The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือกรณีตัวอย่างความผิดทางวินัยของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเล่มนี้ ได้รวบรวมจากกรณีความผิดต่าง ๆ ซึ่งได้รับรายงานการลงโทษทางวินัยจากหน่วยงานการศึกษา ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่รายงานมายัง ก.ค.ศ. โดยผ่านการพิจารณาของ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการแล้ว ในระหว่างปี พ.ศ. 2557- 2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะดวกในการศึกษาค้นคว้า การนำไปใช้อ้างอิงหรือเป็นกรณีเทียบเคียงประกอบการพิจารณาโทษทางวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปแนวทางและมาตรฐานเดียวกัน เพื่อเผยแพร่แก่หน่วยงานการศึกษาและหน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และสามารถใช้เป็นคู่มือในการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษา นิติกรและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา <br><br>อนึ่ง กรณีตัวอย่างในคู่มือเล่มนี้ ชื่อบุคคลต่าง ๆ ในกรณีตัวอย่างที่ปรากฏเป็นชื่อสมมุติทั้งสิ้น ส่วนระดับโทษเดิมเป็นโทษที่ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งไว้ หากเหมาะสมแก่กรณีความผิดแล้ว ก.ค.ศ. จะมี มติรับทราบ หากยังไม่เหมาะสมก็จะมีมติให้เปลี่ยนแปลงโทษให้เหมาะสมต่อไป <br><br>สำนักงาน ก.ค.ศ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือเล่มนี้จะอำนวยความสะดวกและเป็นประโยชน์ต่อ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สํานักงาน ก.ค.ศ., 2024-03-13 22:54:03

คู่มือกรณีตัวอย่างความผิดทางวินัยของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2557- 2564

คู่มือกรณีตัวอย่างความผิดทางวินัยของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเล่มนี้ ได้รวบรวมจากกรณีความผิดต่าง ๆ ซึ่งได้รับรายงานการลงโทษทางวินัยจากหน่วยงานการศึกษา ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่รายงานมายัง ก.ค.ศ. โดยผ่านการพิจารณาของ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการแล้ว ในระหว่างปี พ.ศ. 2557- 2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะดวกในการศึกษาค้นคว้า การนำไปใช้อ้างอิงหรือเป็นกรณีเทียบเคียงประกอบการพิจารณาโทษทางวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปแนวทางและมาตรฐานเดียวกัน เพื่อเผยแพร่แก่หน่วยงานการศึกษาและหน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และสามารถใช้เป็นคู่มือในการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษา นิติกรและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา <br><br>อนึ่ง กรณีตัวอย่างในคู่มือเล่มนี้ ชื่อบุคคลต่าง ๆ ในกรณีตัวอย่างที่ปรากฏเป็นชื่อสมมุติทั้งสิ้น ส่วนระดับโทษเดิมเป็นโทษที่ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งไว้ หากเหมาะสมแก่กรณีความผิดแล้ว ก.ค.ศ. จะมี มติรับทราบ หากยังไม่เหมาะสมก็จะมีมติให้เปลี่ยนแปลงโทษให้เหมาะสมต่อไป <br><br>สำนักงาน ก.ค.ศ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือเล่มนี้จะอำนวยความสะดวกและเป็นประโยชน์ต่อ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี

147 14. กรณีความผิดตามกฎหมายอื่น กรณีความผิดฐานประพฤติชั่วร้ายแรง (พระราชบัญญัติป่าไม้) รายที่ 1-223/2558 ชื่อ นายเจมส์ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษา กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในเรื่อง ถูกฟ้องคดีอาญาข้อหาแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปหวงห้าม ไว้ในครอบครองเกินกว่า ๐.๒๐ ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้ท่อนหวงห้ามอันมิได้แปรรูป ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ๒ ปี ๖ เดือน ข้อเท็จจริงได้ความว่า ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ ได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ว่านายเจมส์มีความผิดฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก ๑ ปี ฐานมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป ไว้ในครอบครอง จำคุก ๓ ปี ฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง จำคุก ๑ ปี รวมจำคุก ๕ ปี จำเลยให้การ รับสารภาพ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๒ ปี ๖ เดือน และคดีถึงที่สุดแล้ว มาตรา 94 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ กรณี กระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก โทษ ปลดออกจากราชการ มติ รับทราบ ประชุมครั้งที่ 11/2558 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558


