ชื่อ - สกุล ภูมิลำ เนา ความถนัดงานช่าง นายวันชัย ไวสูงเนิน นครราชสีมา แกะกะลา นางธนพร วัยสูงเนิน นครราชสีมา ทำ สี นางอาภา วัยสูงเนิน นครราชสีมา ทำ สี นางพิมพ์ ถาจอหอ นครราชสีมา ช่างสี นายนิพนธ์ (ป้อน) ถาจอหอ นครราชสีมา ทำ ราง, แต่งจะเข้, กลึง สมรัตน์ ปรอท นครราชสีมา ทำ สี นางสุเนตร ฉิมครบุรี นครราชสีมา ช่างสี นางเสน่ห์ ฉิมครบุรี นครราชสีมา ช่างสี นายสมาน นครราชสีมา แต่งซอ, แต่งรางระนาด นางลักขณา จางรางกร ฉะเชิงเทรา ช่างสี นางมนัสนัน สกุลพราหมณ์ ฉะเชิงเทรา ช่างสี, ปรับนมจะเข้, เทียบเสียง นางนี พันธุ์ปาน ยโสธร แกะกะลา, ขึ้นหน้าซอ นายสมิง มีคุณ อุบลราชธานี แกะกะลาซอ กลึงซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย นายอำ นวย โนนสูง อุบลราชธานี ช่างสี นายสวัสดิ์ เกิดสินธุ์ กำ แพงเพชร การตัดมุก นายสำ รวย ทองเสาร์ ลพบุรี แกะกะลาซอ นายสมชาย ขันสาคร นครนายก กลึงซอ, แต่งซอด้วง, อู้, สามสาย นายสุขุม ผิวชอุ่ม สมุทรปราการ แกะกะลาซอ, กลึง, แต่ง นายสาลี่ ทองเสาร์ ลพบุรี จะเข้, อุปกรณ์เครื่องดนตรี, รางระนาด นางแพ บุรีรัมย์ ทำ สี นางกรองทอง นครสวรรค์ ทำ สี นายวิจารย์ กรุงเทพฯ กลึง นายสวิท ตือประโคน บุรีรัมย์ ซอด้วง, ซอสามสาย, รางระนาด, ปรับนมจะเข้ นายนิพนธ์ ถาจอหา แกะกะลา ช่างเดียว กลึงกระบอก กลึงไม้ดีด ช่างหนึ่ง ขึ้นหน้าซอ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๙๙
ชื่อ - สกุล ความถนัดงานช่าง นางกาญจนา ไทรวิมาน จะเข้ ซอสามสาย นายศุภาพล ไทรวิมาน จะเข้ นายนพดล ไทรวิมาน ซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย นายเจตจันทร์ ไทรวิมาน ซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย นายธนธัส ไทรวิมาน ขึ้นหน้าซอ, ปรับนมเทียงเสียงจะเข้ ชื่อ - สกุล ความถนัดงานช่าง อ.สุขสันต์ พ่วงกลัด งานกลึง ดร.ปกรณ์ หนูยี่ ตั้งเสียงจะเข้ ขึ้นหน้าซอ และงานอุปกรณ์เครื่องดนตรีไทย รายนามสถานศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทวิยาลัยลัศรีนรีครินริทรวิโวิรฒ ประสานมิตมิร มหาวิทยาลัยบูรพา วิทวิยาลัยลัเพาะช่าช่ง มหาวิทวิยาลัยลัเทคโนโลยีรยีาชมงคลรัตรันโกสินสิทร์ มหาวิทวิยาลัยลัเทคโนโลยีรยีาชมงคลธัญธับุรีบุรี มหาวิทยาลัยหัวเฉียว มหาวิทยาลัยทักษิณ ภรรยาและบุตรสืบทอดงานผลิตเครื่องดนตรี ลูกศิษย์ภายนอก การเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้แก่สถานศึกษา รายนามสถานศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏกำ แพงเพชร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา โรงเรียนศึกษาพิเศษระยอง โรงเรียนบางพลีราชบำ รุง ๑๐๐ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน
อย่างไรก็ตามผู้เขียนเข้าใจว่าลูกศิษย์ของครูจ้อน ไทรวิมาน มีอีกเป็นจำ นวนมากที่ไม่ได้บรรจุชื่อใน ทำ เนียบนี้ได้ทุกท่านในระยะเวลาจำ กัดของการรวบรวม แต่ประจักษ์พยานสำ คัญอย่างหนึ่งที่เป็นเครื่องยืนยัน ในเจตนารมย์ของครูจ้อนที่ฝากไว้แก่ลูกศิษย์ทุกคน คือความพิถีพิถันในการละเอียดของการสร้างเครื่องดนตรี ไทยเพื่อให้เกิดความสวยงามและเสียงที่ไพเราะสู่วงดนตรีไทยตลาดนานเท่านาน ลูกศิษย์สายช่าง ที่ยังคงสืบทอดความรู้จากช่างจ้อนอยู่ ข้างบนซ้าย ช่างบุญ หรือป้าบุญ (พี่สาวภรรยาช่างจ้อน) ช่างทำ สี ข้างบนขวา ช่างสมิง หรือพี่หมิง ช่างกลึง ข้างล่างซ้าย ช่างอ้วนหรือป้าอ้วน ช่างทำ สี ข้างล่างขวา ช่างสาลี่หรือพี่ลี่ ช่างแต่งจะเข้ รางระนาด ซอด้วง ซอสามสาย และอื่น ๆ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๐๑
๑๐๒ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ศิษย์ช่างจ้อนและทายาท ร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ วันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๕ ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง แถวหลังจากซ้าย บุตรชายคนที่ ๖ ช่างเจี๊ยบ ช่างป้อม พี่นี (ภรรยาช่างเรียง) น้องเดียว (ลูกชายช่างเรียง) ช่างเรียง ช่างสมชาย ช่างโจ แถวหน้าจากซ้าย ช่างหมวย(ช่างบ้านช่างโจ) ช่างนก (ภรรยาช่างโจ) ช่างมิ้น (ภรรยาช่างเจี๊ยบ) ช่างแมว (ภรรยาช่างสมชาย) น้าคำ (ภรรยาช่างจ้อน) รวมศิษย์ กราบคารวะศพพ่อจ้อนช่างใหญ่ วันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๕ ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง (จากซ้าย) ช่างสาลี ช่างอำ นวย ช่างเรียง ช่างสายชล ช่างจรูญ ช่างสมชาย ช่างต้อย พี่คม (สามีช่างต้อย) ช่างป้อน ช่างวันชัย ช่างสมชายเล็ก
เล่ล่ ล่ล่ าเรื่รื่ รื่รื่ องด้ด้ ด้ด้ วยภาพ โรงงานดุดุดุริดุริริยริางค์ค์ค์ไค์ทย สมุมุมุทมุรปราการ
๑๐๔ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ภาพขณะประชุมช่าง ระหว่างพักงานในโรงงานดุริยางค์ไทย
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๐๕ ช่างสาลี่ ทองเสาร์ ขณะเจาะกระบอกซอด้วง ช่างที่ขัดไม้ ทำ รองพื้น เตรียมทำ สี ของในโรงงาน
๑๐๖ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ช่างรุ่งโรจน์ พูลสวัสดิ์ ขณะกลึงคันซอ ช่างสมิง มีคุณ ขณะกำ ลังกลึงงาน
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๐๗ นายสวัสดิ์ เกิดสินธุ์ ช่างมุกที่ช่างจ้อนฝึกหัด ขณะกำ ลังฉลุมุก เพื่อประกอบเครื่องดนตรีไทย ช่างหนู (ช่างชัย) พันธุ์ปาน ช่างรุ่นเก่าแก่ของโรงงานของนายวาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน
๑๐๘ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน นายวาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ขณะกำ ลังสอนงานให้นักเรียนจากเทคโนโลยีจิตรลดา ที่เข้ามาศึกษาดูงาน/ฝึกงาน โดยในรูป เป็นการสอนวิธีการกลึงกระบอกซอด้วง นายวาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ขณะกำ ลังสอนงานให้นักเรียนจากเทคโนโลยีจิตรลดา ที่เข้ามาศึกษาดูงาน/ฝึกงาน โดยในรูป เป็นการสอนวิธีการกลึงลูกบิดจะซอ
ทายาทผู้ผู้ผู้สืผู้สื สื บ สื บทอด วิวิวิวิชาความรู้รู้รู้รู้ของ คุคุณคุคุพ่พ่อพ่ พ่จ้จ้อจ้จ้นไทรวิวิมวิวิาน
๑๑๐ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ทายาทผู้สืบทอดวิชาความรู้ของช่างจ้อน ไทรวิมาน นายศุภาพล ไทรวิมาน เป็นทายาทคนที่ ๑ เพศ ชาย เกิด ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๖ อายุ ๔๙ ปี เติบโตอยู่ที่บ้านคุณพ่อระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๔๔ จบการศึกษาจาก วิทยาลัยพณิชยการ บางนา ปวช ๓ สาขาการขาย คำ สั่งสอนที่ได้รับและจดจำ ได้ ๑. เป็นเจ้านาย ต้องนอนหลังและตื่นก่อน, ๒. การพูดเจรจา ต้องคิดถึงผู้เกี่ยวข้องและผลลัพธ์ก่อนพูด, ๓. ทำ งานให้ทันควัน, ๔. ค้าขายต้องคิดต้นทุน ก่อน ช่วงระยะเวลาที่ได้ร่วมงานกับคุณพ่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้เรียนรู้เรื่องช่างทำ เครื่อง ดนตรีไทยตั้งแต่อายุประมาณ ๗ ปี ประมาณ ปี พ.ศ ๒๕๒๓ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ๑ เทียบเสียงขิม จะเข้ เครื่องปี่พาทย์ ประสานการผลิต ๒ รับลูกค้าหน้าร้าน รับลูกค้าทางโทรศัพท์ ๓ คิดเงินขายของ คิดเงินเดือน ภาษี ประกันสังคม ธนาคาร โดยพัฒนาความรู้ หรือ สามารถทำ ตามที่รู้ได้ด้วยการฝึกฝนจนเกิดทักษะจน สามารถควบคุมฝีมือและจิตใจตนเองได้ สิ่งที่ทำ ให้เกิดแรงในการพัฒนาฝีมืออีกอย่างนึงคือ งานของพ่อ และ งานของช่างอื่นที่ได้รับการยกย่องจากแวดวงนักดนตรี รายได้ที่สมน้ำ สมเนื้อ การยอมรับจากสังคมนักดนตรี องค์ความรู้ที่ได้รับจากคุณพ่อ ในระหว่างที่ได้ร่วมงานกัน ๑ ความรู้การผลิตเครื่องดนตรีในบ้านพ่อ ๒ การ ตลาดดนตรีไทย ความรู้รอบตัวภายในบ้าน ๓ การได้มีปฏิสัมพันธ์กับซัพพายเออร์ ลูกค้า คู่ค้า ลูกน้อง องค์ ความรู้หลักที่ใช้เป็นประจำ สะสางงานอยู่เสมอ, มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า, พัฒนา, นวตกรรม นอกจากเรียนจาก คุณพ่อแล้ว ยังมีท่านอื่นช่วยแนะนำ ความรู้เรื่องช่างอีกด้วยคือ ช่างสุวรรณ ช่างนคร หรือลูกค้าที่มีความรู้งาน ช่างแขนงอื่นๆ ปัจจุบันประกอบอาชีพ ช่างผลิตเครื่องดนตรีไทย ประเภท จะเข้ชื่อร้านจะเข้ ช่างโจ บางพลี, ร้านเครื่องดนตรีไทยธรรม ตั้งอยู่ที่ บ้านจะเข้ ช่างโจ ๘๑/๑๒๓ หมู่ ซ.จารุสังข์ ๑ ถ.สุขาภิบาล ๕ ต.บางพลี ใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ๑๐๕๔๐ มีลูกน้องจำ นวน ๕ คน จำ นวนผลิตต่อเดือน ๑๐ ตัว ดำ เนินกิจการ มา ๑๐ ปี ช่องทางการติดต่อ เบอร์โทร : ๐๘๙-๑๓๓-๗๒๐๓ Facebook : จะเข้ ช่างโจ ศุภาพล ไทรวิมาน ID Line : ๐๘๙๑๓๓๗๒๓
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๑๑ นายนิรันดร์ ไทรวิมาน เป็นทายาทคนที่ ๒ เพศ ชาย เกิด ๑๘ มีนาคม ๒๕๑๖ อายุ ๔๙ ปี เติบโตอยู่ที่ บ้านคุณพ่อระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ถึง พ.ศ.๒๕๖๓ จบการศึกษาจาก ร.ร.ราชวินิตบางแก้ว และ กศน.ม.ปลาย คำ สั่งสอนที่ได้รับและจดจำ ได้ - อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำ กิน - สอนการผลิตเครื่องดนตรีไทย - การจัดส่งเครื่อง ดนตรีไทย - กลุ่มตลาดเครื่องดนตรีไทย ช่วงระยะเวลาที่ได้ร่วมงานกับคุณพ่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ถึง พ.ศ.๒๕๖๓ ได้ เรียนรู้เรื่องช่างทำ เครื่องดนตรีไทยตั้งแต่อายุประมาณ ๑๙ ปี ประมาณ พ.ศ.๒๕๓๕ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ซ่อม เครื่อง จัดของ-ส่งของ โดยพัฒนาความรู้ หรือ สามารถทำ ตามที่รู้ได้ด้วยการ ต้องฝึกหัด และ ลงมือทำ สิ่งที่ทำ ให้ เกิดแรงในการพัฒนาฝีมืออีกอย่างนึงคือ ฝึกฝนและยอมรับกับสิ่งใหม่ ๆเข้ารูปแบบใหม่เข้ามา องค์ความรู้ที่ได้รับ จากคุณพ่อ ในระหว่างที่ได้ร่วมงานกัน การผลิตเครื่องดนตรีไทยและการซ่อมแซม องค์ความรู้หลักที่ใช้เป็นประจำ การผลิตเครื่องดนตรีไทย และ การซ่อมแซม นอกจากเรียนจากคุณพ่อแล้ว ยังมีท่านอื่นช่วยแนะนำ ความรู้เรื่อง ช่างอีกด้วยคือ สอบถามคุณครูแต่ละท่านที่นำ เครื่องไปส่งมอบ ปัจจุบันประกอบอาชีพ จำ หน่ายเครื่องดนตรีไทย ชื่อร้านนิรันดร์การดนตรี ตั้งอยู่ที่ บ้านเอื้ออาทรเทพารักษ์ ๓ มีลูกน้องจำ นวน - คน จำ นวนผลิตต่อเดือน ๕๐-๖๐ ชิ้น ดำ เนินกิจการมา ๑๗ ปี ช่องทางการติดต่อ เบอร์โทร : ๐๙๐-๖๕๖-๓๙๖๔ Facebook : นิรันดร์ การดนตรี ID Line : -
๑๑๒ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน นางจุฑามาศ ไทรวิมาน เป็นทายาทคนที่ ๔ เพศ หญิง เกิด ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๒๓ อายุ ๔๒ ปี เติบโต อยู่ที่บ้านคุณพ่อระหว่างปี พ.ศ.๒๕๒๓ ถึง พ.ศ. ๒๕๕๕ จบการศึกษาจาก - มหาวิยาลัยรามคำ แหง - ปริญญา โท MBA สาขาการจัดการ คำ สั่งสอนที่ได้รับและจดจำ ได้ - สอนเรื่องการดำ เนินชีวิต/ใช้ชีวิต - สอนเรื่องหลัก จิตวิทยาในการบริหารคน - สอนเรื่องการเล่นดนตรี - สอนเรื่องการทำ ธุรกิจ/การค้าการขาย/ เทคนิคต่างๆ ช่วงระยะเวลาที่ได้ร่วมงานกับคุณพ่อ ปี พ.ศ.๒๕๒๓ ถึง พ.ศ.๒๕๕๓ ได้เรียนรู้เรื่องช่างทำ เครื่องดนตรีไทยตั้งแต่ อายุประมาณ ๑๕ ปี ประมาณ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ๑.ทำ บัญชีต่างๆ ๒.ดูแลการค้าขาย คุย กับลูกค้า หาตลาด ๓.ดูแลพนักงาน โดยพัฒนาความรู้ หรือ สามารถทำ ตามที่รู้ได้ด้วยการ - สังเกต ฝึกทำ ตาม ฝึกฝนบ่อยๆ จนชำ นาญ สิ่งที่ทำ ให้เกิดแรงในการพัฒนาฝีมืออีกอย่างนึงคือ - ความเป็นลูกเจ้านาย/ลูกเจ้าของ องค์ความรู้ที่ได้รับจากคุณพ่อ ในระหว่างที่ได้ร่วมงานกัน ๑.เทคนิคการคุยกับลูกค้า ๒.เทคนิคการทำ ธุรกิจ ๓.เทคนิคการผลิตเครื่องดนตรีไทย/การตั้งเสียง องค์ความรู้หลักที่ใช้เป็นประจำ - การดำ เนินธุรกิจ , - การ เลือกเครื่องดนตรีไทย นอกจากเรียนจากคุณพ่อแล้ว ยังมีท่านอื่นช่วยแนะนำ ความรู้เรื่องช่างอีกด้วยคือ - พี่ชาย / น้องชาย - พนักงานเก่า ๆ ที่ทำ งานมานาน ปัจจุบันประกอบอาชีพ - จำ หน่ายเครื่องดนตรีไทย-สากล ชื่อ ร้านดุริยสังคีต ตั้งอยู่ที่ ๑๘๘/๘๕ หมู่บ้านสุวรรณ-สุวรรณภูมิ หมู่ ๔ ตำ บลบางพลีใหญ่ อำ เภอบางพลี จังหวัด สมุทรปราการ ๑๐๕๔๐มีลูกน้องจำ นวน- คน จำ นวนผลิตต่อเดือน ไม่ได้ผลิต ขายอย่างเดียว ดำ เนินกิจการมา ๑๑ ปี ช่องทางการติดต่อ เบอร์โทร : ๐๙๗-๒๔๐-๕๔๙๖,๐๙๒-๙๓๙-๖๓๖๔ Facebook : ดุริยสังคีต ดนตรี ไทยของเรา ID Line : ๐๙๗๒๔๐๕๔๙๖
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๑๓ นายธนธัส ไทรวิมาน เป็นทายาทคนที่ ๕ เพศ ชาย เกิด ๘ พฤษภาคม ๒๕๒๕ อายุ ๔๐ ปี เติบโตอยู่ที่ บ้านคุณพ่อระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ถึงปัจจุบัน จบการศึกษาจาก มหาวิทยาราชภัฏธนบุรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม คำ สั่งสอนที่ได้รับและจดจำ ได้ อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำ กิน อย่า หมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา, ลูกค้าคือผู้มีพระคุณ, งานไม่เสร็จดีอย่าไปรีบรับเงิน ช่วงระยะเวลาที่ได้ร่วมงาน กับคุณพ่อ ปี พ.ศ.๒๕๓๓ ถึงปัจจุบัน ได้เรียนรู้เรื่องช่างทำ เครื่องดนตรีไทยตั้งแต่อายุประมาณ ๘ ปี ประมาณ ปี พ.ศ ๒๕๓๓ และ เป็นผู้มีจิตศรัทธาและจงรักภักดีในสถาบันชื่อโครงการการบรรพชา - อุปสมบทอุทิศพระ ราชกุศล น้อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ระหว่างวันที่ ๒๑ ต.ค. - ๔ พ.ย. พ.ศ. ๒๕๕๙ วัดกาญจนาภิเษก กทม. จึงมีคุณพ่อได้ไปถือผ้าไตรจีวร หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ๑.ช่างแก้ ช่างประกอบ ช่างซ่อม ช่างผลิต, ๒.ซื้อของ/ส่งของ ๓.ปรับเสียงจะเข้ , ๔.ขึ้นหน้ากะลาซอ/กระบอกซอ ๕.ช่าง กลึงโดยพัฒนาความรู้ หรือ สามารถทำ ตามที่รู้ได้ด้วยการ จากการที่เกิดในครอบครัวทำ เครื่องดนตรี บิดาจะ คอยสอน และค่อย ๆ ซึมซับเข้ามาเรื่อย ๆ สิ่งที่ทำ ให้เกิดแรงในการพัฒนาฝีมืออีกอย่างนึงคือ จากการ ขาดแคลนช่าง ร่างกายไม่แข็งแรง และภาวะผู้นำ ครอบครัว ทำ ให้เกิดการพัฒนาฝีมือตัวเองขึ้นมา องค์ความรู้ที่ ได้รับจากคุณพ่อ ในระหว่างที่ได้ร่วมงานกัน ๑ ครูพักลักจำ ๒ สอนให้ลูกทำ เป็นทุกอย่างจะได้ประหยัดค่าจ้าง องค์ความรู้หลักที่ใช้เป็นประจำ ๑ เทียบเสียงจะเข้/ทำ นมจะเข้, ๒ ขึ้นหน้ากะลาซอ/กระบอกซอ, ๓ พ่นสี, ๔ ผูกฆ้อง, ๕ พอกกะลา, ๖ ขึ้นหน้าซอสามสายหนังกลับ นอกจากเรียนจากคุณพ่อแล้ว ยังมีท่านอื่นช่วยแนะนำ ความรู้เรื่องช่างอีกด้วยคือ น้องชาย ๒ คน ปัจจุบันประกอบอาชีพ ผลิต และ จำ หน่ายเครื่องดนตรีไทย ใน อนาคตมีการค้าขายและทำ อาชีพส่วนตัวที่ บ้านเอื้ออาทร บ้านเลขที่ ๑๔๔/๒๘ ตึง ๒๔ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ๑๐๕๔๐ ชื่อร้านครูจ้อนการดนตรี ตั้งอยู่ที่ ๒/๘ ม.๑๒ ถ.เทศบาล ๓ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ๑๐๕๔๐ มีลูกน้องจำ นวน ๑๐ คน จำ นวนผลิตต่อเดือน ๕๐ ชิ้นดำ เนินกิจการมา ๕๐ ปี ช่อช่งทางการติดติต่อต่เบอร์โร์ทร : ๐๖๕-๓๖๕-๗๙๖๓ Facebook :คุณคุธนธัสธัเจมส์ID Line:๐๖๕-๓๖๕-๗๙๖๓
๑๑๔ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน นายเจตจันทร์ ไทรวิมาน เป็นทายาทคนที่ ๖ เพศ ชาย เกิด วันจันทร์ ที่๔ มีนาคม ๒๕๒๘ อายุ ๓๗ ปี เติบโตอยู่ที่บ้านคุณพ่อระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๖๕ จบการศึกษาจาก การศึกษานอกโรงเรียน ม.ปลาย , เรียนจบหลักสูตรครูสมาธิรุ่นที่ ๔๔ (จตุจัตตาฬิสโม วุฒิญาน) ,เรียนจบหลักสูตรสมาธิชั้นสูงรุ่นที่ ๓ (เมตตาฌาน) จากสถาบันพลังจิตตานุภาพ เจ้าประคุณสมเด็จพระญานวชิโรดม(หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร) สาขา - คำ สั่งสอนที่ได้รับและจดจำ ได้ หมั่นเพียร, ขยัน, ฝึกฝน, เอาใจใส่, มีเมตตา, ปรนนิบัติต่อผู้มีพระคุณ และครู อาจารย์ ช่วงระยะเวลาที่ได้ร่วมงานกับคุณพ่อ ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ถึงปี พ.ศ.๒๕๖๕ ได้เรียนรู้เรื่องช่างทำ เครื่อง ดนตรีไทยตั้งแต่อายุประมาณ ๑๔ ปี ประมาณ ปี พ.ศ๒๕๔๒ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ๑. ช่างกลึงซออู้ ซอด้วง ซอสามสาย ทำ กรับเสภา ทำ ขลุ่ย ๒. เทียบเสียงเครื่อง ซ่อมเครื่องดนตรีไทย ๓. ครูฝึกสอน โดยพัฒนาความรู้ หรือ สามารถทำ ตามที่รู้ได้ด้วยการ เพราะช่างรุ่นก่อนเวลาให้ความรู้มักจะไม่สอนโดยตรงเมื่อไปขอความรู้แต่ละ ครั้งต้องพึ่งครูพักลักจำ แล้วค่อย ๆ ฝึกในส่วนที่จำ ได้และเมื่อทำ สำ เร็จจึงได้คุณพ่อและช่างอื่นๆช่วยแนะนำ จน ได้พัฒนาต่อยอดมาโดยตลอด สิ่งที่ทำ ให้เกิดแรงในการพัฒนาฝีมืออีกอย่างนึงคือ เพราะเป็นคนที่ชอบหาความรู้ จากทั้งลูกค้าที่เป็นทั้ง ครูอาจารย์บ้าง นักเล่นดนตรีบ้าง จึงได้ทั้งความรู้ คำ สั่งสอนและการตำ หนิจึงนำ ข้อเสีย กลับมาพัฒนาฝึกฝนฝีมือตนเองโดยมีคุณพ่อคอยเป็นที่ปรึกษามาโดยตลอด ถ้าชิ้นใหนไม่ผ่านคุณพ่อมักจะให้ ลงมือทำ ชิ้นงานนั้นใหม่หรือบางทีต้องแก้ไขให้ได้ องค์ความรู้ที่ได้รับจากคุณพ่อ ในระหว่างที่ได้ร่วมงานกัน ๑. การบริการ ความรับผิดชอบต่องาน ๒. เทียบเสียงเครื่องดนตรีไทย ๓. ศึกษาดนตรีไทยเช่นขลุ่ย ซออู้ ซอสาม สาย ระนาด กรับเสภา องค์ความรู้หลักที่ใช้เป็นประจำ เอาใจใส่ต่องาน, ปรนนิบัติต่อผู้มีพระคุณทุกคน นอกจากเรียนจากคุณพ่อแล้ว ยังมีท่านอื่นช่วยแนะนำ ความรู้เรื่องช่างอีกด้วยคือ มีช่างทั้งที่เป็นช่างที่คุณพ่อสอน มา ไปหาเรียนจากช่างข้างนอก และได้รับความรู้จากพี่ชายคนโต(ช่างโจ) ปัจจุบันประกอบอาชีพ ช่างผลิตดนตรี ไทย ผลิตเกี่ยวกับ ซออู้ ซอด้วง ซอสามสาย จะเข้ ขลุ่ย กรับเสภา ชื่อร้านครูจ้อนการดนตรี ตั้งอยู่ที่ ๒/๘ม.๑๒ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ๑๐๕๔๐ มีลูกน้องจำ นวน ๑๐ คน จำ นวนผลิตต่อเดือน ดำ เนินกิจการมา ๕๐ ปี ช่องทางการติดต่อ เบอร์โทร : ๐๙๔-๑๙๘-๓๖๕๙ Facebook : เจ๊ก ไทรวิมาน ID Line :
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๑๕ นายนพดล ไทรวิมาน เป็นทายาทคนที่ ๗ เพศ ชาย เกิด ๗ ธันวาคม ๒๕๓๑ อายุ ๓๓ เติบโตอยู่ที่ บ้านคุณพ่อระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จบการศึกษาจาก ม.หอการค้าไทย สาขา Business Computer คำ สั่งสอนที่ได้รับและจดจำ ได้ อย่ามองข้ามจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ช่วงระยะเวลาที่ได้ร่วมงานกับ คุณพ่อ ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้เรียนรู้เรื่องช่างทำ เครื่องดนตรีไทยตั้งแต่อายุประมาณ ๑๕ ปี ประมาณ ปี พ.ศ ๒๕๔๖ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ๑ เทียบเสียงเครื่อง ๒ กลึง ๓ ตามงานออเดอร์ที่ค้าง ๔ ซื้อของ ได้เรียนรู้การทำ เครื่องดนตรีเบื้องต้นและเทียบเสียงได้ สิ่งที่ทำ ให้เกิดแรงในการพัฒนาฝีมืออีกอย่าง นึงคือ เนื่องจากเป็นคนที่ชอบแกะกะลาอยู่แล้ว และเรียนรู้ด้วยตนเอง องค์ความรู้ที่ได้รับจากคุณพ่อ ใน ระหว่างที่ได้ร่วมงานกัน ๑ ความรู้เบื้องต้นการผลิตเครื่อง ๒ เทียบเสียงเครื่องดนตรี ๓ ซ่อมเครื่องดนตรี องค์ ความรู้หลักที่ใช้เป็นประจำ ผลิตซออู้ ซอด้วง ซอสามสาย นอกจากเรียนจากคุณพ่อแล้ว ยังมีท่านอื่นช่วย แนะนำ ความรู้เรื่องช่างอีกด้วยคือ ได้เรียนต่อยอดจาก ช่างโจ ศุภาพล ไทรวิมาน ปัจจุบันประกอบอาชีพ เปิด โรงงานผลิตเครื่องดนตรี ผลิตเกี่ยวกับ ซออู้ ซอด้วง ซอสามสาย สายซอ ชื่อร้าน ซอสวยบางพลี ช่างเจี๊ยบ ไทรวิมาน ตั้งอยู่ที่ ๓/๕๐ ม.๑๒ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ๑๐๕๔๐ มีลูกน้องจำ นวน ๔ คน จำ นวนผลิตต่อเดือน ๓๐ คัน ดำ เนินกิจการมา ๘ ปี ช่องทางการติดต่อเบอร์โทร : ๐๘๖-๓๘๓-๙๙๓๖ Facebook : ซอสวยบางพลี ช่างเจี๊ยบ ไทรวิมาน ID Line : -
๑๑๖ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน นางสาวจารุนันท์ ไทรวิมาน เป็นทายาทคนที่ ๘ เพศ หญิง เกิด ๒๑ มิถุนายน ๒๕๓๕ อายุ ๒๙ ปี เติบโตอยู่ที่บ้านคุณพ่อระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๖๐ จบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยรามคำ แหง คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน คำ สั่งสอนที่ได้รับและจดจำ ได้ หาเงินได้ให้เก็บออมไว้ อย่าใช้เงินจนหมด และดูแลลูกค้าให้ดี งานผิด พลาดตรงไหนเราต้องแก้ไข รู้จักรับผิดชอบ ช่วงระยะเวลาที่ได้ร่วมงานกับคุณพ่อ ปี พ.ศ.๒๕๕๙ ถึงปี พ.ศ.๒๕๖๐ ได้เรียนรู้เรื่องช่างทำ เครื่องดนตรีไทยตั้งแต่อายุประมาณ ๒๔ ปี ประมาณปี พ.ศ.๒๕๕๙ หน้าที่ที่ ได้รับมอบมาย เทียบเสียงเครื่องดนตรีและแต่งสีเครื่องดนตรี โดยพัฒนาความรู้หรือสามารถทำ ตามที่รู้ได้ด้วย การ ลงมือทำ บ่อยๆจนเกิดความชำ นาญและหาความรู้เพิ่มเติมจากผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าอยู่เสมอ สิ่งที่ ทำ ให้เกิดแรงในการพัฒนาฝีมืออีกอย่างนึงคือ การได้เรียนรู้งานช่างหลากหลายแขนง จนเจอสิ่งชอบมากที่สุด และได้พัฒนาต่อยอดมาสู่อาชีพในปัจจุบัน องค์ความรู้ที่ได้รับจากคุณพ่อในระหว่างที่ได้รวมงานการ คือ เทคนิคการฟังและปรับเสียงเครื่องดนตรี เทคนิคการทำ สีต่างๆของช่างผลิตเครื่องดนตรีไทย การเขียนและ ออกแบบลวดลายในชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องดนตรี การประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับงานศิลปะ การแก้ไขปัญหา หน้าร้านรวมถึงงานบริการหลังการขาย นอกจากเรียนจากคุณพ่อแล้ว ยังมีท่านอื่นช่วยแนะนำ ความรู้เรื่องช่างอีกคือ นายศุภาพล ไทรวิมาน (พี่ชายคนโต) ได้แนะนำ เรื่องการเทียบเสียงเครื่องดนตรี และนอกจากนี้คุณพ่อยังสนับสนุนให้เข้ารับการศึกษา วิชาศิลปจาก วิทยาลัยช่างศิลป ลาดกระบัง กรมศิลปกร ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) อีกด้วย ปัจจุบันประกอบอาชีพ ธุรกิจส่วนตัว (ร้านสักลาย-เจาะร่างกาย) ชื่อ ร้านสัก Walking ink tattoo บางนา : ประเวศ (tat2time) ตั้งอยู่ที่ ย่านมหาลัยรามคำ แหง ๒ โดยให้บริการลูกค้ามากกว่า ๔๐ คน/เดือน และดำ เนินกิจการมาแล้ว ๕ ปี (๒๕๖๐-ปัจจุบัน) ช่องทางการติดต่อ facebook จีฟ สุขนิยม โทร ๐๙๒-๕๑๒-๘๘๘๓ ID Line : tat2time
ร้ร้ ร้ อ ร้ อยพัพั พั น พั นช่ช่ ช่ า ช่ าง สารพัพั พัพั ดช่ช่ ช่ช่ าง ช่ช่า ช่ า ช่ งร่ร่ว ร่ ว ร่ มสมัมัย มั ย มั เมธีธีธีธีพัพัพันพัธุ์ธุ์ธุ์วธุ์ ราทร
๑๑๘ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน องค์ประกอบหนึ่งในการบรรเลงดนตรีที่ช่วยเสริมเติมแต่งให้เกิดความสุนทรียะนอกเหนือจากฝีไม้ลายมือ ของนักดนตรีแล้ว เครื่องดนตรีก็เป็นส่วนที่มีความสำ คัญเช่นกัน หากนักดนตรีได้ใช้เครื่องดนตรีดีมีคุณภาพไม่ว่า จะเป็นเครื่องดนตรีที่ทำ จากภูมิปัญญาชาวบ้าน ใช้วัสดุที่หาได้ตามท้องถิ่น หรือจะเป็นงานฝีมือช่างหลวงที่ ประณีตและใช้วัสดุอันเลอค่า ก็ย่อมส่งผลให้การบรรเลงนั้นได้ยกระดับคุณภาพการบรรเลงให้มีความไพเราะน่า ฟังและชวนติดตาม ผู้เผู้ขียขีนพยายามนึกนึถึงถึแหล่งล่ผลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรีใรีนอดีตดีไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็ฆ้อฆ้งบ้าบ้นเนินนิ, ปี่บ้ ปี่ าบ้นแพน, ผืนผืระนาดอัมอัพวา, จะเข้พข้นัสนันิคนิม, ขลุ่ยลุ่ บางไส้ไส้ก่,ก่กลองบ้าบ้นเอกราช, กะลาซอสมุทมุรสงคราม หรือรืจะเป็นป็แหล่งล่รวมสรรพสินสิค้าค้ทางดนตรี ไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็ย่าย่นเวิ้ง วิ้ นาครเขษม, ร้าร้นศึกศึษาภัณภัฑ์พฑ์าณิชณิย์,ย์ริมริคลองหลอดหลังลักระทรวงมหาดไทย ที่เ ที่ หล่าล่นักนัดนตรี สามารถเลือลืกซื้อ ซื้ จับจัจ่าจ่ยใช้สช้อยเครื่อ รื่ งดนตรีแรีละอุปอุกรณ์ต่ณ์าต่ง ๆ ได้อด้ย่าย่งสะดวกสบาย ถ้าถ้หากเราต้อต้งการสินสิค้าค้ที่มี ที่ มี คุณคุภาพดีก็ดีต้ก็อต้งมุ่งมุ่ เป้าป้ไปที่ห้ ที่ าห้งร้าร้นดังดัๆ เช่นช่ห้าห้งดุริดุยริบรรณสี่แ สี่ ยกคอกวัววั, บ้าบ้นย่าย่แถมดุริดุยริประณีตณี, ร้าร้นพัฒพันศิลศิป์กป์าร ดนตรีแรียกบางกระบือบื, ร้าร้นถนอมวานิชนิบ้าบ้นเนินนิ, ร้าร้นสยามวาทิตทิวัดวัระฆังฆั, ร้าร้นดุริดุยริางค์ไค์ทยบางพลี,ลีร้าร้นสมชัยชัการ ดนตรีวัรีดวัยาง, สังสัคีตคีประดิษดิฐ์อฐ์ยุธยุยา, งามเขตต์อต์ยุธยุยา, สิทสิธิถธิาวรการดนตรี,รีร้าร้นดนตรีไรีทย พิษพิณุโณุลก ที่ส ที่ ามารถพูดพูคุยคุ ตกลงในรายละเอียอีดของเครื่อ รื่ งดนตรีรรีวมถึงถึสนนราคาตามที่ต้ ที่ อต้งการ ในส่วส่นของช่าช่งทำ เครื่อ รื่ งดนตรีใรีนอดีตดีผู้เผู้ขียขีน พยายามนึกนึรายชื่อ ชื่ ของช่าช่ง ปรากฏหลายชื่อ ชื่ ที่เ ที่ ป็นป็ที่คุ้ ที่ นคุ้และติดติปากของหมู่นัมู่ กนัดนตรี เช่นช่รางระนาดเจ๊กจ๊ฝน, รางระนาด เจ๊กจ๊ฮุยฮุ , รางระนาดฆ้อฆ้งมอญแกะถนอมวานิชนิ, ลูกลูฆ้อฆ้งจ่าจ่ผูกผู , ลูกลูฆ้อฆ้งยายทองคำ , ลูกลูฆ้อฆ้งยายเกสร, ลูกลูฆ้อฆ้งตาป่วป่น, ปี่ ช่าช่งถม, ปี่ค ปี่ รูเรูทียทีบ, จะเข้ช่ข้าช่งหยด, จะเข้ช่ข้าช่งหยอด, จะเข้คข้รูเรูอื้อ อื้, จะเข้ช่ข้าช่งอุทัอุยทั, ขลุ่ยลุ่ ลุงลุจรินริทร์,ร์ขลุ่ยลุ่ ช่าช่งอุทิอุศทิ, ซอช่าช่ง เชาว์,ว์ซอช่าช่งนพ, ซอช่าช่งจ้อจ้น, ซอช่าช่งประสิทสิธิ์,ธิ์ ซอช่าช่งบุญบุรัตรัน์,น์ซอจะเข้ขิข้มขิช่าช่งเล็กล็, ผืนผืระนาดกลองแขกไม้รม้ะนาดไม้ ฆ้อฆ้งลุงลุเสน่ห์น่ ,ห์ผืนผืระนาดจ่าจ่ทุมทุ , กลองยาวกำ นันนัหงษ์ฟ้ษ์าฟ้หยดย้อย้ย, อังอักะลุงลุครูผรูล, อังอักะลุงลุครูเรูฉลิมลิบัวบัทั่ง ทั่ ครูพัรูฒพัน์ บัวบั ทั่ง ทั่, อังอักะลุงลุครูอรูงุ่นงุ่ บัวบัเอี่ย อี่ ม, ขลุ่ยลุ่ เพียพีงออ ระนาดเหล็กล็ครูศิรูริศิรินักนัดนตรี กล่อล่งกระเป๋าป๋ ใส่เส่ครื่อ รื่ งดนตรีครีรูสรูะอิ้ง อิ้ ผืนผื ระนาดไม้ฆ้ม้อฆ้งไม้รม้ะนาดครูชรูลอ หรือรืจะเป็นป็ร้าร้นค้าค้และช่าช่งทำ เครื่อ รื่ งดนตรีใรีนรุ่นรุ่ ถัดถัมา อาทิ ปี่ กำ พวดปี่ ครูยิ้รูม ยิ้, ปี่ข ปี่ ลุ่ยลุ่ ซอช่าช่งสุวสุรรณ, ขลุ่ยลุ่ ช่าช่งนาคร, ขลุ่ยลุ่ ช่าช่งสุนัสุยนักลองแขกตะโพนเครื่อ รื่ งหนังนัช่าช่งป๊อป๊กอ่าอ่งทอง, กลองแขกช่าช่งสมพงษ์ สมุทมุรสาคร, ซอช่าช่งต้อต้ย, ซอบางปะกง, ซอช่าช่งสมชายบางพลี,ลีซอช่าช่งเจี๊ย จี๊ บ, ซอช่าช่งจักจัรี,รีซอพญาซอ, จะเข้ช่ข้าช่งโจ, ซอร้าร้นสายเอก, กะลาแกะช่าช่งจรูญรู. กะลาแกะช่าช่งป้อป้น, กะลาแกะช่าช่งฟ้าฟ้ลั่น ลั่, ซอช่าช่งชัยชัยโสธร, กระจับจั ปี่ช่ ปี่ าช่งเป้ ท่าท่เรือรื, ร้าร้นเบ๊ฮบ๊กหลีสี่ลีพ สี่ ระยา, โรงงานเบญจรงค์ดค์นตรีไรีทย, ร้าร้นบ้าบ้นครูอิรูงอิ, ร้าร้นจ่าจ่เล็กล็ทหารเรือรื, หมู่บ้มู่ าบ้นทำ ขิมขิลำ ปาง, ขิมขิเสียสีงหวานเมือมืงอู่ทอู่ อง,กระเป๋าป๋ ใส่เส่ครื่อ รื่ งดนตรี บุญบุหุ้มหุ้ บรรจุภัจุณภัฑ์ดฑ์นตรีไรีทย,กล่อล่งใส่เส่ครื่อ รื่ งดนตรี by ช่าช่งต๊ะต๊ ไม้ตีม้ขิตีมขิ ศรีสุรีขสุช่าช่งโต้งต้ ไม้ ไม้ตีม้ขิตีมขิช่าช่งเป้งป้,ซอสามสายกรับรัเสภาช่าช่งเจ๊กจ๊ฯลฯ ที่เ ที่ อ่ยอ่นามมานี้เ นี้ป็นป็เพียพีงส่วส่นหนึ่ง นึ่ ในหน้าน้ประวัติวัศติาสตร์ขร์องการดนตรีไรีทย ไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็แหล่งล่ผลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรี โรงงานร้าร้นค้าค้และช่าช่ง ที่ต ที่ รากตรำ อดทนทำ งานกว่าว่จะมาเป็นป็เครื่อ รื่ งดนตรีใรีห้ไห้ด้ใด้ช้บช้รรเลง ร้อยพันช่าง สารพัดช่าง ช่างร่วมสมัย เมธี พันธุ์วราทร* * ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร., ประจำ สาขาวิชาดุริยางคศาสตร์ไทยและเอเชีย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๑๙ ผมนึกนึทบทวนกับกัคำ ถามที่ว่ ที่ าว่กว่าว่จะมาเป็นป็เครื่อ รื่ งดนตรีนั้รีน นั้ ทำ ง่าง่ยหรือรืยาก ช่าช่งแต่ลต่ะท่าท่นจะต้อต้งผ่าผ่นบท เรียรีนมากมายใช้เช้วลาเพียพีงใดในการสั่ง สั่ สมประสบการณ์กณ์ว่าว่จะมาเป็นป็เครื่อ รื่ งดนตรีใรีห้เห้ราได้ใด้ช้ รายได้ที่ด้เ ที่ กิดกิขึ้น ขึ้ คุ้มคุ้ค่าค่ จริงริหรือรื ในประเทศไทยเรามีช่มีาช่งที่ทำ ที่ ทำเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยอยู่กี่ยู่ ค กี่ น เราให้คห้วามสำ คัญคัยกย่อย่งเชิดชิชูเชูกียกีรติท่ติาท่นหรือรืยังยั เพื่อ พื่ แสดงการคารวะและยกย่อย่งเชิดชิชูช่ชูาช่งผู้ผผู้ลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย ผู้อผู้ยู่เยู่ บื้อ บื้ งหลังลัความสำ เร็จร็ของวงการศึกศึษาดนตรี ไทยและต่อต่เหล่าล่ศิลศิปินปินักนัดนตรีที่รีมี ที่ ชื่มีอ ชื่ เสียสีง โดยเฉพาะอย่าย่งยิ่ง ยิ่ นายวาทิตทิ ไทรวิมวิาน ผู้วผู้ายชนม์ หรือรืที่รู้ ที่ จัรู้กจักันกัใน วงการว่าว่ "ช่าช่งจ้อจ้น" ช่าช่งทำ เครื่อ รื่ งดนตรีผู้รีเผู้ป็นป็กัลกัยาณมิตมิรที่ดี ที่ กัดีบกัผู้เผู้ขียขีนเสมอมา ไม่ว่ม่าว่ผู้เผู้ขียขีนจะตั้ง ตั้ กำ หนดราย ละเอียอีดของงานผลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยยากเพียพีงไหน ท่าท่นก็สก็ามารถดำ เนินนิการให้ผู้ห้เผู้ขียขีนได้ทุด้กทุประการทั้ง ทั้ รูปรูทรง และน้ำ เสียสีง ผู้เผู้ขียขีนขออ้าอ้งถึงถึข้อข้มูลมูการสำ รวจและจัดจัทำ รายนามของช่าช่งผลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย ผู้มีผู้อุมีดอุมการณ์ใณ์นการอนุรันุกรัษ์ ซึ่ง ซึ่ ภูมิภูปัมิญปัญาการผลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยและผู้มีผู้ใมีจรักรัในการดนตรี ผู้มีผู้คุมีณูคุปณูการยิ่ง ยิ่ แล้วล้ต่อต่วิชวิาและวิชวิาชีพชีดนตรีไรีทย ที่ รวบรวมโดยท่าท่นอาจารย์อย์านันนัท์ นาคคง และท่าท่นอาจารย์อัย์ษอัฎาวุธวุสาคริกริจากหนังนัสือสืที่ร ที่ ะลึกลึดนตรีไรีทยอุดอุมศึกศึษาครั้ง รั้ ที่ ๓๒ เมื่อ มื่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ นำ มาเสนอต่อต่ท่าท่นผู้อ่ผู้าอ่นอีกอีครั้ง รั้ หนึ่ง นึ่ ถึงถึแม้บม้างท่าท่นจะเสียสีชีวิชีตวิไปแล้วล้ก็ตก็าม การสำ รวจในครั้ง รั้ นั้น นั้ ได้รด้ะบุชื่บุอ ชื่ เสียสีงเรียรีงนามของช่าช่งเอาไว้รว้าว ๑๓๐ ชื่อ ชื่ มีที่มีอ ที่ ยู่ที่ยู่ ติ ที่ ดติต่อต่ ได้ชัด้ดชัเจน มีรมีายการเครื่อ รื่ งดนตรีที่รีผ ที่ ลิตลิที่ชั ที่ ดชัเจน และหลากหลายประเภทดนตรี กระจายตัวตัอยู่ทั่ยู่ ว ทั่ ประเทศไทยจากเหนือนืจดใต้ โดยเฉพาะในเขตกรุงรุเทพมหานครและ ปริมริณฑลก็มีก็ช่มีาช่งทำ เครื่อ รื่ งดนตรีอรียู่อยู่ าศัยศักันกัมากมาย บางแห่งห่อยู่เยู่ ป็นป็ชุมชุชนเลยด้วด้ย นับนัเป็นป็การรวบรวมข้อข้มูลมูครั้ง รั้ ประวัติวัศติาสตร์สำร์ สำคัญคัที่มี ที่ รมีายชื่อ ชื่ ช่าช่งทำ เครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยให้สห้าธารณชนได้นำด้ นำไปใช้อ้ช้าอ้งอิงอิและเข้าข้ถึงถึบุคบุคลข้อข้มูลมูต่อต่มา ซึ่ง ซึ่ ที่ จริงริเราทราบกันกัดีว่ดีาว่แต่ลต่ะช่าช่งแต่ลต่ะท่าท่นก็มีก็ผู้มีช่ผู้วช่ยงานที่เ ที่ ป็นป็ลูกลูศิษศิย์หย์รือรืลูกลูน้อน้ง เป็นป็ช่าช่งฝึกฝึหัดหัเป็นป็ทายาทอีกอีมิใมิช่น้ช่อน้ย ซึ่ง ซึ่ ลูกลูศิษศิย์หย์รือรืผู้ช่ผู้วช่ยเหล่าล่นี้ต่ นี้ อต่มาก็จก็ะเติบติโตเป็นป็ช่าช่งที่มี ที่ ปมีระสบการณ์มณ์ากขึ้น ขึ้ จนเข้าข้สู่สสู่ ถานะช่าช่งผู้ปผู้ระกอบอาชีพชีรับรังาน อย่าย่งจริงริจังจัจนถึงถึขณะนี้ แม้ว่ม้าว่ยังยัไม่มีม่กมีารสำ รวจข้อข้มูลมูเพิ่ม พิ่ เติมติไปจากสมัยมัที่อ ที่ าจารย์อย์านันนัท์แท์ละอาจารย์อัย์ษอัฎาวุธวุเคย ทำ งานฝากเอาไว้นัว้กนัแต่ก็ต่ ไก็ด้เด้ห็นห็การเติบติโตของวงการช่าช่งทำ เครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยมากขึ้น ขึ้ ในอีกอีหลายแง่มุง่มมุโดยเฉพาะการเกิดกิ เครือรืข่าข่ยช่าช่งและตัวตัแทนจำ หน่าน่ยออนไลน์ขึ้น์น ขึ้ มามากมาย รวมทั้ง ทั้ ช่อช่งทางการสื่อ สื่ สารประชาสัมสัพันพัธ์ขธ์องช่าช่งทำ เครื่อ รื่ ง ดนตรีก็รีเก็ข้าข้ถึงถึได้หด้ลากหลายขึ้น ขึ้ ด้วด้ย ข้อข้มูลมูที่เ ที่ กิดกิจากการลงเก็บก็ข้อข้มูลมูภาคสนามนี้ยั นี้ งยัคงรอคอยการจัดจักระทำ อีกอีครั้ง รั้ โดยส่วส่นตัวตัผู้เผู้ขียขีนคาดหวังวั ว่าว่ข้อข้มูลมูนี้จ นี้ ะได้มีด้นัมีกนัเรียรีน นิสินิตสินักนัศึกศึษา หรือรืนักนัวิชวิาการ ได้นำด้ นำมาสานต่อต่ ในการรวบรวม ชำ ระความ จัดจัระเบียบีบ ฐานข้อข้มูลมูช่าช่ง ร้าร้นค้าค้แหล่งล่ผลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรี เพิ่ม พิ่ เติมติข้อข้มูลมูของช่าช่งทำ เครื่อ รื่ งดนตรีใรีนอดีตดีและปัจปัจุบัจุนบัให้มีห้คมีวาม สมบูรบูณ์ยิ่ณ์ง ยิ่ ขึ้น ขึ้ ทั้ง ทั้ ข้อข้มูลมูส่วส่นบุคบุคล และข้อข้มูลมูภูมิภูปัมิญปัญาของช่าช่งแต่ลต่ะท่าท่น ไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็การคัดคัสรรวัตวัถุดิถุบดิการเตรี ยมวัตวัถุดิถุบดิวัสวัดุ อุปอุกรณ์ เครื่อ รื่ งมือมืเครื่อ รื่ งใช้ กระบวนการในการแปรรูปรูกลวิธีวิทธีางการช่าช่ง การตกแต่งต่รูปรูทรง สี และเสียสีง การแก้ไก้ขปัญปัหาต่าต่ง ๆ ของเครื่อ รื่ งดนตรี ที่ส ที่ มบูรบูณ์แณ์บบทั้ง ทั้ ข้อข้มูลมูภาพและเสียสีง ซึ่ง ซึ่ หากมีภมีาคีใคีนการ ดำ เนินนิการเก็บก็ข้อข้มูลมูเหล่าล่นี้ และจัดจักระทำ และนำ ออกเผยแพร่สู่ร่สสู่ าธารณะชนตามสื่อ สื่ โซเชียชีล เช่นช่จัดจัทำ PAGE, WEBSITE “สารพัดพัช่าช่งดนตรีไรีทย" จัดจัทำ รายการสารคดี "พูดพูคุยคุกับกัช่าช่งวันวันี้"นี้ น่าน่จะเป็นป็ ประโชยชน์แน์ละสนุกนุไม่ใม่ช่ น้อน้ยสำ หรับรัวงการดนตรีไรีทย เอกสารอ้างอิง อานันนัท์ นาคคง และอัษฎาวุธ สาคริกริ. (๒๕๔๓). การสำ รวจช่าช่งทำ เครื่อรื่งดนตรีไรีทยในปัจปัจุบันบั. ใน ดนตรีไรีทยอุดมศึกศึษา ครั้งรั้ที่ ๓๒ มหาวิทยาลัยลัมหิดหิล. (น. ๑๐๓-๑๓๔). นครปฐม: มหาวิทยาลัยลัมหิดหิล.
ยุยุ ยุ ค ยุ คทองซอไทย ปกรณ์ หนูยี่นูยี่
๑๒๒ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน * คีตศิลปิน แผนกดุริยางค์ไทย สำ นักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ร้าร้นดุริดุยริบรรณ ศูนศูย์กย์ารค้าค้เครื่อ รื่ งดนตรีแรีหล่งล่ ใหญ่ที่ญ่สุ ที่ ดสุแห่งห่ ประเทศไทยในอดีตดีคำ กล่าล่วนี้ ไม่ผิม่ดผิเลยที่จ ที่ ะสื่อ สื่ ถึงถึความยิ่ง ยิ่ ใหญ่ขญ่องร้าร้นดุริดุยริบรรณ เพราะในสมัยมันั้น นั้ ไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็นักนัดนตรีไรีทยและหน่วน่ยงานต่าต่ง ๆ ให้คห้วามไว้วว้างใจ และแวะเวียวีนเข้าข้มาซื้อ ซื้ สินสิค้าค้ของดุริดุยริบรรณ ไม่ใม่ช่เช่พียพีงแค่มีค่ขมีายแห่งห่เดียดีวและหาซื้อ ซื้ ได้ง่ด้าง่ยมาที่นี่ ที่ เ นี่ ดียดีวครบ แต่ด้ต่วด้ย คุณคุภาพและความพิถีพิพิถีถัพินถัทุกทุขึ้น ขึ้ ตอนของร้าร้นดุริดุยริบรรณทำ ให้รูห้ปรูลักลัษณ์ น้ำ เสียสีงของเครื่อ รื่ งดนตรีแรีห่งห่นี้เ นี้ป็นป็ที่ถู ที่ กถูใจ และพูดพูกันกัติดติปากว่าว่ “ซื้อ ซื้ เครื่อ รื่ งดนตรีไรีทย ต้อต้งไปร้าร้นดุริดุยริบรรณ” เทคโนโลยีใยีนยุคยุประมาณพ.ศ.๒๔๕๗ เป็นป็ต้นต้มา เครื่อ รื่ งจักจัรกลที่ใที่ ช้ไช้ฟฟ้าฟ้เครื่อ รื่ งทุ่นทุ่ แรงยังยัมีน้มีอน้ย ถ้าถ้ไม่ใม่ช่เช่ ป็นป็ หน่วน่ยงานราชการแล้วล้ชาวบ้าบ้นปกติธติรรมดานั้น นั้ เห็นห็จะหายาก ยิ่ง ยิ่ เป็นป็อุตอุสาหกรรมเครื่อ รื่ งดนตรีแรีล้วล้ยิ่ง ยิ่ หายากขึ้น ขึ้ อีกอี หลายเท่าท่การที่จ ที่ ะลงทุนทุซื้อ ซื้ เครื่อ รื่ งมือมืที่ทั ที่ นทัสมัยมัสักสัเครื่อ รื่ งหนึ่ง นึ่ จึงจึเป็นป็เรื่อ รื่ งใหญ่ขญ่องช่าช่งทำ เครื่อ รื่ งดนตรี จึงจึอาศัยศั แรงงานคน ภูมิภูปัมิญปัญาและฝีมืฝีอมืเพื่อ พื่ สรรค์สค์ร้าร้งเครื่อ รื่ งดนตรีขึ้รีน ขึ้ มาซึ่ง ซึ่ ก็กก็ว่าว่จะได้สัด้กสัชิ้น ชิ้ นั้น นั้ ต้อต้งใช้เช้วลานานมากทีเทีดียดีว และจุดจุนี้เ นี้ องที่ทำ ที่ ทำให้เห้ครื่อ รื่ งดนตรีแรีต่ลต่ะชิ้น ชิ้ แต่ลต่ะชุดชุที่ส ที่ ร้าร้งมาในอดีตดีน้อน้ยมากที่จ ที่ ะมีสัมีดสัส่วส่นรูปรูทรงที่เ ที่ หมือมืนกันกัซึ่ง ซึ่ ร้าร้น ดุริดุยริบรรณก็เก็ช่นช่กันกัสมัยมันั้น นั้ ในโรงงานมีเมีพียพีงมอเตอร์ลูร์กลูเดียดีวและใช้สช้ายพานพันพัไปทั่ว ทั่ ร้าร้นถึงถึ๗ เส้นส้คือคืว่าว่หากจะใช้ กับกัเครื่อ รื่ งอะไรก็ลก็ากสายพานนี้ม นี้ าโยงกับกัเครื่อ รื่ งนั้น นั้ นอกจากนั้น นั้ ใช้มืช้อมืทำ ทั้ง ทั้ สิ้น สิ้ ไม่ว่ม่าว่จะตัดตัขัดขัขุดขุหรือรืเลื่อ ลื่ ยซุงซุทำ ให้ ผลผลิตลิที่ส ที่ อดคล้อล้งกับกัเครื่อ รื่ งจักจัรชนิดนินี้ก็ นี้ คืก็อคื “งานกลึงลึ” ซึ่ง ซึ่ ที่ส่ ที่ งส่ผลต่อต่ยุคยุทองของซอที่นั ที่ กนัดนตรีไรีทยให้กห้ารยอมรับรั ตั้ง ตั้ แต่อต่ดีตดีจนถึงถึปัจปัจุบัจุนบัและสืบสืต่อต่ ไปไม่รู้ม่ที่รู้สิ้ ที่ น สิ้ สุดสุมีอมีงค์ปค์ระกอบสำ คัญคัด้วด้ยกันกั๓ อย่าย่งดังดันี้ คือคืผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดวิชวิาความรู้เรู้รื่อ รื่ งการกลึงลึหรือรืสัดสัส่วส่นการทำ ซอ เรื่อ รื่ งนี้ข นี้ อเท้าท้ความถึงถึตระกูลกูดุริดุยริบรรณ อันอั มีต้มีนต้ตระกูลกูคือคืพระประดิษดิฐไพเราะ (มี ดุริดุยริางกูรกู) ซึ่ง ซึ่ ถือถืเป็นป็ครูใรูหญ่ท่ญ่าท่นหนึ่ง นึ่ ของวงการดนตรีไรีทยก็ว่ก็าว่ ได้ นอกจากปี่ อันอัเป็นป็เครื่อ รื่ งมือมืชิ้น ชิ้ เอกที่ส ที่ ร้าร้งชื่อ ชื่ เสียสีงให้แห้ก่ท่ก่าท่นแล้วล้ท่าท่นยังยัมีชื่มีอ ชื่ เสียสีงด้าด้นเครื่อ รื่ งสายสามารถบรรเลงเครื่อ รื่ งสายได้ เป็นป็อย่าย่งดีอีดีกอีด้วด้ย เหตุแตุห่งห่ ปัจปัจัยจันี้ส่ นี้ งส่ผลให้สห้ายตระกูลกูของท่าท่นมีคมีวามเชี่ย ชี่ วชาญ ชำ นาญในเรื่อ รื่ งดนตรีแรีละการผลิตลิ เครื่อ รื่ งดนตรีก็รีว่ก็าว่ ได้ เพราะในสมัยมัก่อก่นนั้น นั้ การหาซื้อ ซื้ เครื่อ รื่ งดนตรีนั้รีน นั้ ยากเพราะมีคมีนทำ น้อน้ยไม่มีม่ร้มีาร้นขายอย่าย่งปัจปัจุบัจุนบั เพราะฉะนั้น นั้ นักนัดนตรีจรีะนิยนิมสร้าร้งเครื่อ รื่ งดนตรีเรีพื่อ พื่ ใช้งช้านด้วด้ยตัวตัเอง ดังดัที่มี ที่ กมีรณีปี่ณีท่ ปี่ าท่นพระ หรือรืซอสามสายครูมีรูแมีขก อาจจะเป็นป็ ไปได้ว่ด้าว่พระประดิษดิฐไพเราะ (มี ดุริดุยริางกูรกู) จะมีคมีวามรู้เรู้รื่อ รื่ งช่าช่งส่งส่ผลให้คห้วามรู้เรู้รื่อ รื่ งงานช่าช่งในครั้ง รั้ นั้น นั้ สืบสืทอดเรื่อ รื่ ยมาจนถึงถึยุคยุนายสาย ดุริดุยริางกูรกูทายาทของท่าท่นก็เก็ป็นป็ ได้ อีกอีทั้ง ทั้ เครือรืญาติขติองร้าร้นดุริดุยริบรรณเท่าท่ที่ท ที่ ราบ ได้ปด้ระกอบอาชีพชีเป็นป็ช่าช่งกลึงลึและทำ เครื่อ รื่ งดนตรีอีรีกอี ๒ ท่าท่นคือคืช่าช่งถม เป็นป็ช่าช่งผลิตลิซอและเครื่อ รื่ งดนตรีขรีายอยู่ ละแวกเดียดีวกับกัร้าร้นดุริดุยริบรรณมีฝีมีมืฝีอมืและมีชื่มีอ ชื่ เสียสีงมากในเรื่อ รื่ งการกลึงลึแม้จม้ะใช้เช้ครื่อ รื่ งกลึงลึแบบเท้าท้ถีบถีแต่งต่านกลึงลึของ ช่าช่งถมนี้ง นี้ ดงามไม่แม่พ้เพ้ครื่อ รื่ งจักจัรเลยทีเทีดียดีว อีกอีท่าท่นหนึ่ง นึ่ ไม่ทม่ราบชื่อ ชื่ แต่ช่ต่าช่งเชาว์ไว์ด้เด้ล่าล่ว่าว่ “เป็นป็ช่าช่งกลึงลึตาลปัตปัรงา เปิดปิ ร้าร้นชื่อ ชื่ ”ร้าร้นกรศิลศิป์”ป์อยู่ตยู่ รงอนุสนุาวรีย์รีย์๑๔ ตุลตุาในปัจปัจุบัจุนบัเมื่อ มื่ รวมหลากหลายปัจปัจัยจัเข้าข้ด้วด้ยกันกัแล้วล้เป็นป็อันอัยืนยืยันยั ได้ว่ด้าว่เชื่อ ชื่ สายหรือรืตระกูลกูของร้าร้นดุริดุยริบรรณนี้มี นี้ คมีวามชำ นาญเรื่อ รื่ งงานช่าช่งเครื่อ รื่ งดนตรีมรีาก่อก่นก็ว่ก็าว่ ได้ ส่งส่ผลให้คุห้ณคุยาย เพิ่ม พิ่ ดุริดุยริางกูรกูแม้จม้ะเป็นป็สะใภ้ขภ้องตระกูลกูก็ยัก็งยัซึมซึซับซัความรู้เรู้หล่าล่นี้ม นี้ าสอนช่าช่งรุ่นรุ่ ต่อต่มาได้อด้ย่าย่งน่าน่อัศอัจรรย์ ยุคทองซอไทย ปกรณ์ หนูยี่นู*ยี่ ครู
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๒๓ ในนี่นี้ นี่ คื นี้ อคืช่าช่งของร้าร้นดุริดุยริบรรณรุ่นรุ่ แล้วล้รุ่นรุ่ เล่าล่ที่สั่ ที่ ง สั่ สมประสบการณ์ผณ์ลิตลิเครื่อ รื่ งดนตรีภรีายใต้ชื่ต้อ ชื่ ร้าร้นดุริดุยริ บรรณ หากนับนัจำ นวนช่าช่งที่เ ที่ ข้าข้ออกในร้าร้นดุริดุยริบรรณนั้น นั้ บอกได้ว่ด้าว่นับนัไม่ถ้ม่วถ้น เพราะมีทั้มีง ทั้ ที่ทำ ที่ ทำงานวันวัสองวันวัทำ งาน ไม่กี่ม่เ กี่ ดือดืนจนถึงถึอยู่นยู่ านกว่าว่สี่สิ สี่ บสิ ปี ได้สด้ร้าร้งงานหลากหลายชิ้น ชิ้ ให้เห้ป็นป็ที่ปที่ ระจักจัษ์อษ์ยู่ใยู่ นสังสัคมดนตรีทั่รีว ทั่ ประเทศ แต่ หากลองสังสัเกตจะเห็นห็ ได้ว่ด้าว่ช่าช่งส่วส่นใหญ่ที่ญ่มี ที่ ชื่มีอ ชื่ เสียสีงที่ม ที่ าจากร้าร้นดุริดุยริบรรณเป็นป็ช่าช่งกลึงลึทั้ง ทั้ สิ้น สิ้ ไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็ช่าช่งเชาว์ ช่าช่งจ้อจ้น ช่าช่งหน่าน่ย ช่าช่งอู๊ตอู๊ ฯลฯ ล้วล้นแล้วล้แต่มีต่ ฝีมีมืฝีอมืการกลึงลึซอจัดจัอยู่ใยู่ นระดับดัแนวหน้าน้ของประเทศทั้ง ทั้ สิ้น สิ้ ความยิ่ง ยิ่ ใหญ่ขญ่องช่าช่งซอร้าร้นดุริดุยริบรรณนี้จึ นี้ งจึเป็นป็ที่ก ที่ ล่าล่วขานต่อต่เนื่อ นื่ งมาขนถึงถึปัจปัจุบัจุนบั ในที่นี้จะกล่าวถึงเครื่องดนตรีต้นแบบของร้านดุริยบรรณ เชื่อหรือไม่ว่า เครื่องดนตรีต้นแบบของ ร้านดุริยบรรณมีอยู่จริง! หากมีคนมาเล่าให้ฟังผมเองก็ไม่เชื่อหากไม่ได้เห็นกับตาแต่เมื่อได้ไปสัมภาษณ์ช่างเชาว์ ชาวนาเป้าที่บ้านนครปฐมและได้เห็นซอต้นแบบที่เชื่อกันว่าเป็นฝีมือของพระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร) ที่ ช่างเชาว์เรียกว่า”ครู”และตั้งบูชาไว้กลางบ้านบอกได้เลยว่าขนลุก... ช่างเชาว์และช่างจ้อนกล่าวว่าไม่ว่าจะเป็น ซอด้วง ซออู้หรือซอสามสายล้วนแล้วแต่มีสัดส่วนทุกอย่างชัดเจนทั้งสิ้น ทั้งยังมีชื่อเรียกโครงสร้างแต่ละส่วนคล้าย กับเป็นสูตรการจำ เลยก็ว่าได้ องค์ปค์ระกอบทั้ง ทั้ ๓ ส่วส่น นี้เ นี้ป็นป็เครื่อ รื่ งยืนยืยันยัอย่าย่งดียิ่ดีง ยิ่ ถึงถึเหตุที่ตุว่ ที่ าว่ดุริดุยริบรรณมีจุมีดจุเด่นด่เรื่อ รื่ งซอ ซึ่ง ซึ่ ในบรรดา สามซอไทย คือคืซอด้วด้ง ซออู้ ซอสามสาย หากพูดพูถึงถึกระบวนการสร้าร้งแล้วล้ซอที่ส ที่ ามารถสร้าร้งให้สำห้สำเร็จร็ในช่าช่งคน เดียดีวได้นั้ด้น นั้ ก็คืก็อคืซอด้วด้ง เนื่อ นื่ งจากซอด้วด้งไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็คันคัซอ กระบอกซอ ลูกลูบิดบิหรือรืแม้แม้ต่คัต่นคัชักชัล้วล้นแล้วล้แต่เต่ ป็นป็งาน กลึงลึทั้ง ทั้ สิ้น สิ้ ซึ่ง ซึ่ ต่าต่งจากซออู้แอู้ละซอสามสายที่จ ที่ ะต้อต้งมีเมีรื่อ รื่ งการแกะกะโหลก งานช่าช่งโลหะเข้าข้มาเกี่ย กี่ วข้อข้ง ซึ่ง ซึ่ ทราบ มาว่าว่ร้าร้นดุริดุยริบรรณไม่ไม่ด้ทำด้ ทำส่วส่นประกอบเหล่าล่นี้ขึ้ นี้ น ขึ้ เองในร้าร้น จึงจึทำ ให้ซห้อด้วด้งเป็นป็ซอชนิดนิเดียดีวที่ทุ ที่ กทุกระบวนการ สร้าร้งเกิดกิขึ้น ขึ้ ภายในร้าร้นดุริดุยริบรรณ บทความนี้เ นี้ คยเผยแพร่ไร่ ปครั้ง รั้ หนึ่ง นึ่ เนื่อ นื่ งในโอกาสครบ ๑๐๐ ปีขปีองร้าร้นดุริดุยริบรรณ คราวนี้ไนี้ ด้รัด้บรัการเสนอจาก อาจารย์อย์านันนัท์ นาคคง บรรณาธิกธิารหนังนัสือสืที่ร ที่ ะลึกลึงานฌาปนกิจกิครูจ้รูอจ้น ไทรวิมวิาน ลงเผยแพร่อีร่กอีครั้ง รั้ เพื่อ พื่ เป็นป็การ คารวาลัยลัท่าท่นผู้ที่ผู้ มี ที่ ส่มีวส่นสำ คัญคั ในการบอกสัดสัส่วส่นของซอร้าร้นดุริดุยริบรรณอันอัเป็นป็ ประโยชน์อัน์นอัมากในการสืบสืทอดต่อต่ ไป คน เครื่อรื่ง
คันซอด้วง นิยนิมทำ ด้วด้ยไม้ชิม้งชิชันชัและงาช้าช้งหากเป็นป็ ไม้ชิม้งชิชันชัจะใช้ไช้ม้ชิม้งชิชันชั ลายสนจากแถบจังจัหวัดวักาญจนบุรีบุรีหากเป็นป็งาช้าช้งก็จก็ะซื้อ ซื้ จาก ร้าร้นเซี๊ย ซี๊ ะกี่ซึ่ กี่ ง ซึ่ เป็นป็แหล่งล่ที่ข ที่ ายงาแหล่งล่ ใหญ่ใญ่นเขตกรุงรุเทพฯใน สมัยมัก่อก่นโดยคันคัทวนซอตั้ง ตั้ แต่โต่ขนจนกระทั้ง ทั้ ถึงถึบัวบัคว่ำ ก่อก่นที่จ ที่ ะ ถึงถึกระบอกซอมีคมีวามยาว ๒๕ นิ้ว นิ้ ซึ่ง ซึ่ ประกอบด้วด้ยส่วส่นต่าต่ง ๆ ดังดันี้ โขนซอ ลักลัษณะเป็นป็ทรงสี่เ สี่ หลี่ย ลี่ มนิยนิมทำ ด้วด้ยไม้แม้ละงาช้าช้งโดยจะมีด้มีาด้น เท่าท่กันกั ๒ ด้าด้นและไม่เม่ท่าท่กันกัอีกอี ๒ ด้าด้น โดยด้าด้นที่เ ที่ ท่าท่กันกันั้น นั้ มี ความยาว ๓ นิ้ว นิ้ ด้าด้นสั้น สั้ฝั่ง ฝั่ หนึ่ง นึ่ มีคมีวามยาว ๑.๕ นิ้ว นิ้ และอีกอีฝั่ง ฝั่ หนึ่ง นึ่ มีคมีวามยาว ๑ นิ้ว นิ้ ๖ หุนหุ บัว หากสังเกตจะเป็นได้ว่ามี ๒ ส่วนมีรูปทรงที่แตกต่างกันโดยส่วนที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมเรียกว่าทวนบนและส่วนที่ เป็นทรงกลมเรียกว่าทวนล่างโดยมีจุดเชื่อมระหว่างกันเรียกว่าบัว ๑๒๔ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน กระสวนซอด้วงของร้านดุริยบรรณ
บัวคว่ำ เมื่อ มื่ สังสัเกตตรงทวนล่าล่งที่ติ ที่ ดติกับกักระบอกซอซื่อ ซื่ บางคนอาจเรียรีกว่าว่เหยียยีบกะโหลกแต่ใต่นสายสกุลกุช่าช่งของร้าร้นดุริดุยริบรรณ เรียรีกส่วส่นนี้ว่ นี้ าว่บัวบัคว่ำ ช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิานได้บด้อกโดยลักลัษณะบัวบัคว่ำ ของช่าช่งเชาว์ซึ่ง ซึ่ มีลัมีกลัษณะเด่นด่อยู่ ๓ แบบดังดันี้ ลูกบิด ลูกบิดซอด้วงของร้านดุริยบรรณจะมีความยาวด้วยกัน ๒ ขนาดโดยลูกบนที่ใช้ขึงสายเอกมีความยาว ๘ นิ้ว ๒ หุน และลูกล่างใช้ขึงสายเอกมีขนาด ๘ นิ้ว ซึ่งในลูกบิดหนึ่ง ลูกของร้านดุริยบรรณในหนึ่งลูกจะมีชื่อเรียกส่วน ประกอบต่าง ๆ ดังนี้ ทรงมัณฑ์ เป็นป็ส่วส่นยอดหรือรืปลายลูกลูบิดบิซึ่ง ซึ่ มีลัมีกลัษณ์เณ์ป็นป็ขั้น ขั้ ซ้อซ้นกันกัโดย สายสกุลกุช่าช่งของร้าร้นดุริดุยริบรรณเรียรีกกันกัว่าว่ทรงมัณมัฑ์โฑ์ดยจะ ประกอบด้วด้ยฉัตฉัรที่ไที่ ล่ขล่นาดกันกัไป ๓ ชั้น ชั้ ก่อก่นที่จ ที่ ะถึงถึปลาย ยอด เป็นป็เอกลักลัษณ์อณ์ย่าย่งหนึ่ง นึ่ ของซอดุริดุยริบรรณมือมืจับจัคือคื ส่วส่นที่ต่ ที่ อต่จากปลายยอดมีขมีนาดความยาว ๑.๕ นิ้ว นิ้ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๒๕ ทรงบัวคว่ำ ทรงระฆังคว่ำ ทรงฝาจุกฝาละมี
ลูกแก้ว คือคืส่วส่นที่ถั ที่ ดถัออกมาจากที่จั ที่ บจัมีลัมีกลัษณะคล้าล้ยแหวนซึ่ง ซึ่ ช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิานได้บด้อกไว้ว่ว้าว่แหวนของร้าร้นดุริดุยริบรรณมีอมียู่ ๒ ลักลัษณะ คือคืทรงกลมและทรงแหลมซึ่ง ซึ่ ทรงแหลมนี้จ นี้ ะนิยนิมใช้กัช้บกัซอด้วด้ง คอเสื้อ เป็นป็ส่วส่นที่อ ที่ ยู่ถัยู่ ดถัมาจากลูกลูแก้วก้ก่อก่นที่จ ที่ ะถึงถึรูลูรูกลูบิดบิซึ่ง ซึ่ มีลัมีกลัษณะ คล้าล้ยคอเสื้อ สื้ ซึ่ง ซึ่ เป็นป็ชื่อ ชื่ ที่เ ที่ รียรีกกันกัในหมู่ช่มู่ าช่งของร้าร้นดุริดุยริบรรณ กระบอกซอ กระบอกซอนิยนิมทำ ด้วด้ยไม้ชิม้งชิชันชัและงาช้าช้งโดยทรงของกระบอก ของร้าร้นดุริดุยริบรรณนั้น นั้ จะเป็นป็ทรงหางปลาตะเพียพีนมีขมีนาดความ ยาว ๕ นิ้ว นิ้ ๒ หุนหุโดยในกระบอกซอหนึ่ง นึ่ หระบอกนั้น นั้ จะ ประกอบไปด้วด้ยส่วส่นประกอบต่าต่งๆดังดันี้ ปากนกแก้ว เป็นส่วนหน้าของกระบอกซอที่มีผลต่อเสียงโดยจะกลึงให้มี ลักษณะที่เรียวไปทางปากกระบอกเพื่อให้ไม้กระทบกับหน้า ซอให้น้อยซึ่งมีผลต่อการสั่นสะเทือนของเสียง โดยหน้าซอ นั้นมีขนาดความกว้าง ๒ นิ้ว ๑๒๖ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน อกไก่ เป็นส่วนที่ถัดออกมาจากปากนกแก้วซึ่งมีลักษณะคอดมาจาก ปากกระบอก ซึ่งโบราณจะนิยมให้ขนาดความกว้างของอกไก่ นี้มีขนาดเท่ากับเหรียญบาทในสมัยก่อนหลังจากนั้นร้านดุริย บรรณโดยช่างเชาว์ ชาวนาเป้าได้พัฒนาให้กว้างขึ้นเพื่อให้ได้ เสียงที่กังวานขึ้นซึ่งมีขนาดความกว้าง ๑ นิ้ว ๒ หุน
