กิจวัตรประจำ วัน (ปี3) โรงเรียนอนุบาลเมืองนครสวรรค์ (เขากบ วิวรณ์สุขวิทยา) กิจวัตรประจำ วัน (ปี4) โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส (ท.3)
กิจวัตรประจำ วัน (ปี4) โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส (ท.3) ภาระงานที่ได้รับมอบหมาย 1.รับเด็กเข้าห้องเรียนตอนเช้า 2.ควบคุมเด็กเข้าแถวเคารพธงชาติ 3.บีบเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าห้องให้กับเด็ก 4.ช่วยครูสร้างสื่อในการทำ กิจกรรมในแต่ละวัน 5.ช่วยแจกอุปกรณ์ต่างๆในการทำ งานศิลปะให้กับเด็กและช่วยคอยช่วยเหลือเด็กในการ ทำ กิจกรรม 6.ทำ ความสะอาดห้องหลังกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ 7.ควบคุมแถวเด็กไปรับประทานอาหาร 8.แจกอุปกรณ์แปรงฟันและดูแลความเรียบร้อย 9.ตรวจสมุดการบ้านและปั้มการบ้านใหม่ ให้เด็กกับไปทำ 10.ยืนส่งเด็กกับบ้านจนคนสุดท้าย
บทบาทหน้าที่ จัดตกแต่งห้องเขียน และบอร์ด ประชาสัมพันธ์
การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน
การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน
โครงงานขนมปังหน้าหมู โครงงานขนมปังหน้า น้ หมู เด็ก ด็ นักนัเรียรีนชั้นชั้อนุบนุาล 1/2 ได้ร่ ด้ ว ร่ ม กันทำ กิจกรรม ได้อ ด้ ย่า ย่ งมีคมีวาม สุขสุได้ล ด้ งกระทำ ด้ว ด้ ยตนเอง
ภาพรวมด้านการบริหารจัดการในสถานศึกษา โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส จัดสอนตามหลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยโรงเรียนได้จัดสัดส่วนสาระการเรียนรู้และเวลาเรียน ดังแสดงใน ตารางดังนี้
ประกันคุณภาพสถานศึกษา
ความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ห้องสมุด ห้องสมุดมีพื้นที่ขนาด 240 ตารางเมตร หนังสือในห้องสมุดมีจำ นวน 16,780 เล่มมีวารสาร/ หนังสือพิมพ์ให้บริการจำ นวน 240 ฉบับ การสืบค้นหนังสือและการยืม-คืน ใช้ระบบดิวอี้ มีเครื่อง คอมพิวเตอร์ให้บริการสืบค้นเทคโนโลยีสารสนเทศในห้องสมุด จำ นวน 4 เครื่อง มีจำ นวนนักเรียนที่ใช้ ห้องสมุด (ในปีการศึกษาที่รายงาน) เฉลี่ย 300 คน ต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 24.79 ของนักเรียนทั้งหมด มี การให้บริการห้องสมุดแก่ชุมชนรอบนอก โดยมีบุคคลมาใช้บริการ เฉลี่ย 120 คน ต่อปี
งาน/โครงการ/กิจกรรม/ผลงานที่ประสบผลสำ เร็จจนได้รับการยอมรับ หรือเป็น ตัวอย่างการปฏิบัติ
ความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ผู้ทีเรียนนาฏศิลป์จะต้องผ่านพิธีไหว้ครูรำ กลองยาวเป็นกิจกรรมที แสดงความเชื่อถือในรูปแบบ ของวัฒนธรรมไทยตั้งแต่สมัยโบราณ
นักเรียนทำ พิธีไหว้ครูกลองยาว ก่อนทำ การแสดงรำ กลองยาวทุกครั้ง
การแสดงร่วมกับทางจังหวัดในการแสดงโชว์
ฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน ชั้นปีที่4 ประวัติครูพี่เลี้ยง นางสาวพจนี ยิ้มเปรม ตำ แหน่งทางวิชาการ ครูชำ นาญการพิเศษ เกิดเมืื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2515 สำ เร็จการศึกษา ชั้น ปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ สาขาการศึกษาปฐมวัย วิทยาลัยครู เข้ารับราชการวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส อำ เภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส ภาระหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่เป็นครูประจำ ชั้นอนุบาล1/2 ผลงานและรางวัลที่ภูมิใจ 1.รางวัล1แสนครูดี ประจำ ปี2560 2.รางวัลครูดีเด่ด ประจำ ปี2561 โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส(ท.3)
ภาพรวมด้านพฤติกรรมการปฏิบัติหน้าที่ครู จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ จรรยาบรรณต่อสังคม เป็นผู้ที่สุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนปฏิบัติในวิชาชีพของตนได้อย่างมีเกียรติไม่ประพฤติตนให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของ โรงเรียนรักษากฎระเบียบของโรงเรียนได้เป็นอย่างดีมีความมุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียนเต็มศักยภาพบัติตนเป็นแบบ อย่างที่ดีกับผู้เรียนสุภาพเรียบร้อยมีมารยาทและให้ความร่วมมือในกิจกรรมต่างๆของสถานศึกษาและช่วย เหลือคุณครูท่านอื่นด้วยน้ำ ใจอย่างแท้จริงและสร้างโอกาสให้กับผู้เรียนได้เรียนรู้ในทุกเหตุการณ์ต่างๆให้ ปฏิบัติตนในชีวิตประจำ วันได้อย่างสมบูรณ์ ครูมีความรักความเมตตาและการดูแลเอาใจใส่เด็กอยู่เสมอเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ คอยส่งเสริมให้เด็กเกิดการเรียนรู้และทักษะต่างๆคอยฝึกฝนให้เด็กเกิดความแม่นยำ ในการเรียนรู้และคอย อบรมบ่มนิสัยที่ดีงามให้กับเด็กโดยที่ตนเป็นแบบอย่างที่ดีและประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งกายวาจาและ ใจ คุณครูคอยให้ความช่วยเหลือกับผู้ร่วมงานซึ่งเป็นงานในสาขาคอยให้คำ ปรึกษาแก่ผู้น้อยและคอยช่วยเหลือใน ด้านต่างๆขอตรวจสอบข้อมูลช่วยกันจัดกิจกรรมที่สถานศึกษากำ หนดให้ออกมาอย่างสร้างสรรค์ เมื่อมีครูจบ ใหม่เข้ามาก็จะคอยแนะนำ ในด้านวิชาการต่างๆการจัดระเบียบต่างๆที่เหมาะสมคอยให้คำ ชี้แนะและตอบ คำ ถามในสิ่งที่คุณครูจบใหม่ยังไม่ทราบข้อมูลอย่างแท้จริงมีคุณธรรมจริยธรรมในการช่วยเหลือและสามารถ เข้ากับบุคลากรท่านอื่นได้อย่างดีสามารถทำ งานร่วมกันได้อย่างดีเกิดความสามัคคีเพื่อให้งานออกมาสำ เร็จ ลุล่วงตามเป้าหมาย อนุรักษ์ภูมิปัญญา วัฒนธรรมไทยและสิ่งแวดล้อมรักและหวงแหนวัฒนธรรมไทยและสิ่งแวดล้อมที่มีคุณค่า -เข้าร่วมกิจกรรมการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและรักษาสิ่งแวดล้อมมีความจงรักภักดี ต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหา กษัตริย์เป็นประมุขประพฤติตนให้เป็นสมาชิกที่ดีของสังคมและมีจิตสาธารณะมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดย ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานโดยไม่หวังผลประโยชน์และสิ่งตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น
