The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เพื่อให้พนักงานพัฒนาศักยภาพของตนเอง ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by manit.a, 2023-05-08 23:38:58

คู่มือ2023

เพื่อให้พนักงานพัฒนาศักยภาพของตนเอง ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท

คู่มือการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากร 2023 Learning & Development Guidebook 2023


Learning & Development Guidebook 2023 Page 1 คำ นำ เพื่อให้การพัฒนาบุคลากรของ บมจ.ไออาร์พีซี เป็นระบบ และการพัฒนาหลักสูตรต่างๆ ครอบคลุม พนักงานทุกระดับ ตั้งแต่พนักงานใหม่จนถึงผู้บริหารระดับสูง ทรัพยากรบุคคลและศักยภาพองค์กร จึงได้จัดทำ “คู่มือการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากร” ซึ่งได้อธิบายถึงกรอบการพัฒนาบุคลากรของ ไออาร์พีซี , วิธีการและ เทคนิคการพัฒนาบุคลากร , กระบวนการอบรมและการพัฒนาพนักงาน รวมทั้งแนวทางการพัฒนาบุคลากรของ บริษัทฯ เพื่อให้พนักงานทุกท่านได้ศึกษาคู่มือเล่มนี้เป็นแนวทางในการปฏิบัติและส่งเสริมการพัฒนาให้บรรลุเป้า หมายในการพัฒนาความรู้ ทักษะ และศักยภาพทุกด้าน ให้มีความพร้อมและเป็นฟันเฟืองที่สำ คัญในการผลักดัน การทำ งานเพื่อบรรลุเป้าหมายและส่งเสริมให้บริษัทฯเติบโตอย่างยั่งยืนตลอดไป ทรัพยากรบุคคลและศักยภาพองค์กร


สารบัญ 1. วิสัยทัศน์ / พันธกิจ / พฤติกรรมพึงประสงค์ และ กลยุทธ์ HR / ระบบการบริหารทรัพยากรบุคคล 3 2. กรอบการพัฒนาบุคลากร IRPC (IRPC Development Framework) 5 การพัฒนาสมรรถนะในงาน (Work Competency) การพัฒนาสมรรถนะผู้นำ (Leadership Competency) การพัฒนาในโครงการ Accelerate Program 3. วิธีการและเทคนิคการพัฒนาบุคลากร 8 4. กระบวนการอบรมและพัฒนาพนักงาน 9 5. แนวทางการพัฒนาบุคลากรของ IRPC 14 6. แผนพัฒนาบุคลากรปี 2566 20 ภาคผนวก รายละเอียด Course Outline หลักสูตรการพัฒนาด้านต่างๆ 27 หลักสูตรด้าน สิ่งแวดล้อม 28 หลักสูตรด้าน การอนุรักษ์พลังงาน 38 หลักสูตรด้าน ความปลอดภัย 49 หลักสูตรด้าน ดับเพลิง 70 หลักสูตรด้าน Quality & Productivity 78 หลักสูตรด้าน Compliance 92 หลักสูตรด้าน General 96 หลักสูตรด้าน Total Productive Maintenance & Management (TPM) 102 หลักสูตรด้าน พัฒนาสมรรถนะด้านกระบวนการผลิต (Production Competency) 107 หลักสูตรด้าน Leadership Development Program : LEAD 1-3 134 Learning & Development Guidebook 2023 Page 2


Learning & Development Guidebook 2023 Page 3 1.วิสัยทัศน์ / พันธกิจ / พฤติกรรมพึงประสงค์ ของ IRPC วิสัยทัศน์ พันธกิจ พฤติกรรมพึงประสงค์


Learning & Development Guidebook 2023 Page 4 กลยุทธ์ ของ HR ระบบการบริหารทรัพยากรบุคคล


Learning & Development Guidebook 2023 Page 5 2.กรอบการพัฒนาบุคลากร (IRPC Development Framework) IRPC Development Framework ได้ออกแบบให้เชื่อมโยงกับเป้าหมายขององค์กร และอยู่บนพื้นฐานของ Competency - Based Learning เป็นหลัก มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาพนักงานตั้งแต่แรกเข้าไปจนถึงระดับผู้บริหารระดับสูง ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาความรู้ ความสามารถ ที่จัดตามระดับความรับผิดชอบ และกลุ่มของพนักงาน ตามโปรแกรมการ พัฒนาด้าน Work Competency, Leadership Competency และ Future Skill (Upskill & Reskill) ดังนี้ 2.1 การพัฒนาสมรรถนะในงาน (Work Competency) โดยจัดกลุ่มของสมรรถนะตามภาพรวมของการ ทำ งาน ที่ให้ความสำ คัญในงานตามแต่ละสายอาชีพ (Value Chain) เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะของพนักงาน ภายในองค์กรให้เหมาะสมต่อบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบที่จำ เป็นต่อการปฏิบัติงาน และใช้วางแผน การพัฒนาตนเอง และส่งเสริมศักยภาพของพนักงานให้สูงขึ้นเป็นมาตรฐานในวิชาชีพ เน้นให้พนักงานได้ พัฒนา ความรู้ความสามารถและทักษะที่จำ เป็นของแต่ละสายอาชีพซึ่งในปัจจุบันมี 7 กลุ่มความชำ นาญ เพื่อ นำ ความรู้ ความสามารถ ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


Learning & Development Guidebook 2023 Page 6 ปัจจุบัน การจัดทำ หลักสูตรด้าน Work Competency ของแต่ละสายอาชีพ โดยเป็นบทบาทของหน่วยงานต่างๆ ที่ต้อง ร่วม ออกแบบหลักสูตรในสายอาชีพเพื่อใช้ในการพัฒนาความรู้ และทักษะที่จำ เป็นในการปฏิบัติงานเพื่อใช้ในการปิด GAP ในการวางแผนพัฒนา IDP ของพนักงาน 2.2 การพัฒนาสมรรถนะผู้นำ ( Leadership Competency) เน้นการพัฒนาด้านความเป็นผู้นำ และ ความรู้ด้านธุรกิจของพนักงานแต่ละระดับ เริ่มจากการพัฒนา ดังนี้ 2.2.1 การพัฒนา Onboarding ซึ่งผ่านการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ การปฐมนิเทศพนักงานใหม่ (Orientation for new - employees) การพัฒนาตนเอง (Self-Development), การเรียนรู้ในงาน เฉพาะ (Specialized) และ Common Course ในแนวทางการปฏิบัติงานด้าน QSHE 2.2.2 การพัฒนาหลักสูตรที่ตอบสนองต่อค่านิยม (iSPIRIT) ที่สะท้อนสมรรถนะ (Competency) และ หลักธรรมาภิบาล Corporate - Governance (CG) ที่จำ เป็น 2.2.3 การพัฒนาพนักงานระดับปฏิบัติการเบื้องต้น LEAD 1(Leadership Development Program I) จะได้เรียนรู้การดำ เนินธุรกิจ พื้นฐานและเรียนรู้ในเรื่องการรู้จักตนเอง และการทำ งานร่วมกับผู้อื่นได้ อย่างมีประสิทธิภาพ (Lead Self) 2.2.4 การพัฒนาพนักงานระดับบังคับบัญชา LEAD 2 (Leadership Development Program I I) จะ ได้เรียนรู้หลักการดำ เนินธุรกิจและการเป็นผู้นำ ทีมที่มีประสิทธิภาพ (Lead Team) 2.2.5 การพัฒนาพนักงานระดับบริหาร LEAD 3 (Leadership Development Program I I I) เป็น หลักสูตรที่เน้นการพัฒนาผู้นำ โดยเนื้อหาจะพัฒนาสมรรถนะหลัก/ ผู้นำ ของพนักงานระดับจัดการ และ เรียนรู้การบริหารจัดการด้านธุรกิจ (Business Management Program) เพื่อบริหาร/ จัดการ เปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ (Lead Function) 2.2.6 การพัฒนาผู้บริหารระดับ SVP / LEAD 4 (Junior Executive Leadership Development Program) เพื่อพัฒนาผู้บริหาร มีหลักสูตรพัฒนาด้าน Leadership และ Business เพื่อการวางแผน กลยุทธ์องค์กร (Lead Business) รวมทั้งมีหลักสูตรสัมมนาภายนอกเพื่อเตรียมความพร้อม สำ หรับผู้ บริหารที่มีศักยภาพ ได้แก่ หลักสูตรของ TMA (สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย), สถาบัน CCL(Center for Creative Leadership), SEP (ศศินทร์), EDP (สถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการ คลัง) สถาบันพระปกเกล้า ฯลฯ 2.2.7 การพัฒนาผู้บริหารระดับสูง LEAD 5 (Executive Leadership Development Program) เป็น โปรแกรมเพื่อพัฒนาผู้บริหารระดับสูง มีหลักสูตรพัฒนาด้าน Leadership และ Business เพื่อการ เติบโตขององค์กร (Lead Growth) 2.2.8 โปรแกรมการพัฒนาสมรรถนะผู้นำ ของพนักงานกลุ่มผู้มีศักยภาพสูง Next role (Talent Pool development through succession planning) โดยแบ่งแยกตามแต่ละระดับพนักงาน ดังนี้


