โปรโตคอลสาหรบั รบั สง่ อีเมล
โปรโตคอลท่ีใช้ในการสื่อสารข้อมูลด้านอีเมล์ในระบบเครือข่าย
อนิ เทอร์เน็ต ประกอบด้วย SMTP (Simple Message Transfer Protocol )
ทาหน้าที่ส่งอีเมล์จากเซิร์ฟเวอร์ของผู้ส่งไปยังเมล์เซิร์ฟเวอร์ของผู้รับ POP
กระบวนการส่งเมล์จะส้ินสุดเม่ือผู้ส่งส่ังให้เมล์ไคลเอนท์ส่งข้อมูลไปถึงเมล์
เซิ ร์ ฟ เว อ ร์ ข อง ผู้ รั บ แ ล ะ อี เ ม ล์ น้ั น จ ะถู ก จั ด เก็ บ ไ ว้ ใ น เ ม ล์ บ็ อ ก ซ์ ข อง ผู้ รั บ ที่
เคร่ืองเมล์เซิร์ฟเวอร์ IMAP (Internet Message Access Protocol) คอื
โปรโตคอลท่ใี ช้ในการจดั การเมล์บ็อกซ์
รปู แบบของอีเมล และอเี มลแอดเดรส
รูปแบบของอีเมล และอีเมลแอดเดรส
E-mail address : ทีอ่ ยู่การส่ง E-mail @ domain name
[email protected]
ตอ้ งไมม่ ี ตัวอักษรพมิ พ์ใหญ่, เว้นวรรค
มีส่วนประกอบ 3 สว่ น
Username : ชื่อผู้ใช้
เคร่อื งหมาย : @ เรยี กวา่ assign อา่ นออกเสยี งว่า “at”
domain name : ชอ่ื สถานรี บั -ส่ง E-mail
ประเภทของอีเมล
อเี มล์ได้กลายเปน็ ส่งิ จาเปน็ ในการส่ือสารของโลกยคุ ปจั จุบัน สาหรับผ้ใู ชอ้ ินเทอร์เน็ต
เพราะสะดวก ประหยดั และรวดเรว็ ดงั น้นั การให้บริการมหี ลายรปู แบบ ดงั นี้
1. อเี มลจ์ ากผใู้ ห้บริการอนิ เทอรเ์ นต็ คือ อเี มลท์ ไี่ ด้มาจากการทเ่ี ราสมคั รสมาชกิ ของผู้
ใหบ้ ริการอินเทอร์เนต็ (ISP)
2. อเี มล์จากองค์กร เช่น บริษทั สถาบนั การศึกษา หนว่ ยงานหรอื องคก์ รต่าง ๆ
3. อเี มล์ฟรี คือ เวบ็ ไซตท์ ่ีใหบ้ รกิ ารรับสง่ จดหมายบนเครือข่ายอนิ เทอร์เนต็ โดยไม่
จากัดกลุ่มบคุ คล
มารยาทในการเขยี นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
ในการเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไม่ควรใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ล้วน ๆ
(ในกรณีที่พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ) เพราะจะทาให้อ่านยาก การใช้ตัวพิมพ์
ใหญ่ให้ใช้ได้เฉพาะข้อความท่ีต้องการเท่าน้ัน ควรจ่าคานาหน้าเชื่อมอย่าง
ระมัดระวัง ใช้ถ้อยคาที่เหมาะสม ไม่หยาบคาย หรือทาให้ผู้อื่นได้รับ
ความเสียหาย เมื่อได้รับจดหมายแล้วควรพิจารณาเน้ือหา และความหมาย
ของถ้อยคาอยา่ งรอบคอบเพือ่ ประโยชน์ในการรับสาร
Social Network
โซเชียลเน็ตเวิร์ค คือเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือการท่ีผู้ใช้งาน
อนิ เตอร์เน็ตคนหน่ึง เช่ือมโยงกบั เพื่อนอกี นับสิบ รวมไปถึงเพ่ือนของเพื่อนอีก
นับร้อย ผ่านผู้ให้บริการด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) บน
อนิ เตอรเ์ นต็ เช่น Facebook, Blogger, Hi5, Twitter หรอื Tagged เปน็ ต้น
ประโยชน์ของ Social Network
Social Network มจี ดุ เดน่ หลัก คอื ช่วยเรอื่ งการสื่อสารให้มี
ประสทิ ธิภาพ สอื่ สารไดใ้ นวงกว้าง ไดห้ ลายรปู แบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ
วดิ โี อ ในเชิงการใชง้ านท่ัวไปแลว้ สามารถสอื่ สารกบั คนที่มคี วามชื่นชอบ
ในเรอื่ งเดียวกนั แลกเปล่ียนความคิดเห็น หรือรวมตวั กันทากิจกรรมทมี่ ี
ประโยชน์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายไดร้ วดเร็วและเป็นช่องทางการสื่อสารได้
ตลอดเวลา รวมถึงใช้เป็นชอ่ งทางสรา้ งความสัมพนั ธ์กบั ลกู คา้ สร้างกิจกรรม
หรือพดู คยุ ตอบขอ้ ซักถามถึงสินค้าและบริการ ทาใหเ้ รามอี กี ช่องทางใน
การส่ือสารกบั ลูกคา้ ได้
ขอ้ เสยี ของ Social Network
❑เวบ็ ไซตใ์ ห้บริการบางแห่งอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกนิ ไป หากผู้ใช้บริการไม่ระมดั ระวังใน
การกรอกขอ้ มูล อาจถูกผ้ไู มห่ วังดนี ามาใชใ้ นทางเสยี หาย หรือละเมิดสทิ ธสิ ว่ นบุคคลได้
