The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำนานครูช่างดนตรีไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ปุราณะ PURANA, 2023-12-30 04:12:33

วาทิต ไทรวิมาน

วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำนานครูช่างดนตรีไทย

วาทิทิตทิทิ (ช่ช่า ช่ า ช่ งจ้จ้อ จ้ อ จ้ น) ไทรวิวิมวิวิาน ตำตำตำตำนานครูรูรูช่รูช่ช่าช่งดนตรีรีรีไรีทย


อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๕ ณ เมรุวัดบางพลีใหญ่กลาง จ.สมุทรปราการ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ๑๗ กรกฎาคม ๒๔๙๕ - ๑๔ มีนมีาคม ๒๕๖๕


ชีวประวัติและผลงาน นายวาทิต ไทรวิมาน ๔ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ประวัติส่วนตัว นายวาทิต ไทรวิมาน (นามเดิม จ้อน ไทรวิมาน) เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๙๕ ที่บ้าน เลขที่ ๑๐ หมู่ ๙ ตำ บลบางไทรป่า อำ เภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรของนายแจ่ม ไทรวิมาน นางชั้น ไทรวิมาน นายวาทิต ไทรวิมาน หรือ ช่างจ้อน เป็นบุตรคนที่ ๖ ของนายแจ่มและนางชั้น ไทรวิมาน มีพี่น้อง ๙ คน ได้แก่ นายจอม ไทรวิมาน นายจวง ไทรวิมาน นางลี้ ปรีดี นายจำ เริญ ไทรวิมาน นางแต๊ว ดีประเสริฐ นายไวท์ ไทรวิมาน นางสมนึก สดุดี และนางนิ่ม กันหะคุณ บิดามารดาประกอบอาชีพเกษตรกร สมรสกับนางกานดา ไทรวิมาน (นามสกุลเดิม ไวสูงเนิน) มีบุตรรวม ๓ คนได้แก่ นายศุภาพล ไทรวิมาน (ชื่อเดิม จิตรฤทัย ช่างโจ) / นายศุภกิจ ไทรวิมาน (เสียชีวิต) / นายนพดล ไทรวิมาน (ช่างเจี๊ยบ) สมรสกับนางประไพ (นามสกุลเดิม ภู่เงิน) มีบุตร ๑ คนได้แก่ นายนิรันดร์ ไทรวิมาน (ช่างจ้อย) สมรสกับนางบุศดี ไทรวิมาน (นามสกุลเดิม ศรีเจริญ) มีบุตรธิดารวม ๓ คน ได้แก่ นางจุฑามาศ (จุ๊) อ้วนเส้ง / นายธนธัส ไทรวิมาน (ช่างเจมส์) / นายเจตจันทร์ ไทรวิมาน (ช่างเจ๊ก) สมรสกับนางพิมลวรรณ ไทรวิมาน (นามสกุลเดิม วาดบุญมา) มีธิดา ๑ คนได้แก่ นางสาวจารุนันท์ ไทรวิมาน (จิ๊บ) ประวัติการศึกษา พ.ศ. ๒๕๑๑ ระดับดั ประถมศึกศึษาปีที่ปีที่ ๔ โรงเรียรีนวัดวับางไผ่นผ่ารถ ตำ บลบางไทรป่าป่อำ เภอบางเลน จังจัหวัดวันครปฐม พ.ศ. ๒๕๓๘ ปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาวิชาดนตรี) มหาวิทยาลัยราชภัฏ จันทรเกษม พ.ศ. ๒๕๖๒ ปริญญาศิลปศาตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาสารคาม ประวัติการทำ งาน ปฐมบทบนเส้นส้ทางดนตรี บิดบิาของช่าช่งจ้อจ้น นายแจ่มจ่ ไทรวิมวิานเป็นป็ผู้มีผู้คมีวามรู้ครู้วามสามารถในการบรรเลงดนตรีไรีทย โดยเฉพาะ การเป่าป่ขลุ่ยลุ่ และบรรเลงซอเป็นป็นักนัดนตรีปรีระจำ ท้อท้งถิ่น ถิ่ อำ เภอบางเลน จังจัหวัดวันครปฐม เมื่อ มื่ บิดบิาว่าว่งจากงาน ประจำ ก็จก็ะมานั่ง นั่ เล่นล่ดนตรี ทำ ให้ช่ห้าช่งจ้อจ้นมีคมีวามรักรัและชื่น ชื่ ชอบดนตรีไรีทยตั้ง ตั้ แต่วัต่ยวัเยาว์ ช่าช่งจ้อจ้นเคยเล่าล่ ให้ผู้ห้เผู้ขียขีน ฟังฟัว่าว่ “เมื่อผมอายุได้ ๖ ขวบ พอจำ ความได้ เห็นคุณพ่อสีซอด้วงและเป่าขลุ่ย ผมจำ จากเพลงจากคุณพ่อ เวลาขลุ่ยได้หลายเพลง เช่น จรเข้หางยาว สุดสงวน นางครวญ แขกมอญบางขุนพรหม เขมรพวง โหมโรง ไอยเรศ เป็นต้น เรื่องซอด้วงผมสีไม่เป็นเพลงเพราะว่าเมื่อคุณพ่อเลิกสีก็จะลดสายทั้งสองเส้นลงเสียงของ สายซอก็จะเพี้ยน ทำ ให้ผมสีไม่เป็นเพลง ผมพยายามและสังเกตการเทียบสายอยู่หลายครั้งก็ทำ ไม่ได้ อยู่มา วันหนึ่งพี่ชายพาควายไปทุ่งแล้วเกิดเหตุควายออกไปกินข้าวของชาวบ้าน พ่อกำ ลังนั่งสีซออยู่ พอรู้ว่าควาย


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๕ ไปกินข้าวชาวบ้านก็รีบวางซอไปดูควายโดยไม่ได้ลดสายซอลง ผมเลยได้โอกาสช่วงนั้นหยิบซอมาฝึกสีอยู่ ราว ๆ สองชั่วโมง ตั้งแต่วันนั้นมาผมก็ตั้งสายได้เองเพราะจำ เสียงได้ หลังจากวันนั้นผมก็ขอต่อเพลงกับคุณ พ่อ ก็ได้เรียนเพลงมาประมาณหนึ่ง สำ หรับเรื่องขลุ่ยผมไปหัดกับคุณอาชื่อ เวก ไทรภู่ทอง เป็นคนที่เป่า ขลุ่ยได้ไพเราะและได้เพลงมาก คุณอาไม่เคยหวงวิชาความรู้อยากได้เพลงอะไรก็ต่อให้ทีละวรรคทีละตอน” ก้าวแรกสู่ดุริยบรรณ เป็นที่ทราบกันว่าช่างจ้อนเป็นช่างที่มีความรู้ความสามารถในการผลิตเครื่องดนตรีไทยได้หลายชนิด ด้วยการได้ฝึกหัดการทำ เครื่องดนตรีและซ่อมเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ จากร้านดุริยบรรณ ดังบทสัมภาษณ์ ช่างจ้อนที่ได้กล่าวถึงความทรงจำ ที่เกี่ยวข้องกับร้านดุริยบรรณดังนี้ “ในช่วช่งปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ผมเรียรีนจบโรงเรียรีนประชาบาล วัดวับางไผ่นผ่ารถ ที่อำ ที่ อำเภอบางเลน จังจัหวัดวั นครปฐม ด้วด้ยพ่อพ่กับกัแม่ฐม่านะยากจนไม่สม่ามารถส่งส่ ให้ลูห้กลูเรียรีนต่อต่ ได้ จึงจึเลิกลิทำ นาและมาประกอบอาชีพชีค้าค้ขาย โดยเดินดิทางจากอำ เภอบางเลนเข้าข้มาค้าค้ขายแถววัดวัสะพาน คลองพระโขนง ขายของได้ ๑ เดือดืนก็จก็ะกลับลั บางเลน ๑ ครั้ง รั้ เพราะยังยัมีน้มีอน้งที่เ ที่ รียรีนหนังนัสือสืที่นั่ ที่ น นั่ อีกอี๓ คนที่อ ที่ าศัยศัอยู่กัยู่ บกัพี่ ๆ การกลับลับ้าบ้นในแต่ลต่ะครั้ง รั้ ผม จะได้ติด้ดติสอยห้อห้ยตามกลับลัมาด้วด้ย และบ่อบ่ยครั้ง รั้ ที่คุ ที่ ณคุพ่อพ่จะแวะไปซื้อ ซื้ อะไหล่เล่ครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยที่สี่ ที่ แ สี่ ยกคอกวัววั ห้าห้งดุริดุยริบรรณ ถนนตะนาว เพราะเป็นป็ทางผ่าผ่นตอนกลับลับ้าบ้น คุณคุพ่อพ่พาไปอยู่ ๔ – ๕ ครั้ง รั้ จึงจึถามผมว่าว่อยาก ทำ งานที่นี่ ที่ ไนี่ หม ท่าท่นจะฝากให้เห้พราะรู้จัรู้กจักับกัคุณคุนายเจ้าจ้ของร้าร้น ผมจึงจึรับรัปากว่าว่อยากทำ ในตอนนั้น นั้ เห็นห็แต่ ช่าช่งของห้าห้งดุริดุยริบรรณอายุมยุากๆ ๗ – ๘ คน ทุกทุคนล้วล้นแต่มีต่ ฝีมีมืฝีอมืจัดจักันกัทุกทุคนกำ ลังลัทำ งานอยู่หยู่ ลังลัร้าร้น ผมได้ ถามช่าช่งเหล่าล่นั้น นั้ ว่าว่ทำ นานหรือรืยังยัก็ไก็ด้คำด้คำตอบว่าว่บางคน ๕ ปี บางคน ๓๐ – ๔๐ ปี ในตอนนั้น นั้ ผมอายุไยุด้ ๑๔ ปี ได้รัด้บรัเงินงิเดือดืน ๔๕๐ บาท” เรียนรู้ศึกษาสั่งสม ช่างจ้อนได้ฝึกหัดการทำ เครื่องดนตรีไทย ไม่ว่าจะเป็นการกลึงซอ การฟั่นสายซอ การทำ จะเข้ การ ทำ นมจะเข้ การต่อรางระนาด การทำ ผืนระนาด ฯลฯ ด้วยความที่เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ขยัน อดทน มานะ พยายาม ตลอดจนเป็นผู้มีนิสัยสุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน และซื่อสัตย์สุจริต ช่างจ้อนจึงได้รับการชี้แนะ การช่างเพิ่มเติมจากครูดนตรีไทยที่มีชื่อเสียงหลายท่าน อาทิ ครูโองการ กลีบชื่น ครูแอบ ยุวณวนิช ครูทองดี สุจริตกุล เป็นต้น ดังบทสัมภาษณ์ที่ช่างจ้อนได้เล่าถึงบรรยากาศเมื่อครั้งทำ งานในห้างดุริยบรรณความดังนี้ “ในวันวัแรกที่เ ที่ ข้าข้ทำ งาน ผมมีหมีน้าน้ที่เ ที่ป็นป็ลูกลูมือมืคอยเก็บก็กวาดเครื่อ รื่ งมือมืเศษไม้เม้ศษขี้เ ขี้ ลื่อ ลื่ ยที่น ที่ ายช่าช่งรุ่นรุ่ พี่ทำ พี่ ทำงานไว้ เพราะตอนนั้น นั้ ผมยังยัทำ เครื่อ รื่ งดนตรีไรีม่เม่ป็นป็ต้อต้งคอยรับรัใช้ช่ช้าช่งรุ่นรุ่ พี่จ พี่ นกว่าว่จะเป็นป็งาน กว่าว่จะสามารถทำ งานทำ เครื่อ รื่ งดนตรีไรีด้เด้องก็ใก็ช้เช้วลาประมาณ ๓ ปี ตอนนั้น นั้ ก็มีก็คมีนงานใหม่เม่ข้าข้มาทำ งานเก็บก็กวาดแทน ผมอายุไยุด้ ๑๗ ปี จึงจึ ได้เด้ลื่อ ลื่ นเป็นป็ช่าช่งได้ขด้ยับยัเงินงิเดือดืนเพิ่ม พิ่ ขึ้น ขึ้ เป็นป็๖๐๐ บาท เข้าข้งาน ๐๘.๐๐ น. เลิกลิงาน ๑๗.๐๐ น. ต้อต้งทำ เครื่อ รื่ ง ดนตรีทุรีกทุชนิดนิตามแต่ลูต่กลูค้าค้ของห้าห้งดุริดุยริบรรณจะสั่ง สั่ งาน ชิ้น ชิ้ไหน ที่ติ ที่ ดติขัดขัผมจะรบกวนขอให้ช่ห้าช่งรุ่นรุ่ พี่ส พี่ อนให้ บาง ครั้ง รั้ นักนัดนตรีรุ่รีนรุ่ ใหญ่ก็ญ่มก็าสั่ง สั่ ทำ เครื่อ รื่ งดนตรี และท่าท่นเมตตาบอกรายละเอียอีดสอนวิธีวิกธีารทำ เพราะท่าท่นต้อต้งการ เครื่อ รื่ งดนตรีที่รีมี ที่ มีรายละเอียอีดเฉพาะเจาะจง เช่นช่อาจารย์เย์ทวาประสิทสิธิ์ พาทยโกศล มาชี้แ ชี้ นะเรื่อ รื่ งซอสามสายอยู่ หลายครั้ง รั้ เพราะท่าท่นมาสั่ง สั่ ทำ เครื่อ รื่ งอยู่เยู่รื่อ รื่ ย ๆ แม้กม้ระทั่ง ทั่ ถ่วถ่งหน้าน้ท่าท่นก็กำก็กำชับชัต้อต้งชั่ง ชั่ น้ำ หนักนัขี้ผึ้ ขี้ ง ผึ้ ผสมชันชัให้ไห้ด้น้ำด้น้ำ หนักนั ๒ บาท ตามที่ท่ ที่ าท่นต้อต้งการ ในด้าด้นจะเข้ก็จก็ะมีคมีรูจรูะเข้ที่ข้มี ที่ ชื่มีอ ชื่ เสียสีงแวะเวียวีนมาห้าห้งดุริดุยริบรรณอยู่หยู่ ลายท่าท่น เช่นช่ครูแรูอบ ยุวยุณวนิชนิท่าท่น เชี่ย ชี่ วชาญเรื่อ รื่ งจะเข้ ท่าท่นจะนำ จะเข้มข้าตั้ง ตั้ เสียสีงที่ห้ ที่ าห้งดุริดุยริบรรณ ซึ่ง ซึ่ ครูแรูอบได้เด้ล่าล่ ให้ ผมฟังฟัว่าว่มีช่มีาช่งคนหนึ่ง นึ่ ชื่อ ชื่ นาย ผันผันายผันผัคนนี้ทำ นี้ ทำนมจะเข้ไข้ด้สด้นิทนิมากเอานมจะเข้ตั้ข้ง ตั้ กับกัตัวตัจะเข้รข้ะหว่าว่งเท้าท้กับกัล่อล่งหลังลัจะเข้จข้ะแน่นน่พอดีโดีดยไม่ ต้อต้งใส่กส่าว นอกจากนี้ท่ นี้ าท่นยังยัได้สด้อนให้ช่ห้าช่งต้อต้งเห็นห็ความสำ คัญคัของการตั้ง ตั้ นมให้ตห้รงเสียสีง ถ้าถ้ทำ ไม่ดีม่ก็ดีจก็ะดีดดีไม่ไม่ด้ ทำ ให้กห้ารบรรเลงนั้น นั้ มีอุมีปอุสรรค นอกจากนี้ก็ นี้ จก็ะมีคมีรูทรูองดี สุจสุริตริกุลกุครูรรูะตี วิเวิศษสุรสุการ ท่าท่นทั้ง ทั้ สองก็นำก็นำจะเข้มข้า ตั้ง ตั้ เสียสีงที่ห้ ที่ าห้งดุริดุยริบรรณนี้ ทำ ให้ผห้มได้มีด้โมีอกาสรับรัใช้คช้รูท่รูาท่น ได้สด้นทนา ซึ่ง ซึ่ บ่อบ่ยครั้ง รั้ ที่ท่ ที่ าท่นจะเมตตาให้คำห้คำชี้แ ชี้ นะใน เรื่อ รื่ งเกี่ย กี่ วกับกัการทำ จะเข้การซ่อซ่มแซมดูแดูลจะเข้


๖ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน นอกจากนี้แล้วผมยังได้รับความเมตตาจากท่านศาสตราจารย์ภาวาส บุนนาค ชี้แนะผมในเรื่อง ซอสามสาย แม้ผมย้ายออกจากห้างดุริยบรรณมาทำ ธุรกิจส่วนตัวที่บางพลีแล้ว ท่านยังมาแนะนำ ผม และสั่งเครื่องดนตรีอยู่หลายครั้ง ท่านศาสตราจารย์แสง มณวิทูร ท่านมาชี้แนะเรื่องกระจับปี่ ครูโองการ กลีบชื่น สอนเรื่องการปรับเสียงเทียบเสียงเครื่องต่าง เช่น การปรับเสียงขิม การปรับนม จะเข้ การขูดฉัตรฆ้องแบบโบราณ ครูจำ เนียร ศรีไทยพันธุ์ เมตตามาทดลองปี่ที่ทำ ขึ้นชี้แนะจุดที่ควร แก้ไขในการทำ ปี่จนเป็นที่พอใจ อาจารย์ประเวช กุมุท ท่านชี้แนะเรื่องซอสามสายและซอด้วง” อดทนพากเพียรประกอบกิจ เป็นป็ระยะเวลากว่าว่๑๐ ปี ที่น ที่ ายจ้อจ้นได้ทุ่ด้มทุ่ เทในการฝึกฝึฝนและพัฒพันาฝีมืฝีอมืช่าช่งของตนที่ห้ ที่ าห้งดุริดุยริบรรณ เมื่อ มื่ มีคมีวามรู้แรู้ตกฉานและมีคมีวามชำ นาญในการทำ เครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยได้ทุด้กทุประเภทแล้วล้ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ช่าช่งจ้อจ้นมี บุตบุร ๒ คน เงินงิเดือดืนในขณะนั้น นั้ ไม่เม่พียพีงพอต่อต่ค่าค่ ใช้จ่ช้าจ่ยของครอบครัวรัจึงจึได้ตัด้ดตัสินสิใจลาออกมาประกอบอาชีพชีส่วส่น ตัวตัในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ในระยะแรกนายจ้อจ้นประสบกับกั ปัญปัหาและอุปอุสรรคนานับนั ประการเนื่อ นื่ งจากเริ่ม ริ่ ประกอบ อาชีพชีทำ เครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยจำ หน่าน่ยโดยไม่มีม่เมีงินงิทุนทุตั้ง ตั้ ต้นต้ ไม่มีม่แมีรงงาน และไม่มีม่ผู้มีสผู้ นับนัสนุนนุช่าช่งจ้อจ้นได้บด้อกเล่าล่ ให้ ผู้เผู้ขียขีนฟังฟัว่าว่ “เมื่อครั้งออกจากห้างดุริยบรรณ ผมมีแต่วิชาความรู้ติดตัว ไม่มีเงินทุนสักบาท แม้แต่เงิน ๒๐๐ บาท ก็ยังไม่มี ผมมาเช่าบ้านอยู่ที่ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ทำ เครื่องดนตรีไทยเช่น รางระนาด มีละชิ้นสองชิ้นตาม กำ ลังของตนแล้วนำ ไปเดินเร่ขายตามร้านจำ หน่ายเครื่องดนตรีในเวิ้งนาครเขษม บางเดือนขายรางระนาด ได้เพียง ๒ รางเท่านั้น เพราะตลาดเครื่องดนตรีไทยในสมัยนั้นค่อนข้างจำ กัด และผมยังไม่มีชื่อเสียงเป็นที่ รู้จักในวงการเครื่องดนตรี มีอยู่ครั้งหนึ่งผมไปหาคนที่คุ้นเคยคือคุณจำ รูญ คชแสง คุณจำ รูญรู้จักมักคุ้นกับ ร้านย่งเส็งในเวิ้งนาครเขษม ในขณะนั้นร้านย่งเส็งประกวดราคาประมูลเครื่องดนตรีไทยของกรมสามัญ ศึกษาได้ แต่ยังหาผู้ทำ เครื่องดนตรีไม่ได้ เมื่อผมได้รู้จักกับร้านย่งเส็งแล้ว ผมจึงได้พาเถ้าแก่มาที่บ้านและ เล่าให้เขาฟังว่าผมทำ เครื่องดนตรีได้หลายชนิดและทำ ตามใจผู้สั่ง แต่ไม่มีเงินทำ ทุนซื้อไม้และเครื่องมือ เถ้าแก่ร้านย่งเส็งในตอนนั้นคือคุณประสิทธิ์ อัศวโสภณ ได้ให้เงินไปซื้อไม้จำ นวนหนึ่งเพื่อให้ทดลองทำ เครื่องดนตรีออกมา ตอนนั้นที่สั่งจะมีรางระนาดเอก-ทุ้มไม้สักจำ นวน ๕ คู่ จะเข้ ๑๐ ตัว ซอด้วง ๓๐ คัน ซออู้ ๓๐ คัน ผมขอเบิกเงินจำ นวนหนึ่งเป็นค่าไม้สำ หรับเครื่องมือเถ้าแก่ท่านบอกไว้ว่าขาดเหลืออะไร ต้องการอะไรให้มาเบิกได้ทันที ช่วงนั้นผมยังมีสุขภาพที่ีดีทำ งานคนเดียวไหว เริ่มจากนำ ไม้ท่อนมาแปรรูป เป็นเครื่องดนตรี ประกอบชิ้นส่วน ขัดสีทาน้ำ ยาเคลือบเงา ทำ อยู่ ๑๕ วันก็สามารถส่งงานงวดแรกได้ นายห้างท่านภูมิใจมากและให้ทำ งวดที่ ๒ ต่อทันที เข้าใจว่าขณะนั้นทางร้านย่งเส็งรับงานใหญ่มาแต่มี การแบ่งเป็นงวดงานงวดเล็ก ๆ ทำ ส่งราชการ ซึ่งได้ติดต่อกันอยู่หลายปี จำ ได้ว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ จนถึง พ.ศ. ๒๕๒๔ รวม ๔ ปี ทำ ให้ผมเริ่มตั้งหลักปักฐานได้ ผมย้ายการมาเช่าอาคารพาณิชย์ ๑ ห้อง ว่า จ้างคนงาน ๒ คน พอเริ่มมีงานและลูกค้าประจำ มากขึ้น ในช่วงนี้ผมมีส่งเครื่องดนตรีไปจำ หน่ายเพิ่มมี หลายแห่ง อาทิ ร้านสยามวาทิต รวมดนตรี พัฒนศิลป์การดนตรี ศึกษาภัณฑ์ เป็นต้น ทำ ให้ผมมีทุนใน การซื้อเครื่องมือที่ทันสมัยมาทุ่นแรงเพิ่มเช่น กบไฟฟ้า เลื่อยสายพาน เครื่องเจาะสว่าน และว่าจ้างคน งานเพิ่มอีก ๕ คน รวมเป็น ๗ คน ผมสอนให้เขามี ความสามารถทำ เครื่องดนตรีชนิดต่าง ๆ จนชำ นิ ชำ นาญ และเป็นผู้ช่วยผมทำ งานต่อมา ช่วงนั้นผมพอมีฐานะเลี้ยงตัวได้ และผมเริ่มประมูลงานจากหน่วย งานราชการต่าง ๆ ได้ทำ ให้มีงานสั่งทำ อยู่ประจำ และตลอดปี” กำ เนิด หจก.ดุริยางค์ไทย ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ช่างจ้อนมีผลกำ ไรจากการทำ งานพอสมควรจึงได้นำ เงินส่วนหนึ่งมาซื้อที่ดิน ที่บางพลีบริเวณหน้าโรงเรียนบางพลีราษฎร์บำ รุงจำ นวน ๑ ไร่ วางแผนไว้ว่าจะขยายและทำ โรงงาน ประมาณ ปีพปี .ศ. ๒๕๒๔ ประสบปัญปัหาน้ำ ท่วท่มบ้าบ้นเนื่อ นื่ งจากพื้น พื้ ที่บ ที่ ริเริวณถนนปู่เปู่จ้าจ้สมิงมิพราย เมื่อ มื่ เวลาน้ำ ทะเลหนุนนุก็จก็ะท่วท่ม เข้าข้มาในบ้าบ้นทำ ความเสียสีหายให้กัห้บกัเครื่อ รื่ งมือมือุปอุกรณ์ และเครื่อ รื่ งดนตรี เป็นป็อุปอุสรรคต่อต่การทำ งาน จึงจึเริ่ม ริ่ มีกมีาร ย้าย้ยโรงงานมาอยู่บยู่ างพลี ปลูกลูสร้าร้งบ้าบ้นพักพัและโรงงานให้ชื่ห้อ ชื่ ว่าว่ “หจก.ดุริดุยริางค์ไค์ทย อุตอุสาหกรรม” ที่โที่ รงงานใหม่


