แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ
ชอ่ื วิชา คอมพิวเตอร์กราฟิกเบ้อื งต้น รหสั วชิ า 20901-1004
หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ หลักสูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้นั สงู
ประเภทวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร
สาขาวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ สาขางาน เทคโนโลยีสารสนเทศ
จดั ทำโดย
นายกันตภณ พุ่มจันทร์
ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย
แผนกวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศ
วิทยาลัยเทคนคิ ยโสธร อาชีวศกึ ษาจังหวัดยโสธร
สถาบันการอาชวี ศึกษาภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 4
สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สตู รรายวชิ า
ชอื่ วิชาการคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ เบอื้ งต้น รหัส 20901-1004 ทฤษฎี 1 ปฏิบตั ิ 2 หน่วยกิต 3
หลกั สตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวิชาชีพชนั้ สงู
ประเภทวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร แผนกวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศ
จดุ ประสงคร์ ายวิชา
1. เพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจหลักการทำงานและการแสดงผลของภาพคอมพวิ เตอร์กราฟกิ ส์
2. เพอื่ ให้มที กั ษะการใชค้ อมพิวเตอร์กราฟกิ เบ้ืองต้น
3. มกี จิ นิสัยและส่งเสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มทด่ี ใี นการใช้คอมพิวเตอร์
มาตรฐานรายวชิ า
1. อธบิ ายความหมาย หลกั การทำงาน และการแสดงผลของคอมพวิ เตอรก์ ราฟิกส์
2. ประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมในงานคอมพวิ เตอร์กราฟกิ ส์
คำอธิบายรายวิชา
ศกึ ษาและปฏิบตั เิ กีย่ วกับทฤษฎคี อมพิวเตอร์กราฟิกส์ หลักการของกราฟกิ สแ์ บบ Vector และRaster
ประเภทและคุณลักษณะของแฟม้ ภาพกราฟกิ ส์ ความแตกต่าง ของกราฟิกส์แบบ 2 มิติ การใช้โปรแกรมสรา้ งภาพ
กราฟิกสแ์ บบ Vector และ Raster
คำนำ
แผนการสอนน้ีจัดทำขึ้นเพื่อ ประกอบการเรียนการสอน ในรายวิชา คอมพิวเตอร์กราฟิกเบ้ืองต้น
(20901-1004 ) เป็นจัดการเรยี นในสาระและมาตรฐานต่าง ๆ ในหลักสูตร ปวช. 2556 โดยเน้นกระบวนการและ
วธิ ีการที่หลากหลาย ซึ่งผู้สอนต้องคำนึงถึงการพัฒนาการ วิธีการเรียนรู้ ความเข้าใจและความสามารถของผู้เรียน
เป็นระยะ ๆ อย่างต่อเน่ือง ดังน้ันการจัดการเรียนรู้ควรใช้รูปแบบ และวิธีการที่หลากหลายเน้นการเรียนการสอน
แบบบูรณาการตามสภาพจริง เรียนรู้ด้วยตนเอง เรียนรู้ร่วมกัน การเรยี นรู้จากธรรมชาติ การเรียนรู้คู่คุณธรรม การ
เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ให้มีการประเมินผลตามสภาพจริง ส่วนหน่ึงของการแก้ไขปัญหาการเรียนการสอน ทั้งน้ี
ต้องนำขบวนการเรียน การสอนที่ใหม้ ีการจัดขบวนการเรยี นรู้อย่างเป็นระบบมีขั้นตอนเหมาะสมกับกล่มุ ผเู้ รยี น
ลงชื่อ...........................................
( นายกันตภณ พมุ่ จนั ทร์ )
สารบัญ
เร่อื ง
1. ลักษณะรายวิชา
2. ตารางวิเคราะห์หลักสูตร
3. โครงการจดั การเรยี นรู้
4. แผนการสอน
4.1 แผนการสอนสัปดาหท์ ี่ 1
4.2 แผนการสอนสปั ดาห์ท่ี 2
4.3 แผนการสอนสปั ดาหท์ ี่ 3
4.4 แผนการสอนสปั ดาห์ท่ี 4
4.5 แผนการสอนสัปดาหท์ ่ี 5
4.6 แผนการสอนสปั ดาห์ที่ 6
4.7 แผนการสอนสัปดาห์ท่ี 7
4.8 แผนการสอนสัปดาหท์ ่ี 8
4.9 แผนการสอนสัปดาหท์ ่ี 9
4.10 แผนการสอนสปั ดาหท์ ี่ 10
4.11 แผนการสอนสปั ดาห์ที่ 11
4.12 แผนการสอนสปั ดาห์ที่ 12
4.13 แผนการสอนสปั ดาหท์ ่ี 13
4.14 แผนการสอนสัปดาห์ท่ี 14
4.15 แผนการสอนสปั ดาห์ท่ี 15
4.16 แผนการสอนสัปดาหท์ ี่ 16
4.17 แผนการสอนสปั ดาห์ท่ี 17
4.18 แผนการสอนสัปดาห์ที่ 18
ลักษณะรายวิชา
รหัสวิชา ……20901-1004…… ชอื่ วชิ า ……คอมพิวเตอรก์ ราฟิกเบอื้ งตน้ .......……...……..……………………..
จำนวนหน่วยกติ .....3.....หน่วยกติ จำนวนชวั่ โมงตอ่ สัปดาห์.....3.......ชั่วโมง รวม .....54....ชว่ั โมงตอ่ ภาคเรยี น
รายวิชาตามหลกั สตู ร ปรับหนว่ ยการเรยี นเป็นสมรรถนะ ช่วั โมง
จดุ ประสงค์รายวชิ า สมรรถนะ
1. เพือ่ ให้เข้าใจหลกั การทำงานและการแสดงผลของ นกั ศกึ ษาใช้โปรแกรมในดา้ นกราฟิกสไ์ ด้ .............
ภาพคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ ส์ และนำมาประยกุ ต์ใช้โปรแกรมในงาน .............
2. เพื่อใหม้ ที กั ษะการใชค้ อมพิวเตอร์กราฟกิ เบื้องตน้ คอมพวิ เตอร์กราฟกิ ส์ และนำมาออกแบชน้ิ งาน .............
3. มีกิจนิสยั และส่งเสริมคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ มท่ีดี ได้แก่ โปสเตอรก์ จิ กรรมตา่ งของแผนก .............
ในการใชค้ อมพวิ เตอร์ โปสเตอร์แนะนำวทิ ยาลยั ฯ โปสเตอรร์ ับสมคั ร .............
นักศกึ ษาของวทิ ยาลัยฯได้ .............
มาตรฐานรายวชิ า .............
1. อธบิ ายความหมาย หลกั การทำงาน และการแสดงผล .............
ของคอมพวิ เตอร์กราฟกิ ส์ .............
2. ประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรมในงานคอมพวิ เตอร์กราฟกิ ส์ .............
.............
คำอธบิ ายรายวิชา .............
ศึกษาและปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั ทฤษฎีคอมพิวเตอร์ .............
กราฟกิ ส์ หลักการของกราฟกิ ส์แบบ Vector และ .............
Raster ประเภทและคณุ ลกั ษณะของแฟ้มภาพกราฟิกส์ .............
ความแตกต่าง ของกราฟกิ ส์แบบ 2 มติ ิ การใชโ้ ปรแกรม .............
สร้างภาพกราฟกิ ส์แบบ Vector และ Raster .............
.............
.............
.............
.............
…………
……….…
รวม
ตารางวิเคราะห์หลกั สูตร
รหัส.... 20901-1004...วชิ า...........คอมพวิ เตอร์กราฟกิ เบอ้ื งตน้ ..............หน่วยกิต.........3:4............
ช้นั ............ปวช.2.....สาขาวิชา......เทคโนโลยสี ารสนเทศ................................................................
พทุ ธพิ ิสยั
พฤตกิ รรม ความรู้
ความเ ้ขาใจ
ชอ่ื หนว่ ย การนำไปใช้
การ ิวเคราะ ์ห
การสังเคราะ ์ห
ประเ ิมนค่า
ัทกษะพิ ัสย
ิจตพิ ัสย
เศรษฐกิจพอเพียง
รวม
ลำดับความสำคัญ
จำนวนคาบ
1. ความรู้เบือ้ งตน้ เกย่ี วกับคอมพิวเตอร์กราฟกิ 8 8 8 5 7 5 8 8 6 63 2 8
2. ความแตกตา่ งกราฟิก 2 มิติ 7 7 7 5 5 5 5 5 5 51 8 4
3. การใชค้ อมพิวเตอร์กราฟกิ เบือ้ งตน้ แบบ 8 8 8 5 7 5 8 8 6 63 3 8
Rastor
4. การเลือกพ้นื ที่เพ่ือแกไ้ ขและตกแตง่ ภาพ 8 8 8 5 7 5 8 8 6 63 4 8
5. ความร้เู รื่องสี 10 10 10 10 8 9 10 10 6 93 1 12
6. การระบายสีและการตกแตง่ ภาพ 8 8 8 5 7 5 8 8 6 63 5 8
7. การสร้างตัวอักษร 7 7 7 5 5 5 5 5 5 51 9 4
8. Path และการใช้ปากกาวาดภาพ 8 8 8 5 7 5 8 8 6 63 6 8
9. การใช้เครื่องมือบันทึกเตือนความจำ 7 7 7 5 5 5 5 5 5 51 10 4
10. การใช้ฟิลเตอรแ์ ละแอกช่นั 8 8 8 5 7 5 8 8 6 63 7 8
รวม 85 85 85 55 65 54 75 75 57
ลำดับความสำคัญ 123869457
ตารางวิเคราะห์สมรรถนะรายวชิ า
โดยบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
รหสั วิชา 20901-1004 วชิ า คอมพวิ เตอรก์ ราฟิกเบ้ืองต้น หน่วยกติ 3 (3)
ระดับช้นั ปวช.1 สาขาวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ
ทางสายกลาง
3ห่วง 2 เงอ่ื นไข
ความรู้ คณุ ธรรม
ช่อื หนว่ ยการสอน/ พอประมาณ(5)
ีมเห ุตผล(5)
สมรรถนะรายวชิ า ีมภู ิม ุ้คมกัน(5)
รอบ ู้ร(5)
รอบคอบ(5)
ระ ัมดระวัง(5)
ืซ่อสัต ์ยสุจริต(5)
ข ัยนอดทน(5)
ีมส ิต ัปญญา(5)
แ ่บง ัปน(5)
รวม(50)
ลำ ัดบความสำคัญ
หน่วยการสอนท่ี 1 2 3 2 2 2 3 2 2 2 2 22 2
ช่ือหน่วยการสอน คอมพิวเตอร์เพอื่ งานอาชพี 2 3 3 3 2 3 3 3 3 3 28 8
สมรรถนะประจำหน่วยการสอน 5 3 2 3 4 3 4 3 4 3 34 3
1. ความร้เู บ้ืองต้นเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอรก์ ราฟิก 2 3 3 3 2 3 3 3 3 3 28 4
2. ความแตกตา่ งกราฟิก 2 มิติ 2 3 3 3 2 3 3 3 3 3 28 1
3. การใช้คอมพิวเตอร์กราฟกิ เบื้องต้นแบบ Rastor 2 3 3 3 2 3 3 3 3 3 28 5
4. การเลือกพ้ืนที่เพื่อแกไ้ ขและตกแตง่ ภาพ 2 3 3 3 2 3 3 3 3 3 28 6
5. ความร้เู รอื่ งสี 2 3 3 3 2 3 3 3 3 3 28 9
6. การระบายสแี ละการตกแตง่ ภาพ 2 3 2 2 2 3 2 2 2 2 22 10
7. การสร้างตัวอกั ษร 2 3 2 2 2 3 2 2 2 2 22 7
8. Path และการใชป้ ากกาวาดภาพ
9. การใช้เครอ่ื งมือบนั ทึกเตือนความจำ
10. การใช้ฟิลเตอรแ์ ละแอกชนั่
รวม 21 27 24 25 20 27 26 25 26 25
ลำดับความสำคญั 9 1 8 5 10 2 3 6 4 7
โครงการจดั การเรยี นรู้
รหสั วิชา .......... 20901-1004....... วิชา ...........คอมพิวเตอรก์ ราฟกิ เบ้ืองตน้ ................จำนวน......3......หน่วยกติ
ช้ัน .........ปวช. 1 ............ สาขาวชิ า/กลุ่มวชิ า/.. เทคโนโลยสี ารสนเทศ...................................................................
หนว่ ยท่ี ชื่อหน่วย / รายการสอน สัปดาห์ที่ ช่วั โมงท่ี
1 ความรเู้ บ้อื งตน้ เกี่ยวกับคอมพิวเตอรก์ ราฟิก 1-2 1-8
2 ความแตกต่างกราฟกิ 2 มิติ 3 9-12
3 การใช้คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ เบื้องตน้ แบบ Rastor 4-5 13-20
4 การเลือกพ้ืนทเ่ี พือ่ แกไ้ ขและตกแตง่ ภาพ 6-7 21-28
5 ความรเู้ รอื่ งสี 8-10 29-40
6 การระบายสแี ละการตกแตง่ ภาพ 11-12 41-48
7 การสรา้ งตัวอกั ษร 13 49-52
8 Path และการใชป้ ากกาวาดภาพ 14-15 53-60
9 การใชเ้ คร่อื งมือบนั ทกึ เตอื นความจำ 16 61-64
10 การใช้ฟิลเตอรแ์ ละแอกช่ัน 17-18 65-72
แผนการจดั การเรยี นรู้
รหสั วชิ า .......... 20901-1004....... วชิ า ........คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ เบอื้ งตน้ .... แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี .......1......
หนว่ ยที่ .......1....... ชือ่ หน่วย .............ความรู้เบือ้ งตน้ เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ ...............................................
