แผนการสอนวิทยาการคำนวณ ม.1

1

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื งแนวคดิ เชิงนามธรรม เวลาเรยี น 4 ช่ัวโมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง แนวคดิ เชิงนามธรรม เวลาเรียน 2 ช่วั โมง

ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

ผู้สอน นางสาวสุกญั ญา จักรโนวัน วนั ท่.ี ...............เดือน.......................พ.ศ..............................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคานวณในการแก้ปญั หาทีพ่ บในชีวิตจรงิ อยา่ งเปน็
ขัน้ ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการ
แก้ปัญหาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมจี ริยธรรม
ตัวชวี้ ัด

ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงนามธรรมเพื่อแก้ปัญหาหรืออธิบาย

การทางานทพ่ี บในชวี ติ จรงิ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายความหมายของแนวคดิ เชงิ นามธรรมได้ (K)

2. อธิบายวธิ กี ารนาแนวคิดเชงิ นามธรรมไปใชใ้ นการแก้ปญั หาได้ (K)
3. ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหาโดยการใชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมได้ (P)
4. เห็นคณุ ประโยชนข์ องแนวคดิ เชงิ นามธรรมและนาแนวคิดเชิงนามธรรมไปใชใ้ น
ชวี ิตประจาวนั (A)
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
คณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผูเ้ รียน

1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน

2

สาระสาคัญ
แนวคิดเชิงนามธรรม (abstraction) เป็นองค์ประกอบหน่ึงของแนวคิดเชิงคานวณ

(computational thinking) ซ่ึงใช้กระบวนการคัดแยกคุณลักษณะที่สาคัญออกจากรายละเอียด
ปลีกย่อยในปัญหาหรืองานท่ีกาลังพิจารณา เพื่อให้ได้ข้อมูลท่ีจาเป็นและเพียงพอสาหรับการคิดใน
การแก้ปัญหา
สาระการเรยี นรู้

แนวคดิ เชงิ นามธรรม
สอ่ื และอปุ กรณ์

1. PowerPoint เรือ่ งแนวคิดเชิงนามธรรม
2. ใบงาน เรอื่ ง แนวคดิ เชิงนามธรรม
ข้ันการสอนโดยใช้วิธกี ารสอนแบบใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน
ช่ัวโมงที่ 1
ข้ันนา เวลา 15 นาที

1. ครูเปิดประเด็นและชักชวนนกั เรยี นให้ร่วมกนั อภิปราย โดยใช้คาถามเกี่ยวกับปัญหา
ในชีวิตประจาวันของนักเรยี นที่ไมร่ ู้ว่าจะแกไ้ ขปัญหาอย่างไร เช่น ปัญหาการเดินทางมาโรงเรียนสาย
ของนักเรียน ซ่งึ ครูให้นกั เรยี นพิจารณาถงึ คาวา่ “มาสาย” วา่ หมายถึงอะไร (มาสาย หมายถงึ นักเรียน
ทมี่ าไมท่ ันเขา้ แถวเคารพธงชาติใหถ้ อื ว่ามาสาย) และนกั เรียนจะมีวธิ ีการแก้ไขปัญหาอย่างไร

2. ครูให้นกั เรยี นร่วมแสดงความคิดเห็นกบั คาถามที่ครูถาม
3. ครูให้นักเรียนพิจารณาถึงรายละเอียดของปัญหา โดยวิเคราะห์ปัญหานั้นอย่าง
รอบคอบ เพื่อจะไดท้ ราบประเด็นทีส่ าคญั เพอ่ื นาไปส่วู ธิ ีการแก้ปญั หาอยา่ งมีประสิทธิภาพ
4. ครแู จ้งใหน้ กั เรียนทราบวา่ จะไดศ้ ึกษาเกีย่ วกบั แนวคดิ เชงิ นามธรรม
ขั้นสอน
กาหนดปัญหา เวลา 30 นาที
5. ครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา เรื่องแนวคิดเชิงคานวณ ใน Google Classroom ซึ่ง
ประกอบไปดว้ ยเนอ้ื หาดงั น้ี

5.1 แนวคดิ เชงิ นามธรรมคอื อะไร
5.2 แนวคิดเชงิ นามธรรมนาไปใช้แก้ปัญหาอย่างไร
5.3 การออกแบบการแก้ปญั หาโดยการใชแ้ นวคิดเชงิ นามธรรม
6. ครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซักถามเรื่องทไี่ ม่เข้าใจ

3

7. ครูนาเสนอปัญหา 3 ประเดน็ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ ในชีวิตประจาวันและใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั หา
แนวทางแก้ไขปัญหาโดยใช้แนวคิดเชงิ นามธรรม

ทาความเขา้ ใจกับปญั หา เวลา 15 นาที
8. นักเรยี นช่วยกนั ระดมความคิดหาแนวทางแก้ปญั หาอย่างไร มีวิธีการใดบ้าง

ขน้ั สรปุ
9. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงหาเน้ือท่ีได้เรียนในชั่วโมงและให้นักเรียนนาปัญหา 3

ประเด็นกลบั ไปทบทวน หาข้อมลู เพ่มิ เตมิ
ช่วั โมงที่ 2

ขน้ั นา เวลา 5 นาที
1. ครทู บทวนเนอื้ หาและโจทยป์ ญั หาท่ีไดเ้ รยี นในช่ัวโมงท่แี ลว้

ขน้ั สอน
ดาเนินการศกึ ษาคน้ ควา้ เวลา 10 นาที
2. นกั เรียนศกึ ษาวิธกี ารแกป้ ญั หาโดยใชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมเพ่ิมเติมโดยใชเ้ ทคโนโลยีที่

มอี ยรู่ อบตัวให้เกดิ ประโยชน์ เช่น สมาร์ทโฟน เครือ่ งคอมพิเตอร์ เปน็ ต้น
สงั เคราะห์ความรู้ เวลา 15 นาที
3. นักเรียนแต่ละคนแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อสรุปเก่ียวกับการใช้แนวคิดเชิงนามธรรมเพื่อ

แก้ปัญหา
4. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปวิธีการแก้ปญั หาทีด่ ีที่สดุ เพ่อื ใหน้ ักเรียนสามารถนาไปปรับ

ใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้
ขน้ั สรปุ
สรุปและประเมินค่า เวลา 15 นาที
5. ครูแจกใบงาน เร่ือง แนวคิดเชิงนามธรรม เพ่ือเป็นการทบทวนความรู้ให้เข้าใจมาก

ย่ิงขน้ึ
6. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรียนสอบถามเนือ้ หาเร่อื ง แนวคดิ เชิงนามธรรม ว่ามสี ว่ นไหนท่ียัง

ไมเ่ ข้าใจและให้ความรเู้ พมิ่ เติมในสว่ นนั้น
7. ครูมอบหมายให้นักเรียนเขียนสรุปผังมโนทัศน์ เรื่อง แนวคิดเชิงนามธรรม เป็น

การบ้านส่งในชว่ั โมงเรียนในสปั ดาห์หน้า
ประเมินผลงาน เวลา 5 นาที
8. ครปู ระเมนิ ผลงานของนกั เรยี นจากการทาใบงาน เรอ่ื ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม
10. ครูประเมินนักเรียนจากการทาแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่องแนวคิด

เชิงนามธรรม

4

การวัดผลและประเมินผล

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เครอ่ื งมือวดั ผล วธิ ีการวัดผล
การทดสอบ
1. อธิบายความหมายของแนวคดิ เชิง แบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้

นามธรรมได้ (K) เรอื่ ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม

2. อธิบายวิธีการนาแนวคิดเชงิ นามธรรม

ไปใชใ้ นการแก้ปัญหาได้ (K)

3. ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหาโดยการใช้

แนวคดิ เชงิ นามธรรมได้ (P)

4. เห็นคุณประโยชนข์ องแนวคดิ เชิง

นามธรรมและนาแนวคดิ เชงิ นามธรรมไป

ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั (A)

สมรรถนะท่ีสาคญั ของผเู้ รียน เครอื่ งมือวัดผล วิธกี ารวดั ผล
1. ความสามารถในการคดิ แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของ การประเมินสมรรถนะสาคัญ
2. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ผู้เรยี น ของผู้เรียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผ้เู รียน
1. มวี ินยั เครื่องมอื วัดผล วิธกี ารวดั ผล
2. ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง การประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง
3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน ประสงคข์ องผู้เรยี น ประสงคข์ องผู้เรยี น

