ใบบันทึกกจิ กรรมที่ 4.11
เรื่อง…โมเมนตข์ องแรงคอื อะไร
วธิ ีการดำเนินกิจกรรม
1. นำเชอื กมาผูกที่ปลายด้านหนึง่ ของแท่งเหล็ก โดยปลายเชือกทำเป็นห่วงสำหรบั เกย่ี วเคร่อื งชัง่ สปรงิ
ปลายแทง่ เหลก็ อกี ดา้ นหนึ่งวางชิดกับวัตถหุ นัก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้แท่งเหล็กไถล
2. ออกแรงดึงเคร่ืองชงั่ สปริงขึ้นตรง ๆ ให้ปลายแท่งเหล็กลอยพ้นจากพน้ื 1 เซนตเิ มตร สังเกตลกั ษณะ
การเคลอ่ื นท่ขี องแท่งเหลก็ อ่านคา่ ของแรงจากเคร่ืองช่ังสปริงและวัดระยะทางจากปลายแทง่ เหล็กด้านท่ี
ชดิ วตั ถถุ ึงจุดทเี่ ก่ียวเครอ่ื งชัง่ สปรงิ บันทึกผล
3. ทำซำ้ ในข้อ 2 อีก 2 ครัง้ แตเ่ ปลี่ยนตำแหนง่ ทีเ่ กีย่ วเครื่องช่งั สปรงิ โดยขยับห่วงเชือกเข้าใกล้ปลายแท่ง
เหลก็ ดา้ นทชี่ ดิ วัตถุมากขนึ้ แตไ่ มใ่ หเ้ กนิ จุดก่งึ กลางแทง่ เหล็ก
4. หาผลคณู ระหว่างขนาดของแรงท่ีอา่ นได้จากเคร่ืองช่งั สปริงกับระยะทางจากปลายแทง่ เหล็กดา้ นจติ
วตั ถุถงึ จดุ ท่เี กีย่ วเครื่องชั่งสปรงิ บนั ทึกผล
ผลการทำกจิ กรรม ค่าขอองแรงท่ีอา่ นไดจ้ ากเครือ่ ง ผลคูณระหวา่ งค่าของแรงกบั
ระยะหา่ งจากปลายแท่งเหล็ก ช่ังสปริง (N) ระยะทาง (N.m)
(m)
คำถามท้ายกิจกรรม
1. เม่อื เปล่ยี นตำแหน่งทดี่ งึ เครอ่ื งชง่ั สปริง คา่ ของแรงท่ีอา่ นได้จากเครอ่ื งชง่ั สปรงิ เปลีย่ นแปลงหรือไม่
อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เมอ่ื เปลีย่ นตำแหน่งทดี่ งึ เครอ่ื งชงั่ สปรงิ ผลคูณของแรงกับระยะทางท่ีห่างจากจุดทช่ี ิดกับวตั ถุ
เปลยี่ นแปลง หรือไม่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ในการยกแทง่ เหล็กแต่ละคร้ัง ปลายแทง่ เหลก็ ที่ชิดกบั วตั ถุมกี ารเคลอ่ื นท่ีหรือไม่ และแท่งเหลก็ มี
ลักษณะ การเคลื่อนที่เปน็ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. จากกจิ กรรมนี้ สรุปได้วา่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลยใบบนั ทกึ กจิ กรรมท่ี 4.11
เรื่อง…โมเมนตข์ องแรงคอื อะไร
ผลการทำกจิ กรรม
(ขึ้นอยู่กบั การกำหนดระยะห่างของนักเรียน)
ระยะหา่ งจากปลายแทง่ เหลก็ คา่ ขอองแรงท่ีอ่านไดจ้ ากเครือ่ ง ผลคณู ระหว่างคา่ ของแรงกับ
(m) ชั่งสปริง (N) ระยะทาง (N.m)
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. เม่ือเปลี่ยนตำแหน่งทีด่ งึ เครอื่ งชงั่ สปรงิ คา่ ของแรงท่ีอา่ นได้จากเคร่ืองช่ังสปริงเปล่ียนแปลงหรือไม่
อยา่ งไร
เมอ่ื เปลี่ยนตำแหน่ง คา่ ของแรงกเ็ ปล่ียน โดยยิ่งเขา้ ใกลจ้ ดุ ทต่ี ิดกับวัตถุ แรงที่ออกก็จะมากขึน้
2. เมือ่ เปลีย่ นตำแหนง่ ท่ีดึงเคร่ืองช่งั สปริง ผลคณู ของแรงกับระยะทางท่ีห่างจากจดุ ที่ชดิ กับวตั ถุ
เปล่ยี นแปลง หรอื ไม่ อย่างไร
ไมเ่ ปลย่ี นแปลงโดยผลคูณของแรงกบั ระยะทางทหี่ า่ งจากจุดท่ชี ดิ วตั ถจุ ะมีค่าเท่ากนั (แต่ในการวดั
อาจมีความคลาดเคลอื่ น)
3. ในการยกแทง่ เหลก็ แต่ละครง้ั ปลายแทง่ เหลก็ ที่ชิดกับวตั ถมุ ีการเคลอ่ื นท่หี รือไม่ และแท่งเหล็กมี
ลกั ษณะ การเคล่ือนที่เป็นอย่างไร
ไม่เคลื่อนท่ี และแทง่ เหล็กมีการเคลือ่ นท่ีแบบหมนุ รอบจุดหมนุ
4. จากกจิ กรรมนี้ สรปุ ไดว้ ่าอยา่ งไร
เม่อื เปลี่ยนตำแหน่งที่ออกแรงดึง ค่าของแรงก็เปลยี่ นไป โดยย่ิงเขา้ ใกลจ้ ุดท่ตี ดิ วตั ถุมากขึ้น แรงท่ี
ออกกจ็ ะมากขึ้น โดยโมเมนต์ของแรงมีขนาดเทา่ กบั ผลคูณระหว่างขนาดของแรงที่กระทำตอ่ วตั ถุกับ
ระยะทาง จากจุดหมนุ ไปตั้งฉากกับแนวแรง มีหน่วยเป็นนวิ ตนั เมตร
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 32
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1
รหัสวชิ า ว22101
