4. จากกิจกรรม สรุปได้วา่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ชอื่ -นามสกลุ …………………………………………………………………………….ชั้น………….เลขที่……………
เฉลยใบบันทกึ กจิ กรรมที่ 4.7
เร่ือง…นำ้ มแี รงกระทำต่อวัตถหุ รอื ไม่ อย่างไร
ผลการทำกจิ กรรม
ลักษณะของถงุ พลาสตกิ
• ก่อนจ่มุ มือลงไปในน้ำ ถงุ พอง โดยสามารถขยบั มือไปมาได้ โดยไมส่ ัมผัสกับถุง
• ขณะจุ่มมอื ลงในน้ำ ถงุ แฟบมาตดิ แนบกับมือ
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. เมอ่ื จุม่ มือทหี่ มุ้ ถุงพลาสตกิ ลงในนำ้ รู้สึกถึงแรงที่กระทำต่อมือหรือไม่ อย่างไร
เมอ่ื จมุ่ มอื ที่สวมถงุ พลาสตกิ ลงในนำ้ รสู้ ึกถึงแรงท่ีกระทำต่อมือในทุกทิศทาง
2. น้ำมแี รงกระทำต่อถุงพลาสติกหรอื ไม่ ทราบได้อยา่ งไร
น้ำมีแรงกระทำตอ่ ถุงพลาสติก โดยสงั เกตจากถงุ พลาสติกมีรูปร่างเปล่ยี นไป
3. ถา้ น้ำมแี รงกระทำต่อถุงพลาสติก แรงทน่ี ้ำกระทำมที ิศทางใด ร้ไู ด้อยา่ งไร
น้ำมีแรงกระทำต่อถงุ พลาสติกในทุกทศิ ทาง สังเกตได้จากน้ำดันถงุ พลาสติกในทุกทิศทางใหแ้ นบ
กบั มือ
4. จากกจิ กรรม สรปุ ไดว้ ่าอย่างไร
น้ำมีแรงกระทำตอ่ วตั ถโุ ดยกระทำในทกุ ทิศทาง
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 28
กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1
รหสั วิชา ว22101
หนว่ ยการเรียนท่ี 4 เรื่อง การเคลอื่ นที่และแรง เวลา 21 ชั่วโมง
บทท่ี 2 แรงในชีวติ ประจำวัน
เรือ่ งที่ 3 แรงและความดันของของเหลว 2 เวลา 1 ช่ัวโมง
วันท่ี 9 กันยายน พ.ศ. 2565 ผูใ้ ช้แผน นางสาวบุญญรัตน์ นามศรอี นุ่
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ิตประจำวนั ผลของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุ
ลักษณะการเคล่ือนที่แบบตา่ งๆ ของวตั ถุ รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
2. ตัวช้ีวัดชน้ั ปี
ม.2/3 ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวิธที ี่เหมาะสมในการอธิบายปัจจยั ที่มีผลตอ่ ความดนั
ของของเหลว
3. สาระสำคัญ
ความดันของของเหลวขึ้นอยู่กับความลึกของผิวของเหลว โดยยิ่งลึกลงไปความดันยิ่ง
มากขน้ึ นอกจากนี้ความดันของของเหลวยังข้นึ อยู่กบั ความหนาแน่นของของเหลว โดยของเหลว
ทม่ี ีความหนาแนน่ มากจะมีความดันมาก
4.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
นักเรียนสามารถ
4.1 นกั เรยี นสามารถอธิบายเกี่ยวกบั ปจั จัยทมี่ ผี ลต่อความดันของของเหลวได้ (K)
4.2 นกั เรียนสามารถออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวธิ ีทเ่ี หมาะสมในการอธบิ าย
ปจั จัยท่มี ีผลตอ่ ความดนั ของของเหลวได้ (P)
4.3 มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ และ มุ่งมนั่ ในการทำงาน(A)
5. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E
ขั้นท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (เวลา 10 นาท)ี
1. กระตุ้นความสนใจของนักเรียนเพื่อนำเข้าสู่กิจกรรมที่ 4.8 ปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อ
ความดนั ของของเหลว โดยภาพและคำถามดังน้ี
จากภาพที่ 1 ตำแหน่ง ข อยู่สูงจากพื้นดินมากกว่าตำแหน่ง ก ความดันอากาศของ
ตำแหนง่ ใดมากกวา่ เพราะเหตใุ ด (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
จากภาพที่ 2 ตำแหนง่ A เป็นตำแหน่งของน้ำในแก้วซ่ึงอยตู่ ่ำจากผวิ น้ำมากกว่าตำแหน่ง
B ความดันของน้ำทตี่ ำแหน่งใดมากกว่า เพราะเหตุใด (นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
ขนั้ ที่ 2 สำรวจและคน้ หา (เวลา 35 นาที)
1. ให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ ทำกจิ กรรมกลมุ่ ละ 5 คน จำนวน 8 กลุ่ม
2. ให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรมของตอนที่ 1 และ
ตรวจสอบความเข้าใจการอา่ น โดยใชค้ ำถาม ดังตอ่ ไปนี้
- กจิ กรรมนเ้ี ก่ียวกับเรือ่ งอะไร (การวดั ความดันของของเหลว)
- กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อะไร (สร้างอุปกรณ์วัดความดันของของเหลวและดำเนินการ
วดั ความดันของของเหลว)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (ทำอุปกรณ์วัดความดันของของเหลวโดย
ใส่ลูกแก้วและน้ำสีลงในลูกโป่ง แล้วครอบปากลูกโป่งด้วยจุกยางที่มีหลอดแก้วนำแก๊สเสียบอยู่
อภิปรายการทำงานของอุปกรณ์วัดความดันของของเหลว จากนั้นวัดความดันของน้ำโดยสังเกต
ระดบั นำ้ สีในหลอดแก้วนำแก๊ส)
- นักเรียนต้องสังเกตและรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำสีใน
หลอดแก้วนำแกส๊ ของอปุ กรณ์ วัดความดันของของเหลวเมอื่ จมุ่ ลงในภาชนะบรรจนุ ้ำ)
3. ให้นักเรียนรว่ มกันอภปิ รายเกี่ยวกบั การทำงานของอุปกรณ์วัดความดนั ของของเหลว
โดยครูให้คำปรึกษา จากนั้นให้แต่ละกลุ่มดำเนินการวัดความดันของของเหลวโดยจุ่มอุปกรณ์ใน
นำ้ โดยครใู หค้ ำแนะนำถา้ นกั เรยี นมีขอ้ สงสัย นอกจากน้คี รคู วรรวบรวมข้อมูลจากการทำกิจกรรม
ของนักเรยี น เพ่ือใชเ้ ปน็ ข้อมลู ประกอบการอภิปรายภายหลังการทำกิจกรรม
4. ให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรมของตอนที่ 2 และ
ตรวจสอบความเขา้ ใจการอา่ น โดยใชค้ ำถาม ดังต่อไปน้ี
- กจิ กรรมน้เี กีย่ วกับเรอื่ งอะไร (ปจั จยั ท่ีมีผลตอ่ ความดนั ของของเหลว)
- กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อย่างไร (ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสม
เพอื่ หาปัจจยั ท่มี ีผลตอ่ ความดันของของเหลว)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรปุ อย่างไร (ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับปัจจัยที่มผี ลต่อ
