The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศฯ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by armynco2665, 2022-07-11 09:14:36

วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศฯ

วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศฯ

ลกั ษณะกำรของโปรเเกรม

กำรทำงำนในรปู ของภำพนิง่ (slide) คือเเผ่นเอกสำรเดี่ยว ๆ ท่ีเเสดง
ส่ิงต่ำง ๆ ตัวอักษรกรำฟตำรำง รูปภำพ หรืออื่น ๆ เเละสำมำรถ
เเสดงสไลด์ลงบนแผ่นกระดำษหรือเครื่องฉำยข้ำมศรีษหรือหน้ำ
จอคอมพวิ เตอรห์ รือเคร่ืองฉำย

ควำมหมำยของกำรนำเสนอข้อมลู

กำรสื่อสำรเพ่ือเสนอข้อมูล ควำมรู้ ควำมคิดเห็น หรือ
ควำมต้องกำรไปสู่ผู้รับสำร โดยใช้เทคนิคหรือวิธีกำร
ต่ำง ๆ อันจะทำให้บรรลุผลสำเร็จตำมจุดมุ่งหมำย
ของกำรนำเสนอ

ประโยชน์ของโปรแกรม

1. สำมำรถสรำ้ งงำนนำเสนอได้ แม้วำ่ จะไม่เคยสร้ำงงำนนำเสนอ
มำกอ่ น

2. ในส่วนกำรนำเสนอภำพน่ิง สำมำรถทจ่ี ะนำองคป์ ระกอบ
มัลตมิ ีเดีย เชน่ กำรนำเอฟเฟค เสียง ดนตรีและวดี โี อ มำใช้ประกอบรว่ มได้

3. นอกจำกสง่ิ ทไ่ี ด้เตรียมมำนำเสนอแลว้ ยงั สำมำรถ
ใช้ PowerPointเตรียมเอกสำรประกอบคำบรรยำยและในขณะที่มีกำรนำเสนอ
งำน

4. สำมำรถทีจ่ ะดัดแปลงงำนนำเสนอทีเ่ ป็นไฟล์ PowerPoint เป็น
สไลด์ 35 ม.ม. เพอ่ื ใช้นำเสนอผำ่ นเครอื ขำ่ ยอินเทอรเ์ นต็ หรือเครอื ขำ่ ย
อนิ ทรำเนต็ ภำยในองคก์ รได้

แนวทำงกำรสร้ำงงำนนำเสนอ

กำรนำเสนอท่ีดีควรทำอย่ำงเป็น
ข้ันตอน โดยเริ่มจำกกำรวำง
โครงร่ำงของงำน จำกน้ันจึงลง
รำยละเอียดและจัดทำสไลด์เพื่อ
นำเสนองำนเป็นไปอย่ำงรวดเร็ว
จึงควรทำตำมขั้นตอนดังต่อไปน้ี

แนวทำงกำรสรำ้ งงำนนำเสนอ

1. กำรวำงโครงร่ำง
2. กำรลงรำยละเอยี ดเนอ้ื หำ
3. กำรใส่ขอ้ ควำม รปู ภำพ กรำฟ หรืออื่น ๆ ในสไลด์
4. กำรปรับแต่งสไลด์ใหม้ ีสสี ันสวยงำม
5. กำรเพ่มิ ควำมนำ่ สนใจใหก้ บั สไลดใ์ นขณะนำเสนอ
6. เตรยี มกำรนำเสนองำนจรงิ
7. กำรเตรียมเอกสำรประกอบกำรบรรยำยแจกผู้เข้ำรบั ฟงั

โปรแกรมตำรำงงำน

โปรแกรม Microsoft Excel

Microsoft Excel ใช้สำหรับเก็บข้อมูลในลักษณะของ
ตำรำง ที่มีควำมสำมำรถในกำรคำนวณและสร้ำงกรำฟ
จำกข้อมูลได้อย่ำงรวดเร็ว ปัจจุบันได้พัฒนำมำถึงรุ่นท่ีมี
ช่ือเรียกว่ำ Microsoft Excel 2010 ท่ีพัฒนำรูปลักษณ์
ของหน้ำตำและกำรใช้งำนโปรแกรมให้ดูง่ำย โดยมีส่วน
ติดต่อผู้ใช้ที่มีกำรรวบรวมไว้เป็นหมวดหมู่ให้สำมำรถใช้
งำนได้ง่ำยและเปน็ ระบบมำกข้ึน

สำระควำมสำคญั

Excel เป็นโปรแกรมประเภท สเปรดชีต

(Speadsheet) หรือโปรแกรมตำรำงงำน ซ่ึงจะเก็บข้อมูล
ตำ่ ง ๆ ลงบนแผ่นตำรำงงำน คล้ำยกบั กำรเขียนข้อมูลลงไป
ในสมุดท่ีมีกำรตีช่องตำรำงทั้งแนวนอนและแนวต้ัง ซึ่งช่อง
ตำรำงแต่ละช่องจะมีช่ือประจำแต่ละช่อง ทำให้ง่ำยต่อกำร
ปอ้ นข้อมูล กำรแก้ไขขอ้ มูล สะดวกต่อกำรคำนวณและกำร
นำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ สำมำรถจัดข้อมูลต่ำง ๆ ได้อย่ำง
เปน็ หมวดหมู่และเปน็ ระเบียบมำกยิ่งขนึ้

คุณสมบตั ิทสี่ ำคญั ในโปรแกรม Excel

1. ควำมสำมำรถดำ้ นกำรคำนวณ Excel สำมำรถป้อนสูตรกำรคำนวณทำงคณิตศำสตร์
2. ควำมสำมำรถดำ้ นกำรใชฟ้ ังกช์ ่นั นอกจำกกำรปอ้ นสตู รคูณทำงคณติ ศำสตร์

แลว้ Excel ยังสำมำรถปอ้ นฟงั กช์ นั่ อ่นื ๆ ได้
3. ควำมสำมำรถในกำรสรำ้ งกรำฟ Excel สำมำรถนำข้อมูลทป่ี อ้ นลงในตำรำงมำสร้ำงเปน็

