The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แรงและกฎการเคลื่อนที่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rewnakharin, 2022-10-20 11:26:22

แผนการจัดการเรียนรู้ เล่มที่ 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แรงและกฎการเคลื่อนที่

31

แบบประเมินทักษะการทดลอง

คำชีแ้ จง :ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ลงใน
ช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน

ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
4321

1 การดำเนินการทดลอง

2 การใชว้ ัสดุและอปุ กรณ์ในการทดลอง

3 การบันทกึ ข้อมูล

4 ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรม

5 ความคลอ่ งแคลว่ ในการใช้อปุ กรณ์การ
ทดลอง

รวม

ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน

ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน

ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ

ช่วงคะแนน ดีมาก
18 - 20 ดี
14 - 17
10 - 13 พอใช้
ต่ำกว่า 10 ปรับปรงุ

32

33

34

35

36

37

38

39

40

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 20

รายวชิ าเพิ่มเตมิ ฟสิ ิกส์ 1 (ว31201) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 แรงและกฎการเคลื่อนท่ี เวลา 24 ชวั่ โมง

เรือ่ งที่ 4 การคำนวณแรงลัพธ์ เวลา 2 ช่วั โมง

ภาคเรยี นที่ 1 ครูผสู้ อน นายนครนิ ทร์ เกตุทองมา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระวิทยาศาสตร์เพ่ิมเติม /ผลการเรยี นรู้
สาระฟิสิกส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ

การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโคง้ รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใชป้ ระโยชน์

ผลการเรยี นรู้
4. อธิบายแรงและผลของแรงลัพธท์ ี่มีต่อการเคลื่อนที่ของวัตถุ รวมทั้งทดลองหาแรงลัพธ์ของ
แรงสองแรงทที่ ำมมุ ต่อกนั

2. สาระสำคัญ
แรง (force) หมายถึง สิ่งที่สามารถทำให้วัตถุที่อยู่นิ่งเคลื่อนที่หรือทำให้วัตถุที่กำลังเคลื่อนที่มี

ความเร็วเพิ่มขนึ้ หรือช้าลง หรือเปลี่ยนทิศทางการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุได้
แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์ทีต่ ้องบอกทั้งขนาดและทิศทาง ดังนั้นการหาผลของแรงลพั ธ์ท่ีกระทำตอ่

วัตถุจากการรวมกันระหว่างแรงย่อย 2 แรงขึ้นไป เราสามารถคำนวณแบบเวกเตอร์ได้ โดยต้องรวม
เวกเตอร์ของแรงย่อยที่มีอยู่ให้เป็นปริมาณเดียวกัน เนื่องจากปริมาณเวกเตอร์มีทั้งขนาดและทิศทาง
ในการรวมเวกเตอร์ของแรงย่อยแต่ละแรงจึงต้องวิเคราะห์ทั้งขนาดและทิศทางขณะที่นำมารวมกัน
เพอ่ื หาค่าของแรงลพั ธ์

3. สาระการเรียนรู้
1. การหาแรงลัพธ์ด้วยวิธีคำนวณ โดยคำนวณผลรวมแรงองค์ประกอบของแรงทั้งสองในแนว x

และ ในแนว y แล้วคำนวณแรงลพั ธ์ของแรงรวมในแนว x กับแรงรวมในแนว y จากทฤษฎีพีทาโกรัส

2. การหาแรงลัพธ์ F⃗ จากแรงสองแรง Fa และ Fb ซึ่งตั้งฉากกันโดยการคำนวณขนาดและมุมของ
แรงลัพธท์ ีก่ ระทำต่อ Fa หาได้จาก

Ft2an=θFa2=+FFFba2b

41

4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เม่ือจบกจิ กรรมการเรียนรู้ นกั เรียนสามารถ

จดุ ประสงคการเรยี นรู้ รายละเอยี ด

ด้านความรู้ 1. อธบิ ายความหมายของแรงลัพธ์ได้

(K: Knowledge)

ด้านทกั ษะกระบวนการ 2. สามารถหาแรงลพั ธ์โดยการแสดงวธิ ีการคำนวณได้

(P: Process)

ด้านคุณลกั ษณะที่พงึ 3. มคี วามสนใจใฝร่ ู้หรืออยากรอู้ ยากเหน็ และทำงานร่วมกับผอู้ ่ืนอย่าง

ประสงค์ (A: Attitude) สร้างสรรค์

ทักษะกระบวนการ 4. การคำนวณ และการลงความคิดเห็นจากข้อมูล

วทิ ยาศาสตร์ (Science
Process Skill)

5. ขน้ั จดั กิจกรรมการเรียนรแู้ บบวฏั จักรการเรยี นรู้ 5E
ข้นั ท่ี 1 ข้ันสร้างความสนใจ (Engagement)
1. นักเรียนทบทวนความร้เู กีย่ วกบั การหาแรงลัพธโ์ ดยวิธเี ขียนเวกเตอรข์ องแรงแบบหางตอ่

หัวและวธิ กี ารสร้างรูปสเ่ี หลีย่ มด้านขนาน โดยครจู ะใชค้ ำถาม
คำถาม - จงอธิบายการหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงที่กระทำมุมต่อกันโดยการเขียน

เวกเตอร์ของแรงแบบหางต่อหัว (แนวคำตอบ: การหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงที่กระทำมุมต่อกันดัง
รูป ก. โดยการเขียนเวกเตอร์ของแรงแบบหางตอ่ หัวนัน้ สามารถทำ ได้โดยนำหางของเวกเตอร์แรงท2่ี
ต่อกับหัวของเวกเตอร์แรงที่1 จากนั้นลากเวกเตอร์จากหางของเวกเตอร์แรง1 ไปยังหัวของเวกเตอร์
แรง2 ซึ่งกค็ ือ แรงลัพธ์ ของแรงสองแรงทีท่ ำามุมต่อกัน ดงั รปู ข.)

- จงอธิบายการหาแรงลัพธ์
ของแรงสองแรงที่กระทำมุมต่อกันโดยสร้างรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน (แนวคำตอบ: ให้นำเส้นประขนาด
และทิศทางเท่ากบั เวกเตอร์แรง1 ไปต่อกบั หัวของเวกเตอร์แรง2 จากนน้ั นำเสน้ ประขนาดและทิศทาง
เท่ากับเวกเตอร์แรง2 ไปต่อกับหัวของเวกเตอร์แรง1 จากนั้นลากเส้นจากจุดที่หางของเวกเตอร์แรง1
และแรง2 ไปยังจดุ ทีเ่ ส้นประชนกันพอดี ซงึ่ เวกเตอร์ท่ไี ด้คือเวกเตอร์ลัพธ์ ดังรปู )

42

ข้ันท่ี 2 ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration)
1. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ 4-5 คน เพื่อชว่ ยกนั ศกึ ษาเก่ียวกบั เร่ือง การหาแรงลพั ธ์โดยการ

คำนวณ
2. นักเรยี นแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนมารบั ใบความรเู้ รอื่ ง การหาแรงลพั ธโ์ ดยการคำนวณ
3. นักเรียนร่วมกันศึกษาและสรุปเป็นแผนผังมโนทัศน์ลงบนกระดาษชาร์ท พร้อมตกแต่งให้

