The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิทยาการคำนวณ ม.1
ครูสุกัญญา จักรโนวัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by iyarasakulpan, 2022-08-08 06:24:38

แผนการสอนวิทยาการคำนวณ ม.1

แผนการสอนวิทยาการคำนวณ ม.1
ครูสุกัญญา จักรโนวัน

51

เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพ

- พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ดมี าก

- พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ดี

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน พอใช้

- ไม่เคยปฏิบตั ิพฤตกิ รรม ให้ 0 คะแนน ปรับปรุง

เกณฑ์การสรุปผล

ดีมาก - 13 – 15 คะแนน

ดี - 9 – 12 คะแนน

พอใช้ - 1 – 8 คะแนน

ตอ้ งปรับปรุง - 0 คะแนน

52

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 5

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื งการออกแบบและการเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย เวลาเรียน 8 ชวั่ โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 เรอื่ งการเขยี นโปรแกรมเบื้องตน้ เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง

ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564

ผ้สู อน นางสาวสกุ ญั ญา จกั รโนวัน วนั ที่................เดอื น.......................พ.ศ..............................

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอยา่ งเป็น

ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการ
แกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมีจริยธรรม
ตัวชีวัด

ว 4.2 ม.1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพ่ือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือ
วทิ ยาศาสตร์
จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายความหมาย ความสาคญั และประโยชนข์ องการเขียนโปรแกรมได้ (K)

2. เขยี นโปรแกรมจากการวิเคราะห์ปัญหา ด้วยขั้นตอนวธิ ี รหสั ลาลอง และผงั งานได้ (P)
3. เหน็ คณุ คา่ ของการเขยี นโปรแกรมและนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั (A)
สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รยี น
1. ซื่อสตั ย์สจุ ริต
2. มีวินยั
3. ใฝ่เรียนรู้
4. มงุ่ มั่นในการทางาน

53

สาระสาคญั
การเขียนโปรแกรม (programming) เป็นกระบวนการใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เพ่ือกาหนด

โครงสร้างของข้อมูล และกาหนดขั้นตอนวิธี เพ่ือใช้ในการแก้ปัญหาตามที่ออกแบบไว้ โดยอาศัย
หลักการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของแต่ละภาษา เช่น ภาษาซี ภาษาจาวา เป็นต้น ซ่ึงผู้เขียน
โปรแกรมจะต้องเลือกภาษาคอมพิวเตอร์ท่ีจะนามาใช้ช่วยงาน โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น
ลกั ษณะของปญั หา ความถนัดของผ้เู ขยี นโปรแกรม เปน็ ต้น
สาระการเรยี นรู้

การเขียนโปรแกรมเบ้ืองตน้
สื่อและอปุ กรณ์

1. PowerPoint เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมเบ้อื งตน้
2. ใบงาน เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมเบอ้ื งต้น
ขน้ั การสอนโดยใชก้ ารสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es
ช่วั โมงท่ี 1
ขน้ั นา
กระตุ้นความสนใจ เวลา 10 นาที

1. ครถู ามคาถามเพื่อกระต้นุ การเรียนรแู้ ละความสนใจของนกั เรียนว่า
- การเขียนโปรแกรมสามารถนามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันของนักเรียนได้

อยา่ งไร
- นกั เรียนคดิ วา่ การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์นน้ั มีความสาคัญ และมีความจาเป็น

สาหรับการพฒั นางานอยา่ งไร
2. ครูให้นักเรียนรว่ มกันยกตัวอย่างโปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ ี่นักเรยี นรู้จัก โดยนักเรยี น

สามารถแสดงความคดิ เห็นไดอ้ ย่างอิสระ
3. ครแู จง้ ให้นักเรียนทราบวา่ จะไดศ้ กึ ษาเก่ียวกบั การเขยี นโปรแกรมเบอ้ื งต้น

ขั้นสอน
สารวจคน้ หา เวลา 20 นาที
4. ครูเกร่ินนาให้นักเรียนเข้าใจในเนื้อหาเบื้องต้นเก่ียวกับการเขียนโปรแกรม

คอมพิวเตอรว์ ่า หลังจากท่ีนักเรียนได้ศึกษาเรอ่ื งการออกแบบและการเขียนอัลกอลิทึมแล้ว ขั้นต่อไป
คอื การเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษาคอมพวิ เตอร์ ซ่งึ ในการสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นกั เรยี นสามารถ
เลือกใช้ได้หลายภาษา เช่น ภาษาซี ภาษาจาวา เป็นต้น ซ่ึงการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ีดีน้ัน

54

จะต้องทาตามข้ันตอนต้ังแต่เร่มิ การกาหนดหรอื การวิเคราะห์ปัญหา (Analysis the problem) ก่อน
เป็นอันดับแรก แล้วค่อยไปออกแบบโปรแกรม (Design a problem) จึงจะเริ่มเขียนโปรแกรม
(Coding) จากน้ันไปถึงขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องของโปรแกรมด้วยการทดสอบโปรแกรม
(Testing) กอ่ นจะนาไปใชง้ านจรงิ

5. ครูบรรยายเนื้อหาประกอบสื่อการสอน PowerPoint เร่ือง การเขียนโปรแกรม
เบอื้ งต้น ซึง่ มีเนื้อหาดังต่อไปนี้

5.1 ความหมายของการเขยี นโปรแกรม
5.2 ความสาคญั ของการเขียนโปรแกรม
5.3 ประโยชนข์ องการเขียนโปรแกรม
5.4 การเขียนจากการวิเคราะห์ปัญหา ดว้ ยข้ันตอนวิธี รหสั ลาลอง และผังงาน
6. ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเพ่ิมเติมโดยใช้เทคโนโลยีที่อยู่รอบตัวให้เกิดประโยชน์และ
สรุปเปน็ ผังมโนทัศนล์ งสมุด
อธิบายความรู้ เวลา 10 นาที
7. ครูอธิบายในส่วนของการเขียนโปรแกรมเบื้องว่านักเรียนต้องเตรียมความพร้อมใน
ด้านใดบา้ ง มีวธิ ีการเขียนโปรแกรมอยา่ งไรให้คลอ่ งแคลว่ และต้องศึกษาข้อมูลในด้านใดบ้าง
ขน้ั สรปุ
ขยายความเข้าใจ เวลา 20 นาที
8. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในประเด็นท่ีสงสัย ว่ามีส่วนไหนท่ียังไม่เข้าใจและให้
ความรู้เพ่ิมเตมิ ในสว่ นนน้ั จากนนั้ ครอู าจยกตัวอยา่ งเพม่ิ เติม
ชว่ั โมงที่ 2
ขั้นนา
กระตุ้นความสนใจ เวลา 10 นาที
1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนเน้ือหา เรื่อง การออกแบบอัลกอริทึม เพ่ือเชื่อมโยง
ไปสู่การเขยี นโปรแกรมเบอื้ งต้น จากการวเิ คราะห์ปัญหา ดว้ ยขน้ั ตอนวธิ ี รหัสลาลอง และผงั งาน
2. ครูแจ้งให้นกั เรยี นทราบว่าจะได้ศกึ ษาเก่ียวกับ การเขยี นโปรแกรมเบื้องต้น
สารวจคน้ หา เวลา 20 นาที
3. ครูแจกใบงาน เร่ือง การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น ให้กับนักเรียนและนักเรียนลงมือ
ปฏบิ ัตทิ าใบงานพรอ้ มกับหาขอ้ มลู ในการทางานจากอนิ เทอรเ์ นต็

55

4. ครูแนะนาโปรแกรมในการเขียนโปรแกรมเบ้ืองต้นให้กับนักเรียนเพ่ือเป็นแนวทางใน
การทาใบงานท่ีถกู ตอ้ ง

ข้ันสอน
อธิบายความรู้ เวลา 10 นาที
5. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยใบงาน เร่ือง การเขยี นโปรแกรมเบือ้ งตน้
6. ครอู ธบิ ายในสว่ นของการเฉลยใบงาน เรื่อง การเขยี นโปรแกรมเบอ้ื งตน้ วา่ เหตผุ ลของ

คาตอบในแตล่ ะข้อมีที่มาอย่างไร
ขยายความเข้าใจ เวลา 10 นาที
7. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามในประเด็นที่สงสัย ว่ามีส่วนไหนท่ียังไม่เข้าใจและให้

ความรู้เพม่ิ เติมในสว่ นน้นั จากนน้ั ครอู าจยกตัวอย่างเพมิ่ เติม
ขน้ั สรุป
ตรวจสอบผล เวลา 10 นาที
8. ครปู ระเมินผลงานของเรยี นจากการทาใบงาน เร่ือง การเขยี นโปรแกรมเบ้อื งต้น
9. ครูประเมินนักเรียนจากการทาแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่องการ

ออกแบบและการเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย

การวัดผลและประเมินผล เครือ่ งมอื วดั ผล วิธีการวดั ผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ แบบทดสอบท้ายหน่วย การทดสอบ
1. อธิบายความหมาย ความสาคญั
และประโยชนข์ องการเขยี นโปรแกรม การเรียนรู้ เร่ือง การ
ได้ (K)
2. เขยี นโปรแกรมจากการวิเคราะห์ อ อ ก แ บ บ แ ล ะ ก า ร เ ขี ย น
ปัญหา ด้วยขน้ั ตอนวิธี รหสั ลาลอง
และผงั งานได้ (P) โปรแกรมอยา่ งงา่ ย
3. เหน็ คณุ ค่าของการเขียนโปรแกรม
และนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั (A) เครอ่ื งมือวัดผล วธิ ีการวัดผล

