The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หมวดวิชาอาวุธศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by วิศรุต พลับพลาสกุล, 2023-08-22 04:50:44

อาวุธศึกษา อย.พ.ศ.2565

หมวดวิชาอาวุธศึกษา

๔๓ บทที่ ๑๑ ปืนเล็กยาวอัตโนมัติ๕.๕๖ – ๓ เอชเค – ๓๓ (AUTOMATIC RIFLE CAL. 5.56 MM. HK 33) (ปลยอ.๕.๕๖ – ๓) ลักษณะโดยทั่วไป ๑. กลําวทั่วไป ๑.๑ ปืนเล็กยาวอัตโนมัติขนาด ๕.๕๖ มม. เอ็ชเค – ๓๓ กองทัพอากาศเรียกชื่อเป็นทาง ราชการวํา ปืนเล็กยาวอัตโนมัติขนาด ๕.๕๖ มม. – ๓๓ (ปลยอ. ๕.๕๖ – ๓) ต๎นแบบผลิตขึ้นในประเทศเยอรมัน โดยบริษัท เฮกเลอร์และโค๎ช และกองทัพบกไทยได๎ซื้อลิขสิทธิ์โรงงานมาสร๎างขึ้นในประเทศไทย ๑.๒ เป็นอาวุธที่ท าการยิงได๎ทั้งทีละนัดและเป็นชุด โดยการจัดคันบังคับการยิง ๑.๓ เครื่องบังคับการยิงอยูํที่ด๎านซ๎ายของด๎ามปืน เหนือโกรํงไก มีอักษร ห. ห๎ามไก , อักษร ย./น. ยิงทีละนัด , อักษร ย./ช. ยิงเป็นชุด ๑.๔ ท างานด๎วยการสะท๎อนถอยหลังของสํวนเคลื่อนที่ (ชุดลูกเลื่อน) โดยล ากล๎องอยูํกับที่ ๑.๕ ระบายความร๎อนด๎วยอากาศ ๑.๖ ระบบขัดกลอนด๎วยลูกกลิ้ง ซึ่งเป็นทั้งตัวขัดกลอนและหนํวงเวลาในการเปิดรังเพลิง ๑.๗ ที่ปากล ากล๎องปืนมีปลอกลดแสง ซึ่งท าหน๎าที่ลดแสง และเป็นลูกสูบอยูํกับที่สามารถ ยิงลูกระเบิดได๎โดยไมํต๎องใช๎เครื่องประกอบอื่น ๆ ๑.๘ ปลยอ. ๕.๕๖ – ๓ สามารถติดกล๎องเล็งโดยประกอบเข๎ากับแทํนติดกล๎องเล็งได๎ ๑.๙ กระสุนที่ใช๎ยิง ใช๎กระสุนรํวมกับ ปลยอ. ๕.๕๖ – ๒ ได๎คือ ขนาด ๕.๕๖ + ๔๕ มม. และถ๎ามีเครื่องประกอบเพิ่มเติม คือล ากล๎องรอง ใช๎ประกอบกับการฝึกก็สามารถใช๎ยิงกระสุน ขนาด ๕.๕๖ + ๑๖ มม. ๑.๑๐ ซองกระสุนเป็นซองกระสุนชนิดโค๎งมี๒ ชนิด คือ ขนาดบรรจุ ๒๐ นัด และขนาด บรรจุ ๔๐ นัด (ส าหรับ ทอ. ขณะนี้มีใช๎เพียงอยํางเดียว คือ ขนาดบรรจุ ๔๐ นัด) ๒. ประวัติการประจ าการและการใช๎งานในกองทัพ ๒.๑ กองทัพบกเริ่มผลิตใช๎งานในปี พ.ศ.๒๕๑๑ สํวนกองทัพอากาศจัดซื้อจากกรมสรรรพาวุธ ทหารบก ตั้งแตํ ปี พ.ศ.๒๕๑๘ รวมถึงมีใช๎งานในหนํวยราชการอื่นๆ เชํน ส านักงานต ารวจแหํงชาติ กรมปุาไม๎ กระทรวง เกษตรและสหกรณ์และกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เป็นต๎น ๒.๒ ชํวงเวลาในการประจ าการ ปี พ.ศ.๒๕๑๘ ถึง ปัจจุบัน ๒.๓ การใช๎งานกองทัพอากาศ กองทัพอากาศใช๎ปืนเล็กยาวอัตโนมัติ ขนาด ๕.๕๖ มม. เอชเค ๓๓ ในการฝึกศึกษา และใช๎ในภารกิจปูองกันประเทศ เป็นอาวุธประจ ากายส าหรับก าลังพลหนํวยสนับสนุน


๔๔ ๓. ข๎อมูลทางเทคนิค ๓.๑ ระบบการท างาน : กลไกการท างานด๎วยแรงสะท๎อนถอยหลังของลูก เลื่อนที่หนํวงเวลา (Delayed Blowback) ใช๎การขัดกลอนด๎วยลูกเลิ้ง เพื่อหนํวงเวลาในการเปิดรังเพลิง ๓.๒ น้ าหนัก : ปืนทั้งกระบอกหนัก ๓.๓๕ กิโลกรัม ๓.๓ ความยาวปืนทั้งกระบอก : (พร๎อมพานท๎ายแบบตายตัว) ยาว ๙๒ เซนติเมตร : (พร๎อมพานท๎ายแบบเลื่อนได๎) ยาว ๗๕๐ เซนติเมตร ๓.๔ ความยาวล ากล๎อง : ๓๙ เซนติเมตร ๓.๕ ศูนย์เล็ง : ศูนย์หน๎าเป็นศูนย์ประจ าที่อยูํภายในวงแหวนปูองกัน ใบศูนย์ ศูนย์หลังเป็นศูนย์แบบหมุนโดยมีศูนย์เปิดรูปตัววีหนึ่งชํอง ใช๎ยิงระยะ ๑๐๐ เมตร และมีรูชํองเล็ง ๓ ชํอง ใช๎ยิงระยะ ๒๐๐, ๓๐๐ และ ๔๐๐ เมตร ปรับทางสูงและทางทิศใต๎ ๓.๖ การบรรจุกระสุน : ซองกระสุนชนิดบรรจุได๎ ๒๐ และ ๔๐ นัด ๓.๗ ห๎ามไก : อยูํที่คันบังคับการยิงด๎านซ๎ายของโครงปืนเหนือโกรํงไก ๓.๘ ระยะยิงหวังผลไกลสุด : ระยะหวังผล ๔๐๐ เมตร ลงมา ๓.๙ อัตราการยิง : อัตราการยิง (ตํอเนื่อง) ๖๐๐ – ๖๕๐ นัด/นาที ๓.๑๐ กระสุน : ๕.๕๖ x ๔๕ มิลลิเมตร : กระสุนธรรมดา (Ball, M193) : กระสุนสํองวิถี (Tracer, M196) : กระสุนซ๎อมรบ (Blank, M200) ๔. การถอดประกอบ แบํงเป็น ๓ ชั้น ๔.๑ การถอดคลุมขั้นที่ ๑ ๔.๒ การถอดคลุมขั้นที่ ๒ ๔.๓ การถอดคลุมขั้นพิเศษ ในที่นี้จะกลําวเฉพาะ การถอดคลุมขั้นที่ ๑ เทํานั้น ซึ่งกระท าได๎ โดยผู๎ใช๎และเจ๎าหน๎าที่สรรพาวุธประจ าหนํวย ๕. การถอดคุมขั้นที่ ๑ คือ การถอดประกอบชิ้นสํวนใหญํ ๆ ของปืน ๗ ชิ้นสํวน ๕.๑ การถอดซองกระสุน ๕.๑.๑ ตั้งคันบังคับการยิง ต าแหนํง (ห) ๕.๑.๒ ดันเหล็กยึดซองกระสุน ซึ่งอยูํด๎านหน๎าของด๎ามปืนไปข๎างหน๎าแล๎วดึงซองกระสุนออก ๕.๒ การถอดสายสะพาย - ปลดขอสายสะพายออกจากหูกระวินบน ๕.๓ การถอดพานท๎าย ๕.๓.๑ ถอดสลักยึดพานท๎าย โดยใช๎เหล็กสํงตอกออก ๕.๓.๒ ดึงพานท๎ายออกมาทางด๎านหลัง ๕.๓.๓ สอดสลักยึดพานท๎ายเก็บไว๎ที่รูส าหรับเก็บสลัก ซึ่งอยูํที่พานท๎ายเพื่อกันหาย ๕.๓.๔ เครื่องลั่นไกและด๎ามปืนจะห๎อยลงข๎างลําง


๔๕ ๕.๔ การถอดชุดลูกเลื่อน ๕.๔.๑ ดึงลูกเลื่อนมาข๎างหลัง โดยดึงคันรั้งลูกเลื่อนออกมาพอให๎มือจับสํวนท๎ายชุด ลูกเลื่อนได๎ ๕.๔.๒ ดึงชุดลูกเลื่อนออกมาทางด๎านท๎ายห๎องลูกเลื่อน ๕.๕ การถอดชุดเครื่องลั่นไกและด๎ามปืน ๕.๕.๑ ใช๎เหล็กสํงตอกสลักยึดเครื่องลั่นไก และด๎ามปืนออก ๕.๕.๒ เครื่องลั่นไกและด๎ามปืนจะหลุดออกมา ๕.๕.๓ สอดสลักยึดเครื่องลั่นไกไว๎ที่รูเก็บสลักที่พานท๎าย ๕.๖ การถอดชุดประกับรองมือ ๕.๖.๑ ใช๎เหล็กสํงตอกสลักยึดประกอบรองมือ ซึ่งอยูํใต๎หลอดโครงน าคันรั้งลูกเลื่อน ด๎านหน๎าออก ๕.๖.๒ เก็บสลักไว๎ที่รูเก็บสลัก ที่พานท๎ายปืน ๕.๖.๓ ใช๎มือดึงประกับรองมืออกทางด๎านลําง โดยการดึงทางด๎านหน๎าลงข๎างลํางอยํา ดึงทางด๎านหลังเพราะอาจจะช ารุดได๎เนื่องจากเป็นแผํนไฟเบอร์และโลหะผสมบางมาก ๕.๗ ชุดล ากล๎องและห๎องลูกเลื่อน เมื่อถอดชิ้นสํวน ๖ ชิ้น ดังที่กลําวมาแล๎ว ที่เหลือ คือชุด ล ากล๎องและห๎องลูกเลื่อน ซึ่งเป็นสํวนที่ ๗ ของปืน การถอดประกอบ กระท าตรงกันข๎ามกับการถอดทุกประการ ๖. การถอดคุมขั้นที่ ๒ คือการถอดคุมแยกชิ้นสํวนใหญํ ๆ ของปืนทั้ง ๗ ออกเป็นสํวน ยํอมกระท า โดยเจ๎าหน๎าที่ของ สพ.ทอ. และขั้นโรงงานเทํานั้น ในที่นี้จะกลําวเฉพาะบางชิ้นสํวนที่จ าเป็นเทํานั้น ๖.๑ การถอดแยกชิ้นสํวนของลูกเลื่อน ๖.๑.๑ ดึงแหนบและแกนแหนบสํงลูกเลื่อน ออกจากกระบอกแหนบ ๖.๑.๒ จับชุดลูกเลื่อนหงายขึ้นด๎วยมือซ๎าย หันหัวลูกเลื่อนไปทางขวามือ ๖.๑.๓ มือขวาหมุนหัวลูกเลื่อนทวนเข็มนาฬิกา เข๎าหาตัวประมาณ ๙๐ องศา จนกระทั่งกระเดื่องยึดลูกเลื่อนมาอยูํบนลาดหัวลูกเลื่อน ๖.๑.๔ แล๎วดึงหัวลูกเลื่อนออกทางขวามือ ๖.๑.๕ หมุนแทํงขัดกลอนเข๎าตัวตํอไปอีก จนกระทั่งแงํท๎ายของแงํขัดกลอน ตรงกับ รํองเรือนแทํงขัดกลอน ซึ่งอยูํภายในลูกเลื่อน ๖.๑.๖ แทํงขัดกลอนจะดีดตัวออกมาด๎วยแรงขยายตัวของแหนบเข็มแทงชนวน ๖.๑.๗ ดึงเข็มแทงชนวนและแหนบออกทางด๎านท๎ายแทํงขัดกลอน ๖.๒ การถอดเครื่องลั่นไกและด๎ามปืน ๖.๒.๑ ลดนกปืนลงอยูํในลักษณะลั่นไกเสียกํอน โดยใช๎หัวแมํมือดึงนกปืนไว๎แล๎ว เหนี่ยวไกคํอย ๆ ผํอนนกปืนลงจนสุด ๖.๒.๒ บิดคันบังคับการยิงขึ้นข๎างบนจนตั้งได๎ฉากกับเรือนเครื่องลั่นไก ๖.๒.๓ ดึงคันบังคับการยิงออก ๖.๒.๔ ยกเครื่องลั่นไกออกจากโครงด๎ามปืน


๔๖ ๖.๓ การประกอบ การประกอบเครื่องลั่นไกและด๎ามปืน คงกระท าตรงข๎ามกับการถอด เว๎น การประกอบชุดลูกเลื่อนให๎กระท าดังนี้ ๖.๓.๑ ใสํเข็มแทงชนวนและแหนบเข๎าในแทํงขัดกลอน ๖.๓.๒ ใสํแทํงขัดกลอน เข๎าไปในเรือนแทํงขัดกลอน โดยให๎แงํท๎ายของแทํงขัดกลอน ตรงกับรํองที่เรือนแทํงขัดกลอน ๖.๓.๓ ดันแทํงขัดกลอนเข๎าไปจนสุด แล๎วหมุนตามเข็มนาฬิกาไปทางกระเดื่องยึดลูก เลื่อนประมาณ ๑๓๕ องศา จนเห็นแงํท๎ายแทํงขัดกลอนตรงกับรํองลูกเลื่อน ทางด๎านเดียวกันกับกระเดื่องยึดหัวลูกเลื่อน ๖.๓.๔ สวมหัวลูกเลื่อนเข๎าไปในแทํงขัดกลอน ให๎ท๎ายของหัวลูกเลื่อนหํางจากด๎านหน๎า ของตัวลูกเลื่อนประมาณ ๑/๔ นิ้ว โดยให๎กระเดื่องยึดหัวลูกเลื่อนปืนอยูํบนลาดหัวลูกเลื่อน ๖.๓.๕ หมุนหัวลูกเลื่อนจนแงํกระเดื่องยึดหัวลูกเลื่อน พ๎นจากรํองทางเดินของท๎าย เหล็กคัดปลอกกระสุน ๖.๓.๖ ดึงหัวลูกเลื่อนออกมาจนสุด แล๎วหมุนตํอไปจนลาดหัวลูกเลื่อนตรงกับผิวเรียบ ท๎องลูกเลื่อน ๖.๓.๗ ขณะนี้หัวลูกเลื่อนจะอยูํในลักษณะปลดกลอน ซึ่งเป็นลักษณะที่ประกอบเข๎ากับ ห๎องลูกเลื่อนได๎ การท างานของเครื่องกลไก ๗. กลําวทั่วไป การท างานของเครื่องกลไกของปืนแบบนี้เป็นการท างานด๎วยการสะท๎อนถอยหลัง แตํล ากล๎องปืนอยูํกับที่ ใช๎ระบบการขัดกลอนด๎วยลูกกลิ้ง ซึ่งเป็นทั้งตัวขัดกลอนและหนํวงเวลาในการเปิดรังเพลิง การท างานด๎วยแรงสะท๎อนถอยหลังของปืนแบบนี้เป็นแบบสะท๎อนถอยหลังเฉพาะเครื่องลูกเลื่อนเทํานั้น และเป็น สํวนเคลื่อนที่ซึ่งเป็นสํวนส าคัญในการท างานของเครื่องกลไกที่จะให๎มีการปูอนกระสุน บรรจุกระสุนตลอดจนมีการ ขัดกลอน พร๎อมที่จะท าการยิงโดยปลอดภัย เมื่อลั่นไก แก๏สจากดินสํงกระสุนจะขับลูกกระสุนออกจากล ากล๎อง ในขณะเดียวกันก็ดันตํอปลอกกระสุนด๎วยจานท๎ายปลอกกระสุนจะสํงแรงดันของแก๏สสํวนหนึ่งไปยังหัวลูกเลื่อน และจากหัวลูกเลื่อนสํงผํานทางลูกกลิ้ง และแทํงขัดกลอนไปยังตัวลูกเลื่อน จึงเป็นเหตุให๎ลูกเลื่อนปลดกลอนและ ถอย การที่ลูกเลื่อนถอยมานั้นท าให๎เกิดการรั้งปลอกกระสุน คัดปลอกกระสุน ตลอดจนการขึ้นนกใหมํ และพร๎อมที่ จะท าการยิงกระสุนนัดตํอไป อันเป็นวงรอบการท างานของเครื่องกลไก ๘. ขั้นการท างานของเครื่องกลไก แบํงออกเป็น ๖ ขั้น ๘.๑ การยิงหรือการลั่นไก ๘.๒ การปลดกลอน และการรั้งปลอกกระสุน ๘.๓ การคัดปลอกกระสุน ๘.๔ การขึ้นนก ๘.๕ การปูอนกระสุน และการบรรจุ ๘.๖ การขัดกลอน