❑Social Network เป็นสังคมออนไลน์ที่กว้าง หากผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดวิจารณญาณ อาจ
โดนหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ต หรือการนัดเจอกันเพ่ือจุดประสงค์ร้าย ตามท่ีเป็นข่าวตามหน้า
หนงั สอื พิมพ์
❑เปน็ ช่องทางในการถกู ละเมดิ ลขิ สทิ ธิ์ ขโมยผลงาน หรอื ถูกแอบอา้ ง เพราะ Social Network
Service เป็นส่อื ในการเผยแพรผ่ ลงาน รปู ภาพต่างๆ ของเราให้บคุ คลอน่ื ได้ดแู ละแสดงความคดิ เหน็
❑ข้อมลู ที่ต้องกรอกเพื่อสมคั รสมาชิกและแสดงบนเว็บไซต์ในรูปแบบ Social Network ยากแกก่ าร
ตรวจสอบวา่ จริงหรอื ไม่ ดังนั้นอาจเกดิ ปัญหาเก่ียวกบั เว็บไซต์ที่กาหนดอายุการสมคั รสมาชิก หรือการ
ถกู หลอกโดยบุคคลทไ่ี ม่มีตวั ตนได้
จรรยาบรรณสาหรับผู้ใชไ้ ปรษณีย์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E-mail)
ผู้ใช้อนิ เทอรเ์ น็ตทกุ คนมเี มลบ์ ็อกซห์ รืออเี มล์แอดเดรสทใ่ี ชอ้ ้างองิ
ในการรับสง่ จดหมาย ความรบั ผิดชอบต่อการใช้งานอเี มล์ในระบบจึงเป็น
เรอ่ื งที่ทุกคนต้องใหค้ วามสาคัญ
จรรยาบรรณสาหรบั ผู้สนทนา(Chat)
บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีคาสั่งให้ใช้ในการโต้ตอบกันอย่าง
ออนไลน์หลายคาส่ังเช่น write, talk หรือมีการสนทนา เปน็ กลุ่มเช่น IRC
เป็นต้นในการเรียกหาหรือเปิดการสนทนาตลอดจนการสนทนาจะต้องมี
มารยาทที่สาคัญ
จรรยาบรรณสาหรับผูใ้ ช้กระดานข่าว ระบบสอื่ สารอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
ระบบข่าวสารท่ีให้บริการในสังคมอินเทอร์เน็ตมีหลายระบบ เช่น
ยูสเน็ตนิสว์ (UseNetNews) ระบบสมาชิกแจ้งข่าวหลายสมาคม บอกรับ
สมาชิกและให้ข่าวสารที่สม่าเสมอกับสมาชิกด้วยการส่งเป็นจดหมาย
อิเล็กทรอนิกส์เมื่อส่งออกจะกระจายไปยังเซิร์ฟเวอร์อ่ืน ๆ ท่ัวโลก
ผู้ใช้บริการโดยเฉพาะท่ีต้องการเขียนข่าวสารบนกระดาษ ข่าวจะต้องเคารพ
กฏกตกิ ามารยาทโดยเคร่งครัด
วชิ าคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื การเรยี นรู้
แผนกวชิ าสามัญ กองการศึกษา
โรงเรียนนายสิบทหารบก
2
การสรา้ งชิน้ งานท่มี คี ุณภาพ
ลักษณะของการสรา้ งชน้ิ งาน ท่จี ะชว่ ยให้บรรลผุ ลตามวัตถปุ ระสงคข์ องการนาเสนอ
โดยทั่วไปควรมอี งคป์ ระกอบที่สาคญั ดงั ต่อไปน้ี
1. มีวัตถุประสงคท์ ชี่ ดั เจน
ผูร้ บั ฟัง รับรใู้ นส่งิ ที่คาดหวัง หรือในส่ิงทีต่ ้องการ ดงั นนั้ ผนู้ าเสนอตอ้ งดาเนนิ การศกึ ษา
วตั ถุประสงคใ์ นการนาเสนอ ซงึ่ จะช่วยใหท้ ราบไดว้ า่ ควรเตรียมเนอ้ื หาเรื่องราวไปใน
ทิศทางไหน ดว้ ยกระบวนการใดจะช่วยทาให้ช้ินงานกระชบั ตรงประเดน็ ไมท่ าใหผ้ รู้ ับฟัง
รู้สกึ เสียเวลาและราคาญ หรือรู้สึกว่าออกนอกประเดน็
2. มกี ารวางโครงสรา้ ง(โครงเรื่อง)เนอ้ื หาและสือ่ อย่างเป็นระบบ
ก่อนการสรา้ งช้นิ งานตอ้ งมีการวางกรอบของสาระ เน้ือหา และกาหนดการใช้สื่อ
สนบั สนุน เพ่อื การสร้าง Story line และสอ่ื นาเสนอสาหรับใช้ในการนาเสนอให้น่าสนใจ
3
การสรา้ งช้นิ งานทีม่ ีคุณภาพ
3. มีรปู แบบทีเ่ หมาะสม
เรื่องราวและชนิ้ งานตอ้ งมคี วามกระทัดรดั ไดใ้ จความ เรียงลาดับไม่สับสน ใช้
ภาษาในการนาเสนอทเ่ี ข้าใจง่าย ใชส้ ื่อหลกั และสื่อสนบั สนุนอ่นื ๆ นามาขยาย
ความตามความจาเป็น ท่สี าคญั ควรเตรียมเนอื้ หาใหเ้ หมาะสมกับเวลาทไ่ี ดร้ บั
4. มเี นอ้ื หาสาระดี
ข้อมลู เป็นปัจจบุ ัน น่าเชื่อถือ ถูกต้อง เน้อื หามคี วามสมบูรณ์ ตรงตามความ
ตอ้ งการของผูร้ ับฟัง เป็นเนื้อหาที่ไมก่ ล่าวใหร้ ้าย หรือเสยี ดสใี คร (แม้จะเปน็
เรือ่ งจริง)
5. มีข้อเสนอหรอื แนวคิดทดี่ ี
สว่ นสุดทา้ ยของกระบวนการนาเสนอ ผู้สรา้ งชน้ิ งานควรให้แนวคดิ หรอื
ข้อเสนอทเี่ ปน็ จรงิ มีแนวทางปฏบิ ตั ิหรือขอ้ เปรียบเทียบท่ีชดั เจนแกผ่ ู้รับฟัง
