แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๖ 37
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๕ เรื่อง การอ่านสือ่ สิ่งพมิ พ์และสื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส์ รหสั วิชา ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
เวลา ๓ คาบ
๑. จดุ ประสงคร์ ายวิชา
๑.๑ สามารถนำความรู้และทักษะการฟัง การดู การพูด การอ่านและการเขียนไปใช้สื่อสาร
ในชีวติ ประจำวันไดถ้ กู ต้องตามหลกั การ
๒. สมรรถนะรายวิชา
๒.๑ แสดงความรเู้ กี่ยวกับหลักภาษาไทยในการฟัง การดู การพดู การอา่ น และการเขยี น
๒.๒ วเิ คราะห์ ประเมินคา่ สารจากการฟงั การดแู ละการอ่านตามหลักการ
๓. แนวคดิ
การอ่านสอื่ สง่ิ พิมพ์และสือ่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เปน็ ทกั ษะท่จี ำเปน็ สำหรับการดำเนินชีวติ และการแสวงหา
ความรู้ เน่ืองจากการอา่ นเปน็ ทักษะท่ีชว่ ยพฒั นาความรู้ ความคิด และพฤตกิ รรม รวมทงั้ การอ่านเป็นพื้นฐาน
ของการพัฒนาทักษะการพูดและการเขียน ดงั นนั้ หากรบั สารดว้ ยการอ่านบกพรอ่ งยอ่ มสง่ ผลกระทบต่อทักษะ
ชีวิตและทักษะการใชภ้ าษาด้วย ฉะนนั้ ผ้อู ่านจงึ จำเปน็ ต้องมีความเกีย่ วกับการอ่าน ทงั้ องคป์ ระกอบ หลักการ
อา่ น และแนวทางการวิเคราะห์และประเมนิ ค่าสารประเภทต่าง ๆ เพ่ือใหก้ ารอ่านมีประสทิ ธภิ าพ และสามารถ
นำสาระหรอื ขอ้ คดิ จากการอา่ นไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
๔. ผลการเรียนรูท้ คี่ าดหวงั
ด้านความรู้ (K)
๔.๑ อธบิ ายความหมายและความสำคญั ของการอ่านได้
๔.๒ อธิบายหลกั การและความสัมพนั ธ์ขององคป์ ระกอบของการอ่านได้
๔.๓ วิเคราะหแ์ ละประเมนิ คา่ จากการอา่ นสารตา่ ง ๆ ได้
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
๔.๔ อภปิ รายมารยาทในการอา่ นได้
ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๔.๕ ใหค้ วามรว่ มมือในการทำกิจกรรมในชัน้ เรียน
๔.๖ มคี วามรบั ผดิ ชอบต่องานที่ไดร้ ับมอบหมาย
38
๕. สาระการเรียนรู้ / เนือ้ หาสาระ
๕.๑ ความหมายและความสำคัญของการอ่าน
๕.๒ องคป์ ระกอบของการอา่ น
๕.๓ หลกั การอ่านสารลักษณะตา่ ง ๆ
๕.๔ แนวทางการวิเคราะห์และประเมินค่าจากการอ่านสารตา่ ง ๆ
๕.๕ มารยาทในอา่ น
๖. กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
คาบที่ ๑
ขน้ั นำ (๕ นาท)ี
๑. นกั เรียนร่วมกนั ตอบคำถามเกยี่ วกบั การอ่านสอื่ สงิ่ พมิ พแ์ ละสอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ นชีวติ ประจำวัน
๑.๑ นกั เรยี นรับขา่ วสารประจำวันผ่านส่อื โซเชียลมีเดียใดบา้ ง
(แนวคำตอบ: เฟซบกุ๊ , ทวติ เตอร,์ อนิ สตาแกรม ฯ)
๑.๒ นกั เรียนคิดวา่ ตนเองอ่านหนงั สอื น้อยลงหรอื ไม่
(แนวคำตอบ: คิดว่าอา่ นนอ้ ยลง เพราะเล่นมอื ถอื มากขึ้น, คิดว่าอ่านเป็นปกต,ิ เฉย ๆ เพราะ
ปกตไิ มค่ ่อยอ่านอยู่แล้ว)
๒. ครูเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า การอ่านเป็นทักษะที่จะต้องฝึกฝนตามขั้นตอนและวิธีการ คนที่มี
ทกั ษะการอ่านทด่ี ีจะสามารถเก็บขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งเป็นระบบและสามารถนำไปตอ่ ยอดสรา้ งองคค์ วามรู้ใหม่
ขั้นสอน (๓๕ นาที)
๑. ครูอธบิ ายวา่ การอ่านสือ่ ส่งิ พมิ พ์และสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ ประกอบดว้ ยหัวข้อตา่ ง ๆ ดงั น้ี
๑.๑ ความหมายและความสำคัญของการอา่ น
๑.๒ องค์ประกอบของการอ่าน
๑.๓ หลกั การอา่ นสารลกั ษณะต่าง ๆ
๑.๔ แนวทางการวิเคราะห์และประเมนิ คา่ จากการอา่ นสารตา่ ง ๆ
๑.๕ มารยาทในการอา่ น
โดยใหน้ กั เรยี นแบง่ ออกเป็น ๔ กลุ่ม โดยใหแ้ ต่ละกลุม่ จำลองสถานการณว์ ่าเป็นผู้เช่ียวชาญในแต่ละ
หัวข้อ ส่งตัวแทนออกมาสุ่มเลือกหัวข้อเกี่ยวกับการอ่านสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จากนั้นศึกษา
หาข้อมูลในแบบเรียน และร่วมกันสรปุ เน้ือหาเพอ่ื ออกมานำเสนอหน้าช้ันเรยี น
๒. ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกลุม่ อื่นกำลังนำเสนอหัวข้อของตนเอง ให้แต่ละกลุ่มสรุปเป็นประเด็นที่เขา้ ใจ
ได้ง่ายเพื่อนำไปใชใ้ นการวิเคราะหแ์ ละประเมินคา่ ภาระงานทา้ ยคาบเรยี น
๓. ครูสรุปเนื้อหาเพิ่มเติมในประเด็นท่ีตกหลน่ หรอื ขาดหายประกอบสือ่ การนำเสนอ
39
ขน้ั สรปุ (๑๕ นาที)
๑. ครูมอบหมายภาระงาน ดังน้ี
๑.๑ การจัดทำรายงานและนำเสนอผลการวเิ คราะห์ ประเมินค่า โดยให้นักเรียนแต่ละกลมุ่
หาข่าว โฆษณา บทความ และวรรณกรรมพน้ื บ้านจากหอ้ งสมุดหรอื อินเทอร์เน็ต แล้ววเิ คราะห์และประเมนิ คา่
ตามแนวทางท่ีเรยี นไป จัดทำเปน็ รายงาน และนำเสนอหน้าชน้ั เรยี น
๑.๒ แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนจับสลากเลอื กประเภทของสอ่ื ในการทำรายงานและการนำเสนอ
๒. นกั เรียนตอบคำถามท้ายหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ และทำใบงานท่ี ๕.๑ เรอ่ื ง การอา่ นจากส่ือสิ่งพิมพ์
และสือ่ อิเล็กทรอนกิ ส์
คาบที่ ๒
ข้ันนำ (๕ นาท)ี
๑. ครชู ีแ้ จงเกณฑก์ ารนำเสนอ และกตกิ าในการนำเสนอ
๑.๑ แตล่ ะกลุ่มมีเวลาในการนำเสนอรายงานของตนเอง กลุม่ ละ ๑๐ นาที
๑.๒ ทกุ คนในกลมุ่ จะต้องมสี ่วนรว่ มในการนำเสนอ
๑.๓ ครยู กสญั ญาณเตือน ๒ ครัง้ คือกดกระดงิ่ ๑ คร้งั ก่อนหมดเวลา ๓ นาที และกดกระด่ิง
๒ คร้ังเพอื่ เตือนวา่ หมดเวลา
ขัน้ สอน (๔๐ นาที)
๑. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอรายงานของตนเอง ตามประเภทที่จับสลากได้ กลุ่มละ ๑๐ นาที
ตามลำดบั ท่ไี ดจ้ ัดเรียงไว้
ขน้ั สรปุ (๑๐ นาที)
๑. ครูใหค้ ำเสนอแนะรายกลมุ่ เพ่อื นำไปปรบั ปรุงการพดู นำเสนอคร้งั ต่อไป
๒. ครมู อบหมายภาระงาน
๒.๑ ให้นักเรียนหาบทความ หรือข้อความจากสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์หรือ
สอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ อย่างน้อยจำนวน ๑๕ บรรทัด
๒.๒ ใบงานที่ ๕.๒ เรอ่ื ง องคป์ ระกอบของการอ่าน
คาบท่ี ๓
ขั้นนำ (๑๕ นาท)ี
๑. นักเรียนอ่านบทความหรือข้อความจากสื่อต่าง ๆ ที่เตรียมมา พร้อมทั้งให้สังเกตวิธีการอ่าน
ของตนเอง และวเิ คราะหข์ ้อดขี ้อเสยี ของตนเอง เขยี นออกมาอย่างนอ้ ยด้านละ ๕ ขอ้
40
ข้นั สอน (๓๐ นาท)ี
๑. นกั เรียนและครูร่วมกันอภปิ รายวธิ ีการอ่านของตนเองพร้อมทั้งข้อดีและขอ้ เสียท่ีสงั เกตได้
๒. นกั เรยี นทำกิจกรรม Kahoot เร่อื ง การอ่านสอื่ สิง่ พมิ พ์และส่ืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ โดยมีกตกิ าดงั ต่อไปนี้
๒.๑ ให้นักเรียนจับกลุ่ม และนำโทรศัพท์มือถือที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
จำนวน ๑ เครือ่ งเข้าไปยังหนา้ เว็บไซต์ kahoot.it
๒.๒ ให้นักเรียนใส่หมายเลข pin ของห้องกิจกรรม ซึ่งหมายเลข pin จะถูกแสดงอยู่บน
หนา้ จอโปรเจ็กเตอร์ พรอ้ มตง้ั ช่อื กลมุ่ ของตนให้เรยี บร้อย
๒.๓ รอจนนักเรยี นทกุ กลุ่มเขา้ ไปยงั หนา้ กจิ กรรมเรยี บร้อย จากน้ันครูจึงกดเริ่มกจิ กรรม
๒.๔ กิจกรรมประกอบด้วย คำถามปรนัย ๕ ตัวเลือก จำนวน ๑๐ ข้อ แต่ละข้อมีเวลา
๒๐ วินาทีในการตอบคำถาม คะแนนท่ีไดข้ น้ึ อยู่กบั ความเร็วในการตอบคำถาม
๒.๕ หลงั จากทีต่ อบคำถามแต่ละขอ้ นกั เรยี นและครูรว่ มกันเฉลยคำถาม
๒.๖ เมื่อตอบคำถามครบทั้ง ๑๐ ข้อ ระบบจะแสดงผลคะแนนสูงสุด ๓ อันดับแรก
กลมุ่ ท่ไี ดค้ ะแนนรวมสูงสุดคอื กลุ่มทช่ี นะ และไดร้ ับรางวัล
ข้นั สรุป (๑๐ นาท)ี
๑. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสรุปเร่อื งการอา่ นสือ่ สงิ่ พิมพ์และส่ืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์อีกครงั้
๒. นักเรยี นทำใบงานที่ ๕.๓ เร่ือง แนวทางการวเิ คราะหแ์ ละประเมินค่าจากการอ่านสารต่าง ๆ และ
ใบงานท่ี ๕.๔ เร่ือง มารยาทในการอ่าน
๗. ส่ือ/นวัตกรรมการเรยี นรู้
๗.๑ โปรแกรม Kahoot
๗.๒ โปรแกรมนำเสนอ เรือ่ ง การอา่ นสอ่ื สง่ิ พมิ พ์และสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์
๗.๓ หนงั สือแบบเรียนภาษาไทยพื้นฐาน
๘. ช้นิ งาน/ภาระงานของนักเรียน
๘.๑ การนำเสนอรายงานการวิเคราะห์และประเมินคา่ สื่อจากการอ่าน
๘.๒ คำถามทา้ ยหนว่ ยการเรียนรู้ ตอนที่ ๑
๘.๓. ใบงานที่ ๕.๑ เรื่อง การอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์, ใบงานที่ ๕.๒ เรื่อง
องค์ประกอบของการอา่ น, ใบงานที่ ๕.๓ เรื่อง แนวทางการวิเคราะห์และประเมินค่าจากการอ่านสารต่าง ๆ
และใบงานที่ ๕.๔ เรือ่ ง มารยาทในการอ่าน
41
๙. แหลง่ การเรยี นรู้เพ่ิมเติม
๙.๑ หอ้ งสมุดของโรงเรยี น
๙.๒ อนิ เทอรเ์ นต็
๙.๓ ส่ือสง่ิ พิมพต์ ่าง ๆ
๑๐. การวัดและประเมินผล
ตัวบง่ ช/้ี พฤติกรรม วธิ กี ารวัด เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน
ดา้ นความรู้ (K)
๑. อธบิ ายความหมายและความสำคัญของการอา่ นได้ การถาม-ตอบ ชดุ คำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกตอ้ ง
๒. อธิบายหลักการและความสัมพันธ์ขององค์ประกอบ มากกว่าร้อยละ ๘๐
ของการอา่ นได้ การประเมนิ
๓. วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คา่ จากการอา่ นสารต่าง ๆ ได้ จากการ ถือว่าผา่ น
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) อภปิ ราย
๔. อภปิ รายมารยาทในการอา่ นได้ มารยาท แบบประเมนิ อภปิ รายมารยาทในการอา่ น
ในการอ่าน จากการ ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ ๘๐
ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) การสงั เกต อภปิ ราย
๕. ใหค้ วามรว่ มมอื ในการทำกจิ กรรมในชัน้ เรียน พฤตกิ รรม มารยาท
๖. มีความรบั ผิดชอบต่องานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ในการอ่าน
แบบสงั เกต ได้เกณฑ์คณุ ภาพดี
พฤติกรรม
42
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
ช่ือวชิ า ภาษาไทย ระดับชน้ั …………........