สวยงาม โดยครจู ะคอยให้คำแนะนำหากนกั เรยี นมีข้อสงสยั

ขน้ั ที่ 3 ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
1. ครซู ุ่มนักเรยี นออกมานำเสนอผลการศึกษาเกีย่ วกับการหาแรงลัพธโ์ ดยการคำนวณ
2. ครูยกตัวอย่างการหาแรงลัพธ์โดยการคำนวณ เพื่อเป็นแนวทางให้นักเรียนสามารถแก้

โจทย์ปัญหาขอ้ ถดั ไปได้

ขน้ั ท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)
1. นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั เร่ือง การหาแรงลพั ธโ์ ดยการคำนวณ
2. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัด หากนักเรียนไม่เข้าใจหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ

เนอ้ื หาทเี่ รียน ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ

ข้นั ที่ 5 ขนั้ ประเมิน (Evaluation)
1. สังเกตพฤติกรรมในการทำงานของผ้เู รยี น
2. ตรวจการทำแบบฝกึ หัด เพอ่ื ดวู ่านักเรียนทำถกู ตอ้ งหรอื ไม่ ถ้าไม่ถูกตอ้ ง ครูอธบิ ายเพิม่ เติม

ให้นกั เรยี นเข้าใจมากขึน้

6. สอ่ื การเรียนรู้/อุปกรณ/์ แหลง่ เรยี น
1. ใบความรเู้ ร่ือง การหาแรงลัพธ์โดยการคำนวณ
2. แบบฝึกหดั เรือ่ ง การหาแรงลพั ธโ์ ดยการคำนวณ
3. PowerPoint หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง แรงและกฎการเคลอื่ นที่

43

7. การวัดและประเมินผล วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื ท่ีใช้ เกณฑ์การประเมิน
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายของแรงลพั ธไ์ ด้ - การถาม-ตอบ - แบบตรวจแบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์การ
(K) ประเมนิ ร้อยละ 70
- การแสดงความคิดเหน็ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
2. สามารถหาแรงลพั ธโ์ ดยการแสดง
วิธีการคำนวณได้ (P) - การทำแผนผงั มโนทศั น์ รายบุคคล
3. มีความสนใจใฝร่ ้หู รืออยากรอู้ ยาก
เห็น และทำงานร่วมกับผ้อู น่ื อยา่ ง - การทำกจิ กรรม
สรา้ งสรรค์ (A)
4. การคำนวณ และการลงความ - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบตรวจแบบฝึกหัด
คิดเห็นจากข้อมลู
(ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร)์ - การถาม-ตอบ

- สังเกตพฤติกรรม - แบบตรวจแบบฝึกหัด

- การส่งงานตรงเวลา - แบบสังเกตพฤติกรรม

รายบุคคล

- สงั เกตพฤติกรรมการ - แบบตรวจแบบฝึกหัด

ทำงาน - แบบสังเกตพฤตกิ รรม

- การถาม-ตอบ รายบคุ คล

- ตรวจแบบฝึกหัด

44

45

ความคดิ เห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. ...................................

ลงชอ่ื ...........................................ผ้ตู รวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หัวหนา้ กลมุ่ สาระ ฯ

ความคดิ เห็นของรองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
................................................................................................................................................. ...............
.................................................................................................................... ............................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชือ่ ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นายสรุ ชัย ทองทิพย์ )

รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ

ความคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยการโรงเรยี นเตรียมอุดมศกึ ษาพัฒนาการ อุดรธานี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชือ่ ...........................................ผตู้ รวจสอบ
( นายคมสันต์ ถานกางสยุ่ )
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น

46

เกณฑก์ ารตรวจแบบฝึกหดั

แกป้ ญั หา ความ ความ ความ ตรงตอ่ รวม
ที่ ช่อื - สกุล ดว้ ยตวั เอง สะอาด รับผดิ ชอบ ถกู ต้อง เวลา

2 2 2 2 2 10

ลงช่ือ................................................ผู้ประเมนิ
(.......................................................)

เกณฑก์ ารประเมิน 0 – 4 ปรบั ปรุง
คะแนน 5 – 6 พอใช้
คะแนน 7 – 8 ดี
คะแนน 9 – 10 ดมี าก
คะแนน

47

แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล

คำชแ้ี จง ใหค้ รผู ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้ว / ลงใน
ช่องที่ตรงกับระดับคะแนน

ลำดบั มีความใฝร่ ู้ มีความมงุ่ มัน่ ใน มสี ว่ นร่วมใน รวม 15
ท่ี
ช่ือ -สกุล ใฝ่เรยี น การทำงาน การทำกิจกรรม คะแนน

5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 32 1

ลงช่ือ................................................ผปู้ ระเมนิ
(.......................................................)

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ระดบั การมสี ่วนร่วมมากที่สดุ ให้ 5 คะแนน
ระดับการมสี ว่ นรว่ มมาก ให้ 4 คะแนน
13 – 15 ดีมาก ระดบั การมสี ่วนรว่ มปานกลาง ให้ 3 คะแนน
10 – 12 ดี ระดบั การมีสว่ นร่วมน้อย ให้ 2 คะแนน
7–9 ระดบั การมีสว่ นร่วมนอ้ ยทสี่ ดุ ให้ 1 คะแนน
4 –6 ปานกลาง
1– 3 พอใช้
ปรับปรุง

48

49

50

51

52

53

54

55

56

57

58

59

60

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 21

รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ 1 (ว31201) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 แรงและกฎการเคล่ือนที่ เวลา 24 ช่วั โมง

เรอื่ งที่ 5 มวลและความเฉื่อย เวลา 1 ชว่ั โมง

ภาคเรียนที่ 1 ครูผู้สอน นายนครินทร์ เกตุทองมา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระวทิ ยาศาสตรเ์ พมิ่ เตมิ /ผลการเรยี นรู้
สาระฟิสกิ ส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ

การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใชป้ ระโยชน์

ผลการเรียนรู้
5. เขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระทดลอง และอธิบายกฎการเคลื่อนที่ของ
นิวตันและการใช้กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันกบั สภาพการเคลื่อนทขี่ องวตั ถุ รวมทง้ั คำนวณปริมาณต่าง
ๆ ท่เี ก่ียวข้อง

2. สาระสำคญั
มวล (mass) เป็นสมบัติประจำตัวของวัตถุอย่างหนึ่งโดยเป็นสมบัติทางความเฉื่อย (inertia) ต่อ

การเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ โดยที่มวลเป็นปริมาณสเกลาร ในระบบเอสไอมีหน่วยเป็น
กิโลกรัม (kg)

กฎขอ้ ทห่ี นง่ึ ของนิวตนั หรือกฎแหง่ ความเฉอ่ื ย กล่าวว่า "วตั ถุทกุ ชนิดจะเคล่ือนที่ดว้ ยความเร็วคงที่
นอกจากมแี รงมากระทำต่อวตั ถุ"