ลิขสทิ ธิ์
ลิขสทิ ธิ์ เป็นผลงานทเี่ กิดจากการใช้สตปิ ญั ญา ความรคู้ วามสามารถ
และความวิรยิ ะอตุ สาหะในการสรา้ งสรรค์งานใหเ้ กิดขน้ึ ซง่ึ ถือว่าเป็น "
ทรัพยส์ ินทางปัญญา" ประเภทหนงึ่ ทม่ี คี ณุ ค่าทางเศรษฐกิจ
ลขิ สทิ ธ์ิ เป็นทรพั ย์สินประเภททสี่ ามารถซอ้ื ขาย หรอื โอนสิทธิกันได้
ท้งั ทางมรดก หรือ โดยวิธีอ่ืน ๆ การโอนลิขสิทธคิ์ วรท่จี ะทาเป็นลายลักษณ์
อกั ษร หรอื ทาเป็นสญั ญาใหช้ ดั เจน จะโอนสทิ ธทิ ั้งหมดหรอื เพยี งบางสว่ นก็ได้
ตามพระราชบัญญัตลิ ขิ สิทธ์ิ พ.ศ.2537 มีอายคุ มุ้ ครองผลงานเปน็ 50 ปี
6
งานสร้างสรรค์ทีม่ ีลขิ สิทธ์ิ
• งานวรรณกรรม เช่น หนงั สือ จลุ สาร สง่ิ เขยี น ส่ิงพิมพ์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์
• งานนาฏกรรม เชน่ งานเกยี่ วกบั การรา การเต้น การทาทา่ หรือ การแสดงที่
ประกอบขึ้นเปน็ เรอ่ื งราว การแสดงโดยวธิ ใี บ้
• งานศลิ ปกรรม เช่น งานทางดา้ นจติ รกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์
สถาปตั ยกรรม ภาพถ่าย ภาพ ประกอบแผนที่ โครงสรา้ ง ศลิ ปประยกุ ต์ และ
รวมท้ังภาพถ่าย และแผนผังของงานดงั กลา่ วดว้ ย
• งานดนตรกี รรม เชน่ เนือ้ ร้อง ทานอง และรวมถึงโนต้ เพลงทีไ่ ดแ้ ยกและเรยี บเรียง
เสียงประสาน
• งานโสตทศั นวัสดุ เช่น วีดีโอเทป แผน่ เลเซอร์ดิสก์ เปน็ ต้น
7
งานสร้างสรรคท์ ีม่ ีลขิ สิทธ์ิ
• งานภาพยนตร์
• งานสง่ิ บนั ทึกเสยี ง เช่น เทปเพลง แผ่นคอมแพ็คดิสก์ เปน็ ตน้
• งานแพร่เสยี งแพรภ่ าพ เชน่ การนาออกเผยแพร่ทางสถานกี ระจายเสยี งหรอื
โทรทัศน์
• งานอื่นใดอันเป็นงานในแผนกวรรณคดี แผนกวทิ ยาศาสตร์ หรอื แผนกศลิ ปะ
8
สิง่ ท่ไี ม่ถอื ว่าเป็นงานอันมลี ขิ สิทธิ์
• ข่าวประจาวัน และขอ้ เทจ็ จรงิ ตา่ งๆ ทีม่ ลี กั ษณะเป็นเพยี งขา่ วสาร
• รฐั ธรรมนญู และกฎหมาย
• ประกาศ คาสั่ง ระเบยี บ คาช้แี จง ของหนว่ ยงานรฐั หรอื ท้องถนิ่
• คาพพิ ากษา คาสงั่ คาวินจิ ฉัย และรายงานของทางราชการ
• คาแปล และการรวบรวมส่ิงต่างๆ ข้างต้น ท่ีหนว่ ยงานของรฐั หรอื ท้องถน่ิ จัดทาขน้ึ
9
การไดม้ าซ่ึงลิขสทิ ธ์ิ
สทิ ธิในลิขสิทธจ์ิ ะเกิดขึน้ โดยทันทีนับตง้ั แต่ผสู้ ร้างสรรคไ์ ด้สรา้ งผลงานโดยไม่ต้อง
จดทะเบียน ซึง่ มีลกั ษณะการไดม้ า ดงั นี้
• คุ้มครองทนั ทีที่ไดม้ ีการสรา้ งสรรคง์ านนน้ั
• กรณีที่ยงั ไม่ไดม้ กี ารโฆษณางาน ผ้สู ร้างสรรค์ตอ้ งเปน็ ผู้มสี ัญชาตไิ ทยหรอื มสี ญั ชาติ
ในประเทศที่เปน็ ภาคแี ห่งอนุสัญญา ว่าด้วยการคุ้มครองลขิ สิทธท์ิ ป่ี ระเทศไทยเปน็
ภาคอี ย่ดู ว้ ย
• กรณที ่มี ีการโฆษณางานแลว้ ต้องเปน็ การโฆษณาครัง้ แรกไดท้ าขึ้นในราชอาณาจกั ร
หรอื ในประเทศทเี่ ปน็ ภาคฯี
• กรณีที่ผสู้ ร้างสรรค์เป็นนติ ิบคุ คล ต้องเปน็ นิติบคุ คลทีจ่ ัดตง้ั ข้ึนตามกฎหมายไทย
10
สทิ ธขิ องเจ้าของลขิ สิทธิ์
เจา้ ของลิขสิทธย์ิ ่อมมีสทิ ธิแต่เพียงผู้เดยี วท่ีจะกระทาการใดๆ ต่องาน
อนั มลี ขิ สิทธ์ิของตน ดังต่อไปน้ี
- มีสิทธ์ิในการทาซา้ ดัดแปลง จาหนา่ ย ใหเ้ ช่า คดั ลอก เลยี นแบบทา
สาเนา
- การทาให้ปรากฏตอ่ สาธารณชนหรืออนุญาตให้ผอู้ ื่นใช้สิทธขิ องตน โดย
มีหรอื ไม่มคี ่าตอบแทนกไ็ ด้
การละเมิดลิขสทิ ธ์ิ
การละเมิดลขิ สิทธิโ์ ดยทั่วไปแยกไดเ้ ป็น ๒ ลกั ษณะ
• การละเมิดลิขสิทธิโ์ ดยตรงหรอื ขน้ั ตน้ (primary infringement)
• การละเมดิ ลขิ สิทธโิ์ ดยออ้ มหรอื ขนั้ รอง (secondary infringement)
การละเมิดลขิ สิทธ์ิโดยตรง หมายถึงการกระทาต่องานอันมีลิขสิทธิ์โดยไมไ่ ด้รบั
อนุญาตจากเจา้ ของลขิ สิทธด์ิ ้วยการกระทาโดยหลกั ดงั นี้ (มาตรา ๒๗)
• ทาซ้าหรือดัดแปลง
• เผยแพร่ตอ่ สาธารณชน
การละเมิดลขิ สิทธ์ิ (ต่อ)
