5. หลอดเผาไส้ขนาด 100 วตั ต์ 220 โวลต์ ความตา้ นทานประมาณก่ีโอห์ม
ก. 150-250 โอหม์
ข. 250-350 โอห์ม
ค. 350-450 โอห์ม
ง. 450-550 โอห์ม
6. วงจรหลอดฟลูออเรสเซนตจ์ ะสามารถทางานไดต้ อ้ งเพ่ิมส่วนประกอบใดเขา้ ไป นอกเหนือจาก
วงจรไฟฟ้าปกติ
ก. สวติ ชแ์ ละฟิ วส์
ข. สวติ ชแ์ ละบลั ลาสต์
ค. สวิตชแ์ ละสตาร์ตเตอร์
ง. บลั ลาสตแ์ ละสตาร์ตเตอร์
7. หลอดแสงจนั ทร์ใชเ้ วลาจุดไสห้ ลอดนานเท่าใด
ก. 5 - 10 นาที
ข. 12 - 14 นาที
ค. 2 - 4 นาที
ง. 15 – 20 นาที
8. สาเหตุใดหลอดแสงจนั ทร์จึงตอ้ งรอเวลาการจุดไส้หลอดใหม่หลงั จากดบั ไฟ
ก. ลดแรงดนั ไฟฟ้าในหลอด
ข. ลดอณุ หภูมิของหลอด
ค. ลดกระแสในหลอด
ง. ยดื อายกุ ารใชง้ านของหลอด
9. อาคารที่มีเพดานสูง ๆ ควรติดต้งั หลอดไฟแบบใด
ก. หลอดเผาไส้
ข. หลอดฟลูออเรสเซนต์
ค. หลอดฮาโลเจน
ง. หลอดโซเดียมความดนั สูง
10. ขอ้ ใดเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมในการทาความสะอาดโคมไฟฟ้าและฝาครอบโคม
ก. ทกุ 1 เดือน ข. ทุก 2 เดือน
ค. ทุก 3 เดือน ง. ทุก 4 เดือน
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 2
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำแสงสว่ำง ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้หน่วยท่ี 2
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ.ปวส
ข้อ คำตอบ
1ก
2ค
3ง
4ค
5ง
6ง
7ค
8ข
9ค
10 ค
แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 2
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำแสงสว่ำง ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยท่ี 2
วชิ ำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดบั .ปวส
คำสั่ง จงเลือกคาตอบท่ีถกู ท่ีสุด ทาเคร่ืองหมาย ลงในช่องของกระดาษคาตอบ
1. ไส้หลอดมีส่วนผสมของโลหะใดบา้ ง
ก. ทองแดง
ข. เงิน
ค. ทงั สเตน
ง. เหลก็
2. ขอ้ ใดเป็นหลอดเผาไส้
ก. หลอดแสงจนั ทร์
ข. หลอดฟลอู อเรสเซนต์
ค. หลอดฮาโลเจน
ง. หลอดสะทอ้ นแสง
3. หอ้ งเรียนควรมีความสวา่ งเท่าใด
ก. 100 Lux
ข. 200 Lux
ค. 300 Lux
ง. 400 Lux
4. ขอ้ ใดกลา่ วถึงระบบไฟฟ้าแสงสวา่ งไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด
ก. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปล่ียนแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหลง่ จ่าย, ตวั นาไฟฟ้า, หลอดไฟฟ้า,และสวติ ชค์ วบคมุ
ข. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานกลไปเปล่ียนแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหลง่ จ่าย, ตวั นาไฟฟ้า, หลอดไฟฟ้า,และสวติ ชค์ วบคุม
ค. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปลี่ยนแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหล่งจ่าย, ตวั นาไฟฟ้าและสวิตชค์ วบคมุ
ง. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปลย่ี นแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหลง่ จ่าย,หลอดไฟฟ้าและสวติ ชค์ วบคมุ
5. วงจรหลอดฟลูออเรสเซนตจ์ ะสามารถทางานไดต้ อ้ งเพ่ิมส่วนประกอบใดเขา้ ไป นอกเหนือจาก
วงจรไฟฟ้าปกติ
ก. สวติ ชแ์ ละฟิ วส์
ข. สวติ ชแ์ ละบลั ลาสต์
ค. สวิตชแ์ ละสตาร์ตเตอร์
ง. บลั ลาสตแ์ ละสตาร์ตเตอร์
6. หลอดเผาไส้ขนาด 100 วตั ต์ 220 โวลต์ ความตา้ นทานประมาณกี่โอห์ม
ก. 150-250 โอห์ม
ข. 250-350 โอหม์
ค. 350-450 โอห์ม
ง. 450-550 โอห์ม
7. หลอดแสงจนั ทร์ใชเ้ วลาจุดไส้หลอดนานเท่าใด
ก. 5 - 10 นาที
ข. 12 - 14 นาที
ค. 2 - 4 นาที
ง. 15 – 20 นาที
8. สาเหตใุ ดหลอดแสงจนั ทร์จึงตอ้ งรอเวลาการจุดไสห้ ลอดใหมห่ ลงั จากดบั ไฟ
ก. ลดแรงดนั ไฟฟ้าในหลอด
ข. ลดอุณหภูมิของหลอด
ค. ลดกระแสในหลอด
ง. ยดื อายกุ ารใชง้ านของหลอด
9. ขอ้ ใดเป็นระยะเวลาทีเ่ หมาะสมในการทาความสะอาดโคมไฟฟ้าและฝาครอบโคม
ก. ทกุ 1 เดือน
ข. ทกุ 2 เดือน
ค. ทุก 3 เดือน
ง. ทกุ 4 เดือน
10. อาคารที่มีเพดานสูง ๆ ควรติดต้งั หลอดไฟแบบใด
ก. หลอดเผาไส้ ข. หลอดฟลอู อเรสเซนต์
ค. หลอดฮาโลเจน ง. หลอดโซเดียมความดนั สูง
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 2
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมระบบไฟฟ้ำแสงสว่ำง ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้หน่วยท่ี 2
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ. ปวส
ข้อ คำตอบ
1ค
2ง
3ค
4ก
5ง
6ง
7ค
8ข
9ค
10 ค
บันทกึ ผลหลงั กำรสอน
1. ผลกำรสอน
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
2. ปัญหำ/อปุ สรรค
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
(ลงชื่อ)…………………………………
( ประจวบ แสงวงค์ )
ครูผสู้ อน
ชื่อเร่ือง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ หน่วยที่ 3
สอนคร้ังท่ี 6-9
วิชำ 30104-2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ คำบรวม 45
ชื่อหน่วย งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้ำทใ่ี ห้พลงั งำน จำนวนคำบ 20
ควำมร้อน
งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้ำที่ให้พลงั งำนควำมร้อน
หวั ข้อเร่ือง
หน่วยท่ี 3 งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้ำทใี่ ห้พลงั งำนควำมร้อน
3.1 งานบริการและซ่อมกระทะไฟฟ้า
3.2 งานบริการและซ่อมเตารีดไฟฟ้า
3.3 งานบริการและซ่อมหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
3.4 งานบริการและซ่อมกาตม้ น้าไฟฟ้า
สำระสำคัญ
เครื่องใช้ไฟฟ้าท่ีให้พลงั งานความร้อน หมายถึง เครื่องใชไ้ ฟฟ้าที่เปลี่ยนพลงั งานไฟฟ้าเป็ น
พลงั งานความร้อนและนาความร้อนไปใชป้ ระโยชน์ โดยการใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผา่ นลวดความร้อน
ที่เป็ นโลหะผสมของนิกเกิล เหล็กและโครเมียม มีคุณสมบัติทนความร้อนสูง และไม่รวมตวั กับ
ออกซิเจน พลงั งานไฟฟ้าจะเปลี่ยนเป็นพลงั งานความร้อนแลว้ ถา่ ยเทพลงั งานความร้อนไปยงั ภาชนะ
เพ่ือนาไปใชต้ ามวตั ถปุ ระสงคก์ ารใชง้ าน
สมรรถนะอำชีพ
1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั หลกั การทางานของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าที่ใหพ้ ลงั งานความร้อน
2. แสดงความรู้เก่ียวกบั การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเครื่องใช้ ไฟฟ้าที่ใหพ้ ลงั งาน
ความร้อน
จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
1. อธิบายหลกั การทางานของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าท่ีใหพ้ ลงั งานความร้อนได้
2. ตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของเครื่องใชไ้ ฟฟ้าที่ใหพ้ ลงั งานความร้อนได้
3. ซ่อมบารุงรักษาเครื่องใชไ้ ฟฟ้าที่ใหพ้ ลงั งานความร้อนได้
4. มีคณุ ธรรมจริยธรรม แสดงเจตคติและพฤติกรรมลกั ษณะนิสัยในการปฏิบตั ิงานดว้ ยความ
รับผดิ ชอบ ซ่ือสตั ย์ ใฝ่รู้ มีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั และทางานร่วมกบั
ผอู้ ื่นได้
เนื้อหำสำระกำรจัดกำรเรียนรู้
หน่วยท่ี 3 งำนบริกำรและซ่อมเคร่ืองใช้ ไฟฟ้ำท่ใี ห้พลงั งำนควำมร้อน
3.1 งำนบริกำรและซ่อมกระทะไฟฟ้ำ
3.1.1 โครงสร้างของกระทะไฟฟ้า
3.1.2 หลกั การทางานของกระทะไฟฟ้า
3.1.3 การตรวจสอบหาสาเหตขุ อ้ บกพร่องของกระทะไฟฟ้า
3.1.4 การซ่อมบารุงรักษากระทะไฟฟ้า
3.2 งำนบริกำรและซ่อมเตำรีดไฟฟ้ำ
3.2.1 โครงสร้างของเตารีดไฟฟ้า
3.2.2 หลกั การทางานของเตารีดไฟฟ้า
3.2.3 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของเตารีดไฟฟ้า
3.2.4 การซ่อมบารุงรักษาเตารีดไฟฟ้า
3.3 งำนบริกำรและซ่อมหม้อหุงข้ำวไฟฟ้ำ
3.3.1 ส่วนประกอบของหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
3.3.2 หลกั การทางานของหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
3.3.3 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
3.3.4 การซ่อมบารุงรักษาหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
3.4 งำนบริกำรและซ่อมกำต้มนำ้ ไฟฟ้ำ
3.4.1 กาตม้ น้าไฟฟ้าแบบธรรมดา
3.4.2 กาตม้ น้าไฟฟ้าแบบอตั โนมตั ิ
3.4.3 กาตม้ น้าไฟฟ้าแบบอตั โนมตั ิใชแ้ รงกดอากาศ
3.4.4 การตรวจสอบหาสาเหตขุ อ้ บกพร่องของกาตม้ น้าไฟฟ้า
3.4.5 การซ่อมบารุงรักษากาตม้ น้าไฟฟ้า
กระบวนกำรเรียนรู้
1. กระบวนการกลุม่
2. การสาธิต
3. ทกั ษะกระบวนการปฏิบตั ิ
กำรบูรณำกำรควำมรู้
1. ความรู้การใชภ้ าษาไทย การสรุป อภิปรายโดยใชภ้ าษาส่ือสารที่ถกู ตอ้ ง
2. ความรู้การใชภ้ าษาองั กฤษ ศพั ทเ์ ทคนิคทางดา้ นไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์
6. ความรู้เกี่ยวกบั การใชอ้ ินเตอร์เนต็ (Internet)ในการศึกษาคน้ ควา้
4. การอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งมีความสุข การแบ่งกลุม่ ช่วยเหลือกนั และร่วมงานกบั ผอู้ ื่นได้
5. สนทนากบั นกั เรียนดา้ นคุณธรรมจริยธรรม ก่อนและหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
สอนคร้ังท่ี 6 (คำบท่ี 21 - 24)
กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายชื่อ
2. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ หน่วยที่ 3 งานบริการและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้าท่ีใหพ้ ลงั งาน
ความร้อน
3. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 3 เรื่อง งานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้าที่
ใหพ้ ลงั งานความร้อน
4. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยให้นกั เรียนสงั เกตส่ือของจริง พร้อมท้งั ซกั ถามนกั เรียนเกี่ยวกบั
กระทะไฟฟ้า และการใชง้ านและให้นกั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม
5. แบ่งกล่มุ นกั เรียนตามผลการวเิ คราะหผ์ เู้ รียนกลุ่มละ 3-4 คน ร่วมกนั ศึกษาหนงั สือวิชาการ
ซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยท่ี 3 เร่ือง งานบริการและซ่อมเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าที่ใหพ้ ลงั งานความร้อน
3.1 งานบริการและซ่อมกระทะไฟฟ้าและร่วมกนั อภิปรายสาระสาคญั ดงั น้ี
กลุ่มที่ 1 โครงสร้างของกระทะไฟฟ้า
กลุ่มที่ 2 หลกั การทางานของกระทะไฟฟ้า
กลุ่มที่ 3 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของกระทะไฟฟ้า
กลุ่มท่ี 4 การซ่อมบารุงรักษากระทะไฟฟ้า
6. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั สรุปประเด็นท่ีเป็นสาระสาคญั เกี่ยวกบั งานบริการและซ่อม
กระทะไฟฟ้า
7. ตวั แทนนกั เรียนแต่ละกลุม่ นาเสนอผลการอภิปราย เร่ือง งานบริการและซ่อมกระทะ
ไฟฟ้า หนา้ ช้นั เรียนนกั เรียนตา่ งกลมุ่ บนั ทึกองคค์ วามรู้ของกลมุ่ ท่ีนาเสนอทกุ กลมุ่
8. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ เร่ือง งานบริการและซ่อมกระทะไฟฟ้า
นกั เรียนบนั ทกึ ผลการสรุปเพิม่ เติมในส่วนท่ียงั ไมส่ มบรู ณ์
9. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยที่ 3 ตอนที่ 1
10. ครูผสู้ อนตรวจสรุปสาระสาคญั เก่ียวกบั งานบริการและซ่อมกระทะไฟฟ้า ในรูปแบบของ
แผนที่ความคิดของนกั เรียนแต่ละกลุม่
11. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหดั ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพ่ือน
12. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
13. นกั เรียนศึกษาใบงานที่ 3.1 เร่ือง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษากระทะไฟฟ้า
14. ครูอธิบายและสาธิต การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษากระทะไฟฟ้า
15. นกั เรียนแต่ละกลุ่ม(กลุ่มเดิม)แยกปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 3.1
16. นกั เรียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 3.1
17. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
18. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
สอนคร้ังที่ 7 (คำบท่ี 25 - 28)
กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายชื่อ
2. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนสังเกตสื่อของจริง พร้อมท้งั ซกั ถามนกั เรียนเกี่ยวกบั
เตารีดไฟฟ้าและการใชง้ านและใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม
3. แบ่งกลุ่มนกั เรียนตามผลการวิเคราะห์ผเู้ รียนกลุม่ ละ 3-4 คน ร่วมกนั ศึกษาหนงั สือวิชาการ
ซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยที่ 3 เรื่อง งานบริการและซ่อมเคร่ืองใช้ ไฟฟ้าที่ใหพ้ ลงั งานความร้อน
3.2 งานบริการและซ่อมเตารีดไฟฟ้าและร่วมกนั อภิปรายสาระสาคญั ดงั น้ี
กลมุ่ ท่ี 1 โครงสร้างของเตารีดไฟฟ้า
กลุม่ ที่ 2 หลกั การทางานของเตารีดไฟฟ้า
กล่มุ ท่ี 3 การตรวจสอบหาสาเหตขุ อ้ บกพร่องของเตารีดไฟฟ้า
กลุม่ ที่ 4 การซ่อมบารุงรักษาเตารีดไฟฟ้า
4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั สรุปประเด็นท่ีเป็นสาระสาคญั เก่ียวกบั งานบริการและซ่อมเตารีด
ไฟฟ้า
5. ตวั แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการอภิปราย เร่ือง งานบริการและซ่อมเตารีดไฟฟ้า
หนา้ ช้นั เรียนนกั เรียนต่างกลมุ่ บนั ทึกองคค์ วามรู้ของกลมุ่ ท่ีนาเสนอทุกกลุ่ม
6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ เรื่อง งานบริการและซ่อมเตารีดไฟฟ้า นกั เรียน
บนั ทึกผลการสรุปเพมิ่ เติมในส่วนท่ียงั ไมส่ มบรู ณ์
7. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยที่ 3 ตอนท่ี 2
8. ครูผสู้ อนตรวจสรุปสาระสาคญั เก่ียวกบั งานบริการและซ่อมเตารีดไฟฟ้า ในรูปแบบของ
แผนที่ความคดิ ของนกั เรียนแต่ละกลุ่ม
9. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหัด ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพ่ือน
10. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
11. นกั เรียนศึกษาใบงานท่ี 3.2 เร่ือง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเตารีดไฟฟ้า
12. ครูอธิบายและสาธิต การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเตารีดไฟฟ้า
13. นกั เรียนแต่ละกลุม่ (กลมุ่ เดิม)แยกปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 3.2
14. นกั เรียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานท่ี 3.2
15. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
16. ประเมินคุณธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
สอนคร้ังท่ี 8 (คำบที่ 29 - 32)
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายช่ือ
2. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยให้นกั เรียนสงั เกตสื่อของจริง พร้อมท้งั ซกั ถามนกั เรียนเก่ียวกบั
หมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้าและการใชง้ านและใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม
3. แบง่ กลมุ่ นกั เรียนตามผลการวิเคราะห์ผเู้ รียนกลมุ่ ละ 3-4 คน ร่วมกนั ศึกษาหนงั สือวิชาการ
ซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยที่ 3 เรื่อง งานบริการและซ่อมเคร่ืองใช้ ไฟฟ้าท่ีใหพ้ ลงั งานความร้อน
3.3 งานบริการและซ่อมหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้าและร่วมกนั อภิปรายสาระสาคญั ดงั น้ี
กลุ่มท่ี 1 ส่วนประกอบของหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
กลมุ่ ที่ 2 หลกั การทางานของหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
กลุ่มท่ี 3 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของหมอ้ หุงขา้ ว
กล่มุ ที่ 4 การซ่อมบารุงรักษาหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
4. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั สรุปประเด็นท่ีเป็นสาระสาคญั เกี่ยวกบั งานบริการและซ่อม
หมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
5. ตวั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการอภิปราย เร่ือง งานบริการและซ่อมหมอ้ หุงขา้ ว
ไฟฟ้าหนา้ ช้นั เรียนนกั เรียนต่างกลุ่ม บนั ทึกองคค์ วามรู้ของกลุ่มท่ีนาเสนอทุกกล่มุ
6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ เรื่อง งานบริการและซ่อมหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
นกั เรียนบนั ทึกผลการสรุปเพิ่มเติมในส่วนที่ยงั ไมส่ มบูรณ์
7. นกั เรียนทาแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 3 ตอนที่ 3
8. ครูผูส้ อนตรวจสรุปสาระสาคญั เกี่ยวกบั งานบริการและซ่อมหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า ในรูปแบบ
ของแผนท่ีความคดิ ของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่
9. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหัด ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพื่อน
10. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
11. นกั เรียนศึกษาใบงานที่ 3.3 เรื่อง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
12. ครูอธิบายและสาธิต การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
13. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ (กลมุ่ เดิม)แยกปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 3.3
14. นกั เรียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 3.3
15. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
16. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
สอนคร้ังที่ 9 (คำบที่ 33 - 36)
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายชื่อ
2. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยให้นกั เรียนสงั เกตส่ือของจริง พร้อมท้งั ซกั ถามนกั เรียนเก่ียวกบั
กาตม้ น้าไฟฟ้าและการใชง้ านและใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม
3. แบ่งกลุ่มนกั เรียนตามผลการวิเคราะหผ์ เู้ รียนกลมุ่ ละ 3-4 คน ร่วมกนั ศึกษาหหนงั สือ
วชิ าการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยที่ 3 เร่ือง งานบริการและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้าที่ใหพ้ ลงั งานความ
ร้อน 3.4 งานบริการและซ่อมกาตม้ น้าไฟฟ้าและร่วมกนั อภิปรายสาระสาคญั ดงั น้ี
กลุ่มที่ 1 กาตม้ น้าไฟฟ้าแบบธรรมดา กาตม้ น้าไฟฟ้าแบบอตั โนมตั ิ
กลมุ่ ที่ 2 กาตม้ น้าไฟฟ้าแบบอตั โนมตั ิใชแ้ รงกดอากาศ
กลุ่มที่ 3 การตรวจสอบหาสาเหตขุ อ้ บกพร่องของกาตม้ น้าไฟฟ้า
กลุ่มท่ี 4 การซ่อมบารุงรักษากาตม้ น้าไฟฟ้า
4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั สรุปประเด็นที่เป็นสาระสาคญั เกี่ยวกบั งานบริการและซ่อมกาตม้
น้าไฟฟ้า
5. ตวั แทนนกั เรียนแต่ละกลุม่ นาเสนอผลการอภิปราย เรื่อง งานบริการและซ่อมกาตม้ น้า
ไฟฟ้าหนา้ ช้นั เรียนนกั เรียนต่างกลมุ่ บนั ทึกองคค์ วามรู้ของกลุ่มที่นาเสนอทกุ กลุ่ม
6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ เรื่อง งานบริการและซ่อมกาตม้ น้าไฟฟ้านกั เรียน
บนั ทึกผลการสรุปเพม่ิ เติมในส่วนที่ยงั ไมส่ มบูรณ์
7. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยท่ี 3 ตอนที่ 4
8. ครูผสู้ อนตรวจสรุปสาระสาคญั เก่ียวกบั งานบริการและซ่อมกาตม้ น้าไฟฟ้า ในรูปแบบ
ของแผนท่ีความคดิ ของนกั เรียนแตล่ ะกล่มุ
9. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหัด ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพ่ือน
10. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
11. นักเรียนศึกษาใบงานที่ 3.4 เรื่อง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษากาตม้ น้าไฟฟ้าแบบ
