The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการดำเนินงานโครงงานคุณธรรม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by takrear16, 2022-09-07 09:17:36

รายงานการดำเนินงานโครงงานคุณธรรม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

รายงานการดำเนินงานโครงงานคุณธรรม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

๔.วมิ ังสา ปรบั ปรุงใหง้ านดขี นึ้ (เขา้ ใจทา)

๑๐. อธิบายการนามาใช้ในการปฎบิ ตั โิ ครงงาน
เป็นธรรมท่ีนามาใช้เพ่อื ปฎบิ ัตใิ หเ้ กดิ ความสาเรจ็ ประกอบด้วย ฉนั ทะ วริ ยิ ะ จติ ตะ วิมงั สา

บทที่ 2

เอกสารที่เกย่ี วขอ้ ง

หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

เศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ ปรัชญาชี้ถึงแนวการดารงอยแู่ ละปฏบิ ัติตนของประชาชนในทกุ ระดบั ตง้ั แตร่ ะดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถงึ ระดับรฐั ทั้งในการ
พฒั นาและบริหารประเทศให้ดาเนนิ ไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อใหก้ า้ วทนั ตอ่ โลกยุคโลกาภวิ ตั น์ ความพอเพียง หมายถึง
ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล รวมถงึ ความจาเป็นท่จี ะตอ้ งมรี ะบบภูมคิ มุ้ กันในตวั ทีด่ พี อสมควร ตอ่ การกระทบใดๆ อนั เกดิ จากการเปล่ยี นแปลงท้ัง
ภายในภายนอก ทง้ั น้ี จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิงในการนาวชิ าการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการ
ดาเนนิ การ ทุกขัน้ ตอน และขณะเดยี วกนั จะต้องเสรมิ สร้างพ้ืนฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจา้ หนา้ ที่ของรฐั นักทฤษฎี และนกั ธุรกจิ ในทกุ ระดับ
ให้มสี านึกในคุณธรรม ความซอ่ื สัตยส์ จุ รติ และให้มคี วามรอบรู้ทเ่ี หมาะสม ดาเนินชีวติ ด้วยความอดทน ความเพยี ร มสี ติ ปญั ญา และความรอบคอบ
เพ่ือให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเร็วและกวา้ งขวาง ท้งั ดา้ นวตั ถุ สังคม สง่ิ แวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกไดเ้ ป็น
อย่างดี

แผนภมู ปิ รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

หลักสาคญั 5 ประการ ของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง

1. ความพอประมาณ ซ่ึงหมายถึงความพอดๆี ไมม่ ากเกนิ ไป ไมน่ อ้ ยเกนิ ไป ไมส่ ุดโตง่ และไมเ่ ตบิ โตเรว็ เกนิ ไป
2. ความมเี หตมุ ผี ล คือทุกอย่างตอ้ งมที มี่ าท่ีไป สามารถอธิบายได้ มเี หตมุ ผี ลรับกัน
3. ความรอบรู้ คือ ตอ้ งมคี วามรอบคอบ มกี ารใช้ความรู้วชิ าการด้วยความระมดั ระวงั ไม่บมุ่ บ่าม ดาเนินการอย่างรอบคอบ
4. ความมภี มู ิคุ้มกันที่ดี คือต้องปกปอ้ งคุ้มครอง ไม่ใหก้ ระทาสิง่ ท่เี สย่ี งเกินไป ไมเ่ สี่ยงในเร่ืองที่ไมค่ วรเสย่ี ง
5. คุณธรรมความดี ซ่ึงหมายถึงความซอื่ สตั ย์สุจรติ ประกอบดว้ ยความมานะอดทนและพากเพียร คุณธรรมเปน็ พน้ื ฐานของความมั่นคงและความมั่นคง

อิทธบิ าท4
อิทธิบาท หรอื อิทธิบาท 4 เปน็ ศพั ทใ์ นพระพทุ ธศาสนา หมายถึง ฐานหรอื หนทางสคู่ วามสาเร็จ หรือ คุณเครื่องใหถ้ งึ

ความสาเรจ็ คณุ เคร่ืองสาเรจ็ สมประสงค์ ทางแห่งความสาเรจ็ คณุ ธรรมทีน่ าไปสคู่ วามสาเรจ็ แห่งผลทม่ี ุ่งหมาย มี 4 ประการ คือ

1.ฉนั ทะ (ความพอใจ) คือ ความต้องการที่จะทา ใฝ่ใจรกั จะทาส่งิ น้นั อย่เู สมอ และปรารถนาจะทาให้ ไดผ้ ลดยี ิง่ ๆขนึ้ ไป
2.วิริยะ (ความเพียร) คอื ขยันหม่นั ประกอบส่ิงนน้ั ดว้ ยความพยายาม เขม้ แข็ง อดทน เอาธุระไมท่ อ้ ถอย

3.จิตตะ (ความคดิ ) คือ ตง้ั จิตรบั รู้ในส่งิ ทท่ี า และทาสงิ่ นั้นด้วยความคดิ เอาจติ ฝกั ใฝ่ ไมป่ ล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอยไป

4.วมิ งั สา (ความไตร่ตรอง หรอื ทดลอง) คอื หมน่ั ใชป้ ญั ญา พจิ ารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตผุ ล และตรวจสอบขอ้ ยงิ่ หย่อนในสิ่งทที่ านนั้ มกี ารวางแผน

วัดผล คิดคน้ วิธีแก้ไขปรับปรุง เป็นตน้

บทที่ 3

การดาเนินโครงงาน

โครงงาน ตรงตอ่ เวลา ชวี ิตดดี ี!
๑. ประชมุ วางแผน
๒. แบง่ หนา้ ทีใ่ นการทางาน
๓. ตรวจเช็คการเขา้ รว่ มกิจกรรมหนา้ เสาธงทุกวนั
๔. ตรวจเชค็ การเข้าเรียนทุกคาบ
๕. สรปุ ผลและประเมินผลของโครงงาน
การประเมินผล
๑. สงั เกตการเข้าเรยี นของนกั เรยี นทุกวนั
๒. มีการแก้ปญั หาการไมต่ รงเวลา
๓. ปรกึ ษาครูท่ีปรกึ ษา