หนว่ ยการเรยี นที่ 4 เร่ือง การเคล่ือนทแ่ี ละแรง เวลา 21 ชั่วโมง
บทท่ี 2 แรงในชีวติ ประจำวนั
เรือ่ งท่ี 5 โมเมนต์ของแรง 2 เวลา 1 ชว่ั โมง
วนั ที่ 23 กนั ยายน พ.ศ. 2565 ผู้ใชแ้ ผน นางสาวบญุ ญรตั น์ นามศรอี ่นุ
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงท่กี ระทำต่อวัตถุ
ลักษณะการเคล่อื นที่แบบตา่ งๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
2. ตวั ช้ีวดั ชน้ั ปี
ม.2/10 ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบาย
โมเมนตข์ องแรง เม่ือวตั ถุอยูใ่ นสภาพสมดลุ ต่อการหมนุ และคำนวณโดยใช้สมการ M = Fl
3. สาระสำคญั
วัตถุใดๆ ท่ผี ลรวมโมเมนต์ของแรงทม่ี ีทิศทางตามเขม็ นาฬิกาเท่ากับผลรวมโมเมนต์ของ
แรงท่ีมีทิศทางทวนเข็มนาฬิกา วัตถนุ ัน้ จะอยู่นิ่งไม่หมนุ เราสามารถกล่าวไดว้ า่ วัตถุนน้ั อยู่ใน
สภาพสมดุลต่อการหมุน
4.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
นกั เรียนสามารถ
4.1 นักเรียนสามารถอธิบายสภาพสมดลุ ตอ่ การหมุนได้ ด้านทักษะ (K)
4.2 นักเรียนสามารถออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวธิ ีท่เี หมาะสมในการอธบิ าย
โมเมนตข์ องแรง(P)
4.3 มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และ มุ่งมั่นในการทำงาน(A)
5. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E
ข้ันที่ 1 สรา้ งความสนใจ (เวลา 5 นาที)
1.กระตุ้นความสนใจของนักเรียน เพื่อนำเข้าสู่กิจกรรมที่ 4.12 เรื่อง ทำอย่างไรให้ไม้
เมตรอยู่นิ่งในแนวระดับ โดยกำหนดคำถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับโมบาย นักเรียน
ตอบคำถามตามความเขา้ ใจของตนเองโดยครูไม่เฉลย คำตอบ ดงั น้ี
- วัตถุต่าง ๆ ที่แขวนบนแขนของโมบายที่ตำแหน่งต่างกัน วัตถุแต่ละอันทำให้เกิด
โมเมนตข์ องแรงหรือไม่ อย่างไร
- เหตใุ ดโมบายจงึ วางตัวอยู่ในแนวระดับไดโ้ ดยไมพ่ ลกิ คว่ำ
ข้นั ท่ี 2 สำรวจและคน้ หา (เวลา 25 นาที)
1. ให้นักเรียนแบง่ กลุ่มทำกิจกรรมกลมุ่ ละ 5 คน จำนวน 8 กลมุ่
2. ให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม และตรวจสอบความ
เข้าใจการอา่ น โดยใช้คำถาม ดังต่อไปน้ี
- กจิ กรรมนี้เก่ยี วกับเรอื่ งอะไร (การทำให้ไม้เมตรวางตวั อยูน่ ิ่งในแนวระดับ)
- กจิ กรรมนี้มจี ดุ ประสงคอ์ ะไร (ออกแบบวิธที ที่ ำใหไ้ ม้เมตรวางตวั อยนู่ ง่ิ ในแนวระดับ)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (ออกแบบวิธีการทำให้ไม้เมตรที่มีดิน
น้ำมันหนัก 5 นิวตัน แขวนอยู่กลับมาวางตัวนิ่งในแนวระดับอย่างน้อย 3 วิธีโดยใช้ดินน้ำมัน ลง
มอื ปฏิบัตติ ามวธิ กี ารทีไ่ ดอ้ อกแบบไว้ คำนวณ และเปรียบเทยี บโมเมนตข์ องแรงในทศิ ทางตามเข็ม
นาฬกิ าและโมเมนต์ของแรงในทิศทางทวนเขม็ นาฬิกา)
- นักเรียนต้องสังเกตหรือรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (ตำแหน่งจุดหมุน ระยะทางจากจุด
หมนุ ถึงจุดแขวนดนิ น้ำมนั การวางตวั นง่ิ ในแนวระดับเม่ือแขวนดนิ น้ำมนั ตามวิธกี ารท่ีได้ออกแบบ
ไว้ และหาคา่ โมเมนตข์ องแรง)
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำกิจกรรม ครูสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียนแต่ละ
กลุ่มเพื่อให้คำแนะนำ หากนักเรียนมีข้อสงสัย และครูควรรวบรวมข้อมูลเหล่านั้น เพื่อใช้
ประกอบการอภิปรายหลงั การทำกิจกรรม
ขั้นที่ 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (เวลา 25 นาที)
ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอวธิ ีการทำให้ไม้เมตรวางตวั อยู่น่งิ ในแนวระดับ ตอบคำถาม
ท้ายกิจกรรม และร่วมกัน สรุปผลของกิจกรรมโดยใช้คำถามท้ายกิจกรรมเป็นแนวทาง เพื่อให้ได้