กฎข้อที่สองของนิวตนั กล่าวว่า "ความเร่งของของวัตถุจะแปลผนั ตรงกับแรงสุทธิท่ีกระทำต่อวัตถุ
และแปรผกผนั กับมวลของวัตถ"ุ ทิศของความเร่งจะมีทิศเดียวกับแรงสุทธิที่กระทำบนวัตถุ สามารถ
เขยี นอยู่ในรปู ของสมการทางคณิตศาสตร์ได้ดงั น้ี

n

∑ F⃑i = ma⃑

i=0

กฎข้อท่สี ามของนิวตัน กฎของแรงกิรยิ าและแรงปฏิกิริยา กล่าววา่ "เม่ือวตั ถุชิน้ หนงึ่ ออกแรง (แรง
กริ ิยา, action) กระทำต่อวัตถอุ ีกชิน้ หน่ึง วัตถุอันหลงั จะออกแรงด้วยขนาดที่เท่ากันแต่ทิศตรงกันข้าม
(แรงปฏกิ ิรยิ า - reaction) กบั แรงท่เี กิดจากวตั ถุอนั แรก"

3. สาระการเรียนรู้

61

มวลและความเฉ่อื ย มวลเป็นปรมิ าณของสสารท่ีประกอบอยูใ่ นวตั ถุหน่ึง ๆ ซ่ึงเปน็ ปริมาณ สเกลาร์
เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ m หน่วยในระบบเอสไอเป็นกิโลกรัม (kilogram ; kg) โดยวัตถุที่มีมวลมาก
จะมีความเฉื่อยมาก วัตถุที่มีมวลน้อยจะมีความเฉื่อยน้อย ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวเรียกว่า ความเฉื่อย
(inertia) เป็นสมบัติที่วัตถุต้านการเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ และปริมาณที่บอกให้ทราบถึงความ
เฉอ่ื ยของวตั ถุคอื มวล (mass)

4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เมื่อจบกจิ กรรมการเรียนรู้ นักเรยี นสามารถ

จุดประสงคการเรียนรู้ รายละเอียด

ด้านความรู้ 1. อธบิ ายความสัมพันธ์ของมวลและความเฉื่อยได้

(K: Knowledge)

ด้านทกั ษะกระบวนการ 2. มที ักษะการทดลองเก่ยี วกับมวลและความเฉื่อยของวัตถุได้

(P: Process)

ด้านคุณลักษณะท่ีพงึ 3. มีความสนใจใฝร่ หู้ รอื อยากรอู้ ยากเห็น และทำงานร่วมกับผ้อู ่นื อย่าง
ประสงค์ (A: Attitude) สร้างสรรค์

ทกั ษะกระบวนการ 4. การลงความคดิ เห็นจากข้อมูล
วทิ ยาศาสตร์ (Science
Process Skill)

5. ขั้นจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 5E
ข้นั ที่ 1 ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement)
1. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับแรง เพื่อเป็นความรู้พื้นฐานนำไปสู่

การศกึ ษา เร่ือง มวล
2. ครูถามคำถามเพอื่ กระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนเกี่ยวกับมวล
คำถาม - มวลมีผลตอ่ การเคลื่อนท่หี รือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ: วัตถใุ ดท่มี มี วลมาก

จะต้านการเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่มาก ในทางกลับกัน วัตถุใดมีมวลน้อยจะต้านการเปลี่ยนสภาพ
การเคล่ือนท่ีนอ้ ย)

ขน้ั ที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration)
1. ครูเปิดประเด็นและนำอภิปรายโดยคำถามที่เชื่อมโยงสู่ชีวิตประจำวันว่า ระหว่างรถยนต์

กับรถบรรทุก ถ้าเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงตัวเท่ากัน เมื่อเบรกอย่างกะทันหันรถคันไหนสามารถหยุด
นิง่ ได้ก่อน เพราะเหตุใด (รถยนต์ เพราะวา่ รถยนต์มีมวลน้อย ย่อมมคี วามเฉือ่ ยน้อยกวา่ )

2. นักเรียนจับคู่ทดลอง โดยการนำไม้บรรทัดมาดีดให้เคลื่อนที่กลับไปกลับมา แล้วช่วยกัน
สังเกตการเคลื่อนที่ของไม้บรรทัด จากนั้นนำดินน้ำมัน มาติดไว้ที่ปลายไม้บรรทัด แล้วดีดไม้บรรทัด
เหมือนเดิมอีกครั้ง สังเกตการเคลื่อนทีข่ องไม้บรรทัด แล้วใหน้ กั เรยี นทุกคนช่วยกนั ตอบคำถามโดยใช้
คำถามว่า จากการทดลองทั้ง 2 กรณี การเคลื่อนท่ีตา่ งกันหรือไม่ อย่างไร (เคล่อื นทตี่ า่ งกนั ไม้บรรทัด
ที่ไม่มีมวลดินน้ำมันติดจะเคลื่อนที่ครบวงรอบโดยใช้เวลาในการเคลื่อนที่กลับไปกลับมาแล้วจึงหยุด
ส่วนไม้บรรทัดทม่ี ีมวลดินนำ้ มนั ติดอยู่ จะเคล่อื นที่ใช้เวลานานกว่าไม้บรรทัดที่ไมม่ ีมวลดินน้ำมันติดอยู่
จึงจะหยุดนงิ่ )

62

3. ครูถามนักเรียนต่อไปว่า เพราะเหตุใด ไม้บรรทัดที่มีมวลดินน้ำมันติดอยู่ ใช้เวลาเคลื่อนท่ี
นานกว่าจึงจะหยดุ น่ิง (เป็นเพราะมีมวลเข้ามาเก่ียวข้อง ถ้ามีมวลมากความเฉื่อยก็จะมาก จึงทำให้ไม้
บรรทดั ที่มมี วลของดนิ น้ำมันติดอยู่ จึงใชเ้ วลานานกว่าไมบ้ รรทดั เปลา่ จึงจะหยุดเคล่ือนที่)

4. ครูชี้ให้นักเรียนเห็นว่า การเคลื่อนที่มีความเฉื่อยมาเกี่ยวข้อง แล้วถามนักเรียนว่า ความ
เฉื่อย คืออะไร (ความเฉื่อย คือ สมบัติของวัตถุที่พยายามรักษาสภาพการเคลื่อนที่ ดังนั้นการที่วัตถุมี
มวลมาก ๆ วัตถุนั้นจะมีความเฉ่ือยมาก การเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ทำไดย้ ากกวา่ วัตถุที่มีมวลน้อย
หรือวัตถุมีมวลมากมีความเฉื่อยมากทำให้วัตถุนั้นเคลื่อนที่ยาก ต้องใช้แรงมาก วัตถุที่มีมวลน้อยมี
ความเฉ่อื ยนอ้ ยทำให้วตั ถุเคล่อื นท่ีง่าย ใช้แรงนอ้ ย)

5. นักเรียนช่วยกันตอบคำถาม แสดงความคิดเห็นตามความรู้และประสบการณ์ของนกั เรยี น
โดยครูยังไม่เน้นคำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง

ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
1. นกั เรยี นและครูอภิปรายสรุปร่วมกนั จนได้ข้อสรปุ ดงั น้ี
แนวทางอภิปราย: โดยวัตถุที่มีมวลมากจะมีความเฉื่อยมาก วัตถุที่มีมวลน้อยจะมี

