The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรมัธยมล่าสุด (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by saowanee785, 2022-09-15 00:15:03

หลักสูตรมัธยมล่าสุด (1)

หลักสูตรมัธยมล่าสุด (1)

รหสั วิชา ส21101 สงั คมศึกษา คาอธิบายรายวิชา
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หน่วยกติ

ศกึ ษา วเิ คราะห์ เกี่ยวกบั การสังคายนา การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเขา้ สปู่ ระเทศไทย ความสาคญั ของ
พระพทุ ธศาสนา พทุ ธประวตั ิ ประวัติพุทธสาวก สาวิกา ชาดก ศาสนิกชนตวั อยา่ ง หลักธรรมทางศาสนาที่ตนนบั
ถือในการดารงชวี ิต พระรตั นตรยั อรยิ สจั 4 พุทธศาสนสภุ าษิต สวดมนต์แปลและแผ่เมตตา ปฏิบัตติ าม
หลกั ธรรม ทต่ี นนบั ถือ และปฏบิ ตั ิตนอย่างเหมาะสมต่อศาสนิกชนอ่นื ในสถานการณต์ ่างๆ

ศกึ ษา วเิ คราะห์ อธบิ าย อภิปราย กฏหมายในการคุม้ ครองสิทธขิ องบุคคล บทบาทหน้าท่ขี องเยาวชนที่มตี ่อ
สงั คมและประเทศชาติ ความคล้ายคลึงและความแตกตา่ งระหวา่ งวัฒนธรรมไทยกับวัฒนธรรมของประเทศใน
ภมู ภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วัฒนธรรมที่เปน็ ปัจจัยในการสร้างความสมั พนั ธท์ ่ีดีหรืออาจนาไปสู่ความเขา้ ใจผิดต่อ
กนั วธิ ปี ฏบิ ัติตนในการเคารพสิทธิ เสรีภาพของตนเองและผอู้ น่ื หลักการ เจตนารมณ์ โครงสร้างและสาระสาคัญ
ของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจบุ ันการแบ่งอานาจและการถว่ งดลุ อานาจอธิปไตยทง้ั 3 ฝุายตามที่
ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย การแบ่งอานาจและการถ่วงดลุ อานาจอธปิ ไตย การปฏิบัตติ าม
บทบญั ญตั ิของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเก่ียวกับสิทธิ เสรีภาพและหนา้ ที่

เพ่อื ใหม้ คี วามเข้าใจเห็นคณุ ค่าและความจาเป็นท่ีตอ้ งปฏบิ ัติมสี ว่ นร่วมในการรักษาและพัฒนาสงั คม ตาม
บทบาทหน้าที่ สิทธิ เสรีภาพของตน และบุคคลอ่ืน และการอยู่ร่วมกนั อยา่ งเปน็ สขุ ในสังคม

ศึกษา วิเคราะห์ อธิบาย อภิปราย ความหมายและความสาคัญของเศรษฐศาสตร์เบอ้ื งต้น การบรโิ ภค
อย่างมีประสิทธิภาพ หลกั การในการบรโิ ภคที่ดี ปจั จัยที่มีอทิ ธพิ ลต่อพฤติกรรมในการบรโิ ภค คา่ นยิ มและพฤติกรรม
ของการบรโิ ภคของคนในสงั คมปจั จบุ นั รวมทง้ั ผลดแี ละผลเสยี ของพฤติกรรมดังกล่าว ความหมาย ประเภทและ
ความสาคัญของสถาบันการเงินทีม่ ีต่อระบบเศรษฐกิจ บทบาทหน้าที่และความสาคัญของธนาคารกลาง การหา
รายได้ รายจา่ ย การออม การลงทนุ ซ่ึงแสดงความสัมพันธร์ ะหวา่ งผ้ผู ลิต ผบู้ ริโภค และสถาบันการเงิน
ความหมายของคาวา่ ทรัพยากรทม่ี ีจากดั ความต้องการมีไม่จากัด
ความขาดแคลน การเลือกและเสียโอกาส ความหมายความเป็นมาของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
ต่อสงั คมไทย ความหมายและความสาคญั ของการมกี ฎหมายเก่ียวกบั ทรัพย์สินทางปัญญา ความหมายและอปุ สงค์
อปุ ทาน ปัจจัยท่ีมีอทิ ธิพลตอ่ การกาหนดอุปสงค์ อปุ ทาน ยกตวั อย่างทสี่ ะท้อนใหเ้ ห็นการพ่ึงพา
อาศยั กนั และกนั การแข่งขนั ทางเศรษฐกจิ ในประเทศไทย ปญั หาเศรษฐกจิ ในชมุ ชนประเทศ และเสนอแนว
ทางแก้ไข

เพอ่ื ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจในหลกั เศรษฐกิจ ในฐานะผู้บริโภคให้เกิดประโยชนอ์ ย่างคุ้มค่า และนามาใชเ้ ปน็
หลักในการดาเนินชวี ิต
รหสั ตวั ช้ีวัด

ส 1. 1 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3 ม. 1/4 ม. 1/5 ม. 1/6 ม. 1/7 ม. 1/8 ม. 1/9 ม. 1/10
ม. 1/11

ส 2.1 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3 ม. 1/4
ส 2.2 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3
ส 3.1 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3
ส 3.2 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3 ม. 1/4
รวมทั้งหมด 25 ตวั ชว้ี ดั

รหัสวิชา ส2110๓ สงั คมศกึ ษา คาอธบิ ายรายวิชา
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
จานวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกติ

ศกึ ษา อธิบาย ปฏบิ ัติ เกี่ยวกบั การบาเพญ็ ประโยชน์และการบารุงรักษาวัด วถิ ชี ีวติ ของพระภิกษุ บทบาท
ของพระภกิ ษใุ นการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา การปฏิบัตติ นทเี่ หมาะสมตอ่ บุคคลตา่ งๆ ศาสนพธิ ี พธิ กี รรม ประวตั ิ
ความสาคญั การปฏิบตั ติ นในวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา เพ่ือความรู้ความเขา้ ใจทีถ่ ูกตอ้ งเกี่ยวกบั พระพุทธศาสนา
ตระหนกั ในคณุ คา่ ของหลกั ธรรม และใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อตนเองสังคมในการอย่รู ว่ มกันอยา่ งสนั ติสขุ

ศึกษา วิเคราะห์ อธิบาย ระบุ เวลา ชว่ งเวลาทางประวตั ศิ าสตร์ การเทยี บศักราช วิธีการทาง
ประวัติศาสตร์ พัฒนาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมือง การปกครองของประเทศต่างๆในภมู ภิ าคเอเชีย
ตะวนั ออกเฉียงใต้ แหลง่ อารยธรรมในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ ประวัติศาสตร์สมัยกอ่ นสุโขทัยในดนิ แดนไทย
ประวตั ิศาสตร์ไทยสมยั สโุ ขทยั อิทธพิ ลของวัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาสมยั สโุ ขทัยและสังคมไทยในปัจจบุ นั เพ่อื ให้
เขา้ ใจความเปน็ มาของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตรอ์ ย่างถูกต้อง ภาคภมู ิใจและมสี ่วนรว่ มในการธารงรกั ษามรดกของ
ชาตสิ บื ไป

ศกึ ษา วิเคราะห์ สารวจ การใช้เครื่องมอื ทางภูมศิ าสตร์ เส้นแบ่งเวลาเปรยี บเทยี บ วัน เวลา ของประเทศ
ไทยกบั ทวปี ตา่ งๆ ภยั ธรรมชาตแิ ละการระวังภัยท่ีเกิดขนึ้ ในประเทศไทยและทวปี เอเชยี ของออสเตรเลยี โอเชียเนีย
ผลกระทบการเปลีย่ นแปลงธรรมชาติ ลักษณะทางกายภาพ การอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม
ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และประชากร ปจั จยั ทางกายภาพและสงั คมที่มผี ลตอ่ การลนื่
ไหลของความคิด เทคโนโลยี สินคา้ และประชากรในทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี โอเชียเนีย เพื่อมีความรคู้ วามเขา้ ใจ
และเปรียบเทยี บลักษณะทางกายภาพของเพ่ือนบา้ นในทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย โอเชียเนยี และรว่ มอนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มของทวปี

รหัสตัวชี้วัด
ส 1. 2 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3 ม. 1/4 ม. 1/5
ส 4.1 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3
ส 4.2 ม. 1/1 ม. 1/2
ส 4.3 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3
ส 5.1 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3
ส 5.2 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3 ม. 1/4

รวมทั้งหมด 20 ตัวช้วี ัด

รหัสวิชา ส21102 ประวตั ศิ าสตร์ คาอธบิ ายรายวิชา
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

จานวน 20 ช่วั โมง 0.5 หน่วยกติ

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ความสาคัญของวิธีการทางประวัติศาสตร์อย่างง่ายๆ ลักษณะประเภทของข้อมูล หลักฐาน
ทางประวัติศาสตร์ เข้าใจเรื่องเวลาและช่วงสมัยทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความหมาย การแบ่งช่วงเวลาของ
ประวัติศาสตร์ไทย พุทธศักราช การแบ่งช่วงสมัยตามราชธานีไทย การนับและเทียบศักราชแบบไทยและเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ และนาวิธีการทางประวัติศาสตร์มาใช้ศึกษาเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ไทยและประวัติศาสตร์
เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตพ้ อสังเขป

ศึกษา อธิบาย ถึงพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย
ตะวนั ออกเฉียงใต้ และระบคุ วามสาคัญของแหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้

เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ สามารถวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ต่างๆ สามารถนาผลการ
เรยี นรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจาวนั และอยู่รว่ มกันในสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุขและมสี นั ตสิ ขุ

รหัสตวั ช้ีวดั
ส 4.1 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3
ส 4.2 ม. 1/1 ม. 1/2

รวมท้งั หม 5 ตวั ช้ีวัด

รหสั วชิ า ส2110๔ ประวตั ศิ าสตร์ คาอธิบายรายวชิ า
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ

ศึกษา อธิบายเรื่องราวทางประวตั ศิ าสตรส์ มยั ก่อนสโุ ขทยั ในดินแดนไทย โดยสงั เขป และวัฒนธรรม ภมู ิ
ปัญญาไทยสมยั สโุ ขทัยละสังคมไทยในปจั จุบนั

วเิ คราะหพ์ ัฒนาการของอาณาจักรสโุ ขทยั ในดา้ นต่าง ๆ ทั้งดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม การเมืองการปกครอง และ
ความสมั พนั ธก์ ับประเทศเพอ่ื นบ้านในแถบเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ รวมท้ังวเิ คราะหถ์ ึงอิทธิพลของวัฒนธรรมและภมู ิ
ปัญญาไทยสมัยสโุ ขทยั และสังคมไทยในปจั จบุ ัน

เพ่อื ให้ผูเ้ รียนมคี วามรู้ความเข้าใจ สามารถวิเคราะห์ความสมั พนั ธข์ องเหตกุ ารณต์ ่างๆ สามารถนาผลการ
เรียนรไู้ ปใช้ในชีวิตประจาวันและอยู่รว่ มกันในสังคมได้อยา่ งมคี วามสุขและมีสนั ตสิ ุข

รหสั ตัวชี้วดั
ส 4.2 ม. 1/1 ม. 1/2
ส 4.3 ม. 1/1 ม. 1/2 ม. 1/3

รวมท้ังหมด ม 5 ตัวชีว้ ัด

รหสั วิชา ส22101 สังคมศกึ ษา คาอธิบายรายวชิ า
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
เวลา 60 ช่ัวโมง 1.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษา อธิบาย วิเคราะห์ อภิปราย เห็นคุณคา่ ของการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเขาสู่ประเทศเพ่ือนบา้ น
ความเขา้ ใจอันดีกบั ประเทศเพ่อื นบา้ นความสาคัญของพระพุทธศาสนาต่อสงั คมไทย กับการพัฒนาชุมชนและการจัด
ระเบียบของสังคม พุทธประวตั ิ พุทธสาวก พทุ ธสาวิกา ศาสนิกชนตวั อยา่ ง พระไตรปฎิ ก หลักธรรมทาง
พระพุทธศาสนา พทุ ธศาสนสภุ าษติ พฒั นาการคดิ แบบโยนิโสมนัสสิการ การสวดมนต์ แผ่เมตตา การบริหารจติ
เพอ่ื ความรคู้ วามเข้าใจท่ีถกู ต้องในพระพทุ ธศาสนาและศาสนาอ่นื ๆ และการดารงตนอยา่ งเหมาะสมในกระแสความ
เปล่ยี นแปลงของโลกและการอย่รู ว่ มกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ

ศึกษา อธิบาย วเิ คราะห์ เหน็ คณุ คา่ และความสาคัญของกฎหมายที่เกย่ี วขอ้ งกบั ตนเอง ครอบครวั ชุมชน
และประเทศ สถานภาพ บทบาท สทิ ธิเสรภี าพ สถาบนั ทางสงั คม วฒั นธรรมไทย วัฒนธรรมของประเทศอืน่ ๆ
ในเอเชีย กระบวนการตรากฎหมาย เหตกุ ารณ์และการเปลย่ี นแปลงของระบอบการเมอื งไทย ยึดมัน่ ในการ
ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์เป็นประมุขรวมทัง้ นาไปใช้ในการดาเนินชวี ติ ในสงั คมได้อย่าง
สงบสุข

ศึกษา อธิบาย วิเคราะห์ ยกตวั อย่าง เสนอแนวทางของการลงทุน การออม การผลติ สินคา้ และการ
บรกิ าร ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง การคุ้มครองผู้บรโิ ภค ระบบเศรษฐกจิ ต่าง ๆ ตลอดจนความสมั พันธ์ทาง
เศรษฐกจิ การแขง่ ขันทางการค้าในประเทศและต่างประเทศ ที่จะนาไปประยุกตใ์ ช้ให้เกิดประโยชน์ตอ่ ผเู้ รยี นท้ัง
ทางตรงและทางอ้อม

รหสั ตวั ช้ีวดั
ส 1. 1 ม. 2/1 ม. 2/2 ม. 2/3 ม. 2/4 ม. 2/5 ม. 2/6 ม. 2/7 ม. 2/8 ม. 2/9 ม. 2/10
ม. 2/11
ส 2.1 ม. 2/1 ม. 2/2 ม. 2/3 ม. 2/4
ส 2.2 ม. 2/1 ม. 2/2
ส 3.1 ม. 2/1 ม. 2/2 ม. 2/3 ม. 2/4
ส 3.2 ม. 2/1 ม. 2/2 ม. 2/3 ม. 2/4

รวมท้ังหมด 25 ตัวชว้ี ดั

รหสั วิชา ส2210๓ สังคมศกึ ษา คาอธิบายรายวิชา
ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
เวลา 60 ชัว่ โมง 1.5 หน่วยกติ

ศึกษา อธิบาย วเิ คราะห์ เกี่ยวกบั การเปน็ ลูกทด่ี ีในทศิ 6 การเข้ารว่ มในพธิ ีกรรมตามศาสนพธิ ตี า่ ง ๆ มี
มรรยาทของศาสนิกชนเกยี่ วกับการต้อนรบั การปฏบิ ตั ิตนต่อพระภิกษุ การแตง่ กายไปวัด การปฏบิ ตั ิในวันสาคัญทาง
ศาสนาทง้ั พระพุทธศาสนาและศาสนาอ่ืน ๆ เพ่ือนาไปสู่การปฏบิ ัตทิ ีถ่ ูกต้อง และการยอมรบั การเข้าใจซึ่งกันและกนั