ชือ่ เร่อื ง........ความรู้เบ้ืองตน้ เกยี่ วกบั คอมพิวเตอรก์ ราฟกิ ............................................... จำนวน ....3......ช่ัวโมง
1. สาระสำคญั
ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับ ความหมายของกราฟิกและคอมพิวเตอร์กราฟิก การเกิดภาพบน เครื่อง
คอมพิวเตอร์ การประมวลผลภาพคอมพิวเตอร์กราฟิก อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เก่ียวข้องกับ งานกราฟิก
หลักการใช้สแี ละแสงในคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์กราฟกิ กบั การประยุกต์ใช้ในงาน ดา้ นต่าง ๆ
2. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรียนรู้
1. สามารถระบไุ ดถ้ ึงหน้าท่ีของอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ที่เก่ยี วข้องกับงานกราฟกิ ได้
2. นำความรู้ท่ีไดจ้ ากประโยชนข์ องคอมพวิ เตอรม์ าประยุกต์กบั การใชง้ านด้านกราฟิกได้
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 จุดประสงค์ทว่ั ไป
เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนเข้าใจเก่ยี วกบั ความหมายของกราฟิกและคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ การเกิดภาพบน เคร่ือง
คอมพิวเตอร์ การประมวลผลภาพคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ อปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับ งานกราฟกิ
หลกั การใช้สีและแสงในคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ กบั การประยกุ ต์ใชใ้ นงาน ดา้ นตา่ ง ๆ
3.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. บอกความหมายของกราฟกิ และคอมพวิ เตอร์กราฟกิ ได้
2. อธิบายการเกิดภาพบนเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ได้
3. อธบิ ายการประมวลผลภาพแบบ Raster และ Vector ได้
4. อธบิ ายหนา้ ทข่ี องอุปกรณ์คอมพวิ เตอรท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกับงานกราฟกิ ได้
5. อธบิ ายหลกั การใชส้ แี ละแสงในเครื่องคอมพวิ เตอรไ์ ด้
6. บอกประโยชนข์ องคอมพวิ เตอรก์ ราฟิกกับการประยุกตใ์ ชใ้ นงานด้านตา่ ง ๆได้
7. สามารถระบไุ ด้ถึงหนา้ ที่ของอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั งานกราฟกิ ได้
8. นำความรูท้ ไ่ี ดจ้ ากประโยชนข์ องคอมพวิ เตอรม์ าประยุกต์กบั การใช้งานด้านกราฟิกได้
9. ผูเ้ รียนมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมท่ีพึงประสงค์ คอื ความมมี นุษย์สัมพันธ์ ความมีวินัย
ความรบั ผดิ ชอบ ความประหยัด ความสนใจใฝร่ ู้ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที
4. สาระการเรยี นรู้
เนือ้ หา
1. ความหมายของกราฟกิ และคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ
กราฟิก (Graphic) ท่มี าของคำว่า กราฟิก มาจากภาษากรีก คือ
- Graphikos หมายถึง การวาดเขยี น มีผ้ใู ห้ความหมายของ “กราฟิก” ไว้หลายประการดว้ ยกัน ดังน้ี คอื
เปน็ ศลิ ปะอยา่ งหน่ึงท่แี สดงออกดว้ ยความคดิ อ่านโดยใช้เส้น รปู ภาพ ภาพเขยี น หยาบ ๆ
ไดอะแกรม ฯลฯ (วฒั นะ จทุ ะวภิ าค, 2523)
การสื่อความหมายดา้ นการใชภ้ าพวาด ภาพสเกต แผนภาพ การถา่ ยภาพ และอ่นื ๆ ท่ตี ้อง
อาศยั ศลิ ปะและศาสตร์ เขา้ มาช่วย เพอ่ื ทำใหผ้ ู้ดเู กิดความคดิ และการตคี วามหมายไดต้ รงตามทผ่ี ู้ สง่ สารตอ้ งการ
เชน่ แผนภมู ิ แผนภาพ ภาพโฆษณา การ์ตนู (ชม ภูมภิ าค, 2524: 131)
เปน็ ศลิ ปะแขนงหนึ่งท่ีแสดงความคดิ ดว้ ยการใชเ้ ส้น มาจากภาษากรกี ซงึ่ แปลว่า
“ To Write” (วนดิ า จงึ ประสิทธิ์, 2526: 127)
วสั ดทุ ีเ่ กดิ จากการวาดและการเขยี นงานออกแบบตา่ ง ๆ ในสิง่ ทเ่ี ปน็ วสั ดุ 2 มิติ มคี วามกว้างและ
ความยาวเท่ากนั อันไดแ้ ก่ งานสถาปนิกในการเขียนแปลนบ้าน การเขียนภาพเหมอื นของ จิตรกร การออกแบบ
โฆษณาของช่างออกแบบ (โสภาพรรณ นามวงศ์ และเกือ้ กูล คปุ รัตน์, 2528)
เป็นศลิ ปะหรือศาสตร์ในการเขยี นภาพลายเสน้ (สมบรู ณ์ สงวนญาติ, 2526 : 224)
รวมไปถึงการพิมพ์ การแกะสลัก การถา่ ยภาพ และการจดั ทำหนังสือ (Graphic art the
world book encyclopedia)
สรุปความหมายของ “กราฟกิ “
กราฟิก หมายถงึ การสื่อความหมายด้วยการใชศ้ ิลปะและศาสตรท์ างการใชเ้ สน้ ภาพวาด
ภาพเขียน แผนภาพ ตลอดจนสัญลักษณ์ ทงั้ สแี ละขาว-ดำ ซึ่งมลี กั ษณะเหน็ ไดช้ ดั เจน เข้าใจ ความหมายได้
ทนั ที ตรงตามท่ีผสู้ อ่ื สารตอ้ งการ
ความหมายของ “คอมพวิ เตอรก์ ราฟิก“
คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ หมายถงึ การสรา้ งและการจดั การกบั ภาพกราฟกิ โดยใช้คอมพวิ เตอร์ ซ่ึงการพัฒนา
คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ เริ่มตน้ มาจากการเปน็ เทคนิคอย่างหน่งึ ในการแสดงข้อมลู ตวั เลข จำนวนมาก ๆ ให้อยูใ่ นรปู ที่
ชัดเจนกวา่ เดิมและทำความเข้าใจได้งา่ ยกวา่ เดิม เช่น ข้อมลู อาจแสดงได้ ในรูปของเส้นกราฟ แผนภาพ แผนภูมิ
แทนที่จะเปน็ ตารางของตัวเลข จากน้นั การใชภ้ าพกราฟิก แสดงผลแทนข้อมูลหรือข่าวสารทย่ี งุ่ ยากก็มกี ารพฒั นา
มากข้นึ เรื่อย ๆ ปัจจบุ นั มกี ารใช้ภาพกราฟิก ในงานทกุ ๆ ดา้ น ไม่ว่า ดา้ นธรุ กจิ โรงงานอุตสาหกรรม งานศิลปะ
การบนั เทิง งานโฆษณา การศกึ ษา การวจิ ัย การฝึกอบรม และงานทางการแพทย์ จนเห็นได้ชัดเจนวา่
คอมพวิ เตอร์กราฟกิ นั้นเริม่ มีความ สำคัญ เนื่องจากเปน็ เครอื่ งมือที่สามารถชว่ ยงานในการออกแบบทางด้าน
กราฟิกใหเ้ ป็นไปอยา่ งรวดเร็ว สะดวก ไมต่ ้องอาศยั เครือ่ งมือจำนวนมาก อกี ท้งั ผูอ้ อกแบบเองก็สามารถดผู ลงาน
การออกแบบของ ตนเองได้ทนั ที
กราฟิกกับสงั คมปัจจุบัน
ปจั จุบันเทคโนโลยไี ดว้ ิวัฒนาการไปคอ่ นข้างรวดเรว็ การใชร้ ะบบการตดิ ตอ่ ส่ือสารท่มี ี ประสิทธภิ าพมาก
ขึน้ มีการกระจายของข้อมูลไปอย่างรวดเรว็ โดยอาจเป็นการกระจายขอ้ มลู จาก ท่ีหน่งึ ไปยังอีกที่หน่ึง และการที่
จะใหค้ นอกี ซกี โลกหนึ่งเข้าใจความหมายของคนอกี ซกี โลกหนงึ่ นนั้ เป็นเร่ืองทไี่ ม่สามารถทำได้งา่ ยนกั เน่อื งมาจาก
ความแตกต่างกนั ท้งั ทางดา้ นขนบธรรมเนียม ประเพณวี ฒั นธรรม สภาพภมู ปิ ระเทศ สภาพดนิ ฟา้ อากาศความเชอ่ื
ของแตล่ ะท้องถนิ่ ดงั นั้นการใชง้ านกราฟกิ ที่ดีทสี่ ามารถสอื่ ความหมายได้ชดั เจนถูกตอ้ ง จะชว่ ยให้มนุษย์สามารถ
สือ่ สารกันได้ เขา้ ใจกนั ได้ เกนิ จินตนาการร่วมกนั อีกท้งั ยังเกิดทศั นคติทดี่ ตี อ่ กันดว้ ย หรือถงึ ขนั้ คล้อยตามใหป้ ฏบิ ตั ิ
ตามได้
2 การเกดิ ภาพบนเครอื่ งคอมพวิ เตอร์
ลักษณะและความหมายของพิกเซล (Pixel)
พกิ เซล (Pixel) มาจากคำว่า Picture กบั คำวา่ Element เป็นหนว่ ยพนื้ ฐานของภาพ คอื จดุ สี่เหล่ียมเล็ก ๆ
ทรี่ วมกันทำให้เกิดเป็นภาพขึ้น ภาพหนงึ่ ๆ จะประกอบด้วยพกิ เซลหรอื จุดมากมาย ซ่ึงแตล่ ะภาพทสี่ รา้ งขน้ึ จะมี
ความหนาแน่นของจุดหรอื พกิ เซลเหลา่ น้ีแตกตา่ งกนั ออกไป ความละเอยี ด (Resolution) เปน็ ตัวบอกถึงความ
ละเอยี ดของภาพ โดยมหี นว่ ยเป็นพีพไี อ ppi
ย่อมาจาก (Pixels Per Inch) คือจำนวนจดุ ต่อน้ิว (dpi: คือ dot per inch) ภาพที่มีความละเอยี ดสงู หรอื
คุณภาพดี ควรจะมคี า่ ความละเอยี ด 300 X 300 ppi ขน้ึ ไป ค่า ppi สูงภาพจะมีความละเอยี ดคมชดั ขึ้น
การแสดงผลของอุปกรณแ์ สดงผล (Output Devices) ตวั อย่างเช่น เคร่อื งพิมพ์ ( Printer )
แบบดอตแมทริกช์ (Dot-matrix) หรอื เลเซอร์ (Laser) รวมท้ังจอภาพ จะเป็นการแสดงผลแบบ Raster Devices คือ
อาศัยการรวมกนั ของพกิ เซลออกมาเปน็ รูป
3 การประมวลผลภาพคอมพวิ เตอร์กราฟิก
วิธีการประมวลผลภาพคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ มี 2 แบบ คือ
1. การประมวลผลแบบ Raster หรอื Bitmap
2. การประมวลผลแบบ Vector
1. การประมวลผลแบบ Raster
การประมวลผลแบบ Raster หรือ แบบบติ แมป (Bitmap) หรือเรยี กวา่ เป็นภาพแบบ Resolution
Dependent ลักษณะสำคัญของภาพประเภทนี้ ประกอบขนึ้ ด้วยจดุ สตี า่ ง ๆ ท่ีมีจำนวนคงที่ตายตัว ตามการสร้าง
ภาพท่มี คี วามละเอยี ดตา่ งกันไป ภาพแบบบติ แมปนี้ มีข้อดี คอื เหมาะสำหรบั ภาพทตี่ ้องการระบายสี สร้างสี หรอื
กำหนดสที ี่ตอ้ งละเอียดและสวยงามไดง้ า่ ย ข้อจำกดั คือ เม่ือมีพิกเซลจำนวนคงท่ี นำภาพมาขยายใหใ้ หญ่ขนึ้ ความ
ละเอยี ดจะลดลง มองเห็นภาพเปน็ แบบจุด และถ้าเพ่ิมความละเอียดใหแ้ ก่ภาพ จะทำให้ไฟล์มขี นาดใหญ่ และ
เปลืองเน้ือที่หน่วยความจำมาก ในระบบวนิ โดวส์ (Windows) ไฟลข์ องรปู ภาพประเภทน้ี คือ พวกท่ีมีสว่ นขยาย
หรอื นามสกลุ (Extension) เปน็ .BMP , .PCX, .TIF , .GIF , .JPG, .MSP , .PCD, .PCT โปรแกรมท่ใี ชส้ รา้ งคือ โปรแกรม
ประเภทระบายภาพ (Painting Program) เช่น Paintbrush , Photoshop , Photostyler เปน็ ต้น
2. การประมวลผลแบบ Vector
การประมวลผลแบบ Vector เป็นภาพแบบเวกเตอร์ หรือ Object-Oriented Graphics หรอื เรียกว่า เปน็ รปู ภาพ
Resolution-Independent เปน็ ภาพท่ีมลี กั ษณะของการสร้างจากคอมพวิ เตอร์ท่ีมีการสรา้ งให้แต่ละสว่ นของภาพ
เปน็ อิสระตอ่ กัน โดยแยกชิน้ ส่วนของภาพทง้ั หมดออกเปน็ เส้นตรง รูปทรงหรือสว่ นโคง้ โดยอา้ งองิ ตาม
ความสมั พนั ธท์ างคณิตศาสตร์ หรือการคำนวณซงึ่ มที ศิ ทาง การลากเสน้ ไปในแนวตา่ ง ๆ จึงเรียกประเภท Vector
Graphic หรอื Object Oriented ภาพเวกเตอร์นี้ มขี ้อดีคอื สามารถเปล่ยี นแปลงขนาด โดยมีความละเอยี ดของภาพ
ไมล่ ดลง ภาพสามารถ เปลี่ยนแปลงหรอื ย้ายไดแ้ ละมขี นาดของไฟลท์ ่ีเลก็ กว่าพวกบติ แมป
ในระบบวินโดวส์ ไฟลร์ ปู ภาพประเภทน้ี คือ พวกที่มนี ามสกลุ เป็น .EPS , .WMF, .CDR, .AI , .CGM, .DRW,
.PLT เป็นตน้ และโปรแกรมที่ใชส้ รา้ งก็คอื โปรแกรมประเภทวาดรปู (Drawing Program) เชน่ CorelDraw หรือ
AutoCAD สว่ นบนเมคอนิ ทอช (Macintosh) ก็ไดแ้ ก่ โปรแกรม IIIustrator และ Macromedia Freehand หรือ ภาพ
.wmf ซง่ึ เปน็ clipart ของ Microsoft Office
ภาพทเี่ ป็นคอมพวิ เตอร์กราฟกิ มีลักษณะทมี่ จี ดุ เด่นจุดดอ้ ยเปรยี บเทยี บกันระหว่างบิตแมป กับพวก
เวกเตอร์ ซงึ่ ต้องพิจารณาเลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั งาน โดยเฉพาะในเร่ืองเกย่ี วกบั การเปลี่ยนแปลงขนาดของรปู
พวกบติ แมปเปน็ ภาพทม่ี จี ำนวนพกิ เซลคงที่ หากนำมาขยายมาก ๆ ภาพจะลดความละเอียดลง ส่วนภาพเวกเตอร์
