กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑
๒ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ คำนำ คู่มือนิเทศ กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการนิเทศการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพ การศึกษา โรงเรียนในสังกัด ทั้งงานด้านโยบาย งานกลุ่มสาระการเรียนรู้งานตามกลุ่มงาน และงานตามกลุ่ม โรงเรียน ที่รับผิดชอบของศึกษานิเทศก์เอกสารเล่มนี้ประกอบด้วย ๖ ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ ๑ ความเป็นมาและความสำคัญ ส่วนที่ ๒ หลักการ แนวคิดในการนิเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ส่วนที่ ๓ ทิศทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ส่วนที่ ๔ รูปแบบและเทคนิคการนิเทศการศึกษา ส่วนที่ ๕ แผนการนิเทศ ส่วนที่ ๖ เครื่องมือนิเทศการศึกษา กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุดรธานี เขต ๑ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือนิเทศเล่มนี้จะเป็นแนวทางและคู่มือสำหรับศึกษานิเทศก์ได้ปฏิบัติ หน้าที่ เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในสังกัด สู่เป้าหมายขององค์กรคุณภาพได้เป็นอย่างดี ขอขอบคุณ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำคู่มือการนิเทศฉบับนี้ไว้ณ โอกาสนี้ กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑
๓ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ สารบัญ หัวข้อ หน้า ส่วนที่ ๑ ความเป็นมาและความสำคัญ ๔ ส่วนที่ ๒ หลักการ แนวคิดในการนิเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ๗ ส่วนที่ ๓ ทิศทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๒๗ ส่วนที่ ๔ รูปแบบและเทคนิคการนิเทศการศึกษา ๔๐ ส่วนที่ ๕ แผนการนิเทศ ๕๗ ส่วนที่ ๖ เครื่องมือนิเทศการศึกษา ๖๘ ภาคผนวก ๑๒๕
๔ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ส่วนที่ ๑ บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญ สังคมโลกในปัจจุบันต้องเผชิญกับความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อันเนื่องจาก ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการติดต่อสื่อสารที่ไร้พรมแดน ส่งผลให้เกิดวิทยาการและความรู้ใหม่ ๆ ขึ้นมากมาย มนุษย์ในยุคปัจจุบันจึงต้องมีความพร้อมในรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อเตรียมคนให้ทัน และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา จึงต้องมีการปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนจากเดิม เป็นการ จัดการการศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ครูจะต้องปรับวิธีคิดเปลี่ยนการสอนปรับบทบาท จาก เดิมที่ครูเป็นศูนย์กลางของความรู้มาเป็นผู้อำนวยความสะดวก คอยชี้แนะเพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้ ด้วยตนเอง สอนเนื้อหาน้อยลงให้ผู้เรียนศึกษาเรียนรู้มากขึ้น เนื่องจากเมื่อผู้เรียนเป็น ผู้รับฟังจากครูฝ่ายเดียว ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้น้อย แต่ถ้าผู้เรียนได้ปฏิบัติลงมือทำด้วยตนเอง ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้แบบคงทน ถาวร วิธีการจัดการเรียนการสอนที่เป็นที่นิยมแพร่หลายในปัจจุบัน คือ การเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติและการนำ เทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ด้วย (สถาพร สมอุทัย, ๒๕๖๕ : ๒๗๕) ในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะการเกิด การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – ๑๙) ทำให้ต้องมีการปรับการเรียนเปลี่ยนการสอน เป็นทั้งแบบ On Site , Online, On hand, On Demand หรือแบบอื่นๆ เพื่อให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงและ สามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีคุณภาพ การนิเทศการศึกษา จึงมีความจำเป็นต่อการช่วยเหลือ ครูผู้สอนในการเตรียมการสอน การพัฒนาครูให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ให้ข้อเสนอแนะที่ได้จากการ วิเคราะห์วิจัย การนิเทศการศึกษามีความจำเป็นต่อการรักษามาตรฐานการศึกษาเพราะช่วยให้ครูมีความคิด ที่กว้างไกลก้าวหน้า ทันต่อความเปลี่ยนแปลงทางวิทยาการใหม่ ๆ เป็นกระบวนการร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศ จะเป็นตัวช่วยหนึ่งในการกระตุ้น ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาและช่วยเหลือครู ให้เกิดการพัฒนาสมรรถนะการ จัดการเรียนการสอนของตนเองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีความทันยุค ทันสมัยอยู่เสมอและสามารถตอบสนองผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ การนิเทศการศึกษาจึงเป็นการพัฒนาส่งเสริมการบริหารงานวิชาการในทุกมิติให้เกิด ประสิทธิภาพ เช่น ด้านหลักสูตรสถานศึกษา ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอน ด้านการใช้สื่อ และแหล่งการเรียนรู้ และด้านการวัดและประเมินผล นอกจากนี้ยังมีจุดมุ่งหมายหลัก คือ ช่วยเหลือ ส่งเสริม กระตุ้น พัฒนาครูให้ สามารถจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพเช่นกัน ซึ่งครูจะเป็นตัว แปรที่สำคัญในการขับเคลื่อนงาน วิชาการ ถ้าครูได้รับการสนับสนุนก็จะทำให้ศักยภาพในการสอน ของครูมีมากขึ้น สามารถนำหลักสูตรมาใช้ ตั้งจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ชัดเจนตอบสนองต่อมาตรฐาน และตัวชี้วัดของหลักสูตร สามารถนำเทคนิควิธีการ ที่หลากหลายมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ ประยุกต์ใช้ สื่อการสอน ที่เหมาะสมและสุดท้ายสามารถ ออกแบบการวัดและประเมินลการเรียนรู้ที่เหมาะสมและชัดเจน ถ้าครู สามารถจัดการเรียนรู้ได้ครบ กระบวนการแล้วก็จะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างแน่นอน การนิเทศ
๕ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ การศึกษา มีจุดมุ่งหมายหลัก ๆ คือการพัฒนาครอบคลุมงานวิชาการทั้งหมดเพื่อให้เกิดคุณภาพต่อ สถานศึกษา บุคลากรและผู้เรียน รวมทั้งชุมชน ทั้งนี้บุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการนิเทศการศึกษา ประกอบด้วย ส่วนที่หนึ่ง คือ ผู้นิเทศ ได้แก่ ผู้ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานต้นสังกัดคือ ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญ ส่วน ที่สองผู้รับการนิเทศ ได้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา องค์ประกอบทั้งหมดนี้ จะทำให้การนิเทศการศึกษามีความสมบูรณ์และเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ทำให้การนิเทศมีเป้าหมายและ ขอบเขตเนื้อหาและกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน มีกระบวนการ ขั้นตอน วิธีการและใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อให้ เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับการนิเทศซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้น สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ โดย กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินการจัดการศึกษา ได้เล็งเห็น ถึงความสำคัญ จำเป็นของการนิเทศการศึกษา ที่ทั้งสองฝ่ายคือผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศต้องร่วมกันขับเคลื่อน และเพื่อสร้างให้โรงเรียนมีระบบ การนิเทศภายในที่เข้มแข็ง จึงได้จัดทำ แนวทางการนิเทศการศึกษา โดยใช้ ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนขึ้น ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ มีโรงเรียนในสังกัด จำนวน ๒๑๙ โรงเรียน ดูแล รับผิดชอบการจัดการศึกษาของโรงเรียนใน ๔ อำเภอ แต่ละโรงเรียนมีความหลากหลายแตกต่างกันตามบริบทของโรงเรียน ทั้งมาตรฐานและคุณภาพการจัด การศึกษา การพัฒนาคุณภาพของโรงเรียน คู่มือการนิเทศการศึกษาจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยให้การ ขับเคลื่อนการศึกษาให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีมาตรฐานและทัดเทียมสอดรับ กับการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ สอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานและของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ตามนโยบาย “วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ เด็กอุดร ๑ เป็นที่ ๑ โดยใช้กลุ่มโรงเรียนเป็นฐาน ใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อน” ต่อไป วัตถุประสงค์ ๑. นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกคนมีพัฒนาการเหมาะสม ตามวัยและมีคุณภาพ ๒. ประชากรวัยเรียนทุกคนได้รับโอกาสในการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึงมีคุณภาพและเสมอภาค ๓. ครูและบุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะตรงตามสายงานและมีวัฒนธรรมการทำงานที่มุ่งเน้น ผลสัมฤทธิ์ ๔. พัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับนโยบายของ สพปอุดรธานี เขต ๑ ขับเคลื่อนด้วย UDON ๑ Model โดยใช้กลุ่มโรงเรียนเป็นฐาน นวัตกรรมในการขับเคลื่อน ๕. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ เน้นการทำงานแบบบูรณาการ บริหาร จัดการแบบมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการจัดการศึกษากระจายอำนาจและความรับผิดชอบสู่สถานศึกษา ๖. ศึกษานิเทศก์ทุกคนปฎิบัติการนิเทศการศึกษา พัฒนาหรือ แก้ปัญหาในสถานศึกษาโดยใช้ กระบวนการนิเทศที่เป็น Best Practice อย่างเป็นระบบ
๖ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ เป้าหมาย ๑. ทุกโรงเรียนได้รับการนิเทศพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับปฐมวัยและมาตรฐานการศึกษาขั้น พื้นฐาน ๒. ทุกโรงเรียนได้รับการนิเทศพัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาให้ เข้มแข็ง ๓. ทุกโรงเรียนได้รับการนิเทศและส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามนโยบาย จุดเน้นของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ๔. ทุกโรงเรียนได้รับการนิเทศการพัฒนาคุณธรรมความสำนึกรักชาติไทย ค่านิยมหลักของคนไทย และวิถีหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๕. ศึกษานิเทศก์ทุกคนสามารถปฎิบัติการนิเทศการศึกษา ได้อย่างน้อย ๒ ครั้ง/โรงเรียน/ภาคเรียน ๖. ศึกษานิเทศก์ทุกคน นิเทศพัฒนาหรือ แก้ปัญหาในสถานศึกษาโดยใช้กระบวนการนิเทศที่เป็น Best Practice อย่างน้อย ๑ เรื่อง/ปีการศึกษา ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๑. สถานศึกษาจัดกิจกรรมการเรียนรู้และดำเนินงานโครงการตามนโยบายได้อย่างมีคุณภาพ ๒. ครูสามารถจัดการเรียนรู้ตามแนวปฏิรูปการศึกษาในศตวรรษที่ ๒๑ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๓. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีข้อมูลที่สามารถนำมาใช้ในการบริหารจัดการได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ๔. โรงเรียนได้รับการนิเทศอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องทั่วถึงและตรงกับสภาพปัญหาและความต้องการ ๕. ผู้บริหารโรงเรียนสามารถบริหารจัดการการพัฒนาคุณภาพการศึกษาได้อย่างชาญฉลาดและมี คุณภาพผ่านกระบวนการเรียนรู้ชุมชนทางวิชาชีพ(PLC) ๖. ศึกษานิเทศก์ มีกรอบแนวทางในการปฎิบัติการนิเทศอย่างเป็นระบบ แบบแผน ๗. ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่หลักสูตรกำหนด
๗ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ส่วนที่ ๒ หลักการ แนวคิดในการนิเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา สภาพทั่วไป ๑. สภาพทั่วไป ๑.๑ ที่ตั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ตั้งอยู่เลขที่ ๗/๗ ถนนโพศรี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีพื้นที่มากเป็นอันดับ ๔ ห่างจากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๒ ระยะทาง ๕๖๔ กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ ๑๑,๗๓๐ ตารางกิโลเมตร ๑.๒ อาณาเขตสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ มีพื้นที่ครอบคลุมเขต การปกครองของจังหวัดอุดรธานี จำนวน ๔ อำเภอ ๔๖ ตำบล ๕๔๘ หมู่บ้าน เทศบาล ๒๑ แห่ง และองค์การ บริหารส่วนตำบล ๓๑ แห่ง มีอาณาเขตติดต่อดังนี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดหนองคาย ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดหนองบัวลำภู ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอบ้านดุง อำเภอพิบูลย์รักษ์ อำเภอหนองหาน อำเภอกุมภวาปี อำเภอหนองแสง และอำเภอประจักษ์ศิลปาคม ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อำเภอบ้านผือ และอำเภอกุดจับ ๑.๓ ขนาดและรูปร่าง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต ๑ มีเนื้อที่ ๒,๙๙๒.๙๒๓ ตาราง กิโลเมตร หรือประมาณ ๔๖๗,๖๔๐.๖๓ ไร่ ๑.๔ ภูมิประเทศ เป็นที่ราบสูงทางด้านทิศใต้มีภูเขาและป่าไม้ติดต่อกับจังหวัดหนองบัวลำภู ส่วนพื้นที่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่ราบ และเอียงลาดลงสู่ที่ราบลุ่ม สายน้ำจะไหลไปรวมกันในลำน้ำ