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๗ แห่งนี้ช่างจ้อนได้บุกเบิกและพัฒนากิจการอย่างเต็มกำ ลังความสามารถ จัดซื้อเครื่องมือที่ทันสมัยเพิ่มอีกหลาย รายการ รับสมัครและฝึกหัดคนงานเพิ่มขึ้นตามลำ ดับ จากเดิมมีเพียง ๒ – ๗ คนในช่วงแรก เป็น ๓๐-๔๐ และ ๗๐ คนในปัจจุบัน มีการพัฒนาระบบการบริหารการเงิน การผลิต และการตลาด การขนส่ง รวมทั้ง สวัสดิการต่าง ๆ ของคนงาน เช่น อาหาร ที่พักอาศัย ทำ ให้จากกิจการเล็ก ๆ ของช่างจ้อนกลายเป็นโรงงาน ผลิตเครื่องดนตรีไทยแนวหน้าแห่งหนึ่งของประเทศไทยที่มีฐานะอันมั่งคงและเจริญก้าวหน้าขึ้นตามลำ ดับ สวมบทบาทผู้เรียนอีกครั้ง นอกจากบทบาทของช่างจ้อนในการเป็นช่างฝีมือที่ผลิตเครื่องดนตรีไทยแลละบทบาทของการเป็นครู ช่างให้กับช่างฝีมือหลาย ๆ คนในโรงงาน หจก.ดุริยางค์ไทยฯ แล้วนั้น ช่างจ้อนยังมีบทบาทในฐานะผู้เรียนและครู ผู้สอนดนตรีไทยด้วย ผู้เขียนได้ฟังคำ บอกเล่าจากช่างจ้อนถึงแง่มุมการเป็นนักเรียนและเป็นครู ใจความดังนี้ “ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ เป็นปีที่ผมเริ่มต้นการเรียนใหม่ เริ่มจากช่างต้อย (นายธีรพันธุ์ ธรรมานุกูล) ขณะ นั้นเป็นนักศึกษาที่รามคำ แหงได้มาซื้อเครื่องดนตรี ได้ยินการลองซอที่ไพเราะจึงถามเขาว่าเรียนจากที่ไหน เขาตอบว่าเรียนกับครูเฉลิม ม่วงแพรศรี บ้านอยู่อ่อนนุช ผมจึงได้บอกกับช่างต้อยว่าผมอยากเรียน ขอ รบกวนช่างต้อยพาไปหาครูเฉลิม ม่วงแพรศรี ช่างต้อยก็แนะนำ พอสมควร ผมก้มลงกราบกับพื้นขอฝากตัว ขอเรียนซอสามสาย ท่านก็รับผมเป็นศิษย์ ผมถามว่าจะคิดค่าเล่าเรียนอย่างไร ท่านบอกว่าไม่คิดค่าเล่า เรียนจะสอนให้ไม่คิดอะไรแม้จะให้เท่าไรก็ไม่ขอรับ ผมปลื้มใจมากและตั้งใจว่าเมื่อมีลูกศิษย์มาเรียนกับผม ผมก็จะไม่คิดค่าเล่าเรียนเป็นการตอบแทนพระคุณของคุณครู และเพื่อแสดงมุทิตาจิตและเป็นวิทยาทาน ท่านซอให้ผมจับซอสามสายให้ถูกวิธี การลากคันชัก จากบทเพลงปฐมจนเป็นบทเพลงที่ยากขึ้นตาม ลำ ดับ” โดยลักษณะนิสัยที่ช่างจ้อนเป็นผู้ที่ใฝ่รู้ และมีความนอบน้อมทำ ให้ช่างจ้อนได้รับคำ แนะนำ จาก ครูดนตรีไทยที่มีชื่อเสียงอีกหลายท่านเช่น ครูเตือน พาทยกุล ให้ความรู้เรื่องการบรรเลงซอสามสาย ศาสตราจารย์อุดม อรุณรัตน์ ให้คำ แนะนำ การบรรเลงซอสามสาย ครูศิริ วิชเวช สอนการขับเสภา และการ ขับร้องเพลงไทย ด้วยความรักในดนตรีและความตั้งใจในการถ่ายทอดความรู้ต่าง ๆ ที่ได้รับจากครู จึงได้ทำ การเปิด สอนดนตรีไทยวันเสาร์–อาทิตย์ ให้ชื่อว่า “โรงเรียนดนตรีบ้านครูจ้อน” ในบริเวณชั้นสองของร้านดุริยางค์ไทย ทำ การสอนการบรรเลงเครื่องเช่น ขิม ซออู้ ซอด้วง ซอสามสาย ระนาด จะเข้ ให้แก่นักเรียนและประชาชนที่มี ความสนใจ จากเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันมีจำ นวนผู้มาเรียนกว่า ๑,๒๐๐ คน นอกจากนี้ในด้านวิชาการช่างจ้อนได้ เขียนเอกสารตำ ราเป็นวิทยาทานไว้หลายฉบับ เช่น โน้ตซอด้วง โน้ตซออู้ โน้ตขิม โน้ตซอสามสาย โน้ตจะเข้ รางวัลชีวิต จากการดำ เนินนิกิจกิการ โรงงาน หจก.ดุริดุยริางค์ไค์ทย โรงงานที่ผ ที่ ลิตลิและจำ หน่าน่ยเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยทุกทุชนิดนิทั้ง ทั้ปลีกลี และส่งส่สามารถผลิตลิสินสิค้าค้มีคุมีณคุภาพได้มด้าตรฐาน ประกอบกับกัช่าช่งจ้อจ้นเป็นป็ผู้ที่ผู้ ปที่ ระพฤติดีติปดีฏิบัฏิติบัชติอบ ทำ คุณคุประโยชน์ ให้กัห้บกัสถานศึกศึษา สังสัคม และชุมชุชน เป็นป็แบบอย่าย่งที่ดี ที่ ยิ่ดีง ยิ่ ทั้ง ทั้ในด้าด้นการเป็นป็ช่าช่ง เป็นป็นักนัธุรธุกิจกิผู้ปผู้ระกอบการ เป็นป็ครู ทำ ให้ช่ห้าช่งจ้อจ้นได้รัด้บรัการยกย่อย่งเชิดชิชูเชูกียกีรติแติละได้รัด้บรัพระราชทานเครื่อ รื่ งราชอิสอิริยริาภรณ์อัณ์นอัเป็นป็เกียกีรติอติย่าย่งยิ่ง ยิ่ แก่ช่ก่าช่ง จ้อจ้นและครอบครัวรั พ.ศ. ๒๕๕๔ เครื่อ รื่ งราชอิสอิริยริาภรณ์อัณ์นอัเป็นป็ที่ส ที่ รรเสริญริยิ่ง ยิ่ ดิเดิรกคุณคุาภรณ์


๘ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ได้รัด้บรัรางวัลวัชนะเลิศลิเกียกีรติคุติณคุดีเดีด่นด่ ประจำ ปี ๒๕๓๒ ประเภทผู้อผู้ นุรันุกรัษ์มษ์รดกไทย จากคณะกรรมการพิจพิารณาเกียกีรติคุติณคุนักนับริหริารดีเดีด่นด่กองบรรณาธิกธิารหนังนัสือสืพิมพิพ์ส่พ์วส่นกลาง ได้รัด้บรัรางวัลวัผลิตลิภัณภัฑ์ยฑ์อดเยี่ย ยี่ มประจำ ปี ๒๕๓๒ จากรัฐรัมนตรีว่รีาว่การกระทรวงสาธารณสุขสุ ได้รัด้บรัรางวัลวัชนะเลิศลิรางวัลวัเกียกีรติคุติณคุดีเดีด่นด่ ประเภท ผู้อผู้ นุรันุกรัษ์มษ์รดกไทย จากคณะกรรมการ กองบรรณาธิกธิารส่วส่นกลาง ได้รับรางวัลชนะเลิศ ผลิตภัณฑ์มาตรฐานชั้นนำ ประจำ ปี ๒๕๓๓ จากคณะกรรมการ พัฒนาสินค้ามาตรฐานและหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศผลิตภัณฑ์เอกลักษณ์ไทย ประจำ ปี ๒๕๓๔ จากรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับพระราชทานรางวัลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ประจำ ปี ๒๕๔๐ สาขาศิลปะ การแสดง (ผลิตเครื่องดนตรีไทย) จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รับโล่เกียรติยศ การสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาโรงเรียนสมุทรปราการ ได้รัด้บรัรางวัลวันักนับริหริารผู้มีผู้จมีริยริธรรมและคุณคุธรรม จาก นิตนิยสารศูนศูย์ข่ย์าข่ววิทวิยุแยุละโทรทัศทัน์ และสโมสรนักนับริหริารจรรยาบรรณดีเดีด่นด่ ครูภูรูมิภูปัมิญปัญาไทย ด้าด้นศิลศิปกรรม (ผลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย) คณะกรรมการการศึกศึษาแห่งห่ชาติ สำ นักนันายกรัฐรัมนตรี ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ “พัฒนาคุณภาพการศึกษาดีเด่น” จากชมรมส่งเสริมและ พัฒนาสังคมไทย ได้รัด้บรัรางวัลวัเพชรสยามประจำ ปี ๒๕๔๖ จากสำ นักนัศิลศิปวัฒวันธรรม มหาวิทวิยาลัยลัราชภัฏภั จันจัทรเกษม ได้รัด้บรัการยกย่อย่งเชิดชิชูเชูกียกีรติ“ผู้อผู้ นุรันุกรัษ์มษ์รดกไทยด้าด้นศิลศิปกรรม (ประดิษดิฐ์เฐ์ครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย) จากสำ นักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ครูช่างหัตถศิลป์ ประจำ ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ จากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ธนบุรี ศรีนพมาศ จากสำ นักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี และได้รับรางวัลการยกย่องเชิดชูเกียรติทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ได้แก่ พ.ศ. ๒๕๓๒ พ.ศ. ๒๕๓๒ พ.ศ. ๒๕๓๓ พ.ศ. ๒๕๓๓ พ.ศ. ๒๕๓๔ พ.ศ. ๒๕๔๐ พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๖ พ.ศ. ๒๕๔๙ พ.ศ. ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๘ ชีวิตบั้นปลาย จากการทุ่มทุ่ เททำ งานอย่าย่งหนักนัของช่าช่งจ้อจ้น ทั้ง ทั้ เป็นป็ผู้ผผู้ลิตลิผู้ขผู้าย ผู้ติผู้ดติต่อต่ ประสานงาน ผู้ส่ผู้งส่สินสิค้าค้บทบาท หน้าน้ที่ค ที่ วามเป็นป็ครู ทำ ให้ช่ห้าช่งจ้อจ้นโหมงานหนักนั ได้พัด้กพัผ่อผ่นน้อน้ย ทำ ให้สุห้ขสุภาพเริ่ม ริ่ อ่ออ่นแอลง ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ช่าช่งจ้อจ้นเริ่ม ริ่ ป่วป่ยเป็นป็ โรคภูมิภูแมิพ้ ในบางครั้ง รั้ มีอมีาการแพ้ฝุ่พ้นฝุ่ ละอองมากจนหอบหายใจไม่อม่อก จนบางครั้ัง รั้ั ต้อต้ง นำ ส่งส่ โรงพยาบาลอย่าย่งกระทันทัหันหัฉุกฉุเฉินฉิเป็นป็เหตุใตุห้ช่ห้าช่งจ้อจ้นไม่สม่ามารถลงมือมืทำ เครื่อ รื่ งดนตรีไรีด้ตด้ามเดิมดิถึงถึแม้ สุขสุภาพจะไม่เม่อื้อ อื้ อำ นวย แต่ช่ต่าช่งจ้อจ้นก็ยัก็งยัไม่ลม่ะทิ้ง ทิ้ การทำ เครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยซึ่ง ซึ่ เป็นป็งานที่ต ที่ นรักรัช่าช่งจ้อจ้นได้พด้ยายาม ฝึกฝึหัดหัและถ่าถ่ยทอดองค์คค์วามรู้ต่รู้าต่ง ๆ ให้แห้ก่ช่ก่าช่งทำ เครื่อ รื่ งดนตรีรุ่รีนรุ่ หลังลัในโรงงานให้มีห้ฝีมีมืฝีอมืมีคมีวามเชี่ย ชี่ วชาญในการ ผลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรีที่รี ปที่ ระณีตณีได้มด้าตรฐาน รวมถึงถึการเป็นป็วิทวิยากรในเรื่อ รื่ งการซ่อซ่มสร้าร้งเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยให้แห้ก่นัก่กนัเรียรีน นิสินิตสินักนัศึกศึษา จากสถาบันบัการศึกศึษาต่าต่ง ๆ และหากโอกาสอำ นวยช่าช่งจ้อจ้นก็จก็ะลงมือมืกลึงลึซอทำ เครื่อ รื่ งดนตรีด้รีวด้ย ตนเอง ทำ ให้สิห้นสิค้าค้มีคุมีณคุภาพเป็นป็ที่ไที่ ว้วว้างใจจากลูกลูค้าค้ทุกทุระดับดัเสมอมา จนกระทั่ง ทั่ วันวัที่ ๑๔ มีนมีาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เวลา ๐๕.๒๐ น. นายวาทิตทิ ไทรวิมวิาน หรือรืช่าช่งจ้อจ้น ได้ถึด้งถึแก่กก่รรมด้วด้ยอาการภาวะไข้เข้ม็ดม็เลือลืดขาวต่ำ สิริสิอริายุรยุวม ๖๙ ปี เรียรีบเรียรีงโดย ผศ. ดร.เมธี พันพัธุ์วธุ์ ราทร


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๙ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาดนตรี) แก่นายวาทิต ไทรวิมาน เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน รางวัลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ประจำ ปี ๒๕๔๐ สาขาศิลปะการแสดง (ผลิตเครื่องดนตรีไทย) แก่นายวาทิต ไทรวิมาน ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา


๑๐ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเข็มที่ระลึกเชิดชูเกียรติการกระทำ ความดี แก่นายวาทิต ไทรวิมาน เนื่อ นื่ งในโอกาสเสด็จด็พระราชดำ เนินนิทรงเปิดปิอาคารเรียรีนเฉลิมลิพระเกียกีรติ โรงเรียรีนวัดวับางพลีใลีหญ่ใญ่น เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๓ นายวาทิต ไทรวิมาน ทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องดนตรีไทย ซออู้งาช้าง มูลค่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่อ นื่ งในโอกาสเสด็จด็พระราชดำ เนินนิทรงเปิดปิอาคารเรียรีนเฉลิมลิพระเกียกีรติ โรงเรียรีนวัดวับางพลีใลีหญ่ใญ่น วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๓


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๑ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงฉายพระรูปร่วมกับผู้ได้รับรางวัลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ประจำ ปี ๒๕๔๐ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา นายวาทิต ไทรวิมาน สาขาศิลปะการแสดง (ผลิตเครื่องดนตรีไทย) แถวยืน ลำ ดับที่ ๓ นับจากด้านขวา นายวาทิต ไทรวิมาน ร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเครื่องดนตรีไทย ที่ผลิตโดย หจก.ดุริยางค์ไทย อุตสาหกรรม เนื่องในโอกาสเสด็จร่วมบรรเลงดนตรีไทยงานดนตรีไทยอุดมศึกษาครั้งที่ ๓๐ วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๔๒ ณ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว


๑๒ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน นายวาทิต ไทรวิมาน เข้ารับเกียรติบัตร “เชิดชูครูช่าง ประจำ ปี ๒๕๕๖” จาก ฯพณฯ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์กรมหาชน) วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ นายวาทิต ไทรวิมาน ส่งมอบหอดนตรีไทย ที่จัดสร้างด้วยงบประมาณมูลค่า ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้แก่ศูนย์วัฒนธรรรมอำ เภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๓ นายวาทิต ไทรวิมาน ถ่ายภาพบริเวณหน้าหอดนตรีไทย ที่จัดสร้างให้แก่ศูนย์วัฒนธรรรมอำ เภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙ นายวาทิต ไทรวิมาน ถ่ายภาพร่วมกับเครื่องดนตรีภายในหอดนตรีไทย ที่จัดสร้างและมอบให้แก่ศูนย์วัฒนธรรรมอำ เภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙


๑๔ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน นายวาทิต ไทรวิมาน พร้อมด้วยมารดา และญาติ พี่-น้อง ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกในงานสวดพระอภิธรรมศพ คุณพ่อแจ่ม ไทรวิมาน วันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ ณ วัดบางไผ่นารถ อำ เภอบางเลน จังหวัดนครปฐม นายวาทิต ไทรวิมาน และครอบครัว ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกในงานสวดพระอภิธรรมศพ คุณพ่อแจ่ม ไทรวิมาน วันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ ณ วัดบางไผ่นารถ อำ เภอบางเลน จังหวัดนครปฐม


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๕ นายวาทิต ไทรวิมาน และครอบครัว ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในโอกาสถ่ายรูปเนื่องในโอกาส จัดทำ หนังสือ บรรณสารวาทิต ครูจ้อน ไทรวิมาน เพื่อใช้แจกเป็นที่ระลึกในพิธีเปิดหอดนตรีไทย วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๔๙ นายวาทิต ไทรวิมาน และครอบครัว ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในโอกาสได้รับพระราชทานปริญญาศิลปกรรมศาสตร์บัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาดนตรีและศิลปะการแสดง จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ปี พ.ศ. ๒๕๓๘


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๗ นายวาทิต ไทรวิมาน (ครูจ้อน) เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๔๙๕ ที่อำ เภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ได้รับการฝึกเล่นเครื่องดนตรีไทยชนิดต่าง ๆ มาตั้งแต่วัยเด็ก จากนายแจ่ม ไทรวิมาน ผู้เป็นบิดาซึ่งได้รับการ ถ่ายทอดการเล่นดนตรีไทยมาจากบรรพบุรุษ ต่อมาได้ฝึกงานอยู่ที่ห้างดุริยบรรณเป็นเวลาถึง ๑๐ ปี จนสามารถ กลึงซอ ทำ จะเข้ ต่อรางระนาด ทำ ผืนระนาด ฟั่นสายชอ ทำ นมจะเข้ ฯลฯ และได้รับการถ่ายทอดความรู้เกี่ยว กับเครื่องดนตรีจากผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านดนตรีไทยหลายท่น อาทิ ครูโองการ (ต่อ) กลีบชื่น สอนการปรับเสียง ขิม ครูแอบ ยุวณวนิช ครูทองดี สุจริตกุล ซึ่งเล่นจะเข้เก่งและได้สอนการปรับนมจะเข้ คำ ไว้อาลัย นายวาทิต ไทรวิมาน (ครูจ้อน) ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม สาขาศิลปะการแสดง (ผลิตเครื่องดนตรีไทย) พุทธศักราช ๒๕๔๐ นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ต่อมานายวาทิต ไทรวิมาน ได้ตั้งโรงงานผลิตเครื่องดนตรีไทยเป็นของตนเองซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานฝีมือ ทั้งสิ้น และควบคุมการผลิตด้วยตนเองโดยจัดการแบ่งการผลิตออกเป็นหลายฝ่าย เช่น ฝ่ายการผลิต ฝ่ายทำ สี ฝ่ายขัด ช่างกลึง ช่างฝีมือและช่างปรับ เป็นต้น จึงได้ฝึกคนงานให้ทำ งานอย่างละเอียด และนายวาทิต ไทรวิมาน ทำ หน้าที่เป็นผู้ปรับเสียงแต่งเสียงอีกครั้งก่อนที่จะส่งให้กับลูกค้า นายวาทิต ไทรวิมาน เป็นช่างผู้ประดิษฐ์เครื่อง ดนตรีไทย ทุกประเภท ตั้งแต่เครื่องดีด ได้แก่ จะเข้ เครื่องสี ได้แก่ ซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย เครื่องตี ได้แก่กลอง ทุกประเภท ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวง เครื่องเป่า ขลุ่ย ปี่ ตลอดจนเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีกหลายประเภทซึ่ง เครื่องดนตรีไทยทุกประเภทที่วางจำ หน่ายเป็นเครื่องดนตรีไทยจากโรงงานดุริยางค์ไทยของนายวาทิต ไทรวิมาน ประมาณ ๘o เปอร์เซ็นต์ ได้รับการยอมรับจากลูกค้าในด้านคุณภาพ รูปร่าง ลักษณะที่ได้มาตรฐานตามหลัก เกณฑ์ทางดนตรีไทย นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของนายวาทิต ไทรวิมาน คือ การได้ทูลเกล้าถวายซอ สามสายประกอบงาช้าง แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระนามาภิไธยในขณะนั้น) นอกจากเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องดนตรีไทยแล้วยังเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านดนตรีไทย ให้แก่ศิษย์อย่างไม่ปิดบัง และยังได้รับเกียรติให้เป็นวิทยากรตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ดังนั้น จึงได้รับการยกย่องเชิดชู เกียรติจากสำ นักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (ปัจจุบันคือกรมส่งเสริมวัฒนธรรม) ให้เป็นผู้มีผลงานดี เด่นทางด้านวัฒนธรรมสาขาศิลปะการแสดง (ผลิตเครื่องดนตรีไทย) พุทธศักราช ๒๕๔๐ บัดบันี้ นายวาทิตทิ ไทรวิมวิาน ได้จด้ากไปอย่าย่งสงบ เมื่อ มื่ วันวัจันจัทร์ที่ร์ ที่ ๑๔ มีนมีาคม ๒๕๖๕ นับนัว่าว่เป็นป็การสูญสูเสียสี ทรัพรัยากรบุคบุคลผู้ทผู้รงคุณคุค่าค่ด้าด้นศิลศิปวัฒวันธรรมต่อต่ ประเทศอีกอีท่าท่นหนึ่ง นึ่ ในนามของกรมส่งส่เสริมริวัฒวันธรรม กระทรวง วัฒวันธรรม ขออานุภนุาพแห่งห่คุณคุความดีที่ดีท่ ที่ าท่นได้ถืด้อถืปฏิบัฏิติบัมติาโดยตลอดชั่ว ชั่ ชีวิชีตวิ ได้โด้ปรดดลบันบัดาลให้ดห้วงวิญวิญาณของ ท่าท่นประสบแต่คต่วามสุขสุสงบในสัมสัปรายภพด้วด้ยเทอญ ( )


๑๘ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๕ ในนามสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ขอแสดงความอาลัยอย่างยิ่งต่อการจากไปของครูวาทิต ไทรวิมาน ครูพิเศษประจำ สาขาการสร้างเครื่องดนตรีไทย โรงเรียนจิตรลดาวิชาชีพ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ซึ่งถึง แก่กรรมด้วยภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ สิริรวมอายุ ๗๐ ปี ครูวรูาทิตทิ ไทรวิมวิาน เป็นป็ครูที่รูมี ที่ คมีวามรู้ ความสามารถ และมีชื่มีอ ชื่ เสียสีงเป็นป็ที่ย ที่ อมรับรัทั่ว ทั่ ประเทศในด้าด้นช่าช่ง การสร้าร้งเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย (ประเภทเครื่อ รื่ งสายไทย) ทั้ง ทั้ ยังยัมีคุมีณูคุปณูการต่อต่วงการการศึกศึษาดนตรีไรีทย ตลอดระยะเวลา ที่ส ที่ อนสาขาการสร้าร้งเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย ครูวรูาทิตทิ ไทรวิมวิาน ทุ่มทุ่ เทอบรมสั่ง สั่ สอน ถ่าถ่ยทอดความรู้แรู้ละประสบการณ์แณ์ก่ นักนัเรียรีนนักนัศึกศึษาอย่าย่งเต็มต็กำ ลังลัความสามารถ สุดท้ายนี้ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดาขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของครูวาทิต ไทรวิมาน ที่ต้อง สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ขอให้ดวงวิญญาณของครูวาทิต ไทรวิมาน ไปสู่สุคติในสัมปรายภพ และจะระลึกถึง คุณงามความดีของครูวาทิต ไทรวิมาน ตลอดไป คำ ไว้อาลัย ครูวาทิต ไทรวิมาน ครูพิเศษ ประจำ สาขาการสร้างเครื่องดนตรีไทย โรงเรียนจิตรลดาวิชาชีพ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ด้วยความอาลัยและเสียใจอย่างยิ่ง รองศาสตราจารย์ ดร. คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ( )


