The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

20901-1004 คอมพิวเตอร์กราฟิกเบื้องต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kantaphon.p44, 2022-10-28 05:05:06

20901-1004 คอมพิวเตอร์กราฟิกเบื้องต้น

20901-1004 คอมพิวเตอร์กราฟิกเบื้องต้น

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรมครู กจิ กรรมผู้เรยี น

37. ตรวจสอบเช็ครายชื่อนกั เรียนท่เี ขา้ เรียน 33. เช็ครายชือ่ นักเรยี นท่ีเข้าเรียน

38. แนะนำตวั ครผู ู้สอน ผู้เรยี น ชื่อวชิ า รหสั วชิ า 34. ฟังคำแนะนำตัวครผู ู้สอน ผเู้ รียน ชื่อวชิ า

จดุ ประสงค์ของรายวชิ า คำอธิบายรายวชิ า รหัสวิชา

เกณฑก์ ารประเมินผลทฤษฎี/ปฏบิ ัติ จดุ ประสงค์ของรายวิชา คำอธิบายรายวิชา

39. ครู-นักเรียน ร่วมกันสนทนาเกย่ี วกับการ เกณฑก์ ารประเมินผลทฤษฎี/ปฏิบัติ

ประมวลผลขอ้ มลู และสารสนเทศ 35. ครู-นักเรียน ร่วมกนั สนทนาเกยี่ วกบั การ

40. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ประมวลผลข้อมลู และสารสนเทศ

จำนวน 10 ขอ้ 36. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน

41. นำเขา้ สู่บทเรยี นเกยี่ วกบั การประมวลผลขอ้ มลู จำนวน 10 ข้อ

และสารสนเทศ ประกอบการฉายแผน่ ใส 37. ฟงั การบรรยายความหมายของขอ้ มลู และ

42. อธิบายความหมายของข้อมูลและสารสนเทศ สารสนเทศ บอกแหล่งขอ้ มูลและความแตกตา่ ง

บอกแหลง่ ข้อมลู และความแตกต่างของขอ้ มลู ของข้อมลู และสารสนเทศ ขั้นตอนการ

และสารสนเทศ ข้นั ตอนการประมวลผลข้อมูล ประมวลผลขอ้ มูล ประเภทของการ

ประเภทของการประมวลผลขอ้ มลู และการนำ ประมวลผล

คอมพวิ เตอรม์ าใชง้ านในการประมวลผลข้อมลู ข้อมลู และการนำ คอมพิวเตอรม์ าใชง้ านใน

โดยใชแ้ ผ่นใส ตอบคำถาม / ซักถามปญั หา การ

43. ถามเกี่ยวกบั ความหมายและความแตกตา่ ง ประมวลผลขอ้ มลู โดยใชแ้ ผน่ ใส ตอบคำถาม /

ของขอ้ มลู และสารสนเทศ สาเหตุการนำ ซักถามปัญหา

คอมพวิ เตอรม์ าใชง้ านในการประมวลผลขอ้ มลู 38. ตอบคำถามเกีย่ วกบั ความหมายและความ

44. ดูแลควบคมุ การจัดแบง่ กลมุ่ แตกตา่ ง

45. แจกใบงาน/ให้คำแนะนำในการจดั กิจกรรม ของข้อมลู และสารสนเทศ สาเหตุการนำ

กลมุ่ คอมพวิ เตอรม์ าใช้งานในการประมวลผลข้อมลู

10. สรปุ ตอบขอ้ สงสัย คน้ ควา้ เพิ่มเติม 39. แบ่งกลมุ่

11. มอบหมายงานใหน้ กั เรยี นไปศึกษาในหนว่ ยท่ี 40. รับใบงาน/ใหค้ ำแนะนำในการจดั กจิ กรรมกล่มุ

2 เรอื่ ง ส่วนประกอบของคอมพวิ เตอร์ 10. สรปุ ตอบข้อสงสัย ค้นควา้ เพิ่มเติม

12. ประเมินผลการเรยี นของนกั ศกึ ษาในหนว่ ยที่ 3 11. รับมอบงานให้นักเรียนไปศกึ ษาในหน่วยที่

จากแบบทดสอบและใบประเมนิ 2 เรอ่ื ง ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์

13. ครบู นั ทกึ ขอ้ มลู กจิ กรรมการเรยี นหลงั การสอน 12. ประเมนิ ผลการเรยี นของนกั ศกึ ษาในหนว่ ยที่ 3

จากแบบทดสอบและใบประเมนิ

13. ครบู นั ทกึ ขอ้ มูลกิจกรรมการเรยี นหลังการสอน

6. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้

1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน
2. แบบทดสอบหลงั เรียน
3. ใบความร้แู ละใบงาน
4. เครือ่ งไมโครคอมพวิ เตอร์
5. ซดี สี ่อื การสอน
6. หนังสือเรียนวชิ าคอมพิวเตอรก์ ราฟิกเบื้องตน้ ของ อาจารย์วราภรณ์ อุ้มองั วะ : ศนู ย์ส่งเสริมอาชีวะ,
2547.
7. แบบการประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์

7. งานทีม่ อบหมาย

1. ทำแบบทดสอบหลังเรยี นจำนวน 10 ขอ้ (Pre - Test)
2. เฉลยและตรวจสอบแบบทดสอบ
3. เปรยี บเทยี บผลการทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน
4. นักเรียนทำความสะอาดห้อง จดั โต๊ะ เกา้ อี้ ใหเ้ รียบร้อย
5. มอบหมายงานใหน้ ักเรียนไปศกึ ษาในหนว่ ยที่ 2 ในสัปดาห์ต่อไป

8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

8.1 เครือ่ งมอื ประเมิน
1. ส่ิงทจี่ ะวัด
1.1 วดั ความรคู้ วามเข้าใจจุดประสงค์การเรียนรู้
1.2 วดั พฤตกิ รรมการเรยี น
1.3 สังเกตพฤติกรรมการเรยี น
2. วธิ กี ารวดั
2.1 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หลังเรียน
2.2 ตรวจงานที่มอบหมาย
2.3 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียน
3. เครื่องมือวัด
3.1 แบบทดสอบ
3.2 กจิ กรรมทมี่ อบหมาย
3.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

8.2 เกณฑก์ ารประเมิน
4.1 เกณฑก์ ารวัด

4.1.1 ใหข้ อ้ ถูกข้อละ 1 คะแนน ขอ้ ผดิ 0 คะแนน
4.1.2 ใหค้ ะแนนพฤตกิ รรมการเรยี น

5 หมายถึง ดมี าก
4 หมายถงึ ดี
3 หมายถงึ ปานกลาง
2-1 หมายถงึ ตอ้ งปรบั ปรงุ
4.2 เกณฑก์ ารประเมนิ
4.2.1 นักเรยี นไดค้ ะแนนจากการทำแบบทดสอบ ไมต่ ่ำกว่าร้อยละ 70
4.1.2 นกั เรียนไดค้ ะแนนจากกิจกรรมการเรียน ไมต่ ำ่ กวา่ ร้อยละ 80
4.1.3 นักเรียนไดค้ ะแนนพฤตกิ รรมการเรยี น ไมต่ ำ่ กวา่ รอ้ ยละ 60

9. เอกสารอ้างองิ

....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

10. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

10.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้

รายการ ระดบั การปฏบิ ัติ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จัดหนว่ ยการเรียนรูไ้ ดส้ อดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์การเรยี นรู้

2. กำหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลมุ ท้ังด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ และด้านจิตพิสัย

3. เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ สอ่ื นวัตกรรม กจิ กรรมตามแผนการจดั การเรียนรกู้ ่อนเข้าสอน

ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

4. มีวธิ กี ารนำเขา้ สู่บทเรียนทีน่ า่ สนใจ

5. มกี จิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพื่อช่วยให้ผู้เรยี นเกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ

6. จดั กิจกรรมท่ีสง่ เสริมใหผ้ ู้เรยี นค้นควา้ เพอ่ื หาคำตอบดว้ ยตนเอง

7. นักเรียนมีส่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

8. จัดกิจกรรมที่เนน้ กระบวนการคดิ ( คดิ วิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ )

9. กระต้นุ ใหผ้ ้เู รียนแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี

10. จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ีเช่ือมโยงกบั ชีวติ จริงโดยนำภูมปิ ัญญา/บูรณาการเขา้ มามสี ่วนร่วม

11. จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเมอ่ื นกั เรยี นปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศกั ยภาพของผู้เรียน

14. เอาใจใส่ดแู ลผู้เรยี น อยา่ งทว่ั ถึง

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกบั เวลาท่กี ำหนด

ด้านสอ่ื นวัตกรรม แหลง่ การเรยี นรู้

16. ใชส้ ่อื ทเ่ี หมาะสมกับกิจกรรมและศกั ยภาพของผู้เรียน

17. ใชส้ ่อื แหล่งการเรียนรู้อยา่ งหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานที่ ของจริง เอกสาร

สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ และอินเทอร์เน็ต เป็นต้น

ดา้ นการวดั และประเมนิ ผล

18. ผูเ้ รียนมีส่วนรว่ มในการกำหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทักษะ และจติ พิสัย

20. ครู ผู้เรียน ผปู้ กครอง หรอื ผทู้ ่เี กีย่ วขอ้ งมสี ว่ นรว่ ม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบัติ 5 = ปฏบิ ัติดเี ยยี่ ม 4 = ปฏบิ ัติดี 3 = ปฏิบตั พิ อใช้ รวม
2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ไมม่ ีการปฏบิ ตั ิ คา่ เฉลย่ี

10.2 ปัญหาที่พบ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ปัญหา
ด้านการเตรยี มการสอน
…………………………………………………….. …………………………………………………….
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ด้านสือ่ นวตั กรรม แหลง่ การเรียนรู้
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ด้านการวดั และประเมนิ ผล
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ด้านอ่ืนๆ (โปรดระบเุ ปน็ ข้อๆ)
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..

ลงชื่อ ........................................................................ ครผู ้สู อน
(..........นายกันตภณ พมุ่ จนั ทร์..........)

ตำแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................

แผนการจดั การเรียนรู้

รหสั วชิ า .......... 20901-1004....... วชิ า ...........คอมพิวเตอรก์ ราฟิกเบอื้ งตน้ ............ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่
.......6......
หน่วยที่ .......4....... ช่ือหน่วย .............การเลือกพืน้ ที่เพื่อแก้ไขและตกแต่งภาพ........... .......................................
ชอ่ื เรือ่ ง........การเลือกพน้ื ท่ีเพื่อแกไ้ ขและตกแต่งภาพ................................................... จำนวน ....3......ช่วั โมง

1. สาระสำคญั

ศกึ ษาและปฏิบัติเกี่ยวกับ ความหมายของการ Selection การใชเ้ คร่ืองมือ Selection เลอื กภาพการ
ตดั ภาพ การยอ่ -ขยายภาพ การหมนุ ภาพ และ การบดิ ภาพ

2. สมรรถนะประจำหน่วยการเรียนรู้

1. สามารถกำหนดรปู แบบของ Guide และ Grid
2. นำการศึกษาเรอ่ื งการตกแตง่ ภาพมาใชป้ ระโยชนท์ างดา้ นการศกึ ษาได้

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

3.1 จดุ ประสงค์ท่ัวไป
เพือ่ ให้ผู้เรยี นเข้าใจเกี่ยวกบั ความหมายของการ Selection การใชเ้ ครื่องมือ Selection เลอื กภาพการ
ตดั ภาพ การย่อ-ขยายภาพ การหมนุ ภาพ และ การบิดภาพ

3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. มีความรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั ความหมายของการ Selection
2. สามารถใชป้ ุม่ เคร่ืองมอื Selection เลอื กภาพได้
3. สามารถกำหนดรปู แบบของ Guide และ Grid
4. นำการศกึ ษาเรอ่ื งการตกแต่งภาพมาใช้ประโยชนท์ างดา้ นการศกึ ษาได้
5. ผู้เรยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรมท่พี ึงประสงค์ คอื ความมมี นษุ ยส์ มั พันธ์ ความมีวนิ ยั
ความรบั ผิดชอบ ความประหยดั ความสนใจใฝร่ ู้ ความรักสามัคคี ความกตญั ญูกตเวที