กรำฟไดท้ ันที มรี ปู กรำฟใหเ้ ลอื กใชง้ ำนหลำยรูปแบบตำมควำมเหมำะสม
4. ควำมสำมำรถในกำรตกแตง่ ตำรำงข้อมูล Excel สำมำรถตกแตง่ ตำรำงข้อมลู หรอื กรำฟ

ข้อมลู ดว้ ยภำพสีและรปู แบบตัวอกั ษรตำ่ ง ๆ เพอ่ื ใหเ้ กิดควำมสวยงำมและแยกแยะ
ข้อมลู ไดง้ ำ่ ยขึ้น
5. ควำมสำมำรถในกำรจดั เรยี งลำดับ Excel สำมำรถคัดเลอื กเฉพำะข้อมูลที่ตอ้ งกำรมำ
วิเครำะห์ได้
6. ควำมสำมำรถในกำรพิมพ์งำนออกทำงเคร่ืองพิมพ์ Excel สำมำรถพิมพง์ ำนท้ังขอ้ มูล
และรูปภำพหรือกรำฟออกทำงเครือ่ งพิมพไ์ ด้ทนั ที ซึง่ ทำใหง้ ำ่ ยต่อกำรสรำ้ งรำยงำน
7. ควำมสำมำรถในกำรแปลงขอ้ มลู ในตำรำงใหเ้ ปน็ เว็บเพจเพอื่ นำมำแสดงในโฮมเพจ

โปรแกรม Microsoft Excel

Microsoft Excel ใช้สำหรับเก็บข้อมูลในลักษณะ
ของตำรำง ท่ีมีควำมสำมำรถในกำรคำนวณและสร้ำงกรำฟ
จำกข้อมูลได้อย่ำงรวดเร็ว ปัจจุบันได้พัฒนำมำถึงรุ่นท่ีมีชื่อ
เรียกว่ำ Microsoft Excel 2010 ที่พัฒนำรูปลักษณ์ของ
หน้ำตำและกำรใช้งำนโปรแกรมให้ดูง่ำย โดยมีส่วนติดต่อ
ผู้ใช้ที่มีกำรรวบรวมไว้เป็นหมวดหมู่ให้สำมำรถใช้งำนได้
งำ่ ยและเปน็ ระบบมำกข้ึน

สว่ นประกอบของหนำ้ ตำ่ งโปรแกรม

1. แถบชื่อเรือ่ ง (Title Bar)
2. แถบเครอื่ งมอื ดว่ น (Quick Access
3. ป่มุ แฟ้ม (File)
4. ปุม่ ควบคุม
5. รบิ บอน (Ribbon)
6. พื้นท่กี ำรทำงำน
7. แถบสถำนะ (Status Bar)
8. Name Box
9. แถบสตู ร (Formula Bar)
10. เซลล์ (Cell)
11. คอลัมน์ (Column))
12. แถว (Row)
13. Sheet Tab

คุณธรรม จริยธรรม ในการใช้สารสนเทศ
พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ 2560 กฎหมายทเี่ กยี่ วข้อง
และ แนวทางการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ของกองทพั บก

คุณธรรม (Virtue)

• คุณงามความดี
• เป็นประโยชนแ์ ก่สนั ติภาพ
• เป็นสิ่งที่ตอ้ งอบรมโดยเฉพาะ เพอื่ ใหเ้ กิดข้ึนเหมาะสมกบั ที่เราตอ้ งการ
• เป็นมโนธรรม
• เป็นเครื่องประคบั ประคองใหเ้ กลียดความชวั่ กลวั บาป ใฝ่ ความดี และ

เป็นเครื่องกระตุน้ ผลกั ดนั ใหเ้ กิดความรู้สึกผดิ ชอบ

จริยธรรม (Ethics)

• ธรรมที่เป็นขอ้ ประพฤติปฏิบตั ิศีลธรรม
• การนาํ กฎธรรมชาติไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนต์ ่อการดาํ เนินชีวิตท่ีดีงาม อนั

จะทาํ ใหเ้ กิดประโยชน์ต่อตนเอง และสงั คม
• หลกั เกณฑท์ ่ีประชาชนตกลงร่วมกนั เพ่ือใชเ้ ป็นแนวทางในการปฏิบตั ิใน

สงั คม
• สิ่งท่ีพึงประพฤติปฏิบตั ิ การมีพฤติกรรมที่ดีงามตอ้ งประสงคข์ องสงั คม
• เป็นหลกั หรือกรอบที่ทุกคนกาํ หนดไวเ้ ป็นแนวปฏิบตั ิสาํ หรับสงั คม

เพอ่ื ใหเ้ กิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามเกิดความรักสามคั คี เกิด
ความอบอุ่น มนั่ คงและปลอดภยั ในการดาํ รงชีวิต

สรุป

คุณธรรม จริยธรรม

• คุณงามความดี • หลกั การ หรือ ขอ้ กาํ หนดใหป้ ระพฤติ
ปฏิบตั ิท่ีดีงาม ก่อใหเ้ กิดคุณงามความ
• คุณธรรม ดี

• ขอ้ หา้ ม และขอ้ ควรปฏิบตั ิ
• หลกั คุณธรรมท่ีพึงประสงคข์ อง

สงั คม

– ความช่ือสตั ยส์ ุจริต - ความเอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผ่
– ความขยนั ขนั แขง็ - ความพอเพียง
– ความเคารพศกั ด์ิศรีและคุณคา่ ความเป็นคน
– ความยตุ ิธรรม
– การรักในศิลปวฒั นธรรม และการพฒั นาจิตใจ

ใหส้ ูงอยา่ งต่อเนื่อง

“ผรู้ ู้สารสนเทศตอ้ งสามารถแยกแยะความเป็นส่วนตวั การป้องกนั สิทธใ์ นการใชส้ ารสนเทศ เสริภาพใน
การใชส้ ารสนเทศ การนาํ ไปเผยแพร่แก่สาธารณะ การตระหนกั และเขา้ ใจในเร่ืองลิขสิทธ์ิทรัพยส์ ินทาง