เร่อื ง การอ่านสอ่ื สง่ิ พิมพ์และสอ่ื สิ่งอิเล็กทรอนิกส์ วนั ท.ี่ .............เดอื น..................................พ.ศ. ..............
คำชีแ้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องท่ี
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลำดบั ช่ือกลมุ่ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี การมี รวม
ที่ ความ ฟงั คนอื่น ตามทีไ่ ด้รับ น้ำใจ สว่ นรว่ มใน ๒๐
คดิ เหน็ มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ผลงานกลุ่ม
๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓๒๑
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ้างครงั้ ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครั้ง
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
๑๘ – ๒๐ ดมี าก
๑๔ – ๑๗ ดี
๑๐ – ๑๓ พอใช้
ตำ่ กว่า ๑๐ ปรบั ปรงุ
ลงชือ่ .........................................................................ผปู้ ระเมนิ
(…………………………………………….)
........../.........../............
43
แบบประเมนิ การนำเสนอ
คำช้แี จง ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียน แลว้ ขดี เครื่องหมาย ลงในชอ่ งว่างตรงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
๔๓๒๑
๑ พูดอธิบายได้ชัดเจน
๒ ความถกู ต้องของเนือ้ หา
๓ น้ำเสียง
๔ ความสร้างสรรค์ในการนำเสนอ
๕ ความตรงต่อเวลา
รวม
ลงชื่อ.........................................................................ผปู้ ระเมิน
(....................................................................)
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
๑๖ – ๒๐ ดมี าก
๑๑ – ๑๕ ดี
๖ – ๑๐ พอใช้
ต่ำกวา่ ๕ ปรบั ปรงุ
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๗ 44
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๖ เรอ่ื ง การเขียน รหสั วิชา ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
เวลา ๓ คาบ
๑. จดุ ประสงค์รายวชิ า
๑.๑ สามารถนำความรู้และทักษะการฟัง การดู การพูด การอ่านและการเขียนไปใช้สื่อสาร
ในชีวิตประจำวนั ได้ถูกตอ้ งตามหลกั การ
๒. สมรรถนะรายวชิ า
๑. แสดงความรู้เก่ียวกับหลกั ภาษาไทยในการฟงั การดู การพดู การอา่ น และการเขียน
๓. แนวคิด
การเขียนเป็นทักษะที่สำคัญทักษะหนึง่ ในการสือ่ สาร เพราะเปน็ หลักฐานทีค่ งทนถาวรยิ่งกว่าทักษะ
อ่ืนๆ การเขียนเป็นการบนั ทึกไว้เปน็ ลายลกั ษณ์อักษร เพอ่ื นำเสนอขอ้ มูล ความรู้ ความคิด และประสบการณ์
ตา่ ง ๆ ของผู้สง่ สารไปยงั ผรู้ บั สาร ดงั น้นั หากผูส้ ่งสารบกพรอ่ งด้านความรู้ ความคิดในการเขยี นแล้ว การสื่อสาร
กจ็ ะบกพรอ่ งด้อยคณุ ค่าตามไปด้วย
๔. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
ด้านความรู้ (K)
๔.๑ อธบิ ายความหมายและความสำคัญของการเขยี นได้
๔.๒ อธบิ ายความหมาย องค์ประกอบ และรปู แบบของย่อหนา้ ได้
๔.๓ อธบิ ายหลกั การเขยี นท่วั ไปได้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
๔.๔ เขยี นโครงเร่อื งตามหลกั การเขยี นได้
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๔.๕ ใฝ่เรยี นรู้
๔๖ มุ่งมนั่ ในการทำงาน
๕. สาระการเรียนรู้ / เนื้อหาสาระ
๕.๑ ความหมายและความสำคัญของการเขยี น
๕.๒ การเขียนย่อหน้า
๕.๓ หลักการเขยี นทวั่ ไป
45
๖. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
คาบที่ ๑
ขั้นนำ (๕ นาที)
๑. ครูถามคำถามให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า ทักษะการเขียนมีความสำคัญอย่างไร
โดยนกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น
๒. ครูสรุปคำตอบเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า ทักษะการเขียนเป็นทักษะที่สำคัญ เพราะเป็น
การถา่ ยทอดความรสู้ กึ ข้อมูลต่าง ๆ ผา่ นลายลักษณอ์ กั ษร ฉะนั้นการจะสื่อสารผ่านการเขยี นใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ
จึงจำเป็นตอ้ งมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การเขียนก่อน
ข้ันสอน ( ๔๐ นาที)
๑. ครูอธิบายเรอ่ื งการเขยี นประกอบสอ่ื การนำเสนอ โดยมหี ัวขอ้ ดังนี้
๑.๑ ความหมายและความสำคญั ของการเขยี น
๑.๒ การเขยี นย่อหนา้
๑.๓ หลกั การเขียนทวั่ ไป
๒. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์งานเขียน และแสดงความคิดเห็นในประเด็นของหลักการเขียน ได้แก่
การกำหนดจุดมุ่งหมาย คำนึงถึงสาระและประโยชน์ มีความคิดรวบยอด การใช้สำนวนภาษา การมีเอกภาพ
สมั พนั ธภาพ สารตั ถภาพ
๓. ครสู รุปความเห็นเกย่ี วกบั หลกั การเขยี นท่ัวไปอกี คร้งั
๔. นักเรียนจับคู่และเลอื กผลงานเขียนที่ชื่นชอบไม่เกิน ๕ หน้ากระดาษ A4 จากนั้นนำมาวเิ คราะห์
ลักษณะการเขียน การวางโครงเรื่อง วัตถุประสงค์ การใช้ภาษา ลักษณะการวางประโยคใจความสำคัญ
คุณค่าทีม่ ตี ่อผอู้ า่ น
๕. ครูสุม่ เลือกหมายเลขเพ่ืออกมานำเสนอหนา้ ชัน้ เรียน
ข้ันสรปุ (๑๐ นาที)
๑. ครูมอบหมายภาระงาน ดงั น้ี
๑.๑ การนำเสนอผลงานหน้าช้นั เรยี น
นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน เลือกหัวข้อที่ตนเองสนใจ จากนั้นกำหนด
วัตถปุ ระสงค์การเขยี น การวางโครงเร่ือง ลงมือเขยี นใหม้ ีตำแหน่งของประโยคใจความหลกั ครบทงั้ ๕ ประเภท
ตรวจสอบการใชภ้ าษา และออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น
๑.๒ ตอบคำถามท้ายหนว่ ยการเรียนรู้ ตอนที่ ๑, ใบงานที่ ๖.๑ เรื่อง ความหมายและความสำคัญของ
การเขียน
46
คาบท่ี ๒ คาบท่ี ๓
ขนั้ นำ (๕ นาท)ี
๑. ครูชีแ้ จงเกณฑ์การนำเสนอ และกตกิ าในการนำเสนอ
๑.๑ แต่ละกลุม่ มเี วลาในการนำเสนอรายงานของตนเอง กล่มุ ละ ๑๐ นาที
๑.๒ ทกุ คนในกลมุ่ จะต้องมีส่วนรว่ มในการนำเสนอ
๑.๓ ครูยกสัญญาณเตือน ๒ ครั้ง คือกดกระดิ่ง ๑ ครั้งก่อนหมดเวลา ๓ นาที และกระด่ิง
๒ ครงั้ เพ่ือเตือนว่าหมดเวลา
ข้นั สอน (๔๐ นาท)ี
๑. นักเรียนผลงานของกลมุ่ ตนเอง โดยครเู ป็นผ้สู มุ่ เลอื กเลขทใ่ี นการนำเสนอ
ข้ันสรุป (๑๐ นาที)
๑. ครูให้คำเสนอแนะรายกลุม่ เพื่อนำไปปรับปรุงการพดู นำเสนอคร้งั ตอ่ ไป
๒. นักเรยี นร่วมกันตอบคำถามทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรตู้ อนที่ ๒
๓. ครูมอบหมายภาระงานใบงานท่ี ๖.๒ เรอ่ื ง การเขยี นย่อหน้าตามหลกั การเขียน
๗. สอื่ /นวัตกรรมการเรยี นรู้
๗.๑ ตวั อยา่ งงานเขียน
๗.๒ โปรแกรมนำเสนอ เรอ่ื ง การเขยี น
๗.๓ หนังสอื แบบเรียนภาษาไทยพ้นื ฐาน
๘. ชิน้ งาน/ภาระงานของนกั เรยี น
๘.๑ การนำเสนอผลงาน
๘.๒ คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ ๑, ใบงานที่ ๖.๑ เรื่อง ความหมายและความสำคัญของ
การเขียน และใบงานที่ ๖.๒ เรื่อง การเขยี นยอ่ หนา้ ตามหลกั การเขยี น
๙. แหลง่ การเรียนรู้เพิ่มเตมิ
๙.๑ หอ้ งสมุดของโรงเรียน
๙.๒ อนิ เทอรเ์ น็ต
๙.๓ สอื่ ส่งิ พิมพ์ตา่ ง ๆ
47
๑๐. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ
ตัวบง่ ช้/ี พฤติกรรม
การถาม- ชุดคำถาม ตอบคำถามไดถ้ กู ตอ้ ง
ด้านความรู้ (K) ตอบ มากกว่าร้อยละ ๘๐
๑. อธิบายความหมายและความสำคัญของการเขยี นได้ แบบประเมิน
๒. อธิบายความหมาย องค์ประกอบ และรูปแบบของยอ่ หนา้ ได้ การ งานเขยี น ถอื วา่ ผ่าน
๓. อธบิ ายหลกั การเขยี นทัว่ ไปได้ ประเมนิ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) งานเขยี น แบบสงั เกต เขียนตามประเด็นทกี่ ำหนด
๑. เขยี นโครงเรื่องตามหลกั การเขยี นได้ พฤตกิ รรม ได้คะแนน
การสงั เกต
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) พฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๘๐ ถือว่าผ่าน
๑. ใฝ่เรยี นรู้
๒. มุ่งมั่นในการทำงาน ไดเ้ กณฑ์คณุ ภาพดี
48
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น และทำเครอื่ งหมาย ✓
ลงในช่องที่ตรงกับระดบั คะแนน
คุณลกั ษณะอันพึง รายการประเมนิ ระดับคะแนน
ประสงค์ ๔๓๒๑
๑. ใฝ่เรียนรู้ ๒.๑ แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรียนรูต้ ่าง ๆ
๒.๒ สรปุ ความรู้ไดอ้ ย่างมเี หตผุ ล
๒. มงุ่ มนั่ ใน ๓.๑ มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานตามท่ี
การทำงาน ไดร้ บั มอบหมาย
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครง้ั ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ ๑ คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ระดับคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ดมี าก
๘-๗ ดี
๖–๕ พอใช้
๔–๓ ปรับปรงุ
ตำ่ กวา่ ๒
49
แบบประเมนิ การนำเสนอ
คำช้ีแจง ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี น แลว้ ขีดเครื่องหมาย ลงในชอ่ งว่างตรงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
๓๒๑
๑ การอา่ นออกเสียง ร, ล และคำควบกล้ำ
๒ ความถกู ต้องของเน้ือหา
๓ น้ำเสยี ง
๔ ความสรา้ งสรรคข์ องสื่อ
๕ ความตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื .........................................................................ผปู้ ระเมิน
(....................................................................)
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
๑๓ – ๑๕ ดีมาก
๑๐ – ๑๒ ดี
๗–๙ พอใช้
ต่ำกวา่ ๗ ปรบั ปรงุ
50
แบบประเมนิ งานเขียน
คำชแี้ จง ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี น แลว้ ขดี เครื่องหมาย ลงในชอ่ งว่างตรงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
๓๒๑
๑ โครงเรื่อง
๒ วัตถปุ ระสงค์
๓ ตำแหนง่ ลกั ษณะใจความหลกั
๔ การใชภ้ าษา
๕ คุณค่าท่มี ีต่อผอู้ า่ น
รวม
ลงชือ่ .........................................................................ผปู้ ระเมิน
(....................................................................)