การละเมิดลขิ สทิ ธิ์ในงานบางประเภท
- การละเมดิ ลิขสทิ ธ์ิในงานโสตทัศนวสั ดุ ภาพยนตร์ และสงิ่ บันทกึ เสยี งหมายถงึ การ
กระทาดงั ต่อไปนี้ (มาตรา ๒๘)
• ทาซ้าหรือดดั แปลง
• เผยแพรต่ ่อสาธารณชน
• ให้เชา่ ต้นฉบบั หรอื สาเนางานดงั กล่าว
การละเมดิ ลิขสิทธิ์ (ต่อ)
การละเมดิ ลิขสิทธ์ิในงานบางประเภท (ตอ่ )
- การละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิในงานแพรเ่ สียงแพร่ภาพ หมายถึงการกระทาดังต่อไปน้ี
(มาตรา ๒๙)
• จัดทาโสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สงิ่ บนั ทึกเสียงหรืองานแพร่เสยี งแพร่ภาพ
ไม่ว่าท้งั หมดหรอื บางสว่ น
• แพร่เสียงแพรภ่ าพซา้ ไม่วา่ ทั้งหมดหรอื บางสว่ น
• จดั ใหป้ ระชาชนฟงั หรอื ชมงานแพร่เสยี งแพร่ภาพโดยเรยี กเกบ็ เงนิ หรอื
ผลประโยชนอ์ ยา่ งอืน่ ในทางการค้า
การละเมิดลิขสิทธิ์ (ต่อ)
การละเมดิ ลขิ สิทธ์ใิ นงานบางประเภท (ตอ่ )
- การละเมดิ ลิขสทิ ธใิ์ นงานโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ หมายถึงการกระทา
ดังต่อไปน้ี (มาตรา ๓๐)
• ทาซา้ หรือดัดแปลง
• เผยแพร่ต่อสาธารณชน
• ให้เชา่ ต้นฉบบั หรือสาเนางานดังกลา่ ว
การละเมิดลขิ สทิ ธิ์ (ต่อ)
การละเมดิ ลิขสิทธโ์ิ ดยออ้ มหรอื ขั้นรอง หมายถึงการกระทาตอ่ งานซงึ่ ทาขึน้ โดย
ละเมิดลิขสทิ ธ์ใิ นลกั ษณะเปน็ การส่งเสริมให้งานท่ที าข้นึ โดยละเมิดลิขสิทธน์ิ ัน้
แพร่หลาย ได้แกก่ ารกระทาดังตอ่ ไปน้ี (มาตรา ๓๑)
• ขาย มไี ว้เพื่อขาย เสนอขาย ให้เชา่ เสนอให้เช่า ให้เชา่ ซอ้ื หรือเสนอใหเ้ ช่าซอ้ื
• เผยแพรต่ อ่ สาธารณชน
• แจกจา่ ยในลักษณะทอี่ าจกอ่ ใหเ้ กิดความเสยี หายแก่เจา้ ของลิขสทิ ธิ์
• นาหรอื ส่ังเข้ามาในราชอาณาจักร
- ผกู้ ระทารู้อยู่แลว้ หรอื มีเหตอุ นั ควรรวู้ า่ งานน้นั ไดท้ าข้ึนโดยละเมดิ ลิขสิทธ์ิ
- เปน็ การกระทาเพอ่ื หากาไร
การใช้คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสรา้ งชิน้ งานท่ีมคี ุณภาพ ไมล่ ะเมดิ ลิขสิทธิ์
และเลือกใชฮ้ าร์ดแวร์และซอฟแวรใ์ ห้เหมาะสมกบั ลกั ษณะงาน
การสร้างช้นิ งานทม่ี ีคณุ ภาพ ไมล่ ะเมดิ ลขิ สิทธิ์ พรบ.ลิขสิทธ์ิ แกไ้ ขเพิ่มเตมิ พ.ศ. 2558
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 35 กาหนดข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์
โปรแกรมคอมพิวเตอรไ์ วห้ ลายประการ ทงั้ นี้ การกระทาดังกล่าวจะต้องภายใต้กฎเกณฑ์ของการใช้
ลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรม 3 ประการ คือ 1) ต้องไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์
ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์ 2) ต้องไม่กระทบกระเทือนสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของ
ลิขสิทธิ์เกินสมควร และ 3) ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อหากาไร ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์โปรแกรม
คอมพวิ เตอร์มีดงั นี้
1.) วจิ ัยหรอื ศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ อาจรวมถงึ การวิศวกรรมย้อนกลบั
(reverse engineering) โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพ่ือศึกษาดูรูปแบบวิธีการเขียนโปรแกรม โดยไม่ได้
ทาประการอื่นใดแก่โปรแกรมคอมพิวเตอร์น้นั เพอ่ื หากาไร
การใชค้ อมพิวเตอร์ชว่ ยสร้างช้ินงานทม่ี ีคุณภาพ ไม่ละเมิดลขิ สิทธิ์
และเลือกใชฮ้ ารด์ แวรแ์ ละซอฟแวรใ์ หเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะงาน
2.) ใช้เพ่ือประโยชน์ของเจ้าของสาเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ได้สาเนาโปรแกรม
คอมพิวเตอร์นั้นมาโดยถกู ต้องตามกฎหมาย เช่น นาสาเนาโปรแกรมเกมคอมพวิ เตอร์ท่ไี ด้รับมาโดย