เกณฑก์ ารวัดผลและประเมนิ ผล รอ้ ยละ 70 ขน้ึ ไป
ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป
1. ผา่ นเกณฑ์การทาแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรยี นรเู้ รื่องแนวคิดเชงิ นามธรรม รอ้ ยละ 70 ขึน้ ไป
2. ผ่านเกณฑ์ประเมินจากแบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
3. ผ่านเกณฑป์ ระเมินจากแบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

กจิ กรรมเสนอแนะ
ครูควรเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นเป็นผูน้ าเสนอปญั หาที่เกิดข้ึนจริงในชวี ิตประจาวนั เอง เพราะจะ

ทาใหค้ รเู ขา้ ใจปญั หาของผู้เรยี นและใหน้ กั เรียนคนอนื่ เขา้ ใจปัญหาของเพอื่ นตนเองอีกด้วย ซ่ึงจะทาให้
การใช้ชีวติ ร่วมกบั คนอนื่ ได้ดยี ่งิ ขน้ึ

5

บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้

1. ผลการจัดกิจกรรม
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

2. ปัญหา/อุปสรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ........................................................ ผู้สอน
( นางสาวสกุ ัญญา จกั รโนวัน )
ตาแหนง่ ครูชานาญการพิเศษ

6

ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้

 มีองคป์ ระกอบของแผนครบถว้ น สมบรู ณ์ และถกู ต้องตามหลักการ
 มกี จิ กรรมการเรยี นรูเ้ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั ใชส้ อื่ และแหล่งเรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย เหมาะสม
 มีการวัดและประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคแ์ ละกระบวนการจัดการเรียนรโู้ ดยใช้วิธีการท่ีหลากหลาย
 แผนการจัดการเรยี นรูน้ าไปสูก่ ารปฏิบตั ไิ ด้ สอดคลอ้ งกับหลักสูตร บริบท สภาพของผู้เรยี นและชมุ ชน

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่อื ..............................................
(นายจรัญ เฉดิ ฉาย)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
วนั ที่ ......... เดอื น .................... พ.ศ...............

ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้างานวดั ผลและประเมนิ ผลการศึกษา

 มอี งค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถกู ต้องตามหลักวชิ าการ
 มกี ิจกรรมการเรยี นรูเ้ น้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ
 มกี ารใช้สอ่ื และแหลง่ เรียนร้หู ลากหลาย เหมาะสม
 มกี ารวดั และประเมนิ ผลครอบคลมุ พฤตกิ รรมพุทธพิ สิ ัย จติ พิสัย ทักษะพิสยั

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .................................................
(นางสาวจันทริ า แวงวงษ์)

หัวหน้างานวัดผลและประเมินผลการศึกษา
วนั ท่ี ......... เดอื น .................. .. พ.ศ...............

7

ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา

 ใช้จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนได้
 ขอให้นเิ ทศ ติดตามผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ เพื่อนาไปพฒั นางานต่อไป

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่ือ .................................................
(นายพฤทธ์ิพล ชาร)ี

รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ
วนั ท่ี ......... เดอื น .................... พ.ศ...............

8

ชอ่ื – นามสกุล .........................................................................เลขที.่ .............ช้ัน............

ใบงาน เร่ือง แนวคดิ เชิงนามธรรม
คาชแี้ จง ให้นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ (10 คะแนน)
1. แนวคิดเชิงนามธรรม คอื อะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
2. แนวคดิ เชิงนามธรรมมีประโยชนอ์ ย่างไรในการแก้ปัญหา
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แกป้ ญั หาต่อไปน้ี โดยใช้แนวคิดเชิงนามธรรม

3.1 การเกิดสนมิ บนโซ่
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………

3.2 การมาโรงเรียนสาย
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ให้นกั เรยี นเขียนวิธีการแกป้ ญั หาที่เกิดขึน้ ในชวี ติ ประจาวัน

4.1 ปญั หาของของนักเรยี น คืออะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………

4.2 นกั เรยี นมีวธิ กี ารแกป้ ัญหาโดยใชแ้ นวคดิ เชิงนามธรรมอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………

9

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผ้เู รียน

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี............... โรงเรยี นหนองบวั พทิ ยาคาร
คาช้แี จง ใหพ้ ิจารณาพฤติกรรมคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ต่อไปนี้ แล้วให้ระดบั คะแนนที่ตรงกับการ
ปฏิบัตขิ องนักเรียนตามความเป็นจริง

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ีม ิวนัย ผลการประเมิน
ใ ่ฝเ ีรยน ู้ร
ุ่มง ั่มนใน
การทางาน

ลงชอ่ื ..................................................... ผปู้ ระเมิน
( นางสาวสกุ ัญญา จักรโนวัน )
ตาแหน่ง ครูชานาญการพเิ ศษ

10

ตัวชีว้ ัด

1. มวี ินยั

1.1 ประพฤติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบงั คับของครอบครับ โรงเรียน และสงั คม

2. ใฝเ่ รียนรู้

2.1 ต้ังใจเพียรพยายามในการเรียน แล้วเข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้

2.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรยี นรตู้ ่าง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการเลือกใช้

ส่อื อย่างเหมาะสม สรปุ เป็นองค์ความร้แู ละสามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้

3. มุ่งมัน่ ในการทางาน

3.1 ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในหน้าท่ีการงาน

3.2 ทางานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ใหส้ าเร็จตามเปา้ หมาย

เกณฑก์ ารให้คะแนน

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิชดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยคร้งั ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การประเมนิ

คะแนน 19 – 24 ระดบั คุณภาพ ดี

คะแนน 13 –18 ระดบั คุณภาพ ปานกลาง

คะแนน 7 – 12 ระดบั คุณภาพ พอใช้

คะแนน 0 - 6 ระดับคุณภาพ ควรปรับปรุง

11

แบบประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น

ชอื่ -นามสกุล .......................................................................................... เลขที.่ ...........ชัน้ .............

คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น และขีด  ลงในช่องทีต่ รงกบั คะแนน

สมรรถนะที่ ระดบั คณุ ภาพ ผลการ
สาคญั
รายการประเมนิ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ประเมนิ
(3) (2) (1) (0)

1. ความสามารถ 1.1 มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์

ในการคดิ สังเคราะห์

1.2 มีทักษะในการคิดนอกกรอบ

1.3 สามารถคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ

1.4 มีความสามารถในการสรา้ งองคค์ วามรู้

1.5 ตดั สินใจแกป้ ญั หาเกยี่ วกบั ตนเองได้

อยา่ งเหมาะสม

สรปุ ผลการประเมนิ

2. ความสามารถ 2.1 เรียนรูด้ ว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวยั

ในการใช้ทกั ษะ 2.2 สามารถทางานกลุ่มรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้

ชีวติ 2.3 นาความรทู้ ไี่ ดไ้ ปใชป้ ระโยชน์ใน

ชีวิตประจาวนั

2.4 จดั การปัญหาและความขัดแย้งได้

เหมาะสม

2.5 หลีกเลยี่ งพฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงค์ท่ี

สง่ ผลกระทบตอ่ ตนเอง

สรปุ ผลการประเมนิ

เกณฑ์การให้คะแนนระดับคุณภาพ

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ดีมาก

- พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน ดี

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัตบิ างคร้ัง ให้ 1 คะแนน พอใช้

- ไม่เคยปฏิบัติพฤติกรรม ให้ 0 คะแนน ปรบั ปรุง

เกณฑ์การสรปุ ผล

ดีมาก - 13 – 15 คะแนน

ดี - 9 – 12 คะแนน

พอใช้ - 1 – 8 คะแนน

ตอ้ งปรับปรงุ - 0 คะแนน

12

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การออกแบบและการเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย เวลาเรยี น 4 ชั่วโมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง การออกแบบอัลกอริทึม เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง

ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564

ผสู้ อน นางสาวสุกญั ญา จักรโนวัน วันที.่ ...............เดอื น.......................พ.ศ..............................