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๙ ข้าพเจ้าเริ่มรู้จักคุณจ้อนเมื่อประมาณปี ๒๕๓๕ น่าจะไปงานดนตรีอะไรสักอย่าง เห็นคุณจ้อนดีดจะเข้ ข้าพเจ้าก็ไปร่วมวงสีซอด้วย และคุยกันถูกคอ ก็คงเป็นเพราะความเป็นนักดนตรีด้วยกัน คุณจ้อนเรียกข้าพเจ้า ว่าคุณพ่อเสมอ หลังจากนั้นก็ไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน เพื่อซ้อมดนตรีและทบทวนเพลงกับข้าพเจ้าด้วยบ่อยๆ โดยผลัด เปลี่ยนเครื่องมือแต่ละชิ้นไป เช่น ข้าพเจ้าสีซอด้วงคุณจ้อนก็สีซออู้ หรือข้าพเจ้าสีซออู้คุณจ้อนก็สีซอสามสาย หรือซอด้วง เป็นต้น บางทีข้าพเจ้าสีเพลงแกล้งยั่วหยอกล้อ คุณจ้อนก็มักจะล่ม ก็เป็นที่หัวเราะชอบใจ เป็น เช่นนี้มาอยู่ช้านาน จนมาหลังๆ คุณจ้อนป่วยถี่ขึ้น ก็มิได้ซ้อมดนตรีด้วยกันเลย คุณจ้อนได้มาขอซื้อจะเข้เก่าของข้าพเจ้าไป ๓ ตัว ข้าพเจ้าก็ขายให้ถูกๆ เพราะความรักใคร่กันมาแต่ ช้านาน และในช่วงหลังคุณจ้อนก็ได้ฝากลูกชายชื่อเจ๊ก ให้มาเรียนตีกรับขับเสภากับข้าพเจ้า ซึ่งเขาก็ทำ ได้ดี ระดับหนึ่ง ในท้ายนี้ข้าพเจ้าขออธิฐานถึงกุศลที่ข้าพเจ้าทำ มาทั้งหมด อุทิศแด่คุณจ้อน ไทรวิมาน ให้ถึงสู่สุคติโดย ดุษฎีสืบไป ศิริ วิชเวช ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (คีตศิลป์)


นักดนตรีกับเครื่องดนตรีเป็นของแยกกันไม่ออก นักดนตรีโดยมากมีเครื่องดนตรีประจำ เรียกว่าเป็นคู่มือ รักษากันไว้ด้วยชีวิต ลางท่านปรนนิบัติเครื่องดนตรีอย่างระมัดระวังเป็นของหวงแหน ผู้ที่เป็นช่างทำ เครื่อง ดนตรีจึงเป็นบุคคลสำ คัญของนักดนตรีทุกคน เครื่องดนตรีไทย เมื่อดูเผิน ๆ อาจจะเห็นว่าต่างชาติต่างทำ กันไปไม่มีระบบระเบียบ ความจริงแล้ว ความรู้ในการทำ เครื่องดนตรีสืบทอดกันมานาน ปรับปรุงตามลำ ดับ ตามตำ รับหรือช่างแต่ละคน เครื่อง ดนตรีชั้นดีไม่ว่าเป็นของชาติใด ๆ ต้องได้ช่างชั้นดี มีวิชาดี และรู้จักปรับปรุงให้เข้ากับนักดนตรีได้ ครูจ้อน เป็นช่างดีเอกอุ เป็นที่นับถือของนักดนตรีโดยทั่วไป โดยเฉพาะเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย ครูจ้อนได้ฝึกทำ เครื่องดนตรีในสำ นักที่เป็นที่รับรอง คือ ร้านดุริยบรรณ ผู้คนโดยมากเมื่อจะหัดดนตรี จะทำ เครื่องดนตรีก็นึกถึงร้านดุริยบรรณก่อน จนรู้สึกว่าเป็นเครื่องดนตรีสำ หรับหัด ที่จริงร้านดุริยบรรณเป็นที่ รวมของครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่มาพูดคุยเรื่องเครื่องดนตรี สั่งทำ เครื่องดนตรีกันเป็นประจำ บรรดาช่างของร้าน ย่อมได้รู้ได้เห็นฟังความคิดเรื่องการทำ เครื่องดนตรี สัดส่วนของเครื่องดนตรี ทำ อย่างไรจึงจะเสียงดังดี ขนาดที่ พอเหมาะกับนักดนตรีแต่ละท่านเป็นอย่างไร เป็นที่แน่นอนว่าครูจ้อนจะได้ยินได้ฟังซึมซับความรู้ต่าง ๆ เหล่านี้ ไว้เป็นทุน ประกอบกับเป็นนักดนตรีอยู่เอง และมีสติปัญญาเชิงช่างอยู่ด้วย จึงได้ทำ เครื่องดนตรีเป็นที่เลื่องลือ ต่อมา ครูจ้อนยังมีความสามารถด้านธุรกิจอยู่พอควร ได้ตั้งโรงช่างทำ เครื่องดนตรี รวมทั้งโรงเรียนสอนดนตรี ข้อนี้นับเป็นคุณูปการต่อดนตรีไทย ในเวลาที่กำ ลังฟื้นฟูขึ้น น่าเสียดายที่ครูจ้อนจากไปเร็ว การดนตรีขาดกำ ลัง สำ คัญไปอีกท่านหนึ่ง ขอบุญบุกุศกุลและคุณูคุปณูการที่ค ที่ รูจ้รูอจ้นได้บำด้ บำเพ็ญพ็มา ในอันอัที่จ ที่ ะรักรัษาสมบัติบัดตินตรีขรีองชาติบ้ติาบ้นเมือมืง จงเป็นป็ ปัจปัจัยจัให้คห้รูจ้รูอจ้นได้รัด้บรัสุขสุสมบัติบัใตินสุคสุติคีติตคีสวรรค์ตค์ลอดกาลนานเทอญ ผศ. ดร.ประพจน์ อัศอัววิรุวิฬรุหการ ๒๐ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน


ครูจ้อน ไทรวิมาน หรือครูวาทิต ท่านเป็นปูชนียบุคคลที่นักดนตรีไทยทุกรุ่น ทุกวัยให้ความเคารพเป็น อย่างสูง ท่านมีความผูกพันกับสาขาวิชาดนตรีไทยและศูนย์ศิลปะวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มาเป็นเวลายาวนาน เริ่มตั้งแต่ท่านได้รับเชิดชูเกียรติเป็น “เพชรสยาม” รุ่นแรก ๆ ประมาณปี ๒๕๓๐ ต่อมา ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรกิตติศักดิ์สาขาดนตรีไทย ประมาณปี ๒๕๓๒ นอกจากนี้ท่านได้มอบเครื่อง ดนตรีไทยชุดใหญ่พร้อมตู้โชว์ และรูปภาพครูดนตรีไทยทุกคนทุกยุคทุกสมัยให้กับศูนย์ศิลปะวัฒนธรรม ทาง มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมได้ขออนุญาตใช้ชื่อท่านประจำ ห้องนี้ว่า "ห้องวาทิต" เพื่อให้นักศึกษาและผู้ที่ สนใจดนตรีไทยได้มาค้นคว้าศึกษาข้อมูลต่าง ๆ นับว่าท่านเป็นผู้มีน้ำ ใจงดงามและเสียสละทรัพย์ส่วนตัวเพื่อ ประโยชน์แก่สังคมและการศึกษานอกจากนี้ท่านยังได้สร้างคุณงามความดีให้แก่สถาบันอื่น ๆ ตลอดมา ด้วยผลแห่งคุณงามความดีที่ครูจ้อน ไทรวิมาน ได้บำ เพ็ญมาตลอดชีวิต จงดลบันดาลให้ดวงวิญญาณของ ครูจ้อน ไทรวิมาน ไปสู่สุขคติในสัมปรายภพชั่วนิรันดร์เทอญ รศ.วิเวิชียชีรอ่ออ่นละมูลมู ด้วยรักและอาลัยครูจ้อน ไทรวิมาน "คนสำ คัญผู้สร้างดนตรีไทย" ครูจ้อน หรือที่เรียกติดปากว่าช่างจ้อน เป็นผู้ที่ผมสนิทกันมานานหลายสิบปี เป็นคนมีอัธยาศัยดี สุภาพ เรียบร้อย มีความรู้ด้านดนตรีไทยอย่างดี แต่ก็มีความรู้การช่างในการทำ เครื่องดนตรีไทยเป็นเลิศ ท่าท่นเป็นป็คนอารมณ์ดีณ์อดียู่เยู่สมอ คุยคุกันกัถูกถูคอถูกถูใจเป็นป็ที่สุ ที่ ดสุระยะหลังลัๆ ได้เด้ล่าล่ ให้ผห้มฟังฟัเรื่อ รื่ งอาการโรคหัวหัใจ ได้บด้อกผมว่าว่ ไปรักรัษาตัวตัที่โที่ รงพยาบาล หมอแจ้งจ้ว่าว่หัวหัใจทำ งานได้ ๓๐ เปอร์เร์ซ็นซ็ต์เต์ท่าท่นั้น นั้ ผมฟังฟัแล้วล้ใจหาย ยิ่ง ยิ่ ครั้ง รั้ หลังลัสุดสุทราบว่าว่ท่าท่นเสียสีชีวิชีตวิแล้วล้ยิ่ง ยิ่ รู้สึรู้กสึเสียสีใจ และเสียสีดายที่ต้ ที่ อต้งเสียสีบุคบุลากรอันอัมีค่มีาค่ยิ่ง ยิ่ ในวงการดนตรีไรีทย ของเรา พอคิดคิขึ้น ขึ้ มาก็ทำก็ ทำให้รห้ะลึกลึถึงถึความหลังลัที่เ ที่ คยรักรัใคร่กัร่นกัมานาน ขอให้ท่ห้าท่นจงไปสถิตถิณ สรวงสวรรค์ มีคมีวามสุขสุอยู่ ณ ที่นั้ ที่ น นั้ ตลอดไป ครูวรูรยศ ศุขศุสายชล วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๒๑


ผมรู้จักกับครูจ้อน ไทรวิมาน ตั้งแต่สมัยที่ท่านทำ งานเป็นช่างทำ เครื่องดนตรีไทยที่ร้านดุริยบรรณ ที่มี คุณเปี่ยมศรี ดุริยางกูรเป็นเจ้าของและผู้จัดการ ตอนหลังครูจ้อนได้ลาออกจากร้านดุริยบรรณไปตั้งโรงงานผลิต เครื่องดนตรีไทยเป็นของตนเองที่อำ เภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ก็เคยไปเยี่ยมโรงงานของท่าน ครูจ้รูอจ้น ไทรวิมวิาน เป็นป็บุคบุคลสำ คัญคัยิ่ง ยิ่ คนหนึ่ง นึ่ ในวงการดนตรีไรีทยเดิมดิท่าท่นเป็นป็ทั้ง ทั้ ช่าช่งทำ เครื่อ รื่ งดนตรี เป็นป็ นักนัดนตรี และเป็นป็ครูสรูอนดนตรี เป็นป็ผู้ใผู้ฝ่เฝ่รียรีนใฝ่รู้ฝ่ทรู้างวิชวิาการแขนงต่าต่ง ๆ ตลอดเวลา ช่าช่งผลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย ตัวตั จริงริทำ งานช้าช้ไม่รม่วดเร็วร็เหมือมืนพ่อพ่ค้าค้พาณิชณิย์เย์พราะวัสวัดุแดุต่ลต่ะชนิดนิต้อต้งคัดคัสรรเอาแต่สิ่ต่ง สิ่ ที่บ ที่ ริสุริทสุธิ์ เช่นช่ ไม้แม้ต่ลต่ะชนิดนิที่คั ที่ ดคั สรรแล้วล้ต้อต้งเป็นป็ ไม้ที่ม้แ ที่ ห้งห้สนิทนิ ไม่มีม่ตำมีตำหนิ เนื้อ นื้ ไม้ลม้ายตรงไม่มีม่ตมีาไม้แม้ละไม้ที่ม้แ ที่ ก่พก่อสมควร ถ้าถ้วัสวัดุมีดุปัมีญปัหาแล้วล้ถึงถึมีฝีมีมืฝีอมื เต็มต็๑๐๐% ก็ไก็ม่สม่ามารถที่จ ที่ ะรังรัสรรค์ผค์ลงานอันอัวิจิวิตจิรได้ ความประณีตณีในรูปรูลักลัษณ์แณ์ละรูปรูทรง สัดสัส่วส่นและสีสัสีนสัที่ งดงาม คุณคุภาพของวัสวัดุที่ดุใที่ ช้ทำช้ ทำ และคุณคุภาพของเสียสีง คือคืมาตรฐานของเครื่อ รื่ งดนตรีที่รีค ที่ รูจ้รูอจ้น ไทรวิมวิาน ถือถืเป็นป็คติใติน การทำ งาน ส่วส่นประกอบของงานผลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรีนั้รีน นั้ หลักลัใหญ่ที่ญ่สำ ที่ สำคัญคัมีดัมีงดันี้ ๑) วัสวัดุ คัดคัสรรให้ไห้ด้ดีด้เดีต็มต็พิกัพิดกั๑๐๐% ๒) เครื่อ รื่ งมือมืต้อต้งสะดวกที่สุ ที่ ดสุอย่าย่ ให้มีห้ ปัมีญปัหา เครื่อ รื่ งตัดตัต้อต้งคมมาก ๓) ฝีมืฝีอมืของช่าช่งนั้น นั้ ๆ ต้อต้งมีคมีวามอดทนในการสร้าร้ง และความชำ นาญอย่าย่งถึงถึที่สุ ที่ ดสุ๔) ต้อต้งมีคมีวามทุ่มทุ่ เทและพยายามในการสร้าร้ง และ ๕) รูปรูแบบกระสวนที่ค้ ที่ นค้คว้าว้นั้น นั้ ถูกถูต้อต้งเต็มต็ที่แ ที่ ล้วล้หรือรืยังยัเมื่อ มื่ ผลิตลิสำ เร็จร็แล้วล้ทดลองดูว่ดูาว่สาเหตุใตุดทำ ให้เห้สียสีงสั่น สั่ เครือรืหรือรืแหลมไป ทุ้มทุ้ไป เสียสีงไม่อม่อก ไม่โม่ ปร่งร่ ไม่กัม่งกัวาน ไม่ใม่ส วิธีวิแธีก้ไก้ข มีวิมีธีวิแธีก้ไก้ขอย่าย่งไร ช่าช่งทุกทุท่าท่นควรพิจพิารณาศึกศึษารู้ใรู้ห้จห้ริงริอย่าย่มั่ว มั่ ขายไปเพื่อ พื่ หวังวัเพียพีง เงินงิจงคิดคิว่าว่ถ้าถ้เครื่อ รื่ งดนตรีชิ้รีน ชิ้ นี้ไนี้ปเป็นป็สมบัติบัขติองนักนัดนตรีรรีะดับดัชาติ ชื่อ ชื่ เสียสีงของช่าช่งนั้น นั้ คงจะดีไดีปด้วด้ย ถ้าถ้ใช้วัช้สวัดุรดุาคา แพงถึงถึขายแพงคงไม่มีม่ผู้มีใผู้ดมาติไติด้ ไม่น่ม่าน่เสียสีดายเงินงิอีกอีประการหนึ่ง นึ่ ใช้วัช้สวัดุรดุาคาถูกถูฝีมืฝีอมืการผลิตลิไม่ดีม่ ดีเสียสีงออกมาก็ไก็ม่ ดีผู้ดีซื้ผู้อ ซื้ ไป ถึงถึราคาถูกถูก็น่ก็าน่เสียสีดายเงินงิเพราะต่อต่ ให้ฝีห้มืฝีอมืเลิศลิขนาดไหนก็คก็งเอาดีไดีม่ไม่ด้ ท้าท้ยนี้จึ นี้ งจึขอฝากเตือตืนช่าช่งผลิตลิ เครื่อ รื่ งดนตรีว่รีาว่ควรรังรัสรรค์ผค์ลงานของแต่ลต่ะท่าท่นให้เห้ด่นด่ที่สุ ที่ ดสุเพราะเครื่อ รื่ งดนตรีแรีต่ลต่ะชิ้น ชิ้ จะมีอมีายุเยุป็นป็ร้อร้ยปีทั้ปีง ทั้ นั้น นั้ การจากไปของครูจ้อน (วาทิต) ไทรวิมาน เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของวงการดนตรีไทย คงเหลือไว้แต่ผลงานสร้างสรรค์เครื่องดนตรีที่งดงามและมีคุณภาพยิ่ง โดยเฉพาะซอสามสาย ซอด้วง และ ซออู้ ตลอดจนลูกศิษย์ที่เป็นช่างทำ เครื่องดนตรีไทย ไว้สืบทอดมรดกด้านงานช่างของท่านให้แก่ประเทศสืบไป ด้วย กุศลผลบุญที่ครูจ้อน ไทรวิมานได้สร้างสมมาตลอดชีวิต คงเป็นพลวัตรปัจจัยนำ ดวงวิญญาณของท่านสู่สวรรค์ ไปสร้างสรรค์งานดนตรีต่อไปอีกจนชั่วนิจนิรันดร์เทอญ ผศ.ดร.เจริญชัย ชนไพโรจน์ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คำ ไว้อาลัยครูจ้อน ไทรวิมาน ๒๒ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน


ครูจ้อนได้เข้ามาร่วมวงกับวงคำ หวาน โดยการแนะนำ ของ คุณชัยยุทธ สุอุทัย สมาชิกของวงคำ หวาน โดยเริ่มจากที่คุณชัยยุทธได้มีโอกาสไปซ่อมเครื่องดนตรีกับครูจ้อน และเห็นครูจ้อนสีซอสามสาย ซึ่งครูจ้อนเล่า ว่า ครูเป็นศิษย์ของ คุณครูเฉลิม ม่วงแพรศรี (ศิลปินแห่งชาติ) ครูชัยยุทธเห็นว่าช่วงนั้น วงคำ หวาน ยังขาดคน สามสาย จึงได้ชวนครูจ้อนมาซ้อมกับวงคำ หวานด้วย ซึ่งครูจ้อนก็ยินดี โดยคุณชัยยุทธเป็นผู้ไปรับ-ส่งทุกครั้งที่มี การซ้อม วันแรกที่ครูจ้อนได้มาซ้อมกับวงคำ หวาน ครูมิได้โดดเดี่ยวเลย ด้วยสมาชิกหลายท่านล้วนแล้วแต่เป็น “ลูกค้า” ของครูจ้อนมาก่อนทั้งสิ้น ทุกคนดีใจที่ครูมาซ้อมด้วยกัน โดยเฉพาะอาจารย์ของวงคำ หวานหลายท่าน ก็รู้จักกับครูจ้อนมาก่อน จึงเหมือนกับ “เพื่อนเก่า” ได้กลับมาบรรเลงดนตรีด้วยกันและวันแรกที่ครูมา ครูยังได้ มอบ “กรับพวง” เป็นที่ระลึกให้วงคำ หวานไว้ใช้งานด้วย ครูจ้อนเป็นคนเงียบ ๆ อ่อนน้อมถ่อมตนและเป็นคนประนีประนอม เวลาบรรเลง อาจารย์ของวงให้ปรับ อย่างไร ครูจ้อนก็จะปรับตาม โดยมิได้ถือตนว่า เป็นผู้อาวุโสหรือเป็นผู้รู้แต่อย่างใด นับเป็นความน่ารักของครู อย่างหนึ่ง ครูจ้อนได้มีโอกาสออกงานร่วมกับวงคำ หวานหลายครั้ง อาทิ งานไหว้ครูที่มูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ งานบันทึกเสียงของวงคำ หวานแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร อีกทั้งยังได้ร่วมกิจกรรม “คำ หวานสัญจร” เมื่อครั้งที่วงคำ หวานสัญจรไปอัมพวาอีกด้วย นับเป็นเกียรติแก่วงคำ หวานเป็นอย่างยิ่ง ที่ครูจ้อน ไทรวิมาน เป็น “ครูของครูช่าง” ที่มีชื่อเสียงทั้งหลายใน ปัจจุบัน ได้ให้เกียรติมาเป็นสมาชิกของวงคำ หวาน น่าเสียดายที่ช่วงหลัง สุขภาพของครูจ้อนไม่ค่อยดีนัก ทราบว่า เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ ครูมีอาการเหนื่อย เดินทางมาซ้อมไม่ไหว อย่างไรก็ตามครูก็ไม่ได้หายไปไหน ครูยังคงส่ง “ดอกไม้” ทักทาย และส่งเรื่องราวที่น่าสนใจเข้ามาในห้องไลน์ของวงคำ หวานเป็นประจำ อย่างสม่ำ เสมอ การสูญเสียครูจ้อนครั้งนี้ นับเป็นความสูญเสีย “ครูช่าง” ที่ยิ่งใหญ่ของวงการดนตรีไทยที่ยากจะหาผู้ใด ทัดเทียม แม้ครูจ้อนจะได้จากพวกเราไปแล้ว แต่ความประทับใจในอัธยาศัยอันงดงาม และความเรียบง่ายของ ครูจ้อนจะยังอยู่ในใจของพวกเราชาวคำ หวานเสมอและตลอดไป ขออาราธนาคุณคุพระศรีรัรีตรันตรัยรัและสิ่ง สิ่ ศักศัดิ์สิ ดิ์ ทสิธิ์ทั้ ธิ์ ง ทั้ หลาย ตลอดจนผลบุญบุที่ค ที่ รูจ้รูอจ้นได้สด้ร้าร้งสมมา จงโปรด ประทานพรให้ดห้วงวิญวิญาณของครูจ้รูอจ้นสถิตถิเสวยอุดอุมสุขสุในทิพทิยวิมวิาน สุคสุติสติถานยังยัสัมสัปรายภพด้วด้ยเทอญ ปภาวี บูลกุล วงคำ หวาน ครูจ้อน กับวงคำ หวาน วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๒๓


๒๔ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน เพลงอีแซว ๏ ๑๔ มีนมีาคม เหมือมืนเรือรืนล่มล่ล้มล้ครืนรืขวัญวัตกอกตื้น ตื้ ตะลึงลึยืนยืเยือยืกหนาว ลมแล้งโรยร้อนอาจ้อนโรยแรง ล่วงลับดับแสงเสียงซอสุดเศร้า ซอซึมคันสายเรียงรายโศกซม สุดสงวนครวญระงมเขมรไทรโยคโศกเหงา บุหลันลอยเลื่อนลางเลือนเลื่อนลอย นางครวญหวนละห้อย โอด ทยอย ทั้งเรือนเหย้า สิ้นครูภูมิปัญญา “วาทิต” ร่มโพธิ์ศิษย์ดุริยศิลป์ ส่งเพลงลาน้ำ ตารินสื่ออาลัยรักจากใจเรา ๚ ช่อระกำ เอ๋ยดอกคัดเค้า (ซ้ำ ) เสียงซอเศร้าร้าวทรวงเอย เอ๊อ..เออ..เอิง..เอย.. ๏ ซอยังแว่วแผ่วหวานวันวานย้อนวัน กระจ่างดั่งแสงจันทร์นวลแจ้งแสงเจ้า พ.ศ. สองพันห้าร้อยสามสิบเพียงพริบตาผ่าน เราสองราอาหลานผูกพันพงศ์เผ่า บ้านบางพลีมีสุข ณ สมุทรปราการ เป็นเรือนร่มลูกหลานเป็นโรงงานร่มเงา อาจ้อน ไทรวิมาน เลี้ยงลูกหลานเหล่าญาติมิตร ด้วยดุริยศิลป์สังคีตสร้าง “วาทิต” เครือเถา ๚ ๏ ลูกบางเลนขึ้นจากหล่มลานครปฐมสู่สำ โรง เป็นนายช่างดังโด่งเป็นครูดนตรีเด่นด้าว จากลูกมือลูกจ้างเป็นนายช่างนายจ้าง รอยธรรมแห่งเส้นทางแจ่มกระจ่างรอยเท้า ก้าวแรกได้ความรักแจ้งประจักษ์มาแต่เล็ก อาใจดีรักเด็กเยือกเย็นเป็นเอกไม่เสียงอ้าว รอยก้าวสองจบการศึกษาพ่อพามาอาศัย เตรียมสอบป.โทภาษาไทยได้ร่มใบแบ่งเบา “อยู่บ้ยู่ าบ้นท่าท่นอย่าย่ดูดดูายปั้น ปั้ วัววัควายให้ลูห้กลูท่าท่นเล่นล่ ” ได้บ่ด้มบ่เพาะบำ เพ็ญพ็ ใต้ร่ต้มร่วงศ์พศ์งศ์เศ์ผ่าผ่๚ ๏ รอยก้าวสามงามสุขแสนสนุกสุขศานต์ สดใสใต้ “ไทรวิมาน” สมัครสมานหลานสาว “หลานทำ อะไรก็อร่อย เรียบร้อยดูแล” ปีใหม่ สงกรานต์ สนุกแท้อาใจดีมิมีเท่า อยากทำ อะไรก็ให้ทำ หลายกิจกรรมไม่เคยเกิด อาเป็นพ่อพระประเสริฐศูนย์รวมรักหลักเสา คนสำ ราญงานสัมฤทธิ์กายจิตรื่นรมย์ ครอบครัวสุขสมรอยภาพคมสุขเคล้า ๚ ๏ รอยก้าวสี่จากศึกษาวิชาสีซอ เขมรไทรโยคหลานระย่ออาว่าน่าฝึกแต่เยาว์ โตแล้วไม่ฝืนอารับฟังให้มุ่งหวังดังฝัน อ่านตำ ราฝ่าฟันอาให้มุ่งมั่นหมั่นเฝ้า สรรพวิชาล้วนมีค่าหลานใคร่ครวญ “ดีด สี ตี เป่า ร้อง”ล้วนเลือกรัก-เล่นเช่นกอเหล่า “ชอบร้อร้งนะหลานรักรัจะพาไปฝากเรียรีนรู้”รู้ นี่คื นี่ อคืคำ ของครูส่รูงส่เสริมริให้สู้ห้คสู้วามขลาดเขลา ๚ ๏ รอยก้าก้วที่ห้ ที่ าห้เสาะหาหฤหรรษ์ เปิดปิกล่อล่งประสบการณ์ทั้ณ์ง ทั้ใกล้ไล้กลใหม่เม่ก่าก่ ไปส่งส่ดนตรีที่รีไที่ หนอาพาเราไปเที่ย ที่ วด้วด้ย โอกาสงามอำ นวยไปกินกิอาหารร้าร้นเหลา ได้เด้ปิดปิโลกทัศทัน์ไน์ด้สด้มบัติบัโติลกธรรม ได้พด้บแง่แง่ก่นก่แท้งท้ามที่อ ที่ าทำ ทุกทุค่ำ เช้าช้๚ เพลงพื้นบ้านอำ ลาอาลัย..รอยจำ ..ตามรอย..อาจ้อน


