ลิขสิทธิ์ เป็นผลงานที่เกิดจากการใช้ปัญญา ความรู้ความสามารถ และความอุตสาหะพยายาม ในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งถือว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่ง ที่กฎหมายให้ความคุ้มครอง 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง - 6. การวัดและการประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 6.1 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบ ก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจริง 6.2 การประเมินระหว่างการจัด กิจกรรม 1) การใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศ - ตรวจแบบฝึกหัด Exercise หน้า 39 - ตรวจใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้า ออนไลน์อย่าง ปลอดภัย - ตรวจแบบฝึกหัด Exercise หน้า 40–41 - ประเมินการนำเสนอ เรื่อง การใช้เหตุผลเชิง ตรรกะในชีวิตประจำวัน - แบบฝึกหัด(วิทยาการ คำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยี สารสนเทศ - แบบประเมิน ใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้า ออนไลน์อย่าง ปลอดภัย ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) กฎหมายคอมพิวเตอร์ และลิขสิทธิ์ - ตรวจแบบฝึกหัด Exercise หน้า 42-45 - ตรวจแบบฝึกหัด Exercise หน้า 46-47 - ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด - แบบฝึกหัด(วิทยาการ คำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยี สารสนเทศ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด 3) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 6.3 การประเมินหลังเรียน 1) แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยี สารสนเทศ - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบ หลังเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง - - ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - แบบประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องที่ 1 : การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 3 ชั่วโมง วิธีการสอนแบบการอภิปราย เทคนิคการสอนแบบการถาม – ตอบ (10 นาที) 1. ครูถามนักเรียนคิดว่าเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตนักเรียนหรือไม่ อย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ มี เพราะทำให้ชีวิตสะดวกสบาย) 2. ครูถามนักเรียนต่อว่า นอกจากเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตนักเรียนแล้ว นักเรียนคิดว่าเทคโนโลยีมี บทบาทสำคัญต่อระดับองค์กร หรือระดับประเทศหรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ มี เนื่องจากทำให้มีระบบออนไลน์ใช้งาน มีใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์) (30 นาที) 1. ครูอธิบายเนื้อหาเรื่องการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคํานวณ) ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 59-60 2. ครูสนทนาและถามนักเรียนว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามีบาทในทุกด้านยกตัวอย่าง เช่น ร้านค้า ต้องมีการ ปรับตัวการให้บริการแบบออนไลน์ ในฐานะลูกค้าหากต้องการซื้อสินค้าออนไลน์นักเรียนจะประเมินความ น่าเชื่อถือของร้านค้าอย่างไร (แนวคำตอบ ร้านที่มีรีวิวเยอะ ร้านค้าที่มีชื่อเสียง) 3. ครูถามต่อว่าในการซื้อสินค้าออนไลน์ในขั้นตอนการชำระเงินค่าสินค้า นอกจากต้องประเมินความน่าเชื่อถือ ของร้านค้า นักเรียนจะมีวิธีการทำธุรกรรมออนไลน์หรือโอนเงินค่าสินค้าอย่างไรให้ปลอดภัย (แนวคำตอบ โอนเงินผ่านอุปกรณ์ตนเองเท่านั้น ไม่ใช้ Wi-Fi สาธารณะ ใช้บริการร้านค้าที่น่าเชื่อถือ) 4. ครูอธิบายเนื้อหาเรื่องการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 62 - 63 การทำธุรกรรมออนไลน์ และหน้า 64 – 65 การ ซื้อสินค้าออนไลน์ 5. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึก Exercise ในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 39 ข้อ 1 – 3 เพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจ เรื่อง การทำธุรกรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย ขั้นนำ ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 2 (50 นาที) 6. ครูทบทวนเนื้อหาจากชั่วโมงที่แล้ว นักเรียนได้เรียนรู้การทำธุรกรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย ในชั่วโมงนี้ครู ให้นักเรียนจับคู่กัน จากนั้นให้นักเรียนแต่ละคนเขียนชื่อสินค้าที่นักเรียนสนใจ 1 อย่าง และนำหัวข้อนั้น แลกกันกับคู่ของตนเอง 7. ครูให้แต่ละคนค้นหาร้านค้าออนไลน์ที่ขายสินค้าตามหัวข้อที่ได้รับจากคู่ของตนเอง และเลือกหาร้านค้าที่ น่าเชื่อถือมากที่สุด จำนวน 3 ร้านค้า 8. ครูให้นักเรียนบันทึกผลการทำกิจกรรมลงในใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัย 9. ครูสุ่มนักเรียน 5 – 6 คน นำเสนอใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัยเพื่อแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นร่วมกัน 10. ครูถามนักเรียนว่าจากการค้นหาร้านค้านักเรียนมีวิธีการประเมินความน่าเชื่อถือร้านค้าอย่างไร (แนวคำตอบ เลือกซื้อเว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย https//: เท่านั้น อ่านรีวิวก่อนสั่งซื้อ สำรวจราคาตลาดก่อน สั่งซื้อ) ชั่วโมงที่ 3 (40 นาที) 11. ครูสอบถามนักเรียนว่าจากคาบที่แล้วในการประเมินความน่าเชื่อถือของร้านค้า นักเรียนพบว่าร้านค้าที่ดี น่าเชื่อถือควรมีลักษณะอย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ คำอธิบายสินค้าถูกต้องไม่เกินจริง ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวลูกค้าในการรีวิวสินค้า ไม่นำข้อมูล ส่วนตัวลูกค้าไปเผยแพร่ ) 12. ครูอธิบายว่าในปัจจุบันการซื้อของออนไลน์ตามเว็บไซต์ต้องมีบัญชีผู้ใช้ก่อนจึงจะสามารถทำการสั่งซื้อ สินค้าได้ 13. ครูถามนักเรียนว่าโดยปกติเวลาใช้งานเว็บไซต์เหล่านี้สามารถสมัครบัญชีผู้ใช้ได้อย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Facebook ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google สมัครบัญชีผู้ใช้ด้วยอีเมล) 14. ครูอธิบายว่าในขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์ด้วยบัญชี Facebook หรือ บัญชี Google เว็บไซต์จะ เรียกขอสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวบัญชี Facebook หรือ Google ของเราซึ่งอาจส่งผลต่อการนำ ข้อมูลไปใช้และส่งผลเสียได้ ดังนั้น นอกจากการประเมินความน่าเชื่อถือของร้านค้าออนไลน์แล้ว ยังมีส่วน อื่นที่ต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างระมัดระวัง 15. ครูอธิบายเนื้อหาเรื่องการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 66-67 ขั้นสอน ขั้นสอน
16. ครูให้นักเรียนถามคำถามนักเรียนโดยให้มีสถานการณ์ “หากนักเรียนเป็นเจ้าของร้านค้ารับสกรีนลายเสื้อ และมีลูกค้าติดต่อมาให้ผลิตเสื้อรูปการ์ตูนที่ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ผลงาน นักเรียนจะมีวิธีการ รับมือกับลูกค้าอย่างไร เช่น ข้อมูลที่เป็นส่วนตัวของลูกค้า ความถูกต้องของข้อมูลสินค้า กรรมสิทธิ์ และ ด้านอื่น พร้อมบอกเหตุผล” จากนั้นครูสุ่มนักเรียน 4 – 5 คน ตอบคำถาม 17. ครูถามนักเรียนว่าจากสถานการณ์ข้างต้น ในมุมมองนักเรียนผู้บริโภคและผู้ขาย ควรมีความรับผิดชอบต่อ กันอย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ ผู้บริโภคไม่จองสินค้าแล้วไม่ซื้อ ไม่ควรสั่งสินค้าที่ทรัพย์สินทางปัญญา ผู้ขายจะต้องคำนึงถึง เรื่องลิขสิทธิ์ควรศึกษากฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ให้ดี ความถูกต้องของข้อมูลสินค้า) 18. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึก Exercise ในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 40 – 41 ข้อ 4 – 5 เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ (10 นาที) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปนอกจากเราจะต้องระวังการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศให้ปลอดภัยกับตัวเรา แล้ว ยังต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นด้วย โดยเคารพความเป็นส่วนตัว คำนึงถึงความถูกต้อง แม่นยำของข้อมูล การเป็นเจ้าของ และการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต ขั้นสรุป
เรื่องที่ 2 : กฎหมายคอมพิวเตอร์และลิขสิทธิ์ เวลา 4 ชั่วโมง วิธีการสอนแบบการอภิปราย วิธีการสอนแบบกระบวนการกลุ่ม (10 นาที) 1. ครูถามนักเรียนว่าจากคาบที่ผ่านมาในการการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือซื้อของออนไลน์นักเรียน ควรระมัดระวังด้านใดอีกบ้าง (แนวคำตอบ ข้อมูลส่วนตัว ลิขสิทธิ์ผลงาน) 2. ครูถามนักเรียนว่าจากคาบที่แล้วเรื่องการประเมินความน่าเชื่อถือของร้านค้าออนไลน์หากนักเรียน ทำการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ไป แต่ไม่ได้รับสินค้า หรือได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามคำอธิบาย หรือสินค้าไม่มีคุณภาพ นักเรียนจะแก้ปัญหาอย่างไร (แนวคำตอบ ปริ้นท์หลักฐานที่มีเกี่ยวกับร้านค้า สินค้า และการโอนเงินทั้งหมดและไปแจ้งตำรวจ) (40 นาที) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3 – 4 คน จากนั้นแต่ละกลุ่มศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการ คํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หัวข้อ “กฎหมายคอมพิวเตอร์” โดยให้แต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อกฏหมายตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 และค้นหาเพิ่มเติมจาก อินเทอร์เน็ต จากนั้นให้สมาชิกในกลุ่มสรุปให้เพื่อนในกลุ่มฟัง 2. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึก Exercise ในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 42 – 43 เพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจ ชั่วโมงที่ 2 1. (50 นาที) 3. จากชั่วโมงที่ผ่านมา ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3 – 4 คน และแบ่งหัวข้อกันศึกษา“กฎหมายคอมพิวเตอร์” ใน ชั่วโมงนี้ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคํานวณ) ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 71 – 73 หัวข้อ“ลิขสิทธิ์” และค้นหาเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต จากนั้นให้สมาชิกใน กลุ่มสรุปให้เพื่อนในกลุ่มฟัง ขั้นนำ ขั้นสอน ขั้นสอน
4. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึก Exercise ในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 44 – 45 เพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจ 5. จากนั้นครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด และเตรียมตัวนำเสนอในชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงที่ 3 1. (50 นาที) 6. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแนวคิดของกลุ่มตนเอง ตรงตามความผิดในมาตราที่ศึกษาหรือไม่ อย่างไร 7. ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปแนวคิดจากคำตอบของกลุ่มอื่น 8. จากนั้นครูให้แต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนในการทำกิจกรรม Activity ในหนังสือแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 46 – 47 ถ้าเกิดมีข้อสงสัยสามารถสอบถามครูผู้สอนได้ 9. จากนั้นให้นักเรียนแต่ลงมีปฏิบัติตามที่วางแผนไว้ พร้อมเตรียมนำเสนอในชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงที่ 4 1. (40 นาที) 10. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอกิจกรรม Activity 11. ครูซักถามกลุ่มที่นำเสนอ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและความถูกต้องของข้อมูล พร้อมทั้งเสนอแนะ เพิ่มเติม (10 นาที) 1. ครูให้และนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาและความสัมพันธ์เกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ปลอดภัย มีความรับผิดชอบ ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบธรรม 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. แบบฝึกหัด (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ 3. ใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัย 4. ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด ขั้นสรุป ขั้นสอน ขั้นสอน
8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องคอมพิวเตอร์ 2) อินเทอร์เน็ต
หน่วยการเรียนรู้ที่3 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดคือการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ ที่ไม่ปลอดภัย ก. ออกจากระบบทุกครั้งหลังการใช้งาน ข. ตั้งวงเงินในการธุรกรรมให้เหมาะสม ค. ใช้บริการแจ้งเตือนเงินเข้า-ออกผ่าน SMS ง. ตั้งรหัสผ่านโดยใช้วันเดินปีเกิดหรือชื่อของตนเอง 2. ข้อใดคือการซื้อสินค้าทางออนไลน์อย่างปลอดภัย ก. เลือกซื้อของผ่านเว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย http:// ข. ตรวจสอบราคาตลาด คำอธิบายสินค้าไม่เกินจริง ค. ใช้งาน Wifi สาธารณะในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ง. เลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ชื่นชอบและสนใจ โดยไม่มีการจดทะเบียนพาณิชย์ 3. ข้อใดไม่ใช่การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยความรับผิดชอบ ก. การกำหนดความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ข. การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องแม่นยำ ค. การดัดแปลงผลงานผู้อื่นและอ้างว่าเป็นผลงาน ของตนเอง ง. การไม่เข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือยินยอม ให้เข้าถึง 4. บริษัท ฟ้อนมิวสิค จำกัด ได้สร้างผลงานเพลงชื่อ กอดขาเถียง ขึ้นใหม่ให้กับศิลปินในสังกัด ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2542 จากนั้นทำการเผยแพร่และ โฆษณาบน YouTube เมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2562 ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ดังนั้น ผลงานดังกล่าว จะถูกเริ่มนับลิขสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ใด ก. วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2542 ข. วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562 ค. วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2562 ง. วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2562 5. การสร้างข่าวปลอมและเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตราใด ก. มาตรา 7 ข. มาตรา 14 ค. มาตรา 15 ง. มาตรา 17 เฉลย 6. พระราชบัญญัติใดพูดถึงการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์รวม มาตรา 30 ก. พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ไซเบอร์ ข. พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเทคโนโลยี สารสนเทศ ค. พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ง. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ 7. ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ได้ให้ความคุ้มครอง เกี่ยวกับผลงาน 9 ประเภท ผลงานในข้อใด ไม่จัดอยู่ในประเภท “งานวรรณกรรม” ก. หนังสือ ข. ทำนอง ค. สิ่งพิมพ์ ง. ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ 8. การทำซ้ำโดยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ ปรับปรุง แก้ไข เพิ่มเติมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยไม่มีลักษณะ ในการจัดทำขึ้นใหม่ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามข้อใด ก. การทำซ้ำ ข. การทำสำเนา ค. การเผยแพร่ ง. การดัดแปลง 9. เอ็มทำซ้ำแผ่นวีซีดีภาพยนตร์ โดยการคัดลอกจากแผ่น ต้นฉบับเพื่อนำมาขายในร้านของตนเอง ตามพระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เอ็มมีความผิดตามข้อใด ก. การเผยแพร่ต่อสาธารณชน ข. ขาย มีไว้เพื่อขาย เช่า มีไว้เพื่อเช่า ค. ขายหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร ง. แจกจ่ายในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของ ลิขสิทธิ์ 10. การแสดงความคิดเห็นต่อผลงานเพลงของศิลปินใน YouTube ถือว่าเป็นการยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามข้อใด ก. การนำผลงานนั้นมาเป็นส่วนหนึ่งในงานของตน ข. เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึง ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น ค. การติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึง ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น ง. ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือบุคคลอื่นในครอบครัว แบบทดสอบก่อนเรียน 1. ง 2. ข 3. ค 4. ค 5. ข 6. ง 7. ข 8. ง 9. ข 10. ค
หน่วยการเรียนรู้ที่3 คำแจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. พระราชบัญญัติใดพูดถึงการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์รวม มาตรา 30 ก. พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ไซเบอร์ ข. พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเทคโนโลยี สารสนเทศ ค. พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ง. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ 2. ข้อใดคือการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ ที่ไม่ปลอดภัย ก. ออกจากระบบทุกครั้งหลังการใช้งาน ข. ตั้งวงเงินในการธุรกรรมให้เหมาะสม ค. ใช้บริการแจ้งเตือนเงินเข้า-ออกผ่าน SMS ง. ตั้งรหัสผ่านโดยใช้วันเดินปีเกิดหรือชื่อของตนเอง 3. การทำซ้ำโดยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ ปรับปรุง แก้ไข เพิ่มเติมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยไม่มีลักษณะ ในการจัดทำขึ้นใหม่ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามข้อใด ก. การทำซ้ำ ข. การทำสำเนา ค. การเผยแพร่ ง. การดัดแปลง 4. ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ได้ให้ความคุ้มครอง เกี่ยวกับผลงาน 9 ประเภท ผลงานในข้อใดไม่จัดอยู่ใน ประเภท “งานวรรณกรรม” ก. ทำนอง ข. หนังสือ ค. สิ่งพิมพ์ ง. ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ 5. การแสดงความคิดเห็นต่อผลงานเพลงของศิลปิน ใน YouTube ถือว่าเป็นการยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ ตามข้อใด ก. การนำผลงานนั้นมาเป็นส่วนหนึ่งในงานของตน ข. เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึง ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น ค. การติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึง ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น ง. ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือบุคคลอื่นในครอบครัว เฉลย 6. บริษัท ฟ้อนมิวสิค จำกัด ได้สร้างผลงานเพลงชื่อกอดขาเถียง ขึ้นใหม่ให้กับศิลปินในสังกัด ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2542 จากนั้นทำการเผยแพร่และโฆษณาบน YouTube เมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2562 ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ดังนั้น ผลงานดังกล่าวจะถูกเริ่มนับลิขสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ใด ก. วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2542 ข. วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562 ค. วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2562 ง. วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2562 7. ข้อใดไม่ใช่การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยความรับผิดชอบ ก. การกำหนดความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ข. การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องแม่นยำ ค. การไม่เข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือยินยอม ให้เข้าถึง ง. การดัดแปลงผลงานผู้อื่นและอ้างว่าเป็นผลงานของตนเอง 8. ข้อใดคือการซื้อสินค้าทางออนไลน์อย่างปลอดภัย ก. เลือกซื้อของผ่านเว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย http:// ข. ตรวจสอบราคาตลาด คำอธิบายสินค้าไม่เกินจริง ค. ใช้งาน Wifi สาธารณะในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ง. เลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ชื่นชอบและสนใจ โดยไม่มีการจดทะเบียนพาณิชย์ 9. เอ็มทำซ้ำแผ่นวีซีดีภาพยนตร์ โดยการคัดลอกจากแผ่น ต้นฉบับเพื่อนำมาขายในร้านของตนเอง ตามพระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เอ็มมีความผิดตามข้อใด ก. การเผยแพร่ต่อสาธารณชน ข. ขาย มีไว้เพื่อขาย เช่า มีไว้เพื่อเช่า ค. ขายหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร ง. แจกจ่ายในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของ ลิขสิทธิ์ 10. การสร้างข่าวปลอมและเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตราใด ก. มาตรา 14 ข. มาตรา 20 ค. มาตรา 15 ง. มาตรา 17 1. ง 2. ง 3. ง 4. ก 5. ค 6. ค 7. ง 8. ข 9. ข 10. ก แบบทดสอบหลังเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 7 ชั่วโมง เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 3 ชั่วโมง รายวิชา คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 1. ผลการเรียนรู้ 1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาเป็นขั้นตอน และเป็น ระบบ 3. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้น ในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. เพื่อให้ผู้เรียนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต 5. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการ จัดการทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสินใจ 6. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกลักษณะการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยได้ (K) 2. สามารถใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างปลอดภัย และมีความรับผิดชอบต่อสังคม (P,A) 3. สาระสำคัญ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งาน เช่น การทำธุรกรรม ออนไลน์ การซื้อสินค้าออนไลน์ และการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีจิตสำนึก และจริยธรรมที่ดี คำนึง ผลกระทบที่อาจส่งผลต่อผู้อื่น 4. สาระการเรียนรู้ 1. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างปลอดภัย 2. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างมีความรับผิดชอบ 5. รูปแบบกรสอน/วิธีการสอน 1. รูปแบบการสอนแบบการอภิปราย 2. วิธีการสอนแบบการใช้คำถาม (Questioning Method)