148 กรณีความผิดฐานประพฤติชั่วร้ายแรง (พระราชบัญญัติป่าไม้) รายที่ 1-126/2561 ชื่อ นายปราบ ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กระทำผิดวินัยในเรื่อง ต้องคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี 3 เดือน ในความผิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ข้อเท็จจริงได้ความว่า นายปราบได้รับคำสั่งให้ไปเก็บฐานลูกเสือ – เนตรนารี โดยนายปราบเดินทาง ออกจากบ้านนายสมหมาย โดยมีนายสมหมายเดินทางไปช่วยเก็บฐานลูกเสือ – เนตรนารีด้วย และได้นำมีดพร้า ติดตัวไปคนละ 1 เล่ม เมื่อไปถึงฐานลูกเสือ – เนตรนารี นายปราบและนายสมหมาย ได้ใช้มีดพร้าตัดกิ่งไม้ โยนเข้ากองไฟ หลังจากนั้น เวลาประมาณ 17.00 น. ได้มีเจ้าพนักงานป่าไม้เข้ามาจับกุมนายปราบและนายสมหมาย ในข้อหาร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง และเข้ายึดถือครอบครองบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ และพนักงานอัยการ มีความเห็นสั่งฟ้อง ศาลฎีกาพิพากษาว่าทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และประมวล กฎหมายอาญามาตรา 83 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานร่วมกันยึดถือครอบครอง แผ้วถาง ทำประโยชน์ อันเป็นการทำลาย ป่าและเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ กับฐานร่วมกันทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานร่วมกันทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก คนละ 6 เดือน และฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยมิได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 3 เดือน รวมจำคุกคนละ 9 เดือน มาตรา 94 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กรณี กระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก โทษ ปลดออกจากราชการ มติ รับทราบ ประชุมครั้งที่ 8/2561 เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2561


149 กรณีความผิดฐานประพฤติชั่ว (ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ) รายที่ 1-008/2562 และ รายที่ 1-009/2563 1. นายพิชิต ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 2. นายทองสุข ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กระทำผิดวินัยในเรื่อง สบคบกันทำการลักลอบบันทึกเสียงการประชุม อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ การศึกษาแล้วนำไปจัดพิมพ์เป็นเอกสารเผยแพร่ตามสถานที่ต่าง ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อเท็จจริงได้ความว่า นายพิชิตได้ลักลอบบันทึกเสียงการประชุมที่ตนเป็นคณะกรรมการ และเครื่องบันทึกเสียงอยู่ที่นายพิชิต ส่วนนายทองสุข มีแผ่น CD บันทึกเสียงการประชุม และเอกสารการถอดข้อความเสียงการประชุม ไว้ในครอบครองถัดจากวันประชุม มาตรา 85 วรรคหนึ่ง และมาตรา 94 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กรณี ปฏิบัติหน้าที่ราชการไม่เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการและไม่รักษาชื่อเสียงของ ตนและรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยกระทำการใด ๆ อันได้ชื่อว่าประพฤติชั่ว โทษ ลดเงินเดือนในอัตราร้อยละสี่ของเงินเดือน มติ รับทราบทั้งสองราย ประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563


150 กรณีความผิดฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์) รายที่ 1-221/2562 ชื่อ นางปอ ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา กระทำผิดวินัยในเรื่อง ประพฤติไม่เหมาะสมกับการเป็นราชการครู ไม่ชำระหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ กระบะเป็นเหตุให้นายมีน ในฐานะผู้ค้ำประกัน ถูกศาลบังคับคดียึดทรัพย์ที่ดินเพื่อนำออกขายทอดตลาด ข้อเท็จจริงรับฟังได้ นางปอ ได้เช่าซื้อรถยนต์กระบะ จากห้างหุ้นส่วนจำกัด (ผู้ขาย) จริง โดยมีนายชัย ในฐานะแฟน ได้ตกลงร่วมกันกับนางปอ โดยนางปอ เป็นผู้จ่ายเงินดาวน์ 70,000 บาท และให้นายชัย เป็นผู้ส่ง ค่างวดอีกทั้งให้นายชัย เป็นผู้ค้ำประกันคนที่ 1 และให้นายมีน ซึ่งเป็นเพื่อนนายชัย เป็นผู้ค้ำประกัน คนที่ 2 ต่อมามีการผิดนัดไม่ชำระหนี้ ซึ่งนางปอ อ้างว่านายชัย ไม่นำส่งเงินชำระตามกำหนด ต่อมาผู้ขายคือห้างหุ้นส่วน จึงฟ้องร้องบังคับคดีกับ นางปอ ในฐานะลูกหนี้ชั้นต้น และนายมีน (ผู้ร้อง) ในฐานะผู้ค้ำประกัน จนกระทั่งคดี ถึงที่สุดแล้ว ศาลได้มีคำพิพากษาให้ นางปอ และผู้ค้ำประกัน ร่วมกันชำระเงินให้แก่ผู้ขาย ต่อมาได้มีการ ตกลงประนีประนอมยอมความกันในศาล โดยให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาร่วมกันผ่อนชำระเงินให้แก่เจ้าหนี้ ตามคำพิพากษา หากผิดนัดสามารถบังคับคดีได้ทันที ศาลมีคำพิพากษาตามยอม แต่ปรากฏว่าทั้งสามคนก็มิได้ ปฏิบัติตามคำพิพากษา ศาลจึงได้ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของนายมีน ในฐานะลูกหนี้ ตามคำพิพากษาเพื่อนำออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ ทำให้นายมีนได้รับความเดือดร้อน มาตรา มาตรา 87 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กรณี กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง กรณีทอดทิ้งหน้าที่ราชการเป็นเหตุ ให้ราชการเสียหาย ประกอบกับคณะรัฐมนตรี โทษ ไล่ออกจากราชการ มติ ให้ลดโทษจากโทษไล่ออกจากราชการ เป็นโทษปลดออกจากราชการ ประชุมครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564


จัดทำโดย ภารกิจเสริมสร้างและมาตรฐานวินัย สำนักงาน ก.ค.ศ. กระทรวงศึกษาธิการ


Click to View FlipBook Version