๘ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ซึ่งจะอยู่พื้นที่ดังกล่าว และไหลลงสู่แม่น้ำโขงในที่สุด พื้นที่บริเวณนี้จึงเหมาะแก่การเพาะปลูกโดยทั่วไป บริเวณอำเภอเมือง เป็นที่ราบโดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครจะเป็นแอ่งกระทะ ๑.๕ ภูมิอากาศ ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของลมมรสุมที่พัดประจำฤดูกาล ๒ ชนิด คือ ลมมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดพามวลอากาศเย็นและแห้งแล้งจากประเทศจีนมาปกคลุมประเทศไทยในช่วงฤดู หนาว ทำให้จังหวัดอุดรธานีมีอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้งทั่วไป และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดพามวล อากาศขึ้นมาจากทะเลและมหาสมุทรมาปกคลุมประเทศไทยในช่วงฤดูฝน ทำให้มีฝนตกทั่วไป ๒. สภาพการบริหารจัดการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ มีโรงเรียนในสังกัดรวม ๒๑๙ แห่ง ๔ อำเภอ ประกอบด้วยอำเภอเมืองอุดรธานี จำนวน ๑๐๒ แห่ง อำเภอหนองวัวซอ จำนวน ๒๙ แห่ง อำเภอเพ็ญ จำนวน ๖๖ แห่ง และอำเภอสร้างคอม จำนวน ๒๒ แห่ง จำแนกเป็นโรงเรียนขยายโอกาส จำนวน ๕๘ แห่ง โรงเรียนขนาดเล็ก จำนวน ๑๒๕ แห่ง โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล จำนวน ๔๖ แห่ง บริหารจัดการโดยใช้ กลุ่มโรงเรียนเป็นฐาน จำนวน ๑๙ กลุ่มโรงเรียน มีจำนวนนักเรียนรวม ๓๗,๖๒๔ คน มีข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาในสังกัด รวม ๒,๙๑๑ คน มีจำนวนห้องเรียนรวม ๒,๒๘๘ ห้องเรียน โดยข้อมูลแสดงดัง ตารางที่ ๑ – ๕ ดังนี้ ตารางที่ ๑ จำนวนโรงเรียน จำแนกตามจำนวนนักเรียน ๗ ขนาด ขนาดโรงเรียน จำนวนนักเรียน จำนวนโรงเรียน ร้อยละ ขนาดที่ ๑ น้อยกว่า ๒๐ คน ๕ ๒.๒๘ ๒๑ - ๔๐ คน ๑๖ ๗.๓๑ ๔๑ - ๖๐ คน ๒๗ ๑๒.๓๓ ๖๑ - ๘๐ คน ๒๙ ๑๓.๒๔ ๘๑ - ๑๐๐ คน ๓๒ ๑๔.๖๑ ๑๐๑ - ๑๒๐ คน ๑๖ ๗.๓๑ รวม ๑๒๕ ๕๗.๐๘ ขนาดที่ ๒ ๑๒๑ - ๒๐๐ คน ๕๑ ๒๓.๒๙ ขนาดที่ ๓ ๒๐๑ - ๓๐๐ คน ๒๗ ๑๒.๓๓ ขนาดที่ ๔ ๓๐๑ - ๔๙๙ คน ๘ ๓.๖๕ ขนาดที่ ๕ ๕๐๐ - ๑,๔๙๙ คน ๕ ๒.๒๘ ขนาดที่ ๖ ๑,๕๐๐ - ๒,๔๙๙ คน ๑ ๐.๔๖ ขนาดที่ ๗ ตั้งแต่ ๒,๕๐๐ คน ขึ้นไป ๒ ๐.๙๑ รวมทั้งสิ้น ๒๑๙ ๑๐๐.๐๐ ที่มา : https://data.bopp-obec.info/bigdata/index.php
๙ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ดังตารางที่ ๒ แสดงข้อมูลจำนวนนักเรียน จำนวนห้องเรียน จำนวนข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาจำแนกตามกลุ่มโรงเรียน ที่ กลุ่มโรงเรียน จำนวน โรงเรียน นักเรียน ห้องเรียน ครู/บุคลากร ๑ เมือง ๑ (นครหมากแข้ง) ๗ ๔,๑๘๓ ๑๔๑ ๒๒๓ ๒ เมือง ๒ (นครประจักษ์ศิลปาคม) ๙ ๔,๒๕๐ ๑๕๒ ๓๐๓ ๓ เมือง ๓ (เชียงพิณ นิคมห้วยหลวง) ๑๔ ๑,๑๖๐ ๑๑๖ ๑๒๕ ๔ เมือง ๔ (ศรีอุดร บ้านเลื่อม) ๑๕ ๒,๕๑๒ ๑๕๐ ๑๙๖ ๕ เมือง ๕ (บ้านตาด นครภูรินทร์) ๑๓ ๑,๘๙๒ ๑๒๑ ๑๔๙ ๖ เมือง ๖ (นาคำขอนกว้าง สามพร้าว) ๑๓ ๒,๔๔๐ ๑๒๘ ๑๗๒ ๗ เมือง ๗ (กุดสระนาข่า) ๑๒ ๑,๕๑๕ ๑๐๕ ๑๒๖ ๘ เมือง ๘ (เชียงยืน) ๑๐ ๑,๐๑๘ ๙๐ ๑๑๖ ๙ เมือง ๙ (รามสูร) ๙ ๑,๕๑๒ ๘๗ ๑๐๘ ๑๐ เพ็ญ ๑ (เมืองเพ็ญ สุมเส้า) ๑๕ ๓,๔๘๑ ๒๕๒ ๒๒๙ ๑๑ เพ็ญ ๒ (ธาตุ-จอมศรี) ๑๖ ๒,๑๖๐ ๑๔๙ ๑๙๐ ๑๒ เพ็ญ ๓ (นาพู่-เชียงหวาง) ๑๓ ๒,๐๕๖ ๑๒๔ ๑๖๕ ๑๓ เพ็ญ ๔ (เหล่า-เตาไห) ๑๓ ๑,๐๙๕ ๑๑๑ ๑๐๕ ๑๔ เพ็ญ ๕ (นาบัว-สร้างแป้น) ๙ ๙๔๑ ๗๑ ๘๘ ๑๕ หนองวัวซอ ๑ (หนองวัวซอ น้ำพ่น หนองบัวบาน) ๙ ๑,๘๒๒ ๑๐๒ ๑๒๑ ๑๖ หนองวัวซอ ๒ (หมากหญ้า หนองอ้อ โนนหวาย) ๑๑ ๑,๕๗๒ ๑๐๕ ๑๓๙ ๑๗ หนองวัวซอ ๓ (กุดหมากไฟ อูบมุง) ๙ ๑,๒๘๗ ๘๑ ๑๑๐ ๑๘ สร้างคอม ๑ (สร้างคอม) ๑๑ ๑,๐๗๗ ๙๕ ๑๐๖ ๑๙ สร้างคอม ๒ (โคกโพธิ์ บ้านยวด หินโงม) ๑๑ ๑,๖๕๑ ๑๐๘ ๑๓๙ รวม ๒๑๙ ๓๗,๖๒๔ ๒๒๘๘ ๒๙๑๑ ที่มา : https://data.bopp-obec.info/bigdata/school_group.php
๑๐ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ตารางที่ ๓ จำนวนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำแนกตามตำแหน่ง วิทยฐานะ อันดับ เพศ ตำแหน่ง วิทยฐานะ อันดับ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (คน) ชาย หญิง รวม ๑. ผู้อำนวยการโรงเรียน - คศ.๑ ๑ ๐ ๑ ชำนาญการ คศ.๒ ๕ ๖ ๑๑ ชำนาญการพิเศษ คศ.๓ ๑๒๗ ๔๙ ๑๗๖ เชี่ยวชาญ คศ.๔ ๐ ๑ ๑ เชี่ยวชาญพิเศษ คศ.๕ ๐ ๐ ๐ รวม - ๑๓๓ ๕๖ ๑๘๙ ๒. รองผู้อำนวยการโรงเรียน - คศ.๑ ๐ ๐ ๐ ชำนาญการ คศ.๒ ๑ ๑ ๒ ชำนาญการพิเศษ คศ.๓ ๗ ๑๑ ๑๘ เชี่ยวชาญ คศ.๔ ๐ ๐ ๐ รวม - ๘ ๑๒ ๒๐ ๓. ครู - คศ.๑ ๘๑ ๒๖๔ ๓๔๕ ชำนาญการ คศ.๒ ๕๓ ๑๖๑ ๒๑๔ ชำนาญการพิเศษ คศ.๓ ๒๐๔ ๘๗๘ ๑,๐๘๒ เชี่ยวชาญ คศ.๔ ๐ ๕ ๕ เชี่ยวชาญพิเศษ คศ.๕ ๐ ๑ ๑ รวม - ๓๓๘ ๑,๓๐๙ ๑,๖๔๗ ๔. ครูผู้ช่วย - ครูผู้ช่วย ๘๗ ๒๓๑ ๓๑๘ ๕. ลูกจ้างประจำ - - ๕๔ ๓ ๕๗ ๖. พนักงานราชการ - - ๑๙ ๔๘ ๖๗ ๗. ลูกจ้างชั่วคราว - - ๑๖๕ ๔๔๑ ๖๐๖ รวมทั้งหมด ๘๐๖ ๒,๑๐๕ ๒,๙๑๑ ที่มา : https://data.bopp-obec.info/bigdata/person_results.php
๑๑ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ตารางที่ ๔ จำนวนข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงาน จำแนกตามตำแหน่ง และเพศ ตำแหน่ง ชาย หญิง รวม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ๑ ๐ ๑ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ๒ ๑ ๓ ศึกษานิเทศก์ ๒ ๑๓ ๑๕ นักจัดการงานทั่วไป ๐ ๑ ๑ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ๒ ๒ ๔ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ ๐ ๑ ๑ นักทรัพยากรบุคคล ๑ ๖ ๗ นักวิชาการเงินและบัญชี ๐ ๗ ๗ นักวิชาการตรวจสอบภายใน ๐ ๓ ๓ นักวิชาการศึกษา ๑ ๓ ๔ นิติกร ๐ ๒ ๒ เจ้าพนักงานธุรการ ๐ ๓ ๓ เจ้าพนักงานพัสดุ ๐ ๒ ๒ เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ๐ ๑ ๑ ช่างครุภัณฑ์ชั้น ๓ ๑ ๐ ๑ ช่างปูนชั้น ๔ ๑ ๐ ๑ พนักงานธุรการ ส ๔ ๓ ๐ ๓ ๑๔ ๔๕ ๕๙ ที่มา : https://data.bopp-obec.info/bigdata/person_area_report๑.php
๑๒ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ตารางที่ ๕ จำนวนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ในสถานศึกษา) จำแนกตามกลุ่มสาระฯ และ เพศ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ชาย หญิง รวม ไม่มีกลุ่มสาระ ๒๕๑ ๓๕๕ ๖๐๖ ภาษาไทย ๒๓ ๒๑๒ ๒๓๕ คณิตศาสตร์ ๗๐ ๑๖๓ ๒๓๓ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๖๑ ๑๖๒ ๒๒๓ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔๓ ๙๒ ๑๓๕ ศิลปศึกษา ดนตรี นาฏศิลป์ ๓๒ ๖๐ ๙๒ สุขศึกษา พลศึกษา ๗๘ ๒๐ ๙๘ การงานอาชีพ ๔๗ ๗๒ ๑๑๙ ภาษาต่างประเทศ ๒๖ ๒๐๒ ๒๒๘ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒ ๒๑ ๓๓ ทุกกลุ่มสาระ ๑๖๓ ๗๔๖ ๙๐๙ ที่มา : https://data.bopp-obec.info/bigdata/person_report๓.php สรุปผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ๑. ผลการขับเคล ื่ อนโยบาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ขับเคลื่อนตามนโยบาย (สพฐ.) “การศึกษาขั้นพื้นฐาน วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ” มุ่งเน้นด้านความปลอดภัย ด้านโอกาส ด้านคุณภาพ และด้าน ประสิทธิภาพ ด้วยรูปแบบการพัฒนา “UDON๑” โมเดล กลยุทธ์ คือ การนิเทศแบบกัลยาณมิตร การจัดการ เรียนรู้อย่างมืออาชีพ การบริหารอย่างชาญฉลาด และกระบวนการเรียนรู้ที่ทันสมัย โดยกำหนดเป็นนโยบาย พัฒนาคุณภาพ ๑๙ นวัตกรรม วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ “เด็กอุดร ๑ เป็นที่ ๑” โดยใช้กลุ่มโรงเรียนเป็นฐาน โดยได้ ขับเคลื่อนโยบาย ดังนี้ ๑.๑ ด้านความปลอดภัย ดำเนินการขับเคลื่อนโยบาย สพฐ. D-M-H-T-T มาตรการของศูนย์บริหาร สถานการณ์โควิด-๑๙ และประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.อุดรธานี ผ่านระบบ Video Conference ,Facebook : @udn๑pesao, Zoom, Meet, Youtube เป็นต้น บูรณาการการทำงานร่วมกัน ระหว่างสถานศึกษา ศบค.จังหวัด โรงพยาบาลส่งเริมสุขภาพประจำตำบล ส่วนราชการท้องถิ่น ประสาน บุคลากรในสังกัดได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อไว้รัสโควิด๑๙ ผ่านแอพลิเคชั่น รพ.อุดรธานี และหมอพร้อม อีกทั้ง ดำเนินการป้องกันเพื่อลดการแพร่ระบาดโควิด ๑๙ ให้กับ ครู บุคลากร และนักเรียน เช่น งดการจัดการเรียน
๑๓ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ การสอนแบบ On-site โดยให้ดำเนินการจัดการเรียนการรู้แบบ On-air, On-demand, On-line, On-hand ตามบริบทพื้นที่ สถานศึกษาในสังกัดมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และการแนะแนวทุกโรงเรียน ร้อยละ ๑๐๐ และสามารถจัดการเรียนการสอน ให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความพร้อมสามารถรับมือกับภัย คุกคามทุกรูปแบบ ร้อยละ ๑๐๐ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด ๒๐๑๙ มีข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาติดเชื้อไวรัสโควิด ๒๐๑๙ จำนวน ๑๕๔ คน หายป่วย ๗๒ คน กำลังรักษา ๗๖ คน ติดเชื้อใหม่ ๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๐.๓๘ ของข้าราชการครูบุคลากรและนักเรียนทั้งหมด ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการ ฉุกเฉินเฝ้าระวังป้องกันเชื้อโรคติดต่อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๒๐๑๙) ข้อมูล ณ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๔ พัฒนาระบบออนไลน์ มาใช้ในการกำกับ ติดตาม การตรวจเยี่ยม การนิเทศก์ การประเมินต่างๆ การพัฒนา บุคลากร การสร้างห้องเรียนออนไลน์ Application ที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ออนไลน์ TIP & Technic อีกทั้ง ได้กำหนดนโยบายระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับการดูแลช่วยเหลือ กำหนดนโยบาย โรงเรียนสวยห้องเรียนงาม โดยมอบนโยบายให้ผู้บริหารโรงเรียนประสานหน่วยงานชุมชนฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรค ทำความสะอาดในอาคาร สถานที่และดำเนินการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการป้องกันภัยคุกคามทุกรูปแบบ และดำเนินการโครงการลูกเสือต้านยาเสพติดในโรงเรียน เป็นต้น ๑.๒ ด้านโอกาส การส่งเสริมสนับสนุนประชากรวัยเรียนที่มีอายุถึงเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้เข้า เรียน (ตาม ทร.๑๔) เข้าเรียนในสังกัด สพป.อด.๑ จำนวน ๕,๔๖๕ คน มุ่งเน้นให้เด็กทุกคนได้เข้าเรียนตาม เกณฑ์ เด็กปกติ เด็กพิเศษ ผู้ด้อยโอกาสได้รับโอกาสทางการศึกษา นักเรียนทุกคนได้เรียนจบตามหลักสูตร ได้เรียนต่อหรือมีงานทำ เข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถสร้างนวัตกรรม ของตนเอง ส่งเสริมและพัฒนาครูออนไลน์ในการพัฒนาการจัดการเรียนการรู้แบบ On-air, On-demand, On-line, On-hand ตามเนื้อหา สาระการเรียนรู้ และตัวชี้วัด ส่งเสริมให้ทุกโรงเรียนในสังกัดมีนวัตกรรม การเรียนการสอนเด็กอุดร ๑ เป็นที่ ๑ โดยสามารถรับชมได้ที่ https://first.udn๑.go.th/vtr/index.php ส่งเสริมให้มีการจัดการศึกษาโดยครอบครัว การจัดการศึกษาในสถานประกอบการ ศูนย์การเรียนรู้ การส่ง ต่อนักเรียนให้กับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย การส่งต่อไปศูนย์การศึกษาพิเศษ สนับสนุน การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการศึกษา สนับสนุนการสอนลูกเสือ ซึ่งเป็น นโยบายสำคัญของเขตพื้นที่ ๑.๓. ด้านคุณภาพ ได้ส่งเสริมให้สถานศึกษาทุกแห่งพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่สอดคล้องกับ สถานการการแพร่ระบาดโควิด ๑๙ พร้อมทั้งการขับเคลื่อนนโยบายวิถีใหม่ วิถีคุณภาพเด็กอุดร ๑ เป็นที่ ๑ โดยกำหนดนโยบาย ๑) การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ๒)การอ่านออกเขียนได้๓)การคิดคำนวณ ๔) ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ๕)คุณธรรม ๖)ส่งเสริมการอ่าน ๗) Active Learning ๘)การพัฒนาการจัดการ เรียนการสอนวิทยาการคำนวณ ๙)DLTV/DLIT ๑๐)การศึกษาเรียนรวม ๑๑)หลักสูตรสถานศึกษาทันสมัย ๑๒) ประกันคุณภาพการศึกษา ๑๓)เศรษฐกิจพอเพียง ๑๔)ปฐมวัย และ๑๕)ลูกเสือ อีกทั้งพัฒนาบุคลากรผ่านระบบ ออนไลน์ในการจัดการเรียนการสอนตามนโยบายของ สพฐ. ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ สนับสนุนการสร้างและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน ให้คำแนะนำในการประเมิน คุณภาพภายนอก ภายใต้สถานการณ์ COVID-๑๙
๑๔ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๑.๔. ด้านประสิทธิภาพ ได้ขับเคลื่อนด้วยนโยบายระบบบริหารจัดการโดยใช้กลุ่มโรงเรียนเป็นฐาน/ รูปแบบการเลื่อนเงินเดือน ขับเคลื่อนโดยใช้นวัตกรรม พัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศให้ถูกต้อง ทันสมัย เน้นการมีส่วนร่วม ส่งเสริมพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ (Stand Alone) เพิ่มประสิทธิภาพการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการศึกษาโดยใช้ระบบออนไลน์ บริหารจัดการโดย ใช้กลุ่มพื้นที่การบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำเขตตรวจราชการที่ ๑๐ สังกัด สพฐ. ปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอุดรธานี ดำเนินงานกรอบการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดำเนินงาน (ITA Online) ดำเนินการโอนเงินช่วยเหลือบรรเทาค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษานักเรียน คนละ ๒,๐๐๐ บาท ครบทุกโรงเรียน โดยทุกโรงเรียนดำเนินการแล้วเสร็จตามวันเวลาที่กำหนด สำนักงานเขต และสถานศึกษาในสังกัด มีแผนพัฒนาการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ อย่างมีประสิทธิภาพตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด พัฒนาระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ให้ มีประสิทธิภาพ และพัฒนาระบบการให้บริการแก่ผู้รับบริการอย่างต่อเนื่อง ๒. ผลงานที่ประสบผลสำเร็จ ๒.๑ ด้านความปลอดภัย มีโรงเรียนในสังกัด (๑) ผ่านการประเมินด้านความปลอดภัย Thai Stop Covid ร้อยละ ๑๐๐ (๒) รางวัลเกียรติบัตรดีเด่นสถานศึกษาปลอดภัย ประจำปี ๒๕๖๔ จำนวน ๓ โรงเรียน (๓) รางวัลทรงคุณค่า สพฐ. (OBEC AWARDS) ชนะเลิศเหรียญทอง ศึกษานิเทศก์ยอดเยี่ยมผู้ปฏิบัติงานด้าน การช่วยเหลือนักเรียน ๑ รางวัล (๔) ข้าราชครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ คิดเป็นร้อยละ ๗๓ ของครูและบุคลากรทั้งหมด (๓๐ ก.ย.๖๔) ๒.๒ ด้านโอกาส มีโรงเรียนในสังกัด (๑) จัดการเรียนการรู้แบบ On-air, On-demand, On-line, On-hand โดยผสมผสานการเรียนรู้ตามเนื้อหา สาระการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ร้อยละ ๑๐๐ (๒) มีนวัตกรรมการ เรียนการสอนเด็กอุดร ๑ เป็นที่ ๑ ทุกโรงเรียนรับชมได้ที่https://first.udn๑.go.th/vtr/index.php (๓) ส่งเสริมให้มีการจัดการศึกษาโดยครอบครัว จำนวน ๘ ครอบครัว (๔) การจัดการศึกษาในสถานประกอบการ ๑ ศูนย์การเรียนรู้ (๕) ประชากรวัยเรียนที่มีอายุถึงเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้เข้ารับการศึกษา (ตาม ทร.๑๔) สังกัด สพป.อด.๑ จำนวน ๕,๔๖๕ คน (๖) รางวัลทรงคุณค่า สพฐ. (OBEC AWARDS) รองชนะเลิศอันดับ ๑ ครูผู้สอนยอดเยี่ยมการศึกษาพิเศษเรียนร่วม ๑ รางวัล (๗) ผ่านการประเมินศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ด้านการศึกษา จำนวน ๒ โรงเรียน ๒.๓ ด้านคุณภาพ ผลการดำเนินการด้านคุณภาพการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ เป็นดังนี้ (๑) รางวัลทรงคุณค่า สพฐ. (OBEC AWARDS) ชนะเลิศประเภท ศึกษานิเทศก์ ๒ รางวัล ชนะเลิศเหรียญทอง ประเภทลูกจ้างยอดเยี่ยม ๑ รางวัล รองชนะเลิศอันดับ ๑ เหรียญ ทอง ประเภทครูผู้สอน ๒ รางวัล รองชนะเลิศอันดับ ๒ เหรียญทอง ประเภทครูผู้สอน ๑ รางวัล ๒) โรงเรียน ในสังกัดได้รับการรับรองผลการประเมินคุณภาพภายนอก ภายใต้สถานการณ์ COVID-๑๙ จำนวน ๑๖ โรงเรียน (๓) ผ่านการประเมินบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย จำนวน ๕๖ โรงเรียน (๔) รางวัล “คุรุสดุดี ปี ๖๔” ๕ รางวัล (๕) โรงเรียนต้นแบบลูกเสือ สพฐ. ๑ โรงเรียน (๖) ผู้บังคับบัญชาลูกเสือดีเด่น ๘
