แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ
ชอ่ื วิชา การซ่อมบำรงุ ระบบไฟฟ้า รหสั วชิ า 30104-2206 ทฤษฎี 2 ปฏบิ ัติ 3 หน่วยกิต 3
หลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี หลกั สตู รประกาศนยี บัตรวิชาชีพชั้นสูง
ประเภทวชิ าช่างอุตสาหกรรม
สาขาวิชา ช่างไฟฟา้ กำลงั
สาขางาน ไฟฟา้ กำลงั
จัดทําโดย
ว่าที่ ร.ต.ประจวบ แสงวงค์
แผนกวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง
วทิ ยาลยั เทคนคิ สว่างแดนดนิ
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ
แผนการจัดการเรียนรู้ มุ่งเน้นฐานสมรรถนะ และบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
วิชาการซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้า รหัสวชิ า 30104-2206 เล่มนี้ได้จดั ทำนเพ่ือใชเ้ ป็นค่มู ือประกอบการสอน
หรือเป็นแนวทางการสอนในรายวิชาเพอ่ื พฒั นาผเู้ รียนเป็นสำคญั ตามหลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้ันสงู
พุทธศักราช 2563 สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
การจัดทำได้มีการพัฒนาเพ่ือให้เหมาะสมกับผ้เู รยี น โดยแบง่ เนือ้ หาออกเปน็ 6 หน่วย การจดั
กจิ กรรมการเรียนการสอนยดึ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั มีการบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และคุณธรรม
จริยธรรม ไว้ในหนว่ ยการเรียนร้ตู ามความเหมาะสม สอดคล้องกบั เน้ือหา มีแบบฝกึ หัด แบบทดสอบหลงั เรียน
พร้อมเฉลย มีใบงาน และส่ือการเรียนการสอนตา่ ง ๆ เพ่ือให้เกดิ ประสิทธิผลแกผ่ ้เู รียนมากยง่ิ ข้ึน
ผูจ้ ดั ทำหวงั วา่ แผนการจัดการเรยี นรู้เลม่ นี้คงจะเป็นแนวทางและเปน็ ประโยชน์ต่อครู-อาจารยแ์ ละ
นกั ศึกษา หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จดั ทำยินดีนอ้ มรบั ไว้เพอื่ ปรับปรุงแก้ไขในครงั้ ตอ่ ไป
ว่าท่ี ร.ต.ประจวบ แสงวงค์
ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564
คำชี้แจงกำรใช้แผนกำรจัดกำรเรียนรู้
วิชำ 30104-2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ หน่วยกติ 5ชั่วโมง / สัปดำห์
หลกั สูตรประกำศนยี บัตรวชิ ำชีพช้ันสูง (ปวส.) พุทธศักรำช 2563
วิชา 30104-2206 การซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีท้ังทฤษฎีและ
ปฏิบตั ิ ซ่ึงไดจ้ ดั เน้ือหาในแผนการเรียนใหส้ อดคลอ้ งกนั และสามารถจดั กิจกรรมให้จบกระบวนการ
ไดใ้ นแต่ละคร้ังของการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ผูส้ อนจึงจาเป็นตอ้ งศึกษา ทาความเขา้ ใจ กระบวนการ
จัดการเรี ยนรู้ตามแผนการเรี ยนในแต่ละคร้ังก่อน ในการจัดกิจกรรมการเรี ยนการสอนจะ
ประกอบดว้ ย 4 ส่วน คือ ขอ้ ตกลงการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หนงั สือวิชาการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
กระบวนการจดั การเรียนรู้ และการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ดงั น้ี
ข้อตกลงกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
เพื่อใหก้ ารจดั กิจกรรมการเรียนการสอนเป็นประโยชน์สูงสุดกบั นกั ศึกษา จึงไดต้ กลงร่วมกนั
ระหวา่ งครู และนกั ศึกษา ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. กำรเรียน นกั ศึกษาตอ้ งต้งั ใจเรียนมีความขยนั ซ่ือสัตย์ อดทน มีระเบียบวนิ ยั เชื่อฟังคาสั่ง
สอนของครู
2. กริยำ มำรยำท ในขณะท่ีกาลงั เรียนหรือมีกิจกรรมการเรียนการสอน ใหป้ ิ ดเสียงเครื่องมือ
ส่ือสาร ทกุ ชนิด
3. กำรแต่งกำย ตอ้ งแต่งกายให้เป็ นไปตามระเบียบการแต่งกายของวิทยาลยั เน่ืองจากเป็ น
วชิ าท่ีนกั ศึกษาตอ้ งปฏิบตั ิงานในหอ้ งปฏิบตั ิการ จึงใหแ้ ต่งกายในชุดฝึกงานเท่าน้นั โดยใหแ้ ต่งมาจาก
บา้ นได้
4. เครื่ องมือประจำตัว นักศึกษาต้องนาเคร่ื องมือประจาตัวมาใช้ในระหว่างเรี ยน
ประกอบดว้ ย มลั ติมิเตอร์ ไขควงปากแบน ไขควงปากแฉก ไขควงตรวจไฟ คีมท่ีดา้ มมีฉนวนไฟฟ้า
พร้อมกระเป๋ าใส่เคร่ืองมือ
5. หนังสือกำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ นกั ศึกษาตอ้ งมีสมุดสาหรับจดงาน ปากกา ดินสอ และ
ยางลบ
เอกสำรประกอบกำรจัดกำรเรียนรู้
1. หนงั สือวิชำกำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ สำหรับนักศึกษำ
2. เอกสำรประกอบกำรจัดกำรเรียนรู้ของครูผู้สอน
2.1 แผนการจดั การเรียนรู้
2.2 หนงั สือการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
2.3 สื่อนาเสนอ
2.4 ส่ือวดี ีทศั น์
2.5 แบบบนั ทึกผลการประเมินผลการเรียนรู้ประจาหน่วย
2.6 แบบบนั ทึกการประเมินผลการเรียนรู้สาหรับครูผสู้ อน
กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้
1. กำรเตรียมกำรจัดกำรเรียนรู้ มีกิจกรรมที่ตอ้ งดาเนินการดงั น้ี
1.1 ศึกษาเน้ือหาวิชาและแผนการจดั การเรียนรู้ ครูผูส้ อนศึกษาเน้ือหาวิชาและแผนการ
จดั การเรียนรู้ให้เขา้ ใจก่อนทาการสอน และตอ้ งเตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการเรียนการ
สอนตามระบไุ วใ้ นแผนการจดั การเรียนรู้แต่ละหน่วยการเรียน
1.2 ปฐมนิเทศ การปฐมนิเทศเป็ นกิจกรรมที่ ครูผูส้ อนและผูเ้ รียนทาความรู้จกั กนั ครู
ช้ีแจงคาอธิบายรายวิชา จุดประสงคร์ ายวิชาตลอดจนเน้ือหาวชิ าท้งั ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิ ระเบียบ
กฎ กติกาในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนหลกั เกณฑ์และวิธีการวดั และประเมินผล หนงั สือวิชา
การซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
1.3 ทดสอบก่อนเรียน ทดสอบความรู้พ้ืนฐานที่จาเป็ นสาหรับการเรียนวิชาการซ่อม
บารุงระบบไฟฟ้านาคะแนนทดสอบก่อนเรียนเป็นขอ้ มลู ประกอบการจดั การเรียนรู้
1.4 แนะนาชุดฝึ กปฏิบัติ ระบบความปลอดภยั ของชุดฝึ ก โต๊ะปฏิบัติงาน และระบบ
ไฟฟ้ากาลงั ในหอ้ งปฏิบตั ิการการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
2. กำรดำเนินกำรจดั กำรเรียนรู้ การจดั การเรียนรู้ แบง่ ออกเป็นข้นั ตอนดงั น้ี
2.1 การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ จดั การเรียนรู้โดยจดั กิจกรรมท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั
2.2 การสรุปบทเรียน เป็ นกิจกรรมร่วมระหว่างผูส้ อนกับผูเ้ รียนหรือจะเป็ นกิจกรรม
ผเู้ รียนท้งั หมดกไ็ ด้
2.3 การทดสอบ หลงั จากเรียนครบหัวขอ้ เร่ืองในแต่ละหน่วยการเรียนแลว้ ให้ผเู้ รียนทา
แบบทดสอบหลงั เรียน
2.4 การเก็บข้อมูลผลการเรียน หลังจากผูเ้ รียน เรียนจบครบทุกหน่วยการเรียนแล้ว
ผูส้ อนจะต้องเก็บข้อมูลผลการเรียน จัดทาประวตั ิการเรียนรู้ของผูเ้ รียน เพื่อดูการเปล่ียนแปลง
พฤติกรรมและความกา้ วหนา้ ของผเู้ รียน
กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้
วดั และประเมินผลการเรียนตามสภาพจริง ในระหวา่ งเรียนเม่ือจบหน่วยการเรียน โดยสงั เกต
การปฏิบัติงาน ความร่วมมือกันภายในกลุ่ม สัมภาษณ์ ทาแบบทดสอบ สอบปฏิบัติ ตามแบบ
ประเมินผลการเรียนรู้ประจาหน่วย แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม และสอบปลายภาคเรียน
1. ด้ำนควำมรู้ (Solid knowledge) 30 % ประกอบดว้ ย
1.1 ประเมินตามสภาพจริงจากแบบประเมิน
1.2 ทดสอบปลายภาคเรียน
2. ทกั ษะ/ปฏบิ ัติ (Solid practical) 50 % ประกอบดว้ ย
2.1 ประเมินตามสภาพจริงจากแบบประเมิน
2.2 สรุปผลการปฏิบตั ิงาน
3. ด้ำนคุณธรรม จริยธรรม (Moral and Ethics) 20 % ประกอบดว้ ย
3.1 ประเมินตามสภาพจริงจากแบบประเมิน
รวม 100 %
กำรตัดสินผลกำรเรียน
ตารางท่ี 1 แสดงคะแนนและระดบั ผลการเรียน
คะแนน 0-49 50-54 55-59 60-64 65-69 70-74 75-79 80-100
ระดบั ผลการเรียน 0 1.0 1.5 2.0 2.5 3.0 3.5 4
แหล่งกำรศึกษำค้นคว้ำ
1. หนงั สือ วิชา 30104-2206 การซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
2. เอกสารตามรายการบรรณานุกรม
3. หอ้ งสมุดของวทิ ยาลยั ฯ และหอ้ งสมุดประชาชน
4. การสืบคน้ ขอ้ มูลจาก Internet เวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง
กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ด้ำน ด้ำนคณุ ธรรมจริยธรรม
พฒั นาเจตคติ และค่านิยมเกี่ยวกบั ประชาธิปไตยและความเป็นมนุษย์ รู้จกั ตนเอง พ่ึงตนเอง
ซื่อสัตยส์ ุจริต มีวินัย มีความกตญั ญู รักเกียรติภูมิแห่งตน มีนิสัยในการเป็ นผผู้ ลิตที่ดี มีความพอดีใน
การบริโภค เห็นคุณค่าของการทางาน รู้จักคิดวิเคราะห์ การทางานเป็ นกลุ่ม รักท้องถิ่น รัก
ประเทศชาติ เห็นคุณค่าอนุรักษแ์ ละพฒั นาศิลปวฒั นธรรมและส่ิงแวดลอ้ ม ศรัทธาในหลกั ธรรมของ
ศาสนา และการปกครองของศาสนา และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์
เป็นประมุข เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลิต และการบริโภค การใชท้ รัพยากร
ที่มีอยจู่ ากดั ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ
หลกั สูตร
วิชำ 30104 - 2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ 2-3-3
จดุ ประสงค์รำยวิชำ