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๒๕ ๏ รอยก้าวที่หกจากสาธกอุทาหรณ์ ยามจนจุกทุกข์ร้อนยามรุ่งเรืองหลายเรื่องเล่า ยามผู้คนดูแคลนยามคับแค้นขื่นขม กล้ำ กลืนฝืนตรมตรากตรำ ไต่เต้า คร่ำ ฟุ้งคลุ้งฝอยฝังรอยโรคฝุ่น โถ..ยามชราช่างทารุณโรครุมสุมเร้า ฝ่าทำ สู้ทนยากจนอยู่เจียม กินน้อยค่อยเหนียมจนก้าวนำ นานเนา มัธยัสถ์สัตย์ซื่อเพียรถืออุตส่าห์ ใช้วินัยนำ หน้าใช้กรุณาโน้มน้าว คติชีวิตให้ไว้ใส่ใจจดจำ รอยย่ำ ก้าวย้ำ ยังฝังเย็นยืนยาว ๚ ๏ รอยก้าวที่เจ็ดอาฝากเพชรคู่ใจ คือดนตรีไทยครูผู้ใหญ่ครูผู้เฒ่า “อาได้ดีมีอุดมสุขสมด้วยดนตรี” เพราะครูคนนั้นท่านคนนี้มากมีมูลเค้า อาไม่เคยลืมคุณผู้การุญแต่หลัง พระคุณครูคือพลังอาปลูกฝังสั่งเล่า วันนี้ลูกหลานยังจงรักยืดหลักตามรอย ไม่เคยท้อไม่เคยถอยเจริญรอย “วาทิต” เถา ๚ ๏ หอมเอยเจ้าช่อเจ้าช่อจำ ปา หอมเอยเจ้าช่อเจ้าช่อจำ ปา (๑) รอยความรัก (๒) รอยพักร่ม (๓) รอยสุขสม (๔) รอยศึกษา เอ่อเออเออเอย.. ๏ หอมเอยเจ้าช่อเจ้าช่อจำ ปี หอมเอยเจ้าช่อเจ้าช่อจำ ปี (๕) รอยรอบรู้ (๖) รอยสู้ทน (๗) รอยรักล้นดนตรี เอ่อเออเออเอย... เพลงพวงมาลัย ๏ เอ้อระเหยลอยลา กราบอาที่หัวใจ จำ ความรู้จำ ความรัก จำ แน่วแน่หนักจำ วินัย จำ ซื่อตรงจำ เมตตา จำ รู้คุณค่าดนตรีไทย พวงมาลากราบอาลัย (ซ้ำ ) ขออาสถิตในวิมานทิพย์เอย ๚๛ รศ.บัวผัน สุพรรณยศ


๒๖ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ร่มโพธิ์ใหญ่ ถึงเวลา มาถอนราก ด่วนพราก ลาจาก ลูกและหลาน น้ำ ตานอง ท่วมท้น ล้นดวงมาน จิตสะท้าน ใจสะเทือน เหมือนฝันไป ร่มโพธิ์นี้ เคยปกแผ่ เป็นร่มเงา คอยบรรเทา ทุกปัญหา พาสดใส ยามลูกท้อ พ่อก่อ กำ ลังใจ ให้ก้าวไป ทำ แต่สิ่ง ที่ดีงาม แต่หนหลัง ยามท่านอยู่ เอ็นดูลูก ความพันผูก เมื่อลูกทุกข์ พ่อเฝ้าถาม สอนวินัวิยนัมีรมีะเบียบีบ เรียรีบร้อร้ยงาม ทุกทุโมงยาม แสนอบอุ่นอุ่ กรุ่นรุ่ ดวงใจ โอ้ยามนี้ มีแต่ ความคิดถึง คอยคำ นึง ถึงพ่อ น้ำ ตาไหล ต่อแต่นี้ ลูกโหยหา ด้วยอาลัย แลเหลียวไป ก็แลลับ วับวิญญาณ์ ด้วยอำ นาจ บุญกุศล ที่พ่อทำ น้อมนำ เป็นปัจจัย ยิ่งใหญ่หนา พ่อพ่หลับลัเถิดถิสุขสุสนิทนิ ในนิทนิรา บุญบุนำ พา สู่เสู่ มือมืงแมน แดนวิมวิาน ทุกคำ สอน ของพ่อ จักจดจำ น้อมนำ ทุกคำ ถ้อย ที่พร่ำ ขาน พ่อจะอยู่ ในใจลูก นานเท่านาน ตลอดกาล ร่มโพธิ์นี้ มิมีลืม ชัยพร ทับพวาธินท์ “ร่มโพธิ์ของลูก”


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๒๗ ช่างจ้อนเป็นนายช่างทำ เครื่องดนตรีไทยฝีมือดีคนสำ คัญมากคนหนึ่งของประเทศไทย สามารถผลิตและ สร้างเครื่องดนตรีไทยได้เกือบทุกชนิดภายใต้ชื่อแบรนด์ร้านว่า “ดุริยางค์ไทย” ข้าพเจ้ามีอายุอ่อนกว่าท่าน ๑ ปี ได้รู้จักและคบค้าสมาคมฉันญาติสนิทมิตรสหายมาร่วม ๔๕ ปี ในคราวนั้นข้าพเจ้าเป็นหัวหน้าหมวดศิลปะและ ดนตรีที่โรงเรียนจิตรลดาในเขตพระราชวังสวนจิตรลดา ข้าพเจ้าตั้งใจที่จะส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาดนตรี ไทยศึกษา ตามพระราโชบายที่โรงเรียนรับมาจากองค์ผู้บริหาร โดยในแต่ละปีเราจะสั่งซื้อเครื่องดนตรีไทยจาก ร้านดุริยางค์ไทยของช่างจ้อนเป็นจำ นวนมากอันได้แก่ ซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย โดยเฉพาะ ซอสามสายเราเน้น ซื้อปีละนับสิบคัน ราคาสมัยนั้นคันละประมาณ ๓,๕๐๐ - ๔,๐๐๐ บาท ข้าพเจ้ามีนโยบายให้นักเรียนมีเครื่อง มือดนตรีเป็นของตนเอง เพราะจะได้นำ ไปฝึกซ้อมที่บ้านยามว่างและเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการทำ เครื่อง ดนตรีของช่างอันเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกด้วย ช่างจ้อนนับเป็นญาติสนิทมิตรสหาย เป็นผู้มีอัธยาศัยไมตรีสุภาพอ่อนโยนเป็นที่สุด ความสัมพันธ์ของช่าง จ้อนต่อโรงเรียนจิตรลดา นับว่าท่านเป็นผู้มีความรักเทิดทูนและศรัทธาต่อสถาบันอย่างเหนียวแน่น โดยจะเห็นได้ จากคราวใดที่สั่งซื้อเครื่องดนตรีช่างจ้อนจะตั้งใจผลิตเครื่องดนตรีอย่างมีคุณภาพและคิดราคามิตรภาพลดแลกแจก แถม ถ้าเครื่องดนตรีชิ้นใด ใช้แล้วชำ รุดเสียหาย แม้บางชิ้นจะไม่ได้ซื้อจากดุริยางค์ไทย ช่างก็จะมีน้ำ ใจซ่อมให้โดย ไม่คิดราคา โรงเรียนจิตรลดาโดยเฉพาะหมวดดนตรีศึกษา จะรฦกถึงช่างจ้อนทุกครา เมื่อเวลานำ ขิมใหญ่ที่ช่างได้ บรรจงสร้างอย่างประณีต ที่ฝาขิมมีตราพระมหาพิชัยมงกุฎและอักษรย่อว่า จด. มอบให้โรงเรียนเมื่อ ๒๐ ปีก่อน มาบรรเลงทุกครั้ง ในระยะหลังลัเราไม่ค่ม่อค่ยได้พด้บปะพูดพูคุยคุกันกัเพราะต่าต่งคนก็ย่ก็าย่งเข้าข้สู่วัสู่ ยวัชราเต็มต็ตัวตัสุขสุภาพไม่แม่ข็งข็แรงเหมือมืน ก่อก่นแต่เต่ราก็อก็าศัยศัทักทัทายกันกัทางไลน์มิน์ ไมิด้ขด้าด บางคราวเราก็แก็ต่งต่บทกลอนชมความงามของดอกไม้ ธรรมชาติ แลก เปลี่ย ลี่ นกันกับ่อบ่ย ๆ นับนัว่าว่เป็นป็คนที่มี ที่ อมีารมณ์โณ์รแมนติกติมิใมิช่น้ช่อน้ย ดังดันั้น นั้ เราจึงจึไม่รู้ม่สึรู้กสึเหินหิห่าห่งแต่อต่ย่าย่งไร จนกระทั่ง ทั่ มาทราบข่าข่วทางไลน์ขน์องช่าช่งจ้อจ้นว่าว่ “พ่อพ่เสียสีแล้วล้ครับรั” (คงเป็นป็ลูกลู ๆ ส่งส่ข้อข้ความมา) เมื่อ มื่ วันวัที่ ๑๔ มีนมีาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ รู้สึรู้กสึใจหายหดหู่แหู่ ละเกิดกิสูญสู ญากาศทางความรู้สึรู้กสึหมดกันกั! แต่ทุต่กทุสรรพสิ่ง สิ่ ในโลกนี้ล้ นี้ วล้นอนิจนิจังจัตามกฎ ไตรลักลัษณ์อัณ์นอัเป็นป็ธรรมดาเสมอ สุดท้ายนี้ ขออำ นาจแห่งคุณความดีที่ช่างจ้อนได้สั่งสมมาตลอดชีวิตของท่าน จงส่งผลแห่งกุศลกรรมให้ ดวงวิญญาณของท่านจงสถิตย์ในห้วงแห่งความสงบสันติอันเป็นนิรันดร์เทอญ รักและรฦกถึงอยู่เสมอ เสนีย์ เกษมวัฒนากุล รฦกถึงครูจ้อน


๒๘ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ทินทิยินยิชื่อ ชื่ นี้ เนานาน ยิ่ง ยิ่ พิศพิตระการ ผ่อผ่งแผ้วผ้ โศกสุดประมาณ ครวญคร่ำ รับรักลับลัเมือมืงแก้วก้ช่าช่งจ้อจ้นไทรวิมวิาน ผมได้รู้ด้จัรู้กจักับกัช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน บนเส้นส้ทางของดนตรีไรีทย ซึ่ง ซึ่ นักนัดนตรีไรีทยทุกทุคนมิอมิาจจะเล่นล่ดนตรีไรีด้เด้ลย หากขาดช่าช่งผู้ปผู้ ระดิษดิฐ์เฐ์ครื่อ รื่ งดนตรี เครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยนอกจากจะมีคุมีณคุภาพเสียสีงที่ไที่ พเราะแล้วล้ยังยัต้อต้งมีกมีระบวนการ ในการประดิษดิฐ์ใฐ์ห้มีห้คมีวามวิจิวิตจิรประณีตณีบรรจงในเชิงชิช่าช่งอีกอีด้วด้ย เมื่อ มื่ นำ ไปบรรเลงออกมาเป็นป็ทำ นองเพลง ทำ ให้เห้กิดกิ มิติมิแติห่งห่ความเป็นป็สุนสุทรียรีรสได้อด้ย่าย่งกลมกลืนลืทั้ง ทั้ เสียสีงที่เ ที่ กิดกิจากเครื่อ รื่ งดนตรีแรีละความงดงาม อ่ออ่นช้อช้ยทางกายภาพ ของเครื่อ รื่ งดนตรี ช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน เป็นป็ช่าช่งผู้ปผู้ ระดิษดิฐ์เฐ์ครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยที่ไที่ ด้รัด้บรัการยอมรับรัอย่าย่งกว้าว้งขวางของ วงการดนตรีไรีทย ผมเริ่ม ริ่ ฝึกฝึดนตรีไรีทยขณะเรียรีนอยู่ใยู่ นระดับดัชั้น ชั้ มัธมัยมช่วช่งปี พ.ศ.๒๕๑๕-๒๕๑๙ ที่จั ที่ งจัหวัดวัอุตอุรดิตดิถ์ ทางโรงเรียรีน เริ่ม ริ่ ตั้ง ตั้ วงดนตรีไรีทยครั้ง รั้ แรก โดยซื้อ ซื้ เครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยประเภทเครื่อ รื่ งสายจากร้าร้นดุริดุยริบรรณ ซึ่ง ซึ่ มาทราบในภายหลังลัว่าว่ ช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน เป็นป็ช่าช่งประดิษดิฐ์เฐ์ครื่อ รื่ งดนตรีปรีระจำ ร้าร้นดุริดุยริบรรณระหว่าว่งปี พ.ศ. ๒๕๑๐-๒๕๒๐ นั่น นั่ หมายความ ว่าว่ผมได้สัด้มสัผัสผัเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยที่ผ่ ที่ าผ่นฝีมืฝีอมืจากการประดิษดิฐ์ขฐ์องช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน อย่าย่งแน่นน่อน ราวปี พ.ศ.๒๕๒๕ ผมรับรัราชการครูที่รูจั ที่ งจัหวัดวัสุโสุขทัยทั ได้ซื้ด้อ ซื้ ซออู้ไอู้ม้มม้ะเกลือลืจากร้าร้นอาจารย์ปย์ระทีปทีนักนัปี่ (อาจารย์ปย์ระจำ มหาวิทวิยาลัยลั ศรีนรีครินริทรวิโวิรฒ พิษพิณุโณุลก) และมาทราบในภายหลังลัอีกอีเช่นช่กันกัว่าว่อาจารย์ปย์ระทีปทีนักนัปี่ ท่าท่นรับรัเครื่อ รื่ งดนตรีมรีาจาก ร้าร้นดุริดุยริางค์ไค์ทย ซึ่ง ซึ่ เป็นป็ร้าร้นของช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน แกะกะโหลกซอโดย ช่าช่งจรูญรูชมชื่น ชื่ กว่าว่ผมจะรู้จัรู้กจักับกัช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน เป็นป็การส่วส่นตัวตัก็ต่ก็อต่เมื่อ มื่ ผมย้าย้ยเข้าข้มารับรัราชการครูที่รูก ที่ รุงรุเทพฯ โดยการแนะนำ ของคุณคุครูเรูฉลิมลิม่วม่งแพรศรี (ศิลศิปินปิแห่งห่ชาติ)ติอาจารย์เย์สนีย์นีย์เกษมวัฒวันากุลกุและอาจารย์วิย์ทวิยา เรือรืงสุทสุธิพธิงศ์ ทั้ง ทั้ ๓ ท่าท่นเป็นป็ครูสรูอนดนตรีไรีทยที่ โรงเรียรีนจิตจิรลดา ในขณะนั้น นั้ ที่โที่ รงเรียรีนจิตจิรลดา มีนมีโยบายส่งส่เสริมริให้นัห้กนัเรียรีนฝึกฝึเล่นล่เครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยทุกทุคนตามความ สนใจ ซอสามสายเป็นป็เครื่อ รื่ งดนตรีหรีนึ่ง นึ่ ที่นั ที่ กนัเรียรีนให้คห้วามสนใจฝึกฝึเป็นป็จำ นวนมาก อาจารย์เย์สนีย์นีย์เกษมวัฒวันากุลกุท่าท่น เล่าล่ ให้ฟัห้งฟัว่าว่ ได้สั่ด้ง สั่ ทำ ซอสามสายของโรงเรียรีนจิตจิรลดา และนักนัเรียรีนบางคนก็สั่ก็ง สั่ ซื้อ ซื้ เป็นป็ของส่วส่นตัวตัจากร้าร้นดุริดุยริางค์ไค์ทย โดยช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน เมื่อ มื่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ผมรับรัราชการครูที่รูโที่ รงเรียรีนเทพศิริศินริทร์ ได้มีด้โมีอกาสเดินดิทางไปสอนดนตรี ไทยที่วั ที่ ดวัพุทพุธดัลดัลัสลัมลรัฐรัเท็กท็ซัสซัสหรัฐรัอเมริกริา เมื่อ มื่ กลับลัมาแล้วล้ได้สั่ด้ง สั่ ทำ ขิมขิประดับดัมุกมุทั้ง ทั้ ตัวตักับกัช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน ให้ ลูกลูศิษศิย์ โดยการตกลงราคา ซึ่ง ซึ่ เป็นป็ราคาที่ค่ ที่ อค่นข้าข้งสูงสูช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน ใช้เช้วลาประดิษดิฐ์ขิฐ์มขิดังดักล่าล่วนานพอสมควร เนื่อ นื่ งจากช่วช่งเวลานั้น นั้ หอยมุกมุหายากและมีรมีาคาแพง ตามข้อข้ตกกันกัจะต้อต้งใช้มุช้กมุไฟทุกทุชิ้น ชิ้ เมื่อ มื่ ขิมขิทำ เสร็จร็แล้วล้ช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน บอกกับกัผมว่าว่ตนเองจะต้อต้งออกทุนทุเป็นป็ค่าค่วัสวัดุอุดุปอุกรณ์เณ์พิ่ม พิ่ ขึ้น ขึ้ อีกอีเป็นป็เท่าท่ตัวตัจากราคาที่ต ที่ กลงกันกัไว้ใว้นครั้ง รั้ แรก ถึงถึอย่าย่งไรก็ตก็ามช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน ก็ยก็อมรับรัว่าว่ตนเองคิดคิคำ นวณและประมาณการราคาคลาดเคลื่อ ลื่ น และเป็นป็ ช่วช่งระยะเวลาที่ห ที่ อยมุกมุขาดตลาด โดยยืนยืยันยักับกัผมว่าว่ยังยัคิดคิราคาเดิมดิตามที่ต ที่ กลงราคากันกัไว้ เหตุกตุารณ์ที่ณ์ก ที่ ล่าล่วมานี้ ทำ ให้ผห้มประทับทัใจและซาบซึ้ง ซึ้ใจในตัวตัช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน เป็นป็อย่าย่งมากและขอยกย่อย่งชมเชยท่าท่นว่าว่ “เป็นป็ช่าช่งผู้ ซื่อ ซื่ สัตสัย์ ยึดยึมั่น มั่ ในสัจสัวาจา” เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๘ สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มอบหมายให้โรงเรียนเทพศิรินทร์ เป็น เจ้าภาพจัดการประกวดดนตรีไทย โครงการส่งเสริมการประกวดแข่งขันดนตรีและดนตรีนาฏศิลป์พื้นเมือง รอบชิง ชนะเลิศ ระดับประเทศ ซึ่งมีคณะครู นักเรียน ที่ได้รับคัดเลือกจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศมาเข้าร่วมกิจกรรม การประกวด ในงานนี้ช่างจ้อน ไทรวิมาน ได้ขออนุญาตนำ เครื่องดนตรีไทยมาจัดแสดงเพื่อการศึกษาและจำ หน่าย ช่างจ้อน ไทรวิมาน : ผู้เป็นญาติคีตา วา ทิต ไทร วิมาน


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๒๙ วัสดุอุปกรณ์ เครื่องดนตรีไทยชนิดต่าง ๆ ให้กับผู้ที่สนใจ หลังจากเสร็จงานแล้วช่างจ้อน ไทรวิมาน ท่านได้ ประดิษฐ์เครื่องดนตรีไทยจำ นวน ๓ รายการ ได้แก่ ซอด้วงไม้แก้ว ๑ คัน ซออู้ไม้แก้ว ๑ คัน และขิมคางหมูสาย สแตนเลส บนฝาขิมจารึกข้อความตัวอักษรทำ ด้วยมุก มอบให้โรงเรียนเทพศิรินทร์ เครื่องดนตรีไทยดังกล่าว โรงเรียนเทพศิรินทร์ได้นำ มาใช้ฝึกฝนให้กับนักเรียนรุ่นต่อรุ่นมาถึงทุกวันนี้ นับว่าช่างจ้อน ไทรวิมาน นอกจากจะ เป็นช่างฝีมือชั้นครูแล้ว ท่านยังเป็นนักดนตรีฝีมือชั้นยอด โดยเฉพาะการสีซอสามสาย ทั้งนี้ท่านได้รับการถ่ายทอด จากคุณครูเฉลิม ม่วงแพรศรี (ศิลปินแห่งชาติ) และเป็นผู้ทุ่มเทส่งเสริมดนตรีไทยทั้งโดยตรงและโดยอ้อมอีกด้วย ช่างจ้อน ไทรวิมาน ได้รับการยอมรับว่าเป็นครูต้นแบบกระบวนช่างประดิษฐ์เครื่องดนตรีไทย ที่รักษา ขนบแบบแผนประเพณี และสืบทอดกระบวนการดังกล่าวให้กับทายาท ตลอดจนศิษย์ช่างที่มีฝีมือเป็นที่ ประจักษ์อีกหลายคนในปัจจุบัน คุณงามความดีทั้งหลายที่ช่างจ้อน ไทรวิมาน ได้กระทำ อันเป็นประโยชน์ต่อ การธำ รงรักษาศิลปวัฒนธรรมของชาติ จงเป็นบุญกุศลนำ พาช่างจ้อน ไทรวิมาน ไปสู่ดินแดนอันอุดมรมย์รื่น สงบชื่นเย็น สมกับคำ เรียกขานนามสกุลของท่านที่ว่า “ไทรวิมาน” และจะอยู่ในความทรงจำ ประทับแนบใจ ของพวกเราเหล่านักดนตรีไทยด้วยความเคารพนับถือเสมือนญาติตราบนิจนิรันดร์ เพราะเราเป็นญาติกับท่าน ทางสายเลือดดนตรีไทย ดั่งประโยคปฐมบทที่ว่า “ช่างจ้อน ไทรวิมาน : ผู้เป็นญาติคีตา” (ญา-ติ-คี-ตา) อาทร ธนวัฒน์


๓๐ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ทราบว่า “ครูจ้อน” ถึงแก่อนิจกรรมจากลูกชายที่โทรมาบอก ผมและภรรยารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับ ครอบครัว “ไทรวิมาน” ที่สูญเสียเสาหลักของครอบครัวและกำ ลังสำ คัญ “ครู” ของชาติท่านหนึ่ง อันที่จริง ท่าน รองศาสตราจารย์ ดร.ศักดิ์ชัย นิรัญทวี ท่านได้เขียนหนังสือจะเรียกว่า ชีวประวัติ และผลงานของ “คุณครูจ้อน” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่จัดพิมพ์โดยกลุ่มงานศิลปะและวัฒนธรรมของสำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๔ หนังสือที่ชื่อว่า “ครูจ้อน ไทรวิมาน ครูดนตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งบางพลี” เราสองคนได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์ของคุณครูจ้อน ตอนใกล้จะเกษียณอายุราชการ ภรรยาเรียนซอสามสาย และผมเองเรียนซอด้วง ที่ประทับใจในความเป็นครู คือ สามารถจับผู้สูงวัยสองคนเรียนวิชาจนสามารถสีเป็น เพลงได้ จนกระทั่งได้ร่วมวงดนตรีของครูในโอกาสวันไหว้ครูครั้งหนึ่ง ที่มีลูกศิษย์วัยเด็กจนถึงวัยชรา (สูงวัย) สองคนอย่างเรา ร่วมวงได้ คิดดูแล้วกัน ที่เราซาบซึ้งอย่างยิ่ง คือความเป็นครู สอนด้วยความรักในศิษย์ด้วยความเต็มใจ และไม่ปิดบังความรู้เลย สมกับเป็น “ครูผู้ให้โดยแท้” และเมื่อมีโอกาสให้ลูกศิษย์ได้แสดงความรู้ ความสามารถอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งบริจาคให้สถาบันมากมาย อีกเรื่องหนึ่งที่ประทับใจ คือ โรงงานของ “ครูจ้อน” เป็นโรงฝึกกับศูนย์เรียนรู้ การประดิษฐ์เครื่องดนตรีนานาชนิด เป็นผู้มีทักษะอย่างยอดเยี่ยมที่เป็นตัวอย่างของความดี “ครูจ้อน” เป็นคนดี มีความกตัญญูกตเวทิตา แด่คุณครู ผู้สอนผู้ให้ความรู้ ทั้งการผลิตเครื่องดนตรี และสอนวิชาดนตรี สมกับสุภาษิต ที่ว่า “ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี” ขอคุณความดีที่คุณ “ครูจ้อน” วาทิต ไทรวิมาน ได้บำ เพ็ญมาตลอดชีวิต จงเป็นพลวปัจจัย ส่งวิญญาณ ให้ครูไปสู่สุคติในสัมปรายภพนั้นเทอญฯ ด้วยจิตคารวะ พล.ท. นพ.อำ นาจ บาลี พ.ต.หญิง พญ. มล.กนกลดา บาลี ด้วยความระลึกถึงและสดุดีครูจ้อน วาทิต ไทรวิมาน