ความเฉื่อยน้อย ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวเรียกว่า ความเฉือ่ ย (inertia) เป็นสมบัติทีว่ ัตถตุ ้านการเปลีย่ น
สภาพการเคลื่อนที่ และปริมาณที่บอกให้ทราบถึงความเฉื่อยของวัตถุคือ มวล (mass) ซึ่งมวลเป็น
ปริมาณของสสารที่ประกอบอยู่ในวัตถุหนึ่ง ๆ ซึ่งเป็นปริมาณสเกลาร์ เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ m
หนว่ ยในระบบเอสไอเป็นกโิ ลกรมั (kilogram ; kg)

ขัน้ ท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)
1. ครใู ห้นักเรียนทำแผนผงั ความคิดสรปุ ความรู้เกีย่ วกับมวลและความเฉื่อยของวตั ถุ
2. ครูจะอธบิ ายเพิม่ เติมหากนักเรียนยงั มีข้อสงสยั เกย่ี วกบั เร่ืองมวลและความเฉ่ือย

ขั้นที่ 5 ขน้ั ประเมนิ (Evaluation)
1. ครถู ามคำถาม เพื่อเปน็ การประเมินนักเรยี นหลงั จากได้ทำกิจกรรมการเรยี นรู้
คำถาม - มวล หมายถึง (แนวคำตอบ: ปริมาณที่บอกให้ทราบถึงความเฉือ่ ย ซึ่งเป็น

ปริมาณของสสารที่ประกอบอยู่ในวัตถุหนึ่ง ๆ ซึ่งเป็นปริมาณสเกลาร์ เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ m
หน่วยในระบบเอสไอเป็นกโิ ลกรมั (kilogram ; kg)

- ความเฉอื่ ย หมายถงึ (แนวคำตอบ: สมบตั ทิ ี่วตั ถตุ า้ นการเปล่ียนสภาพการ
เคลอื่ นทขี่ องวตั ถุ โดยวัตถทุ มี่ ีมวลมากจะมีความเฉอื่ ยมาก วตั ถทุ ม่ี ีมวลน้อยจะมีความเฉ่ือยนอ้ ย)

6. สื่อการเรียนร้/ู อปุ กรณ์/แหล่งเรยี น
1. อปุ กรณ์การทดลอง ไม้บรรทัดพลาสติก และดินน้ำมัน
2. PowerPoint หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง แรงและกฎการเคล่ือนท่ี

63

7. การวัดและประเมนิ ผล วิธีการวัด เครือ่ งมือทใี่ ช้ เกณฑ์การประเมนิ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - การถาม-ตอบ - แบบตรวจแบบฝกึ หดั
1. อธบิ ายความสมั พันธ์ของมวลและ - การแสดงความคิดเห็น ผ่านเกณฑ์การ
ความเฉ่ือยได้ (K) - การทำกจิ กรรม - แบบประเมนิ ทักษะ ประเมนิ ร้อยละ 70
- สังเกตจากการทำการ การทดลอง
2. มีทกั ษะการทดลองเก่ยี วกับเร่อื ง ทดลอง
มวลและความเฉ่ือยของวัตถุได้ (P) - การถาม-ตอบ - แบบตรวจแบบฝึกหัด
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
3. มคี วามสนใจใฝร่ ู้หรอื อยากรอู้ ยาก - การส่งงานตรงเวลา รายบคุ คล
เห็น และทำงานร่วมกับผ้อู ่นื อย่าง - แบบประเมนิ ทักษะ
สร้างสรรค์ (A) - สงั เกตพฤติกรรมการ การทดลอง
4. การลงความคิดเห็นจากข้อมูล ทดลอง
(ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์)

64

65

ความคิดเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชอื่ ...........................................ผูต้ รวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หวั หน้ากลุม่ สาระ ฯ

ความคดิ เหน็ ของรองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชือ่ ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นายสุรชยั ทองทิพย์ )

รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ

ความคิดเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี นเตรยี มอุดมศึกษาพัฒนาการ อุดรธานี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชื่อ...........................................ผ้ตู รวจสอบ
( นายคมสันต์ ถานกางสยุ่ )
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียน

66

เกณฑก์ ารตรวจแบบฝึกหดั

แกป้ ญั หา ความ ความ ความ ตรงตอ่ รวม
ที่ ช่อื - สกุล ดว้ ยตวั เอง สะอาด รับผดิ ชอบ ถกู ต้อง เวลา

2 2 2 2 2 10

ลงช่ือ................................................ผู้ประเมนิ
(.......................................................)

เกณฑก์ ารประเมิน 0 – 4 ปรบั ปรุง
คะแนน 5 – 6 พอใช้
คะแนน 7 – 8 ดี
คะแนน 9 – 10 ดมี าก
คะแนน

67

แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล

คำชแ้ี จง ใหค้ รผู ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้ว / ลงใน
ช่องที่ตรงกับระดับคะแนน

ลำดบั มีความใฝร่ ู้ มีความมงุ่ มัน่ ใน มสี ว่ นร่วมใน รวม 15
ท่ี
ช่ือ -สกุล ใฝ่เรยี น การทำงาน การทำกิจกรรม คะแนน

5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 32 1

ลงช่ือ................................................ผปู้ ระเมนิ
(.......................................................)

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ระดบั การมสี ่วนร่วมมากที่สดุ ให้ 5 คะแนน
ระดับการมสี ว่ นรว่ มมาก ให้ 4 คะแนน
13 – 15 ดีมาก ระดบั การมสี ่วนรว่ มปานกลาง ให้ 3 คะแนน
10 – 12 ดี ระดบั การมีสว่ นร่วมน้อย ให้ 2 คะแนน
7–9 ระดบั การมีสว่ นร่วมนอ้ ยทสี่ ดุ ให้ 1 คะแนน
4 –6 ปานกลาง
1– 3 พอใช้
ปรับปรุง

68

แบบประเมนิ ทักษะการทดลอง

คำช้แี จง :ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ลง
ในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
4321

1 การดำเนนิ การทดลอง

2 การใชว้ สั ดุและอปุ กรณ์ในการทดลอง

3 การบันทกึ ขอ้ มูล

4 ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรม

5 ความคล่องแคลว่ ในการใชอ้ ุปกรณ์การ
ทดลอง

รวม

ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน

ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน

ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน

ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ดมี าก
18 - 20 ดี
14 - 17
10 - 13 พอใช้
ต่ำกวา่ 10 ปรบั ปรุง

69

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 22

รายวชิ าเพ่มิ เติม ฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 แรงและกฎการเคลื่อนท่ี เวลา 24 ชวั่ โมง

เรอ่ื งท่ี 6 กฎการเคล่ือนทีข่ ้อท่ีหน่งึ ของนิวตนั เวลา 1 ชัว่ โมง

ภาคเรยี นที่ 1 ครผู สู้ อน นายนครินทร์ เกตุทองมา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระวทิ ยาศาสตร์เพิ่มเติม /ผลการเรียนรู้
สาระฟสิ กิ ส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ

การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตมั การเคลื่อนที่แนวโคง้ รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใช้ประโยชน์

ผลการเรยี นรู้
5. เขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระทดลอง และอธิบายกฎการเคลื่อนที่ของ
นวิ ตนั และการใชก้ ฎการเคลอ่ื นท่ีของนิวตันกับสภาพการเคล่ือนทีข่ องวัตถุ รวมท้งั คำนวณปริมาณต่าง
ๆ ท่เี ก่ยี วข้อง