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
๑๓ – ๑๕ ดีมาก
๑๐ – ๑๒ ดี
๗–๙ พอใช้
ตำ่ กวา่ ๗ ปรบั ปรงุ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๘ 51
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๗ เรอื่ ง การเขยี นประเภทตา่ ง ๆ รหัสวชิ า ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
เวลา ๓ คาบ
๑. จุดประสงค์รายวิชา
๑.๑ สามารถนำความรู้และทักษะการฟัง การดู การพูด การอ่านและการเขียนไปใช้สื่อสาร
ในชวี ติ ประจำวนั ได้ถกู ตอ้ งตามหลักการ
๒. สมรรถนะรายวิชา
๒.๑ แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั หลักการใชภ้ าษาไทยในการฟงั การดู การพดู การอา่ นและการเขยี น
๒.๒ เขยี นขอ้ ความเพ่ือติดต่อกจิ ธุระ สรปุ อธบิ าย บรรยายและกรอกข้อมูลตามหลกั การ
๓. แนวคิด
การเขยี นสรปุ ความ อธบิ าย และบรรยายเป็นพนื้ ฐานและวิธีการเขียนเบ้อื งตน้ ทจี่ ะนำไปสู่การเขียน
รูปแบบตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวนั เช่น การเขียนสรุปความ การเขียนข้อความติดต่อกิจธุระ การเขียนรายงาน
เชงิ วชิ าการ หากแตก่ ารเขยี นทงั้ สามประเภทนี้ ตา่ งกม็ รี ูปแบบและกลวธิ กี ารเขยี นท่แี ตกต่างกนั ดังนั้น ผู้เรียน
จึงจำเป็นต้องศึกษาลักษณะ รูปแบบ และกลวิธีการเขียนประเภทต่าง ๆ ดังกล่าวให้เข้าใจเสียก่อนจึงจะ
สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวัน และวิชาชพี ของตนได้
๔. ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวัง
ด้านความรู้ (K)
๔.๑ อธบิ ายความหมายและหลักการเขียนสรปุ ความ อธบิ าย และบรรยายได้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
๔.๒ เขียนสรปุ ความ อธิบาย และบรรยายได้
ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
๔.๓ มีสว่ นรว่ มกับกิจกรรมในชนั้ เรยี น
๔.๔ รับผดิ ชอบต่องานทไ่ี ด้รับมอบหมาย
๕. สาระการเรยี นรู้ / เนอ้ื หาสาระ
๕.๑ การเขียนสรุปความ
๕.๒ การเขียนอธิบาย
๕.๓ การเขียนบรรยาย
52
๖. กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
คาบที่ ๑
ขัน้ นำ (๑๐ นาท)ี
๑. ครูขอผู้แทนนักเรียน ๒ คนแสดงสถานการณ์สมมติ ดังน้ี เด็ก ๒ กลุ่มไปเดินป่ากัน ระหว่างทาง
มเี พอ่ื นรสู้ กึ หิวมาก จงึ เกบ็ ผลไม้มารบั ประทานโดยไม่ทราบว่าผลไม้นนั้ มพี ษิ อาการทรุดลงเรอื่ ย ๆ เด็ก ๆ มอง
ไปรอบตัวพบสมุนไพรหลายชนดิ ท่ีนา่ จะใช้ถอนพิษได้ ทันใดนัน้ เทวดาก็ปรากฏกายขึ้น และใหเ้ ดก็ ทั้ง ๒ กลุ่ม
เลือกตำรายากลมุ่ ละเลม่ เพื่อค้นหาสมนุ ไพรถอนพษิ โดยมเี ง่ือนไขคือ ตอ้ งอ่านใหค้ รบทุกตัวอักษร เมอื่ รู้คำตอบ
ที่ถูกต้องแล้วให้วิ่งมาหยิบภาพสมุนไพร ๔ ชนิดที่แปะอยู่บนกระดาน ได้แก่ ผักบุ้งไทย กระเจี๊ยบ รางจืด
และใบย่านาง (คำตอบที่ถูกต้องคือ รางจืด) กลุ่มใดหยิบภาพได้ก่อนถือว่าช่วยเพื่อนให้รอดชีวิตได้สำเร็จ
โดยตำรายามีข้อความดังน้ี
ตำรายาเล่มท่ี ๑
“คนเมืองพึงระวังเรื่องสุขภาพ เพราะท่านอยู่ในกลุ่มที่สะสมสารพิษจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ง่าย
คนเมืองเป็นกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษ ทั้งด้านอากาศ อาหาร น้ำ
และรา่ งกายตอ้ งสะสมส่ิงแปลกปลอมที่เป็นสารพษิ เขา้ สรู่ ่างกายเป็นประจำทุกวัน ทำอย่างไรคนเมืองจึงจะมี
ทางเลอื กเพอ่ื สุขภาพทีด่ ีได้ทา่ มกลางส่ิงแวดล้อมทเี่ ลือกไมไ่ ดเ้ ช่นนี้
สิ่งหนึ่งที่อยากแนะนำคือ ใช้สมุนไพรเพื่อดูแลสุขภาพ ซึ่งสมุนไพรดังกล่าวมีสรรพคุณตามตำรา
การแพทย์แผนไทย ช่วยในการล้างพิษ น่าที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในรูปเครื่องดื่มประจำวัน หรือใช้ใน
การอาบอบเพอ่ื ช่วยขับพิษในรา่ งกายได้
สมุนไพรท่มี ีสรรพคณุ ในการลา้ งพษิ ทนี่ า่ สนใจมอี ยู่หลายขนดิ เป็นสมนุ ไพรทม่ี ีรสจืด อาทิ ผักบุ้งไทย
ยา่ นาง รางจดื จากการสอบถามหมอพ้ืนบา้ นหลายท่านทม่ี ีประสบการณ์ในการรักษาผู้ทกี่ ินยาฆา่ แมลง หรือ
เกษตรกรที่เจ็บป่วย เพราะใช้สารพิษหรือสารเคมีทางการเกษตร รวมถึงผู้ที่ติดยาเสพติด หมอพื้นบ้าน
ใชส้ มุนไพรในกลุม่ นีร้ ักษาซึ่งใช้ไดผ้ ลดี โดยสมนุ ไพรทใ่ี ชล้ า้ งพษิ ไดผ้ ลดที ่สี ุดคอื รางจืด แต่หากหาไม่ได้สามารถ
ใชผ้ กั บุ้งไทยและใบยา่ นางได้
ตำรายาเลม่ ท่ี ๒
สมุนไพรที่มีสรรพคุณในการล้างพิษมีหลายชนิด ได้แก่ สมุนไพรที่มีรสจืด อาทิ ผักบุ้งไทย ย่านาง
รางจืด โดยรางจดื สามารถถอนพิษไดด้ ีทสี่ ุด แต่หากหาไม่ไดใ้ หใ้ ชผ้ ักบุง้ ไทยและใบยา่ นางแทน
53
หมายเหตุ : สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น คือ นักเรียนที่ได้ตำรายาเล่มที่ ๒ จะสามารถหยิบภาพสมุนไพรที่ใช้
ถอนพิษได้กอ่ น เนอื่ งจากเป็นขอ้ ความทส่ี รุปความแล้ว
๒. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า เพราะเหตุใดนักเรียนที่ไดร้ บั ตำรายา เล่มที่ ๒ จึงสามารถ
ชว่ ยเหลอื เพอื่ นได้สำเร็จ
๓. ครูนำตำรายาทั้งสองเล่มให้นักเรียนดูพร้อมสรุป เพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า นักเรียนที่ได้รบั
ตำรายา เล่มที่ ๒ สามารถช่วยเหลือเพื่อนได้สำเร็จ เพราะตำรายาเป็นข้อความที่สรุปความมาแล้ว จึงสั้น
กระชบั ชัดเจน อ่านแล้วเขา้ ใจได้ทันที ดงั นั้น หากเราตอ้ งการส่ือสารให้ทกุ คนเขา้ ใจได้งา่ ยและชัดเจนในเวลา
จำกดั เราจำเป็นต้องฝกึ เขียนสรปุ ความ
ขน้ั สอน (๓๕ นาที)
๑. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปราย เรื่อง การเขียนสรุปความ ในประเด็นความหมายและหลักการ
ของการเขยี นสรุปความประกอบโปรแกรมนำเสนอ
๒. แบ่งนักเรียนเป็น ๕ กลุ่มเพื่อทำกิจกรรมฝึกเขียนสรุปความ ด้วยการสุ่มหยิบลูกอมชนิดต่าง ๆ
นักเรยี นทไี่ ดล้ ูกอมชนิดเดียวกนั จะอยกู่ ลมุ่ เดยี วกัน
๓. นักเรียนชมวีดิทัศน์ เรื่อง Unfriend Thailand – ต่างใจไทยเดียว เพื่อร่วมกันเขียนสรุปความ
หากกลุ่มใดเขยี นสรุปความไดด้ ที ี่สดุ ตามเกณฑก์ ารประเมินจะได้รบั รางวัล
ขน้ั สรุป (๑๐นาท)ี
๑. นักเรียนเขียนส่ิงทไ่ี ดร้ ับจากการเรยี นเรอื่ ง การเขียนสรุปความ ลงในกระดาษทคี่ รแู จกให้
๒. ครูมอบหมายภาระงาน ดงั น้ี
๒.๑ คำถามทา้ ยหนว่ ยการเรียนรู้ ตอนท่ี ๑ ขอ้ ๑ และ ๒
๒.๒ ใบงานท่ี ๗.๑ เรือ่ ง การเขยี นประเภทต่าง ๆ ข้อ ๑
๒.๓ ใบงานท่ี ๗.๒ เรื่อง เขยี นสรุปความ เขียนอธิบายและเขยี นบรรยาย ข้อ ๑ และ ๕
คาบท่ี ๒
ข้ันนำ (๑๐ นาท)ี
๑. นักเรียนจับคู่กันเพื่อทำกิจกรรม “วาดอย่างไร ใบ้ฉันที” กติกามีดังนี้ นักเรียนแต่ละคู่ส่งผู้แทน
ออกมารบั รูปข้นั ตอนการวาดรปู สง่ิ ต่าง ๆ ซง่ึ ไม่มีรายละเอียดและขน้ั ตอน ผแู้ ทนจะต้องอธิบายขัน้ ตอนการวาด
รูปอย่างละเอียด และให้คู่ของตนวาดรูปตามคำอธิบายและตอบว่ารูปที่วาดเป็นรปู อะไร โดยมีข้อกำหนดว่า
ห้ามพูดชื่อรูปที่วาดโดยเด็ดขาด คู่ใดสามารถตอบได้ถูกต้องเป็นคู่แรกจะเป็นผู้ชนะ และได้รับคะแนนพิเศษ
๑ คะแนน
54
๒. ครูถามวิธีการพูดอธิบายขั้นตอนการวาดรูปของนักเรียนที่ชนะ และเชื่อมโยงว่าการพูดอธิบาย
เป็นทักษะสื่อสารที่สำคัญ หากสามารถพูดอธิบายได้ก็สามารถเขียนอธิบายได้เช่นกัน เพราะมีวิธีการ
และเทคนิคท่ีคล้ายกัน
๓. นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับความรู้พ้นื ฐานทจ่ี ำเป็นตอ่ การเขยี นอธบิ ายเพอ่ื เชือ่ มโยง
เขา้ สบู่ ทเรียน
ขั้นสอน (๔๐ นาท)ี
๑. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปราย เรื่อง การเขียนอธิบาย ประกอบโปรแกรมนำเสนอในประเดน็
ดังตอ่ ไปน้ี ความหมาย รูปแบบการเขยี นอธบิ าย และหลกั การเขยี นอธิบาย
๒. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ – ๘ คน เพื่อวเิ คราะห์รูปแบบการเขียนอธิบายทีป่ รากฏในข้อความ
ทคี่ รูกำหนดให้ และนำเสนอหนา้ ชั้นเรยี น