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวิตจรงิ อย่างเป็น

ข้ันตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการ
แกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมจี ริยธรรม
ตวั ชีว้ ัด

ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงนามธรรมเพ่ือแก้ปัญหาหรืออธิบายการ
ทางานทพ่ี บในชวี ิตจริง
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายความหมายของอัลกอรทิ ึมได้ (K)
2. ปฏบิ ัตกิ ารเขยี นอัลกอริทมึ ดว้ ยภาษาธรรมชาติได้ (P)
3. เห็นคณุ ประโยชนแ์ ละนาการออกแบบอัลกอริทึมไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ (A)
สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน
ความสามารถในการคดิ
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผเู้ รียน
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
สาระสาคัญ
อัลกอริทึม (algorithm) เป็นระเบียบวิธีหรือข้ันตอนวิธีท่ีดาเนนิ การด้วยคอมพิวเตอร์เพือ่ ใช้
ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างมีระบบ มีลาดับข้ันตอนตั้งแต่ตน้ จนกระทงั่ ได้ผลลัพธ์ ซง่ึ สามารถเขียนได้
หลายรปู แบบ การเลือกใชต้ อ้ งเลือกใชข้ ั้นตอนวิธีท่ีเหมาะสม กระชับและรดั กมุ

13

สาระการเรียนรู้
การออกแบบอลั กอริทึม

สื่อและอปุ กรณ์
1. PowerPoint เรอ่ื งการออกแบบอลั กอริทมึ
2. ใบงาน เร่ือง การออกแบบอัลกอรทิ ึม
3. อินเทอร์เน็ต

ขัน้ การสอนโดยใช้การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es
ช่วั โมงท่ี 1
ขั้นนา
กระต้นุ ความสนใจ เวลา 10 นาที
1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความร้เู ดมิ เกีย่ วกับ แนวคดิ เชิงนามธรรม
2. ครูถามคาถามนักเรยี นวา่ คอมพิวเตอร์เก่ียวข้องกับอัลกอริทึมอยา่ งไร (เปิดโอกาสให้

นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นโดยไม่เน้นถกู ผิด) เพื่อเป็นความรูพ้ ื้นฐานนาไปสู่การเรียนเรือ่ ง
อัลกอริทึมเบื้องต้น

3. ครแู จ้งใหน้ กั เรยี นทราบวา่ จะไดศ้ กึ ษาเกี่ยวกบั การออกแบบอลั กอรทิ ึม
ข้นั สอน

สารวจค้นหา เวลา 30 นาที
4. ครบู รรยายเนือ้ หาประกอบสอ่ื การสอน PowerPoint เรอื่ ง การอออกแบบอลั กอริทึม

มเี นอื้ หาการสอนดงั ต่อไปน้ี
4.1 ความหมายของอลั กอริทมึ
4.2 รปู แบบของการเขียนอัลกอรทิ มึ
- การเขียนอลั กอรทิ ึมดว้ ยภาษาธรรมชาติ
- การเขยี นอัลกอรทิ ึมด้วยรหัสลาลอง
- การเขยี นอัลกอรทิ ึมด้วยผังงาน

5. ครูมอบหมายโจทย์ให้กับนักเรียน เพ่ือให้นักเรียนเขียนวิธีการแก้ปัญหาโดยใช้การ
เขียนอัลกอรทิ ึมด้วยภาษาธรรมชาตลิ งในสมุดของนกั เรียน

14

อธบิ ายความรู้ เวลา 10 นาที
6. ครูใหน้ กั เรยี นออกมาอธิบายขัน้ ตอนวธิ ีในการแก้ปญั หาท่ีนักเรียนได้ศกึ ษาให้เพ่ือนฟัง

หน้าช้ันเรียน แล้วครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในประเด็นที่สงสัย โดยครูเป็นผู้เสริมอธิบายให้
ถกู ตอ้ ง จนนกั เรียนในชน้ั เรียนทกุ คนเกดิ ความเข้าใจทถี่ ูกต้องตรงกัน

ขน้ั สรุป เวลา 10 นาที
7. ครูและนักเรียนรว่ มกบั สรปุ เน้อื ท่ไี ด้เรียนในช่วั โมงน้ี

ชว่ั โมงที่ 2
ขั้นนา
กระตุ้นความสนใจ เวลา 10 นาที
1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรเู้ ดิม โดยครูนานักเรยี นอภปิ รายและได้ข้อสรปุ

เกีย่ วกับการแก้ปญั หาแบบอลั กอริทมึ
2. ครูถามคาถามกับนักเรียนว่า ภาษาธรรมชาติแตกต่างกับภาษาคอมพิวเตอร์หรือไม่
3. ครูให้นักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็นกับคาถามท่ีครูถาม โดยนักเรียนร่วมกันแสดง

ความคิดเห็นอยา่ งอิสระ
4. ครแู จ้งให้นกั เรยี นทราบว่าจะไดศ้ ึกษาเกี่ยวกบั ภาษาคอมพิวเตอร์

ขั้นสอน
สารวจคน้ หา เวลา 20 นาที
5. ครูบรรยายเนอ้ื หาประกอบสือ่ การสอน PowerPoint เร่อื ง การอออกแบบอัลกอริทึม

มเี นือ้ หาการสอนดงั ต่อไปนี้
5.1 ความหมายของภาษาคอมพวิ เตอร์
5.2 ยคุ ของภาษาคอมพิวเตอร์
5.3 ภาษาธรรมชาตกิ บั ภาษาคอมพวิ เตอร์ตา่ งกนั อยา่ งไร

6. ครูและนักเรียนร่วมกันวิพากษ์เก่ียวกับภาษาธรรมชาติกับภาษาคอมพิวเตอร์เพ่ือ
ความเขา้ ใจตรงกนั โดยครูและนักเรยี นไดข้ ้อสรุปรว่ มกันว่า ภาษาธรรมชาติ (Natural language) คือ
รูปแบบภาษาที่มนุษย์เข้าใจ หรือเป็นภาษาที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสารกัน มีรูปแบบภาษาที่ไม่แน่นอน
ตายตัวและเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์ตามเช้ือชาติ ส่วนภาษาคอมพิวเตอร์ คือ ภาษาใด ๆ ที่
ผู้ใช้งานใช้ส่ือสารกับคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ด้วยกัน แล้วคอมพิวเตอร์สามารถทางานตาม

15

คาส่ังนั้นได้ ซ่ึงเป็นโปรแกรมหรือชุดคาส่ังที่โปรแกรมเมอร์เขียนเพ่ือใช้สั่งงานตามรูปแบบและ
โครงสร้างของภาษา

7. ครูให้นักเรียนศึกษายุคของภาษาคอมพิวเตอร์เพ่ิมเติมจากอินเทอร์เนต็ แล้วสรุปเปน็
ผงั มโนทัศนล์ งในสมุดของนกั เรยี น

อธบิ ายความรู้ เวลา 5 นาที
8. ครูสุ่มตัวแทนนักเรียน 5 คน ออกมาอธิบายความรู้เก่ียวกับยุคต่างๆของ

ภาษาคอมพิวเตอร์ ที่ได้ไปศึกษาให้เพื่อนฟังหน้าช้ันเรียน แล้วครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามใน
ประเดน็ ท่ีสงสยั โดยท่ีครูคอยแนะนาและให้คาตอบทถ่ี กู ตอ้ งแก่นกั เรยี น

9. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า ภาษาธรรมชาติเป็นภาษาที่สามารถส่ังงานคอมพิวเตอร์โดยใช้
รปู แบบของภาษามนุษย์ได้เลย คาสั่งอยู่ในรปู แบบท่ีไม่แนน่ อนตายตัว แต่คอมพิวเตอร์จะทาการแปล
ใหอ้ อกมาในรูปทีค่ อมพวิ เตอรเ์ ขา้ ใจได้

ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ เวลา 20 นาที
10. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้ อหาเรื่อง การเขียนอัลกอริทึมด้วย

ภาษาธรรมชาติ ว่ามีส่วนไหนทีย่ ังไม่เขา้ ใจและให้ความรู้เพิม่ เตมิ ในส่วนนัน้
13. ครูแจกใบงาน เรื่อง การออกแบบอัลกอริทึม ให้กับนักเรียนเพ่ือเป็นการทบทวน

เนื้อหาทีไ่ ดเ้ รียนมาสง่ เปน็ การบา้ นในช่วั โมงถดั ไป
14. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบทา้ ยหนว่ ยการเรียนรู้ เรอื่ ง แนวคิดเชงิ นามธรรม

ตรวจสอบผล เวลา 5 นาที
15. ครปู ระเมินผลงานของเรียนจากการทาใบงาน เร่ือง การออกแบบอัลกอริทึม
16. ครูประเมินนักเรียนจากการทาแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ืองแนวคิด

เชิงนามธรรม

16

การวัดผลและประเมินผล เครอ่ื งมือวัดผล วิธกี ารวดั ผล

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ แบบทดสอบท้ายหนว่ ยการ การทดสอบ
1. อธิบายความหมายของอลั กอริทึม
ได้ (K) เรียนรู้ เร่ือง แนวคิดเชิง
2. ปฏบิ ตั กิ ารเขียนอัลกอริทึมใน
รูปแบบต่างๆได้ (P) นามธรรม
3. เห็นคณุ ประโยชนแ์ ละนาการ
ออกแบบอลั กอริทึมไปใช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั ได้ (A)