๔๗ ๙. การท างานแตํละขั้นตอน ๙.๑ การยิงหรือการลั่นไก การท างานในขั้นนี้สมมติวําปืนได๎ท าการบรรจุพร๎อมที่จะท าการยิง ๙.๑.๑ เมื่อผู๎ยิงเหนี่ยวไกมาข๎างหลัง ท๎ายไกจะดันตํอท๎ายกระเดื่องไกสูงขึ้น ท าให๎หัว กระเดื่องไกต่ าลง หลุดจากแงํนกปืน ๙.๑.๒ นกปืนก็เป็นอิสระ ฟาดตัวไปข๎างหน๎าด๎วยแรงขยายตัวของแหนบนกปืน ตีตํอท๎ายเข็มแทงชนวน เข็มแทงชนวนก็จะแทงจานท๎ายปลอกกระสุน ท าให๎กระสุนลั่น และลูกกระสุนวิ่งออกจากล ากล๎อง ไป ๙.๒ การปลดกลอน การท างานขั้นนี้ตอนที่เครื่องลูกเลื่อนเริ่มเคลื่อนที่มาข๎างหลัง ท าให๎เกิด การปลดกลอน และรั้งปลอกกระสุน ๙.๒.๑ เมื่อดินสํงกระสุนเกิดการเผาไหม๎กลายเป็นแก๏ส และดันตํอปลอกกระสุนและ เกิดความดันขึ้นภายในและภายนอกของปลอกกระสุน ๙.๒.๒ ด๎วยเหตุที่รังเพลิงได๎ท ารํองตื้น ๆ ตามทางยาวของรังเพลิง (ลักษณะ เชํนเดียวกับเกลียว) เพื่อชํวยให๎งํายตํอการถอนปลอกกระสุน แก๏สจึงผํานได๎ ๙.๒.๓ จานท๎ายปลอกกระสุนซึ่งถูกแรงดันของแก๏ส ท าให๎ลูกเลื่อนปลดกลอนและถอย แตํเนื่องด๎วยกลอนลูกกลิ้งท ามุมสัมผัสกับแทํงกลอน และโครงตํอท๎ายล ากล๎องอยํางเหมาะสม จึงหนํวงเหนี่ยวการ ถอยของหัวลูกเลื่อนให๎ช๎าลงในอัตราสํวน ๑ ใน ๓ คือในห๎วงเวลาเดียวกัน ตัวลูกเลื่อนจะเคลื่อนที่มากกวําหัวลูกเลื่อน ๓ เทํา ลูกเลื่อนและหัวลูกเลื่อนได๎เคลื่อนที่ออกจากโครงตํอท๎ายล ากล๎องแล๎ว การที่ปืนนี้น ากลอนลูกกลิ้งมาใช๎ด๎วย จึงท าให๎สามารถลดน้ าหนักของลูกเลื่อนลงได๎เป็นน้ าหนักประมาณ ๑ ใน ๕ ของน้ าหนักของลูกเลื่อน แบบที่ใช๎ลูก เลื่อนหนํวงเวลาในการถอน ๙.๒.๔ เมื่อตัวลูกเลื่อนถอยมาข๎างหลังอีก ด๎วยแทํงขัดกลอนดันตัวลูกเลื่อน แงํ กระเดื่องไกยึดหัวลูกเลื่อนจะหลุดจากแงํท๎ายลูกเลื่อน พร๎อมกันนั้นแงํหน๎าตัวลูกเลื่อนจะเข๎าเกาะกับแงํท๎ายลูกเลื่อน และดึงให๎ลูกเลื่อนถอยตามมา ตอนนี้หัวลูกเลื่อนหํางจากตัวลูกเลื่อนประมาณ ๑/๔ นิ้ว ๙.๒.๕ ขณะที่หัวลูกเลื่อนถอยออกมานี้ ขอรั้งปลอกกระสุนจะรั้งปลอกกระสุน ออกมาจากรังเพลิงด๎วย เรียกวํา “การปลดกลอน และการรั้งปลอกกระสุน” ๙.๓ การคัดปลอกกระสุน ๙.๓.๑ ระหวํางที่เครื่องลูกเลื่อนถอยมาข๎างหลังนั้น สํวนท๎ายของห๎องลูกเลื่อนจะกด ท๎ายเหล็กคัดปลอกกระสุน ท าให๎ตัวเหล็กคัดปลอกกระสุนยกตัวสูงขึ้น และเข๎าไปอยูํในรํองกลางของตัวลูกเลื่อน ๙.๓.๒ จานท๎ายปลอกกระสุน ซึ่งถูกขอรั้งปลอกกระสุนเกาะไว๎และรั้งออกมาจนชน กับหัวเหล็กคัดปลอกกระสุน ท าให๎ปลอกกระสุนออกจากขอรั้งปลอกกระสุน และหน๎าลูกเลื่อนกระเด็นออกจากตัว ปืนทางชํองคัดปลอกกระสุนที่โครงลูกเลื่อนทางด๎านขวา เรียกวํา “การคัดปลอกกระสุน” ๙.๔ การขึ้นนก ๙.๔.๑ เมื่อลูกเลื่อนเคลื่อนที่มาข๎างหลังสุด แหนบสํงลูกเลื่อนจะถูกอัดตัว ๙.๔.๒ ขณะที่ลูกเลื่อนถอยมานี้ท๎ายลูกเลื่อนจะผลักนกปืนให๎หงายมาข๎างหลัง ๙.๔.๓ นกปืนที่หงายมาข๎างหลังนี้แงํนกปืนจะถูกหัวกระเดื่องไกขัดไว๎ท าให๎นกปืน ถูกยึดอยูํตลอดเวลาและแหนบนกปืนก็จะอัดตัว ๙.๔.๔ ลักษณะนี้นับวํา ปืนอยูํในอาการขึ้นนกเรียบร๎อยแล๎ว


๔๘ ๙.๕ การปูอนกระสุนและการบรรจุ ๙.๕.๑ ขณะที่ลูกเลื่อนปิดรังเพลิง ห๎องลูกเลื่อนจะกดกระสุนในซองกระสุนไว๎ ๙.๕.๒ เมื่อลูกเลื่อนถอยมาข๎างหลัง จนหน๎าลูกเลื่อนพ๎นจากการกดกระสุนนัดบนสุด จะขยับตัวสูงขึ้นด๎วยแรงแหนบสํงกระสุนในซองกระสุน และขึ้นมาขวางทางเดินของลูกเลื่อน ๙.๕.๓ ลักษณะนี้เรียกวํา “การปูอนกระสุน” ๙.๕.๔ เมื่อลูกเลื่อนเคลื่อนที่มาข๎างหลังสุด ก็จะเคลื่อนที่กลับไปข๎างหน๎าด๎วยแรง ขยายตัวของแหนบสํงลูกเลื่อน ๙.๕.๕ หน๎าลูกเลื่อนจะดันจานท๎ายปลอกกระสุน และพากระสุนนัดนั้นเคลื่อนที่เข๎าสูํรังเพลิง ๙.๕.๖ ลักษณะนี้เรียกวํา “การบรรจุกระสุนเข๎าสูํรังเพลิง” ๙.๖ การขัดกลอน ๙.๖.๑ ขณะที่ลูกเลื่อนพากระสุนเข๎าสูํรังเพลิงนั้นจะอยูํในอาการปลดกลอน ท๎ายของ หัวลูกเลื่อนจะหํางจากสํวนหน๎าของตัวลูกเลื่อนประมาณ ๑/๔ นิ้ว ๙.๖.๒ เมื่อหัวลูกเลื่อนเคลื่อนที่ไปยันท๎ายรังเพลิง จะเคลื่อนที่ตํอไปอีกไมํได๎แตํตัว ลูกเลื่อนและแทํงขัดกลอนยังเคลื่อนที่ตํอไปได๎อีก ๑/๔ นิ้ว ด๎วยแรงดันของแหนบสํงลูกเลื่อน ๙.๖.๓ ขณะที่ตัวลูกเลื่อนและแทํงขัดกลอนเคลื่อนที่ตํอไปนี้ ลาดที่ปลายแทํงขัด กลอนจะเบียดและบังคับให๎กลอนลูกกลิ้งขยายตัวเข๎าไปในรํองขัดกลอนที่โครงตํอท๎ายล ากล๎อง ๙.๖.๔ ขณะเดียวกับแงํกระเดื่องยึดหัวลูกเลื่อน จะเกาะแงํท๎ายของหัวลูกเลื่อนไว๎ ท าให๎หัวลูกเลื่อนและตัวลูกเลื่อนยึดติดกันแนํน ๙.๖.๕ โอกาสที่ตัวลูกเลื่อนชนท๎ายหัวลูกเลื่อนนั้น ขอรั้งปลอกกระสุนจะอ๎าออกและ เกาะขอบจานท๎ายปลอกกระสุนไว๎ ๙.๖.๖ การที่หัวลูกเลื่อนและตัวลูกเลื่อนยึดเข๎าด๎วยกัน กลอนลูกกลิ้งเข๎าอยูํในรํองขัด กลอน และเครื่องลูกเลื่อนปิดท๎ายรังเพลิงสนิทนั้น เรียกวํา “การขัดกลอน” การที่จะท าให๎การทางานทั้ง ๖ ขั้นนี้ เกิดขึ้นใหมํจะต๎องเหนี่ยวไกใหมํ จึงจะเริ่มการยิง ปลดกลอน, คัดปลอก, ขึ้นนก, บรรจุและขัดกลอน ตามล าดับ ๑๐. การท างานของเครื่องลั่นไก ชิ้นสํวนตําง ๆ ของเครื่องลั่นไกมีดังนี้ ๑๐.๑ ตัวลูกเลื่อน - เข็มแทงชนวน ๑๐.๒ เหล็กปลดกระเดื่องไกหน๎า - ปุุมรับนกปืน ๑๐.๓ แหนบไก - นกปืน ๑๐.๔ สลักห๎ามไก - แหนบแกนแหนบนกปืน ๑๐.๕ กระเดื่องไกหน๎า - แหนบกระเดื่องไกหน๎า ๑๐.๖ กระเดื่องไก - ไก กระเดื่องไก การเคลื่อนที่ของกระเดื่องไก ๑๐.๗ กระเดื่องไก จะเคลื่อนที่ไปข๎างหน๎าได๎ด๎วยแหนบ กระเดื่องไกซึ่งอยูํภายในกระเดื่อง ๑๐.๘ กระเดื่องไก จะเคลื่อนที่มาข๎างหลังได๎ด๎วยแรงดันของแหนบนกปืน ๑๐.๙ หัวกระเดื่องไก จะยกตัวสูงขึ้นได๎ด๎วย แหนบกระเดื่องไกหน๎า ๑๐.๑๐ ท๎ายกระเดื่องไกจะยกตัวสูงขึ้นได๎ด๎วยการเหนี่ยวไกให๎ท๎ายไกสูงขึ้น ท๎ายกระเดื่องไก จึงจะสูงขึ้นได๎


๔๙ ๑๑. การท างานของห๎ามไก สลักห๎ามไกมีรูปรํางเป็นสลักฝาครึ่งซีกหน๎าเว๎า อีกซีกหนึ่งนูนเต็ม ๑๑.๑ เมื่อปืนอยูํในอาการขึ้นนก แงํหลังนกปืนขัดกับหัวกระเดื่องไก แหนบนกปืนอัดตัว ดันให๎กระเดื่องไกถอยมาข๎างหลัง ขึ้นเกยบนท๎ายไก ๑๑.๒ เมื่อหมุนคันบังคับการยิงที่ตาแหนํง“ห๎ามไก” (ห) สํวนนูนของสลักห๎ามไกจะกดท๎ายไกไว๎ ๑๑.๓ เมื่อเหนี่ยวไก ห๎ามไกจึงสูงขึ้นไมํได๎หัวกระเดื่องไกก็ไมํต่ าลง นกปืนจึงไมํฟาดตัวไป ข๎างหน๎า อาการเชํนนี้เรียกวํา “ห๎ามไก” ๑๒. การยิงทีละนัด ตั้งคันบังคับการยิงตาแหนํงกึ่งกลาง (ย./น.) ในต าแหนํงนี้สลักไกจะหมุนตัว เอาสํวนเว๎าเข๎าหาท๎ายไกเพียงเล็กน๎อย จึงจ ากัดระยะการเหนี่ยวไก ๑๒.๑ ผู๎เหนี่ยวไก ท๎ายไกจะสัมผัสกับท๎ายกระเดื่องไก เมื่อเหนี่ยวไกตํอไปอีกท๎ายกระเดื่องไก ก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ หัวกระเดื่องก็จะหมุนตัวต่ าลง หลุดพ๎นจากแงํหลังนกปืน นกปืนจะเป็นอิสระฟาดตัวไปข๎างหน๎า ๑๒.๒ ขณะที่นกปืนฟาดตัวไปข๎างหน๎านี้อีก กระเดื่องไกที่หลุดจากแงํนกปืน ก็จะเคลื่อนที่ ไปข๎างหน๎าด๎วยแรงแหนบกระเดื่องไก ซึ่งอยูํภายในตัวกระเดื่อง ๑๒.๓ แหนบกระเดื่องไกหน๎าจะดันให๎หัวกระเดื่องไกสูงขึ้น ท าให๎ท๎ายกระเดื่องไกลดลงต่ า เข๎าขัดกับบากท๎ายไก ๑๒.๔ เมื่อลูกเลื่อนเคลื่อนที่มาข๎างหลัง พร๎อมกับดันให๎นกปืนหงายมาข๎างหลังด๎วย แงํหลัง นกปืนถูกหัวกระเดื่องไกขัดไว๎ แหนบนกปืนอัดตัว ตํอจากนั้นแงํหน๎านกปืนก็จะถูก ปุุมรับนกปืนของกระเดื่องไก หน๎าขัดไว๎อีก ๑๒.๕ เมื่อลูกเลื่อนเคลื่อนที่ไปข๎างหน๎า ลาดใต๎ห๎องลูกเลื่อนจะกดเหล็กปลดกระเดื่องไก หน๎าให๎ต่ าลง ท าให๎ปุุมรับนกปืนของกระเดื่องไกหน๎าหลุดจากแงํหน๎านกปืน ตอนนี้นกปืนจะถูกกระเดื่องไกขัดไว๎ เพียงอยํางเดียว แตํอยํางไรก็ตาม กระเดื่องไกก็ไมํสามารถเคลื่อนที่ได๎เพราะยังขัดอยูํกับแงํหลังนกปืน และท๎าย กระเดื่องไกก็ยังชนกับบากท๎ายไกตลอดเวลา เมื่อผู๎ยิงยังเหนี่ยวไกอยูํจึงเป็นการท าให๎ปืนท าการยิงได๎ทีละนัด ๑๒.๕ เมื่อจะท าการยิงนัดตํอไป ผู๎ยิงต๎องปลํอยเสียกํอน เพื่อให๎ท๎ายไกต่ าลง แงํหลังนกปืน จึงจะดันกระเดื่องไกไปข๎างหลังได๎และท๎ายกระเดื่องไกก็จะขึ้นไปเกยอยูํบนบากท๎ายไก ท าให๎สามารถเหนี่ยวไกยิง กระสุนนัดตํอไปได๎ ๑๓. การยิงเป็นชุด ตั้งคันบังคับการยิงต าแหนํง (ย./ช.) สลักห๎ามไกจะหมุนเอาด๎านเว๎าทั้งหมด เข๎าหาท๎ายไก ท าให๎ระยะเหนี่ยวไกมากกวําการยิงทีละนัด ๑๓.๑ เมื่อเหนี่ยวไก กระสุนนัดแรกปืนจะท าการยิงเชํนเดียวกับการยิงทีละนัด แตํ เนื่องจากมีระยะเหนี่ยวไกมากนั่นเอง ท าให๎ท๎ายไกสูงขึ้นมาก หัวกระเดื่องไกจึงหมุนตัวต่ าลงมา จนไมํสามารถขัดกับ แงํหลังของนกปืนได๎ ๑๓.๒ ดังนั้นเมื่อลูกเลื่อนเคลื่อนที่มาข๎างหลังนี้ปุุมรับนกปืนของกระเดื่องไกหน๎าจะขัดกับ แงํหน๎านกปืนไว๎แตํเพียงอยํางเดียว ๑๓.๓ ขณะที่ลูกเลื่อนเคลื่อนที่กลับไปข๎างหน๎า ลาดใต๎ห๎องลูกเลื่อนจะกดเหล็กปลด กระเดื่องไกหน๎าให๎ต่ าลง ท าให๎ปุุมรับนกปืนของกระเดื่องไกหน๎า หลุดจากแงํหน๎านกปืน และนกปืนจะฟาดตัวไป ข๎างหน๎า ท าให๎ปืนยิงเป็นอัตโนมัติ(เป็นชุด) ตราบเทําที่ผู๎ยิงยังเหนี่ยวไกอยูํ ๑๓.๔ เมื่อผู๎ยิงปลํอยไก หัวกระเดื่องไกจะหมุนตัวสูงขึ้น ด๎วยแรงดันของแหนบกระเดื่องไก เข๎าขัดกับแงํหลังนกปืน เป็นการหยุดยิง และปืนอยูํในอาการขึ้นนก


๕๐ ๑๔. การตรวจปืนและการใช๎ปืน ๑๔.๑ การตรวจปืนขั้นต๎น เพื่อดูวํามีกระสุนค๎างอยูํรังเพลิงหรือไมํ ๑๔.๑.๑ ตั้งคันบังคับการยิง ที่ต าแหนํง (ห.) ๑๔.๑.๒ ปลดซองกระสุนออก ๑๔.๑.๓ ดึงคันรั้งลูกเลื่อนมาข๎างหลังและปลํอยไปข๎างหน๎า ๒ - ๓ ครั้ง ๑๔.๑.๔ ค๎างลูกเลื่อนไว๎ข๎างหน๎าด๎วยการยึดคันรั้งลูกเลื่อนไว๎ในชํองบากท๎ายเรือนคันรั้งลูกเลื่อน ๑๔.๑.๕ ตรวจดูรังเพลิงวํามีกระสุนหรือไมํ ๑๔.๑.๖ ปลํอยคันรั้งลูกเลื่อนกลับไปข๎างหน๎า ปลดห๎ามไก ลั่นไก โดยหันปาก กระบอกปืนไปในทิศทางที่ไมํมีอันตรายตํอผู๎ใดผู๎หนึ่ง ๑๔.๒ การตรวจปืนกํอนการยิง ๑๔.๒.๑ เช็ดน้ ามันในล ากล๎องให๎แห๎ง ๑๔.๒.๒ ตรวจการท างานของเครื่องลูกเลื่อนและเครื่องลั่นไก ๑๔.๒.๓ ซองกระสุนต๎องเข๎าที่ถูกต๎อง ๑๔.๒.๔ ปลอกปูองกันแสงหรือปลอกทวีความถอย(เมื่อยิงกระสุนซ๎อมรบ) ต๎องเข๎าที่สนิท ๑๕. เหตุติดขัดและการแก๎ไขขั้นต๎น หมายถึงการปฏิบัติโดยทันทีหลังจากปืนติดขัดโดยยังไมํต๎อง พิจารณาค๎นหาสาเหตุอื่น ๆ แตํอยํางใด เมื่อเหนี่ยวไก นกปืนท างานแตํปืนไมํลั่น ให๎ปฏิบัติดังนี้ ๑๕.๑ รอประมาณ ๑๐ วินาที(นับ ๑ – ๑๐) ๑๕.๒ ดึงคันรั้งลูกเลื่อนมาข๎างหลังละปลํอยกลับโดยเร็ว ๑๕.๓ ท าการเล็งและยิงตํอไป ๑๕.๔ ถ๎าปืนยังท าการยิงตํอไปไมํได๎ให๎ห๎ามไก ถอดซองกระสุนออก แล๎วพิจารณาค๎นหา สาเหตุของการติดขัดตํอไป ๑๖. สาเหตุขัดข๎อง สาเหตุ วิธีแก๎ไข ๑๖.๑ ลูกเลื่อนเคลื่อนที่ไป ข๎างหน๎าโดยไมํปูอนกระสุน ๑๖.๒ ไมํรั้งหรือไมํคัดปลอก กระสุน ๑๖.๓ ปืนไมํลั่น ๑๖.๔ ลูกเลื่อนปิดรังเพลิงไมํ สนิทกระสุนเข๎ารังเพลิงไมํถึงที่ ๑. ใสํซองกระสุนเข๎าที่ไมํสนิท ๒. ซองกระสุนหลวมคลอน ๓. ปากซองกระสุนผิดรูป ๑. ขอรั้งหรือแหนบขอรั้งปลอก กระสุนช ารุด ๒. เหล็กคัดปลอกกระสุนช ารุด ๓. รังเพลิงสกปรก ๑. เข็มแทงชนวนหัก ๒. เข็มแทงชนวนสั้น ๓. กระสุนด๎าน ๔. รังเพลิงสกปรก ๑. ท๎ายล ากล๎องสกปรก ๒. กระสุนผิดรูป ๓. แหนบสํงลูกเลื่อนหัก ๑. ใสํซองกระสุนเข๎าที่ให๎สนิท ๒.๑ ตรวจเหล็กยึดซองกระสุนถ๎าช ารุดสํงซํอม ๒.๑ เปลี่ยนซองกระสุนใหมํแล๎วสํงซองกระสุนซํอมสํงซํอม ๓. สํงซํอม ๑.๑ ท าความสะอาดรังเพลิง ๑.๒ สํงซํอม ๒. สํงซํอม ๓.๑ บรรจุกระสุนใหมํ ๓.๒ ท าความสะอาด ๑. สํงซํอม ๒. สํงซํอม ๓. บรรจุกระสุนใหมํ ๔. ท าความสะอาด ๑. สํงซํอม ๒. บรรจุกระสุนใหมํ ๓. สํงซํอม