ความดันของของเหลว จากนั้นเลือกศึกษาปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ตั้งสมมติฐาน ระบุตัวแปร
ออกแบบการทดลอง และดำเนินการทดลอง เพื่อตรวจสอบสมมติฐานแล้วนำเสนอ พร้อมทั้ง
อภปิ รายการทดลองร่วมกนั )
- นักเรียนต้องสังเกตและรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำสีใน
หลอดแก้วนำแก๊สของอุปกรณ์ วัดความดันของของเหลวเมื่อจุ่มอุปกรณ์นี้ลงในภาชนะบรรจุ
ของเหลวที่ระดับความลึกต่างๆ หรือจุ่มในภาชนะบรรจุของเหลวชนิดต่างๆ ที่ระดับความลึก
เดยี วกัน)
5. ให้นักเรียนทั้งห้องทำกิจกรรม โดยร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อความดัน
ของของเหลว โดยครูให้คำปรึกษา จากนั้นให้แต่ละกลุ่มเลือกสำรวจตรวจสอบปัจจัยเพียง 1
ปัจจัยพร้อมตั้งสมมติฐาน ระบุตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคุม รวมทั้งออกแบบวิธี
ทดลองและดำเนินการทดลอง โดยครูให้คำแนะนำถ้านักเรียนมีข้อสงสัย นอกจากนี้ ครูควร
รวบรวมข้อมูลจากการทำกิจกรรมของนักเรียน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการอภิปรายภายหลัง
การทำกิจกรรม
ขน้ั ที่ 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (เวลา 10 นาท)ี
นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทำกิจกรรม ตอบคำถามท้ายกิจกรรม และร่วมกัน
สรุปผลของกิจกรรม โดยใช้คำถามท้ายกิจกรรมเป็นแนวทาง ตอนที่ 1 เพื่อให้ได้ข้อสรุปจาก
กิจกรรมว่า เมื่อมีแรงกระทำต่ออุปกรณ์วัดความดันของของเหลว น้ำสีในลูกโป่งจะถูกบีบ ทำให้
ระดับน้ำสีในหลอดแก้วนำแก๊สสูงขึ้น และเมื่ออุปกรณ์วัดความดันของของเหลวจมในน้ำจะมีแรง
ที่น้ำกระทำต่อลูกโป่งในทุกทิศทาง ทำให้ระดับน้ำสีในหลอดแก้วนำแก๊สสูงขึ้น และตอนที่ 2
เพื่อให้ไดข้ ้อสรุปจากกจิ กรรมว่า ปัจจัยที่มีผลต่อความดนั ของของเหลว ไดแ้ ก่ ระดับความลึกและ
ความหนาแน่นของของเหลว
ขน้ั ที่ 4 ขยายความรู้ (เวลา 5 นาท)ี
ครูกล่าวว่าให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความดันของของเหลว โดยอ่านเนื้อหาใน
หนังสือเรียนหน้า 201 ตอบคำถามระหว่างเรียน จากนั้นร่วมกันอภิปราย เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า
ความดันของของเหลวขึ้นอยู่กับความลึกของผิวของเหลว โดยยิ่งลึกลงไปความดันยิ่งมากขึ้น
นอกจากน้ีความดนั ของของเหลวยงั ขึ้นอยู่กับความหนาแนน่ ของของเหลว โดยของเหลวท่ีมีความ
หนาแนน่ มากจะมีความดันมาก
ข้ันท่ี 5 ประเมนิ ผล
ประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนจากใบบันทึกกิจกรรม 4.8 เรื่อง ปัจจัยใดบ้างที่มีผล
ตอ่ ความดนั ของของเหลว และการสงั เกตพฤติกรรมในระหว่างทำกจิ กรรม
6. สือ่ การเรยี นรู้
6.1 หนงั สือเรียนรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 (สสวท)
6.2 Powerpoint หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรื่อง การเคลื่อนท่แี ละแรง
6.3 ขวดพลาสติกขนาด 1.5 ลิตร
6.4 ลูกโปง่
6.5 จกุ ยาง
6.6 หลอดแก้วนำแกส๊
6.7 ลูกแกว้
6.6 สีผสมอาหาร
6.7 ของเหลวชนดิ ต่าง ๆ เช่นน้ำ นำ้ เชอ่ื ม นำ้ เกลือ นำ้ มันพืช
ใบบันทกึ กจิ กรรมที่ 4.8
เร่อื ง…ปัจจยั ใดบ้างทม่ี ผี ลต่อความดันของของเหลว
ตอนที่ 1
วธิ ีการดำเนินกจิ กรรม
1. จัดอุปกรณเ์ พื่อวดั ความดันของของเหลวอย่างงา่ ยโดยใส่ลูกแกว้ และน้ำสีลงไปในลกู โป่งนำปากลูกโป่ง
ครอบจกุ ยางทีเ่ สยี บหลอดแก้วนำแก๊สไว้จัดใหร้ ะดบั น้ำสใี นหลอดแกว้ สูงกว่าจุกยางเล็กน้อย
2. รว่ มกนั อภิปรายการทำงานของอุปกรณว์ ดั ความดนั ของของเหลว
3. จมุ่ อุปกรณว์ ัดความดันของของเหลวอยา่ งง่ายโดยให้ลกู โปง่ จมลงไปในน้ำสงั เกตการเปลีย่ นแปลงของ
ระดับน้ำสใี นหลอดแกว้
ผลการทำกิจกรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำถามทา้ ยกิจกรรม
1. เม่ือจมุ่ อุปกรณว์ ัดความดันของของเหลวลงไปในน้ำมีการเปลย่ี นแปลงอย่างไร เพราะเหตุใด
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. จากกจิ กรรมตอนท่ี 1 สรุปได้ว่าอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตอนที่ 2
วธิ ีการดำเนินกิจกรรม
1. รว่ มกันอภปิ รายเกีย่ วกับปัจจยั ท่มี ผี ลต่อความตันของของเหลว
2. เลือกศึกษาปจั จัยที่มีผลต่อความดันของของเหลวพร้อมต้ังคำถามและสมมตฐิ าน
3. ระบตุ วั แปรต้นตวั แปรตามและตวั แปรควบคุม
4. ออกแบบการทดลองเพ่ือตรวจสอบสมมตฐิ าน
5. ทำการทดลองบันทึกผล
6. นำเสนอผลการทดลองและอภปิ รายรว่ มกนั
ผลการทำกิจกรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………..………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำถามทา้ ยกิจกรรม
(ข้นึ อยู่กับปจั จยั ท่ีนักเรียนเลือกศึกษา ในท่นี ี้เลือกศึกษาเกี่ยวกับความหนาแนน่ ของของเหลว)
1. การทดลองน้ตี ้องการศึกษาปัจจัยใดท่มี ผี ลต่อความดนั ของของเหลว
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
2. สมมติฐานของการทดลองนี้คืออะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นยิ ามเชิงปฏิบตั กิ าร เพื่อสงั เกตความดันของของเหลวก าหนดไดว้ ่าอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ผลการทดลองท่ีได้สอดคล้องกับสมมติฐานท่นี ักเรียนต้ังไว้หรือไม่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
5. บอกจากปจั จยั ท่ีนักเรยี นศึกษาแลว้ ยงั มีปัจจัยอน่ื อีกหรือไม่ทีม่ ผี ลต่อความดันของของเหลว