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๓๑ ผมรู้จัรู้กจั “ครูจ้รูอจ้น ไทรวิมวิาน” เมื่อ มื่ ครั้ง รั้ คณะเราร่วร่มกันกัสร้าร้งธารพระกรทองคำ (ไม้เม้ท้าท้) ทองคำ ประกอบไม้ พญางิ้ว งิ้ ดำ ถวายองค์สค์มเด็จด็พระเจ้าจ้อยู่หัยู่ วหัร.๙ นานมาหลายปีแปีล้วล้ ในวันวันั้น นั้ เพชร “จ้อจ้น ไทรวิมวิาน” ได้ฉด้ายแวว พิเพิศษยิ่ง ยิ่ มติทติางใจของเราบอกว่าว่ โชคดีเดีหลือลืเกินกิที่ไที่ ด้รู้ด้จัรู้กจัครูจ้รูอจ้น ไทรวิมวิาน ต่อต่แต่นี้ต่ ไนี้ปจะต้อต้งรักรัษาเพชรดวงนี้ไนี้ ว้ กับกัเราให้นห้านที่สุ ที่ ดสุ ครูจ้อน ไทรวิมาน นอกจากจะเชี่ยวชาญเชิงช่างดนตรีและเล่นดนตรีไทยได้เกือบทุกอย่างแล้ว ยังดูจะเป็น พหูสูต รู้ไปทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องประวัติศาสตร์ สังคม การบ้านการเมืองหรืออื่น ๆ มาเล่าสู่กันฟังเป็นฉาก ๆ อย่าง สมเหตุสมผล ครูจ้อน ไทรวิมาน เป็นคนนอบน้อมถ่อมตน ไม่ถือตัว มีเมตตา พูดจาตรงไปตรงมา สุภาพเรียบร้อย เราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง มีความสุขทุกครั้งที่ได้พบหน้าพูดคุยกัน พบกันครั้งสุดท้าย ในช่วงที่โควิดเริ่มวิกฤต ครูจ้อน บอกว่า ไม่ต้องมาหา เราสามารถคุยติดต่อกันได้ทางอื่นหลายทาง รู้ข่าวการจากไปของ ครูจ้อน ไทรวิมานแล้วใจหาย เสียใจและโทษตัวเองที่ปล่อยให้โอกาสสำ คัญนี้หมดไป ผมควรจะได้ไปเยี่ยมพูดคุยหรือแม้แต่เห็นหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย ต่อนี้ไปจะไม่มีดวงหน้าที่แสนซื่อ ไม่มีสายตาแห่งความเป็นมิตรคู่นั้น ไม่มีสุภาพบุรุษใจดี มองโลกในแง่ดี คนนี้อีกแล้ว สำ หรับ “ครูจ้อน ไทรวิมาน” น้องชายที่แสนดี คงไม่มีคำ กล่าวใดๆดีไปกว่าคำ ภาวนาจากส่วนลึก ของหัวใจว่า ยังรักและอาลัยเสมอ เกิดชาติหน้าขอให้เราได้พบกันอีก เจ้านกน้อยหากินในพงหญ้า บินสู่ป่าถลาไปไร้จุดหมาย บัดนี้ เจ้าได้พบแล้วสถานที่สุดท้าย ที่จะฝากฝังกาย เจ้าไว้ชั่วนิรันดร์ ด้วยรักและอาลัย สมหมาย จันทรา


๓๒ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ผมรู้จักครูจ้อนมาไม่น้อยกว่า ๑๕ ปี ก่อนหน้านั้นผมรู้ว่าครูจ้อนเป็นช่างทำ เครื่องดนตรีไทยระดับประเทศ เมื่อโชควาสนาช่วยให้ผมมารู้จักกับครูจ้อน จึงทราบว่า นอกจากจะมีชื่อเสียงทางช่างแล้ว ครูจ้อนยังมีความ สามารถในการเล่นดนตรี เช่น ซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย เปียโน และอื่น ๆ อีกด้วย ครูจ้อนมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ครูจ้อนเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน ถ่อมตัว ไม่โอ้อวด ครูจ้อนเป็นนักธุรกิจที่ ประสบความสำ เร็จในการทำ เครื่องดนตรีไทยที่หายาก เมื่อได้ความรู้และทักษะจากการทำ งานที่ร้านดุริยบรรณ ก็ออกไปสร้างตัวเองจากช่างที่มีฝีมือเล็ก ๆ คนหนึ่ง จนได้เป็นเจ้าของโรงงานผลิตเครื่องดนตรีไทยที่ใหญ่ที่สุด แห่งหนึ่ง เป็นสำ นักฝึกช่างทำ เครื่องดนตรีไทยที่มีชื่อเสียงออกไปมากมายเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ ครูจ้อนเป็นผู้ ใฝ่รู้ คอยเสาะแสวงหาครูดี เพื่อจะได้ฝากตัวเรียนรู้ทางดนตรี ครูจ้อนเป็นผู้ให้ หวังดีสอนศิษย์ ให้การสนับสนุน ทางดนตรี บริจาคเครื่องดนตรีให้สถานศึกษาต่าง ๆ มากมาย ผมเองเคยได้รับการสอนจากครูจ้อนในการดัด กะลาทำ ซอสามสาย ด้วยความสามารถ มีคุณธรรม เสียสละต่อสังคมส่วนรวม ครูจ้อนจึงได้รับมอบปริญญากิติมศักดิ์ ในระดับ ปริญญาตรี และปริญญาโทจากสถาบันอุดมศึกษาถึง ๒ แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม และ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ตามลำ ดับ ด้วยกุศลผลบุญที่ครูจ้อนได้ ปฏิบัติ สร้างสมมาตลอดชีวิต ขอให้ดวงวิญญาณของครูจ้อน ได้ไปสู่สุคติใน สัมปรายภพโน้นเทอญ ลาก่อนช่างจ้อนผู้แสนดี ผศ. ดร.พล คำ ปังสุ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สวนสุนันทา และอุดรธานี อาลัยครูจ้อน


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๓๓ เราเป็นป็เพื่อ พื่ นรุ่นรุ่ ราวคราวเดียดีวกันกัผมได้รู้ด้จัรู้กจั “ช่าช่งจ้อจ้น” ตั้ง ตั้ แต่ปีต่ ปี๒๕๓๐ คราวนั้น นั้ ผมได้คิด้ดคิตั้ง ตั้ วงดนตรีไรีทย เป็นป็วงมโหรีเรีครื่อ รื่ งใหญ่ซึ่ญ่ง ซึ่ ประกอบด้วด้ยวงเครื่อ รื่ งสายไทย และวงปี่พ ปี่ าทย์เย์ครื่อ รื่ งคู่ แต่ย่ต่อย่ส่วส่นลงมาให้เห้หมาะกับกัการ บรรเลงผสมเครื่อ รื่ งสายชื่อ ชื่ “วงเจ้าจ้พระยา” ด้วด้ยหวนคิดคิขึ้น ขึ้ ว่าว่เพลงแนวของท่าท่นอาจารย์ “ศาสตราจารย์ ดร.อุทิอุศทิ นาคสวัสวัดิ์”ดิ์ ไม่มีม่ผู้มีสืผู้ บสืทอด จึงจึได้รด้วบรวมน้อน้ง ๆ มหาวิทวิยาลัยลัเกษตรศาสตร์ ให้มห้าช่วช่ยกันกัมีน้มีอน้งคนหนึ่ง นึ่ แนะนำ ให้ให้ช้ เครื่อ รื่ งที่ “ช่าช่งจ้อจ้น” ทำ ขาย จึงจึได้ได้ปหาที่บ ที่ างพลีเลีมื่อ มื่ ครั้ง รั้ อยู่ที่ยู่ เ ที่ ก่าก่เป็นป็ โรงงานที่มี ที่ เมีครื่อ รื่ งกลึงลึแบบเก่าก่ ได้อุด้ดอุหนุนนุซื้อ ซื้ มาใช้งช้านเป็นป็ซอด้วด้ง ๒ คันคัซออู้ ๒ คันคัจะเข้ ๑ ตัวตัต่อต่มา “ช่าช่งจ้อจ้น” เริ่ม ริ่ ทำ ซอสามสายก็ขก็อให้ช่ห้วช่ยซื้อ ซื้ อีกอี๑ คันคั เป็นป็ซอคันคัแรกที่ทำ ที่ ทำออกขาย ซื้อ ซื้ มาทั้ง ทั้ ๆ ที่สี ที่ ไสีม่เม่ ป็นป็แต่เต่พื่อ พื่ เป็นป็การให้กำห้ กำลังลัใจเพื่อ พื่ น จนบัดบันี้ก็ นี้ ยัก็งยัไม่ไม่ด้ใด้ช้งช้าน แต่ สภาพยังยัดีพดีร้อร้มใช้งช้าน “ช่างจ้อน” เริ่มทำ เครื่องดนตรีขายด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ด้วยสมองและฝีมือของตัวเอง ค้นคิดจน ลงตัว เข้าขั้นมีฝีมือเป็นเลิศในด้านเครื่องสายคนหนึ่ง เจอกันครั้งสุดท้ายงานไหว้ครูที่บ้านบางพลี เอาข้าวหลามไปช่วยเพื่อน ถามไถ่ถึงได้รู้ว่าป่วยหลายโรค ที่สำ คัญเป็น “ภูมิแพ้ตัวเอง” กำ ลังจะหาทางช่วยแต่ต้องรอให้โรคอื่นทุเลาก่อน จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ช่วย เพื่อน จนบัดนี้เพื่อนจากไปดีแล้ว ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีไปเป็นช่างทำ เครื่องดนตรีดี ๆ อยู่บนสวรรค์นะเพื่อน “ช่างจ้อน” ด้วยรัก ประสพ สังฆธรรม (จุ๊บ)


๓๔ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน เมื่อ มื่ ผมได้รัด้บรัทราบข่าข่วการถึงถึแก่กก่รรมของช่าช่งจ้อจ้นหรือรืที่ห ที่ ลาย ๆ คนเรียรีกว่าว่ครูจ้รูอจ้น ความรู้สึรู้กสึตกใจบังบัเกิดกิ ขึ้น ขึ้ มาในทันทัที แม้จม้ะพอทราบอยู่ว่ยู่ าว่สุขสุภาพของช่าช่งจ้อจ้นไม่ค่ม่อค่ยดีมดีาแต่ไต่หนแต่ไต่ร เมื่อโอ๊ต (ผศ. ดร.สุรพงษ์ บ้านไกรทอง) ได้ติดต่อขอถ่ายรูปเครื่องดนตรีที่ผมสั่งทำ มาจากช่างจ้อนเพื่อลง พิมพ์ในหนังสืออนุสรณ์การศพ และในกาลลำ ดับมาช่างโจ (ศุภาพล ไทรวิมาน) ได้ส่งข้อความหาผมเพื่อขอให้ผม เขียนคำ ไว้อาลัยแด่คุณพ่อของช่างโจ ผมจึงได้ตกปากรับคำ ทั้งสองกรณีด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อจะ ได้ทำ อะไรบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการคารวะและแสดงความอาลัยต่อช่างจ้อน การที่ได้เขียนคำ ไว้อาลัยในครั้งนี้ ย่อมเป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้มีเวลานั่งทบทวนปฏิสัมพันธ์ระหว่างผม และช่างจ้อนตลอดกว่ายี่สิบปีที่มีความผูกพันกันมา โดยเริ่มต้นจากการว่าจ้างทำ ซอคันแรกจนบานปลายเลยเถิด ไปถึงเครื่องอะไรต่อมิอะไรมิใช่น้อย จากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสกับช่างจ้อนมา ผมเห็นว่าช่างจ้อนมีคุณธรรมอัน วิเศษอยู่หลายประการทีเดียว ข้อแรกที่พอจะยกขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์ อีกทั้งสำ แดงให้เหล่าทายาทได้ภูมิใจ และ น้อมนำ ไปใช้ปฏิบัติให้เกิดคุณในชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นก็คือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน การเป็นผู้มีวาจาอันไพเราะ อีกทั้งมีมารยาทอันเรียบร้อยไม่ว่ากับใครก็ตาม ความประพฤติในข้อนี้ของช่างจ้อนมีความสม่ำ เสมอ เสมอต้น เสมอปลายนับตั้งแต่การพบเจอกันครั้งแรกจวบจนครั้งสุดท้าย ข้อที่สองคือการเป็นผู้มีขันติธรรมสูง ยอมรับ และ อดทนต่อคำ ติต่าง ๆ นานา อีกทั้งพยายามปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของเครื่องดนตรีที่รับว่าจ้างมาให้ได้ตรง ตามความต้องการของผู้ว่าจ้างอย่างเต็มความสามารถ สิ่งนี้เป็นจุดเด่นที่หาได้ยากยิ่งในบรรดาช่างฝีมือดีทั้งหลาย จึงไม่แปลกใจเลยที่ช่างจ้อนสามารถสร้างธุรกิจการค้าเครื่องดนตรีให้เจริญรุ่งเรือง ทั้งทำ ให้ร้านครูจ้อนการดนตรี เป็นแหล่งเพาะบ่มและกำ เนิดของช่างฝีมือดีรุ่นหลังอีกหลายต่อหลายคน นับได้ว่าช่างจ้อนมีคุณูปการต่อวงการ ดนตรีไทยอยู่มิใช่น้อย ในปัจปัฉิมฉิกาลของการศพช่าช่งจ้อจ้นนี้ ผมใคร่ขร่อกราบอโหสิกสิรรมที่ผ ที่ มอาจเคยกระทำ กรรมล่วล่งเกินกิช่าช่งจ้อจ้นไว้ อีกอีทั้ง ทั้ ผมใคร่ขร่ออำ นาจคุณคุความดีที่ดีผ ที่ มได้เด้คยกระทำ มาสมทบร่วร่มไปกับกักุศกุลบุญบุราศีที่ศีช่ ที่ าช่งจ้อจ้นได้บำด้ บำเพ็ญพ็มาตลอดชีวิชีตวิ จงเป็นป็พลวปัจปัจัยจันำ พาช่าช่งจ้อจ้นให้เห้ข้าข้สู่สุสู่ คสุติใตินสัมสัปรายภพอันอัเกษมภายโพ้นพ้หน้าน้โน้นน้ด้วด้ยเทอญ บัณบัฑิตฑิว่อว่งวัฒวันะสินสิ


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๓๕ ในรุ่งอรุณของทุกวัน ก็มักจะมีรูปภาพและข้อความสวัสดียามเช้าส่งมาทักทายอยู่เสมอจากนายช่างใหญ่ หรือครูจ้อน ไทรวิมาน ช่างคู่ใจอีกท่านหนึ่ง ไม่ว่าจะเข้เก่าอายุกว่าร้อยปี ซองาเก่าที่ต้องบูรณะแก้ไข ก็สามารถ ทำ ให้กลับมามีสภาพสมบูรณ์ได้ราวเนรมิต ทำ ซอสามสาย ซออู้ ซอด้วง มีน้ำ เสียงไพเราะ ดังกังวาน มีเสน่ห์เป็น เอกลักษณ์ อีกทั้งมีความสามารถในการสร้างเครื่องดนตรีที่หายาก เช่น ซอกลาง ซอสามสายหลิบ ซออู้ไม้ไผ่ ซอด้วงไม้ไผ่ ซอสามสายเขาควายเผือกประกอบงา กระจับปี่ และอีกมากมาย “ข่าวร้าย” ในเช้าตรู่ของวันจันทร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๕ ได้ทราบข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ ครูจ้อน ทำ ให้รู้สึกใจหาย อาลัยรักครูจ้อนผู้เป็น “นายช่างคู่ใจ” ผู้เป็น “เพื่อน” ที่มีไมตรีจิตรต่อกัน โดยเรามัก จะพูดคุยกันเป็นประจำ โดยเฉพาะคุยถึงครูบาอาจารย์และคนดนตรีเก่าๆ ที่คุ้นเคยกัน อีกทั้งในระยะหลายปี หลัง ที่ผ่านมานี้ครูจ้อนก็ขอมาเป็น “ลูกศิษย์” เรียนเพลงเดี่ยวซอสามสายและซออู้ไปหลายเพลง ครูจ้อนจึงมี ความคุ้นเคยกันในหลากหลายมิติดังได้ปรารภไว้ข้างต้น ผู้คนนั้นมีมากมาย แต่คนรู้ใจนั้นหาได้ยากยิ่ง “คุยคุกันกัวันวัสุดสุท้าท้ย” วันวัพฤหัสหับดีที่ดีที่ ๑๐ มีนมีาคม ๒๕๖๕ ได้มีด้ โมีอกาสพูดพูคุยคุกันกัทางโทรศัพศัท์ ซึ่ง ซึ่ ก็ไก็ม่คิม่ดคิว่าว่จะ เป็นป็ครั้ง รั้ สุดสุท้าท้ยที่ไที่ ด้พูด้ดพูคุยคุสนทนากันกัครูจ้รูอจ้นแจ้งจ้ว่าว่เธอป่วป่ยอยู่โยู่ รงพยาบาลด้วด้ยหกล้มล้ ในห้อห้งนอน ด้วด้ยอ่ออ่นแรงจาก ฤทธิ์ย ธิ์ า ทำ ให้ต้ห้อต้งมาพักพัรักรัษาตัวตัในโรงพยาบาล ก็ไก็ด้พูด้ดพูคุยคุให้กำห้ กำลังลัใจกันกัครูจ้รูอจ้นกล่าล่วติดติตลกไว้ว่ว้าว่ “ว่าว่ง ๆ อาจารย์ มาช่วช่ยดูดดูวง มาเปิดปิไพ่ใพ่ห้ทีห้ ทีคราวนี้จ นี้ ะรอดตายไหม?” คงไม่ต้ม่อต้งตั้ง ตั้ ดวงและเปิดปิไพ่กัพ่นกัแล้วล้คราวนี้ เมื่อ มื่ ลูกลูดวงมาจาก ลาไปเสียสีก่อก่น “พบกันกัวันวัสุดสุท้าท้ย” วันวัพุธพุที่ ๒๙ ธันธัวาคม ๒๕๖๔ ได้ได้ปรับรัเครื่อ รื่ งดนตรีที่รีส่ ที่ งส่ซ่อซ่มไว้ อันอั ประกอบด้วด้ย คันคัชักชั ซอสามสาย ๔ คันคัลูกลูบิดบิจะเข้ปข้ระกอบงาเก่าก่ที่ชำ ที่ ชำรุดรุ๓ อันอัอีกอีทั้ง ทั้ ยังยัได้ซื้ด้อ ซื้ ไม้ดีม้ดดีจะเข้เข้ขาควายเผือผืก ๑ อันอักระเป๋าป๋ ซอสามสาย ๑ ใบ ก่อก่นที่จ ที่ ะกลับลัก็ยัก็งยัได้เด้ล่นล่ดนตรีกัรีนกัหลายเพลง โดยปกติแติล้วล้เมื่อ มื่ พบเจอกันกัที่ไที่ ร เป็นป็ต้อต้งตั้ง ตั้ วงเล่นล่ ดนตรีทุรีกทุครั้ง รั้ไป และครูจ้รูอจ้นสั่ง สั่ ไว้เว้ป็นป็ความนัยนัว่าว่ “ถ้าถ้หากเป็นป็อะไรไปแล้วล้อย่าย่ลืมลืมาเล่นล่ดนตรีใรีห้ฟัห้งฟักันกับ้าบ้งนะ” ก็ไก็ม่คิม่ดคิว่าว่ ในวันวันี้จ นี้ ะได้พด้บเจอกันกัเป็นป็ครั้ง รั้ สุดสุท้าท้ย ก่อก่นจะกลับลัครูจ้รูอจ้นได้มด้อบรังรันกกล่อล่งใหญ่ใญ่ห้เห้ป็นป็ของขวัญวัวันวั ปีใปีหม่ นึกนึไปก็ใก็จหาย ชีวิชีตวิคนก็เก็ท่าท่นี้ สั้น สั้ นักนัแต่ทุต่กทุสิ่ง สิ่ ก็ล้ก็วล้นมีกมีารเกิดกิขึ้น ขึ้ ตั้ง ตั้ อยู่ และดับดัไป อันอัเป็นป็สัจสัธรรมของชีวิชีตวิพึงพึทำ ปัจปัจุบัจุนบัขณะให้ดีห้ที่ดีสุ ที่ ดสุจะได้ได้ม่ต้ม่อต้งเสียสีดาย เสียสีใจ เมื่อ มื่ วันวัเวลาผ่าผ่นไป ครูจ้รูอจ้น ไทรวิมวิาน ได้แด้สดงให้เห้ห็นห็เป็นป็ ประจักจัษ์แษ์ล้วล้ว่าว่เป็นป็ “ช่าช่ง” ผู้ที่ผู้ มี ที่ คมีวามสามารถรังรัสรรค์เค์ครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย ชนิดนิต่าต่ง ๆ เป็นป็อย่าย่งดี ไม่ว่ม่าว่จะเครื่อ รื่ งดีดดีสีตีสีเตีป่าป่ชนิดนิใด ก็มีก็คมีวามรู้ครู้วามสามารถ ประสบการณ์ ความรู้ ความเข้าข้ใจ อย่าย่งลึกลึซึ้ง ซึ้ ยากที่จ ที่ ะหาผู้ใผู้ดเสมอเหมือมืน เป็นป็ “นักนัดนตรี”รีผู้มีผู้ใมีจรักรัและหลงใหลในดนตรีไรีทย ทีสำทีสำคัญคัครูจ้รูอจ้นยังยัเป็นป็ “ครู”รูที่ไที่ ด้สั่ด้ง สั่ สอนและสร้าร้งช่าช่งรุ่นรุ่ ใหม่ ๆ ให้สห้ามารถสืบสืทอดองค์คค์วามรู้ใรู้นการสร้าร้งเครื่อ รื่ งดนตรีต่รีาต่ง ๆ ไว้อีว้กอีมากมาย เหมาะสมแล้วล้ที่จ ที่ ะเรียรีกขานนามท่าท่นว่าว่ “นายช่าช่งผู้ยิ่ผู้ง ยิ่ ใหญ่”ญ่ นายช่างใหญ่ในความทรงจำ ผศ.สิทธิศักดิ์ จรรยาวุฒิ


