แบบบนั ทกึ การฝึกปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรยี น 1
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564
ฝ่ายฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู
คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เทพสตรี
นำงสำวจิรพรรณ มีธรณี
รหสั นักศึกษำ 61115200213
สำขำวชิ ำคณิตศำสตร์ หลกั สตู รครุศำสตรบัณฑิต
โรงเรยี นโคกกะเทยี มวทิ ยำลยั
อำเภอเมือง จงั หวดั ลพบุรี
สำนกั งำนเขตพน้ื ท่ีกำรศกึ ษำมัธยมศึกษำลพบุรี
แบบบันทึกการฝกึ ปฏบิ ัตวิ ิชาชีพระหว่างเรยี น 1
ภาคเรยี นที่ 1 การศกึ ษา 2564 .
ช่อื -นามสกลุ นางสาวจริ พรรณ มีธรณี .
รหสั ประจำตัวนกั ศกึ ษา 61115200213 .
สาขาวชิ า คณติ ศาสตร์ .
ชอ่ื โรงเรยี น โคกกะเทยี มวทิ ยาลยั
สังกดั สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาลพบรุ ี
อำเภอเมืองลพบุรี จงั หวัดลพบุรี
ฝ่ายฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครู
คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเทพสตรี
แบบบนั ทกึ การฝกึ ปฏิบัตวิ ชิ าชีพระหว่างเรยี น 1
คำนำ
เอกสารฉบับนี้เป็นคู่มือประกอบการฝึกปฏบิ ัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ
ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจวิชาชีพครู ซ่ึงได้แก่ กระบวนการ
การเรียนการสอน หลักสตู ร ระบบการบริหารงานการศกึ ษาในโรงเรียนและได้ทำงานร่วมกับผอู้ น่ื ซ่งึ กิจกรรม
เหลา่ น้ีจะสามารถพฒั นาความรู้ ความสามารถของนกั ศึกษาได้เป็นอย่างดี
การฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 เป็นการฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี ครูเพือ่ เตรียมความพร้อมก่อน
ออกปฏิบตั กิ ารสอนในสถานศึกษาโดยการสงั เกตสภาพทว่ั ไปของโรงเรยี น พฤติกรรมการเรียนรขู้ องนักเรียน
งานในหน้าทคี่ รูผสู้ อน ครปู ระจำช้นั การศกึ ษางานด้านการบรหิ ารและบรกิ าร สภาพชุมชนและความสมั พนั ธ์
ระหวา่ งโรงเรียนกับชมุ ชน
โดยเอกสารฉบับนี้ได้มีการปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดการบันทึกงานที่ต้องฝึกปฏิบัติต่าง ๆ ให้
สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ปัจจุบันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 ซึ่งทำให้
นักษาไมส่ ามารถฝึกปฏบิ ัตฯิ ในสถานศึกษาได้ และให้ปรับมาใช้การฝึกปฏิบตั ิผ่านระบบออนไลนเ์ พือ่ ทดแทน
กระบวนการตา่ ง ๆ
หวังว่าเอกสารฉบับนี้คงให้ประโยชน์ในการเรียนรูแ้ ละเข้าใจในวิชาชีพครูก่อนที่จะออกฝึกปฏิบัติงาน
วชิ าชีพครใู นข้นั ต่อไป
ฝ่ายฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครู
คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
แบบบันทึกการฝึกปฏบิ ตั ิวชิ าชีพระหว่างเรยี น 1
สารบัญ
เรอื่ ง หน้า
การฝกึ ปฏิบตั ิวชิ าชพี ระหวา่ งเรยี น 1............................................................................................ 1
จดุ ประสงคข์ องการฝกึ ปฏิบตั วิ ชิ าชพี ระหว่างเรียน 1.................................................................... 1
ข้อเสนอแนะในการฝึกและการใชเ้ อกสาร..................................................................................... 2
การประเมินผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหวา่ งเรียน 1..................................................................... 3
เกณฑใ์ นการประเมนิ ผลการฝกึ ปฏบิ ัติวชิ าชีพระหวา่ งเรยี น 1....................................................... 4
ปว.1-1 แบบบนั ทกึ การสังเกตสภาพท่ัวไปของโรงเรยี น................................................................ 5
ปว.1-2 แบบบนั ทกึ การปฏบิ ตั ิงาน,............................................................................................... 13
ปว.1-3 แบบสมั ภาษณ์ครูพเี่ ลี้ยง.…………………………………........................................................... 17
ปว.1-4 แผนการจดั การเรียนร.ู้ ……………………………………………………………………………............... 18
ปว.1-5 โครงรา่ งการวิจยั ในชั้นเรียน.............................................................................................. 33
ปว.1-6 แบบประเมนิ การปฏบิ ัตติ นของนักศกึ ษา ……………………………………………………………….. 38
ปว.1-7 แบบประเมินแผนการจดั การเรียนร.ู้ ................................................................................. 39
ปว.1-8 แบบประเมนิ ด้านคุณภาพการจัดการเรยี นการสอน.......................................................... 45
ภาคผนวก...................................................................................................................................... 60
61
- แบบลงเวลาปฏิบัติงานนักศกึ ษา......................................................................................... 63
- รปู การเข้าสังเกต…………………………………………………………………………………………………… 70
- เอกสารประกอบการเรยี นของแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1................................................... 79
- เอกสารประกอบการเรยี นของแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2................................................... 88
- เอกสารประกอบการเรยี นของแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3................................................... 100
- แบบบนั ทึกคะแนนแบบฝึกหดั (รายบคุ คล)………………………………………………………………. 101
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล (ในชนั้ เรยี น)................................................... 103
- แบบประเมนิ ผลการทดสอบหลงั เรียน (รายบคุ คล)............................................................
แบบบนั ทึกการฝึกปฏบิ ัติวชิ าชพี ระหว่างเรยี น 1
1
การฝึกปฏิบตั วิ ิชาชพี ะหว่างเรียน 1
มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี เป็นมหาวิทยาลัยที่ทำหน้าที่ผลิตครูให้กับโรงเรียนประถมศึกษาและ
มัธยมศกึ ษาในท้องถนิ่ เขตรบั ผดิ ชอบ 3 จังหวดั ได้แก่ ลพบุรี สระบุรี และสงิ หบ์ รุ ี การผลิตครูใหม้ ีคณุ ภาพสามารถ
ปฏิบัติงานในหน้าที่ครูได้เป็นอย่างดี และมีจิตวิญญาณของความเป็นครูขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิต ซึ่งได้แก่
กระบวนการเรยี นการสอนหลักสตู ร การฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครู และกระบวนการประเมนิ ผล
การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเป็นกิจกรรมที่เป็นหัวใจสำคัญของการผลิตครู ในช่วงที่ฝึกประสบการณ์
วิชาชีพครู นักศึกษาจะมีโอกาสนำความรู้ความเข้าใจในวิชาชีพครู และวิชาเฉพาะที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยไป
ฝึกปฏิบัติในชั้นเรียน นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบการบริหารงานการศึกษาในโรงเรียนและได้ทำงาน
ร่วมกับบุคคลอื่นกิจกรรมเหลานีช้ ่วยให้นักศึกษาได้พัฒนาตนเองให้มีทักษะในวิชาชีพ จนสามารถปฏิบัติหน้าที่ครู
ได้อย่างมั่นใจและมเี จตคติทีด่ ตี ่อวชิ าชพี งานวิจยั หลายเรือ่ งทั้งในและต่างประเทศยนื ยนั ตรงกันว่านกั ศึกษาทปี่ ระสบ
ความสำเรจ็ ในการฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครูจะมีเจตคตทิ ี่ดตี อ่ วิชาชพี ครูและแนวโน้มจะเปน็ ครูทด่ี ใี นอนาคต
จากแผนหลักการปฏิรูปการฝึกหัดครู พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ความสำคัญกับการฝึก
ประสบการณ์วชิ าชีพครู เพราะเป็นกลไกสำคญั ยิง่ ในการสร้างบัณฑิตครทู ด่ี ี มเี จตคติทดี่ ีต่อวชิ าชพี ครู สถาบนั ฝึกหดั
ครูควรจะต้องปรับปรุงและพัฒนางานฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ให้เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้งานครู จากครูที่เป็น
แบบอยา่ งทม่ี ใี นโรงเรียนและชมุ ชน นอกจากน้ีควรจะพฒั นาเครอื ข่ายการเรยี นรู้ที่สง่ เสรมิ การฝึกหัดครูให้เปิดกว้าง
สู่ชุมชนขยายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ขยายแหล่งเรียนรู้ แหล่งวิทยากร และแหล่งฝึกประสบการณ์
วิชาชพี ครูอย่างกว้างขวาง
จุดประสงค์ของการฝกึ ปฏิบัตวิ ิชาชพี ระหวา่ งเรยี น 1
1. เพอ่ื ใหน้ ักศกึ ษามีความพร้อมก่อนออกปฏิบตั ิการสอนในสถานศกึ ษา
2. เพ่ือให้นักศกึ ษาได้ศึกษาสงั เกตสภาพท่ัวไปของโรงเรียนท้ังด้านการเรียนการสอน ดา้ นสถานที่และด้าน
กจิ กรรม
3. เพ่อื ใหน้ ักศึกษาได้บรู ณาการความรทู้ ้ังหมดมาใชใ้ นการฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครใู นสถานศกึ ษา
4. เพื่อให้นกั ศึกษาไดศ้ ึกษาและฝึกปฏิบตั กิ ารวางแผนการศกึ ษาผู้เรยี นโดยการสังเกต
5. เพือ่ ใหน้ ักศกึ ษาได้สมั ภาษณ์งานในหน้าทข่ี องครผู ูส้ อน งานในหนา้ ท่ขี องครปู ระจำชน้ั
6. เพ่ือให้นักศึกษาได้ศึกษาพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ลักษณะความแตกต่างและพฤติกรรม
ของผู้เรยี น งานบริหารและบริการของโรงเรยี น
7. เพื่อให้นักศึกษาได้ทดลองเขียนแผนการจัดการเรียนรู้วิชาเอก การฝึกเป็นผู้ช่วยครูด้านการจัดการ
เรยี นรู้หรือสนบั สนนุ การจัดการเรียนรู้ งานธุรการชัน้ เรียน
8. เพ่ือให้นกั ศึกษาไดอ้ อกแบบการวิจยั ในชน้ั เรยี นตามบริบทของสาขาวชิ าทีศ่ ึกษา เพื่อเตรียมความพร้อม
ในการนำไปศึกษาวจิ ัยจรงิ เมือ่ สามารถฝกึ ปฏิบัติวชิ าชีพ ในสถานศึกษาได้ตามปกติ
9. เพื่อให้นักศึกษาได้ทำการทดลองสอนในสถานการณ์จำลองผ่านระบบออนไลน์ และมีครูพี่เลี้ยงให้
คำแนะนำเพอ่ื ปรบั ปรงุ พฒั นาการสอนของนักศกึ ษา เพื่อเตรยี มความพรอ้ มกอ่ นไปทำการสอนจรงิ ในสถานศึกษา
แบบบันทกึ การฝึกปฏิบัติวิชาชพี ระหว่างเรียน 1
2
ข้อเสนอแนะในการฝึกและการใชเ้ อกสาร
การประกอบวิชาชีพให้เกิดประสิทธิผล ไม่เพียงแต่จะเรียนรู้ในภาคทฤษฎีความรอบรู้ในด้านวิชาการ
เท่านน้ั ท่สี ำคัญย่ิงกวา่ อ่นื ใดคอื การฝึกภาคปฏบิ ัติอยา่ งจริงจงั และต่อเน่ือง
วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง ครูเป็นผู้รับผิดชอบ “ชีวิต” ของมนุษย์ เช่นเดียวกับแพทย์มีหน้าที่รักษา
โรคภัยไข้เจ็บ มีสุขภาพดีท้ังกายและใจ แต่ครูนอกจากให้ชีวิตเหล่านั้นมีความรู้ สามารถอยู่ได้ในสังคมอย่างมี
ความสขุ มีคณุ ธรรม เป็นพลเมืองดขี องชาติแล้วยังต้องพัฒนาให้เขาเหลา่ นนั้ มคี ุณภาพชวี ติ ด้วย
นักศกึ ษาแพทย์ทุกคนต้องฝกึ ในโรงพยาบาลเปน็ ระยะๆ อย่างตอ่ เน่อื งฉันใดนักศกึ ษาครูย่อมฝึกในโรงเรียน
ในสถานการณ์จริงฉันนั้น การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูตามหลักสูตรนับเป็นโอกาสดีที่ได้เสริมสร้างคุณภาพใน
วชิ าชีพของตน
ข้อเสนอแนะต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาและการพัฒนากระบวนการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่าง
เรียน และการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศึกษาอย่างย่ิง คอื
1. ศกึ ษาเอกสารโดยตลอดทำความเขา้ ใจและปฏบิ ัตติ ามขนั้ ตอนของส่ิงท่ตี ้องจดั ทำตามแบบรายงาน
2. เขา้ ปฐมนเิ ทศชแี้ จงการดำเนินงาน และกจิ กรรมต่าง ๆ ท่กี ำหนดมอบหมายไว้
3. ปฏบิ ตั ิงานเป็นขน้ั ตอนตามกำหนดการ
4. บนั ทึกลงในแบบฟอร์มต่างๆ ตามลำดับอย่างครบถ้วน
5. ใหผ้ ู้รับผดิ ชอบลงชอื่ ในแบบบนั ทกึ แต่ละแบบตามลำดบั (เปน็ ลายเซน็ ต์อเิ ล็กทรอนิกส์ได้ แตต่ ้องมภาพ
ประกอบการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ กบั ครูพ่ีเลี้ยงประกอบในภาคผนวกดว้ ย)
6. ให้ผู้รับผิดชอบประเมินผลการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน เมื่อฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียนและ
บนั ทกึ การปฏิบัตงิ านครบถว้ นตามกำหนด
7. หลังจากโรงเรยี นประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหวา่ งเรียนโดยครูพเี่ ล้ียงแลว้ ฝ่ายฝกึ ประสบการณ์
วิชาชพี ครูและอาจารย์ผ้สู อนจะประเมินผลคร้งั สุดทา้ ยหลังจากครบกำหนดเวลาการปฏบิ ัติงานวิชาชพี ครู
แบบบันทึกการฝกึ ปฏิบตั ิวิชาชพี ระหวา่ งเรยี น 1
3
การประเมินผลการฝึกปฏบิ ตั ิวชิ าชพี ระหวา่ งเรียน 1
การประเมนิ ผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชีพระหว่างเรยี น ประเมนิ ตามรายวชิ าทฝ่ี ึกทุกปีการศึกษา นักศึกษาต้อง
ผา่ นการฝึกเป็นข้ันตอนตามลำดับ หากไมผ่ า่ นในขัน้ ตอนใดตอ้ งซ่อมเสรมิ ให้ “ผา่ น” จึงฝกึ ในขนั้ ตอ่ ไปได้
การประเมินผลการปฏบิ ัติงานวชิ าชีพครู เป็นการประเมนิ ผลท่ีครอบคลุมทัง้ คุณลักษณะความเป็นครูและ
เทคนคิ วิธี โดยมผี ู้ประเมินทัง้ ฝา่ ยมหาวทิ ยาลัยและโรงเรียน
ในการประเมินผลการฝึกประสบการณ์ขั้นศึกษาสังเกตและมีส่วนร่วม นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2542
เปน็ ต้นไป จะเปล่ยี นระบบการประเมนิ ผลจาก ผา่ นดีเย่ียม, ผ่าน, ไมผ่ า่ น เปน็ ระบบการประเมนิ แบบใหเ้ กรดคอื A,
B+, B, C+, C, D+, D และ E
ประเภทของแบบประเมนิ
แบบประเมนิ ผลการฝกึ ปฏิบัติวิชาชพี ระหวา่ งเรยี น หรือ ปว. มที ง้ั หมด 8 ชุด แบง่ เปน็ 2 ประเภท คือ
1. สำหรบั นกั ศกึ ษา ปว.1-1 ถงึ ปว.1-5 โดยมีรายละเอยี ด ดังนี้
ปว.1-1 แบบบนั ทกึ การสงั เกตสภาพทั่วไปของโรงเรียน
ปว.1-2 แบบบันทกึ การปฏบิ ตั งิ าน
ปว.1-3 แบบสมั ภาษณ์การจดั การเรียนรู้
ปว.1-4 แผนการจัดการเรียนรู้ 3 แผน
ปว.1-5 โครงร่างการวจิ ัยในชนั้ เรียน
นักศกึ ษามีหน้าท่ีบันทึกผลการศกึ ษาสังเกตใหถ้ กู ต้องตามความเปน็ จริง หลงั จากนน้ั ให้ครูพ่ีเล้ียง
และอาจารย์นเิ ทศกล์ งช่อื รบั รอง
2. สำหรับครูพเ่ี ลยี้ งและอาจารย์ผู้สอน ปว.1-6 ถงึ ปว.1-8 โดยมีรายละเอียด ดังน้ี
ปว.1-6 แบบประเมินการปฏบิ ัตติ นของนกั ศกึ ษา (โดยครูพี่เลยี้ ง)
ปว.1-7 แบบประเมินแผนการจดั การเรียนรู้ (โดยครพู ่ีเล้ยี ง)
ปว.1-8 แบบประเมินด้านคุณภาพการจดั การเรยี นการสอน (โดยครูพ่ีเล้ยี ง)
ครพู ี่เล้ยี งทำการประเมินตามแบบฟอร์มแล้วส่งใหก้ ับนักศกึ ษาเพ่ือทำการรวบรวมใส่ในเล่มแบบ
บันทึกการฝึกปฏิบตั วิ ชิ าชีพระหว่างเรียน 1
แบบบันทึกการฝึกปฏบิ ัตวิ ชิ าชพี ระหว่างเรียน 1
4
เกณฑใ์ นการประเมนิ ผลการฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหวา่ งเรียน 1
1. คะแนน ปว.1-6 ถึง ปว.1-8 ซึ่งได้รับการประเมินจากครูพี่เลี้ยงประจำโรงเรียนหน่วยฝึกประสบการณ์
วชิ าชพี ครู
2. คะแนนจากการประเมินของอาจารย์ผู้สอนรายวิชาฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 ซึ่งประกอบด้วย
คะแนนจากแบบบนั ทึกการปฏิบัติงานของนกั ศึกษา แผนการจดั การเรยี นรู้ งานวิจัยในชนั้ เรยี น การมีส่วนร่วมในชั้น
เรียน การนำเสนอ บุคลิกภาพ และการแต่งกาย การใชว้ าจา กริ ยิ าท่าทาง และความรับผิดชอบ
3. แนวทางการให้คะแนนรายวิชาการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 กำหนดเกณฑ์การให้คะแนน
ดังน้ี
3.1 อาจารยผ์ ู้สอน รวม 60 คะแนน
3.1.1 แบบบนั ทึกปฏิบตั งิ านของนักศกึ ษาในภาพรวม 30 คะแนน
3.1.2 โครงร่างงานวิจัยในชั้นเรียน 10 คะแนน
3.1.3 การมีสว่ นรว่ มในการจดั การเรยี นการสอน 10 คะแนน
3.1.4 พฤติกรรมการเรยี นของนักศึกษา 10 คะแนน
3.2 ครูพเี่ ลีย้ ง รวม 40 คะแนน
3.2.1 แบบประเมินการปฏิบตั ติ นของนักศึกษา 10 คะแนน
3.2.2 แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ 10 คะแนน
3.2.3 แบบประเมินการจดั การเรยี นรู้ 20 คะแนน
รวมท้ังสิ้น 100 คะแนน
4. นำคะแนนจากขอ้ 1 และ 2 มารวมกนั แลว้ ประเมนิ เป็นเกรดโดยมเี กณฑ์ ดงั น้ี
คดิ จากคะแนนเตม็ 100 คะแนน
คะแนน 90 – 100 ได้ระดับ A
คะแนน 85 – 89 ไดร้ ะดบั B+
คะแนน 80 – 84 ได้ระดับ B
คะแนน 75 – 79 ไดร้ ะดบั C+
คะแนน 70 – 74 ไดร้ ะดบั C
คะแนน 65 – 69 ไดร้ ะดบั D+
คะแนน 60 – 64 ได้ระดบั D
คะแนน 0 – 59 ได้ระดบั E
แบบบันทกึ การฝึกปฏบิ ัตวิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรยี น 1
5
ปว.1-1
แบบบันทึกการสงั เกตสภาพทั่วไปของโรงเรียน
คำช้ีแจง ให้นักศึกษาบันทึกขอ้ มลู การศึกษาและสังเกตสภาพทั่วไปตามความเป็นจริงของสถานศึกษาลงในช่องว่าง
ตามหัวข้อทีก่ ำหนด
1. โรงเรียน โคกกะเทียมวิทยาลัย สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาลพบุรี
เลขท่ี 88 หมู่7 ซอย/ถนน ถนนพหลโยธิน ตำบล/แขวง เขาพระงาม .