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6. จากกจิ กรรมตอนที่ 2 สรุปได้วา่ อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
7. จากกจิ กรรมทงั้ 2 ตอน สรุปได้วา่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลยใบบันทึกกจิ กรรมท่ี 4.8
เรอ่ื ง…ปัจจัยใดบ้างที่มผี ลต่อความดนั ของของเหลว
ตอนที่ 1
ผลการทำกิจกรรม
เมื่อจ่มุ อุปกรณ์วัดความดันของของเหลว คือ ลกู โปง่ ทบี่ รรจุลกู แก้วและนำ้ สีไว้ลงไปในน้ำพบว่า
ระดบั นำ้ สี ในหลอดแก้วนำแกส๊ จะสูงขึ้น
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. เมอ่ื จมุ่ อปุ กรณว์ ัดความดันของของเหลวลงไปในนำ้ มีการเปล่ยี นแปลงอย่างไร เพราะเหตุใด
ระดบั น้ำสีในหลอดแกว้ นำแก๊สเพม่ิ ขน้ึ เพราะน้ำมีแรงกระทำตอ่ ลกู โป่งในทุกทิศทางจึงบบี ลกู โปง่
ทำให้ลูกโป่งดันนำ้ ในลูกโปง่
2. จากกจิ กรรมตอนที่ 1 สรปุ ไดว้ ่าอยา่ งไร
อุปกรณ์วดั ความดนั ของของเหลวสามารถวดั แรงทน่ี ้ำกระทำต่ออุปกรณ์นี้ไดโ้ ดยสงั เกตจากระดบั
นำ้ สใี นหลอดแกว้ นำแก๊สท่สี งู ขึ้น
ตอนที่ 2
ผลการทำกจิ กรรม
ปัจจยั ทมี่ ีผลต่อความดันของของเหลว คือ ความหนาแนน่ ของของเหลว
สมมตฐิ าน คือ ทรี่ ะดบั ความลึกเดียวกนั ของเหลวทม่ี คี วามหนาแนน่ มากจะมีความดนั มาก
ตวั แปรตน้ คอื ความหนาแน่นของของเหลว
ตวั แปรตาม คือ ความดันของของเหลว
ตวั แปรควบคมุ คือ ขนาดขวดพลาสตกิ ระดับความลึก และอปุ กรณ์วัดความดนั ของของเหลวชดุ
เดิม
คำถามท้ายกิจกรรม
(ขึน้ อยู่กับปัจจยั ที่นักเรียนเลอื กศึกษา ในทนี่ ้ีเลือกศึกษาเกี่ยวกับความหนาแนน่ ของของเหลว)
1. การทดลองน้ตี ้องการศึกษาปัจจยั ใดทม่ี ีผลต่อความดันของของเหลว
ปัจจยั ท่ีเลือกศกึ ษา คอื ความหนาแน่นของของเหลว
2. สมมตฐิ านของการทดลองนี้คอื อะไร
ที่ระดับความลกึ เดียวกัน ของเหลวทม่ี ีความหนาแนน่ มาก จะมคี วามดนั มาก
3. นยิ ามเชงิ ปฏิบัตกิ าร เพื่อสังเกตความดนั ของของเหลวก าหนดไดว้ า่ อย่างไร
ความดันของของเหลว สงั เกตจากระดบั นำ้ สีในหลอดแก้วนำแก๊ส โดยถ้าระดับน้ำสีในหลอดแกว้
นำแกส๊ สงู แสดงว่าของเหลวมีความดนั มาก
4. ผลการทดลองท่ีได้สอดคล้องกับสมมติฐานที่นักเรียนตง้ั ไว้หรือไม่ อย่างไร
ผลการทดลองเปน็ ไปตามสมมติฐานทีต่ ง้ั ไว้ คอื ของเหลวที่มคี วามหนาแนน่ มากจะมคี วามดนั มาก
โดยน้ำเกลอื มีความหนาแน่นมากท่ีสุดกม็ คี วามดนั มากทส่ี ุดด้วย ทำใหน้ ้ำสีในหลอดแก้วนำแกส๊ มรี ะดับ
สูงสดุ
5. บอกจากปจั จัยทนี่ กั เรียนศึกษาแล้ว ยังมปี ัจจยั อนื่ อีกหรือไม่ทม่ี ผี ลตอ่ ความดนั ของของเหลว
ปัจจยั อ่นื ที่มีผลต่อความดันของของเหลว นอกเหนือจากความหนาแน่นของของเหลว คือ ระดับ
ความลึกของของเหลว
6. จากกจิ กรรมตอนท่ี 2 สรปุ ไดว้ ่าอยา่ งไร
ปจั จยั ท่มี ผี ลตอ่ ความดันของของเหลว คอื ความหนาแน่นของของเหลวและระดบั ความลึกของ
ของเหลว
7. จากกิจกรรมทงั้ 2 ตอน สรุปได้ว่าอยา่ งไร
ความหนาแนน่ ของของเหลวและระดบั ความลึกของของเหลวเปน็ ปัจจยั ท่มี ีผลต่อความดนั ของ
ของเหลว
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 29
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1
รหัสวิชา ว22101
หนว่ ยการเรยี นท่ี 4 เร่ือง การเคล่อื นทีแ่ ละแรง เวลา 21 ชั่วโมง
บทท่ี 2 แรงในชีวิตประจำวนั
เรอื่ งท่ี 4 แรงพยุงของของเหลว 1 เวลา 2 ช่วั โมง
วนั ท่ี 13 กันยายน พ.ศ. 2565 ผใู้ ชแ้ ผน นางสาวบญุ ญรัตน์ นามศรอี ่นุ
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวติ ประจำวนั ผลของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุ ลกั ษณะการ
เคลือ่ นท่แี บบตา่ งๆ ของวตั ถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
2. ตวั ช้ีวัดชัน้ ปี
ม.2/4 วิเคราะห์แรงพยุงและการจมการลอยของวัตถุในของเหลวจากหลักฐานเชิง
ประจกั ษ์
ม.2/5 เขียนแผนภาพแสดงแรงท่ีกระทำตอ่ วัตถใุ นของเหลว
3. สาระสำคญั
เม่ือวัตถุอยใู่ นของเหลว จะมีแรงพยุงเน่ืองจากของเหลว กระทำต่อวัตถุ โดยมที ิศขึ้นในแนวดิง่
การจมหรอื การลอย ของวตั ถุขึน้ กับน้ำหนักของวตั ถุและแรงพยุง ถ้าน้ำหนักของ วตั ถแุ ละแรงพยงุ ของ
ของเหลวมีค่าเทา่ กนั วัตถุจะลอยนิง่ อยูใ่ นของเหลว แตถ่ ้าน้ำหนักของวตั ถมุ ีค่ามากกว่าแรงพยุง ของ
ของเหลว วัตถุจะจม
4.จดุ ประสงค์การเรียนรู้
นกั เรียนสามารถ
4.1 นกั เรยี นสามารถวิเคราะหแ์ รงพยงุ และการจมการลอยของวตั ถุในของเหลวได้(k)
4.2 นกั เรยี นสามารถเขียนแผนภาพแสดงแรงที่กระทำต่อวตั ถใุ นของเหลวได้ และนักเรียน
สามารถวัดค่าจากเคร่ืองช่งั สปริงได้ P)
4.3 มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ และ ม่งุ มนั่ ในการทำงาน(A)
5. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E
ขัน้ ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (เวลา 20 นาท)ี
1.ให้นักเรียนอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับแรงพยุงของของเหลว ร่วมกันอภิปรายเพื่อนำเข้าสู่
กจิ กรรมที่ 4.9 เรือ่ ง แรงพยงุ ของ ของเหลวเป็นอย่างไร โดยอาจใชค้ ำถามดงั นี้
- คำวา่ พยุงมีความหมายวา่ อะไร (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
- แรงพยงุ ควรมที ศิ ทางใด (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
ขน้ั ท่ี 2 สำรวจและคน้ หา (เวลา 60 นาที)
1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มทำกิจกรรมกลมุ่ ละ 5 คน จำนวน 8 กลุม่
2. ให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม และตรวจสอบความ