สมรรถนะทส่ี าคัญของผู้เรยี น เครอื่ งมือวดั ผล วิธีการวดั ผล

ความสามารถในการคิด แบบประเมนิ สมรรถนะ การประเมินสมรรถนะ

สาคัญของผู้เรยี น สาคญั ของผู้เรยี น

คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ อั น พึ ง ป ร ะ ส ง ค์ ข อ ง เคร่ืองมอื วัดผล วิธกี ารวดั ผล
ผู้เรียน

1. มีวนิ ยั แบบประเมินคุณลักษณะ การประเมนิ คุณลักษณะอัน

2. ใฝ่เรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ของผเู้ รยี น พึงประสงคข์ องผเู้ รยี น

3. มุ่งม่นั ในการทางาน

เกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป
รอ้ ยละ 70 ข้ึนไป
1. ผา่ นเกณฑ์การทาแบบทดสอบทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป
2. ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ จากแบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
3. ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จากแบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

กิจกรรมเสนอแนะ
ครคู วรแทรกกิจกรรมที่ทาให้นกั เรยี นผ่อนคลายเนื่องจากเรื่องท่ีเรียนค่อยมีเนื้อหาท่แี น่นและ

ยากพอสมควร

17

บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

1. ผลการจดั กิจกรรม
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

2. ปัญหา/อุปสรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ........................................................ ผู้สอน
( นางสาวสกุ ัญญา จกั รโนวัน )
ตาแหนง่ ครูชานาญการพเิ ศษ

18

ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้

 มอี งคป์ ระกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถกู ตอ้ งตามหลกั การ
 มีกิจกรรมการเรยี นร้เู นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ใช้สื่อและแหลง่ เรยี นรู้ท่ีหลากหลาย เหมาะสม
 มกี ารวดั และประเมินผลสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์และกระบวนการจดั การเรียนรู้โดยใชว้ ธิ กี ารทห่ี ลากหลาย
 แผนการจดั การเรียนรู้นาไปสกู่ ารปฏบิ ัติได้ สอดคลอ้ งกับหลกั สตู ร บริบท สภาพของผู้เรียนและชุมชน

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชื่อ ..............................................
(นายจรญั เฉดิ ฉาย)

หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
วันท่ี ......... เดือน .................... พ.ศ...............

ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ งานวัดผลและประเมินผลการศึกษา

 มีองคป์ ระกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถกู ต้องตามหลักวิชาการ
 มกี จิ กรรมการเรียนรู้เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคญั
 มีการใชส้ ่ือและแหล่งเรียนร้หู ลากหลาย เหมาะสม
 มีการวัดและประเมนิ ผลครอบคลมุ พฤติกรรมพุทธพิ ิสัย จิตพสิ ยั ทกั ษะพสิ ัย

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .................................................
(นางสาวจนั ทริ า แวงวงษ์)

หวั หนา้ งานวัดผลและประเมนิ ผลการศึกษา
วนั ที่ ......... เดือน .................. .. พ.ศ...............

19

ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา

 ใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
 ขอใหน้ ิเทศ ตดิ ตามผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ เพื่อนาไปพฒั นางานตอ่ ไป

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .................................................
(นายพฤทธพ์ิ ล ชาร)ี

รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
วนั ท่ี ......... เดอื น .................... พ.ศ...............

20

ชอื่ – นามสกุล .........................................................................เลขท่.ี .............ชั้น............

ใบงาน เรอ่ื ง การออกแบบอัลกอริทึม
คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ (10 คะแนน)
1. อัลกอริทมึ มีความหมายวา่ อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
2. อัลกอริทมึ มก่ี ่ีรปู แบบ อะไรบา้ ง
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ภาษาธรรมชาติ คอื อะไร จงยกตัวอยา่ งภาษาธรรมชาตมิ า 3 ชนดิ
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ภาษาคอมพวิ เตอร์ คอื อะไร และมีพัฒนาการอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
5. อา่ นปญั หาท่กี าหนด แล้วเขยี นอลั กอริทึมดว้ ยภาษาธรรมชาติ

5.1 ชานนท์ตอ้ งการคานวณหาจานวนเงนิ ท่เี หลือจากการซ้ือสนิ ค้า 2 ช้นิ
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………

5.1 สมชายตอ้ งการคานวณพนื้ ทขี่ องรปู สามเหล่ียม
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………

21

แบบทดสอบท้ายหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง แนวคิดเชิงนามธรรม

คาชีแ้ จง แบบทดสอบแบบอัตนยั จานวน 6 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ให้นักเรยี นตอบคาถาม
ต่อไปนีใ้ หถ้ ูกตอ้ ง

1. แนวคดิ เชงิ นามธรรม คืออะไร (1 คะแนน)
2. แนวคดิ เชงิ นามธรรมมีประโยชน์อย่างไรในการแกป้ ญั หา (1 คะแนน)
3. ใหน้ ักเรยี นออกแบบวิธีการแกป้ ญั หาขยะล้นโรงเรียน โดยใชแ้ นวคดิ เชิงนามธรรมเขา้ มา
ชว่ ยในการแก้ปัญหา (3 คะแนน)
4. อลั กอริทึมมีความหมายวา่ อยา่ งไร (1 คะแนน)
5. อัลกอริทมึ มก่ี ี่รูปแบบ อะไรบา้ ง (2 คะแนน)
6. การเขียนอัลกอริทมึ ดว้ ยภาษาธรรมชาติ คืออะไร (2 คะแนน)

22

7. ให้นักเรยี นเขยี นอลั กอรทิ มึ ด้วยภาษาธรรมชาติจากปัญหาต่อไปน้ี (2 คะแนน)
7.1 สมชายต้องการคานวณหาพ้ืนที่ของรปู สามเหลีย่ ม

สตู รการหาพ้ืนท่รี ูปสามเหลยี่ ม คอื
พื้นทีร่ ูปสามเหลยี่ ม = ½*ฐาน*สูง

23

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียน

ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี.่ .............. โรงเรยี นหนองบวั พทิ ยาคาร
คาชีแ้ จง ให้พจิ ารณาพฤตกิ รรมคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ตอ่ ไปน้ี แล้วให้ระดบั คะแนนทต่ี รงกบั การ
ปฏิบตั ิของนักเรยี นตามความเป็นจริง

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

เลขที่ ชือ่ – นามสกุล ีม ิวนัย ผลการประเมิน
ใ ่ฝเ ีรยน ู้ร
ุ่มง ั่มนใน
การทางาน

ลงช่อื ..................................................... ผปู้ ระเมิน
( นางสาวสกุ ญั ญา จกั รโนวัน )
ตาแหน่ง ครูชานาญการพเิ ศษ

24

ตวั ชวี้ ดั

1. มีวินัย

1.1 ประพฤติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคบั ของครอบครับ โรงเรียน และสงั คม

2. ใฝ่เรยี นรู้

2.1 ต้งั ใจเพยี รพยายามในการเรียน แล้วเข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้

2.2 แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนร้ตู า่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการเลือกใช้

สื่ออย่างเหมาะสม สรปุ เป็นองคค์ วามรูแ้ ละสามารถนาไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้

3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน

3.1 ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในหนา้ ท่ีการงาน

3.2 ทางานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ใหส้ าเร็จตามเปา้ หมาย

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัติชัดเจนและบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน
- พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การประเมนิ

คะแนน 8 - 9 ระดบั คุณภาพ ดี

คะแนน 6 - 7 ระดับคุณภาพ ปานกลาง

คะแนน 4 - 5 ระดับคุณภาพ พอใช้

คะแนน 0 - 3 ระดับคุณภาพ ควรปรับปรุง

25

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

ชื่อ-นามสกลุ .......................................................................................... เลขท.ี่ ...........ช้ัน.............

คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียน และขดี  ลงในช่องทตี่ รงกับคะแนน

สมรรถนะท่ี ระดับคุณภาพ ผลการ
สาคัญ
รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ประเมนิ
1. ความสามารถ (3) (2) (1) (0)
ในการคดิ 1.1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์
สังเคราะห์
1.2 มีทักษะในการคิดนอกกรอบ
1.3 สามารถคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
1.4 มคี วามสามารถในการสร้างองคค์ วามรู้
1.5 ตัดสินใจแก้ปญั หาเก่ยี วกับตนเองได้
อยา่ งเหมาะสม

สรปุ ผลการประเมิน

เกณฑก์ ารให้คะแนนระดบั คุณภาพ

- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ดีมาก

- พฤตกิ รรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ดี

- พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน พอใช้

- ไม่เคยปฏิบตั ิพฤติกรรม ให้ 0 คะแนน ปรับปรุง

เกณฑก์ ารสรุปผล

ดีมาก - 13 – 15 คะแนน

ดี - 9 – 12 คะแนน

พอใช้ - 1 – 8 คะแนน

ต้องปรบั ปรุง - 0 คะแนน

26

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 3

กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื งการออกแบบและการเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย เวลาเรยี น 8 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 3 เรือ่ งการเขยี นรหัสลาลอง เวลาเรยี น 2 ชั่วโมง

ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564

ผสู้ อน นางสาวสุกญั ญา จักรโนวัน วนั ท.ี่ ...............เดอื น.......................พ.ศ..............................

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวติ จริงอย่างเป็น

ข้ันตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการ
แกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม
ตวั ชีวัด

ว 4.2 ม.1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือ
วิทยาศาสตร์
จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายวธิ ีการเขยี นอลั กอริทมึ ดว้ ยรหัสลาลองได้ (K)

2. สามารถปฏิบัตกิ ารเขียนอัลกอริทึมด้วยรหัสลาลองได้ (P)
3. เหน็ คณุ คา่ ของการเขยี นอลั กอรทิ ึมด้วยรหสั ลาลองและนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน (A)
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผ้เู รียน
1. ซ่อื สัตยส์ จุ รติ
2. มีวินัย
3. ใฝ่เรยี นรู้
4. มุ่งมน่ั ในการทางาน

27

สาระสาคญั
การเขียนอัลกอริทึมด้วยรหัสลาลอง เป็นคาส่ังที่จาลองความคิดเป็นลาดับขั้นตอนโดยใช้

สัญลักษณ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษ การเขียนโปรแกรมในรูปแบบภาษาอังกฤษที่มีขั้นตอนและ
รปู แบบแนน่ อนกะทัดรัด และมองดคู ล้ายภาษาระดับสงู ท่ใี ชก้ ับเคร่ืองคอมพวิ เตอรซ์ ง่ึ ไมเ่ จาะจงภาษา
ใดภาษาหนง่ึ
สาระการเรียนรู้

การเขียนรหัสลาลอง
สอ่ื และอปุ กรณ์

1. PowerPoint เรอ่ื ง การเขียนรหสั ลาลอง
2. ใบงาน เร่ือง การเขยี นรหสั ลาลอง
ขัน้ การสอนโดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es
ชัว่ โมงที่ 1
ขน้ั นา
กระตุน้ ความสนใจ เวลา 10 นาที

1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เดิม เก่ียวกับ ความหมายของอัลกอริทึมและ
ลักษณะของการเขยี นอลั กอรทิ มึ ดว้ ยภาษาธรรมชาติ

2. ครูถามคาถามเพื่อกระตุ้นความคิดและความสนใจของนักเรียนว่า นักเรียนรู้จักรหัส
ลาลอง (Pseudo code) หรอื ไม่ และหมายถงึ อะไร ครใู ห้นกั เรียนร่วมแสดงความคิดเห็นกับคาถามท่ี
ครูถาม

3. ครูให้นักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็นกับคาถามท่ีครูถาม โดยนักเรียนร่วมกันแสดง
ความคิดเห็นอย่างอสิ ระ

4. ครูแจง้ ให้นกั เรียนทราบว่าจะไดศ้ กึ ษาเกี่ยวกบั การเขียนอลั กอรทิ ึมดว้ ยรหสั จาลอง
ขน้ั สอน

สารวจค้นหา เวลา 30 นาที
5. ครบู รรยายเน้อื หาประกอบสอื่ การสอน PowerPoint เร่อื ง การเขยี นรหัสลาลอง
6. ครูอธิบายเพ่ือให้นักเรยี นเข้าใจเกยี่ วกบั การเขยี นอัลกอริทมึ ดว้ ยรหัสลาลองวา่ คาสั่งที่

ใช้เขียนลาดับข้ันตอนการทางาน โดยจะถูกพัฒนามาจากการอธิบายลาดับข้ันตอนการทางานใน
ลกั ษณะของขอ้ ความ (Algorithm) และจะเขียนเลียนแบบคาสง่ั จริง

28

อธบิ ายความรู้ เวลา 10 นาที
7. ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ เก่ียวกับการเขียนอลั กอริทมึ ดว้ ยรหสั จาลอง แลว้ อธบิ ายวธิ ีการ

เขียนรหัสจาลอง โดยครูสามารถบูรณาการวชิ าคณิตศาสตร์ ซ่ึงมีรปู แบบ ดงั นี้
1) เร่ิมตน้ และจบท้ายของขน้ั ตอนด้วย BEGIN...END
2) รบั ข้อมลู ด้วย READ หรอื GET
3) แสดงผลข้อมูลด้วย PRINT, WRITE, DISPLAY, SHOW, OUTPUT
4) คานวณ +, - , *, /, ^
5) เปรียบเทยี บและทางเลอื ก IF..THEN..ELSE..ENDIF, CASE..OF..ENDCASE
6) การทาซ้า DO..WHILE, WHILE..DO..ENDWHILE, REPEAT..UNTIL, และ FOR..

ENDFOR
ข้ันสรุป
ขยายความเข้าใจ เวลา 10 นาที
8. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามในประเด็นท่ีสงสัย ว่ามีส่วนไหนที่ยังไม่เข้าใจและให้

ความรู้เพ่ิมเติมในส่วนนั้น จากน้ันครูอาจยกตัวอย่างเพ่ิมเติมท่ีคล้ายกัน (เช่น หาค่าเฉลี่ยจากข้อมูล)
แล้วให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์วิธีการเขียนรหัสจาลองตามตัวอย่างท่ีครูเขียนบนกระดาน และ
สรปุ ผล

ชัว่ โมงที่ 2
ขน้ั นา
กระต้นุ ความสนใจ เวลา 10 นาที
1. ครแู ละนกั เรียนร่วมทบทวนความรเู้ ดมิ เกย่ี วกับ การเขยี นอัลกอริทมึ ด้วยรหัสลาลอง
2. ครแู จ้งใหน้ ักเรียนทราบวา่ จะไดศ้ กึ ษาเกย่ี วกับ การเขยี นอลั กอรทิ ึมดว้ ยรหสั จาลอง
ขัน้ สอน
สารวจค้นหา เวลา 30 นาที
3. ครแู จกใบงาน เรอ่ื ง การเขยี นรหัสลาลอง ให้กบั นักเรยี น นักเรยี นลงมอื ทาใบงานเพ่ือ

ส่งในชั่วโมง
4. ครูและนักเรยี นร่วมกนั เฉลยใบงาน เรอ่ื ง การเขียนรหสั ลาลอง

อธบิ ายความรู้ เวลา 5 นาที
5. ครูอธิบายในส่วนของการเฉลยใบงาน เร่ือง การเขียนรหัสลาลอง ว่าเหตุผลของ

คาตอบในแต่ละขอ้ มที ่ีมาอย่างไร

29

ขยายความเขา้ ใจ เวลา 5 นาที
6. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามในประเด็นที่สงสัย ว่ามีส่วนไหนที่ยงั ไม่เข้าใจและให้

ความรเู้ พิ่มเติมในส่วนนนั้ จากน้นั ครอู าจยกตัวอย่างเพ่มิ เตมิ
ขน้ั สรุป
ตรวจสอบผล เวลา 10 นาที
7. ครูประเมินผลงานของเรียนจากการทาใบงาน เรือ่ ง การเขียนรหัสลาลอง
8. ครูประเมินนักเรียนจากการทาแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ืองการ

ออกแบบและการเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย

การวดั ผลและประเมินผล

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เคร่ืองมอื วดั ผล วิธีการวดั ผล

1. อธิบายวธิ ีการเขยี นอลั กอรทิ มึ ด้วย แบบทดสอบท้ายหน่วย การทดสอบ

รหสั ลาลองได้ (K) การเรียนรู้ เรื่อง การ
2. สามารถปฏิบตั ิการเขียนอลั กอริทึม อ อ ก แ บ บ แ ล ะ ก า ร เ ขี ย น
ด้วยรหสั ลาลองได้ (P) โปรแกรมอยา่ งง่าย

3. เห็นคุณคา่ ของการเขียนอลั กอริทมึ

ด้วยรหัสลาลองและนาไปใชใ้ น

ชวี ิตประจาวนั (A)

