The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมปาฐกถาพระราชนิพนธ์สมเด็จพระเทพฯ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมปาฐกถาพระราชนิพนธ์สมเด็จพระเทพฯ

รวมปาฐกถาพระราชนิพนธ์สมเด็จพระเทพฯ

Keywords: ปาฐกถา,สมเด็จพระเทพฯ,วิทยาศาสตร์,เทคโนโลยี

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ับการพฒั นา

เราติดตามประเมินผลโครงการได้อย่างง่ายๆ คือการช่ังน้�ำหนักและวัดส่วนสูง
ในบางกรณีต้องตรวจเลือด นอกจากนั้นยังต้องค�ำนวณผลผลิตทางการเกษตร และ
ปริมาณอาหารแต่ละหมวดท่ีร่างกายต้องการว่าสมดุลกันหรือไม่ จ�ำเป็นจะต้องหาเพิ่ม
จากภายนอกเท่าไร ต้องศึกษาด้วยว่า สภาพโภชนาการของกลุ่มเป้าหมายด้อยลงด้วย
สาเหตุอื่นๆ ใช่หรือไม่ เช่น มีหนอนพยาธิ (การตรวจต้องแยกประเภทพยาธิเพื่อให้ทราบ
ถึงวิธีการรักษา) ป่วยด้วยโรคทางเดินอาหาร โรคทางระบบการหายใจ และโรคอ่ืนๆ เช่น
มาเลเรีย ไข้เลือดออก เป็นต้น

บทบาทของวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการพัฒนา

ในรอบ 100 ปีท่ีผ่านมา เราได้เห็นบทบาทของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ี
ท�ำใหผ้ ลิตอาหารได้มากขนึ้ บา้ นเรอื นทอี่ ยอู่ าศัยทด่ี ีขน้ึ มสี ขุ ภาพและมคี ุณภาพชวี ิตทีด่ ขี น้ึ
ในเกือบทุกประเทศ World Competitiveness Yearbook เสนอว่า การพัฒนาทาง
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยมี ปี ฏสิ มั พนั ธท์ างบวกกบั การพฒั นาทางเศรษฐกจิ International
Institute for Management Development (IMD) ท่ีโลซานน์ ได้ศึกษาเปรียบเทียบ
ประเทศต่าง ๆ ประมาณ 60 ประเทศ ด้านต่าง ๆ เขาดูตัวชี้วัดการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีหลายอย่าง เช่น ค่าใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) ต่อหัว บุคลากร
ด้าน R&D ผู้ใช้บริการ IT สิทธิบัตรหรือการพิมพ์เอกสารวิชาการเม่ือเปรียบเทียบกับ GPD
ต่อหัว

มีความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เป็นพื้นฐานการพัฒนา ได้แก่ เทคโนโลยี
สารสนเทศ เทคโนโลยีชีวภาพ วัสดุศาสตร์ นาโนเทคโนโลยี และเทคโนโลยีอวกาศ เม่ือ
มีเทคโนโลยีก็ย่อมมีความจ�ำเป็นที่จะผลิตสินค้าเป็นจ�ำนวนมาก สินค้าเหล่านี้อ�ำนวย
ความสะดวกให้ประชาชนทุกครัวเรือนและทุกบุคคลให้สะดวกในความเป็นอยู่และการ
ท�ำงาน ในชั่วชีวิตของเราวิถีชีวิตและความสัมพันธ์หรือการปะทะสังสรรค์ในสังคม
เปลีย่ นแปลงไปมาก ของแพงทตี่ อ้ งใช้เทคโนโลยีสงู อาจจะกลายเป็นของถกู ที่ใครๆ กม็ ีได้
ท้ังน้ีเป็นผลของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

149

เทคโนโลยสี ารสนเทศ
ไม่นานมานี้เราต้องเจาะบัตรกองโตเพื่อจะป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
ขนาดใหญ่ในศูนย์คอมพิวเตอร์ เวลาน้ีเรามีโอกาสใช้คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ
มากกว่า แต่เครือ่ งเลก็ กวา่ ของเก่าหลายเท่า อยู่ทบ่ี ้านตัวเอง หรือแม้แต่ถอื อยู่ในมือก็ยังได้
คอมพิวเตอร์เหล่าน้ีช่วยให้เราสามารถค้นหาข้อมูล และติดต่อกับคนทั่วโลกได้สะดวก
ต่อไปเราก็จะได้ใช้นาโนคอมพิวเตอร์ ควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพดีย่ิงข้ึนไป
คอมพิวเตอร์ใช้ในการพัฒนาเกือบทุกด้าน ในการเก็บข้อมูล สร้างฐานข้อมูล
ส�ำหรับการตัดสินใจ ท�ำบัญชีควบคุมเคร่ืองยนต์ ฯลฯ ติดต่อประสานการปฏิบัติงาน
เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นส่วนส�ำคัญของการสร้างหุ่นยนต์ส�ำหรับช่วยงาน
หลายอย่างแทนการใช้คนในสถานการณ์ท่ีเส่ียง
เทคโนโลยชี ีวภาพ
การที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศก้าวหน้า
ท�ำให้การวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพเป็นไปได้รวดเร็วขึ้น ที่จริงควรจะกล่าวว่าวิจัยปัจจุบันน้ี
มักเป็นแบบ สหสาขา เช่น
พันธุวิศวกรรม (genetic engineering)
เทคโนโลยีเซลล์ต้นก�ำเนิด (stem cell technology)
วิศวกรรมเน้ือเย่ือ (tissue engineering)
วิศวกรรมโปรตีน (protein engineering)
การศึกษาโครงสร้างชีวภาพด้วยคอมพิวเตอร์ (bio-imaging)
วิทยาศาสตร์การเรียนรู้ของจิต (cognitive science)
การวินิจฉัยโรคระดับโมเลกุล (molecular diagnosis)
วัคซีนจากไวรัสลูกผสม (recombinant vaccines)
การน�ำส่งยาตรงกับความต้องการ (differential drug delivery )
การฟื้นฟูส่ิงแวดล้อมด้วยชีววิธี (bioremediation)
ฯลฯ

150

วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ับการพฒั นา

เทคโนโลยีพวกนี้ช่วยในการค้นพบผลิตภัณฑ์ต่างๆ และวิธีการที่เป็นประโยชน์
ในด้านการแพทย์ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม

งานท่ีข้าพเจ้าท�ำอยู่มีเร่ืองการปรับปรุงดินด้วยจุลินทรีย์ท่ีพบในพรุ เป็นต้น
วัสดศุ าสตร์
มบี ทบาทสำ� คญั ในการสรา้ งวสั ดทุ ไ่ี มเ่ ปน็ อนั ตรายตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มและราคาไมแ่ พง
เหมาะส�ำหรับการใช้สอยในกิจการต่างๆ และใช้ประดิษฐ์อุปกรณ์ใหม่ๆ เช่น
วัสดุก่อสร้าง
วัสดุเซรามิกส์ชนิดใหม่ๆ เช่น piezoelectric ceramics, bio-ceramics,
electronic/electro-optic ceramics
วัสดุโพลิเมอร์ท่ีใช้เป็นกล้ามเน้ือเทียม
วัสดุท่ีส่องแสงได้ (light-emitting devices)
สารของแขง็ ใหอ้ อิ อน (solid state ionic materials) ทใ่ี ชท้ ำ� แบตเตอรีแ่ บบใหม่
เซลเช้ือเพลิง (fuel cells) และตัวตรวจวัดค่าต่างๆ (sensors)
สองสามปีมานี้ ดูเหมือนจะมีภัยธรรมชาติมากมายซึ่งเป็นปัญหาส�ำหรับ
นักพัฒนาท้ังหลาย นอกจากจะต้องช่วยเหลือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ในบางกรณีจะ
ต้องหาท่ีอยู่ให้ใหม่และยังต้องท�ำให้ผู้ประสบภัยสามารถประกอบสัมมาชีพเล้ียงตนเอง
ได้ วัสดุก่อสร้างบ้านหลายอย่างเป็นวัสดุชนิดใหม่ มีลักษณะเบา ทนทาน และไม่เป็น
อันตรายต่อส่ิงแวดล้อม
นาโนเทคโนโลยี
เป็นการพัฒนาวัสดุที่มีขนาดเล็กมากในระดับอะตอม ขณะน้ีมีศูนย์นาโน
เทคโนโลยีอยู่ท่ีอุทยานวิทยาศาสตร์ ได้ร่วมมือกับท้ังทางราชการและเอกชน มีส่วนร่วม
ในการสร้างผลิตภัณฑ์ท่ีมีประโยชน์ในการพัฒนา

151

วิทยาศาสตร์อวกาศและรโี มตเซนซิง
วิทยาศาสตร์อวกาศ หมายถึงความรู้เก่ียวกับเทคโนโลยีเรื่องจรวดและดาวเทียม
ซ่ึงจะเปิดกว้างสู่ความรู้ทั้งด้านฟิสิกส์ ชีววิทยา และวิศวกรรม ส่วนท่ีข้าพเจ้าได้ใช้ในงาน
พัฒนาจะเป็นเร่ืองของดาวเทียมส�ำรวจทรัพยากร ดาวเทียมอุตุนิยม และดาวเทียมส่ือสาร
เมื่อเทคโนโลยีอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีสารสนเทศก้าวหน้าข้ึน การใช้เทคโนโลยี
อวกาศก็ย่ิงมีประสิทธิภาพมากข้ึน
รีโมตเซนซิง หรือการส�ำรวจจากระยะทางไกลเป็นการวัด หรือเก็บข้อมูลจาก
วัตถุ พ้ืนท่ีหรือเหตุการณ์ โดยอาศัยเคร่ืองมือวัดท่ีไม่ได้สัมผัสจุดที่ต้องการศึกษาโดยตรง
ในการพัฒนาพ้ืนที่เราจะต้องทราบข้อมูลของพื้นท่ีท่ีจะศึกษาจากแผนท่ีที่มีอยู่แล้ว
ดังน้ันวิชาการวิศวกรรมส�ำรวจและการท�ำแผนท่ี จึงมีความส�ำคัญเป็นอย่างย่ิง ภาพถ่าย
ทางอากาศ ภาพจาก airborn sensors ภาพจากดาวเทียม จึงช่วยให้ข้อมูลที่ส�ำคัญ
ทเี่ ราศกึ ษาไดจ้ ากความชดั เจนของภาพ (resolution) และความตา่ งของชว่ งคลน่ื (spectral
signatures) ข้อมูลท่ีได้เป็นข้อมูล digital จึงสามารถน�ำเข้าระบบสารสนเทศทาง
ภูมิศาสตร์ (Geographic Information System - GIS) ได้โดยง่าย
ดาวเทยี มทนี่ ยิ มกนั ปจั จบุ นั คอื GPS ซงึ่ สามารถบอกตำ� แหนง่ ของผวู้ ดั ได้ เครอื่ งรบั
ราคาไม่แพงนัก

โครงการพฒั นาในประเทศไทยบางโครงการ

เนื่องจากปีน้ีเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติมา
ครบ 60 ปี จึงมีการเผยแพร่พระราชกรณียกิจในการพัฒนาซ่ึงมีอยู่กว่า 3,000 โครงการ

การพัฒนาทรัพยากรน�ำ้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเล็งเห็นว่าน้�ำเป็นส่วนส�ำคัญที่สุดของชีวิต
น้�ำเป็นปัจจัยในการผลิตท่ีส�ำคัญ ถ้าแก้ปัญหาเร่ืองน�้ำได้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาอื่นๆ
ต่อไปได้

152

วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ับการพฒั นา

1. ชลประทาน
ภาพที่คุ้นเตาชาวไทยคือ ภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ

พระราชด�ำเนินไปท่ีต่างๆ มีแผนท่ีท่ีทรงต่อเองเพ่ือวางแผนสร้างเข่ือน ฝาย ฯลฯ การ
วางแผนต้องอาศัยข้อมูลหลายอย่าง เช่น ท่ีต้ังของโครงการ ความสูงของพ้ืนท่ี ทิศทาง
น้�ำไหล ปริมาณน้�ำ ลักษณะทางธรณีวิทยา ฯลฯ ข้อมูลเหล่าน้ีสามารถบันทึกไว้ในแผนท่ี
ได้ การส�ำรวจพ้ืนท่ี การออกแบบและก่อสร้างต้องใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีหลายอย่าง

โครงการชลประทานในพระราชด�ำริที่มีลักษณะพิเศษที่สร้างเสร็จเมื่อไม่นาน
มาน้ีคือ อ่างเก็บน�้ำใต้ดิน (อยู่ในถ�้ำ) ที่บ้านห้วยลึก อ�ำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
บริเวณน้ีเป็นภูมิประเทศแบบคาร์สต์ หรือเป็นเขตหินปูน จะมีถ้�ำเป็นจ�ำนวนมาก
มีพระราชด�ำริท่ีจะเก็บน้�ำไว้ในถ้�ำ ซ่ึงมีข้อดีคือ น้�ำท่ีเก็บไว้ไม่ไปท่วมท่ีดินของเกษตรกร
และน้�ำจะไม่ระเหยไปมากเหมือนอยู่กลางแจ้ง ข้อท่ีล�ำบากคือ การส�ำรวจพ้ืนของถ�้ำ
ว่ามีลักษณะอย่างไรเพื่อท่ีจะเสริมไม่ให้ร่ัวได้ การส�ำรวจต้องใช้หลายวิธีสอบเทียบกัน
เช่น การวัดความต้านทานไฟฟ้า การใช้คล่ืน

ในการป้องกันน้�ำท่วม มีพระราชด�ำริท�ำแก้มลิง เพ่ือเก็บน้�ำเม่ือมีน้�ำมาก ไว้ใช้
ในฤดูแล้ง

น้�ำชลประทานใช้แก้ดินเปร้ียว (โครงการแกล้งดิน) การใช้น้�ำดับไฟป่าในพรุ

เขอ่ื นใต้ดนิ ท่ีเชียงดาว จังหวัดเชยี งใหม่

153

2. กังหันน้�ำชัยพัฒนา
มีท้ังหมด 7 โมเดล เป็นเครื่องช่วยเติมออกซิเจนในน�้ำเพื่อแก้ปัญหาน�้ำเน่า

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจดสิทธิบัตรเคร่ืองกังหันชัยพัฒนานี้ใน พ.ศ. 2545 เป็น
เคร่ืองเติมอากาศเคร่ืองท่ี 9 ในโลกท่ีจดสิทธิบัตร กังหันน้�ำชัยพัฒนาได้รับรางวัลระดับ
นานาชาติหลายรางวัลและได้น�ำไปใช้ไกลที่สุด ในสวนสาธารณะในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศ
เบลเย่ียม

Chaipattana Aerator Model RX-2 Chaipattana Aerator Model RX-5C

กังหนั ชยั พัฒนาในสวนสาธารณะกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยย่ี ม

154

วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีกบั การพฒั นา

3. ฝนเทียม
เป็นเทคโนโลยีท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้มาเป็นเวลาประมาณ

50 ปีแล้ว เป็นที่รู้จักกันในนามว่า ฝนหลวง เป็นเทคโนโลยีที่ต้องใช้ความรู้ทางฟิสิกส์และ
เคมี จะได้ผลในบริเวณท่ียังมีความชื้นอยู่บ้าง ใช้เคร่ืองบินพ่นสารเคมีท่ีไม่เป็นภัยต่อ
ส่ิงแวดล้อมในความสูงและพิกัดท่ีเหมาะสม เพ่ือรวมความช้ืนให้ตกลงมาเป็นฝน แต่ละ
สภาพสิ่งแวดล้อม (สภาพทางอุตุนิยม เช่น ทิศทางลม ความเร็วลม สภาพพื้นที่) ใช้
สารเคมีไม่เหมือนกัน งานที่ได้ผลคือ การท�ำฝนเทียมลงในอ่างเก็บน้�ำ ช่วยให้ได้น้�ำ
เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ

การดับไฟป่าในพรุใช้วิธีท�ำฝนเทียมลงในคลองท่ีไหลลงในพรุได้ผลดีกว่าการใช้
เฮลิคอปเตอร์ตักน้�ำเทลงไปอย่างท่ีเคยใช้

การทำ� ฝนเทยี ม

155

การพฒั นาทด่ี ิน
การศึกษาคุณภาพของดิน การป้องกันการกัดเซาะของดิน (erosion) การ
อนรุ กั ษด์ นิ เปน็ กรณกี ารพฒั นาทส่ี ำ� คญั สำ� หรบั ประเทศเกษตรกรรม แตก่ อ่ นนจี้ ะเพาะปลกู
เฉพาะแต่พื้นท่ีที่เหมาะสม แต่ในปัจจุบันจ�ำเป็นต้องเพาะปลูกแม้แต่ในที่ท่ีไม่เหมาะสม
เช่น พ้ืนท่ีดินเค็ม ดินเปรี้ยว ดินที่ขาดความอุดม ดินทราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ีมีหินดาน
อยู่ข้างใต้ ฯลฯ การแก้ปัญหามีท้ังการใช้น้�ำ การใช้พืชบางชนิด ดูดสารท่ีท�ำให้ดินเสีย
หรือท�ำให้ดินได้เคลื่อนไหวท�ำงาน (คือใช้ปลูกพืช) การอนุรักษ์ดินตามไหล่เขา ใช้วิธี
ปลูกพืชตามขั้นบันได มีเคล็ดคือก่อนตัดดินต้องตักหน้าดินออก เมื่อตัดข้ันแล้วจึงน�ำหน้า
ดินมาโรยกลับคืน

