แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ หน่วยท่ี 5
วชิ ำ 3104-2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ สอนคร้ังท่ี 13-15
ชื่อหน่วย งำนบริกำรและซ่อมเคร่ืองใช้ ไฟฟ้ำทใ่ี ช้มอเตอร์
ช่ือเรื่อง งำนซ่อมเคร่ืองใช้ ไฟฟ้ำทีใ่ ช้มอเตอร์ คำบรวม 75
จำนวนคำบ 15
หวั ข้อเร่ือง
หน่วยที่ 5 งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้ำทใ่ี ช้มอเตอร์
5.1 งานบริการและซ่อมเครื่องซกั ผา้
5.2 งานบริการและซ่อมเคร่ืองปั๊มน้า
5.3 งานบริการและซ่อมเครื่องป่ันน้าผลไม้
สำระสำคญั
เคร่ืองใช้ไฟฟ้ามีบทบาทสาคญั ในชีวิตประจาวนั ส่วนใหญ่จะเป็ นเครื่องทุ่นแรง หรือ
อานวยความสะดวก เพ่ือใหผ้ ใู้ ชม้ ีความสะดวกสบาย มีเวลาพกั ผอ่ น หรือไปทางานอ่ืน ๆ ได้
สมรรถนะอำชีพ
1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั หลกั การทางานของเครื่องใช้ ไฟฟ้าที่ใชม้ อเตอร์
2. ตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเครื่องใช้ ไฟฟ้าที่ใชม้ อเตอร์
จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
1. อธิบายหลกั การทางานของเครื่องใช้ ไฟฟ้าที่ใชม้ อเตอร์ได้
2. ตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของเคร่ืองใช้ ไฟฟ้าท่ีใชม้ อเตอร์ได้
3. ซ่อมบารุงรักษาเครื่องใชไ้ ฟฟ้าที่ใชม้ อเตอร์ได้
4. มีคณุ ธรรมจริยธรรม แสดงเจตคติและพฤติกรรมลกั ษณะนิสยั ในการปฏิบตั ิงานดว้ ย
ความรับผดิ ชอบ ซื่อสตั ย์ ใฝ่ รู้ มีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั และทางาน
ร่วมกบั ผอู้ ื่นได้
เนื้อหำสำระกำรจัดกำรเรียนรู้
หน่วยท่ี 5 งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้ำทใ่ี ช้มอเตอร์
5.1 งานบริการและซ่อมเคร่ืองซกั ผา้
5.1.1 เครื่องซกั ผา้ แบบก่ึงอตั โนมตั ิ
5.1.2 เครื่องซกั ผา้ แบบอตั โนมตั ิ
5.2 งานบริการและซ่อมเครื่องป๊ัมน้า
5.2.1 ชนิดของปั๊มน้าตามหลกั การทางาน
5.2.2 ขนาดของป๊ัมน้า
5.2.3 การเลือกใชป้ ๊ัมน้า
5.2.4 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องและการซ่อมเคร่ืองป๊ัมน้า
5.3 งานบริการและซ่อมเคร่ืองป่ันน้าผลไม้
5.3.1 โครงสร้างของเครื่องปั่นน้าผลไม้
5.3.2 หลกั การทางานของเคร่ืองป่ันน้าผลไม้
5.3.3 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องและการซ่อมเคร่ืองปั่นน้า
ผลไม้
5.3.4 การเลือกเครื่องปั่นน้าผลไมใ้ ชง้ าน
กระบวนกำรเรียนรู้
1. การบรรยาย
2. กระบวนการกลุ่ม
3. การสาธิต
4. ทกั ษะกระบวนการปฏิบตั ิ
กำรบูรณำกำรควำมรู้
1. ความรู้การใชภ้ าษาไทย การสรุป อภิปรายโดยใชภ้ าษาสื่อสารที่ถูกตอ้ ง
2. ความรู้การใชภ้ าษาองั กฤษ ศพั ทเ์ ทคนิคทางดา้ นไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์
3. ความรู้เก่ียวกบั การใชอ้ ินเตอร์เนต็ (Internet)ในการศึกษาคน้ ควา้
4. การอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นอยา่ งมีความสุข การแบง่ กลุ่ม ช่วยเหลือกนั และร่วมงานกบั ผอู้ ่ืนได้
5. สนทนากบั นกั เรียนดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรม ก่อนและหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
สอนคร้ังท่ี 13 (คำบท่ี 49-52)
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายชื่อ
2. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้หน่วยที่ 5 เร่ือง งานบริการและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้าที่ใช้
มอเตอร์
3. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 5 เร่ือง งานบริการและซ่อมเคร่ืองใช้ ไฟฟ้าท่ี
ใชม้ อเตอร์
4. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยให้นกั เรียนสังเกตส่ือของจริง พร้อมท้งั ซกั ถามนกั เรียนเก่ียวกบั
เคร่ืองใช้ ไฟฟ้าท่ีใชม้ อเตอร์และการใชง้ านและใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม
5. นกั เรียนรับคาแนะนาการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบการใชส้ ่ือโปรแกรมงานนาเสนอ
หน่วยท่ี 5 จากครูผสู้ อน และศึกษาหนงั สือวชิ าการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยท่ี 5 เรื่อง งานบริการ
และซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้าที่ใชม้ อเตอร์ 5.1 งานบริการและซ่อมเคร่ืองซกั ผา้ นกั เรียนสอบถามครูผสู้ อน
เกี่ยวกบั กิจกรรมในการจดั การเรียนรู้ที่นกั เรียนยงั ไม่เขา้ ใจ
6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ หน่วยท่ี 5 เรื่อง เครื่องใช้ ไฟฟ้าท่ีใชม้ อเตอร์
5.1 งานบริการและซ่อมเคร่ืองซกั ผา้
7. นกั เรียนเขียนสรุปความคิดรวบยอดท่ีไดจ้ ากการสรุปองค์ความรู้ลงในสมุดบนั ทึก
8. นกั เรียนทาแบบฝึ กหดั หน่วยที่ 5 ตอนที่ 1
9. ครูผสู้ อนตรวจการเขียนสรุปความคิดรวบยอดของผเู้ รียน
10. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหดั ผูเ้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพ่ือน
11. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
12. ประเมินคุณธรรมจริยธรรมโดยใชแ้ บบประเมิน
สอนคร้ังท่ี 14 (คำบที่ 53-54)
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนักเรียนตามบญั ชีรายช่ือ เสร็จแลว้ แบ่งกลุ่มนกั เรียน
ตามผลการวิเคราะหผ์ เู้ รียนกล่มุ ละ 4-5 คน เขา้ ประจาโต๊ะชุดฝึกปฏิบตั ิ
2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ทบทวนหน่วยการเรียนในคาบที่ผา่ นมาเพือ่ ทบทวนความรู้เดิม
3. นกั เรียนศึกษาใบงานท่ี 5.1 เร่ือง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเคร่ืองซกั ผา้ แบบ
ก่ึงอตั โนมตั ิ
4. ครูอธิบายและสาธิตใบงานที่ 5.1 พร้อมท้งั บอกการใชง้ านชุดฝึก ขอ้ ควรระวงั ในการใช้
งาน ระบบความปลอดภยั
5. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ปฏิบตั ิงาน ตามใบงานที่ 5.1
6. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 5.1
7. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
สอนคร้ังท่ี 14 (คำบที่ 55-56)
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. นกั เรียนศึกษาหนงั สือวิชาการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยที่ 5 เรื่อง งานบริการและซ่อม
เคร่ืองใช้ ไฟฟ้าที่ใชม้ อเตอร์ 5.2 งานบริการและซ่อมเคร่ืองปั๊มน้า
2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ประกอบการใชส้ ่ือโปรแกรมงานนาเสนอหน่วยที่ 5
งานบริการและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าท่ีใชม้ อเตอร์ 5.2 งานบริการและซ่อมเคร่ืองปั๊มน้า จากครูผสู้ อน
นกั เรียนสอบถามครูผสู้ อนในเน้ือหาที่ยงั ไม่เขา้ ใจ
3. นกั เรียนเขยี นสรุปความคิดรวบยอดที่ไดจ้ ากการสรุปองคค์ วามรู้ลงในสมุดบนั ทึก
4. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยที่ 5 ตอนท่ี 2
5. ครูผสู้ อนตรวจการเขียนสรุปความคิดรวบยอดของผเู้ รียน
6. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหดั ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพ่ือน
7. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
8. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรมในการปฏิบตั ิงาน โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
สอนคร้ังที่ 15 (คำบที่ 57-60)
กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายชื่อ
2. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยให้นกั เรียนสังเกตสื่อของจริง พร้อมท้งั ซกั ถามนกั เรียนเกี่ยวกบั
งานบริการและซ่อมเคร่ืองปั่นน้าผลไมแ้ ละการใชง้ านและใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม
3. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ๆละ 4-5 คน ร่วมกนั ศึกษาหนงั สือวิชาการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยท่ี
5 เร่ือง งานบริการและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้าท่ีใชม้ อเตอร์ 5.3 งานบริการและซ่อมเครื่องป่ันน้าผลไม้
และร่วมกนั อภิปรายสาระสาคญั ดงั น้ี
กลุ่มท่ี 1 โครงสร้างของเครื่องป่ันน้าผลไม้
กลมุ่ ท่ี 2 หลกั การทางานของเคร่ืองปั่นน้าผลไม้
กล่มุ ที่ 3 การตรวจสอบหาสาเหตขุ อ้ บกพร่องและการซ่อมเคร่ืองปั่นน้าผลไม้
4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั สรุปประเด็นที่เป็นสาระสาคญั เก่ียวกบั งานบริการและซ่อม
เคร่ืองป่ันน้าผลไมล้ งในกระดาษในรูปแบบของแผนท่ีความคดิ
5. ตวั แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการอภิปราย หนา้ ช้นั เรียนนกั เรียนต่างกลมุ่ บนั ทึก