ขน้ั สรุป (๑๐ นาท)ี
๑. ครูมอบหมายภาระงาน ดงั น้ี
๑.๑ คำถามท้ายหนว่ ยการเรยี นรู้ ตอนท่ี ๑ ขอ้ ๓, ๕, ๖, ๗ และ ๘
๑.๒ ใบงานที่ ๗.๑ เรือ่ ง การเขยี นประเภทต่าง ๆ ข้อ ๒
๑.๓ ใบงานท่ี ๗.๒ เรอื่ ง เขียนสรุปความ เขียนอธิบายและเขยี นบรรยาย ขอ้ ๒
คาบท่ี ๓
ขน้ั นำ (๕ นาที)
๑. นกั เรียนรบั ชมวดี ิทศั น์ “นารี พาเท่ยี ว : ไหว้พระ ๙ วัด รอบเกาะอยธยุ า” เพือ่ สงั เกตและวเิ คราะห์
ลักษณะและวิธีการใช้ภาษาในการสื่อสาร จากนั้นครูถามคำถามว่า การนำชมสถานที่ท่องเที่ยวในวีดิทัศน์
มีลักษณะการพูดเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ: การพูดบรรยาย / การบอกเล่าเรื่องราว ข้อเท็จจริง หรือ
เหตกุ ารณใ์ ดเหตุการณห์ นึ่ง)
๒. ครูสรุปลักษณะและวิธกี ารใช้ภาษาในการสอ่ื สารว่าเป็นการบรรยาย โดยการพูดบรรยายเพอื่ นำชม
สถานทที่ ่องเท่ยี วในวีดทิ ศั นม์ พี น้ื ฐานจากการเขยี นบรรยาย เพือ่ เช่อื มโยงเขา้ สบู่ ทเรียน
ขัน้ สอน (๔๐ นาท)ี
๑. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปราย เรื่อง การเขียนบรรยาย ประกอบโปรแกรมนำเสนอในประเด็น
ความหมายและหลักการเขยี นบรรยาย
๒. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๘ คน เพื่อทำกิจกรรม “Super Guide ผจญภัย Thailand”
โดยนักเรยี นแต่ละกลุ่มส่งผูแ้ ทนมาจับสลากชุดภาพสถานท่ีท่องเทีย่ วและขอ้ มูล จากนั้นช่วยกันเขียนบทพูด
บรรยายนำชมสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วใหเ้ หมาะสมกบั เวลา ๕ นาที และนำเสนอหน้าช้ันเรยี น
55
๓. ผู้แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาพูดนำเสนอหน้าชั้นเรียนจากบทพูดบรรยายนำชมสถานที่
ท่องเท่ียวทเี่ ตรียมไว้
ขนั้ สรปุ (๑๐ นาที)
๑. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ เรอื่ ง การเขยี นบรรยาย และให้ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื นำไปปรบั ใชต้ ่อไป
๒. ครมู อบหมายภาระงาน ดงั นี้
๑.๑ คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ตอนท่ี ๑ ข้อ ๙ และ ๑๐ และตอนที่ ๒
๑.๒ ใบงานที่ ๗.๑ เรอื่ ง การเขียนประเภทต่าง ๆ ขอ้ ๓
๑.๓ ใบงานที่ ๗.๒ เร่ือง เขียนสรปุ ความ เขยี นอธิบายและเขยี นบรรยาย ขอ้ ๓ และ ๔
๗. สอื่ /นวัตกรรมการเรยี นรู้
๗.๑ โปรแกรมนำเสนอ เรอ่ื ง การเขยี นสรปุ ความ อธบิ ายและบรรยาย
๗.๒ หนงั สือแบบเรียนภาษาไทยพ้นื ฐาน
๘. ช้นิ งาน/ภาระงานของนกั เรยี น
๘.๑ เขียนสรปุ ความจากวดี ทิ ศั น์ เรอื่ ง Unfriend Thailand – ตา่ งใจไทยเดยี ว
๘.๒ เขยี นบทพดู บรรยายนำชมสถานทท่ี อ่ งเท่ียว กิจกรรม “Super Guide ผจญภยั Thailand”
๘.๓ คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้, ใบงานที่ ๗.๑ เรื่อง การเขียนประเภทต่าง ๆ และใบงานที่ ๗.๒
เรือ่ ง เขียนสรุปความ เขียนอธบิ ายและเขียนบรรยาย
๙. แหลง่ การเรยี นรเู้ พิ่มเติม
๙.๑ ห้องสมุดของโรงเรียน
๙.๒ อนิ เทอร์เนต็
๙.๓ ส่อื สิ่งพิมพ์ตา่ ง ๆ
56
๑๐. การวัดและประเมินผล
ตัวบ่งชี้/พฤติกรรม วิธีการวัด เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน
ดา้ นความรู้ (K) ตอบคำถามได้
๑. อธิบายความหมายและหลักการเขียนสรุปความ การถาม-ตอบ ชุดคำถาม ถกู ตอ้ งมากกว่า
อธิบาย และบรรยายได้ ร้อยละ ๘๐
ถอื วา่ ผา่ น
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) เขียนสรปุ ความ
๒. เขียนสรปุ ความ อธิบาย และบรรยายได้ การประเมนิ จาก แบบประเมนิ อธิบายและ
การเขียนสรปุ ความ การเขียนสรปุ ความ บรรยาย
อธิบายและ อธบิ ายและ ในหวั ขอ้ ที่กำหนด
บรรยาย บรรยาย ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ
๘๐ ถอื ว่าผ่าน
ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) การสงั เกต แบบสงั เกต ไดเ้ กณฑ์คุณภาพดี
๓. มีส่วนร่วมกบั กจิ กรรมในชน้ั เรียน พฤติกรรม พฤติกรรม
๔. รบั ผดิ ชอบตอ่ งานที่ได้รบั มอบหมาย
57
เกณฑ์การประเมินการเขียนสรุปความ
ช่อื -นามสกลุ ………………………………………..…………………………….……….. ชัน้ …….….………. เลขท…ี่ ……….……
ลำดับท่ี รายการประเมนิ คุณภาพผลงาน
๔๓๒๑
๑ จับใจความสำคัญของเรอ่ื งท่ีอา่ น/ฟงั /ดูได้
๒ เขียนสรปุ ความได้ถกู ตอ้ งตามหลกั เกณฑ์
๓ เรยี บเรยี งเนอื้ หาใหม่ด้วยถ้อยคำตรงไปตรงมา สน้ั และชัดเจน
๔ เขียนสะกดคำถูกต้อง
๕ ลายมือสวยงามและเปน็ ระเบยี บ
๖ สง่ งานตรงเวลา
รวม
ลงชอ่ื ..............................................................................ผู้ประเมนิ
......................./.........................../........................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ระดบั คุณภาพ คะแนน ระดบั คุณภาพ ช่วงคะแนน
ดีมาก ๔ ดมี าก ๒๑ – ๒๔
ดี ๓ ดี ๑๗ – ๒๐
พอใช้ ๒ พอใช้ ๑๒ – ๑๖
ปรบั ปรงุ ๑ ปรบั ปรงุ ตำ่ กวา่ ๑๒
58
เกณฑก์ ารประเมินการเขียนอธบิ าย
ช่ือ-นามสกลุ ………………………………………..…………………………….……….. ชั้น…….….………. เลขท…ี่ ……….……
ลำดับที่ รายการประเมิน คุณภาพผลงาน
๔๓๒๑
๑ ลำดับเนอ้ื ความไดด้ ี มีเอกภาพ สัมพนั ธภาพ และสารัตถภาพ
๒ ใชร้ ะดับภาษาเหมาะสม และเลือกใช้คำสือ่ ความได้ชดั เจน
ถกู ตอ้ งตามบริบท
๓ เลือกใชก้ ลวธิ ีการเขียนอธบิ ายเหมาะสมกบั เน้ือหา
๔ เขยี นสะกดคำถูกตอ้ ง
๕ ลายมือสวยงามและเป็นระเบยี บ
๖ ส่งงานตรงเวลา
รวม
ลงชื่อ..............................................................................ผู้ประเมนิ
......................./.........................../........................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ระดบั คุณภาพ คะแนน ระดบั คุณภาพ ช่วงคะแนน
ดมี าก ๔ ดมี าก ๒๑ – ๒๔
ดี ๓ ดี ๑๗ – ๒๐
พอใช้ ๒ พอใช้ ๑๒ – ๑๖
ปรบั ปรงุ ๑ ปรับปรงุ ตำ่ กว่า ๑๒
59
เกณฑก์ ารประเมินการเขยี นบรรยาย
ช่อื -นามสกลุ ………………………………………..…………………………….……….. ช้ัน…….….………. เลขท…ี่ ……….……
ลำดบั ที่ รายการประเมิน คุณภาพผลงาน
๔๓๒๑
๑ ลำดบั เนอ้ื ความได้ดี มีเอกภาพ สมั พันธภาพ และสารัตถภาพ
๒ เลือกใชค้ ำสอื่ ความไดช้ ดั เจนถกู ตอ้ งตามบริบท
๓ ใชร้ ะดับภาษาเหมาะสม
๔ เขยี นสะกดคำถกู ต้อง
๕ ลายมอื สวยงามและเป็นระเบียบ
๖ ส่งงานตรงเวลา
รวม
ลงช่ือ..............................................................................ผู้ประเมนิ
......................./.........................../........................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ระดบั คณุ ภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน
ดมี าก ๔ ดมี าก ๒๑ – ๒๔
ดี ๓ ดี ๑๗ – ๒๐
พอใช้ ๒ พอใช้ ๑๒ – ๑๖
ปรับปรงุ ๑ ปรบั ปรงุ ต่ำกวา่ ๑๒
60
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
ชอ่ื วิชา ภาษาไทย ระดบั ช้ัน…………........
เรื่อง การเขียนประเภทต่าง ๆ วันท.ี่ .............เดือน..................................พ.ศ. ..............
คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ชอ่ื กลมุ่ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี การมี รวม
ท่ี ความ ฟังคนอ่ืน ตามท่ีได้รับ นำ้ ใจ ส่วนร่วมใน ๒๐
คิดเหน็ มอบหมาย การปรบั ปรุง คะแนน
ผลงานกลุ่ม
๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓๒๑
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ้างครงั้ ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ัง
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
๑๘ – ๒๐ ดีมาก
๑๔ – ๑๗ ดี
๑๐ – ๑๓ พอใช้
ตำ่ กว่า ๑๐ ปรับปรงุ
ลงชื่อ.........................................................................ผปู้ ระเมิน
(…………………………………………….)
........../.........../............
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๙ 61
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๘ เรื่อง การเขียนประวัตยิ อ่ การกรอกแบบฟอรม์ รหสั วชิ า ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
เวลา ๓ คาบ
และการเขยี นข้อความตดิ ตอ่ กิจธรุ ะ
๑. จุดประสงค์รายวิชา
๑.๑ สามารถนำความรู้และทักษะการฟัง การดู การพูด การอ่านและการเขียนไปใช้สื่อสาร
ในชวี ิตประจำวนั ได้ถกู ตอ้ งตามหลักการ
๒. สมรรถนะรายวชิ า
๒.๑ แสดงความรู้เก่ยี วกบั หลกั การใช้ภาษาไทยในการฟัง การดู การพูด การอา่ นและการเขยี น
๒.๒ เขียนขอ้ ความเพือ่ ตดิ ตอ่ กิจธุระ สรุป อธิบาย บรรยายและกรอกขอ้ มลู ตามหลักการ
๓. แนวคดิ
การเขียนประวัติย่อ เป็นการเขยี นเพื่อให้ผู้อา่ นรู้คุณสมบัติ และผลงานของผู้เขียน เพื่อนำไปใช้เปน็
ข้อมูลในการพิจารณาความสามารถของผู้เขียนอันเป็นประโยชน์ต่อการสมัครงาน สอบคัดเลือก หรือ
ขอทุนการศึกษา หากผู้เขียนสามารถแสดงรายละเอียดได้ชัดเจน และครบถ้วน ก็จะช่วยให้การสื่อสารนั้น
เกดิ ประสทิ ธภิ าพมากข้นึ
การกรอกแบบฟอร์ม เป็นการเขียนที่ใช้ติดต่อสื่อสารในหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละ
หนว่ ยงานหรือองคก์ รจะมีเอกสารทเี่ ป็นรูปแบบเฉพาะเพื่อใหผ้ มู้ าตดิ ตอ่ เขียนข้อมลู สารสนเทศของตน รวมทั้ง
แจ้งวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ดังนั้น ผู้กรอกแบบฟอร์มจึงต้องทำความเข้าใจข้อมูลหรือสารนั้นให้ดี และ
กรอกแบบฟอรม์ ใหค้ รบถ้วน
การเขียนข้อความตดิ ตอ่ กิจธุระเป็นการถา่ ยทอดข้อมูล ความคิด ความต้องการ อันเป็นกิจธุระของ
ผูส้ ่งสารในการตดิ ตอ่ กบั บุคคลหรือหน่วยงานต่าง ๆ
๔. ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง
ดา้ นความรู้ (K)
๔.๑ อธิบายความหมาย หลักการ และวิธีการเขียนประวัติย่อ การกรอกแบบฟอร์ม และ
การเขยี นขอ้ ความตดิ ต่อกจิ ธุระได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
๔.๒ เขียนประวตั ยิ อ่ กรอกแบบฟอรม์ และเขียนข้อความติดตอ่ กิจธรุ ะได้
62
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๔.๓ มสี ่วนรว่ มกบั กิจกรรมในช้ันเรยี น
๔.๔ รบั ผดิ ชอบตอ่ งานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
๕. สาระการเรียนรู้ / เน้ือหาสาระ
๕.๑ การเขียนประวัตยิ ่อ
๕.๒ การกรอกแบบฟอรม์
๕.๓ การเขียนข้อความติดตอ่ กจิ ธุระ
๖. กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
คาบที่ ๑
ข้ันนำ
๑. นักเรียนชมวิดีทัศน์ เรื่อง สมัครอย่างไรถึงจะได้ฝกึ งาน ทอล์กกะเทย Tonight (เนื้อหากล่าวถึง
การสง่ ใบสมัครงานและสมั ภาษณง์ าน) เพอื่ พิจารณาวา่ บริษัทคัดเลือกพนกั งานเขา้ ทำงานอยา่ งไร (แนวคำตอบ:
บริษัทพิจารณาจากใบสมัครซึ่งมปี ระวตั ยิ ่อละการกรอกแบบฟอรม์ )
๒. ครถู ามนกั เรียนวา่ การคดั เลอื กพนักงานเข้าทำงาน บรษิ ทั จะคดั เลือกจากประวตั ิย่อและการกรอก
แบบฟอร์ม ดังนั้น นักเรียนคิดว่าควรเขียนประวัติย่อและกรอกแบบฟอร์มอย่างไรจึงจะได้รับการคัดเลือก
(แนวคำตอบ: ผสู้ มัครงานตอ้ งเขยี นข้อมลู ให้ถูกตอ้ งและสมบูรณ์) จากน้ันครจู ึงเชอ่ื มโยงเขา้ ส่บู ทเรยี น
ขนั้ สอน
๑. นักเรียนและครูร่วมอภิปราย เรื่อง การเขียนประวัติย่อและการกรอกแบบฟอร์ม ประกอบ
โปรแกรมนำเสนอ
๒. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน เพื่อวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นเชิงวิจารณ์ต่อตัวอย่าง
ประวัตยิ ่อและการกรอกแบบฟอรม์ ทค่ี รกู ำหนดใหว้ า่ เปน็ ไปตามหลกั การเขียนหรือไม่ และมีข้อดขี อ้ เสียอย่างไร
พร้อมทง้ั เสนอแนะแนวทางแกไ้ ขให้ถูกต้องและสมบรู ณ์ยิ่งข้นึ
๓. นกั เรียนตอบคำถามทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ ตอนท่ี ๒ ข้อ ๑ – ๖ เพอ่ื สรุปและทบทวนความรู้
ข้นั สรุป
๑. ครมู อบหมายภาระงาน ดงั นี้
๑.๑ ตอบคำถามท้ายหนว่ ยการเรียนรู้ ตอนท่ี ๑ ขอ้ ๑ – ๗
๑.๒ เขียนประวัติยอ่ ของตนเอง โดยครูสมมติสถานการณ์ว่า นักเรียนจบการศึกษา และจะ
สมัครงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ครูเป็นคณะกรรมการคัดเลือกคนเข้าทำงาน หากนักเรียนคนใด
63
เขยี นประวตั ิยอ่ จากคุณสมบตั ิท่ีกำหนดให้ได้ถูกต้องและสมบูรณท์ ่ีสุดจะถือว่าเป็นผู้ผ่านการคัดเลือก
เข้าทำงาน และไดร้ บั รางวัล
คาบท่ี ๒ คาบท่ี ๓
ขน้ั นำ
๑. ครูประกาศผลการคดั เลอื กประวัติยอ่ ที่ถูกต้องและสมบรู ณ์ทีส่ ุด และมอบรางวลั แก่นักเรยี น
๒. นักเรียนพิจารณาตัวอย่างจดหมายกิจธุระที่ครูกำหนดให้ เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
องคป์ ระกอบของจดหมาย วัตถปุ ระสงค์ในการเขียน การเรยี บเรียงเนอ้ื หาและภาษาท่ใี ช้
๓. ครูสรุปว่า จากตัวอย่างจดหมายกิจธุระที่ครูกำหนดให้เป็นการเขียนข้อความเพื่อติดต่อกิจธุระ
ซ่งึ เป็นการเขยี นเพอื่ ตดิ ต่อกบั บคุ คลหรือองค์กรอนื่ เพ่ือเชือ่ มโยงเขา้ สูบ่ ทเรียน
ขน้ั สอน
๑. นกั เรียนและครูรว่ มกันอภปิ ราย เรื่อง การเขยี นข้อความเพื่อติดตอ่ กิจธุระ ในประเด็นความหมาย
และความสำคัญของการเขียนข้อความติดต่อกิจธุระและหลักการเขียนข้อความติดต่อกิจธุระ ประกอบ
โปรแกรมนำเสนอ
๒. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๕ คนเพือ่ ฝกึ เขียนข้อความเพอ่ื ตดิ ต่อกจิ ธุระจากสถานการณ์สมมติที่ครู
กำหนดให้ โดยนกั เรยี นแต่ละกลุม่ เปน็ คณะดำเนินงานการสัมมนาเพอื่ พฒั นาทกั ษะการสือ่ สาร แต่ละคนจะตอ้ ง
รบั ผดิ ชอบตดิ ต่อบุคคลหรือองค์กรอื่น ๆ ดว้ ยจดหมายกิจธุระ (อาจใช้วิธกี ารจบั สลากเพอื่ เลือกหวั ขอ้ จดหมาย
ภายในกลุ่ม) ดงั น้ี
- จดหมายขออนุมตั จิ ัดโครงการในสถานศกึ ษา
- จดหมายขออนุมตั งิ บประมาณในการดำเนินงานจดั สัมมนา
- จดหมายขออนุญาตใช้สถานท่ี
- จดหมายเชญิ วิทยากร
- จดหมายเชญิ นักเรยี นและบคุ ลากรในสถานศึกษาเข้าร่วมฟงั สัมมนา
๓. ครูให้คำแนะนำการเขยี นข้อความเพอ่ื ติดต่อกจิ ธุระแตล่ ะกลุม่ เพือ่ นำไปแก้ไขให้จดหมายสมบูรณ์
ยง่ิ ขึ้น
ขั้นสรุป
๑. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ สง่ ผแู้ ทน ๑ คนสรปุ หลกั การการเขยี นข้อความเพอื่ ตดิ ต่อกจิ ธรุ ะ โดยแต่ละคน
จะตอ้ งสรุปในประเด็นท่ไี มซ่ ้ำกนั
64
๒. ครูมอบหมายภาระงาน ได้แก่ คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ ๑ ข้อ ๘ – ๑๐, ตอนที่ ๒
ข้อ ๗ – ๑๐, ใบงานที่ ๘.๑ เรื่อง ความหมายของงานเขียนและใบงานที่ ๘.๒ เรื่อง การเขียนประวัติย่อ
การกรอกแบบฟอรม์ และการเขียนข้อความตดิ ต่อกิจธรุ ะ
๗. สอ่ื /นวตั กรรมการเรียนรู้
๗.๑ โปรแกรมนำเสนอ เรื่อง การเขยี นประวตั ิยอ่ การกรอกแบบฟอร์มและการเขียนข้อความตดิ ต่อ
กิจธุระ
๗.๒ หนังสือแบบเรียนภาษาไทยพ้ืนฐาน
๗.๔ วีดทิ ัศน์ เรื่อง สมคั รอย่างไรถึงจะได้ฝกึ งาน ทอล์กกะเทย Tonight
๘. ชน้ิ งาน/ภาระงานของนกั เรยี น
๘.๑ ประวตั ิย่อเพื่อสมัครเขา้ ทำงาน
๘.๒ จดหมายกจิ ธุระเพ่ือจัดงานสัมมนาเพ่อื พัฒนาทักษะการสื่อสาร
๘.๓ คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้, ใบงานที่ ๘.๑ เรื่อง ความหมายของงานเขียนและใบงานที่ ๘.๒
เรือ่ ง การเขยี นประวัตยิ ่อ การกรอกแบบฟอร์มและการเขยี นขอ้ ความตดิ ต่อกจิ ธุระ
๙. แหลง่ การเรยี นรู้เพมิ่ เตมิ
๙.๑ หอ้ งสมุดของโรงเรยี น
๙.๒ อินเทอรเ์ นต็
๙.๓ ส่อื ส่งิ พมิ พต์ า่ ง
65
๑๐. การวดั และประเมินผล
ตวั บ่งชี้/พฤติกรรม วธิ ีการวัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ
การถาม-ตอบ ชุดคำถาม
ด้านความรู้ (K) ตอบคำถามได้
๑. อธิบายความหมาย หลกั การ และวิธกี ารเขียนประวัติ ถูกต้องมากกว่า
ย่อ การกรอกแบบฟอร์ม และการเขียนข้อความติดต่อ
กิจธรุ ะได้ รอ้ ยละ ๘๐
ถอื ว่าผ่าน
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) การประเมินจาก แบบประเมนิ เขียนประวตั ยิ ่อ
๒. เขียนประวัตยิ ่อ กรอกแบบฟอรม์ และเขยี นข้อความ การเขียน การเขียน กรอกแบบฟอร์ม
ติดต่อกจิ ธรุ ะได้ ประวตั ิยอ่ ประวตั ยิ ่อ และเขียนขอ้ ความ
กรอกแบบฟอร์ม ติดตอ่ กจิ ธุระ
กรอกแบบฟอรม์ และเขยี นขอ้ ความ ได้คะแนนรอ้ ยละ
และเขียนข้อความ ตดิ ต่อกจิ ธุระ ๘๐ ถอื วา่ ผา่ น
ติดต่อกจิ ธรุ ะ
ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) การสงั เกต แบบสงั เกต ไดเ้ กณฑค์ ุณภาพดี
๓. มสี ว่ นรว่ มกบั กจิ กรรมในชน้ั เรียน พฤตกิ รรม พฤติกรรม
๔. รบั ผดิ ชอบต่องานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
66
เกณฑก์ ารประเมินการเขยี นประวัติยอ่
ชือ่ -นามสกลุ ………………………………………..…………………………….……….. ช้นั …….….………. เลขท…่ี ……….……
ลำดบั ท่ี รายการประเมิน คณุ ภาพผลงาน
๔๓๒๑
๑ ข้อมูลสมบรู ณแ์ ละถูกตอ้ งตามข้อเทจ็ จรงิ
๒ ถูกต้องตามรปู แบบ
๓ เนอ้ื หากระชับ ชัดเจน ใช้ระดบั ภาษาเหมาะสม
๔ เขยี นสะกดคำถูกตอ้ ง
๕ ลายมอื สวยงามและเปน็ ระเบยี บ
๖ ส่งงานตรงเวลา
รวม
ลงช่อื ..............................................................................ผู้ประเมนิ
......................./.........................../........................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ระดบั คุณภาพ คะแนน ระดบั คุณภาพ ช่วงคะแนน
ดีมาก ๔ ดมี าก ๒๑ – ๒๔
ดี ๓ ดี ๑๗ – ๒๐
พอใช้ ๒ พอใช้ ๑๒ – ๑๖
ปรบั ปรงุ ๑ ปรบั ปรงุ ตำ่ กว่า ๑๒
67
เกณฑ์การประเมนิ การกรอกแบบฟอรม์
ชือ่ -นามสกลุ ………………………………………..…………………………….……….. ช้ัน…….….………. เลขท…ี่ ……….……
ลำดบั ที่ รายการประเมิน คณุ ภาพผลงาน
๔๓๒๑
๑ กรอกข้อมลู ครบถว้ น
๒ ข้อมูลสมบรู ณ์และถกู ตอ้ งตามขอ้ เทจ็ จรงิ
๓ ถกู ต้องตามรปู แบบ
๔ เขียนสะกดคำถกู ตอ้ ง
๕ ลายมอื สวยงามและเปน็ ระเบยี บ
๖ สง่ งานตรงเวลา
รวม
ลงชอื่ ..............................................................................ผู้ประเมนิ
......................./.........................../........................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคณุ ภาพ ช่วงคะแนน
ดีมาก ๔ ดีมาก ๒๑ – ๒๔
ดี ๓ ดี ๑๗ – ๒๐
พอใช้ ๒ พอใช้ ๑๒ – ๑๖
ปรบั ปรงุ ๑ ปรับปรงุ ต่ำกวา่ ๑๒
68
เกณฑก์ ารประเมินการเขียนข้อความตดิ ต่อกิจธุระ
ชอ่ื -นามสกลุ ………………………………………..…………………………….……….. ชัน้ …….….………. เลขท…่ี ……….……
ลำดบั ที่ รายการประเมิน คณุ ภาพผลงาน
๔๓๒๑
๑ ขอ้ มลู สมบรู ณแ์ ละถกู ตอ้ งตามขอ้ เทจ็ จริง
๒ ถกู ตอ้ งตามรปู แบบ
๓ เน้อื หากระชบั ชัดเจน ใชร้ ะดบั ภาษาเหมาะสม
๔ เขียนสะกดคำถูกต้อง
๕ ลายมือสวยงามและเปน็ ระเบยี บ
๖ สง่ งานตรงเวลา
รวม
ลงช่ือ..............................................................................ผู้ประเมนิ
......................./.........................../........................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ระดับคณุ ภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน
ดีมาก ๔ ดมี าก ๒๑ – ๒๔
ดี ๓ ดี ๑๗ – ๒๐
พอใช้ ๒ พอใช้ ๑๒ – ๑๖
ปรับปรงุ ๑ ปรบั ปรงุ ต่ำกว่า ๑๒
69
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
ชอื่ วชิ า ภาษาไทย ระดบั ชั้น…………........