๑๕ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ รางวัล (๗) ครูดีในดวงใจ สพฐ. ครั้งที่ ๑๘ พ.ศ.๒๕๖๔ ๑ รางวัล (๘) ครูผู้สอนสวดมนต์หมู่ สรภัญญะ คณะสงฆ์ภาคแปด ๑ รางวัล ๒.๓.๑ ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ด้านความสามารถด้านคณิตศาสตร์ และ ความสามารถด้านภาษาไทย ซึ่งแสดงผลได้ดังตารางที่ ๖ ตารางที่ ๖ คะแนนเฉลี่ยของผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ๒๕๖๓ ๒.๒.๓.๒ ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๖ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ รายละเอียดดังตารางที่ ๗ - ๙
๑๖ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ตารางที่ ๗ เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยของผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ กับ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ตารางที่ ๘ เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ กับ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
๑๗ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ตารางที่ ๙ ผลการทอดสอบที่นักเรียนคะแนนเต็ม ๑๐๐ ที่มา : สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน), ๒๕๖๖ ๒.๓.๓ ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (RT) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ รายละเอียดดังตารางที่ ๑๐ ตาราง ๑๐ คะแนนเฉลี่ยของผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (RT) ของสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
๑๘ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๒.๔ ด้านประสิทธิภาพ ๒.๔.๑ การจัดให้สถานศึกษานำเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) มาใช้เป็นเครื่องมือ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๒๐๑๙) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครบทุกโรงเรียนคิดเป็น ร้อยละ ๑๐๐ ๒.๔.๒ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) มาใช้ในการ บริหารจัดการและตัดสินใจ ทั้งระบบ และสถานศึกษาใช้ระบบการรับส่งติดต่อราชการทุกโรงเรียนผ่านระบบ AMSS คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ๒.๔.๓ ผลการประเมินประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) ปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ร้อยละ ๙๑.๓๐ อยู่ในระดับ A เพิ่มขึ้น +๑๐.๔๑ ๒.๔.๔ การจัดให้สถานศึกษาทุกแห่งมีระบบข้อมูลสารสนเทศที่สามารถใช้ในการวางแผนการจัด การศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ ๑๐๐ ๒.๔.๕ ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้รับบริการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ( = ๔.๒๔) ๒.๔.๖ รางวัลโรงเรียนพระราชทาน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ ประเภทโรงเรียนขนาดใหญ่ จำนวน ๑ โรงเรียน กฎหมาย ยุทธศาสตร์ แผนสำคัญที่เกี่ยวข้อง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน เป็นองค์กรที่มีภารกิจสำคัญในส่งเสริมการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินการวิเคราะห์ความ สอดคล้องเชื่อมโยงกับทิศทางการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน และมีหน้าที่ส่วนหนึ่งในการจัดทำข้อเสนอนโยบาย แผนพัฒนาการศึกษา ให้เป็นไปตาม นโยบายและมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้จัดทำแผนพัฒนาการศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๕ - ๒๕๖๘) ขึ้น เพื่อใช้เป็นกรอบทิศทางในการดำเนินงานของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เชื่อมโยง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐) แผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา (ฉบับปรับปรุง) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ แผนปฏิบัติราชการระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๖๕) กระทรวงศึกษาธิการ แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕) นโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕ และนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕ รวมทั้ง ใช้เป็นแนวทางในการกำกับ ติดตาม ประเมินผลการศึกษา แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต๑ (พ.ศ.๒๕๖๕ - ๒๕๖๗) จึงจำเป็นต้องพิจารณากฎหมาย ระเบียบ นโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผน ที่เกี่ยวข้องหลายประการ รวมถึงการพิจารณาผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
๑๙ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ในปัจจุบัน ทั้งแนวโน้มการเข้ารับบริการ ผลการดำเนินงานจากการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายและ แผนปฏิบัติราชการ รวมถึงการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมปัจจุบันของหน่วยงาน ซึ่งจะนำเสนอตามหัวข้อ ดังต่อไปนี้ นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ - ๒๕๖๖ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตระหนักถึงนโยบายด้านการศึกษา ซึ่งถือเป็นส่วน สำคัญยิ่งในการพัฒนาประเทศให้บรรลุเป้าหมายอย่างยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในทุกด้าน ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเกิดผลสัมฤทธิ์และสอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะกิจกรรมปฏิรูป ประเทศที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ (Big Rock) ที่มีความสำคัญเร่งด่วน และสามารถดำเนินการและวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรมในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๖ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ๑) การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา ตั้งแต่ระดับปฐมวัย ๒) การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะ เพื่อตอบสนองการ เปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ ๒๑และ ๓) การสร้างระบบการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มี คุณภาพ จึงกำหนดนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๖ ดังนี้ ๑. ด้านความปลอดภัย พัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา จากภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะ ที่ดีสามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ ๒. ด้านโอกาส ๒.๑ สนับสนุน ให้เด็กปฐมวัยได้เข้าเรียนทุกคน มีพัฒนาการที่ดี ทั้งทางร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์สังคม และสติปัญญา ให้สมกับวัย ๒.๒ ดำเนินการ ให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน อย่างมีคุณภาพ ตามมาตรฐาน วางรากฐานการศึกษาเพื่ออาชีพ สามารถวิเคราะห์ตนเองเพื่อการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ ตรงตามศักยภาพและความถนัดของตนเอง รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษสู่ความ เป็นเลิศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ๒.๓ พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่อยู่ในการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้ ออกจากระบบการศึกษา รวมทั้งช่วยเหลือเด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคันให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่าง เท่าเทียมกัน ๒.๔ ส่งเสริมให้เด็กพิการและผู้ด้อยโอกาส ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ มีทักษะ ในการดำเนินชีวิต มีพื้นฐานในการประกอบอาชีพ พึ่งตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง
๒๐ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๓. ด้านคุณภาพ ๓.๑ ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะการเรียนรู้และทักษะที่จำเป็นของโลก ในศตวรรษที่ ๒๑ อย่างครบถ้วน เป็นคนดี มีวินัย มีความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ๓.๒ พัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ การคิดขั้นสูง นวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดิจิทัล และภาษาต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการ เลือกศึกษาต่อเพื่อการมีงานทำ ๓.๓ ปรับหลักสูตรเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ที่เน้นการพัฒนาสมรรถนะหลักที่จำเป็นในแต่ละ ระดับ จัดกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง รวมทั้งส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่สร้างสมดุลทุกด้าน ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาพหุปัญญา พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลผู้เรียนทุกระดับ ๓.๔ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นครูยุคใหม่ มีศักยภาพในการจัดการเรียนการ สอนตามหลักสูตรฐานสมรรถนะ มีทักษะในการปฏิบัติหน้าที่ได้ดี มีความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ดิจิทัลมีการพัฒนาตนเองทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีจิตวิญญาณความเป็นครู ๔. ด้านประสิทธิภาพ ๔.๑ พัฒนาระบบบริหารจัดการโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน มีนวัตกรรมเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน บนฐานข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้อง ทันสมัย และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ๔.๒ พัฒนาโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง โรงเรียนคุณภาพของชุมชน โรงเรียนขนาดเล็ก และ โรงเรียนที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ (Stand Alone) ให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับบริบท ของพื้นที่ ๔.๓ บริหารจัดการโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ที่มีจำนวนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ น้อยกว่า ๒๐ คน ให้ได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบายโรงเรียนคุณภาพของชุมชน ๔.๔ ส่งเสริมการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพในสถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ และสถานศึกษา ที่ตั้งในพื้นที่ลักษณะพิเศษ ๔.๕ สนับสนุนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาให้เป็นต้นแบบการพัฒนานวัตกรรมการศึกษาและการ เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๔.๖ เพิ่มประสิทธิภาพการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๒๑ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ นโยบายเร่งด่วน สพฐ. QUICK POLICY ๒๕๖๖