๕๑ บทที่ ๑๒ ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ ขนาด ๕.๕๖ มม. (M4 Series) (ปลสอ.๕.๕๖ มม.) ข๎อมูลทั่วไป และคุณลักษณะ ๑. ประวัติการประจ าการ ๑.๑ ในปี พ.ศ.๒๕๔๗ กองทัพอากาศมีความต๎องการอาวุธปืนที่มีความทันสมัย และมีความ คลํองตัวเพื่อใช๎ในภารกิจปูองกันที่ตั้ง ซึ่งในชํวงเวลานั้นแนวโน๎มการพัฒนาอาวุธประจ ากายของก าลังรบ ในกองทัพ ตําง ๆ ทั่วโลก เป็นการน าปืนเล็กสั้นอัตโนมัติที่มีความคลํองตัวสูง สามารถติดตั้งอุปกรณ์การเล็งและอุปกรณ์เสริมที่ ทันสมัยอื่น ๆ มาทดแทนปืนเล็กยาวอัตโนมัติแบบที่ใช๎อยูํเดิม ดังตัวอยําง กองทัพสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยูํในระหวํางการน า ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ M4/M4A1 เข๎าใช๎เป็นอาวุธประจ ากายของทหารราบ ทดแทนปืนเล็กยาวอัตโนมัติ M16A2 / A3 / A4 ในขณะนั้น กองทัพอากาศจึงพิจารณาน าปืนเล็กยาวอัตโนมัติ M16A1 ที่มีอยูํมาดัดแปรโดยจัดซื้อโครงปืนสํวนบน พร๎อมล ากล๎องกับพานท๎ายพร๎อมชุดรับแรงกระแทกของปืนเล็กสั้นแบบ M4 มาประกอบกับโครงปืนสํวนลํางของปืนเล็ก ยาวอัตโนมัติ M16A1 ที่กองทัพอากาศมีอยูํ ได๎เป็นปืนเล็กสั้นที่มีสมรรถนะเทียบเทําปืนเล็กสั้น M4A1 โดยในครั้งแรกนั้น กองทัพอากาศได๎จัดซื้อสํวนประกอบที่ผลิตโดย บริษัท Bushmaster มาดัดแปร เป็น ๒ แบบ คือ ๑.๑.๑ แบบที่ใช๎โครงปืนสํวนบน (Upper Receiver) พร๎อมชุดล ากล๎องยาว ๑๑.๕ นิ้ว และพานท๎าย ประกอบกับโครงปืนสํวนลํางของ M16A1 ทอ.เรียกเป็น “ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติขนาด ๕.๕๖ มม. M4A3 ดัดแปร1” ชื่อยํอ “ปลสอ.๕.๕๖ - ๑” (รูปภาพ : ปลสอ.๕.๕๖ - ๑) ๑.๑.๒ แบบที่ใช๎โครงปืนสํวนบน (Upper Receiver) พร๎อมชุดล ากล๎องยาว ๑๔.๕ นิ้ว และพานท๎าย ประกอบกับโครงปืนสํวนลํางของ M16A1 ทอ.เรียกเป็น “ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติขนาด ๕.๕๖ มม. M4A3 ดัดแปร 2” ชื่อยํอ “ปลสอ.๕.๕๖ - ๑ ก” (รูปภาพ : ปลสอ.๕.๕๖ – ๑ ก)


๕๒ - ปืนดัดแปรทั้งสองแบบได๎เข๎าประจ าการใน กรม ปพ.อย. เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ และน าไปใช๎ในภารกิจปูองกันที่ตั้งของกองทัพอากาศในสามจังหวัดชายแดนภาคใต๎ตั้งแตํปี พ.ศ.๒๕๔๙ จนถึงปัจจุบัน และปี พ.ศ.๒๕๕๗ ทอ.ได๎ซื้อเพิ่มเติมจากบริษัท COLT อีกหนึ่งแบบ คือ ๑.๑.๓ แบบที่ใช๎โครงปืนสํวนบน (Upper Receiver) พร๎อมชุดล ากล๎องยาว ๑๔.๕ นิ้ว และพานท๎ายแท๎ COLTประกอบกับโครงปืนสํวนลํางของ M16A1 ทอ.เรียกเป็น “ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติขนาด ๕.๕๖ มม. M4A3 ดัดแปร 3” ชื่อยํอ “ปลสอ.๕.๕๖ – ๑ ข” (รูปภาพ : ปลสอ.๕.๕๖ – ๑ ข) ๑.๑.๔ ในปี พ.ศ.๒๕๕๓ ทอ.ได๎จัดซื้อ ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ M4 ผํานระบบจัดหาทางทหาร และเข๎าประจ าการใน กรม ปพ.อย.ในปี พ.ศ.๒๕๕๗ เรียกเป็น “ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติขนาด ๕.๕๖ มม. COLT M4” ชื่อยํอ “ปลสอ.๕.๕๖ – ๒” (รูปภาพ : ปลสอ.๕.๕๖ - ๒) ๑.๑.๕ ทอ.จัดซื้อ ปืนเล็กสั้นกึ่งอัตโนมัติ เป็นแบบด๎ามหิ้วตายตัว ชื่อทางการค๎า M4A2 จากบริษัท Bushmaste อีกบริษัทหนึ่ง เรียกเป็น “ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ ขนาด ๕.๕๖ มม. M4A2” ชื่อยํอ “ปลสอ.๕.๕๖ – ๒ ก” (รูปภาพ : ปลสอ.๕.๕๖ – ๒ ก) ๑.๑.๖ ทอ.จัดซื้อ ปืนเล็กสั้นกึ่งอัตโนมัติ เป็นแบบด๎ามหิ้วติดตั้งบนรางถอดได๎ชื่อทางการค๎า M4A3 จากบริษัท Bushmaste อีกบริษัทหนึ่ง เรียกเป็น “ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ ขนาด ๕.๕๖ มม. M4A3” ชื่อยํอ “ปลสอ.๕.๕๖ – ๒ ข” (รูปภาพ : ปลสอ.๕.๕๖ – ๒ ข)


๕๓ ๒. รุํนของปืน และการก าหนดชื่อ ค ายํอ ๒.๑ ชื่อภาษาไทย ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ ขนาด ๕.๕๖ มม. เอ็ม ๔ เอ ๓ (ดัดแปร ๑) ชื่อภาษาอังกฤษ CARBINE, AUTOMATIC, CAL. 5.56 MM” M4A3 (MOD 1) ค ายํอ ปลสอ. ๕.๕๖ – ๑ NSN 1005-35-802-0223 ๒.๒ ชื่อภาษาไทย ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ ขนาด ๕.๕๖ มม. เอ็ม ๔ เอ ๓ (ดัดแปร ๒) ชื่อภาษาอังกฤษ CARBIN, AUTOMATIC, CAL. 5.56 MM. M4A3 (MOD 2) ค ายํอ ปลสอ. ๕.๕๖ – ๑ ก NSN 1005-35-802-0224 ๒.๓ ชื่อภาษาไทย ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ ขนาด ๕.๕๖ มม. เอ็ม ๔ เอ ๓ (ดัดแปร ๓) ชื่อภาษาอังกฤษ CARBIN, AUTOMATIC, CAL. 5.56 MM. M4A3 (MOD 3) ค ายํอ ปลสอ. ๕.๕๖ – ๑ ข NSN 1005-95-802-4245 ๒.๔ ชื่อภาษาไทย ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ ขนาด ๕.๕๖ มม. โคสท์ เอ็ม ๔ ชื่อภาษาอังกฤษ CARBIN, AUTOMATIC, CAL. 5.56 MM. MODEL COLT M4 ค ายํอ ปลสอ. ๕.๕๖ – ๒ NSN 1005-35-802-2461 ๒.๕ ชื่อภาษาไทย ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ ขนาด ๕.๕๖ มม. เอ็ม ๔ เอ ๒ ชื่อภาษาอังกฤษ CARBIN, AUTOMATIC, CAL 5.56 MM. M4A2 ค ายํอ ปลสอ. ๕.๕๖ – ๒ ก NSN 1005-35-802-2461 ๒.๖ ชื่อภาษาไทย ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ ขนาด ๕.๕ต มม. เอ็ม ๔ เอ ๓ ชื่อภาษาอังกฤษ CARBIN, AUTOMATIC, CAL. 5.56 MM. M4A3 ค ายํอ ปลสอ. ๕.๕๖ – ๒ ข NSN 1005-01-547-6479


๕๔ ๓. กลําวทั่วไป ปืนเล็กสั้นอัตโนมัติ ขนาด ๕.๕๖ มม.(M4 Series) เป็นปืนที่มีน้ าหนักเบา ท างาน โดยใช๎แรงดันจากแก๏ส ระบายความร๎อนโดยการไหลเวียนของอากาศ บรรจุกระสุนด๎วยซองกระสุน เป็นอาวุธพาดไหลํ สามารถยิงอัตโนมัติ กึ่งอัตโนมัติ และยิ่งตํอเนื่องชุดละสามนัด ๓.๑ ความกว๎างปากล ากล๎อง : ๕.๕๖ มม. ๓.๒ น้ าหนัก : ๓.๕๑ กิโลกรัม (๗.๗๕ ปอนด์) ๓.๓ น้ าหนัก (เมื่อใสํสายสะพาย และซองกระสุน) : ๓.๙๑ กิโลกรัม (๘.๖๓ ปอนด์) ๓.๔ ความยาว ๓.๔.๑ เมื่อพับพานท๎าย : ๗๕.๕๖ เซนติเมตร (๒๙.๗๕ นิ้ว) ๓.๔.๒ เมื่อยืดพานท๎าย : ๘๓.๘๒ เซนติเมตร (๓๓ นิ้ว) ๓.๕ พานท๎าย ๔ ต าแหนํง : เปิด, เปิดครึ่งหนึ่ง, เปิด ๓/๔, เปิดสุด ๓.๖ ความเร็วต๎นกระสุน : ๒,๙๗๐ ฟุตตํอวินาที ๓.๗ ความดันในล ากล๎อง : ๕๒,๐๐๐ ปอนด์ตํอตารางนิ้ว ๓.๘ อัตราเร็วในการยิง : ๗๐๐ – ๙๗๐ นัดตํอนาที ๓.๙ ตัวเลือกการยิง : SAFE – SEMI – BURST (M4) : SAFE – SEMI – AUTO (M4A1) ๓.๑๐ อัตราการยิงที่ดีที่สุด : กึ่งอัตโนมัติ ๔๕ นัดตํอนาที : ชุดละ ๓ นัด ๙๐ นัดตํอนาที : ยิงตํอเนื่อง ๑๒ – ๑๕ นัดตํอนาที ๓.๑๑ ระยะการยิงที่ดีที่สุด : ส าหรับเปูาคน หรือเปูาจุดเล็กๆ ๕๕๐ เมตร : ส าหรับเปูาหมายที่เป็นพื้นที่j ๘๐๐ เมตร ๓.๑๒ ระยะยิงไกลสุด : ๓,๖๐๐ เมตร


๕๕ ๔. สํวนประกอบตํางๆ ของปืน ๔.๑ Charging Handle Assembly (1) ใช๎ส าหรับบรรจุกระสุนครั้งแรก ให๎ท าการล็อกให๎ เรียบร๎อยกํอนท าการยิง ๔.๒ ชุดลูกเลื่อน และเข็มแทงชนวน (2) มีหน๎าที่ ล็อกกระสุนในรังเพลิง จุดชนวนท๎ายปลอก กระสุน คัดปลอกกระสุน โดยใช๎สปริงและแรงดันแก๏สจากการจุดตัวของดินสํงกระสุน ๔.๓ ศูนย์หลังส ารอง (3) ใช๎ส าหรับเล็งเปูาหมายในกรณีที่ไมํได๎ติดตั้งกล๎องเล็ง หรือไมํสามารถ ใช๎งานกล๎องเล็งได๎ ๔.๔ Upper Receiver และชุดล ากล๎องปืน (4) มีหน๎าที่ในการรองรับชุดลูกเลื่อน ล ากล๎องปืน มีหน๎าที่ยิงและควบคุมทิศทางการยิง ๔.๕ Lower Receiver และชุดพานท๎ายปืน (5) มีหน๎าที่เกี่ยวข๎องกับกลไกพื้นฐานของปืน ใช๎ เป็นที่ถือและหนุนไหลํ ๔.๖ ด๎ามจับ (6) ใช๎ส าหรับเพิ่มความมั่นคงหรือความนิ่งของปืนในการยิง ๔.๗ ของกระสุน (7) ใช๎บรรจุกระสุน จ านวน ๓๐ นัด และจัดต าแหนํงของกระสุนในการบรรจุ ๔.๘ สายสะพายสั้น (8) ใช๎ส าหรับถือปืน


๕๖ ๕. มุมมองด้านขวาของปืน M4/M4A1 ๕.๑ Charging Handle (1) ใช๎ส าหรับบรรจุกระสุนเข๎ารังเพลิงส าหรับนัดแรก ๕.๒ ศูนย์หลังส ารอง (2) ใช๎ส าหรับเล็งปืนในกรณีที่ไมํมีอุปกรณ์ชํวยเล็ง หรือไมํสามารถใช๎ อุปกรณ์ชํวยเล็งได๎ ๕.๓ M4 Adaptor Rail (3) ใช๎ส าหรับติดอุปกรณ์เสริมได๎หลากหลายชนิด ๕.๔ ชุดศูนย์หน๎า (4) ใช๎ปรับจุดกระสุนตกกระทบ ขึ้นหรือลง ๕.๕ สลักส าหรับดาบปลายปืน (5) ใช๎ส าหรับติดดาบปลายปืน ๕.๖ ฝาปิดชํองคัดปลอกกระสุน (6) ใช๎ส าหรับปิดดันฝุุนเข๎าในรังเพลิง ควรปิดทุกครั้งที่ไมํได๎ใช๎ปืน ๕.๗ ชุดล็อกซองกระสุน (7) ส าหรับล็อกให๎ซองกระสุนกระชับ และปลดซองกระสุนออกเมื่อกดปุุม ๕.๘ ซองกระสุน (8) ใช๎บรรจุกระสุน ขนาด ๕.๕๖ มม. ๕.๙ ไกปืน (9) ใช๎กดเพื่อยิงกระสุนออกไป ๕.๑๐ Forward Assist Assembly (10) ส าหรับสํงชุดลูกเลื่อนให๎ล็อกเข๎าที่


๕๗ ๖. มุมมองด๎านซ๎ายของปืน M4/M4A1 ๖.๑ ปลอกลดแสง (1) ปูองกันการกระดก Muzzle Rising เวลายิง ๖.๒ แทํนศูนย์หน๎า (2) ปรับเปูากระสุน ขึ้น-ลง ๖.๓ สวิตซ์เลือกโหมดการยิง (3) ส าหรับเลือกโหมดการยิง และล็อกไกปืน ๖.๔ ชุดพานท๎ายปืนปรับระยะได๎ (4) ส าหรับบรรจุสปริงลดแรงกระแทก สามารถปรับความยาวได๎ ๖.๕ สายสะพาย (5) ใช๎ส าหรับถือ หรือสะพายปืน ๖.๖ Lock/Release Lever (6) ใช๎ล็อกพานท๎ายปืนในต าแหนํงยืดหรือหด หรือใช๎เลื่อนพาน ท๎ายไปต าแหนํงตํางๆ ๖.๗ Bolt Catch (7) ส าหรับยึดชุดลูกเลื่อนไว๎ด๎านหลัง หลังจากการยิงในนัดสุดท๎าย ๖.๘ Slip Ring (8) ใช๎ส าหรับล็อกประกับปืน ๖.๙ ชํองใสํสายสะพาน (9) ส าหรับติดตั้งสายสะพายกับปืน ๗. โหมดการยิง ๗.๑ ต าแหนํง “Safe” ปืนจะไมํสามารถยิงได๎ ควรปรับเป็นเมื่อโหมดนี้เมื่อท าการบรรจุซอง กระสุน หรือน าซองกระสุนออกจากปืน ๗.๒ ต าแหนํง “Semi” ปืนจะยิงทีละนัดตํอการเหนี่ยวไกหนึ่งครั้ง ๗.๓ ต าแหนํง “Burst” โหมดยิงชุด (เฉพาะปืน M16A2, M16A4 และ M4 เทํานั้น) ปืนจะยิง ชุดละสามนัดตํอการเหนี่ยวไกหนึ่งครั้ง ๗.๔ ต าแหนํง “Auto” โหมดอัตโนมัติ (เฉพาะปืน M4A1 และ M16A3 เทํานั้น) ยิงตํอเนื่อง เมื่อเหนี่ยวไกค๎างไว๎


๕๘ ๘. ขั้นตอนฉุกเฉิน ๘.๑ ดันซองกระสุนขึ้น เพื่อให๎มั่นใจวําซองกระสุนอยูํในต าแหนํงที่เหมาะสม ๘.๒ ดึง Charging Handle ไปด๎านหลังจนสุด ๘.๓ สังเกตการคัดปลอกกระสุนของปืน ๘.๔ ถ๎ามีปลอกกระสุนหรือกระสุนถูกคัดออกมาหรือรังเพลิงวําง ให๎ปลํอย Charging Handle เพื่อบรรจุกระสุนนัดถัดไป ปลํอย Charging Handle เพื่อบรรจุกระสุนนัดถัดไป ปลํอย Charging Handle ไปข๎างหน๎าอยํางรวดเร็ว ๘.๕ กดปุุม Forward Assist ๘.๖ เหนี่ยวไก ปืนควรจะยิง ๘.๗ ถ๎าหากปืนไมํยิง ให๎ปฏิบัติตามขั้นตอนการแก๎ไข (รูปภาพ : การปฏิบัติในขั้นตอนฉุกเฉิน) ๙. การแก๎ไข ๙.๑ ถ๎ายังไมํสามารถยิงกระสุนออกจากปืนได๎หลังจากปฏิบัติตามขั้นตอนฉุกเฉินแล๎ว ให๎ ตรวจสอบอีกครั้งวํามีกระสุนขัดอยูํในปืนหรือไมํ ๙.๒ ถ๎ากระสุนยังค๎างอยูํในรังเพลิง ให๎ดันออกโดยให๎แทํงเหล็กที่ใช๎ท าความสะอาด (รูปภาพ : การตรวจสอบกระสุนในรังเพลิง และการใช๎แทํงเหล็กดันกระสุนออก)


