8. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรู้เรอื่ ง พัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ของทวีปยุโรป แลว้ ครูช้ีแนะให้
นักเรียนนำความรไู้ ปประยุกต์ใชใ้ นการศึกษาตอ่ ไปในอนาคต
8. การวัดและประเมนิ ผล
วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 6.5 ใบงานท่ี 6.5 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตความมีวินยั ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มนั่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
ในการทำงาน
9.สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
9.1 สือ่ การเรียนรู้
1) ใบงานท่ี 6.5 เรื่อง การสรปุ พฒั นาการและการสรา้ งสรรคด์ ้านตา่ งๆ ของทวีปยุโรป
9.2 แหล่งการเรียนรู้
----
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 9 รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
รหสั วิชา ส………
ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา……….
เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรอ่ื งที่ 3 อทิ ธพิ ลของทวปี ยโุ รปทม่ี ีต่อสังคมโลก
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 4.2 เขา้ ใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปจั จบุ นั ในด้านความสมั พันธแ์ ละการ
เปลี่ยนแปลงของเหตกุ ารณอ์ ย่างต่อเนื่อง ตระหนกั ถึงความสำคัญและสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบท่เี กิดขึ้น
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ทวปี ยุโรปมีความเจริญรงุ่ เรอื งมาก่อนดนิ แดนอื่นๆ ทำใหอ้ ารยธรรมของยุโรปท่ีเรียกว่า อารยธรรม
ตะวันตก แพรห่ ลายไปยังดินแดนทีย่ โุ รปเข้าไปเกีย่ วขอ้ งดว้ ย
3. ตัวชว้ี ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ตวั ชวี้ ดั
ส 4.2 ม.3/1 อธบิ ายพฒั นาการทางสงั คม เศรษฐกิจ และการเมอื งของภมู ภิ าคตา่ งๆ ในโลก
โดยสงั เขป
3.2 จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) วิเคราะหอ์ ิทธิพลของทวีปยโุ รปท่ีมตี ่อสงั คมโลกได้
4. สาระการเรยี นรู้
1) อทิ ธิพลของอารยธรรมตะวันตกท่มี ผี ลตอ่ พัฒนาการและการเปลย่ี นแปลงของสังคมโลกโดยสงั เขป
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการวเิ คราะห์
2) ทกั ษะการสร้างความรู้
5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทิศ
7. กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ (กลมุ่ เดมิ ) ดูภาพหวั เสากรกี แบบต่างๆ
2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับภาพทค่ี รนู ำมาให้ดวู า่ เปน็ อารยธรรมในสมัย
ใด
3. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
นักเรียนใช้อะไรเป็นเกณฑใ์ นการตดั สนิ วา่ ภาพท่ีครนู ำมาใหด้ เู ป็นอารยธรรมตะวนั ตกในสมยั ใด
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
4. นกั เรยี นชว่ ยกันสรุปความสำคัญของทต่ี ้งั และสภาพแวดลอ้ มทางภมู ิศาสตร์ของทวีปยโุ รปในรูป
แผนผงั ความคิด (Concept Map)
5. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศึกษาความรเู้ รอื่ ง อิทธพิ ลของทวีปยุโรปทม่ี ตี อ่ สงั คมโลก จากหนังสอื
เรยี น หนังสอื คน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ ห้องสมุด และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ แลว้ บนั ทกึ ความร้ทู ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษา
ลงในแบบบนั ทกึ การอ่าน
6. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษา
7. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
นักเรยี นคดิ วา่ ปัจจยั สำคัญท่ีทำใหอ้ ทิ ธิพลของทวีปยโุ รปแพรห่ ลายไปทว่ั โลก คอื สงิ่ ใด
(รปู แบบสถาปัตยกรรม ภูมิปญั ญาของโลกโบราณ การนบั ถอื ศาสนาครสิ ต์
แนวคิดทางการเมืองแบบประชาธิปไตย การปฏวิ ัตอิ ตุ สาหกรรม เปน็ ตน้ )
8. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั แลกเปลย่ี นความคดิ เห็น ผลดั กันซกั ถามหากมขี อ้ สงสยั และผลดั กัน
อธบิ ายจนทุกคนมคี วามเข้าใจชดั เจน จากนน้ั สรุปความเขา้ ใจโดยเขยี นแผนผังความคดิ ลงในใบงานท่ี 6.6 เรือ่ ง
อทิ ธิพลของทวีปยโุ รปตอ่ สงั คมโลก
9. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ออกมานำเสนอผลงานในใบงานท่ี 6.6 หนา้ ชัน้ เรียน
10. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยคำตอบในใบงานท่ี 6.6
11. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับอทิ ธิพลของทวีปยุโรปท่มี ผี ลตอ่ สังคมโลก
12. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
นักเรยี นคดิ ว่า อทิ ธพิ ลของทวปี ยุโรปยงั มคี วามสำคญั ตอ่ วิถีการดำเนินชีวิตของคน
ในโลกยคุ ปจั จุบนั อยา่ งไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพินิจของครูผูส้ อน)
13. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสักถามขอ้ สงสยั
14. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ องค์ความรู้
8. การวัดและประเมนิ ผล
วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 6.6 ใบงานท่ี 6.6 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น แบบบนั ทกึ การอา่ น ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
ในการทำงาน
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ศิ
9.ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
9.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี น ประวัตศิ าสตร์ ม.3
2) หนังสือคน้ คว้าเพิ่มเตมิ
(1) กระมล ทองธรรมชาติ และคณะ. (2545). โลกของเรา. กรุงเทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ
ทัศน.์
(2) วิมลพรรณ ภทั โรดม. (2540). ยโุ รปหลังสงครามโลกครัง้ ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร :
ศักดโิ์ สภาการพมิ พ์.
(3) William, Roger. (2540). ทวีปยโุ รป. (พวงนลิ คำปงั สุ์ ผแู้ ปล). กรุงเทพมหานคร :
หน้าตา่ ง ส่โู ลกกว้าง.
3) บัตรภาพ
4) ใบงานท่ี 6.6 เรอ่ื ง อทิ ธิพลของทวีปยุโรปตอ่ สงั คมโลก
9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
- http://th.wikipedia.org/wiki/ทวีปยุโรป
- http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?...
- http://www.thaigoodview.com/library/.../europe_topography.html
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ
บัตรภาพ
ภาพหวั เสากรกี แบบดอรกิ ภาพหวั เสากรกี แบบไอออนกิ
ภาพหวั เสากรกี แบบโครนิ เธยี น
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 10
สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชาประวัตศิ าสตร์
รหสั วิชา ส……… ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา……….
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 เรอ่ื งที่ 4 พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตรข์ องทวปี อเมรกิ าเหนอื เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 4.2 เขา้ ใจพัฒนาการของมนษุ ยชาติจากอดีตจนถึงปจั จบุ นั ในด้านความสัมพนั ธแ์ ละการ
เปล่ียนแปลงของเหตุการณอ์ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง ตระหนกั ถึงความสำคัญและสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบทเ่ี กิดข้ึน
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ทวีปอเมรกิ าเหนือเป็นดินแดนโลกใหมท่ เ่ี ต็มไปดว้ ยทรัพยากรธรรมชาติ และเปน็ พหุสังคมที่ให้
ความสำคญั ด้านความเสมอภาคและเสรีภาพ กา้ วมาเป็นผนู้ ำโลกในปัจจบุ นั และมพี ัฒนาการทางประวตั ศิ าสตร์
ท่ีควรแกก่ ารศกึ ษา
3. ตัวชวี้ ัด/จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ตวั ชวี้ ัด
ส 4.3 ม.3/1 อธิบายพัฒนาการทางสงั คม เศรษฐกิจ และการเมอื งของภมู ภิ าคตา่ งๆ ในโลก
โดยสังเขป
3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
1) อธิบายความสำคญั ของท่ตี ั้งและสภาพทางภมู ิศาสตร์ของทวีปอเมริกาเหนอื ท่มี ผี ลต่อพฒั นาการ
โดยสงั เขปได้
2) สรุปพัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของทวีปอเมริกาเหนอื โดยสงั เขป
ได้
3) วเิ คราะห์อทิ ธพิ ลของทวีปอเมรกิ าเหนอื ต่อสังคมโลกได้
4. สาระการเรียนรู้
1) ทตี่ ้งั และสภาพทางภมู ิศาสตรข์ องภมู ภิ าคตา่ งๆ ของโลก (ยกเวน้ เอเชยี ) ทม่ี ีผลตอ่ พฒั นาการ
โดยสงั เขป
2) พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตร์ สังคม เศรษฐกจิ และการเมอื งของภูมิภาคตา่ งๆ ของโลก
(ยกเว้นเอเชยี ) โดยสงั เขป
3) อิทธพิ ลของอารยธรรมตะวันตกที่มีผลต่อพฒั นาการและการเปล่ียนแปลงของสงั คมโลกโดยสงั เขป
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทกั ษะการวเิ คราะห์
2) ทักษะการสร้างความรู้
3) ทกั ษะการสรุปลงความเหน็
5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน
7. กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั ปัจจัยทางภมู ิศาสตร์ และสภาพแวดล้อมท่ีมีผลตอ่ พัฒนาการของ
ทวปี อเมริกาเหนือโดยใชแ้ ผนทีโ่ ลก และแผนที่ทวีปอเมรกิ าเหนือประกอบ
2. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
นักเรยี นคดิ ว่า ทตี่ งั้ สภาพทางภมู ิศาสตร์ของทวปี อเมรกิ าเหนอื ส่งผลต่อความเจริญกา้ วหน้า
และพฒั นาการของทวปี อเมริกาเหนอื อย่างไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินิจของครผู สู้ อน)
3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่ม (กลุ่มเดมิ ) ศกึ ษาความรู้เรอื่ ง ทตี่ ้งั และสภาพ ภมู ิศาสตรท์ ่ีมีผลต่อพฒั นาการ
ของทวีป พัฒนาการและการสร้างสรรคด์ า้ นต่างๆ และอทิ ธพิ ลของทวปี อเมรกิ าเหนือตอ่ สังคมโลก จากหนังสอื
เรียน หนงั สอื ค้นควา้ เพ่มิ เติม ห้องสมดุ และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ แล้วบันทึกความรทู้ ไ่ี ดล้ งในแบบบันทกึ การ
อ่าน
4. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
วันขอบคุณพระเจา้ (Thanksgiving Day) เก่ยี วขอ้ งกบั ประวตั ศิ าสตร์ของทวปี อเมริกาเหนอื อย่างไร
