เครอ่ื งรบั วิทยุ AM แบบเบ้ ืองตน้ เป็ นเครอื่ งรบั วิทยุ AM แบบที่
สรา้ งข้ ึนมาใชง้ านไดง้ ่าย มีส่วนประกอบของวงจรไม่มาก แต่มี
คุณภาพในการทางานตา่ สัญญาณเสียงท่ีรับออกมาไดเ้ บา ไม่มี
วงจรขยายสญั ญาณเสียง ทาใหก้ ารรบั ฟังสญั ญาณเสยี งตอ้ งใชห้ ูฟัง
ขนาดเล็กช่วยในการรบั ฟัง
RF RF AF
เครอื่ งรบั วิทยุ AM แบบเลือกความถี่วิทยุ (TRF) เป็ นเครอ่ื งรบั
วิทยุท่ีพฒั นาข้ ึนมาจากเครื่องรบั วิทยุ AM แบบเบ้ ืองตน้ โดยเพิ่ม
ภาคปรบั เลือกความถ่ีวิทยุต้ังแต่ 1 ภาคข้ ึนไป เพื่อทาใหก้ ารรับ
คลนื่ วิทยแุ ตล่ ะสถานีมีคณุ ภาพมากข้ ึน
RF RF RF
AF AF
12
เคร่ืองรบั วิทยุ AM แบบซูเปอรเ์ ฮเทอโรดายน์ เป็ นเคร่ืองรบั
วิทยุที่ถูกพฒั นาข้ ึนมาจากเคร่ืองรบั วิทยุ AM เลือกความถ่ีวิทยุ
(TRF) ใหม้ ีคุณภาพดีข้ ึน ท้งั ดา้ นความไวในการรบั สญั ญาณ ดา้ น
แยกรับสัญญาณแต่ละสถานี ดา้ นวงจรปรบั เลือกรบั ความถ่ีวิทยุ
ดา้ นการรบกวนเครื่องรับวิทยุใกลเ้ คียง และดา้ นความดังของ
สญั ญาณเสยี งทร่ี บั ไดแ้ ตกตา่ งกนั RF IF IF IF AF AF
LO (AGC)
หลักการทางานเครื่องรับวิทยุ
AM แบบซูเปอรเ์ ฮเทอโรดายน์ ถือ
เป็ นเคร่ืองรบั วิทยุ AM ที่ถูกสรา้ ง
ข้ ึนมาใชง้ านอย่างแพร่หลายต้งั แต่
เริ่มแรกถึงปัจจุบัน เม่ือนามาแบ่ง
โครงสร้างในการทางานของ
เครื่องรบั วิทยุประเภทน้ ี แบ่งออก
ไดเ้ ป็ นสว่ นประกอบหลกั ดงั น้ ี
หรือเรียกส้นั ๆ ว่าภาคคอนเวอรเ์ ตอร์ (Converter) ทาหนา้ ท่ี
เปล่ียนความถ่ีวิทยุคล่ืนพาหข์ องแต่ละสถานีวิทยุกระจายเสียง AM
ใหเ้ ป็ นความถ่ีปานกลาง (IF) คา่ เดยี วกนั ทุกสถานีทคี่ วามถ่ี 455 kHz
ทาหนา้ ที่กาหนดใหค้ วามถ่ีปานกลาง (IF) 455 kHz ความถ่ีเดียว
ผ่านไปได้ และทาการขยายความถ่ีปานกลาง (IF) น้ ีใหม้ ีความแรง
มากข้ ึนมากพอท่จี ะนาไปใชง้ าน
ทาหนา้ ที่ตดั ความถ่ีปานกลาง (IF) ซีกบวกหรือซีกลบซีกใดซีก
หนึ่งออกไป พรอ้ มท้งั ทาการกรองเอาความถ่ีปานกลาง (IF) ที่
หลงเหลอื อยูอ่ อกไป ใหเ้ หลือเฉพาะความถ่ีเสยี งไปใชง้ าน
ภาคคอนเวอรเ์ ตอร์ เป็ นภาคท่ีรวมเอา
ภาคเลือกและขยายความถ่ีวิ ทยุ (RF)
ภาคโลคอล ออสซิลเลเตอร์ (LO) และ
ภาคมิกเซอรเ์ ขา้ ดว้ ยกัน ทาหน้าที่เปลี่ยน
ความถี่วิ ทยุคล่ืนพาห์ของแต่ละสถานี
วิทยุกระจายเสียง AM ใหเ้ ป็ นความถี่ปาน
กลาง (IF) ค่าเดียวกันทุกสถานีท่ีความถ่ี
