แผนการจัด จั การเรีย รี นรู้ วิช วิ าพระพุท พุ ธศาสนา ( ส๒๑๑๐๓) ระดับ ดั ชั้นมัธ มั ยมศึก ศึ ษาปีที่ ปี ที่ ๑ โรงเรีย รี นอุดรพิทพิยานุกูล กู อำ เภอเมือ มื ง จังหวัดวัอุดรธานี สังกัดสำ นักงานเขตพื้น พื้ ที่ก ที่ ารศึก ศึ ษามัธมัยมศึก ศึ ษาอุดรธานี
บันทึกข้อความ ส่วนราชการ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ที่ วันที่16 ตุลาคม 2566 เรื่อง ขออนุมัติใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เรียน ผู้อ านวยการโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ตามที่ข้าพเจ้า นางสาวจิราพร นิยมไร่ ต าแหน่งนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาพระพุทธศาสนา รหัสวิชา ส21106 จ านวน 0.1หน่วยกิต ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ข้าพเจ้าจึงได้วิเคราะห์ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ค าอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา เพื่อจัดท าแผนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล พุทธศักราช 2551 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) โดยจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ดังนั้นจึงขออนุมัติใช้แผนการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้บรรลุเป้าหมายของหลักสูตรฯต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ลงชื่อ...................................................... (นางสาวจิราพร นิยมไร่) ต าแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางวริศรา ขันติประกอบ) ต าแหน่ง ครูวิทยฐานะ ครูช านาญการ ความคิดเห็นหัวหน้ากลุ่มสาระ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... (นางสมพร โยวะบุตร) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา พระพุทธศาสนา (ส๒๑๑๐๓) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จิราพร นิยมไร่ การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ๑ รหัสวิชา ED๑๘๕๐๑ (INTERNSHIP IN SCHOOL ๑) คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา พระพุทธศาสนา (ส๒๑๑๐๓) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล นางสาวจิราพร นิยมไร่ รหัสนักศึกษา ๖๒๑๐๐๑๐๗๑๑๘ สาขาวิชาพุทธศาสนศึกษา การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ๑ รหัสวิชา ED๑๘๕๐๑ (INTERNSHIP IN SCHOOL ๑) คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖
3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ท าไมต้องเรียนสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจว่ามนุษย์ด ารงชีวิตอย่างไร ทั้งในฐานะปัจเจกบุคคล และการอยู่ร่วมกันในสังคม การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม การจัดการทรัพยากรที ่มีอยู ่อย่างจ ากัด นอกจากนี้ ยังช ่วยให้ผู้เรียนเข้าใจถึงการพัฒนา เปลี ่ยนแปลงตามย ุคสมัย กาลเวล า ตามเหต ุปัจจัยต ่าง ๆ ท าให้เกิดความเข้าใจในตนเอง และผู้อื ่น มีความอดทน อดกลั้น ยอมรับในความแตกต่าง และมีคุณธรรม สามารถน าความรู้ไปปรับใช้ในการด าเนินชีวิต เป็นพลเมืองดี ของประเทศชาติ และสังคมโลก เรียนรู้อะไรในสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมว ่าด้วยการอยู ่ร่วมกันในสังคม ที่มีความเชื่อมสัมพันธ์กัน และมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตนเองกับ บริบทสภาพแวดล้อม เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ มีความรู้ ทักษะ คุณธรรม และค ่านิยมที่ เหมาะสมโดยได้ก าหนดสาระต่าง ๆ ไว้ ดังนี้ ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรมหลักธรรม ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที ่ตนนับถือ การน าหลักธรรมค าสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเอง และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เป็นผู้กระท าความดี มีค่านิยมที่ดีงาม พัฒนาตนเองอยู่เสมอ รวมทั้ง บ าเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวม หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการด าเนินชีวิต ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลักษณะและความส าคัญ การ เป็นพลเมืองดี ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ปลูกฝังค่านิยม ด้านประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพการด าเนินชีวิตอย ่าง สันติสุขในสังคมไทยและสังคมโลก เศรษฐศาสตร์การผลิต การแจกจ่าย และการบริโภคสินค้าและบริการ การบริหารจัดการ ทรัพยากรที ่มีอยู ่อย ่างจ ากัดอย ่างมีประสิทธิภาพ การด ารงชีวิตอย ่างมีดุลยภาพ และการน าหลัก เศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิตประจ าวัน
4 ประวัติศาสตร์เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วิธีการทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการ ของมนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์และเปลี ่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ผลกระทบที่ เกิดจากเหตุการณ์ส าคัญในอดีต บุคคลส าคัญที่มีอิทธิพลต ่อการเปลี ่ยนแปลงต่าง ๆ ในอดีตความ เป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย แหล่งอารยธรรมที่ส าคัญของโลก ภูมิศาสตร์ ลักษณะของโลกทางกายภาพ ลักษณะทางกายภาพ แหล่งทรัพยากร และ ภูมิอากาศของประเทศไทย และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก การใช้แผนที ่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธ์กันของสิ่งต ่าง ๆ ในระบบธรรมชาติ ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทาง ธรรมชาติ และสิ่งที ่มนุษย์สร้างขึ้น การน าเสนอข้อมูลภูมิสารสนเทศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อการ พัฒนาที่ยั่งยืน สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวัติ ความส าคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติ ตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธ ารงรักษา พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ สาระที่ ๒ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการด าเนินชีวิตในสังคม มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และ ธ ารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ด ารงชีวิตอยู ่ร่วมกันในสังคมไทย และสังคมโลกอย่างสันติสุข มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธา และธ ารง รักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข
5 สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จ ากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจ หลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการด ารงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และความจ าเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็น ระบบ มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์ และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความส าคัญ และสามารถ วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและธ ารงความเป็นไทย สาระที่ ๕ ภูมิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผล ต่อกันและกันในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที ่และเครื ่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหาวิเคราะห์ สรุป และใช้ข้อมูลภูมิสารสนเทศอย่างมี ประสิทธิภาพ มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิด การสร้างสรรค์วัฒนธรรม มีจิตส านึก และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
6 คุณภาพผู้เรียน จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ได้เรียนรู้เรื ่องเกี ่ยวกับตนเองและผู้ที ่อยู ่รอบข้าง ตลอดจนสภาพแวดล้อมในท้องถิ ่น ที่อยู่อาศัย และเชื่องโยงประสบการณ์ไปสู่โลกกว้าง ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีทักษะกระบวนการ และมีข้อมูลที่จ าเป็นต่อการพัฒนาให้เป็นผู้มี คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติปฏิบัติตามหลักค าสอนของศาสนาที ่ตนนับถือ มีความเป็นพลเมืองดี มี ความรับผิดชอบ การอยู ่ร่วมกันและการท างานกับผู้อื ่น มีส่วนร่วมในกิจกรรมของห้องเรียน และได้ ฝึกหัดในการตัดสินใจ ได้ศึกษาเรื ่องราวเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน และชุมชนในลักษณะการบูรณาการ ผู้เรียนได้เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับปัจจุบันและอดีต มีความรู้พื้นฐานทางเศรษฐกิจได้ข้อคิดเกี ่ยวกับ รายรับ-รายจ ่ายของครอบครัว เข้าใจถึงการเป็นผู้ผลิต ผู้บริโภค รู้จักการออมขั้นต้นและวิธีการ เศรษฐกิจพอเพียง ได้รับการพัฒนาแนวคิดพื้นฐานเกี ่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที ่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภูมิปัญญา เพื่อเป็นพื้นฐานในการท าความเข้าใจในขั้นที่สูงต่อไป จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ได้เรียนรู้เรื ่องของจังหวัด ภาค และประทศของตนเอง ทั้งเชิงประวัติศาสตร์ ลักษณะทาง กายภาพ สังคม ประเพณี และวัฒนธรรม รวมทั้งการเมืองการปกครอง สภาพเศรษฐกิจโดยเน้นความ เป็นประเทศไทย ได้รับการพัฒนาความรู้และความเข้าใจ ในเรื่องศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตนตาม หลักค าสอนของศาสนาที่ตนนับถือ รวมทั้งมีส่วนร่วมศาสนพิธี และพิธีกรรมทางศาสนามากยิ่งขึ้น ได้ศึกษาและปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิหน้าที ่ในฐานะพลเมืองดีของท้องถิ ่น จังหวัด ภาค และประเทศ รวมทั้งได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ของท้องถิ่นตนเองมากยิ่งขึ้น ได้ศึกษาเปรียบเทียบเรื ่องราวของจังหวัดและภาคต ่าง ๆ ของประเทศไทยกับประเทศ เพื ่อนบ้าน ได้รับการพัฒนาแนวคิดทางสังคมศาสตร์ เกี ่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที ่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์เพื ่อขยายประสบการณ์ไปสู ่ การท าความเข้าใจในภูมิภาคซีกโลกตะวันออกและตะวันตกเกี ่ยวกับศาสนา คุณธรรม จริยธรรม
7 ค่านิยมความเชื ่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การด าเนินชีวิต การจัดระเบียบทางสังคม และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมจากอดีตสู่ปัจจุบัน ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สาระที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวัติ ความส าคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่นและปฏิบัติตาม หลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือสู่ประเทศไทย การสังคายนา การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศ ไทย ๒. วิเคราะห์ความส าคัญของ พระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับ ถือ ที่มีต่อสภาพแวดล้อมในสังคมไทย รวมทั้งการพัฒนาตนและครอบครัว ความส าคัญของพระพุทธศาสนาต่อ สังคมไทยในฐานะเป็น ศาสนาประจ าชาติ สถาบันหลักของสังคมไทย สภาพแวดล้อมที่กว้างขวาง และครอบคลุม สังคมไทย การพัฒนาตนและครอบครัว ๓. วิเคราะห์พุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ จนถึงบ าเพ็ญทุกรกิริยา หรือประวัติ ศาสดาที่ตนนับถือตามที่ก าหนด สรุปและวิเคราะห์ พุทธประวัติ - ประสูติเทวทูต ๔ - การแสวงหาความรู้ - การบ าเพ็ญทุกรกิริยา ๔. วิเคราะห์และประพฤติตนตาม แบบอย่างการด าเนินชีวิตและข้อคิด จากประวัติสาวก ชาดก/เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอย่างตามที่ก าหนด พุทธสาวก พุทธสาวิกา พระมหากัสสปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกะ
8 ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง นางวิสาขา ชาดก อัมพชาดก ติตติรชาดก ๕. อธิบายพุทธคุณ และข้อธรรม ส าคัญในกรอบอริยสัจ ๔ หรือ หลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ ตามที่ก าหนด เห็นคุณค่าและน าไป พัฒนาแก้ปัญหาของตนเองและ ครอบครัว พระรัตนตรัย , พุทธคุณ ๙ ,อริยสัจ ๔ ทุกข์ (ธรรมที่ควรรู้) - ขันธ์ ๕ - ธาตุ ๔ สมุทัย (ธรรมที่ควรละ) - หลักกรรม - ความหมายและคุณค่า - อบายมุข ๖ นิโรธ (ธรรมที่ควรบรรลุ) - สุข ๒ (กายิก, เจตสิก) - คิหิสุข มงคล ๓๘ - ไม่คบคนพาล - คบบัณฑิต - บูชาผู้ควรบูชา พุทธศาสนสุภาษิต
9 ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง มรรค (ธรรมที่ควรเจริญ) ไตรสิกขา กรรมฐาน ๒ ปธาน ๔ โกศล ๓ มงคล ๓๘ - ไม่คบคนพาล - คบบัณฑิต - บูชาผู้ควรบูชา พุทธศาสนสุภาษิต ย เว เสวติ ตาทิโส คบคนเช่นใดเป็นคนเช่นนั้น อตฺตนา โจทยตฺตาน จงเตือนตน ด้วยตน นิสมฺม กรณ เสยฺโย ใคร่ครวญก่อนท าจึงดี ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา เรือนที่ครองไม่ดีน าทุกข์มาให้ ๖. เห็นคุณค่าของการพัฒนาจิต เพื่อ การเรียนรู้และการด าเนินชีวิต ด้วยวิธี คิดแบบโยนิโสมนสิการคือวิธีคิดแบบ คุณค่าแท้ – คุณค่าเทียม และวิธีคิด แบบคุณ – โทษ และทางออก หรือ การพัฒนาจิตตามแนวทางของ ศาสนาที่ตนนับถือ โยนิโสมนสิการ วิธีคิดแบบคุณค่าแท้ – คุณค่าเทียม วิธีคิดแบบคุณ - โทษและทางออก ๗. สวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจิต และเจริญปัญญาด้วยอานาปานสติ สวดมนต์แปล และแผ่เมตตา
10 ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง หรือตามแนวทางของศาสนาที่ตนับ ถือตามที่ก าหนด วิธีปฏิบัติและประโยชน์ของการบริหารจิต และเจริญปัญญา การฝึกบริหารจิตและเจริญ ปัญญาตามหลักสติปัฎฐานเน้นอานาปานสติ น าวิธีการบริหารจิตและเจริญปัญญาไปใช้ ในชีวิตประจ าวัน ๘. วิเคราะห์และปฏิบัติตนตาม หลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ใน การด ารงชีวิตแบบพอเพียง และดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่ร่วมกัน ได้อย่างสันติสุข หลักธรรม (ตามสาระการเรียนรู้ข้อ ๕) ๙. วิเคราะห์เหตุผลความจ าเป็นที่ทุก คนต้องศึกษาเรียนรู้ศาสนาอื่นๆ ศาสนิกชนของศาสนาต่างๆ มีการประพฤติ ปฏิบัติตนและวิถีการด าเนินชีวิตแตกต่างกันตาม หลักความเชื่อและค าสอน ของศาสนาที่ตน นับถือ ๑๐. ปฏิบัติตนต่อศาสนิกชนอื่นใน สถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม การปฏิบัติอย่างเหมาะสมต่อศาสนิกชนอื่นใน สถานการณ์ต่างๆ ๑๑. วิเคราะห์การกระท าของบุคคลที่ เป็นแบบอย่างด้านศาสนสัมพันธ์ และ น าเสนอแนวทางการปฏิบัติของ ตนเอง ตัวอย่างบุคคลในท้องถิ่นหรือประเทศที่ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างด้านศาสนสัมพันธ์หรือมี ผลงานด้านศาสนสัมพันธ์