๕๙ ๑๐. การตรวจหาข๎อขัดข๎อง ความผิดปกติ การทดสอบ หรือตรวจสอบ การแก๎ไข ปืนยิงไมํออก ยังอยูํในโหมด SAFE ปรับให๎อยูํในโหมดการยิง การประกอบชุดลูกเลื่อนไมํสมบูรณ์ ประกอบชุดลูกเลื่อนใหมํให๎ถูกต๎อง น้ ามันสํวนเกินในชํองเข็มแทงชนวน ท าความสะอาดชํองเข็มแทงชนวน กระสุนเสื่อมสภาพ เปลี่ยนกระสุนใหมํ พื้นผิวขรุขระบน Rpund Primer แจ๎งเจ๎าหน๎าที่ดูแลรักษาอาวุธ ปลดล็อกชุดลูกเลื่อนไมํได๎ ชุดลูกเลื่อนสกปรก หรือพื้นผิวขรุขระ แจ๎งเจ๎าหน๎าที่ดูแลรักษาอาวุธ บรรจุกระสุนไมํได๎ ซองกระสุนสกปรก ท าความสะอาดซองกระสุน ซองกระสุนช ารุด เปลี่ยนซองกระสุนใหมํ กระสุนล๎นซองกระสุน น ากระสุนที่เกินออก ชุดรับแรงกระแทกติดขัด ท าความสะอาดชุดรับแรงกระแทก และสปริง ซองกระสุนไมํกระชับ ตบท๎ายซองกระสุนหรือขยับปุุมล็อกซองกระสุน บรรจุกระสุนเข๎าสองนัดพร๎อมกัน ซองกระสุนช ารุด เปลี่ยนซองกระสุนใหมํ กระสุนไมํเข๎ารังเพลิง กระสุนสกปรกหรือเป็นสนิม ท าความสะอาดหรือเปลี่ยนกระสุน กระสุนบิ่น เปลี่ยนกระสุนใหมํ เขมําในรังเพลิงหรือทํอแก๏ส ท าความสะอาดรังเพลิงหรือทํอแก๏ส ชุดลูกเลื่อนไมํล็อก มีเศษดิน, สนิม, เขมําในล ากล๎อง หรือใน สลักล็อคชุดลูกเลื่อน ท าความสะอาดสลักล็อกชุดลูกเลื่อน ไมํคัดปลอกกระสุน ที่คัดปลอกกระสุนแข็งตัว ถอดชุดลูกเลื่อน และท าความสะอาดที่คัดปลอก กระสุน ชุดรับแรงกระแทกติดขัด ท าความสะอาดชุดรับแรงกระเทก และสปริง ชุดลูกเลื่อนติดขัด ท าความสะอาด และชโลมสารหลํอลื่นลงบนชุดลูก เลื่อน กระสุนสกปรกหรือเป็นสนิม ท าความสะอาดหรือเปลี่ยนกระสุน รังเพลิงสกปรก ท าความสะอาดรังเพลิง หรือทํอแก๏ส กระสุนติดขัด ดันกระสุนออกด๎วยแทํงท าความสะอาด สปริงคัดปลอกกระสุนเสีย แจ๎งเจ๎าหน๎าที่ดูแลรักษาอาวุธ Short Recoil ชํองวํางใน Bolt Rings เรียงกันไมํเรียบร๎อย หมุน Bolt Rings ให๎ชํองวํางเรียงกัน เขมําหรือฝุุนใน Carrier Key หรือทํอแก๏ส ท าความสะอาด Carrrier Key และทํอแก๏ส Bolt Rings เสีย หรือหาย (ต๎องมี ๓ ชิ้น) แจ๎งเจ๎าหน๎าทีดูแลรักษาอาวุธ ทํอท าความสะอาดติดอยูํใน Carrier Key แจ๎งเจ๎าหน๎าที่ดูแลรักษาอาวุธ ชุดลูกเลื่อนไมํล็อกหลังจากยิงนัด สุดท๎าย สลักล็อกชุดลูกเลื่อนสกปรก ท าความสะอาดสลักล็อกชุดลูกเลื่อน ซองกระสุนช ารุด เปลี่ยนซองกระสุนใหมํ สวิตซ์เลือกโหมดมีปัญหา สวิตซ์เลือกโหมดแห๎งเกินไป ใสํสารหลํอลื่น เศษดิน หรือทรายอยูํใต๎ไกปืน ท าความสะอาดชุดไกปืน Bolt Carrier มีปัญหา กระสุนติดขัดระหวําง Bolt และ Upper Receiver และ/หรือกระสุนเข๎าไปสองนัด พร๎อมกัน ค าเตือน Bolt อาจจะกระแทกไป ด๎านหน๎าเวลาน ากระสุนออกได๎ ถอดซองกระสุน น ากระสุนออก แจ๎งเจ๎าหน๎าที่ดูแล รักษาอาวุธถ๎าไมํสามารถเอากระสุนที่ติดออกได๎


๖๐ ๑๑. การรักษาสภาพส าหรับผู๎ใช๎ รายการ ห๎วงเวลา สํวนที่ต๎องตรวจสอบ ขั้นตอน อุปกรณ์ไมํพร๎อมใช๎ ๑ กํอน ซองกระสุน สอดเข๎าชํองรับกระสุนได๎งํายยืดเข๎าที่ ซองกระสุนบิดเบี้ยว สอดเข๎ายาก ไมํยึดเข๎าที่ กํอน ซองกระสุน Magazine Follower (แผํนรองรับ กระสุนในซองกระสุน) เคลื่อนได๎งําย/ สปริงมีแรงดัน Magazine Follower ติดขัด/ สปริงแรงอํอน ๒ กํอน ปืนสํวนบน/ล ากล๎อง ตรวจความหลวมของล ากล๎อง (ด๎วยแรงมือเพียงอยํางเดียว) ล ากล๎องหลวม ๓ กํอน/ ระหวําง หูหิ้วติดตั้ง/ ถอด ออกได๎ (กรณีติดตั้ง กับปืน M16A4/M4 และ M4A1) ตรวจชิ้นสํวนที่สูญหาย/เสียหายตรวจ การติดตั้งหูหิ้วกับรางขันสลักหูหิ้ว ด๎วยมือ หูหิ้ว สูญหาย, เสียหายหรือไมํสามารถติด บนรางได๎ ๔ กํอน ศูนย์เล็ง (ปรับศูนย์) ตรวจการปรับ/เคลื่อนศูนย์เล็งปรับไป ที่ต าแหนํงศูนย์หลัง ศูนย์เล็งเสียหาย, สูญหายหรือไมํสามารถ ปรับได๎ ๕ กํอน ปุุมปลดซองกระสุน ปุุมปลดซองล็อคซองกระสุนเข๎าที่ได๎/ ปลดซองกระสุนได๎เมื่อกดปุุมปลดควร ปลํอยซองกระสุนเมื่อกดหากต๎องการ ปรับปุุมปลดซองกระสุน ให๎ใช๎แทํงท า ความสะอาดดันปุุมปลดซองจนปุุม ด๎านซ๎ายยื่นออกจากตัวปืน หมุนปุุม ปลดซองตามเข็มนาฬิกาเพื่อให๎แนํน และหมุนทวนเข็มนาฬิกาเพื่อให๎คลาย ปุุมปลดซองไมํล็อคของกระสุนเข๎าที่ได๎/ไมํ ปลดซองกระสุนได๎เมื่อกด ๖ กํอน ตรวจปืนทุกสํวน ด๎วยสายตา ตรวจสอบชิ้นสํวนที่สูญหาย หรือ เสียหาย รายงานชิ้นสํวนที่สูญหาย หรือเสียหายให๎สํวนซํอมบ ารุง ภาคสนาม ชิ้นสํวนที่สูญหาย หรือเสียหาย จนไมํสามารถ บ ารุงรักษาได๎ ๗ ระหวําง ตรวจปืนทุกสํวน ตามวงรอบ ตรวจให๎แนํใจวําปืนสะอาด และล า กล๎องไมํมีวัตถุแปลกปลอม พบวัตถุแปลกปลอมในล ากล๎อง ๘ ระหวําง การบ ารุงรักษา ระหวํางการยิง ท าความสะอาด และหลํอลื่นปืนหลัง ท าการยิงประมาณ ๒๐๐ นัดหรือเมื่อ สิ้นสุดวัน ๙ หลัง การบ ารุงรักษาปืน/ อุปกรณ์ ถอดประกอบปืน และซองกระสุนท า ความสะอาด และหลํอลื่น ชิ้นสํวนที่สูญหาย หรือเสียหาย จนไมํสามารถ บ ารุงรักษาได๎ ๑๐ กํอน/ หลัง ท าการตรวจการท างาน (อ๎างอิง WP 0008) ปืนไมํผํานการตรวจการท างาน


๖๑ ๑๒. การถอดประกอบปืนขั้นผู๎ใช๎งาน ๑๒.๑ เคลียร์ปืน ๑๒.๒ ถอดสายสะพาย ๑๒.๓ ถอดประกับล ากล๎อง หรือ ประกับรางสํวนลําง ๑๒.๓.๑ ถอดประกอบล ากล๎องโดยวางปืนตั้งขึ้น ใช๎พานท๎ายยันพื้น และใช๎มือทั้ง สองข๎างกดหํวงยึดประกับลง ดึงประกับล ากล๎องออก ๑๒.๓.๒ ถอดประกับรางสํวนลําง วางปืนตั้งขึ้นโดยใช๎พานท๎ายยันพื้น และกดหํวง ยึดประกับลง โยกประกับรางลงด๎านลํางตามแกนหมุน ดึงประกับรางออกจากชํองยึดประกับด๎านหน๎า (รูปภาพ : การถอดประกอบล ากล๎อง หรือการถอดประกับรางสํวนลําง) ๑๒.๔ กดสลักยึดโครงปืนให๎ได๎มากที่สุด โยกปืนสํวนบนออกจากปืนสํวนลําง ๑๒.๕ กดแกนโครงปืนให๎ได๎มากที่สุด ๑๒.๖ แยกปืนสํวนบนออกจากปืนสํวนลําง ๑๒.๗ ถอดหูหิ้วออก (หากท าได๎) คลายสกรูทางด๎านซ๎ายของสลักยึด จะสามารถถอดหูหิ้ว ออกได๎ เมื่อสลักยึดถูกคลาย (รูปภาพ : การกดสลัก และการถอดหูหิ้ว)


๖๒ ๑๒.๘ ดึงคันรั้งลูกเลื่อน และชุดโครงน าลูกเลื่อนมาด๎านหลัง ๑๒.๙ ถอดชุดโครงน าลูกเลื่อน และลูกเลื่อน ๑๒.๑๐ ถอดคันรั้งลูกเลื่อน ๑๒.๑๑ ถอดสลักเข็มแทงชนวน ห๎ามกางหรือบีบสลัก ๑๒.๑๒ กดลูกเลื่อนไปในต าแหนํงล็อค ๑๒.๑๓ ปลํอยเข็มแทงชนวนออกทางด๎านซ๎ายชํองลูกเลื่อน (รูปภาพ : ขั้นตอน ๑๒.๘ – ๑๒.๑๓)


๖๓ ๑๒.๑๔ ถอดสลักลูกเลื่อน หมุนสลักไป ๑ ใน ๔ รอบแล๎วดึงออก ๑๒.๑๕ ถอดลูกเลื่อนออกจากชุดโครงน าลูกเลื่อน ๑๒.๑๖ ถอดสลักขอรั้งปลอก หากปริงอํอนให๎แจ๎งซํอมบ ารุง ๑๒.๑๗ ถอดขอรั้งปลอกและสปริง ห๎ามแยกสปริงออกจากขอรั้งปลอก ๑๒.๑๘ กดสลักรับแรงสะท๎อนเข๎า กดสลักลง และปลํอยสลักรับแรงสะท๎อน ๑๒.๑๙ ถอดสลักรับแรงสะท๎อน และสปริงรับแรงสะท๎อน (รูปภาพ : ขั้นตอน ๑๒.๑๔ – ๑๒.๑๙)


๖๔ ๑๓. การถอดพานท๎ายเฉพาะปืนสั้น ๑๓.๑ กางพานท๎ายออกให๎สุด ๑๓.๒ จับและดึงคานปลดล็อคบริเวณน๏อตยึดลง แล๎วเลื่อนพานท๎ายปืนมาด๎านหลัง เพื่อ แยกสํวนพานท๎ายปืนออกจากปลายปืนสํวนบน (รูปภาพ : การถอดพานท๎ายเฉพาะปืนสั้น) ๑๔. การถอดฝาประกับราง ๑๔.๑ ฝาประกับรางสามารถถอดออก และติดเข๎าประกับรางได๎อยํางรวดเร็ว ๑๔.๒ สามารถถอดฝาประกับรางได๎ โดยการกดกลางคลิปยึด แล๎วเลื่อนฝาประกับออกจาก รางทางเดียวกลับคลิปยึด (รูปภาพ : การถอดฝาประกับราง)


๖๕ ๑๕. ขั้นตอนการประกอบปืน ๑๕.๑ วางปลายด๎านที่ใหญํกวําของ Extretor Spring ใน Extractor และติดตั้งโดยการกด และหมุนตามเข็มนาฬิกา (ต๎องระวังไมํให๎ Extrector Spring และ Rubber Insert หาย) ๑๕.๒ สอด Extractor Assembly เข๎าไปใน Bolt ๑๕.๓ ติดตั้ง Extractor Pin ๑๕.๔ สอด Bolt ไปใน Carrier ๑๕.๕ สอดBolt Cam Pin หมุน Cam Pin ประมาณ ๑ ใน ๔ รอบหลังจากประกอบเสร็จ ค าเตือน ตรวจสอบให๎มั่นใจวํา Cam Pin ได๎ติดตั้งใน Bolt Carrier Assembly เรียบร๎อย หากไมํได๎ใสํ Cam Pin ปืนอาจเกิดการระเบิดเมื่อท าการยิง ๑๕.๖ ใสํ Firing Pin เข๎าใน Carrier และติดตั้งให๎เรียบร๎อย ๑๕.๗ ดึง Bolt ออก ๑๕.๘ ใสํสลัก Retaining Pin หมายเหตุ เข็มแทงชนวนไมํควรหลุดอกมาจาก Bolt Carrier Assembly เมื่ออยูํใน ลักษณะกลับหัว (รูปภาพ : ขั้นตอน ๑๕.๑ – ๑๕.๘)


๖๖ ๑๕.๙ ใสํ Charging Handle เข๎าไปแคํสํวนหนึ่ง ๑๕.๑๐ สอด Bolt Carrier Assembly เข๎าไปในรํองของ Chrging Handle ๑๕.๑๑ ดัน Charging Handle และ Bolt Carrier Assembly เข๎าไปใน Upper Receiver พร๎อมๆกัน ๑๕.๑๒ ส าหรับปืน M4, M4A1 และ M16A4 ด๎ามจับปืนควรจะติดตั้งใหมํบน Notch ด๎านหน๎าของ Upper Receiver Rail เลื่อน Clamping Bar ลงบน Receiver ด๎วยขอบด๎านลํางอยูํใต๎สํวนที่เป็นรู และท าให๎น็อตหัวกลมแนํนด๎วยมือ (รูปภาพ : ขั้นตอน ๑๕.๙ – ๑๕.๑๒) ๑๕.๑๓ การประกอบพานท๎ายปืน ๑๕.๑๓.๑ ส าหรับปืน M4 และ M4A1 ให๎บีบ Lock Release Lever บริเวณ Reetaining Nut และดึงเพื่อติดตั้งพานท๎ายปืนเข๎าใน Lower Receiver Extension ๑๕.๑๓.๒ ส าหรับปืน M16A1, M16A2, M16A4 ให๎สอด Buffer และ Buffer Spring เข๎าไปในพานท๎ายปืน (รูปภาพ : ขั้นตอน ๑๕.๑๓.๑ – ๑๕.๑๓.๒)


๖๗ ๑๕.๑๔ ประกอบ Upper และ Lower Receivers เข๎าด๎วยกัน ๑๕.๑๕ กดสลักตรงจุดหมุนของ Receiver ค าเตือน สวิตซ์เลือกโหมดจะต๎องอยูํในต าแหนํง Safe หรือ Semi กํอนจะปิด Upper Receiver ๑๕.๑๖ ปิด Upper และ Lower Receiver เข๎าด๎วยกัน และกดสลักล็อกลง ๑๕.๑๗ ติดตั้ง Hand Guards หรือ Lower Adapter Rail ค าเตือน ห๎ามใช๎ไขควงหรืออุปกรณ์อื่นในการประกอบ Hand Guards/Lower Rail เพราะอาจจะท าให๎เกิดความเสียหายตํอชิ้นสํวนตํางๆรวมถึง Slip Ring ด๎วย (รูปภาพ : ขั้นตอน ๑๕.๑๔ – ๑๕.๑๗) หมายเหตุการติดตั้ง Rail ไมํมีผลใดๆตํออุปกรณ์เสริมหรือการท างานของระบบเลเซอร์ M7, ดาบปลายปืน M9, M15A2, M23 อุปกรณ์ติดตั้งสายสะพาย และสายสะพาย ๑. ถอด Lower Adaptor Rail เพื่อที่จะติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิด M203 ๑.๑ วางปืนลงบนท๎ายและกด Slip Ring ลงด๎วยมือสองข๎าง สอดประกับบนและ ลําง ๑.๒ สอดปลายด๎ามหน๎าของประกับลํางลงไปในฝาของ Hand Guard ด๎านหน๎า แล๎วดึง Hand Guard Skip Slip Ring สอดปลายอีกด๎านของประกับลํางลงด๎านใน Slip Ring แล๎วปลํอย Slip Ring ตรวจสอบให๎แนํใจวํา Slip Ring ปิดท๎ายฝาประกับเรียบร๎อยดี (รูปภาพ : การติดตั้งรางปืน (Rail))


๖๘ บทที่ ๑๓ ปืนเล็กยาว ขนาด ๗.๖๒ มม.เอฟ เอ็น สไนเปอร์ เมาเซอร์ FN 30-11 (ปลย.๗.๖๒.๑) ๑. ประวัติการออกแบบและพัฒนา ๑.๑ บริษัท FN Herstal เป็นบริษัทผลิตอาวุธปืนที่มีชื่อเสียงตั้งอยูํ ณ เมือง Herstal ประเทศเบลเยี่ยม ด าเนินการผลิตอาวุธปืนทั้งแบบที่บริษัท FN ออกแบบเองและรับผลิตอาวุธปืนตามแบบ ของบริษัทอื่น ภายใต๎สัญญาที่มีตํอกัน บริษัท FN มีประวัติการผลิตปืนตามแบบของบริษัทเมาเซอร์ประเทศเยอรมนี มาเป็นเวลานานโดย บริษัท FN (Fabrique Nationale d” Armes Guerre - โรงงานผลิตอาวุธสงครามแหํงชาติ) กํอตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1889 เพื่อผลิตปืนเล็กยาวเมาเซอร์รุํน 1889 ให๎กับกองทัพเบลเยี่ยม ในชํวงเวลาระหวําง สงครามโลกครั้งที่ ๑ กับสงครามโลกครั้งที่ ๒ บริษัท FN ได๎ด าเนินการผลิตปืนเล็กยาวตามแบบปืนเล็กยาวเมาเซอร์ รุํน 98 โดยปรับปรุงแบบบางสํวนเรียกเป็น FN Model 24 และ Model 30 ผลิตให๎กองทัพ ตําง ๆ ในยุโรป อเมริกาใต๎และประเทศจีนรวมเป็นจ านวนมาก ๑.๒ ในปี ค.ศ. 1972 บริษัท FN ได๎เริ่มน าปืนแบบ FN 30-11 Sniper Rifle ออกจ าหนําย เป็นปืนที่พัฒนาจากปืนเล็กยาวแบบ FN Model 30 มีวัตถุประสงค์เพื่อให๎หนํวยต ารวจและทหารใช๎เป็นปืนซุํมยิง ในภารกิจตํอต๎านการกํอการร๎าย การออกแบบก าหนดเปูาหมายให๎สามารถยิงได๎แมํนย ามีระยะหวังผลไมํน๎อยกวํา ๖๐๐ เมตร ๑.๓ ปืนเล็กยาวแบบ FN 30-11 Sniper Rifle ได๎รับความนิยมคํอนข๎างสูงมีหนํวยงาน ต ารวจและหนํวยงานด๎านความมั่นคงในประเทศเบลเยี่ยม และประเทศอื่น ๆ ในยุโรปจัดซื้อไปใช๎งานจ านวนมาก ตํอมาตลาดปืนซุํมยิงมีการแขํงขันสูงขึ้นมาก บริษัท FN พิจารณาวําการแขํงขันตํอไปอาจไมํคุ๎มคํา จึงยุติการผลิตปืน รุํนนี้ในปี ค.ศ.1986 ๒. คุณลักษณะของปืน ๒.๑ ปืนซุํมยิงระบบลูกเลื่อนใช๎กระสุนขนาด 7.62x51 มิลลิเมตรตัวปืนใช๎โครงปืนลูกเลื่อน แบบเมาเซอร์รุํน 98 ที่สร๎างด๎วยความประณีตสูงติดตั้งล ากล๎องซึ่งขึ้นรูปโดยวิธีการทุบ (Hammer Forged) ซึ่งท า ให๎เนื้อเหล็กมีความทนทานสูงปลายล ากล๎องติดตั้งปลอกลดแสง ๒.๒ ปืนติดตั้งศูนย์ปืน แบบแขํงขันผลิตโดย บริษัท Anschutz สามารถถอดศูนย์ปืนออก เพื่อติดตั้งกล๎องเล็งได๎