2. สาระสำคญั
มวล (mass) เป็นสมบัติประจำตัวของวัตถุอย่างหนึ่งโดยเป็นสมบัติทางความเฉื่อย (inertia) ต่อ

การเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ โดยที่มวลเป็นปริมาณสเกลาร ในระบบเอสไอมีหน่วยเป็น
กโิ ลกรมั (kg)

กฎข้อทหี่ นึง่ ของนิวตัน หรอื กฎแห่งความเฉอ่ื ย กล่าววา่ "วตั ถุทุกชนิดจะเคลื่อนท่ดี ว้ ยความเร็วคงที่
นอกจากมแี รงมากระทำต่อวตั ถ"ุ

กฎข้อที่สองของนิวตนั กล่าวว่า "ความเร่งของของวัตถุจะแปลผันตรงกับแรงสุทธิที่กระทำต่อวัตถุ
และแปรผกผนั กบั มวลของวตั ถ"ุ ทิศของความเรง่ จะมีทิศเดียวกับแรงสุทธทิ ีก่ ระทำบนวัตถุ สามารถ
เขยี นอยู่ในรปู ของสมการทางคณิตศาสตร์ได้ดังนี้

n

∑ F⃑i = ma⃑

i=0

กฎข้อท่ีสามของนวิ ตัน กฎของแรงกิรยิ าและแรงปฏิกริ ิยา กลา่ ววา่ "เม่ือวตั ถุชิ้นหน่ึงออกแรง (แรง
กิริยา, action) กระทำตอ่ วตั ถอุ ีกชนิ้ หน่งึ วตั ถุอนั หลังจะออกแรงดว้ ยขนาดที่เท่ากนั แต่ทิศตรงกันข้าม
(แรงปฏิกิริยา - reaction) กับแรงท่เี กิดจากวตั ถอุ ันแรก"

3. สาระการเรยี นรู้
กฎการเคลื่อนที่ข้อที่หนึ่งของนิวตัน มีใจความดังนี้ “ในกรอบอ้างอิงเฉื่อย วัตถุจะยังคงรักษา

สภาพการเคล่ือนท่ีที่วัตถุนั้นอยู่น่ิงหรอื เคลื่อนที่ด้วยความเรว็ คงตวั ตราบเท่าที่ไมม่ ีแรงมากระทำาต่อ
วัตถนุ ั้น” เขยี นเป็นสมการได้ ∑F⃗ = 0

70

4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เมอ่ื จบกิจกรรมการเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถ

จุดประสงคการเรียนรู้ รายละเอยี ด

ดา้ นความรู้ 1. อธิบายกฎการเคล่ือนทข่ี ้อที่หนง่ึ ของนิวตนั ได้

(K: Knowledge)

ด้านทักษะกระบวนการ 2. ประยุกตใ์ ช้กฎการเคลอ่ื นท่ีของนิวตันในการแกป้ ัญหาและคำนวณ

(P: Process) ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกบั การเคลือ่ นที่ของวตั ถุได้

ด้านคุณลกั ษณะท่ีพึง 3. มีความสนใจใฝ่รหู้ รืออยากรู้อยากเห็น และทำงานร่วมกับผู้อื่นอยา่ ง

ประสงค์ (A: Attitude) สร้างสรรค์

ทักษะกระบวนการ 4. การลงความคดิ เหน็ จากข้อมูล

วิทยาศาสตร์ (Science
Process Skill)

5. ข้นั จัดกิจกรรมการเรยี นรแู้ บบวฏั จักรการเรียนรู้ 5E
ขั้นท่ี 1 ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement)
1. นกั เรยี นและครูทบทวนเรอ่ื งมวลและความเฉอ่ื ย โดยการใช้คำถาม
คำถาม - มวล หมายถึง (แนวคำตอบ: ปริมาณที่บอกให้ทราบถึงความเฉื่อย ซึ่งเป็น

ปริมาณของสสารที่ประกอบอยู่ในวัตถุหนึ่ง ๆ ซึ่งเป็นปริมาณสเกลาร์ เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ m
หน่วยในระบบเอสไอเป็นกโิ ลกรมั (kilogram ; kg)

- ความเฉอ่ื ย หมายถึง (แนวคำตอบ: สมบัติทีว่ ัตถตุ ้านการเปลี่ยนสภาพการ
เคลือ่ นทข่ี องวัตถุ โดยวตั ถทุ ่มี ีมวลมากจะมคี วามเฉอ่ื ยมาก วัตถทุ มี่ มี วลน้อยจะมีความเฉ่อื ยนอ้ ย)

ขนั้ ท่ี 2 ข้ันสำรวจและค้นหา (Exploration)
1. ครถู ามคำถาม เพอ่ื นำไปสู่การศกึ ษา เร่ือง กฎการเคลือ่ นท่ีของนวิ ตนั ว่า
คำถาม - ถา้ นักเรยี นออกแรงเข็นรถ แต่รถไม่เคลื่อนท่ี นักเรียนคิดวา่ เป็นเพราะเหตุ

ใด (แนวคำตอบ: วัตถุคงสภาพอยนู่ งิ่ หรือสภาพการเคลือ่ นทดี่ ้วยความเร็วคงตวั ซ่งึ เป็นไปตามกฎการ
เคลอื่ นท่ขี อ้ ทห่ี น่งึ ของนิวตนั )

2. นักเรยี นแบง่ เปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ใหส้ มาชิกในกล่มุ เลือกหวั หนา้ กลมุ่ เพ่อื ประสานงาน
กลุ่มและมอบหมายหน้าที่ให้สมาชิกในกลุ่มตามความสามารถ (พอประมาณ) ไปสืบค้นข้อมูลหรือ
กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกฎการเคลื่อนที่ข้อที่หนึ่งของนิวตันจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อนำมาจัดป้าย
นิเทศ

3. นักเรียนนำข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นมาวิเคราะห์และเรียบเรียงเนื้อหาเพื่อใช้สำหรับการ
นำเสนอโดยแลกเปล่ียนความคิดเหน็ กันภายในกลุม่

(หมายเหตุ: ครูเรมิ่ ประเมินนกั เรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตการณ์ทำงานกลมุ่ )

71

4. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันคิดวิเคราะห์ ค้นหาวิธีการ การจัดป้ายนิเทศเรื่อง กฎการ
เคล่ือนทข่ี ้อทหี่ นง่ึ ของนวิ ตนั เพื่อนำเสนอประกอบการรายงานหน้าชน้ั เรียน โดยนกั เรียนทุกคนต้องใช้
วัสดุ อุปกรณ์ หรือวัสดุเหลือใช้ (เช่น หนังสือพิมพ์) ที่มีในโรงเรียนเท่านั้นสำหรับตกแต่งป้ายนิเทศ
สำหรับใช้นำเสนอ

ขั้นที่ 3 ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
1. นักเรียนแต่กลุ่มส่งตัวแทน 2 คน แต่ละกลุ่มนำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อมป้ายนิเทศของ

