The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรมัธยมล่าสุด (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by saowanee785, 2022-09-15 00:15:03

หลักสูตรมัธยมล่าสุด (1)

หลักสูตรมัธยมล่าสุด (1)

หลักสูตรสถานศึกษา

โรงเรยี นวดั บางหญ้าแพรก
ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
ตามหลักสูตรสาระแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน

พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้

สานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรสาคร
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ

คานา

คาสัง่ กระทวงศึกษาธกิ าร ท่สี พฐ.๑๒๓๙/๒๕๖๐ ส่ัง ณ วนั ท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ เรอ่ื ง ใหใ้ ช้
มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้วี ัด กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตรใ์ นกลมุ่
สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลาง
การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ และคาสงั่ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ท่ี ๓๐/
๒๕๖๑ ส่ัง ณ วันท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๑ เรื่อง ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชว้ี ดั กลุ่มสาระการ
เรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรังปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน
พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ เพ่อื ใหส้ ถานศึกษาพฒั นาผเู้ รยี นให้มีศกั ยภาพในการแข่งขนั และดารงชีวิตอยา่ ง
สร้างสรรค์ในประชาคมโลกตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ฉะนนั้ อาศัยอานาจตามคาสงั่ กระทรวงศึกษาธิการ ท่ีสพฐ. ๒๓๙/๒๕๕๑ เร่ือง ใหใ้ ชห้ ลกั สูตร
แกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน โดย
ความเห็นชอบของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มอี านาจในการยกเลกิ เพม่ิ เตมิ เปลยี่ นแปลง
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ให้เหมาะสมกับกลุ่มเปาู หมายและวธิ กี ารจดั
การศกึ ษา ดังน้นั เพื่อเป็นการลดความซ้าซ้อนของเนื้อหาสาระเกย่ี วกับเทคโนโลยี โดยความเหน็ ชอบของ
คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ในคราวประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน คร้งั ที่ ๔/๒๕๖๑
เมื่อวันท่ี๒๐เมษายน๒๕๖๑จงึ ให้ดาเนินการดังน้ี

๑. ยกเลิกมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ช้วี ดั สาระที่ ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระท่ี ๓
เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ในกล่มุ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลกั สูตร
แกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ คงเหลอื ๒ สาระ คือ สาระที่ ๑ การดารงชวี ติ และ
ครอบครวั และสาระที่๔คอื การอาชพี

๒. เปล่ยี นชอ่ื สาระที่ ๔ การอาชพี เปน็ สาระท่ี ๒ การอาชีพ ในกล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยีตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐานพทุ ธศกั ราช๒๕๕๑

เง่ือนไขและระเวลาการใช้มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวช้ีวัด กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
วิทยาศาสตร์ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และสาระภมู ิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม(ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ.๒๕๖๐)ให้เปน็ ไปดังน้ี

๑. ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑ ใหใ้ ชใ้ นชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ และ ๔ และชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔
๒. ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ใหใ้ ช้ในชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๒ ๔ และ ๕ และชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ๒
๔และ๕
๓.ตั้งแต่ปกี ารศึกษา๒๕๖๓เป็นต้นไปใหใ้ ช้ในทุกชนั้ เรียน

๓.๑กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เปน็ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน
อาชพี

๓.๒กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรเ์ ป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกบั นโยบายและเปูาหมาย ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน
โรงเรียนวดั บางหญ้าแพรก จงึ ได้ทาหลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบางหญ้าแพรก พุทธศักราช ๒๕๖๓
ตาม หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์
วิทยาศาสตร์ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และสาระภมู ิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม เพ่ือนาไปใชป้ ระโยชนแ์ ละเปนู กรอบในการวางแผนและพัฒนาหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
และออกแบบการจดั การเรยี นการสอน โดยมเี ปาู หมายในการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี น ให้มกี ระบวนการนา
หลกั สตู รไปสกู่ ารปฏบิ ัติ โดยมกี ารกาหนดวิสยั ทัศน์ จดุ หมาย สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั

พึงประสงค์ มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวัด โครงสรา้ งเวลาเรยี น ตลอดจนเกณฑก์ ารวัดและประเมินผล ให้
มีความสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้ เปิดโอกาสใหโ้ รงเรยี นสามารถกาหนดทศิ ทางในการจัดทา
หลกั สูตรการเรยี นการสอน ในแต่ละระดบั ความพร้อมและจดุ เน้น โดยมรกรอบแกนกลางเป็นแนวทางท่ี
ชดั เจน เพือ่ ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพรอ้ มในการก้าวสู่สังคมคุณภาพ มคี วามรู้อยา่ ง
แทจ้ รงิ และมีทักษะในศตวรรษที่๒๑

มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวช้ีวัดที่กาหนดไว้ในเอกสารนี้ ช่วยให้หนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้อง ในทุกระดับ
เหน็ ผลที่คาดหวงั ที่ต้องการพัฒนาการเรียนรู้ของผเู้ รียนทช่ี ัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถช่วยใหห้ นว่ ยงาน
ทเี่ ก่ยี วข้องในระดับท้องถ่ิน และสถานศึกษารว่ มกนั พฒั นาหลกั สูตรไดอ้ ยา่ งมั่นใจ ทาให้การจดั ทาหลักสตู ร
ในระดับสถานศกึ ษามีคณุ ภาพและมคี วามเป็นเอกภาพย่ิงขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความชัดเจนเรือ่ งการวดั
และประเมินผลการเรยี นรู้ ช่วยแกป้ ญั หาการเทยี บโอนระหวา่ งสถานศกึ ษา ดงั นน้ั ในการพัฒนาหลกั สูตรใน
ทุกระดับ ตัง้ แต่ระดบั ชาตจิ นกระทั่งถงึ ระดบั สถานศึกษา จะต้องสะทอ้ นคณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้
และตัวช้วี ดั ทีก่ าหนดไวใ้ นหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน รวมทง้ั เป็นกรอบทศิ ทางในการจดั
การศึกษาทุกรูปแบบและครอบคลมุ ผู้เรยี นทุกกลมุ่ เปาู หมายในระดับการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน

การจัดทาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะประสบความสาเร็จตามเปูาหมายท่คี าดหวังได้ ทกุ ฝาุ ย
ท่เี กยี่ วข้องทั้งระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และทกุ คนต้องร่วมกันรบั ผิดชอบ โดยร่วมกันทางานอย่างเปน็
ระบบและต่อเนื่อง วางแผนดาเนินการ สง่ เสรมิ สนับสนนุ ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแกไ้ ข เพื่อพัฒนา
เยาวชนของชาติ ไปสคู่ ุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรทู้ ี่กาหนดไว้

นายวีระพงษ์ ทรงประโคน
ผูอ้ านวยการโรงเรียนวัดบางหญ้าแพรก

ส่วนนา
ความนา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดบางหญ้าแพรก (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
ตามหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นแผนหรอื แนวทาง หรือข้อกาหนด
ของการจดั การศกึ ษาของโรงเรียนวัดบางหญ้าแพรกทจ่ี ะใช้ในการจดั การเรยี นการสอนเพื่อพฒั นาผูเ้ รียนให้
มีคุณภาพตามมาตรฐานทก่ี าหนด มงุ่ พัฒนาผู้เรยี นให้เปน็ คนดี มีปัญญา มีความสขุ มีศักยภาพในการศึกษา
ต่อ และประกอบอาชีพ โดยมุง่ หวังใหม้ คี วามสมบรู ณท์ ้ังด้านรา่ งกาย จติ ใจ และสตปิ ัญญา อีกทง้ั มีความรู้
และทกั ษะทจ่ี าเป็นสาหรบั การดารงชีวิต และมคี ณุ ภาพไดม้ าตรฐานสากลเพื่อการแข่งขนั ในยุคปจั จบุ นั
ดงั นน้ั หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวดั บางหญ้าแพรก (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ จึงประกอบดว้ ยสาระสาคัญของหลักสตู รแกนกลาง
สาระความรทู้ ีเ่ กยี่ วข้องกบั ชุมชนท้องถ่นิ และสาระสาคัญทสี่ ถานศึกษาพฒั นาเพ่ิมเตมิ โดยจดั เป็นสาระ
การเรยี นรู้รายวชิ าพน้ื ฐานตามมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้วี ัด และสาระการเรยี นรรู้ ายวชิ าเพ่ิมเตมิ จัด
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี นเป็นรายปี ในระดบั ประถมศึกษา และกาหนดคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของ
สถานศึกษาตามคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
เอกสารหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวัดบางหญา้ แพรก (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓) นจ้ี ัดทาข้นึ
สาหรับโรงเรียนครูผูส้ อนสามารถนาไปใชเ้ ปน็ กรอบและทิศทางในการจดั การเรียนการสอน เพือ่ พัฒนาเด็ก
นกั เรียนโรงเรียนวดั บางหญา้ แพรก สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ใหม้ ีคณุ ภาพด้าน
การเรยี นรู้และทกั ษะทีจ่ าเป็นสาหรบั การดารงชีวติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง แสวงหาความรู้
เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชวี ติ และเพ่ือเตรียมเข้าสปู่ ระชาคมอาเซยี น

วสิ ยั ทศั น์
ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ โรงเรยี นวัดบางหญา้ แพรก มุ่งพัฒนาครูสู่มอื อาชพี จัดการศึกษาใหผ้ ้เู รียนมี

ทกั ษะความร้ตู ามมาตรฐานการศึกษา มีคุณธรรม ก้าวทันเทคโนโลยี มีแหล่งเรียนรู้ พรอ้ มสอู่ าเซยี น ดาเนนิ
ชีวติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยประสานความร่วมมือกับชมุ ชน

พันธกิจ
๑. พฒั นาครูให้มคี วามรู้ ความสามารถ ในการจัดการเรยี นรู้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
๒. จัดกจิ กรรมสง่ เสริมใหผ้ ้เู รียนมีความรู้ ทักษะ เพ่ือพฒั นาตนเองเต็มตามศักยภาพ
๓. จัดการเรียนการสอนเข้าสู่อาเซยี น
๔. สรา้ งจิตสานกึ ใหผ้ เู้ รยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรม
๕. สง่ เสริมให้ชุมชนมสี ่วนรว่ มในการจัดการศึกษา
๖. จัดและปรับปรุงภมู ิทัศนแ์ ละส่งิ แวดล้อมให้เปน็ แหลง่ เรียนรู้
๗. สนับสนนุ การใชเ้ ทคโนโลยใี นการจัดการเรยี นรู้
๘. จดั การศึกษาโดยยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

เป้าหมาย
๑. ครูทุกคนไดร้ บั การพัฒนาวชิ าชีพ มกี ารบริหารงาน และการกากับติดตามอยา่ งมีคุณภาพ
๒. นกั เรยี นมคี วามรู้ ความสามารถ มีทักษะและเจตคติเปน็ ไปตามข้อกาหนดของหลักสตู ร มี

คุณธรรม มคี วามรับผดิ ชอบ มรี ะเบยี บวินยั เปน็ สมาชิกที่ดีของสังคม
๓. ผพู้ ิการ ผ้ดู อ้ ยโอกาส ในเขตพื้นที่บริการไดร้ ับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐานอย่างเทา่ เทยี มและท่วั ถึง
๔. นักเรียนสามารถใชเ้ ครอ่ื งคอมพิวเตอรป์ ฏิบัติงานการเรียน และใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ในการแสวงหา

ความรู้ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
๕. โรงเรียนมคี วามสะอาดรม่ ร่นื สวยงาม และมีความปลอดภัย

หลกั การ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั บางหญา้ แพรก (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)ตามหลกั สูตร

แกนกลางการศึกษา ขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ มหี ลักการทีส่ าคัญตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มีหลกั การทส่ี าคัญ ดังน้ี

๑.เป็นหลกั สตู รการศึกษาเพ่ือความเป็นเอกภาพของชาติ มจี ุดหมายและมาตรฐานการเรยี นร้เู ปน็
เปูาหมายสาหรับพฒั นาเด็กและเยาวชนใหม้ คี วามรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐานของความเปน็
ไทยควบคู่กบั ความเป็นสากล

๒. เปน็ หลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสไดร้ ับการศึกษาอยา่ งเสมอภาค และมี
คณุ ภาพ

๓.เปน็ หลกั สูตรการศึกษาทส่ี นองการกระจายอานาจ ให้สังคมมสี ว่ นร่วมในการจัดการศกึ ษาให้
สอดคลอ้ งกับสภาพและความตอ้ งการของท้องถิน่

๔. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มโี ครงสร้างยืดหยนุ่ ทงั้ ดา้ นสาระการเรียนรู้ เวลาและการจัด การ
เรยี นรู้

๕. เปน็ หลกั สูตรการศึกษาท่ีเนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดบางหญ้าแพรก (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)ตามหลกั สูตร

แกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งให้ผู้เรยี นเกิดสมรรถนะสาคญั
๕ ประการ ดงั น้ี

๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรบั และสง่ สาร มีวัฒนธรรมในการใชภ้ าษา
ถ่ายทอดความคดิ ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทศั นะของตนเองเพื่อแลกเปล่ยี นขอ้ มูลข่าวสารและ
ประสบการณ์อนั จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพฒั นาตนเองและสังคม รวมทงั้ การเจรจาต่อรองเพ่ือขจดั และลด
ปญั หาความขดั แยง้ ต่าง ๆ การเลอื กรบั หรือไม่รับข้อมลู ข่าวสารดว้ ยหลกั เหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจน
การเลอื กใช้วิธกี ารสื่อสาร ที่มีประสทิ ธภิ าพโดยคานึงถึงผลกระทบทมี่ ีต่อตนเองและสงั คม

๒. ความสามารถในการคดิ เปน็ ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิด อยา่ ง
สร้างสรรค์ การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพ่ือนาไปสู่การสรา้ งองค์ความรูห้ รือ
สารสนเทศเพ่ือการตัดสนิ ใจเก่ยี วกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ท่เี ผชิญไดอ้ ย่าง
ถกู ต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตผุ ล คุณธรรมและข้อมลู สารสนเทศ เขา้ ใจความสมั พนั ธแ์ ละการ

เปลีย่ นแปลงของเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้มาใช้ในการปูองกนั และแกไ้ ข

ปญั หา และมีการตัดสินใจท่ีมีประสทิ ธิภาพโดยคานึงถงึ ผลกระทบท่เี กดิ ข้นึ ต่อตนเอง สงั คมและสิ่งแวดล้อม

๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการ

ดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การเรียนรู้อย่างตอ่ เน่ือง การทางาน และการอยู่รว่ มกันใน

สงั คมดว้ ยการสร้างเสริมความสมั พันธอ์ ันดรี ะหวา่ งบุคคล การจัดการปญั หาและความ ขัดแยง้ ตา่ ง ๆ

อยา่ งเหมาะสม การปรับตัวใหท้ ันกับการเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรูจ้ ักหลีกเลี่ยง

พฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงค์ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อน่ื

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีดา้ นต่าง ๆ

และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในดา้ นการเรียนรู้ การสื่อสาร การ

ทางาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมคี ุณธรรม

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวดั บางหญา้ แพรก (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๒)ตามหลกั สตู ร

แกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มงุ่ พัฒนาผ้เู รียนใหม้ คี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้
สามารถอยูร่ ว่ มกับผูอ้ น่ื ในสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก ดงั นี้

๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซื่อสตั ยส์ จุ ริต
๓. มวี ินัย
๔. ใฝเุ รยี นรู้
๕. อยูอ่ ย่างพอเพียง
๖. ม่งุ ม่ันในการทางาน
๗. รักความเปน็ ไทย
๘. มีจติ สาธารณะ

ค่านยิ มหลกั ของคนไทย ๑๒ ประการ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั บางหญ้าแพรก (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๒) ตามหลกั สูตร

แกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ มุง่ พฒั นาผเู้ รียนให้มีค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ เพ่ือ
เสรมิ สรา้ งและปลกู ฝงั ให้แกเ่ ยาวชนและคนไทย ดังน้ี

๑. มคี วามรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
๒. ซอื่ สัตย์ เสียสละ อดทน มีอดุ มการณ์ในสิง่ ทด่ี ีงามเพื่อส่วนรวม
๓. กตญั ญูต่อพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์
๔. ใฝหุ าความรู้ หมน่ั ศกึ ษาเล่าเรียนทัง้ ทางตรงและทางอ้อม
๕. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม
๖. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวงั ดีตอ่ ผ้อู ่ืน เผ่ือแผ่และแบ่งปนั
๗. ขา้ ใจเรยี นรกู้ ารเปน็ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุขที่ถกู ต้อง
๘. มีระเบียบวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผู้นอ้ ยรู้จักเคารพผู้ใหญ่
๙. มสี ติรตู้ ัว รู้คิด ร้ทู า รู้ปฏบิ ัตติ ามพระราชดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั
๑๐. ร้จู กั ดารงตนอยูโ่ ดยใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเด็จพระ
เจา้ อย่หู ัว รจู้ กั ออมไวใ้ ช้เมื่อยามจาเปน็ มีไวพ้ อกนิ พอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจาหน่าย และพร้อมทีจ่ ะขยายกิจการ
เมอ่ื มีความพร้อม เม่ือมีภมู ิคุ้มกนั ทด่ี ี
๑๑. มีความเขม้ แข็งทง้ั ทางร่างกายและจติ ใจ ไม่ยอมแพต้ ่ออานาจใฝตุ ่าหรือกิเลส มีความละอายเกรงกลัว
ต่อบาปตามหลกั ของศาสนา
๑๒. คานงึ ถงึ ผลประโยชนข์ องส่วนรวมและของชาตมิ ากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั บางหญ้าแพรก
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวัดบางหญ้าแพรก (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒)ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ได้กาหนดโครงสร้างของหลักสตู รสถานศึกษา เพอ่ื ใหผ้ สู้ อน และผ้ทู ี่
เกยี่ วข้องในการจัดการเรยี นรู้ตามหลกั สูตรของสถานศึกษามีแนวปฏิบตั ิ ดงั นี้
๑.ระดบั การศึกษา กาหนดหลักสตู รตามโครงสร้างของหลักสตู รแกนกลางการศึกษา ขน้ั พ้นื ฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ และตามภารกจิ หลักของการจดั การเรียนการสอนในระดบั ประถมศึกษา ดงั นี้

๑.๑ ระดบั ปฐมวัย (อนุบาล ๑ ถึง อนบุ าล ๒) เป็นการจัดการศกึ ษาเพ่ือเตรยี มความพร้อม
๑.๒ ระดบั ประถมศกึ ษา (ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ – ๖) การศกึ ษาระดบั นี้เป็นชว่ งแรกของการศึกษา
ภาคบังคบั มงุ่ เน้นทกั ษะพื้นฐานด้านการอา่ น การเขียน การคดิ คานวณ ทักษะการคดิ พื้นฐาน การตดิ ต่อส่ือสาร
กระบวนการเรยี นรู้ทางสังคม และพืน้ ฐานความเป็นมนุษย์ การพัฒนาคณุ ภาพชีวิตอยา่ งสมบูรณแ์ ละสมดุลท้ังในด้าน
ร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และวัฒนธรรม โดยเนน้ จดั การเรยี นร้แู บบบรู ณาการ
๑.๓ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น (ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ – ๓) เป็นชว่ งสุดทา้ ยของการศึกษาภาค
บังคับ มงุ่ เนน้ ให้ผู้เรียนสารวจความถนัด และความสนใจของตนเอง สง่ เสรมิ การพฒั นาบุคลกิ ภาพส่วนตน มีทักษะใน
การคิดวจิ ารณญาณคดิ สร้างสรรค์ และคดิ แก้ปัญหา มีทักษะในการดาเนนิ ชีวติ มที ักษะการใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื เปน็
เครอ่ื งมอื ในการเรียนรู้ มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความสมดุลท้งั ดา้ นความรู้ ความคิด ความดีงาม และมีความ
ภมู ใิ จในความเปน็ ไทย ตลอดจนใช้เป็นพน้ื ฐานในการประกอบอาชีพหรอื ศึกษาตอ่
๒.สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้ใู นหลกั สตู รสถานศึกษาวัดบางหญา้ แพรก พุทธศักราช ๒๕๕๙ ตาม
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ไดก้ าหนดไว้ในหลกั สตู ร ประกอบดว้ ยองคค์ วามรู้
ทกั ษะหรอื กระบวนการเรยี นรู้ และคุณลักษณะหรือคา่ นยิ ม คุณธรรม จรยิ ธรรมของผู้เรยี น ๘ กลุ่ม คือ
๒.๑ ภาษาไทย
๒.๒ คณติ ศาสตร์

๒.๓ วทิ ยาศาสตร์

๒.๔ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

๒.๕ สขุ ศึกษาและพลศึกษา

๒.๖ ศลิ ปะ

๒.๗ การงานอาชีพและเทคโนโลยี

๒.๘ ภาษาองั กฤษ

๓. กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น มุง่ ใหผ้ ู้เรียนได้พฒั นาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบ

ด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ทีส่ มบรู ณ์ ทงั้ รา่ งกาย สตปิ ัญญา อารมณ์ และสงั คม เสริมสร้างให้เป็นผูม้ ศี ลี ธรรม

จรยิ ธรรม มีระเบยี บวินัย ปลกู ฝังและสรา้ งจิตสานึกของการทาประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจดั การตนเองได้ และอยู่

รว่ มกบั ผู้อ่นื อย่างมีความสขุ แบง่ เป็น ๓ ลักษณะ ดงั น้ี

๓.๑ กจิ กรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมท่สี ง่ เสรมิ และพัฒนาผู้เรียนให้รูจ้ ักตนเอง รูร้ ักษ์สง่ิ แวดลอ้ ม

สามารถคิดตัดสินใจ คิดแกป้ ัญหา กาหนดเปาู หมาย วางแผนชีวติ ทงั้ ด้านการเรยี น และอาชีพ สามารถปรบั ตนได้

อย่างเหมาะสม นอกจากน้ียงั ชว่ ยให้ครูรจู้ ักและเข้าใจผ้เู รียน ทงั้ ยังเป็นกิจกรรมท่ีช่วยเหลอื และให้คาปรกึ ษาแก่

ผ้ปู กครองในการมีส่วนรว่ มพัฒนาผู้เรียน

๓.๒ กจิ กรรมนกั เรยี น เป็นกจิ กรรมทมี่ ุ่งพัฒนาความมรี ะเบยี บวินยั ความเปน็ ผนู้ า ผตู้ ามทด่ี ี ความ

รับผดิ ชอบ การทางานร่วมกนั การรู้จกั แกป้ ัญหา การตัดสนิ ใจท่ีเหมาะสม ความมี เหตผุ ล การชว่ ยเหลอื แบ่งปนั กัน

เอ้ืออาทร และสมานฉันท์ โดยจัดใหส้ อดคล้องกับความสามารถ ความถนดั และความสนใจของผูเ้ รยี นให้ได้ปฏิบัตดิ ้วย

ตนเองในทกุ ขนั้ ตอน ได้แก่ การศึกษาวเิ คราะหว์ างแผน ปฏิบตั ิตามแผน ประเมนิ และปรบั ปรุงการทางาน เนน้ การ

ทางานรว่ มกนั เป็นกลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกบั วุฒภิ าวะของผเู้ รียน บริบทของสถานศึกษาและท้องถิน่

กจิ กรรมนักเรียนในหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวดั บางหญ้าแพรก (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๒)ตามหลกั สตู ร

แกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ประกอบดว้ ย

๓.๒.๑ กิจกรรมลูกเสอื – เนตรนารี

๓.๒.๒ กจิ กรรมชมุ นมุ

๓.๓ กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ เปน็ กิจกรรมทสี่ ่งเสริมใหผ้ เู้ รียนบาเพ็ญตนให้เปน็

ประโยชน์ตอ่ สงั คม ชมุ ชน และท้องถิน่ ตามความสนใจในลักษณะอาสาสมคั ร เพื่อแสดงถึงความรับผดิ ชอบ ความดี

งาม ความเสียสละต่อสงั คม มีจติ สาธารณะ

๔. เวลาเรียน หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดบางหญา้ แพรก(ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๒) ตาม

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียนข้นั ต่าสาหรับกลุ่ม

สาระการเรียนรู้ ๘ กลมุ่ และกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ซึ่งผสู้ อนสามารถเพิ่มเติมได้ตามความพร้อมและจดุ เน้นของ

สถานศึกษา โดยสามารถปรับให้เหมาะสมตามบริบทของสถานศึกษาและสภาพของผ้เู รียน ดังนี้

๔.๑ ระดับชน้ั ประถมศึกษา (ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ – ๖) ใหจ้ ัดเวลาเรยี นเปน็ รายปี โดยมีเวลาเรียน

วันละ ไม่ตา่ กวา่ ๕ ชวั่ โมง

๔.๒ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น (ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ - ๓) ให้จัดเวลาเรียนเปน็ รายภาค วันละไม่

เกนิ ๖ ชว่ั โมง คดิ เปน็ หนว่ ยกิต ใหเ้ กณฑ์ ๔๐ ช่ัวโมงต่อภาคเรยี น เปน็ ๑ หน่วยกติ

โครงสร้างเวลาเรียน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น

กล่มุ สาระการเรยี นร้/ู กจิ กรรม เวลาเรียน
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น
 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ม.1 ม.2 ม.3
ภาษาไทย
คณติ ศาสตร์ 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
วทิ ยาศาสตร์ 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
- ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม
- เศรษฐศาสตร์ 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
- ภมู ิศาสตร์
- ประวัตศิ าสตร์ (40) (1 นก.) (40) (1 นก.) (40) (1 นก.)
สขุ ศกึ ษา (40) (1 นก.) (40) (1 นก.) (40) (1 นก.)
พลศึกษา (40) (1 นก.) (40) (1 นก.) (40) (1 นก.)
ศิลปะ 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.)
การงานอาชีพและเทคโนโลยี 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.)
ภาษาตา่ งประเทศ 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
880 (22นก.) 880 (22นก.) 880 (22นก.)
รวมเวลาเรียน(พืน้ ฐาน)
 รายวิชา/กิจกรรมทส่ี ถานศกึ ษาจดั เพิ่มเตมิ 200 200 200

 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น 120 120 120
- กจิ กรรมแนะแนว
- กิจกรรมนกั เรยี น 120 120 120
ไมเ่ กนิ 1,200 ช่วั โมง/ปี
ลกู เสอื เนตรนารี
ชมรม ชมุ นุม
- กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์

รวมเวลากจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น

รวมเวลาเรียนทง้ั หมด

โครงสร้างหลักสตู รโรงเรียนวดั บางหญ้าแพรก
ระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ปกี ารศึกษา 256๓

ภาคเรยี นท่ี 1 หน่วยกิต/ ภาคเรียนที่ 2 หน่วยกิต/
ชวั่ โมง ชั่วโมง
รายวชิ าพื้นฐาน รายวชิ าพน้ื ฐาน
11.0(440) 11.0(440)
ท 21101 ภาษาไทย ท 21102 ภาษาไทย
ค 21101 คณติ ศาสตร์ 1.5(60) ค 21102 คณิตศาสตร์ 1.5(60)
ว 21101 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 1.5(60) ว 21102 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 1.5(60)
ส 21101 สงั คมศึกษา 1.5(60) ส 21103 สังคมศึกษา 1.5(60)
ส 21102 ประวัตศิ าสตร์ 1.5(60) ส 21104 ประวตั ิศาสตร์ 1.5(60)
พ 21101 สขุ ศึกษา 0.5(20) พ 21103 สุขศกึ ษา 0.5(20)
พ 21102 พลศึกษา 0.5(20) พ 21104 พลศกึ ษา 0.5(20)
ศ 21101 ศิลปะ 0.5(20) ศ 21102 ศลิ ปะ 0.5(20)
ง 21101 การงานอาชีพ 1.0(40) ง 21102 การงานอาชีพ 1.0(40)
อ 21101 ภาษาอังกฤษ 1.0(40) อ 21102 ภาษาอังกฤษ 1.0(40)
1.5(60) 1.5(60)
รายวิชาเพมิ่ เติม 3.0(100) รายวชิ าเพิม่ เติม 3.0(100)
ท 21201 ภาษาไทยเพ่ือการสอื่ สาร 0.5(20) ท 21202 ภาษาไทยเพื่อการสอื่ สาร 0.5(20)
ว 21201 คอมพิวเตอร์ 1.0(40) ว 21202 คอมพิวเตอร์ 1.0(40)

