ตวั อยา่ งขา่ ว
รฐั บาลเมยี นมาสง่ั หา้ มนางอองซานซูจแี ละพรรคเอน็ แอลดี ยงุ่ เกย่ี วกบั กจิ กรรมทางการเมอื ง
โดยหนังสือพมิ พน์ วิ ไลท์ออฟเมยี นมา รายงานวา่ เมอ่ื ไมน่ านมานที้ างกระทรวงมหาดไทยของเมยี นมา ไดส้ ่ง
จดหมายไปยงั นางอองซานซูจี ซ่งึ เนอื้ หาของจดหมายสั่งใหน้ างทำตามกฎหมายด้วยการหยดุ ทำกิจกรรมทางการเมือง
รายงานระบวุ า่ ถึงแม้ถกู สงั่ ยุบพรรคไปแล้ว แตพ่ รรคเอ็นแอลดีก็ยงั คงเดนิ หนา้ เปิดสำนกั งานและสาขาพรรคหลายแหง่ ไม่มี
การต้ังปา้ ยพรรคและชักธงหน้าสำนักงาน ออกแถลงการณ์ เผยแพรว่ ารสารและวิดีโอ รวมถงึ จดั การประชมุ และงานตา่ งๆ
ซง่ึ ทางรฐั บาลระบวุ ่า เปน็ การกระทำทผี่ ิดกฎหมาย และอาจทำใหก้ ารปรองดองในชาตเิ ป็นไปอย่างยากลำบากกว่าเดมิ
“หากพวกเขายอมรับและทำตามระบอบประชาธปิ ไตยจริง พวกเขาต้องหยดุ การกระทำดังกล่าว ซ่ึงอาจเปน็ อันตรายต่อ
สนั ตภิ าพ เสถยี รภาพ หลกั นิตริ ฐั รวมถึงความเปน็ เอกภาพของประชาชน”
รายงานระบวุ า่ จดหมายท่สี ง่ ถงึ นางซูจีจะทำใหน้ างตระหนกั วา่ ในเมอ่ื พรรคเอน็ แอลดไี ม่ได้จดทะเบยี นกบั
คณะกรรมการการเลือกตั้งเพ่อื ดำรงสถานะพรรคการเมอื งต่อไปเมอื่ มโี อกาสจดทะเบยี นในปีทแ่ี ลว้ พรรคเอ็นแอลดจี งึ เป็น
โมฆะตามกฎหมายตั้งแต่ตอนน้ันเม่อื เดอื นกนั ยายนปีทแ่ี ลว้ คณะกรรมการการเลือกตัง้ ประกาศยบุ พรรคเอ็นแอลดี
เนอื่ งจากพรรคควำ่ บาตรการเลอื กตัง้ ครงั้ แรกในรอบ 20 ปขี องประเทศ หลงั จากศาลฎกี าไดป้ ฏเิ สธการอทุ ธรณ์คำตัดสิน
ของพรรคเอน็ แอลดี
รายงานดงั กล่าวเสนอแนะว่า บรรดาแกนนำพรรคเอน็ แอลดีสามารถเปลย่ี นรูปแบบจากพรรคการเมอื งเปน็ องคก์ ร
ทางสังคมแทนได้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุม่ สาระการเรียนรูส้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอทุ ิศ
องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ พะเยา รว่ มประกอบพธิ เี นอ่ื งในวนั ทอ้ งถน่ิ ไทยประจำปี 2554
เพอื่ เปน็ การนอ้ มรำลกึ ถงึ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 5
ทที่ รงมตี อ่ การปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ไทย
วนั ท่ี 18 มีนาคม ทีศ่ าลาประชาคม จ.พะเยา นายพงศ์ศักด์ิ วังเสมอ ผวู้ ่าราชการจังหวัดพะเยา ไดเ้ ป็นประธาน
นำข้าราชการส่วนทอ้ งถนิ่ ใน จ.พะเยา ซึ่งประกอบดว้ ย องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั เทศบาลเมอื งพะเยา รวมถงึ เทศบาล
เมืองดอกคำใต้ เทศบาลตำบล และองค์การบริหารสว่ นตำบลใน จ.พะเยา กว่า 500 คน รว่ มประกอบพิธีวนั ทอ้ งถนิ่ ไทย
ประจำปี 2554 ตอ่ หนา้ พระบรมสาทิสลักษณพ์ ระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว ซ่ึงจดั ขึน้ เปน็ ปีแรกเพือ่ เปน็ การ
น้อมรำลึกถึงพระมหากรณุ าธิคุณของพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั รัชกาลที่ 5 ทท่ี รงมตี อ่ การปกครองสว่ น
ทอ้ งถ่ินไทย ในการกระจายอำนาจ วางรากฐานการพฒั นาท้องถน่ิ ใหม้ ีความม่ันคงจวบจนปัจจบุ ัน องค์กรปกครองส่วน
ท้องถ่ินท่วั ประเทศต่างเตบิ โต และเปน็ แกนหลกั ในการพัฒนาท้องถ่ินของตนเองให้มีความเจริญกา้ วหน้า ประชาชนมีความ
เขม้ แขง็ และมีสว่ นรว่ มในการพฒั นาอยา่ งแทจ้ ริง
ทง้ั นี้ คณะรฐั มนตรี มีมติเหน็ ชอบประกาศใหว้ นั ที่ 18 มีนาคม ของทุกปเี ป็น “วนั ทอ้ งถนิ่ ไทย” ตามทก่ี ระทรวง
มหาดไทยเสนอมา เนอื่ งจากรฐั บาลให้ความสำคญั กบั การกระจายอำนาจใหก้ บั องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน และเพือ่ เป็น
การนอ้ มรำลกึ ถึงพระมหากรุณาธคิ ณุ ของพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั รัชกาลท่ี 5 ทที่ รงมตี อ่ การปกครอง
สว่ นท้องถนิ่ ไทย
การกำหนดวันท้องถ่นิ ไทย ใหต้ รงกับวนั ท่ี 18 มนี าคม ของทุกปี โดยมแี นวคดิ มาจากการที่ จ.สมทุ รสาคร จัด
งานประเพณี 18 มนี าคม สขุ าภบิ าลทา่ ฉลอม โดยมีจดุ กำเนิดมาจากการทส่ี ุขาภบิ าลทา่ ฉลอมเปน็ สขุ าภบิ าลแหง่ แรกของ
ประเทศไทย และมกี ารจดั งานเปน็ ประจำทุกปี
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอุทศิ
แบบบนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแกไ้ ข / การพฒั นาส่งเสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครูผสู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื .........................................
(.......................................................)
