81
ความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอื่ ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หัวหน้ากล่มุ สาระ ฯ
ความคดิ เห็นของรองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ
............................................................................................................................. ...................................
.............................................................................................................................................. ..................
................................................................................................................. ...............................................
ลงช่อื ...........................................ผตู้ รวจสอบ
( นายสรุ ชัย ทองทิพย์ )
รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
ความคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรียนเตรยี มอดุ มศึกษาพัฒนาการ อดุ รธานี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นายคมสันต์ ถานกางสยุ่ )
ผู้อำนวยการโรงเรียน
82
เกณฑ์การตรวจแบบฝกึ หดั
แกป้ ญั หา ความ ความ ความ ตรงต่อ รวม
ท่ี ช่ือ - สกุล ดว้ ยตวั เอง สะอาด รบั ผิดชอบ ถกู ตอ้ ง เวลา
2 2 2 2 2 10
ลงชือ่ ................................................ผูป้ ระเมิน
(.......................................................)
เกณฑก์ ารประเมิน 0 – 4 ปรับปรุง
คะแนน 5 – 6 พอใช้
คะแนน 7 – 8 ดี
คะแนน 9 – 10 ดมี าก
คะแนน
83
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
คำช้แี จง ใหค้ รผู ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้ว / ลงในชอ่ งท่ี
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดับ มีความใฝ่รู้ มคี วามมุง่ มั่นใน มีสว่ นร่วมใน รวม 15
ที่
ชือ่ -สกุล ใฝ่เรียน การทำงาน การทำกจิ กรรม คะแนน
5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 32 1
ลงชื่อ................................................ผูป้ ระเมนิ
(.......................................................)
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ระดับการมสี ว่ นรว่ มมากท่สี ดุ ให้ 5 คะแนน
ระดบั การมีสว่ นรว่ มมาก ให้ 4 คะแนน
13 – 15 ดมี าก ระดับการมสี ่วนรว่ มปานกลาง ให้ 3 คะแนน
10 – 12 ดี ระดบั การมสี ่วนร่วมนอ้ ย ให้ 2 คะแนน
7–9 ระดับการมสี ว่ นรว่ มนอ้ ยทสี่ ุด ให้ 1 คะแนน
4 –6 ปานกลาง
1– 3 พอใช้
ปรับปรุง
84
แบบประเมินการทำงานกลุ่ม
กลมุ่ ที่ .........................
สมาชิกในกลุ่ม 1............................................................. 2................................................................
3............................................................. 4........................................................... .....
คำชแี้ จง ให้ผู้เรยี นทำเครือ่ งหมาย ✓ ในชอ่ งที่ตรงกับความคิดเห็น
พฤตกิ รรมทีส่ ังเกต ระดับคะแนน
5 4321
1. ความรับผดิ ชอบในการทำงาน
2. ความตัง้ ใจในการทำงาน
3. ทำงานเป็นทมี /การยอมรบั ฟงั ผู้อ่ืน
4. ตรงต่อเวลา
5. มีสว่ นร่วมในการทำงาน/การแสดงความคิดเหน็
รวม
ลงช่อื ..........................................................ผู้ประเมิน
………………../………………./……………
เกณฑก์ ารให้คะแนน
พฤติกรรมที่กระทำเปน็ ประจำ ให้ 5 คะแนน
พฤติกรรมที่กระทำเป็นบางครงั้ ให้ 4 คะแนน
พฤติกรรมท่ีกระทำนอ้ ยครัง้ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมท่ีกระทำน้อยครัง้ มาก ให้ 2 คะแนน
ไมม่ ีพฤติกรรมท่ีกระทำ ให้ 1 คะแนน
เกณฑท์ างด้านคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ
ช่วงคะแนน ดีมาก
9 - 10 ดี
7-8
5-6 ปานกลาง
3-4 พอใช้
0-2
ตอ้ งปรบั ปรุง
85
86
87
88
88
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 24
รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสกิ ส์ 1 (ว31201) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 แรงและกฎการเคลื่อนท่ี เวลา 24 ช่วั โมง
เรือ่ งที่ 8 กฎการเคล่ือนที่ข้อท่ีสามของนวิ ตนั เวลา 2 ช่วั โมง
ภาคเรียนท่ี 1 ครูผู้สอน นายนครินทร์ เกตุทองมา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระวิทยาศาสตร์เพม่ิ เติม /ผลการเรียนรู้
สาระฟิสกิ ส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ
การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ กั ษ์โมเมนตัม การเคลื่อนท่ีแนวโค้ง รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใชป้ ระโยชน์
ผลการเรียนรู้
5. เขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระทดลอง และอธิบายกฎการเคลื่อนที่ของ
นิวตันและการใช้กฎการเคลอื่ นที่ของนิวตนั กบั สภาพการเคลื่อนทขี่ องวัตถุ รวมท้งั คำนวณปริมาณต่าง
ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
2. สาระสำคัญ
มวล (mass) เป็นสมบัติประจำตัวของวัตถุอย่างหนึ่งโดยเป็นสมบัติทางความเฉื่อย (inertia) ต่อ
การเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ โดยที่มวลเป็นปริมาณสเกลาร ในระบบเอสไอมีหน่วยเป็น
กิโลกรมั (kg)
กฎขอ้ ที่หนง่ึ ของนิวตนั หรือกฎแห่งความเฉื่อย กล่าวว่า "วตั ถทุ ุกชนิดจะเคล่อื นทีด่ ้วยความเร็วคงที่
นอกจากมีแรงมากระทำตอ่ วตั ถุ"
กฎข้อที่สองของนิวตนั กล่าวว่า "ความเร่งของของวัตถุจะแปลผันตรงกับแรงสุทธิที่กระทำต่อวัตถุ
และแปรผกผนั กับมวลของวตั ถ"ุ ทิศของความเร่งจะมีทิศเดียวกับแรงสุทธิที่กระทำบนวัตถุ สามารถ
เขยี นอยใู่ นรปู ของสมการทางคณติ ศาสตร์ได้ดังน้ี
n
∑ F⃑i = ma⃑
i=0
กฎข้อที่สามของนิวตนั กฎของแรงกริ ยิ าและแรงปฏกิ ิรยิ า กลา่ วว่า "เมื่อวัตถุชนิ้ หนง่ึ ออกแรง (แรง
กิรยิ า, action) กระทำตอ่ วตั ถุอีกชน้ิ หน่ึง วัตถุอนั หลังจะออกแรงด้วยขนาดท่ีเท่ากันแต่ทิศตรงกันข้าม
(แรงปฏิกิริยา - reaction) กับแรงท่เี กิดจากวัตถอุ ันแรก"
3. สาระการเรยี นรู้
กฎการเคลื่อนที่ข้อที่สามของนิวตัน มีใจความดังนี้ “เมื่อวัตถุสองก้อนมีปฏิกิริยาต่อกัน แรงบน
วตั ถุก้อนหนึ่งจะเท่าและมีทศิ ตรงขา้ มกบั แรงบนวัตถุอีกก้อนหน่ึงเสมอ” เขียนเป็นสมการได้ F⃗12=-F⃗21
4. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมอ่ื จบกจิ กรรมการเรียนรู้ นักเรียนสามารถ
จุดประสงคการเรยี นรู้ รายละเอียด
89
ด้านความรู้ 1. อธิบายกฎการเคลื่อนท่ขี ้อที่สามของนิวตันได้
(K: Knowledge)
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 2. ประยุกตใ์ ชก้ ฎการเคลือ่ นที่ของนวิ ตนั ในการแกป้ ัญหาและคำนวณ
ปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกีย่ วข้องกบั การเคล่อื นที่ของวัตถุได้
(P: Process)
3. มคี วามสนใจใฝ่รหู้ รอื อยากรู้อยากเหน็ และทำงานร่วมกับผู้อ่ืนอย่าง
ด้านคณุ ลกั ษณะท่ีพึง สร้างสรรค์
ประสงค์ (A: Attitude) 4. การคำนวณ และการลงความเห็นขอ้ มูล
ทกั ษะกระบวนการ
วทิ ยาศาสตร์ (Science
Process Skill)
5. ขั้นจัดกจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบวัฏจักรการเรยี นรู้ 5E
ขั้นท่ี 1 ข้ันสร้างความสนใจ (Engagement)
1. นักเรยี นทบทวนความร้เู ดิมเก่ียวกับเรือ่ งกฎการเคลอื่ นท่ีข้อทห่ี นึ่งและขอ้ ทีส่ องของนวิ ตัน
เพื่อจะได้เชื่อมโยงเนื้อหา โดยครจู ะใชค้ ำถาม
คำถาม - กฎการเคลือ่ นทขี่ ้อทีห่ น่ึงของนิวตัน กล่าววา่ อยา่ งไร (แนวคำตอบ: วัตถุจะ
คงสภาพอย่นู ่ิง หรอื สภาพเคล่อื นที่ด้วยความเร็วคงตวั ในแนวตรง นอกจากจะมีแรงลัพธ์ซึ่งมีค่าไม่เป็น
ศนู ย์มากระทำ หรอื สรปุ เป็นสมการ ∑F = 0)
- กฎการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนิวตัน กล่าวว่าอย่างไร (แนวคำตอบ:
"ความเร่งของของวตั ถุจะแปลผันตรงกับแรงสุทธทิ ่ีกระทำต่อวตั ถุ และแปรผกผันกบั มวลของวัตถ"ุ ทิศ
ของความเร่งจะมีทิศเดียวกับแรงสุทธิที่กระทำบนวัตถุ สามารถเขียนอยู่ในรูปของสมการทาง
คณติ ศาสตร์ได้ คอื ∑F = ma)
2. นกั เรยี นสง่ ตัวแทนออกมาสาธิตการปล่อยลูกปงิ ปองหรือลูกเทนนิสบนพื้นโต๊ะ ให้นักเรียน
สังเกตและร่วมกันอภิปรายว่า เหตุใดลูกปิงปองหรือลูกเทนนิสจึงกระดอนขึ้นจากพื้นโต๊ะ โดยให้
นกั เรียนแสดงความคดิ เห็น
3. ครูตั้งคำถามว่า ทิศทางของแรงเนื่องจากการตกของลูกปิงปองหรือลูกเทนนิสกับทิศทาง
ของแรงทีพ่ ืน้ โต๊ะกระทำตอบโตล้ กู ปงิ ปองหรือลูกเทนนสิ มีทศิ ทางอย่างไร
4. นักเรียนชว่ ยกันตอบคำถาม แสดงความคิดเหน็ ตามความรู้และประสบการณ์ของนกั เรยี น
โดยครูยังไมเ่ น้นคำตอบท่ถี ูกตอ้ ง
5. ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ แรงท่ลี ูกปิงปองหรอื ลูกเทนนสิ พุ่งชนพ้ืนเรยี กวา่ แรงกริ ิยา ส่วนแรงที่