อำเภอ/เขต เมอื ง ลพบุรี จงั หวัด ลพบุรี รหสั ไปรษณีย์ 15160 โทรศพั ท์ 036-486333 .
โทรสาร 036-486622 .
2. คติพจน/์ ปรัชญาของโรงเรยี น/วสิ ยั ทัศนข์ องโรงเรียน
คติพจน์ของโรงเรียน "มีความต้งั ใจจริงที่ไหน ความสำเร็จย่อมมที ี่น่นั " .
ปรัชญาของโรงเรียน เปน็ ผทู้ ่มี ีความประพฤตดิ ี เรียนดี กฬี าเกง่ และมรี ะเบียบวนิ ยั .
วสิ ัยทัศนข์ องโรงเรยี น โรงเรียนโคกกะเทยี มวทิ ยาลยั เปน็ สถาบนั ทมี่ ุ่งมั่นพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้ .
และสง่ิ แวดล้อมให้น่าอยู่ สร้างผู้เรยี นให้เปน็ คนดี มคี วามรคู้ ู่คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และ .
คุณภาพตามมาตรฐานสากล บนพ้นื ฐานความเปน็ ไทย ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เคยี งคู่ความเปน็ พลโลกท่ดี ี .
3. ชือ่ ผ้บู รหิ ารโรงเรยี น นางฐิติพชั ร์ ดษิ รกั .
รองผอู้ ำนวยการโรงเรียน นายภาสกร แสนทวี .
ฝ่ายผูช้ ่วยผูบ้ ริหารโรงเรยี น นางนงลกั ษณ์ เดชมา .
ฝ่ายวิชาการ นางนำ้ ฝน สเี หลือง .
ฝา่ ยบริหารงานบุคคล นางทิยานันท์ เสรมิ ศรี .
ฝ่ายบริหารทวั่ ไป นางขนิษฐา บุตรบันเทงิ .
ฝา่ ยบรหิ ารงบประมาณ นางพชั รี ศรีภู .
4. บุคลากร สาขาวิชา จำนวน รวม
4.1 ครูอาจารย์ ชาย หญงิ
บรหิ ารการศกึ ษา -2 2
ระดบั การศกึ ษา เทคโนโลยีทางการศกึ ษา 1 10 11
ปริญญาเอก คอมพิวเตอร์
ปริญญาโท คณิตศาสตรศ์ กึ ษา
ภาษาไทย
แบบบนั ทึกการฝกึ ปฏบิ ัติวชิ าชพี ระหว่างเรียน 1
6
ปริญญาตรี บริหารการศึกษา 3 14 17
เทคโนโลยที างการศึกษา
ป.กศ.สูงหรือเทยี บเทา่ - - -
ครูอตั ราจา้ ง คณิตศาสตร์ 3 4 7
บรหิ ารการศกึ ษา
ธุรการ บรหิ ารการศึกษา - 1 1
อน่ื ๆ - - -
รวม สงั คมศึกษา 7 31 38
เคมี
บรรณารักษ์ศาสตร์
ภาษาอังกฤษ 2
คณิตศาสตร์ 2
พลศกึ ษา
เกษตรกรรม
ฟิกสส์ ิก
ภาษาไทย
เคมี
สังคมศึกษา 3
ดนตรี
นเิ ทศศาสตร์
นาฏศลิ ป์ ไทยศกึ ษา
เทคโนโลยสี ารสนเทศ
-
ศิลปศึกษา
เคมี
ภาษาจนี
พลศกึ ษา
ชวี วิทยา
คอมพิวเตอรศ์ กึ ษา
ภาษาองั กฤษ
การจดั การ
แบบบนั ทกึ การฝึกปฏบิ ัติวชิ าชีพระหว่างเรยี น 1
7
4.2 คนงาน มีท้ังหมด 7 คน เป็นหญิง 1 คน เป็นชาย 6 คน
4.3 นักเรยี น มีทงั้ หมด 452 คน เปน็ หญิง 225 คน เปน็ ชาย 227 คน
แยกตามลำดับขัน้ ต่าง ๆ ไดด้ ังนี้
จำนวนห้อง จำนวนนักเรียน
ระดบั ชนั้ หญิง ชาย รวม
-
1. อนุบาล 1 - ---
2. อนุบาล 2 - ---
3. อนบุ าล 3 - ---
4. ประถมศกึ ษาปีที่ 1 - ---
5. ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 - ---
6. ประถมศึกษาปีที่ 3 - ---
7. ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 - ---
8. ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 - ---
9. ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 4 ---
10. มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 4 39 54 93
11. มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 4 51 59 110
12. มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 3 37 43 80
13. มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 3 35 24 59
14. มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 3 33 25 58
15. มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 21 30 22 52
รวม 225 227 452
สรุปอตั ราสว่ นระหวา่ งจำนวนครูอาจารยต์ อ่ จำนวนนักเรียน โดยประมาณ คอื
ครอู าจารย์ 1 คน ต่อนักเรียน 19 คน
5. อาคารสถานที่
5.1 หอ้ งเรียน มีท้ังหมด 66 ห้อง
5.2 ห้องพักครอู าจารย์ มที ง้ั หมด 10 ห้อง
5.3 หอ้ งส่งเสริมวิชาการ มีทงั้ หมด 4 ห้อง คือ หอ้ งสมดุ .
.
หอ้ งปฏิบตั ิการวทิ ยาศาสตร์ .
.
หอ้ งปฏบิ ัติการภาษา
หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์
แบบบันทึกการฝกึ ปฏิบัติวชิ าชีพระหวา่ งเรยี น 1
8
6. สภาพแวดลอ้ ม .
6.1 สถานทีส่ ำคญั ทอ่ี ย่ใู กล้โรงเรยี น ไดแ้ ก่ .
ทิศเหนือ ตดิ กบั ภเู ขานำ้ โจน ศูนย์การทหารปืนใหญ่ .
ทิศใต้ ตดิ กบั ถนนทางเข้าศูนย์การทหารปนื ใหญ่และกองบนิ ๒ .
ทศิ ตะวนั ตก ติดกับ ถนนพหลโยธนิ และกองพนั ทหารปนื ใหญ่ ที่ ๗๒๑
ทิศตะวันออก ติดกบั ชุมชนทางเขา้ ศนู ย์การทหารปนื ใหญ่ .
6.2 สถานท่ใี กล้เคียงโรงเรยี นทเ่ี ป็นแหล่งวทิ ยาการส่งเสรมิ การจัดการเรยี นการสอน .
พิพิธภณั ฑ์จอมพล ป. พิบูลสงคราม อยู่ในศนู ย์กรมทหารปืนใหญ่ .
โครงการกระบอื บำบัด อยูใ่ นศนู ยก์ รมทหารปืนใหญ่
ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกจิ ตำบลเขาพระงาม
7. สภาพของนกั เรียน
7.1 สภาพครอบครวั (อาชีพ ฐานะทางเศรษฐกิจ)
สภาพครอบครัวนกั เรยี นมฐี านะปานกลาง ค่อนข้างยากจน บางคนสภาพครอบครวั แยกทางกนั .
จงึ ทำใหต้ อ้ งอาศยั อยกู่ ับปูย่ า่ ตายาย .
7.2 พฤติกรรมนกั เรยี น
พฤติกรรมนักเรยี นบางคนจะมคี วามกา้ วราว ดอื้ มากจนถึงดือ้ บ้าง และเรียบขรึม ปนอย่กู ับนักเรยี นท่ี
มสี ภาพสมบรู ณ์ .
8. ภาระหนา้ ทีข่ องครูผสู้ อน
8.1 ครปู ระจำช้นั
สำรวจการมาโรงเรียนของนักรยั น ติดตามผลการเรียน คอยแนะนำแนวทางให้กับนักเรยี นปฏบิ ัติตน
ถูกตอ้ งตามกฎระเบยี บของโรงเรียน คอยเป็นที่ปรกึ ษาเวลานกั เรยี นมเี ร่อื งไม่สบายใจ เอาใจใสเ่ ดก็ .
นกั เรยี น ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรยี นทำความดี .
8.2 งานอ่ืนๆ
ทำหน้าทคี่ รฝู ่ายใดฝ่ายหน่ึง เช่น ครูธรุ การ ฝ่ายการเงิน ฝ่านสารสนเทศ ทำหน้าทค่ี รเู วรประจำวนั
ตามท่ีได้รบั มอบหมาย คอยเป็นตัวกลางระหวา่ งโรงเรยี นกับนักเรียน .
แบบบนั ทกึ การฝกึ ปฏิบตั วิ ชิ าชีพระหวา่ งเรยี น 1
9
9. แผนผังแสดงบรเิ วณและทต่ี ั้งของโรงเรยี น
10. ประวัติโรงเรยี น
โรงเรยี นโคกกะเทียมวิทยาลัย เปน็ สถาบันการศึกษาท่ีจดั ตงั้ ขน้ึ เพ่อื รองรับการศกึ ษาของเยาวชน .
ซึ่งเป็นบุตรหลานของทหารสังกัดศูนย์การทหารปืนใหญ่ และกองบนิ ๒ รวมทง้ั บตุ รหลานของประชาชนทั่วไป .
ในตำบลเขาพระงาม และตำบลใกล้เคียง โดยการดำรขิ องพลตรีอุทยั วงศศ์ รเี ดช รองจเรทหารบก พลตรเี ฉลมิ .
พงษ์สวัสดิ์ ผ้บู ัญชาการทหารปืนใหญ่ และนายชลอ วนะภูติ ผู้วา่ ราชการจงั หวัดลพบุรี (สมยั นัน้ ) ได้ร่วมกนั .
จัดหาเงินเพือ่ ก่อสรา้ งโรงเรยี น ในวงเงนิ ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท กอ่ สร้างบนพ้ืนทข่ี องศนู ย์การทหารปนื ใหญ่ โดยมี .
จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม เป็นผอู้ นมุ ตั ใิ ห้ดำเนินการและเปน็ ประธานในพธิ ีวางศิลาฤกษก์ อ่ สรา้ งโรงเรยี น .
เมอ่ื วันท่ี ๓ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๙๕ และปรารถนาว่า โรงเรียนแหง่ นีค้ วรจะได้ขยายไปจนถึงระดบั มหาวทิ ยาลยั .
เพอ่ื ให้ลพบรุ ีเปน็ ศูนย์กลางการศกึ ษาของชาติในส่วนภมู ิภาค .
แบบบนั ทกึ การฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชีพระหวา่ งเรียน 1
10
โรงเรยี นโคกกะเทียมวทิ ยาลยั เปดิ ทำการสอนคร้งั แรก เม่อื วนั ที่ ๒๔ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๔๙๖ .
โดยมีจอมพล ป. พบิ ลู สงคราม เปน็ ประธานในพิธีเปิด การเปิดเรยี นครงั้ แรกมอี าคารสถานที่ ดังนี้ .
-อาคารเรยี น ๒ ชนั้ ๑ หลงั จำนวน ๒๔ หอ้ งเรยี น (พรอ้ มโตะ๊ เกา้ อ้ี) .
-โรงอาหาร ๑ หลงั .
-ถงั นำ้ ฝน ๑ ชุด .
-บ้านพักภารโรง ๑ หลงั .
-ห้องนำ้ หอ้ งส้วม ๒ หลงั (๑๒ ห้อง) .
-และครุภณั ฑ์การศึกษาเพียงพอตามสภาพของโรงเรยี นในขณะนัน้ .
โรงเรยี นไดร้ บั การพัฒนามาตามลำดับ และไดร้ บั การพิจารณาจากตน้ สงั กัดใหเ้ ข้าร่วมโครงการ .
ต่าง ๆ ดงั นี้ .
พ.ศ. ๒๕๒๐ เขา้ ร่วมโครงการ คพศ. .
พ.ศ. ๒๕๑๖ เปิดทำการสอนในระดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.ศ. ๔-๕) .
พ.ศ. ๒๕๑๙ เข้ารว่ มโครงการ คมภ. .