สมรรถนะทีส่ าคญั ของผเู้ รียน แบบประเมินสมรรถนะ การประเมินสมรรถนะ
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแก้ปัญหา สาคัญของผูเ้ รยี น สาคัญของผ้เู รยี น
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

56

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผูเ้ รียน เคร่ืองมือวดั ผล วธิ กี ารวัดผล

1. ซือ่ สตั ยส์ จุ ริต แบบประเมินคุณลักษณะ การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอัน

2. มวี ินัย อนั พึงประสงค์ พึงประสงค์

3. ใฝ่เรียนรู้

4. ม่งุ ม่ันในการทางาน

เกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล

1. ผา่ นเกณฑ์การทาแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ รอ้ ยละ 70 ขน้ึ ไป

2. ผา่ นเกณฑ์ประเมินจากแบบประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป

3. ผ่านเกณฑป์ ระเมินจากแบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ รอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป

กิจกรรมเสนอแนะ

เนอ่ื งด้วยการเขยี นโปรแกรมเบอ้ื งตน้ เปน็ เร่ืองทีใ่ หมส่ าหรับนักเรียน ครคู วรอธิบายในการ

เรียนการสอนถึงขัน้ ตอนการเขยี นโปรแกรมอยา่ งชดั เจน

57

บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

1. ผลการจดั กิจกรรม
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

2. ปญั หา/อปุ สรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่อื ........................................................ ผู้สอน
( นางสาวสกุ ัญญา จกั รโนวัน )
ตาแหนง่ ครชู านาญการพเิ ศษ

58

ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้

 มอี งค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถูกตอ้ งตามหลกั การ
 มกี จิ กรรมการเรยี นร้เู น้นผู้เรียนเปน็ สาคญั ใช้สือ่ และแหล่งเรียนรทู้ ่ีหลากหลาย เหมาะสม
 มกี ารวดั และประเมินผลสอดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละกระบวนการจดั การเรียนรโู้ ดยใช้วิธกี ารทีห่ ลากหลาย
 แผนการจดั การเรียนรูน้ าไปส่กู ารปฏิบัติได้ สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตร บริบท สภาพของผ้เู รียนและชมุ ชน

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชื่อ ..............................................
(นายจรัญ เฉดิ ฉาย)

หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
วนั ท่ี ......... เดอื น .................... พ.ศ...............

ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้างานวดั ผลและประเมนิ ผลการศกึ ษา

 มอี งค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถูกตอ้ งตามหลกั วชิ าการ
 มกี ิจกรรมการเรียนรเู้ น้นผู้เรยี นเปน็ สาคญั
 มกี ารใชส้ ่อื และแหลง่ เรียนรู้หลากหลาย เหมาะสม
 มกี ารวดั และประเมินผลครอบคลุมพฤตกิ รรมพุทธพิ ิสัย จติ พิสัย ทักษะพสิ ัย

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชื่อ .................................................
(นางสาวจนั ทิรา แวงวงษ์)

หวั หน้างานวดั ผลและประเมนิ ผลการศึกษา
วนั ท่ี ......... เดอื น .................. .. พ.ศ...............

59

ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศกึ ษา

 ใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
 ขอใหน้ ิเทศ ตดิ ตามผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ เพื่อนาไปพฒั นางานต่อไป

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .................................................
(นายพฤทธพิ์ ล ชารี)

รองผู้อานวยการกล่มุ บรหิ ารวิชาการ
วนั ท่ี ......... เดือน .................... พ.ศ...............

60

ชื่อ – นามสกลุ .........................................................................เลขที่..............ช้ัน............

ใบงาน 1.5 เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมเบ้อื งตน้
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนี้ (10 คะแนน)
1. การเขยี นโปรแกรมคืออะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การเขยี นโปรแกรมมีความสาคญั และมีประโยชน์ อะไรบา้ ง
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การเขียนโปรแกรมจะต้องใช้หลักการใดบา้ งในการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
4. เขียนคาส่ังการรับค่า คาสงั่ ประมวลผล และคาส่งั การแสดงผล ดว้ ยภาษา C

4.1 จงคานวณหาพื้นท่แี รเงา
สตู รพนื้ ที่ ด้านขนาน = ฐาน x สูง

คาสั่งการรบั คา่
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………

คาส่ังประมวลผล
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………

คาสั่งการแสดงผล
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………

61

5. ภาษาคอมพิวเตอร์คืออะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
6. ตวั แปรภาษาคืออะไร มกี ปี่ ระเภท มปี ระโยชนอ์ ย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
7. ภาษาคอมพวิ เตอร์มกี ีร่ ะดบั
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………

62

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผเู้ รียน

ชนั้ มัธยมศึกษาปีที.่ .............. โรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร

คาชแ้ี จง ให้พิจารณาพฤติกรรมคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ่อไปนี้ แล้วให้ระดบั คะแนนท่ีตรงกับการ

ปฏบิ ตั ิของนักเรียนตามความเป็นจรงิ

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

เลขที่ ชื่อ-นามสกลุ ซ่ือสัตย์ ผลการ
สุจ ิรต ประเมนิ
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเ ีรยน ู้ร
ุ่มง ่ัมนใน
การทางาน

ลงช่ือ..................................................... ผูป้ ระเมนิ
( นางสาวสกุ ัญญา จกั รโนวนั )
ตาแหน่ง ครูชานาญการพเิ ศษ

63

ตัวชี้วดั

1. ซื่อสัตย์สจุ รติ

1.1 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ

1.2 ประพฤติตรงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ผ้อู นื่ ท้ังทางกาย วาจา ใจ

2. มีวินัย

2.1 ประพฤตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบงั คับของครอบครบั โรงเรียน และสังคม

3. ใฝเ่ รียนรู้

3.1 ต้ังใจเพยี รพยายามในการเรยี น แลว้ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้

3.2 แสวงหาความรูจ้ ากแหล่งเรียนร้ตู า่ ง ๆ ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการเลือกใช้

ส่ืออยา่ งเหมาะสม สรุปเป็นองคค์ วามร้แู ละสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้

4. มุ่งมั่นในการทางาน

4.1 ต้งั ใจและรับผิดชอบในหนา้ ท่กี ารงาน

4.2 ทางานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ให้สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

เกณฑ์การให้คะแนน

- พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติชดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 10 - 12 ระดับคุณภาพ ดี

คะแนน 7 – 9 ระดบั คุณภาพ ปานกลาง

คะแนน 4 – 6 ระดับคุณภาพ พอใช้

คะแนน 0 - 3 ระดบั คุณภาพ ควรปรับปรงุ

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ความสามารถในการคิด

2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

64

แบบประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น

ช่ือ-นามสกุล .......................................................................................... เลขที.่ ...........ชน้ั .............

คาช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน และขีด  ลงในช่องทีต่ รงกบั คะแนน

สมรรถนะท่ี ระดบั คุณภาพ ผลการ
สาคัญ
รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง ประเมิน
1. ความสามารถ (3) (2) (1) (0)
ในการคิด 1.1 มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์
สังเคราะห์
2. ความสามารถ 1.2 มีทกั ษะในการคดิ นอกกรอบ
ในการแกป้ ญั หา 1.3 สามารถคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ
1.4 มคี วามสามารถในการสรา้ งองค์ความรู้
3. ความสามารถ 1.5 ตัดสนิ ใจแกป้ ญั หาเก่ียวกับตนเองได้
ในการใช้ อย่างเหมาะสม
เทคโนโลยี
สรุปผลการประเมนิ
2.1 สามารถแก้ปัญหาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ
ที่เผชิญได้
2.2 ใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หา
2.3 เข้าใจความสัมพนั ธ์และการ
เปล่ียนแปลงในสังคม
2.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรู้มาใช้
ในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา
2.5 สามารตดิ สินใจได้เหมาะสมตามวัย

สรปุ ผลการประเมิน
3.1 เลือกและใช้เทคโนโลยีไดเ้ หมาะสม
ตามวยั
3.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
3.3 สามารถนาเทคโนโลยไี ปใช้พัฒนา
ตนเอง
3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาอยา่ ง
สรา้ งสรรค์
3.5 มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใช้
เทคโนโลยี

สรุปผลการประเมิน

65

เกณฑ์การให้คะแนนระดับคณุ ภาพ

- พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ดมี าก

- พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ดี

- พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน พอใช้

- ไม่เคยปฏิบตั พิ ฤตกิ รรม ให้ 0 คะแนน ปรับปรุง

เกณฑ์การสรุปผล

ดีมาก - 13 – 15 คะแนน

ดี - 9 – 12 คะแนน

พอใช้ - 1 – 8 คะแนน

ต้องปรบั ปรุง - 0 คะแนน

66

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรือ่ งการออกแบบและการเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย เวลาเรยี น 8 ชัว่ โมง

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรือ่ ง โปรแกรม Scratch พาเพลิน เวลาเรียน 2 ชั่วโมง

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564

ผู้สอน นางสาวสกุ ญั ญา จักรโนวนั วันที่................เดือน.......................พ.ศ..............................