ตำแหน่ง ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ
ไทยอุทศิ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 18 รายวชิ าหน้าทีพ่ ลเมอื ง
สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3
รหสั วชิ า ส 23235
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563
เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรอ่ื งที่ 2 การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยในประเทศไทย
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปจั จุบนั ยดึ มั่น ศรทั ธา และธำรงรกั ษาไวซ้ ึ่งการ
ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซง่ึ มีสว่ นทีม่ คี วามคล้ายคลงึ และแตกตา่ งจากประเทศ
อื่น โดยมรี ัฐธรรมนญู เป็นกฎหมายสูงสดุ ในการปกครองประเทศ
3. ตวั ชว้ี ัด/จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 ตัวช้วี ดั
ส 2.2 ม.3/2 วเิ คราะห์ เปรียบเทียบระบอบการปกครองของไทยกบั ประเทศอนื่ ๆ ทีม่ ีการ
ปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
3.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธิบายลักษณะการปกครองระบอบประชาธิปไตยของไทยได้
2) เปรยี บเทยี บการปกครองของไทยกบั ประเทศอืน่ ท่มี กี ารปกครองระบอบประชาธปิ ไตยได้
4. สาระการเรียนรู้
ความแตกต่าง ความคล้ายคลงึ ของการปกครองของไทยกบั ประเทศอน่ื ๆ ที่มีการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตย
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
5.1 ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการเปรียบเทยี บ
5.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กล่มุ สาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอทุ ิศ
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครใู หอ้ าสาสมัครนกั เรยี นออกมาอา่ นข่าว คนละ 1 ขา่ ว ดังนี้
1) ขา่ วการประชุมสภานติ บิ ัญญัติ
2) ขา่ วรฐั บาลแถลงนโยบาย
3) ขา่ วตำรวจจบั ผรู้ า้ ยดำเนนิ คดตี ามขนั้ ตอนเพอื่ ให้ศาลตดั สนิ คดี
2. นกั เรียนซึง่ เป็นผฟู้ ังชว่ ยกนั ตอบคำถามในขา่ วแต่ละเร่ือง ดังนี้
✓ สาระสำคัญของข่าวคอื อะไร
✓ ผลดีท่ีประชาชนอาจจะไดร้ บั คอื อะไร
✓ ข่าวนเ้ี ปน็ การดำเนนิ งานหรอื ดำเนินกิจกรรมของสถาบนั ใด
3. ครอู ธบิ ายเชอ่ื มโยงให้นักเรียนเขา้ ใจวา่ กิจกรรมในขา่ วดังกล่าวนัน้ สอดคลอ้ งกับกระบวนการทาง
ประชาธิปไตยในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยของไทย
4. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
ข่าวเกีย่ วกบั การเมืองการปกครองท่ีนักเรยี นมีความประทับใจ คอื อะไร อธบิ ายเหตุผล
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)
5. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ เลือกผู้นำกลมุ่ และให้สมาชิกในกลมุ่ มีหน้าที่รบั ผดิ ชอบในการศึกษา
ความร้เู กีย่ วกบั การปกครองระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย จากหนงั สือเรียน และเปรยี บเทียบการ
ปกครองของไทยกับประเทศอน่ื ท่ีมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
6. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันวางแผนการศกึ ษาขอ้ มลู จากหนงั สอื เรียน ตามประเดน็ ทคี่ รกู ำหนดโดย
มอบหมายให้สมาชิกแต่ละคนรับผิดชอบศึกษา คนละ 1 หัวขอ้ ดังน้ี
1) การใช้อำนาจนิติบญั ญตั ิ
2) การใชอ้ ำนาจบริหาร
3) การใชอ้ ำนาจตุลาการ
4) การเปรียบเทียบการปกครองของไทยกับประเทศอน่ื ท่ปี กครองแบบประชาธปิ ไตย
7. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มปฏิบัติตนตามหนา้ ทที่ ไ่ี ด้รบั มอบหมายภายในเวลาท่ีกำหนด และตอบคำถาม
ในใบงานที่ 5.2 เร่ือง การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ในส่วนที่ตนรบั ผดิ ชอบ
8. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ข้อ 1-2
1) การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยของประเทศไทยกับประเทศเพอ่ื นบ้านทมี่ ีการปกครอง
ระบอบประชาธปิ ไตย มีความแตกตา่ งกนั ในประเด็นใด
(1. รูปแบบของรัฐ 2. รปู แบบการปกครอง 3. ประมุขของรัฐ 4. ประมุขฝ่ายบริหาร)
2) นักเรียนคิดว่า ประเทศท่มี กี ารปกครองระบอบเดียวกนั จะสามารถสรา้ งสมั พนั ธไมตรตี อ่ กัน
ได้ดกี วา่ ประเทศที่มีระบอบการปกครองทแี่ ตกต่างกนั หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน)
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอทุ ิศ
9. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ ผลดั กนั อธิบายคำตอบในใบงานท่ี 5.2 ทตี่ นรบั ผดิ ชอบใหส้ มาชกิ ในกลุ่มฟัง
เพื่อใหส้ มาชิกในกล่มุ ช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ งของคำตอบในใบงาน และเสนอแนะเพ่ิมเติม จากนัน้ รว่ มกนั
ประเมนิ ผลรวม และปรบั ปรงุ คำตอบให้มคี วามถกู ต้อง
10. ครูและนกั เรียนชว่ ยกันตรวจคำตอบในใบงานที่ 5.2 และรว่ มกนั สรุปประเดน็ สำคญั เกี่ยวกบั เรอื่ ง
การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยในประเทศไทย
8. การวัดและประเมินผล
วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 5.2 ใบงานที่ 5.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มน่ั
ในการทำงาน
9.ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี น หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ติ ในสังคม ม.3