องคค์ วามรู้ของกลุม่ ท่ีนาเสนอทกุ กลมุ่
6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ เรื่อง งานบริการและซ่อมเครื่องป่ันน้าผลไม้
นกั เรียนบนั ทึกผลการสรุปเพิ่มเติมในส่วนท่ียงั ไม่สมบรู ณ์
7. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยท่ี 5 ตอนท่ี 3
8. ครูผสู้ อนตรวจสรุปสาระสาคญั เกี่ยวกบั งานบริการและซ่อมเครื่องป่ันน้าผลไมใ้ นรูปแบบ
ของแผนที่ความคดิ ของนกั เรียนแต่ละกลมุ่
9. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหดั ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพอื่ น
10. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
11. นกั เรียนศึกษาใบงานที่ 5.2 เร่ือง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเครื่องปั่นน้าผลไม้
12. ครูอธิบายและสาธิต การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเครื่องป่ันน้าผลไม้
13. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ (กลมุ่ เดิม)แยกปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 5.2
14. นกั เรียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 5.2
15. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
16. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรมในการปฏิบตั ิงาน โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
17. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 5 เร่ือง งานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
ท่ีใชม้ อเตอร์
สื่ออปุ กรณ์และแหล่งกำรเรียนรู้
1. ส่ือและอปุ กรณ์
1.1 เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
1.2 สื่องานนาเสนอ หน่วยท่ี 5
1.3 ครุภณั ฑ์ เคร่ืองมือ ประจาหอ้ งปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
2. แหล่งกำรเรียนรู้
2.1 เอกสารตามบรรณานุกรมในเอกสารประกอบการเรียนการสอน
2.2 วสั ดุ ครุภณั ฑห์ ้องปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
2.3 หอ้ งสมุดของวทิ ยาลยั ฯ และหอ้ งสมดุ ประชาชน
2.4 การสืบคน้ ขอ้ มูลจากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆที่เก่ียวขอ้ ง
กำรวัดผลและประเมินผล เครื่องมือวัด เกณฑ์กำรประเมิน
วธิ ีวัด 1. แบบฝึกหดั 1. ทาแบบฝึกหดั
1. แบบฝึกหดั หลงั เรียน 1.1 แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 5 1.1 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
ตอนที่ 1 จาก 10 ขอ้
2. ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
3. ประเมินคุณธรรมจริยธรรม 1.2 แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 5 1.2 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
4. ทดสอบหลงั เรียน ตอนที่ 2 จาก 10 ขอ้
1.3 แบบฝึกหดั หน่วยที่ 5 1.3 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
ตอนที่ 3 จาก 10 ขอ้
2. แบบประเมินผล 2. ไดค้ ะแนนจากผลการ
การปฏิบตั ิงาน ปฏิบตั ิงานร้อยละ 50
3. แบบประเมินคุณธรรม 3. ไดค้ ะแนนจากการประเมิน
จริยธรรม คุณธรรมจริยธรรม ร้อยละ 50
4. แบบทดสอบหลงั เรียน 4. ทาแบบทดสอบผา่ น 8 ขอ้
จาก 15 ขอ้
กจิ กรรมเสนอแนะ
1. นกั เรียนศึกษาจากเอกสารประกอบการเรียนรู้และใบงานมาก่อนล่วงหนา้
2. นกั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เพ่ิมเติมจากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง
3. นกั เรียนศึกษาเพ่ิมเติมจากหอ้ งสมุด
เฉลยแบบฝึ กหดั หน่วยท่ี 5 ตอนท่ี 1
คำสั่ง : จงทำเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมท่ถี ูกต้องและเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมทีผ่ ดิ
…………1. เครื่องซกั ผา้ แบบก่ึงอตั โนมตั ิ เป็นเครื่องซักผา้ ท่ีถงั ซกั และถงั สาหรับสลดั น้าแยกออก
จากกนั
………….2. มอเตอร์ในเครื่องซกั ผา้ เป็นมอเตอร์แบบ 4โพลมีขดลวดสตาร์ตต่อขนานกบั
คาปาซิเตอร์
………….3. คาปาซิเตอร์ ของมอเตอร์เครื่องซกั ผา้ มีขนาดใหญป่ ระมาณ1,000วตั ต์
…………4. เซฟต้ีสวิตช์ เป็นอุปกรณ์ป้องกนั ของเครื่องซกั ผา้ ในกรณีท่ีผา้ ในถงั อยใู่ นลกั ษณะไม่
สมดุลขณะป่ันแหง้
………….5. คาปาซิเตอร์ที่ต่อวงจรร่วมกับมอเตอร์ของเครื่องซักผา้ ทาหน้าท่ีเพ่ิมความเร็วของ
มอเตอร์
…………6. เมื่อใบพดั ถงั ซกั ของเคร่ืองซกั ผา้ หมนุ แต่ไมม่ ีแรงอาจเกิดขอ้ บกพร่องจากสายพาน
หยอ่ น
…………7. เครื่องซกั ผา้ แบบอตั โนมตั ิ เป็นเคร่ืองซกั ผา้ ท่ีถงั ซกั และถงั สาหรับสลดั น้าเป็นถงั
เดียวกนั
………….8. เคร่ืองซกั ผา้ แบบอตั โนมตั ิควบคุมกระบวนการทางานของเครื่องดว้ ยสวติ ชอ์ ตั โนมตั ิ
…………9 การซ่อมเคร่ืองซกั ผา้ แบบอตั โนมตั ิถา้ ระบบควบคมุ เสียหายตอ้ งเปล่ียนท้งั ชุด
…………10. การบารุงรักษาเคร่ืองซกั ผา้ หา้ มใชผ้ งขดั หรือน้ายาเคมีบางประเภท เช่น น้ามนั
เบนซิน หรือ ทินเนอร์เชด็ ถเู ครื่องซกั ผา้ โดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทาให้
ส่วนประกอบของเครื่องซกั ผา้ ไดร้ ับความเสียหายได้
เฉลยแบบฝึ กหัดหน่วยท่ี 5 ตอนที่ 2
คำส่ัง : จงทำเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมทีถ่ ูกต้องและเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมที่ผดิ
…………1. ป๊ัมน้าเป็นอุปกรณ์เพ่มิ แรงดนั ทางานโดยมอเตอร์ไฟฟ้า ทาหนา้ ท่ีเป็นตน้ กาลงั หมนุ
………….2. ป๊ัมน้าแบบลกู สูบ ทางานโดยหมุนให้โรเตอร์เล่ือนไป-มา
………….3. ป๊ัมน้าแบบใบพดั มีขนาดเลก็ จ่ายน้าไดป้ ริมาณนอ้ ย
…………4. การพจิ ารณาขนาดของป๊ัมพิจารณาดว้ ยกาลงั หรือขนาดของมอเตอร์
…………5. Q 0.6 - 2.4 m3 / h หมายถึงอตั ราการจ่ายน้าของป๊ัม ซ่ึงสามารถจ่ายน้าไดป้ ริมาณ 0.6
ถึง 2.4 ลูกบาศกเ์ มตร (m3) ในเวลา 1 ชว่ั โมง (h)
…………6. H 1 - 8 m หมายถึงป๊ัมสามารถสร้างแรงดันน้ า เทียบเป็ นความสูงของน้ าที่ปั๊ม
สามารถจ่ายน้าได้ ซ่ึงสามารถจ่ายน้าไดท้ ่ีความสูงของปลายท่อสูง 1 ถึง 8 เมตร (m)
………….7. การ ติดต้งั ปั๊มน้าตอ้ งห่างจากผนงั อย่างนอ้ ย 30 เซนติเมตรเมตร เพื่อใหอ้ ากาศถ่ายเท
ไดส้ ะดวก ป๊ัมจะไดไ้ ม่ร้อนมากขณะทางาน
………….8. การตอ่ ป๊ัมน้าควรต่อโดยตรงจากทอ่ ประปาเพอ่ื แรงดนั ของน้าจะไดส้ ูง
…………9 เมื่อป๊ัมน้าทางานและหยดุ ถ่ีเกินไปอาจเกิดขอ้ บกพร่องจากสวิตชแ์ รงดนั เสีย
…………10. การบารุงรักษาปั๊มน้าระวงั อยา่ ใหม้ ีส่ิงสกปรก เศษวสั ดุ เศษทอ่ พี.วี.ซี.เขา้ ท่อ
หรือในเครื่องปั๊มซ่ึงอาจทาใหม้ อเตอร์ไดร้ ับความเสียหายได้
เฉลยแบบฝึ กหัดหน่วยที่ 5 ตอนที่ 3
คำส่ัง : จงทำเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมท่ีถูกต้องและเคดร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมที่ผดิ
…………1. ชุดมอเตอร์ของเคร่ืองปั่นน้าผลไม้ ประกอบดว้ ย ขดลวดฟิ ลด,์ อาเมเจอร์,
แปรงถา่ นและคอมมิวเตเตอร์
………….2. ใบมีดของเครื่องป่ันน้าผลไมค้ วรทาจากพลาสติก
………….3. มอเตอร์ของเคร่ืองป่ันน้าผลไมเ้ ป็นชนิดอินดกั ชน่ั มอเตอร์
………….4. วงจรไฟฟ้าของเคร่ืองป่ันน้าผลไมข้ ดลวดฟิ ลดต์ ่อขนานกบั อาเมเจอร์
…………5. การเปลี่ยนความเร็วของมอเตอร์ในเคร่ืองป่ันน้าผลไมใ้ ชห้ ลกั การเปล่ืยนจานวนรอบ
ของขดลวดฟิ ลด์
…………6. วงจรไฟฟ้าของเครื่องป่ันน้าผลไม้ อาศยั การลดแรงดนั ไฟฟ้า โดยใชไ้ ดโอด
…………7. เครื่องป่ันน้าผลไมห้ มนุ แต่ไมม่ ีแรงอาจเกิดขอ้ บกพร่องจากแปรงถ่าน
…………8. เครื่องปั่นน้าผลไม้ มีเสียงดงั อาจเกิดขอ้ บกพร่องจากบชู หลวม
…………9 เม่ือขดลวดมอเตอร์ของเคร่ืองป่ันน้าผลไมไ้ หม้ สงั เกตไดจ้ ะมีสีดาผดิ ปกติ
………….10. การบารุงรักษาเครื่องปั่นน้าผลไมใ้ หไ้ ร้กลิ่นเม่ือนามาใชง้ านใหใ้ ชผ้ งซกั ฟอกทา
ความสะอาดโถแกว้
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 5
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้ำที่ใช้มอเตอร์ ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้หน่วยท่ี 5
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดบั ..ปวส
คำสั่ง จงเลือกคาตอบที่ถกู ท่ีสุด ทาเครื่องหมาย ลงในช่องของกระดาษคาตอบ
1. ป่ ุมควบคุมใด ทาหนา้ ที่ปรับต้งั เวลาในการทางานของเคร่ืองซกั ผา้ แบบก่ึงอตั โนมตั ิ
ก. Wash Timer
ข. Drain Selector
ค. Spin Timer
ง. Washing Cover
2. มอเตอร์ที่ใชก้ บั เครื่องซกั ผา้ เป็นมอเตอร์ชนิดใด
ก. Split phase motor
ข. Capacitor motor
ค. Universal motor
ง. Shaded pole motor
3. คาปาซิเตอร์ท่ีต่อวงจรร่วมกบั มอเตอร์ของเครื่องซกั ผา้ มีหนา้ ที่ตามขอ้ ใด
