การวัดประเมินผล HCEC

http://online.anyflip.com/rysaf/pnim

O-L-E

http://online.anyflip.com/rysaf/pnim

O จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมหรอื จุดประสงคเ์ ชงิ สมรรถนะ
L
E Active Learning ,Learning by doing
,PBL,PjBL,STEM,STEAM, Personalized learning

การวดั และประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ เน้นการสะทอ้ นตนเอง

http://online.anyflip.com/rysaf/pnim

เทคนิ คการสรา้ งความคิดสร้างสรรค์ SCAMPER

SCAMPER มพี น้ื ฐานของความคดิ ทว่ี า่ สงิ่ ใหมๆ่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ มาจากการเปลย่ี นแปลงสง่ิ ทม่ี อี ยเู่ ดมิ ซง่ึ
ตวั อกั ษรยอ่ ของ SCAMPER แต่ละตวั ดงั ต่อไปน้ี แสดงใหเ้ หน็ ถงึ วธิ กี ารทแ่ี ตกต่างกนั ทจ่ี ะทาใหค้ ุณ
เกดิ ความคดิ ใหมๆ่

• S = Substitute สิ่งทดแทน
• C = Combine นามารวมกนั

• A = Adapt ปรบั ให้เหมาะสม
• M = Magnify ทาให้เพ่ิมมากขึน้

• P = Put to Other Uses ประยกุ ตใ์ ช้, นาไปใช้งานอ่ืน ๆ

• E = Eliminate (or Minify) ทาให้น้อยลง
• R = Rearrange (or Reverse) จดั เรียงใหม่ หรือ ทาส่ิงท่ีตรงกนั ข้าม

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

https://youtu.be/zBe7B2JvodM?t=261

SCAMPER มพี น้ื ฐานของความคดิ ทว่ี า่ สง่ิ ใหมๆ่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ มาจากการเปลย่ี นแปลงสงิ่ ทม่ี อี ยเู่ ดมิ ซง่ึ ตวั อกั ษรยอ่ ของ
SCAMPER แต่ละตวั ดงั ต่อไปน้ี แสดงใหเ้ หน็ ถงึ วธิ กี ารทแ่ี ตกต่างกนั ทจ่ี ะทาใหค้ ุณเกดิ ความคดิ ใหมๆ่

• S = Substitute สงิ่ ทดแทน
• C = Combine นามารวมกนั
• A = Adapt ปรบั ใหเ้ หมาะสม
• M = Magnify ทาใหเ้ พม่ิ มากขน้ึ
• P = Put to Other Uses ประยุกตใ์ ช,้ นาไปใชง้ านอน่ื ๆ
• E = Eliminate (or Minify) ทาใหน้ ้อยลง
• R = Rearrange (or Reverse) จดั เรยี งใหม่ หรอื ทาสงิ่ ทต่ี รงกนั ขา้ ม

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

SCAMPER ?????

https://www.trendhunter.com/slideshow/umbrellas

ลกั ษณะของนวตั กรรม ????

กิจกรรมการเรยี นร้แู บบเดิม การจัดการเรียนรู้ ในช่วง
ทเ่ี คยทา กอ่ นชว่ งโควิ Covid19
On Hand
input Online

Ondemand
On Air

output

process

นายวรี ชาติ มาตรหลบุ เลา
ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นนางเตย้ี ไศลทอง
สพป.รอ้ ยเอด็ เขต 2

การเปล่ยี นรูปหอ้ งเรยี นแบบผสมผสาน

covid 19 ทาใหเ้ กดิ ปัญหาในการจดั การเรยี นการสอน เกดิ ความไม่
ปกตขิ องหอ้ งเรยี น เราจงึ ตอ้ งออกแบบการจดั การเรยี นรใู้ หม่ ใหเ้ กดิ
ความเป็นปกตริ ปู แบบใหม่ ทส่ี ารมารจดั การเรยี นการสอนได้ แตไ่ มไ่ ช่
การนาเอาความไมป่ กตขิ องหอ้ งเรยี นทเ่ี กดิ ผลกระทบจาก covid19
ทงั้ หมด มายดั เยยี ดใหเ้ กดิ ความเป็นปกตใิ นหอ้ งเรยี นออนไลน์หรอื
หอ้ งเรยี นทน่ี กั เรยี นไมไ่ ดอ้ ยโู่ รงเรยี น

29

Design Thinking ใชใ้ นการออกแบบแผนการจัดการเรยี นการสอน

30

Design Thinking ใชใ้ นการออกแบบแผนการจัดการเรยี นการสอน

31

Design Thinking การเขา้ ใจ สาระสาคัญ (concept)