2) ตวั อย่างข่าว
3) ใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
—
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กล่มุ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอทุ ศิ
ตวั อยา่ งขา่ ว
การขยายเวลาทำงานของแรงงานตา่ งชาตเิ ปน็ 12 ปี ไมผ่ า่ นสภาตอ้ งรอลนุ้ ตอ่ ในการประชมุ สมยั หนา้
ระยะเวลาทำงานในไตห้ วนั ของแรงงานตา่ งชาติทหี่ ลายฝ่ายคาดหวังว่า จะได้รบั การขยายจาก 9 ปี ในปจั จุบัน
ออกไปเป็น 12 นัน้ ส.ส. หลายคนยงั กังขาว่าจะส่งผลกระทบต่อสทิ ธปิ ระโยชน์ของแรงงานทอ้ งถ่นิ ขณะเดยี วกนั จะเป็น
อปุ สรรคตอ่ การพฒั นาระบบการดูแลผปู้ ว่ ยและผู้สูงอายรุ ะยะยาวของรัฐบาลทำให้การหารอื แก้ไขกฎหมายขยายเวลา
ทำงานของแรงงานต่างชาติไมส่ ามารถตกลงกันได้จำเปน็ ต้องไปหารอื กันตอ่ ในทป่ี ระชมุ สมยั หน้าซงึ่ จะเปิดการประชุมหลัง
เทศกาลตรุษจนี ในเดอื นกุมภาพนั ธ์ปีนี้
กอ่ นหนา้ นนี้ ายเฉนิ ฉางเหวิน ทนายความช่ือดงั ขณะเดยี วกันเปน็ ประธานสภากาชาดไต้หวนั ซึ่งมลี ูกชายทตี่ ้อง
พงึ่ พาผู้อนุบาลชาวฟิลปิ นิ ส์ทีก่ ำลงั จะทำงานครบ 9 ปไี ด้ออกมาเรยี กร้องขอใหส้ มาชกิ สภานติ ิบญั ญตั ิ เหน็ ใจครอบครัวทม่ี ี
ผู้ปว่ ยและคนชราผา่ นกฎหมายขยายเวลาทำงานของผูอ้ นุบาลให้เปน็ 12 ปี เขากลา่ ววา่ ลกู ชายซงึ่ พกิ ารทางสมอง ไม่อาจ
ขาดผู้อนบุ าลท่ดี ูแลเขาไดแ้ ม้แต่วนั เดยี วและผูอ้ นบุ าลฟิลปิ ปินส์ที่ดแู ลบุตรชายตลอด 24ชว่ั โมงมาเปน็ เวลา 9 ปี มี
ความสำคญั ตอ่ บตุ รมากกวา่ ผู้เปน็ พ่อเสียอกี คำเรยี กรอ้ งของประธานสภากาชาดไตห้ วันดังกล่าวกลายเปน็ ข่าวดงั และเป็น
ประเด็นท่สี ังคมไตห้ วันนำมาพูดถงึ อย่างมาก บรรดานายจ้างท่ีประสบปญั หาเชน่ เดียวกบั นายเฉินฉางเหวิน ตา่ งออกมาขาน
รับและเรียกร้องให้ ส.ส. เห็นใจ ซ่ึงมี ส.ส.จำนวนมากทีเ่ ห็นดว้ ยวา่ ควรจะขยายเวลาการทำงานของผู้อนบุ าลตา่ งชาติให้
เป็น 12 ปเี พราะการเปลย่ี นผูด้ แู ลคนใหมท่ ำใหเ้ กดิ ปัญหาทัง้ ตอ่ คนป่วยและครอบครวั ผ้ปู ่วยอยา่ งมาก บา้ งกว็ า่ ควรขยาย
เฉพาะผูอ้ นุบาล ส่วนแรงงานตา่ งชาตใิ นภาคการผลติ ไม่ควรขยายตามไปด้วยเพราะจะทำใหแ้ รงงานท้องถ่ินสูญเสยี โอกาส
อย่างไรกต็ าม มี ส.ส.ของพรรคฝา่ ยค้าน ซงึ่ ก็คอื พรรคดพี ีพี ไดแ้ ก่นางเฉินเจห๋ รู ออกมาคดั ค้านวา่ การขยาย
เวลาทำงานของผู้อนบุ าลต่างชาติออกไปอยา่ งไมม่ ที ่ีสิ้นสุด โดยเม่ือครบ 12 ปีแล้วยังต้องเผชญิ ปญั หาเดยี วกนั น้ีอกี
นอกจากจะส่งผลกระทบตอ่ สิทธิประโยชนข์ องแรงงานท้องถน่ิ แลว้ ยงั จะเปน็ อปุ สรรคขดั ขวางการพฒั นาระบบการดูแลผปู้ ว่ ย
และผูส้ ูงอายุระยะยาวไดเ้ พราะเปน็ การพง่ึ พาแรงงานต่างชาตมิ ากเกนิ ไป ส่ิงท่ีรัฐบาลควรทำคอื เร่งพัฒนาระบบการดูแล
ระยะยาวเพือ่ ชว่ ยบรรเทาความเดอื ดรอ้ นของประชาชน ขณะเดยี วกนั ส.ส.หญิงสังกดั พรรคดพี พี ีผูน้ ย้ี งั กลา่ วว่า ลูกชายของ
ตนกท็ ุพพลภาพทางสมองและร่างกายต้องใหค้ นดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน แตต่ นไม่วา่ จ้างแรงงานตา่ งชาตมิ าชว่ ยดูแล
นอกจากนั้นองค์กรดา้ นแรงงานกก็ ล่าวคดั คา้ นว่า การขยายเวลาทำงานออกไปเป็น 12 ปีจะทำใหแ้ รงงานตา่ งชาติไม่
สามารถกลบั ไปอยู่กับครอบครัวได้เปน็ เวลานานถือเป็นการละเมดิ สทิ ธมิ นุษยชนอยา่ งหน่งึ และรัฐบาลต้องทบทวนนโยบาย
แรงงานตา่ งชาตเิ นอ่ื งจากปัจจุบนั มกี ารว่าจา้ งแรงงานต่างชาตเิ กินความจำเปน็ และพรำ่ เพรอ่ื ยกตัวอย่างเช่นผ้ปู ว่ ยและและ
ผูส้ ูงอายทุ ม่ี คี ณุ สมบตั วิ า่ จา้ งแรงงานตา่ งชาตไิ ดม้ เี พียง 150,000 คนแต่กลับมกี ารวา่ จ้างผู้อนุบาลตา่ งชาติกวา่ 180,000
คน
ด้านคณะกรรมการการแรงงานหรอื CLA และกระทรวงมหาดไทยสนบั สนนุ ใหม้ ีการแกก้ ฎหมายอนญุ าตให้
แรงงานต่างชาตขิ ยายเวลาทำงานออกไปเป็น 12 ปี โดยกลา่ ววา่ จากการประเมินการขยายเวลาทำงานออกไปเป็น 12 ปี
จะไม่สง่ ผลกระทบตอ่ แรงงานทอ้ งถนิ่ และตัวเลขแรงงานต่างชาติในไต้หวนั จะไมเ่ พม่ิ มากขึน้ ตามไปด้วยนอกจากนี้ยงั จะไม่มี
ปัญหาเรอื่ งการยา้ ยถิน่ เพราะได้แก้กฎหมายป้องกันการย้ายถนิ่ ของแรงงานต่างชาติไว้ก่อนหน้านแ้ี ลว้ แตก่ ลับจะช่วยใหส้ ถิติ
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ
ไทยอทุ ิศ
การหลบหนนี ายจา้ งของแรงงานตา่ งชาตลิ ดลงและชว่ ยใหต้ น้ ทนุ การฝึกแรงงานต่างชาติคนใหมล่ ดลงดว้ ย ขณะเดยี วกันกย็ ำ้
ว่าหากกฎหมายผ่านสภา จะครอบคลมุ แรงงานตา่ งชาตทิ งั้ หมดจะไมม่ กี ารแยกผู้อนุบาลและแรงงานในภาคการผลติ
ออกเป็น 2 สว่ น อย่างไรก็ตาม เนือ่ งจากมเี สยี งคดั ค้าน ทำใหท้ ปี่ ระชุมแกไ้ ขกฎหมายการจ้างงานมาตรา 52 ขยาย
เวลาทำงานของแรงงานตา่ งชาติออกไปจาก 9 ปเี ป็น 12 ปีของคณะกรรมาธกิ ารกจิ การภายใน สภานติ บิ ัญญัติ ไม่
สามารถผา่ นสภาในวาระแรกไดแ้ ละการประชมุ ของสภานิตบิ ัญญัติในสมยั ประชมุ นีก้ ำลงั สิน้ สุดลงจะตอ้ งรอล้นุ ไปอภปิ ราย
กันต่อในสมยั ประชมุ หน้า ซง่ึ จะเรม่ิ หลังเทศกาลตรุษจนี ตน้ เดือนกมุ ภาพันธ์ไปแลว้
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กล่มุ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอุทศิ
เปดิ นโยบายรฐั บาลยงิ่ ลกั ษณ์ 8 ขอ้ -16 เรอ่ื งดว่ น
ผูส้ อ่ื ข่าวรายงานว่ารัฐบาลนำคำแถลงนโยบายท่ีผา่ นการพิจารณาของครม. แจกสอื่ มวลชนมเี นอื้ หาโดยสรปุ ระบวุ ่า