Learning & Development Guidebook 2023 Page 7 2.2.9 โปรแกรมเพื่อพัฒนาผู้บริหารระดับสูง ร่วมกับ PTT Group ในหลักสูตร Leadership (LDP I – III) สำ หรับผู้ บริหารในกลุ่ม SVP / EVP / SEVP Pool 1) หลักสูตร Leadership Development Program I (LDP I) เป็นหลักสูตรเตรียมความพร้อมสำ หรับผู้บริหารในกลุ่ม SVP Pool เพื่อพัฒนาทักษะความรู้ ความสามารถผู้บริหาร ที่เป็นพื้นฐานสำ คัญ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจทั้งในเรื่องการบริหารคนและบริหารงาน ก่อนการก้าวขึ้นสู่ ตำ แหน่งที่สำ คัญถัดไป โดยผ่านการศึกษา แลกเปลี่ยนความคิด ความรู้และประสบการณ์ เปิดมุมมองโลกทัศน์ และ ศึกษา Case Study รวมทั้ง Best Practices กับวิทยากรชั้นนำ ของโลก และสัมผัสกับการเรียนรู้แบบสากล ระดับ World – Class และเป็นการสร้างเครือข่าย (Networking) ที่ดีร่วมกันระหว่างผู้บริหารในกลุ่ม ปตท. 2) หลักสูตร Leadership Development Program II (LDP II) เป็นหลักสูตรเตรียมความพร้อมสำ หรับผู้บริหารในกลุ่ม EVP Pool เพื่อพัฒนาทักษะความรู้ ความสามารถผู้บริหาร ก่อนการก้าวขึ้นสู่ตำ แหน่งถัดไป โดยเสริมสร้างการคิด วิเคราะห์ การวางกลยุทธ์เพื่อสามารถขับเคลื่อนและนำ ไป Implement ได้จริงในองค์กร ผ่านการศึกษา แลกเปลี่ยนความคิด ความรู้และประสบการณ์ เปิดมุมมอง โลกทัศน์ และศึกษา Case Study รวมทั้ง Best Practices กับวิทยากรชั้นนำ ของโลก และสัมผัสกับการเรียนรู้แบบสากล ระดับ World – Class และเป็นการสร้างเครือข่าย (Networking) ที่ดีร่วมกันระหว่างผู้บริหารในกลุ่ม ปตท. 3) หลักสูตร Leadership Development Program III (LDP III) เป็นหลักสูตรสำ หรับผู้บริหารระดับสูงเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้บริหารในกลุ่ม SEVP Pool ในการก้าวสู่ ตำ แหน่งที่สูงขึ้น พร้อมรับความท้าทายที่สำ คัญต่างๆ สามารถนำ พาองค์กรให้บรรลุเป้าหมายและเติบโตได้อย่าง ยั่งยืน มุ้งเน้นในเรื่อง Leadership ทั้งในแง่ของตนเอง ทีมงานและองค์กร นอกจากนี้ ยังเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยน ความรู้และประสบการณ์จากกลุ่มผู้บริหารระดับสูง และเป็นการสร้างเครือข่าย (Networking) ที่ดีร่วมกันระหว่างผู้ บริหารขององค์กร หน่วยงานและบริษัทชั้นนำ ต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน 2.3 การพัฒนาในโครงการ Accelerate Program เพื่อการ Upskill & Reskill พนักงาน เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะใหม่ๆ ที่จำ เป็นต่อการแข่งขันในยุคดิจิทัลของบุคลากร (Future Skill) เช่น การเพิ่มทักษะ เกี่ยวกับ ดิจิทัล ความรอบรู้แบบองค์รวมที่สามารถนำ มาปฏิบัติได้จริง (Multi-Skill) ขีดความสามารถในกพัฒนาตนเองให้ทัน และสามารถเทียบเคียงกับบุคลากร ที่ปฏิบัติงานเดียวกันในบริษัทชั้นนำ (Benchmarking with Peers) ทักษะและ กระบวนการตัดสินใจที่มีความชัดเจน ทัศนคติและมุมมองในการให้ความสำ คัญแบบประโยชน์ส่วนรวม ประโยชน์ ร่วมกันใน ระยะยาว เป็นต้น ผ่านระบบการเรียนออนไลน์ ซึ่งพนักงานสามารถเข้าถึงระบบได้สะดวก anytime, anywhere, any devices (PC, Notebook, Mobile) พนักงานจะวางแผนศึกษา และเข้าใช้ระบบการเรียนรู้ในการพัฒนาศักยภาพด้วย ตนเองตามแนวทาง Learning Roadmap ที่จำ เป็นของพนักงานแต่ละกลุ่ม


Learning & Development Guidebook 2023 Page 8 3.วิธีการและเทคนิคการพัฒนาบุคลากร การพัฒนาบุคลากรนั้นสามารถทำ ได้หลายวิธีการและมีเทคนิคต่างๆ ที่หัวหน้างานสามารถนำ มาใช้ได้ หลักการที่สามารถนำ มาใช้ในการพัฒนาบุคลากรได้นั้น ได้แก่ หลักการเรียนรู้ 70:20:10 Learning Framework ตามแนวทางของ Center for Creative - Leadership (CCL) ซึ่งหลักการเรียนรู้ 70:20:10 นั้น เป็นสัดส่วนของเวลา ทรัพยากรและงบประมาณที่ควรถูก ใช้ไปในกระบวนการพัฒนาที่ผสมผสานกันจนลงตัวเป็นแนวทางที่เชื่อว่าจะนำ มาซึ่งผลลัพธ์ที่ให้ประโยชน์สูงสุด โดยได้แบ่ง รูปแบบการเรียนรู้ได้เป็น 3 ส่วน กล่าวคือ 70 หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของเวลา ทรัพยากรและงบประมาณ ที่ควรถูกใช้ไปกับการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านการลงมือทำ ให้เกิด ประสบการณ์ Experience (On-the-job training) โดยเชื่อว่างานทุกอย่างที่พนักงานทำ ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่ได้ผลยั่งยืนมาก ที่สุด อาทิเช่น Job Assignment และ Job Rotation เป็นต้น 20 หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของเวลา ทรัพยากรและงบประมาณ ที่ควรถูกใช้ไปกับการเรียนรู้จากผู้อื่น อาทิ การเรียนรู้ผ่านพี่เลี้ยง (Mentor) ผ่านโค้ช (Coach) หรือ การให้ Feedback เป็นต้น 10 หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของเวลา ทรัพยากรและงบประมาณ ที่ควรถูกใช้ไปกับการเรียนรู้อย่างเป็นทางการเพื่อเข้าใจทฤษฎีและ หลักการ โดยอาจผ่านการเรียนรู้ในหลากหลายรูปแบบ เช่น การอบรมสัมมนา การฟังเสวนาหรือการบรรยาย การเรียนผ่านสื่อ ออนไลน์ต่างๆ (E-Learning) เป็นต้น 70 % Experience : On-the-Job Training 20 % Coaching 10 % Formal Learning 70 / 20 / 10 Guidelin แหล่งที่มา : Center for Creative Leadership (CCL) Developing Total Time Spent for Development


