แผนการจัดการเรียนรู้ เล่มที่ 2

31

32

ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. ...................................

ลงชอ่ื ...........................................ผตู้ รวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หัวหน้ากลมุ่ สาระ ฯ

ความคิดเห็นของรองผูอ้ ำนวยการกล่มุ บรหิ ารวิชาการ
................................................................................................................................................. ...............
.................................................................................................................... ............................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชือ่ ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นายสรุ ชยั ทองทิพย์ )

รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ

ความคิดเหน็ ของผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ อุดรธานี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชอื่ ...........................................ผ้ตู รวจสอบ
( นายคมสนั ต์ ถานกางสยุ่ )
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น

33

เกณฑก์ ารตรวจแบบฝึกหดั

แกป้ ญั หา ความ ความ ความ ตรงตอ่ รวม
ที่ ช่อื - สกุล ดว้ ยตวั เอง สะอาด รับผดิ ชอบ ถกู ต้อง เวลา

2 2 2 2 2 10

ลงช่ือ................................................ผู้ประเมนิ
(.......................................................)

เกณฑก์ ารประเมิน 0 – 4 ปรบั ปรุง
คะแนน 5 – 6 พอใช้
คะแนน 7 – 8 ดี
คะแนน 9 – 10 ดมี าก
คะแนน

34

แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล

คำชแ้ี จง ใหค้ รผู ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้ว / ลงใน
ช่องที่ตรงกับระดับคะแนน

ลำดบั มีความใฝร่ ู้ มีความมงุ่ มัน่ ใน มสี ว่ นร่วมใน รวม 15
ท่ี
ช่ือ -สกุล ใฝ่เรยี น การทำงาน การทำกิจกรรม คะแนน

5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 32 1

ลงช่ือ................................................ผปู้ ระเมนิ
(.......................................................)

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ระดบั การมสี ่วนร่วมมากที่สดุ ให้ 5 คะแนน
ระดับการมสี ว่ นรว่ มมาก ให้ 4 คะแนน
13 – 15 ดีมาก ระดบั การมสี ่วนรว่ มปานกลาง ให้ 3 คะแนน
10 – 12 ดี ระดบั การมีสว่ นร่วมน้อย ให้ 2 คะแนน
7–9 ระดบั การมีสว่ นร่วมนอ้ ยทสี่ ดุ ให้ 1 คะแนน
4 –6 ปานกลาง
1– 3 พอใช้
ปรับปรุง

35

36

สรปุ

37

38

แนวค39ำตอบ

ไมใ่ ช่อัตราเร็วที่แทจ้ ริง เพราะการเคลอื่ นท่ขี องรถมกี ารเปลี่ยนแปลงอัตราเรว็ อยู่ตลอดเวลา ดังนน้ั
อัตราเรว็ ทีแ่ สดงในตารางจึงเปน็ อัตราเร็วเฉล่ีย

ต้นขา้ ว
ตน้ ข้าวใช้เวลาในการว่ิงนอ้ ยที่สดุ คือ 9.99 s

ตน้ ขา้ ว
ในเวลา 10 s ต้นขา้ ววง่ิ ได้ระยะทางไกลท่สี ุดคอื 100.1 m

ระยะทาง สรปุ 40

8.46 8.46 m/s
8.31 8.31 m/s
7.24 7.24 m/s
5.97 5.97 m/s
นภิ า
ในเวลา 1 s นภิ าว่ิงไดร้ ะยะทางท่ไี กลท่ีสดุ คือ 8.46 m เวลา

วธิ ีทำ จากสูตร v= s
t

v= 60+30+40
26

v= 130
26

v = 5 m/s

ตอบ อตั ราเร็วเฉลย่ี ในการซอ้ มวง่ิ มคี ่าเท่ากับ 5 m/s

41

- ระยะทางทง้ั หมดของการเคล่ือนที่ ในหน่งึ v= s - การหาอัตราเร็วในช่วงเวลาส่นั ๆ ช่วงใด
หนว่ ยเวลา t ชว่ งหนงึ่ ของการเคลือ่ นที่
- เปน็ ปริมาณสเกลาร์ - มีขนาดเทา่ กบั ความเรว็ ขณะหนงึ่
- หนว่ ยเอสไอ เมตรตอ่ เวลา (m/s) - เปน็ ปริมาณสเกลาร์
- หนว่ ยเอสไอ เมตรตอ่ เวลา (m/s)

- v = อัตราเรว็ m/s
- s = ระยะทาง m
- t = เวลา s

- การกระจดั ทง้ั หมดของการเคล่อื นที่ ใน v⃗= S⃗ - การหาความเร็วในชว่ งเวลาสั่น ๆ ชว่ งใด
หนึง่ หนว่ ยเวลา t ช่วงหนง่ึ ของการเคล่อื นท่ี
- เปน็ ปริมาณเวกเตอร์ - เปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์
- หน่วยเอสไอ เมตรตอ่ เวลา (m/s) - หน่วยเอสไอ เมตรต่อเวลา (m/s)

- v⃗ = ความเรว็ m/s
- S⃗ = การกระจดั m
- t = เวลา s

42

- ระยะทางทง้ั หมดตอ่ ชว่ งเวลาของการ หนว่ ยเอสไอ - การกระจดั ท้งั หมดต่อชว่ งเวลาของการ
เคลื่อนท่ี เมตรตอ่ เวลา เคลื่อนท่ี
- เปน็ ปริมาณสเกลาร์ - เป็นปริมาณเวกเตอร์
- สญั ลกั ษณ์ v (m/s)
- สัญลกั ษณ์ ⃗v

43

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7

รายวิชาเพมิ่ เตมิ ฟิสิกส์ 1 (ว31201) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 การเคลื่อนทีแ่ นวตรง เวลา 22 ช่ัวโมง

เรอื่ งท่ี 4 เครื่องเคาะสัญญาณเวลา เวลา 2 ชัว่ โมง

ภาคเรียนท่ี 1 ครผู ูส้ อน นายนครนิ ทร์ เกตุทองมา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระวิทยาศาสตร์เพิม่ เตมิ /ผลการเรยี นรู้
สาระฟสิ ิกส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ

การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรกั ษ์โมเมนตมั การเคลื่อนท่ีแนวโค้ง รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใช้ประโยชน์

ผลการเรียนรู้
3. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่ง การกระจัด ความเรว็ และความเร่งของ
การเคลอื่ นทขี่ องวตั ถใุ นแนวตรงท่ีมีความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาค่าความเร่ง
โน้มถ่วงของโลก และคำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ งได้

2. สาระสำคญั
เครื่องเคาะสัญญาณเวลา เป็นอุปกรณ์ที่ใช้หาอัตราเร็วของวัตถุในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อต่อเครื่อง

เคาะสัญญาณเวลาเข้ากับความต่างศักย์ไฟฟ้า 4-6 โวลต์ของหม้อแปลงโวลต์ต่ำ จะทำให้คันเคาะสั่น
ด้วยความถี่ของไฟฟ้ากระแสสลับที่ใช้ คือ 50 ครั้งต่อวินาที เมื่อดึงแถบกระดาษที่สอดใต้กระดาษ
คาร์บอน จะทำให้เกิดจุดต่าง ๆเรียงกันบนแถบกระดาษ จุดเหล่านี้ช่วยให้ทราบระยะทางและเวลาที่
ใช้ในการเคลื่อนที่ เพราะเวลาระหว่างจุด 2 จุด ที่เรียงกันเท่ากับ 1/50 วินาที ข้อมูลเวลาและ
ระยะทางชว่ ยใหว้ ิเคราะห์หาอัตราเร็วได้

3. สาระการเรยี นรู้
อัตราเร็วเฉล่ีย คือ อัตราส่วนระหว่างระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่ได้กับช่วงเวลาท่ีท่ีใช้ในการเคลือ่ นที่

หนว่ ยในระบบเอสไอ คือ เมตรตอ่ วินาที (m/s) เปน็ ปรมิ าณสเกลาร์
อัตราเร็วขณะหนึ่ง มีค่าเท่ากับขนาดของความเร็วขณะหนึ่ง หน่วยในระบบเอสไอ คือ เมตรต่อ

วินาที (m/s) เปน็ ปรมิ าณสเกลาร์
ความเร็วเฉลี่ย คือ อัตราส่วนระหว่างการกระจัดที่วัตถุเคลื่อนที่ได้กับช่วงเวลาที่ที่ใช้ในการ