1. เขา้ ใจหลกั การตรวจสอบการซ่อมบารุงไฟฟ้า การจดั ระบบข้นั ตอนการซ่อม
บารุงรักษาและรายงานผล
2. สามารถซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า บริภณั ฑไ์ ฟฟ้าและรายงานผล
3. มีกิจนิสัยในการทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนดว้ ยความประณีต รอบคอบ และปลอดภยั
สมรรถนะรำยวิชำ
1. แสดงความรู้เก่ียวกบั การซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
2. วางแผนการซ่อมตามคมู่ ือการใชง้ าน
3. รายงานผลการดาเนินการ
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
ศึกษาและปฏิบตั ิเกี่ยวกบั การซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า บริภณั ฑไ์ ฟฟ้า วิเคราะห์ปัญหา
ตามตารางเวลาท่ีกาหนดจากคู่มืออุปกรณ์หรือระยะเวลาการใช้งาน กาหนดแผนงาน งบประมาณ
ดาเนินการ สรุปรายงานผลบนั ทึกขอ้ มลู จดั เก็บอยา่ งเป็นระบบ
หน่วยกำรเรียนรู้ วิชำ 30104-2206 กำรซ่อมบำรุงระบไฟฟ้ำ
หน่วย สัปดำห์ ช่ือหน่วยกำรเรียนรู้ จำนวน หมำยเหตุ
ที่ ที่ คำบ
- 1 ปฐมนิเทศ 5
1 2-3 งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้ากาลงั 10
2 4-5 งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง 10
3 6-9 งานบริการและซ่อมเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าท่ีใหพ้ ลงั งานความ 20
ร้อน
4 10-12 งานบริการและซ่อมเครื่องกลไฟฟ้า 15
5 13-15 งานบริการและซ่อมเคร่ืองใช้ไฟฟ้าท่ีใชม้ อเตอร์ 15
6 16-17 งานบริการและซ่อมเครื่องใชส้ านกั งาน 10
1-6 18 ทดสอบปลายภาคเรียน 2
- 18 ปัจฉิมนิเทศ 3
รวม 90
ช่ือเร่ือง แผนปฐมนิเทศ หน่วยที่ -
วิชำ 3104-2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ สอนคร้ังที่ 1
ชื่อหน่วย ปฐมนิเทศ คำบรวม 5
กำรปฐมนิเทศ จำนวนคำบ 5
หวั ข้อเรื่อง
1. หลกั สูตรวชิ า 30104-2206 การซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
2. แผนท่ีความคิด (Mind map)
3. หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
สำระสำคัญ
การปฐมนิเทศรายวิชา เป็ นกิจกรรมการเรียนรู้ในคร้ังแรกท่ีเขา้ เรียน เพ่ือให้ครูผูส้ อนและ
นกั ศึกษาไดร้ ู้จกั กนั ร่วมกนั วางแผนการจดั กิจกรรมจดั การเรียนรู้ ศึกษาหลกั สูตร จุดประสงคร์ ายวิชา
มาตรฐานรายวชิ า คาอธิบายรายวชิ า และวางกติกาตา่ ง ๆ การจดบนั ทึกการเรียนรู้ดว้ ยแผนท่ีความคิด
และตกลงร่วมกนั ในส่วนที่เกี่ยวขอ้ งกบั กระบวนการจดั การเรียนรู้
สมรรถนะอำชีพ
1. แสดงความรู้เก่ียวกบั หลกั สูตรวิชา 30104-2206 การซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
2. นอ้ มนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นงานอาชีพ
จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
1. บอกจุดประสงคร์ ายวิชาได้
2. บอกมาตรฐานรายวชิ าได้
3. เขียนแผนท่ีความคิดรายวชิ าได้
4. บอกกรอบแนวคิดหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งได้
5. มีคุณธรรมจริยธรรม แสดงเจตคติและพฤติกรรมลกั ษณะนิสยั ในการปฏิบตั ิงานดว้ ยความ
รับผิดชอบ ซ่ือสัตย์ ใฝ่ รู้ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั และทางานร่วมกับ
ผอู้ ่ืนได้
เนื้อหำสำระกำรจดั กำรเรียนรู้ (คำบที่ 1-4)
1. หลกั สูตรวชิ ำ 3104 - 2206 งำนซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ
1.1 ลักษณะวิชำ เป็ นวิชาในหมวดวิชาชีพสาขาวิชา ตามหลักสูตรประกาศนียบัตร
วชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) พุทธศกั ราช 2563 สาขางานไฟฟ้ากาลงั
1.2 จดุ ประสงค์รำยวชิ ำ
1.2.1 รู้และเขา้ ใจหลกั การทางานของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าชนิดตา่ งๆ
1.2.2 มีทกั ษะเกี่ยวกบั การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
1.2.3 มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการปฏิบตั ิงาน มีความละเอียดรอบคอบ ปลอดภยั
เป็นระเบียบ สะอาด ตรงต่อเวลา มีความซื่อสตั ยแ์ ละมีความรับผดิ ชอบ
1.3 สมรรถนะรำยวิชำ
1.3.1 แสดงความรู้เก่ียวกบั โครงสร้างและหลกั การทางานของเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
1.3.2 ตรวจสอบการทางานและหาสาเหตขุ อ้ บกพร่องของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
1.3.3 บริการซ่อม บารุงรักษา อุปกรณ์เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า เคร่ืองใชส้ านกั งาน ระบบ
ไฟฟ้าแสงสวา่ ง ระบบไฟฟ้ากาลงั เคร่ืองจกั รเครื่องกลไฟฟ้า
1.4 คำอธบิ ำยรำยวิชำ
ศึกษาและปฏิบตั ิเกี่ยวกบั การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่อง การซ่อมบารุงรักษา
อุปกรณ์เครื่องใชไ้ ฟฟ้า เครื่องใชส้ านกั งาน ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง ระบบไฟฟ้ากาลงั เคร่ืองจกั ร
เครื่องกลไฟฟ้า และงานบริการไฟฟ้าอื่นๆ
1.5 เอกสำรประกอบกำรจดั กำรเรียนรู้ ประกอบด้วย
1.5.1 หนงั สือวชิ าการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าของนกั ศึกษา
1.5.2 เอกสาร/สื่อประกอบการจดั การเรียนรู้ของครูผสู้ อน
1) แผนการจดั การเรียนรู้วิชาการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
2) หนงั สือวชิ าการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
3) วีดีทศั น์ เรื่อง “Mind map คมู่ ือการใชส้ มอง”
4) ส่ือนาเสนอเน้ือหา (Power point)
5) แบบบนั ทึกผลการประเมินผลการเรียนรู้ประจาหน่วย
6) แบบบนั ทึกการประเมินผลการเรียนของครูผสู้ อน
1.6 วธิ ดี ำเนนิ กำรจัดกำรเรียนรู้
1.6.1 การมีส่วนร่วมในช้นั เรียน
1.6.2 บรรยาย สาธิต ฝึกปฏิบตั ิ
1.6.3 การคน้ ควา้ ขอ้ มลู จากเทคโนโลยสี ารสนเทศ
1.7 กำรวัดผล / ประเมนิ ผล
1.7.1 การวดั ผล โดยวธิ ีการดงั น้ี
1) ดา้ นความรู้ (Solid knowledge) 30 % ประกอบดว้ ย
(1) วดั ผลตามสภาพจริงจากแบบประเมิน 20 %
(2) สอบปลายภาค 10 %
2) ทกั ษะ/ปฏิบตั ิ (Solid practical) 50 % ประกอบดว้ ย
(1) วดั ผลตามสภาพจริงจากการปฏิบตั ิงาน 40 %
(2) สรุปผลการปฏิบตั ิงาน 10 %
3) ดา้ นคุณธรรมจริยธรรม (Moral and Ethics) 20 % ประกอบดว้ ย
(1) สังเกตพฤติกรรมตามแบบประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม
1.7.2 เครื่องมือวดั
1) แบบฝึกหดั
2) แบบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
3) แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
4) แบบทดสอบหลงั เรียน
5) แบบทดสอบปลายภาคเรียน
1.8 วิธีกำรประเมินผล โดยวิธีการดงั น้ี
1.8.1 ครูประเมินนกั ศึกษาเมื่อจบหน่วยการเรียน
1.8.2 นกั ศึกษาที่ผา่ นเกณฑ์ จะตอ้ งไดค้ ะแนนรวมไม่ต่ากว่า ร้อยละ 50
1.9 กำรตัดสินผลกำรเรียน ตดั สินผลการเรียนจากคะแนนรวมตลอดภาคเรียนและตดั
เกรด ดงั น้ี
ตารางที่ 1 แสดงคะแนนรวมและเกรด
คะแนนรวม 0-49 50-54 55-59 60-64 65-69 70-74 75-79 80-100
เกรด 0 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4
1.10 แหล่งกำรศึกษำค้นคว้ำ
1) หนงั สือวชิ า 30104-2206 การซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
2) เอกสารตามรายการบรรณานุกรม ในเอกสารประกอบการเรียนการสอน
3) การสืบคน้ ขอ้ มลู จาก Internet เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆที่เกี่ยวขอ้ ง
2. แผนทค่ี วำมคดิ (Mind map)
แผนที่ความคิดเป็ นเครื่องมือที่จะช่วยให้คิด และเรียนรู้ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ประโยชน์ที่
ไดจ้ ากการใช้แผนท่ีความคิด ในด้านต่างๆ เช่น ใช้ในการเตรียมเขียนบทความหรือความเรียงต่างๆ
ใช้กบั การอ่านเพื่อทาความเขา้ ใจ ใช้ในบนั ทึกคาบรรยาย การสัมมนา การประชุมเชิงปฏิบตั ิการ และ
การจดั การเรียนรู้ เป็นตน้ การเขยี นแผนที่ความคิด มีวิธีการดงั ตอ่ ไปน้ี
2.1 วางกระดาษตามแนวนอนเริ่มจากวางหวั เรื่องกลางหนา้ กระดาษ
2.2 ใชร้ ูปภาพ หรือสญั ลกั ษณ์แทนขอ้ ใหญ่ หรือหวั เรื่องท่ีเป็นแกนกลางของเรื่องท่ีกาลงั
คิด การระดมความคิด หรือการสมั มนา
2.3 ใชส้ ีสันใหท้ วั่ ท้งั แผน่ เนื่องจากสีจะช่วยจาแนกแนวคิดและเพม่ิ พลงั ความคิด
สร้างสรรค์
2.4 เอาประเด็นหลักเช่ือมโยงเข้ากับหัวเรื่องท่ีเป็ นภาพอยู่ตรงกลาง และแตกแขนง
ความคิดย่อย ออกจากประเด็นหลกั แต่ละประเด็นย่อยถา้ มีประเด็นย่อยลงไปอีกก็จะเสริมเขา้ ไปใน
ประเดน็ ยอ่ ยเหล่าน้นั เป็นรัศมีคลา้ ยกบั ธรรมชาติของตน้ ไมท้ ี่แตกกิ่งกา้ นสาขาออกไปรอบ ๆ ลาตน้
2.5 วาดเป็นเส้นโคง้ แทนที่จะเป็นเส้นตรง เพราะจะทาใหด้ ูเป็นธรรมชาติดึงดูดสายตา
2.6 ใชค้ ามูล ซ่ึงเป็นคาคาเดียวไม่ประสมกบั คาอื่นแต่มีความหมายแน่นอน และคามูล 1
คาตอ่ 1 ประเด็น เพราะมีความหมายท่ียดื หยนุ่ ทาใหเ้ ปิ ดกวา้ งในการเพม่ิ ประเดน็ ยอ่ ยตา่ ง ๆ ลงไป
2.7 ใชร้ ูปภาพประกอบ เพราะทุกภาพสามารถแทนความหมายคาไดม้ ากกวา่ การอธิบาย
3. แนวคิดหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็ นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวพระราชทานพระราชดาริ
ช้ีแนะแนวทางการดาเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ต้ังแต่ก่อนเกิด
วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้าแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และ
สามารถดารงอยไู่ ดอ้ ยา่ งมนั่ คงและยงั่ ยนื ภายใตก้ ระแสโลกาภิวตั น์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ
ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็ นปรัชญาช้ีถึงแนวการดารงอยู่และ
ปฏิบตั ิตนของประชาชนในทุกระดบั ต้งั แต่ระดบั ครอบครัว ระดบั ชุมชน จนถึงระดบั รัฐ ท้งั ในการ
พฒั นาและบริหารประเทศใหด้ าเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกิจ เพื่อใหก้ า้ วทนั
ต่อโลกยุคโลกาภิวตั น์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่
จะตอ้ งมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีพอสมควร ต่อการกระทบใด ๆ อนั เกิดจากการเปลี่ยนแปลงท้ัง
ภายในภายนอก ท้งั น้ีจะตอ้ งอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงั อยา่ งย่ิงในการนา
วชิ าการต่าง ๆ มาใชใ้ นการวางแผนและการดาเนินการทกุ ข้นั ตอน และขณะเดียวกนั จะตอ้ งเสริมสร้าง
พ้ืนฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจา้ หน้าท่ีของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดบั ให้มี
สานึกในคุณธรรม ความซื่อสัตยส์ ุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดาเนินชีวิตดว้ ยความอดทน
ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลง
อย่างรวดเร็วและกวา้ งขวาง ท้งั ดา้ นวตั ถุ สังคม ส่ิงแวดลอ้ ม และวฒั นธรรมจากโลกภายนอกไดเ้ ป็ น
อยา่ งดี
ควำมหมำยของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จงึ ประกอบด้วยคณุ สมบตั ิ ดงั นี้
1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่
เบียดเบียนตนเองและผอู้ ื่น เช่น การผลิตและการบริโภคท่ีอยใู่ นระดบั พอประมาณ
2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตดั สินใจเก่ียวกบั ระดบั ความพอเพียงน้ัน จะตอ้ งเป็ นไป
อย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจยั ที่เกี่ยวขอ้ ง ตลอดจนคานึงถึงผลท่ีคาดว่าจะเกิดข้ึนจากการ
กระทาน้นั ๆ อยา่ งรอบคอบ
3. ภูมิคุม้ กนั หมายถึง การเตรียมตวั ใหพ้ ร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงดา้ นต่าง ๆ
ท่ีจะเกิดข้นึ โดยคานึงถึงความเป็นไปไดข้ องสถานการณ์ตา่ ง ๆ ที่คาดวา่ จะเกิดข้ึนในอนาคต
โดยมีเง่ือนไขของการตัดสินใจและดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียง 2
ประการ ดงั น้ี
1. เง่ือนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เก่ียวกับวิชาการต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งรอบดา้ น
ความรอบคอบท่ีจะนาความรู้เหล่าน้นั มาพิจารณาให้เช่ือมโยงกนั เพ่ือประกอบการวางแผนและความ
ระมดั ระวงั ในการปฏิบตั ิ
2. เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะตอ้ งเสริมสร้าง ประกอบดว้ ย มีความตระหนักใน คุณธรรม มี
ความซื่อสัตยส์ ุจริตและมีความอดทน มีความเพยี ร ใชส้ ติปัญญาในการดาเนินชีวติ
กระบวนกำรเรียนรู้
1. กระบวนการกลุ่ม
2. การสาธิต
3. ทกั ษะกระบวนการปฏิบตั ิ
กำรบูรณำกำรควำมรู้
1. ความรู้การใชภ้ าษาไทย การสรุป อภิปรายโดยใชภ้ าษาส่ือสารท่ีถูกตอ้ ง
2. ความรู้การใชภ้ าษาองั กฤษ ศพั ทเ์ ทคนิคทางดา้ นไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์
3. ความรู้เก่ียวกบั การใชอ้ ินเตอร์เน็ต (Internet)ในการศึกษาคน้ ควา้
4. การอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งมีความสุข การแบ่งกลมุ่ ช่วยเหลือกนั และร่วมงานกบั ผอู้ ่ืนได้
5. สนทนากบั นกั ศึกษา ดา้ นคุณธรรมจริยธรรม ก่อนและหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
สอนคร้ังท่ี 1 (คำบที่ 1 - 4)
กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนกล่าวแสดงความยนิ ดี ท่ีนกั ศึกษาไดม้ าเรียนรายวิชาการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
2. ครูผูส้ อนตรวจสอบจานวนนักศึกษาตามบัญชีรายชื่อ สารวจการลงทะเบียนเรียน ลง
ลายมือช่ือกากับในเอกสารการลงทะเบียน (ทบ.02) ของนักศึกษา กล่าวย้าเตือนกาหนดการ
ลงทะเบียนเรียนชา้ กวา่ กาหนดสาหรับนกั ศึกษาท่ียงั ไมล่ งทะเบียนเรียน
3. ปฐมนิเทศโดยใช้ส่ือโปรแกรมงานนาเสนอ ช้ีแจงคาอธิบายรายวิชา จุดประสงคร์ ายวิชา
ตลอดจนเน้ือหาวิชา กฎ กติกาในการจัดการเรียนรู้ หลักเกณฑ์และวิธีการวดั และประเมินผล
เอกสารอา้ งอิง เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้
4. นกั ศึกษาแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรมในการจดั การเรียนรู้และสอบถามในส่วนท่ี
ยงั ไม่เขา้ ใจ
5. ครูผูส้ อนและนกั ศึกษาร่วมกนั สรุปและตกลงร่วมกนั เก่ียวกบั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
กฎ กติกา หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการวดั และประเมินผล
6. ครูนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาอภิปรายให้นักศึกษาฟัง ซ่ึงเป็ นปรัชญาที่
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั ทรงมีพระราชดารัสช้ีแนะแนวทางการดาเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย
และครู แนะนาให้นักศึกษานาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใ์ ชใ้ นการเรียนวิชาการซ่อม
บารุงระบบไฟฟ้าและนาไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ ประจาวนั
7. นกั ศึกษา ชมสื่อวีดีทศั นป์ ระกอบการเรียน เร่ือง “Mind map คู่มือการใชส้ มอง
8. ครูผูส้ อนให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 5 คน มอบเอกสารใบกิจกรรมที่ 1 ที่เตรียมมาให้
ตวั แทนนกั ศึกษา นาไปแจกใหส้ มาชิกภายในกลุ่ม
9. นักศึกษาศึกษาและปฏิบตั ิใบกิจกรรมท่ี 1 ใชว้ ิธีระดมสมองเขียนแผนท่ีความคิดเน้ือหา
วิชาการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
10. ตวั แทนนกั ศึกษาแต่ละกลุ่มนาเสนอแผนที่ความคิดหนา้ ช้นั เรียน ครูผสู้ อนและนกั ศึกษา
ร่วมกนั อภิปรายสรุปและเขียนแผนท่ีความคดิ เน้ือหาวชิ า ลงในใบกิจกรรมที่ 1
11. ครูสอบถามความคิดเห็นของนกั ศึกษาเกี่ยวกบั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีนักศึกษายงั
ไมเ่ ขา้ ใจ
12. นกั ศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรียนเพ่ือทดสอบความรู้เดิมก่อนเรียน
13. ครูผู้สอนเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน นักศึกษาตรวจกระดาษคาตอบโดยสลับ
กระดาษคาตอบกบั เพื่อน
14. ครูผสู้ อนวิเคราะห์นกั ศึกษาโดยแบ่งกลมุ่ นกั ศึกษาจากคะแนนการทดสอบก่อนเรียน จดั
กลุ่มนักศึกษากลุ่มละ 3-4 คนโดยในแต่ละกลุ่มประกอบด้วย คนเก่ง ปานกลาง และปรับปรุง ให้
เหมาะสมเพอ่ื ช่วยเหลือกนั ในกิจกรรมการเรียนรู้
15. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม
ส่ืออุปกรณ์และแหล่งกำรเรียนรู้
1. สื่อและอุปกรณ์
1.1 หนงั สือวิชาการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
1.2 ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การเขียนแผนที่ความคดิ
1.3 สื่องานนาเสนอ (Power point) การปฐมนิเทศ
1.4 สื่อวดี ีทศั น์ เรื่อง “Mind map คมู่ ือการใชส้ มอง”
1.5 แบบทดสอบก่อนเรียน
2. แหล่งกำรเรียนรู้
2.1 จากเอกสารตามบรรณานุกรม
2.2 หอ้ งสมุดของวทิ ยาลยั ฯ และหอ้ งสมุดประชาชน
2.3 การสืบคน้ ขอ้ มูลจาก Internet เวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆที่เก่ียวขอ้ ง
การวัดผลและประเมนิ ผล เครื่องมือวัด เกณฑ์กำรประเมิน
วธิ วี ดั แบบประเมินคุณธรรม ไดค้ ะแนนจากแบบประเมิน
จริยธรรม คุณธรรมจริยธรรม ร้อยละ 50
ประเมินคุณธรรมจริยธรรม
กจิ กรรมเสนอแนะ
1. นกั ศึกษาศึกษาคน้ ควา้ เพ่มิ เติมจากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง
2. นกั ศึกษาศึกษาเพ่ิมเติมจากหอ้ งสมุด
ชื่อเรื่อง ใบกจิ กรรมท่ี 1 หน่วยที่ -
วชิ ำ 30104-2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ สอนคร้ังท่ี 1
ชื่อหน่วย ปฐมนิเทศ คำบรวม 5
กำรปฐมนเิ ทศ จำนวนคำบ 5
จุดประสงค์กำรเรียนรู้
เพอื่ ใหม้ ีความเขา้ ใจ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ วชิ าการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
เคร่ืองมือและอุปกรณ์ 1 เครื่อง
1. สื่อวิดีทศั นเ์ ร่ือง “ Mind Map คู่มือการใชส้ มอง” 1 ชุด
2. ไมโครคอมพิวเตอร์ที่สามารถเปิ ดสื่อวิดีทศั น์ได้ 1 แผน่
3. เครื่องฉายภาพวดิ ีทศั น์ พร้อมจอรับภาพ
4. กระดาษขนาด A4
5. ปากกาสีตา่ งๆ ไมน่ อ้ ยกวา่ 3 สี
ลำดับข้นั กำรปฏิบัติ
1. กำรเขยี นแผนทค่ี วำมคิด (Mind map) กำรเขยี นแผนท่ีควำมคดิ มขี ้นั ตอนวิธีกำรดงั ต่อไปนี้
1.1 ศึกษาวิธีการเขียนแผนที่ความคิดจากสื่อวิดีทศั น์
1.2 ศึกษาหวั ขอ้ ของเน้ือหาวิชาการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าจากสื่อวดิ ีทศั น์