๖๙ ๓. ข๎อมูลทางเทคนิค ๓.๑ ระบบการท างาน : ยิงทีละนัด บริหารกลไกลูกเลื่อนด๎วยมือ ระบบลูกเลื่อนเป็นแบบ เมาเซอร์รุํน 98 ขัดกลอนด๎วยปีกลูกเลื่อน (Locking Lug) ด๎านหน๎าลูกเลื่อนสองปีก ด๎านหลังลูกเลื่อนมีปีกลูกเลื่อน ส ารอง อีกหนึ่งปีกขอรั้งปลอกกระสุนมีขนาดใหญํเป็นแบบกรงเล็บ (Claw type extractor) ๓.๒ น้ าหนัก : ปืนหนัก (ไมํรวมขาทรายและกล๎องเล็ง) ๔.๐๘ กิโลกรัม ๓.๓ ความยาว : ปืนทั้งกระบอกติดตั้งปลอกลดแสง ๑๑๕.๘ เซ็นติเมตร : ไมํติดตั้งปลอกลดแสง ๑๑๒ เซ็นติเมตร ๓.๔ ความยาวล ากล๎อง : ล ากล๎อง ๕๑.๘ เซ็นติเมตร ๓.๕ ศูนย์เล็ง : ตัวปืนติดตั้งศูนย์เล็งแบบแขํงขัน Anschutz Number 6723 ศูนย์หน๎า สามารถเลือกเปลี่ยนใบศูนย์ได๎ทั้งแบบแทํง และแบบวงกลมศูนย์หลังเป็นศูนย์รูปรับละเอียดแบบ ไมโครมิเตอร์สามารถเลือกเปลี่ยนขนาดรูของเล็งได๎ปืนที่กองทัพอากาศใช๎งานปกติติดตั้งกล๎องเล็ง Leupold VariX II ก าลังขยาย ๒.๕ – ๘ เทํา ๓.๖ การบรรจุกระสุน : ซองกระสุนบรรจุ ๕ นัด ๓.๗ ห๎ามไก : ปุุมห๎ามไกอยูํด๎านขวาของคอปืน ห๎ามไกเมื่อเลื่อนปุุมห๎ามไกมาด๎านหลัง ๓.๘ ระยะยิงหวังผลไกลสุด : ระยะหวังผล ๖๐๐ เมตร ๔. ชํวงเวลาในการประจ าการ ๔.๑ ปืนเล็กยาว ๗.๖๒ มม. เอฟเอ็น สไนเปอร์ เข๎าประจ าการในกองทัพอากาศ ตั้งแตํ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๔ - ปัจจุบัน ๔.๒ การใช๎งานในกองทัพอากาศ กองทัพอากาศใช๎ปืนเล็กยาว ๗.๖๒ มม. เอฟเอ็นสไนเปอร์ ในภารกิจตํอต๎านการกํอการร๎ายสากล การรักษาความสงบภายในประเทศการปูองกันประเทศ และภารกิจอารักขา บุคคลส าคัญ ๔.๓ การใช๎งานในสงครามหรือข๎อพิพาทตําง ๆ เป็นปืนซุํมยิงที่ใช๎ในการปราบปรามการปล๎น ยึดอากาศยานสายการบินการูด๎าเมื่อ ๒๘ – ๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๔ (เหตุการณ์การปล๎นยึดอากาศยานครั้งนั้น เกิดขึ้นกํอนจะมีการรับปืนเล็กยาว ๗.๖๒ มม. เอฟเอ็นสไนเปอร์เข๎าประจ าการอยํางเป็นทางการ แตํด๎วยความ บังเอิญที่กองทัพอากาศจัดซื้อปืนไว๎กํอนหน๎านั้นแล๎ว และผู๎แทนบริษัทในประเทศไทยอยูํในระหวํางเตรียมการสํง มอบ เจ๎าหน๎าที่กองทัพอากาศจึงได๎ขอยืมปืนมาใช๎งานกํอน)


๗๐ บทที่ ๑๔ ปืนเล็กยาว ขนาด ๗.๖๒ มม. M24 SWS (ปลย.๗.๖๒ มม.เอ็ม ๒๔) ๑. ข๎อมูลทางเทคนิค ๑.๑ ระบบการท างาน : ยิงทีละนัด บริหารกลไกลูกเลื่อนด๎วยมือ ๑.๒ น้ าหนัก : เฉพาะตัวปืน ๕ กิโลกรัม ครบชุดพร๎อมยิง ๖.๗๔ กิโลกรัม ๑.๓ ความยาว : ๑๐๙.๒ เซนติเมตร (๔๓ นิ้ว) ไมํรวมทํอลดเสียง ๑.๔ ความยาวล ากล๎อง : ๖๐.๙ เซนติเมตร (๒๔ นิ้ว) ๑.๕ ศูนย์เล็ง : ตัวปืนมีศูนย์เปิดที่มากับชุดสามารถติดตั้งได๎ปกติติดตั้ง กล๎องเล็ง Leupold Mk IV M3 10x42 mm ๑.๖ การบรรจุกระสุน : บรรจุ ๕ นัดในตัวปืน ๑.๗ ห๎ามไก : ปุุมห๎ามไกอยูํด๎านขวาของคอปืน ๑.๘ กระสุน : กระสุนขนาด ๗.๖๒ x ๕๑ mm NATO : กระสุนธรรมดา M80 : กระสุนแขํงขัน M118 : กระสุนเจาะเกราะ M61 : กระสุนเชิงพาณิชย์ขนาด .๓๐๘ นิ้ว Winchester แบบตํางๆ ๒. ชํวงเวลาในการประจ าการ ๒.๑ เข๎าประจ าการในกองทัพอากาศ ตั้งแตํ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๑ - ปัจจุบัน ๒.๒ การใช๎งานในกองทัพอากาศ ใช๎ในภารกิจ ตํอต๎านการกํอร๎ายสากล การรักษาความสงบ ภายในประเทศ การปูองกันประเทศ และภารกิจอารักขาบุคคลส าคัญ


๗๑ บทที่ ๑๕ ปืนเล็กยาว ขนาด ๗.๖๒ มม. M24 A2 (ปลย.๗.๖๒ มม.เอ็ม ๒๔ เอ ๒) ๑. ข๎อมูลทางเทคนิค ๑.๑ ระบบการท างาน : ยิงทีละนัด บริหารกลไกลูกเลื่อนด๎วยมือ ๑.๒ น้ าหนัก : เฉพาะตัวปืน ๕.๔ กิโลกรัม ครบชุดพร๎อมยิง ๘.๓ กิโลกรัม ๑.๓ ความยาว : ๑๐๙.๒ เซนติเมตร (๔๓ นิ้ว) ไมํรวมทํอลดเสียง ๑.๔ ความยาวล ากล๎อง : ๖๐.๙ เซนติเมตร (๒๔ นิ้ว) ๑.๕ ศูนย์เล็ง : กล๎องเล็ง Leupold รุํน Mark 4 M3 LR/T ที่มีก าลังขยาย ๓.๕ – ๑๐ เทํา ๑.๖ การบรรจุกระสุน : บรรจุ ๕ นัดในแม็กกาซีน ถอดได๎ ๑.๗ ห๎ามไก : ปุุมห๎ามไกอยูํด๎านขวาของคอปืน ๑.๘ กระสุน : กระสุนขนาด ๗.๖๒ x ๕๑ mm NATO : กระสุนธรรมดา M80 : กระสุนแขํงขัน M118 : กระสุนเจาะเกราะ M61 : กระสุนเชิงพาณิชย์ขนาด .๓๐๘ นิ้ว Winchester แบบตํางๆ ๒. ชํวงเวลาในการประจ าการ ๒.๑ เข๎าประจ าการในกองทัพอากาศ ตั้งแตํ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๗ - ปัจจุบัน ๒.๒ การใช๎งานในกองทัพอากาศ ใช๎ในภารกิจ ตํอต๎านการกํอร๎ายสากล การรักษาความสงบ ภายในประเทศ การปูองกันประเทศ และภารกิจอารักขาบุคคลส าคัญ .


๗๒ บทที่ ๑๖ ปืนเล็กยาว ขนาด .๓๓๘ นิ้ว Accuracy international AXMC .338 Lapua Magnum (ปลย.๓๓๘ นิ้ว) ๑. ข๎อทูลทางเทคนิค ๑.๑ ระบบการท างาน : ลูกเลื่อน ขึ้นล ายิงครั้งละ ๑ นัด ๑.๒ น้ าหนัก : ๖.๘ กิโลกรัม ๑.๓ ความยาว : เมื่อกางพานท๎าย ๑๒๕ เซนติเมตร เมื่อพับพานท๎าย ๑๐๔ เซนเมตร ๑.๔ ความยาวล ากล๎อง : ๒๗ นิ้ว ๑.๕ ศูนย์เล็ง : ไมํมีศูนย์ มีราง Stanag 4694/Mil Std 1913 ลาดเอียง 30MOA เพื่อติดกล๎องเล็ง ๑.๖ การบรรจุกระสุน : แม็กกกาซีน ๑๐ นัด ๑.๗ ห๎ามไก : ๓ ต าแหนํงคือพร๎อมยิง, ห๎ามไก, ห๎ามไกและล็อคลูกเลื่อน ๑.๘ ระยะยิงหวังผลไกลสุด : ๑,๗๕๐ เมตร ๑.๙ กระสุน : .๓๓๘ Lapua Magnum (๘.๖ x ๗๐ มม. . ๒. ชํวงเวลาในการประจ าการ ๒.๑ เข๎าประจ าการในกองทัพอากาศ : ตั้งแตํ ๒๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๐ – ปัจจุบัน ๒.๒ การใช๎งานในกองทัพอากาศ : กองทัพอากาศใช๎ ปืนเล็กยาว .338 นิ้ว Multi-Caliber Sniper Rifle ในภารกิจ ตํอต๎านการกํอการร๎ายสากล และภารกิจอารักขาบุคคลส าคัญ


๗๓ บทที่ ๑๗ ปืนเล็กยาวอัตโนมัติ ขนาด ๗.๖๒ มม. PSG - 1 (ปลยอ.๗.๖๒ มม.) ๑. ข๎อมูลทางเทคนิค ๑.๑ ปืนกึ่งอัตโนมัติ : ใช๎กลไกแบบ Roller-Delayed Blowback ๑.๒ น้ าหนักปืน : ๗.๒ กิโลกรัม ๑.๓ ความยาวทั้งกระบอก : ๑๒๓ เซนติเมตร (๔๘.๔๓ นิ้ว) ๑.๔ ความยาวล ากล๎อง : ๖๕ เซนติเมตร (๒๕.๒๙ นิ้ว) ๑.๕ บรรจุกระสุนด๎วยแม็กกาซีนขนาด: ๕ นัด หรือ ๒๐ นัด ๑.๖ ขนาดกระสุน : ๗.๖๒ x ๕๑ มม. NATO (.308) ๑.๗ ระยะยิงหวังผลไกลสุด : ๖๐๐ เมตร ๒. ประวัติการประจ าการและการใช๎งานในกองทัพไทย ๒.๑ เข๎าประจ าการในกองทัพอากาศ : ตั้งแตํ ๑๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๖ - ปัจจุบัน ๒.๒ การใช๎งานในกองทัพอากาศ : ใช๎ในภารกิจปูองกันฐานที่ตั้ง ตํอต๎านการกํอการร๎าย สากล และภารกิจอารักขาบุคคลส าคัญ


๗๔ บทที่ ๑๘ ปืนซุ่มยิง ขนาด .๕๐ นิ้ว เอ็ม ๑๐๗ Barrett M107 (ปซย.๕๐นิ้ว เอ็ม ๑๐๗) ๑. รายละเอียดทางเทคนิค ๑.๑ ระบบการท างาน : กึ่งอัตโนมัติ ท างานด๎วยแรงสะเทือนถอยหลังชนิดถอยสั้น (Short Recoil) ขัดกลอนด๎วยลูกเลื่อนแบบหมุนตัวขัดกลอน ๑.๒ น้ าหนัก : ปืนหนัก (ไมํรวมกระสุน) ๑๒.๙ กิโลกรัม ๑.๓ ความยาวปืนทั้งกระบอกพร๎อมยิง : ๑๔๔.๗๘ เซนติเมตร ๑.๔ ความยาวเมื่อถอดปืนเพื่อขนย๎าย : ๙๖.๕๒ เซนติเมตร ๑.๕ ความยาวล ากล๎อง : ๗๓.๖๖ เซนติเมตร ๑.๖ ศูนย์เล็ง : ติดตั้งกล๎องเล็ง Schmidt and Bender ก าลังขยาย ๕-๒๕ เทํา ตัวปืนมีศูนย์เหล็กส ารอง พับได๎ ศูนย์หน๎าแบบเสา ศูนย์หลังแบบเลื่อน ใบศูนย์เป็นแบบศูนย์รูหมุนปุุมปรับระยะ เพื่อเลื่อนใบศูนย์ขึ้นลง ตั้งระยะได๎ ๑๐๐ – ๑,๕๐๐ เมตร และหมุนปุุมปรับทิศทางเลื่อนใบศูนย์หลังซ๎ายขวาได๎ ๑.๗ การบรรรจุกระสุน : ซองกระสุนบรรจุ 10 นัด ๑.๘ ห๎ามไก : คันห๎ามไกอยูํด๎านซ๎ายของโครงปืนสํวนลํางเหนือด๎ามปืน ห๎ามไกเมื่อตั้งคันห๎ามไกที่ต าแหนํง Safe ๑.๙ ระยะยิงหวังผลไกลสุด : ๑,๘๓๐ เมตร ๑.๑๐ ระยะยิงไกลสุด : ๖,๘๐๐ เมตร ๑.๑๑ กระสุน : .๕๐ นิ้ว (๑๒.๗ x ๙๙ มิลลิเมตร) : กระสุนธรรมดา M33 : กระสุนสํองวิถี M17 : กระสุนเจาะเกราะเพลิง M8 : กระสุนเจาะเกราะเพลิง : MK211 Mod 0 ๒. ประวัติการประจ าและการใช๎งานในกองทัพไทย ๒.๑ กองทัพไทย : มีการใช๎งานปืนซุํมยิงขนาด .50 นิ้ว แบบ Barrett M82A1 / M107 ทั้งในกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ๒.๒ ชํวงเวลาในการประจ าการ : ๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๓ – ปัจจุบัน ในภารกิจ ตํอต๎านการกํอการร๎ายสากล ภารกิจปูองกันประเทศ และภารกิจอารักขาบุคคลส าคัญ


๗๕ บทที่ ๑๙ ปืนซุ่มยิง ขนาด ๑๒.๗ มม. Truvelo SR 12.7 x99 MM (ปซย.๑๒.๗ มม.) ๑. ข๎อมูลทางเทคนิค ๑.๑ ระบบการท างาน : ยิงทีละนัด บริหารกลไกลูกเลื่อนด๎วยมือ ขัดกลอนโดยใช๎ปีก ขัดกลอน (Locking Lug) ๔ จุด ๑.๒ น้ าหนัก : (รวมของกระสุนและกล๎องเล็ง) ประมาณ ๑๖ กิโลกรัม ๑.๓ ความยาว : ปืนทั้งกระบอก ๑๗๐ เซนติเมตร ๑.๔ ความยาวล ากล๎อง : ๑๐๐ เซนติเมตร ๑.๕ ศูนย์เล็ง : ตัวปืนไมํมีศูนย์เหล็ก มีรางส าหรับติดตั้งกล๎องเล็งด๎านบน ของโครงปืน ปืนที่กองทัพอากาศใช๎งาน ปกติติดตั้งกล๎องเล็ง Schmidst and Bender ก าลังขยาย ๕ - ๒๕ เทํา ๑.๖ การบรรจุกระสุน : ซองกระสุนบรรจุ ๕ นัด ๑.๗ ห๎ามไก : คันห๎ามไกอยูํภายในโกรํงไก ห๎ามไกเมื่อดึงดันห๎ามไกเข๎าหาไก ปืน ๑.๘ ระยะยิงหวังผลไกลสุด : ระยะหวังผล ๑,๒๐๐ เมตร ๑.๙ กระสุน :.๕๐ นิ้ว (๑๒.๗ x ๙๙ มิลลิเมตร) : กระสุนธรรมดา M33 : กระสุนสํองวิถี M17 : กระสุนเจาะเกราะเพลิง MB ๒. ชํวงเวลาในการประจ าการ ๒.๑ ประจ าการในกองทัอากาศ: ตั้งแตํ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๖ – ปัจจุบัน ๒.๒ การใช๎งานในกองทัพอากาศ : ใช๎ในภารกิจตํอต๎านการกํอการร๎ายสากล และอารักขาบุคคล ส าคัญ


๗๖ บทที่ ๒๐ ปืนลูกซอง ๑๒ เกจ วินเชสเตอร์ ๑๘๙๗ Winchester Model 1897 Trench Gun (ปซ. ๑๒ เกจ) ๑. คุณลักษณะ ปืนลูกซอง Winchester Model 1897 เป็นปืนลูกซองที่บริหารกลไกด๎วยการเลื่อนกระโจมมือถอยหลัง เพื่อคาย ปลอกกกระสุน และลูกเลื่อนจะถอยหลังออกจากโครงปืน เพื่อดันนกปืนขึ้นล า ดันกระโจมมือเดินหน๎า เพื่อปูอน กระสุนนัดใหมํเข๎าสูํรังเพลิง กลไกนี้เรียกสั้นวําแบบนั้น (Pump Action) ๒. ข๎อมูลทางเทคนิค ๒.๑ ระบบการท างาน : แบบปั๊ม (Pump Action) ๒.๒ น้ าหนัก : ๓.๖ กิโลกรัม (๘ ปอนด์) ๒.๓ ความยาว : ๓๙ ๑/๔ นิ้ว (๑๐๐ เซนติเมตร) ๒.๔ ความยาวล ากล๎อง : ๒๐ นิ้ว (๕๐.๘๐ เซนติเมตร) แบบ Cylinder Choke ๒.๕ ศูนย์หลัง : ศูนย์หน๎าแบบลูกปัด ไมํมีศูนย์หลัง ๒.๖ การบรรจุกระสุน : แม็กกาซีนหลอด ๕ นัด ติดตายตัวใต๎ล ากล๎อง บรรจุจาก ด๎านลํางโครงปืนทีละนัด ๒.๗ ระยะยิงหวังผลไกลสุด : ๒๐ เมตร ๒.๘ อัตราการยิง : ๒๐ นัด ตํอนาที ๒.๙ กระสุน : ลูกซองขนาด ๑๒ (12 Guage) ๒.๑๐ ดาบปลายปืน : British Pattern 1914 ๓. ประวัติการประจ าการและการใช๎งานในกองทัพไทย - ในการปูองกันรักษาความปลอดภัยในสนามบินรวมถึงการขับไลํสัตว์ปีกที่อาจจะรบกวน การบินของอากาศยาน


๗๗ บทที่ ๒๑ ปืนลูกซอง ๑๒ เกจ โมเดล ๑๒ Winchester Model 12 (ปซ. ๑๒ เกจ โมเดล ๑๒) ๑. ข๎อมูลทางเทคนิค ๑.๑ ระบบการท างาน : โยนล า (ปั๊ม หรือ สไลด์แอ็คชั่น) ๑.๒ น้ าหนัก : ๓.๕๘ กิโลกรัม (๗.๙ ปอนด์) ๑.๓ ความยาว : ๓๙ ๑/๒ นิ้ว (๑๐๐ เซนติเมตร) ๑.๔ ความยาวล ากล๎อง : ๒๐ นิ้ว (๕๐.๘๐ เซนติเมตร) ๑.๕ ศูนย์เล็ง : ตุํมเหล็กด๎านหน๎า ๑.๖ การบรรจุกระสุน : ๖ นัด ในแม็กกาซีนหลอดใต๎แนวล ากล๎อง ๑.๗ ห๎ามไก : แบบกลอนขวาง ฝังไว๎ในสํวนหน๎าของโกรํงไก ๑.๘ ระยะยิงหวังผลไกลสุด : ๒๒ หลา (๒๐.๑๑ เมตร) ๑.๙ อัตราการยิง : ๑๒ นัดตํอนาที ๑.๑๐ กระสุน : ลูกซองขนาด ๑๒ Gauge ความยาว ๒ ๓/๔ นิ้ว ๑.๑๑ ดาบปลายปืน : แบบใบมีดรุํน M1917 ๒. ประวัติการประจ าและการใช๎งานในกองทัพไทย - ในการปูองกันรักษาความปลอดภัยในสนามบินรวมถึงการขับไลํสัตว์ปีกที่อาจจะรบกวน การบินของอากาศยาน