พน้ื ออกแรงตอบโต้ เรียกว่า แรงปฏิกิริยา
ขนั้ ท่ี 2 ข้นั สำรวจและคน้ หา (Exploration)
1. นกั เรียนสบื ค้นขอ้ มลู เก่ยี วกบั กฎการเคลอ่ื นที่ข้อทสี่ ามของนิวตัน
2. ครูอธิบายว่า เราไม่ได้ออกแรงกระทำต่อวัตถุเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น เมื่อวัตถุหนึ่งออกแรง
กระทำกับอีกวัตถุหนึ่ง วัตถุที่สองก็จะออกแรงกระทำกลับไปยังวัตถุแรก โดยที่แรงกระทำกลับนี้จะมี
ขนาดเทา่ กันแต่มที ิศตรงกันขา้ มกบั แรงแรก ซึง่ นวิ ตนั เรียกแรงทัง้ สองนว้ี า่ เป็นแรงกริ ิยา (action) และ
แรงปฏิกิริยา (reaction) กฎข้อที่สามของนิวตันได้กล่าวไว้ว่า ถ้าวัตถุหนึ่งออกแรงกระทำกับอีกวัตถุ
หนง่ึ วัตถุทถี่ ูกกระทำจะออกแรงที่มีขนาดเทา่ กันแตม่ ีทิศทางตรงกันขา้ มกระทำกลบั ต่อวัตถุแรก
90
3. ครูยกตัวอย่างเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้น สมมติว่านักเรียนใชค้ ้อนออกแรงตอกตะปูเขา้
ไปในเนื้อไม้ ในขณะเดียวกัน ตะปูก็ออกแรงกระทำกลับไปยังค้อน ซึ่งทำให้ค้อนหยุดเคลื่อนที่เท่ากัน
แตต่ รงกนั ขา้ ม
4. ครถู ามนักเรยี นว่า แรงกิรยิ าและแรงปฏกิ ิริยาหกั ลา้ งกันหรือไม่ (ท้งิ ชว่ งใหน้ ักเรียนคิด)
5. ครูนำอภปิ รายว่า ในเรือ่ งแรง แรงสมดลุ
แนวทางอธบิ าย:
แรงทเี่ ทา่ กันแตม่ ีทิศทางตรงกนั ข้าม เมอื่ นำมารวมกันจะได้แรงลัพธ์เปน็ ศนู ย์ คอื แรง
หักล้างกัน ทำให้วัตถุไม่เปลี่ยนการเคลื่อนที่ ดังนั้น แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยาในกฎข้อที่สามของนิว
ตนั จึงไม่หกั ลา้ งกนั เมื่อแรงทง้ั สองมีขนาดเท่ากันแต่มที ิศตรงกนั ข้าม
6. นักเรยี นพิจารณาเหตกุ ารณท์ ่กี ำหนดให้ แล้วบอกว่าอาศยั กฎขอ้ ทสี่ ามของนิวตัน อย่างไร
เหตกุ ารณ์:
- ลูกบอลทีต่ กอิสระ (แรงโนม้ ถว่ งกระทำต่อลูกบอล อาศยั กฎขอ้ ท่ีสามของนิวตัน โลก
จะออกแรงน้ี ซึ่งมีคา่ เทา่ กบั แรงท่ีลูกบอลกระทำต่อโลก)
- กล่องวางนิ่งอยู่บนโต๊ะ (โลกออกแรงโนม้ ถ่วงกระทำตอ่ กลอ่ ง ดังนั้นกล่องจะถูกผลกั
ขึ้น โต๊ะออกแรงขึ้นในทิศตั้งฉากกับผิวโต๊ะ อาศัยกฎข้อที่สามของนิวตัน จะได้ว่ากล่องจะออกแรงใน
ทศิ ลงกระทำตอ่ โต๊ะ)
- เมื่อรับลูกบอล (เมื่อรับลูกบอลมือจะออกแรงกระทำต่อลูกบอลอาศัยกฎข้อที่สาม
ของนวิ ตนั ลกู บอลจะออกแรงขนาดเทา่ กนั ในทิศตรงข้ามกระทำกับมือ)
7. ครูถามคำถามว่า
คำถาม - ในชีวิตประจำวัน เห็นได้ว่า มีแต่วัตถุเคลื่อนที่เข้าหาโลก เหตุใดโลกจึงไม่
เคล่ือนทห่ี าวตั ถ (แนวคำตอบ: วัตถจุ ะตกสู่พ้นื โลกเน่อื งจากโลกมสี นามโน้มถ่วง (gravitational field)
อยู่รอบโลก สนามโน้มถว่ งทำใหเ้ กดิ แรงดึงดดู กระทำต่อมวลของวัตถุท้ังหลาย แรงดึงดูดนี้เรยี กวา่ แรง
โน้มถ่วง (gravitational force) และสนามมีทิศพ่งุ สู่ศูนย์กลางของโลก แตว่ ตั ถุไมม่ ี)
ขั้นที่ 3 ขั้นอธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
1. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหผ์ ลการทดลองและอภปิ รายสรปุ
2. ครูถามคำถามว่า
คำถาม - ตุ๊กตาผูกเชือกแขวนกับเพดานห้องในแนวดิ่ง มีแรงชนิดใดกระทำบ้าง
(แนวคำตอบ: แรงดึงในเสน้ เชอื ก แรงโน้มถ่วงของโลก)
3. ครูนำอภปิ รายวา่ แรงตึงเชอื ก (Tension) คอื แรงทเี่ กดิ ขึน้ ในเส้นเชอื ก ลวด และอน่ื ๆ ซึ่ง
แรงจะเกิดเฉพาะตามแนวเส้นเชือกเท่านั้น และมีทิศพุ่งออกจากระบบที่เรากำลังพิจารณาเสมอ ซ่ึง
แรงดงึ เชือกนี้ เปน็ แรงทีใ่ ช้กฎขอ้ ทส่ี ามของนวิ ตันมากที่สดุ
4. นักเรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแรงดึงในเส้นเชือกในแต่ละกรณี จากนั้นครูสุ่มนักเรียนให้
ออกมาสรปุ หน้าช้ันเรยี น พร้อมท้ังอธิบายเพ่ิมเตมิ ในสว่ นท่นี ักเรยี นยงั ไม่เข้าใจ
5. ครถู ามคำถามวา่
คำถาม - น้ำหนักที่อ่านได้จากเครื่องชั่งน้ำหนัก เป็นค่าน้ำหนักจริงหรือไม่ อย่างไร
(แนวคำตอบ: เครื่องชั่งน้ำหนักจะบอกมวล มีหน่วยเป็นกิโลกรัม (kg) เช่น เด็กชายปอชั่งน้ำหนัก
ตัวเองได้ 54 kg ตัวเลข 54 คอื คา่ มวลของเดก็ ชายปอ ส่วนน้ำหนกั จะเทา่ กบั 540 นิวตัน (N))
91
6. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักกับนักเรียนว่า น้ำหนัก หมายถึงแรงบนวัตถุอัน
เน่ืองมาจากความโน้มถ่วง ขนาดของน้ำหนักในปริมาณสเกลาร์ เขียนแทนด้วย W คือผลคูณของมวล
ของวัตถุ mกับขนาดของความเร่งเนื่องจากความโน้มถ่วง g นั่นคือ W = mg หน่วยวัดของน้ำหนักใช้
อยา่ งเดียวกนั กับหน่วยวัดของแรง ซง่ึ ก็คือนวิ ตัน
7. ครูยกตัวอย่างว่า วัตถุหนึ่งมีมวลเท่ากับ 1 กิโลกรัม มีน้ำหนักประมาณ 9.8 นิวตัน บน
พื้นผิวโลก มีน้ำหนักประมาณหนึ่งในหกเท่าบนพื้นผิวดวงจันทร์ และมีน้ำหนักที่เกือบจะเป็นศูนย์ใน
ห้วงอวกาศทไ่ี กลออกไป
8. ครูอธิบายเพิ่มเตมิ วา่ ในการตกอย่างอิสระของวตั ถใุ กล้ผวิ โลก พบว่า วัตถจุ ะเคลื่อนท่ีด้วย
ความเรง่ คงตัว ถา้ เราใชก้ ฎการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนวิ ตัน จะสามารถอธิบายได้ว่า ในขณะที่วัตถุตก
จะต้องมีแรงกระทำต่อวัตถุ จึงทำให้วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร่ง ซึ่งมีแรงมากระทำต่อวัตถุก็คือ แรง
ดึงดูดของโลกที่กระทำต่อวตั ถุ จะเรยี กแรงนี้วา่ น้ำหนกั นั่นเอง
ข้นั ที่ 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration)
1. นกั เรียนอภิปรายและสรุปเก่ยี วกับกฎการเคลอ่ื นทขี่ องนิวตัน โดยครูเป็นผู้ช้ีแนะ ดังนี้
แนวทางอภิปราย:
กฎข้อที่หนึ่ง ∑F = 0 เป็นกฎของการเคลื่อนที่ของวตั ถุ โดยที่เมื่อวัตถุมีการเคลื่อนที่
กจ็ ะเกดิ ความเร่ง แตถ่ ้าวตั ถุมีความเร็วคงที่ ก็จะทาให้ความเรง่ เป็น 0 ถึงแมว้ ่า วัตถุจะมีความเร็ว แต่
ถา้ หากความเรง่ เปน็ 0 กจ็ ะไมม่ ีการเพมิ่ ความเรว็ ทำใหว้ ตั ถุเหมอื นอยูใ่ นสภาพหยดุ น่งิ
กฎข้อที่สอง ∑F = ma ถ้าหากมีแรงมากระทำกับวัตถุ ทำให้วัตถุเคลื่อนที่ด้วย
ความเรง่ โดยความเรง่ จะแปรผันกบั แรงที่กระทำ
กฎข้อท่สี าม ∑F = -∑F แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์ ดังนน้ั แรงจึงมีทศิ ทางที่แรงไปทุก
ทศิ ทางจะมีแรงสวนทศิ ทางของแรงน้ันเสมอ
2. ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรียนสอบถามเนอ้ื หาเร่อื ง กฎการเคลือ่ นทขี่ องนวิ ตนั ว่ามีสว่ นไหนทยี่ งั
ไม่เขา้ ใจและให้ความรู้เพ่ิมเตมิ ในส่วนนน้ั
3. ครนู ำอภิปรายและให้นกั เรียนรว่ มกนั ยกตวั อย่าง อธบิ ายปรากฎการณ์ หรอื เทคโนโลยีต่าง
ๆ ท่เี ก่ียวข้องกบั กฎการเคลื่อนท่ีของนิวตัน
ขนั้ ท่ี 5 ข้นั ประเมนิ (Evaluation)
1. นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน ในเล่มโจทย์ปัญหาท้าประลอง
เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจ
2. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั เฉลยแบบฝกึ หดั เรอ่ื ง กฎการเคลือ่ นท่ีของนวิ ตัน
6. สอื่ การเรยี นร/ู้ อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี น
1. แบบฝกึ หดั เรอื่ ง กฎการเคล่ือนที่ของนิวตัน ในเลม่ โจทยป์ ญั หาทา้ ประลอง
2. ลูกปงิ ปอง (ขัน้ สร้างความสนใจ)
92
3. PowerPoint หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่ือง แรงและกฎการเคลอื่ นท่ี
7. การวัดและประเมินผล วธิ ีการวัด เครือ่ งมือทีใ่ ช้ เกณฑก์ ารประเมิน
จุดประสงค์การเรยี นรู้ - การถาม-ตอบ - แบบตรวจแบบฝกึ หดั
1. อธิบายกฎการเคลื่อนท่ขี ้อท่สี าม - การแสดงความคิดเหน็ - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์การ
ของนิวตนั ได้ (K) - ตรวจแบบฝึกหดั รายบุคคล ประเมนิ ร้อยละ 70
- การทำกิจกรรม
2. ประยุกตใ์ ชก้ ฎการเคลอ่ื นท่ีของนิว - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบตรวจแบบฝกึ หดั
ตันในการแก้ปญั หาและคำนวณ - การถาม-ตอบ
ปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วข้องกับการ - แบบตรวจแบบฝึกหัด
เคลื่อนท่ีของวัตถุได้ (P) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
3. มีความสนใจใฝร่ หู้ รอื อยากรูอ้ ยาก - การส่งงานตรงเวลา รายบุคคล
เหน็ และทำงานรว่ มกบั ผู้อื่นอยา่ ง - แบบตรวจแบบฝกึ หดั
สร้างสรรค์ (A) - สงั เกตพฤติกรรมการ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
4. การคำนวณ และการลงความเห็น ทำงาน รายบุคคล
ขอ้ มลู - การถาม-ตอบ
(ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์) - ตรวจแบบฝกึ หัด
93
94
ความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอื่ ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หัวหน้ากล่มุ สาระ ฯ
ความคดิ เห็นของรองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ
............................................................................................................................. ...................................
.............................................................................................................................................. ..................
................................................................................................................. ...............................................
ลงช่อื ...........................................ผตู้ รวจสอบ
( นายสรุ ชัย ทองทิพย์ )
รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
ความคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรียนเตรยี มอดุ มศึกษาพัฒนาการ อดุ รธานี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นายคมสันต์ ถานกางสยุ่ )
ผู้อำนวยการโรงเรียน
95
เกณฑก์ ารตรวจแบบฝึกหดั
แกป้ ญั หา ความ ความ ความ ตรงตอ่ รวม
ที่ ช่อื - สกุล ดว้ ยตวั เอง สะอาด รับผดิ ชอบ ถกู ต้อง เวลา
2 2 2 2 2 10
ลงช่ือ................................................ผู้ประเมนิ
(.......................................................)
เกณฑก์ ารประเมิน 0 – 4 ปรบั ปรุง
คะแนน 5 – 6 พอใช้
คะแนน 7 – 8 ดี
คะแนน 9 – 10 ดมี าก
คะแนน
96
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
คำช้ีแจง ใหค้ รูผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้ว / ลงใน
ชอ่ งทตี่ รงกบั ระดับคะแนน
ลำดบั มคี วามใฝ่รู้ มีความมงุ่ มัน่ ใน มสี ว่ นร่วมใน รวม 15
ที่
ช่อื -สกลุ ใฝ่เรยี น การทำงาน การทำกิจกรรม คะแนน
5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 32 1
ลงช่ือ................................................ผปู้ ระเมนิ
(.......................................................)
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ระดบั การมสี ่วนร่วมมากที่สดุ ให้ 5 คะแนน
ระดับการมสี ว่ นรว่ มมาก ให้ 4 คะแนน
13 – 15 ดีมาก ระดบั การมสี ่วนรว่ มปานกลาง ให้ 3 คะแนน
10 – 12 ดี ระดบั การมีสว่ นร่วมน้อย ให้ 2 คะแนน
7–9 ระดบั การมีสว่ นร่วมนอ้ ยทสี่ ดุ ให้ 1 คะแนน
4 –6 ปานกลาง
1– 3 พอใช้
ปรบั ปรุง
97
97
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 25
รายวิชาเพิม่ เติม ฟิสกิ ส์ 1 (ว31201) ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 แรงและกฎการเคลื่อนท่ี เวลา 24 ช่วั โมง
เรือ่ งท่ี 9 แรงเสยี ดทาน เวลา 2 ช่ัวโมง
ภาคเรียนท่ี 1 ครผู สู้ อน นายนครินทร์ เกตุทองมา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม /ผลการเรยี นรู้
สาระฟิสิกส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ
การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตมั การเคลื่อนท่ีแนวโค้ง รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใชป้ ระโยชน์
ผลการเรยี นรู้
7. วิเคราะห์และอธิบายแรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หนึ่ง ๆ ในกรณีที่วัตถุหยุด
นิ่งและวัตถุเคลื่อนที่ รวมทั้งทดลองหาสัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หนึ่ง ๆ
และนำความรู้เรือ่ งแรงเสยี ดทานไปใช้ในชีวิตประจำวนั
2. สาระสำคญั
แรงตั้งฉากหรือแรงปฏิกิริยาตั้งฉาก (normal force) คือ แรงที่วัตถุ 2 สิ่งที่กระทำซึ่งกันและกัน
จะเกิดแรงน้ขี ้ึนเกือบทกุ ครั้งทีว่ ัตถุสัมผสั กัน (แรงนจี้ ะไม่เกิดในกรณี เช่น ยกกล่องให้ลอยจากพ้ืนพอดี
ผิวของกลอ่ งกบั พ้นื สมั ผสั กันแต่มนั ไมม่ แี รงตอ่ กัน) ซ่ึงแรงนม้ี ที ิศทางตั้งฉากกบั ผวิ สัมผัสเสมอ
แรงเสียดทาน (friction force) เป็นแรงที่ต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุ เกิดขึ้นระหว่างผิวสัมผัสของ
วตั ถุ แรงเสยี ดทานมี 2 ชนดิ ดังนี้
แรงเสียดทานสถิติ (static friction) แทนด้วย fs คือ แรงเสียดทานที่เกิดในสภาวะวัตถุอยู่นิ่ง แรง
เสยี ดทานสถิตจิ ะมีค่าไมค่ งท่ี จะมีคา่ เพิ่มข้นึ หรือลดลงตามแรงทีก่ ระทำตอ่ วตั ถุ
แรงเสียดทานจลน์ (kinetic friction) แทนด้วย fk คือ แรงเสียดทานที่เกิดในสภาวะวัตถุกำลัง
เคล่อื นท่ี
3. สาระการเรียนรู้
แรงเสียดทาน เป็นแรงกระทำระหว่างผิววัตถุสองก้อนที่สัมผัสกัน พยายามต้านการเคลื่อนท่ี
ระหวา่ งวตั ถุ มที ิศในแนวผวิ สมั ผัส
4. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมือ่ จบกจิ กรรมการเรียนรู้ นักเรยี นสามารถ
98
จดุ ประสงคการเรยี นรู้ รายละเอยี ด
ด้านความรู้ 1. อธบิ ายความหมายของแรงเสียดทานได้
(K: Knowledge)
ด้านทกั ษะกระบวนการ 2. มที ักษะการนำเสนองานหนา้ ชั้นเรียน
3. มที ักษะการคำนวณหาแรงเสยี ดทานได้ถูกต้อง
(P: Process)
4. มคี วามสนใจใฝร่ หู้ รืออยากรอู้ ยากเหน็ และทำงานรว่ มกับผูอ้ น่ื อยา่ ง
ด้านคณุ ลักษณะที่พึง สรา้ งสรรค์
ประสงค์ (A: Attitude) 5. การคำนวณ และการลงความเหน็ ข้อมลู
ทกั ษะกระบวนการ
วิทยาศาสตร์ (Science
Process Skill)
5. ขน้ั จดั กจิ กรรมการเรียนร้แู บบวฏั จักรการเรียนรู้ 5E
ขนั้ ท่ี 1 ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement)
1. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั ทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกบั แรงปฏิกิริยาต้ังฉาก โดยการถา
คำถาม - แรงปฏิกริ ิยาต้งั ฉาก หมายถงึ (แนวคำตอบ: แรงปฏกิ ริ ิยาต้งั ฉาก เป็นแรงคู่
กิรยิ าท่วี ัตถุ 2 สง่ิ กระทำซง่ึ กันและกัน จะเกิดแรงนข้ี น้ึ เกือบทุกครั้งทวี่ ัตถุสมั ผสั กัน)
2. ครถู ามคำถาม เกย่ี วกบั เนือ้ หาแรงเสียดทาน
คำถาม - เหตุใดเม่ือฝนตก แล้วถนนจงึ ลน่ื กว่าปกติ (แนวคำตอบ: ส่งิ สำคัญที่อยู่ตรง
กลางระหว่างตัวรถกับถนนก็คือ ยางรถยนต์ ยางรถยนต์โดนกดทับด้วยน้ำหนักอยู่ติดกับพื้นถนน ก็
เกิดแรงเสียดทานขับเคลื่อนไปได้ปรกติ แต่ถ้ามีอะไรมาแทรกตรงกลางระหว่างยางกับพื้นแล้วทำให้
แรงเสยี ดทานน้นั หายไป ถนนจึงลื่นกวา่ ปกติ)
3. นักเรียนสังเกตเวลาเดินตามบริเวณต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น พื้นทราย พื้นดิน พื้นไม้ พื้น
ยาง และพ้ืนกระเบือ้ ง แล้วถามว่า (ทง้ิ ช่วงให้นักเรยี นได้คิด)
คำถาม - นักเรียนรู้จักแรงเสียดทานหรือไม่ แรงนี้มีความหมายว่าอย่างไร
(แนวคำตอบ: แรงเสียดทาน คือ แรงที่ต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างผิววัตถุกับพื้นที่
สมั ผัสและมีทิศตรงกันข้ามกบั ทศิ การเคลื่อนที่ของวัตถเุ สมอ)
4. นักเรียนช่วยกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นคำตอบจากคำถาม เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การ
เรยี นในเร่ือง เร่ือง แรงเสียดทาน
99
ขัน้ ที่ 2 ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration)
1. ครูอธิบายความหมายแรงเสียดทานว่า เป็นแรงที่ต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุซึ่งเกิดข้ึน
ระหวา่ งผิววัตถกุ บั พืน้ ทสี่ มั ผสั และมีทิศตรงกันขา้ มกับทิศการเคลื่อนทข่ี องวตั ถุเสมอ
2. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับแรงเสียดทาน ในประเด็นว่า ในชีวิตประจำวันจะพบว่า
เมื่อเดินบนพื้นผิวที่มีลักษณะต่างกัน เช่น ผิวเรียบ ผิวลื่น ผิวขรุขระจะมีผลต่อการเดินแตกต่างกัน
ลักษณะของผวิ สัมผสั มผี ลต่อการเคล่ือนท่อี ยา่ งไร
3. ครูนำอภิปรายเรอ่ื งลักษณะของผิวสมั ผัส โดยอธบิ ายวา่ ลักษณะของพนื้ ผิวสัมผสั เป็นปัจจัย
หนึ่งที่มีผลต่อแรงเสียดทาน ถ้าพื้นผิวเรยี บ เช่น กระเบื้อง กระจก พลาสติก เป็นต้น จะเกิดแรงเสยี ด
ทานน้อย เนื่องจากพื้นผิวเรียบ มีกำรเสียดสีระหว่างกันน้อย ในทางกลับกัน ถ้าพื้นผิวขรุขระ จะเกิด
แรงเสยี ดทานมาก
4. ครอู าจยกตวั อย่างเพิม่ เติม เชน่ การเตะฟตุ บอล เวลาที่เราเตะลกู ฟุตบอลไปบนสนามหญ้า
จะเกิดแรงเสียดทานระหว่าพื้นผิวของลูกฟุตบอลและพื้นสนาม โดยทิศทางของแรงเสียดทานจะตรง
ข้ามกับทิศที่ลูกฟุตบอลเคลื่อนที่ไป จึงต้านการเคลื่อนที่ของลูกฟุตบอล ทำให้ลูกฟุตบอลเคลื่อนที่ช้า
ลงจนกระทัง่ หยุดน่ิง
5. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มสบื ค้นข้อมูลเกี่ยวกับแรงเสียดทาน ความหมายของแรงเสยี ดทาน ชนิด
ของแรงเสียดทาน การหาค่าแรงเสียดทาน ประโยชน์ของแรงเสียดทาน จากแหล่งสืบค้นต่าง ๆ เช่น
หนังสือเรียน หนังสืออ้างอิงต่าง ๆ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น แล้วสรุปผลการสืบค้นในรูปของแผนผัง
ความคิด ซึ่งนักเรียนสามารถใช้การวาดรูปประกอบเพื่อสื่อความหมายลงในกระดาษชาร์ต และ
ตกแตง่ ให้สวยงาม (หมายเหตุ: ครเู ริม่ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสงั เกตการณท์ ำงานกล่มุ )
ข้ันท่ี 3 ขั้นอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันนำข้อมูลที่รวบรวมที่ได้จากการศึกษามาวิเคราะห์ และหาลง
ขอ้ สรุปรว่ มกนั อภิปรายซกั ถามกันภายในกล่มุ จนเปน็ ทเี่ ข้าใจตรงกนั
2. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนำแผนผังความคิดออกมานำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น
3. นักเรยี นและครรู ่วมกันอภปิ รายสรปุ เกี่ยวกับแรงเสียดทาน
ขน้ั ท่ี 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration)
1. ครูให้ความรู้เพิ่มเตมิ เกี่ยวกับชนดิ ของแรงเสยี ดทาน แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ แรงเสียด
ทานสถติ และแรงเสยี ดทานจลน์ ซ่งึ นกั เรยี นสามารถศึกษาได้จากตวั อยา่ งการผลักตู้ท่วี างอยู่บนพ้ืนไม้
ตามรายละเอียดในหนังสอื เรียน รายวิชาเพมิ่ เติมฟิสกิ ส์ 1 เลม่ 1 (สสวท.)
2. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การคำนวณหาค่าแรงเสียดทาน และอธิบายคำว่า
สมั ประสิทธข์ิ องความเสยี ดทาน
3. ครูอธิบายเกี่ยวกับการนำแรงเสียดทานไปใช้ประโยชน์ ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ใน
ชีวิตประจำวันได้มากมาย เช่น ทำให้วัตถุหยุดนิ่งไม่เคลื่อนที่ เช่น ช่วยหยุดรถยนต์ที่กำลังเคลื่อนที่
ยางรถทีม่ ีดอกยางชว่ ยใหร้ ถ เป็นตน้
4. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้อหาเรื่อง ชนิดและประโยชน์ของแรงเสียดทาน ว่ามี
สว่ นไหนท่ียงั ไม่เข้าใจและใหค้ วามร้เู พ่มิ เติมในส่วนน้นั
100
ขัน้ ท่ี 5 ขัน้ ประเมนิ (Evaluation)
1. นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั เรื่อง แรงเสียดทาน ในเล่มโจทย์ปัญหาทา้ ประลอง
2. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั เฉลยคำถามจากแบบฝึกหัดเร่ือง แรงเสียดทาน
3. นกั เรียนจับคู่ และศกึ ษาส่ิงประดิษฐท์ ่ีประยุกต์ใช้ความรู้ เรื่อง แรงเสียดทาน จากน้ันให้นำ
ความรทู้ ี่ไดม้ านำเสนอผา่ นการทำแผ่นพับ
6. สือ่ การเรียนรู้/อุปกรณ์/แหล่งเรยี น
1. หนังสือเรียน รายวชิ าเพ่ิมเติมฟสิ ิกส์ 1 เลม่ 1 (สสวท.)
2. แบบฝกึ หัดเร่ือง แรงเสียดทาน ในเลม่ โจทยป์ ัญหาท้าประลอง
3. กระดาษชาร์ต
4. PowerPoint หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 เรอ่ื ง แรงและกฎการเคล่อื นท่ี
7. การวัดและประเมนิ ผล วิธีการวดั เคร่อื งมือท่ใี ช้ เกณฑ์การประเมนิ
- การถาม-ตอบ - แบบตรวจแบบฝึกหดั
จุดประสงค์การเรียนรู้ - ตรวจแบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์การ
- ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบตรวจแบบฝึกหดั ประเมนิ ร้อยละ 70
1. อธิบายความหมายของแรงเสียด - การถาม-ตอบ - แบบสงั เกตพฤติกรรม
ทานได้ (K) - การนำเสนอหนา้ ชั้น รายบคุ คล
เรียน
2. มที กั ษะการนำเสนองานหน้าชน้ั - สงั เกตพฤติกรรม - แบบตรวจแบบฝกึ หดั
เรยี น (P) - การส่งงานตรงเวลา - แบบสงั เกตพฤติกรรม
3. มที กั ษะการคำนวณหาแรงเสยี ด รายบุคคล
ทานได้ถกู ต้อง (P) - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบสงั เกตพฤติกรรม
ทำงาน รายบคุ คล
4. มคี วามสนใจใฝ่ร้หู รืออยากรู้อยาก - การถาม-ตอบ - แบบตรวจแบบฝึกหัด
เหน็ และทำงานร่วมกบั ผ้อู ่ืนอยา่ ง - ตรวจแบบฝึกหัด
สร้างสรรค์ (A)
5. การคำนวณ และการลงความเหน็
ขอ้ มลู
(ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์)
101
102
ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอ่ื ...........................................ผูต้ รวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หวั หน้ากลุม่ สาระ ฯ
ความคิดเหน็ ของรองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการ
................................................................................................................................................. ...............
.................................................................................................................... ............................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ...........................................ผตู้ รวจสอบ
( นายสุรชยั ทองทิพย์ )
รองผู้อำนวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ
ความคิดเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี นเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ อุดรธานี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอ่ื ...........................................ผ้ตู รวจสอบ
( นายคมสนั ต์ ถานกางส่ยุ )
ผอู้ ำนวยการโรงเรียน
103
เกณฑก์ ารตรวจแบบฝึกหดั
แกป้ ญั หา ความ ความ ความ ตรงต่อ รวม
ที่ ชือ่ - สกุล ด้วยตัวเอง สะอาด รบั ผดิ ชอบ ถูกต้อง เวลา
2 2 2 2 2 10
ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน
(.......................................................)
เกณฑก์ ารประเมิน 0 – 4 ปรบั ปรงุ
คะแนน 5 – 6 พอใช้
คะแนน 7 – 8 ดี
คะแนน 9 – 10 ดีมาก
คะแนน
104
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
คำช้แี จง ให้ครผู ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้ว / ลงใน
ชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน
ลำดับ มีความใฝร่ ู้ มคี วามมุ่งม่ันใน มีส่วนรว่ มใน รวม 15
ที่
ชือ่ -สกลุ ใฝ่เรียน การทำงาน การทำกิจกรรม คะแนน
5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 32 1
ลงชือ่ ................................................ผปู้ ระเมนิ
(.......................................................)
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ระดับการมสี ่วนรว่ มมากท่สี ุด ให้ 5 คะแนน
ระดบั การมสี ว่ นรว่ มมาก ให้ 4 คะแนน
13 – 15 ดมี าก ระดับการมสี ว่ นร่วมปานกลาง ให้ 3 คะแนน
10 – 12 ดี ระดบั การมสี ว่ นรว่ มน้อย ให้ 2 คะแนน
7–9 ระดบั การมสี ว่ นรว่ มน้อยทส่ี ุด ให้ 1 คะแนน
4 –6 ปานกลาง
1– 3 พอใช้
ปรับปรงุ
105
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 26
รายวิชาเพิ่มเตมิ ฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 แรงและกฎการเคลื่อนที่ เวลา 24 ชัว่ โมง
เรอื่ งท่ี 10 ความสัมพันธร์ ะหวา่ งแรงเสยี ดทานและแรงปฏิกิริยาตงั้ ฉาก เวลา 3 ชว่ั โมง
ภาคเรยี นที่ 1 ครูผสู้ อน นายนครนิ ทร์ เกตุทองมา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระวทิ ยาศาสตร์เพ่ิมเตมิ /ผลการเรียนรู้
สาระฟิสิกส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ
การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรกั ษ์โมเมนตัม การเคลื่อนท่ีแนวโคง้ รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใช้ประโยชน์
ผลการเรยี นรู้
7. วิเคราะห์และอธิบายแรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หนึ่ง ๆ ในกรณีที่วัตถุหยุด
นิ่งและวัตถุเคลื่อนที่ รวมทั้งทดลองหาสัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หนึ่ง ๆ
และนำความร้เู รื่องแรงเสียดทานไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน
2. สาระสำคัญ
แรงตั้งฉากหรือแรงปฏิกิริยาตั้งฉาก (normal force) คือ แรงที่วัตถุ 2 สิ่งที่กระทำซึ่งกันและกัน
จะเกิดแรงน้ีข้ึนเกือบทกุ คร้ังที่วัตถสุ ัมผัสกัน (แรงนจ้ี ะไม่เกดิ ในกรณี เช่น ยกกลอ่ งให้ลอยจากพ้ืนพอดี
ผวิ ของกลอ่ งกับพ้นื สัมผัสกนั แต่มันไม่มแี รงต่อกนั ) ซ่ึงแรงน้มี ีทิศทางต้งั ฉากกับผวิ สัมผสั เสมอ
แรงเสียดทาน (friction force) เป็นแรงที่ต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุ เกิดขึ้นระหว่างผิวสัมผัสของ
วัตถุ แรงเสียดทานมี 2 ชนดิ ดังน้ี
แรงเสียดทานสถิติ (static friction) แทนด้วย fs คือ แรงเสียดทานที่เกิดในสภาวะวัตถุอยู่น่ิง แรง
เสียดทานสถิตจิ ะมคี ่าไมค่ งท่ี จะมีคา่ เพ่ิมขึ้นหรือลดลงตามแรงท่กี ระทำตอ่ วตั ถุ
แรงเสียดทานจลน์ (kinetic friction) แทนด้วย fk คือ แรงเสียดทานที่เกิดในสภาวะวัตถุกำลัง
เคลอื่ นที่
3. สาระการเรียนรู้
- แรงปฏิกิริยาตั้งฉาก เป็นแรงคู่กิริยาที่วัตถุ 2 สิ่ง กระทำซึ่งกันและกัน จะเกิดแรงนี้ขึ้นเกือบทุก
ครง้ั ที่วัตถุสมั ผสั กนั
- แรงเสียดทาน เป็นแรงกระทำระหว่างผิววัตถุสองก้อนที่สัมผัสกัน พยายามต้านการเคลื่อนท่ี
ระหวา่ งวตั ถุ มีทศิ ในแนวผวิ สัมผสั แรงเสียดทานมี 2 ชนดิ ดังนี้
106
- แรงเสยี ดทานสถิติ (static friction) แทนดว้ ย fs คือ แรงเสยี ดทานทเี่ กดิ ในสภาวะวตั ถุอย่นู ่ิง แรง
เสียดทานสถิติจะมีค่าไม่คงที่ จะมีค่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามแรงที่กระทำต่อวัตถุ มีขนาดเท่ากับขนาด
ของแรงท่กี ระทำต่อวัตถุ และมขี นาดสงู สดุ ขณะวัตถเุ ร่มิ จะเคลอื่ นที่
- แรงเสียดทานจลน์ (kinetic friction) แทนด้วย fk คือ แรงเสียดทานที่เกิดในสภาวะวัตถุกำลัง
เคลอื่ นท่ี มีขนาดคงตัว
- โดยขนาดของแรงเสียดทานสถิตสูงสุดและขนาดของแรงเสียดทานจลน์ระหว่างผิวสัมผัสคู่หนึ่ง
แปรผันตรงกับขนาดของแรงแนวฉากระหว่างผิวสัมผัสนั้น ค่าคงตัวของการแปรผันเรียกว่า
สัมประสทิ ธค์ิ วามเสียดทาน สามารถเขยี นความสมั พันธ์ได้ดงั น้ี fs ≤ µsN และ fk = µkN
4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เม่อื จบกิจกรรมการเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถ
จุดประสงคการเรยี นรู้ รายละเอยี ด
ด้านความรู้ 1. อธิบายหาความสมั พันธ์ระหวา่ งแรงเสียดทานและแรงปฏิกิริยาตัง้ ฉาก
(K: Knowledge)
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 2. มีทักษะการทดลองหาความสัมพนั ธ์ระหวา่ งแรงเสียดทานและแรง
(P: Process) ปฏกิ ริ ิยาตั้งฉาก
ด้านคณุ ลักษณะที่พงึ 3. มีความสนใจใฝร่ หู้ รืออยากรูอ้ ยากเหน็ และทำงานร่วมกับผอู้ ืน่ อยา่ ง
ประสงค์ (A: Attitude) สร้างสรรค์
ทกั ษะกระบวนการ 4. การสงั เกต การวดั การลงความเห็นข้อมลู และการตคี วามหมายข้อมลู
วิทยาศาสตร์ (Science และลงข้อสรุป
Process Skill)
5. ข้ันจัดกิจกรรมการเรยี นร้แู บบวฏั จักรการเรียนรู้ 5E
ขนั้ ท่ี 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement)
1. นักเรียนและครรู ่วมกันทบทวนความรเู้ ดมิ เก่ียวกับแรงเสยี ดทาน ความหมายของแรงเสียด
ทาน ชนิดของแรงเสียดทาน การหาคา่ แรงเสียดทาน ประโยชน์ของแรงเสียดทาน
2. ครูตงั้ คำถามเพ่ือนำเข้าสกู่ ารคน้ หาคำตอบ แรงเสียดทานเกดิ ไดอ้ ย่างไร และแรงเสียดทาน
สง่ ผลให้เกดิ อะไรได้บ้าง (แนวคำตอบ: ขึน้ อยูก่ บั ความคดิ ของนักเรียน)
ขนั้ ที่ 2 ข้ันสำรวจและค้นหา (Exploration)
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน เพื่อทำกิจกรรม เรื่อง การหาแรงเสียดทาน จากนั้น
นักเรยี นส่งตัวแทนมารบั ใบกิจกรรม
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสงั เกตการณ์ทำงานกล่มุ )
2. ครูชแ้ี จงจุดประสงคก์ ารทดลองให้นักเรียนทราบ
- เพอื่ ศึกษาขนาดและทศิ ทางของแรงเสยี ดทาน
- เพอื่ ศึกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งแรงเสยี ดทานและแรงปฏิกริ ิยาแนวฉาก
3. นักร่วมกันวางแผนทำการทดลอง การบันทึกผลการทดลอง ตลอดจนการกำหนด
สมมุติฐาน และตัวแปรที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปร่วมกันวิเคราะห์ อภิปรายและลงข้อสรุป ปฏิบัติการ
ทดลองตามที่กลุม่ นักเรียนได้วางแผนไว้
107
4. นักเรียนลงมือทดลองตามขั้นตอนการทดลองที่กำหนดในใบกิจกรรม และบันทึกผลการ
ทดลอง
5. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ วเิ คราะห์สรปุ ผลการทดลอง และนำแสนอหน้าชน้ั เรยี น ครแู ละนกั เรียน
รว่ มอภปิ รายการทดลองตามแนวคำถามทา้ ยการทดลอง สรุปการเรียนรู้ (คู่มอื ฟิสิกส์1 เลม่ 1)
6. หลงั จากที่ได้รว่ มกันอภปิ รายขอ้ มลู จากการทดลองแล้ว ครูต้ังคำถามเพ่ือเข้าสกู่ ารอภิปราย
เพมิ่ เติม ดังนี้
คำถาม - แรงเสยี ดทานเกดิ ขน้ึ บรเิ วณใด
- นกั เรยี นแรงเสียดทานส่งผลใหเ้ กดิ อะไรขนึ้
- นักเรียนคดิ ว่าลกั ษณะทิศทางของแรงเสียดทานเป็นอยา่ งไร
(แนวคำตอบ: ขน้ึ อยกู่ ับความคดิ เห็นของนกั เรยี น)
ขน้ั ท่ี 3 ข้นั อธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
1. นักเรียนและครูช่วยกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับแรงเสียดทานว่า แรงเสียดทานสถิตเป็นแรง
เสยี ดทานทก่ี ระทำต่อวัตถุขณะหยุดน่งิ สว่ นแรงเสียดทานจลนเ์ ปน็ แรงเสียดทานท่ีกระทำต่อวัตถุขณะ
เคลอ่ื นที่
2. ครตู ้ังคำถามเพือ่ อภปิ รายกับนกั เรียนเพิม่ เติมเพ่ือหาข้อสรปุ ดงั น้ี
คำถาม - แรงเสียดทานเกดิ ขน้ึ บรเิ วณใด
(แนวคำตอบ: ผิวสมั ผัสของวตั ถุกบั พน้ื ผิว)
- นักเรียนแรงเสียดทานส่งผลให้เกดิ อะไรขึน้
(แนวคำตอบ: ต้านการเคลื่อนทข่ี องวัตถุ)
- นกั เรียนคิดว่าลักษณะทิศทางของแรงเสยี ดทานเปน็ อยา่ งไร
(แนวคำตอบ: ตรงขา้ มกับแรงท่ีกระทำกบั วตั ถ)ุ
3. นักเรยี นศกึ ษาตัวอย่างการคำนวณจากโจทย์ปญั หา พร้อมทัง้ ใหน้ ักเรียนฝึกแก้โจทย์ปัญหา
ตามขัน้ ตอนการแกโ้ จทย์ปญั หา ดงั น้ี
• ขั้นท่ี 1 ครใู หน้ กั เรยี นทกุ คนทำความเข้าใจโจทยต์ วั อยา่ ง
• ขั้นที่ 2 ครูถามนักเรียนว่า สิ่งที่โจทย์ต้องการถามหาคืออะไร และจะหาสิ่งที่โจทย์
ตอ้ งการ ตอ้ งทำอย่างไร
• ขั้นท่ี 3 ครใู หน้ ักเรยี นดวู ิธีทำในการคำนวณหาคำตอบ
• ข้นั ที่ 4 ตรวจสอบคำตอบของโจทย์ตวั อยา่ งวา่ ถกู ตอ้ ง หรือไม่
4. นักเรียนทำแบบฝึกหัด เร่อื ง แรงเสียดทาน ในเลม่ โจทยป์ ญั หาท้าประลอง
ข้ันที่ 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration)
1. ครถู ามคำถามนักเรียนว่า
คำถาม - นักเรยี นจะนำความรูเ้ รื่องแรงเสยี ดทานไปอธบิ ายอะไรไดบ้ ้าง
(แนวคำตอบ: การเคลอ่ื นท่ีของวตั ถุ การสัมผสั ต่าง ๆ)
- ในชีวิตประจำวันนักเรียนพบเห็นการนำความรู้เรื่องแรงเสียดทานไปใช้
ประโยชน์อย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ: ทำให้วัตถุหยุดนิ่งไม่เคลื่อนที่ เช่น ช่วยหยุดรถยนต์ที่กำลัง
เคล่ือนท่ี ยางรถทม่ี ีดอกยางช่วยใหร้ ถเกาะถนนไดด้ ี เป็นต้น)
108
2. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นสอบถามเนื้อหาเร่ือง ค่าแรงเสยี ดทาน วา่ มสี ว่ นไหนที่ยังไม่เข้าใจ
และให้ความรเู้ พ่ิมเติมในส่วนนนั้
ขน้ั ท่ี 5 ขัน้ ประเมิน (Evaluation)
1. ส่มุ นกั เรยี นออกมาเฉลยแบบฝึกหัดเรอ่ื ง แรงเสียดทาน
2. นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบวิธีการคำนวณว่าถูกต้องหรือไม่ หากนักเรียนยังมีความ
เข้าใจคลาดเคล่ือน ครตู อ้ งอธิบายเพม่ิ เตมิ
6. สอ่ื การเรียนรู/้ อปุ กรณ์/แหล่งเรียน
1. ใบกจิ กรรมการทดลอง เรื่อง แรงเสียดทาน
2. แบบฝกึ หดั เร่อื ง แรงเสียดทาน ในเล่มโจทย์ปัญหาท้าประลอง
3. PowerPoint หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนท่ี
7. การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือทใ่ี ช้ เกณฑก์ ารประเมิน
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - การถาม-ตอบ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
1. อธบิ ายหาความสัมพันธร์ ะหว่างแรง - การแสดงความคิดเห็น รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์การ
เสียดทานและแรงปฏกิ ิริยาตัง้ ฉาก (K) - การทำกิจกรรมการ - แบบประเมนิ ทักษะ ประเมนิ ร้อยละ 70
ทดลอง การทดลอง
2. มที ักษะการทดลองหาความสมั พันธ์ - การถาม-ตอบ - แบบประเมนิ ทักษะ
ระหวา่ งแรงเสยี ดทานและแรงปฏกิ ริ ยิ า - การทำกิจกรรมการ การทดลอง
ตง้ั ฉากได้ (P) ทดลอง
3. มีความสนใจใฝ่รู้หรอื อยากร้อู ยาก - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
เห็น และทำงานรว่ มกบั ผอู้ ืน่ อยา่ ง - การส่งงานตรงเวลา รายบคุ คล
สรา้ งสรรค์ (A)
4. การสงั เกต การวดั การลงความเหน็ - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบสงั เกตพฤติกรรม
ข้อมูล และการตีความหมายข้อมลู และ ทำงาน รายบุคคล
ลงขอ้ สรปุ - การถาม-ตอบ - แบบตรวจแบบฝึกหดั
(ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์) - ตรวจแบบฝกึ หัด
109
110
ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
ลงชือ่ ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หัวหน้ากล่มุ สาระ ฯ
ความคดิ เห็นของรองผู้อำนวยการกล่มุ บรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ...................................
.............................................................................................................................................. ..................
................................................................................................................. ...............................................
ลงชือ่ ...........................................ผตู้ รวจสอบ
( นายสุรชัย ทองทิพย์ )
รองผู้อำนวยการกลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ความคิดเหน็ ของผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นเตรียมอดุ มศกึ ษาพัฒนาการ อุดรธานี
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ...........................................ผ้ตู รวจสอบ
( นายคมสนั ต์ ถานกางสุย่ )
ผู้อำนวยการโรงเรียน
111
เกณฑก์ ารตรวจแบบฝึกหดั
แกป้ ญั หา ความ ความ ความ ตรงต่อ รวม
ที่ ชือ่ - สกุล ด้วยตัวเอง สะอาด รบั ผดิ ชอบ ถูกต้อง เวลา
2 2 2 2 2 10
ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน
(.......................................................)
เกณฑก์ ารประเมิน 0 – 4 ปรบั ปรงุ
คะแนน 5 – 6 พอใช้
คะแนน 7 – 8 ดี
คะแนน 9 – 10 ดีมาก
คะแนน
112
แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
คำชี้แจง ให้ครูผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้ว / ลงใน
ชอ่ งท่ตี รงกบั ระดับคะแนน
ลำดบั มีความใฝ่รู้ มคี วามมุ่งม่ันใน มีส่วนรว่ มใน รวม 15
ที่
ชือ่ -สกุล ใฝเ่ รียน การทำงาน การทำกิจกรรม คะแนน
5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 32 1
ลงชือ่ ................................................ผปู้ ระเมนิ
(.......................................................)
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ระดับการมสี ่วนรว่ มมากท่สี ุด ให้ 5 คะแนน
ระดบั การมสี ว่ นรว่ มมาก ให้ 4 คะแนน
13 – 15 ดมี าก ระดับการมสี ว่ นร่วมปานกลาง ให้ 3 คะแนน
10 – 12 ดี ระดบั การมสี ว่ นรว่ มน้อย ให้ 2 คะแนน
7–9 ระดบั การมสี ว่ นรว่ มน้อยทส่ี ุด ให้ 1 คะแนน
4 –6 ปานกลาง
1– 3 พอใช้
ปรบั ปรุง
113
แบบประเมินทกั ษะการทดลอง
คำชแ้ี จง :ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ลง
ในช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
4321
1 การดำเนินการทดลอง
2 การใชว้ สั ดุและอปุ กรณ์ในการทดลอง
3 การบนั ทึกข้อมูล
4 ความร่วมมือในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
5 ความคล่องแคลว่ ในการใช้อุปกรณ์การ
ทดลอง
รวม
ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ระดับคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ดีมาก
18 - 20 ดี
14 - 17
10 - 13 พอใช้
ต่ำกวา่ 10 ปรับปรงุ
114
115
116
117
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 27
รายวชิ าเพิ่มเติม ฟิสิกส์ 1 (ว31201) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 แรงและกฎการเคลื่อนที่ เวลา 24 ช่ัวโมง
เรื่องที่ 11 กฎความโน้มถ่วงสากล เวลา 1 ชวั่ โมง
ภาคเรียนท่ี 1 ครผู ้สู อน นายนครนิ ทร์ เกตุทองมา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระวทิ ยาศาสตรเ์ พิ่มเตมิ /ผลการเรียนรู้
สาระฟสิ ิกส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ
การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโคง้ รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใชป้ ระโยชน์
ผลการเรยี นรู้
6. อธิบายกฎความโน้มถ่วงสากลและผลของสนามโน้มถ่วงที่ทำให้วัตถุมีน้ำหนัก รวมท้ัง
คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งได้
2. สาระสำคญั
กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลของนิวตัน วัตถุทั้งหลายในเอกภพจะออกแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน โดย
ขนาดของแรงดึงดูดระหว่างวัตถุคู่หนึ่ง ๆ จะแปรผันตรงกับผลคูณระหว่างมวลวัตถุทั้งสอง และจะ
แปรผกผันกับกำลังสองของระยะทางระหว่างวัตถุทั้งสองนั้น สามารถเขียนอยู่ในรูปของสมการทาง
m1m2
คณิตศาสตรไ์ ด้ ดังนี้ FG = G R2
สนามโน้มถ่วง (gravitational field) ของวัตถุใด ทำให้เกดิ แรงดึงดูดหรือแรงโน้มถ่วงของวัตถุนั้น
กระทำตอ่ วัตถุอนื่ ทอ่ี ยู่ ณ ตำแหนง่ ในสนามโน้มถ่วง เช่น ถา้ ทราบสนามโนม้ ถว่ งของโลกที่ตำแหน่งใด
จะสามารถหาแรงโนม้ ถว่ งทกี่ ระทำต่อวตั ถุทตี่ ำแหนง่ น้นั หรอื น้ำหนักของวตั ถุได้
3. สาระการเรียนรู้
ความโน้มถว่ งสากล มใี จความวา่ วัตถใุ ด ๆ ในจกั รวาลจะดงึ ดดู วัตถุอื่นด้วยแรงทีม่ ีขนาดแปรผกผัน
กับกำลังสองของระยะห่างระหวา่ งวตั ถุนัน้ และแปรผันตามผลคูณของมวลของวัตถุทั้งสอง เขียนเปน็
m1m2
สมการได้ FG = G R2
4. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมือ่ จบกิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรยี นสามารถ
118
จดุ ประสงคการเรียนรู้ รายละเอยี ด
ดา้ นความรู้ 1. อธบิ ายกฎความโนม้ ถว่ งสากลได้
(K: Knowledge)
ด้านทักษะกระบวนการ 2. สามารถคำนวณปริมาณต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวข้องกับกฎความโน้มถ่วงสากลได้
(P: Process) 3. มีความสนใจใฝร่ หู้ รืออยากรู้อยากเห็น และทำงานร่วมกับผ้อู นื่ อยา่ ง
สร้างสรรค์
ด้านคุณลักษณะท่ีพึง 4. การคำนวณ และการลงความเห็นขอ้ มลู
ประสงค์ (A: Attitude)
ทกั ษะกระบวนการ
วทิ ยาศาสตร์ (Science
Process Skill)
5. ขนั้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 5E
ขนั้ ท่ี 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement)
1. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั ทบทวนความรู้เดมิ เกยี่ วกับการตกของวตั ถสุ ู่พืน้ ทีเ่ ป็นผลมาจากแรง
โน้มถ่วงของโลกดึงดูดวัตถุ และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน เพื่อเป็นความรู้พื้นฐานนำไปสู่การศึกษา
เรอื่ ง กฎความโน้มถ่วงสากล
2. ครถู ามคำถามเพ่ือกระตุน้ ความสนใจของนักเรยี นว่า (ท้งิ ชว่ งให้นกั เรยี นคดิ )
คำถาม - เหตุใดดวงจันทร์จึงโคตรรอบโลก และโลกจึงโคจรรอบดวงอาทิตย์
(แนวคำตอบ: การโคจรของดวงจันทร์รอบโลก เกิดจากแรงดึงดูดระหว่างมวลโลกและมวลดวงจันทร์
ทำหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลาง ให้ดวงจันทร์สามารถโคจรรอบโลกเป็นวงกลมได้ โลกกับดวงอาทิตย์ก็
เชน่ กนั ปรากฎการณน์ อ้ี ธบิ ายได้ด้วยกฎแหง่ ความโน้มถ่วง (The law of gravity))
ขนั้ ท่ี 2 ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration)
1. นักเรยี นศึกษาความรใู้ นหนังสือเรยี นรายวชิ ฟิสกิ ส์ 1 (สสวท.) เรอ่ื ง กฎความโน้มถว่ งสากล
แนวทางอธบิ าย:
ความโน้มถ่วงสากล (Newton’s law of universal gravitation) มีใจความว่า วัตถุ
ใด ๆ ในจักรวาลจะดึงดูดวัตถุอื่นด้วยแรงที่มีขนาดแปรผกผันกับกำลังสองของระยะห่างระหว่างวัตถุ
นน้ั และแปรผนั ตามผลคูณของมวลของวัตถทุ ้ังสอง เขียนเป็นสมการได้
FG = G m1m2
R2
ขั้นท่ี 3 ขนั้ อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) m1m2
R2
1. ครอู ธิบายความหมายของตัวแปรในสมการ กฎโน้มถ่วงสากล FG = G
แนวทางอธบิ าย: FG คือ ขนาดของแรงทีว่ ัตถทุ งั้ สองกอ้ นดงึ ดดู กัน
G คอื ค่าคงตวั โนม้ ถ่วงสากลเทา่ กบั 6.67x10-11 Nm2/kg2
m1, m2 คือ มวลของวัตถุ
R คือ ระยะหา่ งระหวา่ งวัตถทุ งั้ สอง
119
2. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามเน้ือหาเก่ียวกับกฎโน้มถ่วงสากล ว่ามสี ว่ นไหนท่ียังไม่เข้าใจ
และให้ความรู้เพมิ่ เติมในส่วนนน้ั
ขน้ั ที่ 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)
1. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการหาค่าคงตัวโน้มถ่วงสากล (ค่า G) โดยครูอธิบายตาม
หนงั สือเรียน รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ฟสิ ิกส์ 1 เลม่ 1 (สสวท.) หนา้ ที่ 165
2. ครถู ามคำถามเพื่อเพ่ิมเตมิ ความรใู้ ห้นักเรยี น
คำถาม - ขนาดของแรงดึงดูดทีโ่ ลกกระทำตอ่ วัตถุ มีค่ามากกว่าขนาดของแรงดงึ ดดู
ท่วี ัตถุช้นิ น้ันกระทำต่อโลก ใช่หรอื ไม่ (แนวคำตอบ: ไม่ใช่ โดยขนาดของแรงดึงดูดที่โลกกระทำต่อวัตถุ
มีค่าเท่ากับขนาดของแรงดงึ ดูดท่ีวัตถชุ ิน้ น้นั กระทำตอ่ โลก)
ขน้ั ท่ี 5 ขนั้ ประเมิน (Evaluation)
1. ครยู กตัวอยา่ งการคำนวณหาขนาดแรงดึงดดู ระหว่างมวล (ครแู สดงวธิ ที ำเฉพาะ ก.)
ตัวอยา่ ง จงหาขนาดแรงดึงดูดระหว่างมวล
ก. วัตถสุ องก้อนซึ่งมวล 50.0 และ 60.0 kg และอยหู่ ่างกัน 2.00 m
แนวคิด: วัตถุทั้งสองจะออกแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน โดยขนาดของแรงดึงดูด
ระหวา่ งวัตถุคู่หนง่ึ หาวไธิ ดีทจ้ ำา:กแกทฎนแครง่าดจึงะดไดดู ้รFะGห=วา่ (ง6ม.6ว7ลxข1อ0ง-น11ิวNตmนั 2F/Gkg=2G) (m50R1.(m202k2.0g0)(m60).20kg)
FG = 5.00x10-8N
ข. โลกกับดวงจันทร์ ซึ่งมีมวล 5.98x1024 kg และ 7.36x1022 kg ตามลำดับ โดย
ระยะทางระหวา่ งศนู ย์กลางโลกและดวงจันทรเ์ ท่ากบั 3.84x108 m
ค. โลกกับวัตถุมวล 1.00 kg ซึ่งวางอยู่ที่ผิวโลก ณ บริเวณเส้นศูนย์สูตร รัศมีของโลก
เท่ากับ 6.38x106 m
2. นกั เรียนแสดงวธิ กี ารคำนวณขอ้ ข. และ ค.
3. นกั เรียนและครูร่วมกนั เฉลย
6. สอื่ การเรียนรู/้ อุปกรณ์/แหลง่ เรียน
1. หนังสอื เรียน รายวชิ าเพ่ิมเติมฟิสิกส์ 1 เลม่ 1 (สสวท.)
2. PowerPoint หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง แรงและกฎการเคล่อื นที่
120
7. การวัดและประเมนิ ผล วิธีการวัด เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์การประเมิน
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - การถาม-ตอบ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
1. อธบิ ายกฎความโนม้ ถ่วงสากลได้ - การแสดงความคิดเหน็ รายบคุ คล
(K)
2. สามารถคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ที่ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบตรวจแบบฝึกหัด ผา่ นเกณฑ์การ
เกี่ยวขอ้ งกบั กฎความโน้มถว่ งสากลได้ - การถาม-ตอบ ประเมินร้อยละ 70
(P) - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
- สังเกตพฤติกรรม รายบุคคล
3. มคี วามสนใจใฝร่ หู้ รืออยากรูอ้ ยาก - การสง่ งานตรงเวลา - แบบตรวจแบบฝกึ หัด
เหน็ และทำงานรว่ มกับผ้อู ื่นอย่าง - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
สรา้ งสรรค์ (A) - สงั เกตพฤติกรรมการ รายบคุ คล
ทำงาน - แบบตรวจแบบฝกึ หดั
4. การคำนวณ และการลงความเหน็ - การถาม-ตอบ
ข้อมลู - ตรวจแบบฝกึ หดั
(ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์)
121
122
ความคิดเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. ...................................
ลงชอื่ ...........................................ผู้ตรวจสอบ
( นางดลกาญจน์ พรหมพลจร )
หัวหนา้ กลุม่ สาระ ฯ
ความคดิ เห็นของรองผู้อำนวยการกล่มุ บริหารวชิ าการ
................................................................................................................ ................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ...........................................ผ้ตู รวจสอบ
( นายสรุ ชยั ทองทิพย์ )
รองผู้อำนวยการกล่มุ บริหารงานวชิ าการ
ความคดิ เห็นของผอู้ ำนวยการโรงเรยี นเตรียมอดุ มศกึ ษาพัฒนาการ อดุ รธานี
............................................................................................................... .................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...........................................ผูต้ รวจสอบ
( นายคมสนั ต์ ถานกางส่ยุ )
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
123
เกณฑก์ ารตรวจแบบฝึกหดั
แกป้ ญั หา ความ ความ ความ ตรงต่อ รวม
ที่ ชือ่ - สกุล ด้วยตัวเอง สะอาด รบั ผดิ ชอบ ถูกต้อง เวลา
2 2 2 2 2 10
ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน
(.......................................................)
เกณฑก์ ารประเมิน 0 – 4 ปรบั ปรงุ
คะแนน 5 – 6 พอใช้
คะแนน 7 – 8 ดี
คะแนน 9 – 10 ดีมาก
คะแนน
124
แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
คำชี้แจง ให้ครูผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้ว / ลงใน
ชอ่ งท่ตี รงกบั ระดับคะแนน
ลำดบั มีความใฝ่รู้ มคี วามมุ่งม่ันใน มีส่วนรว่ มใน รวม 15
ที่
ชือ่ -สกุล ใฝเ่ รียน การทำงาน การทำกิจกรรม คะแนน
5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 32 1
ลงชือ่ ................................................ผปู้ ระเมนิ
(.......................................................)
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ระดับการมสี ่วนรว่ มมากท่สี ุด ให้ 5 คะแนน
ระดบั การมสี ว่ นรว่ มมาก ให้ 4 คะแนน
13 – 15 ดมี าก ระดับการมสี ว่ นร่วมปานกลาง ให้ 3 คะแนน
10 – 12 ดี ระดบั การมสี ว่ นรว่ มน้อย ให้ 2 คะแนน
7–9 ระดบั การมสี ว่ นรว่ มน้อยทส่ี ุด ให้ 1 คะแนน
4 –6 ปานกลาง
1– 3 พอใช้
ปรบั ปรุง
125
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 28
รายวชิ าเพิ่มเตมิ ฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 แรงและกฎการเคล่ือนที่ เวลา 24 ช่วั โมง
เรอ่ื งท่ี 12 สนามโนม้ ถว่ ง แรงโนม้ ถว่ ง และน้ำหนัก เวลา 1 ชว่ั โมง
ภาคเรยี นที่ 1 ครผู ู้สอน นายนครินทร์ เกตุทองมา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระวิทยาศาสตรเ์ พ่มิ เตมิ /ผลการเรยี นรู้
สาระฟิสิกส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ
การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุ งาน และกฎการ
อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตมั การเคลื่อนท่ีแนวโคง้ รวมทั้งนำความร้ไู ป
ใช้ประโยชน์
ผลการเรียนรู้
6. อธิบายกฎความโน้มถ่วงสากลและผลของสนามโน้มถ่วงที่ทำให้วัตถุมีน้ำหนัก รวมทั้ง
คำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องได้
2. สาระสำคญั
กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลของนิวตัน วัตถุทั้งหลายในเอกภพจะออกแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน โดย
ขนาดของแรงดึงดูดระหว่างวัตถุคู่หนึ่ง ๆ จะแปรผันตรงกับผลคูณระหว่างมวลวัตถุทั้งสอง และจะ
แปรผกผันกับกำลังสองของระยะทางระหว่างวัตถุทั้งสองนั้น สามารถเขียนอยู่ในรูปของสมการทาง
m1m2
คณิตศาสตรไ์ ด้ ดงั นี้ FG = G R2
สนามโนม้ ถว่ ง (gravitational field) ของวตั ถใุ ด ทำให้เกิดแรงดึงดูดหรือแรงโน้มถ่วงของวัตถุนั้น
กระทำต่อวตั ถอุ ืน่ ทอ่ี ยู่ ณ ตำแหน่งในสนามโนม้ ถ่วง เช่น ถา้ ทราบสนามโนม้ ถ่วงของโลกทตี่ ำแหน่งใด
จะสามารถหาแรงโนม้ ถ่วงท่กี ระทำต่อวตั ถุท่ีตำแหนง่ นนั้ หรอื น้ำหนักของวตั ถุได้
3. สาระการเรียนรู้
สนามโน้มถ่วง (gravitational field) ของวัตถุใด ทำให้เกิดแรงดึงดูดหรือแรงโน้มถ่วงของวัตถุน้ัน
กระทำตอ่ วตั ถอุ นื่ ท่ีอยู่ ณ ตำแหนง่ ในสนามโนม้ ถว่ ง เช่น ถา้ ทราบสนามโนม้ ถ่วงของโลกท่ตี ำแหน่งใด
จะสามารถหาแรงโนม้ ถ่วงที่กระทำตอ่ วัตถุทต่ี ำแหน่งนัน้ หรือนำ้ หนักของวตั ถุได้
สนามโน้มถ่วงที่ตำแหน่งใด ๆ หาได้จากแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุมวลหนึ่งหน่วย แทนด้วย
สญั ลกั ษณ์ ⃗g
บริเวณผิวโลก สนามโน้มถ่วงมีขนาด 9.8 นิวตันต่อกิโลกรัม ทิศเข้าสู่ศูนย์กลางโลก และทำให้
ความเรง่ ของวัตถุที่ตกแบบเสรที ใ่ี กลผ้ วิ โลกมีขนาดประมาณ 9.8 m/s2 ทศิ เข้าสู่ศนู ยก์ ลางโลก
126
4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เมอื่ จบกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนสามารถ
จุดประสงคการเรยี นรู้ รายละเอยี ด
ด้านความรู้ 1. อธิบายผลของสนามโนม้ ถ่วงโลกที่มีตอ่ นำ้ หนักของวตั ถุได้
(K: Knowledge)
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 2. สามารถคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกบั สนามโน้มถว่ งโลกได้
(P: Process)
ด้านคณุ ลักษณะท่ีพงึ 3. มคี วามสนใจใฝ่รหู้ รืออยากรอู้ ยากเหน็ และทำงานรว่ มกับผู้อืน่ อย่าง
ประสงค์ (A: Attitude) สรา้ งสรรค์
ทกั ษะกระบวนการ 4. การคำนวณ และการลงความเหน็ ขอ้ มลู
วิทยาศาสตร์ (Science
Process Skill)
5. ขน้ั จัดกิจกรรมการเรยี นรแู้ บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 5E
ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement)
1. นกั เรียนและครรู ่วมกันทบทวนความรูเ้ ร่ือง กฎความโน้มถว่ งสากล มีใจความวา่ วตั ถุใด ๆ
ในจักรวาลจะดงึ ดูดวตั ถอุ น่ื ด้วยแรงทม่ี ขี นาดแปรผกผันกบั กำลงั สองของระยะหา่ งระหวา่ งวตั ถนุ น้ั
และแปรผันตามผลคูณของมวลของวตั ถุทัง้ สอง เขยี นเปน็ สมการได้
m1m2
FG = G R2
2. ครถู ามคำถามทบทวนความรขู้ องนกั เรียนวา่
คำถาม - เหตุใดดวงจันทร์จึงโคตรรอบโลก และโลกจึงโคจรรอบดวงอาทิตย์
(แนวคำตอบ: การโคจรของดวงจันทร์รอบโลก เกิดจากแรงดึงดูดระหว่างมวลโลกและมวลดวงจันทร์
ทำหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลาง ให้ดวงจันทร์สามารถโคจรรอบโลกเป็นวงกลมได้ โลกกับดวงอาทิตย์ก็
เช่นกนั ปรากฎการณ์นี้อธบิ ายได้ดว้ ยกฎแหง่ ความโน้มถ่วง (The law of gravity))
- ขนาดของแรงดึงดดู ที่โลกกระทำตอ่ วัตถุ มคี า่ มากกวา่ ขนาดของแรงดึงดูด
ท่วี ัตถุชิน้ นนั้ กระทำตอ่ โลก ใช่หรือไม่ (แนวคำตอบ: ไม่ใช่ โดยขนาดของแรงดงึ ดดู ทีโ่ ลกกระทำต่อวัตถุ
มีค่าเท่ากับขนาดของแรงดงึ ดูดทวี่ ัตถุชน้ิ น้นั กระทำตอ่ โลก
ข้ันที่ 2 ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration)
1. นกั เรยี นศึกษาค้นคว้าหาความหมายของสนามโนม้ ถ่วง (g) โดย ⃑g = F⃑⃑G⃑
m
2. จากนั้นครูตั้งคำถามเกี่ยวกับค่าสนามโน้มถ่วงในกรณีเมื่อวัตถุอยูท่ ี่ตำแหน่งใด ๆ ห่างจาก
ผิวโลก ให้นักเรียนอภิปรายร่วมกัน จนสรุปได้ว่าค่าสนามโน้มถ่วงของโลกที่ตำแหน่งใดจะแปรผกผัน
กับกำลังสองของระยะทางที่ตำแหน่งนั้นห่างจากศูนย์กลางของโลก จะได้ว่าขนาดของสนามโน้มถ่วง
GmE
ของโลกทีต่ ำแหนง่ ใด ๆ หาได้จาก g = r2
127
3. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมวลและน้ำหนักของวัตถุ อภิปรายร่วมกันจน
สรปุ ไดว้ ่าน้ำหนักเป็นแรงดงึ ดดู ของโลกทก่ี ระทำต่อวตั ถุ เปน็ ไปตามความสัมพันธ์ w = mg
ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
1. ครตู ง้ั คำถามเก่ียวกับน้ำหนักของวัตถุ เมื่อวตั ถุท่ีผวิ โลกและหา่ งจากผวิ โลกออกไป
คำถาม - น้ำหนักของวัตถุมีค่าคงตวั ไมว่ า่ จะอยู่สูงจากพนื้ โลกเทา่ ใดก็ตามใชห่ รือไม่
(แนวคำตอบ: ไม่ใช่ โดยน้ำหนักของวตั ถุมีคา่ ไมค่ งตวั ขึ้นอย่กู บั ระยะห่างจากศูนยก์ ลางโลก)
2. นักเรียนอภิปรายรว่ มกนั จนสรุปไดว้ ่าน้ำหนกั ของวตั ถุจะเปล่ยี นไปตามตำแหน่งท่ีห่างจาก
ศูนยก์ ลางโลก
ขน้ั ท่ี 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
1. ตั้งคำถามเพื่อนำไปสู่การสืบค้นเกี่ยวกบั สนามโน้มถ่วงของดาวอื่น ๆ และน้ำหนักของวตั ถุ
บนดาวนัน้ ๆ จากนั้นใหน้ ักเรยี นสบื ค้น อภปิ รายร่วมกัน และนำเสนอผล
2. ครูยกตัวอย่างการคำนวณปริมาณต่าง ๆ เกี่ยวกับขนาดสนามโน้มถ่วง และขนาดน้ำหนัก
ของวัตถุในหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติมฟิสิกส์ 1 เล่ม 1 (สสวท.) หน้าที่ 168 (ครูแสดงวิธีทำเฉพาะ
ขอ้ ก.)
ขนั้ ที่ 5 ขั้นประเมนิ (Evaluation)
1. นักเรียนแสดงวิธีทำข้อ ข. และตอบคำถามตรวจสอบความเข้าใจในหนังสือเรียน รายวิชา
เพม่ิ เตมิ ฟิสิกส์ 1 เลม่ 1 (สสวท.) หนา้ ท่ี 169
2. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันเฉลยคำถามตรวจสอบความเขา้ ใจ
3. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้อหาเกี่ยวกับสนามโน้มถ่วง แรงโน้มถ่วงและน้ำหนัก
ของวตั ถุ ว่ามสี ว่ นไหนที่ยงั ไมเ่ ขา้ ใจและให้ความรเู้ พม่ิ เติมในสว่ นนัน้
6. ส่อื การเรียนรู/้ อุปกรณ/์ แหลง่ เรยี น
1. หนงั สอื เรยี น รายวิชาเพ่ิมเติมฟิสิกส์ 1 เล่ม 1 (สสวท.)
2. PowerPoint หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง แรงและกฎการเคล่อื นที่
128
7. การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือทใ่ี ช้ เกณฑ์การประเมิน
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - การถาม-ตอบ - แบบสงั เกตพฤติกรรม
1. อธบิ ายผลของสนามโนม้ ถ่วงโลกที่มี - การแสดงความคิดเหน็ รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์การ
ต่อนำ้ หนักของวัตถไุ ด้ (K) - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบตรวจแบบฝึกหดั ประเมินร้อยละ 70
- ตรวจแบบฝึกหัด - แบบตรวจแบบฝกึ หดั
2. สามารถคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่ี - การถาม-ตอบ
เก่ยี วขอ้ งกบั สนามโนม้ ถ่วงโลกได้ (P) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม
3. มคี วามสนใจใฝร่ หู้ รอื อยากรู้อยาก - การส่งงานตรงเวลา รายบุคคล
เห็น และทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ่ืนอยา่ ง - แบบตรวจแบบฝกึ หดั
สร้างสรรค์ (A) - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบสังเกตพฤติกรรม
4. การคำนวณ และการลงความเห็น ทำงาน รายบุคคล
ขอ้ มลู - การถาม-ตอบ - แบบตรวจแบบฝึกหดั
(ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร)์ - ตรวจแบบฝกึ หดั