กลุ่มตนเอง โดยครูและนักเรียนกลุม่ อ่ืน ๆ ช่วยกนั ประเมินการอภปิ รายและการนำเสนอ

ข้นั ท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)
1. หลักจากทท่ี ุกคนนำเสนอหน้าชั้นเรียนครบแล้ว ครูและนักเรยี นอภิปรายสรุปเกย่ี วกบั กฎ

การเคล่อื นท่ีข้อทห่ี น่ึงของนิวตนั ดงั นี้
แนวทางอภิปราย:
กฎการเคลื่อนที่ข้อที่หนึ่งของนิวตัน หรืออาจเรียกว่า กฎแห่งความเฉื่อย (inertia

law) กล่าวว่า “วัตถุจะคงสภาพอยู่นิ่ง หรือสภาพเคลือ่ นท่ีด้วยความเร็วคงตัวในแนวตรง นอกจากจะ
มีแรงลัพธซ์ ่ึงมคี า่ ไม่เปน็ ศนู ยม์ ากระทำ” หรอื สรุปเปน็ สมการ ∑F = 0

2. ครูนำอภิปรายและให้ความรู้เก่ียวกับการนำกฎการเคลื่อนที่ข้อที่หน่ึงของนวิ ตันไปอธิบาย
ปรากฎการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขน้ึ ในชีวติ ประจำวัน โดยนำอภิปรายโดยคำถามท่วี า่ เพราะเหตใุ ด เม่ือรถท่ี
กำลังเคลือ่ นท่ีอยู่คนขับรถเหยยี บเบรกกะทันหัน เพื่อจะหยุดรถ ตัวเราจึงถูกผลักมาขา้ งหน้า ก็เพราะ
วัตถตุ ้องการรักษาสภาพการเคลื่อนทเี่ ดมิ ซึง่ เปน็ ไปตามกฎขอ้ ท่หี นง่ึ ของนวิ ตนั

3. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนสอบถามเน้ือหาเรื่อง กฎข้อทห่ี นง่ึ ของนวิ ตัน ว่ามีส่วนไหนท่ียังไม่
เขา้ ใจและให้ความรเู้ พมิ่ เติมในส่วนนน้ั

ขน้ั ท่ี 5 ขั้นประเมนิ (Evaluation)
1. ครูถามคำถาม เพอ่ื เป็นการประเมนิ ความรู้ของนักเรียน
คำถาม - กฎการเคล่ือนท่ีข้อท่ีหนึง่ ของนวิ ตนั กลา่ ววา่ อย่างไร (แนวคำตอบ: วัตถุจะ

คงสภาพอย่นู ่ิง หรอื สภาพเคลอ่ื นท่ดี ้วยความเร็วคงตวั ในแนวตรง นอกจากจะมีแรงลัพธ์ซ่ึงมคี า่ ไมเ่ ปน็
ศูนย์มากระทำ หรือสรปุ เปน็ สมการ ∑F = 0)

- เม่อื แรงลัพธก์ ระทำตอ่ วัตถเุ ป็นศนู ย์ วตั ถุจะมคี วามเร็วเปน็ ศูนย์ ใช่หรือไม่
อย่างไร (แนวคำตอบ: เมื่อแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุเป็นศูนย์ วัตถุจะมีความเร็วเป็นศูนย์หรือไม่ก็ได้
แต่มคี วามเรง่ เปน็ ศูนย์)

6. สอื่ การเรยี นร/ู้ อปุ กรณ์/แหลง่ เรียน
1. หนังสอื เรยี น รายวิชาเพมิ่ เตมิ ฟสิ ิกส์ 1 เล่ม 1 (สสวท.)
2. อุปกรณ์ทำปา้ ยนเิ ทศ
3. PowerPoint หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่อื ง แรงและกฎการเคลือ่ นที่

72

7. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี ารวัด เคร่ืองมือท่ใี ช้ เกณฑ์การประเมนิ
จุดประสงค์การเรยี นรู้ - แบบสังเกตพฤติกรรม
1. อธบิ ายกฎการเคลื่อนทีข่ ้อท่ีหนง่ึ - การถาม-ตอบ รายบคุ คล ผ่านเกณฑ์การ
ของนิวตันได้ (K) - การแสดงความคิดเหน็ ประเมนิ ร้อยละ 70
- การนำเสนอหน้าชั้น - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
2. ประยุกตใ์ ชก้ ฎการเคลอ่ื นที่ของนิว เรียน รายบคุ คล
ตนั ในการแก้ปญั หาและคำนวณ
ปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เกีย่ วข้องกับการ - การแสดงความคดิ เหน็ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
เคล่อื นท่ีของวตั ถไุ ด้ (P) - การถาม-ตอบ รายบุคคล
3. มคี วามสนใจใฝ่รูห้ รืออยากรู้อยาก - การนำเสนอหนา้ ชัน้
เหน็ และทำงานรว่ มกบั ผ้อู ่นื อยา่ ง เรียน
สรา้ งสรรค์ (A)
4. การลงความคดิ เห็นจากข้อมลู - สงั เกตพฤติกรรม
(ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์) - การสง่ งานตรงเวลา

- สงั เกตพฤติกรรมการ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
ทำงาน รายบคุ คล
- การถาม-ตอบ

73

74

ความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่ือ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หัวหน้ากล่มุ สาระ ฯ

ความคดิ เห็นของรองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
............................................................................................................................. ...................................
.............................................................................................................................................. ..................
................................................................................................................. ...............................................

ลงชื่อ...........................................ผตู้ รวจสอบ
( นายสุรชยั ทองทิพย์ )

รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ

ความคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรียนเตรยี มอุดมศึกษาพัฒนาการ อดุ รธานี
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
......................................................................................... .......................................................................

ลงชื่อ...........................................ผ้ตู รวจสอบ
( นายคมสันต์ ถานกางสุ่ย )
ผู้อำนวยการโรงเรียน

75

แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล

คำช้แี จง ใหค้ รผู ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ / ลงใน
ช่องทีต่ รงกบั ระดับคะแนน

ลำดับ มคี วามใฝร่ ู้ มีความมุ่งมนั่ ใน มสี ว่ นร่วมใน รวม 15
ที่
ชื่อ -สกลุ ใฝ่เรียน การทำงาน การทำกจิ กรรม คะแนน

5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 32 1

ลงชอ่ื ................................................ผปู้ ระเมนิ
(.......................................................)

