วิชาเครื่องรับวิทยุ

คลื่น (Wave) หรือสญั ญาณ (Signal) ทางไฟฟ้า ที่ถูกนามาใช้
งานทางดา้ นสื่อสารและโทรคมนาคม คลื่นทางไฟฟ้าท่ีสาคัญแบ่ง
ออกเป็ น 2 ชนิด คือ คล่นื เสยี ง (Audio Wave ; AF) และคลืน่ วิทยุ
(Radio Wave ; RF)

คล่นื เสียง (AF) เป็ นคลื่นที่มีความถี่
ตา่ อยใู่ นยา่ นความถี่ประมาณ 20 ถึง 20
kHz คลน่ื เสียงเป็ นคล่ืนที่หูคนทุกคนรบั
ฟังได้ ใชเ้ ป็ นคลน่ื สญั ญาณในการส่ือสาร
ขอ้ มูลข่าวสารถึงกนั

คลื่นวิทยุ (RF) เป็ นคลื่นที่มี
ความถี่สูงมากมีย่านความถี่ประมาณ
20 kHz (20,000 Hz) ถึง 300 GHz
(300,000,000,000 Hz) เป็ น
ความถ่ีในย่านท่ีคนไม่สามารถรับฟัง
ได้ หรอื ไม่ไดย้ นิ เสยี ง

คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้ าถูกค้นพบมามากกว่า 100 ปี แล้ว ได้มี
การศึกษาคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้าเพอื่ นามาใชป้ ระโยชน์ จนทราบว่าคลนื่
แม่เหล็กไฟฟ้ามีหลายความถ่ี และหลายความยาวคลน่ื โดยมีความถ่ี
และความยาวคลนื่ ตอ่ เน่ืองกนั ไป

ช่วงความถ่ีประมาณ 20 kHz ถึง 300 GHz เป็ นแถบคล่ืนความถี่
ท่ีมีบทบาทสาคัญในระบบส่ือสารโทรคมนาคมมาก เพราะคล่ืน
สามารถเดินทางไปไดใ้ นระยะไกล ถูกนาไปใชง้ านในระบบส่ือสาร
โทรคมนาคมหลายชนิด

ช่วงความถ่ีประมาณ 300 GHz ถึง 10 THz เป็ นแถบคล่ืนความถ่ี
สูงมากพิเศษ ใชใ้ นการสือ่ สารและการประยุกตใ์ ชก้ บั งานอ่ืนๆ หลาย
ชนิด

ช่วงความถี่ประมาณ 1 x 1013 Hz ถึง 4 x 1014 Hz เป็ นคล่ืนที่
เกิดจากการสนั ่ ตวั ของอะตอมในวตั ถุแตล่ ะโมเลกุล และจากวตั ถชุ นิด
ต่างๆ ท่ีเกิดความรอ้ น ถูกนาไปใชง้ านในดา้ นอุตสาหกรรม ด้าน
การแพทย์ ดา้ นการทหาร และดา้ นดาราศาสตร์ เป็ นตน้

ช่วงความถี่ประมาณ 4 x 1014 Hz ถึง 8
x 1014 Hz เป็ นแสงทาใหป้ ระสาทตาของคน
เกิดความรูส้ ึกในการมองเห็น แสงชนิดน้ ี
เ กิ ด จ า ก วัต ถุ ท่ี มี อุ ณ ห ภู มิ เ ป ล่ ง แ ส ง อ อ ก ม า
เชน่ ไสห้ ลอดไฟฟ้า ดาวฤกษ์ เป็ นตน้

ช่วงความถี่ประมาณ 8 x 1014 Hz
ถึง 6 x 1016 Hz เป็ นแสงทาใหก้ า๊ ซ
แตกตัวได้ แสงชนิดน้ ีสามารถฆ่าเช้ ือ
แบคทีเรียบางชนิดได้ ใชส้ าหรับการ
สอื่ สารพิเศษบางชนิดได้

ช่วงความถ่ีประมาณ 6 x 1016 Hz ถึง
8 x 1019 Hz เป็ นรงั สีท่ีมีอานาจทะลุ
ทะลวงสูง สามารถทะลุผ่านส่ิงกีดขวาง
หนาๆ ได้ ถูกนาไปใชง้ านหลายดา้ น เช่น
ดา้ นอุตสาหกรรม ดา้ นการแพทย์ ดา้ นการ
รกั ษาความปลอดภยั