บทบาทหน้าที่ของครูพี่เลี้ยง (ครูผู้สอน/ครูประจำ ชั้น) รับนักเรียนเข้าห้องเรียน กิจกรรมสอนลากเส้นพื้นฐาน
ภาพรวมข้อมูลทั่วไป
ภาพรวมข้อมูลทั่วไป
ภาพรวมข้อมูลทั่วไป
ภาพรวมข้อมูลทั่วไป
ภาพรวมข้อมูลทั่วไป
ภาพรวมข้อมูลทั่วไป
·มุมมองด้าด้นองค์ความรู้ ·ด้านความประทับใจ / ความภาคภูมิใจ · ด้านปัญหา / อุปสรรค สะท้อนคิด ได้รับเทคนิคการเก็บเด็ก ได้รับเทคนิคการสอนต่างๆ ได้รับสอนเด็กตัวเองลงมือกระทำ และฝึกฝน เปิดโอกาสให้เราได้แสดงความสามารถอย่าง เต็มที่ ได้รับประสบการณ์ในการทำ งานได้อย่าง เต็มที่เรียนรู้สิ่งต่างๆในการทำ งานมากมาย ได้ความรู้ในการสังเกตและให้ความดูแลเด็ก อย่างเป็นอย่างดี -ความประทับใจในการดูแลเอาใจใส่ ควาใส่ใจ มีเมตตา ให้คำ ปรึกษาในทุกๆเรื่อง สอนสิ่งดีๆ คอย เป็นห่วงในทุกๆเรื่องให้เทคนิคต่างๆ เช่นการร้อง เพลงเก็บเด็กครูจะมีเพลงที่หลากหลายสนุกเด็กๆ ชอบกันอย่างมาก และให้เราได้รับความรู้นั้นไปปรับ ใช้ต่อในอนาคตได้อย่างแน่นอน การรับมือกับเด็กที่มีปัญหาเรื่องของ พัฒนาการช้า สมาธิสั้น เป็นสิ่งที่อยากสำ หรับนักศึกษาที่จะรับมือใน ช่วงแรกๆ และการพัฒนาให้เด็กมีศักยภาพที่ดียิ่งขึ้น แต่ก็สามารถรับมือได้เรื่อยๆเมื่อเราเข้าใจในตัวเด็กคน นั้นและให้ความไว้วางใจแก่เด็ก ที่พร้อมจะเปิดรับครู
ภาคผนวก
ประมวลภาพการปฏิบัติหน้าที่ครู ด้านการปฏิบัติครู/จรรยาบรรณ การสอนในรายวัน
ประมวลภาพการปฏิบัติหน้าที่ครู Monday ด้านการปฏิบัติหน้าที่ความสัมพันธ์ครูกับผู้ปกครอง เยี่ยมบ้านเด็ก
กิจกรรมสร้างสรรค์ ฉีก ปะ กระดาษ ประมวลภาพการปฏิบัติหน้าที่ครู การปฏิบัติหน้าที่ด้านการจัดการเรียนรู้ เรียนรู้เรื่องกังหันลม หน่วย วิทยาศาสตร์น่ารู้ กิจกรรมสร้างสรรค์ กังหันลม
กิจกรรมสร้างสรรค์ จุ่มสี สายรุ้ง ประมวลภาพการปฏิบัติหน้าที่ครู การปฏิบัติหน้าที่ด้านการจัดการเรียนรู้ เรียนรู้เรื่องสี หน่วย สาระแห่งสีสัน สือการสอน สาระแห่งสีสัน
กิจกรรมสร้างสรรค์ ประดิษฐ์ไฟจารจร ประมวลภาพการปฏิบัติหน้าที่ครู การปฏิบัติหน้าที่ด้านการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมสร้างสรรค์ ขยำ กระดาษ เรียนรู้การใช้รถใช้ถนน หน่วย ความปลอดภัยบนท้องถนน
กิจกรรมสร้างสรรค์ ประดิษฐ์ไฟจารจร ประมวลภาพการปฏิบัติหน้าที่ครู การปฏิบัติหน้าที่ด้านการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมสร้างสรรค์ ขยำ กระดาษ เรียนรู้การใช้รถใช้ถนน หน่วย ความปลอดภัยบนท้องถนน
โครงการปฐมวัยขับขี่ปลอดภัยสวมใส่หมวกกันน็อค ประจำ ปีการศึกษา 2565 กิจกรรมประดิษฐ์ ระดับปฐมวัย จัดทำ โดย นางสาวแสงระวี โรจนพรรณ์ นางสาววาศิณี เหล่าเปีย นางสาวสุธิดา วุฒิ ตำ แหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส สังกัดสำ นักการศึกษา เทศบาลนครนครสวรรค์
บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส ที่ นว๕๒๐๐๖/(๕.๓) วันที่ ๒๐ มิถุนายน๒๕๖๕ เรื่อง มีความประสงค์ขอเสนอโครงการปฐมวัยขับขี่ปลอดภัยสวมใส่หมวกกันน็อค - - - - -- - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - เรียน ผู้อำ นวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส ข้าพเจ้า นางสาวแสงระวี โรจนพรรณ์ นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู มีความประสงค์ขอเสนอ โครงการปฐมวัยขับขี่ปลอดภัยสวมใส่หมวกกันน็อค เพื่อส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยและได้มาตรฐานขณะเดินทางด้วยรถ จักรยานยนต์ เพื่อส่งเสริมให้ครูและผู้ปกครองได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบวินัยจราจรรวมถึง การมีจิตสำ นึก ที่ดีในการใช้รถใช้ถนน เพื่อให้ ครู นักเรียน บุคลากร และผู้มาติดต่อราชการทุกคน ได้รับการปกป้องคุ้มครองความ ปลอดภัยจากอุบัติเหตุในโรงเรียนและภายนอกโรงเรียนอย่างมีประสิทธิภาพเด็กได้ใช้วัสดุอุปกรณ์กีฬาตลอดปีการศึกษา จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดำ เนินการต่อไป (นางสาวแสงระวี โรจนพรรณ์) ตำ แหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ( ) เห็นควรเสนอผู้อำ นวยการสถานศึกษา ( ) ขอให้ปรับปรุงแก้ไข ( ) ยังไม่สมควรดำ เนินการ รองผู้อำ นวยการสถานศึกษา (นางสาวณัฐชยา แก้วคง) ( ) นำ กลับไปปรับปรุงใหม่............................................ ( ) อนุมัติและให้เสนอรายชื่อคณะกรรมการโครงการ ผู้อำ นวยการสถานศึกษา (นายสุนทร ทวีการไถ) วันที่......... เดือน ................................ พ.ศ. .............