ศึกษา วิเคราะห์ อธิบาย ระบุ ถงึ การประเมินความนา่ เชอ่ื ถอื ของหลักฐานทางประวัติศาสตร์
การตีความจากหลกั ฐานและเหตกุ ารณ์สาคัญ สภาพทางภูมศิ าสตร์ทมี่ ผี ลต่อพัฒนาการในทวปี เอเชยี ไม่วา่ จะเปน็ ทาง
ประวัติศาสตร์ สงั คม เศรษฐกจิ และการเมือง แหล่งอารยธรรมโบราณในเอเชีย เม่ือมีความรูว้ ิธกี ารศึกษาและ
สามารถนาไปศึกษาเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ดา้ นพฒั นาการของอาณาจักรอยุธยา และธนบุรใี นดา้ นตา่ ง ๆ ทส่ี ่งผล
ตอ่ ความม่ันคงและความเจริญรุง่ เรืองของอยธุ ยา ภมู ปิ ัญญาวฒั นธรรมและบุคคลสาคัญทเ่ี ก่ยี วข้องกบั อาณาจักร
อยุธยา เพ่ือตระหนักถึงความรงุ่ เรอื งอยา่ งต่อเน่ือง ทาใหเ้ กิดความรักหวงแหน ภาคภูมิใจ และมีสว่ นรว่ มในการ
ธารงรกั ษาเป็นมรดกของชาติสบื ตอ่ ไป

ศึกษา วเิ คราะห์ สารวจ อภิปราย ระบแุ นวทาง การใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตรท์ ่ีแสดงลักษณะทาง
กายภาพ ความสัมพนั ธ์ทางกายภาพ การเปลีย่ นแปลงของประชากร เศรษฐกิจ สงั คมและวัฒนธรรม แนวทางใน
การอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ปัญหาสิง่ แวดลอ้ มท่ีเกิดข้นึ ในทวปี ยโุ รปและแอฟริกาท่ีสง่ ผลกระทบ
ต่อประเทศไทย

รหสั ตัวช้ีวดั
ส 1. 2 ม. 2/1 ม. 2/2 ม. 2/3 ม. 2/4 ม. 2/5
ส 4.1 ม. 2/1 ม. 2/2 ม. 2/3
ส 4.2 ม. 2/1 ม. 2/2
ส 4.3 ม. 2/1 ม. 2/2 ม. 2/3
ส 5.1 ม. 2/1 ม. 2/2 ส 5.2 ม. 2/1 ม. 2/2 ม. 2/3 ม. 2/4

รวมท้ังหมด 17 ตวั ช้ีวัด

รหัสวิชา ส22102 ประวัติศาสตร์ คาอธบิ ายรายวิชา
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
เวลา 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต

ศึกษา อธิบายเกี่ยวกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ลักษณะและประเภทของหลักฐานท่ีใช้ในการศึกษา
ประวัติศาสตร์ ในประเทศไทยและในแถบภูมิภาคเอเชีย และอธิบายถึงพัฒนาการทาง สังคม เศรษฐกิจ และ
การเมอื ง และระบุความสาคญั ของแหลง่ อารยธรรมโบราณในภมู ภิ าคเอเชีย

วิเคราะห์ ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ และเห็น
ความสาคญั ของการตคี วามหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ที่นา่ เช่ือถือ

เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ สามารถวิเคราะห์เปรียบเทียบความเหมือน ความแตกต่าง ความสัมพันธ์
ของเหตุการณ์ รวมทงั้ สามารถแก้ปัญหาและประยุกตใ์ ช้ เพอื่ ใหส้ ามาถนาผลการเรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน และอยู่
ร่วมกนั ในสังคมได้อยา่ งมคี วามสขุ และมสี ันติสขุ

รหสั ตวั ช้ีวัด
ส 4.1 ม. 2/1 ม. 2/2 ม. 2/3
ส 4.2 ม. 2/1 ม. 2/2

รวมทั้งหมด 5 ตัวชว้ี ัด

รหัสวิชา ส2210๔ ประวตั ิศาสตร์ คาอธิบายรายวชิ า
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
เวลา 20 ชวั่ โมง 0.5 หนว่ ยกติ

ศึกษา อธิบาย ประวัติศาสตร์ของอาณาจักรอยุธยาและธนบุรีในด้านต่าง ๆ ระบุภูมิปัญญาและวัฒนธรรม
ไทย สมยั อยธุ ยาและสมยั ธนบุรแี ละอทิ ธิพลของภมู ปญั ญาดังกล่าวในการพฒั นาชาตไิ ทยต่อมา

วิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยาและธนบุรีในด้านต่าง ๆ ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความม่ันคงและความ
เจรญิ รุ่งเรืองของอาณาจกั รอยุธยา

เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ สามารถวิเคราะห์เปรียบเทียบความเหมือน ความแตกต่าง ความสัมพันธ์
ของเหตกุ ารณ์ รวมท้ังสามารถแก้ปญั หาและประยกุ ตใ์ ช้ เพื่อใหส้ ามาถนาผลการเรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน และอยู่
ร่วมกนั ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข และมีสนั ติสขุ

รหสั ตัวชี้วดั
ส 4.3 ม. 2/1 ม.2/2 ม.2/3

รวมท้ังหมด 3 ตวั ช้วี ัด

รหัสวิชา ส23101 สังคมศกึ ษา คาอธิบายรายวิชา
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

เวลา 60 ชวั่ โมง 1.5 หนว่ ยกิต

ศึกษา อธิบาย วิเคราะหฝ์ ึกปฏิบตั ิ สร้างความคดิ รวบยอด การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาและศาสนาที่ตน
นับถือสู่ประเทศต่าง ๆ ทัว่ โลก ความสาคญั ของพุทธศาสนาและศาสนาที่ตนนบั ถือในฐานะทช่ี ่วยสร้างสรรค์อารย
ธรรมและความสงบสุขแก่โลก ปฏบิ ตั หิ ลักธรรมในการพัฒนาตนเพ่ือเตรยี มพร้อมสาหรบั การทางานและการมี
ครอบครัว การพฒั นาจติ การเรียนรู้และการดาเนนิ ชวี ิต และการพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนบั ถอื สวด
มนตแ์ ผ่เมตตาตามแนวทางของศาสนาท่ตี นนับถือ การปฏิบัตติ นตามหลักธรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถือ การดารงชีวิต
แบบพอเพยี งและการดแู ลรกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม การปฏบิ ตั ติ นตอ่ ศาสนิกชนอืน่ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ และศาสนาอ่นื ๆ
บุคคลทเ่ี ป็นแบบอยา่ งด้านศาสนสัมพนั ธ์และแนวทางการปฏบิ ตั ขิ องตนเอง และบาเพ็ญตนต่อศาสนสถานของศาสนา
ทตี่ นนบั ถือ พิธีกรรมประวตั คิ วามสาคญั และการปฏบิ ัติตนในวนั สาคัญทางศาสนาที่ตนนับถอื

ศกึ ษาเกย่ี วกบั การเมืองการปกครองของไทยเข้าใจสาระรัฐธรรมนญู ท่ีควรรู้ โดยเนน้ การปฎิบัติตนในด้าน
กฎหมายท่ีเก่ยี วข้องกับตนเอง ครอบครวั ชุมชน และประเทศชาติ ตระหนกั ถงึ สถานภาพบทบาทเก่ยี วกับสทิ ธิ
เสรภี าพและหนา้ ที่ เข้าใจและเห็นความสาคัญการจัดระเบียบทางสงั คม รับรู้ เข้าใจถึงหลักการ เจตนารมณ์
โครงสร้างและสาระสาคัญของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจบุ ัน การแบ่งอานาจและการถ่วงดลุ อานาจ
อธิปไตย ท้ัง ๓ ฝาุ ย คอื นิติบญั ญัติ บรหิ าร ตลุ าการ ศึกษากฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกีย่ วข้องกับตนเอง
ครอบครัว ชมุ ชนและประเทศชาติ เพ่ือใหเ้ กิดความรคู้ วามเขา้ ใจ ศรัทธา ยดึ มัน่ การปกครองระบอบประชาธิปไตย
อนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ เคารพเทิดทนู สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์เคารพและปฏิบัติตาม
กฎหมาย วิถปี ระชาธปิ ไตย รวมทั้งนาไปใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ิตในสงั คมอย่างสงบสุข

รหัสตวั ช้ีวัด
ส๑.๑ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ ,ม.๓/๔ ,ม.๓/๕ , ม.๓/๖ , ม.๓/๗ , ม.๓/๘ , ม.๓/๙ , ม.๓/๑๐
ส๑.๒ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ ,ม.๓/๓ ,ม.๓/๔ ,ม.๓/๕ , ม.๓/๖ , ม.๓/๗
ส๒.๑ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ ,ม.๓/๔ ,ม.๓/๕
ส๒.๒ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ ,ม.๓/๓ ,ม.๓/๔

รวมท้ังหมด ๒๖ ตัวช้ีวัด

รหัสวิชา ส2310๓ สังคมศกึ ษา คาอธบิ ายรายวชิ า
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

เวลา 60 ช่วั โมง 1.5 หนว่ ยกติ

ศึกษาภมู ิศาสตรป์ ระเทศไทยในภูมภิ าคตา่ ง ๆ และในท้องถิ่นตนเก่ียวกบั สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ

ทรพั ยากร สภาพปญั หา การอนรุ ักษ์และการแกป้ ัญหาทรัพยากร มีคณุ ธรรมและรู้ถึงสิทธขิ องผ้บู ริโภคเขา้ ใจระบบ

เศรษฐกิจพอเพียง วเิ คราะห์แผนพฒั นาเศรษฐกจิ การประกอบอาชีพ ระบบเศรษฐกจิ การซ้ือขายแลกเปลี่ยนกลไกรฐั

ในการแทรกแซงราคาและสถาบันการเงินในประเทศเพื่อให้มีความรคู้ วามเข้าใจ และสามารถวเิ คราะหส์ ภาพ

ภูมศิ าสตรท์ รัพยากร ระบบเศรษฐกิจการประกอบอาชีพของประชากรในประเทศและท้องในถ่ินและสามารถนามาใช้

ในการดารงชีวติ

โดยใชก้ ระบวนการคิดวเิ คราะห์ การอภปิ ราย กระบวนการกลมุ่ การสบื ค้นขอ้ มูลและการบันทกึ ขอ้ มูล

เพื่อให้เกิดความรคู้ วามเข้าใจ ความสามารถในการสื่อสารและเหน็ คณุ ค่าแหง่ การนาความรู้ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ใน

การดารงชีวติ ประจาวนั โดยมีจิตสาธารณะรกั ความเปน็ ไทย

วเิ คราะห์ลกั ษณะทางกายภาพของ ทวีปอเมริกาเหนือ และทวปี อเมริกาใต้ โดยเลอื กใชแ้ ผนทีเ่ ฉพาะเร่ือง

และเครื่องมือทางภมู ศิ าสตรส์ ืบคน้ ขอ้ มลู วเิ คราะหส์ าเหตุการเกิดภัยพิบตั ิของทวีปอเมรกิ าเหนือ และทวีปอเมริกาใต้

สารวจและระบทุ าเลท่ีต้งั ของกจิ กรรมทางเศรษฐกิจและสงั คมในทวปี อเมรกิ าเหนือ และทวีปอเมริกาใต้

วเิ คราะห์ปัจจยั ทางกายภาพและปจั จัยทางสังคมท่ีมผี ลต่อทาเลท่ตี ้งั ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสงั คมในทวปี

อเมริกาเหนือ และทวปี อเมริกาใต้ สบื คน้ อภิปรายประเด็นปญั หาจากปฏสิ ัมพันธ์ระหวา่ งสภาพแวดล้อมทาง

กายภาพกับมนุษย์ทีเ่ กดิ ข้นึ ในทวีปอเมรกิ าเหนอื และทวปี อเมริกาใต้ วิเคราะห์แนวทางการจัดการภยั พบิ ัติและการ

จดั การทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อมในทวปี อเมริกาเหนอื และทวีปอเมรกิ าใต้ อย่างยั่งยืน ระบุความร่วมมอื ระหว่าง

ประเทศ ท่มี ผี ลต่อการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม

โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ การอภปิ ราย กระบวนการกลุ่ม การสบื คน้ ขอ้ มลู และการบนั ทึกข้อมลู

เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความสามารถในการสอ่ื สารและเหน็ คุณค่าแห่งการนาความรไู้ ปใช้ให้เกิด

ประโยชนใ์ นการดารงชวี ติ ประจาวัน โดยมจี ติ สาธารณะรักความเป็นไทย

รหัสตวั ช้ีวัด
ส๓.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒ , ม.๓/๓
ส๓.๒ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ , ม.๓/๔ ,ม.๓/๕ ,ม.๓/๖
ส๕.๑ ม.๓/๑ , ม.๓/๒
ส๕.๒ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ ,ม.๓/๔, ม.๓/๕

รวมท้ังหมด ๑6 ตัวชว้ี ัด

รหัสวชิ า ส2๓102 ประวตั ิศาสตร์ คาอธิบายรายวชิ า
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
เวลา 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต

ศึกษา วเิ คราะห์ เรื่องราวเหตุการณส์ าคัญทางประวตั ิศาสตร์ องค์ความรเู้ กี่ยวกบั ประวัตศิ าสตร์ไทย ทีเ่ กดิ
จากการใช้วธิ ีการทางประวัตศิ าสตรใ์ นการศึกษาเร่ืองราวต่างๆ

ศึกษา อธิบาย พฒั นาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื ง ของภูมิภาคตา่ ง ๆ ในโลก
วิเคราะห์ ผลของการเปลี่ยนแปลงทน่ี าไปสู่ความรว่ มมือและความขดั แย้งในคริสตศ์ ตวรรษที่ 20 ตลอดจน
ความพยายามในการขจัดปญั หาและความขดั แย้ง รวมทงั้ อิทธิพลท่ีมผี ลตอ่ คนไทย ปจั จยั พ้ืนฐานท่ีมีผลกระทบต่อการ
สรา้ งสรรคป์ ญั ญา และการปรับเปล่ียน พร้อมกบั แนวทางการอนุรักษ์และสง่ เสริม
เพอื่ ให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั ความเป็นไปของโลก โดยการศึกษาประเทศไทยเปรยี บเทยี บกับประเทศ
ในภูมภิ าคตา่ งๆในโลก เพอ่ื พัฒนาแนวคดิ เรือ่ งการอยรู่ ่วมกันอยา่ งสนั ติสุข

รหัสตวั ชี้วดั
ส 4.1 ม. 3/1 ม. 3/2
ส 4.2 ม. 3/1 ม. 3/2 ม. 3/3

รวมท้ังหมด 5 ตัวชวี้ ดั

รหัสวชิ า ส2๓10๔ ประวตั ิศาสตร์ คาอธบิ ายรายวชิ า
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
เวลา 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต

ศึกษา วิเคราะหถ์ ึงพฒั นาการในดา้ นต่างๆ ปจั จัยท่ีส่งผลต่อความม่ันคงและความเจริญรุ่งเรืองของไทยใน
สมยั รตั นโกสินทร์ วิเคราะห์ภูมิปญั ญาและวัฒนธรรมไทยในสมยั รตั นโกสินทร์ และอิทธพิ ลของภูมิปัญญาไทยต่อการ
พฒั นาชาติไทย รวมทง้ั วิเคราะหบ์ ทบาทของชาติไทยในสมัยประชาธปิ ไตย วิเคราะห์เรอ่ื งราวเหตกุ ารณส์ าคัญทาง
ประวตั ิศาสตร์ องคค์ วามรูเ้ ก่ียวกบั ประวตั ิศาสตร์ไทย ทเี่ กดิ จากการใช้วิธีการทางประวัตศิ าสตรใ์ นการศกึ ษาเร่ืองราว
ต่างๆ