Concept ของ เกา้ อ้ี

32

Design Thinking การเขา้ ใจ สาระสาคัญ (concept)

33

Design Thinking การเขาใจ สาระสาคัญ (concept)

34

Driving Question

35

36

เพอ่ื การเดนิ ทางทเ่ี รว็ ขน้ึ ตอบสนองความตอ้ งการทแ่ี ทจ้ รงิ

37

การคน้ หา Need of End User

ความตอ้ งการเชงิ ลกึ ความ มผี ลกระทบกบั วงกวา้ ง แตอ่ ยลู่ กึ ๆ
ตอ้ งการทแ่ี ทจ้ รงิ ของผใู้ ช้

38 38

ความตอ้ งการทแ่ี ทจ้ รงิ ???

39

ขายอะไร????

40

Design Thinking การเขาใจ สาระสาคัญ (concept)

ตวั แปร เหต-ุ ผล มิติเวลา

ตวั แปรต้น เหตุ เกิดก่อน
ตวั แปรตาม ผล เกดิ ทหี ลงั

41

Design Thinking : การวัด

การวดั ผลการเรียนรู้ คืออะไร เครื่องมือ

เมือวดั ผลกาเรียนรแู้ ล้วได้อะไร แบบทดสอบ

วิธีการวดั ผล ส่ิงท่ีต้องการวดั แบบวดั

การทดสอบ ด้านความรู้ 42

การวดั ดา้ นพฤตกิ รรม

การระดมสมอง ความคิดดๆี

กจิ กรรม Ideate ..........YES + AND

43

Design Thinking การเขา้ ใจ สาระสาคัญ (concept)

เทคนิคการตงั้ คาถาม เพื่อนาไปส่กู ารประเมิน

What Why Who When How

สง่ิ ทต่ี อ้ งการประเมนิ ทาไมถงึ ประเมนิ ใครเป็นคนประเมนิ ประเมนิ เมอ่ื ไหร่ ใชว้ ธิ กี าร
คอื อะไร (วตั ถุประสงค)์ เชน่ ผปู้ กครอง ครู เป็นการประเมนิ ประเมนิ อยา่ งไร
หรอื นกั เรยี นเป็นคน ระหวา่ งเรยี นหรอื
ประเมนิ ตนเอง เมอ่ื สน้ิ สดุ การเรยี น 44

การวัดและการประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ

การประเมนิ ตามสภาพจรงิ เป็นการประเมนิ การปฏบิ ตั งิ านหรอื กจิ กรรมอยา่ งใดอยา่ ง
หน่ึง ซง่ึ จะเน้นประเมนิ ทกั ษะการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา และการ
แสดงออกทเ่ี กดิ จากการลงมอื ปฏบิ ตั ใิ นการเรยี นรู้

*** เน้นใหน้ กั เรยี นพฒั นาตนเอง***

45

competency iceberg model &การวัดและการ
ประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ

46

เกณฑส์ าหรบั การสะทอ้ นการพฒั นาการเรยี นรขู้ องตนเอง

การเรียนแบบ New Normal เพอื่
ตอบสนองความสนใจของผเู้ รียน
ถา้ นักเรียน ต้องการเรียนเกีย่ วกบั
การเทรดห้นุ การเขียนค้ิว ร้องเพลง

เตน้ tiktok

Youruber เราจะมีวิธีการสร้างเกณฑ์
เพอื่ ให้ผเู้ รียนพฒั นาตนเองได้อย่างไร
เราจะมองเหน็ ความต้องการทีซ่ ่อนอยู่
หรอื สิง่ ทีน่ ักเรยี นต้องการเรียนรไู้ ด้
อย่างไร

47

เกณฑส์ าหรบั การสะทอ้ นการพฒั นาการเรยี นรขู้ องตนเอง

เกณฑต์ ดั สินทางสนุ ทรียศาสตร์ คืออะไร ?