4. สาระการเรียนรู้ เนอื้ หา

1 ความหมายของการ Selection

การ Selection ใน Photoshop หากต้องการปรบั แตง่ ภาพ แต่ไมไ่ ด้เลือกพ้ืนทีอ่ ยา่ งเจาะจง
กห็ มายความว่า กำลังปรบั แตง่ ภาพทั้งภาพ ซ่งึ ในความเปน็ จรงิ ภาพบางภาพต้องการปรับแตง่ เฉพาะ
บางจุดเทา่ นั้น ดังนั้นการ Selection นับว่าเปน็ เรื่องจำเปน็ กลา่ วได้ว่าคร่งึ หน่ึงของการตกแตง่ ภาพคือ
การ Selection เพราะว่าถ้าทำการ Selection ได้ดี การปรบั แตง่ ภาพกจ็ ะทำได้โดยง่ายด้วย

การ Selection มหี ลายรปู แบบแต่จะใชร้ ูปแบบไหนน้นั ข้นึ กบั ความเหมาะสมในการใชง้ าน
และความถนดั ของแตล่ ะผใู้ ชง้ าน

การใชง้ านเคร่ืองมอื วัดตำแหนง่ ต่าง ๆ

กอ่ นใช้งาน Selection สิง่ ท่ีจำเปน็ ต้องรู้ คอื การใช้งานเครอ่ื งมือวดั ตา่ ง ๆ ได้แก่ Ruler
Guide และ Grid เพอื่ ชว่ ยอำนวยความสะดวกในการจดั วางงาน

แถบไม้บรรทัด Ruler

แสดงไม้บรรทดั ดา้ นบนและด้านซา้ ยของหนา้ ต่างรูปภาพ ใชบ้ อกตำแหนง่ ของตัวชี้เมาส์บน ภาพ ถ้า

หนา้ ตา่ งภาพไม่มแี ถบไม้บรรทัด คลิกเมนู View คลิกรายการ Rulers จะปรากฎไม้ บรรทดั ดา้ นบนและ

ดา้ นซา้ ยของรูปภาพ
จดุ พิกดั เรมิ่ ตน้ (0,0)
เพอื่ ประโยชนใ์ นการวดั ระยะทาง
ทุกครง้ั ทเ่ี ปดิ ไฟลภ์ าพ ตำแหน่ง
เรม่ิ ต้นพิกดั (0,0) จะถกู กำหนด
ไว้อยู่มุมบนซ้ายเสมอ

ตัวอยา่ งการตง้ั จุดพกิ ดั ใหม่ เมาส์
1. คลิกจุดพกิ ัดเรม่ิ ตน้ คา้ งไว้ ลากจากตำแหนง่ เริ่มตน้ ลงมา

ตำแหนง่ กลางภาพ หรอื ตำแหน่ง 5 บนไม้บรรทดั ปล่อย
2. สงั เกตจดุ พกิ ดั เร่มิ ตน้ (0,0) จะอยู่กลางภาพ

การเปลยี่ นหนว่ ยวดั
สามารถเปลย่ี นหน่วยวดั ไมบ้ รรทดั ได้ 3 วิธี คือ

1. คลกิ เมนู Edit --> Preferences--> Units & Rulers หรือ
2. ดับเบ้ิลคลิกบนแถบไมบ้ รรทดั จะปรากฎหนา้ ต่าง Preferences หรอื

3. คลกิ ขวาแถบไมบ้ รรทดั จะปรากฎเมนูของหน่วยวดั ให้เลอื กหนว่ ยวดั ทตี่ อ้ งการ

การใช้งาน Guide

Guide เป็นเส้นตรงสฟี า้ ท่ลี ากจากไมบ้ รรทดั ดา้ นบนและด้านซา้ ย เพ่ือใชเ้ ป็นเสน้ แนวสำหรบั
วาด หรอื วางรูปภาพ และเส้นเหลา่ นจี้ ะไมถ่ ูกพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์

การแสดงและซอ่ นเสน้ Guide
1. คลกิ เมนู View คลกิ รายการ Show -->Guides มเี คร่ืองหมาย จะแสดงเส้น Guide หรือ

2. คลิกเมนู View คลิกรายการ Show -->Guides ไมม่ ีเครื่องหมาย จะซ่อนเสน้ Guide
การสร้างเส้น Guide

1. คลิกเมาสไ์ ม้บรรทัดด้านบนค้างไว้ ลากวางตำแหนง่ ท่ตี ้องการ รูปภาพจะมีเสน้ สฟี ้าแนวนอน
2 คลกิ เมาส์ไม้บรรทดั ดา้ นซา้ ยคา้ งไว้ ลากวางตำแหน่งทีต่ อ้ งการ รปู ภาพจะมเี สน้ สฟี ้าแนวตงั้
3. กดปมุ่ Alt คา้ งไวใ้ นขณะสรา้ งเส้น Guide ผลลพั ธ์ท่ีไดค้ อื ถ้าลากเสน้ Guide แนวตั้ง จะเปลี่ยนเป็น
เส้น Guide แนวนอน ถา้ ลากเสน้ Guide แนวนอน จะเปลย่ี นเป็นเสน้ Guide แนวต้ัง

การลบเส้น Guide
1. คลิกเมนู View คลิกรายการ Clear Guides
2. เสน้ Guide จะถูกลบท้ังหมด หรอื
3. คลิกป่มุ 2 Move Tool
4. คลกิ เมาสท์ ่เี ส้น Guide ค้างไว้ ลากกลบั ไปวางดา้ นบน หรือ ด้านซา้ ยของไม้บรรทดั ตามเดิม

การยึดตำแหน่งเส้น Guide ด้วยคำสั่ง Lock Guide
1. คลกิ เมนู View คลิกรายการ Lock Guides จะลอ็ กตำแหน่งเสน้ Guide ไมใ่ ห้มกี ารเคล่ือนยา้ ย
2. คลกิ เมนู View คลกิ รายการ Lock Guides จะยกเลกิ การลอ็ กเส้น Guide

การใช้งาน Grid
Grid คอื การอ้างองิ ตำแหน่งโดยใช้จุดพกิ ัด โดยแต่ละจุดเกิดจากเสน้ แนวตง้ั และแนวนอน มาตดั กนั สามารถให้
โปรแกรมแสดงเส้น Grid ได้โดยเลือกคำสง่ั View-->Show-->Grid

การกำหนดรูปแบบของ Guide และ Grid
1. คลิกเมนู Edit คลกิ รายการ Preferences คลกิ รายการ Guides , Grid & Slices...
2. จะปรากฎหน้าต่าง Preference
1. คลกิ เมนู Edit คลิกรายการ Preferences คลิกรายการ Guides , Grid & Slices...
2. จะปรากฎหนา้ ตา่ ง Preferences

3. คลิกเลอื กลกั ษณะของเสน้ สี ระยะห่างของ Guides และ Grid
4. คลกิ ปุ่ม OK

การใชง้ าน Snap
Snap เป็นคำสง่ั ทีช่ ว่ ยสรา้ งความแม่นยำใหใ้ นการ Selection, Crop ภาพ, การ Slice, การวาด

ภาพ และการจดั เรียงวตั ถุต่าง ๆ โดยยึดแนวของ เส้น Guide, เสน้ ของการแบง่ Slice ขอบของหน้า
เอกสารและเสน้ Grid เป็นหลัก

การเรยี กใช/้ ยกเลิก Snap
1. คลกิ เมนู View -->Snap การเรียกใช้ Snap
2. คลิกเมนู View -->Snap ยกเลิกการใช้ Snap

การเลือกใช้ Snap ในลกั ษณะต่าง ๆ
1. คลกิ เมนู View --> Snap to --> Guide การใช้ Snap ยึดเส้นแนวเสน้ Guide
2. คลกิ เมนู View --> Snap to --> Grid การใช้ Snap ยดึ แนวเสน้ Grid
3. คลิกเมนู View --> Snap to --> Slice การใช้ Snap ยดึ แนวเสน้ แบ่งพืน้ ที่ Slice
4. คลกิ เมนู View --> Snap to --> Document Bounds การใช้ Snap โดยยดึ แนวขอบของเอกสาร
5. คลิกเมนู View --> Snap to --> All การใช้ Snap ไดใ้ นทกุ ลกั ษณะ
6. คลิกเมนู View --> Snap to --> None ยกเลิกการใช้ Snap ในทกุ ลกั ษณะ

การใช้ Extras

ในโปรแกรม Photoshop จะมสี งิ่ ต่างๆ ชว่ ยในการเลอื กพื้นท่ภี าพสำหรบั ตกแตง่ ภาพ การ
เคล่ือนยา้ ยภาพ และการแก้ไขภาพ ซง่ึ ไดแ้ ก่ เสน้ Guide , เส้น Grid , เสน้ Path สว่ นที่แสดงขอบเขต
ของการเลอื กพืน้ ท่ี ขอบเขตของการ Slice ขอบเขตของขอ้ ความ และสว่ นท่เี ปน็ โน้ตเตือนความจำ สิ่ง
ต่าง ๆ เหลา่ นี้ จะแสดงใหเ้ หน็ เฉพาะในขณะทท่ี ำการตกแตง่ ภาพอยูเ่ ทา่ นน้ั จะไมม่ ผี ลตอ่ ภาพทพ่ี มิ พ์
ออกแสดงทางเคร่ืองพิมพ์แต่อย่างใด เรียกสง่ิ ต่าง ๆ เหล่านวี้ า่ “ Extras “

สามารถสั่งให้ซ่อนหรอื แสดง Extras ทเ่ี กี่ยวกบั งานทกี่ ำลังทำอยู่ท้งั หมดไดด้ ้วยคำสั่ง
เมนู View --> Extras และเม่อื ตอ้ งการกลบั มาใช้ Extras ใหเ้ รยี กใช้คำสง่ั View --> Extras อกี ครงั้

การแสดงหรอื ซอ่ น Extras

1.เลือกคำสง่ั View -->Extras ซ่อนการแสดง Extras

2 การใช้ปมุ่ เคร่อื งมือ Selection เลือกภาพ

ปุ่ม 1 Rectangular Marquee Tool เลือกแบบสีเ่ หลยี่ ม / วงกลม
1. เปิรูปภาพบนจอภาพ เช่น Ducky.tif

2. คลปิ มุ่ คา้ งไว้ จะปรากฎปุ่มเครอ่ื งมอื รปู แบบตา่ ง ๆ

3. คลิกเลอื กรูปแบบสี่เหล่ียม เปน็ การเลือกวตั ถใุ ห้มีเสน้ ประล้อมรอบแบบส่ีเหลี่ยม

4. คลิกล้อมรอบสว่ นของภาพทตี่ ้องการเลือกใหม้ ีเสน้ ประวง่ิ แบบสเี่ หลย่ี ม

5. คลิกเมาส์ ปมุ่ 2
6. คลิกเมาส์สว่ นทม่ี ีเส้นประคา้ งไว้ เพอ่ื เคล่ือนย้ายรปู ภาพ

7. คลกิ ช่อง Style: เพอื่ เลอื กรปู แบบของ Marquee Options เชน่
Normal การเลอื กอยา่ งอสิ ระ
Constrained Aspect Ratio กำหนดคา่ ตามอัตราสว่ นความกวา้ ง Width: และความสงู Height:

8. คลกิ เลือกพ้ืนท่ีการเลอื กใหม่ด้วยป่มุ เครื่องมอื

9. ช่อง Feather: กำหนดความฟงุ้ เบลอขอบภาพ ระบตุ วั เลขระหวา่ ง 1-250 px

10. ทดลองเลือกรปู ภาพให้มเี ส้นประล้อมรอบ
11. คลกิ ปมุ่ 2
12. คลกิ ท่ีเส้นประค้างไว้ ย้ายรูปภาพ สังเกตภาพบริเวณขอบภาพจะฟุ้งเบลอ
ปุ่ม 1 แบบ 2 วงกลม / วงรี Elliptical Marquee Tool (M)
1. เปดิ รูปภาพบนจอภาพ
2. เลือกปุ่ม 1 แบบวงกลม
3. คลิกเลือกรปู ภาพทีต่ อ้ งการ ให้มีเสน้ ประแบบวงกลมลอ้ มรอบ กดปมุ่ Alt