ข้อสรุปว่า วัตถุใดๆ ที่ผลรวมโมเมนต์ของแรงที่มีทิศทางตามเข็มนาฬิกาเท่ากับผลรวมโมเมนต์
ของแรงท่ีมีทศิ ทางทวนเข็มนาฬิกา วตั ถนุ ั้นจะอยู่น่ิงไม่หมนุ เราสามารถกล่าวไดว้ ่า วัตถุนั้นอยู่ใน
สภาพสมดลุ ต่อการหมุน
ขัน้ ที่ 4 ขยายความรู้ (เวลา 5 นาที)
ให้นักเรียนอภิปรายเกี่ยวกับโมเมนต์ของแรงและสภาพสมดุลต่อการหมุน เพื่อให้ได้
ข้อสรุปว่า เมื่อมีแรงกระทำต่อวัตถุโดยแนวแรงไม่ผ่านจุดหมุนจะเกิดโมเมนต์ของแรงนั้น ซึ่ง
โมเมนต์ของแรงคำนวณได้จากผลคูณของแรงและระยะตั้งฉากจากจุดหมุนไปยังแนวแรง (M =
Fl)
ข้ันที่ 5 ประเมนิ ผล
ประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนจากใบบันทึกกิจกรรม 4.12 เรื่อง ทำอย่างไรให้ไม้
เมตรอยูน่ ง่ิ ในแนวระดับ และการสังเกตพฤติกรรมในระหว่างทำกิจกรรม
6. สื่อการเรียนรู้
6.1 หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 (สสวท)
6.2 Powerpoint ตำแหนง่ ของวัตถุ ระยะทาง และการกระจัด
6.3 เครื่องชั่งสปริง
6.4 ไมเ้ มตร
6.5 เชอื ก
6.6 ดนิ น้ำมนั
7. การวัดและประเมินผล
จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธวี ดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายสภาพ ตรวจใบบันทึกกิจกรรม ผ่านเกณฑ์การประเมินในระ ดับพอใช้ขึ้นไป
สมดุลต่อการหมนุ ได้ ด้านทักษะ 4.12 เรื่อง ทำอย่างไรให้ รอ้ ยละ 60
(K) ไม้เมตรอยู่นิ่งในแนว
ระดับ
2. นักเรียนสามารถออกแบบการ ตรวจใบบันทึกกิจกรรม ผ่านเกณฑ์การประเมินในระ ดับพอใช้ขึ้นไป
ทดลองและทดลองดว้ ยวิธีท่ี 4.12 เรื่อง ทำอย่างไรให้ ร้อยละ 60
เหมาะสมในการอธิบายโมเมนต์ ไม้เมตรอยู่นิ่งในแนว
ของแรง ระดับ
ใบบนั ทกึ กจิ กรรมที่ 4.12
เรื่อง…ทำอย่างไรใหไ้ มเ้ มตรอยู่น่ิงในแนวระดับ
วิธกี ารดำเนินกิจกรรม
1. นำเชอื กแขวนไม้เมตรตรงกลางแลว้ จัดให้ไม้เมตรวางตัวอยู่นิ่งในแนวระดบั
2. นำดินน้ำมนั หนกั ประมาณ 5 นิวตนั มาแขวนท่ีไมเ้ มตรทางด้านซา้ ยของจดุ ที่แขวนเชือกทีต่ ำแหน่งใด ๆ
คำนวณโมเมนต์ของแรงเน่อื งจากนำ้ หนักของดินน้ำมัน
3. ร่วมกันอภิปรายเพื่อออกแบบการทำให้ไม้เมตรวางตวั ในแนวระดับและอยู่น่ิงโดยแขวนดนิ น้ำมนั อยา่ ง
นอ้ ย 3 วธิ ี
4. ทำกจิ กรรมตามวิธที ไี่ ด้ออกแบบไวบ้ นั ทกึ น้ำหนักของดนิ นำ้ มนั และระยะห่างระหวา่ งจุดทแี่ ขวนดนิ
นำ้ มันและจุดทแี่ ขวนไมเ้ มตร
5. คำนวณและเปรยี บเทยี บโมเมนต์ของแรงในทิศทางตามเข็มนาฬิกาและโมเมนต์ของแรงในทศิ ทางทวน
เขม็ นาฬิกา
6. นำเสนอผลการทำกิจกรรมและอภิปรายรว่ มกัน
ผลการทำกจิ กรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..……
คำถามท้ายกิจกรรม
1. ดนิ น้ำมนั ทแ่ี ขวนเพ่อื ให้ไมเ้ มตรอยูน่ ิ่งในแนวระดับมีน้ำหนักเท่าหรอื แตกต่างจากน้ำหนักของดนิ น้ำมนั
กอ้ นที่แขวนไว้อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เม่ือไม้เมตรอย่นู ่ิงในแนวระดับ คา่ ของโมเมนต์ของแรงในทิศทางตามเข็มนาฬกิ าและโมเมนต์ของแรงใน
ทศิ ทางทวนเขม็ นาฬิกาเปน็ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จากกจิ กรรม สรุปได้ว่าอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลยใบบนั ทกึ กจิ กรรมท่ี 4.12
เร่ือง…ทำอยา่ งไรให้ไมเ้ มตรอยนู่ ง่ิ ในแนวระดับ
ผลการทำกิจกรรม
แขวนดินนำ้ มนั หนกั 5 นิวตัน หา่ งจุดหมนุ 40 เซนตเิ มตร โมเมนต์ของแรง 5 นวิ ตนั
มีค่า 5 นวิ ตัน x 0.4 เมตร เท่ากับ 2 นวิ ตนั เมตร ในทิศทางทวนเขม็ นาฬกิ า
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. ดินน้ำมันท่แี ขวนเพอ่ื ให้ไม้เมตรอยู่นิง่ ในแนวระดับมีนำ้ หนกั เท่าหรอื แตกต่างจากน้ำหนกั ของดนิ นำ้ มนั
ก้อนท่ีแขวนไว้อย่างไร
