กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 43 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ตัวเต็มวัย ด้วงดำกินรา Alphitobius laevigatus (Fabricius)
44 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ตัวเต็มวัย ดักแด้ ไข่ หนอน วงจรชีวิตมอดหลินจือ Cis chinensis Lawrence 3-5 วัน 3-5 วัน 16-31 วัน 108-527 วัน
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 45 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร มอดหลินจือ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cis chinensis Lawrence (Coleoptera : Ciidae) ความสำคัญและลักษณะการทำลาย เป็นแมลงศัตรูที่สำคัญที่สุดในการเข้าทำลายเห็ดหลินจือแห้ง ลักษณะการทำลาย หลังจาก ฟักออกจากไข่ ตัวหนอนกัดทำลายอยู่ภายในเนื้อเห็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงที่เป็นหมวกเห็ด เมื่อทำลาย บริเวณนี้จนหมดแล้วจึงเคลื่อนย้ายไปทำลายตรงบริเวณอื่น ทั้งตัวหนอนและตัวเต็มวัยร่วมกันทำลายเห็ด หลินจือแห้ง ทำให้เห็ดเป็นรูพรุน มีฝุ่นผงสีดำของมูลที่แมลงขับถ่ายจำนวนมาก ถ้าระบาดหนักจะทำลาย เนื้อเห็ดจนหมดเหลือแต่เปลือกผิวหมวกเห็ด มีรายงานว่าพบด้วงชนิดนี้มากกว่า 1,000 ตัว ในเห็ดแห้ง 1 ดอก ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งปริมาณและคุณภาพ รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ไข่ มีลักษณะยาวรีใส สีครีม มีเยื้อหุ้มคล้ายกระดาษ สีขาวขุ่น ระยะไข่ 3-5 วัน หนอน ลำตัว ยาวเรียวสีเหลืองนวล มีขา 3 คู่ ลำตัวปกคลุมด้วยขน เมื่อโตเต็มวัยยาวประมาณ 3.5 มิลลิเมตร ระยะหนอน 16-31 วัน หนอนลอกคราบ 4 ครั้ง หลังจากนั้นจึงเข้าดักแด้โดยหนอนหยุดนิ่งตรงบริเวณเนื้อเห็ดที่เป็นรอย แตกแยกและเข้าดักแด้ในนั้น ดักแด้ระยะดักแด้3-5 วัน จึงกลายเป็นตัวเต็มวัย ตัวเต็มวัย สีน้ำตาลเข้ม ลำตัวยาว 1.7-2.7 มิลลิเมตร ลำตัวยาวเป็น 2 เท่าของความกว้าง ส่วนหัวมักจะมีสีเข้มกว่าปีกคู่แรก หนวด ปาก และขาสีเหลือง หนวดเป็นแบบกระบอง ด้านหน้าส่วนหัวของตัวเต็มวัยเพศเมียกลม ส่วนเพศผู้หยัก ความยาวของส่วนอกเท่ากับ 0.75 เท่าของความกว้าง ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่เป็นกลุ่ม ตามรอยแตกแยก ของเห็ดหลินจือแห้งประมาณ 254-884 ฟอง ระยะตัวเต็มวัยเพศผู้131-517 วัน เพศเมีย 108-427 วัน การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจาย ประเทศสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ฤดูการระบาด สำหรับประเทศไทยตลอดทั้งปี พืชอาหาร เห็ดหลินจือแห้ง และเห็ดหัวลิงแห้ง ศัตรูธรรมชาติ ตัวห้ำ ได้แก่ Xylocoris flavipes (Reuter)