การทำ� นาข้นั บนั ได

การใช้หญ้าแฝกปลูกเพ่ือพัฒนาดิน รากของหญ้าแฝกข้ึนหนา งอกตรงไม่แผ่ไป
ไกล (ไปในท่ีท่ีเราไม่ต้องการ) สามารถยึดดินป้องกันดินพังทลาย รักษาน้�ำและความช้ืน
ได้เหมือนมีเข่ือนอยู่ใต้ดิน สามารถท�ำให้ดินท่ีแข็ง เช่น ดินลูกรัง ร่วนซุยได้ หญ้าแฝกมี
หลายพันธุ์ท่ีใช้ได้ตามความเหมาะสม ใบของหญ้าแฝกน�ำมาผลิตเป็นสินค้าหัตถกรรมได้
เป็นแรงจูงใจท�ำให้เกษตรกรสนใจปลูกหญ้าแฝกกัน

ยังมีเทคโนโลยีง่ายๆ ท่ีใช้ได้ผลในการปรับปรุงดินที่ขาดความอุดมคือ การใช้
ปุ๋ยชีวภาพและการใช้ปุ๋ยพืชสด (ใช้พืชตระกูลถั่วที่ปมรากมีจุลินทรีย์ที่ดึงไนโตรเจนใน
อากาศมาเป็นปุ๋ยได้) แล้วไถกลบ หรือปลูกสลับกัน เช่น ปลูกถ่ัวมะแฮะในแปลงนาเป็น
ข้ันบันได
156

วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับการพฒั นา

พลงั งาน
เป็นปัจจัยส�ำคัญในการด�ำรงชีวิตและในการประกอบกิจการต่าง ๆ เช่น การ
ผลิตไฟฟ้าการใช้เป็นเช้ือเพลิงส�ำหรับยานพาหนะ การหุงต้ม ล้วนแต่ต้องใช้พลังงานใน
ลักษณะต่างๆ กัน พลังงานท่ีใช้มากคือ น้�ำมันปิโตรเลียมและก๊าซจ�ำพวกไฮโดรคาร์บอน
มีปัญหาหลายอย่างคือ แหล่งทรัพยากรมิได้มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ต้นทุนในการขุดเจาะสูง
ต้นทุนในการขนส่งสูง ปัญหาทางการเมือง มีมลภาวะ
พลังงานอ่ืนท่ีใช้มากได้แก่ พลังน�้ำ การท�ำไฟฟ้าพลังน�้ำมีปัญหาคือ น�้ำอาจท่วม
พื้นที่ป่าและพ้ืนท่ีท�ำกินของประชาชน จึงมีผู้พยายามวิจัยหาพลังงานอ่ืนๆ เช่น พลังงาน
แสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้ดิน แต่ละอย่างมีปัญหาต่างๆ กัน ขณะน้ี
นิยมศึกษากันเรื่องการใช้พลังงานชีวภาพท่ีมาจากพืช เช่น โครงการส่วนพระองค์
สวนจิตลดาใช้แกลบท�ำถ่าน ท�ำแอลกอฮอล์จากอ้อย ขณะนี้ท�ำได้บริสุทธ์ิมาก เติมรถยนต์
ผสมกับน้�ำมันได้ นิยมใช้น้�ำมันจากผลปาล์ม ผลมะพร้าว แต่ว่ามีราคาในตลาด น้�ำมันผล
สบู่ด�ำใช้กับเครื่องยนต์รอบต�่ำ ต้องคอยติดตามค�ำนวณความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจด้วย
มใิ ชค่ วามเปน็ ไปไดท้ างวศิ วกรรมเพยี งอยา่ งเดยี ว นอกจากระบบใหญแ่ ลว้ ยงั มที ช่ี าวบา้ น
สร้างเคร่ืองเล็กๆ ผลิตกันเอง
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีส�ำหรับผ้พู กิ าร
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างย่ิงสารสนเทศมีประโยชน์มากใน
การท�ำให้ผู้พิการพึ่งตนเองได้ (independent living) ศึกษาและท�ำงานได้ การช่วย
ผู้พิการจะต้องดูแลแต่ละบุคคล เพราะความพิการและสิ่งแวดล้อมของแต่ละบุคคล
ไม่เหมือนกัน
เป็นเวลากว่า 30 ปีท่ีข้าพเจ้าดูแลสวัสดิการของทหารพิการ จึงสนใจเก่ียวกับ
การผลิตอวัยวะเทียม เพ่ือช่วยคนพิการ โดยใช้วัสดุใหม่ เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยี
สารสนเทศและเทคนิคที่ใช้กับหุ่นยนต์ เครื่องช่วยเหล่าน้ีท�ำให้คุณภาพชีวิตของผู้พิการ
ดีข้ึน และเป็นส่วนหน่ึงของการสร้างเสริมพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

157

มีกรณีของผู้พิการโดยก�ำเนิด เช่น เด็กที่ไม่แขนขา คอมพิวเตอร์ก็จะต้องใช้
track ball แทนเมาส์ หรือใช้เสียงส่ัง (voice command) มีการใช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์
ควบคุมรถเข็น (wheel chair) ได้

เครอื่ งมือชว่ ยในการศกึ ษาของคนพิการ เดก็ ชายอบั ดุลเลาะ บาราหาแม (ภาพถา่ ยเม่ือ พ.ศ. 2546)
พิการปราศจากแขนขาทงั้ 2 ขา้ งแตก่ �ำเนดิ ใชจ้ านทอี่ อกแบบ
ให้มชี ้อนย่นื จากขอบจานในการรบั ประทานอาหารด้วยตนเอง

ข้าพเจ้าได้เคยคุยกับนักเรียนตาบอดท่ีสนใจเรียนด้านวิทยาศาสตร์ และคิดว่า
เขาน่าจะเรียนวิทยาศาสตร์บางสาขาได้ มีสถิติบอกไว้ว่าคนไทยตาบอดประมาณ
600,000 คน แต่เรียนจบมหาวิทยาลัยไม่ก่ีร้อย และเรียนได้แต่สังคมศาสตร์และ
มนุษยศาสตร์ คนส่วนใหญ่รวมท้ังครู เห็นว่าคนตาบอดเรียนวิทยาศาสตร์ไม่ได้เพราะว่า
อันตรายท่ีจะทดลองวิทยาศาสตร์ เราพยายามหาเด็กตาบอดที่สนใจ มีสติปัญญาดีเรียน
วิชาสายวิทยาศาสตร์ มีคอมพิวเตอร์ท�ำให้สร้างโมเดลคณิตศาสตร์ค�ำนวณได้ และท�ำงาน
ในด้านน้ีได้เหมือนกับคนท่ีมองเห็น ถึงแม้ว่า จะเป็นการท้าทายแต่ก็ต้องลองท�ำ

158

วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ับการพฒั นา

นักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีมาช่วยกันหลายท่าน หวังว่าเด็กเหล่าน้ี มีโอกาสเรียน
สูงข้ึนก็จะมีอนาคตท่ีสดใส

เทคโนโลยสี ารสนเทศส่อื สาร (ICT) การศกึ ษาทางไกล และการศึกษา
อาศยั ส่อื อิเล็กทรอนกิ ส์

หัวข้อน้ีเป็นเร่ืองของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เช่นเดียวกัน ในปีท่ีมีการฉลอง
กาญจนาภิเษก เมื่อ พ.ศ. 2539 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ต้ังมูลนิธิการศึกษา
ทางไกลผ่านดาวเทียม ดูแลการสอนทางไกลซ่ึงมีโรงเรียนวังไกลกังวล อ�ำเภอหัวหิน ผ่าน
ดาวเทียมไปยังโรงเรียนต่างๆ ท้ังระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา อาชีวศึกษาและ
อุดมศึกษา ท้ังของรัฐบาลและเอกชน ท�ำให้โรงเรียนในถ่ินทุรกันดารได้รับความรู้ได้
หลากหลาย

ขา้ พเจา้ ใชก้ ารศกึ ษาทางไกลในการสอนครใู นถนิ่ ทรุ กนั ดาร โดยทยี่ งั ใหป้ ฏบิ ตั งิ าน
ได้ระหว่างการศึกษาท้ังปริญญาตรีและปริญญาโท ขณะน้ียังมีปัญหาเร่ืองเทคโนโลยี
อยู่บ้าง ในอนาคตน่าจะท�ำได้ดีกว่าน้ี

การศึกษาทางไกล (Distance Education)

159

นอกจากจะพฒั นาความรู้ทาง ICT ในโรงเรียนแล้ว ยงั ไดท้ ำ� โครงการสอนความรู้
ให้กับผู้ต้องขังในเรือนจ�ำ ท�ำให้ผู้ต้องขังเหล่านี้หารายได้ในระหว่างถูกจ�ำคุก เช่น
รับพิมพ์เอกสาร ท�ำเมนู ท�ำบัตรอวยพร นามบัตร รับออกแบบ (เน่ืองจากได้เรียน
Graphic Design เบื้องต้นด้วย) ได้เปิดหลักสูตรการซ่อมคอมพิวเตอร์ และหลักสูตร
ปริญญาตรีจัดร่วมกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อพ้นโทษก็จะมีโอกาสท�ำกิจการ
ของตนเองหรือรับจ้างในบริษัท IT เป็นพลเมืองดีของประเทศ ขณะนี้ได้ขยายงาน
เข้าในเรือนจ�ำส่วนภูมิภาคด้วย

ฐานขอ้ มลู
ICT ท�ำให้ท�ำฐานข้อมูลต่างๆ ได้ง่าย สามารถเช่ือมฐานข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกัน
ยกตัวอย่างงานที่เคยท�ำมาคือ เชื่อมฐานข้อมูลพันธุกรรมพืชในประเทศไทยจาก
หน่วยงานต่างๆ เพ่ือให้นักวิจัยและนักศึกษาท�ำงานได้สะดวก การเช่ือมฐานข้อมูลต่างๆ
เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ หรือข้อมูลด้านอ่ืน ๆ เช่น การพัฒนา
ท�ำให้ผู้ปฏิบัติงานร่วมกันได้โดยง่าย หรือน�ำมาศึกษาเชิงสถิติได้

โลกาภิวัตน:์ โอกาสและการท้าทายสำ� หรับวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

กล่าวกันว่าปัจจุบันเป็นยุคโลกาภิวัฒน์คือ การพัฒนาไปตามกระแสโลก งาน
พัฒนาของเราจึงควรเป็นการพัฒนาท่ีย่ังยืน มีผู้เช่ียวชาญหลายสาขาวิชาท�ำงานด้วยกัน
เข้าใจกัน เป็นการท�ำงานอย่างเป็นองค์รวม และเป็นการพัฒนาที่สมดุลคือ ไม่ให้ประโยชน์
เอียงไปแต่ฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง และให้อีกฝ่ายเสียประโยชน์ เราอยู่ในโลกไร้พรมแดน ซ่ึงให้
เราท้ังโอกาส (ข้อดี) และความท้าทาย (ข้อเสีย)

โอกาส
1. โลกจะดหู ดเลก็ ลง ในขณะเดยี วกบั ทข่ี อ้ มลู ขา่ วสารแผก่ วา้ งเขา้ ใกลเ้ รามากขนึ้

ขา่ วสารจากมมุ หนึ่งของโลกกระจายไปทวั่ โลกในเวลาเดยี วกัน วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีเป็นสะพานเชื่อมช่องว่างด้วยการน�ำคนเข้ามาใกล้กัน
โดยการส่ือสารและการคมนาคมขนส่งท่ีรวดเร็ว การเช่ือมและการใช้ฐาน
ข้อมูลร่วมกันช่วยการเรียนด้วยตนเอง ท้ังในด้านความรู้และข้อสนเทศ

160

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับการพัฒนา

ทุกคนเพิ่มพูนความรู้หรือท�ำงานเองได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญ (เชน่ พมิ พ์
บทความน้ีเองได้) เราสามารถพึ่งตนเอง พัฒนาตนเองใหม้ ีความรู้ ก้าวหน้า
มีข้อมูลในการท�ำงาน
2. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะไปถึงคนจ�ำนวนมาก เปิดโอกาสให้คนมีทาง
เลือกสร้างโอกาสเท่าเทียมกัน แนวโน้มน้ีจะด�ำเนินต่อไปรวดเร็วข้ึนทุกที
3. ของบางอย่างเคยเป็นของแพง มีเฉพาะคนรวย หรือนักวิทยาศาสตร์ท่ีใช้
เคร่ืองได้ประโยชน์ ก็มีราคาถูกลงๆ ให้คนท่ัวไปใช้ได้มากข้ึน
4. ป่วยหนักก็พอมีหวังรอดหรือไม่เจ็บตัวนัก เพราะวิทยาศาสตร์การแพทย์
ก้าวหน้า
5. มีส่ิงของเคร่ืองใช้ เช่น วัสดุก่อสร้างท่ีไม่หนักแต่คงทน
การทา้ ทาย
ถึงแม้ว่าเราจะมีโอกาสดีย่ิงข้ึน แต่ยุคโลกาภิวัตน์ก็สร้างปัญหาใหม่ๆ มาให้เรา
ได้ปวดหัวไม่น้อย
1. เราทุกคนจะต้องพยายามติดตามความรู้ใหม่ๆ ในด้านวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ต้องฝึกใช้เคร่ืองมือใหม่ๆ เช่น คอมพิวเตอร์มีเคร่ืองรุ่นใหม่
ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ท่ีจะต้องอบรมฝึกใช้
2. ความรู้ต่างๆ มีมาอย่างท่วมท้น ท้ังข้อมูลและข่าวสาร ท้ังข้อเท็จและ
ข้อจริง ดังน้ัน เราจะต้องฝึกฝนตนเองและฝึกลูกฝึกหลานให้รู้จักวิเคราะห์
สังเคราะห์ ประเมินว่าอะไรควรเช่ือ อะไรไม่ควรเช่ือ และตัดสินใจถูกต้อง
3. เรื่องที่ยากคือ เรื่องจริยธรรมและสังคมของการใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ผู้ท่ีมีหน้าท่ีออกกฎหมายอาจจะไม่สามารถออกกฎควบคุม
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไม่ให้ถูกน�ำมาใช้อย่างไม่เป็นธรรม
4. ส่ิงของบางอย่างมีอยู่ (สมัยก่อนไม่มี) แต่ราคาแพง ซื้อไปอาจะไม่ได้มี
ประโยชน์เต็มท่ี ต้องตัดสินใจ
5. ปัจจุบันน้ีเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ต่างๆ หมดอายุเร็ว บางคร้ังแม้ว่ายังไม่เสียก็
ไม่มีน้�ำยาใส่ ถ้าเสียเล็กน้อยก็ไม่มีอะไหล่ ท�ำให้ต้องท้ิงไปอย่างน่าเสียดาย

161

และซ้ือใหม่ อย่างดีก็ใช้ช้ินส่วนประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ ขยะเครื่องใช้
บางอย่างเป็นพิษ หรือก�ำจัดไม่ได้ ต้องมีกรรมวิธีการทิ้งท�ำให้ยุ่งยาก
6. การที่มคี วามรู้ทางเทคโนโลยดี ีมสี ่วนทำ� ใหป้ ระชากรมีจ�ำนวนเพ่ิมข้นึ เพราะ
ป่วยก็รักษาหายได้ มีความรู้ด้านวางแผนครอบครัวท�ำให้คนมีลูกน้อย
โครงสร้างประชากรเปล่ียนแปลงไป ผู้สูงอายุจะต้องเตรียมตัวมาก เพราะ
อาจจะไม่มีคนดูแลและปรับตัวปรับความรู้ให้เข้ากับวิถีชีวิตเทคโนโลยี
สมัยใหม่ไม่ได้ โลกก็ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตต่างๆ มาก เช่น การขาดแคลน
พลังงาน น้�ำจืดขาดแคลน และอากาศเปล่ียนแปลงท่ัวโลก
7. มีกฎหมายและระเบียบปฏิบัติใหม่ๆ ท่ีต้องศึกษาอีกมาก เช่น เร่ืองของ
ทรัพย์สินทางปัญญา มาตรฐานต่างๆ ท่ีเราต้องศึกษาอีกมาก ไม่ศึกษาอาจ
จะเสียเปรียบได้
มนุษย์อาจจะค้นพบความรู้ทางวิทยาศาสตร์ต่อไปได้อีกไม่มีที่ส้ินสุด และสร้าง
เทคโนโลยีท่ีมีประสิทธิภาพสูง เพ่ือท่ีจะสนองความต้องการในด้านต่างๆ วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีเป็นเคร่ืองมือในการพัฒนาท่ีส�ำคัญ เคร่ืองมือต่างๆ ล้วนแต่มีคุณสมบัติ
เป็นกลาง ไม่ดีไม่ร้าย สุดแต่ว่าจะเอาไปใช้อย่างไร มนุษย์จะต้องเป็นฝ่ายระวังอย่าให้
ตนเองกลายเป็นเหย่ือของความส�ำเร็จของตนเอง
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2545 สหประชาชาติรับ Millennium Development
Goals (MDGs) เป็นแนวทางการปรับปรุงโลกในคริสต์ศตวรรษท่ี 21 การประกาศ MDGs
แสดงว่าท่ัวโลกจริงจังกับการแก้ปัญหาของประเทศท่ีพัฒนาน้อย เป้าหมายของ MDGs
คือให้เด็กทุกคนมีโอกาสในการศึกษาอย่างน้อยถึงระดับประถมศึกษา ลดการตายของ
มารดา และทารกควบคุม HIV/AIDS มาเลเรีย และโรคอ่ืนๆ ให้ลดจ�ำนวนคนท่ียากจน
มากและคนท่ีหิวโหยไปคร่ึงหน่ึงภายใน พ.ศ. 2558 ท้ังหมดน้ีเป็นส่ิงท้าทายส�ำหรับเรา
ทุกคน
เทคโนโลยแี ละการวจิ ยั แพงขนึ้ มกี ารแบง่ แยกในความรเู้ พมิ่ ขน้ึ ทกุ ที สงั คมความรู้
และเศรษฐกิจความรู้จะกลายเป็นเรื่องส�ำคัญ การแบ่งแยกนี้จะท�ำให้เกิดความยากจน
การไม่รู้หนังสือ ปัญหาจริยธรรม และความไม่สงบในสังคม จึงควรใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีน�ำสู่เป้าหมายของ MDGs