Learning & Development Guidebook 2023 Page 9 Experience นำ ไปปฏิบัติให้เกิดประสบการณ์ Coaching การสอนงาน Formal Learning แสวงหาความรู้เพิ่มขึ้น ซึ่ง Development Program ที่อยู่ในส่วนของ 10% ที่ทรัพยากรบุคคลรับผิดชอบ จะดำ เนินการผ่านหลักสูตรตาม IRPC Development Framework และโครงการพัฒนาพนักงานและผู้บริหารให้มี ความพร้อมในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับการดำ เนินธุรกิจและกลยุทธ์ขององค์กร 4.กระบวนการอบรมและพัฒนาพนักงาน มี 4 ขั้นตอน คือ 1. การวิเคราะห์ความจำ เป็นในการฝึกอบรม (Analyzing training needs) 2. การออกแบบการฝึกอบรมพัฒนา (Designing) 3. การจัดอบรม (Implementing) 4. การประเมินผล (Evaluation) โดยมีวงจรการฝึกอบรมพัฒนาพนักงาน ดังนี้


Learning & Development Guidebook 2023 Page 10 4.1 การวิเคราะห์ความจำ เป็นในการอบรม (Analyzing Training Needs) ขั้นตอนแรกของกระบวนการอบรมและพัฒนา คือ การวิเคราะห์ความจำ เป็น (Training Needs) ซึ่งคือ ความต่าง (Gap) ที่มีอยู่ระหว่างผลในการปฏิบัติงานที่องค์กรคาดหวังและผลในการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งแบ่งได้ 3 ระดับ คือ ระดับองค์กร Strategic / Organizational เป็นการพิจารณาความจำ เป็น ว่ามีอยู่ในส่วนใดขององค์กร และมีเงื่อนไขใดประกอบบ้าง ซึ่งในระดับนี้จะได้ความ จำ เป็นมาจากเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ขององค์กร องค์ประกอบด้านต่างๆ ของพนักงานที่มีอยู่ ระดับความรู้ความ ชำ นาญและทักษะของพนักงาน ฯลฯ ระดับงาน Task เป็นการพิจารณาความจำ เป็น ว่าต้องทำ อะไรบ้าง เพื่อให้พนักงานสามารถทำ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในระดับ นี้จะได้ความจำ เป็นมาจาก Job Descriptions, Job Specifications / Analysis, Performance Standards และ Competency ระดับบุคคล Person เป็นการพิจารณาความจำ เป็น ว่าพนักงานผู้ใดควรได้รับการพัฒนาในเรื่องใดและใช้วิธีการพัฒนาอย่างไร ซึ่งในระดับนี้ ได้ความจำ เป็นในการอบรมมาจากการประเมินผลงานของพนักงาน (Performance Appraisal) การสำ รวจความคิด เห็นการประเมินเพื่อการพัฒนาอื่นๆ เช่น วิธีการพิจารณาจากผลการ Coaching 4.2 การออกแบบและพัฒนาหลักสูตร (Designing) ภายหลังจากการวิเคราะห์ความจำ เป็นในการอบรมแล้ว ขั้นตอนที่สำ คัญเป็นอย่างยิ่งถัดมา คือ การออกแบบและ พัฒนาหลักสูตร หากเราออกแบบหลักสูตรได้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ตลอดจนเลือกวิธีการในการอบรมและ พัฒนา คัดเลือกวิทยากรที่เหมาะสมแล้ว ก็ทำ ให้การอบรมและพัฒนานั้นสัมฤทธิ์ผล โดยในที่นี้จะนำ เสนอแนวคิด และรูปแบบกระบวนการพัฒนาหลักสูตรของนักศึกษาศาสตร์ ชื่อว่า ไทเลอร์ (Tyler’ s Model Curriculum Development) เพื่อใช้ในการอธิบาย เนื่องจากเป็นรูปแบบที่สามารถทำ ความเข้าใจได้ง่ายที่สุด และนำ ไปใช้เป็น แนวคิดในการพัฒนาหลักสูตรต่างๆ ได้เป็นอย่างดี Ralph Tyler ได้ให้แนวคิดในการพัฒนาหลักสูตรว่าหลักสูตรที่ดีจำ เป็นต้องตอบคำ ถามพื้นฐานจำ นวน 4 ข้อ คือ คำ ถามปัจจัยพื้นฐาน What is the purpose of the education? (จะสอนอะไร) What educational experiences will attain the purposes? (จะเอาอะไรมาสอน) How can these experiences be effectively organized? (จะสอนอย่างไร) How can we determine when the purposes are met? (จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้) หลักการพัฒนาหลักสูตร 1. Planning (การวางแผนหลักสูตร) 2. Designing (การออกแบบหลักสูตร) 3. Organizing (การวางแผนการใช้หลักสูตร) 4. Evaluating (การประเมินหลักสูตร) การพั ฒ นาห ลั ก สู ตรตาม แ น ว คิ ด ข องR alp h T yler


Learning & Development Guidebook 2023 Page 11 ในส่วนของการสอนอย่างไรนั้น ผู้สอนจะต้องเลือกรูปแบบวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การเรียนรู้เกิด ประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งรูปแบบการสอนนั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน อาทิ • การบรรยาย (Lecture) • การระดมสมอง (Brainstorming) • การประชุมกลุ่ม (Group Discussion) • การใช้กรณีศึกษา (Case Study) • การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Play) • การศึกษาดูงานนอกสถานที่ (Field Trip) • การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) รูปแบบการเรียนการสอนแต่ละรูปแบบนั้น มีทั้งข้อดี และข้อจำ กัด ซึ่งผู้สอนและผู้ที่ทำ การออกแบบหลักสูตรจะ ต้องศึกษาและเลือกใช้ให้เหมาะสม 4.3 การจัดอบรม (Implementing) การดำ เนินการจัดอบรมนั้นเป็นขั้นตอนที่มีความสำ คัญเช่นกัน หากเราออกแบบหลักสูตรออกมาได้ดี แต่ไม่สามารถดำ เนิน การจัดอบรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็อาจส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ของการเรียนรู้ได้ ทั้งนี้ ขั้นตอนการจัดอบรมสามารถแบ่งได้ เป็น 3 ขั้นตอน กล่าวคือ • ก่อนการจัดอบรม : เป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งยืนยันและแจ้งเตือนการเข้าอบรมให้แก่ผู้เข้าอบรม ตลอดจน ประสานงานกับวิทยากรเพื่อให้ข้อมูลที่จำ เป็นเกี่ยวกับ Background ผู้เข้าอบรมและข้อมูลองค์กร เป็นต้น • ระหว่างการจัดอบรม : เป็นขั้นตอนเกี่ยวข้องกับการดูแลอำ นวยความสะดวกให้แก่ผู้เข้าอบรมและวิทยากร ดูแลให้ภาพ รวมและรายละเอียดของการจัดอบรมเป็นไปอย่างเรียบร้อย ตลอดจนผู้จัดอบรมจะต้องเป็นผู้ฟังและติดตามเนื้อหาการ เรียนการสอนตลอดเวลา เพื่อให้มั่นใจว่าหลักสูตรสามารถตอบวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ได้ • หลังการจัดอบรม : เป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกประวัติและประเมินผลหลักสูตร ซึ่งจะกล่าวในรายละเอียดใน หัวข้อถัดไป 4.4 การประเมินผลและติดตามผล (Evaluation) การพัฒนาพนักงานเป็นภารกิจที่สำ คัญของ IRPC ที่ได้ดำ เนินการมาอย่างต่อเนื่องซึ่งการพัฒนาพนักงานจะไม่บรรลุผล หาก ไม่มีการประเมินผลและติดตามผลว่าการพัฒนาพนักงานเกิดผลสำ เร็จตามวัตถุประสงค์หรือไม่ การประเมินผลและติดตามผลการพัฒนาพนักงานนั้น เป็นการประเมินเพื่อให้ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงของผู้เข้าอบรมใน ด้านความรู้ ทักษะและพฤติกรรม ที่เกิดขึ้นเมื่อพนักงานผ่านกระบวนการในการอบรมพัฒนาแล้ว ซึ่งทำ ได้หลายรูปแบบ โดย ปกติ IRPC จะทำ การประเมินผลจากความพึงพอใจของพนักงานที่ได้ผ่านกระบวนการพัฒนาพนักงานแล้ว โดยผู้บังคับบัญชา ของพนักงานเป็นผู้มีบทบาทที่สำ คัญยิ่งในการทำ ให้การพัฒนาพนักงานสัมฤทธิผล ซึ่งมีบทบาทในเรื่องดังต่อไปนี้ คือ • ร่วมกำ หนดความจำ เป็นในการพัฒนา พนักงานตามสมรรถนะของตำ แหน่งงาน • มีส่วนร่วมในการออกแบบกระบวนการพัฒนาและประเมินผล • ให้การสนับสนุน เพื่อเตรียมความพร้อมของพนักงานก่อนเข้าร่วมในการฝึกอบรม / พัฒนา • กำ หนดภารกิจที่พนักงานต้องทำ หลังผ่านการอบรม / พัฒนา • ติดตามความก้าวหน้าของพนักงานอย่างต่อเนื่องและสม่ำ เสมอ เพื่อให้ทราบถึงการพัฒนาของพนักงานที่เปลี่ยนแปลงไป


Learning & Development Guidebook 2023 Page 12 ทั้งนี้ IRPC ใช้กรอบการวัดผลตามหลักของ Kirkpatrick’s four levels & Phillips’ fifth level ซึ่งมีเครื่องมือต่างๆ ตามตาราง


Learning & Development Guidebook 2023 Page 13 Kirkpatrick’s Analytics Phillips’ Analytics Did the training investment pay off ?” “Did theimplementation of thetraining program impact business results ?” “Did the learners deploy the learning on the job ? “Did the learners learn the content? “Did the learners like the training program?


Learning & Development Guidebook 2023 Page 14 5.แนวทางการพัฒนาบุคลากรของ IRPC โ ม เ ด ลการพัฒนาพนักงาน (Devel oping Pe ople Model) ฝึกอบรมและพัฒนา - พนักงานเรียนรู้แบบองค์รวม (หลัก 70:20:10:) - ประเมินผลการเรียนรู้ปลายปี เพื่อตัดสินความสำ เร็จ การประเมิน - ประเมินสมรรถนะความ สามารถ - ประเมินผลการปฏิบัติงาน & ข้อมูลป้อนกลับ (กลางปี) เพื่อ ติดตามความก้าวหน้า วางแผนการพัฒนา - พูดคุยและวางแผนการพัฒนา IDP ร่วมกัน - Competency Development Roadmap (CDR) - Training Roadmap สำ หรับการวางแผนการพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan : IDP) ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนของการวางแผน พัฒนาและฝึกอบรมพัฒนานั้น ผู้บังคับบัญชาจะทำ การประเมิน Competency ในระบบ และจัดทำ แผนพัฒนารายบุคคล (IDP) เพื่อเป็นแนวทางที่จะช่วยให้พนักงานในบริษัทฯ สามารถปฏิบัติงานได้บรรลุตามเป้าหมายในงานของตน ในแผนพัฒนา รายบุคคลดังกล่าวนี้จะต้องระบุวิธีการในการพัฒนา ซึ่งการฝึกอบรมเป็นเพียงหนึ่งในวิธีที่เข้ามาสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร ซึ่งมีวิธีการและเทคนิคในการพัฒนาพนักงานหลายวิธี รวมทั้งบทบาทในการพัฒนาบุคลากรนั้น ไม่ได้เป็นของบุคคลใดบุคคล หนึ่งแต่เป็นหน้าที่ระหว่างผู้บังคับบัญชาและพนักงาน ดังนี้


Learning & Development Guidebook 2023 Page 15 5.1 วิธีการและเทคนิคในการพัฒนาพนักงาน (Training Methods and Techniques) การพัฒนาพนักงานนั้นสามารถทำ ได้หลายวิธี และมีเทคนิคต่างๆ ที่หัวหน้างานสามารถนำ มาใช้ในการวางแผนพัฒนาพนักงานราย บุคคล (IDP) ดังตัวอย่างในตารางต่อไปนี้ กลุ่มการพัฒนาในงาน 1. การฝึกอบรมในงาน (On The Job Training) 2. การมอบหมายงาน (Assignment) 3. การโค้ชแลการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching/Mentoring) 4. การหมุนเวียนงาน (Rotation) 5. คณะทำ งานโครงการ (Team Project) กลุ่มการพัฒนาตนเอง กลุ่มการฝึกอบรม 6. การพัฒนาตนเอง (Self-Development) 7. การศึกษาต่อ (Education) 8. ศึกษาดูงาน (Site Visit) 9. การสัมมนา(Training)


Learning & Development Guidebook 2023 Page 16 กลุ่มการพัฒนาในงาน 1) การฝึกอบรมในงาน (On The Job Training, OJT) • เพิ่มทักษะ และความสามารถผ่านการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบ ในหน้างาน / สถานที่ทำ งานจริง • เหมาะสำ หรับงานที่เรียนรู้ได้ง่ายและสามารถนำ สิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ได้ทันที 2) การมอบหมายงาน (Assignment) • เพิ่มทักษะและความสามารถโดยการมอบหมายงานที่ถนัดเพื่อเพิ่มความชำ นาญและ / หรือ มอบหมายงานที่ไม่ถนัดเพื่อ พัฒนา • มอบหมายงานที่สัมพันธ์กับงานที่ปฏิบัติจริงในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาระงานที่รับผิดชอบอยู่ 3) การโค้ช และ การเป็นพี่เลี้ยง (Coaching / Mentoring) • เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ ทักษะ ความชำ นาญ จากบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสม • เป็นการพัฒนาที่ต้องใช้เวลาและความตั้งใจสูง (ทั้งผู้พัฒนา และ ผู้ได้รับการพัฒนา) • เป็นการพัฒนาที่ต้องพัฒนากัน 1 ต่อ 1 • เป็นการพัฒนาที่ขึ้นอยู่กับความเข้ากันได้ของบุคลิกของผู้พัฒนาและผู้ได้รับการพัฒนา 4) การหมุนเวียนงาน (Rotation) • เป็นการพัฒนาด้วยการหมุนเวียนเปลี่ยนงานที่รับผิดชอบในงานระดับเดียวกันเป็นการชั่วคราว • เพื่อให้เข้าใจและสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างงานใหม่และงานเดิมได้ (บูรณาการ การทำ งาน) • เพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ความเข้าใจ ในงานใหม่ที่หมุนเวียนไปปฏิบัติหน้าที่ 5) คณะทำ งานโครงการ (Team Project) • เป็นการพัฒนาโดยการมอบหมายให้บุคคลเข้าไปเรียนรู้และสนับสนุนโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน • พัฒนาโดยบุคลากรส่วนใหญ่ในโครงการที่มีความสามารถสูง เชี่ยวชาญ และกำ หนดให้บุคลากรที่ต้องการได้รับการพัฒนา เข้ามาเพื่อเรียนรู้ กลุ่มการพัฒนาตนเอง 6) การพัฒนาตนเอง (Self-Development) • ใช้พัฒนาบุคลากรที่สามารถรับผิดชอบการพัฒนาตนเองได้ • ผู้รับการพัฒนาสามารถเรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองสนใจ ตามความเร็วในการเรียนรู้ของตนเอง (ภายใต้คำ แนะนำ ) • เมื่อได้รับการพัฒนาต้องมีการถ่ายทอดสิ่งที่ได้เรียนรู้ให้กับผู้อื่นในองค์กร • รูปแบบของการพัฒนาตนเอง สามารถใช้วิธีการอ่านหนังสือ วารสาร นิตยสาร ศึกษาจาก CD การค้นคว้าข้อมูลทาง อินเตอร์เน็ต และอินทราเน็ตที่บริษัทฯ จัดเตรียมไว้ให้ เป็นต้น