46 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ด้วงหลินจือ ชื่อวิทยาศาสตร์ Platydema waterhousei Gelbien (Coleoptera : Tenebrionidae) ความสำคัญและลักษณะการทำลาย เป็นแมลงศัตรูสำคัญที่เข้าทำลายเห็ดหลินจือแห้งตั้งแต่ระยะก่อนเก็บเกี่ยวจนถึงระยะหลังเก็บเกี่ยว ลักษณะการทำลาย หนอนและตัวเต็มวัยกัดทำลายเห็ดก่อให้เกิดความเสียหายมาก เนื่องจากด้วงหลินจือ มีขนาดใหญ่จึงทำความเสียหายค่อนข้างมากและรวดเร็ว รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ไข่ รูปร่างยาวรีสีขาวนวล ไข่จะฟักภายใน 6-7 วัน หนอน มีการลอกคราบ 9 ครั้ง มีบางตัว ลอกคราบ 10 ครั้ง ระยะหนอนประมาณ 26-32 วัน หลังจากนั้นหนอนขับถ่ายเส้นใยสีน้ำตาลทางทวาร และสร้างเส้นใยนี้หนาแน่นขึ้นเมื่อเข้าดักแด้ดักแด้ระยะดักแด้ประมาณ 4-5 วัน จึงกลายเป็นตัวเต็มวัย โดยการกัดเส้นใยออกมาสู่ภายนอก ตัวเต็มวัย เป็นด้วงปีกแข็งขนาดใหญ่ ขนาดลำตัว 5.0-6.0 มิลลิเมตร สีดำแต่ไม่มัน ส่วนหัวของตัวเต็มวัยเพศผู้จะมีเขายื่นออกไปข้างหน้า 1 คู่ ตัวเต็มวัยเพศเมียไม่มีเขา ปีกคู่หน้า จะมีหลุมเรียงเป็นแถวเป็นเส้นขนานจากด้านหน้าสู่ด้านหลัง หนวดเป็นแบบกระบองมี11 ปล้อง โคนหนวด สีน้ำตาลแดง ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่เป็นกลุ่มซ่อนอยู่ตามรอยแตกแยกของเห็ดหลินจือ ตัวเต็มวัยเพศผู้ มีอายุประมาณ 88-277 วัน ตัวเต็มวัยเพศเมียอายุ ประมาณ 100-257 วัน การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจาย ในเขตร้อนชื้น พืชอาหาร เห็ดหลินจือแห้ง ศัตรูธรรมชาติ -
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 47 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ตัวเต็มวัย ดักแด้ ไข่ หนอน วงจรชีวิตด้วงหลินจือ Platydema waterhousei Gelbien 6-7 วัน 4-5 วัน 26-32 วัน 88-277 วัน
48 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร วงจรชีวิตด้วงคาเดล Tenebroides mauritanicus (Linnaeus) ตัวเต็มวัย ดักแด้ ไข่ หนอน 7-10 วัน 7 วัน 43 วัน 1-3 ปี
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 49 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ด้วงคาเดล (Cadelle) ชื่ออื่น ๆ Cadelle beetle ชื่อวิทยาศาสตร์ Tenebroides mauritanicus (Linnaeus) (Coleoptera : Trogossitidae) ความสำคัญและลักษณะการทำลาย เป็นแมลงศัตรูที่มีความสำคัญน้อย พบทำลายธัญพืช พืชน้ำมัน และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ลักษณะ การทำลาย ตัวหนอนทำลายเมล็ดตรงจุดงอก (germ) และเมล็ดที่แตก รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ไข่ มีลักษณะยาวรีฟักภายใน 7-10 วัน หนอน มีลำตัวแบนสีขาวอมเทา หนอนเมื่อโตเต็มที่ มีความยาว 17.0 มิลลิเมตร ส่วนหัวของหนอนเป็นเปลือกแข็งสีน้ำตาลเข้มถึงสีดำ ปล้องอกของหนอน 3 ปล้อง (segments) มีจุดดำปล้องละ 2 จุด มองเห็นได้ชัดเจน ปล้องสุดท้ายของส่วนท้องมีแถบสีน้ำตาลอ่อน และมี ระยางค์ 2 อัน ยื่นตรงไปทางด้านท้ายของลำตัว ลำตัวหนอนปกคลุมด้วยขนยาวสีน้ำตาล ซึ่งมักมี เศษอาหารติดบนขนเหมือนมีฝุ่นติดอยู่ หนอนลอกคราบ 3-7 ครั้ง หนอนวัยสุดท้ายเจาะเข้าไม้เนื้ออ่อนและ ทำรูเพื่อเข้าดักแด้อยู่ภายในนั้น ตัวเต็มวัย สีดำ แวววาว ขนาดลำตัว 5.0-11.0 มิลลิเมตร ลักษณะเด่นของ ด้วงชนิดนี้คือ ส่วนหัวและส่วนอกอยู่ติดกันเหมือนเป็นส่วนเดียวกัน โดยมีรอยต่อระหว่างส่วนอกและ ส่วนท้องคอดกิ่วคล้ายเอว ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่ได้สูงสุด 1,000 ฟอง โดยวางปะปนลงในช่องว่างระหว่าง เมล็ดพืช หรือตามรอยแตกแยกของเนื้อไม้ตัวเต็มวัยมีชีวิตประมาณ 1-3 ปีภายใต้สภาพที่เหมาะสม ระยะการเจริญเติบโตจากระยะไข่ถึงระยะตัวเต็มวัยประมาณ 2 เดือน ระยะการเจริญเติบโตจะเพิ่มขึ้น เมื่ออยู่ในที่หนาวและมีการพักตัว ตัวเต็มวัยและตัวหนอนของด้วงคาเดลสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในที่มีอากาศ หนาวโดยไม่กินอาหารนาน 4-10 เดือน อุปนิสัย เป็นตัวห้ำทำลายแมลงศัตรูผลิตผลเกษตรชนิดอื่น การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจาย ทั่วโลก พืชอาหาร ข้าวโพด ข้าวสาลีข้าวฟ่าง ธัญพืช พืชน้ำมัน และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ศัตรูธรรมชาติ แตนเบียน ได้แก่ Dibrachys cavus (Walker) ตัวห้ำ ได้แก่ Amphibolus venator (Klug)
50 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ด้วงหนอนนก (Yellow mealworm) ชื่ออื่น ๆ European mealworm, mealworm beetle ชื่อวิทยาศาสตร์ Tenebrio molitor Linnaeus (Coleoptera : Tenebrionidae) ความสำคัญและลักษณะการทำลาย ด้วงหนอนนกเป็นแมลงศัตรูที่มีขนาดลำตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มของแมลงศัตรูผลิตผลเกษตร นำเข้าจาก ประเทศยุโรปเพื่อเลี้ยงเป็นอาหารของนกและสัตว์ปีกของกรมป่าไม้ ทำลายเมล็ดพืชหรือแป้งที่สกปรกหรือ มีราขึ้น นอกจากนี้ ยังทำลายรำ ขนมปัง ข้าวสาลีที่เก็บในยุ้งฉาง ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช และซากแมลง ลักษณะการทำลาย แมลงชนิดนี้ไม่ทำลายผลผลิตเกษตรโดยตรง ตัวหนอนมักชอบทำลายเมล็ดที่แตก มาก่อนแล้ว โดยอาศัยกัดกินในที่มืดและอับชื้น รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติ และอุปนิสัย ไข่ มีสีขาวขุ่นขนาดเล็ก รูปร่างเรียวยาวคล้ายเมล็ดถั่ว ผิวเรียบ มักวางไข่ติดตามพื้นภาชนะและ มีเศษอาหารปกคลุม ระยะไข่ 7 วัน หนอน เมื่อฟักออกจากไข่ใหม่ ๆ มีสีขาวขนาดเล็ก เมื่อมีอายุมากขึ้น เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและสีน้ำตาลตามลำดับ ลำตัวมีลักษณะกลม เรียวยาว ผิวมันและลื่น มีข้อปล้อง มีขา 3 คู่ หนอนมีการลอกคราบ 8-13 ครั้ง ระยะหนอนประมาณ 90 วัน ดักแด้ มีลักษณะหัวโต และเรียวเล็ก ลงไปทางหาง เมื่อเริ่มเป็นดักแด้มีสีขาว ลำตัวเหยียดตรง หลังจากนั้นเริ่มงอตัวทางด้านท้องแล้วเปลี่ยนเป็น สีน้ำตาลอ่อน จนกระทั่งมีสีที่เข้มขึ้น ระยะดักแด้ประมาณ 7 วัน ตัวเต็มวัย เมื่อออกจากดักแด้ใหม่ ๆ ลำตัว มีสีขาว ต่อมาสีค่อย ๆ เข้มขึ้น เริ่มจากสีเหลืองอ่อน สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้ม จนกระทั่งเป็นสีดำ ปีกมันวาว ลำตัวแบน ขนาดลำตัวยาว 12.0-16.0 มิลลิเมตร ตัวเต็มวัยเริ่มผสมพันธุ์เมื่ออายุ 6-7 วัน หลังจากนั้น 3-4 วัน เริ่มวางไข่ ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่ประมาณ 77-576 ฟอง ตัวเต็มวัยมีอายุประมาณ 60-90 วัน อุณหภูมิ และความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของด้วงหนอนนก คือ อุณหภูมิ 25 º C และ ความชื้นสัมพัทธ์ 75% ระยะเจริญเติบโตจากระยะไข่ถึงระยะตัวเต็มวัยประมาณ 90 วัน อุปนิสัย เจริญเติบโต ได้ดีในสภาพอากาศเย็นและมีความชื้นสูง แต่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศของประเทศไทยได้ และสามารถบินได้ในบริเวณที่มืด การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจาย มีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรป พบมากในเขตอบอุ่นและเขตหนาว พืชอาหาร เมล็ดแตก ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช และซากแมลง ศัตรูธรรมชาติ ตัวห้ำ ได้แก่ Amphibolus venator (Klug), Arma custos Fabricius, Brontocoris tabidus (Signoret), Camponotus maculatus Fabricius, Dysdera crocata Koch, Formica polyctena Förster, Podisus connexivus Bergroth, Podisus nigrispinus (Dallas), Podisus maculiventris (Say), Supputius cincticeps Stål, Tenebroides mauritanicus (Linnaeus) และ Tynacantha marginata Dallas เชื้อ ได้แก่ Heterorhabditis bacteriophora (Poinar)
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 51 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ตัวเต็มวัย ดักแด้ ไข่ หนอน วงจรชีวิตด้วงหนอนนก Tenebrio molitor Linnaeus 7 วัน 7 วัน 90 วัน 3 เดือน
52 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ตัวเต็มวัย ดักแด้ ไข่ หนอน วงจรชีวิตด้วงกาแฟ Araecerus fasciculatus De Geer 6-7 วัน 6-7 วัน 119-127 วัน 47 วัน
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 53 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ด้วงกาแฟ (Coffee-bean weevil) ชื่ออื่น ๆ Areca nut weevil, Cocoa weevil, Coffee weevil, Nutmeg weevil ชื่อวิทยาศาสตร์ Araecerus fasciculatus De Geer (Coleoptera : Anthribidae) ชื่อเดิม Anthribus coffeac, Amblycerus japonicus, Araecerus coffeae, Curculio fasciculatus ความสำคัญและลักษณะการทำลาย เป็นแมลงศัตรูที่สำคัญต่อการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟ มันสำปะหลังแห้ง และผลิตผลเกษตร ชนิดต่าง ๆ ลักษณะการทำลาย ตัวหนอนเข้าทำลายผลกาแฟสดตั้งแต่ในไร่ ในผลิตผลที่มีราคาแพง เช่น กาแฟ และโกโก้แม้ว่าจะทำความเสียหายไม่มากแต่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อคุณภาพมากกว่าความเสียหาย ที่เกิดจากการทำลาย สำหรับในมันสำปะหลังด้วงกาแฟก่อให้เกิดความเสียหายมาก รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ไข่ มีลักษณะกลมรีส่วนหัวและท้ายมน ระยะไข่6-7 วัน หนอน มีสีขาว ลำตัวโค้ง ปกคลุมด้วยขน ละเอียด ไม่มีขา ปล้องท้องของตัวหนอนมี10 ปล้อง หนอนมีทั้งหมด 4 วัย ระยะหนอนประมาณ 47 วัน ดักแด้เข้าดักแด้อยู่ภายในเมล็ดกาแฟและผลิตผลเกษตรชนิดต่าง ๆ เมื่อเริ่มเข้าดักแด้มีสีขาว และสีจะเข้มขึ้น เมื่อใกล้ฟักเป็นตัวเต็มวัย ระยะดักแด้ประมาณ 6-7 วัน ตัวเต็มวัย