The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่มแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ2566 จังหวัดหนองคาย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by palm_ruj, 2022-02-09 22:59:53

รวมเล่มแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ2566 จังหวัดหนองคาย

รวมเล่มแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ2566 จังหวัดหนองคาย

สว่ นท่ี 2
บริบทที่เก่ียวขอ้ งด้านการศึกษา

1. ยุทธศาสตรช์ าติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580)
วสิ ยั ทัศนป์ ระเทศไทย

"ประเทศไทยมีความม่ันคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" หรือเป็นคติพจน์ประจาชาติว่า "ม่ันคง ม่ังค่ัง ยั่งยืน" เพื่อสนองตอบต่อ
ผลประโยชน์แห่งชาติ อันได้แก่ การมีเอกราช อธิปไตย การดาริงอยู่อย่างมั่นคง และย่ังยืนของสถาบันหลักของ
ชาติและประชาชนจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ การอยู่ร่วมกันในชาติอย่างสันติสุขเป็นปีกแผ่น มีความมั่นคงทาง
สังคมท่ามกลางพหุสังคมและการมีเกียรติและศักด์ิศรีของความเป็นมนุษย์ ความเจริญเติบโตของชาติความเป็น
ธรรมและความอย่ดู ีมสี ขุ ของประชาชน ความย่งั ยืนของฐานทรัพยากรธรรมชาตสิ ่งิ แวดล้อม
ความมั่นคงทางพลงั งานและอาหาร ความสามารถในการรกั ษาผลประโยชน์ของชาติภายใตก้ ารเปลีย่ นแปลง
ของสภาวะแวดล้อมระหว่างประเทศ และการอยูร่ ว่ มกนั อย่างสนั ติประสานสอดคลอ้ งกนั ดา้ นความมน่ั คง
ในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกอยา่ งมีเกียรติและศกั ดศ์ิ รี

ความมั่นคง หมายถึง การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปล่ียนแปลงทั้งภายใน
ประเทศและภายนอกประเทศในทุกระดับ ท้ังระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และ
มีความม่ันคงในทุกมิติ ทั้งมิติทางการทหาร เศรษฐกิจ สังคม ส่ิงแวดล้อม และการเมือง เช่น ประเทศ
มีความม่ันคงในเอกราชและอธิปไตย มีการปกครองระบบประชาธิปไตยท่ีมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มีความเข้มแข็งเป็นศูนย์กลางและเป็นที่ยึดเหน่ียวจิตใจของประชาชน
มีระบบการเมืองท่ีม่ันคงเป็นกลไกที่นาไปสู่การบริหารประเทศท่ีต่อเน่ืองและโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล สังคม
มีความปรองดองและความสามคั คี สามารถผนึกกาลังเพื่อพัฒนาประเทศ ชุมชนมีความเข้มแข็ง ครอบครัวมีความ
อบอุ่น ประชาชนมีความม่ันคงในชีวิต มีงานและรายได้ที่มั่นคงพอเพียงกับการดารงชีวิต มีการออมสาหรับวัย
เกษยี ณ ความม่ันคงของอาหาร พลงั งาน และนา้ มีที่อยอู่ าศยั และความปลอดภยั ในชวี ติ ทรพั ยส์ ิน

ความมั่งคง่ั หมายถงึ ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนอ่ื งและมีความย่ังยืน
จนเข้าสู่กลุ่มประเทศรายได้สูง ความเหล่ือมล้าของการพัฒนาลดลง ประชากรมีความอยู่ดีมีสุขได้รับผลประโยชน์
จากการพฒั นาอย่างเทา่ เทยี มกนั มากขนึ้ และมีการพฒั นาอยา่ งท่วั ถงึ ทกุ ภาคสว่ น มคี ุณภาพชีวิตตามมาตรฐานของ
องค์การสหประชาชาติ ไม่มีประชาชนท่ีอยู่ในภาวะความยากจน เศรษฐกิจในประเทศมีความเข้มแข็ง
ขณะเดียวกันต้องมีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ท้ังในตลาดโลกและตลาดโลกและตลาด
ภายในประเทศเพื่อให้สอดรบั กบั บริบทการพัฒนาที่เปลี่ยนแปลงไป และประเทศไทยมีบทบาทหน้าท่ีสาคัญในเวที

๓๘

โลก และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างแน่นแฟูนกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย เป็นจุดสาคัญของ
การเชื่อมโยงในภูมภิ าค ทง้ั การคมนาคมขนส่ง การผลิต การค้า การลงทุน และการทาธุรกิจเพ่ือให้เป็นพลังในการ
พัฒนา นอกจากนี้ ยังมีความสมบูรณ์ในทุนท่ีจะสามารถสร้างการพัฒนาต่อเนื่องไปได้ ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทาง
ปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนทเ่ี ปน็ เครอ่ื งมือเครื่องจักร ทุนทางสงั คม และทุนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม

ความย่ังยืน หมายถึงการพัฒนาท่ีสามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชน
ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเน่ือง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจท่ีอยู่บนหลัดการใช้ การรักษาและการฟ้ืนฟูฐาน
ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมจนเกิน
ความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศ การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ
สอดคล้องกับเปูาหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืน ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นและส่ิงแวดล้อมมี
คณุ ภาพดขี ึ้น คนมคี วามรับผิดชอบต่อสงั คม มคี วามเอือ้ อาทร เสียสละเพ่อื ผลประโยชน์ส่วนรวม รัฐบาลมีนโยบาย
ที่มุ่งประโยชน์ส่วนรวมอย่างยั่งยืน และให้ความสาคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน และทุกภาคส่วนในสังคม
ยดึ ถอื และปฏบิ ตั ิตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเพ่ือการพัฒนาอย่างสมดลุ มีเสถียรภาพ และยัง่ ยืน

การพัฒนาประเทศในช่วงระยะเวลาของยุทธศาสตร์ชาติ จะมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนา
ความม่ันคง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบ "ประชารัฐ" โดย
ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้าง
ความสามารถในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบน
คุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหาร
จัดการภาครัฐ ดังน้ี

๓๙

1. ยุทธศาสตร์ชาติด้านความม่ันคง มีเปูาหมายการพัฒนาที่สาคัญ คือ ประเทศชาติมันคง
ประชาชนมีความสุข เน้นการบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความม่ันคง ปลอดภัย เอกราช
อธิปไตย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับ ต้ังแต่ระดับชาติ สังคม ชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาคน เคร่ืองมือ
เทคโนโลยี และระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ให้มีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคามและภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ
และทุกระดับความรุนแรง ควบคู่ไปกับการปูองกันและแก้ไขปัญหาด้านความม่ันคงท่ีมีอยู่ในปัจจุบันและที่อาจจะ
เกิดขึ้นในอนาคต ใชก้ ลไกการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการท้ังกับส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาสังคมและองค์กร
ที่ไม่ใช่รัฐ รวมถึงประเทศเพ่ือนบ้านและมิตรประเทศท่ัวโลกบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาลเพ่ือเอ้ืออานวย
ประโยชน์ต่อการดาเนินการของยุทธศาสตร์ชาติด้านอ่ืน ๆ ให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ตามทิศทางและเปูาหมาย
ทีก่ าหนด

2. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเปูาหมายการพัฒนาที่มุ่งเน้นการ
ยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพ้ืนฐานแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ (1) "ต่อยอดอดีต" โดยมอง
กลับไปท่ี รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติ
ท่ีหลากหลาย รวมทั้งความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศในด้านอื่น ๆ นามาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยี
และนวัตกรรม เพ่ือให้สอดรับกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมโลกสมัยใหม่ทรัพยากรธรรมชาติท่ีหลากหลาย รวมทั้ง
ความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศในด้านอื่น ๆ นามาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้
สอดรับกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมโลกสมัยใหม่ (2) "ปรับปัจจุบัน" เพื่อปูทางสู่อนาคต ผ่านการพัฒนาโครงสร้าง
พ้ืนฐานของประเทศในมิติต่าง ๆ ท้ังโครงข่ายระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ
ดิจิทัล และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอ้ือต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการอนาคต และ (3) "สร้างคุณค่าใหม่
ในอนาคต" ด้วยการเพ่ิมศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่ รวมถึงปรับรูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อ
ความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ท่ีรองรับอนาคต บนพื้นฐานของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน
พร้อมทงั้ การส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐให้ประเทศไทยสามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาส
ทางการค้าและการลงทุนในเวทีโลก ควบคู่ไปกับกรยกระดับรายได้และการกินดีอยู่ดี รวมถึงการเพิ่มขึ้นของคนข้ันกลาง
และลดความเหล่ือมล้าของคนในประเทศได้ในคราวเดียวกัน

3. ยทุ ธศาสตร์ชาตดิ า้ นการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มเี ปูาหมายการ
พัฒนาท่ีสาคญั เพื่อพัฒนาคนในทุกมติ ิและในทุกชว่ งวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยคนไทยมีความพร้อม
ทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการท่ีดีรอบด้านและมีสุขภาวะท่ีดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะรับผิดชอบต่อสังคมและ
ผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะท่ี
จาเป็นในศตวรรษที่ 21 มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาท่ีสามและอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้
และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูงเป็นนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ
เกษตรกรยุคใหม่และอ่ืน ๆ โดยมสี มั มาชีพตามความถนัดของตนเอง

4. ยทุ ธศาสตรช์ าตดิ า้ นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเปูาหมายการ
พัฒนาท่ีสาคัญท่ีให้ความสาคัญกับการดึงเอาพลังของภาคส่วนต่าง ๆ ท้ังภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชน ท้องถ่ิน
มาร่วมขับเคล่ือน โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชนในการร่วมคิดร่วมทาเพื่อส่วนรวมการกระจายอานาจและ
ความรับผิดชอบไปสู่กลไกบริหารราชการแผ่นดินในระดับท้องถิ่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดการ
ตนเอง และการเตรียมความพร้อมของประชากรไทยท้ังในมิติสุขภาพเศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมให้เป็น
ประชากรท่ีมีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเองและทาประโยชน์แก่ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้นานท่ีสุด โดยรัฐให้
หลกั ประกันการเข้าถึงบริการและสวัสดิการท่ีมีคุณภาพอย่างเป็นธรรมและทวั่ ถึง

๔๐

5. ยุทธศาสตร์ชาตดิ ้านการสร้างการเติบโตบนคณุ ภาพชีวิตทีเ่ ป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม
มีเปูาหมายการพัฒนาที่สาคัญเพ่ือนาไปสู่การบรรลุเปูาหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืนในทุกมิติ ท้ังด้าน

สังคม เศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อม ธรรมาภิบาล และความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันทั้งภายในและภายนอก
ประเทศอย่างบูรณาการ ใช้พื้นท่ีเป็นตัวตั้งในการกาหนดกลยุทธ์และแผนงาน และการให้ทุกฝุายท่ีเก่ียวข้องได้เข้ามา
มีส่วนร่วมในแบบทางตรงให้มากท่ีสุดเท่าท่ีจะเป็นไปได้ โดยเป็นการดาเนินการบนพ้ืนฐานการเติบโตร่วมกัน ไม่ว่าจะ
เป็นทางเศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อม และคุณภาพชีวิต โดยให้ความสาคัญกับการสร้างสมดุล ทั้ง 3 ด้าน อันจะนาไปสู่ความ
ยง่ั ยนื เพ่อื คนรนุ่ ต่อไปอย่างแทจ้ ริง

6. ยุทธศาสตร์ชาตดิ ้านการปรบั สมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
มีเปาู หมายการพฒั นาทส่ี าคญั เพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐท่ียึดหลัก "ภาครัฐของประขาชนเพ่ือประชาชน

และประโยชน์ส่วนรวม" โดยภาครัฐต้องมีขนาดท่ีเหมาะสมกับบทบาทภารกิจ แยกแยะบทบาทหน่วยงานของรัฐ
ที่ทาหน้าที่ในการกากับหรือในการให้บริการในระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขัน มีสมรรถะสูง ยืดหลักธรรมาภิบาลปรับ
วัฒนธรรมการทางานให้มุ่งผลสัมฤทธ์ิและผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทันสมัย และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการ
เปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนานวัตกรรม เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ระบบการทางานที่
เป็นดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและปฏิบัติงานเทียบได้กับมาตรฐานสากล รวมทั้งมีลักษณะเปิดกว้าง เชื่อมโยง
ถึงกันและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
และโปรง่ ใส โดยทกุ ภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันปลูกฝังค่านิยมความซ่ือสัตย์สุจริต ความมัธยัสถ์ และสร้างจิตสานึกใน
การปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างส้ินเชิง นอกจากนั้น กฎหมายต้องมีความชัดเจน มีเพียงเท่าท่ี
จาเป็น มีความทันสมัย มีความเป็นสากลมีประสิทธิภาพ และนาไปสู่การลดความเหล่ือมล้าและเอ้ือต่อการพัฒนา
โดยกระบวนการยุติธรรมมีการบริหารที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และการอานวยความยุติธรรมตาม
หลักนิตธิ รรมนกั คิด นักนวัตกร และการเป็นผู้ประกอบการใหม่ รวมทั้งทักษะชีวิตท่ีสามารถอยู่ร่วมและทางานภายใต้
สังคมทีเ่ ป็นพหุวฒั นธรรม

2. แผนแม่บทภายใตย้ ุทธศาสตรช์ าติ

(11) ประเดน็ การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวติ
ยุทธศาสตร์ชาติได้กาหนดเปูาหมายการขับเคล่ือนการพัฒนาให้ประเทศเจริญก้าวหน้าไปในอนาคต

ซึ่งทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสาคัญในการยกระดับการพัฒนาประเทศในทุกมิติไปสู่เปูาหมายการเป็น
ประเทศท่ีพัฒนาแล้วท่ีขับเคล่ือนโดยภูมิปัญญาและนวัตกรรมในอีก 20 ปีข้างหน้า อีกทั้งการเปล่ียนแปลงโครงสร้าง
ประชากรที่มีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานและวัยเด็กที่ลดลงและประชากรสูงอายุที่เพ่ิมขึ้นอย่างต่อเน่ือง จะเป็นปัจจัย
เสี่ยงสาคัญที่จะทาให้การพัฒนาประเทศในมิติต่าง ๆ มีความท้าทายเพ่ิมมากขึ้น ทั้งในส่วนของเสถียรภาพทางการเงิน
ของประเทศในการจดั สวสั ดิการเพ่ือดูแลผู้สูงอายุท่ีเพิ่มสูงข้ึน การลงทุนและการออม การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของ
ประเทศ ความม่ันคงทางสังคม การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซ่ึงจะเป็นประเด็นท้าทายต่อการ
ขับเคลือ่ นประเทศไปสกู่ ารเปน็ ประเทศพฒั นาแลว้ โดยปัจจุบัน โครงสร้างประชากรไทยกาลังเปล่ียนแปลงเข้าสู่สังคมสูง
วัย และจะเปล่ียนแปลงอย่างสมบูรณ์ในช่วงปี 2564 ซึ่งทาให้ประชากรวัยแรงงานจะมีจานวนสูงสุดและเริ่มลดลง
อย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว นอกจากนี้ อัตราการเจริญ
พันธุ์รวมของประชากรไทยในปี 2561 อยู่ท่ี 1.58 ซึ่งต่ากว่าระดับทดแทน นอกจากนี้ กลุ่มวัยต่าง ๆ ยังคงมี
ปัญหาและความท้าทายในแต่ละกลุ่ม อาทิ โภชนาการในกลุ่มเด็กปฐมวัย ความสามารถทางเชาว์ปัญญา และความ
ฉลาดทางอารมณ์ของกลุม่ วัยรุ่น ผลติ ภาพแรงงานตา่ ในกลุ่มวัยแรงงาน และปญั หาสขุ ภาพของกลุ่มผสู้ งู อายุ เปน็ ต้น

๔๑

แผนย่อยการพัฒนาชว่ งวยั เรียน/วยั ร่นุ
ช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น ปลูกฝังความเป็นคนดี มีวินัย พัฒนาทักษะความสามารถที่สอดรับกับทักษะในศตวรรษ

ท่ี 21 โดยเฉพาะทักษะด้านการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนมีภูมิคุ้มกันต่อปัญหา
หรืออาชญากรรมต่าง ๆ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการทางานร่วมกับผู้อื่น มีความยืดหยุ่นทางความคิด
รวมถึงทกั ษะดา้ นภาษา ศิลปะ และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพสอดคล้องกับ
ความสามารถ ความถนัดและความสนใจ รวมถึงการวางพื้นฐานการเรียนรู้เพื่อการวางแผนชีวิตและวางแผนทางด้าน
การเงนิ ทเ่ี หมาะสมในแตล่ ะช่วงวยั และนาไปปฏิบัติได้ ตลอดจนการพัฒนาทักษะที่เรียนรู้ที่เชื่อมต่อกับโลกการทางาน
รวมถึงทักษะอาชีพท่ีสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ มีทักษะชีวิต สามารถอยู่ร่วมและทางานกับผู้อื่นได้
ภายใต้สังคมท่ีเป็นพหุวัฒนธรรม ซึ่งหากมีการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ และมีหลักสูตรการศึกษาทีเอื้อต่อทักษะ
ชีวิต มีการเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต ทักษะชีวิต และทักษะอาชีพในหลักสูตร และสร้างการมีงานทาของวัยเรียน/
วยั รุ่น จะชว่ ยใหก้ ารพัฒนาเด็กและเยาวชนบงั เกิดผลสัมฤทธไิ์ ด้

แนวทางการพฒั นา
1 ) จัดให้มีการพฒั นาทักษะทีส่ อดรบั กบั ทกั ษะในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะทักษะดา้ นการคิด

วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหาทีซ่ บั ซ้อน ความคิดสร้างสรรค์ การทางานร่วมกบั ผอู้ นื่
2 ) จัดใหม้ ีการพฒั นาทกั ษะด้านภาษา ศิลปะ และความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยที ่ีสอดคล้อง

กบั ความสามารถ ความถนดั และความสนใจ
3 ) จัดให้มีการพัฒนาทกั ษะในการวางแผนชวี ติ และวางแผนการเงนิ ตลอดจนทกั ษะทเี่ ชื่อมต่อ

กบั โลกทางาน
4 ) จัดให้มรพัฒนาทักษะอาชพี ท่สี อดคลอ้ งกบั ความต้องการของประเทศ การบ่มเพาะการเป็น

นกั คิด นกั นวตั กร และการเป็นผู้ประกอบการใหม่ รวมทั้งทักษะชวี ติ ทส่ี ามารถอยู่ร่วมและทางานภายใต้สังคมท่ี
เปน็ พหุวัฒนธรรม

5 ) ส่งเสริมและสนบั สนนุ ระบบบริการสขุ ภาพและอนามัยที่เชื่อมต่อกันระหว่างระบบสาธารณะ
สขุ กบั โรงเรียนหรือสถานศกึ ษา เพ่ือเสริมสร้างศกั ยภาพด้านความฉลาดทางเชาวนป์ ญั ญา และความฉลาดทางด้าน
อารมณ์ ตลอดจนภมู ิคุ้มกันตา่ ง ๆ ในการดาเนินชีวติ ของกลุ่มวัยเรียน/วันรุน่

เปา้ หมายและตัวชี้วัด

เปา้ หมาย ตัวช้วี ดั ปี 2561 - 2565 คา่ เป้าหมาย
เพ่ิมขน้ึ ร้อยละ 20 ปี 2566 -2570 ปี 2571 - 2575 ปี 2576 - 2580
วยั เรียน/วยั ร่นุ มีความรู้ คะแนนความสามารถใน เพิม่ ข้นึ รอ้ ยละ 20 เพม่ิ ข้นึ รอ้ ยละ 20 เพ่มิ ขนึ้ ร้อยละ 20
และทักษะในศตวรรษที่ การแขง่ ขันการพฒั นาทุน
21 ครบถ้วน รจู้ กั คดิ มนุษย์ด้านทักษะ ( Skill )
วิเคราะห์ รกั การเรยี นรู้ ของ World Economic
มสี านกึ พลเมือง มีความ Forum (WEF)
กลา้ หาญทางจรยิ ธรรม
มีความสารถในการ
แกป้ ญั หา ปรับตวั
สอ่ื สาร และทางาน
รว่ มกับผูอ้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมี
ประสทิ ธิผลตลอดชีวิตดี
ข้นึ

๔๒

เป้าหมาย คนไทยทุกช่วงวัยมีคุณภาพเพ่ิมขึ้น ได้รับการพัฒนาอย่างสมดุล ทั้งด้านร่างกายสติปัญญา
และคณุ ธรรมจริยธรรม เปน็ ผูท้ ม่ี คี วามรแู้ ละทักษะในศตวรรษที่ 21 รกั การเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองตลอดชวี ิต

ดังน้ัน จึงจาเป็นต้องมีการวางรากฐานการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศอย่างเป็นระบบ
โดยจาเป็นต้องมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ สร้างความอยู่ดีมีสุข
ของครอบครัวไทยซง่ึ เป็นหนว่ ยที่ย่อยท่ีสุดเพื่อให้สามารถเป็นพลังในการขับเคลื่อนช่วยเหลือสังคม พัฒนาและยกระดับ
คนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ดี เก่ง และมีคุณภาพพร้อมขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศไป
ข้างหน้าได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่ง “คนไทยในอนาคตจะต้องมีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบ
ด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อ่ืน มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย
รักษาศีลธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดที่ถูกต้องมีทักษะท่ีจาเป็นในโลกอนาคต สามารถใช้ภาษาไทยได้ดี
มีทกั ษะส่อื สารภาษาอังกฤษและภาษาท่ี 3 รวมทั้งอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่าง
ต่อเน่ืองตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูงเป็นนักพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูงและนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ
เกษตรกรยุคใหม่และอนื่ ๆ โดยมีสัมมาชีพตามความถนัดของตนเอง” แผนแม่บทประเด็น การพัฒนาศักยภาพคนตลอด
ช่วงชีวิต ได้กาหนดแผนย่อยไว้ 5 แผนย่อย เพ่ือพัฒนาและยกระดับทรัพยากรมนุษย์ในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เต็ม
ศกั ยภาพและเหมาะสม ดังน้ี

การสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ พัฒนาทรัพยากร
มนุษย์ของประเทศ โดยจาเป็นต้องมุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นทรัพยากรมนุษย์
ท่ีดี เก่ง และมีคุณภาพพร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปข้างหน้าได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจาเป็นต้องมีการ
เสริมสรา้ งสภาพแวดล้อมทเ่ี ออ้ื ตอ่ การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบต้ังแต่ระดับครอบครัว
ชมุ ชน สังคม และการมีระบบและกลไกรองรบั การพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ท่ีมีประสิทธิภาพ การพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วง
การตัง้ ครรภ์จนถึงปฐมวัย โดยจัดให้มีการเตรียมความพร้อมให้แก่พ่อแม่ก่อนการตั้งครรภ์ พร้อมท้ังส่งเสริมอนามัยแม่
และเด็กตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงพยาบาลทุกระดับดาเนินงานตามมาตรฐานงานอนามัยแม่และ
เด็กสู่มาตรฐานโรงพยาบาลและบรกิ ารสขุ ภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ และสารอาหารที่จาเป็นต่อ
สมองเดก็ การกระต้นุ พฒั นาการสมองและการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพฒั นาการทีส่ มวัยทุกด้าน

การพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น จัดให้มีการพัฒนาทักษะความสามารถที่สอดรับกับทักษะใน
ศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ความคิด
สร้างสรรค์ การทางานร่วมกับผู้อ่ืน จัดให้มีการพัฒนาทักษะด้านภาษา ศิลปะ ทักษะด้านดิจิทัล และความสามารถใน
การใช้เทคโนโลยีท่ีสอดคล้องกับความสามารถ ความถนัดและความสนใจ จัดให้มีการพัฒนาทักษะในการวางแผนชีวิต
และวางแผนการเงิน ตลอดจนทักษะการเรียนรู้ท่ีเชื่อมต่อกับโลกการทางาน จัดให้มีการเรียนรู้ทักษะอาชีพที่สอดคล้อง
กบั ความตอ้ งการของประเทศ และทักษะชวี ิตทส่ี ามารถอยู่ร่วมและทางานภายใต้สังคมท่ีเป็นพหุวัฒนธรรม ส่งเสริมและ
สนับสนุนระบบบริการสุขภาพและอนามัยที่เช่ือมต่อกันระหว่างระบบสาธารณสุขกับโรงเรียนหรือสถานศึกษา เพื่อ
เสริมสร้างศักยภาพด้านความฉลาดทางเชาวน์ปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ของกลุ่มวัยเรียน/วัยรุ่น รวมทั้งสร้าง
ความอยากรู้อยากเห็นและสร้างแรงจูงใจใฝุสมั ฤทธิ์

การพัฒนาและยกระดับศกั ยภาพวยั แรงงาน ด้วยการยกระดับศักยภาพทักษะและสมรรถนะของ
คนในช่วงวัยทางานให้สอดคล้องกับความสามารถเฉพาะบุคคลและความต้องการของตลาดแรงงาน เพ่ือสร้างความ
เข้มแข็งของเศรษฐกิจและผลิตภาพเพ่ิมขึ้นให้กับประเทศเสริมสร้างความอยากรู้และยกระดับตนเอง สร้างวัฒนธรรม
การทางานท่ีพึงประสงค์ และความรู้ความเข้าใจและทักษะทางการเงิน เพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงและหลักประกันของ
ตนเองและครอบครัว ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาความรู้แรงงานฝีมือให้เป็นผู้ประกอบการใหม่ และสามารถ

๔๓

พฒั นาตอ่ ยอดความร้ใู นการสรา้ งสรรค์งานใหม่ ๆ และสร้างเสริมคุณภาพชีวิตท่ีดีให้กับวัยทางานผ่านระบบการคุ้มครอง
ทางสังคมและการส่งเสริมการออม

การส่งเสริมศักยภาพวัยผู้สูงอายุ โดยส่งเสริมการมีงานทาของผู้สูงอายุให้พึ่งพาตนเองได้ทาง
เศรษฐกิจ และรว่ มเปน็ พลงั สาคัญต่อการพฒั นาเศรษฐกจิ ชมุ ชนและประเทศ สง่ เสรมิ และพฒั นาระบบการออมเพื่อสร้าง
หลักประกันความมั่นคงในชีวิตหลังเกษียณ และหลักประกันทางสังคมท่ีสอดคล้องกับความจาเป็นพื้นฐานในการ
ดารงชีวิต และส่งเสริมสนับสนุนระบบการส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุ พร้อมทั้งจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นมิตรกับ
ผู้สงู อายุ

แนวทางการพัฒนา
1 ) ยกระดับศักยภาพ ทักษะและสมรรถนะของคนในช่วงวัยทางานให้มีคุณภาพมาตรฐาน

สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน รวมทั้งเทคโนโยลีสมัยใหม่ เพ่ือสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจและ
ผลิตภาพเพิ่มข้นึ ใหก้ บั ประเทศ