162

สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี
ทรงปาฐกถาพิเศษเรอ่ื ง

เยาวชนไทยกับวทิ ยาศาสตร์

ในงานเสวนาวชิ าการเฉลมิ พระเกยี รติ
สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินนี าถ
เน่ืองในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา
จัดโดย ชมรมผูร้ ับพระราชทานทุนมูลนธิ อิ านนั ทมหิดล
และ สำ� นกั งานประสานงานมูลนธิ ิอานันทมหดิ ล

วนั ท่ี 21 กันยายน 2555
ณ ศาลาดุสิดาลยั สวนจิตรลดา

เยาวชนไทยกบั วทิ ยาศาสตร์

ความหมายของคำ� ว่า เยาวชน

เมอื่ พูดถึงเยาวชนไทยกับวทิ ยาศาสตร์ ค�ำว่า เยาวชน เป็นเร่ืองทเี่ หมาะสมตาม
โอกาสจริงๆ เพราะเมื่อวานน้ีวันท่ี 20 กันยายน เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ ถือเอาวันนี้
เพราะเปน็ วนั พระราชสมภพของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยสองพระองคท์ คี่ รองราชยเ์ มอื่ ทรงเปน็
เยาวชนคอื พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั และพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั
อานันทมหิดล จึงถือวา่ สบโอกาส

เยาวชน คืออะไร มีหลายต�ำรา ต�ำราหนึ่งว่า บุคคลนับตั้งแต่เด็กๆ เลย อีก
ฝ่ายหน่ึงกว็ ่า ตงั้ แตอ่ ายุ 14 ปี แตไ่ มถ่ งึ 18 ปีบ้างกว็ ่า 15 ถึง 25 ปี ภาษาอังกฤษคอื คำ� วา่
Youth ไปดู Youth Leadership Program เขานบั ถงึ 40 ปี กด็ จู ะยาวไปนดิ หนงึ่

ในที่นี้ อยากจะกล่าวถึงงานที่ได้ท�ำมา ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงปริญญาเอก ศัพท์
ใหม่เพิ่งได้ยินเม่ือวานน้ีเรียกว่า K20 เดิมรู้จักแต่ K12 คือต้ังแต่อนุบาลถึงเกรด 12 แต่
ปัจจุบันกล่าวกันว่าการพัฒนาเยาวชนต้องพัฒนาต้ังแต่อนุบาลถึงจบมหาวิทยาลัย ท่ีจริง
อาจจะแกเ่ กนิ 20 แต่ยงั ไม่ถึง Youth ของฝร่งั

สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงบรรยายเรื่อง “เยาวชนไทยกับวทิ ยาศาสตร”์

164

เยาวชนไทยกบั วทิ ยาศาสตร์

วิทยาศาสตรค์ อื อะไร

ตอ้ งอารัมภบทนิดหนอ่ ยว่า วทิ ยาศาสตร์คืออะไร เลอื กประเดน็ ทต่ี อ้ งคิดกัน คือ
ความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การค�ำนวณ และปรัชญา วิธีการหาความรู้
ทีเ่ รียกวา่ Scientific Inquiry และ Scientific Method

ค�ำวา่ วิทยาศาสตร์ แปลวา่ ความรู้ ในระยะแรกวทิ ยาศาสตร์คือสง่ิ รอบตัวที่เรา
เรยี นรู้ ทจ่ี รงิ ในชว่ งแรกๆ วทิ ยาศาสตรก์ บั ปรชั ญาแยกกนั ไมอ่ อก ความรคู้ อื สง่ิ ทมี่ ปี ระโยชน์
เป็นสิ่งที่ต้องค้นหาติดตาม ความรู้ตั้งแต่เราเรียนประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สมัยกรีก
โรมัน จีน อินเดีย จ�ำได้ตอนเด็กๆ หนังสือชุดหน่ึงกล่าวถึงประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์
บางสว่ นมนษุ ยก์ ใ็ ชจ้ นิ ตนาการคดิ เอาวา่ นา่ จะเปน็ อยา่ งไร บางสว่ นเกดิ จากการสงั เกต แลว้
น�ำสิ่งที่เปน็ ประโยชน์มาใช้ไม่วา่ จะเป็นวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตรก์ ต็ าม

ตอ่ มาจงึ ใชค้ ำ� วา่ วทิ ยาศาสตร์ ในความหมายวา่ การศกึ ษาธรรมชาติ เชน่ ฟสิ กิ ส์
เคมี หรือส่วนท่เี ก่ียวกับสง่ิ มชี วี ิต ชวี วทิ ยา มนษุ ย์สนใจเร่ืองจักรวาล ซึ่งเปน็ เร่ืองธรรมชาติ
แต่พออธิบายไม่ได้หนักๆ เข้า ก็คิดว่าเป็นเร่ืองของส่ิงศักด์ิสิทธ์ิ นอกจากน้ี ก็มีเร่ือง
รา่ งกายมนุษย์ การแพทย์ และเภสัชกรรม ซึง่ เป็นเรื่องแรกๆ ทค่ี ิดกนั

การได้มาซึ่งความรู้หรือ Scientific Method เริ่มตั้งแต่ตั้งสมมติฐาน สังเกต
จ�ำแนก ช่ังตวงวัดนับ ค�ำนวณควบคุมตัวแปร และสรุปผล เรื่องการค�ำนวณและปรัชญา
เป็นเรือ่ งทสี่ �ำคัญมากเพราะคณิตศาสตร์ก็เป็นภาษาๆ หนึ่ง การทีเ่ ราจะคดิ เอาข้อมลู ตา่ งๆ
มารวมกัน ถ้าเป็นค�ำพูดธรรมดาจะยาวและสับสนคิดไม่ออก แต่เม่ือแทนค่าสมมติเป็น
คณิตศาสตร์แล้วก็สามารถค�ำนวณออกมาได้ และเม่ือได้ผลแล้วก็แปลออกมาเป็นภาษา
ต่างๆ แปลงเป็นความคดิ ตอ่ ไป

การจะได้อะไรกต็ ้องเข้าถงึ ปรชั ญาของความรู้น้นั ๆ ถึงจะไดป้ ระโยชน์ แลว้ จะทำ�
ให้คดิ อะไรได้มากข้ึนด้วย เชน่ ความคิดทางฟสิ กิ ส์ เคมี ชวี วิทยา วิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ
ถา้ ไมท่ ราบปรชั ญา หรอื ฐานคดิ หรอื ความหมายของวชิ าเหลา่ น้ี กค็ น้ ควา้ วชิ าไปถงึ ระดบั สงู ๆ
ไมไ่ ด้

165

อกี ด้านหนึ่งเป็นเรอ่ื งของเทคโนโลยี วธิ กี ารต่างๆ แยกกนั ได้ยาก เชน่ วศิ วกรรม
คือการออกแบบการคิด การจัดให้เป็นรูปร่างขึ้นมา เทคโนโลยีคือ วิธีการค้นหาค�ำตอบ
หรือการแก้ปัญหาเพื่อการใช้ประโยชน์ บางทีปัญหาเป็นเรื่องซับซ้อนมากจะเริ่มที่คนเกิด
มาคิดเรือ่ งนน้ั ไดท้ เี ดียวกไ็ มไ่ ด้ ความรู้น้ันเปน็ สงิ่ ที่สะสม เขาจงึ ยกยอ่ งวา่ ครทู ่ใี หค้ วามรูน้ ้นั
เปน็ ผูม้ บี ญุ คุณ เพราะวา่ เปน็ ผู้ทวี่ างรากฐานไวใ้ ห้ เปรียบเหมอื นเป็นยักษ์ เราได้รู้อะไรขึ้น
มาเพราะเหยยี บบ่ายักษ์ ปนี ขึน้ ไปสงู ขึน้ ๆ ทุกที จากสิ่งทีส่ ะสมมาเป็นรอ้ ยเป็นพนั ปี

วิทยาศาสตรใ์ นประเทศไทย

วิทยาศาสตร์ในประเทศไทยมีมานานแล้ว ท่ีเห็นเป็นหลักฐานเขียนไว้ในหนังสือ
ประวตั ศิ าสตรค์ อื สมยั สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช เลา่ ถงึ เรอ่ื งทท่ี รงศกึ ษาดาราศาสตร์ มี
หอดูดาวเป็นซากโบราณคดีท่ีเห็นเป็นหลักฐานอยู่ท่ีลพบุรี มีลักษณะคล้ายหอดูดาวใน
ฝรง่ั เศส

มคี นรจู้ กั เปน็ ชาวตา่ งประเทศ ศกึ ษาประวตั ศิ าสตรข์ องคณติ ศาสตร์ บางคนศกึ ษา
ประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์ เขามาศึกษาคณิตศาสตร์ของจีนและเวียดนาม แล้วเขา
ถามว่าคณิตศาสตร์ของไทยจะถามใคร จะมาศึกษาได้ไหมข้าพเจ้าไม่ค่อยทราบ ทราบแต่
วา่ เราใชค้ ณติ ศาสตรใ์ นเรอ่ื งของการคำ� นวณดา้ นดาราศาสตร์ ดาราศาสตร์ และโหราศาสตร์
ก็แยกกันยาก ด้านหนึ่งมีการค�ำนวณแบบไทย และมีการค�ำนวณด้านสถาปัตยกรรมด้วย
แตว่ ่าไม่ทราบรายละเอยี ดยิง่ ไปกว่านน้ั

พอมาถึงรัชกาลที่ 3 เจ้านายและข้าราชการสนใจวิทยาการแบบตะวันตก มี
การศึกษาหลายอย่าง ท่ีเห็นชัดคือ รัชกาลท่ี 4 บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย ทรงมีความรู้
ทางดาราศาสตร์และทรงค�ำนวณแบบอินเดียและแบบไทย ในสมัยรัชกาลนั้นมีข้าราชการ
ช่ือว่า เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ข�ำ บุนนาค) เป็นผู้ท่ีเขียนหนังสือแสดงกิจจานุกิจ เหมือน
สารานุกรมเล่าวิชาความรู้ต่างๆ แต่ไม่แบ่งหมวดแบ่งหมู่ เรียงกันไปหมด พิมพ์เผยแพร่
ความรู้ ตั้งใจให้เยาวชนมีความรู้ ให้รู้จักไตร่ตรองเหตุผลตามแบบวิทยาศาสตร์ ไม่เชื่อแต่
เรอ่ื งภูตผิ ีปีศาจโชคลาง แตจ่ นบัดนเ้ี รายังอดเช่อื กนั ไม่ได้
ส�ำหรับวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย พอถึงรัชกาลที่ 5 แนวคิดวิทยาการแบบ
ตะวันตกค่อนข้างจะแพร่หลาย มีการเขียนหลักสูตรทางด้านวิทยาศาสตร์ซ่ึงได้พิมพ์แจก

166

เยาวชนไทยกับวทิ ยาศาสตร์

ในงานพระศพสมเด็จพระเจ้าพ่ีนางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราช
นครนิ ทร์ แสดงวา่ มคี วามรทู้ างดา้ นวทิ ยาศาสตรค์ อ่ นขา้ งละเอยี ดถถี่ ว้ นวา่ จะตอ้ งเรยี นอะไร
แต่ไม่ทราบว่าในสมัยน้ันใช้หนังสือเล่มน้ีเรียนจริงๆ หรือเปล่า ถ้าเรียนก็เป็นความรู้ทาง
วิชาการตา่ งๆ ที่กวา้ งขวางและลกึ ซ้งึ มาก

นอกจากน้ี มีการส่งนักเรียนไปเรียนท่ีตะวันตก เร่ิมมีการตั้งสถานศึกษาระดับ
อดุ มศกึ ษาทใี่ หค้ วามรทู้ างดา้ นวทิ ยาศาสตร์ ตง้ั แตน่ น้ั มากม็ กี ารพระราชทานทนุ ตา่ งๆ หรอื
บางคนมีทรัพย์ก็ไปศึกษาหาความรใู้ นต่างประเทศเอง หรือมีพวกมิชชนั นารที ี่เขา้ มาตั้งแต่
สมัยรัชกาลท่ี 3 มิชชันนารีหรือบาทหลวงเหล่านี้ก็เผยแพร่ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์
แท้ๆ และคนไทยกไ็ ด้เรียนกัน นักเรยี นคนไหนทขี่ ยนั ขนั แข็งมีความรดู้ ี ท่านเหลา่ น้ีก็ส่งไป
เรียนต่างประเทศ ความรตู้ ่างๆ ก็เข้ามาในประเทศไทย

แต่ว่าเรื่องของการแบ่งแยกการศึกษาออกเป็นด้านวิทยาศาสตร์และไม่ใช่
วทิ ยาศาสตรอ์ ยา่ งเดด็ ขาด ไมร่ อู้ นั นม้ี าจากไหน เทา่ ทผ่ี า่ นมารสู้ กึ วา่ ขอ้ นเ้ี ปน็ การตดั โอกาส
ในการศึกษาของเยาวชนไทยเป็นจ�ำนวนมาก และตัดโอกาสบ้านเมือง ไม่ให้ได้คนดีมาใช้
วนั นก้ี ย็ งั มี ทผ่ี า่ นมาเมอื่ ทำ� การงานแลว้ กร็ สู้ กึ วา่ ไดข้ าดโอกาสทจี่ ะเรยี นเรอ่ื งทม่ี คี วามสำ� คญั
แต่จะเรยี นตอนนี้กส็ ายไปเสยี แลว้ ลองพยายามแตก่ ็ไมส่ ำ� เร็จ จงึ อยากใหเ้ ยาวชนคนทจี่ ะ
ขน้ึ มาเปน็ กำ� ลงั ของชาตติ อ่ ไปไดม้ โี อกาส แลว้ เผอญิ จบั พลดั จบั ผลไู ดไ้ ปเรยี นวชิ าการศกึ ษา
ก็เลยคิดว่าเป็นหน้าท่ีของตัวโดยไม่มีใครมอบหมาย ก็ต้ังตัวเองตั้งใจว่าจะต้องเป็นนักการ
ศึกษาทีส่ รา้ งโอกาสใหค้ นทว่ั ๆ ไป

อกี ประการหนง่ึ ถงึ แมจ้ ะรบั ราชการกถ็ อื วา่ ตวั เองเปน็ เอกชนแลว้ กไ็ ดล้ งมอื ทำ� เอง
ไดร้ บั ความรว่ มมอื จากขา้ ราชการ และเอกชนต่างๆ ไมว่ ่าจะเปน็ บุคคล หรอื องค์กรบริษัท
ห้างรา้ นท่ีได้มาช่วยกันท�ำงานน้ี ก็ชว่ ยกนั ต้งั แต่ระดบั อนบุ าลจนถึงอดุ มศกึ ษา

เดก็ เลก็ อนบุ าล หรอื ปฐมวัย

เร่ิมให้ความรู้วิทยาศาสตร์ต้ังแต่เด็กเล็กหรือปฐมวัยเลย โครงการน้ีเรียกว่า
บา้ นนักวทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย ภาษาองั กฤษเรียก Little Scientists’House ภาษาเยอรมนั
ก็เรียก Haus Der Kleinen Forscher ค�ำว่า Forscher แปลวา่ นกั วจิ ัย นกั วิจยั นอ้ ยๆ

167

เป็นการกระตนุ้ ให้เดก็ อายตุ ัง้ แต่ 3-6 ปี กระตอื รือร้นทจ่ี ะศึกษาสงั เกตปรากฏการณต์ ่างๆ
รอบตวั เปน็ พน้ื ฐานดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดไ้ ปเหน็ งานนตี้ อนไปรว่ มการประชมุ
นักวิทยาศาสตร์ท่ีได้รับรางวัลโนเบลที่เมืองลินเดาประเทศเยอรมัน เห็นแล้วก็กลับมา
ปรึกษากับนักวิทยาศาสตร์ไทยว่าน่าจะจัดได้ในประเทศไทย หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ
และเอกชนก็สนใจและร่วมมือกันท�ำ ให้ท้ังด้านก�ำลังทรัพย์และก�ำลังสติปัญญา เม่ือ
ทดลองมาแล้วได้ผลดจี งึ ขยายไปกว้างขวางย่งิ ข้ึน สอนตามโรงเรยี น ศูนยก์ ารเรียนรชู้ ุมชน
และศูนย์เด็กเล็ก แม้แต่เด็กที่เป็นชนเผ่าต่างๆ ก็เข้าถึงได้และชอบใจมาก ช่วงน้�ำท่วม
ทางโรงเรียนเอกชนท่ีเป็นสมาชิกของบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยก็ไปช่วยเด็กผู้ประสบภัย
ขณะนีก้ ็มสี ถานศึกษาประมาณ 9,000 กว่าแหง่ เขา้ ร่วมโครงการแล้ว