455 kHz
ทาหนา้ ที่ควบคุมและปรบั ระดบั ความแรงของความถ่ีปานกลาง
(IF) ที่ถูกขยายส่งออกมามีระดบั ความแรงใกลเ้ คียงกัน เพ่ือใหไ้ ด้
สญั ญาณเสียงทรี่ บั ไดม้ ีระดบั ความดงั ใกลเ้ คียงกนั ทกุ สถานี
ทาหนา้ ท่ีขยายสญั ญาณเสียงใหแ้ รงท่ีสุด โดยสญั ญาณเสียงท่ีถูก
ขยายแลว้ ตอ้ งไม่ผิดเพ้ ียนไป สง่ ไปขบั ลาโพงใหเ้ กิดเสยี งออกมา
ภาคคอนเวอรเ์ ตอร์ เป็ นภาคท่ีรวมเอาภาคเลือกและขยาย
ความถี่วิทยุ (RF) ภาคโลคอล ออสซิลเลเตอร์ (LO) และ
ภาคมิกเซอรเ์ ขา้ ดว้ ยกัน ทาหนา้ ท่ีเปลี่ยนความถี่วิทยุคล่ืนพาหข์ อง
แตล่ ะสถานีวิทยุกระจายเสียง AM ใหเ้ ป็ นความถ่ีปานกลาง (IF) ค่า
เดยี วกนั ทุกสถานีที่ความถี่ 455 kHz
RF
ภ า ค ค อ น เ ว อ ร์เ ต อ ร์ช นิ ด น้ ี ใ ช้ T1 Q1 IF IFT1
ทรานซิสเตอร์ทางานแยกกันระหว่าง
ภาคมิกเซอร์ และภาคโลคอลออสซิล L1 L6 L7 IF
เลเตอร์ +VCC
RF R7
TC1 VC1 L3 C4
L2 C2
R3
C1 R1 R2
R4 Q2 LO
C3 R5 R6
LO C5 T2
TC2 VC2 L5
L4
ภาคคอนเวอรเ์ ตอรช์ นิดน้ ีใชท้ รานซิสเตอรท์ างานเพียงตวั เดียว
ท้งั การทางานในภาคมิกเซอร์ และภาคโลคอลออสซิลเลเตอร์
RF
T1
L1 Q1 T2 L5 IF IFT1 IF
C2 L4 C3 L6 L7
RF
TC1 VC1 L3
L2
R3 TC2 VC2 LO R4
C1 R1 R2 LO
-VCC
ภาคคอนเวอรเ์ ตอรช์ นิดน้ ีใช้ LO T2 C4
IC ทางานเพยี งตวั เดียว ภายใน
ตัว IC ประกอบด้วย TC2 VC2 L4 L5 C3
ภาคมิกเซอร์ และภาคโลคอ
ลออสซิลเลเตอร์ C2 LO
R1 +VCC
C1 VC8C OS7C OS6C OUT5B IFT1 IF AGC
L6 L7 C5 IF
T1 SA6U021 AN
L1 IN1A IN2B GN3D OUT4A
RF
RF L3
TC1 VC1 L2
ภาคความถ่ปี านกลาง (IF) เป็ นภาคท่ีรบั ความถี่จากภาคมิกเซอร์
ส่งมา รบั ความถี่เขา้ มา 4 ความถ่ี คือ ความถ่ี RF ความถี่ LO ความถ่ี
LO + RF และความถี่ LO - RF หรอื ความถ่ี IF = 455 kHz สง่ ไปให้
วงจรจูน IF กาหนดเฉพาะความถี่ IF = 455 kHz ผ่านเทา่ น้นั นา
ความถี่ IF ไปทาการขยาย
1. RF IF IF
2. LO IF1
3. LO + RF IF
4. LO - RF
IF1 IF2 IF2 IF3
455 kHz 455 kHz 455 kHz
ภาคความถ่ี IF ชนิดน้ ีใชท้ รานซิสเตอรท์ าหนา้ ที่เป็ นภาคขยาย
ความถี่ IF วงจรประกอบดว้ ยภาคจนู IF และภาคขยาย IF
IF -VCC IF
IFT1 R4 Q2 IF1 IFT2 R6 Q3 IF2 IFT3
C6 C9
C4 R5 C5 R7 C7 R8 C8
AGC
ภาคความถ่ี IF ชนิดน้ ีใช้ IC ทาหนา้ ที่เป็ นภาคขยายความถ่ี IF