(คอมพิวเตอร์เบื้องตน้ ) 0.5(20) (อลั กอรทึ ึมเบอ้ื งต้น) 0.5(20)
ส 21201 หน้าท่พี ลเมือง 0.5(20) ส 2120๓ หนา้ ท่ีพลเมือง 0.5(20)
ส 21202 ท้องถน่ิ ของเรา 0.5(20) ส 2120๔ ทอ้ งถิ่นของเรา 0.5(20)
ศ 21201 นาฏยศพั ทแ์ ละภาษาทา่ ศ 21202 นาฏยศพั ท์และภาษาทา่
60 60
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 20 กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น 20
20 20
1. แนะแนว 15 1. แนะแนว 15
2. ชมุ นมุ 5 2. ชุมนมุ 5
3. ลกู เสือ-เนตรนารี 3. ลูกเสือ-เนตรนารี
4. กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ 640 4. กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ 640

รวมเวลาเรยี น รวมเวลาเรยี น

โครงสร้างหลกั สตู รโรงเรยี นวัดบางหญา้ แพรก
ระดบั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ปีการศึกษา 25๖๓

ภาคเรียนที่ 1 หนว่ ยกิต/ ภาคเรยี นที่ 2 หน่วยกติ /
ชั่วโมง ชั่วโมง
รายวิชาพนื้ ฐาน 11.0(440) รายวิชาพืน้ ฐาน 11.0(440)
1.5(60) 1.5(60)
ท 22101 ภาษาไทย 1.5(60) ท 22102 ภาษาไทย 1.5(60)
ค 22101 คณติ ศาสตร์ 1.5(60) ค 22102 คณติ ศาสตร์ 1.5(60)
ว 22101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1.5(60) ว 22102 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1.5(60)
ส 22101 สงั คมศึกษา 0.5(20) ส 22103 สังคมศึกษา 0.5(20)
ส 22102 ประวตั ศิ าสตร์ 0.5(20) ส 22104 ประวัติศาสตร์ 0.5(20)
พ 22101 สุขศกึ ษา 0.5(20) พ 22103 สขุ ศึกษา 0.5(20)
พ 22102 พลศึกษา 1.0(40) พ 22104 พลศกึ ษา 1.0(40)
ศ 22101 ลปะ 1.0(40) ศ 22102 ศลิ ปะ 1.0(40)
ง 22101 การงานอาชีพ 1.5(60) ง 22102 การงานอาชีพ 1.5(60)
อ 22101 ภาษาอังกฤษ 3.0(100) อ 22102 ภาษาอังกฤษ 3.0(100)
0.5(20) 0.5(20)
รายวิชาเพ่ิมเติม รายวชิ าเพม่ิ เติม
ท 22201 ทักษะการอ่านการเขยี น 1.0(40) ท 22202 ทกั ษะการอา่ นการเขยี น 1.0(40)

ภาษาไทย 0.5(20) ภาษาไทย 0.5(20)
ว 22201 คอมพวิ เตอร์ 0.5(20) ว22202 คอมพวิ เตอร์(การคานวณ) 0.5(20)
0.5(20) 0.5(20)
(งานกราฟิกและนาเสนอข้อมลู ) ส 22203 หนา้ ทพี่ ลเมอื ง
ส 22201 หนา้ ท่ีพลเมือง 60 ส 22204 เศรษฐกิจพอเพียง 60
ส 22202 เศรษฐกิจพอเพียง 20 ศ 22202 นาฏศิลปไ์ ทย 20
ศ 22201 นาฏศิลป์ไทย 20 20
15 กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น 15
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 5 1. แนะแนว 5
2. ชุมนุม
1. แนะแนว 640 3. ลูกเสือ-เนตรนารี 640
2. ชมุ นมุ 4. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
3. ลกู เสือ-เนตรนารี
4. กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี น

รวมเวลาเรยี น

โครงสรา้ งหลักสตู รโรงเรยี นวดั บางหญา้ แพรก
ระดบั มัธยมศึกษาปที ่ี ๓ ปีการศึกษา 25๖๓

ภาคเรียนที่ 1 หนว่ ยกิต/ ภาคเรยี นท่ี 2 หน่วยกติ /
ชว่ั โมง ชัว่ โมง
รายวชิ าพนื้ ฐาน รายวชิ าพน้ื ฐาน
11.0(440) 11.0(440)
ท 23101 ภาษาไทย ท 23102 ภาษาไทย
ค 23101 คณติ ศาสตร์ 1.5(60) ค 23102 คณติ ศาสตร์ 1.5(60)
ว 23101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1.5(60) ว 23102 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 1.5(60)
ส 23101 สงั คมศกึ ษา 1.5(60) ส 23103 สังคมศึกษา 1.5(60)
ส 23102 ประวัติศาสตร์ 1.5(60) ส 23104 ประวตั ศิ าสตร์ 1.5(60)
พ 23101 สุขศึกษา 0.5(20) พ 23103 สุขศกึ ษา 0.5(20)
พ 23102 พลศึกษา 0.5(20) พ 23104 พลศึกษา 0.5(20)
ศ 23101 ศลิ ปะ 0.5(20) ศ 23102 ศิลปะ 0.5(20)
ง 23101 การงานอาชพี 1.0(40) ง 23102 การงานอาชีพ 1.0(40)
อ 23101 ภาษาองั กฤษ 1.0(40) อ 23102 ภาษาอังกฤษ 1.0(40)
1.5(60) 1.5(60)
รายวชิ าเพิ่มเติม 3.0(100) รายวิชาเพิม่ เติม 3.0(100)
ท 23201 ภาษาไทยเพื่อกจิ ธุระ 0.5(20) ท 23202 ภาษาไทยเพือ่ กจิ ธุระ 0.5(20)
ว 2๓201 คอมพิวเตอร์ 1.0(40) ว 23202 คอมพวิ เตอร์ 1.0(40)

(โครงงานคอมพิวเตอร์) 0.5(20) (การสร้างภาพเคลื่อนไหว) 0.5(20)
ส 23201 หน้าที่พลเมือง 0.5(20) ส 23203 หนา้ ทพ่ี ลเมือง 0.5(20)
ส 23202 กฎหมายน่ารู้ 0.5(20) ส 23204 กฎหมายน่ารู้ 0.5(20)
ศ 23201 นาฏศิลปแ์ ละการละคร ศ 23202 นาฏศลิ ปแ์ ละการละคร
60 60
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น 20 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 20
1. แนะแนว 20 1. แนะแนว 20
2. ชุมนุม 15 2. ชุมนมุ 15
3. ลกู เสอื -เนตรนารี 5 3. ลูกเสือ-เนตรนารี 5
4. กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ 4. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
640 640
รวมเวลาเรียน รวมเวลาเรียน

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

รายวิชาพื้นฐานและเพ่ิมเติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้

รายวชิ าพ้นื ฐาน

ท21101 ภาษาไทย จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต
ท21102 ภาษาไทย จานวน 60 ช่วั โมง 1.5 หนว่ ยกติ
ท22101 ภาษาไทย จานวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกติ
ท22102 ภาษาไทย จานวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกติ
ท23101 ภาษาไทย จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ท23102 ภาษาไทย จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หนว่ ยกติ

รายวิชาเพิม่ เติม จานวน ๒๐ ชัว่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ
ท 21201 ภาษาไทยเพื่อการส่ือสาร จานวน ๒๐ ช่ัวโมง ๐.๕ หนว่ ยกิต
ท 2120๒ ภาษาไทยเพือ่ การสื่อสาร จานวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกิต
ท 22201 ทักษะการอ่านการเขียนภาษาไทย จานวน ๒๐ ชัว่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต
ท 2220๒ ทกั ษะการอา่ นการเขยี นภาษาไทย จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต
ท 23201 ภาษาไทยเพอ่ื กิจธรุ ะ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต
ท 2320๒ ภาษาไทยเพือ่ กิจธรุ ะ

คาอธบิ ายรายวิชา

รหัสวิชา ท 21101 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกติ

อ่านออกเสียงร้อยแกว้ และร้อยกรอง จับใจความสาคญั จากเร่ืองที่อา่ นสามารถระบเุ หตุและผล ข้อเท็จจรงิ
กบั ข้อคิดเหน็ อธิบายคาเปรียบเทยี บและคาทมี่ ีหลายความหมาย วเิ คราะหค์ ณุ ค่าท่ีได้รับจากการอ่าน คดั ลายมือ
ตัวบรรจงคร่งึ บรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคาถูกต้อง ชดั เจนเหมาะสม เขยี นบรรยายประสบการณ์ เขียน
เรียงความ พูดสรุปใจความสาคัญของเร่อื งที่ฟังและดู เล่าเรื่องย่อ พดู แสดงความคดิ เหน็ เร่ืองท่ีฟงั และดู อธิบาย
ลกั ษณะของเสยี งในภาษาไทย สร้างคาในภาษาไทย วเิ คราะหช์ นิดและหน้าท่ขี องคา สรุปเน้อื หาวรรณคดแี ละ
วรรณกรรม วิเคราะหว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมทีอ่ ่าน อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน สรปุ ความรู้
และข้อคิดจากการอา่ นเพ่ือประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ

โดยใชก้ ระบวนการอา่ นและการเขียนสรา้ งความรู้ ความคิด และส่ือสารอย่างมีประสทิ ธภิ าพนาไปใช้
ตดั สินใจ และแกป้ ญั หาในการดาเนินชวี ิต สามารถฟังและดูอยา่ งมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์มคี วามเข้าใจใน
คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม สามารถนาข้อคิดไปใช้ในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม มี
มารยาทในการอา่ น การฟังและการดู รวมทง้ั มีความม่งุ มน่ั ในการทางาน ใฝุรู้ใฝเุ รียน มีความซ่ือสตั ย์ รกั และ
ภมู ใิ จในความเป็นไทย

รหสั ตวั ช้ีวดั
ท1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/8, ม.1/9
ท2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/9
ท3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
ท4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
ท5.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4

รวมทั้งหมด 21 ตวั ชี้วดั

คาอธิบายรายวชิ า

รหสั วิชา ท 21101 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
1.5 หน่วยกิต
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ช่ัวโมง

อ่านออกเสยี งร้อยแก้วและร้อยกรอง จบั ใจความสาคญั จากเรื่องทีอ่ ่าน อา่ นตคี วาม ระบขุ ้อสงั เกตและ
ความสมเหตุสมผลได้เหมาะสม รจู้ กั วิธีการใช้เครื่องมอื หรือเคร่ืองใชใ้ นระดบั ทยี่ ากขนึ้ วเิ คราะหค์ ุณคา่ ท่ีได้รบั จาก
การอ่าน เขยี นย่อความจากเรอ่ื งท่ีอ่าน เขียนแสดงความคิดเห็น เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ เขยี น
รายงานโครงงานได้ ประเมินความน่าเชอื่ ถือของสื่อ พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นควา้ วเิ คราะหค์ วาม
แตกต่างของภาษาพูดและเขียน แตง่ บทร้อยกรอง จาแนกและใช้สานวน ทีเ่ ป็นคาพังเพยและสภุ าษติ อธิบายคณุ ค่า
ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่อี ่าน สรุปความรแู้ ละข้อคิดจากการอา่ นเพื่อประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ ทอ่ งจาบทอาขยาน
ตามทก่ี าหนดและบทร้อยกรองที่มคี ุณคา่ ตามความสนใจ

โดยใช้กระบวนการอา่ นและการเขียนสร้างความรู้ ความคิด และส่อื สารอย่างมปี ระสิทธภิ าพนาไปใชต้ ดั สนิ ใจ
และแกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ สามารถฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรคม์ ีความเขา้ ใจในคุณค่าของ
วรรณคดีและวรรณกรรม สามารถนาข้อคิดไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม มีมารยาทในการอา่ น
การฟังและการดู รวมทัง้ มีความมงุ่ ม่นั ในการทางาน ใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น มีความซือ่ สัตย์ รักและภมู ิใจในความเป็นไทย

รหสั ตัวชี้วัด
ท1.1 ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7
ท2.1 ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9
ท3.1 ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
ท4.1 ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
ท5.1 ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6

รวมท้ังหมด 18 ตวั ช้ีวัด

คาอธิบายรายวชิ า

รหสั วชิ า ท 2๒101 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต

ศกึ ษาหลักการอ่านจบั ใจความ สรุปความ และอธิบายรายละเอยี ดจากเรอ่ื งที่อ่าน โดยเลอื กอา่ นตามความ
สนใจ รูจ้ ักเขียนผังความคดิ เพื่อแสดงความเขา้ ใจในบทเรยี นต่าง ๆ ท่ีอา่ น อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ และข้อโต้แยง้
เกยี่ วกบั เร่ืองท่อี ่าน วเิ คราะหแ์ ละจาแนกขอ้ เทจ็ จรงิ ข้อมูลสนับสนนุ และข้อคดิ เห็นจากบทความที่อ่าน ระบุ
ขอ้ สงั เกตการชวนเชอื่ การโน้มน้าว หรอื ความสมเหตุสมผลของงานเขยี น มีมารยาทในการอา่ นที่ถกู ต้องเหมาะสม

เรียนรูร้ ปู แบบการเขียนอักษรไทย แลว้ นาไปเปน็ แบบอย่างในการเขยี นคัดลายมือ ด้วยตัวบรรจงครง่ึ บรรทัด
ฝึกเขยี นบรรยายและพรรณนาตามรูปแบบที่กาหนดให้ เขยี นเรียงความเกย่ี วกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกบั ตวั เอง
เขียนยอ่ ความจากสื่อตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เขยี นจดหมาย
กิจธุระ เขียนวเิ คราะห์ วิจารณ์และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรอื โตแ้ ยง้ ในเร่ืองทอ่ี ่านอย่างมเี หตุผล มมี ารยาทใน
การเขยี น

พูดสรปุ ใจความสาคญั ของเรื่องทฟ่ี งั และดู วิเคราะห์ข้อเท็จจรงิ ข้อคดิ เหน็ และความน่าเชื่อถอื ของข่าวสาร
จากสอ่ื ตา่ ง ๆ วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์จากเร่อื งที่ฟังและดูอย่างมีเหตผุ ล เพื่อนาขอ้ คิดมาประยกุ ต์ใชใ้ นการดาเนินชวี ิต
พูดในโอกาสต่าง ๆ ไดต้ รงตามวัตถุประสงค์ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู

โดยใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพ่ือนาไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชวี ิต มนี สิ ัยรกั
การอา่ น และมีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใฝรุ ้ใู ฝเุ รยี นรกั ความเปน็ ไทยและมีจติ สาธารณะ เพื่อใหเ้ กิดความซาบซ้งึ
และสบื สานให้คงอยคู่ ่ชู าติต่อไป

รหัสตวั ช้ีวัด
ท1.1 ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/8
ท2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8
ท3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6