เคล่อื นที่ หนว่ ยในระบบเอสไอ คอื เมตรต่อวินาที (m/s) เป็นปรมิ าณเวกเตอร์
ความเร็วขณะหน่งึ เปน็ การหาควาความเรว็ ในช่วงเวลาสนั้ ๆ ช่วงใดช่วงหนง่ึ ของการเคลือ่ นท่ี
เครื่องเคาะสญั ญาณเวลา(Ticker Tape Timer) จะเคาะสัญญาณลงบนจุดของแถบกระดาษขาว

โดยอาศัยกระดาษคาร์บอนทำให้เกิดสี ซึ่งเครื่องเคาะสัญญาณเวลาจะเคาะด้วยความถี่คงท่ี 50 เฮิร์ต
หรือ 50 ครั้ง/1 วินาที ดังนั้นในแต่ละช่วงจุดสีบนแถบกระดาษขาว 1 ช่อง จะมีเวลาที่ห่างกัน 1/50

44

วินาที ชว่ งเวลานี้จะคงท่ีเพราะความถ่ีของไฟฟ้าท่ีใช้ค่าคงที่ ช่วงเวลาน้บี างคร้ังเรยี กว่า เวลา 1ช่วงจุด
ดงั รปู

(หนงั สือเรียน รายวชิ าเพม่ิ เติมฟสิ ิกส์เล่ม 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 สสวท. หน้า 33-35)

4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เม่ือจบกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนสามารถ

จดุ ประสงคการเรียนรู้ รายละเอียด

ดา้ นความรู้ 1. อธบิ ายเก่ียวกบั เครื่องเคาะสัญญาณและขอ้ มลู ทไ่ี ด้จากเครือ่ งเคาะ

(K: Knowledge) สัญญาณเวลาได้

ด้านทักษะกระบวนการ 2. มที กั ษะการใช้เคร่ืองเคาะสัญญาณเวลาเบอ้ื งตน้

(P: Process) 3. มีทกั ษะการทดลอง สามารถสรปุ และอภปิ รายผลการทดลองได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะที่พงึ 4. มคี วามสนใจใฝร่ ้หู รอื อยากรูอ้ ยากเห็น และทำงานรว่ มกับผอู้ ื่นอยา่ ง
ประสงค์ (A: Attitude) สร้างสรรค์

ทักษะกระบวนการ 5. การวดั การคำนวณ การทดลอง และลงความคิดเหน็ จากข้อมลู
วทิ ยาศาสตร์ (Science
Process Skill)

5. ข้ันจัดกจิ กรรมการเรียนรูแ้ บบวัฏจักรการเรียนรู้ 5E
ขัน้ ท่ี 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement)
1. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนความรู้เดิม เกี่ยวกับปริมาณต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการ

เคลื่อนที่ ได้แก่ ระยะทาง การกระจัด อัตราเร็วเฉลี่ย อัตราเร็วขณะหนึ่ง ความเร็วเฉลี่ย ความเร็ว
ขณะหนงึ่

(แนวทางทบทวนความรู้เดมิ :
• เมื่อวัตถุเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังที่ใด ๆ ระยะตามเส้นทางการเคลื่อนที่ คือ
ระยะทาง ซ่ึงเป็นปรมิ าณสเกลาร์
• เมื่อวัตถุทีเปลี่ยนตำแหน่งจากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง ระยะทางตาม
แนวเสน้ ตรงจากตำแหนง่ เดมิ ไปยังตำแหนง่ ใหม่ เรียกว่า การกระจดั ซ่ึงเปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์
• อัตราเร็วเฉลี่ย เป็นอัตราส่วนระหว่างระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่ไปได้กับช่วงเวลาท่ี
ใชใ้ นการเคลื่อนทแ่ี ละเปน็ ปริมาณสเกลาร์
• อัตราเร็วขณะหนงึ่ เปน็ อตั ราเร็วเฉล่ียในชว่ งใดชว่ งหน่งึ ของการเคลื่อนที่
• ความเร็วเฉลี่ย เป็นอัตราส่วนระหว่างการกระจัดของวัตถุกับช่วงเวลาของการ
กระจัดน้นั และเป็นปรมิ าณเวกเตอร์
• ความเร็วขณะหน่ึง เป็นความเร็วเฉลี่ยในช่วงเวลาสั้นมาก ๆ และเป็นปริมาณ
เวกเตอร์)

45

2. ครเู ชื่อมโยงเนอ้ื หาเกยี่ วกับเครือ่ งเคาะสัญญาณเวลา จากการบา้ นท่นี ักเรยี นไปศกึ ษา

ขั้นท่ี 2 ขน้ั สำรวจและค้นหา (Exploration)
1. นกั เรียนแบง่ กลุ่มเปน็ กล่มุ ละ 4–5 คน ให้แต่ละกลุ่มศกึ ษาเพ่มิ เตมิ จากใบงานความรเู้ ร่ือง

เครอื่ งเคาะสญั ญาณเวลา
2. ครูอธิบายวิธีใช้เครื่องเคาะสัญญาณเวลา พร้อมทั้งอธิบายการทำงานว่าเครื่องเคาะ

สัญญาณเวลาจะเคาะ 50 ครั้ง ในเวลา 1 วินาที กล่าวคือถ้าดึงแถบกระดาษผ่านเครื่องเคาะ
สัญญาณเวลา คันเคาะจะเคาะบนกระดาษคาร์บอนที่อยู่บนแถบกระดาษ ทำให้เกิดจุดบนแถบ
กระดาษ 50 จุด ในเวลา 1 วินาที หรือเวลาที่ใช้จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งที่อยู่ถัดกันจะเท่ากับ 1

50

วนิ าที
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำการทดลองหาอัตราเร็วเฉลี่ย และอัตราเร็วขณะหนึ่ง โดยใช้เครื่อง

เคาะสญั ญาณเวลา และตอบคำถามลงบนใบกิจกรรมเรอ่ื ง เคล่อื นเคาะสญั ญาณเวลา
(หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตการณ์ทำงานกลมุ่ )

4. นกั เรียนจัดเตรียมอุปกรณ์และทำการทดลองตามวธิ ที ำการทดลอง

5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั วเิ คราะห์ อธิบายผล และสรุปผลการทดลอง

ขั้นท่ี 3 ขัน้ อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation)
1. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ นำเสนอผลการทดลอง และการตอบคำถามข้อที่ 1-7 หน้าชน้ั เรียน
2. ครชู ว่ ยอธบิ ายเพม่ิ เตมิ เพอ่ื ให้ไดข้ ้อสรุปทีถ่ กู ตอ้ ง
(แนวการอธิบาย: ถ้าความเร็วในการดึงแถบกระดาษช้า ๆ จุดที่ปรากฏบนแถบ

กระดาษจะอยู่ชิด ๆ กัน แต่ถ้าความเร็วในการดึงแถบกระดาษเร็ว ๆ จุดที่ปรากฏบนแถบกระดาษจะ
อยู่ห่าง ๆ กัน และถ้าความเร็วในการดึงแถบกระดาษด้วยอัตราเร็วสม่ำเสมอ จุดที่ปรากฏบนแถบ
กระดาษห่างจากกันเท่ากัน แต่ถ้าดึงแถบกระดาษด้วยอัตราเร็วไม่สม่ำเสมอ จุดที่ปรากฏบนแถบ
กระดาษหา่ งจากกันไมเ่ ทา่ กนั )

3. จากนั้นครูยกตัวอย่างการคำนวณอัตราเร็วเฉลี่ยและอัตราเร็วขณะหนึ่ง เพื่อเป็นแนวทาง
ในการคำนวณและตอบคำถามในข้อท่ี 8-10

ตัวอย่าง จากรปู แสดงแถบกระดาษที่ไดจ้ ากการทดลองดงึ ผ่านเคร่ืองเคาะสัญญาณเวลา
เคาะ 50 ครัง้ ต่อ 1 วนิ าที จงหาความเรว็ เฉลีย่ ของแถบกระดาษในช่วง AD และชว่ ง BC

วิธที ำ อัตราเรว็ เฉลยี่ ในชว่ ง AD = ระยะทาง
เวลา
8.2×10-2
= 10/50

46

= 0.41 m/s
ระยะทาง
อัตราเร็วเฉลี่ยในช่วง BC = เวลา

= 3.6×10-2
3/50
= 0.6 m/s

ดังนน้ั อตั ราเรว็ เฉลี่ยในช่วง AD มีคา่ 0.41 เมตรต่อวินาที และอัตราเร็วเฉลี่ยในชว่ ง BC มีคา่ 0.6