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะ 4 Cs ทักษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking) ทักษะการทำงานร่วมกัน (Collaboration Skill) ทักษะการสื่อสาร (Communication Skill) ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ 9.การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อวัดความรู้เดิม ของนักเรียนก่อนเข้าสู่กิจกรรม ขั้นนำ (10 นาที) 1. ครูถามนักเรียนคิดว่าเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตนักเรียนหรือไม่ อย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ มี เพราะทำให้ชีวิตสะดวกสบาย) 2. ครูถามนักเรียนต่อว่า นอกจากเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตนักเรียนแล้ว นักเรียนคิดว่าเทคโนโลยีมี บทบาทสำคัญต่อระดับองค์กร หรือระดับประเทศหรือไม่อย่างไร (แนวคำตอบ มี เนื่องจากทำให้มีระบบออนไลน์ใช้งาน มีใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์) ขั้นสอน (30 นาที) 1. ครูอธิบายเนื้อหาเรื่องการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 59-60 ชั่วโมงที่ 1
2. ครูสนทนาและถามนักเรียนว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามีบาทในทุกด้านยกตัวอย่าง เช่น ร้านค้า ต้องมีการ ปรับตัวการให้บริการแบบออนไลน์ในฐานะลูกค้าหากต้องการซื้อสินค้าออนไลน์นักเรียนจะประเมินความ น่าเชื่อถือของร้านค้าอย่างไร (แนวคำตอบ ร้านที่มีรีวิวเยอะ ร้านค้าที่มีชื่อเสียง) 3. ครูถามต่อว่าในการซื้อสินค้าออนไลน์ในขั้นตอนการชำระเงินค่าสินค้า นอกจากต้องประเมินความน่าเชื่อถือ ของร้านค้า นักเรียนจะมีวิธีการทำธุรกรรมออนไลน์หรือโอนเงินค่าสินค้าอย่างไรให้ปลอดภัย (แนวคำตอบ โอนเงินผ่านอุปกรณ์ตนเองเท่านั้น ไม่ใช้ Wi-Fi สาธารณะ ใช้บริการร้านค้าที่น่าเชื่อถือ) 4. ครูอธิบายเนื้อหาเรื่องการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 62 - 63 การทำธุรกรรมออนไลน์และหน้า 64 – 65 การ ซื้อสินค้าออนไลน์ 5. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึก Exercise ในหนังสือแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 39 ข้อ 1 – 3 เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ เรื่อง การทำธุรกรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย ขั้นสอน (50 นาที) 6. ครูทบทวนเนื้อหาจากชั่วโมงที่แล้ว นักเรียนได้เรียนรู้การทำธุรกรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย ในชั่วโมงนี้ครู ให้นักเรียนจับคู่กัน จากนั้นให้นักเรียนแต่ละคนเขียนชื่อสินค้าที่นักเรียนสนใจ 1 อย่าง และนำหัวข้อนั้น แลกกันกับคู่ของตนเอง 7. ครูให้แต่ละคนค้นหาร้านค้าออนไลน์ที่ขายสินค้าตามหัวข้อที่ได้รับจากคู่ของตนเอง และเลือกหาร้านค้าที่ น่าเชื่อถือมากที่สุด จำนวน 3 ร้านค้า 8. ครูให้นักเรียนบันทึกผลการทำกิจกรรมลงในใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัย 9. ครูสุ่มนักเรียน 5 – 6 คน นำเสนอใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัยเพื่อแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นร่วมกัน 10. ครูถามนักเรียนว่าจากการค้นหาร้านค้านักเรียนมีวิธีการประเมินความน่าเชื่อถือร้านค้าอย่างไร (แนวคำตอบ เลือกซื้อเว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย https//: เท่านั้น อ่านรีวิวก่อนสั่งซื้อ สำรวจราคาตลาดก่อน สั่งซื้อ) ชั่วโมงที่ 2
ขั้นสอน (40 นาที) 11. ครูสอบถามนักเรียนว่าจากคาบที่แล้วในการประเมินความน่าเชื่อถือของร้านค้า นักเรียนพบว่าร้านค้าที่ดี น่าเชื่อถือควรมีลักษณะอย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ คำอธิบายสินค้าถูกต้องไม่เกินจริง ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวลูกค้าในการรีวิวสินค้า ไม่นำข้อมูล ส่วนตัวลูกค้าไปเผยแพร่) 12. ครูอธิบายว่าในปัจจุบันการซื้อของออนไลน์ตามเว็บไซต์ต้องมีบัญชีผู้ใช้ก่อนจึงจะสามารถทำการสั่งซื้อ สินค้าได้ 13. ครูถามนักเรียนว่าโดยปกติเวลาใช้งานเว็บไซต์เหล่านี้สามารถสมัครบัญชีผู้ใช้ได้อย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Facebook ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google สมัครบัญชีผู้ใช้ด้วยอีเมล) 14. ครูอธิบายว่าในขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์ด้วยบัญชี Facebook หรือ บัญชี Google เว็บไซต์จะ เรียกขอสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวบัญชี Facebook หรือ Google ของเราซึ่งอาจส่งผลต่อการนำ ข้อมูลไปใช้และส่งผลเสียได้ ดังนั้น นอกจากการประเมินความน่าเชื่อถือของร้านค้าออนไลน์แล้ว ยังมีส่วน อื่นที่ต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างระมัดระวัง 15. ครูอธิบายเนื้อหาเรื่องการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 66-67 16. ครูให้นักเรียนถามคำถามนักเรียนโดยให้มีสถานการณ์ “หากนักเรียนเป็นเจ้าของร้านค้ารับสกรีนลายเสื้อ และมีลูกค้าติดต่อมาให้ผลิตเสื้อรูปการ์ตูนที่ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ผลงาน นักเรียนจะมีวิธีการ รับมือกับลูกค้าอย่างไร เช่น ข้อมูลที่เป็นส่วนตัวของลูกค้า ความถูกต้องของข้อมูลสินค้า กรรมสิทธิ์ และ ด้านอื่น พร้อมบอกเหตุผล” จากนั้นครูสุ่มนักเรียน 4 – 5 คน ตอบคำถาม 17. ครูถามนักเรียนว่าจากสถานการณ์ข้างต้น ในมุมมองนักเรียนผู้บริโภคและผู้ขาย ควรมีความรับผิดชอบต่อ กันอย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ ผู้บริโภคไม่จองสินค้าแล้วไม่ซื้อ ไม่ควรสั่งสินค้าที่ทรัพย์สินทางปัญญา ผู้ขายจะต้องคำนึงถึง เรื่องลิขสิทธิ์ควรศึกษากฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ให้ดีความถูกต้องของข้อมูลสินค้า) 18. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึก Exercise ในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 40 – 41 ข้อ 4 – 5 เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ ขั้นสรุป (10 นาที) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปนอกจากเราจะต้องระวังการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศให้ปลอดภัยกับตัวเรา แล้ว ยังต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นด้วย โดยเคารพความเป็นส่วนตัว คำนึงถึงความถูกต้อง แม่นยำของข้อมูล การเป็นเจ้าของ และการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต ชั่วโมงที่ 3
10. สื่อแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน วิทยาการคำนวณ ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ 3. ใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัย 11. การวัดและการประเมินผล 11.1 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรม จุดประสงค์ วิธีการประเมิน เครื่องมือการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 1. บอกลักษณะ การใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศ อย่างปลอดภัยได้ (K) ตรวจแบบฝึกหัด Exercise หน้า 39 แบบฝึกหัด (วิทยาการ คำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยี สารสนเทศ หน้า 39 บอกลักษณะการใช้งาน เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างปลอดภัยได้ถูกต้อง 60% ขึ้นไป 2. สามารถใช้งาน เทคโนโลยีสารสนเทศ ได้อย่างปลอดภัย และมีความ รับผิดชอบต่อสังคม (P,A) - ตรวจใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้า ออนไลน์อย่าง ปลอดภัย - ตรวจแบบฝึกหัด Exercise หน้า 40–41 - แบบประเมิน ใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้า ออนไลน์อย่างปลอดภัย - แบบฝึกหัด (วิทยาการ คำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยี สารสนเทศ หน้า 40–41 - ประเมินใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้า ออนไลน์อย่างปลอดภัย ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้น ไปถือว่าผ่าน - ประเมินการใช้งาน เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างมีความรับผิดชอบ ได้ได้ถูกต้อง 60% ขึ้นไป
11.2 การประเมินใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัย ประเด็นในการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 3 2 1 1. การประเมินความ น่าเชื่อถือของร้านค้า ออนไลน์ สามารถประเมินความน่าเชื่อถือ เหตุผลมีความสมเหตุสมผล เช่น เลือกเว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย https//: อ่านรีวิวก่อนสั่งซื้อ สำรวจราคาตลาดก่อนสั่งซื้อ ตรวจสอบคุณสมบัติของสินค้าที่ แจ้งไว้เกินจริงหรือไม่ ตรวจสอบ การจดทะเบียนร้านค้า ตรวจสอบ ประวัติการฉ้อโกง สามารถประเมินความ น่าเชื่อถือ เหตุผลมีความ สมเหตุสมผลเป็นส่วน ใหญ่ สามารถประเมินความ น่าเชื่อถือ เหตุผลมี ความสมเหตุสมผล เพียงบางส่วน 2. การทำธุรกรรม อย่างปลอดภัย สามารถเลือกวิธีการทำธุรกรรม อย่างปลอดภัยตามหลักการได้ และศึกษาตัวเลือกการชำระเงิน ทางร้านค้าออนไลน์อย่างถี่ถ้วน เช่น มีบริการเรียกเก็บเงิน ปลายทาง สามารถเลือกวิธีการทำ ธุรกรรมอย่างปลอดภัย ตามหลักการได้เป็นส่วน ใหญ่ สามารถเลือกวิธีการทำ ธุรกรรมอย่างปลอดภัย ตามหลักการได้เพียง บางส่วนเท่านั้น 3. การนำเสนอ ใช้ภาษาในการนำเสนอชัดเจน เหมาะสมและเข้าใจง่าย สามารถ ตอบคำถามได้ทุกข้อ ใช้ภาษาในการนำเสนอ ชัดเจน เหมาะสมและ เข้าใจง่าย สามารถตอบ คำถามได้เป็นส่วนใหญ่ ใช้ภาษาในการนำเสนอ เข้าใจง่าย สามารถตอบ คำถามได้เพียงบางส่วน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8 – 9 ดี 5 – 7 พอใช้ น้อยกว่า 5 ปรับปรุง
ใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัย 1. ชื่อสินค้า ................................................................................................................................................... 2. ชื่อร้านค้าออนไลน์และเว็บไซต์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เหตุผลในการเลือกร้านค้าออนไลน์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ถ้าสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ นักเรียนมีวิธีการชำระเงินอย่างไร ให้ปลอดภัย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้าออนไลน์อย่างปลอดภัย 1. ชื่อสินค้า ................................................................................................................................................... 2. ชื่อร้านค้าออนไลน์และเว็บไซต์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เหตุผลในการเลือกร้านค้าออนไลน์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ถ้าสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ นักเรียนมีวิธีการชำระเงินอย่างไร ให้ปลอดภัย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เฉลย
12. ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย 13. บันทึกผลหลังการสอน ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ( ) ตำแหน่ง .......