๒๒ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ส่วนที่ ๓ ทิศทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (SWOT Analysis) จากการสำรวจของกลุ่มนโยบายและแผน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ที่มีความคิดเห็นต่อการส่งเสริมและจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในปัจจุบัน โดยสอบถามจาก ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำแนกตามขนาดโรงเรียน เล็ก กลาง ใหญ่ ทั้ง ๑๙ กลุ่มโรงเรียน และบุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั้ง ๑๐ กลุ่ม สามารถสรุปได้ดังนี้ จุดแข็ง (Strength) ๑. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ มีนโยบายและเป้าหมายที่ชัดเจน ๒. การบริหารจัดการ การประสานงานโดยใช้กลุ่มโรงเรียนมีความเข้มแข็ง คล่องตัว รวดเร็ว ๓. มีนโยบายการส่งเสริมสนับสนุนด้านการใช้เทคโนโลยีในการจัดการศึกษาและการบริหารจัดการ ๔. หน่วยงานส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรทางการศึกษาได้รับการฝึกอบรมพัฒนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ๕. ผลการติดตามและประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาออนไลน์ (Integrity and Transparency Assessment Online : ITA Online) ประจำปี งบประมาณพ.ศ. ๒๕๖๕ ผลคือ ผ่าน ได้ระดับคุณภาพ A++ คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ๙๑.๓๐ อันดับที่ ๑๖๐ (๒๒๕ เขต) เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ (ร้อยละ ๘๐.๘๙) ร้อยละ +๑๐.๔๑ ๖. ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ บริหารจัดการได้อย่างมี ประสิทธิภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม มีภาวะผู้นำ บริหารงานเชิงกลยุทธ์ มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน มีการกำหนด แนวทางการพัฒนาองค์กรคุณภาพเพื่อนำสู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศภายใต้กรอบแนวคิด “UDON๑ MODEL” U : Understanding การสร้างความเข้าใจ D : Development การพัฒนา O : Operation การปฏิบัติN : Network การสร้างเครือข่าย ๑ : Number One เป็นที่ ๑” จุดอ่อน (Weakness) ๑. การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-๒๐๑๙) ส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอน ทั้งครูและนักเรียน ๒. การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-๒๐๑๙) ส่งผลกระทบต่อการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา ๓. นโยบายกำหนดโดยส่วนกลาง ขาดความต่อเนื่อง บางครั้งไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหาความ ต้องการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา ๔. โอกาสการเข้าถึงสื่อ เทคโนโลยีทางการศึกษาตามสภาพบริบทพื้นที่มีความแตกต่างกัน อีกทั้งระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในบางพื้นที่ไม่พร้อมใช้ในการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์
๒๓ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๕. ผลกระทบด้านงบประมาณการจัดการศึกษาจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID๒๐๑๙) โอกาส (Opportunity) ๑. มีเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษาที่หลากหลาย พร้อมให้การสนับสนุนการจัดการศึกษา และการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา ๒. โอกาสการเข้าถึงและการใช้สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนมีความหลากหลาย ๓. การสนับสนุนจากหน่วยงานภายในพื้นที่ในด้านงบประมาณ ด้านสุขภาพ ด้านความปลอดภัย ทั้งจากสังกัดส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น สาธารณสุข ฯลฯ อุปสรรค (Threat) ๑. ผู้ปกครองได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-๒๐๑๙) ทั้งการ ดำรงชีวิต ค่าครองชีพ และด้านอื่นๆ ๒. สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-๒๐๑๙) ยังคงต่อเนื่อง ทำให้เกิดอุปสรรค ในการบริหารจัดการ ตลอดจนการจัดการเรียนการสอนส่งผลให้ขาดความต่อเนื่อง จากข้อมูลและผลการดำเนินการที่กล่าวมา เพื่อให้การดำเนินงานจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนได้รับโอกาสที่ได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับทิศทางในการพัฒนาประเทศ ทั้งยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ นโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา และแผนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ต่อไป ทิศทางการพัฒนาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นการศึกษาเพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศให้ผู้เรียนมีโอกาส ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง และมีคุณภาพตามมาตรฐาน มีทักษะที่จำเป็น สามารถแก้ปัญหา ปรับตัว สื่อสาร และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิผล มีวินัย มีนิสัยใฝ่การเรียนรู้ และเป็นพลเมืองที่รู้ สิทธิและหน้าที่ มีความรับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ มีความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานของรัฐที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้กำหนดทิศทางในการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ - ๒๕๖๘ ซึ่งประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์และแนวทางดังนี้ วิสัยทัศน์ “สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ เด็กอุดร ๑ เป็นที่ ๑” พันธกิจ ๑. จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ ภายใต้การปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
๒๔ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๒. จัดการศึกษาให้ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา ได้รับความปลอดภัยจากภัย พิบัติ ภัยคุกคามทุกรูปแบบ เพื่อรองรับวิถีชีวิตใหม่ ๓. พัฒนาศักยภาพและคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตรและคุณลักษณะในศตวรรษที่ ๒๑ ๔. พัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถและมีความเป็นเลิศทางวิชาการ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการ แข่งขัน ๕. สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับบริการทางการศึกษาอย่าง ทั่วถึงและเท่าเทียม ๖. พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นมืออาชีพ มีสมรรถนะด้านภาษาและการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล ๗. จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ๘. พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาทุกระดับ และจัดการศึกษา โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) เป้าประสงค์ ๑. ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดมั่นการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและหน้าที่อย่างมี ความรับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ มีความรักและความภูมิใจในความเป็นไทย ๒. ผู้เรียนทุกช่วงวัยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ตามมาตรฐานสอดคล้อง กับศักยภาพ ให้เป็นผู้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถวางแผนใน การศึกษาต่อเพื่อการมีงานทำ และสามารถปรับตัวในการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ๓. ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา ได้รับการดูแลความปลอดภัยจากภัยพิบัติ และภัยคุกคามทุกรูปแบบ สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ำ และรองรับวิถีชีวิตใหม่รวมถึงการจัด สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี ๔. ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีสมรรถนะ ความรู้ความ เชี่ยวชาญ และจรรยาบรรณตามมาตรฐานวิชาชีพ ๕. สถานศึกษาจัดการศึกษาเพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) และสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาครูให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เชื่อมโยงนโยบายด้านดิจิทัลของ กระทรวงศึกษาธิการ และนโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์ ๖. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษามีสมดุลใน การบริหารจัดการเชิงบูรณาการ มีการกำกับ ติดตาม ประเมินผล มีระบบข้อมูลสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ และการรายงานผลอย่างเป็นระบบใช้งานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษา
๒๕ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ กลยุทธ์ กลยุทธ์ที่ ๑ พัฒนาระบบการจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัย (ด้านความปลอดภัย) พัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาและ สถานศึกษา จากภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ แนวทางการพัฒนา ๑. สร้างความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจแก่ครู บุคลากรทางการศึกษา ให้สามารถวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ความเสี่ยง และดำเนินการตามแนวทางในการจัดการภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ ให้สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ รองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ๒. ส่งเสริมการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ รู้จักวิธีการป้องกันและแก้ไข เกี่ยวกับภัย คุกคาม ภัยจากยาเสพติดความรุนแรง การคุกคามในชีวิตและทรัพย์สิน การค้ามนุษย์อาชญากรรมไซเบอร์ ภัย พิบัติและภาวะฉุกเฉิน โรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ ตลอดจนพฤติกรรมที่พึงประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ๓. พัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งเสริมสร้างทักษะชีวิตและทักษะอาชีพให้แก่ผู้เรียน เพื่อรองรับ ภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ โรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ ๔. ส่งเสริม พัฒนาทักษะด้านดิจิทัลและด้านการเรียนรู้ด้วยตัวเองที่นำไปสู่ Digital Life & Learning รวมถึงความพร้อมของครูผู้สอนในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์เพื่อความปลอดภัยเมื่อต้อง เผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติและภัยคุกคาม ๕. ส่งเสริมให้มีการจัดสภาพแวดล้อม และสร้างระบบนิเวศน์การเรียนรู้ ที่ปลอดภัยใน สถานศึกษา ให้ผู้เรียนมีความปลอดภัยมีความอบอุ่น และมีความสุขในสถานศึกษา ๖. เสริมสร้างแนวทางการป้องกันและแก้ปัญหาจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ ได้อย่างทันท่วงที เช่น ภัยคุกคามทางไซเบอร์การแสดงออกที่ไม่เหมาะสม พฤติกรรมกลั่นแกล้งรังแกผู้อื่น (Bully) ความรุนแรงใน สถานศึกษา การล่วงละเมิดทางเพศและยาเสพติด โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย ๗. พัฒนาระบบและรูปแบบการป้องกันภัยทุกรูปแบบ รวมทั้งเสริมสร้างสวัสดิการให้ครู และ บุคลากรทางการศึกษามีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน กลยุทธ์ที่ ๒ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา (ด้านโอกาส) เด็กปฐมวัยได้เข้าเรียนทุกคน มีพัฒนาการสมวัย ประชากรวัยเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับ โอกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาคจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษได้รับการ ส่งเสริมและพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ เด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะออกจากระบบการศึกษา เด็กตกหล่น และเด็กออก กลางคัน ได้รับการช่วยเหลือ ให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เด็กพิการและผู้ด้อยโอกาส ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ
๒๖ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ แนวทางการพัฒนา ๑. สนับสนุน ให้เด็กปฐมวัยได้เข้าเรียนทุกคน มีพัฒนาการที่ดี ทั้งทางร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ให้สมกับวัย ๒. ดำเนินการให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน อย่างมีคุณภาพตาม มาตรฐาน วางรากฐานการศึกษาเพื่ออาชีพ สามารถวิเคราะห์ตนเองเพื่อการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพตรง ตามศักยภาพและความถนัดของตนเอง รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษสู่ความเป็นเลิศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ๓. พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่อยู่ในการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้ออก จากระบบการศึกษา รวมทั้งช่วยเหลือเด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคันให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเท่า เทียมกัน ๔. ส่งเสริมให้เด็กพิการและผู้ด้อยโอกาส ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพมีทักษะในการ ดำเนินชีวิต มีพื้นฐานในการประกอบอาชีพ พึ่งตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง กลยุทธ์ที่ ๓ ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับศตวรรษที่ ๒๑ (ด้านคุณภาพ) ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะการเรียนรู้และทักษะที่จำเป็นของโลกใน ศตวรรษที่ ๒๑ อย่างครบถ้วนเป็นคนดี มีวินัย มีความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สู่การปฏิบัติพัฒนาผู้เรียนตามแนวทางพหุปัญญา (Multiple Intelligences) พัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะด้านการอ่าน คณิตศาสตร์การคิดขั้นสูง นวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดิจิทัลและาษาต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชื่อมโยงสู่ อาชีพและการมีงานทำ มีทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ส่งเสริม พัฒนาทักษะด้าน ดิจิทัลและด้านการเรียนรู้ของผู้เรียนที่นำไปสู่ Digital Life & Learning พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะ มีความรู้ความสามารถ ในการสร้างสรรค์ และใช้เทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงมีความรู้และทักษะในสังคมยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) มีแรงจูงใจในความ เป็นครูมืออาชีพ แนวทางการพัฒนา ๑. ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะการเรียนรู้และทักษะที่จำเป็นของโลกใน ศตวรรษที่ ๒๑ อย่างครบถ้วน เป็นคนดี มีวินัย มีความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ๒. พัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ การคิดขั้นสูง นวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดิจิตัล และภาษาต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการ เลือกศึกษาต่อเพื่อการมีงานทำ
