บนั ทึกผลหลงั สอน จำนวนเวลาเรียน 6 ชวั่ โมง
จำนวนเวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การสรา้ งสรรค์บทเพลง
เรือ่ ง การบรรยายอารมณแ์ ละความรสู้ ึกในบทเพลง
รายวชิ า ศลิ ปะ 3 รหสั วชิ า ศ 22101 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
1. ผลการเรียนของนักเรียน(ระบผุ ลที่นกั เรียนผา่ น/ไม่ผ่านตามมาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด ดา้ นความรู้ (K) กระบวนการ (P)
และคณุ ลักษณะ (A)
ความรู้ (K)...............................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
กระบวนการ (P)......................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
คณุ ลกั ษณะ (A).......................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................................
2.ปญั หาและอปุ สรรค (ระบปุ ัญหาและอุปสรรคจากการที่นกั เรยี นไม่บรรลุตามมาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด)
............................................................................................................................. ..................................................
...............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแก้ไขปรบั ปรงุ (ระบุแนวทางเพ่อื ใหบ้ รรลตุ ามมาตรฐาน/ตัวช้วี ัด)
...............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................................
ลงช่อื ................................................................ครผู ูส้ อน
(นางสาวชลินี ศลิ าพนั ธ์ุ)
ความคิดเหน็ ของหัวหนา้ กล่มุ บริหารงานวิชาการ
....................................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.....................................................หวั หนา้ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ
(นายกติ ติชยั เทยี นไข)
ความคิดเห็นของรองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นโคกเจรญิ วิทยา
...................................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .............................................รองผู้อำนวยการโรงเรยี นโคกเจรญิ วทิ ยา
(นายพรทวี สุมาลี)
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6
กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1
รายวิชาศลิ ปะ 3 รหสั วชิ า ศ 22101 ปกี ารศึกษา 2564
หนว่ ยที่ 3 เทคนคิ การร้องและการประเมินงานดนตรี เรอื่ ง เทคนคิ การรอ้ งและการบรรเลงดนตรี เวลา 2 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณ์คุณค่าดนตรี
ถ่ายทอดความร้สู ึก ความคิดตอ่ ดนตรอี ย่างอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวนั
ตัวชีว้ ัด
ศ 2.1 ม.2/4 ร้องเพลงและเล่นดนตรีเดยี่ วและรวมวง
2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การขับรอ้ งและบรรเลงดนตรี ผ้ขู ับร้องและผู้บรรเลงต้องมเี ทคนคิ ในการรอ้ งและบรรเลงเพอื่ จะทำใหข้ บั
ร้องและบรรเลงดนตรี ได้ถูกตอ้ งไพเราะ เปน็ ทป่ี ระทบั ใจต่อผฟู้ งั
3. สาระการเรียนรู้
เทคนคิ การร้องและการบรรเลงดนตรี: เทคนิคการรอ้ งเพลง การร้องและบรรเลงเดยี่ ว การรอ้ งและบรรเลงเป็นวง
4. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายเทคนคิ การร้องและบรรเลงดนตรีเด่ยี วและรวมวง (K)
2. ขับร้องเพลงและเลน่ ดนตรเี ด่ยี วและรวมวง (P)
3. เห็นความสำคญั ของการรอ้ งเพลงและเลน่ ดนตรีเดี่ยวและรวมวง (A)
5. สมรรถนะสำคัญ
ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
ใฝเ่ รยี นรู้
ตัวชีว้ ดั ที่ 4.1 ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
7. กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครเู ปิดแถบบันทึกภาพการขบั ร้องเพลงของศิลปินใดกไ็ ด้ใหน้ ักเรยี นชม 1 การแสดง แล้วให้นักเรียนร่วมแสดง
ความคิดเห็น โดยครูใช้คำถาม ดังน้ี
- นักเรียนรจู้ กั นกั ร้องคนนห้ี รือไม่ (ตวั อยา่ งคำตอบ รู้จัก)
- นักรอ้ งคนนช้ี อ่ื อะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ บี้ เดอะสตาร์/บี้ สกุ ฤษฎิ์ วเิ ศษแกว้ )
- นักรอ้ งคนนี้มีเสียงเป็นอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เสยี งสดใส)
- การร้องเพลงของนกั ร้องคนนีเ้ ปน็ อยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ ร้องไดไ้ พเราะ)
- นักร้องคนนถี้ า่ ยทอดอารมณ์ของบทเพลงเป็นอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ ถ่ายทอดอารมณ์เพลง
ไดส้ นุกสนานตามเน้อื รอ้ ง จังหวะ ทำนองเพลง)
- นกั เรียนร้สู กึ อยา่ งไรเม่อื ได้ชมการขับรอ้ งของนักร้องคนนี้ (ตัวอย่างคำตอบ ชืน่ ชอบ ประทับใจ)
2. ครูนำบัตรคำตอ่ ไปน้ตี ิดบนกระดาน
เทคนิคการร้องเพลง การร้องและบรรเลงเด่ียว การร้องและบรรเลงเป็ นวง
จากนนั้ ครูอธบิ ายใหน้ กั เรยี นฟงั ทลี ะหัวข้อ จนทกุ คนเข้าใจ และครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน โดยครูใช้
คำถาม ดงั นี้
- การขับร้องเพลงทด่ี ีผู้ขบั รอ้ งต้องมเี ทคนิคดา้ นใดบา้ ง (ตัวอย่างคำตอบ การควบคุมน้ำเสยี ง ระดับเสียง การ
ออกเสยี งพยญั ชนะ คำควบกล้ำ การถา่ ยทอดอารมณ)์
- การเออ้ื นเสียงทด่ี ีควรมลี ักษณะอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เออื้ นเสยี งไดเ้ หมาะสม ไมส่ ้นั -ยาวจนเกินไป
และเออื้ นใหเ้ หมาะสมกบั เพลง)
- การเอ้อื นเสยี งเออและเอยแตกต่างกันอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ เสียงเอยจะเนน้ ทม่ี ุมปากมากกวา่ เสียง
เออ)
- การรอ้ งเดีย่ วท่ีดคี วรมลี ักษณะอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ผ้ขู บั รอ้ งต้องมีความแมน่ ยำในเร่อื งเสียง จังหวะ
และทำนองของบทเพลง ถา่ ยทอดอารมณต์ ามความรสู้ ึกของบทเพลง)
- การบรรเลงเดยี่ วมจี ดุ ประสงค์เพือ่ ส่ิงใดบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ เพอ่ื แสดงถึงความสามารถของ
ผ้บู รรเลง)
- การขบั ร้องหมูม่ ีลกั ษณะอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ การร้องตง้ั แต่ 2 คนขนึ้ ไป การรอ้ งเป็นวง
จะไม่สามารถใส่ลีลาหรือกลวิธไี ดม้ าก เพราะอาจทำใหก้ ารร้องไม่พรอ้ มเพรยี ง ไมไ่ พเราะ)
- การบรรเลงเปน็ วงมลี กั ษณะอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เปน็ การบรรเลงพร้อมกนั ทกุ เครื่องดนตรีและบรรเลง
ตามหนา้ ที่ของเครอ่ื งดนตรีให้ตรงตามจังหวะและทำนอง อาจมีการขบั ร้องรว่ มดว้ ย และการบรรเลงต้องมีความ
เหมาะสมกัน)
จากนั้นครนู ำคำตอบท่ีไดม้ าเขยี นสรุปเปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน แล้วให้นกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความ
ถูกต้อง ดังตวั อย่างต่อไปน้ี
การร้องและบรรเลงเดี่ยว
เทคนิคการร้องเพลง เทคนคิ การร้องและการบรรเลงดนตรี การร้องและบรรเลงเป็ นวง
3. ให้นักเรียนเลือกเพลงไทยหรอื เพลงสากลทีส่ นใจ 1 บทเพลง แล้วออกมาร้องหน้าชนั้ เรยี นโดยครู
และเพอ่ื นท่ีเหลือเป็นผูป้ ระเมินผล
4. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถาม ดังน้ี
- การเอือ้ นเสียงมคี วามสำคญั ตอ่ เพลงไทยอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ทำให้บทเพลงเปน็ เอกลกั ษณ์
และมีความไพเราะ)
- การขับรอ้ งเด่ยี วควรมกี ารฝกึ ซ้อมอยา่ งไรบ้างเพอ่ื ใหข้ ับรอ้ งได้ไพเราะ (ตวั อยา่ งคำตอบ ฝึกอ่าน
เน้อื รอ้ ง ทำนองเพลง ฝึกออกเสยี งพยญั ชนะ ฝึกหายใจ)
- การบรรเลงเป็นวงต้องอาศัยส่ิงใดบ้างจงึ จะทำใหก้ ารบรรเลงมีความไพเราะ (ตัวอยา่ งคำตอบ
ความพรอ้ มเพรยี งในการบรรเลง ความถูกตอ้ งในการบรรเลงตามจังหวะและทำนองเพลง)
- การควบคมุ คุณภาพเสียงในการขับรอ้ งและบรรเลงดนตรมี ีความสำคัญอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ
ทำให้การขับรอ้ งและบรรเลงดนตรมี เี สียงเหมาะสม ทำให้บทเพลงมีความไพเราะ)
- การฝึกลมหายใจส่งผลดีต่อการขับรอ้ งเพลงอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ทำให้เม่ือตอ้ งร้องเพลงท่ีมี
การเอื้อนเสยี ง หรือทอ่ นเพลงทมี่ ีเนื้อรอ้ งเร็วและยาวไดง้ ่ายขึ้น เนอ่ื งจากฝึกลมหายใจให้หายใจได้นานขึ้น)
5. ให้นกั เรียนฝึกเล่นเครือ่ งดนตรไี ทยหรอื เครอื่ งดนตรสี ากลงา่ ย ๆ (เชน่ ขล่ยุ ซอ ระนาด ทรัมเป็ต
คลารเิ น็ต) แล้วฝกึ ซ้อมบรรเลงบทเพลงไทย หรือเพลงไทยสากล 1 บทเพลง แลว้ ออกมาบรรเลงเดี่ยวหนา้ ชัน้ เรียน โดยครู
เป็นผตู้ รวจสอบและให้คำแนะนำ
6. ใหน้ กั เรียนฟงั การขบั รอ้ งและการบรรเลงวงดนตรไี ทยและวงดนตรสี ากล จากน้นั แบง่ กลุ่ม 4-5 กลุ่มใหแ้ ต่ละ
กลุ่มวเิ คราะหล์ ักษณะการขบั ร้องและการบรรเลง และออกมานำเสนอท่หี น้าชัน้ เรยี น โดยครแู ละเพ่อื นกลุ่มอืน่ คอย
ตรวจสอบและใหค้ ำแนะนำเพม่ิ เติม
7. ใหน้ กั เรียนและครรู ่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี การขบั รอ้ งและบรรเลงดนตรี ผู้ขับร้องและผูบ้ รรเลงต้องมเี ทคนิค
ในการร้องและบรรเลงเพ่ือจะทำใหข้ บั ร้องและบรรเลงดนตรไี ดถ้ ูกต้องไพเราะ เปน็ ทป่ี ระทับใจต่อผู้ฟัง
8. ให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดงั น้ี
- ถ้านักเรยี นเปน็ นักรอ้ งจะเลือกขับรอ้ งเพลงประเภทใด เพราะอะไร
9. ใหน้ ักเรียนทำช้นิ งานท่ี 5 เรอ่ื ง เทคนิคการร้องและการบรรเลงดนตรี
8. ช้ินงาน/ภาระงาน
1. แผนภาพความคิดเทคนิคการรอ้ งและการบรรเลงดนตรี
2. ชิน้ งานท่ี 5 เรอ่ื ง เทคนิคการร้องและบรรเลงดนตรี
9. ส่ือการจัดการเรียนรู้
1. แถบบนั ทึกภาพ
2. เครือ่ งเลน่ แถบบนั ทึกภาพ
3. บตั รคำ
4. ชิ้นงานท่ี 5 เรือ่ ง เทคนิคการร้องและการบรรเลงดนตรี
แหลง่ การเรียนรู้
ห้องสมุด
10. การวัดผลประเมินผล
1. วธิ กี ารวดั และประเมินผล
1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุม่
1.3 ตรวจชนิ้ งานที่ 5
2. เครอื่ งมอื
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน
3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดับ ดมี าก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)
การประเมินช้นิ งานท่ี 5 ใหผ้ ูส้ อนพิจารณาจากเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เรื่อง เทคนิคการร้องและการบรรเลงดนตรี
เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คะแนน
ขับรอ้ งและบรรเลง 432 1
ดนตรโี ดยใช้
เครอื่ งดนตรงี ่าย ๆ ขับร้องและบรรเลง ขบั ร้องและบรรเลง ขบั ร้องและบรรเลง ขับรอ้ งและบรรเลง
ดนตรีโดยใช้
ดนตรีโดยใช้ ดนตรโี ดยใช้ ดนตรโี ดยใช้ เครอื่ งดนตรงี ่าย ๆ ได้
สมั พนั ธ์กับหัวขอ้
เครอ่ื งดนตรีง่าย ๆ ได้ เครอ่ื งดนตรงี า่ ย ๆ ได้ เครื่องดนตรงี ่าย ๆ ได้ ท่ีกำหนด ตามท่คี รู
สัมพันธ์กบั หวั ข้อ สมั พนั ธก์ บั หัวข้อ สัมพนั ธก์ บั หัวขอ้ ยกตัวอย่าง
ที่กำหนดและแตกตา่ ง ท่กี ำหนดและแตกต่าง ทก่ี ำหนด ตามท่คี รู
จากที่ครูยกตัวอย่าง จากท่คี รูยกตัวอยา่ ง ยกตวั อยา่ ง แต่มกี าร
ดดั แปลงใหแ้ ตกต่าง
มีการเชอ่ื มโยงให้เห็นถึง แตเ่ ช่ือมโยงให้เหน็
ความสัมพนั ธ์กบั ตนเอง เฉพาะตนเอง
และผอู้ ื่น
11. บรู ณาการกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11.1 ผูส้ อนใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ปศพ. พอประมาณ มเี หตุผลท่ีดี มีภมู คิ ุ้มกนั ในตัวทีด่ ี
ประเดน็ 1. เพื่อใหก้ ารจัดการ
เรยี นร้ใู หค้ รอบคลมุ ตาม
สาระการเรยี นรู้ 1. ครมู กี ารวิเคราะห์ 1. ครเู ลอื ก เรอ่ื งท่ีสอนให้ จดุ ประสงค์
หลกั สตู ร เนอื้ หา ออกแบบ สอดคล้องกับทอ้ งถน่ิ และผู้เรยี น
และจัดกิจกรรมได้
สอดคล้องกับมาตรฐาน เพือ่ ให้เหน็ ความสำคัญของการ
ตวั ชว้ี ดั และบริบทของ อนรุ กั ษ์ภูมิปญั ญา
ทอ้ งถ่นิ
แหล่งเรยี นรู้ 1. กำหนดภาระงาน/ชิน้ งาน 1. เพอื่ สง่ เสริมใหน้ ักเรยี นสนใจใฝ่รู้ 1. เตรยี มวธิ ปี อ้ งกันและ
สือ่ /อุปกรณ์
ในการเขยี นเทคนิคการร้อง รกั ในการเรยี นรู้เทคนิคการรอ้ งและ แกป้ ญั หาจากการปฏบิ ตั ิ
ความรู้ทใี่ ช้ในการจดั
กิจกรรมการเรยี นรู้ และการบรรเลงดนตรีได้ การบรรเลงดนตรีไดอ้ ย่างเหมาะสม กิจกรรมการเรยี นการ
คุณธรรม
เหมาะสมกับจดุ ประสงค์ สอน โดยใชแ้ บบฝกึ หัด
และวยั ผู้เรยี น
1. ครจู ัดเตรียมแบบฝกึ 1. ออกแบบการจดั การเรียนรู้ 1. ครูเตรยี มแผนฯหรือ
ทักษะเน้นการคิด ท่ี
เหมาะสมกบั เนื้อหาท่ีสอน เพ่อื ให้เห็นคุณคา่ ของส่ิงของใกล้ตวั สือ่ สำรอง เพือ่ รองรบั
และความสนใจของผูเ้ รียน
ในการเขียนเทคนิคการร้องและการ กรณที ี่มีเหตกุ ารณ์
2. จัดกิจกรรมการเรียนรู้
เหมาะสมกับวยั ของผู้เรียน บรรเลงดนตรี เปลย่ี นแปลง
2. นกั เรยี นไดร้ ับประสบการณ์ตรง
ในการเรียนรู้และเกดิ ความ
ภาคภมู ใิ จใน ความสามารถของ
ตนเอง
- สบื ค้น เทคนคิ การสอน รปู แบบกจิ กรรมการเรียนรู้
- ศึกษาเนอื้ หาเกี่ยวกบั เทคนิคการร้องและการบรรเลงดนตรี
- วิเคราะห์และจดั ทำเครอ่ื งมอื การประเมนิ ผล
- สบื คน้ และนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการบรู ณาการหลกั ปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี งกับการจดั การเรียนรู้
- มีความรับผดิ ชอบในการปฎบิ ัติหน้าทกี่ ารสอน ตรงเวลา เต็มเวลา เตรยี มการสอน
ค้นควา้ มีใบความรู้ ใบงาน ใบกิจกรรมและแบบทดสอบ
- มีความเมตตา ให้สทิ ธใิ นการแสดงความคิดเห็น ความเสมอภาค และความยุตธิ รรม
- มีความอดทน เสียสละ ใฝ่รู้
11.2 ผเู้ รยี นมคี ุณลกั ษณะ “อยู่อยา่ งพอเพียง”
พอประมาณ มเี หตุผลท่ีดี มีภมู ิค้มุ กันในตวั ท่ีดี
1. นกั เรียนมีทักษะพ้นื ฐานเกี่ยวกบั 1. นกั เรยี นมเี หตุผลในการเขียน 1. นกั เรยี นนำความรู้เรื่องเทคนคิ การ
เทคนิคการรอ้ งและการบรรเลงดนตรี และหาคำตอบเก่ยี วกบั เทคนคิ การ ร้องและการบรรเลงดนตรีไปใช๎ได้
รอ้ งและการบรรเลงดนตรี ถกู ต้อง
2. นกั เรยี นวิเคราะห์และตดั สินใจ 2. นกั เรยี นนำความรทู้ ่ไี ดร้ ับจากการ
ในการทำแบบฝกึ ทกั ษะเนน้ การคิด เรยี น มาเป็นข้อมลู พ้นื ฐานเพ่อื
ได้ ประกอบการตดั สนิ ใจในการทำ
กิจกรรม ไดโ้ ดยไม่เกิดปจั จัยเสย่ี ง
ความรู้ (วธิ กี าร)
1. นกั เรยี นมคี วามรอบรู้ เรอื่ ง เทคนิคการรอ้ งและการบรรเลงดนตรี
2. เรียนนำความรูท้ ีไ่ ด้รับไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
คุณธรรมท่ีเกดิ กับนกั เรยี น
1. นกั เรียนมคี วามซื่อสัตย์ สุจริตและตรงตอ่ เวลา
2. นักเรยี นมีวนิ ัยในตนเอง
11.3 ผลลพั ธ์ KPA 4 มิตทิ ี่เก่ียวขอ้ งกับการอยอู่ ยา่ งพอเพียง
ผลลัพธ์ สมดุลและพร้อมตอ่ การเปล่ยี นแปลงในด้านต่างๆ
ด้านวัตถุ ดา้ นสังคม ดา้ นส่ิงแวดล้อม ด้านวัฒนธรรม
ด้านความรู้ 1.ไดค้ วามรู้ เก่ียวกบั 1. มีการวางแผนในการ 1. มีความรอบรูใ้ นการใช้ 1. การเรียนรู้
เทคนคิ การร้องและ ทำงานเป็นกระบวนการ แหล่งเรยี นร้ใู นทอ้ งถน่ิ สอดคล้องกับวถิ ีชีวติ
การบรรเลงดนตรี กลมุ่ ของคนในชุมชน
2. นกั เรียนมีการ 2. เหน็ คุณคา่ ของภมู ิ
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ปัญญาท้องถนิ่
3. นักเรยี นได้ชว่ ยเหลือ
ซ่งึ กนั และกนั
ดา้ นทกั ษะ 1. มีทักษะในการใชว้ ัสดุ 1. มีทกั ษะในการทำงาน 1. ใชป้ ระโยชนจ์ าก 1. ดำรงตนอยใู่ นสังคม
อุปกรณ์อยา่ งประหยดั ส่ิงแวดล้อมระมัดระวงั อยา่ งมคี วามสุข
และคุ้มค่า 2. มีสามารถในการนำ และคุ้มคา่
ความรทู้ ไี่ ด้รับ ไปรว่ มกนั 2. มีทักษะในการ
2. การเลือกใช้วัสดุ แกป้ ญั หาเพอื่ หาขอ้ สรุป คำนวณและนำไปใช้ได้
อุปกรณไ์ ด้อย่าง ได้ เหมาะสม
เหมาะสม
ด้านค่านิยม 1.ตระหนักถึงผลทีเ่ กดิ 1. มีความรับผดิ ชอบต่อ 1. มจี ติ สานกึ ในการ 1.สืบสานการอนุรักษ์
จากการใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์ การทำงานของกลมุ่ อนุรกั ษส์ ิ่งแวดลอ้ ม ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ
ในการปฏิบตั ิงาน
2. ยอมรบั ความคิดเห็น 2. ใชท้ รัพยากรและ 2. การใชแ้ หล่งเรยี นรู้
ซ่งึ กันและกนั มคี วาม สิ่งแวดล้อมอยา่ ง โดยใชภ้ ูมปิ ัญญา
เสยี สละและอดทน ประหยัด ท้องถ่ิน
12. บูรณาการคณุ ธรรมอตั ลักษณ์ โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
1. ความพอเพยี ง
2. ความกตญั ญู
3. ความซื่อสัตยส์ ุจริต
4. ความรับผิดชอบ
5. อุดมการณ์คณุ ธรรม
ลงชื่อ…………………………………...................ครูผู้สอน
(นางสาวชลนิ ี ศิลาพนั ธ์ุ)
รายวชิ า ศิลปะ 3 รหสั วชิ า ศ 22101 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2
ช้ินงานที่ 5 เร่ือง เทคนคิ การร้องและการ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
บรรเลงดนตรี คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ชื่อ-นามสกลุ ................................................................................ช้นั ........................................เลขที.่ .........................
คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน ใหแ้ ต่ละกลุ่มเลอื กบทเพลงไทยหรอื เพลงไทยสากล 1 บท
เพลง แลว้ ฝกึ ขบั ร้องพรอ้ มท้งั บรรเลงเคร่อื งดนตรปี ระกอบเพลงเปน็ วงดนตรี โดยใช้เครอ่ื งดนตรงี า่ ย ๆ
(เชน่ ขลุย่ ซอ ระนาดเอก ขลุ่ยรีคอร์เดอร)์ จากน้นั ออกมาขบั ร้องและบรรเลงบทเพลงหน้าชนั้ เรยี นแลว้
บนั ทึกผล
แบบบนั ทึกผลการขับร้องและบรรเลงดนตรี
1. กลุ่มของนกั เรียนเลือกขบั ร้องเพลงใด______________________________________________________
2. กลุ่มของนกั เรียนใชเ้ คร่ืองดนตรีอะไร บรรเลงประกอบบทเพลงบา้ ง______________________________
_____________________________________________________________________________________
3. นกั เรียนทาหนา้ ที่อะไรในวงดนตรีของนกั เรียน______________________________________________
4. นกั เรียนขบั ร้อง/บรรเลงดนตรีไดถ้ ูกตอ้ งตามจงั หวะ ทานองเพลงหรือไม่__________________________
_____________________________________________________________________________________
บันทึกผลหลงั สอน จำนวนเวลาเรียน 4 ช่ัวโมง
จำนวนเวลาเรยี น 2 ชวั่ โมง
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เทคนิคการร้องและการประเมินงานดนตรี
เรือ่ ง เทคนิคการรอ้ งและการบรรเลงดนตรี
รายวิชา ศลิ ปะ 3 รหสั วิชา ศ 22101 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2
1. ผลการเรยี นของนักเรียน(ระบผุ ลที่นักเรียนผา่ น/ไมผ่ ่านตามมาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั ดา้ นความรู้ (K) กระบวนการ (P)
และคุณลกั ษณะ (A)
ความรู้ (K)...............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
.......................................................................................................................................................................... ......
กระบวนการ (P)......................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
.................................................................................................................................................................... ............
คณุ ลกั ษณะ (A).......................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................................................. ..................
2.ปญั หาและอปุ สรรค (ระบุปัญหาและอุปสรรคจากการทีน่ ักเรยี นไม่บรรลุตามมาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด)
........................................................................................................................................................ .......................
........................................................................................................... ....................................................................
3. แนวทางแกไ้ ขปรบั ปรุง (ระบแุ นวทางเพอ่ื ใหบ้ รรลตุ ามมาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด)
...................................................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. ..................................................
ลงชื่อ................................................................ครผู ้สู อน
(นางสาวชลินี ศิลาพันธ์ุ)
ความคดิ เห็นของหัวหนา้ กลมุ่ บริหารงานวิชาการ
....................................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.....................................................หวั หน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ
(นายกิตติชัย เทยี นไข)
ความคิดเห็นของรองผอู้ ำนวยการโรงเรียนโคกเจริญวทิ ยา
...................................................................................................................................................................................
ลงชอื่ .............................................รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนโคกเจรญิ วิทยา
(นายพรทวี สมุ าลี)
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7
กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1
รายวิชาศลิ ปะ 3 รหัสวชิ า ศ 22101 ปีการศึกษา 2564
หน่วยที่ 3 เทคนิคการร้องและการประเมนิ งานดนตรี เร่ือง การประเมนิ ความสามารถทางดนตรี เวลา 2 ชว่ั โมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษว์ จิ ารณ์คุณค่าดนตรี
ถ่ายทอดความรสู้ ึก ความคดิ ตอ่ ดนตรีอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
ตัวชีว้ ัด
ศ 2.1 ม.2/6 ประเมินพฒั นาการทกั ษะทางดนตรีของตนเอง หลังจากการฝกึ ปฏบิ ัติ
2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การประเมินความสามารถทางดนตรี ผูป้ ระเมนิ จะตอ้ งมีความร้คู วามเข้าใจทางดนตรีด้วยจงึ จะทำให้ประเมนิ บท
เพลงได้อยา่ งถูกต้อง
3. สาระการเรยี นรู้
การประเมนิ ความสามารถทางดนตรี
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ประเมินความสามารถทางดนตรขี องตนเองและผ้อู ืน่ (K)
2. แสดงความคิดเห็นทางด้านดนตรี โดยใช้หลักการประเมนิ ความสามารถทางดนตรี (P)
3. เหน็ คณุ คา่ และความสำคัญของการประเมนิ ความสามารถทางดนตรี (A)
5. สมรรถนะสำคัญ
ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา
6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ใฝ่เรียนรู้
ตัวช้ีวดั ที่ 4.1 ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้
7. กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครเู ปิดแถบบนั ทกึ ภาพการบรรเลงดนตรีของวงดนตรีไทยหรือวงดนตรีสากล 1 วง 1 บทเพลง
ให้นกั เรยี นชม จากนนั้ ให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถาม ดงั น้ี
- การบรรเลงดนตรที ี่นักเรยี นชมเปน็ วงดนตรไี ทยหรอื สากล และเปน็ วงดนตรอี ะไร
(ตัวอยา่ งคำตอบ วงดนตรีสากล วงออร์เคสตรา)
- การบรรเลงดนตรีของวงนีบ้ รรเลงบทเพลงประเภทใด (ตวั อย่างคำตอบ บทเพลงซมิ โฟน)ี
- ผู้บรรเลงในวงดนตรนี ้บี รรเลงบทเพลงไดถ้ ูกต้องหรือไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ ถูกตอ้ ง)
- นกั เรยี นรูส้ กึ อยา่ งไรเมอื่ ไดช้ มการบรรเลงของวงดนตรนี ี้ (ตัวอยา่ งคำตอบ ชนื่ ชอบ ประทับใจ ต่นื เต้น)
2. ครนู ำบัตรคำต่อไปน้ตี ิดบนกระดาน การประเมินความสามารถทางดนตรี และครูอธบิ ายเกี่ยวกับหลักใน
การประเมินความสามารถทางดนตรี ใหน้ กั เรียนฟงั จนทกุ คนเข้าใจ แล้วให้นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถาม
ดังนี้
- การประเมินความสามารถทางดนตรีมหี ลักอะไรบ้าง (ตวั อย่างคำตอบ ความถกู ตอ้ งในการบรรเลง
ความแมน่ ยำในการอ่านเครอื่ งหมายและสัญลกั ษณก์ ารควบคุมคุณภาพเสยี งในการร้องและบรรเลง)
- การประเมินความถกู ต้องในการบรรเลงมีลกั ษณะอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ พจิ ารณาว่าผ้บู รรเลงสามารถ
บรรเลงไดถ้ ูกตอ้ งตามจังหวะ ทำนอง อารมณเ์ พลง)
- การประเมนิ ความแมน่ ยำในการอ่านเครื่องหมายและสัญลักษณม์ ีลักษณะอย่างไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ ผบู้ รรเลงสามารถอา่ นโนต้ ได้ถูกตอ้ ง เพือ่ บรรเลงดนตรีได้ถูกตอ้ งตามโนต้ เพลง)
- การประเมินการควบคุมคุณภาพเสียงในการรอ้ งและบรรเลงมลี กั ษณะอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ
ผู้ขับร้องสามารถควบคุมเสยี งร้องได้เหมาะสมกับทำนองเพลงและการบรรเลงดนตรี ผู้บรรเลงดนตรจี ะควบคุม
คณุ ภาพเสียงในการบรรเลงดนตรไี ดถ้ กู ตอ้ ง)
3. ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ 3-4 กลุ่ม ใหแ้ ต่ละกลุม่ ชมการแสดงคอนเสิร์ตของไทยและสากลทมี่ ีการขับร้องและบรรเลง
ดนตรีท่ีกลมุ่ ตนเองสนใจ แล้วให้แต่ละกลุ่มรว่ มกนั ประเมนิ ความสามารถของผู้ขบั ร้องและบรรเลงดนตรี จากน้นั ออกมานำเสนอ
ทีห่ น้าช้นั เรยี นทีละกลมุ่ โดยครูคอยตรวจสอบและให้คำแนะนำ
4. ให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่มใหม่ 3-4 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั วิเคราะหว์ ่า การประเมินความสามารถทางดนตรีที่ไม่
ถูกตอ้ งนน้ั เปน็ อยา่ งไร สง่ ผลให้การประเมินเป็นอยา่ งไร ส่งผลต่อผ้ขู ับรอ้ งและบรรเลงดนตรอี ย่างไร โดยเขยี นสรปุ ลงใน
แผนภาพ ดังตวั อย่างตอ่ ไปน้ี
การประเมิน
การประเมนิ ความสามารถทางดนตรี ผ้ขู บั ร้อง
ทไ่ี ม่ถูกต้อง
ส่งผลต่อ
ผ้บู รรเลงดนตรี
จากน้ันให้แตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอแผนภาพของกลมุ่ ตนเองทลี ะกลุ่ม โดยครแู จกกระดาษแข็งและปากกาเมจิก
ใหก้ บั นักเรียนสำหรบั ทำแผนภาพ กลุม่ ละ 1 ชุด
5. ให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คำถาม ดังนี้
- การประเมินความสามารถทางดนตรีส่งผลตอ่ ผขู้ บั รอ้ งและบรรเลงอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ
ทำใหผ้ ขู้ บั ร้องและบรรเลงรู้ขอ้ บกพร่องและนำไปปรบั ปรงุ แก้ไขให้ดีขึ้น)
- ถา้ จะจดั งานเต้นรำควรเลอื กบทเพลงลกั ษณะใดมาขับร้องในงาน (ตัวอยา่ งคำตอบ เพลงทมี่ ี
จงั หวะสนกุ สนาน)
- ถ้านักเรียนเป็นผ้บู รรเลงดนตรี จะปฏิบัตติ นอย่างไรในการบรรเลง (ตวั อย่างคำตอบ ฝึกซ้อม
บรรเลงดนตรเี ป็นประจำทกุ วนั เพ่ือให้สามารถบรรเลงบทเพลงไดถ้ ูกต้องและไพเราะ)
- เมอื่ นักเรยี นฟงั เพลง นักเรยี นจะประเมินความสามารถของผูข้ ับรอ้ งและผู้บรรเลงดนตรีอยา่ งไร (ตัวอย่าง
คำตอบ ประเมนิ จากเสยี งขบั ร้อง การขบั รอ้ งตรงตามจังหวะ ทำนอง การออกเสยี ง การถา่ ยทอดอารมณเ์ พลง
ประเมนิ ผบู้ รรเลงดนตรจี ากการบรรเลงได้ถูกต้องสมั พนั ธก์ บั เสียงของผู้ขบั รอ้ ง)
6. ใหน้ กั เรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดังนี้ การประเมินความสามารถทางดนตรี ผู้ประเมินจะต้องมีความรู้
ความเขา้ ใจทางดนตรีดว้ ย จึงจะทำให้ประเมินบทเพลงไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
7. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังน้ี
- ถา้ นกั เรยี นเป็นผู้ประเมินงานดนตรี นักเรยี นจะประเมนิ ความสามารถของศิลปนิ คนใด เพราะอะไร
8. ใหน้ ักเรียนทำช้นิ งานท่ี 6 เรอื่ ง การประเมนิ ความสามารถทางดนตรี
8. ชิ้นงาน/ภาระงาน
- ชิ้นงานท่ี 6 เรอ่ื ง การประเมินความสามารถทางดนตรี
9. สื่อการจัดการเรยี นรู้
1. แถบบันทกึ ภาพ
2. เครอื่ งเลน่ แถบบันทกึ ภาพ
3. บตั รคำ
4. กระดาษแขง็
5. ปากกาเมจิก
6. ช้ินงานท่ี 6 เรื่อง การประเมนิ ความสามารถทางดนตรี
แหล่งการเรยี นรู้
หอ้ งสมดุ
10. การวัดผลประเมินผล
1. วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล
1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
1.3 ตรวจชิน้ งานที่ 6
2. เครื่องมอื
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่
3. เกณฑก์ ารประเมนิ
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นตงั้ แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผา่ น
ผา่ น 1 รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น
3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดับ ดมี าก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรงุ
การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)
การประเมินช้ินงานท่ี 6 ให้ผสู้ อนพิจารณาจากเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เรือ่ ง การประเมินความสามารถทางดนตรี
เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32
ประเมินผลการขับร้อง ประเมนิ ผลการขับร้อง ประเมินผลการขบั รอ้ ง ประเมินผลการขบั รอ้ ง ประเมนิ ผลการขับรอ้ ง
และบรรเลงดนตรีจาก และบรรเลงดนตรีจาก และบรรเลงดนตรีจาก และบรรเลงดนตรีจาก และบรรเลงดนตรจี าก
การชมการแสดง การชมการแสดง การชมการแสดง การชมการแสดง การชมการแสดง
ไดส้ ัมพันธก์ บั หวั ข้อ ไดส้ มั พนั ธก์ ับหวั ขอ้ ได้สัมพันธก์ บั หวั ข้อ ไดส้ ัมพนั ธ์กับหวั ขอ้
ทก่ี ำหนดและแตกต่าง ท่ีกำหนดและแตกต่าง ทก่ี ำหนด ตามทีค่ รู ทก่ี ำหนด ตามทค่ี รู
จากที่ครูยกตวั อยา่ ง จากที่ครยู กตวั อยา่ ง ยกตัวอยา่ ง แต่มีการ ยกตัวอย่าง
มกี ารเช่อื มโยงใหเ้ ห็น แตเ่ ช่อื มโยงใหเ้ หน็ ดดั แปลงให้แตกต่าง
ถึงความสัมพันธ์กบั เฉพาะตนเอง
ตนเองและผ้อู น่ื
11. บรู ณาการกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
11.1 ผ้สู อนใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
ปศพ. พอประมาณ มีเหตผุ ลทดี่ ี มภี มู คิ ้มุ กันในตัวที่ดี
ประเดน็
สาระการเรยี นรู้ 1. ครูมกี ารวิเคราะห์ 1. ครูเลือก เร่ืองที่สอนให้ 1. เพอ่ื ใหก้ ารจดั การ
หลกั สูตร เนื้อหา ออกแบบ สอดคลอ้ งกบั ท้องถิน่ และผ้เู รียน เรียนรู้ใหค้ รอบคลุมตาม
และจัดกิจกรรมได้ เพอ่ื ใหเ้ ห็นความสำคญั ของการ จุดประสงค์
สอดคล้องกบั มาตรฐาน อนรุ กั ษ์ภูมปิ ญั ญา
ตัวชว้ี ัด และบริบทของ
ทอ้ งถิน่
แหล่งเรยี นรู้ 1. กำหนดภาระงาน/ชนิ้ งาน 1. เพ่อื สง่ เสริมให้นกั เรียนสนใจใฝ่รู้ 1. เตรียมวิธปี ้องกันและ
ในการเขยี นการประเมิน รกั ในการเรยี นรู้การประเมนิ แก้ปัญหาจากการปฏบิ ัติ
ความสามารถทางดนตรีได้ ความสามารถทางดนตรีได้อย่าง กิจกรรมการเรียนการ
เหมาะสมกบั จดุ ประสงค์ เหมาะสม สอน โดยใชแ้ บบฝึกหัด
และวัยผูเ้ รียน
สื่อ/อปุ กรณ์ 1. ครูจัดเตรียมแบบฝกึ 1. ออกแบบการจัดการเรยี นรู้ 1. ครเู ตรยี มแผนฯหรือ
ทักษะเน้นการคดิ ที่ เพือ่ ให้เห็นคณุ ค่าของสิ่งของใกล้ตวั สอ่ื สำรอง เพื่อรองรับ
เหมาะสมกบั เนอื้ หาท่ีสอน ในการเขยี นการประเมนิ กรณที ม่ี ีเหตกุ ารณ์
และความสนใจของผเู้ รียน ความสามารถทางดนตรี เปลีย่ นแปลง
ความรูท้ ี่ใช้ในการจดั 2. จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 2. นกั เรยี นไดร้ ับประสบการณ์ตรง
กิจกรรมการเรียนรู้ เหมาะสมกบั วยั ของผู้เรยี น ในการเรยี นร้แู ละเกดิ ความ
คุณธรรม ภาคภมู ใิ จใน ความสามารถของ
ตนเอง
- สืบ ค้น เทคนิค การสอน รปู แบบกิจกรรมการเรยี นรู้
- ศกึ ษาเนอื้ หาเกีย่ วกบั การประเมินความสามารถทางดนตรี
- วิเคราะห์และจัดทำเครื่องมอื การประเมนิ ผล
- สบื คน้ และนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการบูรณาการหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียงกบั การจดั การเรยี นรู้
- มคี วามรับผิดชอบในการปฎิบัตหิ นา้ ทก่ี ารสอน ตรงเวลา เต็มเวลา เตรียมการสอน
ค้นควา้ มใี บความรู้ ใบงาน ใบกจิ กรรมและแบบทดสอบ
- มีความเมตตา ให้สทิ ธใิ นการแสดงความคิดเหน็ ความเสมอภาค และความยุติธรรม
- มคี วามอดทน เสยี สละ ใฝ่รู้
11.2 ผเู้ รียนมีคณุ ลกั ษณะ “อยอู่ ยา่ งพอเพียง”
พอประมาณ มเี หตุผลทดี่ ี มภี ูมิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดี
1. นักเรียนมีทกั ษะพื้นฐานในการ 1. นกั เรียนมีเหตุผลในการเขยี น 1. นักเรียนนำความรู้เรือ่ งการ
ประเมินความสามารถทางดนตรี และหาคำตอบการประเมิน ประเมินความสามารถทางดนตรี
ความสามารถทางดนตรี ไปใช๎ได้ถกู ตอ้ ง
2. นักเรียนวเิ คราะห์และตัดสนิ ใจ 2. นกั เรยี นนำความรู้ทไ่ี ด้รบั จากการ
ในการทำแบบฝึกทกั ษะเนน้ การคิด เรยี น มาเป็นข้อมูลพนื้ ฐานเพอ่ื
ได้ ประกอบการตัดสนิ ใจในการทำ
กจิ กรรม ได้โดยไม่เกดิ ปจั จยั เสยี่ ง
ความรู้ (วธิ กี าร)
1. นกั เรยี นมคี วามรอบรู้ เรอื่ ง การประเมินความสามารถทางดนตรี
2. เรยี นนำความรทู้ ีไ่ ด้รบั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
คุณธรรมทีเ่ กิดกบั นกั เรยี น
1. นักเรียนมคี วามซ่ือสัตย์ สจุ รติ และตรงต่อเวลา
2. นกั เรียนมวี นิ ยั ในตนเอง
11.3 ผลลพั ธ์ KPA 4 มติ ิทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การอยอู่ ย่างพอเพยี ง
ผลลัพธ์ สมดลุ และพรอ้ มตอ่ การเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ
ด้านวัตถุ ด้านสงั คม ดา้ นส่งิ แวดล้อม ดา้ นวัฒนธรรม
ด้านความรู้ 1.ได้ความรู้ เก่ียวกับการ 1. มีการวางแผนในการ 1. มีความรอบรใู้ นการใช้ 1. การเรยี นรู้
ประเมนิ ความสามารถ ทำงานเปน็ กระบวนการ แหลง่ เรยี นรใู้ นทอ้ งถิน่ สอดคล้องกับวถิ ชี ีวติ
ทางดนตรี กลุ่ม ของคนในชุมชน
2. นกั เรียนมีการ 2. เห็นคุณคา่ ของภมู ิ
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ปัญญาทอ้ งถิน่
3. นกั เรยี นได้ชว่ ยเหลือ
ซง่ึ กนั และกนั
ดา้ นทักษะ 1. มที ักษะในการใช้วสั ดุ 1. มีทักษะในการทำงาน 1. ใช้ประโยชนจ์ าก 1. ดำรงตนอย่ใู นสังคม
อปุ กรณอ์ ย่างประหยัด 2. มีสามารถในการนำ สิ่งแวดล้อมระมดั ระวงั อยา่ งมคี วามสุข
และคุ้มค่า ความรู้ท่ไี ดร้ ับ ไปร่วมกัน และคมุ้ ค่า 2. มที กั ษะในการ
2. การเลือกใชว้ ัสดุ แก้ปัญหาเพอ่ื หาข้อสรปุ คำนวณและนำไปใช้ได้
อุปกรณ์ไดอ้ ยา่ ง ได้ เหมาะสม
เหมาะสม
ด้านคา่ นยิ ม 1.ตระหนักถึงผลทเ่ี กดิ 1. มีความรับผดิ ชอบต่อ 1. มีจติ สานึกในการ 1.สืบสานการอนุรกั ษ์
จากการใช้วสั ดุอปุ กรณ์ การทำงานของกลมุ่ อนรุ กั ษ์ส่งิ แวดลอ้ ม ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ
ในการปฏิบัติงาน 2. ยอมรบั ความคดิ เห็น 2. ใช้ทรัพยากรและ 2. การใช้แหล่งเรียนรู้
ซง่ึ กนั และกนั มคี วาม สิง่ แวดล้อมอย่าง โดยใชภ้ ูมปิ ัญญา
เสียสละและอดทน ประหยดั ท้องถนิ่
12. บูรณาการคุณธรรมอตั ลักษณ์ โรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ.
1. ความพอเพียง
2. ความกตัญญู
3. ความซื่อสัตย์สุจรติ
4. ความรบั ผิดชอบ
5. อุดมการณ์คุณธรรม
ลงชอื่ …………………………………...................ครูผู้สอน
(นางสาวชลนิ ี ศิลาพันธ์ุ)
รายวิชา ศลิ ปะ 3 รหสั วิชา ศ 22101 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2
ชิ้นงานที่ 6 เร่อื ง การประเมินความสามารถทาง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ดนตรี คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ชอ่ื -นามสกุล................................................................................ช้ัน........................................เลขท.่ี .........................
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นชมการแสดงการขบั รอ้ งและบรรเลงดนตรีไทยหรอื สากล แลว้ ประเมินผลการขบั รอ้ ง
และบรรเลงดนตรีลงในแบบประเมินผล (คะแนนเตม็ 10 คะแนน)
แบบประเมนิ ผลการขับร้องและบรรเลงดนตรี
1. การแสดงท่ีชมเป็นการแสดงอะไร________________________________________________________
2. ผขู้ บั ร้อง ขบั ร้องเพลงเป็นอยา่ งไร_________________________________________________________
3. ผบู้ รรเลงดนตรี บรรเลงเป็นอยา่ งไร_______________________________________________________
_____________________________________________________________________________________
4. ผขู้ บั ร้องมีขอ้ ควรปรบั ปรุงหรือไม่________________________________________________________
ควรปรับปรุงอยา่ งไร_____________________________________________________________________
5. ผบู้ รรเลงดนตรีมขี อ้ ควรปรบั ปรุงหรือไม่___________________________________________________
ควรปรับปรุงอยา่ งไร_____________________________________________________________________
บนั ทกึ ผลหลงั สอน จำนวนเวลาเรยี น 4 ชั่วโมง
จำนวนเวลาเรยี น 2 ชวั่ โมง
กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เทคนิคการรอ้ งและการประเมินงานดนตรี
เรอื่ ง การประเมินความสามารถทางดนตรี
รายวิชา ศิลปะ 3 รหัสวิชา ศ 22101 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2
1. ผลการเรียนของนักเรยี น(ระบผุ ลทน่ี ักเรยี นผา่ น/ไมผ่ า่ นตามมาตรฐาน/ตัวช้ีวัด ดา้ นความรู้ (K) กระบวนการ (P)
และคุณลักษณะ (A)
ความรู้ (K)...............................................................................................................................................................
.................................................................................................................. ..............................................................
............................................................................................................................. ...................................................
กระบวนการ (P)......................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
คุณลกั ษณะ (A).......................................................................................................................................................
........................................................................................................ ........................................................................
............................................................................................................................. ..................................................
2.ปญั หาและอปุ สรรค (ระบปุ ญั หาและอุปสรรคจากการที่นกั เรียนไม่บรรลุตามมาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด)
............................................................................................................................. ..................................................
............................................................................................................................... ................................................
3. แนวทางแกไ้ ขปรับปรงุ (ระบแุ นวทางเพ่ือใหบ้ รรลตุ ามมาตรฐาน/ตวั ชี้วัด)
.......................................................................................................................................... .....................................
...............................................................................................................................................................................
ลงช่อื ................................................................ครูผสู้ อน
(นางสาวชลนิ ี ศลิ าพนั ธ์ุ)
ความคดิ เห็นของหัวหนา้ กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ
....................................................................................................................................................................................
ลงชอื่ .....................................................หวั หนา้ กลมุ่ บริหารงานวิชาการ
(นายกติ ตชิ ยั เทียนไข)
ความคดิ เห็นของรองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นโคกเจริญวทิ ยา
...................................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.............................................รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกเจริญวทิ ยา
(นายพรทวี สุมาลี)
กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 8 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1
รายวิชาศิลปะ 3 รหัสวชิ า ศ 22101 เร่ือง อาชพี ทางดนตรี ปกี ารศกึ ษา 2564
หน่วยท่ี 4 เรื่อง อาชพี ทางดนตรี เวลา 2 ช่ัวโมง
1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์วจิ ารณค์ ุณค่าดนตรี
ถ่ายทอดความรู้สึก ความคดิ ต่อดนตรอี ย่างอิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวัน
ตัวชวี้ ัด
ศ 2.1 ม.2/7 ระบุงานอาชพี ต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องกบั ดนตรแี ละบทบาทของดนตรใี นธุรกิจบันเทิง
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
อาชพี ทางดนตรมี ีมากมายหลายอาชีพ แตล่ ะอาชีพมบี ทบาทหนา้ ท่แี ตกต่างกัน เป็นอาชีพทส่ี ร้างสรรคค์ วามสุข
สนุกสนานใหก้ ับผูฟ้ งั ชว่ ยให้ผู้ฟังเกดิ ความผ่อนคลาย
3. สาระการเรยี นรู้
อาชีพทางดนตรี
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. ระบอุ าชพี ทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั ดนตรี (K)
2. แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั ดนตรี (P)
3. เหน็ ความสำคัญของอาชพี ทเ่ี ก่ยี วกบั ดนตรี (A)
5. สมรรถนะสำคัญ
ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้
ตวั ชี้วดั ที่ 4.1 ตัง้ ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
7. กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
ข้ันนำเขา้ ส่บู ทเรียน
1. ครูเปิดแถบบันทึกภาพการแสดงคอนเสริ ์ตใหน้ กั เรยี นชม 1 การแสดง แล้วให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น
โดยครูใช้คำถาม ดังนี้
- การแสดงที่ชมเปน็ การแสดงอะไร (ตัวอย่างคำตอบ การแสดงคอนเสริ ์ต บี้ เดอะสตาร)์
- นักเรยี นคดิ วา่ การแสดงดงั กล่าวเกีย่ วขอ้ งกับอาชีพใดบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ นักรอ้ ง นกั ดนตรี
นักเต้น)
- นกั เรยี นคดิ ว่าอาชพี เหลา่ นีส้ ำคัญตอ่ งานดนตรีหรอื ไม่ เพราะอะไร (ตัวอย่างคำตอบ สำคัญ เพราะ
ทำให้ผฟู้ ังไดฟ้ งั บทเพลงทไ่ี พเราะ)
- นักเรยี นชมการแสดงคอนเสริ ์ตนีแ้ ล้วรสู้ ึกอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ ชืน่ ชอบ สนกุ สนาน)
2. ครนู ำบตั รคำตอ่ ไปนีต้ ดิ บนกระดาน อาชีพทางดนตรี จากน้ันครอู ธิบายให้นักเรียนฟงั ทลี ะอาชีพจนนักเรยี น
เขา้ ใจ แลว้ ให้นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ ดังน้ี
- อาชพี ทางดนตรีมีอาชพี อะไรบา้ ง (ตัวอย่างคำตอบ นกั ร้อง นกั ดนตรี นกั แต่งเพลง โปรดวิ เซอรเ์ พลง นกั จดั
รายการเพลง นกั เตน้ )
- อาชีพนักร้องมีลักษณะอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เปน็ บุคคลทม่ี ีเสยี งไพเราะ มีเอกลักษณ์ รอ้ งเพลง
ตามแนวเพลงต่าง ๆ แสดงตามงานทว่ั ไป งานคอนเสิร์ต)
- อาชีพนกั ดนตรี มลี ักษณะอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ เปน็ อาชพี ท่ตี อ้ งมคี วามรู้ ความเชี่ยวชาญ
ด้านการบรรเลงดนตรี มีทง้ั บรรเลงเด่ียวและบรรเลงประกอบการขบั ร้อง ต้องหมนั่ ฝกึ ซ้อมบทเพลง มที ักษะตา่ ง ๆ ใน
การบรรเลงดนตรใี ห้ไพเราะ)
- อาชพี นกั แต่งเพลง มีลักษณะอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เป็นอาชีพทตี่ ้องมคี วามรทู้ างดนตรี
มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ มจี ินตนาการในการเขยี นบทเพลง ถ่ายทอดอารมณเ์ พลงใหก้ บั ผฟู้ ัง)
- อาชพี โปรดิวเซอร์เพลง มีลักษณะอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ เปน็ อาชีพทีท่ ำหนา้ ที่ควบคมุ และให้
คำแนะนำนกั รอ้ ง นกั ดนตรี วางแผนการผลติ และวางแผนงานใหก้ ับศลิ ปิน)
- อาชีพนักจดั รายการเพลงหรอื ดีเจ มีลกั ษณะอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นผู้จดั รายการเพลงประกอบ
ความรู้เก่ียวกบั เพลง ใหค้ วามรใู้ นเร่ืองตา่ ง ๆ ตอบปัญหา และสนทนากับผฟู้ งั เพลง)
- อาชพี นกั เต้นหรือแดนเซอร์ มีลกั ษณะอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นอาชพี ทเ่ี ต้นประกอบดนตรี
และการขับร้องมกี ารออกแบบทา่ เต้น สรา้ งความน่าสนใจให้กับการแสดง)
จากนนั้ ครูนำคำตอบทไ่ี ด้มาเขยี นสรุปเป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความ
ถกู ตอ้ ง ดงั ตัวอยา่ งต่อไปนี้
อาชีพนกั ดนตรี
อาชีพนกั ร้อง อาชีพนกั แตง่ เพลง
อาชีพทางดนตรี
อาชีพโปรดิวเซอร์เพลง อาชีพนกั เตน้ หรือแดนเซอร์
อาชีพนกั จดั รายการเพลงหรือดีเจ
3. ใหน้ ักเรียนในชั้นเรยี นยืนล้อมรอบเปน็ วงกลมเลน่ เกม อาชีพพาเพลิน ครูแจกลกู บอลนักเรยี นคนใดคนหนงึ่ ให้
เป็นผู้เรม่ิ แลว้ ครเู ปิดแถบบนั ทึกเสียงทีม่ ีจงั หวะสนุกสนาน ใหน้ ักเรียนส่งลูกบอลต่อไปเรื่อย ๆ แลว้ ครูเปา่ นกหวีดสัญญาณ
หยดุ เมื่อลูกบอลหยุดท่ีนกั เรยี นคนใด นักเรียนคนน้นั จะต้องบอกอาชพี ทเี่ กี่ยวกับดนตรี
1 อาชีพ และไม่ซำ้ กนั ตอบถูกสง่ ลกู บอลต่อไป ตอบผิดออกจากเกม เลน่ เกมจนไดผ้ ู้ชนะถือวา่ จบเกม
4. ให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ 3 กลุ่ม ใหแ้ ต่ละกลุ่มคน้ คว้าอาชพี ทีเ่ ก่ียวข้องกบั ดนตรีที่นอกเหนือจากบทเรียน กลมุ่ ละ
1 อาชีพ และวิเคราะห์ลักษณะงานและบทบาทหนา้ ทข่ี องอาชีพนั้นว่าเกย่ี วข้องกบั ดนตรีอยา่ งไรบ้าง และออกมานำเสนอ
หน้าช้ันเรยี น
5. ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คำถาม ดังน้ี
- อาชพี ทางดนตรีมคี วามสำคัญตอ่ สังคมอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ ทำให้คนในสงั คมเกิดความผอ่ นคลาย
เม่ือฟังดนตรี)
- อาชพี ดีเจนอกจากจะทำหนา้ ทเ่ี ปิดแผน่ เสียงแล้วยงั ทำหน้าทใี่ ดอกี บ้าง อย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ
ใหค้ ำปรึกษา ตอบปัญหาผู้ฟังทางโทรศัพท์)
- อาชพี โปรดิวเซอรเ์ พลงแตกต่างจากอาชพี ดนตรอี าชีพอ่นื อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ตอ้ งวางแผนการตลาด
การจัดการเกี่ยวกบั ศิลปิน เพ่อื ให้ได้รับผลตอบรับจากผูฟ้ ังท่ีด)ี
- อาชีพทางดนตรีแต่ละอาชีพจะประสบความสำเรจ็ ได้นัน้ ผทู้ ี่ประกอบอาชีพน้นั จะตอ้ งปฏิบัติตนอย่างไร
(ตัวอย่างคำตอบ ปฏบิ ตั ติ ามหน้าท่ขี องตนเองอยา่ งเตม็ ที่ มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย)
- อาชีพนักแต่งเพลงมีความสำคัญต่อนกั ร้องอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ช่วยสร้างนักร้อง แตง่ เพลง
ใหเ้ หมาะสมกบั เสยี งและบุคลิกของผรู้ ้อง)
- เพราะเหตใุ ดอาชพี นกั เต้นจึงตอ้ งมีการออกแบบท่าเตน้ ในแต่ละบทเพลง (ตวั อยา่ งคำตอบ ทำให้
บทเพลงมีเอกลกั ษณ์โดดเดน่ เปน็ ที่รู้จกั ทวั่ ไป)
6. ให้นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดงั น้ี อาชีพทางดนตรีมมี ากมายหลายอาชพี แต่ละอาชีพมี
บทบาทหนา้ ท่ีแตกต่างกนั เปน็ อาชีพที่สร้างสรรคค์ วามสขุ สนกุ สนานให้กบั ผ้ฟู ัง ช่วยใหผ้ ้ฟู ังเกดิ ความผ่อนคลาย
7. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดงั น้ี
- ในอนาคตนักเรียนจะประกอบอาชีพอะไรทเี่ ก่ียวกบั ดนตรี เพราะอะไร
8. ช้ินงาน/ภาระงาน
- แผนภาพความคดิ อาชพี ทางดนตรี
9. สอ่ื การจัดการเรียนรู้
1. แถบบนั ทึกภาพ
2. เครื่องเลน่ แถบบนั ทึกภาพ
3. บตั รคำ
4. ลกู บอล
5. นกหวดี
6. เกมอาชีพพาเพลิน
แหลง่ การเรยี นรู้
หอ้ งสมดุ
10. การวัดผลประเมินผล
1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล
1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
2. เคร่อื งมอื
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผา่ น
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรุง
11. บรู ณาการกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
11.1 ผสู้ อนใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ปศพ. พอประมาณ มเี หตุผลทีด่ ี มีภูมคิ ุ้มกันในตัวท่ดี ี
ประเด็น
สาระการเรยี นรู้ 1. ครมู ีการวเิ คราะห์หลกั สูตร 1. ครเู ลอื ก เรอื่ งที่สอนให้สอดคลอ้ ง 1. เพอื่ ใหก้ ารจดั การ
เนื้อหา ออกแบบ และจัด กับทอ้ งถ่ินและผู้เรียนเพอ่ื ใหเ้ ห็น เรยี นรูใ้ หค้ รอบคลมุ ตาม
กิจกรรมไดส้ อดคล้องกบั ความสำคัญของการอนุรกั ษ์ภูมิ จดุ ประสงค์
มาตรฐาน ตัวชวี้ ัด และบริบท ปัญญา
ของท้องถ่ิน
แหลง่ เรยี นรู้ 1. กำหนดภาระงาน/ชิ้นงาน 1. เพอ่ื สง่ เสริมให้นักเรยี นสนใจใฝร่ รู้ กั 1. เตรียมวิธีป้องกนั และ
ในการเขยี นแผนภาพอาชพี
ทางดนตรี ไดเ้ หมาะสมกบั ในการเรียนรู้อาชพี ทางดนตรีไดอ้ ย่าง แกป้ ัญหาจากการปฏิบัติ
จุดประสงค์ และวัยผ้เู รยี น
เหมาะสม กจิ กรรมการเรียนการสอน
โดยใช้แบบฝึกหดั
ส่ือ/อปุ กรณ์ 1. ครูจัดเตรียมแบบฝึกทกั ษะ 1. ออกแบบการจดั การเรยี นรู้ เพ่อื ให้ 1. ครูเตรียมแผนฯหรือสือ่
เนน้ การคิด ทเ่ี หมาะสมกบั เหน็ คณุ คา่ ของสิง่ ของใกล้ตวั ในการ สำรอง เพอื่ รองรบั กรณที ่มี ี
ความรทู้ ใี่ ช้ในการจดั เน้อื หาที่สอนและความสนใจ เขยี นแผนภาพอาชพี ทางดนตรี เหตกุ ารณเ์ ปล่ยี นแปลง
กจิ กรรมการเรียนรู้ ของผเู้ รียน
2. นักเรยี นได้รับประสบการณต์ รงใน
คณุ ธรรม 2. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ การเรยี นรู้และเกิดความภาคภมู ิใจใน
เหมาะสมกับวัยของผ้เู รยี น ความสามารถของตนเอง
- สบื คน้ เทคนิค การสอน รปู แบบกิจกรรมการเรยี นรู้
- ศกึ ษาเนือ้ หาเก่ยี วกับอาชพี ทางดนตรี
- วิเคราะห์และจดั ทำเคร่อื งมือการประเมนิ ผล
- สบื ค้นและนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและการบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ
พอเพียงกับการจดั การเรยี นรู้
- มคี วามรับผดิ ชอบในการปฎิบตั ิหนา้ ทก่ี ารสอน ตรงเวลา เตม็ เวลา เตรยี มการสอน ค้นควา้
มีใบความรู้ ใบงาน ใบกิจกรรมและแบบทดสอบ
- มีความเมตตา ให้สทิ ธใิ นการแสดงความคิดเหน็ ความเสมอภาค และความยตุ ิธรรม
- มคี วามอดทน เสยี สละ ใฝร่ ู้
11.2 ผเู้ รยี นมคี ุณลกั ษณะ “อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง”
พอประมาณ มีเหตุผลทีด่ ี มภี ูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี
1. นกั เรียนมีทักษะพืน้ ฐานเก่ยี วกบั อาชพี 1. นกั เรยี นมเี หตุผลในการเขยี นและ 1. นักเรยี นนำความรู้เรอ่ื งอาชพี ทาง
ทางดนตรี หาคำตอบเกี่ยวกับอาชพี ทางดนตรี ดนตรไี ปใช๎ได้ถกู ต้อง
2. นักเรียนวิเคราะห์และตดั สินใจใน 2. นักเรยี นนำความร้ทู ีไ่ ดร้ ับจากการ
การทำแบบฝกึ ทกั ษะเน้นการคดิ ได้ เรียน มาเป็นขอ้ มลู พ้ืนฐานเพอื่
ประกอบการตดั สนิ ใจในการทำกจิ กรรม
ได้โดยไมเ่ กิดปัจจยั เสี่ยง
ความรู้ (วิธีการ)
1. นกั เรียนมีความรอบรู้ เร่อื ง อาชพี ทางดนตรี
2. เรียนนำความร้ทู ไ่ี ด้รับไปประยุกต์ใชใ้ นการแก้ปัญหาได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
คณุ ธรรมท่ีเกิดกบั นักเรียน
1. นักเรียนมีความซอ่ื สตั ย์ สุจริตและตรงตอ่ เวลา
2. นกั เรยี นมีวินยั ในตนเอง
11.3 ผลลพั ธ์ KPA 4 มิติทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับการอยอู่ ย่างพอเพยี ง
ผลลัพธ์ สมดลุ และพร้อมตอ่ การเปล่ียนแปลงในดา้ นต่างๆ
ดา้ นวัตถุ ดา้ นสังคม ด้านส่งิ แวดล้อม ดา้ นวฒั นธรรม
ด้านความรู้ 1.ไดค้ วามรู้ เก่ียวกบั 1. มีการวางแผนในการ 1. มีความรอบรู้ในการใช้ 1. การเรียนรสู้ อดคล้อง
อาชีพทางดนตรี
ทำงานเป็นกระบวนการ แหลง่ เรียนรู้ในทอ้ งถ่นิ กับวิถีชวี ิตของคนใน
กลมุ่ ชุมชน
2. นักเรียนมีการ 2. เห็นคณุ ค่าของภมู ิ
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ปัญญาท้องถน่ิ
3. นักเรียนได้ช่วยเหลอื ซ่งึ
กนั และกนั
ดา้ นทักษะ 1. มที ักษะในการใชว้ สั ดุ 1. มที กั ษะในการทำงาน 1. ใชป้ ระโยชน์จาก 1. ดำรงตนอยู่ในสงั คม
อุปกรณ์อย่างประหยดั 2. มีสามารถในการนำ สงิ่ แวดล้อมระมดั ระวงั อย่างมคี วามสุข
และคุ้มคา่ และคุ้มค่า
ความรทู้ ไี่ ด้รับ ไปรว่ มกัน 2. มีทักษะในการ
2. การเลอื กใชว้ ัสดุ แกป้ ัญหาเพ่ือหาข้อสรปุ ได้
คำนวณและนำไปใชไ้ ด้
อปุ กรณ์ได้อยา่ งเหมาะสม เหมาะสม
ดา้ นค่านยิ ม 1.ตระหนกั ถงึ ผลทเ่ี กิดจาก 1. มีความรบั ผิดชอบตอ่ 1. มจี ิตสานึกในการ 1.สบื สานการอนุรักษ์
การใชว้ ัสดุอุปกรณใ์ นการ การทำงานของกลมุ่ อนุรกั ษ์สง่ิ แวดล้อม ภูมิปัญญาท้องถ่นิ
ปฏบิ ตั ิงาน
2. ยอมรบั ความคดิ เห็นซง่ึ 2. ใชท้ รัพยากรและ 2. การใช้แหลง่ เรยี นรู้
กนั และกนั มคี วาม สง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งประหยดั โดยใชภ้ มู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน
เสยี สละและอดทน
12. บูรณาการคณุ ธรรมอตั ลักษณ์ โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
1. ความพอเพยี ง
2. ความกตญั ญู
3. ความซื่อสัตยส์ ุจริต
4. ความรับผิดชอบ
5. อุดมการณ์คณุ ธรรม
ลงชื่อ…………………………………...................ครูผู้สอน
(นางสาวชลนิ ี ศิลาพนั ธ์ุ)
บันทกึ ผลหลังสอน จำนวนเวลาเรียน 4 ช่วั โมง
จำนวนเวลาเรยี น 2 ช่วั โมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
หน่วยท่ี 4 เร่ือง อาชีพทางดนตรี
เรื่อง อาชีพทางดนตรี
รายวชิ า ศลิ ปะ 3 รหสั วชิ า ศ 22101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2
1. ผลการเรยี นของนักเรียน(ระบุผลท่ีนกั เรียนผา่ น/ไมผ่ า่ นตามมาตรฐาน/ตัวชี้วัด ด้านความรู้ (K) กระบวนการ (P)
และคณุ ลกั ษณะ (A)
ความรู้ (K)...............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
.......................................................................................................................................................................... ......
กระบวนการ (P)......................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
.................................................................................................................................................................... ............
คุณลกั ษณะ (A).......................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................................................. ..................
2.ปัญหาและอุปสรรค (ระบุปญั หาและอปุ สรรคจากการที่นกั เรียนไม่บรรลตุ ามมาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด)
............................................................................................................................. ..................................................
.......................................................................................................................................... .....................................
3. แนวทางแก้ไขปรับปรุง (ระบุแนวทางเพ่ือใหบ้ รรลุตามมาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด)
..................................................................................................................................................... ..........................
........................................................................................................ .......................................................................
ลงช่อื ................................................................ครูผสู้ อน
(นางสาวชลนิ ี ศลิ าพันธุ์)
ความคดิ เหน็ ของหัวหน้ากลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
....................................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.....................................................หวั หน้ากลุ่มบริหารงานวชิ าการ
(นายกติ ติชัย เทยี นไข)
ความคิดเห็นของรองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นโคกเจรญิ วทิ ยา
...................................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.............................................รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนโคกเจรญิ วทิ ยา
(นายพรทวี สุมาลี)
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9
กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2
รายวิชาศิลปะ 3 รหสั วิชา ศ 22101
หนว่ ยที่ 4 เรอ่ื ง อาชพี ทางดนตรี ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564
เรื่อง บทบาทของดนตรีในธุรกิจบนั เทงิ เวลา 2 ชัว่ โมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชีว้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษว์ จิ ารณ์คุณคา่ ดนตรี
ถ่ายทอดความรสู้ ึก ความคดิ ตอ่ ดนตรอี ย่างอิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
ตัวชวี้ ัด
ศ 2.1 ม.2/7 ระบงุ านอาชีพตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วข้องกับดนตรีและบทบาทของดนตรใี นธรุ กิจบันเทงิ
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
ดนตรเี ป็นสิ่งที่มีบทบาทในธุรกิจด้านบนั เทงิ ต่าง ๆ เพราะในงานบันเทงิ จะมกี ารนำดนตรไี ปเกยี่ วข้องเพอื่ ให้งานมี
ความสนกุ สนาน และดนตรยี งั ช่วยส่งเสรมิ ใหธ้ ุรกจิ บนั เทงิ มีความหลากหลายเพ่ือตอบสนองคนในสงั คม
3. สาระการเรียนรู้
บทบาทของดนตรใี นธรุ กจิ บนั เทงิ
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายเก่ยี วกบั บทบาทของดนตรีในธรุ กิจบันเทงิ (K)
2. แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั บทบาทของดนตรีในธรุ กจิ บันเทงิ (P)
3. เห็นความสำคัญของบทบาทของดนตรใี นธุรกจิ บนั เทงิ (A)
5. สมรรถนะสำคัญ
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ใฝเ่ รยี นรู้
ตวั ช้วี ัดท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้
7. กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูนำภาพบุคคลที่มีอาชพี ทางดนตรีตดิ บนกระดาน ดงั น้ี
บ้ี สุกฤษฎ์ิ นิติพงษ์ ห่อนาค สุทธิพงษ์ วฒั นจงั ดีเจคลน่ื อเี อฟเอ็ม ครูอู๋ เปรมจิตต์
ใหน้ ักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั ภาพ ดังกลา่ ว โดยครูใชค้ ำถาม ดงั นี้
- นักเรียนรจู้ ักบุคคลในภาพหรอื ไม่ รูจ้ ักใครบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ รจู้ กั รู้จักบี้ สุกฤษฎ์ิ นติ พิ งษ์
หอ่ นาค สุทธิพงษ์ วฒั นจัง ดีเจคลน่ื อีเอฟเอ็ม ครูอู๋ เปรมจิตต์)
- บคุ คลในภาพประกอบอาชพี อะไรบา้ ง (ตวั อยา่ งคำตอบ นกั ร้อง นักแตง่ เพลง ดีเจ นักเตน้ )
- บคุ คลในภาพมคี วามสำคัญตอ่ วงการดนตรอี ยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เปน็ ผูส้ รา้ งสรรคแ์ ละถ่ายทอด
เสียงเพลง ให้ผูฟ้ ังและผชู้ มมีความสขุ ทำใหส้ ังคมมีความสุข ผ่อนคลาย)
- ถ้าใหเ้ ลอื กประกอบอาชพี เหมอื นกับบคุ คลในภาพ นักเรยี นจะเลอื กประกอบอาชีพเหมอื นกบั บุคคลใดใน
ภาพ เพราะอะไร (ตัวอย่างคำตอบ นิตพิ งษ์ ห่อนาค เพราะจะไดส้ ร้างสรรคบ์ ทเพลงท่มี ีเน้ือหาใหม่ ๆ ไพเราะ)
2. ครนู ำบตั รคำตอ่ ไปนตี้ ดิ บนกระดาน บทบาทของดนตรใี นธรุ กจิ บันเทงิ แล้วครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นฟังจนทุก
คนเขา้ ใจแลว้ ให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถาม ดังนี้
- ดนตรีมคี วามสำคัญตอ่ ผฟู้ งั อยา่ งไรบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ ทำใหผ้ ู้ฟังผอ่ นคลาย มคี วามสุข)
- ดนตรมี บี ทบาทตอ่ ธุรกจิ ใดบ้าง อยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ธุรกิจบนั เทิงตา่ ง ๆ เช่น บรษิ ัทค่ายเพลง
บริษัทจัดแสดงคอนเสิร์ต)
- ดนตรมี บี ทบาทตอ่ ธรุ กิจบนั เทิงอยา่ งไรบา้ ง (ตวั อย่างคำตอบ สร้างความสุขใหผ้ ู้รว่ มงาน
สรา้ งรายได้ใหก้ บั ผปู้ ระกอบอาชพี แสดงถึงความกา้ วหนา้ ทางธรุ กิจดนตรี ตอบสนองความตอ้ งการของคนในสงั คมทำให้
เกดิ รางวลั ทางดนตรีเพอื่ เป็นกำลงั ใจใหก้ ับผปู้ ระกอบธุรกิจบนั เทิง)
- ถา้ ธรุ กจิ บันเทงิ ไม่มีดนตรเี ข้ามาเก่ยี วข้องจะเป็นอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ทำใหธ้ รุ กจิ ไม่นา่ สนใจ
ผู้มารว่ มงานหรอื ผู้ชมไมส่ นุกสนาน)
- ธุรกิจบันเทงิ มีความสำคัญตอ่ คนในสังคมอย่างไรบา้ ง (ตวั อย่างคำตอบ ทำให้คนในสงั คมผ่อนคลาย
มีความสขุ และเกิดความรัก ความสามคั คี ปรองดองกนั )
จากน้นั ครนู ำคำตอบทไ่ี ด้มาเขียนสรุปเปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน แล้วใหน้ ักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความ
ถกู ต้อง ดงั ตัวอยา่ งตอ่ ไปน้ี
_________________ _________________
_________________ _________________
_________________ บทบาทของดนตรีในธุรกจิ บันเทงิ _________________
_________________ _________________
_________________
_________________ _________________
_________________
3. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม 4-5 กลมุ่ ครูแจกกระดาษแขง็ พร้อมปากกาสเี มจิก กลุ่มละ 1 ชดุ ให้แต่ละกลมุ่ วิเคราะห์
ถงึ ปัญหาเกย่ี วกบั การละเมิดลิขสิทธท์ิ างดนตรีว่ามีสาเหตุมาจากสง่ิ ใด และจะมีแนวทางแกไ้ ขอยา่ งไรได้บ้าง โดยบันทกึ ลง
ในแผนภาพ ดงั ตัวอย่างต่อไปนี้
สาเหตุ ปัญหาการละเมิด
ลิขสิทธ์ทิ างดนตรี
แนวทางการแก้ไขปญั หา
______________________________
______________________________
____________
ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สรปุ เปน็ แผนภาพลงในกระดาษท่ีครูแจกให้ ดังแผนภาพตวั อย่าง จากนัน้ ออกมานำเสนอผลงานท่ี
หนา้ ชั้นเรยี นทีละกลุ่ม
4. ใหน้ กั เรยี นสำรวจเพ่อื นในชนั้ เรยี น 5 คนวา่ เพ่อื นของนกั เรียนจะนำดนตรมี าใชป้ ระกอบกิจกรรมใดบ้าง
เพราะอะไร แลว้ ให้นกั เรยี นสรปุ ผลการสำรวจ และออกมานำเสนอทห่ี นา้ ช้ันเรียนทลี ะคน
5. ใหน้ กั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั นี้ ดนตรีเป็นสง่ิ ทมี่ ีบทบาทในธรุ กิจด้านบันเทงิ ต่าง ๆ
เพราะในงานบนั เทงิ จะมีการนำดนตรไี ปเก่ียวข้องเพื่อใหง้ านมคี วามสนุกสนาน และดนตรียงั ช่วยสง่ เสรมิ ให้ธรุ กจิ บนั เทงิ มี
ความหลากหลายเพ่อื ตอบสนองคนในสังคม
6. ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดงั น้ี
- นกั เรียนอยากประกอบอาชีพอะไรท่ีเกี่ยวกับงานบนั เทิงมากทสี่ ุด เพราะอะไร
7. ให้นกั เรยี นทำชิ้นงานที่ 7 เร่ือง อาชพี ดนตรี
8. ช้ินงาน/ภาระงาน
1. ชน้ิ งานที่ 7 เร่ือง อาชีพดนตรี
2. แผนภาพความคิดบทบาทของดนตรีในธรุ กจิ บันเทิง
9. ส่อื การจัดการเรียนรู้
1. ภาพบุคคลที่มีอาชีพทางดนตรี
2. บตั รคำ
3. กระดาษแขง็
4. ปากกาสีเมจิก
5. ชิ้นงานที่ 7 เรอื่ ง อาชีพดนตรี
แหลง่ การเรียนรู้
ห้องสมดุ
10. การวัดผลประเมนิ ผล
1. วิธกี ารวัดและประเมินผล
1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
1.3 ตรวจชิน้ งานที่ 7
2. เครอ่ื งมอื
2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
3. เกณฑก์ ารประเมนิ
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ ่าน
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่
คะแนน 9-10 ระดบั ดมี าก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง
การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
การประเมินชนิ้ งานที่ 7 ให้ผูส้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรอื่ ง อาชีพดนตรี
เกณฑก์ ารประเมิน 4 ระดับคะแนน 1
32
ระบงุ านอาชีพต่าง ๆ ระบงุ านอาชีพตา่ ง ๆ ระบุงานอาชพี ต่าง ๆ ระบุงานอาชพี ตา่ ง ๆ ระบงุ านอาชีพต่าง ๆ
ทเ่ี กี่ยวข้องกบั ดนตรี ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั ดนตรี ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ดนตรี ทเ่ี กยี่ วข้องกบั ดนตรี ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับดนตรี
และบทบาทของดนตรี และบทบาทของดนตรี และบทบาทของดนตรี และบทบาทของดนตรี และบทบาทของดนตรี
ในธุรกจิ บันเทิง ในธรุ กจิ บนั เทิงได้ ในธรุ กิจบันเทงิ ได้ ในธุรกจิ บันเทงิ ได้ ในธุรกิจบันเทงิ ได้
สมั พันธก์ บั หัวข้อ สัมพนั ธก์ ับหัวข้อ สมั พันธก์ บั หัวข้อ สัมพนั ธ์กบั หัวขอ้
ทกี่ ำหนดและแตกต่าง ที่กำหนดและแตกต่าง ที่กำหนด ตามท่คี รู ทกี่ ำหนด ตามทคี่ รู
จากท่ีครยู กตวั อยา่ ง จากที่ครยู กตวั อย่าง ยกตวั อย่าง แตม่ กี าร ยกตัวอยา่ ง
แต่เชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ ดดั แปลงให้แตกต่าง
มกี ารเช่อื มโยงใหเ้ หน็ เฉพาะตนเอง
ถึงความสัมพนั ธก์ ับ
ตนเองและผอู้ ่ืน
11. บรู ณาการกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
11.1 ผ้สู อนใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ปศพ. พอประมาณ มเี หตผุ ลที่ดี มีภูมิคุ้มกันในตวั ทีด่ ี
ประเด็น
สาระการเรยี นรู้ 1. ครูมกี ารวเิ คราะห์ 1. ครเู ลือก เร่ืองท่ีสอนให้ 1. เพ่ือใหก้ ารจัดการ
หลกั สตู ร เนอื้ หา ออกแบบ สอดคล้องกับท้องถน่ิ และผเู้ รยี น เรยี นรู้ใหค้ รอบคลุมตาม
และจดั กิจกรรมได้ เพ่อื ใหเ้ หน็ ความสำคัญของการ จุดประสงค์
สอดคล้องกบั มาตรฐาน อนุรักษ์ภูมปิ ญั ญา
ตวั ชี้วดั และบรบิ ทของ
ทอ้ งถิ่น
แหลง่ เรยี นรู้ 1. กำหนดภาระงาน/ชิน้ งาน 1. เพ่อื สง่ เสริมใหน้ ักเรียนสนใจใฝร่ ู้ 1. เตรยี มวิธปี อ้ งกนั และ
ในการเขียนแผนภาพ รกั ในการเรยี นรู้บทบาทของดนตรี แกป้ ญั หาจากการปฏิบัติ
บทบาทของดนตรีในธุรกจิ ในธุรกจิ บนั เทิง ได้อย่างเหมาะสม
บันเทิง ได้เหมาะสมกับ กิจกรรมการเรียนการ
จุดประสงค์ และวัยผูเ้ รยี น สอน โดยใชแ้ บบฝึกหัด
สอื่ /อปุ กรณ์ 1. ครูจดั เตรียมแบบฝกึ 1. ออกแบบการจัดการเรยี นรู้ 1. ครูเตรยี มแผนฯหรือ
ทกั ษะเน้นการคดิ ท่ี
เหมาะสมกับเนอื้ หาท่ีสอน เพอื่ ใหเ้ ห็นคณุ ค่าของส่งิ ของใกล้ตัว สือ่ สำรอง เพื่อรองรบั
และความสนใจของผ้เู รยี น
ในการเขยี นแผนภาพบทบาทของ กรณีท่มี เี หตุการณ์
ดนตรใี นธรุ กจิ บันเทงิ เปล่ียนแปลง
2. จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 2. นกั เรยี นได้รบั ประสบการณ์ตรง
เหมาะสมกับวยั ของผู้เรียน ในการเรียนรู้และเกิดความ
ภาคภูมใิ จใน ความสามารถของ
ตนเอง
ความรู้ท่ีใชใ้ นการจดั - สืบ ค้น เทคนคิ การสอน รูปแบบกิจกรรมการเรยี นรู้
กิจกรรมการเรยี นรู้ - ศึกษาเนื้อหาเก่ยี วกบั บทบาทของดนตรใี นธรุ กจิ บนั เทิง
- วเิ คราะหแ์ ละจัดทำเครือ่ งมอื การประเมนิ ผล
- สืบค้นและนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งและการบรู ณาการหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การจัดการเรยี นรู้
คุณธรรม - มคี วามรบั ผิดชอบในการปฎิบัตหิ นา้ ท่กี ารสอน ตรงเวลา เตม็ เวลา เตรียมการสอน
คน้ ควา้ มีใบความรู้ ใบงาน ใบกิจกรรมและแบบทดสอบ
- มีความเมตตา ให้สทิ ธิในการแสดงความคิดเห็น ความเสมอภาค และความยุติธรรม
- มคี วามอดทน เสยี สละ ใฝ่รู้
11.2 ผเู้ รียนมีคุณลกั ษณะ “อยู่อยา่ งพอเพียง”
พอประมาณ มเี หตผุ ลที่ดี มภี ูมิคมุ้ กนั ในตวั ทีด่ ี
1. นักเรยี นมที กั ษะพ้นื ฐานเกย่ี วกับ 1. นักเรยี นมีเหตผุ ลในการเขยี น 1. นักเรยี นนำความรเู้ รอ่ื งบทบาท
บทบาทของดนตรีในธรุ กิจบันเทงิ
และหาคำตอบเก่ียวกับบทบาทของ ของดนตรีในธุรกิจบันเทงิ ไปใชไ๎ ด้
ดนตรใี นธุรกจิ บนั เทิง ถูกตอ้ ง
2. นักเรียนวเิ คราะหแ์ ละตัดสนิ ใจ 2. นักเรียนนำความรทู้ ี่ได้รบั จากการ
ในการทำแบบฝกึ ทกั ษะเน้นการคิด เรียน มาเป็นข้อมลู พน้ื ฐานเพือ่
ได้ ประกอบการตัดสินใจในการทำ
กิจกรรม ไดโ้ ดยไมเ่ กิดปจั จยั เสีย่ ง
ความรู้ (วิธีการ)
1. นกั เรยี นมีความรอบรู้ เรื่อง บทบาทของดนตรีในธรุ กิจบันเทิง
2. เรียนนำความร้ทู ไี่ ดร้ บั ไปประยุกต์ใชใ้ นการแกป้ ัญหาได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
คณุ ธรรมที่เกิดกับนักเรยี น
1. นกั เรียนมคี วามซ่ือสตั ย์ สุจริตและตรงตอ่ เวลา
2. นักเรยี นมวี นิ ัยในตนเอง
11.3 ผลลัพธ์ KPA 4 มิตทิ ่เี กย่ี วขอ้ งกับการอยู่อยา่ งพอเพยี ง
ผลลพั ธ์ สมดลุ และพร้อมตอ่ การเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ
ดา้ นวัตถุ ด้านสงั คม ด้านสง่ิ แวดลอ้ ม ดา้ นวัฒนธรรม
ดา้ นความรู้ 1.ได้ความรู้ เก่ียวกับ 1. มกี ารวางแผนในการ 1. มคี วามรอบรใู้ นการใช้ 1. การเรยี นรู้
บทบาทของดนตรีใน ทำงานเปน็ กระบวนการ แหลง่ เรียนรู้ในทอ้ งถิ่น สอดคล้องกับวิถชี ีวติ
ธรุ กิจบันเทิง กล่มุ ของคนในชมุ ชน
2. นักเรียนมกี าร 2. เห็นคุณคา่ ของภมู ิ
แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ปญั ญาทอ้ งถน่ิ
3. นกั เรียนไดช้ ว่ ยเหลือ
ซ่งึ กนั และกนั
ดา้ นทกั ษะ 1. มที กั ษะในการใช้วสั ดุ 1. มที กั ษะในการทำงาน 1. ใชป้ ระโยชนจ์ าก 1. ดำรงตนอยใู่ นสงั คม
อปุ กรณอ์ ย่างประหยดั ส่งิ แวดล้อมระมดั ระวงั อย่างมคี วามสุข
และค้มุ ค่า 2. มีสามารถในการนำ และค้มุ ค่า
ความรทู้ ีไ่ ดร้ ับ ไปรว่ มกัน 2. มีทกั ษะในการ
2. การเลอื กใชว้ ัสดุ แก้ปัญหาเพ่ือหาข้อสรุป คำนวณและนำไปใชไ้ ด้
อปุ กรณ์ได้อยา่ ง ได้ เหมาะสม
เหมาะสม
ดา้ นค่านิยม 1.ตระหนักถงึ ผลทเี่ กดิ 1. มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ 1. มีจิตสานึกในการ 1.สืบสานการอนุรักษ์
จากการใช้วสั ดอุ ุปกรณ์ การทำงานของกลุ่ม อนรุ ักษ์ส่งิ แวดล้อม ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น
ในการปฏบิ ัตงิ าน
2. ยอมรับความคิดเห็น 2. ใชท้ รัพยากรและ 2. การใช้แหลง่ เรยี นรู้
ซง่ึ กนั และกนั มคี วาม สิ่งแวดล้อมอยา่ ง โดยใชภ้ ูมปิ ญั ญา
เสียสละและอดทน ประหยัด ทอ้ งถนิ่
12. บูรณาการคณุ ธรรมอตั ลักษณ์ โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ.
1. ความพอเพยี ง
2. ความกตญั ญู
3. ความซื่อสัตยส์ ุจริต
4. ความรับผิดชอบ
5. อุดมการณ์คณุ ธรรม
ลงชื่อ…………………………………...................ครูผู้สอน
(นางสาวชลนิ ี ศิลาพนั ธ์ุ)
รายวชิ า ศลิ ปะ 3 รหัสวชิ า ศ 22101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2
ชน้ิ งานที่ 7 เรอื่ ง อาชพี ดนตรี ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ช่ือ-นามสกุล................................................................................ช้นั ........................................เลขท.ี่ .........................
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนวิเคราะห์เกยี่ วกับบทบาทของดนตรตี ่อวงการธุรกจิ บันเทงิ โดยเขียนธุรกจิ บันเทิงทม่ี ดี นตรี
เขา้ ไปเก่ียวขอ้ งมา 1 ธรุ กิจ พร้อมท้งั บอกผลดีและผลเสียของธุรกจิ นน้ั ตอ่ สังคมลงในแผนภาพทก่ี ำหนดให้
ธุรกิจบนั เทงิ บทบาทของดนตรีต่อ ผลดขี องธุรกิจต่อสังคม
___________________________
__________________ ธุรกิจบนั เทงิ ___________________________
__________________ __________________ ___________________________
__________________ __________________ ___________________________
__________________ __________________
__________________ __________________ ผลเสียของธุรกิจต่อสังคม
__________________ __________________ ___________________________
__________________ ___________________________
___________________________
___________________________
บันทึกผลหลงั สอน จำนวนเวลาเรยี น 4 ชวั่ โมง
จำนวนเวลาเรียน 2 ชวั่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 อาชพี ดนตรี
เร่ือง บทบาทของดนตรีในธุรกจิ บันเทงิ
รายวชิ า ศิลปะ 3 รหสั วชิ า ศ 22101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2
1. ผลการเรียนของนกั เรยี น(ระบุผลที่นกั เรยี นผา่ น/ไม่ผ่านตามมาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั ดา้ นความรู้ (K) กระบวนการ (P)
และคณุ ลักษณะ (A)
ความรู้ (K)...............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................. ...................................................
กระบวนการ (P)......................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................. ...................................................
คุณลักษณะ (A).......................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................. ..................................................
2.ปัญหาและอุปสรรค (ระบุปัญหาและอปุ สรรคจากการท่นี กั เรียนไม่บรรลุตามมาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด)
............................................................................................................................. ..................................................
............................................................................................................................. ..................................................
3. แนวทางแกไ้ ขปรับปรุง (ระบแุ นวทางเพือ่ ใหบ้ รรลตุ ามมาตรฐาน/ตัวช้วี ัด)
........................................................................................................................................ .......................................
...............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ................................................................ครผู ู้สอน
(นางสาวชลินี ศลิ าพันธุ์)
ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ
....................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.....................................................หวั หน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ
(นายกติ ติชยั เทียนไข)
ความคิดเหน็ ของรองผู้อำนวยการโรงเรยี นโคกเจรญิ วิทยา
...................................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .............................................รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนโคกเจริญวิทยา
(นายพรทวี สุมาลี)
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 10
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1
รายวิชาศลิ ปะ 3 รหัสวชิ า ศ 22101 ปกี ารศกึ ษา 2564
หนว่ ยท่ี 5 องคป์ ระกอบดนตรใี นแต่ละวัฒนธรรม เรอ่ื ง องค์ประกอบและลกั ษณะของดนตรพี ืน้ บา้ น เวลา 2 ชัว่ โมง
1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรอี ยา่ งสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณค์ ุณค่าดนตรี
ถา่ ยทอดความรูส้ ึก ความคดิ ตอ่ ดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั
ตัวชว้ี ัด
ศ 2.1 ม.2/1 เปรยี บเทยี บการใช้องคป์ ระกอบดนตรีทมี่ าจากวัฒนธรรมตา่ งกนั
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ดนตรีพ้นื บา้ นแต่ละทอ้ งถิ่นมีลกั ษณะแตกต่างกนั ไปตามแต่ละท้องถนิ่ สะทอ้ นวถิ ชี วี ติ วัฒนธรรมและประเพณี
ของแต่ละท้องถิน่ เปน็ ส่ิงทส่ี รา้ งสรรคข์ ึ้นมาจากภูมปิ ญั ญาของคนในทอ้ งถิ่น เพื่อสรา้ งความสุข สนุกสนานใหก้ ับคนใน
ท้องถิ่น และเป็นมรดกที่ทรงคณุ คา่ ควรคา่ แก่การอนุรกั ษส์ บื ไป
3. สาระการเรยี นรู้
1. องค์ประกอบของดนตรพี ้ืนบ้าน
2. ลกั ษณะของดนตรพี ื้นบ้าน
4. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เปรยี บเทียบองค์ประกอบและลักษณะของดนตรพี ืน้ บา้ นแต่ละภาค (K)
2. แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับองค์ประกอบและลักษณะของดนตรพี ื้นบา้ น (P)
3. เหน็ คณุ ค่าและความสำคัญในการอนรุ กั ษด์ นตรพี นื้ บา้ น (A)
5. สมรรถนะสำคัญ
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
รกั ความเปน็ ไทย
ตัวชี้วดั ท่ี 7.3 อนรุ กั ษแ์ ละสืบทอดภูมปิ ัญญาไทย
7. กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้
ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครนู ำภาพประเพณีตอ่ ไปน้ตี ิดบนกระดาน
ประเพณีย่ีเป็ ง ประเพณีบุญบ้งั ไฟ ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีชกั พระ
ใหน้ กั เรยี นสงั เกตภาพ แลว้ รว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถาม ดงั นี้
- นกั เรียนรู้จักประเพณใี นภาพหรอื ไม่ มปี ระเพณีอะไรบา้ ง (ตวั อยา่ งคำตอบ รู้จักประเพณยี ่เี ปง็ ประเพณี
บญุ บ้งั ไฟ ประเพณสี งกรานต์ ประเพณชี กั พระ)
- นกั เรียนคดิ ว่าประเพณตี ่าง ๆ ในภาพมกี ารนำดนตรีมาบรรเลงหรือไม่ (ตวั อย่างคำตอบ มี)
- นักเรียนเคยเข้ารว่ มงานประเพณใี นภาพหรือไม่ ประเพณีอะไรบ้าง (ตวั อยา่ งคำตอบ เคย ประเพณี
บญุ บั้งไฟ ประเพณีสงกรานต)์
- ในงานประเพณีทีน่ ักเรียนเข้าร่วมมีการนำเครื่องดนตรอี ะไรมาบรรเลงในงานบ้าง
(ตัวอยา่ งคำตอบ ประเพณบี ญุ บั้งไฟ มแี คน โปงลาง พิณ ประเพณสี งกรานต์ มกี ลองยาว ฉ่ิง กรับ โหม่ง)
- นกั เรยี นร้สู กึ อยา่ งไรท่ไี ดเ้ ข้ารว่ มประเพณีต่าง ๆ (ตัวอย่างคำตอบ ประทบั ใจ สนุกสนาน)
2. ครูนำบตั รคำต่อไปนต้ี ิดบนกระดาน องค์ประกอบของดนตรพี ืน้ บ้าน ลกั ษณะของดนตรีพน้ื บา้ น
และครูนำแผนภาพองคป์ ระกอบของดนตรพี น้ื บา้ นติดบนกระดาน ดังตวั อยา่ งต่อไปนี้
องค์ประกอบของดนตรพี น้ื บา้ น
จงั หวะ ทำนอง การประสานเสียง สสี นั ของ คีตลักษณ์
เสยี ง
จากน้ันครูอธิบายใหน้ ักเรยี นฟังทลี ะหัวข้อ และอธบิ ายลกั ษณะของดนตรีพนื้ บา้ นใหน้ ักเรียนฟงั
จนทุกคนเขา้ ใจ แล้วใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถาม ดงั น้ี
- องค์ประกอบของดนตรีพนื้ บ้านไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง (จังหวะ ทำนอง การประสานเสียง สสี ันของเสียง คตี
ลักษณ์)
- องคป์ ระกอบของดนตรีพ้ืนบา้ นมคี วามสำคัญอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ทำให้บทเพลงสมบรู ณ์
และมคี วามไพเราะ)
- จงั หวะในดนตรพี น้ื บ้านคืออะไร (ตวั อย่างคำตอบ เป็นสง่ิ ควบคุมความชา้ -เรว็ ของบทเพลงและดนตรี)
- ทำนองในดนตรพี ้ืนบ้านคอื อะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ความสงู -ตำ่ ส้นั -ยาว ของเสยี งดนตรีในบทเพลง)
- การประสานเสียงในดนตรพี ้นื บา้ นคืออะไร (ตวั อย่างคำตอบ การนำเสียงมาบรรเลงพรอ้ มกนั เพื่อใหเ้ กิด
ความไพเราะ)
- สีสนั ของเสยี งในดนตรีพน้ื บา้ นคอื อะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ลกั ษณะเฉพาะของแหลง่ กำเนิดเสยี ง
ทำให้เสยี งมีลักษณะแตกตา่ งกัน)
- คีตลักษณ์ในดนตรพี น้ื บ้านคืออะไร (ตวั อย่างคำตอบ รปู แบบของบทเพลง)
- ดนตรีพื้นบ้านมลี กั ษณะอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ เรียบง่าย มเี นอื้ รอ้ งหลากหลายไม่ตายตวั
ใชภ้ าษาเนอื้ ร้องเข้าใจงา่ ย จังหวะเรยี บงา่ ย ชดั เจนไมซ่ บั ซ้อน ใชเ้ คร่อื งดนตรที ่ีประดิษฐข์ ้ึนมาจากวสั ดุทม่ี ีในท้องถนิ่ )
- ถ้าดนตรีพืน้ บา้ นมอี งค์ประกอบดนตรไี มส่ มบูรณจ์ ะเปน็ อย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ไม่ไพเราะ
ไมน่ า่ ฟงั )
จากนั้นครนู ำคำตอบท่ไี ด้มาเขยี นสรุปเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนร่วมกันตรวจสอบความ
ถูกต้อง ดังตวั อย่างต่อไปน้ี
ทานอง จังหวะ
การประสานเสียง องค์ประกอบของ องค์ประกอบและลกั ษณะ ลกั ษณะของดนตรีพ้นื บ้าน
ดนตรีพ้ืนบ้าน ของดนตรีพ้ืนบ้าน
สีสันของเสียง คีตลักษณ์
3. ให้นกั เรียนแบง่ กลุม่ 4 กล่มุ ให้แต่ละกลุ่มจบั สลากเลอื กภมู ภิ าค จากนั้นครเู ปดิ แถบบนั ทึกเสียง
ดนตรพี นื้ บา้ นแตล่ ะภาคให้นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ฟัง แลว้ รว่ มกันวเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบและลกั ษณะของดนตรพี นื้ บา้ นของ
ภูมภิ าคทีก่ ลมุ่ จบั สลากได้ พร้อมกับเปรยี บเทียบองคป์ ระกอบและลักษณะของดนตรพี ืน้ บ้านภูมภิ าคอ่นื และออกมา
นำเสนอการวเิ คราะห์ หน้าชัน้ เรียนทลี ะกลุ่ม โดยครเู ป็นผู้กำหนดหวั ขอ้ ดงั น้ี
- ดนตรพี น้ื บา้ นของกล่มุ คอื
- ลักษณะจงั หวะ
- ลกั ษณะทำนอง
- ลกั ษณะการประสานเสียง
- ลกั ษณะสีสนั ของเสียง
- ลกั ษณะคีตลักษณ์
- ความแตกต่างกบั ภมู ิภาคอื่น
4. ให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ใหม่ 3 กลุม่ ร่วมกันเล่นเกม ทายซิฉันอยู่ภาคใด โดยครอู ธบิ ายวธิ กี ารเล่น ดังน้ี ครูแจก
แผ่นปา้ ย
ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ภาคใต้
ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ แลว้ ครเู ปดิ แถบบันทกึ เสยี งเพลงและดนตรพี น้ื บา้ นของภาคตา่ ง ๆ ภาคละ 3-4 เพลง
โดยเปิดสลับกนั ไปมาทีละภาคทีละเพลง แลว้ ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มฟงั เพลงท่คี รูเปิด เม่อื ครหู ยุดเพลงให้แต่ละกล่มุ แขง่ ขนั กนั
ยกแผน่ ป้ายบอกวา่ เสยี งดนตรีนนั้ อยู่ภมู ภิ าคใด กลมุ่ ใดยกก่อนตอบถกู ได้ 2 คะแนน ตอบผดิ ให้กลุ่ม
ท่เี หลือแขง่ ขนั กันยกตอบ ตอบถกู ได้ 1 คะแนน กลมุ่ ใดไดค้ ะแนนมากท่ีสุดเปน็ กลุม่ ชนะ
5. ใหน้ ักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปความรู้ ดงั นี้ ดนตรีพืน้ บา้ นแต่ละทอ้ งถิน่ มลี กั ษณะแตกต่างกันไปตามแตล่ ะ
ท้องถ่ิน สะท้อนวิถชี ีวิต วฒั นธรรมและประเพณขี องแตล่ ะทอ้ งถนิ่ เป็นสิ่งที่สร้างสรรคข์ ึ้นมาจาก
ภูมิปญั ญาของคนในท้องถ่นิ เพือ่ สรา้ งความสุข สนุกสนานใหก้ ับคนในทอ้ งถน่ิ เปน็ มรดกที่ทรงคุณคา่ ควรคา่ แก่
การอนุรักษส์ บื ไป
6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดังนี้
- เพลงที่นักเรียนชอบฟงั มากที่สุด คือเพลงอะไร มีจงั หวะ ทำนอง และรูปแบบของบทเพลงเป็นอยา่ งไร
8. ชิน้ งาน/ภาระงาน
- แผนภาพความคดิ องคป์ ระกอบและลกั ษณะของดนตรพี ืน้ บ้าน
9. สือ่ การจดั การเรยี นรู้
1. ภาพประเพณี
2. บัตรคำ
3. แผนภาพ
4. สลาก
5. แถบบันทึกเสียง
6. เครื่องเล่นแถบบันทกึ เสยี ง
7. แผน่ ป้าย
8. เกมทายซฉิ ันอยู่ภาคใด
แหลง่ การเรยี นรู้
หอ้ งสมุด
10. การวัดผลประเมินผล
1. วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล
1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ
2. เคร่ืองมอื
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดับ ดมี าก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
11. บรู ณาการกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
11.1 ผู้สอนใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ปศพ. พอประมาณ มีเหตุผลทด่ี ี มภี มู ิคมุ้ กนั ในตัวทด่ี ี
ประเด็น
สาระการเรียนรู้ 1. ครูมีการวิเคราะห์ 1. ครูเลอื ก เรือ่ งท่ีสอนให้ 1. เพื่อให้การจดั การ
หลกั สูตร เนอื้ หา ออกแบบ สอดคลอ้ งกับท้องถิน่ และผ้เู รยี น เรยี นรใู้ ห้ครอบคลมุ ตาม
และจดั กิจกรรมได้ เพ่อื ใหเ้ ห็นความสำคญั ของการ จุดประสงค์
สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน อนุรกั ษ์ภมู ิปัญญา
ตวั ช้ีวดั และบริบทของ
ทอ้ งถิน่
แหล่งเรียนรู้ 1. กำหนดภาระงาน/ช้ินงาน 1. เพือ่ ส่งเสริมใหน้ ักเรียนสนใจใฝ่รู้ 1. เตรยี มวิธปี ้องกนั และ
ในการเขยี นองคป์ ระกอบ รักในการเรียนรู้องค์ประกอบและ แก้ปัญหาจากการปฏิบัติ
และลักษณะของดนตรี ลกั ษณะของดนตรีพื้นบ้านได้อย่าง กจิ กรรมการเรียนการ
พ้ืนบา้ นไดเ้ หมาะสมกบั เหมาะสม สอน โดยใชแ้ บบฝึกหัด
จุดประสงค์ และวัยผ้เู รียน
สือ่ /อุปกรณ์ 1. ครูจัดเตรียมแบบฝึก 1. ออกแบบการจัดการเรยี นรู้ 1. ครูเตรียมแผนฯหรอื
ทักษะเน้นการคิด ที่ เพ่อื ให้เห็นคณุ คา่ ของส่ิงของใกล้ตวั สอื่ สำรอง เพ่อื รองรบั
เหมาะสมกบั เน้ือหาที่สอน ในการเขียนองคป์ ระกอบและ กรณีท่ีมีเหตุการณ์
และความสนใจของผู้เรยี น ลกั ษณะของดนตรีพ้นื บ้าน เปลี่ยนแปลง
2. จดั กิจกรรมการเรียนรู้ 2. นักเรียนได้รบั ประสบการณ์ตรง
เหมาะสมกบั วัยของผูเ้ รยี น ในการเรยี นรแู้ ละเกดิ ความ
ภาคภมู ิใจใน ความสามารถของ
ตนเอง
ความรู้ทีใ่ ชใ้ นการจดั - สบื ค้น เทคนคิ การสอน รูปแบบกิจกรรมการเรยี นรู้
กจิ กรรมการเรียนรู้ - ศึกษาเน้อื หาเก่ียวกบั องค์ประกอบและลักษณะของดนตรพี นื้ บา้ น
- วเิ คราะหแ์ ละจดั ทำเคร่อื งมือการประเมนิ ผล
- สืบคน้ และนำหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและการบรู ณาการหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงกบั การจัดการเรยี นรู้
คุณธรรม - มคี วามรบั ผดิ ชอบในการปฎบิ ัตหิ น้าทีก่ ารสอน ตรงเวลา เต็มเวลา เตรียมการสอน
ค้นคว้า มีใบความรู้ ใบงาน ใบกจิ กรรมและแบบทดสอบ
- มีความเมตตา ให้สทิ ธใิ นการแสดงความคิดเหน็ ความเสมอภาค และความยุตธิ รรม
- มคี วามอดทน เสียสละ ใฝร่ ู้
11.2 ผเู้ รียนมีคณุ ลกั ษณะ “อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง”
พอประมาณ มีเหตุผลทีด่ ี มภี ูมิคุ้มกันในตัวท่ดี ี
1. นกั เรยี นมีทักษะพนื้ ฐานเกี่ยวกับ 1. นกั เรยี นมีเหตุผลในการเขยี น 1. นกั เรยี นนำความรเู้ รอื่ ง
องค์ประกอบและลักษณะของดนตรี และหาคำตอบขององคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบและลกั ษณะของดนตรี
พืน้ บา้ น และลักษณะของดนตรพี ืน้ บา้ น พ้นื บา้ นไปใช๎ไดถ้ ูกต้อง
2. นักเรยี นวเิ คราะห์และตัดสินใจ 2. นกั เรียนนำความร้ทู ีไ่ ด้รับจากการ
ในการทำแบบฝึกทกั ษะเนน้ การคิด เรียน มาเป็นข้อมูลพื้นฐานเพอ่ื
ได้ ประกอบการตดั สนิ ใจในการทำ
กิจกรรม ได้โดยไม่เกดิ ปัจจยั เสี่ยง
ความรู้ (วิธีการ)
1. นกั เรียนมคี วามรอบรู้ เรอื่ ง องค์ประกอบและลักษณะของดนตรีพ้ืนบ้าน
2. เรยี นนำความรูท้ ี่ได้รบั ไปประยกุ ตใ์ ช้ในการแก้ปญั หาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
คณุ ธรรมท่เี กดิ กบั นักเรียน
1. นกั เรียนมีความซื่อสตั ย์ สจุ ริตและตรงต่อเวลา
2. นักเรียนมวี นิ ัยในตนเอง
11.3 ผลลพั ธ์ KPA 4 มิตทิ ีเ่ กีย่ วข้องกับการอยอู่ ย่างพอเพียง
ผลลพั ธ์ สมดุลและพร้อมต่อการเปลีย่ นแปลงในดา้ นต่างๆ
ด้านความรู้
ดา้ นวัตถุ ดา้ นสังคม ด้านสิง่ แวดลอ้ ม ด้านวัฒนธรรม
ด้านทกั ษะ 1.ได้ความรู้ เก่ยี วกบั 1. การเรียนรู้
องค์ประกอบและ 1. มกี ารวางแผนในการ 1. มีความรอบรู้ในการใช้ สอดคล้องกบั วิถชี ีวติ
ดา้ นคา่ นิยม ลักษณะของดนตรี ทำงานเป็นกระบวนการ แหลง่ เรยี นร้ใู นท้องถ่นิ ของคนในชุมชน
พ้นื บ้าน กลมุ่ 2. เหน็ คณุ คา่ ของภมู ิ
ปัญญาท้องถ่นิ
1. มีทักษะในการใช้วสั ดุ 2. นกั เรียนมีการ
อปุ กรณอ์ ย่างประหยดั แลกเปลยี่ นเรียนรู้ 1. ดำรงตนอยู่ในสังคม
และค้มุ คา่ อย่างมีความสุข
2. การเลือกใชว้ ัสดุ 3. นกั เรียนไดช้ ่วยเหลอื 2. มที กั ษะในการ
อุปกรณ์ได้อย่าง ซง่ึ กันและกนั คำนวณและนำไปใช้ได้
เหมาะสม เหมาะสม
1.ตระหนักถึงผลท่เี กดิ 1. มที กั ษะในการทำงาน 1. ใชป้ ระโยชน์จาก
จากการใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ 1.สืบสานการอนรุ กั ษ์
ในการปฏบิ ัตงิ าน 2. มสี ามารถในการนำ สง่ิ แวดล้อมระมัดระวัง ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน
ความรทู้ ี่ได้รับ ไปร่วมกัน และคุ้มค่า 2. การใช้แหลง่ เรียนรู้
โดยใช้ภมู ปิ ัญญา
แก้ปัญหาเพ่อื หาข้อสรุป ท้องถิ่น
ได้
1. มคี วามรับผิดชอบตอ่ 1. มจี ติ สานึกในการ
การทำงานของกลุ่ม อนุรกั ษ์สง่ิ แวดลอ้ ม
2. ยอมรับความคิดเห็น 2. ใช้ทรพั ยากรและ
ซ่งึ กนั และกนั มีความ สิ่งแวดล้อมอย่าง
เสยี สละและอดทน ประหยดั
12. บูรณาการคุณธรรมอตั ลกั ษณ์ โรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
1. ความพอเพียง
2. ความกตญั ญู
3. ความซ่อื สัตยส์ ุจรติ
4. ความรับผดิ ชอบ
5. อดุ มการณค์ ณุ ธรรม
ลงชอื่ …………………………………...................ครูผ้สู อน
(นางสาวชลินี ศิลาพนั ธ์ุ)
บนั ทึกผลหลังสอน จำนวนเวลาเรยี น 10 ชัว่ โมง
จำนวนเวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง
กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 องคป์ ระกอบดนตรใี นแตล่ ะวัฒนธรรม
เรอ่ื ง องคป์ ระกอบและลกั ษณะของดนตรีพ้ืนบ้าน
รายวชิ า ศลิ ปะ 3 รหสั วิชา ศ 22101 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2
1. ผลการเรยี นของนกั เรียน(ระบุผลท่ีนักเรียนผา่ น/ไม่ผา่ นตามมาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด ดา้ นความรู้ (K) กระบวนการ (P)
และคณุ ลักษณะ (A)
ความรู้ (K)...............................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
กระบวนการ (P)......................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
คุณลกั ษณะ (A).......................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................................
2.ปัญหาและอปุ สรรค (ระบปุ ัญหาและอุปสรรคจากการท่นี ักเรียนไม่บรรลตุ ามมาตรฐาน/ตัวชี้วัด)
............................................................................................................................. ..................................................
...............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแกไ้ ขปรับปรุง (ระบแุ นวทางเพื่อใหบ้ รรลตุ ามมาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด)
...............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................................
ลงชอ่ื ................................................................ครูผ้สู อน
(นางสาวชลนิ ี ศลิ าพันธุ์)
ความคดิ เหน็ ของหัวหน้ากลุ่มบริหารงานวชิ าการ
....................................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.....................................................หวั หนา้ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
(นายกติ ติชยั เทยี นไข)
ความคิดเห็นของรองผ้อู ำนวยการโรงเรียนโคกเจริญวิทยา
...................................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .............................................รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกเจรญิ วิทยา
(นายพรทวี สุมาลี)
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11
กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ หนว่ ยท่ี 5 เรอื่ ง องคป์ ระกอบดนตรใี นแตล่ ะวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2
รายวิชาศลิ ปะ 3 รหัสวิชา ศ 22101 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
เรอ่ื ง องค์ประกอบของดนตรีในแตล่ ะวัฒนธรรมของไทย 4 ภาค : ภาคเหนอื เวลา 2 ชว่ั โมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรอี ย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์วจิ ารณ์คณุ คา่ ดนตรี
ถ่ายทอดความรูส้ ึก ความคดิ ต่อดนตรอี ย่างอิสระ ชื่นชม และประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั
ตัวชี้วัด
ศ 2.1 ม.2/1 เปรยี บเทียบการใช้องค์ประกอบดนตรที ี่มาจากวฒั นธรรมต่างกัน
2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
ดนตรีพ้ืนบา้ นภาคเหนอื จะมกี ารผสมผสานระหวา่ งวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบา้ น แสดงถึงวิถีชวี ิต
ทมี่ ีความอ่อนโยน สุภาพ รกั สงบ รกั ธรรมชาติ ทำให้ลกั ษณะทางดนตรีมีความออ่ นหวานนุ่มนวลเปน็ ส่วนใหญ่ แตบ่ างคร้งั
ก็มจี ังหวะคึกคกั สนกุ สนาน มีการขบั รอ้ งโดยใช้ภาษาเหนอื ทำใหบ้ ทเพลงและดนตรีมีความไพเราะและเปน็ เอกลกั ษณ์
3. สาระการเรยี นรู้
องค์ประกอบของดนตรใี นแตล่ ะวฒั นธรรมของไทย 4 ภาค : ภาคเหนอื
4. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เปรียบเทยี บองค์ประกอบดนตรีทม่ี าจากวฒั นธรรมภาคเหนอื กบั ภาคอื่น (K)
2. แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั องค์ประกอบดนตรีของวัฒนธรรมภาคเหนือ (P)
3. เห็นคุณค่าและความสำคญั ในการอนุรกั ษด์ นตรพี น้ื บา้ น (A)
5. สมรรถนะสำคญั
ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
รกั ความเปน็ ไทย
ตวั ชวี้ ดั ที่ 7.3 อนุรักษแ์ ละสืบทอดภมู ปิ ัญญาไทย
7. กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้
ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ให้นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใชค้ ำถาม ดังน้ี
- นักเรยี นคิดวา่ มีสิ่งใดบ้างท่แี สดงให้เหน็ ถงึ วัฒนธรรมไทย
2. ครูเปิดแถบบนั ทึกภาพการแสดงนาฏศิลป์พ้นื เมืองภาคเหนอื เช่น ฟ้อนเลบ็ ฟ้อนเทียน
ให้นักเรียนดแู ล้วรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใชค้ ำถาม ดงั นี้
- นกั เรียนเคยชมการแสดงนี้หรอื ไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ เคย)
- การแสดงน้ีคือการแสดงอะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ฟอ้ นเลบ็ )
- การแสดงนีเ้ ป็นการแสดงของภาคใด (ตัวอย่างคำตอบ ภาคเหนือ)
- การแสดงนม้ี ลี ักษณะอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เปน็ การฟ้อนทมี่ ีความออ่ นหวาน นุม่ นวล)
- นักเรยี นรู้สึกอยา่ งไรเม่อื ชมการแสดงน้ี (ตัวอย่างคำตอบ ชื่นชอบ ประทับใจ)
3. ครนู ำบัตรคำต่อไปนี้ติดบนกระดาน องคป์ ระกอบของดนตรีในวฒั นธรรมภาคเหนือ
แลว้ ครูอธบิ ายให้นักเรยี นฟัง จนทุกคนเข้าใจแล้วให้นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถาม ดังนี้
- ลักษณะของดนตรีภาคเหนอื เป็นอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ออ่ นหวาน เนิบชา้ นุ่มนวล)
- ภาษาท่ีใช้ขับร้องในเพลงพ้นื บ้านภาคเหนอื มีลกั ษณะอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ เปน็ ภาษาเหนอื
มีสำเนยี งเนิบช้า)
- ดนตรีพ้ืนบ้านภาคเหนอื สะท้อนให้เหน็ วฒั นธรรมดา้ นใดบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ ความเป็นอยูอ่ ปุ นิสัย
อาชพี )
- ดนตรีพื้นบ้านภาคเหนือสะท้อนอปุ นิสัยของคนในภาคเหนอื อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ
มอี ปุ นิสยั อ่อนโยน พดู จาไพเราะ เรยี บร้อย)
จากนั้นครนู ำคำตอบท่ีได้มาเขยี นสรุปเป็นแผนภาพความคดิ บนกระดาน แล้วใหน้ กั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความ
ถกู ตอ้ ง ดังตวั อยา่ งตอ่ ไปนี้
องคป์ ระกอบของดนตรีในวฒั นธรรม
ภาคเหนือ
3. ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม 3-4 กลุม่ ใหแ้ ต่ละกลุ่มเลือกฟังดนตรพี น้ื บา้ นภาคเหนือ กลุ่มละ 1 บทเพลง
แลว้ วเิ คราะห์ลักษณะองค์ประกอบของดนตรพี ืน้ บา้ นในบทเพลงที่ฟงั แล้วออกมานำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี นทลี ะกลุ่ม
4. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม 2 กล่มุ โต้วาทีในหวั ข้อ ดนตรีพืน้ บา้ นภาคเหนอื ไพเราะกวา่ ดนตรีพน้ื บ้าน
ภาคอืน่ หรือไม่ โดยครเู ป็นผใู้ ห้คำแนะนำ
5. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันเสนอแนวทางการอนุรกั ษด์ นตรีพนื้ บา้ นภาคเหนอื พร้อมทั้งบอกผลท่ีเกิดขึ้น
ถา้ ปฏิบัติตามและไมป่ ฏบิ ัติตาม ลงในแผนภาพ ดังตวั อย่างต่อไปนี้
ถา้ ปฏบิ ตั ติ าม ผลที่เกิดขนึ้
การอนรุ ักษ์ดนตรีพ้นื บ้านภาคเหนือ
ผลทีเ่ กดิ ขนึ้
ถา้ ไม่ปฏิบตั ติ าม
6. ใหน้ ักเรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ดนตรพี นื้ บา้ นภาคเหนือจะมกี ารผสมผสานระหว่างวฒั นธรรมของประเทศ
เพอื่ นบ้าน แสดงถึงวิถีชวี ิตท่ีมีความอ่อนโยน สุภาพ รกั สงบ รกั ธรรมชาติ ทำให้ลกั ษณะทางดนตรีมคี วามออ่ นหวาน
น่มุ นวลเปน็ ส่วนใหญ่ แต่บางคร้ังก็มีจงั หวะคึกคัก สนกุ สนาน มีการขับรอ้ งโดยใชภ้ าษาเหนอื ทำใหบ้ ทเพลงและดนตรมี ี
ความไพเราะ และเปน็ เอกลกั ษณ์
8. ช้ินงาน/ภาระงาน
- แผนภาพความคดิ องค์ประกอบดนตรีในวฒั นธรรมภาคเหนือ
9. สือ่ การจัดการเรยี นรู้
1. แถบบนั ทึกภาพ
2. เครอ่ื งเลน่ แถบบนั ทึกภาพ
3. บตั รคำ
แหลง่ การเรียนรู้
ห้องสมุด
10. การวัดผลประเมินผล
1. วิธีการวดั และประเมินผล
1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
2. เครอื่ งมือ
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่
3. เกณฑก์ ารประเมนิ
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถอื วา่ ไม่ผ่าน
3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ
คะแนน 9-10 ระดบั ดมี าก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
11. บูรณาการกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11.1 ผ้สู อนใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ปศพ. พอประมาณ มีเหตุผลท่ีดี มีภูมคิ มุ้ กนั ในตวั ที่ดี
ประเดน็
สาระการเรียนรู้ 1. ครมู ีการวเิ คราะห์ 1. ครเู ลือก เร่อื งท่ีสอนให้ 1. เพอื่ ให้การจดั การ
หลักสูตร เนอื้ หา ออกแบบ สอดคล้องกบั ทอ้ งถ่ินและผเู้ รียน เรยี นรใู้ ห้ครอบคลุมตาม
และจดั กจิ กรรมได้ เพ่ือใหเ้ หน็ ความสำคญั ของการ จดุ ประสงค์
สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน อนรุ ักษ์ภูมปิ ัญญา
ตัวชวี้ ดั และบรบิ ทของ
ทอ้ งถนิ่
แหล่งเรียนรู้ 1. กำหนดภาระงาน/ชิน้ งาน 1. เพือ่ ส่งเสริมใหน้ ักเรียนสนใจใฝร่ ู้ 1. เตรยี มวธิ ีป้องกันและ
ในการเขยี นองค์ประกอบ รักในการเรียนรู้องค์ประกอบของ แกป้ ญั หาจากการปฏิบัติ
ของดนตรีในแตล่ ะ ดนตรใี นแต่ละวฒั นธรรมของไทย 4 กิจกรรมการเรยี นการ
วฒั นธรรมของไทย 4 ภาค : ภาค : ภาคเหนอื ไดอ้ ย่างเหมาะสม สอน โดยใชแ้ บบฝกึ หัด
ภาคเหนือ ได้เหมาะสมกับ
จุดประสงค์ และวัยผเู้ รียน
ส่ือ/อุปกรณ์ 1. ครูจดั เตรยี มแบบฝึก 1. ออกแบบการจดั การเรียนรู้ 1. ครเู ตรยี มแผนฯหรือ
ทกั ษะเนน้ การคิด ที่ เพื่อให้เห็นคุณคา่ ของส่งิ ของใกล้ตวั ส่อื สำรอง เพ่ือรองรับ
The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search