เขา้ ใจการอา่ น โดยใชค้ ำถาม ดังตอ่ ไปน้ี
- กิจกรรมนีเ้ กยี่ วกับเรอ่ื งอะไร (แรงพยงุ ของของเหลว)
- กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อะไร (วิเคราะห์และอธิบายขนาดและทิศทางของแรงพยุงของ
ของเหลว และเขยี นแผนภาพแสดงแรงพยงุ ของของเหลว)
- วิธีการดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (แขวนดินน้ำมันกับเครื่องชั่งสปริง
อ่านค่าของแรงบนเครื่องชั่งสปริงเมื่อดินน้ำมันอยู่นิ่ง เมื่อใช้มือพยุงดินน้ำมัน และเมื่อดินน้ำมัน
จมมดิ ในน้ำพร้อมวาดแผนภาพแสดงแรงทก่ี ระทำตอ่ ดินน้ำมนั ทง้ั 3 สถานการณ์)
- นักเรียนต้องสังเกตและรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (ขนาดของแรงที่อ่านจากใช้เครื่องช่ัง
สปริงเมื่อดินน้ำมันอยู่นิ่งในอากาศ เมื่อใช้มือพยุงดินน้ำมันในอากาศ และเมื่อดินน้ำมันจมมิดใน
นำ้ )
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำกิจกรรม โดยครูควรเดินสังเกตการทำกิจกรรมของ
นักเรียนแต่ละกลุ่ม เพื่อให้คำแนะนำ ถ้านักเรียนมีข้อสงสัย และครูควรรวบรวมข้อมูลในการทำ
กจิ กรรมของนกั เรยี น เพ่อื ใช้ประกอบการอภปิ รายหลงั การทำกจิ กรรม
ข้ันที่ 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (เวลา 20 นาที)
ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทำกิจกรรม ตอบคำถามท้ายกิจกรรม และร่วมกัน
สรุปผลของกิจกรรม โดยใช้คำถามท้ายกิจกรรมเป็นแนวทาง เพื่อให้ได้ข้อสรุปจากกิจกรรมว่า
เมื่อวัตถุอยู่ในน้ำจะมีแรงพยุงจากน้ำกระทำในทิศขึ้นตามแนวดิ่ง ทำให้ค่าที่อ่านได้จากเครื่องช่ัง
สปริงเมื่อชงั่ น้ำหนักวตั ถุในน้ำมีคา่ น้อยกวา่ เม่ือชั่งวัตถุในอากาศ
ขัน้ ที่ 4 ขยายความรู้ (เวลา 20 นาท)ี
ให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเตมิ เกีย่ วกับแรงพยุงของของเหลว โดยอ่านเนื้อหาในหนังสือเรยี น
หน้า 208 ตอบคำถามระหว่างเรียน และร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับแรงที่ของเหลวกระทำต่อ
วัตถุ เพื่อให้ได้ข้อสรปุ ว่า เมื่อวัตถอุ ยู่ในของเหลว ของเหลวมีแรงกระทำต่อวัตถุในทุกทิศทาง แต่
แรงลัพธ์ที่ของเหลวกระทำต่อวัตถุมีทิศขึ้นตามแนวดิ่ง ซึ่งแรงนี้คือ แรงพยุงของของเหลว โดย
ขนาดของแรงทข่ี องเหลวพยุงวตั ถมุ ีค่าเท่ากับผลต่างของค่าของแรงที่อ่านได้ เม่อื ชั่งวัตถุในอากาศ
และในของเหลว
ข้ันที่ 5 ประเมนิ ผล
ประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรยี นจากใบบันทึกกจิ กรรม 4.9 เรอ่ื ง แรงพยุงของของเหลวเป็นอย่างไร และ
การสังเกตพฤติกรรมในระหวา่ งทำกิจกรรม
6. ส่อื การเรยี นรู้
6.1 หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 (สสวท)
6.2 Powerpoint ตำแหน่งของวตั ถุ ระยะทาง และการกระจดั
6.3 เครื่องช่ังสปรงิ
6.4 ดินนำ้ มัน
6.5 เชือก
6.6 ภาชนะใส่นำ้ ก้นลึก
7. การวัดและประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธีวดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. นกั เรียนสามารถวเิ คราะห์แรงพยุงและการจมการ
ลอยของวัตถุในของเหลวได้ (K) ตรวจใบบันทึกกิจกรรม ผ่านเกณฑ์การประเมิน
2.นักเรยี นสามารถเขยี นแผนภาพแสดงแรงทกี่ ระทำ 4.9 เรื่อง แรงพยุงของ ในระ ดับพอใชข้ ้ึนไปร้อย
ตอ่ วัตถใุ นของเหลวได้ และนักเรียนสามารถวัดค่า ของ เหลวเปน็ อยา่ งไร ละ 60
จากเคร่ืองช่ังสปรงิ ได้ P)
ตรวจใบบันทึกกิจกรรม ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4.9 ในระ ดับพอใช้ข้นึ ไปร้อย
เรื่อง แรงพยุงของของ ละ 60
เหลวเปน็ อยา่ งไร
ใบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 4.9
เร่ือง…แรงพยุงของของเหลวเป็นอยา่ งไร
วธิ ีการดำเนินกจิ กรรม
1. แขวนดนิ น้ำมนั เขา้ กับเคร่ืองชงั่ สปรงิ เมอื่ ดนิ นำ้ มนั อย่นู ิ่งอ่านค่าของแรงจากเครื่องชัง่ สปรงิ บนั ทกึ ผล
2. ใชม้ อื พยงุ ดินนำ้ มนั ข้นึ เล็กนอ้ ยเมื่อดนิ นำ้ มันอยู่นงิ่ อา่ นค่าของแรงจากเคร่อื งชั่งสปริงบันทึกผล
3. นำดนิ นำ้ มนั ท่ีแขวนกบั เครื่องช่ังสปรงิ นมุ่ ลงในนำ้ ใหจ้ มน้ำจนมดิ พอดีเมื่อดนิ นำ้ มนั อยูน่ ่ิงย่านค้าของแรง
จากเครื่องชง่ั สปริงบันทึกผล
4. วาดแผนภาพแสดงแรงท่ีกระทำต่อดนิ น้ำมนั ในข้อ 1 2 และ 3
5. วเิ คราะหจ์ ากแผนภาพหาขนาดและทิศทางของแรงพยงุ ท่ีมีอพยงุ วตั ถุและแรงพยุงทนี่ ้ำกระทำต่อวัตถุ
นำเสนอ
ผลการทำกจิ กรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..……
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. คา่ ของแรงที่อา่ นได้จากเครอ่ื งชงั่ สปริงเม่ือชัง่ ดนิ น้ำมันในอากาศและชงั่ โดยใชม้ ือพยงุ แตกตา่ งกัน
หรือไม่ เพราะเหตุใด
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. แรงทีม่ อื พยงุ วัตถุมที ศิ ทางใด และหาคา่ ของแรงท่ีมอื พยงุ ได้อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ค่าของแรงท่ีอ่านไดจ้ ากเคร่ืองชัง่ สปรงิ เม่ือช่งั ดินน้ำมนั ในอากาศและชั่งในน้ำแตกต่างกนั หรือไม่ เพราะ
เหตใุ ด
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. แรงที่นำ้ พยงุ ดินน้ำมนั มีทิศทางใดและมขี นาดเท่าใด
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. จากกิจกรรม สรุปได้ว่า
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลยใบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 4.9
เรอื่ ง…แรงพยุงของของเหลวเป็นอย่างไร
ผลการทำกิจกรรม
ค่าของแรงที่อา่ นไดจ้ ากเครื่องช่งั สปรงิ เมอื่ ชั่งดินนำ้ มันในอากาศ = 6.2 นิวตัน