นโยบายของรฐั บาลชดุ นายกรฐั มนตรยี ง่ิ ลักษณ์ ชนิ วตั รมจี ุดมงุ่ หมาย 3 ประการประกอบดว้ ย
1. นำประเทศไทยไปสูโ่ ครงสร้างเศรษฐกิจท่ีสมดุลมีความเข้มแขง็ ของเศรษฐกจิ ภายในประเทศมากขึ้น
2. นำประเทศไทยสสู่ ังคมท่ีมคี วามปรองดองสมานฉนั ท์
3. นำประเทศไทยไปสูก่ ารเปน็ ประชาคมอาเซยี นในปี2558 อยา่ งสมบรู ณ์ โดยกำหนดนโยบายเปน็ 2 ระยะ
คอื ระยะเรง่ ดว่ นทจ่ี ะเรมิ่ ดำเนนิ การในปแี รก และระยะการบรหิ ารราชการ 4 ปี
1. นโยบายเรง่ ดว่ นท่จี ะเร่มิ ดำเนนิ การในปีแรก คือ
1) สรา้ งความปรองดองสมานฉนั ท์ เยยี วยาและฟ้ืนฟูทุกฝา่ ย เชน่ ประชาชนเจ้าหนา้ ทีร่ ฐั และผูป้ ระกอบการ
ภาคเอกชนทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบจากเหตรุ นุ แรงตง้ั แตช่ ว่ งปลายการใช้รฐั ธรรมนญู 2540 สนับสนนุ ใหค้ ณะกรรมการ
อิสระตรวจสอบและคน้ หาความจริงเพือ่ การปรองดองแห่งชาตดิ ำเนนิ การอยา่ งเป็นอิสระ
2) กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปญั หายาเสพตดิ เป็น วาระแหง่ ชาติ
3) ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริตและประพฤติมชิ อบในภาครฐั อย่างจรงิ จงั
4) ส่งเสรมิ การบรหิ ารจัดการน้ำอย่างบรู ณาการและเร่งรดั ขยายเขตพ้นื ท่ีชลประทาน
5) เร่งนำสนั ตสิ ขุ และความปลอดภยั กลบั มาสูพ่ ืน้ ทจี่ ังหวัดชายแดนภาคใต้โดยนอ้ มนำกระแสพระราชดำรัส
6) เร่งฟื้นฟูความสมั พันธแ์ ละพฒั นาความรว่ มมอื กบั ประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ
7) แกไ้ ขความเดอื ดรอ้ นของประชาชนและผปู้ ระกอบการเนอื่ งจากภาวะเงนิ เฟอ้ และราคาน้ำมนั เชอ้ื เพลิงโดย
ชะลอการเกบ็ เงนิ เขา้ กองทุนน้ำมันเชือ้ เพลิงชัว่ คราวเพ่อื ใหร้ าคานำ้ มนั เช้อื เพลิงลดลงทันทปี รบั โครงสร้างราคาพลงั งานจดั ให้มี
บตั รเครดติ พลงั งานสำหรบั ผปู้ ระกอบอาชพี รถรับจ้างขนส่งผูโ้ ดยสารสาธารณะดูแลราคาสินคา้ และการมีรายได้ ปอ้ งกันและ
แกไ้ ขการผูกขาดทัง้ ทางตรงและทางอ้อม
8) ยกระดบั คุณภาพชีวติ ของประชาชน โดยเพมิ่ กำลงั ซอื้ ภายในประเทศพักหนีค้ รวั เรอื นของเกษตรกรรายยอ่ ย
และผูม้ รี ายได้น้อยท่ีมีหนต้ี ่ำกว่า 500,000 บาทอย่างนอ้ ย 3 ปี และปรับโครงสร้างหนส้ี ำหรับผู้ทม่ี ีหน้ีเกนิ 500,000
บาททำให้แรงงานมีรายไดเ้ ปน็ วันละไมน่ ้อยกว่า 300 บาทผู้จบปรญิ ญาตรีมรี ายได้เดอื นละไม่นอ้ ยกวา่ 15,000 บาท
จ่ายเบยี้ สูงอายุแบบขนั้ บันไดอายุ 60-69 ปี 600 บาทอายุ 70-79 ปี 700 บาทอายุ 80-89 ปี 800 บาท และอายุ
90 ปีขึ้นไป ได้รบั 1,000 บาท ลดภาษบี า้ นหลังแรกและรถยนตค์ นั แรก
9) ลดภาษเี งนิ ได้นิติบคุ คล เหลอื รอ้ ยละ 23 ในปี 2555 และเหลอื รอ้ ยละ 20 ในปี 2556
10) ส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนเข้าถงึ แหลง่ เงนิ ทนุ โดยเพม่ิ เงนิ ทนุ กองทุนหม่บู ้านและชุมชนเมอื งอกี แหง่ ละ 1 ลา้ นบาท
จัดตง้ั กองทุนพฒั นาบทบาทสตรี วงเงินเฉลี่ยจงั หวดั ละ 100 ลา้ นบาทจัดต้ังกองทุนตง้ั ตัวได้วงเงนิ 1,000 ล้านบาทตอ่
สถาบันอดุ มศกึ ษาทรี่ ่วมโครงการจดั สรรงบประมาณเข้ากองทนุ เอสเอ็มแอล 300,000 บาท 400,000บาท และ 500,000
บาทตามขนาดหมบู่ ้าน
11) ยกระดับราคาสินค้าเกษตรและใหเ้ กษตรกรเขา้ ถงึ แหล่งเงินทนุ เริม่ จากการรับจำนำขา้ วเปลือกเจา้ และ
ข้าวเปลอื กหอมมะลิ เกวยี นละ 15,000 บาท และ 20,000 บาท จดั ทำทะเบียนครวั เรือนเกษตรกรและการออกบตั ร
เครดติ สำหรับเกษตรกร
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอทุ ศิ
12) เร่งเพิ่มรายไดจ้ ากการท่องเท่ียวทั้งในและนอกประเทศ โดยประกาศใหป้ ี 2554-2555 เปน็ ปี “มหศั จรรย์
ไทยแลนด์” และประชาสัมพันธเ์ ชญิ ชวนนกั ท่องเท่ยี วตา่ งชาตเิ ขา้ รว่ มเฉลิมฉลองในพระราชพธิ มี หามงคลทจ่ี ะมขี น้ึ ในชว่ งปี
พ.ศ. 2554-2555
13) สนบั สนนุ การพฒั นางานศลิ ปหตั ถกรรมและผลิตภัณฑ์ชมุ ชน
14) พฒั นาระบบประกันสขุ ภาพ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพระบบ 30 บาทรกั ษาทกุ โรคใหท้ กุ คนได้รับบรกิ ารอยา่ งมี
คณุ ภาพ สะดวก รวดเรว็ และเปน็ ธรรม
15) จดั หาเครอื่ งคอมพิวเตอรแ์ ทบ็ เล็ตใหแ้ กโ่ รงเรียน เริม่ ในโรงเรยี นนำร่องแกน่ กั เรยี นป.1 ปกี ารศกึ ษา 2555
16) เร่งรัดและผลักดันการปฏริ ูปการเมอื งที่ประชาชนมสี ว่ นร่วม โดยมสี ภารา่ งรฐั ธรรมนญู (ส.ส.ร.) ทเ่ี ปน็
อิสระยกรา่ งรฐั ธรรมนญู ฉบับใหมโ่ ดยใหป้ ระธานเหน็ ชอบผ่านการออกเสยี งประชามติ
สว่ นนโยบายทจ่ี ะดำเนนิ การภายในชว่ งระยะ 4 ปี จะดำเนนิ นโยบายหลกั จากขอ้ 2-8 ดงั น้ี
2. นโยบายความมน่ั คงแหง่ รัฐทส่ี ำคญั คือ เทดิ ทนู และพิทกั ษร์ กั ษาไวซ้ ึง่ สถาบันพระมหากษัตริยด์ ำรงไวซ้ ึ่งพระ
บรมเดชานภุ าพแห่งองคพ์ ระมหากษตั รยิ น์ อ้ มนำพระราชดำรทิ ั้งปวงไว้เหนอื เกลา้ เหนือกระหมอ่ มพรอ้ มท้ังอัญเชญิ
ไปปฏบิ ตั ใิ ห้เป็นรปู ธรรม
3. นโยบายเศรษฐกจิ กระจายรายไดท้ เ่ี ป็นธรรม ปรับโครงสร้างภาษีอากรทงั้ ระบบมนี โยบายสรา้ งรายได้จากการ
สง่ เสรมิ การท่องเทยี่ ว เพม่ิ ขึน้ 2 เทา่ ในเวลา 5 ปผี ลักดันไทยเปน็ ศูนยก์ ลางการผลติ และการคา้ อาหาร มีนโยบาย
ปรบั โครงสร้างเศรษฐกิจสว่ นนโยบายโครงสร้างพ้นื ฐาน จะพฒั นาระบบขนสง่ ประปาไฟฟา้ ให้กระจายไปสูภ่ ูมภิ าคอยา่ ง
ทว่ั ถงึ เพียงพอขยายการใหบ้ ริการน้ำสะอาดให้ครอบคลุมทกุ พ้นื ที่ พัฒนาระบบรถไฟทางคเู่ ชือ่ มชานเมืองและหวั เมอื งหลกั