ปัญญา การใชส้ ารสนเทศอยา่ งถูกตอ้ งเป็นธรรม”
การใช้สารสนเทศตามหลกั จริยธรรม

คือ การตัดสินใจโดยแต่ละบุคคลทต่ี ้องรับผดิ ชอบต่อผลของการกระทาํ ทจ่ี ะเกดิ ตามมาภายหลงั

จริยธรรมทางวชิ าการ

TEXT จริยธรรม คุณธรรม TEXT

หลกั คุณธรรม จริยธรรม ทเ่ี กย่ี วข้องกบั การใช้สารสนเทศ

“ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง” (sufficiency economy)

•การใชค้ วามรู้ สติปัญญาพร้อมกบั คุณธรรมจริยธรรม
•ประกอบกบั การวางแผน การตดั สินใจ และการปฏิบตั ิ
•ใหม้ ีสาํ นึกในคุณธรรม ความซื่อสัตยส์ ุจริต เคารพในสิทธิของผอู้ ื่น รู้จกั
เอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผ่
•ทาํ ใหผ้ ทู้ ่ีรู้จกั การใชส้ ารสนเทศอยา่ งถูกตอ้ งเป็นธรรม
•จะเป็นผรู้ ู้สารสนเทศที่รู้จกั การเรียนรู้ตลอดชีวิต เพ่อื ใหม้ ีความรอบรู้ดว้ ยสติปัญญา มี
ความขยนั หมน่ั เพยี ร และมีความรอบคอบในการดาํ เนินชีวติ พร้อมต่อการเปล่ียนแปลง
อยา่ งรวดเร็วและกวา้ งขวางของสังคม ท้งั ดา้ นวตั ถุ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง
วฒั นธรรมและสิ่งแวดลอ้ มไดอ้ ยา่ งดี

พระราชบญั ญตั ิข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540

“ขอ้ มูลข่าวสาร” หมายถึง ส่ิงที่สื่อความหมายใหท้ ราบถึงเรื่องราว หรือ
ขอ้ เทจ็ จริง เร่ืองหน่ึงเรื่องใดโดยใหค้ วามสาํ คญั ที่การสื่อความหมายเป็นหลกั ไม่ใช่
ลกั ษณะส่ือ รูปร่าง หรือรูปแบบของความเป็นขอ้ มูลขา่ วสาร

ขอ้ มูลขา่ วสารน้นั อาจไม่อยใู่ นรูปแบบของกระดาษท่ีมีขอ้ ความ หรือแฟ้ม
เอกสาร แตห่ มายถึงส่ิงต่างๆ ที่อาจจะปรากฏใหเ้ ห็นเป็นขอ้ ความ ตวั เลข สัญลกั ษณ์
เสียง แสง สื่อประสม หรืออาจจะปรากฏเป็นส่ิงที่สามารถทาํ ใหม้ นุษยส์ ามารถ
เขา้ ใจและรู้ความหมายได้ ไม่วา่ จะเป็นโดยสภาพของสิ่งน้นั เอง หรือโดยผา่ น
กรรมวธิ ีใดๆ อาทิเช่น ประจุไฟฟ้า ฟิ ลม์ สื่อดิจิทลั เป็นตน้

พระราชบัญญตั ิข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 (ต่อ)

ขอ้ มูลข่าวสารท่ีอยใู่ นบงั คบั แห่งพระราชบญั ญตั ิขอ้ มูลขา่ วสารของราชการ
พ.ศ.2540 เป็นขอ้ มูลขา่ วสารที่อยใู่ นความครอบครอง หรือควบคุมดูแลของ
หน่วยงานของรัฐ โดยเป็นกฎหมายท่ีมีหลกั การและแนวคิดที่รองรับ “สิทธิไดร้ ู้”
ของประชาชน โดยกาํ หนดสิทธิในการรับรู้ขอ้ มูลขา่ วสารของราชการของ
ประชาชน และกาํ หนดหนา้ ท่ีของหน่วยงานของรัฐ และเจา้ หนา้ ที่ของรัฐใหต้ อ้ ง
ปฏิบตั ิตามกฎหมาย เพ่ือรองรับและคุม้ ครองสิทธิของประชาชนไปพร้อมกนั
พระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ี มีแนวคิดหลกั การดงั น้ี

พระราชบญั ญตั ขิ ้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 (ต่อ)

1.ใหป้ ระชาชนมีโอกาสรับรู้ข่าวสารเก่ียวกบั การดาํ เนินการ
ต่างๆของรัฐ

2.รับรองสิทธิของประชาชนในการเขา้ ถึงขอ้ มูลข่าวสารของ
ราชการ ท่ีอยใู่ นความครอบครองของหน่วยงานของรัฐ

3.ขอ้ มูลข่าวสารของราชการเกือบท้งั หมด หรือส่วนใหญ่
จะตอ้ งสามารถเปิ ดเผยได้ หากขอ้ มูลน้นั ไม่ใช่ขอ้ มูลท่ีส่ง
กระทบต่อความมนั่ คงของชาติ

พระราชบญั ญตั ิข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 (ต่อ)

o ประชาชนสามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลข่าวสารของราชการได้ ดงั ตอ่ ไปน้ี
1.จากการใชส้ ิทธิเขา้ ขอดูไดด้ ว้ ยตนเอง ณ สถานท่ีท่ีหน่วยงานกาํ หนดและ
จดั เตรียมขอ้ มูลขา่ วสารน้นั ไว้ สาํ หรับขอ้ มูลข่าวสาร ตามมาตรา 9 แห่ง
พระราชบญั ญตั ิขอ้ มูลขา่ วสารของราชการ พ.ศ.2540
2.จากการใชส้ ิทธิขอดูขอ้ มูลข่าวสารของราชการปรกติทวั่ ไป โดยการยนื่ คาํ
ขอต่อหน่วยงานของรัฐ ท่ีจดั เกบ็ หรือครอบครอง ดูแลขอ้ มูลข่าวสารท่ี
ตอ้ งการขอดูน้นั

พระราชบญั ญตั ิข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 (ต่อ)