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวติ จรงิ อยา่ งเปน็

ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการ
แกป้ ัญหาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม
ตวั ชวี ัด

ว 4.2 ม.1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพ่ือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือ
วทิ ยาศาสตร์
จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายวธิ กี ารติดต้งั โปรแกรม Scratch ได้ (K)

2. ปฏิบัตกิ ารสร้างภาพเคล่ือนจากโปรแกรม Scratch ได้ (P)
3. เหน็ คณุ คา่ ของการเขียนโปรแกรมและนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั (A)
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รียน
1. ซ่ือสัตยส์ จุ ริต
2. มวี ินยั
3. ใฝเ่ รยี นรู้
4. ม่งุ มนั่ ในการทางาน

67

สาระสาคญั
Scratch เปน็ ภาษาคอมพวิ เตอร์สาหรับสร้างผลงานต่างๆ เช่น การทาแอนิเมชนั การจาลอง

ทางวิทยาศาสตร์ เกม ดนตรี ศิลปะ การสร้างส่ือแบบมีปฏิสัมพันธ์ โดยมีวิธีการโปรแกรมที่ไม่ต้องมี
การพิมพ์คาสั่งท่ียุ่งยากซับซ้อน เหมาะกับการสอนหลักการโปรแกรมท่ีส่งเสริมความคิดริเร่ิม
สร้างสรรค์ การคดิ อย่างมีระบบ
สาระการเรยี นรู้

การเขียนโปรแกรมเบ้ืองต้น
สือ่ และอปุ กรณ์

โปรแกรม Scratch
ใบงาน เรอื่ ง โปรแกรม Scratch
แบบทดสอบท้ายหน่วยการเรยี นรู้ เรอื่ ง การออกแบบและการเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย
ขัน้ การสอนโดยใช้รปู แบบการเรยี นการสอนตามแนวคดิ การพฒั นาทักษะปฏิบตั ขิ องซมิ พซ์ นั
ชวั่ โมงท่ี 1
ขนั้ นา
ขน้ั ที่ 1 ข้ันการรับรู้ เวลา 5 นาที

1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความร้เู ดิม เรื่องการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น จากน้ัน
เช่ือมโยงถึงการเขียนโปรแกรม ซึ่งมีโปรแกรมภาษาท่ีใช้ในการเขยี นโปรแกรมให้เลือกใช้ในการเขียน
โปรแกรมมากมาย เช่น python, java, c#, scratch

ขัน้ ท่ี 2 ขัน้ การเตรยี มความพร้อม เวลา 20 นาที
2. ครูยกตัวอย่างโปรแกรม Scratch ที่ใช้แบบออนไลน์ในเว็บไซต์ scratch.mit.edu

และโปรแกรม Scratch แบบออฟไลน์ แล้วอธิบายการใช้งานภายรวมในประเด็นต่าง ๆ ดงั น้ี
2.1 โปรแกรม Scratch พฒั นาโดยผใู้ ด
2.2 ใช้สรา้ งชิ้นงานใดไดบ้ ้าง
2.3 การใช้งานแบบออนไลน์และแบบออฟไลนข์ องโปรแกรม Scratch ตา่ งกันอย่างไร

3. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Scratch แล้วทดลองคลิกเมนูและส่วนประกอบต่าง ๆ
เพอ่ื ใหค้ ุน้ เคยกับเมนแู ละร้จู ักวิธีการใช้งานมากย่ิงข้ึน

4. ครูสุ่มถามนักเรียนถึงส่วนประกอบของหน้าต่างโปรแกรม Scratch และการใช้งาน
เบ้ืองต้น

68

ข้นั สอน
ขัน้ ที่ 3 ขน้ั การตอบสนองภายใต้การควบคุม เวลา 30 นาที
5. ครูสาธิตวิธีการติดต้ังโปรแกรม Scratch แบบออฟไลน์ โดยให้นักเรียนศึกษาวิธีการ

ตดิ ตั้งจากการสาธิตของครู
6. ครูให้นักเรียนลงมือติดต้ังโปรแกรม Scratch ด้วยตนเอง โดยมีครูเป็นผู้คอยช้ีแนะ

หากนักเรียนมีปัญหาในการตดิ ต้งั โปรแกรม Scratch
ขั้นสรุป เวลา 5 นาที
7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ในการติดต้ังโปรแกรม Scratch ถึงปัญหาในการ

ตดิ ตงั้ และวธิ กี ารแก้ปญั หาอยา่ งถกู ตอ้ ง
ช่ัวโมงท่ี 2
ข้ันนา เวลา 5 นาที
1. ครูและนักเรียนทบทวนความรู้ เร่ืองการติดต้ังโปรแกรม Scratch และส่วนประกอบ

หนา้ ต่างของโปรแกรม Scratch
2. ครูต้งั คาถามกระตนุ้ การเรียน “นกั เรียนเคยใชง้ านโปรแกรมสร้างภาพเคลอื่ นไหวบ้าง

หรือไม่” นกั เรียนตอบคาถามตามความคดิ ของตนเอง
ข้นั สอน
ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั การตอบสนองภายใต้การควบคุม เวลา 15 นาที
3. ครูสาธิตวิธีการใช้งานโปรแกรม Scratch การสร้างภาพเคลื่อนไหว โดยใช้ตัวการ์ตูน

(ตามความสนใจของนกั เรยี น) เปน็ ตัวละครหลักในการสรา้ ง
ขน้ั ที่ 4 ขั้นการให้ลงมือกระทา เวลา 15 นาที
4. นกั เรยี นลงมีปฏิบตั ิตามวิธกี ารที่ครูสอน โดยมีครูเปน็ ผ้คู อยชแี้ นะหากนักเรียนมปี ญั หา

ในการปฏบิ ตั ิงาน
ขน้ั ที่ 5 ขนั้ การกระทาอย่างสมบูรณ์ เวลา 10 นาที
5. ครูแจก ใบงาน เรื่อง โปรแกรม Scratch ให้กับนักเรียนเพอ่ื เป็นแบบฝึกให้นกั เรียนมี

ความชานาญในการสร้างภาพเคล่ือนไหวมากยง่ิ ข้ึน
ข้ันท่ี 6 ขนั้ การปรับปรุง/ประยกุ ต์ เวลา 5 นาที
7. ครคู อยเดนิ ตรวจผลงานของนักเรยี นเพอื่ ติชมใหน้ ักเรียนปรับปรงุ ผลงานของตนเองให้

ดีและสมบรู ณ์แบบ

69

ขัน้ ที่ 7 ขน้ั การคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ เวลา 10 นาที
8. ครใู ห้นกั เรยี นออกแบบการสรา้ งภาพเคลื่อนไหว ด้วยตนเอง

ขั้นสรปุ
9. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ ถึงประโยชนข์ องโปรแกรม Scratch ที่สามารถนามาปรบั

ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ไดห้ รอื ไม่
10. นักเรียนลงมือทา แบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง การออกแบบและการ

เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย

การวัดผลและประเมินผล เคร่อื งมอื วัดผล วิธกี ารวดั ผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ แบบทดสอบท้ายหน่วยการ การทดสอบ
1. อธิบายวธิ กี ารติดตั้งโปรแกรม
Scratch ได้ (K) เรียนรู้ เรื่อง การออกแบบ
2. ปฏบิ ัตกิ ารสรา้ งภาพเคลอ่ื นจาก
โปรแกรม Scratch ได้ (P) และการเขียนโปรแกรมอย่าง
3. เห็นคุณคา่ ของการเขยี น
โปรแกรมและนาไปใชใ้ น ง่าย
ชีวติ ประจาวัน (A)
เคร่อื งมือวดั ผล วธิ กี ารวดั ผล
สมรรถนะที่สาคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคิด แบบประเมินสมรรถนะสาคัญ การประเมนิ สมรรถนะ
2. ความสามารถในการแก้ปญั หา
3. ความสามารถในการใช้ ของผูเ้ รยี น สาคัญของผ้เู รียน
เทคโนโลยี
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ อง เครอ่ื งมือวัดผล วิธกี ารวัดผล

ผ้เู รียน แบบประเมินคุณลักษณะอัน การประเมินคณุ ลกั ษณะอัน
1. ซอื่ สตั ย์สจุ ริต
2. มวี นิ ัย พึงประสงค์ พงึ ประสงค์
3. ใฝ่เรียนรู้
4. มงุ่ มั่นในการทางาน

70

เกณฑ์การวัดผลและประเมินผล ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
ร้อยละ 70 ขึน้ ไป
1. ผา่ นเกณฑ์การทาแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
2. ผ่านเกณฑป์ ระเมินจากแบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
3. ผ่านเกณฑ์ประเมินจากแบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

กจิ กรรมเสนอแนะ
การเรียนเร่ือง โปรแกรม Scratch พาเพลิน เป็นเร่ืองท่ีใช้ทักษะปฏิบัติและความคิด

สร้างสรรค์เป็นอย่างมาก ครูควรให้คาแนะนานักเรียนอยู่เสมอ และคอยตรวจสอบผลงานเพื่อให้คา
ชแ้ี นะเพ่ือปรับปรุงผลงานใหด้ ีย่ิงข้ึน

71

บันทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้

1. ผลการจดั กจิ กรรม
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

2. ปญั หา/อปุ สรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่ือ ........................................................ ผู้สอน
( นางสาวสกุ ญั ญา จักรโนวัน )
ตาแหน่งครชู านาญการพเิ ศษ

72

ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้

 มอี งค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถูกตอ้ งตามหลกั การ
 มกี จิ กรรมการเรยี นร้เู น้นผู้เรียนเปน็ สาคญั ใช้สือ่ และแหล่งเรียนรทู้ ่ีหลากหลาย เหมาะสม
 มกี ารวดั และประเมินผลสอดคล้องกบั จุดประสงคแ์ ละกระบวนการจัดการเรยี นรโู้ ดยใชว้ ธิ กี ารท่หี ลากหลาย
 แผนการจดั การเรียนรูน้ าไปส่กู ารปฏบิ ัติได้ สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตร บรบิ ท สภาพของผู้เรียนและชมุ ชน

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชื่อ ..............................................
(นายจรญั เฉดิ ฉาย)

หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
วนั ท่ี ......... เดือน .................... พ.ศ...............

ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้างานวัดผลและประเมนิ ผลการศึกษา

 มีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถูกตอ้ งตามหลกั วชิ าการ
 มกี ิจกรรมการเรียนรูเ้ น้นผู้เรียนเปน็ สาคญั
 มกี ารใชส้ ่อื และแหลง่ เรียนรู้หลากหลาย เหมาะสม
 มกี ารวดั และประเมินผลครอบคลุมพฤตกิ รรมพุทธพิ ิสัย จติ พิสัย ทกั ษะพิสัย

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชื่อ .................................................
(นางสาวจนั ทิรา แวงวงษ์)

หวั หน้างานวัดผลและประเมินผลการศึกษา
วนั ท่ี ......... เดือน .................. .. พ.ศ...............

73

ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา

 ใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
 ขอใหน้ ิเทศ ตดิ ตามผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ เพื่อนาไปพฒั นางานตอ่ ไป

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .................................................
(นายพฤทธพ์ิ ล ชาร)ี

รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
วนั ท่ี ......... เดอื น .................... พ.ศ...............

74

ใบงาน เรื่อง โปรแกรม Scratch

คาช้แี จง ให้นักเรียนปฏิบัติตามคาส่งั ตอ่ ไปน้ี
1. ใหน้ ักเรยี นสร้างตวั การต์ ูน (เลือกตัว

การ์ตนู ตามใจชอบ)
2. ตัวการต์ นู สามารถเคลอ่ื นไหวได้ โดยใช้

ลูกศรกาหนดทศิ ทางในการเคลอ่ื นไหว
3. ตัวการ์ตนู เคลือ่ นไหวได้ 4 ทิศทาง คือ

ซ้าย ขวา บน ล่าง

75

แบบทดสอบท้ายหนว่ ยการเรียนรู้
เรอื่ ง การออกแบบและการเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย

คาช้ีแจง แบบทดสอบแบบปรนัย จานวน 10 ขอ้ ใหน้ ักเรียนเลอื กตอบคาถามให้ถูกต้อง
1. การเขยี นอลั กอริทมึ มกี ่ีรูปแบบ อะไรบ้าง (1 คะแนน)
2. รหสั ลาลองมีช่ือภาษาอังกฤษวา่ อย่างไร (1 คะแนน)
3. ให้นักเรียนยกตัวอยา่ งหลกั เกณฑก์ ารเขียนอลั กอรทิ ึมด้วยรหสั ลาลอง อยา่ งน้อย 3 ข้อ (1 คะแนน)
4. ใหน้ ักเรียนออกแบบการเขียนอลั กอริทมึ ดว้ ยรหสั ลาลอง เรื่อง “การหาพ้นื ที่รูปสามเหล่ยี ม”

(2 คะแนน)
5. การเขยี นอลั กอริทึมด้วยผงั งานมกี ี่รปู แบบ อะไรบ้าง จงอธิบายขอสังเขป (2 คะแนน)
6. ให้นกั เรยี นเขียนสญั ลักษณข์ องผงั งานพร้อมความหมาย อยา่ งน้อง 5 สญั ลกั ษณ์ (2 คะแนน)
7. ให้นักเรยี นออกแบบการเขียนอลั กอรทิ ึมดว้ ยผังงาน เรื่อง “การบวกเลขเพม่ิ ข้นึ ครง้ั ละ 1 จนถึง

10 แลว้ แสดงผลออกทางหนา้ จอ” (2 คะแนน)
8. การเขยี นโปรแกรมคอื อะไร (1 คะแนน)
9. ผเู้ ขยี นโปรแกรมจะตอ้ งใชห้ ลกั การใดบ้างในการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (1 คะแนน)
10. โปรแกรม Scratch คืออะไร (1 คะแนน)

76

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้เรียน

ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่............... โรงเรียนหนองบวั พิทยาคาร

คาชี้แจง ให้พจิ ารณาพฤตกิ รรมคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ อ่ ไปน้ี แลว้ ให้ระดบั คะแนนท่ตี รงกับการ

ปฏบิ ัติของนกั เรยี นตามความเปน็ จริง

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

เลขท่ี ชอ่ื -นามสกลุ ซ่ือสัตย์ ผลการ
สุจ ิรต ประเมิน
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเ ีรยน ู้ร
ุ่มง ่ัมนใน
การทางาน

ลงช่ือ..................................................... ผปู้ ระเมิน
( นางสาวสุกัญญา จกั รโนวนั )
ตาแหน่ง ครชู านาญการพเิ ศษ

77

ตัวชีว้ ัด

1. ซื่อสตั ยส์ ุจรติ
1.1 ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
1.2 ประพฤติตรงตามความเปน็ จริงต่อผู้อ่ืนท้ังทางกาย วาจา ใจ

2. มีวินัย
2.1 ประพฤติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบงั คับของครอบครบั โรงเรียน และสังคม

3. ใฝ่เรยี นรู้
3.1 ต้ังใจเพยี รพยายามในการเรียน แลว้ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้
3.2 แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการเลือกใช้

สอื่ อย่างเหมาะสม สรุปเป็นองค์ความรู้และสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้
4. มุ่งม่ันในการทางาน

4.1 ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในหนา้ ทกี่ ารงาน
4.2 ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ให้สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 10 - 12 ระดบั คุณภาพ ดี

คะแนน 7 – 9 ระดบั คุณภาพ ปานกลาง

คะแนน 4 – 6 ระดับคุณภาพ พอใช้

คะแนน 0 - 3 ระดับคุณภาพ ควรปรับปรงุ

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

78

แบบประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น

ช่ือ-นามสกุล .......................................................................................... เลขที.่ ...........ชน้ั .............

คาช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น และขีด  ลงในช่องทีต่ รงกบั คะแนน

สมรรถนะท่ี ระดบั คุณภาพ ผลการ
สาคัญ
รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง ประเมิน
1. ความสามารถ (3) (2) (1) (0)
ในการคิด 1.1 มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์
สังเคราะห์
2. ความสามารถ 1.2 มีทกั ษะในการคดิ นอกกรอบ
ในการแกป้ ญั หา 1.3 สามารถคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
1.4 มคี วามสามารถในการสร้างองค์ความรู้
3. ความสามารถ 1.5 ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาเกย่ี วกับตนเองได้
ในการใช้ อย่างเหมาะสม
เทคโนโลยี
สรุปผลการประเมิน
2.1 สามารถแก้ปัญหาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ
ที่เผชิญได้
2.2 ใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หา
2.3 เข้าใจความสัมพนั ธ์และการ
เปล่ียนแปลงในสังคม
2.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้
ในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา
2.5 สามารติดสินใจได้เหมาะสมตามวัย

สรปุ ผลการประเมิน
3.1 เลือกและใช้เทคโนโลยีไดเ้ หมาะสม
ตามวยั
3.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
3.3 สามารถนาเทคโนโลยไี ปใชพ้ ฒั นา
ตนเอง
3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอยา่ ง
สรา้ งสรรค์
3.5 มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใช้
เทคโนโลยี

สรุปผลการประเมิน

79

เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพ

- พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ดมี าก

- พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ดี

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน พอใช้

- ไม่เคยปฏิบตั ิพฤตกิ รรม ให้ 0 คะแนน ปรับปรุง

เกณฑ์การสรุปผล

ดีมาก - 13 – 15 คะแนน

ดี - 9 – 12 คะแนน

พอใช้ - 1 – 8 คะแนน

ตอ้ งปรับปรุง - 0 คะแนน

80

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 7

กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง การจัดการข้อมลู สารสนเทศ เวลาเรยี น 4 ช่วั โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 เรื่อง การจดั การข้อมูลสารสนเทศ เวลาเรียน 2 ชัว่ โมง

ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

ผูส้ อน นางสาวสกุ ญั ญา จกั รโนวนั วันท.ี่ ...............เดือน.......................พ.ศ..............................