2 ) เสริมสร้างวัฒนธรรมการทางานท่ีพึงประสงค์ และความเรียนรู้ความเข้าใจและทักษะ
ทางการเงนิ เพือ่ เสริมสร้างความมน่ั คงและหลักประกนั ของตนเองและครอบครัว รวมทั้งสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี
ใหก้ บั วยั ทางานผา่ นระบบการคุ้มครองทางด้านสังคมและการส่งเสรมิ เอกชน

3 ) ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทักษะแรงงานฝีมือให้เป็นผู้ประกอบการใหม่และสามารถ
พฒั นาต่อยอดความรู้ในการสร้างสรรคง์ านใหม่ ๆ และมโี อกาสและทางเลือกทางานและสร้างงาน

4 ) ส่งเสริมกลุ่มผู้เช่ียวชาญต่างชาติและคนไทยที่มีความสามารถพิเศษในต่างประเทศ ท้ังในรูปแบบ
การทางานชั่วคราวและถาวร เพ่ือสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ รวมทั้งส่ งเสริม สนับสนุนผู้มี
ความสามารถพเิ ศษท้ังคนไทยหรือคนต่างชาติท่ีกาเนิดในประเทศไทย ให้สามารถแสดงศักยภาพและใช้ความสามารถใน
การทาประโยชน์และสร้างช่ือเสียงให้แก่ประเทศ ตลอดจนอานวยความสะดวกให้ผู้เช่ียวชาญในสาขาจาเป็นหรือขาด
แคลนจากต่างประเทศเข้ามาทางานในประเทศไทย

5 ) สง่ เสรมิ การพฒั นา การปรบั เปลีย่ นทัศนคติ และสรา้ งศักยภาพใหผ้ ทู้ เี่ คยกระทาผิด สามารถ
ประกอบอาชีพ เป็นกาลงั ในการพฒั นาประเทศ และอยู่ในสงั คมอย่างสงบสขุ

เป้าหมายและตัวชี้วัด

เปา้ หมาย ตัวชวี้ ดั คา่ เป้าหมาย
ปี 2561 - 2565 ปี 2566 -2570 ปี 2571 - 2575 ปี 2576 - 2580
1. แรงงานมีศกั ยภาพใน ผลิตภาพแรงงาน ไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ 2.5 ไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 2.5 ไม่ตา่ กวา่ รอ้ ยละ 2.5 ไมต่ ่ากว่ารอ้ ยละ 2.5
การเพม่ิ ผลผลติ มีทักษะ (รอ้ ยละต่อป)ี
อาชีพสูง ตระหนกั ใน
ความสาคญั ท่จี ะพฒั นา
ตนเองใหเ้ ต็มศกั ยภาพ
สามารถปรบั ตัวและ
เรยี นร้สู ่งิ ใหมต่ ามพลวัต
ของโครงสรา้ งอาชพี และ
ความต้องการของ
ตลาดแรงงานเพ่มิ ขึ้น

๔๔

เป้าหมาย ตัวชีว้ ัด ปี 2561 - 2565 ค่าเป้าหมาย ปี 2576 - 2580
เพมิ่ ขนึ้ รอ้ ยละ 10 ปี 2566 -2570 ปี 2571 - 2575
2. มีคนไทยทม่ี ี สดั สว่ นกาลัง เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 10 เพ่มิ ข้ึนร้อยละ 10 สดั สว่ นผูส้ าเรจ็
ความสามารถและ แรงงานด้าน การศกึ ษา
ผเู้ ชีย่ วชาญตา่ งประเทศ วิทยาศาสตร์และ วทิ ยาศาสตร์
เข้ามาทาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
เทคโนโลยี และ เทคโนโลยี และ
นวัตกรรมใน นวตั กรรมเปน็ รอ้ ยละ
อุตสาหกรรมเปูาหมาย
เพ่ิมขึน้ 50 ของผู้สาเร็จ
การศึกษาท้ังหมด

(12) ประเดน็ การพัฒนาการเรยี นรู้
ยุทธศาสตร์ชาติใหค้ วามสาคัญกับการพัฒนาศกั ยภาพและคณุ ภาพของประชากรไทยทกุ ชว่ งวัย ให้เป็นคนดี เก่ง

และมีคุณภาพ ซง่ึ การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ได้ให้ความสาคัญกับการพัฒนาท้ังสอดคล้อง กับศักยภาพ ความสนใจ ความ
ถนัด และการตระหนกั ถึงพหุปัญญาของมนุษยท์ ี่หลากหลาย อาทิ ภาษา ตรรกะและคณิตศาสตร์ ด้านทัศนะและมิติดนตรี
กฬี าและการเคล่อื นไหวของร่างกาย การจัดการตนเอง มนุษยสัมพันธ์ รวมถึงผู้มีความสามารถอันโดดเด่นด้านใดด้านหนึ่ง
หรอื หลายด้าน ซึ่งจาเปน็ ตอ้ งมีการพัฒนาระบบและปัจจัยส่งเสริมต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องไปพร้อมกัน ทั้งในส่วนของระบบการ
เรยี นการสอน และการพฒั นาทกั ษะฝมี อื รวมทัง้ การใหค้ วามสาคญั กับการสง่ เสริมเทคโนโลยีและนวตั กรรม เพอื่ ให้ประเทศ
ไทยสามารถยกระดับเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมก้าวทันโลก ซึ่งการศึกษาและการเรียนรู้เป็นเคร่ืองมือสาคัญใน
การพัฒนาศักยภาพของคนให้มีทักษะความรู้ ทักษะอาชีพบนฐานพหุปัญญา มีสมรรถนะท่ีมีคุณภาพสูง รู้เท่าทันการ
เปลี่ยนแปลง

โดยในชว่ งที่ผ่านมา แม้ว่าคนไทยได้รับโอกาสทางการศึกษาสูงขึ้น โดยมีจานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากร
วัยแรงงานอายุ 15-59 ปี เพ่มิ ขนึ้ อย่างตอ่ เนื่องจาก 8.8 ปี ในปี 2551 เป็น 9.4 ปี ในปี 2559 แต่ในภาพรวมคุณภาพ
การศึกษาและการเรียนรู้ของคนไทยยังอยใู่ นระดับค่อนขา้ งตา่ แต่เม่ือพจิ ารณาคะแนนผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ขั้นพ้ืนฐาน ในปี 2560 พบว่า มีค่าเฉล่ียต่ากว่าร้อยละ 50 และผลคะแนนสอบ PISA ท่ีอยู่ในระดับต่ากว่าอีกหลาย
ประเทศที่มีระดับการพัฒนาใกล้เคียงกัน เน่ืองจากข้อจากัดที่สาคัญของการศึกษาไทย ทั้งปัญหาเรื่องหลักสูตรและระบบ
การเรียนการสอนท่ีเน้นการท่องจา ทาให้ขาดความคิดสร้างสรรค์ ปัจจัยสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนและครูท่ีมี
คุณภาพยังกระจายไม่ทั่วถึงโดยเฉพาะในพ้ืนท่ีห่างไกล ขณะท่ีในระดับอาชีวศึกษายังมีเด็กที่สนใจเรียนต่อสายอาชีพใน
สดั ส่วนทนี่ อ้ ย ส่วนระดับอดุ มศึกษาพบว่ามีการเปดิ หลกั สตู รโดยไม่คานึงถึงความตอ้ งการของตลาดงานบณั ฑิตท่จี บออกมา
บางสว่ นยงั มีปัญหาคณุ ภาพ

เปา้ หมายและตัวชีวัดภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ ประเดน็ การพัฒนาการเรยี นรู้

เป้าหมาย ตวั ช้วี ดั ปี 2561 - 2565 ค่าเป้าหมาย ปี 2576 - 2580
เฉลี่ย 470 คะแนน ปี 2566 -2570 ปี 2571 - 2575 เฉล่ีย 410 คะแนน
1. คนไทยมกี ารศกึ ษาที่มี คะแนน PISA ด้านการ เฉลยี่ 480 คะแนน เฉลี่ย 490 คะแนน
คุณภาพตาม อ่านคณติ ศาสตร์ และ
มาตรฐานสากลเพมิ่ ข้นึ มี วทิ ยาศาสตร์ (คะแนน
ทักษะท่ีจาเปน็ ของโลก เฉลีย่ ) อันดบั ขีด
ศตวรรษท่ี 21 ความสามารถในการ
สามารถแกป้ ญั หา แข่งขันของประเทศ
ปรบั ตัวส่ือสาร และ ดา้ นการศกึ ษา

๔๕

เป้าหมาย ตัวชว้ี ัด คา่ เป้าหมาย
ปี 2561 - 2565 ปี 2566 -2570 ปี 2571 - 2575 ปี 2576 - 2580
ทางานร่วมกับผ้อู ืน่ ได้
อย่างมีประสิทธผิ ลเพ่มิ ขน้ึ
มีนสิ ยั ใฝุเรียนรู้ อย่าง
ตอ่ เน่อื งตลอดชวี ิต

2. คนไทยไดร้ ับการ ความสามรถในการ ไม่นอ้ ยกวา่ 50.1 ไมน่ ้อยกวา่ 56.63 ไม่นอ้ ยกวา่ 69 ไม่น้อยกวา่ 72.49
พัฒนาเตม็ ตามศักยภาพ แขง่ ขันของประเทศ คะแนน คะแนน(เทยี บเท่า คะแนน คะแนน(เทียบเท่า
ตามความถนดั และ ไทยในระดบั สากลดขี ้ึน คา่ เฉลี่ยยของภมู ภิ าค คา่ เฉลย่ี ยของภูมิภาค
ความสามารถของพหุ (GTCI) (คะแนน) อเมรกิ าเหนอื )
ปญั ญาดขี ้นึ ยโุ รป)

เปา้ หมาย
1. คนไทยมีการศึกษาท่มี คี ุณภาพตามมาตรฐานสากล มีทักษะทีจ่ าเป็นของโลกศตวรรษท่ี 21 สามารถ

ในการแกป้ ัญหา ปรบั ตัว ส่อื สาร และทางานรว่ มกับผ้อู ื่นได้อย่างมปี ระสทิ ธิผล มีนสิ ัย ใฝเุ รียนรู้อยา่ งต่อเนื่องตลอดชวี ิต
2. คนไทยได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพตามความถนดั และความสามารถของพหปุ ญั ญา
ดังนั้น แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้ ได้กาหนดประเด็นยุทธศาสตร์ ที่

เน้นท้ังการแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน และการเสริมสร้างและยกระดับการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ทั้งการศึกษาใน
ระบบ นอกระบบ และการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยการพัฒนาระบบการเรียนรู้ท่ีตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษ
ที่ 21 มีการออกแบบระบบการเรียนรู้ใหม่ การเปล่ียนบทบาทครู การเพ่ิมประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษา และ
การพัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้สามารถกากับการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกับตนเองได้อย่าง
ต่อเน่ืองแม้จะออกจากระบบการศึกษาแล้ว ควบคู่กับการส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ
รวมถึงการสร้างเสริมศักยภาพ ผู้มีความสามารถพิเศษให้สามารถต่อยอดการประกอบอาชีพได้อย่างม่ันคง โดย
ประกอบดว้ ย 2 แผนย่อย ดังนี้

การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ท่ีตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ด้วยการปรับเปลี่ยนระบบ
การเรียนรู้สาหรับศตวรรษที่ 21 โดยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ในทุกระดับชั้น ต้ังแต่ปฐมวัยจนถึงอุดมศึกษา ท่ีใช้
ฐานความรู้และระบบคิดในลักษณะสหวิทยาการ พัฒนากระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับการศึกษา รวมถึงจัด
กจิ กรรมเสริมทกั ษะเพ่ือพฒั นาทกั ษะสาหรับศตวรรษที่ 21 พฒั นาระบบการเรียนรเู้ ชงิ บรู ณาการท่ีเน้นการลงมือปฏิบัติ มี
การสะท้อนความคิด/ทบทวนไตร่ตรอง พัฒนาระบบการเรียนรู้ท่ีให้ผู้เรียนสามารถกากับการเรียนรู้ของตนได้ เพ่ือให้
สามารถนาองคค์ วามรไู้ ปใชส้ รา้ งรายได้ รวมถงึ มที ักษะด้านวิชาชีพและทักษะชีวิต เปลี่ยนโฉมบทบาท “ครู” ให้เป็นครูยุค
ใหม่ โดยวางแผนการผลิต พัฒนาและปรับบทบาท “ครู คณาจารย์ยุคใหม่” ให้เป็น “ผู้อานวยการการเรียนรู้”
ปรับระบบการผลิตและพฒั นาครูต้งั แต่ การดงึ ดูด คัดสรร ผู้มคี วามสามารถสงู ให้เข้ามาเป็นครู ส่งเสริมสนับสนุนระบบการ
พัฒนาศักยภาพและสมรรถนะครูอย่างต่อเนื่องครอบคลุมท้ังเงินเดือน สายอาชีพและระบบสนับสนุนอ่ืน ๆ การเพิ่ม
ประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษาในทุกระดับ ทุกประเภท โดยปฏิรูปโครงสร้างองค์กรด้านการศึกษาให้
มีประสิทธิภาพ จัดให้มีมาตรฐานข้ันต่าของโรงเรียนในทุกระดับ เพ่ือผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น ปรับปรุงโครงสร้าง
การจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและเพ่ิมคุณภาพการศึกษา ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนในการจัดการศึกษา
พฒั นาระบบประกันคุณภาพการศึกษา โดยแยกการประกันคุณภาพการศึกษาออกจากการประเมินคุณภาพและการรับรอ
คุณภาพและการกากับดูแลคุณภาพการศึกษา ปฏิรูประบบการสอบท่ีนาไปสู่การวัดผลในเชิงทักษะท่ีจาเป็นสาหรับ
ศตวรรษท่ี 21 มากกว่าการวัดระดับความรู้ รวมทั้งส่งเสริมการวิจัยและใช้เทคโนโลยีในการสร้างและจัดการความรู้

๔๖

การเรียนการสอน และการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ การพัฒนาระบบการเรียนรู้
ตลอดชีวิต โดยจัดให้มีระบบการศึกษาและระบบฝึกอบรมบนฐานสมรรถนะท่ีมีคุณภาพสูงและยืดหยุ่น มีมาตรการจูงใจ
และสง่ เสริมสนับสนุนให้คนเข้าสู่ใฝุเรียนรู้ พัฒนาตนเอง รวมถึงการยกระดับทักษะวิชาชีพ พัฒนาระบบการเรียนรู้ชุมชน
ให้เขา้ ถึงได้ทกุ ท่ี ทุกเวลา โดยความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม พัฒนาระบบเครือข่ายเทคโนโลยี
ดิจิทัลและดิจิทัลแฟลตฟอร์มเพื่อการศึกษาในทุกระดับทุกประเภทการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ พัฒนา
โปรแกรมประยกุ ต์หรือสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลที่มีคุณภาพที่นักเรียน นักศึกษาและประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์
ในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ รวมถึงการสร้างระบบการศึกษาเพ่ือเป็นเลิศทางวิชาการระดับ
นานาชาติ โดยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสถาบันการศึกษาท่ีมีความเช่ียวชาญและมีความโดดเด่นเฉพาะสาขาสู่ระดับ
นานาชาติ สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและแลกเปล่ียนนักเรียน นักศึกษาและบุคลากรในระดับนานาชาติ
รวมถึงการพัฒนาศูนย์วิจัยเฉพาะทางศูนย์ฝึกอบรมและทดสอบในระดับภูมิภาค จัดให้มีการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติ
ไทยและประวตั ิศาสตรท์ ้องถ่นิ จดั ให้มกี ารเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรมของไทยและพัฒนาการของประเทศ
เพื่อนบ้านในระบบการศึกษา และสาหรับประชาชน ส่งเสริมสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเด็ก เยาวชนและ
นักเรียนกบั ประเทศเพื่อนบา้ นในภูมิภาคเอเชยี อาคเนย์

การตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ท่ีหลากหลายด้วยการพัฒนาและส่งเสริมพหุปัญญา ผ่านครอบครัว
ระบบสถานศึกษา สภาพแวดล้อม รวมทั้งส่ือ โดยพัฒนาระบบบริหารจัดการ กลไกการคัดกรองและการส่งต่อเพ่ือ
ส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมสนับสนุนครอบครัว ในการเสริมสร้าง
ความสามารถพิเศษตามความถนัดและศักยภาพ ทั้งด้านกีฬา ภาษาและวรรณกรรม สุนทรียศิลป์ ส่งเสริมสนับสนุน
ระบบสถานศึกษาและสภาพแวดล้อม ท่ีเอ้ือต่อการสร้างและพัฒนาเด็กและเยาวชนท่ีมีความสามารถพิเศษบนฐานพหุ
ปัญญา ส่งเสริมสนับสนุนมาตรการจูงใจแก่ภาคเอกชน และส่ือ ในการมีส่วนร่วมและผลักดันให้ผู้มีความสามารถพิเศษ
มีบทบาทเด่นในระดับนานาชาติ การสร้างเส้นทางอาชีพ สภาพแวดล้อมการทางาน และระบบสนับสนุนที่เหมาะสม
สาหรับผู้มีความสามารถพิเศษ โดยจัดให้มีโครงสร้างพ้ืนฐาน และระบบสนับสนุนเพ่ือผู้มีความสามารถพิเศษได้สร้าง
ความเข้มแข็งและต่อยอดได้ จัดให้มีกลไกการทางานในลักษณะการรวมตัวของกลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษในหลาก
สาขาวิชา เพ่ือรวมนักวิจัยและ นักเทคโนโลยีช้ันแนวหน้าเพื่อพัฒนาต่อยอดงานวิจัยเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ
และสร้างความรว่ มมอื และเช่ือมต่อสถาบันวิจัยชั้นนาทั่วโลก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้นักวิจัยความสามารถสูงของไทย
ให้มีศักยภาพสงู ย่ิงข้ึน

แผนยอ่ ยการตระหนกั ถงึ พหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย
การตระหนกั ถึงพหุปัญญาของมนษุ ย์ทีห่ ลากหลาย อาทิ ภาษา ตรรกะ และคณิตศาสตร์ ด้านทศั นะและ

มิติดนตรี กีฬาและการเคลื่อนไหวของร่างกาย การจัดการตนเอง มนุษยสัมพันธ์ รวมถึงผู้มีความสามารถอันโดด
เดน่ ด้านใดด้านหนึง่ หรอื หลายด้าน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและรักษากลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษของแต่ละประเภท
การสร้างสภาพแวดล้อมและระบบสนับสนุนประซากรไทยมีอาชีพบนฐ านพหุปัญญาการสร้างเสริมศักยภาพผู้มี
ความสามารถพิเศษให้สามารถต่อยอดการประกอบอาชีพได้อย่างม่ันคงท่ีครอบคลุมท้ังการพัฒนาและส่งเสริม
พหุปัญญาผ่านครอบครัว ระบบสถานศึกษา สภาพแวดล้อม รวมทั้งสื่อ ตั้งแต่ระดับปฐมวัย เพื่อสร้างเด็กและ
เยาวชนไทยมีการพัฒนาที่สมดุล มีทางเลือกในการใช้ศักยภาพพหุปัญญาในการดารงชีวิต เกิดอาชีพบนฐาน
พหุปัญญาที่สังคมยอมรับและเห็นความสาคัญ รวมทั้งมีกลไกคัดกรองและส่งเสริมเด็กและเยาวชนท่ีมี
ความสามารถพิเศษ จัดโรงเรียน ระบบเสริมประสบการณ์ การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนตลอดจนสร้างมาตรการ
จูงใจ เพื่อพัฒนาผู้มีความสามารถพิเศษผลักดันให้ประเทศไทยมีบทบาทเด่นในประชาคมโลก ทั้งด้านกีฬา ภาษา
และวรรณกรรม สุนทรียศิลป์ ตลอดจนการวิจยั และการสรา้ งเสน้ ทางอาชีพ สภาพแวดล้อมการทางาน และระบบ
สนับสนุนท่ีเหมาะสมสาหรับผู้มีความสามารถพิเศษผ่านกลไกต่าง ๆ โดยจัดให้มีโครงสร้างพ้ืนฐาน เคร่ืองมือการ
ทางานท่ีเหมาะสม การสร้างระบบเชื่อมโยงเครือข่ายวิจัยกับศูนย์ความเป็นเลิศที่มีอยู่ในปัจจุบันในรูปแบบการ
ร่วมมือ การมีกลไกการทางานในลักษณะการรวมตัวของกลุ่มคนในหลายสาขาวิชา เพ่ือรวมนักวิจัยและ

๔๗

นักเทคโนโลยีชั้นแนวหน้าให้สามารถต่อยอดงานวิจัยที่สามารถ ต่อยอดงานวิจัยที่สามารถตอบโจทย์การพัฒนา
ประเทศ การสร้างความร่วมมือและเช่ือมต่อกับสถาบันวิจัยอื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้นักวิจัย
ความสามารถสงู ของไทย รวมถึงการเปิดพ้ืนที่ในการสร้างเสริมศักยภาพผู้มีความสามารถพิเศษให้สามารถต่อยอด
การประกอบอาชพี ไดอ้ ย่างมัน่ คง

แนวทางการพัฒนา

๑) พฒั นาและส่งเสรมิ พหปุ ญั ญา โดยพัฒนาระบบบริหารจัดการกลไกการคัดกรองและการส่ง
ต่อเพื่อสง่ เสรมิ การพัฒนาคนไทยตามพหปุ ญั ญาใหเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ ส่งเสริมสนับสนุนครอบครัว ในการเสริมสร้าง
ความสามารถพิเศษตามความถนัดและศักยภาพท้ังด้านกีฬา ภาษาและวรรณกรรม สุนทรียศิลป์ส่งเสริมสนับสนุน
ระบบสถานศกึ ษาและสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการสร้างและพัฒนาเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษบนฐาน
พหุปัญญา และส่งเสริมสนับสนุนมาตรการจูงใจแก่ภาคเอกชน และสื่อ ในการมีส่วนร่วมและผลักดันให้ผู้มี
ความสามารถพิเศษ มีบทบาทเด่นในระดบั นานาชาติ

๒) สร้างเส้นทางอาชีพ สภาพแวดล้อมการทางาน และระบบสนับสนุนท่ีเหมาะสม สาหรับ
ผ้มู ีความสามารถพิเศษ โดยจดั ใหม้ โี ครงสร้างพน้ื ฐานและระบบสนับสนนุ เพ่อื ผู้มีความสามารถพิเศษได้สร้างความ
เข้มแข็งและต่อยอดได้ จัดให้มีกลไกการทางนในลักษณะการรวมตัวของกลุ่มผู้มีความสามารถ พิเศษ
หลากสาขาวชิ า เพอื่ รวมนกั วิจัยและนักเทคโนโลยีชนั้ แนวหน้าเพอ่ื พฒั นาต่อยอดงานวิจัยเพ่ือตอบโจทย์การพัฒนา
ประเทศ สร้างความร่วมมือและเชื่อมต่อสถาบันวิจัยชั้นนาท่ัวโลก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้นักวิจัยความสามารถ
สงู ของไทยใหม้ ศี ักยภาพสงู ยิง่ ขึ้น

เปา้ หมายและตัวชี้วดั

เปา้ หมาย ตวั ชี้วดั ปี 2561 - คา่ เปา้ หมาย ปี 2576 -
2565 2580
ประเทศไทยมรี ะบบ สัดส่วนสถานศกึ ษาที่ ปี 2566 - ปี 2571 -
ฐานข้อมลู เพ่ือการ สามารถจดั การเรยี น ร้อยละ 10 2570 2575 สถานศึกษาทุก
สง่ เสรมิ การพฒั นา การสอนท่สี รา้ งสมดุล แห่งสามารถ
ศักยภาพตามพหุ ทุกดา้ นและมกี ารจดั รอ้ ยละ 10 สถานศกึ ษาทกุ สถานศกึ ษาทกุ จัดการเรยี นตาม
ปญั ญา เพื่อใช้ การศกึ ษาเพ่ือพัฒนา แหง่ สามารถ แห่งสามารถ พหปุ ัญญา
ประโยชน์ในการ พหุปัญญารายบุคคล จัดการเรยี น จดั การเรียนตาม
พฒั นาและการสง่ ต่อ ตามพหุปัญญา พหปุ ญั ญา
การพัฒนาให้เตม็ ตาม สัดส่วนเด็กและ
ศักยภาพเพ่ิมขึน้ เยาวชนที่ได้รบั การส่ง รอ้ ยละ 10 ร้อยละ 10 รอ้ ยละ 10
ต่อและพฒั นาตาม
ศกั ยภาพ/พหปุ ญั ญา

๔๘

3. แผนการปฏริ ปู ประเทศ

แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา การปฏิรูปการศึกษา มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพ
การจัดการศึกษา ลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษาและปฏิรูประบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ สามารถ
รองรับความหลากหลายของการจัดการศึกษาและตอบโจทย์การพัฒนาของโลกอนาคต โดยมีเปูาหมาย
เพ่ือให้ผู้เรียนทุกกลุ่มวัยได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพตามมาตรฐาน มีทักษะที่จาเป็นของโลกอนาคต
สามารถแก้ปญั หา ปรับตัว ส่ือสาร และทางานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิผล มีวินัย มีนิสัยใฝ่เรียนรู้
อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต และเป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและหน้าท่ี มีความรับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ มีความ
รักและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย โดยมีขอบเขตครอบคลุมท้ังการสร้างโอกาสและความเสมอภาค
ทางการศึกษาต้ังแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา
การพัฒนาการจดั การเรยี นการสอนสู่การเรียนรฐู้ านสมรรถนะ เพ่ือตอบสนองการเปล่ียนแปลงในศตวรรษท่ี
21 การปฏิรูปกลไกและระบบการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐาน
จัดการศึกษาในระดับอาชีวศึกษาโดยใช้ระบบทวิภาคีหรือระบบอ่ืน ๆ ท่ีเน้นการฝึกปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบ
เพื่อน าไป สู่กา รจ้าง งาน และการ สร้าง งาน และการป ฏิรูป บทบ าทก ารวิจั ยแล ะร ะบบธรรมาภิบาลของ
สถาบันอุดมศึกษาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยออกจากกับดักรายได้ปานกลางอย่างย่ังยืน นาไปสู่การ
ยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีกลไกสนับสนุน
การขับเคลื่อนที่สาคัญ ได้แก่ การเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. …. ให้มีผลบังคับใช้
การสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทางสังคมและส่ือ ในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และมีส่วนร่วม
ในการขับเคลื่อนการปฏิรูป และความเป็นเจ้าของร่วมในเปูาหมายและความสาเร็จของการปฏิรูปของ
ประชาชน การกระจายอานาจสู่สถานศึกษา และการทดลองนาร่องกิจกรรมปฏิรูปท่ีเก่ียวข้องกับภารกิจ
การจัดการศึกษาของสถานศึกษาให้สอดคล้องต่อบริบทพื้นท่ีอย่างย่ังยืน การบริหารจัดการข้อมูล
สารสนเทศเพื่อการศึกษา (Big Data for Education) ให้สามารถนามาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัด
การศึกษา ติดตามเฝูาระวงั เด็กไม่ให้ออกจากระบบการศึกษา เพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที รวมถึง
การติดตามผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนรายบุคคลให้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพและความสนใจของ
ผเู้ รียน การเปล่ยี นโลกทศั นท์ างการศึกษาของสาธารณชนในการส่ือสาร ปลูกฝัง พัฒนาวิธีคิด ปรับเปล่ียน
คา่ นิยม ทัศนคติ ความคาดหวังต่อระบบการศึกษาที่มุ่งเน้นไปสู่การพัฒนาระบบการศึกษาอิงฐานสมรรถนะ
ที่ม่งุ ใหค้ รแู ละนักเรยี นมคี วามสขุ กับการเรียนรู้และพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ การกาหนดหน่วยงาน
เจา้ ภาพหลกั ในการติดตาม รวบรวมผลการดาเนินงานจากเจ้าภาพหลักในแต่ละกิจกรรม และรายงานผล
การดาเนินงานตามแผนปฏริ ูปประเทศด้านการศกึ ษาต่อคณะกรรมการปฏิรปู ประเทศด้านการศกึ ษา