3.จากการสืบคน้ ในราชกิจจานุเบกษา สาํ หรับขอ้ มูลขา่ วสารท่ีตอ้ งเปิ ดเผย
โดยวธิ ีการลงพมิ พใ์ นราชกิจจานุเบกษาตามมาตรา 7 แห่งพระราชบญั ญตั ิ
ขอ้ มูลขา่ วสารของราชการ พ.ศ.2540
4.จากการใชบ้ ริการศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลขา่ วสารท่ีเป็นเอกสารประวตั ิศาสตร์
ณ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ

กฎหมายเทคโนโลยสี ารสนเทศและกฎหมายทเ่ี กยี่ วข้อง

1.กฎหมายเก่ียวกบั ธุรกรรมอิเลก็ ทรอนิกส์
2.กฎหมายเก่ียวกบั ลายมือชื่ออิเลก็ ทรอนิกส์
3.กฎหมายเก่ียวกบั อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
4.กฎหมายเก่ียวกบั การโอนเงินทางอิเลก็ ทรอนิกส์
5.กฎหมายเกี่ยวกบั การคุม้ ครองขอ้ มูลส่วนบุคคล
6.กฎหมายลาํ ดบั รอง รัฐธรรมนูญ มาตรา 78 หรือกฎหมายเก่ียวกบั การ

พฒั นาโครงสร้างพ้นื ฐานสารสนเทศ

พระราชบญั ญตั ิว่าด้วยการกระทาํ ความผดิ เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ.2560

• ปัจจุบนั ชีวติ ประจาํ วนั ของคนเรามีส่วนเกี่ยวขอ้ งกบั การใชค้ อมพวิ เตอร์ ไม่
มากกน็ อ้ ย

• หากบุคคลใดมีการใชง้ านคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ ยอ่ มส่งผลเสียต่อบุคคล
อ่ืน

• การใชง้ านคอมพิวเตอร์ในการผลิต และการเผยแพร่ขอ้ มูลสารสนเทศ ที่
เป็นเทจ็ หรือมีลกั ษณะลามกอนาจาร จึงตอ้ งมีการกาํ หนดกฎหมายข้ึนมา
เพอ่ื เป็นการควบคุมการกระทาํ ความผดิ ดงั กล่าว

พระราชบญั ญตั วิ ่าด้วยการกระทาํ ความผดิ เกยี่ วกบั
คอมพวิ เตอร์ พ.ศ.2560 (สรุป)
1. เข้าถึงระบบ หรือข้อมูลของผู้อ่ืนโดยไม่ชอบ (มาตรา 5-8)
2. แก้ไข ดดั แปลง หรือทาํ ให้ข้อมูลผู้อื่นเสียหาย (มาตรา 9-10)
3. ส่งข้อมูลหรืออเี มลก่อกวนผู้อ่ืน หรือส่งอเี มลสแปม (มาตรา 11)
4. เข้าถึงระบบ หรือข้อมูลทางด้านความมัน่ คงโดยมิชอบ (มาตรา 12)
5. จาํ หน่ายหรือเผยแพร่ชุดคาํ ส่ังเพื่อนําไปใช้กระทาํ ความผดิ (มาตรา 13)
6. นําข้อมูลทผี่ ดิ พ.ร.บ.เข้าสู่ระบบคอมพวิ เตอร์ (มาตรา 14)
7. ให้ความร่วมมือ ยนิ ยอม รู้เห็นเป็ นใจกบั ผู้ร่วมกระทาํ ความผดิ (มาตรา 15)
8. ตดั ต่อ เตมิ หรือดัดแปลงภาพ (มาตรา 16)

พระราชบัญญตั ิว่าด้วยการกระทาํ ความผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์
พ.ศ.2560 (ต่อ)
พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2560 หรือฉบบั ที่ 2 ปัจจุบนั มีผลบงั คบั ใช้
แลว้ ถา้ เราเป็นคนหน่ึงที่คลุกคลีกบั การใชง้ านคอมพิวเตอร์ หรือ
อินเตอร์เน็ต กค็ วรจะรู้เก่ียวกบั พ.ร.บ.น้ี เพราะเราจะไดไ้ ม่เผลอไปทาํ
ความผดิ อยา่ งนอ้ ยๆ ตอ้ งระวงั 8 ประเดน็ ที่ไดก้ ล่าวไวข้ า้ งตน้ อีกท้งั การ
มีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ข้ึนมา กถ็ ือวา่ เป็นการควบคุมการใชง้ าน
คอมพวิ เตอร์ในระดบั หน่ึง และในทางหน่ึงกช็ ่วยคุม้ ครองสิทธิเสรีภาพ
ของผใู้ ชง้ านดว้ ย

พระราชบญั ญตั วิ ่าด้วยการกระทาํ ความผดิ เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์
พ.ศ.2560 (ต่อ)

ซ่ึงผใู้ หบ้ ริการจาํ เป็นจะตอ้ งมีการเกบ็ รักษาขอ้ มูลการใชง้ านคอมพวิ เตอร์
โดยแบ่งตามรูปแบบได้ 2 ประเภท ดงั น้ี

1.“ขอ้ มูลการจราจรทางคอมพวิ เตอร์” ซ่ึงเป็นขอ้ มูลเกี่ยวกบั การติดตอ่ ส่ือสาร ที่บอกถึง
วนั ท่ี เวลา ปริมาณ ระยะเวลา แหลง่ กาํ เนิด เส้นทาง ตน้ ทาง ปลายทาง และชนิด
ของบริการหรืออ่ืนๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง และจะตอ้ งเกบ็ ไวไ้ ม่นอ้ ยกวา่ 90 วนั นบั แต่วนั ท่ี
ขอ้ มูลน้นั ๆ เขา้ สู่ระบบคอมพวิ เตอร์ แต่ในกรณีจาํ เป็น พเิ ศษเฉพาะรายและเฉพาะ
คราวเจา้ หนา้ ท่ีจะสั่งใหผ้ ใู้ หบ้ ริการเกบ็ ขอ้ มูลน้นั ๆ ไว้ เกิน 90 วนั แต่ไม่เกิน 1 ปี

พระราชบญั ญตั ิว่าด้วยการกระทาํ ความผดิ เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์
พ.ศ.2560 (ต่อ)