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจริงอยา่ งเปน็
ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการ
แกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ ร้เู ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม
ตวั ชวี ัด

ว 4.2 ม.1/3 รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ ประมวลผล ประเมินผล นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ
ตามวตั ถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธิบายขนั้ ตอนในการประมวลผลขอ้ มลู สารสนเทศ (K)
2. ปฏิบัตสิ ืบค้นขอ้ มูลการประมวลผลข้อมูลสารสนเทศได้ (P)
3. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษา (A)
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น

1. ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต
2. มวี ินัย
3. ใฝ่เรยี นรู้
4. มุ่งม่นั ในการทางาน

81

สาระสาคัญ
ใช้การรวบรวมข้อมูลและสารสนเทศจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ

แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ เพ่ือนามาประมวลผล สร้างทางเลือก และประเมินผล จะทาให้ได้
สารสนเทศเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกท้ังยังนาข้อมูล
และสารสนเทศมาประมวลผลเป็นการกระทากับข้อมูลเพ่ือให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความหมายและมี
ประโยชน์ต่อการนาไปใช้งานสามารถทาได้หลายวิธี เช่น คานวณอัตราส่วน คานวณค่าเฉลี่ย
สาระการเรียนรู้

การรวบรวมข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การสร้างทางเลือกเพ่ือตัดสินใจและซอฟต์แวร์
จัดการข้อมูล
สอื่ และอปุ กรณ์

1. PowerPoint เรือ่ ง การจดั การขอ้ มลู สารสนเทศ
2. ใบงาน เร่ือง การจดั การขอ้ มูลสารสนเทศ
3. อนิ เทอรเ์ น็ต
ขนั้ การสอนโดยใชก้ ารสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es
ช่วั โมงที่ 1
ขนั้ นา
กระตุ้นความสนใจ เวลา 10 นาที

1. ครสู นทนากบั นกั เรยี นในหัวข้อ ขอ้ มลู กบั สารสนเทศ โดยครูตัง้ คาถามเกี่ยวกบั ข้อมูล
และสารสนเทศในชีวติ ประจาวนั และใหน้ ักเรยี นช่วยกันตอบ

2. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยได้ยินคาว่าข้อมูลและสารสนเทศบ้างหรือไม่ และ
นักเรยี นคดิ ว่าสงิ่ ใดบา้ งทเี่ ปน็ ขอ้ มูล โดยใหน้ กั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งอสิ ระ

3. ครูแจ้งให้นักเรยี นทราบว่าจะได้ศกึ ษาเกย่ี วกับ การจดั การขอ้ มลู สารสนเทศ
ขน้ั สอน

สารวจค้นหา เวลา 20 นาที
4. ครูบรรยายเนื้อหาประกอบส่ือการสอน PowerPoint เร่ือง การจัดการข้อมูล

สารสนเทศ ซึง่ มีเนื้อหาดังตอ่ ไปนี้
4.1 ข้อมูลคอื อะไร
4.2 วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล
4.3 วธิ ีการเกบ็ รักษาขอ้ มูล
4.4 สารสนเทศคอื อะไร

82

5. ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมโดยใช้เทคโนโลยีที่อยู่รอบตัวให้เกิดประโยชน์และ
สรุปเป็นผังมโนทศั นล์ งสมุดของนักเรยี น

อธบิ ายความรู้ เวลา 10 นาที
6. ครูอธิบายเพ่ิมเติมในส่วนของข้อมลู และสารสนเทศ โดยการตั้งคาถามให้กับนักเรยี น

เพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการอธิบาย คาถาม คือ ข้อมูลและสารสนเทศว่ามีความแตกต่างกัน
อย่างไร

ขั้นสรปุ
ขยายความเขา้ ใจ เวลา 20 นาที
7. ครูให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 3-5 คน เพือ่ ไปเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลในหัวขอ้ ที่สนใจมา

กลุม่ ละ 1 เรอ่ื ง โดยแต่ละกลุ่มข้อมลู ห้ามซ้ากนั
8. ข้อมูลที่จะเก็บรวบรวมให้นามาเรียนในช่ัวโมงถัดไป เพ่ือทาการประมวลผลข้อมูลท่ี

ได้มาให้เป็นสารสนเทศ
9. ครูแจกใบงาน เรอื่ ง การจัดการข้อมูลสารสนเทศ แล้วนกั เรยี นลงมอื ทาใบงานภายใน

ชวั่ โมงเรยี น
ชั่วโมงที่ 2
ขั้นนา
กระตุน้ ความสนใจ เวลา 10 นาที
1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันทบทวนความรู้ เรื่อง การจัดการขอ้ มลู สารสนเทศ
2. ครสู อบถามนกั เรียนถงึ ข้อมลู ทไ่ี ดไ้ ปเก็บรวบรวมมาว่าแต่ละกลมุ่ ไปเก็บรวบรวมข้อมูล

เรอื่ งอะไรมาบ้าง
3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานาเสนอชอ่ื เร่ืองของกล่มุ ตัวเอง
4. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่าจะได้ศึกษาเก่ียวกับ การประมวลผลข้อมูลให้เป็น

สารสนเทศ
ขัน้ สอน
สารวจคน้ หา เวลา 10 นาที
5. ครูให้นักเรียนทาการสารวจข้อมูลที่ได้เก็บรวบรวมว่ามีข้อมูลครบหรือไม่ ถ้าหากไม่

ครบให้นักเรยี นเก็บรวบรวมข้อมูลเพ่มิ เติม อินเทอรเ์ น็ต ฯ
อธบิ ายความรู้ เวลา 20 นาที
6. ครูอธิบายเนื้อหาเรือ่ ง การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ โดยมขี นั้ ตอน ดังนี้

83

6.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เป็นการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ทีม่ ีจานวนมากให้ทนั เวลา
6.2 การตรวจสอบผล หลังจากทีเ่ กบ็ รวบรวมข้อมูลแลว้ จาเปน็ ต้องมกี ารตรวจสอบ
ข้อมูลเพ่ือความถูกต้องของข้อมูล ข้อมูลท่ีเก็บในระบบต้องมีความน่าเชื่อถือ และหากถ้าพบ
ขอ้ ผิดพลาดตอ้ งมีการแกไ้ ข
6.3 การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ เปน็ การกระทาของเครือ่ งคอมพิวเตอร์
กับขอ้ มลู เชน่ การรวบรวมข้อมูลเปน็ แฟ้มขอ้ มูล การคานวณ การเปรียบเทียบ การเรยี บเรียง เป็นต้น
7. ครูอธิบายความหมายของการประมวลผลข้อมูล เรื่อง การรวบรวมเป็นแฟ้มข้อมูล
การคานวณ การเปรียบเทียบ การเรยี งลาดับ การจัดกลมุ่ ขอ้ มูล และการจดั ทารายงาน
8. ครูให้นักเรียนประมวลผลข้อมูลที่ได้เก็บรวบรวมให้เป็นสารสนเทศ แล้วจัดทาเป็น
รปู เล่มรายงานเพื่อสรุปผล
ขน้ั สรุป
ขยายความเขา้ ใจ เวลา 10 นาที
9. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามเน้ือหา เรอื่ ง การจดั การข้อมูลสารสนเทศ ว่ามีส่วน
ไหนทีย่ ังไม่เขา้ ใจและครูใหค้ วามรเู้ พม่ิ เติมในส่วนนน้ั
8. ครูและนักเรียนเขียนสรุปเน้ือหา โดยการทาแผนท่ีความคิด (Mind Mapping) เรื่อง
การจัดการข้อมูลสารสนเทศ บนกระดานดาตามความเข้าใจ เพ่ือให้นักเรียนมองเห็นภาพ และเกิด
ความเขา้ ใจมากขนึ้
ตรวจสอบผล เวลา 10 นาที
10. ครปู ระเมนิ ผลงานของเรียนจากการทาใบงาน เรอ่ื ง การจัดการข้อมูลสารสนเทศ
11. ครูประเมินนักเรียนจากการทาแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง การ
จดั การขอ้ มูลสารสนเทศ

84

การวดั ผลและประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เครื่องมือวัดผล วิธีการวัดผล

1. อธิบายขัน้ ตอนในการ 1. แบบทดสอบทา้ ยหนว่ ย 1. การทดสอบ

ประมวลผลขอ้ มลู สารสนเทศ (K) การเรียนรู้ เรอื่ ง การจดั การ 2. การสงั เกตพฤติกรรมการ

2. ปฏบิ ตั ิสืบคน้ ข้อมูลการ ขอ้ มูลสารสนเทศ ทางานกล่มุ

ประมวลผลข้อมูลสารสนเทศได้ (P) 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ

3. สนใจใฝร่ ใู้ นการศึกษา (A) ทางานกลมุ่

สมรรถนะทส่ี าคัญของผู้เรยี น เคร่อื งมือวดั ผล วิธีการวดั ผล

1. ความสามารถในการส่อื สาร แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญ การประเมินสมรรถนะ

2. ความสามารถในคดิ ของผเู้ รียน สาคัญของผู้เรยี น

3. ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของ เครื่องมือวดั ผล วธิ ีการวดั ผล
ผู้เรยี น

1. ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ แบบประเมินคุณลักษณะอัน การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั

2. มวี ินยั พึงประสงค์ พึงประสงค์

3. ใฝ่เรยี นรู้

4. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

เกณฑก์ ารวัดผลและประเมินผล

1. ผา่ นเกณฑก์ ารทาแบบทดสอบทา้ ยหนว่ ยการเรียนรู้ ร้อยละ 70 ขึ้นไป

2. ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ จากแบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ร้อยละ 70 ขึน้ ไป

3. ผ่านเกณฑ์ประเมินจากแบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ รอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป

ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ จากแบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป

กจิ กรรมเสนอแนะ

การเรียนการสอนเร่ืองการจัดการสารสนเทศ จะเน้นไปทางการเก็บรวบรวมข้อมูลและการ

ประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ครูผู้สอนต้องอธิบายข้ันตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล การ

ประมวลผลขอ้ มูลให้เป็นสารสนเทศอย่างละเอียดและชัดเจน และควรเปิดโอกาสใหน้ กั เรียนเลือกเรื่อง

ทส่ี นใจดว้ ยตวั เอง

85

บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้
1. ผลการจัดกจิ กรรม

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

2. ปญั หา/อปุ สรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ........................................................ ผู้สอน
( นางสาวสกุ ญั ญา จักรโนวัน )
ตาแหน่งครูชานาญการพิเศษ

86

ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้

 มอี งค์ประกอบของแผนครบถว้ น สมบรู ณ์ และถกู ต้องตามหลักการ
 มกี จิ กรรมการเรยี นรเู้ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ใชส้ อื่ และแหลง่ เรยี นร้ทู ีห่ ลากหลาย เหมาะสม
 มกี ารวดั และประเมินผลสอดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละกระบวนการจัดการเรยี นร้โู ดยใช้วธิ ีการทห่ี ลากหลาย
 แผนการจดั การเรียนรู้นาไปสกู่ ารปฏบิ ตั ไิ ด้ สอดคลอ้ งกบั หลักสตู ร บรบิ ท สภาพของผู้เรยี นและชมุ ชน

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชื่อ ..............................................
(นายจรญั เฉิดฉาย)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
วันท่ี ......... เดือน .................... พ.ศ...............

ขอ้ เสนอแนะของหวั หนา้ งานวัดผลและประเมนิ ผลการศกึ ษา

 มีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบูรณ์ และถูกต้องตามหลักวชิ าการ
 มกี ิจกรรมการเรยี นรู้เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั
 มกี ารใชส้ ่อื และแหล่งเรยี นร้หู ลากหลาย เหมาะสม
 มกี ารวดั และประเมนิ ผลครอบคลุมพฤตกิ รรมพทุ ธิพิสัย จิตพสิ ยั ทกั ษะพิสยั

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่ือ .................................................
(นางสาวจนั ทริ า แวงวงษ์)

หัวหนา้ งานวัดผลและประเมินผลการศึกษา
วนั ที่ ......... เดือน .................. .. พ.ศ...............

87

ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา

 ใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
 ขอใหน้ ิเทศ ตดิ ตามผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ เพื่อนาไปพฒั นางานต่อไป

................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .................................................
(นายพฤทธพ์ิ ล ชารี)

รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ
วนั ท่ี ......... เดือน .................... พ.ศ...............

88

ชือ่ – นามสกุล .........................................................................เลขที.่ .............ช้ัน............

ใบงาน เร่ือง การจัดการข้อมูลสารสนเทศ
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนี้ (10 คะแนน)

1. ข้อมูล คอื อะไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. ข้อมลู ปฐมภูมิและขอ้ มูลทุตยิ ภมู ิตา่ งกนั อย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. สารสนเทศ คอื อะไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. ขอ้ มูลและสารสนเทศตา่ งกนั อย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
5. จงบอกกิจกรรมในชวี ติ ประจาวันของนักเรียนทใ่ี ชก้ ารประมวลผลข้อมลู มา 2 กิจกรรม

กิจกรรมท่ี 1 ……………………………………………………………………………………………………….
กจิ กรรมท่ี 2 ……………………………………………………………………………………………………….
6. จากสถานการณ์ทก่ี าหนดให้ ใหบ้ อกวธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูลทีเ่ หมาะสม พรอ้ มเหตผุ ล

รุ่งโรจนต์ ้องการศกึ ษาสภาพจราจร บรเิ วณหน้าโรงเรยี นในช่วงเช้า

วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มลู คอื ………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………….

เหตุผล……………………………………………………………………………………………………………….…
…………………….…………………………………………………………………………………………………………………

89

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผ้เู รยี น

ชนั้ มัธยมศึกษาปีที.่ .............. โรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร

คาชแ้ี จง ให้พิจารณาพฤติกรรมคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ตอ่ ไปนี้ แลว้ ใหร้ ะดบั คะแนนทีต่ รงกบั การ

ปฏบิ ตั ิของนักเรียนตามความเป็นจรงิ

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

เลขที่ ชื่อ-นามสกลุ ซ่ือสัตย์ ผลการ
สุจ ิรต ประเมิน
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเ ีรยน ู้ร
ุ่มง ่ัมนใน
การทางาน

ลงช่ือ..................................................... ผ้ปู ระเมนิ
( นางสาวสกุ ญั ญา จักรโนวนั )
ตาแหน่ง ครู ชานาญการพเิ ศษ

90

ตัวชีว้ ัด

1. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต
1.1 ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงต่อตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ
1.2 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงต่อผ้อู นื่ ท้ังทางกาย วาจา ใจ

2. มีวินยั
2.1 ประพฤติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับของครอบครับ โรงเรียน และสังคม

3. ใฝ่เรยี นรู้
3.1 ต้ังใจเพียรพยายามในการเรียน แลว้ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้
3.2 แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนร้ตู ่าง ๆ ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการเลือกใช้

สอื่ อย่างเหมาะสม สรปุ เปน็ องค์ความรแู้ ละสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้
4. มุ่งม่ันในการทางาน

4.1 ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในหนา้ ทกี่ ารงาน
4.2 ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ใหส้ าเรจ็ ตามเปา้ หมาย

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การประเมนิ

คะแนน 10 - 12 ระดับคุณภาพ ดี

คะแนน 7 – 9 ระดบั คุณภาพ ปานกลาง

คะแนน 4 – 6 ระดบั คุณภาพ พอใช้

คะแนน 0 - 3 ระดับคุณภาพ ควรปรับปรุง

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น

1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

91

แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น

ชือ่ -นามสกลุ .......................................................................................... เลขท่.ี ...........ชน้ั .............

คาชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียน และขดี  ลงในชอ่ งที่ตรงกับคะแนน

สมรรถนะท่ี ระดับคุณภาพ ผลการ
สาคัญ
รายการประเมิน ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง ประเมิน
1. ความสามารถ (3) (2) (1) (0)
ในการส่ือสาร 1.1 มีความสามารถในการรบั -ส่งสาร
1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู
2. ความสามารถ ความคิดความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้
ในการคิด ภาษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใชว้ ิธีการส่ือสารท่ีเหมาะสม มี
3. ความสามารถ ประสิทธภิ าพ
ในการใช้ 1.4 เจรจาต่อรองเพอ่ื ขจัดและลดปญั หา
เทคโนโลยี ความขัดแยง้ ต่าง ๆ ได้
1.5 เลอื กรับและไม่รบั ขอ้ มูลขา่ วสารดว้ ย
เหตุผลและถูกตอ้ ง

สรปุ ผลการประเมิน
2.1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์
สังเคราะห์
2.2 มีทกั ษะในการคดิ นอกกรอบ
2.3 สามารถคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
2.4 มีความสามารถในการสรา้ งองคค์ วามรู้
2.5 ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาเกยี่ วกับตนเองได้
อย่างเหมาะสม

สรุปผลการประเมิน
3.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยีได้เหมาะสม
ตามวัย
3.2 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
3.3 สามารถนาเทคโนโลยไี ปใช้พัฒนา
ตนเอง
3.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปญั หาอย่าง
สรา้ งสรรค์
3.5 มีคณุ ธรรม จริยธรรมในการใช้
เทคโนโลยี

92

สมรรถนะท่ี ระดบั คณุ ภาพ ผลการ
สาคญั
รายการประเมิน ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ประเมนิ
สรุปผลการประเมิน (3) (2) (1) (0)

เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดับคุณภาพ

- พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ดีมาก

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยคร้งั ให้ 2 คะแนน ดี

- พฤติกรรมท่ปี ฏิบัติบางครง้ั ให้ 1 คะแนน พอใช้

- ไม่เคยปฏิบตั ิพฤติกรรม ให้ 0 คะแนน ปรับปรุง

เกณฑ์การสรปุ ผล

ดมี าก - 13 – 15 คะแนน

ดี - 9 – 12 คะแนน

พอใช้ - 1 – 8 คะแนน

ตอ้ งปรับปรงุ - 0 คะแนน

93

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่.............. โรงเรียนหนองบวั พทิ ยาคาร
คาชแ้ี จง ให้ผู้สอนประเมินพฤติกรรมการทางานของผ้เู รียนแตล่ ะกลุ่มตามความเป็นจรงิ โดยเขยี น
ระดับคะแนนลงในช่องรายการประเมนิ