ชอบด้วยกฎหมายมาใช้เล่นส่วยตัว ไม่ได้นาออกแสวงหากาไรโดยการให้ผู้อ่ืนเช่าหรือเรียกเก็บเงิน
จากการใหผ้ ู้อนื่ ได้เล่นเกม
3.) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนาผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธ์ิใน
โปรแกรมคอมพิวเตอร์น้ัน เช่น นักข่าวคอลัมน์เก่ียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) เขียนวิจารณ์
ผลิตภัณฑ์ซอฟตแ์ วร์ออกใหม่ลงในนิตยสาร โดยระบชุ ือ่ ผสู้ รา้ งสรรคแ์ ละเจ้าของลขิ สิทธไ์ิ ว้ด้วย
4.) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ใน
โปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น เช่น ผู้สื่อข่าวเสนอรายงานข่าวการนาโปรแกรมต้านไวรัสชนิดใหม่
ออกจาหนา่ ยโดยมกี ารรบั ร้ถู งึ ความเปน็ เจ้าของลขิ สิทธใ์ิ นงานนน้ั
การใชค้ อมพวิ เตอรช์ ่วยสร้างช้นิ งานทีม่ ีคณุ ภาพ ไม่ละเมิดลิขสทิ ธิ์
และเลือกใชฮ้ าร์ดแวร์และซอฟแวรใ์ ห้เหมาะสมกบั ลักษณะงาน
6.) ทาซ้า ดัดแปลง นาออกแสดง หรือทาให้ปรากฏเพ่ือประโยชน์ในการพิจารณา
ของศาลหรือเจ้าพนักงานที่มีอานาจตามกฎหมายหรือในการรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว เช่น
พนกั งานอัยการนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ออกแสดงถึงวิธีการทางานเพื่อศาลพิจารณาในคดีละเมิด
ลิขสทิ ธิ์
7.) นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์น้ันมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบใน
การสอบ เช่น ในการสอบเพอ่ื ผา่ นหลกั สตู รวิชาคอมพวิ เตอร์ อาจารยผ์ ูส้ อนใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถาม
เกยี่ วกบั โครงสร้างของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตามกรณีปญั หา
8.) ดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในกรณีที่จาเป็นแก่การใช้ เช่น ผู้ใช้สามารถ
ดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์เท่าท่ีจาเป็นได้ เพื่อให้สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์น้ันกับ
เคร่ืองคอมพิวเตอรห์ รือโปรแกรมคอมพวิ เตอรอ์ ่นื ทม่ี ีอยู่ได้
การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างช้นิ งานท่ีมีคุณภาพ ไมล่ ะเมดิ ลิขสิทธิ์
และเลือกใช้ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟแวรใ์ ห้เหมาะสมกับลักษณะงาน
9.) จดั ทาสาเนาโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ พื่อเกบ็ รักษาไวส้ าหรับการอา้ งอิงหรอื ค้นควา้
เพ่ือประโยชน์ของสาธารณชน เช่น หอ้ งสมดุ เทคโนโลยสี ารสนเทศ (ไอที) จัดทาสาเนาโปรแกรม
คอมพิวเตอร์จานวนเล็กน้อยรวบรวมไวเ้ พอ่ื เปน็ ขอ้ มลู ให้สาธารณชนคน้ ควา้ โดยไม่เป็นการกระทา
เพอ่ื หากาไร
การอา้ งอิง
ความสาคัญของการอ้างอิง
1. ทาให้ผู้อ่านทราบแหลง่ ข้อมลู
2. ทาใหเ้ อกสารนา่ เชอ่ื ถอื
3. ผู้อา่ นสามารถค้นคว้าเพมิ่ เติมได้
4. เปน็ การใหเ้ กียรตกิ บั แหลง่ อา้ งอิง
5. เปน็ ที่มาของหลกั ฐานสิ่งพมิ พ์ ผลทางด้านลิขสิทธ์ิ
6. แสดงความมมี าตรฐานของเอกสาร
7. เปน็ หลักฐานท่ีสรา้ งความน่าเช่ือถือ เมื่อมีการเผยแพรส่ ู่สาธารณะ
วธิ ีการเขยี นอ้างองิ
1. การอา้ งองิ ในสว่ นเนื้อหา
– แบบเชิงอรรถ (footnote)
– แบบแทรกในเนอื้ หา (ระบบนามปี)
2. การอ้างอิงในสว่ นท้ายเล่ม(บรรณานกุ รม)
– รายละเอยี ดของแหล่งสารสนเทศทีใ่ ชใ้ นเนอื้ หาทุก
รายการ
การเขยี นบรรณานุกรม
บรรณานุกรม หรือเอกสารอ้างองิ เปน็ สว่ นสาคญั ท่ีสาคญั ของการเขยี นงานตา่ ง ๆ ไม่วา่ จะเป็นเอกสาร
ทางวชิ าการ หนงั สอื ตารา รายงานการวิจยั หรอื ท่ีเราเหน็ กนั มากก็คอื วิทยานพิ นธ์ ซงึ่ จะปรากฏอยู่ท้าย