ทั้งนี้ กิจกรรมปฏิรูปตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาดังกล่าว ได้คานึงถึง
เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 54 ท่ีบัญญัติให้มี
การดาเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ต้ังแต่ก่อนวัยเรียนจนถึงการศึกษาภาคบังคับ
อย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย รวมท้ังสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและเอกชนเข้ามา
มี ส่วนรว่ มในการจดั การศึกษาและมาตรา 258 จ (4) ท่คี รอบคลมุ ทั้งการพัฒนาเด็กเล็ก การสร้างโอกาสทาง
การศึกษา การปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน และการพัฒนาครู และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
ดา้ นการพฒั นาและเสริมสรา้ งทรัพยากรมนุษย์ทเี่ นน้ การปฏิรปู การเรียนรทู้ ต่ี อบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงใน
ศตวรรษที่ 21 การพฒั นาและส่งเสริมพหุปัญญาที่หลากหลาย การพฒั นาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสร้าง

๔๙

สภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการพัฒนาและยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมท่ีให้
ความสาคัญกับการลดความเหล่ือมล้า สร้างความเป็นธรรมในทุกมิติ การสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการทาง
การศึกษา การพัฒนาทักษะอาชีพการรองรับสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ รวมถึงได้คานึงถึงประเด็นปัญหา
ด้านการศึกษาของประเทศท้ังด้านคุณภาพการศึกษา ความเหลื่อมล้าทางการศึกษา ปัญหาของระบบ
การศกึ ษาท่เี ปน็ อปุ สรรคต่อการสรา้ งขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงการบริหารและการ
จัดการศกึ ษา นอกจากนี้ ยงั ได้คานงึ ถึงสถานการณแ์ ละบริบทการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อการจัดการศึกษาที่
สาคัญ อาทิ สถานการณ์ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีช่วยให้มีการส่ือสารไร้พรมแดนและ
สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลและแหล่งความรู้ได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา และบริบทการเปล่ียนแปลงของโลกยุค
ใหม่ท่ีส่งผลต่อวิถีชีวิตของประชากรทั่วโลกในทุกกลุ่มทุกวัย ท่ีจะต้องเผชิญความท้าทายกับวิถีชีวิตใหม่
เพ่ือให้การศึกษาของประเทศสามารถรองรับความหลากหลายของการจัดการศึกษาและตอบโจ ทย์การ
พฒั นาของโลกอนาคต

เป้าหมาย กิจกรรมปฏริ ูปประเทศด้านการศึกษาและกลไกการขบั เคลือ่ น

กิจกรรมปฏริ ูปประเทศทสี่ ง่ ผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอยา่ งมนี ยั สาคัญ

กิจกรรมปฏริ ปู ทีจ่ ะส่งผลให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสาคญั

๕๐

1. การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย เด็ก
ปฐมวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนวัยเรียน (3-5 ปี) เป็นช่วงวัยท่ีมีความสาคัญต่อพัฒนาการตลอดช่วง
ชีวิตของบุคคล หากเด็กในช่วงวัยน้ีไม่ได้รับการดูแลท่ีเหมาะสม โดยเฉพาะในครอบครัวท่ีด้อยโอกาสขาดความ
พร้อมจะส่งผลให้สถานการณ์ความเหล่ือมล้าทางการศึกษาของประเทศมีแนวโน้มท่ีสูงข้ึน อย่างไรก็ตาม
ปจั จุบันเดก็ ในช่วงอายุกอ่ นวัยเรียนท่ีไมไ่ ดเ้ ข้าไปอยใู่ นระบบการศกึ ษาปฐมวยั อาทิ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หรือ
ห้องเรียนระดับอนุบาลยังมีสัดส่วนสูงมากกว่าร้อยละ 10 โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กจากครอบครัวท่ีมีฐานะ
ยากจน พ่อแม่ผู้ปกครองมีอาชีพรับจ้างและทางานอยู่ต่างถ่ิน ซึ่งมักนาบุตรหลานเข้าเรียนระดับอนุบาล
ล่าช้า หรือไม่ได้ส่งเข้าเรียน ทาให้เด็กเหล่าน้ีเส่ียงต่อการมีพัฒนาการด้านต่าง ๆ ท่ีล่าช้า ไม่ทันเพื่อน
นับต้ังแต่เร่ิมเข้าศึกษาในระดับประถมศึกษา ซึ่งช่องว่างของความเหลื่อมล้าด้านพัฒนาการน้ี หากไม่ถูกค้นพบ
และไดร้ บั การแก้ไขอย่างทันท่วงที จะมีแนวโน้มแย่ลงในอนาคต ส่งผลต่อความสามารถในการอ่านออกเขียน
ได้ ทักษะการเรียนรู้ และความเส่ียงต่อการออกจากระบบการศึกษาก่อนสาเร็จการศึกษาข้ันพ้ืนฐานในท่ีสุด
รวมทั้งยังมีเด็กและเยาวชนท่ีออกนอกระบบการศึกษาจานวนมากที่ไม่จบการศึกษาภาคบังคับ ไม่ได้รับการ
พัฒนาทักษะอาชีพตามความถนัดและมีศักยภาพที่จะพ่ึงพาตนเองในการดารงชีวิต อีกทั้งยังมีประชากรวัย
แรงงานขาดทักษะด้านการอ่านและคณิตศาสตร์จานวนมาก ซ่ึงสะท้อนให้เห็นการขาดโอกาสและความ
เสมอภาคทางการศึกษา

ดังนั้น จึงจาเป็นต้องสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย
และปูองกันเด็กเยาวชนออกจากระบบการศึกษา โดยพัฒนาระบบการค้นหา เฝูาระวัง ติดตาม และ
ช่วยเหลอื เดก็ ใหเ้ ขา้ ถึงโอกาสทางการศึกษาต้ังแต่ปฐมวัย และติดตาม ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนนอกระบบ
การศึกษาให้กลับเข้าศึกษาต่อหรือได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพ รวมท้ังการพัฒนาเคร่ืองมือสารวจความ
พร้อมของเด็กปฐมวัยในการเข้าสู่การศึกษาระดับประถมศึกษา (School Readiness Survey) และการ
พัฒนาเคร่ืองมือการประเมินศักยภาพด้านการอ่านและคณิตศาสตร์ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของ
ประชากรวัยแรงงาน (Workforce Readiness Survey) เพ่ือให้สังคมไทยได้เฝูาระวังและติดตาม
ความก้าวหน้าของการพัฒนาคุณภาพและความเสมอภาคในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของไทยอย่าง
ตอ่ เน่อื ง ตลอดจนให้มกี ลไกการสนับสนุนอย่างเพียงพอท้ังในการปูองกันและมาตรการแก้ไขปัญหาเด็กและ
เยาวชนออกจากระบบการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย การดาเนินงานในระดับพ้ืนที่ และต้นสังกัด และการ
ติดตามความคืบหน้า และการระดมการมีส่วนร่วมของสังคมอย่างต่อเนื่องอันจะช่วยลดความเหลื่อมล้า
ทางการศึกษาการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาต้ังแต่ระดับปฐมวัยตามกิจกรรมปฏิรูปน้ี
นอกจากจะสอดคล้องกับเปูาหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืนของโลกข้อที่ 4 (UN SDG4) แล้ว ยังเป็นรากฐาน
สาคัญของการพัฒนากาลังคนของประเทศให้สามารถสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยให้
สามารถก้าวออกจากกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) สู่การเป็นประเทศรายได้สูง (High
Income Country) ให้ไดภ้ ายใน 20 ปี ตามเปูาหมายของยุทธศาสตรช์ าติอย่างย่งั ยืน

เป้าหมาย
1) เด็กปฐมวัยในช่วงกอ่ นวัยเรยี น (3 - 5 ปี) ทกุ คน โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ผูข้ าดแคลน

ทุนทรัพย์ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ได้รับการดูแลและส่งเสริมพัฒนาการจากสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
ท่ีมีคุณภาพตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ และได้รับโอกาสทางการศึกษาท้ังในและนอก
ระบบการศึกษา รวมถึงระบบการศึกษาซึ่งจัดการโดยครอบครัวหรือกลุ่มของครอบครัวจนสาเร็จการศึกษา
ขั้นพนื้ ฐาน หรือระดบั สูงกว่าอยา่ งเสมอภาคตามศกั ยภาพและความถนัด

๕๑

2) เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษากลับเข้าศึกษาต่ออย่างน้อยจนจบ
การศึกษาภาคบังคับ และได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพตามความถนัดและมีศักยภาพท่ีจะพึ่งพาตนเองใน
การดารงชวี ติ ได้

3) ประชากรวัยแรงงานมีทักษะด้านการอ่านและคณิตศาสตร์ (Literacy & Numeracy
Competency) ในระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานทีจ่ าเป็นต่อการทางานและการใช้ชวี ติ ในโลกยุคปัจจบุ ัน

4) เกิดระบบหลักประกันโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาต้ังแต่ระดับ
ปฐมวัยด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานภาครัฐอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง รวมทั้ง
ภาคเอกชน

แนวทางการดาเนนิ งาน
1) การพัฒนาเคร่ืองมือ และระบบบูรณาการทางานเพื่อสนับสนุนการดาเนินการ

ปฏิรูป โดยกาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการของเด็กเยาวชนนอกระบบการศึกษา และเปูาหมายร่วมของ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา พัฒนาระบบการค้นหา เฝูาระวัง ติดตาม และช่วยเหลือเด็กให้
เขา้ ถงึ โอกาสทางการศกึ ษาตงั้ แต่ปฐมวัย และตดิ ตาม ชว่ ยเหลอื เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลับ
เขา้ ศกึ ษาตอ่ หรอื ไดร้ บั การพัฒนาทักษะอาชีพ พัฒนาเครื่องมือสารวจความพร้อมของเด็กปฐมวัยในการเข้า
สู่การศึกษาระดับประถมศึกษา (School Readiness Survey) เป็นรายจังหวัด พัฒนาเครื่องมือการ
ปร ะเ มิน ศักย ภา พ ด้านการอ่ านและคณิตศาสตร์ ในระดับการศึกษาข้ันพ้ื นฐานของประชากรวั ยแร งงาน
(Workforce Readiness Survey)

2) การสนับสนนุ นวตั กรรมการปูองกัน (Prevention) และการแก้ไข (Correction)
ปัญหาเด็กและเยาวชนออกจากระบบการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย เพื่อลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา
โดยสนับสนุนทุนการศึกษาและเงินอุดหนุนแก่เด็กที่มีฐานะครอบครัวยากจนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
จนถึงระดบั การศึกษาภาคบงั คับ ทัง้ ในสถานศึกษาและศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
เพ่ือส่งเสริมการพัฒนาทักษะอาชีพตามความถนัดให้สามารถพึ่งพาตนเองในการดารงชีวิตได้ พัฒนาระบบคัด
กรองเด็กเยาวชนกลุ่มเสย่ี งที่จะออกจากระบบการศึกษา สนับสนุนการพัฒนาระบบฐานข้อมูล งานวิจัย และการ
พัฒนานวัตกรรมเชิงสหวิทยาการ เพื่อปูองกันและแก้ไขปัญหาการออกจากระบบการศึกษาของเด็กและ
เยาวชนไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืน สร้างนวัตกรทางสังคม (Social Innovator) ท้ังจากภาครัฐ และ
ภาคเอกชนเพ่ือร่วมสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมเพ่ือปูองกันและแก้ไขปัญหาการออกจากระบบการศึกษา
ของเดก็ และเยาวชนไทย

3) การสนับสนุนกลไกการดาเนินงานในระดับพ้ืนที่ และต้นสังกัด โดยสนับสนุน
การพัฒนาสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ สนับสนุน
องค์ความรู้ และพัฒนาทักษะให้แก่ครูปฐมวัย ครูผู้ช่วย และอาสาสมัครผู้ดูแลเด็กเล็กทุกสังกัด รวมท้ัง
การส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาทักษะอาชีพให้เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาที่สอดคล้องกับ
ความต้องการและความสนใจ สนับสนุนการพัฒนาสถานศึกษาระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและศูนย์
การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ให้มีข้อมูล องค์ความรู้ และเครือ่ งมอื ที่จาเป็นในดาเนินการ
ปูองกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและย่ังยืน สนับสนุนการ
แก้ไขปัญหาความเหล่ือมล้าทางการศึกษาในสถานศึกษาขนาดเล็กอย่างย่ังยืนและสอดคล้องกับบริบทของ
พื้นที่ด้วยกระบวนการทางวิชาการแบบมีส่วนร่วม โดยคานึงถึงความแตกต่างของสถานศึกษาขนาดเล็กใน
พื้นท่ีห่างไกลทุรกันดาร (Protected and Isolated Schools) และสถานศึกษาขนาดเล็กประเภทอื่น ๆ

๕๒

พัฒนาและสร้างสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้เอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียน ให้เด็กมีความรู้สึกปลอดภัย
มคี วามอบอุ่น และมีความสุขในการเรียน

4) การติดตามความคืบหน้า และการระดมการมีส่วนร่วมของสังคม พร้อมทั้ง
สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดาเนินงานและดาเนินการร่วมกับองค์กรภาคเอกชน ภาคประชา
สงั คม และหนว่ ยงานอ่ืน ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง เพอ่ื ระดมการมสี ่วนรว่ มสนบั สนนุ การดาเนินการปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง

2. การพฒั นาการจดั การเรยี นการสอนสู่การเรยี นรฐู้ านสมรรถนะ เพือ่ ตอบสนอง
การเปลย่ี นแปลงในศตวรรษท่ี 21

การจัดการศกึ ษาของประเทศ จะตอ้ งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
ไทย พุทธศักราช 2560 และยุทธศาสตร์ชาติ คานึงถึงสถานการณ์การเปล่ียนแปลงทางด้านประชากร การ
เปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และพลวัตของโลกยุคใหม่ ท่ีส่งผลต่อวิถีชีวิตของประชากรในทุกช่วงวัย
ทจ่ี ะตอ้ งเผชญิ ความทา้ ทายกับวถิ ชี ีวติ ใหม่ จึงจาเป็นต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดการเรียนรู้และรูปแบบ
การเรยี นการสอน โดยมเี ปาู หมายที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ มีส่วนร่วมและลงมือปฏิบัติ ผู้เรียน
ได้รับการพัฒนาไปสู่ศักยภาพสูงสุดของแตล่ ะบคุ คล เปน็ ผ้มู ีความรู้ มีทักษะและใฝุเรียนรู้ (Learning Skills)
สามารถเชื่อมโยงนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง มีทักษะชีวิต (Life Skills) ในโลกยุคใหม่ รู้เท่าทันการ
เปล่ียนแปลงของสงั คม เป็นพลเมืองทตี่ ื่นรู้ (Active Citizen) มคี วามรับผดิ ชอบ มีจติ สาธารณะ มีความรักและความ
ภาคภูมิใจในความเป็นไทย โดยการปรับเปล่ียนการเรียนการสอนตามหลักสูตรอิงมาตรฐาน (Standard-based
Curriculum) ในปัจจุบันไปสู่การเรียนรู้ที่พัฒนาสมรรถนะผู้เรียน (Competency-based Learning)
เป็นสาคญั

ทัง้ นี้ การจดั การเรยี นรเู้ พื่อพฒั นาสมรรถนะแบบผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง มุ่งเน้น
กระบวนการเรียนรู้แบบถักทอความรู้ ทักษะ คุณลักษณะผู้เรียนเข้าด้วยกันด้วยการลงมือปฏิบัติจริง
(Active Learning) มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและเรียนรู้อย่างมีความสุขและพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่
สมบูรณ์ ผ่านการทางานเป็นทีมและความร่วมมือระหว่างผู้เรียนด้วยกัน การมีครู อาจารย์ท่ีมีสมรรถนะ
ด้านการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย เหมาะสมกับผู้เรียนและบริบทของท้องถ่ิน ผู้บริหารสถานศึกษาและ
ผู้บริหารการศึกษามีสมรรถนะในการบริหารงานการจัดการเรียนรู้ การนิเทศการเรียนรู้ การสร้างระบบ
นิเวศการเรยี นรู้ท่ีปลอดภยั และส่งเสริมการเรยี นรทู้ ่ีผู้เรียนสามารถกาหนดเส้นทางและจังหวะก้าวการเรียนรู้
ของตนเอง (Personalized Learning) อย่างมีความหมาย มีการวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาผู้เรียนในทุก
มิติอย่างแท้จริง ตลอดจนมีการใช้เทคโนโลยีทางการศึกษาท่ีเหมาะสมกับผู้เรียนและความพร้อมเพื่อให้การ
จดั การเรียนร้ใู ห้มีประสิทธภิ าพสงู สุด โดยจดุ เน้นของการจัดการศกึ ษาและการเรยี นรแู้ ต่ละระดบั ดังน้ี

ระดับก่อนอนุบาล ส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาเด็กของผู้ปกครองและชุมชน
เน้นการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างสุขภาพ บ่มเพาะปลูกฝังวินัยและพัฒนาการที่ดีท้ังกาย ใจ และอารมณ์
ระดับอนุบาล มุ่งส่งเสริมสถานศึกษาจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทุกด้าน ทั้งร่างกาย สติปัญญา
อารมณ์ จติ ใจ และสงั คม บ่มเพาะปลกู ฝงั วินยั คุณธรรมและค่านิยมท่ีดี ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้ปกครอง
ชุมชน และสถานศึกษา พัฒนาการคิดวิเคราะห์เชิงระบบ ลงมือปฏิบัติ (Enactive) ด้วยประสบการณ์ตามมุม
ต่าง ๆ เพื่อให้สัมพันธ์กับการเรียนรู้ของสมอง และจัดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้เห็นแบบอย่าง
ของพฤตกิ รรมการดาเนินชีวิตท่ดี ีงาม

ระดับประถมศึกษา พฒั นาผู้เรียนเป็นรายบุคคลตามแนวทางพหุปัญญาให้หลากหลาย
ตามศักยภาพ พฒั นาการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงผ่านการบูรณาการกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาหรือ

๕๓

โครงงานเป็นฐาน (Problem-based Learning & Project-based Learning) รวมถึงพัฒนาทักษะสาคัญ
ในการเรียนรู้ อันได้แก่ ทักษะทางภาษา ทักษะการคิด ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทักษะการคิดสร้างสรรค์ มีการวัดและการประเมินผลผู้เรียนที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ท่ีเป็นช้ินงาน ผลผลิตเชิง
ประจักษ์ เสริมสร้างสมรรถนะ และทักษะที่จาเป็นในศตวรรษท่ี 21 ให้ผู้เรียนพร้อมรับมือกับการเปล่ียนแปลง
สรา้ งงาน สรา้ งนวัตกรรม ทีส่ ามารถพฒั นาไปเป็นผลิตภณั ฑ์ในท้องถนิ่ ได้

ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น มุ่งต่อยอดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดเชิงระบบ ผู้เรียน
สร้างความรู้ระดับความคิดรวบยอด และระดับหลักการใช้ความรู้ผลิตผลงานอย่างสร้างสรรค์ เน้นทักษะ
พ้ืนฐานทางการเรียนรู้และการดารงชีวิต คือ ทักษะความเป็นมนุษย์ ได้แก่ ทักษะการตัดสินใจ ทักษะการ
แก้ปัญหา ทักษะการสังเคราะห์ ทักษะการสร้างสรรค์ ทักษะการทางานเป็นทีม ทักษะการสื่อสาร
บนพืน้ ฐานของคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดี และส่งเสริมทักษะเฉพาะทางด้านความรู้ คานึงถึงความแตกต่าง
ของแต่ละบุคคลตามความถนัด ความสนใจ ท้ังด้านวิชาการและพ้ืนฐานวิชาชีพ มีศักยภาพในการสร้าง
ผลผลิตจากการเรียนรู้และต่อยอดนวัตกรรมคิดสร้างสรรค์ได้ มีนิสัยปรับปรุงพัฒนางานอยู่เสมอ สร้างและ
ผลิตผลงานใหม่ ๆ เพ่ือประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเอง ครอบครัว และเชื่อมโยงทั้งด้านสังคม
เศรษฐกิจ ชุมชน ทอ้ งถิ่น ภูมภิ าค และประเทศ

ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มุ่งต่อยอดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูงผ่าน
การเรยี นร้แู บบใช้ปัญหาหรือโครงงานเป็นฐาน ผู้เรียนสามารถใช้ความรู้ผลิตผลงานอย่างสร้างสรรค์ เป็น
นวัตกรรมนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง เพ่ือประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเอง ครอบครัวและสังคม
ต่อยอดพื้นฐานทางการเรียนรู้และการดารงชีวิต คือ ทักษะความเป็นมนุษย์ที่มีคุณค่าระดับสูง เน้นทักษะ
ความเปน็ ผนู้ า รวมทั้งส่งเสรมิ ทกั ษะเฉพาะทางดา้ นวิชาการและวิชาชีพ และฝึกประสบการณ์อย่างเข้มข้น
ในด้านความรู้ และส่งเสริมการเรียนรู้สร้างความรู้จากปฏิบัติการเชิงวิจัยท้ังในสถานศึกษาและชุมชน เพ่ือ
พัฒนาให้เป็นนวัตกรรม ท้ังท่ีเป็นผลิตภัณฑ์และโครงการ ความร่วมมือปฏิบัติการวิจัยในระดับชุมชน
เช่ือมโยงกบั พหวุ ัฒนธรรม และบรบิ ทของชุมชนทอ้ งถนิ่ ภูมภิ าค และประเทศ

ระดับอาชีวศกึ ษา เน้นการลงมือปฏิบัติจริงให้สอดคล้องกับการใช้เทคโนโลยีและการสร้าง
นวัตกรรมนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตจรงิ ปรับปรงุ พฒั นาอยูเ่ สมอ พลิกผันให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงต่อสถานการณ์
ตามบรบิ ทของภมู ภิ าคและโลก สง่ เสริมทกั ษะเฉพาะทางดา้ นวิชาการและวิชาชีพและฝึกประสบการณ์อย่างเขม้ ขน้
ในด้านความรู้ ตามความถนัดความสนใจรายบุคคล และต่อยอดทักษะความเป็นมนุษย์ผ่านการเรียนรู้แบบใช้
ปัญหาหรือโครงงานเป็นฐาน ทั้งในสถานศึกษาและสถานประกอบการท่ีมุ่งสร้างความคิดรวบยอดด้านการคิด
ดา้ นคุณธรรมจริยธรรม และค่านยิ มข้ันสงู และปลูกฝงั จรรยาบรรณทางวชิ าชพี และมีความเป็นผู้นา

การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มุ่งให้ประชาชนได้รับโอกาสการเรียนรู้
สามารถนาหลักการมาใช้พลิกผันแก้ปัญหาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเอง พัฒนา
งาน พัฒนาอาชีพ ชุมชน สังคม และประเทศชาติได้เหมาะสมสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก
และเทคโนโลยี ใหป้ ระชาชนทกุ ชว่ งวัยเรียนร้ไู ดต้ อ่ เนื่องตลอดชวี ิต พฒั นาสูก่ ารเปน็ สังคมแหง่ การเรยี นรู้

๕๔

4. แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570)

4.1 ความเสยี่ งและโอกาสของการพัฒนาและเสริมสรา้ งศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
มีความเสี่ยงและโอกาสที่สาคัญ 5 ประการ อันเป็นผลเนื่องมาจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง

ด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากร การขยายตัวของความเป็น
เมือง การเปล่ียนแปลงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมและอนาคตของงาน ดังนี้

1) ความเสี่ยงในการขาดแคลนแรงงานทักษะสูงท่ีสอดคล้องกับความต้องการขอตลาดแรงงานและ
สามารถทดแทนกบั แรงงานทลี่ ดลงโดยอนาคตของงานและแนวโน้ม การเปล่ียนแปลงที่เก่ียวข้อง จะส่งผลให้เกิด
งานประเภทใหม่ ๆ ขณะทง่ี านบางประเภทจะเลือนหายไป อาทิ การเพิ่มขึ้นของงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และนวัตกรรมจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หรืองานในอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพจากการแพทย์สู่
สังคมสูงวัย ขณะท่ีงานท่ีมีลักษณะของการทาซ้าหรือเป็นแบบแผน (Repetitive/Routine) มีแนวโน้มท่ีจะถูก
ทดแทนด้วยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ อีกทั้งความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังส่งผลเกิดเป็นความท้าทายในการ
พัฒนาแรงงานให้มีทักษะใหม่ ๆ และ/หรือมีความสามารถเฉพาะเพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน
มากยงิ่ ข้นึ เน่ืองจากคุณภาพการศึกษาและทกั ษะแรงงานในปัจจบุ นั ยังอยใู่ นระดับตา่ นอกจากน้ี การเปลย่ี นแปลง
โครงสร้างประชากรจะย่งิ ทาให้การขาดแคลนแรงงานทักษะสูงมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จากการลดลง
ของสัดส่วนประชากรวยั แรงงานและการเพ่มิ ขึ้นของกล่มุ ประชากรในช่วงวัยพึง่ พิงทีม่ ีระดบั ทกั ษะตา่ กวา่

2) โอกาสในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการฝึกอบรมด้วยเทคโนโลยีและประชากรวัยเรียนท่ี
ลดลง โดยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนามาซ่ึงโอกาสในการปรับปรุงและยกระดับประสิทธิภาพการเรียนการ
สอนและการฝึกอบรมที่ยังมีข้อจากัดด้านคุณภาพและการเข้าถึง ผ่านการปรับปรุงอุปกรณ์ สื่อการเรียนรู้ สิ่ง
อานวยความสะดวกทางการศึกษา ตลอดจนรูปแบบการเรียนการสอนให้มีความทันสมัยและสามารถบรรลุตาม
วัตถุประสงค์การเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกัน การขยายตัวของความเป็นเมืองจะส่งผล
ให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงการศึกษาและการฝึกอบรมในระดับสูงและ/หรือมีคุณภาพมากขึ้นโดยมี
ต้นทุนค่าใช้จ่ายท่ีต่าลง นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและการลดลงของประชากรวัยเรียน
อาจเป็นโอกาสในการขยายโอกาสการเข้าถึงและยกระดับคุณภาพการศึกษา/การฝึกอบรม ซึ่งเป็นหน่ึงในความ
ท้าทายท่สี าคัญในปัจจุบัน หากสามารถบรหิ ารจัดการทรัพยากรท่เี ก่ยี วข้องได้อย่างมีประสิทธภิ าพ

