The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาประวัติศาสตร์ ภาคเรียนที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wanna.j1996, 2021-10-07 13:01:24

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาประวัติศาสตร์ ภาคเรียนที่ 2

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาประวัติศาสตร์ ภาคเรียนที่ 2

[วนั ท]่ี

[ชอ่ื เอกสาร]

[ช่อื เรอ่ื งรองของเอกสาร]

วรรณา จิตรงาม

[ช่อื บรษิ ทั ]
[ทอ่ี ย่บู รษิ ทั ]

คำอธบิ ายรายวชิ า

รายวชิ า ประวัตศิ าสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1
รหัสวชิ า ส
เวลา 20 ช่วั โมง/ภาคเรยี น 40 ชว่ั โมง/ปี

ศึกษา วิเคราะห์ เรื่องราวเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ได้อย่างมีเหตุผลตามวิธีการทาง

ประวัติศาสตร์ ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวต่างๆ ที่ตนสนใจ พัฒนาการของไทยสมัย
รัตนโกสินทร์ในด้านต่างๆ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของไทยในสมัยรัตนโกสินทร์
บทบาทของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีในการสร้างสรรค์ความเจริญและความมั่นคงของชาติ พัฒนาการ
ของไทยในสมยั รัตนโกสนิ ทรท์ างดา้ นการเมอื งการปกครอง สังคม เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ตามช่วงสมัยต่างๆ เหตุการณ์สำคัญสมัยรตั นโกสินทร์ท่ีมีผลต่อการพัฒนาชาติไทย โดยวิเคราะห์สาเหตุ ปัจจยั
และผลของเหตุการณ์ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ และอิทธพิ ลต่อการพัฒนาชาติไทย และ

บทบาทของไทยในสมัยประชาธิปไตย พัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของภูมิภาคต่างๆ ในโลก
โดยสังเขป ผลของการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ความร่วมมือ และความขัดแย้งในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตลอดจน
ความพยายาม ในการขจดั ปญั หาความขดั แย้ง

โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม
กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความรู้ความ

เข้าใจในการนำวิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์มาใชศ้ กึ ษาเร่อื งราวทเ่ี ก่ยี วข้องกบั ตนเอง ครอบครวั ท้องถิ่นของตนเอง
และประวัติศาสตรส์ มัยรตั นโกสนิ ทร์ ตลอดจนพฒั นาการในภมู ภิ าคตา่ งๆ ของโลก เกดิ ความรักความภาคภูมิใจ
ในความเป็นไทย ตระหนกั ถึงความสำคญั ของการเปลย่ี นแปลงในภมู ภิ าคต่างๆ ของโลกและผลกระทบที่เกิดข้ึน
จากความเปล่ียนแปลงดงั กลา่ ว มีคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ย์สุจริต มีวินัย
ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง ม่งุ มัน่ ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ สามารถดำเนินชีวติ อยู่ร่วมกัน
ได้อย่างสันติสขุ

ตัวชวี้ ดั
ส 4.1 ม.3/1 ม.3/2
ส 4.2 ม.3/1 ม.3/2
ส 4.3 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4

รวม 8 ตัวช้ีวดั

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ศิ

รายวชิ า ประวัตศิ าสตร์ โครงสรา้ งรายวิชา
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3
รหัสวชิ า ส กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ภาคเรียนที่ 1

เวลา 20 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น 40 ช่วั โมง/ปี

ลำดับท่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
1 เรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน
การนำวธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์มา
วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ ส 4.1 ม.3/1 ใช้ในการศึกษาเหตกุ ารณส์ ำคญั ทาง 2
ในการศึกษาเรอื่ งราว ม.3/2 ประวัตศิ าสตรอ์ ยา่ งมีเหตผุ ลจะทำให้
ทางประวตั ิศาสตร์ เหตกุ ารณ์นน้ั ๆ มคี วามนา่ เชอื่ ถือ

2 พัฒนาการทาง ส 4.3 ม.3/1 พัฒนาการของไทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์ 7

ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย สมัย ม.3/2 ตอนต้นในดา้ นต่างๆ นนั้ มปี จั จยั สำคญั

รตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น ท่สี ง่ ผลต่อความม่ันคงและความ

เจรญิ ร่งุ เรอื งของไทย ทำให้ ราชธานีมี

ความม่ันคงและเจรญิ รงุ่ เรอื ง และสง่ ผล

ความม่นั คงและความเจรญิ รงุ่ เรืองมา

จนถงึ ปจั จุบนั

3 พฒั นาการทาง ส 4.3 ม.3/1 พฒั นาการของไทยในสมยั ปรบั ปรุง 9

ประวตั ศิ าสตร์ไทยสมยั ม.3/2 และปฏริ ูปประเทศในดา้ นต่างๆ ทำให้

ปรบั ปรุงและปฏริ ปู ราชธานีมีความม่ันคงและเจรญิ รงุ่ เรอื ง

ประเทศ และส่งผลตอ่ ความมัน่ คงและความ

เจรญิ รงุ่ เรอื งมาจนถงึ ปจั จุบนั

4 พฒั นาการทาง ส 4.3 ม.3/1 พฒั นาการของไทยในสมยั 6
ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมัย ม.3/2
ม.3/4 ประชาธปิ ไตยในดา้ นต่างๆ ทำให้ราช
ประชาธิปไตย ธานมี ีความม่นั คงและเจรญิ รงุ่ เรอื ง และ
ส่งผลตอ่ ความมนั่ คงและความ

เจรญิ ร่งุ เรอื งมาจนถงึ ปัจจุบนั

5 การสร้างสรรค์ภูมปิ ัญญา ส 4.3 ม.3/3 ภมู ปิ ญั ญาและวัฒนธรรมไทยสมยั 2
และวัฒนธรรมไทย รัตนโกสินทร์มีอทิ ธพิ ลตอ่ การพัฒนาชาติ
สมยั รัตนโกสนิ ทร์ ไทย ทำให้คนไทยเกดิ ความภาคภูมิใจ
เห็นคุณค่า และชว่ ยกันอนุรักษ์ไว้

6 ภมู ภิ าคของโลกกับ ส 4.2 ม.3/1 ปัจจัยทางภูมิศาสตรม์ ีอทิ ธิพลตอ่ 8
พฒั นาการทาง พฒั นาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และ
ประวตั ิศาสตร์ การเมอื งของภูมิภาคต่างๆ ของโลก
นอกจากน้ันอิทธพิ ลของอารยธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ

ลำดับที่ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
เรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน
7 ความขัดแย้งและความ
รว่ มมือของโลกใน ตะวนั ตกยงั มีผลสำคญั ตอ่ พฒั นาการทาง
ครสิ ต์ศตวรรษท่ี 20 ถงึ
ปัจจบุ ัน ประวตั ศิ าสตร์

ส 4.2 ม.3/2 โลกในศตวรรษที่ 20 มนุษย์มชี วี ติ 6

ความเป็นอยทู่ ่ีดีข้ึน แต่ก็มคี วาม ขดั แยง้
กันมากขนึ้ ทำให้มนษุ ยห์ าหนทางร่วมมือ
ขจดั ความขัดแย้ง โดยการจดั ตงั้ องคก์ าร
ความร่วมมือต่างๆ ขึ้น เพอ่ื ให้มนษุ ยท์ กุ
คนบนโลกอยู่ร่วมกนั ไดอ้ ยา่ งสงบสขุ

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กล่มุ สาระการเรียนร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ

รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ การออกแบบหน่วยการเรียนรู้
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3
รหสั วชิ า ส กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ภาคเรยี นที่ 1

เวลา 20 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น 40 ชัว่ โมง/ปี

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัด วิธสี อน/กระบวนการจัดการ ทักษะการคดิ เวลา
การเรียนรู้ เรียนรู้
(ช่ัวโมง)

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 1. วิธกี ารทาง วิธสี อนแบบกระบวนการ 1. ทักษะการวเิ คราะห์ 1
วธิ กี ารทาง ประวตั ิศาสตร์ใน กลุ่มสัมพนั ธ์ 2. ทักษะการจดั ระเบยี บ
ประวัติศาสตร์ การศกึ ษาเรอ่ื งราว

ในการศกึ ษาเรอ่ื งราว ทางประวตั ิศาสตร์
ทางประวัตศิ าสตร์ (1)

2. วิธกี ารทาง วิธสี อนแบบกระบวนการ 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1
ประวตั ิศาสตรใ์ น
กลุ่มสมั พนั ธ์ 2. ทกั ษะการจดั ระเบยี บ

การศึกษาเรอื่ งราว

ทางประวัตศิ าสตร์

(2)

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 1. การสถาปนาราชธานี วิธสี อนดว้ ยบทเรยี นสำเร็จรปู 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู 1

พัฒนาการทาง และปัจจยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
ประวัตศิ าสตร์ไทยสมัย ความมน่ั คงและ
รัตนโกสินทร์ตอนตน้ ความเจรญิ รงุ่ เรอื ง 3. ทกั ษะการสรปุ ลง

ความเหน็

2. การบรหิ ารราชการ วธิ สี อนแบบโมเดลซิปปา 1. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู 1
แผน่ ดิน
(CIPPA Model) 2. ทักษะการวเิ คราะห์

3. ทกั ษะการสรุปลง

ความเห็น

4. ทักษะการสรา้ งความรู้

3. พัฒนาการดา้ น วธิ สี อนแบบโมเดลซิปปา 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู 1
การเมอื ง (CIPPA Model) 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
การปกครอง 3. ทักษะการสรา้ งความรู้

4. ทักษะการสรปุ ลง

ความเห็น

4. พัฒนาการดา้ น วิธสี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู 1
เศรษฐกิจ (Inquiry Method : 5E) 2. ทักษะการวเิ คราะห์
และด้านสงั คม
3. ทักษะการสรา้ งความรู้

4. ทักษะการสรุปลง

ความเห็น

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กล่มุ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัด วิธีสอน/กระบวนการจดั การ ทักษะการคิด เวลา
การเรยี นรู้ เรียนรู้
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 5. พัฒนาการด้าน (ชว่ั โมง)
พฒั นาการทาง ความสมั พันธ์
ประวัตศิ าสตรไ์ ทย ระหว่างประเทศ วธิ สี อนโดยการจัดการเรยี นรู้ 1. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู 1
สมยั ปรบั ปรงุ และ
ปฏริ ปู ประเทศ 6. ตวั อย่างเหตกุ ารณ์ แบบร่วมมอื : เทคนคิ คูค่ ดิ 2. ทักษะการวเิ คราะห์
สำคญั ท่มี ีผลตอ่
พฒั นาการทาง 3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้
ประวตั ิศาสตรไ์ ทย
สมยั รัตนโกสนิ ทร์ 4. ทกั ษะการสรุปลง
ตอนตน้
ความเห็น
7. บทบาทของ
พระมหากษัตริย์ วธิ สี อนกรณีศกึ ษา 1. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู 1
ในราชวงศ์จกั รีตอ่
ความมนั่ คงและ 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
ความเจรญิ รุ่งเรอื ง
ของชาติ 3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้