เมตรตอ่ วินาที

ข้ันที่ 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration)
1. นักเรียนตอบคำถามขอ้ ท่ี 8-10 ในกิจกรรมเรอื่ ง เครอื่ งเคาะสัญญาณเวลา
2. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามข้อสงสยั ที่นักเรียนยังไม่เข้าใจเก่ียวกับเรื่องที่เรียน โดยที่

ครูอาจจะใช้ PowerPoint เรอื่ ง เครื่องเคาะสัญญาณเวลา ชว่ ยในการอธบิ าย
3. นักเรยี นไปศึกษาเกี่ยวกบั เครื่องเคาะสัญญาณเวลาเพ่ิมเติมในเรอื่ งของการหาความเร่งของ

การเคลอ่ื นทขี่ องวตั ถุ

ขั้นท่ี 5 ขนั้ ประเมนิ (Evaluation)
1. ครปู ระเมนิ นักเรียนโดยการใชค้ ำถาม
คำถาม - ระยะห่างระหว่างจุดบนแถบกระดาษต่างกันอย่างไร เมื่อวัตถุดึงแถบ

กระดาษช้า ๆ กับเมื่อวัตถุดึงแถบกระดาษเร็ว ๆ (แนวคำตอบ: ถ้าดึงแถบกระดาษช้า ๆ จุดที่ปรากฏ
บนแถบกระดาษจะอยู่ชิด ๆ กัน แต่ถ้าดึงแถบกระดาษเร็ว ๆ จุดที่ปรากฏบนแถบกระดาษจะอยู่ห่าง
ๆ กัน)

- เวลาที่วัตถุใช้เคลื่อนที่ทำให้ปรากฏจุดแต่ละช่วงจุดเท่ากันหรือไม่ เพราะ
เหตุใด (แนวคำตอบ: เวลาที่วัตถุใช้เคลื่อนที่ทำให้ปรากฏจุดแต่ละช่วงจุดเท่ากัน เพราะเครื่องเคาะ
สัญญาณเวลาเคาะด้วยความถี่ 50 ครงั้ ใน 1 วินาที น่นั คือ แตล่ ะชว่ งจุดใชเ้ วลา 1/50 วินาที)

6. สอ่ื การเรียนรู้/อปุ กรณ/์ แหลง่ เรียน
1. ใบงานความรู้ เร่ือง เครื่องเคาะสญั ญาณเวลา
2. ใบกจิ กรรม เรื่อง เคร่ืองเคาะสัญญาณเวลา
3. อปุ กรณก์ ารทดลอง (เครื่องเคาะสัญญาณเวลา หมอ้ แปลงไฟฟา้ โวลตต์ ำ่ สายไฟ 2 เส้น

แถบกระดาษ และกระดาษคารบ์ อน)
4. PowerPoint หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง การเคลือ่ นท่ีแนวตรง

47

7. การวัดและประเมินผล วิธีการวดั เครอ่ื งมือทใี่ ช้ เกณฑ์การประเมิน
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - การถาม-ตอบ - แบบสงั เกตพฤติกรรม
1. อธิบายเก่ียวกบั เครื่องเคาะสัญญาณ - การแสดงความคดิ เหน็ รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์การ
และข้อมูลที่ได้จากเคร่ืองเคาะ - ตรวจใบกิจกรรม - ใบกิจกรรม ประเมินร้อยละ 70
สญั ญาณเวลาได้ (K) - การนำเสนอ - แบบฝกึ หดั
- ตรวจใบกจิ กรรม - แบบประเมินทักษะ
2. มที ักษะการใชเ้ ครอ่ื งเคาะ - การถาม-ตอบ การทดลอง
สัญญาณเวลาเบอ้ื งต้น (P) - สงั เกตการณ์ใช้เครื่อง - แบบประเมินการ
3. มที กั ษะการทดลอง สามารถสรปุ เคาะสญั ญาณเวลา นำเสนอกจิ กรรมกลุ่ม
และอภปิ รายผลการทดลองได้ (P) - การนำเสนอ
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
4. มคี วามสนใจใฝ่ร้หู รอื อยากรอู้ ยาก - การส่งงานตรงเวลา รายบุคคล
เหน็ และทำงานรว่ มกับผู้อนื่ อยา่ ง
สรา้ งสรรค์ (A) - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบสงั เกตพฤติกรรม
5. การวัด การคำนวณ การทดลอง ทำงาน รายบคุ คล
และลงความคดิ เหน็ จากข้อมูล - การถาม-ตอบ - ใบกิจกรรม
(ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์) - ตรวจใบกจิ กรรม

48

49

ความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชอื่ ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หัวหน้ากล่มุ สาระ ฯ

ความคดิ เห็นของรองผู้อำนวยการกลุม่ บรหิ ารวิชาการ
............................................................................................................................. ...................................
.............................................................................................................................................. ..................
................................................................................................................. ...............................................

ลงช่อื ...........................................ผตู้ รวจสอบ
( นายสรุ ชัย ทองทิพย์ )

รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ

ความคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรียนเตรยี มอดุ มศึกษาพัฒนาการ อดุ รธานี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชื่อ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นายคมสันต์ ถานกางสยุ่ )
ผู้อำนวยการโรงเรียน

50

เกณฑก์ ารตรวจแบบฝึกหดั

แกป้ ญั หา ความ ความ ความ ตรงต่อ รวม
ที่ ช่อื - สกุล ด้วยตวั เอง สะอาด รับผิดชอบ ถูกต้อง เวลา

2 2 2 2 2 10

ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน
(.......................................................)

เกณฑ์การประเมิน 0 – 4 ปรบั ปรงุ
คะแนน 5 – 6 พอใช้
คะแนน 7 – 8 ดี
คะแนน 9 – 10 ดมี าก
คะแนน

51

แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล

คำช้ีแจง ใหค้ รูผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้ว / ลงในช่องที่
ตรงกบั ระดับคะแนน

ลำดบั มีความใฝ่รู้ มคี วามมุ่งม่ันใน มสี ่วนร่วมใน รวม 15
ท่ี
ชอ่ื -สกุล ใฝ่เรยี น การทำงาน การทำกจิ กรรม คะแนน

5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 32 1

ลงชือ่ ................................................ผปู้ ระเมิน
(.......................................................)

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ระดบั การมสี ว่ นร่วมมากท่สี ดุ ให้ 5 คะแนน
ระดับการมสี ว่ นร่วมมาก ให้ 4 คะแนน
13 – 15 ดมี าก ระดบั การมีสว่ นร่วมปานกลาง ให้ 3 คะแนน
10 – 12 ดี ระดับการมสี ่วนร่วมน้อย ให้ 2 คะแนน
7–9 ระดบั การมสี ว่ นรว่ มนอ้ ยทส่ี ดุ ให้ 1 คะแนน
4 –6 ปานกลาง
1– 3 พอใช้
ปรบั ปรงุ

52

แบบประเมินการนำเสนอกจิ กรรมกลมุ่

กลมุ่ ที่ .........................

สมาชกิ ในกลุ่ม 1............................................................. 2................................................................

3............................................................. 4........................................................... .....

คำช้ีแจง ให้ผู้เรียนใหค้ ะแนนลงในช่องทต่ี รงกบั ความคิดเหน็

พฤติกรรม

ชอ่ื -สกุล บุกคลิกการ มารยาทใน การใช้ภาษา วิธกี าร เนอ้ื หาท่ี รวม
แต่งกาย การพูด นำเสนอ นำเสนอ

10 10 10 10 10 50

1.

2.

3.

4.

5.

เกณฑ์ผา่ น ร้อยละ 70 (35 คะแนน)

ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นเพ่มิ เติม

............................................................................................................................. .........................................

......................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .........................................

............................................................................................................................. .........................................