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 7 ชั่วโมง เรื่อง กฎหมายคอมพิวเตอร์และลิขสิทธิ์ เวลา 4 ชั่วโมง รายวิชา คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 1. ผลการเรียนรู้ 1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาเป็นขั้นตอน และเป็น ระบบ 3. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้น ในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. เพื่อให้ผู้เรียนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต 5. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการ จัดการทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสินใจ 6. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เข้าใจและยกตัวอย่างการปฏิบัติตามกฎหมายคอมพิวเตอร์และการใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่น โดยชอบธรรมได้ (K,P,A) 3. สาระสำคัญ กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศหลายฉบับ เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการ กระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติการ รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ลิขสิทธิ์ เป็นผลงานที่เกิดจากการใช้ปัญญา ความรู้ความสามารถ และความอุตสาหะพยายามในการ สร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งถือว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่ง ที่กฎหมายให้ความคุ้มครอง 4. สาระการเรียนรู้ 1. กฎหมายคอมพิวเตอร์ 2. ลิขสิทธิ์
5. รูปแบบกรสอน/วิธีการสอน 1. รูปแบบการสอนแบบการอภิปราย 2. วิธีการสอนโดยเน้นกระบวนการกลุ่ม (Group Process–Based Instruction) 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะ 4 Cs ทักษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking) ทักษะการทำงานร่วมกัน (Collaboration Skill) ทักษะการสื่อสาร (Communication Skill) ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ 9.การจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นนำ (10 นาที) 1. ครูถามนักเรียนว่าจากคาบที่ผ่านมาในการการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือซื้อของออนไลน์นักเรียน ควรระมัดระวังด้านใดอีกบ้าง (แนวคำตอบ ข้อมูลส่วนตัว ลิขสิทธิ์ผลงาน) 2. ครูถามนักเรียนว่าจากคาบที่แล้วเรื่องการประเมินความน่าเชื่อถือของร้านค้าออนไลน์หากนักเรียน ทำการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ไป แต่ไม่ได้รับสินค้า หรือได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามคำอธิบาย หรือสินค้าไม่มีคุณภาพ นักเรียนจะแก้ปัญหาอย่างไร (แนวคำตอบ ปริ้นท์หลักฐานที่มีเกี่ยวกับร้านค้า สินค้า และการโอนเงินทั้งหมดและไปแจ้งตำรวจ) ชั่วโมงที่ 1
ขั้นสอน (40 นาที) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3 – 4 คน จากนั้นแต่ละกลุ่มศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการ คํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 68 – 70 หัวข้อ “กฎหมายคอมพิวเตอร์” โดยให้แต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อ กฏหมายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 และค้นหา เพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต จากนั้นให้สมาชิกในกลุ่มสรุปให้เพื่อนในกลุ่มฟัง 2. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึก Exercise ในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 42 – 43 เพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจ ขั้นสอน (50 นาที) 3. จากชั่วโมงที่ผ่านมา ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3 – 4 คน และแบ่งหัวข้อกันศึกษา“กฎหมายคอมพิวเตอร์” ใน ชั่วโมงนี้ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคํานวณ) ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 71 – 73 หัวข้อ“ลิขสิทธิ์” และค้นหาเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต จากนั้นให้สมาชิกใน กลุ่มสรุปให้เพื่อนในกลุ่มฟัง 4. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึก Exercise ในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 44 – 45 เพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจ 5. จากนั้นครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด และเตรียมตัวนำเสนอในชั่วโมงถัดไป ขั้นสอน (50 นาที) 6. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแนวคิดของกลุ่มตนเอง ตรงตามความผิดในมาตราที่ศึกษาหรือไม่ อย่างไร 7. ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปแนวคิดจากคำตอบของกลุ่มอื่น 8. จากนั้นครูให้แต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนในการทำกิจกรรม Activity ในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการ คำนวณ) หน้า 46 – 47 ถ้าเกิดมีข้อสงสัยสามารถสอบถามครูผู้สอนได้ 9. จากนั้นให้นักเรียนแต่ลงมีปฏิบัติตามที่วางแผนไว้ พร้อมเตรียมนำเสนอในชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงที่ 2 ชั่วโมงที่ 3
ขั้นสอน (40 นาที) 10. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอกิจกรรม Activity 11. ครูซักถามกลุ่มที่นำเสนอ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและความถูกต้องของข้อมูล พร้อมทั้งเสนอแนะ เพิ่มเติม ขั้นสรุป (10 นาที) 1. ครูให้และนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาและความสัมพันธ์เกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ปลอดภัย มีความรับผิดชอบ ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบธรรม 10. สื่อแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. แบบฝึกหัด (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ 3. ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด 11. การวัดและการประเมินผล 11.1 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรม จุดประสงค์ วิธีการประเมิน เครื่องมือการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 1. เข้าใจและยกตัวอย่าง การปฏิบัติตามกฎหมาย คอมพิวเตอร์ และการใช้ ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบ ธรรมได้(K,P,A) - ตรวจแบบฝึกหัด Exercise หน้า 42 – 45 - ตรวจ Activity หน้า 46 – 47 - ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด - แบบฝึกหัด Exercise หน้า 42 – 45 - Activity หน้า 46 – 47 - ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด - ตอบคำถาม Exercise และ Activity ได้ถูกต้อง 60% ขึ้นไป - ประเมินใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้น ไปถือว่าผ่าน ชั่วโมงที่4
11.2 การประเมินใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด ประเด็นในการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 3 2 1 1. การอ้างอิงกฎหมาย สามารถเลือกอ้างอิง กฎหมายคอมพิวเตอร์ และการคุ้มครองลิขสิทธิ์ ได้ถูกต้องสอดคล้องกับ สถานการณ์ และเหตุผล ที่กล่าวถึงมีความ สมเหตุสมผล สามารถเลือกอ้างอิง กฎหมายคอมพิวเตอร์ และการคุ้มครองลิขสิทธิ์ ได้ถูกต้องสอดคล้องกับ สถานการณ์ และเหตุผล ที่กล่าวถึงมีความ สมเหตุสมผลเป็นส่วน ใหญ่ สามารถเลือกอ้างอิง กฎหมายคอมพิวเตอร์ และการคุ้มครองลิขสิทธิ์ ได้สอดคล้องกับ สถานการณ์ เหตุผลที่ กล่าวถึงมีความ สมเหตุสมผลเพียง บางส่วน 2. การนำเสนอ ใช้ภาษาในการนำเสนอ ชัดเจน เหมาะสมและ เข้าใจง่าย สามารถตอบ คำถามได้ทุกข้อ ใช้ภาษาในการนำเสนอ ชัดเจน เหมาะสมและ เข้าใจง่าย สามารถตอบ คำถามได้เป็นส่วนใหญ่ ใช้ภาษาในการนำเสนอ เข้าใจง่าย สามารถตอบ คำถามได้เพียงบางส่วน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 5 – 6 ดี 3 – 4 พอใช้ น้อยกว่า 3 ปรับปรุง
11.3 การประเมินการนำเสนอ Activity ประเด็นในการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 3 2 1 1. หัวข้อที่นำเสนอ หัวข้อในค้นหาข้อมูลมี ความน่าสนใจ ทันต่อ เหตุการณ์ สร้างสรรค์ และมีประโยชน์ต่อการ เผยแพร่ให้กับผู้อื่น หัวข้อในค้นหาข้อมูลมี ความน่าสนใจ สร้างสรรค์และมี ประโยชน์ต่อการ เผยแพร่ให้กับผู้อื่นเป็น ส่วนใหญ่ หัวข้อในค้นหาข้อมูล น่าสนใจ มีประโยชน์ต่อ การเผยแพร่ให้กับผู้อื่น เป็นเพียงบางส่วน 2. ความถูกต้องของ เนื้อหา เนื้อหาที่นำเสนอมีความ ถูกต้อง มีแหล่งที่มา น่าเชื่อถือ ไม่ละเมิด ลิขสิทธิ์หรือคัดลอกงาน ของผู้อื่น เนื้อหาที่นำเสนอมีความ ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ มี แหล่งที่มาน่าเชื่อถือ ไม่ ละเมิดลิขสิทธิ์หรือ คัดลอกงานของผู้อื่น เนื้อหาที่นำเสนอมีความ ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ มี แหล่งที่มาน่าเชื่อถือ น้อยหรือไม่มีเลย ไม่ ละเมิดลิขสิทธิ์หรือ คัดลอกงานของผู้อื่น 3. การนำเสนอ ใช้ภาษาในการนำเสนอ ชัดเจน เหมาะสมและ เข้าใจง่าย สามารถตอบ คำถามได้ทุกข้อ ใช้ภาษาในการนำเสนอ ชัดเจน เหมาะสมและ เข้าใจง่าย สามารถตอบ คำถามได้เป็นส่วนใหญ่ ใช้ภาษาในการนำเสนอ เข้าใจง่าย สามารถตอบ คำถามได้เพียงบางส่วน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8 – 9 ดี 5 – 7 พอใช้ น้อยกว่า 5 ปรับปรุง
11.4 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด✓ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 .1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีปรองดองและเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น .2 ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง .3 มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน .4 ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดา โดยไม่โต้แย้ง4.4 ตั้งใจเรียน .5 อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน .6 มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ .7 รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย .8 มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียน และโรงเรียน ลงชื่อ..................................................ผู้ประเมิน ................/.................../............ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ คะแนน 1 ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 51-60 ดีมาก 41-50 ดี 30-40 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง
ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด คำชี้แจง : ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 คน และตอบคำถามจากสถานการณ์ต่อไปนี้ สถานการณ์ ร้าน RC Power ได้ลงข้อมูลขายของออนไลน์ โดยขายแพคเกจสินค้าชุด Cosmos Wars Mini set ประกอบด้วยเสื้อยืดพิมพ์ลายโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Cosmos Wars ขนาด Free size จำนวน 2 ตัว และ DVD ภาพยนตร์ที่จัดทำซ้ำขึ้นใหม่จำนวน 1 ชุด พร้อมของแถมเป็น DVD โปรแกรม KKDPlayer สำหรับ ใช้เปิดไฟล์ประเภทวีดีโอโดยที่ร้าน RC Power ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ทางร้านลงข้อมูลในเว็บไซต์ว่าสินค้าและเสื้อยืดทั้งหมดเป็นของแท้ที่มีลิขสิทธิ์ จากสถานการณ์ดังกล่าวให้นักเรียนวิเคราะห์ว่ามีการกระทำความผิดใดตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 และควรได้รับโทษอย่างไร ความผิด ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... ........ ........................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................ ..................
ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผิด คำชี้แจง : ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 คน และตอบคำถามจากสถานการณ์ต่อไปนี้ สถานการณ์ ร้าน RC Power ได้ลงข้อมูลขายของออนไลน์ โดยขายแพคเกจสินค้าชุด Cosmos Wars Mini set ประกอบด้วยเสื้อยืดพิมพ์ลายโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Cosmos Wars ขนาด Free size จำนวน 2 ตัว และ DVD ภาพยนตร์ที่จัดทำซ้ำขึ้นใหม่จำนวน 1 ชุด พร้อมของแถมเป็น DVD โปรแกรม KKDPlayer สำหรับ ใช้เปิดไฟล์ประเภทวีดีโอโดยที่ร้าน RC Power ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ทางร้านลงข้อมูลในเว็บไซต์ว่าสินค้าและเสื้อยืดทั้งหมดเป็นของแท้ที่มีลิขสิทธิ์ จากสถานการณ์ดังกล่าวให้นักเรียนวิเคราะห์ว่ามีการกระทำความผิดใดตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 และควรได้รับโทษอย่างไร ความผิด ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................. ............ ....................................................................................................................... ....................................................... ............................................................................................................................. ................................................. เฉลย แนวคำตอบ มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 นำข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
12. ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย 13. บันทึกผลหลังการสอน ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ( ) ตำแหน่ง .......