รวมทั้งหมด 19 ตวั ชวี้ ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า

รหัสวชิ า ท 2๒10๒ ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต

ศึกษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง อ่านหนังสือ บทความ หรือคาประพนั ธ์อย่าง
หลากหลาย และประเมนิ คุณคา่ หรือแนวคดิ ที่ได้จากการอ่านเพื่อนาไปใช้แก้ปญั หา เขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า
สรา้ งคาในภาษาไทย วเิ คราะห์โครงสร้างประโยคสามัญ ประโยคความรวม และประโยคซอ้ น แตง่ บทรอ้ ยกรอง
ใชค้ าราชาศัพท์ รวมและอธิบายความหมายของคาภาษาต่างประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย

เรียนรู้เรื่องวรรณคดีและวรรณกรรมไทย สรุปเน้ือหาวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอา่ นในระดับทย่ี ากขึ้น
วิเคราะหแ์ ละวิจารณว์ รรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทองถน่ิ ทอี่ ่าน พรอ้ มยกเหตุผลประกอบ อธบิ ายคุณคา่
ของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา่ น สรปุ ความรู้ และข้อคิดจากการอา่ นไปประยุกต์ใช้ใน
ชวี ติ จริง ท่องจาบทอาขยานทกี่ าหนดและบทร้อยกรองทีม่ คี ุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการทางดา้ น
ภาษาไทยเข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษา และพลงั
ของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ ดว้ ยความรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่
อย่างพอเพยี ง รักความเปน็ ไทยเห็นคุณคา่ และนามาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ

รหัสตวั ช้ีวดั
ท1.1 ม.2/1, ม.2/7
ท2.๑ ม.2/5
ท4.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5
ท5.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5

รวมทั้งหมด 13 ตัวชี้วัด

คาอธิบายรายวชิ า

รหสั วิชา ท 2๓๑0๑ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ชัว่ โมง 1.5 หน่วยกิต

ฝึกอา่ นออกเสียงร้อยแกว้ และร้อยกรอง จบั ใจความสาคัญ วเิ คราะห์ วิจารณ์ ตคี วามและประเมินค่าเรื่อง
ทอ่ี ่าน ฝึกคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียนคาอวยพรในโอกาสตา่ ง ๆ เขียนคาขวญั คาคม ชวี ประวตั หิ รือ
อตั ชีวประวตั ิ ย่อความ แสดงความคดิ เห็นและโตแ้ ย้ง เขียนวิเคราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความรู้ เขียนจดหมายกิจธรุ ะ
กรอกแบบสมัครงาน ฝกึ การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ พูดวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และประเมินคา่ พดู รายงาน พดู โนม้ น้าว
และพดู แสดงความคิดเห็น ศกึ ษาคาท่ีมาจากภาษาตา่ งประเทศ คาทับศัพท์ คาศัพท์บญั ญัติ คาศัพทท์ างวชิ าการ
และวิชาชีพ ตลอดจนศึกษาเนอ้ื หาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถิน่ ท่องจาคาประพันธ์และบทร้อย
กรองท่ีมคี ุณค่า สรปุ ความร้แู ละขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากวรรณคดีและวรรณกรรม สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจรงิ ได้

โดยใชก้ ระบวนการอา่ นและการเขียนสรา้ งความรู้ ความคดิ และสอื่ สารอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ นาไปใช้
ตดั สนิ ใจ และแก้ปญั หาในการดาเนินชวี ิต สามารถฟงั และดอู ย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ มคี วามเขา้ ใจใน
คุณคา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรม สามารถนาข้อคดิ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม มี
มารยาทในการอา่ น การฟังและการดู รวมทั้งมคี วามมุ่งมั่นในการทางาน ใฝุร้ใู ฝุเรยี น มคี วามซื่อสัตย์ รกั และภูมิใจ
ในความเปน็ ไทย

รหสั ตวั ช้ีวดั
ท1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/10
ท2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6, ม.3/7, ม.3/8
ท3.1 ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6
ท4.1 ม.3/1, ม.3/4, ม.3/5
ท5.1 ม.3/1, ม.3/3, ม.3/4

รวมท้ังหมด 23 ตัวชี้วดั

คาอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
รหสั วิชา ท 2๓๑0๒ ภาษาไทย เวลา 60 ช่ัวโมง 1.5 หน่วยกิต
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2

ฝกึ อา่ นออกเสยี งรอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรอง จับใจความสาคัญจากเรื่องที่อา่ นแลว้ จดบันทึก ลาดบั ความ
ตีความ แสดงความคิดเหน็ และประเมินคา่ วิจารณ์ความสมเหตสุ มผลและความเป็นไปได้ เขียนกรอบแนวคิด ผัง
ความคดิ ของเร่ืองท่ีอา่ น เขียนโฆษณา คติพจน์ สนุ ทรพจน์ เขยี นอธบิ าย บรรยาย พรรณนา ชี้แจง แสดง
ทรรศนะ ประกาศและเขียนรายงานโครงงาน ฝกึ การพูดโต้วาที การอภิปราย พูดยอวาที ศึกษาประโยคทซ่ี บั ซ้อน
ระดับภาษา แต่งคาประพันธ์ วิเคราะหว์ ถิ ีไทย สรุปความร้แู ละข้อคดิ จากวรรณคดีและวรรณกรรม ท่องจาคา
ประพนั ธ์และบทร้อยกรองทม่ี ีคณุ ค่า สรปุ ความรแู้ ละข้อคิดทีไ่ ดจ้ ากวรรณคดีและวรรณกรรม สามารถนาไป
ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ ได้

โดยใชก้ ระบวนการอา่ นและการเขียนสร้างความรู้ ความคดิ และสอ่ื สารอย่างมีประสทิ ธิภาพ นาไปใช้
ตัดสนิ ใจ และแก้ปญั หาในการดาเนนิ ชีวิต สามารถฟังและดอู ยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ มคี วามเข้าใจใน
คุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม สามารถนาข้อคิดไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม มี
มารยาทในการอา่ น การฟงั และการดู รวมท้ังมีความม่งุ มั่นในการทางาน ใฝรุ ูใ้ ฝุเรียน มคี วามซ่ือสัตย์ รักและภูมิใจ
ในความเปน็ ไทย

รหัสตัวช้ีวดั
ท3/1 ม.3/1, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6, ม.3/7, ม.3/8
ท2.1 ม.3/2, ม.3/6, ม.3/9
ท3.1 ม.3/1, ม.3/4, ม.3/6
ท4.1 ม.3/2, ม.3/3, ม.3/6
ท5.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4

รวมท้ังหมด 20 ตัวชีว้ ัด

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม

รหสั วชิ า ท๒๑๒๐๑ ภาษาไทยเพอ่ื การส่ือสาร กลุม่ สาราการเรียนรู้ภาษาไทย

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

บอกความหมายและความสาคญั ของการส่ือสาร จาแนกองค์ประกอบ ประเภทของการส่อื สารได้ ชแ้ี จง
หลกั การ บอกวตั ถุประสงค์ วเิ คราะห์ปญั หาและแกป้ ัญหาในการสือ่ สารในชวี ิตประจาวนั ได้ สามารถถ่ายทอดความรู้
ความคดิ ความรู้สกึ ทัศนคตแิ ละเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ท่ีเกดิ ขน้ึ โดยใชภ้ าษาเป็นสือ่ เพื่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจ ความหมาย
ตรงกัน มรี ะเบยี บวนิ ัยในการใช้ภาษา ต้องหม่ันศกึ ษาหาความรู้เกี่ยวกับภาษาและการสื่อสารเพือ่ สามารถ
ประยุกตใ์ ช้ความรูใ้ ห้เป็นประโยชน์ตอ่ การเรียนการดารงชวี ิตตอ่ ไปได้

ใช้ทักษะการอา่ น เขยี น ฟัง ดู และพูด การใชภ้ าษา การศึกษา การสืบคน้ การประเมิน โดยใช้
กระบวนการสร้างคา่ นิยม เรยี นความรู้ ความเขา้ ใจ สร้างความคดิ รวบยอด คิดวจิ ารณญาณ มีความเข้าใจลกึ ซ้ึง
เรียนร้ดู ้วยกล่มุ สัมพันธ์ มคี วามคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ นาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์ ตระหนักเห็นคุณคา่ ของ
ความมีวินยั ใฝเุ รยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มงุ่ มน่ั ในการทางาน มจี ิตสาธารณะ มคี วามรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ซ่อื สัตยส์ จุ รติ รักความเป็นไทย มคี วามสามารถในการสอ่ื สาร การคิดการแก้ปญั หา การใช้ทกั ษะชีวิต การใช้
เทคโนโลยี นาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั

ผลการเรียนรู้
๑. บอกความหมายของการสอื่ สารไดถ้ ูกต้อง
๒. บรรยายความสาคัญของการส่ือสารได้
๓. จาแนกองค์ประกอบและประเภทของการส่ือสารได้
๔. ชี้แจงหลกั การและวตั ถุประสงคข์ องการสื่อสารได้
๕. วเิ คราะห์อปุ สรรคและแกป้ ัญหาในการส่ือสารได้

รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รหัสวชิ า ท๒๑๒๐๒ ภาษาไทยเพือ่ การส่ือสาร กล่มุ สาราการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

มีความร้แู ละทักษะในการสื่อสารด้านวัจนภาษา และอวัจนภาษา ในชีวิตประจาวนั ภาษาทน่ี ามาใช้
สื่อสารในชีวติ ประจาวัน สานวน โวหาร และภาพลักษณ์ (ภาพพจน์) ในการสอ่ื สาร ฝึกใช้ถอ้ ยคาสานวนให้
เหมาะสมกับบคุ คลตามโอกาส และสถานท่ี กลวิธกี ารใช้ภาษาเพือ่ โนม้ นา้ วใจ การตีความ การตีบท การ
โฆษณา การประชาสัมพนั ธ์ การสรา้ งงานเขยี นเพ่ือเผยแพร่ในส่อื ประเภทต่างๆ

ใชท้ กั ษะการอา่ น เขยี น ฟัง ดู และพดู การใช้ภาษา การศึกษา การสืบค้น การประเมิน โดยใช้
กระบวนการสร้างค่านยิ ม เรียนความรู้ ความเขา้ ใจ สร้างความคิดรวบยอด คดิ วิจารณญาณ มีความเขา้ ใจลกึ ซง้ึ
เรยี นร้ดู ว้ ยกลุ่มสัมพันธ์ มคี วามคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์ นาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์ ตระหนักเหน็ คุณคา่ ของ
ความมวี ินัย ใฝุเรยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง มุง่ ม่ันในการทางาน มีจติ สาธารณะ มคี วามรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
ซอื่ สตั ย์สจุ ริต รักความเป็นไทย มีความสามารถในการส่อื สาร การคิดการแกป้ ัญหา การใช้ทกั ษะชวี ิต การใช้
เทคโนโลยี นาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั

ผลการเรยี นรู้
๑. มีทักษะทางด้านการพูดและสามารถพูดไดถ้ ูกต้องเหมาะสม
๒. สามารถฟงั และคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ
๓. มที ักษะทางด้านการอา่ นและมารถอ่านได้อย่างถูกตอ้ ง
๔. สามารถเขียนงานเชงิ สรา้ งสรรค์ได้
๕. นาความรทู้ ่ีได้รบั ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวนั ได้

รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ

รหัสวิชา ท๒๒๒๐๑ ทักษะการอ่านการเขยี นภาษาไทย กลมุ่ สาราการเรียนรู้ภาษาไทย
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒
ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ

บอกความหมายของการอ่านและการเขยี น อธิบายจดุ ประสงค์ ประโยชน์ของการอ่านและการเขยี น
องคป์ ระกอบที่ทาใหน้ า่ สนใจ บอกขัน้ ตอนและข้อปฏิบตั ิ การอ่านออกเสยี ง สรา้ งนิสยั ให้รักการอ่าน อ่านหนงั สือ
ตามความสนใจ อธิบายคุณคา่ ข้อคดิ ระบใุ จความสาคัญ มีทักษะในการคัดลายมือตวั บรรจงคร่ึงบรรทัดโดยใช้
ถ้อยคาถูกต้องชัดเจน สละสลวยเหมาะสม สามารถเขยี นกรอบ แนวคดิ ผังความคดิ บันทกึ ย่อความ เขยี นสะกดคา
การแต่งประโยค การเขียนขอ้ ความ การเขยี นสอื่ สารโดยใช้คาถกู ต้อง เหมาะสมตามระดบั ภาษา

ใช้ทักษะการอา่ น เขยี น ฟัง ดู และพูด การใช้ภาษา การศึกษา การสืบค้น การประเมนิ โดยใช้
กระบวนการสรา้ งคา่ นิยม เรียนความรู้ ความเข้าใจ สรา้ งความคดิ รวบยอด คิดวจิ ารณญาณ มคี วามเข้าใจลึกซงึ้
เรียนรู้ด้วยกลมุ่ สัมพันธ์ มคี วามคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ นาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์ ตระหนักเห็นคณุ คา่ ของ
ความมีวินยั ใฝเุ รียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มงุ่ ม่นั ในการทางาน มีจิตสาธารณะ มีความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
ซอ่ื สัตย์สุจรติ รกั ความเป็นไทย มคี วามสามารถในการส่ือสาร การคดิ การแก้ปัญหา การใชท้ ักษะชีวิต การใช้
เทคโนโลยี นาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน

ผลการเรยี นรู้
๑. บอกความหมาย คุณค่า ประโยชน์ มีทักษะในการกา่ นเขยี น
๒. สามารถอา่ นออกเสียงเรอ่ื งที่กาหนดให้ มีมารยาทในการอ่าน
๓. อา่ นวรรณคดี วรรณกรรม สือ่ ต่าง ๆ และเขียนสรปุ ใจความได้
๔. ทที กั ษะในการคัดลายมือได้ถกู ต้องสวยงาม
๕. เลือกอา่ นหนงั สือ ส่อื ต่างๆ และนาความรู้มาพฒั นาตนเอง

รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รหสั วชิ า ท๒๒๒๐๒ ทกั ษะการอา่ นการเขยี นภาษาไทย กลุ่มสาราการเรียนรูภ้ าษาไทย
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒
ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ

แยกข้อเทจ็ จรงิ ข้อคดิ เห็นจากเรื่องที่อา่ น แปลความและขยายความเรื่องท่อี ่าน อธิบาย ความหมาย
ของข้อมูล จากการอา่ น ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดทีไ่ ด้จากงานเขียนเพอื่ นาไปใช้แก้ปญั หาชีวติ มีทักษะ
ในการเขียนเรื่องราวในรปู แบบตา่ งๆ เขยี นรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ การเขียนแผนภาพ คาขวญั
คาคม คาอวยพรในโอกาสต่างๆ การเขยี นอตั ชวี ประวัติ และเขยี นเร่ืองจากประสบการณ์ตา่ งๆ การเขยี นโครงงาน
เขยี นแสดงความคดิ เหน็ และโตแ้ ย้งอยา่ งมเี หตุผล

ใชท้ ักษะการอ่าน เขียน ฟัง ดู และพดู การใช้ภาษา การศึกษา การสืบค้น การประเมนิ โดยใช้
กระบวนการสร้างค่านยิ ม เรยี นความรู้ ความเข้าใจ สรา้ งความคดิ รวบยอด คิดวิจารณญาณ มีความเข้าใจลกึ ซึ้ง
เรียนรู้ด้วยกลมุ่ สมั พันธ์ มคี วามคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ นาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์ ตระหนักเห็นคุณค่าของ
ความมวี นิ ัย ใฝเุ รยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง ม่งุ มัน่ ในการทางาน มจี ติ สาธารณะ มีความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
ซอื่ สัตย์สจุ ริต รกั ความเป็นไทย มคี วามสามารถในการส่ือสาร การคดิ การแกป้ ัญหา การใช้ทักษะชวี ติ การใช้
เทคโนโลยี นาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน

ผลการเรียนรู้
๑. สามารถอ่านสรปุ ความ ตคี วาม และแยกข้อเทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็นได้
๒. อธบิ ายความหมาย ของขอ้ มลู อย่างสร้างสรรค์
๓. สามารถเลือกอ่านหนังสอื อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
๔. สามารถเขยี นบนั ทึก นาเสนอประสบการณ์อย่างเหมาะสม
๕. เห็นคุณคา่ ของการเขียนและการอา่ น

รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม

รหัสวิชา ท๒๓๒๐๑ ภาษาไทยเพื่อกิจธุระ กลุ่มสาราการเรยี นรู้ภาษาไทย

ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐,๕ หน่วยกิต

ฝกึ ใช้ภาษาทง้ั ภาษาพดู และภาษาเขียนเพอื่ กจิ ธรุ ะในเร่ืองต่างๆ เขียนประกาศ คาแนะนา เขียนบนั ทึก
เร่อื งราวตา่ งๆ อ่านตคี วามจากประกาศ มีทักษะการใชภ้ าษา เนื้อหา รปู แบบ ของภาษาเพอ่ื กจิ ธุระ ฝึกทักษะการฟัง
การพูดนาเสนองาน การอ่าน การเขยี นเอกสาร เช่น เอกสารการประชมุ การเขยี นรายงาน การบนั ทกึ การ ประชมุ
การยอ่ ความ การสรปุ ความจากเอกสารต่าง ๆ ฝึกปฏิบัติการใชภ้ าษาไทยในกจิ ธุระตา่ ง ๆ อย่างมแี ระสิทธภิ าพ

ใช้ทกั ษะการอา่ น เขียน ฟัง ดู และพูด การใชภ้ าษา การศึกษา การสบื คน้ การประเมิน โดยใช้
กระบวนการสร้างคา่ นิยม เรียนความรู้ ความเขา้ ใจ สร้างความคดิ รวบยอด คดิ วจิ ารณญาณ มีความเขา้ ใจลกึ ซึง้
เรียนรดู้ ว้ ยกล่มุ สัมพนั ธ์ มีความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ นาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ ตระหนกั เห็นคุณค่าของ
ความมีวินยั ใฝุเรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งมัน่ ในการทางาน มีจติ สาธารณะ มีความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ซอื่ สัตย์สุจรติ รกั ความเป็นไทย มคี วามสามารถในการสอ่ื สาร การคิดการแกป้ ัญหา การใชท้ ักษะชวี ิต การใช้
เทคโนโลยี นาไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั

ผลการเรยี นรู้
๑. มีความรู้ความเขา้ ใจในการใชภ้ าษาเพื่อกิจธรุ ะ
๒. อ่านและตีความประกาศ จากเอกสารต่างๆ ได้
๓. มที ักษะในการนาเสนองาน การอ่าน การเขียนเอกสาร
๔. สามารถเขียนบันทึก เขียนย่อความ สรุปขากเอกสารต่างๆได้
๕. ใช้ภาษาไทยในกิจธุระต่าง ๆ อย่างมีแระสิทธภิ าพ

รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ

รหัสวชิ า ท๒๓๒๐๒ ภาษาไทยเพอื่ กจิ ธุระ กลุ่มสาราการเรยี นรู้ภาษาไทย

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐,๕ หนว่ ยกิต

บอกความหมายและความสาคัญของการใช้ภาษาเพื่อกิจธรุ ะ เข้าใจหลักท่ัวไปในการเขียนข้อความเพอื่
เผยแพร่ ประกาศ คาแนะนา และคาชกั ชวน สามารถอ่านตีความจากประกาศ เอกสารแนะนา และเอกสารต่างๆ ใช้
ภาษาพูดและภาษาเขยี นได้อยา่ งถูกต้อง มคี วามรู้ความเขา้ ใจและเหน็ ความสาคัญในการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องตาม
มารยาทในสังคม

ใช้ทักษะการอ่าน เขียน ฟัง ดู และพูด การใชภ้ าษา การศกึ ษา การสบื ค้น การประเมนิ โดยใช้
กระบวนการสร้างคา่ นยิ ม เรียนความรู้ ความเข้าใจ สร้างความคดิ รวบยอด คิดวิจารณญาณ มีความเข้าใจลึกซ้งึ
เรียนรูด้ ้วยกลุ่มสัมพนั ธ์ มีความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ นาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ ตระหนักเห็นคณุ คา่ ของ
ความมีวินัย ใฝุเรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ม่งุ ม่ันในการทางาน มจี ิตสาธารณะ มคี วามรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
ซอ่ื สัตย์สจุ รติ รักความเปน็ ไทย มคี วามสามารถในการสื่อสาร การคดิ การแก้ปญั หา การใช้ทกั ษะชวี ิต การใช้
เทคโนโลยี นาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน

ผลการเรยี นรู้
๑. บอกความหมายและความสาคญั ของการใชภ้ าษาเพ่ือกจิ ธรุ ะ
๒. เขา้ ใจหลักการเขียนข้อความเพื่อเผยแพร่ได้
๓. สามารถอา่ นตีความตามประกาศ เอกสารแนะนาชกั ชวน
๔. เห็นความสาคญั ในการใช้ภาษาเพ่ือกิจธุระ
๕. ใช้ภาษาไทยให้ถูกตอ้ งตามมารยาททางสังคม

รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

รายวชิ าพืน้ ฐานและเพิ่มเตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

รายวิชาพน้ื ฐาน

ค21101 คณติ ศาสตร์ จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกติ
ค21102 คณิตศาสตร์ จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หน่วยกติ
ค22101 คณิตศาสตร์ จานวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต
ค22102 คณติ ศาสตร์ จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หนว่ ยกิต
ค23101 คณิตศาสตร์ จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ค23102 คณติ ศาสตร์ จานวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หนว่ ยกติ

รายวิชาเพ่ิมเติม
-

คาอธบิ ายรายวชิ า

รหัสวชิ า ค 2๑๑0๑ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ช่วั โมง 1.5 หน่วยกติ

ศกึ ษา และฝึกทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์อันไดแ้ ก่ การแกป้ ญั หา การให้เหตุผล การสื่อสาร
การสือ่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเช่อื มโยงความรตู้ ่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์และเชือ่ มโยง
คณิตศาสตร์อื่น ๆ และมคี วามคดิ ริเริม่ สร้างสรรค์ ในสาระต่อไปน้ี

จานวนเต็ม การบวกจานวนเตม็ การลบจานวนเตม็ การคูณจานวนเต็ม การหารจานวนเตม็ สมบัติ
ของการบวกและการคณู จานวนเตม็

การสรา้ งรปู เรขาคณติ รูปเรขาคณติ พ้นื ฐาน การสรา้ งพ้นื ฐานทางเรขาคณติ การสร้างรูปเรขาคณติ
เลขยกกาลัง ความหมายของเลขยกกาลังการคณู และการหารเลขยกกาลัง สญั กรณ์วิทยาศาสตร์ทศนยิ ม
และเศษส่วน
ทศนยิ มและเศษส่วน การเปรยี บเทียบทศนยิ ม การบวกและการลบทศนิยม การคูณและการหารทศนยิ ม
เศษส่วนเละการเปรยี บเทยี บเศษส่วน การบวกและการลบเศษส่วน การคูณและการหารเศษส่วน ความสัมพันธ์
ระหว่างทศนยิ มและเศษสว่ น
รูปเรขาคณิตสองมติ ิและสามมิติ หน้าตดั ของรปู เรขาคณิตสามมติ ิ ภาพด้านหน้า ภาพด้านข้าง และ
ภาพด้านบนของรูปเรขาคณิตสามมิติ
โดยใช้กระบวนการทางคณิตศาสตรใ์ นการคิดคานวณ การแกป้ ญั หา การใหเ้ หตุผล การสื่อความหมาย
ทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณด์ ้านความรู้ ความคิด ทักษะ กระบวนการท่ีได้ใชไ้ ปในการเรยี นร้สู งิ่ ตา่ งๆและ
ใชใ้ นชีวติ ประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์ รวมท้ังเหน็ คณุ ค่า และมีเจตคตทิ ด่ี ตี ่อวิชาคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่าง
เปน็ ระบบ ระเบยี บ รอบคอบ มีความรบั ผิดชอบ มีวิจารณญาณและเชื่อมั่นในตนเองและสามารถนาหลัก
เศรษฐกจิ พอเพียงมาปรับประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวันได้

รหสั ตัวชี้วดั
ค 1.1 ม.1/1 , ม.1/2
ค 2.2 ม.1/1 , ม.1/2

รวมท้ังหมด 4 ตวั ชี้วดั

คาอธิบายรายวชิ า

รหสั วชิ า ค 2๑๑0๒ คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชัว่ โมง 1.5 หน่วยกติ

ศกึ ษา และฝึกทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์อนั ได้แก่ การแกป้ ัญหา การให้เหตผุ ล การสือ่ สาร
การสอ่ื สารคามหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเช่ือมโยงความรูต้ า่ ง ๆ ทางคณิตศาสตรแ์ ละเช่อื มโยง
คณติ ศาสตร์อ่นื ๆ และมีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ในสาระตอ่ ไปนี้

สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว การเตรียมความพรอ้ มก่อนรจู้ กั สมการ สมการและคาตอบของ สมการ
การแกส้ มการเชิงเส้นตวั แปรเดียว โจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว

อตั ราสว่ น สดั ส่วน และร้อยละ อัตราสว่ น สดั สว่ น รอ้ ยละ บทประยกุ ต์
กราฟและความสัมพนั ธเ์ ชงิ เส้น คอู่ นั ดับและกราฟคู่อันดบั กราฟและการนาไปใช้ ความสัมพนั ธเ์ ชงิ เส้น
สถิติ คาถามทางสถติ ิ การเกบ็ รวบรวมข้อมลู การนาเสนอข้อมูลและการแปลความหมายข้อมูล
โดยใชท้ ักษะกระบวนการในการคดิ คานวณ การแก้ปัญหา การใหเ้ หตผุ ล การส่ือ ความหมายทาง
คณติ ศาสตร์ และนาประสบการณด์ า้ นความรู้ ความคิด ทักษะ กระบวนการท่ไี ด้ใชไ้ ปในการเรียนรสู้ ิ่งต่างๆและใช้
ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์ รวมทง้ั เห็นคณุ ค่า และมีเจตคติท่ดี ตี ่อวชิ าคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็
ระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรบั ผิดชอบ มวี ิจารณญาณและเช่ือมั่นในตนเองและสามารถนาหลักเศรษฐกิจ
พอเพียงมาปรับประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวันได้

รหสั ตวั ชี้วดั
ค 1.1 ม.1/3
ค 1.3 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3
ค 3.1 ม.1/1

รวมท้ังหมด 5 ตวั ชวี้ ดั

รหสั วิชา ค 2๒๑0๑ คณิตศาสตร์ คาอธบิ ายรายวิชา
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์

เวลา 60 ช่วั โมง 1.5 หน่วยกิต

ศึกษา และฝกึ ทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตรอ์ นั ได้แก่ การแก้ปญั หา การใหเ้ หตุผล การสอื่ สาร
การสอื่ สารคามหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชอื่ มโยงความร้ตู า่ ง ๆ ทางคณิตศาสตร์และเชอ่ื มโยง
คณติ ศาสตร์อืน่ ๆ และมีความคดิ รเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ ในสาระตอ่ ไปนี้

ทฤษฎบี ทพีทาโกรัส ทฤษฎีบทพที าโกรัสและบทกลับ การนาความรู้เกยี่ วกบั ทฤษฎีบทพีทาโกรสั และบท
กลบั ไปใชใ้ นชวี ติ จริง

ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกับจานวนจริง จานวนอตรรกยะ จานวนจรงิ รากท่ีสองและรากทสี่ ามของจานวน
ตรรกยะ การนาความรเู้ กี่ยวกบั จานวนจรงิ ไปใช้

ปริซึมและทรงกระบอก การหาปรมิ าตรของปริซมึ และทรงกระบอก การนาความรูเ้ กี่ยวกบั ปริมาตรของ
ปริซมึ และทรงกระบอก ไปใช้การแก้ปัญหา

การแปลงทางเรขาคณิต การเลอ่ื นขนาน การสะทอ้ น การหมนุ การนาความรเู้ กีย่ วกับการแปลงทาง
เรขาคณติ ไปใชใ้ นการแก้ปัญหา

สมบัติของเลขยกกาลัง เลขยกกาลังที่มเี ลขชี้กาลังเปน็ จานวนเตม็ การนาความรู้เก่ียวกับเลขยกกาลงั ไป
ใชใ้ นการแก้ปัญหา

พหุนาม การบวก การลบ และการคูณของพหุนาม การหารพหุนามด้วยเอกนามทีม่ ีผลหารเป็นพหุนาม
โดยใชก้ ระบวนการทางคณิตศาสตรใ์ นการคดิ คานวณ แก้ปัญหา การใหเ้ หตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทักษะกระบวนการทไ่ี ด้ไปใชใ้ นการเรียนรู้สง่ิ ต่างๆ และใชใ้ น
ชวี ิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและเจตคติทดี่ ตี ่อคณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างมรี ะบบ
ระเบียบ มคี วามรอบครอบ มคี วามรบั ผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และมีความเชือ่ มั่นในตนเอง