พัฒนารถไฟความเรว็ สูงกรงุ เทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-นครราชสมี า กรุงเทพฯ-หวั หิน และเสน้ ทางเชือ่ มต่อกบั เพ่ือนบ้าน
ศกึ ษาและพฒั นาขยายทางรถไฟสายแอรพ์ อร์ต เรล ลงิ คต์ อ่ จากท่าอากาศยานสวุ รรณภูมไิ ปยังชลบุรแี ละพฒั นาเรง่ รดั
โครงสร้างรถไฟฟา้ 10 สายในกทม.และปรมิ ณฑล ใหเ้ ร่มิ ก่อสรา้ งได้ครบใน 4 ปี คา่ บริการ 20 บาท ตลอดสาย
4. นโยบายดา้ นสงั คมและคุณภาพชีวติ กระจายโอกาสทางการศกึ ษาใหเ้ ข้าถงึ ทกุ กลุม่ จดั โครงการเงินกู้เพอื่
การศึกษาทผ่ี ูกพันกบั รายได้ในอนาคตสง่ เสริมใหแ้ รงงานเข้าถึงข้อมลู ขา่ วสารตำแหน่งงานวา่ งโดยสะดวกเพมิ่ ประสทิ ธิภาพ
ประกันสงั คม พัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ตงั้ แต่ชว่ งต้ังครรภ์ จนถึงวัยชราและผูพ้ ิการ สรา้ งหลักประกันความมั่นคงในศกั ดศิ์ รี
ความเป็นมนษุ ยด์ ้วยการขจดั การเลอื กปฏบิ ตั แิ ละการละเมดิ สิทธิมนุษยชนทกุ รปู แบบ
5. นโยบายทดี่ นิ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมอนุรกั ษแ์ ละฟ้นื ฟูทรพั ยากรปา่ ไม้และสตั ว์ ทรพั ยากรทาง
ทะเลสรา้ งความเปน็ ธรรมและลดความเหลือ่ มล้ำในการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ
6. นโยบายวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจยั และนวัตกรรมเรง่ สรา้ งนักวทิ ยาศาสตร์ นกั วจิ ัย และครู
วิทยาศาสตรใ์ หเ้ พยี งพอส่งเสรมิ สนบั สนุนการวจิ ยั และพฒั นา ส่งเสริมความรว่ มมอื กบั ประเทศมสุ ลมิ และองคก์ รอสิ ลาม
ระหว่างประเทศ
7. นโยบายการต่างประเทศและเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ เรง่ ส่งเสริมและพัฒนาความสัมพนั ธก์ บั เพื่อนบ้าน
สง่ เสรมิ ผลประโยชน์ของชาตใิ นองค์กรระหวา่ งประเทศ
8. นโยบายการบรหิ ารกิจการบา้ นเมืองทีด่ ี พฒั นาระบบราชการสร้างเสรมิ มาตรฐานด้านคณุ ธรรม จริยธรรม
และธรรมาภบิ าลรวมถงึ ปฏริ ูประบบกฎหมายและพัฒนากระบวนการยุตธิ รรมให้ทนั สมัยสอดคล้องกบั หลักการ
ประชาธปิ ไตยเรง่ รดั จัดต้ังองค์กรเพือ่ การปฏริ ูปกระบวนการยตุ ิรรมที่ดำเนนิ การโดยอิสระและปรับปรุงระบบการช่วยเหลือ
ประชาชนใหเ้ ขา้ ถงึ ความเป็นธรรมโดยงา่ ยส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนมีโอกาสไดร้ บั รขู้ ่าวสารจากทางราชการ ส่ือสารมวลชนและ
สอ่ื สาธารณะ
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอุทิศ
ศาลพพิ ากษาจำคกุ อดตี ดาบตำรวจ สน.พลบั พลาไชย 1 จบั หญงิ ชาวเมยี นมาทบ่ี รเิ วณคลองมหานาคและขอรว่ มหลบั
นอนเพอื่ แลกกบั ไมต่ อ้ งถูกสง่ ตวั ดำเนนิ คดี
เมอ่ื วนั ที่ 1 มีนาคมผสู้ ่อื ขา่ วรายงานจากศาลอาญากรงุ เทพใต้วา่ ศาลได้มีคำพพิ ากษาในคดีที่พนกั งานอยั การ
คดอี าญากรงุ เทพใต้ 1 เป็นโจทกฟ์ อ้ งด.ต.ไพรตั น์ หรอื สุรพศั ศรบี วั สวน อายุ 45 ปี เป็นจำเลยฐานปฏิบตั หิ นา้ ท่โี ดยมิ
ชอบข่มขนื กระทำชำเราหญิงอ่นื ซึง่ อยู่ในความควบคุมเรียกรับทรพั ยส์ ินหรือประโยชน์อื่นใดเพือ่ ตนเพอื่ ไมก่ ระทำการตาม
หน้าท่ี
โจทกฟ์ ้องวา่ เมอ่ื วนั ที่ 25 ก.ค. 2552 จำเลยเปน็ ตำรวจสายตรวจ สน.พลบั พลาไชย 1 มหี นา้ ทอ่ี อกตรวจจบั
ผูก้ ระทำความผิดกฎหมาย ไดพ้ บนางนิด ไม่มนี ามสกลุ อายุ 27 ปีชาวเมยี นมา เช้ือชาติไทใหญ่ ทีบ่ รเิ วณคลองมหา
นาค เขตปอ้ มปราบศตั รพู า่ ย กทม.แล้วเรยี กขนึ้ รถโดยไมน่ ำตวั ไปส่งพนกั งานสอบสวนเพือ่ ดำเนินคดแี ต่ไดข้ อร่วมหลบั
นอนกบั นางนดิ เพอื่ แลกกบั ไมต่ ้องถกู ส่งตวั ดำเนินคดีนางนิดจึงจำยอมใหร้ ว่ มประเวณี 1 คร้งั แล้วปลอ่ ยตัวไปจึงเป็นการ
ขม่ ขืนชำเราหญิงอ่ืนโดยอยูใ่ นอำนาจควบคมุ และการกระทำของจำเลยเปน็ การละเว้นการปฏบิ ัตหิ น้าทีโ่ ดยมิชอบสรา้ งความ
เสียหายแกส่ ำนักงานตำรวจแห่งชาตอิ นั เปน็ ความผิดกฎหมายอาญามาตรา 149, 157, 276 จำเลยใหก้ ารปฏเิ สธ
ศาลพิเคราะหแ์ ลว้ เห็นวา่ การกระทำของจำเลยไมเ่ ปน็ การขม่ ขืนกระทำชำเราแตเ่ ป็นความผดิ ฐานเปน็ เจา้ พนักงานมี
หน้าที่กระทำการสืบสวนจบั กุมเรยี กรับประโยชนเ์ พอ่ื ตนเพ่ือไมก่ ระทำการตามหน้าท่ีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149
ลงโทษจำคกุ 6 ปี เมือ่ เป็นความผดิ ตามมาตรา 149 แล้วจงึ ไม่ต้องปรบั บทมาตรา 157 อันเป็นบททวั่ ไปอีก แล้วออก
หมายขงั ตอ่ ไป
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ
ไทยอทุ ิศ
แบบบนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแกไ้ ข / การพฒั นาส่งเสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครูผสู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื .........................................
(.......................................................)
ตำแหน่ง ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ
ไทยอุทศิ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 19 รายวชิ าหน้าทีพ่ ลเมอื ง
สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 3
รหสั วชิ า ส 23235
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563
เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เรอื่ งท่ี 3 รฐั ธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ ันเก่ียวกับการเลอื กตง้ั
การมีสว่ นรว่ ม และการตรวจสอบอำนาจรัฐ (1)
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปัจจบุ ัน ยึดม่นั ศรทั ธา และธำรงรกั ษาไวซ้ ง่ึ การ
ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
รฐั ธรรมนญู เป็นกฎหมายสูงสดุ ในการปกครองประเทศไทย บทบญั ญตั ิเกยี่ วกับการเลอื กตั้ง การมีสว่ น
ร่วม และการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั ต้องเปน็ ไปตามรัฐธรรมนญู ปจั จบุ นั มีปญั หาทเี่ ปน็ อปุ สรรคต่อการ
พัฒนาประชาธปิ ไตยของประเทศไทยจงึ ต้องรว่ มกนั เสนอแนวทางแก้ไข
3. ตัวชว้ี ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ตัวชว้ี ดั
ส 2.2 ม.3/3 วเิ คราะห์รฐั ธรรมนญู ฉบบั ปจั จุบันในมาตราต่างๆ ทีเ่ กยี่ วข้องกบั การเลอื กตงั้
การมสี ว่ นรว่ มและการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั
ม.3/4 วิเคราะหป์ ระเดน็ ปญั หาทเ่ี ปน็ อุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศ
ไทยและเสนอ แนวทางแกไ้ ข
3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
1) วิเคราะหร์ ฐั ธรรมนญู เกย่ี วกบั การเลอื กตัง้ การมีส่วนรว่ ม และการตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั ได้
2) วิเคราะหบ์ ทบาทหน้าทข่ี องรฐั บาลในการบรหิ ารราชการแผน่ ดินได้
4. สาระการเรยี นรู้
1) บทบัญญัติของรฐั ธรรมนูญในมาตราต่างๆ ทีเ่ ก่ียวข้องกบั การเลอื กตงั้ การมสี ่วนรว่ ม และการ
ตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั
2) อำนาจหนา้ ท่ขี องรฐั บาล
3) บทบาทสำคญั ของรฐั บาลในการบรหิ ารราชการแผน่ ดิน
4) ความจำเปน็ ในการมีรัฐบาลตามระบอบประชาธปิ ไตย
5) ประเดน็ ปญั หา และผลกระทบท่เี ป็นอปุ สรรคตอ่ การพฒั นาประชาธิปไตยของประเทศไทย
6) แนวทางการแก้ไขปัญหา
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ
ไทยอุทิศ
5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
5.1 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการทำใหก้ ระจ่าง
5.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครูตง้ั คำถามใหน้ ักเรยี นตอบ ดังนี้
1) รัฐธรรมนญู มคี วามสำคญั อยา่ งไร
2) รฐั ธรรมนญู ทกุ ฉบบั จะมีสว่ นท่ีคล้ายคลงึ กันอย่างไร
2. ครอู ธิบายใหน้ ักเรียนเขา้ ใจถงึ โครงสรา้ งของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปัจจุบัน
3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
ทำไมประเทศที่มีการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยจึงตอ้ งมรี ฐั ธรรมนญู
(เพราะทำให้การดำเนินการปกครองประเทศมเี ปา้ หมายและหลักการสำคญั ในแนวทางเดยี วกนั )
4. นกั เรยี นกล่มุ เดิม กำหนดหมายเลขประจำตวั ใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนต้ังแต่หมายเลข 1-4 จากนน้ั ใหแ้ ต่ละ
คนแยกยา้ ยกันไปเข้ากล่มุ ใหมท่ ี่มีหมายเลขเดยี วกนั เพอ่ื ศกึ ษาความรเู้ รื่อง รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย
จากหนังสอื เรียน ดังน้ี
✓ สมาชิกหมายเลข 1 ศึกษาความรู้เรอื่ ง การเลือกตงั้
✓ สมาชกิ หมายเลข 2 ศึกษาความรเู้ รอื่ ง การมสี ว่ นร่วมทางการเมืองของประชาชน
✓ สมาชิกหมายเลข 3 ศึกษาความร้เู รอ่ื ง การตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั
✓ สมาชกิ หมายเลข 4 ศึกษาความรเู้ รอื่ ง บทบญั ญัตเิ กี่ยวกบั รฐั บาล
5. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ขอ้ 1-2
1) ทำไมจึงตอ้ งมีการเลอื กตั้งสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร
(เพราะตอ้ งการให้ตวั แทนของประชาชนเขา้ ไปมีส่วนร่วมกบั การบริหารประเทศ และออก
กฎหมายท่ีสง่ ผลตอ่ ความสงบเรยี บรอ้ ยในประเทศ)
2) ทำไมจงึ ต้องมีการตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั โดยองค์กรอสิ ระ
(เพราะตอ้ งการปอ้ งกนั ผู้มอี ำนาจในการเมอื งการปกครองทำการทุจริตคอร์รัปชนั และปอ้ งกันการ
แทรกแซงหรอื กา้ วก่ายเพือ่ ผลประโยชน์ของตนเองและพวกพอ้ ง)
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ
ไทยอุทศิ
6. สมาชิกในกลุม่ ใหม่ ศกึ ษาความรูใ้ นหวั ขอ้ ท่ีได้รบั มอบหมายและตอบคำถามในใบงาน ดังน้ี
✓ สมาชกิ กลุ่มหมายเลข 1 ทำใบงานที่ 5.3 เรอื่ ง การเลอื กตงั้
✓ สมาชิกกลมุ่ หมายเลข 2 ทำใบงานที่ 5.4 เรอื่ ง การมีสว่ นรว่ มทางการเมือง
✓ สมาชกิ กลุม่ หมายเลข 3 ทำใบงานที่ 5.5 เรอ่ื ง การตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรัฐ
✓ สมาชิกกลมุ่ หมายเลข 4 ทำใบงานที่ 5.6 เรอื่ ง รฐั บาล
7. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ
นักเรียนคิดว่า ใครมีสว่ นรว่ มในทางการเมอื งมากท่สี ดุ อธบิ ายเหตผุ ล
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน)
8. การวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
วธิ ีการ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
สังเกตความมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งม่ัน
ในการทำงาน
9.ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี น หน้าทีพ่ ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนินชวี ติ ในสงั คม ม.3
2) ใบงานท่ี 5.3 เรอ่ื ง การเลือกตัง้
3) ใบงานท่ี 5.4 เร่ือง การมีสว่ นรว่ มทางการเมอื ง
4) ใบงานท่ี 5.5 เรื่อง การตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั
5) ใบงานที่ 5.6 เร่ือง รฐั บาล
9.2 แหลง่ การเรียนรู้
—
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอุทศิ
แบบบนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแกไ้ ข / การพฒั นาส่งเสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครูผสู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื .........................................
(.......................................................)
ตำแหน่ง ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ
ไทยอุทศิ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 20 รายวชิ าหนา้ ท่พี ลเมอื ง
สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3
รหัสวชิ า ส 23235
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563
เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เรอื่ งท่ี 3 รฐั ธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ นั เกยี่ วกับการเลือกต้ัง
การมสี ว่ นร่วม และการตรวจสอบอำนาจรัฐ (2)
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 2.2 เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปัจจุบัน ยึดม่นั ศรทั ธา และธำรงรกั ษาไวซ้ งึ่ การ
ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
รัฐธรรมนญู เป็นกฎหมายสูงสดุ ในการปกครองประเทศไทย บทบัญญตั เิ กยี่ วกบั การเลอื กต้ัง การมีสว่ น
รว่ ม และการตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั ต้องเปน็ ไปตามรฐั ธรรมนญู ปจั จบุ ันมปี ญั หาทเ่ี ปน็ อปุ สรรคตอ่ การ
พฒั นาประชาธิปไตยของประเทศไทยจงึ ตอ้ งรว่ มกนั เสนอแนวทางแก้ไข
3. ตัวชี้วัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ตวั ช้ีวัด
ส 2.2 ม.3/3 วิเคราะห์รฐั ธรรมนญู ฉบบั ปจั จบุ นั ในมาตราตา่ งๆ ทีเ่ ก่ียวข้องกบั การเลอื กตง้ั
การมสี ่วนรว่ มและการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั
ม.3/4 วิเคราะห์ประเดน็ ปญั หาทเี่ ปน็ อปุ สรรคตอ่ การพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศ
ไทยและเสนอ แนวทางแกไ้ ข
3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
1) วิเคราะหร์ ฐั ธรรมนญู เก่ยี วกบั การเลอื กตงั้ การมีส่วนรว่ ม และการตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั ได้
2) วิเคราะห์บทบาทหนา้ ทขี่ องรฐั บาลในการบริหารราชการแผน่ ดินได้
4. สาระการเรยี นรู้
1) บทบัญญัติของรฐั ธรรมนญู ในมาตราต่างๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การเลอื กตงั้ การมีสว่ นรว่ ม และการ
ตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั
2) อำนาจหนา้ ที่ของรฐั บาล
3) บทบาทสำคญั ของรฐั บาลในการบรหิ ารราชการแผน่ ดิน
4) ความจำเป็นในการมรี ัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตย
5) ประเด็น ปญั หา และผลกระทบทีเ่ ป็นอปุ สรรคตอ่ การพฒั นาประชาธปิ ไตยของประเทศไทย
6) แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ
ไทยอทุ ศิ
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
5.1 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการทำให้กระจา่ ง
5.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
นักเรยี นคิดว่า รัฐบาลทีด่ ีควรปฏบิ ัตหิ นา้ ที่สำคญั อยา่ งไรบ้าง
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
2. ครสู นทนากบั นักเรยี นถงึ ประเดน็ สำคญั ทน่ี ักเรยี นได้ศึกษาเรือ่ ง รฐั ธรรมนญู เกยี่ วกบั บทบัญญตั ใิ นเรอื่ ง
การเลอื กตั้ง และการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ของรฐั บาล
3. สมาชิกกล่มุ ใหม่แยกย้ายกนั กลบั กลุม่ เดมิ ให้สมาชกิ แตล่ ะหมายเลขนำความรทู้ ่ีได้ศึกษาและทำใบงาน
ในส่วนทตี่ นรบั ผิดชอบมาเลา่ ให้สมาชิกคนอ่นื ในกลุ่มฟงั เรยี งตามหมายเลข
4. สมาชกิ ในกลุม่ ผลัดกันซักถามขอ้ สงสยั และอภปิ รายประเดน็ สำคญั ที่ไดศ้ กึ ษามา จากน้นั รว่ มกันเฉลย
คำตอบในใบงานท่ี 5.3 - 5.6
5. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
รฐั ธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ นั มคี วามสำคญั ต่อการเลอื กตงั้ การมสี ว่ นรว่ ม
และการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั อยา่ งไร
(1. วางกรอบแนวทางการเลอื กตั้งให้เกิดความยุตธิ รรม โปร่งใส เป็นสว่ นสำคัญในการส่งเสรมิ
การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
2. มบี ทบัญญตั สิ ่งเสรมิ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในดา้ นตา่ งๆ อนั เป็นวิถปี ระชาธปิ ไตย
3. ทำใหก้ ารตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรัฐเป็นไปอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ)
6. ครูแจกกระดาษ A4 ให้นักเรยี นกลมุ่ ละ 1 แผน่ ใหช้ ว่ ยกนั สรุปความรูท้ ี่ได้รับทงั้ ท่ีเปน็ ความรเู้ ดมิ และ
ความรู้ใหม่ ในประเดน็ สำคัญเก่ียวกบั บทบญั ญัตขิ องรฐั ธรรมนญู เกี่ยวกับการเลอื กตั้ง การมสี ่วนรว่ มและการ
ตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั
7. นกั เรียนแต่ละกล่มุ รว่ มกนั คิดหารูปแบบในการนำเสนอผลงานดว้ ยวธิ กี ารทแ่ี สดงถึงความคดิ สร้างสรรค์
จากนัน้ ให้ตวั แทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ
8. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ข้อ 1-3
1) นกั เรยี นจะมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมทางการเมอื งได้อยา่ งไรบา้ ง
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน)
2) ปญั หาทเี่ ปน็ อปุ สรรคตอ่ การพัฒนาประชาธปิ ไตยของไทย คอื อะไร
(1. การซ้ือสิทธิขายเสยี ง 2. การทุจริต 3. การรัฐประหาร)
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศ
ไทยอุทศิ
3) นกั เรียนมีแนวทางแก้ไขปญั หาทเ่ี ป็นอปุ สรรคตอ่ การพัฒนาประชาธปิ ไตยของไทยอย่างไร
(1. ประชาชนชาวไทยทุกคน ต้องรว่ มมือกนั แก้ไข โดยต้องพฒั นาหรอื ปลูกจติ สำนกึ ใหเ้ หน็
ความสำคัญของการทำประโยชน์เพื่อประเทศชาตมิ ากกวา่ ตนเอง
2. ผนู้ ำในทุกระดบั รว่ มมอื กนั ปลูกจติ คุณธรรม คา่ นิยมทด่ี ีงามตอ่ การเมอื งการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตย)
9. ครใู หน้ กั เรียนนำความรทู้ ่ีไดจ้ ากการศกึ ษาไปประยกุ ต์ใชใ้ นการคิดวเิ คราะห์ปญั หาทเ่ี ปน็ อุปสรรคต่อ
การพฒั นาประชาธปิ ไตยของไทย โดยการนำขา่ วท่ีแสดงถงึ ปญั หาสำคัญมาวเิ คราะหต์ ามหัวขอ้ ในใบงานที่ 5.7
เร่ือง ปัญหาท่ีเปน็ อปุ สรรคตอ่ การพัฒนาประชาธปิ ไตยของไทย เมอื่ ทำเสร็จแลว้ ให้นำใบงานส่งครู จากนนั้ ครู
เลอื กผลงานทดี่ ตี ดิ ปา้ ยนเิ ทศหน้าชัน้ เรียน
10. นักเรียนทุกคนทำแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5
ครูมอบหมายให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ทำรายงาน เรอ่ื ง การเมืองการปกครองในยุคปจั จบุ ัน
โดยให้ครอบคลมุ ประเด็นตามทก่ี ำหนด ดังน้ี
1) การอธิบายระบอบการปกครองแบบต่างๆ ทใ่ี ชใ้ นยุคปัจจบุ ัน
2) การเปรยี บเทียบระบอบการปกครองของไทยกับประเทศอ่นื ทมี่ ีการปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตย
3) การวเิ คราะห์รฐั ธรรมนญู ฉบับปัจจุบันเกย่ี วกบั การเลอื กต้งั การมสี ว่ นรว่ ม และการตรวจ
สอบการใชอ้ ำนาจรฐั
4) การวเิ คราะหป์ ระเด็นปญั หาท่เี ป็นอุปสรรคต่อการพฒั นาประชาธิปไตยของประเทศไทย
และเสนอแนวทางแก้ไข
8. การวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมอื เกณฑ์
ใบงานที่ 5.3 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วธิ ีการ ใบงานที่ 5.4 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ใบงานท่ี 5.5 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 5.3 ใบงานที่ 5.6 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 5.4 ใบงานท่ี 5.7 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 5.5 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 5.6 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 5.7 แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งม่นั
ในการทำงาน
ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการ
เรยี นร้ทู ี่ 5
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอทุ ิศ
9.สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
9.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี น หน้าท่พี ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชีวติ ในสังคม ม.3
2) กระดาษ A4
3) ใบงานที่ 5.3 เรือ่ ง การเลอื กต้ัง
4) ใบงานที่ 5.4 เรอ่ื ง การมสี ว่ นร่วมทางการเมอื ง
5) ใบงานที่ 5.5 เรื่อง การตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั
6) ใบงานท่ี 5.6 เรื่อง รฐั บาล
7) ใบงานท่ี 5.7 เรื่อง ปัญหาท่เี ปน็ อุปสรรคต่อการพฒั นาประชาธปิ ไตยของไทย
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
—
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอทุ ิศ
ชื่อ-สกลุ /กลุม่ .....................................................................................................................ชัน้ ...........เลขท่.ี ......................
การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมนิ รายงาน เรอ่ื ง การเมอื งการปกครองในยคุ ปจั จบุ นั
ลำดบั ที่ รายการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 การอธิบายระบอบการปกครองแบบต่างๆ ท่ใี ช้ในยคุ ปัจจุบนั
2 การเปรยี บเทียบระบอบการปกครองของไทยกบั ประเทศอื่นท่ี
มกี ารปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
3 การวเิ คราะหร์ ฐั ธรรมนญู ฉบบั ปจั จุบันเกยี่ วกับการเลือกตงั้
การมีสว่ นรว่ ม และการตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั
4 การวเิ คราะห์ประเด็นปัญหาทเี่ ปน็ อุปสรรคตอ่ การพฒั นา
ประชาธิปไตยของประเทศไทยและเสนอแนวทางแกไ้ ข
รวม
ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ดมี าก = 4 คะแนน
ดี = 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
พอใช้ = 2 คะแนน
ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 14 - 16 ดมี าก
11 - 13 ดี
8 - 10 พอใช้
ต่ำกวา่ 8 ปรบั ปรงุ
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอุทศิ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแกไ้ ข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ…………………………………………….ครูผสู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหน่ง …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอทุ ศิ
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศ
ไทยอุทิศ