ขณะลากชว่ ยให้วัตถุเปน็ วงกลมได้งา่ ยขึน้
4. คลิกเมาส์ ป่มุ 2
5. ลากยา้ ยไปวางตำแหน่งใหม่บนจอภาพ จะไดภ้ าพแบบวงกลม หรอื คลิกเมนู Edit คลกิ Copy
6. คลกิ เมนู File คลกิ New ปรากฎหน้าต่าง New
7. ต้ังชือ่ ชอ่ ง Name: Cycle
8. กำหนดความกวา้ ง Width: 344 pixels
9. กำหนดความสงู Height: 348 pixels
10. กำหนดความละเอียด Resolution : 72
11. กำหนดโหมดสีของภาพ Mode: RGB Color
12. คลิก OK จะปรากฎหนา้ ตา่ งวา่ งสีขาวบนหน้าจอ
13. คลิกเมาส์ ปุ่ม 2
14. คลกิ คา้ งไวท้ ว่ี งกลมเสน้ ประ แล้วลากไปวางยงั หน้าต่างวา่ งสีขาว
15. ผลลพั ธ์ท่ีได้ รปู ภาพที่เลือกเปน็ แบบวงกลม

รูปท่ี 5.2 แสดงแถบเครอ่ื งมือ Marquee Options bar แบบ

ปมุ่ 1 แบบ Single Row สรา้ งเส้นแนวดง่ิ ตลอดขอบเขตของภาพ เพิ่มเอฟเฟ็กตต์ า่ ง ๆ
1. คลิกเมาสป์ ่มุ 1 คลกิ แบบ Single Row
2. เลื่อนเมาส์คลกิ บนรปู ภาพ จะปรากฎเส้นประแนวนอน ความกวา้ ง 1 พกิ เซล

ปุ่ม 1 แบบ Single Column สรา้ งเสน้ แนวนอนตลอดขอบเขตของภาพ เพ่มิ เอฟเฟก็ ตต์ า่ ง ๆ
1. คลิกเมาสป์ มุ่ 1 คลิกแบบ Single Column
2. เลอ่ื นเมาสค์ ลกิ บนรปู ภาพ จะปรากฎเสน้ ประแนวดง่ิ หรือ แนวตั้ง ความกวา้ ง 1 พกิ เซล

การตัดภาพ (Cut) ในพืน้ ทีท่ เี่ ลือก
หลงั จากเลือกพนื้ ท่แี ลว้ สามารถตดั พ้ืนที่ภาพท่เี ลอื กไปแปะลงในตำแหนง่ อื่น ท้ังในไฟล์

เดยี วกัน หรอื ต่างไฟลก์ ็ได้ ดว้ ยเครื่องมอื Move Tool
ปมุ่ 2 Move Tool ใชเ้ คลือ่ นยา้ ย ตวั อกั ษร / รูปภาพ
1. คลิกปมุ่ 1 แบบส่เี หลี่ยม/แบบวงกลม
2. เลอื กรูปภาพให้มเี ส้นประล้อมรอบ
3. คลกิ ปมุ่ 2 Move Tool
4. คลิกรปู ภาพ ตดั รูปภาพเฉพาะส่วนที่มีเสน้ ประลอ้ มรอบ ยา้ ยไปวางตำแหนง่ ใหม่

คลกิ เครือ่ งหมาย Auto Select Layer เมอ่ื เลอื กวตั ถุจะมีผลตรงกบั เลเยอรท์ ที่ ำงานอยู่
5. คลกิ ปมุ่ 1 เพอ่ื ยกเลกิ เส้นประ

6. คลกิ เคร่ืองหมาย Show Bounding Box เพือ่ ปรบั ภาพหมนุ ตามทิศทางทต่ี อ้ งการ
7. ปรากฎเสน้ ประปรับพ้นื ที่การเลอื กตามตอ้ งการ หรือ

8. คลกิ เครอ่ื งหมาย Show Bounding Box ออก หรอื
9. คลิกปุม่ 1
10. คลกิ เมาส์ทพี่ นื้ ท่ีบนรปู ภาพ เพื่อยกเลกิ เส้นประที่เลือก

การเลือกพนื้ ทดี่ ว้ ย Lasso Tool
การเลือกแบบ Lasso เปน็ การเลือกอกี แบบหนง่ึ ซ่ึงแตกตา่ งจากการเลือกแบบ Marquee คือ

- Marquee Tool เคร่อื งไดก้ ำหนดพน้ื ทเี่ ลอื กเป็นแบบปดิ ไวใ้ ห้แลว้ อกี ทงั้ ยังเป็นการเลอื กทเ่ี ปน็ รูป

ทรงเรขาคณติ ท่ีแน่นอน

- Lasso Tool คำวา่ “ Lasso” หมายถึง บว่ งคล้อง ซึง่ หมายถงึ การทต่ี อ้ งการเลอื กอาณาบริเวณอิสระ จนกว่าจะ
บรรจบเปน็ วงปดิ ด้วยตัวเราเอง

เลือกพ้ืนท่อี ิสระดว้ ย Lasso Tool

เป็นคำสง่ั การเลอื กพื้นทภี่ าพ โดยสามารถเลอื กไดอ้ สิ ระ และมคี วามยดื หยนุ่ เต็มท่ี อกี ทัง้ ยัง

สามารถใหค้ วามฟุ้งเบลอของพน้ื ท่ที เ่ี ลอื กได้อีก

1. คลกิ ปุ่ม 3 คา้ งไว้ จะปรากฎรปู แบบ Lasso Tool

2. คลกิ แบบ

3. คลิกเมาสท์ ขี่ อบรูปภาพค้างไว้ ลากเสน้ ลอ้ มรอบรูปภาพ แล้วปล่อยเมาส์จะปรากฎ

เส้นประวงิ่ บรเิ วณทเ่ี ลอื ก

รูปท่ี 5.4 แสดงการเลือกพื้นทภี่ าพแบบอสิ ระ ด้วย Lasso Tool

4. กำหนดความฟุ้งเบลอขอบพื้นที่ท่ีเลือก เช่น 20 px
5. แล้วคลิกเมาส์ทีข่ อบรปู ภาพคา้ งไว้ ลากเสน้ ล้อมรอบรูปภาพ แลว้ ปลอ่ ยเมาสจ์ ะปรากฎเสน้ ประ
6. เล่อื นรปู ภาพท่ีเลอื ก ไปวางตำแหนง่ ใหม่ สงั เกต รปู ภาพทเี่ ลือกขอบจะฟ้งุ เบลอ

เลอื กพนื้ ที่หลายเหลีย่ มดว้ ย Polygonal Lasso Tool
เปน็ การเลอื กแบบขอบเสน้ ตรง ทำให้พื้นทท่ี ่เี ลือกเกิดเป็นลกั ษณะของรปู หลายเหล่ียม มวี ธิ ี

การใชง้ านคลา้ ย ๆ กับ Lasso Tool
1. คลิกปุ่ม 3 คา้ งไว้ จะปรากฎรูปแบบ
2. คลกิ แบบ
3. คลกิ เมาส์เสน้ ขอบของรปู ภาพ ลากไปตามรปู ภาพ คลิกเป็นชว่ ง ๆ ตามรปู ภาพ

4. ปลอ่ ยเมาส์ จะปรากฎเสน้ ประวิ่ง ล้อมรอบรปู ภาพที่เลอื ก

รูปที่ 5.5 แสดงการเลอื กพนื้ ทภ่ี าพแบบหลายเหลีย่ ม ดว้ ย Polygonal Lasso Tool
เลอื กพน้ื ท่อี ิสระดว้ ย Magnetic Lasso Tool

เปน็ เครอื่ งมือทท่ี ำให้สามารถเลอื กพ้ืนที่อยา่ งอิสระได้อยา่ งรวดเร็ว เหมาะกับงานทีใ่ ชข้ อบ
เส้นสีซบั ซอ้ น Magnetic Lasso Tool จะให้ความแตกตา่ งระหวา่ งสีเส้นทเี่ ลือกกบั สขี อง Background
เป็นตัวกำหนดขอบเขตการเลือก เปรียบเหมอื นกบั แม่เหลก็ ท่ีดดู เขา้ หาสี
1. คลิกป่มุ 3 คา้ งไว้ จะปรากฎรปู แบบ
2. คลกิ แบบ
3. คลิกเมาสท์ ีเ่ ส้นขอบรปู ภาพ เลื่อนไปตามเสน้ ขอบของรูปภาพ คลกิ ตำแหน่งใดจะปรากฎจดุ Handle
ลอ้ มรอบ เมื่อล้อมรอบเส้นจนบรรจบกันแล้ว ใหด้ ับเบิ้ลคลิก
4. จะปรากฎเสน้ ประว่ิงลอ้ มรอบรูปภาพ ตามบรเิ วณพ้ืนท่ที เี่ ลือกตามตอ้ งการ

Tool Options bar ของ Magnetic Lasso Options

Feather: ความฟุ้งเบลอขอบสงู สดุ 250
Width: ความกวา้ งของการเดินเสน้ สูงสดุ 40
Frequency: ความถ่ตี ัวเลขมากจะไมล่ ะเอียด สงู สุด 100
Edge Contrast: ความหยาบขอบเขตทเ่ี สน้ เดนิ ตามภาพสงู สดุ 100%

การใช้ Magic Wand Tool
คำสั่ง Magic Wand Tool เป็นการเลือก Selection โดยอาศยั ค่าสี โปรแกรมจะเลือกเฉพาะสี

ท่มี ีความคลา้ ยกบั ตำแหน่งท่ีคลิกเมาส์ มาก ๆ เทา่ น้นั ทำให้ไมต่ อ้ งลากเสน้ ขอบของพืน้ ท่ีท่ีต้องการ
เลอื กเหมอื นอยา่ งท่ีผ่านมา ใน Magic Wand สามารถเลือกพื้นท่ีที่ตอ้ งการได้โดยการคลิกเมาสเ์ ท่าน้นั

จุดประสงคโ์ ดยทวั่ ไปของการใช้ Magic Wand Tool คอื การใช้เลอื กบริเวณท่มี ีสใี กล้เคยี งกัน
1. คลิกปุม่

2. คลกิ เมาส์ทรี่ ูปภาพบรเิ วณทตี่ อ้ งการเลือก จะปรากฎเสน้ ประล้อมรอบ
3. กำหนดคา่ ตา่ ง ๆ ใน Magic Wand Options bar

Tolerance: ใสค่ า่ ได้ตัง้ แต่ 0-255 พิกเซล
Anti-aliased คลกิ เครอ่ื งหมาย ให้ขอบพนื้ ท่ีทเี่ ลอื กเรยี บ ไม่ขรขุ ระ
Contiguous เลอื กบรเิ วณสีที่ใกลเ้ คยี งกนั ได้เฉพาะกล่มุ พิกเซลท่ไี ด้คลกิ เมาส์เลือกเท่านั้น
Use All Layers คลิกเคร่อื งหมาย หมายถึงมองทกุ เลเยอร์เปน็ เลเยอรเ์ ดยี วกนั
4. กำหนดคา่ Tolerance = 80
5. คลิกปุ่ม
6. คลกิ ทรี่ ูปภาพ จะปรากฎเสน้ ประลอ้ มรอบเฉพาะ

สว่ นทต่ี อ้ งการเลอื ก

การจัดการกับพน้ื ที่ท่ีเลือก
สามารถเปลีย่ นจากพ้ืนทไี่ มถ่ กู เลอื กในภาพเป็นพื้นทที่ ถี่ กู เลือก และพ้นื ทท่ี ี่ถูกเลอื กกลาย

เป็นพน้ื ทท่ี ่ีไม่ถกู เลือกไดโ้ ดยการเลอื กจากเมนู Select --> Inverse
1. คลกิ เลอื กพน้ื หลังรูปภาพใหม้ ีเสน้ ประลอ้ มรอบท้งั กรอบและรูปภาพ
2. คลิกเมนู Select --> Inverse

3. จะปรากฎพื้นที่เลือกใหม่เฉพาะรปู ภาพ

ตีกรอบพื้นท่ที ี่เลอื ก Stroke รปู ท่ี 5.6 แสดงการตีกรอบพ้นื ที่ท่เี ลอื กด้วย Stroke
1. คลกิ เมนู Edit --> Stroke
2. ปรากฎหน้าตา่ ง