Learning & Development Guidebook 2023 Page 17 7) การศึกษาต่อ (Education) • เป็นการพัฒนาเพื่อยกระดับของคุณสมบัติของบุคลากร (ใบประกอบวิชาชีพ วุฒิบัตร ปริญญาบัตร) • เป็นการพัฒนาในระบบการศึกษาอย่างเป็นทางการซึ่งได้รับการรับรองจากสถาบันที่เกี่ยวข้อง และมีระยะเวลานานกว่า การฝึกอบรม • บุคลากรที่ได้รับการพัฒนามีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการรองรับความต้องการขององค์กรในอนาคต กลุ่มการฝึกอบรม 8) การเยี่ยมชมศึกษาดูงานสถานที่ต้นแบบ (Site Visit) • เยี่ยมชมองค์กรที่เป็นที่ยอมรับ เพื่อให้เห็นตัวอย่างและนำ มาประยุกต์ใช้ • เพื่อให้บุคลากรมีแรงจูงใจ และมุ่งพัฒนาให้เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดหวัง • ต้องมีการขยายผลการเยี่ยมชม โดยสรุปสาระ และประโยชน์ที่ได้รับอย่างเป็นระบบ 9) การสัมมนา (Training) • เป็นการพัฒนาเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ • เป็นการพัฒนาที่สามารถดำ เนินการให้กับบุคลากรจำ นวนมากได้ • ต้องจัดการพัฒนาให้สอดคล้องระหว่างความจำ เป็นระดับบุคลากร และความจำ เป็นระดับองค์กร 5.2 IDP ที่พัฒนาโดยวิธีฝึกอบรม (Training) มี 2 ประเภท 5.2.1 การฝึกอบรมภายใน (In-House Training) 1) HR รวบรวมวิเคราะห์ความต้องการ (Training needs) จากกลยุทธ์ขององค์กร, กฎหมายที่เกี่ยวข้อง, ผลการประเมิน Competency ฯลฯ เพื่อการพัฒนาและจัดทำ แผนการจัดฝึกอบรมประจำ ปี 2) จัดทำ คู่มือแผนการจัดอบรมหลักสูตรและพัฒนาพนักงานประจำ ปี และประชาสัมพันธ์แผนงานในระบบ 3) พนักงานและหัวหน้างาน พิจารณาคัดเลือกหลักสูตรและสมัครเข้าอบรมในระบบ 4) ข้อมูลหลักสูตรที่พนักงานสมัครเข้าอบรม จะถูกส่งมายังหัวหน้างาน เพื่ออนุมัติ 5) พนักงานเข้าอบรมตามหลักสูตร และกำ หนดการที่กำ หนด 6) HR บันทึกประวัติการเข้าอบรมในระบบ LMS ให้เมื่อเสร็จสิ้นการอบรมของแต่ละหลักสูตร


Learning & Development Guidebook 2023 Page 18 5.2.2 การฝึกอบรมภายนอก(Public Training) 1) User คีย์จองงบประมาณ การขออนุมัติอบรมภายนอก (ในประเทศ) ผ่านระบบ 2) ต้นสังกัดอนุมัติตาม Authorize และ ตามวงเงินอนุมัติดังนี้ 3) พนักงานเข้ารับการอบรมตามแผนที่กำ หนดไว้ 4) หลังจบการอบรมให้พนักงานเขียนรายงานฝึกอบรมภายนอกและจัดทำ แผนดำ เนินการหลังจากที่อบรม/สัมมนาแล้ว (Action Plan) โดยผ่านผู้บังคับบัญชา เพื่อบันทึกประวัติการฝึกอบรมในระบบ LMS


Learning & Development Guidebook 2023 Page 19 Manager พนักงาน 5.3 บทบาทหน้าที่ของ Manager และพนักงาน มีบทบาทหลักในการสื่อสารร่วมกับพนักงาน (Two-Way Communication) ตลอดทั้งปี ในประเด็นต่างๆ ดังต่อไปนี้ • ประเมินพนักงาน เพื่อการวางแผนพัฒนาพนักงานทั้งในส่วนของ Performance และ Competency ซึ่งในแต่ละปี ควรจะมีการพัฒนาจุดแข็ง (Strength) และข้อควรพัฒนา (Development) อย่างละ 1-2 เรื่อง ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชา ควรทำ การรวบรวมข้อมูล (Evidence) พนักงานเพื่อประกอบการประเมินและการพัฒนา ได้แก่ ผลงานที่โดดเด่น / สรุปจุดเด่น / สรุปข้อควรพัฒนา / ความสนใจ-ความถนัดในสายอาชีพ/ ความคาดหวัง-ความก้าวหน้าในสายอาชีพ เพื่อให้การประเมินผลและการพัฒนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ • จัดทำ แผนพัฒนารายบุคคล (IDP) โดยกำ หนดวัตถุประสงค์ของการพัฒนา ตัวชี้วัด และวิธีการพัฒนาโดยดำ เนินการ ตามหลักการ STAR ซึ่งประกอบด้วย Situation, Task, Action และ Result และตกลงร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชาว่าจะ ดำ เนินการอย่างไรเพื่อให้ไปถึงความสำ เร็จนั้น • ให้การสนับสนุน และติดตามแผนการพัฒนาเป็นระยะๆ เพื่อพิจารณาว่าพนักงานมีปัญหาและอุปสรรคอะไรหรือไม่ • ให้ Feed Back โดยต้องมีการพูดคุยให้ชัดเจนว่าสถานการณ์ไหนทำ Actions อะไรแล้วเป็นผลดี โดยจะต้องมีการ วิเคราะห์ว่าจุดใดดี จุดใดไม่ดี และประเมินหรือหาแนวทางว่าทำ อย่างไรถึงจะดีขึ้น • การประเมิน IDP อีกครั้งตอนสิ้นปี เพื่อดูว่าพนักงานสามารถพัฒนาศักยภาพตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ ทำ การสื่อสารร่วมกับผู้บังคับบัญชา (Two-Way Communication) ดังนี้ • ประเมินตนเอง เพื่อการวางแผนและพัฒนา ทั้งในส่วนของ Performance และ Competency • หารือร่วมกันกับผู้บังคับบัญชาในการกำ หนดเป้าหมายของการพัฒนา (IDP) ตามหลักการ STAR และหารือร่วมกับผู้ บังคับบัญชาว่าจะดำ เนินการอย่างไรเพื่อให้ไปถึงความสำ เร็จนั้น • พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ตามแผนการพัฒนาที่ได้ตั้งไว้ อาทิ ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้วิธีการทำ งาน จากผู้อื่น การพัฒนาตนเองด้วยการฝึกอบรม การทดลองปฏิบัติจริง และการสอนงานโดยหัวหน้างาน เป็นต้น • การประเมินตนเองอีกครั้งตอนสิ้นปี เพื่อดูว่าสามารถพัฒนาตนเองตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่


Learning & Development Guidebook 2023 Page 20 แผนการพัฒนาบุคลากรประจำ ปี 2566 Organization Knowledge


Learning & Development Guidebook 2023 Page 21 แผนการพัฒนาบุคลากรประจำ ปี 2566 Organization Knowledge


Learning & Development Guidebook 2023 Page 22 แผนการพัฒนาบุคลากรประจำ ปี 2566 Organization Knowledge


Learning & Development Guidebook 2023 Page 23 แผนการพัฒนาบุคลากรประจำ ปี 2566 Work Competency


Learning & Development Guidebook 2023 Page 24 แผนการพัฒนาบุคลากรประจำ ปี 2566 Work Competency


Learning & Development Guidebook 2023 Page 25 แผนการพัฒนาบุคลากรประจำ ปี 2566 Leadership Development Program


Learning & Development Guidebook 2023 Page 26 แผนการพัฒนาบุคลากรประจำ ปี 2566 Leadership Development Program


ภาคผนวก Learning & Development Guidebook 2023 Page 27


Course Outline หลักสูตรด้าน สิ่งแวดล้อม Learning & Development Guidebook 2023 Page 28


Learning & Development Guidebook 2023 Page 29 ชื่อหลักสูตร : การเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม,การร้องเรียนและการปฏิบัติตามกฎหมาย หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านสิ่งแวดล้อม รหัสหลักสูตร : 0000004812 วัตถุประสงค์ 1.เพื่อให้พนักงานมีความรู้ทางด้านกฏหมายด้านสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้อง สำ หรับการนำ มา ปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง 2.เพื่อให้พนักงานเกิดความตระหนัก ใส่ใจ รับผิดชอบ ในการปฏิบัติงาน และกิจกรรมต่างๆ ที่อาจส่งผลผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม และชุมชนพื้นที่ใกล้เคียง หัวข้อการอบรม 1.กฏหมายที่เกี่ยวกับคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2.ระบบเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม ของเขตประกอบการไออาร์พีซี และหน่วยงานภาครัฐ 3.ระบบควบคุมคุณภาพ ISO ที่เกี่ยวกับการรายงาน แจ้งเหตุ ผลกระทบ ด้านสิ่งแวดล้อม 4.การติดตามตรวจสอบการร้องเรียนด้านสิ่งแวดล้อม ของเขตประกอบการไออาร์พีซี . วิทยากร : ภายใน จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 40 / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : พนักงานระดับ PG 5-9 ระยะเวลาการอบรม : 3 ชั่วโมง / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Pre-test , Post-test


Learning & Development Guidebook 2023 Page 30 ชื่อหลักสูตร : ประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco Efficiency) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านสิ่งแวดล้อม รหัสหลักสูตร : 0000000096 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจในหลักการของประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ 2. เข้าใจถึงความเชื่อมโยงของการดำ เนินการตั้งแต่ภาพของหน่วยงาน บริษัท ประเทศ และ กระแสโลก (Global trend) 3. มีแนวคิดและความตระหนักในการปรับปรุงเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจาก กิจกรรมการดำ เนินการของหน่วยงาน 4. สามารถวางแผนการปรับปรุงพัฒนาในเชิงรุกเพื่อไปสู่แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน หัวข้อการอบรม 1. แนวคิดประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจกับการพัฒนาที่ยั่งยืน 2. ความเชื่อมโยงของการดำ เนินการในระดับบริษัท ประเทศ ระดับโลก รวมทั้งการ ประเมิน DJSI 3. การสร้างความร่วมมือกับพนักงานภายในโรงงานหรือองค์กร 4. หลักการ 7Rs สำ หรับกระบวนการผลิตกับการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจของ หน่วยงาน 5. การเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม การใช้น้ำ และการจัดการน้ำ ทิ้ง การใช้พลังงาน มลพิษทางอากาศ (SOx, NOx, TSP, GHG, VOCs) การเกิดกากของเสีย 6. การส่งเสริมการใช้สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 7. การบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่การผลิตสินค้า 8. การนำ เสนอสู่นโยบายขององค์กร 9. Best practice ของการดำ เนินการเพื่อลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมในแต่ละด้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ .


Learning & Development Guidebook 2023 Page 31 วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 100 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : พนักงาน Plant operation และผู้ประสานงานส่วนกลาง ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมของแต่ละโรงงาน ระยะเวลาการอบรม : 1 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Attendance


Learning & Development Guidebook 2023 Page 32 ชื่อหลักสูตร : ผู้ปฏิบัติประจำ ระบบบำ บัดมลพิษน้ำ หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านสิ่งแวดล้อม รหัสหลักสูตร : 0000004813 วัตถุประสงค์ เพื่อให้โรงงานตามรายการในข้อ5 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการกำ หนดชนิดและ ขนาดของโรงงาน กำ หนดวิธีการควบคุมการปล่อยของเสีย มลพิษ หรือสิ่งใดๆ ที่มีผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม กำ หนดคุณสมบัติของผู้ควบคุมดูแล ผู้ปฏิบัติงานประจำ และหลักเกณฑ์การขึ้น ทะเบียน ผู้ควบคุมดูแล สำ หรับระบบป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 ต้องมี บุคลากรด้านสิ่งแวดล้อมประจำ โรงงานตามที่กำ หนดพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจในหลักการของ ประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ หัวข้อการอบรม 1. สถานการณ์มลพิษทางน้ำ และผลกระทบ -กฎหมายเกี่ยวกับคุณภาพตาม พรบ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 2. หน้าที่ของผู้ปฏิบัติงาน -กฎหมายการจัดการมลพิษทางน้ำ จากโรงงานอุตสาหกรรม -พารามิเตอร์ของคุณภาพน้ำ -การตรวจวัดและการเก็บตัวอย่าง -ประเภทการบำ บัดน้ำ เสีย การบำ บัดน้ำ เสียด้านกายภาพ 3. การบำ บัดน้ำ เสียด้านเคมี 4. เทคนิคการควบคุมระบบบำ บัดน้ำ เสียและการจัดการตะกอนอย่างมีประสิทธิภาพ -การแก้ไขปัญหาจากระบบบำ บัดน้ำ เสีย -การดูแลอุปกรณ์สนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพ -การบำ บัดน้ำ เสียด้านชีววิทยา . .


Learning & Development Guidebook 2023 Page 33 วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 60 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : ผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรผู้ปฏิบัติงานประจำ ระบบ ป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษต้องสำ เร็จการศึกษาอย่างต่ำ ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือ เทียบเท่าและผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติงาน ประจำ ระบบป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ระยะเวลาการอบรม : 3 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Pre-test , Post-test


Learning & Development Guidebook 2023 Page 34 ชื่อหลักสูตร : ผู้ปฏิบัติประจำ ระบบบำ บัดมลพิษอากาศ หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านสิ่งแวดล้อม รหัสหลักสูตร : 0000004814 วัตถุประสงค์ เพื่อให้โรงงานตามรายการในข้อ 5 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง การกำ หนดชนิด และขนาดของโรงงาน กำ หนดวิธีการควบคุมการปล่อยของเสีย มลพิษ หรือสิ่งใดๆ ที่มีผลกระ ทบต่อสิ่งแวดล้อม กำ หนดคุณสมบัติของผู้ควบคุมดูแล ผู้ปฏิบัติงานประจำ และหลักเกณฑ์การ ขึ้นทะเบียน ผู้ควบคุมดูแล สำ หรับระบบป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ต้อง มีบุคลากรด้านสิ่งแวดล้อมประจำ โรงงานตามที่กำ หนด หัวข้อการอบรม 1. มลพิษทางอากาศและผลกระทบ -กฎหมายเกี่ยวกับมลพิษอากาศจากภาคอุตสาหกรรม การป้องกันมลพิษ 2.เทคนิคการเดินระบบบำ บัดมลพิษอากาศ -การตรวจประสิทธิภาพของระบบบำ บัดมลพิษอากาศ -ปัญหาในการเดินระบบและวิธีแก้ไข 3.ความรู้เบื้องต้นเรื่องการควบคุมฝุ่นละอองก๊าซและไอและกลิ่น -เทคโนโลยีการเผาไหม้ -ระบบระบายอากาศในอุตสาหกรรม 4.การควบคุมดูแลกากของเสียจากระบบบำ บัด -ความรู้พื้นฐานการตรวจสอบคุณภาพอากาศและการรายงานผล 5.อุปกรณ์และเทคนิคในการควบคุมมลพิษก๊าซและไอจากโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ 6.การแก้ไขปัญหาจากระบบควบคุมมลพิษทางอากาศและการดูแลอุปกรณ์สนับสนุนอย่างมี ประสิทธิภาพ . .


Learning & Development Guidebook 2023 Page 35 วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 60 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : ผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรผู้ปฏิบัติงานประจำ ระบบ ป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษต้องสำ เร็จการศึกษาอย่างต่ำ ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือ เทียบเท่าและผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติงาน ประจำ ระบบป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ระยะเวลาการอบรม : 3 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Pre-test , Post-test


Learning & Development Guidebook 2023 Page 36 ชื่อหลักสูตร : ผู้ปฏิบัติประจำ ระบบบำ บัดมลพิษกากอุตสาหกรรม หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านสิ่งแวดล้อม รหัสหลักสูตร : 0000004815 วัตถุประสงค์ เพื่อให้โรงงานตามรายการในข้อ 5 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง การกำ หนดชนิด และขนาดของโรงงาน กำ หนดวิธีการควบคุมการปล่อยของเสีย มลพิษ หรือสิ่งใดๆ ที่มีผลกระ ทบต่อสิ่งแวดล้อม กำ หนดคุณสมบัติของผู้ควบคุมดูแล ผู้ปฏิบัติงานประจำ และหลักเกณฑ์การ ขึ้นทะเบียน ผู้ควบคุมดูแล สำ หรับระบบป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ต้อง มีบุคลากรด้านสิ่งแวดล้อมประจำ โรงงานตามที่กำ หนด หัวข้อการอบรม 1. สถานการณ์กากของเสียอุตสาหกรรมของประเทศไทย 2. หน้าที่ของผู้ปฏิบัติงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการกากอุตสาหกรรมจากกรม โรงงานอุตสาหกรรม 3. ลักษณะและคุณสมบัติของกากของเสียในโรงงานอุตสาหกรรมการคัดแยก การเก็บ การ รวบรวม การขนส่งและระบบเอกสารกำ กับการขนส่งของเสียอันตราย 4. ทฤษฎีการการจัดการกากของเสียและเทคนิคการกำ จัดกากของเสียโดยการฝังกลบอย่าง ถูกหลักสุขาภิบาลและอย่างปลอดภัย 5. เทคนิคการกำ จัดกากของเสียที่อันตรายโดยการเผาอย่างมีประสิทธิภาพและการควบคุม มลพิษ 6. อุปกรณ์ความปลอดภัยและการตอบโต้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน . .


Learning & Development Guidebook 2023 Page 37 วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 40 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : ผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรผู้ปฏิบัติงานประจำ ระบบ ป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษต้องสำ เร็จการศึกษาอย่างต่ำ ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือ เทียบเท่าและผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติงาน ประจำ ระบบป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ระยะเวลาการอบรม : 3 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Pre-test , Post-test


Learning & Development Guidebook 2023 Page 38 หลักสูตรด้าน การอนุรักษ์พลังงาน Course Outline


Learning & Development Guidebook 2023 Page 39 ชื่อหลักสูตร : TSV Energy Chart (สำ หรับโรงงานที่จะประกวดอุตสาหกรรมดีเด่น) หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านการอนุรักษ์พลังงาน รหัสหลักสูตร : 0000000098 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อสามารถจัดทำ และวิเคราะห์ TSV Energy Chart ได้ ตั้งแต่เริ่มสายการผลิต จนจบการ ผลิตเพื่อหาช่องว่าง (Gap) และหามาตรการอนุรักษ์พลังงานได้ หัวข้อการอบรม 1.เกณฑ์การประเมินอุตสาหกรรมดีเด่น สาขาพลังงาน 2.การพัฒนา TSV Energy Chart และ Work Shop การพัฒนา Energy Chart 3.เกณฑ์ระบบสนับสนุน ระบบไฟฟ้า ระบบอากาศอัด 4.เกณฑ์ระบบสนับสนุน ระบบไอน้ำ ระบบน้ำ เย็น 5.การติดตามดัชนีพลังงาน และค่าพลังงานคาดหมาย (Energy Equation) 6.การวิเคราะห์ TSV Energy Chart ตั้งแต่เริ่มสายการผลิต จนจบการผลิตเพื่อหาช่องว่าง (Gap) และหามาตรการอนุรักษ์พลังงาน . . วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 30 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : ผู้ที่รับผิดชอบด้านพลังงานของโรงงาน ระยะเวลาการอบรม : 5 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Attendance


Learning & Development Guidebook 2023 Page 40 ชื่อหลักสูตร : การประเมินสมรรถนะด้านพลังงานโดยใช้ตัวชี้วัดและข้อมูลฐานด้านพลังงาน หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านการอนุรักษ์พลังงาน รหัสหลักสูตร : 0000003748 วัตถุประสงค์ 1.เพื่อการกำ หนดตัวชี้วัดสมรรถนะด้านพลังงาน (Energy Performance Indicator , EnPI) สำ หรับการตรวจติดตาม (Monitoring), การประเมินสมรรถนะ (Performance Assessment) และการคำ นวณผลการปรับปรุง (Performance Improvement Calculation) 2.เพื่อการสร้างข้อมูลฐานด้านพลังงาน (Energy Baseline , EnB) เพื่อใช้สำ หรับการเปรียบ เทียบสมรรถนะด้านพลังงานของปัจจุบันกับจุดในอดีตที่ใช้อ้างอิงเรียกว่า “ช่วงฐานด้านพลังงาน (Energy Beseline Period)” 3.เพื่อแนวทางการกำ หนด EnPI และ EnB ตามมาตรฐานสากล ISO 50006:2014 และ ISO/DIS 50006:2022 4.เพื่อแนวทางการกำ หนดและคำ นวณตัวชี้วัดเพื่อใช้ประเมินสมรรถนะด้านพลังงานของอุปกรณ์ ต่างๆ เช่น Motor, Air Compressor, Chiller และ Boiler เป็นต้น หัวข้อการอบรม 1. กรอบแนวคิดเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานในโรงงานอุตสาหกรรม (Energy Saving Concept for Industry) 2. ประเภทตัวชี้วัดสรรมถนะด้านพลังงาน (EnPI) 3. แนวทางการกำ หนด EnPI สำ หรับประเมินสมรรถนะด้านพลังงานของอุปกรณ์ 4. แนวทางการเปรียบเทียบ EnPI ระหว่างช่วงฐาน (Base Period) กับปีเปรียบเทียบ (Reporting Period) 5. การสร้างและทดสอบข้อมูลฐานด้านพลังงาน (Energy Baseline) 6. การใช้ Energy Baseline ในการประเมินผลประหยัดพลังงาน โดยใช้เทคนิค Cusum


Learning & Development Guidebook 2023 Page 41 วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 30 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : พนักงานระดับ PG 6-9 พนักงานฝ่ายผลิต, พนักงานฝ่าย เทคโนโลยี (TE) ระยะเวลาการอบรม : 1 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Attendance


Learning & Development Guidebook 2023 Page 42 ชื่อหลักสูตร : การพัฒนาระบบการจัดการพลังงานตามกฎหมายและมาตรฐาน ISO 50001:2018 หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านการอนุรักษ์พลังงาน รหัสหลักสูตร : 0000003241 วัตถุประสงค์ 1.เพื่อเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ และขั้นตอนการตรวจติดตามของผู้ ตรวจติดตาม (Auditor) หัวหน้าผู้ตรวจติดตาม (Lead Auditor) ผู้ถูกตรวจติดตาม (Auditee) และสมาชิกในทีมตรวจติดตาม 2.สามารถวางแผนการตรวจติดตามได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมุ่งเน้นในการมองและ คิดอย่างเป็นกระบวนการ 3.ดำ เนินการตรวจติดตามโดยมุ่งเน้นการมองและคิดอย่างเป็นกระบวนการ“Process Audit Trail” รวมถึงหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจติดตาม 4.รายงานผลการตรวจติดตามและขั้นตอนในการติดตามการแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น หัวข้อการอบรม รายละเอียดของเนื้อหาแบ่งเป็นหัวข้อหลัก ดังนี้ 1. บททั่วไป · คำ ศัพท์ · แนวคิดในการตรวจติดตาม 2. วัตถุประสงค์ของการตรวจติดตามคุณภาพภายใน 3. โครงสร้างของการตรวจติดตาม . วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 30 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : พนักงานระดับ PG 6-9 พนักงานฝ่ายผลิต, พนักงานฝ่าย เทคโนโลยี (TE) ระยะเวลาการอบรม : 1 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Attendance


Learning & Development Guidebook 2023 Page 43 ชื่อหลักสูตร : การวิเคราะห์ศักยภาพการนำ พลังงานที่เหลือกลับมาใช้ประโยชน์ หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านการอนุรักษ์พลังงาน รหัสหลักสูตร : 0000004816 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อการสำ รวจหาแหล่งพลังงานที่สามารถนำ กลับมาใช้ 2. เพื่อการวิเคราะห์หาศักยภาพพลังงานในแหล่งต่างๆ เช่น Hot Flue Gas , Hot Process Streams , Utility Streams เป็นต้น 3. เพื่อการศึกษาศักยภาพ โดยใช้หลักการ Pinch Analysis 4. เพื่อขั้นตอนการวิเคราะห์ โดยใช้หลักการของ Pinch Analysis 5. เพื่อการใช้โปรแกรม Aspen Energy Analyzer (AEA) สำ หรับ Pinch Analysis 6. เพื่อ Heat Transfer Basic Concept 7. เพื่อ Heat Transfer Mechanisms 8. เพื่อ Convection , Conduction และ Radiation 9. เพื่อ Heat Duty และ Heat Balance หัวข้อการอบรม 1. การสำ รวจหาแหล่งพลังงานที่สามารถนำ กลับมาใช้ 2. การวิเคราะห์หาศักยภาพในแหล่งต่างๆ 3. การศึกษาศักยภาพ โดยใช้หลักการ Pinch Analysis 4. Heat Transfer Basic Concept 5. ตัวอย่างการวิเคราะห์ศักยภาพการนำ พลังงานที่เหลือกลับมาใช้ประโยชน์ วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 30 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : พนักงานระดับ PG 6-9 พนักงานฝ่ายผลิต, พนักงานฝ่าย เทคโนโลยี (TE) ระยะเวลาการอบรม : 1 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Attendance


Learning & Development Guidebook 2023 Page 44 ชื่อหลักสูตร : การตรวจประเมินภายในระบบการจัดการพลังงาน (EnMS Internal Audit) หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านการอนุรักษ์พลังงาน รหัสหลักสูตร : 0000003243 วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้าอบรม ทราบข้อกำ หนดของระบบการจัดการพลังงาน สามารถนำ ความรู้ เกี่ยวกับขั้นตอนการพัฒนาระบบฯ การบริหารระบบฯ และการตรวจประเมินระบบฯ ที่สอดคล้องกฎหมายและมาตรฐานสากล ISO 50001:2018 ไปใช้ นำ ไปสู่การใช้ พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสามารถควบคุมปริมาณการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายด้าน พลังงาน โดยนำ เสนอแนวทางดังต่อไปนี้ 1.ข้อกำ หนดการจัดการพลังงานตามกฎหมายและมาตรฐานสากล ISO 50001:2018 2.แนวทางการพัฒนาและการบริหารระบบการจัดการพลังงาน 3.แนวทางและขั้นตอนการตรวจประเมินระบบการจัดการพลังงานที่เหมาะสมช่วยชี้บ่ง Non – Conformance และ Opportunities for Improvement นำ ไปสู่การ ประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Energy Saving) หัวข้อการอบรม 1. ข้อกำ หนดระบบการจัดการพลังงาน 2. ขั้นตอนการพัฒนาระบบการจัดการพลังงาน 3. ทบทวนขั้นตอนที่สำ คัญ 4. การบริหารระบบการจัดการพลังงาน 5. การตรวจประเมินระบบการจัดการพลังงาน วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 30 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : พนักงานระดับ PG 6-9 พนักงานฝ่ายผลิต, พนักงานฝ่าย เทคโนโลยี (TE) ระยะเวลาการอบรม : 2 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Attendance


Learning & Development Guidebook 2023 Page 45 ชื่อหลักสูตร : การพัฒนาแผนแม่บทการประหยัดพลังงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลด ก๊าซเรือนกระจก หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านการอนุรักษ์พลังงาน รหัสหลักสูตร : 0000004818 วัตถุประสงค์ 1.แนวทางการประเมินผลประหยัดพลังงานของโครงการตามแนวทางของISO 50047 และ International Performance Measurement & Verification Protocol , IPMVP) 2.แนวทางการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas , GHG) ที่ลดลง ของโครงการตามแนวทางของ ISO 14064-2 3.แนวทางการกำ หนดเป้าหมายการลด GHG ระยะยาวเป็นเป้าหมายในแต่ละปีตาม แนวทางของ Science Based Target Initiatives (SBTi) 4.แนวทางการกำ หนดเป้าหมายการประหยัดพลังงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลด GHG ในแต่ละปี 5.แนวทางการจัดทำ แผนแม่บทการประหยัดพลังงาน (Energy Saving Roadmap) หัวข้อการอบรม 1.การประเมินผลประหยัดพลังงานตามแนวของ · ISO 50047:2016 Energy Saving – Determination of energy saving in organizations · International Performance Measurement & verification protocol (IPMVP) 2. แนวทางการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงของโครงการ / มาตรการภาค พลังงาน · การกำ หนดกรณีฐานของการประเมินการลด GHG · การพัฒนาวิธีคำ นวณปริมาณการลด GHG · การเลือกใช้ข้อมูลกิจกรรมที่ปล่อย GHG · การกำ หนดและเลือกใช้ค่าสัมประสิทธิ์ / ค่าคงที่ต่าง ๆ


Learning & Development Guidebook 2023 Page 46 วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 30 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : พนักงานระดับ PG 6-9 พนักงานฝ่ายผลิต, พนักงานฝ่าย เทคโนโลยี (TE) ระยะเวลาการอบรม : 1 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Attendance 3. แนวทางกำ หนดเป้าหมายการลด GHG ระยะยาวเป็นเป้าหมายในแต่ละปีตามแนวทาง ของ Science Based Target Initiatives (SBTi) · Absolute Contraction · Sectoral Decarbonization Approach · Economic Intensity Targets 4. แนวการการกำ หนดเป้าหมายการประหยัดพลังงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลด GHG ในแต่ละปี · การใช้ Energy Baseline ในการกำ หนด Business As Usual (BAU) Scenario · การกำ หนดเป้าหมายลด GHG โดยวิเคราะห์ BAU กับค่าเป้าหมายของแต่ละปี 5. แนวทางการจัดทำ แผนแม่บทการประหยัดพลังงาน (Energy Saving Roadmap) · การกำ หนดมาตรการประหยัดพลังงาน · การแปลงปริมาณพลังงานที่ประหยัดเป็นปริมาณ GHG ที่ลดลง · Energy Attribute Certificates .


Learning & Development Guidebook 2023 Page 47 ชื่อหลักสูตร : การประเมินสมรรถนะด้านพลังงาน - ระดับไอน้ำ หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านการอนุรักษ์พลังงาน รหัสหลักสูตร : 0000004819 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนการอนุรักษ์พลังงานและสามารถจัดการพลังงานที่ดี โดยการ วิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ดี 2. เพื่อทราบเทคโนโลยีด้านการอนุรักษ์พลังงาน และเทคนิควิธีการในการประหยัดใน รูปแบบต่างๆ หัวข้อการอบรม 1.เชื้อเพลิงและการเผาไหม้ 2.การอนุรักษ์พลังงานสำ หรับเตาเผา 3.การอนุรักษ์พลังงานสำ หรับหม้อไอน้ำ 4.น้ำ และไอน้ำ 5.การนำ พลังงานความร้อนที่ใช้แล้วมาใช้ใหม่ 6.อุปกรณ์และเครื่องมือตรวจวิเคราะห์ เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน 7.เทคนิคการตรวจวิเคราห์การใช้พลังงานในโรงงาน และกรณีตัวอย่าง . . วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 30 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : พนักงานระดับ PG 6-9 พนักงานฝ่ายผลิต, พนักงานฝ่าย เทคโนโลยี (TE) ระยะเวลาการอบรม : 1 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Attendance


Learning & Development Guidebook 2023 Page 48 ชื่อหลักสูตร : การประเมินสมรรถนะด้านพลังงาน - ระดับโรงงาน_ระบบอากาศอัด หมวดหลักสูตร : Organization Knowledge ด้านการอนุรักษ์พลังงาน รหัสหลักสูตร : 0000004820 วัตถุประสงค์ 1.เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการประเมิน สมรรถนะด้านพลังงานและกำ หนดมาตรการประหยัดพลังงานสำ หรับระบบอากาศอัด หัวข้อการอบรม 1. กรอบแนวคิดเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานในโรงงานอุตสาหกรรม 2. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบ Compressed Air 3. ประเภทและองค์ประกอบของระบบ Compressed Air 4. การคำ นวณต้นทุนของ Compressed Air 5. การวิเคราะห์การใช้อากาศอัด (End Uses) 6. การวิเคราะห์ระบบท่อจ่ายอากาศอัด (Distribution) 7. การวิเคราะห์การผลิตอากาศอัด 8. การกำ หนด Baseline สำ หรับการประเมินผลประหยัด 9. มาตรการประหยัดพลังงานสำ หรับระบบอากาศอัด พร้อมตัวอย่างการคำ นวณ 10. การแก้ไขปัญหา (Troubleshooting) ที่เกิดในระบบ . วิทยากร : ภายนอก จำ นวนผู้เข้ารับการอบรม : 30 คน / รุ่น คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม : พนักงานระดับ PG 6-9 พนักงานฝ่ายผลิต, พนักงานฝ่ายเทคโนโลยี (TE) ระยะเวลาการอบรม : 1 วัน / รุ่น วิธีการประเมินผลการอบรม : Attendance


Learning & Development Guidebook 2023 Page 49 หลักสูตรด้าน ความปลอดภัย Course Outline


Click to View FlipBook Version