รหัสตวั ช้ีวัด
ค 1.1 ม 2/1 , ม 2/2
ค 1.2 ม 2/1
ค 2.1 ม 2/2
ค 2.2 ม 2/3 , ม 2/5

รวมทั้งหมด 6 ตัวช้ีวดั

รหสั วชิ า ค 2๒๑0๒ คณิตศาสตร์ คาอธบิ ายรายวิชา
ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์

เวลา 60 ชัว่ โมง 1.5 หน่วยกิต

ศกึ ษา และฝกึ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์อนั ไดแ้ ก่ การแก้ปญั หา การใหเ้ หตุผล การสอ่ื สาร
การสื่อสารคามหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเช่ือมโยงความรูต้ า่ ง ๆ ทางคณิตศาสตรแ์ ละเชอ่ื มโยง
คณติ ศาสตร์อืน่ ๆ และมคี วามคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์ ในสาระต่อไปน้ี

สถิติ การนาเสนอและวเิ คราะห์ข้อมูล โดยใช้ แผนภาพจดุ แผนภาพต้นใบ ฮสิ โทแกรม คา่ กลางของ
ข้อมลู การแปลงความหมายผลลัพธ์ การนาสถติ ิไปใชใ้ นชีวิตจริง

ความเท่ากนั ทุประการ ความเท่ากนั ทกุ ประการของรปู สามเหลย่ี ม การนาความรู้เก่ยี วกบั ความเทา่ กันทุก
ประการไปใช้ในการแกป้ ัญหา

เสน้ ขนาน สมบตั เิ กี่ยวกับเส้นขนานและรูปสามเหล่ียม
การให้เหตุผลทางเรขาคณติ การนาความรู้เก่ียวกบั การสร้างทางเรขาคณิตไปใช้ในชีวิตจรงิ
การแยกตัวประกอบของพหุนามดกี รีสอง การแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยใชส้ มบตั ิการแจก
แจง กาลงั สองสมบูรณ์ ผลตา่ งกาลงั สอง โดยใช้กระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการคดิ คานวณ แก้ปัญหา การ
ให้เหตุผล การส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีได้
ไปใช้ในการเรียนรูส้ ง่ิ ต่างๆ และใช้ในชวี ิตประจาวนั อย่างสร้างสรรค์ รวมทง้ั เหน็ คณุ ค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์
สามารถทางานอย่างมีระบบระเบียบ มีความรอบครอบ มีความรบั ผิดชอบ มวี จิ ารณญาณ และมีความเช่ือมั่นใน
ตนเอง

รหสั ตวั ช้ีวดั
ค 1.2 ม 2/2
ค 2.2 ม 2/1 , ม 2/2 , ม 2/4
ค 3.1 ม 2/1

รวมท้ังหมด 5 ตัวช้ีวัด

คาอธบิ ายรายวชิ า กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
รหัสวิชา ค 2๓๑0๑ คณติ ศาสตร์ เวลา 60 ชัว่ โมง 1.5 หน่วยกิต
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1

ศึกษา และฝกึ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์อันไดแ้ ก่ การแก้ปญั หา การให้เหตุผล การสอ่ื สาร
การส่ือสารคามหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชอื่ มโยงความรูต้ ่าง ๆ ทางคณติ ศาสตร์และเช่ือมโยง
คณิตศาสตร์อืน่ ๆ และมคี วามคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ ในสาระตอ่ ไปนี้

อสมการเชิงเส้นตวั แปรเดยี ว แนะนาอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดยี ว คาตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปร
เดียว การแก้อสมการเชงิ เส้นตวั แปรเดียว โจทยป์ ัญหาเกยี่ วกับอสมการเชงิ เส้นตัวแปรเดยี ว

การแยกตัวประกอบของพหุนามท่ีมีดกี รีสูงกว่าสอง การแยกตัวประกอบของพหุนามที่อยูท่ ่ีอยู่ในรปู
ผลบวกและผลต่างของกาลงั สาม การแยกตัวประกอบของพหุนามท่ีมีดกี รีสงู กว่าสาม

สมการกาลังสองตัวแปรเดียว แนะนาสมการกาลงั สองตัวแปรเดียว การแกส้ มการกาลงั สองตัวแปรเดียว
โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั สมการกาลังสองตัวแปรเดียว

ความคลา้ ย รปู เรขาคณิตที่คล้ายกนั รูปสามเหล่ียมท่คี ล้ายกนั โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับรปู สามเหล่ียมที่
คล้ายกนั

โดยใช้กระบวนการทางคณิตศาสตรใ์ นการคดิ คานวณ แก้ปญั หา การใหเ้ หตผุ ล การสอ่ื ความหมายทาง
คณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคดิ ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรสู้ งิ่ ต่างๆ และใช้
ในชีวติ ประจาวันอยา่ งสรา้ งสรรค์ รวมท้งั เหน็ คุณค่าและเจตคติทีด่ ตี อ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ
ระเบียบ มีความรอบครอบ มีความรับผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ และมีความเช่ือมั่นในตนเอง

รหัสตัวช้ีวัด ม 3/1 , ๓/๒
ค 1.2 ม ๓/๑ , ๓/๒
ค ๑.๓ ม ๓/๑
ค ๒.๒ ม ๓/๑
ค ๓.๑

รวมท้ังหมด ๖ ตัวชี้วัด

คาอธบิ ายรายวชิ า

รหัสวิชา ค 2๓๑0๒ คณิตศาสตร์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชัว่ โมง 1.5 หน่วยกติ

ศึกษา และฝกึ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์อันได้แก่ การแก้ปญั หา การให้เหตผุ ล การส่อื สาร
การสอ่ื สารคามหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชอื่ มโยงความรูต้ า่ ง ๆ ทางคณิตศาสตรแ์ ละเชอื่ มโยง
คณติ ศาสตร์อ่นื ๆ และมคี วามคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ ในสาระตอ่ ไปนี้

ระบบสมการเชงิ เส้นสองตัวแปร แนะนาระบบสมการเชิงเสน้ สองตวั แปร การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสอง
ตัวแปร การแก้โจทยป์ ัญหาโดยใชร้ ะบบสมการเชงิ เส้นสองตัวแปร

วงกลม มุมท่จี ดุ ศูนยก์ ลางและมุมในส่วนโค้งของวงกลม คอรด์ วงกลม เสน้ สมั ผสั วงกลม
พรี ะมดิ กรวย และทรงกลม ปริมาตรและพื้นท่ีผิวของพีระมิด ปรมิ าตรและพน้ื ทผี่ ิวของกรวย ปรมิ าตร
และพื้นทผี่ วิ ของทรงกลม
ความน่าจะเป็น โอกาสของเหตุการณ์ ความจะเป็น
อัตราส่วนตรโี กณมิติ ความหมายของอัตราส่วนตรีโกณมิติ อัตราสว่ นตรีโกณมติ ิของมุมแหลม
การนาอัตราสว่ นตรีโกณมติ ิไปใชใ้ นการแก้ปัญหา
โดยใช้กระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการคิดคานวณ แก้ปญั หา การให้เหตุผล การสอ่ื ความหมายทาง
คณติ ศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทกั ษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรสู้ ง่ิ ตา่ งๆ และใช้
ในชวี ิตประจาวนั อย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเหน็ คุณค่าและเจตคติทด่ี ีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมรี ะบบ
ระเบียบ มีความรอบครอบ มีความรับผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณ และมีความเช่อื มั่นในตนเอง

รหสั ตัวช้ีวดั
ค ๑.๓ ม ๓/๓
ค ๒.๑ ม ๓/๑ , ๓/๒
ค ๒.๒ ม ๓/๒ , ๓/๓
ค ๓.๒ ม ๓/๑

รวมท้ังหมด 6 ตัวช้ีวัด

กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์

รายวิชาพน้ื ฐานและเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้

รายวชิ าพืน้ ฐาน

ว21101 วทิ ยาศาสตร์ จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต
ว21102 วิทยาศาสตร์ จานวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกติ
ว22101 วทิ ยาศาสตร์ จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต
ว22102 วทิ ยาศาสตร์ จานวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
ว23101 วิทยาศาสตร์ จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หน่วยกติ
ว23102 วิทยาศาสตร์ จานวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต

รายวิชาเพ่ิมเติม จานวน ๔0 ชั่วโมง 1.๐ หน่วยกติ
จานวน ๔0 ชว่ั โมง 1.๐ หนว่ ยกิต
ว๒๑๒๐๑ คอมพิวเตอร์ (คอมพวิ เตอร์เบ้ืองตน้ ) จานวน ๔0 ช่ัวโมง 1.๐ หน่วยกติ
ว๒๑๒๐๒ คอมพิวเตอร์ (อลั กอรทิ ึมเบ้ืองต้น) จานวน ๔0 ชัว่ โมง 1.๐ หนว่ ยกิต
ว๒๒๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ (งานกราฟิกและนาเสนอข้อมลู ) จานวน ๔0 ชว่ั โมง 1.๐ หน่วยกิต
ว๒๒๒๐๒ คอมพวิ เตอร์ (การคานวณ) จานวน ๔0 ช่วั โมง 1.๐ หน่วยกิต
ว๒๓๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ (โครงงานคอมพิวเตอร)์
ว๒๓๒๐๒ คอมพวิ เตอร์ (การสรา่ งภาพเคลื่อนไหว)

คาอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รหสั วชิ า ค 2๑๑0๑ วิทยาศาสตร์ จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต

ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1

ศึกษา ทดลอง สารวจ สงั เกต วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และอธิบายเก่ยี วกับลกั ษณะของเซลล์ รปู รา่ งลักษณะ
ของเซลล์ ส่วนประกอบทส่ี าคัญของเซลล์ การแพร่และการออสโมซีส ปจั จัยการสงั เคราะหแ์ สงของพชื กระบวนการ
สังเคราะหแ์ สง การลาเลยี งน้าและอาหาร โครงสรา้ งของดอก กระบวนการสืบพนั ธุแ์ บบต่าง ๆ การตอบสนองของพืช
ผลของการใชเ้ ทคโนโลยชี วี ภาพในการเพ่มิ ผลผลิต การจาแนกสาร
การเปลยี่ นสถานะของสาร สารท่ีมีคุณสมบัติเป็นกรด เบส วธิ กี ารเตรยี มสารละลาย การเปลีย่ นแปลงสมบัติ มวล
และพลังงานของสาร และปัจจัยทมี่ ผี ลต่อสถานะของสาร การใชท้ รัพยากรธรรมชาตแิ ละการอนรุ กั ษส์ ่งิ แวดลอ้ มใน
ท้องถนิ่ อย่างย่ังยืนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสังเกต การ
สืบคน้ ขอ้ มูล การอภปิ ราย สรุปเพื่อให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สือ่ สารสิง่ ท่เี รียนรมู้ ีความสามารถในการ
ตดั สินใจ นาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตของตนเอง ดแู ลรกั ษาสิ่งมีชวี ิตอ่นื เฝาู ระวงั และพัฒนาส่งิ แวดล้อมอย่างยัง่ ยนื มีจิต
วทิ ยาศาสตรห์ รือเจตคตทิ ดี่ ีต่อวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม ค่านยิ มทเี่ หมาะสม และตระหนักถึงคุณคา่ ของ
ความรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยใี นชีวติ ประจาวัน

รหสั ตวั ช้ีวดั
ว 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/3, ม.1/9, ม.1/10,
ม.1/11, ม.1/12, ม.1/13
ว 3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
ว 3.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3

รวมท้ังหมด 20 ตวั ชวี้ ัด

คาอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รหสั วชิ า ค 2๑๑0๒วทิ ยาศาสตร์ จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หน่วยกิต

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2

ศึกษา ทดลอง สารวจ สงั เกต วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และอธบิ ายเก่ยี วกบั ปรมิ าณเสกลาร์ ปรมิ าณ
เวกเตอร์ ระยะทาง การกระจัด อัตราเร็วและความเร็ว อุณหภมู แิ ละการวดั อณุ หภูมิ การถ่ายโอนและการนาความ
รอ้ น การดูดกลืน การคายความรอ้ นและการแผร่ งั สี การสมดุลความรอ้ นและผลของความร้อนต่อการขยายตัวของ
สาร องค์ประกอบและการแบ่งชั้นบรรยากาศ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งอณุ หภูมิ ความชืน้ และความกดอากาศ ปรากฏ
การธรรมชาติ การแปลความหมายข้อมูลจากการพยากรณ์ ผลของลมฟูาอากาศท่ีมีผลตอ่ การดารงชวี ติ ปัจจัยทาง
ธรรมชาติและการกระทาของมนุษยท์ ่มี ีผลต่อการเปลยี่ นแปลงอุณหภูมขิ องโลก รโู หว่โอโซน และฝนกรด ผลของ
ภาวะโลกร้อน รูโหวโ่ อโซนและฝนกรดท่มี ีต่อสง่ิ มีชีวิตและสง่ิ แวดล้อม การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติและการอนรุ กั ษ์
ส่งิ แวดล้อมในท้องถิ่นอยา่ งยั่งยนื ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสังเกต การ
สืบค้นขอ้ มูล การอภิปราย สรปุ เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ ส่อื สารสงิ่ ที่เรียนร้มู ีความสามารถในการ
ตดั สนิ ใจ นาความร้ไู ปใชใ้ นชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสงิ่ มีชีวิตอืน่ เฝาู ระวังและพัฒนาสง่ิ แวดล้อมอย่างย่ังยืน มีจิต
วิทยาศาสตร์หรอื เจตคตทิ ีด่ ตี ่อวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม คา่ นิยมที่เหมาะสม และตระหนักถงึ คุณคา่ ของ
ความรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยใี นชวี ิตประจาวนั

รหัสตัวชี้วัด
ว 4.1 ม.1/1, ม.1/2
ว 5.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
ว 6.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7