คา่ ของแรงที่อ่านได้จากเครอ่ื งช่ังสปรงิ เมอ่ื ใชม้ ือพยงุ ข้นึ เล็กนอ้ ย = 4.1 นิวตนั
ค่าของแรงท่ีอ่านไดจ้ ากเครอ่ื งช่ังสปริง เม่ือชงั่ ดนิ นำ้ มนั ในน้ำ = 4.4 นิวตัน
แผนภาพแสดงแรงทก่ี ระท้าต่อดินน้ำมนั ท้ังภาพ 1 2 และ 3 วตั ถุอย่นู ิ่ง แรงลัพธ์เปน็ ศูนย์
คำถามทา้ ยกิจกรรม
1. ค่าของแรงที่อา่ นได้จากเคร่ืองชง่ั สปริงเม่ือชง่ั ดนิ น้ำมนั ในอากาศและชั่งโดยใชม้ ือพยงุ แตกตา่ งกนั
หรือไม่ เพราะเหตุใด
ค่าของแรงท่ีอ่านไดเ้ มื่อชัง่ ดินน้ำมนั ในอากาศและช่ังโดยใช้มอื พยุงแตกตา่ งกัน โดยเมอ่ื ใช้มอื พยงุ
ค่าที่อ่านไดจ้ ะน้อยลง
2. แรงท่ีมือพยุงวตั ถุมที ิศทางใด และหาค่าของแรงที่มือพยุงได้อย่างไร
แรงทม่ี ือพยุงวตั ถมุ ีทิศทางขน้ึ ในแนวดิ่ง หาค่าของแรงพยุงไดจ้ ากผลต่างของค่าของแรงท่ีอ่านได้
ในอากาศและเมื่อใช้มือพยุง
3. คา่ ของแรงท่ีอ่านได้จากเครื่องช่งั สปริงเมื่อชัง่ ดนิ น้ำมันในอากาศและช่ังในนำ้ แตกต่างกันหรอื ไม่ เพราะ
เหตุใด
ค่าของแรงท่ีอ่านได้เมื่อชง่ั ดินนำ้ มันในอากาศและในน้ำไม่เทา่ กัน เพราะมีแรงที่น้ำพยงุ ไว้
4. แรงท่นี ้ำพยุงดนิ น้ำมันมีทิศทางใดและมขี นาดเท่าใด
แรงท่นี ้ำพยุงดินนำ้ มันมที ิศข้ึนในแนวด่งิ ขนาดของแรงที่น้ำพยงุ ดนิ นำ้ มนั มคี ่าเท่ากบั ผลต่างของ
คา่ ของแรงที่อ่านได้ เมื่อชัง่ ดินน้ำมันในอากาศและในน้ำ
5. จากกจิ กรรม สรปุ ได้วา่
เมอื่ วตั ถุอยใู่ นของเหลวจะมีแรงพยงุ ของของเหลวกระทำต่อวัตถุในทิศขน้ึ ตามแนวด่ิง ทำให้ค่าท่ี
อ่านไดจ้ ากเคร่ืองชัง่ สปริงเม่ือชัง่ นำ้ หนกั วัตถุในนำ้ มีคา่ น้อยกวา่ เมอ่ื ช่งั วัตถุในอากาศ
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 30
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1
รหสั วชิ า ว22101
หน่วยการเรียนท่ี 4 เร่ือง การเคลือ่ นที่และแรง เวลา 21 ชัว่ โมง
บทที่ 2 แรงในชีวิตประจำวนั
เรอื่ งท่ี 4 แรงพยงุ ของของเหลว 2 เวลา 1 ช่วั โมง
วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2565 ผใู้ ชแ้ ผน นางสาวบญุ ญรตั น์ นามศรีอนุ่
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ
ลกั ษณะการเคลอื่ นท่ีแบบตา่ งๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
2. ตวั ชี้วัดชนั้ ปี
ม.2/4 วิเคราะห์แรงพยงุ และการจมการลอยของวตั ถุในของเหลวจากหลกั ฐานเชิงประจักษ์
3. สาระสำคัญ
เมื่อวัตถุอยู่ในของเหลว จะมีแรงพยุงเนื่องจากของเหลว กระทำต่อวัตถุ โดยมีทิศขึ้นใน
แนวดิ่ง การจมหรือการลอย ของวัตถุขึ้นกับน้ำหนักของวัตถุและแรงพยุง ถ้าน้ำหนักของ วัตถุ
และแรงพยุงของของเหลวมีค่าเท่ากัน วัตถุจะลอยนิง่ อยู่ในของเหลว แต่ถ้าน้ำหนักของวัตถุมีค่า
มากกว่าแรงพยุง ของของเหลว วัตถุจะจม
4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
นกั เรยี นสามารถ
4.1 นกั เรียนสามารถวิเคราะหแ์ รงพยงุ และการจมการลอยของวตั ถุในของเหลวได้ (K)
4.2 นกั เรยี นสามารถลงข้อสรปุ จากข้อมลู ได้ (P)
4.3 มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน(A)
5. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E
ขั้นท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (เวลา 5 นาท)ี
1. นำเข้าสู่การทำกิจกรรมที่ 4.10 เรื่อง ปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อขนาดของแรงพยุงของ
ของเหลว โดยอาจยกสถานการณ์ที่ คนสามารถลอยอยู่ในทะเลสาบเดดซี (Dead Sea) และให้
นักเรียนร่วมกนั อภปิ รายวา่ เปน็ เพราะเหตุใด โดยครูยังไม่เฉลยคำตอบ
ขัน้ ที่ 2 สำรวจและค้นหา (เวลา 40 นาที)
1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มทำกิจกรรมกลุม่ ละ 5 คน จำนวน 8 กลุ่ม
2. ให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตอนที่ 1 และ
ตรวจสอบความเข้าใจการอา่ น โดยใช้คำถาม ดังตอ่ ไปน้ี
- กจิ กรรมนเี้ ก่ียวกบั เรอ่ื งอะไร (ปัจจัยที่มผี ลตอ่ ขนาดของแรงพยุงของของเหลว)
- กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อะไร (วิเคราะห์และอธิบายปัจจัยที่มีผลต่อขนาดของแรงพยุง
ของของเหลว)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (ตอนที่ 1 ปั้นดินน้ำมันเป็นแท่งสี่เหลี่ยม
หรือทรงกระบอก ผูกด้วยเชอื กแล้วเก่ยี วกบั เครื่องช่ังสปริง อ่านค่าของแรงบนเคร่ืองช่ังสปริงเม่ือ
ถอื เครอ่ื งชง่ั ใหน้ ิง่ ในอากาศและเม่ือถอื เคร่ืองชงั่ ให้นงิ่ ในขณะทดี่ ินน้ำมันจมลงในน้ำเปน็ 1/4 1/2
3/4 ของแท่งดินน้ำมันจมมิดทั้งก้อน และจมต่อไปอีกจนเกือบถึงก้นภาชนะ และหาค่าของแรง
พยงุ ของนำ้ )
- นักเรียนต้องสังเกตและรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (ตอนที่ 1 ขนาดของแรงที่อ่านจากใช้
เครื่องชั่งสปริงเมื่อดินน้ำมันอยู่นิ่งในอากาศ เมื่อดินน้ำมันจมลงในน้ำเป็น 1/4 1/2 3/4 ของ
แท่งดินน้ำมัน เมื่อดินน้ำมันจมมิดทั้งก้อน และเมื่อดินน้ำมันจนต่อไปจนเกอื บถึงก้นภาชนะ และ
หาคา่ ของแรงพยงุ ของน้ำ)
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำกิจกรรม โดยครูควรเดินสังเกตการทำกิจกรรมของ
นกั เรยี นแต่ละกลุ่ม เพื่อใหค้ ำแนะนำ
4. ให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตอนที่ 2 และ
ตรวจสอบความเขา้ ใจการอา่ น โดยใช้คำถาม ดังต่อไปน้ี
- กจิ กรรมนี้เก่ียวกับเร่อื งอะไร (ปจั จัยท่มี ีผลต่อขนาดของแรงพยงุ ของของเหลว)
- กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อะไร (วิเคราะห์และอธิบายปัจจัยที่มีผลต่อขนาดของแรงพยุง
ของของเหลว)