สามารถขยายขนาดไดโ้ ดยทค่ี วามละเอียดของภาพไมเ่ ปลย่ี นแปลงแตเ่ รื่องของความสวยงาม พวกบิตแมปสามารถ
ตกแตง่ ความละเอยี ดสวยงามได้ดกี วา่ ซึ่งขนึ้ อยู่กบั จดุ ประสงคใ์ นการใช้งานหรอื ลกั ษณะของงานท่ตี ้องการ อย่างไร
ก็ตาม อุปกรณแ์ สดงผลไม่วา่ จะเป็นเคร่ืองพมิ พด์ อตแมทริกซห์ รือเลเซอร์ รวมทั้งจอภาพ จะเปน็ การแสดงผลแบบ
Raster Devices หรอื แสดงในรปู ของบติ แมป คือ อาศยั การรวมกนั ของพกิ เซลออกมาเป็นรปู แม้วา่ จะเป็นกราฟกิ ท่ี
สร้างเปน็ แบบเวกเตอรแ์ ตจ่ ะมีการเปลี่ยนเป็นการแสดงผลแบบบติ แมปหรอื เป็นพิกเซลเมื่อจะพิมพ์หรือแสดงภาพ
บนหนา้ จอ
รปู ท่ี 1.3 แสดงมุมมอง
ภาพแบบ Vector
ขยายที่ 3 เทา่ และ 24 เทา่
4. อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั งานกราฟกิ
เครอื่ ง PC
1. เคร่อื งคอมพวิ เตอรท์ มี่ ี CPU รนุ่ Pentium หรอื รุ่นที่สงู กวา่
2. ใช้ระบบปฏบิ ัติการ Windows98 /Windows ME/Windows2000/ WindowsXP
หรือ Windows NT4.0 ท่ตี ดิ ตง้ั Service Pack 4 ,5 หรอื 6a เป็นอยา่ งน้อย
3. RAM อย่างนอ้ ย 128 MB ขึ้นไป
4. Hard Disk เน้อื ทว่ี า่ งอยา่ งน้อย 125 MB
5. การด์ จอแสดงผลสีหน้าจอ 256 สี (8 บิต) หรอื 24 บิต ขึน้ ไปสำหรับงานกราฟฟกิ
6. แสดงผลความละเอยี ดของจอภาพ 800 X 600 พิกเซล
เคร่ือง Macintosh
1. เคร่ืองแบบ PowerPC ควรเปน็ Pentium ขน้ึ ไป
2. ใช้ Mac OS 7.5 หรอื สงู กวา่ ไดแ้ ก่ 8.0, 8.5, 8.6 หรอื เครอ่ื งทเ่ี ร็วกว่า
3. RAM อย่างน้อย 128 MB หรอื มากกว่า
4. Hard Disk เน้อื ที่วา่ งอย่างนอ้ ย 125 MB
5. แสดงผลความละเอยี ดของจอภาพ 800 X 600 พกิ เซล
เครื่องสแกนเนอร์
เคร่อื งสแกนเนอร์ เป็นอุปกรณต์ ่อเชื่อมคอมพวิ เตอรแ์ บบกราฟกิ มหี นา้ ทแี่ ปลงภาพถา่ ย
ตัวอักษร ภาพวาด ให้เป็นข้อมูลในคอมพิวเตอร์ มี 3 ชนดิ คอื
1. แบบใสก่ ระดาษ
2. แบบวางกระดาษ
3. แบบมือถอื
กล้องถา่ ยภาพระบบดิจิตอล
กล้องถ่ายภาพระบบดจิ ติ อล สามารถถา่ ยและใหภ้ าพเป็น Digital Image ได้ โดยไมต่ ้องผา่ นกระบวนการแปลง
ภาพ ทำให้สามารถประหยดั เวลาไดอ้ ยา่ งมากมาย อกี ทง้ั ภาพท่ีไดจ้ ากกลอ้ งดิจติ อลเป็นภาพทีม่ คี วามละเอียด
เครอื่ งพมิ พ์
สรุปความหมายของ “กราฟิก“
กราฟิก หมายถงึ การสอื่ ความหมายด้วยการใชศ้ ิลปะและศาสตรท์ างการใช้เสน้ ภาพวาด
ภาพเขียน แผนภาพ ตลอดจนสญั ลกั ษณ์ ทงั้ สแี ละขาว-ดำ ซง่ึ มลี กั ษณะเห็นได้ชดั เจน เข้าใจ ความหมาย
ไดท้ ันที ตรงตามทผ่ี สู้ ื่อสารต้องการ
ความหมายของ “คอมพิวเตอรก์ ราฟิก“
คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ หมายถึง การสร้างและการจัดการกบั ภาพกราฟกิ โดยใชค้ อมพวิ เตอร์ ซึง่ การพัฒนา
คอมพิวเตอรก์ ราฟกิ เร่ิมตน้ มาจากการเปน็ เทคนิคอย่างหน่ึงในการแสดงขอ้ มูลตัวเลข จำนวนมาก ๆ ใหอ้ ยใู่ นรูปที่
ชัดเจนกว่าเดิมและทำความเข้าใจได้งา่ ยกว่าเดิม เชน่ ข้อมูลอาจแสดงได้ ในรปู ของเส้นกราฟ แผนภาพ แผนภมู ิ
แทนทีจ่ ะเปน็ ตารางของตวั เลข จากน้ัน การใชภ้ าพกราฟกิ แสดงผลแทนข้อมลู หรือขา่ วสารท่ยี งุ่ ยากกม็ กี ารพฒั นา
มากขึ้นเร่ือย ๆ ปจั จุบันมีการใช้ภาพกราฟิก ในงานทกุ ๆ ดา้ น ไม่วา่ ดา้ นธุรกิจ โรงงานอตุ สาหกรรม งานศิลปะ
การบันเทิง งานโฆษณา การศกึ ษา การวจิ ยั การฝึกอบรม และงานทางการแพทย์ จนเห็นไดช้ ดั เจนวา่
คอมพวิ เตอร์กราฟกิ นน้ั เร่ิมมคี วาม สำคัญ เนื่องจากเปน็ เครอ่ื งมอื ทีส่ ามารถชว่ ยงานในการออกแบบทางดา้ น
กราฟิกให้เปน็ ไปอยา่ งรวดเร็ว สะดวก ไม่ต้องอาศยั เครอ่ื งมอื จำนวนมาก อกี ทง้ั ผู้ออกแบบเองก็สามารถดผู ลงาน
การออกแบบของ ตนเองได้ทันที
กราฟกิ กบั สังคมปัจจุบัน
ปจั จุบนั เทคโนโลยีได้ววิ ฒั นาการไปคอ่ นขา้ งรวดเรว็ การใชร้ ะบบการตดิ ตอ่ ส่ือสารทีม่ ี ประสทิ ธภิ าพมาก
ขนึ้ มกี ารกระจายของขอ้ มลู ไปอย่างรวดเรว็ โดยอาจเป็นการกระจายขอ้ มลู จาก ทีห่ นึ่งไปยงั อกี ทห่ี นงึ่ และการที่
จะใหค้ นอกี ซกี โลกหนงึ่ เขา้ ใจความหมายของคนอกี ซีกโลกหน่ึงนัน้ เป็นเรื่องท่ีไม่สามารถทำได้งา่ ยนกั เนื่องมาจาก
ความแตกต่างกันทั้งทางดา้ นขนบธรรมเนยี ม ประเพณวี ฒั นธรรม สภาพภมู ิประเทศ สภาพดินฟ้าอากาศความเช่ือ
ของแต่ละทอ้ งถนิ่ ดงั น้ันการใช้งานกราฟกิ ทีด่ ที ่สี ามารถสอื่ ความหมายไดช้ ัดเจนถูกต้อง จะชว่ ยใหม้ นษุ ยส์ ามารถ
สื่อสารกันได้ เขา้ ใจกันได้ เกนิ จินตนาการรว่ มกัน อกี ท้ังยงั เกดิ ทัศนคตทิ ดี่ ีตอ่ กนั ดว้ ย หรือถึงข้นั คลอ้ ยตามให้ปฏิบัติ
ตามได้
3 การเกิดภาพบนเคร่อื งคอมพิวเตอร์
ลักษณะและความหมายของพิกเซล (Pixel)
พิกเซล (Pixel) มาจากคำวา่ Picture กบั คำว่า Element เป็นหน่วยพ้นื ฐานของภาพ คอื จดุ ส่ีเหลี่ยม
เล็ก ๆ ทร่ี วมกันทำใหเ้ กิดเป็นภาพขึ้น ภาพหน่ึง ๆ จะประกอบด้วยพกิ เซลหรอื จดุ มากมาย ซงึ่ แตล่ ะภาพที่สร้างข้นึ
จะมีความหนาแนน่ ของจุดหรอื พิกเซลเหลา่ น้แี ตกต่างกนั ออกไป ความละเอยี ด (Resolution) เปน็ ตวั บอก
ถึงความละเอยี ดของภาพ โดยมีหน่วยเป็นพพี ไี อ ppi
ยอ่ มาจาก (Pixels Per Inch) คือจำนวนจดุ ต่อนว้ิ (dpi: คอื dot per inch) ภาพทม่ี ีความละเอยี ดสงู
หรอื คณุ ภาพดี ควรจะมีคา่ ความละเอยี ด 300 X 300 ppi ข้นึ ไป คา่ ppi สงู ภาพจะมคี วามละเอยี ดคมชดั ขึ้น
การแสดงผลของอุปกรณแ์ สดงผล (Output Devices) ตวั อย่างเชน่ เครอ่ื งพมิ พ์ ( Printer )
แบบดอตแมทรกิ ช์ (Dot-matrix) หรอื เลเซอร์ (Laser) รวมท้งั จอภาพ จะเปน็ การแสดงผลแบบ Raster Devices
คือ อาศัยการรวมกนั ของพิกเซลออกมาเป็นรปู
3 การประมวลผลภาพคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ
วิธกี ารประมวลผลภาพคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ มี 2 แบบ คอื
1. การประมวลผลแบบ Raster หรอื Bitmap
2. การประมวลผลแบบ Vector
1. การประมวลผลแบบ Raster
การประมวลผลแบบ Raster หรอื แบบบิตแมป (Bitmap) หรือเรยี กว่าเป็นภาพแบบ Resolution
Dependent ลักษณะสำคญั ของภาพประเภทน้ี ประกอบขน้ึ ดว้ ยจดุ สตี ่าง ๆ ที่มีจำนวนคงที่ตายตวั ตามการสร้าง
ภาพท่ีมคี วามละเอียดตา่ งกนั ไป ภาพแบบบิตแมปนี้ มขี อ้ ดี คือ เหมาะสำหรบั ภาพท่ีต้องการระบายสี สร้างสี หรอื
กำหนดสที ตี่ ้องละเอยี ดและสวยงามไดง้ า่ ย ขอ้ จำกดั คือ เม่ือมพี กิ เซลจำนวนคงที่ นำภาพมาขยายให้ใหญข่ นึ้ ความ
ละเอยี ดจะลดลง มองเหน็ ภาพเป็นแบบจุด และถ้าเพ่ิมความละเอยี ดใหแ้ กภ่ าพ จะทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่ และ
เปลอื งเนือ้ ทีห่ นว่ ยความจำมาก
ในระบบวินโดวส์ (Windows) ไฟล์ของรูปภาพประเภทนี้ คือ พวกท่ีมสี ว่ นขยายหรอื นามสกุล
(Extension) เป็น .BMP , .PCX, .TIF , .GIF , .JPG, .MSP , .PCD, .PCT โปรแกรมที่ใชส้ ร้างคือ โปรแกรม
ประเภทระบายภาพ (Painting Program) เชน่ Paintbrush , Photoshop , Photostyler เปน็ ตน้
2. การประมวลผลแบบ Vector
การประมวลผลแบบ Vector เป็นภาพแบบเวกเตอร์ หรอื Object-Oriented Graphics หรือเรยี กวา่ เปน็ รปู ภาพ
Resolution-Independent เปน็ ภาพทมี่ ีลักษณะของการสรา้ งจากคอมพวิ เตอร์
ที่มีการสร้างให้แต่ละส่วนของภาพเปน็ อิสระตอ่ กนั โดยแยกชน้ิ สว่ นของภาพท้ังหมดออกเป็น เส้นตรง รูปทรงหรอื
สว่ นโคง้ โดยอา้ งองิ ตามความสัมพนั ธ์ทางคณิตศาสตร์ หรอื การคำนวณซงึ่ มที ิศทาง การลากเส้นไปในแนวต่าง ๆ
จงึ เรียกประเภท Vector Graphic หรือ Object Oriented ภาพเวกเตอรน์ ้ี มขี อ้ ดีคอื สามารถเปลย่ี นแปลงขนาด
โดยมคี วามละเอยี ดของภาพไมล่ ดลง ภาพสามารถ เปลี่ยนแปลงหรือย้ายได้และมขี นาดของไฟล์ทเ่ี ลก็ กวา่ พวก
บติ แมป
ในระบบวินโดวส์ ไฟล์รปู ภาพประเภทนี้ คอื พวกทมี่ นี ามสกุลเปน็ .EPS , .WMF, .CDR, .AI , .CGM,
.DRW, .PLT เปน็ ตน้ และโปรแกรมทีใ่ ชส้ รา้ งก็คอื โปรแกรมประเภทวาดรปู (Drawing Program) เชน่
CorelDraw หรอื AutoCAD สว่ นบนเมคอินทอช (Macintosh) กไ็ ดแ้ ก่ โปรแกรม IIIustrator และ
Macromedia Freehand หรอื ภาพ .wmf ซึ่งเปน็ clipart ของ Microsoft Office
ภาพทีเ่ ปน็ คอมพวิ เตอร์กราฟกิ มลี กั ษณะท่มี จี ุดเดน่ จุดดอ้ ยเปรยี บเทยี บกนั ระหว่างบติ แมป กบั พวก
เวกเตอร์ ซ่ึงตอ้ งพจิ ารณาเลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั งาน โดยเฉพาะในเร่ืองเกยี่ วกบั การเปลีย่ นแปลงขนาดของรปู
พวกบิตแมปเป็นภาพท่ีมีจำนวนพกิ เซลคงท่ี หากนำมาขยายมาก ๆ ภาพจะลดความละเอยี ดลง สว่ นภาพ
เวกเตอร์สามารถขยายขนาดได้โดยท่ีความละเอียดของภาพไม่เปลย่ี นแปลงแตเ่ รอ่ื งของความสวยงาม พวกบติ แมป
สามารถตกแต่งความละเอียดสวยงามไดด้ กี ว่า ซงึ่ ข้นึ อย่กู ับจุดประสงค์ในการใชง้ านหรือลักษณะของงานท่ีต้องการ
อยา่ งไรกต็ าม อุปกรณแ์ สดงผลไมว่ า่ จะเปน็ เครอ่ื งพมิ พ์ดอตแมทริกซ์หรอื เลเซอร์ รวมท้งั จอภาพ จะเปน็ การ
แสดงผลแบบ Raster Devices หรือแสดงในรปู ของบติ แมป คอื อาศยั การรวมกันของพิกเซลออกมาเปน็ รปู แมว้ า่
จะเปน็ กราฟิกที่สรา้ งเปน็ แบบเวกเตอร์แตจ่ ะมกี ารเปลีย่ นเปน็ การแสดงผลแบบบติ แมปหรอื เป็นพิกเซลเมือ่ จะพมิ พ์
หรือแสดงภาพบนหน้าจอ
รูปที่ 1.3 แสดงมมุ มอง ภาพแบบ Vector ขยายที่ 3 เท่า และ 24 เทา่
4. อปุ กรณค์ อมพิวเตอรท์ เี่ ก่ียวขอ้ งกับงานกราฟกิ
เครื่อง PC
1. เครื่องคอมพวิ เตอร์ท่มี ี CPU รนุ่ Pentium หรือรนุ่ ทส่ี ูงกว่า
2. ใชร้ ะบบปฏิบตั ิการ Windows98 /Windows ME/Windows2000/ WindowsXP
หรอื Windows NT4.0 ทตี่ ดิ ต้ัง Service Pack 4 ,5 หรอื 6a เปน็ อยา่ งน้อย
3. RAM อยา่ งน้อย 128 MB ข้นึ ไป
4. Hard Disk เนอ้ื ทีว่ า่ งอยา่ งนอ้ ย 125 MB
5. การด์ จอแสดงผลสหี น้าจอ 256 สี (8 บติ ) หรอื 24 บติ ขึน้ ไปสำหรับงานกราฟฟกิ
6. แสดงผลความละเอียดของจอภาพ 800 X 600 พกิ เซล
เครือ่ ง Macintosh
1. เคร่ืองแบบ PowerPC ควรเป็น Pentium ขึน้ ไป
2. ใช้ Mac OS 7.5 หรือสูงกว่า ได้แก่ 8.0, 8.5, 8.6 หรือเครือ่ งท่ีเร็วกวา่
3. RAM อยา่ งนอ้ ย 128 MB หรอื มากกวา่
4. Hard Disk เนอ้ื ท่ีวา่ งอยา่ งนอ้ ย 125 MB
5. แสดงผลความละเอยี ดของจอภาพ 800 X 600 พิกเซล
เครอ่ื งสแกนเนอร์
เครอ่ื งสแกนเนอร์ เปน็ อุปกรณต์ อ่ เชอื่ มคอมพวิ เตอร์แบบกราฟกิ มีหน้าทแี่ ปลงภาพถ่าย