(วันขอบคณุ พระเจา้ เป็นวนั ท่ที ำใหช้ าวอเมริกันอพยพรุ่นแรกฟนั ฝ่าอุปสรรคไดส้ ำเร็จ มกี ารเล้ียงฉลองดว้ ย
อาหารท่ีทำมาจากไก่งวง ขา้ วโพด ฟักทอง และถวั่ )
5. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกันทำใบงานที่ 6.7 เร่ือง พัฒนาการทางประวตั ิศาสตร์ของทวปี
อเมริกาเหนอื เสรจ็ แลว้ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
6. สมาชกิ แต่ละคนในกลุม่ ผลัดกนั อภปิ รายเกีย่ วกับผลงานในใบงานที่ 6.7 จนเข้าใจตรงกัน แล้วสรุป
ความรเู้ ปน็ ผงั ความคิด
7. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรเู้ ก่ียวกับท่ีตัง้ และสภาพภมู ศิ าสตรท์ ีม่ ผี ลต่อพฒั นาการของทวีป
พฒั นาการและการสรา้ งสรรค์ด้านตา่ งๆ และอทิ ธิพลของทวีปอเมริกาเหนือตอ่ สังคมโลก แล้วให้นกั เรียนตอบ
คำถามกระตุ้นความคดิ
ทวปี อเมริกาเหนอื มคี วามเกย่ี วขอ้ งทางประวตั ศิ าสตร์กบั ทวปี ยุโรปอยา่ งไร
(ชาวอังกฤษทตี่ อ้ งการเสรภี าพทางศาสนาเดินทางเขา้ ไปตงั้ ถน่ิ ฐานในโลกใหม่ หรอื ทวีปอเมรกิ าเหนือน่นั เอง)
8. นกั เรียนฟงั เรอื่ งราวเกีย่ วกบั ทวปี อเมริกาเหนอื แลว้ ช่วยกนั สรปุ วา่ ทวีปอเมริกาเหนอื ได้รับอทิ ธพิ ล
อะไรบา้ งจากอารยธรรมตะวนั ตก
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
9. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มนำผลสรุปมานำเสนอหนา้ ชนั้ เรียน แล้วให้นกั เรยี นกล่มุ อนื่ ๆ ร่วมกนั ประเมิน
ความถูกตอ้ งและใหข้ ้อเสนอแนะ
10. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1-2
1) สหรฐั อเมริกาไดร้ ับอทิ ธพิ ลรปู แบบการปกครองจากทวปี ยโุ รปหรือไม่ เพราะเหตุใด
(สหรฐั อเมริกาไม่ไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากยโุ รป เพราะสหรฐั อเมรกิ าปกครองระบอบประชาธปิ ไตยมี
ประธานาธบิ ดีเป็นประมุขของรฐั และแบง่ แยกอำนาจอธปิ ไตยเป็น 3 ฝ่าย ในขณะท่ียโุ รป
ปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรฐั สภาเปน็ ส่วนใหญ)่
2) จากการศึกษาความรเู้ รอ่ื ง ทวปี ยโุ รปและทวปี อเมริกาเหนือ หากเลอื กได้นกั เรียนอยากจะ
เปน็ คนยโุ รปหรอื คนอเมริกัน
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน)
11. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผังความคดิ และใบงานท่ี 6.7 ครตู รวจสอบความถูกตอ้ ง
12. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนสักถามขอ้ สงสยั
13. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ องคค์ วามรู้
8. การวดั และประเมินผล
วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 6.7 ใบงานท่ี 6.7 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น แบบบันทกึ การอา่ น ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ในการทำงาน
9.ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
9.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี น ประวตั ศิ าสตร์ ม.3
2) หนังสอื ค้นควา้ เพ่มิ เตมิ
(1) อักษร-ฟลิ ปิ . (2553). World Atlas 1. พมิ พค์ ร้งั ท่ี 17. กรุงเทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ
ทัศน.์
(2) อกั ษร-ฟลิ ิป. (2553). World Atlas 2. พมิ พค์ ร้ังที่ 21. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ
ทศั น.์
(3) Goodwin, Palu B. (2010). Global Studies : Latin America and the
Caribbean. Ohio : McGraw-Hill Collage.
(4) Hardwick Susan W. and other. (2007). Geography of North America :
Environment, Political, Economy and Culture. New Jersey : Prentice Hall.
3) แผนทโี่ ลก
4) ใบงานท่ี 6.7 เรื่อง พัฒนาการทางประวตั ิศาสตร์ของทวีปอเมริกาเหนือ
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทิศ
9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมุด
2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ
- http://th.wikipedia.org/wiki/ทวปี อเมรกิ าเหนอื
- http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/...n/sec02p01.html
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 11 รายวิชาประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
รหัสวิชา ส………
ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา……….
เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรอื่ งที่ 5 พฒั นาการทางประวัติศาสตร์ของทวปี อเมริกาใต้
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนษุ ยชาติจากอดตี จนถงึ ปัจจบุ นั ในดา้ นความสมั พนั ธแ์ ละการ
เปลีย่ นแปลงของเหตุการณอ์ ย่างตอ่ เนอื่ ง ตระหนักถึงความสำคญั และสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบที่เกิดขึ้น
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ทวปี อเมริกาใต้มีดินแดนใกลก้ ับทวีปอเมรกิ าเหนือ แต่การพัฒนาการทางประวัตศิ าสตรม์ ีความแตกต่าง
กับทวปี อเมริกาเหนือมากด้วยเหตปุ ัจจัยหลายประการ
3. ตัวช้วี ัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ตวั ชีว้ ดั
ส 4.3 ม.3/1 วเิ คราะหพ์ ัฒนาการของไทยสมัยรัตนโกสนิ ทรใ์ นด้านตา่ งๆ
3.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธบิ ายความสำคญั ของท่ีตง้ั และสภาพทางภมู ศิ าสตร์ของทวปี อเมรกิ าใตท้ ม่ี ผี ลตอ่ พัฒนาการ
โดยสังเขปได้
2) สรุปพัฒนาการทางประวตั ิศาสตร์ สงั คม เศรษฐกจิ และการเมืองของทวปี อเมรกิ าใต้โดยสงั เขปได้
3) วเิ คราะหอ์ ทิ ธพิ ลของทวีปอเมริกาใต้ตอ่ สงั คมโลกได้
4. สาระการเรยี นรู้
1) ที่ตง้ั และสภาพทางภมู ิศาสตรข์ องภมู ิภาคต่างๆ ของโลก (ยกเว้นเอเชีย) ท่มี ีผลตอ่ พัฒนาการ
โดยสังเขป
2) พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกจิ และการเมอื งของภูมภิ าคต่างๆ ของโลก
(ยกเวน้ เอเชยี ) โดยสงั เขป
3) อิทธิพลของอารยธรรมตะวันตกทีม่ ผี ลต่อพฒั นาการและการเปลี่ยนแปลงของสงั คมโลกโดยสังเขป
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการวเิ คราะห์
2) ทักษะการสรา้ งความรู้
3) ทักษะการสรปุ ลงความเหน็
5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ
6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครใู หน้ กั เรียนดภู าพยนตรเ์ กย่ี วกบั ทวปี อเมริกาใต้ แล้วครสู นทนากบั นักเรียนเก่ยี วกับปัจจยั ทาง
ภมู ศิ าสตร์ และสภาพแวดลอ้ มทมี่ ผี ลตอ่ พัฒนาการของทวปี อเมรกิ าใต้
2. นกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ
จากทตี่ ง้ั ทางภมู ิศาสตร์ของทวปี อเมรกิ าเหนอื กบั ทวปี อเมรกิ าใต้ นักเรียนคิดว่า ทงั้ 2 ทวปี
ตา่ งถ่ายทอดความเจรญิ ซ่ึงกนั และกนั ไดอ้ ยา่ งไร
(เพราะเปน็ ดนิ แดนที่เชอ่ื มตอ่ กนั จึงมกี ารแลกเปลยี่ นความเจริญด้านตา่ งๆ ได้ง่าย)
3. ครูให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ (กลมุ่ เดิม) ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ รอื่ ง ทวปี อเมรกิ าใต้ จากหนงั สอื เรยี น
หนงั สอื คน้ ควา้ เพม่ิ เติม ห้องสมดุ และแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ ในหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้
1) ที่ต้งั และสภาพภมู ิศาสตร์ทีม่ ผี ลต่อพัฒนาการของทวีป
2) พัฒนาการและการสรา้ งสรรคด์ า้ นตา่ งๆ
3) อทิ ธพิ ลของทวปี อเมริกาใตต้ อ่ สงั คมโลก
แล้วบนั ทึกความรู้ทไ่ี ด้ลงในแบบบนั ทึกการอ่าน
4. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายเกี่ยวกับประเดน็ ทีศ่ กึ ษาจนทกุ คนมคี วามเข้าใจชดั เจน
5. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกันทำใบงานท่ี 6.8 เร่อื ง พัฒนาการทางประวตั ศิ าสตร์ของทวปี อเมริกาใต้
เม่อื ทำใบงานเสรจ็ แลว้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
นักเรียนมคี วามเหน็ อย่างไรเกีย่ วกับทวปี อเมรกิ าใตท้ แ่ี มจ้ ะเคยตกเป็นอาณานคิ มของยุโรป
แต่ก็มีความเจรญิ ทางอารยธรรมมากอ่ นยโุ รป
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครูผ้สู อน)
6. สมาชิกแต่ละคนในกลมุ่ รว่ มกนั อภปิ รายคำตอบในใบงานท่ี 6.8 จนเขา้ ใจชัดเจนตรงกนั แลว้ รว่ มกนั
สรปุ เป็นความรขู้ องกลมุ่
7. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
พัฒนาการทางการเมืองในทวปี อเมรกิ าใต้คล้ายคลึงกบั ประเทศไทยหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
(มคี วามคลา้ ยคลึงกัน คือ เปลยี่ นแปลงทางการเมอื งบอ่ ยครงั้ สง่ ผลตอ่ การพฒั นาเศรษฐกจิ )
8. ครใู หน้ กั เรยี นดภู าพเกย่ี วกบั สถานที่ และสถาปตั ยกรรมในทวีปอเมรกิ าใต้ แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั
วิเคราะหว์ ่า ภาพดงั กล่าวไดร้ บั อทิ ธพิ ลอะไรบ้างจากอารยธรรมตะวนั ตก
9. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นำผลสรปุ มานำเสนอใหเ้ พื่อนฟังหน้าชนั้ เรยี น แลว้ ใหน้ ักเรียนกลุ่มอนื่ ๆ ร่วมกนั
ประเมนิ ความถกู ต้องและใหข้ อ้ เสนอแนะ
10. ตัวแทนของแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอใบงานท่ี 6.8 ครแู ละเพื่อนนกั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู
ต้อง
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ
11. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสกั ถามขอ้ สงสัย
12. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปองคค์ วามรู้
8. การวดั และประเมินผล
วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 6.8 ใบงานที่ 6.8 ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น แบบบนั ทึกการอา่ น ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่ัน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ในการทำงาน
9.สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
9.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียน ประวตั ิศาสตร์ ม.3
2) หนังสอื คน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ
(1) อักษร-ฟลิ ปิ . (2553). World Atlas 1. พิมพค์ รั้งท่ี 17. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจรญิ
ทศั น์.