บทที่ 4

ผลการดาเนินโครงงาน

โครงงาน ตรงตอ่ เวลา ชีวติ ดดี !ี

ก่อนดาเนินกิจกรรมตามโครงงาน

-นกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี5 เข้าเรยี นไม่ตรงเวลาและมาโรงเรยี นสาย

หลังการดาเนนิ กิจกรรมตามโครงงาน

-นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที 5ี่ จานวน ๑๕ คน มีความรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทีข่ องตวั เอง ซงึ่ เปน็ การฝึกวนิ ยั ในตนเอง

ตาราง ขอ้ มูลการมาโรงเรียนสาย ของนกั เรยี นโรงเรยี นตะเครียะวิทยาคม ชนั้ มัธยมศึกษาปีที5่

ภาคเรียนท่ี ๑ ปี การศกึ ษา2565 เดือนสิงหาคม

นักเรยี นช้นั /คน จานวนนักเรยี นมา จานวนนักเรยี น จานวนนกั เรียนที่ จานวนนักเรยี นท่ี
โรงเรยี นสาย โดดเรียน เข้าเรียนสาย ไม่ได้มาโรงเรยี น
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่
5/15คน // - /// /

จากตารางพบวา่ การตรงเวลาของนักเรยี นยังอยใู่ นเกณฑ์ท่ีดีอยใู่ นระดับนงึ

บทที่ 5

ผลสรปุ และข้อเสนอแนะ

จากการดาเนินโครงงานตรงต่อเวลาชวี ิตดดี ๊ี! มวี ัตถปุ ระสงค์สบื สานพระราชสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั
พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช “สรา้ งคนดีใหบ้ ้านเมือง”

1.1 แก้ปญั หานักเรยี นท่มี าโรงเรียนสาย

1.2 เพ่อื ตระหนกั ถงึ แกน่ ักเรียนใหย้ ดึ หลักธรรมใหน้ ามาใช้ในชีวิตระจาวัน

1.3 เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นมีคุณธรรม

ขอ้ เสนอแนะ

ในการดาเนินกจิ กรรมควรพัฒนาและสง่ เสรมิ โครงงานน้ีใหอ้ ย่ตู ่อในภาคเรยี นต่อไปและมกี ารปรบั ปรงุ แก้ไขใหเ้ ปน็
ระบบมากขึน้

แนวทางแก้ไขในการนาหลกั การและหลกั ธรรมตามแนวพระราชดารมิ าใช้

“การดารงชวี ติ ทด่ี จี ะต้องปรับตัวตลอดเวลา การปรับปรุงตัวจะตอ้ งใช้ความเพยี ร และความอดทนเป็นที่ต้ัง ถ้า
คนเราไม่มีความหมน่ั เพียร ไม่มีความอดทน ก็อาจเปน็ คนท้อใจไปโดยง่าย เม่ือทอ้ ใจไปแลว้ ไม่มที างทจี่ ะมชี ีวิต
เจรญิ รงุ่ เรืองแน่ๆ”

ภาคผนวก










คำนำ

โครงงานฉบบั น้ีมจี ุดประสงค์เพ่ือศึกษาปญั หาขยะภายในโรงเรียนตะเครยี ะวิทยาคม ซ่ึงโครงงานเล่มน้ี
มีเน้ือหาเกี่ยวกับ สาเหตุท่ีเกิดขยะ ผลกระทบจากขยะ วิธีการแก้ไขและการนาไปใชป้ ระโยชน์ ซ่ึงแสดงให้เห็น
ถึงขยะท่ีมีในโรงเรียน ว่ามีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของชุมชนว่ามีมาแค่ไหน
ซึง่ เราสามารถนาเอาวธิ ีแก้ไข และนาขยะมาใชใ้ หเ้ กิดประโยนใ์ นชวี ิตประจาวันได้

คณะผู้จัดขอขอบพระคุณผู้อานวยการโรงเรียนตะเครียะวิทยาคม นางสาวชุฏิมา อินทร์จันทร์ และ
ขอขอบพระคุณคุณครูที่ปรึกษา นางปานเลขา น่ิมมา และ นางสาวครูสุรัสวดี ขุนอินทรสมบัติ และคณะ
ผ้จู ดั ทาหวังวา่ โครงงานฉบบั บน้ีจะเปน็ ประโยชน์ต่อผ้สู นใจในเร่ืองปัญหาขยะภายในโรงเรียนไมม่ ากก็น้อย หาก
มีขอ้ ผิดพลาดประการใดขออภยั มา ณ ทนี่ ้ีดว้ ย

คณะผูจ้ ัดทา

นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕




กติ ตกิ รรมประกำศ

โครงงานแยกแลว้ ท้ิงไหนขยะจะได้ไปต่อ ประสบความสาเร็จลุลว่ งไป ได้ด้วยดี จากความช่วยเหลือ
ของ นางปานเลขา นมิ่ มาและนางสาวสุรัสวดี ขุนอนิ ทรสมบัติ ที่ไดใ้ ห้คาปรึกษา แนะนาข้ันตอนการทา โค
รงานและบอกข้อบกพร่องทต่ี ้องแก้ไข และตรวจสอบทุกข้ันตอนของการทาโครงานนี้ คณะผ้จู ัดทาจึง
ขอขอบพระคณุ อยา่ งสูง

ขอขอบคุณเพอื่ นนักเรียน ทีเ่ ปน็ กาลังใจในการทาโครงานน้ีและขอบคุณสมาชกิ ในกล่มุ ทุกท่านท่ี ให้
ความร่วมมอื จนโครงานนส้ี าเรจ็ ลลุ ่วงไปได้ดว้ ยดี

ขอขอบคุณคุณครูทุกท่านทไี่ ด้ใหค้ วามรู้ คาแนะนาในการจัดทารายงานการศึกษาคนั คว้าและการ
สรา้ งความรู้ เรา ฉบบั น้ี ขอขอบคุณบดิ า มารดาของคณะผู้จัดทา ทไี่ ด้ให้ความชว่ ยเหลือสนับสนุน อกี ทง้ั คอย
ใหก้ าลังใจ ตลอดมา