3) ความเหลื่อมล้าทางการศึกษาและการพัฒนาทักษะ จากความไม่พร้อมทางเทคโนโลยีและ
ความแตกต่างระหว่างพ้ืนที่ แม้ว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะมีคุณูปการย่ิง แต่อาจมีความเป็นไปได้
ท่ีจะส่งผลให้ปัญหาความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษาและการพัฒนาทักษะที่มีอยู่แต่เดิมปรากฏให้เห็น
ชัดเจนมากย่ิงข้ึน อันเป็นผลมาจากปัญหาความเหลื่อมล้าทางดิจิทัล (Digital Divide) ระหว่างกลุ่มคนที่มีและ
กลุ่มคนที่ขาดความพร้อมทางด้านทักษะและเครื่องมืออุปกรณ์ดิจิทัล เช่นเดียวกับแนวโน้มการขยายตัวของ
ความเป็นเมือง ซ่ึงอาจส่งผลให้ความเหลื่อมล้าเชิงพ้ืนท่ีระหว่างเขตเมืองและชนบททวีความรุนแรงมากย่ิงขึ้น
เน่ืองจากความแตกต่างของระดับการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและการให้บริการสาธารณะ ดังที่ปรากฏให้เห็น
ในชว่ งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีนักเรียนในชนบทจานวนมากที่ขาดความพร้อมและไม่
สามารถเข้าถงึ การเรียนการสอนแบบออนไลน์ได้

๕๕

4) โอกาสในการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง
และรองรับกับทุกคน โดยอนาคตของงานและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของประชากรใน
ระยะต่อไป อาทิ การให้ความสาคัญกับการศึกษาและการเรียนรู้ ตลอดจนความสมดุลระหว่างการทางาน
กบั ชวี ติ สว่ นตัว นามาซ่ึงโอกาสในการสง่ เสริมการเรียนรู้ตลอดชวี ติ ทย่ี ดื หยุ่นและสอดคล้องกับความต้องการ
ของกลุ่มประชากรรุ่นใหม่ ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัยส่งผลให้เกิด
ความจาเป็นในการขยายการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ให้ครอบคลมุ กลมุ่ ประชากรผู้สูงอายุซ่ึงมีแนวโน้มเพ่ิมขึ้นอย่าง
ต่อเน่อื ง โดยอาศัยความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยใี นปจั จุบัน ในการช่วยสนบั สนนุ ให้การจัดการศึกษาและการ
ฝกึ อบรมตลอดชว่ งชีวิตเป็นไปอยา่ งสะดวกและมปี ระสิทธภิ าพมากย่ิงขึน้

5) ความเส่ียงในการขาดแคลนทักษะทางพฤติกรรม (Soft Skills) และค่านิยมวัฒนธรรมท่ี
สอดคล้องกับการใช้ชีวิตและการทางานรูปแบบใหม่ โดยอนาคตของงานและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและ
วัฒนธรรม อาทิ กระแสความเป็นปัจเจก (Individualization) หรือกระแสการตระหนักรู้ของสาธารณชน
(Public Awareness) อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและแนวโน้มการเพ่ิมข้ึนของ
ประชากรรนุ่ ใหม่ จะนามาซ่ึงรูปแบบการทางาน การใช้ชีวิต และสภาพสังคมที่มีความแตกต่างหลากหลายจาก
เดิมอย่างมีนัยสาคัญ ส่งผลให้เกิดความจาเป็นในการมีทักษะทางพฤติกรรม (Soft Skills) อาทิ การมี
จติ สาธารณะ มคี วามเป็นพลเมือง มีทักษะในการสื่อสารและการทางานร่วมกับผู้อื่น เพ่ือสร้างสังคมที่เปิดกว้าง
เข้าใจ และเห็นอกเห็นใจต่อความแตกต่างหลากหลายดังกล่าวมากย่ิงข้ึน สอดคล้องกับแนวโน้มความก้าวหน้า
ทางเทคโนโลยี ซึ่งนอกจากจะนาไปสู่ความต้องการทักษะทางปัญญา (Cognitive) แล้ว ยังคาดว่าทักษะทาง
พฤติกรรม (Non-Cognitive) หรือทักษะด้านมนุษย์ (Human Skills) จะเป็นท่ีต้องการมากขึ้นในระยะต่อไป
เนอ่ื งจากเป็นทักษะเฉพาะท่เี ทคโนโลยีสมัยใหม่ยังไม่สามารถทดแทนแรงงานมนุษย์ได้ แนวโน้มดังกล่าวจึงอาจ
กลายเป็นความเสี่ยงท่ีสาคัญสาหรับกาลังแรงงานในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่ยังขาดแคลนทักษะท่ีจาเป็นต่อการ
ทางานและการใชช้ ีวติ ในอนาคต

แผนภาพ ความเส่ียงและโอกาสด้านการพฒั นาและเสริมสรา้ งศักยภาพทรัพยากรมนุษย์

ทีม่ า: วิเคราะห์และรวบรวมโดย สศช. (2564)

๕๖

4.2 แนวคิดของกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2566-2570)
ภายใต้กระแสแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้น อาทิ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี

อย่างพลิกผัน การเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากรสู่สังคมสูงวัย และภาวะโลกร้อนจากการเปลี่ยนแปลง
สภาพภูมิอากาศ ร่วมกับปัจจัยเร่งจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ก่อให้เกิดความผันผวนของ
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมแก่หลายประเทศท่ัวโลกรวมถึงประเทศไทยน้ัน พบว่า
แนวโน้มการเปลีย่ นแปลงดังกลา่ วสามารถนามาซ่ึงโอกาสและความเส่ียงท่ีจะช่วยผลักดันให้การพัฒนาประเทศ
ไทยในระยะตอ่ ไปให้เกดิ ผลสาเร็จหรือเป็นอุปสรรค หน่วงร้ังการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศให้ไม่สามารถ
บรรลุเปาู หมายท่ีกาหนดไว้ ขึน้ อยู่กบั บริบทหรือศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศในการรับมือกับ
การเปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึน โดยโอกาสท่ีสาคัญสาหรับประเทศไทยซึ่งมีที่มาจากแนวโน้มการเปล่ียนแปลง
ในระดับโลก พบว่ามีท่ีมาจากความก้าวหน้าและความแพร่หลายของเทคโนโลยีเป็นหลัก ซึ่งการสรรค์สร้าง
ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้เกิดเป็นโอกาสสาหรับประเทศไทยได้น้ัน ต้องอาศัยการพัฒนาคนและระบบ
บริหารจัดการด้านดิจิทัลและข้อมูลสารสนเทศให้มีความพร้อมเพ่ือรองรับโอกาสท่ีเกิดข้ึนจากการ
เปล่ียนแปลงให้กระจายลงสู่ทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึง เท่าทัน ขณะเดียวกัน ความเส่ียงที่คาดว่าจะส่งผลกระทบ
เชิงลบและเป็นความท้าทายทสี่ าคัญต่อประเทศไทยในการท่ีจะต้องเร่งแสวงหาแนวทางในการแก้ไขรับมือนั้น
พบว่ามาจากแนวโน้มด้านการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ความเหลื่อมล้าด้านดิจิทัล รวมถึงปัญหา
ส่ิงแวดล้อมและภัยธรรมชาติ ซ่ึงจะบ่ันทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงยังอาจเป็น
เงื่อนไขทา้ ทายตอ่ มิตกิ ารพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์และการสรา้ งความเสมอภาคในสังคม ซ่ึงบริบทสถานการณ์
ของประเทศไทยที่ยงั มีขอ้ จากัดภายในหลายประการน้ัน หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนแล้ว อาจส่งผล
ใหป้ ระเทศไทยมีความเปราะบางย่งิ ข้นึ เมอื่ ต้องเผชิญกับความเส่ียงต่าง ๆ ท่ีมีความผันผวนสูง ตลอดจนอาจ
พลาดโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากพลวัตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึนในการพัฒนาประเทศไปสู่เปูาหมายท่ี
ต้องการ และส่งผลให้ประเทศไทยไม่สามารถก้าวตามโลกได้อย่างเท่าทัน นาไปสู่การสูญเสียความสามารถ
ในการแข่งขันในระยะยาว และอาจต้องจมกับปัญหาเร้ือรังที่ฉุดรั้งความก้าวหน้าของประเทศในทุกมิติอย่าง
ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพ่ือให้สามารถขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศในช่วงระยะเวลาของแผนพัฒนาฯ
ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) ให้เกิดผลสัมฤทธ์ิในทิศทางท่ีจะนาไปสู่การบรรลุเปูาหมายตาม
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้เง่ือนไขความท้าทายทั้งหลายดังกล่าว จึงจาเป็นที่
ประเทศจะต้องเสริมสร้างให้เกิดความเปลี่ยนแปลงคร้ังใหญ่ในระดับโครงสร้างของประเทศบนพ้ืนฐานของ
ความเข้มแข็ง สมดุล และย่ังยืน เพ่ือก้าวข้ามปัญหาอุปสรรคเดิมให้ประเทศไทยมีสมรรถนะเพียงพอต่อการ
บริหารจัดการความเสี่ยง พร้อมทั้งเร่งเพ่ิมศักยภาพในการสร้างสรรค์ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นได้อย่าง
เหมาะสมและทันท่วงที ท้ังนี้ การยกระดับสมรรถนะและศักยภาพของประเทศไทยในระยะเวลาอันใกล้จะ
ไม่สามารถเกิดข้ึนได้อย่างเป็นรูปธรรม หากอาศัยเพียงการมุ่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหรือการปรับเปลี่ยน
แนวทางการดาเนนิ งานในรายละเอียดเพียงเล็กน้อย เน่ืองจากการปรับตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปจะไม่เท่าทัน
ตอ่ พลวตั การเปล่ยี นแปลงท่เี กิดข้ึนอยา่ งรวดเรว็ ฉับพลันในยุคปัจจุบัน อีกท้ังยังไม่เพียงพอสาหรับการรับมือ
กับความเสี่ยงท่ีอาจส่งผลกระทบท่ีรุนแรงและแผ่ขยายในวงกว้าง หรือทันต่อการแสวงหาโอกาสที่จะสร้าง
ผลประโยชน์ที่ผลักดันให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเปูาหมายในการพัฒนาภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติได้
ตามกรอบระยะเวลาที่กาหนด

๕๗

4.3 พลกิ โฉมประเทศไทย ส่เู ศรษฐกจิ สรา้ งคณุ ค่า สงั คมเดนิ หนา้ อยา่ งย่ังยนื (Transformation to
Hi-Value and Sustainable Thailand)

การวางกรอบทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 มีจุดประสงค์เพ่ือ พลิกโฉม
ประเทศไทยหรือเปล่ียนแปลงประเทศขนานใหญ่ (Thailand’sTransformation) ภายใต้แนวคิด “Resilience”
ซึง่ มจี ดุ มุ่งหมายในการลดความเปราะบาง สรา้ งความพร้อมในการรับมือกบั การเปลีย่ นแปลงสามารถปรับตัวให้อยู่รอด
ได้ในสภาวะวิกฤติ โดยสร้างภูมิคุ้มกันทั้งในระยะส้ันและระยะยาว เพื่อให้ประเทศสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดย
การพลิกโฉมประเทศไทยครอบคลุมต้ังแต่การเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง นโยบาย และกลไก ในขณะเดียวกัน
กรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ยังมุ่งกาหนดทิศทางการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง ผ่านการสร้างความสมดลุ ในการกระจายผลประโยชนจ์ ากการพฒั นาแก่ทุกภาคส่วนเศรษฐกิจและสังคมอย่าง
เป็นธรรม รวมทั้งการสร้างความสมดุลระหว่าง ความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศกับความสามารถในการ
พึ่งตนเอง พร้อมท้ังการปรับเปล่ียนองคาพยพในมิติต่าง ๆ ให้เท่าทันและสอดคล้องกับพลวัตและบริบทใหม่ของโลก
โดยคานึงถึงเงื่อนไขของสถานการณ์และทรัพยากรของประเทศ นอกจากนี้ กรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 13 ยังให้
ความสาคัญกับเปูาหมายการพัฒนาอย่างย่ังยืน ในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตท่ีดีของประชาชนทุกกลุ่ม และส่งต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มทด่ี ไี ปยงั คนรนุ่ ตอ่ ไป

เพ่ือให้การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศเกิดผลสัมฤทธ์ิตามเปูาหมายท่ีกาหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ และ
สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาประเทศทั้งหมดตามที่กล่าวถึงข้างต้น การพลิกโฉมประเทศไทย (Thailand’s
Transformation) ในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 จึงมีเปูาหมายหลักเพื่อพลิกโฉมประเทศไปสู่ “เศรษฐกิจสร้าง
คณุ ค่า สังคมเดนิ หน้าอยา่ งยัง่ ยืน” หรอื “Hi-Value and Sustainable Thailand” โดยใชอ้ งค์ความรู้ ความคิด
สร้างสรรค์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นเคร่อื งมอื ในการขับเคลื่อนการยกระดับศักยภาพและพัฒนาประเทศในทุก
มติ ิ เพอ่ื สนบั สนุน เสริมสรา้ งการสร้างมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจและขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพื่อส่งเสริม
โอกาสและความเสมอภาคทางสงั คมอยา่ งท่ัวถงึ ตลอดจนเพื่อใหเ้ กดิ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและการบริโภค
ใหเ้ ป็นมติ รกบั สง่ิ แวดล้อม ให้เป็นไปในทศิ ทางทป่ี ระเทศสามารถปรบั ตัวและรองรับกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเท่า
ทัน ตลอดจนสามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างต่อเน่ืองในระยะยาวไปพร้อมกับการรักษาความย่ังยืนของ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม

4.4 Value and Sustainable Thailand
เนื่องด้วยเปูาประสงค์ที่ต้องการให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทาหน้าท่ีระบุ

ทิศทางการพฒั นาประเทศที่ควรมุ่งเนน้ ไดอ้ ย่างชดั เจน การกาหนดกรอบแผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี 13 จงึ มุง่ เน้นคัดเลือก
ประเด็นการพัฒนาที่มีลาดับความสาคัญสูงในการพลิกโฉมประเทศไทยสู่ Hi-Value and Sustainable Thailand
ในองคป์ ระกอบสาคญั 4 ประการ ไดแ้ ก่ (1) เศรษฐกิจมูลค่าสูงท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม (High Value-Added
Economy) (2) สังคมแห่งโอกาสและความเสมอภาค (High Opportunity Society) (3) วิถีชีวิตท่ีย่ังยืน
(Eco-Friendly Living) และ (4) ปัจจัยสนับสนุนการพลิกโฉมประเทศ (Key Enablers for Thailand’s
Transformation) โดยภายใต้องค์ประกอบในแต่ละด้าน ได้มีการกาหนด “หมุดหมาย” (Milestones) ซ่ึงเป็น
การบ่งบอกถึงสิ่งที่ประเทศไทยปรารถนาจะ ‘เป็น’ มุ่งหวังจะ ‘มี’ หรือต้องการจะ ‘ขจัด’ ในช่วงระยะเวลา 5 ปี
ของแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 13 เพื่อสะท้อนประเด็นการพัฒนาท่ีมีความสาคัญต่อการพลิกโฉมประเทศสู่การเป็น
Hi-Value and Sustainable Thailand ภายในปี 2570 โดยรายละเอียดขององค์ประกอบทั้ง 4 ด้าน และ
หมุดหมาย มดี ังนี้

๕๘

4.5 ปจั จยั สนบั สนุนการพลิกโฉมประเทศ (Key Enablers for Thailand’s Transformation)
ปัจจัยขับเคล่ือนที่เอื้อต่อการเปล่ียนผ่านประเทศไปสู่การเป็น Hi-Value and Sustainable Thailand

โดยเฉพาะ กลไกการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ท้ังระบบการศึกษา และการยกระดับและปรับทักษะแรงงาน ที่มี
คุณภาพได้มาตรฐาน สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและโลกยุคใหม่และส่งเสริมการเคล่ือนย้าย
แรงงานไปสู่ภาคการผลิตและบริการที่มีผลิตภาพและมูลค่าสูง และกลไกการบริหารจัดการภาครัฐ ทั้งระเบียบ
กฎหมาย ระบบงบประมาณ โครงสร้างพื้นฐาน การให้บริการสาธารณะ ตลอดจนการติดตามประเมินผลท่ีทันสมัย
เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง ตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนา
ประเทศ โดยหมดุ หมายที่ต้องบรรลุในระยะเวลาของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 เพ่ือสร้าง “ปัจจัยสนับสนุนการพลิก
โฉมประเทศ” ประกอบด้วย

หมุดหมายท่ี 12 ไทยมีกาลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนาแห่ง
อนาคต คนเป็นรากฐานสาคัญในการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตาม คุณภาพการศึกษาและ
ระบบการพัฒนาทักษะแรงงานของไทยยังอยู่ในระดับต่า อีกทั้งยังประสบกับความเหลื่อมล้าในการเข้าถึง
ส่งผลให้ขาดแคลนกาลังแรงงานที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ ในระยะต่อไปปัญหาดังกล่าว
มีแนวโน้ มท่ีจะทวี ความรุ นแรงมากข้ึนจากอนาคตของงานแ ละการเปล่ี ยนแปลงอย่ างรวดเร็ว ของทาง
เทคโนโลยี วิถีชีวิตและวัฒนธรรมทม่ี าพร้อมกับความตอ้ งการงานและทักษะประเภทใหม่ ๆ รวมถึงทักษะทาง
พฤติกรรม (Soft Skills) ภายใต้บริบทการเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากรซ่ึงส่งผลให้กาลังแรงงานลดลง
อย่างต่อเนื่อง นอกจากน้ี การขาดความพร้อมทางเทคโนโลยีและความแตกต่างระหว่างพ้ืนท่ียังอาจทาให้
ปัญหาความเหลื่อมล้าทางการศึกษาและทักษะเพ่ิมสูงมากขึ้น อย่างไรก็ดี ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการ
ลดลงของประชากร และการขยายตัวของความเป็นเมืองจะนามาซ่ึงโอกาสในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ตลอดจนส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้สามารถผลิตและพัฒนากาลังคนท่ีมีสมรรถนะสูงเป็น
ปจั จยั พนื้ ฐานทส่ี าคญั ในการเปลี่ยนผา่ นประเทศไปสู่การเปน็ Hi-Value and Sustainable Thailand ต่อไป

๕๙

โดยขอบเขตของเปาู หมายการดาเนินงานในหมุดหมายที่ 12 มดี งั น้ี
1. ระบบการศึกษาไทยตั้งแต่ระบบปฐมวัยมีคุณภาพมาตรการใกล้เคียงกัน
ภายในประเทศและเทียบเท่าระดับสากล โดยมุ่งพัฒนาคนให้มีทักษะที่จาเป็นในโลกยุคใหม่อย่างรอบด้าน
อาทิ ทักษะด้านภาษาต่างประเทศ ทักษะด้านดิจิทัลและทักษะการเป็นผู้ประกอบการ รวมถึงทักษะทาง
สงั คม/พฤตกิ รรม (soft skills) อาทิ ทกั ษะดา้ นการคดิ เชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการ
ปรับตัว การยอมรับความแตกต่างและการส่ือสารและการทางานร่วมกับผู้อื่น พร้อมทั้งส่งเสริมการสร้างสังคม
แห่งการเรียนรู้ตลอดชวี ิต
2. ระบบการศึกษาและกลไกท่ีเกี่ยวเนื่องมีความเหมาะสมและสอดรับกับศักยภาพ
ของเด็กแตล่ ะกลุ่ม ต้งั แตก่ กล่มุ ผู้มคี วามสามารถพเิ ศษ จนถงึ กล่มุ NEETs (กล่มุ เดก็ และเยาวชนอายุระหว่าง
15-24 ปี ทีไ่ ม่ได้เรยี น ไมไ่ ด้ทางานหรอื ไม่ไดอ้ ยู่ในระบบการฝกึ อบรมใด ๆ)
3. สถาบันอุดมศึกษาสามารถปรับบทบาทในการผลิตและพัฒนากาลังคนให้มี
ปริมาณและคุณภาพสอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของตลาดแรงงานและสนับสนุนการมุ่งสู่การเป็น Hi-Value
and Sustainable Thailand รวมถึงมบี ทบาทในการพัฒนาทนุ มนษุ ย์ในทกุ ชว่ งวัย (นอกเหนือจากวยั เรยี น)
4. ระบบการฝึกอบรมเพ่ือปรับและยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน (Re-skill/Up-skill/
New-skill) มีคุณภาพ ทันสมัย ได้มาตรฐาน ตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุด ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
โดยเฉพาะการฝึกอบรมเพอ่ื โยกย้ายแรงงานไปสูภ่ าคการผลติ และบริการเปาู หมายภายใต้การสร้างเศรษฐกิจ
มูลค่าสูงท่ีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสาหรับผู้มีความเส่ียงจากการถูกทดแทนจากระบบอัตโนมัติ
กลุ่มวยั แรงงานตอนปลายและผูส้ งู อายุ
5. นโยบายการบริหารจัดการกาลังคนภายใต้บริบทสังคมสูงวัยมีความชัดเจน และ
สามารถลดทอนความเสย่ี งในการขาดแคลนกาลังแรงงาน อาทิ การขยายอายเุ กษียณ การยกระดับผลิตภาพ
แรงงานไทย และการดึงดดู แรงงานทักษะสูงจากต่างประเทศ
6. ระบบการบริหารจัดการกาลังคนและฐานข้อมูลสารสนเทศด้านกาลังคนของ
ประเทศมคี วามบรู ณาการ นาไปสกู่ ารออกแบบนโยบายที่เฉพาะเจาะจง และมปี ระสทิ ธิภาพย่งิ ขนึ้
7. สถาบันทางสังคมเอ้ือต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ต้ังแต่การส่งเสริมการเลี้ยงดู
บุตร การปฏิรูปส่ือและอุตสาหกรรมบันเทิง จนถึงมาตรการท่ีเอ้ือต่อการมีสุขภาพดี มีความตระหนักด้าน
ส่งิ แวดล้อม และมีจิตสานึกทด่ี ีตอ่ สังคมส่วนรวม
ทั้งนี้ การกาหนด “หมุดหมาย” (Milestones) ในช่วงระยะเวลา 5 ปี ของแผนพัฒนาฯ
ฉบับท่ี 13 เพื่อนาไปสู่การพลิกโฉมประเทศสู่การเป็น Hi-Value and Sustainable Thailand ภายในปี
2570 มเี ปูาหมายและผลลัพธข์ องการพัฒนาระดับหมุดหมาย ดังน้ี

เปา้ หมายท่ี 1 คนไทยไดร้ ับการพัฒนาอย่างเตม็ ศักยภาพในทุกช7วงวัย มีสมรรถนะที่จาเป็นสาหรับโลกยุค
ใหม่ มีคุณลักษณะตามบรรทัดฐานท่ีดีของสังคม มีคุณธรรม จริยธรรม และมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง
อยา่ งพลกิ โฉมฉับพลันของโลก สามารถดารงชวี ิตรว่ มกนั ในสังคมได้อย่างสงบสขุ

ตัวชวี้ ดั ที่ 1.1 ดัชนีพฒั นาการเด็กสมวยั เพมิ่ ข้ึนเปน็ ร้อยละ 88 ณ ส้ินสนิ้ สดุ แผนฯ
ตัวชว้ี ดั ที่ 1.2 รอ้ ยละของนักเรียนทม่ี ีสมรรถนะไมถ่ งึ ระดบั พื้นฐานของท้ัง 3 วชิ าในแต่ละ
กลมุ่ โรงเรียนลดลง ร้อยละ 8 เมอ่ื สิ้นสุดแผนฯ
ตวั ชี้วดั ที่ 1.3 ทุนชวี ติ เดก็ และเยาวชนไทยเพมิ่ ข้ึนร้อยละ 3 เมื่อส้ินสดุ แผนฯ
ตวั ชวี้ ดั ท่ี 1.4 จานวนนกั ศึกษาทเ่ี ข้าร่วมการจัดการศึกษาเพื่อพฒั นาบัณฑิตฐาน
สมรรถนะเพม่ิ เปน็ ร้อยละ 30

๖๐

ตวั ชี้วัดท่ี 1.5 ผลติ ภาพแรงงานไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ 4 ต่อปี
ตัวชว้ี ดั ท่ี 1.6 จานวนผูส้ งู อายุที่ประสบปญั หาความยากจนหลายมิตลิ ดลงร้อยละ 20
ของจานวนผู้สูงอายทุ ย่ี ากจนตอ่ ปี

เป้าหมายที่ 2 กาลงั คนมีสมรรถนะสูง สอดคล้องกับความต้องการของภาคการผลติ เปาู หมาย และสามารถ
สร้างงานอนาคต

ตวั ชี้วดั ท่ี 2.1 ดัชนีความสามารถในการแข่งขันของสภาเศรษฐกจิ โลก 6 ด้านทักษะ
คะแนนเพ่มิ ข้นึ ร้อยละ 20เม่ือสนิ้ สุดแผนฯ

ตวั ชีว้ ดั ท่ี 2.2 การจดั อันดับในด้านบคุ ลากรผูม้ ีความสามารถสถาบนั การศึกษาด้านการ
บรหิ ารธรุ กจิ มีคะแนนเพิ่มขนึ้ รอ้ ยละ 3 ต่อปี

ตัวชว้ี ดั ท่ี 2.3 จานวนและมูลคา่ ของธุรกจิ สตารท์ อพั เพ่ิมข้ึน

เปา้ หมายที่ 3 ประชาชนทุกกลมุ่ เขา้ ถึงการเรยี นรตู้ ลอดชีวติ
ตวั ชีว้ ดั ท่ี 3.1 การประเมินสมรรถนะผู้ใหญ่ในระดบั นานาชาติ ของคนไทยในทุกด้านไม่ต่ากวา่ คา่ เฉล่ียของ
ประเทศทเ่ี ข้ารับการประเมิน
ตัวชีว้ ัดที่ 3.2 กลุ่มประชากรอายุ 15 – 24 ปี ท่ไี มไ่ ดเ้ รยี น ไม่ได้ทางาน หรอื ไม่ไดฝ้ กึ อบรม ไม่เกิน
ร้อยละ 5 เมอื่ ส้นิ แผนฯ

5. แผนความมั่นคงแหง่ ชาติ

วิสัยทัศน์
"มีเสถียรภาพภายในประเทศ มีศักยภาพในการลดภัยข้ามเขตพรมแดนไทย มีบทบาท

สร้างสรรค์ในภูมิภาและประชาคมโลก" กล่าวคือ ชาติมีเสถียรภาพและเป็นปีกแผ่น ประชาชนมีความ
มั่นคงในชีวิต ประเทศมีการพัฒนาเน่ือง ปลอดภัยจากภัยคุกคามข้ามพรมแดน พร้อมเผชิญวิกฤตการณ์ มี
บทบาทท่ีสร้างสรรค์และรับเป็นที่ยอมรับในภูมิภาคและประชาคมโลกเพื่อรักษาความมั่นคงและ
ผลประโยชน์ของชาติ