เพื่อใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ประวตั ิศาสตรข์ องชาติไทย เหน็ คุณค่าและประโยชนข์ องวิธีการทาง
ประวัตศิ าสตร์ มคี วามรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ รักความเป็นไทย ใฝรุ ใู้ ฝุเรียน อนุรกั ษ์หวงแหนภูมปิ ญั ญา
และวัฒนธรรมไทย

รหัสตวั ช้ีวัด
ส 4.1 ม. 3/2
ส 4.2 ม. 3/1 ม. 3/2 ม. 3/3
ส 4.3 ม. 3/1 ม. 3/2 ม. 3/3 ม.3/4

รวมทั้งหมด 8 ตัวชวี้ ดั

รหัสวชิ า ส212๐๑ หน้าท่ีพลเมอื ง คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษาศาสนาฯ
เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต

มีสว่ นรว่ มอนุรักษ์มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแตง่ กาย การมีสัมมาคารวะ
แสดงออกถึงความเอื้อเฟ้ือเผื่อแผแ่ ละเสยี สละตอ่ สงั คม เหน็ คณุ คา่ และอนรุ ักษข์ นบธรรมเนียมประเพณี
ศิลปวฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน
ใฝุหาความรู้ ตงั้ ใจปฏิบตั หิ น้าท่ีและยอมรบั ผลทเ่ี กิดจากการกระทาของตนเอง ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างของความรัก
ชาติ ยดึ ม่นั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์ ประยุกตแ์ ละเผยแพร่พระบรมราโชวาทในเรื่องมเี หตุผล
รอบคอบ หลักการทรงงานในเรือ่ งการใชธ้ รรมชาตชิ ว่ ยธรรมชาตกิ ารปลูกปาุ ในใจคน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผูม้ ีวินัยในตนเอง ในเรอื่ งความซื่อสัตย์สุจริตขยันหม่นั เพยี ร อดทน ใฝหุ าความรู้ และต้ังใจ
ปฏบิ ตั ิหน้าที่
โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการ

แกป้ ัญหากระบวนการสบื เสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้างค่านิยม และ

กระบวนการสรา้ งเจตคติ

เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นมีลกั ษณะทีด่ ีของคนไทย ภาคภมู ใิ จในความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรักชาติ ยดึ มั่นในศาสนา

และเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษัตริย์

ผลการเรยี นรู้
1. มีส่วนรว่ มในการอนุรักษ์มารยาทไทย
2. แสดงออกถงึ ความเอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละต่อสงั คม
3. เห็นคุณคา่ และอนุรกั ษข์ นบธรรมเนยี ม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญา
4. เป็นแบบอยา่ งและแนะนาผู้อืน่ ให้มคี วามรักชาติ ยดึ ม่นั ในศาสนา และ เทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
5. ประยุกตแ์ ละเผยแผ่พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6.ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มวี ินยั ในตนเอง

รวมท้ังหมด 6 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม

รหสั วชิ า ส2120๒ ทอ้ งถ่ินของเรา กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่วั โมงจานวน 0.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาเก่ยี วกับท่ีตั้ง ลกั ษณะทางกายภาพ การเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดล้อมทางกายภาพ และปญั หา

ส่ิงแวดลอ้ มในท้องถ่ิน

ศึกษาประวตั คิ วามเป็นมา การตัง้ ถ่นิ ฐาน การพัฒนาทางประวตั ิศาสตร์ เหตุการณ์สาคญั ๆ หลักฐานทาง

ประวตั ศิ าสตร์ โบราณวัตถุ โบราณสถานและปัญหาดา้ นการทาลายโบราณวัตถุและโบราณสถานในท้องถิ่น

ศกึ ษาประชากร การเปลี่ยนแปลงของประชากร ความสัมพันธ์ระหวา่ งประชากรกับสิง่ แวดลอ้ ม การประกอบ

อาชพี และปญั หาเก่ียวกับประชากรในทอ้ งถ่นิ

ศึกษาดา้ นศิลปะ ประเพณีและวฒั นธรรม ศิลปหัตถกรรมและงานชา่ ง ภาษาและวรรณกรรม การละเลน่

พน้ื บ้าน นาฏศลิ ป์ ดนตรี ความเช่ือ พิธีกรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีในท้องถ่นิ

ศึกษาภมู ปิ ัญญาชาวบ้านและเทคโนโลยดี า้ นการทามาหากิน การรักษาโรค การกนิ อยู่ ศิลปกรรม ภาษาและ

วรรณกรรม ศาสนาและขนบธรรมเนยี มประเพณี การจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ศึกษาเอกลักษณ์ทางธรรมชาติและวฒั นธรรมที่สาคัญในท้องถิ่น

ศกึ ษาบุคคลสาคัญทางด้านศาสนา ประวัติศาสตร์ ศลิ ปินแห่งชาติและผู้ทสี่ ร้างช่ือเสียงให้กับท้องถน่ิ

ศกึ ษาพระราชกรณยี กิจของพระมหากษตั ริยท์ ่ีทรงพระราชทานให้กบั ท้องถน่ิ

เพือ่ ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจ เกี่ยวกบั ลักษณะทางภูมิศาสตร์ ประวตั ิความเปน็ มา สภาพสงั คม เศรษฐกจิ การ

ดารงชีวิตการประกอบอาชพี มีสว่ นร่วมในการอนุรักษ์ ด้านศิลปะ ประเพณีวฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาชาวบ้าน และเห็น

คุณคา่ และภาคภมู ิใจในบุคคลสาคัญ พรอ้ มท้ังตระหนักในพระราชกรณยี กจิ ที่มีต่อการพัฒนาท้องถิ่น

ผลการเรยี นรู้

1. ใช้แผนทอ่ี ธบิ ายความสัมพนั ธ์ของสิ่งต่างๆ ทมี่ ีอยูใ่ นภาคกลางและในจังหวัดสมุทรสาคร

2. บอกตาแหน่ง ระยะทาง ทิศทางของภมู ิภาคของตน

3. อธบิ ายความสมั พนั ธข์ องลักษณะกายภาพกับทางสังคม

4. ระบุภูมลิ กั ษณะที่สาคัญในภูมิภาคของตนเองในแผนท่ี

5. อธบิ ายสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพของชมุ ชนท่สี ง่ ผลต่อการดาเนินชวี ติ ของคนในท้องถิ่นของตนเอง

6. อธิบายการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในท้องถนิ่ และผลที่เกดิ จากการเปลี่ยนแปลง

7. มสี ว่ นร่วมในการอนุรักษ์สง่ิ แวดลอ้ มในท้องถน่ิ ของตนเอง

8. สืบคน้ ความเปน็ มาของท้องถ่ินโดยใชห้ ลักฐานทห่ี ลากหลาย

9. อธบิ ายเหตกุ ารณ์ทส่ี าคญั ๆ ของท้องถิ่น

10. บอกปัญหาทเี่ กดิ ขึ้นเกีย่ วกบั โบราณสถาน โบราณวตั ถุและแหล่งท่องเที่ยวท่ีสาคัญ เพื่อหาแนว

ทางแก้ไขและอนรุ กั ษ์

11. อธิบายความหมายและการเปลย่ี นแปลงประชากรในท้องถิ่น

12. อธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งสภาพแวดล้อมทางกายภาพกับประชากรในท้องถ่นิ

13. ประยุกต์ใช้แนวคดิ ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการตัง้ ถิ่นฐานกจิ กรรมตา่ งๆ ในท้องถ่ิน

14. มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพฒั นาทอ้ งถิ่นตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

15. อธิบายถงึ ขนบธรรมเนียมประเพณที ี่เปน็ เอกลักษณ์ของท้องถน่ิ

16. สรุปลกั ษณะท่สี าคญั ของขนบธรรมเนยี มประเพณแี ละวัฒนธรรมของชุมชน

รวม 16 ผลการเรยี นรู้

รหสั วชิ า ส21๒๐๓ หน้าทพี่ ลเมือง คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ปฏิบัติตนเปน็ พลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธิปไตย ในการมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมต่างๆ ของสงั คม การตัดสนิ ใจโดย
ใช้เหตุผล มีสว่ นรว่ มและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรยี นและโรงเรียน ตรวจสอบข้อมูลเพ่ือใช้
ประกอบการตัดสนิ ใจในกิจกรรมตา่ งๆ ปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ วี ินยั ในตนเอง ในเรอ่ื งความซื่อสัตย์สจุ ริตอดทน
ขยันหม่นั เพยี ร ใฝหุ าความรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิหนา้ ทแ่ี ละยอมรับผลที่เกิดจากการกระทาของตนเองยอมรบั ความ
หลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใตใ้ นเรื่องวถิ ีชวี ิต วฒั นธรรม ศาสนา สิ่งแวดล้อม อยู่
ร่วมกันอยา่ งสนั ติและพ่งึ พาซ่ึงกนั และกนั ในสงั คมพหุวัฒนธรรมดว้ ยการเคารพซงึ่ กนั และกนั ไม่แสดงกริ ยิ าและวาจาดู
หมิ่นผอู้ ่ืน ช่วยเหลือซึง่ กนั และกัน แบง่ ปัน มสี ่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขดั แย้ง โดยสันติวิธี ในเรื่องการทะเลาะ
ววิ าท ความคดิ เหน็ ไม่ตรงกนั ด้วยการเจรจาไกล่เกล่ยี การเจรจาตอ่ รอง การระงับความขัดแยง้ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผูม้ ีวินยั
ในตนเอง ในเร่ืองความซอื่ สัตยส์ ุจรติ อดทน ใฝหุ าความรู้ ตงั้ ใจปฏิบัตหิ น้าท่ี ยอมรับผลที่เกดิ จากการกระทาของ
ตนเอง

โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการ
แก้ปญั หากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสรา้ งคา่ นยิ ม และ
กระบวนการสร้างเจตคติ

เพ่ือใหผ้ ู้เรียนเปน็ พลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข มสี ่วนร่วมทางการ
เมืองการปกครอง อยู่ร่วมกบั ผู้อนื่ อยา่ งสันติ จัดการความขัดแยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ิธี และมีวนิ ยั ในตนเอง

ผลการเรียนรู้
1. ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมืองดีตามวิถีประชาธปิ ไตย
2. มสี ่วนรว่ มและรับผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจตรวจสอบข้อมูลเพือ่ ใชป้ ระกอบการตัดสินใจในกจิ กรรมต่างๆ
3. ยอมรบั ความหลากหลายทางสังคมวฒั นธรรมในภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้อยูร่ ่วมกันอย่างสนั ตแิ ละ

พึง่ พาซ่งึ กันและกนั
4.มีส่วนรว่ มในการแกป้ ญั หาความขดั แย้งโดยสนั ติวิธี
5.ปฏิบตั ติ นเปน็ ผมู้ ีวินัยในตนเอง

รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ

รหสั วชิ า ส 2120๔ ท้องถิ่นของเรา กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ช่ัวโมงจานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษาเก่ียวกับที่ต้ัง ลักษณะทางกายภาพ การเปล่ียนแปลงของสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและปญั หา
สงิ่ แวดล้อมในท้องถิน่

ศกึ ษาประวตั ิความเปน็ มา การตง้ั ถน่ิ ฐาน การพฒั นาทางประวัติศาสตร์ เหตกุ ารณ์สาคัญๆ หลักฐานทาง
ประวัติศาสตร์ โบราณวัตถุ โบราณสถานและปญั หาด้านการทาลายโบราณวัตถุและโบราณสถานในท้องถิ่น

ศกึ ษาประชากร การเปล่ียนแปลงของประชากร ความสัมพันธร์ ะหว่างประชากรกับสิ่งแวดลอ้ ม การประกอบ
อาชพี และปัญหาเกย่ี วกบั ประชากรในท้องถนิ่

ศกึ ษาด้านศิลปะ ประเพณีและวัฒนธรรม ศิลปหัตถกรรมและงานชา่ ง ภาษาและวรรณกรรม การละเล่น
พน้ื บ้าน นาฏศิลป์ ดนตรี ความเชื่อ พธิ ีกรรม ขนบธรรมเนียมประเพณใี นท้องถนิ่

ศกึ ษาภมู ปิ ัญญาชาวบ้านและเทคโนโลยดี า้ นการทามาหากิน การรักษาโรค การกนิ อยู่ ศิลปกรรม ภาษาและ
วรรณกรรม ศาสนาและขนบธรรมเนยี มประเพณี การจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม

ศกึ ษาเอกลักษณ์ทางธรรมชาติและวฒั นธรรมทสี่ าคญั ในท้องถนิ่
ศกึ ษาบุคคลสาคัญทางด้านศาสนา ประวตั ิศาสตร์ ศิลปนิ แห่งชาติและผทู้ ่สี ร้างชอื่ เสียงให้กับท้องถ่นิ
ศึกษาพระราชกรณยี ์กิจของพระมหากษัตริยท์ ี่ทรงพระราชทานใหก้ บั ท้องถ่ิน
เพื่อให้มคี วามรู้ความเข้าใจ เก่ยี วกบั ลักษณะทางภูมิศาสตร์ ประวตั ิความเปน็ มา สภาพสงั คม เศรษฐกิจ การ
ดารงชวี ิตการประกอบอาชีพ มสี ่วนรว่ มในการอนุรักษ์ ดา้ นศิลปะ ประเพณี วฒั นธรรม ภมู ิปัญญาชาวบ้าน และเหน็
คณุ คา่ และภาคภมู ิใจในบคุ คลสาคัญพร้อมทั้งตระหนักในพระราชกรณยี กิจที่มี ต่อการพัฒนาท้องถ่นิ
ผลการเรยี นรู้
1. บอกสถานท่สี าคัญซง่ึ เป็นแหล่งวฒั นธรรมในชมุ ชน
2. ระบุส่ิงท่ตี นรักและภาคภูมิใจในทอ้ งถ่ิน
3. ยกตวั เองบุคคลที่ทาประโยชน์ต่อท้องถ่นิ หรือประเทศชาติ
4. อธบิ ายภูมปิ ญั ญาทีส่ าคัญสมยั รตั นโกสินทรท์ ่นี ่าภาคภูมใิ จและควรเห็นคา่ แกก่ ารอนุรักษ์
5. ระบุภูมิปญั ญาและวฒั นธรรมไทย สมัยอยุธยาและธนบุรแี ละอิทธพิ ลของภมู ปิ ัญญา ดังกล่าวตอ่ การ
พัฒนาชาติไทยในยุคต่อมา
6. วเิ คราะห์ปจั จัยท่สี ง่ เสรมิ การสรา้ งสรรคภ์ ูมปิ ัญญาไทยและวฒั นธรรมไทย ซงึ่ มผี ลต่อสงั คมไทย ใน
ยุคปัจจบุ นั
7. วางแผนกาหนดแนวทางและการมสี ่วนร่วมการอนรุ ักษภ์ มู ิปญั ญาไทยและวัฒนธรรมไทย
8. บอกเอกลักษณ์ทางธรรมชาติและแนวทางวัฒนธรรมท้องถิ่น
9. สรปุ ประโยชนแ์ ละปฏบิ ัติตนตามประเพณแี ละวัฒนธรรมในครอบครวั และท้องถ่ิน
10. ยกตัวอยา่ งบุคคลซึง่ มีผลงานทเ่ี ป็นประโยชน์แก่ชมุ ชนและท้องถิ่นของตนเอง
11. อธบิ ายความแตกตา่ งทางวฒั นธรรมของกลมุ่ คนในท้องถ่นิ
12. มสี ่วนรว่ มในการอนรุ ักษแ์ ละเผยแพร่ภูมิปญั ญาท้องถ่ินของตนเอง
13. ระบชุ ่อื บุคคลสาคัญทีส่ รา้ งชอ่ื เสยี งใหก้ ับท้องถ่นิ ของตนเอง
14. บอกพระราชกรณียกิจด้านการศึกษาในท้องถ่นิ
รวม 14 ผลการเรียนรู้