พ.ศ. ๒๕๓๗ เข้าร่วมโครงการ ลบส. .
พ.ศ. ๒๕๓๘ เข้ารว่ มโครงการปฏิรปู ทางการศกึ ษา
.
11. ข้อมลู โรงเรยี นดีเดน่ . .
ปี พ.ศ. 2529 -ไดร้ ับโลร่ างวัลการจัดการเรียนการสอนจรยิ ธรรมดเี ด่น เขตการศกึ ษา 6 .
ปี พ.ศ. 2530 -ได้รับรางวัลพระราชทานห้องสมุดดีเด่น จากสมาคมห้องสมุดในพระบรม
ราชูปถมั ภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี .
ปี พ.ศ. 2532 -ไดร้ ับโรงเรียนพระราชทานระดบั มธั ยมศกึ ษาขนาดใหญ่ เขตการศึกษา 6 .
ปี พ.ศ. 2534 -ไดร้ ับรางวัลพระราชทานหอ้ งสมดุ ดเี ดน่ กรมสามัญศกึ ษา .
-ได้รบั รางวัลห้องสมดุ ดีเดน่ เขตการศึกษา 6 .
ปี พ.ศ. 2535 -ได้รับรางวัลชนะเลิศโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่จัดกิจกรรมการเรียนการสอน
วทิ ยาศาสตรด์ เี ด่น ประจำปีการศึกษา 2535 (ภาคเหนอื ) .
ปี พ.ศ. 2537 -รางวัลชนะเลิศการประกวดรณรงค์และรักษาสิ่งแวดล้อมของสถานศึกษาจากกรมสามญั
ศึกษา และสำนักงานสามัญศกึ ษาจงั หวดั ลพบรุ ี .
-โรงเรียนดีเดน่ จัดบรรยากาศส่งเสริมการเรียนรู้ดีเด่นจากหน่วยศึกษานิเทศก์กรมสามญั
ศกึ ษา .
-รางวลั อันดบั 1ระดับจังหวัดในการประกวดรณรงคแ์ ละรักษาส่ิงแวดล้อมของสถานศึกษา
จากเขตการศกึ ษา 6 .
-ชนะเลิศอนั ดับ 1 โรงเรยี นขนาดใหญ่ การประกวดการจัดบรรยากาศ เพื่อส่งเสริมการ
เรยี นรขู้ องกล่มุ โรงเรียนกรมสามัญศกึ ษา จงั หวัดลพบรุ ี จากกรมสามัญศึกษา .
-รางวัลดีเด่นอันดับ 1 ระดับจังหวัด โรงเรียนปฏิบัติงานกรมสามัญศึกษาดีเด่น จาก
หน่วยศกึ ษานเิ ทศก์ กรมสามัญศึกษา .
แบบบันทึกการฝึกปฏิบตั ิวชิ าชีพระหวา่ งเรียน 1
11
ปี พ.ศ. 2538 -ไดร้ บั รางวลั หอ้ งสมดุ ดีเดน่ ของกรมสามญั ศกึ ษา .
ปี พ.ศ. 2539 -ได้รบั คดั เลอื กจากกรมสามัญศกึ ษาใหเ้ ป็นห้องสมดุ กาญจนาภิเษกของ จงั หวัดลพบรุ ี .
-ไดร้ ับรางวัลอนั ดบั 1 ในการประกวดรณรงค์รกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม .
-ไดร้ ับรางวัลดเี ด่นโรงเรียนจัดบรรยากาศส่งเสรมิ การเรียนรูด้ เี ดน่ ของเขตการศกึ ษา 6 .
ปี พ.ศ. 2540 -ไดร้ ับรางวลั ห้องสมุดดเี ดน่ ระดบั เขตการศกึ ษา .
-ได้รับรางวลั หอ้ งสมดุ ดีเด่นของกรมสามญั ศกึ ษา .
ปี พ.ศ. 2541 -ได้รบั รางวลั หอ้ งสมดุ ดเี ดน่ เฉลมิ พระเกยี รตกิ าญจนาภเิ ษกดีเด่น .
ปี พ.ศ. 2543 -ไดร้ ับรางวัลห้องสมุดดเี ดน่ (ขนาดใหญ่) ระดับประเทศ ของสมาคมหอ้ งสมดุ แห่งประเทศ
ไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี .
ปี พ.ศ. 2544 -ร้านหมอภาษาไดร้ ับรางวัล รองชนะเลิศอนั ดับ 1 (ระดับประเทศ) ในการประกวดเครือข่าย
ร้านหมอภาษา ปีการศึกษา 2544 .
ปี พ.ศ. 2546 -จดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ นและการเรียนรรู้ ะดับมัธยมศกึ ษา ด้านกจิ กรรมส่งเสรมิ ยอดนัก
อ่าน มคี ุณภาพระดับ ดมี าก ประจำปกี ารศึกษา 2546 .
ปี พ.ศ. 2547 -ได้รับรางวัลพระราชทานการจัดกิจกรรมของสถานศึกษา "รักการอ่าน สานสู่ฝัน" (ปีแห่ง
การสง่ เสริมการอ่านและการเรียนรู้ 2546) สาขากิจกรรมส่งเสรมิ ยอดนักอ่าน .
ปี พ.ศ. 2551 -ได้มาตรฐานห้องสมดุ มีชวี ิต มคี ณุ ภาพระดับ ดี ประจำปกี ารศกึ ษา 2546 .
ปี พ.ศ. 2552 -จัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน มีคุณภาพระดับ ดีมาก ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 –
2553 . .
ปี พ.ศ. 2555 -ได้รบั รางวัลชนะเลิศ กีฬาเปตอง หญงิ เดย่ี ว การแขง่ ขันกฬี านักเรียนจังหวดั ลพบุรี ประจำปี
การศึกษา 2555 ระหวา่ งวนั ท่ี 10-19 กนั ยายน 2555 จากสำนกั งานการทอ่ งเที่ยวและกฬี า จังหวัดลพบรุ ี .
-ได้รับรางวัลเหรียญทอง การประกวดจัดโต๊ะหมู่บูชา และสวดมนต์ทำนองสรภัญญะ
ประจำปกี ารศึกษา 2555 จดั โดยยวุ พทุ ธิกสมาคมลพบรุ ี .
ปี พ.ศ. 2556 -ผา่ นการประเมินเป็นโรงเรยี นดปี ระจำอำเภอ โรงเรียนในฝนั ร่นุ ท่ี 3 .
ปี พ.ศ. 2558 -ไดร้ ับโล่เชิดชเู กยี รตริ างวัล MOE AWARDS ปีการศึกษา 2558 ผลงานระดบั ดีเดน่ ประเภท
สถานศึกษา สาขา ส่งเสริมคณุ ธรรม จริยธรรม .
-ได้รับโล่รางวัลโรงเรียนต้นแบบผู้นำเครือข่ายเยาวชนไทยลดใช้ถุงพลาสติกโครงการ
"คดิ ถ๊งุ คดิ ถุง" เพ่อื ส่งเสรมิ การอนุรักษ์ส่งิ แวดล้อม .
ปี พ.ศ. 2559 -ได้รบั โลร่ างวลั "รางวัลดีเด่น" โครงการ "เธอ คือ แรงบนั ดาลใจ" ปที ี่ 7 จากมลู นิธิสำนกั งาน
ทรัพยส์ ินสว่ นพระมหากษัตรยิ ์ .
ปี พ.ศ. 2562 -สมาคมยุวพุทธิกสมาคม ลพบุรี ขอมอบประกาศเกียรติคุณบัตรให้ไว้เพื่อแสดงว่า
โรงเรียน โคกกะเทียมเขา้ รว่ มประกวดโครงการธรรมสญั จรของยุวพทธิกสมาคมลพบรุ ี ระดบั เหรีญทอง .
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชีพระหว่างเรียน 1
12
ตราโรงเรียน
สีประจำโรงเรยี น
แผนภมู โิ ครงสร้างการบรหิ ารของโรงเรียน
ลงช่อื ………………………………………….ผบู้ ันทึก
(นางสาวจิรพรรณ มีธรณี)
วนั ที่ 2 เดอื น กันยายน พ.ศ 2564
.
ลงชื่อ………………………………………….ครูพ่เี ลีย้ ง
(นางกนกวรรณ สายทองคำ)
วันท่ี 27 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 .
แบบบันทึกการฝึกปฏิบัตวิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรยี น 1
13
ปว.1-2
แบบบันทึกการปฏบิ ตั ิงาน
คำชี้แจง ใหน้ กั ศกึ ษาบนั ทึกผลการปฏิบัตงิ านในสถานศึกษาผ่านระบบออนไลน์ทุกครั้งทีป่ ฏิบตั งิ านตามทก่ี ำหนดให้
วนั 2 เดอื น กนั ยายน พ.ศ 2564 ( 30 นาที ).
สิ่งทีไ่ ด้รับจากการ
งาน รายการที่ปฏิบตั ิ/ทีไ่ ด้ ปฏิบัตงิ านนี้ ลงช่ือ
เรยี นรู้ ครพู ่เี ลย้ี ง
- ได้ทราบเรื่องที่อยู่ของโรงเรียน ได้
1. (ประเด็นหัวข้อที่เรียนรู้) - แบบบันทึกการสังเกต รู้ประวัติความเป็นมาของโรงเรียน
และข้อมูลต่าง ๆ รวมไปถึงข้อมูล
ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูล สภาพท่วั ไปของโรงเรียน จำนวนของนักเรียน และยังได้ทราบ
ข้อมูลเบื้องต้นของโรงเรียนจนครบ
เบื้องต้นของสถานศึกษาแก่ เช่น ท่ีอยโู่ รงเรยี น,คติ ตามแบบบันทึกการสังเกตสภาพ
นักศกึ ษา ทั่วไปของโรงเรียน
พจน์/ปรัชญาของ
โรงเรียน/วิสยั ทศั น์ของ
โรงเรยี น , ช่ือผบู้ รหิ าร
โรงเรยี น,บุคลากร
โรงเรยี น ต่าง ๆ ทเ่ี ป็น
ข้อมลู เบื้องตน้ ของ
สถานศกึ ษา
วัน 2 เดือน กันยายน พ.ศ 2564 ( 30 นาที ).
งาน รายการทป่ี ฏิบตั /ิ ที่ได้ ส่งิ ที่ไดร้ บั จากการ ลงชื่อ
เรยี นรู้ ปฏิบตั ิงานน้ี ครพู ี่เล้ยี ง
2. (ประเด็นหัวข้อที่เรียนรู้) - ศึกษาแผนการจัดการ - ได้ทราบองค์ประกอบและวิธีการ
ถ ่ า ย ท อ ด ว ิ ธ ี ก า ร จ ั ด ท ำ เรยี นรู้ของครูพเ่ี ลี้ยง ในการทำแผนของครูพี่เลี้ยง และนำ
แผนการจัดการเรียนรู้ให้ - ศึกษาองคป์ ระกอบที่อยู่ ความรู้มาประยุกต์ใช้กับแผนการ
ผู้เรียนได้สร้างความรู้ด้วย ในแผนการจัดการเรียนรู้ จัดการเรียนร้ทู ีต่ อ้ งทำ
ตนเองและเพื่อจุดประสงค์ ของครพู ่เี ลย้ี ง
การสอนที่หลากหลายตาม
ศาสตรข์ องสาขาวิชา
แบบบันทึกการฝึกปฏบิ ัติวชิ าชีพระหวา่ งเรียน 1
14
วนั 9 เดือน กันยายน พ.ศ 2564 (30 นาที).
งาน รายการท่ีปฏบิ ัต/ิ ที่ สง่ิ ทไ่ี ด้รับจากการ ลงชอ่ื
ได้เรยี นรู้ ปฏบิ ัตงิ านนี้ ครูพ่ีเลีย้ ง
3. (ประเด็นหัวข้อที่เรียนรู้) - เทคนคิ การวดั - ได้รู้ว่าเทคนิคการวัดและประเมินผลการ
ถ่ายทอดเทคนิคและวิธีการ และประเมินผลการ เรียนรู้ของครูพี่เลี้ยง คือการเช็คชื่อนักเรียน
วัดและประเมินผลการเรียน เรยี น ที่เข้าเรียนออนไลน์และการตอบคำถาม
ตามศาสตรข์ องสาขาวชิ า - วิธกี ารวดั และ เพื่อให้คะแนน เพราะนักเรียนที่เข้าเรียน
ประเมนิ ผลการ ออนไลน์มีจำนวนน้อย จึงจำเป็นที่ต้องให้
เรยี น คะแนนเพอ่ื ให้มีแรงจงู ใจในการเรียน และยัง
แจง้ คะแนนเปน็ ระยะ ๆ
- และยังได้ทราบถึงวิธีการวัดและ
ประเมินผลการเรียนรู้ของครูพี่เลี้ยง คือการ
ตรวจใบงาน การตรวจแบบฝึกหัดและสังเกต
พฤติกรรมการเรียน
วนั 9 เดือน กนั ยายน พ.ศ 2564 (30 นาที).
งาน รายการทีป่ ฏบิ ตั ิ/ท่ี ส่งิ ทีไ่ ด้รบั จากการ ลงช่อื
ไดเ้ รียนรู้ ปฏบิ ตั ิงานน้ี ครูพีเ่ ลย้ี ง
4. (ประเด็นหัวข้อที่เรียนรู้) - วิธีการออกแบบ - ได้ทราบถงึ ปญั หาของนักเรียนและทราบวา่
ถ่ายทอดวิธีการออกแบบการ การวจิ ยั ครูพี่เลี้ยงจะมีวิธีการออกแบบการวิจัยและ
วิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียนหรือ - วิธีการแก้ปัญหา แก้ปัญหาตามบริบทของนักเรียนในชั้นเรียน
แก้ปัญหาผู้เรียนตามศาสตร์
ของสาขาวชิ า ผ้เู รียน ที่รับผิดชอบและสังเกตถึงปัญหาว่านักเรียน
ในห้องแต่ละห้อง เรียนคณิตศาสตร์และ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนออกมายังไง เช่น
ปัญหาตอนนี้คือการเรียนออนไลน์และการ
ส่งงานออนไลน์ครูจะแจ้งคะแนนของ
นักเรียนเป็นระยะ แก้ปัญหาโดย1.ครูอัด
คลิปเรื่องที่สอนส่งให้นักเรียนศึกษาเผ่ือ
นักเรียนบางคนไม่พร้อมในเทคโนโลยี2.โทร
หาผู้ปกครองเพื่อแจ้งรายละเอียดต่างๆเช่น
นักเรียนไม่เข้าห้องเรียน ไม่ส่งงาน 3.ให้
เพอื่ นชว่ ยเพอื่ นเชน่ การตามเพือ่ นใหม้ าเรียน
แบบบนั ทกึ การฝึกปฏิบัตวิ ชิ าชีพระหวา่ งเรยี น 1
15
วัน 20 เดือน กันยายน พ.ศ 2542 . (1ชัว่ โมง).
งาน รายการที่ปฏิบัต/ิ ท่ี ส่งิ ท่ีได้รบั จากการ ลงช่อื
ไดเ้ รียนรู้ ปฏิบัตงิ านนี้ ครูพี่เลย้ี ง
5. (ประเด็นหัวข้อที่เรียนรู้) -ให้คำแนะนำและ - เป็นแผนทส่ี ามารถใชส้ อนได้จรงิ มกี าร
ให้คำแนะนำและประเมินผล ประเมินผลการการ เรียงเนื้อหาจากง่ายไปยาก และมี
ก า ร ก า ร ท ด ล อ ง ส อ น ใ น ทดลองสอนใน แบบฝึกหัดที่สอดคล้องกับเรื่องที่สอน
สถานการณจ์ ำลองผา่ นระบบ สถานการณ์จำลอง โดยเรียงตากง่ายไปยาก
ออนไลน์หรือคลิปวีดีโอ ไม่ ผ่านระบบออนไลน์
น้อยกว่า 3 หัวข้อ ตาม หรอื คลิปวดี ีโอ
ศาสตรข์ องสาขาวิชา
วัน 21 เดือน กันยายน พ.ศ 2564 . (30 นาที).