- วธิ ีดำเนินกิจกรรมมีข้นั ตอนโดยสรุปอย่างไร (ชั่งดินน้ำมนั ท้ังก้อนในน้ำ และคาดการณ์
คา่ ท่อี ่านได้ เมอื่ เตมิ เกลือในปรมิ าณตา่ งๆ เปรยี บเทียบกับคา่ ของแรงทอี่ ่านได้ในตอนท่ี 1 เม่ือดิน
นำ้ มันจมทั้งกอ้ น ทำกิจกรรมตรวจสอบ การพยากรณ์ พร้อมหาคา่ แรงพยุงของของเหลว)
- นักเรียนต้องสังเกตและรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (ขนาดของแรงที่อ่านจากใช้เครื่องชั่ง
สปริงเมอ่ื ดนิ น้ำมันจมมดิ ท้งั ก้อนในน้ำ เม่อื ดินน้ำมนั จมมดิ ทั้งก้อนในน้ำเกลือท่ีมคี วามเข้มข้นน้อย
และเมื่อดินน้ำมนั จมมิดท้ังก้อนในน้ำเกลือที่มีความเขม้ ข้นมาก)
5. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำกิจกรรม โดยครูควรเดินสังเกตการทำกิจกรรมของ
นักเรียนแต่ละกลมุ่ เพื่อให้คำแนะนำ
ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (เวลา 10 นาท)ี
ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทำกิจกรรม ตอบคำถามท้ายกิจกรรม และร่วม
สรปุ ผลการทำกจิ กรรม
ข้ันที่ 4 ขยายความรู้ (เวลา 5 นาที)
ครูกล่าวว่า ปัจจัยที่มีผลตอ่ ขนาดของแรงพยุงของของเหลว คือ ปริมาตรของวัตถสุ ว่ นที่
จมในของเหลวและความหนาแน่นของของเหลว และเมื่อแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุเป็นศูนย์ น่ัน
คือ แรงพยุงของของเหลวจะมีขนาดเท่ากับน้ำหนักวัตถุ วัตถุนั้นจะลอยอยู่นิ่งในของเหลว ส่วน
วัตถทุ ี่จมลงไปในของเหลวเป็นเพราะนำ้ หนักของวัตถุมากกว่าแรงพยงุ ของของเหลว
ข้ันที่ 5 ประเมินผล
ประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรยี นจากใบบนั ทึกกิจกรรม 4.10 เร่อื ง ปัจจัยใดบ้างที่มีผล
ตอ่ ขนาดของแรงพยงุ ของของเหลว และการสงั เกตพฤติกรรมในระหว่างทำกจิ กรรม
6. สื่อการเรยี นรู้
6.1 หนังสือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 (สสวท)
6.2 Powerpoint ตำแหน่งของวัตถุ ระยะทาง และการกระจัด
6.3 เครอื่ งชั่งสปรงิ
6.4 ดินน้ำมัน
6.5 เชือก
6.6 ภาชนะใสน่ ้ำก้นลึก
6.7 เกลอื ป่น
ใบบันทกึ กจิ กรรมท่ี 4.10
เร่ือง…ปจั จยั ใดบ้างทม่ี ีผลตอ่ ขนาดของแรงพยุงของของเหลว
ตอนท่ี 1
วธิ กี ารดำเนินกจิ กรรม
1. ปัน้ ดินนำ้ มนั เปน็ รปู ทรงส่ีเหลยี่ มหรอื ทรงกระบอกผกู เชือกสำหรับเกี่ยวเครอ่ื งช่ังสปรงิ
2. ชง่ั ดินนำ้ มนั ดว้ ยเครื่องชง่ั สปรงิ สงั เกตคา่ ที่อ่านไดจ้ ากเคร่ืองช่งั สปริงบนั ทึกผล
3. ชง่ั ดนิ นำ้ มนั ในนำ้ ดว้ ยเคร่ืองชัง่ สปริงโดยให้จมลกึ ลงไป 4 5 34 ของแท่งดนิ น้ำมนั และจมลงไปทงั้ กอ้ น
ตามลำดับบันทึกคา่ ของแรงท่ีอา่ นไดจ้ ากเคร่ืองชัง่ สปรงิ และแรงพยุง
4. ชงั่ ดนิ นำ้ มันในนำ้ เม่ือดินน้ำมันจมในน้ำทั้งก้อนแล้วใหจ้ มลงไปอีกจนเกือบถงึ กน้ ภาชนะบนั ทึกค่าของ
แรงท่อี ่านได้จากเคร่ืองชง่ั สปริงและแรงพยงุ
ผลการทำกิจกรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. เมือ่ ดินน้ำมนั จมลึกลงไปมากข้ึน ๆ จนกระทงั่ จมมิดทั้งก้อน ค่าของแรงพยงุ ของของเหลวเปน็ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
2. คา่ ของแรงพยงุ ของของเหลวมีความสมั พนั ธก์ ับปริมาตรของดินนำ้ มันสว่ นท่ีจมอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
3. ค่าของแรงพยุงของของเหลวเมอื่ ดนิ น้ำมนั จมท้งั ก้อนท่ีระดับความลึกต่าง ๆ เท่ากนั หรือไม่ ทำไมถึง
เปน็ เช่นนนั้
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. จากกิจกรรมตอนที่ 1 สรุปได้วา่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตอนท่ี 2
วิธีการดำเนินกจิ กรรม
1. ชงั่ ดนิ นำ้ มนั ด้วยเครอ่ื งชงั่ สปรงิ อา่ นคา่ ของแรงจากเครื่องชง่ั สปริง บันทึกผล
2. ชั่งดินน้ำมันในนำ้ ดว้ ยเครอื่ งชงั่ สปรงิ โดยให้ดินนำ้ มนั จมท้ังกอ้ นอ่านค่าของแรงจากเครื่องชง่ั สปรงิ หา
คา่ แรงพยงุ ของน้ำ บันทึกผล
3. คาดการณ์ค่าของแรงทีอ่ ่านได้จากเครื่องช่ังสปรงิ เปรยี บเทยี บกบั ค่าของแรงทอ่ี า่ นไดใ้ นขอ้ 1 เม่ือเติม
เกลือลงไปในน้ำ
4. เตมิ เกลือลงไปในนำ้ ดว้ ยอัตราสว่ นเกลอื 80 กรัมตอ่ นำ้ 1 ลิตรคนให้เกลือละลายจนหมดจากน้ันชง่ั ดนิ
น้ำมนั ทล่ี ุม่ ในนำ้ เกลอื ท้งั ก้อนดว้ ยเครื่องชั่งสปรงิ อา่ นค่าจากเครื่องช่ังสปรงิ หาคา่ แรงพยงุ ของน้ำเกลือ
บันทกึ ผล
5. พยากรณ์คา่ ของแรงทอี่ ่านไดจ้ ากเครอื่ งช่งั สปรงิ ถา้ เติมเกลอื ลงไปอีกเทา่ ตัวเปรยี บเทียบกบั คา่ ของแรงท่ี
อ่านได้ในข้อ 3
6. เตมิ เกลือลงไปในน้ำอีกเทา่ ตวั คนให้เกลือละลายจนหมดซ่งึ วัตถุท่จี ่มุ ในน้ำเกลือท้งั ก้อนดว้ ยเคร่อื งชั่ง
สปริงอ่านค่าของแรงจากเครื่องช่ังสปริงหาค่าแรงพยุงของนำ้ เกลือ บนั ทึกผล
ผลการทำกิจกรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. เมอ่ื ชง่ั ดินน้ำมนั ในน้ำและในนำ้ เกลือ ขนาดของแรงพยงุ ของของเหลวเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
2. เมือ่ เตมิ เกลอื ลงไปในน้ำเกลืออีก ความหนาแน่นของน้ำเกลือจะเปลย่ี นแปลงหรอื ไม่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
3. เม่อื เติมเกลอื ลงไปในนำเกลืออีก ขนาดของแรงพยงุ ของน้ำเกลอื จะเปล่ยี นแปลงหรอื ไม่ อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
4. จากกจิ กรรมตอนที่ 2 สรุปไดว้ ่าอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
5. จากกิจกรรมทัง้ 2 ตอน สรุปได้วา่ อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
เฉลยใบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 4.10
เร่อื ง…ปจั จยั ใดบา้ งทม่ี ีผลตอ่ ขนาดของแรงพยุงของของเหลว