อาจเหมือนกันหรือแตกตา่ งกันกไ็ ด้ ข้ึนอยู่กับระยะห่างจากจดุ หมนุ ถงึ จดุ ที่แขวนดนิ น้ำมัน
2. เม่ือไม้เมตรอยนู่ ่งิ ในแนวระดบั ค่าของโมเมนต์ของแรงในทศิ ทางตามเข็มนาฬกิ าและโมเมนต์ของแรงใน
ทศิ ทางทวนเขม็ นาฬกิ าเปน็ อยา่ งไร
โมเมนตข์ องแรงในทิศทางตามเข็มนาฬิกามขี นาดเท่ากับโมเมนตข์ องแรงในทศิ ทางทวน เขม็
นาฬิกา
3. จากกจิ กรรม สรุปได้ว่าอย่างไร
ไมเ้ มตรจะวางตัวอยนู่ ิ่งในแนวระดบั ได้ ถ้าโมเมนต์ของแรงในทศิ ทางตามเข็มนาฬิกามีขนาด
เท่ากับโมเมนต์ของแรงในทศิ ทางทวนเขม็ นาฬิกา
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 33
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1
รหสั วชิ า ว22101
หนว่ ยการเรียนที่ 4 เร่อื ง การเคลือ่ นทแ่ี ละแรง เวลา 22 ชัว่ โมง
บทที่ 2 แรงในชวี ติ ประจำวัน
เรื่องที่ 6 แรงและสนามของแรง 1 เวลา 1 ช่ัวโมง
วันท่ี 23 กนั ยายน พ.ศ. 2565 ผใู้ ช้แผน นางสาวบุญญรัตน์ นามศรีอ่นุ
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชวี ติ ประจำวัน ผลของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุ ลักษณะการเคลื่อนท่ี
แบบตา่ งๆ ของวตั ถุ รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
2. ตัวชี้วดั ชนั้ ปี
ม.2/11 เปรียบเทียบแหล่งของสนามแม่เหล็กสนามไฟฟ้า และสนามโนม้ ถว่ ง และทิศทางของแรง
ท่กี ระทำต่อวัตถุท่ีอยใู่ นแตล่ ะสนามจากข้อมูลทร่ี วบรวมได้
3. สาระสำคญั
แรงแมเ่ หล็กทกี่ ระทำต่อขว้ั แมเ่ หล็กขัว้ เหนือจะมีทศิ ทางเดียวกบั ทิศทางของสนามแมเ่ หลก็ และ
แรงแมเ่ หล็กทีก่ ระทำต่อขัว้ แมเ่ หล็กข้ัวใต้จะมที ิศทางตรงกันข้ามกับทศิ ทางของสนามแม่เหลก็ ซง่ึ นกั เรียน
จะตอ้ งสามารถอธบิ ายสนามแม่เหลก็ ได้ และสามารถนำความรเู้ รื่องสนามแม่เหล็กไปประยุกต์ใชใ้ น
ชีวติ ประจำวันได้
4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
นกั เรียนสามารถ
4.1 นักเรียนสามารถสงั เกตและอธิบายสนามแมเ่ หลก็ ได้ (K)
4.2 นกั เรยี นสามารถเปรยี บเทยี บแหล่งของสนามแม่เหล็กสนามไฟฟา้ และสนามโนม้ ถว่ ง และ
ทศิ ทางของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุท่อี ยู่ในแต่ละสนามจากข้อมูลทร่ี วบรวมได้ (P)
4.3 มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน(A)
5. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E
ข้ันท่ี 1 สร้างความสนใจ (เวลา 20 นาที)
1. ให้นักเรียนสังเกตภาพนำเรื่อง อ่านเนื้อหานำเรื่องและคำสำคัญ และทำกิจกรรม
ทบทวน ความรู้ก่อนเรียนเกี่ยวกับแรงสัมผัสหรือแรงไม่สัมผัส แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้
คำตอบที่ถูกต้อง หากพบว่านักเรยี นยังมีความรูพ้ ื้นฐานไม่ถูกต้อง ครูควรทบทวนหรือแก้ไขความ
เข้าใจผดิ ของนักเรยี นเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นมีความรู้พนื้ ฐานท่ีถกู ต้องและเพยี งพอทจ่ี ะเรียนเร่ืองแรงและ
สนามของแรงตอ่ ไป
2. กระตุ้นความสนใจของนกั เรยี น โดยใช้คำถามดงั น้ี
- การวางลวดเสียบกระดาษหรือตะปูไว้ที่ตำแหน่งใกล้และไกลจากแท่งแม่เหล็ก ทำให้
เกดิ ผลแตกตา่ งกันหรอื ไม่ อยา่ งไร (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
- การวางลวดเสียบกระดาษหรือตะปูไว้ที่ตำแหน่งต่างๆ โดยรอบแท่งแม่เหล็ก ทำให้
เกดิ ผลแตกต่างกนั หรือไม่ อยา่ งไร (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
3. ร่วมกันอภิปราย เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า แม่เหล็กมีแรงกระทำต่อสารแม่เหลก็ ด้วยกันได้
เรียกแรงกระทำนี้ว่าแรงแม่เหล็ก ซึ่งเป็นแรงไม่สัมผัสที่เกิดจากสนามแม่เหล็กที่อยู่โดยรอบแท่ง