1.3 วางกระดาษที่เขียนชื่อรายวิชาเป็นหวั เรื่อง ไวก้ ลางหนา้ กระดาษตามแนวนอน
1.4 ใชส้ ีสันใหท้ ว่ั ท้งั แผน่ เนื่องจากสีจะช่วยจาแนกแนวคิดและเพิม่ พลงั ความคดิ สร้างสรรค์
1.5 เขียนช่ือหน่วยแต่ละหน่วย เชื่อมโยงเขา้ กับหัวเร่ืองท่ีอยู่ตรงกลาง และแตกแขนงประเด็น
ความคิดย่อย ออกจากช่ือหน่วย แต่ละประเด็นย่อยถา้ มีประเด็นย่อยลงไปอีกก็จะเสริมเขา้ ไปใน
ประเดน็ ยอ่ ยเหล่าน้นั เป็นรัศมีคลา้ ยกบั ธรรมชาติของตน้ ไมท้ ี่แตกกิ่งกา้ นสาขาออกไปรอบ ๆ ลาตน้
1.6 วาดเป็นเสน้ โคง้ แทนที่จะเป็นเสน้ ตรง เพราะจะทาใหด้ ูเป็นธรรมชาติดึงดูดสายตา
1.7 ใชค้ ามูล ซ่ึงเป็นคาคาเดียวไม่ประสมกบั คาอื่นแต่มีความหมายแน่นอน และคามูล 1 คาต่อ 1
ประเดน็ เพราะมีความหมายที่ยดื หยนุ่ ทาใหเ้ ปิ ดกวา้ งในการเพิ่มประเด็นยอ่ ยต่าง ๆ ลงไป
แบบทดสอบก่อนเรียน เวลำ 40 นำที
วชิ ำ 30104 - 2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ
คำส่ัง จงเลือกคำตอบที่ถูกทสี่ ุด ทำเครื่องหมำย ลงในช่องของกระดำษคำตอบ
1. ขอ้ ใดกล่าวถึงระบบไฟฟ้ากาลงั ไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด
ก. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าที่ประกอบดว้ ย ระบบการผลิต
ข. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง ระบบ
การจาหน่าย และระบบการใชก้ าลงั ไฟฟ้า
ค. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าที่ประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง
ง. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าที่ประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง ระบบ
การจาหน่าย
2. ขอ้ ใดกล่าวถึงการต่อลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าไดถ้ กู ตอ้ งท่ีสุด
ก. การต่อลงดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้าหมายถึงการต่อส่วนที่เป็ นโลหะท่ีมีกระแสไหลผ่านของ
อปุ กรณ์ต่าง ๆ ใหถ้ ึงกนั ตลอดแลว้ ต่อลงดิน
ข. การตอ่ ลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าหมายถึงการต่อส่วนที่เป็นโลหะ ของอปุ กรณ์ตา่ งๆ ใหถ้ ึงกนั
ตลอดแลว้ ตอ่ ลงดิน
ค. การต่อลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าหมายถึงการต่อส่วนท่ีเป็ นโลหะท่ีไม่มีกระแสไหลผา่ นของ
อุปกรณ์ตา่ ง ๆ ใหถ้ ึงกนั ตลอดแลว้ ต่อลงดิน
ง. การต่อลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าหมายถึงการต่อสายดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้า
3. ขอ้ ใดท่ีกล่าวถึงเครื่องตดั ไฟร่ัวไดถ้ กู ตอ้ งท่ีสุด
ก. เครื่องตดั ไฟรั่ว หมายถึง สวิตช์อตั โนมตั ิท่ีสามารถปลดวงจร เมื่อมีกระแสไฟฟ้ารั่วไดอ้ ย่าง
รวดเร็วภายในระยะเวลาท่ีกาหนดไว้
ข. เครื่องตดั ไฟร่ัว หมายถึง สวติ ชต์ ดั วงจร
ค. เครื่องตดั ไฟรั่ว หมายถึงอปุ กรณ์ป้องกนั
ง. เคร่ืองตดั ไฟร่ัว หมายถึงสวิตชท์ ี่สามารถปลดวงจรได้
4. เมื่อตอ้ งการตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ของเตา้ รับไฟฟ้าตอ้ งต้งั
ยา่ นวดั มลั ติมิเตอร์ที่ยา่ นวดั ใด
ก. ยา่ นวดั ความตา้ นทาน
ข. ยา่ นวดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั
ค. ยา่ นวดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง
ง. ยา่ นวดั กระแสไฟฟ้า
5. การบารุงรักษาสายไฟฟ้าเก่ียวกบั การตรวจสอบจุดต่อสาย การเขา้ สายตอ้ งตรวจสอบอยา่ งนอ้ ย
ปี ละกี่คร้ัง
ก. 1 คร้ัง
ข. 2 คร้ัง
ค. 3 คร้ัง
ง. 4 คร้ัง
6. ขอ้ ใดกลา่ วถึงระบบไฟฟ้าแสงสวา่ งไดถ้ กู ตอ้ งท่ีสุด
ก. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบที่ใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปลี่ยนแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหลง่ จ่าย, ตวั นาไฟฟ้า, หลอดไฟฟ้า,และสวิตชค์ วบคมุ
ข. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบที่ใชพ้ ลงั งานกลไปเปล่ียนแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหล่งจ่าย, ตวั นาไฟฟ้า, หลอดไฟฟ้า,และสวติ ชค์ วบคมุ
ค. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปล่ยี นแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหล่งจ่าย, ตวั นาไฟฟ้าและสวติ ชค์ วบคุม
ง. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปลย่ี นแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหล่งจ่าย,หลอดไฟฟ้าและสวิตชค์ วบคมุ
7. หลอดเผาไสข้ นาด 100 วตั ต์ 220 โวลต์ ความตา้ นทานประมาณก่ีโอหม์
ก. 150-250 โอหม์
ข. 250-350 โอห์ม
ค. 350-450 โอห์ม
ง. 450-550 โอหม์
8. วงจรหลอดฟลูออเรสเซนตจ์ ะสามารถทางานไดต้ อ้ งเพิ่มส่วนประกอบใดเขา้ ไป นอกเหนือจาก
วงจรไฟฟ้าปกติ
ก. สวติ ชแ์ ละฟิ วส์
ข. สวติ ชแ์ ละบลั ลาสต์
ค. สวิตชแ์ ละสตาร์ตเตอร์
ง. บลั ลาสตแ์ ละสตาร์ตเตอร์
9. สาเหตุใดหลอดแสงจนั ทร์จึงตอ้ งรอเวลาการจุดไส้หลอดใหมห่ ลงั จากดบั ไฟ
ก. ลดแรงดนั ไฟฟ้าในหลอด
ข. ลดอุณหภมู ิของหลอด
ค. ลดกระแสในหลอด
ง. ยดื อายกุ ารใชง้ านของหลอด
10. ขอ้ ใดเป็นระยะเวลาท่ีเหมาะสมในการทาความสะอาดโคมไฟฟ้าและฝาครอบโคม
ก. ทุก 1 เดือน
ข. ทุก 2 เดือน
ค. ทกุ 3 เดือน
ง. ทุก 4 เดือน
11. ขอ้ ใดเป็นอุปกรณ์ปรับระดบั ความร้อนใหค้ งที่ของกระทะไฟฟ้า
ก. ลวดความร้อน
ข. ฝาปิ ดกน้ กระทะ
ค. เทอร์โมสตสั
ง. เฟอร์ไรต(์ สารแม่เหลก็ )
12. ในวงจรไฟฟ้าของกระทะไฟฟ้าเทอร์โมสตสั ต่อลกั ษณะใดกบั ขดลวดความร้อน
ก. อนุกรม
ข. ขนาน
ค. อนุกรมและขนาน
ง. ผสม
13. กระทะไฟฟ้าไมร่ ้อนอาจเกิดจากอะไร
ก. มีความช่ืนท่ีข้วั ปลก๊ั
ข. น้าในหมอ้ อบไฟฟ้ามาก เกินไป
ค. กระทะไฟฟ้าไมส่ ะอาด
ง. ลวดความร้อนขาด
14. ขอ้ ใดเป็นสิ่งท่ีไม่ควรทาในการบารุงรักษากระทะไฟฟ้า
ก. การทาความสะอาดกระทะไฟฟ้าใหใ้ ชฝ้ อยเหลก็ ขดั จากน้นั เช็ดใหแ้ หง้
ข. กระทะไฟฟ้าใชต้ ๋นุ อาหารแทนหมอ้ ต๋นุ ไฟฟ้าได้
ค. กระทะไฟฟ้าใชอ้ ่นุ อาหารแทนเตาอบไฟฟ้าได้
ง. ก่อนทาความสะอาดกระทะไฟฟ้าตอ้ งถอดปลกั๊ ก่อน
15. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นหนา้ ท่ีของหนา้ สมั ผสั ของเตารีดไฟฟ้า
ก. ปรับอณุ หภูมิ
ข. ปรับแผน่ ไบ-เมทลั
ค. สวติ ชต์ ดั ต่อกระแสไฟผา่ นแผน่ ความร้อน
ง. ปรับปริมาณไฟฟ้า
16. เมื่อเตารีดไฟฟ้าร้อนมากผดิ ปกติแสดงวา่ หนา้ สมั ผสั เป็นอยา่ งไร
ก. ห่างกนั เกินไป
ข. ชิดกนั เกินไป
ค. ไมต่ ่อถึงกนั
ง. หนา้ สัมผสั ไม่สะอาด
17. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ที่ของไมโครสวิตชใ์ นวงจรหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
ก. ควบคุมความร้อน
ข. ON – OFF
ค. ตดั ต่อวงจรอุ่น
ง. ตดั ต่อวงจรขดลวดหุงขา้ ว
18. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ท่ีของแผน่ ไบ-เมทลั ในวงจรกาตม้ น้าไฟฟ้า
ก. แสดงสัญญาณการทางาน
ข. ทาความร้อน
ค. ตดั - ต่อวงจรไฟฟ้า
ง. ควบคมุ อณุ หภมู ิ
19. ขอ้ ใดเป็นอุปกรณ์ควบคุมอุณหภมู ิของกาตม้ น้าไฟฟ้า
ก. เทอร์มอลฟิ วส์
ข. เทอร์โมสตสั
ค. เทอร์โมคปั เปิ ล
ง. เทอร์มิสเตอร์
20. ขอ้ ใดเป็นอปุ กรณ์ป้องกนั กาตม้ น้าไฟฟ้าไหมก้ รณีท่ีอปุ กรณ์ควบคุมอณุ หภมู ิกาตม้ น้าไฟฟ้าไม่
ทางานหรือเสีย
ก. เทอร์โมมิเตอร์
ข. เทอร์โมคตั อิน
ค. เทอร์มอลฟิ วส์
ง. เทอร์มิสเตอร์
21. ขอ้ ใดกลา่ วถึงขดลวดชุดเร่ิมเดิน และชุดรัน ในสปลิตเฟสมอเตอร์ไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ขนาดเท่ากนั แตท่ างานคนละหนา้ ท่ี
ข. เหมือนกนั เพียงแต่แยกเฟสออกจากกนั
ค. ความตา้ นทานของขดรันจะสูงกวา่ เพราะใชล้ วดเสน้ ใหญ่
ง. ขดลวดเร่ิมเดินจะทางานเฉพาะช่วงที่มอเตอร์เร่ิมเดินเท่าน้นั
22. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นสาเหตขุ อ้ บกพร่องของสปลิตเฟสมอเตอร์เร่ิมเดินไม่ได้ มีเสียงคราง (ฮมั ,
สตาร์ตไม่ออก) หรือเริ่มเดินไดแ้ ตไ่ มม่ ีแรง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดรันและขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. สวติ ชแ์ รงเหว่ยี งหนีศูนยล์ ดั วงจร
23. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง
ก. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่ใชไ้ ฟฟ้ากระแสสลบั
ข. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ขนาดเลก็ ท่ีใชไ้ ดท้ ้งั ไฟฟ้ากระแสสลบั และไฟฟ้า
กระแสตรง
ค. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่ใชไ้ ฟฟ้ากระแสตรง
ง. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่ใชไ้ ฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส
24. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นสาเหตุขอ้ บกพร่องของยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เริ่มเดินไม่ได้ มีเสียงคราง
(ฮมั ,สตาร์ตไม่ออก) หรือเร่ิมเดินไดแ้ ตไ่ มม่ ีแรง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดรันและขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. แปรงถา่ นสึก
25. จุดประสงคห์ ลกั ของการเริ่มเดินแบบสตาร์ - เดลตาของมอเตอร์เหนี่ยวนา 3 เฟส คืออะไร?