ตัวอักษร ภาพวาด ใหเ้ ปน็ ข้อมลู ในคอมพิวเตอร์ มี 3 ชนดิ คอื
1. แบบใส่กระดาษ
2. แบบวางกระดาษ
3. แบบมือถือ
กล้องถา่ ยภาพระบบดจิ ติ อล
กล้องถ่ายภาพระบบดิจติ อล สามารถถ่ายและให้ภาพเปน็ Digital Image ได้ โดยไมต่ อ้ งผา่ นกระบวนการแปลง
ภาพ ทำใหส้ ามารถประหยดั เวลาไดอ้ ยา่ งมากมาย อกี ทงั้ ภาพท่ีได้จากกลอ้ งดิจติ อลเปน็ ภาพทม่ี คี วามละเอียด
เคร่อื งพมิ พ์
เครือ่ งพมิ พ์ (Printer) เป็นอปุ กรณ์สำคัญ ซงึ่ พมิ พ์งานกราฟิกออกมาบนกระดาษ มี 3 ชนดิ
1. เคร่ืองพมิ พ์แบบด็อตแมทรกิ ซ์ (Dot Matrix Printer) ใช้หวั เข็มในการพมิ พ์ตวั อักษร ใชใ้ นงานกราฟิก
คุณภาพในการพมิ พ์งานกราฟกิ ตำ่ ใช้พมิ พ์เอกสารท่ีมีลักษณะเปน็ ข้อความมากกวา่ ขอ้ ดีทนทาน ผา้ หมึกถกู พมิ พ์
สำเนาได้ ขอ้ เสีย พิมพ์เสยี งดัง พมิ พ์ชา้ งานคอ่ นขา้ งหยาบ
รูปท่ี 1.4 แสดงเครื่องพมิ พแ์ บบด็อตแมทริกซ์ (Dot Matrix Priter)
2. เครอื่ งพิมพ์แบบพน่ หมึก (Ink-Jet Printer) หรือ Desk Jet เป็นเครื่องพมิ พ์ท่มี รี าคาถูกและ ความเอยี ดสูง โดย
อาศยั การพน่ หมกึ จากตลบั ขาว-ดำ และสีบนกระดาษดว้ ยความเรว็ สงู นยิ มใชก้ นั มากในงานกราฟิก ขอ้ ดีคอื
พิมพ์ได้ละเอียด คมชดั เสียงเงยี บ ขอ้ เสยี หมึกราคาแพงและแห้งชา้
3. เครือ่ งพิมพเ์ ลเซอร์ (Laser Printer) เครอื่ งพิมพท์ ีม่ คี ุณภาพสูง พมิ พ์ภาพได้ความละเอียด300-1200 จุด
ตอ่ น้วิ ข้อดพี ิมพต์ วั อกั ษรคมชัดกวา่ แบบอ่ืน พมิ พไ์ ด้รวดเรว็ ขอ้ เสยี พิมพส์ ำเนาไม่ได้
รูปที่ 1.6 แสดงรูปภาพเคร่อื งพมิ พแ์ บบเลเซอร์
กระดานกราฟิก
กระดานกราฟกิ (Graphic Tablet) เปน็ อปุ กรณ์ที่ใชท้ ำงานร่วมกับซอฟตแ์ วร์กราฟกิ โดยชว่ ยให้สามารถ
วาดภาพกราฟิกในคอมพวิ เตอร์ได้ เชน่ เดียวกับการวาดภาพบนกระดาษ อปุ กรณน์ จี้ ะมีส่วนทเี่ ป็นเมนูคำสัง่ บน
อุปกรณแ์ ละส่วนวาดภาพ เม่อื ลากเส้นบนสว่ นวาดภาพโดยใช้ปากกาทใี่ หม้ าจะปรากฏเสน้ บนจอคอมพิวเตอรใ์ น
ลักษณะเดียวกัน นอกจากน้ันยังสามารถเปล่ียนสปี ากกา และระบายสไี ด้ อุปกรณน์ ้เี หมาะกับงานกราฟกิ ทางดา้ น
ศลิ ปะหรือการตกแตง่ ภาพทไ่ี ด้ จากอุปกรณ์ นำเขา้ ภาพ
ปากกาแสง
ปากกาแสง (Light pen) เป็นปากกาพเิ ศษท่ีมีสายตอ่ ไปยงั ระบบคอมพวิ เตอร์ ใชส้ ำหรบั การบอก
ตำแหน่ง ข้อดขี องปากกาแสงคอื สามารถชบ้ี นจอภาพโดยตรง เพ่ือบอกตำแหน่งของวัตถุ ซ่งึ มองเห็นบนจอภาพ
ไดท้ นั ที
จอสมั ผัส
จอสัมผสั (Touch screen ) จะทำงานคลา้ ยกับปากกาแสงแตจ่ อภาพจะเคลอื บสารพิเศษ ทำให้สามารถ
รบั ตำแหนง่ ของการสัมผสั ด้วยมอื ไดท้ นั ที
รปู ท่ี 1.9 แสดงรปู ภาพจอสัมผัส
เคร่ืองอ่านพิกัด
เครื่องอา่ นพกิ ดั (Digitizer) เป็นอปุ กรณน์ ำเขา้ ข้อมูลภาพ มลี กั ษณะเปน็ กระดานและมสี ่วนหัวนำเขา้
ขอ้ มูล ซึง่ มปี มุ่ กดอยู่ เม่อื ผใู้ ช้วางหัวนำเข้าบนกระดานและกดปุม่ อปุ กรณจ์ ะรายงาน ตำแหนง่ ของหัวนำเขา้ บน
กระดานไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์นี้มกั จะใช้งานในการลอกแบบ หรอื นำเขา้ แบบก่อสร้าง แบบอุปกรณ์
เคร่อื งมอื และแผนท่ี ซึง่ การประยกุ ตใ์ ชจ้ ะเป็นงานด้านการผลติ ใชค้ อมพิวเตอร์ชว่ ย (Computer Aided
Manufacturing: CAM) หรืองานสารสนเทศเชิงภมู ศิ าสตร์
รปู ท่ี 1.10 แสดงรปู เครอ่ื งอา่ นพิกัดแบบตา่ ง ๆ
พล็อตเตอร์
พลอ็ ตเตอร์ (Plotter) เปน็ อปุ กรณ์แสดงผลกราฟกิ ท่ีมีปากกาเคล่ือนที่บนแกน สามารถเขียนรปู ร่างต่าง
ๆ การพมิ พข์ องเครื่องพลอ็ ตเตอร์ มักจะนยิ มใชใ้ นการพมิ พ์งานที่เปน็ เวกเตอร์ เชน่ แบบแปลนบ้าน แบบ
แปลนอาคาร หรอื แบบแปลนทางวศิ วกรรม
เครือ่ งพล็อตเตอร์จะมที ี่ใส่กระดาษพมิ พข์ นาดใหญ่ มีปากกาในการพิมพห์ ลายสี ลกั ษณะการทำงาน
เหมือนกับการเขียนของคนเรา โดยใช้ปากกาเป็นตวั เขียนดึงกลบั ไปมา ส่วนกระดาษจะเป็นสว่ นทเี่ คล่ือนที่
รูปท่ี 1.11 แสดงรปู พลอ็ ตเตอรแ์ บบต่าง ๆ
5 หลักการใชส้ ีและแสงในเครอื่ งคอมพวิ เตอร์
สีมคี วามสำคัญอย่างมากต่องานกราฟกิ สที ำใหภ้ าพหรือสงิ่ ตา่ ง ๆ มีความสดใส สวยงามน่าสนใจ ใน
การใชส้ เี พอ่ื สอื่ ความหมายในงานกราฟกิ ควรจะไดศ้ กึ ษาให้มีความร้คู วามเขา้ ใจเพ่อื ท่ี จะได้นำสีไปใชป้ ระกอบใน
งานกราฟิก ใหง้ านน้ันสามารถตอบสนองได้ตรงตามจุดประสงคม์ าก ทส่ี ดุ
ระบบสขี องคอมพวิ เตอร์
ระบบสขี องคอมพวิ เตอรเ์ ก่ียวขอ้ งกบั การแสดงผลของแสงบนจอคอมพิวเตอร์ โดยมีลกั ษณะการแสดงผล
คือ ถา้ ไม่มกี ารแสดงผลสใี ด บนจอภาพจะแสดงเปน็ “สีดำ” หากสที กุ สีแสดงพร้อมกันจะเหน็ สีบนจอภาพเปน็ “สี
ขาว” ส่วนสอี นื่ ๆ เกิดจากการแสดงสหี ลาย ๆ สี แตม่ ีคา่ แตกตา่ งกนั การแสดงผลลักษณะนี้ เรยี กว่า “ การแสดง
สีระบบ Additive”
การแสดงสรี ะบบ Additive
สใี นระบบ Additive ประกอบด้วยสีหลัก 3 สี คอื แดง (Red) เขยี ว (Green) น้ำเงิน (Blue) เรียกรวมกันว่า RGB หรือ
แมส่ ี
รูปที่ 1.12 แสดงสีหลัก 3 สี
ระบบสีท่ใี ช้กบั งานสงิ่ พิมพ์
ระบบสีทีใ่ ช้กบั งานส่งิ พมิ พ์ ประกอบด้วย สฟี า้ (Cyan) สีม่วงแดง (Magenta) และสีเหลือง(Yellow) คือ
ระบบ CMYK
รปู ที่ 1.13 แสดงสีทีใ่ ช้กับงานสงิ่ พิมพ์
แสงสขี าวจากธรรมชาตหิ รือแสงจากดวงอาทติ ย์เกิดจากการผสมของแม่สีสามสี คือ
แดง เขียวและน้ำเงิน ซึง่ เหมอื นกบั สที ีป่ รากฎบนจอคอมพวิ เตอร์ หากนำภาพดจิ ิตอลทที่ ำจาก คอมพวิ เตอร์ไป
แสดงผลทางเคร่ืองพมิ พ์ ภาพสีหรือเปน็ ฟลิ ม์ สไลด์ จะได้สที ่ีใกล้เคียงกับจอมอนเิ ตอรถ์ า้ นำไปใชท้ างการพิมพ์ เชน่
หนงั สือ หรอื สิ่งพมิ พ์ต่าง ๆ สสี ันจะผดิ เพีย้ นไป เพราะทางการพิมพใ์ ช้แม่สี ไซแอน มาเจนตา้ และเหลือง (CMYK)
ซึง่ ผสมกนั แล้วจะได้สีดำ นอกจากน้ีขอบเขตของสีกป็ รากฎแตกต่างกัน จอมอนเิ ตอรส์ ามารถแสดงสไี ด้สงู สุด 16.7
ล้านสี น้อยกว่าทต่ี าคนเราสามารถมองเหน็ ส่วนการพิมพ์อยูใ่ นระดับหมน่ื สีเทา่ นน้ั
6 คอมพิวเตอร์กราฟกิ กบั การประยุกต์ใช้ในงานด้านตา่ ง ๆ
คอมพิวเตอร์กราฟกิ กับการออกแบบ
คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ ได้ถูกนำมาใชใ้ นงานออกแบบมาเปน็ เวลานาน คำว่า CAD (Computer Aided Design) ซ่งึ เป็น
โปรแกรมสำหรับชว่ ยในการออกแบบทางวศิ วกรรมเริม่ เป็นทรี่ จู้ กั โปรแกรมเหล่านีจ้ ะช่วยใหผ้ อู้ อกแบบหรอื วศิ วกร
ออกแบบงานตา่ ง ๆ ได้สะดวกข้นึ กล่าวคอื ผู้ออกแบบสามารถเขียนเป็นแบบลายเสน้ แลว้ ลงสี แสง เงา เพอ่ื ใหด้ ู
คลา้ ยกบั ของจริงได้ นอกจากนี้แล้ว เมือ่ ผู้ออกแบบกำหนดขนาดของวตั ถลุ งในระบบ CAD แลว้ ผู้ออกแบบยัง
สามารถย่อหรอื ขยายภาพนน้ั หรือต้องการหมุนภาพไปในมมุ ตา่ ง ๆ ไดด้ ้วย การแก้ไขแบบน้กี ท็ ำได้งา่ ยและสะดวก
กวา่ การ ออกแบบบนกระดาษ ทางด้านวิศวกรรมไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ คอมพิวเตอรก์ ราฟกิ ถกู นำมาใชใ้ น
การออกแบบวงจรตา่ ง ๆ ผ้อู อกแบบสามารถวาดวงจรบนจอภาพโดยใช้สญั ลกั ษณต์ ่าง ๆ ทีร่ ะบบจดั เตรยี มไวใ้ ห้
แลว้ ประกอบกันเป็นวงจรท่ีต้องการ ผูอ้ อกแบบสามารถแกไ้ ข ตดั ตอ่ เพ่ิมเตมิ วงจรได้โดยสะดวก นอกจากน้ียังมี
โปรแกรมสำหรบั ออกแบบ PCB (Printed Circuit Board) ซ่งึ มคี วามสามารถจดั การให้แผ่นวงจรมีขนาดท่ีจะวาง
อุปกรณ์ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ไดเ้ หมาะสมท่สี ุด
การออกแบบพาหนะต่าง ๆ เช่น รถยนต์ เครื่องบนิ หรอื เครื่องจักรตา่ ง ๆ ในปัจจุบนั กใ็ ช้
ระบบ CAD นกั ออกแบบสามารถจะออกแบบส่วนย่อย ๆ แตล่ ะสว่ นกอ่ น แลว้ นำมาประกอบกนั เปน็ ส่วนใหญ่ขึ้น
จนเปน็ เครื่องจักรเครือ่ งยนตท์ ่ีตอ้ งการได้ นอกจากนใ้ี นบางระบบยงั สามารถท่ีจะทดสอบแบบจำลองทอ่ี อกแบบไว้
ได้ดว้ ย เช่น ออกแบบรถยนต์ แลว้ นำโครงสรา้ งของรถทอี่ อกแบบน้นั มาจำลองการว่งิ โดยใหว้ ่ิงทค่ี วามเร็วต่าง ๆ
กนั แลว้ ตรวจดูผลท่ไี ด้ ซง่ึ การทดลองแบบนสี้ ามารถทำได้ในระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละประหยดั กวา่ การสรา้ งรถจรงิ ๆ
แลว้ นำออกมาศกึ ษาทดสอบการวิ่งการออกแบบโครงสรา้ ง เช่น ตกึ บา้ น สะพาน หรือโครงสรา้ งใด ๆ ทาง
วิศวกรรมโยธา และสถาปตั ยกรรม ก็สามารถทำไดโ้ ดยใช้ CAD ช่วยในการออกแบบ หลังจากสถาปนิกออกแบบ
โครงสรา้ งในแบบ 2 มติ เิ สร็จแล้ว ระบบ CAD สามารถจดั การให้เป็นภาพ 3 มติ ิ และยงั สามารถแสดงภาพที่
มมุ มองต่าง ๆ กันไดต้ ามท่ีผอู้ อกแบบตอ้ งการ นอกจากน้ใี นบางระบบสามารถแสดงภาพใหป้ รากฏต่อผ้อู อกแบบ
กราฟและแผนงาน
คอมพิวเตอร์กราฟกิ ถูกนำมาใช้ในการแสดงภาพกราฟ และแผนภาพของขอ้ มลู ได้เปน็ อย่าง
ดี โปรแกรมทางกราฟกิ ท่วั ไปในท้องตลาด จะเปน็ โปรแกรมท่ใี ช้ในการสรา้ งภาพกราฟ และแผนภาพ
โปรแกรมเหล่านีส้ ามารถสร้างกราฟได้หลายแบบ เช่น กราฟเส้น กราฟแทง่ และกราฟวงกลมนอกจากน้ียัง
สามารถแสดงภาพกราฟไดท้ ั้งในรูปแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ ทำใหภ้ าพกราฟที่ไดด้ ูดีและนา่ สนใจ กราฟและ
แผนภาพทางธรุ กจิ เช่น กราฟ หรือแผนภาพแสดงการเงิน สถติ ิ และขอ้ มลู ทางเศรษฐกจิ จะเป็นประโยชน์ต่อ
ผู้บรหิ ารหรอื ผู้จดั การกิจการมาก เนอ่ื งจากสามารถทำความเข้าใจกบั ขอ้ มูลไดง้ า่ ยและรวดเร็วกว่าเดิม ในงานวจิ ัย
ต่าง ๆ เช่น การศึกษาทางฟสิ ิกส์ กราฟ และแผนภาพ มีสว่ นช่วยใหน้ ักวิจยั ทำความเข้าใจกบั ขอ้ มูลไดง้ ่ายขน้ึ เมอื่
ข้อมูลทตี่ อ้ งการวิเคราะหม์ จี ำนวนมาก
ระบบขอ้ มลู ทางภูมศิ าสตร์ หรอื GIS (Geographical Information System) ก็เป็นรูปแบบหนึง่ ของ
การแสดงข้อมลู ในทำนองเดยี วกบั กราฟและแผนงาน ขอ้ มลู ทางภูมิศาสตรจ์ ะถกู เก็บลงในระบบคอมพิวเตอร์ แลว้
ใหร้ ะบบคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ จดั การแสดงข้อมูลเหล่านั้น ออกมาทางจอภาพในรปู ของแผนที่ทางภมู ิศาสตร์
ภาพศลิ ป์โดยคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ
การวาดภาพในปัจจบุ ันน้ใี คร ๆ กส็ ามารถวาดได้แลว้ โดยไมต่ อ้ งใชพ้ กู่ ันกบั จานสี แต่จะใชค้ อมพวิ เตอร์
กราฟิกแทน ภาพทว่ี าดในระบบคอมพิวเตอร์กราฟกิ สามารถกำหนดสี แสง เงา รูปแบบลายเสน้ ทตี่ อ้ งการได้
โดยง่าย ภาพโฆษณาทางโทรทัศน์ หลายชน้ิ ก็เปน็ งานจากการใชค้ อมพวิ เตอรก์ ราฟิก ข้อดขี องการใช้
คอมพิวเตอร์วาดภาพกค็ อื สามารถแก้ไขเพ่ิมเติมส่วนทต่ี ้องการได้งา่ ย และสามารถนำภาพตา่ ง ๆ เก็บในระบบ