บทสรุป จากการดำ เนินการ โครงการปฐมวัยขับขี่ปลอดภัยสวมใส่หมวกกันน็อค มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้ เพื่อ เสริมสร้างพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา เพื่อให้นักเรียนได้รับความปลอดภัยใน การ เล่น โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ ๑ – ๓ จำ นวน คน ให้นักเรียนทำ กิจกรรม และมีพัฒนาการที่ ดีทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาเหมาะสมตามวัย โดยมีนางสาว เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ โครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย (วัสดุกีฬา) ได้กำ หนดระยะเวลาดำ เนิน การ ตลอดปีการศึกษา 2565 โดยมีแนวทางการดำ เนินงาน ดังนี้ ประชุมครูเพื่อวางแผนการสำ รวจแหล่งเรียนรู้ภายใน โรงเรียน ทำ โครงการนำ เสนอฝ่ายบริหาร มอบหมายคณะกรรมการดำ เนินงาน ตามกิจกรรมจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ ดำ เนิน การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ รวบรวมภาพกิจกรรมก่อนดำ เนินการ ระหว่างดำ เนินการ และหลังดำ เนินการ นิเทศกำ กับติดตาม การดำ เนินงาน สรุปผลการดำ เนินงาน จากการดำ เนินการ โครงการปฐมวัยขับขี่ปลอดภัยสวมใส่หมวกกันน็อค พบว่า การจัดซื้อแผ่นปูพื้นเพียงพอต่อการใช้งาน นักเรียนเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างสนุกสนาน เสริมสร้างพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา เกิดความปลอดภัยในการเล่น เมื่อพิจารณาจาก แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำ เนินกิจกรรม ได้แก่ ผู้บริหาร คณะครู สรุปผลการประเมินโครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ระดับความคิดเห็นของครู ผู้ ปกครอง และนักเรียนที่มีต่อโครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และสนับสนุนการเรียนการ สอน ระดับปฐมวัย วัสดุกีฬา โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( = 4.73) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D. = 0.44) คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นโครงการที่ดีส่งเสริมการเรียนรู้ ลงชื่อ ผู้รับผิดชอบโครงการ (นางสาวพิณญาดา จาบจินดา) ตำ แหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำ นาญการพิเศษ
1.โครงการปฐมวัยขับขี่ปลอดภัยสวมใส่หมวกกันน็อค 2. ความสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา / ตัวบ่งชี้ ระดับปฐมวัย มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก ข้อ 1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ข้อ 2.2 มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำ คัญ ข้อ 3.1 จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ข้อ 3.5 ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบและนำ ผลมาพัฒนาผู้เรียน 3.หลักการและเหตุผล พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ให้ทุกโรงเรียนมีการพัฒนาสิ่ง แวดล้อมในโรงเรียนให้บรรยากาศร่มรื่นสะดวก ปลอดภัย และมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ ให้ สถานศึกษาและชุมชนที่เกี่ยวข้องดำ เนินการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถ จัดบรรยากาศสภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และ อำ นวยความสะดวกเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้ สร้างภูมิคุ้มกันด้านความปลอดภัยตัวเองได้ รวมทั้งสามารถใช้ ความรู้ในการป้องกันตนเองจากการเดินทางไป-กลับ ระหว่างบ้านและโรงเรียนได้ ทั้งนี้ผู้สอนและผู้เรียนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกัน จากสื่อการเรียนรู้และแหล่งวิทยาการประเภทต่าง ๆเพื่อให้มีการกระบวนการเรียนรู้ การให้ความรู้ในการจัดสภาพแวดล้อม ภายในโรงเรียนให้มีความเหมาะสมปลอดภัย ดังนั้นโรงเรียนจึงได้จัดทำ โครงการจัดสภาพแวดล้อมและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการ เรียนรู้เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนพัฒนาตามธรรมชาติอย่างเต็มศักยภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันปัญหาที่สำ คัญปัญหาหนึ่งของประเทศไทยที่ต้องป้องกันอย่างเร่งด่วน และ เป็นระบบ คือ อุบัติเหตุบนท้องถนน และปัญหาที่ผู้ขับขี่ยังขาดระเบียบวินัยและการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรเนื่องจากอุบัติเหตุ จราจรเป็นปัจจัยภายนอกเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และความเสียหายที่ เกิดขึ้นทำ ให้สูญเสียทรัพย์สินและการสูญเสียทรัพยากร บุคคล จากสถิติการที่เด็กเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนน 99% สาเหตุเกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย โดยรายงานของสมาคม ส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำ งาน (ประเทศไทย) ยังเผยว่า มีเด็กไทยเพียง 7% เท่านั้นที่ใส่หมวกนิรภัยระหว่าง การเดินทาง ซึ่งอัตราการใช้หมวกนิรภัยจำ นวนน้อย สะท้อนให้เห็นถึงความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่า ภัยอันตรายรอบตัวนั้นสามารถ เกิดขึ้นได้แบบไม่คาดฝัน และเป็นเรื่องที่น่ากังวลที่พ่อแม่และผู้ปกครองหลายๆ คนไม่ตระหนักถึงความสำ คัญในการให้บุตรหลาน สวมใส่หมวกนิรภัยขณะเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ แล้วก็ยังมีอีกหลายครอบครัวที่แม้จะสวมหมวกนิรภัยให้เด็ก แต่กลับไม่รู้ว่า จะเลือกใช้หมวกนิรภัยที่มีคุณภาพ มีขนาดพอดีกับศีรษะเด็ก และจะสวมใส่หมวกนิรภัยให้เด็กอย่างถูกวิธีได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้ การรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยและได้มาตรฐาน รวมถึงการเรียนรู้วิธีการใช้ถนนอย่างถูกต้อง จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำ คัญใน การป้องกันและสร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ
ดังนั้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่ถูกต้องในการใช้ถนน การสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เด็ก พ่อแม่และผู้ปกครอง ให้เห็น ถึงความสำ คัญของการใช้หมวกนิรภัย พร้อมอบรมการใช้งานที่ถูกวิธี ซึ่งเป็นเรื่องจำ เป็นอย่างมากในการช่วยลดจำ นวนตัวเลขผู้บาด เจ็บและเสียชีวิตในเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่เป็นอนาคตของชาติ โรงเรียน จึงได้ตระหนักถึงความสำ คัญของการสร้างความ ปลอดภัยบนท้องถนนของผู้ปกครองและนักเรียนของโรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส จึงได้จัดทำ กิจกรรมเดินทางปลอดภัย สวม หมวกนิรภัยเมื่อนั่งรถจักรยานยนต์ โดยการจัดอบรมด้านความปลอดภัยทางท้องถนน และการสาธิตใช้หมวกนิรภัยอย่างถูกวิธีให้กับ ครู นักเรียน และผู้ปกครอง โดยเน้นให้เด็กๆ เป็นศูนย์กลาง ส่วนครูและผู้ปกครองจะทำ หน้าที่เป็นผู้ดูแลและให้ความรู้ที่ถูกต้องอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กๆ ได้เดินทางไปกลับโรงเรียน ได้อย่างปลอดภัยและหวังจะลดจำ นวนการบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็กไทยจาก อุบัติเหตุทางถนน พร้อมทั้งสร้างจิตสำ นึกรับผิดชอบต่อส่วนรวมให้กับนักเรียนเพื่อสร้างความมีวินัยในการใช้ถนนร่วมกัน จึงจัด โครงการรณรงค์การขับขี่ปลอดภัยสวมหมวกนิรภัย 100% สำ หรับนักเรียน เพื่อเน้นให้นักเรียน ได้ขับขี่จักรยานยนต์โดยสวมหมวก นิรภัยทุกคนและมีความภาคภูมิใจในการปฏิบัติตามกฎและวินัยจราจร การขับขี่อย่างปลอดภัยปลูกฝังการเป็นผู้ขับขี่ และผู้ร่วมทางที่ ดีในอนาคต พร้อมเข้าใจถึงความปลอดภัยภายในและภายนอกโรงเรียนสามารถปฏิบัติตนได้เป็นอย่างดี 4.วัตถุประสงค์ 4.1 เพื่อส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยและได้มาตรฐานขณะเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ 4.2 เพื่อส่งเสริมให้ครูและผู้ปกครองได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบวินัยจราจรรวมถึง การมีจิตสำ นึกที่ดีในการใช้ รถใช้ถนน 4.3 เพื่อให้ ครู นักเรียน บุคลากร และผู้มาติดต่อราชการทุกคน ได้รับการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยจากอุบัติเหตุใน โรงเรียนและภายนอกโรงเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ 5.เป้าหมาย/ผลลัพธ์ 5.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ 5.1 นักเรียนระดับชั้นศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก – มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำ นวน 1,052 คน ได้ร่วมกิจกรรมเดินทางปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย เมื่อนั่งรถจักรยานยนต์ 5.2 ครู นักเรียน ได้ร่วมกิจกรรมความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในโรงเรียน 5.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 5.2.1 ครู นักเรียน ร้อยละ 85 ที่เข้าร่วมโครงการให้ข้อมูลรูปธรรมที่เป็นประโยชน์เพื่อนำ มาพัฒนา และปรับปรุง การจัดโครงการ รณรงค์การขับขี่ปลอดภัยสวมหมวกนิรภัย 100% สำ หรับนักเรียนให้ดีในรุ่นต่อไป 4.2.2 ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ร้อยละ 85 ได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบวินัยจราจร และการใช้รถใช้ถนนให้ปลอดภัย 5.2.3 ครู นักเรียน บุคลากร ร้อยละ 58 ได้รับการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยจากอุบัติเหตุใน โรงเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ 6.ความสอดคล้องกับแผนพัฒนาท้องถิ่น/แผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา
6.1 ความสอดคล้องกับแผนพัฒนา (พ.ศ.2561 - 2565) ของเทศบาลนครนครสวรรค์ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรมและนันทนาการ กลยุทธ์ที่ 4 ส่งเสริมและพัฒนากีฬา นันทนาการ กิจกรรมเด็กเยาวชน และประชาชน 6.2 ความสอดคล้องกับแผนพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน แผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ.2561 - 2565) ของโรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลยุทธ์ที่ 2.4 การพัฒนาประสิทธิภาพการสนับสนุนการจัดการศึกษา 7. วิธีดำ เนินการ
8. ระยะเวลาดำ เนินการ เดือน พฤษภาคม - กันยายน 2565 9. สถานที่ดำ เนินการ โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส 10. หน่วยงานผู้รับผิดชอบ งานวิชาการ 11. งบประมาณดำ เนินการ - 12. การติดตามประเมินผล 13. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 13.1 ผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาสทุกคน สวมหมวกนิรภัยและได้ มาตรฐานขณะเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ 13.2 ผู้ปกครองและนักเรียนได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบวินัยจราจร รวมถึงการมีจิตสำ นึกที่ดีใน การใช้รถใช้ถนน 14. ผู้เสนอโครงการ (นางสาวแสงระวี โรจนพรรณ์) ตำ แหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู 15. ผู้ตรวจสอบโครงการ (นางสาวณัฐชยาแก้วคง) ตำ แหน่ง รองผู้อำ นวยการสถานศึกษา 16. ผู้อนุมัติโครงการ (นายสุนทร ทวีการไถ) ตำ แหน่ง ผู้อำ นวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส
ภาพ แบบสำ รวจการเดินทาง ด้วยจักรยานยนต์ ของนักเรียนและผู้ปกครองก่อนอบรมให้ความรู้นักเรียน
การศึกษารายกรณี (Case Study) ชื่อนักเรียน เด็กชายภูวดล มั่นเกษกิจ ชั้น อ.1/2 เลขที่ 7 1. สภาพปัญหาของนักเรียน กล้ามเนื้อมือมัดเล็กยังไม่ค่อยแข็งแรงปัญหาเกี่ยวกับน้ำ หนักตัวของน้องที่อ้วนและการเคลื่อนไหวร่างกายกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ทรงตัวไม่ได้เคลื่อนไหวตามคำ สั่งไม่ได้และปัญหาเรื่องการไม่เชื่อฟังคำ สั่งของครูและปัญหาการไม่ยอมกินข้าวกลางวันจะติด นมจึงไม่ยอมทานข้าวจากการสังเกตถึงน้องจะไม่ได้กินนมน้องก็ยังไม่ยอมกินข้าวถึงออกคำ สั่งก็ไม่ยอมทาน 2. จุดประสงค์ในการศึกษา 1. เพื่อให้ทราบถึงสภาพปัญหา และสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับนักเรียน 2. เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาและศึกษาวิธีแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาของนักเรียนอย่างถูกต้องเหมาะสม 3. เพื่อจะช่วยเหลือเด็กนักเรียนในเรื่องการเรียน และปรับพฤติกรรมของนักเรียนให้เข้ากับเพื่อน ร่วมห้องเรียน และสังคมภายนอกให้ดียิ่งขึ้น 3. สภาพทั่วไปเกี่ยวกับนักเรียน 3.1 ประวัติส่วนตัวและครอบครัว ชื่อ เด็กชาย ภูวดล มั่นเกษกิจ ชื่อเล่น น้องอ้วน เกิด วันที่ 16 เดือนธันวาคม พ.ศ 2561 ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ 7/160 หมู่ 4 ตำ บล นครสวรรค์ออก อำ เภอ เมืองจังหวัด นครสวรรค์ รหัสไปรษณีย์ 60000 โทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือ 064 0155 396 บิดาชื่อ นายศศิกิจ มั่นเกษกิจ อาชีพ พนักงานร้าน KFC สาขาบิ๊กซีนครสวรรค์ รายได้ต่อเดือน 12000 บาท มารดาชื่อ - อาชีพ รายได้ต่อเดือน- บาท ผู้ปกครองชื่อ นายศศิกิจ มั่นเกษกิจ อาชีพ พนักงานร้าน KFC สาขาบิ๊กซีนครสวรรค์ รายได้ต่อเดือน 12000 บาท ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ 7/160 หมู่ 4 ตำ บล นครสวรรค์ออก อำ เภอ เมืองจังหวัด นครสวรรค์ รหัสไปรษณีย์ 60000 โทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือ 064 0155 396 นักเรียนมีพี่น้องร่วมบิดามารดา เป็นบุตรคนเดียว (รวมทั้งนักเรียนด้วย) ประวัติสุขภาพ อายุ 3 ขวบ น้ำ หนัก21 ส่วนสูง90 กรุ๊ปเลือด O