พฤติกรรมท่ใี ช้ในการสังเกต

บุกคลกิ การแตง่ กาย : มคี วามเชอ่ื มัน่ ในตนเอง แต่งกายสะอาด ถูกระเบยี บ

มารยาทในการพดู : มองหน้าและสบตาผู้ฟัง ไม่พดู เสยี ดสีผู้อน่ื

การใชภ้ าษา : ชดั เจนตามหลักภาษา ใช้คำพดู ที่สภุ าพ

วธิ กี ารนำเสนอ : ใช้สอ่ื ที่นา่ สนใจ มีคำถามและคำตอบ ใช้เวลาตามท่ีกำหนด

เนือ้ หาทีน่ ำเสนอ : มสี าระสำคญั ตรงกบั หวั เรอ่ื ง เรียงลำดบั ความยากง่าย

53

แบบประเมนิ ทักษะการทดลอง

คำชีแ้ จง :ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงใน
ชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน
4321

1 การดำเนนิ การทดลอง

2 การใชว้ สั ดแุ ละอปุ กรณ์ในการทดลอง

3 การบนั ทึกขอ้ มลู

4 ความรว่ มมือในการปฏิบัติกจิ กรรม

5 ความคลอ่ งแคลว่ ในการใช้อุปกรณ์การ
ทดลอง

รวม

ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน

ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน

ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพร่องเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน

ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ดีมาก
18 - 20 ดี
14 - 17
10 - 13 พอใช้
ตำ่ กว่า 10 ปรับปรุง

54

55

56

57

58

59

60

61

62

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 8

รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 การเคลื่อนท่ีแนวตรง เวลา 22 ชวั่ โมง

เรือ่ งท่ี 5 ความเร่ง เวลา 2 ชว่ั โมง

ภาคเรยี นที่ 1 ครผู ู้สอน นายนครินทร์ เกตุทองมา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระวิทยาศาสตร์เพิม่ เติม /ผลการเรยี นรู้
สาระฟสิ กิ ส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ

การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ กั ษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใชป้ ระโยชน์

ผลการเรยี นรู้
3. ทดลองและอธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างตำแหน่ง การกระจัด ความเรว็ และความเร่งของ
การเคล่อื นทข่ี องวตั ถุในแนวตรงที่มคี วามเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมทัง้ ทดลองหาค่าความเร่ง
โนม้ ถ่วงของโลก และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวข้องได้

2. สาระสำคัญ
การเคลื่อนที่ของวัตถุใด ๆ มีการเคลื่อนที่เร็วขึ้นหรือช้าลง และบางครั้งมีการเปลี่ยนแปลงทิศ

ทางการเคล่ือนท่ี การเคลอื่ นทที่ ่มี ีขนาดหรือทศิ ทางของความเร็วเปลี่ยนแปลงไป เรียกวา่ การเคล่อื นท่ี
แบบมคี วามเรง่

ความเร่ง เป็นความเรว็ ท่ีเปลี่ยนไปในหนึ่งหน่วยเวลา หรืออัตราการเปลีย่ นแปลงความเร็ว ซึ่งเป็น
ปริมาณเวกเตอร์ แต่ถ้าถ้าหากพิจารณาเฉพาะขนาดของความเร่ง โดยไม่คำนึงถึงทิศทางของการ
เคล่อื นทแี่ ล้ว จะเรยี กวา่ อตั ราเรง่ ซง่ึ เปน็ ปริมาณสเกลาร์

ความเร่งเฉลี่ย เป็นอัตราส่วนระหว่างความเร็วที่เปลี่ยนไปทั้งหมด กับช่วงเวลาที่เกิดการ
เปล่ียนแปลงความเร็วนนั้

3. สาระการเรยี นรู้
ความเร็วที่เปลี่ยนไปในหนึ่งหน่วยเวลา เรียกว่า ความเร่ง (acceleration) สำาหรับความเร่งใน

ช่วงเวลาการเคลื่อนที่ใด ๆ เรียกว่า ความเร่งเฉลี่ย a⃑av (average acceleration) ซึ่งเป็นอัตราส่วน

ระหว่างความเร็วที่เปลี่ยนไปทั้งหมดกับช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนความเร็วนั้น สำหรับ Δt เป็น
ช่วงเวลามีค่าน้อย ๆ จนเข้าใกล้ศูนย์ ความเร่งในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็น ความเร่งขณะหน่ึง

(instantaneous acceleration) เม่อื Δt เขา้ ใกลศ้ ูนย์

63

4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เม่ือจบกิจกรรมการเรียนรู้ นกั เรียนสามารถ

จดุ ประสงคการเรียนรู้ รายละเอียด

ด้านความรู้ 1. อธบิ ายเก่ยี วกบั ความเร่งได้

(K: Knowledge)

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 2. มที กั ษะการคำนวณหาความเรง่ และปรมิ าณท่ีเกีย่ วขอ้ งกับการ

(P: Process) เคล่อื นที่ได้

ด้านคณุ ลักษณะที่พงึ 3. มคี วามสนใจใฝร่ ้หู รืออยากรอู้ ยากเหน็ และทำงานรว่ มกับผู้อืน่ อย่าง

ประสงค์ (A: Attitude) สรา้ งสรรค์

ทักษะกระบวนการ 4. การคำนวณ และลงความคิดเหน็ จากข้อมลู

วิทยาศาสตร์ (Science
Process Skill)

5. ขนั้ จัดกิจกรรมการเรยี นรแู้ บบวัฏจักรการเรยี นรู้ 5E
ขัน้ ท่ี 1 ขัน้ สรา้ งความสนใจ (Engagement)
1. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนความรู้เดิม เกี่ยวกับ เรื่อง ระยะทาง การกระจัด อัตราเรว็

และความเร็ว เพื่อเชื่อมโยงความคิดนักเรียนสู่เนื้อหาโดยให้นักเรียนร่วมกันสนทนา เกี่ยวกับการ
เคลื่อนที่ว่ามีปริมาณใดบ้าง ที่เป็นปริมาณสเกลาร์และปริมาณเวกเตอร์ (ทิ้งช่วงให้นักเรียนคิด) เพ่ือ
เปน็ ความรู้พ้ืนฐานนำไปสกู่ ารศกึ ษา เรื่อง ความเร่ง

2. ครูสนทนากับนกั เรยี นถงึ เร่ืองการเคลอ่ื นท่ีตา่ ง ๆ โดยซกั ถามนกั เรยี นในประเด็นตอ่ ไปนี้
คำถาม - การทรี่ ถยนต์แล่นใชค้ วามเรว็ เทา่ กนั หรือไม่
(แนวคำตอบ: ใช้ความเรว็ ไมเ่ ท่ากนั )
- การข่รี ถจักรยานของนกั เรียนใช้ความเร็วเทา่ กัน หรอื ไม่
(แนวคำตอบ: ใช้ความเร็วไม่เทา่ กัน)

- นกั เรยี นคิดวา่ เมอ่ื ความเรว็ มีการเปลีย่ นแปลงจะเกดิ อะไรขนึ้
(แนวคำตอบ: มีความเร่งเกิดขนึ้ )
- นกั เรียนรูไ้ ด้อยา่ งไรว่าวัตถุเคลอื่ นทแ่ี บบมีความเร่ง
(แนวคำตอบ: ความเร็วของวัตถุการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งความเร่งอาจมีค่า
เป็นบวกหรอื ลบกไ็ ด้)
3. นักเรยี นชว่ ยกันอภปิ รายและแสดงความคิดเหน็ คำตอบจากคำถาม
4. ครูอาจจะยกตัวอย่างการเคลือ่ นที่ท่ีมีความเรง่ แล้วอธิบายว่าการเคลื่อนที่นัน้ เป็นอย่างไร
อะไรบง่ บอกวา่ การเคล่อื นทีน่ ั้น ๆ มีความเร่ง เช่น นักว่งิ เพม่ิ ความเร็วในการวิง่ เพ่ือแซงคแู่ ข่งขนั ซ่งึ ทำ
ให้เกิดความเรง่ เป็นต้น

64

ขั้นที่ 2 ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration)
1. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับความหมายของความเร่งเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้นว่า ในการ

เคลือ่ นที่ของวัตถุ บางช่วงเวลาขนาดของความเรว็ และทศิ ทางการเคลือ่ นทีข่ องวตั ถุไมเ่ ปลย่ี นแปลง ซึ่ง
กล่าวได้ว่าวัตถุมีความเร็วคงตัว แต่ถ้าขนาดของความเร็วเปลี่ยน หรือทิศการเคลื่อนที่เป ลี่ยน หรือ
เปลี่ยนทั้งขนาดของความเร็ว และทิศการเคลื่อนที่ เราเรียกว่าวัตถุมี “ความเร่ง” เช่น รถที่เลี้ยวโค้ง
ด้วยขนาดของความเร็วคงตัว ก็ถือว่ารถมีความเร่ง เพราะทิศการเคลื่อนที่ของรถเปลี่ยนแปลง
ตลอดเวลา