แม่เหล็ก จากนั้นนำเข้าสู่กิจกรรมที่ 4.13 เรื่อง สนามแม่เหล็กเป็นอย่างไร โดยอาจใช้คำถามว่า
จะรไู้ ด้อย่างไรวา่ รอบๆ แทง่ แมเ่ หลก็ มีสนามแมเ่ หล็ก โดยครูยังไมเ่ ฉลยคำตอบ
ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (เวลา 20 นาที)
1. ให้นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ทำกจิ กรรมกลมุ่ ละ 5 คน จำนวน 8 กลุ่ม
2. ให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม และตรวจสอบความ
เขา้ ใจการอ่าน โดยใช้คำถาม ดังตอ่ ไปนี้
- กิจกรรมนเ้ี ก่ยี วกบั เรอ่ื งอะไร (สนามแมเ่ หล็ก)
- กจิ กรรมน้มี ีจุดประสงคอ์ ะไร (สงั เกตและเขยี นเส้นสนามแม่เหล็ก)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอยา่ งไร (โรยผงเหล็กบนแผ่นพลาสติกใสที่วางทับ
บนแท่งแม่เหล็ก ใช้มือเคาะแผ่นพลาสติกใสเบาๆ สังเกตและบันทึกการเรียงตัวของผงเหล็ก
จากนั้นนำแผ่นพลาสติกใสออกวางแท่งแม่เหล็กบนกระดาษขาวและวาดเส้นระหวา่ งขั้วเหนือ-ใต้
ตามแนวการเรยี งตัวของผงเหลก็ ทัง้ 2 ข้าง แล้ววางเข็มทิศข้างแทง่ แมเ่ หลก็ ตามเส้นที่วาดไวแ้ ละ
บันทึกทิศทางการวางตัวของเขม็ ทิศ)
- นักเรียนต้องสังเกตหรือรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (การเรียงตัวของผงเหล็กระหว่างข้ัว
เหนอื และข้ัวใต้ของแท่งแม่เหล็กและการวางตัวของเข็มทิศ)
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำกิจกรรม โดยครูควรเดินสังเกตการทำกิจกรรมของ
นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ เพอ่ื ให้คำแนะนำ
ขั้นที่ 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (เวลา 10 นาที)
ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลจากการทำกิจกรรม ตอบคำถามท้ายกิจกรรม และ
ร่วมกันสรุปผลของกิจกรรมโดยใช้คำถามท้ายกิจกรรมเป็นแนวทาง จากนั้นอภิปรายเพื่อตอบ
คำถามว่า สนามแม่เหล็กคืออะไร มีลักษณะอย่างไร เพื่อให้ได้ข้อสรุปของกิจกรรมว่า แม่เหล็ก
แท่งหนึ่งๆ จะมีสนามแม่เหล็กรอบๆ แท่งแม่เหล็ก เมื่อนำแม่เหล็กอื่นหรือสารแม่เหล็กเข้าไปใน
บริเวณดังกลา่ วจะเกิดแรงแม่เหล็กกระทำต่อแทง่ แมเ่ หล็กหรือสารแม่เหลก็ ในสนามแม่เหล็กจะมี
เส้นสนามแม่เหล็ก โดยเส้นสนามแม่เหล็กที่อยู่ภายนอกแท่งแม่เหล็กจะมีทิศทางพุ่งออกจากข้ัว
เหนือและพุง่ เขา้ หาข้ัวใต้เสมอ ส่วนเส้นสนามแม่เหล็กทีอ่ ยู่ภายในแท่งแม่เหลก็ จะมที ิศพุ่งจากขั้ว
ใต้ไปยงั ขว้ั เหนือ
ขน้ั ท่ี 4 ขยายความรู้ (เวลา 10 นาที)
ให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กและทิศทางของแรงแม่เหล็กที่กระทำ
ต่อขั้วแม่เหลก็ ทีอ่ ยู่ในสนามแม่เหล็ก โดยอ่านเนื้อหาในหนังสอื เรียนหน้า 234-236 และร่วมกัน
อภิปราย เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า แรงแม่เหล็กที่กระทำต่อขั้วแม่เหล็กขั้วเหนือจะมีทิศทางเดียวกับ
ทิศทางของสนามแม่เหล็กและแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อขั้วแม่เหล็กขั้วใต้จะมีทิศทางตรงกันข้าม
กบั ทศิ ทางของสนามแม่เหลก็
ขั้นท่ี 5 ประเมินผล
ประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรยี นจากใบบันทึกกิจกรรม 4.13 เรื่อง สนามแม่เหล็กเปน็
อยา่ งไร และการสงั เกตพฤตกิ รรมในระหว่างทำกจิ กรรม
6. ส่อื การเรียนรู้
6.1 หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 (สสวท)
6.2 Powerpoint ตำแหนง่ ของวัตถุ ระยะทาง และการกระจดั
6.3 แทง่ แม่เหล็ก
6.4 เข็มทศิ
ใบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 4.13
เรอื่ ง…สนามแม่เหลก็ เป็นอยา่ งไร
วิธีการดำเนินกจิ กรรม
1. วางแท่งแมเ่ หลก็ บนพนื้ เรียบจากน้นั วางแผน่ พลาสติกใสทับแท่งแมเ่ หลก็