เลม่ ของผลงานทเี่ ป็นเปน็ แหลง่ รวบรวบรายการข้อมูลทงี่ านเขยี นนนั้ ๆ ไดอ้ ้างองิ ถงึ อกี ทั้งยงั เป็นสว่ นท่ีจะ
เชอ่ื มโยงไปยงั ต้นทางของแหลง่ ขอ้ มลู ท่ใี ห้ผู้อา่ นสามารถค้นหาและสบื คน้ เพม่ิ เตมิ ได้
โดยสว่ นใหญ่แล้วการเขยี นบรรณานุกรม หรอื เอกสารอ้างอิง จะนิยมใชม้ าตรฐานการเขียนทชี่ ือ่ วา่ AP
A หรือ (American Psychological Association) พฒั นามาจากนักสงั คมศาสตรแ์ ละนักพฤตกิ รรม
ศาสตรม์ ากวา่ 80 ปี เพ่ือเป็นมาตรฐาน ในการเขียนอย่างเป็นระบบสาหรับการทาวิจยั รายงานการวิจยั
การทบทวนวรรณกรรม บทความและกรณีศกึ ษา สาหรบั นักเขยี นและนกั ศึกษานามาใชใ้ นวทิ ยานิพนธ์ซ่งึ
เปน็ รูปแบบท่ีนยิ มใช้อยา่ งแพรห่ ลาย โดยในปัจจบุ ัน APA ไดพ้ ัฒนามาถึงเวอร์ชนั ที่ 6 ท่มี ีมาตราฐานใหม่ท่ี
เปน็ แปลงจากเดิมไปพอสมควร ในบทความนี้เราจะยกตัวอย่างการเขยี นบรรณานุกรม ที่จาเปน็ และใช้เป็น
แหล่งอา้ งองิ กนั มาก เชน่ หนงั สือ งานวิจัย วารสาร วทิ ยานิพนธ์ สอื่ ออนไลน์
การใช้อักษรยอ่
ม.ป.ท. แทนคาเตม็ วา่ (ไมป่ รากฏสถานที่พิมพ์)
(no Place of publicati
N.P. แทนคาเตม็ วา่
(ไมป่ รากฏสานกั พมิ พ์)
on) (no publisher)
ไมป่ รากฏปพี มิ พ์
ม.ป.พ. แทนคาเตม็ วา่ no date
บรรณาธกิ าร
n.p. แทนคาเตม็ วา่ Editor หรอื Editors
(ม.ป.ป.) แทนคาเต็มว่า
(n.d.) แทนคาเตม็ ว่า
(บ.ก.) แทนคาเตม็ ว่า
(Ed.) หรอื (Eds.) แทนคาเต็มวา่
การเขยี นชอื่ ผู้แต่ง
ไมต่ ้องลงคานาหน้านามตาแหน่งทางวชิ าการคาเรียกทางวชิ าชพี และตาแหน่งยศต่าง ๆ (ยกเวน้ มฐี านันดรศักด์ิ
บรรดาศกั ดิ์ และสมณศักด์ิ)
ผเู้ ขียน 1 คน
ผแู้ ต่ง1./(ปพี มิ พ์).//ช่ือเรื่อง/(พิมพ์ครง้ั ท่ี).//สถานทพ่ี ิมพ์:/สานกั พิมพ์.
ผู้เขียน 2 คน
ผู้แต่ง1,/และผู้แตง่ 2.//(ปพี ิมพ์).//ชื่อเร่ือง/(พมิ พค์ รั้งท่ี).//สถานทีพ่ มิ พ์://สานกั พิมพ์.
ผู้เขยี น 3 คน
ผู้แต่ง1,/ผู้แตง่ 2,/และผู้แต่ง3.//(ปีพมิ พ์).//ชอื่ เร่อื ง//(พิมพค์ รง้ั ที่).//สถานทพ่ี ิมพ์://สานกั พิมพ์.
ผู้เขียนมากกว่า 7 คน
ผ้แู ตง่ 1,/ผู้แตง่ 2,/ผ้แู ต่ง3,/ผแู้ ตง่ 4,/ผ้แู ตง่ 5,/ผูแ้ ต่ง6,…ผูแ้ ตง่ คนสดุ ท้าย./(ปีพิมพ์).//ชอื่ เร่อื ง//(พิมพ์ครัง้ ท)ี่ .//
สถานที่พมิ พ์://สานักพมิ พ์.
1. หนังสอื
ผแู้ ต่ง 1./(ปพี ิมพ์).//ชอ่ื เรื่อง/(พิมพ์ครง้ั ที่).//สถานที่พมิ พ์:/สานกั พิมพ์.
สุกัญญา รอส. (2561). วสั ดุชวี ภาพ. พิษณโุ ลก: สานักพมิ พม์ หาวทิ ยาลัยนเรศวร.
หนังสอื ไมป่ รากฏช่ือผแู้ ต่ง
ชอ่ื เรื่อง/(พิมพ์ครงั้ ที่).//(ปีพมิ พ์).//สถานท่พี มิ พ์:/สานักพมิ พ์.
หลากความคดิ ชีวติ คนทํางาน. (2551). กรงุ เทพฯ: แผนงานสขุ ภาวะองคก์ รภาคเอกชน สานกั งานกองทนุ
////////สนบั สนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ.
บทความหรอื บทในหนงั สือ
ชื่อผู้แตง่ บทความหรอื บท./(ปพี มิ พ์).//ช่อื บทความหรือบท./ใน หรอื In/ชอ่ื บรรณาธิการ/(บ.ก. หรือ Ed. หรือ Eds.),
////////ชื่อหนังสอื /(น. หรอื p. หรือ pp. เลขหนา้ ).//สถานท่ีพมิ พ์:/สานักพมิ พ์.
วัลลภัช สุขสวสั ดิ์. (2561). แนวความคดิ เรื่องชนชน้ั นาทางการเมืองของกตี าโน มอสกา กับชนชั้นนาทางการ
////////เมอื งไทยในยคุ มาลานาไทย. ใน วัชรพล ศภุ จกั รวฒั นา และวัชรพล พทุ ธรกั ษา (บ.ก.), ว่าดว้ ยทฤษฎี
////////รฐั ศาสตร์ และรฐั ประศาสนศาสตรร์ ว่ มสมยั (พมิ พค์ ร้ังท่ี 2). (น. 47-68). พิษณโุ ลก: สานกั พมิ พ์
////////มหาวิทยาลัยนเรศวร.
*หมายเหตุ (พิมพ์คร้งั ท่ี) ใหร้ ะบุต้ังแต่ครงั้ ท่ี 2 เป็นตน้ ไป
2. หนงั สือแปล
ชอ่ื ผู้แต่งต้นฉบบั ./(ปีพมิ พ์).//ชื่อเรือ่ งท่แี ปล/[ชอ่ื ตน้ ฉบบั ]/(ชือ่ ผู้แปล, แปล)./สถานท่ีพมิ พ์:/สานกั พิมพ.์
////////(ต้นฉบบั พิมพป์ ี ค.ศ. หรอื พ.ศ.)