2.ขอ้ มูลของผใู้ ชบ้ ริการท้งั ท่ีเสียค่าบริการหรือไม่กต็ าม โดยตอ้ งเกบ็ ขอ้ มูลเท่าที่จาํ เป็น
เพ่ือใหส้ ามารถระบุตวั ผใู้ ชบ้ ริการได้ เช่น ชื่อ นามสกลุ เลขประจาํ ตวั ประชาชนของ
ผใู้ ชบ้ ริการ USERNAME หรือ PIN CODE และจะตอ้ งเกบ็ รักษาไวไ้ ม่นอ้ ยกวา่ 90
วนั นบั ต้งั แต่การใชบ้ ริการสิ้นสุดลง

พระราชบัญญตั ิว่าด้วยการกระทาํ ความผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์
พ.ศ.2560 (ต่อ)

อยา่ งไรกต็ าม หากเราเป็นผเู้ สียหายกค็ วรบนั ทึก URL (Uniform Resource
Locater) ท่ีพบวา่ มีการกระทาํ ความผิด และรวบรวมพยานหลกั ฐานท่ีสามารถหาได้
เช่น บนั ทึกวนั เวลา และสถานที่มีการกระทาํ ความผิดเกิดข้ึน จดั พิมพร์ ายละเอียด
ตา่ งๆ แลว้ จึงไปแจง้ ความร้องทุกขต์ อ่ พนกั งานตาํ รวจ ณ สถานีตาํ รวจในทอ้ งที่ ที่
ความผดิ เกิดข้ึน

ดงั น้นั เพื่อป้องกนั ไม่ใหเ้ กิดการกระทาํ ผดิ ทางคอมพิวเตอร์ และใหก้ ารใช้
งานคอมพวิ เตอร์ในประเทศเป็นไปในทางท่ีสร้างสรรค์ จึงจาํ เป็นอยา่ งยงิ่ ท่ีจะตอ้ ง
ศึกษาขอ้ มูล และทาํ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั พ.ร.บ.ฉบบั น้ี

กฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกบั พรบ.คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2560
ประมวลกฏหมายอาญา ความผดิ ฐานหม่นิ ประมาท

มาตรา 326 ผใู้ ดใส่ความผอู้ ่ืนต่อบุคคลที่สาม โดยประการท่ีน่าจะทาํ ใหผ้ อู้ ื่นน้นั เสีย
ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชงั ผนู้ ้นั กระทาํ ความผดิ ฐานหม่ินประมาท ตอ้ ง
ระวางโทษจาํ คุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือท้งั จาํ ท้งั ปรับ
มาตรา 327 ผใู้ ดใส่ความผตู้ ายตอ่ บุคคลที่สาม และการใส่ความน้นั น่าจะเป็นเหตุให้
บิดา มารดา คูส่ มรส หรือบุตรของผตู้ ายเสียช่ือเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชงั ผนู้ ้นั
กระทาํ ความผดิ ฐานหมิ่นประมาท ตอ้ งระวางโทษดงั บญั ญตั ิไวใ้ นมาตรา 326 น้นั
มาตรา 328 ถา้ ความผดิ ฐานหม่ินประมาทไดก้ ระทาํ โดยการโฆษณาดว้ ยเอกสาร
ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตวั อกั ษรที่ทาํ ใหป้ รากฎไม่วา่ ดว้ ยวธิ ีใด ๆ
แผน่ เสียง หรือสิ่งบนั ทึกเสียง บนั ทึกภาพ หรือบนั ทึกอกั ษรกระทาํ โดยการกระจาย
เสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทาํ การป่ าวประกาศดว้ ยวธิ ีอ่ืน ผกู้ ระทาํ ตอ้ ง
ระวางโทษจาํ คุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท

กฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกบั พรบ.คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2560 (ต่อ)

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์

มาตรา 423 ผใู้ ดกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซ่ึงขอ้ ความอนั ฝ่ าฝื นต่อความจริง เป็นที่
เสียหายแก่ช่ือเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอ่ืนกด็ ี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทาํ มาหา
ไดห้ รือทางเจริญของเขาโดยประการอ่ืนกด็ ี ท่านวา่ ผนู้ ้นั จะตอ้ งใชค้ ่าสินไหมทดแทน
ใหแ้ ก่เขาเพอ่ื ความเสียหายอยา่ งใด ๆ อนั เกิดแต่การน้นั แมท้ ้งั เม่ือตนมิไดร้ ู้วา่ ขอ้ ความ
น้นั ไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้

ผใู้ ดส่งขา่ วสารอนั ตนมิไดร้ ู้วา่ เป็นความไม่จริง หากวา่ ตนเองหรือผรู้ ับ
ข่าวสารน้นั มีทางไดเ้ สียโดยชอบในการน้นั ดว้ ยแลว้ ท่านวา่ เพยี งท่ีส่งข่าวสารเช่นน้นั
หาทาํ ใหผ้ นู้ ้นั ตอ้ งรับผิดใชค้ ่าสินไหมทดแทนไม่

กฎหมายทเี่ กยี่ วข้องกบั พรบ.คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2560 (ต่อ)

พระราชบญั ญตั ิคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

บทบาทในการคุม้ ครองและใหส้ ิทธิท่ีเราควรมีต่อขอ้ มูลส่วนบุคคลของเรา
เองได้ รวมไปถึงการสร้างมาตรฐานของบุคคลหรือนิติบุคคล ในการเกบ็ ขอ้ มูลส่วน
บุคคล, รวบรวมขอ้ มูลส่วนบุคคล, ใชข้ อ้ มูลส่วนบุคคล หรือเพื่อการเปิ ดเผยขอ้ มูลส่วน
บุคคลกต็ าม ซ่ึงลว้ นแลว้ เก่ียวขอ้ งกบั พ.ร.บ. ฉบบั น้ีที่จะตอ้ งปฏิบตั ิตาม หากผใู้ ดหรือ
องคก์ รใดไม่ปฏิบตั ิตามยอ่ มมีบทลงโทษตามกฎหมายตามมา ซ่ึงบทลงโทษของ PDPA
สาํ หรับผทู้ ่ีไม่ปฏิบตั ิตามน้นั มีท้งั โทษทางแพง่ โทษทางอาญา และโทษทางปกครอง
ดว้ ย

กฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกบั พรบ.คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2560 (ต่อ)

แนวทางการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของกองทพั บก

การใช้ส่ือสังคมออนไลน์สําหรับหน่วยราชการภายใน ทบ.
1. หน่วยราชการภายใน ทบ.สามารถสร้างเวบ็ ไซต์ หรือหนา้ เพจบนส่ือสงั คมออนไลน์
เพอื่ ประชาสมั พนั ธ์ ภารกิจของหน่วย และการบริการประชาชน
2. การเผยแพร่ขอ้ มูลผา่ นสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยราชการภายใน ทบ. สามารถ
กระทาํ ได้ ในประเดน็ เน้ือหาเพื่อการประชาสมั พนั ธ์ของหน่วย และการบริการ
ประชาชนที่อยใู่ นความรับผดิ ชอบของหน่วย
3. การช้ีแจงผา่ นสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยราชการภายใน ทบ. สามารถกระทาํ ได้
ในประเดน็ เน้ือหาที่เกี่ยวกบั การปฏิบตั ิงานประจาํ หรือภารกิจที่ไดร้ ับมอบหมายให้
ปฏิบตั ิ และเป็นขอ้ เทจ็ จริงท่ีมีหลกั ฐานยนื ยนั สามารถตรวจสอบไดโ้ ดยหวั หนา้ ส่วน
ราชการต้งั แต่ช้นั ผบู้ งั คบั การกรม หรือเทียบเท่าข้ึนไป หรือผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย เป็น
ผใู้ หข้ ่าวราชการ

แนวทางการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ของกองทพั บก (ต่อ)

การใช้ส่ือสังคมออนไลน์สําหรับหน่วยราชการภายใน ทบ.
4. ขอ้ มูลท่ีหา้ มหน่วยราชการภายใน ทบ. เผยแพร่ผา่ นสื่อสงั คมออนไลน์ มีดงั น้ี
(1) ขอ้ มูลท่ีมีเน้ือหาพาดพิง หรือส่งผลในทางลบต่อสถาบนั ชาติ ศาสนา
พระมหากษตั ริย์
(2) ขอ้ มูลที่กระทบต่อความมน่ั คงของประเทศ หรือความสัมพนั ธ์ระหวา่ งประเทศ
(3) ขอ้ มูลที่มีเน้ือหาในลกั ษณะยวั่ ยุ บิดเบือน โฆษณาชวนเช่ือทางการเมือง หรือ
ก่อใหเ้ กิด ความแตกแยกในสงั คม
(4) ขอ้ มูลความลบั ทางราชการ เอกสารท่ีระบุช้นั ความลบั ต้งั แต่ลบั ข้ึนไป รวมถึงขอ้ มูล
กาํ ลงั พล ยทุ โธปกรณ์ และงบประมาณ ยกเวน้ การเผยแพร่ขอ้ มูลท่ีมีกฎหมาย ระเบียบ
ขอ้ บงั คบั หรือคาํ สง่ั ท่ีกาํ หนดให้ ตอ้ งมีการเผยแพร่หรือประกาศใหท้ ราบ

แนวทางการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของกองทพั บก (ต่อ)

การใช้ส่ือสังคมออนไลน์สําหรับหน่วยราชการภายใน ทบ.
(5) บริเวณพ้นื ที่ท่ีเป็นความลบั ทางราชการ เช่น ท่ีต้งั ทางทหาร ที่ต้งั การวางกาํ ลงั ของหน่วย
ปฏิบตั ิการทางทหาร หรือพ้ืนท่ีอนั ไม่สมควรเปิ ดเผย ตลอดจนพ้ืนที่ท่ี ทบ. หรือหน่วย
ราชการภายใน ทบ. กาํ หนดหา้ ม รวมท้งั ขอ้ มูลตาํ แหน่งที่ต้งั ที่ระบุตาํ แหน่งพิกดั เป็นตน้
(6) วดิ ีโอ ภาพเคล่ือนไหวท่ีเป็นความลบั ของทางราชการ เช่น บนั ทึกการประชุม บนั ทึก
เหตุการณ์ ท่ีเกิดข้ึนในพ้ืนที่ยทุ ธการ รวมท้งั ขอ้ มูลที่นาํ ไปสู่การระบุตาํ แหน่งพกิ ดั เป็นตน้
(7) ขอ้ มูลการกระทาํ หรือสนบั สนุนการกระทาํ ท่ีผดิ กฎหมาย
(8) ขอ้ มูลที่ละเมิดทรัพยส์ ินทางปัญญา
(9) ขอ้ มูลท่ีมีเน้ือหาของการใชค้ วามรุนแรงและดูหม่ินต่อบุคคลหรือองคก์ ร
(10) ขอ้ มูลส่วนบุคคล หรือขอ้ มูลที่มีเน้ือหาเป็นภยั คุกคามตอ่ บุคคล หรือกลุ่มคน
(11) ขอ้ มูลที่มีเน้ือหาลามกอนาจาร

แนวทางการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ของกองทพั บก (ต่อ)

การใชส้ ื่อสังคมออนไลนส์ าํ หรับหน่วยราชการภายใน ทบ.
(12) ขอ้ มูลที่ไม่ไดต้ รวจสอบขอ้ เทจ็ จริง หรือไม่มีหลกั ฐานยนื ยนั
(13) ขอ้ มูลที่เป็นภยั คุกคามตอ่ ระบบสารสนเทศและเครือข่าย ไดแ้ ก่ โปรแกรมไม่พงึ
ประสงค์ (Malware) ทุกประเภท

แนวทางการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ของกองทพั บก (ต่อ)