แอปพลิเคชัน เวลา 14 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาเป็นขั้นตอน และเป็น ระบบ 3. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้น ในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. เพื่อให้ผู้เรียนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต 5. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการ จัดการทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสินใจ 6. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) ชั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน 2) Internet of Things (IoT) 3) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น Scratch, python, java, c, AppInventor 4) ตัวอย่างแอปพลิเคชัน เช่น โปรแกรมแปลงสกุลเงิน โปรแกรมผันเสียงวรรณยุกต์ โปรแกรมจำลอง การแบ่งเซลล์ ระบบรดน้ำอัตโนมัติ 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การทำให้อุปกรณ์หลายตัวสามารถสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล และทำงานร่วมกันได้นั้น เรียกว่า เทคโนโลยี IoT ต้องอาศัยความสามารถของ Smart Device ซึ่งอุปกรณ์ที่มีหน่วยประมวลผล หรือ เซนเซอร์ภายในตัว เพื่อส่งข้อมูลผ่าน Cloud Computing หรือ Wireless Network เป็นตัวกลางในการ รับส่งข้อมูลภายในเครือข่ายเพื่อประมวลผล และอาศัย Dashboard สำหรับแสดงผลและใช้ควบคุมการ ทำงานจากผู้ใช้ แอปพลิเคชัน เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยในด้านต่าง ๆ มีการออกแบบมาเพื่อ ใช้ งานในหลายรูปแบบ โดยแอปพลิเคชันแบ่งออกได้ 2 ประเภท ได้แก่แอปพลิเคชันระบบ แอปพลิเคชัน ที่ ตอบสนองต้องการของกลุ่มผู้ใช้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
การพัฒนาแอปพลิเคชัน มี 7 ขั้นตอน ดังนี้ 1) กำหนดปัญหา 2) ศึกษาความเป็นไปได้ 3) วิเคราะห์ความต้องการแอปพลิเคชัน 4) ออกแบบแอปพลิเคชัน 5) ทดสอบ 7) จัดทำเอกสาร ซึ่งการพัฒนาโปรแกรมในปัจจุบันนิยมใช้โปรแกรมภาษาไพทอน (Python) เพราะ เป็นภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมการพัฒนาแอปพลิเคชันด้วย โปรแกรมภาษาไพทอน เช่น โปรแกรมคำนวณหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทย (THB) เป็นเงินดอลลาร์ (USD) เป็นต้น ภาษาไพทอนเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเขียนโปรแกรมไปจนถึง การประยุกต์ใช้งานในระดับสูง เนื่องจากโครงสร้างภาษาที่ลดความยุ่งยากเรื่องไวยากรณ์ในการเขียน โปรแกรมลง อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. มีจิตสาธารณะ 5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง - 6. การวัดและการประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 6.1 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง แอปพลิเคชัน - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบ ก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจริง 6.2 การประเมินระหว่างการจัด กิจกรรม 1) แนวคิดและ องค์ประกอบของ IoT - ตรวจแบบฝึกหัด เรื่อง เทคโนโลยี IoT (ข้อ1-3) - ตรวจการออกแบบ แนวคิดในการพัฒนา เทคโนโลยี IoT ในแบบฝึกหัด เรื่อง เทคโนโลยี IoT (ข้อ5-7) - ประเมินการนำเสนอ แนวคิดในการพัฒนา - แบบประเมิน แบบฝึกหัด เรื่อง เทคโนโลยี IoT - แบบประเมิน แบบฝึกหัด - แบบประเมิน การนำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน เทคโนโลยี IoT - ตรวจแบบฝึกหัด เรื่อง เทคโนโลยี IoT (ข้อ 8) 2) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ ในการพัฒนา แอปพลิเคชัน - ตรวจแบบฝึกหัด หน้า 57-58 - ตรวจการออกแบบ แนวคิดในแบบฝึกหัด หน้า 58-59 - ประเมินการนำเสนอ แนวคิดการออกแบบ การพัฒนาแอปพลิเคชัน - ตรวจแบบฝึกหัด หน้า 66 ข้อ 7 - แบบฝึกหัด(วิทยาการ คำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แอปพลิเคชัน - แบบประเมิน แบบฝึกหัด - แบบประเมิน การนำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) การพัฒนาแอปพลิเคชัน ด้วยภาษา Python - อธิบายการทำงานของ โปรแกรมหรือ แอปพลิเคชันที่เขียน ด้วยภาษา Python - ตรวจโปรแกรมหรือ แอปพลิเคชันที่เขียน ด้วยโปรแกรมภาษา Python - บอกประโยชน์ของ แอปพลิเคชัน ที่พัฒนาขึ้น - แบบประเมินชิ้นงาน - แบบประเมิน การนำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน และ มีจิตสาธารณะ - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 6.3 การประเมินหลังเรียน 1) แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แอปพลิเคชัน - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบ หลังเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 2) การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง - - ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - แบบประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แอปพลิเคชัน
เรื่องที่ 1 : แนวคิดและองค์ประกอบของ IoT เวลา 4 ชั่วโมง วิธีการสอนแบบการใช้คำถาม (Questioning Method) วิธีการสอนโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) (10 นาที) 1. ครูถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า “นักเรียนรู้จักเทคโนโลยี IoT หรือไม่” (30 นาที) 1. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า77 เรื่อง เทคโนโลยี IoT 2. ครูถามนักเรียนว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือเครือข่ายไร้สายมีประโยชน์กับชีวิตเราอย่างไร (แนวคำตอบ เช่นสัญญาณ3G 4G ทำให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สะดวก) 3. ครูถามต่อว่าถ้าสมมติมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ แลปทอปของเราไม่มีความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่าย อินเทอร์เน็ตได้ นักเรียนคิดว่าจะมีผลกระทบต่อชีวิตอย่างไร (แนวคำตอบ ค้นหาข้อมูลได้ยาก แลกเปลี่ยนข้อมูลกันช้าเนื่องจากไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่สามารถอัปเดต ข่าวสารได้ Real time) 4. ครูอธิบายว่า ยุคก่อนหน้านี้มือถือ และคอมพิวเตอร์ของเรายังไม่มีความสามารถในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แต่ปัจจุบันอุปกรณ์เหล่านี้แทบทุกเครื่องจะมีความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าหากันได้ เช่น Bluetooth , Wifi Internet ทำให้อุปกรณ์หลายชิ้นเชื่อมต่อกัน จึงทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ อย่างรวดเร็ว 5. ครูอธิบายว่าลักษณะการทำให้อุปกรณ์หลายชิ้นเชื่อมต่อเข้าหากันผ่านเครือข่าย และทำการแลกเปลี่ยน ข้อมูลกันเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นเป็นแนวคิดที่คล้ายกับเทคโนโลยี IoT 6. ครูอธิบายแนวคิด จุดกำเนิด และองค์ประกอบของของเทคโนโลยี IoT ในหนังสือวิชาวิทยาการคำนวณ มัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 77-78 เรื่อง เทคโนโลยี IoT และองค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT ว่าเป็นการทำให้ อุปกรณ์ต่าง ๆ มีหน่วยประมวลผลและความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้ โดยไม่ต้องพึ่งพา ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น จึงทำให้อุปกรณ์สามารถ ส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันได้โดยตรง เช่น เครื่องพิมพ์ที่เชื่อมเข้าระบบ wifi และสั่งปริ้นท์งานผ่านระบบ wifi ไม่จำเป็นต้องเชื่อมเครื่องพิมพ์กับคอมพิวเตอร์อีกต่อไป แต่สามารถสั่งงานจากอุปกรณ์ใดก็ได้ที่เชื่อมวง เครือข่าย wifi เดียวกัน ขั้นนำ ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 2 (50 นาที) 7. ครูถามนักเรียนว่าหากเราสามารถพัฒนาเทคโนโลยี IoT ด้วยตนเองได้นักเรียนคิดว่าจะนำอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ใดมาเชื่อมต่อเครือข่าย และจะใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อเข้าเครือข่ายของอุปกรณ์นั้น อย่างไร สุ่มนักเรียนตอบคำถาม3-5คน (แนวคำตอบ แอร์เชื่อมเน็ตแล้วเช็คอุณหภูมิจากที่ไหนก็ได้จากนั้นก็สั่งเปิด-ปิดแอร์ตอนไหนก็ได้) 8. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดของ IoT เรื่ององค์ประกอบที่สำคัญทั้ง 3 ส่วนได้แก่ 1) Smart Device ใช้นำเข้าข้อมูลจากเซนเซอร์ 2) Cloud Computing หรือ Wireless Network เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูล 3) Dashboard เพื่อใช้สื่อสารกับผู้ใช้ ดังนั้นนอกจากอุปกรณ์จะสามารถเชื่อมต่อเข้าเป็นเครือข่ายเดียวกันได้แล้วจะต้องมีส่วนติดต่อที่ใช้ควบคุม การทำงานภายในระบบได้ด้วย เช่น สั่งสตาร์ทรถผ่านมือถือโดยใช้สื่อกลางเป็นระบบอินเทอร์เน็ต เปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านด้วยเครือข่ายไร้สาย Wifi 9. ครูให้นักเรียนวาดแผนผังการทำงานตามแนวคิดของเทคโนโลยี IoT และเขียนแนวคิดการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี IoT ในชีวิตประจำวันในแบบฝึกหัด ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยี หน้า 53-55 ข้อ 1-5 (แนวคิดเชิงคำนวณ : ในส่วนการแยกย่อย Decomposition นักเรียนฝึกกระบวนการแยกองค์ประกอบ โดยการเขียนองค์ประกอบย่อยของเทคโนโลยีในรูปแบบแผนผัง) ชั่วโมงที่ 3 (50 นาที) 10. ครูสอบถามนักเรียนว่าสงสัยหรือไม่ แอร์ที่บ้านเรารู้อุณหภูมิว่าเป็นกี่องศาภายในบ้านได้อย่างไร (แนวคำตอบ มีตัวตรวจจับ มีเครื่องวัดอุณหภูมิ มีเซนเซอร์ เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ) 11. ครูสอบถามนักเรียนว่า “นักเรียนรู้จักเซนเซอร์อะไรบ้าง หรือเคยเห็นเซนเซอร์ในอุปกรณ์ไหนบ้าง (แนวคำตอบ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน) 12. ครูแนะนำบอร์ด micro:bit (ไมโครบิท) ที่มีเซนเซอร์หลากหลายสามารถนำมาใช้พัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้ โดยให้นักเรียนเปิดหนังสือวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 79-8 เรื่อง ตัวอย่างอุปกรณ์ สำหรับเทคโนโลยี IoT และยกตัวอย่างอุปกรณ์ ไมโครบิท พร้อมบอก ส่วนประกอบเบื้องต้น (กรณีที่โรงเรียน มีmicro:bit ให้ครูแจกบอร์ด micro:bit ให้นักเรียนทำความรู้จัก) 13. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 82 จากนั้นครูอธิบายตัวอย่าง แนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT โดยใช้บอร์ดไมโครบิทเป็นอุปกรณ์ในการวัดอุณหภูมิแล้วส่งข้อมูลมา บนแทบเล็ท ซึ่งเป็นส่วนแสดงผลและใช้แทปเล็ทเป็นอุปกรณ์เพื่อควบคุมการทำงานของพัดลมได้โดยกด ขั้นสอน ขั้นสอน
