1
2
3
1 คำอธิบายรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 60 ชั่วโมง (1.5 หน่วยกิต) อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน บทร้อยกรอง บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการ ออก เสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ปฏิบัติตามและใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง พูดและเขียนบรรยาย สรุปใจความสำคัญที่ได้จากการวิเคราะห์ แสดงความคิดเห็นเรื่องเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ สิ่งแวดล้อม และเหตุการณ์ใกล้ตัวในความสนใจ ระบุและเลือกข้อมูล ประโยค ข้อความ บท สนทนา นิทาน เรื่องสั้น และตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่าน ค้นคว้า รวบรวม สรุปข้อมูลจากสื่อและ แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งที่เป็นข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น เปรียบเทียบ ประเพณี งานเทศกาล งานฉลอง วันสำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เข้าร่วมและ จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม โดยสามารถสื่อสารด้วยภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสม ทั้งในสถานการณ์จริงและสถานการณ์จำลองอย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ มีความใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และรักความเป็นไทย
2 โครงสร้างรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง คะแนนเก็บ 100 คะแนน ลำดับ ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนักคะแนน (100 คะแนน) 1 Starter ต 1.1 ม. 1/1 ต 1.2 ม. 1/1 ต 1.3 ม. 1/1 ต 2.1 ม. 1/1 ต 2.2 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 2 10 2 Back to school ต 1.1 ม. 1/2 และ ต 1.1 ม. 1/4 ต 1.2 ม. 1/1 และ ต 1.2 ม. 1/4 - 5 ต 1.3 ม. 1/1 - 2 ต 2.1 ม. 1/1 และ ต 2.1 ม. 1/3 ต 2.2 ม. 1/1 ต 3.1 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 ต 4.2 ม. 1/1 14 15 3 Cool Stuff! ต 1.1 ม. 1/2 - 4 ต 1.2 ม. 1/1 และ ต 1.2 ม. 1/4 ต 1.3 ม. 1/1 - 2 ต 2.1 ม. 1/1 และ ต 2.1 ม. 1/3 ต 3.1 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 14 15
3 ลำดับ ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนักคะแนน (100 คะแนน) 4 Homes! ต 1.1 ม. 1/1 - 4 ต 1.2 ม. 1/1 และ ต 1.2 ม. 1/4 ต 1.3 ม. 1/1 - 2 ต 2.1 ม. 1/1 และ ต 2.1 ม. 1/3 ต 2.2 ม. 1/1 - 2 ต 3.1 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 ต 4.2 ม. 1/1 14 15 5 Families ต 1.1 ม. 1/2 - 4 ต 1.2 ม. 1/1 และ ต 1.2 ม. 1/4 - 5 ต 1.3 ม. 1/1 - 3 ต 2.1 ม. 1/1 - 3 ต 2.2 ม. 1/1 ต 3.1 ม. 1/1 ต 4.1 ม. 1/1 ต 4.2 ม. 1/1 14 15 Mid-Year Examination 1 15 Final Examination 1 15 Total in year-round 60 100
4 แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา ....................... หน่วยการเรียนรู้ที่1 ชื่อหน่วย Starter จำนวน 2 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 เรื่อง Starter จำนวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวมุกรวี กุลนาแพง วัน/เดือน/ปี ที่สอน............................................. ................................................................................................................................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตัวชี้วัด ต 1.1 ม. 1/1 ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ และคำชี้แจงง่าย ๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และ สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ต 2.1 ม. 1/1 ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
5 ต 4.1 ม. 1/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและ สถานศึกษา 2. สาระสำคัญ นักเรียนเรียนให้ - รับ พูดสื่อสารเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวพื้นฐานกับผู้อื่นได้ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ความรู้ (Knowledge: K) บอกคำศัพท์เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process: P) พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude: A) ร่วมมือและมีความกระตือรือร้นในชั้นเรียน 4. สาระการเรียนรู้ การรู้และเข้าใจคำศัพท์ สำนวนภาษา ช่วยให้พูดทักทาย กล่าวลา และพูดสื่อสารเกี่ยวกับข้อมูลของ ตนเองและผู้อื่นได้ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการใช้ทักษะภาษา 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทำงาน 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 7.1 ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) 7.2 ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ 21 ความยืดหยุ่นและการปรับตัว ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม
6 7.3 คุณลักษณะของคนในศตวรรษที่ 21 คุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง คุณลักษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อื่น ความซื่อสัตย์ ความสำนึกพลเมือง 8. การบูรณาการ อาเซียนศึกษา 9. ชิ้นงานหรือภาระงาน - แบบฝึกหัด - สมุดจดงาน 10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) 1. ครูพูดทักทายนักเรียนว่า Good morning. หรือ Good afternoon. 2. ครูบอกนักเรียนว่า ชั่วโมงนี้นักเรียนจะได้ทบทวนคำศัพท์ที่เคยเรียนไปแล้ว ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. หนังสือเรียน หน้า 4 Ex. 1 ครูทบทวนตัวอักษรภาษาอังกฤษ (a-z) โดยให้นักเรียนออกเสียง a-z พร้อมกัน ครูคอยสังเกตว่าตัวอักษรตัวใดที่นักเรียนส่วนใหญ่ออกเสียงไม่ถูกต้องหรือไม่ชัดเจน ครูเขียนตัวอักษร นั้นบนกระดาน แล้วเปิด CD ให้นักเรียนฟังการออกเสียง a-z และออกเสียงตาม จากนั้นครูให้นักเรียนออก เสียงตัวอักษรบนกระดานพร้อมกัน 2. ครูทบทวนการถามชื่อ นามสกุล และอายุ โดยสุ่มถามคำถามนักเรียน 3-4 คน ด้วยคำถาม What’s your name? What’s your surname? How do you spell it? How old are you? 3. ครูทบทวนการอ่านจำนวนนับ โดยเขียนตัวเลขบนกระดาน เช่น 7, 11, 23, 42, 79, 101, 203, 1,000 แล้วให้นักเรียนอ่านพร้อมกัน และช่วยกันอธิบายหลักการอ่านให้ครูฟัง จากนั้นครูสุ่มเรียกนักเรียน 5-6 คน อ่านตัวเลขบนกระดานอีกครั้ง 4. ครูสอนการอ่านบ้านเลขที่และเบอร์โทรศัพท์ โดยเขียนตัวอย่างบ้านเลขที่และเบอร์โทรศัพท์บน กระดาน แล้วอ่านให้นักเรียนฟัง ให้นักเรียนสังเกตวิธีอ่านและช่วยกันสรุป จากนั้นครูช่วยสรุป อีกครั้ง ต่อมาครูเขียนคำถาม What’s your address? บนกระดาน และบอกนักเรียนว่าคำถามนี้ใช้ถาม เกี่ยวกับที่อยู่ แล้วให้นักเรียนช่วยกันคิดว่าการถามเบอร์โทรศัพท์จะถามว่าอย่างไร (What’s your telephone number?) จากนั้นให้นักเรียน 1 คน ถามบ้านเลขที่และเบอร์โทรศัพท์ของครู S1: What’s your address? T: 23 Samsen Road. S1: What’s your telephone number? T: It’s oh-eight-two-double five-double one-two-three
7 ขั้นฝึก (Practice) 1. หนังสือเรียน หน้า 4 Ex. 2 ให้นักเรียนจับคู่ผลัดกันพูดถาม-ตอบโดยใช้ข้อมูลที่กำหนดให้ จากนั้น ครูสุ่มเรียกนักเรียน 7 คู่ ยืนขึ้นพูดถาม-ตอบให้เพื่อนในชั้นฟัง A: What’s your name? B: Steven. A: And your surname? B: Jones. A: How do you spell it? B: J-O-N-E-S. A: What’s your name? B: Peter. A: And your surname? B: Wells. A: How do you spell it? B: W-E-double L-S. A: What’s your name? B: James. A: And your surname? B: Scott. A: How do you spell it? B: S-C-O-double T. A: What’s your name? B: Maria. A: And your surname? B: Brown. A: How do you spell it? B: B-R-O-W-N. A: What’s your name? B: Kevin. A: And your surname? B: Rice. A: How do you spell it? B: R-I-C-E. A: What’s your name? B: David. A: And your surname? B: Carter. A: How do you spell it? B: C-A-R-T-E-R. A: What’s your name? B: Amanda. A: And your surname? B: White. A: How do you spell it? B: W-H-I-T-E. 2. หนังสือเรียน หน้า 4 Ex. 3 ครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังการอ่านจำนวนนับ 1-20 และออกเสียงตาม จากนั้นให้นักเรียนออกเสียงด้วยตนเอง พร้อมทั้งบอกจำนวนเป็นภาษาไทย ต่อมาครูให้นักเรียนดูภาพ และอธิบายว่าในหลาย ๆ ประเทศจำนวนเทียนที่ปักบนเค้กวันเกิดจะแสดง ถึงอายุของเจ้าของวันเกิด แล้วให้นักเรียนนับจำนวนเทียนที่ปักบนเค้ก แล้วครูถามว่า How old is Sophie? 3. หนังสือเรียน หน้า 5 Ex. 5 ครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังการอ่านจำนวนนับ และออกเสียงตาม จากนั้นให้นักเรียนออกเสียงด้วยตนเอง พร้อมทั้งบอกจำนวนเป็นภาษาไทย