ช่วงความถี่ประมาณ 8 x 1019 Hz ถึง 1 x 1021 Hz เป็ นรงั สีท่ี
คาบเก่ียวกับรังสีเอกซ์ มีอานาจทะลุผ่านส่ิงกีดขวางได้สูงกว่ารังสี
เอกซ์ ทาใหก้ า๊ ซแตกตวั เป็ นอิออนได้

ช่วงความถ่ีประมาณ 1 x 1021 Hz ถึง 1 x
1022 Hz เป็ นรงั สีท่ีมีความถี่สูงกว่ารงั สีแกรมมา
มีอานาจทะลุทะลวงสูงมาก ในแท่งแกว้ แข็งทะลุ
ผ่านไดถ้ ึง 46 ซม. หรอื ในน้าทะลผุ ่านไดถ้ งึ 61 ม.

คล่ืนวิทยุเป็ นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การเดินทางของคลื่นวิทยุจะใช้
วิธีการแพรก่ ระจายคล่ืนวิทยุท่อี ยูใ่ นรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกไป
ดว้ ยสายอากาศ จึงมักเรียกวิธีการแพร่กระจายคลื่นแบบน้ ีว่า "การ
สื่อสารไรส้ าย" หรือการส่ือสารดว้ ยวิทยุ เรียกส้นั ๆ ว่า "วิทยุ" โดยใช้
คลน่ื วิทยคุ วามถ่ีสูงเป็ นคล่ืนนาสญั ญาณขอ้ มูลข่าวสารไป

ก า ร แ พ ร่ ก ร ะ จ า ย ค ลื่ น วิ ท ยุ ป ร ะ เ ภ ท น้ ี ไ ด้แ ก่ ร ะ บ บ
วิทยุกระจายเสียง AM ในยา่ นคลน่ื ยาว (Long Wave ; LW) และยา่ น
คล่นื ปานกลาง (Medium Wave ; MW)

ก า ร แ พ ร่ ก ร ะ จ า ย ค ลื่ น วิ ท ยุ ป ร ะ เ ภ ท น้ ี ไ ด้แ ก่ ร ะ บ บ
วิทยุกระจายเสียง AM ในยา่ นคลื่นส้นั (Short Wave ; SW) และวิทยุ
สือ่ สารในระบบแบนดด์ า้ นขา้ งซีกเดียว (Single Sideband ; SSB)

การแพร่กระจายคล่ืนวิทยุแบบน้ ี เช่น วิทยุโทรศัพท์ โทรทศั น์
วิทยุกระจายเสียงในระบบ FM และระบบ FM สเตริโอมลั ติเพลกซ์
(FM Stereo Multiplex)

การใช้งานในการแพร่กระจายคลื่นวิทยุแบบน้ ี เช่น สื่อสาร
ไมโครเวฟ ส่ือสารผา่ นดาวเทยี ม และโทรทศั นผ์ า่ นดาวเทยี ม เป็ นตน้

ยา่ นความถ่ี ช่ือยา่ น ช่ือยอ่ การประยกุ ตใ์ ชง้ าน

3 kHz – 30 kHz Very Low Frequency VLF คลืน่ เสียง คลื่นนารอ่ งทางน้า สอื่ สาร
30 kHz – 300 kHz Low Frequency จุดตอ่ จุด และสื่อสารใตน้ ้า

300 kHz – 3 MHz Medium Frequency LF คลน่ื นารอ่ งทางน้า วิทยุ AM วิทยุ
คล่นื ยาว (LW) และคล่นื สญั ญาณ
เวลามาตรฐาน

MF วิทยเุ ดนิ เรือ สญั ญาณนารอ่ ง
เคร่อื งบิน และวิทยุ กระจายเสียง AM
วิทยุคลน่ื ปานกลาง (MW)

ยา่ นความถ่ี ช่ือยา่ น ชื่อยอ่ การประยุกตใ์ ชง้ าน

3 MHz – 30 MHz High Frequency HF วิทยคุ ล่นื ส้นั (SW) วิทยเุ คลื่อนที่
30 MHz – 300 MHz Very High Frequency และวิทยุสมคั รเลน่