อตั โนมตั ิใชแ้ รงกดอากาศ
12. ครูอธิบายและสาธิต การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษากาตม้ น้าไฟฟ้า
13. นกั เรียนแต่ละกลุ่ม(กลมุ่ เดิม)แยกปฏิบตั ิงานตามใบงานท่ี 3.4
14. นกั เรียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 3.4
15. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
16. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
17. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 3 เรื่อง งานบริการและซ่อมเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
ที่ใหพ้ ลงั งานความร้อน
ส่ืออุปกรณ์และแหล่งกำรเรียนรู้
1. สื่อและอุปกรณ์
1.1 เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
1.2 สื่องานนาเสนอ หน่วยที่ 3
1.3 ครุภณั ฑ์ เครื่องมือ ประจาหอ้ งปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
2. แหล่งกำรเรียนรู้
2.1 เอกสารตามบรรณานุกรมในเอกสารประกอบการเรียนการสอน
2.2 วสั ดุ ครุภณั ฑห์ อ้ งปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
2.3 หอ้ งสมุดของวทิ ยาลยั ฯ และหอ้ งสมดุ ประชาชน
2.4 การสืบคน้ ขอ้ มลู จากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆที่เก่ียวขอ้ ง
กำรวดั ผลและประเมนิ ผล เครื่องมือวดั เกณฑ์กำรประเมิน
วิธีวดั 1. แบบฝึกหดั 1. ทาแบบฝึกหดั
1.1 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
1. แบบฝึกหดั หลงั เรียน 1.1 แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 3
ตอนท่ี 1 จาก 10 ขอ้
2. ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน 1.2 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
3. ประเมินคุณธรรมจริยธรรม 1.2 แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 3
4. ทดสอบหลงั เรียน ตอนท่ี 2 จาก 10 ขอ้
1.3 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
1.3 แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 3
ตอนที่ 3 จาก 10 ขอ้
1.4 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
1.4 แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 3
ตอนท่ี 4 จาก 10 ขอ้
2. ไดค้ ะแนนจากผลการ
2. แบบประเมินผล
การปฏิบตั ิงาน ปฏิบตั ิงานร้อยละ 50
3. ไดค้ ะแนนจากการประเมิน
3. แบบประเมินคุณธรรม
จริยธรรม คุณธรรมจริยธรรมร้อยละ 50
4. ทาแบบทดสอบผา่ น 10 ขอ้
4. แบบทดสอบหลงั เรียน
จาก 20 ขอ้
กจิ กรรมเสนอแนะ
1. นกั เรียนศึกษาจากเอกสารประกอบการเรียนรู้และใบงานมาก่อนลว่ งหนา้
2. นกั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เพ่มิ เติมจากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง
3. นกั เรียนศึกษาเพมิ่ เติมจากหอ้ งสมดุ
เฉลยแบบฝึ กหดั หน่วยท่ี 3 ตอนที่ 1
คำส่ัง : จงทำเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมท่ถี ูกต้องและเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมท่ีผดิ
………….1. ลวดความร้อนของกระทะไฟฟ้าทาดว้ ยลวดทองแดง
…………2. อุปกรณ์ควบคมุ อณุ หภมู ิของกระทะไฟฟ้าทาหนา้ ท่ีในการปรับระดบั ความร้อนใน
การใชง้ าน
…………3. ก่อนทาการถอดชิ้นส่วนเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าใดๆ ใหเ้ ราบนั ทึกหรือทาเคร่ืองหมาย
เสียก่อนเพ่ือเวลาประกอบจะไดไ้ ม่ผิดพลาด
………….4. กระทะไฟฟ้าสามารถถอดขดลวดความร้อนมาวดั ดว้ ยมลั ติมิเตอร์ได้
…………5. เม่ือใชม้ ลั ติมิเตอร์วดั ขดลวดความร้อนของกระทะไฟฟ้า ถา้ เขม็ มิเตอร์ไมเ่ กิดการ
เปล่ียนแปลงใดๆ กแ็ สดงวา่ ขดลวดความร้อนน้นั ขาด ใหเ้ ปลี่ยนใหม่
…………6. เมื่อตอ้ งการตรวจสอบกระแสไฟฟ้าร่ัวลงโครงของกระทะไฟฟ้าสามารถใชไ้ ขควง
ทดสอบไฟหรือมลั ติมิเตอร์ในการตรวจสอบได้
………….7. เม่ืออปุ กรณ์ควบคุมอุณหภูมิไม่สามารถปรับระดบั ความร้อนใหก้ บั กระทะไฟฟ้าได้
แสดงวา่ ขดลวดความร้อนของกระทะไฟฟ้าขาด
………….8. เมื่อใชม้ ลั ติมิเตอร์วดั สายไฟเส้นใดเส้นหน่ึง ของเตา้ เสียบกระทะไฟฟ้า ผลมีความ
ตา้ นทานสูงมาก แสดงวา่ สายไฟฟ้าปกติ
………….9. ผใู้ ช้ กระทะไฟฟ้าควรยนื อยบู่ นพ้ืนฉนวน เช่น แผน่ ไมแ้ หง้ แผน่ ยางแหง้ เพอ่ื
ป้องกนั กระแสไฟฟ้าดูดเนื่องจากไฟฟ้ารั่ว
………….10. การบารุงรักษากระทะไฟฟ้า ไม่ควรแช่กระทะไฟฟ้าท้งั ใบลงในน้า ซ่ึงระบบไฟฟ้า
ของกระทะไฟฟ้าซ่ึงอยใู่ ตต้ วั กระทะไฟฟ้าอาจช้ืนและมีกระแสไฟฟ้ารั่วลงโครง
ของกระทะไฟฟ้าได้
เฉลยแบบฝึ กหดั หน่วยที่ 3 ตอนที่ 2
คำสั่ง : จงทำเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมที่ถูกต้องและเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมท่ผี ดิ
…………1. ป่ ุมปรับความร้อนเป็นโครงสร้างภายนอกของเตารีดไฟฟ้า
…………2. ตวั ควบคมุ ความร้อนของเตารีดไฟฟ้า เป็นแผน่ ไบเม-ทลั ยดึ ติดท่ีพ้นื เตารีด
…………3. ชุดควบคมุ ความร้อนของเตารีดไฟฟ้ามีหนา้ ที่รักษาระดบั ความร้อนของเตารีดให้
คงท่ีอยตู่ ลอดเวลา เม่ือร้อนเกินกาหนดกจ็ ะตดั วงจร และเม่ือเยน็ ลงกจ็ ะต่อวงจร
ใหม่
…………4. วงจรการทางานของเตารีดไฟฟ้าจะมีตวั ตา้ นทาน ต่ออนุกรมอยกู่ บั ลวดความร้อน
ของเตารีดเพอื่ ลดแรงดนั และกระแสไฟฟ้าใหก้ บั เตารีดไฟฟ้า
…………5. เม่ือเราจะประกอบชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องใชไ้ ฟฟ้าเขา้ ท่ีเดิม ใหเ้ ชด็ ทาความสะอาด
และตรวจสภาพใหเ้ รียบร้อยและเมื่อประกอบเสร็จใหท้ ดลองการทางานก่อนเพือ่
ความถกู ตอ้ งและปลอดภยั
…………6. ขดลวดความร้อนของเตารีดไฟฟ้า เม่ือตรวจสอบแลว้ พบวา่ ลวดความร้อนขาดเรา
สามารถที่จะเชื่อมต่อขดลวดเพ่ือใชง้ านใหม่ได้
…………7. เมื่อเราตรวจสอบสาเหตุ ขอ้ บกพร่องของเตารีดไฟฟ้า พบวา่ หนา้ สัมผสั ของชุด
ควบคุมความร้อนสกปรกใหเ้ ราแกไ้ ขดว้ ยการเปลี่ยนหนา้ สัมผสั ใหม่
…………8. วธิ ีการตรวจสอบลวดความร้อนของเตารีดไฟฟ้าวา่ ขาดหรือไม่ ตรวจสอบไดโ้ ดย
การใชม้ ลั ติมิเตอร์วดั โดยวดั ท่ีหลกั ต่อสาย หากเขม็ มิเตอร์ไม่ข้นึ แสดงวา่
ลวดความร้อนขาด
…………9. เราสามารถตรวจสอบไฟร่ัวลงโครงเตารีดไฟฟ้าได้ ดว้ ยวิธีเสียบปลก๊ั เตารีดไฟฟ้า
แลว้ ใชไ้ ขควงทดสอบไฟแตะท่ีโครงของเตารีด
…………10. ไมค่ วรวางเตารีดไฟฟ้าลงบนวตั ถทุ ่ีแขง็ , ขรุขระเพราะจะทาใหเ้ ตารีดเป็นรอยได้
เฉลยแบบฝึ กหัดหน่วยที่ 3 ตอนท่ี 3
คำส่ัง : จงทำเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมทถี่ ูกต้องและเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมทผี่ ิด
…………1. ลวดความร้อนของหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้าทาดว้ ยลวดนิโครม
…… ……2. ขณะที่หมอ้ หุงขา้ วกาลงั หุง หลอดไฟสัญญาณจะแสดงท่ีตาแหน่ง Warm
…… ……3. ชุดควบคุมความร้อน ทาหนา้ ท่ีควบคุมแรงดนั ไฟฟ้าของหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
…… …...4. ชุดควบคมุ ความร้อนของหมอ้ หุงขา้ วจะใชร้ ะบบสวติ ชแ์ มเ่ หลก็
…… ……5. เมื่อขดลวดความร้อนชุดอุ่นทางาน จะมีแรงดนั ไฟฟ้าตกคร่อมนอ้ ยกวา่ ขด
ลวดความร้อนชุดหุง
…… ……6. เมื่อขดลวดความร้อนชุดอนุ่ ทางาน จะไมม่ ีแรงดนั ไฟฟ้าตกคร่อมขดลวดความร้อน
ชุดหุง
………….7. ก่อนทาการถอดชิ้นส่วนเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าใดๆ ใหเ้ ราบนั ทึกหรือทาเคร่ืองหมาย
เสียก่อนเพ่ือเวลาประกอบจะไดไ้ ม่ผดิ พลาด
…………8. เม่ือหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้าหุงขา้ วสุกไมท่ ว่ั หมอ้ หรือสุกขา้ งเดียว ให้ตรวจดูที่กน้ หมอ้ หุง
ขา้ ววา่ มีรอยบุบทางดา้ นใดดา้ นหน่ึงหรือเปล่า หากพบใหเ้ คาะกลบั สภาพเดิม
…………9. หมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้าหุงขา้ วสุกจนไหมแ้ ต่สวติ ชแ์ ม่เหลก็ ไมต่ ดั วงจร ให้ดาเนินการ
ตรวจดูสวิตชแ์ ม่เหลก็
…………10. การบารุงรักษาหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้าอยา่ กดสวิตชเ์ ปิ ด-ปิ ด ขณะที่ไม่มีหมอ้ ช้นั ใน
เฉลยแบบฝึ กหัดหน่วยที่ 3 ตอนท่ี 4
คำส่ัง : จงทำเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมท่ีถูกต้องและเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมทผี่ ดิ
…………1. หลอดไฟสญั ญาณ เป็นอุปกรณ์ แสดงสภาวะการทางาน ของกาตม้ น้าไฟฟ้า
………….2. กาตม้ น้าไฟฟ้าท่ีมีระบบการส่งจ่ายน้าแบบใชม้ อเตอร์ป๊ัมน้าเมื่อไฟฟ้าดบั ยงั สามารถ
ส่งจ่ายน้าได้
………….3. ฟิ วส์อุณหภมู ิ ทาหนา้ ท่ี ควบคุมระดบั ความร้อนใหท้ างานในสภาวะปกติ
………….4. ชุดควบคมุ ความร้อน ทาหนา้ ที่เป็นตวั ตดั กระแสไฟฟ้า ถา้ เกิดกระแสไฟฟ้าลดั วงจร
…………5. ก่อนทาการถอดชิ้นส่วนเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าใดๆ ใหเ้ ราบนั ทึกหรือทาเครื่องหมาย
เสียก่อนเพือ่ เวลาประกอบจะไดไ้ มผ่ ิดพลาด
………….6. วงจรไฟฟ้าของกาตม้ น้าไฟฟ้ามีตวั ตา้ นทานตอ่ อนุกรมกบั หลอดสัญญาณ
…………7. เมื่อน้าในกาตม้ น้าไฟฟ้าเดือด หนา้ สัมผสั ของชุดควบคมุ ความร้อนจะแยกออกจาก
กนั
…………8. การตรวจสอบลวดความร้อนของกาตม้ น้าไฟฟ้า ทาได้โดยการใช้มัลติมิเตอร์วดั
ความต้านทาน ผลถ้าเข็มไม่บ่ายเบน หรื อช้ีที่ “” ตลอดเวลาแสดงว่า
ลวดความร้อนขาด
………….9. ในการใช้มลั ติมิเตอร์วดั อุปกรณ์ใด ๆ ก็ตาม เพ่ือการตรวจซ่อม ควรจะทาการวดั
อยา่ งนอ้ ย 2 คร้ัง เพ่ือป้องกนั การผดิ พลาดในการตรวจวดั อปุ กรณ์
…………10. เม่ือใชก้ าตม้ น้าไฟฟ้า จะตอ้ งใหม้ ีน้าอยู่ในกาตม้ น้าทุกคร้ัง
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 3
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ำทีใ่ ห้พลงั งำนควำมร้อน ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 3
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ.ปวส.