2. ครูนำเสนอความหมายและแสดงสูตรการคำนวณหาค่าความเรง่ จากสมการความเรง่ เฉลี่ย
และความเรง่ ขณะหนึง่ (ในหนงั สอื หน้า 56)

3. ครใู หค้ วามรเู้ กีย่ วกบั ความหมายของความเรง่ กบั ความหนว่ ง โดยพิจารณาสถานการณ์การ
เกิดความเร่งและความหน่วงของรถจักรยานยนต์

4. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันอภิปราย สรุปไดว้ ่า
แนวทางสรปุ : รถจักรยานยนต์เคลอื่ นทีเ่ ปน็ เส้นตรงมีการเคล่ือนที่ 2 แบบ คือ

• แบบแรก รถจักรยานยนต์มีความเร็วเพมิ่ ขึน้ เรียกวา่ รถมีความเรง่
• แบบสอง รถจกั รยานยนตม์ คี วามเร็วลดลง เรยี กวา่ รถมีความหน่วง

5. ครูถามนกั เรยี นว่าความเร่งและความหนว่ งมีทิศทางอยา่ งไร (เมือ่ นักเรียนตอบ ให้ครูเขียน
คำตอบลงบนกระดาน)

6. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องหมายของความเร็วและความเร่งว่ามีผลต่อการเคลื่อนที่ของ
วตั ถุอยา่ งไร

แนวทางอธบิ าย:
• วัตถุที่มีความเร่งเป็น + ไม่จำเป็นว่าวัตถุนั้นเคลื่อนที่เร็วขึ้น และวัตถุที่มีความเร่ง
เปน็ – กไ็ ม่จำเป็นวา่ วัตถนุ ั้นเคล่อื นทีช่ า้ ลง
• เครื่องหมาย + หรือ – ของปริมาณเวกเตอร์เป็นการบอกทิศทางของปริมาณน้ัน
หากต้องการเปรียบเทียบขนาด จะไม่พิจารณาเครื่องหมาย เช่น วัตถุที่มีความเร็ว -5.0 m/s มีขนาด
มากกวา่ ทัง้ วัตถทุ มี่ คี วามเร็ว -3.0 m/s และ +3.0 m/s
• ถ้าความเร็วเริ่มต้นและความเร่งมีเครื่องหมายเดียวกัน (มีทิศเดียวกัน) วัตถุจะ
เคลื่อนที่เร็วขึ้น แต่ถ้าความเร็วเริ่มต้นและความเร่งมีเครื่องหมายต่างกัน (มีทิศตรงข้าม) วัตถุจะ
เคลอื่ นทช่ี า้ ลง

ช่ัวโมงท่ี 2

65

ข้นั ท่ี 3 ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)

1. นักเรียนร่วมกันศึกษาโจทย์ตัวอย่างของวิธีการคำนวณความเร่งเฉลี่ย และความเร็ว

ขณะหนึ่ง โดยครูแสดงวิธีการคำนวณเปน็ ตัวอยา่ ง และอธบิ ายเสรมิ เพ่ือใหน้ กั เรียนเข้าใจ

ตัวอย่างที่ 1 จงหาความเรง่ เฉลย่ี ของวตั ถุดงั น้ี

v(2.0)= +3.0 m/s, v(4.0)= +5.0 m/s Δvx

วิธที ำ ax,av = vΔ(ttf)-v(ti)
ax,av = (tf-ti)

ax,av = (+5.0m/s)-(+3.0m/s)
(4.0s-2.0s)
= +1.0 m/s2
ตอบ ความเร่งเฉลี่ยของวตั ถุมีคา่ เทา่ กับ +1.0 m/s2

ตัวอย่างที่ 2 เมื่อเริ่มต้นพบว่ารถยนต์มีความเร็ว 20 m/s ไปในทางทิศตะวันออก

เมื่อเวลาผ่านไป 5.0 s รถยนต์มีความเร็ว 40 m/s ไปทางทิศตะวันออก จงหาความเร่งเฉลี่ยของ

รถยนต์

วธิ ีทำ เมอ่ื กำหนดใหค้ วามเรว็ ทศิ ไปทางตะวนั ออกมคี ่าเป็นบวก
v(tf)-v(ti)
ax,av = (tf-ti)

ax,av = (+40m/s)-(+20m/s)
(5.0s-0.0s)
= +4.0 m/s2
ตอบ ความเร่งเฉล่ียของวตั ถมุ คี ่าเท่ากับ 4.0 m/s2 ไปทางทศิ ตะวันออก

ขั้นท่ี 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
1. เชื่อมโยงการหาอัตราเร็วของแถบกระดาษจากเครื่องเคาะสัญญาณ ซึ่งหากดึงแถบ

กระดาษด้วยอัตราเร็วที่ต่างกันจะพบว่า บางครั้งกระดาษเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอและไม่
สม่ำเสมอ ลักษณะของการเคลื่อนที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วและทิศทาง เรียกว่า การเคลื่อนที่
แบบมคี วามเรง่

2. ยกตัวอย่างและแสดงวิธีการคำนวณความเร่งของแถบกระดาษจากเครื่องเคาะสัญญาณ
(ความเรง่ ขณะหนงึ่ )

ตัวอยา่ ง จากการดงึ ปลายดา้ นหน่ึงของแถบกระดาษผ่านเคร่ืองเคาะสัญญาณเวลาที่
เคาะ 50 ครงั้ ตอ่ วินาที ได้จุดบนแถบกระดาษ ดงั รูป

จงหาขนาดของความเร่งท่จี ุด A

66

แนวคิด ความเรง่ ที่จดุ A หาจากความเร็วทีจ่ ุด O และ ความเรว็ ทจี่ ุด B ดังสมการ
(vB-vo)
aA= Δt

วิธที ำ กำหนดให้ทิศทร่ี ถทดลองเคลอ่ื นที่ไปเปน็ บวก

หาความเรว็ ท่ีจดุ O ไดจ้ าก

v0 = (+12.00cm)-(+4.00cm)
v0 = +8.00cm (520s)

(2/50s)

v0 = +0.0800m = +2.0 m/s
(2/50s)

หาความเร็วที่จดุ B ได้จาก

v0= (+24.00cm)-(+12.00cm)
v0= +12.00cm(520s)

(2/50s)

v0= +0.1200m
(2/50s)

= +3.0 m/s

หาความเร่งทจ่ี ุด A หาจาก
(vB-vo)
aA = Δt

= (+3.00m/s)-(+2.00m/s)
(520s)

= +1.00m/s
(2/50s)

= +25.0 m/s2

ตอบ ขนาดของความเร่งทีจ่ ดุ A มคี า่ เท่ากับ 25.0 m/s2

ข้ันท่ี 5 ข้ันประเมนิ (Evaluation)
1. ครสู มุ่ นักเรยี นออกมาแสดงวธิ ที ำท่หี น้าชนั้ เรียน
2. นกั เรยี นนำแบบฝกึ หดั ไปทำเป็นการบา้ น (หากนกั เรียนทำไมเ่ สรจ็ ภายในคาบเรียน)
3. สงั เกตพฤติกรรมในการทำงานของผู้เรียน
4. ตรวจการทำแบบฝึกหดั เพ่อื ดูว่านักเรียนทำถกู ตอ้ งหรือไม่ ถา้ ไม่ถูกต้อง ครูอธิบายเพม่ิ เติม

ให้นักเรียนเข้าใจมากข้ึน

67

6. สือ่ การเรียนรู้/อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี น
1. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าเพิ่มเติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 1 (สสวท.)
2. แบบฝึกหดั เรือ่ ง การคำนวณความเรง่ ในเล่มโจทย์ปัญหาท้าประลอง
3. แบบทดสอบหลังเรยี น เร่อื ง ความเรง่
4. PowerPoint หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรอื่ ง การเคลอื่ นท่ีแนวตรง

7. การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี ารวัด เครือ่ งมือท่ีใช้ เกณฑ์การประเมนิ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายเกย่ี วกับความเร่งได้ (K) - การถาม-ตอบ - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์การ
- ทดสอบหลังเรียน รายบคุ คล ประเมินร้อยละ 70
- ตรวจแบบฝึกหดั - แบบทดสอบหลงั เรียน
- แบบฝึกหัด
2. มีทักษะการคำนวณหาความเรง่ - ตรวจแบบฝึกหัด
และปริมาณท่เี ก่ียวข้องกับการ - การถาม-ตอบ - แบบสังเกตพฤติกรรม
เคลื่อนที่ได้ (P) รายบคุ คล
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบฝกึ หัด
3. มีความสนใจใฝร่ หู้ รอื อยากรู้อยาก - การสง่ งานตรงเวลา
เห็น และทำงานร่วมกบั ผอู้ ่นื อยา่ ง - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
สร้างสรรค์ (A) - สงั เกตพฤติกรรมการ รายบุคคล
ทำงาน
4. การคำนวณ และลงความคิดเห็น - การถาม-ตอบ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
จากข้อมลู - ตรวจแบบฝกึ หัด รายบคุ คล
(ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์) - แบบฝกึ หดั

68

69

ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่อื ...........................................ผตู้ รวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หัวหน้ากลมุ่ สาระ ฯ

ความคิดเหน็ ของรองผ้อู ำนวยการกลุม่ บริหารวิชาการ
............................................................................................................................. ...................................
.............................................................................................................................................. ..................
................................................................................................................. ...............................................