คอมพวิ เตอร์ไดโ้ ดยใชเ้ ครอ่ื งสแกนเนอร์(Scanner) แลว้ นำภาพเหล่านั้นมาแก้ไข
ภาพเคล่อื นไหวโดยใช้คอมพวิ เตอร์
ภาพยนตรก์ าร์ตนู และภาพยนตรป์ ระเภทนิยายวทิ ยาศาสตร์ หรอื ภาพยนตรท์ ี่ใช้เทคนิคพเิ ศษตา่ ง
ๆ ในปัจจุบนั มีการนำคอมพิวเตอรก์ ราฟิกเข้ามาช่วยในการออกแบบและสรา้ งภาพเคล่ือนไหว (Computer
Animation) มากขึ้น เน่ืองจากเปน็ วิธีที่สะดวก รวดเรว็ และงา่ ยกวา่ วธิ อี น่ื ๆ ภาพที่ ไ่ ดย้ งั ดูสมจรงิ มากขึ้น เชน่
ภาพยานอวกาศทีป่ รากฎอยูใ่ นภาพยนตร์ประเภทนยิ ายวิทยาศาสตร์ เปน็ ตน้ การใชค้ อมพิวเตอรก์ ราฟกิ ชว่ ยให้
ภาพทีอ่ ยู่ในจนิ ตนาการของมนุษย์ สามารถนำออกมาทำใหป้ รากฎเปน็ จรงิ ได้
ภาพเคล่อื นไหวมีประโยชน์มาก ทั้งในระบบการศึกษา การอบรม การวจิ ยั และการจำลองการทำงาน เชน่
จำลองการขบั รถ การขับเครอ่ื งบิน เป็นต้น เกมคอมพิวเตอร์หรือวดิ โี อก็ใชห้ ลกั การทำภาพเคลื่อนไหวใน
คอมพิวเตอร์กราฟกิ เช่นกัน
อิเมจโปรเซสซงิ (Image Processing) หมายถงึ การแสดงภาพทีเ่ กดิ จากการถา่ ยรปู หรือจากการสแกน
ภาพให้ปรากฎบนจอภาพคอมพวิ เตอร์ วธิ ีการทางอเิ มจโปรเซสซิง จะตา่ งกับวิธีของคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ
กลา่ วคือ ในระบบคอมพวิ เตอรก์ ราฟิก ตัวคอมพวิ เตอรเ์ องจะเป็นตวั ทส่ี รา้ งภาพแตเ่ ทคนิคทางอเิ มจโปรเซสซิงนน้ั
ใช้คอมพวิ เตอร์สำหรบั จดั การรูปแบบของสแี ละแสงเงาที่มีอยแู่ ลว้ ในภาพใหเ้ ปน็ ขอ้ มูลทางดิจติ อล แล้วอาจจะมี
วิธกี ารทำใหภ้ าพท่ีรบั เข้ามานัน้ มีความชดั เจนมากขึน้ ก่อนจากนนั้ ก็จะจดั การกบั ขอ้ มลู ดิจิตอลนี้ให้เปน็ ภาพสง่ ออก
ไปท่ีจอภาพของคอมพวิ เตอรท์ นั ที วธิ กี ารนี้มีประโยชนใ์ นการแสดงภาพของวตั ถุที่เราไมส่ ามารถจะเหน็ ได้
โดยตรง เชน่ ภาพถา่ ยดาวเทยี มภาพจากทีวสี แกนของหนุ่ ยนต์อุตสาหกรรม เป็นตน้
เม่อื ภาพถา่ ยได้บันทกึ เป็นขอ้ มูลดิจิตอลแลว้ ก็สามารถจะจัดการแกไ้ ขเปล่ยี นแปลงภาพนน้ั โดยจดั การกับ
ข้อมูลดจิ ติ อลของภาพนน่ั เอง ซึง่ เรากจ็ ะใชห้ ลกั การของคอมพวิ เตอร์ กราฟกิ มาใช้กับ ข้อมูลเหลา่ น้ีได้ เชน่ ใน
ภาพสำหรับการโฆษณา สามารถทำให้ภาพที่เห็นเหมอื น ภาพถ่ายนัน้ แปลกออกไปจากเดิมได้ โดยการมี
ภาพบางอย่างเพิ่มเขา้ ไปหรือบางส่วนของภาพนน้ั หายไป ทำให้เกดิ เปน็ ภาพทไ่ี มน่ ่าจะเปน็ จรงิ แต่ดู
เหมอื นกับเกิดขนึ้ จริงได้เป็นต้น
เทคนิคของอเิ มจโปรเซสซิงสามารถประยกุ ตใ์ ชก้ บั การแพทยไ์ ด้ เชน่ เครอ่ื งเอกซเรยโ์ ทโมกราฟี (X-ray
Tomography) ซง่ึ ใช้สำหรบั แสดงภาพตดั ขวางของระบบร่างกายมนุษย์ เป็นตน้ จะเห็นได้วา่ คอมพิวเตอร์
กราฟกิ นนั้ นบั วันกย็ ง่ิ มีความสำคญั ในสาขาวชิ าตา่ ง ๆ มากขนึ้ ดงั น้ัน จงึ เป็นการดีทเ่ี ราควรจะมคี วามรคู้ วามเข้าใจ
ในหลกั การและเทคนคิ เบ้อื งต้นตา่ ง ๆ ทีใ่ ชใ้ นคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ
5. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมผู้เรยี น
1. เชค็ รายช่อื นักเรยี นที่เข้าเรียน
กิจกรรมครู 2. ฟังคำแนะนำตวั ครผู ้สู อน ผ้เู รยี น ชอื่ วิชา รหัสวชิ า
1. ตรวจสอบเช็ครายชอื่ นกั เรียนทเ่ี ข้าเรียน
2. แนะนำตัวครผู สู้ อน ผูเ้ รยี น ชอื่ วชิ า รหัสวชิ า จดุ ประสงคข์ องรายวชิ า คำอธบิ ายรายวชิ า
เกณฑก์ ารประเมินผลทฤษฎี/ปฏิบัติ
จดุ ประสงคข์ องรายวิชา คำอธิบายรายวชิ า 3. ครู-นักเรยี น รว่ มกนั สนทนาเกีย่ วกบั การ
เกณฑก์ ารประเมนิ ผลทฤษฎี/ปฏิบัติ ประมวลผลข้อมลู และสารสนเทศ
3. ครู-นกั เรยี น รว่ มกันสนทนาเก่ียวกบั การ 4. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ประมวลผลข้อมูลและสารสนเทศ จำนวน 10 ข้อ
4. ครูให้นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 5. ฟังการบรรยายความหมายของข้อมูลและ
จำนวน 10 ข้อ สารสนเทศ บอกแหลง่ ข้อมูลและความแตกตา่ ง
5. นำเขา้ สบู่ ทเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูล ของข้อมูล และสารสนเทศ ขั้นตอนการ
และสารสนเทศ ประกอบการฉายแผน่ ใส ประมวลผลขอ้ มลู ประเภทของการ
6. อธบิ ายความหมายของข้อมูลและสารสนเทศ ประมวลผล
บอกแหลง่ ขอ้ มูลและความแตกตา่ งของขอ้ มลู ข้อมลู และการนำ คอมพวิ เตอรม์ าใชง้ านใน
และสารสนเทศ ข้นั ตอนการประมวลผลข้อมลู การ
ประเภทของการประมวลผลขอ้ มลู และการนำ ประมวลผลขอ้ มูล โดยใช้แผน่ ใส ตอบคำถาม /
คอมพวิ เตอร์มาใชง้ านในการประมวลผลขอ้ มลู ซักถามปญั หา
โดยใช้แผ่นใส ตอบคำถาม / ซักถามปญั หา 6. ตอบคำถามเกยี่ วกบั ความหมายและความแตกตา่ ง
7. ถามเกย่ี วกับความหมายและความแตกตา่ ง ของข้อมลู และสารสนเทศ สาเหตกุ ารนำ
ของขอ้ มลู และสารสนเทศ สาเหตุการนำ คอมพิวเตอรม์ าใช้งานในการประมวลผลขอ้ มลู
คอมพิวเตอร์มาใช้งานในการประมวลผลข้อมลู 7. แบง่ กลมุ่
8. ดูแลควบคมุ การจดั แบ่งกลมุ่ 8. รบั ใบงาน/ใหค้ ำแนะนำในการจดั กิจกรรมกลุ่ม
9. แจกใบงาน/ให้คำแนะนำในการจดั กจิ กรรมกล่มุ 10. สรปุ ตอบขอ้ สงสยั ค้นควา้ เพม่ิ เติม
10. สรุป ตอบข้อสงสัย ค้นควา้ เพิม่ เตมิ 11. รับมอบงานใหน้ ักเรยี นไปศกึ ษาในหนว่ ยท่ี
11. มอบหมายงานให้นกั เรียนไปศึกษาในหน่วยที่ 2 เร่ือง ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
2 เรอ่ื ง ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ 12. ประเมินผลการเรยี นของนกั ศึกษาในหนว่ ยที่ 1
12. ประเมินผลการเรียนของนกั ศกึ ษาในหน่วยท่ี 1 จากแบบทดสอบและใบประเมนิ
จากแบบทดสอบและใบประเมนิ 13. ครบู นั ทกึ ข้อมลู กิจกรรมการเรยี นหลังการสอน
13. ครบู นั ทกึ ขอ้ มลู กจิ กรรมการเรียนหลงั การสอน
6. สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้
. แบบทดสอบก่อนเรยี น
2. แบบทดสอบหลังเรียน
3. ใบความรูแ้ ละใบงาน
4. เครอ่ื งไมโครคอมพวิ เตอร์
5. ซดี ีส่อื การสอน
6. หนังสอื เรยี นวชิ าคอมพวิ เตอรก์ ราฟิกเบื้องตน้ ของ อาจารย์วราภรณ์ อุ้มองั วะ : ศนู ย์สง่ เสริมอาชีวะ,
2547.
7. แบบการประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
7. งานที่มอบหมาย
1. ทำแบบทดสอบหลังเรยี นจำนวน 10 ขอ้ (Pre - Test)
2. เฉลยและตรวจสอบแบบทดสอบ
3. เปรียบเทียบผลการทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน
4. นักเรยี นทำความสะอาดห้อง จดั โต๊ะ เกา้ อี้ ใหเ้ รยี บรอ้ ย
5. มอบหมายงานใหน้ ักเรียนไปศกึ ษาในหนว่ ยท่ี 2 ในสปั ดาห์ต่อไป
8. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
8.1 เครอื่ งมือประเมนิ
1. ส่งิ ทจ่ี ะวัด
1.1 วดั ความรคู้ วามเข้าใจจุดประสงค์การเรียนรู้
1.2 วัดพฤตกิ รรมการเรยี น
1.3 สังเกตพฤติกรรมการเรยี น
2. วธิ ีการวดั
2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน
2.2 ตรวจงานที่มอบหมาย
2.3 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียน
3. เครื่องมอื วดั
3.1 แบบทดสอบ
3.2 กจิ กรรมทมี่ อบหมาย
3.3 แบบสงั เกตพฤติกรรม
8.2 เกณฑก์ ารประเมนิ
4.1 เกณฑ์การวดั
4.1.1 ให้ข้อถูกข้อละ 1 คะแนน ขอ้ ผดิ 0 คะแนน
4.1.2 ให้คะแนนพฤตกิ รรมการเรียน
5 หมายถึง ดีมาก
4 หมายถึง ดี
3 หมายถึง ปานกลาง
2-1 หมายถงึ ตอ้ งปรับปรุง
4.2 เกณฑ์การประเมิน
4.2.1 นักเรยี นไดค้ ะแนนจากการทำแบบทดสอบ ไมต่ ำ่ กว่ารอ้ ยละ 70
4.1.2 นกั เรียนไดค้ ะแนนจากกิจกรรมการเรียน ไม่ตำ่ กวา่ ร้อยละ 80
4.1.3 นักเรยี นไดค้ ะแนนพฤตกิ รรมการเรยี น ไมต่ ำ่ กวา่ ร้อยละ 60
9. เอกสารอา้ งอิง
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
10. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
10.1 สรุปผลการจดั การเรยี นรู้
รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1
ดา้ นการเตรยี มการสอน
1. จัดหนว่ ยการเรยี นรู้ไดส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้
2. กำหนดเกณฑก์ ารประเมินครอบคลุมทงั้ ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ และดา้ นจติ พิสัย
3. เตรยี มวัสดุ-อุปกรณ์ สอื่ นวตั กรรม กจิ กรรมตามแผนการจดั การเรยี นรกู้ ่อนเขา้ สอน
ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
4. มีวิธกี ารนำเข้าสู่บทเรยี นท่ีนา่ สนใจ
5. มกี จิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพ่อื ช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ ความเขา้ ใจ
6. จัดกิจกรรมท่สี ง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นคน้ คว้าเพอ่ื หาคำตอบดว้ ยตนเอง
7. นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
8. จดั กจิ กรรมทีเ่ นน้ กระบวนการคิด ( คดิ วิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ )
9. กระตุน้ ใหผ้ ้เู รยี นแสดงความคิดเหน็ อย่างเสรี
10. จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ทเ่ี ชอื่ มโยงกับชวี ิตจรงิ โดยนำภูมิปัญญา/บรู ณาการเข้ามามสี ว่ นรว่ ม
11. จัดกจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม
12. มกี ารเสรมิ แรงเมอ่ื นักเรียนปฏิบัติ หรอื ตอบถูกต้อง
13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศกั ยภาพของผู้เรยี น
14. เอาใจใส่ดแู ลผู้เรียน อยา่ งท่วั ถงึ
15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่กี ำหนด
ด้านส่ือ นวตั กรรม แหลง่ การเรยี นรู้
16. ใช้สอ่ื ทเ่ี หมาะสมกบั กจิ กรรมและศกั ยภาพของผูเ้ รียน
17. ใชส้ อื่ แหล่งการเรยี นรู้อย่างหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานท่ี ของจรงิ เอกสาร
สอื่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ และอนิ เทอรเ์ น็ต เป็นต้น
ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล
18. ผู้เรียนมสี ่วนรว่ มในการกำหนดเกณฑ์การวดั และประเมินผล
19. ประเมินผลอยา่ งหลากหลายและครบทง้ั ดา้ นความรู้ ทักษะ และจติ พิสยั
20. ครู ผู้เรยี น ผู้ปกครอง หรอื ผทู้ เ่ี กีย่ วขอ้ งมีสว่ นรว่ ม ในการประเมิน
หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบัตดิ ีเยี่ยม 4 = ปฏบิ ัตดิ ี 3 = ปฏิบตั พิ อใช้ รวม
ค่าเฉลย่ี
2 = ควรปรับปรุง 1 = ไม่มกี าร
ปฏบิ ตั ิ
10.2 ปญั หาท่พี บ และแนวทางแกป้ ัญหา แนวทางแก้ปญั หา
ปัญหาทพ่ี บ
…………………………………………………….