11 สาระที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธ ารงรักษา พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.๑ ๑. บ าเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถานของ ศาสนาที่ตนนับถือ การบ าเพ็ญประโยชน์ และการบ ารุงรักษาวัด ๒. อธิบายจริยาวัตรของสาวกเพื่อเป็น แบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติ และปฏิบัติ ตนอย่างเหมาะสมต่อสาวกของศาสนาที่ตน นับถือ วิถีชีวิตของพระภิกษุ บทบาทของพระภิกษุในการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา เช่น การแสดงธรรม ปาฐกถาธรรม การประพฤติตนให้เป็น แบบอย่าง การเข้าพบพระภิกษุ การแสดงความเคารพ การประนมมือ การ ไหว้ การกราบ การเคารพพระรัตนตรัย การฟังเจริญพระพุทธมนต์ การฟังสวดพระ อภิธรรม การฟังพระธรรมเทศนา ๓. ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อบุคคลต่าง ๆ ตามหลักศาสนาที่ตนนับถือตามที่ก าหนด ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อเพื่อนตามหลัก พระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตน นับถื ๔. จัดพิธีกรรม และปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรมได้ถูกต้อง การจัดโต๊ะหมู่บูชา แบบ หมู่๔ หมู่ ๕ หมู่ ๗ หมู่๙ การจุดธูปเทียน การจัดเครื่องประกอบโต๊ะหมู่บูชา ค าอาราธนาต่าง ๆ ๕. อธิบายประวัติ ความส าคัญ และ ปฏิบัติ ตนในวันส าคัญทางศาสนาที่ตนนับถือ ตามที่ก าหนด ได้ถูกต้อง ประวัติและความส าคัญของวันธรรมสวนะ วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา วันเทโว โรหณะ
12 ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ระเบียบพิธี พิธีเวียนเทียน การปฏิบัติตนใน วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชา วัน อาสาฬหบูชา วันธรรมสวนะและเทศกาลส าคัญ
13 ค ำอธิบำยรำยวิชำ รายวิชา สังคมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑ รหัสวิชา ส ๒๑๑๐๓ เรียน ๒๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน _________________________________________________________________________ ศึกษา วิเคราะห์ การสังคายนา การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศไทย พุทธประวัติ ตั้งแต่ประสูติจนถึงบ าเพ็ญทุกกรกิริยา ประวัติพรมหากัสสปะ พระอุบาลี นาถบิณฑิกะ นางวิสาขา พระเจ้าอโศก - มหาราช พระโสณะและพระอุดตระ บุคคลที่เป็นแบบอย่างด้านศาสนสัมพันธ์ ชาดก ในเรื่อง อัมพชาดก ติตติรชาดก ประพฤติตนตามแบบอย่างการด าเนินชีวิต และข้อคิดจากประวัติ พระสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอย่าง ความส าคัญของพระพุทธศาสนาที่มีในสังคมไทย รวมทั้งการพัฒนาตนและครอบครัว ความจ าเป็นที่ทุกคนต้องเรียนรู้ศาสนาอื่น ๆ ปฏิบัติตนต่อศาสนิก ชนอื่นในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม วิเคราะห์และปฏิบัติตนตามหลักพุทธคุณ ๙ อริยสัจ ๔ ทุกข์ (ธรรมที่ควรรู้) ในเรื่อง ขันธ์ ๕ สมุทัย (ธรรมที่ควรละ) ในเรื่อง กรรม อบายมุข ๖ นิโรธ (ธรรมที่ควรบรรลุ) ในเรื่อง สุข ๒ (กายิก, เจตสิก) คิหิสุข มรรค (ธรรมที่ควรเจริญ) ในเรื่อง ไตรสิกขา กรรมฐาน ๒ ปธาน ๔ โกศล ๓ มงคล ๓๘ (การไม่คบคนพาล การคบบัณฑิต การบูชาผู้ควรบูชา) ศาสนสุภาษิต ในเรื่อง ย เว เสวติ ตาทิโส (คบ คนเช่นใดย่อมเป็นเช่นนั้น) อตฺตนา โจทยตฺตาน า (จงเตือนตนด้วยตนเอง) นิสมฺม เสยฺโย (การ ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงท าดีกว่า) ทุราวาสา ฆรา ทุกขา (เหย้าเรือนที่ปกครองไม่ดีน าทุกข์มาให้) ปฏิบัติ ตนตามหลักธรรมและน าไปพัฒนา แก้ปัญหาของตนเองและครอบครัวในกรด ารงชีวิตแบบพอเพียง และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถน าไปปฏิบัติในการด าเนินชีวิต น าไปพัฒนาแก้ปัญหา ของตนเองและครอบครัว รักษาสิ่งแวดล้อม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ไฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการท างาน รักความเป็นไทย มีจิต สาธารณะ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
14 โครงสร้ำงรำยวิชำ วิชำสังคมศึกษำ ส ๒๑๑๐๓ สำระศำสนำ ศีลธรรม จริยธรรม รำยวิชำพื้นฐำน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๑ เวลำ ๒๐ ชั่วโมง หน่วยกำร เรียนรู้ เรื่อง มำตรฐำน/ตัวชี้วัด น้ ำหนักคะแนน รวม K P A ๑ ประวัติ และความส าคัญของ พระพุทธศาสนา ส ๑.๑ ม.๑/๑, ๒ ๕ ๗ ๒ ๑๔ ๒ พุทธประวัติพระสาวก ศาสนิกชนตัวอย่าง และชาดก ส ๑.๑ ม.๑/๓, ๔ ๕ ๘ ๓ ๑๖ รวมคะแนน ๑๐ ๑๕ ๕ ๓๐ สอบกลำงภำค ๒๐ ๓ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ส ๑.๑ ม.๑/๕ ๕ ๗ ๓ ๑๕ ๔ พุทธศาสนสุภาษิต ส ๑.๑ ม.๑/๕ ๕ ๘ ๒ ๑๕ รวมคะแนน ๑๐ ๑๕ ๕ ๓๐ สอบปลำยภำค ๒๐ รวมทั้งสิ้น ๑๐๐
15 วิเคราะห์หน่วยการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส๒๑๑๐๓ ล าดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ประวัติ และความส าคัญของ พระพุทธศาสนา ส ๑.๑ ม.๑/๑, ๒ พระพุทธศาสนาได้ก่อก าเนิด ขึ้นในประเทศอินเดีย เมื ่อ ประมาณ ๒,๕๐๐ กว่าปีมาแล้ว โดยหลังจากการสังคายนาครั้งที่ ๓ พระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งเป็น องค์อ ุปถัมภ์ก็ได้ทรงส ่งคณะ ธรรมทูตเดินยทางไปเผยแผ่ ศาสนายังดินแดนต่าง ๆ รวมทั้ง ดินแดนส ุวรรณภูมิด้วย นับ จากนั้นมาชาวไทยส่วนใหญ่ก็ได้ ยอมรับนับถือพระพุทธศาสนา เป็นหลักในการด าเนินชีวิตจนถึง ปัจจุบัน ดังนั้น จึงเป็นการสมควรยิ ่ง ที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยควรจะ ได้ศึกษาประวัติความเป็นมา ของพระพุทธศาสนา เพื ่อจะได้ ตระหนักถึงความส าคัญของ พระพุทธศาสนาที่มีความส าคัญ ต่อสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ๕ ๒ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ พุทธประวัติ พระสาวก ศาสนิกชนตัวอยาง และ ชาดก ส ๑.๑ ม.๑/๓, ๔ พระพุทธเจ้า เป็นบุคคลผู้ เพียบพร้อมด้วยคุณงามความดี หลายประการ พระธรรมค าสั ่ง สอ น ของพ ระ อง ค ์ ถื อเ ป็ น ๔
16 แนวทางด าเนินชีวิตที ่ประเสริฐ แก่ชาวโลก ช่วยปลดเปลื้องทุกข์ สร้างสุขที่แท้จริงแก่มนุษยชาติ พุทธสาวก พุทธสาวิกาต่าง ๆ เป็นผู้ที ่มีจริยวัตรงดงาม เพราะ ด าเนินชีวิตตามค าสอนของพระ พุทธองค์ ก า ร ศ ึกษ าพ ุท ธป ร ะ วั ติ ประวัติพระสาวก และศาสนิก ชนตัวอย่าง ตลอดจนชาดกต่าง ๆ ช่วยท าให้เราเห็นแบบอย ่าง ในการด าเนินชีวิตที ่มีคุณค่า ซึ ่ง เราส ามารถจะน าไปใช้เป็น แบบอย่างในการด าเนินชีวิตของ เรา เพื่อจะได้ด ารงชีวิตได้อย่าง สงบสุขและเจริญรุ่งเรือง ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนา ส ๑.๑ ม.๑/๕ ศาสนาทุกศาสนาย่อมมีหลัก ค าสอน อันเป็นหัวใจของศาสนา ส าหรับพระพ ุทธศาสนานั้น พระพ ุทธองค์ทรงตรัสไว้ว ่ า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา” แสดงให้เห็นว ่าหลักธรรมนั้น เป็นค ว ามจ ริงที ่มีอ ยู ่แล้ ว พระพุทธองค์เป็นเพียงผู้ค้นพบ แล้วน ามาเผยแผ ่แก่มวลมนุษย์ หลักธรรมจึงเป็นสิ ่งไม่เนื่องด้วย เวลา กล่าวคือ เป็นจริงเสมอ ไม ่มีอดีต ปัจจุบัน และอนาคต แม้ไม่มีใครค้นพบเลย หลักธรรม นี้ก็ยังเป็นจริงอยู่นั่นเอง ๕