งาน รายการท่ีปฏิบัต/ิ ท่ี ส่งิ ทไ่ี ดร้ ับจากการ ลงชื่อ
ไดเ้ รยี นรู้ ปฏิบตั งิ านน้ี ครูพเ่ี ลย้ี ง
6. (ประเด็นหัวข้อที่เรียนรู้) - ความรูเ้ กีย่ วกบั การ - ได้ทราบถึงกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัด
ให้ความรู้เกี่ยวกับการจัด จดั กจิ กรรมพฒั นา ให้กับนักเรียน คือมี 1. ลูกเสือ เป็น
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตาม ผเู้ รยี น กิจกรรมของนักเรียนม.ต้น ก็จะจัดตาม
บรบิ ทของสถานศกึ ษา ห ล ั ก ส ู ต ร ข อ ง ล ู ก เ ส ื อ ท ี ่ น ั ก เ ร ี ย น ม .ต้ น
จะตอ้ งไดร้ ับ เชน่ ม. 3 จะทำอาหาร เดิน
ทางไกล และมกี จิ กรรมเยอะกว่าม.1 กับ
ม.2 และ 2. กจิ กรรมจิตอาสา ที่นกั เรยี น
แต่ละคนจะได้ทำอย่างของครูพี่เลี้ยงจะ
ให้เก็บขยะและนำขยะที่ได้ไปขาย และ
น ำ เ ง ิ น ไ ด ้ ไ ป ซ ื ้ อ ส ี ม า เ พ ื ่ อ ป ร ั บ ป รุ ง
ซอ่ มแซมพวกโต๊ะ,เกา้ อ้ี
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหวา่ งเรยี น 1
16
วนั 21 เดอื น กันยายน พ.ศ 2564 . (30 นาที).
งาน รายการท่ปี ฏิบัต/ิ ที่ ส่งิ ท่ไี ดร้ บั จากการ ลงชื่อ
ไดเ้ รียนรู้ ปฏิบตั ิงานน้ี ครพู ี่เล้ยี ง
7. (ประเด็นหัวข้อที่เรียนรู้) - ความรแู้ ละแนว - ไดท้ ราบวา่ ครูพ่ีเล้ยี งเองจะต้องปรับตวั ตาม
ให้ความรู้และแนวทางการ ทางการประพฤติ สถานการณ์โควิด ต้องศึกษาโปรแกรมใน
ประพฤติปฏิบัติตนในการ ปฏิบัติตนในการ การสอนออนไลน์ เหมือนครูจะต้องปรับตัว
พฒั นาความเปน็ ครมู ืออาชพี พฒั นาความเปน็ ครู ให้เข้ากับทุก ๆ สถานการณ์ และอย่างครูพ่ี
มอื อาชีพ เลี้ยงจะต้องมีการอบรมครู มีการเข้าประชุม
ทุกครั้ง และสอนเด็กให้ครอบคลุมเนื้อหา
มากที่สุด แต่อย่างสถานการณ์โควิดอาจจะ
ไม่สามารถสอนเนื้อหาได้เยอะแต่ก็สอน
เนื้อหาที่สำคญั มากทส่ี ดุ เช่นกัน
หมายเหตุ : นักศึกษาสามารถออกแบบตาราง หรือเพิ่มรายละเอียดได้ ตามหัวข้อรายละเอียดความรู้ที่ต้องเรียนรู้
จากครูพเ่ี ลยี้ ง
ลงช่อื ………………………………………..…………….ผู้บนั ทกึ
(นางสาวจริ พรรณ มธี รณี)
ลงช่ือ………………………………………………..…….ครพู ีเ่ ล้ยี ง
(นางกนกวรรณ สายทองคำ)
แบบบนั ทกึ การฝกึ ปฏบิ ัติวชิ าชพี ระหวา่ งเรียน 1
17
แบบสัมภาษณ์การจดั การเรียนรู้ (สัมภาษณค์ รพู ่เี ลีย้ ง) ปว.1-3
ชอื่ อาจารย์ กนกวรรณ สกุล สายทองคำ .
.
โรงเรียน โคกกะเทียมวิทยาลยั อำเภอ เมอื ง จังหวัด ลพบุรี
คำชีแ้ จง ให้นกั ศึกษาสัมภาษณก์ ารจดั การเรยี นรู้ของครพู ีเ่ ลย้ี งและบนั ทึกลงในช่องวา่ งทก่ี ำหนด
1. ทา่ นสอนกีร่ ายวชิ า วชิ าอะไรบา้ ง จำนวนกช่ี ่ัวโมงตอ่ สัปดาห์
รายวชิ าท่สี อนมที ง้ั หมด 4 รายวิชา คอื
1. คณติ ศาสตรเ์ พมิ่ เตมิ 1 จำนวน 3 คาบตอ่ สปั ดาห์ .
2. คณติ ศาสตรเ์ พมิ่ เตมิ 3 จำนวน 3 คาบตอ่ สปั ดาห์ .
3. คณิตศาสตรเ์ พมิ่ เตมิ 5 จำนวน 3 คาบต่อสปั ดาห์ .
4. คณิตศาสตร์พสวท. 1 จำนวน 1 คาบต่อสปั ดาห์ .
2. ปัญหาทพี่ บในรายวิชาทส่ี อน มีอะไรบา้ ง
1. นักเรยี นไมเ่ ข้าเรยี น meet .
2. นกั เรยี นบางสว่ นไมส่ ง่ งาน .
3. ในขณะเข้าเรียน meet ส่วนใหญน่ กั เรยี นจะไม่ค่อยพดู ตอบโต้ .
3. ทา่ นไดด้ ำเนนิ การแก้ไขอย่างไร/มีเทคนคิ ใดในการดำเนินการแก้ไข
1. ในกรณีที่นักเรียนไม่เข้าเรียนออนไลน์ meet ครูได้ดำเนินการอัดคลิปสอน แล้วสร้างลิ้งค์สำหรับสอน
เพื่อใหน้ กั เรยี นสามารถทบทวนความรไู้ ด้
2.กรณีนกั เรยี นไมส่ ง่ งาน แจง้ ครูทปี่ รึกษาและโทรศพั ทห์ าผูป้ กครอง .
3. กรณีนกั เรยี นไม่ตอบสนองในการเรียน ครูสุม่ ถามนกั เรียนในห้องเรยี น .
4. ทา่ นมขี อ้ เสนอแนะอยา่ งไรในการดำเนินการจัดการเรียนรู้ หรืองานด้านอ่นื ๆ
-.
5. ท่านมีการแลกเปล่ยี นเรยี นร้รู ะหว่างเพอื่ นครูหรอื ไมอ่ ยา่ งไร (PLC) ถ้ามีท่านดำเนินการอยา่ งไร และผลการ
ดำเนินการเป็นอยา่ งไร
มีประชมุ หารอื ปัญหาการสอนออนไลน์ ผลการดำเนนิ การ ทราบปญั หา และหาแนวทางแกไ้ ข ซงึ่ อยใู่ น
กระบวนการอยู่นะคะ .
แบบบันทกึ การฝึกปฏบิ ัตวิ ิชาชีพระหว่างเรยี น 1
18
ปว.1-4
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1
รายวิชา คณิตศาสตรเ์ พิ่มเตมิ กลุ่มสาระ การเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ .
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 เร่ือง เมทริกซ์ .จำนวน 30 ชัว่ โมง
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 1 เรอ่ื ง เมทรกิ ซแ์ ละสญั ลกั ษณเ์ มทรกิ ซ์ .จำนวน 1 ชวั่ โมง
สอนวนั ท่ี 10 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 09.00-10.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สาระท่ี 1 เรื่องจำนวนและพชี คณิต
มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ อสมการ และเมทรกิ ซ์ อธิบายความสมั พนั ธ์
หรือชว่ ยแก้ปัญหาที่กำหนดให้
ผลการเรียนรู้ ค 1.3 ม.5/3 เขา้ ใจความหมาย หาผลลัพธ์ของการบวกเมทรกิ ซ์ การคณู เมทริกซก์ บั
จำนวนจริงการคูณระหวา่ งเมทริกซ์ และหาเมทรกิ ซส์ ลบั เปล่ียน หาดเี ทอร์
มิแนนตข์ องเมทรกิ ซ์ n × n เม่อื n เปน็ จำนวนนับไมเ่ กนิ สาม
ค 1.3 ม.5/4 หาเมทรกิ ซ์ผกผันของเมทริกซ์ 2 × 2
ค 1.3 ม.5/5 แก้ระบบสมการเชงิ เสน้ โดยใชเ้ มทรกิ ซผ์ กผนั และการดำเนนิ การตามแถว
สาระสำคญั
เมทริกซ์ คือกลุ่มของจำนวนหรือสมาชิกของริงใดๆ เขียนเรียงกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือจัตุรัส
กลา่ วคอื เรียงเปน็ แถวในแนวนอน และเรยี งเป็นแถวในแนวต้งั เรามักเขียนเมทริกซ์เปน็ ตารางที่ไม่มีเส้นแบ่ง
และเขยี นวงเล็บครอ่ มตารางไว้ (ไมว่ า่ จะเปน็ วงเลบ็ โค้งหรือวงเลบ็ เหล่ยี ม) เช่น
2 3 −1
[−4 20 6 ]
−6 9 8
เน้อื หาเรื่องเมทรกิ ซ์และสญั ลักษณเ์ มทรกิ ซ์ แบ่งไดด้ ังนี้
บทนิยาม : ให้ และ เป็นจำนวนเตม็ บวก ชุดจำนวนจริง จำนวน ซ่ึงเขียนเรยี งกัน
11 12 ⋯ 1
ในรปู [ 21 22 ⋯ 2 ]
⋮ ⋮ ⋱ ⋮
1 2 ⋯
แบบบันทกึ การฝึกปฏบิ ัตวิ ชิ าชพี ระหว่างเรยี น 1
19
เรียกว่า เมทริกซ์ (matrix) ชุดของสมาชิกท่ีเขยี นในแนวนอน เรียกว่า แถว (row) ของเมทริกซ์ ซึ่ง
มที ั้งหมด แถว ชุดสมาชิกทเี่ ขยี นในแนวตั้ง เรียกว่า หลกั (column) ของเมทรกิ ซ์ ซ่ึงมที ้ังหมด หลัก
เรียก ว่าเป็น สมาชิก (entry) ในแถวท่ี และหลักที่ ของเมทริกซ์ ถ้าเมทริกซ์มี แถว หลัก
จะเรยี ก × วา่ ขนาด (size) หรอื มติ ิ (dimension) ของเมทริกซ์
การเขยี นรปู ทัว่ ของเมทริกซ์
โดยทั่วไปนยิ มใชอ้ ักษรภาษาอังกฤษตัวเล็กแทนสมาชิกของเมทริกซ์ และเพื่อบอกตำแหน่งว่าอยู่แถวใดและ
หลักใด จงึ เขียน subscript ตรงมมุ ล่างขวาดังนน้ั ถ้า เป็นเมทรกิ ซ์มีมิติ × เขยี นเป็นรูปทั่วไปได้
เป็น
= [ ]
×
เมทริกซ์ชนดิ ตา่ ง ๆ
1. เมทรกิ ซ์ (row matrix) คอื เมทริกซ์ที่มเี พยี ง 1 แถว และจะมกี ีห่ ลกั ก็ได้ มีมิตเิ ปน็ 1 ×
2. เมทรกิ ซ์หลกั (column matrix) คือ เมทริกซ์ทีม่ ีเพียง 1 หลัก และจะมกี แ่ี ถวกไ็ ดม้ มี ิติเปน็
× 1
3. เมทรกิ ซ์ศูนย์ ( Zero matrix ) คือเมทริกซ์ทีท่ ีสมาชิกทุกตัวเป็นศูนย์ และจะมกี ีแ่ ถวหรอื ก่ีหลัก
ก็ได้
4. เมทริกซ์จัตรุ สั (square matrix) คอื เมทริกซท์ ีมตี ำนวนแถวเทา่ กับจำนวนหลัก และมมี ติ ิ
เปน็ ×
5. เมทรกิ ซส์ เกลาร์ เป็นเมทริกซจ์ ตั ุรัสทีม่ สี มาชกิ ในแนวเสน้ ทแยงมมุ หลกั เท่ากันหมด และสมาชิกท่ี
อยู่เหนอื , ใต้ทแยงมมุ เป็นศูนย์
6. เมทรกิ ซ์ทแยง คือ เป็นเมทรกิ ซ์จตั รุ สั ทีม่ ีสมาชิกทีอ่ ยเู่ หนือและใตท้ แยงมมุ เปน็ ศูนย์
7. เมทริกซ์เอกลักษณ์ คอื เมทริกซจ์ ตั รุ สั (หรือเมทริกซท์ แยงมุม) ทม่ี ตี วั เลขบนเสน้ ทแยงมุมเป็น
1 ซง่ึ สมมติใหเ้ ส้นทแยงมุมนนั้ ลากจากสมาชกิ บนซา้ ยไปยงั สมาชกิ ขวาลา่ ง (เฉียงลง) สว่ นสมาชกิ ท่ีเหลือเป็น
0 ท้ังหมด
จดุ ประสงค์การเรียนรู/้ ผลการเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายคำวา่ เมทริกซ์ได้
2. นกั เรยี นสามารถบอกบทนิยามของเมทรกิ ซ์ได้
3. นกั เรยี นสามารถบอกมิติเมทริกซแ์ ละเขยี นเมทริกซใ์ นรูปทว่ั ไปได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
1. นักเรยี นสามารถสงั เกตและระบชุ นิดของเมทริกซ์ได้
2. นกั เรยี นสามารถเขยี นสรุปใจความสำคญั เร่อื งเมทรกิ ซใ์ นแบบของตนเองได้
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏิบัตวิ ชิ าชีพระหวา่ งเรียน 1
20
ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
1. มีระเบยี บวินัย
2. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน
3. ใฝ่เรียนรู้
4. เจตคติท่ดี ตี ่อวิชาคณิตศาสตร์
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันนำ
1. ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรยี น ช้แี จงจุดประสงคใ์ นการเรียนเรอื่ งนีแ้ ละเนอ้ื หาในเรือ่ งนีว้ ่า
เราจะเรียนเร่ืองน้กี นั ทั้งหมด 2 ชว่ั โมง หรอื 2 คาบเรียน โดยเร่ือง เมทริกซแ์ ละสัญลกั ษณ์เมทรกิ ซ์ ในชั่วโมง
แรกจะเรียน 3 เร่อื งยอ่ ย คอื 1. สัญลักษณข์ องเมทริกซ์
2. การเขยี นเมทริกซ์
3. เมทรกิ ซ์ชนิดตา่ ง ๆ
2. ครูสนทนากับนกั เรียนเกี่ยวกบั การนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ท่ีนกั เรียนคนุ้ เคย เชน่ การ
สรุปจำนวนนกั เรยี นท่ีสอบเขา้ มหาวทิ ยาลยั ในคณะตา่ ง ๆ ของจงั หวัดหนึ่ง
ขั้นสอน
1. ครแู จกเอกสารประกอบการเรียน โดยส่งล้ิงคใ์ ห้นกั เรียนโหลดเอกสาร และศึกษา
ไปพร้อมกัน ซ่ึงเปน็ ความรเู้ ก่ียวกบั สญั ลักษณข์ องเมทริกซ์ ,การเขียนเมทรกิ ซ์ และเมทริกซ์ชนดิ ตา่ ง ๆ
2. ครูสอนเรื่องของเมทริกซโ์ ดนสอนบทนยิ ามที่ 1 ของเมทริกซว์ ่าเมทริซค์ ืออะไรและ
หลังจากนน้ั สอนเน้ือหาตามเอกสารประกอบการเรียนท่ีมเี รือ่ ง สัญลักษณข์ องเมทรกิ ซ์,การเขยี นเมทรกิ ซ์
และเมทริกซ์ชนิดตา่ ง ๆ เพ่ือใหน้ ักเรียน เรียนตามไปไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจ และพร้อมยกตัวอย่าง
3. ครูยกตัวอย่างเมทรกิ ซ์ให้นกั เรียนเหน็ ภาพชดั เจนย่ิงข้นึ และให้นกั เรียนตอบว่าเปน็
เมทริกซ์หรือไม่
3 , [27 5 ] ไมเ่ ป็นเมทริกซ์
[4]เป็นเมทริกซ์
5
และครจู ะยกตัวอยา่ ง เมทรกิ ซใ์ หน้ กั เรยี นเหน็ ภาพชดั เจนยิ่งขน้ึ โดยใหน้ ักเรยี นสังเกตวา่ เมทรกิ ซ์ท่ียกตัวอย่าง
มมี ติ เิ ท่าไหร่
25
= [3 6] มมี ิติ 3×2 หรือเป็น 3×2 เมทริกซ์
47
= [4 40 7] มีมิติ 1×3 หรือเป็น 1×3 เมทริกซ์
แบบบันทึกการฝกึ ปฏิบัตวิ ิชาชพี ระหวา่ งเรยี น 1
21
4. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัด แลว้ นำมาส่งในคาบต่อไป โดยแบบฝึกหัดจะอยใู่ น
เอกสารประกอบการเรยี นทคี่ รูแจกตอนต้นคาบ
ขนั้ สรปุ
1. ครูถามนักเรยี นวา่ มใี ครไมเ่ ข้าใจตรงไหนไหมถา้ มีให้ถามครไู ดเ้ ลย จากนนั้ ถา้ ไม่มี
ใครสงสัยในบทเรยี นนี้ ครจู ะสมุ่ ถามความเขา้ ใจของนกั เรยี นแตล่ ะคน เพือ่ วัดความเขา้ ใจของนกั เรียน
2. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เรอื่ งทั้งหมดทเี่ รยี นในคาบเรยี นน้ีอีกคร้ัง
3. ครทู วนแบบฝกึ หดั ทใี่ ห้นกั เรียนทำวา่ มกี ่ขี ้อ และบอกวา่ จะเฉลยในคาบเรียนตอ่ ไป
สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. เอกสารประกอบการเรยี น เรือ่ ง เมทริกซ์และสญั ลักษณเ์ มทรกิ ซ์
2. แบบฝึกหดั เรอ่ื ง เมทรกิ ซ์และสัญลักษณเ์ มทรกิ ซ์
3. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์เพ่มิ เตมิ เล่มที่ 1 ม. 5