2. ใช้ผา้ ขาวบางหุ้มปากขวดที่บรรจผุ งเหลก็ รัดให้แน่น
3. ค่อย ๆ โรยผงเหลก็ บาง ๆ อย่างสมำ่ เสมอให้ทว่ั บนแผ่นพลาสตกิ ใส ใช้มือเคาะแผ่นพลาสตกิ ใสเบา ๆ
เพอ่ื ให้ผงเหลก็ กระจายตวั ออกจากกนั บันทกึ การเรียงตัวของผงเหล็ก
4. วางแทง่ แมเ่ หลก็ บนกระดาษขาววาดเส้นระหว่างขว้ั เหนือ-ใตต้ ามแนวการเรยี งตวั ของผงเหล็กทพ่ี บจาก
ข้อ 3 อย่างน้อย 2 เสน้
5. วางเข็มทิศตามเส้นที่วาดไว้อยา่ งน้อยเสน้ ละ 5 ตำแหนง่ วาดทิศทางการวางตวั ของเขม็ ในเข็มทิศในแต่
ละตำแหนง่ จนครบ
ผลการทำกจิ กรรม
คำถามท้ายกิจกรรม
1. การเรียงตัวของผงเหล็กรอบแท่งแม่เหล็กมีลกั ษณะอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
2. บริเวณใดมกี ารเรยี งตวั ของผงเหลก็ หนาแนน่ ทส่ี ุด
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
3. ทศิ ทางการวางตวั ของเขม็ ทิศรอบแทง่ แมเ่ หลก็ เป็นอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
4. จากกจิ กรรม สรุปไดว้ า่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
เฉลยใบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 4.13
เรอ่ื ง…สนามแมเ่ หล็กเป็นอย่างไร
ผลการทำกจิ กรรม
เมื่อโรยผงเหล็กบนแผ่นพลาสติกใสทีว่ างทับบนแทง่ แม่เหล็ก ใช้มือเคาะแผ่นพลาสตกิ ใสเบาๆ จะ
ทำใหผ้ งเหล็กเรียงตวั ดงั ภาพ
การวางตวั ของเข็มทิศเมอื่ วางเข็มทิศในแนวเสน้ ท่วี าดตามการเรียงตวั ของผงเหล็กเปน็ ดังภาพ
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. การเรยี งตัวของผงเหล็กรอบแทง่ แม่เหลก็ มลี ักษณะอย่างไร
เมอื่ โรยผงเหล็กบนแผ่นพลาสตกิ ใสทว่ี างทับบนแท่งแม่เหล็ก พบว่าผงเหลก็ เรียงตัวเปน็ เสน้ โคง้
ต่อเนือ่ ง ไม่ตัดกัน จากขั้วแม่เหลก็ ด้านหน่งึ ไปยงั ขั้วแม่เหล็กอีกดา้ นหน่งึ
2. บริเวณใดมีการเรียงตัวของผงเหลก็ หนาแน่นทีส่ ุด
บรเิ วณข้ัวแมเ่ หล็กจะมกี ารเรียงตวั ของผงเหลก็ หนาแนน่ กว่าบริเวณอ่ืน
3. ทิศทางการวางตัวของเขม็ ทิศรอบแทง่ แม่เหล็กเปน็ อยา่ งไร
เข็มของเข็มทิศจะวางตวั ตามแนวเสน้ ทวี่ าดตามการเรียงตัวของผงเหลก็ โดยขั้วเหนอื ของเขม็ ทศิ ช้ี
ไปยังขว้ั ใต้ของแท่งแมเ่ หลก็
4. จากกจิ กรรม สรปุ ไดว้ า่ อย่างไร
เมอื่ โรยผงเหลก็ โดยรอบแทง่ แมเ่ หล็ก ผงเหลก็ จะเรียงตอ่ กันเปน็ แนวโค้ง จะหนาแน่นมากบริเวณ
ขวั้ และเมื่อวางเข็มทศิ ที่ต าแหนง่ ตา่ ง ๆ รอบแท่งแม่เหล็กพบว่า เขม็ ของเข็มทิศจะวางตัวตามแนวของ
การเรยี งตัวของผงเหลก็ โดยขั้วเหนือของเข็มทศิ จะช้ีไปยงั ขั้วใตข้ องแท่งแมเ่ หล็ก
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 34
กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1
รหสั วิชา ว22101
หน่วยการเรยี นที่ 4 เร่อื ง การเคลือ่ นทแ่ี ละแรง เวลา 22 ชั่วโมง
บทที่ 2 แรงในชวี ติ ประจำวัน
เร่อื งที่ 6 แรงและสนามของแรง 2 เวลา 2 ช่ัวโมง
วันท่ี 30 กนั ยายน พ.ศ. 2565 ผู้ใช้แผน นางสาวบุญญรัตน์ นามศรอี ่นุ
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชีวติ ประจำวัน ผลของแรงทกี่ ระทำต่อวัตถุ ลกั ษณะการเคลื่อนที่
แบบตา่ งๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
2. ตวั ช้ีวัดช้ันปี
ม.2/11 เปรียบเทยี บแหล่งของสนามแม่เหลก็ สนามไฟฟ้า และสนามโนม้ ถ่วง และทศิ ทางของแรง
ท่ีกระทำต่อวตั ถุท่ีอยู่ในแตล่ ะสนามจากข้อมูลทร่ี วบรวมได้
ม.2/12 เขียนแผนภาพแสดงแรงแมเ่ หล็ก แรงไฟฟา้ และแรงโนม้ ถว่ งท่กี ระทำตอ่ วตั ถุ
ม.2/13 วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟ้า และแรงโน้มถ่วงที่
กระทำต่อวตั ถุ
อยใู่ นสนามนั้นๆ กบั ระยะห่างจากแหลง่ ของสนามถึงวตั ถุจากข้อมูลที่รวบรวมได้
3. สาระสำคัญ