คณะผจู้ ดั ทำ

๔ ค

บทคดั ย่อ

โครงงำน แยกแลว้ ท้ิงไหนขยะจะได้ไปต่อ
ผจู้ ัดทำ นกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕
ครทู ปี่ รึกษำ นำงปำนเลขำ นิม่ มำ และนำงสำวสรุ ัสวดี ขุนอนิ ทรสมบตั ิ
สถำนศึกษำ โรงเรียนตะเครยะวิทยำคม

เน่ืองจากในปัจจุบันภายในโลกเกิดปัญหาในด้านส่ิงแวดล้อม เช่น ปัญหาภัยแล้ง อุทุกภัย ไฟป่า และ
ปัญหาทป่ี ระชากรโลกทกุ คนเผชิญปญั หาคือ ปัญหาขยะทเี่ พมิ่ ข้ึนในทกุ ๆ ปี จึงทาให้เกดิ ปญั หาตา่ งๆ ตามมาอีก
มากมาย เช่น ปัญหาด้านมลพิษ ปัญหาน้าเสียท่ีเกิดจากการทิ้งขยะที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งน้าไปสู่ผลกระทบต่อสัตว์
และมนุษย์ท่ีดารงชีวิตอยู่ใกล้แหล่งน้า ซ่ึงขยะมูลฝอยน้ัน นับวันจะเพ่ิมมากขึ้นตามจานวนของประชากร
ถา้ หากไม่มีการกาจดั ขยะมูลฝอยให้ถกู ต้อง และเหมาะสมแล้ว ปัญหาความสกปรกต่างๆ ท่ีเกดิ จากขยะมลู ฝอย
จะต้องเกดิ ขึน้ อยา่ งแน่นอน ถา้ มองกนั อย่างผวิ เผินแลว้ ขยะมูลฝอยนนั้ ไม่ได้มีผลกระทบต่อมนษุ ย์มากนัก ทง้ั นี้
อาจเป็นเพราะผลกระทบท่ีเกิดข้ึนโดยตรงต่อมนุษย์ ยังอยู่ในขั้นท่ีไม่รุนแรงมากนัก ผลกระทบท่ีเกิดขึ้นจึงไม่
ชดั เจนเทา่ ไร แต่ในความเป็นจริงแลว้ ขยะมลู ฝอยจะกอ่ ให้เกดิ ปัญหาตอ่ สภาพแวดล้อมเป็นอยา่ งมาก และจะมี
ผลกระทบตอ่ สุขภาพอนามัยของมนุษยด์ ้วย ท้ังโดยทางตรง และทางออ้ ม

คณะผจู้ ดั ทาจงึ ได้คิดการทาโครงงานแยกแลว้ ท้ิงไหนขยะจะไดไ้ ปต่อ เพื่อให้นกั เรยี นโรงเรียนตะเครียะ
วิทยาคมเกิดความตระหนักถึงผลเสียท่ีจะก่อให้เกิดมลภาะต่อส่ิงแวดลอ้ มและสุขอนามัยของมนุษย์ หากมีการ
จัดการขยะอย่างเหมาะสม มรี ะเบียบวินยั และความรับผิดชอบในการแยกขยะ เกิดความรู้ความเข้าใจและแยก
ขยะแต่ละประเภทของขยะรีไซเคิลได้อย่างถูกและสามารถนาขยะที่แยกไว้นั้นสามารถที่จะนาไปขายเพื่อสร้าง
รายได้ให้กับนักเรียนโรงเรยี นตะเครียะวทิ ยาคมอีกด้วย อีกทั้งให้ทุกคนตระหนักถึงข้อดีของการมีระเบียบวินัย
ความสามัคคี ความรับผิดชอบ



สำรบัญ ง

เรื่อง หน้ำ

คานา ก
กติ ติกรรมประกาศ ข
บทคัดย่อ ค
สารบัญ ง
บทท๑่ี ๑
บทท๒ี่ ๒
บทท๓ี่ ๓
บทท๔ี่ ๔
บทท๕ี่ ๕
ภาคผนวก ๖-๑๒



บทที่ ๑
บทนำ

ที่มำและควำมสำคัญ

เน่ืองจากโรงเรียนตะเครียะวิทยาคมมีขยะเป็นจานวนมากและหลากหลายประเภท ซึ่งมีนักเรียน
บางส่วนไม่แยกขยะและทิ้งขยะไม่ลงถังพวกเราจึงได้มีการศึกษาความสาคัญของขยะและวิธีการแยกขยะได้
ถูกต้องตามประเภท อีกท้ังช่วยลดขยะภายในโรงเรียนและสามารถลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย และให้
นักเรียนตระหนัก เข้าใจถึง คุณค่าของขยะที่สามารถสร้างรายได้และนาไปใช้ประโยชน์ได้อีก พวกเราจึงจัดทา
ถังขยะสาหรับขยะของแต่ละประเภทเพ่ือให้นักเรียนแยกขยะได้ถูกต้องตามประเภท ในการคัดแยกขยะเพ่ือ
นาไปส่กู ารจดั การอยา่ งถูกวธิ ี ซง่ึ เปน็ การฝกึ การรบั ผิดชอบ มวี ินัยในตนเอง จติ อาสา

วัตถปุ ระสงค์

๑. เพ่ือใหน้ กั เรยี นแยกขยะได้ถูกต้อง
๒. เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมวี นิ ยั ในตนเองร้จู ักการรบั ผิดชอบ
๓. เพ่ือให้นักเรียนเกิดความตระหนักถึงผลเสียท่ีจะก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของ

มนุษย์

ขอบเขตของกำรศกึ ษำ

๑. เปา้ หมาย
นกั เรยี นโรงเรียนตะเครยี ะวทิ ยาคม จานวน ๑๒๖ คน

๒. ระยะเวลาในการดาเนินการ
เร่มิ ภาคเรยี นท่ี๑/๒๕๖๕ และดาเนินการตอ่ เน่อื งไปเป็นประจาจนจบภาคเรยี น

ผลทคี่ ำดว่ำจะไดร้ บั

๑. นักเรียนเกิดแนวที่ดีต่อการจัดการขยะ เข้าใจคุณค่าของขยะแตะละประเภท สามารถนาไปใช้ประโยชน์
ไดห้ ลายคร้งั สามารถเปล่ียนเป็นเงินได้

๒. มีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม
๓. ปลูกฝังจติ สานกึ ใหเ้ กิดความรบั ผิดชอบ มีวินัยในตนเอง จติ อาสา



บทท่ี ๒
ปญั หำและสำเหตุ

ปญั หำและสำเหตุ

๑. นกั เรยี นบางคนยงั ไมร่ ู้จกั การแยกขยะที่ถกู ต้อง
๒. . การทางานของธนาคารขยะขาดตอ่ เนือ่ ง
๓. สถานทีจ่ ดั เกบ็ ยังไม่ได้มาตรฐาน

แนวทำงกำรแก้ไขปญั หำ

๑. สร้างความรู้ความเข้าใจเร่อื งการแยกขยะให้แกนักเรยี นไดท้ ราบ
๒. ติดตามผลงานการดาเนินงานอย่างต่อเนือ่ ง

สำเหตุ

๑. นกั เรยี นบางสว่ นไม่รู้จกั วิธีการแยกขยะ

๒. ถงั ขยะไม่ได้บ่งบอกประเภทของขยะท่ชี ดั เจน

๓. นกั เรียนทิง้ ขยะไม่เปน็ ท่ี ไม่รคู้ ณุ คา่ ของขยะ

เป้ำหมำย

๑. เชงิ ปรมิ ำณ
นักเรยี นโรงเรียนตะเครยี ะวทิ ยาคมจานวน ๑๒๖ คน

๒. เชิงคณุ ภำพ
นกั เรยี นโรงเรยี นตะเครยี ะวทิ ยาคมสามารถแยกขยะไดถ้ ูกต้องตามประเภท

หลกั กำรและหลกั ธรรมท่ีนำมำใช้

๑. อทิ ธบิ ำท ๔
หมายถงึ คณุ ธรรมท่นี าไปสู่ความสาเรจ็ แหง่ ผลทม่ี งุ่ หมาย มี ๔ ประการ คอื

(๑.) ฉนั ทะ พอใจรักใครในสิ่งนัน้ (เต็มใจทา)
(๒.) วิริยะ เพยี รประกอบส่ิงนัน้ (แข็งใจทา)
(๓.) จติ ตะ เอาใจฝักใฝใ่ นส่ิงนั้น (ตั้งใจทา)
(๔.) วิมงั สา ปรบั ปรุงใหง้ านดีขึ้น (เข้าใจทา)



“เกยี รตแิ ละความสาเรจ็ เกิดจากผลปฏบิ ัติงานและการปฏิบตั ติ นของแตล่ ะคน ที่สามารถปฏบิ ตั งิ าน
ในความรับผิดชอบให้ไดผ้ ลสมบูรณ์ตามวัตถุประสงค์ และปฏิบัตใิ หส้ ุจริตเท่ยี งตรง พอควรพอดีแก่
ตาแหนง่ หน้าท่ีท่ีดารงอยู่” พระบรมราโชวาทพรราชทานในโอกาสวันข้อราชการพลเรือน
คณุ ธรรมหลกั ของโครงงำน
มีนัย มคี วามรับผิดชอบ มจี ิตอาสา



บทท่ี ๓

วธิ กี ำรดำเนนิ งำน

วธิ กี ำรดำเนินงำน

๑. ประชุมวางแผน
๒. ศึกษาหาความร้เู ก่ยี วกบั ประเภทของขยะและวิธกี ารทางาน
๓. แบง่ หน้าที่ในการทางาน
๔. ลงมอื ปฏิบตั ติ ามขนั้ ตอน เชน่ ทาสีถังขยะ
๕. ประชาสมั พนั ธ์ให้นกั เรยี นไดท้ ราบประเภทของขยะ
๖. สรปุ ผลและประเมนิ ผลของโครงงาน

กำรประเมินผล

๑. สงั เกตพฤตกิ รรมการทง้ิ ขยะของนักเรยี น
๒. มกี ารแก้ปญั หาการท้งิ ขยะของนักเรียน
๓. ปรึกษาครูทป่ี รึกษา ถึงผลการดาเนินงาน

อปุ สรรคควำมผดิ พลำดและกำรแก้ปญั หำ

ในระยะเรมิ่ แรกของการทาโครงงาน ไดร้ บั ความร่วมมอื น้อย ขยะลน้ โรงเรียน นกั เรยี นทง้ิ ขยะไม่ลงถัง
และแยกขยะไม่เป็น จัดสถานท่ีจัดเก็บให้ได้มาตรฐาน มีการคัดแยกขยะและมีการนาขยะประเภทต่างๆมารี
ไซเคิลมกี ารจัดการระบบการกาจัดขยะให้เปน็ ระบบและเป็นกจิ กรรมท่ีทาต่อเนื่อง



บทท่ี ๔
ผลกำรดำเนนิ งำน

ผลกำรดำเนินงำน

โครงงาน แยกแลว้ ทง้ิ ไหน ขยะจะได้ไปต่อ

กอ่ นดำเนินกิจกรรมตำมโครงงำน

- นักเรียนโรงเรียนตะเครียะวิทยาคม จานวน ๑๒๖ คน ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทิ้งขยะและทิ้งขยะไม่
เป็นท่ี ไม่ทราบถึงประโยชน์ของการคัดแยกขยะ และการนาขยะกลับมาใช้ใหม่ ไม่รู้จักประเภทของ
ขยะแตล่ ะประเภท

หลังกำรดำเนินกจิ กรรมตำมโครงงำน

- นักเรียนโรงเรียนตะเครียะวิทยาคม จานวน ๑๒๖ คน มีความรู้เกี่ยวกับการทิ้งขยะและการแยกขยะ
ของแต่ละประเภท สามารถแยกขยะได้ถูกต้องตามประเภทและท้ิงขยะลงถัง ซ่ึงเป็นการฝึกวินัยใน
ตนเองและมคี วามรับผดิ ชอบ อกี ทง้ั ช่วยลดขยะในโรงเรยี นได้อีกด้วย



บทท่ี ๕
ผลสรปุ และขอ้ เสนอแนะ

สรุปผลกำรดำเนินกำรโครงงำน

๑. จากการดาเนินโครงงาน แยกแล้วท้ิงไหน ขยะจะได้ไปต่อ นักเรียนโรงเรียนตะเครียะวิทยาคมเกิด
ความตระหนักถึงผลเสียที่จะก่อให้เกิดมลภาะต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของมนุษย์ หากมีการ
จัดการขยะอย่างเหมาะสม มีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบในการแยกขยะ เกิดความรู้ความ
เขา้ ใจและแยกขยะแตล่ ะประเภทของขยะรไี ซเคิลได้อยา่ งถูก

๒. นักเรียนโรงเรียนตะเครียะวิทยาคมทุกคนตระหนักถึงข้อดีของการมีระเบียบวินัย ความสามัคคี
ความรบั ผดิ ชอบ

ข้อเสนอแนะ

ในการดาเนินกิจกรรมควรพัฒนาและส่งเสริมโครงงานน้ีให้อยู่ต่อในภาคเรียนต่อไปและมีการ
ปรับปรงุ แก้ไขใหเ้ ป็นระบบมากขึน้

แนวทำงแกไ้ ขในกำรนำหลกั กำรและหลักธรรมตำมแนวพระรำชดำรมิ ำใช้ในชีวิตประจำวัน หลักกำร ๕ ส.
ประกอบดว้ ย

- สำนสมั พนั ธ์ โดยให้ทกุ คนในโรงเรียนรับทราบแนวปฏบิ ตั ิร่วมกัน
- สัญญำใจ โดยใหท้ กุ คนสัญญาท่จี ะทาความดีถวายในหลวงตาม แนวที่ตกลงปฏบิ ตั ิรว่ มกัน
- สะสำงใจ แก้ไขปรับปรุงในส่ิงท่ีบกพร่อง คือ - ปัญหาจากการขาดวินัย ในด้านการท้ิงขยะ ไม่รู้จัก

คุณค่าของทรัพยากร และไม่รู้จกั การรกั ษาสง่ิ แวดล้อม
- สร้ำงเสรมิ วนิ ยั ใหถ้ อื เสมอื นหน่ึงเปน็ กจิ วัตรประจาวันทต่ี อ้ งปฏิบัติ
- สรำ้ งเครอื ขำ่ ยควำมดี ทาทั้งท่ีบ้าน โรงเรียนโดย ๓ ฝา่ ยรว่ มกัน คือ บ้าน วดั โรงเรยี น



ภำคผนวก


ขั้นตอนการทาสีถังขยะเพ่ือแยกประเภทของขยะ


แต่ละสีจะแยกประเภทของขยะ

นาไปวางไวท้ ่จี ดุ ต่างๆ

๑๐
สถานทกี่ าจดั ขยะ

๑๑
ทงิ้ ขยะไมเ่ ป็นท่ี

๑๒
ทงิ้ ขยะไม่ลงถงั

๑๓
นาไปขาย

โครงงานคุณธรรม

ออมตะ่ นอ้ ง ไม่พกั นั่งรอ้ งอยูห่ ล่าว

โรงเรียนตะเครยี ะวทิ ยาคม

สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษาสงขลา สตลู
สานกั โงคารนงงคานณคะณุ กธรรรรมมกปาระรจกาาปรกี ศารึกศษกึ ษาาขัน้๒๕พ๖น้ื ๕ฐาน

ออมตะ่ น้อง ไม่พักนอ้ งร้องอยู่หลา่ ว

การทรวงศกึ ษาธิการ

ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ โรงเรยี นตะเครยี ะวทิ ยาคม

ครทู ี่ปรกึ ษาโครงงาน คณุ ครูอังศุมาลิน ชชู ว่ ง

1. ช่อื โครงงาน ออมต่ะน้อง ไม่พกั นงั่ ร้องอยูห่ ล่าว

2. ท่ีมาและความสาคญั
เน่ืองจากนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่๖โรงเรียนตะเครียะวิทยาคมบางคนมีสมุดบัญชีแต่ไม่ค่อยฝากเงิน

และบางคนยังไม่มีสมุดบัญชี จึงทาให้เกิดปัญหาเก่ียวการเงิน เช่น เงินไม่พอในการใช้จ่าย ไม่มีเงินในการเข้า
ร่วมกิจกรรมต่างๆและไม่มีเงินไว้ใช้ในยามจาเป็น ดังน้ันนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ กลุ่ม ๒ จึงจัดตั้ง
โครงงานออมตะ่ นอ้ ง ไมพ่ กั นัง่ รอ้ งอยูห่ ล่าว ขนึ้ มาเพื่อแก้ปัญหาเก่ียวกบั เรอื่ งของการออมเงนิ

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาท่ีช้ีแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุก
ระดับ ต้ังแต่ระดบั ครอบครวั ระดับชมุ ชน จนถงึ ระดับรฐั ให้ดาเนนิ ไปในทางสายกลาง เพื่อใหก้ า้ วทนั ตอ่ โลกใน
ยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งภายในสภาวการณ์ปัจจุบัน นักเรียนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใชเ้ งินอย่างไม่เห็นคุณค่า ไม่มี
เหตผุ ล ฟ่มุ เฟือย ลุ่มหลงในค่านยิ มทางวัตถุ และเทคโนโลยีท้งั ทยี่ งั ไม่สามารถหารายได้ด้วยตนเอง จึงสง่ ผลให้
พ่อแม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการเล้ียงดูมากขึ้น นอกจากนั้นนักเรียนขาดการเตรียมความพรอ้ มสาหรับการ
ดาเนินชีวิตในอนาคต จึงทาให้เมื่อถึงเวลาจาเป็นท่ีจะต้องใช้เงินไม่สามารถหาเงินได้ ทาให้พ่อแม่ต้อง
เดอื ดร้อน

โรงเรียนตะเครียะวทิ ยาคมได้ตระหนักถึงความสาคัญดังกลา่ วจงึ ได้น้อมนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาด้วยการบูรณาการกับ
หลักสูตรสถานศึกษา และจัดให้มีโครงงานออมต่ะน้อง ไม่พักน่ังร้องอยู่หล่าว โดยส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักบริหาร
จดั การการใชเ้ งนิ มีทักษะและเป้าหมายท่ชี ัดเจนในการออม เห็นคุณค่าของการออม รู้จกั คณุ ค่าของเงินและสิ่งของ
มีวิธีคิดท่ีจะพิจารณาในการใช้เงิน รู้จักการออม รู้จักกระบวนการออมเงิน สามารถนากระบวนการต่างๆดังกล่าว
ข้างต้นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันอย่างเหมาะสมกับวัย รู้จักการใช้เงินให้เป็นประโยชน์มากที่สุด อันจะส่งผล
ให้การดาเนนิ ชีวติ ในอนาคตเปน็ คนทม่ี คี ุณภาพ

๓.วตั ถปุ ระสงค์
๑. เพอื่ ให้นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี๖มีวนิ ยั ในการออม
๒. เพื่อให้นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่๖มเี งนิ ไวใ้ ชเ้ มื่อยามจาเป็น

๔. ปญั หา
นกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีที่๖ไม่มีเงินออมไว้ใชเ้ มอื่ ยามจาเปน็

๕. สาเหตขุ องปญั หา
นักเรยี นจา่ ยเงนิ จนไมเ่ หลอื เงินไว้ออม

๖.กลมุ่ เป้าหมาย
- เชงิ ปรมิ าณ นักเรียนโรงเรยี นตะเครียะวทิ ยาคม ม.๖ จานวน ๑๔คน
- เชงิ คุณภาพ นกั เรียน ม.๖ มเี งินออมไวใ้ ช้ในยามจาเปน็ และมีวนิ ยั ในการออม

๗.ระยะเวลาในการดาเนนิ งาน
พฤษภาคม – ตลุ าคม

๘.วธิ กี ารแก้ปญั หา
๑.ประชุมวางแผน
๒.ตง้ั กฎกติกา ตง้ั เวรการออมเงิน
๓.ชีแ้ จงข้อตกลง
๔.สารวจการเปดิ สมดุ บัญชี
๕.หากพบว่านกั เรยี นคนไหนยงั ไม่เปดิ บัญชกี จ็ ะใหเ้ ปิด ส่วนคนทเี่ ปดิ แลว้ กจ็ ะใหฝ้ ากเงิน

๙. หลกั ธรรมท่ีนามาใช้ สปั ปุริสธรรม ๗
ธมั มัญญุตา เปน็ ผูร้ ู้จักเหตุ
อัตถญั ญุตา เปน็ ผู้รจู้ ักผล
อัตตัญญตุ า เป็นผ้รู ูจ้ ักตน
มตั ตัญญุตา เป็นผู้รจู้ กั ประมาณ
กาลัญญุตา เป็นผ้รู จู้ ักกาล
ปรสิ ญั ญุตา เปน็ ผู้รูจ้ ักบรษิ ัท
ปุคคลัญญตุ า เป็นผู้รู้จกั บุคคล

๑๐. ความเช่ือมโยงส่คู ณุ ธรรมและอตั ลักษณ์ พอเพียง รับผิดชอบ ซื่อสตั ย์
-เช่อื มโยงกับคุณธรรมเปา้ หมาย พอเพียง รบั ผดิ ชอบ ซอ่ื สัตย์ มีวินยั
-พฤติกรรมบง่ ช้ีเชิงบวก นกั เรียนโรงเรียนตะเครียะวทิ ยาคมมีเงนิ ออมไว้ใช้เมือ่ ยามจาเป็น

๑๑. วธิ กี ารวดั และประเมินผล
วิธวี ดั และประเมินผล
สารวจพฤตกิ รรมการฝากเงนิ

เคร่อื งมอื วัดผล
แบบบนั ทึกการฝากเงิน

๑๒ .ช่วงระยะเวลา
พฤษภาคม – ตุลาคม

๑๓. ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงาน
นายณฐั พล คงบางปอ
นายพงศศ์ ักด์ิ ดว้ งชว่ ย
นายศิวกร จันทร์ชู
นางสาวปิยทพิ ย์ เซง่ เฮีย
นางสาวปิยวรรณ มะกาว
นางสาวสภุ าวดี อนันตะ
นางสาวนชิ าภา รองพล

๑๔. ทป่ี รึกษาโครงงาน
คณุ ครอู ังศมุ าลิน ชชู ว่ ง

ผลการดาเนินงาน

เทอมนี้ถือว่าโครงงานออมต่ะน้อง ไม่พักนั่งร้องอยู่หล่าวยังไม่ประสบความสาเร็จ เน่ืองจากนักเรียนช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่๖ส่วนน้อยที่ออมเงิน จึงทาให้โครงงานออมต่ะน้อง ไม่พักน่ังร้องอยู่หล่าว ไม่ประสบความสาเร็จใน
การทาโครงงานในครั้งน้ี แตพ่ วกเรานักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีท๖ี่ กลุ่มท่ี ๒ จะนาโครงานนป้ี แกไ้ ขและปรับปรุงใหม่
จนทาให้โครงงานน้ปี ระสบความสาเรจ็ ใหไ้ ด้

ถอดบทเรยี น

ความพอประมาณ

ถา้ ออมนอ้ ยเกนิ ไป ทาใหเ้ ราเสยี
โอกาส การออมเงินเป็นเรื่องจาเป็น
ถงึ เวลาใช้เงินจะไดไ้ มเ่ บยี ดเบยี นคน

อน่ื

มีเหตุผล มีภมู ิค้มุ กัน

เหตุผลออมเพื่ออะไร? คุณจะปกป้องเงนิ ออมของ
เป้าหมายของการออมคอื อะไร? คุณอย่างไร? ถ้าจะออมเงนิ แบบมี
จานวนเงนิ ท่ตี ้องการ เป้าหมายนี้ ภูมิคุม้ กนั คณุ ต้องมีการเตรยี มพรอ้ ม
จาเปน็ มากน้อยเพยี งใด
อะไรบา้ ง?