300 MHz – 3 GHz Ultra High Frequency VHF วิทยุเคลอ่ื นทภี่ าคพ้ นื ดิน
วิทยุกระจายเสียง FM โทรทศั น์ และ
วิทยสุ มคั รเล่น

UHF วิทยโุ ทรศพั ท์ โทรทศั น์ เรดาร์
สอ่ื สารไมโครเวฟ และเตาอบ
ไมโครเวฟ

ยา่ นความถ่ี ชื่อยา่ น ช่ือยอ่ การประยุกตใ์ ชง้ าน

3 GHz – 30 GHz Supper High Frequency SHF เรดาร์ ไมโครเวฟ ดาวเทยี ม โทรทศั นผ์ ่าน
EHF ดาวเทียม ระบบแลนไรส้ าย และวิทยุ
30 GHz – 300 GHz Extremely High Frequency THF, THz สมคั รเล่น
เรดาร์ ไมโครเวฟ ดาวเทยี ม คน้ ควา้ ทดลอง
300 GHz – 3 THz Tremendously High ดา้ นดาราศาสตร์ เครื่องสแกนใชค้ ล่ืนเป็ น
Frequency หรือ Terahertz มิลลิเมตร และวิทยุสมคั รเล่น
การถา่ ยภาพดว้ ยคล่ืนเทราเฮิรตซ์ ใชท้ าให้
เกิดการเปล่ียนแปลงโมเลกุลทรี่ วดเร็ว ใชท้ า
ใหเ้ กิดการควบแน่นทางฟิ สิกส์ การควบคุม
ระยะไกลใชค้ ล่ืนยอ่ ยเป็ นมิลลิเมตร วิทยุ
สมคั รเล่น



การส่ือสารดว้ ยคล่ืนวิทยุส่วนสาคญั ท่ีทาใหเ้ กิด
การสื่อสารได้ คือ ความถ่ีคลืน่ พาห์ หรือคลน่ื วิทยุที่
ทาหนา้ ที่เป็ นตวั พาสญั ญาณขอ้ มูลข่าวสารจากตน้
ทางถึงปลายทาง อุปกรณต์ วั สาคัญท่ีนามาใชเ้ ป็ น
ตวั ใหก้ าเนิดความถี่ ไดแ้ ก่ ขดลวด (L) และตวั เก็บ
ประจุ (C) โดยนาอุปกรณท์ ้งั สองชนิดมาตอ่ วงจร
รว่ มกนั ในแบบขนาน

วงจรกาเนิดความถี่ (Oscillator) คือ วงจรใหก้ าเนิด
สัญญาณไฟฟ้ากระแสสลับท่ีความถ่ีใดความถ่ีหนึ่งข้ ึนมาได้ โดย
ความถ่ีท่ีกาเนิดมีความคงท่ีและสมา่ เสมอ ความถี่ที่กาเนิดข้ ึนมา
น้นั จะตอ้ งมีสว่ นประกอบรว่ มทส่ี าคญั คือ

1. มีการเคล่ือนท่ีไปมาหรือการสนั ่ ตวั ของวตั ถุ ถา้ เป็ นในดา้ น
ไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ จะตอ้ งมีการทางานของวงจรกาเนิด
ความถ่ี ที่มีท้ังค่าแรงดันไฟฟ้ ากระแสสลับและกระแสไฟฟ้ า
กระแสสลบั เกิดการสลบั ไปมาคงทีต่ ลอดเวลา

2. การเคล่ือนท่ีไปมาหรือการสัน่ ตัวดังกล่าวจะต้องมี
ความสัมพันธก์ ับเวลา มีความคงท่ีสมา่ เสมอ ทาใหเ้ กิดความถี่
ข้ ึนมาคงท่ีค่าหนึ่ง เมื่อคิดเทียบกบั เวลาใน 1 วินาที (1 sec) จะได้
คา่ ความถี่มีหน่วยเป็ นเฮิรตซ์ (Hz) ออกมา

3. เมื่อระดับความแรงของคล่ืนความถี่ท่ีกาเนิดข้ ึนมามีการ
ลดลง ท่ีเรยี กว่ารูปคลื่นทรุด (Damping Wave) จะตอ้ งมีการกระตนุ้
เสริมความแรงของคลื่นความถ่ี เพ่ือใหไ้ ดค้ วามแรงคลื่นท่ีคงที่
สมา่ เสมอออกมาตลอดเวลา