Stroke
3. กำหนดขนาด สี

และตำแหน่งเส้นขอบ
4. คลกิ ปุม่ OK

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

กจิ กรรมครู กจิ กรรมผเู้ รยี น

46. ตรวจสอบเช็ครายชือ่ นักเรียนทเี่ ขา้ เรียน 41. เช็ครายชือ่ นักเรยี นท่ีเข้าเรียน

47. แนะนำตัวครูผสู้ อน ผู้เรยี น ชื่อวชิ า รหสั วชิ า 42. ฟังคำแนะนำตัวครผู ู้สอน ผเู้ รียน ชื่อวชิ า

จดุ ประสงค์ของรายวิชา คำอธิบายรายวชิ า รหัสวิชา

เกณฑก์ ารประเมนิ ผลทฤษฎี/ปฏบิ ัติ จดุ ประสงค์ของรายวิชา คำอธิบายรายวิชา

48. ครู-นกั เรยี น รว่ มกันสนทนาเกย่ี วกับการ เกณฑก์ ารประเมินผลทฤษฎี/ปฏิบัติ

ประมวลผลขอ้ มลู และสารสนเทศ 43. ครู-นักเรียน ร่วมกนั สนทนาเกยี่ วกบั การ

49. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ประมวลผลข้อมลู และสารสนเทศ

จำนวน 10 ข้อ 44. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน

50. นำเขา้ สู่บทเรยี นเกย่ี วกบั การประมวลผลขอ้ มลู จำนวน 10 ข้อ

และสารสนเทศ ประกอบการฉายแผน่ ใส 45. ฟงั การบรรยายความหมายของขอ้ มลู และ

51. อธิบายความหมายของข้อมลู และสารสนเทศ สารสนเทศ บอกแหล่งขอ้ มูลและความแตกตา่ ง

บอกแหล่งข้อมูลและความแตกต่างของขอ้ มลู ของข้อมลู และสารสนเทศ ขั้นตอนการ

และสารสนเทศ ข้นั ตอนการประมวลผลข้อมูล ประมวลผลขอ้ มูล ประเภทของการ

ประเภทของการประมวลผลขอ้ มูล และการนำ ประมวลผล

คอมพิวเตอรม์ าใช้งานในการประมวลผลข้อมลู ขอ้ มลู และการนำ คอมพิวเตอรม์ าใชง้ านใน

โดยใชแ้ ผน่ ใส ตอบคำถาม / ซักถามปญั หา การ

52. ถามเก่ยี วกับความหมายและความแตกตา่ ง ประมวลผลขอ้ มลู โดยใชแ้ ผน่ ใส ตอบคำถาม /

ของขอ้ มูลและสารสนเทศ สาเหตุการนำ ซักถามปัญหา

คอมพวิ เตอรม์ าใช้งานในการประมวลผลขอ้ มลู 46. ตอบคำถามเก่ียวกบั ความหมายและความ

53. ดแู ลควบคุมการจดั แบง่ กลมุ่ แตกตา่ ง

54. แจกใบงาน/ใหค้ ำแนะนำในการจดั กิจกรรม ของข้อมลู และสารสนเทศ สาเหตุการนำ

กลมุ่ คอมพวิ เตอรม์ าใช้งานในการประมวลผลข้อมลู

10. สรุป ตอบขอ้ สงสยั ค้นควา้ เพิ่มเติม 47. แบ่งกลมุ่

11. มอบหมายงานใหน้ กั เรียนไปศึกษาในหนว่ ยท่ี 48. รับใบงาน/ให้คำแนะนำในการจดั กจิ กรรมกล่มุ

2 เร่อื ง ส่วนประกอบของคอมพวิ เตอร์ 10. สรปุ ตอบข้อสงสัย ค้นควา้ เพิ่มเติม

12. ประเมินผลการเรยี นของนกั ศกึ ษาในหนว่ ยที่ 4 11. รับมอบงานให้นักเรียนไปศกึ ษาในหน่วยที่

จากแบบทดสอบและใบประเมิน 2 เรอ่ื ง ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์

13. ครูบันทึกข้อมลู กิจกรรมการเรยี นหลังการสอน 12. ประเมนิ ผลการเรยี นของนกั ศกึ ษาในหนว่ ยที่ 4

จากแบบทดสอบและใบประเมนิ

13. ครบู นั ทกึ ขอ้ มูลกิจกรรมการเรยี นหลังการสอน

6. สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้

. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. แบบทดสอบหลังเรียน
3. ใบความรูแ้ ละใบงาน
4. เครอ่ื งไมโครคอมพวิ เตอร์
5. ซีดีส่อื การสอน
6. หนังสอื เรียนวชิ าคอมพิวเตอรก์ ราฟิกเบื้องตน้ ของ อาจารย์วราภรณ์ อุ้มองั วะ : ศนู ย์สง่ เสริมอาชีวะ,
2547.
7. แบบการประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์

7. งานที่มอบหมาย

1. ทำแบบทดสอบหลังเรียนจำนวน 10 ขอ้ (Pre - Test)
2. เฉลยและตรวจสอบแบบทดสอบ
3. เปรียบเทียบผลการทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน
4. นักเรยี นทำความสะอาดห้อง จดั โต๊ะ เกา้ อี้ ใหเ้ รยี บรอ้ ย
5. มอบหมายงานใหน้ ักเรียนไปศกึ ษาในหนว่ ยท่ี 2 ในสปั ดาห์ต่อไป

8. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

8.1 เครอื่ งมือประเมนิ
1. สง่ิ ทจ่ี ะวัด
1.1 วดั ความรคู้ วามเข้าใจจดุ ประสงค์การเรียนรู้
1.2 วัดพฤตกิ รรมการเรยี น
1.3 สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี น
2. วิธีการวดั
2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน
2.2 ตรวจงานที่มอบหมาย
2.3 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี น
3. เครื่องมอื วดั
3.1 แบบทดสอบ
3.2 กจิ กรรมที่มอบหมาย
3.3 แบบสงั เกตพฤติกรรม

8.2 เกณฑก์ ารประเมิน
4.1 เกณฑก์ ารวัด

4.1.1 ใหข้ อ้ ถกู ขอ้ ละ 1 คะแนน ข้อผดิ 0 คะแนน
4.1.2 ให้คะแนนพฤติกรรมการเรียน

5 หมายถึง ดีมาก
4 หมายถงึ ดี
3 หมายถงึ ปานกลาง
2-1 หมายถงึ ตอ้ งปรบั ปรงุ
4.2 เกณฑ์การประเมนิ
4.2.1 นกั เรียนไดค้ ะแนนจากการทำแบบทดสอบ ไมต่ ำ่ กว่ารอ้ ยละ 70
4.1.2 นกั เรียนไดค้ ะแนนจากกจิ กรรมการเรยี น ไมต่ ำ่ กวา่ รอ้ ยละ 80
4.1.3 นกั เรยี นไดค้ ะแนนพฤตกิ รรมการเรยี น ไมต่ ำ่ กวา่ รอ้ ยละ 60

9. เอกสารอ้างองิ

....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

10. บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้

10.1 สรปุ ผลการจัดการเรยี นรู้

รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จัดหนว่ ยการเรยี นรู้ไดส้ อดคล้องกบั วัตถุประสงค์การเรียนรู้

2. กำหนดเกณฑก์ ารประเมินครอบคลมุ ท้ังดา้ นความรู้ ด้านทักษะ และดา้ นจติ พสิ ยั

3. เตรยี มวัสดุ-อุปกรณ์ ส่อื นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจดั การเรยี นรู้กอ่ นเขา้ สอน

ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

4. มีวิธกี ารนำเข้าส่บู ทเรียนทีน่ า่ สนใจ

5. มกี จิ กรรมทห่ี ลากหลาย เพอื่ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ

6. จดั กิจกรรมท่ีส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนค้นควา้ เพื่อหาคำตอบด้วยตนเอง

7. นกั เรียนมีส่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

8. จดั กิจกรรมทเี่ นน้ กระบวนการคดิ ( คดิ วิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ )

9. กระตนุ้ ให้ผู้เรยี นแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี

10. จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่เี ชือ่ มโยงกับชวี ิตจรงิ โดยนำภูมิปัญญา/บรู ณาการเขา้ มามสี ว่ นรว่ ม

11. จดั กิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นกั เรียนปฏิบตั ิ หรือตอบถูกตอ้ ง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศกั ยภาพของผู้เรยี น

14. เอาใจใสด่ ูแลผูเ้ รียน อย่างทวั่ ถึง

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกบั เวลาท่ีกำหนด

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหลง่ การเรยี นรู้

16. ใช้สื่อทเี่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศกั ยภาพของผูเ้ รียน

17. ใชส้ ือ่ แหลง่ การเรียนรูอ้ ยา่ งหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานที่ ของจริง เอกสาร

ส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ และอินเทอรเ์ น็ต เปน็ ตน้

ดา้ นการวดั และประเมินผล

18. ผเู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการกำหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมนิ ผลอย่างหลากหลายและครบทง้ั ดา้ นความรู้ ทักษะ และจติ พสิ ยั

20. ครู ผู้เรยี น ผปู้ กครอง หรอื ผทู้ เี่ กีย่ วขอ้ งมสี ว่ นร่วม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบัติ 5 = ปฏิบตั ิดีเย่ยี ม 4 = ปฏบิ ัติดี 3 = ปฏิบตั พิ อใช้ รวม
2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ไม่มกี ารปฏบิ ตั ิ คา่ เฉลี่ย

10.2 ปัญหาท่ีพบ และแนวทางแกป้ ัญหา แนวทางแก้ปญั หา
ปญั หาที่พบ
…………………………………………………….
ดา้ นการเตรยี มการสอน ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ด้านส่อื นวตั กรรม แหลง่ การเรียนรู้ ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ดา้ นการวัดและประเมินผล ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ดา้ นอน่ื ๆ (โปรดระบเุ ปน็ ขอ้ ๆ) ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
……………………………………………………..

ลงช่ือ ........................................................................ ครผู ้สู อน
(..........นายกันตภณ พมุ่ จนั ทร์..........)

ตำแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................

แผนการจดั การเรียนรู้

รหัสวิชา .......... 20901-1004....... วชิ า .........คอมพิวเตอรก์ ราฟิกเบือ้ งตน้ ... แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ .......7......
หนว่ ยท่ี .......4....... ช่อื หน่วย .............การเลอื กพ้นื ท่ีเพื่อแกไ้ ขและตกแต่งภาพ....................................................
ช่อื เร่อื ง........การเลอื กพน้ื ท่เี พ่ือแกไ้ ขและตกแต่งภาพ.................................................... จำนวน ....3......ชั่วโมง

1. สาระสำคญั

ศกึ ษาและปฏิบตั เิ กี่ยวกับ ความหมายของการ Selection การใช้เครื่องมอื Selection เลือกภาพการตดั
ภาพ การยอ่ -ขยายภาพ การหมนุ ภาพ และ การบดิ ภาพ

2. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรียนรู้

1. สามารถตดั ภาพบางส่วนได้ด้วยวิธกี ารตา่ ง ๆ
2. สามารถปฏบิ ตั ถิ งึ การยอ่ -ขยายและบดิ ภาพได้ ในแต่ละคำสงั่ ของเครอื่ งมือตา่ ง ๆ

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 จุดประสงค์ทว่ั ไป
เพือ่ ให้ผเู้ รยี นเข้าใจเก่ียวกบั ศึกษาและปฏิบตั เิ กี่ยวกบั ความหมายของการ Selection การใชเ้ ครอ่ื งมือ
Selection เลือกภาพการตัดภาพ การยอ่ -ขยายภาพ การหมุนภาพ และ การบิดภาพ

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. สามารถตดั ภาพบางส่วนได้
2. อธบิ ายการยอ่ -ขยาย หมุนภาพ และบดิ ภาพได้
3. สามารถตดั ภาพบางสว่ นได้ด้วยวิธกี ารต่าง ๆ
4. สามารถปฏบิ ตั ถิ ึงการยอ่ -ขยายและบิดภาพได้ ในแต่ละคำสั่งของเครื่องมอื ต่าง ๆ
5. ผเู้ รียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรมทพี่ งึ ประสงค์ คอื ความมมี นุษย์สมั พันธ์ ความมีวนิ ัย
ความรับผดิ ชอบ ความประหยดั ความสนใจใฝร่ ู้ ความรักสามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