1. ปัจจยั ทสี่ ่งผลต่อ 4. ทกั ษะการสรปุ ลง
ความม่ันคงและ
ความเจรญิ ร่งุ เรอื ง ความเห็น

2. พฒั นาการดา้ น วธิ สี อนโดยการจดั การเรียนรู้ 1. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู 1
การเมือง แบบรว่ มมอื : เทคนคิ คคู่ ิด 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
การปกครอง
3. ทกั ษะการสร้างความรู้
3. พฒั นาการดา้ น 4. ทกั ษะการสรปุ ลง
เศรษฐกจิ และ
สังคม ความเหน็

4. พัฒนาการดา้ น วธิ สี อนดว้ ยบทเรยี นสำเรจ็ รูป 1. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู 1
ความสมั พันธ์ 2. ทักษะการวเิ คราะห์ 1
ระหว่างประเทศ 3. ทกั ษะการสร้างความรู้ 1
4. ทกั ษะการสรปุ ลง 1
ความเหน็

วิธสี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทักษะการรวบรวมข้อมลู
(Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
3. ทักษะการสร้างความรู้
4. ทกั ษะการสรปุ ลง
ความเห็น

วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู
แบบรว่ มมือ : เทคนคิ คูค่ ิด 2. ทักษะการวเิ คราะห์

3. ทักษะการสร้างความรู้
4. ทักษะการสรุปลง

ความเห็น

วิธสี อนโดยการจัดการเรยี นรู้ 1. ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู
แบบร่วมมอื : เทคนิคคูค่ ดิ 2. ทักษะการวเิ คราะห์

3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัด วธิ ีสอน/กระบวนการจดั การ ทักษะการคดิ เวลา
การเรียนรู้ เรียนรู้
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 (ชัว่ โมง)
พัฒนาการทาง
ประวตั ิศาสตร์ไทย 4. ทกั ษะการสรปุ ลง
สมัยประชาธิปไตย
ความเห็น

5. การทำสนธิสญั ญา วิธสี อนแบบโมเดลซิปปา 1. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู 1
เบาวร์ งิ (CIPPA Model) 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์

3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้

4. ทักษะการสรปุ ลง

ความเหน็

6. สนธิสญั ญาเบาวร์ งิ วิธสี อนแบบโมเดลซิปปา 1. ทักษะการรวบรวมข้อมลู 1

กับการปฏริ ูป (CIPPA Model) 2. ทักษะการวเิ คราะห์

ประเทศ 3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้

4. ทักษะการสรปุ ลง

ความเห็น

7. การปฏริ ปู ประเทศ วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ 1. ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู 1
สมยั พระบาท- แบบรว่ มมอื : เทคนคิ การ 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
สมเดจ็ พระจลุ จอม- 3. ทกั ษะการสร้างความรู้
เกลา้ เจา้ อยูห่ วั แบง่ ปนั ความสำเร็จ
และการเข้ารว่ ม 4. ทกั ษะการสรปุ ลง
ความเหน็
สงครามโลกครง้ั ท่ี 1

8. บทบาทของ วิธสี อนแบบโครงงาน 1. ทักษะการรวบรวมข้อมลู 1
พระมหากษตั ริย์ไทย 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
สมยั ปรับปรงุ และ 3. ทักษะการสร้างความรู้
ปฏิรูประเทศ (1)
4. ทักษะการสรุปลง

ความเห็น

9. บทบาทของ วิธสี อนแบบโครงงาน 1. ทักษะการรวบรวมข้อมลู 1
พระมหากษตั รยิ ไ์ ทย 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
สมยั ปรบั ปรงุ และ 3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้
ปฏิรูประเทศ (2)
4. ทกั ษะการสรุปลง

ความเหน็

1. ปจั จยั ที่ส่งผลตอ่ วธิ สี อนแบบโมเดลซปิ ปา 1. ทักษะการรวบรวมข้อมลู 1
ความมนั่ คงและ (CIPPA Model) 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
ความเจรญิ รงุ่ เรอื ง 3. ทักษะการสรา้ งความรู้
และพฒั นาการ
4. ทักษะการสรุปลง
ดา้ นการเมืองการ ความเหน็
ปกครอง

2. เหตุการณ์ทาง วธิ สี อนแบบโมเดลซปิ ปา 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู 1
การเมืองที่ส่งผล (CIPPA Model) 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั วิธสี อน/กระบวนการจดั การ ทักษะการคิด เวลา
การเรียนรู้ เรยี นรู้
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 (ช่วั โมง)
การสร้างสรรค์
ภมู ปิ ญั ญาและ ตอ่ ความมั่นคงและ 3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้
วัฒนธรรมไทย ความเจรญิ รงุ่ เรอื ง
สมยั รตั นโกสินทร์ และพฒั นาการ 4. ทกั ษะการสรุปลง
ความเหน็
ด้านการเมอื ง
การปกครอง

3. พฒั นาการดา้ น วิธสี อนโดยการจดั การเรียนรู้ 1. ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู 1
เศรษฐกิจ แบบรว่ มมอื : เทคนิคการตอ่ 2. ทักษะการวเิ คราะห์

และสงั คม เรื่องราว (Jigsaw) 3. ทักษะการสร้างความรู้

4. ทักษะการสรุปลง
ความเห็น

4. พัฒนาการดา้ น วิธสี อนแบบกระบวนการ 1. ทักษะการรวบรวมข้อมลู 1
ความสัมพันธ์ กล่มุ สมั พนั ธ์ 2. ทักษะการวเิ คราะห์
ระหวา่ งประเทศ 3. ทักษะการสร้างความรู้
และบทบาทของไทย
สมัยประชาธิปไตย 4. ทักษะการสรปุ ลง
ต่อสังคมโลก ความเหน็

5. ไทยกับการเขา้ รว่ ม วธิ สี อนดว้ ยบทเรยี นสำเร็จรปู 1. ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู 1

สงครามโลกคร้ังที่ 2 2. ทักษะการวเิ คราะห์

3. ทักษะการสรา้ งความรู้

4. ทกั ษะการสรุปลง

ความเห็น

6. บทบาทของ วธิ สี อนแบบกระบวนการ 1. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู 1
2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
พระมหากษตั ริย์ไทย กลุ่มสัมพันธ์ 3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้
สมยั ประชาธปิ ไตย

4. ทกั ษะการสรปุ ลง

ความเห็น

1. การสรา้ งสรรค์ วิธสี อนแบบโครงงาน 1. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู 1
ภมู ปิ ัญญาและ 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
วฒั นธรรมไทย 3. ทักษะการสรา้ งความรู้
สมยั รัตนโกสินทร์
4. ทักษะการสรปุ ลง

ความเห็น

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทิศ

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัด วธิ ีสอน/กระบวนการจดั การ ทักษะการคดิ เวลา
การเรยี นรู้ เรยี นรู้
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 (ชว่ั โมง)
ภูมิภาคของโลกกบั 2. การสบื คน้
ภูมปิ ญั ญาและ วธิ สี อนแบบโครงงาน 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู 1
พัฒนาการทาง วัฒนธรรมไทย
ประวัตศิ าสตร์ สมยั รัตนโกสนิ ทร์ 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้
1. พัฒนาการทาง
ประวัติศาสตร์ของ 4. ทักษะการสรปุ ลง
ทวีปยุโรป ความเหน็

2. การสรา้ งสรรค์ วิธสี อนแบบโมเดลซิปปา 1. ทกั ษะการสำรวจค้นหา 1
ผลงานดา้ นตา่ งๆ
ของทวีปยุโรป (CIPPA Model) 2. ทักษะการรวบรวมข้อมลู

3. อิทธพิ ลของ 3. ทักษะการวเิ คราะห์
ทวีปยโุ รปท่มี ีตอ่
สังคมโลก วธิ สี อนแบบโมเดลซิปปา 1. ทกั ษะการสำรวจคน้ หา 1
(CIPPA Model) 2. ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู

3. ทักษะการวเิ คราะห์

วธิ สี อนแบบกระบวนการ 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1

กลุ่มสมั พนั ธ์ 2. ทกั ษะการสรา้ งความรู้

4. พฒั นาการทาง วิธสี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ 1. ทักษะการวเิ คราะห์ 1
ประวตั ศิ าสตรข์ อง (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการสรา้ งความรู้ 1
ทวปี อเมรกิ าเหนือ 1
3. ทกั ษะการสรุปลง 1
5. พัฒนาการทาง ความเหน็
ประวัติศาสตร์ของ
ทวปี อเมริกาใต้ วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ 1. ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู
(Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
6. พฒั นาการทาง
ประวตั ศิ าสตร์ของ 3. ทักษะการสร้างความรู้
ทวปี แอฟริกา
วิธสี อนแบบกระบวนการ 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์
7. พฒั นาการทาง กลมุ่ สัมพันธ์ 2. ทักษะการสรา้ งความรู้
ประวัตศิ าสตร์ของ
ทวีปออสเตรเลยี 3. ทักษะการสรุปลง
และโอเชยี เนยี ความเหน็

วิธสี อนแบบเทคนคิ ผังกราฟกิ 1. ทักษะการวเิ คราะห์
2. ทักษะการสรุปลง
ความเหน็

8. ตามรอยอารยธรรม วธิ สี อนแบบกระบวนการ 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู 1
ตะวนั ตกรอบโลก กลมุ่ สมั พันธ์ 2. ทักษะการวเิ คราะห์
3. ทักษะการสรา้ งความรู้

4. ทักษะการสรปุ ลง
ความเห็น

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัด วธิ ีสอน/กระบวนการจดั การ ทกั ษะการคดิ เวลา
การเรยี นรู้ เรียนรู้
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 (ชั่วโมง)
ความขัดแย้งและ
ความรว่ มมือของโลก 1. สงครามโลกครั้งที่ 1 วิธสี อนแบบ SQ3R 1. ทักษะการรวบรวมข้อมลู 1
ในครสิ ต์ศตวรรษท่ี และสงครามโลก 2. ทักษะการวเิ คราะห์
20 ถงึ ปัจจบุ นั ครั้งท่ี 2
3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้

2. ผลกระทบของ วธิ สี อนแบบ SQ3R 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู 1

สงครามโลกครงั้ ที่ 1 2. ทักษะการวเิ คราะห์

และสงครามโลก 3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้
ครั้งท่ี 2

3. สาเหตกุ ารเกิด วธิ ีสอนโดยใชเ้ ทคนคิ พยากรณ์ 1. ทักษะการวเิ คราะห์ 1
สงครามเยน็ 2. ทกั ษะการสรา้ งความรู้