ลงชอ่ื ...........................................ผ้ตู รวจสอบ
( นายสรุ ชยั ทองทิพย์ )

รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ

ความคดิ เห็นของผอู้ ำนวยการโรงเรียนเตรยี มอดุ มศึกษาพัฒนาการ อุดรธานี
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่อื ...........................................ผตู้ รวจสอบ
( นายคมสนั ต์ ถานกางสยุ่ )
ผู้อำนวยการโรงเรยี น

70

เกณฑก์ ารตรวจแบบฝึกหดั

แกป้ ญั หา ความ ความ ความ ตรงตอ่ รวม
ที่ ช่อื - สกุล ดว้ ยตวั เอง สะอาด รับผดิ ชอบ ถกู ต้อง เวลา

2 2 2 2 2 10

ลงช่ือ................................................ผู้ประเมนิ
(.......................................................)

เกณฑก์ ารประเมิน 0 – 4 ปรบั ปรุง
คะแนน 5 – 6 พอใช้
คะแนน 7 – 8 ดี
คะแนน 9 – 10 ดมี าก
คะแนน

71

แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล

คำชแ้ี จง ใหค้ รผู ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้ว / ลงใน
ช่องที่ตรงกับระดับคะแนน

ลำดบั มีความใฝร่ ู้ มีความมงุ่ มัน่ ใน มสี ว่ นร่วมใน รวม 15
ท่ี
ช่ือ -สกุล ใฝ่เรยี น การทำงาน การทำกิจกรรม คะแนน

5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 32 1

ลงช่ือ................................................ผปู้ ระเมนิ
(.......................................................)

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ระดบั การมสี ่วนร่วมมากที่สดุ ให้ 5 คะแนน
ระดับการมสี ว่ นรว่ มมาก ให้ 4 คะแนน
13 – 15 ดีมาก ระดบั การมสี ่วนรว่ มปานกลาง ให้ 3 คะแนน
10 – 12 ดี ระดบั การมีสว่ นร่วมน้อย ให้ 2 คะแนน
7–9 ระดบั การมีสว่ นร่วมนอ้ ยทสี่ ดุ ให้ 1 คะแนน
4 –6 ปานกลาง
1– 3 พอใช้
ปรับปรุง

72

แบบทดสอบหลงั เรยี น เร่อื ง ความเร่ง

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

คำชแี้ จง 1. แบบทดสอบฉบับนี้ จำนวน 10 ข้อ เวลา 30 นาที
2. จงเลือกคำตอบท่ีถกู ต้องท่ีสุด แลว้ เขียนเคร่อื งหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคำตอบ

1. ความเรง่ หมายถึง 6. รถยนตค์ นั หนึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ พอไฟเขยี วรถออกตัว
1. ระยะทางทเี่ ปลยี่ นแปลงใน 1 หน่วยเวลา
2. การกระจัดท่เี ปลี่ยนแปลงใน 1 หนว่ ยเวลา ไปและเม่ือเวลาผา่ นไป 20 วินาที รถว่ิงไปด้วยความเร็ว
3. ความเรว็ ทเ่ี ปล่ยี นแปลงใน 1 หนว่ ยเวลา
4. ไม่มีขอ้ ใดถูก 50 เมตรต่อวินาที รถคันนม้ี ีความเรง่ เท่าไร
1. 0.4 m/s2 2. -0.4 m/s2
2. จากตารางแสดงอัตราเรว็ ของรถแข่งทางตรง ทเี่ วลาตา่ ง 3. 2.5 m/s2 4. -2.5 m/s2
ๆ จงหาว่าความเรง่ ชว่ งเวลา 6-10 วนิ าที เท่ากับข้อใด
7. กราฟต่อไปนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างการกระจัดกับ

เวลาของวตั ถหุ นึง่ ข้อใดถกู ตอ้ ง

1. วัตถุมีความเร็วคงตัว

2. วัตถมุ ีการกระจัดคงตัว

3. วัตถุมีความเร่งเพิ่มขึ้นอยา่ งสมำ่ เสมอ

1. 0 m/s2 2. 1.5 m/s2 4. วตั ถุมีความเรว็ เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

3. 3.5 m/s2 4. 4.0 m/s2 8. วัตถเุ คล่อื นทด่ี ้วย “ความเรง่ คงตัว” หมายความว่า

3. การเคลือ่ นทใ่ี นขอ้ ใดต่อไปน้ที คี่ วามเร่งของวตั ถเุ ปน็ ศนู ย์ อยา่ งไร

1. การเคลอื่ นท่ีแบบวงกลมด้วยอัตราเร็วคงตัว 1. ความเรว็ ต้นและความเร็วปลายมีขนาดเท่ากัน

2. การตกลงตรง ๆ ในแนวด่งิ โดยไมม่ ีแรงตา้ นอากาศ 2. ความเรว็ ของวตั ถเุ ปลยี่ นแปลงตลอดเวลา

3. การเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงในแนวระดับด้วยอัตราเร็ว 3. ความเร็วของวตั ถุท่เี ปลีย่ นไปมีค่าเท่ากันทุก ๆ วินาที

คงท่ี 4. ไมม่ ีข้อใดถูก

4. การไถลเป็นเส้นตรงบนพื้นเอียงลื่นที่ไม่มีแรงเสียด 9. วัตถใุ ดต่อไปนี้กำลงั เคล่ือนทโ่ี ดยไม่มีความเร่ง

ทาน 1. บอลลนู ลอยขึ้นในแนวด่งิ ด้วยความเร็วคงตัว

4. ขอ้ ใดวตั ถมุ ีความเร่งไปทางซ้าย 2. รถยนตก์ ำลงั แล่นด้วยอตั ราเรว็ สมำ่ เสมอในทางโค้ง

1. วตั ถุเคลื่อนทไี่ ปทางขวาแลว้ เคลอื่ นทเ่ี รว็ ขึ้นเร่อื ย ๆ 3. รถยนต์กำลังถอยหลงั เข้าจอดในโรงรถ

2. วัตถุเคล่อื นทไ่ี ปทางขวาแลว้ เคล่ือนทชี่ ้าลง 4. ยงิ ปนื จากหนา้ ผาขึน้ ไปในแนวด่งิ

3. วตั ถเุ คล่อื นที่ไปทางซ้ายแลว้ เคลอ่ื นที่ชา้ ลง 10. ข้อใดตอ่ ไปนีไ้ ม่จัดเป็นปรมิ าณเวกเตอร์

4. วตั ถุเคลอ่ื นท่ีไปทางซา้ ยแลว้ หยดุ 1. ความเรว็ 2. ความเร่ง

5. รถโดยสารประจำทางคันหนึ่งเริ่มเคลื่อนที่จากจอดนิ่ง 3. การกระจัด 4. อตั ราเร็ว

ด้วยอัตราเร่ง 5 m/s เมื่อเวลาผ่านไป 8 วินาที จะเคลื่อนท่ี (เฉลย) แบบทดสอบหลงั เรียน

ไปไดไ้ กลเท่าใด 1.3 2.3 3.3 4.2 5.4

1. 100 m 2. 140 m 6.3 7.1 8.3 9.3 10.4

3. 120 m 4. 160 m

73

73

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 9

รายวิชาเพมิ่ เตมิ ฟิสิกส์ 1 (ว31201) ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การเคลื่อนท่แี นวตรง เวลา 22 ชั่วโมง