รวมท้ังหมด 13 ตัวช้วี ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า

รหัสวิชา ค 2๒๑0๑วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต

ศกึ ษาวเิ คราะห์ อธบิ ายโครงสร้างและการทางานของระบบย่อยอาหาร ระบบหมนุ เวียนเลอื ด ระบบหายใจ
ระบบขับถ่าย ระบบสบื พนั ธ์ุ ของมนุษย์และสตั ว์ รวมทัง้ ระบบประสาทของมนุษย์ อธิบายความ สัมพันธ์ของระบบ
ต่างๆ ของมนุษยแ์ ละนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ สังเกตและอธิบายพฤติกรรมของมนุษย์และสัตวท์ ต่ี อบสนองต่อส่ิงเร้า
ภายนอกและภายใน อธบิ ายหลกั การและผลของการใชเ้ ทคโนโลยี ชีวภาพในการขยายพนั ธุ์ ปรบั ปรงุ พันธ์ุ และ
เพ่ิมผลผลติ ของสตั วแ์ ละนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ทดลอง วิเคราะห์ และอธิบายสารอาหารในอาหารมปี ริมาณ
พลงั งานและสัดสว่ นที่เหมาะสมกบั เพศและวัย อภิปรายผลของสารเสพติดตอ่ ระบบตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย และแนวทาง
ในการปูองกันตนเองจากสารเสพตดิ สารวจและอธบิ ายองค์ประกอบ สมบตั ขิ องธาตุและสารประกอบ สืบค้นข้อมลู
และเปรียบเทยี บสมบตั ิของธาตุโลหะ ธาตุอโลหะ ธาตุกึ่งโลหะและธาตุกัมมนั ตรงั สีและนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ทดลองและอธิบายการหลกั การแยกสารดว้ ยวิธีการกรอง การตกผลึก การสกัด การกลัน่ และโครมาโทกราฟี และ
นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ทดลองและอธบิ ายการเปล่ียนแปลงสมบตั ิ มวล และพลังงานเม่ือสารเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี
รวมทง้ั อธบิ ายปจั จยั ที่มีผลต่อการเกิด ปฏิกิรยิ าเคมี ทดลอง อธบิ ายและเขียนสมการเคมีของปฏกิ ริ ิยาของสารตา่ ง ๆ
และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ สืบค้นข้อมูลและอภิปรายผลของสารเคมี ปฏิกิริยาเคมตี อ่ สง่ิ มีชวี ิตและส่งิ แวดล้อม
สืบค้นข้อมลู และอธบิ ายการใช้สารเคมอี ยา่ งถูกต้อง ปลอดภัย วธิ ปี อู งกันและแกไ้ ขอนั ตรายที่เกดิ ข้นึ จากการใช้
สารเคมี

โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสงั เกต การ
สบื ค้นข้อมูล การอภิปราย สรุปเพอื่ ให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สื่อสารสงิ่ ท่ีเรียนรู้มีความสามารถในการ
ตดั สนิ ใจ นาความร้ไู ปใชใ้ นชีวติ ของตนเอง ดูแลรกั ษาสิ่งมีชีวิตอน่ื เฝูาระวงั และพฒั นาสิง่ แวดลอ้ มอย่างย่ังยนื มีจติ
วทิ ยาศาสตรห์ รือเจตคตทิ ีด่ ีต่อวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม คา่ นยิ มทเี่ หมาะสม และตระหนกั ถงึ คุณคา่ ของ
ความรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยใี นชีวติ ประจาวัน

รหสั ตัวชี้วดั
ว 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6
3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3
ว 3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4

รวมท้ังหมด 13 ตวั ชว้ี ดั

คาอธบิ ายรายวชิ า กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รหัสวิชา ค 2๒๑0๒วิทยาศาสตร์ จานวน 60 ชัว่ โมง 1.5 หนว่ ยกิต

ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2

ศึกษาวเิ คราะห์ ทดลองและอธิบายการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรง ในระนาบเดียวกันทีก่ ระทาต่อวัตถุ
อธบิ ายแรงลพั ธ์ที่กระทาต่อวัตถทุ ่ีหยดุ นงิ่ หรือวตั ถเุ คลื่อนที่ดว้ ยความเร็วคงตัว ทดลองและอธิบายการสะท้อนของ
แสง การหกั เหของแสง และนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ อธบิ ายผลของความสว่างท่ีมตี ่อมนุษยแ์ ละส่ิงมชี วี ิต อ่นื ๆ
ทดลองและอธบิ ายการดดู กลืนแสงสี การมองเหน็ สีของวัตถุ และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ สารวจ ทดลองและ
อธิบายลกั ษณะของช้ันหนา้ ตัดดิน สมบตั ิของดิน และกระบวนการเกิดดินสารวจ วเิ คราะห์และอธบิ ายการใช้
ประโยชนแ์ ละการปรบั ปรุงคุณภาพของดนิ ทดลองเลยี นแบบ เพือ่ อธบิ ายกระบวนการเกิด และลกั ษณะ
องค์ประกอบของหิน ทดสอบ และสังเกตองคป์ ระกอบและสมบัติของหนิ เพ่ือจาแนกประเภทของหนิ และนาความรู้
ไปใช้ประโยชน์ ตรวจสอบและอธบิ าย ลกั ษณะทางกายภาพของแร่ และการนาไปใชป้ ระโยชน์ สืบค้นและอธิบาย
กระบวนการเกิด ลกั ษณะและสมบัติของปโิ ตรเลยี ม ถ่านหนิ หินนา้ มนั และการนาไปใชป้ ระโยชน์ สารวจและ
อธิบายลกั ษณะแหลง่ น้าธรรมชาติ การใช้ประโยชน์และการอนรุ ักษแ์ หลง่ น้าในท้องถ่ิน ทดลอง และอธิบาย การ
เกิดแหล่งน้าบนดนิ แหล่งน้าใตด้ ิน ทดลองเลียนแบบและอธบิ ายกระบวนการผุพงั อยู่กับท่ี การกร่อน การพัดพา การ
ทับถม การตกผลกึ และผลของ กระบวนการดังกลา่ ว สืบคน้ สร้างแบบจาลอง และ อธิบายโครงสร้างและ
องค์ประกอบของโลก ต้งั คาถาม ที่กาหนดประเดน็ หรือตัวแปรที่สาคัญในการสารวจตรวจสอบ หรือศึกษาคน้ คว้าเรื่อง
ทีส่ นใจได้อย่าง ครอบคล่มุ และเช่อื ถือได้

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสังเกต การ
สืบคน้ ข้อมลู การอภิปราย สรปุ เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สอ่ื สารสง่ิ ทีเ่ รียนรูม้ คี วามสามารถในการ
ตัดสนิ ใจ นาความรไู้ ปใช้ในชวี ิตของตนเอง ดแู ลรักษาส่งิ มีชวี ิตอื่น เฝาู ระวงั และพัฒนาสิง่ แวดล้อมอย่างยง่ั ยืน มจี ติ
วิทยาศาสตรห์ รอื เจตคตทิ ดี่ ีต่อวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม คา่ นิยมทเ่ี หมาะสม และตระหนักถึงคุณคา่ ของ
ความรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยใี นชีวติ ประจาวนั

รหัสตวั ชี้วดั
ว 4.1 ม.2/1, ม.2/2
ว 5.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3
ว 6.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8, ม.2/9, ม.2/10

รวมทั้งหมด 15 ตัวชีว้ ัด

รหัสวิชา ค 2๓๑0๑ วิทยาศาสตร์ คาอธบิ ายรายวชิ า
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

จานวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกติ

ศกึ ษา ทดลอง สารวจ สังเกต วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และอธิบายเกีย่ วกบั ลกั ษณะของโครโมโซม สาร
พนั ธุกรรม กระบวนการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม โรคทางพันธกุ รรม การแปรผันทางพันธกุ รรม มวิ เทชนั
ความหลากหลายทางชีวภาพ การเกดิ ความหลากหลายทางชีวภาพและผลของเทคโนโลยีชีวภาพตอ่ การดารงชวี ิต
ของมนุษย์และสิ่งแวดลอ้ ม ระบบนเิ วศ การถ่ายทอดพลังงานของส่ิงมีชีวติ และสายใยอาหาร วัฏจักรน้า วัฎจักร
คารบ์ อน การรักษาสมดุลของระบบนเิ วศ การใช้ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละการอนรุ ักษส์ งิ่ แวดลอ้ มในท้องถ่ินอย่าง
ย่งั ยืนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสังเกต การ
สบื คน้ ขอ้ มูล การอภปิ ราย สรปุ เพอื่ ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ส่อื สารส่งิ ทเี่ รียนรมู้ คี วามสามารถในการ
ตัดสินใจ นาความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตของตนเอง ดแู ลรักษาสิ่งมีชวี ิตอนื่ เฝูาระวังและพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มอย่างย่งั ยืน มจี ติ
วิทยาศาสตร์หรอื เจตคตทิ ด่ี ีต่อวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม และตระหนกั ถึงคุณคา่ ของ
ความรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีในชีวิตประจาวนั

รหสั ตัวช้ีวัด
ว 1.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6
ว 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4
ว 2.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6

รวมท้ังหมด 16 ตัวช้วี ัด

รหสั วิชา ค 2๒๑0๒ วิทยาศาสตร์ คาอธบิ ายรายวชิ า
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษา ทดลอง สังเกต สืบค้น อภปิ รายและอธิบายเกย่ี วกับความเรง่ แรงกิริยาและแรงปฏิกริ ยิ าระหวา่ ง
วัตถุ แรงพยุงของของเหลวท่กี ระทาต่อวัตถุ แรงเสยี ดทาน โมเมนต์ของแรง การเคล่ือนทีข่ องวัตถุแนวตรงและแนวโคง้
พลงั งานจลน์ พลงั งานศักย์และกฎการอนรุ ักษ์พลงั งาน พลังงานไฟฟาู ความตา่ งศกั ย์ กระแสไฟฟูา ความตา้ นทาน
การต่อวงจรไฟฟาู ในบ้าน วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ บ้ืองตน้ ความสมั พนั ธ์ระหว่างดวงอาทติ ย์ โลก ดวงจนั ทร์ ดาว
เคราะห์อนื่ ๆ องค์ประกอบของเอกภพ กาแล็กซี ระบบสรุ ยิ ะ เทคโนโลยีอวกาศ

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสงั เกต การ
สบื ค้นข้อมูล การอภปิ ราย สรปุ เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สอ่ื สารสงิ่ ทีเ่ รยี นรมู้ ีความสามารถในการ
ตดั สินใจ นาความรูไ้ ปใช้ในชีวติ ของตนเอง ดแู ลรักษาสงิ่ มีชวี ติ อื่น เฝาู ระวงั และพฒั นาสงิ่ แวดล้อมอย่างยัง่ ยืน มีจิต
วทิ ยาศาสตร์หรือเจตคติที่ดตี ่อวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม และตระหนกั ถึงคุณค่าของ
ความรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นชีวิตประจาวนั

รหัสตวั ชี้วัด
ว 4.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
ว 4.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
ว 5.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5
ว 7.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3ว 7.2 ม.3/1

รวมท้ังหมด 15 ตวั ชีว้ ดั

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม

รหสั วิชา ว 21201 คอมพิวเตอร์ (คอมพิวเตอร์เบ้ืองต้น) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศึกษา ความรู้ ความเข้าใจ วเิ คราะห์หลกั การทางาน บทบาทและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ ความหมาย

ของขอ้ มลู และประเภทของขอ้ มูล วสั ดอุ ุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟาู หรอื อิเล็กทรอนิกส์ ลกั ษณะสาคัญและ

ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ สาเหตหุ รอื ปัจจยั ที่ส่งผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยี หาแนวทางปรับปรุง

แกไ้ ขและแกป้ ญั หาได้อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย วธิ กี ารประมวลผลขอ้ มูล ขัน้ ตอนการจดั การ

สารสนเทศ ระดับของสารสนเทศ วธิ ีการดแู ลรกั ษาข้อมูล กระบวนการประมวลผลขอ้ มลู การจดั การสารสนเทศ

อยา่ งเห็นคุณคา่ และนาไปใชใ้ นการสื่อสารแก้ปัญหา ทางานและประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

และ มีคุณธรรม

รหัสตัวชี้วดั
ว4.1ม.1/1 ,ม.1/2, ม.1/3,ม.1/4,ม.1/5

รวมท้ังหมด 5 ตัวชว้ี ดั

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ

รหสั วชิ า ว 21202 คอมพิวเตอร์ (อัลกอริทึมเบอื้ งต้น) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาปัจจยั ในการวดั ประสิทธิภาพของอัลกอริทึม การแทนการเตบิ โตของฟังก์ชันเวลาในการทางานของ
อัลกอริทมึ ด้วยสัญลักษณ์เชงิ เสน้ กากบั การวเิ คราะห์อลั กอรทิ มึ การทางานแบบลาดับ แบบมีเง่อื นไข แบบวนซ้า และ
แบบเรยี กเวยี นเกิด แนวทางการวิเคราะหอ์ ัลกอริทึมกรณีเลวรา้ ยสดุ และกรณเี ฉล่ีย อัลกอรทึ ึมการแบ่งแยกและ
เอาชนะ กาหนดการพลวตั อัลกอริทมึ เชงิ ละโมบ เทคนิคการคน้ หาขัน้ สงู

เกดิ เจตคติทด่ี ีในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื ค้นขอ้ มูล เรียนรู้ สอื่ สาร แกป้ ญั หาและทางานอย่างมี
ประสิทธภิ าพ ประสิทธิผล และมคี ุณธรรม

รหัสตวั ชี้วัด
ว4.2 ม.1/1 ,ม.1/2, ม.1/3,ม.1/4

รวมท้ังหมด 4 ตัวช้วี ดั

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม คอมพิวเตอร์ (งานกราฟิกและนาเสนอข้อมูล)

รหสั วชิ า ว 22201 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

ศกึ ษา คน้ ควา้ วิเคราะห์ และอธบิ ายหลกั การงานกราฟิก และสรา้ งงานนาเสนอข้อมูล การสร้างสงิ่ ของ
เครอ่ื งใช้ ตามกระบวนการกราฟกิ การออกแบบภาพร่าง 3 มิติ หลักการเบือ้ งต้น การสื่อสารข้อมลู หลักการและ
วธิ กี ารแก้ปญั หาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ ค้นหาขอ้ มลู และตดิ ต่อสื่อสาร หลกั การใชโ้ ปรแกรมนาเสนอ
งาน การใช้เทคโนโลยีสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา กาค้นหาข้อมูล และการตติ ่อสื่อสาร การใชซ้ อรฟ์ แวร์ระบบ
ซอรฟ์ แวร์ประยกุ ต์ดา้ นการคานวณ