เรอ่ื ง การเขียนประวัตยิ ่อ การกรอกแบบฟอร์ม วันท.่ี .............เดอื น..................................พ.ศ. ..............
และการเขียนข้อความตดิ ตอ่ กจิ ธุระ
คำช้ีแจง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องที่
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลำดับ ชอ่ื กลมุ่ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี การมี รวม
ที่ ความ ฟงั คนอ่ืน ตามที่ได้รบั นำ้ ใจ สว่ นรว่ มใน ๒๐
คดิ เห็น มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ผลงานกลมุ่
๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓๒๑
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบา้ งครง้ั ให้ ๑ คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยครงั้
เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
๑๘ – ๒๐ ดีมาก
๑๔ – ๑๗ ดี
๑๐ – ๑๓ พอใช้
ตำ่ กว่า ๑๐ ปรบั ปรงุ
ลงชือ่ .........................................................................ผปู้ ระเมิน
(…………………………………………….)
........../.........../............
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๐ 70
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๙ เรื่อง การเขียนรายงานเชิงวิชาการ รหัสวิชา ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
เวลา ๓ คาบ
และการเขียนโครงการ
๑. จดุ ประสงคร์ ายวชิ า
๑.๑ สามารถนำความรู้และทักษะการฟัง การดู การพูด การอ่านและการเขียนไปใช้สื่อสาร
ในชวี ติ ประจำวนั ได้ถูกตอ้ งตามหลกั การ
๒. สมรรถนะรายวิชา
๒.๑ แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการใชภ้ าษาไทยในการฟงั การดู การพูด การอา่ นและการเขยี น
๒.๒ เขียนขอ้ ความเพอื่ ตดิ ต่อกิจธรุ ะ สรุป อธบิ าย บรรยายและกรอกข้อมูลตามหลักการ
๓. แนวคิด
การเขียนรายงานเชิงวิชาการเป็นการเป็นการเขยี นเพ่อื เผยแพร่ข้อมูลจากการศกึ ษาค้นคว้าในเรื่องที่
ตนสนใจอย่างเป็นระบบ และถ่ายทอดข้อมูลจากการศึกษาอย่างมีระเบยี บแบบแผนตามหลักวิชาการ และมี
หลักฐานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ผู้เขียนจำเป็นต้องศึกษาหลักการและวิธีการเขียนรายงานเชิงวิชาการท่ีถูกต้อง
จึงจะนำเสนอขอ้ มูลไดอ้ ยา่ งนา่ สนใจ และเปน็ ประโยชน์
การเขียนโครงการเป็นการเขียนแผนการดำเนินงาน กระบวนการหรือขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุ
วัตถุประสงค์ทบี่ คุ คลหรอื หนว่ ยงานตา่ ง ๆ จัดโครงการนั้น
๔. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง
ด้านความรู้ (K)
๔.๑ อธิบายความหมาย หลักการ และวิธีการการเขียนรายงานเชิงวิชาการและการเขียน
โครงการได้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
๔.๒ เขยี นรายงานเชงิ วชิ าการและเขยี นโครงการได้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๔.๓ มสี ว่ นร่วมกับกิจกรรมในชนั้ เรียน
๔.๔ รบั ผิดชอบต่องานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
71
๕. สาระการเรยี นรู้ / เนอ้ื หาสาระ
๕.๑ การเขยี นรายงานเชิงวิชาการ
๕.๒ การเขียนโครงการ
๖. กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้
คาบท่ี ๑
ขน้ั นำ
๑. ครูถามคำถามนักใหน้ ักเรียนแสดงความคิดเหน็ ว่า เมื่อต้องการค้นคว้าความรู้ นอกจากสามารถ
หาได้จากหนังสอื หรอื เว็บไซตต์ ่าง ๆ แล้ว ยังสามารถหาจากแหลง่ ความรู้ใดได้อีก โดยนกั เรียนแต่ละคนจะต้อง
แสดงความคดิ เหน็ ไมซ่ ำ้ กัน
๒. ครูสรุปเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า นอกจากแหล่งความรู้ที่นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นมา
รายงานเชิงวิชาการก็เป็นอีกแหล่งความรูห้ นึ่ง ที่รวบรวมความรูไ้ วอ้ ย่างหลากหลาย และในวันนี้เราจะเรยี นรู้
การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ
ขน้ั สอน
๑. นกั เรียนรว่ มกนั วเิ คราะห์ และแสดงความคดิ เห็นตอ่ รายงานเชิงวชิ าการทค่ี รูกำหนดให้ในประเด็น
ต่าง ๆ ได้แก่ จุดมุ่งหมายของการเขียน รูปแบบการเขียน ภาษาที่ใช้ในการเขียน โดยนักเรียนแต่ละคน
ตอ้ งแสดงความคิดเหน็ ไม่ซำ้ กัน
๒. ครูสรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะของรายงานวิชาการในประเด็นความหมายของการเขียน
รายงานเชงิ วชิ าการ, องค์ประกอบของการเขียนรายงานเชิงวิชาการ, ขัน้ ตอนในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ
และประโยชน์ในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ประกอบโปรแกรมนำเสนอ
๓. นักเรียนและครูอภิปรายร่วมกัน เรื่อง การเขียนโครงการ ในประเด็นความหมายของการเขียน
โครงการและองค์ประกอบและแนวทางการเขยี นโครงการ ประกอบโปรแกรมนำเสนอ
๔. นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๕ – ๘ คน เพื่อวางแผนเขียนโครงการจติ อาสาพฒั นาชุมชนและนำเสนอ
หน้าชัน้ เรียนในคาบถัดไป โดยครคู อยสังเกตใหค้ ำแนะนำเป็นรายกลุม่
ขนั้ สรุป
๑. นักเรียนตอบคำถามทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ ตอนที่ ๒
๒. ครมู อบหมายภาระงาน โดยให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ ๕ – ๘ คน ดงั นี้
๒.๑ ค้นคว้าตัวอย่างรายงานเชิงวิชาการจากอินเทอร์เน็ตจำนวน ๑ เรื่อง เพื่อวิเคราะห์
ความถกู ตอ้ งในการเขียน ข้อดีขอ้ เสยี และประโยชน์ท่ไี ด้รบั การจากการศกึ ษารายงาน
72
๒.๒ เขียนโครงการจิตอาสาพัฒนาชุมชน เพื่อนำเสนอหน้าชั้นเรียนในคาบถัดไป
โดยโครงการของแต่ละกลุ่มจะตอ้ งพัฒนาชุมชนในด้านที่แตกตา่ งกัน
คาบท่ี ๒ คาบที่ ๓
ข้นั นำ
๑. ครชู แ้ี จงเกณฑก์ ารให้คะแนน และกตกิ าในการนำเสนอโครงการจติ อาสาพฒั นาชุมชน
๒. นกั เรียนจับสลากลำดบั การนำเสนอหน้าชน้ั เรยี น
ข้นั สอน
๑. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอโครงการจิตอาสาพัฒนาชุมชน กลุ่มละ ๕ – ๗ นาทีตามลำดับ
ท่ีจดั เรยี งไว้ โดยกลมุ่ ทน่ี ำเสนอก่อนจะตอ้ งแสดงความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะตอ่ โครงการของกลุ่มถัดไป
ขัน้ สรุป
๑. นักเรียนแต่ละกลุ่มลงคะแนนเสียงเลือกโครงการดีในดวงใจ โดยพิจารณาจากเกณฑ์ประเมิน
การเขยี นโครงการ
๒. ครูสรุป เรื่อง การเขียนโครงการ เพื่อทบทวน และให้ข้อเสนอแนะรายกลุ่มเพื่อนำไปปรับใช้
ในการฝึกปฏิบัตทิ กั ษะภาษาไทยครั้งตอ่ ไป
๓. ครูมอบหมายภาระงาน ได้แก่ คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ ๑, ใบงานที่ ๙.๑ เรื่อง
ความหมายของงานเขยี นและใบงานท่ี ๙.๒ เรื่อง เขยี นรายงานและโครงการ
๗. สื่อ/นวัตกรรมการเรยี นรู้
๗.๑ โปรแกรมนำเสนอ เรือ่ ง การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการและการเขียนโครงการ
๗.๒ หนงั สอื แบบเรียนภาษาไทยพืน้ ฐาน
๗.๔ ตวั อย่างรายงานเชงิ วิชาการและโครงการ
๘. ชน้ิ งาน/ภาระงานของนกั เรียน
๘.๑ คน้ คว้าตัวอยา่ งรายงานเชิงวิชาการจากอินเทอร์เน็ต และวเิ คราะหค์ วามถูกต้องในการเขียน ข้อดี
ขอ้ เสยี และประโยชนท์ ี่ไดร้ ับการจากการศึกษารายงาน
๘.๒ เขียนโครงการจิตอาสาพฒั นาชมุ ชน
๘.๓ คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ ๑, ใบงานที่ ๙.๑ เรื่อง ความหมายของงานเขียนและ
ใบงานที่ ๙.๒ เร่อื ง เขียนรายงานและโครงการ
73
๙. แหล่งการเรียนร้เู พิ่มเตมิ
๙.๑ หอ้ งสมุดของโรงเรยี น
๙.๒ อินเทอร์เนต็
๙.๓ ส่อื สิง่ พิมพต์ า่ ง ๆ
๑๐. การวัดและประเมนิ ผล
ตัวบ่งช้ี/พฤตกิ รรม วธิ กี ารวัด เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน
ด้านความรู้ (K) ตอบคำถามได้
๑. อธิบายความหมาย หลักการ และวิธีการการเขียน การถาม-ตอบ ชดุ คำถาม ถูกตอ้ งมากกว่า
รายงานเชงิ วิชาการและการเขียนโครงการได้ ร้อยละ ๘๐
ถอื ว่าผ่าน
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
๒. เขียนรายงานเชิงวชิ าการและเขียนโครงการได้ การประเมนิ จาก แบบประเมิน เขยี นรายงาน
การเขยี น การเขียน เชงิ วิชาการและ
รายงานเชิงวิชาการ รายงานเชิงวชิ าการ เขยี นโครงการ
และเขยี นโครงการ และเขยี นโครงการ ได้คะแนนร้อยละ
๘๐ ถอื วา่ ผ่าน
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) การสงั เกต แบบสงั เกต ไดเ้ กณฑค์ ุณภาพดี
๓. มสี ว่ นรว่ มกบั กจิ กรรมในชนั้ เรยี น พฤตกิ รรม พฤติกรรม
๔. รบั ผดิ ชอบตอ่ งานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
74
เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นรายงานเชงิ วิชาการ
ช่ือ-นามสกลุ ………………………………………..…………………………….……….. ชนั้ …….….………. เลขท…ี่ ……….……
ลำดบั ที่ รายการประเมิน คณุ ภาพผลงาน
๔๓๒๑
๑ การศึกษาคน้ ควา้ และรวบรวมข้อมลู
๒ การสรปุ และการบนั ทกึ ขอ้ มลู
๓ การวางโครงเรือ่ งและเรียบเรียงข้อมลู
๔ การเขยี นอา้ งอิงหรือบรรณานุกรมการเรียบเรยี งขอ้ มูล
๕ ภาษาท่ใี ช้ในการเขยี น
๖ รูปเล่มรายงาน
รวม
ลงชอ่ื ..............................................................................ผู้ประเมนิ
......................./.........................../........................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน
ดีมาก ๔ ดมี าก ๒๑ – ๒๔
ดี ๓ ดี ๑๗ – ๒๐
พอใช้ ๒ พอใช้ ๑๒ – ๑๖
ปรบั ปรงุ ๑ ปรับปรงุ ต่ำกว่า ๑๒
75
เกณฑก์ ารประเมนิ การเขียนโครงการ
ชอ่ื -นามสกลุ ………………………………………..…………………………….……….. ช้ัน…….….………. เลขท…่ี ……….……
ลำดบั ที่ รายการประเมนิ คณุ ภาพผลงาน
๔๓๒๑
๑ องค์ประกอบครบตามหลกั การเขียนโครงการ
๒ มวี ัตถปุ ระสงคช์ ดั เจน เขา้ ใจง่าย
๓ รายละเอยี ดของโครงการต่อเนอ่ื งสอดคลอ้ งสัมพนั ธก์ นั
๔ ข้อมูลถูกตอ้ งตามขอ้ เท็จจรงิ
๕ ใช้ภาษาในการเขยี นอย่างเหมาะสม
๖ มีความสรา้ งสรรค์ และสามารถพฒั นาชมุ ชนได้
รวม
ลงชอ่ื ..............................................................................ผู้ประเมนิ
......................./.........................../........................
เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ระดับคุณภาพ คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ช่วงคะแนน
ดมี าก ๔ ดมี าก ๒๑ – ๒๔
ดี ๓ ดี ๑๗ – ๒๐
พอใช้ ๒ พอใช้ ๑๒ – ๑๖
ปรบั ปรงุ ๑ ปรบั ปรงุ ต่ำกวา่ ๑๒
76
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
ชอื่ วชิ า ภาษาไทย ระดบั ชั้น…………........
เรอื่ ง การเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ วันท.่ี .............เดอื น..................................พ.ศ. ..............
และการเขียนโครงการ
คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดับ ช่ือกลุ่ม การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี การมี รวม
ท่ี ความ ฟังคนอ่ืน ตามที่ได้รับ นำ้ ใจ สว่ นรว่ มใน ๒๐
คดิ เห็น มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ผลงานกลมุ่
๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓๒๑
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบา้ งครงั้ ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครัง้
เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
๑๘ – ๒๐ ดมี าก
๑๔ – ๑๗ ดี
๑๐ – ๑๓ พอใช้
ตำ่ กว่า ๑๐ ปรบั ปรงุ
ลงชอื่ .........................................................................ผปู้ ระเมนิ
(…………………………………………….)
........../.........../............
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๑ 77
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑๐ เรอื่ ง การพูด รหัสวิชา ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
เวลา ๔ คาบ
๑. จุดประสงคร์ ายวชิ า
๑.๑ เพื่อใหส้ ามารถเลือกใช้ภาษาไทยได้ถูกตอ้ งตามหลักการใช้ภาษาเหมาะสมกับบุคคล กาลเทศะ
โอกาส และสถานการณ์
๑.๒ เพื่อให้สามารถนำความรู้และทักษะการฟัง การดู การอ่าน และการเขี ยนไปใช้สื่อสาร
ในชวี ติ ประจำวันถูกตอ้ งตามหลักการ
๒. สมรรถนะรายวิชา
๒.๑ แสดงความรเู้ กยี่ วกบั หลักการใชภ้ าษาไทยในการฟงั การดู การพดู การอา่ นและการเขยี น
๒.๒ พูดตดิ ต่อกจิ ธรุ ะ พดู ในโอกาสต่าง ๆ ตามหลักการและมารยาทของสังคม
๓. แนวคิด
การพูดเป็นพฤติกรรมการสื่อสารที่ใช้กันทั่วไป เนื่องจากเป็นการสื่อสารที่สะดวก และเตรียมการ
ไม่นาน การพูดเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่จะทำให้ผู้ฟังเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ตามที่ผู้พูดปรารถนาและ
สรา้ งความประทบั ใจใหผ้ ้ฟู งั ได้ ดงั น้ัน เราจึงควรทำความเขา้ ใจความร้พู ืน้ ฐานเก่ียวกับการพดู
๔. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง
ดา้ นความรู้ (K)
๔.๑ บอกความหมายของการพูดได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
๔.๒ วเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบของการพูดและคุณสมบัติของผพู้ ูดทีด่ ไี ด้
๔.๓ อธบิ ายหลกั การพูดทวั่ ไปและประโยชน์ของการพดู ได้
๔.๔ พดู เล่าประสบการณไ์ ด้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๔.๕ มีส่วนรว่ มกบั กจิ กรรมในชน้ั เรียน
๔.๖ รับผดิ ชอบต่องานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
78
๕. สาระการเรียนรู้ / เนอ้ื หาสาระ
๕.๑ ความหมายของการพดู
๕.๒ องค์ประกอบของการพูด
๕.๓ หลกั การพดู ทวั่ ไป
๕.๔ ประโยชน์ของการพูด
๖. กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
คาบที่ ๑
ข้นั นำ
๑. นักเรียนจับสลากเสี่ยงทายเพื่อคัดเลือกผู้แทนจำนวน ๘ คน (แบ่งเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มละ ๔ คน)
ทำกิจกรรม “ใบ้คนละคำ” นักเรียนที่จับสลากได้กระดาษที่มีรูปดาวจะได้เป็นผู้แทนในการทำกิจกรรม
โดยนักเรียนท่ีจบั ไดด้ าวสีชมพูจะเป็นกลุ่มหมายเลข ๑ และนักเรียนทีจ่ บั ไดด้ าวสีฟา้ จะเป็นกลมุ่ หมายเลข ๒
๒. ครูอธิบายกติกากิจกรรม “ใบ้คนละคำ” ดังน้ี
๒.๑ นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกคนตอบจำนวน ๑ คน และอีก ๓ คนเป็นคนใบ้คำ
๒.๒ การแข่งขันจะแข่งขันทีละกลุ่ม มีเวลาในการใบ้ ๒ นาที กลุ่มใดตอบคำใบ้ได้จำนวน
มากกว่าจะเป็นผู้ชนะ
๒.๓ คนใบ้คำจะมีสิทธิ์พูดได้แค่คนละ ๑ พยางค์ที่ไม่ซ้ำกันเท่านั้น และต้องไม่มีคำท่ีอยูใ่ น
คำตอบ เชน่ คำตอบคือคำวา่ “กุมารทอง” คนใบค้ นท่ี ๑ : เลี้ยง, คนใบ้คนที่ ๒ : เด็ก และคนใบ้คนที่ ๓ : ไหว้
๒. นักเรียนทำกิจกรรม “ใบ้คนละคำ” จากน้นั ครสู รุปผลการแขง่ ขนั
๓. ครูถามวิธกี ารพูดใบ้คำของนกั เรียนทช่ี นะ และให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับความรู้
พ้นื ฐานทจี่ ำเปน็ ตอ่ การพูดเพอ่ื เชอ่ื มโยงเข้าสู่บทเรยี น
ขั้นสอน
๑. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปราย เรื่อง ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการพูด ได้แก่ ความหมายของ
การพดู องค์ประกอบของการพูด หลกั การพูดทัว่ ไปและประโยชนข์ องการพูด ประกอบโปรแกรมนำเสนอ
๒. นักเรียนจับคู่กันเพื่อทำกิจกรรม “เมนต์ชิดติดจอ” โดยชมวีดิทัศน์รายการเด่ียวดวลไมค์ หัวข้อ
รักแรกพบ และเขียนแสดงความคิดเห็นลงบนกระดาษโพสอิทในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ การใช้วัจนภาษา
และอวัจนภาษา การเรียบเรียงบทพูด ลักษณะเด่นในการพูด จากนั้นนำมาติดที่กระดานและครูช่วยสรุป
ความคิดเหน็ ในประเด็นคุณสมบัติของนักพูดทดี่ ี ประกอบโปรแกรมนำเสนอ
ขน้ั สรปุ
๑. ครูขอผู้แทนนักเรียน ๓ – ๕ คนให้ร่วมกันสรุปองค์ความรู้ที่ได้รับ และสุ่มถามนักเรียนที่เหลอื
เพอ่ื ทบทวนความเข้าใจ
79
๒. ครูมอบหมายภาระงาน ได้แก่ คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ ตอนที่ ๒, ใบงานที่ ๑๐.๑ เรื่อง
ความหมายของการพูด, ใบงานที่ ๑๐.๒ เรื่อง องค์ประกอบของการพูดและคุณสมบัตขิ องผู้พดู และใบงานที่
๑๐.๓ เรอื่ ง หลักการและประโยชน์ของการพดู
คาบท่ี ๒ คาบที่ ๓
ข้นั นำ
๑. นักเรียนเล่นเกมกะหล่ำปลีเพื่อทบทวนบทเรียน โดยให้นักเรียนส่งต่อกะหล่ำปลี จำนวน ๒ หัว
(กระดาษห่อซ้อนกันหลายชั้นเป็นก้อนกลม แต่ละแผ่นมีคำถามเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานในการพูดนำมาจาก
คำถามท้ายหน่วย ตอนที่ ๑) ไปเรื่อย ๆ ตามแถวที่นั่ง หากเพลงหยุดที่นักเรียนคนใดให้หยุดส่ง และแกะ
กระดาษชน้ั นอกสดุ เพอ่ื อา่ นคำถามและตอบใหถ้ ูกต้อง ในขณะเลน่ เกมนักเรียนต้องจดบันทึกคำตอบท่ีถูกต้อง
ลงในหนงั สือแบบเรียน คำถามมีดงั นี้
๑.๑ ผูพ้ ูด คือใคร
๑.๒ เรอ่ื งท่พี ูดคอื อะไร
๑.๓ บุคคลในอาชีพใดบา้ งท่มี โี อกาสเป็นผู้พูดมากกว่าผูฟ้ ัง
๑.๔ เครื่องมอื ที่ใช้ถา่ ยทอดสารของมนษุ ย์มอี ะไรบา้ ง
๑.๕ ส่ิงที่แสดงให้เห็นว่าผู้ฟังมีความรู้ ความเข้าใจ ความพึงพอใจจากเรื่องที่ฟัง
คอื อะไร
๑.๖ การเตรยี มตัวในการพูดส่งิ แรกทตี่ ้องทำคอื อะไร
๑.๗ สง่ิ ใดบ้างที่เรยี กวา่ “บุคลิกภาพภายใน”
๑.๘ ขน้ั ตอนของการฝึกพดู คืออะไร
๑.๙ หากเป็นการประกวดพูด เมอื่ เดินขึน้ เวทไี ปยังจุดท่จี ะพดู ควรทำส่ิงใดกอ่ น
๑.๑๐ บอกประโยชน์ในการพูดอย่างนอ้ ย ๓ ข้อ
๒. ครบู อกนักเรียนวา่ ทกุ คนเรียนความรพู้ ื้นฐานเก่ียวกับการพูดมาแล้ว เราจะนำความรนู้ น้ั มาปรบั ใช้
กบั การประเมินและวิจารณก์ ารพดู เพ่ือเชอ่ื มโยงเขา้ สู่บทเรยี น
ขั้นสอน
๑. นักเรียนชมวิดีทัศน์เกี่ยวการพูดต่อหน้าประชุมชนที่มีข้อบกพร่อง และร่วมกันวิเคราะห์ว่า
ข้อบกพร่องดังกล่าวเกิดจากสาเหตุใด (คำตอบที่คาดหวัง : เกิดข้อบกพร่องเพราะขาดการเตรียมตัวและ
การฝึกซ้อม)
๒. แบ่งนักเรียนออกเป็น ๕ กลุ่ม และให้แต่ละกลุ่มช่วยกันเสนอวิธีแก้ไขข้อบกพร่องในการพูดของ
ผู้พูดที่ได้รับจากวีดิทัศน์ โดยอ้างอิงจากความรู้พื้นฐานในการพูด และหากนักเรียนเป็นผู้พูดคนดังกล่าว
จะวางแผนการพูดอย่างไรให้เกดิ ประสทิ ธิผล แล้วสง่ ผู้แทนมานำเสนอหนา้ ช้ันเรียน
80
ข้นั สรุป
๑. ครูชี้แจงการสอบพูดเล่าประสบการณ์ในหัวข้อ “ครั้งหนึ่งในชีวิต” ในประเด็นการเตรียมตัว
ลำดับการพูด เกณฑ์การประเมนิ และการวิจารณ์การพดู เลา่ ประสบการณ์ของเพือ่ น
คาบที่ ๔
ข้นั นำ
๑. ครูเล่าประสบการณ์ของตนเองในหัวข้อ “ครั้งหนึ่งในชีวิต” เพื่อนำเข้าสู่การสอบพูด
เล่าประสบการณ์
ขั้นสอน
๑. นักเรียนออกมาพูดเล่าประสบการณ์คนละ ๓ – ๕ นาทีตามลำดับที่จัดเรียงไว้ โดยให้คะแนน
ตามเกณฑก์ ารประเมิน คนละ ๑๐ คะแนน
ขัน้ สรปุ
๑. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปการพูดเล่าประสบการณ์ และให้ข้อเสนอแนะเพื่อนำไปปรับใช้
ในการสอบพดู ครงั้ ต่อไป
๗. สื่อ/นวตั กรรมการเรยี นรู้
๗.๑ โปรแกรมนำเสนอ เรอ่ื ง การพดู
๗.๒ หนังสือแบบเรยี นภาษาไทยพนื้ ฐาน
๗.๓ วดี ิทัศนร์ ายการเดยี่ วดวลไมค์ หัวข้อ รกั แรกพบ
๗.๔ วิดที ัศน์เก่ียวการพูดตอ่ หน้าประชมุ ชนทม่ี ขี อ้ บกพร่อง
๘. ช้ินงาน/ภาระงานของนักเรยี น
๘.๑ คำถามทา้ ยหน่วยการเรียนรู้, ใบงานที่ ๑๐.๑ เรื่อง การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ และใบงานท่ี ๑๐.๒
เร่ือง การใช้ถ้อยคำและสำนวนโวหารในการพดู
๘.๒ การพูดเลา่ ประสบการณ์ หัวข้อ “คร้ังหนึง่ ในชวี ิต”
๙. แหลง่ การเรียนรู้เพ่มิ เตมิ
๙.๑ ห้องสมุดของโรงเรียน
๙.๒ อินเทอร์เน็ต
๙.๓ ส่อื ส่งิ พิมพ์ตา่ ง ๆ
81
๑๐. การวดั และประเมนิ ผล
ตัวบง่ ช/้ี พฤตกิ รรม วิธกี ารวัด เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
ชุดคำถาม
ด้านความรู้ (K) การถาม-ตอบ ตอบคำถามได้
๑. บอกความหมายของการพดู ได้ ถูกตอ้ งมากกวา่
๒. วิเคราะห์องค์ประกอบของการพูดและคุณสมบัติของ การประเมินจาก
ผู้พดู ท่ดี ีได้ การสอบพูด ร้อยละ ๘๐
๓. อธบิ ายหลกั การพูดทั่วไปและประโยชน์ของการพูดได้ ถือว่าผา่ น
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) เล่าประสบการณ์
๔. พูดเลา่ ประสบการณไ์ ด้ แบบประเมนิ สอบพูดเล่า
การพดู เล่า ประสบการณ์
ประสบการณ์ ได้คะแนนต้งั แต่
ร้อยละ ๘๐
ถือวา่ ผา่ น
ได้เกณฑ์ระดบั ดี
ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) การสงั เกต แบบสงั เกต ได้เกณฑค์ ุณภาพดี
๕. มสี ่วนร่วมกบั กจิ กรรมในช้นั เรียน พฤตกิ รรม พฤติกรรม
๖. รบั ผิดชอบตอ่ งานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
82
เกณฑ์การประเมินการพูดเล่าประสบการณ์
ช่ือ-นามสกลุ .......................................................................................................ชั้น ................ เลขท.ี่ ............
