั การคน้ หาตาแหนง่ แบบ Street
หาข้อมูลขา่ วสาร และเทคนิค view
สอนแลว้ 1. Google Image 1. Google map
https://images.google.com 2. Pegman
2. เว็บไซต์ Tineye.com
การแตง่ กายของ หญิงไทยสมยั รชั กาลท่ี 5 D
การแตง่ ตวั ผหู้ ญิงไทย ร.5 D
F
สตรไี ทย A
กลุ สตรไี ทย b
(กำรแตง่ กำย + กำรแตง่ ตวั ) (หญิงไทย or ผู้หญิงไทย or สตรีไทย or กุลสตรีไทย)
A
and (รัชกำลท่ี 5 or ร.5) C
Boolean logic y
And
Or + 1
Not - 2
F
A
b
A
D
C
Yf
การสื่อสารผา่ นสือ่ สังคมออนไลน์
หน่วยที่ ๑๐
อาจารย์ ดร.จุฑารัตน์ ช่างทอง
ความหมายและคาท่ีเกย่ี วขอ้ ง
สือ่ สงั คมออนไลน์ เครอื ข่ายสังคมออนไลน์
(Social media) (Social network)
สอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ทีท่ าหน้าทเ่ี ปน็ ส่ือกลาง
ให้บุคคลทว่ั ไปมสี ่วนรว่ มในการสร้าง และ กลุ่มคนผู้ตดิ ตอ่ ส่ือสารกันโดยผา่ นส่ือ
แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ต่างๆ ผ่าน สงั คมออนไลน์ ซึง่ นอกจากการสง่ และ
อนิ เทอร์เน็ตได้ แลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสารกนั แลว้ ยังอาจใช้
ทากิจกรรมท่ีสนใจร่วมกันไดด้ ้วย
ประเภทของสอ่ื สังคมออนไลน์
เครือข่ายสังคม เชน่ Facebook, Google+, Linkdin
ไมโครบล็อก เช่น Twitter, Weibo
เวบ็ ไซต์ที่ให้บรกิ ารแบ่งปนั สื่อออนไลน์ เชน่ Flicker, Youtube, Instragram
บลอ็ ก เชน่ Blogger, Wordpress
บล็อกท่ีมสี อ่ื สิง่ พมิ พ์เปน็ เจา้ ของ เช่น theguardian.com
ประเภทของสื่อสังคมออนไลน์
วิกิ และพื้นท่ีสาธารณะของกลมุ่ เช่น Wikipedia, Wikia
กลมุ่ หรอื พน้ื ท่แี สดงความคดิ เห็น เชน่ Google groups, Pantip
เกมออนไลน์ทมี่ ีผ้เู ล่นหลายคน เช่น Secondlife, Works of Warcraft
ข้อความส้นั
การแสดงตนว่าอยู่ ณ สถานท่ใี ด เชน่ Facebook, Foursquare
สอื่ สังคมออนไลนท์ ี่นยิ มในประเทศไทย
o Facebook
o Line
o Instragram
o Twitter
o Chat
https://www.thinkabou
twealth.com/socialmedi
astat-thailand2020