นากระบวนการเทคโนโลยีมาประยุกตใ์ ชใ้ นการสรา้ งสรรค์สงิ ของเคร่อื งใช้ อย่างปลอดภยั และมหี ลักการ
ออกแบบโดยถา่ ยทอดความคิดของวธิ ีการเปน็ ภาพร่าง 3 มติ ิ หรอื ภาพฉาย เพ่ือนาไปสกู่ ารสรา้ งตน้ แบบของสง่ิ ของ
เครือ่ งใช้ หรือถ่ายทอดความคดิ ของวธิ ีการ เป็นแบบจาลองความคดิ และการรายงานผล โดยนาเสนอผ่านโปรแกรม
นาเสนอ การใสข่ ้อความ การตกแตง่ ข้อความ กาหนดรูปแบบการนาเสนอผลงาน โดยใช้กระบวนการค้นหาขอ้ มูลมา
ประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม เลอื กใช้เทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์ และแก้ปญั หา หรือตอบสนองความต้องการในงานที่
สรา้ ง สืบค้นขอ้ มลู และใชโ้ ปรแกรมเรียกคืนข้อมูลอย่างเหมาะสม นาซอรฟ์ แวรร์ ะบบ และซอร์ฟแวร์ประยุกตด์ า้ นการ
คานวณมาใช้ให้เหมาะสมกับงาน ด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการทางานเปน็ กลมุ่ และกระบวนการ
แกป้ ญั หาสรา้ งชน้ิ งานอยา่ งสร้างสรรค์ มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้อนิ เตอร์เนต็ ใชเ้ ทคโนโลยีอย่างสรา้ งสรรค์ ตอ่
ชวี ติ สงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม ค้นหาข้อมลู และติดต่อส่อื สารผา่ นเครอื ข่ายคอมพวิ เตอรอ์ ย่างมีคุณธรรมและจรยิ ธรรม และมี
การจัดการเทคโนโลยีด้วยการลดการใชท้ รพั ยากร หรือเลือกใช้เทคโนโลยีท่ีไม่มีผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม

ผลการเรียนรู้
๑.นักเรยี นสามารถอธบิ ายหลักการงานกราฟิกและสร้างงานนาเสนอข้อมูล การสร้างส่งิ ของเครอ่ื งใชต้ าม

กระบวนการกราฟิกการออกแบบภาพร่าง 3 มิติ
๒.นักเรยี นสามารถออกแบบภาพร่าง 3 มติ ไิ ด้ภาพฉายเพื่อนาไปสกู่ ารสร้างตน้ แบบของส่ิงของเคร่อื งใช้ หรอื

ถา่ ยทอดความคดิ ของวธิ กี าร เป็นแบบจาลอง
3. นักเรยี นสามารถนาเสนอผา่ นโปรแกรมนาเสนอ การใส่ข้อความ การตกแต่งข้อความ กาหนดรูปแบบ
4. นกั เรยี นสามารถใช้กระบวนการค้นหาข้อมูลมาประยุกต์ใช้อยา่ งเหมาะสม และเลือกใช้เทคโนโลยอี ยา่ ง

สรา้ งสรรค์
5. นักเรียนสามารถนาซอร์ฟแวร์ ระบบซอร์ฟแวร์ประยุกต์ด้านการคานวณมาใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั งาน
6. นกั เรยี นสามารถแก้ปัญหา หรือตอบสนองความต้องการในงานท่สี รา้ ง สบื คน้ ข้อมูล และใช้

โปรแกรมเรียกคืนข้อมูลอย่างเหมาะสม

รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ คอมพิวเตอร์(การคานวณ)

รหัสวชิ า ว 22202 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ ๒ เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศึกษา คน้ คว้า วเิ คราะห์ และอธิบายหลกั การงานกราฟิก และสรา้ งงานนาเสนอข้อมูล การสรา้ งสิง่ ของ
เครอ่ื งใช้ ตามกระบวนการกราฟิกการออกแบบภาพรา่ ง 3 มติ ิ หลกั การเบอ้ื งต้น การส่ือสารข้อมูล หลกั การและ
วธิ ีการแก้ปัญหาดว้ ยกระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศ ค้นหาขอ้ มลู และติดต่อส่ือสาร หลักการใช้โปรแกรมนาเสนอ
งาน การใช้เทคโนโลยสี รา้ งสรรค์ การแกป้ ัญหา กาค้นหาข้อมลู และการตติ ่อส่อื สาร การใช้ซอรฟ์ แวรร์ ะบบ
ซอรฟ์ แวร์ประยกุ ต์ด้านการคานวณ

นากระบวนการเทคโนโลยีมาประยุกตใ์ ชใ้ นการสรา้ งสรรค์สิงของเครอื่ งใช้ อยา่ งปลอดภยั และมีหลกั การ
ออกแบบโดยถ่ายทอดความคิดของวิธกี ารเป็นภาพร่าง 3 มิติ หรือภาพฉาย เพอื่ นาไปสูก่ ารสร้างต้นแบบของสง่ิ ของ
เครือ่ งใช้ หรือถา่ ยทอดความคดิ ของวิธกี าร เป็นแบบจาลองความคิด และการรายงานผล โดยนาเสนอผา่ นโปรแกรม
นาเสนอ การใสข่ ้อความ การตกแตง่ ข้อความ กาหนดรูปแบบการนาเสนอผลงาน โดยใช้กระบวนการค้นหาข้อมูลมา
ประยกุ ตใ์ ช้อยา่ งเหมาะสม เลอื กใชเ้ ทคโนโลยีอย่างสรา้ งสรรค์ และแก้ปัญหา หรือตอบสนองความต้องการในงานท่ี
สร้าง สบื ค้นขอ้ มูลและใช้โปรแกรมเรียกคนื ข้อมูลอย่างเหมาะสม นาซอรฟ์ แวรร์ ะบบ และซอร์ฟแวรป์ ระยุกต์ด้านการ
คานวณมาใช้ให้เหมาะสมกบั งาน ด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการทางานเปน็ กลุม่ และกระบวนการ
แกป้ ัญหา

สรา้ งชน้ิ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์ มีคณุ ธรรม จริยธรรมในการใชอ้ ินเตอรเ์ นต็ ใชเ้ ทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ ตอ่
ชีวติ สงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม ค้นหาขอ้ มูลและตดิ ต่อสื่อสารผ่านเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอรอ์ ย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม และมี
การจดั การเทคโนโลยดี ้วยการลดการใชท้ รพั ยากร หรอื เลือกใชเ้ ทคโนโลยีทไ่ี ม่มีผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม

ผลการเรียนรู้
๑.นักเรยี นสามารถอธบิ ายหลักการงานกราฟิกและสรา้ งงานนาเสนอข้อมูล การสรา้ งสิ่งของเครือ่ งใชต้ าม

กระบวนการกราฟิกการออกแบบภาพร่าง 3 มิติ
๒.นกั เรยี นสามารถออกแบบภาพรา่ ง 3 มิตไิ ดภ้ าพฉายเพ่ือนาไปสู่การสร้างต้นแบบของสิ่งของเครอื่ งใช้ หรือ

ถา่ ยทอดความคิด ของวิธกี าร เปน็ แบบจาลอง
3. นักเรียนสามารถนาเสนอผา่ นโปรแกรมนาเสนอ การใส่ข้อความ การตกแต่งข้อความ กาหนดรูปแบบ
4. นักเรยี นสามารถใชก้ ระบวนการคน้ หาข้อมูลมาประยุกต์ใช้อยา่ งเหมาะสม และเลือกใช้เทคโนโลยอี ยา่ ง

สรา้ งสรรค์

รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม คอมพิวเตอร์ (โครงงานคอมพวิ เตอร์)

รหสั วิชา ว 23201 กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

ศึกษา วิเคราะห์ อภปิ ราย สรปุ ระดับของเทคโนโลยี การสร้างสิง่ ของเครื่องใช้หรือวิธกี ารตามกระบวนการ
เทคโนโลยี หลกั การทาโครงงาน การนาเสนองาน การใชโ้ ปรแกรมกราฟิก การสรา้ งช้ืนงานตามหลกั การทาโครงงาน
อธบิ ายความหมาย บอกประโยชนข์ องโปรแกรม Photo Impact เรียกใชง้ าน Photo Impact และสามารถสรา้ ง
ชิ้นงานกราฟิก และใส่เอฟเฟ็กตใ์ นโปรแกรม Photo Impact การสร้างเวปเพจ โดยใช้ Dream Weaver

เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ เจตคติ เห็นความสาคญั และสามารถสรา้ งงานกราฟิก พรอ้ มทั้งใส่เอฟเฟก็
งานของตนเอง การสรา้ งเวปเพจ โดยใช้โปรแกรม Dream Weaver นาหลักการทาโครงงานมาพัฒนาผลงานตาม
ความสนใจ และความถนัด อย่างเปน็ ระบบ โดยใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ใหเ้ หมาะสมกบั ระดับของเทคโนโลยี มี
หลักการใช้โปรแกรมในการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมกราฟิก โปรแกรมสร้างเวปเพจ ดว้ ยกระบวนการคิด
วิเคราะห์ กระบวนการทางานเปน็ กลุม่ จนสามารถสร้างชนิ้ งานจากจนิ ตนาการ

สรา้ งชน้ิ งานตามหลักการทาโครงงานอย่างสร้างสรรค์ มจี ิตสานกึ ในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ไม่คัดลอก
งานผูอ้ นื่ ใชค้ าสภุ าพ และไม่สรา้ งความเสียหายแกผ่ ู้อืน่

ผลการเรียนรู้
1.นกั เรยี นสามารถศึกษา วเิ คราะห์ อภปิ ราย สรุประดบั ของเทคโนโลยี
2.นกั เรียนสามารถสรา้ งส่ิงของเครือ่ งใช้ หรือวธิ กี ารตามกระบวนการเทคโนโลยีได้
3.นกั เรียนสามารถสรา้ งชน้ิ งานตามหลกั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้
4.สามารถสรา้ งภาพงานกราฟกิ โดยใช้โปรแกรม Photo Impact ได้
5.สามารถใชโ้ ปรแกรม Dream Weaver สร้างเวปเพจ ได้
6.สามารถนาหลักการทาโครงงาน มาพฒั นาผลงานตามความสนใจและความถนัดได้อย่างเปน็ ระบบ

รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้

รายวชิ าเพ่ิมเติม คอมพิวเตอร์(การสร้างภาพเคล่ือนไหว)

รหัสวิชา ว 23202 กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี

ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศกึ ษาหลักการทางานของแอนเิ มชัน ขนั้ ตอนการเตรยี มงานสาหรับทาแอนิเมชนั ขั้นตอนในการผลติ งานสา
หรบั ทาแอนิเมชนั สามารถใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการสร้างสรรค์งานแอนเิ มช่ันโดยการปฏบิ ัตกิ ารสรา้ งงาน
แอนเิ มชันสองมติ ิหรือสามมติ ิอยา่ งสากล โดยการออกแบบสร้างสรรคต์ ามจติ นาการได้อย่างเหมาะสมในรปู แบบของ
มัลตมิ ีเดีย ทเ่ี กย่ี วกับภาพ เสยี ง ภาพเคลอื่ นไหวและการน าโปรแกรมมาประยกุ ต์ในการสร้างชิน้ งาน และการ
นาเสนอผลงาน รู้จักแก้ปญั หา อธบิ ายวเิ คราะห์ และทางานอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

เพ่อื ใหพ้ ฒั นาผู้เรียนให้ใช้คอมพวิ เตอรส์ ร้างสรรคผ์ ลงานไดอ้ ยา่ งถกู วิธที างานอย่างมีประสิทธภิ าพและมี
ประสิทธิผล สามารถนาเสนอผลงานไดอ้ ย่างมืออาชีพ สามารถนาความรแู้ ละทักษะการสรา้ งแอนเิ มชันไปประยุกต์ใช้
ในชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างมีจิตสานกึ ทด่ี ีมีความรบั ผดิ ชอบ มคี ณุ ธรรม รวมถงึ ใชท้ รัพยากรอย่างประหยดั คุ้มคา่ และมี
คณุ ธรรม

ผลการเรียนรู้
1. ผเู้ รยี นอธิบายหลักการสร้างงานแอนิเมชัน
2. ผ้เู รียนอธบิ ายขนั้ ตอนการเตรยี มงานสาหรับทาแอนเิ มชั่น
3. ผู้เรยี นปฏิบตั ิการสรา้ งสรรคง์ านแอนิเมชนั สองมิติ อย่างมคี ุณธรรมโดยไมล่ อกเลียนผลงานของคนอื่น
4. ผ้เู รยี นปฏบิ ัติการสรา้ งสรรคง์ านแอนเิ มชันสามมติ ิ อย่างมคี ณุ ธรรมโดยไมล่ อกเลียนผลงานของคนอ่นื

รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา
ศาสนา และวัฒนธรรม

รายวชิ าพืน้ ฐานและเพิม่ เตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น

รายวชิ าพื้นฐาน

ส21101 สังคมศึกษา จานวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หนว่ ยกติ
ส21102 ประวัตศิ าสตร์ จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ
ส21103 สังคมศึกษา จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ส21104 ประวัติศาสตร์ จานวน 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกติ
ส22101 สังคมศึกษา จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต
ส22102 ประวัตศิ าสตร์ จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกติ
ส22103 สังคมศึกษา จานวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต
ส22104 ประวตั ิศาสตร์ จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ
ส23101 สังคมศึกษา จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกติ
ส23102 ประวัติศาสตร์ จานวน 20 ช่วั โมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส23103 สงั คมศึกษา จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต
ส23104 ประวัติศาสตร์ จานวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกติ

รายวิชาเพิ่มเติม

ส21201 หนา้ ท่ีพลเมือง จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส2120๒ ทอ้ งถิน่ ของเรา จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต
ส2120๓ หน้าทพ่ี ลเมือง จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต
ส2120๔ ทอ้ งถิ่นของเรา จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส22201 หน้าทพ่ี ลเมือง จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกติ
ส2220๒ เศรษฐกจิ พอเพียง จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ
ส2220๓ หนา้ ทีพ่ ลเมือง จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส2220๔ เศรษฐกจิ พอเพยี ง จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส2320๑ หนา้ ท่ีพลเมือง จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส2320๒ กฎหมายน่ารู้ จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส2320๓ หนา้ ทพ่ี ลเมือง จานวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต
ส2320๔ กฎหมายน่ารู้ จานวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หนว่ ยกติ


Click to View FlipBook Version