รหสั ส222๐๑ หนา้ ทีพ่ ลเมือง คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

มีส่วนร่วมและแนะนาผู้อืน่ ให้อนรุ ักษ์มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแตง่ กาย
การมสี มั มาคารวะ แสดงออกและแนะนาผู้อน่ื ให้มคี วามเอื้อเฟื้อเผอื่ แผแ่ ละเสียสละต่อสังคม เหน็ คณุ ค่า อนุรักษ์และ
สืบสานขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้มีวินัยในตนเอง ในเร่อื งความ
ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ขยนั หมน่ั เพยี ร อดทน ต้ังใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ีและยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทาของตนเองปฏิบัตติ นเปน็
แบบอยา่ งและแนะนาผู้อน่ื ให้มีการปฏิบัติตนท่ีแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมนั่ ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั
พระมหากษัตรยิ ์ ประยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาทในเร่อื งการมสี ติ ความขยัน อดทน หลักการทรงงานในเร่ือง
ภูมิสังคม ขาดทุนคือกาไรและหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผูม้ วี นิ ยั ในตนเอง ในเรื่องความซอื่ สัตย์
สจุ รติ ขยนั หม่นั เพียร อดทน ใฝุหาความรู้ และตั้งใจปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี

โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการ
แก้ปัญหากระบวนการสบื เสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสร้างค่านิยม และ
กระบวนการสร้างเจตคติ

เพอื่ ให้ผู้เรียนมีลกั ษณะทด่ี ีของคนไทยภาคภมู ิใจในความเป็นไทยแสดงออกถึงความรักชาตยิ ดึ มั่น
ในศาสนาและเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตริยแ์ ละเปน็ ผ้มู วี ินัยในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
1. มสี ว่ นรว่ มและแนะนาผอู้ ืน่ ให้อนรุ ักษม์ ารยาทไทย
2. แสดงออกและแนะนาผู้อน่ื ใหม้ ีความเอ้อื เฟ้ือเผอ่ื แผ่และเสยี สละต่อสงั คม
3. เห็นคณุ คา่ อนรุ ักษ์ และสืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทย
4. เป็นแบบอย่างและแนะนาผูอ้ น่ื ให้มคี วามรักชาติ ยดึ มนั่ ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
5. ประยุกตแ์ ละเผยแพร่พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ัยในตนเอง

รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ

รหัสวิชา ส2220๒ เศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชวั่ โมงจานวน 0.5 หน่วยกิต

ศกึ ษาความเป็นมา ความหมาย ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง สภาพความเปน็ อยู่ของชุมชน ดา้ นสงั คม
เศรษฐกิจ ปัญหาของชมุ ชนด้านสังคม เศรษฐกิจและแนวทางแก้ไขปญั หาตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

เพื่อนาแนวคิดปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชใ้ นการจัดการทรพั ยากรที่มอี ยู่ของตนเอง ครอบครัวและ
ชุมชน เพือ่ การดารงชวี ิตอย่างสมดุล ม่นั คงและย่ังยืนกา้ วทันต่อโลกยคุ โลกาภิวัตน์

เหน็ คุณค่าของการใช้หลักพอเพยี งการจดั การชุมชนและสามารถประยุกต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงมาเปน็ รากฐานในการดาเนินชีวติ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมยั่งยืน

ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายประวตั ิความเป็นมาและแนวคิดหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงได้
2. อธบิ ายความหมาย ความสาคัญของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้
3. ร้แู ละเข้าใจหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ตนเอง

ครอบครัว ชุมชนและประเทศได้
4. นาแนวคิดตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ไปใชใ้ นการบรหิ ารจดั การทรัพยากรและ

ส่ิงแวดลอ้ มของครอบครัวและชมุ ชน
5. ยกตวั อยา่ งบุคคลตน้ แบบที่ดาเนนิ ชวี ิตตามแนวทางปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
6. รู้และเข้าใจวถิ ีชีวติ ไทยแบบพอเพียง
7. นาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ต์ใช้ในวิถีไทยได้อย่างเหมาะสมย่ังยนื
8. บอกรักพ่อดว้ ยโครงการ ทาบัญชี มพี อใช้ ให้พอ่ ดู

รวมท้ังหมด 8 ผลการเรยี นรู้

รหัสวิชา ส222๐๓ หน้าท่พี ลเมอื ง คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม
เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

ปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมืองดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตยในเรอ่ื งการตดิ ตามขา่ วสารบ้านเมือง ความกลา้ หาญ
ทางจริยธรรม การเปน็ ผูน้ าและการเปน็ สมาชิกท่ดี ี มีสว่ นร่วมและรบั ผดิ ชอบในการตัดสินใจตอ่ กิจกรรมของห้องเรยี น
และโรงเรยี น ตรวจสอบข้อมูลเพ่อื ใช้ประกอบการตัดสนิ ใจในกจิ กรรมต่างๆ และรทู้ นั ข่าวสาร ปฏบิ ัติตนเปน็ ผ้มู ีวนิ ยั
ในตนเองในเรื่องความซื่อสัตย์สจุ ริต อดทน ตั้งใจปฏบิ ัติหน้าที่ ใฝหุ าความรู้ และยอมรบั ผลท่ีเกดิ จากการกระทาของ
ตนเอง เหน็ คุณคา่ ของการอยรู่ ว่ มกนั ในภมู ิภาคเอเชยี อย่างสนั ติ และพ่ึงพาอาศยั ซึ่งกันและกันโดยคานงึ ถึงความ
หลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในภมู ิภาคเอเชยี ในเร่ืองวิถชี ีวิต วฒั นธรรม ศาสนา สง่ิ แวดล้อม การอยู่ร่วมกันใน
สงั คมพหุวฒั นธรรมและการพ่ึงพาซึ่งกนั และกัน ในเรื่องการเคารพซงึ่ กนั และกนั ไม่แสดงกริ ิยา และวาจาดูหมิ่นผู้อื่น
ชว่ ยเหลือซ่ึงกนั และกัน แบง่ ปนั มีส่วนรว่ มและเสนอแนวทางการแก้ปญั หาความขดั แย้งโดยสนั ตวิ ธิ เี ก่ียวกับการ
ละเมดิ สิทธิการใช้ของส่วนรวมดว้ ยการเจรจาไกล่เกล่ีย การเจรจาตอ่ รอง การระงบั ความขดั แยง้ ปฏิบัตติ นเป็นผู้มี
วินัยในตนเองในเร่ืองความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ อดทน ใฝหุ าความรู้ ต้งั ใจปฏิบัติหน้าท่ี ยอมรับผลท่เี กิดจากการกระทาของ
ตนเอง
โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการ
แกป้ ญั หากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสรา้ งคา่ นยิ ม และ
กระบวนการสรา้ งเจตคติ
เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมี เปน็ พลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ มีส่วนร่วม
ทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกบั ผูอ้ ่ืนอย่างสันติ จดั การความขัดแย้งด้วยสันตวิ ธิ ี และมวี ินยั ในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
1. ปฏิบัตติ นเป็นพลเมอื งดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
2. มสี ่วนรว่ มและรบั ผิดชอบในการตดั สนิ ใจ ตรวจสอบข้อมูลเพือ่ ใช้ประกอบการตัดสนิ ใจในกจิ กรรม

ตา่ ง ๆ และรู้ทนั ข่าวสาร
3. เหน็ คุณค่าของการอยู่รว่ มกันในภมู ิภาคเอเชียอย่างสันติและพึง่ พาซ่ึงกนั และกัน
4. มสี ่วนรว่ มและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสนั ติวธิ ี
5. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ วี ินยั ในตนเอง

รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม

รหัสวชิ า ส2220๔ เศรษฐกจิ พอเพยี ง กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ชวั่ โมงจานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษาหลักการ แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง สภาพความเป็นอยู่ของชมุ ชน ด้านสงั คม เศรษฐกจิ ทรพั ยากร
สิง่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม ปัญหาของชุมชนด้านสังคม เศรษฐกิจ ทรพั ยากร สงิ่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม และแนวทางแก้ไข
ปญั หาตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

เพือ่ นาแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ในการจดั การทรพั ยากรท่ีมอี ยู่ของตนเอง ครอบครัวและ
ชุมชน เพือ่ การดารงชวี ิตด้วยความพอประมาณ มีเหตผุ ล ด้วยภูมิคมุ้ กนั ที่ดี มีความรู้ มีคณุ ธรรม พงึ่ ตนเอง ลดการใช้
จ่ายฟุมเฟือย พร้อมรบั การเปล่ยี นแปลงทัง้ จากภายในและภายนอก กา้ วทนั ต่อโลกยุคโลกาภิวฒั น์ สร้างชมุ ชนให้
เขม้ แข็ง เพ่ือการพฒั นาทสี่ มดุล มัน่ คงและยงั่ ยืน

เหน็ คณุ ค่าของการใชห้ ลกั พอเพียง การจัดการชุมชนและสามารถประยุกต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงมาเป็นรากฐานในการดาเนนิ ชวี ติ ได้อยา่ งเหมาะสมยัง่ ยืน

ผลการเรียนรู้
1. อธิบายหลักการและแนวคดิ หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงได้
2. รูแ้ ละเขา้ ใจหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ให้เกิดประโยชน์

ตอ่ ตนเอง ครอบครวั ชุมชนและประเทศชาติได้
3. นาแนวคิดตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปใชใ้ นการบรหิ ารจดั การทรัพยากร

และส่งิ แวดล้อมของครอบครัวและชุมชน
4. รอบรเู้ กี่ยงกับความสาคญั ของทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อมและรอบคอบในการใชท้ รัพยากรตา่ งๆ

อยา่ งมีประสิทธิภาพ
5. ยกตัวอย่างชุมชนที่นาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาและพัฒนาตนเอง
6. มีสว่ นร่วมในการแก้ปัญหาหรือพฒั นาชุมชนโดยใชห้ ลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
7. เขา้ ใจสภาพปญั หาของชุมชน เห็นแนวทางในการแก้ไขหรือพฒั นาชมุ ชนท่ีสามารถ

นาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชใ้ ห้เปน็ ประโยชน์ในชีวิตประจาวันได้
8. เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาของชุมชนด้านสังคม และเศรษฐกิจ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพยี ง
9. ตระหนักถึงความสาคญั และมีส่วนร่วมในการแก้ไขและพัฒนาชมุ ชนใหย้ ั่งยืนโดยใชห้ ลักปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียง

รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้

รหัสวชิ า ส232๐๑ หน้าท่ีพลเมอื ง คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

มีส่วนรว่ มแนะนาผู้อื่นให้อนรุ ักษ์และยกย่องผูม้ ีมารยาทไทยในเรือ่ งการแสดงความเคารพ การสนทนาการ
แต่งกาย การมีสมั มาคารวะ แสดงออก แนะนาผู้อน่ื และมีสว่ นร่วมในกิจกรรมเกย่ี วกบั ความเอื้อเฟ้อื เผื่อแผ่และ
เสยี สละตอ่ สังคม เห็นคณุ ค่า อนรุ ักษ์ สืบสานและประยุกตข์ นบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภูมิปัญญา
ไทย ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผมู้ วี นิ ัยในตนเอง ในเรอื่ งความซื่อสัตยส์ จุ ริต ขยันหมัน่ เพยี ร อดทน ใฝหุ าความรู้ ตัง้ ใจปฏบิ ัตหิ น้าที่
และยอมรับผลทีเ่ กิดจากการกระทาของตนเองปฏิบัตติ นเปน็ แบบอยา่ ง และมสี ่วนร่วมในการจัดกจิ กรรมทแ่ี สดงออก
ถงึ ความรักชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนาและเทดิ ทูน สถาบัพระมหากษัตริย์ ประยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาทในเรื่อง
การเสียสละ ความซือ่ สตั ย์ หลกั การทรงงานในเร่ืองศึกษาข้อมูลอย่างเปน็ ระบบ แก้ปัญหาท่จี ดุ เลก็ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ ี
วินัยในตนเองในเร่ืองความซื่อสัตยส์ จุ รติ ขยนั หมัน่ เพยี ร อดทน ใฝหุ าความรู้ และต้ังใจปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี

โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการ
แกป้ ัญหากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสร้างค่านิยม และ
กระบวนการสร้างเจตคติ

เพื่อใหผ้ ้เู รยี นมลี กั ษณะทดี่ ีของคนไทย ภาคภูมใิ จในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา
และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์ และมวี ินัยในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
1. มสี ว่ นรว่ ม แนะนาผูอ้ น่ื ใหอ้ นรุ กั ษ์และยกย่องผู้มมี ารยาทไทย
2. แสดงออก แนะนาผู้อื่น และมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมเก่ยี วกับความเออ้ื เฟ้ือเผื่อแผแ่ ละเสยี สละ
3. เหน็ คุณค่า อนรุ ักษ์ สบื สาน และประยุกตข์ นบธรรมเนยี ม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภมู ปิ ัญญาไทย
4. เปน็ แบบอยา่ งและมีส่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมที่แสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนา และ

เทิดทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์
5. ประยุกต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผูม้ ีวินัยในตนเอง

รวมทง้ั หมด 6 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ

รหสั วชิ า ส2320๒ กฎหมายนา่ รู้ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ชวั่ โมงจานวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาที่มา ความสาคัญ และประเภทของกฎหมาย กระบวนการจดั ทา และการบังคบั ใชก้ ฎหมาย วเิ คราะห์
ปัญหาของการไมป่ ฏบิ ัตติ ามกฎหมายและแนวทางการแกไ้ ข ปฏิบัติตนตามกฎหมายทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับชีวติ ประจาวนั

เพอ่ื ใหร้ ูแ้ ละเขา้ ใจความเปน็ มาของกฎหมายตระหนกั ในความสาคัญของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
ปฏิบตั ิตนตามกฎหมายไดถ้ ูกต้อง

ผลการเรียนรู้
1. เขา้ ใจและปฏิบตั ติ นตามกฎหมายที่เกย่ี วข้องกบั ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน และประเทศชาติ
2. ร้แู ละเข้าใจความสามารถของผู้เยาว์ และพระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ
3. ร้แู ละเขา้ ใจเร่ืองกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ การเขยี นสญั ญากู้ยมื เงนิ สญั ญาซื้อขาย
4. รู้และเข้าใจกฎหมายชมุ ชนและสังคม กฎหมายจราจร กฎหมายปุาไม้ กฎหมายคุ้มครอง

สัตว์ปาุ โบราณสถาน สิ่งแวดล้อม
5. รู้และเข้าใจกฎหมายเกี่ยวกับความม่ันคง กฎหมายแรงงาน ภาษีอากร รับราชการทหาร อาวุธปืน