วงจรประกอบดว้ ยภาคจนู IF (IFT) และภาคขยาย IF (มีภาคดีเทก
เตอรร์ วมอยูด่ ว้ ย) IF AGC IF IF
C5 IF +VCC
IFT ZN414UZ2 (MK484) 3
IFT 2 Z RF RF RF
1
ภาคดีเทกเตอรเ์ ป็ นภาคท่ีรบั ความถี่ IF เขา้ มาจากภาคขยาย
ความถ่ี IF มาทาการตดั ความถ่ี IF ออกไปซีกหนึ่ง และทาการกรอง
เอาความถ่ี IF ท้ ิงไป ใหเ้ หลือเฉพาะความถี่เสียงส่งต่อไปให้
ภาคขยายเสยี ง IF IF + AF
0
IF3
455 kHz
AGC
ภาคดีเทกเตอรเ์ ครอื่ งรบั วิทยุ AM แบบซูเปอรเ์ ฮท โดยปกตินิยม
ใชต้ วั ไดโอดในการทาหนา้ ทด่ี ีเทกเตอร์ ทาการตดั สญั ญาณความถ่ี IF
= 455 kHz ออกไปซีกหนึ่งเชน่ เดยี วกบั วงจรเรยี งกระแสไฟฟ้า
IF IF + AF
0
IFT3 D1 R9
C10 C11
AGC
ภาคดีเทกเตอรเ์ ครอ่ื งรบั วิทยุ AM แบบซูเปอรเ์ ฮท ชนิดน้ ีใชต้ วั
ทรานซิสเตอรใ์ นการทาหนา้ ที่ดีเทกเตอร์ ทาการตดั สญั ญาณความถ่ี
IF = 455 kHz ออกไปซีกหนึ่งเช่นเดียวกบั การใชไ้ ดโอด
IF
IF IFT3 Q4 R10 +VCC
C12
AGC + AF
R9 0
C10 C11 VR1
ภาคดีเทกเตอรช์ นิดน้ ีใช้ IC ทาหนา้ ท่ีตดั ความถี่ IF = 455 kHz
ออกไปซีกหนึ่ง ถูกสรา้ งไวในตวั IC ร่วมกับภาคขยาย IF ทาให้
สะดวกตอ่ การใชง้ าน IF IF IF +VCC
RF +
ZN414UZ2 (MK484) AGC 0 AF
IF 2 Z RF RF
3
C6
1
ภาค AGC หรือ AVC ในเครื่องรบั วิทยุ AM แบบซูเปอรเ์ ฮท ทา
หนา้ ทค่ี วบคมุ อตั ราขยายโดยอตั โนมตั ิ ทาใหไ้ ดส้ ญั ญาณเสียงที่รบั ได้
จากสถานีวิทยกุ ระจายเสยี งทกุ สถานี มีความดงั เสียงใกลเ้ คียงกนั
IF IF
IF1 IF1 IF2 IF2 IF3
455 kHz 455 kHz 455 kHz
0 AGC
- DCV + AF
0
วงจรภาค AGC ชนิดใชก้ บั เคร่ืองรบั วิทยุ AM แบบซูเปอรเ์ ฮท ท่ี
ใชท้ รานซิสเตอรใ์ นการทางาน ส่ิงสาคญั คือแรงดนั ไฟฟ้าที่ส่งมาจาก
ภาค AGC จะตอ้ งมีศกั ยไ์ ฟฟ้าตรงขา้ มกบั แรงดนั ไฟฟ้าไบแอสท่ี
ภาคขยาย IF ภาคแรกตอ้ งการเสมอ IFT1 R4 Q2 IF1 IFT2 R6 Q3 IF2 -VCC IF + AF
IFT3 D1 0
R9
C6 C9 C10 C11
0 C5 R5 C7 R7 R8 C8
- DCV
R10
C4 - AGC
+
วงจรภาค AGC ชนิดใชก้ บั เครอื่ งรบั วิทยุ AM แบบซูเปอรเ์ ฮท ที่
ใช้ IC ในการทางาน สิ่งสาคญั ก็เช่นเดียวกนั คือ แรงดนั ไฟฟ้าท่ีส่ง
มาจากภาค AGC จะตอ้ งมีศกั ยไ์ ฟฟ้าตรงขา้ มกบั แรงดนั ไฟฟ้าไบแอส
ที่ภาคขยาย IF ภาคแรกตอ้ งการเสมอ R2 AGC +VCC
C5
AF
IFT IF IF
ZN414UZ2 (MK484)
IFT 2 Z RF RF RF +
0
3
C6
1
ภาคขยายเสียง ทาหนา้ ท่ีขยายสญั ญาณเสียงใหม้ ีความแรงเพิ่ม