คำสั่ง จงเลือกคำตอบทีถ่ กู ทีส่ ุด ทำเคร่ืองหมำย ลงในช่องของกระดำษคำตอบ
1. ขอ้ ใดเป็นอปุ กรณ์ปรับระดบั ความร้อนใหค้ งที่ของกระทะไฟฟ้า
ก. ลวดความร้อน
ข. ฝาปิ ดกน้ กระทะ
ค. เทอร์โมสตสั
ง. เฟอร์ไรต(์ สารแม่เหลก็ )
2. ในวงจรไฟฟ้าของกระทะไฟฟ้าเทอร์โมสตสั ต่อลกั ษณะใดกบั ขดลวดความร้อน
ก. อนุกรม
ข. ขนาน
ค. อนุกรมและขนาน
ง. ผสม
3. กระทะไฟฟ้าตอ้ งอาศยั ความร้อนจากส่วนใดของกระทะในการใหค้ วามร้อน
ก. สายปลก๊ั
ข. ผวิ ของกระทะ
ค. ลวดความร้อน
ง. กน้ กระทะ
4. กระทะไฟฟ้าไมร่ ้อนอาจเกิดจากอะไร
ก. มีความชื่นท่ีข้วั ปลก๊ั
ข. น้าในหมอ้ อบไฟฟ้ามาก เกินไป
ค. กระทะไฟฟ้าไมส่ ะอาด
ง. ลวดความร้อนขาด
5. ขอ้ ใดเป็นสิ่งท่ีไม่ควรทาในการบารุงรักษากระทะไฟฟ้า
ก. การทาความสะอาดกระทะไฟฟ้าใหใ้ ชฝ้ อยเหลก็ ขดั จากน้นั เช็ดใหแ้ หง้
ข. กระทะไฟฟ้าใชต้ ๋นุ อาหารแทนหมอ้ ต๋นุ ไฟฟ้าได้
ค. กระทะไฟฟ้าใชอ้ นุ่ อาหารแทนเตาอบไฟฟ้าได้
ง. ก่อนทาความสะอาดกระทะไฟฟ้าตอ้ งถอดปลก๊ั ก่อน
6. หลอดไฟทา้ ยเตารีดเป็นหลอดชนิดใด
ก. หลอดไดโอดเปล่งแสง
ข. หลอดนีออน
ค. หลอดตาแมว
ง. หลอดฟลูออเรสเซนต์
7. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นหนา้ ที่ของหนา้ สมั ผสั ของเตารีดไฟฟ้า
ก. ปรับอุณหภมู ิ
ข. ปรับแผน่ ไบ-เมทลั
ค. สวติ ชต์ ดั ต่อกระแสไฟฟ้าผา่ นลวดความร้อน
ง. ปรับปริมาณไฟฟ้า
8. เมื่อเตารีดไฟฟ้าร้อนมากผิดปกติแสดงวา่ หนา้ สัมผสั เป็นอยา่ งไร
ก. ห่างกนั เกินไป
ข. ชิดกนั เกินไป
ค. ไม่ตอ่ ถึงกนั
ง. หนา้ สัมผสั ไมส่ ะอาด
9. ขอ้ ใดเป็นสาเหตปุ ลกั๊ เสียบของเตารีดไฟฟ้าละลาย
ก. ใชเ้ ตารีดนานเกินไป
ข. แรงดนั ไฟฟ้าสูงเกินไป
ค. เตา้ รับหลวมขณะเสียบใชง้ านนาน ๆ
ง. ขดลวดความร้อนขาด
10. ขอ้ ใดเป็นวิธีการบารุงรักษาเตารีดไฟฟ้าท่ีผดิ
ก. ไมค่ วรวางเตารีดลงบนวตั ถุที่แขง็ , ขรุขระเพราะจะทาให้เตารีดเป็นรอยได้
ข. การป้องกนั ไฟฟ้าชอ๊ ต ไมค่ วรใหน้ ้าหรือของเหลวอยา่ งอ่ืนเขา้ ไปในตวั เตารีด
ค. ขณะที่รีดผา้ ใหป้ รับป่ ุมความร้อนของเตารีดใหร้ ้อนมากสุดเพอื่ จะไดร้ ีดผา้ เสร็จไว
ง. เม่ือเลิกใชเ้ ตารีดแลว้ ใหห้ มนุ ป่ ุมปรับความร้อนไปท่ีเลข “0” แลว้ ดึงปลก๊ั ไฟออก
11. ขอ้ ใดเมื่อดูลกั ษณะภายนอกของหมอ้ หุงขา้ วแลว้ ทาใหท้ ราบวา่ หมอ้ หุงขา้ วมีวงจรอุ่นขา้ ว
ก. ดูขนาดของหมอ้ หุงขา้ ว
ข. ดูท่ีสวติ ชค์ วบคมุ
ค. ดูท่ีไฟสญั ญาณ
ง. ถอดฝากนั หมอ้ ขา้ วดู
12. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ท่ีของไมโครสวิตชใ์ นวงจรหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
ก. ควบคมุ ความร้อน
ข. ON – OFF
ค. ตดั ต่อวงจรอุ่น
ง. ตดั ต่อวงจรขดลวดหุงขา้ ว
13. ขณะท่ีหมอ้ หุงขา้ วกาลงั หุง หลอดไฟสัญญาณจะแสดงที่ตาแหน่งใด
ก. Cook
ข. Warm
ค. Work
ง. Start
14. กรณีหุงขา้ วแลว้ แขง็ ควรตรวจสอบในเรื่องใด
ก. การพรวนขา้ ว
ข. ปริมาณของขา้ วและน้า
ค. ไฟฟ้าดบั
ง. เลือกรายการผิด
15. ขอ้ ใดเป็นวธิ ีการบารุงรักษาหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้าที่ผิด
ก. อยา่ กดสวติ ชเ์ ปิ ด-ปิ ด ขณะที่ไมม่ ีหมอ้ ช้นั ใน
ข. อยา่ ใชว้ ตั ถุมีคม ถูหรือขดั หมอ้ ช้นั ใน เพราะจะทาใหส้ ารท่ีเคลือบหมอ้ หลดุ ได้
ค. ก่อนการใชง้ านเชด็ หมอ้ ช้นั ในและแผน่ ความร้อนใหแ้ หง้ สะอาดเสียก่อน
ง. เม่ือกดสวติ ช์หุง ถา้ กดไมต่ ิดใหใ้ ชว้ สั ดุใดค้าหรือกดคาไวไ้ ด้
16. เม่ือน้าร้อนในกาตม้ น้าไฟฟ้าเดือดหลอดไฟสญั ญาณจะแสดงท่ีใด
ก. POUR
ข. WARM
ค. BOIL
ง. STOP
17. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ท่ีของแผน่ ไบ-เมทลั ในวงจรกาตม้ น้าไฟฟ้า
ก. แสดงสญั ญาณการทางาน
ข. ทาความร้อน
ค. ตดั - ต่อวงจรไฟฟ้า
ง. ควบคุมอุณหภมู ิ
18. ขอ้ ใดเป็นอปุ กรณ์ควบคุมอุณหภมู ิของกาตม้ น้าไฟฟ้า
ก. เทอร์มอลฟิ วส์
ข. เทอร์โมสตสั
ค. เทอร์โมคปั เปิ ล
ง. เทอร์มิสเตอร์
19. ขอ้ ใดเป็นอุปกรณ์กรณ์ป้องกนั กาตม้ น้าไฟฟ้าไหมก้ รณีท่ีอุปกรณ์ควบคุมอุณหภมู ิกาตม้ น้าไฟฟ้า
ไมท่ างานหรือเสีย
ก. เทอร์โมมิเตอร์
ข. เทอร์โมคตั อิน
ค. เทอร์มอลฟิ วส์
ง. เทอร์มิสเตอร์
20. ขอ้ ใดเป็นวิธีการบารุงรักษากาตม้ น้าไฟฟ้าที่ผิด
ก. เมื่อใชก้ าตม้ น้าไฟฟ้าตอ้ งให้มีน้าอยใู่ นกาตม้ น้าทกุ คร้ัง
ข. การตม้ น้าทกุ คร้ังควรตม้ เทา่ ที่ตอ้ งการใช้ ไม่ควรใชน้ ้าเยน็ ตม้
ค. การทาความสะอาดตวั กาตม้ น้าไฟฟ้าให้ ใชฟ้ องน้าและฝอยขดั หมอ้ ชุบน้าเช็ดใหท้ ว่ั
เพื่อใหก้ าตม้ น้าไฟฟ้าสะอาด
ง. ไม่นาสิ่งของใด ๆ มาปิ ดช่องไอน้าออกของกาตม้ น้าไฟ
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 3
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ำทใี่ ห้พลังงำนควำมร้อน ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 3
วชิ ำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดบั .ปวส
ขอ้ คาตอบ
1ค
2ก
3ค
4ง
5ก
6ข
7ค
8ข
9ค
10 ค
11 ค
12 ง
13 ก
14 ข
15 ง
16 ข
17 ง
18 ข
19 ค
20 ค
แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยท่ี 3
เรื่อง งำนบริกำรและซ่อมเคร่ืองใช้ไฟฟ้ำทใ่ี ห้พลงั งำนควำมร้อน ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 3
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ.ปวส
คำสั่ง จงเลือกคาตอบท่ีถูกท่ีสุด ทาเคร่ืองหมาย ลงในช่องของกระดาษคาตอบ
1. ในวงจรไฟฟ้าของกระทะไฟฟ้าเทอร์โมสตสั ต่อลกั ษณะใดกบั ขดลวดความร้อน
ก. อนุกรม
ข. ขนาน
ค. อนุกรมและขนาน
ง. ผสม
2. กระทะไฟฟ้าตอ้ งอาศยั ความร้อนจากส่วนใดของกระทะในการใหค้ วามร้อน
ก. สายปลก๊ั
ข. ผวิ ของกระทะ
ค. ลวดความร้อน
ง. กน้ กระทะ
3. ขอ้ ใดเป็นอุปกรณ์ปรับระดบั ความร้อนใหค้ งท่ีของกระทะไฟฟ้า
ก. ลวดความร้อน
ข. ฝาปิ ดกน้ กระทะ
ค. เทอร์โมสตสั
ง. เฟอร์ไรต(์ สารแม่เหลก็ )
4. ขอ้ ใดเป็นสิ่งที่ไมค่ วรทาในการบารุงรักษากระทะไฟฟ้า
ก. การทาความสะอาดกระทะไฟฟ้าให้ใชฝ้ อยเหลก็ ขดั จากน้นั เชด็ ใหแ้ หง้
ข. กระทะไฟฟ้าใชต้ ๋นุ อาหารแทนหมอ้ ต๋นุ ไฟฟ้าได้
ค. กระทะไฟฟ้าใชอ้ นุ่ อาหารแทนเตาอบไฟฟ้าได้
ง. ก่อนทาความสะอาดกระทะไฟฟ้าตอ้ งถอดปลกั๊ ก่อน
5. กระทะไฟฟ้าไมร่ ้อนอาจเกิดจากอะไร
ก. มีความช่ืนท่ีข้วั ปลกั๊
ข. น้าในหมอ้ อบไฟฟ้ามาก เกินไป
ค. กระทะไฟฟ้าไม่สะอาด
ง. ลวดความร้อนขาด
6. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นหนา้ ท่ีของหนา้ สมั ผสั ของเตารีดไฟฟ้า
ก. ปรับอณุ หภมู ิ
ข. ปรับแผน่ ไบ-เมทลั
ค. สวิตชต์ ดั ต่อกระแสไฟฟ้าผา่ นลวดความร้อน
ง. ปรับปริมาณไฟฟ้า
7. เมื่อเตารีดไฟฟ้าร้อนมากผิดปกติแสดงวา่ หนา้ สัมผสั เป็นอยา่ งไร
ก. ห่างกนั เกินไป
ข. ชิดกนั เกินไป
ค. ไมต่ ่อถึงกนั
ง. หนา้ สัมผสั ไมส่ ะอาด
8. หลอดไฟทา้ ยเตารีดเป็นหลอดชนิดใด
ก. หลอดไดโอดเปลง่ แสง
ข. หลอดนีออน
ค. หลอดตาแมว
ง. หลอดฟลูออเรสเซนต์
9. ขอ้ ใดเป็นวิธีการบารุงรักษาเตารีดไฟฟ้าที่ผิด
ก. ไม่ควรวางเตารีดลงบนวตั ถุท่ีแขง็ , ขรุขระเพราะจะทาให้เตารีดเป็นรอยได้
ข. การป้องกนั ไฟฟ้าช๊อต ไมค่ วรใหน้ ้าหรือของเหลวอยา่ งอ่ืนเขา้ ไปในตวั เตารีด
ค. ขณะที่รีดผา้ ใหป้ รับป่ ุมความร้อนของเตารีดให้ร้อนมากสุดเพอื่ จะไดร้ ีดผา้ เสร็จไว
ง. เมื่อเลิกใชเ้ ตารีดแลว้ ใหห้ มุนป่ ุมปรับความร้อนไปท่ีเลข “0” แลว้ ดึงปลกั๊ ไฟออก
10. ขอ้ ใดเป็นสาเหตุปลก๊ั เสียบของเตารีดไฟฟ้าละลาย
ก. ใชเ้ ตารีดนานเกินไป
ข. แรงดนั ไฟฟ้าสูงเกินไป
ค. เตา้ รับหลวมขณะเสียบใชง้ านนาน ๆ
ง. ขดลวดความร้อนขาด
11. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ท่ีของไมโครสวิตชใ์ นวงจรหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
ก. ควบคมุ ความร้อน
ข. ON – OFF
ค. ตดั ต่อวงจรอุ่น
ง. ตดั ต่อวงจรขดลวดหุงขา้ ว
12. ขณะท่ีหมอ้ หุงขา้ วกาลงั หุง หลอดไฟสัญญาณจะแสดงที่ตาแหน่งใด
ก. Cook
ข. Warm
ค. Work
ง. Start
13. ขอ้ ใดเม่ือดูลกั ษณะภายนอกของหมอ้ หุงขา้ วแลว้ ทาใหท้ ราบวา่ หมอ้ หุงขา้ วมีวงจรอุ่นขา้ ว
ก. ดูขนาดของหมอ้ หุงขา้ ว
ข. ดูที่สวิตชค์ วบคมุ
ค. ดูท่ีไฟสญั ญาณ
ง. ถอดฝากนั หมอ้ ขา้ วดู
14. ขอ้ ใดเป็นวธิ ีการบารุงรักษาหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้าท่ีผดิ
ก. อยา่ กดสวิตชเ์ ปิ ด-ปิ ด ขณะท่ีไม่มีหมอ้ ช้นั ใน
ข. อยา่ ใชว้ ตั ถุมีคม ถหู รือขดั หมอ้ ช้นั ใน เพราะจะทาใหส้ ารที่เคลือบหมอ้ หลุดได้
ค. ก่อนการใชง้ านเช็ดหมอ้ ช้นั ในและแผน่ ความร้อนใหแ้ หง้ สะอาดเสียก่อน
ง. เม่ือกดสวิตชห์ ุง ถา้ กดไม่ติดใหใ้ ชว้ สั ดุใดค้าหรือกดคาไวไ้ ด้
15. กรณีหุงขา้ วแลว้ แขง็ ควรตรวจสอบในเรื่องใด
ก. การพรวนขา้ ว
ข. ปริมาณของขา้ วและน้า
ค. ไฟฟ้าดบั
ง. เลือกรายการผิด
16. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ที่ของแผน่ ไบ-เมทลั ในวงจรกาตม้ น้าไฟฟ้า
ก. แสดงสญั ญาณการทางาน
ข. ทาความร้อน
ค. ตดั - ต่อวงจรไฟฟ้า
ง. ควบคุมอุณหภมู ิ
17. ขอ้ ใดเป็นอปุ กรณ์ควบคมุ อุณหภมู ิของกาตม้ น้าไฟฟ้า
ก. เทอร์มอลฟิ วส์
ข. เทอร์โมสตสั
ค. เทอร์โมคปั เปิ ล
ง. เทอร์มิสเตอร์
18. เมื่อน้าร้อนในกาตม้ น้าไฟฟ้าเดือดหลอดไฟสญั ญาณจะแสดงท่ีใด
ก. POUR
ข. WARM
ค. BOIL
ง. STOP
19. ขอ้ ใดเป็นวธิ ีการบารุงรักษากาตม้ น้าไฟฟ้าที่ผิด
ก. เมื่อใชก้ าตม้ น้าไฟฟ้าตอ้ งให้มีน้าอยใู่ นกาตม้ น้าทกุ คร้ัง
ข. การตม้ น้าทุกคร้ังควรตม้ เทา่ ที่ตอ้ งการใช้ ไมค่ วรใชน้ ้าเยน็ ตม้
ค. การทาความสะอาดตวั กาตม้ น้าไฟฟ้าให้ ใชฟ้ องน้าและฝอยขดั หมอ้ ชุบน้าเช็ดใหท้ ว่ั
เพอื่ ใหก้ าตม้ น้าไฟฟ้าสะอาด
ง. ไม่นาส่ิงของใด ๆ มาปิ ดช่องไอน้าออกของกาตม้ น้าไฟฟ้า
20. ขอ้ ใดเป็นอุปกรณ์กรณ์ป้องกนั กาตม้ น้าไฟฟ้าไหมก้ รณีที่อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิกาตม้ น้าไฟฟ้า
ไมท่ างานหรือเสีย
ก. เทอร์โมมิเตอร์
ข. เทอร์โมคตั อิน
ค. เทอร์มอลฟิ วส์
ง. เทอร์มิสเตอร์
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 3
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ำทใ่ี ห้พลงั งำนควำมร้อน ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 3
วชิ ำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ.ปวส
ขอ้ คาตอบ
1ก
2ค
3ค
4ก
5ง
6ค
7ข
8ข
9ค
10 ค
11 ง
12 ก
13 ค
14 ง
15 ข
16 ง
17 ข
18 ข
19 ค
20 ค
บันทกึ ผลหลงั กำรสอน
1. ผลกำรสอน
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
2. ปัญหำ/อุปสรรค
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
(ลงชื่อ)…………………………………
( ประจวบ แสงวงค์ )
ครูผสู้ อน
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ หน่วยท่ี 4
วชิ ำ 3104-2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ สอนคร้ังที่ 10-12
ชื่อหน่วย งำนบริกำรและซ่อมเครื่องกลไฟฟ้ำ
ชื่อเรื่อง งำนบริกำรและซ่อมเคร่ืองกลไฟฟ้ำ คำบรวม 60
จำนวนคำบ 15
หัวข้อเรื่อง
หน่วยที่ 4 งำนบริกำรและซ่อมเครื่องกลไฟฟ้ำ
4.1 งานบริการและซ่อมสปลิตเฟสมอเตอร์
4.2 งานบริการและซ่อมยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์
4.3 งานบริการและซ่อมมอเตอร์ 3 เฟส
4.4 งานบริการและซ่อมหมอ้ แปลงไฟฟ้า
สำระสำคญั
เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าที่ตอ้ งการการพลงั งานกลหรือการทางานที่ตอ้ งมีการเคล่ือนไหว (หมุน) ลว้ น
แลว้ แต่ใชม้ อเตอร์ไฟฟ้า เป็นตวั เปล่ียนพลงั งานไฟฟ้าเป็นพลงั งานกลท้งั สิ้น มอเตอร์ไฟฟ้าจึงถือไดว้ ่า
เป็นหวั ใจของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าประเภทท่ีตอ้ งการพลงั งานกลในการขบั เคล่ือน
หม้อแปลงไฟฟ้า เป็ นเคร่ืองกลไฟฟ้าที่ใช้สาหรับแปลงแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับให้มี
แรงดันไฟฟ้าตามที่โหลดตอ้ งการ ในบางคร้ังสามารถนาไปใช้ปรับให้แรงดันคงท่ีได้ในพ้ืนท่ีที่
แรงดนั ไฟฟ้าไม่สม่าเสมอ
สมรรถนะอำชีพ
1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั หลกั การทางานของเครื่องกลไฟฟ้า
2. แสดงความรู้เก่ียวกบั การซ่อมบารุงเคร่ืองกลไฟฟ้า
จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
1. อธิบายหลกั การทางานเคร่ืองกลไฟฟ้าได้
2. ตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของเคร่ืองกลไฟฟ้าได้
3. ซ่อมบารุงรักษาเครื่องกลไฟฟ้า ได้
4. มีคุณธรรมจริยธรรม แสดงเจตคติและพฤติกรรมลกั ษณะนิสยั ในการปฏิบตั ิงานดว้ ยความ
รับผิดชอบ ซ่ือสัตย์ ใฝ่รู้ มีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั และทางานร่วมกบั
ผอู้ ื่นได้
เนื้อหำสำระกำรจดั กำรเรียนรู้
หน่วยท่ี 4 งำนบริกำรและซ่อมเคร่ืองกลไฟฟ้ำ
4.1 งำนบริกำรและซ่อมสปลติ เฟสมอเตอร์
4.1.1 โครงสร้างของสปลิตเฟสมอเตอร์
4.1.2 หลกั การทางาน ของสปลิตเฟสมอเตอร์
4.1.3 การต่อวงจรสปลิตเฟสมอเตอร์เพอื่ ใชง้ าน
4.1.4 คาปาซิเตอร์มอเตอร์
4.1.5 การกลบั ทิศทางการหมนุ สปลิตเฟสมอเตอร์
4.1.6 การบริการและซ่อมสปลิตเฟสมอเตอร์
4.1.7 ขอ้ บกพร่อง สาเหตุที่พบบอ่ ย และวธิ ีแกไ้ ข เกี่ยวกบั สปลิตเฟส
มอเตอร์
4.2 งำนบริกำรและซ่อมยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์
4.2.1 โครงสร้างของยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์
4.2.2 หลกั การทางาน ของยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์
4.2.3 การบริการและซ่อมยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์
4.3 งำนบริกำรและซ่อมมอเตอร์ 3 เฟส
4.3.1 โครงสร้างมอเตอร์ 3 เฟส
4.3.2 การตอ่ วงจรภายในของมอเตอร์ 3 เฟส
4.3.3 การต่อวงจรใชง้ าน มอเตอร์ 3 เฟส
4.3.4 การบริการและซ่อมมอเตอร์เหนี่ยวนา 3 เฟส
4.4 งำนบริกำรและซ่อมหม้อแปลงไฟฟ้ำ
4.4.1 โครงสร้างของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
4.4.2 หลกั การทางานของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
4.4.3 งานบริการและซ่อมหมอ้ แปลงไฟฟ้า
กระบวนกำรเรียนรู้
1. การบรรยาย
2. การสาธิต
3. ทกั ษะกระบวนการปฏิบตั ิ
กำรบูรณำกำรควำมรู้
1. ความรู้การใชภ้ าษาไทย การสรุป อภิปรายโดยใชภ้ าษาสื่อสารที่ถกู ตอ้ ง
2. ความรู้การใชภ้ าษาองั กฤษ ศพั ทเ์ ทคนิคทางดา้ นไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์
3. ความรู้เกี่ยวกบั การใชอ้ ินเตอร์เน็ต (Internet)ในการศึกษาคน้ ควา้
4. การอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นอยา่ งมีความสุข การแบ่งกลมุ่ ช่วยเหลือกนั และร่วมงานกบั ผอู้ ื่นได้
5. สนทนากบั นกั เรียน ดา้ นคุณธรรมจริยธรรม ก่อนและหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
สอนคร้ังท่ี 10 (คำบที่ 37-40)
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายช่ือ
2. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้หน่วยที่ 4 เร่ือง งานบริการและซ่อมเคร่ืองกลไฟฟ้า
3. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 4 เรื่อง งานบริการและซ่อมเคร่ืองกลไฟฟ้า
4. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยให้นักเรียนสังเกตส่ือของจริง พร้อมท้งั ซักถามนักเรียนเก่ียวกบั
มอเตอร์ไฟฟ้าและการใชง้ านและให้นกั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม
5. นกั เรียนรับคาแนะนาการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบการใชส้ ื่อโปรแกรมงานนาเสนอ
หน่วยที่ 4 จากครูผสู้ อน และศึกษาหนงั สือวชิ าการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยที่ 4 เรื่อง งานบริการ
และซ่อมเครื่องกลไฟฟ้า 4.1 งานบริการและซ่อมสปลิตเฟสมอเตอร์ นกั เรียนสอบถามครูผสู้ อน
เก่ียวกบั กิจกรรมในการจดั การเรียนรู้ที่นกั เรียนยงั ไม่เขา้ ใจ
6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ หน่วยที่ 4 เรื่อง งานบริการและซ่อมเคร่ืองกล
ไฟฟ้า 4.1 งานบริการและซ่อมสปลิตเฟสมอเตอร์
7. นกั เรียนเขยี นสรุปความคิดรวบยอดที่ไดจ้ ากการสรุปองคค์ วามรู้ลงในสมดุ บนั ทึก
8. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยท่ี 4 ตอนที่ 1
9. ครูผสู้ อนตรวจการเขียนสรุปความคิดรวบยอดของผเู้ รียน
10. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหัด ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพื่อน
11. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถูกตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
12. แบง่ กลุ่มนกั เรียนตามผลการวเิ คราะหผ์ เู้ รียนกลุ่มละ 3-4 คน เขา้ ประจาโต๊ะชุดฝึกปฏิบตั ิ
13. นกั เรียนศึกษาใบงานท่ี 4.1 เรื่อง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาสปลิตเฟสมอเตอร์
14. ครูอธิบายและสาธิต การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาสปลิตเฟสมอเตอร์
15. นกั เรียนแต่ละกลุม่ แยกปฏิบตั ิงานตามใบงานท่ี 4.1
16. นกั เรียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 4.1
17. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
18. ประเมินคุณธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรม จริยธรรม
สอนคร้ังท่ี 11 (คำบที่ 41-44)
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายชื่อ
2. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนสังเกตส่ือของจริง พร้อมท้งั ซกั ถามนกั เรียนเกี่ยวกบั
ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์และการใชง้ านและใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม
3. นกั เรียนศึกษาหนงั สือวชิ าการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยท่ี 4 เร่ือง งานบริการและซ่อม
เครื่องกลไฟฟ้า 4.2 งานบริการและซ่อมยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์
4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ หน่วยท่ี 4 เรื่อง งานบริการและซ่อมเครื่องกล
ไฟฟ้า 4.2 งานบริการและซ่อมยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ และนกั เรียนสอบถามครูผสู้ อนเก่ียวกบั เน้ือหาท่ียงั
ไม่เขา้ ใจ
5. นกั เรียนเขยี นสรุปความคิดรวบยอดท่ีไดจ้ ากการสรุปองคค์ วามรู้ลงในสมดุ บนั ทึก
6. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยท่ี 4 ตอนที่ 2
7. ครูผสู้ อนตรวจการเขยี นสรุปความคิดรวบยอดของผเู้ รียน
8. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหดั ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพ่ือน
9. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถูกตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
10. แบ่งกลุม่ นกั เรียนตามผลการวิเคราะหผ์ เู้ รียนกลมุ่ ละ 3-4 คน เขา้ ประจาโต๊ะชุดฝึกปฏิบตั ิ
11. นกั เรียนศึกษาใบงานท่ี 4.2 เรื่อง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษายนู ิเวอร์แซลมอเตอร์
12. ครูอธิบายและสาธิต การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษายนู ิเวอร์แซลมอเตอร์
13. นกั เรียนแต่ละกลุ่มแยกปฏิบตั ิงานตามใบงานท่ี 4.2
14. นกั เรียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานท่ี 4.2
15. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
16. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
สอนคร้ังท่ี 12 ( คำบท่ี 45-48 )
กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายช่ือ
2. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนสังเกตสื่อของจริง พร้อมท้งั ซกั ถามนกั เรียนเก่ียวกบั
มอเตอร์ 3 เฟสและหมอ้ แปลงไฟฟ้า เก่ียวกบั การใชง้ านใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม
3. นกั เรียนศึกษาหนงั สือวิชาการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยที่ 4 เรื่อง งานบริการและซ่อม
เคร่ืองกลไฟฟ้า 4.3 งานบริการและซ่อมมอเตอร์ 3 เฟส 4.4 งานบริการและซ่อมหมอ้ แปลงไฟฟ้า
4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ หน่วยท่ี 4 เร่ือง งานบริการและซ่อมเคร่ืองกล
ไฟฟ้า 4.3 งานบริการและซ่อมมอเตอร์ 3 เฟส 4.4 งานบริการและซ่อมหมอ้ แปลงไฟฟ้า
และนกั เรียนสอบถามครูผสู้ อนเก่ียวกบั เน้ือหาท่ียงั ไม่เขา้ ใจ
5. นกั เรียนเขียนสรุปความคิดรวบยอดที่ไดจ้ ากการสรุปองคค์ วามรู้ลงในสมุดบนั ทึก
6. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยที่ 4 ตอนที่ 3
7. ครูผสู้ อนตรวจการเขยี นสรุปความคิดรวบยอดของผเู้ รียน
8. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหัด ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพ่ือน
9. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถูกตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
10. แบ่งกลุม่ นกั เรียนตามผลการวเิ คราะหผ์ เู้ รียนกล่มุ ละ 3-4 คน เขา้ ประจาโต๊ะชุดฝึกปฏิบตั ิ
11. นกั เรียนศึกษาใบงานท่ี 4.3 เรื่อง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษามอเตอร์ 3 เฟส
12. ครูอธิบายและสาธิต การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษามอเตอร์ 3 เฟส
13. นกั เรียนแต่ละกลุม่ แยกปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 4.3
14. นกั เรียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 4.3
15. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
16. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
17. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 4 เรื่อง งานบริการและซ่อมเคร่ืองกลไฟฟ้า
ส่ืออปุ กรณ์และแหล่งกำรเรียนรู้
1. ส่ือและอุปกรณ์
1.1 เอกสารประกอบการเรียนการสอนวชิ างานบริการและซ่อมเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
1.2 ส่ืองานนาเสนอ หน่วยท่ี 4
1.3 ครุภณั ฑ์ เคร่ืองมือ ประจาหอ้ งปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
2. แหล่งกำรเรียนรู้
2.1 เอกสารตามบรรณานุกรมในเอกสารประกอบการเรียนการสอน
2.2 วสั ดุ ครุภณั ฑห์ อ้ งปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
2.3 หอ้ งสมดุ ของวทิ ยาลยั ฯ และหอ้ งสมุดประชาชน
2.4 การสืบคน้ ขอ้ มูลจากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆที่เกี่ยวขอ้ ง
กำรวัดผลและประเมนิ ผล เคร่ืองมือวัด เกณฑ์กำรประเมนิ
วธิ ีวดั 1. แบบฝึกหดั 1. ทาแบบฝึกหดั
1. แบบฝึกหดั หลงั เรียน 1.1 แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 4 1.1 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
ตอนท่ี 1 จาก 10 ขอ้
2. ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
3. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม 1.2 แบบฝึกหดั หน่วยที่ 4 1.2 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
4. ทดสอบหลงั เรียน ตอนที่ 2 จาก 10 ขอ้
1.3 แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 4 1.3 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
ตอนท่ี 3 จาก 10 ขอ้
2. แบบประเมินผล 2. ไดค้ ะแนนจากผลการ
การปฏิบตั ิงาน ปฏิบตั ิงานร้อยละ 50
3. แบบประเมินคุณธรรม 3. ไดค้ ะแนนจากการประเมิน
จริยธรรม คุณธรรมจริยธรรมร้อยละ 50
4. แบบทดสอบหลงั เรียน 4. ทาแบบทดสอบผา่ น 8 ขอ้
จาก 15 ขอ้
กจิ กรรมเสนอแนะ
1. นกั เรียนศึกษาจากเอกสารประกอบการเรียนรู้และใบงานมาก่อนล่วงหนา้
2. นกั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เพ่มิ เติมจากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง
3. นกั เรียนศึกษาเพิ่มเติมจากหอ้ งสมดุ
เฉลยแบบฝึ กหัดหน่วยที่ 4 ตอนท่ี 1
คำสั่ง : จงทำเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมที่ถูกต้องและเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมทผี่ ิด
………….1. สปลิตเฟสมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส
…………2. โรเตอร์เป็นส่วนประกอบท่ีเคล่ือนท่ีของสปลิตเฟสมอเตอร์
…………3. ขดลวดของสปลิตเฟสมอเตอร์มีขดลวด 2 ชุดคือขดลวดรันและขดลวดสตาร์ต
…………4. โรเตอร์ของสปลิตเฟสมอเตอร์เป็นชนิดกรงกระรอก
…………5. ขดลวดสตาร์ตของสปลิตเฟสมอเตอร์มีค่าความตา้ นทานนอ้ ยกวา่ ขดลวดชุดรัน
………….6. ขดลวดสตาร์ตของสปลิตเฟสมอเตอร์จะถกู ตดั วงจร เม่ือมอเตอร์มีความเร็วรอบถึง
85 %
………….7. คาปาซิเตอร์มอเตอร์เป็นมอเตอร์ที่มีคาปาซิเตอร์ต่อขนานกบั ขดลวดสตาร์ต
…………8. การกลบั ทิศทางหมนุ ของสปลิตเฟสมอเตอร์ทาไดโ้ ดยการกาหนดทิศทางการไหล
ของกระแสในขดลวดรันหรือขดลวดสตาร์ต
…………9. คาปาซิเตอร์มอเตอร์มีคาปาซิเตอร์ตอ่ อนุกรมกบั ขดลวดสตาร์ตเพ่ือช่วยให้
คาปาซิเตอร์มอเตอร์มีแรงบิดมากกวา่ สปลิตเฟสมอเตอร์
…………10. เม่ือมอเตอร์สปลิตเฟสมอเตอร์หมุนแต่ไม่มีแรงสาเหตุขอ้ บกพร่องอาจเกิดจาก
ขดลวดสตาร์ตขาดหรือคาปาซิเตอร์เสีย
เฉลยแบบฝึ กหัดหน่วยท่ี 4 ตอนท่ี 2
คำส่ัง : จงทำเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมท่ีถูกต้องและเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมทผี่ ิด
…………1. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ขนาดเล็กท่ีใชไ้ ดท้ ้งั ไฟฟ้ากระแสสลบั และไฟฟ้า
กระแสตรง
…………2. แปรงถ่านของยูนิเวอร์แซลมอเตอร์ ทาหน้าที่เช่ือมต่อวงจรจากชุดอยู่กบั ท่ีไปยงั ชุด
เคล่ือนที่
………….3. คอมมิวเตเตอร์ ของยูนิเวอร์แซลมอเตอร์ มีหน้าที่รับกระแสจากแปรงถ่านไปยงั
ขดลวดสเตเตอร์
………….4. ขดลวดอาร์เมเจอร์ ของยูนิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็ นขดลวดสนามแม่เหล็กของ
ชุดอยกู่ บั ที่
………….5. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ใหแ้ รงบิดเริ่มหมนุ ต่า
…………6. การทางานของยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ใชห้ ลกั การ กฎมือซา้ ยของเฟลมมิ่ง
………….7. ป้ัมน้าใชย้ นู ิเวอร์แซลมอเตอร์เป็นตน้ กาลงั ในการทางาน
…………8. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์เร่ิมเดินไดแ้ ต่ไม่มีแรงอาจเป็นขอ้ บกพร่องเกิดจากบูชเสียหรือ
แปรงถา่ นสึก
…………9. เม่ือแปรงถ่านของยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์มีประกายไฟมากแสดงวา่ แปรงถ่านสัมผสั
ซ่ีคอมมิวเตเตอร์ไม่สนิท
…………10. เมื่อมลั ติมิเตอร์วดั ความตา้ นทานขดลวดของยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ มีค่า 0 แสดง
วา่ ขดลวดใชง้ านได้
เฉลยแบบฝึ กหดั หน่วยที่ 4 ตอนท่ี 3
คำส่ัง : จงทำเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมทถี่ ูกต้องและเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมทีผ่ ิด
…………1. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟสประกอบดว้ ยขดลวด 3 ชุด
………….2. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟสต่อวงจรได้ 3 แบบคือ แบบสตาร์, แบบเดลตา,แบบ
ขนาน
…………3. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟสทางานไดเ้ ต็มกาลงั เมื่อจ่ายแรงดนั ไฟฟ้าตามพิกดั
ของมอเตอร์
…………4. ความตา้ นทานขดลวดมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟสไมเ่ ท่ากนั ท้งั 3 ขด
…………5. การกลบั ทิศทางการหมุนมอเตอร์เหน่ียวนา 3 เฟส ทาได้โดยการสลบั สายไลน์ ท่ี
จ่ายไฟใหม้ อเตอร์ คู่ใดคหู่ น่ึง
…………6. แผน่ ป้ายของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟสระบุ Y/ 380/220 V หมายความวา่
ถา้ ตอ่ วงจรแบบ Y ตอ้ งการแรงดนั 220 V
…………7. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟสเริ่มเดินไดแ้ ตไ่ มม่ ีแรงอาจเกิดขอ้ บกพร่องจากระบบ
ไฟฟ้าไม่ครบเฟส
…………8. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟสทางานแตก่ ระแสสูงสาเหตุมาจากรับโหลดเกิน
…………9. การตรวจสอบระบบไฟฟ้า 3 เฟสที่จ่ายใหม้ อเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟสตอ้ งต้งั ยา่ น
วดั ไฟฟ้ากระแสสลบั โวลตม์ ิเตอร์ 220 โวลต์
…………10. การตรวจวดั แรงดนั ไฟฟ้าของสายไฟฟ้าที่จ่ายเขา้ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส
L3-L1
ผลการวดั มลั ติมิเตอร์วดั ได้ 380 โวลตแ์ สดงวา่ ระบบไฟฟ้าปกติ
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 4
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมเคร่ืองกลไฟฟ้ำ ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้หน่วยที่ 4
วชิ ำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ.ปวส
คำสั่ง จงเลือกคาตอบที่ถูกที่สุด ทาเครื่องหมาย ลงในช่องของกระดาษคาตอบ
1. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ ง
ก. สปลิตเฟสมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง 1 เฟส ชนิดเหนี่ยวนา
ข. สปลิตเฟสมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส ชนิดเหนี่ยวนา
ค. สปลิตเฟสมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 1 เฟส ชนิดเหน่ียวนา
ง. สปลิตเฟสมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง 3 เฟส ชนิดเหนี่ยวนา
2. โรเตอร์ของสปลิตเฟสมอเตอร์เป็นชนิดใด
ก. ชนิดกรงกระรอก
ข. ชนิดทรงกระบอก
ค. ชนิดไมม่ ีตลบั ลกู ปื น
ง. ชนิดสวิตชแ์ รงเหวีย่ งหนีศูนย์
3. ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง
ก. คาปาซิเตอร์เริ่มเดินมอเตอร์ มีคาปาซิเตอร์ต่ออนุกรมกบั ขดลวดเร่ิมเดินโดยใช้สวิตช์แรง
เหวย่ี งหนีศูนย์
ข. คาปาซิเตอร์รันมอเตอร์มีคาปาซิเตอร์ต่ออนุกรมอยู่กับขดลวดสตาร์ตโดยไม่ใช้สวิตช์แรง
เหวยี่ งหนีศนู ย์
ค. คาปาซิเตอร์รันมอเตอร์ มีคาปาซิเตอร์ตอ่ ขนานกบั ขดลวดรัน
ง. คาปาซิเตอร์เริ่มเดินมอเตอร์ มีคาปาซิเตอร์ตอ่ ขนานกบั ขดลวดเริ่มเดิน
4. ขอ้ ใดกล่าวถึงขดลวดชุดเร่ิมเดิน และชุดรัน ในสปลิตเฟสมอเตอร์ไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ขนาดเท่ากนั แตท่ างานคนละหนา้ ท่ี
ข. เหมือนกนั เพยี งแต่แยกเฟสออกจากกนั
ค. ความตา้ นทานของขดรันจะสูงกวา่ เพราะใชล้ วดเสน้ ใหญ่
ง. ขดลวดเริ่มเดินจะทางานเฉพาะช่วงที่มอเตอร์เริ่มเดินเท่าน้นั
5. สวิตชแ์ รงเหว่ยี ง ทางานอยา่ งไร
ก. ตอ่ วงจรขดลวดเริ่มเดินเม่ือกระแสเริ่มเดินลดลงเหลือ 75% ของพิกดั
ข. ต่อวงจรขดลวดเร่ิมเดินเมื่อความเร็วเริ่มเดินเพมิ่ ข้ึนถึง 75% ของพิกดั
ค. ตดั วงจรขดลวดเร่ิมเดินเม่ือกระแสเริ่มเดินลดลงเหลือ 75% ของพิกดั
ง. ตดั วงจรขดลวดเริ่มเดินเมื่อความเร็วเร่ิมเดินเพ่ิมข้นึ ถึง 75% ของพกิ ดั
6. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งเกี่ยวกบั การต่อวงจรการเร่ิมเดินสปลิตเฟสมอเตอร์
ก. ขดลวดเร่ิมเดิน และรัน ตอ่ แบบขนาน จ่ายแรงดนั เท่าท่ีกาหนดในแผน่ ป้าย
ข. ขดลวดเร่ิมเดิน และรัน ตอ่ แบบขนาน จ่ายแรงดนั 2 เทา่ ท่ีกาหนดในแผ่นป้าย
ค. ขดลวดเริ่มเดิน และรัน ตอ่ แบบอนุกรมจ่ายแรงดนั เท่าที่กาหนดในแผ่นป้าย
ง. ขดลวดเริ่มเดิน และรัน ต่อแบบอนุกรมจ่ายแรงดนั 2 เท่าท่ีกาหนดในแผน่ ป้าย
7. ขอ้ ใดกลา่ วผดิ เกี่ยวกบั การควบคุมการเร่ิมเดินสปลิตเฟสมอเตอร์โดยใช้ คตั เอา้ ต์
ก. เป็นการควบคมุ ดว้ ยมือ
ข. เหมาะสาหรับการเริ่มเดินมอเตอร์ขนาดเลก็
ค. ฟิ วส์เป็นอุปกรณ์ป้องกนั โหลดเกิน
ง. คนั โยกของคตั เอา้ ต์ ทาหนา้ ท่ีเป็นอปุ กรณ์ปลดวงจรเพยี งอยา่ งเดียว
8. ข้อใดต่อไปน้ีเป็ นสาเหตุขอ้ บกพร่องของสปลิตเฟสมอเตอร์เร่ิมเดินไม่ได้ มีเสียงคราง (ฮัม,
สตาร์ตไม่ออก) หรือเริ่มเดินไดแ้ ต่ไมม่ ีแรง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดรันและขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. สวิตชแ์ รงเหวย่ี งหนีศูนยล์ ดั วงจร
9. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง
ก. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่ใชไ้ ฟฟ้ากระแสสลบั
ข. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ขนาดเลก็ ที่ใชไ้ ดท้ ้งั ไฟฟ้ากระแสสลบั และไฟฟ้า
กระแสตรง
ค. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่ใชไ้ ฟฟ้ากระแสตรง
ง. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ท่ีใชไ้ ฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส
10. ขอ้ ใดเป็นเครื่องใชไ้ ฟฟ้าท่ีใชย้ นู ิเวอร์แซลมอเตอร์
ก. เครื่องป่ันน้าผลไม้
ข. พดั ลมไฟฟ้า
ค. ป๊ัมน้า
ง. เคร่ืองซกั ผา้
11. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็ นสาเหตุขอ้ บกพร่องของยูนิเวอร์แซลมอเตอร์ เร่ิมเดินไม่ได้ มีเสียงคราง (ฮัม,
สตาร์ตไมอ่ อก) หรือเร่ิมเดินไดแ้ ตไ่ มม่ ีแรง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดรันและขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. แปรงถ่านสึก
12. จุดประสงคห์ ลกั ของการเร่ิมเดินแบบสตาร์ - เดลตาของมอเตอร์เหน่ียวนา 3 เฟส คืออะไร?
ก. ลดแรงดนั ขณะเริ่มเดิน
ข. เพิม่ แรงบิดขณะเริ่มเดิน
ค. เพิ่มกาลงั ขณะเริ่มเดิน
ง. ลดกระแสขณะเริ่มเดิน
13 . ขอ้ ใดเป็นสาเหตขุ องมอเตอร์เหนี่ยวนา 3 เฟส ทางานแตก่ ระแสสูง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. มอเตอร์รับโหลดเกิน
14. การทางานของหมอ้ แปลงไฟฟ้าแรงดนั ไฟฟ้าทางขดทุติยภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้าจะข้ึนอยู่กบั
อตั ราส่วนใดของหมอ้ แปลง
ก. จานวนรอบของขดลวดทุติยภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ข. จานวนรอบของขดลวดทุติยภูมิและขดลวดปฐมภูมิและระดับแรงดนั ไฟฟ้าทางขดปฐมภูมิ
ของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ค. จานวนรอบของขดลวดปฐมภมู ิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ง. แกนเหลก็ ของหมอ้ แปลง
15. ขอ้ ใดเป็นสาเหตุไมม่ ีแรงดนั ไฟฟ้าออก ทางดา้ นทุติยภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ก. ขดลวดปฐมภูมิมีแรงดนั เท่ากบั แหล่งจ่าย
ข. แกนเหลก็ มีความตา้ นทานสูง
ค. ขดลวดปฐมภมู ิขาด
ง. ขดลวดปฐมภมู ิมีแรงดนั ไมเ่ ท่ากบั แหล่งจ่าย
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 4
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมเคร่ืองกลไฟฟ้ำ ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยท่ี 4
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดบั .ปวส
ขอ้ คาตอบ
1ค
2ก
3ข
4ง
5ง
6ก
7ง
8ข
9ข
10 ก
11 ง
12 ง
13 ง
14 ข
15 ค
แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 4
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมเคร่ืองกลไฟฟ้ำ ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยที่ 4
วชิ ำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดบั ปวส
คำส่ัง จงเลือกคาตอบท่ีถกู ที่สุด ทาเครื่องหมาย ลงในช่องของกระดาษคาตอบ
1. ขอ้ ใดกล่าวถึงขดลวดชุดเร่ิมเดิน และชุดรัน ในสปลิตเฟสมอเตอร์ไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ขนาดเท่ากนั แตท่ างานคนละหนา้ ที่
ข. เหมือนกนั เพียงแต่แยกเฟสออกจากกนั
ค. ความตา้ นทานของขดรันจะสูงกวา่ เพราะใชล้ วดเส้นใหญ่
ง. ขดลวดเริ่มเดินจะทางานเฉพาะช่วงที่มอเตอร์เร่ิมเดินเทา่ น้นั
2. สวติ ชแ์ รงเหวีย่ ง ทางานอยา่ งไร
ก. ต่อวงจรขดลวดเริ่มเดินเม่ือกระแสเร่ิมเดินลดลงเหลือ 75% ของพกิ ดั
ข. ต่อวงจรขดลวดเร่ิมเดินเมื่อความเร็วเร่ิมเดินเพิม่ ข้นึ ถึง 75% ของพกิ ดั
ค. ตดั วงจรขดลวดเร่ิมเดินเมื่อกระแสเร่ิมเดินลดลงเหลือ 75% ของพกิ ดั
ง. ตดั วงจรขดลวดเร่ิมเดินเมื่อความเร็วเร่ิมเดินเพิ่มข้นึ ถึง 75% ของพกิ ดั
3. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งเกี่ยวกบั การต่อวงจรการเร่ิมเดินสปลิตเฟสมอเตอร์
ก. ขดลวดเร่ิมเดิน และรัน ตอ่ แบบขนาน จ่ายแรงดนั เทา่ ท่ีกาหนดในแผ่นป้าย
ข. ขดลวดเริ่มเดิน และรัน ต่อแบบขนาน จ่ายแรงดนั 2 เทา่ ที่กาหนดในแผน่ ป้าย
ค. ขดลวดเริ่มเดิน และรัน ตอ่ แบบอนุกรมจ่ายแรงดนั เท่าที่กาหนดในแผน่ ป้าย
ง. ขดลวดเร่ิมเดิน และรัน ต่อแบบอนุกรมจ่ายแรงดนั 2 เท่าท่ีกาหนดในแผ่นป้าย
4. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็ นสาเหตุข้อบกพร่องของสปลิตเฟสมอเตอร์เร่ิมเดินไม่ได้ มีเสียงคราง (ฮัม,
สตาร์ตไม่ออก) หรือเริ่มเดินไดแ้ ตไ่ ม่มีแรง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดรันและขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. สวิตชแ์ รงเหวยี่ งหนีศูนยล์ ดั วงจร
5. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ ง
ก. สปลิตเฟสมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง 1 เฟส ชนิดเหน่ียวนา
ข. สปลิตเฟสมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส ชนิดเหน่ียวนา
ค. สปลิตเฟสมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 1 เฟส ชนิดเหน่ียวนา
ง. สปลิตเฟสมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง 3 เฟส ชนิดเหน่ียวนา
6. โรเตอร์ของสปลิตเฟสมอเตอร์เป็นชนิดใด
ก. ชนิดกรงกระรอก
ข. ชนิดทรงกระบอก
ค. ชนิดไมม่ ีตลบั ลูกปื น
ง. ชนิดสวิตชแ์ รงเหว่ียงหนีศูนย์
7. ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง
ก. คาปาซิเตอร์เร่ิมเดินมอเตอร์ มีคาปาซิเตอร์ต่ออนุกรมกับขดลวดเร่ิมเดินโดยใช้สวิตช์แรง
เหวย่ี งหนีศนู ย์
ข. คาปาซิเตอร์รันมอเตอร์มีคาปาซิเตอร์ต่ออนุกรมอยู่กับขดลวดสตาร์ตโดยไม่ใช้สวิตช์แรง
เหวย่ี งหนีศูนย์
ค. คาปาซิเตอร์รันมอเตอร์ มีคาปาซิเตอร์ตอ่ ขนานกบั ขดลวดรัน
ง. คาปาซิเตอร์เร่ิมเดินมอเตอร์ มีคาปาซิเตอร์ต่อขนานกบั ขดลวดเร่ิมเดิน
8. ขอ้ ใดเป็นเครื่องใชไ้ ฟฟ้าที่ใชย้ นู ิเวอร์แซลมอเตอร์
ก. เครื่องปั่นน้าผลไม้
ข. พดั ลมไฟฟ้า
ค. ปั๊มน้า
ง. เครื่องซกั ผา้
9. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นสาเหตุขอ้ บกพร่องของยูนิเวอร์แซลมอเตอร์ เร่ิมเดินไม่ได้ มีเสียงคราง (ฮมั ,
(สตาร์ตไม่ออก) หรือเริ่มเดินไดแ้ ต่ไม่มีแรง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดรันและขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. แปรงถ่านสึก
10. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง
ก. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่ใชไ้ ฟฟ้ากระแสสลบั
ข. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ขนาดเลก็ ท่ีใชไ้ ดท้ ้งั ไฟฟ้ากระแสสลบั และไฟฟ้า
กระแสตรง
ค. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ท่ีใชไ้ ฟฟ้ากระแสตรง
ง. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ท่ีใชไ้ ฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส
11. ขอ้ ใดกลา่ วผดิ เกี่ยวกบั การควบคมุ การเริ่มเดินสปลิตเฟสมอเตอร์โดยใช้ คตั เอา้ ต์
ก. เป็นการควบคมุ ดว้ ยมือ
ข. เหมาะสาหรับการเริ่มเดินมอเตอร์ขนาดเลก็
ค. ฟิ วส์เป็นอปุ กรณ์ป้องกนั โหลดเกิน
ง. คนั โยกของคตั เอา้ ต์ ทาหนา้ ท่ีเป็นอปุ กรณ์ปลดวงจรเพยี งอยา่ งเดียว
12 . ขอ้ ใดเป็นสาเหตขุ องมอเตอร์เหน่ียวนา 3 เฟส ทางานแต่กระแสสูง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. มอเตอร์รับโหลดเกิน
13. จุดประสงคห์ ลกั ของการเร่ิมเดินแบบสตาร์ - เดลตาของมอเตอร์เหนี่ยวนา 3 เฟส คืออะไร?
ก. ลดแรงดนั ขณะเร่ิมเดิน
ข. เพิ่มแรงบิดขณะเร่ิมเดิน
ค. เพ่ิมกาลงั ขณะเร่ิมเดิน
ง. ลดกระแสขณะเริ่มเดิน
14. ขอ้ ใดเป็นสาเหตุไม่มีแรงดนั ไฟฟ้า ออกทางดา้ นทุติยภมู ิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ก. ขดลวดปฐมภูมิมีแรงดนั เท่ากบั แหลง่ จ่าย
ข. แกนเหลก็ มีความตา้ นทานสูง
ค. ขดลวดปฐมภูมิขาด
ง. ขดลวดปฐมภูมิมีแรงดนั ไมเ่ ทา่ กบั แหล่งจ่าย
15. การทางานของหม้อแปลงไฟฟ้าแรงดนั ไฟฟ้าทางขดทุติยภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้าจะข้ึนอยู่กบั
อตั ราส่วนใดของหมอ้ แปลง
ก. จานวนรอบของขดลวดทุติยภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ข. จานวนรอบของขดลวดทุติยภูมิและขดลวดปฐมภูมิและระดบั แรงดันไฟฟ้าทางขดปฐมภูมิ
ของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ค. จานวนรอบของขดลวดปฐมภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ง. แกนเหลก็ ของหมอ้ แปลง
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 4
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมเคร่ืองกลไฟฟ้ำ ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยท่ี 4
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดบั .ปวส
ขอ้ คาตอบ
1ง
2ง
3ก
4ข
5ค
6ก
7ข
8ก
9ง
10 ข
11 ง
12 ง
13 ง
14 ค
15 ข
บนั ทกึ ผลหลงั กำรสอน
4. ผลกำรสอน
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
5. ปัญหำ/อปุ สรรค
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
6. ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
(ลงชื่อ)…………………………………
( ประจวบ แสงวงค์ )
ครูผสู้ อน