4. สาระการเรียนรู้

เน้อื หา

1. การตดั ภาพบางสว่ นดว้ ย Crop Tool

1. เปดิ รูปภาพบนจอภาพ

2. คลิกปมุ่ 5
3. ลากเสน้ ประบนรูปภาพเฉพาะสว่ นทต่ี อ้ งการเลือก

จะปรากฎจดุ Handle
4. กด Enter จะได้รปู ภาพเฉพาะส่วนทเี่ ลอื กไว้

5. กำหนดคา่ ตา่ ง ๆ ใน Tool Options bar กำหนดค่าความกวา้ ง ความสงู และความละเอียด

6. ลากเส้นประบนรปู ภาพเฉพาะสว่ นทตี่ อ้ งการ
7. จะปรากฎจดุ Handle บริเวณทเี่ ลือก
8. กำหนดคา่ ตวั เลือกของการตัดภาพใน

Tool Options bar

Cropped Area: เลือกผลลพั ธข์ องภาพท่ีตดั
Delete: ตดั เอาภาพท่เี ลอื กพ้นื ทีไ่ ว้ โดยลบส่วนทไ่ี มต่ อ้ งการทิง้ ไว้
Hide: ตัดภาพที่เลือกพนื้ ที่ไว้ ซอ่ นสว่ นท่ีไม่ต้องการไว้ เพอ่ื เล่ือนเปล่ยี นภาพในตำแหน่งอน่ื แทนได้
Shield Color: เลือกเตมิ สีลงบริเวณภายนอกพนื้ ทีภ่ าพทจ่ี ะตดั ภาพ
Opacity: คา่ ความโปรง่ แสงของสที จี่ ะเตมิ ลงในบรเิ วณภายนอกพ้นื ทภ่ี าพทจ่ี ะตดั

Perspective: ปรบั พนื้ ทก่ี ารตดั ให้ไดภ้ าพทม่ี ีมิติ
4 การย่อ-ขยาย หมุนภาพ และบิดภาพ

การย่อ-ขยายภาพด้วยคำสงั่ Free Transform
1. เปิดรูปภาพ Ducky.tif บนจอภาพ

2. คลกิ เมนู Select --> All จะปรากฎเส้นประวิง่ ล้อมรอบภาพทง้ั หมด
3. คลกิ เมนู Edit --> Free Transform หรอื กดแปน้ Ctrl + T
4. ปรากฎเส้นประวงิ่ มีจดุ Handle สี่เหลยี่ มโปรง่
5. เลอื่ นเมาส์วางจดุ Handle ดา้ นลา่ งขวา ให้มลี กู ศร 2 หวั
6. คลกิ คา้ งไว้ลากทแยงขึน้ ด้านซ้าย จะยอ่ ขนาดรปู ภาพ

7. ปรบั รูปภาพตำแหน่งตา่ ง ๆ ทตี่ อ้ งการ เช่น
ตวั ช้ีเมาสเ์ ปลี่ยนเป็นรปู คลกิ เมาสแ์ ละลากหมนุ ปรบั พ้ืนทท่ี ่เี ลือก

8. กดแปน้ Enter เพอ่ื ยกเลกิ การใช้ Free Transform

การปรับเปลย่ี นพ้นื ทเี่ ลือกด้วย Transform ในรปู แบบตา่ ง ๆ
สามารถปรับพ้นื ทที่ ี่เลอื กในรูปแบบต่าง ๆ ดว้ ยวธิ กี าร ดงั น้ี คอื

1. คลิกเมนู Edit --> Transform--> ...ปรากฎรปู แบบตา่ ง ๆ โดยแตล่ ะรปู แบบมีรายละเอยี ด ดังนี้

- Again กลับสรู่ ปู แบบเดมิ ก่อนหน้านี้ 1 ข้นั

- Scale ขยายแบบ Scale ตามแนวตั้ง แนวนอน และแนวทแยง

- Rotate หมนุ พ้นื ทที่ ี่เลอื ก

- Skew บดิ เกลียวพื้นท่ีเลอื ก

- Distort การบิดเบ้ือนใหภ้ าพเพยี้ นจากความจรงิ

- Perspective ปรบั รูปแบบของภาพ /ตัวอักษร แบบมมี ติ ิ แบบมีความกวา้ ง มคี วามยาว และ
มคี วามลกึ

- Rotate 1800 หมนุ 180 องศา

- Rotate 900 CW หมนุ 90 องศา ตามเข็มนาฬกิ า

- Rotate 1800 CCW หมนุ 180 องศา ทวนเข็มนาฬกิ า

- Flip Horizontal กลับจากซา้ ยเปน็ ขวา จากขวา เปน็ ซา้ ย

- Flip Vertical กลบั จากบนเปน็ ลา่ ง จากลา่ งเป็นบน

2. เปดิ รปู ภาพบนหน้าจอภาพ
3. คลิกปมุ่ 1 เลอื กรปู ภาพเฉพาะสว่ นทต่ี อ้ งการเลือกใหม้ ีเสน้ ประ
4. คลกิ เมนู Edit --> Transform --> Scale จะปรากฎ Scale
ปรบั ขยายตามแนวต้งั แนวนอน และ แนวทแยง

5. คลิกเมนู Edit --> Transform --> Rotate หมุนพ้นื ท่เี ลอื ก

6. คลิกเมนู Edit --> Transform --> Skew
บิดเกลียวพ้นื ท่ีเลอื ก

7. คลิกเมนู Edit --> Transform --> Distort
การบดิ เบือนพ้นื ที่เลือก ทำให้ผิดเพ้ียน จากความจริง

8. คลกิ เมนู Edit --> Transform --> Prespective
ปรบั รปู แบบของภาพ / ตวั อักษร แบบมีมิติ
แบบมีความกวา้ ง มีความยาว และมีความลกึ

9. คลกิ เมนู Edit --> Transform --> Rotate 1800
หมนุ 180 องศา

10. คลกิ เมนู Edit --> Transform --> Rotate 900 CW
หมุน 90 องศา ตามเขม็ นาฬกิ า

11. คลิกเมนู Edit --> Transform --> Rotate 900 CCW
หมุน 90 องศา ทวนเขม็ นาฬกิ า

12. คลิกเมนู Edit --> Transform --> Flip Horizontal
กลบั จากซ้ายเป็นขวา เหมือนส่องกระจกเงา

Tool Options bar คำส่งั Transform

เปน็ รูปแบบหน่ึงของการเลือก โดยใชส้ เี พอ่ื แยกความแตกตา่ งระหวา่ งพน้ื ที่ท่ีถูกเลือกและ
พื้นที่ที่ไม่ถกู เลือก บริเวณท่ีมสี ีแดงเปน็ เหมอื นการใส่หน้ากาก หา้ มไมใ่ หท้ ำการปรบั แต่งภาพ บริเวณ
นน้ั ใชม้ ากในกรณที ี่พนื้ ทท่ี เี่ ลอื กเปน็ พืน้ ท่ีอสิ ระ ไม่มรี ปู ทรงท่แี นน่ อน ทำใหใ้ ช้ Marquee Tool ไมไ่ ด้
สามารถใชง้ าน Quick Mask Mode ไดด้ ว้ ยวิธกี ารดังน้ี คือ
1. เลือกพ้ืนทภี่ าพทต่ี อ้ งการใหม้ ีเสน้ ประลอ้ มรอบ
2. คลิกเมนู Edit --> Cut

3. เปดิ รปู ภาพดอกไมบ้ นหนา้ จอภาพ

4. ดบั เบิ้ลคลิกปุ่ม Quick Mask Mode จะปรากฎหน้าตา่ งกำหนดรูปแบบ Quick Mask Options

5. ความหมายการกำหนดรายละเอียด Quick Mask Mode

- Color Indicates: เปน็ การกำหนดใหม้ ีการใส่สีบรเิ วณใด

- Masked Areas : เป็นการใสส่ ีบริเวณท่ีถูก Mask

- Selected Area : เป็นการใสส่ ีบริเวณที่ถูกเลอื ก เชน่ คลกิ ให้มีจดุ สดี ำ

- Color เป็นการกำหนดสที ี่ใชเ้ ป็นตวั แสดงพื้นที่ Selection เช่น เลือกสีแดง

- Opacity: เปน็ การกำหนดเปอร์เซนตค์ วามเข้มของสีที่เลอื ก เชน่ 50 %

6. คลิกปมุ่ OK

7. คลกิ ป่มุ 8 ระบายสภี ายในรปู ดอกไม้
ใหร้ อบดอกไม้

8. คลกิ กลบั มาปุ่ม Edit in Standard Mode จะปรากฎเสน้ ประลอ้ มรอบบรเิ วณท่รี ะบายสี
9. กดป่มุ Ctrl + Shift + V
10. จะปรากฎรูปภาพภายในบรเิ วณรูปดอกไม้

ให้ยอ่ ขนาดรูปภาพตามต้องการ

การใช้ Extracting แยกภาพออกจากพนื้ หลัง
เป็นเครื่องมอื Selection แบบใหม่ ที่เพิ่มเขา้ มาใน Photoshop ตั้งแตเ่ วอร์ชนั 6.0 ใชส้ ำหรับ แยกภาพ

วตั ถอุ อกจากพ้นื Background โดยเฉพาะอย่างยง่ิ วัตถทุ ่มี ีขอบไมเ่ รียบ มรี ายละเอยี ดบริเวณ ขอบมาก ไม่สามารถ
ตดั ขอบดว้ ยเครือ่ งมอื Selection ทว่ั ไปได้ ตวั อยา่ งเชน่ ภาพทเ่ี ป็นขนสัตว์ หรอื
เส้นผม เปน็ ตน้ และเม่ือทำการ Selection เสร็จส้ินแล้ว ภาพในสว่ นทีเ่ ป็นพน้ื หลงั ที่ไมต่ อ้ งการนนั้ จะ
ถกู ลบออกไปเป็นพื้นที่ที่โปร่งแสงแทน

วิธีการใช้ Extracting
1. เปิดรูปภาพ Car.jpg บนจอภาพ

2. คลกิ เมนู Filter --> Extract

3. ปรากฎหน้าตา่ ง Extract

4. กำหนด Brush Size: 15 ขนาดหัวพกู่ ันของเครือ่ งมอื

5. กำหนด Hightlight: Green เลือกสีที่ตอ้ งการแสดงเวลาลากเสน้ ลอ้ มรอบทีภ่ าพ

6. กำหนด Fill: Blue กำหนดสีท่เี ทอย่บู นภาพ เพอื่ Mask ภาพ

7. คลิกเครื่องหมาย Smart Highlighting กำหนดใหข้ อบของเส้นที่เลือกคมชัดข้นึ

8. คลิกปุ่ม Edge hightlighter ลากเมาสล์ อ้ มรอบรูปให้มเี ส้นสเี ขียว

9. คลกิ ปุม่ เทสลี งในพนื้ ท่ีภาพท่ีต้องการ Mask
10. คลกิ ปมุ่ Preview เพือ่ ดูผลลพั ธ์ของพน้ื ท่ที ี่ Selection ไว้
11. รอสกั ครู่ จะปรากฎภาพทพ่ี ้นื หลงั ถกู ลบ

12. คลกิ ปมุ่ ใชล้ บสีพน้ื หลงั ที่ติดอยกู่ บั ภาพ
13. คลกิ ป่มุ ใชต้ กแต่งขอบภาพใหด้ เู รยี บ และคมชัดขน้ึ
14. คลิกปุ่ม OK
15. จะปรากฎผลลพั ธข์ องการ Selection ภาพดว้ ยคำสั่ง Extract

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมผู้เรยี น

กิจกรรมครู

55. ตรวจสอบเช็ครายชือ่ นักเรยี นท่เี ขา้ เรยี น 49. เชค็ รายชอื่ นกั เรยี นที่เข้าเรยี น