ปุ่มสั่งงาน A บนแทปเล็ทเพื่อเปิดพัดลม พร้อมขึ้นสถานะเลข 1 บนบอร์ดไมโครบิท ให้ผู้ใช้รู้สถานะการ ทำงานของพัดลมได้ และกดปุ่มงาน B เพื่อปิดพัดลมพร้อมขึ้นสถานะ0 บนบอร์ดไมโครบิท 14. ครูตั้งคำถามกับนักเรียนว่าจากแนวคิดนี้หากให้นักเรียนปรับใช้และพัฒนาต่อนักเรียนจะนำแนวคิดไป พัฒนาต่ออย่างไร สุ่มนักเรียนตอบคำถาม 3-5 คน 15. ครูให้นักเรียนจับคู่กัน จากนั้นทำแบบฝึกหัดแบบฝึกหัด หน้า 55 ข้อที่ 6 โดยแต่ละคู่เลือกแค่ 1 แนวคิด จากแบบฝึกหัดข้อ 5 นำแนวคิดในการพัฒนาเทคโนโลยี IoT มาปรับปรุงต่อโดยประยุกต์ใช้ความสามารถ จากบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ ชั่วโมงที่ 4 (40 นาที) 16. จากชั่วโมงที่ผ่านมาครูให้นักเรียนแต่ละคู่เลือกแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT แล้ว ในชั่วโมงนี้ครูให้ นักเรียนลงมือทำแบบฝึกตามเวลาที่กำหนด 17. ครูให้แต่ละคู่ออกมานำเสนอแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ของตนเอง และให้เพื่อนในชั้นเรียนร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น 18. เมื่อนำเสนอเสร็จแล้ว ให้คุณครูถามทุกคู่ว่า “จากที่เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและฟังการนำเสนอ แนวคิดคู่อื่นแล้ว นักเรียนคิดว่าอยากปรับปรุงแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ของคู่ตนเองอย่างไร” (10 นาที) 1. ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปแนวคิดของเทคโนโลยี IoT 2. ครูถามนักเรียนว่าจากการฟังแนวคิดของเพื่อนในชั้นเรียนมีแนวคิดใดน่าสนใจ หรือแนวคิดใดที่มีประโยชน์ ในชีวิตประจำวันได้จริงบ้าง 3. ครูสรุปแนวคิด และองค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT ให้นักเรียนฟัง พร้อมทั้งเน้นถึงความสำคัญเรื่อง ประโยชน์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน 4. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง เทคโนโลยี IoT หน้า 56 ข้อ 7 ขั้นสรุป ขั้นสอน
เรื่องที่ 2 : ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน เวลา 4 ชั่วโมง รูปแบบการสอนแบบการอภิปราย วิธีการสอนโดยเน้นกระบวนการกลุ่ม (Group Process–Based Instruction) วิธีการสอนโดยใช้การแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) วิธีการสอนโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) (10 นาที) 1. ครูสนทนากับนักเรียนว่า ถ้าสมมตินักเรียนไปเที่ยวต่างประเทศ นักเรียนคาดว่าต้องใช้เงินประมาณเท่าไร 2. จากนั้นครูถามต่อว่าจำนวนเงินที่นักเรียนบอกเป็นสกุลเงินไทย หรือสกุลเงินประเทศที่ต้องการไปเที่ยว 3. ครูถามว่าแล้วนักเรียนสามารถแปลงจำนวนเงินบาทเป็นสกุลเงินของต่างประเทศอย่างไร (แนวคำตอบ สามารถคำนวณได้ด้วยโปรแกรมที่อยู่บนออนไลน์ หรือแอพพิเคชั่นบนมือถือและแท็ปเลท นอกจากนั้นยังสามารถคำนวณได้โดยดูจากการแปลงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินประจำวัน) 4. ครูสอบถามว่านักเรียนเคยสงสัยไหมว่าโปรแกรมเหล่านี้ทำงานอย่างไร (แนวคำตอบ : การแปลงค่า เทียบค่าเงิน ดูจากอัตราแลกเปลี่ยนเงิน) (40 นาที) 1. ครูกล่าวถึงลักษณะแบบนี้เป็นประโยชน์ของโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน 2. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 83 หัวข้อ การพัฒนาแอปพลิเคชัน 3. ครูอธิบายความหมาย และประเภทของแอปพลิเคชัน และยกตัวอย่างแอปพลิเคชันจากในหนังสือหน้า 84 หรือตามความเหมาะสม 4. ครูอธิบายเพิ่มเรื่องขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน ในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 85-88 5. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) หน้า 57-58 ข้อ 1-3 เพื่อตรวจสอบความ เข้าใจ ขั้นนำ ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 2 1. (50 นาที) 6. ครูถามนักเรียนว่าจากที่เราพูดถึงจำนวนเงิน และการแปลงสุกลเงินในคาบที่แล้วนักเรียนคาดว่าหาก ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันเราจะต้องใช้เครื่องมือใดบ้าง (แนวคำตอบ คอมพิวเตอร์ โปรแกรมภาษาC++ โปรแกรมภาษาPython ) 7. ครูอธิบายว่าการพัฒนาโปรแกรมสามารถใช้ภาษาในการเขียน และพัฒนาแอปพลิเคชันได้หลากหลาย สามารถเลือกใช้ได้ตามความถนัด 8. ครูสนทนากับนักเรียนว่า นักเรียนได้เรียนเขียนโปรแกรมภาษาPython เบื้องต้นมาแล้วในชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 แล้วรู้หรือไม่ว่าทำไมนักพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันส่วนใหญ่จึงเลือกใช้โปรแกรมนี้เรามาดู จุดเด่น จุดด้อยของโปรแกรมภาษาไพทอนกัน (เปิดหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า89) 9. ครูบอกนักเรียนว่า คาบนี้จะได้ศึกษาการทำงานของโปรแกรมแปลงค่าเงินโดยให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน วิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า89 หัวข้อซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนา แอปพลิเคชั่น 10. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Mu จากนั้นครูอธิบายหน้าที่การทำงานเครื่องมือของโปรแกรม เป็นการ ทบทวนเนื้อหาเดิมที่เรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 (เนื้อหาเดิมในหนังสือวิชา วิทยาการคำนวณ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่2 บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท.) หรือศึกษาเพิ่มเติมจากใบความรู้เรื่อง If else, while, for (สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้จากเว็บไซต์https://codewith.mu/en/download) ชั่วโมงที่ 3 1. (50 นาที) 11. ครูอธิบายเนื้อหาในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า90-105 เรื่องโปรแกรมคำนวณหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทย(THB) เป็นเงินดอลลาร์ (USD) และให้นักเรียน ศึกษาพร้อมทดลองเขียนโปรแกรมตามหนังสือ เพื่อความเข้าใจโปรแกรมมากขึ้น ให้ศึกษาในใบความรู้ เพิ่มเติมเรื่องการใช้งาน GUI ร่วมกับภาษาไพทอนในการเขียนโปรแกรม โดยใช้Tkinter 12. ครูถามนักเรียนว่าจากตัวอย่างที่ศึกษา สามารถนำแนวคิดการแปลงสกุลเงินไปปรับเป็นโปรแกรมรูปแบบ อื่นได้หรือไม่ อย่างไรบ้างให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และบันทึกรูปแบบที่เพื่อน นำเสนอแล้วสนใจลงกระดาษ A4 14. ครูสอบถามว่าจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้พบข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง ขั้นสอน ขั้นสอน
15. ครูให้นักเรียนจับคู่เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดและรูปแบบที่นักเรียนสนใจการพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเค ชัน จากนั้นเลือกแนวคิดที่น่าสนใจ 1 อย่างเพื่อเขียนรายละเอียดการทำงานตามขั้นตอนการพัฒนาแอป พลิเคชันดังกล่าวในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) หน้า 58-59 ข้อ 4 16. ครูให้นักเรียนนำแนวคิดที่ได้มาเขียน Flow Chart เพื่อนำไปพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) หน้า 60 ข้อ 5 ชั่วโมงที่ 4 1. (40 นาที) 17. ครูถามนักเรียนว่าจากการเขียน Flow Chart นักเรียนคาดว่าแนวคิดที่ตนเองเขียนมีโอกาสที่จะทำได้จริง หรือไม่ 18. ครูให้นักเรียนแต่ละคู่นำเสนอแนวคิดและผังงาน (Flowchart) ของตนเองหน้าชั้นเรียน ให้เพื่อน ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมทั้งครูคอยให้คำแนะนำ จากนั้นให้นำไปปรับปรุงแก้ไข (10 นาที) 1. ให้นักเรียนยกตัวอย่างแอปพลิเคชันที่มีประโยชน์ของในชีวิตประจำวัน โดยการตอบคำถามในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) หน้า 66 ข้อ 7 ขั้นสรุป ขั้นสอน
เรื่องที่ 3 : ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน (2) เวลา 6 ชั่วโมง รูปแบบการสอนแบบบรรยาย (Lecture) วิธีการสอนโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) (10 นาที) 1. ครูบอกกับนักเรียนว่าจากชั่วโมงที่ผ่านมาเราทราบดีว่าโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาแอปแพลิเคชันมีให้เลือก หลากหลาย แต่โปรแกรมที่นิยมกันและเรียนรู้ได้เร็วซึ่ง Python เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ 2. ครูสนทนากับนักเรียนว่า “จากตัวอย่างที่นักเรียนลองเขียนโปรแกรมแปลงค่าเงินด้วยโปรแกรมภาษา Python นักเรียนคิดว่า ฟังก์ชันหรือคำสั่งที่นักเรียนใช้ในการเขียนโปรแกรมข้างต้น เพียงพอสำหรับการ พัฒนาแอปพลิเคชันตามแนวคิดของนักเรียนหรือไม่” 3. ครูสนทนากับนักเรียนว่า “หากเราต้องการพัฒนาแอปแพลิเคชันด้วย Python จะต้องเรียนรู้อะไรบ้าง (แนวคำตอบ โปรแกรมที่ใช้เขียน เช่น Mu, คำสั่งให้โปรแกรมแสดงผล, เรียนรู้คำสั่งif-else, คำสั่งloop) (40 นาที) 1. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Mu จากนั้นครูอธิบายหน้าที่การทำงานเครื่องมือของโปรแกรม (เนื้อหาเดิมใน หนังสือวิชา วิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2) (สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้จากเว็บไซต์https://codewith.mu/en/download ) 2. ครูทบทวนการเขียนโปรแกรมคำสั่ง print เพื่อสั่งให้โปรแกรมแสดงผลตัวเลขและข้อความ 3. ครูทบทวนการเขียนโปรแกรมโดยใช้variable ด้วยตัวเลข และข้อความเพื่อการแสดงผล 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า กรณีที่สร้างตัวแปรของตัวเลข เช่น A = 5 กับ C = “5” แสดงผลออกมาเป็นเลข 5 เหมือนกัน แต่ความหมายต่างกัน A เป็นตัวแปรของตัวเลข ส่วน C เป็นตัวแปรของตัวอักษรหรือข้อความ เพราะมีสัญลักษณ์ “” 5. จากนั้นครูทบทวนรูปแบบรหัสข้อมูล (Format Code) เพิ่มเติม จากที่เคยเรียนผ่านมาแล้วในระดับชั้นม.2 6. ครูให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง ตัวแปรและตัวดำเนินการ ชั่วโมงที่ 2 2. (50 นาที) 7. ครูถามคำถามเพื่อทบทวนนักเรียนว่าจากการเรียนเรื่องการใช้งานตัวแปรเพื่อการดำเนินการทาง คณิตศาสตร์ มีข้อมูลตัวเลขแบบไหนบ้างที่สามารถนำมาดำเนินการทางคณิตศาสตร์ได้ (แนวคำตอบ จำนวนเงิน อุณหภูมิ น้ำหนัก ส่วนสูง เป็นตัวเลขที่มีค่าสามารถนำมาดำเนินการทาง คณิตศาสตร์ได้ ) 8. จากนั้นครูทบทวนการใช้งานคำสั่งการรับข้อมูลจากแป้นพิมพ์ input ขั้นนำ ขั้นสอน ขั้นสอน
9. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง การเขียนใช้คำสั่งแสดงผล อินพุต และเอาต์พุต และแบบฝึกหัด เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) หน้า 61 ข้อ 6.1 10. ครูสอบถามนักเรียนว่าฟังก์ชัน input ทำงานอย่างไร (แนวคำตอบ เป็นการรับข้อมูลจากแป้นพิมพ์ หรือนำเข้าข้อมูลจากแป้นพิมพ์) ชั่วโมงที่ 3 2. (50 นาที) 11. ครูถามนักเรียนว่าจากการเรียนเขียนโปรแกรมคำสั่งที่เรียนมา หากครูต้องการเขียนโปรแกรมจัดลำดับ ความนิยมของร้านอาหารโดยใช้ข้อมูลจากระดับความพอใจในการใช้บริการ 5 ระดับ นักเรียนคิดว่า สามารถทำได้หรือไม่ (แนวคำตอบ ไม่สามารถทำได้เนื่องจากเรียนคำสั่งการดำเนินการแล้ว แต่ยังไม่มีคำสั่งในการตรวจสอบค่า ) 12. ครูสอนนักเรียนใช้งานคำสั่ง if-else 13. จากนั้นครูให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การทำงานแบบมีเงื่อนไข และแบบฝึกหัด เทคโนโลยี(วิทยาการ คำนวณ) หน้า 62 ข้อ 6.2 14. ครูถามนักเรียนว่าสามารถนำความรู้ที่เรียนไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ การเขียนโปรแกรมตัดเกรด เขียนโปรแกรมBMI เป็นต้น) ชั่วโมงที่ 4 1. (50 นาที) 15. ครูถามนักเรียนว่าจากการเรียนเขียนโปรแกรมที่ผ่านมา หากครูต้องการให้นักเรียนเขียนโปรแกรมเพื่อ แสดงชื่อตนเอง 100 บรรทัด นักเรียนคิดว่าต้องเขียนคำสั่งเยอะหรือไม่ (แนวคำตอบ เยอะ เนื่องจากต้องเขียนคำสั่งบรรทัดต่อบรรทัดในการแสดงผล ) 16. ครูบอกที่มาและอธิบายเรื่องการใช้งานคำสั่งทำซ้ำและคำสั่งอื่นๆ ได้แก่ while , for 17. ครูสอนนักเรียนใช้งานคำสั่ง while / for 18. ครูให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การทำซ้ำ แบบฝึกหัด เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) หน้า 63 -65 ข้อ 6.3 - 6.5 19. ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกคำสั่งในการเขียนโปรแกรมที่ได้เรียนทั้งหมด พร้อมบอกหน้าที่ของแต่ละคำสั่ง ขั้นสอน ขั้นสอน
ชั่วโมงที่ 5 1. (50 นาที) 20. จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ครูให้นักเรียนแต่ละคู่นำเสนอแนวคิดและผังงาน (Flowchart) ของตนเอง หน้าชั้นเรียน ให้เพื่อนร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมทั้งครูคอยให้คำแนะนำ จากนั้นให้นำไป ปรับปรุงแก้ไข 21. ในคาบนี้ครูให้นักเรียนนำแนวคิดที่ปรับปรุงแล้วมาพัฒนาต่อเพื่อเขียนโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันด้วย ภาษา Python หรือนักเรียนจะออกแบบแนวคิดการพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันใหม่ก็ได้ 22. ครูให้นักเรียนลงมือเขียนโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันด้วยภาษา Python ชั่วโมงที่ 6 1. (40 นาที) 23. ครูให้นักเรียนลงมือเขียนโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันด้วยภาษา Python (ต่อ) 24. ครูให้นักเรียนทดสอบโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาด (10 นาที) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละคู่นำเสนอโปรแกรมหรือแอปพลิเคชัน ให้เพื่อนร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อม ทั้งครูคอยให้คำแนะนำเพิ่มเติม 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ม.2 2. หนังสือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แอปพลิเคชัน 3. แบบฝึกหัด (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แอปพลิเคชัน 4. โปรแกรม Mu 5. ใบความรู้ เรื่อง การใช้คำสั่งแสดงผลอินพุต และเอาต์พุต 6. ใบความรู้ เรื่อง ตัวแปรและตัวดำเนินการ 7. ใบความรู้ เรื่อง การทำงานแบบมีเงื่อนไข 8. ใบความรู้ เรื่อง การทำซ้ำ 9. ใบงานที่ 4.3.1 เรื่อง ตัวแปรและตัวดำเนินการ 10. ใบงานที่ 4.3.2 เรื่อง การใช้คำสั่งแสดงผลอินพุต และเอาต์พุต 11. ใบงานที่ 4.3.3 เรื่อง การทำงานแบบมีเงื่อนไข ขั้นสรุป ขั้นสอน ขั้นสอน
12. ใบงานที่ 4.3.4 เรือง การทำซ้ำ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องคอมพิวเตอร์ 2) อินเทอร์เน็ต
หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. หากระบบควบคุมแอร์อาคารแห่งหนึ่งถูกออกแบบ ให้เชื่อมเข้าอินเทอร์เน็ตโดยอาศัย wifi เพื่อให้สั่งงาน การเปิด-ปิดแอร์ได้จากมือถือจากการสื่อสารด้วยอินเทอร์เน็ต ถือว่าเป็นลักษณะของเทคโนโลยี IoT หรือไม่ เพราะเหตุใด ก. ไม่ใช่ เพราะ ต้องมีอุปกรณ์มากกว่าหนึ่งอย่างที่ เชื่อมเข้ากับระบบ wifi และอินเทอร์เน็ต ข. ใช่ เพราะ ระบบแอร์เชื่อมกับสัญญาณ wifi และอินเทอร์เน็ต ค. ใช่ เพราะ ระบบแอร์เชื่อมกับอินเทอร์เน็ตและการสั่งงาน จากมือถือได้ ง. ไม่ใช่ เพราะ ระบบการทำงานของเทคโนโลยีต้องเชื่อมกับ อุปกรณ์ไฟฟ้ามากกว่าหนึ่งชนิด 2. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT ก. Compiler ข. Dashboard ค. Smart Device ง. Cloud Computing 3. หากกำลังพูดถึง “แอปพลิเคชั่นระบบและแอปพลิเคชัน ที่ตอบสนองต่อความต้องการผู้ใช้” แสดงว่าผู้พูดกำลังพูดถึง เรื่องอะไร ก. ประเภทของผังงาน ข. ประเภทของแอปพลิเคชัน ค. ขั้นตอนการเขียนของผังงาน ง. ขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน 4. “Windows Android Linux” ข้อใดเกี่ยวข้องกับข้อความ ดังกล่าว ก. แอปพลิเคชั่นบราวเซอร์ ข. แอปพลิเคชั่นบริการ ค.แอปพลิเคชันเทคนิค ง. แอปพลิเคชันระบบ 5. ข้อใดคือขั้นตอนแรกของขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ก. กำหนดปัญหา ข. วิเคราะห์ปัญหา ค. ศึกษาความเป็นไปได้ ง. วิเคราะห์ความ 6. คำสั่ง print() จะให้ผลลัพธ์การทำงานอย่างไร ก. แสดงผลบนเว็บไซต์ ข. แสดงผลบนหน้าจอ ค. แสดงผลบนบราวเซอร์ ง. แสดงผลผ่านเครื่องพิมพ์ 7. หากต้องการให้โปรแกรมแสดงผลคำว่า Monday ต้องกรอก เลขใดในโปรแกรม ก. เลข 1 ข. เลข 2 ค. เลข 3 ง. เลข 4 เฉลย 8. หากต้องการเปลี่ยนโปรแกรมต่อไปนี้ให้รับค่าเฉพาะจำนวนเต็ม สามารถทำได้ด้วยวิธีใด ก. บรรทัดที่6 เป็น dollar = baht / rate (int) ข. บรรทัดที่4และ5 เป็น rate = float(int('ป้อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยต่อ 1 ดอลลาร์ : ') rate = float(int('ป้อนจำนวนเงินบาทไทย : ') ค. บรรทัดที่4และ5 เป็น rate = int(input('ป้อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยต่อ 1 ดอลลาร์ : ') rate = int(input('ป้อนจำนวนเงินบาทไทย : ') ง. บรรทัดที่8 เป็น print('คำนวณเป็นเงินดอลลาร์ได้ : %.f ดอลลาร์' % dollar) 9. หากต้องการตัวแปรเก็บข้อความคำว่า Welcome to program และค่าตัวเลข 497 ข้อเขียนคำสั่งได้ถูกต้อง ก. text = Welcome to program , x = 497 ข. text = Welcome to program ; x = "497" ค. text = "Welcome to program" ; x = 497 ง. text = "Welcome to program" , x = "497" 10. ข้อใดจะให้ผลลัพธ์เป็นการแสดงผลคำว่า Application 3 รอบ ก. ข. ค. ง. แบบทดสอบก่อนเรียน 1. ค 2. ก 3. แบบทดสอบ ข 4. ง 5. กหลัง 6. ข 7. ข 8. ค 9. ค 10. ง เรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. หากต้องการตัวแปรเก็บข้อความคำว่า Welcome to program และค่าตัวเลข 497 ข้อเขียนคำสั่งได้ถูกต้อง ก. text = Welcome to program , x = 497 ข. text = Welcome to program ; x = "497" ค. text = "Welcome to program" ; x = 497 ง. text = "Welcome to program" , x = "497" 2. ข้อใดคือขั้นตอนแรกของขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ก. กำหนดปัญหา ข. วิเคราะห์ปัญหา ค. ศึกษาความเป็นไปได้ ง. วิเคราะห์ความต้องการ 3. หากต้องการเปลี่ยนโปรแกรมต่อไปนี้ให้รับค่าเฉพาะจำนวน เต็มสามารถทำได้ด้วยวิธีใด ก. บรรทัดที่6 เป็น dollar = baht / rate (int) ข. บรรทัดที่4และ5 เป็น rate = float(int('ป้อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยต่อ 1 ดอลลาร์ : ') rate = float(int('ป้อนจำนวนเงินบาทไทย : ') ค. บรรทัดที่4และ5 เป็น rate = int(input('ป้อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยต่อ 1 ดอลลาร์ : ') rate = int(input('ป้อนจำนวนเงินบาทไทย : ') ง. บรรทัดที่8 เป็น print('คำนวณเป็นเงินดอลลาร์ได้ : %.f ดอลลาร์' % dollar) 4. คำสั่ง print() จะให้ผลลัพธ์การทำงานอย่างไร ก. แสดงผลบนเว็บไซต์ ข. แสดงผลบนหน้าจอ ค. แสดงผลบนบราวเซอร์ ง. แสดงผลผ่านเครื่องพิมพ์ 5. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT ก. Compiler ข. Dashboard ค. Smart Device ง. Cloud Computing เฉลย 6. ข้อใดจะให้ผลลัพธ์เป็นการแสดงผลคำว่า Application 3 รอบ ก. ข. ค. ง. 7. หากต้องการให้โปรแกรมแสดงผลคำว่า Monday ต้องกรอกเลข ใดในโปรแกรม ก. เลข 1 ข. เลข 2 ค. เลข 3 ง. เลข 4 8. หากกำลังพูดถึง “แอปพลิเคชั่นระบบและแอปพลิเคชัน ที่ตอบสนองต่อความต้องการผู้ใช้” แสดงว่าผู้พูดกำลังพูดถึงเรื่อง อะไร ก. ประเภทของผังงาน ข. ประเภทของแอปพลิเคชัน ค. ขั้นตอนการเขียนของผังงาน ง. ขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน 9. “Windows Android Linux” ข้อใดเกี่ยวข้องข้อใด ก. แอปพลิเคชั่นบราวเซอร์ ข. แอปพลิเคชั่นบริการ ค.แอปพลิเคชันเทคนิค ง. แอปพลิเคชันระบบ 10. หากระบบควบคุมแอร์อาคารแห่งหนึ่งถูกออกแบบ ให้เชื่อมเข้าอินเทอร์เน็ตโดยอาศัย wifi เพื่อให้สั่งงาน การเปิด-ปิดแอร์ได้จากมือถือจากการสื่อสารด้วยอินเทอร์เน็ต ถือว่า เป็นลักษณะของเทคโนโลยี IoT หรือไม่ เพราะเหตุใด ก. ไม่ใช่ เพราะ ต้องมีอุปกรณ์มากกว่าหนึ่งอย่างที่ เชื่อมเข้ากับระบบ wifi และอินเทอร์เน็ต ข. ใช่ เพราะ ระบบแอร์เชื่อมกับสัญญาณ wifi และอินเทอร์เน็ต ค. ใช่ เพราะ ระบบแอร์เชื่อมกับอินเทอร์เน็ตและสั่งงานจากมือถือ ง. ไม่ใช่ เพราะ ระบบการทำงานของเทคโนโลยีต้องเชื่อมกับอุปกรณ์ ไฟฟ้ามากกว่าหนึ่งชนิด และสามารถควบคุมได้ทุกอุปกรณ์ 1. ค 2. ก 3. ค 4. ข 5. ก 6. ง 7. ข 8. ข 9. ง 10. ค