การกาเนิดความถ่ีของวงจร LC เรโซแนนซแ์ บบขนานพบว่า
ความถี่ท่ถี ูกกาเนิดข้ ึนมามีระดบั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ไม่คงท่ี มี
การทรุดตวั ของแรงดนั ไฟฟ้าตลอดเวลา ทาใหค้ วามถี่ที่ผลิตข้ ึนมา
อยูไ่ ดไ้ ม่นาน ความถ่ีก็จะหายไปเกิดจากวงจรหยุดการทางาน

การแกไ้ ขขอ้ เสยี ดงั กลา่ วสามารถทาไดโ้ ดยหาแรงดนั ไฟฟ้าของ
สัญญาณความถี่มาเสริมแรงดันไฟฟ้ าเดิม เพ่ือเพิ่มระดับ
แรงดันไฟฟ้ าของสัญญาณความถี่เดิมให้มีระดับคงที่ตลอ ด
ระยะเวลาการทางาน วิธีการทาจะตอ้ งเพ่ิมวงจรขยายสัญญาณ
และวงจรป้อนกลบั แบบบวก เขา้ ไปในวงจร

การสื่อสารดว้ ยคลื่นวิทยุ เป็ นการ
ส่อื สารที่ถกู นาไปใชง้ านอยา่ งกวา้ งขวาง
และแพร่หลายทัว่ ไป โดยการนา
คลื่นวิทยุมาใชเ้ ป็ นคล่ืนพาหน์ าขอ้ มูล
ข่าวสารส่งออกไป ส่ิงสาคญั ของการทา
ใหเ้ กิดการสื่อสารดว้ ยคลื่นวิทยุน้ ีอยู่ที่
ก า ร ผ ส ม ค ลื่ น ห รื อ ก า ร ม อ ดู เ ล ต
(Modulation)

ซึ่งเป็ นวิธีการนาสัญญาณขอ้ มูลข่าวสารผสมเขา้ กับสัญญาณ
คลืน่ วิทยทุ ี่นามาใชเ้ ป็ นคลื่นพาห์ ใหท้ าหนา้ ที่ช่วยนาขอ้ มูลข่าวสาร
ส่งแพรก่ ระจายออกไปจากเครอ่ื งสง่ วิทยุ

การมอดเู ลตทางความสูง (AM) เป็ นการนาขอ้ มูลข่าวสารผสม
เขา้ กบั คล่ืนพาห์ โดยใชส้ ญั ญาณขอ้ มูลข่าวสารไปทาให้คล่ืนพาหม์ ี
ระดับความสูงของคล่ืนเปล่ียนแปลงไป เพิ่มข้ ึนหรือลดลงตาม
ระดบั สญั ญาณขอ้ มูลข่าวสารดา้ นซีกบวกหรอื ซีกลบทสี่ ง่ เขา้ มาผสม

0t

0t

AM 0 t
(AM)

การมอดูเลตทางความสูง (AM) จะทาใหเ้ กิดความถี่ทถ่ี ูกมอดู
เลตส่งออกมา แบ่งออกไดเ้ ป็ น 3 ส่วนประกอบด้วย ความถ่ี
คลื่นพาหเ์ ดิม แถบความถ่ีขา้ งดา้ นตา่ และแถบความถี่ข้างดา้ นสูง
ความถี่ท้งั หมดน้ ีจะถกู แพรก่ ระจายคลื่นออกไป

V

0 LSB fc USB f
fc - fs fc + fs

การมอดูเลตทางความถี่ (FM) เป็ นการนาขอ้ มูลข่าวสารไป
ผสมกับคลื่นพาห์ โดยสัญญาณขอ้ มูลข่าวสารจะไปควบคุมให้
ความถี่คล่ืนพาหเ์ ปล่ียนแปลง มีความถี่สูงข้ ึนหรือตา่ ลงตามระดบั
ความแรงทางซีกบวกหรอื ซีกลบของสญั ญาณขอ้ มูลข่าวสาร

0t

0t

FM 0 t
(FM)

การมอดูเลตทางเฟส (PM) เป็ นการนาขอ้ มูลข่าวสารไปผสม

กับคล่ืนพาห์ โดยเฟสของสญั ญาณขอ้ มูลข่าวสารจะไปควบคุมให้

ความถ่ีคล่ืนพาหม์ ีความถ่ีเปล่ียนแปลงไปเพิ่มข้ ึนหรือลดลง ตาม

ช่วงการเปล่ียนแปลงของสญั ญาณขอ้ มูลข่าวสารจากซีกบวกเป็ นซี

กลบ หรอื จากซีกลบเป็ นซีกบวก 0t

0t

PM 0 t
(PM)