(2) อักษร-ฟลิ ิป. (2553). World Atlas 2. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 21. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ
ทัศน.์
3) ภาพยนตรเ์ ก่ยี วกับทวปี อเมรกิ าใต้
4) บัตรภาพ
5) ใบงานที่ 6.8 เรือ่ ง พัฒนาการทางประวัตศิ าสตรข์ องทวีปอเมรกิ าใต้
9.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งสมุด
2) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
- http://th.wikipedia.org/wiki/ทวปี อเมรกิ าใต้
- http://www.kullawat.net/south_america/left.htm
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ
บตั รภาพ
ภาพประภาคารเฮอรค์ วิ ลสิ ภาพมาชปู กิ ชู
ภาพพระเยซคู รสิ ต์ ภาพบวั โนสไอเรส
ภาพเมอื งศกั ดส์ิ ทิ ธเ์ิ มอื งคาเรลชฟู ภาพชเี ชนอติ ซา
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 12 รายวิชาประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3
รหัสวชิ า ส………
ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา……….
เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรอ่ื งท่ี 6 พัฒนาการทางประวตั ศิ าสตรข์ องทวปี แอฟริกา
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 4.2 เขา้ ใจพัฒนาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถงึ ปจั จุบนั ในดา้ นความสมั พนั ธแ์ ละการ
เปลย่ี นแปลงของเหตุการณอ์ ยา่ งต่อเนอ่ื ง ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบที่เกดิ ขน้ึ
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
ที่ตง้ั และสภาพแวดลอ้ มทางภมู ิศาสตรข์ องทวปี แอฟริกาสง่ ผลต่อพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ
และการเมอื งของทวีปแอฟรกิ า
3. ตัวชีว้ ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ตัวชว้ี ดั
ส 4.3 ม.3/1 อธบิ ายพฒั นาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมอื งของภมู ภิ าคต่างๆ ในโลก
โดยสงั เขป
3.2 จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธิบายความสำคญั ของท่ตี ง้ั และสภาพทางภมู ศิ าสตรข์ องทวปี แอฟรกิ าทม่ี ผี ลต่อพัฒนาการ
โดยสังเขปได้
2) สรุปพัฒนาการทางประวตั ศิ าสตร์ สังคม เศรษฐกจิ และการเมืองของทวีปแอฟรกิ าโดยสังเขปได้
3) วเิ คราะห์อทิ ธพิ ลของทวีปแอฟรกิ าต่อสงั คมโลกได้
4. สาระการเรยี นรู้
1) ท่ตี ง้ั และสภาพทางภูมิศาสตรข์ องภมู ิภาคตา่ งๆ ของโลก (ยกเว้นเอเชีย) ที่มผี ลตอ่ พฒั นาการ
โดยสังเขป
2) พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ สังคม เศรษฐกจิ และการเมอื งของภูมิภาคตา่ งๆ ของโลก
(ยกเวน้ เอเชีย) โดยสังเขป
3) อทิ ธิพลของอารยธรรมตะวนั ตกที่มีผลต่อพัฒนาการและการเปลยี่ นแปลงของสังคมโลกโดยสังเขป
5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู
2) ทักษะการวเิ คราะห์
3) ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็
5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ
5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
7. กิจกรรมการเรียนรู้
1.ครูใหน้ ักเรียนดภู าพเกีย่ วกบั ทวปี แอฟรกิ า แลว้ ใหน้ กั เรยี นแสดงความคิดเหน็ ว่า เพราะเหตใุ ด
ทวปี แอฟรกิ าจึงมคี วามล้าหลงั กว่าทวีปอนื่
2. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละกล่มุ (กลมุ่ เดิม) กำหนดหมายเลขประจำตวั 1-4 ตามลำดบั เรยี กกลุ่มนว้ี ่า
กลุ่มบ้าน แลว้ ใหน้ กั เรยี นที่มหี มายเลขเดยี วกันไปรวมกนั เปน็ กลมุ่ ใหม่ เรยี กกล่มุ นี้ว่า กลุม่ ผูเ้ ชี่ยวชาญ
3. นักเรียนกลุ่มผูเ้ ชี่ยวชาญแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง ทวีปแอฟรกิ า จากหนังสอื เรียน
หนังสอื คน้ คว้าเพมิ่ เติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ ในหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี
➢ กล่มุ หมายเลข 1 ศึกษาความรเู้ รอ่ื ง ที่ตงั้ และสภาพภูมศิ าสตร์ทม่ี ผี ลตอ่ พฒั นาการของทวปี
➢ กลุ่มหมายเลข 2 ศึกษาความร้เู รอื่ ง พัฒนาการด้านการเมอื งการปกครอง
➢ กลุม่ หมายเลข 3 ศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ
➢ กลุ่มหมายเลข 4 ศึกษาความรู้เรอ่ื ง พัฒนาการดา้ นสังคมและศลิ ปวฒั นธรรม และอทิ ธพิ ล
ของทวีปแอฟรกิ าตอ่ สังคมโลก
แลว้ บันทึกความรทู้ ีไ่ ด้ลงในแบบบนั ทกึ การอา่ น
4. นักเรยี นกลุ่มผเู้ ชยี่ วชาญรว่ มกนั อภิปรายในประเดน็ ท่ศี กึ ษาจนทุกคนมคี วามเข้าใจชดั เจน แล้ว
ชว่ ยกันตอบคำถามกระต้นุ ความคิด
พืน้ ทบี่ ริเวณใดในทวีปแอฟรกิ าท่ชี าวยุโรปเลอื กไปใช้ชวี ติ โดยไมต่ ้องปรบั ตัวมากนกั
(ชายฝง่ั ทะเลเมดิเตอรเ์ รเนียนทางตอนเหนอื )
5. นกั เรยี นกลุ่มผเู้ ชีย่ วชาญกลับเขา้ สู่กล่มุ บา้ น ผลัดกนั อธบิ ายความรูท้ ีไ่ ดศ้ ึกษามา พรอ้ มท้ังเปดิ โอกาส
ให้เพอื่ นไดซ้ ักถามหากมขี อ้ สงสยั
6. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกันทำใบงานที่ 6.9 เร่ือง พัฒนาการทางประวตั ิศาสตร์ของทวปี แอฟริกา
เมือ่ ทำเสรจ็ แลว้ ใหแ้ ต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอคำตอบในใบงานหน้าช้ันเรยี น ครูและเพือ่ นนักเรียนชว่ ยกัน
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
7. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
ปจั จัยใดทยี่ ุโรปให้ความสนใจทวปี แอฟริกา ท้งั ๆ ทมี่ คี วามลา้ หลงั ในสายตาของชาวยโุ รป
(มที รัพยากรธรรมชาตอิ ุดมสมบรู ณ์ เช่น น้ำมัน เพชร ทองคำ เป็นตน้ )
8. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปความร้เู กี่ยวกบั ทวปี แอฟรกิ า
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ
8. การวดั และประเมินผล
วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 6.9 ใบงานท่ี 6.9 ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบันทึกการอา่ น แบบบันทกึ การอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
สังเกตความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มน่ั แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ในการทำงาน
9.สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน ประวัตศิ าสตร์ ม.3
2) หนังสือค้นควา้ เพม่ิ เติม
- กระมล ทองธรรมชาติ และคณะ. (2545). โลกของเรา. กรงุ เทพมหานคร : อักษรเจรญิ
ทัศน.์
3) แผนท่โี ลก
4) แผนทีท่ วปี แอฟรกิ า
5) บตั รภาพ
6) ใบงานที่ 6.9 เร่ือง พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ของทวีปแอฟรกิ า
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องสมุด
2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
- ttp://th.wikipedia.org/wiki/ทวปี แอฟริกา
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทิศ
บัตรภาพ
ภาพการใชอ้ ฐู ในการเดนิ ทาง ภาพเทอื กเขาคลิ มิ นั จาโร
ภาพชนเผา่ ในทวปี แอฟรกิ า ภาพกษตั รยิ ข์ องชนเผา่ ในทวปี
แอฟรกิ า
ภาพความยากจนของคนในทวปี ภาพความเชอ่ื ในพระเจา้ ของชนเผา่ ใน
แอฟรกิ า ทวปี แอฟรกิ า
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ศิ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 13 รายวิชาประวัตศิ าสตร์
สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3
รหัสวชิ า ส………
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา……….
เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 เรอื่ งที่ 7 พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ของ
ทวปี ออสเตรเลียและโอเชียเนยี
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดีตจนถึงปจั จบุ นั ในดา้ นความสัมพันธ์และการ
เปล่ยี นแปลงของเหตุการณอ์ ย่างต่อเนื่อง ตระหนักถงึ ความสำคญั และสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบทเ่ี กดิ ขนึ้
2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
ออสเตรเลียมที ่ตี ้ังทางภูมศิ าสตรแ์ ยกออกมาจากทวีปอนื่ ๆ ทำให้มพี ัฒนาการทางประวตั ศิ าสตร์ สงั คม
เศรษฐกิจ และการเมอื งเป็นเอกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั แตเ่ มอื่ มอี ารยธรรมจากภายนอกเขา้ มาก็สามารถนำมา
ปรบั เปลย่ี นเขา้ กบั วิถีชวี ติ ของตนได้
3. ตัวช้วี ดั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ตัวชีว้ ัด
ส 4.3 ม.3/1 อธิบายพฒั นาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื งของภูมิภาคต่างๆ ในโลก
โดยสงั เขป
3.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธิบายความสำคญั ของทตี่ ง้ั และสภาพทางภูมิศาสตรข์ องทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนียท่มี ผี ล
ต่อพัฒนาการโดยสงั เขปได้
2) สรุปพฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของทวปี ออสเตรเลยี และโอ
เชียเนียโดยสังเขปได้
3) วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของทวีปออสเตรเลยี และโอเชยี เนียตอ่ สงั คมโลกได้
4. สาระการเรยี นรู้
1) ท่ตี ้ังและสภาพทางภมู ิศาสตรข์ องภมู ภิ าคต่างๆ ของโลก (ยกเวน้ เอเชยี ) ที่มีผลตอ่ พฒั นาการ
โดยสงั เขป
2) พัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ สงั คม เศรษฐกิจ และการเมอื งของภมู ิภาคต่างๆ ของโลก
(ยกเวน้ เอเชยี ) โดยสงั เขป
3) อิทธพิ ลของอารยธรรมตะวันตกทม่ี ีผลต่อพัฒนาการและการเปล่ยี นแปลงของสังคมโลกโดยสังเขป
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทกั ษะการวเิ คราะห์
2) ทักษะการสรปุ ลงความเหน็
5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครใู หน้ ักเรยี นดภู าพสัตว์ในทวีปออสเตรเลยี และโอเชียเนยี แลว้ ใหน้ ักเรยี นวเิ คราะหว์ ่า สัตว์ในภาพ
เกยี่ วข้องกบั ทวปี ออสเตรเลยี อยา่ งไร โดยให้นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ จากคำถามต่อไปน้ี
เพราะเหตุใด ทวปี ออสเตรเลยี จงึ มีสัตวท์ แ่ี ตกต่างจากทวปี อน่ื
2. ครูแจกภาพตอ่ (Jigsaw) แสดงแผนทกี่ ายภาพของทวปี ออสเตรเลียและโอเชยี เนีย พรอ้ มอุปกรณ์ใน
การทำกิจกรรม ไดแ้ ก่ กระดานลูกฟูก (Future board) กาว ใหน้ กั เรยี นกลุ่มละ 1 ชุด
3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั ตอ่ ภาพต่อ (Jigsaw) เสร็จแลว้ ครูตรวจสอบความถูกต้องก่อนทีน่ กั เรยี น
จะทากาวภาพตอ่ (Jigsaw)
4. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ชว่ ยกันพจิ ารณาท่ีตัง้ และสภาพทางภมู ศิ าสตรข์ องทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี
จากภาพตอ่ (Jigsaw) แล้วสรปุ ความรูท้ ไ่ี ด้บนกระดานในรปู ผงั กราฟิก
5. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่ม (กลมุ่ เดมิ ) แบง่ หนา้ ทกี่ ันศกึ ษาความรเู้ ก่ยี วกบั ทวีปออสเตรเลยี และโอเชยี
เนยี จากหนังสอื เรียน หนงั สอื ค้นคว้าเพม่ิ เตมิ ห้องสมุด และแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ ในหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี
1) ทตี่ ัง้ และสภาพทางภมู ศิ าสตรท์ ่มี ผี ลตอ่ พฒั นาการของทวีป
2) พฒั นาการและการสรา้ งสรรค์ด้านตา่ งๆ
3) อทิ ธิพลของทวีปออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ตอ่ สงั คมโลก
แล้วบันทึกความรทู้ ี่ไดล้ งในแบบบนั ทึกการอ่าน
6. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนำความรทู้ ี่ได้มาถา่ ยทอดใหเ้ พอื่ นในกลุ่มฟัง แลว้ ผลัดกันซกั ถามและอภปิ ราย
ข้อสงสัย จนทุกคนมีความเขา้ ใจชดั เจน
7. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันทำใบงานที่ 6.10 เรื่อง พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ของทวปี
ออสเตรเลยี และโอเชยี เนีย เมอ่ื ทำเสรจ็ แลว้ ให้สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ผลัดกันตรวจคำตอบในใบงาน ตามแนวเฉลยท่ี
ครแู จกใหแ้ ละชว่ ยกนั อธบิ ายขอ้ สงสยั ใหส้ มาชิกในกลมุ่ ฟงั
8. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1-2
1) การที่ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี ออสเตรเลียมีลักษณะเป็นเกาะสง่ ผลดีและผลเสีย
ต่อทวปี อย่างไร
(ขอ้ ดี คือ ไม่มปี ัญหาพรมแดนกบั ประเทศใด แตม่ ีข้อเสยี คอื รกั ษาความม่ันคงของประเทศได้
ยาก เนื่องจากเป็นเกาะ ผรู้ กุ รานสามารถเขา้ มาได้ทุกทิศทาง)
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ
2) นักเรยี นเช่อื หรือไม่วา่ ออสเตรเลียมแี กะมากกวา่ ประชากร
(เชอื่ เพราะลักษณะภมู ิประเทศและลกั ษณะภูมอิ ากาศของทวีปออสเตรเลียเป็นทุง่ หญา้
กวา้ งขวาง อากาศอบอุ่นจึงเหมาะสมในการเลีย้ งแกะ ประกอบกับประชากรทีเ่ ปน็ คนมีจำนวน
น้อย)
9. นกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สงั คม เศรษฐกิจ และการเมอื งของทวปี
ออสเตรเลยี และโอเชยี เนีย ลงในสมุดด้วยคำพูดของตนเองในรปู ผงั กราฟกิ แบบก้างปลา
8. การวัดและประเมนิ ผล
วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 6.10 ใบงานท่ี 6.10 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทึกการอา่ น แบบบันทึกการอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ ม่ัน แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ในการทำงาน
9.สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
9.1 ส่อื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน ประวัตศิ าสตร์ ม.3
2) หนงั สือคน้ คว้าเพิ่มเตมิ
(1) อกั ษร-ฟลิ ิป. (2553). World Atlas 1. พิมพ์คร้ังท่ี 17. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ
ทศั น์.
(2) อักษร-ฟลิ ปิ . (2553). World Atlas 2. พมิ พ์คร้ังท่ี 21. กรงุ เทพมหานคร : อักษรเจรญิ
ทศั น์.
3) ภาพต่อ (Jigsaw) แสดงแผนที่กายภาพของทวีปออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี
4) อุปกรณใ์ นการทำกจิ กรรม ไดแ้ ก่ กระดานพลาสติกลกู ฟกู (Future board) กาว
5) บตั รภาพ
6) ใบงานที่ 6.10 เรื่อง พัฒนาการทางประวตั ิศาสตรข์ องทวปี ออสเตรเลียและโอเชยี เนยี
9.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมดุ
2) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
- http://th.wikipedia.org/wiki/ทวปี ออสเตรเลยี
- http://th.wikipedia.org/wiki/โอเชียเนยี
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ
บตั รภาพ
ภาพหมโี คลา่ ภาพจงิ โจ้
ภาพแกะ ภาพชกู ารไ์ กรเดอร์
ภาพโอพอสซมั ภาพวอมแบท
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 14 รายวิชาประวัตศิ าสตร์
สาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3
รหสั วิชา ส………
ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา……….
เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 เรอื่ งที่ 8 ตามรอยอารยธรรม ตะวันตกรอบโลก
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 4.2 เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาติจากอดตี จนถงึ ปจั จุบนั ในดา้ นความสัมพนั ธแ์ ละการ
เปลยี่ นแปลงของเหตุการณอ์ ยา่ งตอ่ เน่อื ง ตระหนกั ถึงความสำคัญและสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบทเ่ี กดิ ข้ึน
2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
อารยธรรมตะวนั ตกแพรห่ ลายไปทั่วโลกสง่ ผลใหเ้ กิดพัฒนาการและการเปล่ียนแปลงในดา้ นตา่ งๆ ของ
สังคมโลก
3. ตวั ช้วี ัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ตัวชี้วดั
ส 4.3 ม.3/1 อธิบายพฒั นาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมอื งของภมู ภิ าคต่างๆ ในโลก
โดยสงั เขป
3.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1) วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลอารยธรรมตะวันตกในภมู ภิ าคต่างๆ ของโลกได้
4. สาระการเรียนรู้
อิทธิพลของอารยธรรมตะวันตกทีม่ ผี ลต่อพฒั นาการและการเปลย่ี นแปลงทางสังคมโลกโดยสงั เขป
5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู
2) ทกั ษะการวเิ คราะห์
3) ทักษะการสรา้ งความรู้
4) ทักษะการสรุปลงความเห็น
5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุง่ มั่นในการทำงาน
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลมุ่ เดมิ ) เลือกภาพอารยธรรมตะวนั ตก กลุม่ ละ 3-5 ภาพ (ครูเตรยี ม
ภาพให้นักเรยี นหลายๆ ภาพ)
2. นักเรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั ภาพทเ่ี ลอื กวา่ เปน็ อารยธรรมตะวนั ตกในสมยั
ใด
3. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
นักเรียนใชอ้ ะไรเปน็ เกณฑใ์ นการตดั สนิ วา่ ภาพท่นี ักเรียนเลือกเป็นอารยธรรมตะวันตก ในสมยั ใด
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)
4. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันศึกษาความรเู้ รอื่ ง อิทธพิ ลของอารยธรรมตะวันตกตอ่ พัฒนาการและการ
เปลย่ี นแปลงของสังคมโลก จากหนงั สือคน้ ควา้ เพมิ่ เติม หอ้ งสมุด และแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศแล้วบนั ทึกความรู้
ท่ไี ด้ลงในแบบบนั ทึกการอ่าน
5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันอภปิ รายความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษา
6. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ผลัดกันซักถามหากมขี อ้ สงสยั และผลัดกนั
อธิบายจนทกุ คนมีความเข้าใจชดั เจน แลว้ สรปุ ความเขา้ ใจโดยเขียนแผนผงั ความคดิ ลงในใบงานท่ี 6.11 เรื่อง
อิทธิพลของอารยธรรมตะวนั ตกต่อพฒั นาการและการเปล่ียนแปลงของสังคมโลก เมอ่ื ทำเสรจ็ แล้วให้
ตัวแทนของแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอคำตอบหนา้ ชัน้ เรยี น
7. นักเรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ
นกั เรยี นคิดว่า อารยธรรมตะวนั ตกมอี ทิ ธพิ ลต่อการพัฒนาและการเปลีย่ นแปลงของ สงั คมโลกอยา่ งไร
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผ้สู อน)
8. นกั เรียนแต่ละกลุม่ นำภาพอารยธรรมตะวันตกทคี่ รแู จกให้ มาจำแนกกลุ่มแสดงอทิ ธิพลของอารย
ธรรมตะวันตก พรอ้ มอธิบายประกอบ
9. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับอิทธิพลของอารยธรรมตะวนั ตกต่อพฒั นาการและ
การเปลี่ยนแปลงของสงั คม
10. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6
ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันทำหนงั สือเล่มเลก็ เรือ่ ง ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการ
ทางประวัตศิ าสตร์ โดยให้ครอบคลมุ ประเดน็ ตามท่กี ำหนด ดังน้ี
1) การอธิบายที่ตัง้ และสภาพทางภมู ศิ าสตร์ของภูมิภาคต่างๆ ของโลกที่มผี ลต่อพัฒนาการ
2) การอธิบายพฒั นาการทางการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม และวฒั นธรรมของภมู ภิ าค
ต่างๆ ของโลก
3) การวิเคราะหอ์ ิทธพิ ลของอารยธรรมตะวนั ตกทีม่ ผี ลต่อพฒั นาการและการเปล่ียนแปลงของสงั คม
โลก
11. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นสกั ถามขอ้ สงสัย
12. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ องคค์ วามรู้
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กล่มุ สาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ
8. การวดั และประเมินผล
วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 6.11 ใบงานท่ี 6.11 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทึกการอ่าน แบบบนั ทึกการอา่ น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตความมีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มั่น แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ในการทำงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6
เรยี นรู้ท่ี 6
ตรวจหนงั สอื เลม่ เล็ก เรอ่ื ง ภมู ิภาคของ แบบประเมนิ หนังสือเล่มเล็ก เร่อื ง
โลกกบั พัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ ภมู ภิ าคของโลกกบั พฒั นาการทาง
ประวตั ศิ าสตร์
9.ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สอื คน้ ควา้ เพิ่มเติม
(1) กระมล ทองธรรมชาติ และคณะ. (2545). โลกของเรา. กรงุ เทพมหานคร : อักษรเจรญิ
ทศั น์.
(2) วิมลพรรณ ภทั โรดม. (2540). ยุโรปหลงั สงครามโลกครั้งที่ 2. กรงุ เทพมหานคร :
ศกั ดโ์ิ สภาการพมิ พ์.
(3) William, Roger. (2540). ทวีปยโุ รป. (พวงนิล คำปงั ส์ุ ผแู้ ปล). กรงุ เทพมหานคร :
หน้าต่าง สโู่ ลกกว้าง.
2) บัตรภาพ
3) ใบงานท่ี 6.11 เรื่อง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตะวันตกต่อพฒั นาการและการเปล่ยี นแปลง
ของสังคมโลก
9.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งสมุด
2) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ
- http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?...
- http://www.thaigoodview.com/library/.../europe_topography.html
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุม่ สาระการเรียนรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ
แบบประเมนิ หนงั สอื เลม่ เลก็
เรอ่ื ง ภมู ภิ าคของโลกกบั พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตร์
ลาดบั ที่ รายการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 การอธิบายท่ตี ง้ั และสภาพทางภมู ศิ าสตรข์ อง
ภมู ิภาคตา่ งๆ ของโลกทม่ี ผี ลต่อพฒั นาการ
การอธบิ ายพฒั นาการทางการเมอื งการปกครอง
2 เศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรมของภมู ภิ าค
ตา่ งๆ ของโลก
การวิเคราะหอ์ ิทธิพลของอารยธรรมตะวนั ตกทม่ี ี
3 ผลต่อพฒั นาการและการเปลย่ี นแปลงของสังคม
โลก
รวม
ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ดีมาก = 4 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ดี = 3 คะแนน 11 - 12 ดมี าก
พอใช้ = 2 คะแนน 9 - 10 ดี
ปรบั ปรุง = 1 คะแนน 6 - 8 พอใช้
ต่ากวา่ 6 ปรับปรงุ
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
บัตรภาพ
ภาพวหิ ารอโครโปลสิ ภาพโคลอสเซยี ม
ภาพพระราชวงั แวรซ์ ายส์ ภาพประตชู ยั ฝรงั่ เศส
ภาพมหาวหิ ารโนเทรอดาม ภาพรปู แกะสลกั เดวดิ
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 15 รายวิชาประวัตศิ าสตร์
สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
รหสั วิชา ส………
ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา……….
เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 เรอื่ งท่ี 1 สงครามโลกคร้ังท่ี 1 และสงครามโลกครง้ั ที่ 2
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดตี จนถึงปัจจบุ นั ในดา้ นความสมั พนั ธแ์ ละการ
เปลีย่ นแปลงของเหตุการณอ์ ยา่ งต่อเนื่อง ตระหนกั ถึงความสำคญั และสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบท่ีเกิดขนึ้
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
สงครามโลกคร้ังท่ี 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดข้นึ จากความขดั แย้งและการแขง่ ขันกันของมนษุ ยชาติ
จนทำให้เกิดเปน็ สงครามที่มีผลกระทบต่อโลกอย่างกวา้ งขวาง
3. ตวั ชี้วัด/จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ตัวชี้วดั
ส 4.3 ม.3/2 วเิ คราะห์ผลของการเปลย่ี นแปลงท่ีนำไปสูค่ วามรว่ มมือ และความขัดแยง้ ใน
ครสิ ต์ศตวรรษที่ 20 ตลอดจนความพยายามในการขจดั ปญั หาความขัดแยง้
3.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1) ระบสุ าเหตุของสงครามโลกครง้ั ท่ี 1 และสงครามโลกครง้ั ที่ 2 ได้
4. สาระการเรียนรู้
ความร่วมมอื และความขดั แยง้ ในคริสต์ศตวรรษท่ี 20 เช่น สงครามโลกครัง้ ที่ 1 สงครามโลกคร้งั ที่ 2
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการรวบรวมข้อมลู
2) ทักษะการวเิ คราะห์
3) ทกั ษะการสรา้ งความรู้
5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทศิ
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
1.นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7
2. ครูแจกช้ินส่วนภาพตอ่ (Jigsaw) แสดงสภาพเมอื งฮิโระชมิ ะหรอื เมอื งนะงะซะกทิ ไ่ี ดร้ บั ผลกระทบ
จากสงครามโลกคร้ังที่ 2 ให้นักเรียนคนละ 1 สว่ น แลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอ่ ภาพตอ่ (Jigsaw) เป็นภาพ
3. ครูสนทนาเกี่ยวกบั ภาพท่ีนักเรียนชว่ ยกนั ต่อ แลว้ ซกั ถามนักเรียนว่า นักเรียนมีความรสู้ กึ อย่างไรกบั
ภาพน้นั
4. นักเรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคิด
นกั เรยี นคดิ ว่า อะไรเป็นสาเหตหุ ลักทที่ ำใหเ้ กิดสงคราม
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผูส้ อน)
5. ครอู ธบิ ายขั้นตอนการทำกจิ กรรม SQ3R ใหน้ กั เรยี นฟัง หากนักเรยี นมขี อ้ สงสัยครอู ธบิ ายเพ่มิ เตมิ
จนนักเรียนมีความเขา้ ใจชัดเจน
6. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน คละกนั ตามความสามารถ แลว้ ให้นกั เรยี นกำหนดหมายเลข
ประจำตวั ใหส้ มาชกิ แตล่ ะคน เปน็ หมายเลข 1-5 ตามลำดบั จากนน้ั ให้นักเรยี นแตล่ ะหมายเลขศกึ ษาความรู้
เรื่อง สงครามโลกครั้งท่ี 1 และสงครามโลกครั้งท่ี 2 ตามประเดน็ ทก่ี ำหนดให้ ดังนี้
➢ หมายเลข 1 ศึกษาความรเู้ รอ่ื ง ชนวนของสงคราม
➢ หมายเลข 2 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง สาเหตขุ องสงคราม
➢ หมายเลข 3 ศกึ ษาความรู้เรอื่ ง การรบในสงคราม
➢ หมายเลข 4 ศึกษาความรู้เรอ่ื ง ความหายนะของสงคราม
➢ หมายเลข 5 ศึกษาความรูเ้ รอื่ ง ผลของสงคราม
โดยให้นักเรียนศึกษาความรูต้ ามประเดน็ ที่ไดร้ บั จากหนงั สอื เรียนอย่างครา่ วๆ เพอื่ หาจดุ สำคญั ของเรอื่ ง
7. เมือ่ นักเรยี นศึกษาความรู้ตามประเด็นที่ได้รับมอบหมายอยา่ งครา่ วๆ แลว้ สรปุ สาเหตุการเกดิ
สงครามโลกคร้ังท่ี 1 และสงครามโลกคร้ังที่ 2 และเขียนลงในกระดาษ A4 ทีค่ รแู จกให้
8. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนสักถามขอ้ สงสัย
9. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้
8. การวัดและประเมนิ ผล
วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์
(ประเมนิ ตามสภาพจริง)
ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการ แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 7
เรียนรู้ท่ี 7 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
สงั เกตความมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่น แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
ในการทำงาน
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ศิ
9.สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
9.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสอื เรียน ประวัตศิ าสตร์ ม.3
2) หนงั สอื คน้ ควา้ เพิม่ เตมิ
(1) ปรชี า ศรวี าลยั . (2543). สงครามโลกครงั้ ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : โอเดียนสโตร.์
(2) วิมลวรรณ ภัทโรดม. (2540). ยุโรปหลงั สงครามครั้งที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : ศักดโิ สภา
การพมิ พ.์
3) ภาพต่อ (Jigsaw) แสดงสภาพเมอื งฮโิ ระชมิ ะ หรือเมอื งนะงะซะกทิ ี่ได้รับผลกระทบจาก
สงครามโลก คร้งั ที่ 2
9.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องสมุด
2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
- http://www.wikipedia.org/wiki/สงครามโลกคร้งั ท่ี 1
- http://www.wikipedia.org/wiki/สงครามโลกคร้งั ที่ 2
- http://www.war-world.com/สงครามโลกคร้ังที่ 1
- http://www.bbcpoint.ob.tc/2551m4/world war 1-2.doc
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอทุ ิศ
ภาพตอ่
ภาพเมอื งฮโิ ระชมิ ะ
ภาพเมอื งนะงะซะกิ
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทศิ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 16 รายวิชาประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3
รหัสวชิ า ส………
ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา……….
เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรอื่ งที่ 2 ผลกระทบของสงครามโลกครงั้ ที่ 1 ครั้งที่ 2
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดตี จนถึงปัจจบุ นั ในด้านความสมั พนั ธแ์ ละการ
เปลีย่ นแปลงของเหตุการณอ์ ยา่ งต่อเนือ่ ง ตระหนกั ถงึ ความสำคญั และสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบท่ีเกิดขนึ้
2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเกิดสงครามโลกคร้ังท่ี 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำใหม้ กี ารสญู เสียชีวติ และทรัพยส์ นิ จำนวน
มหาศาล มีผลกระทบต่อมนษุ ยชาตอิ ยา่ งกว้างขวาง
3. ตัวชว้ี ดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ตัวชี้วดั
ส 4.3 ม.3/2 วิเคราะหผ์ ลของการเปล่ียนแปลงท่นี ำไปส่คู วามรว่ มมือ และความขดั แยง้ ใน
ครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 20 ตลอดจนความพยายามในการขจดั ปญั หาความขดั แยง้
3.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1) อธิบายเหตกุ ารณเ์ กยี่ วกับการเกิดสงครามโลกครง้ั ที่ 1 และสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 ได้
2) วิเคราะห์ผลกระทบของสงครามโลกครัง้ ท่ี 1 และสงครามโลกครง้ั ที่ 2 ที่มตี ่อมนษุ ยชาตไิ ด้
4. สาระการเรยี นรู้
ความรว่ มมอื และความขัดแย้งในคริสต์ศตวรรษท่ี 20 เช่น สงครามโลกคร้งั ท่ี 1 สงครามโลกครัง้ ท่ี 2
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู
2) ทกั ษะการวเิ คราะห์
3) ทกั ษะการสรา้ งความรู้
5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มั่นในการทำงาน
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครูให้นักเรียนแตล่ ะคนศกึ ษาความรู้ตามประเด็นท่ีได้รบั อกี ครง้ั โดยใหน้ ักเรยี นศึกษาอยา่ งละเอยี ด
จากใบความรู้เรอ่ื ง สงครามโลกครง้ั ที่ 1 และสงครามโลกคร้ังที่ 2 และหนงั สือเรียน หากนกั เรียน เห็นว่า
เน้อื หาทไ่ี ดศ้ กึ ษาอย่างละเอยี ดมีประเดน็ ใดน่าสนใจ และยงั ไมไ่ ดต้ ัง้ คำถามเกย่ี วกับประเดน็ นนั้ ๆ ให้นกั เรยี นตัง้
คำถามเพมิ่ เติม
2. ครูส่มุ นกั เรียนออกมานำเสนอผลการสรุปสาเหตกุ ารเกดิ สงครามโลกคร้งั ท่ี 1 และสงครามโลกครัง้ ที่
2 ท่ีนักเรยี นสรุปไวใ้ นชว่ั โมงที่แล้ว หน้าชนั้ เรยี น
3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด ขอ้ 1-3
1) นักเรยี นคิดวา่ สาเหตขุ องการเกดิ สงครามโลกคร้งั ที่ 1 และสงครามโลกครง้ั ที่ 2 เหมือนหรอื
แตกต่างกนั อย่างไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
2) เพราะเหตุใด สงครามโลกคร้งั ท่ี 2 จงึ มพี ื้นทกี่ ารทำสงครามขยายไปทวั่ โลก
(เพราะประเทศคู่สงครามต่างพยายามหาพันธมิตรมาสนบั สนนุ การทำสงคราม โดยการใชว้ ธิ ี
ต่างๆ เชน่ การทำสนธิสญั ญา การแบ่งผลประโยชนร์ ว่ มกนั เปน็ ต้น)
3) ถา้ นกั เรียนเปน็ ผนู้ ำประเทศคูส่ งครามในสมัยสงครามโลกครงั้ ที่ 1 และสงครามโลกคร้งั ที่ 2
นกั เรยี นจะแกไ้ ขปญั หาความขัดแย้งระหว่างประเทศดว้ ยการทำสงครามหรอื ไม่
เพราะเหตุใด
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน)
4. ครใู หน้ ักเรียนทบทวนคำตอบจากคำถามของตนเองวา่ ถูกตอ้ งสมบรู ณ์แลว้ หรือยงั ถา้ ยังใหแ้ ก้ไข
เติมเตม็ จนไดค้ ำตอบทสี่ มบูรณ์
5. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันทบทวนความรใู้ นประเด็นที่ศกึ ษามาเลา่ ใหเ้ พอื่ นในกลมุ่ ฟงั ผลดั กัน
อภิปรายแลกเปลย่ี นความร้จู นทกุ คนมคี วามเขา้ ใจชัดเจน
6. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันวเิ คราะห์ตามประเดน็ ท่ีกำหนดให้ในใบงานที่ 7.1 เรอื่ ง สงครามโลก
คร้งั ท่ี 1 และสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 เสร็จแลว้ สง่ ตวั แทนกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานในใบงาน หนา้ ชนั้ เรยี น ครู
และเพอ่ื นกล่มุ อืน่ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นถงึ ผลกระทบของสงครามทีม่ ีต่อมนุษย์โลก
8. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรูเ้ รอื่ ง สงครามโลกคร้ังท่ี 1 และสงครามโลกคร้งั ที่ 2
9. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
นกั เรียนคดิ วา่ ในอนาคตจะมีโอกาสเกดิ สงครามโลกข้ึนอกี หรือไม่ เพราะเหตใุ ด
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน)
10. นักเรียนรว่ มกันสรุปถงึ ผลกระทบของสงครามโลกครั้งท่ี 1 และสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 ท่มี ีตอ่
มนษุ ยชาติ โดยครชู ว่ ยแนะนำเพิม่ เติม
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทิศ
8. การวดั และประเมินผล
วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 7.1 ใบงานที่ 7.1 ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
สังเกตความมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มั่น แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ในการทำงาน
9.สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) ใบความรเู้ รื่อง สงครามโลกครง้ั ที่ 1 และสงครามโลกคร้ังท่ี 2
2) ใบงานที่ 7.1 เร่อื ง สงครามโลกครงั้ ที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2
9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
----
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กล่มุ สาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทิศ
ใบความรู้
สงครามโลกครง้ั ที่ 1 และสงครามโลกครง้ั ที่ 2
หวั ขอ้ สาคญั สงครามโลกครง้ั ท่ี 1 สงครามโลกครง้ั ท่ี 2
1. สาเหตขุ องสงคราม 1. ปญั หาลทั ธิชาตนิ ยิ ม 1. ความล้มเหลวขององค์กร
2. ปัญหาลทั ธจิ กั รวรรดนิ ยิ ม
2. วกิ ฤตการณส์ าคญั 3. การแข่งขนั ด้านแสนยานุภาพ สนั นบิ าตชาติ
กอ่ นสงคราม 2. การเติบโตของลัทธนิ ยิ มทหาร
(ลัทธนิ ิยมทหาร) 3. ความแตกตา่ งทางอุดมการณ์
3. ชนวนสงคราม 4. การขยายตัวของพนั ธมติ รทาง
ทางการเมอื ง
4. การทาสงคราม ทหาร 4. การแขง่ ขนั ทางเศรษฐกจิ
- กลมุ่ ไตรภาคี 5. ความไมเ่ ปน็ ธรรมของ
5. ผลสาคญั ของสงคราม
(เยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี สนธิสญั ญา
อติ าลี) แวร์ซายส์ และสนธสิ ญั ญา
- กลุ่มพันธมติ รสามเสา้ สนั ติภาพฉบับอน่ื ๆ
(อังกฤษ รัสเซยี ฝรัง่ เศส) 1. เยอรมนลี ะเมดิ สนธสิ ญั ญาแวร์
ความไมส่ งบในคาบสมุทรบอลขา่ น ซายส์
การลอบปลงพระชนม์อาร์ชดกุ๊ 2. อิตาลบี ุกเอธิโอเปีย
ฟรานซิส เฟอรด์ ินานด์ (Archduke 3. สงครามกลางเมืองในสเปน
Francis Ferdinad) มกฎุ ราชกุมาร 4. เยอรมนีรวมออสเตรยี
แห่งจกั รวรรดอิ อสเตรยี -ฮังการี 5. เยอรมนรี วมเชโกสโลวะเกีย
ขณะเสดจ็ เยือนกรงุ ซาราเยโว 6. อติ าลยี ึดแอลเบเนยี
(Sarajevo) เมืองหลวงของแควน้ 7. เยอรมนบี ุกโปแลนด์
บอสเนยี เยอรมนบี ุกโปแลนด์
กลุ่มประเทศมหาอานาจกลางทา
สงครามกับฝ่ายสมั พันธมติ รใน สงครามเกิดขึน้ ท่ัวโลก
ดนิ แดนทวปี ยโุ รป 1. เยอรมนีบกุ ประเทศต่างๆ ใน
ฝ่ายสมั พันธมติ รชนะสงคราม ทวปี ยโุ รปแบบสายฟ้าแลบ
ประกาศนโยบาย 14 ข้อของ 2. เยอรมนีบกุ ทวปี แอฟรกิ า
ประธานาธบิ ดีวดู โรว์ 3. ญปี่ ุน่ บุกแมนจเู รีย จนี อนิ โดจีน
วิลสัน เป็นหลกั การยตุ สิ งคราม และ 4. สงครามสหรัฐอเมรกิ า-ญีป่ นุ่ ใน
มีการจัดต้งั องค์การสันนบิ าตชาติ
(The League of Nations) มหาสมทุ รแปซิฟกิ
ฝ่ายพนั ธมิตรเปน็ ฝา่ ยชนะ เยอรมนี
อติ าลี และญป่ี ุ่นยอมแพต้ ามลาดบั
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ิศ
หวั ขอ้ สาคญั สงครามโลกครง้ั ที่ 1 สงครามโลกครงั้ ท่ี 2
6. การทาสญั ญาสนั ตภิ าพ
มีการทาสนธสิ ัญญาแวรซ์ ายส์ มีการทาสญั ญาสันติภาพท่กี รุง
7. หลงั สงคราม ลอนดอน
(Treaty of Versailles) และ
สนธสิ ญั ญาสนั ตภิ าพฉบับอนื่ ๆ 1. เกดิ องค์การสหประชาชาติ
2. เกดิ ประเทศเอกราชใหม่
เกดิ องค์การสนั นิบาตชาติ แต่ 3. มีการแบ่งแยกประเทศเยอรมนี
สหรฐั อเมรกิ าไมเ่ ข้าร่วมเปน็ สมาชกิ
และขาดกองกาลังเป็นของตนเอง เกาหลี และเวียดนาม
4. เกิดสงครามเย็น
5. เกดิ กลมุ่ ประเทศทไี่ มฝ่ ักใฝฝ่ า่ ย
ใด
6. เกิดปญั หาพรมแดน
ผลประโยชนท์ างเศรษฐกจิ และ
เช้ือชาติ
7. แข่งขนั กันสะสมแสนยานภุ าพ
อาวุธ
8. การเหยียดผิวในแอฟริกาใต้
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ปิ ฐวี
กล่มุ สาระการเรียนรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 17 รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์
สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3
รหสั วชิ า ส………
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา……….
เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 เรอ่ื งท่ี 3 สาเหตกุ ารเกดิ สงครามเย็น
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ส 4.2 เขา้ ใจพัฒนาการของมนษุ ยชาติจากอดตี จนถึงปัจจบุ นั ในด้านความสมั พนั ธแ์ ละการ
เปล่ียนแปลงของเหตุการณอ์ ย่างต่อเนือ่ ง ตระหนกั ถึงความสำคัญและสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบที่เกดิ ขึน้
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การเกิดสงครามเยน็ ภายหลังสงครามโลกครัง้ ท่ี 2 มสี าเหตมุ าจากความขัดแย้งของชาตมิ หาอำนาจ
3. ตวั ชี้วดั /จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ตัวชวี้ ัด
ส 4.3 ม.3/2 วเิ คราะห์ผลของการเปล่ียนแปลงทนี่ ำไปสู่ความรว่ มมือ และความขดั แย้งใน
ครสิ ต์ศตวรรษท่ี 20 ตลอดจนความพยายามในการขจัดปญั หาความขดั แย้ง
3.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) ระบุสาเหตขุ องการเกิดสงครามเย็นได้
4. สาระการเรียนรู้
ความร่วมมือและความขดั แยง้ ในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 20 เชน่ สงครามเย็น
5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทกั ษะการวเิ คราะห์
2) ทักษะการสร้างความรู้
5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ศิ
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพยนตร์เรอ่ื ง Pearl Harbor (ครเู ลอื กเฉพาะตอนที่เก่ียวกบั สงครามเวยี ดนาม)
แล้วใหน้ ักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
นกั เรียนคิดวา่ สงครามที่ปรากฏในภาพยนตรเ์ ร่อื งนี้ คอื สงครามใดและชนวนของสงครามคอื อะไร
2. ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเหน็ อยา่ งหลากหลายเก่ียวกบั เนอื้ หาจากภาพยนตรเ์ รอื่ ง Pearl Harbor
3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
นักเรยี นคิดวา่ ความขดั แย้งจำเปน็ ตอ้ งใชก้ ำลงั หรอื อาวธุ ในการแกไ้ ขปญั หาหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน)
4. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ (กลมุ่ เดิม) ศกึ ษาความรู้เรือ่ ง สงครามเยน็ ตามหวั ข้อท่ีกำหนดให้ ดงั น้ี
➢ หมายเลข 1 ศึกษาความรเู้ ร่ือง หลักการทรแู มน
➢ หมายเลข 2 ศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง วกิ ฤตการณส์ งครามเย็น
➢ หมายเลข 3 ศึกษาความรู้เร่ือง การผอ่ นคลายความตงึ เครยี ด
➢ หมายเลข 4 ศกึ ษาความรเู้ รื่อง การสิน้ สดุ ของสงครามเย็น
➢ หมายเลข 5 ศึกษาความรู้เรอ่ื ง นโยบายของประเทศอภมิ หาอำนาจหลงั สงครามเยน็
5. นักเรียนศึกษาความรู้ จากหนงั สือเรียน หนังสือคน้ คว้าเพมิ่ เติม ห้องสมดุ และแหล่งขอ้ มูล
สารสนเทศ และศกึ ษาความรเู้ พิม่ เตมิ จากใบความรเู้ รอื่ ง สงครามเยน็ แลว้ นำความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษาบันทกึ ลงใน
แบบบนั ทึกการอา่ น
6. นกั เรยี นแต่ละคนเขยี นแผนผงั ความคิดสรปุ สาเหตขุ องการเกดิ สงครามเย็น เสรจ็ แลว้ ครสู ุม่ นกั เรียน
ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน ครูตรวจสอบความถกู ต้อง
7. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสักถามข้อสงสยั
8. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปองค์ความรู้
8. การวัดและประเมนิ ผล
วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบันทึกการอา่ น แบบบนั ทกึ การอา่ น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
สังเกตความมีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ มั่น แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ในการทำงาน
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กล่มุ สาระการเรียนร้สู งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอทุ ศิ
9.สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสอื เรียน ประวตั ิศาสตร์ ม.3
2) หนังสือคน้ ควา้ เพิม่ เติม
(1) วิมลวรรณ ภัทโรดม. (2540). ยุโรปหลังสงครามครง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : ศกั ดิโสภา
การพิมพ.์
(2) สัญชยั สวุ งั บุตร. (2540). ยุโรปสามทศวรรษหลังสงคราม 1945-1975. กรุงเทพมหานคร
: โรงพิมพ์มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร.์
3) ใบความรเู้ ร่อื ง สงครามเย็น
4) ภาพยนตรเ์ รอ่ื ง Pearl Harbor
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งสมุด
2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ
- http://www.wikipedia.org/wiki/สงครามเยน็
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งี คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
ใบความรู้
สงครามเยน็
1. ความหมายของสงครามเยน็
สงครามเยน็ หมายถึง สภาพความขดั แย้งในอดุ มการณท์ างการเมืองระหว่างชาตมิ หาอานาจของ
โลก 2 ชาติ คือ สหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวยี ต ซึ่งเกดิ ขน้ึ ภายหลังสงครามโลกครงั้ ท่ี 2
(คริสตศ์ ักราช 1945) และสน้ิ สดุ ลงภายหลังการลม่ สลายของสหภาพโซเวยี ต เม่อื ปคี รสิ ตศ์ ักราช
1991 รวมเวลา 45 ปี
2. สาเหตขุ องสงครามเยน็
เน่ืองจากสงครามครงั้ นต้ี อ่ สกู้ ันโดยใช้จติ วทิ ยาไม่ได้ใชก้ าลังเขา้ โจมตี ส่วนสาเหตสุ าคญั ทท่ี า
ให้เกดิ สงครามเยน็ นัน้ คอื เกดิ ดุลแหง่ ความหวาดกลวั หมายถึง ชาตมิ หาอานาจทง้ั สองตา่ ง
หวาดกลัวอาวุธร้ายแรง และความหายนะจากภัยสงครามระหวา่ งชาติทงั้ สองทอี่ าจเกดิ ข้ึนในอนาคต
3. ความขดั แยง้ ของชาตมิ หาอานาจในยคุ สงครามเยน็
1) ชว่ งเวลาท่โี ลกเข้าสยู่ ุคสงครามเย็น (ครสิ ต์ศักราช 1945-1991) ประเทศส่วนใหญ่ในโลกถกู
แบ่งเป็น 2 คา่ ย คือ
- คา่ ยเสรปี ระชาธปิ ไตยนาโดยสหรฐั อเมริกา
- ค่ายคอมมิวนสิ ตน์ าโดยสหภาพโซเวียต
2) เมอ่ื เกิดปญั หาความขดั แย้งถึงขน้ั ตอ้ งทาสงครามต่อกนั ประเทศเลก็ ๆ เหล่านี้จะได้รบั ความ
ช่วยเหลือสนับสนนุ ทางด้านเศรษฐกิจและกาลงั อาวธุ จากชาตมิ หาอานาจ
4. ความขดั แยง้ และสงครามตวั แทนในภมู ิภาคเอเชยี
สงครามตวั แทนน้นั ปรากฏอยา่ งเดน่ ชดั โดยเฉพาะในเขตเอเชยี ได้แก่ จีน เกาหลี และเอเชยี
ตะวนั ออกเฉียงใต้ ได้แก่ เวียดนาม สงครามตวั แทนในจีน เรม่ิ ต้นขึน้ หลงั จาก ดร. ซนุ ยดั เซน ทา
การปฏิวตั ลิ ม้ ลา้ งการปกครองของราชวงศแ์ มนจู ในชว่ งเวลาดงั กล่าวจนี ต้องเผชญิ ปญั หาทาง
เศรษฐกจิ อยา่ งหนกั ดร. ซนุ ยัด เซน จงึ รบั ความชว่ ยเหลอื ทางการเงินจากสหภาพโซเวียตและ