๓๖ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ผมรู้จัรู้กจัช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิานในฐานะอดีตดีช่าช่งที่ร้ ที่ าร้นดุริดุยริบรรณที่มี ที่ คมีวามชำ นาญก่อก่นจะแยกตัวตัมาเปิดปิร้าร้นเป็นป็ ของตนเองที่อำ ที่ อำเภอบางพลี จังจัหวัดวัสมุทมุรปราการ จนมาได้พด้บท่าท่นเมื่อ มื่ ตอนมาฝากตัวตัเป็นป็ศิษศิย์ซย์อสามสายกับกับิดบิาผม (ศาสตราจารย์อุย์ดอุม อรุณรุรัตรัน์)น์ ในราวปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ช่วช่งนั้น นั้ ช่าช่งจ้อจ้นมาหาพ่อพ่ผมในวันวัอาทิตทิย์เย์พื่อ พื่ เรียรีนซอสามสาย แม้ว่ม้าว่ช่าช่งจ้อจ้นจะมีพื้มีน พื้ ฐานซอสามสายอยู่แยู่ ล้วล้แต่เต่มื่อ มื่ มาเรียรีนกับกัพ่อพ่ช่าช่งจ้อจ้นได้ขด้อเรียรีนเริ่ม ริ่ ใหม่ทั้ม่ง ทั้ หมดตั้ง ตั้ แต่กต่ารสีเสีปิดปิ ซอ (สีคู่สีปคู่ ระสานล่าล่ง-บน) ไล่นิ้ล่ว นิ้ ขับขัไม้ ต้นต้เพลงฉิ่ง ฉิ่ หกบท ภายหลังลักิจกิการร้าร้นของช่าช่งจ้อจ้นเริ่ม ริ่ ดีขึ้ดีน ขึ้ จึงจึไม่มีม่มีมีเมีวลามา เรียรีนซอสามสายกับกัพ่อพ่มากนักนัแต่ช่ต่าช่งจ้อจ้นก็โก็ทรศัพศัท์มท์าหาพ่อพ่เป็นป็ ประจำ ช่าช่งจ้อจ้นมักมัมาคำ ปรึกรึษาเกี่ย กี่ วกับกักระสวน ซอสามสาย การทำ กะโกลกซอ การขึ้น ขึ้ หางม้าม้คันคัชักชักับกัพ่อพ่เพราะช่วช่งนั้น นั้ ช่าช่งจ้อจ้นได้มีด้ โมีอกาสซ่อซ่มแซมซอสามสาย ของวังวัสวนผักผักาดและซอสามสายของเก่าก่อีกอีหลายคันคัผมเองก็มีก็ โมีอกาสสนทนากับกัช่าช่งจ้อจ้นบ้าบ้ง ท่าท่นเป็นป็คนอัธอัยาศัยศั ดีมดีาก ผมเชิญชิท่าท่นมาช่วช่ยซ่อซ่มแซมเครื่อ รื่ งดนตรีที่รีภ ที่ าควิชวิานาฏยสังสัคีตคีคณะอักอัษรศาสตร์ มหาวิทวิยาลัยลัศิลศิปากร ช่าช่ง จ้อจ้นก็มก็าช่วช่ยซ่อซ่มและช่วช่ยเทียทีบเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยให้ทุห้กทุปี เราจึงจึสนิทนิกันกัและติดติต่อต่เรื่อ รื่ งการจัดจัซื้อ ซื้ จัดจัจ้าจ้งเครื่อ รื่ งดนตรี ไทยและอุปอุกรณ์ดณ์นตรีไรีทยมาโดยตลอด แม้ว่ม้าว่ช่วช่งหลังลัช่าช่งจ้อจ้นจะแจ้งจ้ว่าว่กิจกิการร้าร้นไม่ดีม่เดีหมือมืนแต่ก่ต่อก่นด้วด้ยสภาพ เศรษฐกิจกิและการแยกตัวตัไปตั้ง ตั้ กิจกิการของช่าช่งเครื่อ รื่ งดนตรีที่รีร้ ที่ าร้นรวมทั้ง ทั้ ทายาทของช่าช่งจ้อจ้นด้วด้ย แต่ท่ต่าท่นก็กก็ล่าล่วกับกั ผมว่าว่ “ผมไม่โม่กรธพวกเขาหรอกครับรัที่แ ที่ ยกไปตั้ง ตั้ ร้าร้นกันกัเอง อาจจะแข่งข่กับกัผมและแย่งย่ลูกลูค้าค้ผมไปบ้าบ้ง แต่มัต่นมัก็เก็ป็นป็ วิถีวิทถีางของเขา ทุกทุคนย่อย่มอยากเติบติโตและยืนยืด้วด้ยลำ แข้งข้ของตัวตัเอง ตอนผมออกจากร้าร้นดุริดุยริบรรณมาตั้ง ตั้ ร้าร้นเอง ผมไปกราบลาคุณคุนาย (คุณคุเปี่ย ปี่ มศรี ดุริดุยริางกูรกู) ท่าท่นก็ไก็ม่โม่กรธผมนะยังยัอวยพรผมให้ไห้ปดำ เนินนิกิจกิการให้รุ่ห้งรุ่ เรือรืงเลย แล้วล้ผมจะไปโกรธพวกเขาทำ ไม” ประโยคที่ช่ ที่ าช่งจ้อจ้นกล่าล่วกับกัผมไว้จึว้งจึเป็นป็ภาพสะท้อท้นให้เห้ห็นห็ถึงถึผู้ชผู้ายที่ใที่ จกว้าว้ง ไม่ถืม่อถื โทษ อาฆาตมาดร้าร้ยใคร ดังดัที่ทุ ที่ กทุคนที่รู้ ที่ จัรู้กจัช่าช่งจ้อจ้นจะทราบถึงถึอุปอุนิสันิยสันี้เ นี้ป็นป็อย่าย่งดี ช่วช่งหลังลัช่าช่งจ้อจ้นสุขสุภาพทรุดรุโทรมลงไปเมื่อ มื่ ปลายปีก่ปีอก่นท่าท่นโทรมาหาผมว่าว่ “อาจารย์ผย์มคงอยู่ไยู่ ด้ได้ม่นม่าน แล้วล้นะอาจารย์ ถ้าถ้มีอมีะไรจะให้ซ่ห้อซ่มให้สห้ร้าร้งรีบรีเลยนะครับรัหรือรืจะมาอุดอุหนุนนุซอสามสายผมไปสักสัคันคัก็ไก็ด้”ด้ผมยังยั แกล้งล้แหย่ช่ย่าช่งจ้อจ้นว่าว่ “แหมจะรีบรีลากันกัไปไหนหละอยู่ด้ยู่ วด้ยกันกัก่อก่นซิขซิองซ่อซ่มนะผมพอมีใมีห้ซ่ห้อซ่มบ้าบ้ง แต่ถ้ต่าถ้จะซื้อ ซื้ ซอ สามสาย ผมคงไม่ซื้ม่อ ซื้ แล้วล้หละพ่อพ่ผมให้ซห้อสามสายผมไว้พว้อแล้วล้ซองาสี่คั สี่ นคัซอไม้อีม้กอีหกคันคัแค่นี้ค่ก็ นี้ สีก็ ไสีม่หม่มดแล้วล้ ไม่ ได้อด้วดรวยหรือรือวดของนะช่าช่งจ้อจ้นผมว่าว่มีอมียู่ก็ยู่ พก็อแล้วล้” ช่าช่งจ้อจ้นก็หัก็วหัเราะ “แหม อย่าย่งนี้ผ นี้ มต้อต้งขอโทษทีผทีมลืมลืไป ว่าว่อาจารย์มีย์ซมีอสามสายดี ๆ เยอะแล้วล้งั้น งั้ ถ้าถ้ลูกลูศิษศิย์อย์าจารย์จย์ะซื้อ ซื้ ซอสามสายอย่าย่ลืมลืให้มห้าอุดอุหนุนนุผมแล้วล้กันกัครับรั” นั้น นั้ คือคืบทสนทนาสุดสุท้าท้ยที่ผ ที่ มได้คุด้ยคุกับกัช่าช่งจ้อจ้น สุดท้ายนี้ผมขอให้ดวงวิญญานของช่างจ้อน ไทรวิมาน ช่างผู้มีน้ำ ใจดีสำ หรับคนดนตรีไทยทั้งหลาย ช่างที่ ฝากฝีมือด้านการทำ เครื่องดนตรีไทยที่ทรงคุณค่าไว้หลายชิ้น จงสู่สุคติในสัมปรายภพด้วยเทอญ ศ.พงษ์ศิลป์ อรุณรัตน์ ภาควิชานาฏยสังคีต มหาวิทยาลัยศิลปากร ช่างจ้อนกับซอสามสาย


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๓๗ สปิริต (SPIRIT) ไม่ได้แค่แปลว่าผีสาง แต่คือจิตวิญญาน ความหมายในทางลาตินคริสต์มันคือ Spiritus ลมหายใจ ในทางฮินดูคืออาตมัน ในทางพุทธบาลีมันคือเจตะหรือพิชาน อิสลามคือนัฟส์ ล้วนแล้วแต่ให้ความ หมายในด้านธรรมญาน–สารัตถะของชีวิตที่ยังดำ รงอยู่แม้ร่างกายจะสลายไปแล้ว มีความอมตะและรวมกับพระ ผู้เป็นเจ้าได้ เครื่อ รื่ งดนตรีใรีนจักจัรวาลวิทวิยาของอัฟอัริกริาและเอเชียชีแม้ใม้นชนเผ่าผ่ โบราณ ที่ไที่ ร้เร้ทคโนโลยีแยีละอำ นาจการเมือมืง เศรษฐกิจกิก็ใก็ห้คห้วามนับนัถือถืในสปิริปิตริของเครื่อ รื่ งดนตรียิ่รีง ยิ่ นักนัภาษาเสียสีงที่เ ที่ ปล่งล่ออกมาจากเครื่อ รื่ งดนตรีเรีป็นป็ภาษาที่ สนทนากับกัธรรมชาติแติละจักจัรวาลอย่าย่งลึกลึซึ้ง ซึ้ มีสมีปิริปิตริอยู่ใยู่ นนั้น นั้ สี่อ สี่ งค์ หนึ่ง นึ่ คือคืสปิริปิตริของต้นต้ ไม้ที่ม้ถู ที่ กถูนำ ไปดัดดัแปลงเป็นป็ เครื่อ รื่ งดนตรี ไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็ ไม้เม้ล็กล็ ไม้ใม้หญ่ ไม้ยืม้นยืต้นต้หรือรืไม้ล้ม้มล้ลุกลุไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็ ไม้ที่ม้ถู ที่ กถูกลึงลึเกลาสลักลัเสลาหรือรืขี้ฝุ่ขี้ นฝุ่ ขี้เ ขี้ ลื่อ ลื่ ย ขี้ผ ขี้ งล้วล้นมีสมีปิริปิตริที่ค ที่ วรเคารพ สองคือคืหนังนัคลุมลุร่าร่งสัตสัว์แว์ละชิ้น ชิ้ ส่วส่นอื่น อื่ ๆ ของกาย เช่นช่กระดูกดูงา ขน เส้นส้เอ็นอ็ขี้ผึ้ ขี้ ง ผึ้ สายเส้นส้ ใยของสรรพสัตสัว์ที่ว์ส ที่ ละชีวิชีตวิไปเพื่อ พื่ กลายเป็นป็ส่วส่นประกอบของเครื่อ รื่ งดนตรีใรีห้เห้กิดกิความสั่น สั่ สะเทือทืน Vibration ก็เก็ป็นป็สปิริปิตริที่ค ที่ วรเคารพ สามคือคืแร่ธร่าตุ จะเป็นป็ โลหะใด ๆ เหล็กล็ทองแดง ตะกั่ว กั่ ดีบุดีกบุเพชรพลอย หินหิทราย หรือรืดินดิที่เ ที่ กิดกิจากการย่อย่ยสลายผุพัผุงพัทับทัถมของมวลชีวิชีตวิกระทั่ง ทั่ พลาสติกติโพลีเลีมอร์อัร์นอัเกิดกิมาจากกระบวนการทางเคมี ถูกถูนำ ไปเผาไปหลอมไปเจียจีระไนไปขึ้น ขึ้ รูปรูแปลงร่าร่งจนเป็นป็ส่วส่นหนึ่ง นึ่ ของเครื่อ รื่ งดนตรี ก็คก็วรเคารพ และสุดสุท้าท้ยคือคื สปิริปิตริของมนุษนุย์ช่ย์าช่งที่ส ที่ ถิตถิอยู่ใยู่ นเครื่อ รื่ งดนตรีนั้รีน นั้ ๆ ทั้ง ทั้ เจตจำ นงในการสร้าร้ง ทั้ง ทั้ ลมหายใจและหยาดเหงื่อ งื่ ของมนุษนุย์ ช่าช่งขณะสร้าร้ง ทั้ง ทั้ ความปิติปิสุติขสุเมื่อ มื่ เครื่อ รื่ งดนตรีไรีด้บัด้งบัเกิดกิขึ้น ขึ้ มาเป็นป็ของขวัญวัแก่โก่ลก และแม้เม้ครื่อ รื่ งดนตรีนั้รีน นั้ จะจากไป จากอ้ออ้มอกมนุษนุย์ช่ย์าช่งสู่กสู่ ารครอบครองของคนอื่น อื่ เปลี่ย ลี่ นเจ้าจ้ของไปสักสักี่รุ่ กี่ นรุ่ สปิริปิตริของมนุษนุย์ช่ย์าช่งก็ยัก็งยัดำ รงอยู่กัยู่ บกั เครื่อ รื่ งดนตรีนั้รีน นั้ ตราบนิรันินรัดร์ ซากไม้ ซากสัตสัว์ ขี้ฝุ่ขี้ นฝุ่ แร่ธร่าตุ ดินดิน้ำ เหงื่อ งื่ ลมหายใจและปิติปิขติองมนุษนุย์ช่ย์าช่ง คือคืองค์รค์วมของสปิริปิตริอันอัทรง คุณคุค่าค่ ไม่แม่พ้เพ้สียสีงเพลงเสียสีงขับขัร้อร้ง จังจัหวะดนตรี หรือรืวรรณกรรมเพลงนั้น นั้ เลย อาลัยช่างจ้อน ไทรวิมาน ผู้พิสูจน์คุณค่าของสปิริตแห่งเครื่องดนตรีว่ามีอยู่จริง อานันท์ นาคคง สปิริต จิตวิญญาน งานช่างทำ เครื่องดนตรี


๓๘ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน นับนัเป็นป็เวลากว่าว่๓๐ ปี ที่ข้ ที่ าข้พเจ้าจ้ได้มีด้ โมีอกาสรู้จัรู้กจักับกัคุณคุวาทิตทิ ไทรวิมวิาน หรือรืช่าช่งจ้อจ้น เจ้าจ้ของร้าร้นดุริดุยริางค์ ไทย เริ่ม ริ่ ต้นต้จากการเป็นป็ “ลูกลูค้าค้” ซื้อ ซื้ ซอสามสายไม้มม้ะเกลือลืและเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยอื่น อื่ ๆ ตามลำ ดับดัมีทั้มีง ทั้ ที่ซื้ ที่ อ ซื้ สะสมไว้ ใช้ปช้ระโยชน์ส่น์วส่นตัวตัแนะนำ ต่อต่ ไปยังยันักนัดนตรีไรีทยท่าท่นอื่น อื่ ๆและผู้ที่ผู้ส ที่ นใจทั่ว ทั่ ไป ทุกๆ ครั้ง ที่ข้าพเจ้านำ เครื่องดนตรีไทยเก่าชำ รุดที่ซื้อมาจากร้านขายของเก่ามาส่งซ่อมที่ร้านดุริยางค์ไทย ช่างจ้อนมักจะกล่าวว่า “แหม...อาจารย์นี่ช่างสรรหานะครับ” แล้วท่านจะค่อย ๆ พินิจพิเคราะห์สภาพความชำ รุด ให้คำ ปรึกษา แนะนำ วิธีการซ่อมบำ รุงและความรู้ที่เกี่ยวข้องที่เป็นประโยชน์ ตลอดจนมีสันทนาการกันด้วยการ บรรเลงเพลงไทยก่อนจะลากลับ ด้วด้ยเหตุที่ตุไที่ ด้ได้ปมาหาสู่กัสู่ นกัอย่าย่งต่อต่เนื่อ นื่ ง ทำ ให้ข้ห้าข้พเจ้าจ้เกิดกิความสนใจในการประดิษดิฐ์เฐ์ครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย จึงจึได้ ขอฝากตัวตัยกขันขัไหว้คว้รูกัรูบกัช่าช่งจ้อจ้น ท่าท่นได้เด้มตตารับรัเป็นป็ “ลูกลูศิษศิย์”ย์ถ่าถ่ยทอดทักทัษะการกลึงลึเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย ในเบื้อ บื้ งต้นต้สอนให้ดูห้ ปดูระเภทเนื้อ นื้ ไม้ เสี้ย สี้ นไม้ ฝึกฝึเลื่อ ลื่ ยผ่าผ่ ไม้ ฝึกฝึกลึงลึและเก็บก็รายละเอียอีด ซึ่ง ซึ่ ท่าท่นจะมอบหมายให้ บุตบุรชายของท่าท่นคนหนึ่ง นึ่ ที่ชื่ ที่ อ ชื่ “เจ๊กจ๊” เป็นป็พี่เ พี่ ลี้ย ลี้ งดูแดูลในขณะทำ งาน เมื่อ มื่ กลึงลึชิ้น ชิ้ งานสำ เร็จร็แบบใดแบบหนึ่ง นึ่ ก็จก็ะ นำ ไปให้ท่ห้าท่นตรวจ และท่าท่นจะสั่ง สั่ ทุกทุครั้ง รั้ ว่าว่ “ให้รัห้กรัษากระสวนนี้ไนี้ ว้”ว้ สืบสืเนื่อ นื่ งมาจากการกรำ งานหนักนัของท่าท่น ทำ ให้สุห้ขสุภาพไม่แม่ข็งข็แรง และมีภมีาวะโรคหัวหัใจแทรกซ้อซ้น จึงจึค่อค่ย ๆ บั่น บั่ ทอนกำ ลังลัที่จ ที่ ะเข้าข้ไปยืนยืทำ งานที่ห ที่ น้าน้แท่นท่กลึงลึในโรงงานได้ แต่มีต่อมียู่คยู่ รั้ง รั้ หนึ่ง นึ่ ช่าช่งจ้อจ้นเดินดิเข้าข้มาที่ห้ ที่ อห้งฝึกฝึงาน หยิบยิ มีดมีกลึงลึของท่าท่นขึ้น ขึ้ แล้วล้สาธิตธิการกลึงลึให้ข้ห้าข้พเจ้าจ้ได้เด้ห็นห็ถึงถึกลวิธีวิกธีารกลึงลึด้วด้ยชุดชุมีดมีกลึงลึที่ท่ ที่ าท่นคิดคิและสร้าร้งขึ้น ขึ้ ให้ เหมาะสมกับกัส่วส่นประกอบต่าต่งๆถือถืเป็นป็บุญบุตาของข้าข้พเจ้าจ้ที่ไที่ ด้เด้ห็นห็อย่าย่งใกล้ชิล้ดชิ ในวันนี้ ความอาลัยรักในการจากไปของท่าน “ผู้เป็นแบบอย่างแห่งงานช่างชั้นครู” จะยังคงจารึกใน ครอบครัวไทรวิมาน เครือญาติ คณะช่างในโรงงานดุริยางค์ไทย มิตรสหาย สานุศิษย์ นักดนตรี และผู้ที่ เกี่ยวข้อง สืบต่อไป และด้วยกุศลผลบุญ คุณงามความดีที่ท่านได้ปฏิบัติบำ เพ็ญมา จงเป็นพลวัตรปัจจัยนำ ส่งให้ ท่านได้ไปสู่สุคติสถานในสัมปรายภพด้วยเทอญ สุขสุสันสัต์ พ่วพ่งกลัดลั


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๓๙ ข้าข้พเจ้าจ้ได้เด้ริ่ม ริ่ รู้จัรู้กจัคุณคุจ้อจ้นเมื่อ มื่ พ.ศ. ๒๕๓๓ โดยได้ทด้าบทามให้ท่ห้าท่นทำ คันคัซอสามสาย เพื่อ พื่ จะนำ ไปประกอบ กับกักระโหลกซอที่ขึ้ ที่ น ขึ้ หนังนัมาแล้วล้กระโหลกใบนั้น นั้ ครูเรูฉลิมลิม่วม่งแพรศรี ได้ใด้ห้แห้ก่ข้ก่าข้พเจ้าจ้ก่อก่นหน้าน้นั้น นั้ นานแล้วล้ เมื่อคุณจ้อนได้ทราบความเป็นไปของกระโหลกใบนั้นท่านก็รับทำ ให้ทันที ทำ ไม่นานก็เสร็จ ซอคันนั้นทำ ด้วยไม้ชิงชัน ทวนมุกคละลาย แกนทำ ด้วยไม้เหลาชะโอน วันเมื่อไปรับซอก็อัศจรรย์ใจเป็นอันมาก เพราะท่าน คิดค่าบริการเพียง ๓,๕๐๐ บาท ข้าพเจ้าได้ถามว่าทำ ไมคิดราคาถูกถึงเพียงนี้ ท่านก็ตอบว่า “เพราะครูเฉลิม ม่วงแพรศรีเป็นครูของผม ผมจะคิดราคาแพงได้อย่างไร” นี่เป็นเครื่องสะท้อนว่าคุณจ้อนท่านเป็นคนมีความ กตัญญูเป็นเลิศและมีน้ำ ใจโอบอ้อมอารีต่อบุคคลที่เป็นกัลยาณมิตรโดยปกติ เมื่อพูดถึงซอสามสายของคุณจ้อนแล้ว มีมุมหนึ่งที่จะขอกล่าวให้ทราบโดยทั่วกันคือ ซอสามสายของท่าน ในระดับเริ่มต้นนั้น เป็นซอที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในประเทศไทย คือราคา ๘,๕๐๐ บาท ซอสามสายในราคานี้หาไม่ ได้เลยจากช่างท่านอื่น ๆ ราคาเริ่มต้นอย่างนั้นไม่ได้มีความขี้เหร่เลยแม้แต่น้อย อาจจะลดคุณภาพเรื่องวัสดุบาง อย่างลงบ้าง แต่รูปทรงสัดส่วนนั้นสวยงามตามมาตรฐานและเสียงดี ใช้งานได้จริง ทั้งทนทานเท่าเทียมกับซอสาม สายที่มีราคาแพง ๆ คุณจ้อนได้ยืนหยัดในราคานี้มาอย่างยาวนานจนตลอดแห่งชีวิตท่าน และไม่ใช่ซอสามสาย ระดับเริ่มต้นที่ราคาย่อมเยาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เครื่องดนตรีทุกชนิดที่ท่านทำ ในระดับเริ่มต้นก็มีราคาย่อมเยา ทุกชนิดไป จุดประสงค์ที่ท่านทำ เครื่องดนตรีราคาระดับเริ่มต้นอย่างนั้น ข้าพเจ้าพินิจเอาเองว่า ก็คงเป็นเพราะ ด้วยความมีน้ำ ใจโอบอ้อมอารีที่จะจุนเจือเอื้อเฟื้อต่อนักดนตรีที่มีฐานะการเงินที่ไม่ค่อยดีนัก จะได้มีเครื่องดนตรีไว้ เป็นสมบัติของตนเองได้ไม่ยากนักนั่นเอง เรื่อ รื่ งที่ม ที่ าที่ไที่ ป เรื่อ รื่ งความรู้ และเรื่อ รื่ งฝีมืฝีอมืทางเชิงชิช่าช่งของคุณคุจ้อจ้นนั้น นั้ คงได้รัด้บรัทราบกันกัโดยทั่ว ทั่ ไปในข้อข้เขียขีน อื่น อื่ ๆ ที่มี ที่ ผู้มีเผู้ขียขีนไว้เว้ป็นป็อันอัมากแล้วล้ ในท้าท้ยนี้ข้ นี้ าข้พเจ้าจ้จึงจึเผยแพร่รูร่ ปรูรางระนาดเอกและรางระนาดทุ้มทุ้ ที่คุ ที่ ณคุจ้อจ้นได้ สร้าร้งไว้เว้มื่อ มื่ พ.ศ. ๒๕๑๗ ตั้ง ตั้ แต่คต่รั้ง รั้ ท่าท่นอยู่ร้ยู่ าร้นดุริดุยริบรรณ รางทั้ง ทั้ ๒ นี้ทำ นี้ ทำด้วด้ยไม้สัม้กสัทองทุกทุส่วส่น เป็นป็งานยุคยุที่ คุณคุจ้อจ้นกำ ลังลับ่มบ่เพาะฝีมืฝีอมืเชิงชิช่าช่งอย่าย่งเต็มต็ที่แ ที่ ล้วล้และกล่าล่วได้ว่ด้าว่เป็นป็งานประดิษดิฐ์เฐ์ครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยอีกอีชนิดนิหนึ่ง นึ่ ของ ท่าท่นที่น่ ที่ าน่จะหาชมกันกัได้ได้ม่ง่ม่าง่ยนักนัในปัจปัจุบัจุนบั ด้วยอานิสงส์ที่คุณจ้อนเป็นผู้ที่มีความกตัญญู มีน้ำ ใจโอบอ้อมอารี ใจบุญอย่างยิ่งยวด จักนำ พาท่านไปสู่ สุคติภพโดยแท้ และด้วยกุศลแห่งทาน ศีล ภาวนาที่ข้าพเจ้าได้กระทำ แล้ว ขอน้อมอุทิศแด่คุณจ้อน ไทรวิมาน จงได้สำ เร็จแด่กุศลนั้นโดยเต็มเทอญ วิรัช สงเคราะห์