กล่มุ การแบ่ง ความร่วมมอื การแสดงและ การแกป้ ัญหา การตรงต่อ รวม
ท่ี หน้าท่ี ในการ รับฟังความ อย่างมีระบบ เวลา 20
รบั ผิดชอบ ทางาน คะแนน
คดิ เหน็

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การประเมิน ระดบั คุณภาพ
4 = ดมี าก ดีมาก
3 = ดี ชว่ งคะแนน ดี
2 = พอใช้ 18 – 20 พอใช้
1 = ปรับปรุง 14 – 17 ปรับปรุง
10 – 13
ตา่ กวา่ 10

ลงช่อื ..................................................... ผู้ประเมิน
( นางสาวสกุ ัญญา จกั รโนวัน )
ตาแหน่ง ครูชานาญการพเิ ศษ

94

เกณฑ์การสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่

เกณฑ์การสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม

รายการ คณุ ภาพ/ระดบั คะแนน
ประเมนิ
1. การแบ่ง ดีมาก(4) ด(ี 3) พอใช้(2) ปรับปรุง(1)
หน้าที่ มีการแบง่ หน้าท่ีใน
รับผดิ ชอบ มกี ารแบ่งหน้าท่ีใน มกี ารแบง่ หนา้ ที่ใน มีการแบ่งหน้าทใ่ี น การทางานแต่ไม่
ชดั เจนและสมาชิก
2. ความรว่ มมือ การทางานอย่าง การทางานอยา่ ง การทางานอยา่ ง สว่ นใหญ่ไม่ปฏิบตั ิ
ในการทางาน หน้าที่ทไี่ ดร้ ับ
ชดั เจนและสมาชิก ชัดเจนและสมาชกิ ชดั เจนและสมาชิก มอบหมาย
3. การแสดง สมาชิกขาดความ
และรบั ฟงั ความ ปฏิบตั หิ น้าท่ที ี่ไดร้ ับ ส่วนใหญป่ ฏบิ ตั ิ บางคนปฏิบตั หิ น้าที่ รว่ มมือในการทางาน
คิดเห็น
มอบหมาย หน้าท่ีทไ่ี ดร้ ับ ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย สมาชิกขาดการมี
4. การแกไ้ ข ส่วนรว่ มในการแสดง
ปัญหาอย่างเปน็ มอบหมาย ความคดิ เหน็ และรบั
ระบบ ฟงั ความคิดเห็น
สมาชิกทุกคนเตม็ ใจ สมาชิกสว่ นใหญเ่ ต็ม สมาชิกบางเต็มใจ ไม่สามารถแก้ไข
5. การตรงตอ่ ปัญหาที่เกดิ ข้ึนใน
เวลา รว่ มในการทางาน ใจร่วมในการทางาน ร่วมในการทางาน การทางานได้

อยา่ งมีความสุข อย่างมีความสขุ ส่งงานช้ากวา่ กาหนด
และชนิ้ งานไม่
สมาชกิ ทกุ คนมีส่วน สมาชกิ ส่วนใหญ่มี สมาชิกบางคนมสี ว่ น สมบรู ณ์

ร่วมในการแสดง ส่วนร่วมในการแสดง รว่ มในการแสดง

ความคิดเห็นและรบั ความคดิ เห็นและรบั ความคดิ เหน็ และรับ

ฟังความคดิ เหน็ ฟงั ความคิดเหน็ ฟังความคดิ เห็น

สามารถแก้ไขปัญหา สามารถแกไ้ ขปญั หา สามารถแกไ้ ขปญั หา

ทีเ่ กดิ ขึ้นในการ ท่เี กิดขึ้นในการ ที่เกิดข้ึนในการ

ทางานได้อยา่ งดี ทางานได้เป็นสว่ น ทางานไดแ้ ต่ไม่

และถูกตอ้ ง ใหญ่ และเกอื บ ถกู ตอ้ งท้ังหมด

ถูกตอ้ งทัง้ หมด

ทางานเสรจ็ กอ่ น ทางานเสรจ็ ตามเวลา ทางานเสร็จแต่สง่ ชา้

เวลาทก่ี าหนด ท่ีกาหนด กว่ากาหนด

95

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 8

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เร่อื ง การจัดการขอ้ มูลสารสนเทศ เวลาเรยี น 4 ช่วั โมง

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 8 เร่ือง การเลอื กใช้ ซอฟตแ์ วร์ เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง

ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564

ผู้สอน นางสาวสุกญั ญา จักรโนวัน วนั ที.่ ...............เดือน.......................พ.ศ..............................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็น
ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการ
แกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี ริยธรรม
ตวั ชวี ัด

ว 4.2 ม.1/3 รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ ประมวลผล ประเมินผล นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ
ตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื บริการบนอนิ เทอร์เน็ตทห่ี ลากหลาย
จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายความหมาย และประเภทของซอฟตแ์ วรไ์ ด้ถกู ต้อง (K)
2. ปฏิบตั สิ ร้างกราฟจากโปรแกรม Microsoft Word, Microsoft Excel ไดถ้ ูกต้อง (P)
3. สนใจใฝ่รใู้ นการศกึ ษา (A)
สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น

1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในคดิ
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผเู้ รียน

1. ซื่อสตั ยส์ ุจริต
2. มวี ินัย
3. ใฝเ่ รียนรู้
4. มงุ่ มนั่ ในการทางาน

96

สาระสาคัญ
การใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รอื การเลอื กใชง้ านซอฟตแ์ วร์ประเภทต่างๆใหค้ รอบคลุมกบั งานทีท่ า รวม

ไปถงึ การบริการบนอนิ เทอรเ์ นต็ ท่หี ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมินผล
นาเสนอ จะช่วยให้การแกป้ ัญหาทาไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ถูกต้อง และแมน่ ยา
สาระการเรียนรู้

ซอฟต์แวรจ์ ัดการข้อมลู
ส่อื และอปุ กรณ์

1. PowerPoint เรอื่ ง การเลือกใช้ซอฟต์แวร์
2. ใบงาน เรือ่ ง การเลอื กใชซ้ อฟต์แวร์
ขนั้ การสอนโดยใช้การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es
ช่วั โมงท่ี 1
ข้ันนา
กระต้นุ ความสนใจ เวลา 10 นาที

1. ครถู ามนกั เรียนวา่ นกั เรียนคิดว่าซอฟตแ์ วร์คืออะไร มคี วามสาคญั อย่างไรบ้างกับการ
ใช้งาน โดยใหน้ ักเรียนแสดงความคดิ เห็นอย่างอสิ ระ

2. ครูแจ้งให้นกั เรยี นทราบวา่ จะได้ศึกษาเกย่ี วกบั การเลือกใช้ซอฟตแ์ วร์
ขั้นสอน

สารวจค้นหา เวลา 10 นาที
3. ครูถามคาถามกระตุ้นความคิดว่า ซอฟต์แวร์ท่ีนักเรียนรู้จักมีอะไรบ้าง และเคยใช้

ซอฟตแ์ วร์น้ันหรือไม่
4. ครูถามคาถามกับนักเรียนว่า นักเรียนสามารถบอกประเภทของซอฟต์แวร์ระบบได้

หรือไม่ ว่าแบ่งเป็นกป่ี ระเภท อะไรบา้ ง ใหน้ กั เรียนภายในหอ้ งชว่ ยกันหาคาตอบและอภิปรายรว่ มกัน
อธบิ ายความรู้ เวลา 20 นาที
5. ครูบรรยายเนอ้ื หาประกอบส่ือการสอน PowerPoint เรอื่ ง การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ ซึง่

มเี นอ้ื หาดงั ตอ่ ไปน้ี
5.1 ซอฟตแ์ วร์คอื อะไร
5.2 ประเภทของซอฟตแ์ วร์
5.3 การเลือกใชซ้ อฟต์แวร์ที่ถูกต้อง

6. ครอู ธิบายประเภทของซอฟตแ์ วรร์ ะบบท้ัง 3 ประเภท

97

6.1 ระบบปฏิบัติการ (Operating System : OS) เป็นซอฟต์แวร์ท่ีใช้ควบคุมและ
ประสานงานระหว่างอุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์ทั้งหมดตั้งแต่ซีพียู หน่วยความจาไปจนถึงหน่วย
นาเข้าและส่งออก ระบบปฏิบัติการที่สาคัญมีดังนี้ ไมโครซอฟต์วินโดว์ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
เปน็ ต้น

6.2 โปรแกรมอรรถประโยชน์ (utilities program) เป็นโปรแกรมระบบอีกประเภท
หน่งึ ที่อานวยความสะดวกให้ผู้ใชเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ในระหว่างการประมวลผลข้อมลู หรอื ในระหว่าง
ท่กี าลังใชเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ โปรแกรมอรรถประโยชนท์ น่ี ยิ มใช้กนั ไดแ้ ก่ โปรแกรม Sidekick เปน็ ต้น

6.3 ตวั แปลภาษา (translator) เป็นโปรแกรมท่ีทาหน้าท่ใี นการแปลโปรแกรม หรอื
ชุดคาสั่งที่เขียนด้วยภาษาท่ีไม่ใช่ภาษาเครื่อง หรือภาษาเคร่ืองท่ีไม่เข้าใจ เช่นภาษา BASIC COBOL
เปน็ ตน้