๒๗ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๓. ปรับหลักสูตรเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ที่เน้นการพัฒนาสมรรถนะหลักที่จำเป็นในแต่ละ ระดับ จัดกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง รวมทั้งส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่สร้างสมดุลทุกด้าน ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาพหุปัญญา พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลผู้เรียนทุกระดับ ๔. พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นครูยุคใหม่ มีศักยภาพในการจัดการเรียนการสอน ตามหลักสูตรฐานสมรรถะ มีทักษะในการปฏิบัติหน้าที่ได้ดี มีความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมี การพัฒนาตนเองทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีจิตวิญญาณความเป็นครู กลยุทธ์ที่ ๔ การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา (ด้านประสิทธิภาพ) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษามีการนำระบบข้อมูลสารสนเทศ และเทคโนโลยีดิจิทัลมา ใช้ในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ มีความคล่องตัวและเอื้อต่อการบริหารและการจัดการศึกษา มีการ พัฒนาระบบการบริหารจัดการและการมีส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับบริบท แนวทางการพัฒนา ๑. พัฒนาระบบบริหารจัดการโดยใช้กลุ่มโรงเรียนเป็นฐาน มีนวัตกรรมเป็นกลไกหลักในการ ขับเคลื่อนบนฐานข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้อง ทันสมัย และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ๒. ส่งเสริม การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพทุกระดับ ๓. สนับสนุนการจัดทำมาตรฐานสำหรับโรงเรียนที่สามารถดำเนินการจัดการเรียนการสอนได้ อย่างมีคุณภาพ ๔. บริหารจัดการโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสรับการศึกษาที่มี คุณภาพ ๕. พัฒนาระบบประกันคุณภาพสถานศึกษา และส่งเสริมให้สถานศึกษามีความเข้มแข็งในระบบ ประกันคุณภาพ ๖. สนับสนุนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาให้เป็นต้นแบบการพัฒนานวัตกรรมการศึกษาและการเพิ่ม ความคล่องตัวในการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๗. เพิ่มประสิทธิภาพการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ๘. บริหารอัตรากำลังในสถานศึกษา เพื่อลดภาระงานอื่นของครูที่ไม่ใช่การสอน และบริหาร อัตรากำลังในสำนักงานทุกระดับให้สอดคล้องกับภารกิจ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ๙. พัฒนาระบบการประเมิน คุณธรรมและความโปร่งใส ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) โดยให้บุคลากรในหน่วยงานทุกระดับ นำหลักธรรมาภิบาลไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมอย่างมี ประสิทธิภาพและต่อเนื่อง
๒๘ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ทิศทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ขับเคลื่อน โดยใช้ UDON ๑ Model ภสยใต้นโยบาย “วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ เด็กอุดร ๑ เป็นที่ ๑ ใช้กลุ่มโรงเรียนเป็น ฐานใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อน” UDON ๑ U Unity = ความเป็นเอกภาพ D Democracy = ประชาธิปไตย O Organization = องค์กรมีการจัดการอย่างเป็นระบบ N Network = เครือข่ายการมีส่วนร่วม ๑ One = ผลงานเป็นเลิศ มีกระบวนการขับเคลื่อนโดยใช้ UDON ๑ Model ดังนี้ ๕.ยุทธศาสตร์ (Strategy) ยุทธศาสตร์ที่ ๑ ด้านการจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง ยุทธศาสตร์ที่ ๒ ด้านการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและส่งเสริมการจัดการศึกษา เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์ที่ ๓ ด้านการส่งเสริมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ยุทธศาสตร์ที่ ๔ ด้านโอกาสความเสมอภาคและความเท่าเทียมการเข้าถึงบริการทางการศึกษา ยุทธศาสตร์ที่ ๕ ด้านการจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
๒๙ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ยุทธศาสตร์ที่ ๖ ด้านการพัฒนาระบบบริหารจัดการและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษา ๖.จุดเน้น (Focus) ดำเนินงานตาม ๙ จุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ยกเว้น จุดเน้นที่ ๗ เนื่องจากไม่มีโรงเรียนแบบพักนอน จุดเน้นที่ ๑ เร่งแก้ปัญหากลุ่มผู้เรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด๑๙ โดย เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา ฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss Recovery) ให้กับผู้เรียนทุกระดับ รวมทั้งลดความเครียดและสุขภาพจิตของผู้เรียน จุดเน้นที่ ๒ เสริมสร้างระบบและกลไกในการดูแล ความปลอดภัยนักเรียน ด้วยระบบมาตรฐานความ ปลอดภัยกระทรวงศึกษาธิการ (MOE Safety Platform) จุดเน้นที่ ๓ ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุ ๓ - ๖ ปี และผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้าถึง โอกาสทางการศึกษา และป้องกันการหลุดออกจากระบบ รวมทั้งช่วยเหลือเด็กตกหล่น เด็กออกกลางคัน และ เด็กพิการ ที่ค้นพบจากการ ปักหมุดบ้านเด็กพิการ ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา จุดเน้นที่ ๔ พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะ และการจัดทำกรอบหลักสูตร รวมทั้งจัด กระบวนการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ให้เหมาะสมตามวัยของผู้เรียน จุดเน้นที่ ๕ จัดการอบรมครูโดยใช้พื้นที่เป็นฐานควบคู่กับการให้ความรู้ด้านการวางแผนและการสร้าง วินัย ด้านการเงินและการออม เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครู จุดเน้นที่ ๖ ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ ผ่านกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม และมี ปฏิสัมพันธ์ กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ ที่หลากหลายรูปแบบ (Active Learning) มีการวัดและ ประเมินผล เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for learning) เพื่อให้เกิดสมรรถนะกับผู้เรียนทุก ระดับ จุดเน้นที่ ๗ ยกระดับคุณภาพของนักเรียนประจำพักนอน สำหรับโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่สูง ห่างไกล และถิ่นทุรกันดาร (ไม่มีโรงเรียนในสังกัด) จุดเน้นที่ ๘ มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ทุกระดับ จุดเน้นที่ ๙ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา โดยการกระจายอำนาจและใช้พื้นที่เป็นฐาน เพื่อสร้างความเข้มแข็ง โดยการจัดสรรกรอบวงเงินงบประมาณ (Block Grant) ตามหลักธรรมาภิบาล ให้กับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา ๗.จุดเน้นเร่งด่วน ( Quickwin) ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ จุดเน้นที่ ๑ เร่งแก้ปัญหากลุ่มผู้เรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด๑๙ โดย เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา ฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss Recovery) ให้กับผู้เรียนทุกระดับ รวมทั้งลดความเครียดและสุขภาพจิตของผู้เรียน จุดเน้นที่ ๒ เสริมสร้างระบบและกลไกในการดูแล ความปลอดภัยนักเรียน ด้วยระบบมาตรฐานความ ปลอดภัยกระทรวงศึกษาธิการ (MOE Safety Platform) จุดเน้นที่ ๓ การขับเคลื่อนโรงเรียนคุณภาพระดับประถมศึกษา โดยใช้กลุ่มโรงเรียนเป็นฐาน
๓๐ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ จุดเน้นที่ ๔ มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ทุกระดับ ๘.นโยบายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ดำเนิน นโยบายเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม “วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ เด็กอุดร ๑ เป็นที่ ๑ ใช้กลุ่มโรงเรียนเป็นฐาน ใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อน” จำนวน ๑๕ + ๑ นโยบาย ใน ๓ มิติ ซึ่งสอดคล้องกับ ตัวชี้วัด คุณภาพผู้เรียน คุณภาพครู คุณภาพผู้บริหาร คุณภาพหลักสูตรการจัดการเรียนการสอน แลคุณภาพการมีส่วนร่วมดังนี้ ดังนี้ มิติด้านผู้เรียน (คุณภาพผู้เรียน) ๑. การพัฒนาเด็กปฐมวัย ๒. เด็กอุดร ๑ อ่านออกเขียนได้ทุกคน ๓. การคิดคำนวณ ๔. การส่งเสริมการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ๕. การส่งเสริมและพัฒนาลูกเสือในสถานศึกษา ๖. การพัฒนาโรงเรียนคุณธรรม ๗. ๑ ดนตรี ๑ กีฬา ๑ อาชีพ มิติด้านการจัดการเรียนการสอน (คุณภาพครู) ๘. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ๙. การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มิติด้านบริหารจัดการ (คูณภาพผู้บริหาร) ๑๐. การประกันคุณภาพการศึกษา ๑๑. หลักสูตรสถานศึกษาที่ทันสมัย ๑๒. ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความปลอดภัยในสถานศึกษา ๑๓. การจัดการเรียนการสอนเด็กพิเศษเรียนรวมอย่างมีคุณภาพ ๑๔. เศรษฐกิจพอเพียง ๑๕. โรงเรียนสวยห้องเรียนงาม ๑๖. การบริหารกลุ่มโรงเรียน (คุณภาพด้านการมีส่วนร่วม)
๓๑ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ความเชื่อมโยงของมิติของ สพฐ. กับ มิติของ สพป.อด.๑ นโยบายและตัวชี้วัด มิติของ สพฐ. มิติของ สพป. ชื่อนโยบาย สพป.อด.๑ ตัวชี้วัด คุณภาพ ผู้เรียน ด้าน ผู้เรียน ๑. การพัฒนา เด็กปฐมวัย ๑. เด็กปฐมวัยได้รับการพัฒนาทุกด้านอย่างเต็มตามศักยภาพ ร้อยละ ๑๐๐ ๕. โรงเรียนในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยผ่านการประเมินเพื่อ รับตราพระราชทาน บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ร้อยละ ๑๐๐ คุณภาพ ผู้เรียน ด้าน ผู้เรียน ๒. เด็กอุดร ๑ อ่านออก เขียน ได้ทุกคน ๑. นักเรียนชั้น ป.๑ อ่าน เขียนคำพื้นฐานได้ ร้อยละ ๑๐๐ ๒. นักเรียนชั้น ป.๒ - ป.๓ อ่านออกเขียนได้ประโยคและข้อความสั้น นิทาน บทความได้ ร้อยละ ๑๐๐ ๓. นักเรียนชั้น ป.๔ – ป.๖ อ่านคล่อง เขียนคล่องและสื่อสารได้ ร้อยละ ๑๐๐ ๔. นักเรียน ป.๑ – ป.๖ ที่มีผลการอ่านการเขียนในระดับปรับปรุง มี พัฒนาการเพิ่มขึ้นในระดับดี ร้อยละ ๖๐ คุณภาพ ผู้เรียน ด้าน ผู้เรียน ๓.การคิด คำนวณ ๑. นักเรียนมีทักษะด้านการคิดคำนวณได้อย่าง ถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำ ด้วยวิธีที่หลากหลาย เหมาะสมตามระดับชั้น ร้อยละ ๘๐ ๒. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ได้ระดับดีขึ้นไป ร้อยละ ๖๐ คุณภาพ ผู้เรียน ด้าน ผู้เรียน ๔.การส่งเสริม การใช้ ภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสาร ๑. นักเรียนมีทักษะด้านสื่อสารภาษาอังกฤษ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันได้ อย่างเหมาะสมทุกระดับชั้น ระดับดีร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษได้ระดับดีขึ้นไป ร้อยละ ๖๐ คุณภาพ ผู้เรียน ด้าน ผู้เรียน ๕.การส่งเสริม และพัฒนา ลูกเสือใน สถานศึกษา ๑. นักเรียนได้รับการจัดการเรียนการสอนด้วยทักษะกระบวนการ ลูกเสือ ร้อยละ ๑๐๐ ๒. นักเรียนได้ทดสอบวิชาพิเศษและได้ชุมนุมลูกเสือตามประเภท ของตน ร้อยละ ๑๐๐ คุณภาพ ผู้เรียน ด้าน ผู้เรียน ๖. การพัฒนา โรงเรียน คุณธรรม ๑.โรงเรียนผ่านการประเมินมาตรฐานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับ ๑ ดาว ร้อยละ ๑๐๐ ๒.โรงเรียนผ่านการประเมินมาตรฐานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับ ๒ ดาว ร้อยละ ๑๐๐ ๓.โรงเรียนผ่านการประเมินมาตรฐานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับ ๓ ดาว ร้อยละ ๒๐
๓๒ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ความเชื่อมโยงของมิติของ สพฐ. กับ มิติของ สพป.อด.๑ นโยบายและตัวชี้วัด (ต่อ) มิติของ สพฐ. มิติของ สพป. ชื่อนโยบาย สพป.อด.๑ ตัวชี้วัด คุณภาพ ผู้เรียน ด้าน ผู้เรียน ๗. ๑ ดนตรี ๑ กีฬา ๑ อาชีพ ๑. นักเรียนทุกคนมีศักยภาพด้านดนตรี กีฬาและอาชีพหรือ ด้านใดด้านหนึ่ง (ร้อยละ ๑๐๐) ๒. โรงเรียนทุกโรงมีการส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถด้าน ดนตรี กีฬาและอาชีพหรือด้านใดด้านหนึ่ง คุณภาพครู/ ผู้บริหาร ด้านการ จัดการ เรียนการ สอน ๘. การจัดการ เรียนรู้แบบ Active Learning ๑. ครูทุกคนมีนวัตกรรมที่เกิดจากการจัดการเรียนรู้ ที่ส่งเสริม การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ร้อยละ ๗๐ ๒. ครูทุกคนจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ร้อยละ ๘๐ ๓. PLC ร้อยละ ๑๐๐ ของครู คุณภาพ ผู้เรียน ด้าน ผู้เรียน ๙. การยกระดับ ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ๑. ครูมีวิธีปฏิบัติที่ดีในการขับเคลื่อนการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ร้อยละ ๘๐ ๒. โรงเรียนอย่างน้อยร้อยละ ๘๐ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ ๓ คุณภาพครู/ ผู้บริหาร ด้าน บริหาร จัดการ ๑๐. การ ประกันคุณภาพ การศึกษา ๑. ร้อยละ ๑๐๐ ของโรงเรียนมีความพร้อมรับการประเมิน คุณภาพภายนอกจากสมศ. ๒. โรงเรียนที่รับการประเมินภายนอกจาก สมศ. ผ่านการ ประเมินระดับดีขึ้นไป ร้อยละ ๘๐ คุณภาพ หลักสูตรการ จัดการเรียน การสอน ด้าน บริหาร จัดการ ๑๑. หลักสูตร สถานศึกษาที่ ทันสมัย ๑. โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษาที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ร้อยละ ๑๐๐ ๒. โรงเรียนมีหลักสูตรท้องถิ่น ร้อยละ ๓๐ คุณภาพครู/ ผู้บริหาร ด้าน บริหาร จัดการ ๑๒. ระบบการ ดูแลช่วยเหลือ นักเรียนและ ความปลอดภัย ๑. โรงเรียนดำเนินการตามแนวทางการบริหารจัดการระบบ มาตรฐานความปลอดภัย (MOE Safety Center) ร้อยละ ๑๐๐ ๒. โรงเรียนมีแผนความปลอดภัยสถานศึกษา ร้อยละ ๑๐๐