แบร่ี สมาร์. (2555). มเิ ชล ฟูโกต์ [Michel Foucault] (จามะรี เชียงทอง และสนุ ทร สราญจติ , แปล). กรงุ เทพฯ:
3. E-book////////ศูนย์มานุษยวิทยาสิริธร (องคก์ ารมหาชน). (ต้นฉบับพมิ พ์ปี ค.ศ. 1994).
ผูแ้ ตง่ 1./(ปีพมิ พ์).//ชื่อเรอ่ื ง/(พิมพ์คร้งั ท่ี).//สถานท่พี มิ พ์:/สานกั พมิ พ์. //จาก หรอื from/http://www.xxxxxxx
Howitt, D. (2011). Introduction to research methods in psychology. Retrieved from
////////https://www.dawsonera.com.
จกั รพนั ธ์ เพ็ชรภูมิ. (2562). พฤตกิ รรมสขุ ภาพ: แนวคดิ ทฤษฎี และการประยุกตใ์ ช.้
////////(พมิ พค์ ร้งั ท่ี 3). พษิ ณโุ ลก: สานักพิมพม์ หาวทิ ยาลยั นเรศวร. สบื คน้ จาก https://www.ookbee.com
Haslam, S. (2003). Research Methods and Statistics in Psychology (SAGE Foundations
////////of Psychology series).[Kindle DX version]. Retrieved from http://www.amazon.com
4.วิทยานิพนธ์
วิทยานิพนธแ์ บบรูปเล่ม
ผแู้ ต่ง./(ปพี มิ พ์)./ชื่อเรื่อง/(ปริญญานพิ นธป์ ริญญาดุษฎีบณั ฑิต หรือ Doctoral dissertation หรือ
วทิ ยานพิ นธ์
////////ปริญญามหาบัณฑติ หรอื master’s thesis)./สถานทพี่ ิมพ์./ชื่อสถาบนั .
วนั ชนะ จบู รรจง. (2560). ระบบสนบั สนุนการประมาณการสัมผสั แคดเมยี มผา่ นการบริโภคอาหาร (
วทิ ยานิพนธ์
////////ปริญญามหาบณั ฑติ ). พษิ ณุโลก: มหาวทิ ยาลัยนเรศวร
วิทยานพิ นธ์ฐานขอ้ มลู ออนไลน์
ผแู้ ตง่ ./(ปพี ิมพ์)./ชอ่ื เร่ือง/(ปรญิ ญานพิ นธ์ปรญิ ญาดษุ ฎีบัณฑิต หรอื Doctoral dissertation หรอื
วิทยานิพนธ์
////////ปริญญามหาบณั ฑติ หรือ master’s thesis)./สถานท่พี มิ พ์./ช่อื สถาบัน. สืบค้นจาก หรอื Retriev
ed from
////////http://www.xxxxxxxxx
พรทิพย์ วอ่ งไวพิทยา. (2551). การพฒั นาระบบสารสนเทศเพือ่ ช่วยสนับสนนุ การตัดสนิ ใจในการ
มอบหมายและ
////////ตดิ ตามความกา้ วหนา้ ของงาน กรณีศึกษาบณั ฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลยั นเรศวร (วิทยานพิ นธ์
////////ปรญิ ญามหาบณั ฑิต). พิษณโุ ลก. มหาวทิ ยาลยั นเรศวร. สบื คน้ จาก https://tdc.thailis.or.th/td
c/
5. วารสาร
วารสารแบบเล่ม
ช่ือผู้แต่ง./(ปพี ิมพ์).//ชอื่ บทความ.//ชอ่ื วารสาร,/เลขของปที ี่/(เลขของฉบบั ท)ี่ ,/เลขหนา้ .
วชิ ัย พานิชย์สวย, สมุ น ไวยบญุ ญา, พชั รพร ศุภกจิ , และรัตนากร หลวงแกว้ . (2562). ผลของการใช้บทเรียน PISA
////////ทม่ี ีตอ่ ความสามารถดา้ นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนกั เรยี นระดับประถมศึกษา.
////////วารสารการวจิ ยั พฒั นาชุมชน (มนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์), 12(3), 133-160.
6.Website
ผแู้ ตง่ ./(ปีพมิ พ์).//ชอื่ บทความ./สบื คน้ หรอื Retrieved วัน/เดอื น/ป,ี //จาก หรือ from/http://www.xxxxxxxxxx
สรญา แสงเยน็ พนั ธ์. (2563). พฤตกิ รรมสขุ ภาพ. สบื คน้ 18 กนั ยายน
////////2563, จาก http://www.nupress.grad.nu.ac.th/behavior
Healey, R.G. (2011). The History of Policy Analysis. Retrieved 24 March 2019
from https://econ.duke.edu/uploads/media_items/what-is-the-history
-of-policy-analysis-9-2011.original.pdf
การใชฮ้ ารด์ แวรแ์ ละซอฟแวร์ในการนาเสนอผลงาน
หลักการเลอื กคณุ ลกั ษณะของคอมพิวเตอรใ์ นการนาเสนอผลงาน
คอมพวิ เตอรม์ ีคุณลักษณะทห่ี ลากหลาย ทั้งในดา้ นของฮาร์ดแวร์ และซอฟตแ์ วรใ์ น
การใชง้ านเพอ่ื ให้สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการใชง้ าน โดยมหี ลกั การเลอื กคุณลกั ษณะของ
คอมพิวเตอร์เพ่อื ใหเ้ หมาะสมกับงาน ดังนี้
1. วิเคราะหว์ ัตถปุ ระสงคข์ องการใชง้ าน
2. เลือกคอมพวิ เตอรต์ ามลักษณะของการใชง้ าน
2.1. งานนอกสถานท่ี
2.2. งานในสถานที่
3. เลือกฮารด์ แวร์และซอฟตแ์ วร์ให้เหมาะสมกับลกั ษณะงาน
4. สารวจแหลง่ ขาย
การใชฮ้ าร์ดแวรแ์ ละซอฟแวร์ในการนาเสนอผลงาน