๗๘ บทที่ ๒๒ ปืนลูกซอง ๑๒ เกจ โมเดล ๑๒๐๐ Winchester Model 1200 (ปซ. ๑๒ เกจ โมเดล ๑๒๐๐) ๑. คุณลักษณะของปืน ๑.๑ Winchester Model 1200 เป็นปืนลูกซองที่ใช๎ระบบปฏิบัติการแบบโยนล า หรือใน ภาษาไทยทั่วไปมักใช๎ค าวํา “ปั๊ม” หรือ “ปั๊มแอ็คชั่น” สามารถใช๎งานกับกระสุนขนาด ๑๒, ๑๖ และ ๒๐ Gauge ๑.๒ ชํองบรรจุกระสุนอยูํทางด๎านลํางของตัวปืน แม็กกาซีนเป็นหลอดอยูํใต๎ล ากล๎องปืน สามารถบรรจุกระสุนขนาด ๑๒ Gauge ที่มีความยาว ๒ ๓/๔นิ้ว ได๎เต็มที่ ๔ นัด และยังบรรจุในรังเพลิงได๎อีก ๑ นัด ปลอกกระสุนที่ยิงแล๎วจะถูกดีดออกทางด๎านข๎างของตัวปืน เมื่อมีการโยนล าเพื่อจะปูอนกระสุนนัดใหมํเข๎ารังเพลิง ๑.๓ ลักษณะเดํนของการออกแบบปืนลูกซอง Winchester Model 1200 นี้คือ นอกจาก ไมํมีนกออกแล๎ว ยังมีห๎ามไกแบบกลอนขวางฝังไว๎ในสํวนหน๎าของโกรํงไก และมีเดือยส าหรับปลดล็อกลูกเลื่อนอยูํ ข๎างหลังของโกรํงไกทางด๎านซ๎าย ๒. ข๎อมูลทางเทคนิค ๒.๑ ระบบการท างาน : โยนล า (ปั๊ม หรือ สไลด์แอ็คชั่น) ๒.๑ น้ าหนัก : ๖.๔ ปอนด์ ๒.๓ ความยาว : ๓๙ ๑/๒นิ้ว (๑๐๐ เซนติเมตร) ๒.๔ ความยาวล ากล๎อง : ๕๐ นิ้ว (๕๐.๘ เซนติเมตร) ๒.๕ ศูนย์เล็ง : ตุํมเหล็กด๎านหน๎า ๒.๖ การบรรจุกระสุน : ๔ – ๗ นัด (แล๎วแตํรุํนยํอย) ในแม็กกาซีนหลอดใต๎แนวล ากล๎อง ๒.๗ ห๎ามไก : แบบกลอนขวาง ฝังไว๎ในสํวนหน๎าของโกรํงไก ๒.๘ ระยะยิงหวังผลไกลสุด : ๒๐ เมตร ๒.๙ อัตราการยิง : ๑๒ นัดตํอนาที ๒.๑๐ กระสุน : ลูกซองขนาด 12 Guage ความยาว ๒ ๓/๔นิ้ว ๒.๑๑ ดาบปลายปืน : แบบใบมีดรุํน M1917 ๓. ประวัติการประจ าการและการใช๎งานในกองทัพไทย - ในการปูองกันรักษาความปลอดภัยในสนามบินรวมถึงการขับไลํสัตว์ปีกที่อาจจะรบกวน การบินของอากาศยาน


๗๙ บทที่ ๒๓ ปืนลูกซอง ๑๒ เกจ โมเดล ๘๗๐ Remington Model 870 (ปซ. ๑๒ เกจ โมเดล ๘๗๐) ๑. คุณลักษณะของปืน ๑.๑ Remington M870 เป็นปืนลูกซองที่บริหารกลไกด๎วยการเลื่อนกระโจมมือถอยหลัง เพื่อคายปลอกกระสุนและขึ้นล า ดันกระโจมมือเดินหน๎าเพื่อปูอนกระสุนนัดใหมํเข๎าสูํรังเพลิง กลไกนี้เรียกสั้นวํา แบบปั๊ม (Pump Action) ๑.๒ การบรรจุกระสุนท าโดยการปูอนกระสุนเข๎าด๎านลํางของโครงปืนครั้งละ ๑ นัด กระสุน จะบรรจุเข๎าในแม็กกาซีนแบบหลอดที่อยูํขนานกับล ากล๎องทางด๎านลําง แม็กกาซีนนี้จะบรรจุได๎ ๔ ถึง ๗ นัด แล๎วแตํรุํนและขนาดของปืน เมื่อยิงแล๎วปลอกกระสุนจะถูกดีดออกทางชํองคายปลอกทางด๎านขวา ๑.๓ นกสับ (Hammer) ของRemington M870 ซํอนอยูํภายในโครงปืน ห๎ามไกเป็นปุุมกด ที่ด๎านหลังของโกรํงไก เมื่อดันจากซ๎ายไปขวาจะเป็นการเข๎าห๎ามไก เมื่อดันจากขวาไปซ๎ายจะท าให๎ปืนพร๎อมยิง ซึ่ง เป็นห๎ามไกที่ใช๎งานงําย และสะดวกโดยที่ผู๎ยิงไมํต๎องขยับมือออกจากต าแหนํงพร๎อมยิงเลย ๒. ข๎อมูลทางเทคนิค ๒.๑ ระบบการท างาน : แบบปั๊ม (Pump Action) ๒.๒ น้ าหนัก : ๗ ๑/๒ ปอนด์ (๓.๔ กิโลกรัม) ๒.๓ ความยาวล ากล๎อง : ๑๔ นิ้ว, ๑๘ นิ้ว หรือ ๒๐ นิ้ว แบบ Cylinder Choke ๒.๔ การบรรจุกระสุน : แม็กกาซีนหลอด ๔ นัด ติดตายตัวใต๎ล ากล๎อง บรรจุจาก ด๎านลํางโครงปืนทีละนัด ๒.๕ ห๎ามไก : ปุุมกดห๎ามไกหลังโกรํงไก ๒.๖ ระยะยิงหวังผลไกลสุด : ๓๐ เมตร ๒.๗ กระสุน : ลูกซองขนาด ๑๒ (12 Guage) ๒.๘ ดาบปลายปืน : ไมํมี


๘๐ สํวนประกอบของปืน ๓. ปืนปราบจลาจล มีสํวนประกอบใหญํ ๓ สํวน คือ ๓.๑ สํวนพานท๎าย ๓.๑.๑ ยางรองพานท๎าย ๓.๑.๒ สายสะพาย ๓.๒ สํวนลูกเลื่อนและโครงลูกเลื่อน ๓.๒.๑ ลูกเลื่อน (BREECH BOLT) ๓.๒.๒ เหล็กรั้งปลอก (EXTRACTOR) ๓.๒.๓ เหล็กคัดปลอก (EJECTOR) ๓.๒.๔ เหล็กสํงกระสุนรอบบรรจุ (CARRIER) ๓.๒.๕ ห๎ามไก ๓.๒.๖ โกรํงไกและไก ๓.๒.๗ ประกับเลื่อนปืน (ACTION SLIDE HANDEE) ๓.๒.๘ สะพานเลื่อนปืน (ACTION SLIDE BAR) ๓.๒.๙ เหล็กหยุดเลื่อนปืน (ACTION SLIDE LOCK) ๓.๒.๑๐ สํวนตํอหลอดบรรจุกระสุน, เหล็กดันกระสุนและเหล็กกันกระสุน (MAGAZINE FOLLOWER) ๓.๓ สํวนล ากล๎อง ๔.๓.๑ ล ากล๎อง ๔.๓.๒ แทํนยึดดาบปลายปืน ๔.๓.๓ ครอบล ากล๎องระบายความร๎อน ๔.๓.๔ ศูนย์หน๎า การท างานของปืน ๔. การท างานของปืน ปืนลูกซองปราบจลาจลชนิดนี้ท างานด๎วยมือของผู๎ยิง เมื่อยิงไปแล๎ว ๑ นัด ผู๎ยิงเลื่อนกระโจมมือ (เลื่อนปืน) มาข๎างหลังจะมีการท างานดังนี้ ๔.๑ ปลดกลอน ๔.๒ รั้งปลอก ๔.๓ คัดปลอก ๔.๔ ขึ้นนก ๔.๕ (เหล็กสํงกระสุนจะน ากระสุนจากหลอดบรรจุกระสุน ขึ้นมาคอยการบรรจุ) ๔.๖ บรรจุกระสุนนัดใหมํเข๎ารังเพลิง (เมื่อผู๎ยิงเลื่อน เลื่อนปืนไปข๎างหน๎า) ๔.๗ ขัดกลอน ๔.๘ ห๎ามไก หรือ เล็ง และการลั่นไกนัดตํอไป


๘๑ เราทราบแล๎ววําปืนท างานด๎วยมือของผู๎ยิง โดยดึงเลื่อนปืนมาข๎างหลัง และผลักไปข๎างหน๎า การปฏิบัติ ขั้นนี้เป็นการปลดกลอนของลูกเลื่อน เหล็กรั้งปลอกกระสุนก็จะรั้งปลอกกระสุนออกมา และคัดปลอกเมื่อปลาย ปลอกกระสุนพ๎นท๎ายรังเพลิง ด๎วยแรงดันของเหล็กคัดปลอก ตํอมาก็เป็นการขึ้นนก เมื่อเลื่อนปืนถูกดันไปข๎างหน๎า จะบรรจุกระสุนนัดใหมํเข๎ารังเพลิง ลูกเลื่อนจะขัดกลอนเปิดท๎ายกระสุน อนึ่งกํอนที่ดึงเลื่อนไปมาข๎างหลัง เมื่อยัง ไมํได๎ท าการลั่นไก จะต๎องปลดเหล็กปลดเลื่อนปืน ซึ่งติดอยูํด๎านซ๎ายของโกรํงไกออกจากสะพานเลื่อนปืนเสียกํอน โดยการดันเข๎าไปในตัวปืน แล๎วจึงเลื่อน ๆ ปืนมาข๎างหลังได๎ หรือในกรณีที่ลั่นไกไปแล๎ว ควรต๎องเลื่อนปืนไป ข๎างหน๎าเล็กน๎อยแล๎วจึงดึงเลื่อนปืนมาข๎างหลัง ท าให๎สะพานเลื่อนเป็นหลุดออกจากเหล็กยึดเลื่อนปืนสะดวกตํอการ เลื่อนปืนมาข๎างหลัง ข๎อควรระวัง เมื่อยิงไปแล๎วอยํากระชากเลื่อนปืนมาข๎างหลังแรงเกินควรจะท าให๎ช ารุดเร็ว ๕. การห๎ามไก ต าแหนํงของห๎ามไกอยูํที่หน๎าโกรํงไก เมื่อกดทางด๎านขาวให๎โผลํไปทางด๎านซ๎ายซึ่ง ทาสีแดง ปืนจะอยูํในต าแหนํงยิง เมื่อกดด๎านตรงข๎ามที่ไมํทาสีปืนจะอยูํในต าแหนํงห๎ามไก ๖. การบรรจุกระสุนเข๎าซอง ให๎ปฏิบัติดังนี้ ๗.๑ หงายปืนขึ้นให๎รางปืนอยูํในระดับ หรือล ากล๎องต่ าลงเล็กน๎อย มือซ๎ายจับล ากล๎องปืน มือขวาบรรจุกระสุนเข๎าไปในหลอดกระสุน เรียงนัดตํอนัดจนเต็ม หรือตามต๎องการ ๗.๒ ดึงเลื่อนปืนมาข๎างหลังให๎สุด แล๎วผลักเลื่อนปืนไปข๎างหน๎าสุด ลูกเลื่อนจะปิดสนิทแล๎ว ห๎ามไก กระสุนนัดแรกจะบรรจุเข๎ารังเพลิงพร๎อมที่จะยิงเรียบร๎อยแล๎ว ๗.๓ ใช๎ปลายกระสุนดันเหล็กสํงกระสุนรอบบรรจุแล๎วดันกระสุนนัดนั้นเข๎าไปในซองกระสุน จะท าให๎สามารถบรรจุกระสุนได๎ครบ ๕ นัด รวมทั้งในรังเพลิงด๎วย ๗. การน ากระสุนออกจากซองกระสุน กระท าได๎๒ วิธี ๗.๑ ดึงเลื่อนปืนบรรจุทีละนัด กระสุนจะออกเชํนเดียวกับการรั้งและคัดปลอกกระสุน แตํ การเลื่อนปืนทุกครั้งจะต๎องกดเหล็กหยุดเลื่อนปืน เพื่อให๎สามารถเลื่อนปืนได๎ ๗.๒ ดันเลื่อนปืนให๎อยูํในต าแหนํงปิดท๎ายรังเพลิง ให๎หัวแมํมือกดเหล็กกันกระสุนซึ่งติดอยูํ หนังด๎านข๎างของโครงลูกเลื่อนด๎านในตรงสํวนตํอหลอดบรรจุกระสุน กระสุนจะหลุดออกมาทีละนัดอยํางไรก็ตาม กระสุนในรังเพลิงจะต๎องท าตามวิธีข๎อ ๗.๑ ๘. การบรรจุกระสุนเข๎ารังเพลิง ปฏิบัติดังนี้ ๙.๑ ห๎ามไก ๙.๒ กดเหล็กหยุดเลื่อนปืนไว๎ ๙.๓ ดึงเลื่อนปืนมาข๎างหลัง ๙.๔ ผลักเลื่อนปืนไปข๎างหน๎าปืนพร๎อมที่จะยิงได๎ถ๎าไมํยิงให๎ห๎ามไก ๙. การเลิกบรรจุ ๙.๑ ห๎ามไก ๙.๒ กดเหล็กหยุดเลื่อนปืน ๙.๓ ดึงเลื่อนปืนมาข๎างหลัง ๙.๔ เหล็กรั้งปลอกจะรั้งลูกกระสุนออกมา (ระวังกระสุนนัดตํอไปจะถูกบรรจุเข๎ารังเพลิงอีก เมื่อดันเลื่อนปืนไปข๎างหน๎า ฉะนั้นจะต๎องน ากระสุนนัดที่รอจะเข๎ารังเพลิงออกด๎วย) ๙.๕ ตรวจดูรังเพลิงให๎แนํใจวําไมํมีกระสุน


๘๒ ๑๐. การทดสอบการท างานของปืน กํอนการยิงปืนชนิดนี้จะต๎องมีการทดสอบเสียกํอน จ าไว๎วํา ห๎ามใช๎กระสุนจริงท าการทดสอบ เว๎นแตํไมํสามารถหากระสุนฝึกบรรจุได๎ทดสอบได๎ดังนี้คือ ๑๐.๑ ทดสอบการท างานของเหล็กหยุดเลื่อนปืน ๑๐.๑.๑ ผลักเลื่อนปืนไปหน๎าสุด ใช๎หัวแมํมือกดเหล็กหยุดเลื่อนปืน ดันเลื่อนปืนไป ข๎างหน๎าเล็กน๎อย แล๎วดึงเลื่อนปืนมาข๎างหลังจนสุด กดเหล็กหยุดเลื่อนปืนไว๎กํอน ผลักเลื่อนปืนไปข๎างหน๎าแล๎วดึง มาข๎างหลัง ๒ – ๓ ครั้ง เมื่อทดสอบวํา เหล็กหยุดเลื่อนปืนท างานได๎ถูกต๎องหรือไมํ ๑๐.๑.๒ ปลํอยเหล็กหยุดเลื่อนปืนที่กดไว๎ดันเลื่อนปืนไปปิดท๎ายรังเพลิง แล๎วทดลอง ดึงเลื่อนปืนมาข๎างหลังอีกครั้ง เลื่อนปืนจะต๎องไมํถอยมาข๎างหลังได๎ถ๎าถอยมาได๎แสดงวําเหล็กหยุดเลื่อนปืนช ารุด ๑๐.๒ ทดสอบการรั้งปลอกและคัดปลอก ๑๐.๒.๑ ใช๎กระสุนฝึกบรรจุท าการบรรจุกระสุน แล๎วเลิกบรรจุตรวจดูการท างาน ของเหล็กรั้งปลอกกระสุน และคัดปลอกกระสุนวําท างานได๎ถูกต๎องหรือไมํ ๑๐.๓ ทดสอบห๎ามไก ผลักเลื่อนปืนไปหน๎าสุด ห๎ามไก ทดลองเหนี่ยวไกนกปืนจะไมํฟาด ตัวไปข๎างหน๎า ทดลองปลดห๎ามไกโดยกดทางขวาให๎เลื่อนมาทางซ๎ายจนเห็นสีแดงแล๎วเหนี่ยวไกปืนจะลั่นเป็นปกติ แสดงวําห๎ามไกใช๎งานได๎ การบ ารุงรักษาและการท าความสะอาด ๑๑. การบ ารุงรักษา ปืนลูกซอง เบอร์ ๑๒ มีความส าคัญเชํนเดียวกับอาวุธปืนอื่น ๆ ต๎อง บ ารุงรักษาและท าความสะอาดเพื่อให๎อยูํในสภาพใช๎งานได๎ อยูํตลอดเวลา หากจ าเป็นก็ให๎สํงคืนให๎เจ๎าหน๎าที่ สรรพาวุธตรวจสอบการท างานของสํวนเคลื่อนที่ รวมทั้งการหลํอลื่นด๎วยเมื่อท าการยิงไปมาก ๆ จะมีเศษเขมําดิน ปืนติดอยูํที่หน๎าลูกเลื่อนและในรังเพลิง อาจมีเศษตะกั่ว หรือกระดาษปนอยูํ ต๎องท าความสะอาดโดยใช๎ฝอยเหล็ก หรือแปรงลวดส าหรับขัดปืนขัดออก การใช๎แปรงขัดให๎ดึงตรงไป – ตรงมา อยําหมุนจะท าให๎เหล็กเป็นรอย ๑๒. การท าความสะอาดล ากล๎อง ใช๎แส๎ชโลมน้ ามันแยงล ากล๎อง ประมาณ ๖ – ๗ ครั้ง จน สะอาดแล๎วจึงใช๎แส๎ผูกเศษผ๎าสะอาดแยงล ากล๎องอีกครั้ง จนมองเห็นเป็นเงา ๑๓. ชิ้นสํวนที่ควรท าความสะอาด มีดังนี้ ๑๓.๑ สะพานเลื่อนปืน (ACTION SLIDE BAR) ๑๓.๒ เหล็กหยุดเลื่อนปืน (ACTION SLIDE LOCK) ๑๓.๓ สลักเหล็กสํงกระสุน (CARRIER PIN) ๑๓.๔ ลูกเลื่อน (BREECH BOLT) ๑๓.๕ ผิวหน๎าของเหล็กรองกระสุนซึ่งอยูํในซองกระสุน ๑๔. ข๎อควรระมัดระวัง ของผู๎ใช๎ปืนลูกซอง เบอร์ ๑๒ นี้เป็นอาวุธร๎ายแรงถ๎าใช๎ไมํถูกต๎อง อาจ เป็นอันตรายกับผู๎ใช๎จนถึงชีวิต จึงให๎ปฏิบัติดังนี้ ๑๔.๑ เมื่ออยูํในแนวยิงต๎องห๎ามไกตลอดเวลา ล ากล๎องชี้ไปทางแนวยิง ๑๔.๒ ไมํวําปืนจะบรรจุกระสุนหรือไมํ ห๎ามเล็งปืนเลํนหรือชี้ไปยังผู๎หนึ่งผู๎ใด ๑๔.๓ ในกรณีกระสุนด๎าน หรือปืนติดขัดให๎รอสักครูํ (นับ ๑ – ๑๐) เพราะบางครั้งการเผา ไหม๎ของดินสํงกระสุนอาจช๎า ๑๔.๔ ห๎ามน าปืนออกนอกสนามยิงปืน กํอนได๎รับค าสั่ง ๑๔.๕ เปิดรังเพลิง ห๎ามไก ตลอดเวลา ๑๔.๖ กํอนบรรจุกระสุนต๎องห๎ามไกกํอน หมายเหตุ GAUGE (เกจ) เป็นเกณฑ์บอกขนาดของปืนลูกซอง โดยอาศัยจ านวนซองลูกตะกั่วบริสุทธิ์หนัก ๑ ปอนด์ แบํงท าเป็นลูกกลมเทํากันได๎กี่ลูก จ านวนลูกที่ได๎คือ ขนาดของปืนลูกซอง ดังนั้น ยิ่งเกจสูงขนาดจะยิ่งเล็กลง เพราะ จ านวนลูกกลมมาก