ดา้ นการเตรยี มการสอน ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ด้านการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ดา้ นส่อื นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้ ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ด้านการวัดและประเมนิ ผล ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ) ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
……………………………………………………..
ลงชื่อ ........................................................................ ครผู สู้ อน
(..........นายกันตภณ พ่มุ จนั ทร์..........)
ตำแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................
แผนการจดั การเรยี นรู้
รหัสวชิ า .......... 20901-1004...... วชิ า ...........คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ เบ้ืองต้น ......... แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่
.......2......
หน่วยท่ี .......2....... ชอ่ื หน่วย .............ประเภทและคณุ ลักษณะของแฟม้ ภาพกราฟิก............................................
ช่อื เรื่อง........ประเภทและคณุ ลักษณะของแฟ้มภาพกราฟกิ ............................................ จำนวน ....3......ช่วั โมง
1. สาระสำคญั
ศกึ ษาและปฏิบตั เิ กีย่ วกับ ไฟล์ทีม่ กี ารจดั เกบ็ แบบบิตแมป ไฟลท์ ี่มีการจัดเกบ็ แบบเวกเตอร์ ไฟลท์ ี่มี
การจดั เก็บแบบบิตแมปและเวกเตอร์
2. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรียนรู้
1. สามารถจดั เกบ็ ไฟล์ที่มกี ารจดั เก็บแบบบติ แมปและเวกเตอรอ์ ย่างละเอยี ดได้
2. นำบทเรียนทเี่ รียนร้นู ำไปใชป้ ระโยชน์กบั ตนเองได้
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 จุดประสงค์ทัว่ ไป
เพือ่ ให้ผูเ้ รยี นเข้าใจเกี่ยวกบั ไฟล์ท่ีมีการจดั เกบ็ แบบบิตแมป ไฟล์ทม่ี ีการจดั เก็บแบบเวกเตอร์ ไฟลท์ ี่มกี าร
จดั เก็บแบบบติ แมปและเวกเตอร์
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. อธิบายไฟลท์ ี่มีการจดั เกบ็ แบบบติ แมปได้
2. อธบิ ายไฟลท์ ี่มกี ารจดั เก็บแบบเวกเตอร์ได้
3. อธิบายไฟลท์ ี่มกี ารจัดเก็บแบบบติ แมปและเวกเตอร์ ได้
4. สามารถจดั เก็บไฟลท์ ีม่ ีการจดั เก็บแบบบติ แมปและเวกเตอร์อยา่ งละเอียดได้
นำบทเรยี นท่เี รียนรู้นำไปใชป้ ระโยชน์กับตนเองได้
5. เขยี นระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการได้
6. ผู้เรยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมท่พี ึงประสงค์ คือ ความมมี นษุ ยส์ ัมพันธ์ ความมวี นิ ยั
ความรับผิดชอบ ความประหยดั ความสนใจใฝร่ ู้ ความรักสามัคคี ความกตญั ญกู ตเวที
4. สาระการเรียนรู้ เนื้อหา
1 ไฟล์ทมี่ กี ารจัดเก็บแบบบติ แมป (Bitmap)
1. Windows Bitmap หรอื Bitmap File ไฟลม์ าตรฐานของระบบปฏิบัตกิ ารวินโดวส์
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ BMP หรอื DIB
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows, Dos
เวอร์ชนั ทไี่ ดร้ ับการพฒั นาจนถึงปัจจบุ นั Microsoft Windows เวอร์ช่ัน 3.X, OS/2
โปรแกรมบนวนิ โดวสท์ ส่ี ามารถใช้งานบติ แมปได้ เช่น
ซอฟตแ์ วร์ทสี่ ร้างและเปิ ดไฟล์ Photoshop, CorelDRAW, PaintShop Pro, Paintbrush,
ACDSee32
ความสามารทางดา้ นสี 2, 16, 256, หรอื 16 ล้านสี
การบบี ขนาดขอ้ มลู REL บางคร้งั ถูกใช้สำหรับภาพแบบ 4 บติ และแบบ 8 บิต
รูปแบบ BMP เปน็ พ้ืนฐานของรปู บติ แมปของซอฟต์แวรบ์ นวนิ โดวส์ จึงสนับสนนุ การ ทำงานของ
โปรแกรมท่ีทำงานภายใตว้ นิ โดวส์ แต่ไมไ่ ด้ออกแบบมาเพอ่ื ใชก้ ับแพลตฟอรม์ อน่ื ดงั นัน้ จงึ ไมส่ ามารถใช้กับ
แพลตฟอรม์ อน่ื เช่น แมคอนิ ทอช หรอื ระบบอื่น ๆ ได้
2. FlashPix
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ FPX
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows
ซอฟตแ์ วร์ทส่ี ร้างและเปิดไฟล์ โปรแกรมบนกราฟิ กของ Kodak, Photoshop
ความสามารทางดา้ นสี เกรยส์ เกล , RGB
ไดร้ ับการพฒั นาโดยโกดกั (Kodak) เพือ่ ใหก้ ารถ่ายโอนและแสดงไฟลภ์ าพขนาดใหญ่ทมี่ ี
ความละเอียดสงู มคี วามรวดเรว็ มากข้นึ
3. Graphic Interchange Format ไฟลท์ ี่ใชก้ นั มากในเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ GIF
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows, Windows NT
เวอร์ชันทไ่ี ดร้ ับการพฒั นาจนถงึ ปัจจบุ นั 87a และ 89a
ซอฟตแ์ วร์ทส่ี ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมการแกไ้ ขบติ แมปทกุ โปรแกรม โปรแกรม
เดสกท์ อปพบั ลิชชิง เช่น Photoshop, CorelDRAW,
PaintShop Pro, ACDSee 32
ความสามารทางดา้ นสี แผงสีแบบอินเดก็ ซ์ ถงึ 256 สี (วาดจากสี RGB แบบ 24 บติ )
การบบี ขนาดขอ้ มลู LZW การใสร่ หัสแบบ run - length
รปู แบบ GIF ถูกออกแบบโดย Compuserve ซ่ึงเป็นระบบเครือขา่ ยข่าวสารแบบออนไลน์เพอื่ ให้บรกิ าร
ด้านการแลกเปล่ียนกราฟกิ ในรปู แบบบิตแมป ท่ีมีการจดั การทางดา้ นหน่วยความจำที่มีประสทิ ธิภาพ ภาพแบบ GIF
จะมีขอ้ จำกัดในดา้ นแผงสีแบบอินเด็กซ์(ภาพสแี บบ 24 บิต ไม่สามารถใช้ได้) แผงสสี ามารถบรรจุได้ 2 ถึง 256 สี ซ่งึ
ถูกสร้างจากข้อมลู สี 24 บิต ไฟล์แบบ GIF ถกู บีบขนาดโดยใชก้ ารบบี ขนาด LZW แบบประยุกต์ การขยาย
ไฟลข์ ้อมลู แบบ GIF กลบั คนื จะช้ากว่าการบีบ ขนาด แบบ RLE แตจ่ ะเปลอื งเน้อื ท่ีหน่วยความจำน้อยกว่า
4. Interchang Format File/IFF Interleaved Bitmap Format
นามสกุลท่ีใช้เก็บ IFF/LBM
ระบบปฏบิ ตั ิการ
windows.Mac Windows
ซอฟแวร์ที่สรา้ งและเปดิ ไฟล์
ความสามารถทางด้านสี โปรแกรมการเปล่ียนแปลงบิตแมปบนซพี ีเชน่ Photoshop,
Deluxe Paint
ขาวดำเกรย์ สเกล 256 สีหรอื RGB 24 บิต
5. GEM Bitmap Image
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ IMG
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows, Mac Windows
ซอฟตแ์ วร์ทส่ี ร้างและเปิดไฟล์ โปรแกรมเดสกท์ อปพบั ลิชชิง และโปรแกรมแกไ้ ขรูปภาพบางโปรแกรม
เช่น Ventura Publisher,PageMaker,QuarkXPress
ความสามารทางดา้ นสี 2,16,256 สี หรือ 16 ลา้ นสี
การบบี ขนาดขอ้ มลู แบบ RLE อยา่ งง่าย
GEM ถกู สร้างโดย Digital Research เป็นระบบการตดิ ต่อกับผใู้ ช้ทีม่ าตรฐานและถกู สนับสนุนโดย Atari
สว่ นบนไอบเี อม็ พีซีนั้นมเี พยี งโปรแกรมเดียวท่ใี ชร้ ะบบปฏิบัติการของ GEM น่นั คอื Ventura Publisher ซึ่งใช้บน
วนิ โดวส์ และเวอร์ชนั ใหม่ของ GEM ก็ยงั ไม่ออกสตู่ ลาด ดังน้ันบติ แมปแบบ IMG ซงึ่ เปน็ รปู แบบดง้ั เดมิ ของ GEM จึง
ลดความนยิ มลง
6. Joint Photographic Experts Group ไฟลท์ ม่ี ีขนาดเล็ก นยิ มใชใ้ นการสรา้ งเวบ็
นามสกลุ ทใ่ี ช้เกบ็ JPG หรือ JIF (JPEG+TIFF)
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows
ซอฟตแ์ วร์ทส่ี ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมการแกไ้ ขภาพบติ แมป และโปรแกรมการแปลงรูปแบบเช่น
Photoshop, CorelDRAW, PaintShop Pro, ACDSee32
ความสามารทางดา้ นสี 2, 16, 256 สี หรอื 16 ล้านสี และความลกึ สีแบบ 32 บิต
มาตรฐานการบีบขนาดแบบ JPEG ไมไ่ ดถ้ กู ออกแบบมาเพ่อื ฮาร์ดแวรห์ รอื ซอฟตแ์ วรใ์ ด ๆโดยเฉพาะ
แตไ่ ด้นำเสนอวิธกี ารบีบขนาดทส่ี ามารถใช้ทวั่ ๆ ไปหลายวิธี ดังนัน้ จึงมกี ารบบี ขนาดหลายวิธีเกิดขนึ้ มา โดยใช้
มาตรฐานการบีบขนาดแบบ JPEG การบบี ขนาดแบบ JPEG นีม้ ีประสทิ ธภิ าพสำหรบั เวลาท่ใี ชไ้ ปในการบีบขนาด
ข้อมลู ทางฮาร์ดแวร์ ชบิ ในคอมพวิ เตอรห์ ลายชิ้น ถูกออกแบบใหใ้ ชก้ ารบีบขนาดข้อมลู ดว้ ยวิธนี ้ีโดยเฉพาะ การบีบ
ขนาดแบบ JPEG สามารถลดขนาดของภาพกราฟิกได้มาก การบบี ขนาดมาตรฐานสามารถลดขนาดเหลอื เพียงหนง่ึ
ในสิบของภาพ เดิมบางครง้ั สามารถลดไดถ้ งึ 100 ต่อ 1
7. MacPaint
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ MAC
ระบบปฏิบตั กิ าร Mac Windows
ซอฟตแ์ วร์ทสี่ ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมบนแมคอินทอชเช่น MacPaint และบางโปรแกรมบนพีซีทเี่ กี่ยว
กบั การแกไ้ ขภาพบติ แมปและเดสกท์ อปพบั ลชิ ชิง
ความสามารทางดา้ นสี ภาพขาวดาแบบ 1 บติ
การบบี ขนาดขอ้ มลู RLE PackBits
MacPaint เปน็ รปู แบบดงั้ เดมิ ของโปรแกรม MacPaint ซ่งึ เป็นโปรแกรมการแก้ไขภาพบิตแมป
โปรแกรมแรกบนแมคอนิ ทอชทมี่ มี าพรอ้ มกบั เคร่ืองแมคอินทอช คอมพิวเตอรแ์ มคอินทอชดัง้ เดิมนั้นมีเพยี งจอ
ขาวดำเท่านน้ั มีขนาดและความละเอียดจำกัด ซึง่ เป็นสาเหตใุ ห้บิตแมป แบบ MacPaint จำกดั อยูท่ ีข่ าวดำ 1
บิต และมขี นาดความกวา้ ง 576 พิกเซล และความสูง 720 พกิ เซล เท่าน้ันถึงแม้วา่ ในปจั จุบนั แมคอนิ ทอชไดพ้ ัฒนา
คอมพิวเตอร์ ถึงขนาดท่ีสามารถแสดงภาพสีได้เหมือนจรงิ และมีความละเอียดสงู ได้แลว้ แต่ไฟล์ MacPaint ยงั ไมไ่ ด้
พฒั นาตาม
8. Microsoft Paint
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ MSP
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows
ซอฟตแ์ วร์ทสี่ ร้างและเปิ ดไฟล์ Microsoft Paintbrush
ความสามารทางดา้ นสี ภาพขาวดาแบบ 1 บติ
การบบี ขนาดขอ้ มลู RLE แบบง่าย
โปรแกรม Windows Paint แบบดัง้ เดิมจะคลา้ ย ๆ กบั โปรแกรม MacPaint คอื เป็นการทำงานกับภาพขาว
ดำขนาด 1 บิตและทำงานกบั หน่วยความจำเล็ก ๆ คอื ใช้ได ้ 640 K เทา่ นนั้ ในเวอรช์ ันแรก ๆ ของวนิ โดวส์นั้น
โปรแกรม Paint เป็นรปู แบบท่ีคอ่ นขา้ งจะเข้ากบั ใครไม่คอ่ ยได้ แตร่ ะยะหลังก็ทำใหด้ ขี ึน้ โดยเป็นรปู แบบที่ค่อนขา้ ง
จะถูกสนับสนนุ โดยโปรแกรมท่วั ๆ ไป
9. Kodak’s Photo CD
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ PCD
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows
ซอฟตแ์ วร์ทส่ี ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมกราฟิ กของ Kodak, CorelDRAW,
Photo-Paint, Photoshop
ความสามารทางดา้ นสี ภาพถา่ ย
Photo CD มาจากบริษัท โกดัก ใชส้ ำหรบั เก็บภาพถ่ายบนแผ่นซีดี ไมม่ ีโปรแกรมท่ีจะเกบ็ ข้อมลู ลงใน
ฟอรแ์ มตนี้ เพราะเป็นฟอรแ์ มตลิขสิทธ์ิ (Proprietary Format)
10. Z-Soft PC Paintbrush Format
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ PCX
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows, Dos
ซอฟตแ์ วร์ทส่ี ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมกราฟิ กบนพีซี เช่น CorelDRAW, Paintbrush
, Photoshop
ความสามารทางดา้ นสี 1, 2, 4, 8, 24 บติ ของสี ไมม่ เี กรย์สเกล
การบบี ขนาดขอ้ มลู RLE
PCX เปน็ รูปแบบไฟลบ์ ติ แมปดง้ั เดมิ ของโปรแกรมแก้ไขภาพบติ แมปชอ่ื PC Paintbrush
จากZ-Soft รูปแบบ PCX เปน็ รูปแบบท่ีใชอ้ ยา่ งแพรห่ ลายสำหรับภาพแบบบติ แมป โดยคอมพวิ เตอร์
กราฟกิ เบื้องต้นสว่ นใหญ่จะสนบั สนุนรปู แบบ PCX แตใ่ นรูปแบบนี้กม็ ีข้อเสยี อยูบ่ ้าง คอื ไมม่ เี กรย์ส