ความเข้มของสนามแม่เหล็กเป็นความหนาแน่นของเส้นสนามแม่เหล็กที่ผ่านหนึ่งหน่วย
พื้นที่ในแนวตั้งฉาก มีหน่วยเป็นเวเบอร์ต่อตารางเมตรหรือเทสลา บริเวณใกล้ขั้วแม่เหล็กจะมี
ความเข้มของสนามแม่เหล็กมาก และบริเวณที่ห่างออกไปจากแท่งแม่เหล็กจะมีความเข้มของ
สนามแมเ่ หลก็ ลดลง แรงแม่เหล็กมคี วามสัมพันธ์กับความเขม้ สนามของแม่เหล็กที่ตำแหน่งใดๆ
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
นักเรยี นสามารถ
4.1 นกั เรียนสามารถวิเคราะห์และอธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างแรงแม่เหลก็ ทก่ี ระทำกับสาร
แมเ่ หล็กกับระยะห่างจากแทง่ แม่เหลก็ ได้ (K)
4.2 นักเรียนสามารถเปรียบเทียบแหลง่ ของสนามแมเ่ หลก็ สนามไฟฟ้า และสนามโนม้ ถว่ ง และ
ทิศทางของแรงที่กระทำต่อวัตถทุ ่ีอยู่ในแต่ละสนามจากขอ้ มูลทร่ี วบรวมได้ (P)
4.3 มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และ มุง่ มั่นในการทำงาน(A)
5. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (เวลา 5 นาที)
1. นำเข้าสู่กิจกรรมที่ 4.14 เรื่อง ขนาดของแรงแม่เหล็กขึ้นอยู่กับอะไร โดยอาจใช้
คำถามว่า นกั เรยี นคิดวา่ แรงแม่เหล็กท่ีเกิดขนึ้ น้ีจะมีคา่ มากหรือน้อยข้ึนอยกู่ บั ปริมาณใด นกั เรียน
ตอบตามความเขา้ ใจของตนเองโดยครูไม่เฉลยคำตอบ
ข้ันที่ 2 สำรวจและค้นหา (เวลา 45 นาที)
1. ให้นักเรยี นแบ่งกลุ่มทำกิจกรรมกลุ่มละ 5 คน จำนวน 8 กลุ่ม
2. ให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม และตรวจสอบความ
เข้าใจการอ่าน โดยใช้คำถาม ดังตอ่ ไปน้ี
- กิจกรรมนี้เกี่ยวกับเรื่องอะไร (ความสัมพันธ์ระหว่างแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อสาร
แมเ่ หล็กกับระยะห่างจากแทง่ แมเ่ หล็ก)
- กจิ กรรมน้มี ีจุดประสงค์อะไร (วเิ คราะห์และอธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่างแรงแม่เหล็กท่ี
กระทำตอ่ สารแม่เหลก็ กับระยะห่างจากแท่งแม่เหล็ก)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (วิเคราะห์ตารางแรงแม่เหล็กที่กระทำตอ่
สารแม่เหล็ก เขียนกราฟ และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อสาร
แม่เหล็กกับระยะหา่ งจากแท่งแม่เหล็ก)
- นักเรยี นต้องสังเกตหรือรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (ระยะห่างจากแท่งแม่เหล็กและขนาด
ของแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อสารแม่เหล็ก เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างแรงแม่เหล็กที่
กระทำตอ่ สารแมเ่ หล็กกับระยะหา่ งจากแท่งแมเ่ หลก็ )
3. ให้นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรม โดยครูควรเดินสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียน
เพือ่ ให้คำแนะนำหากนักเรียนมีข้อสงสัย เชน่ การกำหนดตวั แปรตน้ ตวั แปรตาม และการกำหนด
แกนของกราฟ และครูควรรวบรวมข้อมูลเหล่านั้น เพื่อใช้ประกอบการอภิปรายหลังการทำ
กิจกรรม
ขน้ั ที่ 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (เวลา 5 นาท)ี
สุ่มนักเรียนนำเสนอกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อสาร
แม่เหลก็ กับระยะห่างจากแท่งแม่เหล็ก ตอบคำถามท้ายกิจกรรม และรว่ มกนั สรปุ ผลของกิจกรรม
โดยใช้คำถามท้ายกิจกรรมเป็นแนวทาง เพื่อให้ได้ข้อสรุปของกิจกรรมว่า เมื่อสารแม่เหล็กอยู่ใน
สนามแม่เหล็กของแท่งแม่เหล็กหนึ่งจะมีแรงแม่เหล็กกระทำต่อสารแม่เหล็กนั้น แรงแม่เหล็กมี
ความสมั พันธ์กับระยะหา่ งระหวา่ งสารแม่เหลก็ กับแท่งแม่เหลก็ โดยแรงแมเ่ หลก็ มีขนาดลดลงเมื่อ
ระยะหา่ งจากแท่งแมเ่ หลก็ เพ่มิ ขึ้น
ขัน้ ที่ 4 ขยายความรู้ (เวลา 5 นาที)