๘๓ บทที่ ๒๔ ส่วนที่ ๑ เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด ๔๐ มม. แบบ เอ็ม ๗๙ (40 MM. GRENADE LAUNCHER M. 79) (คบ.๔๐ – ๑) ลักษณะโดยทั่วไป ๑. กลําวทั่วไป เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด ๔๐ มม. แบบ เอ็ม ๗๙ หรือ คบ.๔๐ – ๑ เป็นอาวุธยิงได๎ทีละนัด ปูอนกระสุนด๎วยมือ บรรจุกระสุนทีละนัดทางท๎ายล ากล๎อง โดยการหักล า เชํน อาวุธ ปืนลูกซองเป็นอาวุธประจ ากาย โดยท าการยิงด๎วยการประทับไหลํ ประทับใต๎แขน หรือ ประทับเหนือสะเอว ๒. รายการทั่วไป ๒.๑ กว๎างปากล ากล๎อง ๔๐ มม. ๒.๒ เกลียวเวียนขวา ๖ เกลียว ๒.๓ เครื่องยิงยาว ๒๘.๗๘ นิ้ว ๒.๔ ล ากล๎องยาว ๑๕ นิ้ว ๒.๕ เครื่องยิงหนัก ๕.๙๕ ปอนด์ ๒.๖ อัตราเร็วในการยิงสูงสุด ๕ – ๗ นัด/นาที ๒.๗ อัตราเร็วในการยิงหวังผล ๒ นัด/นาที ๓. คุณลักษณะทางขีปนวิธี ๓.๑ ระยะยิงไกลสุดประมาณ ๔๐๐ ม. ๓.๒ ระยะยิงหวังผลที่หมายเป็นพื้นที่ ๓๕๐ ม. ๓.๓ ระยะยิงหวังผลที่หมายเป็นต าบล ๑๕๐ ม. ๓.๔ ระยะยิงใกล๎สุดในการฝึก ๘๐ ม. ๓.๕ ระยะยิงใกล๎สุดในการรบ ๓๑ ม. ๓.๖ ความดันในรังเพลิงประมาณ ๓,๐๐๐ ปอนด์/ตารางนิ้ว ๓.๗ ความเร็วต๎นประมาณ ๒๕๐ ฟุต/วินาทีหรือ ๗๖ ม./วินาทีรัศมีอันตรายของสะเก็ดระเบิด ๕ ม.


๘๔ ๔. กระสุน ๔.๑ กระสุนมี๙ ชนิด ๔.๑.๑ กระสุนสังหาร ๔.๑.๒ กระสุนซ๎อมยิง ๔.๑.๓ กระสุนสํองสวํางใช๎รํม ๔.๑.๔ กระสุนสํองสวํางใช๎รํมเป็นพวง ๔.๑.๕ กระสุนลูกปราย ๔.๑.๖ กระสุนเคมี ๔.๑.๗ กระสุนควันสีเหลือง ๔.๑.๘ กระสุนควันสีแดง ๔.๑.๙ กระสุนปราบจลาจล ๔.๒ ขนาดและแบบกระสุน ๔.๒.๑ ขนาด ๔๐ มม. ๔.๒.๒ แบบรวม ๔.๒.๒ กระสุนยาว ๓.๙ นิ้ว ๔.๒.๔ หนัก ๘ ปอนด์ ๕. เครื่องเล็ง ๕.๑ ศูนย์หน๎า เป็นศูนย์คมมีดติดตายกับปลายล ากล๎อง ๕.๒ ศูนย์หลัง เป็นศูนย์แผํนพับได๎ มีควงมุมทิศและควงมุมสูง โครงเลื่อนศูนย์หลัง,กรอบ และใบศูนย์หลัง รูปตัวยู ๕.๓ ควงมุมทิศและมาตรามุมทิศ อยูํด๎านขวาของศูนย์หลัง เมื่อหมุนไปข๎างหน๎าตามเข็ม นาฬิกา กระสุนจะตกขวา ถ๎าหมุนไปข๎างหลังทวนเข็มนาฬิกา กระสุนจะตกซ๎าย มาตรามุมทิศมีขีดหลักอยูํกึ่งกลาง แบํงขีดยํอย ๆ ออกไปข๎างละ ๑๐ ขีด สามารถหมุนควงมุมทิศจากกึ่งกลางไปทางซ๎าย หรือขวาได๎ข๎างละ ๔๒ คลิ๊ก ๕.๔ ควงมุมสูงและมาตราควงมุมสูง มาตราควงมุมสูงจะมีเครื่องหมายบอกระยะไว๎ตั้งแตํ ๗๕ – ๓๗๕ ม. จะมีขีดยํอย ๆ ทุก ๆ ระยะ ๒๕ ม. ขีดใหญํจะบอกระยะ ๑๐๐, ๒๐๐, ๓๐๐ และ ๓๗๕ ม. ๕.๕ กลอนยึดศูนย์หลัง ท าหน๎าที่ยึดกรอบศูนย์หลัง ท าให๎ศูนย์หลังยกขึ้นหรือพับลงได๎ ๕.๖ โครงเลื่อนศูนย์หลัง มีแปูนเกลียวยึดไว๎แปูนเกลียวท าหน๎าที่ให๎ชํองเล็งศูนย์หลังสามารถ เลื่อนขึ้นลงได๎ ๕.๗ ศูนย์คงที่ (ศูนย์รบ) ใช๎เล็งในระยะ ๑๐๐ ม. ลงมา การถอดประกอบ ๖. กลําวทั่วไป การถอดประกอบมีความมุํงหมายเพื่อให๎ผู๎ใช๎สามารถ จ าและเรียกชื่อชิ้นสํวนของเครื่องยิงได๎ ถูกต๎อง และชํวยให๎งํายตํอความเข๎าใจในการท างานของเครื่องยิง และทราบอาการติดขัดที่อาจเกิดขึ้นและแก๎ไขได๎ ในขณะเกิดอาการติดขัดขณะท าการยิง


๘๕ ๗. การถอด กระท าเป็น ๔ ขั้นตอน คือ ๗.๑ ถอดสายสะพายออกจากพานท๎ายเครื่องยิง ทั้งนี้ก็เพื่อให๎การแยกชิ้นสํวนออกจากกันได๎ สะดวกในการหยิบจับท าความสะอาด ๗.๒ ถอดไม๎ของล ากล๎อง โดยคลายเกลียวยึดหูกระวินบน ๗.๓ ดันคันกลอนยึดล ากล๎องไปทางขวา กระดกล ากล๎องลงต่ าจนสุด คํอย ๆ เลื่อนล ากล๎อง ออก (ห๎ามถอดศูนย์หลัง) ๗.๔ ถอดควงเกลียวยึดพานท๎าย และแหวนรองออก ดึงพานท๎ายมาข๎างหลัง ๘. เมื่อถอดเสร็จแล๎ว จะประกอบด๎วยชิ้นสํวนใหญํๆ ๔ สํวน คือ ๘.๑ สายสะพายและไม๎รองล ากล๎อง ๘.๒ ชุดล ากล๎องและเครื่องเล็ง ๘.๓ พานท๎าย ๘.๔ โครงเครื่องลั่นไก ๙. การประกอบ ให๎กระท ากลับกันกับที่ได๎ถอดออกแล๎ว การท างานของเครื่องกลไก ๑๐. การท างานของเครื่องยิง ๑๐.๑ การขึ้นนก ผลักคันกลอนยึดล ากล๎องไปทางขวาจนสุด แล๎วหักล ากล๎องให๎ท๎ายล ากล๎อง ขึ้นบน การปฏิบัติเชํนนี้ท าให๎แขนของคันขึ้นนกซึ่งติดอยูํภายนอกล ากล๎องทํอนลํางทางซ๎าย และอยูํซ๎อนกับคันขึ้น นกก็จะยกหัวคันขึ้นนกขึ้น ที่คันขึ้นนกนี้มีสลักร๎อยอยูํ และหมุนได๎เมื่อหัวคันขึ้นนกยกตัวสูงขึ้น จึงท าให๎หางคันขึ้น นกซึ่งขัดอยูํกับแงํนกปืนต่ าลง ซึ่งก็จะท าให๎นกปืนต่ าลงและอัดแหนบนกปืนไว๎เมื่อนกปืนถูกกดให๎หงายตัวต่ าลงจน สุดแล๎ว บากของนกปืนจะขัดกับแงํกระเดื่องไก เครื่องยิงจึงอยูํในลักษณะ “ขึ้นนก” เรียบร๎อย ๑๐.๒ การห๎ามไก เมื่อเครื่องยิงขึ้นนก และอยูํในอาการบรรจุกระสุน หักล ากล๎องกลับเข๎าที่ แล๎ว ไมํต๎องตั้ง “ห๎ามไก” อีก เพราะเครื่องยิงจะห๎ามไกได๎เองโดยอัตโนมัติทั้งนี้เนื่องจากเครื่องยิงท างานติดตํอจาก การท างานของคันกลอนยึดล ากล๎อง คือเมื่อจะขึ้นนกจะต๎องปลดล ากล๎อง โดยปฏิบัติดัง ข๎อ ๑๐.๑ ก็จะท าให๎แงํ กลอนยึดล ากล๎องเลื่อนมาทางซ๎าย และแปูนบังคับสลักหมุนคันกลอนยึดล ากล๎อง จะดันให๎คันบังคับห๎ามไกเคลื่อนที่ มาข๎างหลัง แล๎วไปดันห๎ามไกให๎เลื่อนมาข๎างหลังด๎วย ท าให๎แผํนห๎ามไกมาตรงกับแงํของหางไก จึงเป็นเหตุให๎เหนี่ยว ไกไมํได๎เครื่องยิงจึงอยูํในลักษณะ “ห๎ามไก” และขึ้นนกไปพร๎อมกัน (จะสังเกตเห็นอักษร “S” ที่โครงเครื่องลั่นไก) ๑๐.๓ การบรรจุ จากการปฏิบัติในข๎อ ๑๐.๑ เครื่องยิงก็พร๎อมที่จะบรรจุกระสุนโดยการ บรรจุกระสุนทางท๎ายล ากล๎อง แล๎วหักล ากล๎องเข๎าที่ เครื่องยิงก็จะอยูํในลักษณะ “บรรจุกระสุน” เรียบร๎อยและยัง อยูํในลักษณะห๎ามไก ๑๐.๔ การยิง เมื่อผู๎ยิงต๎องการจะท าการยิง (ลั่นไก) จ าเป็นจะต๎องเลื่อน “ห๎ามไก” ไป ข๎างหน๎าเสียกํอน (จนมองเห็นอักษร “F” ที่โครงเครื่องลั่นไก) แล๎วจึงท าการยิงได๎เมื่อเหนี่ยวไกมาข๎างหลังจะท าให๎ ท๎ายไกสูงขึ้น และหัวไกต่ าลง กระเดื่องไกซึ่งซ๎อนอยูํบนไกปืนด๎านหน๎าและด๎านหลัง ก็จะต่ าตัวลงด๎วย แงํของ กระเดื่องไกจะพ๎นจากบากนกปืน ท าให๎นกปืนเป็นอิสระ ฟาดตัวไปข๎างหน๎าด๎วยแรงขยายของแหนบนกปืน นกปืน จึงไปตีท๎ายเข็มแทงชนวน เข็มแทงชนวนจึงพุํงไปกระแทกชนวนท๎ายปลอกกระสุน เกิดการยิงขึ้นและเมื่อเข็มแทง ชนวนพุํงไปข๎างหน๎าจะอัดแหนบเข็มแทงชนวนไว๎หลังจากเข็มแทงชนวนกระแทกชนวนท๎ายปลอกกระสุนแล๎ว ก็จะ ถอยกลับด๎วยแรงขยายของแหนบเข็มแทงชนวน ท าให๎เข็มแทงชนวนถอยกลับที่เดิม


๘๖ ๑๐.๕ การรั้งปลอก ให๎ผลักคันกลอนยึดล ากล๎องไปทางขวา หักล ากล๎องขึ้น เหล็กรั้งปลอก กระสุนที่จับอยูํที่จานท๎ายปลอกกระสุนก็จะถอนปลอกกระสุนออกมา ประมาณ ๑/๔ นิ้ว ซึ่งสะดวกตํอการใช๎มือ หยิบปลอกกระสุนเปลําออกจากรังเพลิง ๑๐.๖ การเลิกบรรจุกระท าเชํนข๎อ ๑๐.๕ และตรวจดูวําในรังเพลิงไมํมีกระสุน หรือปลอก กระสุนแล๎ว ให๎หักล ากล๎องกลับเข๎าที่ แล๎วเลื่อน “ห๎ามไก” ไปข๎างหน๎าและเหนี่ยวไกก็เป็นการเลิกบรรจุโดยสมบูรณ์ เหตุติดขัดและการแก๎ไข ๑๑. เหตุติดขัดและการแก๎ไข เหตุติดขัด สาเหตุ วิธีแก๎ไข ๑๑.๑ เครื่องยิงไมํลั่น ๑๑.๒ บรรจุกระสุนไมํได๎ ๑๑.๓ ไมํรั้งปลอกกระสุน ๑๑.๔ ห๎ามไกไมํอยูํในต าแหนํง “S” ศูนย์หลังไมํอยูํในต าแหนํงที่ ต๎องการ ๑. ห๎ามไกอยูํต าแหนํง “S” ๒. ไมํบรรจุกระสุน ๓. เข็มแทงชนวนหักหรือสั้น ๔. นกปืนช ารุด ๕. กระเดื่องคันขึ้นนกหัก ๑. กระสุนช ารุดผิดปกติ ๒. รังเพลิงสกปรก ๑. ขอรั้งปลอกกระสุนช ารุด ๒. แหนบขอรั้งกระสุนอํอนหรือหัก ๓. ปลอกกระสุนบวม ๑. แหนบห๎ามไกอํอนหรือหัก ๒. แหนบบังคับศูนย์อํอนหรือหัก ๓. เครื่องยึดศูนย์หลังหัก ๑. เลื่อนห๎ามไกไปต าแหนํง “F” ๒. บรรจุกระสุนใหมํ ๓. เปลี่ยนเข็มแทงชนวนใหมํ ๔. เปลี่ยนนกปืน ๕. เปลี่ยนกระเดื่องใหมํ ๑. เปลี่ยนกระสุนใหมํ ๒. ท าความสะอาดรังเพลิง ๑. เปลี่ยนขอรั้งใหมํ ๒. เปลี่ยนใหมํ ๓. ใช๎เหล็กแคะออก ๑. เปลี่ยนใหมํ ๒. เปลี่ยนใหมํ ๓. เปลี่ยนใหมํ การปรนนิบัติบ ารุงและการท าความสะอาด ๑๒. การปรนนิบัติบ ารุงของผู๎ใช๎ ๑๒.๑ กํอนท าการยิง ต๎องท าความสะอาดล ากล๎องให๎แห๎งและสะอาด หากมีน้ ามันชโลมไว๎ ให๎เช็ดให๎แห๎ง ๑๒.๒ หลังการยิง ให๎ท าความสะอาดทุกสํวนโดยการเช็ดแห๎ง แล๎วชโลมน้ ามันบาง ๆ ๑๒.๓ ผู๎ใช๎ต๎องท าการตรวจเครื่องยิงอยํางสม่ าเสมอ เพื่อปูองกันสนิม การสึกกรํอนแตกร๎าว หรือหลุดหาย หากพบให๎แจ๎ง จนท.สพ. ของหนํวยทราบทันที ๑๒.๔ หากจะเก็บเครื่องยิงไว๎นาน ห๎ามเก็บไว๎ในหํอผ๎า หรือวัสดุคล๎ายผ๎า และห๎ามเอาวัสดุ ดังกลําว อุดล ากล๎อง เพราะจะเป็นสาเหตุให๎เกิดการสะสมความชื้น และเกิดสนิมขึ้นได๎


๘๗ บทที่ ๒๕ เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด ๔๐ มม. แบบ เอ็กซ์เอ็ม. ๑๔๘ (40 MM. GRENADE LAUNCHER XM .148) (คบ.๔๐ – ๒) ลักษณะโดยทั่วไป ๑. กลําวทั่วไป ๑.๑ เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด ๔๐ มม. แบบ เอ็กซ์เอ็ม ๑๔๘ หรือ คบ.๔๐ – ๒ เป็นอาวุธที่ท า การยิงได๎ทีละนัด โดยบรรจุกระสุนทางท๎ายล ากล๎อง ระบายความร๎อนด๎วยอากาศ ใช๎ประกอบกับ ปลยอ. ๕.๕๖ – ๒ (เอ็ม ๑๖) สํวนประกอบของเครื่องยิงและแผํนครอบล ากล๎องเป็นสํวนประกอบพิเศษ ส าหรับเปลี่ยนครอบล ากล๎อง ธรรมดาของ ปลยอ. ๕.๕๖ สํวนประกอบของ คบ. ๔๐ – ๒ ประกอบชิ้นสํวนด๎วยสํวนใหญํ ๆ ๓ สํวน คือ ๑.๑.๑ ชุดเครื่องยิง (LAUNCHER ASSEMBLY) ๑.๑.๒ ชุดเครื่องเล็ง (SIGHT ASSEMBLY) ๑.๑.๓ ครอบล ากล๎อง (HANDGUARD) ๑.๒ ความปลอดภัยของ คบ. ๔๐ – ๒ นั้น จะมีชุดห๎ามไกติดอยูํสํวนท๎ายด๎านซ๎ายของเครื่อง ยิงห๎ามไกจะท างานโดยคันไปทางขวาจนกระทั่งไมํเห็นอักษร “F” เมื่อจะท าการยิงจะต๎องดันชุดห๎ามไกมาทางซ๎าย จนกระทั่งมองเห็นอักษร “F” ๒. รายการทั่วไป ๒.๑ กว๎างปากล ากล๎อง ๔๐ มม. ๒.๒ เกลียวเวียนขวา ๖ เกลียว ๒.๓ เครื่องยิงยาว ๑๖.๕ นิ้ว ๒.๔ ความยาวล ากล๎อง ๑๐ นิ้ว ๒.๕ เครื่องยิงทั้งชุดหนัก ๓ ปอนด์ ๒.๖ อัตราเร็วสูงสุดในการยิง ขึ้นอยูํกับความสามารถของผู๎ยิง ๒.๗ อัตราเร็วในการยิงหวังผล ๒ นัด/นาที ๓. ลักษณะทางขีปนวุธ ๓.๑ ระยะยิงไกลสุดประมาณ ๔๐๐ ม. ๓.๒ ระยะยิงหวังผลที่หมายเป็นพื้นที่ ๓๕๐ ม. ๓.๓ ระยะยิงหวังผลที่หมายเป็นต าบล ๑๕๐ ม. ๓.๔ ระยะยิงใกล๎สุดในการฝึก ๘๐ ม. ๓.๕ ระยะยิงใกล๎สุดในการรบ ๓๑ ม. ๓.๖ ความดันในรังเพลิงประมาณ ๓,๐๐๐ ปอนด์/ตารางนิ้ว ๓.๗ ความเร็วต๎นประมาณ ๒๕๐ ฟุต/วินาทีหรือ ๗๖ ม./วินาทีรัศมีอันตรายของสะเก็ดระเบิด ๕ ม.