17 พุทธศาสนิกชนที ่ดีพึงศึกษา และปฏิบัติตนตามหลักค าสอน ในพระพ ุทธศาสนา แล้วน า หลักธรรมนั้นมาเป็นเครื ่องมือ น าทางสร้างความเจริญรุ ่งเรือง ในการด าเนินชีวิตของตน ๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ พุทธศาสนสุภาษิต ส ๑.๑ ม.๑/๕ พุทธศาสนสุภาษิตเป็นค า สอนของพระพุทธเจ้าซึ่งจะเป็น ข้อความสั้น ๆ และเก็บรวบรวม ไว้ในพระไตรปิฎก ซึ ่งต่อมาก็ได้ น ามาเผยแผ ่ให้รับรู้กันอย ่าง กว้างขวาง พุทธศาสนสุภาษิต ถือเป็นข้อ คิด ข้อเตือนใจ เตือนสติของเราให้กระท าในสิ ่ง ที่ดีงามและถูกต้อง ดังนั้น พุทธศาสนิกชนพึง ศึกษาเรียนรู้พุทธศาสนสุภาษิต ซึ ่งนอกจากจะเป็น การเรียนรู้ ธรรมะในทางอ้อมแล้ว ยังช่วย ให้เกิดความรู้ความเข้าใจใน พระพุทธศาสนามากขึ้น และ สามารถน าไปใช้เป็นแนวทางใน ก า รด าเ นิน ชี วิตใ ห้พ บกั บ ความสุขและความเจริญ ๔ รวม ๑๘
18 ตำรำงวิเครำะห์โครงสร้ำงเวลำเรียน สำระที่ ๑ ศำสนำ ศีลธรรม จริยธรรม ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๑ จ ำนวน ๒๐ ชั่วโมง / ภำคเรียน ล ำดับ ที่ ชื่อหน่วย แผนที่ มำตรฐำน กำรเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สำระส ำคัญ เวลำ/ชั่วโมง น้ ำหนัก ๑ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ มำตรฐำน ส ๑.๑ ม.๑/๑, ๒ ประวัติ และควำมส ำคัญของ พระพุทธศำสนำ (๕) ๑๔ แผนที่ ๑ ปฐมนิเทศและการท าสังคายนา ๑ แผนที่ ๒ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้า สู่ประเทศไทย ๑ แผนที่ ๓ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้า สู่ป ร ะ เท ศไ ทยยุ ค เถ ร ว าท แบบลังกาวงศ์ ๑ แผนที่ ๔ ความส าคัญของ พระพุทธศาสนาต่อสังคมไทย ๑ แผนที่ ๕ พระพุทธศาสนากับการพัฒนา ตนและครอบครัว ๑ ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๒ มำตรฐำน ส ๑.๑ ม.๑/๓, ๔ พุทธประวัติ พระสำวก ศำสนิกชนตัวอยำง และชำดก (๔) ๑๖ แผนที่ ๖ พุทธประวัติ ๑ แผนที่ ๗ ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา ๑ แผนที่ ๘ ศาสนิกชนตัวอย่าง ๑ แผนที่ ๙ ชาดก ๑ แผนที่ ๑๐ สอบกลำงภำคเรียน๑/๒๕๖๖ ๑ ๒๐ ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๓ มำตรฐำน ส ๑.๑ ม.๑/๕ หลักธรรมทำง พระพุทธศำสนำ (๕) ๑๕ แผนที่ ๑๑ พระรัตนตรัย ๑ แผนที่ ๑๒ อริยสัจ ๔ (ทุกข์) ๑ แผนที่ ๑๓ อริยสัจ ๔ (สมุทัย) ๑
19 ล ำดับ ที่ ชื่อหน่วย แผนที่ มำตรฐำน กำรเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สำระส ำคัญ เวลำ/ชั่วโมง น้ ำหนัก แผนที่ ๑๔ อริยสัจ ๔ (นิโรธและมรรค) ๑ แผนที่ ๑๕ หลักธรรม ปธาน ๔ โกศล ๓ และมงคล ๑ ๔ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๔ มำตรฐำน ส ๑.๑ ม.๑/๕ พุทธศำสนสุภำษิต (๔) ๑๕ แผนที่ ๑๖ ย เว เสวติ ตาทิโส : คบคนเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น ๑ แผนที่ ๑๗ อตฺตนา โจทยตฺตาน : จงเตือนตนด้วยตนเอง ๑ แผนที่ ๑๘ นิสสมฺม กรณ เสยโย : การใคร่ครวญก่อนแล้วจึงท า ดีกว่า ๑ แผนที่ ๑๙ ทุราวาสา ฆรา ทุกขา : เหย้า เรือนที่ปกครองไม่ดีน าทุกข์มา ให้ ๑ แผนที่ ๒๐ สอบปลำยภำค ๑ ๒๐
20 ก าหนดการสอน รหัสวิชา ส๒๑๑๐๓ สาระการเรียนรู้พระพุทธศาสนา รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ วัน / เดือน / ปี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ / หน่วยย่อย จ านวนคาบ ปฐมนิเทศ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ประวัติ และความส าคัญของพระพุทธศาสนา (๕) การท าสังคายนา ๑ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศไทย ๑ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศไทยยุคเถรวาทแบบลังกาวงศ์ ๑ ความส าคัญของพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทย ๑ พระพุทธศาสนากับการพัฒนาตนและครอบครัว ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ พุทธประวัติ พระสาวก ศาสนิกชนตัวอยาง และชาดก (๔) พุทธประวัติ ๑ ประวัติพุทธสาวก พุทธสวิกา ๑ ศาสนิกชนตัวอย่าง ๑ ชาดก ๑ สอบกลางภาคเรียน ๑/๒๕๖๖ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (๕) พระรัตนตรัย ๑ อริยสัจ ๔ (ทุกข์) ๑ อริยสัจ ๔ (สมุทัย) ๑ อริยสัจ ๔ (นิโรธและมรรค) ๑ หลักธรรม ปธาน ๔ โกศล ๓ และมงคล ๑
21 วัน / เดือน / ปี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ / หน่วยย่อย จ านวนคาบ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๔ พุทธศำสนสุภำษิต (๔) ย เว เสวติ ตาทิโส : คบคนเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น ๑ อตฺตนา โจทยตฺตาน : จงเตือนตนด้วยตนเอง ๑ นิสสมฺม กรณ เสยโย : การใคร่ครวญก่อนแล้วจึงท าดีกว่า ๑ ทุราวาสา ฆรา ทุกขา : เหย้าเรือนที่ปกครองไม่ดีน าทุกข์มาให้ ๑ สอบปลายภาคเรียน ๑/๒๕๖๖ ๑ รวม ๒๐
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สาระการเรียนรู้ที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๕ ชั่วโมง เรื่อง การบ าเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถาน เวลา ๑ ชั่วโมง วันที่ เดือน พ.ศ. ๒๕๖๖ นางสาวจิราพร นิยมไร่ ผู้สอน ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธ ารงรักษาพระพุทธศาสนา ตัวชี้วัด ส ๑.๒ ม.๑/๑ บ าเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถานของศาสนาที่ตนนับถือ ส ๑.๒ ม.๑/๒ อธิบายจริยวัตรของสาวกเพื่อเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติ และปฏิบัติ ตนอย่างเหมาะสม ต่อสาวกของศาสนาที่ตนนับถือ ๒. สาระส าคัญ ศาสนสถานเป็นศูนย์กลางของสังคมและชุมชน ดังนั้นการบ าเพ็ญประโยชน์และบ ารุงรักษาศาสน สถานจึงเป็นสิ่งส าคัญเพื่อเป็นการสืบทอดและบ ารุงรักษาศาสนาให้สามารถตั้งมั่นอยู่ได้ในสังคม ซึ่งสามารถท า ได้โดยการ ร่วมกันสร้างบรรยากาศที่ดีร่วมกิจกรรมและปกป้องดูแลรักษาศาสนสถาน ในโอกาสต่างๆ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนศึกษาบทเรียนเรื่อง การบ าเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถาน นักเรียนสามารถ ๑. อธิบายวิธีการการบ าเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถานได้อย่างเหมาะสม (K) ๒. วิเคราะห์แนวทางการบ ารุงรักษาศาสนสถานได้อย่างเหมาะสม (P) ๓. อภิปรายคุณค่าของการบ าเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถานได้(A) ๔. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge) เรื่อง การบ าเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถาน ๕.๒ ด้านทักษะ (Process) เรื่อง แนวทางการบ ารุงรักษาศาสนสถาน ๕.๓ ด้านเจตคติ (Attitude) เรื่อง การมีส่วนร่วมในชั้นเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๓.๑ มีความสามัคคี นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและสามารถปรับตัวท างานกับผู้อื่นได้ ๕.๓.๒ มีวินัย นักเรียนมีความตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ๕.๓.๓ ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนมีความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน ๕.๓.๔ มุ่งมั่นในการท างาน นักเรียนเอาใจใส่และรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ๕.๓.๕ รักความเป็นไทย นักเรียนเห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบทอด เผยแพร่วัฒนธรรมไทย และใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม ๖. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ ๒๑ (๓R ๘C ๒L) R๑-Reading (อ่านออก) R๒-(W)Riting (เขียนได้) R๓-(A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C-๑ Critical thinking and problem solving คือ มีทักษ ะก า รคิดวิเค ราะห์ กา รคิดอย่ างมี วิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ C-๒ Creativity and innovation คือ การคิดอย่างสร้างสรรค์และคิดเชิงนวัตกรรม C-๓ Cross-cultural understanding คือ ค ว ามเข้ าใจในค วามแตกต่ างของวัฒนธ รรมและ กระบวนการคิดข้ามวัฒนธรรม C-๔ Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การท างานเป็นทีม และภาวะ ความเป็นผู้น า C-๕ Communication information and media literacy คือ มีทักษะในการสื่อสารและการรู้เท่า ทันสื่อ C-๖ Computing and IT literacy คือ มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และรู้เท่าทันเทคโนโลยี C-๗ Career and learning skills คือ มีทักษะอาชีพและการเรียนรู้ C-๘ Compassion คือ มีความเมตตากรุณา มีคุณธรรม และมีระเบียบวินัย L-๑ Learning (ทักษะการเรียนรู้) L-๒ Leadership (ทักษะความเป็นผู้น า)
๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning - นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและท าสมาธิก่อนเรียนทุกชั่วโมง - สอบเก็บคะแนนบทที่ ๕ ก่อนเรียน ๑๕ ข้อ ใช้เวลา ๑๐ นาที ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูให้นักเรียนดูรูปภาพวัดเก่าผุพัง ทรุดโทรม แล้วครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นในประเด็น ค าถามดังต่อไปนี้ - นักเรียนรู้สึกอย่างไรกับภาพดังกล่าว (แนวค าตอบ วัดอันเป็นศาสนสถานและเป็นศูนย์กลางของชุมชนไม่ได้รับการดูแลและมีสภาพที่ ทรุดโทรม) - ในฐานะพุทธศาสนิกชนนักเรียนคิดว่านักเรียนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาจากภาพดังกล่าว ได้อย่างไร (แนวค าตอบ ผู้คนในชุมชนสามารถเข้าไป ท านุบ ารุง รักษาความสะอาดและช่วยเหลือในส่วนที่ตนเอง สามารถท าได้) ขั้นสอน ๒. ครูให้ท ากิจกรรม “โครงการบ ารุงวัด สืบสานพุทธศาสนา” โดยครูแบ่งนักเรียนเป็น ๕ กลุ่ม แล้วให้ นักเรียนร่วมกันคิดโปสเตอร์เชิญชวนผู้คนในชุมชนมาร่วมบ าเพ็ญประโยชน์และบ ารุงรักษาวัดในชุมชน โดยระบุกิจกรรม และตกแต่งให้สวยงาม ออกแบบลงบนกระดาษขนาด เอ ๔ ที่ครูจัดเตรียมไว้ให้ ๓. ครูให้เวลานักเรียนออกแบบ ๑๐ นาที จากนั้นส่งตัวแทนออกมาน าเสนอผลงาน ๔. ครูถามนักเรียนถึงแนวทางการบ าเพ็ญประโยชน์และบ ารุงรักษาวัดวิธีอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ นักเรียนได้น าเสนอตามผลงานในกิจกรรม “โครงการบ ารุงวัด สืบสานพุทธศาสนา” ๕. ครูให้นักเรียนเขียนบันทึกการเรียนรู้ในประเด็นแนวทางการบ ารุงรักษาศาสนสถานลงในแบบ บันทึกกิจกรรม ขั้นสรุป
๖. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายโดยใช้ประเด็นค าถามดังต่อไปนี้ - เหตุใดจึงจ าเป็นจะต้องบ าเพ็ญประโยชน์และบ ารุงรักษาวัด (แนวค าตอบ เพราะ เป็นแนวทางที่ช่วยสืบทอดและพระพุทธศาสนาได้) - ถ้าหากพุทธศาสนิกชนร่วมกันบ าเพ็ญประโยชน์และบ ารุงรักษาวัดจะ ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไร (แนวค าตอบ ช่วยให้วัดสะอาดและยังคงสภาพเป็นศูนย์รวม จิตใจของพุทธศาสนิกชนในชุมชนสืบ ต่อไปและยังเป็นการส่งเสริมความ เจริญรุ่งเรืองของพุทธศาสนาได้อีกด้วย) - พุทธศาสนิกชนควรปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อเป็นการบ าเพ็ญประโยชน์ และบ ารุงรักษาวัด (แนวค าตอบ เข้าไปมีส่วนร่วมในการบ าเพ็ญประโยชน์หรือบ ารุงรักษาวัด ในกิจกรรมต่าง ๆ) ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒. โปรแกรมสื่อ Power Point เรื่อง การบ าเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถาน ๓. กระดาษ เอ ๔ ๔. ศึกษาค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ต ๕. ห้องเรียนออนไลน์ Line ๙. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (Knowledge) ๑. อธิบายวิธีการการบ าเพ็ญ ประโยชน์ต่อศาสนสถานได้ อย่างเหมาะสม (K) - การตอบค าถาม - ป ร ะ เ มิ น ผ ลง า น นักเรียน - แบบประเมินผล งานนักเรียน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ด้านทักษะ (Process) ๒. วิเค ราะห์แน วท างก า ร บ ารุงรักษาศาสนสถานได้อย่าง เหมาะสม (P) - ประเมินผลงานกลุ่ม - แบบประเมินผล งานนักเรียน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป ด้านเจตคติ (Attitude) ๓. อภิปรายคุณค่าของการ บ าเพ็ญป ระโ ยชน์ต่อศ าสน สถานได้ (A) - สังเกตพฤติกรรม นักเรียน - แ บ บ สั ง เ ก ต พฤติกรรมนักเรียน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป
๑๐. บันทึกผลหลังสอน ๑.ปัญหาที่เกิด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.วิธีการแก้ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓.ผลการแก้ปัญหา ………...……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..………………………………….......... (นางสาวจิราพร นิยมไร่) ครูผู้สอน ๑๑. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ๑. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๒. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
๓. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๔. สื่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๕. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..…………………………………...... (นางวริศรา ขันติประกอบ) ครูพี่เลี้ยง ๑๒. ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… (นางสมพร โยวะบุตร) หัวหน้ากลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ
แบบสังเกตการตอบค าถาม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการประเมิน รายการประเมิน รวม ๙ คะแนน สนใจและตั้งใจฟังค าถาม ตอบค าถามได้ตรงประเด็น ตอบค าถามอย่างสม่ าเสมอ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ลงชื่อ................................................ (นางสาวจิราพร นิยมไร่) ครูผู้สอน/ผู้ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน - ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ ๓ คะแนน - ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ ๒ คะแนน - ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 7 - 9 ดี 4 - 6 พอใช้ ต่ ากว่า 3 ปรับปรุง
แบบบันทึกการสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมรายกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้ประเมินใส่เครื่องหมาย ลงในแบบบันทึกการสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมรายกลุ่มให้ สอดคล้องกับระดับคุณภาพพฤติกรรมของผู้เรียน ล าดับ ชื่อ – สกุล พฤติกรรม/ระดับคะแนน ความสนใจ ในการท ากิจกรรม การมีส่วนร่วม ในการแสดงความคิดเห็น การตอบค าถาม การยอมรับฟัง ความคิดเห็นผู้อื่น ท างานตามที่ได้รับ มอบหมาย รวม ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ ปานกลางขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ................................................ (นางสาวจิราพร นิยมไร่) ครูผู้สอน/ผู้ประเมิน
เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้งให้ ๒ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้งให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๓ - ๑๕ ๙ - ๑๒ ๕ - ๘ ๓ ๒ ๑ ดี ปานกลาง ปรับปรุง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ค าชี้แจง : ให้ผู้ประเมินใส่ระดับคุณภาพคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ล าดับ ชื่อ - สกุล ผลการประเมินรายข้อ สรุปผล ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ ปานกลางขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ................................................ (นางสาวจิราพร นิยมไร่) ครูผู้สอน/ผู้ประเมิน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สาระการเรียนรู้ที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๕ ชั่วโมง เรื่อง เรียนรู้วิถีชีวิตของพระภิกษุ เวลา ๑ ชั่วโมง วันที่ เดือน พ.ศ. ๒๕๖๖ นางสาวจิราพร นิยมไร่ ผู้สอน ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธ ารงรักษาพระพุทธศาสนา ตัวชี้วัด ส ๑.๒ ม.๑/๒ อธิบายจริยวัตรของสาวกเพื่อเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติ และปฏิบัติ ตนอย่างเหมาะสม ต่อสาวกของศาสนาที่ตนนับถือ ๒. สาระส าคัญ ชาวพุทธที่ดีต้องปฏิบัติตนต่อบุคคลต่างๆ ตามมารยาทของชาวพุทธอย่างเหมาะสม นักบวชเป็น องค์ประกอบหนึ่งของในหลายศาสนา ซึ่งมีหน้าที่ในการฝึกฝน ปฏิบัติ อย่างไร ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนศึกษาบทเรียนเรื่อง เรียนรู้วิถีชีวิตของพระภิกษุ นักเรียนสามารถ ๑. อธิบายหน้าที่ของพระภิกษุสงฆ์ได้(K) ๒. จ าแนกบทบาทหน้าที่ของพระภิกษุสงฆ์ได้(P) ๓. ประเมินคุณค่าของการศึกษาบทบาทหน้าที่ของพระภิกษุในการสืบทอดพระพุทธศาสนา (A) ๔. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge) เรื่อง เรียนรู้วิถีชีวิตของพระสงฆ์ ๕.๒ ด้านทักษะ (Process) เรื่อง บทบาทหน้าที่ของพระภิกษุสงฆ์ ๕.๓ ด้านเจตคติ (Attitude) เรื่อง การมีส่วนร่วมในชั้นเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๓.๑ มีความสามัคคี นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและสามารถปรับตัวท างานกับ ผู้อื่นได้ ๕.๓.๒ มีวินัย นักเรียนมีความตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ๕.๓.๓ ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนมีความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน ๕.๓.๔ มุ่งมั่นในการท างาน นักเรียนเอาใจใส่และรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ๕.๓.๕ รักความเป็นไทย นักเรียนเห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบทอด เผยแพร่วัฒนธรรมไทย และใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม ๖. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ ๒๑ (๓R ๘C ๒L) R๑-Reading (อ่านออก) R๒-(W)Riting (เขียนได้) R๓-(A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C-๑ Critical thinking and problem solving คือ มีทักษ ะก า รคิดวิเค ราะห์ กา รคิดอย่ างมี วิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ C-๒ Creativity and innovation คือ การคิดอย่างสร้างสรรค์และคิดเชิงนวัตกรรม C-๓ Cross-cultural understanding คือ ค ว ามเข้ าใจในค วามแตกต่ างของวัฒนธ รรมและ กระบวนการคิดข้ามวัฒนธรรม C-๔ Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การท างานเป็นทีม และภาวะ ความเป็นผู้น า C-๕ Communication information and media literacy คือ มีทักษะในการสื่อสารและการรู้เท่า ทันสื่อ C-๖ Computing and IT literacy คือ มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และรู้เท่าทันเทคโนโลยี C-๗ Career and learning skills คือ มีทักษะอาชีพและการเรียนรู้ C-๘ Compassion คือ มีความเมตตากรุณา มีคุณธรรม และมีระเบียบวินัย L-๑ Learning (ทักษะการเรียนรู้) L-๒ Leadership (ทักษะความเป็นผู้น า)
๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและท าสมาธิก่อนเรียนทุกชั่วโมง ขั้นน า ๑. ครูให้นักเรียนดูภาพ พระภิกษุสงฆ์ พร้อมร่วมกันอภิปรายกับนักเรียน - นักเรียนรู้จักพระภิกษุ ท่านใดบ้าง - พระภิกษุที่นักเรียนรู้จัก มีวิถีชีวิตอย่างไร มีการปฏิบัติตนอย่างไร (ประพฤติตนอย่างส ารวม เรียบง่าย และคอยเผยแผ่ พระพุทธศาสนา) ขั้นสอน ๒. ครูให้นักเรียนรับชมวีดีทัศน์เรื่อง “หน้าที่ของพระภิกษุสงฆ์” ในระหว่างชมให้นักเรียน พิจารณาในประเด็น หน้าที่ของพระภิกษุสงฆ์ โดยใช้เวลาประมาณ ๔ นาที ๓. หลังจากนักเรียนรับชมวีดีทัศน์จบ ครูและนักเรียนร่วมกัน อภิปรายในประเด็นหน้าที่ของ พระภิกษุสงฆ์โดยใช้แนวค าถาม ดังต่อไปนี้ - จากวีดีทัศน์ที่ได้รับชมไป พระภิกษุกสงฆ์มีหน้าที่ใดบ้าง (ศึกษาพระธรรมวินัย ค าสอนของพระพุทธเจ้า ฝึกปฏิบัติอบรม จิตใจให้มีสมาธิและเผยแพร่ค าสอน) - ในด้านการเผยแผ่ศาสนา การสั่งสอนพระธรรม สอนให้แก่ใครและใช้วิธีการใด (สอนให้แก่พุทธศาสนิกชน เผยแผ่ด้วยการเทศนาธรรม ปาฐกถาธรรม) ๔. ครูให้นักเรียนท ากิจกรรม “เรียนรู้วิถีพระภิกษุผ่านภิกษุต้นแบบ” โดยแบ่งนักเรียน ออกเป็น ๔ กลุ่ม แต่ละกลุ่มศึกษาใบความรู้(ใบความรู้รูปแบบออนไลน์) “๔ พระสงฆ์ต้นแบบในปัจจุบัน” โดยแต่ละกลุ่มศึกษาเรื่องราวดังนี้ กลุ่มที่ ๑ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี กลุ่มที่ ๒ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต กลุ่มที่ ๓ พระครูวาทีพัชรโสภณ กลุ่มที่ ๔ พระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) ๕. ครูแจกกระดาษฟลิปชาร์ทให้นักเรียนแต่ละกลุ่มท าการสรุปความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาใบ ความรู้ โดยให้สรุป ในประเด็นดังต่อไปนี้ - พระภิกษุต้นแบบที่กลุ่มนักเรียนศึกษามีแนวทางในการเผยแผ่ค าสอนอย่างไร
- พระภิกษุต้นแบบที่กลุ่มนักเรียนศึกษามีแนวทางในการปฏิบัติตนอย่างไร - พระภิกษุต้นแบบที่กลุ่มนักเรียนศึกษามีแนวทางในการเรียนรู้ - หลักธรรมได้อย่างไรบ้าง - ข้อคิดที่ได้จากกาศึกษาเรื่องราวของพระภิกษุต้นแบบ ๖. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาน าเสนอผลงานของตนเองหน้าชั้นเรียน โดยใช้ เวลากลุ่มละ ๓ นาที ขั้นสรุป ๗. ครูและนักเรียนร่วมกันบอกถึงความส าคัญของพระสงฆ์โดยใช้ ค าถาม ดังนี้ - นักเรียนคิดว่าพระสงฆ์มีความส าคัญต่อพระพุทธศาสนาหรือไม่ อย่างไร (มีความส าคัญพระภิกษุสงฆ์มีความส าคัญในการเผยแผ่ค าสอน และเป็นแบบอย่างที่ดีในการ น าหลักธรรมค าสอนไปปฏิบัติใช้) - นักบวชมีความส าคัญกับศาสนาหรือไม่ อย่างไร (นักบวชเป็น องค์ประกอบหนึ่งของในหลายศาสนา ซึ่งมีหน้าที่ในการฝึกฝนปฏิบัติ เพื่อที่จะน าเอาค าสอนของ ศาสนามาเผยแผ่) ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ สื่อการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒. วิดีทัศน์เรื่อง “หน้าที่ของพระภิกษุสงฆ์” ๓. โปรแกรมสื่อ Power Point เรื่อง เรียนรู้วิถีชีวิตของพระภิกษุ ๔. ใบความรู้(ใบความรู้รูปแบบออนไลน์) “๔ พระสงฆ์ต้นแบบในปัจจุบัน” ๕. กระดาษฟลิปชาร์ท ๘.๒ แหล่งการเรียนรู้ ๑. ห้องธรรมสถาน ๒. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Rel/M๑/๑๐
๙. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (Knowledge) ๑. อธิบายหน้าที่ของพระภิกษุ สงฆ์ได้ (K) - การตอบค าถาม -ป ร ะเ มิ น ผลง า น นักเรียน - แบบประเมินผลงาน งานนักเรียน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ด้านทักษะ (Process) ๒. จ าแนกบทบาทหน้าที่ของ พระภิกษุสงฆ์ได้(P) -ป ร ะเ มิ น ผลง า น นักเรียน - แบบประเมินผลงาน งานนักเรียน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป ด้านเจตคติ (Attitude) ๓ . ป ร ะ เ มิ น คุ ณ ค่ า ข อง การศึกษาบทบาทหน้าที่ของ พ ร ะ ภิ ก ษุ ใ น ก า ร สื บ ท อ ด พระพุทธศาสนา (A) -ป ร ะเ มิ น ผลง า น นักเรียน - แบบประเมินผลงาน งานนักเรียน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป
๑๐. บันทึกผลหลังสอน ๑.ปัญหาที่เกิด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.วิธีการแก้ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓.ผลการแก้ปัญหา ………...……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..………………………………….......... (นางสาวจิราพร นิยมไร่) ครูผู้สอน ๑๑. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ๑. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๒. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
๓. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๔. สื่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๕. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..…………………………………...... (นางวริศรา ขันติประกอบ) ครูพี่เลี้ยง ๑๒. ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… (นางสมพร โยวะบุตร) หัวหน้ากลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ
แบบประเมินผลงานนักเรียน เรื่อง เรียนรู้วิถีชีวิตของพระภิกษุ ค าชี้แจง : ให้ครูผู้สอนประเมิน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับ ที่ ชื่อ-สกุล อธิบายหน้าที่ของ พระภิกษุสงฆ์ได้ จ าแนกบทบาท หน้าที่ของ พระภิกษุสงฆ์ได้ ประเมินคุณค่าของ การศึกษาบทบาท หน้าที่ของพระภิกษุ ในการสืบทอด พระพุทธศาสนา หมายเหตุ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. ๑๖. ๑๗. ๑๘. ๑๙. ๒๐. ๒๑. ๒๒.
ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การปะเมิน ๓ ๒ ๑ ๑. อธิบายหน้าที่ของพระภิกษุ สงฆ์ได้ (K) อธิบายหน้าที่ของ พระภิกษุสงฆ์ได้ถูกต้อง ครบถ้วนและชัดเจน อธิบายหน้าที่ของ พระภิกษุสงฆ์ได้ ถูกต้อง และ ครบถ้วน อธิบายหน้าที่ของพระภิกษุ สงฆ์ได้ ๒. จ าแนกบทบาทหน้าที่ของ พระภิกษุสงฆ์ได้ (P) จ าแนกบทบาทหน้าที่ ของพระภิกษุสงฆ์ได้ ถูกต้อง ครบถ้วน และ ชัดเจน จ าแนกบทบาท หน้าที่ของพระภิกษุ สงฆ์ได้ ถูกต้อง และ ครบถ้วน จ าแนกบทบาทหน้าที่ของ พระภิกษุสงฆ์ได้ ๓. ประเมินคุณค่าของการศึกษา บทบาทหน้าที่ของพระภิกษุใน การสืบทอดพระพุทธศาสนา ประเมินคุณค่าของ การศึกษาบทบาทหน้าที่ ของพระภิกษุในการสืบ ทอดพระพุทธศาสนาได้ ถูกต้อง ครบถ้วน และ ชัดเจน ประเมินคุณค่าของ การศึกษาบทบาท หน้าที่ของพระภิกษุ ในการสืบทอด พระพุทธศาสนาได้ ถูกต้อง ครบถ้วน และชัดเจน ประเมินคุณค่าของ การศึกษาบทบาทหน้าที่ ของพระภิกษุในการสืบ ทอดพระพุทธศาสนาได้ ลงชื่อ................................................ (นางสาวจิราพร นิยมไร่) ครูผู้สอน
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค าชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนในระหว่างเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ................................................ผู้สอน (นางสาวจิราพร นิยมไร่) ครูผู้สอน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การให้คะแนน ๗ – ๙ คะแนน ระดับดี ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้งให้ ๓ คะแนน ๔ – ๖ คะแนน ระดับพอใช้ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งให้ ๒ คะแนน ต่ ากว่า ๔ คะแนน ระดับปรับปรุง ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้งให้ ๑ คะแนน ล า ดับ ที่ ชื่อ – สกุล ของผู้รับการ ประเมิน พฤติกรรมและการปฏิบัติ คะแนน รวม (๑๕ คะแนน) เกณฑ์ การ ตัดสิน คุณภาพ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การท างาน รักความ เป็นไทย มีความ สามัคคี ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สาระการเรียนรู้ที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๕ ชั่วโมง เรื่อง การปฏิบัติตนต่อพระภิกษุสงฆ์ เวลา ๑ ชั่วโมง วันที่ เดือน พ.ศ. ๒๕๖๖ นางสาวจิราพร นิยมไร่ ผู้สอน ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธ ารงรักษาพระพุทธศาสนา ตัวชี้วัด ส ๑.๒ ม.๑/๒ อธิบายจริยวัตรของสาวกเพื่อเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติ และปฏิบัติ ตนอย่างเหมาะสม ต่อสาวกของศาสนาที่ตนนับถือ ๒. สาระส าคัญ นักบวชเป็นองค์ประกอบหนึ่งของในหลายศาสนา ซึ่งมีหน้าที่ในการฝึกฝน ปฏิบัติ เพื่อที่จะน าเอาค า สอนของศาสนามาเผยแผ่ ทั้งนี้ศาสนิกชนตามศาสนานั้นควรปฏิบัติตนอย่างสุภาพต่อนักบวชของศาสนา ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนศึกษาบทเรียนเรื่อง การปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ นักเรียนสามารถ ๑. อธิบายแนวทางการปฏิบัติต่อพระภิกษุสงฆ์ได้(K) ๒. จ าแนกความเหมาะสมของสิ่งที่ควรปฏิบัติตนต่อพระภิกษุสงฆ์ได้(P) ๓. อภิปรายถึงคุณค่าของการปฏิบัติตนต่อพระภิกษุสงฆ์ได้อย่างเหมาะสม (A) ๔. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge) เรื่อง แนวทางการปฏิบัติต่อพระภิกษุสงฆ์ ๕.๒ ด้านทักษะ (Process) เรื่อง การปฏิบัติต่อพระภิกษุสงฆ์ ๕.๓ ด้านเจตคติ (Attitude) เรื่อง การมีส่วนร่วมในชั้นเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๓.๑ มีความสามัคคี นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและสามารถปรับตัวท างานกับ ผู้อื่นได้ ๕.๓.๒ มีวินัย นักเรียนมีความตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ๕.๓.๓ ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนมีความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน ๕.๓.๔ มุ่งมั่นในการท างาน นักเรียนเอาใจใส่และรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ๕.๓.๕ รักความเป็นไทย นักเรียนเห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบทอด เผยแพร่วัฒนธรรมไทย และใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม ๖. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ ๒๑ (๓R ๘C ๒L) R๑-Reading (อ่านออก) R๒-(W)Riting (เขียนได้) R๓-(A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C-๑ Critical thinking and problem solving คือ มีทักษ ะก า รคิดวิเค ราะห์ กา รคิดอย่ างมี วิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ C-๒ Creativity and innovation คือ การคิดอย่างสร้างสรรค์และคิดเชิงนวัตกรรม C-๓ Cross-cultural understanding คือ ค ว ามเข้ าใจในค วามแตกต่ างของวัฒนธ รรมและ กระบวนการคิดข้ามวัฒนธรรม C-๔ Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การท างานเป็นทีม และภาวะ ความเป็นผู้น า C-๕ Communication information and media literacy คือ มีทักษะในการสื่อสารและการรู้เท่า ทันสื่อ C-๖ Computing and IT literacy คือ มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และรู้เท่าทันเทคโนโลยี C-๗ Career and learning skills คือ มีทักษะอาชีพและการเรียนรู้ C-๘ Compassion คือ มีความเมตตากรุณา มีคุณธรรม และมีระเบียบวินัย L-๑ Learning (ทักษะการเรียนรู้) L-๒ Leadership (ทักษะความเป็นผู้น า)
๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและท าสมาธิก่อนเรียนทุกชั่วโมง ขั้นน า ๑. ครูให้นักเรียนดูภาพการแต่งกายเข้าวัดที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมและให้ นักเรียนร่วมกัน สนทนาเกี่ยวกับมารยาทการปฏิบัติตนที่เหมาะสมต่อพระภิกษุ โดยครูใช้ค าถาม ดังนี้ - นักเรียนคิดว่าการแต่งกายในภาพใดเหมาะสมกับการเข้าพบพระภิกษุ (ภาพทางด้านขวามือ เพราะเป็นการแต่งกายที่สุภาพเรียบร้อย) - เมื่อนักเรียนได้มีโอกาสเข้าวัดหรือพบพระภิกษุ นักเรียนจะแต่งกายอย่างไร (แต่งกายสุภาพเรียบน้อยมิดชิดเพื่อแสดงออกซึ่งความส ารวม) ขั้นสอน ๒. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๔ กลุ่ม กลุ่มละ ๔-๕ คน แล้วให้นักเรียนทุกกลุ่มอภิปราย ร่วมกันกันภายในกลุ่มในประเด็น “หากมีชาวต่างชาติต้องการจะมาศึกษาหลักธรรมกับพระภิกษุสงฆ์ที่วัด นักเรียนจะสามารถแนะน าเขาอย่างไรได้บ้าง” ๓. ครูติดแผ่นป้ายหัวข้อดังต่อไปนี้ - การแต่งกายได้ - การติดต่อเข้าพบ - การสนทนา - กิริยาท่าทาง - ระยะเวลาในการเข้าพบ ๔. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาเขียนค าแนะน าแนวทางการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อ พระภิกษุสงฆ์บนกระดานตามป้ายหัวข้อที่ระบุไว้ โดยก าหนดให้แต่ละกลุ่มเลือกแนะน าในหนึ่งประเด็นเท่านั้น ๕. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอธิบายค าแนะน าที่ตนเองออกมาเขียน ๖. ครูให้นักเรียนสรุปความรู้ที่ได้รับจากกิจกรรมเป็นแผนผังความคิด ลงในแบบบันทึก กิจกรรม
ขั้นสรุป ๗. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงประโยชน์ของการปฏิบัติตนที่ถูกต้องเหมาะสมแก่ พระภิกษุสงฆ์ โดยครูใช้แนวค าถามดังนี้ - เพราะเหตุใดจึงต้องปฏิบัติตนให้เหมาะสมต่อภิกษุ (เป็นมารยาทอันดีงามที่ศาสนิก ชนควรกระท าต่อพระภิกษุสงฆ์ที่เป็นบุคคล ที่มีส่วนส าคัญในทางศาสนา) ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ สื่อการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒. รูปภาพ “การแต่งกายเข้าวัดที่เหมาะสมและไม่เหมาะสม” ๓. โปรแกรมสื่อ Power Point เรื่อง การปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ ๔. แผ่นป้ายหัวข้อ ๕. กระดาษฟลิปชาร์ท ๘.๒ แหล่งการเรียนรู้ ๑. ห้องเมตตา ๑, ห้องเมตตา ๒ ๒. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Rel/M๑/๑๐ ๙. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (Knowledge) ๑. อธิ บ า ยแ น วท าง ก า ร ปฏิบัติต่อพระภิกษุสงฆ์ได้ (K) - การตอบค าถาม -ประเมินผลงานนักเรียน (แผนผังความคิด) - แบบป ระเมินผล งานงานนักเรียน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ด้านทักษะ (Process) ๒. จ าแนกความเหมาะสม ของ สิ่งที่ ค ว รปฏิ บั ติ ต น ต่ อ พระภิกษุสงฆ์ได้ (P) -ประเมินผลงานนักเรียน - แบบป ระเมินผล งานงานนักเรียน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป ด้านเจตคติ (Attitude) ๓. อภิปรายถึงคุณค่าของการ ปฏิบัติตนต่อพระภิกษุสงฆ์ได้ อย่างเหมาะสม (A) -ประเมินผลงานนักเรียน - แบบป ระเมินผล งานงานนักเรียน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป
๑๐. บันทึกผลหลังสอน ๑.ปัญหาที่เกิด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.วิธีการแก้ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓.ผลการแก้ปัญหา ………...……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..………………………………….......... (นางสาวจิราพร นิยมไร่) ครูผู้สอน ๑๑. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ๑. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถูกต้อง ☐ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๒. ควรสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา สอดคล้อง ☐ ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
๓. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ☐ ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๔. สื่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ☐ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๕. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ☐ ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ควรปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………..…………………………………...... (นางวริศรา ขันติประกอบ) ครูพี่เลี้ยง ๑๒. ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… (นางสมพร โยวะบุตร) หัวหน้ากลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ
แบบประเมินผลงานนักเรียน เรื่อง การปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ ค าชี้แจง : ให้ครูผู้สอนประเมิน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับ ที่ ชื่อ-สกุล อธิบายแนวทาง การปฏิบัติต่อ พระภิกษุสงฆ์ได้ จ าแนกความ เหมาะสมของ สิ่งที่ควรปฏิบัติ ตนต่อพระภิกษุ สงฆ์ได้ อภิปรายถึงคุณค่า ของการปฏิบัติตน ต่อพระภิกษุสงฆ์ได้ อย่างเหมาะสม หมายเหตุ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. ๑๖. ๑๗. ๑๘. ๑๙. ๒๐. ๒๑.