ตอนท่ี 1
ผลการทำกจิ กรรม
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. เมอื่ ดนิ น้ำมันจมลึกลงไปมากขนึ้ ๆ จนกระทัง่ จมมิดท้ังก้อน คา่ ของแรงพยุงของของเหลวเปน็ อย่างไร
ค่าของแรงพยงุ ของของเหลวจะมากข้นึ ๆ และมากท่ีสดุ เม่ือจมมดิ ทั้งกอ้ น
2. คา่ ของแรงพยุงของของเหลวมีความสัมพันธ์กับปริมาตรของดินนำ้ มันส่วนท่ีจมอย่างไร
ค่าของแรงพยงุ ของของเหลวจะเพิ่มข้ึน เม่ือปริมาตรสว่ นท่ีจมเพิม่ ข้ึน
3. ค่าของแรงพยงุ ของของเหลวเม่อื ดินน้ำมันจมท้งั ก้อนทร่ี ะดบั ความลึกต่าง ๆ เท่ากันหรอื ไม่ ทำไมถงึ
เป็นเชน่ นัน้
ค่าของแรงพยงุ ของของเหลว เมื่อดนิ น้ำมันจมทัง้ ก้อนท่รี ะดับความลึกต่างๆ จะเท่ากัน เพราะมี
ปรมิ าตรสว่ นที่จมเท่ากัน โดยเท่ากับปรมิ าตรของดินนำ้ มันท้งั ก้อน
4. จากกจิ กรรมตอนที่ 1 สรุปไดว้ า่ อย่างไร
แรงพยุงของของเหลวจะมีค่ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กบั ปรมิ าตรสว่ นทีจ่ มของวตั ถุ โดยถ้าปริมาตร
สว่ นจมมคี ่ามาก แรงพยุงของของเหลวก็จะมคี ่ามากดว้ ย
ตอนท่ี 2
คำถามทา้ ยกิจกรรม
1. เมื่อชงั่ ดินนำ้ มนั ในน้ำและในนำ้ เกลอื ขนาดของแรงพยงุ ของของเหลวเหมือนหรือแตกตา่ งกนั อยา่ งไร
เมื่อช่ังดนิ นำ้ มันในนำ้ และในน้ำเกลอื แรงพยุงของของเหลวจะแตกต่างกัน โดยแรงพยงุ ของ
น้ำเกลอื จะมากกวา่ แรงพยุงของนำ้
2. เมอ่ื เตมิ เกลอื ลงไปในนำ้ เกลอื อีก ความหนาแนน่ ของน้ำเกลือจะเปล่ยี นแปลงหรือไม่ อยา่ งไร
เมื่อเติมเกลือลงไปในน้ำเกลือ ความหนาแน่นของนำ้ เกลือจะเพ่ิมขน้ึ อกี เพราะมีมวลของเกลอื
เพ่ิมขน้ึ
3. เมอ่ื เติมเกลือลงไปในนำเกลืออีก ขนาดของแรงพยุงของนำ้ เกลอื จะเปลย่ี นแปลงหรือไม่ อยา่ งไร
เปลี่ยนแปลงโดยเม่อื เติมเกลือลงไปในนำ้ เกลืออกี แรงพยุงของน้ำเกลือจะเพม่ิ ขึ้นอีก
4. จากกิจกรรมตอนที่ 2 สรุปไดว้ ่าอยา่ งไร
แรงพยุงของของเหลวจะมากหรอื น้อย ขนึ้ อยู่กบั ความหนาแน่นของของเหลวนน้ั ๆ โดยของเหลว
ที่มี ความหนาแนน่ มากจะมีแรงพยงุ มาก
5. จากกจิ กรรมท้งั 2 ตอน สรุปไดว้ า่ อยา่ งไร
แรงพยุงของของเหลวจะมีค่ามากหรอื น้อยขน้ึ อยู่กบั ปรมิ าตรของวตั ถสุ ว่ นจม โดยแรงพยุงของ
ของเหลวจะมคี า่ มาก ถา้ ปริมาตรของวัตถุสว่ นท่ีจมมีค่ามาก นอกจากนน้ั แรงพยุงของของเหลวยงั ขึน้ กบั
ความหนาแนน่ ของของเหลวท่วี ัตถนุ ้ันจมอยู่ โดยแรงพยุงของของเหลวจะมีค่ามาก ถา้ ความหนาแน่นของ
ของเหลวมีค่ามาก
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 31
กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1
รหสั วิชา ว22101
หน่วยการเรียนที่ 4 เรอ่ื ง การเคลอ่ื นท่แี ละแรง เวลา 21 ชัว่ โมง
บทท่ี 2 แรงในชีวติ ประจำวนั
เรื่องที่ 5 โมเมนต์ของแรง 1 เวลา 2 ช่ัวโมง
วนั ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2565 ผใู้ ช้แผน นางสาวบุญญรัตน์ นามศรอี ุ่น
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ิตประจำวัน ผลของแรงท่กี ระทำต่อวัตถุ ลักษณะการ
เคล่ือนท่ีแบบตา่ งๆ ของวัตถุ รวมท้งั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
2. ตวั ชี้วดั ช้นั ปี
ม.2/10 ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบายโมเมนต์ของ
แรง เมื่อวัตถอุ ยใู่ นสภาพสมดลุ ต่อการหมนุ และคำนวณโดยใชส้ มการ M = Fl
3. สาระสำคญั
การทำให้วตั ถุหมนุ ด้วยค่าโมเมนต์ของแรงคา่ หนึ่ง ถา้ เพ่มิ ระยะห่างของแนวแรงท่ีกระทำ
จากจุดหมุน จะออกแรงนอ้ ยกว่าการออกแรงกระทำต่อวตั ถุท่รี ะยะใกลจ้ ุดหมนุ ตวั อย่างเช่น การ
เปดิ ประตูหนไี ฟ
4.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
นักเรยี นสามารถ
4.1 นักเรยี นสามารถอธบิ ายขนาดและทศิ ทางของการหมุนของโมเมนตข์ องแรงได้ (K)
4.2 นักเรยี นสามารถวัดคา่ จากเครือ่ งช่งั สปริงได้ (P)
4.3 มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และ มงุ่ ม่ันในการทำงาน(A)
5. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E
ช่วั โมงที่ 1
ข้นั ที่ 1 สร้างความสนใจ (เวลา 20 นาท)ี
1. ให้นักเรียนสังเกตภาพนำเรื่องอ่านเนื้อหานำเรื่องและคำสำคัญ และทำกิจกรรม
ทบทวน ความรู้ก่อนเรียนเกี่ยวกับแรงลัพธ์ แล้วร่วมกัน อภิปรายเพื่อให้ไดค้ ำตอบที่ถูกต้อง หาก
พบวา่ นกั เรียนยังมีความรู้พน้ื ฐานไม่ถูกต้อง ครูควรทบทวนหรือแก้ไขความเขา้ ใจผิดของนักเรียน
เพือ่ ใหน้ ักเรียนมีความรพู้ นื้ ฐานทถ่ี ูกต้อง และเพียงพอทจ่ี ะเรยี นเร่ืองโมเมนต์ของแรงตอ่ ไป
2. กระตุ้นความสนใจของนักเรียน โดยใหน้ กั เรียนคาดการณผ์ ลการออกแรงผลักหนังสือ
ที่วางบนโต๊ะหน้าชั้นเรียนที่ ตำแหน่งต่างกัน เช่น ด้านใดด้านหนึ่งของสันหนังสือโดยให้อีกด้าน
ตรึงอยกู่ ับที่ จุดก่งึ กลางของสันหนงั สอื แล้วครูสาธติ การออกแรงผลักหนงั สอื ที่ตำแหน่งตา่ งๆ โดย
ให้นักเรยี นสงั เกตการเคลอื่ นทท่ี ี่เกิดขน้ึ จากน้ันรว่ มกันอภปิ ราย โดยใช้คำถามดงั น้ี
- จากผลการสาธติ สอดคล้องกับส่งิ ที่นักเรียนคาดการณ์ไวห้ รือไม่ อยา่ งไร
- การออกแรงผลักหนังสือตำแหน่งใด ทำให้หนังสือเคลื่อนที่ไปข้างหน้า และการออก
แรงผลักตำแหน่งใดทำให้ หนังสือเกิดการเคลื่อนที่แบบหมุน (การออกแรงผลักตรงจุดกึ่งกลาง
ของสันหนังสือทำใหห้ นังสือเคล่ือนท่ีไป ข้างหน้า ส่วนการออกแรงผลกั ที่มุมขวาและซ้ายของสนั
หนังสอื โดยอีกดา้ นตรึงอยู่กบั ที่ทำให้หนังสอื เกิด การเคลอื่ นทีแ่ บบหมนุ )
- เพราะเหตุใด การออกแรงผลักที่ด้านใดด้านหนึ่งของสันหนังสือที่อีกด้านตรึงอยู่กับที่