7. ครอู ธิบายประเภทของซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ ซ่ึงสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท
7.1 ซอฟต์แวร์ท่ัวไป เป็นซอฟต์แวร์ท่ีพัฒนาขึ้นเพื่อไปประยุกต์ใช้กับงานทั่วไป

สามารถแบง่ ออกเป็น 6 ประเภท ดังน้ี
- ซอฟต์แวร์ประมวลคา เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ท่ีใช้สาหรับพิมพ์เอกสาร

สามารถแก้ไข เพ่ิม แทรก ลบ และจัดเอกสารได้อย่างดี เช่น โปรแกรม Microsoft Word ,
PageMaker , CorelDRAW เปน็ ตน้

- ซอฟต์แวร์ตารางทางาน เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการคิดคานวณ เช่น
โปรแกรม Microsoft Excel เป็นตน้

- ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล เป็นการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่ง คือ
การเก็บข้อมูล และจัดการกับข้อมูลท่ีจัดเก็บในคอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรม Microsoft Access ,
Dbase , Paradox เป็นต้น

- ซอฟตแ์ วร์นาเสนอ เปน็ ซอฟต์แวรท์ ใี่ ช้สาหรับนาเสนอข้อมูล การแสดงผล
ตอ้ งสามารถดงึ ดูดความสนใจ เชน่ โปรแกรม Microsoft PowerPoint , OpenOffice เป็นตน้

- ซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย เป็นกลุ่มซอฟต์แวร์ประยุกต์ท่ี
ถูกพัฒนาข้ึนสาหรับจัดการทางานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย เช่น Adobe Indesign , Adobe
Illustrator , Adobe Photoshop เปน็ ตน้

- ซอฟต์แวร์การใช้งานบนเว็บไซต์และการติดต่อส่ือสาร เป็นการ
เจริญเตบิ โตของเครือข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต ทาให้ผู้พัฒนาโปรแกรมเพอื่ ใชง้ านเฉพาะอยา่ งเพม่ิ มากขนึ้ มที ้งั

98

การตรวจเช็คอีเมล์ การเขา้ เว็บไซต์ การตดิ ต่อกันผา่ นทางเว็บไซต์ เช่น Microsoft Outlook, Skype
, Line เป็นตน้

7.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน เป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบและพัฒนา
สาหรับนาไปใช้งานเฉพาะด้านหรือในสาขาใดสาขาหนึ่งตามความต้องการของผู้ใช้ โดยท่ีผู้เขียนคือ
โปรแกรมเมอร์ ทสี่ ามารถในการเขยี นโปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ และศึกษาทาความเข้าใจงานและ
รายละเอียดของการประยุกต์น้ันเป็นอย่างดี เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับงานธุรกิจ ซอฟต์แวร์ระบบงาน
จาหน่าย ซอฟตแ์ วร์ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น

ขั้นสรุป
ขยายความเข้าใจ เวลา 20 นาที
8. หลังจากที่ครูอธิบายเร่ืองซอฟต์แวร์ ประเภทของซอฟต์แวร์ต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ให้

นักเรียนภายในห้องเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ให้นักเรียนเขียนสรุปเป็นผังมโนทัศน์ เรื่อง
ซอฟต์แวร์ และประเภทต่างๆ ของซอฟต์แวรล์ งในกระดาษฟลิปชาร์ท พร้อมตกแต่งให้สวยงาม โดย
ครจู ะให้เวลาในการทากจิ กรรม 10 นาที หลงั จากนน้ั ใหอ้ อกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน

ชัว่ โมงท่ี 2
ข้นั นา
กระตุ้นความสนใจ เวลา 5 นาที
1. ครูและนักเรยี นร่วมกันทบทวนความรู้ เรื่อง การเลอื กใชซ้ อฟต์แวร์
ขน้ั สอน
สารวจค้นหา เวลา 10 นาที
2. ครูถามคาถามกับนักเรียนว่า นักเรียนรู้หรือไม่ว่าซอฟต์แวร์แต่ละประเภทเหมาะสม

กบั งานลักษณะใดบ้าง
3. ครยู กตัวอย่างการใชง้ านของซอฟต์แวร์แต่ละประเภทและใหน้ ักเรยี นร่วมกันเสนอชื่อ

ซอฟต์แวรเ์ พม่ิ เตมิ
อธิบายความรู้ เวลา 25 นาที
4. ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่องการสร้างกราฟแท่งจากโปรแกรม Microsoft Word และ

Microsoft Excel โดยอ่านข้ันตอนการสร้างกราฟในแต่ละขั้นตอน วิธีการสร้างกราฟแท่งจาก
โปรแกรม Microsoft Word และ Microsoft Excel

5. ครูให้นักเรียนเปิดคอมพวิ เตอร์ และสร้างกราฟเส้น จากโปรแกรม Microsoft Excel
ก่อน โดยครูจะกาหนดสถานการณ์ว่ามีนักเรียนท้ังหมด 10 คน และมีผลคะแนนสอบของวิชา

99

ภาษาไทย และวิชาคณิตศาตร์ ดังต่อไปนี้ ให้นักเรียนนาสิ่งท่ีครูกาหนดมาให้สร้างกราฟเส้นจาก

โปรแกรม Microsoft Excel

เลขที่ คะแนนภาษาไทย คะแนนคณิตศาสตร์

1 14 12

2 17 15

3 13 16

4 11 11

5 18 10

6 8 17

7 16 12

8 16 11

9 19 14

10 12 18

6. ครูให้นักเรียนสร้างกราฟแท่งจากโปรแกรม Microsoft Word โดยให้นักเรียนใช้
ข้อมูลจากตารางทก่ี าหนดให้ในขา้ งตน้ มาสร้าง และตกแต่งกราฟแท่งตามที่นกั เรยี นต้องการ

7. ครูแจกใบงาน เร่อื ง การเลือกใชซ้ อฟตแ์ วร์ ให้กับนักเรียนเพ่ือเป็นการทบทวนเน้ือหา
ที่ไดเ้ รียนมาส่งเป็นการบ้านในชว่ั โมงถัดไป

8. ครใู หน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบทา้ ยหนว่ ยการเรียนรู้ เรอ่ื ง การจัดการขอ้ มูลสารสนเทศ
ข้นั สรปุ

ขยายความเขา้ ใจ เวลา 10 นาที
9. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเน้ือหา เร่ือง ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้งาน ว่ามี

ส่วนไหนที่ยังไมเ่ ขา้ ใจและครูให้ความรูเ้ พ่ิมเติมในสว่ นน้ัน
10. ครแู ละนกั เรียนเขียนสรปุ เนือ้ หา โดยการทาแผนที่ความคดิ (Mind Mapping) เรือ่ ง

ซอฟต์แวร์และการเลือกใช้งานบนกระดานดาตามความเข้าใจ เพื่อให้นักเรียนมองเห็นภาพ และเกิด
ความเขา้ ใจมากขน้ึ

ตรวจสอบผล เวลา 10 นาที
11. ครปู ระเมนิ ผลงานของเรยี นจากการทาใบงาน เร่ือง การเลือกใชซ้ อฟต์แวร์

100

12. ครูประเมินนักเรียนจากการทาแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง การ
จัดการขอ้ มลู สารสนเทศ

การวัดผลและประเมินผล เครื่องมือวัดผล วธิ ีการวดั ผล
1. แบบทดสอบทา้ ยหน่วย 1. การทดสอบ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ เรอื่ ง การจัดการ 2. การสงั เกตพฤตกิ รรมการ
1. อธบิ ายความหมาย และประเภท ขอ้ มลู สารสนเทศ ทางานกลุ่ม
ของซอฟต์แวรไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง (K) 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ
2. ปฏิบัตสิ รา้ งกราฟจากโปรแกรม ทางานกลุ่ม
Microsoft Word, Microsoft
Excel ไดถ้ ูกต้อง (P)
3. สนใจใฝ่รู้ในการศกึ ษา (A)

สมรรถนะทสี่ าคญั ของผเู้ รียน เครอื่ งมือวัดผล วธิ ีการวดั ผล

1. ความสามารถในการส่อื สาร แ บ บ ป ร ะ เ มิ น สมร ร ถน ะ การประเมนิ สมรรถนะ

2. ความสามารถในคิด สาคัญของผูเ้ รยี น สาคญั ของผเู้ รียน

3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ อง เคร่ืองมือวดั ผล วิธีการวดั ผล
ผู้เรียน

1. ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ แบบประเมินคุณลักษณะอัน การประเมินคณุ ลกั ษณะอัน

2. มวี นิ ยั พึงประสงค์ พงึ ประสงค์

3. ใฝ่เรยี นรู้

4. มุง่ ม่นั ในการทางาน

เกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล

1. ผ่านเกณฑ์การทาแบบทดสอบทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง การจดั การสารสนเทศร้ อ ย ล ะ

70 ข้ึนไป

2. ผ่านเกณฑ์ประเมินจากแบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป

3. ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ จากแบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ร้อยละ 70 ข้ึนไป

4. ผ่านเกณฑป์ ระเมินจากแบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม รอ้ ยละ 70 ข้ึนไป


Click to View FlipBook Version