การใช้ส่ือสังคมออนไลน์สําหรับกาํ ลงั พลของ ทบ.
1. การสร้างเวบ็ ไซต์ หรือหนา้ เพจเป็นการส่วนตวั บนสื่อสังคมออนไลน์ใหร้ ะมดั ระวงั การ
แสดงออก ถึงความเป็นทหาร หรือพาดพิงกบั หน่วยราชการภายใน ทบ. เช่น การแสดง
ตวั ตน โดยเปิ ดเผยยศ ตาํ แหน่งและหนา้ ที่ การแสดงรูปภาพการแต่งเคร่ืองแบบบนสื่อสังคม
ออนไลน์ และบญั ชีผใู้ ชง้ าน (Account)
2. ระมดั ระวงั การแสดงความคิดเห็นส่วนตวั ในฐานะกาํ ลงั พลของ ทบ. ผา่ นสื่อสังคม
ออนไลน์ อนั อาจก่อใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ ภารกิจของ ทบ. องคก์ รอื่น และบุคคลใด
3. การช้ีแจงขอ้ เทจ็ จริงผา่ นสื่อสังคมออนไลนข์ องกาํ ลงั พล ใหก้ ระทาํ ผา่ นส่ือสังคม
ออนไลน์ ของหน่วยราชการภายใน ทบ. เท่าน้นั และประเดน็ เน้ือหาตอ้ งอยใู่ นขอบเขตที่อยู่
ในความรับผดิ ชอบ และเป็นขอ้ เทจ็ จริง ท่ีมีหลกั ฐานยนื ยนั สามารถตรวจสอบได้

แนวทางการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของกองทพั บก (ต่อ)

การใช้สื่อสังคมออนไลน์สําหรับกาํ ลงั พลของ ทบ.
4. ขอ้ มูลท่ีหา้ มกาํ ลงั พลเผยแพร่ผา่ นสื่อสังคมออนไลน์ มีลกั ษณะเดียวกนั กบั ท่ีกาํ หนดเป็น
ขอ้ หา้ ม ของหน่วยราชการภายใน ทบ. ตามขอ้ 4 การใชส้ ื่อสงั คมออนไลนส์ าํ หรับหน่วย
ราชการภายใน ทบ.
5. การส่งขอ้ มูลทางราชการท่ีมีช้นั ความลบั ผา่ นสื่อสงั คมออนไลน์ในรูปแบบไฟล์
อิเลก็ ทรอนิกส์ ตอ้ งไม่ขดั ต่อระเบียบวา่ ดว้ ยการรักษาความลบั ของทางราชการ พ.ศ. 2544
โดยเขา้ รหสั ไฟลท์ ุกคร้ัง และหา้ มส่งไฟล์ ขอ้ มูลท่ีเขา้ รหสั ในช่องทางเดียวกบั รหสั ผา่ น
6. การแสดงความคิดเห็นเป็นการส่วนตวั ผา่ นส่ือสงั คมออนไลน์ ควรใชถ้ อ้ ยคาํ ที่สุภาพ และ
แสดงออกถึงความเป็ นสุภาพชน
7. หลีกเล่ียงการใชส้ ื่อสงั คมออนไลน์ในเรื่องส่วนตวั ในเวลาราชการ

แนวทางการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ของกองทพั บก (ต่อ)

กาํ ลงั พล ทบ. ควรให้คาํ แนะนําแก่ครอบครัว เพื่อทราบถึงแนวทางการใช้สื่อสังคมออนไลน์
และตระหนักถึงผลกระทบทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ ต่อ ทบ. หรือต่อกาํ ลงั พล ท้งั ทางตรงและทางอ้อม ดงั นี้
1. ไม่เปิ ดเผยหรือส่งต่อขอ้ มูลใดๆ ของทางราชการ
2. ระมดั ระวงั การเปิ ดเผยหรือส่งต่อขอ้ มูลใดๆ ที่แสดงฐานะทางทหารของกาํ ลงั พล
3. ระมดั ระวงั การเปิ ดเผยหรือส่งต่อขอ้ มูลใดๆ เกี่ยวกบั ตาํ แหน่งพิกดั ของกาํ ลงั พล
4. ระมดั ระวงั การเปิ ดเผยหรือส่งตอ่ ขอ้ มูลใดๆ เกี่ยวกบั กาํ หนดการปฏิบตั ิของกาํ ลงั พล
5. ระมดั ระวงั การเปิ ดเผยกาํ หนดวนั หยดุ หรือผลดั พกั ของกาํ ลงั พล
6. ระมดั ระวงั การเปิ ดเผยขอ้ มูล รูปภาพ สื่อผสมใดๆ ที่อาจเป็นอนั ตรายตอ่ ความปลอดภยั ใน
ชีวติ ทรัพยส์ ิน หรืออาชีพของบุคคลอ่ืนๆ ในครอบครัว

แนวทางการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ของกองทพั บก (ต่อ)

7. มีความตระหนกั เสมอวา่ การนาํ ขอ้ มูลของทางราชการ หรือขอ้ มูลกาํ ลงั พลไปเผยแพร่ ใน
สื่อสงั คมออนไลน์ นอกจากอาจเป็นความผดิ ของกาํ ลงั พลแลว้ ยงั เปิ ดโอกาสใหผ้ ไู้ ม่
ประสงคด์ ีนาํ ไปใช้ ในทางที่ผดิ และ/หรือ กระทาํ ความผดิ แอบอา้ ง หรือขม่ ขู่ กาํ ลงั พล หรือ
บุคคลในครอบครัวในภายหลงั ได้
8. การปฏิบตั ิเมื่อกาํ ลงั พลของ ทบ.ตรวจพบขอ้ มูลที่มีเน้ือหาไม่เหมาะสมหรือผดิ กฎหมาย
ในส่ือสังคมออนไลน์

8.1 แจง้ เจา้ หนา้ ท่ีขอ้ มูลขา่ วสารของหน่วยราชการ หรือรายงานผบู้ งั คบั บญั ชา เพื่อ
เกบ็ หลกั ฐาน ที่เก่ียวขอ้ งกบั ขอ้ มูลที่มีเน้ือหาไม่เหมาะสมหรือผิดกฎหมายไดแ้ ก่ ที่อยู่
(Address) หรือยอู าร์แอล (URL) ของขอ้ มูลฯ รวมท้งั บนั ทึกหนา้ จอ หรือถา่ ยภาพขอ้ ความท่ี
ปรากฏที่อยหู่ รือยอู าร์แอล (URL) ท้งั หมด และส่งใหศ้ ซบ.ทบ. ดาํ เนินการตอ่ ไป

แนวทางการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ของกองทพั บก (ต่อ)

8.2 ไม่เผยแพร่ หรือส่งต่อขอ้ มูลท่ีมีเน้ือหาท่ีไม่เหมาะสม
8.3 ไม่วจิ ารณ์หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อขอ้ มูลท่ีมีเน้ือหาที่ไม่เหมาะสม
8.4 กรณีตรวจพบขอ้ มูลท่ีเขา้ ข่ายผดิ กฎหมาย ไม่ส่งตอ่ ขอ้ มูลไปยงั ผอู้ ื่นในทุก
กรณี เพื่อป้องกนั การถูกกลา่ วหาวา่ มีส่วนร่วมในการกระทาํ ความผิด

สรุป

คุณธรรมและจริยธรรมในการใชส้ ารสนเทศเป็นความตระหนกั เขา้ ใจ เป็น
แนวทางในการปฏิบตั ิ และใชส้ ารสนเทศ ซ่ึงเป็นทรัพยส์ ินทางปัญญาอนั เป็นผลงาน
อนั เกิดจากความคิดสร้างสรรคข์ องมนุษย์ ทรัพยส์ ินทางปัญญาเป็นทรัพยส์ ินอีกชนิด
หน่ึง มีการคุม้ ครองแก่ผถู้ ือสิทธ์ิไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

ดงั น้นั การใชง้ านสารสนเทศอยา่ งถูกตอ้ งเป็นธรรม ผรู้ ู้สารสนเทศตอ้ ง
เขา้ ใจถึงสิทธ์ิ และตระหนกั ถึงผลกระทบตลอดจนกฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจ
และสามารถใชส้ ารสนเทศไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ถือเป็นส่ิงสาํ คญั สาํ หรับการเรียนรู้ตลอด
ชีวติ ของมนุษย์ เพื่อใหก้ ลายเป็นผเู้ รียนรู้ตลอดชีวติ ที่มีคุณธรรม จริยธรรมทาง
วชิ าการ

ความฉลาดทางดจิ ทิ ลั (Digital Intelligence Quotient : DQ)

ความฉลาดทางดิจิทลั (Digital Intelligence Quotient : DQ) คือ
กลุ่มของความสามารถทางสังคม อารมณ์ และการรับรู้ ที่จะทาํ ให้คนคน
หน่ึงสามารถเผชิญกบั ความทา้ ทายบนเส้นทางของชีวิตในยคุ ดิจิทลั และ
สามารถปรับตวั ให้เขา้ กบั ชีวิตดิจิทลั ได้ ความฉลาดทางดิจิทลั ครอบคลุม
ท้งั ความรู้ ทกั ษะ ทศั นคติและค่านิยมที่จาํ เป็ นต่อการใช้ชีวิตในฐานะ
สมาชิกของโลกออนไลน์ กล่าวอีกนัยหน่ึงคือ ทกั ษะการใชส้ ่ือและการ
เขา้ สงั คมในโลกออนไลน์

การเป็ นพลเมืองดิจิทลั น้ัน มีทกั ษะสําคญั 8 ประการ ที่ควรบ่ม
เพาะใหเ้ กิดข้ึนกบั พลเมืองดิจิทลั ทุกคนในศตวรรษที่ 21 ดงั น้ี

ความฉลาดทางดจิ ทิ ลั (Digital Intelligence Quotient : DQ)

จดหมายอเิ ล็กทรอนกิ ส์ และโซเซยี ลเนต็ เวริ ค์

สาระสาคัญ

จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) และโซเซียลเน็ตเวิร์ค
(Social Network) เปน็ บริการบนระบบเครอื ข่ายอนิ เตอร์เนต็
ที่สามารถส่งข้อความหรือข่าวสารจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลอื่น ๆ
ผา่ นทางระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอรก์ ารเรียนรู้เกยี่ ววิธีการใช้งาน
เพ่อื ให้สามารถเข้าใจข้ันตอนการทางานของระบบได้อยา่ งถูกตอ้ ง

จดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail) คือ การส่งข้อความหรือ
ข่าวสารจากบุคคลหน่ึงไปยังบุคคลอ่ืน ๆ ผ่านทางคอมพิวเตอร์และระบบ
เครือข่ายเหมือนกบั การส่งจดหมาย แต่อยู่ในรูปแบบของสัญญาณข้อมูลที่เป็น
อิเล็กทรอนิกส์ โดยเปล่ียนการนาส่งจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์มาเป็น
โปรแกรม และเปล่ียนจากการใช้เส้นทางจราจรคมนาคมท่ัวไปมาเป็น
ชอ่ งสญั ญาณรูปแบบต่าง ๆที่เช่อื มต่อระหว่างเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ ซ่ึงจะตรง
เข้ามาสู่ Mail Box ที่ถกู จดั สรรใน Serverของผู้รับปลายทางทันที

มาทาความรูจ้ กั และเรยี นรวู้ ธิ ใี ชง้ าน E-Mail

ในการใชง้ าน E-Mail จาเป็นจะตอ้ งมี E-Mail Address เสยี ก่อน โดย
E-Mail Address จะเปน็ เหมือนที่อยทู่ างอนิ เตอร์เนต็ ของแต่ละคน มกั จะแทน
ดว้ ยชอ่ื หรือรหสั ท่ีใช้แทนตัว แลว้ ตามด้วยชอ่ื ของ Mail Server ทใ่ี ห้บรกิ าร
เช่น [email protected] โดยท่ัวไป E-Mail Address จะประกอบดว้ ย

- User ID ใชเ้ ปน็ ชอื่ หรอื รหัสประจาตวั ของผใู้ ชบ้ รกิ ารแตล่ ะคน
- เครื่องหมาย @
- Domain Name ของ Mail Server ท่ใี ช้บรกิ าร


Click to View FlipBook Version