The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เเฟ้มสะสมงาน นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
นาย ภานุสรณ์ โสเอี่ยม 6010601789
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by panusorn.so, 2021-10-21 11:31:36

Portfolio

เเฟ้มสะสมงาน นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
นาย ภานุสรณ์ โสเอี่ยม 6010601789
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

10. ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษา หรอื ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง)

องค์ประกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้ ( ) ครบถ้วน ( ) ไมค่ รบถ้วน

การวเิ คราะหห์ ลักสูตร ( ) มี ( ) ไม่มี

กิจกรรมการเรียนรู้ ( ) สอดคล้องเหมาะสม ( ) ควรปรบั ปรงุ พฒั นา

สอื่ /แบบฝกึ ทักษะ ( ) สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ( ) มากนอ้ ย

เกนิ ไป

เกณฑ์การวดั ประเมินผล ( ) หลากหลายครบถว้ น ( ) ควรปรบั ปรงุ พัฒนา

อื่นๆ

......................................................................................................................... .....................................................

............................................................................................................................. .................................................

ลงช่อื .................................................ผปู้ ระเมินแผนการจัดการเรียนรู้
(นางสาวกัญญา แซ่ลิม้ )

ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการ

11. บนั ทึกผลหลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1.1 ดา้ นความรู้

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ดา้ นทักษะและกระบวนการ
............................................................................................................................ ..................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................... ...................

1.3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

2. ปัญหาท่ีควรแก้ไข/พัฒนา
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................... ...............

3. วธิ ีดำเนนิ การแก้ไข/พฒั นา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................................................ครผู สู้ อน
(นายภานสุ รณ์ โสเอยี่ ม)

นสิ ิตฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

คำชี้แจง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ท่ีตรงกบั ระดับคะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ด้าน 32 1
1. มีวินยั รบั ผดิ ชอบ 1.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของ
ครอบครวั มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ งๆ ใน
2. ใฝเ่ รียนรู้ ชวี ิตประจำวัน

3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 2.1 รูจ้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบตั ิได้
2.2 รู้จกั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม
2.3 เช่ือฟงั คำส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง
2.4 ตั้งใจเรยี น
3.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย
3.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานสำเรจ็

ลงชอื่ ..................................................ผปู้ ระเมนิ
............/.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน

พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
51–60 ดีมาก
พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 41–50 ดี
30–40 พอใช้
พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน ต่ำกว่า 30 ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

เรอ่ื ง องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์

การสงั เกตการร่วมกจิ กรรม (คะแนน) รวม

เลขท่ี ช่อื มีวินัย รับผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มนั่ ในการทำงาน (คะแนน)

123123123 9

เกณฑก์ ารประเมนิ แบบสังเกตการร่วมกิจกรรม
เกณฑ์การให้คะแนนการสนใจและความใฝเ่ รียนรู้

คะแนน / คุณลักษณะที่ปรากฏให้เห็น
ความหมาย
- สนใจค้นคว้าและปฏบิ ัติงานทันทที ่ไี ด้รับมอบหมายงานและปฏบิ ัติเอง รวมทั้งชักชวนให้ผู้อื่น
3 ปฏิบตั ิด้วย
ดีมาก
- ปรึกษา ค้นคว้า และซักถาม รวมท้ังแสดงความคิดเหน็ ดว้ ยตนเองโดยไม่ตอ้ งมีคนแนะนำ
2 - ลงมอื ปฏบิ ตั ิงานค่อนขา้ งช้า แตพ่ อมเี หตผุ ลท่ีพอรับฟงั ได้
ดี - ปรึกษา คน้ ควา้ และซักถามเสมอ แตไ่ ม่ทุกครงั้
1 - ลงมอื ปฏบิ ตั งิ านชา้ มาก ต้องมีคนคอยกระตุ้นหรือแนะนำ
พอใช้ - นานๆ คร้ังจะปรึกษา คน้ ควา้ และซักถาม โดยต้องมีคนกระตุ้น แนะนำ

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนมุ่งมั่นในการทำงาน

คะแนน / คุณลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็
ความหมาย
- ต้งั ใจทำแบบฝึกทักษะโดย ไม่ดูหรือสง่ คำตอบคำตอบจากเพื่อน
3 - เปน็ แบบอยา่ งที่ดีกับเพื่อนๆ ดา้ นมงุ่ มั่นในการทำงาน
ดมี าก - พยายามทำกิจกรรม/ทำแบบฝึกทักษะโดย ไม่ดหู รือส่งคำตอบคำตอบจากเพ่ือน

2 - ทำกจิ กรรม/ทำแบบฝึกทักษะโดย ไม่ดูหรือสง่ คำตอบคำตอบจากเพ่ือนบ้าง เม่ือครูตกั เตือนก็
ดี ปรบั ปรงุ ตนเอง
1
พอใช้ - ไม่พยายามคิดเอง ถามเพอื่ นเปน็ ประจำ

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความรับผดิ ชอบ

คะแนน / คณุ ลักษณะที่ปรากฏให้เหน็
ความหมาย - ตั้งใจทำงานด้วยความขยนั อดทน งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย และเป็นแบบอย่างได้

3 - ตง้ั ใจรบั ผดิ ชอบในการทำงานไดส้ ำเร็จตามเป้าหมาย
ดีมาก - ทำงานตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย

2
ดี
1
พอใช้

แบบประเมินใบงาน

คะแนน/ความหมาย ผลการทำงานท่ปี รากฏใหเ้ ห็น
- ใบงาน เนอ้ื หาถกู ต้อง 100% และส่งตรงเวลา
5 - ใบงาน เนือ้ หาถูกต้อง ไมต่ ำ่ กว่า 80% และสง่ ตรงเวลา
ผ่านดีมาก - ใบงาน เนอ้ื หาถกู ต้อง ไมต่ ำ่ กวา่ 70%
- ใบงาน เนือ้ หาถกู ต้อง ไมต่ ำ่ กวา่ 50%
4 - ใบงาน เนอ้ื หาถูกต้อง ไมถ่ ึง 50%
ผา่ นดี

3
ผา่ นพอใช้

2
ปรบั ปรุง

1
ไม่ผ่าน

แบบประเมินผ้เู รียน

คำชี้แจง : ให้ “ผู้สอน” ให้ผู้สอนสังเกตการตอบคำถามของนกั เรยี นระหวา่ งการเรียน แลว้ ประเมนิ ตามสภาพ
จริง

ชือ่ นาม-สกุล การมสี ว่ นรว่ มในการ อาสาชว่ ยตอบคำถาม สามารถยกตัวอย่าง
เรียนการตอบคำถาม ถูกต้องตรงประเดน็ อธบิ ายใหฟ้ ังได้อย่าง

ถูกต้อง

1.

2.

3.

คะแนน/ความหมาย ลกั ษณะของการตอบคำถาม

4 - มีสว่ นรว่ มในการตอบคำถาม อาสาทีจ่ ะตอบคำถามดว้ ยตนเอง ตอบคำถาม
ผ่านดีมาก ถูกต้องตรงประเดน็ ยกตวั อย่างที่ถูกต้อง

3 - มสี ว่ นรว่ มในการตอบคำถาม บางครั้อาจงจะต้องเรียกถาม ตอบคำถาม
ผา่ นดี ถกู ต้องตรงประเด็น ยกตวั อย่างทีถ่ ูกตอ้ ง

2 - มีสว่ นรว่ มในการตอบคำถามบางเลก็ นอ้ ย จะต้องมีการเรียกถาม ตอบคำถาม
พอใช้ ไดไ้ มต่ รงประเด็น ไม่สามารถยกตวั อยา่ งได้

1 - ไม่มีสว่ นรว่ มในการตอบคำถาม ตอ้ งเรียกถามอยตู่ ลอดเวลา ตอบคำถามไม่
ไมผ่ ่าน ถกู ต้องตรงประเดน็ ไม่สามารถยกตวั อย่างได้

แบบฝกึ หัดท่ี 1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์

คำสั่ง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้
1.องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์ หมายถงึ อะไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………..
2.องค์ประกอบของคอมพวิ เตอรป์ ระกอบไปดว้ ย 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่อะไรบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………
3.ซอฟต์แวร์ ( Software ) มีกปี่ ระเภทอะไรบา้ ง แตกต่างกันอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………
4.ให้นกั เรียนลองยกตวั อยา่ งซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ ( Application software ) ทใ่ี ช้ในชีวิตประจำวันและ
ยกตัวอย่างวธิ กี ารใช้งานมา 2 ตวั อย่าง
1. ชือ่ ซอฟต์แวร์ …………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………
2. ชอ่ื ซอฟต์แวร์ …………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………...

แบบฝึกหัดท่ี 1 องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์

คำสั่ง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้
1.องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ หมายถึงอะไร

หมายถงึ คอมพิวเตอร์ท่ที ำงานอยา่ งเป็นระบบ (System) ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยท่ีมหี น้าท่ี
เฉพาะ ทำงานประสานสัมพันธก์ นั เพอื่ ใหง้ านบรรลุตามเปา้ หมาย ในระบบงานคอมพิวเตอร์ การท่ีมีเครอ่ื ง
คอมพิวเตอรเ์ พยี งอย่างเดยี ว จะยังไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง ซ่ึงหากจะให้คอมพวิ เตอรท์ ำงานได้
อย่างเป็นระบบและมปี ระสิทธิภาพแล้ว ระบบคอมพิวเตอรค์ วรจะประกอบไปดว้ ย 5 องคป์ ระกอบหลัก
2.องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอรป์ ระกอบไปดว้ ย 5 องคป์ ระกอบหลัก ได้แก่อะไรบา้ ง
1. ฮารด์ แวร์ (Hardware) 2. ซอฟตแ์ วร์ (Software) 3. บุคลากร (Peopleware)
4.ข้อมูลและสารสนเทศ (Data/Information) 5.ข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน (Procedure)
3.ซอฟต์แวร์ ( Software ) มีก่ปี ระเภทอะไรบา้ ง แตกต่างกันอยา่ งไร
1.ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (system software)
2.ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ (application software)
แนวคำตอบ แตกต่างกนั ตรงท่ี ซอฟต์แวร์ระบบไดร้ บั การติดตั้งเมือ่ ติดต้งั ระบบปฏบิ ตั ิการบนคอมพิวเตอร์ใน
ขณะทตี่ ดิ ต้ังซอฟตแ์ วร์แอพพลเิ คชัน่ ตามความต้องการของผใู้ ช้

4.ใหน้ ักเรียนลองยกตวั อย่างซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ ( Application software ) ทใี่ ช้ในชวี ติ ประจำวนั และ
ยกตัวอยา่ งวิธกี ารใช้งานมา 2 ตัวอย่าง
1. ช่อื ซอฟต์แวร์ PowerPoint แนวคำตอบ
ใชใ้ นการสร้างสรรค์ชน้ิ งานในการนำเสนอผลงานในชั้นเรยี น
2. ช่ือซอฟต์แวร์ Photoshop แนวคำตอบ
ใช้ในการตัดต่อแตง่ ภาพให้มสี ีสันสวยงาม และเปน็ การฝกึ ทักษะความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย

เหตุผลที่นิสิตเลือกแผนกำรจัดกำรเรียนรู้
น้ีเพ่ือเข้ำแฟ้มสะสมผลงำน ( 1 )

เ พ ร ำ ะ มี รู ป แ บ บ สื่ อ ก ำ ร เ รี ย น ก ำ ร ส อ น ที่ ส ว ย ง ำ ม
แรงบันดำลใจจำกเกม Among Us สำมำรถดึง
ค ว ำ ม ส น ใ จ ข อ ง ผู้ เ รี ย น ใ ห้ ม ำ ส น ใ จ ส่ื อ ก ำ ร ส อ น
ของครูได้ มีรูปแบบเนื้อหำที่ส้ันกระซับ ทำให้
นั ก เ รี ย น เ ข้ ำ ใ จ ไ ด้ ง่ ำ ย ม ำ ก ย่ิ ง ข้ึ น แ ล ะ มี ค ว ำ ม
น่ำสนใจอย่ำงมำก มีเกมให้นักเรียนได้ทดสอบ
ค ว ำ ม เ ข้ ำ ใ จ เ พื่ อ เ พ่ิ ม ค ว ำ ม ส นุ ก ส น ำ น

บันทึกหลังสอน

1 . ใ น ก ำ ร ส อ น ค ำ บ น้ี นั ก เ รี ย น เ รี ย น รู้ ต ำ ม จุ ด ป ร ะ ส ง ค์ ห รื อ ไ ม่ อ ย่ ำ ง ไ ร

นั ก เ รี ย น ส ำ ม ำ ร ถ เ รี ย น รู้ ไ ด้ ต ำ ม จุ ด ป ร ะ ส ง ค์ อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ส ำ ม ำ ร ถ
แ ย ก แ ย ะ ไ ด้ ว่ ำ อุ ป ก ร ณ์ ใ ด อ ยู่ ห น่ ว ย ใ ด แ ล ะ ต อ บ วิ ธี ก ำ ร ใ ช้ ง ำ น ไ ด้ อ ย่ ำ ง เ ห ม ำ ะ ส ม

2 . ฉั น ส อ น อ ย่ ำ ง ไ ร ที่ ทำ ใ ห้ นั ก เ รี ย น เ รี ย น รู้ แ ล ะ ไ ม่ เ รี ย น รู้ แ ล ะ อ ะ ไ ร เ ป็ น
ห ลั ก ฐ ำ น ท่ี แ ส ด ง ว่ ำ นั ก เ รี ย น เ รี ย น รู้ ห รื อ ไ ม่ เ รี ย น รู้

ใ ช้ ก ำ ร ท ด ส อ บ - ส อ บ ถ ำ ม นั ก เ รี ย น เ พ่ื อ ท ด ส อ บ ค ว ำ ม เ ข้ ำ ใ จ ไ ม่ ว่ ำ จ ะ เ ป็ น
รู ป แ บ บ เ ก ม แ ล ะ ก ำ ร ถ ำ ม ต อ บ ภ ำ ย ใ น ค ำ บ แ ล ะ สุ ด ท้ ำ ย มี ก ำ ร วั ด ผ ล จ ำ ก ใ บ ง ำ น
เ พ่ื อ ท ด ส อ บ ค ว ำ ม เ ข้ ำ ใ จ

3 . ปั ญ ห ำ ใ น ก ำ ร ส อ น ข อ ง ฉั น ใ น แ ผ น ก ำ ร จั ด ก ำ ร เ รี ย น รู้ น้ี คื อ อ ะ ไ ร
แ ล ะ ส ำ เ ห ตุ ข อ ง ปั ญ ห ำ ก ำ ร ส อ น คื อ อ ะ ไ ร

บ ำ ง ค ร้ั ง นั ก เ รี ย น ไ ม่ เ ข้ ำ ร่ ว ม กิ จ ก ร ร ม เ ก ม ท่ี จั ด ข้ึ น ใ ห้ แ ล ะ ข ำ ด ก ำ ร
สื่ อ ส ำ ร เ น่ื อ ง จ ำ ก บ ำ ง นั ก เ รี ย น บ ำ ง ค น เ รี ย ก ถ ำ ม แ ล้ ว ไ ม่ มี ก ำ ร ต อ บ รั บ

4 . ฉั น ไ ด้ แ น ว ท ำ ง ก ำ ร ป รั บ ป รุ ง ก ำ ร ส อ น ข อ ง ท่ ำ น ใ น ค รั้ ง ต่ อ ไ ป อ ย่ ำ ง ไ ร

ใ ช้ เ ก ม ที่ เ ป็ น รู ป แ บ บ เ รี ย ล ไ ท ม์ เ พื่ อ เ ช็ ค ว่ ำ นั ก เ รี ย น เ ข้ ำ ร่ ว ม ห รื อ ไ ม่ แ ล ะ
เ รี ย ก ถ ำ ม นั ก เ รี ย น ม ำ ก ข้ึ น แ ต่ ห ำ ก ไ ม่ ต อ บ จ ะ มี ก ำ ร ล ง โ ท ษ เ ช่ น หั ก
คะแนน

แผนการจัดการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวิชา เทคโนโลยี 3 รหัสวชิ า ว 22103

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอื่ ง เทคโนโลยีการสอื่ สาร ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 3 เร่อื ง การสือ่ สารขอ้ มลู และองค์ประกอบการสื่อสาร เวลาเรยี น 1 คาบ

ผู้สอน นายภานสุ รณ์ โสเอ่ยี ม

___________________________________________________________________________

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด
1.1 มาตรฐาน
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวติ จริงอย่างเป็นข้นั ตอน

และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมจี ริยธรรม

1.2 ตวั ช้ีวดั
ม.2/3 อภปิ รายองคป์ ระกอบและหลกั การทำงานของระบบคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีการส่อื สาร
เพ่ือประยกุ ต์ใช้งานหรอื แก้ไขปญั หาเบือ้ งตน้

2. สาระสำคัญ
เทคโนโลยกี ารส่อื สารเป็น สิง่ ที่มนุษย์พัฒนาขน้ึ เพ่ือใช้ในการส่ือสารระหว่างกนั โดยการถา่ ยทอด

รบั รู้ข่าวสารร่วมกนั ผา่ นเคร่อื งมือเหล่านน้ั ซง่ึ ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งเป็น เครอ่ื งมือ อุปกรณ์ เครอื่ งจักร วัสดุ เพียง
อย่างเดียว อาจหมายรวมถึงกระบวนการต่าง ที่เกดิ จากการประยกุ ต์ทางวทิ ยาศาสตรด์ ว้ ย การสื่อสารมีการ
พัฒนามาเร่ือยๆ จากภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ สู่เทคโนโลยกี ารสื่อสารในปัจจบุ ันซ่งึ มปี ระสทิ ธิภาพมากย่ิงข้นึ และ
แนวโนม้ ในการพัฒนาเทคโนโลยีการส่ือสารจะขยายออกไปเรือ่ ยๆ เปน็ เครือข่ายการสอื่ สารไรส้ าย

ในปัจจุบนั โลกของเราก้าวสู่โลกเทคโนโลยอี ยา่ งเต็มตวั สง่ ผลให้ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์และ
อนิ เตอร์เน็ตนน้ั มีความสำคญั มากในการเรียนการสอนทำให้ผูเ้ รยี นจะตอ้ งร้จู ักระบบเครือข่ายตา่ งๆท่มี ีอยู่
หลากหลายเผื่อทำความเข้าใจในการใช้งานรวมไปถงึ อินเตอรเ์ น็ตทม่ี ีความสำคัญมากในการเรียนรู้ส่ิงต่างๆทีม่ ี
อยมู่ ากมายบนเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์

3. สาระการเรยี นรู้
“การส่อื สาร” หมายถึง การถา่ ยโอนขอ้ มลู หรือแลกเปล่ยี นข้อมลู ระหว่างผสู้ ง่ สารไปยังผ้รู ับสาร
“เทคโนโลย”ี หมายถงึ สงิ่ ทมี่ นุษย์พัฒนาขึน้ เพ่ือช่วยในการทำงานหรือแกป้ ัญหาต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์

เคร่อื งมือ เครื่องจักร วสั ดุ หรือแม้กระทั่งท่ีไมไ่ ดเ้ ป็นสิง่ ของท่จี บั ต้องได้ เชน่ เทคโนโลยี กระบวนการต่าง ๆ
เทคโนโลยีการสือ่ สาร จึงหมายถึง ส่งิ ท่ีมนษุ ย์พฒั นาขน้ึ เพ่ือใชใ้ นการสื่อสารระหว่างกนั โดยการ

ถา่ ยทอด รบั รขู้ ่าวสารรว่ มกนั ซึง่ ไมจ่ ำเป็นต้องเปน็ เครอ่ื งมือ อปุ กรณ์ เคร่ืองจักร วสั ดุ เพยี งอย่างเดยี ว อาจ
หมายรวมถึงกระบวนการท่ีเกิดจากการประยุกต์ทางวิทยาศาสตร์
4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. ผเู้ รียนสามารถบอกความหมายของการสอ่ื สารข้อมลู และองค์ประกอบของการส่ือสารได้ (K)
2. ผู้เรยี นสามารถอธบิ ายประเภทองค์ประกอบของการสือ่ สารได้ (K)
3. ผู้เรียนสามารถยกตัวอยา่ งของการส่ือสารข้อมลู และองค์ประกอบของการส่ือสารได้ (P)
4. ผ้เู รียนเหน็ ถงึ ความสำคญั ของการสื่อสารข้อมูลและองค์ประกอบของการส่ือสารได้ (A)
5. สมรรถนะที่สำคญั

1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6. คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์
1. มวี ินยั รับผดิ ชอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
ข้นั นำ
1.ครผู ้สู อนทำการเปดิ สไลด์ “ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เทคโนโลยกี ารส่อื สาร “ ทำการแนะนำบทเรียน
และ
เกร่ืนนำยินดีต้อนรับสูบ่ ทเรียน “เทคโนโลยกี ารส่อื สาร “ ยนิ ดีย้อนรบั นักเรียนสูเ่ สน้ ทางการเป็นนกั ส่ือสารส่ือ
ตวั นอ้ ย ถามคำถามว่ามีใครรู้ไหมวา่ เทคโนโลยีการสอ่ื สารหมายความวา่ อะไรแกผ่ เู้ รยี น
( แนวคำตอบ : หมายถึง เทคโนโลยที ่ใี ช้ในการสอ่ื สารครับ ,อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการส่ือสาร ,การส่อื สารท่ี
สะดวกสบาย )

( มีเสยี งซาวดเ์ ล็กน้อย )

( มเี สียงซาวดค์ ลอ )

2.ครผู ้สู อนบอกใบว้ ่าจะมเี กมส์ใหเ้ ล่นต้นคาบก่อนเขา้ เรยี นเนอ้ื หา ทำการเลือกบทเรยี น “ เทคโนโลยี
การสื่อสาร” เพื่อเข้าสขู่ ั้นสอนเน้อื หาใหก้ ับผ้เู รียน

3.ครูผสู้ อนทำการเลน่ เกม “ดาวินชี่ เกมถอดรหัส” กับผู้เรียนโดยแต่ละคำถามจะมรี ปู ใหผ้ ู้เรียนทายวา่
จากภาพท่ปี รากฎข้นึ ถอดรหัสภาพออกมาวา่ จะมคี วามหมายว่าอะไร ซึ่งเก่ียวข้องกับ “เทคโนโลยกี ารสอื่ สาร”
การจับเวลาให้ผเู้ รยี นตอบ ถ้าผ้เู รียนตอบได้กจ็ ะได้รบั คะแนนไปทง้ั หมด 5 ข้อ

( มีเสียงซาวดค์ ลอ )
( มกี ารนบั เวลา 10 วิ )

ขั้นสอน
1.ครูผู้สอนการสอนเน้ือหาเรื่อง เทคโนโลยีการสือ่ สารมีการอธิบายเนอ้ื หาสรปุ ให้ผเู้ รยี นสามารถเขา้ ใจ

ไดง้ า่ ยและยกตวั อย่างให้เห็นภาพไดช้ ัดเจน

2.ครูผู้สอนสอนเนื้อหาการพัฒนาการของการสื่อสารข้อมูลแก่ผเู้ รยี น ว่ากวา่ จะมาเป็นเทคโนลยีการ
สอื่ สารท่ีเราใช้กนั อย่ใู นปจั จุบันน้มี ีการผา่ นยุคสมัยมาแลว้ ท้ังหมด 3 ยคุ ซงึ่ ทำการสอนอธิบายแตล่ ะยคุ ให้
ผเู้ รียนเหน็ ภาพไดช้ ัดเจนวา่ แต่ละยุคนั้นมีการสอ่ื สารอยา่ งไร

3.ครผู ทู้ ำการสอนอธิบายเน้ือหาของ องค์ประกอบของการส่ือสารทงั้ 5 ประเภท ให้กบั ผู้เรยี นไดฟ้ งั
พร้อมท้งั สรปุ เน้ือหาให้ผูเ้ รียนเข้าใจได้งา่ ยและยกตวั ให้กับผู้เรียนไดฟ้ ังพร้อมกับถามคำถามนกั เรยี นเพื่อทอด
สอบความเข้าใจ

4.หลงั จากทำการสอนเน้อื หาของ ของ องคป์ ระกอบของการสอื่ สารทั้ง 5 ประเภท เสร็จแลว้ ครูผ้สู อน
ทำการทดสอบความเข้าใจจากภาพวา่ ผู้เรียนสามารถแยกแยะว่าอะไรเปน็ องค์ประสว่ นไหนคอื อะไร โดยจะให้
ผู้เรยี นตอบทลี ะองคป์ ระกอบ

5.ครูผูท้ ำการสอนอธิบายเนื้อหาของ ทิศทางการสอ่ื สาร ให้กับผเู้ รยี นได้ฟงั พร้อมทั้งสรปุ เน้ือหาให้
ผ้เู รยี นเขา้ ใจได้ง่ายและยกตัวให้กบั ผเู้ รยี น อีกทั้งลองสอบถามดูวา่ “ในชวี ติ ประจำวนั ของนักเรียนพบเจอทิศ
ทางการส่ือสารแบบใดบ้าง “
( แนวคำตอบ : ทวี ี การสอ่ื สานแบบทิศทางเดียว , วดิ โี อคอล การสอ่ื สานสองทิศทาง ,วิทยุสอ่ื สาร กึง่
สองทศิ ทาง )

6.ครูผูส้ อนให้การบา้ นกบั ผู้เรียนทำแบบฝึกหดั ที่ 4.1 ใครสื่อสารกันนะ ? เพื่อทดสอบความร้แู ละความ
เขา้ ใจของผู้เรยี น โดยบอกวิธกี ารทำการบ้านเปน็ ตวั อย่างและวธิ กี ารส่งการบ้านใหช้ ดั เจน

ขั้นสรปุ
1. ครปู ระเมนิ ผู้เรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรยี น และการทำแบบฝึกหัด
2. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลการทำแบบฝึกหดั ท่ี 4.1 ใครส่ือสารกนั นะ ?

8. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่ือการเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2
2. แบบฝึกหดั ท่ี 4.1 ใครสื่อสารกันนะ ?
3. PowerPoint “เทคโนโลยีการสอื่ สาร”
4.เวบ็ ไซต์ในการเก็บคะแนนทำกจิ กรรมตา่ งๆ ( Class 123 )
5. เกมจาก PowerPoint สร้างเอง
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1. อินเทอรเ์ น็ต
2. บา้ นของนกั เรียน

ลงชอ่ื ............................................................................ครูผ้สู อน
(นายภานสุ รณ์ โสเอี่ยม)

นสิ ติ ฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพครู

9. การวดั และการประเมนิ ผลการเรียนรู้

จดุ ประสงค์ ชน้ิ งาน/ภาระงาน วธิ ีการประเมนิ เครอื่ งมือการ ผู้ประเมนิ เกณฑ์ประเมิน
ประเมนิ

ความรู้ (K) - สงั เกตผเู้ รียนและ แบบประเมนิ ครู ประเมนิ จากพฤตกิ รรม
การตอบคำถามของ
ผูเ้ รยี นสามารถบอก ประเมนิ การตอบ ผ้เู รยี น ผเู้ รยี น
ความหมายของการสื่อสาร คำถามของผู้เรยี น

ขอ้ มูลและองคป์ ระกอบของ

การสื่อสารได้

ความรู้ (K) - สงั เกตผเู้ รียนและ แบบประเมิน ครู ประเมนิ จากพฤติกรรม
การตอบคำถามของ
ผูเ้ รยี นสามารถอธบิ าย ประเมินการตอบ ผู้เรยี น ผูเ้ รยี น
ประเภทองคป์ ระกอบของ
การสอ่ื สารได้ คำถามของผูเ้ รยี น

ทักษะและกระบวนการ(P) แบบฝกึ หดั คาบคาบที่ ตรวจแบบฝึกหดั แบบประเมินงาน ครู ระดบั 5 ผ่านดีมาก
4.1 ใครส่ือสารกนั นะ ท้ายคาบแบบฝกึ หดั ระดับ 4 ผ่านดี
ผู้เรยี นสามารถยกตัวอยา่ ง ท่ี 4.1 ใครส่อื สารกัน ระดบั 3 พอใช้
ของการสอ่ื สารขอ้ มลู และ ? ระดับ 2 ปรบั ปรุง
องค์ประกอบของการสอ่ื สาร นะ ? ระดบั 1 ไมผ่ ่าน
ได้

คณุ ลกั ษณะ (A) - สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต ครู ระดบั 3 ดีมาก
ผเู้ รยี นเหน็ ถึงความสำคญั พฤตกิ รรม ระดบั 2 พอใช้
ของการสอ่ื สารข้อมูลและ ระดับ 1 พอใช้
องคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร
ได้

10. ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษา หรอื ผทู้ ่ไี ด้รับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)

องค์ประกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้ ( ) ครบถว้ น ( ) ไมค่ รบถ้วน

การวเิ คราะหห์ ลักสูตร ( ) มี ( ) ไม่มี

กิจกรรมการเรียนรู้ ( ) สอดคลอ้ งเหมาะสม ( ) ควรปรับปรงุ พฒั นา

สอื่ /แบบฝึกทักษะ ( ) สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ( ) มากนอ้ ย

เกนิ ไป

เกณฑ์การวัดประเมินผล ( ) หลากหลายครบถ้วน ( ) ควรปรบั ปรงุ พัฒนา

อื่นๆ

..............................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื .................................................ผูป้ ระเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้
(นางสาวกญั ญา แซ่ลิ้ม)

ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการ

11. บนั ทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
1.1 ดา้ นความรู้

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

1.2 ดา้ นทักษะและกระบวนการ
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................................................... .......
........................................................................................................................... ...................................................

1.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

2. ปญั หาท่ีควรแก้ไข/พัฒนา
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

3. วธิ ีดำเนนิ การแก้ไข/พัฒนา
............................................................................................................................... ...............................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................................................ครูผสู้ อน
(นายภานสุ รณ์ โสเอย่ี ม)

นสิ ติ ฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพครู

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

คำชี้แจง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ท่ีตรงกบั ระดับคะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ด้าน 32 1
1. มีวินยั รบั ผดิ ชอบ 1.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของ
ครอบครวั มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ งๆ ใน
2. ใฝเ่ รียนรู้ ชวี ิตประจำวัน

3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 2.1 รูจ้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบตั ิได้
2.2 รู้จกั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม
2.3 เช่ือฟงั คำส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง
2.4 ตั้งใจเรยี น
3.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย
3.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานสำเรจ็

ลงชอื่ ..................................................ผปู้ ระเมนิ
............/.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน

พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
51–60 ดีมาก
พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 41–50 ดี
30–40 พอใช้
พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน ต่ำกว่า 30 ปรบั ปรงุ

แบบสังเกตพฤติกรรม

เรื่อง การส่ือสารข้อมูลและองค์ประกอบการส่ือสาร

การสังเกตการรว่ มกจิ กรรม (คะแนน) รวม

เลขที่ ชื่อ มวี ินยั รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทำงาน (คะแนน)

123123123 9

เกณฑก์ ารประเมนิ แบบสังเกตการร่วมกิจกรรม
เกณฑ์การให้คะแนนการสนใจและความใฝเ่ รียนรู้

คะแนน / คณุ ลักษณะท่ีปรากฏให้เห็น
ความหมาย
- สนใจค้นคว้าและปฏบิ ัติงานทันทที ี่ได้รับมอบหมายงานและปฏิบัติเอง รวมทั้งชักชวนให้ผู้อื่น
3 ปฏิบตั ิด้วย
ดีมาก
- ปรึกษา ค้นคว้า และซักถาม รวมทงั้ แสดงความคิดเหน็ ดว้ ยตนเองโดยไมต่ อ้ งมีคนแนะนำ
2 - ลงมอื ปฏบิ ตั ิงานค่อนขา้ งช้า แตพ่ อมีเหตุผลทพี่ อรับฟงั ได้
ดี - ปรึกษา คน้ ควา้ และซักถามเสมอ แต่ไม่ทุกครัง้
1 - ลงมอื ปฏบิ ตั งิ านชา้ มาก ต้องมีคนคอยกระตุ้นหรือแนะนำ
พอใช้ - นานๆ คร้ังจะปรึกษา คน้ ควา้ และซักถาม โดยต้องมีคนกระตนุ้ แนะนำ

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนมุ่งมั่นในการทำงาน

คะแนน / คุณลักษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็
ความหมาย
- ต้งั ใจทำแบบฝึกทักษะโดย ไม่ดหู รือสง่ คำตอบคำตอบจากเพ่อื น
3 - เปน็ แบบอยา่ งที่ดีกับเพื่อนๆ ดา้ นมุ่งมั่นในการทำงาน
ดมี าก - พยายามทำกิจกรรม/ทำแบบฝึกทักษะโดย ไม่ดหู รือสง่ คำตอบคำตอบจากเพ่ือน

2 - ทำกจิ กรรม/ทำแบบฝึกทักษะโดย ไมด่ หู รอื สง่ คำตอบคำตอบจากเพ่ือนบา้ ง เม่ือครูตกั เตือนก็
ดี ปรบั ปรงุ ตนเอง
1
พอใช้ - ไม่พยายามคิดเอง ถามเพอื่ นเป็นประจำ

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความรับผดิ ชอบ

คะแนน / คณุ ลักษณะที่ปรากฏให้เหน็
ความหมาย - ตั้งใจทำงานด้วยความขยนั อดทน งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย และเป็นแบบอย่างได้

3 - ตง้ั ใจรบั ผดิ ชอบในการทำงานไดส้ ำเร็จตามเป้าหมาย
ดีมาก - ทำงานตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย

2
ดี
1
พอใช้

แบบประเมนิ ใบงาน

คะแนน/ความหมาย ผลการทำงานทีป่ รากฏให้เห็น
- ใบงาน เนอื้ หาถกู ต้อง 100% และส่งตรงเวลา
5 - ใบงาน เนอ้ื หาถกู ต้อง ไม่ต่ำกว่า 80% และสง่ ตรงเวลา
ผา่ นดมี าก - ใบงาน เนือ้ หาถูกต้อง ไม่ต่ำกวา่ 70% และสง่ ตรงเวลา
- ใบงาน เนื้อหาถูกต้อง ไม่ตำ่ กว่า 50% และสง่ ไมต่ รงเวลา
4 - ใบงาน เนอ้ื หาถูกต้อง ไมถ่ งึ 30% และสง่ ไมต่ รงเวลา
ผา่ นดี

3
ผ่านพอใช้

2
ปรับปรงุ

1
ไม่ผ่าน

แบบประเมินผู้เรยี น

คำช้ีแจง : ให้ “ผสู้ อน” ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตการตอบคำถามของนกั เรียนระหวา่ งการเรียน แล้วประเมนิ ตามสภาพ
จริง

ช่อื นาม-สกุล การมสี ว่ นร่วมในการ อาสาชว่ ยตอบคำถาม สามารถยกตัวอยา่ ง
เรียนการตอบคำถาม ถกู ตอ้ งตรงประเดน็ อธบิ ายให้ฟังได้อย่าง

ถกู ตอ้ ง

1.

2.

3.

คะแนน/ความหมาย ลักษณะของการตอบคำถาม

4 - มีส่วนรว่ มในการตอบคำถาม อาสาที่จะตอบคำถามด้วยตนเอง ตอบคำถาม
ผา่ นดมี าก ถูกต้องตรงประเดน็ ยกตัวอย่างท่ีถูกต้อง

3 - มสี ว่ นร่วมในการตอบคำถาม บางครัอ้ าจงจะต้องเรียกถาม ตอบคำถาม
ผ่านดี ถูกต้องตรงประเดน็ ยกตัวอย่างทถ่ี ูกต้อง

2 - มสี ว่ นร่วมในการตอบคำถามบางเลก็ น้อย จะต้องมกี ารเรยี กถาม ตอบ
พอใช้ คำถามได้ไม่ตรงประเด็น ไม่สามารถยกตัวอย่างได้

1 - ไม่มสี ว่ นร่วมในการตอบคำถาม ต้องเรียกถามอยูต่ ลอดเวลา ตอบคำถามไม่
ไม่ผ่าน ถูกต้องตรงประเดน็ ไมส่ ามารถยกตัวอยา่ งได้









เหตุผลที่นิสิตเลือกแผนกำรจัดกำรเรียนรู้
น้ีเพ่ือเข้ำแฟ้มสะสมผลงำน ( 2 )

ทำส่ือกำรสอนโดยอำศัยกำร์ตูน ดำบพิฆำต
อ สู ร ท่ี กำ ลั ง เ ป็ น ก ร ะ แ ส ท่ี นั ก เ รี ย น รู้ จั ก แ ล ะ ส น ใ จ
ทำ ใ ห้ นั ก เ รี ย น ส น ใ จ ใ น ส่ื อ ก ำ ร ส อ น ม ำ ก ยิ่ ง ข้ึ น
อี ก ท้ั ง ยั ง มี ก ำ ร ส อ ด แ ท ร ก เ นื้ อ ห ำ ที่ เ ข้ ำ ใ จ ไ ด้ อ ย่ ำ ง
มีกำร์ตูนคอยกำกับอยู่ในตัวเน้ือหำ ทำให้
นั ก เ รี ย น เ กิ ด ค ว ำ ม ส ง สั ย ว่ ำ จ ะ เ ช่ื อ ม โ ย ง ยั ง ไ ง
สนใจมำกยิ่งข้ึน มีรูปแบบเกมก่อนสอนเป็น
เ ก ม ถ อ ด ร หั ส ภ ำ พ ทำ ใ ห้ นั ก เ รี ย น จ ะ ไ ด้ ก ร ะ ตุ้ น
ค ว ำ ม ส น ใ จ ก่ อ น เ รี ย น

บันทึกหลังสอน

1 . ใ น ก ำ ร ส อ น ค ำ บ น้ี นั ก เ รี ย น เ รี ย น รู้ ต ำ ม จุ ด ป ร ะ ส ง ค์ ห รื อ ไ ม่ อ ย่ ำ ง ไ ร

นั ก เ รี ย น ส ำ ม ำ ร ถ เ ข้ ำ ใ จ ถึ ง อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ก ำ ร ส่ื อ ส ำ ร แ ล ะ ทิ ศ ท ำ ง ใ น ก ำ ร ส่ื อ ส ำ ร ไ ด้
ส ำ ม ำ ร ถ เ ข้ ำ ใ จ แ ล ะ อ ธิ บ ำ ย ไ ด้ อ ย่ ำ ง ชั ด เ จ น ร ว ม ถึ ง ย ก ตั ว อ ย่ ำ ง ใ ห้ นั ก เ รี ย น ค น อ่ื น ไ ด้
ฟั ง ด้ ว ย ต น เ อ ง ไ ด้

2 . ฉั น ส อ น อ ย่ ำ ง ไ ร ที่ ทำ ใ ห้ นั ก เ รี ย น เ รี ย น รู้ แ ล ะ ไ ม่ เ รี ย น รู้ แ ล ะ อ ะ ไ ร เ ป็ น
ห ลั ก ฐ ำ น ที่ แ ส ด ง ว่ ำ นั ก เ รี ย น เ รี ย น รู้ ห รื อ ไ ม่ เ รี ย น รู้

ใ ช้ ก ำ ร ท ด ส อ บ - ส อ บ ถ ำ ม นั ก เ รี ย น เ พ่ื อ ท ด ส อ บ ค ว ำ ม เ ข้ ำ ใ จ ไ ม่ ว่ ำ จ ะ เ ป็ น
รู ป แ บ บ เ ก ม แ ล ะ ก ำ ร ถ ำ ม ต อ บ ภ ำ ย ใ น ค ำ บ แ ล ะ มี แ บ บ ฝึ ก หั ด ย่ อ ย เ พ่ื อ ข ย ำ ย ค ว ำ ม
เ ข้ ำ ใ จ ท้ ำ ย สุ ด มี ก ำ ร วั ด ผ ล จ ำ ก ใ บ ง ำ น เ พ่ื อ ท ด ส อ บ ค ว ำ ม เ ข้ ำ ใ จ

3 . ปั ญ ห ำ ใ น ก ำ ร ส อ น ข อ ง ฉั น ใ น แ ผ น ก ำ ร จั ด ก ำ ร เ รี ย น รู้ น้ี คื อ อ ะ ไ ร
แ ล ะ ส ำ เ ห ตุ ข อ ง ปั ญ ห ำ ก ำ ร ส อ น คื อ อ ะ ไ ร

บ ำ ง ค รั้ ง นั ก เ รี ย น ไ ม่ เ ข้ ำ ร่ ว ม กิ จ ก ร ร ม เ ก ม ท่ี จั ด ข้ึ น ใ ห้ แ ล ะ ข ำ ด ก ำ ร
สื่ อ ส ำ ร เ น่ื อ ง จ ำ ก บ ำ ง นั ก เ รี ย น บ ำ ง ค น เ รี ย ก ถ ำ ม แ ล้ ว ไ ม่ มี ก ำ ร ต อ บ รั บ

4 . ฉั น ไ ด้ แ น ว ท ำ ง ก ำ ร ป รั บ ป รุ ง ก ำ ร ส อ น ข อ ง ท่ ำ น ใ น ค ร้ั ง ต่ อ ไ ป อ ย่ ำ ง ไ ร

มี ก ำ ร จู ง ใ จ ใ น ก ำ ร ต อ บ คำ ถ ำ ม ห ำ ก นั ก เ รี ย น ต อ บ ถู ก จ ะ ใ ห้ ค ะ แ น น ห ำ ก
เ รี ย ก ถ ำ ม ไ ม่ ต อ บ จ ะ หั ก ค ะ แ น น ข อ ง นั ก เ รี ย น

แผนการจัดการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวิชา เทคโนโลยี 3 รหสั วชิ า ว 22103

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เรอ่ื ง การใชเ้ ทคโนโลยเี ผยแพรผ่ ลงาน ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เร่อื ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั เวลาเรียน 1 คาบ

ผสู้ อน นายภานสุ รณ์ โสเอี่ยม

__________________________________________________________________________

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด
1.1 มาตรฐาน
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาทีพ่ บในชีวิตจรงิ อยา่ งเปน็ ข้นั ตอน

และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม

1.2 ตวั ช้ีวัด
ม.2/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัยมีความรับผิดชอบสรา้ งและแสดงสิทธิในการเผยแพร่
ผลงาน

2. สาระสำคญั
การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัยโดยเลอื กแนวทางปฏิบัตเิ มื่อพบเนื้อหาทไี่ ม่เหมาะสมเชน่

แจง้ รายงานผเู้ ก่ียวข้องป้องกันการเข้ามาของข้อมูลที่ไม่เหมาะสมไม่ตอบโต้ไม่เผยแพร่
ในปัจจุบันโลกของเรากา้ วสโู่ ลกเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งเตม็ ตวั ส่งผลให้การเข้าถงึ ขอ้ มูลหรือโลก

อนิ เตอร์เน็ตน้นั มคี วามงา่ ยมากข้ึน ดัง่ น้ันจงึ จะตอ้ งมีพนื้ ฐานในการรู้จักการป้องกันตนเองใหป้ ลอดภัยในการใช้
เทคโนโลยแี ละสารเทศอย่างถูกตอ้ ง รวมไปถงึ เร่ืองของการรจู้ กั การรบั ผิดชอบต่อตนเองไปถงึ สงั คมโดยรวม
และยงั ต้องอาศยั ความรทู้ างด้านกฎหมายที่มีการกำหนดขน้ึ ในสว่ นของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จงึ จะทำใหผ้ เู้ รยี น
เกิดการเรยี นรูใ้ นการใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยและถูกต้องไมผ่ ิดกฎหมาย

3. สาระการเรยี นรู้
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั คือ ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทสำคัญและส่งผล

ตอ่ การเปลยี่ นแปลงในทุกๆ ด้าน ไมว่ า่ จะเปน็ ด้านการดำเนินชวี ิตประจำวัน การศกึ ษา เศรษฐกิจ สังคม
การเมือง และการดำเนนิ งานในทุกสาขาอาชีพ ทำใหท้ ึกคนในสังคมต้องมีการปรับตวั และพัฒนาตนเองใหท้ นั
ต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศมที ้งั คณุ และโทษนักเรยี นต้อง
ศึกษาเพ่ือใชง้ านไดอ้ ยา่ งรเู้ ท่าทัน และสามารถใชช้ วี ติ อยู่ได้อย่างปลอดภัยในสงั คมปจั จุบัน นอกจากนนยี้ ังตอ้ ง
สามารถเลือกและใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศดา้ นตา่ งๆ อยา่ งสร้างสรรคแ์ ละมจี ริยธรรม

พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ คือ พระราชบญั ญตั ิทวี่ ่าดว้ ยการกระทำผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ ซง่ึ เปน็ พ.ร.บ.ท่ีตง้ั
ขึ้นมาเพ่ือป้องกัน ควบคุมการกระทำผิดที่จะเกดิ ขน้ึ ไดจ้ ากการใชค้ อมพวิ เตอร์ หากใครกระทำความผดิ ตาม
พ.ร.บ.คอมพวิ เตอรน์ ี้ กจ็ ะต้องได้รับการลงโทษตามที่พ.ร.บ.กำหนด

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ผูเ้ รยี นสามารถบอกความหมายของการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และ
พ.ร.บ.คอมพวิ เตอรไ์ ด้(K)
2. ผู้เรยี นสามารถยกตวั อย่างของการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ในการใช้งาน
ในลักษณะตา่ งๆ ได้(P)
3. ผเู้ รยี นสามารถบอกถงึ การกระทำความผิดทางความพวิ เตอร์ตา่ งๆ ว่ามีความผดิ พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์
ตามมาตราอะไร มีโทษทางกฎหมายอยา่ งไรได้(P)
4. ผูเ้ รยี นเห็นถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัยและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์(A)

5. สมรรถนะทส่ี ำคัญ
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

6. คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์
1. มวี นิ ยั รับผดิ ชอบ
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขน้ั นำ
1.ครูผสู้ อนทำการเปิดสไลด์ “ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5 การใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ผลงาสน “ และทำการ

ทบทวนบทเรียนเรอ่ื งที่ผ่านมาให้กบั ผู้เรยี นวา่ เรือ่ งท่ีแลว้ ที่เราเรียนนน้ั มอี ะไรบา้ งและมีอะไรที่เชื่อมโยงกบั เรอื่ ง
ถดั ไปยังไงเพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนไดท้ บทวนและเข้าใจเนื้อหาเบ้ืองต้น

( ทำการเลอื กบทเรียน การใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งปลอดภยั )

2.ครูผู้สอนนำเขา้ สูบ่ ทเรียน “ การใช้เทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภยั ” โดยกระตนุ้ ผเู้ รียนจากการทดสอบ
ความรเู้ บือ้ งต้น ดา้ นคุณธรรมจริยธรรมกบั ผเู้ รยี นในการใช้คอมพวิ เตอร์ โดยใหผ้ ู้เรยี นตอบคำถามว่าจากโจทย์
ทก่ี ำหนดนนั้ เปน็ การกระทำที่ถูกต้องหรอื ไม่

( ปุม่ ดา้ นขวากดเพอ่ื เขา้ สู่เน้อื หา)

ขั้นสอน
1.ครูผ้สู อนทำการสอนเนื้อหาพรอ้ มทั้งอธบิ ายความหมายของการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง
ปลอดภยั ใหน้ ักเรียนเข้าใจ พร้อมทัง้ ยกตวั อย่างท่ีสามารถเห็นภาพได้ชดั เจน และบอกถงึ ประโยชน์-โทษของ
เทคโนโลยีสารสนเทศอธบิ ายยกตัวอยา่ งให้ชดั เจน ทำให้ผู้เรียนเกดิ ความเข้าใจมากยง่ิ ขึ้น

2.ครูผูส้ อนอธบิ ายบทบาทของการใช้เทคโนโลยีอยา่ งปลอดภัยในแตล่ ะหวั ข้อ โดยจะมีแยกเปน็ 3
ประเภทความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง,ตอ่ ผู้อนื่ และต่อสงั คม ให้นกั เรยี นเขา้ ใจพร้อมยกตัวอย่างอธบิ ายประกอบ

เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนเหน็ ภาพไดช้ ัดเจนมากย่ิงข้นึ ต่อมาครูผ้สู อน สอนวธิ กี ารใชเ้ ทคโนโลยีอย่างปลอดภัยเบอ้ื งตน้
ใหก้ ับผเู้ รยี น โดยจะมีวธิ กี ารป้องกนั เบื้องต้น 7 วิธี พร้อมยกตัวอย่างอธิบายสถานการณใ์ ห้ชัดเจนทำให้ผู้เรยี น
ตระหนกั และระมดั ระวังในการป้องกนั การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศมากย่ิงขนึ้

3.ครูผสู้ อนทำการสอนความหมายของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ให้กับผูเ้ รยี นวา่ มนั มีมาเพ่ืออะไรใช้ในการ
ทำอะไรบ้างและบอกถงึ ความสำคัญของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ให้กบั ผเู้ รียนได้ฟงั พร้อมท้งั เปดิ วีดิโอคลปิ
ประกอบการสอนในสไลด์ทีส่ อนเกย่ี วกบั มาตราพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี พ.ศ. 2560 ทีน่ ักเรยี นควรรแู้ ละระวังใน
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อใหผ้ เู้ รียนเกดิ ความรู้ความเข้าใจเบอ้ื งตน้ เก่ียวกับกฎหมายขอ้ บังคบั ตา่ งๆและ
โทษถา้ เกิดทำความผดิ

4.ครูผูส้ อนทำกจิ กรรม ( Quizizz ) โดยเน้ือหาเกยี่ วกบั การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
และพ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ ตอบคำถาม 10 ข้อ โดยใหผ้ เู้ รยี นเข้ามาจากลิงคท์ จ่ี ะทำการสง่ ให้ในชอ่ งแชทหรือเขา้
มาจอยดว้ ยเลข PIN เพ่ือทำการตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของผเู้ รยี น

5. ใหผ้ ู้เรยี นทำแบบประเมินสิง่ ที่นกั เรยี นชนื่ ชอบในวนั น้ี การสอน/ความเข้าใจในเน้ือหา/ส่อื การสอน/
สิ่งทอี่ ยากจะบอกครนู ิสิตฝกึ สอน ^_^ ครัง้ ที่ 8 โดยผ่านเว็บไซต์ Padlet

ขั้นสรปุ
1. ครูประเมินผ้เู รียนจากการสงั เกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรยี น และการทำแบบฝกึ หดั
2. ครดู ู Feedback สงิ่ ที่ผู้เรียนประเมนิ วา่ ผเู้ รยี นมกี ารตอบรับในการเรยี นการสอนวนั นี้อยา่ งไร
3. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลการทำแบบฝึกหัดท้ายคาบท่ี 5.2 เรอื่ ง อย่าหาทำเชยี ว !!!

8. ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
8.1 สื่อการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2
2. แบบฝกึ หัดท้ายคาบที่ 5.2 เรอ่ื ง อยา่ หาทำเชยี ว !!!!
3. PowerPoint “การใชเ้ ทคโนโลยีเผยแพรผ่ ลงาน”
4.เว็บไซต์ในการเก็บคะแนนทำกจิ กรรมตา่ งๆ ( Class 123 )
5. เกมจากเว็บไซต์ ( Quizizz )
6.ประเมนิ ส่งิ ทีน่ กั เรียนช่ือชอบในวนั น้จี ากเวบ็ ไซต์ ( Padlet )
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1. อนิ เทอร์เน็ต
2. บ้านของนักเรียน

ลงช่ือ............................................................................ครผู ้สู อน
(นายภานสุ รณ์ โสเอีย่ ม)

นสิ ิตฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี ครู

9. การวดั และการประเมนิ ผลการเรียนรู้

จุดประสงค์ ชนิ้ งาน/ภาระงาน วิธีการประเมิน เครือ่ งมือการ ผปู้ ระเมนิ เกณฑ์ประเมนิ
ประเมนิ
ความรู้ (K) - สังเกตผเู้ รียนและ ครู ประเมินจากพฤติกรรม
ประเมนิ การตอบ แบบประเมิน การตอบคำถามของ
ผ้เู รยี นสามารถบอกความหมาย คำถามของผู้เรยี น ผเู้ รยี น ผเู้ รยี น
ของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
อย่างปลอดภยั และ
พ.ร.บ.คอมพวิ เตอรไ์ ด้

ทักษะและกระบวนการ(P) แบบฝกึ หดั ท้าย ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินงาน ครู ระดบั 5 ผา่ นดมี าก
คาบที่ 5.2 เร่อื ง ท้ายคาบท่ี 4.3 เร่อื ง ระดับ 4 ผา่ นดี
ผูเ้ รยี นสามารถยกตวั อย่างของ อย่าหาทำเชียว !!! อย่าหาทำเชยี ว !!! ระดบั 3 พอใช้
การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ระดบั 2 ปรับปรงุ
อยา่ งปลอดภยั ในการใช้งานใน ระดบั 1 ไมผ่ ่าน
ลกั ษณะตา่ งๆ ได้

ทักษะและกระบวนการ(P) แบบฝึกหัดทา้ ย ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมนิ งาน ครู ระดบั 5 ผา่ นดมี าก
คาบที่ 4.3 เรื่อง ท้ายคาบที่ 4.3 เร่ือง ระดบั 4 ผ่านดี
ผเู้ รยี นสามารถบอกถึงการ อยา่ หาทำเชียว !!! อยา่ หาทำเชียว !!! ระดับ 3 พอใช้
กระทำความผดิ ทางความพวิ ระดับ 2 ปรบั ปรงุ
เตอรต์ า่ งๆ ว่ามีความผดิ พ.ร.บ. ระดับ 1 ไมผ่ า่ น
คอมพวิ เตอรต์ ามมาตราอะไร มี
โทษทางกฎหมายอย่างไรได้

คณุ ลกั ษณะ (A) - สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกต ครู ระดับ 3 ดมี าก
ผู้เรยี นเหน็ ถึงความสำคญั ของ ระดบั 2 พอใช้
การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ พฤตกิ รรม ระดับ 1 พอใช้
อยา่ งปลอดภยั และพ.ร.บ.
คอมพิวเตอร์

10. ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษา หรอื ผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง)

องค์ประกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้ ( ) ครบถ้วน ( ) ไมค่ รบถ้วน

การวเิ คราะหห์ ลักสูตร ( ) มี ( ) ไม่มี

กิจกรรมการเรียนรู้ ( ) สอดคล้องเหมาะสม ( ) ควรปรับปรงุ พัฒนา

สอื่ /แบบฝกึ ทักษะ ( ) สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ( ) มากนอ้ ย

เกนิ ไป

เกณฑ์การวดั ประเมินผล ( ) หลากหลายครบถ้วน ( ) ควรปรับปรุงพัฒนา

อื่นๆ

............................................................................................................................ ..................................................

............................................................................................................................. .................................................

ลงช่อื .................................................ผ้ปู ระเมนิ แผนการจัดการเรียนรู้
(นางสาวกัญญา แซ่ลมิ้ )

ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการ

11. บันทึกผลหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1.1 ด้านความรู้

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทกั ษะและกระบวนการ
............................................................................................................................ ..................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................... ...................

1.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

2. ปัญหาทคี่ วรแกไ้ ข/พัฒนา
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................... ...............

3. วิธีดำเนินการแก้ไข/พัฒนา
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่ือ............................................................................ครผู ู้สอน
(นายภานสุ รณ์ โสเอีย่ ม)

นสิ ิตฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

คำชี้แจง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ท่ีตรงกบั ระดับคะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ด้าน 32 1
1. มีวินยั รบั ผดิ ชอบ 1.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของ
ครอบครวั มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ งๆ ใน
2. ใฝเ่ รียนรู้ ชวี ิตประจำวัน

3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 2.1 รูจ้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบตั ิได้
2.2 รู้จกั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม
2.3 เช่ือฟงั คำส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง
2.4 ตั้งใจเรยี น
3.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย
3.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานสำเรจ็

ลงชอื่ ..................................................ผปู้ ระเมนิ
............/.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน

พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
51–60 ดีมาก
พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 41–50 ดี
30–40 พอใช้
พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน ต่ำกว่า 30 ปรบั ปรงุ

แบบสังเกตพฤติกรรม

เรื่อง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย

การสงั เกตการรว่ มกิจกรรม (คะแนน) รวม

เลขที่ ช่อื มวี นิ ยั รับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน (คะแนน)

123123123 9

เกณฑก์ ารประเมนิ แบบสังเกตการร่วมกิจกรรม
เกณฑ์การให้คะแนนการสนใจและความใฝเ่ รียนรู้

คะแนน / คณุ ลักษณะท่ีปรากฏให้เห็น
ความหมาย
- สนใจค้นคว้าและปฏบิ ัติงานทันทที ี่ได้รับมอบหมายงานและปฏิบัติเอง รวมทั้งชักชวนให้ผู้อื่น
3 ปฏิบตั ิด้วย
ดีมาก
- ปรึกษา ค้นคว้า และซักถาม รวมทงั้ แสดงความคิดเหน็ ดว้ ยตนเองโดยไมต่ อ้ งมีคนแนะนำ
2 - ลงมอื ปฏบิ ตั ิงานค่อนขา้ งช้า แตพ่ อมีเหตุผลทพี่ อรับฟงั ได้
ดี - ปรึกษา คน้ ควา้ และซักถามเสมอ แต่ไม่ทุกครัง้
1 - ลงมอื ปฏบิ ตั งิ านชา้ มาก ต้องมีคนคอยกระตุ้นหรือแนะนำ
พอใช้ - นานๆ คร้ังจะปรึกษา คน้ ควา้ และซักถาม โดยต้องมีคนกระตนุ้ แนะนำ

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนมุ่งมั่นในการทำงาน

คะแนน / คุณลักษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็
ความหมาย
- ต้งั ใจทำแบบฝึกทักษะโดย ไม่ดหู รือสง่ คำตอบคำตอบจากเพ่อื น
3 - เปน็ แบบอยา่ งที่ดีกับเพื่อนๆ ดา้ นมุ่งมั่นในการทำงาน
ดมี าก - พยายามทำกิจกรรม/ทำแบบฝึกทักษะโดย ไม่ดหู รือสง่ คำตอบคำตอบจากเพ่ือน

2 - ทำกจิ กรรม/ทำแบบฝึกทักษะโดย ไมด่ หู รอื สง่ คำตอบคำตอบจากเพ่ือนบา้ ง เม่ือครูตกั เตือนก็
ดี ปรบั ปรงุ ตนเอง
1
พอใช้ - ไม่พยายามคิดเอง ถามเพอื่ นเป็นประจำ

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความรับผดิ ชอบ

คะแนน / คณุ ลักษณะที่ปรากฏให้เหน็
ความหมาย - ตั้งใจทำงานด้วยความขยนั อดทน งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย และเป็นแบบอย่างได้

3 - ตง้ั ใจรบั ผดิ ชอบในการทำงานไดส้ ำเร็จตามเป้าหมาย
ดีมาก - ทำงานตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย

2
ดี
1
พอใช้

แบบประเมนิ ใบงาน

คะแนน/ความหมาย ผลการทำงานทป่ี รากฏให้เห็น
- ใบงาน เนอื้ หาถกู ต้อง 100% และสง่ ตรงเวลา
5 - ใบงาน เนอ้ื หาถกู ต้อง ไม่ต่ำกว่า 80% และสง่ ตรงเวลา
ผา่ นดมี าก - ใบงาน เนือ้ หาถูกต้อง ไม่ต่ำกวา่ 70% และสง่ ตรงเวลา
- ใบงาน เนื้อหาถูกต้อง ไม่ตำ่ กว่า 50% และสง่ ไมต่ รงเวลา
4 - ใบงาน เนอ้ื หาถูกต้อง ไมถ่ งึ 30% และส่งไมต่ รงเวลา
ผา่ นดี

3
ผ่านพอใช้

2
ปรับปรงุ

1
ไม่ผ่าน

แบบประเมินผ้เู รียน

คำชี้แจง : ให้ “ผู้สอน” ให้ผู้สอนสังเกตการตอบคำถามของนกั เรยี นระหวา่ งการเรียน แลว้ ประเมนิ ตามสภาพ
จริง

ชือ่ นาม-สกุล การมสี ว่ นรว่ มในการ อาสาชว่ ยตอบคำถาม สามารถยกตัวอย่าง
เรียนการตอบคำถาม ถูกต้องตรงประเดน็ อธบิ ายใหฟ้ ังได้อย่าง

ถูกต้อง

1.

2.

3.

คะแนน/ความหมาย ลกั ษณะของการตอบคำถาม

4 - มีสว่ นรว่ มในการตอบคำถาม อาสาทีจ่ ะตอบคำถามดว้ ยตนเอง ตอบคำถาม
ผ่านดีมาก ถูกต้องตรงประเดน็ ยกตวั อย่างที่ถูกต้อง

3 - มสี ว่ นรว่ มในการตอบคำถาม บางครั้อาจงจะต้องเรียกถาม ตอบคำถาม
ผา่ นดี ถกู ต้องตรงประเด็น ยกตวั อย่างทีถ่ ูกต้อง

2 - มีสว่ นรว่ มในการตอบคำถามบางเลก็ นอ้ ย จะต้องมีการเรียกถาม ตอบคำถาม
พอใช้ ได้ไมต่ รงประเด็น ไม่สามารถยกตวั อย่างได้

1 - ไม่มีสว่ นรว่ มในการตอบคำถาม ตอ้ งเรียกถามอยตู่ ลอดเวลา ตอบคำถามไม่
ไมผ่ ่าน ถกู ต้องตรงประเดน็ ไม่สามารถยกตวั อย่างได้

แบบฝกึ หัด 5.2 อยา่ หาทำเชียว !!!

ตอนท่ี 1 ให้นักเรยี นตอบคำถามดังตอ่ ไปน้ใี ห้ถูกตอ้ ง
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศใหม้ คี วามปลอดภัย มีความหมายว่าอะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ยกตวั อยา่ งวิธกี ารป้องกน้ ข้อมูลของนักเรยี นท่ีใช้ ในชวี ิตประจำวนั มา 2 ข้อ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ตอนที่ 2 ให้นักเรยี นอ่านสถานการณ์ที่เกิดขน้ึ แล้ววิเคราะหว์ า่ มีบทลงโทษอย่างไรตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ 2560

สถานการณ์ : มิน้ ท์ทำการโพสข้อความผ่านบนเฟซบุ๊ค
โดยประจานแสนดวี ่าเปน็ คนไมด่ ี
ผิด พ.ร.บ. คอมพวิ เตอร์มาตราใด มโี ทษทางกฎหมายอย่างไร
………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………

สถานการณ์ : ดาวนำรูปของพิมพม์ าตัดต่อ โดยการแต่งเติมใหเ้ สียหาย
และทำการโพสลงบนสือ่ โซเซียล
ผดิ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์มาตราใด มีโทษทางกฎหมายอย่างไร
………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………

แบบฝกึ หดั 5.2 อย่าหาทำเชียว !!!

ตอนที่ 1 ใหน้ ักเรียนตอบคำถามดงั ตอ่ ไปนีใ้ ห้ถูกตอ้ ง
การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศใหม้ ีความปลอดภัย มีความหมายว่าอะไร
ปจั จบุ นั เทคโนโลยีสารสนเทศมบี ทบาทสำคัญและส่งผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงในทุกๆ ด้าน ไมว่ า่ จะเป็นดา้ นการดำเนิน
ชีวิตประจำวนั การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม การเมอื ง และการดำเนินงานในทุกสาขาอาชพี ทำให้ทึกคนในสังคมต้องมกี าร
ปรับตัว และพัฒนาตนเองให้ทันตอ่ การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ยกตวั อยา่ งวธิ กี ารป้องก้นข้อมูลของนกั เรยี นท่ีใช้ ในชวี ติ ประจำวันมา 2 ขอ้
1. การต้ังรหัสป้องกันอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เช่นการตงั้ รหสั หน้าจอมอื ถือด้วนรหสั PIN หรือสแกนหนา้ เพ่ือป้องกนั การสวมรอย
2. การลงช่ือออกจากบัญชที ุกครัง้ เม่อื เลิกใช้ เม่ือเรยี นในหอ้ งคอมพิวเตอร์หรอื อกจากเคร่อื งคอมสาธารณะ

ตอนท่ี 2 ใหน้ ักเรียนอา่ นสถานการณท์ เี่ กดิ ขน้ึ แล้ววิเคราะหว์ า่ มบี ทลงโทษอย่างไรตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ 2560

สถานการณ์ : มน้ิ ท์ทำการโพสข้อความผา่ นบนเฟซบุ๊ค
โดยประจานแสนดีว่าเปน็ คนไม่ดี
ผิด พ.ร.บ. คอมพวิ เตอร์มาตราใด มีโทษทางกฎหมายอยา่ งไร
มาตราท่ี 5 - จำคุกไม่เกิน 6 เดอื น และปรับไมเ่ กนิ
10,000 บาท หรือ ท้ังจำทั้งปรับ

สถานการณ์ : ดาวนำรูปของพมิ พ์มาตัดต่อ โดยการแต่งเติม
ใหเ้ สียหายและทำการโพสลงบนส่ือโซเซียล
ผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์มาตราใด มโี ทษทางกฎหมายอย่างไร
มาตราที่ 16 – จำคกุ ไม่เกนิ 3 ปี และปรับไม่เกิน
200,000 บาท หรือ ท้งั จำท้ังปรับ


Click to View FlipBook Version