เร่อื งทีพ่ ูดเล่าประสบการณ์.................................................................................................................................
รายการประเมินผล คะแนนเตม็ คะแนนทีไ่ ด้ ขอ้ วจิ ารณ์เพมิ่ เตมิ
บคุ ลกิ ภาพ
๑. การแตง่ กาย ๑
๒. มีความมั่นใจในตนเอง ๒
๓. ไม่แสดงอาการประหมา่ ๒
๔. การแสดงออกทางสหี นา้ และใช้ท่าทาง ๕
ประกอบ
๕. การใช้สายตา ๒
๖. ความสมั พนั ธ์ระหว่างผพู้ ดู กบั ผฟู้ ัง ๒
การใช้เสียง
๑. ดงั ชดั เจน ๑
๒. การออกเสียงถกู ต้อง ชดั เจน ๒
๓. ท่วงทำนองการพดู ๓
๔. นำ้ เสยี งและระดบั เสยี ง ๓
เนื้อหาและวธิ ีการพดู
๑. เนอ้ื เรื่องสรา้ งสรรค์ ใหข้ อ้ คดิ แกผ่ ูฟ้ งั ๒
๒. การใชภ้ าษาถกู ต้อง ชัดเจน เหมาะสมกบั เนอ้ื ๓
เรือ่ ง
๓. การเริ่มเรื่องนา่ สนใจ เหมาะสมกับเนอ้ื เร่ือง ๒
๔. วธิ ี / เทคนคิ การเลา่ ชวนให้ผู้ฟังตดิ ตาม ๓
๕. ใช้เทคนิคในการสรุปเรอื่ งไดเ้ หมาะสม ๒
๖. การลำดบั เรอื่ ง ๓
๗. การใชเ้ วลา ๒
รวม ๔๐
เฉลี่ย ๑๐
....................................................................................... ผู้ประเมนิ
83
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
ชอื่ วชิ า ภาษาไทย ระดับชน้ั …………........
เรอื่ ง การพดู วันท.่ี .............เดอื น..................................พ.ศ. ..............
คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ี
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลำดับ ชือ่ กลุ่ม การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี การมี รวม
ท่ี ความ ฟงั คนอื่น ตามที่ได้รับ น้ำใจ สว่ นร่วมใน ๒๐
คิดเหน็ มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ผลงานกลมุ่
๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓๒๑
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบา้ งครง้ั ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
๑๘ – ๒๐ ดมี าก
๑๔ – ๑๗ ดี
๑๐ – ๑๓ พอใช้
ต่ำกวา่ ๑๐ ปรับปรงุ
ลงช่อื .........................................................................ผปู้ ระเมนิ
(…………………………………………….)
........../.........../............
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑๒ 84
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑๑ เรอ่ื ง การพูดในโอกาสต่าง ๆ (๑) รหสั วิชา ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑
เวลา ๓ คาบ
๑. จุดประสงค์รายวชิ า
๑.๑ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ภาษาไทยได้ถูกตอ้ งตามหลักการใช้ภาษาเหมาะสมกับบุคคล กาลเทศะ
โอกาส และสถานการณ์
๑.๒ เพื่อให้สามารถนำความรู้และทักษะการฟัง การดู การอ่าน และการเขียนไปใช้สื่อสาร
ในชีวติ ประจำวันถกู ต้องตามหลักการ
๒. สมรรถนะรายวิชา
๒.๑ พูดตดิ ตอ่ กจิ ธรุ ะ พูดในโอกาสตา่ ง ๆ ตามหลักการและมารยาทของสังคม
๓. แนวคดิ
การอยู่ร่วมกันในสังคม คนเรามีกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติร่วมกันในชีวิตประจำวัน จึงต้องมีการสื่อสาร
เพื่อทำความเข้าใจให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการ การพูดเป็นการสื่อสารหนึ่งที่สร้างความเข้ าใจให้บุคคล
คล้อยตามและปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการได้ การพูดในโอกาสต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมเป็นการแสดง
มารยาทที่ดีของสังคมเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ฟัง หรือเพื่อเป็นเกียรติแก่งานและผู้ฟัง การรู้จักพูด
ให้ถูกกาลเทศะจงึ เป็นสงิ่ ที่ควรศึกษาเรียนรู้ เพอื่ ให้พดู ได้ถกู ต้องและสรา้ งความประทบั ใจแก่ผูฟ้ งั
๔. ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั
ด้านความรู้ (K)
๔.๑ อธิบายหลกั การพูดและวธิ ีการพูดในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ถูกต้อง
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
๔.๒ ใช้ถอ้ ยคำ สำนวนโวหารในการพูดแบบต่าง ๆ ไดเ้ หมาะสม
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
๔.๓ มสี ว่ นรว่ มกับกจิ กรรมในชัน้ เรยี น
๔.๔ รับผิดชอบต่องานทีไ่ ด้รับมอบหมาย
๕. สาระการเรียนรู้ / เนือ้ หาสาระ
๕.๑ การกล่าวทกั ทาย
๕.๒ การแนะนำตนเองและผู้อน่ื
๕.๓ การพูดตอบรับและปฏิเสธ
๕.๔ การพดู แสดงความยนิ ดี
85
๖. กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้
คาบท่ี ๑ คาบที่ ๒
ขนั้ นำ
๑. นักเรียนทำกิจกรรม My Friend Controls โดยครูสุ่มเรียกนักเรียน ๑ คน เพื่อแสดงสถานการณ์
สมมติการพูดในโอกาสต่าง ๆ ตามการ์ดคำสั่งที่เพื่อนในช้ันเรยี นจับสลากได้ การ์ดคำสัง่ จะแบ่งเป็น ๕ หัวขอ้
ได้แก่ ใคร, ทำอะไร, กับบุคคลใด และอย่างไร เช่น นกั เรยี นรนุ่ นอ้ ง / แสดงความยนิ ดี / กบั ร่นุ พท่ี ีไ่ ดร้ บั รางวลั
ผลการเรียนดีเด่น / ด้วยน้ำเสียงขึงขังและใบหน้าบ้ึงตึง (เมื่อนำการ์ดคำสั่งทั้ง ๕ หัวข้อเรยี งตอ่ กันจะได้เป็น
พฤตกิ รรมการพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ทีไ่ มเ่ หมาะสม)
๒. ครูถามคำถามว่า การพูดในสถานการณ์สมมตินี้เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ:
เป็นการพูดท่ีไม่เหมาะสมกบั สถานการณ์ เพราะผพู้ ูดมีพฤตกิ รรมการสือ่ สารไม่สอดคลอ้ งกับสถานการณ)์
๓. ครอู ธิบายวา่ การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ผพู้ ดู ตอ้ งมีพฤติกรรมการสือ่ สารที่สอดคล้องกับสถานการณ์
โดยคำนงึ ถงึ กาลเทศะ สัมพันธภาพ จดุ มงุ่ หมายของการพูด เน้ือหาของการพูด โอกาส และมารยาทในการพูด
เพอ่ื เช่อื มโยงเขา้ สู่บทเรียน
ข้ันสอน
๑. ครูอธิบายวา่ นกั เรยี นจะสามารถพดู ในโอกาสต่าง ๆ ได้มปี ระสิทธิภาพ จำเป็นจะต้องเรยี นร้เู น้อื หา
ดงั ตอ่ ไปนี้
๑.๑ การกล่าวทกั ทาย
๑.๒ การแนะนำตนเองและผู้อื่น
๑.๓ การพูดตอบรบั และปฏิเสธ
๑.๔ การพูดแสดงความยนิ ดี
โดยในวันนี้นักเรียนจะเปลี่ยนบทบาทกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญจากแต่ละสำนักวิชามานำเสนอ
และแลกเปลี่ยนความร้เู ก่ยี วกบั การพูดในโอกาสต่าง ๆ
๒. แบ่งนักเรียนออกเป็น ๔ กลุ่มสำนักวิชา แล้วให้ส่งผู้แทนออกมาจับสล ากประเภทการพูด
ในโอกาสต่าง ๆ ทั้ง ๔ ประเภท โดยให้ศึกษาเนื้อหาร่วมกันจากหนังสือแบบเรียน จากนั้นแต่ละสำนักวิชา
สง่ ผูแ้ ทนมานำเสนอหลักการพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ทั้ง ๔ ประเภทท่ีหนา้ ชนั้ เรยี น
๓. ครสู รุปเน้ือหา และเพิม่ เตมิ ประเดน็ ทอ่ี าจจะขาดหายไปประกอบโปรแกรมนำเสนอ
๔. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มแขง่ ขนั กันตอบคำถามท้ายหนว่ ยการเรยี นรู้ ตอนท่ี ๒ หากกลุม่ ใดตอบไดถ้ ูกตอ้ ง
และเรว็ ที่สดุ จะเป็นผชู้ นะและไดร้ ับของรางวลั
86
ขน้ั สรปุ
๑. ครูมอบหมายภาระงาน ดงั นี้
๑.๑ การแสดงสถานการณ์สมมตกิ ารพดู ในโอกาสต่าง ๆ
นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน และส่งผู้แทนจับสลากหัวข้อในการแสดง
สถานการณส์ มมติการพูดในโอกาสตา่ ง ๆ ในหวั ขอ้ ดังตอ่ ไปนี้
- การพดู แนะนำผูเ้ ข้ารว่ มประชมุ
- การพูดแนะนำวิทยากรในงานอบรมเชิงวิชาการ
- การพูดตอบรบั และปฏิเสธการบรจิ าคเงนิ แกม่ ลู นธิ ชิ ่วยเหลอื ผู้ยากไร้
- การพดู ตอบรบั และปฏเิ สธเมือ่ ผู้ใหญข่ อความช่วยเหลือ
- การพดู ตอบรับและปฏเิ สธเม่อื มีคนมาบอกรัก
- การพดู แสดงความยินดีในงานทำบญุ ข้ึนบ้านใหม่
- การพูดแสดงความยินดใี นงานมงคลสมรส
- การพูดแสดงความยนิ ดีเม่ือเพ่ือนจบการศกึ ษาหรือรบั รางวัล
๑.๒ ตอบคำถามท้ายหน่วยการเรยี นรู้, ใบงานที่ ๑๑.๑ เรื่อง การพูดในโอกาสต่าง ๆ และ
ใบงานท่ี ๑๑.๒ เรอื่ ง การใช้ถอ้ ยคำและสำนวนโวหารในการพดู
คาบที่ ๓
ขั้นนำ
๑. ครูชแี้ จงเกณฑ์การให้คะแนน และกติกาในการแสดงสถานการณ์สมมติการพดู ในโอกาสต่าง ๆ
ขน้ั สอน
๑. นักเรียนแสดงสถานการณ์สมมติการพูดในโอกาสต่าง ๆ ตามหัวข้อท่ีจบั สลากได้ กลุ่มละ ๕ นาที
ตามลำดับทจี่ ัดเรียงไว้
ขั้นสรุป
๑. นักเรียนและครูรว่ มกันสรปุ การพูดในโอกาสต่าง ๆ ทั้ง ๔ ประเภท และให้ข้อเสนอแนะรายกลุ่ม
เพ่อื นำไปปรับใช้ในการฝกึ ปฏบิ ัติการพดู คร้ังตอ่ ไป
๗. สอ่ื /นวัตกรรมการเรยี นรู้
๗.๑ การด์ คำสั่ง My friend controls
๗.๒ โปรแกรมนำเสนอ เร่อื ง การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ
๗.๓ หนงั สือแบบเรียนภาษาไทยพืน้ ฐาน