๓๓ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายการพัฒนาการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย แนวทางดำเนินงาน เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ โรงเรียนสามารถนำ แนวทางจาก สพป. อด.๑ ตามคู่มือ นโยบาย ไป ปรับเปลี่ยนให้ สอดคล้องกับบริบท และการดำเนินงาน ของแต่ละโรงเรียน ๑. ร้อยละเด็กปฐมวัยได้รับการพัฒนา ทุกด้านอย่างเต็มตามศักยภาพ ๑๐๐ เด็กปฐมวัยได้รับการพัฒนา ทุกด้านอย่างเต็มตาม ศักยภาพ ๒. ร้อยละโรงเรียนในโครงการบ้าน นักวิทยาศาสตร์น้อยผ่านการประเมิน เพื่อรับตราพระราชทาน บ้าน นักวิทยาศาสตร์น้อย ๑๐๐ โรงเรียนในโครงการบ้าน นักวิทยาศาสตร์น้อยผ่านการ ประเมิน ๓. ร้อยละนักเรียนชั้น ป.๑ อ่าน เขียน คำพื้นฐานได้ ๑๐๐ นักเรียนชั้น ป.๑ อ่าน เขียน คำพื้นฐานได้ ๔. ร้อยละนักเรียนชั้น ป.๒ - ป.๓ อ่าน ออกเขียนได้ประโยคและข้อความสั้น นิทาน บทความได้ ๑๐๐ นักเรียนชั้น ป.๒ - ป.๓ อ่าน ออกเขียนได้ประโยคและ ข้อความสั้น นิทาน บทความ ได้ ๕. ร้อยละนักเรียนชั้น ป.๔ – ป.๖ อ่าน รู้เรื่องและสื่อสารได้ ๑๐๐ นักเรียนชั้น ป.๔ – ป.๖ อ่าน คล่อง เขียนคล่องและสื่อสาร ได้ ๖. นักเรียน ป.๑ – ป.๖ ที่มีผลการอ่าน การเขียนในระดับปรับปรุง มี พัฒนาการเพิ่มขึ้นในระดับดี ๖๐ นักเรียน ป.๑ – ป.๖ ที่มีผล การอ่านการเขียนในระดับ ปรับปรุง มีพัฒนาการเพิ่มขึ้น ในระดับดี ๗. ร้อยละนักเรียนมีทักษะด้านการคิด คำนวณได้อย่าง ถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำ ด้วยวิธีที่หลากหลาย เหมาะสมตามระดับชั้น ๘๐ นักเรียนมีทักษะด้านการคิด คำนวณ ๘. ร้อยละนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนวิชาคณิตศาสตร์ได้ระดับดีขึ้นไป ๖๐ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนวิชาคณิตศาสตร์ระดับดี
๓๔ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายการพัฒนาการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ (ต่อ) ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย แนวทาง เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ ดำเนินงาน ๙. ร้อยละนักเรียนมีทักษะด้านสื่อสาร ภาษาอังกฤษ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมทุก ระดับชั้น ๖๐ นักเรียนมีทักษะด้านสื่อสาร ภาษาอังกฤษ ๑๐. ร้อยละนักเรียนมีทักษะด้านสื่อสาร ภาษาอังกฤษ ขึ้นไป ๖๐ นักเรียนมีทักษะด้านสื่อสาร ภาษาอังกฤษ ๑๑. ร้อยละนักเรียนได้รับการจัดการเรียน การสอนด้วยทักษะกระบวนการลูกเสือได้ ทดสอบวิชาพิเศษและได้ชุมนุมลูกเสือตาม ประเภทของตน ๑๐๐ นักเรียนได้รับการจัดการ เรียนการสอนด้วยทักษะ กระบวนการลูกเสือ ๑๒.ร้อยละโรงเรียนผ่านการประเมิน มาตรฐานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับ ๑ ดาว ๑๐๐ โรงเรียนผ่านการประเมิน มาตรฐานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ๑๓.ร้อยละโรงเรียนผ่านการประเมิน มาตรฐานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับ ๒ ดาว ๑๐๐ โรงเรียนผ่านการประเมิน มาตรฐานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ๑๔.ร้อยละโรงเรียนผ่านการประเมิน มาตรฐานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับ ๓ ดาว ๒๐ โรงเรียนผ่านการประเมิน มาตรฐานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ๑๕. ร้อยละนักเรียนมีศักยภาพด้านดนตรี กีฬาและอาชีพหรือด้านใดด้านหนึ่ง ๑๐๐ นักเรียนมีศักยภาพด้าน ดนตรี กีฬาและอาชีพ ๑๖. ร้อยละโรงเรียนมีการส่งเสริมนักเรียน ที่มีความ สามารถด้านดนตรี กีฬาและ อาชีพหรือด้านใดด้านหนึ่ง ๑๐๐ โรงเรียนมีการส่งเสริม นักเรียนที่มีความ สามารถ ด้านดนตรี กีฬาและอาชีพ
๓๕ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายการพัฒนาการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ (ต่อ) ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย แนวทาง เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ ดำเนินงาน ๑๗. ร้อยละครูมีวิธีปฏิบัติที่ดีการขับเคลื่อน การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ๘๐ ครูมีวิธีปฏิบัติที่ดีในการยก ระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ๑๘. ร้อยละโรงเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ ๓ ๘๐ โรงเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนเพิ่มขึ้น ๑๙. ร้อยละครูมีนวัตกรรมที่เกิดจากการ จัดการเรียนรู้ ที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ แบบ Active Learning ๗๐ ครูมีนวัตกรรมที่เกิดจากการ จัดการเรียนรู้ ๒๐. ร้อยละครูจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการ จัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ๘๐ ครูจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการ จัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ๒๑. ร้อยละของครูที่มีการใช้กระบวนการ PLC ในการแก้ปัญหาการจัดการเรียนการ สอน ๑๐๐ ครูมีการใช้กระบวนการPLC ใน การแก้ปัญหาการจัดการเรียน การสอน ๒๒. ร้อยละของโรงเรียนมีความพร้อมรับ การประเมินคุณภาพภายนอกจากสมศ. ๑๐๐ โรงเรียนมีความพร้อมรับการ ประเมินคุณภาพภายนอกจาก สมศ. ๒๓. ร้อยละโรงเรียนที่รับการประเมิน ภายนอกจาก สมศ. ผ่านการประเมินระดับดี ขึ้นไป ๘๐ โรงเรียนผ่านการประเมิน ภายนอกจาก สมศ. ๒๔. ร้อยละโรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษา ที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ๑๐๐ โรงเรียนมีหลักสูตรสถาน ศึกษา ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ๒๕. ร้อยละโรงเรียนมีหลักสูตรท้องถิ่น ๓๐ โรงเรียนมีหลักสูตรท้องถิ่น ๒๖. ร้อยละโรงเรียนดำเนินการตามแนว ทางการบริหารจัดการระบบมาตรฐานความ ปลอดภัย (MOE Safety Center) ๑๐๐ โรงเรียนดำเนินการตามแนว ทางการบริหารจัดการระบบ มาตรฐานความปลอดภัย (MOE Safety Center) ๒๗. ร้อยละโรงเรียนมีแผนความปลอดภัย สถานศึกษา ๑๐๐ โรงเรียนมีแผนความปลอดภัย
๓๖ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ส่วนที่ ๔ รูปแบบและเทคนิคการนิเทศการศึกษา การนิเทศการศึกษา เป็นแนวทางหรือกฎเกณฑ์ที่กำหนดขึ้น เพื่องานนิเทศการศึกษาตามความ คิดเห็น ความเชื่อและประสบการณ์ของนักการศึกษา ดังนี้ วัชรา เล่าเรียนดี (๒๕๕๓ : ๑๑๖-๑๑๗) กล่าวถึงหลักการสำคัญของการนิเทศภายใน สถานศึกษา ดังนี้ ๑. การให้ความร่วมมือร่วมใจสอน ๒. การสร้างความผูกพันต่อภาระหน้าที่ ด้วยความเต็มใจของบุคลากรในโรงเรียนและครู ๓. การประสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ๔. การประสานกันทุกฝ่าย ๕. เป็นประชาธิปไตย ๖. การยึดความแตกต่างของมนุษย์และพัฒนาการของมนุษย์แต่ละวัย ๗. การมีเป้าหมายเดียวกัน คือคุณภาพการศึกษาของผู้เรียน ดังนั้น ผู้นิเทศจึงต้องยึดหลักการนิเทศ ดังต่อไปนี้ ๑. ผู้นิเทศต้องมีความรู้ความเข้าใจในหลักการนิเทศอย่างถูกต้อง ตรงประเด็น มีระบบและ ขั้นตอนที่ชัดเจนในกระบวนการนิเทศ ๒. กระบวนการนิเทศที่เกิดขึ้นต้องเกิดจากความร่วมมือของคณะครูทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ในโรงเรียน และการนิเทศ ๓. ต้องเป็นไปเพื่อการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนของครู และการนิเทศการศึกษาควร มีการบริหารเป็นกระบวนการเชิงระบบ มีการวางแผนการดำเนินงาน มีขั้นตอนในการปฏิบัติงาน ถือ หลักการ มีส่วนร่วม ในการทำงานมีความเป็นประชาธิปไตย มีการดำเนินงานอย่างสร้างสรรค์มีการ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น จากการเรียนการสอน ๔. สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ดีขึ้น สร้างความผูกพันและความมั่นคงต่องานอาชีพ รวมทั้ง พัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพครูให้มีความรู้สึกภาคภูมิใจในวิชาชีพของตนเองพร้อมที่จะรับการ พัฒนา อย่างต่อเนื่อง หน่วยศึกษานิเทศก์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (๒๕๖๒ : ๑๓) สรุปไว้ว่า หลักการของการนิเทศภายในโรงเรียน เป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้นิเทศและผู้รับ การนิเทศ ตาม ความต้องการและความจำเป็นในการพัฒนา โดยมีเป้าหมายเดียวกัน ขอบข่ายการนิเทศภายใน โรงเรียน ขอบข่ายการนิเทศภายในโรงเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ(๒๕๔๔ : ๕๔ - ๕๖) ได้กล่าวว่า การบริหาร โรงเรียนจะ บรรลุสำเร็จตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรได้ดีนั้นย่อมต้องอาศัยงานบริหาร ๔ งาน คือ ๑. งานบริหารงานวิชาการ
๓๗ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๒. งานบริหารงานบุคคล ๓. งานบริหารทั่วไป ๔. งานบริหารแผนและงบประมาณ งานวิชาการ ถือเป็นงานหลักของโรงเรียนที่มีความสำคัญที่สุด ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องให้ ความสำคัญ มากกว่ากิจกรรมด้านอื่น ๆ เพื่อให้การเรียนการสอนได้ผลตามเป้าหมายงานวิชาการ ประกอบด้วยงานย่อย ๆ ดังนี้ ๑. งานกำหนดเป้าหมายและการวางแผนงานวิชาการ ๒. งานหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ให้เหมาะสมกับท้องถิ่น ๓. งานจัดหาวัสดุการสอนและส่งเสริมการใช้สื่อการสอน ๔. การจัดตารางสอนจัดครูเข้าทำการสอน ๕. งานวางแผนการสอนกำหนดการสอนการสอน ๖. งานจัดชั้นเรียนแบ่งกลุ่มนักเรียน ๗. งานนิเทศการสอน ๘. งานประเมินผลการศึกษา ๙. งานห้องสมุดงานเครื่องเขียนแบบเรียน ๑๐. งานพัฒนาการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ๑๑. งานประชุมอบรมเสริมความรู้ครู ๑๒. งานการใช้ทรัพยากรในชุมชนเพื่อการเรียนการสอน ๑๓. การจัดทำบันทึกการใช้แบบฟอร์มต่าง ๆ ทางวิชาการ สรุปรายงานประจำตัว นักเรียน แบบกรอก คะแนนประเมินผลประจำปี ๑๔. งานหลักฐานแสดงผลการเรียนเพื่อย้ายสถานศึกษาหรือได้รับการยกเว้น กลิกแมน (Glickman, ๑๙๘๕ : ๒๓) ได้จัดขอบข่ายงานนิเทศของโรงเรียนไว้๕ งานมาใช้ดังนี้ ๑. การให้ความช่วยเหลือแก่ครูโดยตรง ๒. การเสริมสร้างประสบการณ์ทางอาชีพ ๓. การพัฒนาการทำงานกลุ่ม ๔. การพัฒนาหลักสูตร ๕. การวิจัยเชิงปฏิบัติการในห้องเรียน ปีเตอร์โอลิวา และ จอร์ช พาวลาส (Peter Oliva & George Pawlas, ๒๐๐๔ อ้างถึงใน ประกิต สิงห์ ทอง, ๒๕๕๑ : ๒๑) ได้เสนอขอบข่ายของการนิเทศภายในไว้ดังนี้ ๑. การพัฒนาการสอน ๒. การพัฒนาหลักสูตร ๓. การพัฒนาทีมงาน
๓๘ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ สรุปได้ว่า ขอบข่ายของการนิเทศภายใน โรงเรียน เป็นการกำหนดกรอบเนื้อหาในการ พัฒนางาน ร่วมกันเพื่อให้บรรลุผลตามที่กำหนดไว้ กระบวนการและขั้นตอนการนิเทศภายในโรงเรียน วัชรา เล่าเรียนดี (๒๕๕๓ : ๒๒๖) ได้นำเสนอกระบวนการนิเทศภายในโรงเรียนที่เป็น การปรับปรุง และ พัฒนาการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนโดยตรง ดังนี้ ๑. วางแผนร่วมกันระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ ๒. เลือกประเด็นหรือเรื่องที่สนใจจะปรับปรุงพัฒนา ๓. นำเสนอโครงการพัฒนาละขั้นตอนการปฏิบัติให้ผู้บริหารโรงเรียนได้รับทราบเพื่ออนุมัติ การดำเนินการ ๔. ให้ความรู้หรือแสวงหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับ เทคนิค การสังเกต การสอน ความรู้เกี่ยวกับวิธีสอน และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ๕. จัดทำแผนการนิเทศ กำหนดวัน เวลาที่จะสังเกตการสอน ประชุมปรึกษาหารือเพื่อ แลกเปลี่ยน ความคิดเห็น และประสบการณ์ ๖. ดำเนินการตามแผนโดยครูและผู้นิเทศ (แผนจัดการเรียนรู้และแผนนิเทศ) ๗. สรุปและประเมินผลการปรับปรุง พัฒนา และรายงานผล สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (๒๕๔๔ : ๑๖) ได้กำหนดขั้นตอนการนิเทศภายใน โรงเรียน ดังภาพประกอบ การศึกษาสภาพ ปัจจุบัน ปัญหาและ ความต้องการ การวางแผนและ กำหนดทางเลือก การสร้างสื่อและ เครื่องมือ การปฏิบัติการ นิเทศ ภายในโรงเรียน การประเมินผล และ รายงานผล ภาพประกอบ แสดงขั้นตอนการนิเทศภายในโรงเรียน (ที่มา : หน่วยศึกษานิเทศก์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ๒๕๖๒ : ๑๓)