การตดั สนิ ทางสนุ ทรยี ศาสตร์ คอื การทเี่ ราใชจ้ ติ แสดงปฏกิ ริ ยิ าตอ่ สภาพการณ์ในสงิ่ แวดลอ้ ม หรอื การ
ทจี่ ติ ประเมนิ คา่ วตั ถุทมี่ คี ุณคา่ ทเี่ รา้ ใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ ภายในจติ ใจ แมว้ า่ ความงามจะข้นึ อยกู่ บั จติ แต่กไ็ มไ่ ด้
ข้นึ อยกู่ บั การเลอื กตามใจชอบ หากแตต่ อ้ งข้นึ อยกู่ บั คุณค่าทมี่ อี ยใู่ นวตั ถุนนั้ ๆ ดว้ ย

https://sites.google.com/site/hymusicm4/bth-reiyn-thi-1-dntri-thiy/sunthriysastr 48

เกณฑส์ าหรบั การสะทอ้ นการพฒั นาการเรยี นรขู้ องตนเอง

1. กลมุ่ ทใี่ ชต้ นเองเป็นตวั ตดั สนิ
เรยี กเกณฑต์ ดั สนิ น้ีวา่ “ อตั นยั นิยม ” ( Subjectivism ) เป็นกลุ่มทเี่ ชอื่ ว่า ความรู้ ความจรงิ และความดงี าม

ทงั้ หลายลว้ นเป็นสงิ่ ทไี่ มม่ คี วามจรงิ ในตวั เอง หากแต่เป็นเพยี งสงิ่ ทมี่ นุษยส์ รา้ งข้นึ มาเทา่ นนั้ ดงั นนั้ กฎเกณฑ์
ในทางความรู้ ความจรงิ และความดงี ามน้ีจงึ ไมม่ อี ยจู่ รงิ มนุษยเ์ ทา่ นนั้ ทมี่ อี ยจู่ รงิ และจะเป็นตวั ตดั สนิ พรอ้ มทงั้ เป็น
ผกู้ าหนดกฎเกณฑต์ า่ ง ๆ ขน้ึ มา มนุษยแ์ ต่ละคนต่างมมี าตรวดั ความจรงิ ต่างกนั ออกไปโดยไมข่ ้นึ อยกู่ บั ใครหรอื
สงิ่ ใด เกณฑก์ ารตดั สนิ แบบน้ีสามารถทาใหเ้ ราเกดิ ความเชอื่ มนั่ ในตวั เองได้ แต่หากความรสู้ กึ เชอื่ มนั่ น้ีมมี าก
จนเกนิ ไปอาจจะสง่ ผลทาใหเ้ ราเป็นผทู้ เี่ หน็ แก่ตวั เอาแต่ใจตวั เอง ไมย่ อมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ นื่ ซงึ่ จะสง่ ผล
ต่อไปคอื ทาใหเ้ รามโี ลกทศั น์ทแี่ คบ และเดยี วดายในโลกกวา้ งน้ี

https://sites.google.com/site/hymusicm4/bth-reiyn-thi-1-dntri-thiy/sunthriysastr 49

เกณฑส์ าหรบั การสะทอ้ นการพฒั นาการเรยี นรขู้ องตนเอง

2. กลุ่มทเี่ ชอื่ วา่ มหี ลกั เกณฑท์ ตี่ ายตวั ทจี่ ะใชต้ ดั สนิ ได้
เรยี กเกณฑต์ ดั สนิ น้ีวา่ “ ปรนยั นิยม ” ( Objectivism ) เป็นกลุม่ ทเี่ ชอื่ วา่ มเี กณฑ์

มาตรฐานตายตวั แน่นอนในทางศลิ ปะ ซงึ่ สามารถนาไปตดั สนิ ผลงานไดใ้ นทกุ สมยั เกณฑ์
มาตรฐานน้ีไมม่ กี ารเปลยี่ นแปลงและไมข่ น้ึ อยกู่ บั ความรสู้ กึ ใครหรอื ศลิ ปินคนไหน กลุ่มน้ีมี
ความเชอื่ อกี วา่ สนุ ทรยี ธาตุมอี ยจู่ รงิ แมว้ ่าเราจะเขา้ ถงึ มนั ไมไ่ ดก้ ต็ าม แต่มนั กม็ อี ยจู่ รงิ
และดว้ ยเหตุผลน้ี การทเี่ ราตดั สนิ ศลิ ปะออกมาไมเ่ หมอื นกนั กเ็ พราะเราแต่ละคนไม่
สามารถเขา้ ถงึ สนุ ทรยี ธาตทิ แี่ ทจ้ รงิ ไดห้ รอื ตวั จรงิ มาตรฐานนนั่ เอง การทเี่ ราจะเขา้ ถงึ
เกณฑม์ าตรฐานน้ีไดน้ นั้ เราจาเป็นตอ้ งฝึกพฒั นาจติ ใหส้ มบรู ณ์จนสามารถเหน็ ความงาม
มาตรฐานได้ บางคนอาจทาสมาธิ บางคนอาจฝึกฝนทางศลิ ปะจนชานาญ เป็นตน้

https://sites.google.com/site/hymusicm4/bth-reiyn-thi-1-dntri-thiy/sunthriysastr 50