มากข้ ึน มากพอที่จะไปขับลาโพงใหเ้ ปล่งเสียงดังออกมา โดยปกติ
ภาคขยายเสียงไม่ว่าจะนาไปใชข้ ยายเสียงในวงจรใดก็ตามจะมี
คณุ สมบตั ใิ นการทางานเหมือนกนั
วงจรขยายเสียงชนิ ดใช้ R6 +VCC
ทรานซิสเตอร์ เป็ นวงจรขยาย C2 + R3 +C3 R7 Q3 +C6
A
เสียงชนิดท่ีนิยมนาไปใช้งาน VR1 R2 D1 R8 C5
เพราะสามารถจดั อตั ราขยายได้ C1 +C4 ++C5- C5
หลากหลาย จัดวงจรทางานได้ D2 R9 Q4 - +
+ Q1 B
+-
R5
Q2
R1 R4
หลายแบบ
วงจรขยายเสียงชนิดใช้ IC เป็ น +VCC
C4
วงจรขยายเสยี งชนิดท่ีนิยมนาไปใช้ 6 + C2
+LMU31886 15
งานอีกชนิดหนึ่ง เพราะใชอ้ ุปกรณ์ VR1 3 C5
2 +
ในการทางานน้อยช้ ิน สามารถ -7
เลือก IC มาใชง้ านไดห้ ลายเบอร์ 4 + C1 R1
C3
ตามความตอ้ งการ
วงจรขยายเสียงชนิดใช้ IC เป็ น +VCC
C4
วงจรขยายเสยี งชนิดท่ีนิยมนาไปใช้ 6 + C2
+LMU31886 15
งานอีกชนิดหนึ่ง เพราะใชอ้ ุปกรณ์ VR1 3 C5
2 +
ในการทางานน้อยช้ ิน สามารถ -7
เลือก IC มาใชง้ านไดห้ ลายเบอร์ 4 + C1 R1
C3
ตามความตอ้ งการ
เคร่ืองรบั วิทยุ FM แบบซูเปอรเ์ ฮท เป็ นระบบของเครื่องรบั
วิทยุกระจายเสียงแบบซูเปอร์ เฮทเทอโรดายน์ถูกนาไปใช้ใน
เครอ่ื งรบั วิทยุ FM โดยมีหลกั การทางานเช่นเดียวกบั เคร่ืองรบั วิทยุ
AM แบบซูเปอรเ์ ฮท RF
IF AF AF
AGC
RF IF ( )
LO AFT
(AFC)
ภาคฟรอ้ นเอนด์ เป็ นภาคท่ีรวมภาคเลือกและขยาย RF (RF)
ภาคโลคอลออสซิลเลเตอร์ (LO) และภาคมิกเซอร์ ทาหนา้ ทเ่ี ปลีย่ น
ความถี่วิทยุคลน่ื พาหข์ องแตล่ ะสถานีวิทยุกระจายเสยี ง FM ใหเ้ ป็ น
ความถ่ีปานกลาง (IF) ค่าเดียวกนั ทุกสถานีที่ความถ่ี 10.7 MHz
และภาค AFT (AFC) เป็ นภาคควบคมุ ใหก้ ารรบั สถานีวิทยุ FM ได้
สถานีคงทไ่ี ม่เล่ือนจางหาย
RF RF
T1 RF1 C1 Q1 RF RF2 T2 Q2 IF IFT1 IF
L1 L2 TC2 VC2 L4
VC1 TC1 L3
R4 R5 C4 C6 R8 R10 R11 C8
R6 +VCC
AGC
R1 C3 LO
Q3 R3 C5 LO C7
R2 TC3 VC3
L5
C2 R7 D1 AFT R9
หนา้ ท่ีของภาคความถี่ IF มี 3 ประการ คือ ประการแรก
กาหนดความถี่ผ่านเขา้ มาเฉพาะความถี่ปานกลาง (IF) ประการท่ี
สองนาความถ่ี IF ท่ีรบั เขา้ มา ทาการขยายความถ่ี IF ใหม้ ีระดบั
ความแรงมากข้ ึนแบบไม่ผิดเพ้ ียนก่อนส่งใหภ้ าคดีเทกเตอรต์ ่อไป
ประการที่สามส่งไปแปลงเป็ นแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงในรูป AGC