8 4. หนังสือเรียน หน้า 5 Ex. 6 ให้นักเรียนเล่นเกม โดยนับเลข 1-100 ต่อกันไปเรื่อย ๆ ถ้าใครนับเลข ผิดให้ยืนขึ้น แล้วคนถัดไปนับเลขต่อไป จนกระทั่งนับถึง 100 จากนั้นครูถามคำถามที่เรียนไปแล้ว ให้นักเรียนที่ นับเลขผิดตอบคำถาม ขั้นการใช้ภาษา (Production) ให้นักเรียนจับคู่ผลัดกันพูดถาม-ตอบข้อมูลของเพื่อน โดยถามเกี่ยวกับชื่อ นามสกุล อายุ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ครูเดินสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียน แล้วให้นักเรียน 2 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบ ที่หน้าชั้น ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) ครูทบทวนเกี่ยวกับจำนวนนับ โดยแบ่งนักเรียนเป็น 4 ทีม แล้วให้แต่ละทีมส่งตัวแทนครั้งละ 1 คน ออกมาเขียนตัวเลขบนกระดานตามที่ครูบอก ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูทบทวนการใช้ a, an, the โดยยกตัวอย่างบนกระดาน ให้นักเรียนบอกว่าต้องเติมอะไร เช่น banana, hour, shirt, sun จากนั้นครูและนักเรียนช่วยกันสรุปหลักการใช้ 2. ครูทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียน ได้แก่ notebook, book, eraser, ruler, pencil, pencil sharpener, schoolbag, atlas, pencil case โดยชูสิ่งของให้นักเรียนดู และให้นักเรียนบอกคำศัพท์ 3. ครูทบทวนคำศัพท์ชื่อสี โดยชูดินสอสีให้นักเรียนดู ให้นักเรียนบอกคำศัพท์ จากนั้นครูถามคำถาม ให้นักเรียนช่วยกันตอบ เช่น T: What’s this? (ชูสมุดสีฟ้า) Ss: It’s a notebook. T: What colour is it? Ss: It’s blue. 6. ครูทบทวนคำสั่งที่ใช้ในชั้นเรียน โดยครูออกคำสั่ง และให้นักเรียนปฏิบัติตาม เช่น Read., Listen., Be quiet, please., Come to the board, please., open your book., Close your book. ขั้นฝึก (Practice) 1. หนังสือเรียน หน้า 6 Ex. 8 ให้นักเรียนเติม a หรือ an หน้าคำศัพท์ให้ถูกต้อง เสร็จแล้วให้นักเรียน อ่านพร้อมกันเพื่อเฉลยคำตอบ a notebook a book an eraser a pencil sharpener a ruler a pencil a schoolbag an atlas a pencil case 2. หนังสือเรียน หน้า 6 Ex. 9 ให้นักเรียนจับคู่ผลัดกันชี้ภาพสิ่งของใน Ex. 8 และพูดถาม-ตอบ เกี่ยวกับสิ่งของนั้นตามตัวอย่าง
9 A: What’s this in English? B: It’s a notebook. A: What’s this in English? B: It’s an eraser. etc. 4. หนังสือเรียน หน้า 6 Ex. 10b ให้นักเรียนเขียนประโยคบอกสีของสิ่งของใน Ex. 8 ครูย้ำให้นักเรียนใช้ a, an, the ให้ถูกต้อง เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนอ่านประโยคคนละ 1 ภาพ This is a book. The book is red. This is an eraser. The eraser is pink. This is a pencil sharpener. The pencil sharpener is grey. This is a ruler. The ruler is brown. This is a pencil. The pencil is orange. This is a pencil case. The pencil case is green. This is an atlas. The atlas is blue. This is a schoolbag. The schoolbag is yellow. 6. หนังสือเรียน หน้า 7 Ex. 12 ให้นักเรียนอ่านคำทักทายและคำกล่าวลาในภาพ 1-6 พร้อมกัน แล้ว เปรียบเทียบว่าในภาษาไทยมีการใช้คำทักทายตามช่วงเวลาเหมือนในภาษาอังกฤษหรือไม่ ขั้นการใช้ภาษา (Production) ให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันแต่งบทสนทนา โดยสมมติว่าตนเองเจอเพื่อนที่สวนสาธารณะ นักเรียนสามารถ ดูตัวอย่างบทสนทนา A ใน Ex. 12 เมื่อทำเสร็จแล้วให้นักเรียนพูดสนทนากัน ครูเดินสังเกตการทำกิจกรรมรอบ ๆ ชั้นเรียน แล้วสุ่มเรียกนักเรียน 2 คู่ ออกมาพูดสนทนาหน้าชั้น ขั้นสรุป (Wrap up) นักเรียนและครูร่วมกันสรปคำศัพท์ และทบทวนประโยคในบทเรียนทั้ง 2 ชั่วโมง 11. สื่อการสอน 1. หนังสือเรียน SPARK 1 ม. 1 2. Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 12. แหล่งเรียนรู้ในหรือนอกสถานที่ อินเทอร์เน็ต (Internet)
10 13. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1.บอกคำศัพท์เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว(K) ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด ทำแบบฝึกหัดได้ ถูกต้องร้อยละ 70 ถือว่าผ่าน 2.พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว (P) ถาม – ตอบ คำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้อง ร้อยละ 70 ถือว่าผ่าน 3. ร่วมมือและมีความกระตือรือร้นในชั้นเรียน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ได้คะแนนระดับ 2 ถือว่าผ่าน 14. บันทึกผลหลังการสอน สรุปผลการเรียนการสอน 1. นักเรียนจำนวน .....................................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. .......................................................................................................................... ......... 2. ................................................................................................................................... 2. นักเรียนผ่านจุดประสงค์ด้านความรู้ความเข้าใจ ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. ....................................................................................................................................... 2. .......................................................................................................................... ............. 3. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. ................................................................................................................................... ...... 2. ......................................................................................................................... ................ 15. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................... ...............
11 16. เสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ....................................................... ( นางสาวมุกรวี กุลนาแพง ) ตำแหน่ง ครู ความเห็นของหัวหน้างานวิชาการโรงเรียน ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวมุกรวี กุลนาแพงแล้วมีความคิดเห็นดังนี้ 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถูกต้อง ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 2. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ยังเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 5. การประเมินผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ยังไม่ครอบคลุมประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................. ................................................
12 ลงชื่อ ................................................................ (นางสาววิจิตรา สัมณีย์) หัวหน้างานวิชาการ ความเห็นผู้อำนวยการโรงเรียน อนุญาตให้ใช้จัดการเรียนการสอนได้ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ลงชื่อ ว่าที่ร้อยตรี................................................................ (ธรณินทร์ ชมภู่) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตะแบง
13 แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา ....................... หน่วยการเรียนรู้ที่2 ชื่อหน่วย Back to school จำนวน 14 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 เรื่อง School subjects and nationalitiesจำนวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวมุกรวี กุลนาแพง วัน/เดือน/ปี ที่สอน............................................. ................................................................................................................................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และสิ่งแวดล้อมใกล้ ตัว ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. สาระสำคัญ นักเรียนการเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับชื่อวิชา ชื่อประเทศ เชื้อชาติ และสำนวนภาษาที่ใช้ในการขอและ ให้ข้อมูล ช่วยให้เข้าใจและบอกรายละเอียดของเรื่องที่อ่านและฟังได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำคำศัพท์และ สำนวนภาษาที่เรียนไปใช้พูดแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวของตนเองและผู้อื่น และเขียนให้ข้อมูลส่วนตัวของตนเอง ได้อย่างถูกต้อง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ความรู้ (Knowledge: K) ตอบคำถามจากการอ่านและฟังได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process: P)
14 พูดสนทนาแลกเปลี่ยนและเขียนข้อมูลของตนเองและผู้อื่นได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude: A) ร่วมมือและมีความกระตือรือร้นในชั้นเรียน 4. สาระการเรียนรู้ การรู้และเข้าใจคำศัพท์เกี่ยวกับส่วนต่างๆบนใบหน้าของตนเองและผู้อื่น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการใช้ทักษะภาษา 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทำงาน 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (โปรดเลือกจุดเน้นมีความสัมพันธ์กับแผนการจัดการเรียนรู้ และโปรด ลบข้อความหรือประโยคที่ไม่เกี่ยวข้องกับแผนการจัดการเรียนรู้) 7.1 ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) 7.2 ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ 21 ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม 7.3 คุณลักษณะของคนในศตวรรษที่ 21 คุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง 8. การบูรณาการ อาเซียนศึกษา 9. ชิ้นงานหรือภาระงาน - แบบฝึกหัด / ใบงาน 10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) 1. ครูพูดทักทายนักเรียน แล้วแนะนำตนเอง และเนื่องจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ยังไม่รู้จักกัน มาก่อน ครูจึงให้นักเรียนพูดทักทายกับเพื่อนข้างเคียง โดยให้นักเรียนจับมือทักทายกันด้วย เช่น Lin: Hi, I’m Lin. What’s your name?