ปลายกระบอก คือส่วนปลายที่ยื่นออกมาทำ หน้าที่คล้ายลำ โพงส่งกระจาย เสียงซึ่งมีขนาดความกว้างของปลายปากกระบอก ๒.๕ นิ้ว คันชักซอ นิยมทำ จากไม้ งาช้างและไม้ประกอบงาช้างซึ่งส่วนหัวคันชัก และปลายคันชักเป็นงาช้างซึ่งมีขนาดความยาว ๒๗.๕ นิ้ว วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๒๗ สุดสุท้าท้ยนี้ถึ นี้ งถึแม้ปัม้จปัจุบัจุนบัร้าร้นดุริดุยริบรรณและครูจ้รูอจ้น ไทรวิมวิาน ตลอดถึงถึช่าช่งของดุริดุยริบรรณหลายท่าท่นได้ปิด้ดปิฉาก ลงไปแล้วล้แต่ภูต่มิภูปัมิญปัญาของบรรพบุรุบุษรุแห่งห่สายสกุลกุช่าช่งดุริดุยริบรรณก็ยัก็งยัอยู่คู่ยู่ กัคู่ บกัสังสัคมไทยไม่มีม่วัมีนวัจางหาย ทั้ง ทั้ ยังยัผลิดลิอก ออกผลเป็นป็ช่าช่งใหญ่อญ่ยู่ใยู่ นปัจปัจุบัจุนบัราวกับกัว่าว่จิตจิวิญวิญาณของร้าร้นดุริดุยริบรรณนี้ไนี้ ด้ปด้กคลุมลุไปทั่ว ทั่ วงการดนตรีไรีทยตราบนาน เท่าท่นาน ปลายคันคัชักชั สมัยมัโบราณไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็ซอด้วด้งหรือรืซออู้ก็อู้จก็ะมีรูมีปรูทรงของปลายคันคัชักชัแบบเดียดีวกันกัหมดคือคืทรงป้าป้นรวมทั้ง ทั้ ร้าร้นดุริดุยริ บรรณ แต่ช่ต่วช่งหลังลัซึ่ง ซึ่ ในขณะนั้น นั้ ช่าช่งเชาว์ไว์ด้ทำด้ ทำงานอยู่ที่ยู่ นั่ ที่ น นั่ ได้รัด้บรัคำ แนะนำ จากคุณคุครูโรูองการ กลีบลีชื่น ชื่ ซึ่ง ซึ่ เป็นป็ครูดรูนตรี ไทยที่ม ที่ าช่วช่ยดูแดูลเรื่อ รื่ งคุณคุภาพเครื่อ รื่ งดนตรีขรีองร้าร้นได้ใด้ห้คำห้ คำแนะนำ ว่าว่หากปลายคันคัชักชัซอด้วด้งมีลัมีกลัษณะปลายแหลม แบบทรงมัณมัฑ์น่ฑ์าน่จะทำ ให้รัห้บรักับกัลูกลูบิดบิซอด้วด้งได้ดีด้กดีว่าว่และอาจจะทำ ให้ซห้อขายดีขึ้ดีน ขึ้ ช่าช่งเชาว์ไว์ด้รัด้บรั ฟังฟัคำ แนะนำ ในครั้ง รั้ นั้น นั้ และทำ ขึ้น ขึ้ ตั้ง ตั้ แต่บัต่ดบันั้น นั้ เป็นป็ต้นต้ซึ่ง ซึ่ ถือถืเป็นป็ต้นต้กำ เนินนิคันคัชักชัปลายแหลมทรงมัณมัฑ์ขึ้ฑ์น ขึ้ เป็นป็ครั้ง รั้ แรกในวงการดนตรีไรีทยก็ ว่าว่ ได้
๑๒๘ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๒๙
๑๓๐ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน
ศตวรรษดุดุ ดุ ริ ดุ ริริยริบรรณ วัวั วัวั นวานที่ที่ ที่ที่ไม่ม่ ม่ม่ หวนคืคื คืคื น อานันันันัท์ท์ท์ท์นาคคง
๑๓๒ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน พุทธศักราชสองพันสี่ร้อยห้าสิบเจ็ด บางกอกยังเป็นป็เมือมืงเล็กล็ๆ การจราจรไม่คัม่บคัคั่งคั่หนาแน่นน่ดังดัเช่นช่ทุกทุวันวันี้ ประชากรทั้งทั้จังจัหวัดวัพระนครรวมกันกั ไม่ถึม่งถึสามหมื่นมื่คน หากจะข้าข้มฝั่งฝั่ฟากเจ้าจ้พระยาไปรวมกับกัจังจัหวัดวัธนบุรีบุซึ่รีงซึ่ ในอีกอีห้าห้สิบสิเจ็ดจ็ ปีต่ปีอต่มา (พ.ศ. ๒๕๑๔) ถูกถูผนวก เข้าข้เป็นจังจัหวัดวัเดียดีวกันกัก็ยัก็งมีปมีระชากรรวมกันกัแล้วล้ไม่ถึม่งถึแสน พื้นพื้ที่สำ ที่ สำคัญคัของบางกอกที่เ ที่ ป็นป็เกาะรัตรันโกสินสิทร์ยัร์งสะอาด สะอ้าอ้น มีต้มีนต้หมากรากไม้เม้ขียขีวขจี มีคูมีคคูลองน้ำ ใส ไร้มร้ลพิษพิดังดัเช่นช่ยุคยุต่อต่มา เป็นป็เมือมืงที่น่ ที่ าน่อยู่ สุขสุสบายรื่นรื่รมย์สมกับกัคำ ว่าว่มหานครแห่งห่ ปวงเทพเทวา พื้นพื้ที่สี่ ที่ แ สี่ ยกคอกวัววัเรียรีกตามสถานที่ที่ ที่ แ ที่ ขกฮินฮิดูใดูช้เช้ป็นป็ที่เ ที่ ลี้ย ลี้ งพาหนะพระอิศอิวร ซึ่งซึ่เคยถูกถูกล่าล่วถึงถึในบทละครเรื่อรื่งระเด่นด่ลันลั ไดของพระมหามนตรี (ทรัพรั ย์) ในขณะนั้นนั้เริ่มริ่กลายเป็นป็ที่ชุ ที่ มชุนุมนุคนแทนชุมชุนุมนุวัววั เนื่องด้วด้ยเป็นป็จุดจุเชื่อชื่มของชุมชุชนคนชั้นชั้กลางที่เ ที่ ติบติ โตในวิถีวิเถีศรษฐกิจกิใหม่ รายล้อล้มไปด้วด้ยชุมชุชนบางลำ พู ชุมชุชนศาล เจ้าจ้พ่อพ่เสือสื-วัดวัมหรรณพาราม ชุมชุชนตลาดยอด ชุมชุชนแพร่งร่นรา ชุมชุชนเสาชิงชิช้าช้ที่สำ ที่ สำคัญคัคือคืเป็นป็จุดจุตัดตัแบ่งบ่ของถนน สองสายที่สำ ที่ สำคัญคัที่ม ที่ าบรรจบกันกัจนกลายเป็นป็สี่แ สี่ ยกขนาดใหญ่ ถนนสายหนึ่งนึ่ชื่อชื่ “ถนนตะนาว” อีกอีถนนหนึ่งนึ่ชื่อชื่ “ถนน ราชดำ เนิน” ตรงจุดจุบรรจบหนึ่งนึ่ของถนนราชดำ เนินนิกับกัถนนตะนาว นับนัจากพื้นพื้ที่สี่ ที่ แ สี่ ยกคอกวัววัหันหั ไปทางทิศทิเหนือนืทอด ยาวไปตามถนนตะนาวก่อก่นถึงถึมุมมุตัดตักับกัถนนข้าข้วสาร ย่านนั้นนั้มีตึมีกตึแถวอย่างฝรั่งรั่เกิดกิ ใหม่มม่ากมาย และหนึ่งนึ่ ในบรรดา ตึกตึแถวนั้นนั้มีเมีสียสีงซอเสียสีงขลุ่ยลุ่ ไพเราะลอยล่อล่งมาจากห้อห้งสองคูหคูาที่ถู ที่ กถูปรับรัแต่งต่เป็นป็ร้าร้นค้าค้เล็กล็ๆ ขึ้นขึ้ป้าป้ยข้าข้งหน้าน้ร้าร้น ด้วด้ยคำ แปลกตาว่าว่ “ดุริดุยบรรณ” นั่นนั่คือคืชื่อชื่ร้าร้นขายเครื่อรื่งดนตรีไรีทยเกิดกิ ใหม่ จนเป็นป็ที่รู้ ที่รู้จัรู้กจัของผู้ดีผู้ บดีางกอกเมื่อมื่ครั้งรั้แผ่นผ่ดินดิพระบาทสมเด็จด็พระมงกุฏกุเกล้าล้เจ้าจ้อยู่หัยู่วหัทรงครองราชย์ผ่าผ่นไปแล้วล้๔ ปี นายสาย ดุริยางกูร เชื้อสายครูมีแขก แรกเริ่มธุรกิจค้าขายดนตรีไทย คนที่เ ที่ ริ่มริ่ต้นต้กิจกิการดุริดุยริบรรณ ชื่อชื่นายสาย ดุริดุยริางกูรกูถือถืเป็นป็นักนัธุรธุกิจกิในประวัติวัศติาสตร์กร์ารดนตรีไรีทยคนสำ คัญคัที่ ควรจารึกรึเพราะมิเมิพียพีงแต่เต่ ป็นป็แค่ร้ค่าร้นขายเครื่อรื่งดนตรีร้รีาร้นหนึ่งนึ่หากแต่ส่ต่งส่ผลต่อต่การปรับรัเปลี่ย ลี่ นโลกทัศทัน์ขน์องคนไทยต่อต่คำ ว่าว่ดนตรีไรีทยมากมาย ไม่ทม่ราบว่านายสายเกิดกิเมื่อมื่ ใด แต่ถึงแก่กก่รรมเมื่อมื่พ.ศ. ๒๔๗๖ ในรัชรัสมัยมัพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าล้เจ้าอยู่หัยู่วหัหลังลัการเปลี่ย ลี่ นแปลงทางการเมือมืงครั้งรั้สำ คัญของกรุงสยามผ่าผ่นไปไม่นม่าน ต้นตระกูลกูชั้นชั้ ปู่ขปู่องนายสาย เป็นป็ครูดนตรี ไทยชื่อชื่นายมี หรือรืสมญา “ครูมีแมีขก” สถานที่เกิดกิคือบริเริวณสุเสุหร่าร่กุฎีกุฎีขาว ใกล้วัล้วัดกัลกัยาณมิตมิร ธนบุรี มีชีมีวิชีวิตอยู่ใยู่นช่วช่ง ตอนปลายรัชรัสมัยมัที่ ๑ ถึงต้นรัชรักาลที่ ๕ ประมาณว่ามีชีมีวิชีวิตอยู่รยู่ะหว่างปี พ.ศ. ๒๓๓๐-๒๔๑๕ เป็นป็นักนัดนตรีไรีทยเลื่อลื่ง ชื่อชื่ลือลืนาม บทเสภาไหว้ครูกล่าล่วถึงท่านว่า “ครูมีแมีขกคนนี้เ นี้ ขาดีครันรัเป่าป่ทะยอยลอยลั่นลั่บรรเลงลือลื ” งานดุริดุยรินิพนินธ์ ของท่านเป็นต้นทางของประเพณีนิณียนิมการแต่งเพลงไทยที่เป็นป็เพลงแสดงภูมิภูปัมิญปัญาของนักนัดนตรีไรีทยในยุคต่อ ๆ มา จนถึงปัจจุบันบันี้ โดยเฉพาะได้ชื่อชื่ว่าเป็นป็ต้นตำ รับรัการแต่งเพลงที่มีลูมีกลูล้อล้ลูกลูขัดขัหรือรืประเภทเพลงทยอย เพลงที่โดดเด่น ศตวรรษดุริยบรรณ วันวานที่ไม่หวนคืน* อานันท์ นาคคง** * เรียรีบเรียรีงจากบทความในสูจิบัตบัร ๑๐๐ ปีที่ปี ที่ ผันผัผ่าผ่น วันวารดุริดุยริบรรณ เผยแพร่คร่รั้งรั้แรก พ.ศ. ๒๕๕๘ ** อาจารย์ปย์ระจำ คณะดุริดุยริางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยลัศิลศิปากร
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๓๓ ที่สุดคือเพลงเชิดจีน แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๖ ได้รับพระราชทานราชทินนามเป็น “พระประดิษฐไพเราะ” ในด้านชีวิต ครอบครัว ครูมีแขกมีบุตรชื่อนายถึก ดุริยางกูร ซึ่งพระยาภูมีเสวินเคยกล่าวในปูมประวัติว่าสามารถสีซอด้วงได้ ไพเราะมาก ภรรยานายถึกชื่อนางไผ่ มีบุตรชายหญิงด้วยกัน ๒ คน คนโตเป็นหญิงชื่อ พลัด คนเล็กเป็นชายชื่อสาย นายสายนั้นมีความสามารถในซอด้วงและซอสามสายเป็นอย่างดี ภรรยาชื่อ เพิ่ม มีบุตรธิดธิาด้วยกัน ๓ คน คนแรก เป็นหญิง ชื่อแผ้ว คนกลางเป็นชาย ชื่อละม้าย ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นสุภัทร์ และคนสุดท้องเป็นหญิง ชื่อเปี่ยมศรี สามารถบรรเลงซอสามสายได้ดีเช่นกัน ช่วช่งเวลาที่นายสายเริ่มริ่เป็นป็หนุ่มนุ่ เป็นป็ช่วช่งที่สี่แ สี่ ยกคอกวัวเปลี่ย ลี่ นสภาพเป็นป็ชุมชนที่คึกคัก วิถีชีวิชีวิตคนบางกอก เริ่มริ่สุขสุสบายจากสาธารณูปณูโภคที่ทันสมัยมัการอยู่อยู่าศัยศัในตึกรามบ้าบ้นช่อช่งแบบใหม่เม่ริ่มริ่เป็นป็เรื่อรื่งปกติชีวิชีวิตของคนกรุง มีร้มีาร้นรวงต่างๆเกิดกิขึ้นขึ้มากมาย ไม่เม่ว้นแม้ลม้ะแวกถนนราชดำ เนินนิที่เป็นป็ถนนหลักลับรรยากาศทางศิลศิปวัฒนธรรมการ บันเทิงของคนเมือมืงบางกอกมีหมีลากหลาย หาดูหดูาชมรื่นรื่รมย์ได้ง่าง่ย ตั้งแต่เวทีละครร้อร้ง ละครดึกดำ บรรพ์ ละคร พันพัทาง ยี่เก ละครบังบัสวัน ฯลฯ ย่านการแสดงมหรสพสำ คัญ เช่นช่เวิ้งนาครเขษม แพร่งร่นรา แพร่งร่ภูธภูร เป็นป็ต้น บางกอกมีพื้มีพื้นพื้ที่ีพักพัผ่อผ่นหย่อนใจจำ นวนมาก มีสมีถานที่จับจ่ายใช้สช้อยสินสิค้านำ เข้าข้จากเมือมืงนอก เริ่มริ่มีห้มีาห้งขายแผ่นผ่ เสียสีงเพลงไทย เครื่อรื่งเล่นล่จานเสียสีงไขลาน ผู้คผู้ นเมือมืงหลวงมีคมีวามสุขสุใช้เช้วลาว่างพักพัผ่อผ่นการจับกลุ่มลุ่ เล่นล่ดนตรีร้รีอร้ง รำ ทำ เพลงเพื่อพื่ความเพลิดลิเพลินลิระหว่างกันกั ในเวลานั้นนั้เครื่อรื่งดนตรียั รีงหายากอยู่ หากมิใมิช่นัช่กนัดนตรีที่รี ที่ มีวิมีวิชาช่าช่งผลิตลิ เครื่อรื่งเล่นล่ ได้เองแล้วล้ก็ต้ก็ ต้องเสาะหาซื้อซื้เครื่อรื่งดนตรีตรีามแหล่งล่ที่วางขาย ซึ่งในเขตเมือมืงบางกอกมีไมีม่มม่ากนักนัแหล่งล่สำ คัญที่พอจะรองรับรัความต้องการได้ คือเวิ้งนาครเขษม มีร้มีาร้นตึกแถวไม้เม้ล็กล็ๆของคนจีนนำ เครื่อรื่งดนตรีสรีากลสั่งสั่จากนอกเข้าข้มาขาย มีเมีครื่อรื่งดนตรีจีรี จีนที่คนจีนนิยนิมใช้เช้ล่นล่ ในงานพิธีพิกธีรรมขาย และเครื่อรื่งดนตรีไรีทยที่รับรัซื้อซื้จากช่าช่ง ชาวบ้านมาขายต่อคนไทยอีกทางหนึ่งนึ่ ไม่มีม่กมีารยืนยันว่านายสายเรียรีนรู้ธุรู้รธุกิจกิการซื้อขายเครื่อรื่งดนตรีมรีาได้อย่างไร มีคมีวามสัมสัพันพัธ์รธ์ะดับใดกับกัแหล่งล่ต้นทางของเครื่อรื่งดนตรี และคิดอย่างไรกับกัอดีตและอนาคตของตระกูลกูดุริดุยริางกูรกูที่มีคมีรูมีแมีขกเป็นป็ต้นเหง้าง้เค้าเครือรืแต่ในที่สุดสุนายสายก็ตัก็ ตัดสินสิ ใจที่จะเปิดปิกิจกิการร้าร้นขายเครื่อรื่งดนตรีเรีป็นป็ของตนเองนอกเขตเวิ้งนาครเขษม โดยใช้พื้ช้พื้นพื้ที่ ตึกแถวริมริถนนตะนาวสี่ี่แยกคอกวัวเป็นป็ทำ เลใหม่ ในปี พ.ศ. ๒๔๕๗ โดยเปิดปิร้าร้น "ดุริดุยริบรรณ" ซึ่งซึ่เป็นป็ชื่อชื่ที่สมเด็จ พระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรชิญาณวโรรส วัดบวรนิเนิวศวิหาร ทรงพระกรุณาตั้งชื่อชื่ประทานมงคลนาม ซึ่งซึ่ต่อมา ดุริดุยริบรรณ ทำ หน้าน้ที่ของร้าร้นค้าที่มีทั้มี ทั้งความเป็นป็ “ดุริดุยริะ” และ “บรรณ” อย่างสมภาคภูมิภูมิเพราะสินสิค้าสำ คัญของ ร้าร้นที่คนบางกอกทุกทุคนรู้จัรู้จัก คือ เครื่อรื่งดนตรี และหนังนัสือสืตำ ราวิชาดนตรีไรีทย ปฏิบัติบั ติและทฤษฎี องค์ประกอบทั้ง สองด้านดำ เนินนิควบคู่กัคู่นกั ไปจนถึงวาระสุดสุท้ายของร้าร้น เสียสีงดุริดุยริบรรณร่ำ พร้อร้ง ค่อค่ยเชื้อ ชื้ เชิญชิชม ร้าร้นดุริดุยริบรรณเริ่มริ่ต้นทำ ธุรธุกิจกิดนตรีไรีทยเป็นป็ครั้งรั้แรก เปิดปิร้าร้นที่ตึกแถวเลขที่ ๑๕๑ ถนนตะนาว สี่แ สี่ ยกคอกวัว พระนคร ตรงข้าข้มกรมพานิชนิยสัมสัพันพัธ์ มีโมีคลงสี่สุ สี่ ภสุาพประพันพัธ์โธ์ดยนายสาย ดุริดุยริางกูรกูลงวันที่ ๘ ธันธัวาคม ๒๔๕๗ เขียขีนบรรยายเกี่ย กี่ วกับกัความเป็นป็มาของร้าร้นดุริดุยริบรรณ ไว้อย่างงดงามไพเราะ
๑๓๔ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน เสียงซอคลอขลุ่ยลุ่ก้อก้ง กังกัวาน เสียงจะเข้ทัข้ ทับโทนขาน แซ่ซซ่ร้อร้ง เสียงขิมขิฉิ่งฉิ่ฉับฉั ประสาน เสนาะโสต ยิ่งแล เสียงดุริดุริยบรรณร่ำ พร้อร้ง ค่อยเชื้อเชิญชิชม พุทธศาสน์ล่วล่งแล้วล้สองพัน สี่ร้สี่อร้ย ห้าสิบเจ็ดทวีสวรรค์ เศษสร้อร้ย ริเริ่มจัดดุริยบรรณ ปรากฏ นามเฮย สืบเนื่องมาใช่น้ช่อน้ย ครบถ้วนยุคสาม ฯ จำ จิตต์จำ พลอดให้ เห็นความ ทุกทุข์ยข์ากพยายาม ห่อนล้อล้ด้วยยึดสุจริตสาม บำ ราบ ทุกข์เทอญ ดุริยริกิจกิเจริญริก้าก้วหน้าน้เสร็จร็ด้วยสามัคมัคี ฯ โคลงสี่สุภาพสามบทนี้ ทั้งมีคมีวามงดงามไพเราะในเชิงชิวรรณศิลศิป์ การยึดยึคติธรรมนำ ทางในการประกอบธุรธุกิจกิและในขณะเดียวกันกัก็เก็ห็นห็ชั้นชั้เชิงชิของการ “โฆษณา” ที่ไม่ธม่รรมดาของคนหนุ่มนุ่ คนหนึ่งนึ่ที่สืบสืทอดเชื้อชื้สายมาจากครูใหญ่ ในวงการดนตรีไรีทยเป็นป็รุ่นรุ่ที่สาม ด้วยความหวังเต็มเปี่ยปี่มว่า “ดุริดุยริกิจกิเจริญริก้าก้วหน้าน้เสร็จร็ด้วยสามัคมัคี” ไม่ว่ม่ ว่าเส้นส้ทาง ดนตรีไรีทยในอนาคตนั้นนั้จะเปลี่ย ลี่ นแปลงต่อไปอย่าย่งไร เครื่อ รื่ งสายผสม รสนิยนิมใหม่ขม่องคนรักรัสมัคมัรเล่นล่สู่มสู่ าตรฐานของเครื่อ รื่ งดนตรีไรีทยในสังคมสยามใหม่ ที่เ ที่ ต็มต็ ไปด้วด้ยวาทกรรมของคำ ว่าว่ศิวิศิไวิลซ์-ซ์ทันทัสมัยมัและการยื้อยื้แย้งย้ความหมายของเอกลักลัษณ์ ของคนไทยสยามในยุคยุล่าล่อาณานิคนิม ดุริดุยริบรรณมิไมิด้ขด้ายแต่เต่ครื่อรื่งดนตรีไรีทยเท่าท่นั้นนั้แต่ยัต่งยัเป็นป็สถานที่ร ที่ วมของเครื่อรื่ง ดนตรีนำรีนำเข้าข้จากเมือมืงนอก ทั้งทั้เอเชียชีและยุโยุรป เครื่อรื่งดนตรีนรีอกที่นั ที่ บนัว่าว่สร้าร้งชื่อชื่เสียสีงให้ดุห้ริดุยริบรรณตั้งตั้แต่ต้ต่นต้จนปิดปิฉากคือคื ขิมจากประเทศจีนจี ส่วนเครื่อรื่งดนตรียุรีโยุรปที่นำ ที่ นำเข้าข้มาขาย ได้แด้ก่ ซอฝรั่งรั่หีบหีเพลงชัก และออร์แร์กนลมเท้าท้ถีบถี โดยสั่งสั่เข้าข้มาจากเยอรมันมัอังอักฤษ และมีบมีางรุ่นรุ่ที่เ ที่ ดินดิทางมาจากจีนจีด้วด้ยเช่นช่กันกัมีกมีารปรับรัเปลี่ย ลี่ นระบบการเทียทีบเสียสีงใหม่ ให้คุ้ห้นคุ้หูกัหูบกัคนเล่นล่ดนตรีไรีทยตามทฤษฎีที่ฎียึ ที่ ดยึถือถืกันกัสืบสืมา จนในที่สุ ที่ ดสุก็กก็ลายเป็นป็ฐานให้เห้กิดกิกระแสนิยนิมการตั้งตั้วงดนตรี ประเภทใหม่คืม่อคื “เครื่อรื่งสายผสม” นับนัเนื่อนื่งมาตั้งตั้แต่รัต่ชรักาลพระบาทสมเด็จด็พระมงกุฏกุเกล้าล้เจ้าจ้อยู่หัยู่วหัเป็นป็ต้นต้มา ค่าค่นิยนิมของวัฒวันธรรมเครื่อรื่งสายผสมที่ใที่ ช้เช้ครื่อรื่งดนตรีสรีากลที่ผ่ ที่ านประวัติวัศติาสตร์กร์ารผลิตลิและพัฒพันาอย่าย่งมีเมีหตุผตุลทาง วิทวิยาศาสตร์แร์ละอุตอุสาหกรรมจนมีคุมีณคุภาพมาตรฐานระดับดั โลกมาเล่นล่เพลงไทยเดิมดิอย่าย่งไพเราะเพราะพริ้งริ้นั้นนั้น่าน่จะส่งผลต่อต่การย้อย้นกลับลัมาถึงถึเครื่อรื่งดนตรีไรีทยสยามเจ้าจ้ถิ่นถิ่ที่จ ที่ ะต้อต้งปรับรัตัวตัให้สห้มกับกัเงื่องื่นไขสภาพแวดล้อล้มใหม่ นี่ก นี่ ระมังมัที่เ ที่ ป็นป็จุดจุเปลี่ย ลี่ น ให้ซห้อด้วด้ง ซออู้ จะเข้ ขลุ่ยลุ่ โทน-รำ มะนา ฯลฯ ที่ว ที่ างจำ หน่าน่ยในร้าร้นดุริดุยริบรรณ ต้อต้งมีรูมีรูปร่าร่งและคุณคุภาพที่ม ที่ าตรฐาน เพื่อพื่ ให้สห้อดรับรักับกัเครื่อรื่งดนตรีสรีากลที่เ ที่ ป็นป็คู่เคู่ ปรียรีบด้วด้ย และที่สำ ที่ สำคัญคัลูกลูค้าค้ของร้าร้นดุริดุยริบรรณแม้ จะไม่ใม่ ช่นักนัดนตรีไรีทยอาชีพชีทั้งทั้หมด แต่ก็ต่เก็ป็นป็คนรักรัดนตรีที่รีมี ที่ กำมีกำลังลัซื้อซื้สูงสูมีทุมีนทุทรัพรัย์ที่ย์จ ที่ ะจ่าจ่ยให้กัห้บกัเคร่ื่องดนตรีใรีดๆที่ วางขายในร้าร้นนี้ โดยไม่ต้ม่อต้งเสียสีเวลาสร้าร้งเครื่อรื่งเล่นล่เองหรือรืลองเครื่อรื่งดนตรีลรีองแล้วล้ลองอีกอี ปรับรัแต่งต่แก้ไก้ขแล้วล้แก้ไก้ขอีกอีจนกว่าว่จะพอใจเหมือมืนในอดีตดีที่ผ่ ที่ านมา นานวันวัเข้าข้ความต้อต้งการที่จ ที่ ะมีเมีครื่อรื่งดนตรีไรีทยประจำ บ้าบ้นที่ซื้ ที่ ซื้อซื้หาได้ง่ด้าง่ยจากแหล่งขายที่เ ที่ ป็นป็ความหวังวัเชื่อชื่ถือถื ได้ก็ด้ทก็วีจำวีจำนวนขึ้นขึ้กระทั่งทั่ในที่สุ ที่ ดสุก็เก็กิดกิการปรับรัตัวตัของกระบวนการผลิตลิเครื่อรื่ง ดนตรีไรีทยสยามให้มีห้คมีวามสวยงามและมีรูมีรูปแบบรูปร่าร่งที่ย ที่ อมรับรั ได้ใด้นฐานะผลิตลิภัณภัฑ์ขฑ์องร้าร้นขายเครื่อรื่งดนตรีอัรีนอัดับดัหนึ่งนึ่ของสยามประเทศ จนเกิดกิสกุลกุช่าช่งที่เ ที่ รียรีกว่าว่ “ช่าช่งดุริดุยริบรรณ” และ “เครื่อรื่งดนตรีดุรีริดุยริบรรณ” ที่เ ที่ ป็นป็มาตรฐานอย่างจริงริจังจัในกาลต่อต่มา
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๓๕ ขิมโป๊ยเซียนดุริยบรรณ ถวายงานพระเจ้าแผ่นดิน พ.ศ. ๒๔๖๐ สามปีใปีห้หห้ลังลัการเริ่มริ่งานขายเครื่อรื่งดนตรีขรีองนายสาย ดุริดุยริบรรณก็ไก็ด้ต้อนรับรัลูกลูค้ากลุ่มลุ่ สำ คัญ จากกรมมหรสพหลวงที่จะต้องถวายงานดนตรีแรีก่อก่งค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏกุเกล้าล้เจ้าอยู่หัยู่วหัที่ทรงพระประชวร ณ พระราชวังพญาไท หนึ่งในลูกลูค้านั้นนั้คือครูบุญธรรม ตราโมท (ครูมนตรีตราโมท) ได้ซื้อซื้ขิมขิจีนจากร้าร้นดุริดุยริบรรณนี้ไนี้ป เข้าข้วงร่วมกับกัเครื่องสายไทยเครื่อรื่งอื่น ๆ ที่มีสมีมาชิกชิ ในวงคือ หลวงไพเราะเสียสีงซอ (ซอด้วง) พระสรรเพลงสรวง (ซออู้) พระเพลงไพเราะ (ขลุ่ยลุ่ ) เป็นป็ต้น โดยคำ สั่งสั่แพทย์นั้ ย์นนั้ ให้บห้รรเลงเบาๆเหมือมืนเสียสีงล่อล่งลอยมาแต่ไกล จึงได้เอาผ้าผ้ขาว คลุมลุหน้าขิมขิเพื่อพื่ ไม่ใม่ห้เห้สียสีงดังเกินกิ ไป ถวายงานข้าข้งห้อห้งพระบรรทมเวลาบ่าบ่ยถึงเย็นย็ทุกทุวัน จนพระอาการดีขึ้นขึ้ขิมขิ ใน แบบที่ครูบุญธรรมนำ ไปบรรเลงถวาย มีชื่มีชื่อชื่เป็นป็ที่รู้จัรู้จักต่อมาว่า “ขิมขิ โป๊ยป๊เซียซีน” ซึ่งซึ่หมายถึงรูปเทพเจ้าของจีน ๘องค์ ที่ วาดเป็นป็ลวดลายหน้าขิมขิขิมขิ โป๊ยป๊เซียซีนนำ เข้าข้ของดุริดุยริบรรณ มีเมีสียสีงหวานไพเราะ ทั้งที่เป็นป็ขิมขิตัวเล็กล็ขึ้นขึ้สายด้วยเส้นส้ ทองเหลือลืงรีดเรียบ ใช้หช้ลักลัตอกด้วยฆ้อฆ้นเทียบเสียสีงที่ออกจะคลาดเคลื่อลื่นได้ง่าง่ยเมื่อมื่อากาศเปลี่ย ลี่ นหรือรืหน้าน้ขิมขิเกิดกิ ชำ รุด แต่ก็เก็ป็นป็เครื่องดนตรีที่รี ที่ ครองใจนักดนตรีไรีทยต่อเนื่อนื่งมาหลายสิบสิ ปี แต่แรก นายสาย สั่งสั่ขิมขิ โป๊ยป๊เซียซีนมาจากจีน โดยผ่าผ่นเครือข่าข่ยร้านค้าย่าย่นเวิ้งนาครเขษม ตัวขิมขิคงรูปแบบของขิมขิกวางตุ้งตุ้แต่มีคมีวามพิเพิศษที่มีกมีารเขียขีนลายหน้าน้ ขิมขิเพิ่มพิ่เติม พัฒพันาจากรูปเทพเจ้าจีนหรือรืลายดอกไม้จีม้ จีน-ลายมังมักรคู่ ไปเป็นป็ลายไทย เขียขีนสีขสีาวบนพื้นพื้น้ำ ตาลแดง หรือพื้นพื้เขียขีวเข้มข้ โดยแต่แรกนายสายนำ ต้นแบบลายไทยไปให้ช่ห้าช่งจีนเขียขีนตามอย่าย่ง ต่อมาจึงได้เปลี่ย ลี่ นไปใช้บช้ริกริาร นักเรียนจิตรกรรมไทยของโรงเรียรีนเพาะช่าช่ง ซึ่งซึ่มีฝีมีมืฝีอมื ในการวาดภาพและสามารถไปมาหาสู่กัสู่ บกัทางร้าร้นได้สะดวก รับรั ขิมขิ ไปวาดลวดลายใหม่บม่นฝาขิมขิและขอบขิมขิทั้งลายจำ ลองภาพจีน และผูกผูลายไทยขึ้นขึ้มาใหม่ ช่วช่งสำ คัญของการ เปลี่ย ลี่ นแปลงทางการเมือมืงของประเทศจีนที่ปรับรัเปลี่ย ลี่ นเป็นป็ระบบคอมมิวมินิสต์ ความไม่ไม่ว้วางใจของผู้นำผู้ นำรัฐรัไทยจน ต้องยุติความสัมสัพันพัธ์รธ์ะหว่างประเทศ การค้าขายระหว่างกันกัของคนไทยคนจีนที่เคยดำ เนินนิมาก็ต้ก็ ต้องหยุดชะงักงัลง แม้ กระทั่งการนำ เครื่องดนตรีจรีากจีนเข้าข้มาขายก็ถืก็ ถือว่าเป็นป็เรื่อรื่งยากลำ บากบนเส้นส้ทางการค้าทางวัฒนธรรมที่ไม่น่ม่าน่จะ เกี่ย กี่ วกับกัสินสิค้าการเมือมืงได้ แต่ปัญปัหากลับลัเป็นป็ผลดีในด้านของการคิดแก้ปัก้ญปัหา ในขณะที่มีลมีายไทยเกิดกิขึ้นขึ้บนหน้าขิมขิ โดยช่าช่งเขียขีนไทยไม่ง้ม่อง้ช่าช่งเขียขีนจีน ตัวขิมขิเองก็จึก็ จึงไม่จำม่ จำเป็นป็ต้องสั่งสั่ซื้อซื้จากซัวซัเถาอีกต่อไป เนื่อนื่งจากหลังลัพ.ศ. ๒๕๐๐ ก็ไก็ด้มีช่มีาช่งจีนที่เกิดกิ ในเมือมืงไทย ชื่อชื่ “ไคชิวชิ” ทำ ขิมขิเลียลีนแบบขิมขิ โป๊ยป๊เซียซีนต้นฉบับบัส่งส่ ให้ตัห้ ตัวแทนค้าขายในย่าย่นเวิ้ง นาครเขษมและส่งส่ ให้ทห้างร้าร้นดุริดุยริบรรณจำ หน่ายโดยตรง นายไคชิวชิพำ นักอยู่ที่ยู่ ที่ ตรอกจันทร์สร์ะพานสาม มีทัมี ทักษะทำ ขิมขิ อย่าย่งชำ นาญ ทั้งตัวขิมขิ ไม้ขิม้มขิถ่ายทอดวิชาให้ลูห้กลูหลานเอาไว้หลายคน แต่ทุกทุวันนี้ไนี้ ม่ปม่รากฏผลงานออกมา กลับลัเป็นป็ ขิมขิที่ผลิตลิ โดยช่าช่งคนไทยมากกว่า ต่อต่มาก็เก็กิดกิขิมขิที่ดุ ที่ ริดุยบรรณหันหัมาผลิตลิเองในร้าร้น เป็นป็ขิมขิทำ จากไม้สัม้กสัขนาดใหญ่กญ่ว่าว่ขิมขิจีนจี โป๊ยป๊เซียซีนของเดิมดิแล้วล้ ค่อค่ย ๆ คลี่ค ลี่ ลายรูปรูแบบจากขิมขิผีเผีสื้อสื้มาเป็นป็รุ่นรุ่ที่มี ที่ หูมีจัหูบจัและบานพับพัคล้าล้ยกระเป๋าป๋หรือที่เ ที่ รียกกันกัในนาม “ขิมขิกระเป๋าป๋ ” ในที่สุ ที่ ดสุนอกจากนี้ยังยัมีกมีารพัฒพันาไม้ตีม้ขิตีมขิจากเดิมดิที่เ ที่ ป็นป็ ไม้ไม้ผ่เผ่หลาเปลือลืย ๆ ให้เห้สียสีงโฉ่งฉ่ฉ่าฉ่งบนสายลวด มาเป็นป็การหุ้มหุ้ หัวหั ด้วด้ยผ้าผ้สักสัหลาดหรือหนังให้เห้กิดกิมิติมิขติองเสียสีงที่นุ่ ที่ มนวลไพเราะขึ้นขึ้ช่าช่งทำ ขิมขิรุ่นรุ่ใหม่ ๆ ที่เ ที่ กิดกิในประเทศไทย ได้นำด้นำโครงสร้าร้ง เดิมดิของขิมขิดุริดุยบรรณตั้งตั้แต่รุ่ต่นรุ่ซัวซัเถาจนถึงถึขิมขินายไคชิวชิมาพิจพิารณาปรับรั ปรุงรุแก้ไก้ข ช่าช่งหลายคนมีนำมีนำขิมขิมาศึกศึษาวิเวิคราะห์ ถึงถึสัดสัส่วส่น กายภาพ ความหนาบางของไม้ ความหนาของตัวตัขิมขิส่วส่นประกอบย่อย่ยมีผมีลกับกัเสียสีงขิมขิแม้กม้ระทั่งทั่วิธีวิกธีารยึดยึไม้ ให้เห้ข้าข้กันกัโดยไม่ใม่ช้ตช้ะปูตปูอก จนเกิดกิรูปรูร่าร่งลักลัษณะใหม่เม่ ป็นป็ขิมขิรูปรูสี่เ สี่ หลี่ย ลี่ มคางหมู ออกแบบกายภาพภายนอกของขิมขิ ให้มีห้ มี รูปรูร่างเหมือมืนกระเป๋าป๋เดินดิทางมีหูมีหิ้หูวหิ้เพื่อพื่สะดวกในการนำ ไปบรรเลงที่ต่ ที่ าต่ง ๆ ทำ ถุงถุใส่ตัส่วตัขิมขิที่เ ที่ ป็นป็พลาสติกติเป็นป็หนังนัมีสมีาย รัดเข็มข็ขัดขัมีหูมีหิ้หูวหิ้ในตัวตัแต่กต่ารเปลี่ย ลี่ นแปลงที่สำ ที่ สำคัญคัที่ถื ที่ อถืว่าว่เป็นป็ก้าก้วกระโดดคือคืการผลิตลิขิมขิที่ขึ้ ที่ นขึ้สายด้วด้ยหลักลัหมุนมุเกลียลีว หมุดมุ (หรือ “หมุดมุเกลียลีว”) แทนหลักลัตอก (หรือรื “หมุดมุตอก”) ที่ล ที่ งน้ำ หนักนัด้วด้ยฆ้อฆ้นเทียทีบขิมขิจนกินกิลึกลึเข้าข้ไปในเนื้อนื้ไม้แม้ต่ เดิมดิและหันหัมาใช้สช้ายแสตนเลสที่มี ที่ คมีวามทนทานเหนียนีวแกร่งร่กว่าว่สายทองเหลือลืง แม้จม้ะให้น้ำห้น้ำเสียสีงที่แ ที่ ตกต่าต่ง แต่ก็ต่เก็ป็นป็การ พัฒพันาก้าก้วหน้าต่อต่ ไปเรื่อย ๆ บนเส้นส้ทางการประดิษดิฐ์ขิฐ์มขิที่ล้ ที่ วล้นแล้วล้แต่มีต่รมีากฐานมาจากการตลาดของร้าร้นดุริดุยริบรรณแห่งห่นี้ ซึ่งซึ่กลายเป็นป็อดีตดี ไปในที่สุ ที่ ดสุ
๑๓๖ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน เลขาสังคีตย์ จากครูประจำ บ้าน สู่ตำ ราเพลงสำ คัญแห่งกรุงสยาม กิจกิการค้าค้ของร้านดุริดุยบรรณ นอกจากจะจำ หน่าย สร้าร้งเครื่อรื่งดนตรี ซ่อซ่มเครื่อรื่งดนตรีเรีป็นป็ที่รู้ ที่ จัรู้กจักันกัดีใดีนพระนครแล้วล้ เรื่องที่น่ ที่ าสนใจอีกอีอย่าย่งคือคืทางร้าร้นยังยัได้ผด้ลิตลิโน้ตเพลงไทยสำ หรับรั ฝึกฝึหัดหัเครื่อรื่งสายในชื่อชื่ “เลขาสังสัคีตคีย์”ย์ออกวางจำ หน่าน่ยด้วด้ย พัฒพันาระบบการบันบัทึกทึโดยขุนขุเจริญริดนตรีกรีาร (นายดาบเจริญ โรหิตหิะโยธินธิ ) อดีตดีครูดรูนตรีแรีห่งห่สามัคมัยาจารย์สย์มาคม พิมพิพ์ โน้ตเพลงเป็นป็เล่มล่ออกมาจำ หน่ายตั้งตั้แต่ พ.ศ. ๒๔๖๒ เป็นป็สินสิค้าค้ที่ไที่ ด้รัด้บรันิยมอย่าย่งสูงสูไม่แม่พ้เพ้ครื่อรื่งดนตรี ทั้งทั้จากลูกลูค้าค้ที่เ ที่ ป็นป็มือมื อาชีพชีและมือมืสมัคมัรเล่นล่สามารถซื้อซื้หาโน้ตสำ เร็จร็รูปรูไปเล่นล่บรรเลงด้วด้ยกันกัทั้งทั้วงได้ง่ด้าง่ยดาย โน้ตดุริดุยริบรรณได้รัด้บรัการยกย่อย่งว่าว่ แจกแจงทางบรรเลงของเครื่อรื่งดนตรีต่รีาต่งๆรอบวงเครื่อรื่งสายในเพลงเดียดีวกันกัเอาไว้อว้ย่าย่งเหมาะสม รวมไปถึงถึประวัติวัเติพลงและ เนื้อร้อง ผู้สผู้นใจสามารถซื้อซื้ไปรวมเป็นป็ชุดชุสำ หรับรับรรเลงร่วร่มวงกันกัได้ จึงจึเป็นป็ที่นิ ที่ ยมกันกัมากในหมู่นัมู่ กดนตรีสรีมัคมัรเล่นล่ภายหลังลั เมื่อมื่โน้ตระบบอื่นอื่ๆได้รัด้บความนิยมมากกว่าว่มีผู้มีผผู้ลิตลิมากกว่าว่ โน้ตน้เลขาสังสัคีตคีย์จึย์งจึยุติยุบติทบาทไป โน้ตเลขาสังคีตย์ มีลักษณะเป็นโน้ตตัวเลขไทยแทนค่าตำ แหน่งการลงนิ้วบนสายซอด้วง-ซออู้-ไวโอลิน-นิ้วรู นับขลุ่ย-นิ้วที่ลงบนนมจะเข้-และตารางการตีขิม โดยคร่าวๆ เสียงที่เป็นเสียงต้นของชุดเสียงในเครื่องดนตรีต่าง ๆ จะเริ่มที่เลขศูนย์ ๐ แล้วค่อย ๆ สูงขึ้นไปเป็น ๑ ๒ ๓ ๔ ....ซึ่งมีคำ อธิบธิายหลักการลงนิ้วในตำ แหน่งเลขต่าง ๆ เอาไว้ อย่างละเอียดในคำ นำ ของโน้ตเพลงทุกเล่มและทุกเครื่องมือ การแบ่งตำ แหน่งของจังหวะย่อยและจังหวะใหญ่ใน โน้ตเลขาสังคีตย์ ถือเป็นมาตรฐานในการอ่านการเขียนโน้ตในวงการดนตรีไทยต่อมา โดยเฉพาะการแบ่งกลุ่มย่อย ของโน้ตเป็นเป็น ๔ ตัวย่อยต่อ ๑ ห้อง มี ๘ ห้องย่อยใน ๑ บรรทัด โน้ตทุกท้ายห้องเป็นโน้ตเสียงสำ คัญ/ลูกตกหลัก การจัดระบบเช่นนี้เป็นเอกลักษณ์ของโน้ตเพลงไทยหากจะเทียบกับโน้ตสากลหรือโน้ตตัวเลขในวัฒนธรรมอื่น ๆ รูปร่างเล่มล่ โน้ตที่อยากจะกล่าล่วพอสังสัเขปคือ เป็นป็ โน้ตเพลงที่ตีพิมพิพ์โพ์ดยการวางตัวพิมพิพ์โพ์ลหะลงบนแผ่นผ่ร่าร่ง ขนาดของหน้ากระดาษโน้ตน้เลขาสังสัคีตย์ ค่อนข้าข้งใหญ่ เย็บย็ลวดและร้อร้ยเชือชืกตรงกลาง ห่อห่ ปกด้วยกระดาษสี ภายในหน้าโน้ตเพลงเป็นป็กระดาษาขาว ใช้กช้ารวางตัวเรียรีงพิมพิพ์ที่พ์ ที่ อ่านชัดชัเจน ไม่เม่ ป็นป็อุปสรรคของผู้สูผู้ งสูอายุ และมี การเขียขีนเครื่องหมายหรือคำ อธิบธิายเสริมริตัวโน้ตที่ง่าง่ยต่อความเข้าข้ใจ มีกมีารจัดอาร์ตร์เวิร์คร์เป็นป็รูปเทวดาสีซสีอสามสาย เด่นอยู่หยู่ น้าปก รวมทั้งการทำ ตรายางรูปซอสามสายมีคำมี คำภาษาอังกฤษ Duriyabana Trading Co. ใช้ปช้ระทับหน้าน้ปก โน้ต และคำ ว่า “ทูนทูเกล้าล้ถวาย” ด้วย การผลิตลิ โน้ตแต่ละเล่มล่ ใช้บช้ริกริารโรงพิมพิพ์ใพ์นละแวกเดียวกับกัร้าร้น คือพิมพิพ์ที่พ์ ที่โรง พิมพิพ์ไพ์ทยพิทพิยา ถนนตะนาว และที่โรงพิมพิพ์สิพ์นสิทวี หลังลัวิทยาศรม ถนนราชดำ เนิน ผลงานการเรียบเรียงทางเพลงในงานชุดเลขาสังคีตย์ สำ เร็จได้โดยฝีมือของนักดนตรีหลายท่าน ได้แก่ ขุน เจริญดนตรีการ, ครูเปรื่อง สุทธิอัธิ อัมพร อดีตครูดนตรีไทยโรงเรียนสายปัญญา สตรีมหาพฤฒาราม, ครูสวัสดิ์ สุทธิ อัมพร อดีตครูเครื่องสาย โรงเรียนวัดสังเวชวิศยาราม,ครูประพาส สวนขวัญ อดีตนักดนตรีวงเครื่องสายนายกุ๊น วง ครูพุฒิ นันทพล และเคยรับราชการแผนกดนตรีไทยกรมประชาสัมพันธ์,ธ์ครูมนตรี ตราโมท กรมศิลปากร และครู โองการ กลีบชื่น ในจำ นวนนี้ผู้มีผลงานมากที่สุดคือขุนเจริญดนตรีการฯ แต่ก็มีการปรับปรุงแก้ไขหนทางเพลงใน โน้ตโดยนักดนตรีท่านอื่นๆ นำ มาโน้ตมาชำ ระใหม่ โดยมีการระบุครั้งที่ชำ ระ (edition) ลงไปท้ายคำ นำ อย่างชัดเจน ความสำ คัญในฐานะตำ ราเพลง นอกจากจะบันทึกรูปแบบในการเล่นเครื่องสายด้วยน้ำ เสียง หนทางและรสนิยมที่ จับต้องได้แล้ว ชื่อเพลงต่างๆ หากนำ มาประมวลรวมกันแล้วก็จะเป็นฐานความรู้เรื่องข้อมูลเพลงไทยอีกมาก ชื่อ เพลงบางเพลงอาจไม่เป็นที่รู้จักแล้วในสมัยปัจจุบัน และภายในตัวเพลงบางเพลง แนวทางการบรรเลง โครงสร้าง และรายละเอียดของทำ นอง ก็มีความแตกต่างไปจากความนิยมในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ดุริยบรรณถือเป็นแหล่งพึ่ง พิงทางวิชาความรู้ดนตรีไทยที่สำ คัญสำ หรับนักดนตรีทั่วประเทศ ถือเป็นคุณูปการต่อการอนุรักษ์ พัฒนา และเผย แพร่ดนตรีไทยในวิถีโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างยิ่ง
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๓๗ โรงเรียนฝึกหัดช่าง สร้างซ่อมเครื่องดนตรีไทย เครื่องดนตรี เกิดจากภูมิปัญญาของช่าง ที่หยิบเอาวัสดุธรรมชาติต่างๆ ไม้ หนัง กระดูก ไหม ตลอดจนถึง โลหะ มาแปรรูปให้เป็นอุปกรณ์สร้างเสียง มีรูปร่างงดงาม มีเสียงไพเราะ และมีเอกลักษณ์อันแสดงถึงคุณค่าในทาง ศิลปวัฒนธรรม เครื่องดนตรีของร้านดุริยบรรณ ทำ หน้าที่เป็นตัวกำ หนดมาตรฐานเครื่องดนตรีไทยมายาวนานกว่า ศตวรรษ ด้วยฝีมือของช่างทำ เครื่องดนตรีจำ นวนมากมาย ที่กลั่นจินตนาการผสมผสานความรู้ ความเชี่ยวชาญใน การใช้เครื่องไม้เครื่องมือจัดการกับวัสดุตรงหน้า จนเกิดเป็นเครื่องดนตรีให้นักดนตรีได้เล่นบรรเลง ให้คนฟังได้ เพลิดเพลินมีความสุขกัน สังคมไทยสยามยุคเปลี่ยนผ่าน เครื่องดนตรีไทยที่เคยเป็นสมบัติเฉพาะราชสำ นัก เฉพาะสายตระกูลสำ นัก ดนตรี หรือเฉพาะชนชั้นขุนนางผู้ดี กลับเป็นสินค้าที่มีโอกาสเข้าถึงได้ง่าย ควบคู่ไปกับสินค้าเครื่องดนตรีอื่นๆของ โลกที่แคบลง วิชาช่างที่เคยเป็นวิชาชีพเฉพาะบุคคล ที่มักสงวนเอาไว้เพื่อความอยู่รอดในการดำ รงชีพก็กลายเป็น ความรู้ที่นำ มาถ่ายทอดและฝึกหัดกันเพื่อรองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการมีเครื่องดนตรีไทยสวย ๆ คุณภาพดี ราคาย่อมเยาว์เอาไว้ในครอบครอง ยิ่งกาลเวลาล่วงเลยมาถึงยุคของการสร้างชาติ นิยมไทย มีนโยบาย ฟื้นฟูดนตรีไทยโดยการสนับสนุนของฝ่ายรัฐ ก็ทำ ให้กระแสของความสนใจดนตรีไทยเพิ่มพูนขึ้น และยิ่งทำ ให้ บทบาทของดุริยบรรณในสังคมไทยใหม่ต้องปรับตัวมากขึ้นไปอีก หากจะกล่าวว่า ตึกแถวหลังเล็กๆของดุริยบรรณ นอกจากจะเป็นร้านขายเครื่องดนตรีและโน้ตเพลง ก็ยัง เปรียบเสมือนโรงฝึกหัดช่าง ที่บ่มเพาะคนหนุ่มสาวจำ นวนไม่น้อย ให้เติบโตขึ้นด้วยคุณภาพและความรู้เกี่ยวกับ อาชีพช่างทำ เครื่องดนตรี ช่างซ่อมเครื่องดนตรีไทยอีกด้วย พื้นที่ด้านหลังของตึกแถวที่เรียกว่าร้านดุริยบรรณ ถูก จัดแบ่งส่วนเป็นโรงงานทำ เครื่องดนตรีขนาดย่อม มีแท่นเครื่องกลึงไม้ เครื่องคว้าน เครื่องเจาะ และเครื่องมืออื่นๆ อีกไม่น้อยที่นำ มาใช้ในการผลิตเครื่องดนตรี ตลอดจนถึงพื้นที่ซ่อมแซมเครื่องดนตรีที่ชำ รุดสึกหรอ แต่ละยุคสมัย มี แรงงานช่างฝีมือเข้ามาทำ งานให้กับร้านมิได้ขาด โดยเรียนรู้ส่งถ่ายวิชาประสบการณ์ให้กันและกันรุ่นต่อรุ่น มีเงิน เดือนประจำ มีตารางการทำ งานที่ชัดเจนแน่นอน สูตรการสร้างทำ เครื่องดนตรีและกระสวนของเครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของดุริยบรรณนั้น แต่ละชิ้น แต่ละหน่วย ถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างละเอียดพิถีพิถัน ให้ความสำ คัญในกรรมวิธีการสร้างทุกขั้นตอน ด้วยความ ใส่ใจในเรื่องการคัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพ การคัดไม้ คัดกะลา (ในกรณีทำ กะโหลกซออู้หรือซอสามสาย) การคัด หนังแพะ หางม้า สายซอ การเหลาหมอนซอ หย่องซอ การทำ โต๊ะจะเข้ นมจะเข้ คันทวน ลูกบิด คันชัก การ กำหนดตำ แหน่งฉลุลาย การกลึงที่ประณีต งดงาม การปรับแต่งเสียงที่เอาใจใส่ มีผลทำ ให้คุณภาพเสียงของ เครื่องดนตรีคมชัด นุ่มนวล ดังกังวาน อันเกิดมาจากประสบการณ์ความรู้ทางด้านดนตรีไทยและด้านงานช่าง เป็นที่ยอมรับว่ามีคุณภาพเสียงดีเยี่ยมและเป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักดนตรีไทยโดยทั่วไป ความพิถีพิ ถีพิถัพิ ถันเรื่อรื่งคุณคุภาพของผลิตลิภัณฑ์ดนตรี ยังยัรวมไปถึงบรรดาส่วส่นประกอบย่อย่ยๆของเครื่อรื่งดนตรีด้รี ด้วย นายสายลงทุนทุซื้อซื้เครื่อรื่งมือมืพิเพิศษมาจากเยอรมันมัจากห้าห้งบีกบีริมริแอนด์โก มาดัดแปลงเป็นป็เครื่อรื่งทำ สายซอ ซึ่งซึ่จะ จัดการฟั่นฟั่สายไหมละเอียดที่สั่งสั่มาจากอำ เภอปากช่อช่ง นครราชสีมสีา เป็นป็สายขนาดต่าง ๆ แยกไว้เป็นป็หมายเลข แล้วล้ชุบด้วยน้ำ ยาสูตสูรพิเพิศษให้สห้ายไหมนั้นนั้มีคมีวามเหนียนีว คงทน และให้แห้รงสั่นสั่สะเทือนได้ดีเมื่อมื่จะสีหสีรือรืดีด ความโดดเด่น ของสายซอ-สายจะเข้ขข้องดุริดุยริบรรณ ยังยัคงเป็นป็ที่เลื่อลื่งลือลื ในวงการดนตรีไรีทยมาจนถึงทุกทุวันนี้
๑๓๘ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน โรงเรียนฝึกหัดช่าง สร้างซ่อมเครื่องดนตรีไทย การลงทุนทุเรื่อรื่งเทคโนโลยีกยีารผลิตลิเครื่อรื่งดนตรีแรีละการรับรัแรงงานช่าช่งสร้าร้งซ่อซ่มเครื่อรื่งดนตรีเรีข้าข้มาทำ งานประจำ ในร้าร้น นับนัเป็นป็อีกอีหนึ่งนึ่ความโดดเด่นด่ของดุริดุยริบรรณ ที่ย ที่ กระดับดัจากร้าร้นขายเครื่อรื่งดนตรี ไปสู่อุสู่ ตอุสาหกรรมดนตรีที่รีเ ที่ รียรีก ว่าว่เศรษฐกิจพอเพียพีง มีฐมีานวัตวัถุดิถุบดิ-วัสวัดุใดุนการทำ เครื่อรื่งดนตรีแรีละทรัพรัยากรมนุษนุย์ใย์นพื้นพื้ที่เ ที่ ล็กล็ๆของตน เพื่อพื่มาเสริมริ ให้ กิจการได้เด้จริญริรุ่งรุ่เรือรืงต่อต่ ไปในภายหน้าน้ก่อก่นจะเติบติ โตขยายมาเป็นป็ธุรธุกิจกิดนตรีไรีทยอีกอีมากมายในยุคยุหลังลัที่ต่ ที่ าต่งยี่ห้ ยี่ อห้ต่าต่ง ก็ต้อต้งมีช่ มีางเอาไว้ใว้นโรงงานตัวตัเอง ทั้งทั้ระดับดัช่าช่งฝึกฝึหัดหั ไปจนถึงถึช่าช่งชำ นาญการ ต้อต้งยกให้เห้ป็นป็วิสัวิยสัทัศทัน์ขน์องนายสายผู้ เป็นป็เจ้าจ้ของกิจกิการดุริดุยริบรรณมาตั้งตั้แต่ต้ต่นต้และคนสำ คัญคัคือคืนางเพิ่มพิ่ดุริดุยริางกูร ที่ช่ ที่ าช่งดุริดุยริบรรณทุกทุคนเรียรีกท่าท่นว่าว่“คุณยายเพิ่มพิ่ ” ผู้ทุ่ผู้ มทุ่เทหัวหัใจให้กัห้บกัการเป็นป็ครูผู้ฝึผู้ กฝึหัดหังานช่าช่งทุกทุชิ้นชิ้ช่าช่งทุกทุคนที่รั ที่ บรัเข้าข้มาทำ งานในร้าร้น เป็นป็คนที่มี ที่ มีความละเอียอีดถี่ถ้ ถี่ วถ้น ประณีตณีถ่าถ่ยทอดความรู้ใรู้ห้กัห้บกัช่าช่งด้วด้ยเมตตาปราณี หาทางพัฒพันาแก้ไก้ขปรับรั ปรุงความสามารถของ ช่างฝึกฝึหัดแต่ลต่ะคนจนกลายเป็นป็นายช่าช่งใหญ่ไญ่ด้ใด้นที่สุ ที่ ดสุประจักจัษ์พษ์ยานคือคืคุณคุภาพเครื่อรื่งดนตรีที่รีผ ที่ ลิตลิมาตรฐาน ขนาด กระสวน สัดสัส่วส่น ที่ทำ ที่ ทำ ให้เห้กิดกิรากฐานของเครื่อรื่งดนตรีไรีทยทั้งทั้ประเทศสืบสืต่อต่มาจนถึงถึทุกทุวันวันี้ ช่างดุริยบรรณ เครือข่ายช่างทำ เครื่องดนตรีไทยที่เกี่ยวพันกับดุริยบรรณ ในโลกแห่งเสียงเพลง ช่างทำ เครื่องดนตรี คือบุคคลสำ คัญไม่แพ้นักดนตรี นักร้อง นักแต่งเพลง หรือศิลปิน ใหญ่หน้าเวที แต่การบันทึกเรื่องช่างทำ เครื่องดนตรีไทยอย่างจริงจัง ยังไม่อาจเปรียบเทียบกับบุคคลด้านอื่นๆได้ รวมทั้งเคล็ดความรู้ของช่าง ก็ยังเป็นเรื่องลึกลับ ถ่ายทอดเฉพาะแวดวงเล็กๆมากกว่าจะเป็นความรู้ที่รับรู้กันทั่วไป แม้บทความนี้จะไม่ได้ทำ การสำ รวจเชิงลึก มีเวลาในการเรียบเรียงจำ กัด แต่ก็อยากจะฝากชื่อเสียงเรียงนาม ช่างทำ เครื่องดนตรีไทยที่ฝากฝีมือการผลิตเครื่องดนตรีให้กับร้านดุริยบรรณบางท่านที่น่ารู้จัก ๑. นายสมมิตร (อู๊ด) จันทกุล หัวหน้าช่างประจำ ร้าน มีศักดิ์เป็นหลานนางเปี่ยมศรี ดุริยางกูร ผู้สืบทอด กิจการต่อจากนายสาย นายสมมิตรได้ตำ แหน่งเป็นหัวหน้าช่าง คอยดูแลความเรียบร้อยของผลงานการผลิต คอย สั่งงานแจกงานแก่บรรดาช่างในร้านว่าวาระไหนจะทำ เครื่องดนตรีอะไร ส่วนงานกลึงก็เป็นการกลึงรำ มะนา ฉิ่งฉาบ ๒. ช่างถม มีศักดิ์เป็นเครือญาติกับนางเปี่ยมศรี เป็นช่างกลึงที่มีฝีมือดี สามารถกลึงงาได้ละเอียด มีฝีมือ เรื่องการทำ ปี่ เป็นเพื่อนรักกับครูเทียบ คงลายทอง ให้ความรู้วิชาการกลึงปี่-คว้านแต่งปี่กับครูเทียบไว้มาก ในภาย หลัง แยกกิจการจากร้านดุริยบรรณมาตั้งร้านขายเครื่องดนตรีไทยของตนอยู่ฝั่งวัดมหรรณพาราม แต่ไม่ประสบ ความสำเร็จเรื่องชื่อเสียงนัก ๓. ช่างเชาวน์ ชาวนาเป้า (เกิด ๒๔๘๑) เป็นช่างกลึงที่ใช้ชีวิตอยู่ในร้านดุริยบรรณยาวนานตั้งแต่อายุได้ ๑๓ ขวบจนราว ๖๖ ปีจึงลาออกจากร้าน ช่วงที่อยู่นั้นนางเปี่ยมศรี ดุริยางกูล บุตรีของนายสายเป็นผู้ควบคุม กิจการ ได้รับการอบรมสั่งสอนวิชาช่างจากนางเพิ่ม ภรรยาของนายสาย มีความสามารถในการผลิตเครื่องดนตรีทุก ชนิด โดยเฉพาะซอ ทั้งซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย ได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นแบบของซอมาตรฐานใหม่ของวงการ ดนตรีไทย ออกแบบกระสวนซอได้สวยงาม ฝีมือการกลึงดีมาก ทั้งกลึงไม้ กลึงงา ประดับงา จนกระทั่งความรู้เรื่อง การผลิตสายซอไหมฟั่น ช่างเชาวน์ เดิมเป็นชาววัดไร่ขิง สามพราน นครปฐม ครอบครัวเป็นชาวนา พี่ชายชื่อชาญ เป็นช่างอยู่ใน ร้านดุริยบรรณมาก่อน ได้พาช่างเชาวน์ไปฝากทำ งานที่ร้านนี้ โดยเริ่มเป็นช่างลูกมือของรุ่นพี่ชื่อจำ ลอง ยืนเลื่อยไม้ ที่จะส่งงานให้ช่างอื่นทำ ด้วยเลื่อยลันดาอย่างทรมานอยู่นานถึง ๑๐ ปี จึงค่อยหัดเป็นช่างกลึง ค่อยๆพัฒนางาน ฝีมือจนเป็นช่างที่มีชื่อเสียง ผลงานเป็นที่ต้องจากต้องใจของลูกค้า ช่างเชาวน์ได้ชื่อว่าเป็นคนที่แม่นยำ เรื่องกระสวน ซอมากที่สุด รักษาแบบแผนกระสวนโบราณเอาไว้อย่างเคร่งครัด ลูกค้าพิเศษคนที่ช่างเชาวน์เล่าว่าประทับใจที่สุด คือ ครูเจริญใจ สุนทรวาทิน เอางานมาให้กลึงซอสามสายที่ร้าน พร้อมกล่าวว่า “เธอทำ งานนี้ให้ดีที่สุด ฉันก็จะเล่น ให้ดีที่สุดเช่นกัน”
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๓๙ ความรู้ขรู้องช่าช่งเชาวน์ ถูกถ่ายทอดมายังศิษศิ ย์หลายคน อาทิ นายหน่าน่ย กาญจนบุรี,รีนายสุทีสุทีป, นายยอด จาก ชลบุรี นอกจากนั้นนั้หนึ่งนึ่ในผู้อผู้ ยู่เยู่บื้อบื้งหลังลัชื่อชื่เสียสีงของ "โทนดุริดุยริบรรณ" ที่ขึ้นขึ้หน้าน้หนังนัด้วยสายไหมเรียรีดโยง รวมทั้ง การขึ้นขึ้หน้าน้หนังนัซอด้วงซออู้ คือนางประกอบพร ชาวนาเป้าป้ภรรยาคู่ทุคู่กทุข์คู่ข์ คู่ยคู่ากของช่าช่งเชาวน์ ๔. ช่าช่งจ้อจ้น ไทรวิมวิาน (เกิดกิ๒๔๙๕) พื้นพื้เพเป็นป็ชาวบางเลน นครปฐม สนใจดนตรีไรีทยมาตั้งตั้แต่เต่ด็กด็พ่อพ่พา มาฝากที่ร้ ที่ าร้นดุริดุยริบรรณ เรียรีนรู้งรู้านช่าช่งไม้ หัดหัทำ เครื่อรื่งดนตรีต่รีาต่งๆโดยเรียรีนกับกัช่าช่งรุ่นรุ่พี่ คือคืช่าช่งเชาวน์ ซึ่งซึ่มาอยู่ก่ยู่อก่นถึงถึ๒๕ ปี สอนการกลึงลึซอ กลึงลึจะเข้ ทำ ขิมขิเลียลีนแบบขิมขิ โป๊ยป๊เซียนด้วด้ยไม้สัม้กสัเขียขีนลายเทวดาสีซสีอสามสาย โดยมีผู้มีคุผู้ มคุคุณคุภาพอีกอีชั้นชั้หนึ่งนึ่คือคืนายสมมิตมิร หรือรืช่าช่งอู๊ดอู๊ ช่าช่งจ้อจ้นเป็นป็ผู้มีผู้ คมีวามวิริวิยริะอุตอุสาหะพากเพียพีรทำ งานในฐานะลูกลูจ้าจ้งของ ห้าห้งดุริยริบรรณอยู่ถึยู่งถึ๑๐ ปี นอกจากนี้ยั นี้ งศึกศึษาเพิ่มพิ่เติมติจากช่าช่งจรูญ คชแสง และอาจารย์ภาวาส บุนบุนาค สามารถพัฒพันา ตนเองจนมีคมีวามรู้รรู้อบทางการทำ เครื่อรื่งดนตรีไรีทยจนสามารถออกมาประกอบอาชีพชีและตั้งตั้กิจกิการเป็นป็ของตนเองได้ โดยการเริ่มริ่สนับนัสนุนนุจากคุณคุประสิทสิธิ์ อัศอัวโสภณ เจ้าจ้ของร้าร้นย่งเส็งส็เวิ้งวิ้นาครเขษม ให้ก้ห้าก้วจากการทำ เครื่อรื่งดนตรีไรีทย ประมูลในระบบราชการมาเป็นป็การเปิดปิ โรงงาน “ดุริดุยริางค์ไค์ทย” ของตนเองที่บ ที่ างพลี สมุทมุรปราการ สร้าร้งเครื่อรื่งดนตรี ไทยทุกทุประเภท โดยใช้เช้ครื่อรื่งมือมืที่ทั ที่ นทัสมัยมัและเทคโนโลยีเข้าข้มาร่วร่มในกระบวนการผลิตลิทำ ให้เห้ครื่อรื่งดนตรีใรีนนาม ดุริดุยริางค์ไค์ทยได้รัด้บรัรองมาตรฐานจนเป็นป็ที่ย ที่ อมรับรัของคนทั้งทั้ในและต่าต่งประเทศ สามารถผลิตลิ ได้ตด้ามต้อต้งการเฉพาะแบบ เฉพาะบุคบุคลด้วด้ยชิ้นชิ้งานที่มี ที่ คมีวามสวยงามวิจิวิตจิรตระการตา ความรู้ใรู้นการสร้าร้งทำ เครื่อรื่งดนตรีขรีองท่าท่นนั้นนั้ ได้ถ่ด้าถ่ยทอด ต่อต่ ไปยังทายาท คือคืช่าช่งศุภศุาพล ช่าช่งนิรันินรัดร์ ไทรวิมวิาน และศิษศิ ย์อื่นอื่ๆ ผลงานเด่นด่ที่ีวงการดนตรีไรีทยยอมรับรัมากที่สุ ที่ ดสุคือคืซอสามสาย ได้ชื่ด้ชื่อชื่ว่าว่มีคมีวามงดงามและเสียสีงไพเราะ ฯลฯ เป็นต้น นอกจากช่าช่งที่มากินกิอยู่ทำยู่ ทำงานประจำ ร้าร้นดุริดุยริบรรณและสร้าร้งผลงานในบริเริวณพื้นพื้ที่หลังลัร้าร้นแล้วล้ก็ยัก็งมีเมีครือรืข่าข่ยช่าช่งทำ เครื่อรื่งดนตรีไรีทยจากภายนอกที่นำ ผลิตลิภัณฑ์ของตนหรือรืของท้องถิ่นตนมาส่งส่มาฝากวางขาย ในจำ นวนนี้ ที่น่าน่กล่าล่วถึง อาทิ ๑. กลุ่มลุ่ ช่าช่งทำ ขลุ่ยลุ่ ชุมชุชนบางไส้ไส้ก่ เป็นป็ช่าช่งที่สื ที่ บสืเชื้อชื้สายมาจากลาวเวียวีงจันจัทร์ ทำ ขลุ่ยลุ่ ไม้รม้วกทั้งทั้แบบเนื้อนื้ ไม้เม้ปล่าล่ๆและขลุ่ยลุ่ เทลาย ช่าช่งที่มี ที่ ฝีมีมืฝีอมืมากคือคืนายหร่อร่ง กลิ่นลิ่บุปบุผา, นายจรินริทร์ กลิ่นลิ่บุปบุผา, นางองุ่นงุ่ มาริศริรี ฯลฯ โดย มีผู้มีแผู้ ทนบ้านลาวบางไส้ไส้ก่ชื่ก่ชื่อชื่เจ๊เจ๊ยาว์ นำ ผลงานขลุ่ยลุ่ ของช่าช่งเหล่าล่นี้เ นี้ อามาส่งส่ ให้ทห้างร้าร้นคัดคัเลือลืกเป็นป็กระสอบ ๆ ภาย หลังลัช่าช่งเหล่าล่นี้เ นี้ ริ่มริ่มีชื่มีชื่อชื่เสียสีงมากขึ้นขึ้และเปิดปิกิจกิการย่อยของตนในเขตพื้นพื้ที่บ้ ที่ าบ้นของตนเอง มีลูมีกลูค้าค้สายตรงเข้าข้ไป อุดอุหนุนถึงถึที่ ๒. นายประทุมทุ“จ่าทุมทุ” นพเก้าก้ทำ ผืนผืระนาดไม้ไม้ผ่แผ่ละไม้ชิม้งชิชันชัพันพัหัวหัไม้รม้ะนาด นำ ผลงานเดินทางไกล จากจังหวัดตราดเข้าข้มายังพระนคร ส่งส่ ให้ทห้างร้าร้นดุริดุยริบรรณเป็นป็ระยะๆ ๓. นายสวาท มั่นมั่ศรีจัรีจันทร์ นครปฐม ทำ ผืนผืระนาด นำ เข้าข้มาส่งส่ร้าร้นดุริดุยริบรรณเป็นป็ระยะๆ ๔. นายสมชัยชัชำ พาลี วัดยาง ทำ รางระนาด นำ เข้าข้มาส่งส่ร้าร้นดุริดุยริบรรณเป็นป็ระยะๆ ๕. นายเสน่ห์น่ ห์พระโขนง เอาผืนผืระนาดมาส่งส่ ประจำ ๖. เจ๊กฝน ทำ รางระนาดคุณคุภาพดี มาส่งส่ที่บ้าบ้นดุริดุยริบรรณ ๗. นายป่วน แย้มบาง บ้าบ้นเนินนิและบุตรชาย เอาฉิ่งฉิ่ฉาบ และลูกลูฆ้อฆ้งมาส่งส่๘. ช่าช่งปั้นหุ่นหุ่ โทนจากปากเกร็ดร็ ปั้นปั้เผาดินทางสีเสีคลือลืบ นำ มาส่งส่ต่อให้ทห้างร้าร้นขึ้นขึ้หน้าน้โยงหนังนั๙. ครูเฉลิมลิบัวบัทั่ง นายวงปี่พปี่าทย์ทำ อังกะลุงลุสำ เร็จร็รูปมาฝากขายและขายส่งส่๑๐. นักเรียรีนเพาะช่าช่ง ทำ โต๊ะจะเข้ทข้องเหลือลืง กำ พวดปี่ กระสวยปี่ นำ มาส่งส่ที่ร้าร้น ๑๑. ครูจำ นงค์ ส่งส่ศรีวัรีวัฒน์ นายวงเครื่อรื่งสายผสม บางแค ทำ ไม้ขิม้มขิมาวางจำ หน่าน่ย ๑๒. นายจำ รูญ คงแสง ช่าช่งกลึงลึไม้จม้ากแผนกช่าช่งสิบสิหมู่ กรมศิลศิปากร ทำ ซอด้วง ซออู้ กระจับปี่ รูปทรง สวยงาม นำ มาส่งส่ที่ร้าร้น ฯลฯ เป็นต้น
๑๔๐ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน เรื่อรื่งราวของช่าช่งทำ เครื่องดนตรีไรีทยที่มี ที่ คมีวามสัมสัพันพัธ์กัธ์บกัดุริดุยริบรรณทั้งทั้ทางตรงและทางอ้ออ้ม ยังยัคงต้อต้งหาโอกาส รวบรวมข้อข้มูลมูและตรวจสอบกันกัให้ลึห้กลึให้ไห้กลกว่าว่ที่ย ที่ กตัวตัอย่าย่งมานี้ เพราะภูมิภูปั มิญญาช่าช่ง ก็มีก็ส่มีวส่นสำ คัญคั ในการพัฒพันา ดนตรีไทยไม่แม่พ้กัพ้บกัภูมิปั มิญญาของศิลศิปินนักนัแต่งต่เพลงหรือรืนักนัร้อร้งนักนัเล่นล่หากแต่สัต่งสัคมไทยไม่ค่ม่อค่ยใส่ใส่จบันบัทึกทึและช่าช่ง เองก็ทำก็ ทำหน้าน้ที่ปิ ที่ ดทองหลังลัพระมาตลอด จึงจึเปรียรีบเหมือมืนคนทำ ทางที่ไที่ ม่มีม่ ใมีครรู้จัรู้กจัแม้ว่ม้าว่ถนนสายนั้นนั้จะสวยงามและใช้ สัญสัจรเดินดิทางมาไกลเพียพีงไร ช่าช่งที่ปที่ รากฏนามและช่าช่งนิรนินามจำ นวนมาก ฝากผลงานนฤมิตมิกรรมล้ำ ค่าค่เอาไว้กัว้บกัร้าร้น ขายเครื่องดนตรีเล็กล็ๆแห่งห่หนึ่งนึ่แม้วัม้นวันี้ี จะไร้ข้ร้อข้มูลมูหลักลัฐานที่ชั ที่ ดชัเจนที่จ ที่ ะแสดงถึงถึอัจอัฉริยริภาพของช่าช่งเหล่าล่นั้นนั้ได้ ไม่มีม่ มี งานวิจัวิยจัที่เ ที่ ป็นเครื่องช่วช่ยทำ ความเข้าข้ใจในชั้นชั้เชิงชิทางศิลศิปประดิษดิฐของช่าช่งเหล่าล่นั้นนั้ ไม่มีม่เมีวทีเทีสวนาความรู้เรู้กี่ย กี่ วกับกัช่าช่งที่ แบ่งปันให้สห้าธารณะเรียนรู้ชื่รู้ชื่นชื่ชม ไม่มีม่ โมีรงเรียรีนฝึกฝึหัดหัวิชวิาช่าช่งทำ เครื่อรื่งดนตรีไรีทยอย่าย่งที่ดุ ที่ ริดุยริบรรณเริ่มริ่ต้นต้มา และไม่มีม่ มี แม้กม้ระทั่งทั่พื้นพื้ที่ที่ ที่ จ ที่ ะจัดจัแสดงนิทนิรรศการ หรือรืรวบรวมเครื่อรื่งดนตรีงรีามๆของดุริดุยริบรรณมาเป็นพิพิพิธพิภัณภัฑ์เฑ์ครื่อรื่งดนตรี ไทยในรอบศตวรรษอย่าย่งจริงริจังจัถึงถึเวลาจะผ่าผ่นไป อย่าย่งไรก็ตก็าม ขอคารวะมวลหมู่คมู่ รูช่าช่งดุริดุยริบรรณเอาไว้ใว้นบทความ ชิ้นชิ้นี้ด้ นี้ วด้ย ชุมชุทางเครื่องดนตรีมากมีใมีนแคตตาล็อล็คดุริดุยริบรรณ ตำ นานสื่อ สื่ โฆษณาดนตรีไรีทย เสน่ห์น่หห์นึ่งนึ่ของสื่อสื่สิ่งสิ่พิมพิพ์ ที่ก ที่ ลายเป็นร่อร่งรอยประวัติวัศติาสตร์ใร์ห้ศึห้กศึษาอีกอีด้าด้น คือคืแคตตาลอคเครื่อรื่งดนตรีที่รีเ ที่ ป็น งานผลิตลิภัณภัฑ์ขฑ์องดุริดุยบรรณ ทั้งทั้ส่วส่นที่ผ ที่ ลิตลิเอง และส่วส่นที่นำ ที่ นำเข้าข้จากช่าช่งฝีมืฝีอมื ในเครือรืข่าข่ย และเครื่อรื่งดนตรีที่รีสั่ ที่ งสั่จากต่าต่ง ประเทศ เครื่อรื่งดนตรีในแคตตาล็อล็ค เริ่มริ่ต้นต้จากงานที่ว ที่ าดลายเส้นส้พิมพิพ์หิพ์นหิ ไปจนถึงถึยุคยุสมัยมัของการเรียรีงพิมพิพ์อพ์อฟเซ็ทซ็ ภาพถ่าถ่ยเครื่องดนตรีแบบสมจริงริสร้าร้งแรงจูงจูใจให้ลูห้กลูค้าค้และเป็นความชาญฉลาดอีกอีด้าด้นที่ส ที่ ามารถส่งส่เล่มล่แคตตาลอค ไปนอกพื้นพื้ที่ข ที่ องร้านดุริดุยบรรณ ลูกลูค้าค้สามารถเปิดปิแคตตาลอคอ่าอ่น ชอบใจเครื่อรื่งใดก็สั่ก็งสั่ซื้อซื้ ได้ โดยระบบโทรศัพศัท์เท์ข้าข้ มายังยัร้าน ดำ เนินนิการจัดจัส่งส่พัสพัดุไดุปรษณีย์ณีใย์ห้กัห้นกัต่อต่ ไป นอกจากงานบริกริารลูกลูค้าค้โดยผลิตลิ โน้ตน้เพลงไทยเป็นคู่มืคู่อมืเรียรีนรู้ ด้วด้ยตนเองขนานใหญ่ ยังยัมีงมีานซ่อซ่มแซมเครื่อรื่งดนตรีที่รีชำ ที่ ชำรุด งานจัดจัซื้อซื้ประกอบเครื่อรื่งเป็นวงดนตรีสำรีสำหรับรัลูกลูค้าค้ที่อ ที่ ยู่ ห่าห่งไกล เรียกว่าว่ทำ งานธุรธุกิจกิดนตรีไรีทยอย่าย่งครบวงจรจริงริๆ ถ้าหากจะมองว่าชั้นชั้เชิงชิการค้าที่นายสายวางเอาไว้ สืบสืทอดโดยบุตรี การผลิตลิแคตตาล็อล็คก็มีก็คมีวามสำ คัญต่อ เนื่อนื่งมา เป็นทั้งการตลาดที่จูงใจผู้พผู้ บเห็นห็เมื่อมื่ครั้งรั้อดีตและได้คิดย้อย้นกลับลั ไปขุดคุ้ยคุ้ร่อร่งรอยประวัติศาสตร์สื่ร์สื่อสื่สิ่งสิ่พิมพิพ์ อีกครั้งรั้ก็ไก็ด้ ลองอ่านงานโฆษณาแต่ละชิ้นชิ้แต่ละครั้งรั้ทำ ให้หัห้วหัใจคนรักรัดนตรีต้รี ต้องพองโตไปด้วยทุกทุครั้งรั้ เครื่องดนตรีไทยทุกชนิด ซึ่งสร้างขึ้นโดยโรงงานของร้านออกจำ หน่าย รับรองว่าทำ ด้วยฝีมือ ปราณีตงดงามถูกต้องตามแบบและความนิยม จนได้รับประกาศนียบัตรของกระทรวงศึกษาพร้อม ทุกอย่าง คือ จะเข้ เครื่องงาล้วน, เครื่องไม้ประกอบงา, เครื่องไม้ล้วน ซออู้, ซอด้วง เครื่องงาล้วน, เครื่องไม้ประกอบงา, เครื่องไม้ล้วน, กระโหลกซออู้งาม ๆ, มีทั้งแกะแล้วและยังไม่แกะ ขลุ่ยเพียงออ, ขลุ่ยหลีบ, ขลุ่ยตรวจ มีทั้งชนิดไม้ชิงชัน, ไม้รวกทำ ลวดลายต่าง ๆ โทนประดับมุกลวดลายต่าง ๆ, โทนดิน, โทนทุกอย่างมีทั้งขึ้นหน้าเสร็จ รำ มะนาประดับมุก รำ มะนาประกอบไม้หมุดงา, รำ มะนาไม้ ล้วน ฉิ่ง-ฉาบ สำ หรับเครื่องสาย, กลึงอย่างงาม, เสียงดี ขิม มีทั้งตราโป้ยเซียน, ตรามังกร, ตราเทวดา เทียบเสียงเข้าดนตรีไทยเสร็จ มีไม้ตีประกอบทุกชนิด สายซอด้วง, สายซออู้, สายซอฝรั่ง, ลวดขิมอ ย่างดี แข็งตัวขึ้นแล้วไม่หย่อนง่าย ตำ ราเลขาสังคีตย์ มีทุกอย่างคือ สำ หรับจะเข้, ซอด้วง, ซออู้, ขลุ่ย, ซอฝรั่ง, ขิม, ออร์แกน ซอฝรั่ง (ไวโอลิน) มีพร้อมเป็นชุดและปลีก ทั้งอย่างดีและอย่างฝึกหัด เครื่อง ประกอบ ลูกบิด, คันสี, หย่อง, สาย, ยางสน, รองคาง, ทั้งรับซ่อมซอที่ชำ รุดได้เป็นอย่างดี เครื่อรื่งดนตรีที่รีทำที่ ทำออกจำ หน่าน่ยทุกทุอย่าย่ง มีทั้มี ทั้งทั้ที่ปที่ระกอบเสร็จร็และเป็นป็ชิ้นชิ้เป็นป็ส่วส่นต่าต่ง ๆ สำ หรับรั อาหลั่ยลั่และรับรัรองเปลี่ยลี่นแปลงแก้ไก้ขเครื่อรื่งดนตรีทุรีกทุชนิดนิหรือรืให้ทำห้ ทำเป็นป็พิเพิศษอย่าย่งใด โปรดส่งส่ จดหมายถาม ยินยิดีชี้ดีแชี้จงให้ทห้ราบโดยละเอียอีด ลงชื่อ ดุริยบรรณ ถนนตะนาว, กรุงเทพฯ (คัดลอกมาจากฉบับ พ.ศ. ๒๕๗๒)
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๔๑ มุมมุพบครูเรูพลง มุมมุนักนัเลงสะสมเครื่อ รื่ งดนตรี ประตูร้ตูาร้นดุริดุยริบรรณ เปิดปิต้อต้นรับรั ผู้คนมากหน้าน้ตลอดเวลายาวนานหลายสิบสิ ปี ผู้คนจำ นวนไม่น้ม่อน้ยที่เ ที่ ดินดิ ผ่าน เข้าข้มา คือคืเสาหลักลัความรู้ เป็นป็ครูดนตรีไรีทยที่มี ที่ ชื่มีชื่อชื่เสียสีงและฝีมือมืมาเยี่ย ยี่ มเยียยีนร้าร้นดุริดุยริบรรณ เพื่อพื่ซื้อซื้หาเครื่อรื่งดนตรี อุปอุกรณ์เณ์สริมริซื้อซื้อะหลั่ยลั่จนแม้ไม้ม่มีม่คมีวามต้อต้งการซื้อซื้อะไร ก็แก็วะมาสัมสั ผัสบรรยากาศที่ห ที่ าไม่ไม่ด้ใด้นชีวิชีตวิประจำ วันวัของ นักนัดนตรีไรีทยในโลกภายนอกที่สั ที่ บสัสนวุ่นวุ่ วาย แต่ลต่ะช่วช่งเวลา ผู้บริหริารร้าร้นดุริดุยริบรรณ จะเชื้อชื้เชิญชิ ให้คห้รูดนตรีไรีทยที่เ ที่ ป็นป็ ผู้ทรงคุณคุวุฒิวุวัฒิยวัวุฒิวุฒิสละเวลามาอยู่ใยู่นร้าร้น เพื่อพื่ช่วช่ยพิจพิารณาตรวจสอบคุณคุภาพเครื่อรื่งดนตรีใรีหม่ที่ม่ผ ที่ ลิตลิหรือรืสั่งสั่เข้าข้มา วางจำ หน่าน่ย ช่วช่ยเทียทีบเสียสีงเครื่อรื่งดนตรี ปรับรัแต่งต่เครื่อรื่งดนตรีที่รีมี ที่ ปัมีญปัหา จนกระทั่งทั่ถึงถึช่วช่ยให้คำห้ คำ ปรึกรึษาแนะนำ ลูกลูค้าค้ ที่เ ที่ ข้าข้มาเยี่ย ยี่ มเยียยีน ตอบปัญปัหาคำ ถามต่าต่งๆที่บ ที่ างทีเทีกินกิความรู้ขรู้องคนขายเครื่อรื่งดนตรีธรีรรมดาจะตอบได้ ครูเพลงคนสำ คัญที่ผูกผูพันพักับกัร้าร้นดุริดุยริบรรณอย่าย่งยิ่งยิ่ที่น่าน่กล่าล่วถึงในที่นี้ คือครูโองการ กลีบชื่น ศิษศิย์ก้ย์นก้กุฏิกุฏิ คนหนึ่งนึ่ของครูหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลศิปบรรเลง) เคยเข้าข้รับรัราชการในกองปี่พปี่าทย์แย์ละโขนหลวง ถวายตัวอยู่ กับกัสมเด็จเจ้าฟ้าฟ้ฯ กรมหลวงลพบุรีรรีาเมศร์ ที่วังบางคอแหลม เป็นป็นักนัดนตรีปรีระจำ วงวังบางคอแหลม ต่อมาเมื่อมื่ พ.ศ. ๒๔๗๗ หลวงวิจิตรวาทการ ได้เปิดปิ โรงเรียรีนนาฏดุริดุยริางค์ขึ้นขึ้คุณคุหญิงญิชิ้นชิ้ศิลศิปบรรเลง ได้นำ ครูโองการเข้าข้ไป เป็นป็ครูสอนวิชาปี่พปี่าทย์ที่ย์ ที่โรงเรียรีนนี้ด้ นี้ ด้วย โรงเรียรีนนี้คื นี้ คือวิทยาลัยลันาฏศิลศิป์ใป์นปัจปัจุบันบัเคยดำ รงตำ แหน่งน่หัวหัหน้าน้แผนก ดุริดุยริางค์ไทย กองการสังสัคีต กรมศิลศิปากร จนถึง พ.ศ. ๒๕๐๐ จึงโอนมารับรัราชการ ณ กองดุริดุยริางค์ทหารอากาศ จนถึง พ.ศ. ๒๕๑๐ ก็ลก็าออกรับรับำ นาญ และรับรัเชิญชิ ไปสอนตามสถาบันบัต่างๆ อาทิ วิทยาลัยลัโชติเวช โรงเรียรีน ไตรมิตมิรวิทยาลัยลั โรงเรียรีนวัดชัยชัชนะสงคราม โรงเรียรีนสวนกุหกุลาบวิทยาลัยลั โรงเรียรีนสมถวิล โรงเรียรีนสายปัญปัญา สโมสรธนาคารกรุงเทพ ถึงแก่กก่รรม เมื่อมื่พ.ศ. ๒๕๒๐ เนื่อนื่งจากนิวนิาสสถานอยู่ตยู่รอกไก่แก่จ้ บางลำ พู ซึ่งซึ่ทำ ให้สห้ะดวกง่าง่ยดายต่อต่การเดินดิทางไปกลับลัระหว่าว่งที่พั ที่ กพัและ ร้าร้นดุริดุยริบรรณ ครูโองการ กลีบลีชื่นชื่จึงจึได้อุด้ทิอุศทิเวลายาวนานให้กัห้บกัพื้นพื้ที่ร้ ที่ าร้นขายเครื่อรื่งดนตรีเรีล็กล็ๆนี้ เสมือมืนหนึ่งนึ่บ้าบ้น ของตนเอง เป็นป็ทั้งทั้ที่ปที่ รึกรึษาในฝ่ายวิชวิาการ ช่วช่ยตรวจสอบโน้ตน้เพลงเลขาสังสัคีตคีย์ ช่วช่ยให้คำห้ คำแนะนำ ความรู้แรู้ก่ช่ก่าช่งทำ เครื่อรื่งดนตรี ดูแดูลคุณคุภาพของเครื่อรื่งดนตรีก่รีอก่นที่ลู ที่ กลูค้าค้จะซื้อซื้หาไป เทียทีบเสียสีงเครื่อรื่งดนตรีด้รีวด้ยมือมืและหูขหูองท่าท่นเอง ทั้งทั้ขิมขิระนาด ฆ้อฆ้งวง และด้วด้ยความเป็นป็คนสำ คัญคั ในสังสัคมดนตรีไรีทย ชื่อชื่เสียสีงเกียกีรติคุติณคุของครูโอการเองก็มีก็ส่มีวส่นส่งส่ เสริมริทำ ให้ภห้าพลักลัษณ์ขณ์องร้าร้นดุริดุยริบรรณเป็นป็ที่น่ ที่ าน่เชื่อชื่ถือถืมากขึ้นขึ้ท่าท่นเคยทำ หน้าน้ที่ถ ที่ วายคำ แนะนำ เจ้าจ้ฟ้าฟ้หญิงญิสิริสินริธร ในการเสด็จด็เยี่ย ยี่ มเยือยืนร้าร้นขายเครื่อรื่งดนตรีแรีห่งห่นี้ และในการจัดจังานพระราชทานเพลิงลิศพครูโองการ ก็ไก็ด้มีด้หมีนังนัสือสืที่ ระลึกลึที่ก ที่ ล่าล่วถึงถึความผูกผูพันพัของท่าท่นกับกัร้าร้นดุริดุยริบรรณ ตลอดจนลงต้นต้ฉบับบัลายมือมืผลงานที่ท่ ที่ าท่นประพันพัธ์เธ์พลงเอาไว้ เป็นป็ โน้ตน้เลขาสังสัคีตคีย์ด้ย์วด้ย ครูดนตรีท่รี ท่านอื่น ๆ ที่แวะเวียนเข้าข้มาในร้าร้นดุริดุยริบรรณเป็นป็ครั้งรั้คราว ได้แก่ ครูระตี วิเศษสุรสุการ ครูแอบ ยุวณวนิชนิย์ ครูแสวง อภัยวงศ์ ครูประภาส สวนขวัญ ครูเฉลิม บัวบัทั่ง ครูคงศักศัดิ์ คำ ศิริศิริ ครูระตี วิเวิศษสุรสุการ เป็นป็นักนัดนตรีวรีงกรมประชาสัมสัพันพัธ์ เป็นป็คนที่มี ที่ ฝี มีมือมืทางจะเข้เข้ป็นป็เลิศลิเคยช่วช่ยตั้งตั้เสียสีงนม จะเข้ใข้ห้ร้ห้าร้นดุริดุยริบรรณ, นักนัเทียทีบเสียสีงนมจะเข้อีข้กอีท่าท่นคือคืครูแอบ ยุวยุณวนิชนิย์ อดีตดีนักนัดนตรีวรีงดุริดุยริางค์กค์รมตำ รวจและ ครูสอนดนตรีโรีรงเรียรีนสตรีวัรีดวัระฆังฆัเทียทีบเสียสีงจะเข้ใข้ห้ร้ห้าร้นดุริดุยริบรรณหลายตัวตัเหมือมืนกันกั โดยใช้ชัช้นชั โรงเป็นป็ตัวตัติดตินม มี วิธีวิกธีารคำ นวนระยะการวางตำ แหน่งน่นมโดยการจุดจุเทียทีนสังสัเกตุจตุดตกของเงาบนสายแล้วล้ขีดขีเส้นส้กะส่วส่นเอา เล่าล่กันกัว่าว่ ช่วช่งหนึ่งนึ่ครูแอบเคยต่อต่เดี่ย ดี่ วจะเข้เข้พลงกราวในและเชิดชินอกกับกัขุนขุเจริญริดนตรีกรีาร ซึ่งซึ่ ในที่นี้ ที่ ไนี้ ม่ขม่อยืนยืยันยัว่าว่การเข้าข้มามี ส่วส่นร่วร่มในงานที่ร้ ที่ าร้นดุริดุยริบรรณเป็นป็เพราะความผูกพันพัของครูแอบกับกัขุนขุเจริญริดนตรีกรีารหรือรื ไม่แม่ต่สิ่ต่งสิ่ที่ค ที่ รูแอบแนะนำ ผู้ซื้อซื้จะเข้จข้ากร้าร้นนี้ที่ นี้ น่ ที่ าน่สนใจคือคืการเปลี่ย ลี่ นจากสายไหมที่มี ที่ มมีาแต่เต่ดิมดิของร้าร้น ให้หัห้นหั ไปใช้สช้ายเอ็นอ็เทนนิสนิซึ่งซึ่แหล่งล่ จำ หน่าน่ยก็อก็ยู่ไยู่ม่ไม่กลกันกักับกัร้าร้นดุริดุยริบรรณ ชื่อชื่ว่าว่ร้าร้นมงคลประดิษดิฐ แหล่งล่ขายเครื่อรื่งกีฬกีาดังดัของบางลำ พูนั่พูนนั่เอง
๑๕๒ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ครูแสวง อภัยภัวงศ์ เคยเป็นผู้แผู้ นะนำ สูตสูรการเทียทีบเสียสีงจะเข้ การแต่งต่เสียสีงจะเข้ และช่วช่ยแนะนำ สูตสูรการสร้าร้ง โต๊ะต๊ทองเหลือลืงที่รัที่ บแรงสะเทือทืนจากสายไปยังยัท้อท้งจะเข้ โต๊ะต๊จะเข้ที่ข้เ ที่ ป็นเอกลักลัษณ์ขณ์องร้าร้นดุริดุยริบรรณใช้แช้ผ่นผ่ โลหะเงินงิ ผสมธาตุโตุลหะอื่นอื่ๆ ๕ ชิ้นชิ้ ประกบติดติกันกั (ยุคยุหลังลัๆ ใช้ ๓ ชิ้นชิ้ ) มีกมีารตอกลายตกแต่งต่หน้าน้โต๊ะต๊อย่าย่งสวยงาม หลังลัโต๊ะต๊ ค่อค่นข้าข้งแบน ทำ ให้เห้ฉลี่ย ลี่ การสั่นสั่สะเทือทืนของสายออกมาได้เด้ต็มต็ศักศัยภาพ, ครูประภาส สวนขวัญวัมาจากกรม ประชาสัมสัพันพัธ์เธ์ช่นช่เดียดีวกับกัครูระตี เป็นคนที่มี ที่ คมีวามสามารถในการบรรเลงไวโอลินลิหีบหีเพลงชักชัและเคยเรียรีนขิมขิจาก ครูพุฒิพุฒินันนัทพล ซึ่งซึ่ถือถืว่าว่เป็นป็หนึ่งนึ่ ในสุดสุยอดนักนัตีขิตีมขิสมัยมัโบราณ การที่มี ที่ คมีรูประภาสมาร่วร่มงานในร้าร้นดุริดุยริบรรณ จึงจึได้ ประโยชน์ทั้น์งทั้การแนะนำ คุณคุภาพของเครื่อรื่งดนตรีสรีากลที่นำ ที่ นำเข้าข้มาจำ หน่าน่ย และมาตรฐานการเทียทีบเสียสีงขิมขิซึ่งซึ่ครู ประภาสใช้วิช้ธีวิกธีารขึ้นขึ้เสียสีง วางนมขิมขิและการผูกผูเงื่องื่นสายลวดกับกัหลักลัขิมขิตามสูตสูรการตั้งตั้สายขิมขิของครูพุฒิพุฒิจนกลาย เป็นวิธีวิกธีารที่นิ ที่ ยนิมกันกั ในกาลต่อต่มา, ครูเฉลิมลิบัวบัทั่งทั่เคยเป็นนักนัดนตรีวงดุริดุยางค์กค์รมตำ รวจ สนิมนิสนมกับกัครูแอบ ยุวยุนว นิชนิย์ ซึ่งซึ่เป็นฝ่าฝ่ยติดตินมตั้งตั้สายจะเข้ ได้เด้ข้าข้มาช่วช่ยดูแดูลการเทียทีบเสียสีงเครื่อรื่งดนตรีทั่รีวทั่ไปในร้าร้นเป็นระยะ และมี ผลิตลิภัณภัฑ์ที่ฑ์นำ ที่ นำมาฝากขายในร้าร้นด้วด้ย คือคือังอักะลุงลุโดยเป็นผลงานที่ท่ ที่ าท่นและภรรยาคือคืนางไสว ช่วช่ยกันกั ประดิษดิฐ์ขึ้ฐ์นขึ้นำ ใส่กส่ระสอบมาส่งส่ที่ร้ ที่ านดุริดุยบรรณเป็นประจำ ครูเฉลิมลิเป็นคนที่ใที่ ส่ใส่จในคุณคุภาพอังอักะลุงลุของท่าท่นมาก หากพบว่าว่ กระบอกไหนเพี้ย พี้ น เสียสีงเปลี่ย ลี่ น ก็จก็ะเอามีดมีปาดไม้ไม้ผ่ตัผ่ดตัแต่งต่เสียสีงให้โห้ดยไม่รม่อช้าช้ ไม่ว่ม่าว่จะมีลูมีกลูค้าค้หรือรื ไม่ก็ม่ตก็าม, ครูคง ศักศัดิ์ คำ ศิริศิริอดีตดีหัวหัหน้าน้วงดนตรีไทยกรมประชาสัมสัพันพัธ์ เคยประพันพัธ์บธ์ทกลอนดนตรีไรีทยให้ให้นหนังนัสือสืแนะนำ เครื่อรื่ง ดนตรีพิมพิพ์ร่ พ์วมกับกั โคลงของนายสาย ดุริดุยริางกูรกูถือถืเป็นงานวรรณกรรมประวัติวัศติาสตร์เร์ช่นช่กันกั เหล่าล่นี้คื นี้ อคืตัวตัอย่าย่งของบรรดาครูดนตรีผู้รียิ่ผู้ งยิ่ใหญ่ ครูเพลงที่ช่ ที่ วช่ยสร้าร้งความภูมิภูใมิจให้กัห้บกัร้าร้นขายเครื่อรื่งดนตรีเรีล็กล็ๆ ให้เห้ป็นร้านที่มี ที่ คมีวามหมายสำ คัญคัมากกว่าว่ที่ร ที่ วมสินสิค้าค้วางขายไปดาดดื่นดื่แค่นั้ค่นนั้ สำ หรับอีกด้านหนึ่งนึ่คือ ลูกลูค้าของร้าร้นดุริดุยริบรรณ นอกจากเครื่อรื่งดนตรีจรีะได้รับรัความสนใจจากบุคคลทั่วไป จนถึงพระบรมวงศานุวนุงศ์แศ์ล้วล้ก็ยัก็งยัมีนัมีกนัดนตรีไรีทยตัวจริงริจำ นวนมาก ที่มีคมีวามพึงพึพอใจกับกัคุณคุภาพของเครื่อรื่งดนตรี ต่างๆที่วางขายในร้านนี้ สะสมทุนทุทรัพย์ซื้ย์ซื้อซื้เครื่องดนตรีมรีาเป็นคู่มืคู่อมืของตนในจำ นวนนี้ ที่น่าน่เอ่ยถึงรายชื่อชื่ ได้แก่ ครูเจริญริ ใจ สุนสุทรวาทิน (ซอสามสาย), ครูสุวิสุวิทย์ บวรวัฒนา (ซอสามสาย, ซอด้วง, ซออู้, ขิมขิสาย), ครูประเวช กุมุกุทมุ (ซอด้วง), ครูอุดม อรุณรัตรัน์ (ซอสามสาย), ครูทองดี สุจสุริตริกุลกุ (จะเข้)ข้, ครูจันทร์ โตวิสุทสุธิ์ (เครื่องสายทั้งวง), ครูจำ ลอง อิศรางกูรกู (เครื่องสายทั้งวง), ครูบรรยง แดงกูรกู (เครื่องสายทั้งวง), ครูไมตรี พุ่มพุ่เสนาะ (ซอสามสาย, ขิมขิ ), ครูเฉลิม ม่วม่งแพรศรี (ซอด้วง), ครูศิลศิปี ตราโมท (ขิมขิ ) ฯลฯ เครื่องดนตรีในมือมืครูดนตรีชั้รีนชั้ยอดเหล่าล่นี้ ได้กลายเป็น สื่อสื่ ในการส่งส่เสียสีงเพลงไพเราะในการบรรเลงเพื่อพื่บริกริารสังสัคม การบันทึกเสียสีงครั้งรั้สำ คัญๆ และการสอนดนตรีไรีทย ให้แห้ก่ลูก่กลูศิษศิย์รุ่ย์รุ่นรุ่ต่อๆมา แน่นน่อนว่าลูกลูศิษศิย์ขย์องท่านเหล่าล่นี้ ก็สืก็บสืทอดรสนิยนิมความพึงพึพอใจในคุณคุภาพของเครื่อรื่ง ดนตรีดุริดุยบรรณไปด้วยในตัว แม้กม้ระทั่งเมื่อมื่ยุติบทบาทของร้าร้นดุริดุยริบรรณไปแล้วล้เครื่อรื่งดนตรีเรีก่าก่ๆ ของดุริดุยริบรรณก็ยัก็งยัเป็นที่ต้องการของ สังสัคมนักนัสะสมเครื่องดนตรีไรีทย ติดตามถามหาเครื่อรื่งดนตรีที่รี ที่ ยังยัมีคุมีณคุภาพดี หรือรืนำ เครื่อรื่งดุริดุยริบรรณที่ชำ รุดไป ซ่อซ่มแซมแล้วล้กลับลัมาเล่นล่ ใหม่ มีกมีารประกาศซื้อซื้ขายเครื่อรื่งดนตรีดุรีริดุยริบรรณกันกั ในหน้าน้เว็ปไซต์-โชเชียชีลมีเมีดีย-สังสัคม ออนไลน์ด้น์ ด้วยราคาที่สูงสูมาก แม้จม้ะเป็นเครื่อรื่งดนตรีือสอง ก็ยัก็งยัมีผู้มีสผู้ นใจ ถือเป็นตราสินสิค้าหนึ่ีงในเครื่อรื่งดนตรีคุรีณคุภาพ ของอดีตที่สังสัคมรุ่นรุ่ ใหม่ใม่ห้คห้วามเชื่อชื่ถืออย่าย่งยิ่งยิ่ทีเดียว
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๔๓ ประตูร้ตูานดุริดุยบรรณ จากสาย ถึงถึเปี่ย ปี่ มศรี ปราณี สู่คสู่ วามเปลี่ย ลี่ นแปลง ไม่ย้ม่อย้นกลับลั นายสาย ดุริยางกูร ผู้ก่อตั้งร้านดุริยบรรณมีชีวิตได้ทันเห็นความก้าวหน้าของกิจการที่ตนเองและเพื่อน พ้องร่วมกันสร้างขึ้นได้เพียง ๑๙ ปีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองไม่นาน ก็ล้มเจ็บลงและถึงแก่กรรม งาน บริหารร้านดุริยบรรณถูกส่งต่อมายังบุตรสาวคนเล็ก คือ นางสาวเปี่ยมศรี ดุริยางกูร ซึ่งมีอายุเพียง ๑๗ ปีใน ขณะนั้น แม้ยังเป็นนักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยา แต่ต้องแบกรับหน้าที่ทั้งการดูแลกิจการร้านขายเครื่องดนตรี และโรงพิมพ์ศิลารักษ์ของนางเพิ่มผู้เป็นมารดาที่ทิ้งสมบัติเอาไว้ให้ จึงตัดสินใจออกจากโรงเรียนมาทำ งานอย่าง จริงจัง จนหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ โรงพิมพ์ประสบปัญหาเสียหายรุนแรง จึงคงเหลือแต่ร้านขายเครื่องดนตรี เล็กๆที่บิดาได้ฝากเป็นมรดกเอาไว้ ชีวิตของเธอไม่ราบรื่นในแง่ครอบครัว หากแต่ประสบความสำ เร็จอย่างยิ่งใน การเป็นผู้บริหารกิจการดนตรีไทย พัฒนาการตลาด การบริการลูกค้า การโฆษณาประชาสัมพันธ์ จนกระทั่งชื่อ เสียงของดุริยบรรณขจรขยายออกไปไกลทั้งประเทศไทย จนแม้ต่างประเทศก็เป็นที่รู้จัก มีนักทัศนาจรและนัก ดนตรีวิทยาฝรั่งมังค่าเข้ามาเป็นลูกค้ามากมาย เครื่องดนตรีดุริยบรรณจำ นวนมากถูกส่งไปยังพิพิธภัณฑ์ดนตรี ของโลกหลายแห่งและถูกซื้อไปเก็บรักษาตามบ้านของอาคันตุกะที่มาเยี่ยมเยือนย่านถนนราชดำ เนิน-ถนน ตะนาว-ถนนข้าวสารและสี่แยกคอกวัว ในขณะเดียวกัน การเติบโตของหลักสูตรดนตรีไทยที่แพร่ไปในสถาน ศึกษาทั้งระบบประถม-มัธยมและอุดมศึกษา ก็ได้ใช้ผลผลิตของร้านดุริยบรรณเป็นปัจจัยสนับสนุน ให้เยาวชน ไทยได้มีเครื่องดนตรีสวยงามคุณภาพดีใช้ในการเรียนการฝึก และคนรักดนตรีโดยทั่วไป ก็ได้รับอานิสงส์ของ กิจการดุริยบรรณภายใต้การบริหารงานของทายาทนายสายผู้นี้โดยถ้วนหน้า ธุรกิจของดุริยบรรณมีทั้งขายปลีก และขายส่ง ตลอดจนการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ตามระบบของการบริหารราชการรุ่นใหม่ ความมีน้ำ ใจไมตรีของ นางเปี่ยมศรี เป็นที่ยอมรับนับถือของนักดนตรีไทยทั้งสายอาชีพและสมัครเล่น เป็นที่เคารพรักของช่างทำ เครื่องดนตรีที่เกี่ยวข้อง และเป็นเสมือนอีกหนึ่งความทรงจำ ที่ผู้ที่ที่เคยเยี่ยมเยือนร้านดุริยบรรณ ถนนตะนาว โดยเฉพาะผู้ที่เคยผ่านเส้นทางและวิกฤตการณ์อันผันผวนของถนนราชดำ เนินในช่วงหลัง พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นต้น มา ไม่ว่าจะเกิดความขัดแย้ง ความเดือดร้อน หรือความเปลี่ยนแปลงใด ๆ บนเส้นทางที่เสมือนหนึ่งสัญลักษณ์ ประชาธิปไตย แต่ดุริยบรรณก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยังยืนหยัดความประทับใจเอาไว้ว่า ร้านค้าเล็กๆแห่งนี้ มีคุณ ป้า คุณย่าคุณยาย ที่ให้การต้อนรับลูกค้าทุกคนด้วยอัธยาศัยงดงามเสมอ จัดหาเครื่องดนตรีคุณภาพดีมาบริการ จำ หน่าย ดูแลลูกค้าอย่างเป็นมิตร เป็นญาติมากกว่ามุ่งขายสินค้าอย่างเดียว สนับสนุนทุนในการจัดกิจกรรม ดนตรีไทยของคนรุ่นใหม่อย่างเต็มอกเเต็มใจทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นงานดนตรีไทยมัธยมศึกษา ดนตรีไทย อุดมศึกษา หรือการประกวดดนตรีไทยแต่ละครั้ง ก็ยังมีส่วนร่วมในการให้รางวัลแก่ผู้เข้าประกวดที่ประสบ ความสำ เร็จ นางเปี่ยมศรีปฏิบัติตนเป็นที่เคารพอย่างเสมอต้นเสมอปลายจนถึงวาระสุดท้าย เธอถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๔ ด้วยโรคตับอักเสบและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ช่วงหลังจากกรุงรัตนโกสินทร์ฉลองสองร้อยปีเป็นต้นมา เกิดร้านค้าเครื่องดนตรีไทยและธุรกิจการขาย ปลีกขายส่งขึ้นมาอีกหลายแห่ง เกิดการแข่งขันในแง่การตลาด ตราสินค้าใหม่ ๆ การเปลี่ยนแปลงความนิยม ดนตรีไทยในคนรุ่นใหม่ การคิดค้นรูปแบบของตัวสินค้าที่แตกต่างออกไป การปรับเปลี่ยนวัสดุสร้างเครื่องดนตรี ที่กลายเป็นการลดต้นทุนและเป็นยุทธศาสตร์การตัดราคาสินค้าดนตรีไทยกันเอง แต่ก็นับว่าดุริยบรรณยังคง ครองใจผู้คนอย่างไม่เสื่อมคลาย หลังจากนางเปี่ยมศรีถึงแก่กรรม กิจการยังคงดำ เนินต่อมาอีกระยะหนึ่ง โดยนางปราณี พุ่มพวง ผู้เป็น บุตรีร้านดุริยบรรณเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนผ่านของสังคมไทยและสังคมโลกที่โกลาหนอลหม่านอย่างเงียบ สงบริมถนนตะนาวมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๕๔๔ แล้วจึงย้ายสถานที่ตั้งไปที่ ๒๑๐/๖ ถ.สุโขทัย ต.สวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร อันที่ที่พำ นักของครอบครัวนางเปี่ยมศรีมาตั้งแต่ต้น
๑๔๔ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ร้านขายเครื่องดนตรีเก่าก่แก่ โรงเรียรีนฝึกฝึวิชวิาช่าช่งทำ เครื่อรื่งดนตรีโรีบราณ และบ้านที่อ ที่ บอุ่นอุ่ ของคนรักรัดนตรีชื่รีชื่อชื่ว่าว่ ดุริดุยบรรณ ปิดปิกิจกิการลงอย่าย่งถาวรในปี พ.ศ.๒๕๔๗ ที่บ้ ที่ านถนนสุโสุขทัยทัเป็นการจบสิ้นสิ้ซึ่งซึ่อยู่ใยู่นช่วช่งอายุวัยุยวั๙๐ ปีพอดี หากเปรียบกับอายุคยุนก็แก็ก่ชก่รามาก เหนื่อนื่ยเหน็ดน็เกินกิกว่าว่จะเดินดิทางแข่งข่กับกัสภาพธุรธุกิจกิวูบวูวาบฉาบฉวยในเมือมืงใหญ่นี้ ได้ แม้เม้ลขตัวตัเดียดีวกันกัจะยืนยืยันยัความสง่าง่งามสำ คัญคับางประการในทางประวัติวัศติาสตร์วัร์ฒวันธรรมดนตรีไรีทยที่ผ่ ที่ าผ่นกาล สมัยมัมายาวนานเกือกืบศตวรรษก็ตก็าม พุทพุธศักศัราชสองพันพัห้าห้ร้อร้ยห้าห้สิบสิเจ็ดจ็ ครบศตวรรษของเส้นทางเลือกใหม่ของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง นายสาย ดุริยางกูร ตัดสินใจหันเหวิถีการเดินทาง ของตระกูลดนตรีที่คุณปู่ตนเองเคยสร้างตำ นานยิ่งใหญ่เอาไว้ แหวกกรอบกฏเกณฑ์จากสายพันธุ์นัธุ์ นักดนตรีไทยแนว ประเพณีมาเป็นพ่อค้าขายเครื่องดนตรีแปลกหูแปลกตาของคนรุ่นใหม่ในเมืองบางกอกเมื่อครั้งกระนั้นครบ ศตวรรษกับความกล้าที่จะทำ ให้คนไทยได้รู้จักกับขิมจีน ซอฝรั่ง หีบเพลงชัก ได้หันมาต่อรองกับสถานภาพใหม่ ของดนตรีกระแสโลกอาณานิคมใหม่กับเพลงไทยที่เป็นรากรสนิยมบันเทิงเก่า ครบศตวรรษที่ร้ที่ านดนตรีเล็กล็ๆ ในเมือมืงหลวง สะกิดกิ ให้ช่ห้าช่งไทยได้ทด้ดลองพัฒพันาเครื่อรื่งดนตรีไรีทยให้ไห้ด้มด้าตรฐาน แข่งข่กับกัเครื่องดนตรีนำ เข้าข้จากเมือมืงนอก เพื่อพื่จะเล่นล่ด้วด้ยกันกั ได้เด้ป็นวงเครื่อรื่งสายผสมแสนโก้ใก้นที่สุ ที่ ดสุกระทั่งทั่ส่งส่ผลมาถึงถึ การพัฒพันาเครื่องประกอบสิ่งสิ่ละอันอัพันพัละน้อน้ยอย่าย่งสายซอ สายจะเข้ ยางสน คันคัชักชั ไม้ดีม้ดดี ให้สห้วยงามทนทานมี คุณคุภาพเป็นที่ย ที่ อมรับด้วด้ย ก่อก่นที่จ ที่ ะเกิดกิการแข่งข่ขันขัเชิงชิธุรธุกิจกิอย่าย่งแปลกแปลงในวงการดนตรีไรีทยในช่วช่งต่อต่ๆมา ครบศตวรรษที่ร้านดนตรีเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง ที่ท้าทายให้ครูดนตรีอย่างขุนเจริญดนตรีการได้ทดลองแปลง สัญลักษณ์ตัวเลขเป็นรหัสแทนเสียงดนตรี เกิดสินค้าโน้ตเพลงที่แบ่งปันให้แก่คนรักสมัครเล่นได้มีความสุขใน การเปิดหน้ากระดาษวาดลีลาไปตามตัวเลขที่ประทับไว้ และครบศตวรรษที่ที่คำ ว่า “ดุริยบรรณ” ได้พิสูจน์คุณค่าของตนเองตามชื่อที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระสังฆราชแห่งวัดบวรนิเวศวิหาร ทรงพระกรุณาตั้งชื่อประทานเอาไว้เป็น มงคลนาม ชุมชุชนเก่าก่แก่ขก่องสี่แ สี่ ยกคอกวัววัพื้นพื้ที่เ ที่ ดิมดิซึ่งซึ่เป็นป็ตึกตึแถวโบราณ เปลี่ย ลี่ นสภาพเป็นร้าร้นขายเครื่อรื่งอัญอัมณีแณีละร้าร้น ฟาสต์ฟู้ต์ดฟู้ ในกาลต่อต่มา ชุมชุชนรายรอบเปลี่ย ลี่ นโฉม แสงสี ภาษา เงินงิตรา แฟชั่นชั่ ไลฟ์สฟ์ ไตล์ ควันวัพิษพิและเสียสีงขยะอื้ออื้อึงอึ ดังดักลบหูกหูลบใจจนผู้คผู้ นลืมลื ไปแล้วล้ว่าว่ดุริดุยริบรรณคือคือะไร ที่ไที่ หน เมื่อมื่ ไร อย่าย่งไร ทำ ไม ร้าร้นขายเครื่อรื่งดนตรีไรีทยร้าร้นนั้นนั้ เป็นอดีตดีหนึ่งนึ่ที่ถู ที่ กถูหลงลืมลืของย่าย่นถนนข้าข้วสารแหล่งล่ท่อท่งเที่ย ที่ วอันอัเลื่อลื่งระบือลือลื โลกไปในที่สุ ที่ ดสุ
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๔๕ บรรณานุกรม ๑. ราชบัณฑิตยสถาน. สารานุกรมศัพท์ดนตรีไทย ภาคประวัตินักดนตรีและนักร้อง พิมพ์ครั้งที่ ๒, ๒๕๔๙. ๒. พูนพิศ อมาตยกุลและคณะ. จดหมายเหตุดนตรี ๕ รัชกาล พุทธศักราช ๒๔๑๑-๒๕๔๙. ๒๕๕๐. ๓. เปี่ยมศรีดุริยางกูร. อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ. ๒๕๓๔. ๔. วิมล อังสุนันทวิวัฒน์. อวสานดุริยบรรณ มายามรณะของชุมชนดนตรีไทย นิตยสารผู้จัดการ. ตุลาคม ๒๕๕๑ ๕. อภัย นาคคง. ทัศนะเกี่ยวกับช่างทำ เครื่องดนตรีไทย ใน ดนตรีไทยอุดมศึกษาครั้งที่ ๓๒. ๒๕๓๘. ๖. จ้อน ไทรวิมาน. สัมภาษณ์. ๑๙ ธันธัวาคม ๒๕๕๕ ๗. เชาวน์ ชาวนาเป้า. สัมภาษณ์. ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗. ๘. แทรี่ มิลเลอร์ศ.ดร., Prof.Dr.Terry Miller. สัมภาษณ์. ๒ มีนาคม ๒๕๕๘. ๙. Narkkong, Anant. Aspects of Aspects of Improvisation in Thai Classical Drumming. M.Phil thesis, School of Oriental and African Studies, University of London. 1992. ๑๐. https://www.facebook.com/pages/ดุริยบรรณที่รัก/435742003198796
๑๔๖ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ครูวาทิต ไทรวิมาน ให้สัมภาษณ์รายการดนตรีทิพย์ จากสถานีวิทยุจุฬาฯ ออกอากาศเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ดำ เนินรายการโดย ดร.ตรีทิพ กมลศิริ และผศ.ดร.สุรพงษ์ บ้านไกรทอง ครูวาทิต ไทรวิมาน สาธิตการบรรเลงซอสามสายเพลงแขกมอญ ในรายการดนตรีทิพย์ จากสถานีวิทยุจุฬาฯ ออกอากาศเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ตำ นานครูช่างดนตรีไทย | ๑๔๗ ครูวาทิต ไทรวิมาน ให้สัมภาษณ์รายการดนตรีทิพย์ จากสถานีวิทยุจุฬาฯ ออกอากาศเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ดำ เนินรายการโดย ดร.ตรีทิพ กมลศิริ และผศ.ดร.สุรพงษ์ บ้านไกรทอง ครูวาทิต ไทรวิมาน สาธิตการกลึงปล้องไฉนซอสามสาย ในรายการดนตรีทิพย์ จากสถานีวิทยุจุฬาฯ ออกอากาศเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
๑๔๘ | อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ วาทิต (ช่างจ้อน) ไทรวิมาน ครูวาทิต ไทรวิมาน ถ่ายทอดความรู้ทางดนตรีไทยแก่เยาวชนและผู้สนใจ (๑) ครูวาทิต ไทรวิมาน ถ่ายทอดความรู้ทางดนตรีไทยแก่เยาวชนและผู้สนใจ (๒)