ก. เพ่อื ช่วยใหม้ อเตอร์สตาร์ตมีแรงบิดสูงข้ึน
ข. เพ่ือช่วยใหม้ อเตอร์สตาร์ตมีแรงบิดต่าลง
ค. เพอื่ ช่วยใหม้ อเตอร์มีความเร็วเพ่มื ข้ึน
ง. เพื่อช่วยใหม้ อเตอร์กินกระแสไฟฟ้ามากข้นึ
4. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีเป็นอุปกรณ์ควบคุมเคร่ืองซกั ผา้ แบบอตั โนมตั ิ
ก. ไมโครคอมพิวเตอร์
ข. ลิมิตสวิตช์
ค. คอมพวิ เตอร์
ง. ไมโครโปรเซสเซอร์
5. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นสาเหตุทาใหใ้ บพดั ของเคร่ืองซกั ผา้ ถงั ซกั หมนุ แต่ไม่มีแรง
ก. สวิตชค์ วบคุมไม่ทางาน
ข. สายพานตึงเกินไป
ค. สายพานหยอ่ น
ง. มอเตอร์ถงั ซกั ไหม้
6. ขอ้ ใดกล่าวถึงหนา้ ท่ีของเคร่ืองป๊ัมน้าขนาดเลก็ ไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด
ก. เพมิ่ แรงดนั ใหน้ ้าและส่งน้าไปตามทอ่
ข. ลดแรงดนั ใหน้ ้าและส่งน้าไปตามท่อ
ค. รับน้าและส่งน้าไปตามท่อ
ง. เพิ่มลมใหน้ ้าและส่งน้าไปตามทอ่
7. เคร่ืองปั๊มน้าขนาดเลก็ ใชม้ อเตอร์ชนิดใด
ก. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์
ข. มอเตอร์เหน่ียวนา 1 เฟส
ค. สปลิตเฟสมอเตอร์
ง. มอเตอร์เหน่ียวนา 3 เฟส
8. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง
ก. 150 ลิตร/นาที (l/min) หมายถึง ปั๊มน้าสามารถจ่ายน้าไดป้ ริมาณ 150 ลิตรในเวลา 1 นาที
ข. 150 ลิตร/นาที (l/min) หมายถึง ปั๊มน้าสามารถจ่ายน้าไดป้ ริมาณ 150 ลิตรในเวลา 1 วนิ าที
ค. 150 ลิตร/นาที (l/min) หมายถึง ปั๊มน้าสามารถจ่ายน้าไดป้ ริมาณ 150 ลิตรในเวลา 10 นาที
ง. 150 ลิตร/นาที (l/min) หมายถึง ป๊ัมน้าสามารถจ่ายน้าไดป้ ริมาณ 150 ลิตรในเวลา 1 ชวั่ โมง
9. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีเป็นสาเหตขุ องปั๊มน้าไม่ดูดน้าหรือน้าไหลเบา
ก. มีเศษวสั ดุในเคร่ืองป๊ัม
ข. มีรอยรั่วในท่อทางดูด
ค. มีรอยรั่วในทอ่ ทางจ่าย
ง. สวิตชแ์ รงดนั เสีย
10. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ งเกี่ยวกบั การติดต้งั ปั๊มน้า
ก. การติดต้งั ป๊ัมตอ้ งใหป้ ั๊มอยใู่ นที่ร่ม กนั แดด กนั ฝน
ข. ควรต่อป๊ัมน้าโดยตรงจากท่อประปา
ค. การติดต้งั ทอ่ น้ากบั ตวั ปั๊ม ควรติดต้งั ใหไ้ ดร้ ะดบั
ง. ท่อดูดและท่อจ่ายน้าของป๊ัม ไม่ควรเลก็ กวา่ ขนาดของจุดต่อทอ่ ของปั๊ม
11. ขอ้ ใดต่อไปน้ี เป็นส่วนประกอบของเคร่ืองป่ันน้าผลไมท้ ่ีมีหนา้ ที่บดหรือปั่นอาหาร
ก. ใบมีด
ข. มอเตอร์
ค. โรเตอร์
ง. ฐานเครื่องป่ัน
12. วงจรไฟฟ้าของเคร่ืองป่ันน้าผลไมข้ ดลวดฟิ ลดต์ อ่ ลกั ษณะใดกบั อาเมเจอร์
ก. อนุกรม
ข. ขนาน
ค. ผสม
ง. ไมม่ ีขอ้ ถูก
13. การเกิดประกายไฟในฐานเคร่ืองขณะมอเตอร์ทางานเกิดจากชิ้นส่วนใด
ก. ลกู ยาง - ใบมีด
ข. คอมมิวเตเตอร์ – แกนหมุน
ค. แปรงถ่าน – คอมมิวเตเตอร์
ง. แหวนกนั สึกกบั ลูกยาง
14. ขณะที่มอเตอร์หมุนแลว้ มีกล่ินเหมือนยางไหมค้ วรตรวจดูท่ีใด
ก. ยางรองโถ
ข. แกนใบมีด
ค. แปรงถา่ น
ง. ลกู ยางแกนหมนุ ใบมีด
15. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นการเลือกเคร่ืองปั่นน้าผลไมใ้ ชง้ านที่ไมถ่ ูกตอ้ ง
ก. ส่วนประกอบของเครื่องป่ันน้าผลไมต้ อ้ งไมเ่ ปราะบาง
ข. เคร่ืองป่ันน้าผลไมต้ อ้ งเสียงไมด่ งั มากระหวา่ งการทางาน
ค. ความเร็วรอบใบมีดของเคร่ืองปั่นน้าผลไมค้ วรไม่ต่ากวา่ 3,600 รอบตอ่ นาที
ง. การเลือกเคร่ืองป่ันน้าผลไมต้ อ้ งคานึงถึงความสวยงามมากกวา่ ประโยชน์ที่ใช้
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 5
เรื่อง งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ำทใี่ ช้มอเตอร์ ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยท่ี 5
วชิ ำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ..ปวส
ขอ้ คาตอบ
1ก
2ข
3ก
4ก
5ค
6ก
7ค
8ก
9ข
10 ข
11 ก
12 ก
13 ค
14 ค
15 ง
แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยท่ี 5
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ ไฟฟ้ำท่ใี ช้มอเตอร์ ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้หน่วยท่ี 5
วชิ ำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดบั ..ปวส
คำสั่ง จงเลือกคาตอบท่ีถูกที่สุด ทาเครื่องหมาย ลงในช่องของกระดาษคาตอบ
1. คาปาซิเตอร์ที่ต่อวงจรร่วมกบั มอเตอร์ของเคร่ืองซกั ผา้ มีหนา้ ที่ตามขอ้ ใด
ก. เพื่อช่วยใหม้ อเตอร์สตาร์ตมีแรงบิดสูงข้ึน
ข. เพือ่ ช่วยใหม้ อเตอร์สตาร์ตมีแรงบิดต่าลง
ค. เพื่อช่วยใหม้ อเตอร์มีความเร็วเพ่มื ข้ึน
ง. เพื่อช่วยใหม้ อเตอร์กินกระแสไฟฟ้ามากข้ึน
2. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีเป็นอุปกรณ์ควบคมุ เครื่องซกั ผา้ แบบอตั โนมตั ิ
ก. ไมโครคอมพิวเตอร์
ข. ลิมิตสวิตช์
ค. คอมพิวเตอร์
ง. ไมโครโปรเซสเซอร์
3. ป่ ุมควบคมุ ใด ทาหนา้ ท่ีปรับต้งั เวลาในการทางานของเครื่องซกั ผา้ แบบก่ึงอตั โนมตั ิ
ก. Wash Timer
ข. Drain Selector
ค. Spin Timer
ง. Washing Cover
4. มอเตอร์ท่ีใชก้ บั เคร่ืองซกั ผา้ เป็นมอเตอร์ชนิดใด
ก. Split phase motor
ข. Capacitor motor
ค. Universal motor
ง. Shaded pole motor
5. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นสาเหตทุ าใหใ้ บพดั ของเครื่องซกั ผา้ ถงั ซกั หมนุ แต่ไมม่ ีแรง
ก. สวติ ชค์ วบคมุ ไม่ทางาน
ข. สายพานตึงเกินไป
ค. สายพานหยอ่ น
ง. มอเตอร์ถงั ซกั ไหม้
6. เคร่ืองปั๊มน้าขนาดเลก็ ใชม้ อเตอร์ชนิดใด
ก. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์
ข. มอเตอร์เหน่ียวนา 1 เฟส
ค. สปลิตเฟสมอเตอร์
ง. มอเตอร์เหนี่ยวนา 3 เฟส
7. ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง
ก. 150 ลิตร/นาที (l/min) หมายถึง ป๊ัมน้าสามารถจ่ายน้าไดป้ ริมาณ 150 ลิตรในเวลา 1 นาที
ข. 150 ลิตร/นาที (l/min) หมายถึง ป๊ัมน้าสามารถจ่ายน้าไดป้ ริมาณ 150 ลิตรในเวลา 1 วนิ าที
ค. 150 ลิตร/นาที (l/min) หมายถึง ปั๊มน้าสามารถจ่ายน้าไดป้ ริมาณ 150 ลิตรในเวลา 10 นาที
ง. 150 ลิตร/นาที (l/min) หมายถึง ปั๊มน้าสามารถจ่ายน้าไดป้ ริมาณ 150 ลิตรในเวลา 1 ชว่ั โมง
8. ขอ้ ใดกล่าวถึงหนา้ ท่ีของเครื่องป๊ัมน้าขนาดเลก็ ไดถ้ กู ตอ้ งท่ีสุด
ก. เพ่ิมแรงดนั ใหน้ ้าและส่งน้าไปตามท่อ
ข. ลดแรงดนั ใหน้ ้าและส่งน้าไปตามทอ่
ค. รับน้าและส่งน้าไปตามทอ่
ง. เพิ่มลมใหน้ ้าและส่งน้าไปตามทอ่
9. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถกู ตอ้ งเก่ียวกบั การติดต้งั ปั๊มน้า
ก. การติดต้งั ป๊ัมตอ้ งใหป้ ั๊มอยใู่ นที่ร่ม กนั แดด กนั ฝน
ข. ควรต่อป๊ัมน้าโดยตรงจากท่อประปา
ค. การติดต้งั ท่อน้ากบั ตวั ป๊ัม ควรติดต้งั ใหไ้ ดร้ ะดบั
ง. ทอ่ ดูดและทอ่ จ่ายน้าของป๊ัม ไมค่ วรเลก็ กวา่ ขนาดของจุดต่อท่อของป๊ัม
10. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นสาเหตขุ องป๊ัมน้าไมด่ ูดน้าหรือน้าไหลเบา
ก. มีเศษวสั ดุในเครื่องปั๊ม
ข. มีรอยร่ัวในท่อทางดูด
ค. มีรอยรั่วในทอ่ ทางจ่าย
ง. สวิตชแ์ รงดนั เสีย
11. วงจรไฟฟ้าของเครื่องปั่นน้าผลไมข้ ดลวดฟิ ลดต์ ่อลกั ษณะใดกบั อาเมเจอร์
ก. อนุกรม
ข. ขนาน
ค. ผสม
ง. ไม่มีขอ้ ถูก
12. การเกิดประกายไฟในฐานเครื่องขณะมอเตอร์ทางานเกิดจากชิ้นส่วนใด
ก. ลูกยาง - ใบมีด
ข. คอมมิวเตเตอร์ – แกนหมุน
ค. แปรงถ่าน – คอมมิวเตเตอร์
ง. แหวนกนั สึกกบั ลกู ยาง
13. ขอ้ ใดต่อไปน้ี เป็นส่วนประกอบของเครื่องป่ันน้าผลไมท้ ี่มีหนา้ ที่บดหรือป่ันอาหาร
ก. ใบมีด
ข. มอเตอร์
ค. โรเตอร์
ง. ฐานเครื่องป่ัน
14. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นการเลือกเคร่ืองปั่นน้าผลไมใ้ ชง้ านท่ีไม่ถูกตอ้ ง
ก. ส่วนประกอบของเคร่ืองปั่นน้าผลไมต้ อ้ งไม่เปราะบาง
ข. เครื่องปั่นน้าผลไมต้ อ้ งเสียงไม่ดงั มากระหวา่ งการทางาน
ค. ความเร็วรอบใบมีดของเครื่องป่ันน้าผลไมค้ วรไม่ต่ากวา่ 3,600 รอบต่อนาที
ง. การเลือกเคร่ืองป่ันน้าผลไมต้ อ้ งคานึงถึงความสวยงามมากกวา่ ประโยชนท์ ี่ใช้
15. ขณะที่มอเตอร์หมุนแลว้ มีกล่ินเหมือนยางไหมค้ วรตรวจดูท่ีใด
ก. ยางรองโถ ข. แกนใบมีด
ค. แปรงถ่านง. ลูกยางแกนหมุนใบมีด
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 5
เรื่อง งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ำที่ใช้มอเตอร์ ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยท่ี 5
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ.ปวส
ขอ้ คาตอบ
1ก
2ก
3ก
4ข
5ค
6ค
7ก
8ก
9ข
10 ข
11 ก
12 ค
13 ก
14 ง
15 ค
บันทกึ ผลหลงั กำรสอน
7. ผลกำรสอน
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
.