สมรรถนะทส่ี าคัญของผ้เู รยี น เครื่องมือวัดผล วิธกี ารวดั ผล

1. ความสามารถในการคิด แบบประเมินสมรรถนะ การประเมินสมรรถนะ

2. ความสามารถในการแก้ปญั หา สาคัญของผู้เรยี น สาคญั ของผ้เู รียน

3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

คุณลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผเู้ รยี น เครื่องมอื วดั ผล วธิ ีการวดั ผล

1. ซื่อสตั ย์สจุ ริต แบบประเมินคุณลักษณะ การประเมินคณุ ลักษณะอนั

2. มีวินยั อันพงึ ประสงค์ พึงประสงค์

3. ใฝเ่ รียนรู้

4. มุ่งม่ันในการทางาน

30

เกณฑก์ ารวัดผลและประเมนิ ผล ร้อยละ 70 ขึ้นไป
ร้อยละ 70 ขึ้นไป
1. ผ่านเกณฑ์การทาแบบทดสอบท้ายหนว่ ยการเรียนรู้ รอ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ จากแบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
3. ผ่านเกณฑ์ประเมินจากแบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

กจิ กรรมเสนอแนะ
เนือ่ งจากเร่อื งการเขียนอลั กอริทึมดว้ ยรหัสลาลอง เปน็ เร่ืองท่ใี ชก้ ารจาในการคิดคอ่ นข้างมาก

ครูควรเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นใชเ้ วลาในการคดิ อย่างเหมาะสม ไมค่ วรรีบเรง่ ในการส่งงาน

31

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้

1. ผลการจัดกจิ กรรม
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

2. ปัญหา/อุปสรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ........................................................ ผู้ตรวจ
( นางสาวสุกญั ญา จักรโนวนั )
ตาแหน่งครูชานาญการพเิ ศษ

32

ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้

 มีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถกู ต้องตามหลกั การ
 มกี จิ กรรมการเรียนรู้เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคญั ใช้ส่ือและแหล่งเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย เหมาะสม
 มกี ารวดั และประเมนิ ผลสอดคล้องกบั จดุ ประสงคแ์ ละกระบวนการจดั การเรียนรูโ้ ดยใช้วธิ ีการที่หลากหลาย
 แผนการจดั การเรียนร้นู าไปสกู่ ารปฏิบัตไิ ด้ สอดคล้องกบั หลกั สูตร บริบท สภาพของผู้เรียนและชุมชน

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ..............................................
(นายจรญั เฉิดฉาย)

หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
วนั ท่ี ......... เดอื น .................... พ.ศ...............

ขอ้ เสนอแนะของหวั หนา้ งานวัดผลและประเมนิ ผลการศกึ ษา

 มีองค์ประกอบของแผนครบถว้ น สมบรู ณ์ และถกู ต้องตามหลกั วิชาการ
 มกี จิ กรรมการเรียนรเู้ น้นผู้เรียนเปน็ สาคัญ
 มกี ารใช้สอื่ และแหลง่ เรียนรู้หลากหลาย เหมาะสม
 มีการวดั และประเมินผลครอบคลมุ พฤติกรรมพุทธพิ สิ ัย จิตพิสัย ทกั ษะพิสยั

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่อื .................................................
(นางสาวจนั ทิรา แวงวงษ์)

หัวหนา้ งานวัดผลและประเมินผลการศกึ ษา
วนั ท่ี ......... เดือน .................. .. พ.ศ...............

33

ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา

 ใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
 ขอใหน้ ิเทศ ตดิ ตามผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ เพื่อนาไปพฒั นางานตอ่ ไป

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .................................................
(นายพฤทธพ์ิ ล ชาร)ี

รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
วนั ท่ี ......... เดอื น .................... พ.ศ...............

34

ชอ่ื – นามสกลุ .........................................................................เลขท.่ี .............ชน้ั ............

ใบงาน เร่ือง การเขยี นรหัสลาลอง

คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี (10 คะแนน)

1. รหัสลาลอง คอื อะไร

………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ประโยชนข์ องรหัสลาลองมีอะไรบา้ ง

………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………

3. การเขยี นอลั กอริทึมดว้ ยรหสั ลาลอง มีลกั ษณะอย่างไร

………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………

4. การเขียนรหสั ลาลอง มหี ลักเกณฑก์ ารเขียนอยา่ งไร

………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………

5. อา่ นปญั หาท่ีกาหนด แลว้ เรยี งลาดบั อลั กอริทึมด้วยรหัสลาลองให้ถูกต้อง

5.1 จฑุ าภรณ์ตอ้ งการหาความสูงเฉลีย่ ของเพอื่ นจานวน 3 คน และแสดงผลการ

คานวณ สตู รการหาค่าเฉล่ยี คอื คา่ เฉล่ยี = ผลรวมของข้อมูล
จานวณขอ้ มูลทง้ั หมด
การเขยี นอัลกอรทิ ึมดว้ ยรหัสลาลอง มีดังน้ี

................ OUTPUT average

................ COMPUTER average = (high1 + high2 + high3) / totalpeople

................ STOP

................ INPUT high3

................ INPUT high1

................ START

................ INPUT high2

35

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องผเู้ รยี น

ชั้นมัธยมศึกษาปีที.่ .............. โรงเรยี นหนองบัวพิทยาคาร

คาชแ้ี จง ใหพ้ จิ ารณาพฤตกิ รรมคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ตอ่ ไปน้ี แล้วให้ระดับคะแนนทีต่ รงกบั การ

ปฏบิ ตั ิของนักเรยี นตามความเปน็ จริง

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

เลขท่ี ชื่อ-นามสกุล ซ่ือสัตย์ ผลการ
สุจ ิรต ประเมิน
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเ ีรยน ู้ร
ุ่มง ่ัมนใน
การทางาน

ลงช่ือ..................................................... ผ้ปู ระเมิน
( นางสาวสุกญั ญา จกั รโนวัน )
ตาแหนง่ ครชู านาญการพิเศษ

36

ตัวชีว้ ัด

1. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต
1.1 ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
1.2 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงต่อผ้อู นื่ ท้ังทางกาย วาจา ใจ

2. มีวินยั
2.1 ประพฤติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบงั คับของครอบครบั โรงเรียน และสงั คม

3. ใฝ่เรยี นรู้
3.1 ต้ังใจเพียรพยายามในการเรียน แลว้ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้
3.2 แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนร้ตู ่าง ๆ ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการเลือกใช้

สอื่ อย่างเหมาะสม สรุปเปน็ องค์ความรแู้ ละสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้
4. มุ่งม่ันในการทางาน

4.1 ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในหนา้ ทกี่ ารงาน
4.2 ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ให้สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การประเมนิ

คะแนน 10 - 12 ระดับคุณภาพ ดี

คะแนน 7 – 9 ระดบั คุณภาพ ปานกลาง

คะแนน 4 – 6 ระดบั คุณภาพ พอใช้

คะแนน 0 - 3 ระดับคุณภาพ ควรปรับปรงุ

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น

1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

37

แบบประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น

ช่ือ-นามสกุล .......................................................................................... เลขที.่ ...........ชน้ั .............

คาช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน และขีด  ลงในช่องทีต่ รงกบั คะแนน

สมรรถนะท่ี ระดบั คุณภาพ ผลการ
สาคัญ
รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง ประเมิน
1. ความสามารถ (3) (2) (1) (0)
ในการคิด 1.1 มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์
สังเคราะห์
2. ความสามารถ 1.2 มีทกั ษะในการคดิ นอกกรอบ
ในการแกป้ ญั หา 1.3 สามารถคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
1.4 มคี วามสามารถในการสรา้ งองค์ความรู้
3. ความสามารถ 1.5 ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาเกย่ี วกับตนเองได้
ในการใช้ อย่างเหมาะสม
เทคโนโลยี
สรุปผลการประเมนิ
2.1 สามารถแก้ปัญหาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ
ที่เผชิญได้
2.2 ใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หา
2.3 เข้าใจความสัมพนั ธ์และการ
เปล่ียนแปลงในสังคม
2.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้
ในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา
2.5 สามารติดสินใจได้เหมาะสมตามวัย

สรปุ ผลการประเมิน
3.1 เลือกและใช้เทคโนโลยีไดเ้ หมาะสม
ตามวยั
3.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
3.3 สามารถนาเทคโนโลยีไปใช้พัฒนา
ตนเอง
3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอยา่ ง
สรา้ งสรรค์
3.5 มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใช้
เทคโนโลยี

สรุปผลการประเมิน

38

เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพ

- พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ดมี าก

- พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ดี

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน พอใช้

- ไม่เคยปฏิบตั ิพฤตกิ รรม ให้ 0 คะแนน ปรับปรุง

เกณฑ์การสรุปผล

ดีมาก - 13 – 15 คะแนน

ดี - 9 – 12 คะแนน

พอใช้ - 1 – 8 คะแนน

ตอ้ งปรับปรุง - 0 คะแนน

39

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 4

กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื งการออกแบบและการเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย เวลาเรยี น 8 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 4 เร่อื งผังงาน เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง

ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564

ผสู้ อน นางสาวสกุ ัญญา จักรโนวนั วนั ท.่ี ...............เดือน.......................พ.ศ..............................