๔๐ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน งานนิพนธ์อาศรมศึกษา: ช่างจ้อน ไทรวิมาน เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาในหลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้ทำ ความรู้จักกับครูจ้อน ไทรวิมาน อย่างเป็นทางการ ได้ศึกษาประวัติชีวิต การวางตน การบริหาร การดูแลสมาชิกในครอบครัว อุปนิสัย โดย เฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในเชิงช่างผลิตเครื่องดนตรีไทย เมื่อวันพุธที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๕ ข้าพเจ้าเดินทางด้วยรถสองแถว สำ โรง - บางพลี ในราคา ๖ บาท ไปยังร้านดุริยางค์ไทย ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดบางพลีใหญ่กลาง จังหวัดสมุทรปราการ ซอสามสาย คันใหญ่ บนป้ายหน้าร้านดุริยางค์ไทย เป็นจุดสังเกตสะดุดตาให้เห็นได้อย่างชัดเจน ข้าพเจ้าเดินทางเพื่อไป พบครูจ้อน (ข้าพเจ้าเรียกว่าครูมาโดยตลอด) และขอความกรุณาให้รับเป็นวิทยากรในรายวิชาและที่สำ คัญ ขอความกรุณาให้สอนวิธีการแกะกะโหลกซออู้ ข้าพเจ้าได้พบครูจ้อนในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวติดพระดุม แขนทั้งสองข้าง กระเป๋าด้านซ้ายเหน็บปากกาด้ามเงินด้ามหนึ่ง กางเกงขายาวสีดำ คาดเข็มขัดสีดำ ใส่ แว่นตากรอบทองสีชา ใส่รองเท้าแตะหนังสีดำ ภาพชินตาในทุกครั้งที่ข้าพเจ้าได้พบ เมื่อข้าพเจ้าแจ้งจุด ประสงค์ให้ครูจ้อนได้ทราบ ครูจ้อนยิ้มและตอบข้าพเจ้าว่า “มีคนมาทำ เรื่องประวัติและการทำ เครื่องดนตรี กับผมหลายคน แต่ก็ยังไม่มีใครเคยมาเรียน ผมยินดีครับ” ใบหน้าใจดีและคำ พูดสุภาพเป็นภาพจำ ที่ข้าพเจ้า มีกับครูจ้อนมายาวนานและครูปฏิบัติต่อข้าพเจ้าเช่นในนี้ในทุก ๆ โอกาสที่ได้พบกัน การศึกศึษาเก็บก็ข้อข้มูลมูในการทำ อาศรมศึกศึษาในครั้ง รั้ นั้น นั้ เป็นป็ระยะเวลายาวนานตลอด ๑ ปีกปีารศึกศึษา ข้าข้พเจ้าจ้ ได้เด้ข้าข้ไปเก็บก็ข้อข้มูลมูมากกว่าว่เกณฑ์ที่ฑ์กำ ที่ กำหนดในแต่ลต่ะภาคการศึกศึษา อาจจะโชคดีที่ดีบ้ ที่ าบ้นข้าข้พเจ้าจ้กับกัร้าร้นดุริดุยริางค์ไค์ทย อยู่ไยู่ ม่ไม่กลกันกัและครูจ้รูอจ้นก็ใก็ห้คห้วามเมตตากับกัข้าข้พเจ้าจ้อย่าย่งมาก ครูจ้รูอจ้นบอกกับกัข้าข้พเจ้าจ้ว่าว่ “อยู่แยู่ ค่นี้ค่เ นี้ อง ก็มก็าได้บ่ด้อบ่ย เลยสินสิะ” ทุกทุครั้ง รั้ ที่ข้ ที่ าข้พเจ้าจ้ไปพบ ครูจ้รูอจ้นจะทักทัทายปราศรัยรัอย่าย่งใจดีเดีสมอ และสอบถามสารทุกทุข์สุข์กสุดิบดิรวมถึงถึ ติดติตามความก้าก้วหน้าน้ของการทำ อาศรมศึกศึษาโดยตลอด ตามอุปอุนิสันิยสัใจดีขดีองครูจ้รูอจ้น ดังดัจะเห็นห็ ได้จด้ากทุกทุคนใน บ้าบ้นไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็ลูกลูน้อน้งหรือรืสมาชิกชิในครอบครัวรัที่เ ที่ รียรีกครูจ้รูอจ้นว่าว่ “ป๋าป๋” ซึ่ง ซึ่ เปรียรีบเสมือมืนเสาหลักลัใหญ่ขญ่องบ้าบ้น สมาชิกชิทุกทุคนรักรัและเคารพครูจ้รูอจ้นดุจดุพ่อพ่ที่ดู ที่ แดูลลูกลู ๆ ทุกทุคนให้อห้ยู่กัยู่ นกัอย่าย่งมีคมีวามสุขสุมีคมีวามห่วห่งใยไม่เม่พียพีงแต่ลูต่กลู ในสายเลือลืด แม้ว่ม้าว่เป็นป็ลูกลูน้อน้งหรือรืคนงานในโรงงานก็ไก็ด้รัด้บรัความเมตตาจากป๋าป๋ที่ทุ ที่ กทุคนรักรัไปด้วด้ย ข้าข้พเจ้าจ้ถามว่าว่ ช่าช่งที่โที่ รงงานนี้พั นี้ กพัที่ไที่ หน คำ ตอบของครูจ้รูอจ้นทำ ให้ข้ห้าข้พเจ้าจ้ไม่แม่ ปลกใจเลยที่ทุ ที่ กทุคนจะรักรัและเคารพครูจ้รูอจ้นอย่าย่งที่ เป็นป็ “ผมสร้าร้งห้อห้งแถวไว้ใว้ห้ ๑๘ ห้อห้ง เพราะผมคิดคิว่าว่บ้าบ้นกับกัที่ทำ ที่ ทำงานอยู่ใยู่ กล้ๆล้กันกัจะได้เด้ดินดิทางไม่ลำม่ ลำบาก ให้เห้ขา อยู่กัยู่ บกัครอบครัวรัเขา งานเข้าข้๘ โมงเช้าช้เลิกลิ๕ โมงเย็นย็วันวัอาทิตทิย์หย์ยุดยุใครอยากมาทำ ก็มก็า ถ้าถ้งานเขามีเมีขาก็มก็าทำ ไม่มีม่เมีขาก็อก็ยู่กัยู่ บกัครอบครัวรักับกัลูกลูเมียมีเขา” การทำ อาศรมศึกษาในครั้งนั้นไม่เพียงแต่จะได้ศึกษาวิธีการแกะกะลาซออู้เท่านั้น ข้าพเจ้ายังได้รับเกร็ด ความรู้ในเชิงช่างผลิตเครื่องดนตรีไทยอื่น ๆ อีกด้วย ครูจ้อนเล่าให้ฟังถึงช่วงที่ยังทำ งานที่ร้านดุริยบรรณว่าได้ พบเจอครูบาอาจารย์หลายท่านที่ได้ให้ความรู้ในการผลิตเครื่องดนตรีไทยให้ท่าน อาทิ ครูแอบ ยุวณวนิช สอนปรับเสียง ปรับนมจะเข้ ครูทองดี สุจริตกุล สอนปรับเสียง ตั้งเสียงจะเข้ ครูระตี วิเศษสุรการ สอนปรับจะเข้ ครูโองการ กลีบชื่น สอนตั้งสายขิม ขัดฉัตรฆ้อง ถ่วงลูกระนาด ครูเทวาประสิทธิ์ พาทยโกศล ให้ทำ ซอสามสายแบบที่ท่านชอบ แบบอื่นไม่เอา ครูประเวช กุมุท ท่านบอกว่าให้ใช้ไม้เหลาชะโอนทำ แกน สอนวิธีทำ ให้ซอสามสายมีเสียงดัง . คุณภาวาส บุนนาค แนะนำ เรื่อง กาจับหลัก คือ การใช้ไม้เหลาชะโอนยึดทวนซอช่วยค้ำ ให้หน้าซอไม่บิด เบี้ยวเพราะถูกปากช้างล่างที่ประกบกะโหลกบีบยุบรวบเข้าหากันเวลาสายซอตึง อาศรมศึกษา “ช่างจ้อน ไทรวิมาน”


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๔๑ ครูเตือน พาทยกุล แนะนำ ให้เหลาก้านคันชักซอสามสายให้เล็ก ๆ และเบา เพื่อจะได้ประคองคันชักได้ นานและสีได้หลายเพลง หางม้าหรือไนล่อนที่นำ มาขึ้นคันชัก ควรใช้ประมาณ ๒๐๐ - ๒๕๐ เส้นจึงจะเหมาะสม ดร.อุทิศ นาคสวัสดิ์ แนะนำ เกี่ยวกับการเหลาหย่องซอสามสาย ควรเหลาให้โค้งคล้ายสะพาน เรียกว่า แบบสะพานจีน ครูอุรูดอุม อรุณรุรัตรัน์ แนะนำ การเลือลืกหนังนัสำ หรับรัขึ้น ขึ้ หน้าน้ซอสามสาย ควรใช้หช้นังนัแพะสีขสีาวตัวตัแก่ ๆ บริเริวณ สีข้สีาข้งหรือรืชายโครง เรียรีกว่าว่สวาบ ท่าท่นไม่ใม่ห้ขึ้ห้น ขึ้ หน้าน้ตึงตึมากเพราะจะทำ ให้เห้สียสีงซอห้าห้ว ให้ขึ้ห้น ขึ้ หนังนัให้พห้อดีเดีสียสีงถึงถึ จะออกมานิ่ม นิ่ นวล ครูเรูฉลิมลิม่วม่งแพรศรี ท่าท่นแนะการกลึงลึซอนำ ว่าว่ต่ำ จากลูกลูแก้วก้ลงไปช่วช่งปลายอย่าย่ ให้ต่ห้าต่งกันกัมากนักนั ให้ไห้ล่เล่ลี่ย ลี่ กับกัตรงที่บั ที่ วบัคว่ำ ให้ลห้ดหลั่น ลั่ กันกัลงมา “ครูเหล่านี้ท่านสั่งตามที่ท่านต้องการ ผมก็ได้รับความรู้จากท่าน บางทีก็มีแบบอยู่แล้ว ท่านต้องการ แบบไหน ผมก็ทำ ตามที่ท่านต้องการหรือไม่ก็เขียนลายเอง” จากประสบการณ์และความรู้ที่ครูจ้อนได้รับ การแนะนำ จากครูผู้ใหญ่หลายท่าน ทำ ให้งานของครูมีลักษณะและคุณภาพเสียงตามที่ครูผู้ใหญ่ต้องการ ครู จ้อนนำ ไปปรับปรุงให้ผลงานมีคุณภาพนำ มาใช้กับงานในสมัยต่อมาจนเป็นที่ประจักษ์กันในวงการดนตรีไทย นอกจากความรู้ทางด้านการช่างแล้ว ครูจ้อนยังพยายามศึกษาหาความรู้ด้านดนตรีไทยจากครูดนตรีไทย หลายท่าน ได้แก่ คุณพ่อแจ่ม ไทรวิมาน ครูเฉลิม ม่วงแพรศรี ครูเตือน พาทยกุล ครูอุดม อรุณรัตน์ ครูศิริ วิชเวช ครูธวัชชัย เดชมิตร ครูสุวรรณ ไทรเกิดศรี ครูประกอบ ผ่องโสภณ ครูจ้อนยังได้ใช้ความรู้ทางด้านดนตรีไทยเปิด สอนดนตรีไทยให้แก่เด็กและเยาวชน ส่วนหนึ่งของโรงงานมีป้ายติดอยู่เขียนว่า ศูนย์การเรียนรู้ ภาควิชาดนตรี ไทย ชุมชนบางพลี นายจ้อน ไทรวิมาน ครูภูมิปัญญารุ่นที่ ๑ ด้านศิลปกรรม (ดนตรีไทย) สำ นักคณะกรรมการ การศึกษาแห่งชาติ (สำ นักนายกรัฐมนตรี) ซึ่งครูจ้อนได้ถ่ายทอดให้กับลูกศิษย์ลูกหามากมาย แม้ว่ม้าว่เวลาล่วล่งเลยผ่าผ่นไปหลายปี ข้าข้พเจ้าจ้ได้พด้บครูจ้รูอจ้นในโอกาสต่าต่ง ๆ ครูจ้รูอจ้นยังยัจำ ข้าข้พเจ้าจ้ได้แด้ละใจดีต่ดีอต่ ข้าข้พเจ้าจ้เสมอ ครูจ้รูอจ้นเรียรีกข้าข้พเจ้าจ้ว่าว่ “หนู”นูทุกทุคำ ทำ ให้ข้ห้าข้พเจ้าจ้รู้สึรู้กสึว่าว่ท่าท่นเป็นป็ทั้ง ทั้ ครูแรูละเหมือมืนเป็นป็ญาติผู้ติใผู้หญ่ ท่าท่นหนึ่ง นึ่ จนกระทั่ง ทั่ ข้าข้พเจ้าจ้เติบติโตมีคมีรอบครัวรัเหมือมืนชะตาลิขิลิตขิให้ลูห้กลูชายคนโตของข้าข้พเจ้าจ้ซึ่ง ซึ่ เรียรีนสายวิชวิาชีพชี สร้าร้งเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย ได้มีด้ โมีอกาสได้เด้รียรีนการกลึงลึซอกับกัครูจ้รูอจ้น ครูจ้รูอจ้นก็ยัก็งยัให้คห้วามเมตตาต่อต่ลูกลูชายข้าข้พเจ้าจ้เหมือมืน กับกัเป็นป็ลูกลูเป็นป็หลาน และยังยัฝากความระลึกลึถึงถึถึงถึข้าข้พเจ้าจ้อยู่เยู่สมอ “ปู่ฝปู่ ากความระลึกลึถึงถึแม่เม่ค้าค้ด้วด้ยนะลูกลู” แม้ว่ม้าว่ ข้าข้พเจ้าจ้จะทราบข่าข่วการป่วป่ยของท่าท่นมาเป็นป็ระยะ แต่เต่มื่อ มื่ ได้พด้บครูจ้รูอจ้นท่าท่นก็ยัก็งยัดูแดูข็งข็แรง จนวันวัหนึ่ง นึ่ ได้ทด้ราบข่าข่ว ร้าร้ยว่าว่ท่าท่นจากไป ก็สุก็ดสุจะใจหาย เหมือมืนกับกัสูญสูเสียสีญาติผู้ติใผู้หญ่ท่ญ่าท่นหนึ่ง นึ่ ไปเสียสีแล้วล้ลูกลูชายเพิ่ง พิ่ จะนำ ความระลึกลึถึงถึ ของครูจ้รูอจ้นมายังยัข้าข้พเจ้าจ้เมื่อ มื่ ไม่กี่ม่วั กี่ นวัมานี้เ นี้ อง ข้าข้พเจ้าจ้ได้แด้ต่ทำต่ ทำความเข้าข้ใจในสังสัสารวัฏวัและสัจสัธรรมแห่งห่ชีวิชีตวิข้าข้พเจ้าจ้ ขอกุศกุลและคุณคุความดีขดีองครูที่รูไที่ ด้ทำด้ ทำไว้ นำ พาดวงวิญวิญาณของครูจ้รูอจ้น ไทรวิมวิาน สุขสุสงบในสัมสัปรายภพด้วด้ยเทอญ ผศ.สุวสุรรณี ชูเชูสน


๔๒ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน กระผมได้รู้จักครูจ้อน (ครูวาทิต ไทรวิมาน) ครั้งแรก ในราวปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ผ่านหนังสือชื่อ “ครูจ้อน ไทรวิมาน ครูดนตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งบางพลี” เขียนโดย รศ. ดร.ศักดิ์ชัย นิรัญทวี* หนังสือเล่มนี้คุณแม่ได้ซื้อให้ ผมอ่าน เพราะเห็นว่าผมรัก และสนใจดนตรีไทย เนื้อหาในหนังสือบอกเล่าชีวประวัติของครูจ้อน ตั้งแต่เป็น ลูกจ้างจนเป็นเจ้าของกิจการ รวมถึงบรรยายความรู้เกี่ยวกับการสร้างเครื่องดนตรีไทยที่ครูจ้อนได้ศึกษาสั่งสม จากครูดนตรีไทยและช่างผลิตเครื่องดนตรีไทยหลายท่าน เป็นหนังสือเล่มสำ คัญเล่มหนึ่งที่สร้างแรงบันดาลใจ ในชีวิตดนตรีไทยของกระผม เมื่อพ.ศ. ๒๕๔๔ ผมได้เริ่มหัดซอสามสาย ครูอาทร ธนวัฒน์ได้สั่งทำ ซอสามสายจากร้านดุริยางค์ไทย อัน เป็นร้านของครูจ้อน ผมก็มีความยินดีอย่างมากที่ได้เป็นเจ้าของซอสามสายที่มีลักษณะเหมือนกับคันในรูปหน้าปก หนังสือที่ครูจ้อนสี ต่อมาอีก ๒-๓ ปี ได้ติดตามครูอาทร ธนวัฒน์ไปที่โรงงานครูจ้อน ที่อำ เภอบางพลี ทำ ให้ได้พบ กับครูจ้อนเป็นครั้งแรก เมื่อพบหน้ากัน ผมก็แสดงกริยา สีหน้า แววตาเสมือนว่ารู้จักครูจ้อนมายาวนาน ครูจ้อน เองท่านก็คงจะทราบ จึงได้แสดงสีหน้า แววตา รอยยิ้มอันเปี่ยมด้วยเมตตาตอบแก่ผม ในวันนั้นผมรู้สึกว่าบุคคลผู้ มีชื่อเสียงถึงขนาดมีหนังสือประวัติเป็นของตนเอง ทำ ไมช่างเป็นกันเอง ไม่ถือตน พูดจาไพเราะ ลงท้ายคำ พูดว่า “ขอรับ” ตลอดเวลา แม้กับเด็กนักเรียนตัวน้อยๆ คนหนึ่ง จากวันนั้นผมก็ปลาบปลื้มและเคารพรักครูจ้อนเสมอมา ในวันเดียวกันนั้นเอง เป็นวันแรกที่ผมได้พบกับช่างสมชาย (ช่างประสงค์ ขันสาคร) ช่างฝีมือเอกแห่งโรงงาน ดุริยางค์ไทยในขณะนั้น ผู้สร้างซอสามสายคู่มือ คู่ชีวิตผม ตั้งแต่เริ่มฝึกหัดจนทุกวันนี้ ผมจำ ได้ดีว่าวันนั้นครูอาทร แนะนำ ว่า “ช่างสมชายนี้แหละที่ทำ ซอให้เธอ” คำ พูดนี้ เป็นเสมือนเป็นการให้กำ เนิดวิญญาณความเป็นนักสะสม เครื่องดนตรีไทยของผม หลังจากวันนั้นผมเริ่มศึกษาลักษณะฝีมือช่างเริ่มสะสมเครื่องดนตรีทั้งเก่า ใหม่ พยายาม สังเกต จดจำ ทดลอง เรียนรู้ มาจนถึงปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๔๙ ในระหว่าว่งที่ผ ที่ มศึกศึษาอยู่ที่ยู่ จุ ที่ ฬจุาลงกรณ์มณ์หาวิทวิยาลัยลัรุ่นรุ่ พี่ท่ พี่ าท่นหนึ่ง นึ่ ได้มด้อบหมายให้ผห้มจัดจัหา ซอสามสายสำ หรับรัฝึกฝึหัดหัราคาไม่แม่พง ผมก็โก็ทรไปหาครูจ้รูอจ้น และพารุ่นรุ่ พี่ไพี่ ปบ้าบ้นครูจ้รูอจ้น ถือถืเป็นป็ครั้ง รั้ แรกที่ผ ที่ มได้ เรียรีนรู้กรู้ระบวนการสั่ง สั่ ทำ ซอสามสายซึ่ง ซึ่ มีรมีายละเอียอีดมากมาย ตั้ง ตั้ แต่ เลือลืกชนิดนิไม้ เลือลืกชนิดนิทวน เลือลืกชนิดนิหางม้าม้ รวมถึงถึเริ่ม ริ่ เรียรีนรู้ธุรู้รธุกิจกิเล็กล็ๆ ว่าว่การสั่ง สั่ ซอคันคัหนึ่ง นึ่ นั้น นั้ มีต้มีนต้ทุนทุหลายอย่าย่งทั้ง ทั้ ค่าค่ช่าช่ง ค่าค่เดินดิทาง ถือถืเป็นป็จุดจุเริ่ม ริ่ ต้นต้ ของการทำ ธุรธุกิจกิขายเครื่อ รื่ งดนตรีเรีล็กล็ๆ ของผมจนทุกทุวันวันี้ พ.ศ. ๒๕๕๓ เมื่อผมเรียนจบ ผมได้สมัครสอบบรรจุที่ สพป.สมุทรปราการ ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านครูจ้อน ระหว่างพักกลางวัน ผมกับพ่อก็ได้เข้าไปหาครูจ้อน ได้พูดคุยกัน ครูจ้อนกล่าวกับผมว่า “ถ้ามาอยู่แถวนี้ดีแล้ว ขอรับ จะได้เป็นคนบ้านเดียวกัน อยากได้คนดี ๆ มีฝีมือมาช่วยกันพัฒนาบ้านเรา” ซึ่งสุดท้ายผมสอบบรรจุ ติดแต่ได้สละสิทธิ์เพื่อไปสอนที่โรงเรียนจิตรลดา จึงไม่ได้มีโอกาสเป็นคนบ้านเดียวกับครูจ้อน เมื่อผมเริ่ม ทำ งานหารายได้ได้ด้วยตนเอง ผมก็สร้างเครื่องดนตรี และสะสมเครื่องดนตรีเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามกำ ลังที่ผมพอ จะมี ถึงแม้ว่าในช่วงหลังผมจะติดตามผลงานช่างสมชาย ไปทุกที่ ที่ช่างสมชายอยู่ แต่ผมก็ไม่เคยลืมร้านครู จ้อน มักจะอุดหนุนครูจ้อนไม่ว่าจะพบร้านครูจ้อนที่ใดผมจะต้องอุดหนุนซื้อเครื่องดนตรี อุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ เสมอ ครูจ้อน กับ ปฐมบททางดนตรีไทยของเด็กชายคนหนึ่ง * ดูเอกสารฉบับเต็มได้ที่ รายการสืบค้นบรรณานุกรมลำ ดับที่ ๕ หน้า ๑๕๔


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๔๓ พ.ศ. ๒๕๕๖ เมื่อ มื่ ผมย้าย้ยงานเป็นป็อาจารย์ที่ย์ม ที่ หาวิทวิยาลัยลัราชภัฏภับ้าบ้นสมเด็จด็เจ้าจ้พระยา มีอมียู่ช่ยู่ วช่งหนึ่ง นึ่ ครูจ้รูอจ้น มาส่งส่ซอและคันคัชักชัซอให้ผห้มแทบทุกทุสัปสัดาห์ เป็นป็เวลาหลายเดือดืน เพราะในช่วช่งนั้น นั้ ผมมีคมีวามชื่น ชื่ ชอบไม้ที่ม้มี ที่ ลมีาย เช่นช่ ไม้แม้ก้วก้ลาย ไม้ปม้ระดู่ลดู่ าย ไม้ตม้ะแบกลาย ปุ่มปุ่ มะค่าค่เป็นป็ต้นต้ซึ่ง ซึ่ ในช่วช่งเวลานั้น นั้ ครูจ้รูอจ้นก็มีก็วัมีตวัถุดิถุบดิหายากเหล่าล่นี้อ นี้ ยู่มยู่ าก ทำ ให้เห้ริ่ม ริ่ พูดพูคุยคุสนิทนิสนมกันกัมากขึ้น ขึ้ เมื่อ มื่ ผมจะบรรพชาอุปอุสมบท ครูจ้รูอจ้นก็ไก็ด้เด้ดินดิทางมาร่วร่มงาน สร้าร้งความ ปลาบปลื้ม ลื้ ใจแก่ผก่มและครอบครัวรัเป็นป็อย่าย่งมาก เมื่อ มื่ ผมสึกสึท่าท่นก็โก็ทรมากล่าล่วกับกัผมว่าว่ “ทิดทิคือคืบัณบัฑิตฑิคือคืผู้ที่ผู้ผ่ ที่ าผ่น การเรียรีนแล้วล้ขอให้ให้ช้ชีช้วิชีตวิด้วด้ยธรรมะที่ไที่ ด้เด้รียรีนมานะขอรับรั” เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ดร.ตรีทิพ กมลศิริ จากรายการวิทยุชื่อ “ดนตรีทิพย์” สถานีวิทยุจุฬาฯ ได้ติดต่อผม อยากจะสัมภาษณ์ช่างทำ ซอสามสาย และอยากจะให้มีการสาธิตการกลึงซอสามสาย ผมจึงติดต่อครูจ้อน ซึ่งช่วง เวลานั้นท่านก็พึ่งหายป่วย ไม่ค่อยมีแรงสักเท่าไหร่ แต่ท่านก็กรุณาให้เข้าสัมภาษณ์และสาธิตการกลึงซอสามสาย ครั้งนั้นถือเป็นครั้งแรกในชีวิตผมที่ได้รับหน้าที่เป็นพิธีกรภาคสนาม ออกรายการต่อสาธารณชน และในครั้งนั้น เอง ผมได้ยืนมองครูจ้อนทำ งานเป็นครั้งสุดท้าย ในเวลาครูจ้อนทำ งานนั้นท่านมีความสุข มีสมาธิ ตั้งใจ เมื่อกลึง เสร็จท่านก็มักจะนำ มาให้ผมชื่นชม และพูดคุยกันยาวนานอยู่เสมอ ในช่วงท้ายของการบันทึกรายการผมได้กล่าว สรุปรายการประโยคหนึ่งว่า “ภูมิปัญญาของครูจ้อนเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และทำ ให้ครูจ้อนเป็นครูที่วิเศษที่สุดท่าน หนึ่ง” เมื่อผมกล่าวประโยคนี้จบ ผมมองไปที่ครูจ้อนผมก็ได้เห็นแววตาและน้ำ ตาแห่งความอิ่มเอมใจคลออยู่ที่ ดวงตาของท่าน ทำ ให้ผมนึกดีใจว่า วันนี้ผมได้สร้างความสุขให้ครูจ้อนแล้ว เมื่อต้นปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ก่อนครูจ้อนจะจากไป ผมก็ระลึกถึงท่าน เนื่องจากทราบว่าท่านป่วย ผมคิดว่า ท่านเป็นเสาหลักของบ้าน น่าจะมีภาระเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่พอสมควร ผมจำ ได้ว่าตอนไปบันทึกรายการที่บ้าน ท่านมีซอที่ทำ ด้วยเรซิ่นชุดหนึ่ง จึงได้ติดต่อขอซื้อท่าน ทั้งยังได้หางานให้ท่าน เช่น สร้างซอด้วงสำ หรับเด็กให้ แก่โรงเรียนของครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน (ศิลปินแห่งชาติ) สร้างซอหลิบให้ครูวรยศ ศุขสายชล ฯลฯ เครื่อง ดนตรีชิ้นสุดท้ายที่ครูจ้อนสร้างให้แก่ผมคือ คันชักซอสามสายประดับมุกไฟ หลังจากที่ท่านส่งคันชักให้ผม วันรุ่งขึ้นท่านก็ได้เข้าโรงพยาบาลและอีกวันหนึ่งท่านก็ได้จากไปอย่างสงบ เมื่อผมมาทบทวนดู ผมก็พบว่า ชีวิตของผมนั้นผูกพันกับครูจ้อนมายาวนาน ร้านดุริยางค์ไทยและบ้าน ของครูจ้อนเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางในวิถีแห่งดนตรีไทยหลายเส้นทางในชีวิตของผม และเชื่อว่าน่าจะเป็นจุด เริ่มต้นของใครอีกหลาย ๆ คน แม้วันนี้ครูจ้อนจากไปอย่างสงบแล้ว แต่สิ่งที่ท่านได้สั่งสม สร้างสรรค์ พัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีไทย หรือคนดนตรีไทย จะทำ ให้พวกเราระลึกถึงและกล่าวถึงท่านอย่างไม่วันสิ้นสุด ด้วยความระลึกถึง ผศ. ดร.สุรพงษ์ บ้านไกรทอง