เร่อื งที่ 6 กราฟระหวา่ งตำแหน่งกับเวลา เวลา 1 ช่วั โมง

ภาคเรียนที่ 1 ครูผูส้ อน นายนครนิ ทร์ เกตุทองมา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระวิทยาศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ /ผลการเรียนรู้
สาระฟสิ กิ ส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ

การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตมั การเคลื่อนท่ีแนวโค้ง รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใช้ประโยชน์

ผลการเรียนรู้
3. ทดลองและอธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างตำแหน่ง การกระจัด ความเรว็ และความเร่งของ
การเคลอื่ นทข่ี องวัตถุในแนวตรงท่ีมคี วามเร่งคงตวั จากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาค่าความเร่ง
โน้มถว่ งของโลก และคำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งได้

2. สาระสำคัญ
การเคลื่อนที่ของวัตถุสามารถเขียนอยู่ในรูปกราฟตำแหน่งกับเวลา กราฟความเร็วกับเวลา หรือ

กราฟความเร่งกับเวลา ความชันของเส้นกราฟตำแหน่งกับเวลาเป็นความเร็วความชันของเส้นกราฟ
ความเร็วกับเวลาเป็นความเร่ง และพื้นท่ใี ตเ้ สน้ กราฟความเรว็ กับเวลาเปน็ การกระจัด

3. สาระการเรียนรู้
วัตถุที่เคลื่อนที่ในแนวตรง เมื่อเวลาผ่านไป การกระจัด ความเร็วและความเร่งของวัตถุอาจ

เปลี่ยนไปสามารถแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณเหล่านี้กับเวลาในรูปกราฟของการเคลื่อนท่ี
ไดแ้ ก่

1. กราฟระหวา่ งตำแหนง่ กบั เวลา โดยความชันของกราฟ คอื ความเร็ว
2. กราฟระหว่างความเร็วกับเวลา โดยความชันของกราฟ คือ ความเร่ง และพื้นที่ใต้กราฟ

คอื การกระจัดท่ีวตั ถเุ คล่ือนทไ่ี ด้
3. กราฟระหวา่ งความเรง่ กบั เวลา โดยพน้ื ทีใ่ ต้กราฟ คือ ความเร็วท่ีเปล่ยี นไป

74

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ เมอ่ื จบกิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรยี นสามารถ

จุดประสงคการเรยี นรู้ รายละเอียด

ด้านความรู้ 1. อธิบายปริมาณทีเ่ กยี่ วข้องกบั การเคลือ่ นท่ีแนวตรงของวัตถุจากกราฟ

(K: Knowledge) ตำแหน่งกบั เวลา

ด้านทกั ษะกระบวนการ 2. มที ักษะการคำนวณหาปริมาณท่เี ก่ยี วข้องกับการเคลอื่ นทแ่ี นวตรงของ

(P: Process) วัตถจุ ากกราฟตำแหน่งกบั เวลา

ด้านคุณลักษณะที่พึง 3. มีความสนใจใฝ่รหู้ รืออยากรู้อยากเหน็ และทำงานร่วมกับผอู้ ืน่ อยา่ ง
ประสงค์ (A: Attitude) สรา้ งสรรค์

ทกั ษะกระบวนการ 4. การคำนวณ การจดั กระทำและส่ือความหมายข้อมูล การตคี วามหมาย
วทิ ยาศาสตร์ (Science ขอ้ มูลและลงข้อสรปุ และลงความคดิ เห็นจากขอ้ มูล
Process Skill)

5. ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวฏั จักรการเรียนรู้ 5E
ข้ันท่ี 1 ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement)
1. ครูนำเข้าสูบ่ ทเรียนโดยทบทวนความรูเ้ ก่ียวกับปรมิ าณที่เกี่ยวข้องกับการเคล่ือนท่ีท้งั หมด

ได้แก่ ตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว อัตราเร็ว และความเร่ง จากนั้นชี้ให้เห็นว่าการหาปริมาณท่ี
เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ นอกจากจะใช้วิธีตามที่ได้เรียนมาแล้ว ยังสามารถใช้ความรู้ จากการ
วเิ คราะหก์ ราฟมาศึกษาปริมาณดังกลา่ วไดเ้ ช่นกนั

คำถาม - ระยะทาง หมายถึง (แนวคำตอบ: วัตถุเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังที่ใด ๆ
ระยะตามเส้นทางการเคลอ่ื นที่ ซง่ึ เปน็ ปริมาณสเกลาร์)

- การกระจัด หมายถึง (แนวคำตอบ: วัตถุทีเปลี่ยนตำแหน่งจากตำแหน่ง
หนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง ระยะทางตามแนวเส้นตรงจากตำแหน่งเดิมไปยังตำแหน่งใหม่ ซึ่งเป็น
ปริมาณเวกเตอร์)

- อัตราเร็ว หมายถึง (แนวคำตอบ: อัตราส่วนระหว่างระยะทางที่วัตถุ
เคล่อื นทีไ่ ปไดก้ ับช่วงเวลาทใ่ี ชใ้ นการเคล่ือนท่ี และเป็นปรมิ าณสเกลาร์)

- ความเร็ว หมายถึง (แนวคำตอบ: อัตราส่วนระหว่างการกระจัดที่วัตถุ
เคลือ่ นทไ่ี ปได้กับชว่ งเวลาทใ่ี ช้ในการเคลื่อนที่ และเปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์)

- นักเรียนรู้ได้อย่างไรว่าวัตถุเคลื่อนที่แบบมีความเร่ง (แนวคำตอบ:
ความเรว็ ของวัตถุการเปล่ียนแปลงไป ซ่ึงความเรง่ อาจมีคา่ เป็นบวกหรอื ลบก็ได้)

2. นกั เรยี นเรียนรู้วา่ กราฟทีเ่ ก่ียวกับการเคลื่อนที่หลัก ๆ มี 3 แบบ ได้แก่ กราฟความสัมพันธ์
ระหว่างตำแหน่งกับเวลา กราฟความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับเวลา และกราฟความสัมพันธ์
ระหว่างความเรง่ กบั เวลา

3. ครูชี้แจงให้นักเรียนทราบว่าจะเรียนเรื่อง กราฟความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งกับเวลา
พรอ้ มบอกจดุ ประสงคใ์ นการเรยี นรู้

75

ขน้ั ที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration)
1. นักเรียนรับใบความรู้เรื่อง กราฟของการเคลื่อนที่แนวตรง เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจ

เกี่ยวกับการวเิ คราะห์ความสมั พันธข์ องกราฟ โดยที่ครูจะคอยใหค้ ำอธิบายและคำแนะนำ
2. เมือ่ นักเรยี นมีพื้นฐานการวิเคราะหก์ ราฟจากการศึกษาใบความรู้แล้ว จากนั้นครูให้ความรู้

เกี่ยวกับเรื่อง กราฟความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งกับเวลา โดยความชันของกราฟดังกล่าว คือ
ความเรว็ ของการเคล่ือนทขี่ องวตั ถุ

3. ครูยกตัวอย่างการหาความเร็วจากกราฟตำแหน่งกับเวลา พร้อมอธิบายการลงพิกัดการ
เคลือ่ นท่ขี องวตั ถุ

ตัวอยา่ ง พจิ ารณาการเคลอ่ื นทีข่ องรถยนต์

เราสามารถเขียนเป็นตารางแสดงตำแหน่งของรถยนต์ในเวลาตา่ ง ๆ ไดด้ งั น้ี

เมอื่ ลงพกิ ดั ความสัมพนั ธร์ ะหว่างตำแหนง่ ของรถยนต์ กับเวลาจะได้ดังรปู

4. ครใู ห้ความรูก้ บั นกั เรียนว่า เมื่อเราทราบตำแหนง่ ของวัตถุ ณ เวลาตา่ ง ๆ ไดม้ ากขน้ึ จะทำ
ให้เราทราบเก่ยี วกับการเคลื่อนท่ีของวัตถุน้ันได้ดีย่งิ ข้ึน และสามารถเขียนกราฟความสัมพันธ์ระหว่าง
ตำแหนง่ ของรถยนต์กับเวลาไดล้ ะเอยี ดขนึ้ ตามรูป 2.8-2.10 ในหนงั สอื เรยี นฟิสิกส์ 1