๘๘ ๔. กระสุน ๔.๑ กระสุนมี๙ ชนิด ๔.๑.๑ กระสุนสังหาร ๔.๑.๒ กระสุนซ๎อมยิง ๔.๑.๓ กระสุนสํองสวํางใช๎รํม ๔.๑.๔ กระสุนสํองสวํางใช๎รํมเป็นพวง ๔.๑.๕ กระสุนลูกปราย ๔.๑.๖ กระสุนเคมี ๔.๑.๗ กระสุนควันสีเหลือง ๔.๑.๘ กระสุนควันสีแดง ๔.๑.๙ กระสุนปราบจลาจล ๔.๒ ขนาดและแบบกระสุน ๔.๒.๑ ขนาด ๔๐ มม. ๔.๒.๒ แบบรวม ๔.๒.๒ กระสุนยาว ๓.๙ นิ้ว ๔.๒.๔ หนัก ๘ ปอนด์ ๕. เครื่องเล็ง ศูนย์หน๎าเป็นศูนย์ตุํมปรับได๎ ศูนย์หลังเป็นศูนย์รูปรับได๎เชํนเดียวกัน ระบบเครื่อง เล็งของ คบ. ๔๐ – ๒ ประกอบด๎วยแทํนปรับซึ่งมีรูปวงกลม มีเดือยประกอบแหนบติดอยูํกับแทํนปรับรูปวงกลม เดือยประกอบนี้จะมีหน๎าที่คล๎ายจุดหมุนของคานเครื่องเล็ง เพื่อให๎สามารถจัดสูงต่ าของเครื่องเล็งได๎ แทํนปรับ วงกลมของเครื่องเล็งจะประกอบติดอยูํกับคานประคองแทํนปรับซึ่งอยูํด๎านซ๎ายของเครื่องยิง ส าหรับคานประคองนี้ สามารถใช๎ปรับชํวยในการจัดสูงต่ าของเครื่องเล็งได๎อีกด๎วย บนคานเครื่องเล็งจะมีศูนย์ตุํมติดอยูํด๎านหน๎าของเครื่องเล็ง สํวนด๎านหลังจะมีศูนย์ประกอบไว๎ ๕.๑ ศูนย์หน๎า สามารถแก๎ทางทิศได๎ โดยมีปุุมปรับประกอบไว๎ด๎านลํางของคานเครื่องเล็ง ศูนย์หน๎านี้จะปรับทางซ๎ายหรือขวาได๎ข๎างละ ๔ คลิ๊ก แตํละคลิ๊กสามารถแก๎ทางทิศได๎ ๒ เมตร ในระยะยิง ๒๐๐ เมตร (เป็นศูนย์หยาบ) ๕.๒ ศูนย์หลัง สามารถปรับแก๎ทางทิศได๎ โดยท าการปรับที่แผํนปรับ ซึ่งประกอบอยูํ ด๎านซ๎ายของศูนย์หลัง ศูนย์หลังนี้จะปรับทางซ๎ายหรือขวาได๎ข๎างละ ๖ คลิ๊ก แตํละคลิ๊กสามารถแก๎ทางทิศได๎ ๑ ม. ในระยะยิง ๒๐๐ ม. ที่ด๎านข๎างของศูนย์หลังจะมีปุุมปรับแนวสูงต่ า (ทางระยะ) ไว๎ด๎วย แตํละคลิ๊กของปุุมนี้สามารถ ท าให๎เลื่อนทางระยะให๎ใกล๎หรือไกลได๎ ๒.๕ ม. ในระยะยิง ๒๐๐ ม. ๕.๓ การตั้งระยะยิง ให๎ท าการตั้งที่แทํนปรับวงกลม ซึ่งสามารถตั้งระยะได๎ตั้งแตํ ๕๐ – ๔๐๐ ม. บนแทํนปรับวงกลมจะมีเลข ๑, ๒, ๓ และ ๔ ซึ่งจะเป็นจ านวนหลักร๎อยเมตร ระหวํางหลักร๎อยบนแทํนปรับยังแบํง ระยะไว๎เป็น ๕๐ ม. และ ๒๕ ม. อีกด๎วย การปรับระยะนี้ท าให๎การปรับโดยการดันไกด๎วย ใต๎คานเครื่องเล็งตอน หน๎าไปข๎างหน๎าแล๎วหมุนคานเลื่อนต าแหนํง ห๎ามท าการเลื่อนต าแหนํงโดยวิธีหมุนคานเครื่องเล็งเฉย ๆ เพราะจะท า ให๎กระเดื่องบังคับระยะช ารุดได๎


๘๙ การถอดประกอบ ๖. การถอดประกอบ ส าหรับการถอด และการประกอบ คบ. ๔๐ – ๒ จะกลําวตั้งแตํการถอด เครื่องยิงออกจาก ปลยอ. ๕.๕๖ – ๒ ด๎วย ซึ่งมีดังตํอไปนี้ ๖.๑ การถอดขั้นผู๎ใช๎ให๎ท าการถอดคุมเฉพาะชิ้นสํวนที่จ าเป็นแกํการท าความสะอาดและ ปรนนิบัติบ ารุงเทํานั้น ๖.๑.๑ ถอดเครื่องเล็ง ดึงสลักยึดเครื่องเล็งให๎ถอนตัวขึ้นเป็นอิสระจากคานยึด แล๎ว เลื่อนเครื่องเล็งออกทางด๎านหน๎า หรือด๎านหลังของเครื่องยิงก็ได๎ เครื่องเล็งจะหลุดออกจากเครื่องยิง ๖.๑.๒ ถอดครอบล ากล๎องเครื่องยิง ตั้ง ปลยอ.๕.๕๖ – ๒ ที่ประกอบเครื่องยิงให๎ล ากล๎อง ตั้งขึ้นข๎างบน แล๎วดึงแกนยึดครอบล ากล๎องอันหลังลงข๎างลําง พร๎อมทั้งยกครอบล ากล๎องออก ๖.๑.๓ ถอดเครื่องยิงออกจาก ปลยอ.๕.๕๖ – ๒ ใช๎กุญแจหกเหลี่ยมคลายสลักเกลียว ที่ยึดแผํนบังคับแทํนยึดหน๎าของเครื่องยิงออกทั้งสองตัว แล๎วเอาแผํนบังคับแทํนยึดอันหน๎าของเครื่องยิงออก เลื่อน เครื่องยิงไปข๎างหน๎าของ ปลยอ.๕.๕๖ – ๒ จนถึงต าแหนํงที่สามารถปลดออกได๎ก็สามารถแยกเครื่องยิงออกจาก ปลยอ.๕.๕๖ – ๒ ได๎ ๖.๑.๔ ถอดด๎ามปลดล ากล๎อง ให๎หงายล ากล๎องของเครื่องยิงขึ้น แล๎วใช๎หางกุญแจ หกเหลี่ยม หรือเหล็กลงกันสลักยึดด๎ามปลดล ากล๎องออกแล๎ว ยกด๎ามปลดล ากล๎องออก ๖.๑.๕ ถอดล ากล๎องของเครื่องยิงออกจากเครื่องยิง ให๎เลื่อนล ากล๎องไปทางด๎านหน๎า ของเครื่องยิง ล ากล๎องก็สามารถแยกออกจากเครื่องยิงได๎ ๖.๒ การประกอบ ให๎กระท ากลับกันกับการถอด สํวนการถอดประกอบที่ละเอียดจ าเป็นกวํา นี้ ให๎เป็นหน๎าที่ของ จนท.สพ. โดยตรง การท างานของเครื่องกลไก ๗. การท างานของเครื่องกลไก ๗.๑ ชุดห๎ามไก (SAFE) มีหน๎าที่หยุดการถอยหลังของกระเดื่องไก เมื่อต๎องการจะห๎ามไกให๎ ผลักห๎ามไกไปทางขวาจนกระทั่งมองไมํเห็นอักษร “F” ณ ต าแหนํงนี้ห๎ามไกจะไปกั้นไมํให๎คันสํงกระเดื่องไกและเข็ม แทงชนวนวิ่งไปข๎างหน๎า เมื่อประสงค์จะท าการยิงจะต๎องผลักชุดห๎ามไกไปทางซ๎ายจนกระทั่งอักษร “F” ปรากฏ ส าหรับการปรับกระเดื่องไกห๎ามมิให๎ผู๎ใช๎ท าการปรับเอง และให๎ จนท. ซํอมบ ารุง เป็นผู๎กระท าการปรับเทํานั้น ๗.๒ คันขึ้นนก (COCKING LEVER) จะติดอยูํสํวนท๎ายของเข็มแทงชนวนกํอนจะท าการยิง จะต๎องจะต๎องดึงคันขึ้นนกมาทางข๎างหลัง จนกระทั่งได๎ยินเสียง “กริ๊ก” ซึ่งในขณะนี้เข็มแทงชนวนจะอยูํในต าแหนํง ขึ้นนก และจะกลับมาอยูํในต าแหนํงเดิมได๎ก็ตํอเมื่อเหนี่ยวไกเทํานั้น หมายเหตุ กํอนจะท าการขึ้นนก เครื่องยิงจะต๎องอยูํในต าแหนํง “F” เสียกํอนจึงจะท าการขึ้นนกได๎และเมื่อขึ้นนก เรียบร๎อยแล๎ว เครื่องยิงจะต๎องอยูํในต าแหนํง “S” ทุกครั้ง ๗.๓ ไก (TRIGGER) ไกของ คบ. ๔๐ – ๒ มีสะพานไกยื่นมาทางท๎ายจากล ากล๎องของเครื่องยิง ไกปืนจะเลื่อนไปข๎างหน๎า และดึงมาข๎างหลังได๎ เมื่อท าการยิงจะต๎องดึงมาข๎างหลังจนสุดกํอนแล๎วจึงเหนี่ยวไก เมื่อ ไมํต๎องการเหนี่ยวไกให๎ดันไปข๎างหน๎าจนสุด ตัวไกนี้จะหมุนได๎รอบก๎านตํอไก (EXTENSION BAR) จะให๎อยูํใน ต าแหนํงบนหรือลํางก็ได๎ กํอนจะประกอบเครื่องยิงกับ ปลยอ.๕.๕๖ – ๒ ควรดึงไกมาข๎างหลังให๎สุดกํอน


๙๐ ๘. การท างานของ คบ. ๔๐ – ๒ ๘.๑ การบรรจุกระสุน ให๎ปลดกลอนที่ติดอยูํกับด๎ามถือ โดยบีบกระเดื่องปลดด๎ามถือให๎ยุบ เข๎าไปในด๎ามถือ แล๎วเลื่อนล ากล๎องไปข๎างหน๎าจนสุด เพื่อสะดวกในการบรรจุกระสุนเมื่อเครื่องยิงอยูํในลักษณะนี้ แล๎วก็สามารถบรรจุกระสุนเข๎าในชํองด๎านใต๎รางน ากระสุนได๎ ๘.๒ การปิดรังเพลิง รังเพลิงจะปิดโดยสมบูรณ์ก็ตํอเมื่อเลื่อนล ากล๎องมาข๎างหลังจนสุด เมื่อ สุดแล๎วให๎ง๎างด๎ามถือขึ้นดึงมาข๎างหลังเล็กน๎อย พร๎อมทั้งกดลง ก็จะท าให๎กลอนที่ติดอยูํกับด๎ามถือเข๎าที่สนิท ณ ต าแหนํงนี้จานท๎ายปลอกกระสุนก็จะแนบสนิทกับท๎ายรังเพลิงของเครื่องยิงพอดี และเหล็กรั้งปลอกกระสุนก็จะ ยุบตัวเข๎าไปในชํองเหล็กรั้งปลอกด๎วย ๘.๓ การขัดกลอน เครื่องยิงจะขัดกลอนในตอนที่ง๎างด๎ามถือขึ้นแล๎ว ดันมาข๎างหลังอีก เล็กน๎อยพร๎อมกดลงตามที่กลําวในข๎อ ๘.๒ ๘.๔ การขึ้นนก ให๎ดึงคันขึ้นนกมาข๎างหลังจนดังกริ๊ก จะท าให๎เข็มแทงชนวนอัดแหนบเข็ม แทงชนวน แงํของเข็มแทงชนวนจะขัดกับสํวนเว๎าของแกนกระเดื่องไก ท าให๎เข็มแทงชนวนหยุดอยูํข๎างหลัง ๘.๕ การยิง (การลั่นไก) เมื่อเหนี่ยวไกสะพานไกก็จะไปดึงคันสํงกระเดื่องไกมาข๎างหลัง ท า ให๎แกนกระเดื่องไกหมุนตัวถอยหลังด๎วย จนกระทั่งสํวนเว๎าของแกนกระเดื่องไกหลุดจากแงํเข็มแทงชนวน เข็มแทง ชนวนก็จะเป็นอิสระและพุํงไปข๎างหน๎าด๎วยแรงแหนบเข็มแทงชนวนที่อัดตัวเอาไว๎กระแทกกับจานท๎ายปลอกกระสุน และเข็มแทงชนวนนี้ก็จะกลับที่เดิมด๎วยแหนบถอยเข็มแทงชนวน หมายเหตุ กํอนใช๎ คบ.๔๐ – ๒ ต๎องแนํใจวําไมํได๎ติดดาบปลายปืนไว๎กับ ปลยอ.๕.๕๖ – ๒ ที่ใช๎ประกอบกับเครื่อง ยิงนี้ด๎วย หากมีดาบอยูํจะขวางทางเดินของกระสุนท าให๎เกิดอันตรายตํอผู๎ยิงได๎ ๘.๖ การปลดกลอน ให๎ปลดกระเดื่องปลดด๎ามถือแล๎วดันด๎ามถือไปข๎างหน๎า ก็จะเป็นการ ปลดกลอน ๘.๗ การรั้งปลอก เมื่อดันล ากล๎องไปข๎างหน๎าในขณะที่ท าการปลดกลอนนั้นปลอกกระสุนก็ จะเคลื่อนที่ตามล ากล๎องไปด๎วย เหล็กประคองปลอกกระสุน และจะหยุดเมื่อจานท๎ายกระสุนไปกระทบกับแงํขอรั้ง ปลอก ปลอกกระสุนก็จะหยุดอยูํกับที่ ๘.๘ การคัดปลอก ในระหวํางที่ปลอกกระสุนที่รั้งออกมาหยุดอยูํกับที่ และเลื่อนล ากล๎องไป ข๎างหน๎าเรื่อย จนพ๎นจากปลอกกระสุนนั้น ปลอกกระสุนก็จะหลุดออกจากรังเพลิงและหลํนลงข๎างลํางเอง (ในทําที่ ท าการยิง)


๙๑ ๙. การแก๎ไขเหตุติดขัด เหตุติดขัด สาเหตุ การแก๎ไข ๙.๑ ไมํยิง ๙.๒ กระสุนไมํเข๎ารังเพลิง ๙.๓ ไมํรั้งกระสุน ๙.๔ ไมํห๎ามไกเมื่อแผํนห๎ามไกอยูํใน ต าแหนํง “S”เครื่องเล็งเคลื่อนได๎ ๑. ห๎ามไกอยูํในต าแหนํง “S” ๒. ไมํได๎บรรจุกระสุน ๓. เข็มแทงชนวนหัก,สึก ๔. กระสุนด๎าน ๑. กระสุนผิดรูป ๒. รังเพลิงสกปรก ๑. เหล็กรั้งปลอกกระสุนช ารุด ๒. ปลอกกระสุนช ารุด ๑. ห๎ามไกช ารุด ๒. กลอนยึดเครื่องเล็งหัก ๑. ปลดห๎ามไก ๒. บรรจุกระสุน ๓. สํงซํอม ๔. เปลี่ยนกระสุนใหมํ ๑. เปลี่ยนกระสุนใหมํ ๒. ท าความสะอาดรังเพลิง ๑. เปลี่ยนใหมํ ๒. เอาปลอกกระสุนออก ๑. สํงซํอม ๒. สํงซํอม การปรนนิบัติบ ารุงและการท าความสะอาด ๑๐. การปรนนิบัติบ ารุงของผู๎ใช๎ ๑๐.๑ กํอนท าการยิง ต๎องท าความสะอาดล ากล๎องให๎แห๎งและสะอาด หากมีน้ ามันชโลมไว๎ ให๎เช็ดให๎แห๎ง ๑๐.๒ หลังการยิง ให๎ท าความสะอาดทุกสํวนโดยการเช็ดแห๎ง แล๎วชโลมน้ ามันบาง ๆ ๑๐.๓ ผู๎ใช๎ต๎องท าการตรวจเครื่องยิงอยํางสม่ าเสมอ เพื่อปูองกันสนิม การสึกกรํอนแตกร๎าว หรือหลุดหาย หากพบให๎แจ๎ง จนท.สพ. ของหนํวยทราบทันที ๑๐.๔ หากจะเก็บเครื่องยิงไว๎นาน ห๎ามเก็บไว๎ในหํอผ๎า หรือวัสดุคล๎ายผ๎า และห๎ามเอาวัสดุ ดังกลําว อุดล ากล๎อง เพราะจะเป็นสาเหตุให๎เกิดการสะสมความชื้น และเกิดสนิมขึ้นได๎


๙๒ บทที่ ๒๖ เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด ๔๐ มม. แบบ เอ็ม ๒๐๓ (40 MM. GRENADE LAUNCHER M. 203) (คบ.๔๐ – ๓) ลักษณะโดยทั่วไป ๑. กลําวทั่วไป เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด ๔๐ มม. แบบ เอ็ม ๒๐๓ หรือ คบ.๔๐ – ๓ เป็นอาวุธที่ท าการยิงได๎ ทีละนัด บรรจุกระสุนทางท๎ายล ากล๎องด๎วยมือ ท างานด๎วยการเลื่อนล ากล๎อง (SLIDE BARREL) เมื่อจะใช๎ท าการยิง จะต๎องประกอบเข๎ากับ ปลยอ.๕.๕๖ – ๒ หรือ ปลยอ.๕.๕๖ – ๒ ก. เทํานั้น สํวนประกอบของ คบ.๔๐ – ๓ มี สํวนประกอบใหญํ ๆ อยูํ ๓ สํวน คือ ๑.๑ ชุดครอบล ากล๎องและเครื่องเล็ง ๑.๒ ชุดล ากล๎อง ๑.๓ ชุดโครงปืน ๒. รายการทั่วไป ๒.๑ กว๎างปากล ากล๎อง ๔๐ มม. ๒.๒ เกลียวเวียนขวา ๖ เกลียว ๒.๓ เครื่องยิงยาว ๑๕ ๕/๑๖ นิ้ว ๒.๔ ล ากล๎องยาว ๑๐ นิ้ว ๒.๕ เครื่องยิงหนัก ๓ ปอนด์ ๒.๖ อัตราเร็วในการยิงสูงสุด ขึ้นอยูํกับความสามารถของผู๎ยิง ๒.๗ อัตราเร็วในการยิงหวังผล ๒ นัด/นาที ๓. ลักษณะทางขีปนวิธี ๓.๑ ระยะยิงไกลสุดประมาณ ๔๑๕ ม. ๓.๒ ระยะยิงหวังผลที่หมายเป็นพื้นที่ ๓๕๐ ม. ๓.๓ ระยะยิงหวังผลที่หมายเป็นต าบล ๑๕๐ ม. ๓.๔ ระยะยิงใกล๎สุดในการฝึก ๘๐ ม. ๓.๕ ระยะยิงใกล๎สุดในการรบ ๓๑ ม. ๓.๖ ความดันในรังเพลิงประมาณ ๓,๐๐๐ ปอนด์/ตารางนิ้ว ๓.๗ ความเร็วต๎นประมาณ ๒๓๕ ฟุต/วินาที (๗๑ ม./วินาที)


Click to View FlipBook Version