การประเมินผลการเรียนรู้
จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี าร/เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายคำ พิจารณาคำตอบแบบฝึกหดั เกณฑก์ ารประเมิน ผา่ นเกณฑ์การ
ว่าเมทริกซ์ได้ ในเอกสารประกอบการเรียน ประเมนิ ต้องไดค้ ะแนนตั้งแต่ รอ้ ยละ
2. นกั เรยี นสามารถบอกบท (แบบประเมนิ แบบฝึกหดั ) 70 ขึ้นไป
นยิ ามของเมทริกซ์ได้ ถกู ต้อง รอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป ถือวา่ ผ่าน
3. นกั เรยี นสามารถบอกมิติ เกณฑ์
เมทริกซ์และเขียนเมทรกิ ซ์ใน ถูกต้อง ตำ่ กว่าร้อยละ 70 ขึน้ ไป ถือ
รปู ทั่วไปได้ ว่าไมผ่ า่ นเกณฑ์
1. นกั เรียนสามารถสังเกตและ พิจารณาคำตอบแบบฝึกหดั เกณฑ์การประเมิน ผ่านเกณฑ์การ
แบง่ แยกชนดิ ของเมทรกิ ซไ์ ด้ ในเอกสารประกอบการเรียน ประเมินตอ้ งไดค้ ะแนนต้ังแต่ ร้อยละ
2. นกั เรียนสามารถเขียนสรปุ (แบบประเมนิ แบบฝึกหดั ) 70 ข้นึ ไป
ใจความสำคัญเร่ืองเมทรกิ ซ์ใน ถกู ตอ้ ง ร้อยละ 70 ข้ึนไป ถอื วา่ ผ่าน
แบบของตนเองได้ เกณฑ์
ถูกต้อง ต่ำกวา่ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป ถือ
ว่าไม่ผา่ นเกณฑ์
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏิบตั วิ ชิ าชีพระหวา่ งเรียน 1
22
1. มีระเบียบวนิ ัย สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น ในแตล่ ะข้อของแบบสงั เกต
2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
3. ใฝ่เรียนรู้ ระหวา่ งเรียน พฤติกรรม ถา้ นักเรยี นแสดงออกให้
4. เจตคตทิ ่ีดตี อ่ วชิ า
คณิตศาสตร์ (แบบสงั เกตพฤตกิ รรม) เหน็ อย่างเดน่ ชัดเจนจะได้ 3 คะแนน
เตม็ และลดลงตามเกณฑ์การให้
คะแนน
บนั ทกึ หลงั การสอน
. เน่ืองสถานการณ์โควดิ จึงทำใหม้ ีการเรียนการสอนเปน็ รปู แบบออนไลน์ ครตู ้องยืดหยุน่ ท้ังเรือ่ งเวลา
เรยี น การวัดประเมินผลให้นักเรียน และจากสถานการณ์โควดิ ทำใหเ้ รยี นออนไลนน์ กั เรียนบางคนไมส่ ามารถ
เรียนออนไลน์ได้เนอื่ งจากไม่มีอุปกรณ์ส่ือสารตา่ ง ๆ หรือบรบิ ทรอบขา้ งในการเรยี นไม่สะดวก ครูให้นักเรียน
ท่ีสามารถเขา้ มาเรียนออนไลนแ์ ละจะอดั วดิ ีโอให้นักเรยี นทไี่ มส่ ามารถเขา้ มาเรียนได้ และครูให้นกั เรียนศึกษา
จากคลิปวิดีโอการสอนเพิ่มเติม นักเรียนที่ได้เรียนจากคลิปวิดีโอเพิ่มและเรียนออนไลน์มีผลการเรียนอยู่ใน
ระดบั ผา่ นเกณฑ์ แต่อาจจะมนี กั เรียนท่ไี มเ่ ขา้ ใจบ้างครกู จ็ ะอธิบายเพิม่ เติมให้ .
ลงช่ือ..........................................................................
(นางสาวจริ พรรณ มีธรณี)
นักศกึ ษา
ขอ้ เสนอแนะ/คำแนะนำ
. นกั ศกึ ษาทำแผนทสี่ ามารถใช้สอนไดจ้ รงิ มีการเรียงเนอื้ หาจากงา่ ยไปยาก และมแี บบฝกึ หัดท่ี
สอดคล้องกบั เร่อื งทีส่ อน โดยเรยี งจากงา่ ยไปยาก .
ลงช่ือ........................................................................
(นางกนกวรรณ สายทองคำ)
ครูพีเ่ ลี้ยง
แบบบันทึกการฝึกปฏบิ ตั ิวชิ าชีพระหว่างเรยี น 1
23
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2
รายวิชา คณติ ศาสตร์เพม่ิ เตมิ กล่มุ สาระ การเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ .
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 เร่ือง เมทริกซ์ .จำนวน 30 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื ง เมทรกิ ซแ์ ละสัญลักษณเ์ มทริกซ์ .จำนวน 1 ชั่วโมง
สอนวันท่ี 17 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 ช้ัน มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 09.00-10.00 น.
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สาระท่ี 1 เรอ่ื งจำนวนและพีชคณิต
มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.3 ใช้นพิ จน์ สมการ อสมการ และเมทริกซ์ อธบิ ายความสมั พนั ธ์
หรือช่วยแกป้ ญั หาที่กำหนดให้
ผลการเรยี นรู้ ค 1.3 ม.5/3 เข้าใจความหมาย หาผลลัพธ์ของการบวกเมทรกิ ซ์ การคูณเมทรกิ ซ์กบั
จำนวนจริงการคณู ระหวา่ งเมทรกิ ซ์ และหาเมทริกซ์สลบั เปล่ียน หาดีเทอร์
มิแนนต์ของเมทริกซ์ n × n เมือ่ n เปน็ จำนวนนบั ไม่เกินสาม
ค 1.3 ม.5/4 หาเมทรกิ ซ์ผกผนั ของเมทรกิ ซ์ 2 × 2
ค 1.3 ม.5/5 แก้ระบบสมการเชงิ เส้นโดยใช้เมทรกิ ซผ์ กผนั และการดำเนนิ การตามแถว
สาระสำคัญ
เมทริกซ์ คือกลุ่มของจำนวนหรือสมาชิกของริงใดๆ เขียนเรียงกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือจัตุรสั
กล่าวคือเรยี งเปน็ แถวในแนวนอน และเรียงเป็นแถวในแนวตง้ั เรามกั เขยี นเมทริกซ์เป็นตารางท่ีไม่มีเส้นแบ่ง
และเขียนวงเล็บครอ่ มตารางไว้ (ไม่วา่ จะเปน็ วงเลบ็ โค้งหรือวงเลบ็ เหลีย่ ม) เช่น
2 3 −1
[−4 20 6 ]
−6 9 8
เรื่องเมทรกิ ซ์และสัญลกั ษณ์เมทรกิ ซ์ แบ่งได้ดังน้ี
1. การเทา่ กันของเมทรกิ ซ์
บทนิยาม : ให้ = [ ] และ = [ ] เท่ากบั กต็ อ่ เม่อื
× ×
= , = และ = สำหรับทกุ ∈ {1,2,3,4, … , } และ ∈
{1,2,3,4, … , } เขียนแทน เทา่ กบั ดว้ ย =
แบบบนั ทกึ การฝกึ ปฏบิ ตั วิ ิชาชพี ระหวา่ งเรียน 1
24
2. ทรานสโพสเมทริกซ์
ทรานสโพสเมทรกิ ซ์ A เขียนแทนด้วย " At " คือ เมทริกซ์ที่เกิดจากการเอาสมาชิกท้ังหมดในแถว
ที่ 1 ของ A มาเขียนเป็นหลักที่ 1 และเอาสมาชิกท้ังหมดในแถวที่ 2 ของ A มาเขียนเป็นหลักท่ี 2 และทำ
เช่นน้ไี ปเร่อื ย ๆ จนหมด
จุดประสงค์การเรยี นร/ู้ ผลการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1. นักเรยี นสามารถหาทรานสโพสของเมทริกซท์ ี่กำหนดได้
2. นักเรียนสามารถบอกความหมายการเท่ากันของเมทริกซ์ได้
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. นกั เรียนสามารถสังเกตและแก้ปญั หา เรอ่ื ง เมทริกซแ์ ละสัญลักษณ์เมทรกิ ซ์ได้อยา่ ง
รวดเร็ว
2. นกั เรียนสามารถทำแบบฝกึ หัด เร่อื ง เมทริกซแ์ ละสญั ลักษณเ์ มทริกซ์ทำได้สำเร็จด้วย
ตนเอง
ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
1. มรี ะเบยี บวนิ ยั
2. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
3. ใฝ่เรยี นรู้
4. เจตคติท่ดี ตี ่อวิชาคณิตศาสตร์
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำ
1. ครูกล่าวทกั ทายนักเรยี น และช้แี จงเนื้อหาในเรื่องนว้ี า่ เราจะเรียนต่อจากคาบที่แลว้
โดยเรยี นเรอ่ื ง เมทริกซ์และสญั ลักษณ์เมทริกซ์ ในชัว่ โมงทสี่ อง จะเรียน 2 เรื่องย่อย
คือ 1. การเทา่ กนั ของเมทริกซ์
2. ทรานสโพสเมทริกซ์
2. ครูทบทวนเรอ่ื งทเ่ี รียนไปในคาบที่แลว้ และเฉลยแบบฝึกหัดในคาบที่แล้วกอ่ นท่ีจะเร่ิม
เนอื้ หาใหม่
ขัน้ สอน
1. ครแู จกเอกสารประกอบการเรียน โดยส่งลิ้งคใ์ ห้นักเรียนโหลดเอกสาร และศกึ ษา
ไปพรอ้ มกัน ซ่ึงเปน็ ความร้เู ก่ียวกบั การเทา่ กันของเมทรกิ ซ์ , ทรานสโพสเมทริกซ์
2. ครูสอนเรื่องของเมทริกซโ์ ดนสอนบทนิยามที่ 2 การเทา่ กนั ของเมทรกิ ซแ์ ละ
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏิบตั วิ ิชาชพี ระหว่างเรียน 1
25
หลังจากนน้ั สอนเนื้อหาตามเอกสารประกอบการเรยี นเพือ่ ใหน้ ักเรยี น เรียนตามไปได้อย่างเข้าใจ และพร้อม
ยกตัวอยา่ ง เชน่
[31 42] = [1 + 0 1√+161] เปน็ การเท่ากันของมทรกิ ซ์
3
3. ครูสอนเรื่องการเท่ากนั ของเมทริกซจ์ บแล้ว จากนน้ั ครูสอนเรื่องของเมทรกิ ซ์โดนสอน
เรอื่ งทรานสโพสของเมทรกิ ซ์ ตามเอกสารประกอบการเรยี น พรอ้ มยกตัวอยา่ ง เชน่
= [32 4 76] 23
5 = [4 5]
67
4. หลังจากทส่ี อนจบแล้ว ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด แลว้ นำมาส่งในคาบต่อไป โดย
แบบฝึกหัดจะอยู่ในเอกสารประกอบการเรยี นท่คี รแู จกตอนตน้ คาบ
ข้ันสรปุ
1. ครถู ามนกั เรียนวา่ มีใครไม่เข้าใจตรงไหนไหมถา้ มีใหถ้ ามครไู ด้เลย จากนนั้ ถ้าไมม่ ี
ใครสงสัยในบทเรยี นน้ี ครูจะสุ่มถามความเข้าใจของนักเรียนแตล่ ะคน เพอื่ วดั ความเข้าใจของนกั เรียน
2. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น ทั้งหมด 10 ขอ้ 5 คะแนน
3. หลังจากท่ีสอบเสร็จแลว้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ เร่ืองท้ังหมดทเ่ี รยี นในคาบเรียนนี้
และคาบที่แล้วอีกครั้ง
4. ครูพูดเกรนิ่ ถึงเร่อื งที่จะเรียนในคาบหนา้ คือเรอื่ งการบวก การลบ ของเมทรกิ ซ์
5. ครูทวนแบบฝึกหดั ทีใ่ หน้ กั เรียนทำวา่ มีกีข่ ้อ และบอกว่าจะเฉลยในคาบเรยี นตอ่ ไป
สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้
4. เอกสารประกอบการเรียน เร่อื ง เมทริกซแ์ ละสญั ลกั ษณเ์ มทรกิ ซ์
5. แบบฝกึ หดั เร่ือง เมทรกิ ซ์และสญั ลักษณเ์ มทริกซ์
6. แบบทดสอบ เร่อื ง เมทรกิ ซแ์ ละสญั ลักษณ์เมทรกิ ซ์
7. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์เพ่ิมเตมิ เลม่ ที่ 1 ม. 5
แบบบันทึกการฝึกปฏบิ ตั ิวชิ าชพี ระหว่างเรยี น 1
26
การประเมินผลการเรยี นรู้
จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธกี าร/เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมิน
1. นักเรยี นสามารถหาทรานส พจิ ารณาคำตอบของนักเรียน เกณฑ์การประเมนิ ผ่านเกณฑ์การ
โพสของเมทริกซ์ท่ีกำหนดได้ ประเมินตอ้ งได้คะแนนตง้ั แต่ รอ้ ยละ
2. นกั เรียนสามารถบอก ในการทำแบบทดสอบ 70 ขน้ึ ไป
ความหมายการเท่ากันของเมท ถูกต้อง รอ้ ยละ 70 ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ น
รกิ ซไ์ ด้ เกณฑ์
ถกู ต้อง ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป ถือ
วา่ ไมผ่ า่ นเกณฑ์
1. นกั เรยี นสามารถสงั เกตและ พิจารณาคำตอบแบบฝกึ หดั เกณฑ์การประเมิน ผา่ นเกณฑก์ าร
แก้ปญั หา เรื่อง เมทริกซ์และ ในเอกสารประกอบการเรียน ประเมนิ ตอ้ งได้คะแนนตง้ั แต่ รอ้ ยละ
สัญลกั ษณเ์ มทไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว (แบบประเมินแบบฝกึ หดั ) 70 ขึ้นไป
2. นักเรียนสามารถทำ ถกู ต้อง รอ้ ยละ 70 ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น
แบบฝกึ หดั เรื่อง เมทริกซ์และ เกณฑ์
สญั ลักษณ์เมทรกิ ซ์ และทำได้ ถูกตอ้ ง ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 70 ข้ึนไป ถือ
สำเร็จดว้ ยตนเอง วา่ ไมผ่ า่ นเกณฑ์
1. มีระเบยี บวินยั สังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ในแตล่ ะข้อของแบบสงั เกต
2. มุง่ มน่ั ในการทำงาน
3. ใฝเ่ รยี นรู้ ระหว่างเรียน พฤตกิ รรม ถา้ นักเรยี นแสดงออกให้
4. เจตคติที่ดตี อ่ วิชา
คณิตศาสตร์ (แบบสงั เกตพฤตกิ รรม) เหน็ อย่างเดน่ ชดั เจนจะได้ 3 คะแนน
เต็ม และลดลงตามเกณฑก์ ารให้
คะแนน
แบบบนั ทึกการฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหวา่ งเรียน 1
27
บนั ทกึ หลังการสอน
. เนื่องสถานการณ์โควดิ จึงทำให้มกี ารเรยี นการสอนเปน็ รปู แบบออนไลน์ ครตู อ้ งยืดหยุ่นท้งั เรอ่ื งเวลา
เรียน การวดั ประเมินผลให้นักเรียน และจากสถานการณโ์ ควิดทำใหเ้ รียนออนไลนน์ ักเรยี นบางคนไมส่ ามารถ
เรยี นออนไลนไ์ ดเ้ นอ่ื งจากไม่มีอุปกรณ์ส่ือสารตา่ ง ๆ หรอื บริบทรอบขา้ งในการเรียนไมส่ ะดวก ครูให้นักเรียน
ทสี่ ามารถเข้ามาเรยี นออนไลนแ์ ละจะอดั วดิ ีโอให้นกั เรยี นท่ไี มส่ ามารถเขา้ มาเรยี นได้ และครูให้นักเรยี นศึกษา
จากคลิปวิดโี อการสอนเพิ่มเติม นักเรียนที่ได้เรียนจากคลิปวดิ โี อเพิม่ เติมและเรยี นออนไลน์มีผลการเรียนอยู่
ในระดับผ่านเกณฑ์ แตอ่ าจจะมีนกั เรยี นที่ไม่เขา้ ใจบ้างครกู จ็ ะอธิบายเพม่ิ เติมให้ .