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็น

ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการ
แกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจรยิ ธรรม
ตวั ชีวัด

ว 4.2 ม.1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพ่ือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือ
วิทยาศาสตร์
จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. อธิบายวธิ ีการเขียนอลั กอรทิ ึมด้วยผังงานได้ (K)

2. สามารถปฏบิ ัตกิ ารเขียนอลั กอริทมึ ดว้ ยผงั งานได้ (P)
3. เหน็ คุณคา่ ของการเขยี นอลั กอริทึมดว้ ยผังงานและนาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน (A)
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
คุณลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผูเ้ รยี น
1. ซ่ือสัตย์สจุ ริต
2. มีวนิ ยั
3. ใฝ่เรียนรู้
4. ม่งุ มั่นในการทางาน

40

สาระสาคัญ
การเขียนอัลกอริทึมด้วยผังงาน เป็นการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถใช้ผังงานเพื่อ

ช่วยลาดับแนวความคิดในการเขียนโปรแกรม โดยผังงานจะเป็นแผนภาพที่ใช้ออกแบบและอธิบาย
การทางานของโปรแกรมโดยอาศัยรูปทรงต่าง ๆ ควบคู่ไปกับลูกศร แต่ละรูปในแผนภาพจะหมายถึง
การทางานหน่งึ ข้ันตอน สว่ นลกู ศรจะแทนลาดับการทางานขัน้ ตอนต่าง ๆ รวมท้ังทิศทางการไหลของ
ข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้นจนได้ผลลพั ธต์ ามต้องการ
สาระการเรยี นรู้

ผังงาน
ส่อื และอปุ กรณ์

1. PowerPoint เรอ่ื ง ผังงาน
2. ใบงาน เร่ือง ผงั งาน
ขั้นการสอนโดยใชก้ ารสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es
ชั่วโมงที่ 1
ขัน้ นา
กระตุ้นความสนใจ เวลา 10 นาที

1. ครูเกริ่นนาก่อนเข้าสู่การเรียนการสอน เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมด้วยผังงาน โดยให้
นักเรียนระบุถึงประโยชน์ของการเขียนอัลกอริทึมด้วยภาษาธรรมชาติและรหัสจาลอง เพื่อเป็นการ
ทบทวนความรูเ้ ดมิ ของนกั เรยี น พรอ้ มทั้งบอกความแตกต่างของการเขียนทัง้ 2 รปู แบบ และให้แสดง
ความคิดเห็นว่าการเขยี นรูปแบบใดดกี ว่ากนั เพราะเหตใุ ด

2. ครูถามคาถามเพื่อกระตุ้นความคิดและความสนใจของนักเรียนว่า นักเรียนรู้จักรหัส
ผงั งานหรือไม่ และหมายถงึ อะไร

3. ครูให้นักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็นกับคาถามท่ีครูถาม โดยนักเรียนร่วมกันแสดง
ความคิดเห็นอย่างอสิ ระ

4. ครูแจง้ ให้นักเรียนทราบว่าจะไดศ้ ึกษาเกี่ยวกบั การเขยี นอัลกอริทมึ ดว้ ยผงั งาน
ขน้ั สอน

สารวจค้นหา เวลา 20 นาที
5. ครูบรรยายเนอื้ หาประกอบสอื่ การสอน PowerPoint เร่ือง ผังงาน

41

6. ครูอธิบายให้นักเรียนเห็นว่า ผังงาน หรือโฟลว์ชาร์ต เป็นการใช้ภาพสัญลักษณ์เพื่อ
แสดงลาดับข้ันตอนการทางานของอัลกอริทึม หรือการทางานต่าง ๆ ตั้งแต่เร่ิมต้นจนได้ผลลัพธ์ท่ี
ต้องการ

7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการเขียนผังงาน ในข้ันเริ่มต้นเราพิจารณาท่ี
รูปแบบการเขียนผงั งาน ซงึ่ มี 3 รูปแบบ คือ การทางานแบบตามลาดับ (sequence) การเลือกกระทา
ตามเง่ือนไข (selection) และการทาซ้า (loop) ดังนั้น เราจึงสามารถสรุปหรือจัดกลุ่มสัญลักษณ์ได้
สัญลักษณ์ทใ่ี ช้ในการเขยี นผงั งาน โดยใหน้ กั เรยี นร่วมกนั ตอบ

8. ครูชี้ให้นักเรียนเห็นว่า หลักการเขียนผังงาน ในข้ันเร่ิมต้นเราพิจารณาท่ีกระบวนการ
ทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมี 3 กระบวนการ คือ การรับข้อมูลเข้า (input) การประมวลผล (process)
และการแสดงผลลัพธ์ (output) ซึ่งจะเรียกผังงานประเภทน้ีว่า ผังงานโปรแกรม (program
Flowchart)

อธิบายความรู้ เวลา 10 นาที
9. ครูควรอธบิ ายความรูเ้ พิม่ เตมิ ถงึ ผงั งานแบบการทาซ้า (loop)
10. ครอู ธบิ ายให้นกั เรยี นเข้าใจว่า การทาซา้ (loop) คือ ขนั้ ตอนการทางานบางขั้นตอน

ทีไ่ ด้รับการประมวลผลมากกว่า 1 ครัง้ ท้ังนขี้ น้ึ อยูก่ ับเงื่อนไง และมีลักษณะการทางานของโครงสร้าง
แบบน้ีมี 2 ลกั ษณะ

ข้ันสรุป
ขยายความเขา้ ใจ เวลา 20 นาที
11. ครูให้นักเรียนทุกคนในช้ันเรยี นร่วมกันวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็น โดยครูคอย

สรุปและอธิบายผงั งานทถี่ ูกต้องใหน้ กั เรยี นฟังจนเข้าใจ
12. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้อหาเรื่อง การเขียนอัลกอริทึมด้วย

ภาษาธรรมชาติ ว่ามสี ว่ นไหนที่ยังไม่เข้าใจและใหค้ วามรเู้ พิ่มเติม
ช่วั โมงที่ 2
ขน้ั นา
กระตนุ้ ความสนใจ เวลา 10 นาที
1. ครแู ละนกั เรียนร่วมทบทวนความรเู้ ดิมเกย่ี วกบั การเขียนอลั กอรทิ ึมดว้ ยผงั งาน
2. ครแู จ้งใหน้ ักเรยี นทราบว่าจะได้ศึกษาเกี่ยวกบั การเขียนอัลกอรทิ ึมดว้ ยผังงานต่อจาก

ชว่ั โมงท่ีแลว้

42

สารวจคน้ หา เวลา 30 นาที
3. ครแู จกใบงาน เร่ือง ผังงาน ให้กบั นักเรียน นกั เรียนลงมือทาใบงานเพื่อสง่ ในชวั่ โมง
4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยใบงาน เร่ือง ผังงาน

อธบิ ายความรู้ เวลา 5 นาที
5. ครูอธบิ ายในสว่ นของการเฉลยใบงาน เรื่อง ผงั งาน วา่ เหตผุ ลของคาตอบในแตล่ ะข้อมี

ที่มาอย่างไร
ขยายความเข้าใจ เวลา 5 นาที
6. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามในประเด็นที่สงสัย ว่ามีส่วนไหนท่ียังไม่เข้าใจและให้

ความรเู้ พิ่มเตมิ ในสว่ นนัน้ จากนน้ั ครอู าจยกตัวอย่างเพ่ิมเติม
ขน้ั สรุป
ตรวจสอบผล เวลา 10 นาที
7. ครูประเมินผลงานของเรียนจากการทาใบงาน เรอื่ ง ผังงาน
8. ครูประเมินนักเรียนจากการทาแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ืองการ

ออกแบบและการเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย

43

การวดั ผลและประเมินผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เครอ่ื งมือวัดผล วิธกี ารวดั ผล