ไปควบคุมอตั ราขยายสญั ญาณของภาคขยาย RF โดยอตั โนมตั ิ ให้
มีอตั ราขยายคงท่ีเท่ากนั ทุกสถานีทรี่ บั ได้
IF
Q4 IF1 Q5 IF2 Q6 IF3 Q7 IF4 +VCC
R19 IFT2R24 R27
IF CF1 R16 R22
D2 R20 C17 AGC
C10 R12 R14 IO C15 D3
IFT1 R12 C11
G R17 R23
R13
R15 C12 C13 R18 C14 R21 C16 C18 C19 R25 R26 C20
RF
ความถี่ IF ของวิทยุ FM ประกอบดว้ ยความถี่ 3 ค่า คือ ความถี่
IF ค่าปกติ 10.7 MHz พอดี ความถ่ี IF สูงกว่า 10.7 MHz
สญั ญาณเสียงผสมมีความแรงย่ิงมาก ความถี่ IF ย่ิงสูงกว่า 10.7
MHz มากข้ ึน ความถี่ IF ตา่ กว่า 10.7 MHz
D4
IF4 L7 C22 E2
C21
L6 T3 I2 E21 C23+-E4 R28
E1 I1 L71 C24+-E5 R29
-+C25
L72 E22
AF
+B E3 D5 R30
IF
L8 C26 C27
10.7MHz 10.7MHz 10.7MHz 10.7MHz AFT R31 R32
C28 +
เคร่ืองรบั วิทยุ FM แบบซูเปอร์
เฮท ได้รับการพัฒนาวงจรและ
โครงสร้างวงจรเร่ือยมา เพื่อ ให้
วงจรง่ายตอ่ การสรา้ งและการใชง้ าน
โดยสรา้ งวงจรรวมไวใ้ นรูป IC ช่วย
ทาใหเ้ คร่ืองรบั วิทยุ FM แบบซูเปอร์
เฮทมีขนาดเล็กลง
IC เบอร์ TDA 7000 เป็ น IC ชนิด 18 ขา ทาหนา้ ทเ่ี ป็ นเคร่ืองรบั
วิทยุ FM สรา้ งวงจรทางานภาคต่างๆ ไวใ้ นตวั IC ประกอบดว้ ย
ภาคมิกเซอร์ ภาคโลคอลออสซิลเลเตอร์ ภาค ขยาย IF ภาคดีมอดเู ล
เตอร์ ภาค AFT (AFC) และภาคขยายเบ้ ืองตน้
IC เบอร์ TDA 7021T เป็ น IC ชนิด 16 ขา ทาหนา้ ที่เป็ น
เครื่องรับวิทยุ FM สรา้ งวงจรทางานภาคต่างๆ ไวใ้ นตัว IC
ประกอบดว้ ยภาคมิกเซอร์ ภาคโลคอลออสซิลเลเตอร์ ภาคกรองและ
ขยาย IF ภาคดีมอดเู ลเตอร์ ภาคมิวตงิ และภาคขยายเบ้ ืองตน้
IC เบอร์ TDA 7088T เป็ น IC ชนิด 16 ขา ทาหนา้ ท่ีเป็ น
เคร่ืองรับวิทยุ FM สรา้ งวงจรทางานภาคต่างๆ ไวใ้ นตัว IC
ประกอบดว้ ยภาคมิกเซอร์ ภาคโลคอลออสซิลเลเตอร์ ภาค ขยาย IF
ภาคดีมอดูเลเตอร์ ภาค AFT (AFC) ภาคขยายเบ้ ืองตน้ และเพิ่มภาค
ปรบั คน้ หาคลื่นความถ่ีวิทยุโดยอตั โนมตั ิ
IC เบอร์ TDA 7088T เป็ น IC ชนิด 16 ขา ทาหนา้ ท่ีเป็ น
เคร่ืองรับวิทยุ FM สรา้ งวงจรทางานภาคต่างๆ ไวใ้ นตัว IC
ประกอบดว้ ยภาคมิกเซอร์ ภาคโลคอลออสซิลเลเตอร์ ภาค ขยาย IF
ภาคดีมอดูเลเตอร์ ภาค AFT (AFC) ภาคขยายเบ้ ืองตน้ และเพิ่มภาค
ปรบั คน้ หาคลื่นความถ่ีวิทยุโดยอตั โนมตั ิ
เครื่องรับวิทยุ FM สเตริโอมัลติเพลกซ์ เป็ นเคร่ืองรับ
วิทยุกระจายเสียงในระบบ FM ทสี่ ามารถรบั สญั ญาณเสียงท่ีส่งมา
จากเคร่ืองส่งวิทยุในระบบ FM สเตริโอมลั ตเิ พลกซ์ มาทาการแยก
สญั ญาณเสียงออกเป็ นระบบสเตริโอได้ โดยสัญญาณเสียงจะถูก
แยกออกเป็ นสองดา้ น คือ สัญญาณ เสียงดา้ นซา้ ย (L) และ
สญั ญาณเสยี งดา้ นขวา (R)
IF ( )
IF
บล็อกไดอะแกรมเครื่องรบั วิทยุ FM แบบโมโน และแบบ
สเตรโิ อตามลาดบั ความแตกตา่ งของเครอ่ื งรบั วิทยุ FM สเตรโิ ออยู่
ที่เพิ่มภาคถอดรหัสสญั ญาณสเตริโอมัลติเพลกซเ์ ขา้ ไป และเพ่ิม
ภาคขยายเสยี งใหเ้ คร่ืองรบั วิทยุ FM เป็ น 2 ดา้ น คือ ดา้ นขวา (R)
และดา้ นซา้ ย (L)
IF ( ) R R
IF L L
ภ า ค ถ อ ด ร หั ส สัญ ญ า ณ ส เ ต ริ โ อ มั ล ติ เ พ ล ก ซ์ท า ห น้า ที่ แ ย ก
สญั ญาณเสียงที่ส่งมาจากเคร่ืองส่งวิทยุกระจายเสียง FM สเตริโอ
มัลติเพลกซ์ในรูปสัญญาณเบ็ดเสร็จสเตริโอ ใหแ้ ยกเสียงท่ีรบั ได้
ออกเป็ นเสียงดา้ นขวา (R) และเสียงดา้ นซา้ ย (L) ตามตน้ แบบ
เสียงที่ส่งมาจากเครอื่ งสง่
IF FM 20 Hz – 15 kHz +L+R- +L+R- L 2L
( 2R
) (LPF) L-R +L-R (L+R)+(L-R)
38 kHz
= 2L L-R
-
L+R ( ) - +
19 kHz ( )
23 kHz – 53 kHz L–R R
38 kHz L-R (HPF) 180o (L+R)+(-L+R)
= 2R
19 kHz 38 kHz --L+R+ + L+R
-
(BPF) 19kHz 38kHz
19 kHz
19 kHz 19 kHz
IF FM ) (BPF) 19kHz 2 38 kHz
( 2L + 38 kHz
L+R ( ) 38 kHz (+)
19 kHz ( )
38 kHz L-R (L) 2L
L+R (-) (R) 2R
38 kHz 2R + 38 kHz
L-R
IF FM ) 19 kHz 38 kHz 2L + 38 kHz 2L
( 19 kHz 2 38 kHz (L)
L+R ( ) (R) 2R
19 kHz ( ) 2R + 38 kHz
38 kHz L-R L+R, 38 kHz L-R
VCO 19 kHz
IF FM 19 kHz LPF DC VCO 2 2
( AF
) 76kHz 38kHz 19kHz
19 kHz
19 kHz < 90o
L+R ( ) LPF 2
19 kHz ( ) 19 kHz < 0o 19kHz
38 kHz L-R 38 kHz
L 2L
L+R, 38 kHz 2L + 38 kHz R 2R
2R + 38 kHz
L-R
วงจรถอดรหสั สญั ญาณสเตรโิ อมลั ตเิ พลกซแ์ บบใชส้ ารกึ่งตวั นา
โดยใชอ้ ุปกรณส์ ารกึ่งตวั นาแตล่ ะตวั มาประกอบวงจรรว่ มกัน วงจร
ประกอบข้ ึนจากอปุ กรณ์ R, L, C, ไดโอด และทรานซิสเตอร์
19kHz 38 kHz 38kHz D3 R13 2L + 38 kHz
T2 C8 A R17 2L
T1 D1 R6 38kHz C9
R5 C4 R10 D4 R14
R1 19kHz R4 Q2 C12
C1 Q1 C2
C7 D5 R15 C13
L1 C6 R18 2R
R2 R7 C5 R8 L3 L4 C10 2R + 38 kHz
L2 D2 Q3 C11 B
L+R ( ) C3 +VCC
19 kHz ( )
DL6ED1 R16
38 kHz L-R R3 L+R, 38 kHz L-R R9 R12
R11 D7