๓๙ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ กระบวนการและขั้นตอนนิเทศภายใน กระบวนการนิเทศภายในสถานศึกษา ผู้บริหารและบุคลากรภายในสถานศึกษาจำเป็นต้องกำหนด แนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันอย่าง เป็นระบบเพื่อให้การช่วยเหลือ แนะนำ ครูผู้สอนในโรงเรียน เกี่ยวกับการ จัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียน ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่หลักสูตรกำหนดไว้ เทคนิค/วิธีการนิเทศภายในโรงเรียน วไลรัตน์ บุญสวัสดิ์ (๒๕๓๘ : ๔๒) ได้กล่าวไว้ว่าการนิเทศการศึกษาจะประสบความสำเร็จด้วยดีนั้น ผู้นิเทศจำเป็นจะต้องทราบเทคนิคในการนิเทศการศึกษาเป็นอย่างดีเทคนิคหรือวิธีการจัดการนิเทศภายใน โรงเรียน ซึ่งมีนักการศึกษาได้เสนอไว้ดังนี้ Glatthorn (๑๙๘๔ อ้างถึงใน วัชรา เล่าเรียนดี, ๒๕๔๘ : ๑๐๒-๑๐๙) ได้เสนอเทคนิค/วิธีการ นิเทศ ที่หลากหลายวิธี คือ ๑. การนิเทศแบบคลินิก (Clinical Supervision) หลักการนิเทศแบบคลินิก เป็นการนิเทศที่เน้นกระบวนการปรับปรุงการสอนของครูอย่าง เข้มข้น ที่ต้องวางแผนอย่าง เป็นระบบ มีการกระทำอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน และทำให้ครบวงจร ในการ นิเทศซึ่งประกอบด้วย การประชุมก่อน การสังเกตการสังเกตการสอน การวิเคราะห์ข้อมูลหลังการสังเกต การ สอนการประชุมหลังการวิเคราะห์ข้อมูลและ การประเมินผลโดยวงจรการนิเทศจะต้องกระทำซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้งตลอดปีสำหรับผู้ที่ทำหน้าที่นิเทศ ควรได้รับการฝึกฝนวิธีการและเทคนิคการนิเทศแบบนี้โดยเฉพาะและ ควรมีสัมพันธภาพอันดีกับผู้รับการนิเทศการนิเทศแบบคลินิกเริ่มจากแนวคิดของ Goldhammer and Gogan (๑๙๖๙, ๑๙๗๓, quoted in Glickman and others ๑๙๙๕ : ๒๘๗-๒๙๐) การนิเทศแบบคลินิกเป็นทั้ง ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการนิเทศ (Concept) และโครงสร้างของ การดำเนินการนิเทศ (Structure) Goldhammer, Andersonand Krajewski (๑๙๙๓, quoted in Glickman and others ๑๙๙๕ : ๒๘๘) ได้เสนอลักษณะสำคัญของการนิเทศแบบคลินิกสรุปได้ดังนี้ คือ ๑) การนิเทศแบบคลินิก เป็นเทคโนโลยีในการปรับปรุงการเรียนการสอนโดยตรง ๒) การนิเทศแบบคลินิก เป็นส่วนสำคัญที่แทรกอยู่ในกระบวนการจัดการเรียน การสอน ๓) การนิเทศแบบคลินิก เป็นกระบวนการที่มีเป้าหมายวัตถุประสงค์ชัดเจน โดย เชื่อมโยง ระหว่าง ความต้องการของโรงเรียนและความต้องการในความเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพของครูในโรงเรียน ๔) การนิเทศแบบคลินิก เป็นกระบวนการที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน ในวิชาชีพ ระหว่างครูและผู้นิเทศ ๕) การนิเทศแบบคลินิก เป็นกระบวนการที่จะต้องมีความเชื่อใจเชื่อถือซึ่งกันและ กัน โดย สะท้อนให้เห็นถึง ความเข้าใจสนับสนุนกันและกันและความผูกพันในการที่จะพัฒนาตนเองให้เจริญก้าวหน้า ๖) การนิเทศแบบคลินิก เป็นกระบวนการที่เป็นระบบถึงแม้ว่าการดำเนินการ จะต้องยืดหยุ่น มีการปรับเปลี่ยนวิธีการอย่างต่อเนื่อง
๔๐ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๗) การนิเทศแบบคลินิก เป็นกระบวนการที่สร้างสรรค์เชื่อมโยงช่องว่างระหว่าง ความจริงกับ อุดมการณ์ ๘) การนิเทศแบบคลินิก เป็นกระบวนการที่อยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า ผู้นิเทศ คือผู้ที่มี ความรู้อย่างแท้จริง เกี่ยวกับการวิเคราะห์การสอนและการเรียนรู้รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ระหว่างเพื่อนมนุษย์ ๙) การนิเทศแบบคลินิก เป็นกระบวนการที่ต้องมีการให้การฝึกอบรมสำหรับผู้ที่จะ ทำหน้าที่ นิเทศก่อนที่จะ นำการนิเทศแบบคลินิกไปใช้โดยเฉพาะในเรื่องเทคนิคการสังเกตการสอนและ การดำเนินการ นิเทศแบบคลินิกที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ๒. การนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ (Cooperative professional Development) การนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ จัดเป็นวิธีนิเทศการสอนแบบหนึ่งของระบบการนิเทศแบบ หลากหลายวิธีการ ของ Glatthorn (๑๙๘๔, อ้างใน วัชรา เล่าเรียนดี ๒๕๔๕ : ๑๓๗) การนิเทศแบบ ร่วมมือ พัฒนาวิชาชีพเป็นกระบวนการ นิเทศที่ครูตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติงาน เพื่อ ปรับปรุงความ เจริญ ก้าวหน้าในวิชาชีพของตนเอง โดยปกติจะมีการสังเกตการสอนกันและกันในชั้นเรียน แลกเปลี่ยนกัน ให้ข้อมูล ย้อนกลับจากการสังเกตการสอนกัน และอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกัน Glatthorn (๑๙๘๔ : ๔๐- ๔๑) ได้กล่าวถึง ลักษณะพิเศษของการนิเทศแบบร่วมพัฒนา วิชาชีพ ดังต่อไปนี้ ๑) ความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับการนิเทศมีความเป็นทางการและเป็นเรื่องของสถานศึกษา ระดับหนึ่งนั่นคือ มีการดำเนินการในโรงเรียนโดยบุคลากรในโรงเรียนตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป มีกระบวนการ การ ทำงาน มีการแลกเปลี่ยน การสังเกตการสอนในชั้นเรียนกันและกัน และมีความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนที่ ใกล้ชิดกัน ๒) การจับคู่กันสังเกตการสอนอย่างน้อย ๒ ครั้ง หรือมากกว่า ๒ ครั้ง ตามความจำเป็น และ มีการให้ข้อมูล ย้อนกลับภายหลังการสังเกตการสอน ๓) เน้นความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน ถึงแม้ว่าผู้บริหารหรือผู้นิเทศอาจจะมีส่วน เกี่ยวข้องในการจัด ดำเนินการและติดตามดูแลโครงการเป็นบางครั้ง หรือเข้าสังเกตการสอนในชั้นเรียน จัด ประชุมกับอภิปราย โดยเข้าร่วม โครงการโดยตลอดก็ได้ ๔) เน้นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่มีการประเมินมาเกี่ยวข้องการนิเทศในแบบดังกล่าว เพื่อให้ การชมเชย ผู้ปฏิบัติ ไม่ใช้ระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานด้วยมาตรฐาน ดังนั้น ข้อมูลจากผล การสังเกต การสอนหรือจาก การประชุมจะไม่ควรนำไปใช้ในกระบวนการประเมินผลครูของผู้บริหาร ลักษณะสำคัญ ๔ ประการ ของการนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ เป็นลักษณะที่สำคัญของ วิธีการ นิเทศแบบ หลากหลายวิธีการ แต่อย่างไรก็ตามจากความหมายของคำว่า การนิเทศแบบร่วม พัฒนาวิชาชีพซึ่ง มีความหมายกว้างขึ้น ทำให้เกิดความหลากหลายในการปฏิบัติในการนิเทศแบบร่วม พัฒนาวิชาชีพ การนิเทศ แบบร่วมพัฒนาวิชาชีพไม่ใช่เรื่อง ใหม่แต่มีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายตั้งแต่ ปีค.ศ. ๑๙๖๘ ได้นำวิธีการนิเทศ แบบดังกล่าวไปใช้แต่ค่อนข้างจะเป็นทางการ สรุปปัญหาที่เกิดขึ้น (Glatthorn, ๑๙๘๔ : ๘๘) คือ ครูที่ร่วม
๔๑ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ โครงการประสบปัญหาด้านเวลาในการสังเกต การสอนกันและกัน แต่ที่สำคัญ ข้อดีของการนิเทศแบบร่วม พัฒนาวิชาชีพเกิดขึ้นกล่าว คือ ครูมีโอกาสแลกเปลี่ยนวิธีสอนซึ่ง กันและกัน ครูเกิดแรงจูงใจทางบวกเกี่ยวกับ การสอนของตนเอง ครูเกิดความเข้าใจในงานของเพื่อน ร่วมงานมากขึ้น และ ครูเกิดความเข้าใจในตัวนักเรียน ของตนเองมากยิ่งขึ้น ๓ . การนิ เท ศ ภ ายใน แ บ บ พั ฒ น าการ (Supervisory Approach in Developmental Supervision) ในการนิเทศแบบพัฒนาการนั้น Glickman and others (๑๙๙๕ : ๑๓๕-๑๗๑) ได้กำหนด วิธีการนิเทศหรือ พฤติกรรมการนิเทศ ๔ แบบ คือ ๑. วิธีให้การนิเทศแบบชี้นำควบคุม (Directive Control Approach) เป็นพฤติกรรมการ นิเทศภายในที่เน้น การประพฤติปฏิบัติด้วยการพูด การใช้ภาษา ท่าทางต่าง ๆ ในการให้คำแนะนำช่วยเหลือ ครูในการปรับปรุงและ พัฒนาการจัดการเรียนการสอน ซึ่งสามารถที่กระทำได้กับครูเป็นรายบุคคลและเป็น กลุ่ม ๒. วิธีให้การนิเทศแบบชี้นำให้ข้อมูล (Directive Informational Approach) เป็นพฤติกรรม การนิเทศ ภายในแบบชี้นำให้ข้อมูลมีลักษณะเช่นเดียวกันกับการนิเทศแบบชี้นำควบคุม เพียงแต่ไม่ชี้นำ หรือไม่ แนะนำวิธีการ ปฏิบัติให้ครูโดยตรง แต่ให้ข้อมูลและวิธีการหลายวิธีให้ครูได้เลือกปฏิบัติ ซึ่งผู้นิเทศ ควร จะต้องพยายามลดพฤติกรรมการ นิเทศแบบชี้นำควบคุมให้น้อยลง และพยายามส่งเสริมครูในการ ตัดสินใจ มากขึ้นเรื่อย ๆ จนครูสามารถที่จะร่วมคิดร่วมปฏิบัติงานได้กับบุคคลอื่น โดยไม่ต้องอาศัยผู้นิเทศช่วย แนะนำ ตลอดเวลา ๓. วิธีให้การนิเทศแบบร่วมมือ (Collaborative Approach) เป็นพฤติกรรมการนิเทศภายใน ที่เน้นทั้งผู้นิเทศและครูจะร่วมกันตัดสินใจในวิธีการแก้ปัญหาและการปฏิบัติงานตลอดเวลา ทั้งครูและผู้นิเทศ จะให้ข้อเสนอแนะแก่กันและกัน เพื่อร่วมกันพิจารณาหาข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติ ๔. วิธีให้การนิเทศแบบไม่ชี้นำ (Non - directive Approach) เป็นพฤติกรรมการนิเทศ ภายในที่ผ็นิเทศจะ ใช้พฤติกรรมในการพูดคุยทำงานร่วมกับครู โดยที่ครูจะเป็นผู้ที่ตัดสินใจด้วยตัวเอง ผู้นิเทศ เป็นเพียงผู้ช่วยใน การสนับสนุนในเรื่องต่าง ๆ ที่ครูร้องขอเท่านั้น จากแนวคิดของนักการศึกษาและและ หน่วยงานทางการศึกษา สรุปได้ว่า เทคนิคและวิธีการนิเทศภายในโรงเรียน เป็นการกำหนดแนวทางการ พัฒนางานร่วมกัน อย่างเป็นระบบเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องภายใต้ข้อตกลงร่วมกัน นอกจากเทคนิค/วิธีการนิเทศภายในโรงเรียนที่กล่าวมาข้างต้น สถานศึกษาสามารถนำเอาเทคนิควิธีต่าง ๆ มา ปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานศึกษาให้เหมาะสมในแต่ละบริบทของสถานศึกษาเพื่อนำมา กำหนดเป็น แนวทางการพัฒนางานร่วมกันอย่างเป็นระบบเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยการมีส่วนร่วมของ ผู้ที่ เกี่ยวข้องภายใต้ข้อตกลงร่วมกัน
๔๒ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ กิจกรรมการนิเทศภายในโรงเรียน กิจกรรมต่าง ๆ ที่ใช้ในการนิเทศการศึกษา เป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการ ปฏิบัติงาน ของครูซึ่งจะช่วยให้การดำเนินการนิเทศบรรลุเป้าหมาย กิจกรรมการนิเทศมีหลากหลาย ซึ่งผู้นิเทศ สามารถ เลือกใช้ให้เหมาะสม กับจุดมุ่งหมายของการนิเทศแต่ละครั้ง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ครูและ นักเรียน ดังนั้นผู้นิเทศจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกิจกรรมการนิเทศ โดยจะขอนำเสนอกิจกรรมการ นิเทศที่ สำคัญและใช้มาก ๒๓ กิจกรรม ดังนี้ ๑. การบรรยาย (Lecturing) เป็นกิจกรรมที่เน้นการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจของผู้นิเทศ ไปสู่ รับการนิเทศ ใช้เพียงการพูดและการฟังเท่านั้น ๒. การบรรยายโดยใช้สื่อประกอบ (Visualized Lecturing) เป็นการบรรยายที่ใช้สื่อเข้ามา ช่วย เช่น สไลด์แผนภูมิ แผนภาพ มัลติมีเดีย อินโฟกราฟิก เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฟังมีความสนใจมากยิ่งขึ้น ๓. การบรรยายเป็นกลุ่ม (Panel presenting) เป็นกิจกรรมการให้ข้อมูลเป็นกลุ่มที่มีจุดเน้น ที่การให้ข้อมูล ตามแนวความคิดหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ๔. การให้ดูภาพยนตร์หรือโทรทัศน์(Viewing film and television) เป็นการใช้เครื่องมือที่ สื่อทาง สายตา ได้แก่ ภาพยนตร์โทรทัศน์ วิดีโอเทป เพื่อทำให้ผู้รับการนิเทศได้รับความรู้และเกิดความสนใจ มากขึ้น ๕. การฟังคำบรรยายจากสื่อผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สื่อสังคมออนไลน์การถ่ายทอดสด (Live) การ ประชุมทางไกล (Conference) ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นการใช้วิธีการบันทึกในรูปแบบดิจิทัล เพื่อนำเสนอ แนวความ คิดของบุคคลหนึ่งไปสู่ผู้ฟังคนอื่น ๖. การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับวัสดุและเครื่องมือต่าง ๆ (Exhibiting materials and equipment) เป็นกิจกรรมที่ช่วยในการฝึกอบรมหรือเป็นกิจกรรมสำหรับงานพัฒนาสื่อต่าง ๆ ๗. การสังเกตในชั้นเรียน (Observing in classroom) เป็นกิจกรรมที่ทำการสังเกตการ ปฏิบัติ งาน ในสถานการณ์จริงของบุคลากร เพื่อวิเคราะห์สภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร ซึ่งจะช่วยให้ทราบจุด หรือ จุดบกพร่อง ของบุคลากร เพื่อใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงานและใช้ในการพัฒนาบุคลากร ๘. การสาธิต (Demonstrating) เป็นกิจกรรมการให้ความรู้ที่มุ่งให้ผู้อื่นเห็นกระบวนการและ วิธีการ ดำเนินการ ๙. การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (Structured interviewing) เป็นกิจกรรมสัมภาษณ์ที่ กำหนด จุดประสงค์ชัดเจนเพื่อให้ได้ข้อมูลต่าง ๆ ตามต้องการ ๑๐. การสัมภาษณ์เฉพาะเรื่อง (Focused interviewing) เป็นกิจกรรมการสัมภาษณ์แบบกึ่ง โครงสร้าง โดยจะทำการสัมภาษณ์เฉพาะโรงเรียนที่ผู้ตอบมีความสามารถจะตอบได้เท่านั้น
๔๓ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๑๑. การสัมภาษณ์แบบไม่ชี้นำ (Non-directive interview) เป็นการพูดคุยและอภิปราย หรือ การแสดง แนวความคิดของบุคคลที่สนทนาด้วย ลักษณะการของการสัมภาษณ์จะสนใจกับปัญหาและ ความสนใจของผู้รับการสัมภาษณ์ ๑๒. การอภิปราย (Discussing) เป็นกิจกรรมที่ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศปฏิบัติร่วมกัน ซึ่ง เหมาะสม กับกลุ่ม ขนาดเล็ก มักใช้ร่วมกับกิจกรรมอื่น ๆ ๑๓. การอ่าน (Reading) เป็นกิจกรรมที่ใช้มากกิจกรรมหนึ่ง สามารถใช้ได้กับคนจำนวนมาก เช่น การอ่าน ข้อความจากวารสาร มักใช้ร่วมกับกิจกรรมอื่น ๑๔. การวิเคราะห์ข้อมูลและการคิดคำนวณ (Analyzing and calculating) เป็นกิจกรรมที่ ใช้ใน การติดตาม ประเมินผล การวิจัยเชิงปฏิบัติการและการควบคุมประสิทธิภาพการสอน ๑๕. การระดมสมอง (Brainstorming) เป็นกิจกรรรมที่เกี่ยวข้องกับการเสนอแนว ความคิด วิธีการ แก้ปัญหา หรือใช้ข้อแนะนำต่าง ๆ โดยให้สมาชิกแต่ละคนแสดงความคิดโดยเสรี ไม่มีการวิเคราะห์หรือ วิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด ๑๖. การบันทึกวิดีโอและการถ่ายภาพ (Videotaping and photographing) วิดีโอเทปเป็น เครื่องมือที่ แสดงให้เห็นรายละเอียดทั้งภาพและเสียง ส่วนการถ่ายภาพมีประโยชน์มากในการจัดนิทรรศการ กิจกรรมนี้มีประโยชน์ในการประเมินผลงานและการประชาสัมพันธ์ ๑๗. การจัดทำเครื่องมือและแบบทดสอบ (Instrumenting and testing) กิจกรรมนี้ เกี่ยวข้องกับการใช้๕ แบบทดสอบและแบบประเมินต่าง ๆ ๑๘. การประชุมกลุ่มย่อย (Buzz session) เป็นกิจกรรมการประชุมกลุ่มเพื่ออภิปรายใน หัวข้อเรื่อง ที่เฉพาะเจาะจง มุ่งเน้นการปฏิสัมพันธ์ภายในกลุ่มมากที่สุด ๑๙. การจัดทัศนศึกษา (Field trip) กิจกรรมนี้เป็นการเดินทางไปสถานที่แห่งอื่น เพื่อศึกษา ดูงาน ที่สัมพันธ์กับงานที่ตนปฏิบัติ ๒๐. การเยี่ยมเยียน (Inter visiting) เป็นกิจกรรมที่บุคคลหนึ่งไปเยี่ยมและสังเกตการทำงาน ของอีกบุคคลหนึ่ง ๒๑. การแสดงบทบาทสมมติ (Roleplaying) เป็นกิจกรรมที่สะท้อนให้เห็นความรู้สึกนึกคิด ของ บุคคล กำหนดสถานการณ์ขึ้นแล้วให้ผู้ทำกิจกรรมตอบสนองหรือปฏิบัติตนเองไปตามธรรมชาติที่ควรจะ เป็น ๒๒. การเขียน (Writing) เป็นกิจกรรมที่ใช้เป็นสื่อกลางในการนิเทศเกือบทุกชนิด เช่น การ เขียน โครงการ นิเทศ การบันทึกข้อมูล การเขียนรายงาน การเขียนบันทึก ฯลฯ ๒๓. การปฏิบัติตามคำแนะนำ (Guided practice) เป็นกิจกรรมที่เน้นการปฏิบัติในขณะที่ ปฏิบัติมีการคอย ดูแลช่วยเหลือ มักใช้กับรายบุคคล แนวทางการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน การนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เป็นการนิเทศเพื่อพัฒนา คุณภาพ การศึกษาของโรงเรียนโดยเน้นการบูรณาการ งาน/โครงการต่าง ๆ ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตร การจัดการ