56. แนะนำตวั ครูผ้สู อน ผเู้ รยี น ช่ือวชิ า รหสั วชิ า 50. ฟังคำแนะนำตัวครผู สู้ อน ผเู้ รยี น ชื่อวชิ า

จดุ ประสงคข์ องรายวิชา คำอธิบายรายวชิ า รหสั วชิ า

เกณฑก์ ารประเมินผลทฤษฎี/ปฏบิ ัติ จดุ ประสงค์ของรายวิชา คำอธิบายรายวิชา

57. ครู-นกั เรียน ร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกับการ เกณฑก์ ารประเมนิ ผลทฤษฎี/ปฏบิ ตั ิ

ประมวลผลข้อมูลและสารสนเทศ 51. ครู-นักเรียน ร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับการ

58. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ประมวลผลขอ้ มูลและสารสนเทศ

จำนวน 10 ข้อ 52. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

59. นำเข้าสู่บทเรยี นเก่ียวกบั การประมวลผลข้อมูล จำนวน 10 ข้อ

และสารสนเทศ ประกอบการฉายแผน่ ใส 53. ฟังการบรรยายความหมายของขอ้ มูลและ

60. อธิบายความหมายของข้อมลู และสารสนเทศ สารสนเทศ บอกแหล่งขอ้ มลู และความแตกตา่ ง

บอกแหล่งขอ้ มลู และความแตกตา่ งของข้อมลู ของข้อมลู และสารสนเทศ ขั้นตอนการ

และสารสนเทศ ข้ันตอนการประมวลผลข้อมูล ประมวลผลข้อมูล ประเภทของการ

ประเภทของการประมวลผลข้อมลู และการนำ ประมวลผล

คอมพิวเตอรม์ าใช้งานในการประมวลผลข้อมลู ข้อมูล และการนำ คอมพิวเตอรม์ าใชง้ านใน

โดยใชแ้ ผ่นใส ตอบคำถาม / ซกั ถามปัญหา การ

61. ถามเก่ียวกับความหมายและความแตกตา่ ง ประมวลผลขอ้ มูล โดยใช้แผ่นใส ตอบคำถาม /

ของข้อมลู และสารสนเทศ สาเหตกุ ารนำ ซักถามปัญหา

คอมพวิ เตอรม์ าใชง้ านในการประมวลผลข้อมลู 54. ตอบคำถามเกีย่ วกบั ความหมายและความ

62. ดูแลควบคุมการจดั แบ่งกลุ่ม แตกตา่ ง

63. แจกใบงาน/ให้คำแนะนำในการจัดกิจกรรม ของขอ้ มูลและสารสนเทศ สาเหตกุ ารนำ

กลมุ่ คอมพวิ เตอรม์ าใช้งานในการประมวลผลข้อมูล

10. สรปุ ตอบขอ้ สงสยั ค้นควา้ เพม่ิ เตมิ 55. แบ่งกลุม่

11. มอบหมายงานใหน้ กั เรียนไปศึกษาในหน่วยท่ี 56. รับใบงาน/ใหค้ ำแนะนำในการจดั กิจกรรมกลุม่

2 เรอ่ื ง ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ 10. สรุป ตอบขอ้ สงสัย คน้ ควา้ เพิม่ เติม

12. ประเมินผลการเรยี นของนักศกึ ษาในหนว่ ยท่ี 4 11. รับมอบงานใหน้ ักเรียนไปศกึ ษาในหน่วยท่ี

จากแบบทดสอบและใบประเมนิ 2 เรื่อง ส่วนประกอบของคอมพวิ เตอร์

13. ครูบนั ทึกข้อมลู กจิ กรรมการเรียนหลงั การสอน 12. ประเมินผลการเรียนของนกั ศึกษาในหน่วยท่ี 4

จากแบบทดสอบและใบประเมิน

13. ครบู นั ทกึ ขอ้ มลู กิจกรรมการเรียนหลังการสอน

6. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้

1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน
2. แบบทดสอบหลงั เรียน
3. ใบความร้แู ละใบงาน
4. เครือ่ งไมโครคอมพวิ เตอร์
5. ซดี สี ่อื การสอน
6. หนังสือเรยี นวชิ าคอมพิวเตอรก์ ราฟิกเบื้องตน้ ของ อาจารยว์ ราภรณ์ อุ้มองั วะ : ศนู ย์สง่ เสริมอาชีวะ,
2547.
7. แบบการประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์

7. งานทมี่ อบหมาย

1. ทำแบบทดสอบหลังเรยี นจำนวน 10 ขอ้ (Pre - Test)
2. เฉลยและตรวจสอบแบบทดสอบ
3. เปรยี บเทยี บผลการทดสอบก่อนเรียน-หลังเรยี น
4. นกั เรียนทำความสะอาดห้อง จดั โตะ๊ เกา้ อี้ ใหเ้ รียบร้อย
5. มอบหมายงานใหน้ ักเรียนไปศกึ ษาในหนว่ ยท่ี 2 ในสัปดาห์ต่อไป

8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

8.1 เครื่องมอื ประเมิน
1. สง่ิ ทจี่ ะวัด
1.1 วดั ความรคู้ วามเข้าใจจุดประสงค์การเรียนรู้
1.2 วดั พฤตกิ รรมการเรยี น
1.3 สังเกตพฤติกรรมการเรยี น
2. วธิ กี ารวดั
2.1 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หลังเรียน
2.2 ตรวจงานทีม่ อบหมาย
2.3 สงั เกตพฤติกรรมการเรียน
3. เครื่องมือวดั
3.1 แบบทดสอบ
3.2 กจิ กรรมทม่ี อบหมาย
3.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

8.2 เกณฑ์การประเมิน
4.1 เกณฑก์ ารวัด

4.1.1 ใหข้ ้อถกู ขอ้ ละ 1 คะแนน ขอ้ ผดิ 0 คะแนน
4.1.2 ใหค้ ะแนนพฤติกรรมการเรยี น

5 หมายถงึ ดมี าก
4 หมายถึง ดี
3 หมายถงึ ปานกลาง
2-1 หมายถงึ ตอ้ งปรับปรงุ
4.2 เกณฑก์ ารประเมิน
4.2.1 นกั เรยี นไดค้ ะแนนจากการทำแบบทดสอบ ไมต่ ำ่ กวา่ รอ้ ยละ 70
4.1.2 นักเรยี นไดค้ ะแนนจากกิจกรรมการเรียน ไมต่ ำ่ กวา่ ร้อยละ 80
4.1.3 นกั เรียนไดค้ ะแนนพฤตกิ รรมการเรยี น ไมต่ ำ่ กว่าร้อยละ 60

9. เอกสารอ้างอิง

....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

10. บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้

10.1 สรปุ ผลการจัดการเรยี นรู้

รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จัดหนว่ ยการเรียนรู้ไดส้ อดคล้องกบั วัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้

2. กำหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลมุ ท้ังดา้ นความรู้ ด้านทักษะ และดา้ นจติ พสิ ยั

3. เตรยี มวัสดุ-อปุ กรณ์ ส่อื นวัตกรรม กิจกรรมตามแผนการจดั การเรยี นรกู้ อ่ นเขา้ สอน

ด้านการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

4. มีวิธกี ารนำเขา้ ส่บู ทเรียนท่นี า่ สนใจ

5. มกี จิ กรรมทห่ี ลากหลาย เพอ่ื ช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ ความเข้าใจ

6. จดั กิจกรรมท่ีส่งเสริมให้ผเู้ รยี นค้นควา้ เพื่อหาคำตอบด้วยตนเอง

7. นกั เรยี นมีส่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

8. จดั กิจกรรมทเี่ นน้ กระบวนการคดิ ( คดิ วเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ )

9. กระตนุ้ ให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี

10. จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่เี ชือ่ มโยงกับชวี ติ จรงิ โดยนำภูมิปัญญา/บรู ณาการเขา้ มามสี ว่ นรว่ ม

11. จดั กิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นกั เรียนปฏิบัติ หรือตอบถกู ตอ้ ง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศกั ยภาพของผู้เรยี น

14. เอาใจใสด่ ูแลผู้เรียน อย่างทัว่ ถึง

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาที่กำหนด

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหลง่ การเรยี นรู้

16. ใช้สื่อทเี่ หมาะสมกับกิจกรรมและศกั ยภาพของผูเ้ รียน

17. ใชส้ ือ่ แหลง่ การเรียนรอู้ ย่างหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

สอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์ และอินเทอรเ์ นต็ เปน็ ต้น

ดา้ นการวดั และประเมินผล

18. ผเู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการกำหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมนิ ผลอย่างหลากหลายและครบทง้ั ดา้ นความรู้ ทักษะ และจติ พิสยั

20. ครู ผ้เู รยี น ผปู้ กครอง หรอื ผทู้ เี่ กี่ยวขอ้ งมสี ว่ นร่วม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ัติ 5 = ปฏิบตั ิดีเย่ยี ม 4 = ปฏบิ ัติดี 3 = ปฏิบตั พิ อใช้ รวม
2 = ควรปรบั ปรุง 1 = ไม่มกี ารปฏบิ ตั ิ คา่ เฉลี่ย

10.2 ปญั หาทพี่ บ และแนวทางแกป้ ัญหา แนวทางแกป้ ัญหา
ปัญหาที่พบ
…………………………………………………….
ด้านการเตรยี มการสอน ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ด้านสอื่ นวัตกรรม แหลง่ การเรยี นรู้ ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ด้านการวัดและประเมินผล ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
ดา้ นอน่ื ๆ (โปรดระบุเปน็ ข้อๆ) ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
……………………………………………………..
……………………………………………………..

ลงช่อื ........................................................................ ครูผสู้ อน
(..........นายกันตภณ พุ่มจันทร์..........)

ตำแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................

แผนการจัดการเรียนรู้

รหัสวชิ า .......... 20901-1004....... วชิ า .คอมพวิ เตอรก์ ราฟิกเบื้องตน้ ............ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี .......8......
หน่วยที่ .......5....... ชอ่ื หนว่ ย .............ความรเู้ รอื่ งสี.............................................................................................
ชือ่ เรื่อง........ความรู้เรือ่ งสี............................................................................................. จำนวน ....3......ชวั่ โมง

1. สาระสำคัญ

ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับความหมายของสี Model รูปแบบการมองเห็นสี การ
เปล่ยี นโหมด และโหมดสีแบบต่าง ๆปฏบิ ัตกิ ารวนิ โดวส์

2. สมรรถนะประจำหน่วยการเรียนรู้

1. ทำการเปลีย่ นโหมดสีจากความรทู้ ่ีไดร้ บั มาได้ในแต่ละวธิ ี
2. ทำการเปลี่ยนโหมดภาพ จาก Mode หนงึ่ ไปยังอีก Mode หนึง่ ได้

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 จดุ ประสงค์ท่วั ไป
เพ่ือให้ผูเ้ รียนเขา้ ใจเกีย่ วกบั ความหมายของสี Model รูปแบบการมองเหน็ สี การเปล่ียนโหมด
และโหมดสีแบบต่าง ๆปฏบิ ัตกิ ารวนิ โดวส์

3.2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม
1. มีความรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั ความหมายของสี
2. บอก Model รูปแบบการมองเหน็ สีทวั่ ไปได้
3. สามารถเปล่ียนโหมดสีได้
4. อธบิ ายโหมดสแี บบตา่ ง ๆ ได้
5. ทำการเปลยี่ นโหมดสีจากความรทู้ ่ีไดร้ บั มาได้ในแต่ละวธิ ี
6. ทำการเปลย่ี นโหมดภาพ จาก Mode หน่ึงไปยังอีก Mode หน่งึ ได้
7. ผูเ้ รยี นมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมทพ่ี งึ ประสงค์ คอื ความมีมนุษย์สมั พันธ์ ความมวี ินัย
ความรับผิดชอบ ความประหยัด ความสนใจใฝร่ ู้ ความรักสามัคคี ความกตญั ญกู ตเวที

4. สาระการเรยี นรู้ เนอื้ หา

1 ความหมายของสี (Colour)

สี (Colour) มีมากมายหลายสี จนบางคร้งั จำแทบไมไ่ หว หากจะใหค้ ำจำกดั ความคำว่า “สี”ในหลกั การ
ทางวทิ ยาศาสตร์ สี คอื แสงท่สี อ่ งมากระทบวตั ถแุ ละสะท้อนกลบั มาทีต่ าเรา ที่ไหนมแี สงทน่ี ั่นกจ็ ะมองเห็นสี
ฉะน้นั อาจกลา่ วไดว้ ่าสอี ยูร่ ายรอบตวั เราเทา่ ๆ กบั อากาศท่ีหายใจ เพราะไมว่ ่าจะมองไปทางใด ทกุ อย่างมสี สี ัน
และในโทนสีเดียวกนั เองกย็ ังมคี วามแตกต่างกนั อย่างนบั ไม่ถว้ น

ยกตวั อยา่ งเชน่ สเี ขยี วของใบไม้แตกตา่ งกับสีเขียวของตน้ หญ้าอยา่ งส้นิ เชงิ อยา่ วา่ แต่ตน้ ไม้

ตา่ งชนิดกันเลย ในตน้ ไมต้ ้นเดยี วกนั กม็ ีสีเขียวทแ่ี ตกต่างกันอยู่แลว้

เชน่ เดียวกบั จติ รกรที่ต้องการวาดภาพ ถา้ จะวาดให้ได้ดีต้องมีความรใู้ นเรอ่ื งการผสมสี การ

สรา้ งภาพใน Photoshop ก็เช่นกัน ความรเู้ ร่ืองสจี งึ เป็นส่ิงสำคญั อย่างยิ่งสำหรบั คนทีต่ อ้ งการตกแตง่

ภาพใน Photoshop ในบทนีจ้ ะกลา่ วถงึ ความร้เู รอื่ งสี ซง่ึ จะออกไปทางทฤษฎสี กั หนอ่ ย เพ่อื ใชอ้ า้ งอิง

ในบทอื่น ๆ

Model รปู แบบการมองเหน็ สที ่วั ไป

โดยทัว่ ไปแลว้ สีตา่ ง ๆ ทถี่ ูกสรา้ งขึน้ จะมีรูปแบบการมองเห็นสมี คี วามแตกต่างกนั ซ่งึ การมองเห็นนี้เรียกว่า
Model ซง่ึ มหี ลายแบบคอื

1. HSB Model หลกั การมองเหน็ สดี ว้ ยสายตามนุษย์ เป็นพน้ื ฐานการมองเห็นสตี ามสายตามนุษย์

ประกอบดว้ ยลกั ษณะสี 3 ลักษณะ คอื

1.1 Hue เปน็ สที สี่ ะทอ้ นมาจากสขี องวตั ถุ ซง่ึ แตกตา่ งกันตามความยาวของคลนื่ แสงท่ีมา

กระทบวตั ถุและสะท้อนกลบั มาที่ตา Hue ถกู วดั โดยตำแหนง่ บน Standard Color Wheel ซง่ึ ถกู แทน ด้วย
องศา คอื 0 - 300 องศา แตโ่ ดยทว่ั ไปมักจะเปน็ การเรียกสนี ้นั เลย เชน่ สีแดง สมี ว่ ง สีเหลือง

1.2 Saturation เปน็ เรอ่ื งของความเข้มข้นและความจางของสี Saturation คอื สัดสว่ นของสี

Hue ทม่ี ีอยใู่ นสีเทา วดั คา่ เปน็ เปอร์เซ็นต์ คอื จาก 0 % สีเทา ถงึ 100% (Fully Saturation สีทคี่ วามอม่ิ ตวั

เตม็ ท่ี) ถา้ ถกู วัดโดยตำแหน่งบน Standard Color Wheel คา่ Saturation เพิม่ ขนึ้ จากจดุ กึ่งกลางถึง เสน้ ขอบ

- A แทนคา่ ของ Saturation เรม่ิ ตงั้ แต่

0% ทจ่ี ุดกึง่ กลางไล่ไปเร่อื ย ๆ จนถงึ 100% ทข่ี อบ

- ตำแหน่งนี้ ค่า Hue=45 องศา Saturation = 42%

- B แทนค่า Hue เรม่ิ 0 องศา
ไล่ไปเรอื่ ยจนถึง 360องศา

1. 3. Brightness เรอื่ งของความสวา่ งและความมืดของสี ซงึ่ กำหนดคา่ เป็น % จาก 0% สดี ำถงึ 100%สขี าว

C แทนคา่ ของ Brightness เรมิ่ ตัง้ แต่ 0% ไลไ่ ปเร่อื ย จนถงึ 100 %
D แทนค่าสที ้ังหมดที่เกิดขึ้น หลังจากท่ี Hue+Saturation
2. RGB Model หลักการมองเห็นสีของเคร่อื งคอมพิวเตอร์

RGB Model เกดิ จากการรวมกนั ของ Spectum ของสแี ดง เขียวและนำ้ เงิน ในสดั สว่ นความ
เข้มข้นทีแ่ ตกตา่ งกนั จดุ ที่แสงทั้งสามสีรวมกัน คอื สีขาว บางครงั้ ตาจึงเรียกสที ี่มองเห็นใน RGB Modelวา่ เปน็

Active Color ลกั ษณะการรวมกันเช่นน้ี ถกู ใช้สำหรบั การส่องแสงทง้ั บนจอภาพทวี ีและจอของคอมพิวเตอร์
ซง่ึ สรา้ งจากสารทใ่ี หก้ ำเนดิ แสงสีแดง สีเขยี วและน้ำเงิน

เมอ่ื ผสมแสงท้งั 3 ในสดั สว่ นท่ี
แตกต่างกันจะไดภ้ าพทป่ี รากฎบนจอ

บริเวณท่ีไม่มแี สง คอื สดี ำ

3. CMYK Model หลักการมองเห็นสีของเครอ่ื งพมิ พ์
โมเดลนีม้ ีแหลง่ กำเนิดสอี ยู่ที่การซมึ ซับ (Absorb) ของหมึกบนกระดาษ โดยมีสีพนื้ ฐานคอื สี

Cyan Magenta และเหลอื ง สีท้งั สามสขี า้ งต้นรวมกันเป็นสดี ำ บางครั้งจึงเรียกสที ม่ี องเห็นใน CMYK
Model วา่ เป็น Subtractive Color แตก่ ็ไมส่ ามารถผสมรวมกนั ใหไ้ ด้สีบางสี เชน่ สีน้ำตาล จงึ ต้องมกี าร
เพ่ิมสีดำ ลงไปเม่อื รวมกนั 4 สี คอื CMYK สีท่ไี ดจ้ ากการพิมพจ์ งึ ครอบคลมุ ทกุ สี

4.Lab Model เปน็ ค่าสที ถี่ กู กำหนดข้ึนโดย CIE (Commission Internationaled Eclairage)
ให้เปน็ มาตรฐานการวดั สีทุกรปู แบบ ครอบคลุมทุกสีใน RGB และ CMYK และใช้ไดก้ บั สที ่ี

สที ีเ่ กิดจากอุปกรณ์ ทกุ อยา่ ง ไม่วา่ จะเปน็ จอคอมพวิ เตอร์ เครอ่ื งพมิ พ์ เครอื่ งสแกนและอืน่ ๆ
สว่ นประกอบของโหมดสใี นโหมดสีน้ี Luminance Model (L) คอื คา่ ความสวา่ ง A หมายถึง

สว่ นประกอบของสีที่แสดงการไลส่ จี ากสเี ขยี วไปยังสแี ดง และ B หมายถึงส่วนประกอบท่แี สดงการ
ไลส่ ีจากนำ้ เงินถึงสเี หลอื ง

Mode ของสีใน Photoshop จะแบง่ ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 Mode ทีอ่ ้างองิ ตาม Model
1. RGB Mode ใชห้ ลกั การของ RGB Model โดยมกี ารกำหนดค่าความเขม้ ขน้ ของสีแดง เขยี ว
และนำ้ เงินทีร่ วมกันในแต่ละพกิ เซล เป็นคา่ ตั้งแต่ 0 - 255 ตวั อยา่ งเชน่ สี Bright Red เกดิ จาก R
(สแี ดง) ท่ี 246 และ G (สีเขียว) ท่ี 20 และ B (สนี ำ้ เงนิ ) ที่ 50 ภาพทเี่ กิดจาก RGB Mode จะมถี งึ 16.7

ล้านสี
2. CMYK Mode ใชห้ ลกั การของ CMYK Model โดยมกี ารกำหนดคา่ สโี ดยใช้เป็นเปอรเ์ ซน็ ต์

ความเข้มข้นของสแี ต่ละสีมาผสมกนั เช่น สี Bright Red เกดิ จาก C 2 % M 93 % Y 90% และ K 0%
หรอื สีขาวเกิดจาก C M Y และ K อย่างละ 0%

3. LAB Mode ใช้หลักการเดยี วกับ LAB Model เกดิ จากการผสมกันของ 3 องค์ประกอบคือ
Lightness Component หรอื Luminance A Component (green-red) B Component (blue -
yellow)

กลมุ่ ที่ 2 Mode ทถ่ี กู กำหนดข้ึนพเิ ศษ เรยี กว่า Specialized Mode
4. Bitmap mode ประกอบดว้ ยค่าสีเพียง 2 สี คือ สีขาว และสดี ำ ใช้พน้ื ท่ีในการเก็บขอ้ มลู
เพยี ง 1 บติ งานท่ีเหมาะสำหรับ Bitmap คอื งานประเภทลายเสน้ ตา่ ง ๆ เช่น เคร่ืองหมาย และโลโก้
5. Gray Scale mode ประกอบด้วยสีทั้งหมด 256 สี โดยไลส่ จี ากสีขาว สีเทาไปเรือ่ ย จนท้าย
สดุ คอื สีดำ ใช้พืน้ ท่ใี นการเกบ็ ขอ้ มูล 8 บติ
6. Duotone mode เป็นโหมดที่เกิดจากการใช้ Channel สีเพียงบาง Channel เทา่ น้ัน
7. Indexed Color mode สที ง้ั หมดมถี งึ 16.7 ล้านสี แตใ่ นภาพบางภาพทีใ่ ช้ ไม่ได้ ใชส้ ถี ึง
16.7 ลา้ นสี และจำเป็นตอ้ งประหยัดเนอื้ ท่ใี นการเก็บขอ้ มลู ของภาพ เพอื่ ใหภ้ าพสามารถโหลดข้นึ มา ใชง้ านได้
รวดเรว็ เช่นภาพที่ต้องใช้งานกับ Internet ใน Photoshop จึงมีการคำนวณเลือกเฉพาะสที ่ี
ใชแ้ ละสรา้ งเป็นโหมดสขี น้ึ มาใหมเ่ พยี ง 256 สี เรยี กโหมดสีทสี่ รา้ งขน้ึ ใหมว่ า่ Indexed Color mode
8. Multichannel mode เปน็ โหมดสีที่ถูกแสดงดว้ ย Channel ตงั้ แต่ 2 ขึ้นไป แยก Channel ได้
หลาย Channel เปน็ โหมดสีทใ่ี ช้ประโยชนม์ ากสำหรบั งานพมิ พ์
กลมุ่ ที่ 3 Mode Layer Blending mode
เปน็ โหมดพิเศษทใ่ี ชเ้ ฉพาะใน Option Palette เพ่อื เป็นตัวกำหนดว่าพกิ เซลแตล่ ะพกิ เซลจะมีการ
เปล่ียนแปลงอย่าง ๆ เม่ือมีการปรบั เปลีย่ นใหแ้ สดงผลใน Blending mode ต่าง ๆ
2 การเปลี่ยนโหมดภาพ จาก Mode หนึ่งไปยังอกี Mode หน่งึ
เป็นการเปลี่ยนคา่ สขี องภาพอยา่ งถาวร เช่น เปลี่ยนภาพจาก RGB ไปเป็น CMYK สที ่ีได้
บางสจี ะมีการเพย้ี น ฉะน้นั สง่ิ ท่ีควรคำนงึ ถึงการเปลยี่ นโหมดภาพ คอื
1. ปรบั เปลยี่ นภาพทอ่ี ยู่ในโหมดเดิม ให้เสร็จสนิ้ สมบรู ณก์ ่อนการเปลีย่ นโหมด
2. ควร Save ภาพเป็นแบบ Save As เพือ่ จะสามารถแกไ้ ขภาพได้ภายหลัง
3. ควรทำการ Flatten ไฟล์ รวมเลเยอรใ์ ห้เหลือเพยี งภาพเดยี ว คือ Background ก่อนทจ่ี ะ

เปล่ยี นโหมด เพอ่ื ไม่ใหส้ ใี นแต่ละเลเยอร์มกี ารเปลยี่ นแปลง
4. ขอ้ จำกดั ของการเปล่ียน Mode สีทที่ ำไมไ่ ด้ คือ
- จาก RGB ไปเปน็ Indexed Color หรอื Multichannel Mode
- จาก CMYK ไปเป็น Multichannel Mode
- จาก Lab ไปเป็น Multichannel , Grayscale , Bitmap Mode
- จาก Doutone ไปเปน็ Bitmap, Grayscale, Multichannel Mode

วิธกี ารเปลย่ี นโหมดสีภาพจาก RGB --> Grayscale
1. คลกิ เมนู Image --> Mode
2. คลิกเลือกโหมดทตี่ อ้ งการเปลี่ยน (สงั เกตเครื่องหมาย ึ อยูห่ นา้ โหมดสใี ด หมายถงึ
โหมดสีนน้ั เป็นโหมดสีท่กี ำลงั ใช้งานอยู่)

3. คลิกรายการ Grayscale ภาพจะเปลีย่ นเปน็ โหมด Grayscale
4. หากปรากฎหน้าตา่ ง Discard color information

ใหค้ ลิกปุ่ม OK

ตวั อยา่ งการเปลี่ยนโหมดอนื่ ๆ ไปสู่ Bitmap Mode
1. หลังจากไดภ้ าพ Grayscale Mode
2. คลกิ เมนู Image --> Mode --> Bitmap
3. ปรากฎหนา้ ต่าง Bitmap
- กำหนดคา่ ความละเอียดของภาพ Output:
- เลอื กวิธีการแปลงภาพ Use: 50% Threshold
4. คลิกปุ่ม OK

5. จะได้ภาพแปลงจาก Grayscale เป็น Bitmap
ลักษณะตา่ ง ๆ ตามทเ่ี ลือกแสดงในภาพ
ช่อง Use: 50% Threshold

6. กำหนดวธิ ีการแปลงภาพ แบง่ เปน็ 4 แบบ คือ
- 50 Threshold จะแปลงภาพชว่ งค่าสีของสเี ทาตัง้ แต่ 0-128 (ขาวถึงสีเทาปานกลาง)
จะปรบั เป็นสีขาว และต้งั แต่คา่ 127 - 256 (สีเทาปานกลางถึงสดี ำ) จะปรบั เป็นสีดำ
- Pattern Dither จะแปลงภาพโดยแปลงเป็นจุดสดี ำและสีขาวทเ่ี รยี งกนั อยา่ งเป็นระเบียบ
เหมาะสำหรับใชง้ านพมิ พม์ ากกว่างานบนหน้าจอ
- Diffusion Dither จะแปลงภาพโดยเปน็ จุดสขี าวและสีดำเรียงกระจายกนั อย่างไม่เปน็
ระเบียบ เหมาะสำหรบั ภาพทตี่ อ้ งการใช้บนหนา้ จอ เพราะสะดวกในการมองมากกวา่
- Halftone Screen จะแปลงภาพโดยพยายามเปล่ยี นภาพใหใ้ กล้เคยี งกบั สีเทามากที่สุด
โดยการใชร้ ปู ทรงตา่ ง ๆ ในองศา และความหนาแนน่ ท่ตี า่ งกนั ซ่ึงจะให้ลวดลายของ
ภาพตา่ งกันออกไปหลายรูปแบบ

7. ถา้ เลอื ก Halftone จะปรากฎหนา้ ต่าง กำหนดลกั ษณะตา่ งของเม็ดสีชอ่ ง Custom Pattern
จะแปลงภาพตามแบบอยา่ งทีโ่ ปรแกรมมใี ห้เลอื ก

Gamut Color
Gamut Color เปน็ ขอบเขตของสีท่ีสามารถใช้แสดงผลทางจอภาพ หรือพมิ พผ์ า่ นเครอื่ งพมิ พ์

ไดใ้ นความเป็นจรงิ แลว้ สายตาของมนุษยม์ คี วามสามารถในการมองเหน็ สไี ดม้ ากกว่าสที แ่ี สดงบน
หน้าจอคอมพวิ เตอร์หรอื สที แี่ สดงผ่านภาพพมิ พ์ จะมสี บี างอยา่ งทม่ี องเห็นในธรรมชาติ แต่ไม่ สามารถแสดงผลได้
เรยี กวา่ “Gamut Color”

ในบรรดา Model สที งั้ หมด Model L*a*b เป็นสที ีม่ ี Gamut Color กวา้ งที่สดุ รองลงมาคอื
RGB และ CMYK ดงั จะเห็นไดใ้ นภาพ

ตรวจสอบสใี น Photoshop
มีวิธีตรวจสอบสีเพื่อให้สที ัง้ หมดอยูใ่ นขอบเขตของ Gamut Color โดยวธิ กี ารดังนี้
1. ดูจาก Info Palette เลื่อนตวั ชีเ้ มาสไ์ ปยงั ตำแหน่งของสีที่อย่เู หนอื ขอบเขตของ Gamut

Color จะปรากฎเครือ่ งหมาย ! หลงั คา่ สี

2. ดจู าก Color Palette หรอื Color Picker สที อ่ี ยนู่ อกขอบเขตของสี Gamut Color ปรากฎเปน็

รปู หน้าชอ่ งท่ีแสดง

Image Resolution

Image Resolution หมายถงึ จำนวนพิกเซลทถี่ ูกแสดงใน 1 หนว่ ยของภาพ ซึ่งโดยทัว่ ไปมกั ใชห้ นว่ ยวัด
ใน Ppi (Pixel per Inch) เช่น 72 Ppi หมายถงึ ในพ้นื ที่ 1 ตารางน้ิวจะมจี ำนวนพิกเซลเทา่ กับ 72X72=5184 พกิ
เซล ในขณะทีร่ ูปเดยี วกนั แต่มี Resolution=300 ppi จะมจี ำนวน 300 x 300

=90,000 พิกเซล ภาพทม่ี ี Resolution สงู จะแสดงรายละเอียดของสไี ดด้ ี ทำให้ภาพทีไ่ ด้มคี ุณภาพมาก

กวา่ ภาพที่มคี วามละเอยี ดตำ่

Resolution = 72 ppi Resolution = 300 ppi

รูปท่ี 6.8 แสดงภาพจรงิ และภาพที่ขยายที่ 200% เม่ือค่า Resolution ตา่ งกนั
Monitor Resolution

Monitor Resolution หมายถึงจำนวนพิกเซล ทถี่ ูกแสดงใน 1 หน่วยของหน้าจอ ซง่ึ โดยทวั่ ไป
มักใช้หนว่ ยวดั เป็น Dpi (Dot per inch) ขนาดของภาพทปี่ รากฎบนจอ ขน้ึ อยู่กับขนาดของจอภาพกบั
การตงั้ คา่ Monitor Resolution ดังจะเห็นตวั อยา่ งเปรยี บเทยี บขนาดของภาพบนจอทแี่ ตกต่างกนั ไปท้งั
ทเี่ ป็นไฟลเ์ ดยี วกนั เมือ่ มกี ารกำหนดใหข้ นาดของจอภาพต่างกนั และ Monitor Resolution ตา่ งกนั

การต้ังคา่ Monitor Resolution

1. คลกิ ปมุ่ ขวาบนเดสก์ทอ๊ ป ปรากฎเมนลู ดั
2. คลิกเลือกรายการ Perperties
3. รอสักครู่ ปรากฎหนา้ ตา่ ง Display Properties

4. คลกิ ปา้ ย Settings
5. ปรบั ความละเอียดแถบ Scroll เล่อื นเลือกคา่ Monitor Resolution ท่ตี ้องการ แลว้ OK

5. กิจกรรมการเรียนรู้

กจิ กรรมครู กจิ กรรมผเู้ รยี น

64. ตรวจสอบเช็ครายชื่อนกั เรียนทเี่ ขา้ เรียน 57. เช็ครายชือ่ นักเรยี นท่ีเข้าเรียน

65. แนะนำตวั ครผู ู้สอน ผู้เรยี น ชอ่ื วชิ า รหสั วชิ า 58. ฟังคำแนะนำตัวครผู ู้สอน ผเู้ รียน ชื่อวชิ า

จดุ ประสงค์ของรายวิชา คำอธิบายรายวชิ า รหัสวิชา

เกณฑก์ ารประเมินผลทฤษฎี/ปฏบิ ตั ิ จดุ ประสงค์ของรายวิชา คำอธิบายรายวิชา

66. ครู-นักเรยี น ร่วมกันสนทนาเก่ียวกับการ เกณฑก์ ารประเมินผลทฤษฎี/ปฏิบัติ

ประมวลผลขอ้ มลู และสารสนเทศ 59. ครู-นักเรียน ร่วมกนั สนทนาเกยี่ วกบั การ

67. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ประมวลผลข้อมลู และสารสนเทศ

จำนวน 10 ขอ้ 60. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน

68. นำเขา้ สู่บทเรยี นเกยี่ วกบั การประมวลผลขอ้ มลู จำนวน 10 ข้อ

และสารสนเทศ ประกอบการฉายแผน่ ใส 61. ฟงั การบรรยายความหมายของขอ้ มลู และ

69. อธิบายความหมายของข้อมลู และสารสนเทศ สารสนเทศ บอกแหล่งขอ้ มูลและความแตกตา่ ง

บอกแหลง่ ข้อมูลและความแตกต่างของขอ้ มลู ของข้อมลู และสารสนเทศ ขั้นตอนการ

และสารสนเทศ ข้นั ตอนการประมวลผลข้อมูล ประมวลผลขอ้ มูล ประเภทของการ

ประเภทของการประมวลผลขอ้ มูล และการนำ ประมวลผล

คอมพวิ เตอรม์ าใชง้ านในการประมวลผลข้อมลู ขอ้ มลู และการนำ คอมพิวเตอรม์ าใชง้ านใน

โดยใชแ้ ผ่นใส ตอบคำถาม / ซักถามปญั หา การ

70. ถามเกี่ยวกบั ความหมายและความแตกตา่ ง ประมวลผลขอ้ มลู โดยใชแ้ ผน่ ใส ตอบคำถาม /

ของขอ้ มลู และสารสนเทศ สาเหตุการนำ ซักถามปัญหา

คอมพิวเตอรม์ าใชง้ านในการประมวลผลขอ้ มลู 62. ตอบคำถามเกีย่ วกบั ความหมายและความ

71. ดูแลควบคุมการจัดแบง่ กลมุ่ แตกตา่ ง

72. แจกใบงาน/ใหค้ ำแนะนำในการจดั กิจกรรม ของข้อมลู และสารสนเทศ สาเหตุการนำ

กลมุ่ คอมพวิ เตอรม์ าใช้งานในการประมวลผลข้อมลู

10. สรปุ ตอบขอ้ สงสัย คน้ ควา้ เพิ่มเตมิ 63. แบ่งกลมุ่

11. มอบหมายงานใหน้ กั เรยี นไปศึกษาในหน่วยท่ี 64. รับใบงาน/ให้คำแนะนำในการจดั กจิ กรรมกล่มุ

2 เรอื่ ง ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ 10. สรปุ ตอบข้อสงสัย ค้นควา้ เพิ่มเติม

12. ประเมินผลการเรยี นของนกั ศกึ ษาในหนว่ ยที่ 5 11. รับมอบงานให้นักเรียนไปศกึ ษาในหน่วยที่

จากแบบทดสอบและใบประเมิน 2 เรอ่ื ง ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์

13. ครบู นั ทกึ ขอ้ มูลกจิ กรรมการเรยี นหลงั การสอน 12. ประเมนิ ผลการเรยี นของนกั ศกึ ษาในหนว่ ยที่ 5

จากแบบทดสอบและใบประเมนิ

13. ครบู นั ทกึ ขอ้ มูลกิจกรรมการเรยี นหลังการสอน


Click to View FlipBook Version