เกล หรือไมม่ ีตารางเกรยส์ เกลให้ใชไ้ ม่มีโมเดลสี CMYK หรอื โมเดลสอี น่ื ให้ใช้นอกเหนือจาก RGBมี
หลากหลายมาก โดยเฉพาะเร่อื งการทำงานกับสวี ธิ กี ารบบี ขนาดข้อมลู คอ่ นขา้ งช้า และบางทอี าจทำ
ให้เพ่มิ ขนาดของไฟล์ด้วยซ้ำไม่สนบั สนนุ การทำงานของ PCX ทแ่ี พลตฟอร์มอนื่
11. TrueVision Targa
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ TGA
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows, Windows NT, Mac Windows
เวอร์ชันทไ่ี ดร้ ับการพฒั นาจนถึงปัจจบุ นั 1.0 และ 2.0
ซอฟตแ์ วร์ทส่ี ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมการแกไ้ ขบติ แมปทมี่ คี ณุ ภาพสูง เช่น
Photoshop, CorelDRAW, Ray-tracing
ความสามารถทางดา้ นสี ขาวดา 1 บติ , เกรยส์ เกล 8 บติ , แผงสี 8 บติ , สี RGB 24
บติ , สี RGB 32 บติ พร้อมกบั อลั ฟาแชนแนล
การบบี ขนาดขอ้ มลู RLE
รปู แบบบิตแมปแบบ Taga ถกู พัฒนาเพื่อสนับสนุนการทำงานของ TrueVision Targa และ
TrueVision Vista ซง่ึ เป็นตัวแรกทสี่ นับสนุนแผงสีท่ีไมธ่ รรมดา บิตแมปแบบ Targa สนบั สนุนภาพทมี่ ีความลึกพกิ เซล
จาก 8 บิต ถึง 32 บิต
12. Tagged Image File Format ไฟลท์ ่ใี ชใ้ นงานเกี่ยวกับโปรแกรมส่ิงพิมพ์
นามสกลุ ทใ่ี ช้เกบ็ TIF
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows, UNIX, Mac Windows
เวอร์ชนั ทไี่ ดร้ บั การพฒั นาจนถึงปัจจบุ นั 5.0 และ 6.0
ซอฟตแ์ วร์ทสี่ ร้างและเปิดไฟล์ โปรแกรมการแกไ้ ขบติ แมปและโปรแกรมเดสกท์ อป-
พบั ลิชชิงเช่น PageMaker, QuarkPress, CorelVentura,
Photoshop, PaintShop Pro
ความสามารถทางดา้ นสี ขาวดา 1 บติ , เกรยส์ เกล(4,8,16 บติ ), แผงสี (ไดม้ ากถึง
16 บิต), สี RGB (ไดม้ ากถึง 48 บติ ), สี CMYK (ไดม้ าก
ถงึ 48 บติ ), สี CMYK (ไดม้ ากถึง 32 บติ )
LZW, PackBits (แมคอนิ ทอช), JPEG(TIFF V 6.0), RLE
การบบี ขนาดขอ้ มลู หลายรูปแบบ
ไฟลร์ ูปแบบ TIFF เป็นรปู แบบบติ แมปทใ่ี ช้อย่างกว้างขวาง ถกู พฒั นาขน้ึ โดยความร่วมมอื ของ Aidus
Corporation และไมโครซอฟท์ เปน็ รปู แบบท่สี ามารถเปล่ียนแปลงแกไ้ ขได้ รปู แบบ TIFF
เก็บบันทึกขอ้ มลู รปู ภาพหลากหลายใน Tagged Field ทำให้กลายเป็นชือ่ เรียกของรูปแบบ และแตล่ ะTagged Field
สามารถบนั ทึกขอ้ มลู เก่ียวกับบิตแมปหรอื ช้ีไปยงั ฟลิ ด์อน่ื ได้ ซอฟต์แวรท์ ่อี า่ นไฟลน์ ีส้ ามารถขา้ มการอา่ นฟลิ ด์ทีไ่ ม่
เขา้ ใจหรอื ไมจ่ ำเป็นไปได้ รปู แบบ TIFF เปน็ รปู แบบทม่ี ีความสามารถหลายดา้ นและมีความยืดหยนุ่ เน่ืองจากชนิดที่
แตกต่างกนั หลายรอ้ ยชนิดของ Tagged Field มใี ห้ใช้อยา่ งแพร่หลาย และสามารถพฒั นาต่อไปไดถ้ า้ ต้องการ
สามารถใชไ้ ดใ้ นระบบคอมพิวเตอรห์ ลาย ๆระบบและสามารถกำหนดขอบเขตที่กว้างขวางของภาพบติ แมปได้
ขอ้ ดีของไฟล์ TIFF คอื เปน็ รปู แบบไฟล์แบบบิตแมปท่คี ่อนข้างจะแขง็ แกร่งท่ีสดุ มนั สามารถทำบางสิง่ ท่ี
รูปแบบบติ แมปอ่ืนไม่สามารถทำได้ นอกจากนัน้ ยังเป็นบิตแมปทส่ี ามารถเปลย่ี นไปเปลย่ี นมาระหว่างพีซีและแมค
อนิ ทอชเน่อื งจากถูกสนับสนุนโดยทั้งสองระบบ
2 ไฟล์ทมี่ กี ารจดั เกบ็ แบบเวกเตอร์
1. Drawing Interchange Format
นามสกลุ ทใ่ี ช้เกบ็ DXF
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows, Windows NT
เวอร์ชนั ทไี่ ดร้ ับการพฒั นาจนถงึ ปัจจบุ นั AutoCAD รลี ีส 12
ซอฟตแ์ วร์ทสี่ ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมช่วยดา้ นการออกแบบ โปรแกรมแกไ้ ขไฟลเ์ วก
เตอร์และโปรแกรมเดสกท์ อปพบั ลชิ ชิงบางตวั เช่น
AutoCAD, CorelDRAW, Dream 3D, lllustrator
ความสามารถทางดา้ นสี ทกุ ๆ สีจากขาวดาไปจนถึง 16 ลา้ นสี
การบบี ขนาดขอ้ มลู แตกตา่ งกนั ตามรูปแบบของการใส่รหสั
DXF ถูกพัฒนาขึ้นมาในรปู ของภาษากราฟิกเมตาไฟล์ เพื่อใหผ้ ู้ใช้ AutoCAD ย้ายรปู กราฟกิ ไปยงั โปรแกรม
อ่ืน ๆ หรือข้ามระบบปฏิบตั กิ าร
2. Lotus 1-2-3 Picture
นามสกลุ ทใ่ี ช้เกบ็ PIC
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows, Dos
ซอฟตแ์ วร์ทสี่ ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมเดสกท์ อปพลั ลชิ ชิง และโปรแกรมกราฟิ กแบบ
เวกเตอร์ เช่น AutoCAD, Lotus 1-2-3, CorelDRAW
ความสามารถทางดา้ นสี มจี ากดั (ระบเุ ลขสีได้ 1-16 สีเทา่ น้นั )
Lotus PIC เป็นไฟลก์ ราฟกิ แบบเวกเตอร์ที่ง่ายทสี่ ุด ถูกใช้อย่างกวา้ งขวางสำหรับกราฟแทง่ ทใี่ ช้ในธุรกิจ
และกราฟทีส่ รา้ งโดย Lotus 1-2-3 หรือโปรแกรมประเภทนี้ รูปแบบ PIC ไมส่ ามารถใชท้ ่ีอืน่ ได้มากนกั เพราะมีคำสั่ง
เพยี ง 9 คำสัง่ เท่าน้ัน และมีเพยี ง 3 คำสั่งที่สร้างออบเจ็กตแ์ บบเวกเตอร์ขอ้ จำกัดเหลา่ นีท้ ำใหร้ ปู แบบ PIC ไมค่ อ่ ยมี
ประโยชนน์ ักสำหรบั รูปเวกเตอร์ท่ซี ับซอ้ น แต่ง่ายและมปี ระโยชนม์ ากสำหรบั กราฟแทง่ หรอื กราฟแบบง่าย ๆ ทวั่ ไป
3. Hewlett Packard Graphics Language
นามสกลุ ทใ่ี ช้เกบ็ PGL
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows
เวอร์ชันทไ่ี ดร้ บั การพฒั นาจนถงึ ปัจจบุ นั ด้งั เดิมเป็น HPGL : HPGL2 (ปี 1990)
ซอฟตแ์ วร์ทส่ี ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรม CAD บนพีซี โปรแกรมเดสกท์ อปพบั ลชิ ชิง
และโปรแกรมแกไ้ ขเวกเตอร์บางโปรแกรม เช่น
AutoCAD, CorelDRAW
ความสามารถทางดา้ นสี พิเศษ (ใช้ปากการะบายสี, ขดั สี)
HPGL เรม่ิ ต้นด้วยการเป็นภาษาควบคมุ เคร่ืองพมิ พ์สำหรบั พล็อตเตอรท์ ใี่ ช้ปากกาของ HPซึ่งเปน็
อุปกรณใ์ นการวาดไดอะแกรม โดยเล่ือนปากกาไปในแนวขวางของกระดาษ HPGL กลายเปน็ ภาษาควบคุมท่ี
มาตรฐานสำหรับพล็อตเตอร์ทีใ่ ช้ปากกา เนอื่ งจากมผี ้ใู ช้พล็อตเตอรข์ อง HP และถูกสนับสนุนโดยหลายโปรแกรม
ที่ใชพ้ ลอ็ ตเตอรแ์ บบปากกา เช่น ซอฟต์แวรป์ ระเภท CAD ทีใ่ ช้ในการออกแบบงานโครงสรา้ งทั้งหลาย
3 ไฟลท์ ีม่ กี ารจัดเก็บแบบบติ แมปและเวกเตอร์
1. Computer Graphic Metafile
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ CGM
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows
ชนิดของรูปแบบทใี่ ช้เกบ็ เมตา้ ไฟลส์ าหรับเวกเตอร์และกราฟิ กแบบบติ แมป
ซอฟตแ์ วร์ทส่ี ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมการแกไ้ ขเวกเตอร์ส่วนใหญ่หรือโปรแกรมช่วย
ในการออกแบบเช่น AutoCAD, CorelDRAW
ความสามารถทางดา้ นสี 24 บิต RGB เปลย่ี นไปตามจำนวนสีในแผงสี
การบบี ขนาดขอ้ มลู แตกตา่ งกนั ตามรูปแบบของการใส่รหสั
Computer Graphic Metafile มาจาก American National Standards Institute (ANSI) เพื่อเปน็ มาตรฐาน
สำหรบั การแลกเปล่ยี นไฟล์ทางด้านกราฟกิ ข้อมูลจำเพาะของไฟลเ์ ปน็ รปู แบบทั่วไป ไมข่ ึน้ กับฮารด์ แวรแ์ ละ
ซอฟต์แวร์ มีประโยชนใ์ นการโอนไฟลไ์ ปยังระบบอื่นได้
2. Encapsulated PostScript
นามสกลุ ทใ่ี ช้เกบ็ EPS
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows, Windows NT, UNIX, Mac Windows
เวอร์ชนั ทไี่ ดร้ บั การพฒั นาจนถึงปัจจบุ นั EPS เป็นเซตยอ่ ยของ Adobe PostScript
ซอฟตแ์ วร์ทสี่ ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมแกไ้ ขเวกเตอร์และโปรแกรมเดสกท์ อปพบั ลิชชิง
เช่น AutoCAD, CorelDRAW, PageMaker,
QuarkXPress,Adobe lllustrator
ความสามารถทางดา้ นสี ขยายไดถ้ ึง 24 บติ RGB และ HSB 32 บติ , CMYK เกรยส์ เกล,
แผงสีแบบอินเดก็ ซ์
การบบี ขนาดขอ้ มลู การใส่รหัสแบบไบนารี
Encapsulated PostScript เป็นเขตย่อยของภาษาส่ังการในการจดั หนา้ แบบโพสตส์ คริปต์ ซ่ึงเป็นรูปแบบที่ใช้
อย่างแพร่หลายในการแลกเปลยี่ นรปู แบบภาพกราฟิก ไฟล์แบบ EPS สามารถบรรจุภาพทซ่ี บั ซ้อนและมรี ายละเอียด
อย่างสูงทงั้ ในรูปแบบเวกเตอรแ์ ละบิตแมป ซ่งึ สามารถใส่ไว้ในโปรแกรมการแกไ้ ขเวกเตอร์ และโปรแกรมการ
แก้ไขเวกเตอร์ และโปรแกรมเดสก์ทอปพับลิชชงิ กราฟกิ แบบ EPS มีขอ้ เสีย คอื จะต้องพิมพ์ออกในเครอ่ื งพิมพ์
แบบโพสตส์ คริปตเ์ ทา่ นน้ั ถา้ พมิ พบ์ นเครอื่ งพิมพ์ทไ่ี มใ่ ช่โพสตส์ ครปิ ต์ ส่วนใหญ่เคร่อื งพมิ พ์จะพมิ พเ์ พยี งแค่กรอบ
สี่เหล่ยี มเทา่ นนั้ เพราะเครอ่ื งพิมพไ์ ม่สามารถแปลรหัสการพิมพ์โพสต์สคริปต์ได้
3. PICT / Macintosh QuickDraw Picture Format
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ PCT
ระบบปฏิบตั กิ าร Mac Windows, Windows, NT
เวอร์ชนั ทไี่ ดร้ บั การพฒั นาจนถึงปัจจบุ นั PICT1 และ PICT2 (QuickDraw แบบส)ี
ซอฟตแ์ วร์ทสี่ ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมกราฟิ กส่วนมากบนแมคอินทอชเช่น QuickDraw
โปรแกรมเดสกท์ อปพบั ลิชชิง และโปรแกรมแกไ้ ขเวกเตอร์
บางโปรแกรมเช่น AutoCAD,CorelDRAW,PhotoShop,
PageMaker
ความสามารถทางดา้ นสี โมโนโครมใน PICT1 และแผงสี 8 บติ ใน PICT2
การบบี ขนาดขอ้ มลู RLE PackBits สำหรับขอ้ มลู บติ แมป
PICT เป็นภาษากราฟิกเมตาไฟลท์ ถี่ ูกออกแบบมาเพ่ือทำงานกับระบบภาพ QuickDraw ของแมคอนิ ทอช
PICT เปน็ รูปแบบเร่ิมแรกสำหรบั เครอ่ื งแมคอินทอช และเปน็ มาตรฐานในคลปิ บอรด์ ของแมคอนิ ทอชดว้ ย PICT
ใช้ได้ไมค่ อ่ ยดนี กั ในพซี หี รือคอมพิวเตอรแ์ พลตฟอรม์ อื่น
4. Portable Document Format
นามสกลุ ทใ่ี ช้เกบ็ PDF
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows, Mac OS, UNIX และ DOS
ซอฟตแ์ วร์ทสี่ ร้างและเปิ ดไฟล์ Acrobat , Photoshop
ความสามารถทางดา้ นสี RGB,Indexed-Color, CMYK, GrayScale, Bitmap และ
Lap Color
เป็นไฟลอ์ เนกประสงค์ที่สามารถทำงานข้ามโปรแกรม ขา้ มระบบปฏิบตั กิ าร แต่ยงั แสดงผลขอ้ มลู ไดอ้ ย่างแม่นยำ ไม่
วา่ จะเป็นเรือ่ งฟอนต์ เรอื่ งการวางเลเอาท์ รวมถึงภาพทเ่ี ป็นแบบเวกเตอรแ์ ละแบบบติ แมป นอกจากนี้ยัง
สามารถใชบ้ รรจใุ นรูปแบบเอกสารอิเลก็ ทรอนิกส์ ทำให้สามารถ คน้ หา (Search) และเชอื่ มโยง (Link) ข้อมูลได้
โดยสว่ นใหญ่มักใชเ้ ป็นไฟล์พนื้ ฐานในโปรแกรม Adobe lllustrator และ Adobe Acrobat และใน Photoshop
สามารถเรยี กเปิดไฟล์ PDF ได้ด้วยคำส่ัง
File --> Open หรือ File --> Import -->PDF Image
5. Windows Metafile
นามสกลุ ทใี่ ช้เกบ็ WMF
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows, Windows NT
เวอร์ชนั ทไี่ ดร้ บั การพฒั นาจนถึงปัจจบุ นั Windows, 2X, 3X, 3Z , Windows NT
ซอฟตแ์ วร์ทสี่ ร้างและเปิ ดไฟล์ โปรแกรมบนวนิ โดวสส์ ่วนมาก เช่น
CorelDRAW,Photoshop, PaintShop Pro
ความสามารถทางดา้ นสี ทเี่ กบ็ 32 บติ สาหรับ 24 บติ RGB หรือ 16 บติ ของแผงสี
รปู แบบ WMF คลา้ ยกับ PICT บนแมคอนิ ทอช ซึง่ ขึ้นอยูก่ บั ความสามารถในการวาดภาพ
กราฟกิ ใน Windows GDI (GDI: Graphic Device Interface) ไฟล์น้ีมขี ้อเสีย คอื ไม่มีประสิทธิภาพ
และการนำเสนอภาพกราฟกิ ไมเ่ ที่ยงตรง WMF ให้รูปแบบการแลกเปล่ียนกราฟิกแบบงา่ ย ๆ ระหว่าง คอมพวิ เตอร์
ซึ่งรนั วินโดวสเ์ วอรช์ ันเดียวกัน มักมีปัญหาในเวอร์ชันที่แตกต่างกัน
5. กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมผเู้ รยี น
กจิ กรรมครู
10. ตรวจสอบเช็ครายชือ่ นักเรยี นท่เี ขา้ เรยี น 9. เช็ครายช่ือนักเรยี นที่เข้าเรียน
11. แนะนำตวั ครูผ้สู อน ผเู้ รยี น ช่ือวชิ า รหสั วชิ า 10. ฟังคำแนะนำตัวครูผ้สู อน ผู้เรยี น ช่ือวชิ า
จดุ ประสงคข์ องรายวิชา คำอธิบายรายวิชา รหสั วชิ า
เกณฑก์ ารประเมินผลทฤษฎี/ปฏบิ ัติ จดุ ประสงคข์ องรายวชิ า คำอธบิ ายรายวชิ า
12. ครู-นกั เรียน ร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกบั การ เกณฑก์ ารประเมนิ ผลทฤษฎี/ปฏิบัติ
ประมวลผลข้อมูลและสารสนเทศ 11. ครู-นกั เรียน รว่ มกนั สนทนาเก่ียวกบั การ
13. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน ประมวลผลข้อมูลและสารสนเทศ
จำนวน 10 ข้อ 12. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
14. นำเข้าสู่บทเรยี นเก่ียวกบั การประมวลผลข้อมูล จำนวน 10 ข้อ
และสารสนเทศ ประกอบการฉายแผน่ ใส 13. ฟังการบรรยายความหมายของขอ้ มูลและ
15. อธิบายความหมายของข้อมลู และสารสนเทศ สารสนเทศ บอกแหลง่ ข้อมูลและความแตกตา่ ง
บอกแหล่งขอ้ มลู และความแตกตา่ งของขอ้ มลู ของขอ้ มูล และสารสนเทศ ขนั้ ตอนการ
และสารสนเทศ ข้ันตอนการประมวลผลขอ้ มูล ประมวลผลข้อมลู ประเภทของการ
ประเภทของการประมวลผลข้อมลู และการนำ ประมวลผล
คอมพิวเตอรม์ าใช้งานในการประมวลผลขอ้ มลู ข้อมลู และการนำ คอมพวิ เตอร์มาใชง้ านใน
โดยใชแ้ ผ่นใส ตอบคำถาม / ซกั ถามปญั หา การ
16. ถามเก่ียวกับความหมายและความแตกตา่ ง ประมวลผลขอ้ มลู โดยใช้แผ่นใส ตอบคำถาม /
ของข้อมลู และสารสนเทศ สาเหตกุ ารนำ ซักถามปัญหา
คอมพวิ เตอรม์ าใชง้ านในการประมวลผลข้อมลู 14. ตอบคำถามเกี่ยวกับความหมายและความ
17. ดูแลควบคุมการจดั แบ่งกลุ่ม แตกต่าง
18. แจกใบงาน/ให้คำแนะนำในการจัดกิจกรรม ของข้อมูลและสารสนเทศ สาเหตุการนำ
กลมุ่ คอมพิวเตอร์มาใชง้ านในการประมวลผลขอ้ มลู
10. สรปุ ตอบขอ้ สงสยั ค้นควา้ เพม่ิ เตมิ 15. แบง่ กลุ่ม
11. มอบหมายงานใหน้ กั เรียนไปศกึ ษาในหนว่ ยท่ี 16. รับใบงาน/ใหค้ ำแนะนำในการจดั กจิ กรรมกลมุ่
2 เรอ่ื ง ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ 10. สรุป ตอบขอ้ สงสยั ค้นควา้ เพ่มิ เตมิ
12. ประเมินผลการเรยี นของนักศกึ ษาในหน่วยท่ี 1 11. รับมอบงานให้นักเรียนไปศกึ ษาในหน่วยที่
จากแบบทดสอบและใบประเมนิ 2 เร่ือง สว่ นประกอบของคอมพวิ เตอร์
13. ครูบนั ทึกข้อมลู กจิ กรรมการเรียนหลังการสอน 12. ประเมินผลการเรยี นของนักศกึ ษาในหนว่ ยที่ 1
จากแบบทดสอบและใบประเมิน
13. ครูบันทึกขอ้ มูลกจิ กรรมการเรียนหลงั การสอน
6. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน
2. แบบทดสอบหลงั เรียน
3. ใบความรู้และใบงาน
4. เครือ่ งไมโครคอมพวิ เตอร์
5. ซดี สี ่อื การสอน
6. หนังสือเรียนวชิ าคอมพิวเตอรก์ ราฟิกเบือ้ งตน้ ของ อาจารย์วราภรณ์ อุ้มองั วะ : ศนู ย์สง่ เสริมอาชีวะ,
2547.
7. แบบการประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
7. งานทีม่ อบหมาย
1. ทำแบบทดสอบหลังเรียนจำนวน 10 ขอ้ (Pre - Test)
2. เฉลยและตรวจสอบแบบทดสอบ
3. เปรยี บเทยี บผลการทดสอบกอ่ นเรียน-หลังเรียน
4. นักเรียนทำความสะอาดห้อง จัดโต๊ะ เกา้ อี้ ใหเ้ รยี บรอ้ ย
5. มอบหมายงานใหน้ ักเรียนไปศึกษาในหนว่ ยท่ี 2 ในสปั ดาห์ต่อไป
8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
8.1 เครือ่ งมอื ประเมิน
1. สง่ิ ทจี่ ะวัด
1.1 วดั ความรคู้ วามเข้าใจจุดประสงค์การเรียนรู้
1.2 วดั พฤตกิ รรมการเรยี น
1.3 สังเกตพฤติกรรมการเรยี น
2. วธิ กี ารวดั
2.1 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หลังเรียน
2.2 ตรวจงานที่มอบหมาย
2.3 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียน
3. เครื่องมือวัด
3.1 แบบทดสอบ
3.2 กจิ กรรมทมี่ อบหมาย
3.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
8.2 เกณฑก์ ารประเมนิ
4.1 เกณฑ์การวัด
4.1.1 ใหข้ ้อถกู ขอ้ ละ 1 คะแนน ข้อผดิ 0 คะแนน
4.1.2 ใหค้ ะแนนพฤตกิ รรมการเรียน
5 หมายถึง ดมี าก
4 หมายถึง ดี
3 หมายถงึ ปานกลาง
2-1 หมายถึง ต้องปรับปรุง
4.2 เกณฑ์การประเมนิ
4.2.1 นกั เรียนไดค้ ะแนนจากการทำแบบทดสอบ ไมต่ ำ่ กวา่ ร้อยละ 70
4.1.2 นักเรยี นไดค้ ะแนนจากกิจกรรมการเรยี น ไม่ตำ่ กวา่ รอ้ ยละ 80
4.1.3 นกั เรยี นไดค้ ะแนนพฤติกรรมการเรยี น ไม่ตำ่ กวา่ ร้อยละ 60
9. เอกสารอา้ งองิ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
10. บนั ทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้
10.1 สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้
รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1
ด้านการเตรยี มการสอน
1. จัดหนว่ ยการเรยี นรไู้ ดส้ อดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้
2. กำหนดเกณฑก์ ารประเมินครอบคลมุ ท้ังดา้ นความรู้ ดา้ นทักษะ และดา้ นจติ พสิ ยั
3. เตรยี มวัสดุ-อุปกรณ์ ส่อื นวัตกรรม กิจกรรมตามแผนการจดั การเรยี นรกู้ ่อนเขา้ สอน
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
4. มวี ิธกี ารนำเข้าส่บู ทเรียนท่ีนา่ สนใจ
5. มกี จิ กรรมทห่ี ลากหลาย เพื่อชว่ ยใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ
6. จดั กิจกรรมท่ีส่งเสริมให้ผเู้ รียนคน้ ควา้ เพื่อหาคำตอบด้วยตนเอง
7. นกั เรยี นมีส่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
8. จัดกิจกรรมทเี่ นน้ กระบวนการคดิ ( คดิ วิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ )
9. กระตนุ้ ให้ผู้เรยี นแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี
10. จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ที่เช่อื มโยงกบั ชวี ิตจรงิ โดยนำภมู ิปัญญา/บรู ณาการเขา้ มามสี ว่ นรว่ ม
11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม
12. มกี ารเสริมแรงเม่ือนักเรยี นปฏบิ ตั ิ หรือตอบถูกตอ้ ง
13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศกั ยภาพของผู้เรยี น
14. เอาใจใสด่ ูแลผูเ้ รียน อยา่ งท่ัวถึง
15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาที่กำหนด
ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหลง่ การเรียนรู้
16. ใช้สื่อทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผูเ้ รียน
17. ใชส้ ือ่ แหลง่ การเรยี นรู้อยา่ งหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานที่ ของจริง เอกสาร
ส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ และอินเทอร์เน็ต เปน็ ตน้
ดา้ นการวดั และประเมินผล
18. ผเู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการกำหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล
19. ประเมนิ ผลอย่างหลากหลายและครบทง้ั ดา้ นความรู้ ทักษะ และจติ พิสยั
20. ครู ผู้เรยี น ผปู้ กครอง หรือ ผทู้ ี่เกย่ี วขอ้ งมสี ว่ นร่วม ในการประเมิน
หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ัติ 5 = ปฏิบัตดิ ีเยี่ยม 4 = ปฏบิ ัติดี 3 = ปฏิบตั พิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรุง 1 = ไม่มกี ารปฏบิ ตั ิ คา่ เฉลี่ย
10.2 ปัญหาที่พบ และแนวทางแกป้ ัญหา แนวทางแก้ปญั หา
ปญั หาท่ีพบ
…………………………………………………….
ดา้ นการเตรยี มการสอน ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ด้านส่อื นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้ ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ดา้ นการวัดและประเมินผล ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ดา้ นอน่ื ๆ (โปรดระบุเปน็ ข้อๆ) ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
……………………………………………………..
ลงชอื่ ........................................................................ ครูผสู้ อน
(..........นายกนั ตภณ พมุ่ จันทร์..........)
ตำแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................
แผนการจดั การเรยี นรู้
รหัสวชิ า .......... 20901-1004....... วิชา .......คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ เบื้องตน้ ..................... แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
.......3......
หนว่ ยที่ .......3....... ชือ่ หน่วย .............ความแตกตา่ งกราฟิก 2 มิติ........................................................................
ชือ่ เร่อื ง........ความแตกตา่ งกราฟกิ 2 มติ ิ........................................................................ จำนวน ....3......ช่ัวโมง
1. สาระสำคัญ
ศกึ ษาและปฏบิ ตั เิ ก่ยี วกับ โปรแกรมสำหรับงานกราฟิก คอมพิวเตอรก์ ราฟกิ เบ้อื งตน้ 2 มติ ิ
งานกราฟกิ แบบ 3 มติ ิ คอมพิวเตอรก์ ราฟกิ เบอื้ งต้น 3 มติ ิ
2. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรียนรู้
3. นำการประยกุ ตก์ ารใชง้ านกราฟกิ 3 มิตมิ าใชก้ ับงานในอนาคตได้
4. เขียนงานกราฟกิ แบบ 3 มิติมาใชใ้ นการเรยี นได้
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 จดุ ประสงค์ทว่ั ไป
เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นเข้าใจเกย่ี วกับ โปรแกรมสำหรับงานกราฟกิ คอมพวิ เตอร์กราฟกิ เบือ้ งตน้ 2 มติ ิ
งานกราฟกิ แบบ 3 มติ ิ คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ เบ้อื งต้น 3 มติ ิ
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. อธบิ ายโปรแกรมสำหรับงานกราฟิกได้
2. อธบิ ายคอมพวิ เตอร์กราฟิกเบือ้ งต้น 2 มติ ิได้
3. เขียนงานกราฟกิ แบบ 3 มิติ ได้
4. ประยกุ ต์ใช้คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ เบื้องตน้ 3 มิตไิ ด้
5. วิเคราะห์ความแตกตา่ งของกราฟิก 2 มติ ิกบั กราฟกิ แบบ 3 มติ ิได้
6.นำการประยกุ ตก์ ารใชง้ านกราฟกิ 3 มติ มิ าใชก้ บั งานในอนาคตได้
7. เขียนงานกราฟิกแบบ 3 มิติมาใชใ้ นการเรียนได้
8. ผเู้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรมทพี่ งึ ประสงค์ คอื ความมีมนษุ ย์สัมพันธ์ ความมวี ินยั
ความรบั ผดิ ชอบ ความประหยัด ความสนใจใฝร่ ู้ ความรักสามัคคี ความกตญั ญกู ตเวที
4. สาระการเรียนรู้
เน้ือหา
1 โปรแกรมสำหรบั งานกราฟกิ
โปรแกรมสำหรับงานกราฟกิ เปน็ ส่วนที่สำคัญย่ิงในการใชค้ วามสามารถของคอมพิวเตอร์
ผลิตผลงานกราฟิก ในปัจจบุ นั มีโปรแกรมสำหรบั ใช้ทำงานกราฟกิ เปน็ จำนวนมาก สามารถจดั แบ่ง
โปรแกรมสำหรับงานกราฟิกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามแผนภาพดังนี้
โปรแกรมสาหรบั งานกราฟิ ก
โปรแกรมกราฟิ กนาเสนอ โปรแกรมกราฟิ กวาดภาพ
โปรแกรมสร้างและตกแต่งภาพ โปรแกรมช่วยออกแบบ
โปรแกรมกราฟิ ก 2 มติ ิ โปรแกรมกราฟิ ก 3 มติ ิ
แผนภาพประเภทของคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ เบอ้ื งตน้
โปรแกรมสร้างและตกแต่งภาพ