ทำใหห้ นงั สือเกดิ การเคลอ่ื นที่ แบบหมนุ (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
- การออกแรงผลักที่ด้านใดด้านหนึ่งของสันหนังสือให้จุดกึ่งกลางสันหนังสืออยู่กับที่ทำ
ใหห้ นงั สือหมุนแตกต่างกนั หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
ขนั้ ที่ 2 สำรวจและคน้ หา (เวลา 60 นาท)ี
1. ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ทำกจิ กรรมกลุ่มละ 5 คน จำนวน 8 กลุ่ม
2. ให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม และตรวจสอบความ
เขา้ ใจการอา่ น โดยใชค้ ำถาม ดังตอ่ ไปนี้
- กจิ กรรมนเ้ี ก่ยี วกับเรอื่ งอะไร (ขนาดและทิศทางของการหมนุ ของโมเมนต์ของแรง)
- กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อะไร (อธิบายขนาดและทิศทางของการหมุนของโมเมนต์ของ
แรง)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (ผูกเชือกที่ปลายด้านหนึ่งของแท่งเหล็ก
ใช้เครื่องชั่งสปริงเกี่ยวที่ปลายเชือกด้านนั้นและวางแท่งเหล็กให้ปลายอีกด้านหนึ่งชิดวัตถุหนกั ๆ
ออกแรงดึงเคร่ืองชงั่ สปริงข้ึนในแนวดิ่งใหป้ ลายแทง่ เหล็กสูงจากพื้น 1 เซนติเมตร สังเกตลักษณะ
การเคลื่อนที่ของแท่งเหล็กและอ่านค่าของแรงจากเครื่องชั่งสปริง วัดระยะทางจาก ปลายแท่ง
เหล็กที่ชิดวัตถุหนักถึงจุดที่เกี่ยวเครื่องชั่งสปริง แล้วทำซ้ำแต่เปลี่ยนตำแหน่งที่เกี่ยวเครื่องช่ัง
สปริง 3 ตำแหนง่ โดยไม่ใหเ้ กินจดุ กึ่งกลางของแท่งเหล็ก แล้วหาผลคูณของขนาดของแรง ท่ีอ่าน
ได้กับระยะทางจากปลายแทง่ เหล็กดา้ นชิดวตั ถุหนักถึงจุดที่เกี่ยวเครื่องช่งั สปริง)
- นักเรียนต้องสังเกตหรือรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (ลักษณะการเคลื่อนที่ของแท่งเหล็ก
ขนาดของแรงกระทำ และระยะห่างระหว่างปลายแท่งเหล็กด้านชิดวัตถุหนักถึงจุดที่เกี่ยวเครื่อง
ช่งั สปริง)
ชวั่ โมงที่ 2
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มกำหนดคำถามเพื่อนำไปสู่การสำรวจตรวจสอบ เช่น ตำแหน่ง
การออกแรงดึงเครื่องชั่งสปริงที่แตกต่างกัน มีผลต่อขนาดของแรงอย่างไร จากนั้นวางแผนและ
ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ และตอบคำถามดังกล่าว โดยครูควรเดินสังเกตการทำกิจกรรมของ
นักเรียนแต่ละกลุ่มเพื่อให้คำแนะนำหากนักเรียนมีข้อสงสัย และครูควรรวบรวมข้อมูลเหล่าน้ัน
เพอ่ื ใช้ประกอบการอภิปรายหลงั การทำกจิ กรรม
ข้ันที่ 3 อธิบายและลงข้อสรปุ (เวลา 20 นาที)
ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลจากการทำกิจกรรม ตอบคำถามท้ายกิจกรรม และ
ร่วมกันสรุปผลของกิจกรรม โดยใช้คำถามท้ายกิจกรรมเป็นแนวทาง จากนั้นอภิปรายเพื่อตอบ
คำถามว่า โมเมนตข์ องแรงคอื อะไร มที ิศทางอยา่ งไร เพื่อใหไ้ ด้ข้อสรุปจากกจิ กรรมวา่ เม่ือเปลี่ยน
ตำแหน่งที่ออกแรงดึง ค่าของแรงก็เปลี่ยนไป โดยย่ิงเข้าใกล้จุดที่ติดกับวัตถุหนักๆ ที่เป็นจุดยึด
แท่งเหล็ก แรงที่ออกก็จะมากข้ึน โดยผลคูณระหว่างขนาดของแรงที่กระทำต่อวัตถุกับระยะทาง
จากจุดที่เกี่ยวเครื่องชั่งสปริงไปยังจุดที่ติดกับวัตถุมีค่าคงที่ ทำให้แท่งเหล็กเกิดการหมุนโดยมี
ตำแหน่งทต่ี ิดกบั วัตถเุ ปน็ จุดหมุน และผลคูณทไ่ี ดม้ ีหน่วยเปน็ นวิ ตนั เมตร
ขั้นท่ี 4 ขยายความรู้ (เวลา 20 นาท)ี
ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อวิเคราะห์การใช้งานกับการหมุนของวัตถุใน
ชีวิตประจำวัน เชน่ การใชป้ ระแจในการหมุนนอต การออกแรงเพื่อเปิดปดิ ประตูแบบท่ีมีบานพับ
โดยอาจใชค้ ำถามว่า ในการใช้งานวัตถุดังกลา่ ว ตำแหน่งใดคอื จดุ หมนุ และตำแหน่งใดคือจดุ ที่ควร
ออกแรงกระทำ และถ้าต้องการให้ได้การหมุนที่เหมือนกัน ระยะห่างของแรง ที่กระทำจากจุด
หมุนน้อยหรือมากมีผลต่อขนาดของแรงกระทำหรือไม่ อย่างไร เพราะเหตุใดการใช้งานประแจ
และการเปิดปิดประตูแบบท่ีมีบานพับ นักเรียนควรออกแรงกระทำที่ตำแหน่งห่างจากบานพับ
มากๆ เพื่อใหไ้ ด้ข้อสรุปว่า ในการทำใหว้ ัตถุหมุนดว้ ยค่าโมเมนต์ของแรงค่าหน่ึง ถ้าเพิ่มระยะห่าง
ของแนวแรงที่กระทำจากจุดหมุน จะออกแรงน้อยกว่าการออกแรงกระทำต่อวัตถุที่ระยะใกล้จุด
หมนุ ตัวอย่างเชน่ การเปดิ ประตหู นีไฟ ประตจู ะเปดิ ได้ด้วยโมเมนต์ของแรงค่าหน่งึ ถ้าออกแรงที่
บานประตูที่ตำแหน่งไกลจากบานพับหรือจุดหมุนก็จะเปิดได้ง่าย เพราะออกแรงน้อย กว่าการ
ออกแรงที่กลางประตูหรือบริเวณที่อยู่ใกล้กับบานพับ และทิศทางการหมุนของวัตถุจะเรียกตาม
ทศิ ทางการเคล่อื นที่ของเขม็ นาฬกิ า ไดแ้ ก่ ทิศทางตามเข็มนาฬกิ าและทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
ขน้ั ที่ 5 ประเมนิ ผล
ประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนจากใบบนั ทึกกิจกรรม 4.11 เรอื่ ง โมเมนต์ของแรงคือ
อะไร และการสังเกตพฤตกิ รรมในระหว่างทำกิจกรรม
6. ส่อื การเรียนรู้
6.1 หนงั สือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 (สสวท)
6.2 Powerpoint ตำแหนง่ ของวัตถุ ระยะทาง และการกระจดั
6.3 เครื่องช่ังสปรงิ
6.4 แท่งเหลก็
6.5 เชอื ก
7. การวัดและประเมินผล
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ วี ดั เกณฑก์ ารประเมิน
1. นักเรยี นสามารถอธิบายขนาด ตรวจใบบันทึกกิจกรรม 4.11 ผ่านเกณฑ์การประเมินในระ ดับพอใช้ขึ้นไป
และทิศทางของการหมุนของ เรื่อง โมเมนตข์ องแรงคอื อะไร ร้อยละ 60
โมเมนตข์ องแรงได้ (K)
2. นักเรียนสามารถวดั คา่ จาก ตรวจใบบันทึกกิจกรรม 4.11 ผ่านเกณฑ์การประเมินในระ ดับพอใช้ขึ้นไป
เคร่ืองชงั่ สปรงิ ได้ (P) เร่อื ง โมเมนต์ของแรงคอื อะไร ร้อยละ 60