ก. ลดแรงดนั ขณะเริ่มเดิน
ข. เพ่มิ แรงบิดขณะเริ่มเดิน
ค. เพ่ิมกาลงั ขณะเร่ิมเดิน
ง. ลดกระแสขณะเริ่มเดิน
26 . ขอ้ ใดเป็นสาเหตุของมอเตอร์เหนี่ยวนา 3 เฟส ทางานแตก่ ระแสสูง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. มอเตอร์รับโหลดเกิน
27. การทางานของหมอ้ แปลงไฟฟ้าแรงดนั ไฟฟ้าทางขดทุติยภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้าจะข้ึนอยู่กบั
อตั ราส่วนใดของหมอ้ แปลง
ก. จานวนรอบของขดลวดทุติยภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ข. จานวนรอบของขดลวดทุติยภูมิและขดลวดปฐมภูมิและระดบั แรงดนั ไฟฟ้าทางขดปฐมภูมิ
ของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ค. จานวนรอบของขดลวดปฐมภมู ิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ง. แกนเหลก็ ของหมอ้ แปลง
28. ขอ้ ใดเป็นสาเหตุไมม่ ีแรงดนั ไฟฟ้า ออกทางดา้ นทุติยภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ก. ขดลวดปฐมภูมิมีแรงดนั เทา่ กบั แหล่งจ่าย
ข. แกนเหลก็ มีความตา้ นทานสูง
ค. ขดลวดปฐมภูมิขาด
ง. ขดลวดปฐมภูมิมีแรงดนั ไมเ่ ท่ากบั แหล่งจ่าย
29. คาปาซิเตอร์ท่ีต่อวงจรร่วมกบั มอเตอร์ของเครื่องซกั ผา้ มีหนา้ ท่ีตามขอ้ ใด
ก. เพือ่ ช่วยใหม้ อเตอร์สตาร์ตมีแรงบิดสูงข้นึ
ข. เพอื่ ช่วยใหม้ อเตอร์สตาร์ตมีแรงบิดต่าลง
ค. เพอ่ื ช่วยใหม้ อเตอร์มีความเร็วเพื่มข้ึน
ง. เพอื่ ช่วยใหม้ อเตอร์กินกระแสไฟฟ้ามากข้นึ
30. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นอุปกรณ์ควบคมุ เครื่องซกั ผา้ แบบอตั โนมตั ิ
ก. ไมโครคอมพิวเตอร์
ข. ลิมิตสวติ ช์
ค. คอมพวิ เตอร์
ง. ไมโครโปรเซสเซอร์
31. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นสาเหตุทาใหใ้ บพดั ของเครื่องซกั ผา้ ถงั ซกั หมนุ แต่ไมม่ ีแรง
ก. สวิตชค์ วบคุมไม่ทางาน
ข. สายพานตึงเกินไป
ค. สายพานหยอ่ น
ง. มอเตอร์ถงั ซกั ไหม้
32. ขอ้ ใดกล่าวถึงหนา้ ที่ของเครื่องป๊ัมน้าขนาดเลก็ ไดถ้ กู ตอ้ งที่สุด
ก. เพิ่มแรงดนั ใหน้ ้าและส่งน้าไปตามท่อ
ข. ลดแรงดนั ใหน้ ้าและส่งน้าไปตามท่อ
ค. รับน้าและส่งน้าไปตามท่อ
ง. เพ่มิ ลมใหน้ ้าและส่งน้าไปตามทอ่
33. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นสาเหตุของปั๊มน้าไมด่ ูดน้าหรือน้าไหลเบา
ก. มีเศษวสั ดุในเครื่องป๊ัม
ข. มีรอยรั่วในทอ่ ทางดูด
ค. มีรอยร่ัวในทอ่ ทางจ่าย
ง. สวิตชแ์ รงดนั เสีย
34. ขอ้ ใดต่อไปน้ี เป็นส่วนประกอบของเครื่องป่ันน้าผลไมท้ ี่มีหนา้ ท่ีบดหรือปั่นอาหาร
ก. ใบมีด
ข. มอเตอร์
ค. โรเตอร์
ง. ฐานเคร่ืองป่ัน
35. วงจรไฟฟ้าของเครื่องป่ันน้าผลไมข้ ดลวดฟิ ลดต์ ่อลกั ษณะใดกบั อาเมเจอร์
ก. อนุกรม
ข. ขนาน
ค. ผสม
ง. ไม่มีขอ้ ถกู
36. การเกิดประกายไฟในฐานเครื่องขณะมอเตอร์ทางานเกิดจากชิ้นส่วนใด
ก. ลกู ยาง - ใบมีด
ข. คอมมิวเตเตอร์ – แกนหมุน
ค. แปรงถ่าน – คอมมิวเตเตอร์
ง. แหวนกนั สึกกบั ลกู ยาง
37. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของฮาร์ดแวร์ไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ฮาร์ดแวร์คอื ตวั เคร่ืองและอปุ กรณ์ต่างๆของคอมพิวเตอร์
ข. ฮาร์ดแวร์คอื โปรแกรมหรือชุดคาส่งั ต่างๆ
ค. ฮาร์ดแวร์คือผใู้ ชง้ านคอมพิวเตอร์
ง. ฮาร์ดแวร์คอื ซอฟตแ์ วร์ท่ีติดต้งั ในคอมพิวเตอร์
38. ขอ้ ใดท่ีถือวา่ เป็นสมองของคอมพิวเตอร์
ก. แรม
ข. ฮาร์ดดิสก์
ค. ซีพียู
ง. เมนบอร์ด
39. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ที่ของเครื่องประจุแบตเตอรี่
ก. แปลงไฟฟ้ากระแสสลบั เป็นไฟฟ้ากระแสตรง
ข. แปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลบั
ค. เก็บพลงั งานไฟฟ้า
ง. ปรับระดบั ไฟฟ้าอตั โนมตั ิ
40. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชนข์ องเครื่องสารองไฟ
ก. จ่ายพลงั งานไฟฟ้าใหอ้ ปุ กรณ์ไฟฟ้าเมื่อเกิดไฟฟ้าดบั
ข. ปรับระดบั แรงดนั ไฟฟ้าใหอ้ ยใู่ นระดบั ท่ีไมเ่ ป็นอนั ตรายต่ออปุ กรณ์ไฟฟ้า
ค. ป้องกนั สญั ญาณรบกวนทางไฟฟ้า
ง. จ่ายพลงั งานไฟฟ้าใหค้ อมพวิ เตอร์ไดต้ ลอดเวลาเมื่อเกิดไฟฟ้าดบั
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน คาตอบ
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ง
ข
ขอ้ คาตอบ ขอ้ ข
1 ข 21 ง
2 ค 22 ง
3 ก 23 ง
4 ข 24 ข
5 ก 25 ค
6 ก 26 ก
7 ง 27 ก
8 ง 28 ค
9 ข 29 ก
10 ค 30 ข
11 ค 31 ก
12 ก 32 ก
13 ง 33 ค
14 ก 34 ก
15 ค 35 ค
16 ข 36 ก
17 ง 37 ง
18 ง 38
19 ข 39
20 ค 40
แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรม/เจตคต/ิ ค่ำนิยม/เศรษฐกจิ พอเพยี ง
วิชำ การซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า ใชป้ ระกอบแผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี -
คร้ังที่ 1 เร่ือง ปฐมนิเทศ ระดบั ปวส
ผ้รู ่วมประเมนิ
1. ชื่อ-นามสกุล........................................................................... เลขที่.............. (ตนเอง)
2. ช่ือ-นามสกุล........................................................................... เลขที่.............. (ผรู้ ่วมงาน)
คำชี้แจง
1. ใหผ้ ูเ้ รียนประเมินตนเองและให้ผรู้ ่วมงาน 1 คนประเมินซ่ึงกนั และกนั ตามหัวขอ้ ใน
ตาราง จานวน 3 ขอ้ โดยมีเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี
3 คะแนน หมายถึง ดีมาก
2 คะแนน หมายถึง ปานกลาง
1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง
2. ครูประเมินหาค่าเฉล่ียคะแนนของผเู้ รียนเป็นรายบคุ คลตอ่ ไป
ตำรำงประเมนิ คุณธรรมจริยธรรม/เจตคต/ิ ค่ำนยิ ม/เศรษฐกจิ พอเพยี ง
ลำดบั คณุ ธรรมจริยธรรม/เจตคติ/ พฤติกรรมท่แี สดง ตนเอง ตำมวตั ถุ
ค่ำนยิ ม/เศรษฐกจิ พอเพยี ง ู้ผ ่รวมงำน ประสงค์
ค ูร ข้อท่ี
1 ความมีวินยั ในการทางาน เขา้ เรียนตรงเวลา 5
มีอุปกรณ์การเรียนครบ
ไม่ส่งเสียงดงั รบกวน
แต่งกายถูกตอ้ งตามระเบียบ
2 ซ่ือสตั ยแ์ ละมีจิตสาธารณะ ไมค่ ดั ลอกผลงานผอู้ ื่น 5
ใหค้ าแนะนาช่วยเหลือ
เสนอความคิด มีส่วนร่วม
3 ประหยดั ในการใชท้ รัพยากร ใชพ้ ลงั งาน/วสั ดุอปุ กรณ์ 5
ตนเองและส่วนรวม อยา่ งประหยดั
คะแนนรวม
คะแนนเฉลย่ี รวม
ลงช่ือ ……………………………………….. ผปู้ ระเมิน
บนั ทึกผลหลงั กำรสอน
3. ผลกำรสอน
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
4. ปัญหำ/อุปสรรค
.......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................
5. ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
(ลงชื่อ)…………………………………
( ประจวบ แสงวงค์ )
ครูผสู้ อน
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ หน่วยที่ 1
วิชำ 3104-2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ สอนคร้ังที่ 2-3
ช่ือหน่วย งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำกำลงั คำบรวม 15
ช่ือเร่ือง งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำกำลงั จำนวนคำบ 10
หัวข้อเรื่อง
หน่วยท่ี 1 งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำกำลงั
1.1 ระบบไฟฟ้ากาลงั
1.2 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของระบบไฟฟ้ากาลงั
1.3 การซ่อมบารุงรักษาระบบไฟฟ้ากาลงั
สำระสำคญั
การบริการและซ่อมระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง การให้บริการซ่อม บารุง ปรับปรุงระบบไฟฟ้าใน
บา้ นพกั อาศยั โรงงานอุตสาหกรรม การเลือกใชว้ สั ดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมกบั งาน ตลอดจนการขยาย
เพิ่มเติมระบบไฟฟ้า ให้มีความปลอดภยั ต่อผใู้ ช้ อุปกรณ์ไฟฟ้า บา้ นพกั อาศยั และส่ิงแวดลอ้ มอ่ืน ๆ
ประหยดั งบประมาณในการติดต้งั การบารุงรักษา และค่าพลงั งานไฟฟ้า
สมรรถนะอำชีพ
1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั ระบบไฟฟ้ากาลงั
2. ตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาระบบไฟฟ้ากาลงั
จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
1. อธิบายหลกั การทางานของระบบไฟฟ้ากาลงั ได้
2. ตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของระบบไฟฟ้ากาลงั ได้
3. ซ่อมบารุงรักษาระบบไฟฟ้ากาลงั ได้
4. มีคุณธรรมจริยธรรม แสดงเจตคติและพฤติกรรมลกั ษณะนิสัยในการปฏิบตั ิงานดว้ ยความ
รับผดิ ชอบ ซ่ือสตั ย์ ใฝ่รู้ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั และทางานร่วมกบั
ผอู้ ่ืนได้
เนื้อหำสำระกำรจดั กำรเรียนรู้
หน่วยที่ 1 งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำกำลงั
1.1 ระบบไฟฟ้ากาลงั
1.1.1 ระบบไฟฟ้าในอาคาร
1.1.2 อนั ตรายจากการใชไ้ ฟฟ้า
1.1.3 ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการใชไ้ ฟฟ้าหรือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งปลอดภยั
1.1.4 ระบบดิน
1.1.5 เคร่ืองตดั ไฟรั่ว
1.2 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของระบบไฟฟ้ากาลงั
1.2.1 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของสายไฟฟ้า
1.2.2 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของเตา้ รับไฟฟ้า
1.2.3 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของคตั เอาต์
1.2.4 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของเซอร์กิตเบรกเกอร์
1.3 การซ่อมบารุงรักษาระบบไฟฟ้ากาลงั
1.3.1 การซ่อมบารุงสายไฟ
1.3.2 การซ่อมบารุงระบบดิน
1.3.3 การตรวจซ่อมอปุ กรณ์ป้องกนั ทางไฟฟ้า
1.3.4 การบารุงรักษาสายไฟ
กระบวนกำรเรียนรู้
1. กระบวนการกล่มุ
2. การสาธิต
3. ทกั ษะกระบวนการปฏิบตั ิ
กำรบูรณำกำรควำมรู้
1. ความรู้การใชภ้ าษาไทย การสรุป อภิปรายโดยใชภ้ าษาสื่อสารที่ถกู ตอ้ ง
2. ความรู้การใชภ้ าษาองั กฤษ ศพั ทเ์ ทคนิคทางดา้ นไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์
1. ความรู้เกี่ยวกบั การใชอ้ ินเตอร์เนต็ (Internet)ในการศึกษาคน้ ควา้
4. การอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งมีความสุข การแบ่งกลมุ่ ช่วยเหลือกนั และร่วมงานกบั ผอู้ ื่นได้
5. สนทนากบั นกั เรียน ดา้ นคุณธรรมจริยธรรม ก่อนและหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
สอนคร้ังท่ี 2 (คำบที่ 5 - 8)
กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายชื่อ
2. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เร่ือง งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้ากาลงั
3. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 1 เร่ือง งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้ากาลงั
4. ครูสนทนาซักถามนกั เรียนเกี่ยวกบั ระบบไฟฟ้ากาลงั ท่ีใชใ้ นชีวิตประจาวนั ท่ีนกั เรียนเขา้ ใจโดยให้
นกั เรียนสังเกตระบบไฟฟ้ากาลงั ในหอ้ งปฏิบตั ิการ งานบริการและซ่อมเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
5. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ๆละ 4-5 คน ตามผลการวิเคราะหผ์ ูเ้ รียนร่วมกนั ศึกษาหนงั สือวิชาการซ่อมบารุง
ระบบไฟฟ้า หน่วยท่ี 1 เรื่องงานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้ากาลงั ร่วมกนั อภิปรายสาระสาคญั ดงั น้ี
กลุ่มที่ 1 ระบบไฟฟ้ากาลงั
กลุ่มที่ 2 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของระบบไฟฟ้ากาลงั
กลมุ่ ที่ 3 การซ่อมบารุงรักษาระบบไฟฟ้ากาลงั
6. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั สรุปประเด็นท่ีเป็นสาระสาคญั เกี่ยวกบั ระบบไฟฟ้ากาลงั ลงในกระดาษ
ในรูปแบบของแผนท่ีความคดิ
7. ตวั แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการอภิปราย เร่ือง งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้ากาลงั
หนา้ ช้นั เรียน นกั เรียนตา่ งกลมุ่ บนั ทึกองคค์ วามรู้ของกลุ่มที่นาเสนอทกุ กลุ่ม
8. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ เรื่อง งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้ากาลงั นกั เรียนบนั ทึก
ผลการสรุปเพิ่มเติมในส่วนท่ียงั ไม่สมบรู ณ์
9. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยที่ 1
10. ครูผสู้ อนตรวจสรุปสาระสาคญั เกี่ยวกบั งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้ากาลงั ในรูปแบบของแผน
ที่ความคดิ ของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่
11. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหัด ผเู้รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพ่ือน
12. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถูกตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
13. ประเมินคุณธรรมจริยธรรมโดยใชแ้ บบประเมิน
สอนคร้ังท่ี 3 ( คำบที่ 9-12 )
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผูส้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนักเรียนตามบญั ชีรายชื่อ เสร็จแลว้ ให้นักเรียนกลุ่มเดิมเข้า
ประจาโต๊ะชุดฝึกปฏิบตั ิ
2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ทบทวนบทเรียนในคาบท่ีผา่ นมาเพือ่ ทบทวนความรู้เดิม
3. นกั เรียนศึกษาใบงานท่ี 1 เรื่อง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาแผงจ่ายไฟ
ตคู้ อนซูมเมอร์ยนู ิต
4. ครูอธิบายและสาธิตใบงานท่ี 1 พร้อมท้งั บอกการใชง้ านชุดฝึ ก ขอ้ ควรระวงั ในการใชง้ าน ระบบ
ความปลอดภยั
5. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ปฏิบตั ิงาน ตามใบงานท่ี 1
6. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 1
7. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
8. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม
9. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 1 เร่ือง งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้ากาลงั
สื่ออปุ กรณ์และแหล่งกำรเรียนรู้
1. สื่อและอปุ กรณ์
1.1 หนงั สือวชิ าการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
1.2 ส่ืองานนาเสนอ หน่วยที่ 1
1.3 ครุภณั ฑ์ เครื่องมือ ประจาหอ้ งปฏิบตั ิการการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า
2. แหล่งกำรเรียนรู้
2.1 เอกสารตามบรรณานุกรมในเอกสารประกอบการเรียนการสอน
2.2 วสั ดุ ครุภณั ฑห์ ้องปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
2.3 หอ้ งสมดุ ของวิทยาลยั ฯ และหอ้ งสมุดประชาชน
2.4 การสืบคน้ ขอ้ มลู จากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆท่ีเกี่ยวขอ้ ง
กำรวัดผลและประเมินผล เคร่ืองมือวดั เกณฑ์กำรประเมิน
วิธีวดั 1. แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 1 1. ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
1. แบบฝึกหดั หลงั เรียน จาก 10 ขอ้
2. ไดค้ ะแนนจากผลการ
2. ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน 2. แบบประเมินผล ปฏิบตั ิงานร้อยละ 50
3. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม การปฏิบตั ิงาน 3. ไดค้ ะแนนจากการประเมิน
4. ทดสอบหลงั เรียน คุณธรรมจริยธรรมร้อยละ 50
3. แบบประเมินคุณธรรม 4. ทาแบบทดสอบผา่ น 5 ขอ้
จริยธรรม จาก 10 ขอ้
4. แบบทดสอบหลงั เรียน
กจิ กรรมเสนอแนะ
1. นกั เรียนศึกษาจากเอกสารประกอบการเรียนรู้และใบงานมาก่อนล่วงหนา้
2. นกั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เพม่ิ เติมจากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง
3. นกั เรียนศึกษาเพิม่ เติมจากหอ้ งสมุด
เฉลยแบบฝึ กหัดหน่วยที่ 1
คำส่ัง : จงทำเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมทถ่ี ูกต้องและเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมที่ผิด
………….1. ระบบไฟฟ้าในอาคารมี 3 ระบบคือ ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง,ระบบไฟฟ้ากาลงั ,ระบบ
ส่งจ่าย
……….…2. องคป์ ระกอบท่ีทาให้เกิดอนั ตรายจาการใชไ้ ฟฟ้า มีอยู่ 2 ส่วนคือ ส่วนของการติดต้งั
ทางไฟฟ้า และส่วนของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
………….3. การต่อลงดินมี 2 ระบบคือ การต่อลงดินของระบบไฟฟ้าและการต่อลงดินของ
บริภณั ฑ์
………….4. การติดต้งั เครื่องตดั ไฟฟ้าร่ัวควรติดต้งั ใชง้ านในวงจรไฟฟ้าเฉพาะจุด
…………..5. การติดต้งั เคร่ืองตดั ไฟฟ้าร่ัวสามารถติดต้งั ตวั เดียวป้องกนั รวมทุกวงจรท่ีเมนสวิตช์
ได้
………….6. ผูใ้ ช้ระบบไฟฟ้ากาลงั สามารถต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดเขา้ กบั เตา้ รับไฟฟ้าอนั
เดียวได้
………….7. การติดต้งั พิกดั ฟิ วส์ของคตั เอาต์ไม่จาเป็ นตอ้ งให้เหมาะสมกบั โหลดและขนาดของ
สายไฟ
…………8. การติดต้งั ตคู้ อนซูมเมอร์ยนู ิตใหส้ งั เกตจุดต่อสาย ตวั อกั ษร L และ N ที่กากบั ไว้ หาก
ต่อผิดจะทาใหม้ ีไฟฟ้า คา้ งในวงจร ซ่ึงเป็นอนั ตรายอยา่ งมาก
…………9. เราสามารถตรวจสอบวงจรสายป้อนและวงจรยอ่ ยของตคู้ อนซูมเมอร์ยนู ิตไดด้ ว้ ยการ
ใชม้ ลั ติมิเตอร์วดั แรงดนั ไฟฟ้าที่ข้วั แผงจ่ายวงจรของตคู้ อนซูมเมอร์ยูนิต
…………10. การบารุงรักษาสายไฟฟ้า ถา้ พบสายไฟบางเส้นมีสีเปลี่ยนไปแสดงวา่ สายไฟฟ้า
ผดิ ปกติตอ้ งรีบตรวจสอบ
แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 1
เรื่อง งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำกำลงั ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยที่ 1
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ ปวส.