นโยบายที่ ๑ เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติและการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อส่งเสริมและรักษาไว้
นโยบายที่ ๒ ซง่ึ การปกครองระบอประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ
นโยบายที่ ๓ เพื่อเสริมสร้างจิตสานึกของคนในชาติให้มีความจงรักภักดี และธารงรักษาไว้
นโยบายที่ ๔ ซ่ึงสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
สร้างความเปน็ ธรรม ความปรองดอง และความสมานฉนั ทใ์ นชาติ
เพือ่ ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความปรองดอง ความเป็นธรรม และความ
สมานฉนั ท์ในชาติเพื่อลดการเผชิญหน้า และการใช้ความรุนแรงในทุกรปู แบบ
ป้องกันและแก้ไขการก่อเหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้จังหวัด
ชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัย ปราศจากเงื่อนไขของการใช้ความรุนแรง
จัดระบบการบริหารจัดการชายแดนเพ่ือป้องกันและแก้ไขปัญหาข้าม
พรมแดน เพอ่ื พัฒนาศักยภาพของภาครฐั และส่งเสรมิ บทบาทและความ

๖๑

นโยบายท่ี ๕ เข้มแข็งของทุกภาคส่วนในการรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบที่กระทบกับ
นโยบายที่ ๖ ความม่ันคง
นโยบายที่ ๗ สร้างเสริมศักยภาพการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามข้ามชาติ เพื่อ
นโยบายที่ ๘ พัฒนาศักยภาพของภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุก
โยบายท่ี ๙ ภาคสว่ นในการรบั มอื กับภยั คุกคามทุกรปู แบบทีก่ ระทบกับความม่นั คง
นโยบายที่ ๑0
นโยบายที่ ๑ ๑ ปกป้อง รักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล เพ่ือพัฒนาศักยภาพของ
ภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ในการ
นโยบายที่ ๑๒ รบั มอื กับภยั คุกคามทกุ รูปแบบท่กี ระทบกับความม่ันคง

นโยบายท่ี ๑๓ จัดระบบ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง เพื่อพัฒนา
ศักยภาพของภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาค
นโยบายที่ ๑๔ ส่วน ในการรบั มอื กบั ภยั คุกคามทกุ รปู แบบทก่ี ระทบกบั ความมน่ั คง
เสริมสร้างความเข้มแข็งและภูมิคุ้มกันความม่ันคงภายใน เพ่ือพัฒนา
ศักยภาพของภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาค
ส่วน ในการรับมอื กบั ภยั คุกคามทุกรปู แบบทีก่ ระทบกบั ความมนั่ คง
เสรมิ สร้างความมน่ั คงของชาติจากภัยการทุจริต เพื่อพัฒนาศักยภาพของ
ภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ในการ
รับมือกบั ภัยคกุ คามทกุ รปู แบบที่กระทบกับความมน่ั คง
เสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของภาครัฐ
และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ในการรับมือกับภัย
คกุ คามทกุ รูปแบบท่ีกระทบกับความม่ันคง
รักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เพื่อให้
การจัดการฐานทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม พลังงาน และอาหาร
มีความม่ันคงความยั่งยืนและมีความสมดุลกับการขยายตัวของการพัฒนา
ประเทศ รวมถึงลดความเสย่ี งจากผลกระทบของกระแสโลกาภวิ ัตน์
เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร เพ่ือให้การจัดการฐาน
ทรพั ยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม พลังงาน และอาหาร มีความม่ันคง ความ
ย่ังยืนและมีความสมดุลกับการขยายตัวของการพัฒนาประเทศ รวมถึงลด
ความเส่ยี งจากผลกระทบของกระแสโลกาภิวตั น์
พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของ
ชาติ เพื่อพัฒนาศักยภาพการเตรียมความพร้อมของชาติในการเผชิญกับ
ภาวะสงครามและวิกฤตการณ์ความ มั่นคง อย่างมีเอกภาพและ
ประสิทธิภาพ
เสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ เพ่ือพัฒนาศักยภาพ
ก า ร เ ต รี ย ม ค ว า ม พ ร้ อ ม ข อ ง ช า ติ ใ น ก า ร เ ผ ชิ ญ กั บ ภ า ว ะ ส ง ค ร า ม แ ล ะ
วิกฤตการณ์ความม่ันคงอย่างมีเอกภาพและ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของ
กองทัพในการปูองกันประเทศสนับสนุนภารกิจที่ไม่ใช่การสงคราม และ
สามารถผนึกกาลังของกองทัพกับทุกภาคส่วนในการเผชิญกับภัยคุกคาม
ดา้ นการปอู งกันประเทศในทุกรปู แบบ

๖๒

นโยบายที่ ๑๕ พัฒนาระบบงานข่าวกรองให้มีประสิทธิภาพ เพ่ือพัฒนาศักยภาพของ
นโยบายที่ ๑๖ ภาครัฐ และส่งเสริมบทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ในการ
รบั มือกบั ภัยคุกคามทกุ รูปแบบท่กี ระทบกบั ความม่ันคง

เสรมิ สร้างดลุ ยภาพในการดาเนนิ ความสัมพันธ์ระหวา่ งประเทศ เพ่ือส่งเสริม
สภาวะแวดล้อมที่สร้างสรรค์และสันติในการอยู่ร่วมกับประเทศเพ่ือนบ้าน
กลุ่มประเทศอาเซียน ประชาคมโลก บนพื้นฐานของการรักษาผลประโยชน์
และการดารงเกยี รตภิ ูมิของชาติ

6. เป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน (Sustainable Development Goals SDGs) และการขับเคลื่อน
เป้าหมายการพฒั นาทีย่ ง่ั ยืนด้านการศึกษาในส่วนของประเทศไทย

วาระการพฒั นาที่ย่งั ยืน : เปา้ หมายการพัฒนาท่ียัง่ ยนื (Sustainable Development Goals: SDGs)
องค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) ได้เล็งเห็นความสาคัญของการพัฒนาของ

โลก โดยการตั้งเปูาหมายการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ของโลก เริ่มจากเปูาหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ
(Millennium Development Goals: MDGs) มีระยะเวลา 15 ปี (พ.ศ. 2543-2558) ต้ังเปูาหมายของ
การพัฒนาไว้ 8 เปาู หมาย ประกอบด้วย

1) ขจัดความยากจนและความหิวโหย
2) ให้เด็กทุกคนได้รบั การศกึ ษาระดับประถมศึกษา
3) สง่ เสริมความเทา่ เทยี มกนั ทางเพศและบทบาทสตรี
4) ลดอตั ราการตายของเด็ก
5) พฒั นาสุขภาพสตรีตั้งครรภ์
6) ต่อสกู้ ับโรคเอดส์ มาลาเรยี และโรคสาคัญอื่น ๆ
7) รักษาและจดั การส่งิ แวดลอ้ มอยา่ งยั่งยืน
8) ส่งเสรมิ การเปน็ หุน้ ส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลก
ผลการดาเนินงานตามเปูาหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษที่ผ่านมา มีท้ังในส่วนท่ีประสบ
ผลสาเรจ็ และไมป่ ระสบผลสาเร็จ หลังจากสิ้นสุดเปูาหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ สหประชาชาติได้ริเร่ิม
ดาเนินการหารือเก่ียวกับการพัฒนาของโลกให้มีความต่อเนื่องและย่ังยืน ภายใต้ชื่อ เปูาหมายเพื่อการ
พัฒนาที่ย่ังยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยเพ่ิมเปูาหมายจาก 8 เปูาหมาย เป็น 17
เป้าหมายหลัก (Goals) โดยในแต่ละเปูาหมายจะกาหนดเปูาหมายย่อย เรียกว่า เป้าประสงค์ (Targets)
และในแต่ละเปูาประสงค์ จะกาหนด ตัวช้ีวัด (Indicators) เพื่อใช้ในการติดตามความก้าวหน้าของการ
ดาเนนิ งานในแต่ละเปูาหมาย ทง้ั นี้ เปูาหมายการพัฒนาทย่ี ่งั ยนื 17 เปูาหมายหลกั ประกอบดว้ ย
1) ยุติความยากจนทุกรูปแบบในทุกที่
2) ยุติความหวิ โหย บรรลุความมั่นคงทางอาหารและยกระดับโภชนาการ และส่งเสริม
เกษตรกรรมที่ยงั่ ยืน
3) สร้างหลักประกันการมีสขุ ภาวะทีด่ ี และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดสี าหรับทุกคนในทุกชว่ งวัย
4) สร้างหลกั ประกันว่าทุกคนมีการศึกษาท่ีมีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และ
สนับสนุนโอกาสในการเรยี นรูต้ ลอดชีวติ
5) บรรลุความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน

๖๓

6) สรา้ งหลกั ประกนั เร่ืองน้าและการสุขาภิบาล ใหม้ ีการจัดการอยา่ งย่ังยนื และมสี ภาพพร้อม
ใชส้ าหรับทุกคน

7) สร้างหลกั ประกันว่าทุกคนเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ในราคาท่ีสามารถซื้อหาได้ เชื่อถือได้
และย่ังยนื

8) ส่งเสริมการเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกิจทต่ี ่อเน่ือง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานเต็มท่ี
และมผี ลติ ภาพ และการมีงานทีม่ คี ุณค่าสาหรับทุกคน

9) สร้างโครงสรา้ งพื้นฐานท่มี ีความยดื หยนุ่ ตอ่ การเปล่ียนแปลง สง่ เสรมิ การพฒั นาอุตสาหกรรม
ทค่ี รอบคลมุ และย่งั ยืน และสง่ เสรมิ นวตั กรรม

10) ลดความไม่เสมอภาคภายในและระหวา่ งประเทศ
11) ทาใหเ้ มืองและการต้ังถ่ินฐานของมนุษย์ มีความครอบคลุม ปลอดภัย ยืดหยุ่นต่อการ
เปลย่ี นแปลงและย่ังยืน
12) สรา้ งหลักประกนั ใหม้ ีแบบแผนการผลิตและการบรโิ ภคทย่ี ัง่ ยืน
13) ปฏิบตั ิการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้กับการเปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ
ทเ่ี กิดขึ้น
14) อนรุ ักษแ์ ละใชป้ ระโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างย่ังยืน
เพ่ือการพัฒนาทยี่ ั่งยืน
15) ปกปูอง ฟ้นื ฟู และสนับสนนุ การใชร้ ะบบนิเวศบนบกอย่างย่ังยืน จัดการปุาไม้ทีย่ ั่งยนื
ต่อสู้การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดนิ และฟ้ืนสภาพกลับมาใหม่ และหยุดการสญู เสีย
ความหลากหลายทางชีวภาพ
16) สง่ เสรมิ สังคมทีส่ งบสุขและครอบคลุมเพ่ือการพัฒนาทย่ี ั่งยืน ใหท้ ุกคนเข้าถึงความ
ยตุ ิธรรมและสร้างสถาบันท่ีมปี ระสิทธผิ ล รับผิดชอบ และครอบคลุมในทุกระดับ
17) เสริมความแขง็ แกร่งให้แก่กลไกการดาเนินงานและฟ้ืนฟูห้นุ สว่ นความร่วมมือระดับโลก
เพ่ือการพัฒนาท่ยี ั่งยืน

๖๔

เป้าหมายที่ 4 สร้างหลกั ประกันว่าทุกคนมกี ารศึกษาท่มี ีคุณภาพอย่างครอบคลมุ และเท่าเทียมและสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้

ตลอดชีวติ (Quality education)

4.1 สรา้ งหลกั ประกนั ว่าเด็กชายและเด็กหญิงทุกคนสาเรจ็ 4.1.1 สัดสว่ นของเดก็ /เยาวชนใน (ก) ระดบั ชนั้ ป.2 หรอื

การศึกษาระดบั ประถมศกึ ษาและมัธยมศกึ ษาที่มีคณุ ภาพ เทา่ ป.3 (ข) ป.6 และ (ค) ม.3 ท่มี ีความสามารถตามเกณฑข์ ้ัน

เทียม และไมม่ ีค่าใช้จ่าย นาไปสู่ผลลัพธท์ างการเรยี นทมี่ ี ต่าเป็นอย่างน้อย ใน (1) ดา้ นการอา่ น และ (2) ดา้ น

ประสิทธผิ ล ภายในปี พ.ศ. 2573 คณิตศาสตร์ หรือการคิดคานวณ จาแนกตาม เพศ

4.1.2 อัตราการสาเร็จการศกึ ษา (ระดับประถมศึกษา

มัธยมศกึ ษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย)

4.2 สร้างหลกั ประกนั ว่าเดก็ ชายและเดก็ หญงิ ทุกคนเขา้ ถึง 4.2.1 รอ้ ยละของเดก็ อายตุ ่ากวา่ 5 ปี ทม่ี พี ฒั นาการ

การพัฒนา การดูแล และการจัดการศกึ ษา ทางด้านสุขภาพ การเรียนรู้ และพัฒนาการ

ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา สาหรบั เด็กปฐมวัยทม่ี คี ณุ ภาพ ทางบคุ ลิกภาพตามวยั จาแนกตามเพศ

เพอ่ื ใหเ้ ดก็ เหล่านั้นมีความพรอ้ มสาหรับการศกึ ษา 4.2.2 อัตราการเขา้ เรยี นปฐมวยั (อย่างนอ้ ย 1 ปี ก่อนถงึ

ระดบั ประถมศกึ ษา ภายในปี พ.ศ. 2573 เกณฑ์อายเุ ข้าเรยี นประถมศกึ ษา) จาแนกตามเพศ

4.3 สรา้ งหลกั ประกันใหช้ ายและหญงิ ทุกคนเขา้ ถงึ การศกึ ษา 4.3.1 อัตราการเขา้ เรยี นของเยาวชนและผ้ใู หญ่

อาชีวศกึ ษา อุดมศกึ ษา รวมถงึ มหาวิทยาลยั ทง้ั ในระบบ นอกระบบการศึกษา รวมทง้ั

ทม่ี ีคณุ ภาพ ในราคาท่สี ามารถจา่ ยได้ ภายในปี พ.ศ. 2573 การฝกึ อบรมในช่วง 12 เดอื นทผ่ี ่านมา จาแนกตามเพศ

4.4 เพม่ิ จานวนเยาวชนและผูใ้ หญ่ทม่ี ที ักษะท่ีเกยี่ วขอ้ ง 4.4.1 สัดสว่ นของเยาวชน/ผใู้ หญท่ มี่ ีทกั ษะ

จาเป็น รวมถึงทกั ษะทางด้านเทคนิคและอาชพี ทางด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร จาแนกตาม

สาหรับการจา้ งงาน การมีงานท่ีมคี ุณคา่ และการเปน็ ประเภททักษะ

ผู้ประกอบการ ภายในปี พ.ศ. 2573

4.5 ขจัดความเหลีอ่ มล้าทางเพศด้านการศกึ ษา 4.5.1 ดชั นีความเทา่ เทยี มกัน (ผู้หญงิ -ผ้ชู าย/ในเขต-นอก

และสรา้ งหลกั ประกนั ว่ากลุ่มท่เี ปราะบางซึง่ รวมถึงผู้พิการ ชน เขตเมือง/ความมั่งคัง่ สูง-ต่า และอน่ื ๆ

พน้ื เมือง และเดก็ เข้าถงึ การศกึ ษาและการฝกึ อาชพี ทกุ ระดบั เชน่ สถานะความพิการ คนพน้ื เมอื ง และคนทไี่ ดร้ ับ

อยา่ งเท่าเทียม ภายในปี พ.ศ. 2573 ผลกระทบจากความขดั แย้งหากมขี ้อมลู ) สาหรบั

ทุกตวั ช้วี ดั ที่ในรายการน้ที สี่ ามารถแยกได้

4.6 สร้างหลกั ประกนั วา่ เยาวชนทุกคนและผูใ้ หญ่ 4.6.1 สดั ส่วนของประชากรในกลมุ่ อายุทีก่ าหนด

ทั้งชายและหญงิ ในสัดสว่ นสงู สามารถอ่านออกเขียนได้ มีความรู้ความสามารถสาหรบั การทางานในดา้ น

และคานวณได้ ภายในปี พ.ศ. 2573 ก) การอ่านออกเขยี นได้ ข) ทักษะในการคานวณ จาแนก

ตามเพศ

4.7 สร้างหลกั ประกันวา่ ผู้เรียนทุกคนไดร้ บั ความรู้ 4.7.1 ระดับการดาเนินการเพอ่ื บรรจุ

และทกั ษะทจี่ าเปน็ สาหรับสง่ เสรมิ การพฒั นาท่ียงั่ ยนื รวมไป (i) การศกึ ษาเพ่ือความเปน็ พลเมอื งโลก และ

ถงึ การศึกษาสาหรบั การพฒั นาทยี่ งั่ ยนื และการมีวิถชี ีวิตที่ (ii) การจดั การศกึ ษาเพ่อื การพัฒนาทยี่ ่งั ยืน

ย่ังยืน สทิ ธิมนุษยชน ความเสมอภาคระหว่างเพศ การสง่ เสริม เป็นเรือ่ งหลักใน (ก) นโยบายการศกึ ษาของประเทศ (ข)

วฒั นธรรมแหง่ ความสงบสขุ และการไม่ใช้ความรุนแรง การ หลักสตู ร (ค) การศกึ ษาของครู

เปน็ พลเมอื งของโลก และความชืน่ ชมในความหลากหลาย และ (ง) การประเมนิ ผลนักเรยี น

ทางวฒั นธรรมและการท่ีวัฒนธรรมมสี ่วนช่วยให้เกิดการ

พฒั นาท่ยี ั่งยืน ภายในปี พ.ศ. 2573

4.a สร้างและยกระดบั สถานศกึ ษา ตลอดจนเคร่อื งมือและ 4.a.1 สดั สว่ นของโรงเรยี นทมี่ กี ารเข้าถึงบริการ

อุปกรณก์ ารศึกษาทอ่ี ่อนไหวตอ่ เดก็ ผู้พิการ ขัน้ พ้ืนฐาน จาแนกตามประเภทบรกิ าร

และเพศภาวะ และจดั ให้มสี ภาพแวดล้อมทางการเรยี นรู้ (สัดสว่ นของโรงเรียนท่มี ีการเขา้ ถงึ (a) ไฟฟาู

ทป่ี ลอดภัย ปราศจากความรุนแรง ครอบคลมุ (b) อินเทอรเ์ น็ตท่ีใชใ้ นการเรียนการสอน

และมปี ระสิทธผิ ลสาหรับทุกคน (c) เครอื่ งคอมพิวเตอร์ท่ีใช้ในการเรียนการสอน

(d) โครงสร้างพื้นฐาน และวัสดอุ ปุ กรณ์ทไี่ ดร้ บั การปรบั ให้

๖๕

4.b เพม่ิ จานวนทนุ การศกึ ษาทั่วโลกทใ่ี หแ้ ก่ประเทศกาลัง เหมาะสมกับนกั เรียนท่มี คี วามบกพร่อง
พฒั นา โดยเฉพาะประเทศพัฒนานอ้ ยทส่ี ุด ทางรา่ งกาย (e) น้าด่มื พืน้ ฐาน (f) ส่งิ อานวยความสะดวก
รัฐกาลังพฒั นาทเ่ี ปน็ เกาะขนาดเลก็ และประเทศในทวปี พื้นฐานดา้ นสุขอนามยั ทแี่ บง่ แยกตามเพศ และ (g) สง่ิ
แอฟริกา เพ่อื เข้าศึกษาต่อในระดับอดุ มศึกษา รวมถงึ การฝึก อานวยความสะดวกพื้นฐานในการทาความสะอาดมอื (ตาม
อาชีพ และโปรแกรมด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ นิยามตวั ช้ีวัดของ WASH
ส่ือสาร ด้านเทคนคิ วิศวกรรม และวทิ ยาศาสตร์ ในประเทศ ในเรื่อง น้า สขุ อนามยั และสขุ ลักษณะสาหรับทกุ คน))
พัฒนาแลว้ และประเทศกาลังพัฒนาอืน่ ๆ ภายในปี พ.ศ. 4.b.1 ปริมาณความชว่ ยเหลอื เพอ่ื การพัฒนา
2563 อยา่ งเป็นทางการ (ODA) ทเ่ี ปน็ ทุนการศกึ ษา จาแนกตาม
สาขาและประเภทการศึกษา
4.c เพิ่มจานวนครทู ม่ี ีคณุ วุฒิ รวมถงึ การดาเนินการ
ผ่านความร่วมมอื ระหว่างประเทศในการฝกึ อบรมครู 4.c.1 สดั สว่ นของครูท่ีมีคณุ วุฒเิ หมาะสมในการจดั
ในประเทศกาลงั พฒั นา โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในประเทศพัฒนา การศึกษาพื้นฐาน จาแนกตามระดบั การศึกษา
นอ้ ยทีส่ ดุ และรัฐกาลังพัฒนาท่ีเป็นเกาะขนาดเล็ก ภายในปี สดั ส่วนของครูในระดบั (a) ก่อนประถมศกึ ษา
พ.ศ. 2573 (b) ประถมศึกษา (c) มัธยมศึกษาตอนต้น
และ (d) มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ผซู้ ่ึงอยา่ งน้อยไดร้ ับการ
ฝึกอบรม (เชน่ การฝึกอบรมการสอน) ซึ่งตอ้ งดาเนินการกอ่ น
หรือระหว่างชว่ งท่ีทาการสอน
ในระดับทเ่ี กีย่ วข้องของแตล่ ะประเทศ

7. แผนพฒั นาการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560-2579)

การจัดการศึกษาในศตวรรษท่ี 21 จุดเน้นของการศึกษาเปล่ียนไปสู่ “การเรียนรู้” โดยมุ่งเน้นการ
เรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้การเรียนรู้เป็นปัจจัยสร้างความสามารถและศักยภาพของคนและสนับสนุน
ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังน้ัน มนุษย์ทุกคนทั้งชายหญิง ไม่ว่าจะมีสถานภาพทางสังคม
หรือเศรษฐกิจแตกต่างกนั อย่างไร ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกันที่จะเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
เพ่ือการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งต่อตนเองและต่อสังคมโดยส่วนรวม การศึกษาตลอดชีวิตเป็นการส่งเสริมสิทธิของแต่
ละบุคคลในการเข้าถึงการเรียนรู้ เพ่ือพัฒนาตนเองในด้านสังคม เศรษฐกิจและการเมือง การศึกษาตลอด
ชวี ติ ครอบคลุมถงึ การเรียนรทู้ ่เี ปน็ ทางการ ไม่เปน็ ทางการ และตามอัธยาศยั

แนวคิดการจัดการศึกษา (Conceptual Design) ตามแผนการศึกษาแห่งชาติ ยึดหลักสาคัญในการจัด
การศึกษา ประกอบด้วย หลักการจัดการศึกษาเพ่ือปวงชน (Education for All) หลักการจัดการศึกษาเพื่อ
ความเท่าเทียมและท่ัวถึง (Inclusive Education) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency
Economy) และหลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคม (All for Education) อีกทั้งยึดตามเปูาหมาย
การพัฒนาท่ีย่ังยืน (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) ประเด็นภายในประเทศ
(Local Issues) อาทิ คณุ ภาพของคนทกุ ชว่ งวัย การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศ ความเหล่ือม
ล้าของการกระจายรายได้ และวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม โดยนายุทธศาสตร์ชาติ (National Strategy) มาเป็น
กรอบความคดิ สาคญั ในการจดั ทาแผนการศึกษาแหง่ ชาติ

๖๖

จากแนวคิดการจัดการศึกษาดังกล่าวข้างต้นจึงกาหนดวิสัยทัศน์(Vision)แผนการศึกษาแหง่ ชาติ คือ
“คนไทยทุกคนไดร้ บั การศึกษาและเรียนรูต้ ลอดชีวิตอย่างมคี ุณภาพ ดารงชีวิตอย่างเปน็ สุข สอดคล้องกับหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลีย่ นแปลงของโลกศตวรรษท่ี 21”

มีวัตถปุ ระสงค์ในการจัดการศึกษา 4 ประการ คือ
(1) เพือ่ พฒั นาระบบแลกระบวนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและมีประสิทธภิ าพ
(2) เพ่ือพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะทักษะและสมรรถนะท่ีสอดคล้องกับบทบัญญัติ

ของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ และยทุ ธศาสตร์ชาติ
(3) เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคี และ

รว่ มมือผนึกกาลังม่งุ สู่การพัฒนาประเทศอย่างย่ังยืน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
(4) เพ่อื นาประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้าภายในประเทศ

ลดลง เพ่ือให้บรรลุวิสัยทัศน์และจุดมุ่งหมายในการจัดการศึกษาดังกล่าวข้างต้น แผนการศึกษาแห่งชาติได้
วางเปูาหมายไว้ 2 ด้าน คือเปูาหมายด้านผู้เรียน (Learner Aspirations) โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มี
คณุ ลกั ษณะและทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3Rs8Cs) ประกอบด้วย ทักษะและคุณลักษณะต่อไปนี้

✥ 3Rs ไดแ้ ก่ การอ่านออก (Reading) การเขยี นได้ (Writing) และการคิดเลขเป็น
(Arithmetic)

✥ 8Cs ไดแ้ ก่ ทักษะด้านการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical
Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะ
ด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross – culturalUnderstanding) ทักษะด้านความร่วมมือ
การทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการส่ือสาร
สารสนเทศ และการรู้เท่าทันส่ือ (Communications, Information and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์
และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้
(Career and Learning Skills) และความมเี มตตา กรุณา มีวนิ ัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม(Compassion)

เปาู หมายของการจัดการศึกษา (Aspirations) 5 ประการ ซ่งึ มตี ัวช้ีวดั เพอ่ื การบรรลุ
เปาู หมาย 53 ตวั ชว้ี ัด ประกอบดว้ ย เปาู หมายและตัวช้ีวัดท่ีสาคญั ดงั นี้

1) ประชากรทุกคนเข้าถงึ การศึกษาท่ีมคี ุณภาพและมีมาตรฐานอยา่ งท่วั ถึง (Access)
มตี ัวชว้ี ดั ท่ีสาคญั เช่น ประชากรกลุ่มอายุ 6 - 14 ปีทุกคนไดเ้ ข้าเรียนในระดบั ประถมศึกษาแลมัธยมศกึ ษา
ตอนต้นหรอื เทยี บเทา่ ทรี่ ฐั ตอ้ งจดั ให้ฟรี โดยไม่เก็บค่าใชจ้ ่าย ผู้เรยี นพิการได้รบั การพฒั นาสมรรถภาพหรือ
บริการทางการศึกษาทเ่ี หมาะสมทุกคน และประชากรวยั แรงงานมกี ารศึกษาเฉลย่ี เพ่มิ ขน้ึ เปน็ ตน้