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 แอปพลิเคชัน เวลา 14 ชั่วโมง เรื่อง แนวคิดและองค์ประกอบของ IoT เวลา 4 ชั่วโมง รายวิชา คอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 1. ผลการเรียนรู้ 1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาเป็นขั้นตอน และเป็น ระบบ 3. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบื้องต้น ในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. เพื่อให้ผู้เรียนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต 5. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการ จัดการทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสินใจ 6. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายแนวคิดและองค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT ได้ (K) 2. ออกแบบแนวคิดเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้ (P) 3. ยกตัวอย่างประโยชน์ของเทคโนโลยี IoT ในชีวิตประจำวันได้ (A) 3. สาระสำคัญ การทำให้อุปกรณ์หลายตัวสามารถสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล และทำงานร่วมกันได้นั้น เรียกว่า เทคโนโลยี IoT ต้องอาศัยความสามารถของ Smart Device ซึ่งอุปกรณ์ที่มีหน่วยประมวลผล หรือเซนเซอร์ ภายในตัว เพื่อส่งข้อมูลผ่าน Cloud Computing หรือ Wireless Network เป็นตัวกลางในการรับส่งข้อมูล ภายในเครือข่ายเพื่อประมวลผล และอาศัย Dashboard สำหรับแสดงผลและใช้ควบคุมการทำงานจากผู้ใช้ 4. สาระการเรียนรู้ 1. แนวคิดของเทคโนโลยี IoT 2. องค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT 3. อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับพัฒนาเทคโนโลยี IoT 4. ข้อดีข้อเสียของเทคโนโลยี IoT 5. รูปแบบการสอน/วิธีการสอน 1. วิธีการสอนแบบการใช้คำถาม (Questioning Method) 2. วิธีการสอนโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking)
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะ 4Cs ทักษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking) ทักษะการทำงานร่วมกัน (Collaboration Skill) ทักษะการสื่อสาร (Communication Skill) ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ 9. การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แอปพลิเคชัน เพื่อวัดความรู้เดิมของ นักเรียนก่อนเข้าสู่กิจกรรม ขั้นนำ (5 นาที) 1. ครูถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า “นักเรียนรู้จักเทคโนโลยี IoT หรือไม่” ขั้นสอน (30 นาที) 1. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือวิชาวิทยาการคำนวณ บริษัทอักษรเจริญทัศน์ อจท ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า77 เรื่อง เทคโนโลยี IoT 2. ครูถามนักเรียนว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือเครือข่ายไร้สายมีประโยชน์กับชีวิตเราอย่างไร (แนวคำตอบ เช่นสัญญาณ3G 4G ทำให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สะดวก) 3. ครูถามต่อว่าถ้าสมมติมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ แลปทอปของเราไม่มีความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่าย อินเทอร์เน็ตได้ นักเรียนคิดว่าจะมีผลกระทบต่อชีวิตอย่างไร (แนวคำตอบ ค้นหาข้อมูลได้ยาก แลกเปลี่ยนข้อมูลกันช้าเนื่องจากไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่สามารถอัปเดต ข่าวสารได้ Real time) ชั่วโมงที่ 1
4. ครูอธิบายว่า ยุคก่อนหน้านี้มือถือ และคอมพิวเตอร์ของเรายังไม่มีความสามารถในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แต่ปัจจุบันอุปกรณ์เหล่านี้แทบทุกเครื่องจะมีความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าหากันได้ เช่น Bluetooth , Wifi Internet ทำให้อุปกรณ์หลายชิ้นเชื่อมต่อกัน จึงทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ อย่างรวดเร็ว 5. ครูอธิบายว่าลักษณะการทำให้อุปกรณ์หลายชิ้นเชื่อมต่อเข้าหากันผ่านเครือข่าย และทำการแลกเปลี่ยน ข้อมูลกันเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นเป็นแนวคิดที่คล้ายกับเทคโนโลยี IoT 6. ครูอธิบายแนวคิด จุดกำเนิด และองค์ประกอบของของเทคโนโลยี IoT ในหนังสือวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 77-78 เรื่อง เทคโนโลยี IoT และองค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT ว่าเป็นการทำให้ อุปกรณ์ต่าง ๆ มีหน่วยประมวลผลและความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้ โดยไม่ต้องพึ่งพา ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น จึงทำให้อุปกรณ์สามารถ ส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันได้โดยตรง เช่น เครื่องพิมพ์ที่เชื่อมเข้าระบบ wifi และสั่งปริ้นท์งานผ่านระบบ wifi ไม่จำเป็นต้องเชื่อมเครื่องพิมพ์กับคอมพิวเตอร์อีกต่อไป แต่สามารถสั่งงานจากอุปกรณ์ใดก็ได้ที่เชื่อมวงเครือข่าย wifi เดียวกัน ขั้นสอน (50 นาที) 7. ครูถามนักเรียนว่าหากเราสามารถพัฒนาเทคโนโลยี IoT ด้วยตนเองได้นักเรียนคิดว่าจะนำอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ใดมาเชื่อมต่อเครือข่าย และจะใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อเข้าเครือข่ายของอุปกรณ์นั้น อย่างไร สุ่มนักเรียนตอบคำถาม3-5คน (แนวคำตอบ แอร์เชื่อมเน็ตแล้วเช็คอุณหภูมิจากที่ไหนก็ได้จากนั้นก็สั่งเปิด-ปิดแอร์ตอนไหนก็ได้) 8. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดของ IoT เรื่ององค์ประกอบที่สำคัญทั้ง 3 ส่วนได้แก่ 1) Smart Device ใช้นำเข้าข้อมูลจากเซนเซอร์ 2) Cloud Computing หรือ Wireless Network เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูล 3) Dashboard เพื่อใช้สื่อสารกับผู้ใช้ ดังนั้นนอกจากอุปกรณ์จะสามารถเชื่อมต่อเข้าเป็นเครือข่ายเดียวกันได้แล้วจะต้องมีส่วนติดต่อที่ใช้ควบคุม การทำงานภายในระบบได้ด้วย เช่น สั่งสตาร์ทรถผ่านมือถือโดยใช้สื่อกลางเป็นระบบอินเทอร์เน็ต เปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านด้วยเครือข่ายไร้สาย Wifi 9. ครูให้นักเรียนวาดแผนผังการทำงานตามแนวคิดของเทคโนโลยี IoT และเขียนแนวคิดการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี IoT ในชีวิตประจำวันในแบบฝึกหัด ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีหน้า 53-55 ข้อ 1-5 (แนวคิดเชิงคำนวณ : ในส่วนการแยกย่อย Decomposition นักเรียนฝึกกระบวนการแยกองค์ประกอบ โดยการเขียนองค์ประกอบย่อยของเทคโนโลยีในรูปแบบแผนผัง) ชั่วโมงที่ 2
ขั้นสอน (50 นาที) 10. ครูสอบถามนักเรียนว่าสงสัยหรือไม่ แอร์ที่บ้านเรารู้อุณหภูมิว่าเป็นกี่องศาภายในบ้านได้อย่างไร (แนวคำตอบ มีตัวตรวจจับ มีเครื่องวัดอุณหภูมิ มีเซนเซอร์ เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ) 11. ครูสอบถามนักเรียนว่า “นักเรียนรู้จักเซนเซอร์อะไรบ้าง หรือเคยเห็นเซนเซอร์ในอุปกรณ์ไหนบ้าง (แนวคำตอบ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน) 12. ครูแนะนำบอร์ด micro:bit (ไมโครบิท) ที่มีเซนเซอร์หลากหลายสามารถนำมาใช้พัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้ โดยให้นักเรียนเปิดหนังสือวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า79-8 เรื่อง ตัวอย่างอุปกรณ์ สำหรับเทคโนโลยี IoT และยกตัวอย่างอุปกรณ์ ไมโครบิท พร้อมบอกส่วนประกอบเบื้องต้น (กรณีที่ โรงเรียนมีmicro:bit ให้ครูแจกบอร์ด micro:bit ให้นักเรียนทำความรู้จัก) 13. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 82 จากนั้นครูอธิบายตัวอย่าง แนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT โดยใช้บอร์ดไมโครบิทเป็นอุปกรณ์ในการวัดอุณหภูมิแล้วส่งข้อมูลมา บนแทบเล็ท ซึ่งเป็นส่วนแสดงผลและใช้แทปเล็ทเป็นอุปกรณ์เพื่อควบคุมการทำงานของพัดลมได้โดยกด ปุ่มสั่งงาน A บนแทปเล็ทเพื่อเปิดพัดลม พร้อมขึ้นสถานะเลข 1 บนบอร์ดไมโครบิท ให้ผู้ใช้รู้สถานะการ ทำงานของพัดลมได้ และกดปุ่มงาน B เพื่อปิดพัดลมพร้อมขึ้นสถานะ0 บนบอร์ดไมโครบิท 14. ครูตั้งคำถามกับนักเรียนว่าจากแนวคิดนี้หากให้นักเรียนปรับใช้และพัฒนาต่อนักเรียนจะนำแนวคิดไป พัฒนาต่ออย่างไร สุ่มนักเรียนตอบคำถาม 3-5 คน 15. ครูให้นักเรียนจับคู่กัน จากนั้นทำแบบฝึกหัดแบบฝึกหัด หน้า 55 ข้อที่ 6 โดยแต่ละคู่เลือกแค่ 1 แนวคิด จากแบบฝึกหัดข้อ 5 นำแนวคิดในการพัฒนาเทคโนโลยี IoT มาปรับปรุงต่อโดยประยุกต์ใช้ความสามารถ จากบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ ขั้นสอน (40 นาที) 16. จากชั่วโมงที่ผ่านมาครูให้นักเรียนแต่ละคู่เลือกแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT แล้ว ในชั่วโมงนี้ครูให้ นักเรียนลงมือทำแบบฝึกตามเวลาที่กำหนด 17. ครูให้แต่ละคู่ออกมานำเสนอแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ของตนเอง และให้เพื่อนในชั้นเรียนร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น 18. เมื่อนำเสนอเสร็จแล้ว ให้คุณครูถามทุกคู่ว่า “จากที่เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและฟังการนำเสนอ แนวคิดคู่อื่นแล้ว นักเรียนคิดว่าอยากปรับปรุงแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ของคู่ตนเองอย่างไร” ขั้นสรุป (10 นาที) 1. ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปแนวคิดของเทคโนโลยี IoT ชั่วโมงที่ 3 ชั่วโมงที่ 4
2. ครูถามนักเรียนว่าจากการฟังแนวคิดของเพื่อนในชั้นเรียนมีแนวคิดใดน่าสนใจ หรือแนวคิดใดที่มีประโยชน์ ในชีวิตประจำวันได้จริงบ้าง 3. ครูสรุปแนวคิด และองค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT ให้นักเรียนฟัง พร้อมทั้งเน้นถึงความสำคัญเรื่อง ประโยชน์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน 4. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง เทคโนโลยี IoT หน้า 56 ข้อ 7 10. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แอปพลิเคชัน 2. แบบฝึกหัด (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แอปพลิเคชัน 11. การวัดและการประเมินผล 11.1 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรม จุดประสงค์ วิธีการประเมิน เครื่องมือการประเมิน เกณฑ์การประเมิน 1.อธิบายแนวคิดและ องค์ประกอบของ เทคโนโลยี IoT ได้ (K) ตวรจแบบฝึกหัด เรื่อง เทคโนโลยี IoT (ข้อ1-3) แบบประเมิน แบบฝึกหัด เรื่อง เทคโนโลยี IoT อธิบายแนวคิดและ องค์ประกอบของ เทคโนโลยี IoT ได้ ใน ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป ถือว่าผ่าน 2.ออกแบบแนวคิดเพื่อ พัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้ (P) 1.ตรวจการออกแบบ แนวคิดในการพัฒนา เทคโนโลยี IoT ใน แบบฝึกหัดเรื่อง เทคโนโลยี IoT (ข้อ5-7) 2.ประเมินการนำเสนอ แนวคิดในการพัฒนา เทคโนโลยี IoT 1.แบบประเมิน แบบฝึกหัด 2.แบบประเมิน การนำเสนอ 1.ออกแบบแนวคิดในการ พัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้ ตรงตามแนวคิดของ เทคโนโลยี ในระดับ คุณภาพพอใช้ขึ้นไปถือว่า ผ่าน 2.นำเสนอแนวคิดในการ พัฒนาเทคโนโลยี IoT ใน ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป ถือว่าผ่าน 3.ยกตัวอย่างประโยชน์ ของเทคโนโลยี IoT ใน ชีวิตประจำวันได้ (A) ตรวจแบบฝึกหัดเรื่อง เทคโนโลยี IoT (ข้อ 8) แบบฝึกหัด เรื่อง เทคโนโลยี IoT ข้อ 7 ยกตัวอย่างเทคโนโลยี IoT ในชีวิตประจำวัน ถูกต้อง 60% ขึ้นไปถือว่าผ่าน