The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ เทอม 1 ม.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สุทธิราช วงศ์คำ, 2024-01-30 05:17:18

แผนการจัดการเรียนรู้ เทอม 1 ม.2

แผนการจัดการเรียนรู้ เทอม 1 ม.2

ใบกิจกรรม เรื่อง ระบบหายใจ


ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (นายภัทรจิตติ บุรีเพีย) ครูพี่เลี้ยง ........./......../......... ความคิดเห็นของผู้บริหาร .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (..................................................) ผู้บริหารสถานศึกษา ........./......../.........


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 (รายวิชาพื้นฐาน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว22101 รายวิชาวิทยาศาสตร์3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ระบบต่าง ๆ ของมนุษย์ จำนวน 21 ชั่วโมง เรื่อง ระบบกำจัดของเสีย จำนวน 3 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ระบบกำจัดของเสียทางไต จำนวน 2 ชั่วโมง สอนโดย นายสุทธิราช วงศ์คำ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 1.มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2.ตัวชี้วัด ม.2/4 ระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบขับถ่ายในการกำจัดของเสียทางไต 3.สาระสำคัญ ระบบกำจัดของเสียมีอวัยวะที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ โดยมีไตทำหน้าที่กำจัดของเสีย ประเภทยูเรีย แอมโมเนีย กรดยูริก รวมทั้งสารที่ร่างกายไม่ต้องการออกจากเลือด และควบคุมปริมาณน้ำในร่างกายให้ เหมาะสมโดยขับออกมาในรูปของปัสสาวะ ส่วนการกำจัดของเสียที่เป็นกากอาหารจะถูกขับออกทางลำไส้ใหญ่และ การกำจัดของเสียทางปอดจะถูกกำจัดออกจากร่างกายโดยกระบวนการหายใจ 4.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.นักเรียนสามารถระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบขับถ่ายในการกำจัดของเสียทางไต ทาง ผิวหนัง ทางลำไส้ใหญ่ และทางปอดได้ (K) 2.มีความสนใจ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน มีวินัย รับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A)


5.สาระการเรียนรู้ ความรู้ -ระบบการกำจัดของเสียทางไต -ระบบกำจัดของเสียทางผิวหนัง -ระบบกำจัดของเสียทางลำไส้ใหญ่ ทักษะ/กระบวนการ -การจัดกระทำและสื่อความหมายของข้อมูล -การลงความเห็นจากข้อมูล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ -มีวินัย -ใฝ่เรียนรู้ -มุ่งมั่นในการทำงาน 6.กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ 5 E ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1.นักเรียนทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับระบบหมุนเวียนที่ได้เรียนในคาบที่แล้ว 2.นักเรียนตอบคำถาม โดยมีคำถามดังนี้ -นักเรียนคิดว่าของเสียในร่างกายเกิดขึ้นได้อย่างไร (แนวคำตอบ ของเสียเกิดจาก กระบวนการเมแทบอลิซึมภายในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ซึ่งต้องการกำจัดออก) -ของเสียที่เกิดขึ้นในร่างกายมีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ เซลลูโลสหรือกากอาหารที่ย่อยไม่ได้ ยู เรีย เกลือแร่และน้ำที่มีปริมาณมากเกินพอ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์) -ร่างกายขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างไร (แนวคำตอบ ร่างกายขับของเสียด้วยระบบ กำจัดของเสียซึ่งจะกำจัดในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น เกลือแร่ น้ำ และยูเรียกำจัดออกในรูปของปัสสาวะโดยอาศัยไต ในการกำจัด)


ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) 1.นักเรียนศึกษาใบความรู้เกี่ยวกับการกำจัดของเสียในร่างกาย 2.ครูถามคำถามนักเรียน โดยมีคำถาม ดังนี้ -การกำจัดของเสียในรูปของเหลวนอกจากทางไตแล้วมีทางใดอีกบ้าง (แนวคำตอบ ทาง ผิวหนัง ในรูปของเหงื่อ) -การกำจัดของเสียในรูปของเหงื่อเป็นการกำจัดของเสียชนิดใด (แนวคำตอบ น้ำและเกลือ แร่) ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1.ครูอธิบายการกำจัดของเสียทางไตตามหนังสือเรียน 2.ครูอธิบายการกำจัดของเสียทางผิวหนังตามหนังสือเรียน ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1.ครูถามคำถามนักเรียน โดยมีคำถาม ดังนี้ -ร่างกายของคนไม่สามารถย่อยเซลลูโลสได้ ร่างกายมีการกำจัดอย่างไร (แนวคำตอบ กำจัด เซลลูโลสและกากอาหารออกมาในรูปของอุจจาระ) 2.นักเรียนศิกษาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดของเสียทางลำไส้ใหญ่ 3.นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารตามใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ระบบย่อยอาหาร ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1.นักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ที่ได้เรียนในวันนี้ 2.นักเรียนทำกิจกรรมตรวจสอบการเรียนรู้ 3.ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยใบงานที่ 3 7.สื่อการเรียนรู้ 1.ใบงานที่ 3 เรื่อง การกำจัดของเสียทางไต 2.ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ระบบย่อยอาหาร


8.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมิน 1.นักเรียนสามารถระบุ อวัยวะและบรรยายหน้าที่ ของอวัยวะในระบบ ขับถ่ายในการกำจัดของ เสียทางไต ทางผิวหนัง ทางลำไส้ใหญ่ และทาง ปอดได้ (K) 1.การตอบคำถาม ระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 2.นักเรียนทำใบงานที่ 1.3 เรื่อง การกำจัดของเสียทาง ไต 3.นักเรียนทำกิจกรรม ตรวจสอบการเรียนรู้ที่ 3 -คำถามเกี่ยวกับอวัยวะและ หน้าที่ของอวัยวะในระบบ กำจัดของเสีย -ใบงานที่ 3 เรื่อง การกำจัด ของเสียทางไต -กิจกรรมตรวจสอบการเรียนรู้ ที่ 1.3 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 2.มีความสนใจ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน มีวินัย รับผิดชอบต่องานที่ได้รับ มอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรมระหว่าง เรียนของนักเรียน -แบบประเมินคุณลักษณะอัน พึง ประสงค์ ระดับคุณภาพดี ผ่าน เกณฑ์


ใบกิจกรรม เรื่อง ระบบกำจัดของเสีย ชื่อ-นามสกุล.....................................................เลขที่...............ชั้นม.2/............... วันที่.......เดือน.................พ.ศ............. ตอนที่1 คำชี้แจง ให้นักเรียนพิจารณารูปภาพต่อไปนี้แล้วระบุส่วนประกอบให้ถูกต้อง


ตอนที่ 2 คำชี้แจง : ให้นักเรียนจับคู่ข้อความต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ..........1.หน้าที่ของไต ก.20 เซนติเมตร ..........2.ประโยชน์ของการตรวจปัสสาวะ ข.ทำหน้าที่กรองสาร ..........3.กำจัดของเสียทางผิวหนัง ค.เหงื่อ ..........4.ไตมีรูปร่างคล้ายกับอะไร ง.กระเพาะปัสสาวะ ..........5.กระเพาะปัสสาวะมีความจุเท่าใด จ.เมล็ดถั่วแดง ..........6.ความยาวของท่อปัสสาวะผู้ชาย ฉ.ประมาณ 180 ลิตร ..........7.เป็นกลุ่มหลอดเลือดฝอยพันกันเป็นก้อนกลม ช.ใช้ตรวจครรภ์และ สารเสพติด .........8.อยู่ในไตชั้นนอก เป็นส่วนที่มีลักษณะคล้ายถ้วย ฌ.โบว์แมนส์แคปซูล มีผนังบาง ๆ 2 ชั้น .........9.เป็นถุงที่เก็บสะสมน้ำปัสสาวะ ผิวด้านในมี ญ.ประมาณ 500 รอยย่น ลูกบาศก์เมตร ........10.ในแต่ละวันจะมีเลือดผ่านเข้ามาฟอกในไต ฎ.โกลเมอรูลัส เพื่อกรองประมาณเท่าใด


ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (นางสาวธันย์ชนก โพธิราช) ครูพี่เลี้ยง ........./......../......... ความคิดเห็นของผู้บริหาร .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (..................................................) ผู้บริหารสถานศึกษา ........./......../.........


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 (รายวิชาพื้นฐาน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว22101 รายวิชาวิทยาศาสตร์3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ระบบต่าง ๆ ของมนุษย์ จำนวน 21 ชั่วโมง เรื่อง ระบบกำจัดของเสีย จำนวน 3 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนนรู้ เรื่อง ความสำคัญของระบบกำจัดของเสีย จำนวน 1 ชั่วโมง สอนโดย นายสุทธิราช วงศ์คำ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 1.มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2.ตัวชี้วัด ม.2/5 ตระหนักถึงความสำคัญของระบบขับถ่ายในการกำจัดของเสียทางไต โดยการบอกแนวทางในการ ปฏิบัติตนที่ช่วยให้ระบบขับถ่าย ทำหน้าที่ได้อย่างปกติ 3.สาระสำคัญ ระบบกำจัดของเสียมีอวัยวะที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ โดยมีไตทำหน้าที่กำจัดของเสีย ประเภทยูเรีย แอมโมเนีย กรดยูริก รวมทั้งสารที่ร่างกายไม่ต้องการออกจากเลือด และควบคุมปริมาณน้ำในร่างกายให้ เหมาะสมโดยขับออกมาในรูปของปัสสาวะ ส่วนการกำจัดของเสียที่เป็นกากอาหารจะถูกขับออกทางลำไส้ใหญ่และ การกำจัดของเสียทางปอดจะถูกกำจัดออกจากร่างกายโดยกระบวนการหายใจ 4.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.นักเรียนสามารถบอกแนวทางในการปฏิบัติตนที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำหน้าที่ได้อย่างปกติได้(K) 2.นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของระบบขับถ่ายในการกำจัดของเสีย และมีความสนใจใฝ่เรียนรู้ มีวินัย มุ่งมั่นในการทำงาน และมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) 5.สาระการเรียนรู้ ความรู้ -การกำจัดของเสียทางปอด -วิธีดูแลรักษาระบบขับถ่าย


-โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบขับถ่ายและวิธีการดูแลรักษา ทักษะ/กระบวนการ -การจัดกระทำและสื่อความหมายของข้อมูล -การลงความเห็นจากข้อมูล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ -มีวินัย -ใฝ่เรียนรู้ -มุ่งมั่นในการทำงาน 6.กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ 5 E ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1.นักเรียนทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับระบบการกำจัดของเสียทางไต ทางผิวหนัง ทางลำไส้ใหญ่ ที่ได้ เรียนไปในคาบที่แล้ว 2. ครูเกริ่นนำถึงระบบหายใจเพื่อเชื่อมโยงเกี่ยวกับการกำจัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย 3.ครูถามคำถามนักเรียน โดยมีคำถาม ดังนี้ -ระบบขับถ่ายประกอบด้วยอวัยวะใด แต่ละอวัยวะมีลักษณะและหน้าที่อย่างไร (แนวคำตอบ ระบบ ขับถ่ายประกอบด้วยไตซึ่งมีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว สีแดง มีหน่วยไตทำหน้าที่กรองของเสียและสารต่าง ๆ ออกจาก เลือด ท่อไตมีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็กและยาวที่ต่อมาจากไตทั้ง 2 ข้าง ทำหน้าที่ลำเลียงปัสสาวะ กระเพราะปัสสาวะ มีลักษณะเป็นถุงขนาดใหญ่ที่สามารถยืดหยุ่นได้ ทำหน้าที่เก็บปัสสาวะ และท่อปัสสาวะมีลักษณะเป็นท่อที่ต่อมาจาก กระเพราะปัสสาวะทำหน้าที่ขับปัสสาวะออกสู่ภายนอกร่างกาย) ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) 1.ครูนำรูปไตของสัตว์บางชนิดเช่น วัว สุกร มาให้นักเรียนศึกษาโครงสร้างภายนอกและภายในของ ไต 2.ครูให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับการกำจัดของเสียทางปอด ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1.นักเรียนร่วมกันอภิปราย ภายในไตประกอบด้วยหน่วยไตจำนวนมาก ซึ่งหน่วยไตจะทำหน้าที่กรองของเสีย ออกจากเลือดและดูดสารที่มีประโยชน์กลับเข้าสู่เลือดอีกครั้ง 2.นักเรียนอธิบายเกี่ยวกับการกำจัดของเสียทางปอด 3.นักเรียนอธิบาย ไตเป็นอวัยวะสำคัญของระบบขับถ่าย หากไตทำงานหนักบกพร่องอาจทำให้เกิดโรค เช่น โรคไตวาย โรคนิ่ว


ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1.นักเรียนศึกษาโรคไตวายและโรคนิ่ว และการดูแลอวัยวะในระบบขับถ่ายจากใบความรู้ 2.นักเรียนตอบคำถาม โดยมีคำถาม ดังนี้ -โรคไตวายและนิ่วเกิดจากสาเหตุใด และมีวิธีการดูแลอย่างไร (แนวคำตอบ •โรคไตวายเกิดจากไต 2 ข้าง ไม่สามารถทำหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือดได้ ทำให้ไม่สามารถขับของเสียออกทางปัสสาวะได้ สามารถรักษา ได้โดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม หรือการปลูกถ่ายไต •โรคนิ่ว เกิดจากการจับตัวของแร่ธาตุและตกตะกอนเป็น ก้อนบริเวณไต ท่อไต และกระเพาะปัสสาวะ มีสาเหตุจากการสูญเสียเหงื่อมากและดื่มน้ำน้อย หรือรับประทานอาหาร ที่มีสารออกซาเลตสูง สามารถรักษาได้โดยการใช้ยา การผ่าตัด หรือการสลายนิ่วโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง -นักเรียนมีวิธีดูแลรักษาอวัยวะในระบบขับถ่ายอย่างไร (แนวคำตอบ เลือกรับประทานอาหาร โดย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด รสเผ็ดจัด และมีโปรตีนสูง ดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอเพื่อให้ไตไม่ทำงานหนักมาก เกินไป งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1.นักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ที่ได้เรียนในวันนี้ 2.นักเรียนทำกิจกรรมตรวจสอบการเรียนรู้ 3.นักเรียนถามปัญหาที่สงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาที่ได้เรียนมาเกี่ยวกับเรื่องระบบขับถ่าย 7.สื่อการเรียนรู้ 1.Power Point 2.รูปภาพไตของสุกร


8.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมิน 1.นักเรียนสามารถบอก แนวทางในการปฏิบัติตนที่ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำ หน้าที่ได้อย่างปกติได้(K) 1.การตอบคำถามระหว่าง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.นักเรียนทำกิจกรรม ตรวจสอบการเรียนรู้ที่ 1.4 -คำถามเกี่ยวกับวิธีการดูแล อวัยวะในระบบขับถ่าย วิธีการดูแลโรคที่เกี่ยวกับ ระบบขับถ่าย -กิจกรรมตรวจสอบการเรียนรู้ ที่ 1.4 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 2.นักเรียนตระหนักถึง ความสำคัญของระบบ ขับถ่ายในการกำจัดของ เสีย และมีความสนใจใฝ่ เรียนรู้ มีวินัย มุ่งมั่นในการ ทำงาน และมีความ รับผิดชอบต่องานที่ได้รับ มอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรมระหว่าง เรียนของนักเรียน -แบบประเมินคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ระดับคุณภาพดี ผ่าน เกณฑ์


ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (นางสาวภัทรจิตติ บุรีเพีย) ครูพี่เลี้ยง ........./......../......... ความคิดเห็นของผู้บริหาร .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (..................................................) ผู้บริหารสถานศึกษา ........./......../.........


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 (รายวิชาพื้นฐาน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว22101 รายวิชาวิทยาศาสตร์3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ระบบต่าง ๆ ของมนุษย์ จำนวน 21 ชั่วโมง เรื่อง ระบบประสาท จำนวน 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อวัยวะและหน้าที่ในระบบประสาท จำนวน 2 ชั่วโมง สอนโดย นายสุทธิราช วงศ์คำ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 1.มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2.ตัวชี้วัด ม.2/10 ระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะใน ระบบประสาทส่วนกลางในการควบคุม การทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย 3.สาระสำคัญ ระบบประสาทเป็นระบบที่มีความซับซ้อนและมีความสัมพันธ์กับทุกระบบในร่างกาย ระบบประสาท ส่วนกลางประกอบด้วยสมอง ทำหน้าที่ร่วมกับเส้นประสาท ซึ่งเป็นระบบประสาทรอบนอกในการควบคุมการทำงาน ของอวัยวะต่าง ๆ รวมถึงการแสดงพฤติกรรมเพื่อการตอบสนองต่อสิ่งเร้า 4.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.นักเรียนสามารถระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบประสาทส่วนกลาง ในการควบคุมการ ทำงานต่าง ๆ ของร่างกายได้ (K) 2.นักเรียนสามารถจำแนกความแตกต่างโครงสร้างสมองได้ (P) 3.นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A)


5.สาระการเรียนรู้ ความรู้ -ระบบประสาทส่วนกลาง -สมอง -ไขกระดูก -เซลล์ประสาท -การทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทักษะ/กระบวนการ -การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล -การจำแนกประเภท คุณลักษณะอันพึงประสงค์ -ใฝ่เรียนรู้ -มุ่งมั่นในการทำงาน 6.กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ 5 E ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1.นักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับเนื้อหาที่ได้เรียนในคาบที่ผ่านมา ตั้งแต่ระบบหายใจ ระบบหมุนเวียนเลือด และระบบขับถ่าย 2.นักเรียนดูรูปภาพของสมอง ไขสันหลัง และรูปของเซลล์ประสาท พร้อมกับตั้งคำถามกระตุ้นการ คิดว่า -นักเรียนรู้จักภาพที่ครูนำมาให้ดูหรือไม่ แล้วรูปภาพที่เห็นคืออะไร (แนวคำตอบ รู้จัก/ไม่ รู้จัก ตามรู้เดิมของนักเรียน) -จากรูปภาพนักเรียนคิดว่าการที่ร่างกายของเราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการ เรียนหนังสือ การออกกำลังกาย การคิดสิ่งต่าง ๆ นักเรียนคิดว่าเราต้องอาศัยอวัยวะใดบ้าง (แนวคำตอบ ต้องอาศัย อวัยวะทั้ง 3 อย่างนี้ คือ สมอง ไขกระดูก และเซลล์ประสาท) -แล้วนักเรียนคิดว่าเมื่ออวัยวะทั้ง 3 มาทำงานร่วมกัน มันจะเป็นระบบ ระบบหนึ่งของ ร่างกายเรา นักเรียนคิดว่าเราเรียกระบบนี้ว่าระบบอะไร (แนวคำตอบ ระบบประสาท) -นักเรียนคิดว่าระบบประสาทคืออะไร (ครูให้นักเรียนตอบเป็นรายบุคคล เพื่อดูแนวคิดของ นักเรียน) (แนวคำตอบ นักเรียนอาจจะตอบได้หรือไม่ได้ ครูจึงบอกว่า มาดูซิว่าสิ่งที่นักเรียนตอบนั้นถูกต้องหรือไม่ ครู จึงนำนักเรียนศึกษาเรื่องระบบประสาท)


ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) 1.นักเรียนฟังครูอธิบายความหมายของคำว่า ระบบประสาท และประเภทของระบบประสาท พร้อม บอกนักเรียนว่า เราทราบไปแล้วว่า ระบบประสาทของเรานั้นมีกี่ระบบ เราจะมาศึกษาระบบประสาทส่วนแรกก่อนนั้น คือ ระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งมีสมองและไขสันหลัง เป็นอวัยวะที่สำคัญ และที่บริเวณสมองและไขสันหลังนั้นยังมี เส้นประสาท หรือที่เรียกว่า เซลล์ประสาท แผ่ขยายออกไปมากมาย 2.นักเรียนเข้าศึกษาเรื่อง สมอง และถามคำถามนักเรียนว่า สมองแบ่งออกเป็นกี่ส่วน อะไรบ้าง (แนวคำตอบ 3 ส่วน เซรีบรัม เซรีเบลลัม และเมดัลลา ออบลองกาตา) 3.นักเรียนศึกษาเรื่อง ไขสันหลัง 4.นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นการคิดของนักเรียนว่า นักเรียนคิดว่าเซลล์ประสาทมีความสัมพันธ์ อย่างไรกับสมองและไขสันหลังที่เราเรียนจบไป 5.นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับ เซลล์ประสาท และการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1.นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมในเรื่อง ระบบประสาทส่วนกลาง สมอง ไขสันหลัง เซลล์ประสาท เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า แนวสรุป : ระบบประสาท คือ ระบบที่ทำหน้าที่ควบคุมและประสานการทำงานของระบบ ต่าง ๆ ของร่างกาย หน้าที่ของระบบประสาทมี 4 ประการ 1.รวบรวมข้อมูล 2.นำข้อมูลไปยังระบบประสาทกลางเพื่อทำการวิเคราะห์ 3.วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้มีการตอบสนองที่เหมาะสม 4.สั่งงานไปยังระบบต่าง ๆ ให้มีการตองสนองที่เหมาะสม สมองแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.เซรีบรัม คือ สมองส่วนหน้า ทำหน้าที่ควบคุมพฤติกรรมที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความรู้สึกและ อารมณ์ ความคิด ความจำ และความเฉลียวฉลาดเชื่อมโยงความรู้สึกต่าง ๆ เช่น การได้ยิน การมองเห็น การรับกลิ่น การรับรส และการสัมผัส 2.เมดัลลา ออบลองกาตา คือ ส่วนที่ติดอยู่กับไขสันหลัง ควบคุมการทำงานของระบบ ประสาทอัตโนวัติ เช่น การหายใจ การเต้นของหัวใจ การไอ การจาม การกระพริบตา ความดันเลือด 3.เซรีเบลลัม คือ สมองส่วนปลาย เป็นส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและการ ทรงตัว ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ เช่น การเดิน การวิ่ง


ไขสันหลัง เป็นเนื้อเยื่อประสาทที่ทอดยาวจากสมองไปภายในโพรงกระดูกสันหลัง กระแสประสาท จากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจะผ่านไขสันหลัง เซลล์ประสาท จำแนกตามหน้าที่การทำงานได้ 3 ชนิด คือ 1.เซลล์ประสาทรับความรู้สึก 2.เซลล์ประสาทประสานงาน 3.เซลล์ประสาทสั่งการ ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1.นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมในเรื่อง ความผิดปกติของระบบประสาท โดยตั้งคำถามกระตุ้นการคิด โดยมี คำถาม ดังนี้ -นักเรียนคิดว่าหากระบบประสาทเกิดความผิดปกติจะมีอาการอย่างไร (แนวคำตอบ ปวด ศีรษะ อาการชา หมดสติ ชัก) -นักเรียนคิดว่า อาการชัก เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาทอย่างไร (นักเรียน อาจจะตอบได้หรือไม่ได้) 2.นักเรียนฟังครูอธิบายว่า อาการชักนั้นเกิดจาก มีการหลั่งของสารสื่อประสาท และไม่มีสารใดที่จะ มายับยั้งสารสื่อประสาทเหล่านั้น ทำให้กระแสประสาทที่เกิดขึ้นเกิดการเคลื่อนที่อย่างเร็วและต่อเนื่อง ทำให้กล้ามเนื้อ ของเราไม่ได้เกิดการพัก จึงทำให้เกิดอาการชัก กล้ามเนื้อกระตุกนั้นเอง 3.นักเรียนตอบคำถาม โดยมีคำถาม ดังนี้ -นักเรียนคิดว่าคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะไปทำลายสมองส่วนใด (แนว คำตอบ สมองส่วนเซรีเบลลัม) 4.อธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อดื่มสุรา ฤทธิ์ของสุราจะเข้าไปออกฤทธิ์ต่อสมองส่วนเซรีเบลลัม ทำให้เรามี อาการเดินไม่ตรงทาง และไม่สามารถควบคุมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของร่างกายได้) ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1.นักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนในวันนี้ 2.นักเรียนทำใบงานที่ 4 เรื่อง สมอง 7.สื่อการเรียนรู้ 1.Power Point เรื่องระบบประสาท 2.ใบงานที่ 4 เรื่อง สมอง


8.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมิน 1.นักเรียนสามารถระบุ อวัยวะและบรรยายหน้าที่ ของอวัยวะในระบบ ประสาทส่วนกลาง ในการ ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายได้ (K) 1.การตอบคำถามระหว่าง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ -คำถามเกี่ยวกับอวัยวะและ หน้าที่ของอวัยวะในระบบ ประสาทส่วนกลาง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 2.นักเรียนสามารถจำแนก ความแตกต่างโครงสร้าง สมองได้ (P) 1.การตอบคำถามระหว่าง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.นักเรียนทำใบงานที่ 4 เรื่อง สมอง -คำถามเกี่ยวกับโครงสร้าง ของสมอง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 3.นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน มีความรับผิดชอบต่องานที่ ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรมระหว่าง เรียนของนักเรียน -แบบประเมินคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ระดับคุณภาพดี ผ่าน เกณฑ์


ใบกิจกรรม เรื่อง ระบบประสาท ชื่อ-นามสกุล.....................................................เลขที่...............ชั้นม.2/............... วันที่.......เดือน.................พ.ศ............. คำชี้แจง ให้นักเรียนพิจารณากิจกรรมต่อไปนี้ว่าเกิดจากการควบคุมของสมองส่วนใด เซรีบรัม เมดัลลา ออบลองกาตา เซรีเบลลัม


ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (นางสาวภัทรจิตติ บุรีเพีย) ครูพี่เลี้ยง ........./......../......... ความคิดเห็นของผู้บริหาร .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (..................................................) ผู้บริหารสถานศึกษา ........./......../.........


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 (รายวิชาพื้นฐาน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว22101 รายวิชาวิทยาศาสตร์3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ระบบต่าง ๆ ของมนุษย์ จำนวน 21 ชั่วโมง เรื่อง ระบบประสาท จำนวน 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ระบบประสาทรอบนอก จำนวน 1 ชั่วโมง สอนโดย นายสุทธิราช วงศ์คำ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 1.มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2.ตัวชี้วัด ม.2/10 ระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะใน ระบบประสาทส่วนกลางในการควบคุม การทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย 3.สาระสำคัญ ระบบประสาทเป็นระบบที่มีความซับซ้อนและมีความสัมพันธ์กับทุกระบบในร่างกาย ระบบประสาทส่วนกลาง ประกอบด้วยสมอง ทำหน้าที่ร่วมกับเส้นประสาท ซึ่งเป็นระบบประสาทรอบนอกในการควบคุมการทำงานของอวัยวะ ต่าง ๆ รวมถึงการแสดงพฤติกรรมเพื่อการตอบสนองต่อสิ่งเร้า 4.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.นักเรียนสามารถบอกหน้าที่ของระบบประสาทรอบนอกได้ (K) 2.นักเรียนสามารถทำกิจกรรมการทดลองรีเฟล็กซ์แอกชันของร่างกายได้ (P) 3.นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A)


5.สาระการเรียนรู้ ความรู้ -ระบบประสาทรอบนอก -การทำงานของระบบประสาทรอบนอก ทักษะ/กระบวนการ -การทดลอง -การจำแนกประเภท -การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล -การลงความเห็นจากข้อมูล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ -ใฝ่เรียนรู้ -มีวินัย -มุ่งมั่นในการทำงาน 6.กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ 5 E ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1.นักเรียนทบทวนความรู้เกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลางที่ได้เรียนในคาบที่แล้ว 2.นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลาง โดยมีคำถาม ดังนี้ -นักเรียนคิดว่าระบบประสาทรอบนอกคืออะไร มีหน้าที่อะไรบ้าง -นักเรียนคิดว่าระบบประสาทรอบจำแนกตามลักษณะได้กี่ลักษณะ (แนวคำตอบ 2 ลักษณะ คือ ระบบประสาทภายใต้อำนาจจิตใจ และระบบประสาทนอกอำนาจจิตใจ) ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) 1.นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับระบบประสาทรอบนอก และการทำงานของระบบประสาทรอบนอก 2.นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การส่งกระแสประสาท จากใบความรู้ ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1.นักเรียนฟังอธิบายเกี่ยวกับเกี่ยวกับความหมายและหน้าที่ของประสาทรอบนอก และลักษณะการ ทำงานของระบบประสาทรอบนอกตามสไลด์ ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1.นักเรียนศึกษาวิธีปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง ในแพลนการทดลอง 2.ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน


3.นักเรียนทำกิจกรรมการทดลองที่ การทดลองรีเฟล็กซ์ 4.นักเรียนร่วมสรุปผลการทดลองด้วยคำถามท้ายกิจกรรม ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1.นักเรียนร่วมสรุปองค์ความรู้จากการทำกิจกรรมการทดลอง ดังนี้ “รีเฟล็กซ์เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติและห้ามการตอบโต้ไม่ได้ และมักเกิดขึ้นเพื่อป้องกันตนเอง” 2.นักเรียนร่วมสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนในวันนี้ 7.สื่อการเรียนรู้ 1.ใบความรู้เรื่องระบบประสาทรอบนอก 2.ใบความรู้เรื่อง การส่งกระแสประสาท


8.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมิน 1.นักเรียนสามารถบอก หน้าที่ของระบบประสาท รอบนอกได้ (K) 1.การตอบคำถามระหว่าง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ -คำถามเกี่ยวกับหน้าของ ระบบประสาทรอบนอก ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 2.นักเรียนสามารถทำ กิจกรรมการทดลอง รีเฟล็กซ์แอกชันของ ร่างกายได้ (P) 1.นักเรียนทำกิจกรรมการ ทดลองรีเฟล็กซ์แอกชันของ ร่างกาย -กิจกรรมการทดลองที่ 1.3 การทดลองรีเฟล็กซ์ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 3.นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน มีความรับผิดชอบต่องานที่ ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรมระหว่าง เรียนของนักเรียน -แบบประเมินคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ระดับคุณภาพดี ผ่าน เกณฑ์


ใบความรู้ เรื่อง การส่งกระแสประสาท การถ่ายทอดกระแสประสาทระหว่างเซลล์ประสาท เนื่องจากเซลล์ประสาทแต่ละเซลล์จะมีการ สานต่อกัน โดยส่วนปลายแอกซอนของเซลล์ประสาทหนึ่งจะอยู่ชิดกับเดนไดรต์ของอีกเซลล์ประสาทหนึ่ง บริเวณที่อยู่ชิดกันเป็นช่องแคบ ๆ เรียกว่า ไซแนปส์ (Synapse)ซึ่งเป็นจุดประสานประสาท การถ่ายทอดของกระแสประสาทระหว่างเซลล์ เกิดขึ้นโดยกระแสประสาทจะเคลื่อนออกทางแอก ซอนของตัวเซลล์ที่เป็นเซลล์ไซแนปส์ (presynaptic cell) ผ่านไซแนปส์แล้วเข้าสู่เซลล์ซึ่งเป็นเซลล์หลัง ไซแนปส์ (postsynaptic cell) ทางเดนไดรต์ การถ่ายทอดกระแสประสาทระหว่างเซลล์ประสาทมี 2 ลักษณะ คือ 1.ไซแนปส์เคมี (chemical synapse) เป็นไซแนปส์ที่มีการถ่ายทอดกระแสประสาทผ่าน ไซแนปส์ที่มีขนาดของช่องประมาณ 0.02 ไมโครเมตร โดยอาศัยสารสื่อประสาทที่หลั่งออกมาจากปลาย ประสาทส่วนแอกซอน 2.ไซแนปส์ไฟฟ้า (electric synapse) เป็นไซแนปส์ที่มีการส่งกระแสประสาทจากเซลล์หนึ่ง ไปยังอีกเซลล์หนึ่งในรูปของกระแสไฟฟ้าโดยตรง พบในเซลล์ประสาทที่มีช่องไซแนปส์แคบมาก และใน กรณีที่ต้องการส่งกระแสประสาทอย่างรวดเร็ว


ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (นางสาวภัทรจิตติ บุรีเพีย) ครูพี่เลี้ยง ........./......../......... ความคิดเห็นของผู้บริหาร .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (..................................................) ผู้บริหารสถานศึกษา ........./......../.........


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 (รายวิชาพื้นฐาน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว22101 รายวิชาวิทยาศาสตร์3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ระบบต่าง ๆ ของมนุษย์ จำนวน 21 ชั่วโมง เรื่อง ระบบสืบพันธุ์ จำนวน 2 ชั่วโมง สอนโดย นายสุทธิราช วงศ์คำ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 1.มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2.ตัวชี้วัด ม.2/12 ระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะใน ระบบสืบพันธุ์ของเพศชายและเพศหญิง โดยใช้ แบบจำลอง ม.2/13 อธิบายผลของฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เมื่อเข้าสู่วัย หนุ่มสาว 3.สาระสำคัญ ระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ประกอบด้วยอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่เฉพาะโดยเพศหญิงมีรังไข่ทำหน้าที่ผลิตเซลล์ ไข่ และเพศชายจะมีอัณฑะทำหน้าที่สร้างเซลล์อสุจิ ซึ่งมีฮอร์โมนเพศทำหน้าที่ควบคุมการแสดงออกของลักษณะทาง เพศที่แตกต่างกันเพศหญิงจะมีการตกไข่และการมีรอบเดือน เพศชายจะมีการสร้างเซลล์อสุจิ การปฏิสนธิของเซลล์ไข่ และเซลล์อสุจิจะได้ไซโกตที่เจริญเติบโตเป็นเอ็มบริโอและฟีตัสจนกระทั่งคลอดเป็นทารก


4.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.นักเรียนสามารถระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะใน ระบบสืบพันธุ์ของเพศชายและเพศหญิง (K) 2.นักเรียนอธิบายผลของฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เมื่อเข้าสู่วัย หนุ่มสาวได้ (K) 3.นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) 5.สาระการเรียนรู้ ความรู้ -ระบบสืบพันธุ์เพศชาย -ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ทักษะ/กระบวนการ -การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล -การลงความเห็นจากข้อมูล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ -มีวินัย -ใฝ่เรียนรู้ -มุ่งมั่นในการทำงาน 6.กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ 5 E ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1.ครูทบทวนความรู้เดิมที่ในเรียนคาบที่ผ่านมา 2.ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างความแตกต่างของเพศชายและเพศหญิงทางด้านสรีระ 3.ครูถามคำถามนักเรียนโดยมีคำถาม ดังนี้ -เหตุใดสรีระของเพศหญิงและเพศชายจึงแตกต่างกัน (แนวคำตอบ ฮอร์โมนเพศที่ผลิต ออกมาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย) -ฮอร์โมนเพศถูกสร้างขึ้นที่ใด (แนวคำตอบ เพศหญิงสร้างฮอร์โมนเพศที่รังไข่ ส่วนเพศชาย สร้างฮอร์โมนเพศที่อัณฑะ)


ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) 1.นักเรียนดูรูปภาพอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชาย ติดบนกระดานเพื่อให้นักเรียนศึกษา ส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบสืบพันธุ์เพศชาย 2.นักเรียนศึกษาเนื้อหาในใบความรู้ 3.นักเรียนตอบคำถามโดยมีคำถาม ดังนี้ -ถ้าส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบสืบพันธุ์เพศชายไม่มีจะทำให้เกิดอะไรขึ้น (แนว คำตอบ เกิดความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์อาจจะทำให้ไม่มีการสร้างอสุจิ เป็นหมัน หรือทำให้ไม่เกิดการปฏิสนธิได้) -ฮอร์โมนเพศชายมีอะไรบ้าง และมีความสำคัญอย่างไร (เทสโทสเทอโรนผลิตที่อัณฑะ เป็น ฮอร์โมนที่แสดงลักษณะความเป็นเพศ และแอนโดรเจนผลิตที่อัณฑะ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและอวัยวะ ที่แสดงลักษณะของเพศชาย) -ถ้าเพศชายขาดฮอร์โมนเพศชายจะทำให้เกิดอะไรขึ้น (แนวคำตอบ จะทำให้มีลักษณะไม่เหมือนเพศ ชาย เช่น อาจจะไม่มีขนตามร่างกาย เสียงแหลม ร่างกายเล็ก อวัยวะเพศเล็ก) ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1.นักเรียนฟังครูอธิบายระบบสืบพันธุ์ของเพศชายตามหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.2 ตาม หนังสือเรียนหน้า 32-33 ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1.นักเรียนดูรูปภาพอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศหญิงติดบนกระดาน เพื่อให้นักเรียนศึกษา ส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง 2.นักเรียนตอบคำถามนักเรียนโดยมีคำถาม ดังนี้ -ถ้าส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบสืบพันธุ์เพศหญิงไม่มีจะเกิดอะไรขึ้น (แนว คำตอบ เกิดความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์อาจจะทำให้ไม่มีการตกไข่ เป็นหมัน หรือทำให้ไม่เกิดการปฏิสนธิ) -ฮอร์โมนเพศหญิงมีอะไร และมีความสำคัญอย่างไร (แนวคำตอบ อีสโทรเจนเป็นฮอร์โมนที่ เกี่ยวกับการพัฒนาของมดลูก ช่องคลอด ต่อมน้ำนม ลักษณะของเพศหญิง และโพสเจสเทอโรนที่ทำงานร่วมกับอีสโทร เจนเกี่ยวกับการเจริญของมดลูก การเปลี่ยนแปลงเยื่อบุมดลูกเพื่อเตรียมรับไข่ที่ผสมแล้ว) -ถ้าเพศหญิงขาดฮอร์โมนเพศหญิงจะทำให้เกิดอะไรขึ้น (แนวคำตอบ จะทำให้มีลักษณะไม่ เหมือนเพศหญิง เช่น ไม่มีหน้าอก สะโพกพาย จะไม่มีการตกไข่และประจำเดือน ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้) ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1.นักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ที่ได้เรียนในวันนี้ 2.นักเรียนทำใบงาน เรื่องระบบสืบพันธ์


7.สื่อการเรียนรู้ 1.ใบงานเรื่องระบบสืบพันธ์ 2.รูปภาพอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชาย 3.รูปภาพอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง


8.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมิน 1.นักเรียนสามารถระบุ อวัยวะและบรรยายหน้าที่ ของอวัยวะใน ระบบ สืบพันธุ์ของเพศชายและ เพศหญิง (K) 1.การตอบคำถามระหว่าง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.นักเรียนทำกิจกรรม ตรวจสอบการเรียนรู้ที่ 1.7 3.ตอบคำถามจากรูปอวัยวะ ในระบบสืบพันธุ์ -คำถามเกี่ยวกับอวัยวะและ หน้าที่ของอวัยวะในระบบ สืบพันธุ์เพศชายและเพศหญิง -กิจกรรมตรวจสอบการเรียนรู้ ที่ 1.7 -รูปภาพอวัยวะระบบสืบพันธุ์ เพศชายและเพศหญิง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 2.นักเรียนอธิบายผลของ ฮอร์โมนเพศชายและเพศ หญิงที่ควบคุมการ เปลี่ยนแปลงของร่างกาย เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาวได้ (K) 1.การตอบคำถามระหว่าง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.นักเรียนทำกิจกรรม ตรวจสอบการเรียนรู้ที่ 1.7 -คำถามเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศ ชายและเพศหญิง -กิจกรรมตรวจสอบการเรียนรู้ ที่ 1.7 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 3.นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน มีความรับผิดชอบต่องานที่ ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรมระหว่าง เรียนของนักเรียน -แบบประเมินคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ระดับคุณภาพดี ผ่าน เกณฑ์


ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (นางสาวภัทรจิตติ บุรีเพีย) ครูพี่เลี้ยง ........./......../......... ความคิดเห็นของผู้บริหาร .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (..................................................) ผู้บริหารสถานศึกษา ........./......../.........


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 (รายวิชาพื้นฐาน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว22101 รายวิชาวิทยาศาสตร์3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ระบบต่าง ๆ ของมนุษย์ จำนวน 21 ชั่วโมง เรื่อง ระบบสืบพันธุ์ จำนวน 8 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ประจำเดือนและการตกไข่ จำนวน 2 ชั่วโมง สอนโดย นายสุทธิราช วงศ์คำ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 1.มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2.ตัวชี้วัด ม.2/15 อธิบายการตกไข่การมีประจำเดือน การปฏิสนธิและการพัฒนาของไซโกตจนคลอดเป็นทารก 3.สาระสำคัญ ระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ประกอบด้วยอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่เฉพาะโดยเพศหญิงมีรังไข่ทำหน้าที่ผลิตเซลล์ ไข่ และเพศชายจะมีอัณฑะทำหน้าที่สร้างเซลล์อสุจิ ซึ่งมีฮอร์โมนเพศทำหน้าที่ควบคุมการแสดงออกของลักษณะทาง เพศที่แตกต่างกันเพศหญิงจะมีการตกไข่และการมีรอบเดือน เพศชายจะมีการสร้างเซลล์อสุจิ การปฏิสนธิของเซลล์ไข่ และเซลล์อสุจิจะได้ไซโกตที่เจริญเติบโตเป็นเอ็มบริโอและฟีตัสจนกระทั่งคลอดเป็นทารก 4.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.อธิบายการตกไข่การมีประจำเดือน การปฏิสนธิและการพัฒนาของไซโกตจนคลอดเป็นทารกได้ (K) 2.นักเรียนสามารถอธิบายเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผสมเทียมได้ (K) 3.นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A)


5.สาระการเรียนรู้ ความรู้ -การตกไข่ -การมีประจำเดือน -การปฏิสนธิและการพัฒนาไซโกต -เทคโนโลยีการผสมเทียม ทักษะ/กระบวนการ -การจัดทำและสื่อความหมายข้อมูล -การลงความเห็นจากข้อมูล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ -มีวินัย -ใฝ่เรียนรู้ -มุ่งมั่นในการทำงาน 6.กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ 5 E ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1.นักเรียนทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับเรื่องอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชายและเพศหญิง หน้าที่ของ อวัยวะ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาว และการดูแลร่างกาย ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) 1.นักเรียนดูรูปภาพเรื่องการตกไข่ และการมีประจำเดือน บนPower Point 2.นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับประจำเดือน และรอบของประจำเดือน ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1.นักเรียนฟังครูอธิบายเรื่องการตกไข่ และการมีประจำเดือน โดยใช้รูปภาพประกอบ 2.นักเรียนตอบคำถามระหว่างเรียน เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า -ประจำเดือน คือผนังมดลูกชั้นในหนาขึ้นระหว่างรอบเดือนและหลุดลอกออกมาพร้อมกับ เลือดทางช่องคลอด ซึ่งจะเกิดขึ้นเป็นรอบ แต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 28 วัน การเปลี่ยนแปลงของผนังมดลูกเป็น ผลมาจากฮอร์โมนเพศหญิง ได้แก่ อีสโทรเจนและโพรเจสเทอโรน


-เซลล์ไข่เมื่อพัฒนาเต็มที่จะหลุดออกจากรังไข่เข้าไปในท่อนำไข่ เรียกว่า การตกไข่ และเมื่อ เซลล์ไข่เกิดการปฏิสนธิกับอสุจิจะเกิดเป็นเซลล์ที่เรียกว่า ไซโกต ต่อจากนั้นไซโกตจะเพิ่มจำนวนเซลล์โดยการแบ่ง เซลล์จนกลายเป็นกลุ่มเซลล์ เรียกว่า เอ็มบริโอ ซึ่งจะมีการเจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลงรูปร่างจนมีอวัยวะครบเมื่อ อายุ 8 สัปดาห์ เรียกว่า ฟีตัส จากนั้นฟีตัสจะเจริญเติบโตจนกระทั่งคลอดออกมาเป็นทารก ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 1.นักเรียนศึกษาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีผสมเทียม 2.นักเรียนศึกษาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความบกพร่องทางโครงสร้างและการทำงานของระบบ สืบพันธุ์ 3.นักเรียนศึกษาความรู้เกี่ยวกับการทำเด็กหลอดแก้ว การทำอิ๊กซี่ การทำกิ๊ฟ ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1.นักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ที่ได้เรียนในวันนี้ 2.นักเรียนตอบคำถามที่ครูสุ่มถาม 7.สื่อการเรียนรู้ 1.Power Point เรื่องการตกไข่และการมีประจำเดือน 2.รูปภาพการตกไข่และการมีประจำเดือน


8.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมิน 1.อธิบายการตกไข่การมี ประจำเดือน การปฏิสนธิ และการพัฒนาของไซ โกตจนคลอดเป็นทารกได้ (K) 1.การตอบคำถามระหว่าง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ -คำถามเกี่ยวกับการตกไข่ การมีประจำเดือน การ ปฏิสนธิ และการพัฒนาของ ไซโกต ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 2.นักเรียนสามารถอธิบาย เกี่ยวกับเทคโนโลยีการ ผสมเทียมได้ (K) 1.นักเรียนตอบคำถามจาก การสุ่มถาม -แนวคำตอบ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 3.นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน มีความรับผิดชอบต่องานที่ ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรมระหว่าง เรียนของนักเรียน -แบบประเมินคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ระดับคุณภาพดี ผ่าน เกณฑ์


ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (นางสาวภัทรจิตติ บุรีเพีย) ครูพี่เลี้ยง ........./......../......... ความคิดเห็นของผู้บริหาร .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)…………………………………………………………….. (..................................................) ผู้บริหารสถานศึกษา ........./......../.........


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 (รายวิชาพื้นฐาน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว22101 รายวิชาวิทยาศาสตร์3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ระบบต่าง ๆ ของมนุษย์ จำนวน 21 ชั่วโมง เรื่อง ระบบสืบพันธุ์ จำนวน 8 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การคุมกำเนิดและการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร จำนวน 2 ชั่วโมง สอนโดย นายสุทธิราช วงศ์คำ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 1.มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2.ตัวชี้วัด ม.2/16 เลือกวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่กำหนด ม.2/17 ตระหนักถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร โดยการประพฤติตนให้เหมาะสม 3.สาระสำคัญ ระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ประกอบด้วยอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่เฉพาะโดยเพศหญิงมีรังไข่ทำหน้าที่ผลิตเซลล์ ไข่ และเพศชายจะมีอัณฑะทำหน้าที่สร้างเซลล์อสุจิ ซึ่งมีฮอร์โมนเพศทำหน้าที่ควบคุมการแสดงออกของลักษณะทาง เพศที่แตกต่างกันเพศหญิงจะมีการตกไข่และการมีรอบเดือน เพศชายจะมีการสร้างเซลล์อสุจิ การปฏิสนธิของเซลล์ไข่ และเซลล์อสุจิจะได้ไซโกตที่เจริญเติบโตเป็นเอ็มบริโอและฟีตัสจนกระทั่งคลอดเป็นทารก 4.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการคุมกำเนิดแบบต่าง ๆ ได้ (K) 2.นักเรียนสามารถเลือกวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ (P) 3.นักเรียนสามารถตระหนักถึงการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรได้ (A) 5.สาระการเรียนรู้ ความรู้ -สาเหตุของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร -ผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร -การป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร


-การคุมกำเนิด ทักษะ/กระบวนการ -การจัดทำและสื่อความหมายข้อมูล -การลงความเห็นจากข้อมูล -การสังเกต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ -มีวินัย -ใฝ่เรียนรู้ -มุ่งมั่นในการทำงาน 6.กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ 5 E ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1.นักเรียนทบทวนความรู้เดิมที่ได้เรียนในคาบที่แล้วเกี่ยวกับการเปลี่ยนของร่างกายเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่ม สาว วิธีการดูแลตนเอง การเป็นประจำเดือน การตกไข่ และการปฏิสนธิเป็นไซโกต เอ็มบริโอ ฟีตัส 2.เชื่อมโยงไปสู่การเรียนเรื่องต่อไปว่า เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาว อวัยวะในระบบสืบพันธุ์จะมีการพัฒนา จนสามารถสืบพันธุ์ได้ อย่างไรก็ตามในการสืบพันธุ์มีบุตรยังต้องอาศัยความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน ดังนั้นนักเรียนจึง ควรเรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางป้องกันการตั้งครรภ์ในภาวะที่นักเรียนยังไม่มีความพร้อม 3.นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความสนใจว่า จะมีวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ในขณะที่ยังไม่มีความ พร้อมได้อย่างไร ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) 1.นักเรียนอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์พื้นฐานม.2 หน้า 37-38 แล้วใช้คำถามเพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจในการอ่าน เช่น สาเหตุของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรมีอะไรบ้าง ผลกระทบจากการตั้งครรภ์ ก่อนวัยอันควร และการป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร 2.นักเรียนอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์พื้นฐานม.2 หน้า 39-41 แล้วใช้คำถามเพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจในการอ่าน เช่น การคุมกำเนิดมีกี่ประเภทและแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร การคุมกำเนิด แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไร และตอบคำถามระหว่างเรียน โดยมีคำถาม ดังนี้ -เพราะเหตุใดการคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติจึงต้องมีเพศสัมพันธ์ในช่วงระยะ 7 วัน ก่อนมี ประจำเดือนวันแรกและหลังวันแรกของการมีประจำเดือนต่อไปอีก 7 วัน


ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 1.นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรเพื่อให้ได้ข้อสรุป ดังนี้ -สาเหตุของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ได้แก่ 1) ปัจจัยด้านพันธุกรรม 2) การขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศในวัยรุ่น 3) ความอ่อนแอของสถาบันครอบครัว 4) สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการมีเพศสัมพันธุ์ -ผลกระทบจากการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร 1) ผลกระทบต่อสุขภาพ 2) ผลกระทบต่อจิตใจ -การป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร 1) หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธุ์ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด 2) การคุมกำเนิดที่ถูกต้อง 3) ครอบครัวให้ความอบอุ่น 4) ทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจแจ่มใส 5) รณรงค์และให้ความรู้เยาวชนในการปฏิบัติตนให้ถูกต้อง 2.นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรเพื่อให้ได้ข้อสรุป ดังนี้ การคุมกำเนิดแบ่งเป็น 2 ประเภท คือการคุมกำเนิดชั่วคราวและการคุมกำเนิดถาวร -การคุมกำเนิดชั่วคราวเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่ไม่พร้อมจะมีบุตร และสามารถ กลับมาตั้งครรภ์เมื่อหยุดการคุมกำเนิด แบ่งออกเป็น 3 วิธี ได้แก่ 1) การคุมกำเนิดโดยวิธีธรรมชาติ 2) การคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ที่เลียนแบบฮอร์โมนเพศหญิง 3) การคุมกำเนิดโดยใช้อุปกรณ์ -การคุมกำเนิดถาวรหรือทำหมัน ในเพศชายทำได้โดยผูกและตัดหลอดนำอสุจิ เพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิ ออกมาพร้อมกับน้ำอสุจิ ส่วนเพศหญิงทำได้โดยผูกและตัดท่อนำไข่ทั้ง 1 ข้าง เพื่อป้องกันเซลล์ไข่เคลื่อนที่ไปปฏิสนธิ กับอสุจิท่อนำไข่ ในการคุมกำเนิดถาวร คู่สามีภรรยาจะไม่สามารถกลับมามีลูกได้อีก 3.ครูเฉลยคำตอบของคำถามระหว่างเรียน “เพราะเหตุใดการคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติจึงต้องมี เพศสัมพันธ์ในช่วงระยะ 7 วัน ก่อนมีประจำเดือนวันแรกและหลังวันแรกของการมีประจำเดือนต่อไปอีก 7 วัน” (แนว คำตอบ เนื่องจากเป็นระยะที่ไข่ยังไม่ตก โอกาสในการตั้งครรภ์จึงต่ำ)


Click to View FlipBook Version