การ ส่ือ สา รโด ยใ ช้ค ลื่นวิ ทยุ นับ ว่ าเ ป็ น กา รส่ือ สา รที่ มี
ความสาคญั มาก ถูกนาไปใชง้ านอย่างกวา้ งขวางแพรห่ ลาย เพราะ
สามารถส่งขอ้ มูลข่าวสารไปไดใ้ นระยะทางไกลแบบไรส้ าย โดยไม่
ตอ้ งส้ ินเปลืองสายส่งสญั ญาณ ช่วยแกป้ ัญหาการส่ือสารทางสายท่ี
ไม่สามารถใชไ้ ดใ้ นบางพ้ นื ที่

การส่ือสารโดยใชค้ ลื่นวิทยุสามารถส่งขอ้ มูลข่าวสารไปไดใ้ น
ระยะทางไกลมากข้ ึน โดยไม่เกิดการลดทอนหรือสูญหายไป
ระหว่างทาง สามารถส่งขอ้ มูลข่าวสารไปไดจ้ านวนมากในแต่ละ
คร้งั เกิดความประหยดั ท้งั เวลา ค่าใชจ้ ่าย มีความรวดเร็วในการ
เดนิ ทาง และไม่เกิดความผิดพลาด

ขอ้ มูลข่าวสารที่ถูกจดั ส่งออกไปจากเคร่ืองส่งวิทยุ มีรูปแบบ
การส่งแบ่งออกเป็ น 2 แบบ คือ ขอ้ มูลข่าวสารจัดส่งเป็ นรหัส
(Code) และขอ้ มูลข่าวสารจดั ส่งเป็ นสญั ญาณ (Signal) ขอ้ มูล
ข่าวสารท้ัง 2 แบบท่ีถูกจดั ส่งออกไปมีลักษณะคลื่นแตกต่างกัน
แบ่งออกไดเ้ ป็ น 2 ชนิด ไดแ้ ก่ ชนิดคล่ืนต่อเน่ือง (Continuous
Wave Type) และชนิดคลื่นผสม (Modulated Wave Type)

เ ป็ น ก า ร ส่ ง ค ลื่ น พ า ห์ ห รื อ
ค ลื่ น วิ ท ยุ อ อ ก ไ ป เ พี ย ง อ ย่ า ง เ ดี ย ว
โดยการควบคุมระยะเวลาในการส่ง
คลื่น บางช่วงใชเ้ วลาในการส่งคลื่น
ส้ัน บางช่วงใชเ้ วลาในการส่งคลื่น
ยาว บางช่วงงดการสง่ คล่ืน

เป็ นการส่งคลน่ื พาหห์ รอื คล่นื วิทยุออกไป โดยมีขอ้ มูลข่าวสารถูก
ผสมหรือมอดูเลตไปดว้ ย การมอดูเลตขอ้ มูลข่าวสารเขา้ กบั คล่ืนพาห์
อาจเป็ นการมอดูเลตกนั ทางความสูง (AM) มอดูเลตกนั ทางความถี่
(FM) หรือมอดเู ลตกนั ทางเฟส (PM)

เคร่ืองส่งวิทยุ AM (AM Transmitter) คือ เครอ่ื งสง่ วิทยุท่ีส่ง
คล่ืนพาหช์ นิดคลื่นผสมออกไป ดว้ ยการใชว้ ิธีการผสมคล่ืนเสียง
เขา้ กบั คลืน่ วิทยเุ ป็ นแบบมอดเู ลตทางความสูง (AM)