ทางเยอรมันกม็ าสนับสนนุ มาตรวจดงู านที่เราทำ� วา่ เปน็ อย่างไรบา้ ง แล้วก็พอใจ
เดมิ เอกสารอธบิ ายอะไรตา่ งๆ นเี่ ขาคดิ คา่ ลขิ สทิ ธน์ิ ดิ หนอ่ ยทเ่ี ราเอามาทำ� ตอ่ มากไ็ มค่ ดิ เลย
เพราะรสู้ กึ พอใจงานของเราและกร็ ว่ มมอื กนั เดมิ ทำ� เฉพาะอนบุ าล แตท่ ง้ั สองประเทศกจ็ ะ
ท�ำต่อไปจนถึงระดับประถมศึกษา ขณะนี้ก็ได้ท�ำส่ือหนังสือ เว็บไซต์ และภาพยนตร์
โทรทศั นเ์ พอื่ เผยแพรแ่ กผ่ สู้ นใจทว่ั ไปไมใ่ ชเ่ ฉพาะสำ� หรบั เดก็ แตผ่ ปู้ กครองหรอื คนอน่ื ๆ ดว้ ย
และไดร้ ว่ มมหกรรมวทิ ยาศาสตรป์ ระจำ� ปี มเี ดก็ อนบุ าลทำ� การทดลองทเ่ี รยี กวา่ ทำ� โครงงาน
วิทยาศาสตร์กนั เกง่ ๆ ไดด้ ว้ ย

“โครงการบ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ ้อย”
สรา้ งทศั นคติทีด่ ีดา้ นการเรียนร้ทู ักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ใหก้ บั เดก็ ปฐมวัย (อายุ 3-6 ป)ี

168

เยาวชนไทยกับวิทยาศาสตร์

ระดบั ประถมศกึ ษา

อาหารและสขุ ภาพ
พอมาถงึ ระดบั ประถมศึกษา เริม่ ตน้ ท่ีไปสนใจระดบั ประถมศึกษา ระดบั อนบุ าล
หรอื เดก็ กอ่ นวยั เรยี น ศนู ยเ์ ดก็ เลก็ เพราะวา่ ตงั้ แตส่ มยั โนน้ 30 กวา่ ปแี ลว้ เหน็ วา่ หลายๆ ที่
เดก็ นักเรียนขาดสารอาหารท่จี ำ� เป็น ท�ำใหร้ า่ งกายไมแ่ ข็งแรง สตปิ ัญญากไ็ มด่ ี เรายงั ไมไ่ ด้
ใส่ด้านวิชาการไปตรงๆ แต่ใส่ด้านอาหารโภชนาการให้ถูกต้อง มีการอบรมครู เริ่มต้นก็
ท�ำเองก็ใชค้ วามรทู้ เี่ รยี นมาตั้งแตป่ ระถมมธั ยมนแ่ี หละ อาหาร 5 หมู่บา้ ง การปลกู ผกั ปลูก
อะไรตา่ งๆ ท่ีฝกึ หัดมาท่ีโรงเรียนก็นำ� มาขยาย แลว้ กม็ ีหลกั คือถา้ ปลกู ผักเอง เล้ียงสัตวเ์ อง
ของทไี่ ด้รับประทานเข้าไปก็เปน็ ของสดๆ เราแนใ่ จว่าเปน็ ของปลอดสารพิษ และเด็กไดท้ ำ�
เองกอ็ ยากจะรบั ประทานเพราะวา่ เหน็ มันโตมากับมือ
ปลูกผกั มาแล้วก็เขา้ ครัว ตอนหลังก็มาคิดราคาเพ่ือให้เด็กได้รู้ว่าของฟรีไมม่ ี แล้ว
ก็คดิ ท�ำบญั ชีเข้าสหกรณ์ และเพื่อใหน้ กั เรยี นได้คดิ ไดอ้ า่ นกท็ ำ� ซุ้มเขา้ ไปน่งั พกั หลบแดดได้
ปลูกผักที่กินได้ สมัยนี้บางทีเป็นผักปลูกกับดิน บางทีก็เป็นแบบผักไฮโดรโพนกิ ส์ คอื ปลกู
ในนำ�้ ดว้ ยซำ�้ ไป จะกนิ อาหารกต็ อ้ งรวู้ า่ อาหารมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร

“โครงการเกษตรเพ่ืออาหารกลางวนั ในโรงเรยี น”
เพื่อแก้ไขปญั หาการขาดอาหารและพัฒนาภาวะโภชนาการและสุขภาพของเดก็

169

พยาธิ
ทีน้ีพอได้อาหารสุขภาพแล้วเลี้ยงไปเท่าไรๆ เด็กก็ยังไม่โตสักที ก็เลยต้ัง
สมมตฐิ านเอาเองวา่ สงสยั มนี อ้ งผหู้ วิ โหยอยใู่ นทอ้ งของเดก็ เหลา่ น้ี กเ็ ลยมาตรวจเรอ่ื งพยาธิ
ปรากฏว่าตั้งแต่ปี 2552 ท�ำทั้งโรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนประถม และ
มัธยมของ สพฐ. เฉพาะทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการ ก็ท�ำสถติ วิ า่ มีพยาธิแบบไหนบา้ ง ร้อยละเท่าไร
ตอนหลงั ๆ กค็ อ่ ยยงั ชวั่ เพราะเราพยายามไปไลถ่ า่ ยพยาธคิ นในหมบู่ า้ นดว้ ยทำ� ทงั้ ถา่ ยพยาธิ
แนะน�ำให้ใสร่ องเทา้ ซึง่ ความจริงกย็ าก ท�ำส้วมก็ท�ำได้บา้ งไม่ถึง 100%
สขุ ภาพฟัน
อีกสมมติฐานหนึ่งคือฟันไม่ดี น่ีได้กับตัวเองคือบางทีเคี้ยวไม่ออก ฟันเสียก็ต้อง
มาดสู ุขภาพฟัน แลว้ ก็อาจจะท�ำใหร้ ับประทานอาหารไดม้ าก

กจิ กรรม “ทันตกรรมปอ้ งกนั ” แก่นกั เรยี นและครูในโรงเรียนตามพระราชดำ�รฯิ เพือ่ สขุ ภาพอนามยั ท่ดี ขี องประชาชน

เกษตรและการขยายพันธุพ์ ืช
จะเหน็ วา่ สง่ิ ทกี่ ลา่ วมาทง้ั หมดน้ี คอื การสอนวชิ าเกษตร และวชิ าสขุ ภาพ กเ็ อามา
เชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์ในหนังสือเรียนได้ ไม่ใช่ว่ากินส่วนกิน เรียนส่วนเรียน รู้จัก
โภชนาการ รู้วิธีขยายพันธุ์พืช มีการตอน ตัดก่ิง ทาบก่ิง ตามที่เรียน และมีการสอนการ
ประมงในโรงเรียน ซึ่งก็มีหลายอย่างที่เราต้องคิดหาเหตุผลเหมือนกัน เอาปลาขึ้นไปเลี้ยง
บนภูเขา อากาศหนาว ปลาไม่โตตัวเท่าน้ิวก้อยอยู่อย่างน้ันนานแล้ว ก็ต้องคิดหาวิธีเพิ่ม
อุณหภูมิน�้ำให้ปลา เพราะถ้าน�้ำเย็นเกินไปปลาไม่กินอะไร อันนี้ก็เป็นเรื่องการสังเกตและ

170

เยาวชนไทยกบั วิทยาศาสตร์

แกป้ ญั หา การทบี่ างทเี อาปลาอนื่ ๆ เปลยี่ นพนั ธไ์ุ ปเลย ปลาธรรมดาๆ ทเ่ี รากนิ กนั ทวั่ ไป เชน่
ปลาดกุ ปลานลิ นนั้ รสู้ กึ วา่ ขน้ึ ทเ่ี ยน็ ๆ แลว้ ไมโ่ ต กต็ อ้ งเอาปลาจนี บา้ ง หรอื บางทกี ไ็ ปคน้ ควา้
เพอ่ื จะขยายพนั ธ์ุและวิจยั ขยายพันธ์ปุ ลาในทอ้ งถิ่นท่ีมีอย่ใู นลำ� ธารตรงนัน้

การสง่ เสริมการเพาะเล้ียงเน้ือเยือ่

การสง่ เสรมิ การเพาะเลย้ี งเนอ้ื เยื่อ โดยใช้ เด็กๆ เราก็ส่งเสริมเรื่องการเพาะเล้ียง
ตามแบบ วว. ไม่ต้องใชอ้ ปุ กรณท์ ีม่ ีราคาแพง เน้ือเย่ือ โดยใช้ตามแบบของ วว. (คือ สถาบัน
วิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศ
ไทย กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย)ี ไมต่ อ้ ง
ใช้อุปกรณ์ที่มีราคาแพง แต่ว่าส่วนมาก
ก็จะปนเปื้อน ท�ำให้ตายเป็นส่วนใหญ่หรือตาย
ทั้งหมด แต่ว่าถึงตายท้ังหมดก็บอกว่าน่ีเป็น
การศึกษานะ เราต้องหาเหตุผลให้ได้ว่าท�ำไม
มันถึงตาย อาจต้องศกึ ษาเร่ืองเชอ้ื ราตา่ งๆ

อาชพี ในโรงเรยี น

การฝึกอาชีพในโรงเรียน บางอย่างก็ต้องใช้วิชาวิทยาศาสตร์เหมือนกัน เช่น
การทอผา้ และการยอ้ มผา้ กเ็ อาปญั หานไ้ี ปเปน็ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ใหเ้ ขาอธบิ ายเหตผุ ล
ให้ไปหาข้อมูลจากปู่ย่าตายาย ท่ีรู้ว่ายางของต้นนี้เอามาย้อมผ้าได้ออกมาเป็นสีอะไร ขั้น
ต่อไปก็ต้องพยายามคน้ หาว่าเปน็ เพราะอะไร

หุ่นยนต์

เรื่องท่ีเด็กๆ ชอบกันคือหุ่นยนต์ ก็เลยให้เขาเอาของที่มีในท้องถิ่นหรือท่ีมี
อยู่ในโรงเรียน เช่น ไม้ไอติม มาประดิษฐ์เป็นหุ่นยนต์ แล้วน�ำมาแข่งขันกัน ระยะหลังก็
พยายามถามเด็กว่า ท�ำไมหุ่นยนต์ตัวนี้ชนะ ตัวนี้แพ้ ทั้งที่ของที่มีก็คล้ายๆ กัน ให้เขา
อธิบายหาเหตุผลใหไ้ ด้

171

นกั เรียนชอบหุ่นยนต์ นกั เรียนอธิบายเหตุผลวา่ ทำ�ไมห่นุ ยนต์ตวั นี้ชนะ ตวั นี้แพ้

โครงงานวิทยาศาสตร์
เรื่องหนอนพยาธิ กระทรวงสาธารณสุข
ก็ช่วยแสดงนิทรรศการพยาธิ เห็นเขาเอาหนอน
ชนิดต่างๆ มาให้ดู ว่าตัวนี้เข้าไปอยู่ในท้องเราเป็น
เพราะอะไร มีการให้แคะขี้เล็บออกมาแล้วเอามา
ส่องกล้องจุลทรรศน์ หลายแห่งมีกล้องจึงให้ครู
ตชด. น�ำมาใช้ตรวจเลือดหาเช้ือมาลาเรีย บางที
กซ็ อื้ ใหม่ บางทีก็ไปขอบรจิ าคจากโรงพยาบาล เอา เด็กมีความรู้ดว้ ยการทำ�โครงงานวทิ ยาศาสตร์
ของทเ่ี สยี แลว้ มาเปลย่ี นหวั ออยลใ์ หม่ แลว้ เอามาใช้
ได้ในระดับเดก็ ๆ สอ่ งไดท้ ้ังเลอื ด อจุ จาระ ขเ้ี ลบ็ ไดท้ ้ังน้ัน ปรากฏว่าเขาคลน่ื ไส้ รู้สึกอยาก
ล้างมือ ท�ำให้มีการล้างมือ อันนี้ก็เผยแพร่ไปที่บังคลาเทศ มีผู้น�ำชุมชนของบังคลาเทศน�ำ
ไปแต่งเพลงและเต้นระบำ� ดว้ ย ช่อื ระบำ� ลา้ งมือ เพอื่ ส่อื สารวา่ ถ้าไม่ล้างมอื กจ็ ะมีโรคตา่ งๆ
มีพยาธิ เป็นตน้ ก็จะทำ� ให้เราปวดท้อง
ทุกอย่างพอเรียนรู้มาแล้ว นักเรียนทั้งระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา ก็ใช้วิธี
ท�ำโครงงานวิทยาศาสตร์ ท�ำได้หลายอย่าง แม้แต่ในหมู่บ้านท่ีโรคมาลาเรียระบาดมาก
ท้งั ครู นกั เรียน ชาวบ้าน เป็นมาลาเรยี นอนกันระเนระนาด เด๋ียวนี้นอ้ ยลงแล้ว เพราะเรา
พยายามปอ้ งกนั ใหย้ า และคน้ ควา้ แตก่ อ็ ยากใหเ้ ดก็ มคี วามรดู้ ว้ ยการทำ� โครงงาน มกี ารไป
สัมภาษณ์ ไปค้นคว้า เด็ก ป.4 น�ำเสนองานหน้าชั้น บอกว่า มาลาเรียเป็นโรคที่มีอาการ
คลา้ ยผีเข้า ครูก็ถามนักเรียนว่าในหมบู่ า้ นเรามผี ีเข้าไหม ทุกคนกร็ ้องกันดังล่นั เลยวา่ มี

172

เยาวชนไทยกับวทิ ยาศาสตร์

สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น

เรื่องสวนพฤกษศาสตร์ เป็นเร่ืองท่ีเราให้
เดก็ สนใจหาพชื ตา่ งๆ มาปลกู แลว้ มาทำ� Herbarium
ต้องทราบว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง บางทีก็ท�ำเป็น
โครงงานประเภทท่ีว่าให้เด็กเดินจากหมู่บ้านหน่ึง
ไปอีกหมูบ่ า้ นหนงึ่ ระหว่างนั้นเจอเฟิรน์ ก่ีชนดิ แล้ว
เด็กก็ไปค้นคว้า ถ่ายรูปมา แล้วมาเทียบในหนังสือ
“สวนพฤกษศาสตรใ์ นโรงเรียน” เฟิร์นว่าเฟิร์นชนิดน้ีช่ืออะไร มีช่ือวิทยาศาสตร์ว่า
นกั เรยี นปลกู พืชแล้วมาทำ� Herbarium อะไร ในประเทศไทยมีเฟิร์นกี่ชนิด ในโลกมีกี่ชนิด

เขาไปค้นคว้ากันมา แล้วก็ใช้การแจงนับต่างๆ ที่ได้เรียนมาในวิชาคณิตศาสตร์และสถิติ
เรอ่ื งสวนพฤกษศาสตรก์ ท็ �ำใหเ้ รียนได้หมดทกุ วชิ า

น�้ำสะอาด

บางที่ขาดน้ำ� สะอาด ก็มผี มู้ าบรจิ าคถังนำ้� หน่วยงานราชการมาขุดท่เี กบ็ นำ้� เดก็
ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาก็ได้ศึกษากระบวนการต่างๆ ที่ท�ำให้น�้ำสะอาด
ตัง้ แตก่ ารกรอง การตม้ Reverse Osmosis แตล่ ะอยา่ งมขี อ้ ดีข้อเสยี อย่างไร

การใช้ไฟในโรงเรียนและการป้องกนั ไฟไหม้

เครอื ขา่ ยโรงเรยี นปลอดภยั เกดิ ขน้ึ เพราะวา่ มอี ยชู่ ว่ งหนง่ึ มผี กู้ อ่ การรา้ ยตา่ งๆ มา
เผาโรงเรียน แตบ่ างทีชกั สงสยั วา่ ไมใ่ ชผ่ ูก้ อ่ การรา้ ย เผากนั เองหรอื เปลา่ สมยั กอ่ นโรงเรียน
ไมม่ เี ครอื่ งไฟฟา้ มาก พอหนกั ๆ เขา้ เดยี๋ วนข้ี องใชใ้ นโรงเรยี น สอ่ื การสอนเปน็ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
ทง้ั นน้ั ตอ้ งใชไ้ ฟฟา้ ไฟฟา้ กโ็ อเวอรโ์ หลด แลว้ กร็ ว่ั ทา่ ไหนไมร่ กู้ ไ็ หมโ้ รงเรยี น ทาง สวทช. จงึ
รว่ มมือกบั การไฟฟา้ ภูมภิ าคไปอบรมครเู ร่อื ง โรงเรียนปลอดภัย อบรมท้งั ครู และนักเรยี น

ตอนนพ้ี ยายามจะใหส้ มั พนั ธก์ บั การฝกึ อาชพี คอื อาชพี ชา่ งตอ่ ไฟ ซงึ่ สอนในหลายๆ
แห่ง เพราะว่าแต่ก่อนโรงเรียนที่อยู่ตามชายแดน มีเด็กจ�ำนวนมากไม่มีสัญชาติ
พอจบแลว้ เรยี นตอ่ สงู กไ็ มไ่ ด้ หรอื ถงึ เรยี นไดไ้ ปเขา้ ทำ� งานอะไรกไ็ มไ่ ด้ กใ็ หฝ้ กึ อาชพี อยา่ งนอ้ ย
กร็ บั จา้ งในงานทดี่ ไี มต่ อ้ งไปทำ� งานทจุ รติ ตา่ งๆ เชน่ คา้ ยาบา้ กจ็ ะไดม้ ที างเลอื กในการทำ� งาน

173

ในเมื่อหนังสือเรียนมีเรื่องไฟฟ้า ทั้งระดับประถม มัธยม ก็ให้โยงกันให้หมด คือ
โรงเรียนปลอดภัย การฝึกอาชพี และบทเรียนวิทยาศาสตร์ กจิ กรรมท่กี ลา่ วมาขา้ งตน้ เป็น
การเชอื่ มโยงกบั แนวคดิ ทางวทิ ยาสตรท์ ง้ั นนั้ เดก็ จะเรยี นวทิ ยาศาสตรผ์ า่ นกจิ กรรม บางอนั
กโ็ ยงเขา้ กบั วชิ าการทมี่ ใี นหนงั สอื ถา้ ลงมอื เองกจ็ ะจำ� ไดเ้ วลาตอบขอ้ สอบกน็ า่ จะตอบไดด้ ขี นึ้

ค่ายวิทยาศาสตร์

ทั้งประถมและมัธยมศึกษา เราจัดค่ายวิทยาศาสตร์ในหลายแห่ง โดยร่วมมือกัน
กับหน่วยงานทางวทิ ยาศาสตร์ รวมทงั้ มหาวทิ ยาลยั ต่างๆ ชว่ ยกนั ทำ� ท้งั นักเรียน นักศึกษา
และอาจารย์ มาชว่ ยให้ความรู้แกเ่ ยาวชน มกี ารทดลองหาคำ� ตอบ เด็กๆ กส็ นุกกนั

อาสาสมัครชาวต่างประเทศ

มีชาวต่างชาติเข้ามาช่วยในโรงเรียน ตชด. และ ชาวต่างชาตจิ ากสหรัฐอเมรกิ า
โรงเรียนของ สพฐ. มีมาจากสหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ เด็ก มาช่วยงานในโรงเรยี น ตชด.
บนดอยเขา้ มาถามวา่ แลว้ เมอื่ ไรพๆี่ สงิ คโปรจ์ ะมาอกี เขาสนกุ
และพูดกนั รู้เร่ืองใช้ภาษาใบบ้ ้าง ภาษาอังกฤษบา้ ง ภาษาไทย
ภาษาอะไรปนๆ กนั ในทสี่ ดุ กเ็ ขา้ ใจกนั เขามาสอนภาษาองั กฤษ
คอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ นักเรียนชอบมากท้ังนักเรียน
ประถมและมธั ยม

พิพธิ ภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตร/์ หอดดู าว/ทอ้ งฟ้าจ�ำลอง

สื่อการสอนที่ค่อนข้างจะมีประโยชน์ คือ
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่เด็กได้ไปดู เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่มี
แค่วิทยาศาสตร์ มีหอดูดาว มีทอ้ งฟา้ จำ� ลองกรงุ เทพ
ในท่ีสุดทางท้องถิ่น เช่น อบจ. ก็ต้ังท้ังพิพิธภัณฑ์
วทิ ยาศาสตรแ์ ละหอดดู าวเอง

องคก์ ารพพิ ธิ ภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตรซ์ ง่ึ เปน็ ของรฐั หอดดู าวเฉลิมพระเกยี รติฯ
เขามรี ถวทิ ยาศาสตร์ ทเี่ รยี กวา่ คาราวารวทิ ยาศาสตร์ 7 รอบพระชนมพรรษา อุทยานแห่งชาติ

ดอยอนิ ทนนท์ จังหวดั เชียงใหม่

174

เยาวชนไทยกับวิทยาศาสตร์

เคลอ่ื นทไี่ ปตามทต่ี า่ งๆ เปน็ รถคนั ใหญ่ ใครจะไปทดลองวทิ ยาศาสตรอ์ ะไรกท็ ำ� อยใู่ นรถนน้ั
แหละ ขอ้ ดคี อื ไดข้ องทส่ี มบรู ณ์ สะดวกดเี พราะอยใู่ นรถไมต่ อ้ งขนขน้ึ ขนลง แตอ่ กี แบบหนง่ึ
คันเลก็ หนอ่ ยตอ้ งขนของขน้ึ ขนลง กางเตน๊ ทข์ ้างนอก แล้วก็มคี นมาอธบิ าย ข้อดคี อื รถคัน
เลก็ สามารถซอกแซกเข้าไปในชุมชนเล็กๆ ท�ำใหช้ มุ ชนเลก็ ๆ มโี อกาส

โครงการมหาวิทยาลยั เดก็

โครงการมหาวิทยาลัยเด็กเป็นโครงการท่ี
DAAD หรือ Deutseher Akademischer Aus-
tausch Dienst คอื German Acadamic Exchange
Service ซ่ึงช่วยให้ครูมาสอนภาษาเยอรมันช่วยเอา
โครงการดีๆ ของเยอรมันมาให้กับประเทศต่างๆ ให้
ทนุ คนจากประเทศตา่ งๆ ไปดงู านในเยอรมนั อยา่ งน้ี
“โครงการมหาวทิ ยาลัยเดก็ ” ทใี่ หเ้ ด็กประถม เป็นตน้ เขาก็ให้ความสนใจเรื่องนี้
มีโอกาสเขา้ ไปในมหาวิทยาลยั ให้มีโอกาส
ถามปัญหากบั อาจารยใ์ นมหาวิทยาลยั เกดิ
แรงบนั ดาลใจทไ่ี ปเปน็ นกั วทิ ยาศาสตรใ์ นอนาคต เรม่ิ ตน้ มมี หาวทิ ยาลยั ทวู บ์ งิ เงน่ ทำ� โครงการ

มหาวิทยาลัยเด็กในรูปแบบที่ให้เด็กประถมมีโอกาส
เข้าไปในมหาวทิ ยาลัย ท�ำให้ไดเ้ ห็น ทำ� ใหม้ ีความรู้สกึ อยากจะศกึ ษาระดบั สงู และท�ำให้มี
โอกาสถามปัญหา จะถามปัญหาอะไรก็ได้กับศาสตราจารย์ หรืออาจารย์ผู้ใหญ่ใน
มหาวทิ ยาลยั ทเ่ี ขาสละเวลาใหเ้ ดก็ อธบิ ายกย็ ากเหมอื นกนั อนั ทจ่ี รงิ แลว้ เขาเอาคำ� ถามคำ�
ตอบพวกนม้ี าพมิ พเ์ ปน็ หนงั สอื บางเลม่ มคี นแปลเปน็ ภาษาไทย แตเ่ ขาบอกวา่ ทำ� ลำ� บาก

บางมหาวิทยาลยั เชน่ มหาวิทยาลัยบีเลเฟล ทีไ่ ด้ไปดูคอื เขารว่ มมือกับสถาบัน
ชีววิทยาในเซี่ยงไฮ้ ใช้วิธีอบรมนักศึกษาให้มาสอนเด็กๆ ให้อธิบายวิธีการทดลองแก่เด็กๆ
โดยใชข้ องใช้ใกลต้ ัว ก็คล้ายๆ กับโครงการของฝรงั่ เศส ที่เรยี กว่า la main a la pate ท่ี
นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลทางฟิสิกส์ชื่อ George Charpak ได้ริเร่ิมในฝร่ังเศสโดยให้
นักเรียนลงมือท�ำการทดลองวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่ระดับอนุบาลและประถมศึกษา

175

เน้นการปฎิบัติ แต่ข้าพเจ้ายังไม่เคยเข้าไปดูจริงๆ รู้เรื่องนี้มานาน จากอดีตรัฐมนตรีช่วย
วา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารของจนี ทท่ี า่ นเปน็ นกั วทิ ยาศาสตร์ ทา่ นพาครสู อนวทิ ยาศาสตร์
ไปดูงานท่ฝี รง่ั เศสพอดี

ระดับมธั ยมศกึ ษา

โครงการเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การศกึ ษาของโรงเรยี นในชนบท (ทสรช.)
ส�ำหรับมัธยมศึกษา ก็เริ่มต้นจากโรงเรียนในโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อ
การศีกษาของโรงเรียนในชนบท หรอื เรียกสน้ั ๆ ว่า ทสรช. เด๋ยี วน้อี ะไรกเ็ ป็นคำ� ย่อท้งั นั้น
ก็ท�ำมา 20 กว่าปีแล้ว เมื่อก่อนใช้คอมพิวเตอร์ที่รับบริจาคที่ใช้แล้วจากบริษัทใหญ่ๆ
สมาคมผคู้ า้ คอมพวิ เตอรเ์ ปน็ ฝา่ ยจดั ให้ เดยี๋ วนก้ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารรบั ไปทำ� แตว่ า่ โครงการ
ของเราก็ยงั ท�ำอยู่ โครงการ ทสรช. ยังอยู่แตก่ ่อนใช้วธิ ใี หค้ อมพิวเตอร์ ให้ใช้คอมพิวเตอร์
เป็น เดี๋ยวนี้ใช้เป็นกันหมดแล้ว องค์กรระดับท้องถิ่น หรือเอกชนบริจาคกันค่อนข้างมาก
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารมงี บประมาณเองดว้ ย เดย๋ี วนจ้ี งึ หนกั ไปทางซอฟตแ์ วร์ วนั นก้ี เ็ ซน็ เบกิ
เงนิ ไปซื้อพวกซอฟตแ์ วร์ตา่ งๆ หรอื ใหค้ นไปอบรมเขยี นโปรแกรมระดบั สงู ขน้ึ ๆ

คอมพิวเตอร์สำ�หรับนักเรียนในชนบท

176

เยาวชนไทยกบั วิทยาศาสตร์

SchoolNet

การใช้ออนไลน์บางทีเป็นสื่อทางด้านสังคม
ท่ีดี เราจงึ จัดโครงการทีช่ อ่ื วา่ SchoolNet เมอื่ ก่อนก็
ทำ� เอง ตอนหลงั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารรบั ไปทำ� ใหแ้ ตล่ ะ
โรงเรียนน�ำความรู้ของตนไปลงแลกเปลี่ยนกันระหว่าง
โรงเรยี น แลกเปลย่ี นกบั บคุ คลธรรมดาทใี่ ชอ้ นิ เทอรเ์ นต็
ก็ได้ และมีแบบฝึกหัดต่างๆ บางทีฝรั่งมาเข้า ก็เขียน
ค�ำถามเรื่องการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ท่ีก้าวหน้าข้ึนไป ได้รับความรู้จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้
ครทู โ่ี รงเรยี นมธั ยมกน็ ำ� ไปพฒั นาเพมิ่ ขน้ึ แลว้ กถ็ าม บางทกี ไ็ ดค้ วามรจู้ ากครู ผทู้ สี่ นใจตา่ งๆ
จนเปน็ เพอื่ นกัน แล้วมาช่วยโรงเรยี น

การก่อสรา้ งในโรงเรียน

การหาความรู้อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งได้แนะน�ำ บางโรงเรยี นขาดน�้ำสะอาด นักเรยี นต้องรู้
โรงเรียนว่า โรงเรียนได้รับงบประมาณหรือ วา่ จะทำ� อยา่ งไรให้น้ำ� สะอาด
มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินให้สร้างตึกเยอะแยะ การ
ส ร ้ า ง ตึ ก ก็ เ ป ็ น เ รื่ อ ง ข อ ง ก า ร ใ ช ้ วิ ท ย า ศ า ส ต ร ์ เช่น กรอง, ตม้ , ความรเู้ รื่องน้�ำในชั้นหิน,
เชน่ การสรา้ งไมใ่ หโ้ ครงลม้ ลงมาตอ้ งคำ� นวณอยา่ งไร Reverse Osmosis
เขาท�ำอย่างไรให้ไปดู ไปสังเกตการณ์ จะได้ความรู้
ทางวิทยาศาสตรไ์ ปด้วย

น�้ำสะอาด

เร่ืองนำ้� สะอาดกเ็ หมอื นกบั ประถม มัธยมไดร้ บั ความรทู้ ีล่ ึกไปอีก เช่น การกรอง
การตม้ ความรเู้ รอ่ื งนำ้� ในชน้ั หนิ Reverse Osmosis เปน็ ตน้ เปน็ เหมอื น lab วทิ ยาศาสตร์
ใหเ้ ดก็ ในถน่ิ ทรุ กนั ดาร

177

โครงงานวทิ ยาศาสตร์
โครงงานวทิ ยาศาสตรส์ ง่ เสรมิ ไมเ่ ฉพาะการแขง่ ขนั แตจ่ ะพยายามเนน้ วา่ ไมใ่ ชเ่ พอ่ื
แข่งขนั เพียงอยา่ งเดยี ว ท�ำให้มีความรว่ มมือดว้ ย คนท่ีสนใจในเรอ่ื งเดียวกัน จะมาร่วมมือ
กันค้นคว้าในเร่ืองเดียวกัน เด็กที่ไม่รู้จักกันมาก่อน มาจากโรงเรียนต่างๆ ก็ได้เพ่ือนใน
อนาคต
หุน่ ยนต์
เรอ่ื งหนุ่ ยนตก์ เ็ หมอื นกนั เปน็ การฝกึ เดก็ โตหนอ่ ยกฝ็ กึ ด้านโปรแกรม
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ส่วนสวนพฤษศาสตรโ์ รงเรียน เดก็ โตก็เรียนไดล้ ึกซงึ้ ขน้ึ ทดลองทางด้านชีววทิ ยา
ท�ำให้ไดค้ วามรตู้ ่างๆ
การตรวจ DNA
เรอื่ งการตรวจ DNA นนั้ เปน็ เรอื่ งทเ่ี ดก็ ควรจะเรยี นรู้ เรากเ็ รยี นนะ กท็ อ่ งไป ตอนนี้
ท่องไม่ได้แล้ว แต่ว่าขณะนี้มีเด็กหลายคนที่ไม่มีสัญชาติ การตรวจ DNA ช่วยเด็กในถิ่น
ทุรกันดารให้มีสัญชาติไทย เด็กที่ไม่มีสัญชาติเรียนสูงไปก็ไม่ได้ เม่ือก่อนแก้ปัญหาโดย
ให้มคี วามรู้ด้านชา่ ง รับจา้ งกอ่ อิฐ รบั จา้ งตอ่ ไฟฟ้า แต่เดีย๋ วน้เี ดก็ ไมม่ สี ัญชาตเิ หลา่ น้ี เรียน
วิศวะ เรียนสาธารณสุข เรียนแพทย์ เรียนไปก็ใช้ความรู้เป็นประโยชน์ได้ยาก เหมือนกับ
เป็นคนท่ีไม่ปรากฏในโลกน้ี ตอนแรกก็เริ่มง่ายๆ ก่อน กฏหมายห้ามไว้ทุกอย่าง ทุกด้าน
พวกน้ไี มม่ โี อกาสเปน็ คน ไมใ่ ช่คนไทยหรอื คนพม่า เป็นคนสัญชาติใดก็ไมไ่ ด้ทัง้ สิน้ เหมอื น
ไม่มีคนนี้ในโลกนี้ ก็พยายามช่วยกันตรวจ DNA ให้เข้ากับคนที่เป็นคนไทยอยู่แล้ว เช่น
พ่อแม่ได้สัญชาติ แต่ไม่ให้ลูกก็มี เด็กเหล่านี้ ในที่สุดก็พยายามจนได้ ตรวจ DNA ทีหนึ่ง
6,000-7,000 บาท ก็พยายามหาทุนท�ำ เพราะเป็นอนาคตของเด็ก วิธีนี้เป็นวิธีทาง
วิทยาศาสตร์ จะเป็นวิธีท่ีดีที่สุดหรอื เปล่าก็ไม่ทราบ แต่อยา่ งนอ้ ยกเ็ ป็นโอกาสดา้ นหนึ่ง

178

เยาวชนไทยกบั วิทยาศาสตร์

โครงการตรวจ DNA ชว่ ยเดก็ ในถ่นิ ทุรกนั ดารใหไ้ ดส้ ัญชาติไทย

ไฟฟา้
การป้องกันไฟฟ้าท่ีกล่าวมา ระดับมัธยมจะสอนได้มากขึ้น สัมพันธ์กับความรู้

ด้านอาชีพ ร่วมกันกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ไปช่วยหลายแห่ง ในหลายที่โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในเขตปา่ สงวน มชี ุมชนอยู่ ออกไปไหนไม่ได้ พาดสายมากก็ไม่ได้ ถนนก็ไมม่ ี เคย
ลองขนเสาไฟไป หกั หมดเลย เลยตอ้ งใชแ้ ผง solar
พลังงานแสงอาทติ ย์

ในระดับชาวบ้านใช้แผง solar ไม่ได้มาก ชาวบ้านเคยมาสังเกตบอกว่า แผ่นๆ
ไมเ่ อา ขอเสน้ ๆ กบ็ อกวา่ เสน้ ๆ ใหไ้ มไ่ ด้ เพราะวา่ ตอนนก้ี ไ็ มม่ สี ทิ ธใิ ดทจ่ี ะไปทำ� แตว่ า่ แผน่ ๆ
พอหามาให้ได้ ท�ำให้โรงเรียน แผ่นๆ เด๋ียวก็เสีย ใบไม้ ต้นไม้บัง ไม่ได้ท�ำความสะอาด
ท่สี �ำคญั ที่สดุ คอื แบตเตอรีเ่ สอ่ื มเร็วท่ีสุด ไม่รจู้ กั การรกั ษา เอานำ�้ คลองใสแ่ ทนน�ำ้ กลนั่ บ้าง
เปน็ ตน้ ตอ้ งมกี ารอบรม ซงึ่ ก็เป็นความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ ถา้ ศกึ ษาดๆี กเ็ อาสว่ นนม้ี าศกึ ษา
เปน็ ความรรู้ ะดบั สงู ตอ่ ไปได้



โรงเรียนในพน้ื ท่ีหา่ งไกล ไฟฟา้ เขา้ ไมถ่ ึง โรงเรียนใชพ้ ลังงานไฟฟ้าจากระบบ Solar Cell

179

พลังงานน�้ำ
บางทกี ข็ ัดกันนะ พวกใชไ้ ฟฟา้ จาก solar กับไฟฟา้ จากนำ้� พวกไฟฟา้ จากนำ�้ จะ

สวดมนต์ขอฝน พวกไฟฟ้าจาก solar สวดมนต์ไล่ฝน จะได้มีแดดมาก สองกลุ่มมี
ผลประโยชน์ขัดกนั ทำ� ใหต้ อ้ งหาอะไรท่ใี ช้ร่วมกนั ได้

อาสาสมคั รชาวต่างประเทศ
มีนักศึกษาฝึกสอนจากต่างประเทศมาสอนวิชาภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์
วิทยาศาสตร์ เด็กเรียกร้องมากเมื่อไรจะมาอีก ตอนหลังเข้าใจกัน ทางมหาวิทยาลัยของ
ไทยจึงร่วมจัดนักศึกษาไทยมากับนักศึกษาจากอเมริกา เอานิสิตนักศึกษาไทยมาเข้าร่วม
ท�ำกิจกรรมเหล่านี้ด้วย เป็นงานที่มหาวิทยาลัยช่วยเหลือโรงเรียน ที่ไหนที่เขาประสบ
ความสำ� เรจ็ ระดบั ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษา อดุ มศกึ ษา เขาเขา้ ไปในเวลาเดยี วกนั สามารถ
ชว่ ยเหลอื กนั และถอื ว่าเปน็ หน้าที่
ผเู้ ชยี่ วชาญ
เรื่องท่ีขอร้องเป็นพิเศษคือมูลนิธิชัยพัฒนามีผู้เช่ียวชาญไปท�ำงานเป็นด็อกเตอร์
ทง้ั นน้ั เลย ไปวจิ ยั เกย่ี วกบั สภาพนำ้� ในคลอง เลยเรยี นทา่ นเหลา่ นใ้ี หแ้ วะไปทโ่ี รงเรยี นมธั ยม
ประจ�ำอ�ำเภอหน่อย แล้วไปเป็นวิทยากรพิเศษสอนเด็กๆ เขาไปอยู่แล้ว เวลาไปตรวจ
โครงการแทนทีจ่ ะดเู ฉพาะโครงการก็ขอใหแ้ วะไปท่ีโรงเรียนมธั ยม เดก็ ๆ สนใจมาก ขนาด
เราไม่มคี วามรู้ รูน้ ิดหน่อย ตามโครงการนไ้ี ปอธบิ ายให้เขาฟงั คร่าวๆ เขายังสนใจเลย
ที่เมื่อกี้รายงานว่าผู้ได้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดล มีการผลัดกันออกไป
ชนบท หรือมหาวิทยาลัยส่วนท้องถิ่น ไปให้ความรู้ทางวิชาการต่างๆ อันนี้เป็นเร่ืองที่มี
ประโยชน์มากเพราะเปน็ การให้โอกาสแก่ผ้ทู ีไ่ ม่มีโอกาสเท่าทคี่ วร
นิทรรศการ
การจดั นทิ รรศการวทิ ยาศาสตร์ ในงานมหกรรมวทิ ยาศาสตรป์ ระจำ� ปหี ลายๆ งาน
ท�ำให้นักเรียนทุกแล็บทุกสาขาทุกระดับได้เข้ามาร่วมงาน บางทีบางโรงเรียนที่เข้ามามี
ระดับการศึกษาค่อนข้างต�่ำ วิธีที่จะแก้ โรงเรียนท่ีเราเรียกว่า horrible school แย่มาก

180

เยาวชนไทยกบั วิทยาศาสตร์

จะหาย horrible ได้ ถ้าให้ครูนักเรียนมาดูให้เห็นว่าคนอื่นเขาเรียนอะไร สนุกอย่างไร
ที่จะเรียนรู้ส่ิงเหล่าน้ี บางทีมีเด็กไปแล้ว พอข้าพเจ้ากลับมาเย่ียมโรงเรียน เขาถามว่า
เมื่อไหร่หนูจะได้ไปงานมหกรรมวิทยาศาสตร์อีก ถามว่าเป็นไง เขาบอกว่าสนุกมากเลย
ถามวา่ สนุกเร่อื งอะไร บอกว่า หนไู ปรายงานเรื่องเห็ด เด็กกรุงเทพยังไม่รู้จกั เห็ดพวกน้ีเลย
สนุก มเี ร่อื งอะไรท่คี นอ่ืนไมร่ ู้แต่ตัวเองรู้

พพิ ธิ ภัณฑ์วิทยาศาสตร์/หอดูดาว/ท้องฟ้าจ�ำลอง
นี่ก็ท้องฟ้าจ�ำลองขององค์การบริหารส่วนจังหวัดล�ำปาง องค์การบริหารส่วน
จังหวดั ตา่ งๆ กพ็ ยายามทำ� ใหเ้ ด็กๆ ในท้องถ่นิ ไดม้ ีความรู้
โรงเรียนมหดิ ลวิทยานุสรณ์

ตามจรงิ เปน็ แนวคดิ ของอดตี ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ดร. โกวิท วรพิพัฒน์ และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล
ดร. ณัฐ ภมรประวัติ ท่านท้ังสองมาให้ช่วยตั้งช่ือโรงเรียน
ช่วยหาเครื่องดนตรีไทยให้เด็กๆ เล่น แต่ตอนหลังเด็กบอกว่ามี
ปัญหาแต่ไม่แก้ไข เลยระดมอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ
มาช่วย ในท่ีสุดก็ได้เป็นองค์การมหาชน นักเรียนก็คัดเลือก
อยา่ งดมี คี วามสามารถพเิ ศษทางวทิ ยาศาสตร์ ไดโ้ อกาสที่ดี มที นุ
ค่อนข้างมากกว่าโรงเรียนอื่นๆ งบประมาณ เครื่องมือที่ดี ห้องสมุดที่ดี มีเวลาเพราะเป็น
นักเรียนประจ�ำ มีโครงการต่างๆ นอกเหนือจากหลักสูตรการศึกษา ได้ไปดูงาน ได้เขียน
บทความทางวทิ ยาศาสตรร์ ะดบั สงู สงิ่ ประดษิ ฐบ์ างอยา่ งของเขาจดสทิ ธบิ ตั รไดเ้ ลย มโี อกาส
เรียนต่อระดับสูงค่อนข้างมาก ได้ครูบาอาจารย์ที่มี
ความรู้สูง แล้วกม็ โี รงเรยี นวทิ ยาศาสตร์ระดับภมู ภิ าค
โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยช่วยเผยแพร่ต่อ ช่วย
ไปจัดห้องเรียนวิทยาศาสตร์มัธยมในท้องถิ่นอย่างทั่ว
ถงึ นก่ี เ็ ปน็ อกี ทางหนง่ึ ทน่ี กั เรยี นจะมโี อกาสไดค้ วามรู้
ทางวิทยาศาสตร์

181

สอวน.
สอวน. (มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา
ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพ่ีนางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราช
นครินทร์) ดูแลเรื่องการเตรียมนักเรียนเพื่อไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ
จากนกั เรยี นทว่ั ประเทศไทย น่ีเป็นผลงานของสมเด็จกรมหลวงนราธวิ าสฯ ทา่ นได้ฝากเอา
ไวก้ พ็ ยายามจะทำ� ตอ่ ใหด้ ที ส่ี ดุ นอกจากการคดั เดก็ ไปอบรมตามคา่ ยตา่ งๆ คา่ ยวทิ ยาศาสตร์
ระดบั ตน้ กม็ หี ลายคา่ ย ถงึ แมเ้ ดก็ ทไี่ มส่ ามารถเลอ่ื นไปคา่ ย 2 คา่ ย 3 ไดค้ า่ ยแรกกไ็ ดร้ บั ความ
รมู้ ากมายแล้ว และมีหนงั สือกับส่ือการสอนต่างๆ ใหค้ รูตามโรงเรยี นได้ศึกษาแลว้ นำ� กลับ
ไปสอนในโรงเรียนของตน
การแข่งขันนี้ได้ประโยชน์คือ ได้รู้จักผู้ที่มีความสนใจในด้านเดียวกันจากทั่วโลก
ไดฝ้ กึ หดั บวกความอดทน อดกล้นั ความใจเยน็ คณุ สมบัติหลายๆ อย่างมกี ารเทียบระดบั
การศกึ ษาในองค์รวม และทำ� ใหโ้ รงเรียนไดพ้ ฒั นา
รางวลั บณั ณาสสมโภช
โครงการรางวลั บณั ณาสสมโภชหมายถงึ การทโ่ี รงเรยี นแขง่ ขนั กบั ตวั เองพยายาม
พัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ให้เก่งขึ้นๆ ดีขึ้นๆ ไม่ต้องแข่งกับใครชนะตัวเอง
กไ็ ด้รางวลั
สามเณร
การศึกษาของสามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม สายสามัญ เณรท่ีมาบวชก็
เรียนหนังสือไปด้วย เด็กที่มาเรียนค่อนข้างจะยากจน ไม่มีค่าใช้จ่าย เข้ามาก็เรียนฟรี
เส้ือผ้าก็ชุดเณร ไม่ต้องมีชุดอื่นก็ไม่เปลือง นอกจากเรียนวิชาทางด้านสงฆ์แล้วก็ให้เรียน
วิชาสามัญ วทิ ยาศาสตร์ การเกษตร หาวทิ ยากรแถวทอ้ งถนิ่ เกษตรอำ� เภอ เกษตรจงั หวัด
ประมงจงั หวัด หลายๆ ฝ่าย
เดิมไม่ได้สนใจนัก แตเ่ คยไปที่วัดหนง่ึ พระทา่ นน�ำรปู แบบท่ีทำ� กบั โรงเรียน ตชด.
มาลองท�ำดูเห็นว่าได้ผลดีก็สนใจ ท่านเจ้าคณะบอกว่าช่วยโรงเรียนเดียวไม่ได้ต้องช่วย

182

เยาวชนไทยกับวทิ ยาศาสตร์

ทั้งจังหวัด ตอนหลังจึงมีเครือข่ายสอนวิชาภาษาไทย และวิชาการต่างๆ และต้องไม่ลืม
วิชาทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นเณรก็ต้องเรียนตอบสนองพระพุทธศาสนา ทางด้าน
วชิ าการไดช้ วนครบู าอาจารยต์ า่ งๆ มาชว่ ยกนั ไดท้ ดลองทำ� โครงงานวทิ ยาศาสตร์ นอ้ งเณร
พวกน้ีเวลามีมหกรรมวิทยาศาสตร์ก็ได้มาพรีเซนต์งานกัน ในที่สุดข้าพเจ้าก็ได้เป็นโยมแม่
ของเณร ตอนหลังรู้สกึ จะเปน็ โยมยาย พระบางทีกเ็ รียกโยมแม่ดว้ ย

การศึกษาของสามเณรในโรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม

โรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม
นักเรียนในโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามหรือโรงเรียนปอเนาะ บางโรงเรียนสอน
แต่ศาสนาอิสลาม บางโรงเรียนสอนวิชาชีพ บางโรงเรียนสอนสายสามัญด้วย แล้วแต่
ความประสงคข์ องเจา้ ของโรงเรยี นเพราะเปน็ โรงเรยี นเอกชน โครงการทท่ี ำ� ประจำ� คอื สอน
เรอ่ื งเทคโนโลยที างดา้ นคอมพวิ เตอรแ์ ละเขาทำ� ไดก้ า้ วหนา้ ทำ� สอ่ื ศกึ ษาสง่ิ แวดลอ้ มเกง่ มาก
มกี ารสอนวิทยาศาสตรใ์ นโรงเรียนสอนศาสนาอสิ ลามดว้ ย

การเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรยี นเอกชนสอนศาสนาอิสลาม

183

เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางรา่ งกาย
พวกท่ีมีความบกพร่องทางร่างกาย อาจารย์กรมอาชีวะสมัยน้ันเขาเป็นวิศวกร
เครื่องมือเหลา่ น้ี เครื่องมอื อื่นๆ แทนทจี่ ะซื้อจากเมืองนอกกใ็ ชว้ ิธีทำ� เอง ใช้พลาสติกหล่อ
ไปเชียงใหม่คร้ังหนึ่ง มีเด็กตาบอดคนหน่ึงบอกว่า เขาตาบอดแต่อยากเรียนวิทยาศาสตร์
แต่ครูไม่ให้เรียน ตาบอดเรียนไม่ได้ จึงเอาเรื่องนี้มาคิด อักษรเบรลล์ที่เป็นสัญลักษณ์ทาง
วทิ ยาศาสตร์กไ็ มม่ ี ต้องใช้เวลาเตรยี มอยนู่ านพอสมควร ในวิชาต่างๆ ที่ค่อนขา้ งเปน็ ab-
stract เราเองก็ยังมองไมเ่ ห็น คนตาบอดไม่ตอ้ งเหน็ แต่ถา้ ใช้ความคิดนา่ จะคดิ ได้ โดยผ่าน
ทางคณิตศาสตร์ ลองทีโ่ รงเรยี นเซนต์คาเบรยี ล โรงเรยี นยพุ ราช โรงเรียนอกี หลายๆ แหง่
ในประเทศไทยทเี่ อาเดก็ ตาบอดมาเรยี นรว่ ม หวงั วา่ จะได้ เพราะเคยเหน็ ทส่ี งิ คโปรน์ อกจาก
เรยี นวิทยาศาสตรแ์ ล้วเขายังทำ� งานดา้ นวิทยาศาสตรไ์ ดด้ ้วย
หูหนวกก็ลองมาเรียนวิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ มีนักเรียนคนหน่ึงเคยเรียนอยู่
โรงเรยี นพระตำ� หนกั สวนกหุ ลาบ เรยี นตอ่ จนเขา้ คณะวทิ ยาศาสตรจ์ ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั
สอบได้เกียรตนิ ิยมอันดบั 2 แตพ่ อถึงท�ำงานจริงปรากฏวา่ ถา้ คนไมช่ ินกจ็ ะฟงั เขาไม่ร้เู ร่ือง
ไปสอบทุนคนพิการอยากไปเมืองนอก จะสอบได้แต่ทุนครู แต่เขาไม่อยากเป็นครู
อยากเปน็ นักวทิ ยาศาสตร์ จงึ ได้ไปคุยกบั สถาบันวจิ ัยแสงซินโครตรอนของไทย ลองให้เขา
สอบปรากฏว่าเขาเก่ง สอบได้ จึงส่งเรียนขณะนี้ก�ำลังท�ำปริญญาเอกด้าน Protein
Crystallography ท่ีมหาวิทยาลัยบริสทอล กลับมาก็จะมาท�ำงานกับสถาบันวิจัยแสงซิน
โครตรอนของไทย

การทำ�กิจกรรมวทิ ยาศาสตรข์ องเดก็ พิการ

184

เยาวชนไทยกบั วิทยาศาสตร์

i-CREATe
หน่วยงานที่ท�ำด้านคนพิการ คือแผนก
Assistive Technology ของสถาบันสิงคโปร์
โปลีเทคนิค ได้ร่วมมือกันมาประมาณ 10 ปีแล้ว
และเม่อื 6 ปีท่ีแลว้ เรม่ิ จดั การประชมุ International Convention on Rehabilitative
and Assistive Technology เปน็ หนว่ ยงานดา้ น Engineering, Disability Engineering
(i-CREATe) ทส่ี อนเรอ่ื งทวี่ า่ จะทำ� อยา่ งไรใหค้ นพกิ ารสามารถเรยี นได้ ทำ� งานได้ enjoy life
มีความสุขต่างๆ ได้ ในงานมีการประกวดอุปกรณ์ต่างๆ ส�ำหรับช่วยคนพิการ เป็นการ
ประกวดในระดับมหาวิทยาลัยและอาชีวศึกษา มีนักศึกษาจากหลายๆ ประเทศ ปีนี้เมือง
ไทยไดอ้ นั ดบั ท่ี 1 ดา้ นความคดิ เปน็ งานของนกั ศกึ ษาจากมหาวทิ ยาลยั มหดิ ล และนกั ศกึ ษา
จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีได้อันดับท่ี 1 ด้านการออกแบบ เวลา
ประกาศกน็ า่ ตืน่ เต้นดี

i-CREATe: งานประชุมวิชาการนานาชาติ
เร่ืองวศิ วกรรมฟน้ื ฟสู มรรถภาพและเทคโนโลยสี ิง่ อำ�นวยความสะดวกสำ�หรบั คนพิการ

อาชวี ศกึ ษา
ส�ำหรับคนท่ีไม่สนใจทางด้านทฤษฎี อยากท�ำงานภาคปฏิบัติก็เรียนทางด้าน
อาชีวศึกษา เขาจะประดิษฐ์อะไรต่างๆ ได้มากมาย แต่เคร่ืองใช้ทางอาชีวศึกษาค่อนข้าง
แพง ได้น�ำนักเรียนจากสายสามัญมาเรียนด้วย โดยใช้เคร่ืองมือชุดเดียวกัน เด็กอาชีวะ

