แผนการจัดการเรยี นรู้
รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน
รหัสวิชา 20000-1101
ระดบั ชนั้ ประกาศนียบตั รวิชาชพี ปีที่ 1
นนาางงสสาาววททัศัศววรรรณณ พพนั นั ธธววาาววงงษษ์ ์
กกลล่มุ ่มุสสาราะรกะการาเรรเียรียนนรู้สรูส้าราะรกะการาเรรเียรียนนรกู้รู้การางรางนาน
ออาชาชีพีพแแลละเะทเทคคโนโนโลโลยยี (ีพ(พาณาณิชิชยยกกรรมรม) )
โรงเรียนธรรมโชติศกึ ษาลัย
สังกดั สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 9
โครงสรา้ งรายวชิ า
รายวิชาภาษาไทยพ้ืนฐาน รหสั วิชา 20000-1101 กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพฯ(พาณชิ ยกรรม)
ช้นั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง
จำนวน 2.0 หน่วยกิต คะแนน 100 คะแนน
ลำดับ ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนัก
ที่ (ชัว่ โมง) คะแนน
1. ปฐมนเิ ทศ 1.เขา้ ใจในแนวทางการจดั ๑.จดุ ประสงคร์ ายวชิ า
กิจกรรมการเรยี นการสอน มาตรฐานรายวิชา และ
ในรายวชิ าภาษาไทย คำอธิบายรายวชิ าภาษาไทย
พ้ืนฐาน พื้นฐาน
2.ทดสอบก่อนเรยี น ๒.การวัดและการประเมนิ ผล
3.มคี วามพงึ พอใจและมี รายวิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน
เจตคติทด่ี ีตอ่ การเรยี น
ภาษาไทย
ภาษากับการสอ่ื สาร 1. อธิบายความหมายและ 1.ความหมายและความสำคัญ
ความสำคญั ของภาษาได้ ของภาษา
2.อธิบายความหมายและ 2.ความหมายและองค์ประกอบ
องคป์ ระกอบของการ ของการส่อื สาร
สอ่ื สารได้ 3.ความสัมพันธข์ องภาษากับ
3.อธิบายความสัมพนั ธ์ การสอ่ื สาร 3 4
ของภาษากับการสอ่ื สาร 4.การรบั สารและการสง่ สาร
ได้
4.อธิบายหลักการและ
อปุ สรรคในการสง่ สารและ
รับสารได้
5.แสดงบทบาทสมมติ
เกยี่ วกบั การสื่อสารได้
6.มีมารยาทในการสื่อสาร
7.ทำงานตามที่ไดร้ บั
มอบหมาย
ลำดับ ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
ที่ (ช่ัวโมง) คะแนน
2. การใช้ถอ้ ยคำ 1.อธิบายลักษณ ะและ 1.การสอื่ สารผ่านเสยี ง 3 4
ค ว า ม ส ำ คั ญ ข อ งก า ร 2.การส่ือสารโดยการใชค้ ำและ
3. การใช้ประโยค สอ่ื สารดว้ ยเสียงพยัญชนะ ความหมาย 3 4
สำนวนโวหารและ
ระดับภาษา สระ และวรรณยกุ ต์ได้
2.อธิบายการเขียนสะกด
คำให้ถูกต้องตามอักขรวิธี
และเลือกใช้คำได้ถูกต้อง
เหมาะสมกับบริบทในการ
สือ่ สารได้
3.เขียนสะกดคำถูกต้อง
ตามอักขรวิธี และเลือกใช้
คำได้ถกู ตอ้ งและเหมาะสม
กบั บรบิ ทในการสือ่ สาร
1.อธิบายลักษณะของ 1.ประโยค
ประโยคแตล่ ะชนดิ ได้2. 2.สำนวนโวหาร
อธบิ ายความหมายและ 3.ระดับภาษา
เลอื กใชส้ ำนวนโวหาร
ถูกตอ้ งเหมาะสมกบั
สถานการณต์ า่ ง ๆ ได้
3.อธิบายลักษณะการใช้
ระดับภาษาและแตกตา่ ง
ของภาษาแตล่ ะระดบั ได้
4.จำแนกชนิดประโยคได้
5.ยกตวั อย่างสำนวน
โวหารได้
6.จำแนกขอ้ ความตาม
ระดบั ของภาษาได้
7.รับผิดชอบตอ่ งานท่ี
ได้รบั มอบหมาย
ลำดับ ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
ที่ (ช่ัวโมง) คะแนน
4. การฟงั และการดูสอื่ 1.อธบิ ายความหมายและ 1.ความหมายและความสำคญั 2 4
ความสำคญั ของการฟงั ของการฟงั และการดู
อิเลก็ ทรอนิกส์ และการดไู ด้ 4
2.อธิบายหลกั การและ
ความสมั พันธ์ของ 2.องคป์ ระกอบของการฟงั และ
องค์ประกอบของการฟัง การดู
และการดูได้ 3.หลกั การฟังและการดู
3.วเิ คราะหแ์ ละประเมิน
ค่าการฟงั และการดจู าก 4.แนวทางการวเิ คราะหแ์ ละ
สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ประเมนิ คา่ การฟังและการดู
จากสอื่ อิเล็กทรอนิกส์
5.มารยาทในการฟงั และการดู
4.อภปิ รายมารยาทในการ
ฟังและดูได้
5.มีวนิ ัย
6.ใฝเ่ รยี นรู้
7.มุ่งมนั่ ในการทำงาน
5. การอ่านสอื่ สง่ิ พมิ พ์ 1.อธบิ ายความหมายและ 1.ความหมายและความสำคญั
และสื่อ ความสำคัญของการอ่าน ของการอ่าน
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ได้ 2.องค์ประกอบของการอา่ น
2.อธิบายหลักการและ 3.หลกั การอา่ นสารลกั ษณะต่าง
ความสัมพนั ธข์ อง ๆ
องค์ประกอบของการอ่าน 4.แนวทางการวเิ คราะหแ์ ละ
ได้ ประเมินค่าจากการอ่านสารต่าง
3.วเิ คราะห์และประเมิน ๆ
คา่ จากการอา่ นสารตา่ ง ๆ 5.มารยาทในอ่าน 3
ได้
4.อภิปรายมารยาทในการ
อา่ นได้
5.ให้ความรว่ มมอื ในการ
ทำกิจกรรมในชัน้ เรยี น
6. มีความรับผิดชอบตอ่
งานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย
ลำดับ ช่อื หนว่ ยการ ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั
ท่ี เรยี นรู้ 1.ความหมายและความสำคัญ (ชว่ั โมง) คะแนน
6. การเขียน 1.อธบิ ายความหมายและ ของการเขยี น
ความสำคญั ของการเขียนได้ 2.การเขียนยอ่ หน้า 35
7. การเขยี นประเภท 2.อธบิ ายความหมาย 3.หลกั การเขียนทั่วไป
ต่าง ๆ องค์ประกอบ และรปู แบบ 35
ของยอ่ หน้าได้ 1.การเขียนสรปุ ความ
3.อธบิ ายหลกั การเขยี น 2.การเขยี นอธิบาย
ทัว่ ไปได้ 3.การเขยี นบรรยาย
4.เขียนโครงเรื่องตาม
หลกั การเขยี นได้
5.ใฝเ่ รียนรู้
6.มุ่งมัน่ ในการทำงาน
1.อธบิ ายความหมายและ
หลกั การเขยี นสรุปความ
อธิบาย และบรรยายได้
2.เขยี นสรปุ ความ อธิบาย
และบรรยายได้3. มสี ว่ น
รว่ มกับกจิ กรรมในช้ันเรยี น
4.รบั ผดิ ชอบต่องานทไ่ี ด้รบั
มอบหมาย
สอบกลางภาคเรยี นที1่ 20
ลำดบั ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั
ท่ี (ชัว่ โมง) คะแนน
8. การเขียนประวัติย่อ 1.อธบิ ายความหมาย 1.การเขียนประวัตยิ อ่ 3 5
การกรอกแบบฟอรม์ หลกั การ และวธิ กี าร 2.การกรอกแบบฟอรม์ 3 5
และการเขยี น เขยี นประวตั ิยอ่ การ 3.การเขยี นข้อความตดิ ต่อกจิ ธรุ ะ
ขอ้ ความตดิ ตอ่ กจิ กรอกแบบฟอรม์ และ
ธรุ ะ การเขียนข้อความติดต่อ
กจิ ธุระได้
2.เขยี นประวตั ยิ ่อ
กรอกแบบฟอร์ม และ
เขยี นข้อความตดิ ต่อกจิ
ธรุ ะได้
3.มสี ่วนร่วมกบั กจิ กรรม
ในชัน้ เรยี น
4.รับผิดชอบตอ่ งานที่
ไดร้ บั มอบหมาย
9. การเขยี นรายงานเชิง 1.อธิบายความหมาย 1.การเขยี นรายงานเชงิ วิชาการ
วชิ าการและการ หลักการ และวธิ ีการ 2.การเขยี นโครงการ
เขยี นโครงการ การเขยี นรายงานเชงิ
วชิ าการและการเขยี น
โครงการได้
2.เขยี นรายงานเชงิ
วชิ าการและเขียน
โครงการได้
3.มสี ่วนรว่ มกบั กจิ กรรม
ในช้ันเรยี น
4.รบั ผดิ ชอบตอ่ งานท่ี
ไดร้ ับมอบหมาย
10. การพดู 1.บอกความหมายของ 1.ความหมายของการพดู
การพดู ได้ 2.องคป์ ระกอบของการพดู
2.วิเคราะห์ 3.หลกั การพูดทวั่ ไป
องคป์ ระกอบของการ 4.ประโยชนข์ องการพูด
พูดและคณุ สมบตั ขิ องผู้
พูดทดี่ ไี ด้
3.อธบิ ายหลักการพูด
ท่วั ไปและประโยชน์ของ
การพดู ได้
ลำดับ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก
ท่ี (ชั่วโมง) คะแนน
การพดู 4.พูดเลา่ ประสบการณ์ 45
ได้ 35
5.มสี ่วนรว่ มกบั กจิ กรรม 35
ในชัน้ เรียน
6.รบั ผิดชอบต่องานที่
ไดร้ ับมอบหมาย
11. การพูดในโอกาสต่าง 1.อธบิ ายหลกั การพูด 1.การกล่าวทกั ทาย
ๆ (๑) และวิธกี ารพดู ในโอกาส 2.การแนะนำตนเองและผอู้ ่ืน
ตา่ ง ๆ ได้ถูกตอ้ ง 3.การพดู ตอบรบั และปฏิเสธ
2.ใชถ้ ้อยคำ สำนวน 4.การพูดแสดงความยินดี
โวหารในการพูดแบบ
ตา่ ง ๆ ไดเ้ หมาะสม
3. มีสว่ นรว่ มกบั
กจิ กรรมในชั้นเรียน
4.รบั ผิดชอบต่องานท่ี
ไดร้ บั มอบหมาย
12. การพูดในโอกาสต่าง 1.อธิบายหลักการพดู 1.การพูดแสดงความเสยี ใจ
ๆ (2) และวิธกี ารพูดในโอกาส 2.การพูดสรปุ ความ
ต่าง ๆ ไดถ้ ูกต้อง 3.การพูดแสดงความคิดเหน็
2.ใชถ้ ้อยคำ สำนวน 4.การพูดติดตอ่ กจิ ธุระ
โวหารในการพูดแบบ
ต่าง ๆ ไดเ้ หมาะสม
3. มสี ว่ นร่วมกบั
กจิ กรรมในชน้ั เรียน
4.รับผดิ ชอบต่องานที่
ไดร้ บั มอบหมาย
ลำดับ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ เวลา น้ำหนกั
ที่ (ชั่วโมง) คะแนน
13. เทคนคิ การพฒั นา 1.อธบิ ายความหมาย 1.ผังกราฟกิ 45
ทกั ษะการรบั สารและ ลักษณะ ความสำคัญ 2.การรบั สารและสง่ สารดว้ ยผัง 20
100
ส่งสาร และรปู แบบของผงั กราฟิก
กราฟกิ ได้
2.สามารถรับสารและ
สง่ สารด้วยผงั กราฟกิ ได้
3. มีสว่ นร่วมกบั
กิจกรรมในชน้ั เรียน
4.รับผิดชอบตอ่ งานท่ี
ไดร้ บั มอบหมาย
สอบปลายภาคเรียนที่ 1
รวม
20000-1101 รายวชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน
รายวชิ าภาษาไทยพื้นฐาน รหสั วชิ า 20000-1101 กลุ่มสาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี ฯ (งานธรุ กจิ )
ช้ันประกาศนียบตั รวิชาชพี ปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่1
เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หน่วยกติ
ศึกษาความรู้ท่ัวไปเกี่ยวกับหลักการใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร การรับสารจากสื่อส่ิงพิมพ์และสื่อ