8. ปัญหำ/อุปสรรค
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
9. ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
(ลงช่ือ)…………………………………
( ประจวบ แสงวงค์ )
ครูผสู้ อน
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ หน่วยท่ี 6
วิชำ 3104-2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ สอนคร้ังที่ 16-17
ชื่อเร่ือง ชื่อหน่วย งำนบริกำรและซ่อมเคร่ืองใช้สำนกั งำน คำบรวม 85
งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้สำนกั งำน จำนวนคำบ 10
หัวข้อเรื่อง
6.1 งานบริการและซ่อมเคร่ืองคอมพวิ เตอร์
6.2 งานบริการและซ่อมเครื่องสารองไฟ
สำระสำคัญ
เครื่องใช้สานักงานเป็ นเครื่องมือเครื่องใช้ท่ีช่วยในการปฏิบัติงานของพนักงานใน
สานักงานให้เกิดความสะดวกรวดเร็วมีความเป็ นระเบียบเรียบร้อยและถูกตอ้ งชัดเจนสร้างความ
ประทบั ใจแก่ผูร้ ับอนั นาไปสู่ความสาเร็จในการติดต่อ ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยใี นปัจจุบนั ทาให้
ผผู้ ลิตประดิษฐค์ ดิ คน้ เคร่ืองมือเคร่ืองใชส้ านกั งานมากมายหลายรูปแบบ
สมรรถนะอำชีพ
1. แสดงความรู้เก่ียวกบั หลกั การทางานของเครื่องใชส้ านกั งาน
2. ตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเครื่องใชส้ านกั งาน
จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. อธิบายหลกั การทางานของเคร่ืองใชส้ านกั งานได้
2. ตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องของเคร่ืองใชส้ านกั งานได้
3. ซ่อมบารุงรักษาเคร่ืองใชส้ านกั งานได้
4. มีคุณธรรมจริยธรรม แสดงเจตคติและพฤติกรรมลกั ษณะนิสัยในการปฏิบตั ิงานดว้ ย
ความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ ใฝ่ รู้ มีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั และทางาน
ร่วมกบั ผอู้ ื่นได้
เนื้อหำสำระกำรจดั กำรเรียนรู้
หน่วยที่ 6 งำนบริกำรและซ่อมเคร่ืองใช้สำนักงำน
6.1 งานบริการและซ่อมเคร่ืองคอมพวิ เตอร์
6.1.1 องคป์ ระกอบของระบบคอมพิวเตอร์
6.1.2 ส่วนประกอบท่ีเห็นไดจ้ ากภายนอกเครื่องคอมพวิ เตอร์
6.1.3 ส่วนประกอบตา่ งๆของคอมพวิ เตอร์
6.1.4 การทางานของคอมพิวเตอร์
6.1.5 การตรวจสอบอุปกรณ์ตา่ งๆของเครื่องคอมพวิ เตอร์
6.1.6 การซ่อมบารุงรักษาเครื่องคอมพวิ เตอร์
6.1.7 การใชเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์อยา่ งประหยดั พลงั งานและถกู วธิ ี
6.1.8 การบารุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์
6.2 งานบริการและซ่อมเครื่องสารองไฟ
6.2.1 ส่วนประกอบของเครื่องสารองไฟ
6.2.2 หลกั การทางานของเครื่องสารองไฟ
6.2.3 การตรวจสอบหาสาเหตขุ อ้ บกพร่องและการซ่อมเครื่องสารองไฟ
6.2.4 ประโยชน์จากเครื่องสารองไฟ
6.2.5 การบารุงดูแลรักษาเคร่ืองสารองไฟ
กระบวนกำรเรียนรู้
1. กระบวนการกลุ่ม
2. ทกั ษะกระบวนการปฏิบตั ิ
กำรบูรณำกำรควำมรู้
1. ความรู้การใชภ้ าษาไทย การสรุป อภิปรายโดยใชภ้ าษาสื่อสารที่ถกู ตอ้ ง
2. ความรู้การใชภ้ าษาองั กฤษ ศพั ทเ์ ทคนิคทางดา้ นไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์
3. ความรู้เกี่ยวกบั การใชอ้ ินเตอร์เนต็ (Internet)ในการศึกษาคน้ ควา้
4. การอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งมีความสุข การแบ่งกลุ่ม ช่วยเหลือกนั และร่วมงานกบั ผอู้ ื่นได้
5. สนทนากบั นกั เรียนดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรม ก่อนและหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
สอนคร้ังท่ี 16 (คำบที่ 61 - 64)
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายช่ือ
2. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้หน่วยท่ี 6 เร่ือง งานบริการและซ่อมเครื่องใชส้ านกั งาน
3. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 6 เร่ือง งานบริการและซ่อมเครื่องใช้
สานกั งาน
4. ครูสนทนาซักถามนักเรียนเกี่ยวกับเครื่องใช้สานักงานโดยให้นักเรียนบอกชนิดของ
เครื่องใชส้ านกั งานที่ใชใ้ นชีวิตประจาวนั
5. นกั เรียนแบ่งกลุม่ ๆละ 4-5 คน ร่วมกนั ศึกษาหนงั สือวิชาการซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยที่
6 เรื่องงานบริการและซ่อมเคร่ืองใชส้ านกั งาน 6.1 งานบริการและซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ และ
ร่วมกนั อภิปรายสาระสาคญั ดงั น้ี
กลมุ่ ที่ 1 องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์และส่วนประกอบที่เห็นไดจ้ าก
ภายนอกเครื่องคอมพวิ เตอร์
กลุ่มที่ 2 ส่วนประกอบต่างๆของคอมพิวเตอร์และการทางานของคอมพิวเตอร์
กลุ่มที่ 3 การตรวจสอบอุปกรณ์ตา่ งๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ และการซ่อม
บารุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์
กลมุ่ ท่ี 4 การใชเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์อยา่ งประหยดั พลงั งานและถูกวธิ ีและการ
บารุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์
6. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั สรุปประเด็นที่เป็นสาระสาคญั เก่ียวกบั งานบริการและซ่อมเครื่อง
คอมพิวเตอร์
7. ตวั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลุม่ นาเสนอผลการอภิปราย เร่ือง งานบริการและซ่อมเครื่อง
คอมพิวเตอร์ หนา้ ช้นั เรียนนกั เรียนต่างกลุ่ม บนั ทึกองคค์ วามรู้ของกลุ่มท่ีนาเสนอทกุ กลุม่
8. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ เรื่อง งานบริการและซ่อมเคร่ือง
คอมพวิ เตอร์ นกั เรียนบนั ทึกผลการสรุปเพ่ิมเติมในส่วนที่ยงั ไมส่ มบูรณ์
9. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยที่ 6 ตอนท่ี 1
10. ครูผสู้ อนตรวจสรุปสาระสาคญั เก่ียวกบั งานบริการและซ่อมเครื่องคอมพวิ เตอร์ ใน
รูปแบบของแผนท่ีความคิดของนกั เรียนแต่ละกลุ่ม
11. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหัด ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพ่ือน
12. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
13. นกั เรียนศึกษาใบงานท่ี 6 .1 เร่ือง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเครื่องคอมพวิ เตอร์
14. ครูอธิบายและสาธิต การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเคร่ืองคอมพิวเตอร์
15. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่ม(กลมุ่ เดิม)แยกปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 6.1
16. นกั เรียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 6.1
17. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
18. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
สอนคร้ังท่ี 17 ( คำบที่ 65-68 )
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. ครูผสู้ อนตรวจสอบการมาเรียนของนกั เรียนตามบญั ชีรายชื่อ
2. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยให้นกั เรียนสงั เกตสื่อของจริง พร้อมท้งั ซกั ถามนกั เรียนเก่ียวกบั
เคร่ืองสารองไฟและการใชง้ านและใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม
3. แบ่งกล่มุ นกั เรียนตามผลการวิเคราะห์ผเู้ รียนกลุ่มละ 3-4 คน ร่วมกนั ศึกษาหนงั สือวิชาการ
ซ่อมบารุงระบบไฟฟ้าหน่วยที่ 6 เร่ือง งานบริการและซ่อมเครื่องใชส้ านกั งาน 6.2 งานบริการและ
ซ่อมเครื่องสารองไฟและร่วมกนั อภิปรายสาระสาคญั ดงั น้ี
กลุม่ ท่ี 1 ส่วนประกอบของเครื่องสารองไฟ
กลุ่มท่ี 2 หลกั การทางานของเคร่ืองสารองไฟ
กลุ่มท่ี 3 การตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องและการซ่อมเครื่องสารองไฟ
กลุ่มที่ 4 ประโยชน์จากเคร่ืองสารองไฟและการบารุงดูแลรักษาเคร่ืองสารองไฟ
4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั สรุปประเด็นท่ีเป็นสาระสาคญั เกี่ยวกบั งานบริการและซ่อมเคร่ือง
สารองไฟ
5. ตวั แทนนกั เรียนแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลการอภิปราย เร่ือง งานบริการและซ่อมเคร่ืองสารอง
ไฟหนา้ ช้นั เรียนนกั เรียนต่างกลมุ่ บนั ทึกองคค์ วามรู้ของกลุ่มท่ีนาเสนอทุกกลมุ่
6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ เรื่อง งานบริการและซ่อมเคร่ืองสารองไฟ นกั เรียน
บนั ทึกผลการสรุปเพ่ิมเติมในส่วนท่ียงั ไม่สมบูรณ์
7. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยที่ 6 ตอนท่ี 2
8. ครูผสู้ อนตรวจสรุปสาระสาคญั เกี่ยวกบั งานบริการและซ่อมเคร่ืองสารองไฟ ในรูปแบบ
ของแผนท่ีความคดิ ของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่
9. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหดั ผเู้ รียนตรวจคาตอบโดยสลบั กระดาษคาตอบกบั เพื่อน
10. ผเู้ รียนรวมคะแนน ครูผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและบนั ทึกลงคะแนน
11. นกั เรียนศึกษาใบงานท่ี 6.2 เร่ือง การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเคร่ืองสารองไฟ
12. ครูอธิบายและสาธิต การตรวจสอบและซ่อมบารุงรักษาเครื่องสารองไฟ
13. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ (กล่มุ เดิม)แยกปฏิบตั ิงานตามใบงานท่ี 6.2
14. นกั เรียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 6.2