AM
AM

AM AM

เครื่องส่งวิทยุชนิดแถบขา้ งดา้ นเดียว (SSB Transmitter) คือ

เคร่ืองส่งวิทยุท่ีส่งคล่ืนพาห์ชนิดคล่ืนผสมออกไป ด้วยการใช้

วิธีการผสมคลื่นเสียงเขา้ กับคลื่นวิทยุเป็ นแบบมอดูเลตทางความ

สูง (AM) ชนิดแถบขา้ งดา้ นเดียวไม่มีพาหะ (SSBSC) โดยใชก้ าร

มอดเู ลตคลื่นสองครง้ั และกรองแถบขา้ งใหเ้ หลอื ดา้ นเดยี ว

LSB USB USB (USB)L (USB)U (USB)U

fC1 fC1 fC2 fC2

AM
SSB SSB

AM fC1 fC2
SSBSC

เครื่องส่งวิทยุ FM (FM Transmitter) คือ เครื่องส่งวิทยุท่ีส่ง
คล่ืนพาหช์ นิดคลืน่ ผสมออกไปดว้ ยการใชว้ ิธีการผสมคลื่นเสยี งเขา้
กบั คลื่นวิทยุเป็ นแบบมอดูเลตทางความถี่ (FM) โดยในเครื่องส่ง
วิทยุจะใชภ้ าคมอดเู ลตทางความถี่เป็ นตวั ผสมคล่ืน

FM
FM FM

FM

เครือ่ งสง่ วิทยุ PM ( PM Transmitter ) คือ เครอ่ื งสง่ วิทยุท่สี ่ง
คลน่ื พาหช์ นิดคลน่ื ผสมออกไปดว้ ยการใชว้ ิธีการผสมคล่ืนเสียงเขา้
กบั คลน่ื วิทยเุ ป็ นแบบมอดเู ลตทางเฟส (PM) ซึ่งคลน่ื PM ก็คือคลนื่
FM โดยออ้ มนนั ่ เอง ความมุ่งหมายของการมอดเู ลตคลืน่ ทางเฟส

PM
PM PM

90o PM

เครื่องส่งวิทยุ FM สเตริโอมัลติเพลกซ์ เป็ นระบบการส่ง
วิทยุกระจายเสียงอีกแบบหน่ึง สรา้ งข้ ึนมาเพื่อตอบสนองความ
ตอ้ งการของมนุษย์ ทตี่ อ้ งการใหส้ ญั ญาณเสยี งท่รี บั ไดจ้ ากเครอ่ื งรบั
วิทยุ FM ใหม้ ีทิศทางเสียงท่ีไดย้ ินมาจากหลายตาแหน่ง
เชน่ เดียวกบั ตาแหน่งเกิดเสียงจากตน้ กาเนิดจรงิ

(R)

FM FM

(L) FM

ส่ิงสาคัญของระบบวิทยุกระจายเสียง FM สเตริโอ อยู่ท่ี

สญั ญาณเสียงที่ส่งมาเขา้ เคร่ืองส่งวิทยุ FM สเตริโอ จะตอ้ งเป็ น

สญั ญาณเสียงที่มี 2 ดา้ น คือ ดา้ นซา้ ย (L) และดา้ นขวา (R) และ

ในส่วนเคร่ืองส่งวิทยุ FM สเตริโอจะตอ้ งมีภาคเขา้ รหัสเตอริโอ
รวมอยดู่ ว้ ย
(R) L+R ( 0 Hz-15 kHz) FM

R L+R

(L) 19 kHz 1. L+R ( )
R ( ) 19 kHz
2. 19 kHz ( )

180o 3. 38 kHz L-R

2 38 kHz

( ) 38 kHz

-R
L-R

L-R

38 kHz L-R



เคร่ืองรบั วิทยุ AM คือ เครื่องรบั วิทยุท่ีสามารถใชร้ บั สญั ญาณ
วิทยุท่ีส่งมาจากเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียง AM เพื่อรบั ฟังขอ้ มูล
ข่าวสารท่ีส่งกระจายเสียงมาได้ เครื่องรบั วิทยุ AM ถือไดว้ ่าเป็ น
เครอ่ื งรบั วิทยุแบบเรมิ่ ตน้ ทีถ่ กู สรา้ งข้ ึนมาใชง้ าน

การพฒั นาเครอื่ งรบั วิทยุ AM แบง่ ออกไดเ้ ป็ น 3 แบบ ดงั น้ ี
1. เครอ่ื งรบั วิทยุ AM แบบเบ้ ืองตน้
2. เครอ่ื งรบั วิทยุ AM แบบเลือกความถี่วิทยุ หรือเครื่องรบั วิทยุ
AM แบบ TRF
3. เคร่ืองรบั วิทยุ AM แบบ
ซูเปอรเ์ ฮเทอโรดายน์