4. ผลกระทบของ วิธีสอนโดยใช้เทคนิคพยากรณ์ 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1
สงครามเย็น 1
2. ทกั ษะการสร้างความรู้
5. องคก์ ารความ 1
รว่ มมือระหวา่ ง วธิ สี อนแบบโมเดลซปิ ปา 1. ทักษะการรวบรวมข้อมลู
ประเทศ (CIPPA Model) 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์
3. ทักษะการสรา้ งความรู้
6. บทบาทสำคญั ของ
องค์การความ 4. ทักษะการสรุปลง
ร่วมมือระหวา่ ง ความเหน็
ประเทศ
วิธสี อนแบบโมเดลซิปปา 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู
(CIPPA Model) 2. ทักษะการวเิ คราะห์
3. ทกั ษะการสรา้ งความรู้

4. ทกั ษะการสรุปลง
ความเห็น

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3
รหัสวิชา ส………
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา……….
เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 เรอื่ งท่ี 3 พัฒนาการดา้ นเศรษฐกิจและสังคม

1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มคี วามรกั ความภมู ิใจและธำรง
ความเป็นไทย

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
พัฒนาการดา้ นเศรษฐกิจและสังคมของไทยในสมยั ประชาธปิ ไตย ส่งผลตอ่ ความมน่ั คงและความ

เจรญิ รงุ่ เรอื งของไทย

3. ตัวช้วี ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 ตัวชวี้ ัด
ส 4.1 ม.3/1 วเิ คราะหเ์ รอื่ งราวเหตุการณส์ ำคญั ทางประวตั ิศาสตรไ์ ดอ้ ย่างมเี หตุผลตามวธิ ีการ
ทางประวตั ิศาสตร์
ม.3/2 ใช้วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ในการศกึ ษาเรอื่ งราวต่างๆ ทตี่ นสนใจ

3.2 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) วิเคราะหพ์ ัฒนาการดา้ นเศรษฐกิจของไทยสมยั ประชาธิปไตยได้
2) วิเคราะหพ์ ัฒนาการด้านสงั คมของไทยสมยั ประชาธิปไตยได้

4. สาระการเรยี นรู้
1) พฒั นาการของไทยในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ทางดา้ นสงั คมและเศรษฐกจิ ตามช่วงสมยั ต่างๆ

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการรวบรวมข้อมลู

2) ทักษะการวเิ คราะห์
3) ทกั ษะการสร้างความรู้
4) ทกั ษะการสรุปลงความเหน็
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้
1. มีวนิ ยั 4. มีความรบั ผดิ ชอบ
3. มุ่งม่ันในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครูนำบัตรคำขวญั ทางเศรษฐกิจ ยคุ จอมพล ป. พิบลู สงคราม มาตดิ ใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน

หนา้ ชน้ั เรยี น ดงั นี้

ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจรญิ

2. ครูใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั คำขวญั ดงั กลา่ ว แลว้ ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรุป
ความหมายของคำขวญั และลักษณะของเศรษฐกิจยคุ จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม

3. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
นักเรียนคิดว่า เศรษฐกจิ มีความสำคญั ตอ่ การพัฒนาประเทศอย่างไรบา้ ง
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)

4. ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม กำหนดหมายเลขประจำตวั 1-4 ตามลำดับ เรียกกลุ่มน้ีวา่ กลมุ่ บา้ น แล้ว
ให้นกั เรียนท่มี ีหมายเลขเดยี วกนั มารวมกันเปน็ กลมุ่ ใหม่ เรียกกลุ่มนว้ี ่า กลุ่มผูเ้ ชี่ยวชาญ

➢ หมายเลข 1 ศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง สภาพทางเศรษฐกจิ ไทยแบบทุนนิยมโดยรัฐ
➢ หมายเลข 2 ศึกษาความรู้เรอ่ื ง สภาพทางเศรษฐกิจไทยภายใตแ้ ผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สงั คมแห่งชาติ ก่อนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
➢ หมายเลข 3 ศึกษาความรู้เรอ่ื ง สภาพทางเศรษฐกจิ ไทยภายใตแ้ ผนพัฒนาเศรษฐกจิ และ
สังคมแหง่ ชาติ หลังเหตกุ ารณ์ 14 ตุลาคม 2516 จนถึงปัจจบุ ัน
➢ หมายเลข 4 ศึกษาความรู้เรือ่ ง พฒั นาการด้านสังคม
แลว้ บนั ทึกความรูท้ ี่ได้ลงในแบบบนั ทึกการอา่ น
5. นกั เรยี นกลมุ่ ผู้เชยี่ วชาญกลบั เขา้ ส่กู ล่มุ บ้าน นำความรทู้ ี่ไดจ้ ากการศึกษามาเลา่ ให้เพ่อื นฟงั ผลดั กนั
ซกั ถามขอ้ สงสยั และผลดั กันอธิบายจนทกุ คนมคี วามเขา้ ใจชัดเจน
6. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลการศึกษาหน้าช้ันเรยี น ครแู ละเพอื่ นนกั เรียน
ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและให้ขอ้ เสนอแนะ
7. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ข้อ 1-3
1) ถา้ นกั เรียนเปน็ รฐั บาล แตไ่ มส่ ามารถแกป้ ญั หาเศรษฐกจิ ได้ นกั เรยี นจะทำอยา่ งไร
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน)
2) ปัจจัยใดทเ่ี ปน็ อปุ สรรคตอ่ การพัฒนาเศรษฐกจิ ของไทยสมัยประชาธิปไตย
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครูผูส้ อน)
3) พัฒนาการดา้ นสังคมไทยสมยั ประชาธปิ ไตย มลี ักษณะเป็นอย่างไร
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครผู ูส้ อน)
8. นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั สรปุ ความรเู้ รอื่ ง พฒั นาการดา้ นเศรษฐกจิ และสังคมสมยั ประชาธปิ ไตย

8. การวัดและประเมนิ ผล

วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์
แบบบันทกึ การอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ

วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์
สังเกตความมวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มั่นใน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
การทำงาน และมีความรบั ผิดชอบ

9.ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้

9.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี น ประวัติศาสตร์ ม.3
2) หนังสือคน้ คว้าเพ่ิมเตมิ
(1) คณะกรรมการชำระประวตั ศิ าสตรไ์ ทย, สำนกั นายกรัฐมนตร.ี (2525). ประวัตศิ าสตร์
กรุงรตั นโกสนิ ทร์ เลม่ 3 พ.ศ. 2547-ปจั จบุ นั . กรุงเทพมหานคร : คณะกรรมการชำระ
ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย สำนักนายกรัฐมนตรี.
(2) ชาญวทิ ย์ เกษตรศริ .ิ (2551). ประวตั ิการเมืองไทย พ.ศ. 2475-2500. กรงุ เทพมหานคร
: มูลนธิ โิ ครงการตำราสงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์.
(3) ปิยนาถ บนุ นาค. (2550). ประวตั ศิ าสตร์ไทยสมัยใหม่ (ตง้ั แต่การทำสนธสิ ัญญาเบาวร์ งิ
ถงึ “เหตกุ ารณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516”). กรงุ เทพมหานคร : โครงการเผยแพรผ่ ลงาน
วิชาการคณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
3) บตั รคำขวัญ

9.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
- https://sites.google.com/site/indeximg/1

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………………………….ครผู สู้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหน่ง …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ.........................................
(.......................................................)
ตำแหน่ง ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 รายวิชาประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3
รหัสวิชา ส………
ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา……….
เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื งที่ 4 พฒั นาการดา้ นความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ
และบทบาทของไทยสมัยประชาธิปไตยตอ่ สังคมโลก

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย มคี วามรกั ความภมู ิใจและธำรง
ความเป็นไทย

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
พฒั นาการด้านความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งประเทศของไทยในสมัยประชาธปิ ไตยมีปจั จยั ท่ีสง่ ผลตอ่ ความม่ันคง

และความเจรญิ ร่งุ เรอื งของไทย

3. ตัวชีว้ ดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 ตวั ชวี้ ัด
ส 4.3 ม.3/1 วเิ คราะห์พฒั นาการของไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ในด้านตา่ งๆ
ม.3/2 วเิ คราะหป์ ัจจัยทส่ี ่งผลตอ่ ความม่ันคงและความเจริญรุง่ เรอื งของไทยสมัย
รัตนโกสนิ ทร์
ม.3/4 วิเคราะหบ์ ทบาทของไทยในสมัยประชาธิปไตย

3.2 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) วเิ คราะหพ์ ฒั นาการดา้ นความสมั พันธร์ ะหว่างประเทศของไทยสมัยประชาธปิ ไตยได้

4. สาระการเรยี นรู้
1) พัฒนาการของไทยในสมัยรัตนโกสนิ ทรท์ างดา้ นความสัมพนั ธร์ ะหว่างประเทศตามชว่ งสมัยต่างๆ
2) บทบาทของไทยตั้งแต่เปลย่ี นแปลงการปกครองถงึ ปจั จุบันในสังคมโลก

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ

1) ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู
2) ทักษะการวเิ คราะห์
3) ทกั ษะการสรา้ งความรู้
4) ทักษะการสรุปลงความเห็น
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ

6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้
1. มีวินัย 4. มีความรับผดิ ชอบ
3. มุ่งมั่นในการทำงาน

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครใู ห้นกั เรยี นอา่ นคำประกาศของจอมพล ป. พบิ ลู สงคราม ในการให้ญป่ี นุ่ เดนิ ทางผ่านไทยไปยงั

พม่าหรือให้นกั เรียนดภู าพยนตร์เรอ่ื ง ยุวชนทหาร เปดิ เทอมไปรบ
2. ครูให้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นวา่ ถา้ นักเรียนอย่ใู นเหตุการณ์ดงั กลา่ ว นักเรยี นจะทำ

อยา่ งไร
3. ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ (กลมุ่ เดมิ ) ร่วมกันศึกษาความรเู้ รอื่ ง พัฒนาการดา้ นความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง

ประเทศและบทบาทของไทยสมัยประชาธปิ ไตยต่อสงั คมโลก จากหนงั สือเรยี น และหนังสอื คน้ ควา้ เพิ่มเติม
แล้วบนั ทกึ ความรทู้ ่ีได้ลงในแบบบนั ทกึ การอา่ น

4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันทำใบงานท่ี 4.3 เรอื่ ง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ เสร็จแล้วชว่ ยกนั
ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง หากมีข้อบกพรอ่ งใหช้ ว่ ยกันแกไ้ ขและเพม่ิ เตมิ ให้สมบรู ณ์ จากน้นั นำสง่ ครู

5. นกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคิด

ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งไทยกบั ต่างประเทศในสมยั สงครามโลกครัง้ ท่ี 2 เปน็ อยา่ งไร
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน)

6. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั สรปุ ความรู้เรอ่ื ง พฒั นาการด้านความสัมพนั ธร์ ะหว่างประเทศ และ
บทบาทของไทยสมัยประชาธปิ ไตยต่อสังคมโลก

7. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 4.4 เรื่อง การสรปุ ความสมั พันธ์ระหวา่ งประเทศ และใบงานท่ี 4.5 เรอ่ื ง
การสรปุ บทบาทของไทยสมยั ประชาธปิ ไตยตอ่ สงั คมโลก เสร็จแลว้ นำส่งครู

8. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด

ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งไทยกบั ต่างประเทศในสมยั ประชาธิปไตย มีลักษณะเปน็ อย่างไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครผู ้สู อน)

9. ตัวแทนของแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอใบงานท่ี 4.4 -4.5 จากน้ันครูและนักเรียนชว่ ยกนั เฉลย
คำตอบในใบงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ

8. การวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑ์
วธิ ีการ
ใบงานที่ 4.3 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 4.3

ตรวจใบงานที่ 4.4 ใบงานที่ 4.4 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 4.5 ใบงานท่ี 4.5 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน แบบบนั ทึกการอ่าน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สังเกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่ัน แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ในการทำงาน และมีความ

รับผดิ ชอบ

9.สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้

9.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี น ประวตั ศิ าสตร์ ม.3
2) หนังสือค้นคว้าเพ่มิ เติม
(1) คณะกรรมการชำระประวตั ศิ าสตรไ์ ทย, สำนกั นายกรฐั มนตรี. (2525). ประวตั ศิ าสตร์
กรุงรตั นโกสินทร์ เล่ม 3 พ.ศ. 2547-ปัจจบุ นั . กรงุ เทพมหานคร : คณะกรรมการชำระ
ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย สำนกั นายกรัฐมนตรี.
(2) ชาญวทิ ย์ เกษตรศิร.ิ (2551). ประวตั ิการเมอื งไทย พ.ศ. 2475-2500. กรุงเทพมหานคร
: มูลนธิ โิ ครงการตำราสังคมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์.
(3) ปยิ นาถ บนุ นาค. (2550). ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมยั ใหม่ (ตงั้ แต่การทำสนธิสัญญาเบาวร์ งิ
ถึง “เหตุการณ์ 14 ตลุ าคม พ.ศ. 2516”). กรงุ เทพมหานคร : โครงการเผยแพร่ผลงาน
วิชาการคณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย.
3) ประกาศของจอมพล ป. พบิ ูลสงคราม หรือภาพยนตร์เรอื่ ง ยุวชนทหาร เปดิ เทอมไปรบ
4) ใบงานที่ 4.3 เรื่อง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ
5) ใบงานที่ 4.4 เรื่อง การสรุปความสัมพันธร์ ะหวา่ งประเทศ
6) ใบงานท่ี 4.5 เรื่อง การสรุปบทบาทของไทยสมัยประชาธปิ ไตยต่อสงั คมโลก

9.2 แหล่งการเรียนรู้
-

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ …………………………………………….ครผู ูส้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื .........................................
(.......................................................)
ตำแหน่ง ......................................................
…………/……………./……………

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 รายวิชาประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3
รหสั วชิ า ส………
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา……….
เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ งท่ี 5 ไทยกับการเข้าร่วมสงครามโลกครัง้ ที่ 2

1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและธำรง
ความเป็นไทย

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การเข้ารว่ มสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 ของไทยมีสาเหตุหลายประการ และส่งผลต่อการพัฒนาของไทยใน

สมัยประชาธิปไตย

3. ตัวชว้ี ดั /จดุ ประสงค์การเรียนรู้

3.1 ตวั ชี้วัด
ส 4.3 ม.3/1 วิเคราะห์พัฒนาการของไทยสมัยรตั นโกสินทร์ในดา้ นตา่ งๆ
ม.3/2 วิเคราะห์ปจั จยั ทีส่ ง่ ผลตอ่ ความมน่ั คงและความเจริญรุ่งเรอื งของไทยสมยั
รตั นโกสินทร์

3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
1) ระบุเหตผุ ลทีไ่ ทยเข้ารว่ มสงครามโลกครัง้ ท่ี 2 ได้
2) สรปุ ผลท่ไี ทยไดร้ ับจากการเขา้ ร่วมสงครามโลกครัง้ ที่ 2 ได้

4. สาระการเรยี นรู้
เหตกุ ารณส์ ำคญั สมยั รัตนโกสนิ ทร์ท่ีมีผลต่อการพัฒนาชาตไิ ทย เช่น การเข้ารว่ มสงครามโลกครง้ั ที่ 2

โดยวิเคราะหส์ าเหตุ ปัจจยั และผลของเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการรวบรวมข้อมลู

2) ทักษะการวเิ คราะห์
3) ทักษะการสร้างความรู้
4) ทักษะการสรุปลงความเหน็
5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 2. ใฝ่เรียนรู้
1. มวี นิ ยั 4. รักความเปน็ ไทย
3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

นอกจากการทำสงครามเพอื่ ปกปอ้ งประเทศในสมยั กรงุ ศรีอยุธยา และกรงุ ธนบรุ ีแลว้
ไทยยังเข้ารว่ มสงครามใดอีกบ้าง

(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน)

2. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนบทเรียนสำเรจ็ รูป เรอ่ื ง ไทยกบั การเขา้ รว่ มสงครามโลก
ครง้ั ที่ 2 เพื่อประเมินความรู้เดมิ ของนักเรียน

3. ครแู จ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรใู้ ห้นักเรียนทราบ แลว้ ครอู ธิบายใหน้ ักเรียนเขา้ ใจวิธีการเรยี นด้วย
บทเรยี นสำเรจ็ รปู โดยใหน้ ักเรยี นปฏบิ ตั ิตามคำสั่งในบทเรยี นสำเร็จรปู อยา่ งเครง่ ครัด

4. ครูใหน้ กั เรียนดวู ิดที ศั น์ เรอื่ ง ขบวนการเสรีไทย แลว้ ให้นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็
5. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

เพราะเหตใุ ด ไทยจึงเขา้ รว่ มสงครามโลกครัง้ ที่ 2
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน)

6. ครูแจกบทเรียนสำเร็จรูปใหน้ กั เรียน คนละ 1 ชดุ แลว้ ครเู นน้ ย้ำใหน้ กั เรยี นปฏิบตั ิตามคำสัง่ ใน
บทเรยี นสำเรจ็ รปู อยา่ งเครง่ ครัด

7. นกั เรยี นแต่ละคนศกึ ษาความรู้และตอบคำถามในบทเรยี นสำเรจ็ รปู (ครกู ำหนดเวลาประมาณ 30
นาที หรอื ตามความเหมาะสม)

8. ครสู ุ่มเรียกนกั เรยี นออกมาตอบคำถามจากบทเรยี นสำเรจ็ รูปในแตล่ ะกรอบ แลว้ ครูและนกั เรียน
ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง

9. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรเู้ รื่อง ไทยกับการเขา้ ร่วมสงครามโลกคร้งั ที่ 2
10. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด

การเขา้ รว่ มสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่งผลอยา่ งไรกบั ประเทศไทยบา้ ง
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
11. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนบทเรยี นสำเร็จรปู เรื่อง ไทยกบั การเข้าร่วมสงครามโลกครั้งท่ี 2
โดยให้นักเรยี นตรวจสอบความถกู ตอ้ ง แลว้ ครูประเมนิ ผลการเรยี นของนกั เรียน
12. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด
ถ้าเกดิ สงครามขึ้นในอนาคต นกั เรียนคดิ ว่า ไทยควรเขา้ รว่ มสงครามหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผูส้ อน)

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ศิ

8. การวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
วิธีการ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
สังเกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมั่นใน
การทำงาน และมีความรับผดิ ชอบ

9.สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

9.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) วีดิทศั น์เร่อื ง ขบวนการเสรีไทย
2) บทเรียนสำเรจ็ รปู เรอ่ื ง ไทยกบั การเข้าร่วมสงครามโลกครง้ั ท่ี 2
3) แบบทดสอบกอ่ นเรียน - หลังเรยี น เรือ่ ง ไทยกับการเข้ารว่ มสงครามโลกครง้ั ท่ี 2

9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
-

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ศิ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ …………………………………………….ครผู ูส้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื .........................................
(.......................................................)
ตำแหน่ง ......................................................
…………/……………./……………

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4

สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ าประวัตศิ าสตร์

รหสั วชิ า ส……… ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3

ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา……….

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื งท่ี 6 บทบาทของพระมหากษตั ริย์ไทยสมัยประชาธปิ ไตย เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาไทย มคี วามรัก ความภมู ิใจและธำรง
ความเป็นไทย

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
พระมหากษตั รยิ ์ไทยในสมยั ประชาธิปไตยมีบทบาทสำคัญ ซง่ึ สง่ ผลตอ่ ความม่ันคงและความเจริญร่งุ เรือง

ของไทย

3. ตัวช้ีวดั /จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 ตวั ชีว้ ดั
ส 4.3 ม.3/1 วเิ คราะห์พฒั นาการของไทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์ในด้านตา่ งๆ
ม.3/2 วเิ คราะห์ปจั จยั ที่ส่งผลตอ่ ความมัน่ คงและความเจรญิ รงุ่ เรอื งของไทยสมัย
รัตนโกสินทร์

3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
1) อธบิ ายพระราชกรณียกิจท่ีสำคญั ของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยสมยั ประชาธปิ ไตยได้
2) วิเคราะห์บทบาทของพระมหากษัตรยิ ์ไทยสมัยประชาธปิ ไตยได้

4. สาระการเรียนรู้
1) บทบาทของพระมหากษตั ริยใ์ นราชวงศ์จักรใี นการสร้างสรรค์ความเจรญิ และความมัน่ คงของชาติ

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการรวบรวมข้อมลู
2) ทักษะการวเิ คราะห์

3) ทักษะการสรุปลงความเห็น
4) ทักษะการสรา้ งความรู้
5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 2. มีวนิ ยั
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 4. มุง่ มนั่ ในการทำงาน
3. ใฝเ่ รยี นรู้
5. มีความรับผิดชอบ

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครูให้นักเรียนดภู าพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ล พระอฐั มรามาธิบดินทร

(รัชกาลท่ี 8) และพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช (รชั กาลท่ี 9) แลว้ ครูให้นักเรียนรว่ มกนั
แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั พระราชกรณยี กจิ ทีส่ ำคัญของทง้ั 2 พระองค์

2. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ (กลมุ่ เดมิ ) ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ รอื่ ง บทบาทของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยใน
ราชวงศจ์ ักรีต่อความมน่ั คงและความเจรญิ ร่งุ เรอื งของชาตไิ ทย จาก หนังสือเรยี น หนังสือค้นคว้าเพม่ิ เตมิ
หอ้ งสมุด และแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ แลว้ บนั ทกึ ความรูท้ ไี่ ด้ลงในแบบบันทกึ การอ่าน

3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ผลดั กนั อภปิ รายความรู้ทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
1) พระราชประวัติ
2) พระราชกรณียกจิ

4. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด

พระราชกรณยี กิจทีส่ ำคัญของรชั กาลท่ี 8 และรัชกาลที่ 9ไดแ้ ก่อะไรบ้าง
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

5. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั สรปุ ความร้เู รอ่ื ง บทบาทของพระมหากษัตรยิ ์ไทยในราชวงศ์จกั รตี ่อความ
มน่ั คงและความเจรญิ รงุ่ เรืองของชาตไิ ทย

6. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันทำใบงานท่ี 4.6 เรอ่ื ง พระราชกรณียกจิ ที่สำคญั เสรจ็ แลว้ นำส่งครู
7. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด ข้อ 1-2

1) พระมหากษตั ริย์ไทยสมัยประชาธิปไตยมบี ทบาทอยา่ งไรในการสรา้ งความม่ันคง
และความเจรญิ รุ่งเรอื งของชาติ
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินจิ ของครผู ้สู อน)

2) พระราชดำริของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดชเก่ียวกับ “ทฤษฎี
ใหม”่ จะเกิดประโยชน์กับใครมากทส่ี ดุ
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครผู ูส้ อน)

8. นักเรยี นทุกคนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4

ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั ทำรายงาน เร่อื ง พัฒนาการทางประวัตศิ าสตรไ์ ทย
สมัยประชาธิปไตย โดยให้ครอบคลมุ ประเดน็ ตามทีก่ ำหนด ดังน้ี

1) การวเิ คราะหพ์ ฒั นาการของไทยสมัยประชาธิปไตยในด้านตา่ งๆ
2) การวิเคราะหป์ ัจจยั ทส่ี ่งผลตอ่ ความมนั่ คงและความเจรญิ รงุ่ เรอื งของไทยสมยั ประชาธปิ ไตย
3) การวิเคราะห์บทบาทของพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยสมยั ประชาธปิ ไตย

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ

8. การวัดและประเมินผล

วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 4.6 ใบงานที่ 4.6 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มี แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
วนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

และมีความรบั ผดิ ชอบ

ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการ แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4
เรยี นรู้ท่ี 4

ตรวจรายงาน เรอ่ื ง พฒั นาการทาง แบบประเมนิ รายงาน เรือ่ ง พฒั นาการทาง
ประวัตศิ าสตร์ไทยสมยั ประชาธปิ ไตย ประวัตศิ าสตรไ์ ทยสมยั ประชาธิปไตย

9.สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้

9.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี น ประวตั ิศาสตร์ ม.3
2) หนังสือค้นควา้ เพมิ่ เตมิ
(1) คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย, สำนกั นายกรฐั มนตร.ี (2525). ประวัติศาสตร์
กรงุ รตั นโกสินทร์ เล่ม 3 พ.ศ. 2547-ปจั จุบนั . กรุงเทพมหานคร : คณะกรรมการชำระ
ประวัติศาสตร์ไทย สำนกั นายกรัฐมนตร.ี
(2) ชาญวทิ ย์ เกษตรศิริ. (2551). ประวตั ิการเมืองไทย พ.ศ. 2475-2500. กรุงเทพมหานคร
: มลู นธิ โิ ครงการตำราสังคมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์.
(3) ปิยนาถ บุนนาค. (2550). ประวตั ิศาสตร์ไทยสมยั ใหม่ (ตงั้ แต่การทำสนธิสัญญาเบาวร์ งิ
ถงึ “เหตกุ ารณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516”). กรุงเทพมหานคร : โครงการเผยแพร่ผลงาน
วิชาการคณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั .
3) บัตรภาพ
4) ใบงานท่ี 4.6 เรอ่ื ง พระราชกรณียกิจทีส่ ำคัญ

9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งสมุด
2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ
- http://th.wikipedia.org/wiki/พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหิดล_
พระอฐั มรามาธบิ ดนิ ทร
- http://th.wikipedia.org/.../พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ศิ

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมนิ รายงาน เรอ่ื ง พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมยั ประชาธปิ ไตย

ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32

1 การวิเคราะหพ์ ฒั นาการของไทยสมยั
ประชาธปิ ไตยในดา้ นตา่ งๆ

2 การวเิ คราะหป์ จั จยั ท่สี ง่ ผลตอ่ ความม่ันคงและ
ความเจรญิ รงุ่ เรอื งของไทยสมยั ประชาธปิ ไตย

3 การวเิ คราะหบ์ ทบาทของพระมหากษัตรยิ ไ์ ทย
สมยั ประชาธปิ ไตย

รวม

ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ดีมาก = 4 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ดี = 3 คะแนน 11 - 12 ดีมาก

พอใช้ = 2 คะแนน 9 - 10 ดี

ปรับปรงุ = 1 คะแนน 6 - 8 พอใช้

ต่ากวา่ 6 ปรับปรงุ

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ

บัตรภาพ

พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหา พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิ
อานนั ทมหดิ ล พลอดลุ ยเดช(รชั กาลที่ 9)

พระอฐั มรามาธบิ ดนิ ทร (รชั กาลที่ 8)

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ …………………………………………….ครผู ูส้ อน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื .........................................
(.......................................................)
ตำแหน่ง ......................................................
…………/……………./……………

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 รายวิชาประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
รหสั วิชา ส………
ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา……….
เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอ่ื งท่ี 1 การสร้างสรรคภ์ มู ปิ ญั ญาและวฒั นธรรมไทย
สมัยรัตนโกสินทร์

1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มคี วามรกั ความภูมิใจและธำรง
ความเปน็ ไทย

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ภมู ิปญั ญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรตั นโกสินทร์มอี ิทธพิ ลตอ่ การพัฒนาชาติไทย ทำใหค้ นไทยเกดิ ความ

ภาคภมู ใิ จ เห็นคณุ ค่า และชว่ ยกันอนรุ ักษ์ไว้

3. ตวั ชีว้ ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 ตัวช้ีวดั
ส 4.3 ม.3/3 วเิ คราะห์ภมู ิปญั ญาและวฒั นธรรมไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ และอิทธพิ ลต่อการ
พัฒนาชาติไทย

3.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1) อธบิ ายความหมายของภูมปิ ัญญาและวฒั นธรรมไทยได้
2) สรุปปัจจยั พน้ื ฐานทม่ี ีอทิ ธพิ ลตอ่ การสรา้ งสรรค์ภมู ิปัญญาและวัฒนธรรมไทยได้
3) ยกตวั อย่างบุคคลและผลงานในการสรา้ งสรรคภ์ ูมปิ ญั ญาและวฒั นธรรมไทยสมยั รตั นโกสินทร์ได้

4. สาระการเรยี นรู้
ภมู ปิ ญั ญาและวัฒนธรรมไทยในสมยั รตั นโกสินทรท์ ี่มีอทิ ธพิ ลต่อการพัฒนาชาตไิ ทยจนถงึ ปัจจุบัน

โดยเฉพาะพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มหิตลาธเิ บศรรามาธบิ ดี จกั รีนฤบดินทร
สยามินทราธริ าช บรมนาถบพติ ร และสมเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชินนี าถ

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร

5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู
2) ทกั ษะการวเิ คราะห์
3) ทักษะการสรปุ ลงความเหน็
4) ทกั ษะการสร้างความรู้

5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทิศ

6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุง่ มัน่ ในการทำงาน

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
1.นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5
2. ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือเกง่ ปานกลางคอ่ นข้างเก่ง

ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และอ่อน
3. ครูนำภาพตวั อย่างภมู ปิ ญั ญาไทยและภูมปิ ัญญาต่างชาติ มาให้นักเรยี นดู แลว้ ให้นักเรียนวิเคราะห์

ภาพ และตอบคำถามต่อไปน้ี
➢ ภาพใดเปน็ ภาพเกยี่ วกับภูมปิ ัญญาไทย
➢ ภาพใดเป็นภาพเกี่ยวกบั ภมู ปิ ญั ญาตา่ งชาติ
➢ นักเรียนทราบไดอ้ ย่างไรว่า ภาพดงั กล่าวเปน็ ภาพเกีย่ วกับภมู ปิ ญั ญาไทย

4. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด

นักเรยี นคดิ ว่า เอกลักษณข์ องภมู ปิ ัญญาไทย คอื อะไร
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินจิ ของครูผสู้ อน)
5. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ความหมายของภมู ิปญั ญาและวัฒนธรรมไทย
และปจั จยั พืน้ ฐานทมี่ ีอทิ ธพิ ลต่อการสรา้ งสรรคภ์ มู ปิ ัญญาและวฒั นธรรมไทย จากหนงั สอื เรยี น หนงั สอื คน้ คว้า
เพิ่มเติม หอ้ งสมดุ และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ แล้วชว่ ยกนั ทำใบงานที่ 5.1 เร่อื ง ภมู ปิ ญั ญาและวฒั นธรรม
ไทย เสรจ็ แลว้ นำสง่ ครู
6. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปความร้เู ร่ือง ความหมายของภมู ิปัญญาและวัฒนธรรมไทย และปัจจยั
พ้ืนฐานท่มี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การสรา้ งสรรคภ์ ูมปิ ญั ญาและวฒั นธรรมไทย
7. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด

ถา้ นักเรียนจะทำโครงงาน ภมู ิปญั ญาในการแกป้ ญั หาส่ิงแวดลอ้ ม ควรเรมิ่ ต้นอย่างไร
(ควรเลอื กหวั ข้อ หรอื ประเดน็ ปญั หาท่ตี ้องการศกึ ษารว่ มกัน)

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ

8. ครอู ธบิ ายขั้นตอนการทำโครงงานใหน้ กั เรยี นฟังอยา่ งคร่าวๆ

ครมู อบหมายให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มสำรวจความสนใจของสมาชิกในกลมุ่ เกี่ยวกบั ภมู ปิ ญั ญาหรอื

วัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสนิ ทรท์ ีม่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ การพัฒนาชาตไิ ทย

จากนั้นเลอื กภูมปิ ญั ญามา 1 เรือ่ ง เพื่อศกึ ษาและทำโครงงานรว่ มกนั

เรอื่ ง ภมู ปิ ัญญาหรอื วัฒนธรรมไทย สมยั รตั นโกสินทรท์ มี่ อี ทิ ธพิ ลต่อการพัฒนาชาติไทย

โดยใหค้ รอบคลุมประเด็นตามทก่ี ำหนด ดังนี้

1) การเขยี นโครงงาน 2) การดำเนนิ งานตามโครงงาน

3) การบันทึกขอ้ มลู และหลักฐานประกอบ 4) การเขียนรายงานโครงงาน

9. ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันศึกษาความรู้เรอื่ ง ตัวอย่างบุคคลสำคญั ในการสรา้ งสรรค์ภมู ิปัญญา

และวฒั นธรรมไทย จากหนังสอื เรียน หนงั สอื คน้ ควา้ เพ่มิ เติม หอ้ งสมุด และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ แล้วนำ

ความรู้ที่ได้จากการศกึ ษามาบันทึกลงในแบบบันทึกการอ่าน แล้วรว่ มกันสรุปสาระสำคญั

10. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

นักเรยี นคิดว่า ถา้ ไมม่ ีบคุ คลเหล่านีช้ ่วยกนั อนรุ ักษภ์ มู ปิ ญั ญาและวัฒนธรรมไทยจะเกดิ ผลอย่างไร

(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผ้สู อน)

11. ครแู จกใบความรู้เร่อื ง ตวั อยา่ งการเขียนโครงงาน ใหน้ กั เรยี นกลมุ่ ละ 1 ชดุ แล้วให้นกั เรยี นแต่ละ

กล่มุ ร่วมกันศึกษาความรู้จากใบความรู้ ผลัดกนั ซกั ถามหากมีข้อสงสยั และผลดั กนั อธิบายจนทกุ คนมีความ

เขา้ ใจชัดเจน จากนนั้ ครอู ธิบายความรูเ้ กยี่ วกับการทำโครงงานเพ่ิมเตมิ ใหน้ ักเรียนฟงั เพ่อื ใหน้ ักเรียนมคี วามรู้

ความเขา้ ใจมากย่ิงข้ึน

12. ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกลุม่ ชว่ ยกนั กำหนดจดุ มุง่ หมายในการทำโครงงาน

13. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเก่ยี วกับข้นั ตอนการทำโครงงานภูมิปัญญาในการแกป้ ัญหา

สงิ่ แวดลอ้ ม และศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ตวั อย่างการสรา้ งสรรคภ์ มู ิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์

จากหนงั สอื เรียน หนงั สอื คน้ ควา้ เพิ่มเตมิ ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ แลว้ รว่ มกนั อภิปราย

แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพอ่ื ใชเ้ ปน็ แนวทางในการทำโครงงานของกลุม่ ตนเอง

14. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วางแผนการทำโครงงานตามจดุ มงุ่ หมายทก่ี ำหนด แล้วเขียนเคา้ โครงของ

โครงงานให้มอี งค์ประกอบครบถว้ น ตามตัวอยา่ งที่ได้ศึกษาจากใบความรเู้ รื่อง ตัวอย่างการเขียนโครงงาน ลงใน

ใบงานที่ 5.2 เร่อื ง การเขียนโครงงาน (นอกเวลาเรียน) เสร็จแล้วตรวจสอบความถกู ตอ้ ง แล้วนำส่งครูตรวจ

15. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนสักถามขอ้ สงสัย

16. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ องคค์ วามรู้

8. การวดั และประเมนิ ผล

วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์
(ประเมนิ ตามสภาพจริง)
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการ แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5
เรียนรู้ท่ี 5 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 5.1 ใบงานท่ี 5.1 ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 5.2 ใบงานท่ี 5.2 ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบบันทึกการอา่ น แบบบนั ทกึ การอ่าน

ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ศิ

วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
สงั เกตความมีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ ม่ัน แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ในการทำงาน

9.สือ่ /แหล่งการเรียนรู้

9.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียน ประวตั ศิ าสตร์ ม.3
2) หนังสือคน้ ควา้ เพิม่ เตมิ
(1) ศลิ ปากร, กรม. (2550). พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั กบั มรดกของแผ่นดนิ .
กรุงเทพมหานคร : อมรินทรพ์ ร้ินติ้งแอนดพ์ บั ลชิ ชิ่ง.
(2) ศลิ ปากร, กรม. (2547). แมข่ องแผน่ ดนิ ...ผสู้ านสมบตั ศิ ิลป์แผ่นดนิ สยาม.
กรุงเทพมหานคร : อมรินทรพ์ ริน้ ต้ิงแอนดพ์ ับลชิ ชง่ิ .
3) ใบความรู้ เรอื่ ง ตวั อยา่ งการเขียนโครงงาน
4) บัตรภาพ
5) ใบงานที่ 5.1 เรอื่ ง ภูมปิ ญั ญาและวฒั นธรรมไทย
6) ใบงานท่ี 5.2 เรือ่ ง การเขยี นโครงงาน

9.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งสมุด
2) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ
- http://www.prapayneethai.com/th/culture
- http://th.wikipedia.org/wiki/หมวดหมู่ : วัฒนธรรมไทย
- http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content...

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ศิ

ใบความรู้
ตวั อยา่ งการเขยี นโครงงาน

1. ชอ่ื โครงงาน สบื สานภมู ปิ ญั ญา “รกั ษผ์ า้ ไทยพมุ เรยี ง”

2. หลกั การและเหตผุ ล
ตาบลพมุ เรยี งเปน็ แหลง่ ทอผ้าที่มีชอื่ เสยี ง ซงึ่ มปี ระวตั ิความเปน็ มาท่ีแสดงถงึ ภมู ปิ ญั ญาบรรพบุรุษ

ทส่ี ัง่ สม และพฒั นาความร้แู ละประสบการณ์ จนทาใหก้ ลายเป็นแหล่งผลติ ผา้ ไทยท่ีมคี วามสวยงาม
ประณตี คุณภาพดี เปน็ เอกลกั ษณข์ องความเป็นไทย จงึ มีความจาเปน็ ที่คนรุ่นหลงั จะได้รว่ มมือกนั
อนรุ กั ษ์ พฒั นา และเผยแพรผ่ า้ ไทยพมุ เรียงใหเ้ ปน็ ทร่ี ู้จกั กนั อย่างกวา้ งขวาง ทัง้ ในหมู่ชาวไทยและ
ชาวต่างชาติ อนั จดั ไดว้ ่าเปน็ การรว่ มมือกนั สบื สานภมู ปิ ญั ญาไทย

3. วตั ถปุ ระสงค์
1. เพ่ือศกึ ษาประวตั คิ วามเปน็ มาของการทอผา้ ไทยในตาบลพุมเรยี ง
2. เพ่ือมสี ่วนรว่ มในการอนรุ กั ษแ์ ละเผยแพรผ่ ลงานผ้าไทยพุมเรียง

4. ผรู้ บั ผดิ ชอบ 2. เดก็ ชายเมธี จันทรเ์ ดชา
1. เด็กหญงิ นนั ทกิ า ตันจพรผล

5. ทป่ี รกึ ษาโครงงาน
อาจารยส์ ุคนธ์ สนิ ธพานนท์

6. แหลง่ ความรู้
1. หนังสอื ในห้องสมุดของโรงเรียนและห้องสมุดประชาชน
2. สถานท่ีประกอบการ
3. ผู้อาวุโสในทอ้ งถ่นิ ฯลฯ

7. สถานทด่ี าเนนิ งาน
1. แหล่งทอผ้าบรเิ วณตาบลพมุ เรียง
2. โรงเรียนศกึ ษาวทิ ยา

8. ระยะเวลาดาเนนิ การ
7 พฤศจกิ ายน พ.ศ. ..... - 16 มกราคม พ.ศ. .....

9. งบประมาณ
500 บาท

10. วธิ ดี าเนนิ การ
1. ศกึ ษาและสอบถามข้อมลู เบ้อื งต้นเก่ยี วกับภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ในตาบลพมุ เรยี งจากผู้อาวุโส
กานนั ผใู้ หญบ่ ้าน
ในท้องถิน่ ตาบลพุมเรียง
2. ขอคาแนะนาจากอาจารยท์ ่ีปรกึ ษาโครงงาน และอาจารย์กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย การงาน
อาชพี และเทคโนโลยี ศิลปะ ฯลฯ
3. เขียนโครงงาน สบื สานภมู ปิ ญั ญา “รกั ษ์ผา้ ไทยพมุ เรียง”
4. แบ่งหน้าที่ความรับผดิ ชอบในกลุม่ เพ่อื ปฏบิ ตั งิ าน
5. เตรียมวัสดุ อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื สาหรบั ปฏบิ ัติงาน
6. ปฏิบตั งิ านตามโครงงาน
7. สรปุ ผลการสบื คน้ ขอ้ มลู
8. ร่วมมอื กันวิเคราะห์หาแนวทางในการอนรุ ักษแ์ ละเผยแพรภ่ ูมิปญั ญาผ้าไทยพมุ เรยี ง
9. ดาเนนิ งานรว่ มกนั ในการอนรุ กั ษ์และเผยแพรภ่ มู ปิ ัญญาผ้าไทยพมุ เรยี ง
10. ประเมนิ ผลและสรุปผลโครงงาน
11. รายงานผลการดาเนนิ งานตามโครงงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ

11. เครอ่ื งมอื /เครอื่ งใช้
1. เทปบนั ทึกเสยี ง
2. กล้องถา่ ยรูป
3. กระดาษ ดินสอ ปากกา ยางลบ สโี ปสเตอร์ กระดาษโปสเตอร์
4. ตวั อย่างผ้าไทยชนดิ ต่างๆ ดา้ ย เขม็
5. ปา้ ยนทิ รรศการ

12. ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั
1. ไดร้ บั ความรู้เก่ยี วกบั ประวัตคิ วามเปน็ มาของผา้ ไทยพมุ เรียง ขั้นตอนการผลติ และบคุ คล

สาคญั ทเ่ี ปน็ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่
2. มสี ่วนร่วมในการอนุรกั ษ์ผา้ ไทยพุมเรียงด้วยวธิ กี ารต่างๆ ตลอดจนนาไปเผยแพรใ่ หบ้ คุ คล

นอกทอ้ งถน่ิ ไดร้ ู้จัก

ลงชือ่ หัวหน้ากลมุ่ ผูเ้ สนอโครงการ
(ด.ญ.นันทิกา ตนั จพรผล)
1 พฤศจกิ ายน พ.ศ.

ขอ้ เสนอแนะของอาจารยท์ ป่ี รกึ ษา

การออกไปสมั ภาษณบ์ ุคคลซ่งึ เปน็ ภมู ิปญั ญา หรือผผู้ ลติ ผ้าไทยพมุ เรยี ง ควรตดิ ตอ่ กบั

บคุ คลดงั กลา่ วลว่ งหน้า โดยกาหนดวัน เวลา สถานทใี่ ห้ชดั เจน และคานงึ ถงึ ความพรอ้ มของแต่

ละฝา่ ย เตรียมหัวข้อสมั ภาษณ์ เมื่อไดผ้ ลแล้ว ควรนามาสรปุ ร่วมกนั เพอื่ หาแนวทางการอนรุ กั ษ์

และเผยแพรด่ ว้ ยวิธกี ารเหมาะสม การเดนิ ทางไปควรคานงึ ถึง ความปลอดภยั ด้วย

สมาชิกทุกคนควรมีสว่ นรว่ มในการอนรุ ักษผ์ า้ ไทยพมุ เรยี ง

ลงชื่อ

(นางสุคนธ์ สนิ ธพานนท์)
อาจารย์ท่ีปรกึ ษาโครงงาน
2 พฤศจกิ ายน พ.ศ. …………...

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ศิ

บัตรภาพ

ภาพการแกะสลกั หนิ ฤาษดี ดั ตน ภาพจติ รกรรมฝาผนงั

ภาพการทอผา้ ภาพเครอื่ งตรวจวดั แผน่ ดนิ ไหว

ภาพเครอ่ื งบอกทศิ ภาพการทามมั ม่ี

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3
รหัสวชิ า ส………
ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา……….
เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรอื่ งที่ 2 การสรา้ งสรรค์ภมู ปิ ญั ญาและวฒั นธรรมไทย
สมยั รัตนโกสินทร์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มคี วามรกั ความภูมใิ จและธำรง
ความเปน็ ไทย

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การสบื ค้นภูมปิ ญั ญาและวัฒนธรรมไทยสมยั รตั นโกสินทร์ ยอ่ มทำใหเ้ กิดความภาคภูมิใจ เห็นคณุ คา่

และชว่ ยกันอนรุ ักษ์ไว้

3. ตัวชว้ี ัด/จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 ตัวช้ีวดั
ส 4.3 ม.3/3 วิเคราะห์ภูมปิ ญั ญาและวัฒนธรรมไทยสมยั รตั นโกสินทร์ และอิทธิพลตอ่ การ
พัฒนาชาติไทย

3.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1) สืบค้นภมู ปิ ัญญาในทอ้ งถนิ่ ของตนได้

4. สาระการเรียนรู้
ภูมิปญั ญาและวัฒนธรรมไทยในสมัยรัตนโกสนิ ทรท์ ี่มอี ทิ ธพิ ลตอ่ การพฒั นาชาตไิ ทยจนถึงปจั จุบัน

โดยเฉพาะพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มหติ ลาธเิ บศร รามาธบิ ดี จกั รีนฤบดินทร
สยามินทราธริ าช บรมนาถบพติ ร และสมเด็จพระนางเจา้ สิริกติ ์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 2. ใฝ่เรียนรู้
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 4. รกั ความเปน็ ไทย
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู
2) ทักษะการวเิ คราะห์
3) ทกั ษะการสร้างความรู้
4) ทกั ษะการสรปุ ลงความเห็น
5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. มีวนิ ัย

3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครใู ห้นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายเกี่ยวกับภมู ปิ ญั ญาไทยและวัฒนธรรมไทย เพอื่ ทบทวนความรู้
2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นข้อมลู ในการทำโครงงานเรอ่ื ง ภูมิปญั ญาหรอื วฒั นธรรมไทยสมัย

รัตนโกสนิ ทร์ทม่ี อี ิทธพิ ลต่อการพัฒนาชาตไิ ทยตามแผนงานท่ไี ด้กำหนดไว้ โดยครเู ปน็ ผสู้ ังเกต ติดตาม และคอย
ให้คำแนะนำ ให้นักเรียนบันทกึ ผลในการทำโครงงานอย่างเปน็ ระบบ

3. ครสู ุม่ เรียกนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรยี น โดยครแู ละเพอื่ นนักเรียนรว่ มกัน
ประเมินผลงานลงในแบบประเมนิ โครงงานและใหข้ อ้ เสนอแนะ

4. ครแู นะนำให้นกั เรียนนำขอ้ เสนอแนะไปปรับปรงุ ผลงานของตนเองเพอ่ื ใหผ้ ลงานดยี ่งิ ขนึ้
5. นักเรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ

นักเรยี นคิดว่าการทำโครงงานไดป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ ง
(ทำให้มที กั ษะในการแก้ปัญหา รู้จักวิธแี สวงหาขอ้ มลู ฝึกกระบวนการกลุ่มสมั พันธ์ มีความคิดสรา้ งสรรค์ ฝกึ

ความเป็นประชาธปิ ไตย และมีคุณลักษณะในการทำงานทด่ี ี)

6. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรเู้ รอื่ ง การสร้างสรรค์ภมู ปิ ญั ญาและวฒั นธรรมไทยสมยั
รตั นโกสนิ ทร์

7. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานโครงงาน เรอ่ื ง ภมู ิปัญญาหรือวฒั นธรรมไทยสมัย
รัตนโกสินทร์ที่มีอิทธพิ ลตอ่ การพฒั นาชาตไิ ทย หนา้ ช้นั เรยี น โดยให้ครอบคลมุ ประเดน็ ต่อไปน้ี

1) การเขียนโครงงาน
2) การดำเนนิ งานตามโครงงาน

3) การบันทึกข้อมลู และหลักฐานประกอบ
4) การเขียนรายงานโครงงาน
8. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปถงึ ผลสำเร็จ และข้อบกพร่องของการทำโครงงาน เพือ่ เป็นแนวทางใน
การพฒั นาการทำงานในโอกาสต่อไป
9. ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั คดั เลอื กผลงานทดี่ ที สี่ ุด นำมาจัดปา้ ยนเิ ทศแสดงผลงานของนักเรยี น
10. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

นักเรียนคดิ วา่ นักเรียนจะมสี ว่ นชว่ ยในการอนรุ กั ษภ์ ูมปิ ญั ญาและวัฒนธรรมไทยได้อย่างไรบา้ ง
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ ิจของครูผ้สู อน)

11. นักเรียนทำใบงานที่ 5.3 เรอ่ื ง สถาบนั พระมหากษัตรยิ ก์ บั การอนรุ ักษภ์ ูมปิ ญั ญาเพื่อพัฒนา
ชาตไิ ทย เปน็ การบ้าน เสรจ็ แล้วนำสง่ ครูผสู้ อน

12. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5

13. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสักถามข้อสงสยั
14. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปองคค์ วามรู้

8. การวัดและประเมินผล

วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 5.3 ใบงานที่ 5.3 ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่นั แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ศิ

วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการ แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5
เรยี นรูท้ ่ี 5 ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจโครงงาน เรอ่ื ง ภูมปิ ญั ญาหรอื แบบประเมนิ โครงงาน เรอ่ื ง ภูมิปญั ญาหรอื
วฒั นธรรมไทยสมยั รตั นโกสินทร์ทีม่ ี วัฒนธรรมไทยสมยั รัตนโกสินทร์ท่มี อี ทิ ธิพล
อิทธิพลตอ่ การพฒั นาชาตไิ ทย
ตอ่ การพฒั นาชาติไทย

9.สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้

9.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) ใบงานที่ 5.3 เรื่อง สถาบนั พระมหากษัตริย์กับการอนรุ ักษภ์ มู ิปญั ญาเพอ่ื พฒั นาชาติไทย

9.2 แหล่งการเรยี นรู้
---

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุม่ สาระการเรียนรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ศิ

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมนิ โครงงาน เร่อื ง ภมู ปิ ญั ญาหรอื วฒั นธรรมไทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์

ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การพฒั นาชาตไิ ทย

ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32

1 การเขยี นโครงงาน
2 การดาเนนิ งานตามโครงงาน
3 การบนั ทกึ ขอ้ มูลและหลกั ฐานประกอบ
4 การเขียนรายงานโครงงาน

รวม

ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ดมี าก = 4 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ดี = 3 คะแนน 14 - 16 ดมี าก

พอใช้ = 2 คะแนน 11 - 13 ดี

ปรับปรงุ = 1 คะแนน 8 - 10 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ

เอกสารประกอบการสอน
แบบประเมนิ โครงงาน

คาชแ้ี จง : แบบประเมินโครงงานนส้ี ามารถใหท้ ุกคนมสี ่วนในการประเมินโครงงาน คือ สมาชกิ ทกุ คนใน
กลุ่มเพ่อื นนักเรยี นกลมุ่ อนื่ อาจารย์ทป่ี รกึ ษา

ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321

1 เขียนโครงงานถูกต้องชัดเจน
2 เลอื กข้อมูลและแหล่งเรยี นรไู้ ด้เหมาะสม
3 มกี ารแบง่ หน้าที่ความรบั ผิดชอบชดั เจน
4 มีการวางแผนอย่างเปน็ ระบบ
5 มคี วามคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์
6 มกี ารดาเนนิ งานตามแผนและรายงานผลตามกาหนดเวลา
7 มีการประเมินผลและปรับปรงุ การทางาน
8 สรปุ ผลการดาเนินงานไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์
9 นาเสนอผลงานได้ครบถ้วน สื่อความหมายชดั เจน
10 มีรปู แบบการนาเสนอผลงานของโครงงานน่าสนใจ

รวม

ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /.............

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมไดต้ รงตามเป้าหมายทุกประการ เป็นแบบอยา่ งได้ ให้ 4 คะแนน
คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมได้ตรงตามเป้าหมายทุกประการ ให้ 3 คะแนน
คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมไดต้ รงตามเป้าหมายเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2

ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมไดต้ รงตามเป้าหมายเป็นบางหวั ข้อ ให้ 1

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

หมายเหตุ ปรบั ปรุงรายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมิน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ตามความเหมาะสม
36 - 40 ดมี าก

29 - 35 ดี

20 - 28 พอใช้

ตา่ กวา่ 20 ปรบั ปรุง

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 รายวิชาประวัตศิ าสตร์
สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
รหัสวิชา ส………
ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา……….
เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 เรอ่ื งท่ี 1 พัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ของทวปี ยุโรป

1. มาตรฐานการเรียนรู้

ส 4.2 เข้าใจพฒั นาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดตี จนถึงปัจจบุ นั ในด้านความสัมพนั ธแ์ ละการ
เปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณอ์ ย่างตอ่ เน่ือง ตระหนกั ถึงความสำคัญและสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบท่เี กิดข้ึน

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ทต่ี ้ัง และสภาพแวดลอ้ มทางภมู ิศาสตร์ของทวีปยุโรปสง่ ผลตอ่ พัฒนาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และ

การเมืองของทวีปยุโรป

3. ตวั ชวี้ ดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 ตวั ช้วี ดั
ส 4.3 ม.3/1 วเิ คราะห์พฒั นาการของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ในด้านตา่ งๆ

3.2 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) อธิบายความสำคญั ของท่ีตั้งและสภาพทางภูมศิ าสตรข์ องทวีปยุโรปได้

4. สาระการเรยี นรู้
1) ทต่ี ั้งและสภาพทางภมู ิศาสตรข์ องภูมิภาคต่างๆ ของโลก (ยกเวน้ เอเชีย) ท่มี ีผลตอ่ พัฒนาการ

โดยสงั เขป
2) พฒั นาการทางประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมอื งของภูมภิ าคต่างๆ ของโลก

(ยกเว้นเอเชยี ) โดยสงั เขป

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 2. ใฝ่เรยี นรู้
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการสำรวจค้นหา
2) ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มูล
3) ทักษะการวเิ คราะห์
5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มีวนิ ัย

3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
1. นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 6
2. ครใู หน้ กั เรียนดูแผนที่โลก และบตั รภาพแสดงลกั ษณะภมู ิประเทศของทวปี ยุโรป
3. ครใู หน้ ักเรยี นเลอื กภาพทส่ี นใจ แล้วเล่าความรเู้ กยี่ วกบั ภาพทีเ่ ลือกใหเ้ พอื่ นฟงั โดยใชแ้ ผนทโี่ ลก

ประกอบ
4. นักเรยี นชว่ ยกันสรุปความสำคญั ของทตี่ ้ัง และสภาพทางภมู ิศาสตร์ของทวีปยุโรปในรูปแผนผงั

ความคิด
5. นกั เรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคิด ข้อ 1-2

1) ถา้ นกั เรยี นตอ้ งการหาทำเลทต่ี ้ังเพอื่ สรา้ งทอี่ ยู่อาศัย นักเรียนจะเลอื กภูมปิ ระเทศแบบใด
(ทรี่ าบล่มุ เพราะสะดวกในการคมนาคม หากติดแม่น้ำหรอื ทะเลกจ็ ะสะดวกในการมีน้ำไว้ใช้ใน
การอุปโภคบริโภค)

2) นกั เรยี นคิดว่า ทำเลที่ตง้ั มผี ลต่อวิถีการดำเนนิ ชีวติ ของมนุษยอ์ ยา่ งไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินจิ ของครผู สู้ อน)

6. ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เกง่ ปานกลางคอ่ นข้างเก่ง
ปานกลางคอ่ นข้างออ่ น และออ่ น เรียกกลมุ่ นวี้ า่ กลุ่มบ้าน แล้วใหน้ ักเรยี นจบั สลากหัวขอ้ ที่จะตอ้ งศึกษา
เกี่ยวกบั พัฒนาการของทวีปยโุ รป ดังนี้

1) ที่ตัง้ และสภาพภูมิศาสตร์ทม่ี ีผลต่อพฒั นาการของทวีป
2) พฒั นาการด้านการเมอื งการปกครอง
3) พัฒนาการดา้ นเศรษฐกจิ
4) พฒั นาการด้านสงั คมและศลิ ปวฒั นธรรม
7. นกั เรยี นที่จบั สลากได้หวั ขอ้ เดียวกันไปรวมกนั เป็นกล่มุ ใหม่เรยี กกลมุ่ นีว้ า่ กล่มุ ผเู้ ชี่ยวชาญ แลว้ ให้
นกั เรียนกล่มุ ผเู้ ชีย่ วชาญรว่ มกนั ศกึ ษาความรู้ตามหวั ขอ้ ท่ีจบั สลากได้ จากน้นั ช่วยกันตอบคำถามใน ใบงานท่ี
6.1-6.4
8. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ ข้อ 1-2

1) นกั เรียนสนใจประวตั ศิ าสตรย์ ุโรปในเร่อื งใด เพราะเหตุใด
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน)

2) นกั เรียนคดิ ว่า เรอื่ งราวทางประวัตศิ าสตรข์ องแตล่ ะประเทศมผี ลตอ่ พฒั นาการความเจริญ
ในด้านต่างๆ อยา่ งไร (ระบมุ าเพยี ง 1 ดา้ น)
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินจิ ของครผู ูส้ อน)

9. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันศึกษาความรเู้ พ่มิ เตมิ จากสอ่ื ทค่ี รเู ตรยี มไวใ้ ห้ เชน่ วารสารทวปี ยุโรป
วีดทิ ศั นเ์ กี่ยวกบั ทวีปยุโรป หอ้ งสมุดหรอื แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ แลว้ บนั ทึกความรู้ที่ไดจ้ ากการศกึ ษาลงใน
แบบบนั ทึกการอ่าน

10. นักเรียนแต่ละกล่มุ ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคำตอบในใบงานท่ี 6.1-6.4 หากผิดพลาดหรอื
บกพร่องให้แก้ไขและเตมิ เตม็ ให้สมบูรณ์

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ

11. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด

นักเรยี นคดิ ว่า ประวัตศิ าสตรย์ ุโรปยุคใดนา่ สนใจที่สุด เพราะเหตุใด
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินิจของครผู ้สู อน)
12. นกั เรยี นกลมุ่ ผเู้ ช่ียวชาญกลบั เข้าสู่กลมุ่ บา้ น นำความรูท้ ีไ่ ดศ้ ึกษามาเลา่ ใหเ้ พอื่ นในกลมุ่ บา้ นฟัง
13. นกั เรยี นแตล่ ะคนในกลุ่มผลัดกันซักถามหากมขี อ้ สงสยั และอภิปรายรว่ มกนั จนทุกคนมคี วามเข้าใจ
ชัดเจน
14. นักเรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ

เพราะเหตใุ ด ทวปี ยุโรปในยคุ กลางจึงได้ช่อื วา่ “ยุคมดื ”
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินิจของครูผู้สอน)
15. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั สรปุ ความร้แู ต่ละหวั ข้อท่ีไดศ้ ึกษามา โดยครคู อยแนะนำเพม่ิ เติม

8. การวัดและประเมินผล

วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วย แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรียนรู้ (ประเมินตามสภาพจริง)

การเรียนรูท้ ่ี 6 ที่ 6

ตรวจใบงานที่ 6.1 ใบงานที่ 6.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 6.2
ใบงานท่ี 6.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 6.3
ใบงานท่ี 6.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 6.4
ใบงานที่ 6.4 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน
แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
สังเกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
มุ่งมัน่ ในการทำงาน
แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

9.ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้

9.1 สื่อการเรียนรู้

1) หนังสอื เรยี น ประวตั ศิ าสตร์ ม.3
2) หนงั สือคน้ ควา้ เพ่ิมเตมิ

(1) กระมล ทองธรรมชาติ และคณะ. (2545). โลกของเรา. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจรญิ

ทัศน.์
(2) วมิ ลพรรณ ภัทโรดม. (2540). ยโุ รปหลงั สงครามโลกครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร :

ศกั ดิ์โสภาการพมิ พ.์
(3) William, Roger. (2540). ทวปี ยโุ รป. (พวงนิล คำปงั สุ์ ผแู้ ปล). กรุงเทพมหานคร :

หนา้ ต่าง สโู่ ลกกว้าง.
3) วารสารทอ่ งเท่ียวทวีปยโุ รป หนงั สอื พิมพ์
4) วดี ทิ ศั น์เกีย่ วกับทวปี ยโุ รป
5) แผนท่โี ลก

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ

6) บตั รภาพ
7) ใบงานที่ 6.1 เรื่อง ทตี่ ั้งและสภาพทางภมู ศิ าสตร์ที่มีผลตอ่ พัฒนาการของทวปี ยุโรป
8) ใบงานท่ี 6.2 เรอื่ ง พฒั นาการด้านการเมอื งการปกครอง
9) ใบงานท่ี 6.3 เรอ่ื ง พัฒนาการดา้ นเศรษฐกจิ
10) ใบงานที่ 6.4 เรือ่ ง พัฒนาการดา้ นสงั คมและศิลปวฒั นธรรม
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องสมดุ
2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ

- http://th.wikipedia.org/wiki/ทวปี ยุโรป
- http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?...
- http://www.thaigoodview.com/library/.../europe_topography.html

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ

บัตรภาพ

ภาพอทุ ยานแหง่ ชาตฟิ ยอรด์ แลนด์ ภาพอา่ วบสิ เคย์

ภาพธารนา้ แขง็ ฟรานซโ์ จเซฟ ภาพแมน่ า้ ไรน์

ภาพยอดเขามงบลอ็ ง ภาพชายฝง่ั ทะเลของทวปี ยโุ รป

แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ

แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………

ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................

…………/……………./……………

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8 รายวิชาประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
รหสั วชิ า ส………
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา……….
เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 6 เรอ่ื งท่ี 2 การสร้างสรรคผ์ ลงานดา้ นต่างๆ ของทวปี ยุโรป

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

ส 4.2 เข้าใจพฒั นาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดตี จนถึงปจั จบุ นั ในด้านความสมั พนั ธแ์ ละการ
เปลีย่ นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ยา่ งตอ่ เน่ือง ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบทเ่ี กิดขึ้น

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การสรา้ งสรรค์ผลงานในด้านตา่ งๆ ของทวปี ยโุ รปสง่ ผลตอ่ พัฒนาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื ง

ของทวปี ยุโรป

3. ตวั ชีว้ ดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้

3.1 ตวั ชีว้ ดั
ส 4.2 ม.3/1 อธิบายพัฒนาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื งของภมู ิภาคตา่ งๆ ในโลก
โดยสังเขป

3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
1) สรปุ พัฒนาการดา้ นตา่ งๆ ของทวีปยุโรปได้

4. สาระการเรียนรู้
1) ทีต่ ั้งและสภาพทางภมู ิศาสตรข์ องภูมิภาคต่างๆ ของโลก (ยกเว้นเอเชยี ) ทม่ี ผี ลตอ่ พัฒนาการ

โดยสงั เขป
2) พัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ สังคม เศรษฐกจิ และการเมอื งของภูมภิ าคต่างๆ ของโลก

(ยกเวน้ เอเชยี ) โดยสงั เขป

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทกั ษะการสำรวจค้นหา
2) ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มูล
3) ทกั ษะการวเิ คราะห์
5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ

6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ทบทวนความร้เู กี่ยวกบั พัฒนาการทางประวตั ิศาสตรข์ องทวปี ยโุ รป
2. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั ทำใบงานท่ี 6.5 เร่ือง การสรปุ พัฒนาการและการสร้างสรรค์ดา้ นตา่ งๆ

ของทวปี ยุโรป
3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด

นกั เรยี นพบอทิ ธพิ ลของอารยธรรมตะวนั ตกในสงั คมไทยไดใ้ นลักษณะใด และสถานทใี่ ดบ้าง
(ในรูปแบบสถาปัตยกรรม ทั้งแบบตะวนั ตกและแบบผสมผสานกบั สถาปตั ยกรรมไทย
โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร บรเิ วณรอบเกาะรตั นโกสินทร์ ถนนราชดำเนนิ
จังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา จังหวดั ลพบรุ ี เป็นต้น)

4. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ออกมานำเสนอคำตอบในใบงานท่ี 6.5 หนา้ ช้นั เรียน ครูคอยอธบิ ายเพ่มิ เติม
และสรุปประเดน็ ที่นกั เรยี นนำเสนอ

5. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

นักเรยี นยกตวั อยา่ งสถาปตั ยกรรมในประเทศไทยทีไ่ ดร้ บั อิทธพิ ลจากอารยธรรมตะวนั ตก
พรอ้ มอธบิ ายใหช้ ัดเจน

(วัดนเิ วศนธ์ รรมประวตั ิ จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยาเป็นศิลปะแบบกอทกิ ของยโุ รป
สมัยกลางท่แี สดงความศรทั ธาตอ่ ศาสนาครสิ ต์)

6. นกั เรยี นนำผลงานในใบงานท่ี 6.5 มาจัดปา้ ยนิเทศหน้าชั้นเรยี น เพอ่ื แสดงผลงานของนกั เรยี น
7. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

พัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ สงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื งของทวปี ยโุ รปมผี ล
ตอ่ พฒั นาการของโลกในสมยั ตอ่ มาอย่างไร

(เพราะในชว่ งคริสต์ศตวรรษท่ี 16-19 ศนู ย์กลางความเจรญิ ของโลกอยใู่ นทวีปยุโรป)

แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ


Click to View FlipBook Version