3.2 สภาพครอบครัวและฐานะทางเศรษฐกิจ ฐานะปานกลาง น้องอ้วนจะอาศัยอยู่กับพ่อและย่าเนื่องจากพ่อแม่แยกทางกันผู้ที่คอยดูแลอ้วนจะเป็นพ่อที่คอยดูแล 3.3 ทัศนคติของบุคคลรอบข้างที่มีต่อนักเรียน -บิดา / มารดา บิดา เวลาอยู่บ้านน้องจะเป็นคนพูดเก่ง แต่จะทำ อะไรช้า สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เมื่อเวลาหิวก็จะหยิบนมมาให้ย่า ทำ ให้กิน อยู่บ้านจะไม่ค่อยกินข้าว ต้องบังคับป้อน อยู่ตลอดเวลา บ้างครั้งผู้ปกครองไม่มีเวลาก็ปล่อยเลยตามเลย ให้กิน แต่นม 3.4 ความคิดเห็นของครูที่ปรึกษาที่มีต่อนักเรียน - ด้านการเรียน น้องอ้วนจะไม่ค่อยสนใจเรียนจะมีสมาธิในการฟังน้อยเขาจะพูดตามคำ บอกของเราแต่เสียงที่ออกมาจะไม่ชัดเจนจะพูด ไม่เต็มคำ และจะไม่ค่อยทำ งานจะติดเล่นติดคุยกับเพื่อนไม่สนใจงานของตนเองถ้าเราสั่งให้ระบายสีน้องจะขีดๆไม่เป็น ตามแนวที่เราระบุและจะทำ สนใจงานเพียงเวลาสั่นๆ - ด้านพฤติกรรมและลักษณะนิสัย จะมีนิสัยโวยวายเสียงดังเพื่อให้ตนเองเป็นจุดสนใจของเพื่อนๆจะค่อยติดเล่น จะก้าวร้าว ชอบพูด เอ้ย เอ้ย - ด้านสุขภาพร่างกาย มีน้ำ หนักตัวที่เกินเกณฑ์มาตรฐาน เคลื่อนไหวร่างกายได้กระโดดได้แต่ไม่เป็นจังหวะ - ด้านสังคมและการอยู่ร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียน จะเล่นรุนแรงชอบวิ่งไล่จับ เล่นรุนแรงและชอบพูดคุยกับเพื่อน เสียงดังโวยวาย มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนเขาจะรู้สึกว่า ตนเองเป็นพี่ใหญ่จะนำ เพื่อน - สิ่งที่อยากให้ปรับปรุง พัฒนากล้ามเนื้อมือมัดเล็กและการมีสมาธิในการเรียนสนใจงานที่ทำ หรือกิจกรรมอื่นๆให้ผลงานออกมาสวยสมวัย 3.5 บุคลิกภาพทั่วไปของนักเรียน - ลักษณะทางร่างกาย ( รูปร่าง หน้าตา การแต่งกาย กิริยา วาจา) รูปร่างอ้วนใหญ่ รูปลักษณภายนอกปกติ ผิวขาว ผมสีดำ แต่งกายสะอาดเรียบร้อย พูดจามีห่างเสียง ไม่พูดคำ หยาบกับ ครู แต่จะติดเรื่องการชอบโวยวาย และการพูดติดอ่าง พูดในลำ คอ - ลักษณะทางอารมณ์ (การแสดงออกทางอารมณ์ สดชื่น ร่าเริง หรือเงียบขรึม การควบคุมอารมณ์ ฯลฯ) ร่าเริงเมื่อได้เล่นกับเพื่อนๆ เข้าสังคมได้ จะไม่ตอบโต้กับเมื่อถูกแกล้ง เขาจะมองมาทางครูใช้สายตาบอกว่าเขากำ ลังถูก กระทำ และจะมาบอกว่าใครแกล้งเขา น้องอ้วนจะซึมเมื่อถูกครูทำ โทษ - ลักษณะทางสติปัญญา ( ความสามารถในการเรียน ความสามารถพิเศษ ความถนัดและความสนใจพิเศษ) ด.ช ภูวดล มั่นเกษกิจ สามารถจำ วัน ทั้ง7 สัปดาห์ได้ เพียง 2 วัน - ลักษณะทางสังคม (การปรับตัวเข้ากับเพื่อน ครู บิดา มารดาพี่น้องคนอื่นๆทักษะสังคมในห้องเรียนและโรงเรียน) ด.ช ภูวดล มั่นเกษกิจ ปรับตัวเข้ากับทุกคนได้ดี ไม่เคยร้องไห้งอแง ชอบเล่นกับเพื่อนๆ
- เพื่อน เล่นกับเพื่อนได้ปกติ ชอบเรียกชื่อเพื่อนชอบเข้าหาเพื่อน และไม่แกล้งใครก่อน ไม่ตอบโต้กับถ้าโดนกระทำ - ครู ไม่ค่อยเชื่อฟังคำ สั่งจะต้องเรียกชื่อย้ำ ๆซ้ำ ๆ ถึงจะหยุดการกระทำ เวลาสื่อสารกับครูจะคอยหลบสายตาจะรู้สึกกังวล กลัวๆ - บิดามารดาและญาติพี่น้อง เชื่อฟังคำ สั่งของ พ่อ และ ย่า เป็นเด็กร่าเริงแต่ถ้ามีปัญหาจะไม่ค่อยพูดหรือเล่าเรื่องราว 3. พฤติกรรมที่ควรปรับปรุงแก้ไข (เรียงลำ ดับจากมากไปน้อย) พฤติกรรมที่ควรแก้ไขมากที่สุดคือเรื่องการใช้กล้ามเนื้อมือมัดเล็ก การหยิบจับดินสอที่ถูกวิธี การระบายสีให้อยู่ใน กรอบในรูป การลงน้ำ หนักมือ และการมีสมาธิจดจ่อใส่ใจกับสิ่งที่กำ ลังทำ อยู่ 4. การรวบรวมข้อมูลได้รวบรวมข้อมูลจากวิธีการต่อไปนี้ 1. การสังเกต จากการสังเกต ด.ช ภูวดล มั่นเกษกิจ พบว่า ในขณะที่อยู่ในห้องเรียนน้องจะมีพฤติกรรมที่ดีต่อเพื่อน เป็นเด็กที่ ร่าเริง เข้าหาเพื่องเก่ง สามารถจำ ชื่อเพื่อนได้ จะไม่แกล้งเพื่อน แต่จะเล่นรุนแรงตามประสาเด็กผู้ชายจะชอบเล่น โวยวายเสียงดัง ถ้าเปิดการตูนสัตวให้ดู น้องจะพูดสื่อสารออกมา เป็นการคุยกันระหว่างเพื่อน จะ พูดตามการ์ตูน แต่ จะพูดในบางครั้งช่วงแรกๆ ถ้าดูนานขึ้นน้องจะเริ่ม คุยกับเพื่อนในเรื่องอื่นและจะเสียงดัง 2. การสัมภาษณ์ จากการสัมภาษณ์ พบว่า น้องเป็นเด็กที่ร่าเริง แต่ถ้าน้องทำ ผิดจะถูกตำ หนิจากพ่อและย่าทันที เวลาทำ ผิดไม่ชอบพูด หรือเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ถึงจะบังคับก็พูดได้ไม่ชัดเจน น้องจะอาศัยอยู่กับพ่อและ ย่าในส่วนใหญ่ จะไม่ได้อยู่กับแม่จะ มาหากันบ้างในบ้างครั้งแต่ก็ไม่ได้ถึงกับสนิทกัน 5. สมมุติฐานของปัญหา หลังจากได้ศึกษานักเรียนด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว ได้ข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ 1. ปัญหาด้านกล้ามเนื้อมือมัดเล็กไม่แข็งแรง คือ จะจับสีแบบผิดๆและจะขีดๆไม่อยู่ในกรอบรูป ไม่สามารถขีดเส้ย ตามรอยได้ และลงน้ำ หนักมือไม่ได้ 2. ปัญหาสมาธิในการเรียนและการจดจ่อใส่ใจ ขาดเรื่องความอดทนการใส่ใจงานที่ทำ จะติดเล่นและพูดคุยกับเพื่อน ส่วนใหญ่ จะคุยเล่นตลอดเวลาและโวยวายเสียงดัง 6. แนวทางการแก้ปัญหา จาการที่ทราบปัญหาของ ด.ช ภูวดล มั่นเกษกิจ ผู้ศึกษาได้วางแผนในการช่วยเหลือและได้ทำ การช่วยเหลือแล้วดังนี้ 1.เข้าไปปรับพูดคุยให้น้องรู้สึกอุ่นใจ สบายใจ ให้สามารถพูดคุยสื่อสารได้ทำ ให้เด็กรู้สึกเชื่อใจ มั่นใจ ไว้วางใจเพื่อ ให้การแก้ไขเป็นไปด้วยดี และรู้สึกสบายใจ ผ่อนคลายเพื่อให้ตัวเด็กไม่เครียดกดดันมากจนเกินไป 2.ด้านการเรียนดึงดูดความสนใจ พยายามเรียกชื่อให้ตอบคำ ถามหรือพูดคุยในเรื่องราวที่เขาสนใจให้กล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าทำ ลงมือทำ เน้นย้ำ ฝึกการออกเสียง ทบทวนซ้ำ ๆ ระหว่างทำ กิจกรรมพยายามหาสิ่งสนใจเพื่อเปลี่ยน บรรยายกาศการเรียนให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
7. การติดตามผล เริ่มทำ การศึกษาตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ 2565 ถึงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ 2565 และได้ทำ การติดตามผลเป็นช่วง ๆ ดังนี้ การติดตามผลในช่วงที่ 1 (สังเกตพฤติกรรมก่อนพบพฤติกรรมที่ควรแก้ไข) จำ นวนไม่ต่ำ กว่า 5 ครั้ง แบบบันทึกการสังเกต การบันทึกการสังเกตครั้งที่ 1 ชื่อนักเรียน เด็กชาย ภูวดล มั่นเกษกิจ อายุ 3 ปี 6เดือน เพศ ชาย วันที่ 4 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 10.00 10.45 นาที สถานที่ ห้องเรียนอนุบาล1/2โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส กิจกรรมที่สังเกต กิจกรรมบัวลอยแฟนซี พฤติกรรม พฤติกรรมของน้องอ้วน ขณะคุณครูให้จับกลุ่มปั้นขนมบัวบอยจากแป้งให้เด็กๆในกลุ่มฝึกปั้นขนมลูกกลมๆน้อง อ้วนไม่สามารถปั้นลูกกลมได้ ปั้นเป็นเส้นๆแล้วดึงออกมา น้องมีความพยามในการปั้นจะให้กลมแต่ไม่สามารถทำ ได ถึงจะมีการสังเกตเพื่อนว่าทำ อย่างไร แต่น้องอ้วนก็ไม่สามารถปั้นได้ ครูจึงสอนวิธีการปั้นแบบใกล้ชิดแต่น้องก็ไม่ สามารถทำ ออกมาได้ ความคิดเห็นของผู้สังเกต จากการที่สังเกตพฤติกรรมน้องอ้วนทำ ให้เห็นว่า กล้ามเนื้อมือของน้องไม่แข็งแรง ไม่สามารถคิดและทำ ได้ว่าจะ เป็นลูกกลมๆจะทำ อย่างไรให้กลม แก้ปัญหาด้วยตนเองไม่ได้ควบคุมกล้ามเนื้อมือของตนเองไม่ได้เมื่อครูมองเห็น ปัญหาแล้วจึงนำ มาปรับปรุงแก้ไขต่อไปในครั้งหน้า ลงชื่อ นางสาวสุธิดา วุฒิ ผู้สังเกต ตำ แหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
แบบบันทึกการสังเกต การบันทึกการสังเกตครั้งที่ 2 ชื่อนักเรียน เด็กชาย ภูวดล มั่นเกษกิจ อายุ 3 ปี 6เดือน เพศ ชาย วันที่ 5 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 10.00 10.45 นาที สถานที่ ห้องเรียนอนุบาล1/2โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส กิจกรรมที่สังเกต กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ปั้นดินน้ำ มันตามจินตนาการ พฤติกรรม พฤติกรรมของน้องอ้วน ขณะคุณครูให้น้องอ้วนปั้นดินน้ำ มันน้องอ้วนยังปั้นดินน้ำ มันเป็นเส้นๆครูจึงในดึง ดินน้ำ มันออกเป็น2ส่วน แล้วใช้มือขยำ เพื่อฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแต่น้องออกแรงไม่มากพอยังกล้าๆ กลัวๆที่จะทำ ตามคำ สั่งของครูแล้วสั่งให้น้องอ้วนดึงออกมาทีละน้อยๆและใช้นิ้วบีบดินน้ำ มันให้แบนๆ ฝึกให้ใช้ ฝามือ ลองให้ได้รูปร่างที่แบนๆไปก่อน ความคิดเห็นของผู้สังเกต จากการที่สังเกตพฤติกรรมน้องอ้วนทำ ให้เห็นว่า กล้ามเนื้อมือของน้องไม่แข็งแรง ไม่สามารถคิดและ ทำ ได้ว่าจะเป็นลูกกลมๆจะทำ อย่างไรให้กลม แก้ปัญหาด้วยตนเองไม่ได้ควบคุมกล้ามเนื้อมือของตนเองไม่ได้ เมื่อครูมองเห็นปัญหาแล้วจึงนำ มาปรับปรุงแก้ไขต่อไปในครั้งหน้า ลงชื่อ นางสาวสุธิดา วุฒิ ผู้สังเกต ตำ แหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
แบบบันทึกการสังเกต การบันทึกการสังเกตครั้งที่ 3 ชื่อนักเรียน เด็กชาย ภูวดล มั่นเกษกิจ อายุ 3 ปี 6เดือน เพศ ชาย วันที่ 6 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 10.00 10.45 นาที สถานที่ ห้องเรียนอนุบาล1/2โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส กิจกรรมที่สังเกต กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ลากเส้นตามรอยปะ พฤติกรรม พฤติกรรมของน้องอ้วน ขณะคุณครูให้เริ่มทำ งานน้องอ้วนมีความกังวลยังไม่สามารถจับดินสอได้ถูกวิธีเมื่อ รู้สึกว่าตนเองทำ ไม่ได้ ก็จะไม่ทำ และจะเริ่มชวนเพื่อนคุย เพราะน้องอ้วนไม่รู้ว่าจะเริ่มทำ ตรงไหน ไม่สามารถ บังคับข้อมือตัวเองได้ ครูจึงเข้าไปสอนวิธีการจับที่ถูกต้อง และจับมือลากเส้นตามรอย ความคิดเห็นของผู้สังเกต จากการที่สังเกตพฤติกรรมน้องอ้วนทำ ให้เห็นว่า น้องอ้วนยังไม่สามารถบังคับข้อมือตัวเองได้ จะหลีกเลี่ยง การทำ งานด้วยการคุย และ เล่นกับเพื่อนเนื่องด้วยข้อมือนิ้วของเด็กมีขนาดที่ใหญ่อาจจะเป็นอุปสรรคในการ จับดินสอที่ไม่ถนัดและร่วมไปถึงการนั่งเขียนที่ไม่ถนัดเพราะ ที่ห้องเรียนไม่มีโต๊ะสำ หรับการเขียนหนังสือ ลงชื่อ นางสาวสุธิดา วุฒิ ผู้สังเกต ตำ แหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