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ระดับการมีส่วนรว่ มมากทสี่ ดุ ให้ 5 คะแนน
ระดับการมสี ว่ นร่วมมาก ให้ 4 คะแนน
13 – 15 ดีมาก ระดบั การมสี ่วนรว่ มปานกลาง ให้ 3 คะแนน
10 – 12 ดี ระดบั การมีสว่ นร่วมน้อย ให้ 2 คะแนน
7–9 ระดับการมีสว่ นร่วมนอ้ ยที่สุด ให้ 1 คะแนน
4 –6 ปานกลาง
1– 3 พอใช้
ปรบั ปรงุ

76

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 23

รายวชิ าเพมิ่ เติม ฟสิ ิกส์ 1 (ว31201) ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 แรงและกฎการเคลื่อนท่ี เวลา 24 ชั่วโมง

เรื่องท่ี 7 กฎการเคลื่อนท่ขี ้อท่ีสองของนิวตนั เวลา 2 ช่ัวโมง

ภาคเรยี นท่ี 1 ครูผสู้ อน นายนครนิ ทร์ เกตุทองมา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระวทิ ยาศาสตรเ์ พิ่มเติม /ผลการเรยี นรู้
สาระฟสิ กิ ส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ

การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ กั ษ์โมเมนตมั การเคลื่อนท่ีแนวโคง้ รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใช้ประโยชน์

ผลการเรยี นรู้
5. เขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระทดลอง และอธิบายกฎการเคลื่อนที่ของ
นิวตนั และการใช้กฎการเคลื่อนที่ของนิวตนั กับสภาพการเคลื่อนทข่ี องวัตถุ รวมทง้ั คำนวณปริมาณต่าง
ๆ ทีเ่ กยี่ วข้อง

2. สาระสำคัญ
มวล (mass) เป็นสมบัติประจำตัวของวัตถุอย่างหนึ่งโดยเป็นสมบัติทางความเฉื่อย (inertia) ต่อ

การเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ โดยที่มวลเป็นปริมาณสเกลาร ในระบบเอสไอมีหน่วยเป็น
กิโลกรมั (kg)

กฎขอ้ ที่หนงึ่ ของนวิ ตัน หรอื กฎแห่งความเฉอ่ื ย กล่าววา่ "วตั ถทุ ุกชนดิ จะเคล่ือนท่ดี ้วยความเร็วคงที่
นอกจากมีแรงมากระทำตอ่ วตั ถุ"

กฎข้อที่สองของนิวตนั กล่าวว่า "ความเร่งของของวัตถุจะแปลผันตรงกับแรงสุทธิที่กระทำต่อวัตถุ
และแปรผกผันกบั มวลของวัตถ"ุ ทิศของความเร่งจะมีทิศเดียวกับแรงสุทธทิ ี่กระทำบนวัตถุ สามารถ
เขียนอยใู่ นรปู ของสมการทางคณิตศาสตร์ไดด้ งั นี้

n

∑ F⃑i = ma⃑

i=0

กฎขอ้ ทีส่ ามของนวิ ตนั กฎของแรงกริ ิยาและแรงปฏิกิรยิ า กลา่ วว่า "เมื่อวตั ถชุ ิน้ หนึ่งออกแรง (แรง
กริ ยิ า, action) กระทำต่อวตั ถุอีกช้ินหนง่ึ วตั ถุอนั หลังจะออกแรงด้วยขนาดท่ีเท่ากนั แต่ทิศตรงกันข้าม
(แรงปฏิกิรยิ า - reaction) กับแรงทเี่ กิดจากวัตถอุ ันแรก"

3. สาระการเรยี นรู้
กฎการเคลื่อนที่ข้อท่ีสองของนิวตัน มีใจความดังนี้ “ความเร่งของวัตถุแปรผันตรงกับแรงลัพธ์ที่

กระทำาต่อวตั ถุน้ันแต่จะแปรผกผันกบั มวลของวตั ถุ” เขยี นเป็นสมการได้ F⃗ = ma⃗

77

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ เมื่อจบกิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรียนสามารถ

จุดประสงคการเรียนรู้ รายละเอยี ด

ดา้ นความรู้ 1. อธบิ ายกฎการเคลื่อนท่ขี ้อทสี่ องของนวิ ตนั ได้

(K: Knowledge) 2. อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งแรง มวล และความเร่ง ตามกฎการ

เคลอ่ื นท่ีข้อทีส่ องของนวิ ตันได้

ด้านทักษะกระบวนการ 3. ประยุกต์ใชก้ ฎการเคล่อื นท่ีของนวิ ตันในการแก้ปัญหาและคำนวณ

(P: Process) ปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกยี่ วข้องกบั การเคลอ่ื นที่ของวัตถุได้

ดา้ นคุณลกั ษณะท่ีพงึ 4. มีความสนใจใฝร่ หู้ รืออยากรอู้ ยากเหน็ และทำงานร่วมกับผู้อ่นื อยา่ ง
ประสงค์ (A: Attitude) สร้างสรรค์

ทกั ษะกระบวนการ 5. การคำนวณ การทดลอง การจัดกระทำและสื่อความหมายขอ้ มลู และ
วทิ ยาศาสตร์ (Science การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป
Process Skill)

5. ขัน้ จัดกจิ กรรมการเรยี นร้แู บบวฏั จกั รการเรียนรู้ 5E
ขนั้ ท่ี 1 ข้นั สร้างความสนใจ (Engagement)
1. นักเรียนทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับเรื่องกฎการเคลื่อนที่ข้อที่หนึ่งของนิวตัน เพื่อจะได้

เชอื่ มโยงเนื้อหา
2. ครูถามนักเรียนว่า ถ้าวัตถุเคลื่อนที่โดยมีแรงลัพธ์มากระทำที่มีค่ามากกว่าศูนย์ วัตถุจะ

เคลือ่ นทอี่ ย่างไร และจะมปี ริมาณใดบ้างเกดิ ข้ึนขณะวัตถุเคลื่อนท่ี (ท้ิงช่วงให้นักเรียนคิด) เพื่อนำไปสู่
การศกึ ษา เร่อื ง กฎการเคล่อื นท่ีข้อทีส่ องของนิวตนั

3. นักเรียนชว่ ยกันตอบคำถาม แสดงความคิดเห็นตามความรู้และประสบการณ์ของนกั เรยี น
โดยครูยงั ไมเ่ น้นคำตอบท่ถี กู ต้อง ครูและนกั เรยี นอภปิ รายสรปุ ร่วมกัน

ขนั้ ที่ 2 ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration)
1. นกั เรียนทบทวนความรูเ้ ดิมเกยี่ วกบั กฎการเคลอื่ นทข่ี ้อทหี่ นง่ึ ของนิวตัน เพือ่ จะได้เชอื่ มโยง

เนอ้ื หา
2. นักเรยี นสบื ค้นข้อมูลเพื่อนำไปสเู่ น้อื หาเกีย่ วกบั กฎการเคลื่อนที่ข้อทีส่ องของนิวตนั
3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน เพื่อทำกิจกรรมการทดลองเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่าง

แรง มวล และความเร่ง (ศึกษาความสัมพันธ์ระหวา่ งแรงที่กระทำต่อวัตถุ ความเร่งของวัตถทุ ี่เกดิ จาก
แรงนนั้ และมวลของวัตถุ ตามกฎการเคล่ือนท่ีขอ้ ที่สองของนิวตัน)

4. นักเรียนสง่ ตวั แทนมารบั ใบกจิ กรรม และอุปกรณ์การทดลอง
5. ครใู ห้ความรู้ท่ีจำเป็นต่อการทดลอง แนะนำการจัดเตรยี มอปุ กรณ์ แนะนำใหข้ นั้ ตอน และ
รายละเอียดในการทดลองแก่นักเรียน โดยใช้วิธีการต่าง ๆ ตามความเหมาะสม (วิดีโอการทดลอง
https://www.youtube.com/watch?v=ixQNxxKfvaY หรือศึกษาขั้นตอนการทดลองเพิ่มเติมใน
หนังสือเรยี นฟสิ ิกส์ 1)
6. นกั เรียนเริ่มทำกิจกรรมการทดลอง โดยครจู ะคอยใหค้ ำแนะนำหากนักเรยี นมขี ้อสงสัย