๔๔ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน รู้จักกับครูจ้อนครั้งแรกเมื่อคราวนำ ซอสามสายไปซ่อมที่ร้านดุริยางค์ไทย ผมประทับใจการบริการของครู ที่ต้อนรับลูกค้าด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ยกมือไหว้อย่างไม่เขินอาย พูดจาไพเราะ อัธยาศัยดี เรียกคำ นำ หน้าชื่อว่า “คุณ” ทุกครั้งและที่สำ คัญกำ หนดราคาแบบมิตรภาพ ตั้งแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมา ผมเดินทางไปหาครูบ่อยขึ้น เนื่อง ด้วยชอบสะสมเครื่องดนตรีโบราณที่ส่วนใหญ่มักชำ รุดจึงต้องไปปรึกษาครูอยู่เนือง ๆ ซึ่งก่อนครูจะลงมือซ่อมก็จะ บอกที่มาของเครื่องดนตรีว่าเป็นผลงานของสกุลช่างหรือช่างท่านใด ขั้นตอนการซ่อมทำ อย่างไร ทำ ให้ทุกครั้งที่ไป หาครูก็จะได้ความรู้มากมายทีเดียว ระยะเวลาก็เก็นิ่น นิ่ นานกับกัการเป็นป็ลูกลูค้าค้ขาประจำ จนกระทั่ง ทั่ ได้เด้ตรียรีมงานร้อร้ยปีร้ปีาร้นดุริดุยริบรรณ ซึ่ง ซึ่ ผมได้รัด้บรัมอบ หมายให้จัห้ดจันิทนิรรศการเครื่อ รื่ งดนตรี พอครูไรูด้ทด้ราบข่าข่วเรื่อ รื่ งนี้ก็ นี้ ดีก็ ใดีจมาก ตอบรับรัให้คห้วามร่วร่มมือมืทุกทุอย่าย่งทั้ง ทั้ การให้ สัมสัภาษณ์เณ์ก็บก็ข้อข้มูลมูเดินดิทางมาเป็นป็วิทวิยากรในงาน เป็นป็ที่ปที่ รึกรึษาในการเขียขีนบทความลงในหนังนัสือสืตลอดถึงถึซ่อซ่ม เครื่อ รื่ งดนตรีขรีองร้าร้นดุริดุยริบรรณเพื่อ พื่ นำ มาจัดจัแสดง ช่วช่งนั้น นั้ ผมกับกัครูสรูนิทนิสนมกันกัมาก ครูอรูนุญนุาตให้โห้ทรปรึกรึษาได้ ตลอดตลอด ๒๔ ชั่ว ชั่ โมง ครั้ง รั้ หนึ่ง นึ่ ผมติดติปัญปัหาในการเขียขีนบทความจึงจึได้ส่ด้งส่ข้อข้ความไปหาครูรรูาวตีสตีอง กว่าว่ๆ ครู โทรกลับลัมาตอบคำ ถามทันทัทีแทีถมยังยัให้คห้วามรู้เรู้พิ่ม พิ่ เติมติอีกอีมากมาย ครูอรูนุญนุาตให้เห้ข้าข้ออกนอกในโรงงานเหมือมืนเป็นป็ สมาชิกชิของร้าร้นและได้มีด้ โมีอกาสเรียรีนรู้วิรู้ธีวิกธีารทำ เครื่อ รื่ งดนตรีแรีต่ลต่ะขั้น ขั้ ตอนทั้ง ทั้ ยังยัซ่อซ่มเครื่อ รื่ งดนตรีใรีห้โห้ดยไม่ขม่อรับรัเงินงิ ช่วงหลังผมทราบข่าวว่าครูป่วยเข้าโรงพยาบาลจึงโทรไปหา ครูบอกว่าไม่มีแรงแม้จะเปิดเครื่องจักร ทำ งาน พักหลังเห็นร่างกายของครูก็ซูบผอมลงไปมากแต่กำ ลังใจครูดีมากกว่า ครั้งสุดท้ายที่ไปหาครูเพราะ ครูโทรมาบอกว่าครูคงจะทำ เครื่องดนตรีให้ผมไม่ไหวอีกแล้วให้มารับวัสดุที่เตรียมจะทำ กลับไปก่อน ครั้งนั้น ได้คุยกันหลาย ๆ เรื่อง แต่ประโยคหนึ่งที่ติดอยู่ในหูจนถึงตอนนี้ คือครูได้สั่งเสียไว้ว่า “ถ้าผมตายนะ อาจารย์ ผมขอความกรุณาอาจารย์ช่วยทำ หนังสือเล่มเล็ก ๆ ให้ผมสักเล่ม ผมอยากจะทำ ไว้เป็นอนุสรณ์” ผมอึ้งไป พักหนึ่งก็เบี่ยงเบนประเด็นไปว่าครูยังแข็งแรงทานอาหารเยอะ ๆ เดี๋ยวก็หาย...ครูก็ยิ้ม ทราบข่าวการจากไปของครู ผมเสียใจมาก ๆ ที่วงการดนตรีไทยต้องสูญเสียครูดนตรีและครูช่างเครื่อง ดนตรีคนสำ คัญที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ ความสามารถ และความเมตตา หากครูทราบด้วยญาณวิถีใดขอให้ครูได้รับ รู้ไว้ว่า ลูกศิษย์ทุกคนที่ครูได้สั่งสอนไว้นั้น บัดนี้ได้ผลิดอกออกผลแล้วทั่วทั้งวงการดนตรีไทย การันตีความยิ่ง ใหญ่ครูที่ชื่อ “จ้อน ไทรวิมาน” คนนี้ไปตลอดกาล ดร.ปกรณ์ หนูยี่ สำ นักการสังคีต กรมศิลปากร จากลูกค้าจนมาเป็นลูกศิษย์


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๔๕ ป๋าจ้อนเปรียบเสมือนพ่อของลูกศิษย์และลูกน้องทุกคน จากบ้านจากเมืองมาสู้ชีวิต บางคนไม่มีความรู้ ติดตัวมาเลยมีแต่กำ ลังและความพยายามเข้ามาสมัครขอทำ งานกับป๋า ท่านก็เมตตารับเข้ามาทำ งานทุกคนและ สอนงานให้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ทำ งานผิดพลาดไปบ้างก็ไม่เคยว่า ป๋าพยายามเข้าใจข้อจำ กัดทางความสามารถ ของแต่ละคน บริหารจัดการหน้าที่ความรับผิดชอบให้ทุกคนโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง บางครั้งมีปัญหาทาง ครอบครัวต่าง ๆ ป๋าเป็นคนแรกที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นงานศพ งานบวช งานแต่งงานหรือค่าเทอมลูก ป๋าดูแลจัดการให้ก่อนเสมอ ป๋าคอยสอดส่องทุกข์สุขของทุกคนไม่คลาดสายตา ทำ ให้การทำ งานกับป๋าเป็นไป ด้วยความสุข ช่วงหลังป๋าอายุมากขึ้นงานต่าง ๆ ก็ลดน้อยลงประกอบกับลูก ๆ ของป๋าก็ต่างออกไปขยายโรงงาน ช่างของป๋าบางคนออกไปทำ งานที่อื่น ๆ บ้าง ไปเปิดกิจการตัวเองบ้าง ป๋าก็เข้าใจทุกคนไม่มีจิตใจที่จะเกลียดชัง ทำ ให้ลูกน้องและลูกศิษย์ของป๋าทุกคนนับถือน้ำ ในและเคารพป๋ามาก วาระสำ คัญต่าง ๆ ทุกคนก็จะกลับมา เยี่ยมป๋าอยู่เหมือนเพราะป๋าคือพ่อ ป๋าคือครู ป๋าคือญาติผู้ใหญ่ของทุกคน ต่อแต่นี้ไม่มีให้เห็นแล้ว ครูแก้วของศิษย์ทุกสาขา คอยพร่ำ สอนแม้อ่อนทางปัญญา ไม่เคยว่าให้ช้ำ ระกำ ใจ จนกระทั่งมีวิชาประดับตัว เลี้ยงลูกเลี้ยงตัวจนเติบใหญ่ กราบพระคุณป๋าจ้อนสนิทใจ ระลึกไว้ชั่วชีวีไม่มีลืม คณะศิษย์ครูจ้อน ไทรวิมาน ป๋าจ้อนของทุกคน


๔๖ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ผมคือคืคนสุดสุท้าท้ยที่พ ที่ าคุณคุพ่อพ่ ไปโรงพยาบาล ก่อก่นที่ท่ ที่ าท่นจะไปเสียสีชีวิชีตวิที่ห้ ที่ อห้งพักพัผู้ป่ผู้วป่ยชายโรงพยาบาลบางพลี ในวันวัจันจัทร์ที่ร์ ที่ ๑๔ มีนมีาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ก่อก่นจะได้ขึ้ด้น ขึ้ ไปบนห้อห้งพักพัผู้ป่ผู้วป่ยชาย เราอยู่ชั้ยู่ น ชั้ ๑ ของโรงพยาบาลกันกัทั้ง ทั้ วันวั เพื่อ พื่ รอตรวจ และก่อก่นที่ห ที่ มอรับรัตัวตัไว้เว้พื่อ พื่ เป็นป็ผู้ป่ผู้วป่ยใน ก่อก่นนั้น นั้ พ่อพ่ท้อท้งเสียสีอย่าย่งรุนรุแรง ประกอบกับกัเป็นป็ โรคกล้าล้มเนื้อ นื้ หัวหัใจขาดเลือลืด ๗๐% มา ๒ ปีกปีว่าว่ทำ ให้หห้มดแรงจริงริๆ ท่าท่นไม่เม่คยแสดงสีหสีน้าน้ถึงถึความเจ็บจ็ ปวดแม้แม้ต่เต่ล็กล็น้อน้ย ทำ ให้ คนรอบข้าข้งรู้สึรู้กสึเข้มข้แข็งข็ต่อต่อาการของท่าท่นไปด้วด้ย ท่าท่นเป็นป็ต้นต้แบบสารพัดพัอย่าย่งในชีวิชีตวิลูกลู ๆ ทุกทุคน หลายสิ่ง สิ่ หลาย อย่าย่งในตัวตัผม ได้รัด้บรัการถ่าถ่ยทอดจากพ่อพ่คนนี้ ที่เ ที่ หลือลืเพียพีงเล็กล็น้อน้ยนำ มาต่อต่ยอดเอง พ่อพ่เป็นป็ตัวตัอย่าย่งที่ดี ที่ ดีในการดำ เนินนิ ชีวิชีตวิของพวกเรา ก่อก่นนั้น นั้ พ่อพ่เหนื่อ นื่ ยจากการทำ งาน ที่ร้ ที่ าร้นดุริดุยริบรรณประมาณ ๑๐ ปี ก่อก่นจะมาเปิดปิเป็นป็ร้าร้นตัวตัเอง ใน นามร้าร้นดุริดุยริางค์ไค์ทย ถนนปู่เปู่จ้าจ้สมิงมิพราย ทนทำ งานทุกทุอย่าย่งที่ตั ที่ วตัเองได้รัด้บรัความรู้สั่รู้ง สั่ สมมา จนเป็นป็ครูขรูองลูกลู ๆ และ อีกอีหลาย ๆ ท่าท่น สิ่งดี ๆ ที่พ่อได้ทำ ให้ในวันนี้ ขอให้พ่อได้ไปอยู่ในภพภูมิที่สูงยิ่ง ๆ ขึ้นต่อไปอีกนะครับ โจ ศุภาพล ไทรวิมาน พ่อจ้อนเป็นพ่อที่ดีที่สุด สอนทุกอย่างสอนการทำ มาหากินสอนการใช้ชีวิตครองเรือน เกิดชาติหน้าขอเกิด เป็นลูกพ่อครับ จ้อย นิรันดร์ ไทรวิมาน เมื่อพูดถึงพ่อ พ่อไม่เพียงแต่ให้ชีวิตลูก แต่พ่อให้อะไรหลายๆ อย่าง พ่อให้ความรู้ ให้อาชีพ ยามท้อแท้ พ่อก็ให้กำ ลังใจ พ่อคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังในทุก ๆ ความสำ เร็จของลูก พ่อไม่เคยบังคับ เลี้ยงลูกตามหลัก ประชาธิปไตย พ่อเป็นเสมือนครู เป็นเสมือนเพื่อนที่คุยกันได้ทุกเรื่อง พ่อเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกรักดนตรีไทย ลูกจะสืบทอดงานของพ่อต่อไป เมื่อไม่มีพ่อแล้ว ความรักความปรารถนาดีของพ่อจะอยู่ในใจลูกเสมอ เหมือน เสียงดนตรีไทยที่อยู่ในใจลูกตลอดเวลา ...รักพ่อมากนะ... จุ๊ จุฑามาศ ไทรวิมาน ระลึกถึงคุณพ่อวาทิต ไทรวิมาน จากลูก ๆ ทั้ง ๗ คน


วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๔๗ ชีวิตพ่อ มีแต่ให้ ไม่รู้จบ รักเคารพ ด้วยใจ ไม่ห่างหาย กราบวันทา ศพพ่อ ด้วยอาลัย น้อมกายใจ สำ นึก ระลึกคุณ พ่อเลี้ยงลูก ทุกคน ด้วยความรัก ลูกลำ บาก โอบเอื้อ คอยเกื้อหนุน ลูกคนไหน หลานคนใด ขัดสนทุน พ่อการุณย์ ชี้นำ ลูก ให้ถูกทาง ลูกมีภัย พ่อปกป้อง ด้วยชีวิต ลูกทำ ผิด ผิดด้วย ช่วยสะสาง พ่อคอยปก ป้องลูก ประคองวาง ทุก ๆ อย่าง ลูกสำ นึก พ่อคอยเตือน พระคุณพ่อ ยิ่งใหญ่ ในใจลูก รักพันผูก พึ่งพาได้ หาใดเหมือน จะจดจำ คำ พ่อไว้ ไม่แชเชือน ไม่ลบเลือน คำ สอนพ่อ ก่อให้เป็น พ่อลำ บาก แค่ไหน ไม่เคยบ่น สู้อดทน ทำ ไป ไม่เคยเว้น ถึงงานยาก มากเหลือ เบื่อลำ เข็ญ พ่อสร้างฐาน ครอบครัวเป็น ไม่อายใคร พ่อพาลูก เมียอยู่ หมู่บ้านนี้ หลายสิบปี ที่พ่อสร้าง ทางสดใส ลูกทุกคน มีคู่ครอง ที่ต้องใจ บ้างย้ายไป ต่างถิ่น ต่างเมืองนอน แต่พ่อยัง คงอยู่ เป็นเสาหลัก ให้ลูกหลาน พึงพัก ดังกาลก่่อน คราสงกรานต์ มากราบพ่อ ขอรับพร ต่อพลัง แล้วค่อยจร รอนแรมไกล มาบัดนี้ คุณพ่อจาก ลูกไปแล้ว ไร้วี่แวว ไม่อาจรู้ พ่ออยู่ไหน เห็นเพียงร่าง ที่รอเข้า เมรุเผาไฟ ส่วนตัวจริง พ่อไป อยู่ไหนกัน ยิ่งคิดไป ใจหาย อาลัยพ่อ น้ำ ตาคลอ เอ่อไหล ไม่อาจกลั้น เพราะไม่อาจ ช่วยพ่อฟื้น คืนชีวัน ปรับทุกข์กัน สุดฝืน กลืนน้ำ ตา จึงกราบก้ม ประนมกร วิงวอนให้ เทพไท บนสวรรค์ ชั้นเวหา รับคุณพ่อ กลับไป แดนเทวา เสวยบุญ บนชั้นฟ้า ให้แสนนาน เจมส์ ธนธัส ไทรวิมาน ระลึกถึงคุณพ่อวาทิต ไทรวิมาน จากลูก ๆ ทั้ง ๗ คน (ต่อ) ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสดูแลคุณพ่ออย่างใกล้ชิด เวลาค่ำ ต้องเข้าไปดูแลทั้งบีบนวด หาหยูกยา อาหาร เวลาเข้านอนถ้าคุณพ่อต้องการอะไรเจ็บตรงไหนปวดตรงไหน คุณพ่อต้องโทรเรียกผมทุกครั้ง ผมดีใจ และเป็นมงคลอันสูงสุดทุกครั้งที่ได้พาคุณพ่อไปไหว้พระทำ บุญและท่านก็มีความสุข ได้ล้างเท้าให้คุณพ่อก่อน นอน ได้ปรนนิบัติเรื่อยมา คุณพ่อทำ งานเหนื่อยมาทั้งชีวิตเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวคำ ว่าเหนื่อยไม่เคยได้ยินจาก ปากคุณพ่อสักครั้ง พร่ำ สอนทุกสิ่งอย่างที่ท่านรู้บางเรื่องไม่รู้คุณพ่อจะไปหาข้อมูลมาตอบจนได้ และเนื่องจาก ที่คุณพ่อมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรงเนื่องจากยารักษาโรคเก๊าท์พี่ชายคนโตจึงได้พาไปรักษา และหมอให้พัก รอดูอาการจนกว่าจะดีขึ้น และหมอห้ามเฝ้าไข้ จึงไม่มีโอกาสได้คุยแและเห็นลมหายใจครั้งสุดท้าย คุณพ่อ หลับให้สบายนะครับเหนื่อยมามากแล้ว ตอนนี้ได้พักแล้ว ขอบุญกุศลทั้งหมดที่คุณพ่อเคยสร้างไว้และบุญกุศล ของผมทั้งหมดนี้จงช่วยส่งดวงจิตวิญญาณของคุณพ่อ จ้อน ไทรวิมานไปสู่ภพภูมิแดนสุขาวดีพุทธเกษตร หาก เราได้พบเจอกันอีกครั้งขอให้ผมได้เป็นลูกของคุณพ่อจ้อน ไทรวิมาน อีก เจ๊ก เจตจันทร์ ไทรวิมาน


๔๘ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน เริ่มตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนที่คุณพ่อได้เริ่มป่วยด้วยโรคหัวใจ จะมีอาการแน่นหน้าอกตอนช่วงเย็นเสมอ พอ ๑๗.๐๐ น. ของทุกวันจะเริ่มมีอาการ ทันทีที่คุณพ่อได้โทรหาเราทุกครั้งเราจะพาคุณพ่อไป รพ.บางพลี ที่ห้องฉุกเฉินใช้เวลาประมาณ ๖ ชั่วโมงในการตรวจและดูอาการ ผลที่ออกมาก็คือน้ำ ท่วมปอดต้องฉีดยาขับ ปัสสาวะ หลังจากกลับบ้านทุก ๆ เช้าผมก็จะไปนั่งคุยกับพ่อเพื่อถามอาการ แต่คุณพ่อบอกสบายดีทุกครั้ง และทำ ตัวแข็งแรง ซึ่งต้องการเป็นตัวอย่างให้กับลูกทุกคน พร้อมกับบอกว่าอยากเดินเพื่อออกกำ ลังกายและ ชอบให้เดินพามาที่บ้านหลังโรงงานที่มีต้นไม้ปลูกอยู่จำ นวนมาก ท่านพ่อได้มานั่งเล่นอยู่หลายชั่วโมงเพื่อผ่อน คลายและกินมะม่วงนั่งคุยดูซอพูดคุยหลาย ๆ อย่างตลอด ๑ ปี พอเข้าปีที่ ๒ คุณพ่อเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่แข็ง แรงเหมือนเก่า คุณพ่อได้คุยกับเราและแสดงความในใจต่างๆออกมา แต่สิ่งหนึ่งในนั้นคือต้องการผู้สืบทอด วิชาความรู้เรื่องซอสามสาย และได้แจ้งว่าต้องการสอนทั้งหมด เราได้ตอบปากตกลงเพื่อให้ท่านได้สบายใจ หลังจากนั้นพ่อก็ได้สอนทุกอย่างและท่านก็ได้ยิ้มออกมา ทำ ให้เราสบายใจมาก ช่วงหลังมานี้พ่อได้มาที่บ้าน หลังโรงงานเองโดยไม่บอกเราล่วงหน้า มาคุยกับแม่และลูกน้องเก่า ๆ ของพ่อ แล้วท่านก็ถามกับทุกคนว่า เจี๊ยบไปไหน ซึ่งเวลาว่างของเราไม่ค่อยตรงกัน และในช่วงเดือนสุดท้ายของชีวิตพ่อได้เริ่มมีอาการปวดหัว เข่ามากขึ้นเรื่อย ๆ พ่อมาหาเราที่บ้านแต่ไม่เจอเพราะเราต้องออกไปต่างจังหวัด เป็นประจำ ทำ ให้พ่อได้โทร หาเราบอกว่าพ่อปวดขามากและอยากให้เรามานวดให้ตอนช่วงเย็น ๆ ของทุกวัน เค้าได้บอกว่าช่วงนี้พ่อมา หาที่บ้านไม่ค่อยเจอเลย พ่อไม่ค่อยมีแรงแล้ว พาพ่อไปที่ รพ.ได้ไหม ไปให้หมอให้น้ำ เกลือ เราก็พาไปหลัง จากนวดเสร็จ ทุกครั้งที่พ่อไป รพ. พ่อไม่เคยแสดงอาการอะไรให้เราได้เป็นห่วงเลย และทุก ๆ เช้าเราจะเอา ซอสามสายไปให้พ่อได้สีเล่นทำ ให้ท่านมีความสุข สิ่งที่แสดงออกมาคือรอยยิ้มของท่านมีความสุขมาก สิ่งที่ ท่านทำ คือแบบอย่างที่ดีสำ หรับลูกตลอดไป เจี๊ยบ นพดล ไทรวิมาน ระลึกถึงคุณพ่อวาทิต ไทรวิมาน จากลูก ๆ ทั้ง ๗ คน (ต่อ) หากชาติหน้าเกิดใหม่ได้ผ่านพบ ขอประสบพันผูกเป็นลูกหลาน ได้ตอบแทนพระคุณพ่อให้แสนนาน เหล่าภัยพาลไม่มาพรากเราจากกัน ตลอดชีวิตของลูกผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านเรื่องราวมามากมาย แต่ในทุกช่วงของชีวิตจะมีคุณพ่ออยู่ใกล้ ๆ ไม่เคยห่างหาย คุณพ่อเป็นทั้งผู้ชี้นำ เป็นผู้อยู่เคียงข้าง และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำ เร็จของลูก ประโยคที่ว่า พ่อ คือหัวใจและเป็นพลังของลูก คงจะเหมาะสมที่สุดแล้ว การจากกันในครั้งนี้ เปรียบดั่งบทเพลงของเราสองพ่อลูกที่บรรเลงร่วมกันได้มาถึงท่อนจบแล้ว แต่ความ ทรงจำ คำ สั่งสอน ความรักและความผูกพันระหว่างเราสองพ่อลูก จะยังคงอยู่ในใจลูกตลอดไป การเดินทางไกลของคุณพ่อขอให้พบแต่ความสงบและความสุขนะคะ ด้วยรักและอาลัยยิ่ง จากลูกจิ๊บของพ่อ จิ๊บ จารุนันท์ ไทรวิมาน


Click to View FlipBook Version