๔๔ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ เรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อเทคโนโลยีทางไกล (DLTV/DLIT) การอ่านออก เขียนได้การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพและ มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสูตร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๓ ได้นำ แนวทางการดำเนินงานการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน (๒๕๖๒ : ๒๕) มาเป็นแนวทางให้สถานศึกษาได้ใช้เป็นแนวปฏิบัติดังต่อไปนี้ จากแผนภาพการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีรายละเอียด การดำเนินงาน ดังต่อไปนี้ ๑. ประเด็นการนิเทศ เช่น ๑.๑ การพัฒนาและใช้หลักสูตรสถานศึกษา ๑.๒ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ๑.๓ การจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อเทคโนโลยีทางไกล (DLTV/DLIT) ๑.๔ การอ่านออกเขียนได้คิดคำนวณเป็น ๑.๕ การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน ๑.๖ การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ๑.๗ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ปฐมวัย ๒. กระบวนการนิเทศ ๒.๑ วิเคราะห์สภาพปัจจุบันปัญหาและความต้องการ (Analyse : A) ๒.๑.๑ การจัดทำข้อมูลสารสนเทศพื้นฐานรอบด้านทั้งของผู้บริหาร ครูและนักเรียน เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาวางแผนการดำเนินงานตามประเด็นการนิเทศ ได้แก่ ๑) การพัฒนาและการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ๒) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
๔๕ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๓) การจัดการเรียนรู้โดยสื่อเทคโนโลยีทางไกล (DLTV/DLIT) ๓) การอ่านออกเขียนได้และคิดวิเคราะห์เป็น ๕) การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ๖) การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ๗) การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ปฐมวัย ๒.๑.๒ ประชุมแลกเปลี่ยนระดมความคิดของผู้บริหารและบุคลากรในโรงเรียน เพื่อ วิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาตามบริบทของโรงเรียน ๒.๑.๓ จัดลำดับความสำคัญของปัญหาหรือความต้องการเร่งด่วนหรือที่เห็นว่า สำคัญที่สุดก่อน ๒.๑.๔ นำผลการวิเคราะห์จากประเด็นการนิเทศมากำหนดค่าเป้าหมายการพัฒนา ที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานและประเด็นพิจารณาของมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ๒.๑.๕ การสร้างการรับรู้ระหว่างผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้มีเป้าหมายในการดำเนินงาน ร่วมกัน ด้วยการใช้สื่อและวิธีการที่หลากหลาย เช่น การประชุม สัมมนา การประชาสัมพันธ์โดยการจัดทำ เอกสาร หรือเผยแพร่ ในเว็บไซต์ของโรงเรียน ๒.๒ การเตรียมการนิเทศ (Arrange : A) นำปัญหาและความต้องการจากผลการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นการ นิเทศมากำหนดรายละเอียดของกิจกรรมเพื่อจัดทำแผนนิเทศภายในโรงเรียน ดังนี้ ๒.๒.๑ กำหนดแนวทาง/วิธีการการพัฒนาที่หลากหลายตามปัญหาที่เกิดขึ้นตาม ความ ต้องการ และจำเป็น มีการใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) และ การสังเกตการสอน (Observation) เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาวิชาชีพครู และการพัฒนาผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง ๒.๒.๒ กำหนดวิธีการนิเทศและกิจกรรมการนิเทศที่เหมาะสมตามสภาพปัญหาและ ความต้องการ เช่น การประชุมสัมมนา การแลกเปลี่ยนเรียนรู้การสังเกตชั้นเรียน การสาธิต การบันทึกวิดีโอ และ การถ่ายภาพ การสัมภาษณ์การสอนงานและการชี้แนะ (Coaching & Mentoring) ฯลฯ โดยเน้นการใช้ ICT ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การใช้Line Application การใช้Clip Video การประชุมระบบทางไกล (Conference) การใช้Video Line, You Tube, Facebook Live เป็นต้น ๒.๒.๓ จัดทำแผนนิเทศภายในโรงเรียน ประกอบด้วย หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์เป้าหมาย แผนการดำเนินการ กิจกรรมสำคัญ ปฏิทินการปฏิบัติงาน ทรัพยากรที่ต้องการ ๒.๓ ปฏิบัติการนิเทศ (Act : A) ๒.๒.๒ เลือกแนวทาง/วิธีการในการพัฒนาโดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ๒.๒.๓ วางแผนการดำเนินงานพัฒนา โดย ๑) การประชุมก่อนการนิเทศเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจร่วมกัน
๔๖ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๒) สังเกตการสอนภายในห้องเรียน ๓) ประชุมเพื่อสะท้อนผลการนิเทศ ๒.๔ การประเมินผลการนิเทศ (Assess : A) ๒.๔.๑ สรุป / รายงานผลการดำเนินงาน และนำผลไปใช้ปรับปรุงพัฒนา ๒.๔.๒ วิเคราะห์สังเคราะห์ผลการดำเนินงาน ๒.๔.๓ รายงานผลและเผยแพร่การดำเนินงานนิเทศต่อผู้เกี่ยวข้อง ส่งมาที่เขตพื้นที่ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้โรงเรียนอื่นสามารถดูได้เป็นแบบอย่าง ๒.๔.๔ นำผลการนิเทศไปใช้ในการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและเผยแพร่ใน หลากหลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์สถานศึกษา เว็บไซต์เขตพื้นที่การศึกษา Facebook กลุ่มไลน์ประชาสัมพันธ์ ของโรงเรียนหรือไลน์ประชาสัมพันธ์ของเขตพื้นที่ ๓. ภาพความสำเร็จ จากการดำเนินงานตามกระบวนการนิเทศ ๔ ขั้นตอน จะเกิดภาพความสำเร็จ ดังต่อไปนี้ ๑. ด้านการบริหารจัดการ ๑.๑ มีระบบสารสนเทศรอบด้าน ๑.๒ มีการพัฒนาและใช้หลักสูตรอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ๑.๓ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางอาชีพ ๑.๔ จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ ๑.๕ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการ เรียนรู้ ๑.๖ มีแผนการนิเทศที่มีคุณภาพ ๑.๗ มีระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาที่เข้มแข็ง ๒. ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอน ๒.๑ มีข้อมูลผู้เรียนรายบุคคล ๒.๒ มีการออกแบบและจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ผ่านกระบวนการ คิด ปฏิบัติจริงและประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ๒.๓ ใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ๒.๔ ตรวจสอบ และประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ๒.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ๓. ด้านผู้เรียน ๓.๑ ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน และการเขียน ๓.๒ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองและประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ๓.๓ ใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้
๔๗ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๓.๔ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ๓.๕ มีทักษะและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสูตรกำหนด ตลอดทั้งทักษะ ชีวิต ทักษะ อาชีพ ทักษะการเป็นผู้นำ ทักษะการเป็นนักนวัตกรและทักษะการนำไปสู่การสร้างนวัตกรรม การประเมินผลการนิเทศภายในโรงเรียนโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน การประเมินผลการนิเทศภายในโรงเรียนโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน เป็นการตรวจสอบกิจกรรม การนิเทศว่าตอบสนองต่อวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการนิเทศมากน้อยเพียงใด โดยมีการประเมิน ๓ ขั้นตอนดังนี้ ขั้นที่ ๑ ประเมินก่อนการดำเนินการ ขั้นที่ ๒ ประเมินระหว่างดำเนินการ ขั้นที่ ๓ ประเมินหลังดำเนินการ ซึ่งอยู่รายละเอียดการดำเนินการดังนี้ ขั้นที่ ๑ ประเมินก่อนการดำเนินการ เป็นการประเมินความพร้อมก่อนดำเนินงานของ ผู้บริหาร หรือคณะกรรมการของสถานศึกษา ในเรื่องต่อไปนี้ ๑.๑ ความเป็นไปได้ในการปฏิบัติจริงของกิจกรรมว่า มีความเป็นไปได้มากน้อย เพียงใด ๑.๒ ตรวจ สอบเครื่องมือ สื่อ คนและเวลา ขั้นที่ ๒ ประเมินระหว่างดำเนินการ เป็นการประเมินขณะปฏิบัติงานตามแผนการนิเทศ ภายใน โรงเรียน โดยกำหนดรายละเอียดในแผนการประเมิน ให้ครอบคลุมสาระสำคัญต่อไปนี้ ๒.๑ เรื่องที่ประเมิน ๒.๑.๑ วัตถุประสงค์ ๒.๑.๒ เป้าหมาย เป้าหมายเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ๒.๒ วิธีการประเมิน ๒.๓ เครื่องมือประเมิน ๒.๔ ระยะเวลาดำเนินการ ๒.๕ ผลการประเมิน ขั้นที่ ๓ ประเมินหลังดำเนินการ ขั้นนี้เป็นการประเมินผลสำเร็จของการนิเทศภายในโรงเรียน และความพึงพอใจของครูที่มีต่อการนิเทศภายในโรงเรียน ซึ่งประเมินได้จากสาระสำคัญ ต่อไปนี้ ๓.๑ บรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายในแผนการนิเทศเพียงใด ๓.๒ ครูเกิดการพัฒนาหรือไม่ ๓.๓ การพัฒนาที่เกิดขึ้นส่งผลต่อนักเรียนมากน้อยเพียงใด ๓.๔ ครูมีความพึงพอใจมากน้อยเพียงใด ๓.๕ มีการนำผลการประเมินมาวิเคราะห์และปรับปรุงแผนนิเทศในปีต่อไป หรือไม่
๔๘ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ รูปแบบการนิเทศของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ใช้กระบวนการนิเทศการศึกษา ที่เน้นการ พัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนของครู ใช้รูปแบบการนิเทศแบบกัลยาณมิตร โดยใช้ห้องเรียนเป็น ฐาน เพื่อให้โรงเรียนได้นำไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละโรงเรียน โดยประกอบด้วย วิเคราะห์ สภาพปัญหาและความต้องการนิเทศ (Analyse : A) การเตรียมการนิเทศ (Arrange : A) ปฏิบัติการนิเทศ (Act : A) และประเมินผลการนิเทศ ( Assess : A) มีขั้นตอนกระบวนการดำเนินการนิเทศ มีรายละเอียดดังนี้ ๑. แนวทางการนิเทศการจัดการเรียนรู้ ดังแสดงในภาพที่ ๑ แผนภาพที่ ๑ กรอบแนวทางการนิเทศการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการ นิเทศ (Analyse : A) การเตรียมการนิเทศ (Arrange : A) ปฏิบัติการนิเทศ (Act : A) ประเมินผลการนิเทศ ( Assess : A) กระบวนการนิเทศ ๑. ประชุมก่อนการสังเกต ๒. สังเกตการสอน ๓. สะท้อนผล
๔๙ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ ๒. แนวทางการดำเนินการนิเทศการจัดการเรียนรู้ ดังแสดงในแผนภาพที่ ๒ ดังนี้ ไม่มีคุณภาพ มีคุณภาพ วิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการ นิเทศ (Analyse : A) เตรียมการนิเทศ (Arrange : A) ปฏิบัติการนิเทศ (Act : A) ประเมินผลการนิเทศ ( Assess : A) ศึกษา/วิเคราะห์สภาพปัญหาและ ความต้องการจำเป็น กำหนดแนวทาง/วิธีการการพัฒนาที่หลากหลายตามปัญหาที่ เกิดขึ้นตามความต้องการจำเป็น สร้าง/เลือกสื่อนวัตกรรม/เครื่องมือนิเทศ จัดทำแผนนิเทศ กำหนดปฏิทินนิเทศ กระบวนการนิเทศ ๑. ประชุมก่อนการสังเกตการสอน ๒. สังเกตการสอน ๓. สะท้อนผล แนวทางการดำเนินการนิเทศการจัดการเรียนรู้ รวบรวม วิเคราะห์และสังเคราะห์ผลการนิเทศการจัดการเรียน การสอน ตรวจสอบและประเมินผล สรุปและจัดทำรายงานผลการนิเทศ เผยแพร่ผลงาน ปรับปรุง/ พัฒนา
๕๐ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ กระบวนการนิเทศภายในสถานศึกษาเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ การนิเทศภายในสถานศึกษา เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ครูได้พัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอน โดยผ่านกระบวนการนิเทศชั้นเรียน ซึ่งมีขั้นการดำเนินการ ดังนี้ ๑ ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการนิเทศ (Analyse : A) ขั้นตอนการปฏิบัติ แนวทางการปฏิบัติ ผลการดำเนินงาน ศึกษาสภาพปัญหาและ ความต้องการจำเป็น - ประชุมร่วมกับคณะครูเพื่อ ดำเนินการในเรื่องดังต่อไปนี้ ๑.วิเคราะห์สภาพปัญหาการจัดการเรียนการ สอนของครูในปัจจุบัน ๒. เปิดโอกาสให้ครูนำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้น ในชั้นเรียน ๓. รับฟังปัญหา/ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการ จัดการเรียนการสอนของครูผู้สอน การดำเนินงานในขั้นตอนนี้ จะ ทำให้ทราบจุดที่เป็นต้นตอของ ปัญหาที่เกิดขึ้นและจะช่วยทำ ให้นิเทศได้สอดคล้องกับความ ต้องการของครูด้วย ๒. เตรียมการนิเทศ (Arrange : A) ขั้นตอนการปฏิบัติ แนวทางการปฏิบัติ ผลการดำเนินงาน ประชุม เพื่อการวางแผน ดำเนินงาน ในประเด็น ดังต่อไปนี้ ๑. สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ ความสำคัญจำเป็นในการนิเทศการจัดการ เรียนการสอน ๒. เลือกประเด็นปัญหาที่มีความจำเป็น เร่งด่วนที่ต้องแก้ไข ๓. สร้างข้อตกลงร่วมกันในการพัฒนาการ จัดการเรียนการสอน ๔. กำหนดตัวชี้วัด/เป้าหมายความสำเร็จ ๕. สร้าง/เลือกสื่อนวัตกรรม/เครื่องมือนิเทศ ๖. กำหนดกิจกรรมและแต่งตั้งผู้รับผิดชอบ ๗. จัดทำแผนนิเทศ ๘. จัดทำปฏิทินนิเทศ / กำหนดการนิเทศ - ทุกคนในสถานศึกษามีความรู้ ความเข้าใจและมีเป้าหมายไป ในทิศทางเดียวกัน - มีเป้าหมายในการดำเนินงาน - ทุกคนรับทราบบทบาทหน้าที่ ตามคำสั่ง - มีระยะเวลา ปฏิทินการ ดำเนินงานที่ชัดเจน ขั้นที่ ๓ การปฏิบัติการนิเทศ (Act : A) ขั้นตอนการปฏิบัติ แนวทางการปฏิบัติ ๔.๑ ประชุมก่อนการสังเกต (Pre – Observation) เป็นขั้นตอนการพูดคุยและทบทวน ๑. ประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ โดยพิจารณาในเรื่องดังต่อไปนี้ ๑) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ที่ตั้งไว้หรือไม่