การฟอกเงิน

รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้

รหัสวิชา ส232๐๓ หนา้ ท่ีพลเมอื ง คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม
เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต

ปฏิบัตติ นเปน็ พลเมืองดตี ามวถิ ีประชาธิปไตย ในเรื่องการใช้สทิ ธแิ ละหน้าที่ การใชเ้ สรีภาพอย่างรบั ผดิ ชอบ
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลอื กตั้งมสี ว่ นรว่ มและรบั ผิดชอบในการตดั สินใจต่อกจิ กรรมของห้องเรียนและโรงเรยี น
ตรวจสอบขอ้ มูล ตรวจสอบการทาหนา้ ท่ีของบคุ คลเพ่ือใชป้ ระกอบการตดั สนิ ใจ ปฏิบตั ิตนเป็นผู้มวี นิ ยั ในตนเองใน
เรอ่ื งความซื่อสตั ย์สจุ ริต ขยันหมน่ั เพียร ใฝหุ าความรู้ ตงั้ ใจปฏบิ ัตหิ นา้ ทแ่ี ละยอมรบั ผลที่เกดิ จากการกระทาของ
ตนเอง เห็นคณุ ค่าของการอย่รู ว่ มกันอยา่ งสนั ติทา่ มกลางความหลากหลายทางสงั คมวัฒนธรรมในภูมิภาคต่างๆ ของ
โลกในเรอื่ งวถิ ชี วี ิต วฒั นธรรมศาสนา สง่ิ แวดล้อม การอย่รู ว่ มกันในสังคมพหวุ ฒั นธรรมและพง่ึ พาซึ่งกนั และกนั ใน
เรื่องการเคารพซึ่งกนั และกัน ไมแ่ สดงกริ ิยาและวาจาดหู มิ่นผู้อนื่ ช่วยเหลือซง่ึ กนั และกัน แบ่งปัน มีส่วนร่วมและเสนอ
แนวทางการปูองกันปัญหาความขดั แย้งในเรอ่ื งทศั นคติ ความคิด ความเชอ่ื ชสู้ าว ปฏบิ ัตติ นเป็นผูม้ วี นิ ยั ในตนเองใน
เรอ่ื งความซอื่ สัตย์สจุ ริต อดทน ใฝุหาความรู้ ตั้งใจปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี และยอมรบั ผลทเ่ี กิดจากการกระทาของตนเอง

โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการ
แก้ปญั หากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสรา้ งค่านยิ ม และ
กระบวนการสร้างเจตคติ

เพ่ือใหผ้ ู้เรียนเปน็ พลเมืองดี ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข มสี ว่ นรว่ มทางการ
เมืองการปกครอง อยู่ร่วมกบั ผู้อ่นื อย่างสนั ติ จัดการความขัดแย้งด้วยสันตวิ ธิ ี และมวี ินัยในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
1. ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวถิ ีประชาธปิ ไตย
2. มีสว่ นร่วมและรบั ผดิ ชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบข้อมูล ตรวจสอบการทาหนา้ ที่ของบคุ คลเพ่ือใช้

ประกอบการตัดสนิ ใจ
3. เห็นคณุ คา่ ของการอยรู่ ่วมกนั ในภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลกอย่างสันติและพึง่ พาซ่ึงกนั และกัน
4. มสี ่วนรว่ มและเสนอแนวทางการปูองกนั ปัญหาความขดั แย้ง
5. ปฏิบตั ติ นเป็นผ้มู ีวินยั ในตนเอง

รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ

รหสั วิชา ส2320๔ กฎหมายนา่ รู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศึกษาความหมายทม่ี าและลักษณะทว่ั ไป ความสาคญั ประเภทและประโยชนข์ องกฎหมาย ศกึ ษา กฎหมาย
ประวัติความเปน็ มาของกฎหมายไทย การจดั ทากฎหมายของไทย ศึกษากฎหมายพื้นฐานในการปกครองประเทศ
กฎหมายอาญา กฎหมายแพ่งและอ่ืนๆ

วเิ คราะหแ์ ละปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมายท่เี กีย่ วข้องกบั ตนเอง ครอบครัวและสังคมโลก โดยใชก้ ระบวนการคิด
วเิ คราะห์สืบค้น อภปิ ราย นาเสนอแนวทางปฏิบัติตนและมีสว่ นร่วม สนับสนุน เพื่อใหส้ ามารถดารงชีวติ อยูร่ ว่ มกันใน
สังคมไทย เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย

ผลการเรยี นรู้ อธิบายความหมายของกฎหมายได้
1. สรปุ ท่ีมาของกฎหมายได้
2. สรปุ ลกั ษณะของกฎหมายไทยได้
3. อธิบายการจัดทากฎหมายไทยได้
4. อธบิ ายลักษณะกฎหมายอาญาได้
5. อธิบายลกั ษณะกฎหมายแพง่ ได้
6. สรปุ กฎหมายอน่ื ๆ ในชีวิตประจาวันได้
7.

รวมทั้งหมด 7 ผลการเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษา
และพลศกึ ษา

รายวชิ าพื้นฐานและเพ่ิมเติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

รายวิชาพนื้ ฐาน

พ21101 สขุ ศกึ ษา จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต
พ21102 พลศึกษา จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต
พ21103 สขุ ศกึ ษา จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต
พ21104 พลศึกษา จานวน 20 ชัว่ โมง 0.5 หนว่ ยกิต
พ22101 สุขศกึ ษา จานวน 20 ช่วั โมง 0.5 หนว่ ยกติ
พ22102 พลศึกษา จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกติ
พ22103 สขุ ศึกษา จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต
พ22104 พลศึกษา จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกติ
พ23101 สขุ ศึกษา จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต
พ23102 พลศกึ ษา จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ
พ23103 สขุ ศึกษา จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต
พ23104 พลศึกษา จานวน 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกิต

รายวิชาเพม่ิ เติม

-

รหัสวิชา พ21101 สขุ ศึกษา คาอธิบายรายวิชา
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา

เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาเร่ืองพฒั นาการตามวัย การส่งเสรมิ การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการตา่ งๆ ใหเ้ ตบิ โตสมวยั ความเป็น
เพอ่ื นความเสมอภาคทางเพศ การสรา้ งและรักษาสัมพันธภาพทางเพศ พฤตกิ รรมเส่ยี งตอ่ สุขภาพส่ิงแวดล้อมกับ
สขุ ภาพ การปูองกนั โรค สุขภาพกายและสขุ ภาพจิต หลกั ความปลอดภยั ในชีวติ การสรา้ งเสรมิ ความปลอดภยั
ใหก้ บั ตนเองครอบครัวและชุมชน กลวธิ ีในการปอู งกนั และหลีกเลยี่ งปจั จัยเสี่ยงตอ่ สขุ ภาพ

วิเคราะห์ปัจจยั ท่ีมผี ลกระทบต่อการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการตามวยั ในด้านต่างๆ เห็นคณุ ค่าของการ
ปอู งกนั โรคและการดูแลสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ การปรับตัวใหเ้ ข้ากบั ผู้อ่นื และการดารงชวี ติ มีทักษะการสรา้ งและ
รักษาสัมพนั ธภาพกบั ผู้อน่ื วธิ ปี ฏบิ ตั ิตนเพ่อื สุขภาพดี

ศึกษาเพื่อใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ วเิ คราะหแ์ ละเหน็ คุณค่า โดยใช้ทกั ษะและการปฏบิ ตั ิตนเพอ่ื นาไปสู่การใช้
ในชีวติ ประจาวัน

รหสั ตวั ช้ีวดั
พ 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3
พ 2.1 ม.1/1 ม.1/2
พ 4.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4

รวมทั้งหมด 9 ตวั ชี้วัด

คาอธบิ ายรายวิชา

รหสั วชิ า พ21102 สุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 2
เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต

ศกึ ษาเพื่อใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ เรือ่ งเก่ียวกับการเคลือ่ นไหวร่างกาย หลกั การออกกาลังกาย การ
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทักษะเบื้องต้นกฬี าตะกร้อ การเล่นเป็นทีมการเคล่ือนไหว การออกกาลังกาย การ
พักผอ่ น และนันทนาการ กฎ กตกิ า ในการเล่นกีฬา วิธีการรกุ และการป้องกันในการแข่งขนั กีฬา การควบคุมตนเอง
การมนี ้าใจนักกีฬา การทางานเปน็ ทีม การวางแผนสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางจติ การบริหารจิต เหน็
คุณคา่ ของการออกกาลังกาย การออกกาลงั กายและการเล่นกีฬาปฏิบัติกจิ กรรมดว้ ยความสนกุ สนานปลอดภยั ชน่ื
ชมและเห็นคุณคา่ ของการออกกาลงั กาย เคารพ กฎ กติกาการแขง่ ขนั มนี ้าใจนักกฬี า และใหค้ วามรว่ มมือในการ
ทางานเปน็ ทีม

มที กั ษะในการเคล่ือนไหวลักษณะตา่ งๆและมปี ระสิทธิภาพของรูปแบบการเคล่ือนไหวตา่ งๆการเลน่
เกม กีฬาตามสมัยนยิ ม การออกกาลงั กาย การป้องกนั ในการเลน่ การแข่งขันกีฬา การทางานเป็นทีม การปฏบิ ตั ิ
หน้าทตี่ ามความรับผิดชอบ กฬี าต่างๆการสร้างสมรรถภาพทางกาย การพกั ผ่อน นนั ทนาการ การทดสอบ
สมรรถภาพทางกาย ทางจติ ทางกลไก ศึกษาเพือ่ ใหม้ คี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ คณุ ค่า และมีทักษะโดยใช้ทักษะทาง
กลไก นาไปส่กู ารใช้ในชวี ิตประจาวนั

รหสั ตัวชี้วดั
พ 3.1 ม.1/1
พ 3.2 ม.1/1 ม.1/3 ม.1/5
พ 4.1 ม.1/4

รวมทั้งหมด 5 ตัวชีว้ ัด

รหัสวชิ า พ2110๓ พลศึกษา คาอธิบายรายวชิ า
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา

เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาเพ่ือใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจ เร่ืองเกี่ยวกับการเคล่อื นไหวร่างกาย หลกั การออกกาลังกาย การ
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทกั ษะเบื้องตน้ กฬี าตะกร้อ การเล่นเป็นทีมการเคล่ือนไหว การออกกาลังกาย การ
พกั ผ่อน และนนั ทนาการ กฎ กติกา ในการเลน่ กฬี า วธิ กี ารรุกและการปอ้ งกันในการแข่งขนั กีฬา การควบคุมตนเอง
การมนี า้ ใจนักกีฬา การทางานเป็นทมี การวางแผนสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางจติ การบรหิ ารจิต เห็น
คณุ คา่ ของการออกกาลงั กาย การออกกาลังกายและการเลน่ กีฬาปฏิบตั ิกจิ กรรมดว้ ยความสนกุ สนานปลอดภยั
ชืน่ ชมและเหน็ คณุ ค่าของการออกกาลังกาย เคารพ กฎ กติกาการแข่งขัน มีน้าใจนักกฬี า และให้ความรว่ มมือใน
การทางานเป็นทีม

มีทักษะในการเคลื่อนไหวลกั ษณะตา่ งๆ และมีประสิทธภิ าพของรูปแบบการเคลอื่ นไหวตา่ งๆ การเลน่ +
เกม กฬี าตามสมยั นิยม การออกกาลังกาย การป้องกนั ในการเล่น การแข่งขันกีฬา การทางานเปน็ ทีม การปฏบิ ัติ
หน้าท่ีตามความรบั ผิดชอบ กีฬาต่างๆการสรา้ งสมรรถภาพทางกาย การพักผ่อน นันทนาการ การทดสอบ
สมรรถภาพทางกาย ทางจติ ทางกลไก

ศกึ ษาเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ เหน็ คณุ ค่า และมีทักษะโดยใช้ทักษะทางกลไก นาไปสกู่ ารใช้ใน
ชีวติ ประจาวัน

รหัสตัวช้ีวดั
พ 3.1 ม.1/1
พ 3.2 ม.1/1 ม.1/3 ม.1/5
พ 4.1 ม.1/4

รวมท้ังหมด 5 ตวั ช้ีวัด

รหัสวชิ า พ2110๔ พลศึกษา คาอธบิ ายรายวชิ า
ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา

เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศึกษาเพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ เร่อื งเก่ียวกบั การเคล่อื นไหวรา่ งกาย หลกั การออกกาลังกาย การ
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทกั ษะเบ้ืองต้นกีฬาเทเบลิ เทนนสิ การเล่นเป็นทมี การเคลือ่ นไหว การออกกาลงั กาย
การพักผอ่ น และนนั ทนาการ กฎ กติกา ในการเลน่ กีฬา วธิ ีการรกุ และการปูองกันในการแขง่ ขนั กีฬา การควบคุม
ตนเอง การมนี า้ ใจนักกีฬา การทางานเป็นทีม การวางแผนสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางจติ การบรหิ ารจติ
เหน็ คณุ คา่ ของการออกกาลงั กาย การออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬาปฏิบัติกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานปลอดภัย
ชนื่ ชมและเหน็ คุณค่าของการออกกาลังกาย เคารพ กฎ กติกาการแข่งขัน มีน้าใจนักกีฬา และให้ความรว่ มมือใน
การทางานเป็นทีม

มีทกั ษะในการเคลื่อนไหวลักษณะตา่ งๆ และมปี ระสิทธิภาพของรูปแบบการเคล่ือนไหวต่างๆ การเลน่ +
เกม กีฬาตามสมยั นยิ ม การออกกาลงั กาย การปูองกันในการเลน่ การแข่งขนั กฬี า การทางานเปน็ ทีม การปฏิบตั ิ
หน้าทีต่ ามความรับผิดชอบ กีฬาต่างๆการสรา้ งสมรรถภาพทางกาย การพักผอ่ น นันทนาการ การทดสอบ
สมรรถภาพทางกาย ทางจติ ทางกลไก

ศกึ ษาเพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณค่า และมที ักษะโดยใชท้ กั ษะทางกลไก นาไปส่กู ารใชใ้ น
ชวี ิตประจาวนั

รหสั ตวั ชี้วัด
พ 3.1 ม.1/1
พ 3.2 ม. ม.1/1 ม.1/3 ม.1/5
พ 4.1 ม.1/4

รวมทั้งหมด 5 ตัวชีว้ ัด

รหสั วิชา พ22101 สุขศกึ ษา คาอธบิ ายรายวชิ า
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา

เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษาเพ่ือใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ เร่ืองเกย่ี วกับปจั จัยที่มีผลกระทบต่อการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของ
วยั รุ่น คณุ ค่าของอาหารหลกั ๕ หมู่ กรเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศ วิธกี ารแกป้ ญั หา
ของชีวติ คณุ ค่าของการปูองกันตนเองจากการถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ อันตรายท่เี กิดจากการมีเพศสมั พันธ์ การ
ปูองกนั โรค การดารงสุขภาพของตน ชุมชนและสงิ่ แวดล้อม การปฏบิ ตั ติ นเพื่อสรา้ งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ทกั ษะ
การจดั การทางอารมณ์ ความเครยี ดและการฝกึ จิต การวางแผน การจดั เวลาในการออกกาลังกาย การพกั ผ่อน
การเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย และกิจกรรมนนั ทนาการและการหลีกเล่ยี งปัจจยั เส่ียงต่อสขุ ภาพ

รหัสตวั ช้ีวดั
พ 1.1 ม.2/1 ม.2/2
พ 2.1 ม.2/3 ม.2/4
พ 3.2 ม.2/1 ม.2/2
พ 4.1 ม.2/5 พม.2/6
พ 5.1 ม.2/1

รวมท้ังหมด 9 ตัวชี้วัด

รหสั วชิ า พ2210๒ สขุ ศึกษา คาอธิบายรายวิชา
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา

เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศึกษาเพื่อใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ เรือ่ งเกี่ยวกับการเคลอ่ื นไหวร่างกาย หลกั การออกกาลังกาย
การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทกั ษะเบื้องต้นกฬี ากระบ่ี กระบอง การออกกาลังกาย การพักผ่อน และ
นนั ทนาการ กฎ กติกา ในการเลน่ กฬี า วธิ กี ารรุกและการปูองกันในการแข่งขนั กีฬา การควบคุมตนเอง การมนี ้าใจ
นกั กีฬา

การทางานเปน็ ทมี การวางแผนสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางจิต การบริหารจติ เหน็ คณุ คา่ ของการ
ออกกาลงั กาย การออกกาลังกายและการเล่นกีฬาปฏิบตั ิกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานปลอดภยั ชน่ื ชมและเหน็
คุณคา่ ของการออกกาลังกาย เคารพ กฎ กติกาการแข่งขัน มนี ้าใจนักกีฬา และให้ความร่วมมือในการทางานเป็นทีม
การเลน่ เป็นทีมปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสนุกสนานปลอดภยั ชื่นชมและเหน็ คณุ คา่ ของการออกกาลังกาย เคารพ กฎ
กตกิ าการแข่งขนั มีน้าใจนักกีฬาและใหค้ วามร่วมมอื ในการทางานเป็นทีม

รหัสตัวชี้วัด
พ 3.1 ม.2/1 ม.2/3
พ 3.2 ม.2/1 ม.2/2

รวมทั้งหมด 4 ตวั ช้ีวดั

รหัสวิชา พ2210๓ พลศกึ ษา คาอธิบายรายวิชา
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา

เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาเพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ เร่อื งเกยี่ วกับการเคลอื่ นไหวรา่ งกาย หลักการออกกาลังกาย การ
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทักษะเบื้องต้นกฬี ากระบ่ี กระบอง การออกกาลงั กาย การพักผ่อน และนันทนาการ
กฎ กติกา ในการเลน่ กีฬา วธิ ีการรุกและการป้องกันในการแข่งขันกฬี า การควบคุมตนเอง การมีนา้ ใจนักกีฬา

การทางานเปน็ ทีม การวางแผนสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางจิต การบรหิ ารจติ เหน็ คุณคา่ ของการ
ออกกาลงั กาย การออกกาลังกายและการเล่นกีฬาปฏบิ ัติกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานปลอดภยั ชื่นชมและเหน็
คุณค่าของการออกกาลังกาย เคารพ กฎ กติกาการแข่งขัน มนี า้ ใจนักกีฬา และให้ความร่วมมือในการทางานเป็นทีม
การเล่นเป็นทีมปฏิบตั ิกิจกรรมดว้ ยความสนกุ สนานปลอดภยั ชืน่ ชมและเห็นคณุ ค่าของการออกกาลงั กาย เคารพ กฎ
กติกาการแข่งขนั มีนา้ ใจนักกฬี าและให้ความร่วมมือในการทางานเปน็ ทีม

รหัสตัวชี้วัด
พ 3.1 ม.2/1 ม.2/3
พ 3.2 ม.2/1 ม.2/2

รวมท้ังหมด 4 ตวั ช้ีวัด

รหัสวชิ า พ2210๔ พลศกึ ษา คาอธิบายรายวิชา
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 กล่มุ สาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา

เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาเพ่ือใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ เรอ่ื งเกย่ี วกับการเคล่อื นไหวร่างกาย หลักการออกกาลงั กาย การ
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทกั ษะเบือ้ งตน้ กีฬาเปตอง การเลน่ เป็นทีมปฏิบัติกิจกรรมดว้ ยความสนกุ สนาน
ปลอดภยั การออกกาลงั กาย การพักผอ่ น และนนั ทนาการ กฎ กติกา ในการเล่นกีฬา วธิ ีการรกุ และการป้องกนั ใน
การแขง่ ขันกีฬา การควบคุมตนเอง การมีน้าใจนกั กฬี า การทางานเปน็ ทีม การวางแผนสมรรถภาพทางกาย
สมรรถภาพทางจิต การบริหารจติ เห็นคุณค่าของการออกกาลงั กาย การออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬาปฏบิ ัติ
กิจกรรมด้วยความสนุกสนานปลอดภัย ช่นื ชมและเห็นคุณคา่ ของการออกกาลงั กาย เคารพ กฎ กติกาการแขง่ ขัน
มีน้าใจนักกฬี า และให้ความร่วมมอื ในการทางานเป็นทีม ช่ืนชมและเหน็ คณุ ค่าของการออกกาลงั กาย เคารพ กฎ
กตกิ าการแข่งขนั มีนา้ ใจนักกีฬาและให้ความรว่ มมอื ในการทางานเปน็ ทีม

รหสั ตวั ชี้วัด
พ 3.1 ม.2/1 ม.2/3
พ 3.2 ม.2/1 ม.2/2

รวมทั้งหมด 4 ตวั ชี้วัด

รหสั วชิ า พ2๓10๑ สขุ ศกึ ษา คาอธบิ ายรายวชิ า
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศกึ ษาและพลศึกษา

เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษาเพื่อใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจ เรอื่ งเกย่ี วกบั ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการในชว่ ง
วัยตา่ งๆ สุขอนามยั ทางเพศ การสร้างและรักษาสัมพนั ธภาพกับผู้อื่น ทกั ษะในการปูองกันตนเองจากการถลู ่วงละเมิด
ทางเพศ การจัดการกับอารมณ์ ความเครียด และความตอ้ งการทางเพศ การแก้ไขปญั หาจากการต้งั ครรภโ์ ดยไม่
ต้ังใจ การปูองกันโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์ สุขนสิ ยั ในการปฏิบัติพฤติกรรมสขุ ภาพ การปรบั ปรงุ สงิ่ แวดล้อมใน
ชุมชน ภาวะทพุ โภชนาการและผลกระทบต่อสุขภาพการปฏิบัตใิ ห้มีสขุ ภาพทางจิต การทดสอบสมรรถภาพเพือ่
สขุ ภาพ การวิเคราะหพ์ ฤติกรรมเสีย่ งต่อสุขภาพและความปลอดภยั ในชวี ติ การแก้ปัญหาเมื่อเผชิญภยั อนั ตรายใน
สถานการณ์ท่คี บั ขนั

รหสั ตัวชี้วดั
พ 1.1 ม.3/1 ม.3/2
พ 2.1 ม.3/2
พ 4.1 ม.3/1 ม.3/3 ม.3/5
พ 5.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3

รวมทั้งหมด 9 ตวั ชี้วัด

รหัสวิชา พ2๓10๒ สขุ ศกึ ษา คาอธบิ ายรายวิชา
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา

เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

ศกึ ษาเพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ เรื่องเกี่ยวกบั การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย หลักการออกกาลังกาย การ
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทกั ษะเบ้ืองตน้ กีฬามวยไทย การเล่นเปน็ ทีมปฏิบัติกจิ กรรมดว้ ยความสนกุ สนาน
ปลอดภัยการออกกาลังกาย การพักผ่อน และนันทนาการ กฎ กติกา ในการเล่นกีฬา วธิ กี ารรุกและการปูองกนั ในการ
แขง่ ขันกฬี า การควบคุมตนเอง การมนี ้าใจนักกฬี า การทางานเป็นทีม การวางแผนสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพ
ทางจติ การบรหิ ารจติ เหน็ คณุ คา่ ของการออกกาลังกาย การออกกาลงั กายและการเลน่ กฬี าปฏบิ ตั กิ ิจกรรมด้วย
ความสนกุ สนานปลอดภัย ชนื่ ชมและเห็นคุณคา่ ของการออกกาลงั กาย เคารพ กฎ กติกาการแข่งขนั มนี า้ ใจนักกีฬา
และให้ความรว่ มมือในการทางานเป็นทมี

ช่นื ชมและเห็นคุณค่าของการออกกาลงั กาย เคารพ กฎ กตกิ าการแข่งขัน มีนา้ ใจนักกีฬาและให้ความ
รว่ มมอื ในการทางานเป็นทมี

รหสั ตวั ชี้วัด
พ 3.1 ม.3/1 ม.3/2
พ 4.1 ม.3/2 ม.3/3

รวมทั้งหมด 4 ตวั ช้ีวัด

รหัสวิชา พ2๓10๓ สขุ ศกึ ษา คาอธิบายรายวิชา
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนที่ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา

เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกิต

ศึกษาเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ เรื่องเกีย่ วกับการเคล่อื นไหวร่างกาย หลักการออกกาลังกาย การ
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทกั ษะเบ้ืองตน้ กีฬามวยไทย การเล่นเปน็ ทีมปฏบิ ัตกิ จิ กรรมด้วยความสนกุ สนาน
ปลอดภัยการออกกาลังกาย การพกั ผ่อน และนันทนาการ กฎ กตกิ า ในการเล่นกีฬา วิธกี ารรกุ และการปอู งกนั ในการ
แขง่ ขันกฬี า การควบคุมตนเอง การมีน้าใจนักกีฬา การทางานเปน็ ทีม การวางแผนสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพ
ทางจติ การบรหิ ารจติ เหน็ คณุ คา่ ของการออกกาลงั กาย การออกกาลงั กายและการเลน่ กฬี าปฏิบตั กิ จิ กรรมดว้ ย
ความสนกุ สนานปลอดภัย ช่นื ชมและเห็นคุณคา่ ของการออกกาลังกาย เคารพ กฎ กติกาการแขง่ ขนั มนี ้าใจนักกีฬา
และให้ความรว่ มมือในการทางานเปน็ ทีม

ช่นื ชมและเห็นคณุ คา่ ของการออกกาลังกาย เคารพ กฎ กติกาการแข่งขัน มีนา้ ใจนักกฬี าและให้ความ
รว่ มมอื ในการทางานเป็นทมี

รหสั ตวั ชี้วัด
พ 3.1 ม.3/1 ม.3/2
พ 4.1 ม.3/2 ม.3/3

รวมทั้งหมด 4 ตัวชี้วดั

รหัสวิชา พ2๓10๔ สขุ ศกึ ษา คาอธิบายรายวชิ า
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา

เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศึกษาเพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ เร่ืองเก่ียวกับการเคลื่อนไหวร่างกาย หลักการออกกาลังกาย
การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทักษะเบ้ืองต้นกีฬาวอลเลย์บอล การเล่นเป็นทีมปฏิบัติกิจกรรมด้วยความ
สนุกสนานปลอดภัย การออกกาลังกาย การพักผ่อน และนันทนาการ กฎ กติกา ในการเล่นกีฬา วิธีการรุกและการ
ปูองกันในการแข่งขันกีฬา การควบคุมตนเอง การมีน้าใจนักกีฬา การทางานเป็นทีม การวางแผนสมรรถภาพทาง
กาย สมรรถภาพทางจิต การบริหารจิต เห็นคุณค่าของการออกกาลังกาย การออกกาลังกายและการเล่นกีฬา
ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสนุกสนานปลอดภัย ชื่นชมและเห็นคุณค่าของการออกกาลังกาย เคารพ กฎ กติกาการ
แข่งขัน มีน้าใจนักกีฬา และให้ความร่วมมือในการทางานเป็นทีม ชื่นชมและเห็นคุณค่าของการออกกาลังกาย
เคารพ กฎ กตกิ าการแข่งขนั มีนา้ ใจนกั กฬี าและใหค้ วามรว่ มมือในการทางานเป็นทมี

รหสั ตัวช้ีวัด
พ 3.1 ม.3/1 ม.3/2
พ 4.1 ม.3/2 ม.3/3

รวมท้ังหมด 4 ตัวชวี้ ดั

กล่มุ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ

รายวชิ าพื้นฐานและเพ่มิ เติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

รายวชิ าพื้นฐาน จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต
ศ๒๑๑๐๑ ทัศนศลิ ป์ /ดนตรี –นาฏศิลป์ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ
ศ๒๑๑๐๒ ทศั นศิลป์ /ดนตรี –นาฏศิลป์ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ
ศ๒๒๑๐๑ ทศั นศิลป์ /ดนตรี –นาฏศลิ ป์ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ
ศ๒๒๑๐๒ ทศั นศิลป์ /ดนตรี –นาฏศิลป์ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ
ศ๒๓๑๐๑ ทศั นศลิ ป์ /ดนตรี –นาฏศลิ ป์ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศ๒๓๑๐๒ ทศั นศิลป์ /ดนตรี –นาฏศลิ ป์
จานวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หนว่ ยกติ
รายวิชาเพิ่มเติม จานวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกิต
ศ๒๑๒๐๑ นาฏยศัพทแ์ ละภาษาทา่ จานวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกิต
ศ๒๑๒๐๒ นาฏยศัพทแ์ ละภาษาท่า จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต
ศ๒๒๒๐๑ นาฏศิลปไ์ ทย จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต
ศ๒๒๒๐๒ นาฏศิลป์ไทย จานวน ๒๐ ช่ัวโมง ๐.๕ หน่วยกิต
ศ๒๓๒๐๑ นาฏศิลป์และการละคร
ศ๒๓๒๐๒ นาฏศลิ ป์และการละคร

-

รหสั วชิ า ศ21101 ศลิ ปะ คาอธิบายรายวิชา
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ

เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

สาระทศั นศลิ ป์
ศึกษาและฝึกปฏบิ ัติงานทศั นศิลป์ สื่อความคิดจินตนาการ การใช้เทคโนโลยีทางศิลปะ ความรูส้ ึกความ

ประทบั ใจ ด้วยวัสดุอุปกรณ์ วิธีการทางทัศนศิลปแ์ ละส่ือความหมายไดส้ รา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ปด์ ้วยองค์ประกอบ
ศิลป์ สสี ันและเทคนคิ วธิ ีการตา่ งๆ รู้ เข้าใจการสบื ค้นข้อมลู ขา่ วสาร
สาระดนตรี

มีความรคู้ วามเข้าใจประเภทเครอื่ งดนตรี ฝึกทกั ษะการขับรอ้ งและบรรเลงดนตรีโดยนาองคป์ ระกอบของ
ดนตรมี าใชม้ ีความรับผิดชอบและระมัดระวงั ในการใชแ้ ละเกบ็ รกั ษาเครือ่ งดนตรรี บั ร้คู วามไพเราะของดนตรี ตาม
หลกั การพนื้ ฐานทางดนตรี
สาระนาฏศิลป์

มีความรคู้ วามเข้าใจในดา้ นละครสร้างสรรคฝ์ ึกทักษะในด้านละครสร้างสรรค์มาใช้กบั การแสดงละครใน
ระดับพนื้ ฐานฝึกเคล่ือนไหวร่างกายเพื่อสื่อความหมาย เข้าใจองคป์ ระกอบของนาฏศลิ ป์ที่ใช้ในการแสดง เข้าใจและ
สามารถสอื่ ความหมาย วิเคราะห์ เปรียบเทยี บนาฏศิลปก์ ารละครประเภทตา่ งๆศึกษาและ เขา้ ใจสนุ ทรยี ะของการ
แสดงนาฏศลิ ป์ตามหลกั การใช้ภาษาทา่