อิเล็กทรอนกิ ส์ อา่ นวรรณกรรมทอ้ งถิน่ ทสี่ ง่ เสริมคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม การอ่านวรรณกรรมท้องถิ่นท่ี
ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม การพูดสื่อสารตามมารยาทของสังคม การพูดส่ือสารในชีวิต
ประจำวนั การพูดในโอกาสต่างๆ การเขียนประเภทต่างๆ การกรอกแบบฟอร์มและการเขยี นข้อความ การ
เขยี นรายงานวชิ าการ การเขียนโครงการ
เพ่ือให้มีความรู้ความเขา้ ใจและมีทกั ษะเกย่ี วกบั หลักการใชภ้ าษาไทยในการสือ่ สาร การรบั สารจากส่ือ
สิ่งพิมพ์และส่ืออิเล็กทรอนิกส์ อ่านวรรณกรรมท้องถ่ินที่ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม การอ่าน
วรรณกรรมท้องถ่ินท่ีส่งเสรมิ คุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม การพูดสื่อสารตามมารยาทของสงั คม การพูด
ส่ือสารในชีวติ ประจำวนั การพูดในโอกาสต่างๆ การเขียนประเภทต่างๆ การกรอกแบบฟอรม์ และการเขียน
ข้อความ การเขยี นรายงานวิชาการ การเขยี นโครงการ
ผลการเรียนรู้
1. นกั เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในการใชภ้ าษาไทย
2. นักเรียนสามารถเลือกใช้ภาษาไทยได้ถกู ต้องตามหลักการใช้ภาษา เหมาะกับบุคคล กาลเทศะ
โอกาสและสถานการณ์
3. นักเรียนสามารถนำความรแู้ ละทกั ษะการฟัง การดู การพดู การอา่ น และการเขียนไปใช้สอ่ื สาร
ในชีวิตประจำวนั ถูกต้องตามหลักการ
4. นักเรยี นเหน็ คณุ คา่ และความสำคญั ของการใชภ้ าษไทย
รวม 4 ผลการเรยี นรู้
ภาระงาน/ชน้ิ งาน
รายวชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน รหสั วิชา 20000-1101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพฯ (พาณิชยกรรม)
ชนั้ ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง
จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ คะแนน 100 คะแนน
ลำดบั ช่ือหน่วยการ ผลการเรียนรู้ นำ้ หนัก ภาระงาน/ช้นิ งาน
ที่ เรยี นรู้ คะแนน
1. อธบิ ายความหมายและ 1.ใบงาน
1. ภาษากบั การ ความสำคัญของภาษาได้ 4 2. คำถามท้ายบท
สื่อสาร 2.อธิบายความหมายและ (งานทุกชิ้นมกี ำหนดสง่ ท้ายชว่ั โมง
องคป์ ระกอบของการสอื่ สารได้ สอน)
3.อธิบายความสัมพันธ์ของภาษากับ
การสอื่ สารได้
4.อธิบายหลักการและอุปสรรคในการ
สง่ สารและรบั สารได้
5.แสดงบทบาทสมมตเิ กยี่ วกับการ
สอื่ สารได้
6.มีมารยาทในการสื่อสาร
7.ทำงานตามที่ไดร้ บั มอบหมาย
2. การใชถ้ ้อยคำ 1.อธิบายลักษณะและความสำคัญ 4 1.ใบงาน
ของการสื่อสารด้วยเสียงพยัญชนะ 2. คำถามทา้ ยบท
สระ และวรรณยุกต์ได้
2.อธบิ ายการเขียนสะกดคำให้ถูกตอ้ ง (งานทุกชนิ้ มกี ำหนดส่งทา้ ยชัว่ โมง
สอน)
ตามอักขรวธิ ีและเลือกใช้คำได้ถูกต้อง
เหมาะสมกบั บริบทในการสอ่ื สารได้
3.เขียนสะกดคำถูกต้องตามอักขรวิธี
แ ล ะ เลื อ ก ใช้ ค ำ ได้ ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ
เหมาะสมกับบริบทในการสือ่ สาร
ลำดับ ชื่อหนว่ ยการ ผลการเรยี นรู้ น้ำหนกั ภาระงาน/ชนิ้ งาน
ที่ เรยี นรู้ คะแนน
3. การใช้ประโยค 1.อธิบายลกั ษณะของประโยคแตล่ ะ 4 1.ใบงาน
สำนวนโวหารและ ชนิดได2้ .อธบิ ายความหมายและ 2. คำถามทา้ ยบท
ระดับภาษา เลอื กใช้สำนวนโวหารถกู ตอ้ ง (งานทกุ ชิน้ มกี ำหนดสง่ ท้ายชั่วโมง
เหมาะสมกับสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ สอน)
3.อธิบายลักษณะการใชร้ ะดบั ภาษา
และแตกต่างของภาษาแตล่ ะระดบั ได้
4.จำแนกชนดิ ประโยคได้
5.ยกตวั อยา่ งสำนวนโวหารได้
6.จำแนกขอ้ ความตามระดับของ
ภาษาได้
7.รับผดิ ชอบต่องานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
4. การฟังและการดู 1.อธิบายความหมายและความสำคัญ 4 1.ใบงาน
ส่อื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ของการฟงั และการดูได้
2.อธิบายหลักการและความสมั พันธ์ 2. คำถามท้ายบท
ขององค์ประกอบของการฟงั และการ (งานทกุ ชน้ิ มกี ำหนดสง่ ท้ายชวั่ โมง
ดไู ด้ สอน)
3.วิเคราะหแ์ ละประเมนิ คา่ การฟัง
และการดจู ากส่ืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
4.อภปิ รายมารยาทในการฟังและดูได้
5.มวี ินยั
6.ใฝ่เรยี นรู้
7.มุ่งม่ันในการทำงาน
5. การอ่านสอื่ สง่ิ พมิ พ์ 1.อธิบายความหมายและความสำคัญ 4 1.ใบงาน
และส่ือ ของการอา่ นได้ 2. คำถามทา้ ยบท
อิเลก็ ทรอนิกส์ 2.อธบิ ายหลักการและความสัมพันธ์ (งานทุกช้นิ มกี ำหนดส่งทา้ ยชั่วโมง
สอน)
ขององคป์ ระกอบของการอ่านได้
3.วิเคราะหแ์ ละประเมินค่าจากการ
อา่ นสารตา่ ง ๆ ได้
4.อภิปรายมารยาทในการอ่านได้
5.ให้ความร่วมมอื ในการทำกิจกรรม
ในช้นั เรยี น
6. มีความรับผิดชอบตอ่ งานทไี่ ดร้ ับ
มอบหมาย
ลำดบั ชอื่ หน่วยการ ผลการเรยี นรู้ น้ำหนกั ภาระงาน/ช้ินงาน
ที่ เรยี นรู้ คะแนน
6. การเขียน 1.อธบิ ายความหมายและความสำคัญ 5 1.ใบงาน
ของการเขียนได้ 2. คำถามทา้ ยบท
2.อธบิ ายความหมาย องคป์ ระกอบ (งานทุกชน้ิ มกี ำหนดสง่ ทา้ ยชัว่ โมง
และรปู แบบของยอ่ หนา้ ได้ สอน)
3.อธบิ ายหลักการเขียนทัว่ ไปได้
4.เขียนโครงเรื่องตามหลกั การเขียนได้
5.ใฝเ่ รียนรู้
6.มุ่งมัน่ ในการทำงาน
7. การเขียนประเภท 1.อธิบายความหมายและหลักการ 5 1.ใบงาน
ต่าง ๆ เขียนสรุปความ อธิบาย และบรรยาย 2. คำถามทา้ ยบท
ได้ (งานทุกชิ้นมกี ำหนดสง่ ท้ายชั่วโมง
2 .เขียน สรุป ความ อธิบ าย แล ะ สอน)
บรรยายได้
3. มีส่วนร่วมกับกิจกรรมในช้ันเรียน
4.รบั ผดิ ชอบต่องานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
สอบกลางภาคเรยี นที่ 1 20
8. การเขียนประวตั ิ 1.อธบิ ายความหมาย หลักการ และ 5 1.ใบงาน
ย่อ การกรอก วธิ กี ารเขียนประวัติย่อ การกรอก 2. คำถามท้ายบท
แบบฟอร์ม และ แบบฟอร์ม และการเขยี นข้อความ (งานทุกชน้ิ มกี ำหนดส่งท้ายช่วั โมง
การเขยี นข้อความ ติดตอ่ กิจธรุ ะได้ สอน)
ตดิ ตอ่ กจิ ธรุ ะ 2.เขยี นประวัติยอ่ กรอกแบบฟอรม์
และเขียนข้อความตดิ ตอ่ กจิ ธรุ ะได้
3.มสี ว่ นร่วมกับกจิ กรรมในช้ันเรยี น
4.รบั ผิดชอบตอ่ งานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
ลำดับ ช่อื หน่วยการ ผลการเรยี นรู้ น้ำหนกั ภาระงาน/ช้ินงาน
ที่ เรียนรู้ คะแนน
9. การเขียนรายงาน 1.อธิบายความหมาย หลกั การ และ 5 1.ใบงาน
เชิงวชิ าการและ วิธกี ารการเขยี นรายงานเชิงวิชาการ 2. คำถามทา้ ยบท
การเขยี นโครงการ และการเขียนโครงการได้ (งานทุกชิ้นมกี ำหนดสง่ ทา้ ยชว่ั โมง
2.เขยี นรายงานเชงิ วิชาการและเขยี น สอน)
โครงการได้
3.มีสว่ นร่วมกบั กจิ กรรมในช้นั เรยี น
4.รบั ผดิ ชอบต่องานทไี่ ด้รบั มอบหมาย
10. การพูด 1.บอกความหมายของการพดู ได้ 5 1.ใบงาน
2.วิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบของการพดู 2. คำถามทา้ ยบท
และคุณสมบตั ขิ องผ้พู ูดทด่ี ไี ด้ (งานทกุ ชิ้นมกี ำหนดสง่ ท้ายชั่วโมง
3.อธบิ ายหลกั การพูดท่วั ไปและ สอน)
ประโยชน์ของการพดู ได้
4.พดู เล่าประสบการณไ์ ด้
5.มสี ่วนร่วมกบั กจิ กรรมในชน้ั เรยี น
6.รบั ผิดชอบตอ่ งานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
11. การพูดในโอกาส 1.อธิบายหลกั การพูดและวิธีการพูด 5 1.ใบงาน
ตา่ ง ๆ (๑) ในโอกาสต่าง ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง 2. คำถามทา้ ยบท
2.ใชถ้ ้อยคำ สำนวนโวหารในการพูด (งานทกุ ชิ้นมกี ำหนดสง่ ท้ายชว่ั โมง
แบบต่าง ๆ ได้เหมาะสม สอน)
3. มสี ่วนร่วมกบั กจิ กรรมในชั้นเรียน
4.รับผิดชอบตอ่ งานท่ีได้รบั มอบหมาย
12. การพดู ในโอกาส 1.อธบิ ายหลกั การพูดและวธิ ีการพดู 5 1.ใบงาน
ตา่ ง ๆ (2) ในโอกาสต่าง ๆ ได้ถกู ตอ้ ง 2. คำถามทา้ ยบท
2.ใชถ้ ้อยคำ สำนวนโวหารในการพดู (งานทกุ ชิ้นมกี ำหนดส่งท้ายชว่ั โมง
แบบตา่ ง ๆ ได้เหมาะสม สอน)
3. มสี ว่ นรว่ มกบั กจิ กรรมในชนั้ เรียน
4.รับผิดชอบต่องานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
ลำดับ ชือ่ หนว่ ยการ ผลการเรยี นรู้ น้ำหนัก ภาระงาน/ช้นิ งาน
ท่ี เรียนรู้ คะแนน
13. เทคนคิ การพฒั นา 1.อธบิ ายความหมาย ลกั ษณะ 5 1.ใบงาน
ทกั ษะการรบั สาร ความสำคัญ และรปู แบบของผัง 2. คำถามท้ายบท
และสง่ สาร กราฟิกได้ (งานทกุ ชน้ิ มกี ำหนดสง่ ทา้ ยช่วั โมง
2.สามารถรบั สารและสง่ สารดว้ ยผงั สอน)
กราฟกิ ได้
3. มีส่วนรว่ มกบั กจิ กรรมในชัน้ เรียน
4.รบั ผดิ ชอบตอ่ งานท่ไี ด้รบั มอบหมาย
สอบปลายภาคเรยี นท่ี 1 20
รวม 100
1
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ รหัสวชิ า ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๑ คาบ
หน่วยการเรียนรู้ที่ – เรือ่ ง ปฐมนิเทศ
๑. จุดประสงคร์ ายวชิ า
-
๒. สมรรถนะรายวิชา
-
๓. แนวคดิ
การมีปฏสิ ัมพนั ธก์ ันระหว่างครแู ละนกั เรียน และการทำความรจู้ ักระหวา่ งกนั เปน็ สิ่งสำคญั อย่างมาก