ลงชอ่ื ........................................................................
(นางสาวจิรพรรณ มีธรณี)
นักศึกษา
ขอ้ เสนอแนะ/คำแนะนำ
. นกั ศกึ ษาทำแผนทส่ี ามารถใชส้ อนได้จรงิ มีการเรียงเน้ือหาจากงา่ ยไปยาก และมแี บบฝึกหดั ที่
สอดคล้องกับเรอ่ื งท่ีสอน โดยเรียงจากงา่ ยไปยาก .
ลงชื่อ........................................................................
(นางกนกวรรณ สายทองคำ)
ครูพีเ่ ลี้ยง
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏิบตั วิ ชิ าชพี ระหว่างเรียน 1
28
แผนการจดั การเรยี นรู้ 3
รายวชิ า คณติ ศาสตรเ์ พ่มิ เติม กลมุ่ สาระ การเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ .
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง เมทรกิ ซ์ .จำนวน 30 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 เร่ืองการบวก การลบเมทริกซก์ ารคณู เมทริกซ์ดว้ ยจำนวนจริงจำนวน 1 ช่ัวโมง
สอนวันที่ 24 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2564 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 09.00-10.00 น. .
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สาระท่ี 1 เร่ืองจำนวนและพีชคณิต
มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.3 ใชน้ พิ จน์ สมการ อสมการ และเมทรกิ ซ์ อธบิ ายความสัมพันธ์
หรือช่วยแก้ปญั หาทีก่ ำหนดให้
ผลการเรยี นรู้ ค 1.3 ม.5/3 เขา้ ใจความหมาย หาผลลัพธ์ของการบวกเมทรกิ ซ์ การคูณเมทรกิ ซก์ ับ
จำนวนจริงการคูณระหวา่ งเมทริกซ์ และหาเมทริกซ์สลับเปล่ยี น หาดเี ทอร์
มแิ นนตข์ องเมทริกซ์ n × n เมอื่ n เป็นจำนวนนบั ไมเ่ กินสาม
ค 1.3 ม.5/4 หาเมทรกิ ซผ์ กผนั ของเมทริกซ์ 2 × 2
ค 1.3 ม.5/5 แกร้ ะบบสมการเชงิ เสน้ โดยใชเ้ มทริกซ์ผกผันและการดำเนนิ การตามแถว
สาระสำคัญ
เมทริกซ์ คือ กลุ่มของจำนวนหรือสมาชิกของริงใดๆ เขียนเรียงกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือจัตรุ ัส
กลา่ วคือเรียงเป็นแถวในแนวนอน และเรยี งเป็นแถวในแนวตัง้ เรามกั เขียนเมทริกซ์เป็นตารางท่ีไม่มีเส้นแบ่ง
และเขียนวงเล็บครอ่ มตารางไว้ (ไม่วา่ จะเป็นวงเล็บโค้งหรือวงเลบ็ เหลย่ี ม) เชน่
2 3 −1
[−4 20 6 ]
−6 9 8
เน้อื หาเรอ่ื งการบวก การลบเมทริกซ์ มดี ังนี้
1. การบวกเมทริกซ์
บทนยิ าม : ให้ = [ ] × และ = [ ] × เปน็ เมทริกซท์ ม่ี ีขนาดเท่ากัน ผลบวก
ของเมทริกซ์ กบั คือเมทรกิ ซ์ [ ] × เมือ่ = + สำหรับทกุ = {1,2,3, … , }
และ = {1,2,3, … , } เขยี นแทน บวก ดว้ ย นน่ั คือ
+ [ ] + [ ] × =
×
[ ]
×
แบบบนั ทึกการฝกึ ปฏบิ ัตวิ ิชาชีพระหว่างเรยี น 1
29
2. การลบเมทรกิ ซ์
การลบเมทรกิ ซ์จะคลา้ ย ๆ กบั การบวกเมทรกิ ซ์ คือ มิติของเมทรกิ ซ์ทีจ่ ะนำมาบวกกัน
จะต้องเท่ากนั แต่ตา่ งกนั ตรงทส่ี มาชกิ ข้างในเมทรกิ ซ์จะตอ้ งนำมาลบกนั
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ผลการเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
1. นักเรยี นสามารถหาผลบวกและผลลบของเมทรกิ ซไ์ ด้
2. นกั เรียนสามารถนำสมบตั เิ กยี่ วการบวกของเมทรกิ ซไ์ ปใช้ได้
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
1. นกั เรยี นสามารถสงั เกตและแก้ปญั หาโจทย์ เรอื่ ง การบวก การลบเมทรกิ ซ์ดว้ ย
จำนวนจรงิ ได้อยา่ งรวดเร็ว
2. นกั เรยี นสามารถทำแบบฝึกหัด เร่ือง การบวก การลบเมทริกซ์ด้วยจำนวนจริงและทำ
ได้สำเรจ็ ด้วยตนเอง
ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
1. มีระเบียบวนิ ัย
2. มุ่งม่ันในการทำงาน
3. ใฝเ่ รยี นรู้
4. เจตคตทิ ่ดี ตี ่อวิชาคณิตศาสตร์
กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นำ
1. ครกู ลา่ วทักทายนักเรียน และชีแ้ จงเนอ้ื หาและจดุ ประสงค์ในเร่อื งน้วี ่าเราจะเรยี นตอ่
จากคาบท่ีแลว้ โดยเรียนเร่ือง การบวก การลบเมทริกซ์ การคณู เมทรกิ ซ์ ดว้ ยจำนวนจริง จะเรียนท้ัง 3 คาบ
หรือ 3 ช่ัวโมง โดยในคาบเรียนนี้ จะเรียน 2 เร่ืองยอ่ ย คอื 1. การบวกเมทรกิ ซ์ 2. การลบเมทริกซ์
2. ครทู บทวนเรื่องที่เรยี นไปในคาบทแ่ี ลว้ และเฉลยแบบฝกึ หัดในคาบทแ่ี ลว้ กอ่ นท่ีจะเริ่ม
เนอื้ หาใหม่
ขั้นสอน
1. ครแู จกเอกสารประกอบการเรียน โดยส่งล้ิงคใ์ หน้ ักเรียนโหลดเอกสาร และศกึ ษา
ไปพรอ้ มกัน ซ่ึงเปน็ ความรู้เกย่ี วกับ การบวกเมทรกิ ซ์และการลบเมทริกซ์
2. ครูสอนเรอื่ งของเมทรกิ ซ์โดนสอนบทนิยามที่ 3 การบวกเมทริกซ์และ
หลังจากนน้ั สอนเนอื้ หาตามเอกสารประกอบการเรียนเพ่อื ใหน้ กั เรยี น เรยี นตามไปไดอ้ ย่างเขา้ ใจ และพรอ้ ม
แบบบนั ทึกการฝกึ ปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรียน 1
30
ยกตวั อยา่ ง เช่น กำหนดให้ = [31 42] และ = [42 35] จงหา + เท่ากับเทา่ ไหร่
[13 42] + [24 35] = [13 + 2 2 + 53]
+ 4 4 +
= [37 59]
3. ครูสอนเรอื่ งการบวกเมทรกิ ซ์จบแล้ว จากน้นั ครูสอนเร่อื งการลบเมทริกซ์ตอ่ ตาม
เอกสารประกอบการเรยี น พรอ้ มยกตวั อยา่ ง เชน่
กำหนดให้ = [31 24] และ = [42 35] จงหา − เทา่ กบั เท่าไหร่
[31 42] − [42 53] = [13 − 2 2 − 53]
− 4 4 −
= [−−11 −−11]
4. หลังจากท่ีสอนจบแล้ว ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั แล้วนำมาส่งในคาบต่อไป โดย
แบบฝกึ หดั จะอยู่ในเอกสารประกอบการเรยี นท่ีครแู จกตอนต้นคาบ
ขนั้ สรปุ
1. ครูถามนกั เรียนว่ามใี ครไม่เข้าใจตรงไหนไหมถ้ามใี หถ้ ามครูไดเ้ ลย จากนนั้ ถ้าไม่มี
ใครสงสัยในบทเรยี นนี้ ครจู ะสมุ่ ถามความเขา้ ใจของนักเรียนแต่ละคน เพอื่ วดั ความเข้าใจของนกั เรยี น
2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเรอื่ งท้ังหมดทเี่ รียนในคาบเรยี นน้แี ละคาบที่แลว้ อีกคร้ัง
3. ครพู ดู เกร่ินถึงเร่ืองทีจ่ ะเรยี นในคาบหนา้ คือเรือ่ ง การคูณเมทรกิ ซ์ดว้ ยจำนวนจริง
4. ครูทวนแบบฝกึ หดั ท่ีให้นักเรียนทำวา่ มีกข่ี อ้ และบอกวา่ จะเฉลยในคาบเรยี นต่อไป
ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1. เอกสารประกอบการเรียน เรอ่ื ง การบวก การลบเมทรกิ ซ์
2. แบบฝึกหัด เร่ือง การบวก การลบเมทรกิ ซ์
3. หนังสือเรยี นคณติ ศาสตร์เพ่ิมเตมิ เล่มที่ 1 ม. 5
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏบิ ัตวิ ิชาชีพระหว่างเรียน 1
31
การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีการ/เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
1. นกั เรยี นสามารถหาผลบวก พจิ ารณาคำตอบแบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ ผ่านเกณฑ์การ
และผลลบของเมทริกซ์ได้ ในเอกสารประกอบการเรยี น ประเมินตอ้ งได้คะแนนตง้ั แต่ รอ้ ยละ
2. นักเรียนสามารถนำสมบตั ิ (แบบประเมนิ แบบฝกึ หดั ) 70 ข้นึ ไป
เกีย่ วการบวกของเมทริกซไ์ ป ถกู ตอ้ ง รอ้ ยละ 70 ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ น
ใช้ได้ เกณฑ์
ถูกต้อง ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป ถือ
ว่าไม่ผา่ นเกณฑ์
1.นกั เรยี นสามารถสังเกตและ พจิ ารณาคำตอบแบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมิน ผา่ นเกณฑก์ าร
แกป้ ัญหาโจทย์ เรื่อง การบวก ในเอกสารประกอบการเรียน ประเมนิ ตอ้ งได้คะแนนตง้ั แต่ รอ้ ยละ
การลบเมทริกซ์ด้วยจำนวน (แบบประเมินแบบฝกึ หดั ) 70 ขึ้นไป
จรงิ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ถกู ต้อง รอ้ ยละ 70 ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น
2. นักเรยี นสามารถทำ เกณฑ์
แบบฝึกหัด เรือ่ ง การบวก การ ถูกตอ้ ง ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 70 ข้ึนไป ถือ
ลบเมทรกิ ซด์ ้วยจำนวนจรงิ ว่าไมผ่ า่ นเกณฑ์
และทำได้สำเร็จดว้ ยตนเอง
1. มรี ะเบียบวินยั สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน ในแต่ละข้อของแบบสงั เกต
2. มุ่งม่นั ในการทำงาน ระหวา่ งเรียน พฤตกิ รรม ถา้ นักเรยี นแสดงออกให้
3. ใฝเ่ รยี นรู้ (แบบสงั เกตพฤติกรรม) เห็นอย่างเดน่ ชดั เจนจะได้ 3 คะแนน
4. เจตคติทดี่ ีต่อวชิ า เตม็ และลดลงตามเกณฑก์ ารให้
คณิตศาสตร์ คะแนน
แบบบนั ทกึ การฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหวา่ งเรียน 1
32
บนั ทกึ หลังการสอน
. เนื่องสถานการณ์โควดิ จึงทำให้มีการเรียนการสอนเป็นรปู แบบออนไลน์ ครูตอ้ งยืดหยุ่นท้งั เร่ืองเวลา
เรียน การวดั ประเมินผลให้นกั เรียน และจากสถานการณโ์ ควดิ ทำให้เรยี นออนไลนน์ กั เรยี นบางคนไม่สามารถ
เรยี นออนไลนไ์ ดเ้ นอ่ื งจากไม่มีอุปกรณ์ส่ือสารตา่ ง ๆ หรือบรบิ ทรอบขา้ งในการเรียนไม่สะดวก ครูให้นักเรียน
ทสี่ ามารถเข้ามาเรยี นออนไลน์และจะอัดวิดโี อใหน้ กั เรยี นทไ่ี มส่ ามารถเข้ามาเรียนได้ และครูให้นักเรยี นศึกษา
จากคลิปวิดโี อการสอนเพิม่ เติม นักเรียนที่ได้เรยี นจากคลิปวดิ ีโอเพิม่ เติมและเรียนออนไลน์มีผลการเรียนอยู่
ในระดับผ่านเกณฑ์ แตอ่ าจจะมนี ักเรียนทไี่ ม่เข้าใจบ้างครกู ็จะอธิบายเพมิ่ เตมิ ให้ .
ลงชอื่ ........................................................................
(นางสาวจริ พรรณ มธี รณ)ี
นกั ศกึ ษา
ขอ้ เสนอแนะ/คำแนะนำ
. นกั ศกึ ษาทำแผนทส่ี ามารถใช้สอนได้จริง มกี ารเรยี งเน้ือหาจากงา่ ยไปยาก และมแี บบฝึกหัดท่ี
สอดคล้องกับเรอ่ื งท่ีสอน โดยเรียงจากงา่ ยไปยาก .
ลงช่ือ........................................................................
(นางกนกวรรณ สายทองคำ)
ครพู เ่ี ลี้ยง
แบบบันทึกการฝกึ ปฏิบัตวิ ชิ าชพี ระหว่างเรียน 1
33
ปว.1-5
โครงร่างการวิจัยในชัน้ เรยี น
1. ช่ือเรอ่ื ง การพฒั นาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง เมทริกซ์ โดยใช้แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ .
2. ความเป็นมาและความสำคญั ของปญั หา
คณิตศาสตร์ช่วยฝึกให้มนุษย์มีความรับผิดชอบ มีความรอบคอบ ช่างสังเกต มีเหตุผล มีความอดทน คิด
เปน็ ทำเปน็ สามารถคาดการณ์ วางแผน ตดั สินใจ สามารถแก้ปญั หาได้อย่างสรา้ งสรรค์และเหมาะสมกบั สถานการณ์
ท าให้มนุษยม์ คี วามสมดลุ ทงั้ ทางรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คมและสตปิ ญั ญา และอย่รู ว่ มกบั ผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุข
(ปภณ ต้ังประเสริฐ, 2558:30) ซง่ึ สอดคล้องกบั พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 ยึดหลกั ว่า ผู้เรยี น ทกุ
คนมคี วามสามารถเรยี นรแู้ ละพัฒนาตนเองได้และถอื ว่าผูเ้ รยี นมีความสำคัญทีส่ ุด การจดั การเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ต้อง
ส่งเสริมให้ผเู้ รียนพฒั นาโดยเน้นความสำคัญทัง้ ด้านความรู้ ด้านทกั ษะกระบวนการ ด้านคุณธรรมจริยธรรมและ
ค่านิยมอันพงึ ประสงคก์ ารจัดเนื้อหาสาระและกิจกรรม จะต้องสอดคลอ้ งกบั วุฒิ ภาวะ ความสนใจและความถนัดของ
ผู้เรียน การจัดกิจกรรมควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จาก ประสบการณ์จริงจากการปฏิบัติ ฝึกให้ผู้เรียนคิด
วิเคราะห์และการแก้ปัญหา การเรียนในสถานการณ์จริง ของผู้เรียนแต่ละคนไม่เหมือนกัน(กระทรวงศึกษาธิการ,
2553:50) นอกจากนี้หลักสูตรการศึกษาแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 สาระที่ 6 ทักษะและ
กระบวนการทางเพอื่ ยกระดับผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นรูใ้ นวชิ าคณิตศาสตรเ์ รือ่ งเมทรกิ ซ์มาตรฐาน ค 6.1.ให้ผู้เรยี น มี
ความสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อความหมายทางเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรยี นรใู้ นวชิ าคณติ ศาสตรเ์ รื่องเมทริกซ์และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรตู า่ งๆทางคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงเพื่อ
ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ในวิชาคณิตศาสตร์เรื่องเมทริกซ์กับศาสตร์อื่นๆ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
(กระทรวงศึกษาธิการ, 2551:76)
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนโคกกะเทียมวิทยาลัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น
พืน้ ฐาน จากการจดั การเรยี นการสอนในวิชาคณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เติม 2 ระดบั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 พบว่านกั เรยี นจำนวน 7
คน ไมส่ ามารถวเิ คราะห์และแกไ้ ขปัญหาโจทยไ์ ด้ เน่อื งจากไมเ่ ข้าใจในความหมายของสัญลักษณ์ การเท่ากันของเมท
ริกซ์ การบวกลบเมทริกซ์ด้วยเมทรกิ ซ์ การคูณเมทริกซ์ การคูณ เมทริกซ์ด้วยเมทริกซ์ เมทริกซ์เอกลกั ษณ์ เมทริกซ์
การหาดเี ทอร์มิเนนต์ เมทรกิ ซ์ −1การแก้ปญั หาโดยใช้ระบบสมการเชิงเส้นกบั เมทรกิ ซ์
จากสภาพปัญหาดังกล่าวมีแบบฝึกเสริมทักษะที่สามารถแก้ปัญหานีไ้ ด้ ซึ่งสมศรีอภยั (2552:21) กล่าววา่
แบบฝึกทักษะหมายถึง สื่อการสอนที่ครูสร้างขึ้น เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติให้เกิดความรู้ ความเข้าใจและความ
ชำนาญในเร่ืองนนั้ ๆ มากขนึ้ นกั เรยี นมที ักษะเพม่ิ ขน้ึ สามารถแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างงถูกตอ้ ง วราภรณ์ ระบาเลิศ (2552:
34) กล่าวว่าแบบฝึกทักษะ หมายถงึ งานหรือกิจกรรมท่ีครูจัดให้นักเรยี นได้ฝึกทักษะการปฏิบัติบ่อย ๆ จนเกิดความ
ชำนาญมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในเนอ้ื หาวชิ าท่เี รียน และสามารถนาความรนู้ ้นั ไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ ซึ่งจากงานวิจัย
ของ พนารัตน์ จำศักด์ิ (2558:57) พบว่า 1.) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ
คณิตศาสตรเ์ รื่อง สมการและ การแก้สมการ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
6 สงู กว่าก่อน และจิราวจั น์ ดำสะอาด(2557:107) พบว่าการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การคูณ โดย ใชแ้ บบฝกึ ทกั ษะ กลุ่ม
สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 มีประสิทธภิ าพและประสิทธิผล ชว่ ยใหน้ กั เรียนมีความสามารถ
แบบบันทึกการฝกึ ปฏิบัติวชิ าชีพระหวา่ งเรยี น 1
34
ในการจัดการเรียนรู้และสามารถนำความรู้ไปใช้เป็นแนวทางในเรื่องตา่ ง ๆ ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นครูผู้สอนจึงควรนำ
วิธกี ารเรยี นรู้ดงั กลา่ วไปประยุกต์ใช้ในการจดั การเรยี นรู้ให้มปี ระสทิ ธิภาพยิ่งขึ้น
ดังนั้นจากเหตุผลดังกล่าวผู้วิจัยจึงสนใจที่จะพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์เรื่อง
เมทริกซ์ วิชาคณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะเพื่อให้นักเรียนสามารถแก้โจทย์
ปญั หาเรอื่ งเมทริกซ์ได้ ซ่ึงจะสง่ ผลต่อความสามารถในการแกโ้ จทยป์ ญั หาคณิตศาสตรเ์ รอ่ื งเมทรกิ ซ์ วชิ าคณติ ศาสตร์
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพียงใด ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์เรื่องเมทริกซ์ วิชา
คณิตศาสตร์ ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5 ต่อไป
3. วัตถุประสงคข์ องการวิจยั
1. เพือ่ ศกึ ษาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนของนกั เรียนในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณติ ศาสตรเ์ รอ่ื ง เมทริกซ์ โดย
ใชแ้ บบฝกึ เสรมิ ทักษะ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในการแก้โจทยป์ ัญหาทาง คณิตศาสตร์เรื่องเมท
ริกซ์ โดยใชแ้ บบฝกึ เสริมทักษะ
4. ขอบเขตของการวจิ ยั
ประชากร
กลุม่ ประชากรท่ใี ช้ในการวิจยั ครง้ั นี้ คอื นักเรยี นระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5/1 โรงเรยี นโคกกะเทยี ม ที่
กำลงั ศกึ ษาในภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564
กล่มุ ตัวอย่าง
กลมุ่ ตวั อยา่ งที่ใช้ในการวิจัยครัง้ นี้ คอื นกั เรยี นระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5/1 โรงเรียนโคกกะเทียม ท่กี ำลัง
ศึกษาในภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 7 คน โดยใช้วธิ กี ารเลอื กแบบเจาะจง เนื่องจากนกั เรยี นกลมุ่ นี้
มผี ลสมั ฤทธิว์ ิชาคณติ ศาสตรเ์ รอ่ื งเมทริกซ์อยู่ในระดบั ไม่ผ่านเกณฑ์
เนอ้ื หา
การวิจัยในครั้งนีก้ ำหนดของเขตดา้ นเนื้อหาคอื เร่ืองเมททรกิ ซป์ ระกอบด้วย
1. สญั ลักษณ์ของเมทรกิ ซ์
2. การเทา่ กนั ของเมทริกซ์
3. การบวกเมทริกซ์
4. การคณู เมทริกซ์ด้วยจำนวนจรงิ
5. การคณู เมทริกซ์ดว้ ยเมทรกิ ซ์
6. ดเี ทอร์มิเนนต์
7. เมทรกิ ซผ์ กผัน
8. การใช้เมทริกซแ์ กร้ ะบบสมการเชิงเสน้
ระยะเวลา
ผวู้ ิจัยจะดำเนินการวิจยั ในชว่ งเดอื น กนั ยายน ถึง ตุลาคม 2564 เปน็ ระยะเวลา 4 สปั ดาห์
ตวั แปรทใี่ ช้ในการศกึ ษา
ตวั แปรตน้ คอื แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะคณติ ศาสตร์ เรื่อง เมทริกซ์
ตัวแปรตาม คอื ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของนกั เรียน
แบบบนั ทกึ การฝกึ ปฏิบัตวิ ชิ าชีพระหวา่ งเรยี น 1
35
5. นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ
1. ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความสามารถของนักเรยี นทไี่ ดจ้ ากการเรียนเร่ืองเมทรกิ ซ์ และ
คะแนนที่ได้จากแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นทผี่ ู้วจิ ัยสร้างขึ้น เปน็ แบบทดสอบ แบบปรนยั ชนิดเลือกตอบ
4 ตัวเลอื ก จำนวน 20 ข้อ
2. แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ หมายถงึ สอื่ การเรียนการสอนทผ่ี วู้ ิจัยสรา้ งขน้ึ โดยใช้เนอ้ื หาสาระ เรือ่ ง เมทริกซ์
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 จำนวน 1 ชดุ ซ่งึ ประกอบดว้ ยแบบทดสอบกอ่ นเรียน - หลงั เรยี น ใบความรู้
3. นักเรียน หมายถงึ นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5/1 โรงเรยี นโคกกะเทยี มวทิ ยาลัย ที่กำลังศึกษาในภาค
เรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 7 คน โดยใชว้ ธิ ีเลอื ก แบบเจาะจง
6. ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะไดร้ ับ
1. นักเรยี นมผี ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นเรอ่ื งเมทริกซอ์ ย่ใู นระดบั ผ่านเกณฑ์
2. นักเรยี นสามารถแก้โจทย์ปญั หาทางคณิตศาสตร์เรือ่ งเมทรกิ ซ์
7. สมมติฐานการวิจัย
1. นักเรยี นทไ่ี ดร้ บั การจัดการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะมีผลสมั ฤทธ์ิทางการ เรียน เรอื่ งเมท
ริกซห์ ลงั เรยี นสงู กวา่ กอ่ นเรยี น
8. เอกสารงานวจิ ัยท่เี กย่ี วข้อง
ผวู้ จิ ยั ได้ทำการศึกษาค้นควา้ เอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเกย่ี วข้องโดยนำเสนอผลการศกึ ษาตามลำดบั ดังน้ี
1. แนวคดิ และทฤษฎเี กยี่ วกับผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน
2. แนวคดิ และทฤษฎีเกยี่ วกบั แบบฝึกเสรมิ ทักษะ
3. ทฤษฎีการเรียนรู้
4. หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พ.ศ.2551
5. หลกั สูตรคณิตศาสตร์
6. วธิ ีการสอนคณติ ศาสตร์
7. หลกั การสอนคณิตศาสตร์
8. การเรียนการสอนเมทริกซ
9. งานวิจยั ทีเ่ กี่ยวข้อง
9. วธิ ดี ำเนนิ การวิจยั
ประชากร
กล่มุ ประชากรทีใ่ ชใ้ นการวิจัยครั้งน้ี คอื นักเรยี นระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/1 โรงเรียนโคกกะเทียม ที่
กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
กล่มุ ตวั อยา่ ง
กลุ่มตัวอยา่ งที่ใชใ้ นการวจิ ยั ครัง้ น้ี คอื นักเรยี นระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5/1 โรงเรยี นโคกกะเทยี ม ที่กำลงั
ศกึ ษาในภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 7 คน โดยใชว้ ิธีการเลอื กแบบเจาะจง เนอ่ื งจากนกั เรียนกลมุ่ น้ี
มีผลสมั ฤทธ์วิ ชิ าคณติ ศาสตรเ์ รอ่ื งเมทริกซ์อยูใ่ นระดบั ไม่ผ่านเกณฑ์
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรยี น 1
36
เคร่อื งมือที่ใชใ้ นการวิจยั
เคร่อื งมอื ที่ใชใ้ นการวจิ ยั ครั้งน้ีได้แก่
1. แบบฝึกเสริมทักษะ เร่ือง เมทรกิ ซร์ ะดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5
2. แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น เรือ่ ง เมทรกิ ซ์ ชนดิ เลอื กตอบ 4 ตัวเลอื ก จำนวน
20 ข้อ
การเก็บรวบรวมขอ้ มลู
ผ้วู ิจยั ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมลู การวิจัย ดังน้ี
1. ผ้วู ิจยั ทำการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยตนเองโดยทำการช้ีแจงการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ให้
นกั เรียนรบั ทราบ
2. ผู้วิจยั ทำการทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre-test) กับนกั เรยี น จำนวน 20 ขอ้ เวลา 40 นาที
3. ดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรยี นรู้ โดยใชแ้ บบฝกึ เสรมิ ทกั ษะกับนักเรยี น ทง้ั หมด
3 สปั ดาห์ แบง่ เป็นสปั ดาหล์ ะ 3 ชว่ั โมง
4. เมอ่ื ทำการจดั การเรยี นการสอนเสรจ็ แลว้ จากนั้นให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบ
วดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนจำนวน 20 ข้อ หลงั เรยี น (Post-test) โดยแบบทดสอบหลงั
เรยี นเปน็ ชดุ เดียวกันกับแบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test)
5. เม่ือเก็บรวบรวมข้อมลู ดว้ ยแบบทดสอบเรยี บร้อยแลว้ ผวู้ จิ ัยไดน้ ำข้อมูลไปวเิ คราะห์ผล
ตอ่ ไป
การวเิ คราะห์ข้อมูล
1. วเิ คราะหห์ าค่าประสทิ ธภิ าพของแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น โดยใช้สตู รดัชนคี วาม
สอดคล้อง IOC
2. วิเคราะหห์ าคา่ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น เร่ือง เมทริกซ์ โดยใชส้ ถติ ิ รอ้ ยละคา่ เฉลยี่ และส่วนเบ่ียงเบน
มาตรฐาน ของคะแนนทไี่ ดร้ บั จากผลการทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
3. สถิติที่ใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล
3.1 สถิติพ้ืนฐาน
3.1.1 ร้อยละ (Percent) ใช้สตู ร (สุวิมล ติรกานันท์, 2551: 199)
รอ้ ยละ = สดั ส่วน x 100
3.1.2 ค่าคะแนนเฉลย่ี (Mean) โดยคำนวณจากสูตร (สวุ ิมล ตริ กานนั ท์, 2551: 201)
สตู ร ̅ = ∑
3.1.3 การหาคา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ใชส้ ตู ร
(สวุ ิมล ติรกานนั ท์, 2551: 203) สตู ร . . = √ ∑ 2−(∑ )2
( −1)
3.2 สถิตทิ ่ีใช้วเิ คราะห์คณุ ภาพของเคร่อื งมือการหาคา่ ความเท่ยี งตรง (Validity) ของ
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น โดยใชส้ ูตรค่าความสอดคล้อง IOC
(สุวมิ ล ติรกานันท์, 2551: 148) สูตร = ∑
แบบบนั ทกึ การฝึกปฏบิ ัตวิ ิชาชีพระหว่างเรยี น 1
37
10. เอกสารอ้างองิ
เฉลิมพล ถน่ิ ละออ. (2561). การสรา้ งแบบฝกึ เรอ่ื ง ระบบสมการเชิงเสน้ และเมทรกิ ซ์ เพอ่ื พฒั นาผลสมั ฤทธิ์
ทางการเรียนสำหรับนักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่4 โรงเรยี นดอนจานวทิ ยาคม. สืบคน้ 16 กันยายน
2564, จาก
http://digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/56920117.pdf?fbclid=IwAR2DQIaAPfuf1GtCxA
_aLBOt41Vi6uh2pUhmkTfcGF1J77-rGsPx7rfhbbU .
ปภณ ตง้ั ประเสริฐ. (2558). ความสำคัญและความหมายของคณติ ศาสตร์. ค้นเม่ือ 16 กนั ยายน 2564,
จากhttp://pondpaphon.blogspot.com/
ปราณี กองจนิ ดา. (2549). การเปรยี บเทียบผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นคณติ ศาสตร์และทักษะการ คดิ เลขในใจของ
นกั เรยี นทีไ่ ด้รบั การสอนตามรูปแบบซิปปาโดยใช้แบบฝึกหดั ที่เน้นทักษะการคดิ เลขในใจกับนกั เรียนท่ี
ไดร้ ับการสอนโดยใชค้ มู่ ือ คร.ู วิทยานิพนธ์ ค.ม.(หลกั สตู ร และการสอน). พระนครศรีอยุธยา : บณั ฑิต
วิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนครศรีอยธุ ยา.
พนิดา วงศช์ ุมภู. (มปป). ชดุ ฝึกเสรมิ ทกั ษะคณติ ศาสตร์ เรอ่ื ง เมทริกซ์. สบื คน้ 16 กันยายน 2564,
จาก http://lampangtc.ac.th/managefiles/file/inventor/matrix.pdf .
มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสุนันทา. (2561). เรื่อง เมทริกซ์ ของนกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5.
สืบคน้ 16 กนั ยายน 2564, จาก
http://elsd.ssru.ac.th/nattaporn_sr/pluginfile.php/57/course/summary/%E0%B8%A7%E0%
B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%B561.pdf?fbclid=Iw
AR0v61Dj6q1iIyMInlL_v8XZCmc45Rooc9pgc-oBH35nudN86OlDjCeEaxI .
วราภรณ์ ระบาเลิศ. (2552). การพฒั นาแผนการจดั การเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ เรื่อง ตวั ประกอบของจํานวนนบั โดย
ใช้แบบฝกึ ทักษะประกอบการจดั การเรยี นรู้ แบบซิปปา ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 6. การศึกษาคน้ ควา้
อสิ ระ. ปริญญาการศึกษามหาบณั ฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
สมพร เชอ้ื พนั ธ์. (2547). การเปรียบเทยี บผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นคณติ ศาสตรข์ องนกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
โดยใช้วธิ ีการจดั การเรยี นการสอนแบบสรา้ งองค์ความรดู้ ว้ ยตนเองกับการจัดการเรียนการสอน
ตามปกต.ิ วิทยานิพนธ์ ค.ม. (หลกั สูตรและการสอน). พระนครศรอี ยธุ ยา : บัณฑิตวิทยาลัย สถาบนั ราช
ภัฏพระนครศรีอยธุ ยา.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐานกระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2560). ตวั ช้ีวัดและสาระการเรียนรู้
แกนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2561. สบื ค้น 16 กนั ยายน 2564, จาก
https://drive.google.com/file/d/1F4_wAe-ZF13-
WhvnEAupXNiWchvpcQKW/view?fbclid=IwAR3GAPVQ92MqjiSCsyrTzj0OW7UOoCk4fWRWX
DvPBSL7DX2TcsXv35U9yto .
แบบบันทึกการฝึกปฏิบตั ิวิชาชีพระหวา่ งเรียน 1
38
ปว.1-6
แบบประเมินการปฏิบัติตนของนักศกึ ษา
ชื่อ นางสาวจิรพรรณ มีธรณี สาขาวชิ า คณิตศาสตร์ .
รหสั ประจำตวั 61115200213 .
ช่ือโรงเรยี น โคกกะเทยี มวทิ ยาลยั
คำช้ีแจง ขอใหค้ รูพี่เลย้ี งของโรงเรยี นประเมนิ การปฏบิ ตั งิ านของนักศกึ ษาตามรายการทก่ี ำหนด โดยพิจารณา
รายการประเมินแล้วทำเคร่ืองหมาย ลงในช่องผลการประเมิน
ผลการประเมิน
รายการประเมนิ ดมี าก พอใช้ ควรปรับปรงุ
210
1.แต่งกายสะอาด สภุ าพเรียบรอ้ ย
2.แสดงกิริยามารยาทเหมาะสมกบั ความเป็นครู
3.ใชว้ าจาสุภาพ
4.มีมนุษยสมั พันธ์ท่ดี ี
5.ทำงานเปน็ ระเบียบเรยี บร้อย
6.มีความรับผิดชอบต่องานทร่ี บั มอบหมาย
7.มีความเอาใจใส่และใฝร่ ู้ในงานครู
8.มีความร้คู วามสามารถปฏบิ ัติงานที่ได้รบั มอบหมาย
9.มีความตง้ั ใจในการทำงาน
10.ปฏิบตั งิ านตรงเวลา
รวม 20 0 0
รวมคะแนนทง้ั หมด 20
ลงช่ือ………………………………………….ครูพ่ีเลย้ี ง
(นางกนกวรรณ สายทองคำ)
24 / กนั ยายน / 2564 .
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏบิ ัติวชิ าชพี ระหว่างเรยี น 1
39
ปว.1-7
แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1
รายวชิ า คณิตศาสตรเ์ พม่ิ เตมิ ภาคเรียนท่ี 1/2564 ช้ัน มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ปกี ารศกึ ษา 2564 .
โรงเรียน โคกกะเทยี มวิทยาลยั ครูผ้สู อน นางสาวจริ พรรณ มธี รณี .
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ .
คำชี้แจง โปรดเขียนเครือ่ งหมาย √ ลงในช่องท่ตี รงกับระดับการประเมนิ
ระดบั การประเมิน 5 หมายถึง ดมี าก ระดบั การประเมิน 2 หมายถงึ ปรบั ปรุง
ระดบั การประเมนิ 4 หมายถงึ ดี ระดบั การประเมิน 1 หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน
ระดบั การประเมิน 3 หมายถึง พอใช้
รายการประเมิน ระดบั การประเมิน
5432 1
1. กำหนดมาตรฐาน/ตัวชี้วัด/จดั ประสงคก์ ารเรยี นรคู้ รอบคลมุ พฤติกรรม
การเรยี นรดู้ า้ นพุทธพิ ิสยั ทกั ษะพิสัย และจิตพสิ ยั
2. ความสอดคล้องมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /สาระสำคัญและกิจกรรม
การเรยี นรู้
3. กจิ กรรมการเรยี นรมู้ คี วามครอบคลุมการพัฒนาผู้เรียนใหม้ คี วามรู้
ทักษะกระบวนการ สมรรถนะท่สี ำคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์
4. กิจกรรมการเรยี นร้ตู อบสนองความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล
5. กิจกรรมการเรียนรหู้ ลากหลายและเนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
6. นำภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ และสือ่ เทคโนโลยีมาประยกุ ต์ใชใ้ นการเรยี นการ
สอน
7. สอื่ การเรยี นร้มู ีความเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรยี นการสอน
8. ประเมินความกา้ วหนา้ ของผู้เรยี นดว้ ยวธิ ีทหี่ ลากหลายเหมาะสมกับ
ธรรมชาตวิ ิชา
9. วิเคราะหผ์ ลการประเมินแลว้ นำมาใช้ในการสอนซอ่ มเสรมิ
10. วิธวี ดั และเคร่อื งมอื วัดสอดคลอ้ งกบั พฤติกรรมทก่ี ำหนดไว้ในตัวชวี้ ัด
หรอื จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
รวม/สรปุ ผล 30 12 3 0 0
รวม/เฉล่ีย สรปุ ผล 45
แบบบนั ทึกการฝึกปฏิบตั ิวชิ าชีพระหวา่ งเรียน 1
40
ข้อคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาทำแผนท่ีตรงกบั จดุ ประสงค์ท่ีนักเรียนจะต้องได้รบั และนักศึกษาทำแผนท่ีสามารถใช้สอนไดจ้ รงิ
มกี ารเรยี งเนอ้ื หาจากงา่ ยไปยาก มแี บบฝึกหดั ทสี่ อดคล้องกบั เรอื่ งทส่ี อน โดยเรยี งจากงา่ ยไปยาก .
ลงชอื่ ………………………………………………..…….ครพู เี่ ล้ียง
(นางกนกวรรณ สายทองคำ)
สรุปผลการประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้
4.50 – 5.00 หมายถงึ ดีมาก 2.50 – 3.49 หมายถงึ พอใช้ ต่ำกว่า 1.50 หมายถึง ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ
3.50 – 4.49 หมายถงึ ดี 1.50 – 2.49 หมายถึง ปรับปรงุ
แบบบนั ทึกการฝกึ ปฏิบัตวิ ิชาชพี ระหวา่ งเรยี น 1
41
แบบประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2
รายวชิ า คณติ ศาสตรเ์ พมิ่ เตมิ ภาคเรยี นท่ี 1/2564 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ปีการศกึ ษา 2564 .
โรงเรยี น โคกกะเทยี มวิทยาลัย ครผู สู้ อน นางสาวจริ พรรณ มีธรณี .
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ .
คำช้ีแจง โปรดเขยี นเคร่ืองหมาย √ ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดบั การประเมิน
ระดับการประเมนิ 5 หมายถงึ ดมี าก ระดับการประเมนิ 2 หมายถงึ ปรับปรุง
ระดับการประเมิน 4 หมายถึง ดี ระดับการประเมนิ 1 หมายถึง ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ
ระดับการประเมนิ 3 หมายถึง พอใช้
รายการประเมนิ ระดับการประเมิน
5432 1
1. กำหนดมาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั /จดั ประสงคก์ ารเรยี นรู้ครอบคลมุ พฤติกรรม
การเรยี นรดู้ ้านพทุ ธพิ ิสยั ทกั ษะพสิ ัย และจติ พิสยั
2. ความสอดคลอ้ งมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั /สาระสำคัญและกิจกรรม
การเรยี นรู้
3. กิจกรรมการเรยี นรมู้ คี วามครอบคลุมการพัฒนาผู้เรียนใหม้ คี วามรู้
ทักษะกระบวนการ สมรรถนะทสี่ ำคญั ของผ้เู รยี นและคุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์
4. กจิ กรรมการเรยี นร้ตู อบสนองความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล
5. กิจกรรมการเรยี นรูห้ ลากหลายและเน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญ
6. นำภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่นและสื่อเทคโนโลยมี าประยกุ ตใ์ ช้ในการเรียนการ
สอน
7. ส่ือการเรยี นรู้มคี วามเหมาะสมสอดคล้องกับกิจกรรมการเรยี นการสอน
8. ประเมินความกา้ วหนา้ ของผเู้ รยี นดว้ ยวิธีท่หี ลากหลายเหมาะสมกบั
ธรรมชาตวิ ชิ า
9. วเิ คราะหผ์ ลการประเมนิ แลว้ นำมาใชใ้ นการสอนซ่อมเสรมิ
10. วิธีวดั และเคร่ืองมอื วดั สอดคลอ้ งกบั พฤตกิ รรมทก่ี ำหนดไวใ้ นตัวช้วี ดั
หรอื จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
รวม/สรปุ ผล 30 12 3 0 0
รวม/เฉลย่ี สรุปผล 45
แบบบนั ทกึ การฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหว่างเรยี น 1
42
ขอ้ คิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะ
. นกั ศึกษาทำแผนท่ตี รงกับจดุ ประสงค์ท่นี กั เรียนจะต้องได้รับ มีการกำหนดมาตรฐาน/ตัวช้วี ดั /จดั ประสงค์
การเรยี นรู้ทคี่ รอบคลมุ พฤตกิ รรมของนกั เรยี น และนกั ศึกษายงั ทำแผนที่สามารถใช้สอนได้จรงิ มีการเรยี งเน้ือหา
จากง่ายไปยาก มีแบบฝกึ หดั ทส่ี อดคลอ้ งกับเรื่องทสี่ อน โดยเรียงจากง่ายไปยาก .
ลงช่ือ………………………………………………..…….ครพู เี่ ลยี้ ง
(นางกนกวรรณ สายทองคำ)
สรุปผลการประเมินแผนการจดั การเรียนรู้
4.50 – 5.00 หมายถึง ดมี าก 2.50 – 3.49 หมายถึง พอใช้ ต่ำกวา่ 1.50 หมายถึง ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมิน
3.50 – 4.49 หมายถึง ดี 1.50 – 2.49 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหวา่ งเรยี น 1
43
แบบประเมนิ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3
รายวชิ า คณติ ศาสตรเ์ พมิ่ เตมิ ภาคเรยี นที่ 1/2564 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 ปกี ารศึกษา 2564 .
โรงเรยี น โคกกะเทยี มวทิ ยาลยั ครูผู้สอน นางสาวจริ พรรณ มธี รณี .
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ .
คำช้ีแจง โปรดเขยี นเครอ่ื งหมาย √ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดับการประเมนิ
ระดับการประเมนิ 5 หมายถงึ ดีมาก ระดับการประเมนิ 2 หมายถงึ ปรับปรุง
ระดับการประเมิน 4 หมายถึง ดี ระดับการประเมิน 1 หมายถงึ ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมิน
ระดับการประเมิน 3 หมายถึง พอใช้
รายการประเมิน ระดับการประเมนิ
5432 1
1. กำหนดมาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด/จดั ประสงค์การเรยี นรู้ครอบคลมุ พฤตกิ รรม
การเรยี นรดู้ ้านพทุ ธพิ ิสยั ทกั ษะพิสัย และจติ พสิ ยั
2. ความสอดคลอ้ งมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั /สาระสำคญั และกจิ กรรม
การเรยี นรู้
3. กิจกรรมการเรยี นรมู้ คี วามครอบคลมุ การพัฒนาผูเ้ รยี นใหม้ คี วามรู้
ทักษะกระบวนการ สมรรถนะทีส่ ำคัญของผูเ้ รยี นและคุณลักษณะอนั พงึ
ประสงค์
4. กจิ กรรมการเรยี นร้ตู อบสนองความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล
5. กิจกรรมการเรยี นรูห้ ลากหลายและเน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั
6. นำภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่นและส่อื เทคโนโลยมี าประยุกต์ใช้ในการเรียนการ
สอน
7. ส่ือการเรยี นรู้มคี วามเหมาะสมสอดคล้องกับกจิ กรรมการเรยี นการสอน
8. ประเมินความกา้ วหนา้ ของผเู้ รยี นดว้ ยวธิ ีท่หี ลากหลายเหมาะสมกบั
ธรรมชาตวิ ชิ า
9. วเิ คราะหผ์ ลการประเมินแลว้ นำมาใชใ้ นการสอนซอ่ มเสรมิ
10. วิธีวดั และเคร่ืองมอื วดั สอดคลอ้ งกบั พฤติกรรมที่กำหนดไว้ในตวั ช้ีวดั
หรอื จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
รวม/สรุปผล 30 12 3
รวม/เฉลี่ย สรปุ ผล 45
แบบบนั ทกึ การฝกึ ปฏบิ ัติวิชาชีพระหว่างเรยี น 1
44
ขอ้ คิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะ
. นกั ศึกษาทำแผนท่ตี รงกับจดุ ประสงค์ท่นี กั เรียนจะต้องได้รับ มีการกำหนดมาตรฐาน/ตัวช้วี ดั /จดั ประสงค์
การเรยี นรู้ทคี่ รอบคลมุ พฤตกิ รรมของนกั เรยี น และนกั ศึกษายงั ทำแผนที่สามารถใช้สอนได้จรงิ มีการเรยี งเน้ือหา
จากง่ายไปยาก มีแบบฝกึ หดั ทส่ี อดคลอ้ งกับเรื่องทสี่ อน โดยเรียงจากง่ายไปยาก .
ลงช่ือ………………………………………………..…….ครพู เี่ ลยี้ ง
(นางกนกวรรณ สายทองคำ)
สรุปผลการประเมินแผนการจดั การเรียนรู้
4.50 – 5.00 หมายถึง ดมี าก 2.50 – 3.49 หมายถึง พอใช้ ต่ำกวา่ 1.50 หมายถึง ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมิน
3.50 – 4.49 หมายถึง ดี 1.50 – 2.49 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แบบบันทกึ การฝกึ ปฏบิ ตั ิวิชาชพี ระหวา่ งเรยี น 1
45
ปว.1-8
แบบประเมนิ ด้านคณุ ภาพการจดั การเรยี นการสอน 1
ชอ่ื -นามสกลุ (นกั ศกึ ษา) นางสาวจิรพรรณ มีธรณี .
สาขาวชิ า คณติ ศาสตร์ วชิ าทส่ี อน คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 5 .
โรงเรียน โคกกะเทยี มวิทยาลยั .
ชื่อผู้ประเมนิ นางกนกวรรณ สายทองคำ .
ประเมินครั้งที่ 1 วนั ประเมิน วันท่ี 10 เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2564 .
คำชีแ้ จง แบบประเมนิ ตอ่ ไปน้เี ป็นเครอ่ื งมือในการให้คะแนนทมี่ ี 2 ลักษณะ
1. ขอ้ มูลในเชงิ คณุ ภาพ ให้คะแนนเปน็ 4,3,2 และ 1 ตามพฤติกรรมท่ีบรรยายในแต่ละระดบั
2. ข้อมูลในเชงิ ปริมาณ หากแจงนับได้ ใหใ้ ช้ลักษณะของปริมาณท่ีปฏิบัตติ ามจำนวน
ทีก่ ำหนดไว้ในแต่ละระดบั ดงั นี้
4 ยอดเย่ียม หมายถึง การปฏบิ ตั ิมปี รมิ าณ 90 - 100 %
3 ดี หมายถงึ การปฏิบตั มิ ปี รมิ าณ 75 - 89 %
2 พอใช้ หมายถึง การปฏิบัตมิ ปี ริมาณ 60 - 74 %
1 ควรปรับปรุง หมายถึง การปฏิบตั ิมปี ริมาณตำ่ กว่า 60 %
3. โปรดประเมนิ ใหส้ อดคลอ้ งตามความเปน็ จริงหรอื ตามคณุ ลักษณะของนักศึกษา
พร้อมใส่ระดบั คะแนนลงในชอ่ งการประเมินตามความคดิ เหน็ ของท่าน
4. โปรดสรุปจุดเด่น จดุ ด้อย และขอ้ เสนอแนะในทา้ ยแบบประเมนิ
5. อาจารย์ผสู้ อนและครูพ่เี ล้ยี ง ประเมนิ นกั ศกึ ษาฝกึ สอน
แบบบันทกึ การฝึกปฏบิ ัตวิ ิชาชพี ระหวา่ งเรยี น 1