185

เราช่วยให้เขาเรียนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เพ่ิมข้ึน เพ่ือให้เขาสามารถสอบเข้าสาย
สามญั ไดถ้ า้ ต้องการ

การอบรมครู

เรอื่ งครเู ปน็ เรอ่ื งสำ� คญั เมอ่ื 10-20 ปมี าแลว้ ทางราชการมโี ครงการทด่ี มี าก เรอ่ื ง
ครทู มี่ คี วามสามารถพเิ ศษ จากนกั เรยี นทเี่ รยี นสายวทิ ยาศาสตรแ์ ลว้ มาตอ่ ครมู ี 3,000-4,000
คนกระจายไปอยู่ตามโรงเรียนต่างๆ ปัจจุบันมีปัญหาหาครูไม่ได้ เพราะมีกฎระเบียบ แม้
แตค่ นเรยี นจบปรญิ ญาเอกมาแตไ่ มไ่ ดเ้ รยี นวชิ าครมู ากเ็ ปน็ ครไู มไ่ ด้ บางคนมวี ริ ยิ ะอตุ สาหะ
ไปเรยี นก็นา่ จะได้วชิ าครู แตว่ ชิ าครูก็ปิดไม่มใี ห้เรยี นเสียอีก ไม่ไดเ้ รียนก็ไมใ่ หส้ อนเวียนกนั
อยู่อยา่ งน้ี กไ็ มท่ ราบว่าการศึกษาเราจะเดินไปทางไหน

การเพ่ิมวุฒิใหค้ รู
ครูที่ไม่จบปริญญาตรีเราใช้วิธีสอนทางไกล โดยที่เขาก็ไม่ต้องทิ้งโรงเรียนมา ก็มี
อุปกรณ์เคร่ืองมือต่างๆ อาจารย์ก็มาน่ังสอนกันท่ีสวนจิตรลดา หรือบางโรงเรียนท่ีเป็น
ศูนย์การสอน ทคี่ รไู ปสอนได้งา่ ย ก็จบหลายรุ่นแล้ว
บัณฑติ คนื ถิ่น
อีกโครงการหน่ึงคือโครงการบัณฑิตคืนถิ่น เลือกเอานักเรียนท่ีเรียนเก่งมาเรียน
ตอ่ ระดบั อดุ มศกึ ษา โดยหวงั วา่ จะกลบั ไปทบ่ี า้ นเขา บางคนกลบั บางคนไมก่ ลบั ขอ้ ทลี่ ำ� บาก
อีกเรื่องหน่ึงคืออาชีพในท้องถิ่นท่ีเหมาะสมกับความรู้ของเขา ส่วนหน่ึงคือการเป็นครู
ติดเรื่องการสอบวิชาครูแต่ค่อยๆ ระบายไปได้แล้ว ตอนน้ีผ่อนผันว่าถ้ารวมกลุ่มกันมามี
การร้องขอกเ็ ปดิ สอนได้
ภาษาองั กฤษ
อกี อยา่ งกม็ กี ารอบรมภาษาองั กฤษ เพอื่ ใหค้ รไู ปสอนภาษาองั กฤษได้ ภาษาองั กฤษ
มีความส�ำคัญในการศึกษาวิทยาศาสตร์ แม้แต่ระดับเด็กๆ เว็บไซต์ที่สอนวิทยาศาสตร์ใน
อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ที่เป็นภาษาไทยยังมีน้อยกว่าท่ีเป็นภาษาอังกฤษ ถ้ารู้ภาษาอังกฤษ
ดว้ ยก็จะไดค้ วามร้ตู ่างๆ เพิม่ ขึน้

186

เยาวชนไทยกับวทิ ยาศาสตร์

การพัฒนาครู
มีการอบรมครูเร่ืองการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ รวมท้ังมีการคัดครูฟิสิกส์ไป
รับการอบรมที่ CERN ด้วย มีการพัฒนาครูท่ีสอนวิทยาศาสตร์อยู่แล้วให้เรียนต่อถึง
ปริญญาโท ข้อสังเกต คือครูเรียนชีวะบ้าง เคมีก็มีบ้าง แต่ท่ีเรียนฟิสิกส์มีค่อนข้างน้อย
ถามว่าท�ำไมเรียนฟิสิกส์กันน้อย เขาบอกว่าฟิสิกส์ไม่เก่ียวข้องกับชีวิตประจ�ำวันของคน
อันนี้ใครเรียนฟิสิกส์น่าจะน�ำไปพิจารณาว่าจะอธิบายอย่างไรว่าฟิสิกส์เก่ียวข้องในชีวิต
ประจ�ำวนั ของคนมาก
ครูที่ส่งไป CERN ท�ำมาได้ 3 ปีแล้ว ปี 2553-2555 ท่ีคัดเลือกไปก็น่าดีใจ
ครูท่ีสมัครมาต้องมีความรู้ด้านฟิสิกส์และภาษาอังกฤษ เพ่ือจะไปแลกเปล่ียนกับครู
นานาชาติได้ เด๋ียวน้ีมีวิธีการประกวดต่างๆ ก็ดี ท�ำให้คนท่ีมีคุณสมบัติพร้อมอย่างน้ีมี
จ�ำนวนมาก จนต้องหลับตาจิ้ม จริงๆ ให้คนในถิ่นทุรกันดารมากหน่อยก่อน ไม่ให้ซ�้ำ
ท่ีกัน พยายามเปิดโอกาส ครูพวกน้ีไปถึงก็ไปแสดงวัฒนธรรมไทย โต้แย้งเสนอโครงการ
ไม่แพ้คนชาติอื่นๆ เลย กลับมาก็บังคับให้เขาเขียนรายงานมา เขาก็ท�ำได้ดี ไปเผยแพร่
ความรูใ้ หก้ บั เพ่ือนครู ท�ำโครงการที่โรงเรยี นของเขา

ระดับอุดมศึกษา ปรญิ ญาตรีถงึ ปริญญาเอก

ทนุ การศกึ ษา
ระดับอุดมศึกษา ได้ให้ทุนการศึกษาไปเรียนในมหาวิทยาลัย ทั้งในเอเชีย ยุโรป
และสหรฐั อมรกิ า เชน่ ไดส้ ง่ นกั เรยี นจากโรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานสุ รณไ์ ปเรยี นทเี่ มอื งจนี หลาย
คน เพราะร้จู กั กับมหาวทิ ยาลัยปกั กิง่ ไปเรยี นวิทยาศาสตรห์ ลายสาขา คนแรกๆ ทีไ่ ปก็อยู่
มา 10 ปีแล้ว คนหนึง่ เรยี นด้าน High Energy Physics กำ� ลังเรยี นปรญิ ญาเอกและไปวจิ ัย
ทเ่ี ซริ น์ โดยไปในโควตา้ ของมหาวทิ ยาลยั ปกั กงิ่ เขาเรยี นไดด้ ี ถามเขาวา่ เรยี นเปน็ ภาษาจนี
ยากไหม เขาบอกวา่ ภาษาจนี เรยี นสกั 2-3 ปี กไ็ ด้ แตท่ ย่ี ากคอื เนอ้ื วชิ าการทางดา้ นนวิ เคลยี ร์
ฟิสกิ ส์ ทางดา้ นคณิตศาสตร์ เขาเรยี นลกึ มาก ต้องปรับตวั พอสมควร เขามีวิธีการของเขา
พวกทไี่ ปยโุ รปไปเรยี นฟสิ กิ สท์ ฝี่ รงั่ เศส และคณติ ศาสตรท์ เี่ ยอรมนั ไปสหรฐั อเมรกิ าหลายคน

187

ส่วนทุนต่างๆ เช่น ทุนอานันทมหิดล เรียนได้ทุกสาขาวิชา ทุนรัฐบาลไทย
ทนุ หนว่ ยงานอ่นื ๆ อกี เยอะแยะ

โครงงานและความร่วมมอื วิจยั
โครงงานวทิ ยาศาสตรท์ ป่ี ระกวดกนั เดยี๋ วนเ้ี ขาเอาคนจากหลายมหาวทิ ยาลยั แลว้
มาคละกนั คนไมร่ จู้ กั กนั เลย ความคดิ มมุ มองกเ็ พง่ิ มารจู้ กั กนั เขาตอ้ งมาจดั ทมี ทต่ี อ้ งแขง่ ขนั
ใหไ้ ด้ ทีมท่ีชนะกไ็ ด้ไปต่างประเทศ บางทีพอไปถงึ ตา่ งประเทศเขาจับคละประเทศอีก พูด
กันก็ไมค่ ่อยร้เู ร่ืองสง่ ภาษากนั บอกวา่ ไดป้ ระสบการณด์ ี
DESY
สถาบนั ทม่ี คี วามรว่ มมอื เชน่ DESY: Deutsches Elektronen Synchrotron อยู่
ที่เมอื งฮัมบูร์ก และเมืองซอยเธนไดใ้ ห้ทุน ซ่ึงไมไ่ ดใ้ ห้กบั รัฐบาลแตใ่ ห้เปน็ สว่ นตวั จะส่งใคร
ไปก็ได้แล้วแต่เรา กลับมาเมืองไทยจึงมาตั้งคณะกรรมการคัดเลือก และก็รับสมัครนิสิต
นกั ศกึ ษาทว่ั ประเทศ งานนไี้ มใ่ ชเ่ ฉพาะฟสิ ิกส์ด้านเดยี ว แต่ดา้ นชีววิทยา เคมี วัสดุศาสตร์
ธรณีวิทยา และแพทย์ศาสตร์ก็ได้ที่ประยุกต์กับฟิสิกส์ได้ ผู้มาร่วมโครงการกลับมาก็เขียน
รายงาน

สถาบนั เดซี หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารชนั้ นำ�ของโลกด้านฟิสกิ สข์ องอนภุ าคมูลฐานและงานวจิ ยั ทีใ่ ชแ้ สงซนิ โครตรอน

มีตัวอย่างสถานะของเยาวชนท่ีได้รับคัดเลือกเข้าเป็นนักศึกษาภาคฤดูร้อนเดซี
หลายคนทีก่ ลบั มาท�ำงานแล้วจบปริญญาเอก
188

เยาวชนไทยกบั วทิ ยาศาสตร์

นายชยั วัฒน์ เต็งศริ วิ ัฒนา (รุ่นที่ 1)
ปจั จุบนั ศึกษาปริญญาเอก สาขาฟสิ กิ ส์
ณ University of Virginia สหรฐั อเมรกิ า
และก�ำลงั วางแผนเปล่ยี นสถาบนั การศกึ ษาต่อ
นางสาวสาธติ า ตปนียากร (รุ่นที่ 1)
จบปริญญาเอก สาขาวัสดศุ าสตร์
ทางดา้ น Nanobiotechnology Oxford University
สหราชอาณาจักร
ปัจจุบนั เป็นนักวิจยั ศูนย์นาโนเทคโนโลยแี หง่ ชาติ สวทช.
นางสาวพงษ์ลดั ดา ปญั ญาจิรวุฒิ (รุ่นท่ี 2)
จบปริญญาเอก สาขาฟสิ กิ ส์
University of Wisconsin-Madison สหรฐั อเมริกา
ปจั จบุ นั เปน็ อาจารย์ ภาควชิ าฟิสิกส์
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร
นายธีรศกั ดิ์ เอโกมล (รุ่นท่ี 3)
ปัจจบุ นั ก�ำลงั ศกึ ษาระดับปรญิ ญาเอก สาขา Proteomics
& Transcriptomics of Bacterial Membrane Proteins
ณ University of Glasgow สหราชอาณาจักร
นางสาวรสสคุ นธ์ ทองวิเชียร (รุ่นท่ี 3)
ปัจจุบัน ก�ำลงั ศึกษาปรญิ ญาเอก สาขาเคมี
คณะ Chemistry, Biology and Pharmacy
ณ Free University of Berlin สหพันธ์สาธารณรฐั เยอรมนั

189

นายชาญ ลออวรเกียรติ (รนุ่ ท่ี 4)
ปัจจุบนั ก�ำลังศึกษาปริญญาเอก สาขาฟสิ กิ ส์
ณ University of Colorado at Boulder สหรัฐอเมริกา
นางสาวพรรณี ลลี าดี (รุ่นท่ี 4)
ปจั จุบนั กำ� ลงั ศึกษาปริญญาเอก สาขาเคมี
ณ Johns Hopkins University สหรัฐอเมริกา
นายณริ วฒั น์ ธรรมจกั ร (รุ่นท่ี 5)
ปัจจบุ ัน ก�ำลังศกึ ษาปริญญาเอก ด้านเคมีอนินทรยี ์
ณ Oxford University สหราชอาณาจกั ร
ทุนสถาบันวจิ ัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน)
นายพนิ ิจ กิจขุนทด (ร่นุ ที่ 5)
ปัจจุบัน ได้สำ� เรจ็ การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาเอก
ดา้ น Synchrotron Light Application: EXAFS
จาก University of Bristol สหราชอาณาจักร
และรายงานตัวกลบั เขา้ มาปฏิบตั งิ านเมอ่ื วนั ท่ี 16 มกราคม 2555
ในต�ำแหนง่ นักวิทยาศาสตร์ สงั กัดฝา่ ยสถานวี จิ ัย สถาบนั วจิ ัยแสงซิ
นโครตรอน (องคก์ ารมหาชน)
นายวนรกั ษ์ ชยั มาโย (รุน่ ท่ี 6)
ปจั จุบัน ก�ำลงั ศึกษาปริญญาเอก สาขาฟิสิกส์
ณ University of Edinburgh สหราชอาณาจกั ร
นางสาวอจั ฉรา ปัญญา (ร่นุ ที่ 6)
ปัจจุบนั กำ� ลงั ศึกษาปรญิ ญาเอก สาขาฟิสิกส์
ณ Case Western Reserve University สหรัฐอเมริกา

190

เยาวชนไทยกับวทิ ยาศาสตร์

นายสุทธิพงษ์ วรรณไพบูลย์ (รนุ่ ท่ี 7)
ปจั จบุ นั กำ� ลังศกึ ษาปริญญาโท-เอก สาขาฟิสกิ ส์
ณ Ruhr Universität Bochum เมือง Bochum สหพนั ธ์
สาธารณรัฐเยอรมนั
ทุนสถาบันวจิ ัยแสงซนิ โครตรอน (องค์การมหาชน)
นางสาวเพียรเพญ็ สมี า (รุ่นที่ 7)
ปัจจุบนั กำ� ลังศึกษาปรญิ ญาโท สาขาฟิสกิ ส์
ณ University of Bonn สหพนั ธส์ าธารณรฐั เยอรมนั
นายศภุ ชยั อาวพิ ันธ์ุ (รุ่นท่ี 8)
ปัจจุบนั ก�ำลังศึกษาปรญิ ญาโท ด้านดาราศาสตร์
เกีย่ วกบั Exoplanet
ณ University of Manchester สหราชอาณาจักร
ทนุ สถาบนั วจิ ัยดาราศาสตร์แหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน)
นายชาคริต พงษ์กติ ิวณิชกุล (รนุ่ ท่ี 8)
ปจั จุบัน จบการศกึ ษาระดับปริญญาตรี สาขาฟสิ ิกส์ มหาวทิ ยาลยั
มหิดล และกำ� ลงั รอศกึ ษาต่อในระดบั ปรญิ ญาโท สาขาฟสิ กิ ส์ ใน
ตา่ งประเทศ
นางสาววชริ าภรณ์ วนิชนพรัตน์ (รุ่นท่ี 9)
ปัจจบุ นั ก�ำลงั ศึกษาปรญิ ญาโท ปที ี่ 2
สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย
นายจริ ายุทธ ศรีสกลุ กานต์ (รุ่นที่ 9)
ปัจจบุ ัน ก�ำลังศกึ ษาปรญิ ญาโท ปที ี่ 1 สาขาฟสิ กิ ส์
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีสรุ นารี

191

CERN
อีกสถาบันหน่ึงคือ CERN ท่ีมีการอบรมนักศึกษาและครู
ฟิสิกส์ภาคฤดูร้อน นักศึกษาจะอยู่นานกว่าครู นักศึกษาก็ได้เรียน
ต่อระดับปริญญาเอก ซ่ึงจะเป็นความต้องการของมหาวิทยาลัยและ
สถาบันต่างๆ ก่อนไปจะมีโครงการอบรมความรู้ท่ัวๆ ไป ตอนน้ีเป็น
เรื่องล�ำบาก เพราะบางคนก็มาสมัครท้ัง CERN DESY และ Lindau ลินเดาเป็นอีก
โครงการหนึ่ง ลินเดาให้ไปอยู่อาทิตย์เดียวก็เลยต้องเอาคนที่มีความรู้สึกว่าไวๆ หน่อย
จะตอ้ งหาคนท่หี าความรใู้ ห้ได้ใน 7 วัน ของเดซีน่ี 4 เดือน กค็ อ่ ยๆ ใจเยน็ ๆ ได้โครงการ
พวกนกี้ ลบั มาแลว้ กจ็ ะมคี นทจ่ี ะมารว่ มกจิ กรรมดว้ ย มคี า่ ยวทิ ยาศาสตรแ์ สงสยามครฟู สิ กิ ส์

