แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 18 รายวชิ าประวัตศิ าสตร์
สาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
รหัสวชิ า ส………
ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา……….
เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 เรอื่ งที่ 3 สาเหตุการเกิดสงครามเยน็
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 4.2 เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถงึ ปัจจุบนั ในด้านความสมั พนั ธแ์ ละการ
เปลีย่ นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ยา่ งตอ่ เน่ือง ตระหนกั ถึงความสำคญั และสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบทเ่ี กิดขึ้น
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การเกดิ สงครามเยน็ ส่งผลกระทบต่อการดำเนนิ ชวี ิตในดา้ นต่างๆ ของมนษุ ยชาติ
3. ตัวชว้ี ัด/จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 ตวั ชี้วดั
ส 4.3 ม.3/2 วเิ คราะหผ์ ลของการเปล่ียนแปลงทนี่ ำไปสู่ความรว่ มมอื และความขดั แยง้ ใน
คริสต์ศตวรรษท่ี 20 ตลอดจนความพยายามในการขจดั ปญั หาความขดั แย้ง
3.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1) อธบิ ายสถานการณ์ของสงครามเย็นได้
2) วเิ คราะหผ์ ลกระทบของสงครามเยน็ ท่ีมตี อ่ มนุษยชาตไิ ด้
4. สาระการเรียนรู้
ความร่วมมอื และความขัดแยง้ ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เชน่ สงครามเย็น
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทกั ษะการวเิ คราะห์
2) ทักษะการสร้างความรู้
5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
5.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุง่ มั่นในการทำงาน
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มนำความรทู้ ไี่ ดจ้ ากการศึกษาเก่ียวกบั สงครามเย็น มาเลา่ ใหเ้ พือ่ นฟงั เรยี ง
ตามลำดับหมายเลข 1-5 โดยให้นักเรยี นผลดั กนั ซักถามหากมีข้อสงสยั และผลดั กนั อธิบายจนทกุ คนมคี วาม
เขา้ ใจชัดเจน จากนน้ั รว่ มกันสรุปสาระสำคัญ
2. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั ทำใบงานที่ 7.2 เรอ่ื ง สงครามเยน็ เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละ
กลุม่ ช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้องและเตมิ คำตอบในใบงานใหส้ มบูรณ์ จากน้นั นำสง่ ครตู รวจ
3. นกั เรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคิด ขอ้ 1-2
1) สงครามเย็น มีลกั ษณะอยา่ งไร
(เปน็ ความขดั แย้งทางการเมืองระหวา่ งชาติมหาอำนาจของโลก 2 ชาติ คือ สหรฐั อเมรกิ า และ
สหภาพโซเวยี ต ซงึ่ เกิดขนึ้ หลงั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 และสน้ิ สดุ ลงภายหลงั การล่มสลายของ
สหภาพโซเวยี ต เมือ่ ปคี รสิ ต์ศกั ราช 1991)
2) สงครามเยน็ มคี วามแตกตา่ งจากสงครามโลกคร้งั ที่ 1 และสงครามโลกครั้งท่ี 2 หรอื ไม่
อยา่ งไร
(แตกตา่ งกัน เพราะสงครามเยน็ เป็นสงครามเฉพาะพ้ืนที่ สว่ นสงครามโลกครงั้ ท่ี 1 และ
สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 กนิ พน้ื ทเี่ ปน็ วงกวา้ งสง่ ผลกระทบและความเดือดรอ้ นเสียหายไปทัว่ โลก)
4. ครูอธิบายเทคนิคการพยากรณ์การสรา้ งภาพอนาคต (Scenario Technique) ใหน้ กั เรยี นฟงั พรอ้ ม
เปดิ โอกาสให้นักเรยี นซกั ถามหากมขี ้อสงสยั แลว้ ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ให้นกั เรยี นฟงั จนทกุ คนมคี วามเข้าใจชัดเจน
5. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปความร้เู รือ่ ง สงครามเยน็
6. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันทำใบงานท่ี 7.3 เรอ่ื ง ภาพพยากรณ์ : สงครามและความโหดรา้ ย เมอ่ื
ทำเสร็จแลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมานำเสนอคำตอบในใบงาน
7. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
นกั เรียนคิดวา่ ในอนาคตจะมีโอกาสเกิดสงครามเยน็ ขึ้นอีกไม่ เพราะเหตใุ ด
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน)
8. ครูและนักเรยี นรว่ มกันพยากรณแ์ นวโน้มของเหตกุ ารณท์ จ่ี ะเกดิ ข้นึ ตอ่ ไปในอนาคต
8. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์
วิธีการ ใบงานที่ 7.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 7.2 ใบงานที่ 7.3 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 7.3 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่
สังเกตความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
9.สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
9.1 สื่อการเรยี นรู้
1) ใบงานที่ 7.2 เรอ่ื ง สงครามเย็น
2) ใบงานที่ 7.3 เรื่อง ภาพพยากรณ์ : สงครามและความโหดรา้ ย
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
----
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 19 รายวิชาประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
รหัสวิชา ส………
ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา……….
เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 7 เรอ่ื งท่ี 5 องคก์ ารความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 4.2 เข้าใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดตี จนถงึ ปัจจบุ นั ในดา้ นความสัมพันธแ์ ละการ
เปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ย่างตอ่ เน่ือง ตระหนักถงึ ความสำคญั และสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบที่เกิดข้นึ
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
องค์การระหว่างประเทศมบี ทบาทสำคญั ในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาความขดั แย้งต่างๆ ท่เี กดิ ขึน้ ใน
โลก
3. ตัวชว้ี ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 ตัวชีว้ ดั
ส 4.3 ม.3/2 วิเคราะหผ์ ลของการเปลย่ี นแปลงทน่ี ำไปสคู่ วามรว่ มมอื และความขัดแยง้ ใน
ครสิ ต์ศตวรรษท่ี 20 ตลอดจนความพยายามในการขจัดปญั หาความขัดแย้ง
3.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธบิ ายบทบาทขององคก์ ารความร่วมมอื ระหว่างประเทศในการแกไ้ ขปญั หาความขัดแย้งได้
4. สาระการเรียนรู้
ความรว่ มมือและความขดั แย้งในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เชน่ องค์การความรว่ มมือระหวา่ งประเทศ
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการรวบรวมข้อมลู
2) ทกั ษะการวเิ คราะห์
3) ทกั ษะการสรา้ งความรู้
4) ทกั ษะการสรุปลงความเห็น
5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทิศ
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครใู ห้นกั เรียนดภู าพปราสาทพระวิหาร และขา่ วเก่ยี วกับความขดั แย้งบรเิ วณชายแดนไทย-กมั พูชา
แลว้ ให้นักเรียนตอบคำถาม เพ่อื ทบทวนความรู้เดมิ ของนกั เรยี น ดงั นี้
➢ ความขัดแยง้ บริเวณชายแดนไทย-กัมพชู า เกดิ ขึน้ จากสาเหตใุ ด
➢ ปัญหาความขดั แยง้ บรเิ วณชายแดนไทย-กัมพชู า ควรแก้ไขโดยใชว้ ธิ ใี ด
2. นักเรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ
ความขัดแย้งระหวา่ งประเทศส่วนใหญม่ กั เกิดจากสาเหตใุ ด
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน)
3. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ (กลมุ่ เดมิ ) ทม่ี หี มายเลขประจำตวั 1-5 เรียกกลมุ่ นีว้ ่า กลมุ่ บา้ น แลว้ ให้
นกั เรียนท่ีมหี มายเลขเดยี วกนั ไปรวมกันเป็นกล่มุ ใหม่ เรยี กกลมุ่ น้ีว่า กลมุ่ ผู้เชยี่ วชาญ
4. นักเรียนกล่มุ ผเู้ ช่ียวชาญรว่ มกันศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง ความรว่ มมอื ในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 20 จนถงึ ปจั จุบัน
จากหนงั สือเรียน หอ้ งสมุด และแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ ตามหวั ข้อท่กี ำหนดให้ ดังน้ี
➢ หมายเลข 1 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง องค์การสหประชาชาติ
➢ หมายเลข 2 ศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง สหภาพยุโรป
➢ หมายเลข 3 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง องคก์ ารการค้าโลก
➢ หมายเลข 4 ศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง สมาคมประชาชาตแิ หง่ เอเชียตะวนั ออกเฉียงใตห้ รอื อาเซียน
➢ หมายเลข 5 ศกึ ษาความรู้เร่อื ง องค์การอ่นื ๆ
แลว้ บันทกึ ความรู้ทีไ่ ดล้ งในแบบบนั ทกึ การอ่าน
5. นักเรียนกลมุ่ ผู้เชยี่ วชาญรว่ มกันสรุปความรเู้ กีย่ วกบั เรอ่ื งทศี่ กึ ษาในประเด็นต่อไปนี้
ประวัติความเปน็ มา
การทำงาน
ผลการดำเนนิ งาน
6. นกั เรียนกล่มุ ผเู้ ช่ยี วชาญชว่ ยกนั ทำใบงานท่ี 7.4 เรอ่ื ง องค์การความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ
เสร็จแลว้ ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง แก้ไขและเตมิ เตม็ คำตอบให้สมบรู ณ์
7. นกั เรยี นกลุ่มผเู้ ช่ยี วชาญกลบั เข้าสู่กลุ่มบ้าน นำความรทู้ ไี่ ดจ้ ากการศึกษาและทำใบงานท่ี 7.4 มาเล่า
ให้เพอื่ นในกลุ่มบ้านฟงั ผลัดกันซักถามขอ้ สงสัยและผลัดกนั อธบิ ายจนทกุ คนมีความเข้าใจชัดเจน
8. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ขอ้ 1-2
1) นักเรียนคิดวา่ องคก์ ารความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศแตล่ ะองคก์ ารมีจุดประสงค์เหมอื น
หรอื แตกตา่ งกันอยา่ งไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
2) นกั เรียนคิดว่า ทุกประเทศจำเปน็ ตอ้ งเข้ารว่ มองคก์ ารความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศหรอื ไม่
เพราะเหตใุ ด
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน)
9. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสักถามข้อสงสัย
10. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปองคค์ วามรู้
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
8. การวดั และประเมินผล
วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 7.4 ใบงานท่ี 7.4 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน แบบบันทกึ การอา่ น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ
9.สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
9.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี น ประวตั ศิ าสตร์ ม.3
2) บตั รภาพ
3) ใบงานท่ี 7.4 เรอ่ื ง องค์การความรว่ มมอื ระหว่างประเทศ
9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ
- http://www.wikipedia.org/wiki/องคก์ รระหว่างประเทศ
- http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุม่ สาระการเรียนรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 20
สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชาประวตั ศิ าสตร์
รหัสวชิ า ส……… ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3
ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา……….
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 เรอื่ งที่ 6บทบาทสำคญั ขององค์การความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศ เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 4.2 เขา้ ใจพัฒนาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดีตจนถึงปจั จุบนั ในด้านความสัมพันธ์และการ
เปลี่ยนแปลงของเหตกุ ารณอ์ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ตระหนกั ถึงความสำคัญและสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบที่เกิดขนึ้
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
องค์การระหวา่ งประเทศมบี ทบาทสำคัญในการปอ้ งกัน และแกไ้ ขปัญหาความขัดแย้งตา่ งๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นใน
โลก
3. ตวั ชีว้ ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ตัวช้วี ัด
ส 4.3 ม.3/2 วเิ คราะหผ์ ลของการเปลี่ยนแปลงทน่ี ำไปสู่ความรว่ มมอื และความขัดแยง้ ใน
ครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 20 ตลอดจนความพยายามในการขจัดปญั หาความขดั แยง้
3.2 จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) วเิ คราะห์บทบาทขององค์การความรว่ มมอื ระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาความขัดแยง้ ได้
4. สาระการเรียนรู้
ความรว่ มมอื และความขดั แย้งในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 20 เช่น องคก์ ารความรว่ มมือระหว่างประเทศ
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู
2) ทกั ษะการวเิ คราะห์
3) ทักษะการสรา้ งความรู้
4) ทักษะการสรุปลงความเหน็
5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ศิ
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันทบทวนความรเู้ รอ่ื ง ความรว่ มมอื ในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 20 จนถงึ ปัจจุบนั
2. ครอู ธิบายเพิม่ เตมิ ใหน้ กั เรยี นเข้าใจวา่ องคก์ ารความร่วมมอื ระหว่างประเทศมีอย่มู ากมาย
นอกเหนือจากทีน่ กั เรียนเรยี น เช่น กองทนุ การเงนิ ระหว่างประเทศ (IMF), องคก์ รอนามัยโลก (WHO) เปน็ ตน้
ซงึ่ แตล่ ะองคก์ รเปน็ การสร้างความรว่ มมอื ระหว่างประเทศในดา้ นท่แี ตกต่างกันออกไป
3. นักเรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันทำใบงานที่ 7.5 เร่อื ง บทบาทสำคญั ขององคก์ ารความรว่ มมอื ระหวา่ ง
ประเทศกับการแกไ้ ขปญั หาความขดั แยง้ ท่ีเกิดข้นึ ในโลก
4. ตวั แทนของแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอคำตอบในใบงานที่ 7.5 หนา้ ชนั้ เรยี น ครูและเพอื่ นนกั เรยี น
ร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ และให้ข้อเสนอแนะ
5. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
ประเทศไทยมบี ทบาทในองคก์ ารระหวา่ งประเทศองค์การใดบา้ ง แต่ละองค์การมบี ทบาทอย่างไร
(องคก์ ารการค้าโลก, สมาคมประชาชาตแิ หง่ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้หรอื อาเซียน)
6. ครูให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับแนวโนม้ ความรว่ มมอื ขององคก์ ารความรว่ มมือ
ระหวา่ งประเทศในอนาคต
7. ครูแนะนำให้นกั เรียนนำความรูท้ ่ีได้จากการศึกษาไปประยุกต์ใช้ให้เกดิ ประโยชน์ต่อไปในอนาคต
8. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7
ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่ ช่วยกนั ทำรายงาน เร่ือง บทบาทขององค์การระหว่างประเทศ
ในการแกไ้ ขปญั หาความขดั แยง้ ทีเ่ กดิ ขึ้นในโลก โดยให้ครอบคลมุ ประเด็นตามที่กำหนด ดังนี้
1) การระบุปจั จัยทที่ ำใหเ้ กิดความขดั แยง้ ในครสิ ต์ศตวรรษที่ 20 ถงึ ปัจจุบัน
2) การวิเคราะหผ์ ลท่ีเกิดจากความขัดแย้งในคริสต์ศตวรรษท่ี 20 ถงึ ปัจจบุ นั
3) การระบปุ ัจจยั ทีท่ ำใหม้ ีการสถาปนาองค์การความรว่ มมอื ระหว่างประเทศ
4) การวเิ คราะหบ์ ทบาทขององคก์ ารระหว่างประเทศ
5) การอธบิ ายผลการดำเนนิ งานขององค์การระหวา่ งประเทศ
9. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสักถามขอ้ สงสยั
10. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ องค์ความรู้
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ
8. การวดั และประเมินผล
วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 7.5 ใบงานท่ี 7.5 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตความมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ ม่ัน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ในการทำงาน
ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการ แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7
เรยี นรทู้ ี่ 7
ตรวจรายงาน เรอ่ื ง บทบาทของ แบบประเมนิ รายงาน เร่อื ง บทบาทของ
องคก์ ารระหวา่ งประเทศในการแกไ้ ข องคก์ ารระหว่างประเทศในการแกไ้ ขปัญหา
ปัญหาความขดั แยง้ ทีเ่ กิดขึน้ ในโลก ความขัดแย้งที่เกิดข้นึ ในโลก
9.สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
9.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) ใบงานที่ 7.5 เรื่อง บทบาทสำคัญขององคก์ ารระหวา่ งประเทศกับการแกไ้ ขปัญหาความขัดแย้ง
ที่เกดิ ขึ้นในโลก
9.2 แหล่งการเรียนรู้
---
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ศิ