1. อธิบายวธิ ีการเขียนอลั กอริทึมดว้ ย แบบทดสอบท้ายหน่วย การทดสอบ

ผังงานได้ (K) การเรียนรู้ เร่ือง การ

2. สามารถปฏิบตั ิการเขยี นอัลกอริทึม ออกแบบและการเขียน

ด้วยผังงานได้ (P) โปรแกรมอย่างงา่ ย

3. เห็นคณุ ค่าของการเขียนอัลกอริทมึ

ด้วยผังงานและนาไปใช้ใน

ชีวิตประจาวัน (A)

สมรรถนะที่สาคัญของผเู้ รยี น เครื่องมือวดั ผล วธิ กี ารวัดผล

1. ความสามารถในการคดิ แบบประเมินสมรรถนะ การประเมนิ สมรรถนะ

2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา สาคญั ของผเู้ รยี น สาคญั ของผูเ้ รียน

3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

คุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องผ้เู รียน เคร่ืองมือวัดผล วธิ ีการวัดผล

1. ซ่อื สัตยส์ ุจริต แบบประเมินคุณลักษณะ การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั

2. มีวินัย อันพงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์

3. ใฝเ่ รียนรู้

4. ม่งุ มั่นในการทางาน

เกณฑก์ ารวัดผลและประเมนิ ผล

1. ผ่านเกณฑ์การทาแบบทดสอบทา้ ยหนว่ ยการเรียนรู้ ร้อยละ 70 ขึ้นไป

2. ผ่านเกณฑ์ประเมนิ จากแบบประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น รอ้ ยละ 70 ขึน้ ไป

3. ผ่านเกณฑป์ ระเมินจากแบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ รอ้ ยละ 70 ขน้ึ ไป

กจิ กรรมเสนอแนะ

เนือ่ งจากเรอ่ื งการเขยี นอัลกอริทมึ ด้วยผงั งาน เปน็ เร่อื งทใี่ ชก้ ารจาในการคดิ ค่อนขา้ งมากครู

ควรเปิดโอกาสให้นักเรียนใชเ้ วลาในการคิดอย่างเหมาะสม ไม่ควรรบี เรง่ ในการสง่ งาน

44

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

1. ผลการจดั กิจกรรม
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

2. ปญั หา/อปุ สรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่ือ ........................................................ ผู้สอน
( นางสาวสกุ ญั ญา จกั รโนวัน )
ตาแหน่งครชู านาญการพิเศษ

45

ขอ้ เสนอแนะของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้

 มอี งค์ประกอบของแผนครบถว้ น สมบรู ณ์ และถูกต้องตามหลักการ
 มกี ิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั ใชส้ ่ือและแหล่งเรยี นรูท้ ีห่ ลากหลาย เหมาะสม
 มกี ารวดั และประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละกระบวนการจดั การเรยี นร้โู ดยใช้วิธกี ารท่หี ลากหลาย
 แผนการจัดการเรยี นรนู้ าไปสู่การปฏบิ ัติได้ สอดคลอ้ งกับหลักสูตร บริบท สภาพของผู้เรยี นและชมุ ชน

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..............................................
(นายจรญั เฉิดฉาย)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
วันที่ ......... เดือน .................... พ.ศ...............

ข้อเสนอแนะของหัวหน้างานวัดผลและประเมินผลการศึกษา

 มีองค์ประกอบของแผนครบถว้ น สมบูรณ์ และถูกต้องตามหลักวชิ าการ
 มกี ิจกรรมการเรยี นร้เู นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคญั
 มกี ารใชส้ ื่อและแหล่งเรยี นรหู้ ลากหลาย เหมาะสม
 มกี ารวดั และประเมนิ ผลครอบคลุมพฤติกรรมพุทธพิ สิ ยั จติ พสิ ัย ทักษะพสิ ัย

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่ือ .................................................
(นางสาวจนั ทิรา แวงวงษ์)

หวั หน้างานวดั ผลและประเมนิ ผลการศึกษา
วันที่ ......... เดอื น .................. .. พ.ศ...............

46

ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา

 ใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
 ขอใหน้ ิเทศ ตดิ ตามผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ เพื่อนาไปพฒั นางานตอ่ ไป

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .................................................
(นายพฤทธพ์ิ ล ชาร)ี

รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
วนั ท่ี ......... เดอื น .................... พ.ศ...............

47

ช่ือ – นามสกุล .........................................................................เลขที่..............ชน้ั ............
ใบงาน เร่ือง ผงั งาน

คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี (10 คะแนน)
1. ผังงาน คืออะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การเขียนผังงานมีรูปแบบการเขยี นกีล่ ักษณะ อะไรบา้ ง
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
3. อ่านปญั หาท่ีกาหนดใหแ้ ลว้ เขียนอลั กอริทึมด้วยผงั งาน

3.1 การคานวณหาพนื้ ที่ของรปู สี่เหล่ียมผนื ผ้า และแสดงผลการคานวณผ่าน
หนา้ จอ

3.1 การตรวจสอบค่าความสูงของคน 2 คน ถา้ คนท่ี 1 สูงกว่าใหแ้ สดง “สูงมาก”
แต่ถ้าคนท่ี 2 สูงกวา่ ใหแ้ สดง “สงู จริง ๆ”

48

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้เรียน

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที .ี่ .............. โรงเรยี นหนองบวั พทิ ยาคาร

คาชีแ้ จง ให้พจิ ารณาพฤติกรรมคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ตอ่ ไปน้ี แลว้ ให้ระดับคะแนนท่ีตรงกบั การ

ปฏิบัติของนกั เรียนตามความเปน็ จรงิ

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

เลขที่ ชื่อ-นามสกลุ ซ่ือสัตย์ ผลการ
สุจ ิรต ประเมิน
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเ ีรยน ู้ร
ุ่มง ่ัมนใน
การทางาน

ลงชื่อ..................................................... ผู้ประเมนิ
( นางสาวสุกัญญา จกั รโนวัน )
ตาแหนง่ ครชู านาญการพิเศษ

49

ตัวชีว้ ัด

1. ซ่ือสตั ยส์ ุจรติ
1.1 ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงต่อตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
1.2 ประพฤติตรงตามความเปน็ จริงต่อผ้อู นื่ ท้ังทางกาย วาจา ใจ

2. มีวินยั
2.1 ประพฤติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบงั คับของครอบครบั โรงเรียน และสังคม

3. ใฝ่เรยี นรู้
3.1 ต้ังใจเพยี รพยายามในการเรียน แลว้ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้
3.2 แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนร้ตู ่าง ๆ ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการเลือกใช้

สอื่ อย่างเหมาะสม สรุปเปน็ องค์ความรแู้ ละสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้
4. มุ่งม่ันในการทางาน

4.1 ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในหนา้ ทกี่ ารงาน
4.2 ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ให้สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 10 - 12 ระดับคุณภาพ ดี

คะแนน 7 – 9 ระดบั คุณภาพ ปานกลาง

คะแนน 4 – 6 ระดบั คุณภาพ พอใช้

คะแนน 0 - 3 ระดับคุณภาพ ควรปรับปรงุ

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

50

แบบประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น

ช่ือ-นามสกุล .......................................................................................... เลขที.่ ...........ชน้ั .............

คาช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน และขีด  ลงในช่องทีต่ รงกบั คะแนน

สมรรถนะท่ี ระดบั คุณภาพ ผลการ
สาคัญ
รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง ประเมิน
1. ความสามารถ (3) (2) (1) (0)
ในการคิด 1.1 มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์
สังเคราะห์
2. ความสามารถ 1.2 มีทกั ษะในการคดิ นอกกรอบ
ในการแกป้ ญั หา 1.3 สามารถคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
1.4 มคี วามสามารถในการสรา้ งองค์ความรู้
3. ความสามารถ 1.5 ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาเกย่ี วกับตนเองได้
ในการใช้ อย่างเหมาะสม
เทคโนโลยี
สรุปผลการประเมนิ
2.1 สามารถแก้ปัญหาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ
ที่เผชิญได้
2.2 ใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หา
2.3 เข้าใจความสัมพนั ธ์และการ
เปล่ียนแปลงในสังคม
2.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้
ในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา
2.5 สามารติดสินใจได้เหมาะสมตามวัย

สรปุ ผลการประเมิน
3.1 เลือกและใช้เทคโนโลยีไดเ้ หมาะสม
ตามวยั
3.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
3.3 สามารถนาเทคโนโลยไี ปใช้พัฒนา
ตนเอง
3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอยา่ ง
สรา้ งสรรค์
3.5 มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใช้
เทคโนโลยี

สรุปผลการประเมิน