คำส่ัง จงเลือกคาตอบที่ถูกท่ีสุด ทาเครื่องหมาย ลงในช่องของกระดาษคาตอบ
1. ขอ้ ใดกล่าวถึงระบบไฟฟ้ากาลงั ไดถ้ กู ตอ้ งที่สุด
ก. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีประกอบดว้ ย ระบบการผลิต
ข. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าที่ประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง ระบบ
การจาหน่าย และระบบการใชก้ าลงั ไฟฟ้า
ค. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าที่ประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง
ง. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง ระบบ
การจาหน่าย
2. อุปกรณ์ท่ีตดั กระแสไฟฟ้าเมื่อเกิดการไหลของกระแสไฟฟ้าเกินกาลงั คือ
ก. คตั เอาต์
ข. เตา้ เสียบไฟฟ้า
ค. สวติ ช์
ง. เตา้ รับไฟฟ้า
3. เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าที่มีการหุ้มฉนวนหนาเป็น 2 เท่าของความหนาฉนวนท่ีใช้สาหรับเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
ปกติคอื เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าประเภทใด
ก. เครื่องใชไ้ ฟฟ้าประเภท 1
ข. เครื่องใชไ้ ฟฟ้าประเภท 2
ค. เครื่องใชไ้ ฟฟ้าประเภท 3
ง. เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าประเภท 4
4. การวดั ความตา้ นทานระหว่างหลกั ดินกบั ดิน (Resistance to Ground) มาตรฐานการติดต้งั ไฟฟ้า
สาหรับประเทศไทยของ ว.ส.ท.ไดก้ าหนด ความตา้ นทานหลกั ดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าไม่เกินกี่โอห์ม
ก. 2 โอหม์
ข. 3 โอห์ม
ค. 4 โอห์ม
ง. 5 โอหม์
5. ขอ้ ใดกลา่ วถึงการต่อลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าไดถ้ กู ตอ้ งท่ีสุด
ก. การต่อลงดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้าหมายถึงการต่อส่วนท่ีเป็ นโลหะที่มีกระแสไหลผ่านของ
อุปกรณ์ต่าง ๆ ใหถ้ ึงกนั ตลอดแลว้ ต่อลงดิน
ข. การต่อลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าหมายถึงการตอ่ ส่วนที่เป็นโลหะ ของอุปกรณ์ตา่ งๆ ใหถ้ ึงกนั
ตลอดแลว้ ตอ่ ลงดิน
ค. การต่อลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าหมายถึงการต่อส่วนท่ีเป็ นโลหะท่ีไม่มีกระแสไหลผา่ นของ
อุปกรณ์ตา่ ง ๆ ใหถ้ ึงกนั ตลอดแลว้ ตอ่ ลงดิน
ง. การตอ่ ลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าหมายถึงการตอ่ สายดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้า
6. ขอ้ ใดที่กล่าวถึงเคร่ืองตดั ไฟรั่วไดถ้ กู ตอ้ งที่สุด
ก. เคร่ืองตดั ไฟร่ัว หมายถึง สวิตชอ์ ตั โนมตั ิท่ีสามารถปลดวงจร เมื่อมีกระแสไฟฟ้าร่ัวไดอ้ ยา่ ง
รวดเร็วภายในระยะเวลาท่ีกาหนดไว้
ข. เคร่ืองตดั ไฟรั่ว หมายถึง สวิตชต์ ดั วงจร
ค. เคร่ืองตดั ไฟร่ัว หมายถึงอปุ กรณ์ป้องกนั
ง. เครื่องตดั ไฟรั่ว หมายถึงสวติ ชท์ ี่สามารถปลดวงจรได้
7. เมื่อตอ้ งการตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องแรงดันไฟฟ้ากระแสสลบั ของเตา้ รับไฟฟ้าตอ้ งต้งั
ยา่ นวดั มลั ติมิเตอร์ท่ียา่ นวดั ใด
ก. ยา่ นวดั ความตา้ นทาน
ข. ยา่ นวดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั
ค. ยา่ นวดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง
ง. ยา่ นวดั กระแสไฟฟ้า
8. อุปกรณ์ป้องกนั กระแสไฟฟ้าเกิน เช่น ฟิ วส์ หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ ให้ต่อเฉพาะกบั สายใดของ
วงจร
ก. สายดินและสายนิวตรอน
ข. สายนิวตรอน
ค. สายดิน
ง. สายเฟส
9. กรณีที่ใชส้ ายดินตอ่ กบั บริภณั ฑไ์ ฟฟ้า ถา้ ใชส้ ายดินเป็นเสน้ เดี่ยว ตอ้ งมีฉนวนเป็นสีใด
ก. สีขาว
ข. สีเขยี ว
ค. สีเทา
ง. สีดา
10. การบารุงรักษาสายไฟฟ้าเก่ียวกบั การตรวจสอบจุดต่อสาย การเขา้ สายตอ้ งตรวจสอบอยา่ งนอ้ ย
ปี ละกี่คร้ัง
ก. 1 คร้ัง
ข. 2 คร้ัง
ค. 3 คร้ัง
ง. 4 คร้ัง
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 1
เรื่อง งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำกำลงั ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยท่ี 1
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดบั ปวส
ขอ้ คาตอบ
1ข
2ก
3ข
4ข
5ค
6ก
7ข
8ง
9ข
10 ก
แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 1
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำกำลงั ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้หน่วยที่ 1
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ ปวส
คำส่ัง จงเลือกคำตอบทีถ่ กู ทส่ี ุด ทำเคร่ืองหมำย ลงในช่องของกระดำษคำตอบ
1. การวดั ความตา้ นทานระหว่างหลกั ดินกับดิน (Resistance to Ground) มาตรฐานการติดต้งั ไฟฟ้า
สาหรับประเทศไทยของ ว.ส.ท.ไดก้ าหนด ความตา้ นทานหลกั ดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าไม่เกิน กี่โอห์ม
ก. 2 โอหม์
ข. 3 โอหม์
ค. 4 โอหม์
ง. 5 โอหม์
2. ขอ้ ใดกล่าวถึงการต่อลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าไดถ้ กู ตอ้ งท่ีสุด
ก. การต่อลงดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้าหมายถึงการต่อส่วนที่เป็ นโลหะที่มีกระแสไหลผ่านของ
อุปกรณ์ตา่ ง ๆ ใหถ้ ึงกนั ตลอดแลว้ ต่อลงดิน
ข. การต่อลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าหมายถึงการต่อส่วนท่ีเป็นโลหะ ของอุปกรณ์ตา่ งๆ ใหถ้ ึงกนั
ตลอดแลว้ ต่อลงดิน
ค. การต่อลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าหมายถึงการต่อส่วนที่เป็ นโลหะที่ไม่มีกระแสไหลผ่านของ
อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ใหถ้ ึงกนั ตลอดแลว้ ต่อลงดิน
ง. การต่อลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าหมายถึงการต่อสายดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้า
3. ขอ้ ใดที่กลา่ วถึงเคร่ืองตดั ไฟร่ัวไดถ้ กู ตอ้ งที่สุด
ก. เคร่ืองตดั ไฟร่ัว หมายถึง สวิตชอ์ ตั โนมตั ิที่สามารถปลดวงจร เมื่อมีกระแสไฟฟ้าร่ัวไดอ้ ยา่ ง
รวดเร็วภายในระยะเวลาที่กาหนดไว้
ข. เคร่ืองตดั ไฟร่ัว หมายถึง สวิตชต์ ดั วงจร
ค. เครื่องตดั ไฟรั่ว หมายถึงอปุ กรณ์ป้องกนั
ง. เครื่องตดั ไฟรั่ว หมายถึงสวติ ชท์ ่ีสามารถปลดวงจรได้
4. เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าท่ีมีการหุ้มฉนวนหนาเป็น 2 เท่าของความหนาฉนวนที่ใชส้ าหรับเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
ปกติคอื เครื่องใชไ้ ฟฟ้าประเภทใด
ก. เครื่องใชไ้ ฟฟ้าประเภท 1
ข. เครื่องใชไ้ ฟฟ้าประเภท 2
ค. เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าประเภท 3
ง. เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าประเภท 4
5. ขอ้ ใดกลา่ วถึงระบบไฟฟ้ากาลงั ไดถ้ กู ตอ้ งท่ีสุด
ก. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีประกอบดว้ ย ระบบการผลิต
ข. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง ระบบ
การจาหน่าย และระบบการใชก้ าลงั ไฟฟ้า
ค. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง
ง. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง ระบบ
การจาหน่าย
6. อปุ กรณ์ที่ตดั กระแสไฟฟ้าเมื่อเกิดการไหลของกระแสไฟฟ้าเกินกาลงั คอื
ก. คตั เอาต์ ข. เตา้ เสียบไฟฟ้า
ค. สวิตช์ ง. เตา้ รับไฟฟ้า
7. อุปกรณ์ป้องกนั กระแสไฟฟ้าเกิน เช่น ฟิ วส์ หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ ให้ต่อเฉพาะกบั สายใดของ
วงจร
ก. สายดินและสายนิวตรอน
ข. สายนิวตรอน
ค. สายดิน
ง. สายเฟส
8. เมื่อตอ้ งการตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องแรงดันไฟฟ้ากระแสสลบั ของเตา้ รับไฟฟ้าตอ้ งต้งั
ยา่ นวดั มลั ติมิเตอร์ท่ียา่ นวดั ใด
ก. ยา่ นวดั ความตา้ นทาน
ข. ยา่ นวดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั
ค. ยา่ นวดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง
ง. ยา่ นวดั กระแสไฟฟ้า
9. การบารุงรักษาสายไฟฟ้าเกี่ยวกบั การตรวจสอบจุดต่อสาย การเขา้ สายตอ้ งตรวจสอบอยา่ งนอ้ ยปี
ละกี่คร้ัง
ก. 1 คร้ัง
ข. 2 คร้ัง
ค. 3 คร้ัง
ง. 4 คร้ัง
10. กรณีท่ีใชส้ ายดินต่อกบั บริภณั ฑไ์ ฟฟ้า ถา้ ใชส้ ายดินเป็นเส้นเด่ียว ตอ้ งมีฉนวนเป็นสีใด
ก. สีขาว
ข. สีเขยี ว
ค. สีเทา
ง. สีดา
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 1
เรื่อง งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำกำลงั ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้หน่วยท่ี 1
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดบั . ปวส
ข้อ คำตอบ
1ข
2ค
3ก
4ข
5ข
6ก
7ง
8ข
9ก
10 ข
บนั ทกึ ผลหลงั กำรสอน
1. ผลกำรสอน
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
.................
2. ปัญหำ/อุปสรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
(ลงชื่อ)…………………………………
( ประจวบ แสงวงค์ )
ครูผสู้ อน
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ หน่วยท่ี 2
วชิ ำ 30104-2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ สอนคร้ังท่ี 4-5
คำบรวม 25
ชื่อหน่วย งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำแสงสว่ำง จำนวนคำบ 10
ชื่อเรื่อง งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำแสงสว่ำง
หวั ข้อเรื่อง
หน่วยท่ี 2 งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำแสงสว่ำง
2.1 ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง
2.2 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง
2.3 การซ่อมบารุงรักษาระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง
สำระสำคัญ
งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง หมายถึง งานใหบ้ ริการซ่อม บารุง ปรับปรุงระบบ
แสงสว่างในบ้านพักอาศัย โรงงานอุตสาหกรรม พ้ืนที่สาธารณะ การเลือกใช้หลอดไฟฟ้า ให้
เหมาะสมกบั การใชง้ าน การมองเห็น ท้งั น้ีเพราะเก่ียวขอ้ งโดยตรงกบั การทางาน และความปลอดภยั
สมรรถนะอำชีพ
1. แสดงความรู้เก่ียวกบั ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง
2. ตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง
จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
1. อธิบายหลกั การทางานของระบบไฟฟ้าแสงสวา่ งได้
2. ตรวจสอบหาสาเหตขุ อ้ บกพร่องของระบบไฟฟ้าแสงสวา่ งได้
3. ซ่อมบารุงรักษาระบบไฟฟ้าแสงสวา่ งได้
4. มีคณุ ธรรมจริยธรรม แสดงเจตคติและพฤติกรรมลกั ษณะนิสัยในการปฏิบตั ิงานดว้ ยความ
รับผดิ ชอบ ซ่ือสตั ย์ ใฝ่รู้ มีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั และทางานร่วมกบั
ผอู้ ื่นได้
เนื้อหำสำระกำรจดั กำรเรียนรู้
หน่วยที่ 2 งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำแสงสว่ำง
2.1 ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง
2.1.1 หลกั การใหแ้ สงสวา่ ง
2.1.2 แสงและการมองเห็น
2.2 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง
2.2.1 หลอดเผาไส้
2.2.2 หลอดกา๊ ซดิสชาร์จ
2.2.3 ขอ้ ควรพิจารณาในการเลือกใชห้ ลอดไฟฟ้า
2.2.4 บลั ลาสต์
2.2.5 โคมไฟฟ้า
2.2.6 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของระบบแสงสวา่ ง
2.3 การซ่อมบารุงรักษาระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง
2.3.1 ขอ้ บกพร่อง สาเหตุท่ีพบบอ่ ย และวธิ ีแกไ้ ข เกี่ยวกบั ระบบแสงสวา่ ง
2.3.2 การบารุงรักษาระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง
กระบวนกำรเรียนรู้
1. การบรรยาย
2. การสาธิต
3. ทกั ษะกระบวนการปฏิบตั ิ
กำรบูรณำกำรควำมรู้
1. ความรู้การใชภ้ าษาไทย การสรุป อภิปรายโดยใชภ้ าษาส่ือสารท่ีถูกตอ้ ง
2. ความรู้การใชภ้ าษาองั กฤษ ศพั ทเ์ ทคนิคทางดา้ นไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์
1. ความรู้เกี่ยวกบั การใชอ้ ินเตอร์เน็ต (Internet)ในการศึกษาคน้ ควา้
4. การอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งมีความสุข การแบ่งกลุม่ ช่วยเหลือกนั และร่วมงานกบั ผอู้ ื่นได้
5. สนทนากบั นกั เรียน ดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรม ก่อนและหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
สอนคร้ังที่ 4 (คำบที่ 13 - 16)
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายช่ือ
2. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้หน่วยที่ 2 เรื่อง งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง
3. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 2 เรื่อง งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้า
แสงสวา่ ง
4. ครูผสู้ อนสนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกบั ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง สุ่มเลือกนกั เรียน 2-3 คน เล่า
ประสบการณ์ที่เกี่ยวกบั ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง แลว้ สรุปโยงมาสู่การศึกษาวิชาการซ่อมบารุงระบบ
ไฟฟ้า
5. นกั เรียนรับคาแนะนาการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบการใชส้ ื่อโปรแกรมงานนาเสนอ
หน่วยที่ 2 จากครูผสู้ อน และศึกษาหนงั สือวชิ าการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า หน่วยท่ี 2 เรื่อง งานบริการ
และซ่อมระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง นกั เรียนสอบถามครูผสู้ อนเก่ียวกบั กิจกรรมในการจดั การเรียนรู้ท่ี
นกั เรียนยงั ไม่เขา้ ใจ
6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ เร่ือง งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง
7. นกั เรียนเขียนสรุปความคิดรวบยอดที่ไดจ้ ากการสรุปองคค์ วามรู้ลงในสมดุ บนั ทึก
8. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยท่ี 2
9. ครูผสู้ อนตรวจการเขียนสรุปความคิดรวบยอดของผเู้ รียน
10. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหดั ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพ่ือน
11. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
12. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรมโดยใชแ้ บบประเมิน
สอนคร้ังท่ี 5 ( คำบท่ี 17-20 )
กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายชื่อ เสร็จแลว้ แบ่งกลุ่มนกั เรียน
ตามผลการวเิ คราะหผ์ เู้ รียนกลุม่ ละ 4-5 คน เขา้ ประจาโต๊ะชุดฝึกปฏิบตั ิ
2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ทบทวนบทเรียนในคาบท่ีผา่ นมาเพ่อื ทบทวนความรู้เดิม
3. นกั เรียนศึกษาใบงานท่ี 2 เร่ือง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาหลอดเผาไสแ้ ละ
ใบงานที่ 3 เรื่อง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาหลอดฟลูออเรสเซนต์
4. ครูอธิบายและสาธิตใบงานที่ 2 และใบงานท่ี 3 พร้อมท้งั บอกการใชง้ านชุดฝึก ขอ้ ควร
ระวงั ในการใชง้ าน ระบบความปลอดภยั
5. นกั เรียนแต่ละกล่มุ ปฏิบตั ิงาน ตามใบงานที่ 2.1 และใบงานที่ 2.2
6. นกั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 2.1 และใบงานท่ี 2.2
7. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
8. ประเมินคุณธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
9. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 2 เร่ือง งานบริการและซ่อมระบบไฟฟ้าแสง
สวา่ ง
ส่ืออปุ กรณ์และแหล่งกำรเรียนรู้
1. ส่ือและอุปกรณ์
1.1 เอกสารประกอบการเรียนการสอนวชิ างานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
1.2 สื่องานนาเสนอ หน่วยที่ 2
1.3 ครุภณั ฑ์ เคร่ืองมือ ประจาหอ้ งปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
2. แหล่งกำรเรียนรู้
2.1 เอกสารตามบรรณานุกรมในเอกสารประกอบการเรียนการสอน
2.2 วสั ดุ ครุภณั ฑห์ อ้ งปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
2.3 หอ้ งสมุดของวิทยาลยั ฯ และหอ้ งสมดุ ประชาชน
2.4 การสืบคน้ ขอ้ มูลจากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆท่ีเก่ียวขอ้ ง
กำรวัดผลและประเมินผล เครื่องมือวัด เกณฑ์กำรประเมิน
วธิ ีวดั 1. แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 2 1. ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
1. แบบฝึกหดั หลงั เรียน จาก 10 ขอ้
2. ไดค้ ะแนนจากผลการ
2. ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน 2. แบบประเมินผล
3. ประเมินคุณธรรมจริยธรรม การปฏิบตั ิงาน ปฏิบตั ิงานร้อยละ 50
4. ทดสอบหลงั เรียน 3. ไดค้ ะแนนจากการประเมิน
3. แบบประเมินคุณธรรม คณุ ธรรมจริยธรรม ร้อยละ 50
จริยธรรม 4. ทาแบบทดสอบผา่ น 5 ขอ้
4. แบบทดสอบหลงั เรียน จาก 10 ขอ้
กจิ กรรมเสนอแนะ
1. นกั เรียนศึกษาจากเอกสารประกอบการเรียนรู้และใบงานมาก่อนลว่ งหนา้
2. นกั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง
3. นกั เรียนศึกษาเพ่มิ เติมจากหอ้ งสมดุ
เฉลยแบบฝึ กหัดหน่วยที่ 2
คำส่ัง : จงทำเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมทีถ่ ูกต้องและเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมท่ีผดิ
…………1. การใหแ้ สงสวา่ งทวั่ พ้นื ที่ เป็นการใหแ้ สงสวา่ งที่สิ้นเปลืองพลงั งานสูง
…………2. หลอดไส้แบบหลอดแกว้ ใสไสห้ ลอดทามาจากลวดทองแดง
…………3. หลอดฮาโลเจนสามารถใชม้ ือเปลา่ จบั เปลี่ยนหลอดได้
…………4. หลอดฟลูออเรสเซนต์ ขนาด T12 เม่ือใชง้ านจะประหยดั ไฟมากกวา่ หลอดขนาด T8
…………5. หลอดฟลูออเรสเซนต์ ภายในหลอดแกว้ ฉาบดว้ ยสารฟอสเฟอร์เพอื่ ใหเ้ กิดการ
สะทอ้ นและเรืองแสงเป็นสีขาวนวล
…………6. หลอดโซเดียมความดนั ต่าตอ้ งใชบ้ ลั ลาสตใ์ นการจุดหลอดให้ติดสวา่ ง
………….7. การใชบ้ ลั ลาสตอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ตอ่ วงจรกบั หลอดฟลูออเรสเซนตต์ อ้ งใชส้ ตาร์ตเตอร์
ต่อร่วมกบั วงจรดว้ ย
…………8. โคมดาวนไ์ ลทใ์ ชต้ ิดต้งั กบั หลอดฟลอู อเรสเซนตไ์ ด้
…………9. เม่ือกดสวิตชป์ ิ ดวงจร (ON) หลอดฟลอู อเรสเซนต์ กะพริบแลว้ ดบั ลองขยบั หลอดให้
สมั ผสั กบั ขาหลอดยงั ไมส่ วา่ งสามารถตรวจสอบไดโ้ ดยการวดั ความตา้ นทานท่ีขา
หลอดท้งั 2 ขา้ ง ถา้ ค่าความตา้ นทานไม่สามารถอา่ นคา่ ได้ แสดงวา่ ไสห้ ลอดขาด
…………10. การบารุงรักษาระบบแสงสวา่ งควรทาความสะอาดหลอดไฟทกุ เดือน
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 2
เรื่อง งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำแสงสว่ำง ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยท่ี 2
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ.ปวส
คำส่ัง จงเลือกคำตอบท่ีถูกทสี่ ุด ทำเครื่องหมำย ลงในช่องของกระดำษคำตอบ
1. ขอ้ ใดกลา่ วถึงระบบไฟฟ้าแสงสวา่ งไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด
ก. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปลี่ยนแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหลง่ จ่าย, ตวั นาไฟฟ้า, หลอดไฟฟ้า,และสวติ ชค์ วบคุม
ข. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานกลไปเปล่ียนแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหลง่ จ่าย, ตวั นาไฟฟ้า, หลอดไฟฟ้า,และสวิตชค์ วบคุม
ค. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบที่ใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปล่ียนแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหล่งจ่าย, ตวั นาไฟฟ้าและสวติ ชค์ วบคุม
ง. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปลีย่ นแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหลง่ จ่าย,หลอดไฟฟ้าและสวิตชค์ วบคุม
2. หอ้ งเรียนควรมีความสวา่ งเทา่ ใด
ก. 100 Lux
ข. 200 Lux
ค. 300 Lux
ง. 400 Lux
3. ขอ้ ใดเป็นหลอดเผาไส้
ก. หลอดแสงจนั ทร์
ข. หลอดฟลูออเรสเซนต์
ค. หลอดฮาโลเจน
ง. หลอดสะทอ้ นแสง
4. ไสห้ ลอดมีส่วนผสมของโลหะใดบา้ ง
ก. ทองแดง
ข. เงิน
ค. ทงั สเตน
ง. เหลก็