โดยสามารถใชอ้ ปุ กรณท์ ่เี หมาะสม รวมทัง้ สามารถใชเ้ ทคนิควิธีการ ในการสรา้ งงานได้
อย่างมีประสทิ ธิภาพ วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์คุณคา่ ทางทัศนศิลป์ ทักษะการเขียน การอา่ น การร้องโน้ต การ
บันทึก การเปรียบเทยี บและอภิปราย องคป์ ระกอบทางนาฏศลิ ป์ การแสดงออกทางนาฏศิลป์อยา่ งสร้างสรรค์ ใช้
ศพั ท์เบ้ืองต้นทางนาฏศลิ ป์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์วิจารณ์คุณคา่ นาฏศลิ ปเ์ พอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถ
ถ่ายทอดความรู้สกึ ความคิดอยา่ งอิสระประยกุ ตใ์ ช้นาฎศิลป์ ในชวี ิตประจาวนั มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมที่ดี
งาม

รหัสตวั ชี้วดั
ศ 1.1 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3
ศ 1.1 ม.1/1 , ม.1/2
ศ 2.1 ม.1/1 , ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
ศ 2.2 ม.1/1
ศ 3.1 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3
ศ 3.1 ม.1/1

รวมทั้งหมด 14 ตัวช้ีวดั

รหัสวิชา ศ2110๒ ศิลปะ คาอธิบายรายวชิ า
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ ๒ กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ

เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

สาระทัศนศิลป์
รบั รู้ความงามและคุณคา่ ของธรรมชาติศลิ ปะ และสิง่ แวดลอ้ ม วจิ ารณง์ านทัศนศลิ ป์ใช้ความรูท้ างทัศนศิลป์

สบื คน้ ขอ้ มูลขา่ วสาร เทคโนโลยเี ชอื่ มโยงในชีวิตประจาวนั รู้ และเข้าใจวา่ วัฒนธรรมมผี ลตอ่ การสรา้ งงานศลิ ปะรจู้ กั
ผลงานศลิ ปะในท้องถิน่ ของตนเอง
สาระดนตรี

จาแนกความแตกต่าง เร่อื งองคป์ ระกอบของดนตรีเขา้ ใจวธิ นี าความรแู้ ละหลักการทางดนตรี มาใชก้ บั กลุ่ม
สาระการเรียนรู้อ่ืนๆ และชีวติ ประจาวันเข้าใจประวตั คิ วามเป็นมาของดนตรีและเข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างดนตรี
กบั มนุษยเ์ ขา้ ใจหลกั การจดั การแสดงและมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมดนตรี ที่เกย่ี วกบั วฒั นธรรม
สาระนาฏศิลป์

ศึกษาหลักการและวธิ ีการสรา้ งสรรค์ผลงานบูรณาการใชก้ ับกลุ่มสาระอนื่ ๆ ประยุกต์ใช้ ในชวี ิต ประจาวัน
ชนื่ ชมเหน็ คณุ ค่าของละครท่ีมีความหมายต่อชวี ติ รับรคู้ วามแตกต่างของรปู แบบและวิธีการแสดงออกทางนาฏศลิ ป์
และการละครว่ามที ่ีมาจากบรบิ ทและวฒั นธรรมหลากหลายเขา้ ใจประโยชนข์ องการจดั กจิ กรรมนาฏศิลป์ทีม่ สี ว่ นใน
การบ่งบอกภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ รบั รูค้ ุณค่าของละครอันเปน็ มรดกทางวฒั นธรรมและภูมิปัญญาสากล

โดยสามารถใช้อปุ กรณท์ เี่ หมาะสม รวมทั้งสามารถใชเ้ ทคนิควิธกี าร ในการสร้างงานได้
อย่างมปี ระสิทธิภาพ วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณค์ ุณค่าทางทัศนศิลป์ ทักษะการเขียน การอ่าน การร้องโน้ต การ
บนั ทกึ การเปรียบเทียบและอภิปราย องค์ประกอบทางนาฏศลิ ป์ การแสดงออกทางนาฏศิลปอ์ ยา่ งสรา้ งสรรค์ ใช้
ศพั ทเ์ บื้องตน้ ทางนาฏศิลป์ วิเคราะห์ วิพากษ์วจิ ารณ์คณุ ค่านาฏศิลป์เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถ
ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดอย่างอสิ ระประยกุ ตใ์ ช้นาฎศลิ ป์ ในชวี ิตประจาวัน มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มท่ีดี
งาม

รหัสตวั ชี้วดั
ศ 1.1 ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
ศ 1.2 ม.1/3
ศ 2.1 ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9
ศ 2.2 ม.1/2
ศ 3.1 ม.1/4, ม.1/5
ศ 3.2 ม. ½

รวมท้ังสิน้ 13 ตัวชว้ี ัด

รหสั วิชา ศ2๒๑01 ศลิ ปะ คาอธบิ ายรายวิชา
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

สาระทัศนศลิ ป์
ศกึ ษาเกย่ี วกบั ทัศนธาตใุ นดา้ นรปู แบบแนวคดิ ของงานทศั นศิลป์ มาประยุกต์ใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ ฝึก

ปฏิบัติงานศลิ ปะการวาดภาพโดยใชเ้ ทคนคิ ทหี่ ลากหลายถ่ายทอดความร้สู กึ ความคิดอย่างอสิ ระ เพอื่ สื่อความหมาย
การแสดงออกอยา่ งสรา้ งสรรคต์ ่องานศลิ ปะ
สาระดนตรี

ศกึ ษาทม่ี าและองค์ประกอบของดนตรี อ่าน เขียน ร้องโน้ตไทยและสากล ฝึกปฏิบตั ิการขับร้อง และบรรเลง
ดนตรีเพื่อส่ือความคดิ จินตนาการณ์ ความรูส้ ึก ตลอดจนนาความร้แู ละหลักการดนตรีมาประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
สาระนาฏศิลป์

ศกึ ษาที่มาและองค์ประกอบของนาฏศลิ ป์และการละคร หลักและวธิ ีการเคล่ือนไหวรา่ งกายประกอบจงั หวะ
นาฏศพั ท์ ภาษานาฏศลิ ป์ การแสดงนาฏศิลปเ์ บื้องต้น ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอยา่ งอิสระ ช่ืนชมและประยุกต์ใช้
กบั ตัวเองและสงั คม

โดยใชท้ กั ษะการฝกึ ปฏิบตั ิจริง โดยเนน้ การวาดภาพ การร้องโน้ตไทยและสากล
การเคล่ือนไหวร่างกายประกอบจังหวะ นาฏศัพท์ ภาษานาฏศลิ ป์ เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ เนน้ คุณค่า
ของการนาความรู้และการปฏิบัตไิ ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตศิลปะ มีคุณธรรมจรยิ ธรรม และคา่ นิยมทด่ี ีงาม

รหัสตัวช้ีวดั
ศ 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7
ศ 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7
ศ 3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5

รวมท้ังหมด 19 ตัวชว้ี ัด

รหสั วชิ า ศ2๒๑0๒ ศลิ ปะ คาอธิบายรายวิชา
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนที่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

สาระทศั นศิลป์
ศกึ ษาเกยี่ วกับทัศนศิลป์ของไทยในแตล่ ะยุคสมัย โดยเน้นถึงแนวคิดและเนื้อหาเปรยี บเทยี บทีม่ าจาก

ทศั นศลิ ปท์ ่ีมาจากวัฒนธรรม ประเพณี ภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ ภูมปิ ญั ญาไทย และสากล เพื่อเกิดประโยชน์ต่อตนเองและ
สังคม
สาระดนตรี

ศึกษาบทบาทและอิทธพิ ลของดนตรีในแต่ละยคุ สมัย ทีเ่ กีย่ วกับมรดกทางวฒั นธรรมภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ภูมิ
ปัญญาไทย และสากล
สาระนาฏศลิ ป์

ศกึ ษาประวัติความเปน็ มา ประเภทของนาฏศลิ ป์ไทย เอกลักษณ์และรูปแบบ ของนาฏศิลป์ไทย นาฏศลิ ป์
พ้นื ฐาน ความสมั พนั ธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และมรดกทางวัฒนธรรม

โดยใช้ทกั ษะทางดา้ นศลิ ปะ โดยเน้นการปฏิบตั ิจริง เพื่อใหเ้ กิดความชานาญ เห็นคณุ คา่ ของการปฏิบตั จิ ริงไป
ใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวนั มจี ิตศิลปะ มีคณุ ธรรมจริยธรรม และค่านยิ มทีด่ งี าม

รหสั ตวั ชี้วัด
ศ 1.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3
ศ 2.2 ม.2/1, ม.2/2
ศ 3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3

รวมท้ังหมด 8 ตวั ช้ีวดั

รหัสวิชา ศ2๓๑01 ศลิ ปะ คาอธบิ ายรายวชิ า
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ

เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

สาระทศั นศลิ ป์
ศกึ ษาและฝึกปฏิบตั ิวิธีส่ือความคดิ จนิ ตนาการ ความร้สู กึ ความประทบั ใจ และส่ือความหมายได้ สรา้ งสรรค์

งานศลิ ปะ ดว้ ยเทคนคิ วิธีการตา่ งๆ ข่าวสารเทคโนโลยี และกระบวนการสรา้ งสรรคง์ านศิลปะกับกลุ่มสาระการ
เรยี นรอู้ ่นื ๆ และชวี ิตประจาวัน รู้ และเข้าใจวา่ ความเช่ือทางวัฒนธรรมมีผลตอ่ การสร้างงานศลิ ปะช่ืนชมเหน็ คุณคา่
ศิลปวฒั นธรรมภมู ิปัญญาท้องถ่ิน ภมู ิปัญญาไทยและสากล
สาระดนตรี

มีความร้คู วามเขา้ ใจประเภทเครอ่ื งดนตรีหลักการผสมวงและอทิ ธิพลของดนตรที ี่มตี อ่ จติ ใจและความรสู้ ึก
ของบุคคล ฝกึ ทักษะการขับร้องและบรรเลงดนตรี โดยนาองค์ประกอบทางดนตรแี ละเทคนิคทางดนตรมี า
ประยกุ ตใ์ ช้ มีความรับผดิ ชอบในการใชแ้ ละเกบ็ รักษาเคร่ืองดนตรี วเิ คราะห์และวิจารณ์ความแตกต่างและความ
ไพเราะของเสยี งดนตรีทีต่ นช่ืนชอบ ตามหลักการทางดนตรี เข้าใจวิธีนาความร้แู ละหลักการทางดนตรี มาใช้กับกลมุ่
สาระการเรยี นรู้อืน่ ๆ และชวี ิตประจาวันที่เกีย่ วข้องกับมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น ภมู ปิ ัญญาไทยและ
สากล
สาระนาฏศลิ ป์

มคี วามรคู้ วามเข้าใจองคป์ ระกอบต่างๆทางการละคร สรา้ งผลงานละครขนาดสนั้ เพ่อื ส่ือเรื่องราวและ
สาระสาคญั ที่อยใู่ นละคร ฝึกเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย อยา่ งมีรูปแบบ ตามหลักนาฏศิลป์ นาความรูค้ วามเขา้ ใจเบอ้ื งต้น
เกย่ี วกับองคป์ ระกอบไปใช้ในการแสดงนาฏศลิ ป์ และวธิ กี ารแสดงออกทางนาฏศลิ ป์และการละคร ชนื่ ชมและเหน็
คุณค่าของการสืบสานนาฏศลิ ป์ การละครอันเป็นภมู ิปัญญาสากล ในการอนรุ กั ษ์และเผยแพร่ภูมปิ ญั ญาไทย

โดยประเมนิ จากผลงาน กระบวนการทางาน ทักษะการปฏบิ ตั ิ สรา้ งสรรค์งานศิลปะ ด้วยเทคนคิ ฝึกทักษะ
การขบั ร้องและบรรเลงดนตรี ฝึกเคลอ่ื นไหวร่างกาย อยา่ งมรี ปู แบบ ตามหลักนาฏศลิ ป์ เพื่อให้เกิดความชานาญ
เหน็ คุณค่าของการปฏิบัติจรงิ ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวนั มีจิตศิลปะ มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมท่ีดีงาม

รหัสตวั ช้ีวัด ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6
ศ 1.1 ม.3/1
ศ 1.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4
ศ 2.1 ม.3/1
ศ 2.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4
ศ 3.1 ม.3/1
ศ 3.2

รวมท้ังหมด 17 ตัวชี้วัด

รหสั วชิ า ศ2๓๑0๒ ศิลปะ คาอธบิ ายรายวชิ า
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ

เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

สาระทศั นศลิ ป์
ศึกษาและฝกึ ปฏิบตั เิ พ่ือใหม้ ีความรู้ และความสามารถเก่ียวกบั การสรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ โดยสือ่ ความ

จากความคิด จินตนาการ ความร้สู ึกประทบั ใจ แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั การคิด วเิ คราะห์ ตามหลักการ
องค์ประกอบศิลป์ เลอื กใชเ้ ทคโนโลยี และกระบวนการสรา้ งสรรค์งานศลิ ปะกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนๆ และใน
ชีวติ ประจาวนั มคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณคา่ ช่นื ชมวัฒนธรรมประเพณี ที่เกีย่ วกบั งานทัศนศิลป์ในทอ้ งถน่ิ
สาระดนตรี

เข้าใจประเภทของเคร่ืองดนตรี หลักการผสมวง และอิทธิพลของดนตรที ่ีมีตอ่ มนษุ ย์ มีทกั ษะ ในการขบั ร้อง
และบรรเลงดนตรี วิเคราะหว์ ิจารณ์ความไพเราะของดนตรี ทีต่ นช่นื ชอบ สามารถนาหลักการทางดนตรไี ปใช้กับกลุ่ม
สาระการเรยี นรู้อน่ื ๆ และในชวี ิตประจาวนั ได้ จัดการแสดงและรว่ มใน กิจกรรมดนตรีที่เก่ยี วกับมรดกทาง
วฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล
สาระนาฏศิลป์

มคี วามรู้และทกั ษะด้านการเลือกสรรองค์ประกอบทางการละคร สรา้ งผลงานทางนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร
ดว้ ยความช่นื ชม และเห็นคุณคา่ สามารถบูรณาการผลงานใช้กบั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อ่ืนๆ และในชีวิตประจาวันได้
รับรูแ้ ละเขา้ ใจในบริบททางสังคมและวัฒนธรรมทม่ี ีผลต่อการแสดงออกทางนาฏศิลป์ เผยแพร่และอนุรักษ์ผลงาน
ดา้ นนาฏศลิ ป์ อันเปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาไทย และสากล

โดยประเมินจากผลงาน กระบวนการทางาน ทักษะการปฏิบัติ สรา้ งสรรค์งานศลิ ปะ ดว้ ยเทคนคิ ฝึกทกั ษะ
การขบั ร้องและบรรเลงดนตรี ฝกึ เคลอื่ นไหวรา่ งกาย อย่างมรี ปู แบบ ตามหลักนาฏศิลป์ เพ่ือให้เกิดความชานาญ
เหน็ คุณค่าของการปฏิบัตจิ ริงไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน มีจิตศิลปะ มีคุณธรรมจรยิ ธรรม และคา่ นิยมที่ดงี าม