15. ครูประเมินผลการปฏิบตั ิงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
16. ประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม โดยใชแ้ บบประเมินคุณธรรมจริยธรรม
ส่ืออปุ กรณ์และแหล่งกำรเรียนรู้
1. ส่ือและอปุ กรณ์
1.1 เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
1.2 ส่ืองานนาเสนอ หน่วยท่ี 6
1.3 ครุภณั ฑ์ เครื่องมือ ประจาหอ้ งปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
2. แหล่งกำรเรียนรู้
2.1 เอกสารตามบรรณานุกรมในเอกสารประกอบการเรียนการสอน
2.2 วสั ดุ ครุภณั ฑห์ ้องปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
2.3 หอ้ งสมดุ ของวทิ ยาลยั ฯ และหอ้ งสมุดประชาชน
2.4 การสืบคน้ ขอ้ มูลจากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆที่เก่ียวขอ้ ง
กำรวดั ผลและประเมนิ ผล เครื่องมือวัด เกณฑ์กำรประเมนิ
วธิ ีวัด 1. แบบฝึกหดั 1. ทาแบบฝึกหดั
1.1 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
1. แบบฝึกหดั หลงั เรียน 1.1 แบบฝึกหดั หน่วยที่ 6
ตอนที่ 1 จาก 10 ขอ้
2. ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน 1.2 ทาแบบฝึกหดั ผา่ น 5 ขอ้
3. ประเมินคุณธรรมจริยธรรม 1.2 แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 6
4. ทดสอบหลงั เรียน ตอนท่ี 2 จาก 10 ขอ้
2. ไดค้ ะแนนจากผลการ
2. แบบประเมินผล
การปฏิบตั ิงาน ปฏิบตั ิงานร้อยละ 50
3. ไดค้ ะแนนจากการประเมิน
3. แบบประเมินคุณธรรม
จริยธรรม คุณธรรมจริยธรรมร้อยละ 50
4. ทาแบบทดสอบผา่ น 8 ขอ้
4. แบบทดสอบหลงั เรียน
จาก 15 ขอ้
กจิ กรรมเสนอแนะ
1. นกั เรียนศึกษาจากเอกสารประกอบการเรียนรู้และใบงานมาก่อนล่วงหนา้
2. นกั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เพ่ิมเติมจากอินเตอร์เน็ต เวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง
3. นกั เรียนศึกษาเพมิ่ เติมจากหอ้ งสมุด
เฉลยแบบฝึ กหัดหน่วยที่ 6 ตอนท่ี 1
คำสั่ง : จงทำเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมท่ถี ูกต้องและเคร่ืองหมำย หน้ำข้อควำมท่ผี ิด
....... ....1. ฮาร์ดแวร์คือตวั เครื่อง และอปุ กรณ์ต่างๆของคอมพวิ เตอร์
...........2. ซอฟต์แวร์คือโปรแกรมหรือชุดขอ้ มูลคาส่ังต่างๆท่ีถูกเขียนข้ึน เพ่ือใช้ควบคุมหรือส่ัง
การใหค้ อมพิวเตอร์ทางานตามท่ีเราตอ้ งการ
.............3. เคร่ืองสแกนเนอร์เป็นส่วนประกอบของคอมพวิ เตอร์
..............4. การ์ดเสียงทาหนา้ ท่ีสร้างและจดั การกบั ระบบเสียงท้งั หมดในคอมพิวเตอร์
.............5. เมนบอร์ดเป็นอุปกรณ์ที่สาคญั ท่ีสุดของส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
............6. เครื่องพิมพเ์ ป็นหน่วยแสดงผลในการทางานของคอมพิวเตอร์
........ ...7. พิมพง์ านเอกสารตวั อกั ษรท่ีคียบ์ อร์ดพมิ พไ์ ม่ไดส้ าเหตุเกิดจากหนา้ สัมผสั วงจรไฟฟ้าท่ีป่ ุม
คียบ์ อร์ดสกปรก
........ ....8. เมื่อเปิ ดเคร่ืองคอมพิวเตอร์มีเสียงร้องและไมม่ ีภาพสาเหตเุ กิดจากเพาเวอร์ซพั พลายเสีย
.............9. ใช้คอมพิวเตอร์อยา่ งประหยดั พลงั งานปิ ดจอภาพคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ใชง้ านเกินกว่า 3
นาที
...........10. การบารุงรักษาคอมพิวเตอร์อยา่ ใชผ้ า้ เปี ยก ผา้ ชุ่มน้า เช็ดคอมพิวเตอร์อยา่ งเด็ดขาด
เฉลยแบบฝึ กหดั หน่วยท่ี 6 ตอนท่ี 2
คำส่ัง : จงทำเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมท่ถี ูกต้องและเครื่องหมำย หน้ำข้อควำมทผี่ ดิ
...........1. เคร่ืองสารองไฟเป็นเคร่ืองจ่ายไฟสารองใชส้ าหรับในการแกป้ ัญหาเรื่องไฟดบั , ไฟฟ้า
กระพริบ, ไฟฟ้ากระชาก
.............2. เครื่องประจุแบตเตอร่ีเป็นส่วนประกอบของเคร่ืองสารองไฟ
............3. เคร่ืองแปลงกระแสไฟฟ้าไม่เป็นส่วนประกอบของเคร่ืองสารองไฟ
..............4. เคร่ืองประจุแบตเตอร่ีเป็นเคร่ืองแปลงกระแสไฟฟ้า DCเป็น AC
.............5. เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าเป็นเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า DCเป็น AC
.............6. เคร่ืองสารองไฟไมส่ ามารถสารองไฟไดส้ าเหตุเกิดจากแบตเตอรี่เสื่อม
.............7. เปิ ดเคร่ืองสารองไฟแต่เครื่องสารองไฟไม่ทางานสาเหตุเกิดจากเตา้ เสียบเครื่องสารอง
ไฟ
เสียหรือฟิ วส์เคร่ืองสารองไฟขาด
..............8.การบารุงรักษาเครื่องสารองไฟใชผ้ า้ ชุ่มน้าทาความสะอาดท่ีเครื่องสารองไฟได้
.............9. การใชง้ านเครื่องสารองไฟควรปฏิบตั ิตามคาแนะนาตา่ งๆ ที่ระบไุ วใ้ นค่มู ือการใชง้ าน
....... ...10. โดยทวั่ ไปการออกแบบเครื่องสารองไฟจะออกแบบใหม้ ีระยะเวลาในการจ่ายไฟสารอง
ท่ี
สภาวะโหลดเตม็ พิกดั อยใู่ นช่วงระหวา่ ง 5 – 30 นาที
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 6
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้สำนกั งำน ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยที่ 6
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดบั ..ปวส
คำส่ัง จงเลือกคาตอบท่ีถูกท่ีสุด ทาเครื่องหมาย ลงในช่องของกระดาษคาตอบ
1. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของฮาร์ดแวร์ไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ฮาร์ดแวร์คือตวั เคร่ืองและอปุ กรณ์ตา่ งๆของคอมพิวเตอร์
ข. ฮาร์ดแวร์คอื โปรแกรมหรือชุดคาสง่ั ตา่ งๆ
ค. ฮาร์ดแวร์คือผใู้ ชง้ านคอมพวิ เตอร์
ง. ฮาร์ดแวร์คอื ซอฟตแ์ วร์ที่ติดต้งั ในคอมพวิ เตอร์
2. ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนประกอบสาคญั ของคอมพวิ เตอร์
ก. ซีพียู
ข. หน่วยความจาแรม
ค. เมนบอร์ด
ง. เคร่ืองสแกนเนอร์
3. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ที่ของเพาเวอร์ซพั พลายในคอมพวิ เตอร์
ก. แปลงไฟฟ้ากระแสสลบั เป็นไฟฟ้ากระแสตรง
ข. แปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลบั
ค. ทาหนา้ ท่ีสร้างสญั ญาณเสียง
ง. เป็นอุปกรณ์ช่วยระบายอากาศในคอมพวิ เตอร์
4. ขอ้ ใดท่ีถือวา่ เป็นสมองของคอมพิวเตอร์
ก. แรม
ข. ฮาร์ดดิสก์
ค. ซีพยี ู
ง. เมนบอร์ด
5. ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตขุ องป่ ุมกดคียบ์ อร์ดใชง้ านไม่ได้
ก. หนา้ สมั ผสั วงจรไฟฟ้าที่ป่ มุ คียบ์ อร์ดเกิดการชารุดเสียหาย
ข. หนา้ สัมผสั วงจรไฟฟ้าที่ป่ มุ คียบ์ อร์ดสกปรก
ค. บริเวณใตป้ ่ มุ กดของคียบ์ อร์ดมีเศษวสั ดุติดอยู่
ง. เสียบข้วั ตอ่ ของคียบ์ อร์ดผิด
6. ขอ้ ใดไม่ใช่สำเหตขุ องคอมพิวเตอร์มีเสียงร้องหลงั จากเปิ ดเครื่องและไม่มีภาพ
ก. เสียบแรมไม่แน่น
ข. เกิดจากหนา้ สัมผสั ของแรมไม่สะอาด
ค. แรมเสีย
ง. การ์ดแสดงผลเสีย
7. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้องเก่ียวกบั การปิ ดจอภาพเครื่องคอมพิวเตอร์เม่ือไม่ใชง้ าน
ก. ปิ ดจอภาพเมื่อไม่ใชง้ านเกินกวา่ 15 นาที
ข. ปิ ดจอภาพเมื่อไมใ่ ชง้ านเกินกวา่ 10 นาที
ค. ปิ ดจอภาพเม่ือไม่ใชง้ านเกินกวา่ 5 นาที
ง. ปิ ดจอภาพเม่ือไม่ใชง้ านเกินกวา่ 3 นาที
8. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกต้องเกี่ยวกบั การใชเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์อย่างประหยดั พลงั งาน
ก. อยา่ เปิ ดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทิง้ ไวถ้ า้ ไมใ่ ชง้ าน
ข. ควรต้งั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ในบริเวณท่ีมีการระบายความร้อนไดด้ ี
ค. ถอดปลก๊ั เมื่อเลิกใชง้ าน
ง. ปิ ดจอภาพเม่ือไมใ่ ชง้ านเกินกวา่ 2 นาที
9. เมื่อใชจ้ อภาพคอมพิวเตอร์ขนาด 14 นิ้วจะใชพ้ ลงั งานนอ้ ยกวา่ จอภาพ 17 นิ้วร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 25
ข. ร้อยละ 30
ค. ร้อยละ 35
ง. ร้อยละ 40
10. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้องเกี่ยวกบั การบารุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์
ก. อยา่ ใชผ้ า้ เปี ยก ผา้ ชุ่มน้า เช็ดคอมพวิ เตอร์อยา่ งเด็ดขาด ใชผ้ า้ แหง้ ดีกวา่
ข. ไม่ควรฉีดสเปรยใ์ ด ๆ ไปที่คอมพวิ เตอร์ คียบ์ อร์ด และอุปกรณ์ตา่ ง ๆ
ค. ไม่ควรด่ืมน้าชา กาแฟ เคร่ืองด่ืมตา่ ง ๆ ในขณะท่ีใชค้ อมพิวเตอร์
ง. เราสามารถทาความสะอาดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ไดข้ ณะท่ีเคร่ืองเปิ ดอยู่
11. ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนประกอบของเคร่ืองสารองไฟ
ก. เคร่ืองประจุแบตเตอรี่
ข. เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า
ค. แบตเตอร่ี
ง. การ์ดแสดงผล
12. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ท่ีของเคร่ืองประจุแบตเตอรี่
ก. แปลงไฟฟ้ากระแสสลบั เป็นไฟฟ้ากระแสตรง
ข. แปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลบั
ค. เกบ็ พลงั งานไฟฟ้า
ง. ปรับระดบั ไฟฟ้าอตั โนมตั ิ
13. ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตเุ ปิ ดเครื่องสารองไฟแต่เครื่องสารองไฟไม่ทางาน
ก. ปลก๊ั เสีย
ข. แบตเตอร่ีเส่ือมสภาพ
ค. ฟิ วส์ขาด
ง. สายไฟฟ้าภายในวงจรขาด
14. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชนข์ องเครื่องสารองไฟ