78

ข้นั ที่ 3 ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกันวิเคราะห์ผลการทดลองและสรุปผลการทดลอง พร้อมส่ง

ตัวแทนออกมานำเสนอ
อภปิ รายหลงั การทำกิจกรรม
จากผลการทำกิจกรรม ครูอภิปรายร่วมกับนักเรียนตามแนวคำาถามในหนังสือเรียน

จนสรปุ ได้ว่า
1. ขณะที่รถเคลื่อนที่ลงตามรางไม้ด้วยความเร็วคงตัว แรงลัพธ์ที่กระทำต่อรถมีค่า

เปน็ ศูนย์
2. เมื่อแขวนนอตกับขอเกี่ยวโลหะ ปรับรางไม้เช่นเดียวกับข้อ 1 รถจะเคลื่อนที่ด้วย

ความเรง่ เพราะมีแรงลพั ธก์ ระทำต่อรถ
3. จากผลการทำกจิ กรรม กราฟระหว่าง a กบั F เมื่อมวลคงตัว
- ถ้าเส้นกราฟ ความเร่ง a กับ แรง F เป็นเส้นตรงและผา่ นจุดกำาเนดิ แสดงว่า

a แปรผนั ตรงกับ F
- ถ้าเส้นกราฟเป็นเส้นตรงท่ีไม่ผ่านจุดกำาเนิด ให้ครูใช้หวั ข้อคำแนะนำเพิ่มเติม

สำหรับครใู นการอภิปรายร่วมกบั นกั เรยี น (คู่มอื ฟิสิกสม์ .4 เลม่ 1)

2. นักเรียนและครรู ่วมกันอภิปรายเก่ยี วกับกฎการเคล่ือนท่ีข้อที่สองของนิวตัน
แนวทางอภิปราย:
เมื่อมีแรงลัพธค์ งตวั และมีค่ามากกว่าศูนย์มากระทำต่อวัตถุจะเคลื่อนท่ีตามทิศของแรง

ลัพธ์ด้วยความเร่งโดยความเร่งแปรผันตรงกับแรงลัพธ์และแปรผกผันกับมวล หรือสรุปเป็นสมการ
∑F = ma เราเรียกสมการน้วี ่า กฎการเคล่อื นท่ขี ้อทส่ี องของนวิ ตัน

3. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้อหาเรื่อง กฎการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนิวตัน
วา่ มสี ่วนไหนทีย่ ังไมเ่ ขา้ ใจและใหค้ วามรเู้ พ่มิ เตมิ ในสว่ นนนั้

ขั้นที่ 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)
1. นักเรียนช่วยกนั ยกตัวอย่าง อธิบายปรากฎการณ์ หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎ

การเคล่อื นทข่ี ้อทส่ี องของนิวตัน
2. ครยู กตวั อย่างการคำนวณเพ่อื ให้นกั เรียนเข้าใจมากข้นึ
ตัวอย่าง ลังไม้ 10 kg วางบนพ้ืนที่ไม่มีแรงเสียดทาน มีคนออกแรงดึงลังไม้ 50 N ไป

ในทศิ ทางขนานกบั พ้ืน ลังไม้จะเคลอื่ นทด่ี ้วยความเร่งขนาดเทา่ ไร และมีทศิ ทางใด

นัน่ คอื F = ma

50 N = (10 kg)a
50 N
a = 10 kg

a = 5 m/s2 ไปในทางทศิ เดียวกบั แรงดงึ

3. นักเรียนศึกษาตัวอย่างการคำนวณเกี่ยวกับกฎการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนิวตัน พร้อมท้ัง

ใหน้ กั เรยี นฝกึ แกโ้ จทย์ปญั หา

79

ขนั้ ท่ี 5 ข้ันประเมิน (Evaluation)
1. ครถู ามคำถามนักเรียนว่า
คำถาม - กฎการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนิวตัน กล่าวว่าอย่างไร (แนวคำตอบ:

"ความเรง่ ของของวัตถุจะแปลผันตรงกบั แรงสุทธทิ ่ีกระทำต่อวตั ถุ และแปรผกผันกบั มวลของวัตถ"ุ ทิศ
ของความเร่งจะมีทิศเดียวกับแรงสุทธิที่กระทำบนวัตถุ สามารถเขียนอยู่ในรูปของสมการทาง
คณิตศาสตร์ได้ คอื ∑F = ma)

2. ตรวจการทำแบบฝกึ หัด เพ่อื ดวู ่านักเรยี นทำถูกตอ้ งหรือไม่ ถา้ ไมถ่ ูกตอ้ ง ครูอธบิ ายเพมิ่ เติม
ใหน้ ักเรยี นเข้าใจมากขนึ้
6. ส่อื การเรียนรู้/อุปกรณ์/แหลง่ เรยี น

1. ใบกจิ กรรมการทดลอง เรอื่ ง ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งแรง มวล และความเร่ง
2. หนงั สอื เรียน รายวิชาเพ่มิ เติมฟิสกิ ส์ 1 เล่ม 1 (สสวท.)
3. อุปกรณ์การทดลอง ได้แก่ เคร่ืองเคาะสัญญาณเวลา หมอ้ แปลงโวลตต์ ่ำ รางไมพ้ ร้อมแขนรางไม้
รดทดลอง นอต สายไนลอนพร้อมขอเกี่ยวโลหะ สายไฟ และแถบกระดาษ
4. PowerPoint หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เร่อื ง แรงและกฎการเคล่ือนที่

7. การวัดและประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เครื่องมือท่ีใช้ เกณฑก์ ารประเมนิ
- แบบประเมนิ การ
1. อธิบายกฎการเคล่ือนทีข่ ้อทส่ี องของ - การถาม-ตอบ ทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์การ
- แบบสังเกตพฤติกรรม ประเมินร้อยละ 70
นิวตันได้ (K) - การแสดงความคดิ เห็น รายบุคคล

2. อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งแรง - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบตรวจแบบฝึกหัด

มวล และความเรง่ ตามกฎการ - การทำกจิ กรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
รายบุคคล
เคลอ่ื นที่ข้อที่สองของนิวตันได้ (K) - แบบตรวจแบบฝกึ หดั
- แบบสังเกตพฤตกิ รรม
3. ประยุกตใ์ ชก้ ฎการเคล่อื นที่ของนวิ - ตรวจแบบฝกึ หัด รายบุคคล
- แบบตรวจแบบฝึกหดั
ตันในการแก้ปญั หาและคำนวณ - การถาม-ตอบ

ปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเกย่ี วข้องกับการ

เคลอื่ นที่ของวัตถไุ ด้ (P)

4. มคี วามสนใจใฝ่รหู้ รืออยากรูอ้ ยาก - สงั เกตพฤติกรรม

เหน็ และทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่ืนอยา่ ง - การสง่ งานตรงเวลา

สรา้ งสรรค์ (A)

5. การคำนวณ การทดลอง การจดั - สงั เกตพฤติกรรมการ

กระทำและส่ือความหมายข้อมูล และ ทำงาน

การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ - การถาม-ตอบ

(ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร)์ - ตรวจแบบฝกึ หดั

80


Click to View FlipBook Version