รหสั ตัวช้ีวัด ม.3/6, ม.3/7, ม.3/8, ม.3/9, ม.3/10
ศ 1.1 ม.3/2
ศ 1.2 ม.3/5, ม.3/6, ม.3/7
ศ 2.1 ม.3/2
ศ 2.2 ม.3/5, ม.3/6, ม.3/7
ศ 3.1 ม.3/2
ศ 3.2

รวมท้ังหมด 14 ตัวชวี้ ดั

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รหสั วิชา ศ ๒๑๒๐๑ นาฏยศัพท์และภาษาท่า กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ

ศึกษาเพื่อใหม้ ีความรู้ความเข้าใจในเร่อื ง การใชป้ ระสาทสมั ผสั ท้งั ๕การเคล่ือนไหวตามจินตนาการ การใช้
จังหวะ เสยี ง บทบาทสมมติ ภาษา และเจตคติทสี่ รา้ งสรรค์ การสรา้ งความเชอื่ มั่น รูปแบบการแสดงดน้ สดตาม
สถานการณ์ทีก่ าหนด องคป์ ระกอบของบทละคร ความถนัดดา้ นการแสดง การเขยี นบท การจดั องคป์ ระกอบในการ
แสดง และการประสานงาน นาฏยศพั ท์ ภาษาท่า และการตีบท ท่าทางการเคล่ือนไหวทแ่ี สดงสอ่ื ทางอารมณ์ ฝกึ
ปฏิบตั ิการแสดงนาฏศลิ ป์ชุด ระบาเบ็ดเตลด็ ราวงมาตรฐาน ระบานานาชาติ โขน องคป์ ระกอบนาฏศิลป์และการ
ละคร รปู แบบการแสดงนาฏศลิ ปพ์ น้ื บ้านนาฏศลิ ป์ไทย และนาฏศลิ ป์นานาชาติ การปฏิบัติของผู้แสดงและผชู้ ม
ประวตั ินกั แสดงทชี่ ่ืนชอบ การพัฒนารูปแบบการของแสดง อิทธพิ ลของนักแสดงท่ีมผี ลต่อพฤติกรรมของผชู้ ม การ
เลือกรบั ส่อื การแสดงอย่างมีวจิ ารณญาณ หลักการชมการแสดง ในเรื่อง การวิเคราะหอ์ งค์ประกอบในการแสดง การ
ใช้เกณฑ์ในการพิจารณาคุณภาพการแสดง ดา้ นการใชเ้ สยี ง การแสดงทา่ ทาง และการเคลือ่ นไหว ฝึกปฏิบัติการ
สรา้ งสรรค์ผลงานนาฏศิลป์ แนวทางการประยุกต์ใช้กับสาระการเรยี นรู้อ่นื กิจกรรมนาฏศลิ ปใ์ นชีวติ ประจาวนั การมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมนาฏศิลป์ของโรงเรยี นและท้องถ่ิน บทบาทหนา้ ท่ีของฝุายตา่ ง ๆ ในการจัดการแสดง การ
สรา้ งสรรค์กจิ กรรมการแสดงท่สี นใจ โดยแบ่งฝาุ ยและหน้าทีใ่ ห้ชดั เจน ประเภทของละครไทยในแตล่ ะยคุ สมยั ปัจจยั
ท่มี ผี ลตอ่ การเปลี่ยนของนาฏศิลปไ์ ทย นาฏศิลป์พ้ืนบา้ น ละครไทย และละครพื้นบ้าน การอนรุ ักษ์วฒั นธรรมทาง
นาฏศลิ ป์

ผลการเรยี นรู้
๑. มีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับนาฏศิลปไ์ ทยเบื้องต้นในเรื่องนาฏยศัพท์แสดงทา่ ราและการแต่งกายตาม

แบบแผนอยา่ งเหมาะสม
๒. นกั เรยี นสามารถอธิบายและเลอื กใชน้ าฏยศัพท์แสดงท่าราและการประยกุ ต์แบบการแตง่ กายตามแบบ

แผนยึดหลักเศรษฐกจิ พอเพียงได้อย่างเหมาะสม
๓. นกั เรยี นสามารถฝึกปฏบิ ตั ิการราตามแบบแผนเบื้องตน้ นาฏยศพั ท์การราตามแบบเบ้ืองต้นราวงมาตรฐาน
๔. นกั เรียนมีทักษะและสามารถแสดงการร่ายราตามแบบแผนเบื้องต้นได้อยา่ งถกู ต้องและสวยงาม
๕. นกั เรยี นมคี วามตระหนักในศิลปะประจาชาติท่ีจะถา่ ยทอดและอนรุ ักษ์ใหส้ บื ทอดต่อไป

รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รหสั วชิ า ศ ๒๑๒๐๒ นาฏยศัพท์และภาษาท่า กลุม่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศกึ ษาเพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง การใช้ประสาทสัมผัสทงั้ ๕การเคล่ือนไหวตามจนิ ตนาการ การใช้
จังหวะ เสยี ง บทบาทสมมติ ภาษา และเจตคตทิ ่ีสรา้ งสรรค์ การสรา้ งความเชอื่ มน่ั รูปแบบการแสดงดน้ สดตาม
สถานการณ์ทีก่ าหนด องคป์ ระกอบของบทละคร ความถนัดดา้ นการแสดง การเขยี นบท การจดั องค์ประกอบในการ
แสดง และการประสานงาน นาฏยศพั ท์ ภาษาท่า และการตีบท ท่าทางการเคล่ือนไหวทแ่ี สดงสอื่ ทางอารมณ์ ฝึก
ปฏิบัติการแสดงนาฏศลิ ปช์ ุด ระบาเบด็ เตลด็ ราวงมาตรฐาน ระบานานาชาติ โขน องคป์ ระกอบนาฏศิลปแ์ ละการ
ละคร รปู แบบการแสดงนาฏศลิ ปพ์ ื้นบ้านนาฏศิลปไ์ ทย และนาฏศิลป์นานาชาติ การปฏบิ ตั ขิ องผู้แสดงและผชู้ ม
ประวตั นิ กั แสดงทชี่ น่ื ชอบ การพัฒนารูปแบบการของแสดง อทิ ธิพลของนักแสดงท่ีมผี ลตอ่ พฤติกรรมของผชู้ ม การ
เลือกรับสือ่ การแสดงอย่างมีวจิ ารณญาณ หลักการชมการแสดง ในเรอ่ื ง การวิเคราะหอ์ งค์ประกอบในการแสดง การ
ใชเ้ กณฑ์ในการพจิ ารณาคุณภาพการแสดง ด้านการใช้เสยี ง การแสดงทา่ ทาง และการเคลอ่ื นไหว ฝึกปฏบิ ัตกิ าร
สร้างสรรคผ์ ลงานนาฏศิลป์ แนวทางการประยกุ ตใ์ ช้กบั สาระการเรียนรู้อ่นื กจิ กรรมนาฏศลิ ป์ในชีวติ ประจาวนั การมี
สว่ นร่วมในกิจกรรมนาฏศิลป์ของโรงเรยี นและท้องถน่ิ บทบาทหนา้ ท่ีของฝุายตา่ ง ๆ ในการจัดการแสดง การ
สร้างสรรค์กจิ กรรมการแสดงท่ีสนใจ โดยแบ่งฝาุ ยและหนา้ ทใ่ี หช้ ัดเจน ประเภทของละครไทยในแต่ละยคุ สมัย ปัจจยั
ท่มี ีผลต่อการเปลีย่ นของนาฏศลิ ป์ไทย นาฏศิลป์พ้นื บา้ น ละครไทย และละครพื้นบ้าน การอนุรักษ์วัฒนธรรมทาง
นาฏศิลป์

ผลการเรยี นรู้
๑. มีความรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกับนาฏศิลปไ์ ทยเบื้องต้นในเร่ืองนาฏยศัพท์แสดงท่าราและการแตง่ กายตาม

แบบแผนอยา่ งเหมาะสม
๒. นักเรียนสามารถอธบิ ายและเลอื กใช้นาฏยศพั ทแ์ สดงท่าราและการประยกุ ต์แบบการแต่งกายตามแบบ

แผนยึดหลักเศรษฐกจิ พอเพียงไดอ้ ย่างเหมาะสม
๓. นักเรยี นสามารถฝกึ ปฏิบตั ิการราตามแบบแผนเบอ้ื งตน้ นาฏยศพั ท์การราตามแบบเบ้ืองต้นราวงมาตรฐาน
๔. นักเรยี นมที ักษะและสามารถแสดงการร่ายราตามแบบแผนเบอื้ งตน้ ไดอ้ ย่างถูกต้องและสวยงาม
๕. นักเรยี นมีความตระหนักในศิลปะประจาชาติท่จี ะถา่ ยทอดและอนุรักษ์ใหส้ ืบทอดต่อไป

รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ

รหัสวชิ า ศ ๒๒๒๐๑ นาฏศลิ ป์ไทย กลุม่ สาระการเรียนร้ศู ิลปะ

ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศกึ ษานาฏศลิ ป์พืน้ เมอื ง ในเร่ืองประวัติความเปน็ มาการแต่งกายลีลาทา่ ราเพลงประกอบการราฝึกแสดง
นาฏศลิ ปพ์ ืน้ เมืองการละเล่นพืน้ เมืองร้องและราเพลงพน้ื เมอื งตามความสนใจ การจดั ประเภทของการแสดงพ้ืนเมือง
ประวตั บิ คุ คลในทอ้ งถนิ่ ทป่ี ระสบผลสาเร็จ ในการสรา้ งศลิ ปะพนื้ บา้ นสามารถจัดการแสดงพน้ื บ้านของจังหวัด
อ่างทองและศลิ ปะพ้ืนบา้ นของภาคอืน่ ๆของประเทศไทยเป็นคร้งั คราว เพ่ือใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจชนื่ ชมเห็นคุณค่ามี
วนิ ยั ใฝรุ ู้ใฝเุ รยี นมงุ่ มั่นในการทางานและมีทักษะเกยี่ วกบั การแสดงพ้นื บ้านสารวจและทาความเข้าใจภมู ิปัญญาท้องถิ่น
สามารถอนุรักษ์และนามาประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวันบนั ไดเสยี ง อา่ นโน้ต ฟงั และปฏิบตั เิ ครื่องดนตรตี ามโน้ต
ตามลาดบั ความยากงา่ ยของบทฝึก ในลักษณะท่าทางทถี่ ูกต้อง ปฏบิ ตั ิเลน่ เดย่ี วและเลม่ รวมวง

เพ่ือใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ลกั ษณะและคุณสมบตั ิของเสียงระดับเสยี งพัฒนาบุคลิกภาพ สามารถขับ
รอ้ งเพลงไทยสากล และหรอื เพลงไทยลูกทุ่งประกอบดนตรสี าหรบั การปรกิ ารได้

ผลการเรยี นรู้
๑. มีความรคู้ วามเข้าใจเก่ยี วกับนาฏศลิ ป์พน้ื เมืองในเรื่องประวัติความเป็นมาการแต่งกายลีลาทา่ รา
๒. นักเรยี นสามารถบอกและอธบิ ายประเภทของการแสดงพ้นื เมืองประวัตบิ ุคคลในทอ้ งถน่ิ ท่ีประสบ

ผลสาเร็จในการสร้างศิลปะพื้นบา้ นได้
๓. นักเรียนสามารถฝกึ แสดงนาฏศิลป์พ้ืนเมืองการละเลน่ พ้นื เมืองร้องและราเพลงพ้นื เมอื งตามความสนใจได้
๔. นักเรยี นมที ักษะและสามารถจดั การแสดงพื้นบ้านของจังหวัดสตลู และศลิ ปะพื้นบ้านของภาคอน่ื ๆของ

ประเทศไทยเปน็ ครั้งคราวได้
๕. นกั เรียนสามารถสารวจและทาความเข้าใจภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ได้
๖. นักเรียนมีความชนื่ ชมเห็นคณุ คา่ และภาคภมู ิใจในศลิ ปะการแสดงพนื้ บ้านภูมปิ ัญญาท้องถิ่นมีความ

ตระหนกั ท่จี ะถา่ ยทอดและอนุรกั ษ์และนามาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ต่อไป

รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม

รหัสวชิ า ศ ๒๒๒๐๒ นาฏศลิ ปไ์ ทย กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษานาฏศลิ ป์พน้ื เมือง ในเร่อื งประวัติความเปน็ มาการแต่งกายลลี าท่าราเพลงประกอบการราฝกึ แสดง
นาฏศลิ ป์พน้ื เมือง การละเล่นพน้ื เมืองร้องและราเพลงพน้ื เมอื งตามความสนใจการจดั ประเภทของการแสดงพื้นเมือง
ประวตั บิ ุคคลในท้องถน่ิ ทีป่ ระสบผลสาเรจ็ ในการสรา้ งศลิ ปะพืน้ บ้านสามารถจัดการแสดงพ้ืนบา้ นของจังหวัดอ่างทอง
และศลิ ปะพ้ืนบา้ นของภาคอ่ืนๆของประเทศไทยเป็นครง้ั คราวเพอ่ื ให้มคี วามร้คู วามเข้าใจช่นื ชมเหน็ คุณค่ามวี นิ ยั ใฝรุ ู้
ใฝุเรยี นมุ่งมน่ั ในการทางานและมที ักษะเก่ียวกบั การแสดงพื้นบ้านสารวจและทาความเข้าใจภูมิปญั ญาท้องถ่นิ สามารถ
อนุรักษ์และนามาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวนั บันไดเสียง อา่ นโน้ต ฟงั และปฏิบัตเิ ครอื่ งดนตรตี ามโนต้ ตามลาดบั
ความยากง่ายของบทฝกึ ในลักษณะท่าทางที่ถูกต้อง ปฏบิ ัติเลน่ เด่ยี วและเล่มรวมวง

เพื่อให้มคี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกับลกั ษณะและคุณสมบัตขิ องเสยี งระดบั เสียงพัฒนาบุคลิกภาพ สามารถขับ
รอ้ งเพลงไทยสากล และหรอื เพลงไทยลกู ทุ่งประกอบดนตรสี าหรบั การปรกิ ารได้

ผลการเรยี นรู้
๑. มคี วามรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับนาฏศิลป์พ้นื เมืองในเรื่องประวัตคิ วามเปน็ มาการแต่งกายลลี าท่ารา
๒. นักเรียนสามารถบอกและอธิบายประเภทของการแสดงพื้นเมืองประวัติบุคคลในทอ้ งถ่ินที่ประสบ

ผลสาเรจ็ ในการสร้างศิลปะพ้ืนบา้ นได้
๓. นักเรยี นสามารถฝึกแสดงนาฏศลิ ปพ์ ้ืนเมืองการละเลน่ พน้ื เมืองร้องและราเพลงพ้นื เมอื งตามความสนใจได้
๔. นักเรยี นมที ักษะและสามารถจัดการแสดงพ้นื บา้ นของจังหวัดสตูลและศิลปะพื้นบ้านของภาคอ่ืนๆของ

ประเทศไทยเป็นคร้ังคราวได้
๕. นักเรียนสามารถสารวจและทาความเข้าใจภูมิปญั ญาท้องถ่นิ ได้
๖. นักเรียนมคี วามช่ืนชมเหน็ คุณค่าและภาคภูมิใจในศลิ ปะการแสดงพืน้ บ้านภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ มีความ

ตระหนกั ทจ่ี ะถ่ายทอดและอนุรักษแ์ ละนามาประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวันตอ่ ไป

รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้


Click to View FlipBook Version