ซอฟต์แวร์ประเภทซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) ในกลุ่มซอฟต์แวร์
สาเรจ็ รูป เป็นเครื่องมือที่จาเป็นสาหรับคอมพิวเตอร์ เพราะช่วยอานวยความสะดวกในการทางาน
โดยมีหลักการเลือกดังนี้
1. ความสามารถในการทางาน
2. การติดตอ่ กบั ผ้ใู ช้
3. ความเข้ากนั ได้
3.1 ความเขา้ กนั ไดข้ องฮารด์ แวร์
3.2 ความเข้ากันไดข้ องซอฟตแ์ วร์
4. การตดิ ต้ังและการดูแลรกั ษา
5. กลมุ่ ผใู้ ช้งาน
วชิ าคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื การเรยี นรู้
แผนกวชิ าสามัญ กองการศึกษา
โรงเรียนนายสิบทหารบก
2
เกณฑใ์ นการเลือกซอฟตแ์ วรใ์ หเ้ หมาะสมกบั งาน
1. กาหนดงานทเ่ี ราจะนามาใชก้ บั คอมพวิ เตอร์ เขียนเหตผุ ลครา่ วๆ และก็เร่มิ ศกึ ษารายละเอียด
2. รู้จกั ระบบคอมพวิ เตอรข์ องเราเอง ว่าซอฟตแ์ วรท์ ี่ซื้อมานั้น ต้องทางานกับระบบคอมพิวเตอร์
ของเราได้ เชน่
ระบบหน่วยปฏิบัติการแบบใด
หนว่ ยประมวลผลกลางร่นุ ใด ความเรว็ เทา่ ไหร่
การด์ แสดงผลรนุ่ ใด มหี น่วยความจาเทา่ ไหร่
หน่วยความจาขนาดเทา่ ไหร่
ความจุของฮารด์ ไดรฟ์
เคร่อื งพมิ พ์รุ่นใด
ระบบมัลติมเี ดยี
3
เกณฑใ์ นการเลือกซอฟตแ์ วรใ์ ห้เหมาะสมกบั งาน
3. ลองใชซ้ อฟต์แวร์ อย่างนอ้ ย 15 นาที โดยทดลองใชใ้ นแง่มมุ ต่างๆ
• ใช้งานง่ายหรอื ไม่
• ระบบความชว่ ยเหลือมีหรอื ไม่
• คูม่ อื มีหรอื ไม่ อา่ นงา่ ยหรือไม่
• มีบรกิ ารให้คาปรึกษาทางเทคนคิ หลังการขายหรอื ไม่
4. เลือกเปรียบเทยี บ
• เลอื กซอฟต์แวรท์ มี่ ีราคาเหมาะสมท่สี ุด
• เปดิ โอกาสให้คนื ซอฟต์แวร์ทซ่ี ้ือไปไม่น้อยกว่า 30 วนั
5. การเลอื กซ้ือซอฟต์แวร์ ต้องใช้เวลาทาความคุ้นเคยราว 1 สัปดาหก์ อ่ น
เริม่ ทางานได้ ฉะน้นั ควรนาซอฟต์แวร์ มาใชเ้ พ่อื ความคนุ้ เคยเสยี กอ่ นแล้ว
ค่อยเลือกใชซ้ อฟตแ์ วร์ตวั ต่อไปมาใชง้ าน
4
ความรเู้ บอ้ื งต้นเก่ยี วกับซอฟตแ์ วร์
ซอฟต์แวร์ (Software)
คือ โปรแกรมหรือชุดคาส่ังน้ีที่รวบรวมคาสั่งงานต่างๆ ที่มนุษย์ต้องการเพื่อสั่ง
ให้เคร่อื งคอมพิวเตอร์ทางานตามความต้องการ และควบคุมการทางานของอปุ กรณ์ ซึ่ง
โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่จะส่ังให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทางานจะต้องมีรายละเอียดทุก
ขน้ั ตอนเพื่อใหเ้ คร่อื งปฏิบัตติ ามจนไดผ้ ลลัพธท์ ่ตี ้องการ คาสัง่ ทีส่ ่งั ใหค้ อมพวิ เตอร์ทางาน
อย่างใดอย่างหนงึ่ เรยี กว่า โปรแกรม
5
ประเภทของซอฟตแ์ วร์
ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ระบบ ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์
โดยทว่ั ไปแล้วจะแบง่ ได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดว้ ยกนั คอื
• ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
• ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ (Application Software)
ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์เฉพาะงาน
ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์เฉพาะงาน (specialized application) เป็นซอฟต์แวร์ท่ถี กู ใช้สาหรับ
งานเฉพาะและสาหรับกลุ่มสาขาอาชีพนน้ั ๆ
ซอฟต์แวร์ประยุกตเ์ ฉพาะงาน
• เป็นซอฟต์แวรท์ ี่ถกู ใช้สาหรบั งานเฉพาะดา้ นสาหรับแตล่ ะอาชพี
• ซอฟตแ์ วร์ทนี่ ยิ มใช้ ไดแ้ ก่
– ซอฟต์แวร์สาหรบั จัดการภาพกราฟิก
– ซอฟตแ์ วรส์ ร้างเว็บไซต์
– ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์สาหรับการใชง้ านด้านการพิมพ์
– ซอฟตแ์ วร์สรา้ งมลั ตมิ เี ดยี
– ซอฟตแ์ วร์ประยุกตเ์ กดิ ใหม่
ซอฟต์แวรส์ าหรบั การจดั การภาพกราฟิก
• ซอฟต์แวร์สาหรบั การจัดการภาพบิตแมพ
– ภาพบติ แมพ (bitmap) เปน็ ภาพทปี่ ระกอบขึ้นจากจุดจานวนมากท่ี
เรยี กว่า
พกิ เซล (pixel)
– บางครง้ั เรยี กภาพบติ แมพน้วี ่า ภาพราสเตอร์ (raster image)
– ซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้
• Microsoft Paint
• Adobe Photoshop
• Corel PhotoPaint
• Paint Shop Pro