15 Jane: Hi, Lin. I’m Jane. How are you? Lin: I’m fine, thanks. And you? Jane: I’m very well. Find the page numbers for หน้า 9 ครูตรวจสอบว่านักเรียนรู้ความหมายของคำว่า sports, flag, map, penfriend โดยครูนำภาพมาแสดงให้นักเรียนดูและบอกคำศัพท์ จากนั้นให้นักเรียนหาว่าภาพที่เกี่ยวข้องกับคำเหล่านี้อยู่ในหนังสือเรียนหน้าใด เมื่อหาพบแล้วครูถามคำถาม เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. หนังสือเรียน หน้า 9 Ex. 1 ครูให้นักเรียนบอกชื่อวิชาที่เรียนในโรงเรียน แล้วครูถามนักเรียนว่า ชอบเรียนวิชาอะไร ต่อมาครูให้นักเรียนฟังคำศัพท์ชื่อวิชาต่าง ๆ จาก CD และออกเสียงตาม 2 ครั้ง แล้วครูสุ่ม เรียกนักเรียนออกเสียงทีละคน จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันบอกชื่อวิชาเป็นภาษาไทย โดยครูช่วยอธิบายคำที่ นักเรียนไม่รู้ความหมายโดยใช้ภาพที่เกี่ยวกับวิชาต่าง ๆ ครูควรสำรวจว่านักเรียนออกเสียงคำว่า geography, history ถูกต้องหรือไม่ เพราะสองคำ นี้เป็นคำที่คนไทยมักจะออกเสียงผิด โดยครูสอนออกเสียง geography ด้วยการเขียนคำศัพท์บน กระดาน และขีดเส้นใต้พยางค์ที่เน้นเสียงหนัก geography และให้นักเรียนออกเสียงคำนี้ตามครู หลาย ๆ ครั้ง ส่วน history /ˈhIstri/ ครูบอกนักเรียนว่าคำนี้ออกเสียงเป็น 2 พยางค์ แล้วครู ออก เสียงให้ฟัง หรือให้นักเรียนฟังการออกเสียงจากพจนานุกรมออนไลน์ และฝึกออกเสียงตาม จากนั้นให้นักเรียนดูภาพ 1-5 และบอกชื่อวิชาในแต่ละภาพ picture 1 – science picture 4 – maths picture 2 – ICT picture 5 – geography picture 3 – art 2. นักเรียนอ่านคำศัพท์ในกรอบ Check these words หนังสือเรียน หน้า 10 และช่วยกันอธิบาย ความหมาย ถ้าคำใดนักเรียนไม่รู้ ครูช่วยอธิบาย เช่น classmate (n) = a member of the same class in a school (เพื่อนร่วมชั้น) school trip (n) = a trip that a school organises for students (ทัศนศึกษา) best friend (n) = the one friend who is closest to you (เพื่อนสนิท)
16 ขั้นฝึก (Practice) 1. ครูยกตัวอย่างประโยคที่ใช้ be good at บนกระดาน เช่น Tina is good at maths. She gets top marks for the exam. และให้นักเรียนเดาความหมายของ be good at (เก่ง) จากนั้นครูอธิบายว่าคำ ที่ตามหลัง be good at สามารถเป็นได้ทั้งคำนามและคำกริยาเติม -ing พร้อมทั้งยกตัวอย่าง be good at + noun เช่น He is good at English. be good at + v-ing เช่น She is good at drawing. 2. ครูอธิบายต่อว่า ถ้าต้องการบอกว่า ไม่เก่ง ... ให้นำ not มาวางหลัง verb to be เช่น Tina isn’t good at maths. I’m not good at science. ครูสุ่มถามนักเรียน 2-3 คน ว่าเก่งและไม่เก่งอะไรบ้าง โดยใช้คำถาม What are you good at? What are you not good at? แล้วครูเขียนคำถามบนกระดาน จากนั้นให้นักเรียนจับคู่ ฝึกพูดถาม-ตอบ ขั้นการใช้ภาษา (Production) 1. หนังสือเรียน หน้า 10 Ex. 2 ครูให้นักเรียนอ่านประโยคที่ยังไม่สมบูรณ์เพื่อให้รู้ว่าข้อมูลอะไรที่ นักเรียนต้องหามาเติม แล้วครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังและอ่านข้อความ 1-4 ตามไปด้วย เมื่อพบข้อมูลที่ ต้องการให้ขีดเส้นใต้ไว้ จากนั้นนำข้อมูลมาเติมลงในประโยค เสร็จแล้วครูขออาสาสมัครบอกคำตอบ 1 London, England 4 subject 2 football 5 Madrid, Spain 3 school trip 6 drawing and painting 2. หนังสือเรียน หน้า 10 Ex. 3 นักเรียนลอกตารางลงในสมุด ครูให้นักเรียนดูหัวข้อในตารางว่ามี อะไรบ้าง แล้วให้นักเรียนอ่านอย่างรวดเร็วเพื่อหาชื่อบุคคล และช่วยกันบอกว่ามีใครบ้าง จากนั้นให้นักเรียน อ่านข้อความเพื่อหาข้อมูลของแต่ละคนมาเติมลงในตาราง เสร็จแล้วครูเขียนตารางบนกระดาน และให้ นักเรียนช่วยกันบอกคำตอบ Name Country Favourite subjects Favourite sport Miguel Mexico history football May Japan science badminton Lyn Japan maths basketball Maria Spain history basketball Nelly Spain art gymnastics 3. จากนั้นให้นักเรียนใช้ข้อมูลจากตารางมาเขียนให้ข้อมูลของแต่ละคน เสร็จแล้วให้นักเรียนผลัดกัน อ่านประโยคให้เพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ฟัง แล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนอ่านประโยค โดยครูตรวจความถูกต้อง Miguel’s from Mexico. His favourite subject is history. His favourite sport is football.
17 May’s from Japan. Her favourite subject is science. Her favourite sport is badmiton. Lyn’s from Japan. Her favourite subject is maths. Her favourite sport is basketball. Maria’s from Spain. Her favourite subject is history. Her favourite sport is basketball. Nelly’s from Spain. Her favourite subject is art. Her favourite sport is gymnastics. 4. ครูให้นักเรียนจับคู่กัน ใช้ข้อมูลจากตารางใน Ex. 3 พูดถาม-ตอบข้อมูลของแต่ละบุคคล โดยครูพูด ถาม-ตอบกับนักเรียน 1 คน เกี่ยวกับข้อมูลของ Brenda เพื่อเป็นตัวอย่าง เช่น T: Where is Brenda from? S1: She’s from England. T: What is her favourite subject? S1: Her favourite subjects are ICT and music. T: What is her favourite sport? S1: Her favourite sport is hockey. ขั้นสรุป (Wrap up) 1. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 5 Exs. 3-5 ให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) 1.ครูทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับชื่อวิชาด้วยการแสดงภาพที่เกี่ยวข้องกับวิชาต่าง ๆ ให้นักเรียนดู และถาม ว่า What subject is this? ให้นักเรียนบอกชื่อวิชา โดยออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้อง แล้วครูให้นักเรียนช่วยกัน สะกดคำศัพท์ T: What subject is this? (แสดงภาพแผนที่) Class: It’s geography. T: Can you spell it? Class: g - e - o - g - r - a - p - h – y 2. ครูให้นักเรียนเล่นเกม Beginning with โดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ทีม ให้แต่ละทีมแข่งกันบอก ชื่อประเทศที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรที่ครูบอกภายในเวลาที่กำหนด ถ้าบอกชื่อประเทศถูกต้องจะได้ ชื่อละ 1 คะแนน ทีมใดได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะ โดยครูให้นักเรียนเล่นเกมเพื่อเป็นตัวอย่างก่อน 1 รอบ T: Can you tell me a country beginning with A? Team A Team A: Argentina T: Can you tell me a country beginning with Z? Team B Team B: Zimbabwe
18 ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูสอนนักเรียนออกเสียงชื่อประเทศในหนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 4 โดยอธิบายว่าชื่อประเทศ เหล่านี้จะลงเสียงเน้นหนักที่พยางค์แรก ยกเว้น the USA และ the UK ซึ่งลงเสียงเน้นหนักที่พยางค์สุดท้าย ส่วนคำว่า Greece ซึ่งลงท้ายด้วย ce ให้ออกเป็นเสียง /s/ แล้วให้นักเรียนอ่านออกเสียงชื่อประเทศตามครู 2 ครั้ง โดยออกเสียงเน้นหนักให้ถูกต้อง 2. ครูสอนออกเสียงคำศัพท์เกี่ยวกับเชื้อชาติในหนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 4 โดยเขียนคำศัพท์บน กระดาน แล้วขีดเส้นใต้พยางค์ที่ลงเสียงเน้นหนัก จากนั้นให้นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์ตามครู 2 ครั้ง 3. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 4 ครูให้นักเรียนจับคู่ประเทศกับเชื้อชาติที่สัมพันธ์กัน แล้วครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังเพื่อตรวจคำตอบ จากนั้นให้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม CD 1-2 ครั้ง แล้วครูให้นักเรียนช่วยกัน บอกชื่อประเทศและเชื้อชาติเป็นภาษาไทย the USA - American Portugal - Portuguese Poland - Polish Greece - Greek Turkey - Turkish Mexico - Mexican France - French China - Chinese Russia - Russian Spain - Spanish Italy - Italian 4. ครูทบทวนสำนวนภาษาที่ใช้ในการขอและให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ อายุ เชื้อชาติ โดยการสุ่มถาม คำถามนักเรียน แล้วครูเขียนโครงสร้างคำถามและคำตอบบนกระดาน จากนั้นให้นักเรียนพูดถาม-ตอบกัน What’s your name? I’m (ชื่อ)./My name’s (ชื่อ). How old are you? I’m (อายุ) (years old). Where are you from? I’m from (ชื่อประเทศ). Are you (เชื้อชาติ)? Yes./No. I’m (เชื้อชาติ). What’s your favourite subject?My favourite subject(s) is/(are) (ชื่อวิชา)./I like (ชื่อ วิชา). What’s your favourite sport? My favourite sport(s) is/(are) (ชื่อกีฬา)./I like (ชื่อกีฬา). Are you good at (ชื่อวิชา)? Yes, I am/No, I’m not. Are you interested in …? Yes, I am/No, I’m not. ขั้นฝึก (Practice) 1. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 5 ครูบอกนักเรียนว่าจะได้ฟังบุคคล 3 คน พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง แล้วให้นักเรียนดูว่าข้อมูลที่ขาดหายไปของแต่ละคนคืออะไร จากนั้นครูให้นักเรียนฟัง CD และเติมข้อมูลให้ สมบูรณ์ ครูอาจจะเปิด CD ให้นักเรียนฟังอีก 1-2 ครั้ง เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ และให้นักเรียนบอกเชื้อชาติ ของบุคคลทั้งสามในภาพ
19 1 12 3 10 5 Samantha 2 Giovanni 4 Italy 6 the UK Juanita is Mexican. Giovanni is Italian. Samantha is British. ขั้นการใช้ภาษา (Production) 1. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 7a ครูให้นักเรียนเขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองตามโครงร่างที่กำหนดให้ Hi! My name’s Marinee and I’m 12 years old. I’m from Nakorn Sawan, Thailand. I’m Thai. My favourite subject is maths and my favourite sport is swimming. 2. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 7b ครูให้นักเรียนออกมาพูดนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง โดยใช้ข้อมูล ที่เขียนใน Ex. 7a 3. นักเรียนทำ Language Review 1a Exs. 1-3 ในหนังสือเรียน หน้า 105 ร่วมกันในชั้น ขั้นสรุป (Wrap up) 1. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 4-5 Exs. 1-2 ให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน 2. ครูมอบหมายให้นักเรียนไปค้นคว้าภาพและข้อมูลเกี่ยวกับอายุและเชื้อชาติของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ ยังมีชีวิตอยู่มา 5 คน เพื่อนำข้อมูลไปใช้ทำกิจกรรมในชั่วโมงหน้า 11. สื่อการสอน 1. หนังสือเรียน SPARK 1 ม. 1 2. Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 12. แหล่งเรียนรู้ในหรือนอกสถานที่ อินเทอร์เน็ต (Internet) 13. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1.ตอบคำถามจากการอ่านและฟังได้(K) ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด ทำแบบฝึกหัดได้ ถูกต้องร้อยละ 70 ถือว่าผ่าน 2.พูดสนทนาแลกเปลี่ยนและเขียนข้อมูลของตนเอง และผู้อื่นได้ (P) ถาม – ตอบ คำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้อง ร้อยละ 70 ถือว่าผ่าน 3. ร่วมมือและมีความกระตือรือร้นในชั้นเรียน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ได้คะแนนระดับ 2 ถือว่าผ่าน
20 14. บันทึกผลหลังการสอน สรุปผลการเรียนการสอน 1. นักเรียนจำนวน .....................................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. ................................................................................................................................... 2. .......................................................................................................................... ......... 2. นักเรียนผ่านจุดประสงค์ด้านความรู้ความเข้าใจ ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. .............................................................................................. ......................................... 2. .......................................................................................................................... ............. 3. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. ................................................................................................................................ ......... 2. ...................................................................................................................... ................... 15. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................ .................. 16. เสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ....................................................... ( นางสาวมุกรวี กุลนาแพง ) ตำแหน่ง ครู
21 ความเห็นของหัวหน้างานวิชาการโรงเรียน ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวมุกรวี กุลนาแพงแล้วมีความคิดเห็นดังนี้ 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถูกต้อง ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 2. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ยังเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 5. การประเมินผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ยังไม่ครอบคลุมประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................................... .... ลงชื่อ ................................................................ (นางสาววิจิตรา สัมณีย์) หัวหน้างานวิชาการ
22 ความเห็นผู้อำนวยการโรงเรียน อนุญาตให้ใช้จัดการเรียนการสอนได้ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ลงชื่อ ว่าที่ร้อยตรี................................................................ (ธรณินทร์ ชมภู่) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตะแบง
23 แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา ....................... หน่วยการเรียนรู้ที่2 ชื่อหน่วย Back to school จำนวน 14 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่2 เรื่อง Asking for and giving personal information จำนวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวมุกรวี กุลนาแพง วัน/เดือน/ปี ที่สอน.......................... ................................................................................................................................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และ สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. สาระสำคัญ นักเรียนรู้และเข้าใจโครงสร้างภาษา ช่วยให้สามารถพูดขอและให้ข้อมูลส่วนตัวและเขียนประโยค เกี่ยวกับตนเองและผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ความรู้ (Knowledge: K) เปรียบเทียบการใช้คำสรรพนามในภาษาอังกฤษและภาษาไทยได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process: P) เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและผู้อื่นโดยใช้ verb to be, subject/object pronouns ได้ถูกต้อง
24 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude: A) ร่วมมือและมีความกระตือรือร้นในชั้นเรียน 4. สาระการเรียนรู้ การรู้และเข้าใจเรื่อง verb to be, subject/object pronouns และ question words ในการขอ หรือให้ข้อมูลส่วนตัว 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการใช้ทักษะภาษา 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (โปรดเลือกจุดเน้นมีความสัมพันธ์กับแผนการจัดการเรียนรู้ และโปรด ลบข้อความหรือประโยคที่ไม่เกี่ยวข้องกับแผนการจัดการเรียนรู้) 7.1 ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) 7.2 ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ 21 ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม 7.3 คุณลักษณะของคนในศตวรรษที่ 21 คุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง 8. การบูรณาการ อาเซียนศึกษา 9. ชิ้นงานหรือภาระงาน - แบบฝึกหัด 10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) 1. ครูทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับเชื้อชาติด้วยการเขียนตาราง 9 ช่อง บนกระดาน และเขียนชื่อประเทศ ลงไปช่องละ 1 ประเทศ จากนั้นแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ทีม ให้แข่งกันเล่นเกม Noughts and Crosses โดย ผลัดกันพูดคำศัพท์เกี่ยวกับเชื้อชาติที่สัมพันธ์กับชื่อประเทศในตารางให้ถูกต้อง ทีมใดพูดถูกจะได้ทำสัญลักษณ์ X หรือ O ในตาราง ทีมที่ทำสัญลักษณ์เรียงต่อกันในแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวทแยงได้ก่อนจะเป็นผู้ชนะ
25 ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูทบทวนการใช้ verb to be โดยยกตัวอย่างประโยคบนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกวิธี ทำเป็นรูปปฏิเสธและคำถาม She’s a teacher. She isn’t a teacher. Is she a teacher? 2. ต่อมาครูชี้ไปที่นักเรียนชายคนหนึ่ง และถามว่า Is he Spanish? Is he a student? ให้นักเรียน ช่วยกันตอบ แล้วครูถามนักเรียนทั้งหมดว่า Are you students? ครูย้ำกับนักเรียนว่าการตอบรับแบบสั้นจะไม่ ใช้verb to be ในรูปย่อ เช่น Is he a student? Yes, he is. จะไม่ใช้Yes, he’s. แต่ถ้าตอบปฏิเสธสามารถ ใช้ได้ เช่น No, he isn’t. 3. ครูเขียนรูปย่อของ verb to be ได้แก่ he is, he is not, I am, I am not, They are, They are not บนกระดาน แล้วขออาสาสมัครออกมาเขียนรูปย่อ จากนั้นให้นักเรียนอ่านออกเสียงรูปย่อของ verb to be ตามครู 2-3 ครั้ง ขั้นฝึก (Practice) 1. หนังสือเรียน หน้า 12 Ex. 2 นักเรียนจับคู่ประโยคฝั่ง A และฝั่ง B ที่สอดคล้องกัน แล้วเติม verb to be ที่กำหนดให้ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง โดยครูให้นักเรียนดูตัวอย่างข้อ 1 ร่วมกัน แล้วให้นักเรียนทำข้อที่ เหลือด้วยตนเอง 2 c 3 b 4 a 5 f 6 e 2 isn’t, ’s 4 isn’t, ’s 6 ’m not, ’m 3 aren’t, ’re 5 aren’t, ’re 2. หนังสือเรียน หน้า 12 Ex. 3 นักเรียนฝึกใช้ verb to be ในรูปบอกเล่า โดยใช้คำที่กำหนดให้แต่ง ประโยคให้ได้มากที่สุด เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนหลาย ๆ คน อ่านประโยค แล้วครูเขียนประโยคบน กระดาน Juan and Rosa are friends. Juan and Rosa are from London. Juan and Rosa are from Spain. Juan and Rosa are 12 years old. Juan and Rosa are twins. We are friends. We are from London. We are from Spain. We are 12 years old. We are twins. Bill and I are friends. Bill and I are from London. Bill and I are from Spain. Bill and I are 12 years old. Bill and I are twins.
26 Steve is from Spain. Steve is 12 years old. Steve is from London. Betty is from Spain. Betty is 12 years old. Betty is from London. 3. หนังสือเรียน หน้า 12 Ex. 5 นักเรียนฝึกใช้verb to be ในรูปคำถาม โดยเติม verb to be ลงใน ประโยคคำถามให้ถูกต้อง พร้อมทั้งตอบคำถาม จากนั้นครูสุ่มเรียกนักเรียนอ่านคำถามและบอกคำตอบ 2 Are, I’m not 4 Are, we aren’t 3 Is, she is 5 Is, he isn’t 4. หนังสือเรียน หน้า 12 Ex. 6 นักเรียนอ่านชื่อและอายุของบุคคลในแต่ละภาพ แล้วให้นักเรียนจับคู่ กันพูดถาม-ตอบโดยใช้ข้อมูลที่กำหนดให้ ครูเดินสังเกตการทำกิจกรรม แล้วสุ่มเรียกนักเรียน 3 คู่ ออกมาพูด ถาม-ตอบที่หน้าชั้น 2 Is Mario from Italy? Yes, he is. 3 Are John and Bob British? No, they aren’t. 4 Are John and Bob 40 years old? Yes, they are. 5 Is Molly 13 years old? Yes, she is. 6 Is Molly from China? No, she isn’t. ขั้นการใช้ภาษา (Production) 1. นักเรียนฝึกใช้ verb to be โดยครูติดภาพหรือวาดภาพคนบนกระดาน และเขียนข้อมูลไว้ข้าง ๆ ภาพ ให้นักเรียนช่วยกันพูดบอกข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลในภาพ เช่น Her name is Mary. She is 13 years old. She is a student. She is American. She is from Chicago. Her favourite colour is pink. Her favourite sports are volleyball and swimming. ขั้นสรุป (Wrap up) 1. ครูแจกกระดาษ A4 ให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น ให้นักเรียนเขียนเกี่ยวกับบุคคลที่มีชื่อเสียงโดยใช้ ข้อมูลที่ครูมอบหมายให้ไปค้นคว้าเมื่อชั่วโมงที่แล้ว พร้อมทั้งติดภาพบุคคล เสร็จแล้วนำส่งครูตรวจ แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 6 Exs. 1-4 ให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน
27 ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) 1. ครูทบทวนการพูดขอและให้ข้อมูลส่วนตัวและการใช้ verb to be โดยติดแผ่นป้ายบทสนทนาบน กระดาน แล้วให้นักเรียนอ่านบทสนทนาตามครูจากนั้นครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม A และกลุ่ม B ให้ทั้งสองกลุ่มพูดสนทนากัน A: Hello, my name’s Rose. What’s your name? B: My name is Rika. A: Are you Japanese? B: Yes. I’m from Tokyo. And you? A: I’m from France. B: What is your favourite subject? A: I like science. B: Oh, I’m not good at science. A: I can help you. ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูทบทวน subject pronouns และ object pronouns โดยเขียนตารางตามนี้บนกระดาน Subject pronouns Object pronouns 2. ครูเขียน subject pronouns ลงในตาราง ให้นักเรียนช่วยกันบอก object pronouns แล้วครู เขียนตามที่นักเรียนบอก 3. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 7a นักเรียนดูsubject pronouns และ object pronouns ในตาราง เพื่อตรวจคำตอบบนกระดาน จากนั้นให้นักเรียนอ่านออกเสียง subject pronouns และ object pronouns ในตาราง แล้วช่วยกันบอกคำเหล่านี้ในภาษาไทย 4. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 7b นักเรียนจับคู่อ่านข้อความเพื่อหา subject pronouns และ object pronouns เมื่อหาพบแล้วให้วงกลม subject pronouns และขีดเส้นใต้ object pronouns ครูยกตัวอย่างประโยคบนกระดาน เช่น Look at him. He’s handsome. I like her. She is very kind. 5. ครูเขียน question words (Who, What, When, Where, How old) บนกระดาน และ ยกตัวอย่างคำถามที่ขึ้นต้นด้วย question words แต่ละคำ แล้วอธิบายว่าใช้อย่างไร
28 Who is that man? He’s Mr Jones. (people) What is it? It’s a pencil. (thing) Where are my keys? They’re here. (place) How old are you? I’m 10 years old. (age) When is your birthday? In June. (time) 6. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 9b นักเรียนเติม question words ลงในประโยคคำถามให้ถูกต้อง โดย พิจารณาจากคำตอบ เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ 1 Who 3 How old 5 When 2 Where 4 What ขั้นฝึก (Practice) 1. ครูพิมพ์ประโยคเหล่านี้ใส่กระดาษแจกนักเรียนทุกคน แล้วให้นักเรียนเติม subject/object pronoun พร้อมทั้งระบุว่า subject/object pronoun ที่เติมหมายถึงคำนามคำใดในประโยค 1 I can’t find my glasses. Can you see ______? 2 I have two dogs. My aunt gave _____ to me. 3 My uncle is a pilot. ______ flies a plane three times a week. 4 Tony is our friend. We like ______ very much. 5 Do you know Mrs Jane? Sorry, I don’t know ______. 6 My father bought a new car last month. _____ is BMW. 7 My friend is Jane. I like ______ very much. 1 them - glasses 4 him - Tony 6 It - a new car 2 them - two dogs 5 her - Mrs Jane 7 her - Jane 3 He – uncle 2. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 8 นักเรียนอ่านประโยค แล้วแทนที่คำที่พิมพ์ตัวหนาด้วย pronoun ที่ ถูกต้อง เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ และให้นักเรียนบอกว่า pronoun ในแต่ละประโยคเป็น subject หรือ object pronoun 2 them (object pronoun), They (subject pronoun) 3 they (subject pronoun) 4 We (subject pronoun) 5 him (object pronoun), He (subject pronoun)
29 ขั้นการใช้ภาษา (Production) 1. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 11a นักเรียนอ่านคำถามที่กำหนดให้ จากนั้นจับคู่กัน พูดถาม-ตอบ ข้อมูลส่วนตัวโดยใช้คำถามที่กำหนด ครูเดินสังเกตการออกเสียงประโยคคำถามและการบอกคำตอบ แล้วสุ่ม เรียกนักเรียนบางคู่ออกมาพูดถาม-ตอบที่หน้าชั้น A: What’s your name? B: My name’s Juan. A: How old are you? B: I’m 12 years old. A: What’s your favourite subject? B: I like art. A: What’s your favourite sport? B: I like basketball. ขั้นสรุป (Wrap up) 1. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 11b ให้นักเรียนพูดประโยคคำถามใน Ex. 11a เป็นภาษาไทย 2. หนังสือเรียน หน้า 13 Ex. 12 นักเรียนเขียนประโยคเกี่ยวกับตนเองโดยใช้ verb to be My name’s Wimonrat. Araya is my friend. We are 13 years old. We are Thai. 3. นักเรียนทำ Grammar Bank 1 ในแบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 69 Exs. 1-5 ร่วมกันในชั้น 4. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 6-7 Exs. 5-9 ให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน 11. สื่อการสอน 1. หนังสือเรียน SPARK 1 ม. 1 2. Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 12. แหล่งเรียนรู้ในหรือนอกสถานที่ อินเทอร์เน็ต (Internet) 13. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1.เปรียบเทียบการใช้คำสรรพนามในภาษาอังกฤษ และภาษาไทยได้(K) ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด ทำแบบฝึกหัดได้ ถูกต้องร้อยละ 70 ถือว่าผ่าน 2.เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและผู้อื่นโดยใช้ verb to be, subject/object pronouns ได้ถูกต้อง (P) ถาม – ตอบ คำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้อง ร้อยละ 70 ถือว่าผ่าน 3. ร่วมมือและมีความกระตือรือร้นในชั้นเรียน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ได้คะแนนระดับ 2 ถือว่าผ่าน 14. บันทึกผลหลังการสอน สรุปผลการเรียนการสอน
30 1. นักเรียนจำนวน .....................................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. ................................................................................................................................... 2. .......................................................................................................................... ......... 2. นักเรียนผ่านจุดประสงค์ด้านความรู้ความเข้าใจ ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. .......................................................................................................................... ............. 2. .................................................................................................................. ..................... 3. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. .......................................................................................................................... ............... 2. ......................................................................................................................................... 15. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................. ................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................ .................................. 16. เสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ....................................................... ( นางสาวมุกรวี กุลนาแพง ) ตำแหน่ง ครู
31 ความเห็นของหัวหน้างานวิชาการโรงเรียน ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวมุกรวี กุลนาแพงแล้วมีความคิดเห็นดังนี้ 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถูกต้อง ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 2. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ยังเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 5. การประเมินผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ยังไม่ครอบคลุมประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................ .............................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ................................................................ (นางสาววิจิตรา สัมณีย์) หัวหน้างานวิชาการ