ในการเรียนการสอน ผู้สอนจะชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการหรือกระบวนการจัดการเรียนรู้
แหล่งการเรียนรู้ และเกณฑ์การวัดผลประเมินผล รวมถึงการทดสอบก่อนเรียน เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนและมีเจตคติที่ดีในการเรียน เพื่อให้ผู้เรยี นเตรยี มพรอ้ มและเข้าใจถึงกระบวนการจัดการเรียนรู้
เหน็ คณุ คา่ และสามารถนำภาษาไปใช้เป็นเครอื่ งในการสื่อสารกับผูอ้ นื่ ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ มีความภาคภูมิใจ
ในภาษาของตน สามารถอนุรักษ์และสบื สานภาษาอันเปน็ สมบตั ิของชาตไิ วส้ บื ไป
๔. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
๔.๑ เข้าใจในแนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิชาภาษาไทยพืน้ ฐาน
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
๔.๒ ทดสอบกอ่ นเรียน
ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
๔.๓ มคี วามพงึ พอใจและมีเจตคตทิ ีด่ ตี อ่ การเรียนภาษาไทย
๕. สาระการเรยี นรู้ / เน้ือหาสาระ
๕.๑ จุดประสงคร์ ายวชิ า มาตรฐานรายวชิ า และคำอธบิ ายรายวิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน
๕.๒ การวัดและการประเมนิ ผลรายวชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน
๖. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
ขัน้ นำ (๑๐ นาที)
๑. ครกู ลา่ วทักทายนกั เรยี นและเชค็ รายชอ่ื ตามจำนวนนักเรียน
2
๒. นักเรียนร่วมกันตอบคำถาม “ภาษาไทยจำเป็นต้องเป็นวิชาเรียนหรือไม่ ในเมื่อทุกคน
ใชใ้ นชวี ิตประจำวันอยแู่ ล้ว”
๓. ครูแจกกระดาษให้นักเรียนคนละ ๒ แผ่น ให้เขียนคำตอบของตนเอง โดยไม่เขียนช่ือ
และนำไปตดิ บนกระดาน
๔. ครูเลือกคำตอบที่น่าสนใจมา ๑ คำตอบ และให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่าเพราะเหตุใด
จึงเป็นเช่นนั้น (แนวคำตอบ : จำเป็น เพราะต้องเรียนรู้เพื่อนำใช้อย่างถูกต้องทั้งในชีวิตประจำวัน
และเพือ่ การทำงาน / ไมจ่ ำเปน็ เพราะเป็นภาษาทีค่ นไทยพดู ไดอ้ ย่แู ล้ว ควรเรยี นภาษาอ่ืนมากกวา่ )
๕. จากคำถามข้างต้น ครูตั้งคำถามกับนักเรียนอีกว่า “คาดว่าวิชานี้จะสอนอะไร” โดยให้นักเรียน
คดิ คำตอบไวใ้ นใจ
ขั้นสอน ( ๓๕ นาที
๑. ครูกล่าวว่า “จากคำถามข้างต้น วันนี้ครูจะมาอธิบายเกี่ยวกับเนือ้ หาของวิชาภาษาไทยพื้นฐาน
ท่ีเรากำลงั จะเรยี นกนั ”
๒. ครูชี้แจงแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิชา การวัดและประเมินผลประจำ
รายวิชา และการทดสอบก่อนเรยี น
๓. นักเรยี นซักถามขอ้ สงสยั ครตู อบคำถาม
๔. ครแู จกแบบทดสอบกอ่ นเรยี น และอธบิ ายคำช้แี จงใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจตรงกนั ดังน้ี
๔.๑ แบบทดสอบกอ่ นเรยี นฉบบั น้ี เป็นแบบปรนัย ๕ ตวั เลือก
๔.๒ มเี วลาในการทำแบบทดสอบ ๓๐ นาที
๔.๓ ครูจะเตือนเวลาทั้งหมด ๓ ครั้ง คือก่อนหมดเวลา ๑๕ นาที ก่อนหมดเวลา ๕ นาที
และหมดเวลา
๔.๔ ผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุดจะได้รับคูปองมหาสนุกในคาบถัดไป โดยคูปองนี้จะเป็น
ประโยชนก์ ับการเรียนในคาบถดั ไปด้วย
๕. เมอ่ื นักเรียนพรอ้ ม ครูใหส้ ญั ญาณเริ่มทำข้อสอบ
๖. ครูใหส้ ญั ญาณกอ่ นหมดเวลา ๑๕ นาที ๕ นาที และบอกหมดเวลา
๗. นักเรียนส่งกระดาษคำตอบจากด้านหลังมาข้างหน้า โดยเรียงตามเลขที่ ให้เลขที่น้อยกว่า
อยดู่ ้านบนและเลขท่ีมากกวา่ อยดู่ ้านลา่ ง
๘. ครตู รวจสอบความเรียบร้อยของกระดาษคำตอบและกระดาษคำถามอกี ครงั้
ขนั้ สรปุ (๑๐นาท)ี
๑. ครเู ลือกคำตอบท่ีนกั เรียนตอบไวใ้ นตอนตน้ คาบมาอา่ นใหฟ้ งั อกี ครั้ง
๒. นกั เรียนร่วมกันสรปุ ประโยชนข์ องภาษา
3
๗. สือ่ /นวัตกรรมการเรียนรู้
๗.๑ โปรแกรมนำเสนอ เร่อื ง การชแ้ี จง จดุ ประสงค์ มาตรฐานและคำอธิบายรายวิชา
๗.๒ แบบทดสอบกอ่ นเรียน
๘. ชนิ้ งาน/ภาระงานของนักเรยี น
-
๙. แหล่งการเรยี นรเู้ พิม่ เตมิ
๙.๑ ห้องสมุดของโรงเรยี น
๙.๒ อนิ เทอรเ์ นต็
๙.๓ สื่อสิ่งพมิ พ์ตา่ ง ๆ
๑๐. การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวดั เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ
ตัวบง่ ชี/้ พฤตกิ รรม การถาม-ตอบ
ชดุ คำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกตอ้ งมากกวา่
ดา้ นความรู้ (K) การทำแบบทดสอบ กว่าร้อยละ ๘๐ ถอื ว่าผา่ น
๑. เขา้ ใจในแนวทางการจัดกจิ กรรมการ การสงั เกตพฤตกิ รรม
เรียนการสอนในรายวชิ าภาษาไทย แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ทำแบบทดสอบ
พื้นฐาน ถูกตอ้ งมากกวา่ ร้อยละ ๘๐
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
๒. ทดสอบกอ่ นเรียน ถือว่าผ่าน
ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) แบบสงั เกตพฤติกรรม ได้เกณฑค์ ณุ ภาพดี
๓. มคี วามพงึ พอใจและมเี จตคติท่ีดีตอ่
การเรยี นภาษาไทย
4
รายละเอยี ดเกณฑ์การให้คะแนน
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการมสี ่วนร่วมในชน้ั เรียน (รายบุคคล)
คำชี้แจง : เกณฑ์การประเมินผลแบบสังเกตการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนสร้างขึ้นเพื่อให้ครูใช้เป็นเกณฑ์
ในการประเมินนักเรยี นเปน็ รายบุคคลโดยพิจารณาพฤตกิ รรมของนักเรียนวา่ ตรงเกณฑ์ในช่องใด
เกณฑ์ ระดบั คะแนน
การประเมิน
๑. มีความ ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรับปรงุ (๑)
รับผิดชอบ มคี วามรับผิดชอบ ไม่มีความ
ตอ่ หน้าท่ีและ มีความผิดชอบตอ่ มคี วามรบั ผิดชอบ รับผดิ ชอบตอ่ งาน
๒. การให้ความ งานท่ีได้รบั และต่อหน้าที่
รว่ มมอื ในการ มอบหมายทุกงาน งานและหนา้ ที่ ตอ่ งานและหนา้ ท่ี ท่ีได้รบั มอบหมาย
ทำกิจกรรม ใหค้ วามรว่ มมือใน ไมใ่ ห้ความร่วมมือ
การทำกจิ กรรม ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ในการทำกจิ กรรม
๓. มวี ินยั และมี อย่างดีทกุ ครง้ั ดว้ ย
มารยาทใน ความเต็มใจและมี ๗๐ % ตำ่ กวา่ ๗๐ % ไม่มวี นิ ยั ไม่มี
ชั้นเรยี น ความกระตอื รอื ร้น มารยาทในชัน้ เรยี น
มีวนิ ัยและมารยาท ให้ความร่วมมอื ใน ให้ความร่วมมือใน และไมป่ ฏบิ ัตติ าม
๔. ความตรง ในช้ันเรยี นและ ขอ้ ตกลง
ตอ่ เวลา ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง การทำกจิ กรรม การทำกจิ กรรมแต่
อย่างเครง่ ครัด เขา้ ช้ันเรียนช้า
ทกุ ข้อ แตข่ าดความ ไม่ค่อยเตม็ ใจ ตอ้ งมี เกนิ กวา่ ๑๐ นาที
หรอื ไมเ่ ขา้ ช้นั เรยี น
กระตือรือรน้ การเตือน
มวี ินยั และมารยาท มวี ินัยและมารยาท
ในชนั้ เรียนแต่ ในช้นั เรียนแตไ่ ม่
ปฏิบัตติ ามข้อตกลง ค่อยปฏบิ ัตติ าม
ไมค่ รบ ขาดขอ้ ใด ขอ้ ตกลง ละเมดิ
ข้อหน่ึง ข้อตกลง ๒-๓ ข้อ
เข้าชั้นเรยี นตรง เข้าชั้นเรียนชา้
เวลา ๕-๑๐ นาที
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๒ 5
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่ือง ภาษากบั การสอื่ สาร รหัสวชิ า ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
เวลา ๓ คาบ
๑. จุดประสงค์รายวิชา
๑.๑ ร้แู ละเข้าใจเกีย่ วกับหลกั การใชภ้ าษาไทยในการส่อื สาร
๑.๒ สามารถนำความรู้และทักษะการฟัง การดู การพูด การอ่านและการเขียนไปใช้สื่อสาร
ในชวี ิตประจำวนั ไดถ้ กู ต้องตามหลกั การ
๒. สมรรถนะรายวิชา
๒.๑ แสดงความรเู้ ก่ียวกบั หลกั ภาษาไทยในการฟัง การดู การพดู การอ่าน และการเขียน
๓. แนวคดิ
การสื่อสารเป็นเครือ่ งมือและเป็นเป็นปัจจัยสำคัญในการถ่ายทอดข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ความคิด
ความร้สู ึก และความต้องการต่าง ๆ จากผสู้ ง่ สารไปยังผ้รู บั สารผ่านการใชภ้ าษา ท้ังนี้ เพื่อผรู้ ับสารเกิดการรับรู้
เขา้ ใจ และตอบสนองไดต้ รงตามวัตถปุ ระสงคท์ ่ีผู้ส่งสารต้งั ใจ จงึ ถือวา่ การส่งสารนั้นสมั ฤทธผิ ล และการสอ่ื สาร
จะสมั ฤทธิผลได้นั้น นอกจากผสู้ ่งสารและผ้รู บั สารจะต้องมคี วามรู้ด้านการสอื่ สาร ยงั ตอ้ งมีความรู้ด้านการใช้
ภาษาทถี่ กู ต้องด้วย
๔. ผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวงั
ดา้ นความรู้ (K)
๔.๑ อธิบายความหมายและความสำคัญของภาษาได้
๔.๒ อธิบายความหมายและองคป์ ระกอบของการสื่อสารได้
๔.๓ อธิบายความสมั พนั ธข์ องภาษากบั การสอ่ื สารได้
๔.๔ อธบิ ายหลกั การและอุปสรรคในการสง่ สารและรับสารได้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
๔.๕ แสดงบทบาทสมมตเิ ก่ยี วกับการส่อื สารได้
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
๔.๖ มมี ารยาทในการสื่อสาร
๔.๗ ทำงานตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย
6
๕. สาระการเรยี นรู้ / เน้ือหาสาระ
๕.๑ ความหมายและความสำคัญของภาษา
๕.๒ ความหมายและองคป์ ระกอบของการส่อื สาร
๕.๓ ความสัมพนั ธข์ องภาษากบั การสอื่ สาร
๕.๔ การรบั สารและการสง่ สาร
๖. กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้
คาบที่ ๑
ขั้นนำ (๑๐ นาที)
๑. นักเรยี นทำกิจกรรม “Taxi me ส่ังได”้ ครูอธบิ ายกติกา ดงั น้ี
๑.๑ นักเรียนเลอื กหมายเลขที่ตนเองชอบ จากนน้ั ครูสมุ่ นกั เรียนออกมาจำนวน ๑๐ คน
๑.๒ นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมแสดงบทบาทสมมติ โดยสมมติให้นักเรียน ๑ คน
เปน็ คนขับรถแทก็ ซีแ่ ละนักเรียนสมาชกิ ที่เหลือในกลุม่ เปน็ ผู้โดยสาร
๑.๓ นักเรียนสุ่มหยิบชุดบตั รคำสถานท่ี เมื่อได้ชุดบัตรคำเรียบร้อยแล้ว จะให้สัญญาณเรม่ิ
จับเวลา ๒ นาที
๑.๔ เมอื่ เรมิ่ กิจกรรม คนขับแทก็ ซ่จี ะทำทา่ เหมือนกำลังขับรถและพูดคำว่า “ไปไหนดีครับ/
คะ” ผโู้ ดยสารจะมหี นา้ ที่เปดิ ดูข้อความในบตั รคำ และหาวิธีการเพอ่ื ใบ้ใหค้ นขบั แทก็ ซส่ี ามารถตอบคำที่อยู่ใน
บัตรคำได้ โดยมีข้อห้าม คือ คนขับแท็กซี่จะต้องไม่เห็นคำในบัตรและผู้โดยสารห้ามพูดคำที่มีอยู่ในบัตรคำ
เด็ดขาด หากผดิ ขอ้ หา้ มจะไม่นับคะแนนคำนัน้
๑.๕ เลน่ ท้ังหมด ๒ รอบ โดยรอบท่ี ๒ เร่มิ ข้นึ หลังจากกลมุ่ แรกทำกจิ กรรมเสรจ็ ครสู ุม่ เลือก
นักเรียนข้ึนมาอีก ๑๐ คน ทำกิจกรรมตามลำดับเดิม แตม่ เี งื่อนไขเพม่ิ เติมข้ึนมาว่า ผโู้ ดยสารตอ้ งใบ้ดว้ ยการพดู
อธบิ ายอย่างเดียว ห้ามแสดงท่าทางใด ๆ โดยเดด็ ขาด
๒. ครูถามคำถามนักเรียนว่า “การใบ้คำแบบใดง่ายกว่ากัน ระหว่างการใบ้ด้วยคำพดู และท่าทางกบั
การใบ้ด้วยคำพูดเพียงอยา่ งเดียว”
๓. ครูสรุปกิจกรรมเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า “สิ่งที่ผู้โดยสารแสดงออกมาตอนใบ้คำเรียกว่า
การส่อื สาร ซงึ่ การส่อื สารมี ๒ แบบ ไดแ้ ก่ สอ่ื สารดว้ ยวจั นภาษา และสือ่ สารดว้ ยอวจั นภาษา”
ขั้นสอน (๓๕ นาที)
๑. ครูอธิบายว่า ภาษากบั การสื่อสารเก่ียวเนอื่ งกนั นักเรยี นจะสามารถส่อื สารไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
จำเป็นจะต้องเข้าใจความหมายและความสำคัญของภาษาที่มีต่อการสื่อสาร องค์ประกอบ
7
ของการส่อื สาร เพอ่ื ให้เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษาและการส่ือสาร และสามารถใชภ้ าษาในการสื่อสารได้
อย่างมีประสิทธภิ าพ ตามหวั ขอ้ ดังนี้
๑.๑ ความหมายของภาษา
๑.๒ ความสำคัญของภาษา
๑.๓ ความหมายของการส่อื สาร
๑.๔ องค์ประกอบของการสอ่ื สาร
๑.๕ ความสัมพันธข์ องภาษากบั การสือ่ สาร
๑.๖ การรับสารและการส่งสาร
๒. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มละ ๖ - ๘ คน ครูเตรียมเนื้อหาสำหรับหัวข้อต่าง ๆ ไว้ในแต่ละมุม
ให้แต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทนออกไปศกึ ษาแตล่ ะหวั ข้อ หวั ขอ้ ละ ๑ - ๒ คน เวลา ๕ นาที
๓. สมาชิกแต่ละกลุ่มแยกย้ายกลับเข้าประจำกลุ่ม และให้สมาชิกอธิบายเนื้อหาที่ศึกษามาให้ แก่
สมาชิกของกลุม่ ฟงั
๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำผังมโนทัศน์เกี่ยวกับความสำคัญของภาษาและการสื่อสารตามหัวข้อที่ได้
ศึกษามาโดยสรปุ ตกแต่งใหส้ วยงาม ครตู รวจสอบความถกู ต้องของเนอ้ื หา
ข้ันสรปุ (๑๐นาท)ี
๑. นักเรียนตอบคำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ตอนที่ ๑ และทำใบงานที่ ๑.๑ เรื่อง ความหมาย
และความสำคญั ของภาษา
คาบท่ี ๒
ข้นั นำ (๑๐ นาที)
๑. นักเรียนดูคลิปวิดีโอเรื่อง ก็เฮียพูดไม่เคลียร์อะ จากรายการตลก ๖ ฉาก เผยแพร่เมื่อวันที่
๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐ และตอบคำถามจากในเร่ืองวา่ การส่ือสารทเ่ี กดิ ข้ึนนนั้ เป็นการสอื่ สารที่สัมฤทธิผล
หรือไม่ เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ: ไม่สัมฤทธ์ิผล เพราะผู้รับสารไม่สามารถเข้าใจสารที่ผู้ส่งสารต้องการส่ือ
แนวทางแกไ้ ขคือผู้พูดควรอธบิ ายให้ชัดเจน/ผฟู้ งั ควรสอบถามใหช้ ัดเจน)
๒. ครูนำผงั มโนทัศน์ท่ีแตล่ ะกลุม่ ทำไวเ้ มอ่ื คาบท่แี ล้วติดบนผนงั หอ้ ง
ขั้นสอน (๓๕ นาท)ี
๑. นกั เรยี นทำกิจกรรม “เลือกให้ดมี ีรางวัล” โดยมกี ติกาดังน้ี
๑.๑ ให้นักเรียนทุกกลุ่มเดินชมผังมโนทัศน์ของแตล่ ะกลุ่มให้ครบ และเลือกผงั มโนทัศนท์ ่มี ี
เน้อื หาครบถ้วน สรุปไดต้ รงประเดน็ และสวยงามภายในเวลาทงั้ หมด ๑๐ นาที
๑.๒ นกั เรียนนง่ั ประจำกลมุ่ และปรกึ ษากนั เพื่อเลอื กกลมุ่ ทีด่ ที ่สี ุด
8
๑.๓ เม่อื แตล่ ะกลุ่มไดข้ ้อสรุปแลว้ ส่งตวั แทนออกไปรบั สต๊กิ เกอร์กับครูผสู้ อน และนำไปติดท่ี
ผังมโนทศั นข์ องกลุ่มท่ีลงมติ โดยมีขอ้ แมว้ า่ ทุกกลุ่มห้ามเลือกและลงคะแนนใหก้ ลุ่มของตนเอง
๑.๔ กลุ่มทถี่ ูกโหวตมากทส่ี ุดจะเปน็ กลุ่มที่ชนะ
๒. นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั ผงั มโนทัศน์ ครูสรุปเนื้อหาและเพ่มิ เติมประเด็นทข่ี าดไป
ประกอบโปรแกรมนำเสนอ
๓. นักเรียนแต่ละกลุ่มแข่งขันกันตอบคำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ ๒ กลุ่มที่ตอบได้ถูกต้อง
และรวดเร็วทสี่ ดุ จะไดค้ ะแนนในข้อนัน้ ไป เมือ่ ตอบคำถามครบถ้วน กลุม่ ท่มี คี ะแนนมากท่สี ดุ จะเปน็ กลุม่ ที่ชนะ
และไดส้ ทิ ธ์ใิ นการเลอื ก ๑ ครั้ง
ขนั้ สรุป (๑๐ นาที)
๑. ครูมอบหมายภาระงาน ดังนี้
๑.๑ การแสดงสถานการณส์ มมติเกย่ี วกบั การส่อื สาร โดยให้สง่ ตัวแทนกล่มุ จับสลากในหัวข้อ
ต่อไปนี้
- การสอื่ สารที่สัมฤทธิผล
- การสื่อสารทไี่ ม่สมั ฤทธิผล
นักเรียนสุ่มลำดับการแสดงสถานการณ์สมมติ โดยกลุ่มที่ชนะในกิจกรรมตอบคำถามจะได้
เลอื กลำดบั ก่อน และกลมุ่ ทเ่ี หลอื จะต้องจับสลากหมายเลข
๑.๒ ทำใบงานที่ ๑.๒ เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสารและความสัมพันธ์ของภาษากับ
การส่อื สาร
คาบที่ ๓
ขนั้ นำ (๕ นาที)
๑. ครูชีแ้ จงเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน และกติกาในการแสดงสถานการณส์ มมติ
๒. นักเรียนจะร่วมเป็นผู้ประเมินการแสดงสถานการณ์สมมตดิ ้วย โดยเมื่อแสดงเสร็จ ครูจะสุ่มหยบิ
หมายเลขกลุม่ และใหก้ ลุ่มที่ถูกสมุ่ ไดน้ น้ั ส่งตัวแทนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการแสดง
ขน้ั สอน (๔๐ นาท)ี
๑. นกั เรยี นแสดงสถานการณส์ มมติการส่อื สารทีส่ มั ฤทธิผลและไม่สมั ฤทธิผล ตามลำดบั ที่จบั สลากได้
กลมุ่ ละ ๕ นาที
ขั้นสรปุ (๑๐นาที)
๑. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับภาษาและการสือ่ สาร และใหข้ ้อเสนอแนะรายกลุ่มเพื่อนำไป
ปรับใช้ในการฝึกปฏิบัติการพดู คร้งั ต่อไป
9
๒. ทำใบงานที่ ๑.๓ เร่อื ง การรับสารและการสง่ สาร
๗. สอ่ื /นวตั กรรมการเรยี นรู้
๗.๑ บตั รคำเกม Taxi Me ส่งั ได้
๗.๒ โปรแกรมนำเสนอ เรื่อง ภาษาและการสื่อสาร
๗.๓ หนังสอื แบบเรยี นภาษาไทยพนื้ ฐาน
๘. ชนิ้ งาน/ภาระงานของนกั เรยี น
๘.๑ การแสดงสถานการณ์สมมติการสอื่ สารที่สมั ฤทธผิ ลและไม่สัมฤทธิผล
๘.๒ คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ ๑, ใบงานที่ ๑.๑ เรื่อง ความหมายและความสำคัญ
ของภาษา, ๑.๒ เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสารและความสัมพันธข์ องภาษากับการสื่อสาร, ใบงานที่ ๑.๓
เรอ่ื ง การรับสารและการสง่ สาร
๙. แหล่งการเรยี นรู้เพ่มิ เติม
๙.๑ หอ้ งสมุดของโรงเรียน
๙.๒ อนิ เทอรเ์ น็ต
๙.๓ ส่อื ส่งิ พมิ พต์ า่ ง ๆ
10
๑๐. การวัดและประเมนิ ผล
ตวั บง่ ชี้/พฤติกรรม วธิ กี ารวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน
ดา้ นความรู้ (K) การถาม-ตอบ ชุดคำถาม ตอบคำถามไดถ้ กู ตอ้ ง
๑. อธิบายความหมายและความสำคัญของภาษาได้ มากกว่าร้อยละ ๘๐
๒. อธิบายความหมายและองค์ประกอบของการส่อื สาร การประเมนิ แบบประเมิน
ได้ การแสดง การแสดง ถอื ว่าผา่ น
๓. อธิบายความสมั พันธข์ องภาษากับการสือ่ สารได้ สถานการณ์ สถานการณ์
๔. อธิบายหลักการและอุปสรรคในการส่งสารและ สมมติการ สมมติการ แสดงสถานการณส์ มมติ
รับสารได้ สอ่ื สารที่ สือ่ สารท่ี การสอื่ สารทสี่ มั ฤทธิผล
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) สมั ฤทธิผลและ สมั ฤทธิผลและ และไม่สมั ฤทธิผลไดค้ ะแนน
๕. แสดงบทบาทสมมตุ ิเกี่ยวกับการสอื่ สารได้ ไม่สัมฤทธิผล ไมส่ ัมฤทธผิ ล ร้อยละ ๘๐ ถอื ว่าผา่ น
ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) การสงั เกต แบบสงั เกต ได้เกณฑค์ ณุ ภาพดี
๖. มีมารยาทในการสื่อสาร พฤตกิ รรม พฤติกรรม
๗. ตั้งใจเรียนและตงั้ ใจทำงานตามที่ได้รบั มอบหมาย
11
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
ชื่อวิชา ภาษาไทย ระดบั ช้ัน…………........