เง่อื นไขความรู้ นำไปสู่ เงอ่ื นไขคุณธรรม

ควำมรู้เกยี่ วกบั กำรออมเงนิ และปกป้อง มวี ินยั พอเพียง รบั ผิดชอบ
เงนิ ออม

เศรษฐกิจ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม

ชว่ ยลดค่ำใช้จำ่ ย ลดกำร สรำ้ งควำมเขม้ แข็ง ยึดหลักพออยู่ พอกิน รกั และเหน็ ควำมสำคัญ
เปน็ หนี มกี ำรคิดและ ให้กบั ครอบครวั พอใช้ ลดควำมฟ่มุ เฟือย ในกำรออมเงิน เหน็
วำงแผนในกำรออมเงิน สำมำรถชว่ ยเหลือคนอนื่ คุณคำ่ ของเงินไมว่ ำ่ จะ
เวลำเขำเดือดรอ้ นได้ ในกำรดำรงชีวติ
มำกหรือน้อย



โครงงานคุณธรรม ประจาปีการศึกษา 2565

ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม

1. ชอ่ื โครงงาน ชวี ิตปลอดภัย ใส่หมวกกนั น็อค
2. ทมี่ าและความสาคัญ

ผู้จัดทำโครงงำนได้รงค์กำรสวมหมวกนิรภัยในกำรขับขี่รถจักรยำนต์ยนต์ เนื่องจำกนักเรียน
โรงเรยี นตะเครียะวทิ ยำคมบำงสว่ นไม่คอ่ ยไห้ควำมสำคัญในกำรสวมหมวกนิรภัย อำจเปน็ เพรำะนักเรยี นไม่มี
หมวกนิรภัย หรือเขิลอำยในกำรสวมหมวกนิรภัย เพรำะกลัวผมเสียทรงและนักเรียนไม่คอ่ ยคำนงึ ถึงโอกำสท่ี
อำจเกิดอุบตั เิ หตุ ด้วยเหตผุ ลน้ที ำงเรำจึงจัดตั้งโครงงำนข้ึนมำเพ่ือใหบ้ นักเรียนปฏบิ ัตติ ำมกฎจรำจร และเห็น
คณุ ค่ำของกำรสวมหมวกนิรภยั
3. วตั ถปุ ระสงค์
1. เพื่อไห้นกั เรยี นสวมหมวกนิรภยั
2. เพื่อไห้นกั เรียนเหน็ คุณคำ่ ของหมวกนิรภัยมำกยิ่งขึ้น
3. ป้องกนั กำรเพิ่มขนึ้ ของกำรเกดิ อุบตั เิ หตทุ ่ีเกิดกำรขับรถจกั รยำนยนต์
4. ป้องกันกำรเพ่มิ ขึน้ ของอัตรำกำรเสียชวี ิตจำกกำรขับรถจักรยำนยนต์
5. รณรงค์กำรสวมหมวกนริ ภัย
6. รณรงคใ์ ห้ทกุ คนปฏบิ ตั ติ ำมกฎจรำจร
4. ปัญหา
1. นักเรียนบำงส่วนไมส่ วมหมวกนิรภยั
2.นกั เรียนบำงส่วนไมเ่ หน็ คุณค่ำของหมวกนิรภัย
3. นกั เรยี นไม่มคี วำมรับผิดชอบในกำรสวมหมวกนริ ภยั
5. นักเรยี นไม่มจี ิตสำนึกในกำรปฏบิ ัตติ ำมกฎจรำจร

5. สาเหตุของปญั หา
1. สวมหมวกนริ ภยั แล้วทำไห้ผมเสยี ทรง
2. นักเรียนไม่ตระหนกั ถึงควำมสำคัญของกำรสวมหมวกนริ ภัย

6. กลุม่ เป้าหมาย
- เชงิ ปรมิ าณ นักเรียนโรงเรยี นคะเครยี ะวิทยำคมจำนวน 125 คน
- เชิงคุณภาพ นกั เรยี นโรงเรยี นตะเครียะวิทยำคมสวมหมวกนริ ภัย

7. ระยะเวลาในการดาเนินงาน
ระยะสั้น พฤษภำคม - ตุลำคม

8. วธิ ีการแกป้ ัญหา
1. ประชุมวำงแผน
2. ตง้ั กฎกตกิ ำและชีแ้ จง
3. จัดเวรคนในโครงงำนวันละ 2 คนยนื เช็คหนำ้ ประตูโรงเรยี น
4. หำกพบนกั เรยี นทไ่ี ม่สวมหมวกนิรภยั ทำงโครงงำนจะไห้บำเพ็ญประโยชน์
5. สรปุ ผล

9. หลักธรรมทนี่ ามาใช้ อิทธิบาท4

ฉนั ทะ ควำมพอใจ รกั ใครใ่ นสง่ิ นน้ั
วริ ิยะ ควำมพวกเพยี รในสง่ิ นั้น
จิตตะ ควำมเอำใจใส่ ฝักใฝใ่ นสิ่งนน้ั
วมิ ังสำ ควำมมน่ั สอดส่องในเหตุผลของสิง่ นัน้
10. ความเชื่อมโยงส่คู ณุ ธรรมและอัตลักษณ์
รับผดิ ชอบ ซอ่ื สัตย์

- เชอ่ื มโยงกบั คณุ ธรรมเป้าหมาย รบั ผิดชอบ ซอ่ื สตั ย์ มวี นิ ยั

- พฤติกรรมบ่งชี้เชงิ บวก นกั เรยี นโรงเรยี นตะเครียะวิทยำคมสวมหมวกนิรภัย

11. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล

- วธิ ีวัดและประเมนิ ผล กำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรสวมหมวกนริ ภัย

เครอ่ื งมอื วดั ผล
- แบบประเมินโครงงำน แบบบันทกึ กำรสวมหมวกนิรภยั

ช่วงระยะเวลา
- 1 ภำคกำรศกึ ษำ พฤษภำคม-ตุลำคม

12. ผู้รับผดิ ชอบโครงงาน
นำยไชยภพ ช่อทิพย์
นำงสำวพิมพิมำย ศรีนนุ่
นำยบนั ลือศกั ดิ์ ชุมทอง
นำยพรี วัส ดำศรใี หม่
นำงสำวณัฐกมล กง้ วตั ร
นำงสำวรุง่ นภำ ไพศำล
นำยปรมนิ ทร์ ศรสี ุข

13. ที่ปรึกษาโครงงาน นำยธวชั ชัย นำคฤทธ์ิ

สรปุ ผลการดาเนนิ งาน

จำนวนนักเรยี นที่ไมส่ วมหมวกนิรภยั (คน)

9
8
7
6
5
4
3
2
1
0

ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6

การถอดบทเรียน/ประสบการณ์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ความพอประมาณ
ช่วยในกำรลดค่ำใช้จ่ำยในกำรรักษำพยำบำล

เมือ่ เกดิ อุบตั ิเหตุ

ความมีเหตุผล ความมภี ูมิคุ้มกันในตนเ
เพ่อื ควำมปลอดภัยของตวั นักเรียนเอง รจู้ กั กำรป้องกนั ตนเองเพื่อลดอำกำร
และร้จู กั กำรปฎบิ ตั ิตำมกฎจรำจร บำดเจบ็ จำกกำรเกิดอุบตั ิเหตุ

เง่อื นไขความรู้ เงอื่ นไขคณุ ธรรม
กำรเลือกหมวดนิรภัยทไ่ี ดร้ ับรองมำตรฐำน รบั ผิดชอบ ซ่ือสตั ย์
รวมถงึ รจู้ กั กำรสวมหมวกนริ ภยั ท่ถี ูกต้อง

สงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สง่ิ แวดล้อม
ลดคำ่ ใช้จ่ำยหำกเกดิ อบุ ัตเิ หตุ
ไดร้ ับกำรยอมรบั จำบุคลำกร เป็นกำรปลูกฝงั วินยั ในกำร กำรที่ทุกคนสวมหมวก
ภำยนอก โรงเรียนและชมุ ชน สวมหมวกนริ ภยั ให้กบั คมใน นิรภยั ทำไห้สง่ิ แวดล้อมนำ่
ครอบครัว หมู่บำ้ น ชมุ ชน อยมู่ ำกข้นึ

ภาคผนวก







กำรบำเพ็ญประโยชน์

รายงานการดาเนินงานโรงเรยี นคณุ ธรรม จริยธรรม ภาคเรียนที่ ๑ /๒๕๖๕

ส่วนท่ี ๓
ทิศทางการพัฒนาในอนาคต
จากการสังเคราะห์ผลการดาเนินงานของโรงเรียนตะเครียะวิทยาคม สังกัดสานักงานเขตพื้นที่
การศึกษา พบว่าโรงเรียนมีการดาเนินงานโรงเรียนคุณธรรมและสามารถนาศักยภาพที่มีไปบูรณาการใน
การจัดการเรียนรู้เป็นรูปธรรม ในส่วนของทิศทางการพัฒนาในอนาคต คณะทางานได้ให้ข้อเสนอไว้
สรุปไดด้ ังนี้
๑. ต้องสร้างรากฐานให้เข้มแข็ง ข้ันตอนแรกในการพัฒนาต้องสร้างพ้ืนฐานให้เข้มแข็ง โดยโรงเรียน
ต้องให้ครูและนักเรียนเรียนรู้คุณธรรม จริยธรรมอันดีงาม ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน แล้วจึงตกลงกันวา่ จะ
จดั กจิ กรรมการเรยี น และสืบสานงาน ตอ่ ยอดกิจกรรมไดช้ ัดเจนทสี่ ุดภายใต้บริบทของโรงเรียน
๒. สามารถพ่ึงตนเองได้ เมื่อโรงเรียนได้สร้างพ้ืนฐานให้ครูและนักเรียนมีความเข้าใจในคุณธรรม
อตั ลักษณ์ ให้ครทู ่รี บั ผดิ ชอบงานทีต่ รงกัน และต่อยอดคุณธรรมอัตลกั ษณ์ด้านอืน่ ๆ อย่างตอ่ เนอ่ื ง
๓. ต้องเป็นลาดับข้ันตอน การพัฒนาต้องเป็นไปตามลาดับข้ันตอน อย่างข้ามข้ันตอน ถ้ามีปัญหา
ตอ้ งแก้ปัญหาเพ่ือสร้าง กาลงั ใจในการดาเนินงานข้ันต่อ ๆ ไป
๔. เร่ิมจากโครงการขนาดเล็ก ในการดาเนินกิจกรรมหรือโครงการใด ๆ ควรดาเนินการจากการ
ทดลองในขนาดเล็ก ๆ ก่อน เพ่ือจะได้ทราบปัญหาและหาวิธีการแก้ไขได้ ไม่ควรจะทาโครงการขนาดใหญ่
เพราะถา้ เกิดปญั หาข้ึนมาแลว้ จะแกไ้ ขยาก
๕. ต้องอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติไปพร้อม ๆ กัน กิจกรรมท่ีโรงเรียนคิดดาเนินกิจกรรม
ต้องเป็นกิจกรรมที่ไม่ทาลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควรเป็นกิจกรรมที่สามารถช่วยพัฒนา
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่หรือ พลิกฟื้นกลับคืนมาดีด่ังเดิม จะต้องเป็นกิจกรรมที่ปรับปรุงสภาพ
ทรัพยากรใหด้ ีอย่างย่ังยืน และไม่ก่อให้เกดิ มลภาวะแก่ สภาพแวดลอ้ ม
๖. ต้องเป็นไปตามภูมิศาสตร์และสังคมศาสตร์ของโรงเรียน เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์และ
สังคมศาสตร์ ของแตล่ ะ โรงเรยี นไมเ่ หมอื นกัน ดังน้ันในการจะทากิจกรรมหรือโครงการอะไร ต้องคดิ จากสภาพ
ของโรงเรียนเรา ไม่ควรไป ลอกเลียนแบบวิธีการปฏิบัติจากโรงเรียนอ่ืน ท่ีไปดูงานแล้วเห็นว่าดี น่าสนใจ
ซึง่ บางครง้ั เมือ่ นามาทาท่โี รงเรียน ไมป่ ระสบผลสาเร็จ เพราะบริบทหรอื ภูมิสงั คมทต่ี ่างกัน

๑๙๒

รายงานการดาเนินงาน
โรงเรียนคณุ ธรรม

ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕

โรงเรียนตะเครยี ะวิทยาคม

สานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษาสงขลา สตลู
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร


Click to View FlipBook Version