ครูกล่าวว่าความเข้มของสนามแม่เหล็กเปน็ ความหนาแน่นของเส้นสนามแม่เหล็กที่ผา่ น
หนึ่งหน่วยพื้นที่ในแนวตั้งฉาก มีหน่วยเป็นเวเบอร์ต่อตารางเมตรหรือเทสลา บริเวณใกล้
ขั้วแม่เหล็กจะมีความเข้มของสนามแม่เหล็กมาก และบริเวณที่ห่างออกไปจากแท่งแม่เหล็กจะมี
ความเข้มของสนามแม่เหล็กลดลง แรงแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กับความเข้มสนามของแม่เหล็กที่
ตำแหนง่ ใดๆ โดย ณ ตำแหน่งท่มี ีความเขม้ สนามแม่เหล็กมากจะมีแรงแมเ่ หล็กมาก และตำแหน่ง
ทีม่ ีความเข้มสนามแมเ่ หลก็ ลดลงจะมีแรงแมเ่ หลก็ ลดลงด้วย
สนามแม่เหลก็ โลกเกิดจากของเหลวร้อนใต้เปลือกโลกบริเวณแกนโลกชนั้ นอกซ่ึงมีประจุ
ไฟฟ้า เคลื่อนที่หมุนวนอย่างช้าๆ จนเกิดกระแสไฟฟ้า ซึ่งเหนี่ยวนำให้เกิดสนามแม่เหล็กโลกข้ึน
โดยขว้ั เหนือมตี ำแหน่งอยู่ใกล้บรเิ วณข้วั โลกใต้ และข้วั ใต้มีตำแหน่งอยู่ใกล้บริเวณขั้วโลกเหนือทำ
ให้สนามแม่เหล็กโลกมีทิศพุ่งจากขัว้ โลกใต้ไปยังข้ัวโลกเหนือ ดังนั้นเข็มทิศจึงชีไ้ ปยงั ขั้วโลกเหนอื
เสมอ
ขน้ั ที่ 5 ประเมินผล
ประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนจากใบบันทึกกิจกรรม 4.14 เรื่อง ขนาดของแรง
แมเ่ หลก็ ข้ึนอยกู่ ับอะไรและการสงั เกตพฤติกรรมในระหว่างทำกิจกรรม
ใบบนั ทึกกจิ กรรมท่ี 4.14
เรื่อง…ขนาดของแรงแม่เหล็กขนึ้ อยู่กับอะไร
วิธกี ารดำเนนิ กิจกรรม
1. วเิ คราะห์ตารางขนาดของแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อสารแม่เหล็ก
2. เขียนกราฟและวเิ คราห์ความสมั พันธร์ ะหวา่ งขนาดของแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อสารแมเ่ หลก็ กบั
ระยะหา่ งจากแทง่ แม่เหล็ก โดยใหร้ ะยะห่างจากแทง่ แมเ่ หลก็ เป็นแกนนอนและให้ขนาดของแรงแมเ่ หลก็
เปน็ แกนตง้ั
ตาราง : ขนาดของแรงแมเ่ หลก็ ท่กี ระทำต่อสารแมเ่ หลก็
ระยะห่างจาดแทง่ แมเ่ หล็ก (mm) แรงแมเ่ หลก็ (N)
0 131.27
1 83.58
5 32.61
10 13.66
15 6.49
20 3.34
25 1.78
30 0.98
35 0.58
40 0.36
ผลการทำกิจกรรม
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. ขนาดของแรงแมเ่ หล็กมคี วามสัมพนั ธก์ บั ระยะหา่ งจากแทง่ แมเ่ หล็กอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. กราฟความสัมพันธ์ระหวา่ งขนาดแรงแมเ่ หลก็ ทกี่ ระทำต่อสารแม่เหลก็ กับระยะหา่ งจากแทง่ แม่เหล็กมี
ลักษณะอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จากกจิ กรรม สรปุ ได้ว่าอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลยใบบันทึกกจิ กรรมที่ 4.14
เร่อื ง…ขนาดของแรงแม่เหลก็ ขน้ึ อยู่กบั อะไร
ผลการทำกจิ กรรม
สามารถเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหวา่ งแรงแมเ่ หล็กท่กี ระทำต่อแผ่นเหลก็ กบั ระยะห่าง
จากแท่งแมเ่ หล็ก
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. ขนาดของแรงแม่เหล็กมคี วามสมั พนั ธก์ บั ระยะหา่ งจากแทง่ แม่เหล็กอย่างไร
ระยะห่างจากแท่งแม่เหล็กน้อย ขนาดของแรงแมเ่ หล็กมีค่ามาก ถ้าระยะหา่ งจากแท่งแมเ่ หลก็
มาก ขนาดของแรงแมเ่ หลก็ มีค่าน้อย
2. กราฟความสมั พนั ธ์ระหวา่ งขนาดแรงแม่เหล็กท่กี ระทำต่อสารแมเ่ หลก็ กบั ระยะห่างจากแทง่ แม่เหลก็
มลี กั ษณะอยา่ งไร
มีลกั ษณะเปน็ เส้นโค้งโดยแรงแมเ่ หล็กมีขนาดลดลงเม่ือระยะหา่ งจากแทง่ แมเ่ หลก็ เพิ่มขน้ึ
3. จากกิจกรรม สรุปไดว้ ่าอย่างไร
เม่ือสารแม่เหล็กอยู่ในสนามแม่เหล็กของแท่งแม่เหล็กหน่งึ จะมแี รงแม่เหลก็ กระทำต่อสาร
แม่เหล็กน้นั แรงแม่เหล็กมีความสมั พันธก์ ับระยะหา่ งระหว่างสารแมเ่ หล็กกับแทง่ แมเ่ หล็ก โดยแรง
แม่เหลก็ มีขนาดลดลงเมื่อระยะหา่ งจากแท่งแมเ่ หลก็ เพ่มิ ขนึ้