CERN Summer Student Programme และ CERN Physics High School Teacher Programme

CERN School Thailand
CERN School ตั้งในเมืองไทยเป็นค่ายอบรมฟิสิกส์อนุภาค มีอาจารย์ฝ่ายไทย
เป็นผู้ร่วมใหค้ วามรดู้ ้วย
Grid Computing
สว่ นโครงการเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื โครงสรา้ งพนื้ ฐานดา้ นคอมพวิ เตอรส์ มรรถนะ
สูงแห่งชาติเป็นส่ิงที่ได้จากเซิร์น ท่ีจริงท�ำมาต้ัง 10 ปีแล้ว พอดีไปเดินๆ อยู่ที่เซิร์นได้ฟัง
เร่อื ง Particle Physics เคร่อื ง Hadron Collider อะไรต่างๆ ไปดูกไ็ ม่ค่อยร้เู รอ่ื ง แต่ก็
พอจะเขา้ ใจโครงการ Grid Computing ของเขาคอื สามารถเอาข้อมลู ตา่ งๆ มาฝากไว้และ
เอาข้อมูลของเขามาทำ� วิจัยในเร่อื งตา่ งๆ ได้
192

เยาวชนไทยกับวิทยาศาสตร์

ตอนแรกก็ล้มไปเพราะหน่วยงานในเมืองไทยไม่ค่อยสนใจ แต่ก็มาฟื้นตัวใหม่ท�ำ
เปน็ e-science infrastructure consortium คอื แชรค์ ่าใชจ้ ่ายกนั ระหว่าง 5 สถาบนั ไม่
จ�ำเป็นจะต้องศึกษาเร่ืองของนิวเคลียร์ฟิสิกส์หรือว่า Particle Physics อย่างเดียว วิชา
ไหนๆ กใ็ ชห้ ลกั เดยี วกนั ไดเ้ พราะเปน็ เครอ่ื งมอื ตอนนไี้ ดด้ ำ� เนนิ การมาคอ่ นขา้ งจะมากแลว้
พวกทไ่ี ปเรยี นตอ่ หรอื ไปทำ� งานทเี่ ซริ น์ กม็ หี ลายคน อยา่ งเชน่ อาจารยน์ รพทั ธ์ (ศรมี โนภาษ)
จากจุฬาฯ ก็มาเรียน หรือทุตานนท์ (สินธุประสิทธิ์) ก็ไปเรียนที่อเมริกา ต่อไปก็คงจะมา
ช่วยเป็นทีมงานในด้านนี้ นักศึกษาโปรแกรมภาคฤดูร้อนจากเซิร์นหรือนักศึกษาที่มาจาก
โครงการของกระทรวงวทิ ยาศาสตรฯ์ ทไี่ ปศกึ ษาปรญิ ญาเอก สว่ นชญานษิ ฐ์ (อศั วตงั้ ตระกลู
ดี) ซ่ึงเป็นนักเรียนจากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ส่งเขาเรียนภาษาจีนตั้งแต่ปริญญาตรี
แล้วก็โทควบเอก ก็คิดว่าพอจบปริญญาเอกกลับมา ก็สามารถท�ำงานท่ีเรียนมาใน
ประเทศไทยได้ แตย่ ังไม่ทราบว่าเขาจะท�ำงานทไ่ี หน

Lindau
ลินเดาเปน็ เมอื งหนงึ่ ของประเทศเยอรมนี ซึง่ เป็นที่จัดงานชุมนมุ นกั วิทยาศาสตร์
ท่ไี ด้ Nobel Prize จากท่วั โลกเรมิ่ เมอื่ ค.ศ. 1951 นกั วิทยาศาสตรข์ องเยอรมนั ในสมัยน้นั
เขาบอกว่าเยอรมันค่อนข้างจะโดดเด่ียว หลังจากแพ้สงครามโลกคร้ังท่ีสองแล้ว และมี
ความยงุ่ ยากในประเทศหลายอยา่ ง ถกู สงสยั ในเรอ่ื งของการเปน็ นาซจี งึ คดิ เรอ่ื งนเ้ี พอ่ื ทำ� ให้
นักเรียนเยอรมันมีโอกาส คนท่ีรับอุปถัมภ์ช่ือ Countess Bernadotte เป็นเชื้อสาย
เจา้ สวเี ดน ช่วยกนั จดั สบื เนื่องมาจนทุกวันนี้
จรงิ ๆ แลว้ การประชุมลินเดาเร่มิ ตงั้ เม่อื ปี 1951 แตเ่ ม่ือ พ.ศ. 2547 ไม่ก่ปี มี าน้ี
เผอิญได้อ่านนิตยสารของเยอรมันชื่อ Deutschland ในหนังสือน้ีมีบทความว่าด้วยเรื่อง
การประชมุ ทล่ี นิ เดา นอกจากเขาเชญิ นกั วทิ ยาศาสตรช์ าตติ า่ งๆ ทไี่ ด้ Nobel Prize มาแลว้
เขาให้มาพบกับนักศึกษาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่ไม่มีประเทศไทยก็รู้สึกแปลก
ประเทศมาเลเซียยังมีเลย แล้วก็มีจีน อินเดีย จีนเขามีหน่วยงานส�ำหรับฝึกเด็กฝึกนัก
วิทยาศาสตร์เพื่อไปลินเดาโดยเฉพาะ และเยอรมันร่วมมือเต็มที่ ส่วนอินเดียนี่ให้ 10-20
คนเลย ของไทยเขาให้ 3 คนออ้ นวอนแทบแย่ มอี ้อนวอนสำ� เรจ็ มากๆ ก็ 6 คน แลว้ กล็ ดลง
มาอีกเหลอื 3 คน เขาบอกวา่ จะขยายให้ได้จำ� นวนประเทศมากๆ เรากเ็ ลยต้องได้น้อยลง

193

โครงการคัดเลือกเยาวชนไทยเข้าร่วมการประชุมนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล
นี้ได้ด�ำเนินการมา 4 ครั้งแล้ว ปี 2555 น่ีเขียนจดหมายไปบอกเขาบอกว่าปีนี้ไปไม่ไหว
ไม่ค่อยสบาย แถมมีน�้ำท่วมมีอะไรต่างๆ รู้สึกยุ่งยากใจ ก็เลยส่งไปแต่นักวิทยาศาสตร์
ตวั เองไมไ่ ด้ไป แตว่ า่ ปหี น้าจะไปเพราะเขาใหต้ �ำแหนง่ เปน็ senator ของมลู นธิ ิ

นี่ก็เป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกไป แต่ว่าใครที่ได้รับคัดเลือกน้ัน พอปรากฎใน
portfolio ของชีวิตเขาแล้ว จะไปสมัครเรียนที่ไหนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เยอรมนี เขาเห็น
เขาก็รับเลยถ้าผ่านการประชุมนี้มาแล้ว ไม่ต้องสอบอะไรมาก พวกน้ีส่วนใหญ่ก�ำลังเรียน
ต่อปรญิ ญาโทปริญญาเอกกัน

จะสงั เกตว่าปนี ้ี (2551) เปน็ สาขาฟสิ กิ สน์ ายปัทม์ วงษป์ าน ตอนที่ไปยงั ไมไ่ ด้รับ
ปริญญาเลย นางสาวอัจฉรา ปัญญาก็เรียนปริญญาโทอยู่ ส่วนนางสาวสตรีรัตน์ โฮดัค
(ก�ำแพงแก้ว) จบปริญญาเอกแล้วเป็นอาจารย์แล้ว ก็ถือว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์เยาวชน
ทั้งน้นั มรี ะดบั ต่างๆ เปน็ อาจารยแ์ ล้วกม็ ี จบปริญญาเอกแล้วกม็ ี ได้ทุนอานนั ทมหดิ ลในปี
นีก้ ็มี ไม่ได้เอารปู มา ไม่ไดถ้ า่ ยมาเพราะว่าไมไ่ ด้ไปด้วย

โครงการการคัดเลือกผแู้ ทนเขา้ รว่ มประชุมนักวิทยาศาสตร์รางวลั โนเบล ณ เมอื งลนิ เดา

Leopoldina
ตอนอยู่ลินเดา ได้ไปกินข้าวกับนักวิทยาศาสตร์เผอิญนั่งโต๊ะเดียวกับประธาน
ของ Leopoldina ซ่ึงเป็นสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติเยอรมัน เขาให้นามบัตรมา

194

เยาวชนไทยกบั วทิ ยาศาสตร์

เขาเป็นหัวหนา้ German Academy of Sciences ก็เลยไปเย่ียมสถาบันเขา เขาบอกวา่
เขาจัดการประชุมวิทยาศาสตร์ทุกปี มีแนวคิดด้านปรัชญาด้วยเช่นปี 2554 จัดในหัวข้อ
What is Life? เป็นการประชมุ Symposium ประจำ� ปี เขากเ็ ชิญใหส้ ง่ นักศึกษาเขา้ ร่วม
ประชมุ แตว่ า่ เขาประชมุ กนั เปน็ ภาษาเยอรมนั กเ็ ลยเอานกั ศกึ ษาทเ่ี รยี นเปน็ ภาษาเยอรมนั
อยูท่ ี่เยอรมนั มาเข้าร่วมประชมุ ก็รู้สกึ วา่ ดี

GYSS
ยังมีงานอีกอย่างหนึ่ง ประธานาธิบดีคนใหม่ของสิงคโปร์ท่านจบจาก MIT
(Massachusetts Institute of Technology) เป็นวิศวกรจาก MIT ท่านก็คิดโครงการ
Global Young Scientists Summit-GYSS Singapore จะเรมิ่ เดือนมกราคม 2556 เขา
ใหข้ า้ พเจา้ คดั เลอื กเยาวชนนกั วทิ ยาศาสตรไ์ ปรว่ มประชมุ 5 คน ตอ่ ไปจะลองขอเขามากกวา่ นี้
CAS/GUCAS

สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ทรงมพี ระราชดำ�ริทจี่ ะสรา้ งความสมั พนั ธ์ระหวา่ งไทยและจีนด้านวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ทีเ่ มอื งจีนไดร้ ้จู กั กับ Chinese Academy of Sciences หรือ CAS มานานแลว้
ตอ่ มาเขาตง้ั Graduate University ของ Chinese Academy of Sciences - GUCAS
จึงได้จัดให้ลงนามร่วมกับ ก.พ. โดยเขาให้ทุนปริญญาโทกับปริญญาเอกแก่เยาวชนไทย
มกี ารกำ� หนดหวั ขอ้ วจิ ยั ของนกั เรยี นทนุ รว่ มกนั เขาพดู วา่ นกั เรยี นควรจะรภู้ าษาจนี บา้ ง แม้
วา่ ปรญิ ญาเอกเรยี นเป็นภาษาองั กฤษก็ตาม

195

ยังมีทุนท่ีท�ำร่วมกับมหาวิทยาลัยอ่ืนๆ เช่น มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง เขาให้
ทุนนกั เรียนไทยทางดา้ น Management Science กบั Engineering

นอกจากน้ียังมี Biomedical Engineering Consortium ข้ามคณะและ
มหาวทิ ยาลยั เร่ิมจากมหาวทิ ยาลยั โคลมั เบียเขาติดตอ่ มาว่าอยากให้ช่วยจดั ใหม้ คี วามรว่ ม
มอื กับเขา มาปรึกษากับอาจารย์มหาวทิ ยาลยั ก็มี จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย มหาวทิ ยาลัย
สงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มาหารือร่วมกนั ท�ำใหเ้ กดิ ความรว่ มมือน้ขี ึ้น

แหลง่ เรยี นรู้

ศึกษาธรรมชาติ สอ่ื การสอนของ สสวท.

เมื่อพูดถึงเยาวชน ก็ต้องกล่าวถึงแหล่งเรียนรู้ต่างๆ มากมาย เช่น ธรรมชาติ
สวนพฤกษศาสตร์ ป่าต่างๆ ที่จะเข้าไปเรียนรู้ นอกจากน้ีก็มีปราชญ์ท้องถิ่น ส่ือการสอน
หนังสือ หอ้ งสมดุ สารานุกรมไทยส�ำหรบั เยาวชน

ส่ือ Digital Online เช่น eDLTV ท่ีปรับจากการสอนทางไกลผ่านดาวเทียมของ
โรงเรียนวังไกลกังวลมาเป็นบทเรียนออนไลน์

มี SAS Curriculum Pathways ของอเมรกิ า ทข่ี อเขามาใช้ เขากใ็ หม้ าฟรๆี ปกติ
เขาไม่ให้กับต่างประเทศ ให้เฉพาะในอเมริกา เราไปขอมาลองใช้ เขาก็ให้มา หลาย
โรงเรียนท่ลี อง บอกวา่ ดี

มรี ายการวทิ ยทุ างไกล โทรทศั นท์ างไกลผา่ นดาวเทยี ม สามารถศกึ ษาภาษาตา่ งๆ

196

เยาวชนไทยกับวิทยาศาสตร์

โดยเฉพาะภาษาองั กฤษ จะได้ความรู้โดยการใช้ภาษานั้นมาศกึ ษาวิชาต่างๆ
พพิ ิธภัณฑว์ ิทยาศาสตรท์ งั้ อยูก่ บั ท่แี ละเคลอื่ นท่ี
หอดดู าวทขี่ ยายออกไปหลายจังหวดั
การศึกษาจากธรรมชาติ ศึกษาทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น สื่อการสอน

ของ สสวท. (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) ที่ท�ำเป็นชุดมาให้ สื่อ
ดจิ ทิ ลั สอ่ื ออนไลนแ์ ละออฟไลน์ สอื่ จากวงั ไกลกงั วล เอามาทำ� เปน็ ออฟไลน์ ตดั คำ� พดู ตา่ งๆ
ทีเ่ ป็นค�ำเกร่ินน�ำออก เอาแตเ่ นื้อความรู้

PISA

พดู ถงึ การทดสอบระดบั นานาชาติ มกี ารสอบทเี่ รารจู้ กั กนั ทเ่ี รยี กยอ่ วา่ PISA หรอื
Programme for International Student Assessment ซ่งึ ผรู้ ่วมโครงการคอื ประเทศ
ใน OECD (Organization for Economic Coorperation and Development) และ
ประเทศอื่นที่สนใจเข้าร่วมด้วย เป็นแบบทดสอบส�ำหรับนักเรียนอายุ 15 ปี ท่ียอมรับ
กนั ว่าสามารถใช้วดั ความรู้ความเขา้ ใจเร่ืองวิทยาศาสตร์ของเยาวชนในประเทศต่างๆ ได้ดี
แมจ้ ะมีวฒั นธรรมต่างกนั

มีปัญหาว่า ท�ำไมเด็กไทยจึงสอบ PISA ได้คะแนนออกมาตำ่� ก็มาวิเคราะห์กัน
ปรากฏวา่ โรงเรียนทม่ี ีครดู ี ครูเยอะๆ มีสอ่ื การสอนเยอะๆ เลอื กแต่นักเรยี นเก่งๆ พวกนี้
ทำ� ไดค้ ะแนนดี แตโ่ รงเรยี นทน่ี กั เรยี นไมค่ อ่ ยเกง่ หรอื ไมม่ คี รเู กง่ ๆ ทม่ี คี วามรพู้ อจะถา่ ยทอด
ให้แก่นักเรียน ให้ทั้งรักท้ังชอบวิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนก็ตำ่� ลงมา แต่ฟังดูแล้ว ก็ดีขึ้นๆ
เปน็ คนมองโลกในแงด่ ี คิดว่าคงไมแ่ ย่เท่าไร

สรุป
การพัฒนาเยาวชนทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องส�ำคัญ ต้องพยายามให้ท่ัวถึง

และถูกวธิ ี โดยให้ความสำ� คัญกบั แกน่ ความรทู้ างวิทยาศาสตรแ์ ละทกั ษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ และต้องปลูกฝังต้ังแต่เด็กๆ จะได้มีความรู้สึกท่ีดีต่อวิชา มีความรู้และ

197

ความตระหนักท่ีจะเป็นพื้นฐานต่อไป สร้างอุปนิสัยใฝ่ศึกษาตลอดชีวิต หาข้อมูลและ
ความรู้ เพ่ือมาต่อยอดความรู้ที่มีอยู่เดิม คือว่าต้องถามตลอดเวลาว่า สิ่งนั้นส่ิงน้ีคืออะไร
ตอ้ งช่างสังเกต มองเหน็ วา่ ส่ิงต่างๆ แตกต่างกันอยา่ งไรและเป็นเพราะอะไร ถ้าเปน็ เร่ืองไม่
ดีจะแก้ไขได้อย่างไรหรือไม่ สามารถแกป้ ัญหาตา่ งๆ

วิธีท�ำงานท่ีเหมาะกับศตวรรษท่ี 21 คือ การเปิดใจกว้าง รับฟังความเห็นซึ่ง
กันและกัน รู้จักท�ำงานเป็นทีม รับผิดชอบต่อหน้าท่ี และมีจิตส�ำนึกในความเป็น
พลเมอื งทงั้ ของประเทศและของโลก
วิทยาศาสตร์เท่าท่ีแสดงให้เห็น เป็นวิชาท่ีไม่มีเช้ือชาติและศาสนา จึงเป็นส่ิงท่ี
เชื่อมโยงโลกท่ีซับซ้อนและมปี ัญหาหลายด้านได้

“วิทยาศาสตร์ เปน็ วชิ าทไ่ี มม่ ีเชอ้ื ชาตแิ ละศาสนา จึงเช่ือมโลกทีซ่ ับซอ้ นและมปี ัญหาหลายด้านได”้

198


Click to View FlipBook Version