แบบบันทึกการสังเกต การบันทึกการสังเกตครั้งที่ 4 ชื่อนักเรียน เด็กชาย ภูวดล มั่นเกษกิจ อายุ3 ปี 6เดือน เพศ ชาย วันที่ 6 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 10.00 10.45 นาที สถานที่ ห้องเรียนอนุบาล1/2โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส กิจกรรมที่สังเกต กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โรยกาวเกลือ พฤติกรรม พฤติกรรมของน้องอ้วน ขณะคุณครูให้เริ่มทำ งานน้องอ้วนมีความกังวลยังไม่สามารถจับดินสอได้ถูกวิธีเมื่อรู้สึกว่า ตนเองทำ ไม่ได้ ก็จะไม่ทำ และจะเริ่มชวนเพื่อนคุย เพราะน้องอ้วนไม่รู้ว่าจะเริ่มทำ ตรงไหน ไม่สามารถบังคับข้อมือตัว เองได้ ครูจึงเข้าไปสอนวิธีการจับที่ถูกต้อง และจับมือลากเส้นตามรอย ความคิดเห็นของผู้สังเกต จากการที่สังเกตพฤติกรรมน้องอ้วนทำ ให้เห็นว่า น้องอ้วนยังไม่สามารถบังคับข้อมือตัวเองได้ จะหลีกเลี่ยงการ ทำ งานด้วยการคุย และ เล่นกับเพื่อนเนื่องด้วยข้อมือนิ้วของเด็กมีขนาดที่ใหญ่อาจจะเป็นอุปสรรคในการจับดินสอที่ไม่ ถนัดและร่วมไปถึงการนั่งเขียนที่ไม่ถนัดเพราะ ที่ห้องเรียนไม่มีโต๊ะสำ หรับการเขียนหนังสือ ลงชื่อ นางสาวสุธิดา วุฒิ ผู้สังเกต ตำ แหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
แบบบันทึกการสังเกต การบันทึกการสังเกตครั้งที่ 5 ชื่อนักเรียน เด็กชาย ภูวดล มั่นเกษกิจ อายุ3 ปี 6เดือน เพศ ชาย วันที่ 8 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 10.00 10.45 นาที สถานที่ ห้องเรียนอนุบาล1/2โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส กิจกรรมที่สังเกต กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โรยกาวเกลือ พฤติกรรม พฤติกรรมของน้องอ้วน ขณะคุณครูให้น้องอ้วนจุ่มสี ตามเส้นของกิ่งไม้แต่น้องอ้วนจุ่มสี นอกรูปภาพ ไม่ได้ทำ ตามที่ครูสั่ง ยังทำ ออกนอกรูปภาพที่กำ หนดและ ไม่ใช้การจิ้ม แต่ใช้การลากระบายๆไม่เป็นจุดๆ ตามที่ต้องการ เมื่อครูสอนวิธีการทำ น้องอ้วนก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ครูบอกก็ยังลากเส้นเลอะเทอะและหยุดทำ เมื่อตนเองทำ ไม่ได้ ค ความคิดเห็นของผู้สังเกต จากการที่สังเกตพฤติกรรมน้องอ้วนทำ ให้เห็นว่า น้องอ้วนยังไม่สามารถบังคับข้อมือตัวเองได้ จะหลีกเลี่ยงการทำ งานด้วย การคุย และ เล่นกับเพื่อนเนื่องด้วยข้อมือนิ้วของเด็กมีขนาดที่ใหญ่อาจจะเป็นอุปสรรคในการจับดินสอที่ไม่ถนัดและร่วมไปถึง การนั่งเขียนที่ไม่ถนัดเพราะ ที่ห้องเรียนไม่มีโต๊ะสำ หรับการเขียนหนังสือ ลงชื่อ นางสาวสุธิดา วุฒิ ผู้สังเกต ตำ แหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
การติดตามผลในช่วงที่ 2 (ช่วงปรับแก้ไขพฤติกรรม)จำ นวนขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่นักศึกษา ออกแบบว่าจะดำ เนินการปรับแก้ไขพฤติกรรมกี่ครั้ง การบันทึกการสังเกตครั้งที่ 1 ชื่อนักเรียน เด็กชาย ภูวดล มั่นเกษกิจ อายุ3 ปี 6เดือน เพศ ชาย วันที่ 8 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2565เวลา 10.00 - 10.45 นาที สถานที่ ห้องเรียนอนุบาล1/2โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส กิจกรรมที่สังเกต กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ระบายสีรูปเทียน พฤติกรรม พฤติกรรมของน้องอ้วนขณะทำ กิจกรรม สังเกตการระบายสีย้ำๆซ้ำ อยู่กับที่ มือไม่ขยับไปที่อื่นความสนใจใน การทำ งานยังน้อย สายตาจะวอกแวก ไปมองงานของเพื่อน เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนคุยก็จะหันไปมองเมื่อครูพูดว่าให้เปลี่ยนที่ ระบายสีไปจุดอื่น น้องอ้วนก็ยังระบายสีซ้ำ ๆ สายตาก็มองไปทางอื่น ความคิดเห็นของผู้สังเกต จากการสังเกตพบว่า น้องอ้วนยังขาดสมาธิในการทำ งาน ขาดการจดจ่อใส่ใน และอาจจะมีความกังกลในตัว เองเมื่อถูกกดดันจากเพื่อนๆที่เริ่มทำ งานเสร็จแล้ว ลงชื่อ นางสาวสุธิดา วุฒิ ผู้สังเกต ตำ แหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
แบบบันทึกการสังเกต การบันทึกการสังเกตครั้งที่ 2 ชื่อนักเรียน เด็กชาย ภูวดล มั่นเกษกิจ อายุ3 ปี 6 เดือน เพศ ชาย วันที่ 11 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2565เวลา 10.00 - 10.30 นาที สถานที่ ห้องเรียนอนุบาล1/2โรงเรียนเทศบาลวัดพรหมจริยาวาส กิจกรรมที่สังเกต กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ปั้นดินน้ำ มันตัวอักษร H พฤติกรรม พฤติกรรมของน้องอ้วนขณะทำ กิจกรรม ปั้นดินน้ำ มันไม่ได้ ครูให้ฝึกขยำก็ทำ ไม่ได้ และไม่ยอมทำ ตามคำ สั่งน้องอ้วนไม่รู้ว่าจะต้องวางจุดไหน ต้องทำ อย่างไร ไม่ลงมือทำ เอง ไม่ยอมออกแรงบิดดินน้ำ มัน ไม่บี้ ไม่ขยำ พอตนเอง ทำ ไม่ได้ก็ไม่พยายามทำ ต่อ เมื่อครูทำ ให้ดูอ้วนก็มาทำ ซ้ำ กับที่ครูทำ ไว้ให้ ต้องคอยจี้ใกล้ๆต้องคอยบอกตลอด ความคิดเห็นของผู้สังเกต จากการสังเกตพบว่า น้องอ้วนยังขาดสมาธิในการทำ งาน ขาดการจดจ่อใส่ใน และยังทำ งานที่เดิมซ้ำ ๆไม่ เปลี่ยนที่ ไม่อออกแรงบี้ ขยำ ท้อเมื่อตนเองทำ ไม่ได้ ลงชื่อ นางสาวสุธิดา วุฒิ ผู้สังเกต ตำ แหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู