The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้หน้าที่พลเมือง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wanna.j1996, 2021-09-20 09:58:58

แผนการจัดการเรียนรู้หน้าที่พลเมือง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

แผนการจัดการเรียนรู้หน้าที่พลเมือง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

คำอธบิ ายรายวิชา

รายวชิ า หน้าทพ่ี ลเมอื ง กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1
รหสั วชิ า ส 23235
เวลา 20 ช่ัวโมง/ปี

ศึกษา วิเคราะหค์ วามแตกต่างของการกระทำความผิดระหวา่ งคดอี าญาและคดีแพง่ การมสี ว่ นรว่ ม
ในการปกปอ้ งคุ้มครองผอู้ ่ืนตามหลักสทิ ธิมนุษยชนการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมไทยและเลือกรบั วฒั นธรรมสากลที่
เหมาะสม ปจั จยั ทก่ี ่อให้เกิดปญั หาความขดั แย้งในประเทศ และการเสนอแนวคดิ ในการลดความขัดแย้ง
การดำรงชวี ติ อยา่ งมีความสขุ ในประเทศและสงั คมโลก ระบอบการปกครองตา่ งๆ ทใี่ ช้ในปจั จุบนั เปรียบเทียบ
ระบอบการปกครองของไทยกับประเทศอืน่ ๆ ทีม่ ีการปกครองระบอบประชาธิปไตย รฐั ธรรมนญู ฉบับปจั จุบันใน
มาตราท่เี ก่ยี วขอ้ งกับการเลอื กตั้ง การมสี ว่ นรว่ มและการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั ปัญหาที่เปน็ อปุ สรรคต่อ
การพฒั นาประชาธิปไตยของประเทศไทยและแนวทางแก้ไข

โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ

กระบวนการเผชญิ สถานการณแ์ ละแกป้ ญั หา กระบวนการกลุ่ม

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต นำไปพัฒนาและแก้ปัญหาของ

ชุมชนและสงั คม มีคุณลักษณะอันพึงประสงคใ์ นด้านรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่

อย่างพอเพยี ง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สมารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ

สุขในสังคมไทยและสงั คมโลก

ตวั ช้ีวัด
ส 2.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5
ส 2.2 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4

รวม 9 ตัวช้วี ดั

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ิศ

โครงสร้างรายวชิ า

รายวชิ า หน้าทีพ่ ลเมอื ง กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1
รหสั วชิ า ส 23235
เวลา 20 ช่วั โมง/ปี

ลำดับท่ี ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
เรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน

1 กฎหมายแพง่ และอาญา ส 2.1 ม.3/1 การกระทำความผิดทางอาญาและ 4

ทางแพง่ มีความแตกตา่ งกันในลักษณะ

ของการกระทำความผดิ และบทลงโทษ

2 สิทธมิ นษุ ยชน ส 2.1 ม.3/2 สทิ ธมิ นุษยชนมคี วามสำคญั ต่อการ 4

ดำรงชวี ิต

3 วัฒนธรรมไทยและ ส 2.1 ม.3/2 ชีวติ ของมนษุ ย์ ดงั นนั้ ทุกคนจึงตอ้ ง 4

วัฒนธรรมสากล ม.3/3 มสี ว่ นรว่ มในการคมุ้ ครองผู้อนื่ ตามหลัก

สทิ ธิ-มนษุ ยชน โดยเปน็ ไปตามบทบัญญตั ิ

ของรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย

ตามวาระและโอกาสท่ีเหมาะสม

4 สงั คมไทย ส 2.1 ม.3/4 วัฒนธรรมมีความสำคญั ตอ่ วถิ กี าร 4

ม.3/5 ดำเนนิ ชวี ิตของมนษุ ย์ ดังนัน้ ทกุ คนจงึ

ตอ้ งรว่ มมือกนั อนรุ กั ษ์วัฒนธรรมไทยและ

เลือกรบั วฒั นธรรมสากลอยา่ งเหมาะสม

5 การเมอื งการปกครอง ส 2.1 ม.3/3 การขัดแย้งในประเทศสง่ ผลกระทบ 4

ในยคุ ปจั จบุ ัน ส 2.2 ม.3/1 ต่อความมน่ั คงและการพฒั นาประเทศ

ซงึ่ ทกุ คนควรใหค้ วามร่วมมอื กันหา

แนวทางเพอื่ ลดความขดั แยง้

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอุทศิ

การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้

รายวชิ า หน้าทีพ่ ลเมอื ง กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1
รหัสวชิ า ส 23235
เวลา 20 ชว่ั โมง/ปี

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั วิธสี อน/กระบวนการ ทักษะการคิด เวลา
การเรียนรู้ จดั การเรียนรู้ (ชวั่ โมง)

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 1. กฎหมายแพ่งและ วิธสี อนตามรปู แบบ 1. ความสามารถในการคิด 1
กฎหมายแพ่ง พาณชิ ย์ (1)
และอาญา โมเดลซิปปา 2. ความสามารถในการใช้ 1

(CIPPA Model) ทักษะชวี ิต 1

3. ทกั ษะการเปรียบเทยี บ 1

2. กฎหมายแพ่งและ วิธสี อนตามรูปแบบ 1. ความสามารถในการคดิ 1
พาณิชย์ (2)
โมเดลซิปปา 2. ความสามารถในการใช้ 1

(CIPPA Model) ทักษะชวี ิต 1

3. ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 1

3. กฎหมายอาญา (1) วธิ สี อนแบบสืบเสาะ 1. ความสามารถในการคิด

หาความรู้ 2. ความสามารถในการใช้

(Inquiry Method : 5E) ทักษะชวี ติ

3. ทกั ษะการเปรียบเทยี บ

4. กฎหมายอาญา (2) วธิ ีสอนแบบสืบเสาะ 1. ความสามารถในการคดิ

หาความรู้ 2. ความสามารถในการใช้

(Inquiry Method : 5E) ทักษะชวี ิต

3. ทักษะการเปรยี บเทยี บ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 1. การมีส่วนรว่ มในการ วิธสี อนโดยใชท้ ักษะ 1. ความสามารถในการคดิ
สทิ ธมิ นุษยชน ปกป้องคุ้มครองผอู้ นื่ ตาม
หลักสิทธิมนษุ ยชน (1) กระบวนการเผชญิ 2. การนำความรู้ไปใช้

2. การมสี ่วนรว่ มในการ สถานการณ์ 3. ความสามารถในการใช้
ปกป้องคุม้ ครองผูอ้ น่ื ตาม
หลักสทิ ธิมนษุ ยชน (2) ทกั ษะชวี ิต

3. องคก์ รด้านสิทธมิ นษุ ยชน วิธสี อนโดยใชท้ ักษะ 1. ความสามารถในการคิด
(1)
กระบวนการเผชิญ 2. การนำความรูไ้ ปใช้
4. องค์กรดา้ นสิทธมิ นษุ ยชน
(2) สถานการณ์ 3. ความสามารถในการใช้

ทักษะชีวติ

วธิ สี อนแบบสบื เสาะ 1. ความสามารถในการคิด

หาความรู้ 2. การนำความรู้ไปใช้

(Inquiry Method :5E) 3. ความสามารถในการใช้

ทักษะชีวติ

วิธสี อนแบบสบื เสาะ 1. ความสามารถในการคิด

หาความรู้ 2. การนำความรู้ไปใช้

(Inquiry Method :5E) 3. ความสามารถในการใช้

ทกั ษะชีวิต

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ิศ

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั วธิ สี อน/กระบวนการ ทักษะการคดิ เวลา
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 การเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้ (ชว่ั โมง)
วัฒนธรรมไทยและ 1. ความสำคญั ของ
วฒั นธรรมและภมู ิปัญญา วิธสี อนแบบสบื เสาะ 1. ทกั ษะกระบวนการคดิ 1
วฒั นธรรมสากล ไทย
2. การอนุรักษว์ ัฒนธรรม หาความรู้ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ 1
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 และภูมปิ ญั ญาไทย
สังคมไทย (Inquiry Method :5E) 2. ความสามารถในการคิด 1
3. ความสำคัญของ
วฒั นธรรมสากล 3. ความสามารถในการใช้ 1

4. วฒั นธรรมสากลกบั การ ทักษะชวี ติ 1
ดำเนินชวี ิตในสงั คมไทย 1
วิธสี อนโดยใชท้ ักษะ 1. ทักษะกระบวนการคิด
1. สถาบนั ในสังคมไทย 1
กระบวนการเผชิญ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
2. ความขัดแยง้ ในสงั คมไทย 1
สถานการณ์ 2. ความสามารถในการคิด
3. สังคมไทยในปจั จุบนั (1)
3. ความสามารถในการใช้
4. สังคมไทยในปัจจุบัน (2)
ทกั ษะชวี ิต

วิธสี อนโดยเน้น 1. ทักษะกระบวนการคิด
กระบวนการ : อยา่ งมวี จิ ารณญาณ
กระบวนการกล่มุ
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้

ทักษะชวี ติ

วธิ สี อนโดยเน้น 1. ทกั ษะกระบวนการคดิ
กระบวนการ : อย่างมวี จิ ารณญาณ
กระบวนการสร้าง
2. ความสามารถในการคดิ
ค่านิยม 3. ความสามารถในการใช้

ทักษะชวี ิต

วิธสี อนโดยการจัดการ 1. ทักษะการคิดวิเคราะห์

เรยี นรแู้ บบร่วมมอื : 2. ความสามารถในการคดิ

เทคนิคการเลา่ เรือ่ ง 3. ความสามารถในการใช้

รอบวง ทกั ษะชีวติ

วิธสี อนโดยการจัดการ 1. ทักษะกระบวนการคิด

เรยี นร้แู บบรว่ มมือ : อย่างมวี จิ ารณญาณ

เทคนิคคคู่ ดิ ส่ีสหาย 2. ความสามารถในการคดิ

3. ความสามารถในการใช้

ทักษะชีวิต

4. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์

วิธสี อนตามแนววฏั จักร 1. ทกั ษะกระบวนการคดิ

การเรียนรู้ (4 MAT) อยา่ งมวี จิ ารณญาณ

2. ความสามารถในการคดิ

3. ความสามารถในการใช้

ทกั ษะชีวิต

4. ทักษะการคิดวิเคราะห์

วธิ สี อนตามแนววฏั จกั ร 1. ทกั ษะกระบวนการคิด

การเรยี นรู้ (4 MAT) อยา่ งมีวจิ ารณญาณ

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอุทิศ

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั วิธีสอน/กระบวนการ ทกั ษะการคดิ เวลา
การเรียนรู้ จดั การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง)

วธิ สี อนโดยการจดั การ 2. ความสามารถในการคดิ
เรียนรูแ้ บบรว่ มมือ :
3. ความสามารถในการใช้
เทคนคิ โตะ๊ กลม
ทักษะชีวิต
วธิ สี อนโดยการจดั การ
เรียนร้แู บบรว่ มมือ : 4. ทักษะการคดิ วิเคราะห์

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 1. การปกครองในยคุ เทคนคิ โต๊ะกลม 1. ทักษะการรวบรวมข้อมลู 1

การเมือง ปัจจบุ ัน วิธสี อนตามรปู แบบ 2. ความสามารถในการคิด
โมเดลซิปปา
การปกครอง 3. ความสามารถในการใช้
(CIPPA Model)
ในยุคปจั จุบัน ทกั ษะชีวิต
วธิ สี อนตามรูปแบบ
2. การปกครองระบอบ โมเดลซปิ ปา 1. ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 1
ประชาธปิ ไตยในประเทศ
ไทย (CIPPA Model) 2. ความสามารถในการคิด

3. ความสามารถในการใช้

ทักษะชีวิต

3. รฐั ธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ ัน 1. ทกั ษะการทำใหก้ ระจ่าง 1
เก่ยี วกับการเลอื กตัง้ การ
มสี ่วนรว่ ม และการ 2. ความสามารถในการคดิ
ตรวจสอบอำนาจรฐั (1)
3. ความสามารถในการใช้
4. รัฐธรรมนญู ฉบบั ปจั จุบัน
เกย่ี วกบั การเลือกตงั้ การ ทักษะชวี ติ
มสี ่วนรว่ ม และการ
ตรวจสอบอำนาจรัฐ (2) 1. ทักษะการทำใหก้ ระจ่าง 1

2. ความสามารถในการคดิ

3. ความสามารถในการใช้

ทกั ษะชวี ิต

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ิศ

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 รายวชิ าหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง
สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
รหสั วิชา ส23235 ปีการศึกษา 2563
ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรอื่ งท่ี 1 กฎหมายแพง่ และพาณิชย์ (1)

1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัตติ นตามหน้าท่ขี องการเปน็ พลเมืองดี มีค่านยิ มที่ดงี าม และธำรงรกั ษาประเพณี
และวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยูร่ ว่ มกนั ในสังคมไทย และ สังคมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การกระทำความผดิ ทางแพง่ เปน็ การฝ่าฝนื หรือละเมดิ ต่อบทบัญญตั ขิ องกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งจะ

มีลกั ษณะเก่ยี วกบั เรือ่ ง บุคคลและนติ ิกรรม การละเมดิ

3. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 ตวั ชีว้ ัด
ส 2.1 ม.3/1 อธิบายความแตกตา่ งของการกระทำความผิดระหว่างคดีอาญาและคดีแพง่

3.2 จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธิบายลกั ษณะการกระทำความผิดทางแพ่งและความรับผดิ ทางแพ่งได้
2) อธิบายการทำสญั ญาซอื้ ขาย กยู้ มื เงนิ เชา่ ทรพั ย์สิน เชา่ ซอ้ื ทถี่ ูกต้องได้

4. สาระการเรียนรู้
1) ลกั ษณะการกระทำความผดิ ทางแพ่งและความรบั ผดิ ทางแพ่ง
2) ตัวอยา่ งการกระทำความผิดทางแพ่ง เช่น การทำผดิ สญั ญา การทำละเมิด

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

5.1 ความสามารถในการคิด
1.) ทกั ษะการเปรียบเทยี บ

5.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งม่นั ในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ศิ

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. นกั เรยี นทกุ คนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1
2. ครถู ามคำถามเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เรอื่ ง กฎหมายแพ่งเกย่ี วกบั ความสามารถของผเู้ ยาว์

นกั เรยี นมีความสามารถของผู้เยาว์ตามกฎหมายในเรอื่ งใดบา้ ง
(การกระทำซึ่งจะไดซ้ ึง่ สิทธิหรือเป็นประโยชน์ต่อผูเ้ ยาวฝ์ ่ายเดียวไมม่ ที างเสยี )นกั เรียนคดิ วา่
การมีความรูเ้ กีย่ วกับเรอ่ื งกฎหมายน้ันเปน็ ประโยชนต์ อ่ ตนเองอย่างไร(พจิ ารณาตามคำตอบ

ของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครผู สู้ อน)

3. ครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เกง่ ปานกลางค่อนข้างเก่ง
ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และออ่ น ใหส้ มาชิกแตล่ ะคนเลอื กหมายเลขประจำตวั ตัง้ แตห่ มายเลข 1-4

4. สมาชกิ แตล่ ะหมายเลขแยกย้ายไปรวมกลุม่ กันเป็นกลุ่มใหม่ และรว่ มกนั ศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง ลักษณะ
การกระทำความผดิ ทางแพ่งและความรบั ผิดทางแพ่ง จากหนงั สือเรียน หมายเลขละ 1 เรอื่ ง ดงั นี้

➢ หมายเลข 1 ศึกษาความรูเ้ รอื่ ง ซอ้ื ขาย
➢ หมายเลข 2 ศึกษาความรเู้ รอ่ื ง กู้ยมื เงิน
➢ หมายเลข 3 ศึกษาความรู้เรอื่ ง เชา่ ทรพั ยส์ ิน
➢ หมายเลข 4 ศึกษาความรู้เรอ่ื ง เชา่ ซอื้
5. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2

1) นายตาลก้ยู ืมเงนิ นายเดยี่ วเปน็ จำนวนเงิน 2,000 บาท โดยทำสญั ญาเป็นหนงั สอื ลงลายมือ
ช่ือทงั้ สองฝ่าย กำหนดเวลาชำระคนื ภายในเวลา 1 ปี คิดดอกเบ้ียตามกฎหมาย เมอื่ ครบ
กำหนดเวลาตามสญั ญา นายตาลจะตอ้ งชำระดอกเบ้ียใหแ้ ก่นายเด่ยี วเป็นจำนวนเงนิ เทา่ ไร
(15 บาท)

2) นายชอบขายที่นาให้แก่นายชดิ เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท นายชิดวางเงนิ มัดจำใหแ้ ก่
นายชอบเป็นเงิน 10,000 บาท เม่อื ครบกำหนดเวลานดั ไปจดทะเบยี นซอื้ ขายตอ่ เจา้
พนกั งานทดี่ นิ นายชอบไมย่ อมไปตามนัด นายชดิ จะฟอ้ งเรยี กคา่ เสียหายตอ่ ศาลได้หรอื ไม่
อธบิ ายเหตผุ ล (ได้ เพราะนายชดิ มหี ลกั ฐานการซอ้ื ขาย คอื การวางเงนิ มดั จำตามกฎหมายแลว้ )

6. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มใหมผ่ ลัดกันอธิบายความรู้ทไี่ ด้ศกึ ษาเกี่ยวกับกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ตามหวั ขอ้ ทกี่ ำหนด และใหแ้ ตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั ทำใบงาน ดังนี้

➢กลุ่มหมายเลข 1 ทำใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง ซอื้ ขาย
➢กลุ่มหมายเลข 2 ทำใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง กูย้ มื เงนิ
➢กล่มุ หมายเลข 3 ทำใบงานที่ 1.3 เรอื่ ง เชา่ ทรัพยส์ นิ
➢กลุ่มหมายเลข 4 ทำใบงานที่ 1.4 เรอ่ื ง เช่าซอื้

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ศิ

8. การวดั และประเมนิ ผล

วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการ แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )
เรยี นร้ทู ี่ 1

สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ ม่ัน แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ในการทำงาน

9.ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้

9.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี น หนา้ ท่พี ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนินชวี ติ ในสังคม ม.3
2) ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ซื้อขาย

3) ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง กู้ยมื เงิน
4) ใบงานที่ 1.3 เรือ่ ง เช่าทรพั ยส์ นิ

5) ใบงานท่ี 1.4 เรื่อง เช่าซื้อ
9.2 แหล่งการเรยี นรู้



แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแกไ้ ข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ…………………………………………….ครูผสู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหน่ง …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 รายวิชาหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง
สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
รหสั วิชา ส 23235 ปีการศึกษา 2563
ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื งที่ 2 กฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ (2)

1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ัติตนตามหนา้ ทขี่ องการเปน็ พลเมอื งดี มคี า่ นยิ มท่ีดงี าม และธำรงรักษาประเพณี
และวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยู่รว่ มกนั ในสงั คมไทย และ สังคมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การกระทำความผิดทางแพ่งเป็นการฝ่าฝนื หรอื ละเมิดตอ่ บทบัญญัติของกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ ซง่ึ จะ

มีลักษณะเกี่ยวกับเรอื่ ง บคุ คลและนติ ิกรรม การละเมดิ

3. ตวั ชวี้ ัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 ตวั ชี้วัด
ส 2.1 ม.3/1 อธบิ ายความแตกต่างของการกระทำความผดิ ระหว่างคดีอาญาและคดแี พง่

3.2 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) อธิบายลักษณะการกระทำความผิดทางแพ่งและความรับผดิ ทางแพ่งได้
2) อธิบายการทำสัญญาซอ้ื ขาย กู้ยมื เงิน เช่าทรพั ยส์ นิ เช่าซอ้ื ทถี่ ูกต้องได้

4. สาระการเรียนรู้
1) ลกั ษณะการกระทำความผดิ ทางแพง่ และความรับผิดทางแพง่
2) ตวั อย่างการกระทำความผดิ ทางแพง่ เชน่ การทำผดิ สญั ญา การทำละเมดิ

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น

5.1 ความสามารถในการคดิ
1.) ทกั ษะการเปรียบเทยี บ

5.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งม่ันในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ิศ

7. กิจกรรมการเรยี นรู้

1. สมาชกิ กล่มุ หมายเลข 1-4 รว่ มกันทบทวนคำตอบในใบงานท่ีกลมุ่ ของตนเองรับผิดชอบ
2. สมาชกิ กลมุ่ ใหมแ่ ยกยา้ ยกันกลบั ไปยงั กลุ่มเดมิ และนำความรูท้ ่ไี ดศ้ ึกษาและคำตอบในใบงานไปเลา่ ให้
สมาชกิ คนอน่ื ๆ ฟัง และผลัดกันซกั ถามข้อสงสัย จากนน้ั เก็บรวบรวมใบงานสง่ ครตู รวจ
3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด

นางสาวนวลเช่าบา้ นของนางน้อยเปน็ เวลา 40 ปี ท้งั สองคนทำสัญญาเชา่ เปน็ หนงั สอื
โดยมีเพอื่ นบา้ นเปน็ พยาน เวลาผา่ นไป 1 ปี นางนอ้ ยเปลี่ยนใจไม่ยอมให้นางสาวนวล

เชา่ บ้านตอ่ ไปนางน้อยจะฟอ้ งร้องบังคบั คดีไดห้ รอื ไม่
(ไม่ได้ เพราะสญั ญาสามารถใช้บงั คับคดไี ด้ 3 ป)ี

4. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันสรปุ ความรเู้ ก่ียวกบั ลักษณะการกระทำความผิดทางแพง่ และความรับผิด
ทางแพง่ หลักการสำคญั ของการทำนติ ิกรรมสญั ญาในเรอื่ ง ซื้อขาย กยู้ มื เงนิ เช่าทรพั ยส์ ิน เช่าซอ้ื

5. สมาชิกในแต่ละกลุ่มบันทกึ ผลการสรปุ ความร้ลู งในกระดาษทคี่ รูแจกให้ แล้วร่วมกันนำเสนอผลงาน
ดว้ ยวธิ ีการทแี่ ปลกใหม่อยา่ งสร้างสรรค์ สมาชิกกล่มุ ผชู้ มผลงานชว่ ยกนั เสนอแนะเพ่มิ เตมิ

6. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-3

1) การกระทำความผดิ ในเรอ่ื งผิดสัญญาซื้อขาย เช่าทรพั ย์ กยู้ มื เงนิ ตอ้ งรบั ผิดถึงขั้นจำคุก
หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
(ไมต่ อ้ งรบั ผดิ ถึงขั้นจำคุก เพราะเปน็ ความผดิ ทางแพง่ )

2) นักเรยี นสามารถแนะนำผ้อู นื่ ใหม้ ีความรเู้ กยี่ วกบั การทำสญั ญากู้ยมื เงิน ซอ้ื ขาย เชา่ ทรพั ย์
อย่างไร
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินจิ ของครูผูส้ อน)

3) นกั เรียนสามารถนำความรู้เรอ่ื ง การก้ยู มื เงนิ และการซอื้ ขายไปประยุกตป์ ฏบิ ัตไิ ด้อยา่ งไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินจิ ของครผู สู้ อน)

7. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นำความรทู้ ีไ่ ด้ไปประยุกตใ์ ช้ในการวเิ คราะหข์ า่ วเหตุการณใ์ นชีวติ ประจำวนั
8. ครูอธิบายเพมิ่ เติมเก่ียวกบั กระบวนการยตุ ิธรรมทางแพง่ และมอบหมายใหน้ ักเรยี นตดิ ตามข่าวเก่ียวกบั
กระบวนการยุติธรรมทางแพง่

8. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 1.2 ใบงานที่ 1.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 1.3 ใบงานที่ 1.3 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 1.4 ใบงานที่ 1.4

สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

สังเกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมน่ั ใน แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
การทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ิศ

9.ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
9.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ซอ้ื ขาย
2) ใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง กยู้ ืมเงิน
3) ใบงานที่ 1.3 เรื่อง เชา่ ทรัพยส์ ิน
4) ใบงานท่ี 1.4 เรือ่ ง เชา่ ซอ้ื
9.2 แหล่งการเรียนรู้


แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอุทศิ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจดั การเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแก้ไข / การพฒั นาส่งเสรมิ / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ …………………………………………….ครผู สู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื .........................................
(.......................................................)
ตำแหน่ง ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ิศ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 รายวิชาหนา้ ทพี่ ลเมอื ง
สาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
รหัสวิชา ส 23235 ปกี ารศึกษา 2563
ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ งท่ี 3 กฎหมายอาญา (1)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ติ นตามหน้าทขี่ องการเป็นพลเมืองดี มคี ่านยิ มท่ีดงี าม และธำรงรกั ษาประเพณี
และวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยูร่ ว่ มกันในสังคมไทย และ สงั คมโลกอย่างสันตสิ ุข

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การกระทำความผิดทางอาญาจะมีบทลงโทษตามกฎหมายอาญา ซงึ่ โทษจะมีหนักเบาแตกต่างกัน

ตามลักษณะของการกระทำความผดิ

3. ตัวชว้ี ัด/จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 ตวั ช้ีวดั
ส 2.1 ม.3/1 อธบิ ายความแตกต่างของการกระทำความผดิ ระหว่างคดีอาญาและคดีแพง่

3.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธบิ ายลักษณะการกระทำความผิดทางทางอาญาและบทลงโทษได้
2) เปรยี บเทียบความแตกต่างของการกระทำความผิดทางอาญาและความผิดทางแพง่ ได้
3) เปรียบเทียบความแตกต่างของกระบวนการยตุ ธิ รรมทางอาญาและทางแพ่งได้

4. สาระการเรียนรู้
1) ลกั ษณะการกระทำความผดิ ทางอาญาและโทษ
2) ตัวอยา่ งการกระทำความผดิ ทางอาญา เชน่ ความผดิ เกยี่ วกบั ทรัพย์

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

5.1 ความสามารถในการคดิ
1.) ทักษะการเปรียบเทียบ

5.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ มั่นในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ิศ

7. กิจกรรมการเรียนรู้

1. ครูนำขา่ วการกระทำความผดิ ทางอาญาเกยี่ วกบั การลักทรัพย์ การปลน้ ทรพั ย์ การทำรา้ ยรา่ งกาย
มาเล่าให้นกั เรยี นฟงั แล้วใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหก์ ารกระทำ

2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด

นกั เรยี นคดิ ว่า การลกั ทรพั ย์หรอื ปลน้ ทรพั ยน์ ้ันมผี ลกระทบตอ่ สังคมและประเทศชาติอยา่ งไรบา้ ง
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน)

3. ครอู ธบิ ายเพิม่ เติมให้นักเรยี นเข้าใจวา่ การกระทำดงั กลา่ วเป็นความผิดทางอาญา ซ่งึ จะตอ้ งไดร้ ับ
การลงโทษตามบทบญั ญัตขิ องกฎหมายอาญา

4. นกั เรยี นกลุม่ เดิม รว่ มกนั ศึกษาความรเู้ ร่อื ง กฎหมายอาญาจากหนงั สือเรยี น ตามหวั ข้อตอ่ ไปนี้
1) ลกั ษณะสำคญั ของกฎหมายอาญา
2) ลักษณะการกระทำความผดิ ทางอาญาและความรบั ผดิ ทางอาญา
3) ลักษณะตา่ งๆ ของการกระทำความผิดทางอาญา

5. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันอภปิ รายประเดน็ สำคัญของเรื่องที่ศกึ ษา และชว่ ยกันทำใบงานท่ี 1.5 เรอื่ ง
การกระทำความผดิ ทางอาญา

6. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ขอ้ 1-2

1) นายเดน่ พายเรือไปส่งนายโดด หลงั จากดม่ื สุราจนเมา ระหวา่ งทางนายเดน่ ทะเลาะกบั
นายโดด นายเด่นจงึ ชกนายโดด 1 ครัง้ นายโดดเสยี หลกั ตกลงไปในน้ำถงึ แกค่ วามตาย
นายเด่นมีความผิดฐานใด (ฆา่ คนตายโดยไม่เจตนา)

2) นายไสวยงิ ปนื ไปในตู้ของรถไฟ ซึ่งกำลงั แลน่ ผา่ นไป กระสุนปืนถกู นางสาวหวาน
ถึงแกค่ วามตาย นายไสวมคี วามผดิ ฐานใด (ฆ่าคนตายโดยเจตนา)

8. การวดั และประเมนิ ผล

วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตความมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่ันใน
การทำงาน

9.สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้

9.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี น หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนินชีวติ ในสงั คม ม.3
2) ตวั อยา่ งขา่ ว
3) ใบงานท่ี 1.5 เรือ่ ง การกระทำความผดิ ทางอาญา

9.2 แหล่งการเรียนรู้


แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอุทิศ

ตวั อยา่ งขา่ ว

ศูนยข์ า่ วภูเกต็ -ตำรวจเมอื งภูเกต็ บกุ รวบหนมุ่ ชา่ งเชอื่ ม บงั อาจยอ่ งเบางดั หนา้ ตา่ งบา้ นพกั นายเวร
ผบก.ภูเกต็ ไดพ้ รอ้ มของกลางจำนวนมาก ผตู้ อ้ งหาสารภาพทำมาแลว้ หลายครงั้

เมือ่ วนั ที่ 6 พฤษภาคม พล.ต.ต.พกิ ดั ตนั ตพิ งศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเกต็ พร้อมด้วย พ.ต.อ.โชติ ชดิ ไชย ผกก.สภ.
เมือง-ภูเกต็ รวมทง้ั เจา้ หน้าทีช่ ดุ จับกมุ รว่ มกนั แถลงผลการจบั กุม นายอทุ ยั สวนดอกไม้ อายุ 33 ปี ประกอบอาชีพ
ช่างเชอื่ ม อยู่บ้านเลขที่ 96/10 ม.8 ต.บ่อน้ำรอ้ น อ.กนั ตงั จ.ตรงั ผ้ตู อ้ งหาคดลี กั ทรพั ย์ในเคหสถาน โดยทำอนั ตรายสงิ่
กีดกั้นสำหรบั บคุ คลหรอื ทรัพย์ และเข้าทางชอ่ งทางซ่งึ ไดท้ ำขน้ึ โดยไมไ่ ด้จำนงให้เป็นทางคนเขา้ หรอื รบั ของโจร โดย
เจ้าหน้าท่ตี รวจยึดของกลาง ประกอบดว้ ย ต๋วั จำนำ 8 ใบ กุญแจบ้าน 10 พวง กุญแจรถจกั รยานยนต์ 5 ดอก กญุ แจ
รถยนต์ จำนวน 4 ดอก เครอ่ื งคอมพิวเตอรโ์ น้ตบกุ๊ จำนวน 2 เครอื่ ง กล้องถา่ ยรปู จำนวน 1 เคร่อื ง กระเปา๋ สตางค์
แบบผ้หู ญิง 3 ใบ หนงั สอื -เดนิ ทางของบุคคลอื่น บตั รเอทีเอ็ม จำนวน 3 ใบ โทรศพั ท์มอื ถอื จำนวน 5 เคร่ือง สมดุ
ธนาคารจำนวน 5 เลม่ แวน่ ตา- กนั แดด จำนวน 1 อัน และอนื่ ๆ อกี หลายรายการ โดยจบั กมุ ได้ทหี่ อ้ งเช่าไมม่ เี ลขที่
ชุมชนสะพานรว่ ม 1 ซ.5 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมอื ง จ.ภูเกต็

สำหรับการจับกมุ ผูต้ ้องหารายดงั กล่าว สืบเน่ืองจากเจา้ หนา้ ท่ีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตไดร้ ับแจ้งว่าระหว่างวันที่ 28-
30 เม.ย. มีคนร้ายเข้าลักทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 178/2 ถ.นคร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านพักข้าราชการ
ตำรวจ และอยู่ห่างจากสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตไม่มากนักโดยบ้านหลัง
ดังกลา่ วมี ร.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนูมาศ นายเวรของ พล.ต.ต.พิกัด ตนั ติพงศ์ ผูบ้ ังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้อยู่
อาศัย แตช่ ว่ งเกิดเหตุน้นั เดนิ ทางไปต่างจงั หวัด

อย่างไรก็ตาม ภายหลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวน จนทราบว่าผู้ก่อเหตุในครั้งนี้คือ
นายอทุ ยั สวนดอกไม้ พนักงานสอบสวนจงึ ได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำรอ้ งต่อศาลจงั หวดั ภูเกต็ เพอื่ ออกหมายจับโดย
ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ชุมชนสะพานร่วม 1 ซ.5 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมของกลาง
จำนวนมาก รวมทั้งทรัพย์สนิ หลายรายการที่ขโมยไปจากบ้านนายเวรผูก้ ารภูเกต็ ซึ่งจากการสบื สวนในเบ้อื งต้นทราบวา่
ผู้ต้องหารายดังกล่าวก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านเรอื นของประชาชนมาแล้วหลายครัง้ ทรัพย์สินที่ได้มาน้ันมีท้ังที่นำไปจำนำ
ขาย และแลกกบั ยาเสพติด จงึ นำตัวส่งพนกั งานสอบสวนเพอ่ื ดำเนนิ คดี โดยขณะนี้มีผู้เสียหายมาตรวจสอบทรัพย์สินแลว้
หลายราย

ขณะที่ ร.ต.อ.ฐาปกรณ์ กล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตคุ นร้ายเข้าไปขโมยทรพั ย์สนิ ท่ีบา้ นพักน้ันตนเองเดินทางไปทำ
ธรุ ะที่ตา่ งจังหวัด โดยทรพั ยส์ นิ ท่ถี กู คนรา้ ยขโมยไปมหี ลายรายการท้ังโน้ตบุ๊ก กลอ้ งถ่ายรูป แว่นตากันแดดนาฬิกาข้อมือ
ซง่ึ ขณะนไี้ ดท้ รพั ย์สินกลับคนื มาแล้วบางส่วน

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กล่มุ สาระการเรียนรูส้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ิศ

จำคกุ ตลอดชวี ติ 2 กะเทยปลน้ บา้ นยาย โตโน่
ศาลอาญาสงั่ จำคกุ ตลอดชวี ติ 2 กะเทยปลน้ บา้ นยายโตโน่ แตร่ บั สารภาพลดเหลอื จำคกุ 33 ปี 4 เดอื น
ศาลอาญารัชดา นดั สบื พยานโจทก์ในคดที ี่พนกั งานอยั การกองคดีอาญา 5 เป็นโจทกย์ นื่ ฟอ้ ง นายเต้ย อรชร อายุ
23 ปี กบั นายธนวฒั น์ แขมคำภา อายุ 20 ปี สาวประเภทสอง เป็นจำเลยในความผดิ ฐานพยายามฆ่าผูอ้ ื่นชงิ ทรพั ยเ์ ปน็
เหตุใหไ้ ด้รบั อนั ตรายแก่กายและใจ บุกรกุ เคหะสถานโดยใช้กำลังประทษุ รา้ ยโดยจำเลยได้รบั สารภาพทกุ ข้อหา ยกเวน้ ขอ้ หา
พยายามฆา่ จากกรณที ท่ี ้ัง 2 คน ได้บกุ เขา้ ไปในบา้ นของนางฮวย แซเ่ ตยี ว อายุ 91 ปี ซง่ึ เปน็ ยายของ นายภาคนิ
คำวิลัยศักดิ์ หรอื โตโน่เดอะสตาร์ 6 เพือ่ ชงิ ทรพั ยแ์ ละทำร้ายรา่ งกายเหตเุ กดิ เม่ือวันท่ี 4 มิ.ย. 53 ทีบ่ า้ นพักย่านประชาช่ืน
โดยในวันน้ี นางฮวย ผูเ้ สียหาย ไดเ้ บกิ ความต่อศาลวา่ ในวันเกดิ เหตตุ นไดอ้ ยูบ่ ้านเพยี งคนเดยี ว ส่วนลกู หลานออกไป
ทำงานกนั หมด จากนน้ั ได้มีนายเต้ย เปน็ สาวประเภทสอง ทรี่ ู้จกั ค้นุ เคยกันดี เขา้ มาในบา้ นพร้อมกับชายอกี 1 คน
โดยจำเลยท่ี 1 ไดเ้ ขา้ มาลอ็ กคอทุบตี ส่วนจำเลยท่ี 2 ใช้หมอนปดิ หนา้ ปิดจมกู และใชเ้ ท้ากระทืบที่ท้องพร้อมกับทบุ ตเี ตะ
ตอ่ ยจนสลบไป จากนนั้ จำเลยไดก้ วาดทรพั ยม์ ลู คา่ นับแสนบาทหลบหนีไป ซง่ึ ภายหลัง นางฮวย เบกิ ความแล้วเสรจ็ ศาล
ไดน้ ัดสบื พยานโจทก์นดั ตอ่ ไปในวนั ท่ี 10 มี.ค. 54 น้ี
ล่าสดุ วันที่ 22 เมษายน 2554 ศาลอาญาไดพ้ พิ ากษาให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวติ จำเลยท้ัง 2 คน ในฐาน
ความผิดพยายามฆา่ ผู้อ่นื ร่วมกนั บุกรกุ และชงิ ทรพั ย์ในเคหสถานโดยผา่ นส่ิงกีดก้นั เป็นเหตุใหผ้ ู้อนื่ ไดร้ บั อนั ตราย
ทั้งนี้ ศาลได้พิเคราะห์ว่า นางฮวย ผู้เสียหายมีอายุ 91 ปี สภาพร่างกายอ่อนแอ แต่จำเลยทั้ง 2 ซึ่งยังเป็น
วัยรุ่นกลบั พยายามทำร้ายร่างกายจำเลยด้วยการใช้ผา้ และหมอนอดุ ปากและจมูกของผู้เสียหาย รวมทั้งยังทำร้ายร่างกาย
เป็นการแสดงเจตนาฆ่าอย่างชัดเจน จึงเท่ากับว่าทั้งสองคนมีความผิดฐานพยายามฆ่าแต่อย่างไรกต็ าม จำเลยทั้งสองคน
ให้การรบั สารภาพซึ่งเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพิจารณาคดี จงึ ลดโทษ 1 ใน 3 คงเหลือ จำคุกคนละ 33 ปี 4 เดือน และให้
ชดใชเ้ งิน รวมทรพั ย์สนิ อืน่ ๆ คืนแก่โจทก์จำนวน 74,580 บาท

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ิศ

แบบบนั ทกึ ผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจดั การเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแก้ไข / การพฒั นาส่งเสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื …………………………………………….ครูผสู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ศิ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 รายวชิ าหนา้ ทพี่ ลเมอื ง
สาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3
รหัสวิชา ส 23235 ปกี ารศึกษา 2563
ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ งท่ี 4 กฎหมายอาญา (2)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ติ นตามหนา้ ทขี่ องการเปน็ พลเมอื งดี มีคา่ นิยมท่ดี ีงาม และธำรงรักษาประเพณี
และวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยรู่ ว่ มกันในสังคมไทย และ สงั คมโลกอยา่ งสันตสิ ุข

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การกระทำความผิดทางอาญาจะมีบทลงโทษตามกฎหมายอาญา ซ่ึงโทษจะมีหนักเบาแตกต่างกนั

ตามลักษณะของการกระทำความผดิ

3. ตัวชว้ี ัด/จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 ตวั ช้ีวดั
ส 2.1 ม.3/1 อธบิ ายความแตกตา่ งของการกระทำความผดิ ระหว่างคดอี าญาและคดีแพง่

3.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธบิ ายลักษณะการกระทำความผดิ ทางทางอาญาและบทลงโทษได้
2) เปรยี บเทียบความแตกต่างของการกระทำความผิดทางอาญาและความผดิ ทางแพ่งได้
3) เปรียบเทียบความแตกต่างของกระบวนการยุตธิ รรมทางอาญาและทางแพง่ ได้

4. สาระการเรียนรู้
1) ลกั ษณะการกระทำความผดิ ทางอาญาและโทษ
2) ตัวอยา่ งการกระทำความผดิ ทางอาญา เช่น ความผิดเกี่ยวกบั ทรพั ย์

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

5.1 ความสามารถในการคดิ
1.) ทักษะการเปรียบเทียบ

5.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ มั่นในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ิศ

7. กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ครูและนักเรยี นร่วมกันทบทวนความรเู้ กี่ยวกบั กฎหมายอาญา
2. นกั เรียนแต่ละกลุม่ รว่ มกนั อภปิ รายประเด็นสำคัญตามหวั ข้อในใบงานท่ี 1.5 โดยผลดั กันนำเสนอ
กลุม่ ละ 1 กรณีตวั อยา่ ง และให้กลุม่ อืน่ ชว่ ยเสนอแนะเพ่มิ เตมิ ในสว่ นท่ีแตกต่างและให้นำความรทู้ ไ่ี ด้ไปเปน็
พืน้ ฐานในการวเิ คราะห์ขา่ ว จากนน้ั เกบ็ รวบรวมใบงานสง่ ครูตรวจ
3. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

ขา่ วจากหนงั สอื พมิ พ์ พาดหน้า 1 ใจความวา่ คนรา้ ย 2 คน ปลน้ รา้ นทองไดท้ องคำไปจำนวน 10 บาท
เจา้ ของร้านทองปลอดภัยไมไ่ ดร้ ับอนั ตราย ขอ้ ความดังกล่าวไม่ถกู ตอ้ งในเรอ่ื งใด
(การกระทำของคนร้าย 2 คน ไมจ่ ดั วา่ เปน็ การปลน้ ทรพั ย์
เพราะไม่ไดใ้ ช้กำลงั หรอื อาวธุ ทำร้ายเจ้าของทรัพย์ และจำนวนคนรา้ ยไม่ถงึ 3 คน)

4. นักเรยี นแต่ละกล่มุ ชว่ ยกันหาขา่ วมา 1 ข่าว แล้วนำมาวเิ คราะหต์ ามหวั ข้อท่ีกำหนดในใบงานท่ี 1.6
เรือ่ ง การวเิ คราะหข์ ่าว

5. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอใบงานที่ 1.6 หน้าชัน้ เรยี น ครตู รวจสอบความถกู ต้อง

6. ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ ให้นกั เรียนเขา้ ใจกระบวนการยตุ ธิ รรมทางอาญา
7. นกั เรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งระหวา่ งการกระทำความผดิ ทางแพง่ และอาญา
8. นกั เรียนทกุ คนทำแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1

ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุม่ ทำตารางเปรยี บเทียบความแตกตา่ ง
ของการกระทำความผดิ ระหว่างคดอี าญากบั คดแี พง่

โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามทกี่ ำหนด ดังนี้
1) การเปรียบเทียบการกระทำความผดิ ทางแพง่ และการกระทำความผดิ ทางอาญา
2) การเปรียบเทยี บโทษของการรับผดิ ทางแพ่งและการกระทำความผดิ ทางอาญา
3) การเปรียบเทยี บกระบวนการยุตธิ รรมทางแพง่ และทางอาญา

8. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 1.5 ใบงานท่ี 1.5 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 1.6 ใบงานท่ี 1.6 ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ ม่นั ใน แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
การทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ิศ

วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการ แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี
เรียนรู้ที่ 1 1 ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจตารางเปรยี บเทยี บความแตกตา่ ง แบบประเมินตารางเปรียบเทยี บ
ของการกระทำความผิดระหวา่ งคดแี พ่ง ความแตกตา่ งของการกระทำความผดิ
กับคดอี าญา ระหวา่ งคดแี พง่ กบั คดีอาญา

9.สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

9.1 ส่อื การเรียนรู้
1) ใบงานท่ี 1.5 เรื่อง การกระทำความผดิ ทางอาญา
2) ใบงานท่ี 1.6 เร่อื ง การวิเคราะห์ข่าว

9.2 แหลง่ การเรยี นรู้


แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอุทศิ

ชื่ อ - ส กุ ล / ก ลุ่ ม . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ช้ั น . . . . . . . . . เ ล ข ที่ . . . . . . . . . . . . . . .

การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมนิ ตารางเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของการกระทำความผดิ

ระหวา่ งคดแี พง่ กบั คดอี าญา

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 การเปรยี บเทยี บการกระทำความผิดทางแพง่ และการ
กระทำความผดิ ทางอาญา

2 การเปรยี บเทยี บโทษของการรบั ผดิ ทางแพ่งและการกระทำ
ความผิดทางอาญา

3 การเปรยี บเทียบกระบวนการยตุ ธิ รรมทางแพง่ และ
ทางอาญา
รวม

ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ดีมาก = 4 คะแนน
ดี = 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
พอใช้ = 2 คะแนน
ปรับปรงุ = 1 คะแนน 11 - 12 ดมี าก

9 - 10 ดี

6 - 8 พอใช้

ต่ำกว่า 6 ปรับปรงุ

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กล่มุ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอุทิศ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจดั การเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแก้ไข / การพฒั นาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ …………………………………………….ครผู สู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหน่ง …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ิศ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 รายวิชาหนา้ ทพี่ ลเมอื ง
สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3
รหัสวิชา ส 23235 ปกี ารศกึ ษา 2563
ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอื่ งท่ี 1 ปกปอ้ งคุ้มครองผูอ้ น่ื ตามหลกั สทิ ธิ-มนษุ ยชน (1)

1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ติ นตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มคี ่านยิ มทดี่ ีงาม และธำรงรักษาประเพณี
และวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยรู่ ว่ มกนั ในสังคมไทย และ สงั คมโลกอย่างสนั ตสิ ขุ

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
สทิ ธิมนุษยชนมีความสำคญั ตอ่ การดำรงชีวติ ของมนษุ ย์ ดังนนั้ ทกุ คนจึงตอ้ งมีสว่ นร่วมในการปกปอ้ ง

คมุ้ ครองสิทธมิ นุษยชนของผอู้ ่นื ตามหลักสทิ ธิมนษุ ยชนในโอกาสทเี่ หมาะสม

3. ตัวช้วี ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 ตวั ชวี้ ดั
ส 2.1 ม.3/2 มสี ่วนรว่ มในการปกป้องคมุ้ ครองผอู้ นื่ ตามหลกั สทิ ธิมนษุ ยชน

3.2 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) อธบิ ายความสำคญั ของสทิ ธมิ นุษยชนได้
2) วเิ คราะห์แนวทางการมสี ่วนรว่ มในการปกปอ้ งคุ้มครองผู้อน่ื ตามหลกั สิทธิมนษุ ยชนได้
3) มีสว่ นรว่ มในการปกปอ้ งค้มุ ครองผอู้ ื่นตามหลักสิทธิมนุษยชน

4. สาระการเรียนรู้
1) ความหมายและความสำคญั ของสิทธมิ นษุ ยชน
2) การมสี ่วนรว่ มค้มุ ครองสิทธิมนุษยชนตามรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยตามวาระและ

โอกาส ท่ีเหมาะสม

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

5.1 ความสามารถในการคิด
1.) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้

5.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กล่มุ สาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
1. นักเรียนทุกคนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2
2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด

นักเรยี นคดิ วา่ ในปจั จบุ ันนม้ี กี ารละเมดิ สิทธมิ นษุ ยชนในเร่ืองใดมาก และมผี ลเสียอยา่ งไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผูส้ อน)

3. ครูนำข่าวการละเมิดสิทธิมนษุ ยชน มาให้นกั เรียนอา่ นและวิเคราะหใ์ นประเด็นตอ่ ไปน้ี
1) บคุ คลใดที่ถูกละเมิดสทิ ธิมนษุ ยชนและผลทีไ่ ด้รบั คอื อะไร
2) พลเมอื งดีควรมสี ว่ นรว่ มในการช่วยเหลืออยา่ งไรบา้ ง

4 ครอู ธบิ ายเชอื่ มโยงให้นกั เรยี นเหน็ ความสำคัญและความจำเปน็ ท่จี ะต้องรว่ มมือกันในการปกปอ้ ง
คุ้มครองผู้อื่นตามหลกั สิทธิมนษุ ยชน และอธบิ ายความหมายและความสำคัญของสิทธมิ นษุ ยชนให้นกั เรียนฟงั

5. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 5 คน ตามความสมคั รใจ แลว้ ให้แตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกันคน้ หาขอ้ มูลเกี่ยวกบั
การมสี ่วนรว่ มในการปกปอ้ งค้มุ ครองผู้อน่ื ตามหลกั สทิ ธมิ นุษยชน ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้

1) สทิ ธิมนษุ ยชนที่ควรรู้ ตามบทบัญญัติของรฐั ธรรมนูญ
2) การมสี ว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ิตนทกี่ ่อให้เกดิ ประโยชน์ในด้านสิทธมิ นษุ ยชน
6. สมาชิกในกลุ่มร่วมกันอภิปรายประเด็นสำคญั ของขอ้ มูลที่ไดร้ วบรวมมา
7. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ข้อ 1-2

1) สทิ ธิมนุษยชนมคี วามสำคญั อย่างไร
(ทำใหม้ นุษย์ทุกคนได้รบั การปฏิบัติด้วยความเสมอภาค เท่าเทยี มกนั อย่างยตุ ธิ รรม สง่ เสริมการ
พัฒนาคุณภาพชวี ิตมนษุ ย)์

2) ถ้าสมาชิกในสังคมทุกคนรว่ มกนั ปกปอ้ งผอู้ ื่นตามหลักสทิ ธมิ นษุ ยชนจะสง่ ผลดีอยา่ งไร
(1. ทำให้ความเป็นอย่ขู องมนษุ ย์ทกุ คนดีขน้ึ ไดร้ ับสทิ ธิเสรภี าพของตนตามสมควรทจี่ ะได้รบั
อยา่ งยุตธิ รรม
2. ทำใหส้ ังคมอย่รู ว่ มกันอย่างปกติสุขและมีส่วนรว่ มในการทำกิจกรรมต่างๆ ในการพัฒนาและ
แกไ้ ขปัญหาสงั คม)

8. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ชว่ ยกันทำใบงานท่ี 2.1 เรื่อง การคมุ้ ครองผอู้ น่ื ตามหลกั สทิ ธมิ นษุ ยชน จากน้ัน
ครูสมุ่ ตวั แทนกล่มุ ออกมาเฉลยคำตอบในใบงาน กลมุ่ ละ 1-2 หวั ข้อ ตามความเหมาะสม ครตู รวจสอบความ
ถูกต้อง

9. นักเรียนแต่ละกลุ่มเลอื กขา่ วในใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง การรว่ มมอื กนั ปกปอ้ งสทิ ธมิ นษุ ยชน กลมุ่ ละ 1
ข่าว แล้วรว่ มกนั วเิ คราะห์ตามประเด็นทกี่ ำหนดให้

10. เมอื่ แต่ละกลมุ่ ทำใบงานที่ 2.2 เสร็จแล้วให้ออกมานำเสนอใบงานที่หน้าช้ันเรยี น แลว้ ให้สมาชิกกลมุ่
อื่น ๆ ชว่ ยกนั แสดงความคิดเห็นเพ่ิมเตมิ ในส่วนที่แตกตา่ ง ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

8. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ กี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์
แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 (ประเมินตามสภาพจรงิ )
ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการ
เรยี นรู้ท่ี 2 ใบงานที่ 2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานที่ 2.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่

สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ัน
ในการทำงาน

9.ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

9.1 ส่อื การเรียนรู้

1) หนงั สือเรียน หน้าทพี่ ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชีวติ ในสังคม ม.3

2) ตวั อยา่ งข่าว

3) ใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง การคุ้มครองผอู้ ื่นตามหลกั สิทธิมนษุ ยชน

4) ใบงานที่ 2.2 เรอ่ื ง การรว่ มมอื กนั ปกป้องสิทธมิ นษุ ยชน
9.2 แหลง่ การเรยี นรู้



แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ศิ

ตวั อยา่ งขา่ ว

พฒั นาสงั คมจส้ี อบสวนภาค 7 ชว่ ย 3 สาวเมยี นมาถูกบบี คา้ กาม
ตำรวจสบื สวนภาค 7 รว่ มกบั เจา้ หน้าทีพ่ ัฒนาสังคมฯ บกุ ช่วย 3 เหย่ือสาวเมยี นมาถกู หลอกจากศูนยพ์ กั พงิ
ช่วั คราว จ.ตาก ให้ไปทำงานแมบ่ า้ นในเมอื งมหาชยั อ้างรายไดด้ ีเดอื นละ 6,000 บาท สดุ ทา้ ยกลบั ให้เปน็ หมอนวด และ
บังคับค้าประเวณี แถมยังถกู หักเงนิ อีก 20,000 บาท หากไมท่ ำกจ็ ะโดนทำรา้ ยและใหอ้ ดขา้ ว พ่อรอ้ งมลู นิธฯิ แจ้งตำรวจ
ชว่ ยเหลอื ไว้ได้ กอ่ นรวบสาวท่เี ปน็ คนดูแลหอ้ งพักดำเนนิ คดี แตย่ งั ปากแขง็ ให้การปฏเิ สธ ตำรวจสบื สวนภาค 7 บกุ ชว่ ย
หญิงสาวชาวเมยี นมาถกู หลอกมาค้าประเวณีรายนี้ เปดิ เผยเมอ่ื เวลา 07.00 น. วนั ที่ 18 ก.พ. พ.ต.อ. บรรจง อมฤทธิ์
ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.7 พร้อมดว้ ย พ.ต.ท. ประสพชัย มัตสยวนิชกลุ รอง ผกก.สส.2 และพ.ต.ต. รชั ภูมิ กสุ มุ าลย์
สว.กก.สส.2 ประสาน พ.ต.อ. จำแลง สดุ ใจ ผกก.สภ. เมืองสมทุ รสาคร นายปยิ ะไกร สีละโคตร หวั หนา้ ฝา่ ยปกปอ้ ง
คมุ้ ครองสทิ ธิ มูลนิธิเครือขา่ ยส่งเสริมคุณภาพชีวติ แรงงาน นางวมิ ลมาลย์ เศรษฐีสมบตั ิ หัวหนา้ งานพัฒนาสงั คมและความ
ม่นั คงของมนษุ ย์ จงั หวดั สมทุ รสาคร และน.ส.ณัชฐินี ปลกี ลำ่ รตั นสิริ หวั หนา้ บา้ นพกั เดก็ และครอบครัวจังหวดั สมุทรสาคร
นำกำลงั พรอ้ มหมายคน้ ศาลจังหวดั สมทุ รสาคร เข้าตรวจค้นอาคารพาณชิ ย์ เลขที่ 322/41 ต.มหาชัย อ.เมอื งสมทุ รสาคร
หลังไดร้ บั แจง้ ขอความชว่ ยเหลือจากผปู้ กครองหญิงสาวชาวเมยี นมาว่า ลูกสาวพรอ้ มเพอื่ นหญงิ สาวชาวเมยี นมาอีก 2 คน
ถูกลอ่ ลวงมาคา้ ประเวณี และพกั อยู่ที่อาคารดังกลา่ ว
จากการตรวจคน้ พบภายในมกี ารแบง่ ซอยเปน็ หอ้ งเชา่ หลายหอ้ ง และมแี รงงานตา่ งดา้ วเชา่ อยู่ 8 คน แต่มี
ใบอนุญาตทำงานถกู ต้อง ขณะเดยี วกัน ยังพบ น.ส.เอ (นามสมมต)ิ อายุ 18 ปี หนึ่งในเหย่อื ทถี่ กู บงั คับคา้ ประเวณีทพ่ี กั
อยูด่ ว้ ย เลยเข้าชว่ ยเหลือเอาไว้ได้ กอ่ นคมุ ตวั น.ส.บุญธพิ ร หรอื จอย ปนิ ทา อายุ 39 ปี อยู่บา้ นเลขท่ี 140 ม.6
ต.แกจ่ ะเรา อ.แมร่ ะนาด จ.ตาก ท่ีแสดงตัวเป็นผู้ดแู ลอาคารพาณชิ ย์ดงั กล่าวมาสอบสวน สว่ น น.ส.นา (นามสมมต)ิ
อายุ 22 ปี และ น.ส.พา (นามสมมต)ิ อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งระหวา่ งเจ้าหน้าท่ตี รวจค้นไดอ้ อกไปทำธุระข้างนอก
เม่ือทราบขา่ วจาก น.ส.เอ กร็ ีบกลับเข้ามาก่อนรอ้ งขอความช่วยเหลือตอ่ ไป
จากการสอบสวนเหยอ่ื สาวเมียนมาท้งั 3 คน ทราบว่า เมอ่ื ประมาณ 1 เดอื นท่ีผา่ นมา ระหว่างท่ผี ูเ้ สยี หาย
ทง้ั หมดซงึ่ พักอยู่ในศูนยพ์ ักพงิ ช่ัวคราวบ้านแมห่ ละ อ.ทา่ สองยาง จ.ตาก ได้ถูกนายชาพอ่ ง ชาวเมยี นมาชกั ชวนใหม้ า
ทำงานเป็นแมบ่ า้ น อ้างว่ารายไดด้ เี ดือนละ 6,000 บาท โดยมี น.ส.บณุ ธพิ ร หรือจอย เป็นคนพานอ้ งชายไปรบั ถึงที่ แต่
พอมาถึง น.ส.บญุ ธิพร กลบั ให้ไปทำงานเปน็ หมอนวดทรี่ ้านนวดแผนโบราณแหง่ หนง่ึ และยังถกู บงั คบั ใหค้ ้าประเวณีด้วย
แถมยังโดนหักเงนิ 9,000 บาท อ้างว่าเปน็ ค่าเดินทางกอ่ นจะเพ่มิ เปน็ 20,000 บาท โดยหกั ค่าแรงซ่งึ จะจา่ ยใหท้ กุ 10 วัน
แต่จนถงึ ขณะนกี้ ย็ งั ไม่ได้ รับเงินและหากไม่ทำก็จะโดนทำร้ายดว้ ยการตบหนา้ และไม่ให้กนิ ข้าว กระทั่งพ่อของ น.ส.นา
ทราบเรือ่ งจงึ เขา้ ร้องเรยี นมูลนิธเิ ครือข่ายสง่ เสรมิ คุณภาพชวี ติ แรงงาน ก่อนประสานตำรวจสบื สวนภาค 7 เข้าชว่ ยเหลอื
เอาไวไ้ ด้
เบอ้ื งต้นตำรวจแจง้ ข้อกล่าวหา น.ส.บุญธพิ ร ในข้อหาวา่ ใหท้ พี่ ักพงิ บุคคลต่างด้าว หลบหนีเข้าเมอื งโดยผิด
กฎหมาย และรว่ มกับบุคคลอืน่ ท่ยี งั หลบหนคี า้ มนุษย์ แต่จากการสอบสวน น.ส.บญุ ธพิ ร ไดใ้ หก้ ารปฏเิ สธ โดยอา้ งวา่ เป็น
คนดูแลหอ้ งเช่าดงั กล่าวจริง ซ่ึงแรงงานตา่ งด้าวทงั้ หมดทม่ี าเช่าอยูม่ บี ัตรบุคคลต่างดา้ วถกู ต้อง โดยไมไ่ ด้ใหห้ ญงิ สาวชาวเมยี น
มาเปน็ คนเช่าแต่อยา่ งใด หลังสอบปากคำตำรวจได้คมุ ตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย สว่ นหญงิ สาวชาวเมียนมาท้งั 3 คน
มอบใหส้ ำนกั งานบา้ นพักเดก็ และครอบครวั จงั หวดั สมุทรสาครเพ่อื ทำการฟ้ืนฟูจติ ใจกอ่ นสง่ กลบั ภูมลิ ำเนาตอ่ ไป

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแกไ้ ข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ…………………………………………….ครูผสู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหน่ง …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 รายวิชาหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง
สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3
รหัสวชิ า ส 23235 ปีการศึกษา 2563
ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรอื่ งที่ 2 ปกป้องคุม้ ครองผูอ้ ืน่ ตามหลกั สทิ ธิ-มนุษยชน (2)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ตั ติ นตามหน้าทขี่ องการเปน็ พลเมอื งดี มีค่านยิ มท่ีดงี าม และธำรงรักษาประเพณี
และวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยูร่ ว่ มกันในสังคมไทย และ สงั คมโลกอย่างสันตสิ ุข

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
สทิ ธมิ นุษยชนมีความสำคญั ตอ่ การดำรงชวี ติ ของมนุษย์ ดงั นั้นทกุ คนจึงตอ้ งมีสว่ นร่วมในการปกปอ้ ง

ค้มุ ครองสทิ ธิมนุษยชนของผอู้ น่ื ตามหลักสิทธิมนษุ ยชนในโอกาสทีเ่ หมาะสม

3. ตัวชวี้ ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 ตัวชว้ี ดั
ส 2.1 ม.3/2 มสี ่วนรว่ มในการปกป้องคมุ้ ครองผอู้ ืน่ ตามหลกั สิทธิมนุษยชน

3.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1) อธบิ ายความสำคญั ของสทิ ธิมนษุ ยชนได้
2) วเิ คราะห์แนวทางการมีส่วนรว่ มในการปกปอ้ งคุ้มครองผ้อู นื่ ตามหลักสทิ ธิมนษุ ยชนได้
3) มีส่วนรว่ มในการปกป้องคมุ้ ครองผอู้ ื่นตามหลักสทิ ธิมนษุ ยชน

4. สาระการเรยี นรู้
1) ความหมายและความสำคัญของสทิ ธมิ นษุ ยชน
2) การมีส่วนรว่ มค้มุ ครองสิทธมิ นษุ ยชนตามรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยตามวาระและ

โอกาส ท่เี หมาะสม

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

5.1 ความสามารถในการคดิ
1.) ทักษะการนำความรู้ไปใช้

5.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอุทิศ

7. กิจกรรมการเรียนรู้
1. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด

นกั เรียนจะสามารถมสี ว่ นรว่ มในการปกป้องคมุ้ ครองผอู้ นื่ ตามหลกั สทิ ธิมนุษยชนไดอ้ ย่างไรบา้ ง
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินิจของครูผสู้ อน)

2. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั เสนอแนวทางการมีสว่ นรว่ มในการปกปอ้ งค้มุ ครองผอู้ ื่นตามหลัก
สิทธิมนษุ ยชนในชอ่ งท่ี 1 และ 2 ของใบงานท่ี 2.3 เรอื่ ง การมีสว่ นรว่ มในการปกป้องคุม้ ครองผ้อู นื่ ตามหลัก
สทิ ธิมนษุ ยชน

3. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มตดั สนิ ใจเลือกกจิ กรรมทตี่ นสามารถนำไปปฏิบตั ิได้ แล้วบนั ทกึ รายการใน
ชอ่ งท่ี 3 ของใบงานที่ 2.3

4. สมาชกิ แต่ละคนปฏบิ ัติตนตามกจิ กรรมทต่ี นตัดสนิ ใจเลอื กแลว้ บันทึกผลการปฏิบัติพร้อมหลักฐาน

ประกอบในแบบบันทึกการมสี ว่ นรว่ มในการคุ้มครองผู้อ่นื ตามหลักสิทธิมนุษยชน จากน้นั ผลัดกนั เลา่ ให้สมาชกิ
ในกลุม่ ฟงั แลว้ นำแบบบันทึกส่งครู

5. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ข้อ 1-2

1) ผลของการปฏบิ ตั ิตนในการมีส่วนรว่ มในการปกป้องคุ้มครองผอู้ น่ื ตามหลกั สทิ ธิมนษุ ยชน
เป็นอย่างไร

(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน)
2) นักเรียนได้ข้อคิดเกยี่ วกบั การมีสว่ นรว่ มในการคมุ้ ครองผอู้ ่ืนตามหลักสทิ ธมิ นษุ ยชน

อยา่ งไรบ้าง
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู ูส้ อน)

6. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ผลของการมีสว่ นรว่ มในการปกป้องคมุ้ ครองผอู้ ื่นตามหลกั สทิ ธิมนษุ ยชน

8. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์
ใบงานที่ 2.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 2.3 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มั่น
ในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ิศ

9.ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
9.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนังสอื เรียน หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนินชวี ติ ในสงั คม ม.3
2) เอกสารประกอบการสอน
3) ใบงานท่ี 2.3 เรอื่ ง การมีสว่ นร่วมในการปกป้องคมุ้ ครองผอู้ ่นื ตามหลักสิทธมิ นษุ ยชน
9.2 แหล่งการเรียนรู้


แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ศิ

เอกสารประกอบการสอน

แบบบนั ทกึ การมสี ว่ นรว่ มในการคมุ้ ครองผอู้ น่ื ตามหลกั สทิ ธมิ นษุ ยชน

คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นแต่ละคนปฏบิ ตั ิกจิ กรรมทตี่ นตดั สินใจเลอื กแลว้ บนั ทึกผลการปฏบิ ตั ิพรอ้ มหลกั ฐานประกอบ
(ตวั อยา่ ง)

ลำดับท่ี รายการปฏบิ ตั ิ ผลของการปฏบิ ัติ หลกั ฐาน
ประกอบ
1 จัดทำปา้ ยนเิ ทศ/แผ่นพบั เผยแพร่ความรู้ มีผแู้ สดงความคดิ เหน็ ที่แสดงถงึ ความ - ป้ายนเิ ทศ
เก่ียวกบั หลกั สิทธิมนษุ ยชน เขา้ ใจเร่ือง สิทธิมนุษยชน จำนวน 20 - แผน่ พับ
คน
2 แนะนำเดก็ ข้างบา้ นท่ีไปทำงานใน เจา้ หน้าทก่ี รมแรงงานมาประสานให้ ลงลายมือชอ่ื ของ
รา้ นอาหารแลว้ ถูกนายจา้ งเอาเปรียบ ความชว่ ยเหลอื
คา่ จ้างแรงงานไม่ยอมจา่ ยคา่ จา้ งให้ 2 ผ้ทู ไ่ี ดร้ ับการ
เดอื น โดยใหไ้ ปรอ้ งเรียนทีก่ รมแรงงาน แนะนำ

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ิศ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแกไ้ ข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ…………………………………………….ครูผสู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหน่ง …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 รายวชิ าหนา้ ที่พลเมอื ง
สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
รหสั วชิ า ส 23235
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563
เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรอ่ื งที่ 3 องคก์ รดา้ นสิทธมิ นษุ ยชน (1)

1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ทขี่ องการเป็นพลเมืองดี มคี า่ นยิ มทดี่ ีงาม และธำรงรกั ษาประเพณี
และวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยู่รว่ มกันในสงั คมไทย และ สังคมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
องคก์ รด้านสิทธิมนษุ ยชนท้ังในระดับชาติ ระดับระหวา่ งประเทศ และระดบั ภาคประชาสงั คม ตา่ งมบี ทบาท

หน้าทใี่ นการคุ้มครองมนุษยต์ ามหลักสทิ ธมิ นุษยชน

3. ตัวชี้วัด/จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

3.1 ตวั ชี้วัด
ส 2.1 ม.3/2 มสี ่วนรว่ มในการปกปอ้ งค้มุ ครองผอู้ ่นื ตามหลกั สิทธมิ นษุ ยชน

3.2 จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธิบายบทบาทหน้าท่ขี ององค์กรดา้ นสทิ ธมิ นุษยชน ระดับชาติ ระดับระหว่างประเทศ และ
ระดบั ภาคประชาสงั คมได้
2) วเิ คราะห์ผลการดำเนนิ งานขององค์กรด้านสิทธมิ นษุ ยชนได้

4. สาระการเรยี นรู้
1) ความหมายและความสำคัญของสทิ ธิมนษุ ยชน
2) การมสี ่วนรว่ มคุ้มครองสทิ ธมิ นุษยชนตามรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยตามวาระและ

โอกาส ทเ่ี หมาะสม

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น

5.1 ความสามารถในการคิด
1.) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้

5.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ข้อ 1-2

1) ทำไมจึงตอ้ งมอี งคก์ รตา่ งๆ เขา้ มามบี ทบาทในด้านสทิ ธมิ นุษยชน
(เพราะจะทำให้การดำเนินงานหรอื กิจกรรมต่างๆ เปน็ ประโยชนต์ อ่ มนษุ ย์ทวั่ ไปทางดา้ นสทิ ธิ-
มนุษยชนไดอ้ ย่างทวั่ ถงึ และมปี ระสทิ ธิภาพ และทำใหเ้ กดิ ความม่ันใจในผลงานต่อประชาชน
ทวั่ ไป)

2) นักเรยี นคิดวา่ องค์กรหรอื มลู นิธิตา่ งๆ ท่ีดำเนินงานเก่ยี วกบั สทิ ธมิ นษุ ยชนมผี ลดีตอ่
สังคมอยา่ งไร
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน)

2. ครนู ำขา่ วหรอื ข้อมูลเกยี่ วกับการดำเนนิ งานขององคก์ รต่างๆ ทีเ่ กย่ี วกับสทิ ธมิ นุษยชน มาใหน้ กั เรียน

อ่านแลว้ รว่ มกันวิเคราะหผ์ ลการดำเนนิ งานของมูลนธิ วิ า่ มผี ลดีตอ่ สงั คมอยา่ งไร
3. ครอู ธบิ ายเชอ่ื มโยงให้นกั เรยี นเข้าใจถึงองค์กรตา่ งๆ ด้านสทิ ธิมนุษยชนมีทัง้ ระดับชาติ ระดับระหว่าง

ประเทศ และระดบั ภาคประชาสงั คม
4. นักเรียนกลุ่มเดมิ ชว่ ยกนั สบื คน้ ขอ้ มลู เกี่ยวกับบทบาทหนา้ ที่ขององค์กรตา่ ง ๆ เกยี่ วกบั สทิ ธิมนุษยชน

แลว้ รว่ มกันสรปุ ประเดน็ สำคญั ของข้อมลู ท่ีสบื ค้น
5. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ นำความรูท้ ไ่ี ด้ศกึ ษามาเป็นพื้นฐานในการทำใบงานท่ี 2.4 เรือ่ ง องค์กรดา้ นสทิ ธ-ิ

มนุษยชน เมอื่ ทำใบงานเสร็จแล้วใหส้ มาชกิ ในกล่มุ รว่ มกนั อธิบายความรู้ตามหวั ขอ้ ที่เขยี นในแผนผังมโนทัศน์
6. ครูและนักเรียนช่วยกันเฉยลคำตอบในใบงานที่ 2.4 และช่วยกนั อธิบายความสำคญั ของการรว่ มมอื กัน

ทำงานด้านการปกป้องคุม้ ครองผอู้ ่นื ตามหลกั สทิ ธิมนษุ ยชน และข้อคดิ ทไี่ ด้รบั
7. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ขอ้ 1-2

1) นักเรยี นคิดวา่ องค์กรใดดา้ นสิทธมิ นษุ ยชนมีผลงานเดน่ ชัดท่ีสุดในปัจจบุ นั อธบิ ายเหตุผล
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน)

2) ทำไมองคก์ รตา่ งๆ ทัง้ ของรฐั และเอกชนจงึ ร่วมมอื กันในการดำเนินงานดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน

(เพราะจะทำใหล้ ดชอ่ งวา่ งในการชว่ ยเหลอื บุคคลทไ่ี ดร้ ับความเดอื ดร้อนจากการถกู ละเมดิ สทิ ธิ-
มนุษยชนลดน้อยลงไป และผอ่ นคลายความเดือดรอ้ นของผทู้ ถี่ ูกละเมิดสิทธิและจะทำให้เกดิ การ
ประสานสัมพันธ์ทดี่ ตี ่อกัน สง่ ผลใหก้ ารดำเนนิ งานเป็นไปตามเปา้ หมาย)

8. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นสบื ค้นขอ้ มูลจากห้องสมดุ หรอื แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศเก่ียวกับองคก์ รที่มี
บทบาทสำคัญดา้ นสิทธมิ นษุ ยชน พรอ้ มผลงานกล่มุ ละ 1 องค์กร เพอื่ นำมารายงานผลในช่ัวโมงเรยี นถดั ไป

8. การวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมอื เกณฑ์
ใบงานท่ี 2.4 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วิธกี าร แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 2.4
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่ัน
ในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

9.ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
9.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียน หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชวี ติ ในสังคม ม.3
2) ตัวอยา่ งข่าว
3) ใบงานที่ 2.4 เร่อื ง องคก์ รด้านสิทธิมนษุ ยชน
9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
- http://www.nhrc.or.th/org.php
- http://www.ago.go.th/bbods/bykanongdetch/HumanRights.htm

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ิศ

ตวั อยา่ งขา่ ว

มลู นิธสิ งเคราะหเ์ ดก็ ยากจน ซ.ี ซ.ี เอฟฯ จดั งานขอบคณุ ผสู้ นบั สนนุ ฯ พรอ้ มมอบทนุ การศกึ ษาเพอ่ื เดก็
ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานมลู นิธสิ งเคราะหเ์ ดก็ ยากจน ซี.ซี.เอฟฯ ในพระราชูปถมั ภ์ สมเดจ็ พระเทพ-
รตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า ซ.ี ซ.ี เอฟ ไดเ้ ขา้ มาดำเนนิ การชว่ ยเหลือเดก็ ยากจนในประเทศไทยตั้งแตป่ ี
พ.ศ. 2500 โดยผา่ นสำนักปฏิบตั ิการฮอ่ งกง มลู นธิ สิ งเคราะหเ์ ดก็ ยากจน ซ.ี ซี.เอฟ ในประเทศไทย ได้จดั ต้ังข้นึ เมอื่ วนั ท่ี
15 กรกฎาคม พ.ศ. 2518 เพอ่ื สืบทอดภารกิจของ ซี.ซ.ี เอฟ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม-บรมราชกมุ ารี ทรงมี
พระมหากรุณาธิคณุ รบั มลู นิธฯิ ไว้ในพระราชูปถัมภ์ เมื่อวนั ที่ 26 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2537 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
มลู นิธชิ ว่ ยเหลือเดก็ ยากไรผ้ ่านโครงการอปุ การะเด็ก โดยไดร้ ับการบรจิ าคจากผู้อปุ การะชาวไทยและชาวตา่ งประเทศมา
สนบั สนุนเดก็ ด้อยโอกาสในทุกภมู ิภาคของประเทศ ปจั จุบนั มูลนิธฯิ ให้ความชว่ ยเหลือเดก็ และครอบครวั ทด่ี อ้ ยโอกาสกวา่
50,000 คน รวม กว่า 30 จังหวัดทัว่ ประเทศไทย โดยนำเงินบรจิ าคมาสนบั สนนุ เดก็ ดอ้ ยโอกาสในพน้ื ทบ่ี รกิ ารของมลู นธิ ิ
ฯ ท่ัวประเทศให้มีชวี ติ ความเปน็ อยู่และมกี ารศึกษาที่ดขี น้ึ ชว่ ยเหลอื พ่อแมเ่ ดก็ ให้มีทักษะในการประกอบอาชพี เลย้ี ง
ครอบครวั รวมทง้ั ร่วมสรา้ งการพฒั นาให้ชมุ ชนยกระดบั ข้นึ และสามารถพงึ่ ตนเองได้
เด็กหลายคนทอี่ ยูใ่ นภาวะยากจนในถ่นิ ทรุ กนั ดารและขาดโอกาส ไดร้ ับการเอาใจใส่ดูแลจากผอู้ ปุ การะดว้ ยการ
หยบิ ยน่ื โอกาสให้กบั เด็กๆ เหลา่ นไี้ ด้เรยี นหนงั สือ ไดร้ บั ประทานอาหารที่ถกู สุขลกั ษณะในมือ้ สำคญั มีความเป็นอยู่ทด่ี ี
ปลอดภยั และเจรญิ เตบิ โตอยา่ งมคี ณุ ภาพ เพ่ือเป็นพลังทีส่ ำคญั และมีคุณภาพในการพฒั นาสงั คมต่อไป ซงึ่ เด็กๆ ในความ
ดูแลของมลู นิธิฯ ไดม้ โี อกาสมาพบและขอบคณุ ผูอ้ ปุ การะเดก็ ๆ ในงานขอบคณุ ผู้นำความเปลี่ยนแปลงทด่ี มี าสูช่ วี ิตเด็ก
ยากไรค้ รัง้ นด้ี ว้ ย
ดา้ น ดร.กรรณชฎา พริ ยิ ะรงั สรรค์ ผ้อู ำนวยการมูลนธิ สิ งเคราะหเ์ ดก็ ยากจน ซ.ี ซี.เอฟ ในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จ-พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กลา่ ววา่ มลู นธิ ิฯ ได้มกี ารจัดงานขอบคณุ ผูน้ ำความเปลี่ยนแปลงทด่ี ี
มาสู่ชวี ติ เด็กยากไร ซึ่งกำหนดจดั ขนึ้ ทุกปี เพอื่ แสดงผลการชว่ ยเหลือเดก็ ยากไร้ใหแ้ ก่ผสู้ นบั สนุนงานของมูลนิธฯิ และเพอ่ื
เป็นการแสดงความขอบคณุ ท่ีผู้สนบั สนนุ มลู นิธฯิ ได้ชว่ ยกนั เปล่ยี นแปลงชวี ติ ความเปน็ อยู่ของเด็กยากไร้ให้“เกง่ ดี มี
ความสุข” ในรปู แบบตา่ งๆ สำหรบั ในปีนม้ี ีผูม้ ารว่ มงาน 137 คน มลู นธิ ิจงึ ไดน้ ำเยาวชน ซี.ซี.เอฟ. มาช่วยกนั จัด
กจิ กรรมและแสดงผลงานจำนวน 120 คน ซงึ่ เยาวชนเหล่านี้มาจาก 16 จงั หวดั ไดแ้ ก่ จังหวดั แมฮ่ ่องสอนเชียงใหม่ ตาก
เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ เพชรบรู ณ์ อตุ รดติ ถ์ สกลนคร บรุ รี มั ย์ ยโสธร สรุ ินทร์ อำนาจเจรญิ เลยนราธวิ าส โดย
ภายในงานมกี ารจัดกจิ กรรมประกอบดว้ ย การเสวนาหัวข้อ “ชวี ติ ทเ่ี ปล่ียนแปลง” ซงึ่ เป็นการนำเยาวชน ครู และ
อาสาสมัครชมุ ชนมาเลา่ ถงึ ประโยชนท์ เี่ ดก็ ๆ ได้รบั จากโครงการอาหารเช้าเพื่อนอ้ ง โครงการครวู าดฝันปนั้ ดาวดวงนอ้ ย
โครงการคืนรอยย้ิมใหน้ อ้ งในจังหวดั ชายแดนใต้ และโครงการเยาวชนรู้รกั สามคั คี เพอ่ื เมอื งไทยแข็งแรง เปน็ โครงการ
พเิ ศษท่จี ดั ขนึ้ ในโอกาสมูลนิธิครบรอบการดำเนนิ งาน 35 ปี เมือ่ เดอื นกรกฎาคมในปที ่ีผา่ นมา
รายการน้จี ะเป็นรูปแบบการแสดงประกอบดนตรี ผแู้ สดงทัง้ หมดเปน็ เยาวชนรรู้ ักสามัคคขี องมลู นธิ ิฯ นอกจากน้ีได้
จดั พิธีมอบทุนการศกึ ษาสำหรบั เดก็ ทีส่ ูญเสยี ผูป้ กครองจากภยั ความรนุ แรงในภาคใต้ จำนวน 8 คน พรอ้ มทั้งมีการมอบ
รางวัล “จติ รกรนอ้ ย” ให้แกเ่ ยาวชนท่ชี นะเลศิ จากการแข่งขนั ประกวดวาดภาพระดบั ภมู ิภาคจำนวน 6 คน และจดั พิธีมอบ
รางวัลใหแ้ กเ่ ยาวชนรรู้ กั สามคั คีทไี่ ด้รับการโหวตจากเพ่อื นเยาวชนด้วยกนั ว่าเป็นกจิ กรรมทเ่ี กิดประโยชน์ทส่ี ดุ แกผ่ ้ทู ำ
กิจกรรมและผู้เก่ียวขอ้ ง และกจิ กรรมแสดงกตเวทิตาคุณแดผ่ ู้สนบั สนุนเด็กยากไร้ สำหรบั เงนิ ท่ีไดร้ ับจากการบริจาค
มลู นิธฯิ นำไปรวมกบั เงินบริจาคของผูอ้ ปุ การะเด็กทา่ นอ่นื ๆ เพือ่ นำไปจัดสรรใหแ้ ก่โครงการชว่ ยเหลอื และพฒั นาเด็กที่
ดำเนินการอยูใ่ นชุมชนตา่ งๆ ด้วยวธิ ีการนไี้ มเ่ พยี งแตเ่ ด็กในอปุ การะของท่านเท่าน้ันทไ่ี ด้รบั ความชว่ ยเหลือ แตเ่ ดก็ ๆ ท่ี
อาศยั อยูใ่ นชุมชนเดยี วกนั กจ็ ะไดร้ บั อานสิ งส์จากความเมตตากรณุ าด้วย เพ่อื ใหร้ ่วมกนั สรา้ งสรรคส์ ภาพแวดล้อมของเดก็ ที่
เปย่ี มดว้ ยความรัก ความอบอ่นุ ตลอดจนสง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ เตบิ โตข้ึนเปน็ ทรัพยากรท่ีมีคุณค่าของประเทศ

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ิศ

คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน ฟอ้ ง นายกฯ หนว่ ยงานรฐั ละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชน
ผู้สื่อข่าวรายงานวา่ นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ เปดิ เผยว่า คณะกรรมการ
สทิ ธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ (กสม.) ได้รบั คำร้องจากพนักงานจ้างบรกิ ารและลกู จา้ งช่วั คราวของสว่ นราชการหลายกระทรวง
ทบวง กรม ถงึ การไมไ่ ดร้ ับความเป็นธรรมในการปฏบิ ตั งิ าน เนือ่ งจากหน่วยงานต้นสงั กดั ไม่ไดจ้ ัดให้มีสวสั ดกิ าร
ประกนั สังคม ถูกจำกดั สิทธใิ นเรอ่ื งของการรักษาพยาบาลและถกู หกั เงินในกรณหี ยดุ งานแม้จะป่วยมใี บรบั รองแพทย์ ซง่ึ
หลงั จากท่ี กสม. ไดม้ อบหมายใหอ้ นกุ รรมการสิทธมิ นุษยชนแห่งชาตดิ ้านกฎหมายและสิทธิในกระบวนการยุติธรรม
ดำเนินการโดยคณะอนุกรรมการฯ ไดใ้ ห้หนว่ ยงานทีเ่ กีย่ วขอ้ งไดแ้ ก่ กรมบัญชกี ลางและสำนกั งาน ก.พ. ชีแ้ จงและให้
ความเห็นพบขอ้ เท็จจริงสำคญั วา่ การจา้ งงานของหนว่ ยงานของรฐั ตามเรอื่ งร้องเรยี นนมี้ ที มี่ าจากมตคิ ณะรฐั มนตรเี กย่ี วกบั
การปฏริ ปู ระบบราชการท่ตี ้องการลดขนาดกำลงั คนภาครฐั โดยปรบั โครงสรา้ งของราชการใหม้ ีขนาดเลก็ ลง แลว้ นำงานท่ีรัฐ
ไมค่ วรทำใหเ้ อกชนดำเนินงานแทน จึงเป็นเหตใุ หห้ นว่ ยงานของรัฐที่ขาดกำลังคนใชว้ ิธีจา้ งงานดว้ ยการจา้ งพนักงานจ้าง
เหมาบริการและลกู จ้างชว่ั คราว นอกจากน้นั สำหรบั การจา้ งพนกั งานจ้างเหมาบรกิ ารน้นั แม้ส่วนราชการทีเ่ กย่ี วข้องยนื ยนั
ว่าประสงค์จะไมม่ ีนิตสิ มั พันธเ์ ปน็ นายจ้าง-ลกู จ้างกบั ผทู้ ำงานแตเ่ มอื่ พิจารณาจากสภาพการทำงานแลว้ เห็นว่าลกั ษณะการ
ปฏิบตั ิงานของผรู้ ้องกับพวกเหมือนกันกบั ลกั ษณะการปฏบิ ตั ิงานของขา้ ราชการและลกู จ้างชั่วคราว ทงั้ ยงั ตอ้ งปฏบิ ตั งิ านอื่น
ตามท่ผี ู้บงั คับบัญชามอบหมายอันมีลกั ษณะการจ้างทเ่ี ป็นไปตามสญั ญาจ้างแรงงาน ดังนนั้ การไมใ่ หส้ ทิ ธบิ คุ ลากรเหล่านี้
ไดร้ บั สวสั ดกิ ารต่างๆ โดยเฉพาะสทิ ธปิ ระกันสงั คม การถูกหักเงนิ คา่ จา้ งในกรณที ไี่ มม่ าปฏบิ ตั งิ าน ผลเหล่านยี้ ่อม
กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสียหายแกผ่ ้ทู ำงาน กสม. ไดพ้ จิ ารณาแล้วมีความเห็นสอดคลอ้ งกันวา่ การกระทำของหนว่ ยงานของรฐั
อันได้แก่ องค์กรตามรัฐธรรมนญู ราชการสว่ นกลาง ราชการสว่ นภูมภิ าค ราชการส่วนท้องถ่ิน รัฐวิสาหกจิ องคก์ ร
มหาชน หนว่ ยงานอืน่ ของรัฐ หรอื หนว่ ยงานอืน่ ใดท่ีดำเนนิ กจิ การของรฐั ต่อกลุ่มพนักงานจา้ งเหมาบรกิ าร เป็นการละเมิด
สิทธิมนษุ ยชนสมควรเสนอแนะมาตรการแกไ้ ขปญั หาต่อรฐั บาลในภาพรวม ดังน้ี
1. ใหร้ ฐั บาลโดยหน่วยงานท่เี กยี่ วข้องตรวจสอบข้อมูลการจ้างบุคลากรของหนว่ ยงานรัฐท้งั หมด โดยหากพบวา่ มี
กรณีทห่ี นว่ ยงานของรฐั ทำสญั ญาจ้างเหมาบริการแตล่ ักษณะของการปฏบิ ตั งิ านเปน็ ไปในรปู แบบของการจา้ งแรงงาน อันถือ
วา่ เป็นการหลกี เลยี่ งการทำสญั ญาจ้างแรงงานเพอ่ื ไมต่ ้องปฏบิ ตั ติ ามพระราชบญั ญตั ปิ ระกันสงั คม พ.ศ. 2533 ซ่ึงเป็นการ
กระทำโดยไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย และเป็นเหตใุ ห้ผูร้ ับจา้ งไม่ไดร้ ับสทิ ธปิ ระโยชนใ์ นฐานะลกู จ้างตามทก่ี ำหนดไว้ใน
พระราชบญั ญตั ิประกันสังคม พ.ศ. 2533 ใหร้ ัฐบาลเร่งดำเนนิ การยกเลกิ การทำสัญญาจา้ งเหมาบริการท่ีหน่วยงานของ
รฐั ไวก้ บั ผรู้ บั จ้างและใหด้ ำเนินการทำสัญญาจา้ งใหถ้ ูกต้องตามนิตสิ ัมพันธท์ ่แี ท้จรงิ เพอื่ ให้ผู้รบั จา้ งได้รบั สิทธิประโยชน์ใน
ฐานะลูกจา้ งตามทกี่ ำหนดไว้ในพระราชบญั ญตั ปิ ระกนั สงั คม พ.ศ. 2553 ตอ่ ไป
2. หากการดำเนินการยกเลิกสญั ญาจ้างเหมาบรกิ ารที่หนว่ ยงานของรฐั ทำไว้กบั ผู้รบั จ้างในข้อ 1 ไม่สามารถ
ดำเนินการได้ดว้ ยเหตุผลใดก็ตาม ให้รัฐเรง่ สั่งการใหห้ นว่ ยงานของรัฐปฏบิ ตั ติ ่อผรู้ ับจ้างตามลักษณะของสญั ญาจ้างเหมา
บริการให้ถกู ต้องและเคร่งครัด กล่าวคอื การทำงานตอ้ งม่งุ ดว้ ยความสำเร็จของงานเป็นสำคญั หน่วยงานของรฐั ไม่มีอำนาจ
สั่งการหรือบงั คบั บญั ชาการทำงาน มีเพยี งสิทธิในการบอกเลกิ สญั ญาจา้ งได้หากเห็นวา่ ผรู้ ับจ้างไมเ่ ร่ิมทำงานทจ่ี า้ งภายใน
เวลาอนั สมควรเทา่ นน้ั และควรพจิ ารณาจดั สวสั ดกิ ารและการประกนั สงั คมให้ผู้รบั จา้ งดว้ ย

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอุทศิ

3. รัฐบาลโดยหนว่ ยงานทเี่ ก่ยี วข้องควรตรวจสอบขอ้ มูลการจ้างบคุ ลากรเพื่อปฏบิ ตั ิงานในรูปแบบของลูกจา้ งชวั่ คราว
โดยใหพ้ จิ ารณาสิทธิประโยชน์ทบ่ี คุ ลากรเหล่านส้ี มควรจะไดร้ บั ซ่งึ สมควรอย่างยิ่งทจ่ี ะตอ้ งไมต่ ำ่ กว่ามาตรฐานของสิทธิ
ตามทีพ่ ระราชบญั ญตั ิคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 บญั ญตั ิไว้ กลา่ วคือสิทธิสวสั ดกิ าร ความมน่ั คงในการทำงานและการ
ได้รบั ค่าตอบแทนท่ีเหมาะสม และต้องทบทวนการใชส้ ิทธิประโยชนด์ ังกลา่ วให้สอดคลอ้ งกบั สภาพการณ์ปจั จุบันอยูเ่ สมอ
ทง้ั นี้ เพอ่ื ปอ้ งกันปญั หาท่อี าจจะเกิดขึ้นในอนาคตและยังเปน็ การสง่ เสริมสนบั สนนุ และใหค้ วามช่วยเหลอื เพื่อใหบ้ คุ คลกร
สามารถใชส้ ทิ ธิได้ตามทร่ี ัฐธรรมนูญกำหนดไว้

ทง้ั น้ี คณะกรรมการสิทธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติมหี นงั สือเรอ่ื ง ผลการตรวจสอบการละเมดิ สทิ ธิมนุษยชนกรณดี งั กล่าว
ไปถงึ นายกรัฐมนตรี เพือ่ ขอทราบผลการดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปญั หาทัง้ 3 ขอ้ ภายใน 60 วนั นับต้งั แตว่ ันท่ี
รัฐบาลรบั รายงานผลการตรวจสอบดว้ ย

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอุทิศ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแกไ้ ข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ…………………………………………….ครูผสู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหน่ง …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 8 รายวชิ าหนา้ ที่พลเมอื ง
สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
รหสั วชิ า ส 23235
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563
เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรอ่ื งที่ 4 องคก์ รดา้ นสิทธมิ นษุ ยชน (2)

1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ทขี่ องการเป็นพลเมืองดี มคี า่ นยิ มทดี่ ีงาม และธำรงรกั ษาประเพณี
และวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยู่รว่ มกันในสงั คมไทย และ สังคมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
องคก์ รด้านสิทธิมนษุ ยชนท้ังในระดับชาติ ระดับระหวา่ งประเทศ และระดบั ภาคประชาสงั คม ตา่ งมบี ทบาท

หน้าทใี่ นการคุ้มครองมนุษยต์ ามหลักสทิ ธมิ นุษยชน

3. ตัวชี้วัด/จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

3.1 ตวั ชี้วัด
ส 2.1 ม.3/2 มสี ่วนรว่ มในการปกปอ้ งค้มุ ครองผอู้ ่นื ตามหลกั สิทธมิ นษุ ยชน

3.2 จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธิบายบทบาทหน้าท่ขี ององค์กรดา้ นสทิ ธมิ นุษยชน ระดับชาติ ระดับระหว่างประเทศ และ
ระดบั ภาคประชาสงั คมได้
2) วเิ คราะห์ผลการดำเนนิ งานขององค์กรด้านสิทธมิ นษุ ยชนได้

4. สาระการเรยี นรู้
1) ความหมายและความสำคัญของสทิ ธิมนษุ ยชน
2) การมสี ่วนรว่ มคุ้มครองสทิ ธมิ นุษยชนตามรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยตามวาระและ

โอกาส ทเ่ี หมาะสม

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น

5.1 ความสามารถในการคิด
1.) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้

5.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

7. กิจกรรมการเรยี นรู้

1. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ นำผลการสืบคน้ เกี่ยวกบั องค์กรท่มี ีบทบาทสำคัญด้านสทิ ธมิ นษุ ยชน จากชวั่ โมง
เรยี นทแ่ี ลว้ มาวเิ คราะห์ แล้วตอบคำถามตามหวั ขอ้ ท่กี ำหนดในใบงานท่ี 2.5 เรอื่ ง การสืบคน้ ข้อมูลองค์กรดา้ น
สทิ ธิมนุษยชน

2. สมาชกิ ในกลุ่มรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้องของคำตอบในใบงานที่ 2.5 อีกครงั้ และอธบิ ายขยาย
ความรู้เดมิ ที่มอี ยเู่ ล่าส่กู ันฟงั

3. นักเรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอใบงานท่ี 2.5 หน้าช้ันเรยี น และใหเ้ พอื่ นกลุม่ อืน่ ชว่ ยกนั ตรวจสอบ

ความถกู ตอ้ งและเสนอความคิดเพมิ่ เติม ครูตรวจสอบความถูกต้อง
4. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

นกั เรยี นคดิ วา่ องค์กรเก่ียวกบั งานดา้ นสทิ ธมิ นุษยชนทุกองคก์ รมีเปา้ หมายทคี่ ล้ายคลึงกันอย่างไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครูผ้สู อน)

5. นักเรยี นทกุ คนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2

ครูมอบหมายให้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ทำรายงาน เรอ่ื ง การมีส่วนรว่ มในการปกปอ้ งคมุ้ ครองผอู้ ่นื
ตามหลกั สทิ ธมิ นษุ ยชน โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามท่กี ำหนด ดงั นี้

1) การเขา้ ร่วมกจิ กรรมการปกป้องค้มุ ครองผอู้ นื่ ตามหลกั สิทธมิ นษุ ยชน
2) การวิเคราะหผ์ ลของการเขา้ ร่วมกจิ กรรมการปกปอ้ งคมุ้ ครองผ้อู ่ืนตามหลักสิทธิมนษุ ยชน
3) การอธิบายบทบาทหน้าทขี่ ององค์กรดา้ นสิทธิมนษุ ยชน
4) การวเิ คราะหผ์ ลงานขององคก์ รดา้ นสิทธิมนษุ ยชน

8. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
ใบงานท่ี 2.5 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
วธิ กี าร แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 2.5 แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
แบบประเมนิ รายงาน เร่ือง การมีส่วนรว่ ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตความมีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มัน่ ในการปกป้องค้มุ ครองผอู้ ื่นตามหลัก
ในการทำงาน สิทธมิ นษุ ยชน
ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการ
เรยี นรทู้ ี่ 2
ตรวจรายงาน เรื่อง การมสี ว่ นรว่ มใน
การปกปอ้ งคุ้มครองผอู้ ืน่ ตามหลกั สิทธิ
มนษุ ยชน

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอุทิศ

9.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
9.1 ส่อื การเรียนรู้
1) ใบงานท่ี 2.5 เรอ่ื ง การสืบคน้ ข้อมูลองคก์ รดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน

9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
---

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอุทิศ

ชือ่ -สกลุ /กลุ่ม.......................................................................................................................ช้ัน..........เลขท.่ี ..................

การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมนิ รายงาน เรอ่ื ง การมสี ว่ นรว่ มในการปกปอ้ งคมุ้ ครองผอู้ นื่ ตามหลกั สทิ ธมิ นษุ ยชน

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
432

1 การเขา้ รว่ มกจิ กรรมการปกป้องคมุ้ ครองผูอ้ ืน่ ตามหลัก
สทิ ธิมนุษยชน

2 การวเิ คราะหผ์ ลของการเขา้ รว่ มกจิ กรรมการปกป้อง
คุม้ ครองผู้อ่ืนตามหลกั สิทธิมนุษยชน

3 การอธบิ ายบทบาทหนา้ ที่ขององคด์ ้านสทิ ธิมนุษยชน

4 การวเิ คราะหผ์ ลงานขององคก์ รดา้ นสทิ ธิมนุษยชน

รวม

ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ดมี าก = 4 คะแนน
ดี = 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
พอใช้ = 2 คะแนน
ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 14 - 16 ดมี าก

11 - 13 ดี

8 - 10 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอุทศิ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแกไ้ ข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ…………………………………………….ครูผสู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหน่ง …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 9 รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมอื ง
สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3
รหสั วชิ า ส 23235
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2563
เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรอ่ื งที่ 1 ความสำคญั ของวฒั นธรรม และภูมปิ ัญญาไทย

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ัติตนตามหน้าทขี่ องการเป็นพลเมอื งดี มีค่านิยมทด่ี งี าม และธำรงรกั ษาประเพณี
และวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยรู่ ว่ มกันในสังคมไทย และ สงั คมโลกอย่างสันตสิ ุข

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
วฒั นธรรมไทยและภมู ิปัญญาไทยมคี วามสำคญั ตอ่ วถิ ีการดำเนินชวี ิตของชาวไทย

3. ตัวช้ีวัด/จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

3.1 ตัวช้วี ัด
ส 2.1 ม.3/3 อนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทยและเลอื กรับวัฒนธรรมสากลทเี่ หมาะสม

3.2 จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1) อธิบายความสำคญั ของวฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทยได้

4. สาระการเรียนรู้
ความสำคญั ของวัฒนธรรมไทย ภูมิปญั ญาไทยโอกาสที่เหมาะสม

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

5.1 ความสามารถในการคิด
1.) ทกั ษะกระบวนการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ

5.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มัน่ ในการทำงา
4. รักความเปน็ ไทย

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ

ไทยอทุ ศิ

7. กิจกรรมการเรียนรู้
1. นักเรยี นทกุ คนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3
2. ครใู ห้นักเรยี นดูภาพวถิ ีการดำเนินชวี ติ ของคนไทยท่แี สดงถงึ การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมและ

ภมู ปิ ญั ญาไทย แลว้ รว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ตา่ งๆ ดังนี้
➢ กจิ กรรมดงั กล่าวมผี ลตอ่ การดำรงชวี ิตของคนไทยอยา่ งไร
➢ ขอ้ คดิ ทีไ่ ดจ้ ากวฒั นธรรม ประเพณี ภมู ิปญั ญาไทยในแตล่ ะภาพมอี ะไรบา้ ง

3. ครูอธบิ ายเชอ่ื มโยงความคดิ ของนกั เรยี นให้เหน็ ว่าวัฒนธรรมไทยและภมู ปิ ญั ญาไทยมคี วามสำคัญ
ตอ่ การดำเนินชวี ิตของชาวไทย

4. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

นกั เรยี นเคยเข้าร่วมกิจกรรมวฒั นธรรมไทยและภูมปิ ัญญาไทยอย่างไรบา้ ง
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน)

5. นกั เรยี นแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 5 คน ตามความสมคั รใจ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั สบื ค้นขอ้ มูลจากหนงั สอื เรยี น
หนงั สือค้นควา้ เพ่ิมเติม ห้องสมดุ หรือแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ ในหวั ข้อตอ่ ไปนี้

1) ความสำคญั ของวัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
2) การจำแนกวัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
พร้อมกับใหน้ กั เรยี นบนั ทึกผลที่ได้จากการอา่ นลงในแบบบันทกึ การอา่ น
6. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2

1) ทำไมจงึ กลา่ วกนั วา่ วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทยมีความสำคญั ตอ่ การดำเนินชีวติ ของ
คนไทย (1. เพราะตอบสนองความตอ้ งการตอ่ การดำเนนิ ชวี ิต 2. หล่อหลอมบคุ ลกิ ของคนไทย
3. สรา้ งความสามคั คีกลมเกลยี วกันของชาวไทย)

2) นักเรยี นคิดวา่ วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทยประเภทใดทมี่ ีผลต่อคณุ ภาพชวี ิตมากที่สดุ
อธบิ ายเหตผุ ล (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)

7. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนำความรู้ทไ่ี ด้ศึกษามาเป็นพื้นฐานในการทำใบงานท่ี 3.1 เร่ือง วัฒนธรรมและ
ภมู ปิ ญั ญาไทย เมื่อทำเสร็จแลว้ ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันเฉลยคำตอบในใบงาน และรว่ มกันสรุปประเดน็
สำคญั ของวัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย ในประเด็นต่อไปนี้

1) ความหมาย ความสำคญั ของวัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย
2) ลกั ษณะสำคญั ของวฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย
8. ครูให้นักเรียนนำความรทู้ ่ไี ด้ศึกษามาเปน็ พนื้ ฐานในการวเิ คราะห์ความสำคัญของวัฒนธรรมและ
ภูมปิ ัญญาไทยประเภทต่างๆ
9. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ขอ้ 1-2
1) นักเรียนจะสามารถนำความรเู้ กีย่ วกับวัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทยไปประยุกตใ์ ช้ในเร่อื ง
ใด ไดม้ ากทส่ี ดุ

(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน)

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ิศ

2) นกั เรยี นสามารถปฏบิ ัติตามวัฒนธรรมประจำชาตไิ ทย ทเ่ี นน้ เอกลักษณ์ของความเปน็ ไทย

ไดท้ กุ วันในเรอื่ งใดบา้ ง
(1. เคารพเทดิ ทนู พระมหากษัตริย์ 2. ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา
3. ใชภ้ าษาไทยอย่างถูกตอ้ ง 4. รบั ประทานอาหารไทย ฯลฯ)
10. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั หาข่าวหรอื ภาพขา่ วเกีย่ วกบั การกระทำของบคุ คล
หรอื กลุม่ บุคคลทีแ่ สดงถงึ การอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทยหรอื ภมู ิปญั ญาไทย กลุ่มละ 1 ข่าว เพอื่ นำมาใช้ในการจัด
กิจกรรมการเรียนการสอนในแผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 2

8. การวัดและประเมนิ ผล

วิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการ แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 (ประเมนิ ตามสภาพจริง)
เรยี นรทู้ ี่ 3
ตรวจใบงานที่ 3.1 ใบงานท่ี 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบบันทึกการอา่ น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
สงั เกตความมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ใน
การทำงาน และรกั ความเป็นไทย

9.สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้

9.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียน หน้าทีพ่ ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนินชีวติ ในสังคม ม.3
2) หนังสือค้นควา้ เพมิ่ เตมิ
- ศูนย์มานุษยวทิ ยาสริ นิ ธร. (2542). สงั คมและวฒั นธรรมไทย. กรุงเทพมหานคร :
โรงพิมพ์เรือนแกว้ การพิมพ.์
3) บัตรภาพ
4) ใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย

9.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมุด
2) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ
- http://www.m-culture.go.th/knowlage-wisdom-all.php?m_id=103

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอทุ ศิ

บตั รภาพ

ภาพประเพณแี หเ่ ทยี นพรรษา ภาพการรดนำ้ ดำหวั

ภาพประเพณลี อยกระทง ภาพผกั และผลไมแ้ กะสลกั

ภาพงานหตั ถกรรม ภาพประเพณที ำขวญั ขา้ ว

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ

ไทยอุทิศ


Click to View FlipBook Version