32 ความเห็นผู้อำนวยการโรงเรียน อนุญาตให้ใช้จัดการเรียนการสอนได้ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ลงชื่อ ว่าที่ร้อยตรี................................................................ (ธรณินทร์ ชมภู่) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตะแบง
33 แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา ....................... หน่วยการเรียนรู้ที่2 ชื่อหน่วย Back to school จำนวน 14 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่3 เรื่อง Sports จำนวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวมุกรวี กุลนาแพง วัน/เดือน/ปี ที่สอน............................................. ................................................................................................................................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการ มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตัวชี้วัด ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวข้อเรื่อง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องสั้น ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และสิ่งแวดล้อม ใกล้ตัว ต 4.1 ม. 1/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและ สถานศึกษา 2. สาระสำคัญ นักเรียนเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับกีฬา และสำนวนภาษาในการขอและให้ข้อมูลส่วนตัว ช่วยให้พูด เขียนสื่อสารเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ความรู้ (Knowledge: K) ตอบคำถามจากการฟังบทสนทนาได้
34 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process: P) พูดสนทนาแลกเปลี่ยน และเขียนให้ข้อมูลส่วนตัวของตนเองและผู้อื่นได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude: A) ร่วมมือและมีความกระตือรือร้นในชั้นเรียน 4. สาระการเรียนรู้ การฟังเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ พูดขอและให้ข้อมูลส่วนตัวของตนเองและผู้อื่น และเขียนให้ข้อมูลของผู้อื่น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการใช้ทักษะภาษา 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝ่เรียนรู้ 6.2 มุ่งมั่นในการทำงาน 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 7.1 ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) 7.2 ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ 21 ความยืดหยุ่นและการปรับตัว ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม 7.3 คุณลักษณะของคนในศตวรรษที่ 21 คุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง 8. การบูรณาการ อาเซียนศึกษา 9. ชิ้นงานหรือภาระงาน - แบบฝึกหัด / ใบงาน 10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) ครูถามนักเรียนว่า คำถาม Wh-questions ที่ได้ยินจากเพลง Sports Song คือคำถามใด (What do you like?) จากนั้นครูสุ่มถามนักเรียนหลาย ๆ คน โดยใช้คำถาม What do you like?
35 ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 1 นักเรียนดูภาพและบอกว่าเป็นภาพเกี่ยวกับอะไร จากนั้นครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังคำศัพท์เกี่ยวกับกีฬา โดยตั้งใจฟังว่าแต่ละคำลงเสียงเน้นหนักที่พยางค์ใด แล้วครูเปิด CD ให้ นักเรียนฝึกออกเสียงตาม 2-3 ครั้ง จากนั้นให้นักเรียนออกเสียงคำศัพท์พร้อมกัน แล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนออก เสียงทีละคน เมื่อนักเรียนออกเสียงได้คล่องแล้วให้ช่วยกันบอกชื่อกีฬาเหล่านี้เป็นภาษาไทย 2. ครูทบทวนคำถามที่ใช้ถามข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อ อายุ มาจากประเทศใด กีฬาที่ชอบ วิชาที่ชอบ โดยให้นักเรียนช่วยกันบอก และครูเขียนคำถาม What’s your name? How old are you? Where are you from? What’s your favourite subject? บนกระดาน แล้วครูสุ่มถามคำถามนักเรียน 4-5 คน 3. นักเรียนอ่าน Study Skills ในหนังสือเรียน หน้า 14 แล้วครูอธิบายวิธีการฟังและจดบันทึกย่อ โดย ให้นักเรียนอ่านหัวข้อที่ให้มาก่อน เพื่อพิจารณาว่าข้อมูลใดที่จะนำมาเขียนเติม ในระหว่างที่ฟังให้นักเรียนจับคำ สำคัญที่เกี่ยวข้องกับแต่ละหัวข้อ และเขียนลงในบันทึกย่อ 4. นักเรียนอ่านคำสั่งของ Ex. 3 หนังสือเรียน หน้า 14 แล้วครูอธิบายเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้นว่า name ในที่นี้ก็เป็น noun เหมือนกัน แต่เป็น proper noun (the specific name of something / someone) จากนั้นครูให้นักเรียนยกตัวอย่างของ proper noun เช่น ชื่อประเทศ ชื่อคน ซึ่งคำนามชนิดนี้จะ ขึ้นต้นด้วย capital letter เสมอ ส่วนคำนามทั่ว ๆ ไป จะเรียกว่า common noun 5. จากนั้นครูให้นักเรียนดูกรอบข้อมูล ครูถามความหมายของ surname ถ้านักเรียนไม่รู้ครูช่วยอธิบาย surname = family name แล้วให้นักเรียนบอกว่าช่องว่างใดบ้างที่จะต้องเติมข้อมูลเกี่ยวกับ name, noun, number ขั้นฝึก (Practice) 1. ครูบอกนักเรียนว่ากำลังจะได้ฟังบทสนทนาระหว่าง Ben กับ Susan ซึ่งเป็นนักเรียนเข้าใหม่ โดย Bob เป็นผู้สอบถามข้อมูลของ Susan ครูย้ำกับนักเรียนว่า ไม่จำเป็นต้องฟังออกทุกคำ ให้เน้นฟังเพื่อหาคำที่ เกี่ยวข้องกับแต่ละหัวข้อในกรอบข้อมูล 2. หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 3 ครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังและจดบันทึกข้อมูล แล้วเติมข้อมูลลงใน ช่องว่าง เมื่อฟังจบครูถามนักเรียนว่าเติมข้อมูลได้ครบหรือไม่ ครูอาจจะเปิด CD ให้นักเรียนฟัง อีกครั้ง เมื่อ นักเรียนเติมข้อมูลครบแล้ว ครูขออาสาสมัครบอกคำตอบ แล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจความถูกต้อง 1 Brown 3 11 5 swimming 2 the UK 4 art ขั้นการใช้ภาษา (Production) 1. ครูให้นักเรียนสมมติว่าตนเองเป็น Susan แล้วจับคู่กับเพื่อน พูดถาม-ตอบโดยใช้ข้อมูลจากในกรอบ Ex. 3 ครูอาจให้นักเรียนช่วยกันบอกคำถามที่จะใช้ถาม แล้วครูเขียนคำถามบนกระดาน จากนั้นให้นักเรียนพูด ถาม-ตอบกัน เสร็จแล้วให้สลับบทบาทกัน
36 A: What’s your name? B: My name’s Susan. A: What’s your surname? B: Brown. Susan Brown. A: Where are you from? B: I’m from the UK. A: How old are you? B: I’m 11 years old. A: What’s your favourite subject? B: My favourite subject’s art. A: What’s your favourite sport? B: I like swimming. 2. นักเรียนทำ Language Review 1c Ex. 4 ในหนังสือเรียน หน้า 105 ร่วมกันในชั้น ขั้นสรุป (Wrap up) 1. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 9 Ex. 4 ให้นักเรียนฟัง CD แล้วเลือกคำตอบที่ถูกต้อง 2. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 8-9 Exs. 3, 5 ให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) 1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ทีม เพื่อเล่นเกม แล้วให้แต่ละทีมผลัดกันส่งตัวแทนออกมา 1 คน เพื่อ ทำท่าเล่นกีฬา ให้อีกทีมหนึ่งทายว่าเป็นกีฬาชนิดใด นักเรียนสามารถใช้กีฬาที่ดูจากคลิปวิดีโอด้วย ก็ได้ ทีมที่ ทายถูกจะได้ 1 คะแนน ทีมที่มีคะแนนมากกว่าจะเป็นผู้ชนะ ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูทบทวนคำถามที่ใช้ถามข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ มาจากประเทศใด กีฬาที่ชอบ วิชา ที่ชอบ โดยให้นักเรียนเป็นผู้ถามคำถาม และครูเป็นผู้ตอบ จากนั้นครูสุ่มถามคำถามนักเรียน 4-5 คน 2. ครูเขียนคำว่า spell บนกระดาน ให้นักเรียนอธิบายความหมาย ถ้านักเรียนไม่รู้ครูช่วยยกตัวอย่าง เช่น Can you spell the word “football”? F - o - o - t - b - a - l – l จากนั้นครูเขียนคำถาม How do you spell it? ให้นักเรียนช่วยกันอธิบายความหมาย แล้วครูบอกนักเรียนว่า สามารถใช้คำถามนี้เพื่อขอให้คู่สนทนาสะกดคำให้ ในกรณีที่ไม่รู้หรือไม่แน่ใจว่าคำนั้นเขียนอย่างไร เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อถนน 3. ครูให้นักเรียนช่วยกันคิดว่าถ้ารู้จักเพื่อนใหม่ นักเรียนจะถามข้อมูลอะไรอีกบ้างนอกจากคำถามที่ เคยเรียนไปแล้ว ให้ช่วยกันตั้งคำถาม โดยครูเขียนคำถามบนกระดาน เช่น Who’s your favourite singer? Who’s your favourite actor? Do you like watching films? What’s your favourite film? ขั้นฝึก (Practice) 1. หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 4 นักเรียนจับคู่ผลัดกันพูดถาม-ตอบโดยใช้คำถามที่กำหนดให้ และ คำถามอื่น ๆ ที่นักเรียนช่วยกันคิดเพิ่มเติมอีก 2-3 คำถาม จากที่ครูเขียนไว้บนกระดาน โดยครูบอกนักเรียนว่า คำถาม Where are you from? ครูให้นักเรียนตอบชื่อจังหวัด และในขณะที่ถามให้นักเรียนจดคำตอบของ
37 เพื่อนไว้ด้วย จากนั้นให้นักเรียนทำกิจกรรม ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ชั้นเรียน และคอยให้คำแนะนำ แล้วสุ่มเรียก บางคู่ออกมาพูดถาม-ตอบที่หน้าชั้น A: What’s your name? B: My name’s Marinee. A: How do you spell it? B: M-A-R-I-N-E-E. A: What’s your surname? B: My surname’s Pantha. A: Where are you from? B: I’m from Ranong. A: How old are you? B: I’m 12 years old. A: What’s your favourite subject? B: My favourite subject is music. A: What’s your favourite sport? B: My favourite sport is tennis. ขั้นการใช้ภาษา (Production) 1. หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 5 ครูให้นักเรียนใช้คำตอบจาก Ex. 4 มาเขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับคู่ของ ตนเอง เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 3 คน อ่านให้เพื่อนในชั้นฟัง Marinee Pantha is from Ranong. She’s 12 years old. Her favourite subject is music. Her favourite sport is tennis. Her favourite singer is Kan the star. Her favourite actor is Nadej. ขั้นสรุป (Wrap up) 1. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 9 Ex. 6 ให้นักเรียนฟัง CD แล้วเติมชื่อวิชาลงในตารางเรียน 2. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 8 Exs. 1-2 ให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน 11. สื่อการสอน 1. หนังสือเรียน SPARK 1 ม. 1 2. Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3. แบบฝึกหัด SPARK 1 ม.1 4. พจนานุกรมภาษาอังกฤษ 12. แหล่งเรียนรู้ในหรือนอกสถานที่ อินเทอร์เน็ต (Internet) 13. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1.ตอบคำถามจากการฟังบทสนทนาได้(K) ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด ทำแบบฝึกหัดได้ ถูกต้องร้อยละ 70 ถือว่าผ่าน
38 2.พูดสนทนาแลกเปลี่ยน และเขียนให้ข้อมูลส่วนตัว ของตนเองและผู้อื่นได้(P) ถาม – ตอบ คำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้อง ร้อยละ 70 ถือว่าผ่าน 3. ร่วมมือและมีความกระตือรือร้นในชั้นเรียน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ได้คะแนนระดับ 2 ถือว่าผ่าน 14. บันทึกผลหลังการสอน สรุปผลการเรียนการสอน 1. นักเรียนจำนวน .....................................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. .......................................................................................................................... ......... 2. .......................................................................................................................... ......... 2. นักเรียนผ่านจุดประสงค์ด้านความรู้ความเข้าใจ ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. ....................................................................................................................................... 2. ............................................................................................................................. .......... 3. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. ............................................................................................................................. ............ 2. ................................................................................................................... ...................... 15. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................................... ..................... ............................................................................................................. ................................................................. 16. เสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................... ...............................................
39 ลงชื่อ....................................................... ( นางสาวมุกรวีกุลนาแพง ) ตำแหน่ง ครู ความเห็นของหัวหน้างานวิชาการโรงเรียน ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวมุกรวี กุลนาแพงแล้วมีความคิดเห็นดังนี้ 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถูกต้อง ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 2. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ยังเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 4. สื่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 5. การประเมินผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ยังไม่ครอบคลุมประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 6. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ................................................................ (นางสาววิจิตรา สัมณีย์) หัวหน้างานวิชาการ
40 ความเห็นผู้อำนวยการโรงเรียน อนุญาตให้ใช้จัดการเรียนการสอนได้ ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ลงชื่อ ว่าที่ร้อยตรี................................................................ (ธรณินทร์ ชมภู่) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตะแบง
41 แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา ....................... หน่วยการเรียนรู้ที่2 ชื่อหน่วย Back to school จำนวน 14 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่4 เรื่อง Greeting and introductions จำนวน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวมุกรวี กุลนาแพง วัน/เดือน/ปี ที่สอน............................................. ................................................................................................................................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวข้อเรื่อง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟัง และอ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องสั้น ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน ต 2.1 ม. 1/3 เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ ต 2.2 ม. 1/1 บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. สาระสำคัญ นักเรียนรู้และเข้าใจสำนวนภาษาที่ใช้ในการทักทาย แนะนำผู้อื่นให้รู้จักกัน ขอและให้ข้อมูลส่วนตัว ช่วยให้พูดสนทนาสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตลอดจนเข้าใจวัฒนธรรมและมารยาท ของเจ้าของภาษา
42 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ความรู้ (Knowledge: K) อ่านออกเสียงบทสนทนาถูกต้องตามหลักการอ่านได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process: P) แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ที่กำหนดได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude: A) ร่วมมือและมีความกระตือรือร้นในชั้นเรียน 4. สาระการเรียนรู้ การรู้และเข้าใจคำศัพท์เกี่ยวกับการทักทายและการแนะนำตัวเอง 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการใช้ทักษะภาษา 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทำงาน 7. จุดเน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (โปรดเลือกจุดเน้นมีความสัมพันธ์กับแผนการจัดการเรียนรู้ และโปรด ลบข้อความหรือประโยคที่ไม่เกี่ยวข้องกับแผนการจัดการเรียนรู้) 7.1 ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) 7.2 ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ 21 ความยืดหยุ่นและการปรับตัว ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม 7.3 คุณลักษณะของคนในศตวรรษที่ 21 คุณลักษณะด้านการทำงาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นำ คุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง 8. การบูรณาการ อาเซียนศึกษา 9. ชิ้นงานหรือภาระงาน - แบบฝึกหัด / ใบงาน
43 10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) 1. ครูให้นักเรียนเล่นเกม Beginning with โดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ทีม ผลัดกันเล่นเกม ให้แต่ละ ทีมช่วยกันบอกชื่อวิชา ชื่อประเทศ เชื้อชาติ หรือชื่อกีฬาที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรที่ครูบอก เช่น T: Can you tell me a subject beginning with S? Team A Team A: Science T: Can you tell me the nationality beginning with P? Team B Team B: Polish 2. ครูทบทวนการขอและให้ข้อมูลส่วนตัว โดยสุ่มถามนักเรียน 4-5 คน ด้วยคำถาม What’s your name/surname? Where are you from? What’s your favourite subject/sport? Who’s your favourite singer/actor? ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูนำเสนอสำนวนภาษาที่ใช้ในการแนะนำผู้อื่นให้รู้จักกัน โดยสมมติให้นักเรียนชายคนหนึ่งเป็น นักเรียนเข้าใหม่ แล้วครูพูดแนะนำนักเรียนใหม่กับนักเรียนคนอื่น ๆ ว่า This is (Tom). He’s new to our class. ให้นักเรียนในชั้นพูดทักทายว่า Hi, (Tom). Nice to meet you. และนักเรียนใหม่พูดตอบว่า Nice to meet you too. จากนั้นครูเขียนโครงสร้าง This is (ชื่อ). บนกระดาน อธิบายว่าประโยคนี้ใช้แนะนำผู้อื่นให้รู้จักกัน แล้วครูเขียนประโยค Nice to meet you. อธิบายว่าประโยคนี้ใช้ทักทายเมื่อรู้จักกันเป็นครั้งแรก หรืออาจจะ ใช้ Pleased to meet you./Glad to meet you. ก็ได้ ส่วนการตอบกลับให้เพิ่ม too ท้ายประโยค เช่น Nice to meet you too./Pleased to meet you too./Glad to meet you too. 2. ครูให้นักเรียน 1 คน สนทนากับครู ซึ่งครูเตรียมข้อมูลกับนักเรียนไว้แล้ว โดยสมมติว่าทั้งสองคน เพิ่งเคยพบกัน T: Hello! Are you a new student here? S1: Yes, I am. T: I’m Jin. Nice to meet you. S1: Hi, I’m Ann. Nice to meet you too. T: Where are you from, Ann? S1: I’m from Bangkok. How about you? T: I’m from Chonburi.
44 ครูเขียนประโยค How about you? บนกระดาน แล้วให้นักเรียนลองเดาความหมายของประโยคนี้ จากนั้นครู อธิบายว่า How about you? มีความหมายว่า “แล้วคุณล่ะ” ใช้ในการถามกลับคู่สนทนา สามารถใช้ What about you? หรือ And you? แทนได้ 3. ครูเขียนคำถาม How are you? บนกระดาน แล้วถามนักเรียนว่าคำถามนี้ใช้ถามเกี่ยวกับอะไร เมื่อ ได้คำตอบว่าใช้ถามทุกข์สุขแล้ว ครูอธิบายว่านอกจาก How are you? แล้ว เรายังสามารถใช้คำถามอื่น ได้ด้วย เช่น How are you going? How’s it going? พร้อมทั้งเขียนคำถามบนกระดาน ครูอธิบายต่อว่า สำหรับการตอบ ถ้าสบายดีสามารถตอบได้ว่า Good. Pretty good. I’m OK. I’m very well. So so. Not too bad. ถ้าไม่สบายสามารถตอบได้ว่า I’m not very well. Not so good. Not so well. I have a cold/headache. จากนั้นครูสุ่มเรียกนักเรียน 3-4 คู่ พูดสอบถามทุกข์สุข โดยใช้สำนวนที่ ครูสอนไป 4. นักเรียนอ่าน Study Skills ในหนังสือเรียน หน้า 15 แล้วครูอธิบายว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มี rhythm หรือจังหวะในการออกเสียง การให้ความสำคัญกับ rhythm จะช่วยให้นักเรียนพูดภาษาอังกฤษได้ อย่างเป็นธรรมชาติ ขั้นฝึก (Practice) 1. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 2 นักเรียนอ่านประโยค 1-6 และขีดเส้นใต้คำสำคัญในแต่ละประโยค จากนั้นอ่านบทสนทนาเพื่อมองหาคำพ้องความหมาย (synonym) คำที่มีความหมายตรงกันข้าม (opposite) หรือกลุ่มคำ/วลี ที่มีความหมายเหมือนกันหรือต่างกันกับคำสำคัญที่ขีดเส้นใต้ไว้ แล้วให้นักเรียนตอบว่าประโยค 1-6 ถูกหรือผิด และครูเฉลยคำตอบ 1 F 2 F 3 T 4 T 5 F 6 T 2. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 3 ครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังและอ่านออกเสียงบทสนทนาตาม จากนั้น ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อฝึกอ่านบทสนทนา โดยให้นักเรียนสลับบทบาทกันด้วย ขั้นการใช้ภาษา (Production) 1. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 4 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ให้แต่ละกลุ่มแต่งบทสนทนาใน การแนะนำผู้อื่น โดยสมมติว่าเป็นวันเปิดเรียนวันแรก นักเรียนสามารถใช้บทสนทนาใน Ex. 3 เป็นต้นแบบ โดย เปลี่ยนคำที่เป็นสีฟ้าให้เป็นข้อมูลของตนเอง เมื่อแต่งบทสนทนาเสร็จแล้วส่งให้ครูตรวจ หลังจากรับงานคืนจาก ครูแล้ว ครูให้นักเรียนไปฝึกซ้อมพูดบทสนทนา เพื่อแสดงบทบาทสมมติในชั่วโมงหน้า A: Good morning, John! B: Hi, James. How are you? A: I’m fine, thanks. And you? B: Not bad. A: This is Maria. She’s new to our school. B: Hi, Maria! Nice to meet you.
45 C: Nice to meet you too. B: Where are you from, Maria? C: I’m from New York. I’m American. How about you? B: I’m from Nottingham. How old are you? C: I’m 12. And you? B: I’m 13. What’s your favourite subject? C: Maths. B: Mine too. ขั้นสรุป (Wrap up) 1. นักเรียนทำ Language Review 1d Ex. 5 ในหนังสือเรียน หน้า 105 ร่วมกันในชั้น 2. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 10 Exs. 2-4 ให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) ครูและนักเรียนพูดทักทายกัน แล้วให้นักเรียนถามและบอกทุกข์สุขด้วยสำนวนภาษาที่ครูสอนไปเมื่อ ชั่วโมงที่แล้ว จากนั้นให้นักเรียนผลัดกันถามทุกข์สุขของเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ขั้นนำเสนอ (Presentation) ครูทบทวนสำนวนภาษาที่ใช้ในการทักทายเมื่อรู้จักกันเป็นครั้งแรก โดยครูเขียนบทสนทนาสั้น ๆ บน กระดาน A: Hello. My name is Sam. What’s your name? B: Hello, I’m Tom. Nice to meet you. A: Nice to meet you too. นักเรียนอ่านบทสนทนาตามครู 1 ครั้ง และอ่านบทสนทนาด้วยตนเอง แล้วครูถามนักเรียนว่านอกจาก Nice to meet you. เราสามารถใช้สำนวนใดได้อีกบ้าง จากนั้นครูเปลี่ยน Nice to meet you. เป็น Pleased to meet you. และ Glad to meet you. แล้วให้นักเรียนอ่านบทสนทนาพร้อมกัน ขั้นฝึก (Practice) 1. ครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังและอ่านบทสนทนาในหนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 1 ตาม ครูเน้นให้ นักเรียนออกเสียงให้คล้ายกับเจ้าของภาษามากที่สุด 2. ครูให้เวลานักเรียนแต่ละกลุ่มฝึกซ้อมบทสนทนาที่แต่งไว้เมื่อชั่วโมงที่แล้ว โดยครูย้ำว่าให้นักเรียน แสดงสีหน้า ท่าทางให้สมบทบาทด้วย ขั้นการใช้ภาษา (Production) 1. ครูให้นักเรียนออกมาแสดงบทบาทสมมติที่หน้าชั้นทีละกลุ่ม ครูสังเกตและประเมินการแสดง บทบาทสมมติของแต่ละกลุ่ม
46 2. ครูให้ผลย้อนกลับ (feedback) ด้านการใช้ภาษา เช่น การออกเสียง ความคล่องแคล่วในการพูด รวมถึงการใช้น้ำเสียงและภาษาท่าทาง เพื่อให้นักเรียนนำไปปรับปรุง ขั้นสรุป (Wrap up) 1. ครูมอบหมายให้นักเรียนไปฝึกอ่านบทสนทนาในหนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 1 ที่บ้าน แล้วมาอ่านให้ ครูฟังนอกเวลาเรียน 11. สื่อการสอน 1. หนังสือเรียน SPARK 1 ม. 1 2. Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 12. แหล่งเรียนรู้ในหรือนอกสถานที่ อินเทอร์เน็ต (Internet) 13. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1.อ่านออกเสียงบทสนทนาถูกต้องตามหลักการอ่าน ได้(K) ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด ทำแบบฝึกหัดได้ ถูกต้องร้อยละ 70 ถือว่าผ่าน 2. แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ที่กำหนดได้(P) ถาม – ตอบ คำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้อง ร้อยละ 70 ถือว่าผ่าน 3. ร่วมมือและมีความกระตือรือร้นในชั้นเรียน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ได้คะแนนระดับ 2 ถือว่าผ่าน 14. บันทึกผลหลังการสอน สรุปผลการเรียนการสอน 1. นักเรียนจำนวน .....................................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. .......................................................................................................................... ......... 2. ................................................................................................................................... 2. นักเรียนผ่านจุดประสงค์ด้านความรู้ความเข้าใจ ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่
47 1. .............................................................................................. ......................................... 2. .......................................................................................................................... ............. 3. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ...................คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. ................................................................................................................................ ......... 2. ...................................................................................................................... ................... 15. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 16. เสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ....................................................... ( นางสาวมุกรวี กุลนาแพง ) ตำแหน่ง ครู ความเห็นของหัวหน้างานวิชาการโรงเรียน ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวมุกรวี กุลนาแพงแล้วมีความคิดเห็นดังนี้ 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถูกต้อง ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 2. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสูตรสถานศึกษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ยังเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป