The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิญญาณชาดก (ชาดกว่าด้วยเรื่องผีๆ)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pmsd510, 2021-09-01 05:36:33

วิญญาณชาดก (ชาดกว่าด้วยเรื่องผีๆ)

วิญญาณชาดก (ชาดกว่าด้วยเรื่องผีๆ)

๔๕ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ชาดกวา่ ดว้ ยเร่อื งผๆี | ๔๖



เทวดา(ผีเรือน)เตือนเศรษฐีให้หยดุ ทาบญุ

ถ้าจะกล่าวถึงบุคคลในพุทธประวตั ฝิ ่ ายฆราวาสท่มี คี วามโดด
เด่นระดบั ต้นๆ หน่ึงในจานวนนัน้ ต้องมีช่ือท่านอนาถบิณฑกิ เศรษฐี
อย่างแน่นอน เพราะเป็นเศรษฐีท่ีใจบุญมากๆ สละทรัพย์จานวน
มหาศาลเพ่อื บารุงพระพุทธศาสนา รวมทงั้ เอาใจใส่ในกิจธุระทางพระ
ศาสนาหลายๆ เร่อื ง ฉะนัน้ ก่อนท่จี ะเล่าเร่อื งตามหวั ขอ้ ว่า “เทวดา
เตอื นเศรษฐใี ห้หยุดทาบุญ เพราะเหตุใด” เรามาทาความรู้จกั กบั ท่าน
เศรษฐใี นเร่อื งน้กี นั เสยี ก่อน

๔๗ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ประวตั ิอนาถบิณฑิกเศรษฐี

อนาถบณิ ฑกิ เศรษฐเี ป็นชาวเมอื งสาวตั ถโี ดยกาเนิด มชี ่อื เดมิ
ตามทพ่ี ่อแม่ตงั้ ใหว้ ่า “สุทตั ตะ” ต่อมา ไดช้ ่อื ใหม่ตามท่ชี าวบ้านเรยี ก
ขานด้วยความยกย่องช่ืนชมว่า “อนาถบิณฑิกเศรษฐี” แปลว่า
“เศรษฐีผ้มู ีก้อนข้าวเพื่อคนอนาถา” เพราะเป็นเศรษฐใี จบุญ ตงั้ โรง
ทานให้อาหารแก่คนยากจนไรท้ ่พี ง่ึ ตลอดทงั้ ประชาชนทวั่ ไปทุกๆ วนั
ภายหลัง ช่ือใหม่น้ีถูกเรียกขานและมีคนรู้จกั มากกว่าช่ือจริงเสียอีก
ท่านไดร้ บั ตาแหน่งเศรษฐสี บื ต่อจากสุมนเศรษฐผี ูบ้ ดิ าทเ่ี สยี ชวี ติ ลง ทา
ธุรกจิ ดา้ นการคา้ ขาย มกี จิ การใหญ่โต มขี า้ ทาสบรวิ ารมากมาย

มลู เหตุนับถือพระพทุ ธศาสนา

เดมิ ทที ่านเศรษฐนี ับถอื ลทั ธปิ รพิ พาชกมาก่อน มลู เหตุทห่ี นั มา
นับถอื พระพุทธศาสนานัน้ เน่ืองจากครงั้ หน่ึง ไปทาการคา้ ขายทเ่ี มอื ง
ราชคฤห์ ได้รู้จกั กบั เศรษฐีชาวเมอื งราชคฤห์คนหน่ึง ช่อื ราชคหกะ
คบหาเป็นเพ่อื นรกั ทด่ี ตี ่อกนั ต่อมามคี วามสมั พนั ธเ์ กย่ี วดองกนั มากขน้ึ
เม่อื ทงั้ สองต่างกไ็ ดน้ ้องสาวของแตล่ ะฝ่ายมาเป็นภรรยา ฉะนนั้ ทุกครงั้
ท่อี นาถบณิ ฑกิ เศรษฐมี าทาการคา้ ขายท่เี มอื งราชคฤห์ก็จะมาพกั อยู่ท่ี
บา้ นของเศรษฐที า่ นน้ปี ระจา

ชาดกวา่ ดว้ ยเรือ่ งผีๆ | ๔๘

ช่วงนนั้ เป็นปฐมโพธกิ าล พระพุทธเจา้ เพง่ิ ตรสั รใู้ หม่ๆ การเผย
แผ่ศาสนายงั อย่ใู นวงแคบไม่กวา้ งไกลออกไปมากนกั ชาวเมอื งราชคฤห์
ทราบการตรสั รู้ของพระพุทธเจ้าแล้ว แต่ชาวเมอื งสาวตั ถยี งั ไม่ทราบ
วนั หน่ึง ท่านอนาถบิณฑกิ เศรษฐไี ด้ไปทาการค้าขายท่เี มอื งราชคฤห์
และได้พกั อยู่ท่ีบ้านราชคหกะเศรษฐีเช่นเคย แต่วันน้ีรู้สึกแปลกใจ
เพราะทุกครงั้ ทม่ี าพกั ราชคหกะเศรษฐจี ะเขา้ มาต้อนรบั และพูดคุยด้วย
เป็นเวลานาน แตว่ นั น้กี ลา่ วทกั ทายนิดหน่อยตามมารยาท แลว้ กข็ อตวั
ไปสงั่ งานลูกน้องให้ทาโน่นทาน่ีในบรเิ วณบ้าน เหมอื นกบั ว่าจะมีงาน
บูชายญั หรอื ต้อนรบั เจ้านายใหญ่โตอะไรสกั อย่าง ท่านอนาถบิณฑิก
เศรษฐไี ด้แต่เก็บขอ้ สงสยั น้ีไว้ในใจ จนกระทงั่ ราชคหกะเศรษฐสี งั่ งาน
เสร็จแล้วเข้ามาหาพูดคุยด้วยนัน่ แหล่ะ จึงสอบถามข้อสงสยั ของตน
ได้รบั คาตอบจากราชคหกะเศรษฐีว่า ท่ีสงั่ การให้ทาโน่นทาน่ีก็เพ่ือ
จัดเตรียมสถานท่ีให้เรียบร้อย เน่ืองจากพรุ่งน้ี ได้ทูลอาราธนา
พระพุทธเจา้ และนมิ นตพ์ ระสาวกมาเสวยและฉนั ภตั ตาหารทบ่ี า้ น

อนาถบณิ ฑกิ เศรษฐผี ไู้ ดส้ งั่ สมบญุ บารมมี าแต่ชาตปิ างกอ่ น พอ
ได้ยนิ คาว่า “พระพุทธเจ้า” เท่านัน้ แหล่ะ เหมือนกบั ไปสะกดิ อะไร
บางอย่างทฝ่ี ังอย่ภู ายในใจมานานแสนนาน ความปีตยิ นิ ดแี ผ่ซ่านไปทวั่
สรรพางคก์ าย ถามย้าเพอ่ื ความแน่ใจถงึ สามครงั้ วา่

“พระพทุ ธเจ้าหรือ”

๔๙ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ไดร้ บั คาตอบจากราชคหกะเศรษฐวี ่า
“ขณะนี้ พระพทุ ธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ได้อุบตั ิ
ข้นึ แลว้ ในโลก”
ท่านเกดิ ความเล่อื มใสศรทั ธาอย่างแรงกลา้ ประสงคจ์ ะไปเขา้
เฝ้าพระพุทธเจา้ ตอนนัน้ เลย แต่ถูกท่านราชคหกะเศรษฐหี า้ มไวว้ ่า “น่ี
ไม่ใช่เวลาทจ่ี ะเขา้ เฝ้าพระพทุ ธองค์ รอใหถ้ งึ วนั พรงุ่ น้กี อ่ น”
พอวนั รุ่งข้นึ อนาถบิณฑิกเศรษฐกี ็รีบไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
ตงั้ แต่เชา้ ตร่กู ่อนทพ่ี ระองค์จะเสดจ็ มาท่บี ้านของราชคหกเศรษฐเี สยี อกี
พระพุทธองคไ์ ดแ้ สดงธรรมคอื อนุบุพพกิ ถาและอรยิ สจั ๔ ใหฟ้ ัง พอจบ
เทศนา ท่านเศรษฐไี ดด้ วงตาเหน็ ธรรม สาเรจ็ เป็นอรยิ บคุ คลชนั้ โสดาบนั
ประกาศตนเป็นพุทธมามกะนบั ถอื พระพุทธศาสนา มพี ระรตั นตรยั เป็นท่ี
พง่ึ ตงั้ แต่นนั้ เป็นตน้ มา
หลงั จากประกาศตนเป็นอุบาสกนับถือพระรตั นตรยั เป็นท่ีพ่งึ
แลว้ ท่านเศรษฐไี ด้ทานุบารุงพระพุทธศาสนาและอุปัฏฐากพระสงฆใ์ น
หลายๆ ดา้ น ผลงานทางพระพุทธศาสนาและเร่อื งท่นี ่าสนใจเก่ยี วกบั
ทา่ นเศรษฐี พอสรปุ ไดด้ งั น้ี
๑. ท่านเศรษฐีเป็นผู้สร้างวดั พระเชตวนั ด้วยการบริจาคทรพั ย์
มหาศาล เฉพาะท่นี ับจานวนตวั เลขได้เป็นเงนิ ๕๔ โกฏิ เป็น
วดั ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทรงจาพรรษามากทส่ี ดุ ถงึ ๑๙ พรรษา และ

ชาดกวา่ ดว้ ยเรอ่ื งผๆี | ๕๐

แน่นอนว่า เร่อื งราวเหตุการณ์ในพุทธประวตั แิ ละหลกั คาสอน
สาคญั ๆ ในพระพุทธศาสนา ไดเ้ กดิ ข้นึ ท่วี ดั พระเชตวนั ซ่งึ
สรา้ งถวายโดยทา่ นอนาถบณิ ฑกิ เศรษฐแี ห่งน้ี
๒. ท่านเศรษฐี เม่อื จะไปวดั ไม่ว่าเวลาเยน็ หรอื เวลาเชา้ ไดช้ ่อื วา่
เป็นผู้ไม่เคยมีมอื เปล่าเข้าวดั คอื ต้องมอี ะไรตดิ ไม้ตดิ มือไป
ถวายพระเป็นประจา ด้วยเกรงว่า เวลาเดนิ เขา้ ไปในวดั พระ
หนุ่มเณรน้อยอาจดูมอื ว่าห้วิ อะไรมาหรอื เปล่า ท่านก็เลยไม่
อยากสรา้ งความผดิ หวงั ใหก้ บั พระหนุ่มเณรน้อยเหล่านนั้
๓. ท่านเศรษฐจี ้างลูกชายช่อื กาละ ผู้ไม่สนใจธรรมะเลยให้ไปวดั
ฟังธรรม ลูกชายก็ไปวดั ตามท่ีพ่อต้องการ เพราะอยากได้
ค่าจ้าง แต่ไม่ได้ฟังธรรมหรอก ไปนัง่ หลบั อยู่ข้างธรรมาสน์
ต่อมา ท่านเศรษฐเี พมิ่ ค่าจา้ งแก่ลูกชายมากข้นึ แต่มขี อ้ แม้ว่า
จะต้องจาขอ้ ความของธรรมะมาให้ไดส้ กั บทหน่ึง ลูกชายก็ทา
ตามนนั้ คราวน้ตี งั้ ใจฟัง เพราะตอ้ งการจาใหไ้ ด้ ปรากฏวา่ ดว้ ย
ความตงั้ ใจน้ีทาให้จติ ใจไม่วอกแวก สงบนิ่ง กระแสจติ มุ่งตรง
ตอ่ ธรรม เขา้ ใจในเน้อื หาแห่งธรรมอย่างแจ่มแจง้ เป็นเหตใุ หไ้ ด้
ดวงตาเหน็ ธรรม ไม่มคี วามต้องการด้วยค่าจา้ งนัน้ อกี เลย น่ี
คอื กุสโลบายอย่างหน่ึงท่ที ่านเศรษฐีนามาใช้เพ่อื ชกั นาใหล้ ูก
ชายหนั หน้าเขา้ สธู่ รรม

๕๑ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

๔. ครงั้ หน่ึง ท่านเศรษฐีพาหลานสาวตัวเล็กท่ีทาตุ๊กตาแป้งตก
แตกร้องให้เสียใจ ทาบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ตุ๊กตาแป้ ง
เพอ่ื ใหห้ นูน้อยเกดิ ความสบายใจหายรอ้ งให้

๕. ท่านเศรษฐนี ิมนต์พระสงฆจ์ านวนมากมาฉันภตั ตาหารท่บี ้าน
ทุกวนั วนั ไหนไม่อย่กู จ็ ะมอบหมายภาระหน้าทน่ี ้ีใหก้ บั ลูกสาว
สามคน คือ มหาสุภัททา จูฬสุภัททา และสุมนา ตามลาดบั
จัดแจงภัตรถวาย สองคนแรกได้ฟังธรรมแล้วบรรลุเป็ น
โสดาบนั บุคคล และแต่งงานยา้ ยไปอย่กู บั สามี ส่วนลูกสาวคน
เลก็ สุมนา ไดฟ้ ังธรรมแลว้ บรรลุเป็นสกทิ าคามบี ุคคล ต่อมา
นางป่วยหนกั เสยี ชวี ติ ไปทงั้ ทย่ี งั ไมไ่ ดแ้ ต่งงานเลย

๖. ท่านเศรษฐถี ูกลูกสาวช่อื สุมนาทก่ี าลงั ป่วยหนกั จวนจะเสยี ชวี ติ
อย่แู ลว้ เรยี กว่า “น้องชาย” แลว้ นางกต็ ายไปดว้ ยท่าทแี ปลกๆ
เช่นน้ี ทาให้ท่านเศรษฐรี ูส้ กึ กงั วลใจเป็นอย่างยง่ิ เป็นห่วงลูก
สาวว่า นางคงป่วยหนักจงึ ออกอาการเพ้ยี นๆ เช่นน้ี ถ้าตาย
ไปในลักษณะอย่างน้ี จะได้ไปสู่สุคติภูมิไหมหนอ จึงได้ไป
กราบทูลถามพระพุทธเจ้า ได้รบั คาตอบว่า ท่ีลูกสาวเรียก
เช่นนนั้ เป็นการเรยี กตามภูมธิ รรมทน่ี างไดบ้ รรลุขนั้ สงู กว่าบดิ า
คอื อนาถบณิ ฑกิ เศรษฐบี รรลุขนั้ โสดาบนั แต่ลูกสาวทช่ี ่อื สุมนา
บรรลุขนั้ สงู กวา่ คอื สกทิ าคามี

ชาดกวา่ ดว้ ยเร่ืองผีๆ | ๕๒

เทวดา ใช่ว่าจะเป็นท่ีพ่งึ ของมนุษยไ์ ด้ทกุ อยา่ ง

คนส่วนมากมกั มคี วามคดิ แบบเทวนิยม คอื นิยมเทวดา คิดว่า
เทวดาสามารถจะเป็นท่ีพ่ึงของมนุษย์ได้ในทุกๆ เร่ือง จึงฝากชีวิต
ทงั้ หมดไว้กบั เทวดา เวลาประสบปัญหาหรอื ต้องการอะไรก็มกั จะร้อง
ขอออ้ นวอนใหเ้ ทวดาช่วย จดั หาเคร่อื งเซ่นสงั เวยต่าง ๆ ทค่ี ดิ ว่าเม่อื
นามาบวงสรวงแลว้ จะทาใหเ้ ทวดาพอใจช่วยบนั ดาลสง่ิ ท่ตี ้องการใหไ้ ด้
ไม่ว่าจะเป็นเร่อื งความมงั่ คงั่ ร่ารวย ความโชคดมี ชี ยั ความสาเร็จใน
หน้าท่กี ารงาน ความปลอดภยั ในชีวติ และทรพั ย์สนิ ความมสี ุขภาพ
แขง็ แรง ความมชี ่อื เสยี ง แมแ้ ต่อยากได้ลูกไวส้ บื สกุลก็ยงั ต้องไปขอ
กบั เทวดา และเทวดาเองก็มหี ลายแผนกเพ่อื สนองตอบความต้องการ
ของมนุษย์

ส่ิงท่ีมนุ ษย์อ้อนวอนร้องขอกับเทวดานั้นมีทั้งท่ีประสบ
ความสาเรจ็ และไม่ประสบความสาเรจ็ และทป่ี ระสบความสาเรจ็ นนั้ กไ็ ม่
รวู้ า่ ดว้ ยอานาจของเทวดาหรอื ดว้ ยการกระทาของตนกนั แน่ แตค่ วามคดิ
อญั เชญิ เทวดามาเป็นทพ่ี ง่ึ เพอ่ื ใหบ้ นั ดาลสง่ิ ท่ปี รารถนาตอ้ งการก็ยงั คง
อยู่กับสังคมมนุษย์ทุกยุคทุกสมัย แม้ปั จจุบันน้ี วิทยาศาสตร์จะ
เจรญิ ก้าวหน้าสามารถใหค้ าตอบในหลายๆ เร่อื งทเ่ี คยเป็นขอ้ สงสยั กนั
มาไดแ้ ลว้ กต็ าม

๕๓ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

การตรสั รู้ของพระพุทธเจ้า นับเป็นการปฏิวตั ิความเช่ือเร่ือง
เทวดาทเ่ี คยเชอ่ื ถอื กนั มา นนั่ คอื แต่ก่อน อะไรๆ มนุษยก์ ต็ อ้ งพง่ึ เทวดา
เช่อื ว่าเทวดาเป็นสงิ่ เหนือมนุษย์ มนุษยต์ ้องสยบยอมต่อเทวดา ต้อง
ทาใหเ้ ทวดาพอใจ จงึ จะไดร้ บั ในสงิ่ ทป่ี รารถนาตอ้ งการ แต่หลงั จากการ
ตรสั รขู้ องพระพุทธเจา้ ผทู้ รงฝึกฝนอบรมพฒั นาพระองค์จนถงึ ทส่ี ุดแห่ง
ศักยภาพของความเป็ นมนุษย์ นัน่ คือการสาเร็จเป็ นพระอรหันต
สมั มาสมั พุทธเจ้าแล้ว เทวดานัน่ แหล่ะท่ีจะต้องมาพ่งึ มนุษย์ คือให้
มนุษย์แนะนาในสง่ิ ทถ่ี ูกและผดิ พระพุทธองคจ์ งึ ได้ช่อื ว่า เป็ นครูของ
เทวดาและมนุษยท์ งั้ หลาย (สตั ถา เทวะมะนุสสานัง) เพราะในความ
เป็นจรงิ แล้ว เทวดาเองก็มที งั้ เทวดาทด่ี เี ป็นสมั มาทฏิ ฐสิ ่งเสรมิ การทา
ความดขี องมนุษย์ และเทวดาทไ่ี ม่ดเี ป็นมจิ ฉาทฏิ ฐขิ ดั ขวางการทาความ
ดขี องมนุษย์ ในพุทธประวตั ริ ะบุไวช้ ดั เจนว่า แมแ้ ต่พระพุทธองคเ์ องก็
ยังเคยถูกขดั ขวางการดาเนินพุทธกิจเพ่อื ประโยชน์แก่ชาวโลกจาก
เทวดาทเ่ี ป็นมจิ ฉาทฏิ ฐใิ นหลายๆ ครงั้ เพราะฉะนนั้ ใครทช่ี อบรอ้ งขอให้
เทวดาเป็นท่ีพ่งึ ของชีวติ ถ้าได้ศึกษาแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาให้
เขา้ ใจแลว้ อาจจะเปลย่ี นความคดิ ทเ่ี คยมมี ากไ็ ด้ อ ย่ า ง ก ร ณี ข อ ง
เทวดาท่ีจะกล่าวถึงต่อไปน้ี ก็เป็นอีกตัวอย่างหน่ึงของเทวดาท่ีเป็น
มจิ ฉาทฏิ ฐิ คอยขดั ขวางการทาความดขี องมนุษย์

ชาดกวา่ ดว้ ยเร่ืองผๆี | ๕๔

เทวดา(ผเี รอื น)เตือนเศรษฐีให้หยดุ ทาบุญ

เทวดามจิ ฉาทฏิ ฐติ นน้ี สงิ สถติ อย่ทู ซ่ี ุ้มประตูบานท่ี ๔ ของบ้าน
ท่านอนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี (เทวดาทอ่ี ยู่ตามบา้ นเรอื นในลกั ษณะอย่างน้ี
อาจเรยี กตามภาษาชาวบา้ นวา่ “ผเี รือน” นนั่ เอง) ไม่ค่อยจะมคี วามสุข
เท่าไหร่เวลาเห็นพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวกมาฉลองศรทั ธารับ
ภตั ตาหารเดนิ เขา้ เดนิ ออกบ้านท่านเศรษฐี เพราะเวลาผ่านซุ้มประตูท่ี
ตนสงิ สถติ อย่ทู ไี ร ไม่สามารถอย่บู นซุ้มประตูตามเดมิ ได้ ต้องลงมาอยู่
ข้างล่าง เน่ืองจากมีธรรมเนียมอยู่ว่า เม่ือมีผู้มีศีลมีคุณงามความดี
มากกว่าเดนิ ผ่าน ผู้มศี ลี มคี ุณงามความดนี ้อยกว่าไม่สามารถจะอยู่ใน
ท่ๆี สูงกว่าได้ ฉะนัน้ ด้วยเดชแห่งคุณของพระศาสดาและพระสาวก
เทวดาแมจ้ ะขดั ใจแคไ่ หน แต่กต็ อ้ งจาใจทาตามธรรมเนียมนนั้ จอ้ งหาวธิ ี
ทจ่ี ะโน้มน้าวใจใหเ้ ศรษฐเี ลกิ ทาบญุ อยตู่ ลอดเวลา แต่ยงั ไมไ่ ดโ้ อกาสสกั
ที ได้แต่เก็บความรู้สกึ เบ่อื ระอาน้ีอยู่ในใจ ไม่กล้าไปบอกท่านเศรษฐี
เพราะตนเองกม็ าอาศยั บา้ นท่านเศรษฐอี ยู่ ถ้าไปบอกแลว้ เกดิ ผดิ พลาด
อะไรข้นึ มา ท่านเศรษฐไี ม่พอใจ ไล่ออกจากบ้านไป จะลาบากมาก
กว่าเดมิ อกี

ฝ่ ายท่านอนาถบิณฑกิ เศรษฐี ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจทงั้ หมด
เพอ่ื ทานุบารงุ พระพุทธศาสนา เงนิ จานวนมหาศาลไดถ้ ูกหว่านลงในนา

๕๕ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

บุญพระพุทธศาสนาน้ี ขอสรุปการบรจิ าคทรพั ยท์ าบุญของท่านเศรษฐี
เฉพาะรายการสาคญั เทา่ ทส่ี ามารถรวบรวมได้ มดี งั น้ี

- บริจาคทรัพย์ในคราวกราบทูลนิมนต์พระศาสดาเสด็จจาก
เมอื งราชคฤหไ์ ปเยอื นเมอื งสาวตั ถี โดยใหส้ รา้ งวหิ ารเพอ่ื เป็นทป่ี ระทบั
ระหว่างทาง รวมทงั้ หมด ๕๕ หลงั ตามระยะทาง ๕๕ โยชน์ โยชน์ละ
๑ หลงั

- บรจิ าคทรพั ย์ซ้ือท่ดี ินสร้างวดั พระเชตวนั จากเชตราชกุมาร
เป็นจานวนเงนิ ๑๘ โกฏิ

- บริจาคทรัพย์เพ่ือเป็ นค่าก่อสร้างพระคันธกุฎีถว าย
พระพุทธเจา้ และเสนาสนะสงฆ์ เป็นจานวนเงนิ ๑๘ โกฏิ

- บรจิ าคทรพั ยจ์ านวน ๑๘ โกฏิ เพอ่ื จดั ฉลองพระอารามทส่ี รา้ ง
เสรจ็ แลว้ อย่างใหญ่โต เป็นเวลาหลายเดอื น

- บรจิ าคทรพั ยเ์ ป็นค่าภตั ตาหารสาหรบั พระสงฆจ์ านวนมาก ท่ี
นมิ นตม์ ารบั ภตั ตาหารทบ่ี า้ นทกุ วนั

- บรจิ าคทรพั ยเ์ พอ่ื เป็นคา่ อาหารในโรงทานสาหรบั คนยากจนไร้
ทพ่ี ง่ึ ทกุ วนั

ฯลฯ
เพราะทาบุญมากในลกั ษณะอย่างน้ี ทาใหม้ อี ยู่ช่วงหน่ึง ท่าน
เศรษฐกี ารเงนิ ตดิ ขดั ไม่คล่องตวั หมุนเงนิ ไม่ทนั เน่ืองจากเงนิ ท่มี คี น

ชาดกวา่ ดว้ ยเรือ่ งผีๆ | ๕๖

หยบิ ยมื ไปทาการค้าขายประมาณ ๑๘ โกฏิ พอครบกาหนดสญั ญาแล้ว
ยงั ไม่นามาคืนก็มี รวมทงั้ เงนิ ประจาตระกูลท่ฝี ังเก็บไว้ท่ีรมิ ฝัง่ แม่น้า
จานวนตงั้ ๑๘ โกฏิ กถ็ ูกน้าเซาะตลง่ิ พงั จมหายไปกบั สายน้าอกี ทาให้
เงนิ ท่ีมอี ยู่ไม่เพียงพอร่อยหรอลงไป แม้จะอยู่ในสถานการณ์ติดขดั
เช่นน้ี ท่านเศรษฐกี ย็ งั ไม่หยุดทาบุญ แต่ไม่สามารถทาบุญดว้ ยสง่ิ ของท่ี
มคี ุณภาพเหมอื นแต่ก่อนได้ สุดทา้ ย แมแ้ ต่ขา้ วท่นี ามาหุงถวายพระก็
ยงั ต้องใช้ข้าวปลายเกวยี น(ข้าวสารหกั เป็นเม็ดเล็กๆ) กบั ขา้ วก็เหลือ
เพยี งแค่ผกั ดอง ท่านเศรษฐีเองก็ทานอาหารในลกั ษณะน้ีเช่นกนั ได้
กราบเรยี นใหพ้ ระสงฆท์ ม่ี ารบั ภตั ตาหารทราบตามตรงว่า ไม่สามารถท่ี
จะจดั ถวายอาหารรสประณีตเหมอื นแตก่ อ่ นได้ เน่อื งจากไม่มเี งนิ พอท่จี ะ
จดั หามา พระบางรูปท่ยี งั เป็นปุถุชนอยู่ ไม่อาจทนฉันอาหารปอน ๆ
ลักษณะน้ีได้ หลีกไปรับบิณฑบาตในตระกูลอ่ืนท่ีถวายอาหารรส
ประณตี กว่ากม็ ี

เทวดามิจฉาทิฏฐิได้ช่อง คิดวา่ เศรษฐีต้องเช่ือตนแน่ๆ

เม่อื ทราบว่า ท่านเศรษฐอี ยู่ในสถานการณ์ย่าแย่การเงนิ ตดิ ขดั
เช่นน้ี เทวดามจิ ฉาทฏิ ฐทิ ่สี งิ สถติ อยู่ซุ้มประตูบานท่ี ๔ ของบ้านท่าน
เศรษฐี คดิ ว่า “โอกาสของเรามาถึงแล้ว แต่ก่อนเราไม่กล้าบอกให้
เศรษฐีเลิกทาบุญ เพราะท่านเศรษฐอี ยู่ในฐานะท่รี ่ารวยพรงั่ พร้อมทุก
อย่างและฝักใฝ่ในการทาบุญเหลอื เกนิ พูดไปกค็ งไม่เช่อื ฟัง แต่ตอนน้ี

๕๗ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ตกอบั ฐานะย่าแย่ เจอสถานการณ์จรงิ ไดร้ บั ความลาบากอย่างน้ี ตอ้ ง
เช่อื เราแน่ ๆ” เม่อื มนั่ ใจเกนิ รอ้ ยอย่างน้ี ตกกลางคนื จงึ เขา้ ไปยงั
หอ้ งนอนของเศรษฐแี ละลอยอยใู่ นอากาศปรากฏรา่ งใหเ้ ศรษฐเี หน็

ท่านเศรษฐีไม่แสดงอาการตกใจแต่ประการใด ถามข้ึนด้วย
น้าเสยี งราบเรยี บว่า “นนั่ ใครหรอื ”

เทวดา “ท่านมหาเศรษฐี ขา้ พเจา้ เป็นเทวดาผสู้ งิ สถติ อยู่ท่ซี ุ้ม
ประตูบานท่ี ๔ ในเรอื นของท่าน”

เศรษฐี “ท่านมธี รุ ะอะไรกบั ขา้ พเจา้ หรอื ”
เทวดา “ขา้ พเจา้ มา เพอ่ื ตอ้ งการเตอื นทา่ น”
เศรษฐี “เชญิ พดู เถดิ ทา่ นเทวดา”
พอเศรษฐใี หโ้ อกาส เทวดามจิ ฉาทฏิ ฐกิ ใ็ ชว้ าทกรรมทเ่ี ตรยี มมา
อย่างดี กล่าวชกั ชวนโน้มน้าวใจใหเ้ ศรษฐเี ลกิ ทาบุญว่า “ท่านเศรษฐี
ทา่ นรตู้ วั ไหมวา่ ทาไมท่านจงึ ตกอยใู่ นสภาพย่าแยอ่ ย่างน้ี ทงั้ หมดน้ีเป็น
เพราะท่านทาบุญกบั พระสมณโคดมและพระสาวกมากเกนิ ไป ทาบุญ
กบั พระพวกน้ีแล้วท่านได้อะไรบ้าง ไม่เหน็ มปี ระโยชน์อะไรเลย มแี ต่
ทาให้ฐานะท่านแย่ลงทุกวนั เวลาประสบกบั ความลาบากเช่นน้ี พระ
พวกน้ีช่วยอะไรท่านไดไ้ หม เลกิ ทาบุญเถอะท่านเศรษฐี แลว้ ฐานะท่าน
กจ็ ะกลบั ดขี น้ึ เหมอื นเดมิ บางทอี าจจะเจรญิ รุง่ เรอื งกวา่ เก่ากไ็ ด”้
ท่านเศรษฐี “น่เี ป็นโอวาททท่ี ่านใหแ้ ก่ขา้ พเจา้ หรอื ”

ชาดกวา่ ดว้ ยเร่ืองผๆี | ๕๘

เทวดาตอบด้วยความภาคภูมใิ จในวาทกรรมของตนว่า “ใช่จ๊ะ
ท่านเศรษฐ”ี

ท่านเศรษฐผี ู้มศี รทั ธาตงั้ มนั่ ไม่หวนั่ ไหวในการทาบุญกล่าวกบั
เทวดาว่า

“น่ีเทวดาผู้มดื บอด คนเช่นท่านจะมจี านวนมากเป็นร้อย เป็น
พนั เป็นแสน กไ็ มส่ ามารถทาใหข้ า้ พเจา้ หวนั่ ไหวได้ ทา่ นไดก้ ลา่ วคาอนั
ไม่สมควร ขา้ พเจา้ ไม่ชอบใจคาพูดของท่าน ความคดิ ของท่านไม่ตรง
กบั ขา้ พเจา้ และศรทั ธาของขา้ พเจา้ กไ็ ม่ตรงกบั ท่าน เราทงั้ สองไม่ควร
อยู่ในบ้านหลังเดียวกันอีกต่อไป ข้าพเจ้าไม่ต้องการเห็นท่าน ไม่
ต้องการฟังคาพูดของท่าน ขอท่านจงออกไปจากซุ้มประตูเรอื นของ
ขา้ พเจา้ เถดิ อย่ามาใหข้ า้ พเจา้ เหน็ หน้าอกี เลย”

เทวดาไดย้ นิ เศรษฐพี ดู เช่นนนั้ รสู้ กึ ตกใจมาก หน้าชาไปหมด ทา
อะไรไมถ่ กู ทาไมมนั กลบั ตาลปัตรเชน่ น้ี สงิ่ ทค่ี าดหวงั ไวไ้ มเ่ ป็นดงั่ ใจคดิ
จิตรุ่มร้อนถอนหายใจเพราะถูกไล่หนี ประหน่ึงมอี สนีบาตฟาดลงบน
ใบหน้า คดิ เสยี ดายภายหลงั วา่ ไมน่ ่าหาเร่อื งเลยเรา โธ่!

กลายเป็นเทวดาเรร่ อ่ นหาที่อยไู่ มไ่ ด้

เม่อื ถูกเจา้ ของบา้ นซ่งึ เป็นถงึ อรยิ บุคคลชนั้ โสดาบนั ออกปากไล่
เทวดามจิ ฉาทฏิ ฐิก็ไม่สามารถท่จี ะอยู่ท่ซี ุ้มประตูบา้ นเศรษฐตี ามเดมิ ได้
ต้องหอบห้วิ ลูกน้อยออกไปแสวงหาท่ีอยู่ใหม่ แต่ท่ีอ่ืนๆ ก็มีผู้จบั จอง

๕๙ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

หมดแล้ว กลายเป็นเทวดาสมั ภเวสเี ร่ร่อนไปเร่อื ย ๆ หาท่อี ยู่เป็นหลกั
แหล่งไม่ได้ ไดร้ บั ความลาบากอย่างสาหสั เรม่ิ สานึกผดิ ว่า “เราไม่น่าใช้
วาทกรรมเช่นนนั้ กบั ท่านเศรษฐเี ลย” จงึ คดิ หาวธิ ที จ่ี ะใหท้ ่านเศรษฐอี ด
โทษใหเ้ พ่อื กลบั ไปอย่ทู ซ่ี ุม้ ประตูเหมอื นเดมิ ลาพงั ตนเองจะไปขอโทษ
ท่านเศรษฐคี งไม่ยกโทษให้ จงึ เขา้ ไปหาเทวดาทม่ี ศี กั ดใิ ์ หญ่กว่าเพ่อื ขอ
ความช่วยเหลอื ใหบ้ อกเศรษฐอี ดโทษแกต่ น

อนั ดบั แรก เทวดามจิ ฉาทฏิ ฐิตนน้ีไดเ้ ขา้ ไปหาเทวดารกั ษาพระ
นคร เลา่ ความผดิ ทต่ี นกระทาตอ่ เศรษฐใี หฟ้ ังแลว้ ขอรอ้ งว่า “ท่านใตเ้ ทา้
ช่วยข้าหน่อยเถอะ ข้ากับลูกน้อยไม่มีท่ีอยู่เป็นหลักแหล่ง ลาบาก
เหลอื เกนิ ท่านช่วยพาขา้ พเจ้าไปหาเศรษฐี ขอรอ้ งเศรษฐใี ห้อภยั แก่
ขา้ พเจา้ แลว้ ใหท้ อ่ี ยเู่ หมอื นเดมิ ด้วยเถดิ ”

เทวดาประจาพระนครตอบว่า “ขา้ พเจา้ เหน็ ใจท่านนะ แต่กไ็ ม่
อาจจะช่วยเหลืออะไรได้ เพราะท่านได้กล่าวคาไม่เหมาะสมกบั ท่าน
เศรษฐจี รงิ ๆ ขา้ พเจา้ ละอายต่อการกระทาของท่าน ขอท่านจงไปหา
เทวดาทม่ี ศี กั ดใิ ์ หญก่ วา่ ขา้ พเจา้ เถดิ ”

ต่อมา เทวดามจิ ฉาทฏิ ฐเิ ขา้ ไปหาเทวดาท่เี ป็นท้าวมหาราชทงั้
๔ ก็ได้รบั การปฏิเสธในทานองเดยี วกนั กบั เทวดาประจาพระนคร จึง
ตดั สนิ ใจเข้าไปหาท้าวสกั กะเทวราช จอมเทพ เล่าเร่อื งทงั้ หมดให้ฟัง
แล้วกราบทูลขอร้องดว้ ยท่าทีน่าสงสารว่า “ขา้ แต่เทพเจ้าผู้สูงสุด ขา้

ชาดกวา่ ดว้ ยเรอ่ื งผๆี | ๖๐

พระองคไ์ ม่มที ่พี ่งึ อ่นื หวงั พระองค์เป็นทพ่ี ง่ึ สุดท้ายแลว้ โปรดช่วยขา้
พระองคก์ บั ลูกน้อยดว้ ยเถดิ ขอพระองคช์ ว่ ยบอกเศรษฐยี กโทษ แลว้ ให้
ขา้ พระองคก์ บั ลูกๆ ไดก้ ลบั เขา้ ไปอาศยั อยู่ท่ซี ุ้มประตูบ้านท่านเศรษฐี
เหมอื นเดมิ ดว้ ยเถดิ ”

ท้าวสกั กะมองดูเทวดาด้วยความเหน็ ใจ ตรสั ว่า “ท่านเทวดา
แม้เราเองก็ไม่อาจกล่าวกะเศรษฐีเพราะเร่อื งของท่านได้เช่นเดียวกนั
แต่เรามอี ุบายวธิ อี ย่างหน่งึ แนะนาท่าน”

ไดฟ้ ังทา้ วสกั กะตรสั ใหค้ วามหวงั เช่นน้ี เทวดาใจช้นื ขน้ึ มาทนั ที
กราบทลู ทา้ วสกั กะว่า “โปรดตรสั บอกแก่ขา้ พระองคเ์ ถดิ พระเจา้ ขา้ ”

ท้าวสกั กะทรงแนะเทวดาทาคณุ ไถโ่ ทษ

ท้าวสักกะตรัสแนะอุบายวิธีว่า “มี ๓ เร่ืองท่ีท่านต้องใช้
อานุภาพของเทวดาทาเพอ่ื ไถโ่ ทษ คอื

๑. จงแปลงเพศเป็นเสมยี นบญั ชขี องเศรษฐี ถอื สญั ญากูเ้ งนิ ไป
ทวงหน้ที พ่ี วกพอ่ คา้ หยบิ ยมื ไปประมาณ ๑๘ โกฏิ นากลบั
คนื มาใหแ้ กเ่ ศรษฐี

๒. จงนาทรพั ยป์ ระจาตระกูลของเศรษฐที จ่ี มหายไปกบั สายน้า
ประมาณ ๑๘ โกฏิ มาคนื ใหแ้ ก่เศรษฐี

๓. จงนาทรพั ย์ทห่ี าเจา้ ของไม่ได้ประมาณ ๑๘ โกฏิ ในท่โี น้น
มาใหแ้ กเ่ ศรษฐี

๖๑ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ท่านจงรวบรวมทรพั ย์ทงั้ ๓ ส่วนน้ีมาใส่ให้เตม็ ห้องคลงั ของ
เศรษฐตี ามเดมิ ครนั้ ทากรรม ๓ อย่างน้ีไถ่โทษสาเรจ็ แลว้ จงึ ค่อยเขา้
ไปขอขมาโทษท่านเศรษฐเี ถดิ ”

เทวดาผู้หลงผดิ ดใี จมาก กล่าวขอบพระคุณท้าวสกั กะท่ีแนะ
อบุ ายวธิ ใี ห้ แลว้ ไดท้ าตามทท่ี า้ วสกั กะบอกทกุ อยา่ ง บรรจหุ อ้ งคลงั ของ
เศรษฐใี หเ้ ตม็ ดว้ ยทรพั ย์ ๕๔ โกฏติ ามเดมิ เสรจ็ แลว้ ตกเทย่ี งคนื ไดเ้ ขา้
ไปหาท่านเศรษฐี ทาหอ้ งให้สว่างไสวประหน่ึงตอนกลางวนั ลอยอยู่ใน
อากาศปรากฏร่างใหเ้ ศรษฐเี หน็

ท่านเศรษฐเี หน็ แลว้ ถามวา่ “นนั่ ใครหรอื ”
เทวดา “ขา้ พเจา้ เป็นเทวดาผู้มดื บอด ทเ่ี คยสงิ สถติ อย่ซู ุม้ ประตู
บานท่ี ๔ ในเรอื นของท่าน ข้าพเจ้ามาขอให้ท่านอดโทษให้ คาใดท่ี
ขา้ พเจา้ เคยกล่าวกบั ท่านเพราะความโง่เขลา ขอท่านจงอดโทษคานัน้
แก่ขา้ พเจา้ ดว้ ยเถดิ ขา้ พเจา้ ไดท้ าทณั ฑกรรม(ทาคุณไถ่โทษ)ดว้ ยการ
รวบรวมทรพั ย์ ๕๔ โกฏิ มาบรรจุไวเ้ ตม็ หอ้ งเปล่าในเรอื นของท่าน ตาม
พระบญั ชาของทา้ วสกั กะ ขา้ พเจา้ ออกจากบา้ นท่านแลว้ ไม่ไดท้ อ่ี ยแู่ ห่ง
อ่ืน ประสบความลาบากมาก ตอนน้ีข้าพเจ้าสานึกผิดแล้ว ขอท่าน
เศรษฐจี งยกโทษใหแ้ ก่ขา้ พเจา้ ดว้ ยเถดิ ”

ชาดกวา่ ดว้ ยเร่ืองผๆี | ๖๒

ท่านเศรษฐคี ดิ ในใจว่า “เทวดาน้ีได้ทาคุณไถ่โทษและสานึกผดิ
แล้ว สมควรท่เี ราจกั แสดงเทวดาน้ีต่อพระสมั มาสมั พุทธเจ้า” จึงนา
เทวดานนั้ ไปเขา้ เฝ้าพระพุทธเจา้ กราบทลู เร่อื งราวทงั้ หมดใหท้ รงทราบ

เทวดาหมอบศรี ษะลงแทบพระบาทของพระพุทธเจา้ กราบทูล
ว่า “ขา้ แต่พระองคผ์ ู้เจรญิ ขา้ พระองค์ไม่ทราบพระคุณทงั้ หลายของ
พระองค์ ไดก้ ล่าวคาล่วงเกนิ อนั ไม่เหมาะสมใดต่อพระองค์ เพราะความ
โง่เขลาเบาปัญญา ขอพระองคจ์ งทรงยกโทษคานนั้ แก่ขา้ พระองคด์ ว้ ย
เถดิ ” พดู เสรจ็ กท็ ลู ขอใหพ้ ระพุทธองคท์ รงอดโทษให้ แล้วใหอ้ นาถบณิ
ฑกิ เศรษฐยี กโทษใหท้ หี ลงั

องค์สมเด็จพระสัมมาสมั พุทธเจ้าได้ประทานโอวาทแก่ท่าน
เศรษฐแี ละเทวดา ทรงชใ้ี หเ้ หน็ วบิ ากของกรรมดแี ละกรรมชวั่ วา่

“คนทาชวั่ ในโลกน้ี ย่อมเหน็ กรรมชวั่ ว่าดี ตราบทกี่ รรมชวั่ ยงั ไม่
ใหผ้ ล แต่เมอื่ ใดกรรมชวั่ ทเี่ ขาทาใหผ้ ล เมอื่ นนั้ เขาย่อมเหน็ กรรมชวั่ ว่า
ชวั่ จรงิ ๆ ฝ่ายคนทาดี ย่อมเหน็ กรรมดวี ่าชวั่ ตราบทกี่ รรมดยี งั ไม่ใหผ้ ล
แตเ่ มอื่ ใดกรรมดที เี่ ขาทาใหผ้ ล เมอื่ นนั้ เขายอ่ มเหน็ กรรมดวี ่าดีจรงิ ๆ”

พระคาถาผลของกรรมดีและกรรมชวั ่

ปาโปปิ ปัสสะตี ภทั รงั ยาวะ ปาปัง นะ ปัจจะติ
ยะทา จะ ปัจจะติ ปาปัง อะถะ (ปาโป) ปาปานิ ปัสสะติ
ภทั โรปิ ปัสสะตี ปาปัง ยาวะ ภทั รงั น ปัจจะติ

๖๓ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ยะทา จ ปัจจะตี ภทั รงั อะถะ (ภทั โร) ภทั รานิ ปัสสะตตี ิ
“คนทาชวั่ ย่อมเห็นกรรมชวั่ ว่าดี ตลอดเวลาท่ีกรรมชวั่ ยงั ไม่
ใหผ้ ล แต่เมอ่ื ใดกรรมชวั่ ใหผ้ ล เมอ่ื นนั้ คนทาชวั่ ย่อมเหน็ กรรม
ชวั่ วา่ ชวั่ จรงิ ๆ สว่ นคนทาดยี อ่ มเหน็ กรรมดวี ่าชวั่ ตลอดเวลาท่ี
กรรมดยี งั ไม่ให้ผล แต่เม่อื ใดกรรมดใี ห้ผล เม่อื นัน้ คนทาดี
ย่อมเหน็ กรรมดวี ่าดจี รงิ ๆ”
พอจบเทศนา เทวดาได้บรรลุโสดาปัตติผล ดารงตนเป็น

สมั มาทิฏฐิ และได้กลบั ไปอยู่ท่ซี ุ้มประตูบ้านเศรษฐตี ามเดิมตงั้ แต่นัน้
เป็นตน้ มา

ชาดกวา่ ดว้ ยเร่อื งผีๆ | ๖๔

๖๕ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

(๓)

ชาดกวา่ ดว้ ยเรอ่ื งผีๆ | ๖๖

สาหรบั การใหข้ องท่านอนาถบณิ ฑกิ เศรษฐกี จ็ ดั เป็น “สามที าน”
เช่นกนั เพราะเป็นเจา้ นายของการให้ ไม่ถูกควบคุมครอบงาดว้ ยกเิ ลส
มอี สิ ระในตนเอง แมย้ ามตกทุกขไ์ ดย้ าก กย็ งั ทาบุญอย่างสม่าเสมอ ไม่
มใี ครสามารถโน้มน้าวชกั นาไปในทางทผ่ี ดิ ได้ น่ีคอื การใหท้ ม่ี มี าตรฐาน
ระดบั สงู

๖๗ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ชาดกวา่ ดว้ ยเร่อื งผๆี | ๖๘



จองเวรจองกรรม พทุ ธธรรมช่วยปัดเป่ า

ทนเหน็ คนอ่ืนดีกว่าไม่ได้
ทนเหน็ คนอื่นมคี วามสขุ สมหวงั กว่าไมไ่ ด้
ทนเหน็ คนอ่ืนเด่นดงั มีผ้นู ิยมชมชอบกว่าไมไ่ ด้
ทนเหน็ คนอื่นประสบความสาเรจ็ เจริญก้าวหน้ากว่าไม่ได้

น่ีคือท่ีมาของกิเลสตัวใหญ่ในใจมนุษยท์ ่ีเรียกว่า “ความอิจฉา
ริษยา” เม่อื เกิดขนึ้ แก่ใครแลว้ จะทาลายคณุ ค่าความเป็นมนษุ ยข์ องผูน้ นั้
ใหส้ ญู สิน้ ไป เร่มิ ตน้ จากเผาไหมภ้ ายในใจตนเองก่อนแลว้ ลกุ ลามไปสกู่ าร
ทาลายคนอ่นื

๖๙ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ความอิจฉารษิ ยาเป็นลกั ษณะอยา่ งหน่ึงของอารมณโ์ กรธข่นุ เคือง
ภายในใจ เป็นความคบั แคบทางจิตใจ เพราะไม่ไดถ้ กู อบรมหลอ่ เลยี้ งดว้ ย
เมตตาธรรมและส่ิงดีงามทงั้ หลาย คนท่ีอิจฉาริษยาคนอ่ืน ถา้ ยังอยู่แค่
ภายในใจ ก็จะทาใหผ้ ูน้ นั้ มีอารมณเ์ ร่ารอ้ นเผาไหมท้ าลายใจตนเองก่อน
เป็นอันดับแรก แต่ถ้าได้ลงมือปฏิบัติการด้วย ก็จะนาไปสู่การทาลาย
เบยี ดเบียนกล่นั แกลง้ บคุ คลท่ีตนอิจฉารษิ ยา เม่อื ฝ่ายนนั้ ถกู กระทา ก็ยอ่ ม
เกิดความไม่พอใจกระทาตอบโตต้ ามระดบั ความรุนแรงท่ีตนไดร้ บั จากอีก
ฝ่าย เกิดวฏั จกั รแห่งการเบียดเบียนทาลายลา้ งซ่งึ กนั และกนั ผูกอาฆาต
พยาบาท เป็นเจา้ กรรมเป็นนายเวรของกันและกนั ไม่มีท่ีสิน้ สดุ ดงั เร่ืองท่ี
จะเล่าต่อไปนี้ แทบไม่น่าเช่ือว่า จากความอิจฉาริษยาตัวเดียวจะนาไปสู่
การจองเวรจองกรรมขา้ มภพขา้ มชาติกนั ไดข้ นาดนี้ และแต่ละชาติก็เป็น
การทาลายลา้ งกันขนั้ รุนแรงถึงขนาดปลิดชีพของอีกฝ่ าย เรามาดูกนั ว่า
ตน้ ตอของความอจิ ฉารษิ ยาท่ีนาไปสกู่ ารหา้ ห่นั กนั ขา้ มภพขา้ มชาตินนั้ เกิด
จากอะไร

แม่หาเมยี ใหล้ กู

ครอบครวั กุฎมุ พีฐานะร่ารวยครอบครวั หนึ่งอาศยั อยู่ดว้ ยกนั สาม
ชีวิตคือ บิดา มารดา และบุตรชาย ทัง้ สามใชช้ ีวิตอย่างมีความสุขตาม

ชาดกวา่ ดว้ ยเรื่องผีๆ | ๗๐

ประสาพ่อแม่ลูก จนกระท่ังเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายสิบปี บิดาก็ได้
เสียชีวิตลงดว้ ยโรคชราตามกฎแห่งไตรลักษณท์ ่ีไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ภาระหนา้ ท่ีต่าง ๆ ทัง้ ในบา้ นและนอกบา้ นตกอยู่ในความรบั ผิดชอบของ
ลกู ชายไดส้ านต่องานท่ีบิดาทาไว้ รวมทงั้ การดูแลปรนนิบตั ิมารดาซ่ึงอยู่
ในวยั ชราเชน่ กนั

แมว้ ่าลกู ชายจะทาหนา้ ท่ีของตนเองในการดแู ลแม่อย่างดีไม่ขาด
ตกบกพร่อง แต่เน่ืองจากมีงานท่ีจะต้องรบั ผิดชอบมาก ไม่ค่อยมีเวลา
เท่าไหร่ ทาใหแ้ ม่อยู่บา้ นคนเดียวค่อนขา้ งเหงาตามประสาคนแก่ จึงมี
ความคิดจะหาเมียใหก้ บั ลกู ชาย เพราะอยากอมุ้ หลานไวเ้ ป็นเพ่อื นเลน่ แก้
เหงาสักหน่อย ประกอบทั้งบุตรชายเองก็เป็นหนุ่มฉกรรจ์อยู่ในวัย
เหมาะสมท่ีจะมีภรรยาไดแ้ ลว้ แต่งงานเสรจ็ ภรรยาก็จะไดม้ าช่วยกนั ดแู ล
กิจการภายในครอบครัวแบ่งเบาภาระของลูกชายอีกแรง จึงนาความ
ตอ้ งการนไี้ ปบอกใหล้ กู ชายทราบ

ลกู ชายแมจ้ ะเป็นหนุ่มรูปหล่อนิสยั ดีมีสาวๆ มาชอบก็หลายคน
แต่ยงั ตอ้ งการครองชีวิตโสดอยู่ ยังไม่อยากมีครอบครวั ใหเ้ ป็นภาระ กลวั
จะไม่มีเวลาใหแ้ ละทาหน้าท่ีสามีในฐานะหัวหน้าครอบครวั ไดไ้ ม่ดีพอ
เพราะตัวเองมีงานท่ีจะตอ้ งรบั ผิดชอบมากทงั้ ท่ีนาและท่ีบา้ น เม่ือไดฟ้ ัง

๗๑ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

แม่แจง้ ความประสงคใ์ หท้ ราบ ก็รีบหา้ มทนั ทีว่า “แม่ครบั ผมยงั ไม่อยาก
แต่งงานตอนนีค้ รบั ขอเวลาผมอีกหน่อยเถอะ แม่ไม่ตอ้ งกลัวลาบาก
หรอก ผมจะดแู ลแม่เอง” เป็นอนั ว่าเรอ่ื งนีต้ อ้ งยตุ ิไวก้ ่อน

พอเวลาผ่านไปไดส้ กั พกั แม่ก็เขา้ มารบเรา้ ขอใหล้ กู ชายแต่งงาน
อีก ลกู ชายซ่งึ คิดคนละอย่างกบั แม่ก็หา้ มไวเ้ หมือนเดิม เป็นอย่างนีห้ ลาย
ครง้ั ทาใหแ้ ม่รูส้ ึกหงุดหงิดอยู่ในใจ จนทนไม่ได้ ในท่ีสดุ ก็ย่ืนคาขาดว่า
“แมไ่ ม่ฟังลกู แลว้ เดีย่ วแม่จะไปขอลกู สาวบา้ นโนน้ มาให”้ ตดั สนิ ใจน่งุ ห่ม
เสือ้ ผา้ ทาท่าจะออกจากบา้ นไปขอสาวใหล้ กู ชาย

ลกู ชายเห็นดงั นนั้ ดว้ ยความเป็นลกู กตญั ญู และไม่สามารถท่ีจะ
ขดั ใจแมไ่ ดอ้ ีกต่อไป จงึ รอ้ งถามวา่ “แม่ครบั แมจ่ ะไปขอสาวบา้ นไหนให้
ผมครบั ” แมก่ ็บอกบา้ นท่ตี นจะไปขอสาวใหล้ กู ชายทราบ

ความจริงแลว้ ลูกชายมีสาวหมายปองกาลังดูใจกันอยู่คนหนึ่ง
เหมือนกนั ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แลว้ จะแต่งงานทงั้ ที ขอแต่งกบั สาวท่ีตนชอบ
ดีกว่า ก็เลยบอกแม่ว่า “แม่ครบั ถา้ แม่จะหาสาวมาใหผ้ มจรงิ ๆ ก็ไปขอ
ลกู สาวบา้ นโนน้ ใหผ้ มแลว้ กนั ” ฝ่ายแม่ไม่ขดั ขอ้ งอย่แู ลว้ จะเป็นสาวคน
ไหนบา้ นไหนก็ได้ ขอใหล้ กู ชายแต่งงานมหี ลานใหช้ ่ืนใจก็พอแลว้ จงึ ไปขอ
สาวคนท่ลี กู ชายตอ้ งการมาใหแ้ ต่งงานกนั ตามประเพณี

ชาดกวา่ ดว้ ยเรอ่ื งผีๆ | ๗๒

หลังจากแต่งงานเสร็จ คุณแม่ได้แต่น่ังนับวันเวลารอคอยว่า
เม่ือไหร่ลูกสะใภจ้ ะตั้งทอ้ งมีหลานใหอ้ ุม้ เสียที สามเดือนผ่านไปก็แลว้
หกเดือนผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึน้ เกา้ เดือนก็ยงั ไม่ตงั้ ทอ้ งเสียที เอ๊ะ ชัก
ยงั ไงซะแลว้ จึงใหห้ มอมาตรวจรา่ งกายดู ในท่สี ดุ กท็ ราบวา่ ท่ลี กู สะใภไ้ ม่
ตั้งทอ้ งซะทีนัน้ ก็เพราะนางเป็นหญิงหมัน ไม่สามารถใหก้ าเนิดบุตรได้
ความหวงั ของคณุ แมท่ ่วี าดหวงั ไวพ้ งั ทลายลงทนั ทีท่ไี ดร้ ูเ้ ร่อื งนี้

เวลาผ่านไปไดส้ กั ระยะ คณุ แม่มีความคิดจะหาหญิงสาวคนใหม่
มาใหล้ กู ชาย โดยใหเ้ หตผุ ลวา่ “ครอบครวั ท่ไี ม่มีลกู กไ็ ม่มีทายาทสบื สกลุ
ถา้ หมดยคุ เราไป ทุกอย่างก็จบสิน้ ไม่มีเชือ้ สายสืบสานต่อ” ลกู ชายได้
ยิน ก็ไดแ้ ต่หา้ มปรามว่า “เอาไวก้ ่อนเถอะครบั แม่ น่ีผมเพิ่งแต่งงานยงั ไม่
ถึงปีดีเลย แม่ก็จะหาสาวคนใหม่มาใหผ้ มแต่งอีกซะแลว้ เมียผมเขาจะ
คดิ ยงั ไงหละครบั ”

เมียหาเมียใหมใ่ ห้ผวั

แมล่ กู ปรกึ ษากนั เร่ืองนีห้ ลายครง้ั จนกระท่งั หญิงหมนั ภรรยาของ
ลูกชายผ่านมาได้ยิน คิดในใจว่า “ยังไงๆ ลูกชายก็ไม่อาจฝืนความ
ตอ้ งการของแม่ได้ สกั วนั คงตอ้ งยอมใหแ้ ม่หาหญิงสาวคนใหม่มาใหแ้ น่ ๆ
ถา้ หญิงคนใหม่นนั้ มา ไม่เป็นหมัน สามารถใหก้ าเนิดบุตรได้ คงจะพากนั

๗๓ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

เห่อเด็กนอ้ ยน่าดเู ลย ถึงตอนนนั้ เราก็คงหมดความหมาย คงใชง้ านเรา
หนักเหมือนหญิงรบั ใชแ้ น่เลย ไหน ๆ เราก็ไม่สามารถใหก้ าเนิดบุตรแก่
ครอบครวั นีไ้ ด้ เราจะขออาสาไปหาหญิงคนใหม่มาใหส้ ามีเองซะเลย
อย่างนอ้ ย ๆ พวกเขาคงจะเห็นความดคี วามชอบเราบา้ งหละ”

สองแม่ลกู รูส้ ึกแปลกใจอย่ไู ม่นอ้ ย ท่ีเห็นนางขออาสาจะหาหญิง
คนใหม่มาใหเ้ อง แต่คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน เพราะเหตุผลหนึ่งท่ีลกู
ชายไม่กลา้ ตามใจแม่ใหห้ าหญิงคนใหม่มาใหก้ ็เพราะเกรงใจเมยี กลวั ว่า
ถา้ มาอยู่ดว้ ยกนั แลว้ จะทะเลาะกัน เขา้ ตาราท่ีว่าเมียสองตอ้ งหา้ ม แต่น่ี
เมยี อาสาจะหาหญิงมาใหเ้ อง กเ็ ลยไมข่ ดั ขอ้ ง นางคงจะคดั เลือกหญิงท่ีมี
อปุ นสิ ยั ไปกนั ไดก้ บั เธอน่นั แหละ ทงั้ แม่และลกู ชายจึงตอบตกลงทนั ที

เม่ือไดร้ บั ฉันทานุมตั ิอย่างเป็นทางการในภารกิจหาหญิงสาวคน
ใหม่ใหก้ ับสามีตัวเองแลว้ นางก็ไปเท่ียวสืบเสาะหาว่ามีครอบครวั ไหน
บา้ งมีลกู สาวพอท่ีจะมาร่วมสามีกับเธอได้ ไปเจอเขา้ กับครอบครวั หน่ึง
จึงเขา้ ไปหาพ่อแม่ของหญิงสาวคนนนั้ แลว้ แจง้ ความประสงคใ์ หท้ ราบว่า
ตอ้ งการลกู สาวไปใหส้ ามีตวั เอง

คนในครอบครัวนั้นแปลกประหลาดใจยิ่งนัก ไม่เคยเจอเรื่อง
ทานองนีม้ าก่อน มีดว้ ยหรือภรรยาหาหญิงสาวคนอ่ืนให้กับสามีของ

ชาดกวา่ ดว้ ยเร่ืองผีๆ | ๗๔

ตัวเอง นางจึงชีแ้ จงเพิ่มเติมว่า “คณุ ลุงคณุ ป้าค่ะ ครอบครวั นีม้ ีฐานะดี
ครอบครวั หนงึ่ เชียวนะ แต่ฉนั เป็นหญิงหมนั ไมส่ ามารถใหก้ าเนิดบุตรแก่
ครอบครวั นไี้ ด้ พวกเขาอยากมที ายาทไวส้ ืบสกลุ ถา้ ลกู สาวของคณุ ลงุ
คณุ ปา้ สามารถใหก้ าเนิดบตุ รแก่ครอบครวั นีไ้ ด้ ก็จะไดเ้ ป็นเจา้ ของสมบตั ิ
ทงั้ หมด คิดดแู ลว้ กนั ว่าจะสบายแค่ไหน โปรดยกลกู สาวใหส้ ามีฉนั เถอะ
คะ” ดว้ ยวาทศิลป์ ขนั้ สุดยอดของนาง ในท่ีสดุ ก็สามารถเกลีย้ กล่อมให้
พอ่ แมข่ องหญิงสาวคนนนั้ ยินยอมยกลกู สาวใหก้ บั สามีของนางจนได้

ตอนนี้ หนุ่มทายาทกุฎุมพีผู้มีฐานะ ไม่รู้ว่าฟ้าลิขิตหรือกรรม
บันดาลทาใหเ้ ขามีภรรยาตัง้ สองคน ทั้งท่ีตอนแรกไม่อยากแต่งงานเสีย
ดว้ ยซา้ แต่ทุกอย่างก็ไดเ้ กิดขึน้ แลว้ ในคมั ภีรไ์ ม่ไดร้ ะบุว่าภรรยาทงั้ สอง
นนั้ ช่ืออะไรบา้ ง เพ่อื ไม่ใหเ้ กิดความสบั สนในการอ่าน ผเู้ ขียนขอสมมติตงั้
ช่ือภรรยาทงั้ สอง ดงั นี้

ภรรยาคนแรก เป็นหมนั ไม่สามารถใหก้ าเนิดบตุ รได้ ขอตงั้ ช่อื ว่า
วัญฌา (แปลว่า หญิงหมนั )

ภรรยาคนท่ีสอง ไม่เป็นหมนั สามารถใหก้ าเนิดบุตรได้ ขอตงั้ ช่ือ
วา่ นิวัญฌา (แปลวา่ หญิงไม่เป็นหมนั )

๗๕ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

เมยี หมายเลข ๑ วางยาเมียหมายเลข ๒

มาถึงตอนนี้ สมาชิกในครอบครวั มีเพิ่มขึน้ เป็น ๔ คน คือ แม่
ลกู ชาย และภรรยาของลกู ชายทงั้ สอง (นางวญั ฌากับนิวญั ฌา) อยู่กนั
มาไดส้ ักระยะหนึ่ง ไม่รูว้ ่าแม่และลูกชายเอาใจภรรยาคนท่ีสองนาง
นิวญั ฌามากไปหรือเปลา่ ทาใหน้ างวญั ฌาภรรยาคนแรกเกิดความกังวล
ใจขึน้ มาวา่ “ถา้ นางนิวญั ฌานสี้ ามารถใหก้ าเนิดลกู ไม่วา่ จะเป็นหญิงหรือ
ชายกต็ ามแก่ครอบครวั นไี้ ดจ้ รงิ ๆ ก็จะไดค้ รองสมบตั ใิ นตระกลู นแี้ ตเ่ พียง
ผูเ้ ดียว ถ้าเวลานั้นมาถึง เราก็คงมีสภาพเป็นแค่หมาหัวเน่าท่ีมาเกาะ
ชายคาบา้ นนอี้ ย่เู ป็นแน่”

เอาแลว้ สิ เจา้ ตวั อิจฉาริษยาว่ิงมาจากทางไหนก็ไม่รูผ้ ่านเขา้ ไป
ในใจของนางวัญฌาโดยไม่ได้รบั เชิญ แต่ก็ไดแ้ สดงบทบาทมีอิทธิพล
เหนือการควบคมุ ของนางซะแลว้ นางคิดว่า “ไม่ไดก้ ารแลว้ งานนี้ เราจะ
ยอมใหน้ างนิวัญฌาเป็นท่ีโปรดปรานครองสมบัติแต่เพียงผูเ้ ดียวไม่ได้
ตอ้ งตัดไฟเสียแต่ต้นลม เราจะจัดการโดยวิธีทาให้นางไม่สามารถให้
กาเนดิ บตุ รได”้

เม่ือคิดเช่นนนั้ เธอจึงแกลง้ เขา้ มาตีสนิทเป็นพิเศษ เอาอกเอาใจ
สารพัด พูดคาอ่อนคาหวานเพ่ือให้นางนิวัญฌาเกิดความตายใจว่า

ชาดกวา่ ดว้ ยเร่อื งผีๆ | ๗๖

“นอ้ งนิวญั ฌาจ๊ะ พวกเรามนั หวั อกเดียวกนั คงเคยทาบุญรว่ มกนั มาแต่
ชาติปางกอ่ นแนเ่ ลย จงึ ไดม้ ามีสามคี นเดยี วกนั นอ้ งมปี ัญหาอะไรกบ็ อกพ่ี
ไดน้ ะ พ่ีจะช่วยเหลือนอ้ งทุกอย่างเลย โดยเฉพาะเวลาท่ีนอ้ งตงั้ ครรภไ์ ป
ไหนมาไหนไม่สะดวก อย่าทางานหนัก เด่ียวจะมีผลกระทบต่อลูกใน
ครรภ์ ถึงตอนนนั้ อย่าลืมบอกพ่ีคนแรกเลยนะ พ่ีจะทางานทุกอย่างแทน
นอ้ งเอง หา้ มเกรงใจเป็นอนั ขาดนะจะ๊ ”

นางนิวญั ฌาผูอ้ ่อนต่อโลก รูไ้ ม่ทนั เลห่ เ์ หลี่ยม ไดใ้ หค้ วามไวเ้ นือ้
เช่ือใจนางวญั ฌาทกุ อย่าง เพราะในช่วงนนั้ นางวญั ฌาเองกไ็ ดแ้ สดงออก
ถึงความเป็นคนมีนา้ ใจคอยจดั หาอาหารคาวหวานมาใหน้ างนิวญั ฌากิน
อย่เู ป็นประจา ไปไหนมาไหนก็มีของมาฝาก จนเธอแอบช่ืนชมเมียหลวง
อย่ใู นใจวา่ นางช่างเป็นคนท่มี ีนา้ ใจประเสรฐิ อะไรเช่นนี้

เม่อื ไวเ้ นอื้ เช่ือใจกนั ขนาดนี้ มอี ะไรก็ตอ้ งเลา่ ใหฟ้ ัง ไม่ไดเ้ ฉลยี วใจ
แมส้ กั นิดเดียวว่า นางวญั ฌาคือศตั รูตัวฉกาจท่ีจะมาทาลายอนาคตของ
เธอกับลูกอย่างไม่น่าให้อภัย ทันทีท่ีนางตั้งครรภ์ ก็รีบมาบอกให้นาง
วัญฌาทราบ นางวัญฌาพอรูข้ ่าวว่านางนิวัญฌาตั้งครรภ์ ก็เนียนสุดๆ
เช่นกนั ทาเป็นดีอกดีใจพดู ว่า “ดีจงั เลย นอ้ งรกั ต่อไปเราจะมีทายาทสบื

๗๗ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

สกุลกนั แลว้ เด็กออกมาตอ้ งน่ารกั เหมือนนอ้ งแน่เลย เพราะนอ้ งเป็นคน
สวยน่”ี มหี ยอดคาหวานใหเ้ คลิบเคลมิ้ อีกต่างหาก

ทุกอย่างเป็นไปตามแผนท่ีนางวัญฌาวางไว้ พอไดโ้ อกาส นาง
วัญฌาก็แอบใส่ยาท่ีกินแลว้ ทาใหแ้ ทง้ ลูก(เป็นลกั ษณะยาขับเลือด)ผสม
เขา้ ไปในอาหารแลว้ นาไปใหน้ างนิวญั ฌากิน นางนิวญั ฌากล่าวขอบคณุ
เสรจ็ ก็กินอาหารนนั้ ดว้ ยความเอร็ดอรอ่ ย ไม่สงสยั แต่อย่างใด เพราะโดย
ปกติ นางวัญฌาก็นาอาหารมาใหก้ ินแบบนีเ้ ป็นประจาอยู่แลว้ เธอช่าง
เป็นนักฆ่าเลือดเย็นเสียน่ีกระไร ไม่แสดงอาการพิรุธใหค้ นในครอบครวั
เห็นหรือจบั ผิดไดเ้ ลยแมแ้ ตน่ ิดเดยี ว จนกระท่งั นางนิวญั ฌาแทง้ ลกู คนแรก

ทุกคนเศรา้ โศกเสียใจกันหมด โดยเฉพาะแม่ผัว ตอ้ งผิดหวงั อีก
ครงั้ ไม่นึกว่าเรื่องอย่างนีจ้ ะเกิดขึน้ ได้ ต่างก็คิดว่าคงเป็นเหตุบงั เอิญ
มากกว่า เพราะน่ีเป็นการตั้งครรภล์ ูกคนแรกของนางนิวัญฌา อะไรก็
เกดิ ขนึ้ ได้ จาตอ้ งตดั ใจทงิ้ จากสิ่งท่สี ญู เสยี ไป เพ่ือเร่มิ ตน้ ชีวติ ใหม่

ดา้ นนางวัญฌาก็ทาเป็นรอ้ งใหเ้ สียใจเดินเข้าไปสวมกอดนาง
นิวัญฌา พูดปลอบขวัญใหก้ าลงั ใจว่า “นอ้ งนิวัญฌาจ๊ะ ลูกของน้องก็
เหมือนลกู ของพ่ี พ่เี สยี ใจดว้ ยจรงิ ๆ แต่ยงั ไงกถ็ ือว่าฟาดเคราะหก์ ็แลว้ กนั
อย่ามวั เศรา้ โศกอยู่เลย เสียแลว้ ก็เสียไป ขอใหเ้ ร่ิมตน้ ใหม่ นอ้ งอายุยัง

ชาดกวา่ ดว้ ยเรอ่ื งผๆี | ๗๘

นอ้ ยอยู่ ยงั สามารถใหก้ าเนิดลกู อีกได้ คราวหนา้ ตอ้ งระวงั ใหม้ ากกว่านี้
พอรูว้ ่าตงั้ ครรภข์ อใหน้ อ้ งรีบมาบอกพ่ีทนั ทีเลยนะ พ่ีจะหาอาหารพิเศษ
ประเภทบารุงครรภม์ าใหก้ ิน ลกู ออกมาจะไดแ้ ข็งแรง” ดลู ีลาเนียนของ
นางวญั ฌาท่ีแสดงออกแลว้ ไม่รูว้ ่าเครื่องจบั เท็จสมยั ปัจจุบนั จะสามารถ
ใชไ้ ดก้ ับเธอหรือเปล่า สามียืนอยู่ใกลๆ้ แมจ้ ะอยู่ในอารมณเ์ ศรา้ แต่ก็
รูส้ กึ ประทบั ใจท่ไี ดเ้ หน็ ภาพภรรยาทงั้ สองรกั ใครป่ รองดองชว่ ยเหลือเกือ้ กูล
กนั เชน่ นี้

ตอ่ มาไมน่ านนกั นางนิวญั ฌากต็ งั้ ครรภใ์ หมเ่ ป็นครง้ั ท่ีสอง คราว
นีเ้ ธอตงั้ ใจว่าจะระมดั ระวงั กว่าครงั้ ก่อนใหม้ าก ทงั้ เรื่องอาหารการกินและ
หลีกเล่ียงการทางานหนกั ท่ีจะมีผลกระทบต่อครรภท์ ุกชนิด เพ่ือจะไม่ให้
เหตกุ ารณเ์ ช่นนนั้ เกดิ ขึน้ ซา้ อีก และดว้ ยความไวเ้ นือ้ เช่ือใจก็รีบนาข่าวดีนี้
ไปบอกใหน้ างวัญฌาทราบและขอรอ้ งใหช้ ่วยจดั หาอาหารบารุงร่างกาย
ใหด้ ว้ ย นางวัญฌาก็ทาเหมือนอย่างท่ีเคยทาในครงั้ แรก จนกระท่งั นาง
นิวัญฌาแทง้ ลูกคนท่ีสอง คนในครอบครัว ครงั้ แรกว่าเสียใจมากแลว้
ครงั้ ท่ีสองยงิ่ เสียใจมากกว่าอีกเป็นเท่าตวั แตก่ ไ็ มร่ ูว้ ่าจะทายงั ไงดี ไดแ้ ต่
ปลอบขวญั ใหก้ าลงั ใจกนั ไปตามเร่อื ง

๗๙ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

หญิงผูค้ นุ้ เคยเฉลยคาตอบ ใครอยู่เบอื้ งหลงั การแท้งลูก

พวกหญิงท่ีคุน้ เคยคบคา้ สมาคมและหวังดีกับนางนิวัญฌา พอ
ทราบข่าวว่านางแทง้ ลูกคนท่ีสองก็เกิดความสงสัยเป็นอย่างย่ิงว่า "มัน
เป็นไปไดย้ ังไง หญิงสาวไม่เป็นหมัน ร่างกายแข็งแรงและอยู่ในวยั เจริญ
ครรภจ์ ะแทง้ ลกู ถงึ สองครงั้ ติดต่อกนั โดยปกติแลว้ ไม่นา่ จะเป็นไปได้ มนั
ตอ้ งมีอะไรผิดพลาดเกิดขึน้ อย่างแน่นอน ตอ้ งสืบสาวหาเหตใุ หไ้ ด"้ พอ
เจอหนา้ นางนวิ ญั ฌากเ็ ขา้ ไปสอบถามว่า “น่ีนิวญั ฌา ตอนตงั้ ครรภม์ ีใคร
ทารา้ ยหรือกล่นั แกลง้ อะไรเธอหรอื เปลา่ จ๊ะ”

นางนิวัญฌา “ไม่มีนะ คนในครอบครวั ดีกับนิวัญฌาหมดเลย
คะ่ ”

พวกหญิงท่ีคนุ้ เคยถามว่า “นางวญั ฌา หญิงร่วมสามีหละ ทา
อนั ตรายอะไรเธอไหม”

นางนิวัญฌา “โอ๊ยย พ่ีวัญฌาน่ันเหรอ เธอดีกับหนูจะตาย
ช่วยเหลือหนูทกุ อย่างเลย โดยเฉพาะเร่ืองขา้ วปลาอาหารก็ไดพ้ ่ีวัญฌาน่ี
แหละ่ จดั การให”้

พวกหญิงท่ีคุน้ เคยผูม้ ีประสบการณ์ผ่านรอ้ นผ่านหนาวมาก่อน
พอไดย้ ินนางนิวัญฌาพูดใหฟ้ ังเช่นนี้ ใคร่ครวญดู ก็พอมองเห็นสาเหตุท่ี

ชาดกวา่ ดว้ ยเรอ่ื งผีๆ | ๘๐

ทาใหน้ างแทง้ ลกู จึงกล่าวว่า “น่ีนิวญั ฌาผูโ้ ง่เขลาเอ๋ย เธอช่างอ่อนต่อ
โลกเหลือเกิน เธอรูไ้ หม คนท่ีทาใหเ้ ธอแทง้ ลูกก็คือนางวัญฌาน่ีแหละ
คงแอบใสย่ าขบั เลอื ดผสมกบั อาหารใหเ้ ธอกนิ แน่เลย”

นางนิวัญฌา “เป็นไปได้หรือค่ะ เมียหลวงเธอดีกับหนูมาก
ทาไมตอ้ งทาอย่างนดี้ ว้ ย”

พวกหญิงท่ีคนุ้ เคยกัน “ก็เพราะกลวั เธอจะเป็นใหญ่ครองสมบตั ิ
แต่เพียงผูเ้ ดียวในตระกูลนีไ้ ง ถ้าตั้งครรภ์ครั้งท่ีสาม อย่าบอกให้นาง
วญั ฌาทราบเป็นอนั ขาด”

นางนิวญั ฌาฟังคาพูดของพวกหญิงท่ีคนุ้ เคยกนั เหล่านนั้ แลว้ นา
กลบั มาคิดทบทวนว่า “จะจรงิ อย่างท่หี ญิงพวกนนั้ พดู หรอื เปลา่ นะ เพราะ
พ่ีวญั ฌาก็ดีกบั เราเหลือเกิน แต่คิดดแู ลว้ ก็ไม่มีเหตผุ ลอะไรท่ีพวกเขาจะ
ไปใสร่ า้ ยเมียหลวง เพราะไม่มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสียกบั ครอบครวั เราเลย เช่ือไว้
ก็ไม่ไดเ้ สียหายอะไรน่ี” เม่ือคิดไดเ้ ช่นนี้ พอนางตงั้ ครรภค์ รง้ั ท่ีสาม จึงไม่
บอกใหน้ างวญั ฌาทราบ จนกระท่งั ทอ้ งโตขนึ้ มา นางวญั ฌาจงึ รูเ้ รื่อง

นางวญั ฌาพอเห็นนางนิวญั ฌาทอ้ งโตขนึ้ ก็รบี เขา้ ไปถามดว้ ยลีลา
เนียนๆ เช่นเคยว่า “นอ้ งนิวญั ฌาจ๊ะ ทาไมไม่บอกใหพ้ ่ีทราบว่าตงั้ ครรภ์
หละจ๊ะ พ่ีจะไดช้ ว่ ยจดั หาอาหารและชว่ ยทางานอ่นื ๆ ให”้

๘๑ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

นางนิวัญฌา ตอนนี้รู้แล้วว่า คนท่ีทาให้เธอแท้งลูกก็คือนาง
วญั ฌาน่แี หละ่ ก็เลยตอบไปดว้ ยนา้ เสียงหว้ นๆ อย่างไมพ่ อใจว่า “แกไม่
ตอ้ งมาทาเป็นพดู ดีหรอก ตอนนีฉ้ ันรูเ้ รื่องทุกอย่างแลว้ แกน่ีแหละท่ีทาให้
ฉนั แทง้ ลกู ถงึ สองครงั้ ฉนั ไมน่ ึกเลยวา่ แกจะเลวขนาดนี้ แกเป็นคนขอฉัน
กับพ่อแม่นามาอยู่ท่ีน่ี แลว้ ทาไมมาทาอย่างนีก้ ับฉัน จิตใจแกทาดว้ ย
อะไร” เสียงตะวาดใส่ดว้ ยอารมณโ์ กรธเคืองของเธอดงั ล่นั ไปท่วั บรเิ วณ
นนั้ จนทาใหส้ ามีและแมส่ ามตี อ้ งรีบออกมาดู และทราบเรอ่ื งราวทงั้ หมดท่ี
เกิดขึน้ ทกุ คนไม่พอใจต่อการกระทาของนางวญั ฌาเป็นอย่างมาก ต่าง
ดา่ ทอตอ่ ว่าเธออย่างไมไ่ วห้ นา้ เพราะคาดไม่ถึงว่าเธอจะทาเร่ืองเลวทราม
บดั ซบไดข้ นาดนี้

อย่างไรก็ตาม สองแม่ลกู แมจ้ ะโกรธมากมายแค่ไหนก็ยงั พอมีสติ
ควบคมุ อารมณไ์ วไ้ ด้ ไม่ถึงขนาดลงไมล้ งมือทาอะไรรุนแรงต่อนางวญั ฌา
กลวั เรื่องจะบานปลายใหญ่โต เพราะทาไปก็ไม่สามารถเรียกรอ้ งสิ่งท่ี
สูญเสียไปแลว้ ใหก้ ลบั คืนมาได้ รงั แต่จะทาใหเ้ ป็นเป็นขีป้ ากชาวบา้ นไป
เปล่าๆ นอกจากไม่ทารา้ ยแลว้ ยงั ใหโ้ อกาสนางวญั ฌาไดแ้ กต้ ัวโดยยงั
ไม่ไล่ออกจากบา้ นไป เพราะถึงยังไงนางก็เป็นคนนานางนิวญั ฌามาอยู่
ท่ีน่ี มีความดีความชอบอยู่บา้ ง แต่ห้ามยุ่งเก่ียวจัดการเรื่องข้าวปลา

ชาดกวา่ ดว้ ยเรอื่ งผๆี | ๘๒

อาหารแก่นางนิวัญฌาอีก ใหไ้ ปทางานอย่างอ่ืนท่ีหนักกว่าเดิมเป็นการ
ทดแทนความผิด พิจารณาดแู ลว้ สองแม่ลกู ค่นู ีน้ บั ว่ามีพืน้ ฐานทางจิตใจ
ท่ดี ีงามน่าช่นื ชมทีเดยี ว

ทางดา้ นนางวัญฌา หลงั จากถูกจับไดว้ ่าเป็นผูอ้ ยู่เบือ้ งหลังการ
แทง้ ลกู ของนางนิวญั ฌา แทนท่ีจะสานึกตัวว่า ตนเองไดท้ าผิดพลาดไป
แลว้ ยงั ไดร้ บั โอกาสใหแ้ กต้ วั ไมถ่ กู ไลอ่ อกจากบา้ นไป ควรจะถือความผิด
นนั้ เป็นบทเรียนปรบั ปรุงเปลี่ยนแปลงตนเองใหด้ ีขึน้ เสียใหม่ แต่นางกลบั
เกิดความอาฆาตพยาบาทแรงขึน้ กว่าเดิมอีก ย่ิงเห็นภาพสามีเอาอกเอา
ใจนางนิวัญฌาท่ีกาลังทอ้ งด้วยความห่วงใย เดินไปไหนมาไหนก็คอย
ประคองดแู ลกนั แตต่ นเองถกู ปลอ่ ยใหอ้ า้ งวา้ งเดียวดาย ทาใหต้ ่อมอจิ ฉา
รษิ ยายง่ิ พลงุ่ พลา่ นเดอื ดดาลมากขนึ้ เกิดความนอ้ ยเนอื้ ต่าใจว่า “ตอนนี้
เราเหมือนหมาหัวเน่าของครอบครวั นีจ้ ริง ๆ ซะแลว้ ไม่มีใครอยากพูด
อยากคยุ ดว้ ย เดินไปไหนมามแี ต่คนระแวงสงสยั จบั กลมุ่ นนิ ทา ทงั้ หมดนี้
เป็นเพราะนางนิวัญฌาคนเดียว ถา้ ไม่มีมนั สกั คน โลกนีค้ งจะน่าอยู่ขึน้
เยอะ” น่ีแหล่ะคือจิตของคนขีอ้ ิจฉาริษยา แทนท่ีจะคิดว่าเร่ืองทั้งหมด
เกิดขนึ้ เพราะตนเอง กลบั ไปโทษคนอ่นื

๘๓ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ความอจิ ฉานาพาสู่ความพนิ าศ

คาพังเพยสุภาษิตไทยท่ีว่า “สี่เทา้ ยังรูพ้ ลาด นักปราชญ์ยังรู้
พลงั้ ” สามารถใชไ้ ดก้ บั สถานการณท์ ่จี ะเกิดขนึ้ ตอ่ ไปนี้

คนในครอบครวั ทงั้ สาม คือนางนิวญั ฌาเอง สามี และแม่สามี
เม่ือทราบสาเหตุของการแทง้ ลูกแลว้ ต่างช่วยกันประคับประคองดูแล
ครรภ์ของนางนิวัญฌาอย่างดี เฝ้าคอยระวังทุกอย่างเพ่ือไม่ให้เกิด
อันตรายทั้งจากอุบัติเหตุและตัวบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หา้ มร่วม
กิจกรรมทุกอย่างกับนางวญั ฌา หา้ มรบั ของกินของดื่มจากนางทุกชนิด
จนกระท่งั ทอ้ งโตขึน้ เร่ือย ๆ เม่ือวนั เวลาผ่านไป ยิ่งสรา้ งความหวงั ใหแ้ ก่
บคุ คลทงั้ สามรอคอยวนั ทารกนอ้ ยออกจากครรภม์ ารดาโดยปลอดภยั

ท่ามกลางการดูแลกันอย่างห่วงใยของบุคคลทัง้ สาม ย่ิงสรา้ ง
ความทุกขค์ วามเคียดแคน้ ใหแ้ ก่นางวัญฌามากขึน้ นางไม่อาจทนเห็น
ภาพความสขุ สมหวงั ท่ีจะเกิดขึน้ หลงั ทารกนอ้ ยถือปฏิสนธิได้ “ขนาดยัง
ไม่คลอดยังโอ๋กันขนาดนี้ ถ้าคลอดแลว้ จะเอาใจกันขนาดไหน ไม่ได้สิ
เราเป็นคนนานางนวิ ญั ฌามาอย่ทู ่นี ่ี มนั จะเป็นใหญ่กว่าเราไดไ้ ง มนั ตอ้ ง
เป็นลูกนอ้ งของเราสิ” ยิ่งคิดเธอย่ิงเจ็บปวด ย่ิงเห็นภาพอารมณเ์ ธอยิ่ง
เดือดดาลรอ้ นระออุ ย่ภู ายในใจ ต่อมอจิ ฉารษิ ยาเพมิ่ พนู ขึน้ เร่ือย ๆ จนไม่

ชาดกวา่ ดว้ ยเรือ่ งผีๆ | ๘๔

สามารถควบคมุ ตนเองใหอ้ ย่ใู นภาวะปกติท่ีควรจะเป็นได้ จึงนาไปสกู่ าร
คิดหาวิธีจัดการกับครรภข์ องนางนิวัญฌาอีกครง้ั เพ่ือใหค้ รรภต์ กไปไม่
สามารถคลอดทารกได้ เพราะนางไม่อาจทนเห็นภาพนนั้ ไดจ้ รงิ ๆ

คนเราแมจ้ ะเฝ้าระมัดระวังดีอย่างไรก็ตาม ก็ย่อมมีทีเผลอ ย่ิง
ศัตรูท่ีจ้องเล่นงานอยู่ในบ้านชายคาเดียวกันด้วยแล้ว โอกาสท่ีจะ
ระมดั ระวงั ใหไ้ ดห้ น่ึงรอ้ ยเปอรเ์ ซ็นตเ์ ป็นไปไดย้ ากมาก นางวญั ฌาอาศยั
โอกาสช่วงทีเผลอของบุคคลทงั้ สาม แอบใส่ยาขบั เลือดในอาหารใหน้ าง
นิวัญฌากินเพ่ือให้ครรภ์ตกไปอย่างท่ีเคยทา แต่อนิจจา!... คร้ังนีไ้ ม่
เหมือนสองครง้ั ท่ีผ่านมา เพราะครรภแ์ ก่จนทารกในทอ้ งเติบโตเป็นรูปรา่ ง
เด็กแลว้ ไม่ใช่เป็นแค่วนุ้ เลือดเหมือนสองครง้ั ท่ีผ่านมา ทาใหย้ าขบั เลือด
ไม่สามารถขบั ทารกนอ้ ยในครรภอ์ อกมาได้ แต่เคล่ือนยา้ ยจากจุดเดิมมา
นอนขวางชอ่ งคลอด เสียชีวติ ภายในทอ้ งน่นั เอง

นางนิวัญฌาไดร้ บั ทุกขเวทนาอย่างแสนสาหสั เน่ืองจากระบบ
การทางานภายในรา่ งกายป่ันป่วนไม่สามารถขบั เคลื่อนไปตามปกติ เลอื ด
ไม่หมนุ เวียน ระบบขบั ถ่ายของเสียไม่ทางาน เพราะถกู ขดั ขวางดว้ ยซาก
ของทารก การหายใจติดขดั รา่ งกายเจ็บปวดส่นั เทา ไม่มเี ร่ียวแรง เธอรู้
ดีว่าชีวิตของเธอจะอย่ไู ดอ้ ีกไม่นานและคนท่ีทาใหเ้ ธอไดร้ บั ความเจ็บปวด

๘๕ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

อย่างแสนสาหสั นีค้ ือใคร นางวญั ฌาน่นั เอง ความโกรธแคน้ อนั เกิดจาก
การถกู กล่นั แกลง้ ถกู กระทาอย่างไม่เป็นธรรมครงั้ แลว้ ครง้ั เลา่ โหมกระหน่า
ย่ายใี จเธอประหนึ่งพายรุ า้ ยอนั ทรงพลงั ท่ีจะพดั ทาลายทกุ สิ่งทุกอย่างท่ีขดั
ขวางทางพัดผ่าน เธอได้ผูกอาฆาตพยาบาทจองเวรจองกรรมต่อนาง
วญั ฌากอ่ นเสยี ชีวติ วา่

“ทาไมมึงต้องทากับกูถึงขนาดนีด้ ้วย กูไม่ได้ทาอะไรให้มึง
เลย มึงพากูมาอยู่ที่นี่ พูดให้ความหวังกับพ่อแม่ของกูว่าจะสบาย
อย่างนั้นจะมีความสุขอย่างนี้ แต่มึงกลับมาทาลายกู มึงทาให้ลูกกู
เสียชีวิตตัง้ ๓ ครัง้ แล้ว นี่มึงยังมาทากูให้เสียชีวิตอีก กูขอจองเวร
จองกรรมมึง ชาติหน้า ขอให้กูได้ไปเกิดเป็ นนางยักษิณี สามารถ
เคีย้ วกินมึงกับลูกๆ ของมึงได้ เหมือนอย่างที่มึงทากับกูในชาตินี้
ด้วยเถดิ ”

นางได้เสียชีวิตไปพร้อมกับแรงอาฆาตพยาบาทน่ันเอง คา
อธิษฐานด้วยจิตท่ีโกรธแค้นมุ่งจองเวรจองกรรมต่อศัตรูผู้ทาร้ายเธอ
สง่ ผลใหเ้ ธอตายไปบงั เกิดเป็นแมแ่ มวอย่ใู นบา้ นหลงั นนั้ น่นั เอง

ส่วนนางวัญฌา หญิงผู้ถูกความอิจฉาริษยาครอบงาจิตใจ
แยกแยะผิด ชอบ ช่วั ดี ไม่ออก จนนาไปส่กู ารทาช่วั เลวทรามแบบไม่น่า

ชาดกวา่ ดว้ ยเรื่องผๆี | ๘๖

ใหอ้ ภยั ก็ถูกสามีลากคอมาทุบตีดว้ ยความโกรธจดั พรอ้ มกับด่าทอดว้ ย
อารมณเ์ ดอื ดดาลวา่ “มงึ เลวมาก กอู ตุ สา่ หใ์ หโ้ อกาสมงึ แกต้ วั แลว้ ยงั ไม่
สานึกบาปอีก มึงทาลายครอบครวั กู ทาใหค้ รอบครวั กูไม่มีทายาทสืบ
สกลุ อยา่ อย่เู ลยมงึ ” ทงั้ เทา้ หมดั เขา่ ศอก รวั เขา้ ใสน่ างวญั ฌาอย่างไม่
ยงั้ รา่ งกายเธอบอบชา้ ระทมไปหมดทงั้ ตวั จนกระท่งั ทนความเจ็บปวดไม่
ไหว ขาดใจตายดว้ ยความทุกขท์ รมานตรงนนั้ เอง ไดไ้ ปเกิดเป็นแม่ไก่ใน
บา้ นหลงั นนั้ เชน่ กนั

เรื่องราวท่ีกล่าวมาทั้งหมดนี้ คือสาเหตุของความอิจฉาริษยาท่ี
นาไปสกู่ ารทาลายเบียดเบียนหา้ ห่นั กนั จองเวรจองกรรมกนั ขา้ มภพขา้ ม
ชาติของหญิงสองคน เลา่ มาถงึ ตรงนแี้ ลว้ ก็ไดแ้ ตป่ ลงสงั เวชว่า

ความอจิ ฉารษิ ยาพาพินาศ
ทาใหข้ าดยงั้ คิดไรเ้ หตผุ ล
ถืออารมณเ์ ป็นใหญ่ตามใจตน
จิตดนิ้ รนเรา่ รอ้ นอย่ภู ายใน

เป็นเหตใุ หท้ าช่วั ตอ่ คนอ่นื
ถา้ ไมฝ่ ืนจะไหลล่ืนสหู่ บุ เหว
คนธรรมดาจะกลายเป็นคนเลว

๘๗ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ใชช้ วี ิตแหลกเหลวไรท้ ิศทาง
ประหนง่ึ นางวญั ฌาผหู้ ลงผิด

ทาตามอานาจจิตขีอ้ ิจฉา
สดุ ทา้ ยกลายเป็นคนหมดราคา
ไรค้ ณุ ค่าสญู สิน้ ความเป็นคน

น่คี อื ผลของความขอี้ จิ ฉา
มนั นาพาใหจ้ ติ นนั้ มวั หมอง
ทาอะไรทกุ อยา่ งไม่ไตร่ตรอง
เป็นเหตตุ อ้ งจองเวรจองกรรมกนั
เพราะฉะนนั้ ทา่ นทงั้ หลายใหต้ ระหนกั
เหน็ ประจกั ษโ์ ทษภยั ใหห้ า่ งเหิน
ความอิจฉาเกิดขนึ้ อยา่ มวั เพลนิ
ลมุ่ หลงเดินตามนนั้ หม่นั ควบคมุ

ชาดกวา่ ดว้ ยเรื่องผๆี | ๘๘

จองเวรจองกรรม พทุ ธธรรมชว่ ยปัดเป่ า

หลงั จากชาตินนั้ มา หญิงทงั้ สองก็ผลดั กนั ฆ่าผลดั กนั ทาลายอีก
ฝ่ ายดว้ ยอานาจผูกเวรซ่งึ กนั และกนั ในอีกหลายชาติต่อมา พอท่ีจะสรุป
ได้ ดงั นี้

ชาตทิ ี่ ๑ วัญฌา* นิวัญฌา วัญฌาทาลายนิวญั ฌา
ชาติท่ี ๒ แม่ไก่ แม่แมว* แม่แมวทาลายแม่ไก่
ชาตทิ ่ี ๓ แมเ่ สือเหลือง* แม่เนอื้ แม่เสอื เหลืองทาลายแมเ่ นอื้
ชาติที่ ๔ กลุ ธิดา ยกั ษิณี* ยกั ษิณีทาลายกลุ ธิดา

แมแ่ มวเขมือบแมไ่ ก่

เม่ือแม่ไก่(วัญฌา) ตกฟองไข่ออกมาหลายฟองในบา้ นหลังนั้น
กาลงั จะฟักออกมาเป็นลูกเจี๊ยบ ก็ถูกแม่แมว(นิวัญฌา) ซ่ึงอาศยั อยู่ใน
บา้ นหลงั นนั้ เช่นกนั เขา้ มากินถึง ๓ ครงั้ แม่ไก่รูส้ กึ โกรธแคน้ ต่อแม่แมว
เป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถทาอะไรได้ เน่ืองจากกาลังสูแ้ มวไม่ไหว
ก่อนตาย แม่ไก่ไดผ้ ูกอาฆาตพยาบาทต่อแม่แมว ตงั้ ความปรารถนาว่า
“ไอแ้ มวจอมตะกละ มงึ มากนิ ฟองไขก่ ูถงึ ๓ ครง้ั แลว้ ตอนนี้ มงึ กอ็ ยาก

๘๙ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

กินกดู ว้ ย ชาติหนา้ ขอใหก้ ไู ดช้ าระแคน้ มึง มีโอกาสไดก้ ินมึงกบั ลกู ๆ ของ
มึงดว้ ยเถิด” ในชาตินี้ แม่ไก่ตายไปเกิดเป็นแม่เสือเหลือง ส่วนแม่แมว
ตายไปเกดิ เป็นแม่เนือ้

แม่เสอื เหลอื งขยา้ แม่เนือ้

ในเวลาท่ีแม่เนือ้ (นิวญั ฌา)คลอดลกู ก็ถกู แม่เสือเหลือง(วญั ฌา)
มากนิ ลกู ออ่ นถงึ ๓ ครง้ั จึงไดผ้ กู อาฆาตพยาบาทต่อแม่เสือเหลือง ก่อน
ตายไดต้ งั้ จิตอธิษฐานว่า “ลกู ๆ ของเรา ถูกแม่เสือเหลืองตวั นีม้ ากินถึง ๓
ครงั้ แลว้ ตอนนีม้ ันก็จะกินเราดว้ ย เกิดชาติหน้าขอใหเ้ ราไดเ้ อาคืนมัน
อย่างสาสมเหมือนอย่างท่ีมนั ทากับเราในชาตินีด้ ว้ ยเถิด” แม่เนือ้ ตายไป
เกิดเป็นนางยกั ษิณี สว่ นแม่เสือเหลืองตายไปเกิดเป็นนางกลุ ธิดาในเมอื ง
สาวตั ถี

ยักษิณไี ล่ลา่ นางกลุ ธดิ า

ในชาตนิ เี้ องท่ีหญิงทงั้ สองโชคดไี ดเ้ กิดในสมยั พทุ ธกาล และทาให้
การจองเวรจองกรรมขา้ มภพขา้ มชาติท่ีดาเนินมาไดส้ ิน้ สุดยุติลง โดยใช้
พุทธธรรมมาช่วยแกไ้ ขปัดเป่ า แต่กว่าท่ีจะไดพ้ บกับพระพทุ ธเจา้ หญิง
ทงั้ สองก็ยงั จองเวรจองกรรมกนั อยา่ งต่อเน่อื ง

ชาดกวา่ ดว้ ยเรื่องผๆี | ๙๐

การตงั้ ความปรารถนาของนางนิวญั ฌาในครงั้ แรกท่ีอธิษฐานว่า
ขอใหไ้ ดเ้ กิดเป็นนางยักษิณี เพ่ือเล่นงานนางวญั ฌา มาเป็นความจริงใน
ชาตินี้ สว่ นนางวญั ฌาไดเ้ กิดเป็นกลุ ธิดา(หญิงชาวบา้ นท่วั ไป)คนหนึ่งใน
ตัวเมืองสาวัตถี พอเจริญวัยก็ไดแ้ ต่งงานยา้ ยไปอยู่กบั ครอบครวั สามีซ่ึง
ตงั้ อยทู่ ่รี มิ ประตเู มอื ง ตอ่ มานางไดต้ งั้ ครรภค์ ลอดลกู ออกมาคนหนึง่ นาง
ยักษิณีก็จาแลงกายเป็นเพ่ือนรักของนางเข้ามาในหมู่บ้านนั้น ถาม
ชาวบา้ นวา่ “เพ่อื นหญิงของฉนั ช่ือนี้ อย่บู า้ นหลงั ไหนค่ะ”
เม่ือชาวบา้ นตอบว่า “อย่บู า้ นหลงั โนน้ ตอนนีน้ างกาลงั คลอดบุตร ไปหา
เธอสิ”
นางยกั ษิณีก็แสรง้ พดู ว่า “ดีจงั ไม่รูว้ ่า เพ่ือนรกั ของฉนั คลอดลกู เป็นชาย
หรือหญิงนะ? เดีย่ วตอ้ งรบี ไปดหู ลานก่อน ขอบคณุ มากค่ะ”

นางยักษิณีรีบตรงด่ิงไปเรือนหลงั ท่ีชาวบา้ นบอก ขณะนัน้ นาง
กุลธิดากาลงั นอนพกั ฟื้นจากการคลอดบุตรอย่กู บั ทารกนอ้ ยเพียงสองคน
เท่านนั้ สามีออกไปทางานนอกบา้ น นางยกั ษิณีเขา้ ไปในหอ้ งของนาง
กุลธิดา กลา่ วแนะนาตวั ว่าเป็นญาติฝ่ายสามี ทาเป็นมองดแู ละเล่นหยอก
ลอ้ กบั เด็ก พอไดโ้ อกาสก็จบั เด็กกินเป็นอาหารแลว้ ก็จากไป ทาอย่อู ย่าง
นถี้ งึ สองครงั้ นางกลุ ธิดาจาเหตกุ ารณท์ ่เี กิดขนึ้ อยา่ งฝังใจ

๙๑ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ครง้ั ท่ีสาม นางกลุ ธิดา พอรูว้ ่าตงั้ ครรภแ์ ก่จวนจะคลอดแลว้ ก็ได้
บอกกบั สามีว่า “พ่อจ๊ะ สองครงั้ ท่ีผ่านมา ลูกของเราถูกนางยักษิณีตน
หน่ึงเขา้ มากินแลว้ ก็จากไป คลอดลกู ท่ีน่ีไม่ปลอดภยั คราวนี้ ขอกลบั ไป
คลอดท่ีบา้ นพ่อแม่นะจ๊ะ” สามีก็เห็นดีดว้ ย จึงพากนั เดินทางเขา้ ไปท่ีตวั
เมืองสาวตั ถีบา้ นพอ่ แมข่ องฝ่ายภรรยา

ในช่วงท่ีสองสามีภรรยาเดินทางกลับไปคลอดบุตรท่ีบา้ นพ่อแม่
ของฝ่ ายภรรยาน่ันเอง เป็นช่วงเดียวกับท่ีนางยักษิณีตนนั้นติดภาระใน
การตักนา้ จากสระอโนดาตมาถวายทา้ วเวสสุวัณ(พญายักษ์) ซ่ึงถือเป็น
ธรรมเนียมท่ีนางยักษิณีทุกตนต้องถือปฏิบัติตามวาระ ไม่สามารถ
หลีกเล่ียงได้ วาระหน่ึงๆ ก็ใชเ้ วลาประมาณ ๔ - ๕ เดือน ระหว่างนีเ้ อง
นางกลุ ธิดากส็ ามารถคลอดบตุ รไดอ้ ย่างปลอดภยั ไมม่ ีว่แี ววว่านางยกั ษิณี
จะมารบกวนเหมือนสองครง้ั ท่ีผ่านมา เธอเห็นว่าไม่มีอะไรน่ากงั วลแลว้
พอตั้งช่ือให้ทารกน้อยเสร็จ ก็ชวนสามีกลับบา้ นของตนเองท่ีริมประตู
เมือง เพราะไมอ่ ยากรบกวนพ่อแมไ่ ปมากกว่านี้ และอีกอย่างคือบา้ นของ
เธอปิดทงิ้ ไวน้ านแลว้ ไม่มใี ครอยู่ ก็เกรงว่าของในบา้ นจะสญู หาย

ช่วงท่ีสองสามีภรรยาเดินทางกลบั บา้ นน่นั เอง เป็นช่วงเดียวกบั ท่ี
นางยกั ษิณีครบกาหนดวาระส่งนา้ พอดี พอพน้ วาระ นางยกั ษิณีซ่งึ กาลงั

ชาดกวา่ ดว้ ยเรอื่ งผีๆ | ๙๒

หิวจัด ก็รีบตรงด่ิงมายังบา้ นของนางกุลธิดาทันทีเพ่ือหวังจะจบั เด็กกิน
เป็นอาหารเหมือนเช่นเคย แต่ตอ้ งผิดหวัง เพราะไม่มีใครอยู่เลย จึงถาม
ชาวบา้ นว่า “เพ่อื นรกั ของฉนั ท่อี ยบู่ า้ นหลงั นี้ ไปไหนเสียแลว้ หละ ทาไมไม่
มีใครอยใู่ นบา้ นเลย”

ชาวบา้ นตอบวา่ “น่เี ธอไมร่ ูเ้ รอื่ งอะไรเลยเหรอ สองครงั้ ท่ีผ่านมา
พอนางคลอดลกู ออกมา ก็ถูกยกั ษิณีตนหน่ึงมาจบั กินเป็นอาหาร นางคิด
ว่า คลอดท่นี ่ไี ม่ปลอดภยั จงึ ชวนสามีกลบั ไปคลอดท่ีบา้ นพ่อแม่ของนางท่ี
ตวั เมอื งสาวตั ถีโนน่ ”

นางยกั ษิณีคิดในใจว่า “ไม่ว่ามนั จะไปคลอดท่ีไหน ก็ไม่พน้ เงือ้ ม
มอื เราไปไดห้ รอก” จงึ ออกคน้ หาตามเสน้ ทางไปสตู่ วั เมืองสาวตั ถี

ฝ่ายสองสามีภรรยาเดินลดั เลาะผา่ นมาทางพระวิหารเชตวนั พบ
กบั สระนา้ แห่งหน่ึงขา้ งพระวิหาร คิดว่า “เดินทางมาเหน่ือยๆ เจอสระนา้
แบบนี้ ก็ขอลงอาบนา้ ใหช้ ่ืนใจหน่อยแลว้ กนั ” จึงใหภ้ รรยาลงอาบนา้ ก่อน
ส่วนสามีอมุ้ ทารกนอ้ ยคอยอย่บู นบก เม่ือภรรยาอาบเสรจ็ จึงผลดั เปล่ียน
ใหส้ ามีลงอาบนา้ บา้ ง ขณะท่ีนางกุลธิดากาลงั ยืนใหน้ มลูกคอยสามีอยู่
น่ันเอง ก็เห็นนางยักษิณีเดินมุ่งหน้าตรงมาหาเธอแต่ไกล เธอจาได้
แม่นยาว่า น่ีคือนางยักษิณีท่ีจับลูกเธอกินเป็นอาหารสองครงั้ ก่อนน่นั เอง

๙๓ | วิ ญ ญ า ณ ช า ด ก

ดว้ ยความกลวั จึงรอ้ งตะโกนเรียกสามีท่ีกาลงั อาบนา้ อยู่ใหร้ ีบขึน้ มาช่วย
“พ่ีๆ น่ีไงนางยักษิณีท่ีจับลูกเรากินเป็ นอาหาร ขึน้ มาช่วยเร็วๆ หน่อย”
เธอไม่อาจทนรอสามีขึน้ มาจากนา้ ได้ เพราะนางยกั ษิณีเขา้ มาใกลเ้ ต็มที
แลว้ จงึ อมุ้ ลกู ว่งิ หนบี ่ายหนา้ เขา้ ไปในพระวิหารเชตวนั

ขณะนั้น พระบรมศาสดาสมั มาสัมพุทธเจา้ กาลงั ทรงแสดงพระ
ธรรมเทศนาอยู่ท่ามกลางบริษัทพอดี นางกุลธิดาไดว้ ิ่งผ่านฝูงชนเขา้ ไป
ใกลๆ้ พระพุทธเจ้าแล้วไดว้ างทารกน้อยไวแ้ ทบพระบาทของพระองค์
กราบทลู ขอพ่งึ พระพทุ ธบารมีว่า

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ขอถวายบุตรนี้แด่
พระองค์ ขอพระองค์โปรดประทานชีวิตแก่บุตรของข้าพระองค์
ด้วยเถิด”

ฝ่ายยกั ษิณีท่ีไล่ล่าตามนางมาไม่สามารถเขา้ ไปขา้ งในพระวิหาร
ได้ เน่ืองจากถูกสุมนเทพบุตรท่ีสิงสถิตอยู่ท่ีซุ้มประตูวัดห้ามไว้
พระพทุ ธเจา้ รบั ส่งั ใหพ้ ระอานนทไ์ ปเรียกนางยกั ษิณีนนั้ เขา้ มาขา้ งในพระ
วหิ าร พระอานนทก์ ไ็ ดท้ าตามรบั ส่งั นนั้

นางกลุ ธิดา พอเห็นนางยกั ษิณีเดนิ เขา้ มาในวิหาร ดว้ ยความกลวั
จึงรบี กราบทลู ใหพ้ ระพทุ ธเจา้ ทรงทราบว่า “นางยกั ษิณีมา พระเจา้ ขา้ ”

พระพทุ ธเจา้ ตรสั ว่า “นางยกั ษิณีจงมาเถิด เจา้ อยา่ ไดก้ ลวั เลย”

ชาดกวา่ ดว้ ยเรอ่ื งผๆี | ๙๔


Click to View FlipBook Version