เรอื่ ง ภาษาและการส่ือสาร วันท.ี่ .............เดือน..................................พ.ศ. ..............
คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดับ ชื่อกลุ่ม การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี การมี รวม
ที่ ความ ฟังคนอ่ืน ตามทไ่ี ด้รบั นำ้ ใจ ส่วนร่วมใน ๒๐
คดิ เห็น มอบหมาย การปรบั ปรุง คะแนน
ผลงานกลุ่ม
๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓๒๑
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบา้ งครง้ั ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
๑๘ – ๒๐ ดมี าก
๑๔ – ๑๗ ดี
๑๐ – ๑๓ พอใช้
ตำ่ กว่า ๑๐ ปรับปรงุ
ลงชอื่ .........................................................................ผปู้ ระเมิน
(…………………………………………….)
........../.........../............
12
แบบประเมนิ ผงั มโนทัศน์
ชื่อกลมุ่ ...............................................................
สมาชกิ
................................................................................................เลขที่...............
................................................................................................เลขที.่ ..............
................................................................................................เลขท่.ี ..............
................................................................................................เลขท่.ี ..............
................................................................................................เลขที่...............
................................................................................................เลขที่...............
................................................................................................เลขท.่ี ..............
กลุม่ ท่.ี ..........
ลำดบั ท่ี เน้ือหาทตี่ ้องการประเมนิ คุณภาพการปฏิบตั ิ
๓ ๒๑
๑. สรปุ เนือ้ หาครบถ้วน ตรงประเดน็
๒. ความสะอาด เรียบร้อย
๓. ความสวยงาม
รวม
ข้อเสนอแนะ.........................................................................................................................................................
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ดี
๗-๙
๕-๗ ปานกลาง / พอใช้
ต่ำกว่า ๕ ปรับปรงุ
ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน
(........................................................................)
วันที.่ ........./........../....
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ 13
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรอ่ื ง การใชถ้ ้อยคำ รหสั วิชา ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
เวลา ๓ คาบ
๑. จุดประสงคร์ ายวิชา
๑.๑ รู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั หลกั การใช้ภาษาไทยในการส่อื สาร
๑.๒ สามารถเลอื กใช้ภาษาไทยได้ถกู ตอ้ งตามหลกั การใช้ภาษา เหมาะสมกับบคุ คล กาลเทศะ โอกาส
และสถานการณ์
๒. สมรรถนะรายวิชา
๒.๑ แสดงความรเู้ กย่ี วกับหลกั ภาษาไทยในการฟงั การดู การพดู การอา่ น และการเขียน
๓. แนวคดิ
คำเป็นหน่วยทางภาษาที่มีความสำคัญอยา่ งยิ่งในการส่ือสาร เนื่องจากสามารถใช้ส่ือความหมายให้
ผ้สู ่งสารและผรู้ ับสารมคี วามเข้าใจตรงกนั ดังนั้นการสื่อสารจงึ ตอ้ งระมัดระวงั การใช้ถอ้ ยคำ ทงั้ การส่อื สารด้วย
เสียงที่จะต้องออกเสียงพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ให้ถูกต้อง รวมถึงการสื่อสารโดยการใช้คำ
และความหมายและบรบิ ทในการสอ่ื สารจึงจะทำใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคข์ องการสื่อสาร
๔. ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั
ด้านความรู้ (K)
๔.๑ อธิบายลกั ษณะและความสำคัญของการส่ือสารด้วยเสยี งพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์
ได้
๔.๒ อธิบายการเขียนสะกดคำให้ถูกต้องตามอกั ขรวิธีและเลอื กใชค้ ำได้ถูกต้อง เหมาะสมกับ
บรบิ ทในการสือ่ สารได้
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
๔.๓ เขียนสะกดคำถูกต้องตามอักขรวิธี และเลือกใช้คำได้ถูกต้องและเหมาะสมกับบริบท
ในการสื่อสาร
ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
๔.๖ มวี ินยั
๔.๗ ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๘ ม่งุ มั่นในการทำงาน
14
๕. สาระการเรยี นรู้ / เน้ือหาสาระ
๕.๑ การส่ือสารผา่ นเสียง
๕.๒ การส่ือสารโดยการใชค้ ำและความหมาย
๖. กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
คาบท่ี ๑
ขน้ั นำ (๑๐ นาที)
๑. นักเรียนพจิ ารณาสถานการณ์ตวั อยา่ งตอ่ ไปนีแ้ ละตอบคำถาม
๑.๑ สถานการณต์ วั อยา่ ง
จี๊ด : เธอเหน็ ข่าวน้ีหรอื ยัง ของดาราคนนน้ั ทเ่ี ธอชอบ
แจว๋ : ไม่เหน็ เลย หายหน้าหายตาไปนานมาก ฉันเองกไ็ มไ่ ดต้ ามข่าวมาพกั ใหญ่
จด๊ี : วา๊ ย! เธอพลาดไดไ้ ง ข่าวคาวออกจะใหญ่โต
แจว๋ : ข่าวไม่ดีเลยเหรอ ไม่อ่านแลว้ ไดไ้ หม
จี๊ด : ข่าวไมด่ อี ะไรของเธอ ก็เนีย่ เขาจะกลับมาแสดงละครแลว้ ขา่ วดีของแฟนคลับ
อย่างเธอมากกวา่
แจ๋ว : แหม ก็เธอบอกเองวา่ ข่าวคาว ฉนั กก็ ลวั ไปก่อนสิ
จากสถานการณ์ข้างต้น นักเรียนคิดว่าสาเหตุใดที่ทำให้การสื่อสารครั้งนี้อาจเกิดความผิดพลาดได้
(แนวคำตอบ : เพราะแจ๋วออกเสยี งคำว่า “ขา่ วคราว” ไม่ชัด ทำใหจ้ ด๊ี เข้าใจความหมายที่แจ๋วตอ้ งการส่อื ผิด)
๒. นักเรียนร่วมกันตอบคำถามจากสถานการณ์ตัวอย่างอีกครั้ง โดยครูถามว่า “นักเรียนคิดว่า
การออกเสียงไม่ชัดเจนมีผลตอ่ การสอ่ื สารหรือไม่ เพราะเหตใุ ด”
(แนวคำตอบ: มผี ลตอ่ การส่อื สาร เพราะหากออกเสียงไมช่ ดั อาจทำใหเ้ ขา้ ใจคลาดเคล่อื นได้, ไม่มีผล เพราะคำ
แต่ละคำมีความหมายอยู่แลว้ เขา้ ใจกนั ได้งา่ ย)
๓. ครูสรุปคำตอบของนักเรียน และเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า การสื่อสารผ่านเสียงนี้ หรือการใช้
ถ้อยคำในการสื่อสารนี้ถูกใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน ฉะนั้นการสื่อสารโดยเลือกใช้ถ้อยคำและออกเสียง
ให้ชัดเจนนี้จึงมีความจำเป็นเพราะจะทำให้การสื่อสารนั้นสัมฤทธิผล ในวันนี้เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับเสียงของ
ภาษาทีเ่ ราใช้ในชีวิตประจำวนั นัน่ คอื เสยี งในภาษาไทย
ข้ันสอน ( ๔๐ นาท)ี
๑. นักเรยี นสุ่มหยิบบตั รคำจากกลอ่ งเสี่ยงทายคนละ ๑ ใบ สำรวจคำของตนเอง
๒. ครูสุ่มเลือกคำจากคลังคำในกล่องเสี่ยงทาย และให้นักเรียนเจ้าของคำวิเคราะห์คำของตนเองวา่
ประกอบด้วยเสยี งใดบา้ ง
15
๓. นักเรียนที่เหลือร่วมกันวิเคราะห์ว่าคำตอบของเพื่อนถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้อ งสามารถ
ตอบเพิม่ เติมได้
๔. ครสู ุ่มจำนวน ๔ - ๕ คำ โดยเลือกคำท่มี คี วามหลากหลายทางเสียง
๕. ครกู ล่าวชมเชยนักเรียนที่รว่ มกนั ตอบคำถาม และสรปุ คำตอบของนกั เรียนพร้อมทั้งอธิบายเพิ่มเตมิ
เร่อื งการสอ่ื สารผ่านเสยี งประกอบโปรแกรมนำเสนอ ตามหวั ขอ้ ดังน้ี
๕.๑ เสยี งพยัญชนะ
๕.๒ เสยี งสระ
๕.๓ เสยี งวรรณยกุ ต์
๖. นักเรียนจับคู่และหาบทอ่านจากหนังสือ นิยาย นิทาน นิยายแชทจอยลดา หรือสื่อใด ๆ ก็ได้ที่มี
ความยาวไม่เกนิ ๑๐ บรรทัด ภายในเวลา ๕ นาที
๗. นักเรียนดูบัตรคำที่สุ่มมาในตอนต้นคาบ หากบัตรคำของนักเรียนคนใดมีสัญลักษณ์พิเศษ คู่น้ัน
จะเป็นตัวแทนในการออกมาอ่านออกเสียงให้เพื่อนฟังหน้าชั้นเรียน และให้เพื่อนช่วยวิจารณ์ว่ามีการอ่าน
ออกเสียงผิดหรือไม่ โดยครคู อยสงั เกตและใหค้ ำแนะนำเม่อื อ่านจบ
ขนั้ สรุป (๑๕ นาที)
๑. นักเรียนตอบคำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ ๑ และใบงานที่ ๒.๑ เรื่อง ลักษณะและ
ความสำคัญของการส่อื สาร
คาบที่ ๒
ขน้ั นำ (๑๕ นาที)
๑. นักเรยี นทำกจิ กรรม “บงิ โกคำศพั ท”์ โดยครูอธิบายกตกิ าดังนี้
๑.๑ นักเรียนรับกระดาษจากครูและทำตารางขนาด ๓x๓ จะไดจ้ ำนวนท้งั หมด ๙ ชอ่ ง
๑.๒ เขยี นตามคำบอก โดยสามารถเขียนลงไปในช่องใดก็ได้ โดยใชค้ ำต่อไปนี้
- มัคนายก - อำมหติ
- ผดั ไทย - อสงไขย
- เวนคืน - เสื้อเชติ้
- กระษาปณ์ - มัคคุเทศก์
- ดอกไม้จนั ทน์
๑.๓ ครเู ฉลย ให้นกั เรยี นตรวจสอบความถูกตอ้ งและทำเครอ่ื งหมาย ✓ หากเขียนไดถ้ ูกต้อง
หากเขยี นผิดให้ทำเครือ่ งหมาย ทบั คำทเี่ ขยี น
16
๑.๔ คนที่มีเครื่องหมาย ✓ ติดต่อกันสามช่องในแนวใดแนวหนึ่งจากแนวนอน แนวต้ัง
แนวทแยงขวา แนวทแยงซา้ ย ใหต้ ะโกนคำวา่ “บิงโก”
๑.๕ นกั เรียนท่ีบงิ โกคนแรกจะเป็นผ้ชู นะและไดร้ ับรางวัล
๑.๖ ครูเฉลยต่อไปจนครบ นักเรยี นร่วมกันอา่ นและถามวา่ ขอ้ น้ใี ครผดิ บา้ ง
๒. ครูยกตัวอย่างคำท่นี กั เรียนผิดมากที่สุดจำนวน ๓ คำขึ้นมาบนกระดาน และรว่ มกันตั้งขอ้ สังเกตว่า
คำทส่ี ะกดผิดแตกตา่ งจากคำทสี่ ะกดถูกอยา่ งไร และเชอื่ มโยงเขา้ สบู่ ทเรียนเร่ืองการเขียนสะกดคำให้ถกู ต้องว่า
ปัจจุบันเกดิ ปัญหาเร่ืองการเขียนสะกดคำใหเ้ หน็ เปน็ จำนวนมาก โดยเฉพาะการเขยี นพยัญชนะต้น พยัญชนะ
ท้าย สระ วรรณยุกต์ และตัวการันต์ผดิ
ขนั้ สอน (๓๐ นาท)ี
๑. ครูอธิบายเรื่องการเขียนสะกดคำให้ถูกต้องประกอบโปรแกรมนำเสนอ และให้นักเรียน
รว่ มกันยกตัวอย่างตามหัวข้อดงั ตอ่ ไปนี้
๑.๑ พยญั ชนะตน้
๑.๒ พยญั ชนะทา้ ย
๑.๓ สระ
๑.๔ วรรณยกุ ต์
๑.๕ การันต์
๒. ครูอธิบายเรื่องการใช้คำให้ถูกความหมายประกอบโปรแกรมนำเสนอ โดยแบ่งเป็นหมวดต่าง ๆ
เพ่ือใหน้ ักเรียนเข้าใจได้ง่าย
ข้นั สรปุ (๑๐ นาท)ี
๑. ครูมอบหมายภาระงาน ดงั น้ี
๑.๑ การนำเสนอหน้าชน้ั เรยี น
นักเรียนจับกลุ่มจำนวน ๓-๔ คน เตรียมบทความ ข่าว หรือบทสัมภาษณ์จากอินเทอร์เน็ต
หนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร ความยาวไม่ต่ำกว่า ๑ หน้ากระดาษและช่วยกันวิเคราะห์ตัวอย่างที่หามาว่า
มีการสะกดคำผิดหรือไม่ และใชค้ ำผดิ ความหมายหรอื ไม่ อย่างไร และเตรยี มนำเสนอในคาบถัดไป
๑.๒ ทำใบงานที่ ๒.๒ เรอ่ื งการเขยี นสะกดคำ
คาบที่ ๓
ข้ันนำ (๑๐ นาที)
๑. ครชู แ้ี จงเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน และกตกิ าในการนำเสนอ ดังนี้
๑.๑ ทุกกลุ่มมีเวลาในการนำเสนอกลุ่มละ ๕ นาที
17
๑.๒ ครูจะส่งสัญญาณเตือนเวลาโดยการกดกระดิ่ง จะกด ๑ ครั้ง เมื่อเหลือเวลา ๒ นาที
และกด ๒ ครง้ั เม่อื หมดเวลา
๑.๓ การใหค้ ะแนนจะประเมนิ จากเนอ้ื หาในการนำเสนอ ส่อื ในการนำเสนอ การพดู นำเสนอ
และความตรงตอ่ เวลา
๑.๔ เมื่อนำเสนอเสร็จ ครูจะสุ่มเลือกกลุ่มที่เหลือให้แสดงความเห็นในประเด็นที่เพื่อน
นำเสนอ
ข้นั สอน (๔๐ นาท)ี
๑. นักเรียนนำเสนอจากสื่อที่เตรียมมา โดยวิเคราะห์ในเรื่องของการสะกดคำผิดและการใช้คำผิด
ความหมาย
ข้นั สรปุ (๑๕ นาท)ี
๑. นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปเก่ียวกับการใชถ้ ้อยคำ และให้ข้อเสนอแนะโดยรวมเพื่อนำไปปรับใช้
ในการฝึกปฏบิ ัติการพดู ครั้งต่อไป
๒. นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคำถามท้ายหนว่ ยการเรียนรู้ตอนท่ี ๒
๗. ส่อื /นวัตกรรมการเรยี นรู้
๗.๑ บตั รคำ
๗.๒ โปรแกรมนำเสนอ เรื่อง การใชถ้ อ้ ยคำ
๗.๓ หนังสือแบบเรยี นภาษาไทยพน้ื ฐาน
๘. ชน้ิ งาน/ภาระงานของนักเรียน
๘.๑ การนำเสนอเร่ือง การสะกดคำและการใชค้ ำถูกความหมาย
๘.๒ คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ ๑, ใบงานที่ ๒.๑ เรื่อง ลักษณะและความสำคัญของ
การส่ือสาร และใบงานท่ี ๒.๒ การเขียนสะกดคำ
๙. แหลง่ การเรยี นรู้เพม่ิ เตมิ
๙.๑ ห้องสมุดของโรงเรียน
๙.๒ อินเทอร์เนต็
๙.๓ สอ่ื ส่ิงพิมพ์ตา่ ง ๆ
๑๐. การวดั และประเมนิ ผล 18
ตัวบง่ ช/ี้ พฤติกรรม วิธีการวดั เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ
ชุดคำถาม ตอบคำถามได้ถูกตอ้ ง
ดา้ นความรู้ (K) การถาม-ตอบ มากกว่าร้อยละ ๘๐
๑. อธบิ ายลักษณะและความสำคัญของการสื่อสารด้วย แบบฝกึ หดั
เสยี งพยญั ชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ได้ การตรวจ ถือวา่ ผ่าน
๒. อธิบายการเขียนสะกดคำให้ถูกตอ้ งตามอักขรวธิ ีและ แบบฝกึ หดั
เลือกใชค้ ำได้ถูกต้อง เหมาะสมกบั บรบิ ทในการส่อื สารได้ ไดเ้ กณฑค์ ณุ ภาพดี
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
๓. เขียนสะกดคำถูกต้องตามอักขรวธิ ี และเลือกใช้คำได้ ไดเ้ กณฑ์คณุ ภาพดี
ถูกต้องและเหมาะสมกบั บรบิ ทในการสอ่ื สาร
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) การสงั เกต แบบสงั เกต
๔. มีวนิ ยั พฤติกรรม พฤติกรรม
๕. ใฝเ่ รยี นรู้
๖. มุง่ มั่นในการทำงาน
19
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ
ชื่อวชิ า ภาษาไทย ระดับชนั้ …………........
เร่ือง การใช้ถ้อยคำ วันท.ี่ .............เดอื น..................................พ.ศ. ..............
คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องที่
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลำดบั ชอื่ กลมุ่ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี การมี รวม
ท่ี ความ ฟงั คนอ่ืน ตามทีไ่ ด้รับ นำ้ ใจ สว่ นร่วมใน ๒๐
คิดเห็น มอบหมาย การปรับปรุง คะแนน
ผลงานกล่มุ
๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓๒๑
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบา้ งครงั้ ให้ ๑ คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้ัง
เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
๑๘ – ๒๐ ดมี าก
๑๔ – ๑๗ ดี
๑๐ – ๑๓ พอใช้
ต่ำกวา่ ๑๐ ปรับปรงุ
ลงช่อื .........................................................................ผปู้ ระเมิน
(…………………………………………….)
........../.........../............
20
แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น และทำเครอื่ งหมาย ✓
ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดับคะแนน
คณุ ลกั ษณะอันพึง รายการประเมนิ ระดับคะแนน
ประสงค์ ๔๓๒๑
๑. มีวินัย ๑.๑ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั
รบั ผดิ ชอบ ของหอ้ งเรียน
๑.๒ มคี วามตรงตอ่ เวลา
๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๒.๑ แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรูต้ า่ ง ๆ
๒.๒ สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล
๓. ม่งุ มัน่ ในการ ๓.๑ มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงานตามที่
ทำงาน ไดร้ ับมอบหมาย
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง
เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ
ช่วงคะแนน ดีมาก
๒๐ – ๑๗ ดี
๑๖ – ๑๓ พอใช้
๑๒ – ๙ ปรบั ปรงุ
ต่ำกวา่ ๙
21
แบบประเมนิ การนำเสนอ
คำช้ีแจง ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี น แลว้ ขีดเครื่องหมาย ลงในชอ่ งว่างตรงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
๓๒๑
๑ การอา่ นออกเสียง ร, ล และคำควบกล้ำ
๒ ความถกู ต้องของเน้ือหา
๓ น้ำเสยี ง
๔ ความสรา้ งสรรคข์ องสื่อ
๕ ความตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื .........................................................................ผปู้ ระเมิน
(....................................................................)
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
๑๓ – ๑๕ ดีมาก
๑๐ – ๑๒ ดี
๗–๙ พอใช้
ต่ำกวา่ ๗ ปรบั ปรงุ
22
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ รหัสวชิ า ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๓ คาบ
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๓ เร่ือง การใชป้ ระโยค สำนวนโวหารและระดับภาษา
๑. จุดประสงค์รายวชิ า
๑.๑ รแู้ ละเขา้ ใจเกีย่ วกับหลักการใช้ภาษาไทยในการส่ือสาร
๒. สมรรถนะรายวิชา
๒.๑ แสดงความร้เู กีย่ วกับหลักภาษาไทยในการฟงั การดู การพูด การอา่ น และการเขียน
๓. แนวคดิ
ประโยค เป็นการเรียงร้อยถ้อยคำ เพื่อใช้สื่อความหมายให้รู้ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
และใช้เพื่อสื่อเจตนาที่ต้องการสื่อสาร การสื่อสารทั้งการพูดและการเขียนควรคำนึงถึงชนิดของประโยค
ทนี่ ำมาใช้ในการสอื่ สารจะช่วยให้การส่อื สารบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคม์ ากย่งิ ข้ึน
สำนวนโวหาร เป็นชั้นเชิงหรือสำนวนการใช้ภาษา เพื่อให้สื่อสารได้ชัดเจนและตรงจุดประสงค์
ดังนนั้ เมอ่ื สื่อสารจึงควรเลอื กใชส้ ำนวนโวหารให้เหมาะสมจะส่งผลให้การส่อื สารมปี ระสิทธภิ าพมากยิ่งขึน้
ระดับภาษา เป็นระดับชั้นของการใช้ภาษาที่พจิ ารณาตามลักษณะการใช้คำ ประโยค สำนวนภาษา
ต่าง ๆ ซึ่งโดยการใช้จะต้องคำนึงถึงบุคคลและสถานการณ์ประกอบด้วย ดังนั้นในการสื่อสารจึงควรคำนึง
และทำความเข้าใจลักษณะของระดับภาษาแต่ละระดับ อันเป็นแนวทางที่จะเลือกใช้ถ้อยคำ ประโยค
และสำนวนท่เี หมาะสมกบั การสื่อสาร
๔. ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั
ดา้ นความรู้ (K)
๔.๑ อธบิ ายลกั ษณะของประโยคแต่ละชนิดได้
๔.๒ อธบิ ายความหมายและเลือกใชส้ ำนวนโวหารถกู ตอ้ งเหมาะสมกับสถานการณต์ ่าง ๆ ได้
๔.๓ อธบิ ายลักษณะการใชร้ ะดับภาษาและแตกตา่ งของภาษาแตล่ ะระดบั ได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
๔.๔ จำแนกชนิดประโยคได้
๔.๕ ยกตัวอย่างสำนวนโวหารได้
๔.๖ จำแนกขอ้ ความตามระดับของภาษาได้
23
ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
๔.๗ รบั ผดิ ชอบตอ่ งานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย
๕. สาระการเรียนรู้ / เนือ้ หาสาระ
๕.๑ ประโยค
๕.๒ สำนวนโวหาร
๕.๓ ระดับภาษา
๖. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
คาบที่ ๑
ขั้นนำ (๕ นาที)
๑. นักเรียนอา่ นขอ้ ความตอ่ ไปนี้ และร่วมกันตอบคำถามว่าแต่ละประโยคแตกตา่ งกนั อยา่ งไร
- พ่ีวา่ ยนำ้
- พ่ีว่ายนำ้ เร็ว
- พี่ของฉนั วา่ ยน้ำเร็วมาก
- พ่ชี ายคนโตของฉนั วา่ ยนำ้ เรว็ มาก
(แนวคำตอบ: แตล่ ะประโยคมสี ่วนขยายท่แี ตกตา่ งกนั )
๒. ครูเชือ่ มโยงจากตัวอยา่ งนำเข้าสูบ่ ทเรียนเร่อื งประโยค
ข้นั สอน ( ๔๐ นาที)
๑. ครูอธบิ ายเรือ่ งประโยคประกอบโปรแกรมนำเสนอ ว่า ประโยคสามารถแบ่งได้ ๒ ลกั ษณะ ดงั น้ี
๑.๑ ประโยคตามโครงสรา้ ง
- ประโยคสามัญ
- ประโยคซ้อน
- ประโยครวม
๑.๒ ประโยคตามเจตนา
- ประโยคบอกให้ทราบ
- ประโยคสง่ั
- ประโยคเสนอแนะ
- ประโยคขอรอ้ ง
- ประโยคห้าม
- ประโยคคาดคะเน
- ประโยคชกั ชวน
24
- ประโยคถาม
- ประโยคขู่
๒. นักเรยี นทำกิจกรรม “กะหลำ่ ปลปี ระโยคปรศิ นา” โดยมกี ติกาดงั นี้
๒.๑ ครูมีกะหลำ่ ปลีจำนวน ๔ หัว ข้างในบรรจุประโยคปรศิ นาเอาไว้ ครูสุ่มนักเรยี นผู้โชคดี
ท่ีจะเปน็ คนปลอ่ ยกะหล่ำปลี
๒.๒ ครูจะเปิดเพลงและให้นักเรียนเริ่มส่งกะหล่ำปลีวนไปรอบ ๆ ห้อง โดยมีข้อแม้คือ
หา้ มโยนโดยเดด็ ขาด หากมีการโยนเกิดขึ้นเกมจะจบลงทนั ที
๒.๓ เมื่อเพลงหยุด ให้นักเรียนหยดุ ส่งกะหล่ำปลี กะหล่ำปลีอยู่ที่ใคร ให้นักเรียนแกะกลีบ
กะหล่ำปลีออกมา ๑ กลีบ และอา่ นประโยคทคี่ รกู ำหนดให้ แลว้ ตอบวา่ เปน็ ประโยคชนิดใด โดยพจิ ารณาตาม
การแบ่งโครงสร้าง และเป็นประโยคชนิดใดการแบ่งตามเจตนา เชน่ ประโยค “ใครจะไปเทย่ี วภูสอยดาวบ้าง”
เป็นประโยคสามัญและเป็นประโยคคำถาม
๓. ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมจากทน่ี กั เรยี นตอบคำถาม
ขน้ั สรปุ (๑๐ นาที)
๑. นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ ๑ ขอ้ ๑ - ๓
๒. ครมู อบหมายภาระงาน คอื ใบงานท่ี ๓.๑ เร่อื ง ประโยค
คาบที่ ๒
ขัน้ นำ (๕ นาท)ี
๑. ครูยกตัวอย่างคำประพันธ์ประเภทกลอนสภุ าพทไ่ี ม่มบี งั คบั สัมผสั ดังน้ี
เดินทางมาถงึ เทอมนิ อลแล้ว จะไปถึงสถานีพร้อมพังไหม
บีทีเอสเสยี ตลอดการเดนิ ทาง อยากกลับบา้ นใครก็ไดพ้ ากลับที
ให้นกั เรียนรว่ มกนั พิจารณาวา่ คำประพนั ธ์ดังกลา่ วมีความไพเราะหรอื ไม่ อยา่ งไร
๒. ครูยกตัวอยา่ งคำประพันธ์อีกคร้ัง ดงั นี้
เธอคอื ดวงอาทิตย์ใหต้ ัวฉัน ทุกคืนวนั เป็นแสงแสนสดใส
มีรอยย้ิมเป็นแรงรักไม่ใกล้ไกล เปน็ ยาใจเปน็ อากาศด่งั หยาดโปรย
นกั เรียนรว่ มกนั พจิ ารณาวา่ คำประพนั ธอ์ กี ครั้งว่ามคี วามไพเราะหรอื ไม่ อย่างไร
๓. ครูเชือ่ มโยงเข้าสบู่ ทเรยี น โดยอธิบายวา่ คำประพนั ธ์ทีย่ กมาข้างต้นนั้น ตัวอยา่ งท่ี ๒ ไพเราะกว่า
เนื่องจากถูกต้องตามฉันทลักษณ์ และยังมีการเลือกใช้คำต่าง ๆ มาเปรียบให้ง่ายต่อการเข้าใจ
มคี วามหมายลึกซ้ึง บรรยายภาพบรรยากาศต่าง ๆ ไดด้ ี ผ้อู ่านเหน็ ภาพชัดเจน สมจริง หรือทเี่ รยี กว่า สำนวน
โวหาร
25
ข้นั สอน (๔๐ นาที)
๑. ครูอธิบายเรื่องสำนวนโวหารพร้อมยกตัวอย่างประกอบโปรแกรมนำเสนอ โดยอธิบายตามหัวขอ้
ดังน้ี
๑.๑ บรรยายโวหาร
๑.๒ พรรณนาโวหาร
๑.๓ เทศนาโวหาร
๑.๔ สาธกโวหาร
๑.๕ อปุ มาโวหาร
๒. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม “โวหารในความเงียบ” ซึ่งเป็นกลวิธีในการตรวจสอบความเข้าใจเรือ่ ง
สำนวนโวหารทีค่ รูอธิบายไปในตอนตน้ โดยการให้นักเรียนแต่ละแถววิเคราะห์สำนวนโวหารจากคำประพันธ์
ท่กี ำหนดให้ มกี ตกิ า ดงั น้ี
๒.๑ นักเรียนแบ่งกลุ่มตามแถวแนวตั้งของที่นั่งในห้องเรียน ครูวางกระดาษคำตอบไว้ตรง
เก้าอหี้ ลงั สดุ ของแตล่ ะแถว
๒.๒ เมื่อครูเปิดคำถามบนจอ ให้นักเรียนที่นั่งท้ายสุดส่งคำตอบขึ้นมาเรื่อย ๆ ห้ามโยน
หา้ มลกุ จากท่นี งั่ แถวใดลกุ จากทนี่ ่ังจะถกู ปรบั แพ้ในรอบน้ันทนั ที
๒.๓ เมอ่ื คำตอบถกู สง่ มาท่ที ่ีนง่ั หน้าสดุ ให้คนทน่ี ัง่ หนา้ สุดนำคำตอบมาส่งให้ครู และกลับไป
น่งั ตามเดมิ หากนง่ั ช้าจะถูกปรับแพ้ในทนั ที
๒.๔ กลมุ่ ท่มี าถึงเปน็ ลำดบั แรกและคำตอบถกู ตอ้ งจะได้รับ ๕ คะแนน และลดหลั่นคะแนนลง
ตามลำดับ หากคำตอบผดิ จะได้รบั ๐ คะแนน
๒.๕ เลน่ ท้งั หมด ๖ รอบ โดยเวียนคนแตล่ ะแถวห้ามซ้ำกนั เมื่อจบเกม กลุม่ ที่มคี ะแนนสูงสุด
จะเป็นผ้ชู นะ
๓. ครูสรปุ คะแนนและมอบรางวัล
ข้ันสรปุ (๑๐นาท)ี
๑. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องสำนวนโวหารอีกครั้งโดยครูเลือกสุ่มจากตัวอย่างในแผนผัง
ความคดิ และให้นกั เรยี นเปน็ ผ้รู ะบวุ า่ เปน็ สำนวนโวหารชนดิ ใด
๒. นักเรยี นร่วมกันตอบคำถามทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ ตอนท่ี ๑ ขอ้ ๔ - ๕
๓. ครูมอบหมายภาระงาน คือ ใบงานท่ี ๓.๒ เร่อื ง สำนวนโวหาร
26
คาบที่ ๓
ขั้นนำ (๕ นาที)
๑. นักเรียนฟงั ตวั อย่างประโยคตอ่ ไปน้ี และคาดการณ์วา่ เป็นบทสนทนาระหวา่ งใคร
“เฮย้ ! เลิกเรยี นแล้วไปเตะบอลกนั ปะ”
ก. แมก่ บั ลูก ข. ครกู บั นกั เรยี น
ค. พระสงฆ์กบั ฆราวาส ง. เพื่อนกับเพ่ือน
(แนวคำตอบ : ง. เพอื่ นกับเพอ่ื น เนือ่ งจากใชภ้ าษาในระดับกนั เอง)
๒. ครูเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน โดยอธิบายว่า ภาษาในการสนทนามีหลายระดับ ผู้พูดต้องพิจารณา
โอกาส กาลเทศะ และบคุ คลและท่ีประชมุ ชน
ข้นั สอน (๓๕ นาท)ี
๑. ครอู ธบิ ายเรอ่ื งระดับภาษาพร้อมยกตัวอย่างประกอบโปรแกรมนำเสนอ โดยอธบิ ายตามหัวข้อดงั น้ี
๑.๑ ภาษาระดับพธิ ีการ
๑.๒ ภาษาระดับทางการ
๑.๓ ภาษาระดบั กง่ึ ทางการ
๑.๔ ภาษาระดบั ไม่เปน็ ทางการ
๑.๕ ภาษาระดบั กนั เอง
โดยครอู ธบิ ายเพมิ่ เติมเรอื่ งปัจจัยทกี่ ำหนดลกั ษณะภาษาและลักษณะของภาษาแตล่ ะระดับ
๒. นักเรียนทำกจิ กรรม “ภาษามรี ะดับ” โดยมีกตกิ าดังน้ี
๒.๑ ครูติดกระดาษขนาดใหญ่จำนวน ๕ แผ่น เขียนระดับภาษาทั้ง ๕ ระดับกำกับไว้
และให้นักเรยี นน่ังประจำท่โี ต๊ะของตนเอง
๒.๒ นักเรียนหาบทอ่านจากหนังสือ นิยาย นิทาน หรือสื่ออื่น ๆ ความยาวไม่ต่ำกว่า
๑๐ บรรทัดและออกมาอา่ นเสียงให้เพือ่ นฟังหนา้ ชัน้ เรียน โดยครูเป็นผู้สุ่มเลอื ก และให้เพื่อนท่ีเหลอื ช่วยกัน
พจิ ารณาวา่ เป็นการใช้ภาษาระดับใด
๒.๓ เมื่อนักเรียนอ่านจบ ครูให้สัญญาณว่า “ระดับใด” ให้นักเรียนลุกไปเขียนชื่อตนเอง
ลงบนกระดาษที่ระดับภาษาท่เี ป็นคำตอบและกบั มานั่งท่ีใหเ้ รยี บรอ้ ย
๒.๔ ครูและเพ่ือนที่อ่านรว่ มกันเฉลย ผู้ที่ตอบถกู จะไดเ้ ล่นในรอบถัดและผู้ที่ตอบผิดจะตอ้ ง
เป็นคนอ่านคนถัดไป
๒.๕ เมื่อเลน่ รอบสดุ ท้ายจบ ผู้ท่ีตอบถกู จะไดร้ ับรางวัล
๓. ครูมอบรางวัลแกผ่ ทู้ ี่ตอบถกู ท้ังหมด
27
ขั้นสรุป (๑๕ นาท)ี
๑. นักเรียนตอบคำถามทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ ตอนที่ ๒
๒. นักเรียนและครูรว่ มกนั ตอบคำถามทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ ตอนท่ี ๑ ข้อ ๖ - ๑๐
๓. ครูมอบหมายภาระงาน คอื ใบงานที่ ๓.๓ เร่ือง ระดับภาษา
๗. สื่อ/นวตั กรรมการเรียนรู้
๗.๑ กะหล่ำปลีประโยคปริศนา
๗.๒ โปรแกรมนำเสนอ เรือ่ ง ประโยค สำนวนโวหารและระดบั ภาษา
๗.๓ หนังสือแบบเรียนภาษาไทยพืน้ ฐาน
๘. ชนิ้ งาน/ภาระงานของนกั เรยี น
๘.๑ คำถามทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ ตอนที่ ๑
๘.๒ ใบงานที่ ๓.๑ เรื่อง ประโยค
๘.๓ ใบงานที่ ๓.๒ เรอื่ ง สำนวนโวหาร
๘.๔ ใบงานท่ี ๓.๓ เรอ่ื ง ระดับภาษา
๙. แหลง่ การเรียนรู้เพ่ิมเติม
๙.๑ ห้องสมดุ ของโรงเรยี น
๙.๒ อนิ เทอรเ์ น็ต
๙.๓ ส่อื สง่ิ พิมพ์ตา่ ง ๆ
๑๐. การวัดและประเมนิ ผล 28
ตัวบง่ ช้/ี พฤติกรรม วิธีการวดั เคร่อื งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ
ตอบคำถามไดถ้ กู ตอ้ ง
ด้านความรู้ (K) การถาม-ตอบ ชดุ คำถาม มากกว่ารอ้ ยละ ๘๐
๑. อธิบายลักษณะของประโยคแตล่ ะชนิดได้
๒. อธิบายความหมายและเลือกใช้สำนวนโวหารถกู ต้อง การตรวจ แบบฝกึ หดั ถอื ว่าผา่ น
เหมาะสมกับสถานการณต์ ่าง ๆ ได้ แบบฝกึ หัด แบบสงั เกต
๓. อธิบายลักษณะการใช้ระดับภาษาและแตกต่างของ การสงั เกต พฤตกิ รรม ไดเ้ กณฑ์คณุ ภาพดี
ภาษาแต่ละระดบั ได้ พฤติกรรม
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) ไดเ้ กณฑ์คุณภาพดี
๔. จำแนกชนดิ ประโยคได้
๕. ยกตัวอยา่ งสำนวนโวหารได้
๖. จำแนกขอ้ ความตามระดับของภาษาได้
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๗. รับผิดชอบตอ่ งานทไ่ี ด้รับมอบหมาย
29
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
ชอื่ วชิ า ภาษาไทย ระดบั ชน้ั …………........
เร่ือง การใช้ประโยค สำนวนโวหาร และระดับภาษา วนั ท.่ี .............เดือน..................................พ.ศ. ..............
คำช้แี จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดบั คะแนน
ลำดับ ชอ่ื กลมุ่ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี การมี รวม
ที่ ความ ฟงั คนอ่ืน ตามที่ได้รับ นำ้ ใจ ส่วนร่วมใน ๒๐
คิดเห็น มอบหมาย การปรบั ปรุง คะแนน
ผลงานกลุ่ม
๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓๒๑
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ้างครงั้ ให้ ๑ คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครง้ั
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
๑๘ – ๒๐ ดมี าก
๑๔ – ๑๗ ดี
๑๐ – ๑๓ พอใช้
ต่ำกวา่ ๑๐ ปรบั ปรงุ
ลงชอ่ื .........................................................................ผปู้ ระเมิน
(…………………………………………….)
........../.........../............
30
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ รหัสวิชา ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ คาบ
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๔ เร่อื ง การฟังและการดูสื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส์
๑. จุดประสงค์รายวิชา
๑.๑ สามารถนำความรู้และทักษะการฟัง การดู การพูด การอ่านและการเขียนไปใช้สื่อสาร
ในชวี ิตประจำวันได้ถูกต้องตามหลกั การ
๒. สมรรถนะรายวิชา
๒.๑ แสดงความรเู้ ก่ียวกับหลกั ภาษาไทยในการฟงั การดู การพูด การอ่าน และการเขียน
๒.๒ วิเคราะห์ ประเมินคา่ สารจากการฟัง การดแู ละการอา่ นตามหลกั การ
๓. แนวคดิ
การฟังและการดูเป็นกระบวนการรับสารที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน และมีความสำคัญ
ต่อการดำเนินชวี ิตประจำวัน เนื่องจากปจั จบุ ันเป็นยุคแห่งการสื่อสารผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทำให้มชี ่องทาง
รับรู้ข้อมูลข่าวสารเพิ่มขึ้น ผู้รับสารจึงต้องใช้ทักษะการฟังและการดที่รับสารผ่านตาทำงานร่วมกัน
เพื่อให้กระบวนการรบั สารดำเนินไปอย่างราบร่ืน และควรเลือกรบั สารให้เหมาะสม ดังนั้นผู้รบั สารจึงจำเปน็
จะต้องมีความรู้ทั้งองค์ประกอบ หลักการ มารยาท แนวทางการวเิ คราะหแ์ ละประเมินค่า เพื่อให้การรับสาร
จากการฟงั และการดมู ีประสิทธิภาพมากท่สี ดุ
๔. ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั
ดา้ นความรู้ (K)
๔.๑ อธิบายความหมายและความสำคัญของการฟังและการดูได้
๔.๒ อธิบายหลักการและความสัมพนั ธข์ ององคป์ ระกอบของการฟงั และการดไู ด้
๔.๓ วิเคราะห์และประเมินค่าการฟังและการดจู ากสอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
๔.๔ อภปิ รายมารยาทในการฟงั และดไู ด้
ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๔.๕ มวี นิ ยั
๔.๖ ใฝ่เรยี นรู้
๔.๗ มุ่งม่นั ในการทำงาน
31
๕. สาระการเรียนรู้ / เนอ้ื หาสาระ
๕.๑ ความหมายและความสำคญั ของการฟังและการดู
๕.๒ องค์ประกอบของการฟังและการดู
๕.๓ หลกั การฟงั และการดู
๕.๔ แนวทางการวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ค่าการฟงั และการดูจากสื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์
๕.๕ มารยาทในการฟังและการดู
๖. กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้
คาบท่ี ๑
ขนั้ นำ ๕ นาที
๑. นักเรยี นร่วมกนั ตอบคำถาม “โซเชยี ลมเี ดยี ใดทนี่ ักเรยี นนิยมใชม้ ากทีส่ ดุ เพราะเหตใุ ด” โดยสุ่มให้
แสดงความคิดเห็น (แนวคำตอบ : เฟซบุ๊ก เพราะมีเพือ่ นเยอะ ติดตามข่าวสารได้ง่าย, อินสตาแกรม เพราะ
ชอบลงรปู ไว้เปน็ ความทรงจำ)
๒. ครูอธิบายว่าสื่อต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนทำให้การติดต่อสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย
และรวดเรว็ มากยิ่งข้ึน ตอ้ งอาศัยความรแู้ ละความเข้าใจต้ังแต่การฟังและการดู ในวันนี้จะมาพดู ถงึ เร่ืองการฟัง
และดูสือ่ อิเลก็ ทรอนกิ สท์ จี่ ะทำให้นกั เรยี นสามารถพจิ ารณา วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ค่าส่อื ท่นี บั มาให้ได้ประโยชน์
มากทีส่ ดุ
ข้ันสอน ๓๕ นาที
๑. ครูอธบิ ายว่าการฟังและการดูสื่ออิเลก็ ทรอนิกสป์ ระกอบด้วยหวั ขอ้ ตา่ ง ๆ ดังน้ี
๑.๑ ความหมายและความสำคัญของการฟงั และการดู
๑.๒ องคป์ ระกอบของการฟงั และการดู
๑.๓ หลกั การฟังละการดู
๑.๔ แนวทางการวิเคราะหแ์ ละประเมินคา่ การฟังและการดจู ากส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์
๑.๕ มารยาทในการฟังและการดู
โดยใหน้ กั เรยี นแบง่ ออกเป็น ๕ กลุ่ม โดยให้แต่ละกลุม่ จำลองสถานการณว์ ่าเป็นผูเ้ ช่ียวชาญในแต่ละ
หัวข้อ ส่งตัวแทนออกมาสุ่มเลือกหัวข้อเกี่ยวกับการฟังและการดูสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จากนั้นศึกษาหาข้อมูล
ในแบบเรยี น และร่วมกนั สรปุ เน้อื หาเพ่ือออกมานำเสนอหนา้ ชัน้ เรียน
๒. ครสู รปุ เน้ือหาเพม่ิ เตมิ ในประเด็นทีต่ กหลน่ หรือขาดหายประกอบสื่อการนำเสนอ
32
๓. นักเรียนดูสื่อวิดีโอ เรื่อง เจ๊ดาตลาดแตก โดย CP ALL เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
และร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ดู โดยวิเคราะห์และประเมินค่าสื่อที่ดูนั้นว่า ตรงกับหลักการ
และความสมั พันธ์ขององคป์ ระกอบการฟังและการดูอยา่ งไร โดยทำเป็นผงั มโนทศั นแ์ ละตกแตง่ ใหส้ วยงาม
ขน้ั สรปุ ๑๕ นาที
๑. ครูมอบหมายภาระงาน ดงั นี้
๑.๑ ให้สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ ศึกษาและร่วมกันอภปิ รายเรอ่ื งความสำคัญของมารยาทในการฟัง
และการดู และเตรียมนำเสนอหน้าชั้นเรียนในคาบถัดไปในหัวข้อ “มารยาทในการฟังและการดูที่ดีเป็น
อยา่ งไร” กลมุ่ ละ ๓-๕ นาที
๑.๒ ตอบคำถามท้ายหนว่ ยการเรียนรู้ตอนท่ี ๑
๑.๓ ทำใบงานที่ ๔.๑ เรื่อง ความหมายและความสำคัญของการฟังละการดู และใบงานที่
๔.๒ เรอ่ื ง ความสมั พันธข์ ององค์ประกอบของการฟังและการดู
คาบที่ ๒
ขน้ั นำ ๕ นาที
๑. ครชู ีแ้ จงกติกาในการนำเสนอ
ขน้ั สอน ๓๕ นาที
๑. ตวั แทนแต่ละกลุม่ นำเสนอผลการอภิปรายในหัวขอ้ “มารยาทในการฟังและการดทู ี่ดีเปน็ อยา่ งไร”
๒. นักเรียนและครรู ่วมกนั เพิ่มเติมประเดน็ ทีต่ กหล่นเกี่ยวกบั หวั ขอ้ ในการอภิปราย
๓. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั ทบทวนเน้อื เกย่ี วกบั การฟงั และการดูส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์
๔. นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคำถามทา้ ยหน่วยการเรยี นรตู้ อนที่ ๒ โดยกลุม่ ทตี่ อบไดม้ ากทสี่ ุดจะเปน็ กลุม่ ที่
ชนะและได้รบั รางวลั
ขั้นสรุป ๑๕ นาที
๑. ครใู หข้ ้อเสนอแนะรายกลมุ่ เพอื่ นำไปปรบั ใชใ้ นการพดู นำเสนอครั้งต่อไป
๒. นักเรียนทำใบงานที่ ๔.๓ เรื่อง การฟังและการดูจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และใบงานที่ ๔.๔
เรอ่ื ง มารยาทในการฟังและการดู
๗. สื่อ/นวตั กรรมการเรยี นรู้
๗.๑ วดิ ีโอเร่ือง เจ๊ดาตลาดแตก โดย CP ALL
๗.๒ โปรแกรมนำเสนอ เรอ่ื ง การฟงั และการดูสอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส์
๗.๓ หนังสือแบบเรียนภาษาไทยพ้ืนฐาน
33
๘. ชิ้นงาน/ภาระงานของนกั เรียน
๘.๑ การนำเสนอผลการอภิปรายเรือ่ ง “มารยาทในการฟังและการดูทดี่ ีเป็นอยา่ งไร”
๘.๒ คำถามทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ ๑
๘.๓. ใบงานท่ี ๔.๑ เร่อื ง ความหมายและความสำคญั ของการฟังละการดู
๘.๔ ใบงานท่ี ๔.๒ เรอื่ ง ความสัมพนั ธข์ ององค์ประกอบของการฟังและการดู
๘.๕ ใบงานที่ ๔.๓ เรือ่ ง การฟังและการดูจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์
๘.๖ ใบงานที่ ๔.๔ เร่อื ง มารยาทในการฟงั และการดู
๙. แหล่งการเรียนรู้เพิม่ เติม
๙.๑ หอ้ งสมุดของโรงเรยี น
๙.๒ อินเทอร์เน็ต
๙.๓ สื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ
๑๐. การวดั และประเมนิ ผล
ตวั บง่ ชี้/พฤติกรรม วธิ กี ารวัด เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน
ด้านความรู้ (K) การถาม-ตอบ ชดุ คำถาม ตอบคำถามได้ถูกตอ้ ง
๑. อธิบายความหมายและความสำคัญของการฟังและ มากกวา่ รอ้ ยละ ๘๐
การดูได้ การประเมนิ แบบประเมนิ
๒. อธิบายหลักการและความสัมพันธ์ขององค์ประกอบ จากการ จากการ ถือวา่ ผา่ น
ของการฟงั และการดูได้ อภิปราย อภิปราย
๓. วิเคราะห์และประเมินค่าการฟังและการดูจากสื่อ อภปิ รายมารยาทในการฟงั
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ มารยาทในการ มารยาทในการ และดู ได้คะแนน
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ฟังและดู ฟงั และดู
๔. อภิปรายมารยาทในการฟังและดไู ด้ แบบสงั เกต ร้อยละ ๘๐ ถอื ว่าผ่าน
การสงั เกต พฤตกิ รรม
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) พฤติกรรม ได้เกณฑค์ ุณภาพดี
๕. มวี ินยั
๖. ใฝเ่ รยี นรู้
๗. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
34
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
ชือ่ วชิ า ภาษาไทย ระดับชัน้ …………........
เร่ือง การฟงั และการดสู อื่ อเิ ล็กทรอนิกส์ วนั ท.่ี .............เดอื น..................................พ.ศ. ..............
คำช้แี จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดบั คะแนน
ลำดับ ชือ่ กล่มุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี การมี รวม
ที่ ความ ฟงั คนอื่น ตามที่ได้รบั นำ้ ใจ ส่วนร่วมใน ๒๐
คดิ เหน็ มอบหมาย การปรบั ปรุง คะแนน
ผลงานกลุ่ม
๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓๒๑
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ้างครง้ั ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
๑๘ – ๒๐ ดีมาก
๑๔ – ๑๗ ดี
๑๐ – ๑๓ พอใช้
ต่ำกว่า ๑๐ ปรับปรงุ
ลงชอื่ .........................................................................ผปู้ ระเมิน
(…………………………………………….)
........../.........../............
35
แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น และทำเครอื่ งหมาย ✓
ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดับคะแนน
คณุ ลกั ษณะอันพึง รายการประเมนิ ระดับคะแนน
ประสงค์ ๔๓๒๑
๑. มีวินัย ๑.๑ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั
รบั ผดิ ชอบ ของหอ้ งเรียน
๑.๒ มคี วามตรงตอ่ เวลา
๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๒.๑ แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรูต้ า่ ง ๆ
๒.๒ สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล
๓. ม่งุ มัน่ ในการ ๓.๑ มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงานตามที่
ทำงาน ไดร้ ับมอบหมาย
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง
เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ
ช่วงคะแนน ดีมาก
๒๐ – ๑๗ ดี
๑๖ – ๑๓ พอใช้
๑๒ – ๙ ปรบั ปรงุ
ต่ำกวา่ ๙
36
แบบประเมนิ การนำเสนอ
คำช้ีแจง ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี น แลว้ ขีดเครื่องหมาย ลงในช่องว่างตรงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
๓๒๑
๑ การอา่ นออกเสียง ร, ล และคำควบกล้ำ
๒ ความถกู ต้องของเน้ือหา
๓ น้ำเสยี ง
๔ ความสรา้ งสรรค์ของสื่อ
๕ ความตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื .........................................................................ผปู้ ระเมิน
(....................................................................)
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
๑๓ – ๑๕ ดีมาก
๑๐ – ๑๒ ดี
๗–๙ พอใช้
ต่ำกวา่ ๗ ปรบั ปรงุ