ก. จ่ายพลงั งานไฟฟ้าใหอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อเกิดไฟฟ้าดบั
ข. ปรับระดบั แรงดนั ไฟฟ้าใหอ้ ยใู่ นระดบั ที่ไมเ่ ป็นอนั ตรายต่ออปุ กรณ์ไฟฟ้า
ค. ป้องกนั สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า
ง. จ่ายพลงั งานไฟฟ้าใหค้ อมพวิ เตอร์ไดต้ ลอดเวลาเมื่อเกิดไฟฟ้าดบั
15. ขอ้ ใดไม่ใช่วิธีการบารุงดูแลรักษาเคร่ืองสารองไฟ
ก. ดูแลเรื่องความสะอาด โดยใชผ้ า้ แหง้ ทาความสะอาดท่ีตวั เครื่อง
ข. ดูแลเรื่องการระบายอากาศ อุณหภูมิที่เหมาะสม และปราศจากฝ่นุ ละออง
ค. ใชง้ านเคร่ืองสารองไฟ และปฏิบตั ิตามคาแนะนาต่างๆ ท่ีระบุไวใ้ นคู่มือการใชง้ าน
ง. เราสามารถทาความสะอาดเคร่ืองสารองไฟไดข้ ณะที่เครื่องเปิ ดอยู่
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 6
เร่ือง งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้สำนักงำน ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยท่ี 6
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ..ปวส
ขอ้ คาตอบ
1ก
2ง
3ก
4ค
5ง
6ง
7ก
8ง
9ก
10 ง
11 ง
12 ก
13 ข
14 ง
15 ง
แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยท่ี 6
เรื่อง งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้สำนักงำน ใช้ประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรู้หน่วยท่ี 6
วชิ ำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ..ปวส
คำส่ัง จงเลือกคาตอบท่ีถกู ที่สุด ทาเครื่องหมาย ลงในช่องของกระดาษคาตอบ
1. ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนประกอบสาคญั ของคอมพวิ เตอร์
ก. ซีพียู
ข. หน่วยความจาแรม
ค. เมนบอร์ด
ง. เคร่ืองสแกนเนอร์
2. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของฮาร์ดแวร์ไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ฮาร์ดแวร์คอื ตวั เคร่ืองและอปุ กรณ์ต่างๆของคอมพิวเตอร์
ข. ฮาร์ดแวร์คือโปรแกรมหรือชุดคาส่งั ตา่ งๆ
ค. ฮาร์ดแวร์คือผใู้ ชง้ านคอมพวิ เตอร์
ง. ฮาร์ดแวร์คือซอฟตแ์ วร์ท่ีติดต้งั ในคอมพวิ เตอร์
3. ขอ้ ใดท่ีถือวา่ เป็นสมองของคอมพิวเตอร์
ก. แรม
ข. ฮาร์ดดิสก์
ค. ซีพียู
ง. เมนบอร์ด
4. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ที่ของเพาเวอร์ซพั พลายในคอมพวิ เตอร์
ก. แปลงไฟฟ้ากระแสสลบั เป็นไฟฟ้ากระแสตรง
ข. แปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลบั
ค. ทาหนา้ ท่ีสร้างสญั ญาณเสียง
ง. เป็นอปุ กรณ์ช่วยระบายอากาศในคอมพวิ เตอร์
5. ขอ้ ใดไม่ใช่สำเหตุของคอมพิวเตอร์มีเสียงร้องหลงั จากเปิ ดเคร่ืองและไมม่ ีภาพ
ก. เสียบแรมไมแ่ น่น
ข. เกิดจากหนา้ สัมผสั ของแรมไม่สะอาด
ค. แรมเสีย
ง. การ์ดแสดงผลเสีย
6. ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตุของป่ ุมกดคียบ์ อร์ดใชง้ านไม่ได้
ก. หนา้ สมั ผสั วงจรไฟฟ้าที่ป่ มุ คียบ์ อร์ดเกิดการชารุดเสียหาย
ข. หนา้ สมั ผสั วงจรไฟฟ้าที่ป่ มุ คียบ์ อร์ดสกปรก
ค. บริเวณใตป้ ่ ุมกดของคยี บ์ อร์ดมีเศษวสั ดุติดอยู่
ง. เสียบข้วั ตอ่ ของคียบ์ อร์ดผดิ
7. เมื่อใชจ้ อภาพคอมพวิ เตอร์ขนาด 14 นิ้วจะใชพ้ ลงั งานนอ้ ยกวา่ จอภาพ 17 นิ้วร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 25
ข. ร้อยละ 30
ค. ร้อยละ 35
ง. ร้อยละ 40
8. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถกู ต้องเก่ียวกบั การบารุงรักษาเครื่องคอมพวิ เตอร์
ก. อยา่ ใชผ้ า้ เปี ยก ผา้ ชุ่มน้า เชด็ คอมพิวเตอร์อยา่ งเด็ดขาด ใชผ้ า้ แหง้ ดีกวา่
ข. ไมค่ วรฉีดสเปรยใ์ ด ๆ ไปท่ีคอมพิวเตอร์ คยี บ์ อร์ด และอุปกรณ์ต่าง ๆ
ค. ไม่ควรด่ืมน้าชา กาแฟ เคร่ืองด่ืมต่าง ๆ ในขณะที่ใชค้ อมพิวเตอร์
ง. เราสามารถทาความสะอาดเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ไดข้ ณะท่ีเคร่ืองเปิ ดอยู่
9. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้องเกี่ยวกบั การปิ ดจอภาพเคร่ืองคอมพวิ เตอร์เม่ือไม่ใชง้ าน
ก. ปิ ดจอภาพเม่ือไมใ่ ชง้ านเกินกวา่ 15 นาที
ข. ปิ ดจอภาพเมื่อไมใ่ ชง้ านเกินกวา่ 10 นาที
ค. ปิ ดจอภาพเมื่อไมใ่ ชง้ านเกินกวา่ 5 นาที
ง. ปิ ดจอภาพเมื่อไมใ่ ชง้ านเกินกวา่ 3 นาที
10. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้องเก่ียวกบั การใชเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์อย่างประหยดั พลงั งาน
ก. อยา่ เปิ ดเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ทิ้งไวถ้ า้ ไมใ่ ชง้ าน
ข. ควรต้งั เครื่องคอมพวิ เตอร์ในบริเวณท่ีมีการระบายความร้อนไดด้ ี
ค. ถอดปลกั๊ เมื่อเลิกใชง้ าน
ง. ปิ ดจอภาพเมื่อไมใ่ ชง้ านเกินกวา่ 2 นาที
11. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ที่ของเคร่ืองประจุแบตเตอร่ี
ก. แปลงไฟฟ้ากระแสสลบั เป็นไฟฟ้ากระแสตรง
ข. แปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลบั
ค. เก็บพลงั งานไฟฟ้า
ง. ปรับระดบั ไฟฟ้าอตั โนมตั ิ
12. ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนประกอบของเครื่องสารองไฟ
ก. เคร่ืองประจุแบตเตอรี่
ข. เคร่ืองแปลงกระแสไฟฟ้า
ค. แบตเตอร่ี
ง. การ์ดแสดงผล
13. ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตุเปิ ดเคร่ืองสารองไฟแต่เครื่องสารองไฟไม่ทางาน
ก. ปลกั๊ เสีย
ข. แบตเตอร่ีเสื่อมสภาพ
ค. ฟิ วส์ขาด
ง. สายไฟฟ้าภายในวงจรขาด
14. ขอ้ ใดไม่ใช่วิธีการบารุงดูแลรักษาเคร่ืองสารองไฟ
ก. ดูแลเร่ืองความสะอาด โดยใชผ้ า้ แหง้ ทาความสะอาดท่ีตวั เคร่ือง
ข. ดูแลเรื่องการระบายอากาศ อุณหภมู ิที่เหมาะสม และปราศจากฝ่นุ ละออง
ค. ใชง้ านเคร่ืองสารองไฟ และปฏิบตั ิตามคาแนะนาต่างๆ ที่ระบไุ วใ้ นคู่มือการใชง้ าน
ง. เราสามารถทาความสะอาดเครื่องสารองไฟไดข้ ณะท่ีเคร่ืองเปิ ดอยู่
15. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชนข์ องเคร่ืองสารองไฟ
ก. จ่ายพลงั งานไฟฟ้าใหอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อเกิดไฟฟ้าดบั
ข. ปรับระดบั แรงดนั ไฟฟ้าใหอ้ ยใู่ นระดบั ท่ีไม่เป็นอนั ตรายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า
ค. ป้องกนั สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า
ง. จ่ายพลงั งานไฟฟ้าใหค้ อมพวิ เตอร์ไดต้ ลอดเวลาเมื่อเกิดไฟฟ้าดบั
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 6
เรื่อง งำนบริกำรและซ่อมเครื่องใช้สำนักงำน ใช้ประกอบแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี 6
วิชำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ ระดับ..ปวส
ขอ้ คาตอบ
1ง
2ก
3ค
4ก
5ง
6ง
7ก
8ง
9ก
10 ง
11 ก
12 ง
13 ข
14 ง
15 ง
บนั ทึกผลหลงั กำรสอน
10. ผลกำรสอน
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
11. ปัญหำ/อปุ สรรค
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
12. ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
(ลงชื่อ)…………………………………
(ประจวบ แสงวงค์ )
ครูผสู้ อน
ชื่อเร่ือง แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ หน่วยท่ี -
วิชำ 3104-2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ สอนคร้ังท่ี 18
ชื่อหน่วย การทดสอบปลายภาคเรียน และปัจฉิมนิเทศ คำบรวม 90
กำรทดสอบปลำยภำคเรียน และปัจฉิมนเิ ทศ จำนวนคำบ 5
หัวข้อเรื่อง
1. สอบปลายภาคเรียน
2. ปัจฉิมนิเทศ
สำระสำคญั
การจดั การเรียนรู้สัปดาหส์ ุดทา้ ย เป็ นการการทดสอบปลายภาคเรียนและปัจฉิมนิเทศเพื่อ
รวบรวมผลงาน ตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ของหลกั สูตรเพ่อื ตดั สินผลการเรียนรู้
จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. นกั เรียนทาแบบทดสอบปลายภาคเรียนได้
2. นกั เรียนสรุปผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานได้
3. มีคณุ ธรรมจริยธรรม แสดงเจตคติและพฤติกรรมลกั ษณะนิสยั ในการปฏิบตั ิงานดว้ ยความ
รับผิดชอบ ซื่อสตั ย์ ใฝ่รู้ มีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั และทางานร่วมกบั
ผอู้ ื่นได้
เนื้อหำสำระกำรจัดกำรเรียนรู้
เน้ือหาการจดั การเรียนรู้ เน้ือหาตามเอกสารประกอบการเรียนการสอน หน่วยท่ี 1-6
คร้ังที่ 18 (คำบที่ 69 - 72)
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1. นกั เรียนตอบแบบทดสอบปลายภาคเรียน
2. ครูผสู้ อนเฉลยแบบทดสอบปลายภาคเรียน และประเมินผลแบบทดสอบปลายภาคเรียน
3. ประเมินคุณธรรมจริยธรรมโดยใชแ้ บบประเมิน
4. นักเรียนสรุปคะแนนแบบฝึ กหัดและผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานและคะแนนประเมิน
คุณธรรมจริยธรรม
5. ครูผสู้ อนประเมินผลการเรียนของนกั เรียนตามแบบ ทบ.04 เพอ่ื เสนอวิทยาลยั อนุมตั ิตอ่ ไป
สื่ออปุ กรณ์และแหล่งกำรเรียนรู้
1. ส่ือและอปุ กรณ์
1.1 แบบทดสอบปลายภาคเรียน
2. แหล่งกำรเรียนรู้
2.1 เอกสารประกอบการเรียนการสอน หน่วยท่ี 1-6
2.2 หอ้ งปฏิบตั ิการงานบริการและซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า
2.3 หอ้ งสมดุ ของวทิ ยาลยั ฯ และหอ้ งสมดุ ประชาชน
2.3 การสืบคน้ ขอ้ มูลจาก Internet เวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง
กำรวัดผลและประเมินผล
1. กำรวัดผล
วธิ ีวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑ์กำรประเมนิ
1. ทาแบบทดสอบปลายภาค
1. การทาแบบทดสอบปลาย 1. แบบทดสอบปลายภาค
เรียนผา่ น 20 ขอ้ จาก 40 ขอ้
ภาคเรียน เรียน 3. ไดค้ ะแนนจากการประเมิน
2. ประเมินคณุ ธรรม 2. แบบประเมินคุณธรรม คุณธรรมจริยธรรมร้อยละ 50
จริยธรรม จริยธรรม
2. กำรประเมินผล โดยวิธีการดงั น้ี
2.1 ครูผสู้ อนประเมินนกั เรียน
2.2 ครูผูส้ อนนาผลการประเมินเทียบกับเกณฑ์ ท่ีวิทยาลัยกาหนดและตดั สินผลการ
เรียนดงั น้ี
คะแนน 0-49 50-54 55-59 60-64 65-69 70-74 75-79 80-100
เกรด 0 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4
แบบทดสอบปลำยภำคเรียน เวลำ 40 นำที
วิชำ 3104 – 2206 กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ
คำส่ัง จงเลือกคำตอบท่ีถูกทสี่ ุด ทำเครื่องหมำย ลงในช่องของกระดำษคำตอบ
1. ขอ้ ใดที่กลา่ วถึงเครื่องตดั ไฟร่ัวไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด
ก. เคร่ืองตดั ไฟร่ัว หมายถึง สวิตชอ์ ตั โนมตั ิท่ีสามารถปลดวงจร เม่ือมีกระแสไฟฟ้าร่ัวไดอ้ ยา่ ง
รวดเร็วภายในระยะเวลาท่ีกาหนดไว้
ข. เคร่ืองตดั ไฟร่ัว หมายถึง สวิตชต์ ดั วงจร
ค. เคร่ืองตดั ไฟร่ัว หมายถึงอุปกรณ์ป้องกนั
ง. เครื่องตดั ไฟรั่ว หมายถึงสวิตชท์ ี่สามารถปลดวงจรได้
2. ขอ้ ใดกล่าวถึงการตอ่ ลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าไดถ้ กู ตอ้ งท่ีสุด
ก. การต่อลงดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้าหมายถึงการต่อส่วนที่เป็ นโลหะที่มีกระแสไหลผ่านของ
อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ใหถ้ ึงกนั ตลอดแลว้ ต่อลงดิน
ข. การตอ่ ลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าหมายถึงการตอ่ ส่วนที่เป็นโลหะ ของอุปกรณ์ต่างๆ ใหถ้ ึงกนั
ตลอดแลว้ ต่อลงดิน
ค. การต่อลงดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้าหมายถึงการต่อส่วนที่เป็ นโลหะท่ีไม่มีกระแสไหลผ่านของ
อปุ กรณ์ต่าง ๆ ใหถ้ ึงกนั ตลอดแลว้ ต่อลงดิน
ง. การตอ่ ลงดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้าหมายถึงการตอ่ สายดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้า
3. ขอ้ ใดกล่าวถึงระบบไฟฟ้ากาลงั ไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด
ก. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีประกอบดว้ ย ระบบการผลิต
ข. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าท่ีประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง ระบบ
การจาหน่าย และระบบการใชก้ าลงั ไฟฟ้า
ค. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าที่ประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง
ง. ระบบไฟฟ้ากาลงั หมายถึง ระบบไฟฟ้าที่ประกอบดว้ ย ระบบการผลิต ระบบการส่ง ระบบ
การจาหน่าย
4. การบารุงรักษาสายไฟฟ้าเก่ียวกบั การตรวจสอบจุดต่อสาย การเขา้ สายตอ้ งตรวจสอบอยา่ งนอ้ ยปี
ละก่ีคร้ัง
ก. 1 คร้ัง
ข. 2 คร้ัง
ค. 3 คร้ัง
ง. 4 คร้ัง
5. เม่ือตอ้ งการตรวจสอบหาสาเหตุขอ้ บกพร่องแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ของเตา้ รับไฟฟ้าตอ้ งต้งั
ยา่ นวดั มลั ติมิเตอร์ท่ียา่ นวดั ใด
ก. ยา่ นวดั ความตา้ นทาน
ข. ยา่ นวดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั
ค. ยา่ นวดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง
ง. ยา่ นวดั กระแสไฟฟ้า
6. หลอดเผาไส้ขนาด 100 วตั ต์ 220 โวลต์ ความตา้ นทานประมาณกี่โอหม์
ก. 150-250 โอหม์
ข. 250-350 โอหม์
ค. 350-450 โอหม์
ง. 450-550 โอหม์
7. ขอ้ ใดกล่าวถึงระบบไฟฟ้าแสงสวา่ งไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด
ก. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปล่ียนแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหล่งจ่าย, ตวั นาไฟฟ้า, หลอดไฟฟ้า,และสวิตชค์ วบคุม
ข. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานกลไปเปลี่ยนแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหล่งจ่าย, ตวั นาไฟฟ้า, หลอดไฟฟ้า,และสวิตชค์ วบคุม
ค. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบท่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปลีย่ นแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหลง่ จ่าย, ตวั นาไฟฟ้าและสวิตชค์ วบคมุ
ง. ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง เป็นระบบที่ใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไปเปลี่ยนแปลงใหเ้ กิดเป็นแสงสวา่ งซ่ึง
วงจรประกอบไปดว้ ย แหล่งจ่าย,หลอดไฟฟ้าและสวติ ชค์ วบคมุ
8. สาเหตุใดหลอดแสงจนั ทร์จึงตอ้ งรอเวลาการจุดไสห้ ลอดใหม่หลงั จากดบั ไฟ
ก. ลดแรงดนั ไฟฟ้าในหลอด
ข. ลดอุณหภมู ิของหลอด
ค. ลดกระแสในหลอด
ง. ยืดอายกุ ารใชง้ านของหลอด
9. ขอ้ ใดเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมในการทาความสะอาดโคมไฟฟ้าและฝาครอบโคม
ก. ทุก 1 เดือน
ข. ทุก 2 เดือน
ค. ทกุ 3 เดือน
ง. ทุก 4 เดือน
10. วงจรหลอดฟลูออเรสเซนตจ์ ะสามารถทางานไดต้ อ้ งเพ่ิมส่วนประกอบใดเขา้ ไป นอกเหนือจาก
วงจรไฟฟ้าปกติ
ก. สวิตชแ์ ละฟิ วส์
ข. สวติ ชแ์ ละบลั ลาสต์
ค. สวติ ชแ์ ละสตาร์ตเตอร์
ง. บลั ลาสตแ์ ละสตาร์ตเตอร์
11. ในวงจรไฟฟ้าของกระทะไฟฟ้าเทอร์โมสตสั ตอ่ ลกั ษณะใดกบั ขดลวดความร้อน
ก. อนุกรม
ข. ขนาน
ค. อนุกรมและขนาน
ง. ผสม
12. ขอ้ ใดเป็นอปุ กรณ์ปรับระดบั ความร้อนใหค้ งที่ของกระทะไฟฟ้า
ก. ลวดความร้อน
ข. ฝาปิ ดกน้ กระทะ
ค. เทอร์โมสตสั
ง. เฟอร์ไรต(์ สารแม่เหลก็ )
13. ขอ้ ใดเป็นสิ่งที่ไม่ควรทาในการบารุงรักษากระทะไฟฟ้า
ก. การทาความสะอาดกระทะไฟฟ้าให้ใชฝ้ อยเหลก็ ขดั จากน้นั เชด็ ใหแ้ หง้
ข. กระทะไฟฟ้าใชต้ ๋นุ อาหารแทนหมอ้ ต๋นุ ไฟฟ้าได้
ค. กระทะไฟฟ้าใชอ้ ุน่ อาหารแทนเตาอบไฟฟ้าได้
ง. ก่อนทาความสะอาดกระทะไฟฟ้าตอ้ งถอดปลก๊ั ก่อน
14. กระทะไฟฟ้าไม่ร้อนอาจเกิดจากอะไร
ก. มีความช่ืนที่ข้วั ปลก๊ั
ข. น้าในหมอ้ อบไฟฟ้ามาก เกินไป
ค. กระทะไฟฟ้าไม่สะอาด
ง. ลวดความร้อนขาด
15. เมื่อเตารีดไฟฟ้าร้อนมากผดิ ปกติแสดงว่าหนา้ สัมผสั เป็นอยา่ งไร
ก. ห่างกนั เกินไป
ข. ชิดกนั เกินไป
ค. ไมต่ ่อถึงกนั
ง. หนา้ สัมผสั ไมส่ ะอาด
16. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นหนา้ ท่ีของหนา้ สมั ผสั ของเตารีดไฟฟ้า
ก. ปรับอุณหภมู ิ
ข. ปรับแผน่ ไบ-เมทลั
ค. สวิตชต์ ดั ต่อกระแสไฟผา่ นแผน่ ความร้อน
ง. ปรับปริมาณไฟฟ้า
17. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ท่ีของไมโครสวิตชใ์ นวงจรหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า
ก. ควบคมุ ความร้อน
ข. ON – OFF
ค. ตดั ต่อวงจรอุ่น
ง. ตดั ต่อวงจรขดลวดหุงขา้ ว
18. ขอ้ ใดเป็นอุปกรณ์ควบคุมอุณหภมู ิของกาตม้ น้าไฟฟ้า
ก. เทอร์มอลฟิ วส์
ข. เทอร์โมสตสั
ค. เทอร์โมคปั เปิ ล
ง. เทอร์มิสเตอร์
19. ขอ้ ใดเป็นอปุ กรณ์กรณ์ป้องกนั กาตม้ น้าไฟฟ้าไหมก้ รณีที่อุปกรณ์ควบคุมอุณหภมู ิกาตม้ น้าไฟฟ้า
ไม่ทางานหรือเสีย
ก. เทอร์โมมิเตอร์
ข. เทอร์โมคตั อิน
ค. เทอร์มอลฟิ วส์
ง. เทอร์มิสเตอร์
20. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ที่ของแผน่ ไบ-เมทลั ในวงจรกาตม้ น้าไฟฟ้า
ก. แสดงสญั ญาณการทางาน
ข. ทาความร้อน
ค. ตดั - ต่อวงจรไฟฟ้า
ง. ควบคมุ อุณหภูมิ
21. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็ นสาเหตุขอ้ บกพร่องของสปลิตเฟสมอเตอร์เร่ิมเดินไม่ได้ มีเสียงคราง (ฮัม,
สตาร์ตไม่ออก) หรือเริ่มเดินไดแ้ ต่ไม่มีแรง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดรันและขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. สวิตชแ์ รงเหวีย่ งหนีศูนยล์ ดั วงจร
22. ขอ้ ใดกล่าวถึงขดลวดชุดเร่ิมเดิน และชุดรัน ในสปลิตเฟสมอเตอร์ไดถ้ กู ตอ้ ง
ก. ขนาดเท่ากนั แต่ทางานคนละหนา้ ท่ี
ข. เหมือนกนั เพียงแต่แยกเฟสออกจากกนั
ค. ความตา้ นทานของขดรันจะสูงกวา่ เพราะใชล้ วดเส้นใหญ่
ง. ขดลวดเร่ิมเดินจะทางานเฉพาะช่วงท่ีมอเตอร์เริ่มเดินเทา่ น้นั
23. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็ นสาเหตุขอ้ บกพร่องของยูนิเวอร์แซลมอเตอร์ เร่ิมเดินไม่ได้ มีเสียงคราง (ฮมั ,
สตาร์ตไมอ่ อก) หรือเร่ิมเดินไดแ้ ต่ไมม่ ีแรง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดรันและขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. แปรงถ่านสึก
24. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง
ก. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่ใชไ้ ฟฟ้ากระแสสลบั
ข. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ขนาดเลก็ ที่ใชไ้ ดท้ ้งั ไฟฟ้ากระแสสลบั และไฟฟ้า
กระแสตรง
ค. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่ใชไ้ ฟฟ้ากระแสตรง
ง. ยนู ิเวอร์แซลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ท่ีใชไ้ ฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส
25. ขอ้ ใดเป็นสาเหตขุ องมอเตอร์เหนี่ยวนา 3 เฟส ทางานแตก่ ระแสสูง
ก. ขดลวดรันขาดหรือไหม้
ข. คาปาซิเตอร์เสีย
ค. ขดลวดสตาร์ตขาดหรือไหม้
ง. มอเตอร์รับโหลดเกิน
26. จุดประสงคห์ ลกั ของการเร่ิมเดินแบบสตาร์ - เดลตาของมอเตอร์เหน่ียวนา 3 เฟส คืออะไร?