ยินยอมใหม้ กี ารจดั ตง้ั พรรคคอมมวิ นสิ ต์จีนขนึ้ โดยมี เหมา เจอ๋ ตง เปน็ ผนู้ าพรรค ต่อมา เจียง
ไค เช็ค ได้ดารงตาแหน่งผนู้ าประชาธิปไตยจีนแทน ดร. ซนุ ยดั เซน และเกิดความขัดแยง้ กบั
เหมา เจ๋อ ตง ทตี่ อ้ งการเปลยี่ นแปลงการปกครองของจนี เขา้ ส่สู ังคมนิยม สงครามตวั แทนจึงปะทุ
ขน้ึ โดยสหภาพโซเวยี ต สนบั สนุนเหมา เจอ๋ ตง สว่ นสหรัฐอเมรกิ าสนบั สนนุ เจียง ไค เชค็ ปรากฏ
วา่ เหมา เจ๋อ ตง ชนะประเทศจีน จงึ เปล่ยี นระบบการปกครองเป็นคอมมวิ นสิ ต์ภายใตช้ อื่ สาธารณรัฐ
ประชาชนจีน (People Republic of China) ในปี ครสิ ตศ์ กั ราช 1949 สว่ นฝา่ ยเจยี ง ไค เช็ค ตอ้ ง
อพยพไปตง้ั ถนิ่ ฐานยังเกาะไตห้ วนั และจดั ตงั้ รัฐบาลจนี คณะชาติปกครองไตห้ วนั ในระบอบ
ประชาธปิ ไตย
สงครามตัวแทนในเกาหลี เกิดขน้ึ จากการทฝ่ี า่ ยพันธมติ รแบง่ แยกเกาหลอี อกเปน็ 2 สว่ น หลงั
สงครามโลกครงั้ ที่ 2 ยตุ ิ โดยเหนอื เสน้ ขนานที่ 38 ใหส้ หภาพโซเวียตเป็นฝ่ายดแู ล ส่วนทอ่ี ยใู่ ต้
เส้นขนานที่ 38 สหรัฐอเมริกาเปน็ ฝา่ ยดแู ล สหภาพโซเวยี ตถอื วา่ เส้นขนานท่ี 38 เปน็ เสน้ แบ่งทาง
การเมอื งและต้องการใหเ้ ป็นคอมมวิ นสิ ต์ แตส่ หรัฐอเมรกิ าตอ้ งการให้ท้ังสองส่วนรวมเป็นประเทศ
เดยี ว และมกี ารเจรจาตกลงกนั ถงึ 2 ปี แตไ่ มป่ ระสบผลสาเร็จ สหรัฐอเมรกิ าจึงย่นื ข้อเสนอต่อ
องคก์ ารสหประชาชาตเิ พื่อสถาปนาเอกราชของเกาหลี แตส่ หภาพโซเวยี ตไมย่ ินยอม
สหรัฐอเมรกิ าจึงสถาปนาใตเ้ ส้นขนานที่ 38 เป็นสาธารณรฐั เกาหลี (Korea Republic) ปกครองใน
ระบอบประชาธปิ ไตย
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ิปฐวี
กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ หง่ ประเทศไทยอุทิศ
ในขณะทีส่ หภาพโซเวยี ตก็สถาปนาเขตเหนอื เสน้ ขนานที่ 38 ขึ้นเป็นสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตย
ประชาชนเกาหลี (Korea People Democratic Republic) ปกครองแบบสงั คมนิยม ต่อมาในวันท่ี
25 มิถนุ ายน ครสิ ต์ศกั ราช 1950 ทหารของเกาหลเี หนอื ภายใต้การสนบั สนนุ ของสหภาพโซเวียต
ได้ยกทพั ข้ามเสน้ ขนานที่ 38 เขา้ ยดึ กรุงโซล เมอื งหลวงของเกาหลใี ต้และมุ่งยดึ เกาหลใี ตท้ ้งั หมด
สหประชาชาตไิ ด้เรียกประชมุ คณะมนตรีความม่นั คงและไดผ้ ่านมติ ใหข้ บั ไล่เกาหลีเหนือออกไป
จากเกาหลีใต้ โดยสหภาพโซเวยี ตไม่ได้ใชส้ ิทธิยับยั้ง (VETO) เนอ่ื งจากไมอ่ ยใู่ นทีป่ ระชมุ กอง
กาลงั ของสหประชาชาติ นาโดยสหรัฐอเมริกาภายใตก้ ารบังคับบญั ชาของพลเอกแมคอารเ์ ธอร์
(Mac Arthur) จงึ ยกพลขนึ้ บกท่ีเมืองอนิ ชอนใกล้กรงุ โซลรกุ ตอบโต้เกาหลเี หนอื สงครามดาเนนิ
ไปถึงจนครสิ ต์ศักราช 1953 ไมม่ ี ฝา่ ยใดแพช้ นะจงึ มกี ารเจรจาสงบศึกทเี่ มอื งปนั มนุ จอม เกาหลี
จงึ ยังถกู แบง่ แยกมาจนกระทงั่ ปจั จุบนั และเปน็ เพียงประเทศเดียวในโลกท่ียังถกู แบ่งสองสว่ นโดย
ไมม่ กี ารรวมชาติ
สงครามตัวแทนในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใตท้ โ่ี ดยเดน่ ทีส่ ดุ คอื กรณขี องเวียดนาม ซ่ึง
เรม่ิ ตน้ เม่อื ขบวนการ เวียดมนิ หภ์ ายใต้การนาของ โฮจมิ ินห์ โดยมี โว เหงยี น เกียบ เป็นผู้
บัญชาการรบสามารถเอาชนะกองทพั ของฝรง่ั เศสทเ่ี มอื งเดยี นเบยี นฟู และขับไล่อทิ ธิพลของ
ฝรัง่ เศสออกจากเวียดนามได้ ต่อมาไดม้ ีการประชมุ สนั ตภิ าพท่ีเจนิวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ในการตกลงครงั้ นน้ั ไดม้ ีขอ้ สรปุ ใหแ้ บ่งเวยี ดนามออกเปน็ สองส่วน โดยเหนอื เสน้ ขนานท่ี 17 ให้
เป็นเวยี ดนามเหนอื ภายใต้ชอื่ สาธารณรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนเวยี ดนามปกครองแบบ
คอมมิวนสิ ต์ สว่ นใต้เสน้ ขนานที่ 17 ให้เป็นเวียดนามใตใ้ ช้ชือ่ ว่า สาธารณรฐั เวยี ดนาม ปกครอง
แบบประชาธปิ ไตย โดยกาหนดให้มีการเลอื กตง้ั ทว่ั ไป เพ่ือรวมประเทศภายใน 1 ปี แต่ไมป่ ระสบ
ผลสาเร็จ ขบวนการคอมมวิ นิสตเ์ วียดนามเหนือทม่ี สี หภาพโซเวียตหนุนหลงั ได้ยกทัพเพ่ือบกุ
เวียดนามใต้และจะสถาปนาเวียดนามใหเ้ ป็นคอมมิวนสิ ต์ทั้งประเทศ สหรฐั อเมริกาจึงไดเ้ ขา้
สนับสนุนเวยี ดนามใต้ โดยจดั ตงั้ องค์การสนธสิ ญั ญาปอ้ งกันร่วมกนั แห่งเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
(South East Asia Treaty Organization : SEATO) เพ่อื ตา้ นคอมมิวนิสต์และสง่ ทหารเข้า
ชว่ ยเหลือเวยี ดนามใต้ สงครามเวียดนามกินระยะเวลายาวนานหลายปี และต้องยตุ ลิ งเนื่องจาก
สหรฐั อเมรกิ าถกู แรงกดดันจากประชาชนภายในประเทศและนานาชาติใหถ้ อนทหารออกจาก
สงครามเวียดนาม และปลอ่ ยใหเ้ วยี ดนามใตเ้ ผชญิ การรกุ รานของเวยี ดนามเหนือตามลาพงั ซง่ึ ใน
ท่ีสุดกพ็ า่ ยแพใ้ ห้กับเวยี ดนามเหนอื เวียดนามจงึ สามารถรวมประเทศเปน็ หนง่ึ เดยี วภายใตก้ าร
ปกครองแบบสงั คมนยิ มตง้ั แต่ปี ครสิ ตศ์ กั ราช 1975 เปน็ ตน้ มา
5. การสน้ิ สดุ สงครามเยน็
เหตุการณท์ เ่ี ปน็ นบั วา่ เป็นสญั ลักษณข์ องการสน้ิ สดุ ของ “สงครามเย็น” คือ การทาลายกาแพง
เบอรล์ นิ ในปคี รสิ ตศ์ กั ราช 1989 และการรวมประเทศเยอรมนีทัง้ สองเข้าเป็นประเทศเดียวกัน
ในปีคริสตศ์ ักราช 1990 การทที่ ้ังสองฝ่าย โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งการลดหย่อนทา่ ที และเงอื่ นไขของ
ฝา่ ยรัสเซีย ยอมใหป้ ระเทศเยอรมนี ซ่งึ เปน็ จดุ สาคญั ของความขัดแยง้ ในยโุ รป กลับมารวมกนั ได้
ยอ่ มแสดงใหเ้ หน็ ถึงความเขา้ ใจและมไี มตรตี อ่ กันทีก่ ลบั คืนมาอกี
แผนการจดั การเรียนรู้ นางสาวมณฑริ า ทองผาภมู ปิ ฐวี
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ
แบบบนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวทางการแก้ไข / การพัฒนาสง่ เสริม / ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………………….ครผู ู้สอน
(……………………………………………….)
ตำแหนง่ …………………………..
…………/……………./……………
ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .........................................
(.......................................................)
ตำแหนง่ ......................................................
…………/……………./……………
แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวมณฑิรา ทองผาภมู ิปฐวี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สีงคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสมาคมปา่ ไมแ้ ห่งประเทศไทยอุทิศ