2) ผเู้ รยี นทกุ คน ทกุ กลมุ่ เปูาหมาย ไดร้ บั บรกิ ารการศึกษาที่มคี ณุ ภาพตามมาตรฐาน
อยา่ งเทา่ เทียม (Equity) มีตวั ช้ีวัดที่สาคัญ เช่น ผเู้ รยี นระดบั การศึกษาขน้ั พื้นฐานทุกคนไดร้ ับการสนับสนุน
ค่าใช้จ่ายในการศึกษา 15 ปี เป็นต้น

3) ระบบการศึกษาท่ีมีคุณภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุขีดความสามารถเต็ม
ตามศักยภาพ (Quality) มีตวั ชีว้ ดั ทสี่ าคัญ เช่น นักเรยี นมีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้น
พื้นฐาน (O-NET) แต่ละวิชาผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ 50 ขึ้นไปเพ่ิมขึ้น และคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบ
โครงการประเมนิ ผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment :
PISA)ของนกั เรียนอายุ 15 ปสี ูงขนึ้ เปน็ ตน้

4) ระบบการบริหารจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ เพ่ือการลงทุนทางการศึกษา
ที่คุ้มค่าและบรรลุเปูาหมาย (Efficiency) มีตัวช้ีวัดที่สาคัญ เช่น ร้อยละของสถานศึกษาขนาดเล็กที่ไม่ผ่าน

๖๗

เกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอกลดลง มีระบบการบริหารงานบุคคล ครู และบุคลากรทางการศึกษา
ท่ีมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน รวมท้ังมีกลไกส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนสนับสนุนทรัพยากร
เพอ่ื การจัดการศกึ ษา เปน็ ตน้

5) ระบบการศึกษาท่ีสนองตอบและก้าวทันการเปล่ียนแปลงของโลกท่ีเป็นพลวัต
และบริบทที่เปล่ียนแปลง (Relevancy) มีตัวช้ีวัดท่ีสาคัญ เช่น อันดับความสามารถในการแข่งขันของ
ประเทศด้านการศึกษาดีข้ึน สัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับผู้เรียนสามัญศึกษา และจานวน
สถาบันอดุ มศึกษาท่ตี ิดอันดบั 200 อันดับแรกของโลกเพมิ่ ข้นึ เปน็ ต้น เพ่ือให้บรรลุวสิ ัยทัศน์ จุดมงุ่ หมาย
และเปาู หมายดงั กลา่ วข้างต้น แผนการศึกษาแห่งชาติจึงได้กาหนดช่วงเวลาในการดาเนินการในแต่ละเปูาหมาย
และตัวชี้วัด เป็น 5 ช่วง ดังนี้ ระยะเร่งด่วน ระยะ 5 ปีแรกของแผน ระยะ 5 ปีท่ีสองของแผน ระยะ 5 ปีที่
สามของแผน และระยะ 5 ปสี ดุ ท้ายของแผน

แผนการศึกษาแห่งชาติได้กาหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการศึกษาภายใต้
6 ยุทธศาสตร์หลักท่ีสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพ่ือให้แผนการศึกษาแห่งชาติบรรลุเปูาหมาย
ตามจดุ มงุ่ หมาย วิสัยทศั น์ และแนวคดิ การจดั การศกึ ษาดงั กลา่ วขา้ งต้น ดังน้ี

ยทุ ธศาสตร์ท่ี 1 : การจัดการศึกษาเพ่อื ความม่ันคงของสังคมและประเทศชาติ
แนวทางการพฒั นา
1.1 พัฒนาการจัดการศึกษาเพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ

และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ
1.2 ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในเขตพัฒนา

พิเศษเฉพาะกจิ จงั หวัดชายแดนภาคใต้
1.3 ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในพื้นที่พิเศษ (พ้ืนที่

สูง พ้ืนท่ีตามแนวตะเข็บชายแดน และพื้นท่ีเกาะแก่ง ชายฝ่ังทะเล ทั้งกลุ่มชนต่างเช้ือชาติ ศาสนา และ
วัฒนธรรม กลุ่มชนชายขอบ และแรงงานต่างด้าว)

1.4 พัฒนาการจัดการศึกษาเพ่ือการจัดระบบการดูแลและปูองกันภัยคุกคามในรูปแบบ
ใหม่ อาทิ อาชญากรรมและความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติ ภัยจากโรคอุบัติ
ใหม่ ภยั จากไซเบอร์ เปน็ ต้น

ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 2 : การผลติ และพฒั นากาลงั คน การวจิ ัยและนวัตกรรรม เพ่อื สร้างขดี ความสามารถใน
การแขง่ ขันของประเทศ

แนวทางการพฒั นา
2.1 ผลติ และพัฒนากาลังคนใหม้ ีสมรรถนะในสาขาที่ตรงตามความต้องการของ

ตลาดงานและการพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศ
2.2 สง่ เสริมการผลิตและพฒั นากาลงั คนที่มีความเช่ยี วชาญและเป็นเลศิ เฉพาะด้าน
2.3 ส่งเสรมิ การวิจยั และพัฒนา เพ่ือสรา้ งองค์ความรแู้ ละนวัตกรรมทส่ี รา้ ง

ผลผลิตและมลู คา่ เพ่ิมทางเศรษฐกิจ

ยทุ ธศาสตร์ที่ 3 : การพัฒนาศกั ยภาพคนทุกชว่ งวยั และการสร้างสงั คมแห่งการเรียนรู้
แนวทางการพฒั นา
3.1 สง่ เสริม สนับสนนุ ให้คนทกุ ช่วงวัยมที ักษะ ความรคู้ วามสามารถ และการ

พัฒนาคุณภาพชีวิตอยา่ งเหมาะสม เต็มตามศักยภาพในแตล่ ะชว่ งวัย

๖๘

3.2 ส่งเสริมและพัฒนาแหลง่ เรียนรู้ ส่ือตาราเรยี น และสอื่ การเรยี นรตู้ ่าง ๆ ใหม้ ี
คณุ ภาพมาตรฐานและประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเรยี นรู้ได้โดยไมจ่ ากัดเวลาและสถานท่ี

3.3 สรา้ งเสริมและปรบั เปล่ียนค่านยิ มของคนไทยให้มีวินัย จิตสาธารณะ และ
พฤติกรรมที่พึงประสงค์

3.4 พัฒนาระบบและกลไกการตดิ ตาม การวัดและประเมินผลผู้เรียนให้มี
ประสิทธภิ าพ

3.5 พฒั นาคลังข้อมูล สือ่ และนวัตกรรมการเรียนรู้ ท่ีมีคุณภาพและมาตรฐาน
3.6 พฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
3.7 พฒั นาคุณภาพครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศกึ ษา
ยุทธศาสตร์ท่ี 4 : การสรา้ งโอกาส ความเสมอภาค และความเทา่ เทียมทางการศกึ ษา
แนวทางการพัฒนา
4.1 เพ่มิ โอกาสและความเสมอภาคในการเขา้ ถึงการศึกษาทม่ี คี ณุ ภาพ
4.2 พฒั นาระบบเทคโนโลยดี จิ ิทลั เพ่ือการศึกษาสาหรบั คนทุกชว่ งวัย
4.3 พฒั นาฐานข้อมลู ด้านการศึกษาท่มี มี าตรฐาน เชอื่ มโยง และเขา้ ถงึ ได้
ยุทธศาสตรท์ ี่ 5 : การจัดการศกึ ษาเพอื่ สรา้ งเสรมิ คณุ ภาพชวี ิตทเี่ ปน็ มิตรกับสิ่งแวดลอ้ ม
แนวทางการพฒั นา
5.1 ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างจิตสานึกรักษ์ส่ิงแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม
และนาแนวคดิ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสกู่ ารปฏิบัตใิ นการดาเนนิ ชีวติ
5.2 ส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้
ตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การสรา้ งเสรมิ คณุ ภาพชีวติ ทเี่ ป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
5.3 พัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรม ด้านการสร้างเสริมคุณภาพชีวิต
ที่เป็นมติ รกับส่ิงแวดลอ้ ม
ยทุ ธศาสตร์ที่ 6 : การพฒั นาประสิทธภิ าพของระบบบริหารจัดการศกึ ษา
แนวทางการพฒั นา
6.1 ปรับปรุงโครงสรา้ งการบริหารจัดการศกึ ษา
6.2 เพิม่ ประสทิ ธภิ าพการบริหารจดั การสถานศึกษา
6.3 สง่ เสริมการมีส่วนร่วมของทกุ ภาคส่วนในการจดั การศกึ ษา
6.4 ปรับปรุงกฎหมายเกีย่ วกับระบบการเงนิ เพ่ือการศึกษาที่ส่งผลต่อคณุ ภาพ
และประสิทธภิ าพการจดั การศึกษา
6.5 พัฒนาระบบบรหิ ารงานบุคคลของครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา

๖๙

8. นโยบายรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางตรีนุช เทยี นทอง)

นโยบายรฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร (นางตรนี ชุ เทยี นทอง) มสี าระสาคญั ดงั นี้
จุดเน้นสาคัญ นโยบาย แนวทางหลักการดาเนนิ งานและโครงการสาคัญของกระทรวงศกึ ษาธิการ
“TRUST” หมายถงึ “ความไวว้ างใจ” เป็นรูปแบบการทางานที่จะทาให้ครู บุคลากรทางการศึกษา
ผู้ปกครอง ผเู้ รยี น และประชาชน กลบั มาใหค้ วามไว้วางใจในการทางานของกระทรวงศึกษาธกิ ารอีกคร้งั โดย

T ยอ่ มาจากTransparency (ความโปรง่ ใส)

R ยอ่ มาจากResponsibility (ความรบั ผิดชอบ)

S ย่อมาจากStudent-Centricity
(ผเู้ รยี นเป็นเปาู หมายแหง่ การพฒั นา)

T ยอ่ มาจากTechnology (เทคโนโลย)ี

รูปแบบการทางาน“TRUST” คือการพัฒนาต่อยอดจากรูปแบบการทางาน“MOE ONE
TEAM” หรือ “การทางานร่วมกันเป็นหน่ึงเดียวของกระทรวงศึกษาธิการ” ท่ีกระทรวงศึกษาธิการได้
ดาเนินการมาโดย ตลอด ซ่ึง“TRUST” จะเข้ามาเป็นส่วนเสริมในเร่ืองความโปร่งใสทั้งในเชิงกระบวนการ
ทางานและ กระบวนการตรวจสอบจากภาคส่วนต่าง ๆ การสนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนดาเนินการตาม
ภารกิจของตน ด้วยความรับผิดชอบต่อตัวเอง องค์กร ประชาชน และประเทศชาติ ให้ความสาคัญกับการ
ประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนParticipation)( ผ่านกลไกการรับฟังความคิดเห็นมาประกอบการ
ดาเนินงานต่าง ๆ ท่ีเป็นประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษา ท้ังนี้ กระทรวงศึกษาธิการเป็นพื้นที่ของ
ทุกคนความเป็น มี อันหน่ึงอันเดียวระหว่างครูบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ผู้เรียน และประชาชน ซ่ึงมี
เปูาหมายร่วมกัน คือ การมีผู้เรียนเป็นเปูาหมายแห่งการพัฒนาโดยการทาให้ผู้เรียนมีวิธีคิดและทักษะท่ีเป็น
สากลสอดคล้องกับ พลวัตในศตวรรษท่ี ๒๑ ควบคไู่ ปกบั สานึกและความเข้าใจในความเป็นไทย ผ่านการมีความ
พร้อมดา้ น เทคโนโลยีท้ังในเชงิ โครงสรา้ ง(Infrastructure) คือ การเข้าถึงสิ่งจาเป็นและส่ิงอานวยความสะดวก
ด้าน การศึกษาอย่างท่ัวถึง เพื่อลดความเหล่ือมล้าของโอกาสในการศึกษา และในเชิงการเรียนรู้ (Learning)
คือ แหล่งข้อมูล แหล่งเรียนรู้รูปแบบต่าง ๆ ที่ทันสมัย และจะช่วยให้ผู้เรียนทุกคนถึงพร้อมซ่ึงคุณลักษณะ
อันพงึ ประสงค์ทกุ ประการ

เพ่ือเป็นการตระหนักถึงความสาคัญของยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้าง
ศักยภาพทรัพย์ มนุษย์ โดยเฉพาะแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ(พ..๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) ประเด็นการพัฒนา
ศักยภาพคน ตลอดช่วงชีวิการสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ การ
พฒั นาเดก็ ต้ังแต่ ชว่ งต้งั ครรภ์จนถึงปฐมวัย การพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น การพัฒนาและยกระดับศักยภาพวัย
แรงงาน การส่งเสริมศักยภาพวัยผู้สูงอายุ ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงใน
ศตวรรษท่ี ๒๑ และพหปุ ัญญาของมนุษย์ทีห่ ลากหลาย และประเดน็ อน่ื ที่เก่ียวข้อง

๗๐

นาเสนอนโยบายการจดั การศึกษาทัง้ ๑๒ ข้อ ดงั น้ี

ข้อ ๑ การปรับปรุงหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ให้ทันสมัยและทันการเปลี่ยนแปลง
ของโลกใน ศตวรรษท่ี ๒๑ โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกระดับการศึกษาให้มีความรู้และคุณลักษณะท่ีเหมาะสม
กับทักษะบริบทสงั คมไทย

ข้อ ๒ การพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครูและอาจารย์ในระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
และอาชีวศึกษา ให้มีสมรรถนะทางภาษาและดิจิทัล เพ่ือให้ครูและอาจารย์ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะ
ท้ังด้านการจัดการ เรียนรู้ ด้วยภาษาและดิจิทัล สามารถปรับวิธีการเรียนการสอนและการใช้ส่ือทันสมัย
และมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ผลลพั ธท์ างการศึกษาทเี่ กิดกับผเู้ รียน

ข้อ ๓ การปฏิรูปการเรียนรู้ด้วยดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วยดิจิทัลแห่งชาติ
(NDLP) และการ ส่งเสริมการฝึกทักษะดิจิทัลในชีวิตประจาวัน เพ่ือให้มีหน่วยงานรับผิดชอบพัฒนา
แพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วย ดิจิทัลแห่งชาติที่สามารถนาไปใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ท่ีทันสมัยและ
เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้อย่าง กว้างขวางผ่านระบบออนไลน์ และการนาฐานข้อมูลกลางทางการศึกษามาใช้
ประโยชนใ์ นการพัฒนา ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารและการจัดการศกึ ษา

ขอ้ ๔ การพฒั นาประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารและการจัดการศึกษา โดยการส่งเสริมสนับสนุน
สถานศึกษาให้มี ความเป็นอิสระและคล่องตัว การกระจายอานาจการบริหารและการจัดการศึกษาโดยใช้
จงั หวดั เป็นฐาน โดยอาศัยอานาจตามกฎหมายการศึกษาแห่งชาติท่ีได้รับการปรับปรุงเพ่ือกาหนดให้มีระบบ
บริหารและการ จัดการ รวมถึงการจัดโครงสร้างหน่วยงานให้เอ้ือต่อการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ
สถานศึกษาให้มี ความเป็นอิสระและคล่องตัว การบริหารและการจัดการศึกษาโดยใช้จังหวัดเป็นฐาน
มีระบบการบรหิ ารงาน บคุ คลโดยยดึ หลักธรรมาภิบาล

ข้อ ๕ การปรับระบบการประเมินผลการศึกษาและการประกันคุณภาพ พร้อมจัดทดสอบ
วัดความรแู้ ละ ทักษะทจ่ี าเปน็ ในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาทั้งสายวิชาการและสายวิชาชีพ เพื่อให้ระบบ
การประเมินผล การศึกษาทุกระดับและระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย
ตอบสนองผลลพั ธ์ ทางการศึกษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

ข้อ ๖ การจัดสรรและการกระจายทรัพยากรให้ท่ัวถึงทุกกลุ่มเปูาหมาย รวมถึงการระดม
ทรัพยากรทาง การศึกษาจากความร่วมมือทุกภาคส่วน เพ่ือให้การจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษามีความ
เป็นธรรมและสร้าง โอกาสให้กลุ่มเปูาหมายได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพทัดเทียมกลุ่มอื่น ๆ กระจาย
ทรัพยากรทั้งบคุ ลากรทาง การศกึ ษา งบประมาณและสอื่ เทคโนโลยีได้อยา่ งทวั่ ถึง

ข้อ ๗ การนากรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF)
สู่การปฏิบัติเป็น การผลิตและการพัฒนากาลังคนเพื่อการพัฒนาประเทศโดยใช้กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ
เชอื่ มโยงระบบการศกึ และการอาชีพโดยใช้กลไกการเทียบโอนประสบการณ์ด้วยธนาคารหน่วยกิตและการ
จดั ทามาตรฐานอาชีพใน สาขาทสี่ ามารถอ้างอิงอาเซียนได้

ข้อ ๘ การพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาเพ่ือพัฒนา
ร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย เพ่ือเป็นการขับเคล่ือนแผนบูรณาการการ
พัฒนาเด็กปฐมวัย ตามพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๖๒ สู่การปฏิบัติเป็นรูปธรรม
โดยหน่วยงานที่เก่ียวข้อง นาไปเป็นกรอบในการจัดทาแผนปฏิบัติการเพ่ือพัฒนาเด็กปฐมวัย และมีการ
ตดิ ตามความก้าวหนา้ เป็นระยะ

๗๑

ข้อ ๙ การศึกษาเพื่ออาชีพและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพ่ือให้ผู้
จบการศกึ ษา ระดบั ปริญญาและอาชีวศึกษามีอาชีพและรายได้ท่ีเหมาะสมกับการดารงชีพและคุณภาพชีวิต
ท่ดี ี มสี ่วนช่วย เพมิ่ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ในเวทีโลกได้

ข้อ ๑๐ การพลกิ โฉมระบบการศึกษาไทยดว้ ยการนานวตั กรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมา
ใช้ในการจัด การศึกษาทุกระดับการศึกษาเพื่อให้สถาบันการศึกษาทุกแห่งนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่
ทันสมยั มาใช้ การจัดการศกึ ษาผ่านระบบดจิ ิทัล

ข้อ ๑๑ การเพ่ิมโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาท่ีมีคุณภาพของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทาง
การศึกษาและ ผู้เรียนท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษเพ่ือเป็นการเพิ่มโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาที่มี
คุณภาพของกลุ ผ้ดู อ้ ยโอกาสทางการศกึ ษา และผู้เรียนท่มี ีความตอ้ งการจาเปน็ พิเศษ

ข้อ ๑๒ การจัดการศึกษาในระบบนอกระบบ และตามอัธยาศัย โดยยึดหลักการเรียนรู้
ตลอดชีวิตและการมี ส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพ่ือเพิ่มโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพของ
กลุ่มผูด้ อ้ ยโอกาสทาง การศึกษาและผ้เู รยี นทีม่ คี วามตอ้ งการจาเปน็ พเิ ศษ

เนอ่ื งดว้ ยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในปัจจุบัน
ได้ก่อให้เกิด ความนิยมในรูปแบบการเรียนการสอนออนไลน์ (Online) มากยิ่งข้ึน ส่งผลกระทบอย่างมี
นัยสาคัญต่อการ เตรียมผู้เรียนไทยให้มีทักษะที่จาเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ ซ่ึงมุ่งเน้นความเป็นผู้ประกอบการ
(Entrepreneurship) และความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ (Resilience) รวมถึง
ปัญหาความปลอดภัยของ สถานศึกษาและปัญหาความเหล่ือมล้าของโอกาสในการศึกษาท่ีนับวันจะทวี
ความรนุ แรงมากยง่ิ ข้ึน ดฉิ ันจงึ เสนอให้มีวาระเร่งด่วน (Quick Win) ของกระทรวงศกึ ษาธิการ ดงั ต่อไปน้ี

วาระที่ ๑ เร่ืองความปลอดภัยของผ้เู รียน
โดยจัดให้มีรูปแบบ วิธีการ หรือกระบวนการในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการ

เรยี นรอู้ ยา่ งมีคุณภาพ มคี วามสขุ และได้รบั การปกปูองคุ้มครองความปลอดภัยท้ังด้านร่างกาย และ จิตใจ รวมถึง
การสร้างทักษะให้ผู้เรียนมีความสามารถในการดูแลตนเองจากภัยอันตราย ต่าง ๆ ท่ามกลางสภาพแวดล้อม
ทางสังคม

วาระที่ ๒ หลกั สูตรฐานสมรรถนะ
มงุ่ เน้นการจดั การเรียนรู้ทหี่ ลากหลายโดยยึดความสามารถของผ้เู รียนเป็นหลกั และพัฒนาผู้เรียน

ให้เกิดสมรรถนะท่ีต้องการ

วาระท่ี ๓ Big Data
พัฒนาการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบและไม่ซ้าซ้อน เพื่อให้ได้ข้อมูลภาพรวมการศึกษาของประเทศ

ทม่ี ีความครบถ้วน สมบรู ณถ์ ูกต้องเปน็ ปัจจบุ ัน และสามารถนามาใช้ประโยชน์ได้อยา่ งแท้จริง

วาระที่ ๔ ขับเคลอ่ื นศนู ยค์ วามเปน็ เลศิ ทางการอาชีวศกึ ษา (Excellent Center)
สนับสนุนการดาเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) ตาม

ความเป็นเลิศของแต่ละสถานศึกษาและตามบริบทของพ้ืนที่ สอดคล้องกับความต้องการของประเทศทั้งใน
ปัจจุบนั และอนาคต ตลอดจนมีการจัดการเรยี นการสอนด้วยเครอ่ื งมอื ทที่ ันสมัยสอดคล้องกับเทคโนโลยี
ปัจจุบัน

๗๒

วาระท่ี ๕ พัฒนาทกั ษะทางอาชีพ
ส่งเสรมิ การจัดการศึกษาท่ีเน้นพัฒนาทกั ษะอาชีพของผู้เรยี น เพ่อื พฒั นาคุณภาพชวี ติ สร้างอาชพี

และ รายได้ท่เี หมาะสม และเพิม่ ขีดความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ

วาระที่ ๖ การศึกษาตลอดชีวิต
การจัดเรียนรตู้ ลอดชวี ติ สาหรับประชาชนทุกช่วงวัยให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ประชาชนในแต่ช่วง

วยั ได้รับการศึกษาตามความต้องการอย่างมีมาตรฐาน เหมาะสมและเต็มตามศักยภาพต้ังแต่วัยเด็กจนถึงวัย
ชรา และพฒั นาหลกั สตู รทเี่ หมาะสมเพ่ือเตรยี มความพร้อมในการเข้าสสู่ ังคมผูส้ งู วัย

วาระท่ี ๗ การจัดการศกึ ษาสาหรับผูท้ ี่มคี วามต้องการจาเปน็ พเิ ศษ
ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้ท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ

สามารถดารงชีวิตในสังคมอย่างมีเกียรติศักด์ิศรีเท่าเทียมกับผู้อื่นในสังคม สามารถช่วยเหลือตนเอง และมี
ส่วนรว่ มในการพัฒนาประเทศ

9. นโยบายและจุดเนน้ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖6

นโยบายและจดุ เนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖6
๑. สร้างความเชื่อม่นั ไว้วางใจให้กบั สงั คม โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงผู้เรียนและประชาชน โดยให้ทุก

หน่วยงานนารูปแบบการทางานโดยบูรณาการการทางานร่วมกัน และปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความโปร่งใสความ
รับผดิ ชอบ ความเปน็ อนั หน่ึงอนั เตียวกนั

2.สนบั สนุนใหผ้ ้ปู ฏบิ ตั งิ านทกุ คนดาเนินการตามภารกิจด้วยความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง องค์กร
ประชาชนและประเทศชาติ โดยให้ความสาคัญกับการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ผ่านกลไกการ
รบั ฟงั ความคิดเหน็ มาประกอบการดาเนินงานทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ การยกระดบั คุณภาพการศึกษา

๓. ดาเนนิ การตามนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ท่ีไดป้ ระกาศและแถลงนโยบายไวแ้ ล้ว
เมอ่ื วนั ที่ ๒๕ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เพอ่ื มุ่งเน้นผลให้เกิดการเปล่ียนแปลงของภาคการศึกษาที่จะก่อให้เกิด
ประโยชน์ต่อผเู้ รียนและประชาชนอยา่ งมีนยั สาคญั

นโยบายและจดุ เนน้ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
๑. การจดั การศึกษาเพอื่ ความปลอดภัย

๑.๑ เร่งสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาเพ่ือเพิ่มความเช่ือมั่นของสังคม และปูองกัน
จากภัยคุกคามในชีวิตรูปแบบใหม่ และภัยอ่ืนๆ โดยมีการดาเนินการตามแผน และมาตรการด้านความ
ปลอดภยั ใหแ้ ก่ผเู้ รียน ครูและบุคลากรในรปู แบบต่างๆ อย่างแข็งชนั รวมทงั้ ดาเนนิ การศึกษา วิเคราะห์ วิจัย
ติดตามประเมินผลการดาเนินการและแสวงหาสถานศึกษาท่ีดาเนินการได้ดีเย่ียม (Best Practice) เพ่ือ
ปรับปรุง พฒั นาและขยายผลต่อไป

๑.๒ เร่งปลูกฝังทัศนคติ พฤติกรรม และองค์ความรู้ท่ีเก่ียวข้อง โดยบูรณาการอยู่ใน
กระบวนการจัดการเรียนรู้ เพ่ือสร้างโอกาสในการเรียนรู้และสร้างภูมิคุ้มกันควบคู่กับการใช้สื่อสังคม
ออนไลน์ในเชิงบวกและสร้างสรรค์พร้อมท้ังหาแนวทางวิธีการปกปูองคุ้มครองต่อสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนกับ
ผเู้ รยี น ครูและบุคลากรทางการศกึ ษา

๑.๓ เสรมิ สรา้ งการรบั รู้ ความเขา้ ใจ ความระหนกั และสง่ เสริมคุณลกั ษณะและพฤติกรรม
ท่ีพึงประสงค์ด้านส่ิงแวดล้อม รวมท้ังการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดข้ึนใน
อนาคต

๗๓

๑.๔ เร่งพัฒนาบทบาทและภารกจิ ของหนว่ ยงานตา้ นความปลอดภยั ท่ีมีอยใู่ นทกุ หนว่ ยงาน
ในสังกดั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารใหด้ าเนินการอย่างคลอ่ งตวั และมีประสทิ ธิภาพ

๒. การยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษา
๒.๑ ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษานาหลักสูตรฐานสมรรถนะไปสู่การปฏิบัติอย่างเต็ม

รปู แบบเพ่อื สรา้ งสมรรถนะทสี่ าคัญจาเป็นสาหรับศตวรรษที่ ๒๑ ใหก้ บั ผู้เรยี น
๒.๒ จัดการเรียนรใู้ ห้ผ้เู รยี นได้คันพบพรสวรรค์ ความสนใจ ความถนัดในอาชพี ของตนเอง

ด้วยการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง (Active Leaning ทั้งในห้องเรียน สถานประกอบการ รวมท้ังการ
เรียนรู้ผา่ นแพลตฟอรม์ และห้องดจิ ิทลั ใหค้ าปรึกษาแนะนา

๒.๓ พฒั นาและบรู ณาการกระบวนการจัดการเรยี นรแู้ ละการวดั ประเมินผลฐานสมรรถนะ
สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน เพ่ือสร้างความฉลาดรู้ด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้างตรรกะ
ความคิดแบบเป็นเหตเุ ปน็ ผลใหน้ ักเรยี นไทยสามารถแขง่ ขันไดก้ บั นานาชาติ

๒.๔ พัฒนาทักษะดิจิทัลและภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) สาหรับผู้เรียนทุกช่วงวัย เพ่ือ
รองรบั การเปล่ยี นแปลงสู่สังคมดิจทิ ัลในโลกยคุ ใหม่

๒.๕ พฒั นารูปแบบการจดั การเรียนการสอนประวตั ิศาสตร์ หนา้ ที่พลเมอื งและศีลธรรม
ให้มีความทันสมัย นาสนใจ เหมาะสมกับวัยของผูเ้ รยี น ควบค่ไู ปกบั การเรียนร้ปู ระวัติศาสตรข์ องท้องถ่ิน
และการเสริมสร้างวิถชี ีวิตของความเป็นพลเมอื งท่เี ข้มแข็ง

๒.๖ จัดการเรียนรู้ตามความสนใจรายบุคคลของผู้เรียนผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม
ท่ีหลากหลายและแพลตฟอร์มการเรียนรู้อัจฉริยะท่ีรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับกระบวนการจัดการเรียนรู้ สื่อ
การสอนคุณภาพสูงรวมท้งั มกี ารประเมนิ และพฒั นาผู้เรียน

๒.๗ ส่งเสริมการให้ความรู้และทักษะต้านการเงินและการออม (Financial Literacy)
ให้กับผเู้ รียนโดยบรู ณาการการทางานรว่ มกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กองทุนการออม
แห่งชาติ (ก.อ.ช.)ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารออมสิน สหกรณ์ ฯลฯ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ โครงการ
และกิจกรรมตา่ ง ๆและการเผยแพรส่ อ่ื แอนิเมชนั รอบรู้เรื่องเงิน รวมท้ังส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเชิงพาณิชย์
เพื่อใหเ้ กิดผลตอบแทนท่ีสงู ขน้ึ

๒.๘ ปรับโฉมศูนย์วิทยาศาสตร์และศูนย์การเรียนรู้ ให้มีรูปลักษญ์ที่ทันสมัย สวยงาม ร่ม
ร่นื จูงใจให้เข้าไปใช้บริการ โดยมีมุมค้นหาความรู้ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มุมจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ คิด
วิเคราะห์ของผู้เรียนหรือกลุ่มผู้เรียน และการร่วมกิจกรรมกับครอบครัว หรือจัดเป็นฐานการเรียนรู้ด้าน
ต่างๆ ท่ีผู้เรียนและประชาชนสามารถมาลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม และได้รับเอกสารรับร้องการเข้าร่วม
กิจกรรม เพ่ือนาไปใช้ประโยชน์ในส่วนที่เก่ียวข้องหรือสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank! ได้ รวมท้ังมี
บรเิ วณพกั ผอ่ นทมี่ ีบรกิ ารลักษณะบ้านสวนกาแฟเพื่อการเรยี นรู้ เปน็ ต้น

๒.๙ ส่งเสรมิ สนบั สนุนสถานศึกษาให้มกี ารนาผลการทดสอบทางการศกึ ษาแห่งชาติไปใช้
ในการวางแผนการพัฒนาการจัดการเรยี นการสอน

๒.๑๐ พัฒนาระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะและผลลัพธ์ที่ตัว
ผเู้ รยี น

๓. การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศกึ ษาทกุ ชว่ งวัย
๓.๑ พฒั นาระบบข้อมลู สารสนทศของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล เพ่ือใช้เป็นฐานข้อมูลในการ

ส่งต่อไปยังสถานศึกษาในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะระดับการศึกษาภาคบังคับ เพื่อปูองกันเด็กตกหล่นและ
เด็กออกกลางคนั

๗๔

๓.๒ ส่งเสรมิ สนบั สนุนใหเ้ ดก็ ปฐมวัยทมี่ อี ายุตัง้ แต่ ๓ ปีขน้ึ ไปทุกคน เขา้ สรู่ ะบบการศึกษา
เพื่อรับการพัฒนาอย่างรอบต้าน มีคุณภาพ ตามศักยภาพ ตามวัยและต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ โดยบูรณา
การรว่ มงานกบั ทกุ หนว่ ยงานท่เี ก่ียวขอ้ ง

๓.๓ พัฒนาข้อมูลและทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้เรียนกลุ่มเปูาหมายพิเศษ และกลุ่ม
เปราะบางรวมท้งั กลมุ่ NEETร ในการเขา้ ถึงการศกึ ษา การเรยี นรู้ และการฝึกอาชพี อย่างเทา่ เทียม

๓.๔ พฒั นาระบบสนบั สนุนการจัดการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานโดยครอบครัว (Home School
และการเรยี นรู้ที่บา้ นเปน็ หลกั (Home-based Learning)

๔. การศกึ ษาเพื่อพฒั นาทกั ษะอาชีพและเพม่ิ ขีดความสามารถในการแข่งขนั
๔.๑ พัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษา และหลักสูตรวิชาชีพระยะส้ัน แบบโมดูล (Modular

System)มกี ารบูรณาการวชิ าสามัญและวิชาชพี ในชุดวิชาชพี เดยี วกัน เช่อื มโยงการจัดการอาชีว ศึกษาท้ังใน
ระบบนอกระบบและระบบทวภิ าคี รวมท้งั การจดั การเรยี นรู้แบบต่อเนื่อง (Block Course) เพื่อสะสมหน่วย
การเรยี นรู้(Credit Bank) รว่ มมือกับสถานประกอบการในการจัดการอาชีวศึกษาอย่างเข้มข้นเพ่ือการมีงาน
ทา

4.๒ ขับเคล่ือนการผลิตและพัฒนากาลังคนตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และยกระดับ
สมรรถนะกาลังคนตามกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน และมาตรฐานสากล รวมท้ังขับเคลื่อนความเป็นเลิศ
ทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) โดยความร่วมมือกับภาคเอกชนและสถานประกอบการในการ
ผลิตกาลงั คนท่ตี อบโจทยก์ ารพฒั นาประเทศ

๔.๓ พัฒนาสมรรถนะอาชพี ท่ี สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ โดยการ Re-skill Up-
skill และ New skill เพ่ือให้ทุกกลุ่มเปู หมายมีการศึกษาในระดับที่สูงข้ึน พร้อมท้ังสร้างช่องทางอาชีพใน
รูปแบบหลากหลายให้ครอบคลุมผู้เรยี นทกุ กลมุ่ เปาู หมาย รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยมีการบูรณาการความร่วมมือ
ระหว่างหนว่ ยงานท่ีเก่ยี วขอ้ ง

๔.๔ ส่งเสริมการพัฒนาแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (VNET)
ตามสมรรถนะท่ีจาเป็นในการเข้าสู่อาชีพ และการนาผลการทดสอบไปใช้คัดเลือกเข้าทางาน ศึกษาต่อ
ขอรับประกาศนียบัตรมาตรฐานสมรรถนะการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) การขอรับวุฒิบัตรสมรรถนะ
ภาษาองั กฤษ (English Competency)

๔.๕ จัดตั้งศูนย์ให้คาปรึกษาการจัดตั้งธุรกิจ (ศูนย์ Start up) ภายใต้ศูนย์ พัฒนาอาชีพ
และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ และพฒั นาศูนยบ์ ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา เพ่ือการส่งเสริม และพัฒนา
ผู้ประกอบการด้านอาชีพท้ังผู้เรียนอาชีวศึกษาและประชาชนท่ัวไป โดยเชื่อมโยงกับ กศน. และสถาน
ประกอบการทัง้ ภาครัฐและเอกชนทสี่ อดคล้องกับการประกอบอาชีพในวิถีชวี ิตรูปแบบใหม่

๔.๖ เพ่ิมบทบาทการอาชีวศึกษาในการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการและกาลังแรงงาน
ในภาคเกษตรโดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Farmer) และกลุ่มยุวเกษตรกรอัจฉริยะ (Young
Smart Farmer) ทส่ี ามารถรองรับการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสมยั ใหมใ่ ต้

๔.๗ ส่งเสริม และสนับสนุนการผลิตและพัฒนากาลังคนทุกช่วงวัยเพ่ือการมีงานทา โดย
บูรณาการความร่วมมือในการจัดการศึกษาร่วมกับหน่วยงาน องค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน องค์กร
ปกครองสว่ นท้องถิน่ และสถาบนั สงั คมอ่นื

๔.๘ พัฒนาหลักสูตรอาชีพสาหรับกลุ่มเปูาหมายผู้อยู่นอกระบบโรงเรียนและประชาชนท่ี
สอดคล้องมาตรฐานอาชีพ เพ่ือการเข้าสู่การรับรองสมรรถนะและได้รับคุณวุฒิวิชาชีพตามกรอบคุณวุฒิ

๗๕

แห่งชาติ รวมท้ังสามารถนาผลการเรียนรู้และมวลประสบการณ์เทียบโอนเข้าสู่การสะสมหน่วยการเรียนรู้
(Credit Bank) ได้

๕. การส่งเสริมสนับสนุนวิชาชีพครู บุคลากรทางการศึกษาและบุคลากรสังกัด
กระทรวงศกึ ษาธิการ

๕.1 ส่งเสริมสนับสนุนการดาเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะแนวใหม่
Performance Appraisal (PA) โดยใช้ระบบการประเมินตาแหน่งและวิทยฐานะของข้าราชการครูและ
บุคลากรทางการศึกษาระบบ Digital Performance Appraisal (DPA)

๕.๒ สง่ เสรมิ สนบั สนุนการดาเนนิ การ พฒั นาสมรรถะทางานเทคโนโลยดี จิ ิทสั ตามกรอบ
ระดับสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สาหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาระดับการศึกษาข้ัน
พ้นื ฐานและระดบั อาชีวศึกษา

๕.๓ พฒั นาครใู หม้ ีความพรอ้ มต้านวิชาการและทกั ษะการจัดการเรียนรู้ การใชเ้ ทคโนโลยี
และนวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ( รวมทั้งให้เป็นผู้วางแผนเส้นทางการเรียนรู้ การประกอบ
อาชพี และการดาเนนิ ชวี ิตของผู้เรียนไตต้ ามความสนใจและความถนัดของแตล่ ะบุคคล

๕.๔ พัฒนาขีดความสามารถของข้าราชการพลเรือนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้มี
สมรรถนะทส่ี อดคลอ้ งและเหมาะสมกับการเปลีย่ นแปลงของสังคมและการเปลีย่ นแปลงของโลกอนาคต

๕.๕ เร่งรัดการดาเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ
ควบค่กู ับการใหค้ วามรูต้ า้ นการวางแผนและการสรา้ งวินยั ด้านการเงนิ และการออม

๖. การพฒั นาระบบราชการและการบรกิ ารภาครัฐยคุ ติจทิ ัล
๖.๑ ขับเคลือ่ นการพัฒนาระบบราชการ ๔.0 ด้วยนวัตกรรม และการนาเทคโนโลยดี ิจิทัล

มาเปน็ กลไกหลกั ในการตาเนนิ งาน (Digitalize Process) การเชอ่ื มโยงและแบ่งปันข้อมูล (Sharing Data)
การส่งเสรมิ ความรว่ มมอื บูรณาการกับภาคสว่ นต่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอก

๖.๒ ปรับปรุงประสทิ ธิภาพของเครือขา่ ยเทคโนโลยสี ารสนเทศให้สามารถใชง้ านเครือข่าย
สื่อสารข้อมูลเช่ือมโยงหน่วยงานภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับระบบราชการ ๔.0 สามารถ
ตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนได้ในทกุ เวลา ทกุ สถานที่ ทกุ อุปกรณ์และทุกชอ่ งทาง

๖.๓ ปรบั ปรุงระบบการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษา โดยยึดหลักความ
จาเป็นและใชพ้ นื้ ทเ่ี ป็นฐาน ท่มี ่งุ เนน้ การพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นเปน็ สาคญั

๖.๔ นาเทคโนโลยีติจิทัลมาใช้ในระบบการคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาในตาแหนง่ และสายงานต่าง ๆ

๖.๕ ส่งเสริมสนับสนุนการดาเนินงานของส่วนราชการให้เป็นไปตามกลไกการประเมิน
คณุ ธรรมและความโปรง่ ใสในการดาเนินงานของหนว่ ยงานภาครฐั

๗๖

๗. การขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษาและแผนการศึกษาแห่งชาติเร่งรัดการดาเนินการจัดทา
กฎหมายลาตับรองและแผนการศึกษาแห่งชาติเพ่ือรองรับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติควบคู่กับการ
สรา้ งการรับรู้ให้กับประชาชนได้รับทราบอยา่ งทัว่ ถงึ

แนวทางการขบั เคล่ือนนโยบายสู่การปฏิบัติ
๑. ให้ส่วนราชการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ นานโยบายและจุดเน้นของ
กระทรวงศึกษาธกิ าร ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ข้างตัน เป็นกรอบแนวทางในการจัดการศึกษาโดย
ดาเนินการจดั ทาแผนและงบประมาณรายจา่ ยประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕'๖๖
๒. ให้มีคณะกรรมการติดตาม ประเมินผล และรายงานการขับเคลื่อนนโยบายการจัด
การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ สู่การปฏิบัติระตับพ้ืนท่ี ทาหน้าท่ีตรวจราชการ ติดตาม ประเมินผลใน
ระดับนโยบายและจัดทารายงานเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการติดตาม
ตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร ทราบตามลาดับ
3. กรณีมีปัญหาในเชิงพื้นท่ีหรือข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน ให้ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลและ
ดาเนนิ การแก้ไขปัญหาในระตบั พื้นที่ก่อน โดยใชภ้ าคีเครือขา่ ยในการแก้ไขข้อขดั ข้อง พร้อมท้ังรายงานต่อ
คณะกรรมการติดตามฯ ตามข้อ 6 ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ตามลาดับ
๔. สาหรับภารกิจของส่วนราชการหลักและหน่วยงานที่ปฏิบัติในลักษณะงานในเชิงหน้าที่
(Function) งานในเชงิ ยทุ ธศาสตร์ (Agenda) และงานในเชิงพื้นที่ (Area) ซ่ึงได้ดาเนินการอยู่ก่อนแล้วหาก
มีความสอดคล้องกับหลักการนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจาปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ข้างต้น ให้ถือเป็นหน้าที่ของส่วนราชการหลักและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งรัด กากับ
ตดิ ตามตรวจสอบให้การดาเนนิ การเกิดผลสาเรจ็ และมีประสทิ ธิภาพอยา่ งเปน็ รปู ธรรม

10. แผนพัฒนาการศกึ ษาภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ (พ.ศ. 2566-2570)

วิสัยทัศน์
ประชากรทุกช่วงวยั ไดร้ บั การศกึ ษาท่ีมีคุณภาพ เปน็ สงั คมแห่งการเรียนรู้ และมีความพร้อมสาหรบั

วถิ ชี ีวิตในศตวรรษที่ 21 ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

พนั ธกิจ
1. ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการเรียนรู้ให้ประชากรทุกช่วงวัยได้รับโอกาสทางการศึกษาและการ

เรยี นรู้อย่างท่วั ถึง สอดคลอ้ งกับการเปลย่ี นแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21
2. สง่ เสริม สนบั สนนุ และเชอื่ มโยงศักยภาพการจัดการเรียนร้แู บบบรู ณาการให้มีคณุ ภาพ
3. ส่งเสริม สนับสนุนให้ประชากรทุกชว่ งวยั มศี กั ยภาพในการเรยี นรู้ และการประกอบอาชพี
4. ส่งเสริม สนับสนุนประชากรทุกช่วงวัยให้มีความรู้ ทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและการพัฒนา

นวตั กรรม เพื่อเพิม่ ขดี ความสามารถในการแข่งขัน
5. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมตาม

หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

๗๗

เป้าประสงค์
1. ประชากรทุกชว่ งวยั ได้รับโอกาสทางการศกึ ษาและการเรยี นรอู้ ยา่ งทว่ั ถึงไดร้ ับการพัฒนาเตม็

ตามศกั ยภาพและมีคุณภาพ สอดคลอ้ งกับการเปล่ียนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21
2. ประชากรได้รบั การพฒั นาศกั ยภาพอย่างมีคณุ ภาพตลอดช่วงชวี ิต
3. ประชากรทุกช่วงวัยได้รับการพฒั นาศักยภาพการเรียนรู้ ทกั ษะในการประกอบอาชีพ เพอ่ื การ

เรยี นรู้ตลอดชวี ิต และสอดคล้องกบั การเปลยี่ นแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21
4. ประชากรทุกชว่ งวัย มีศกั ยภาพในการสรา้ งงานวิจัยและพฒั นานวตั กรรมด้วยเทคโนโลยดี ิจิทัล

เพือ่ เพม่ิ ศกั ยภาพในการแข่งขัน
5. มกี ารจดั การศึกษาทสี่ รา้ งเสริมคณุ ภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมตามหลกั ปรชั ญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียง

ยทุ ธศาสตร์ : (Strategy)
1. การจดั การเรียนร้ใู หป้ ระชากรทกุ ชว่ งวัยไดร้ ับโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้อย่างทวั่ ถงึ
2. การพัฒนาศกั ยภาพการเรียนรู้ของประชากรตลอดช่วงชีวิต
3. การพฒั นาศกั ยภาพของประชากรทุกช่วงวัยในการเรยี นรู้และการประกอบอาชีพ
4. การสง่ เสรมิ การวจิ ยั และพัฒนานวัตกรรมการจดั การเรียนรูด้ ้านดิจทิ ัลเพ่ือเพ่ิมขดี ความสามารถ

ในการแข่งขนั
5. การจดั การศึกษาเพอ่ื เสรมิ สรา้ งคณุ ภาพชวี ิตทีเ่ ป็นมติ รกับสงิ่ แวดลอ้ มตามหลกั ปรชั ญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียง

11. ยุทธศาสตร์การพฒั นาจงั หวัดหนองคาย

ประเด็นการพฒั นาจงั หวดั
ประเด็นการพัฒนาที่ ๑ : การยกระดับมาตรฐานการผลติ สนิ ค้าเกษตรและสร้างมลู ค่าเพมิ่

(๑) แนวทางการพฒั นา (กลยทุ ธ)์
(๑.๑) พัฒนาโครงสรา้ งพนื้ ฐานภาคการเกษตร
(๑.๒) สง่ เสรมิ การผลิตและสนับสนนุ การตรวจรบั รองมาตรฐานการผลติ สนิ ค้าเกษตร
(๑.๓) ส่งเสริมและสนับสนุนนวัตกรรม เทคโนโลยีทางการเกษตรเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพ

ทางการผลิตและการตลาดสนิ ค้าเกษตร
(๒) ตัวขว้ี ัดความสาเร็จ
(๒.๑) พ้นื ท่ชี ลประทานเพ่ิมข้ึน
(๒.๒) พ้ืนท่ีเกษตรอนิ ทรยี ท์ ีไ่ ด้มาตรฐาน เพิม่ ข้ึน (๕,0๐๐ ไร่ /ป)ี
(๒.๓) ผลผลติ สนิ ค้าเกษตรในพ้ืนท่เี กษตรแปลงใหญ่เพิ่มข้ึน (สินค้าข้าว ไมผ้ ล ปศสุ ตั ว์ประมง)
(๓) แผนงาน และโครงการทสี่ าคญั /ตัวชี้วัดรายโครงการ
(๓.๑) แผนงาน : การพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานเพอ่ื การเกษตร
๑. โครงการพัฒนาแหล่งน้าและระบบชลประทานเพ่อื การเกษตร
ตวั ชว้ี ดั โครงการ พ้ืนทชี่ ลประทานเพ่มิ ข้นึ
๒. โครงการพัฒนาแหลง่ นา้ เพ่ือการเกษตร นอกเขตชลประทาน
ตัวช้วี ดั โครงการ แหลง่ นา้ เพื่อการเกษตรนอกเขตชลประทานเพิ่มข้นึ

๗๘

(๓.๒) แผนงาน : การส่งเสริมและสนับสนุนนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเกษตรเพื่อเพ่ิม
ประสิทธิภาพทางการผลิตและการตลาดสนิ ค้าเกษตร

๑. โครงการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการผลิตและการตลาดสนิ ค้าเกษตรท่ีสาคัญ
ตวั ชวี้ ัดโครงการ ผลผลติ สินคา้ เกษตรในพนื้ ท่เี กษตรแปลงใหญ่เพมิ่ ข้นึ

๒. โครงการบรหิ ารจัดการนา้ เพ่อื การเกษตรด้วยเทคโนโลยแี ละนวัตกรรม
ตัวชีว้ ัดโครงการ จานวนพน้ื ท่ีการเกษตรท่ีไดร้ บั ประโยชน์จากแหลง่ น้าเพ่ิมขึน้

(๓.๓) แผนงาน : ส่งเสรมิ การผลิตและสนับสนุนการตรวจรับรองมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตร
๑. โครงการส่งเสริมเกษตรอนิ ทรยี ์
ตวั ชวี้ ดั โครงการ พ้นื ท่เี กษตรอินทรีย์ทีไ่ ดม้ าตรฐานเพม่ิ ขน้ึ ทอ่ งเท่ยี ว และการบรกิ าร

ประเด็นการพฒั นาท่ี ๒ : พฒั นาขดี ความสามารถในการแข่งขันทางการค้า การลงทุน การคา้ ชายแดน
การทอ่ งเทีย่ ว และการบริการ

(๑) แนวทางการพัฒนา (กลยุทธ์)
(๑.๑) พัฒนาระบบโครงสร้างพ้ืนฐาน สาธารณูปโภค และโลจิสติกส์เช่ือมโยงพ้ืนที่การค้าการ

ลงทุน และการท่องเที่ยว
(๑.๒) สง่ เสริมการท่องเทีย่ วทางธรรมะ วฒั นธรรม ประเพณี และทางธรรมชาติบนแนว

ทางการทอ่ งเท่ียววถิ ีใหม่ (New Normal) อยา่ งยงั่ ยืน
(๑.๓) ยกระดบั มาตรฐานการผลิตสนิ ค้าและบรกิ ารสูม่ าตรฐานสากล
(๑.๔) ส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวเช่ือมโยง

ภายในประเทศและระหวา่ งประเทศ
(๒) ตวั ชีว้ ดั ความสาเรจ็
(๒.๑) รายไดจ้ ากการทอ่ งเท่ยี วเพ่มิ ขึน้ รอ้ ยละ ๕
(๒.๒) มูลคา่ การค้าขายแดนเพิ่มขึ้นรอ้ ยละ ๒๐
(๒.๓) รายไดจ้ ากการจาหน่ายผลติ ภัณฑ์ชุมชน (OTOP) เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑0 ตอ่ ปี
(๓) แผนงาน และโครงการทส่ี าคัญ/ตวั ช้ีวัดรายโครงการ
(๓.๑) แผนงาน : การพัฒนาโครงสร้างพนื้ ฐานและโครงข่ายคมนาคมเพอ่ื รองรับ

การค้า การลงทนุ และการท่องเที่ยว
๑. โครงการพัฒนาระบบโครงสรา้ งพืน้ ฐานการคมนาคม ขนส่ง และการทอ่ งเที่ยว
ตวั ช้ีวัดโครงการ

(๓.๒) แผนงาน : การส่งเสรมิ การท่องเท่ยี วทางธรรมะ วฒั นธรรม ประเพณี และ
ทางธรรมชาตบิ นแนวทางการท่องเทีย่ ววิถใี หม่ (New Normal) อยา่ งยงั่ ยืน

๑. โครงการหนองคายเมอื งแหง่ การท่องเทยี่ ว (The city of tourism)
ตวั ชี้วดั โครงการ

(๓.๓) แผนงาน : ยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าและบริการสู่มาตรฐานสากล
๑. โครงการพฒั นาและยกระดับผลติ ภัณฑ์ สนิ ค้าและบรกิ ารของจงั หวัดหนองคาย
ตวั ขีว้ ัดโครงการ

(๓.๔) แผนงาน : ส่งเสรมิ และพฒั นาความร่วมมือทางการค้า การลงทนุ การท่องเท่ียว และการบริการ
๑. โครงการส่งเสริมการค้า การลงทนุ การท่องเทยี่ วและการบรกิ าร

๗๙

ตัวชวี้ ัดโครงการ

ประเดน็ การพัฒนาท่ี ๓ : การเสริมสรา้ งความมนั่ คงของคน สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม
(๑) แนวทางการพัฒนา (กลยุทธ์)
(๑.๑) เพิ่มประสทิ ธภิ าพในการบรหิ ารจัดการพ้ืนทช่ี ายแดนเพ่อื ปูองกนั และเฝูาระวงั ปญั หา

อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติดและภยั คกุ คามทุกรูปแบบ
(๑.๒) การเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพ่ือนบ้านประสิทธิภาพเป็นไปตาม

มาตรฐานสากล
(๑.๓) พฒั นาระบบการบริการสขุ ภาพเพ่ือรับมอื ตอ่ โรคอุบตั ใิ หม่และโรคอบุ ัติซา้ อยา่ งมี
(๑.๔) พัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัยด้านการศึกษา แรงงาน สาธารณสุข และ

สังคม เพอื่ ลดปัญหาความยากจน ดอ้ ยโอกาส และความเหลอื่ มลา้ ทางสังคม
(๑.๕) การอนุรกั ษ์ และฟื้นฟูทรพั ยากรทางธรรมชาติรวมท้ังการบรหิ ารจัดการปุาไม้อย่างย่ังยืน
(๑.๖) การขับเคล่ือนและขยายผลโครงการอนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ

(๒) ตวั ขี้วดั ความสาเรจ็
(๒.๑) คดอี าชญากรรมและคดยี าเสพตดิ ลดลงคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๒๕
(๒.๒) การแจ้งความคดชี ีวิต ร่างกาย เพศ และคดปี ระทษุ ร้ายต่อทรพั ย์ (ตอ่ ประชากรแสนคน)
(๒.๓) สถานพยาบาลไดร้ บั การรบั รองมาตรฐาน HA เพม่ิ ขึ้น รอ้ ยละ ๘ ต่อปี
(๒.๔) ร้อยละของปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนได้รับการกาจัดอย่างถูกต้องราชการคลอดมีชีพ

ในหญิงอายุ ๑๕ - ๑๙ ปี ต่อประชากรหญงิ อายุ ๑๕- ๑
(๒.๖) คะแนนเฉลีย่ การทดสอบ O-Net ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย

(๓) แผนงาน และโครงการทส่ี าคญั /ตวั ชว้ี ัดรายโครงการ
(๓.๑) แผนงาน : เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพ้นื ทชี่ ายแดน ในการปอู งกนั และ

ปราบปรามภัยคกุ คามด้านความมัน่ คง
๑. โครงการเพ่ิมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพ้ืนที่ชายแดนเพื่อปูองกันและ

ปราบปรามภยั คกุ คามด้านความมั่นคง
ตวั ขวี้ ดั โครงการ

(๓.๒) แผนงาน : กรเสริมสร้างความสมั พนั ธ์อนั ดกี บั ประเทศเพื่อนบา้ น
๑. โครงการเสริมสร้างความสัมพนั ธอ์ นั ดกี ับประเทศเพื่อนบา้ น
ตวั ชี้วดั โครงการ

(๓.๓) แผนงาน : การพฒั นาและยกระดับคณุ ภาพชวี ิตทกุ ช่วงวยั ดา้ นการศึกษา แรงงาน
สาธารณสุข และสังคม เพือ่ ลดปญั หาความยากจนด้อยโอกาส และความเหลอื่ มล้าทางสังคม

๑. โครงการพฒั นาและยกระดบั คุณภาพชวี ิตคนทุกชว่ งวัย
ตวั ขวี้ ัดโครงการ

(๓.๔) แผนงาน : พัฒนาระบบบรหิ ารจัดการน้า การจัดการขยะ/นา้ เสยี และทรพั ยากรธรรมชาติ
และสิง่ แวดลอ้ มอย่างเป็นระบบและยงั่ ยนื

๑. โครงการพฒั นาระบบบริหารจัดการจดั การขยะมูลฝอย/ นา้ เสยี
ตวั ช้ีวดั โครงการ

๒. โครงการส่งเสรมิ และพฒั นาพลงั งานทดแทน

๘๐

ตัวช้ีวดั โครงการ

ประเดน็ การพฒั นาท่ี ๔ : การพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ
(๑) แนวทางการพฒั นา (กลยทุ ธ์)
(๑.๑) การพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการภาครฐั ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
(๑.๒) การพัฒนาและเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพบุคลากรภาครฐั
(๒) ตวั ข้วี ดั ความสาเรจ็
(๒.๑) ความสามารถในการเบกิ จ่ายงบประมาณของจังหวดั (%)
(๒.๒) จานวนนวตั กรรมการบรหิ ารจดั การภาครฐั ทไ่ี ดร้ ับการพฒั นา
(๒.๓) รอ้ ยละของจานวนเรอ่ื งร้องเรยี น/ร้องทุกขท์ ี่ลดลง
(๓) แผนงาน และโครงการที่สาคญั /ตัวชวี้ ดั รายโครงการ
(๓.๑) แผนงาน : พัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การภาครัฐด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
๑. โครงการการพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการภาครัฐดว้ ยเทคโนโลยแี ละนวัตกรรม
ตวั ช้ีวัดโครงการ
(๓.๒) แผนงาน : พฒั นาและเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพบุคลากรภาครฐั
๑. โครงการการพัฒนาและเพม่ิ ประสิทธิภาพบคุ ลากรภาครัฐ
ตวั ชี้วัดโครงการ

12. ผลการตดิ ตาม ประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษาของจงั หวดั

สรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ

รายงานการศึกษาส่วนบุคคล เรื่อง แนวทางการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบ
บรู ณาการเพ่อื พัฒนาคณุ ภาพการศึกษาจังหวดั หนองคายคร้ังน้ี มีวัตถุประสงค์

1) เพื่อศึกษา วิเคราะห์ สภาพปัจจุบัน และ ปัญหาของการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
แบบบูรณาการเพือ่ พัฒนาคุณภาพการศึกษา จงั หวัดหนองคาย

2) เพ่ือศึกษาแนวทางการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพ่ือพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาจังหวัดหนองคาย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากรจากหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ภาคประชาสังคม
และบวร รวมท้ังสิ้น 27 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการ
รวบรวมข้อมูล ไดแ้ ก่ แบบสมั ภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการรวบรวม เรียบเรียง จัดหมวดหมู่ นาเสนอบรรยาย
เป็นความเรียง แล้วหาขอ้ สรุปรว่ มกับผมู้ ีสว่ นเกย่ี วข้อง โดยสามารถสรปุ ผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ ดงั น้ี

สรปุ ผลการศึกษา

1. สภาพปัจจุบัน และ ปัญหาของการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพ่ือ
พัฒนาคณุ ภาพการศึกษา จังหวดั หนองคาย

สภาพปัจจุบัน จังหวัดหนองคายมีเครือข่ายความร่วมมือของสมาชิกในการดาเนินงานของ
เครือขา่ ยแบง่ เป็น 2 ประเภท คือ 1) เครือข่ายไม่เป็นทางการ โดยการประสานความร่วมมือจากหน่วยงาน
ทางการศึกษา ได้แก่ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 สานักงานเขตพ้ืนท่ี
การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 2 สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา สานักงานการ

๘๑

อาชีวศึกษา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองคาย
มหาวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาพิเศษ และหน่วยงานอ่ืนๆ อาทิเช่น แรงงานจังหวัดหนองคาย อุตสาหกรรม
จังหวดั หนองคาย หอการค้าจงั หวัดหนองคาย ร่วมนาเสนอแผนพัฒนาในภาพรวมของจังหวัด 2) เครือข่าย
เป็นทางการ เป็นเครือข่ายท่ีสมาชิกลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการทางานร่วมกัน
มีการดาเนินงานในรูปแบบเครือข่ายความร่วมมือแบบ บูรณาการ 3 ระดับ คือ ระดับจังหวัด ระดับ
หนว่ ยงานทางการศึกษา และระดับสถานศึกษา มีสมาชกิ เครือข่ายแตล่ ะระดบั จะมีบทบาทหน้าที่ท่ีแตกต่าง
กันไป

องคป์ ระกอบของเครอื ขา่ ยความร่วมมือด้านการศึกษา มีผู้ว่าราชการจังหวัด ซ่ึงเป็นประธาน
คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดโดยตาแหน่ง มีหน้าที่สั่งการ กากับ ติดตามการดาเนินงานด้านการศึกษา
และ ศึกษาธกิ ารจงั หวดั เป็นกรรมการและเลขานกุ าร มหี น้าทปี่ ระสานงานความร่วมมือกับสมาชิกเครือข่าย
ในระดับ จงั หวัด ระดบั หน่วยงานทางการศกึ ษา และระดับสถานศึกษา ใหม้ าร่วมมือกันปฏบิ ัติงาน ใช้วิธีการ
ประสานความร่วมมือในหลากหลายรูปแบบและหลากหลายช่องทาง สมาชิกเครือข่ายมีการดาเนินงานโดย
อาศัยเครือข่ายการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท หน่วยงานองค์กร
ภาครัฐ และเอกชน อาทิเช่น แรงงานจังหวัดหนองคาย อุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย หอการค้าจังหวัด
หนองคาย ร่วมนาเสนอแผนในภาพรวมของจังหวัดหนองคายใช้ระบบการบริหารจัดการโดยใช้เครือข่าย
ความร่วมมือแบบบูรณาการเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาในหน่วยงานทางการศึกษา โดยผ่านกลไก กศจ.
ในการขับเคลื่อน และการนิเทศ การติดตาม และประเมินผล ในลักษณะการทาข้อตกลงความร่วมมือ
(MOU) ระหวา่ งหนว่ ยงานทางการศึกษาองคก์ รเอกชน

สภาพปัญหาการดาเนินงานในปัจจุบัน เครือข่ายความร่วมมือเป็นการประสานงานแต่ละ
โครงการ ยงั ไมใ่ ชก่ ารบูรณาการที่มวี ัตถปุ ระสงคแ์ ละเปาู หมายเดียวกัน จึงขาดการส่งเสริมสนับสนุน อานวย
ความสะดวกเท่าท่ีควร โดยแต่ละองค์กรหน่วยงาน ต่างคนต่างทา การประสานงาน อยู่ในระนาบเดียว
เครือข่ายความร่วมมอื ภาคเอกชนภาคประชาสงั คม และบวร ซ่ึงเป็นตัวแทนจาก มูลนิธิ สมาคม ชมรม และ
สภาต่าง ๆ เข้ามาร่วมรบั ผดิ ชอบในงาน เป็นแกนนาหลัก เพื่อการประสานงานยังไม่ชัดเจน ปัจจุบันแม้ว่า
จะมีสมาชิกเครือข่ายสถานศึกษาที่มากขึ้น แต่เป็นเพียงการประสานงานระหว่างองค์กรในการจัดทา
แผนพัฒนาคุณภาพเท่านั้น ส่วนการขับเคล่ือนแผนพัฒนาสู่การปฏิบัติ มีการประสานงานเฉพาะด้าน
องค์กรภาครัฐเท่านั้น ส่วนหน่วยงานภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และด้านบวร เพื่อให้ครอบคลุม
กลุ่มเปูาหมายทุกระดับ ทุกประเภท การกาหนดแนวทางการพัฒนางาน และการกาหนดบทบาทหน้าที่
ร่วมกันยังไม่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ยังไม่เช่ือมโยงการปฏิบัติท่ีมีวัตถุประสงค์และเปูาหมายเดียวกัน
ไดอ้ ยา่ งชัดเจน

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ควรปรับปรุงแก้ไขเพ่ิมเติม ดังน้ี 1) การพัฒนาครูและบุคลากรทาง
การศกึ ษา 2) การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนของทุกสังกัดทุกประเภท 3) จัดระบบโครงสร้างการบริหารจัดการ
เครือข่ายความร่วมมือให้มีความชัดเจนในบทบาทหน้าที่ 4) ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และบวร ควรมี
บทบาทหน้าที่คือผู้นาหลักเพ่ือขับเคล่ือน การบูรณาการเครือข่ายความร่วมมือเพ่ือให้เกิดความย่ังยืน และ
5) การประสานพลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และบวร เพื่อประโยชน์ด้านการทางาน
ร่วมกัน ระดมความคิดเห็น นาทรัพยากรทุกชนิดมาแบ่งปันและใช้ประโยชน์ร่วมกัน สามารถแก้ปัญหาที่มี
ความสลบั ซับซอ้ นได้มากข้นึ

๘๒

2. แนวทางการเสรมิ สร้างเครอื ข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพ่อื พัฒนาคุณภาพการศกึ ษา
จงั หวัดหนองคาย

โครงสร้างของเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาจังหวัด
หนองคาย ควรมีความคลอบคลุมการศึกษาทุกประเภท ทุกระดับ ประกอบด้วย 1) องค์คณะบุคคล
2) แนวทางการเสริมสร้าง 3) กระบวนการบริหารจัดการเครือข่าย และ 4) การติดตามประเมินผล โดยองค์
คณะบุคคลควรมีผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธาน ศึกษาธิการจังหวัดหนองคาย เป็นกรรมการ
และเลขานุการ ส่วนสมาชิกเครือข่ายความร่วมมือควร ประกอบด้วย ตัวแทนจากองค์กรภาครัฐ เอกชน
ประชาคม บวร ผูบ้ ริหารการศึกษา ผูบ้ ริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และตัวแทน
จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดการศึกษาในพื้นท่ี โดยอาจจัดต้ังเป็นทีมผู้บริหาร เพื่อวางแผน บริหาร
จัดการ ทีมประมวลผลสรุปเป็นองค์ความรู้และแนวทางปฏิบัติจริง ทีมประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เครือข่าย
ทาเชิงรุก และควรมผี ้ทู รงคณุ วุฒิ ผู้เชยี่ วชาญ ด้านนน้ั ๆ โดยยึดหลกั ความเป็นประชาธิปไตย การทางานเป็น
ทีม โปร่งใส ความร่วมมือ และคานึงถึงคุณภาพประสิทธิผลของเครือข่าย มีการดาเนินงานจากแผนพัฒนา
การศึกษาไปสูก่ ารปฏิบตั ิทไี่ ดม้ าตรฐาน และเป็นรปู ธรรมมากขนึ้

บทบาทในการการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาจังหวัดหนองคาย ควรให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดเป็นเลขานุการ เพื่อประสานความร่วมมือ
และประสานงานระหว่างองค์กรเครือข่าย โดยกาหนดนโยบาย วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ เปูาหมาย
การปฏิบัติการพัฒนาร่วมกันและการสรุปรายงานผล และการนาเสนอข้อมูลที่ได้ดาเนินการให้เห็น
ความสาคัญ ศึกษาธิการจังหวัดหนองคายควรเป็นผู้ส่งเสริมและประสานการสร้างเครือข่ายการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาจากทุกหน่วยงาน องค์กร และเป็นศูนย์กลางของการประสานงานและกาหนดนโยบาย
ตามความต้องการของจังหวัด มีการประสานระหว่างกระทรวงกับท้องถิ่น ให้เกิดการร้อยรัดเชิงนโยบาย
แนวทางปฏิบัติและการนาผลไปใช้ มีการพัฒนาฐานข้อมูลด้านการศึกษา นวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยมี
ข้อมลู (Data Base) ของการบริหารจดั การของสมาชิกและเครือข่ายการบรหิ ารจดั การ

สมาชิกเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของจังหวัด
หนองคาย ควรจะพัฒนาการจัดการศึกษา ทุกๆ ด้าน ควบคู่กันไป ลดความเหลื่อมล้าในสังคมและส่งเสริม
คุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะด้านครูเพราะมีส่วนสาคัญในการจัดกระบวนการเรียนรู้ เทคนิคการจัดการ
เรียนรู้เพ่ือพัฒนาผู้เรียน ด้านผู้เรียนควรมุ่งเน้นในด้านการพัฒนาทักษะชีวิต ภาษา อาชีพ นวัตกรรมและ
เทคโนโลยี ตลอดจนการส่งเสริมให้มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อรองรับอาชีพ
ในเขตพื้นทเ่ี ศรษฐกจิ พเิ ศษ และรถไฟความเร็วสูง ของจังหวัดหนองคาย โดยมีเครือข่ายของหน่วยงานที่จัด
การศึกษา ทาให้ทิศทางการดาเนินการไปในทิศทางเดียวกัน นอกน้ันควรมีการสร้างความรู้ความเข้าใจ
การทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา กาหนดบทบาทหน้าที่ในแต่ละตาแหน่ง เทคนิควิธีการปฏิบัติงานใน
บทบาท หน้าที่ของแต่ละกลุ่มงาน องค์กร การติดต่อควรประสานงานกับสมาชิกเครือข่าย สมาชิกใน
เครือข่ายควรได้แลกเปลี่ยนความรู้ในการพัฒนาการศึกษาแต่ละเครือข่าย เพราะจะทาให้พัฒนาคุณภาพ
การศึกษาที่ย่ังยืน ซงึ่ สง่ ผลตอ่ คุณภาพผ้เู รียนเป็นสาคญั

ปัจจัยที่มีส่วนสนับสนุนการปฏิบัติงานของสมาชิกเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพื่อ
พัฒนาคุณภาพการศึกษาจังหวัดหนองคาย ให้สามารถปฏิบัติงานจนบรรลุเปูาหมาย ควรเน้นการทางาน
เป็นทีม ความร่วมมือ ภาวะผู้นา ความจริงใจ และการสื่อสารท่ีมีประสิทธิภาพ การมีส่วนร่วม การนิเทศ
อย่างต่อเน่ือง การประสานงานและการมีส่วนร่วมของแต่ละองค์กร มีการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี ดิจิตัล
มีการแลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ นั ตลอดจนการใช้ฐานขอ้ มูลสารสนเทศทางการศึกษาของแต่ละองค์กรร่วมกัน และ
มีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมการดาเนินงานอย่างต่อเน่ือง ทั้งนี้ ควรมีการปรับปรุงหรือแก้ไขกฎหมาย
เก่ียวกับการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการด้านการศึกษา ให้สามารถดาเนินไปอย่าง
มีประสิทธิภาพ โดยกาหนดบทบาท หน้าที่ของแต่ละระดับให้ชัดเจนและร้อยรัดกันไม่ทางานก้าวก่ายกัน

๘๓

หรือซ้าซ้อนของการบริหาร มีการพัฒนาบุคลากรขององค์กรทุกระดับ ให้มีความรู้ความเข้าใจ ในบทบาท
หน้าที่ของตนเองท่ีเป็นรูปธรรม ระยะเวลาในการทางาน ควรมีการยืดหยุ่น เพราะการทางานแต่ละ
หน่วยงานมีภารกิจท่ีแตกต่างกัน เวลาที่แตกต่าง ควรมีปฏิทินและแจ้งการยืนยันล่วงหน้า โครงสร้างการ
บริหารของกระทรวง ในทุกระดับให้สอดคล้องกันทุกระดับ มีการมอบหมายบทบาทหน้าท่ีของแต่ละ
หนว่ ยงานใหช้ ดั เจน ไม่ซา้ ซอ้ น และมีการกระจายอานาจให้หน่วยปฏบิ ัติงานในพ้นื ทอี่ ย่างแทจ้ รงิ

ขอ้ เสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะในการพัฒนาการบรหิ ารจัดการที่เหมาะสมและมคี ณุ ภาพทเี่ ปน็ รปู ธรรม
1.1 ควรจัดตั้งคณะกรรมการเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพ

การศึกษาจังหวัดหนองคาย โดยประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ศึกษาธิการจังหวัด
หนองคาย เป็นกรรมการและเลขานุการ ส่วนคณะกรรมการควรประกอบด้วย ตัวแทนจากองค์กรภาครัฐ
เอกชน ประชาสังคม บวร ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง
และตัวแทนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดการศึกษาในพื้นที่ เพื่อให้การดาเนินงานจากแผนพัฒนา
การศกึ ษาไปสู่การปฏิบตั ทิ ี่ไดม้ าตรฐาน และเปน็ รูปธรรมมากข้ึน

1.2 ควรส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีบทบาทหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุน ในด้านงบประมาณ
ด้านทรัพยากรบุคคล ด้านวัสดุอุปกรณ์ และด้านวิธีปฏิบัติงาน ตลอดจนหาแนวทาง ในการเสริมสร้าง
เครอื ข่ายความร่วมมอื แบบบูรณาการทีช่ ัดเจน

1.3 ควรกาหนดบทบาทหน้าท่ีของแต่ละเครือข่ายท้ังอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
โดยเฉพาะบทบาทของเครือข่ายแบบไม่เป็นทางการ ควรจะมีโครงสร้าง ผู้นาเครือข่าย องค์ประกอบของ
เครอื ขา่ ย มเี ปูาหมายทจี่ ะพัฒนาร่วมกนั อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ครอบคลุมการศกึ ษาทุกชว่ งวยั

1.4 ควรมีกลไกการขับเคลื่อนเครือข่าย โดยมีองค์กรภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และบวร
มีส่วนร่วมในการวางแผนงานการดาเนินงาน ท้ังน้ี ในแต่ละเครือข่ายควรมีการส่งเสริมสนับสนุนผู้นาหลัก
และผู้นารองตามบทบาทหน้าท่ีความรับผิดชอบ ให้มีอิสระในการทางาน มีการกระจายอานาจและมอบ
อานาจหน้าที่ของเครือข่ายตามความเหมาะสม ตลอดจนร่วมกันปฏิบัติงาน ติดตาม และประเมินผลการ
ดาเนินงานของเครือขา่ ย รายงานส่สู าธารณชน

1.5 ควรมีการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์การดาเนินงานด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย เกี่ยวกับการ
เครอื ขา่ ยความร่วมมือแบบบูรณาการเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาของจังหวัดให้เป็นท่ีรู้จักอย่างกว้างขวาง
ด้วย เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้และแรงเสริมให้กับหน่วยงาน องค์กร ภาครัฐ ประชาสังคม เอกชน
และบวร ในการใหค้ วามรว่ มมอื กนั ด้านการศึกษาและการเสรมิ สรา้ ง การดาเนนิ งานของเครือขา่ ยให้เข้มเขง็

1.6 กระทรวงศึกษาธิการควรมีการปรับปรุงแก้ไขคาสั่ง ระเบียบ ข้อกฎหมาย ที่ยังเป็น
อุปสรรคต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาในระดับกระทรวง ระดับภูมิภาค และระดับจังหวัด
เพ่ือใหก้ ารดาเนนิ งานบรรลุผลสาเรจ็ มากข้นึ

2. ขอ้ เสนอแนะในการพัฒนาต่อเน่อื งทสี่ าคญั ต่อไป
2.1 ศึกษาแนวทางท่ีเหมาะสมของเครือข่ายความร่วมมือเชิงบูรณาการของจังหวัด

หนองคายในการจัดการศึกษา โดยมุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนในด้านทักษะชีวิต ภาษา อาชีพ นวัตกรรมและ
เทคโนโลยี ตลอดจนการส่งเสริมให้มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อรองรับอาชีพ
ในเขตพืน้ ท่เี ศรษฐกิจพิเศษ และรถไฟความเร็วสูง ของจงั หวัดหนองคาย

2.2 ศึกษาแนวทางการขับเคล่ือนเครือข่ายความร่วมมือเชิงบูรณาการของสานักงาน
ศึกษาธิการจังหวัดหนองคาย ควรมงุ่ เนน้ ในการนาแผนพฒั นาเขตพ้ืนที่เศรษฐกิจพิเศษแผนชายแดน จังหวัด
หนองคายนาไปสู่การปฏิบัติการในเชิงพ้นื ที่มากขึ้น โดยใช้กลไกการขับเคลอ่ื นของคณะกรรมการศึกษาธิการ
จงั หวัดหนองคาย

๘๔

สว่ นท่ี 3
สาระสาคัญของการวางแผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2566 – 2570 )

จังหวัดหนองคาย โดยสํานักงานศึกษาธิการจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกับหน่วยงานการศึกษา 15
จังหวัดหนองคาย และหน่วยงานที่เก่ียวข้องได้กําหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์
กลยทุ ธ์ ตวั ชี้วัด และโครงการ ภายใต้ประเด็นยุทธศาสตร์ เพ่ือกําหนดเป้าหมายการพัฒนาการศึกษา
จงั หวดั หนองคาย ดงั น้ี

วสิ ัยทัศน์ (Vision)

จัดการศกึ ษาแบบบรู ณาการท่ีได้มาตรฐานสากล ผู้เรียนมีทักษะทจ่ี ําเปน็ ในศตวรรษท่ี 21
สอดคล้องกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

พนั ธกิจ

1. สง่ เสริม สนับสนนุ ให้ทุกภาคส่วนบรู ณาการในการจดั การเรียนร้แู ละพฒั นาผเู้ รยี นร่วมกนั
อย่างมีคุณภาพได้มาตรฐาน

2. สง่ เสริมและสนับสนนุ ให้ผเู้ รยี นมที กั ษะจาํ เป็นในศตวรรษที่ 21 และสรา้ งเสรมิ คุณภาพ
ชีวิตท่เี ป็นมติ รกับสิง่ แวดล้อม

3. ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพ่อื การประกอบอาชีพอยา่ งหลากหลายตามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง

4. ส่งเสริม สนบั สนุน และสรา้ งโอกาสในการเข้าถงึ บรกิ ารทางการศึกษาของประชาชนอย่าง
ทว่ั ถงึ เสมอภาค และเท่าเทียมกัน

5. พัฒนาและยกระดบั คุณภาพครแู ละบุคลากรทางการศึกษาส่มู าตรฐานวชิ าชพี
6. พฒั นาระบบบรหิ ารจดั การการศกึ ษาตามหลกั ธรรมาภบิ าล

ประเด็นยุทธศาสตร์

ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 1 การจัดการศึกษาเพื่อความม่ันคงของสงั คมและประเทศชาติ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 การผลิตและพัฒนากําลังคน การวิจัย และนวัตกรรม เพ่ือรองรับ
ตลาดแรงงานยุคใหม่
ประเด็นยุทธศาสตรท์ ่ี 3 การพฒั นาศกั ยภาพคนทกุ ชว่ งวยั และการสร้างสังคมแห่งการเรยี นรู้
ประเด็นยุทธศาสตรท์ ี่ 4 สรา้ งโอกาสใหป้ ระชาชนเข้าถึงบริการทางการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
และเสมอภาค
ประเด็นยทุ ธศาสตร์ท่ี 5 บรู ณาการการจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสรมิ คุณภาพชีวิตทีเ่ ปน็ มติ รกับ
สิ่งแวดลอ้ ม
ประเด็นยทุ ธศาสตร์ที่ 6 การพัฒนาระบบบรหิ ารจัดการ และสง่ เสรมิ ใหท้ ุกภาคสว่ นมีสว่ น
ร่วม ในการจดั การศกึ ษาใหม้ ี ประสทิ ธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล

๘๕

เปา้ ประสงค์ กลยทุ ธ์ ตัวชว้ี ัด และ
ประเดน็ ยุทธศาสตรท์ ่ี 1 การจัดการศกึ ษา

เป้าประสงค์ กลยทุ ธ์

1. ประชากรทุกช่วงวยั ได้รับการศึกษา กลยุทธ์ 1 สง่ เสริม สนับสนุนให้

ตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ หนว่ ยงานทางการศึกษายกระดับ

อย่างมีคุณภาพตามศักยภาพของ คณุ ภาพการศึกษาเพอื่ สรา้ งอาชพี

ตนเอง และส่งเสริมผทู้ ีม่ ี และพัฒนาคุณภาพชีวิต โดย

ความสามารถพิเศษ ความร่วมมือของทุกภาคสว่ น

2. ประชากรทุกชว่ งวยั มีความรักสถาบัน กลยุทธ์ 2 สง่ เสรมิ สนับสนนุ ให้

หลกั ของชาติ และยดึ มั่นการปกครอง หน่วยงานทางการศกึ ษาการจัด

ระบอบประชาธิปไตยอันมี การศึกษาเพื่อความมนั่ คงของ

พระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข สถาบันหลักของชาติและการ

ปกครองระบอบประชาธิปไตย

อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็น

ประมุข

ะโครงการ ภายใต้ประเด็นยุทธศาสตร์
าเพอ่ื ความมน่ั คงของสงั คมและประเทศชาติ

ตวั ชว้ี ัด โครงการ

1. ร้อยละ 100 ของหน่วยงานทาง (โครงการหลัก) โครงการส่งเสริมการ
การศึกษามีการยกระดับคุณภาพ จัดการศึกษาเพ่ือความมัน่ คง
การศึกษาเพื่อสร้างอาชีพและ 1. โครงการพัฒนาศักยภาพทางด้าน
พฒั นาคุณภาพชีวติ
ภาษาจีน ภาษาเวียดนามและ
2. ร้อยละ ๘๐ ของภาครฐั ภาษาอังกฤษเพ่ือการสอื่ สาร
ภาคเอกชน และหน่วยงานอนื่ ๆ อย่างมีประสทิ ธิภาพโดยเจา้ ของ
ท่เี กี่ยวข้องกับการศึกษามีส่วน ภาษา (Native Speaker)
ร่วมในการยกระดบั คุณภาพ (ตัวช้ีวดั 1)
การศึกษาเพื่อสร้างอาชีพและ 2. โครงการประสานความร่วมมือ
พัฒนาคุณภาพชีวติ พัฒนามัคคุเทศก์จวิ๋ เพอ่ื การ
ท่องเท่ยี วเชงิ อนุรักษ์ (ตัวช้ีวดั 1,
3. รอ้ ยละ 100 ของหน่วยงานทาง 2)
การศึกษาจัดการศึกษาเพ่ือความ 3. โครงการสร้างเยาวชนจิตอาสา
ม่นั คงของสถาบันหลักของชาติ

๘๖


Click to View FlipBook Version