5. ครูให้ความรู้เรื่อง การหาความเร็วเฉลี่ยจากกราฟตำแหน่งกับเวลา โดยความเร็วเฉลี่ยหา
ได้จากความชันของเส้นตรงที่ลากผ่านระหว่างจุดสองจุดในกราฟความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งกับ
เวลา

76

6. นักเรียนตอบคำถามชวนคิด (ในหนังสือหน้า 67) โดยครูจะให้คำแนะนำในการวิเคราะห์
คำถามชวนคดิ เมื่อนกั เรียนมีขอ้ สงสัยและยังไมเ่ ข้าใจ

7. ครูให้ความรู้กับนักเรียนว่า เครื่องหมายบวกหรือลบของความชันแสดงทิศทางของ
ความเร็วเฉล่ียความชันที่เป็นบวก หมายถึง ความเร็วเฉลย่ี เป็นบวกซ่ึงมที ิศในแนว +x ส่วนความชันท่ี
เป็นลบ หมายถึง ความเร็วเฉลี่ยเป็นลบซึ่งมีทิศในแนว -x ถ้าความชันเป็นศูนย์ แสดงว่า ขนาด
ความเร็วเฉลี่ยเป็นศูนย์ และเมื่อพิจารณาความชันโดยไม่คิดเครื่องหมาย แสดงถึงขนาดของความเร็ว
เฉล่ีย

8. ครใู ห้ความรู้เรื่อง การหาความเรว็ ขณะหน่ึงจากกราฟตำแหน่งกับเวลา โดยหาไดจ้ ากความ
ชันเส้นตรงท่ลี ากผ่านระหวา่ งจดุ สองจุด ของชว่ งเวลานน้ั ๆ ในกราฟ เมอื่ ช่วงเวลานอ้ ยเขา้ ใกล้ศูนย์

ขัน้ ที่ 3 ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation)
1. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายจนสรุปได้ว่า ความเร็วหาได้จากความชันของเส้นตรงท่ี

ลากผ่านระหวา่ งจดุ สองจดุ ในกราฟความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตำแหน่งกบั เวลา
2. นกั เรยี นสรปุ ความรู้โดยครจู ะใช้คำถาม
คำถาม - วัตถุที่มีความเร็วเฉลี่ยในช่วงเวลาหนึ่งเป็นศูนย์ วัตถุไม่มีการเคลื่อนที่ใช่

หรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ: ไม่ใช่ เพราะวัตถุอาจไม่มีการเคลื่อนที่หรือ วัตถุมีการเคลื่อนที่แต่
เคลือ่ นทกี่ ลับมาที่จุดเดิม ทำใหก้ ารกระจดั ในช่วงเวลาเปน็ ศนู ย์ ความเรว็ เฉลีย่ จึงเป็นศูนย์)

- วัตถุที่มีอัตราเร็วเฉลี่ยในช่วงเวลาหนึ่งเป็นศูนย์ วัตถุไม่มีการเคลื่อนที่ใช่
หรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ: ใช่ เพราะ อัตราเร็วเฉลี่ยหาจากระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่ได้ การที่
อตั ราเรว็ เฉล่ยี เปน็ ศนู ยห์ มายถึงระยะทางเป็นศูนย์ แสดงว่าวตั ถุไม่มกี ารเคลอื่ นท่ี)

ขน้ั ที่ 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)
1. นกั เรียนตอบคำถามชวนคดิ ในหนงั สือหนา้ 70
จงวเิ คราะห์การเคล่อื นทขี่ องวตั ถจุ ากกราฟในรูป แต่ละช่วงเวลาตอ่ ไปนี้
ก. ในชว่ ง t=0 ถงึ t=1.0 s
ข. ในช่วง t=1.0 s ถึงประมาณ t=2.4 s
ค. ช่วงหลงั ประมาณ t=2.4 s

77

(แนวคำตอบ: ก. วัตถุเคลื่อนที่ไปทางซ้ายจากตำแหน่ง -4 เมตร ไปยังตำแหนง่ -8 เมตร เม่ือ
พิจารณาความชันในช่วงนี้พบว่า ขนาดของความชันมีค่าลดลง หมายถึงวัตถุมีขนาดของความเร็ว
ลดลงเรื่อย ๆ จนวัตถุมคี วามเร็วเป็นศูนยท์ ่ีตำแหนง่ -8 เมตร

ข. วัตถุเคลื่อนที่กลับไปทางขวาจากตำแหน่ง -4 เมตร ไปยังตำแหน่ง 0 เม่ือ
พิจารณาความชันในช่วงนี้พบว่า ขนาดของความชันมีค่าเพิ่มขึ้น หมายถึงวัตถุมีขนาดของความเร็ว
เพมิ่ ขน้ึ เรอื่ ย ๆ

ค. วัตถยุ ังคงเคลื่อนทจ่ี ากตำแหนง่ 0 ไปทางขวา เม่อื พิจารณาความชนั ในช่วงนี้
พบวา่ ขนาดของความชันมีค่าเพิม่ ขนึ้ หมายถงึ วตั ถุมีขนาดความเร็วเพ่มิ ขึน้ เรื่อย ๆ)

ขน้ั ที่ 5 ขน้ั ประเมนิ (Evaluation)
1. สังเกตพฤติกรรมในการทำงานของผ้เู รยี น
2. ประเมนิ นักเรียนโดยการใชค้ ำถาม
คำถาม - ความชันของเส้นตรงที่สัมผัสเส้นกราฟความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งกับ

เวลาเป็นศูนย์หมายความว่า อย่างไร (แนวคำตอบ: ความเร็วของวัตถุที่เวลานั้นเท่ากับศูนย์ โดยเส้น
สัมผัสกราฟที่เวลาน้ันอย่ใู นแนวระดับ)

- วัตถุ A มีความเร็ว +10 เมตรต่อวินาที กับวัตถุ B มีความเร็ว -10 เมตรต่อวินาที วัตถุ
ใดเคลื่อนที่เร็ว กว่ากัน เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ: เคลื่อนที่เร็วเท่ากัน เพราะมีขนาดความเร็ว 10
เมตรตอ่ วนิ าที เท่ากัน)

6. ส่อื การเรยี นรู/้ อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี น
1. ใบความรเู้ ร่ือง กราฟของการเคลื่อนทีแ่ นวตรง
2. PowerPoint หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง การเคลอื่ นที่แนวตรง

7. การวดั และประเมินผล วิธีการวัด เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ เกณฑก์ ารประเมิน

จุดประสงค์การเรียนรู้ - การถาม-ตอบ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์การ
ประเมินร้อยละ 70
1. อธบิ ายปริมาณท่ีเกี่ยวข้องกับการ - การแสดงความคิดเหน็ รายบุคคล
เคล่ือนท่แี นวตรงของวัตถุจากกราฟ
ตำแหน่งกบั เวลา (K) - การตอบคำถามชวนคิด

2. มีทักษะการคำนวณปริมาณท่ี - การตอบคำถามชวนคดิ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
เกีย่ วขอ้ งกบั การเคลือ่ นที่แนวตรงของ
วัตถุจากกราฟตำแหน่งกับเวลา (P) - การถาม-ตอบ รายบคุ คล

3. มคี วามสนใจใฝ่รู้หรอื อยากรอู้ ยาก - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม
เห็น และทำงานร่วมกบั ผ้อู ่นื อย่าง - การสง่ งานตรงเวลา รายบุคคล
สร้างสรรค์ (A) - แบบตรวจแบบฝกึ หดั
- สังเกตพฤติกรรมการ
4. การคำนวณ การจัดกระทำและสอื่ ทำงาน - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
ความหมายข้อมลู การตคี วามหมาย รายบคุ คล

78

ขอ้ มูลและลงข้อสรุป และลงความ - การถาม-ตอบ

คดิ เหน็ จากข้อมูล - การตอบคำถามชวนคดิ

(ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์)

79

ความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่ือ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หัวหน้ากล่มุ สาระ ฯ

ความคดิ เห็นของรองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
............................................................................................................................. ...................................
.............................................................................................................................................. ..................
................................................................................................................. ...............................................

ลงชื่อ...........................................ผตู้ รวจสอบ
( นายสุรชยั ทองทิพย์ )

รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ

ความคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรียนเตรยี มอุดมศึกษาพัฒนาการ อดุ รธานี
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
......................................................................................... .......................................................................

ลงชื่อ...........................................ผ้ตู รวจสอบ
( นายคมสันต์ ถานกางสุ่ย )
ผู้อำนวยการโรงเรียน