ก. ลดแรงดนั ขณะเร่ิมเดิน
ข. เพม่ิ แรงบิดขณะเริ่มเดิน
ค. เพม่ิ กาลงั ขณะเร่ิมเดิน
ง. ลดกระแสขณะเร่ิมเดิน
27. ขอ้ ใดเป็นสาเหตุไม่มีแรงดนั ไฟฟ้า ออกทางดา้ นทุติยภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ก. ขดลวดปฐมภมู ิมีแรงดนั เทา่ กบั แหล่งจ่าย
ข. แกนเหลก็ มีความตา้ นทานสูง
ค. ขดลวดปฐมภูมิขาด
ง. ขดลวดปฐมภูมิมีแรงดนั ไม่เทา่ กบั แหลง่ จ่าย
28. การทางานของหมอ้ แปลงไฟฟ้าแรงดนั ไฟฟ้าทางขดทุติยภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้าจะข้ึนอยู่กับ
อตั ราส่วนใดของหมอ้ แปลง
ก. จานวนรอบของขดลวดทตุ ิยภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ข. จานวนรอบของขดลวดทุติยภูมิและขดลวดปฐมภูมิและระดบั แรงดันไฟฟ้าทางขดปฐมภูมิ
ของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ค. จานวนรอบของขดลวดปฐมภูมิของหมอ้ แปลงไฟฟ้า
ง. แกนเหลก็ ของหมอ้ แปลง
29. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นสาเหตุทาใหใ้ บพดั ของเครื่องซกั ผา้ ถงั ซกั หมนุ แตไ่ ม่มีแรง
ก. สวติ ชค์ วบคุมไมท่ างาน
ข. สายพานตึงเกินไป
ค. สายพานหยอ่ น
ง. มอเตอร์ถงั ซกั ไหม้
30. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นอุปกรณ์ควบคมุ เครื่องซกั ผา้ แบบอตั โนมตั ิ
ก. ไมโครคอมพวิ เตอร์
ข. ลิมิตสวติ ช์
ค. คอมพวิ เตอร์
ง. ไมโครโปรเซสเซอร์
31. คาปาซิเตอร์ที่ต่อวงจรร่วมกบั มอเตอร์ของเคร่ืองซกั ผา้ มีหนา้ ที่ตามขอ้ ใด
ก. เพอื่ ช่วยใหม้ อเตอร์สตาร์ตมีแรงบิดสูงข้นึ
ข. เพือ่ ช่วยใหม้ อเตอร์สตาร์ตมีแรงบิดต่าลง
ค. เพื่อช่วยใหม้ อเตอร์มีความเร็วเพ่ืมข้นึ
ง. เพอ่ื ช่วยใหม้ อเตอร์กินกระแสไฟฟ้ามากข้ึน
32. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นสาเหตขุ องปั๊มน้าไมด่ ูดน้าหรือน้าไหลเบา
ก. มีเศษวสั ดุในเคร่ืองปั๊ม
ข. มีรอยรั่วในท่อทางดูด
ค. มีรอยรั่วในทอ่ ทางจ่าย
ง. สวิตชแ์ รงดนั เสีย
33. ขอ้ ใดกล่าวถึงหนา้ ที่ของเคร่ืองปั๊มน้าขนาดเลก็ ไดถ้ กู ตอ้ งท่ีสุด
ก. เพ่มิ แรงดนั ใหน้ ้าและส่งน้าไปตามทอ่
ข. ลดแรงดนั ใหน้ ้าและส่งน้าไปตามท่อ
ค. รับน้าและส่งน้าไปตามท่อ
ง. เพิม่ ลมใหน้ ้าและส่งน้าไปตามท่อ
34. วงจรไฟฟ้าของเครื่องปั่นน้าผลไมข้ ดลวดฟิ ลดต์ อ่ ลกั ษณะใดกบั อาเมเจอร์
ก. อนุกรม
ข. ขนาน
ค. ผสม
ง. ไม่มีขอ้ ถูก
35. การเกิดประกายไฟในฐานเครื่องขณะมอเตอร์ทางานเกิดจากชิ้นส่วนใด
ก. ลกู ยาง - ใบมีด
ข. คอมมิวเตเตอร์ – แกนหมุน
ค. แปรงถ่าน – คอมมิวเตเตอร์
ง. แหวนกนั สึกกบั ลูกยาง
36. ขอ้ ใดต่อไปน้ี เป็นส่วนประกอบของเคร่ืองปั่นน้าผลไมท้ ี่มีหนา้ ที่บดหรือปั่นอาหาร
ก. ใบมีด
ข. มอเตอร์
ค. โรเตอร์
ง. ฐานเครื่องป่ัน
37. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ที่ของเคร่ืองประจุแบตเตอร่ี
ก. แปลงไฟฟ้ากระแสสลบั เป็นไฟฟ้ากระแสตรง
ข. แปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลบั
ค. เกบ็ พลงั งานไฟฟ้า
ง. ปรับระดบั ไฟฟ้าอตั โนมตั ิ
38. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชน์ของเคร่ืองสารองไฟ
ก. จ่ายพลงั งานไฟฟ้าให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อเกิดไฟฟ้าดบั
ข. ปรับระดบั แรงดนั ไฟฟ้าใหอ้ ยใู่ นระดบั ท่ีไมเ่ ป็นอนั ตรายต่ออปุ กรณ์ไฟฟ้า
ค. ป้องกนั สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า
ง. จ่ายพลงั งานไฟฟ้าใหค้ อมพิวเตอร์ไดต้ ลอดเวลาเมื่อเกิดไฟฟ้าดบั
39. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของฮาร์ดแวร์ไดถ้ กู ตอ้ ง
ก. ฮาร์ดแวร์คอื ตวั เคร่ืองและอปุ กรณ์ต่างๆของคอมพิวเตอร์
ข. ฮาร์ดแวร์คอื โปรแกรมหรือชุดคาสง่ั ตา่ งๆ
ค. ฮาร์ดแวร์คอื ผใู้ ชง้ านคอมพวิ เตอร์
ง. ฮาร์ดแวร์คือซอฟตแ์ วร์ท่ีติดต้งั ในคอมพิวเตอร์
40. ขอ้ ใดที่ถือวา่ เป็นสมองของคอมพิวเตอร์
ก. แรม
ข. ฮาร์ดดิสก์
ค. ซีพยี ู
ง. เมนบอร์ด
เฉลยแบบทดสอบปลำยภำคเรียน
วชิ ำ กำรซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้ำ
ขอ้ คาตอบ ขอ้ คาตอบ
1 ก 21 ข
2 ค 22 ง
3 ข 23 ง
4 ก 24 ข
5 ข 25 ง
6 ง 26 ง
7 ก 27 ค
8 ข 28 ข
9 ค 29 ค
10 ง 30 ก
11 ก 31 ก
12 ค 32 ข
13 ก 33 ก
14 ง 34 ก
15 ข 35 ค
16 ค 36 ก
17 ง 37 ก
18 ข 38 ง
19 ค 39 ก
20 ง 40 ค
แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรม/เจตคต/ิ ค่ำนิยม/เศรษฐกจิ พอเพยี ง
วชิ ำ การซ่อมบารุงระบบไฟฟ้า ใชป้ ระกอบแผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี -
คร้ังท่ี 18 เร่ือง การทดสอบปลายภาคเรียน และปัจฉิมนิเทศ ระดับ..ปวส
ผ้รู ่วมประเมนิ
1. ชื่อ-นามสกลุ ....................................................................................... เลขที่..................(ตนเอง)
2. ชื่อ-นามสกลุ ....................................................................................... เลขท่ี.............(ผรู้ ่วมงาน)
คำชี้แจง
1. ให้ผูเ้ รียนประเมินตนเองและให้ผูร้ ่วมงาน 1 คนประเมินซ่ึงกนั และกนั ตามหัวขอ้ ในตาราง
จานวน 3 ขอ้ โดยมีเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี
3 คะแนน หมายถึง ดีมาก 2 คะแนน หมายถึง ปานกลาง 1 คะแนน หมายถึง ควร
ปรับปรุง
2. ครูประเมินหาค่าเฉล่ียคะแนนของผเู้ รียนเป็นรายบุคคลต่อไป
ตารางประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม/เจตคติ/ค่านิยม/เศรษฐกิจพอเพียง
ลาดบั คณุ ธรรมจริยธรรม/เจตคติ/ พฤติกรรมท่ีแสดง ตนเอง ตามวตั ถุ
ค่านิยม/เศรษฐกิจพอเพียง ผู้ ่รวมงาน ประสงค์
ค ูร ขอ้ ที่
1 ความมีวินยั ในการทางาน เขา้ เรียนตรงเวลา 3
มีอปุ กรณ์การเรียนครบ
ไม่ส่งเสียงดงั รบกวน
แต่งกายถกู ตอ้ งตามระเบียบ
2 ซ่ือสตั ยแ์ ละมีจิตสาธารณะ ไมค่ ดั ลอกผลงานผอู้ ื่น 3
ใหค้ าแนะนาช่วยเหลือ
เสนอความคิด มีส่วนร่วม
3 ประหยดั ในการใชท้ รัพยากร ใชพ้ ลงั งาน/วสั ดุอปุ กรณ์ 3
ตนเองและส่วนรวม อยา่ งประหยดั
คะแนนรวม
คะแนนเฉลี่ยรวม
ลงช่ือ ……………………………………….. ผปู้ ระเมิน
บนั ทกึ ผลหลงั กำรสอน
13. ผลกำรสอน
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
14. ปัญหำ/อปุ สรรค
.......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................
15. ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข
..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
(ลงชื่อ)…………………………………
(ประจวบ แสงวงค)์
ครูผสู้ อน