ลักษณะทั่วไปคล้ายด้วงถั่ว สีน้ำตาล อมเทา ปีกคู่หน้ามีขนสีขาวสลับสีน้ำตาลเข้มทำให้มองเห็นเป็นจุดประสีน้ำตาลเข้ม ปีกสั้นกว่าลำตัวเล็กน้อย ขนาดลำตัวยาว 3.0-5.0 มิลลิเมตร ปล้องปลายหนวด 3 ปล้อง มีขนาดใหญ่กว่าปล้องอื่น ๆ ตัวเต็มวัย เพศเมียวางไข่ประมาณ 50 ฟอง ตัวเต็มวัยมีชีวิตนานประมาณ 17 สัปดาห์ ที่อุณหภูมิ28 º C และ ความชื้นสัมพัทธ์80% วงจรชีวิตจากระยะไข่ถึงระยะตัวเต็มวัยประมาณ 46-66 วัน เมื่อเลี้ยงด้วยข้าวโพด ที่มีความชื้น วงจรชีวิตด้วงกาแฟมักสั้นลงในสภาพความชื้นต่ำกว่า 60% ที่อุณหภูมิ27 º C ด้วงกาแฟ ตายหมดทุกระยะเจริญเติบโต ยกเว้นระยะดักแด้เมื่อความชื้นสัมพัทธ์ลดลงจาก 100% เหลือ 60% ระยะ การเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 29 วัน เป็น 57 วัน และตัวเต็มวัยมีชีวิตสั้นลงเมื่อความชื้นสัมพัทธ์ลดลง การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจาย ด้วงกาแฟมีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย แต่ปัจจุบันระบาดทั้งในเขตร้อนชื้น และ กึ่งร้อนชื้น พืชอาหาร กาแฟ โกโก้ มันสำปะหลัง มันฝรั่ง มันเทศ เผือก พืชหัว โสม ขิง ถั่วลิสง ทานตะวัน ข้าวโพด ข้าวฟ่าง แป้งสาลีแป้งมัน นัท เครื่องเทศ กระเทียม ลูกจันทร์ผลไม้แห้ง บลาซิลนัท มะพร้าว ปาล์ม กล้วย ถั่ว อ้อย และถั่วลิสงแบมบารา ศัตรูธรรมชาติ แตนเบียน ได้แก่ Anisopteromalus calandrae (Howard), Apanteles araeceri Wilkinson, Cephalonomia gallicola (Ashmead), Cleonymus texanus (Crawford), Eupelmus cushmani (Crawford), Eupelmus javae Girault และ Plastanoxus sp. ไรตัวห้ำ ได้แก่ ไรกินไข่ Cheytetus sp. และ Monieziella sp.
54 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ด้วงงวงมะขาม (Tamarind seed borer) ชื่ออื่น ๆ Tamarind weevil ชื่อวิทยาศาสตร์ Sitophilus linearis Herbst (Coleoptera : Curculionidae) ความสำคัญและลักษณะการทำลาย เป็นแมลงศัตรูที่สำคัญของมะขามหลังการเก็บเกี่ยว ลักษณะการทำลาย หนอนอาศัยกัดกิน อยู่ภายในเมล็ด ตัวเต็มวัยจะเจาะออกมาสู่ภายนอกเมล็ดทำให้เกิดรูที่เนื้อมะขาม นอกจากนี้ มูลหนอน ที่ขับถ่ายออกมาสามารถปนเปื้อนกับเนื้อมะขามทำให้มะขามสกปรก ไม่สามารถนำมาบริโภคได้ รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ไข่ ฟักเป็นตัวหนอนภายใน 3-6 วัน หนอน มีลักษณะลำตัวสั้นป้อมสีขาว ไม่มีขา อาศัยกัดกิน อยู่ภายในเมล็ด โดยลอกคราบ 4 ครั้ง ระยะหนอนประมาณ 20-25 วัน ดักแด้ระยะดักแด้ประมาณ 6-7 วัน เมื่อดักแด้ฟักเป็นตัวเต็มวัยอาศัยอยู่ภายในเมล็ดระยะหนึ่ง รอจนผิวและปีกแข็งแรง จึงเจาะออกมาสู่ ภายนอกเมล็ด ตัวเต็มวัย ด้วงงวงมะขามมีรูปร่างคล้ายด้วงงวงข้าวโพด มีลักษณะที่แตกต่างกันเล็กน้อย คือ มีขนาดลำตัวใหญ่และแข็งแรงกว่า ลักษณะของงวงสั้นกว่า หลุมเล็ก ๆ บริเวณ prothorax มีลักษณะ ละเอียดกว่า อกดูเรียบและแวววาวกว่า ส่วนปีกของด้วงงวงมะขามมีสีอ่อนกว่าด้วงงวงข้าวโพด คือ มีสีเหลืองอมส้ม โดยมีแถบสีอ่อนพาดยาวตลอดปีก ตัวเต็มวัยเพศเมียเจาะเข้าไปภายในฝักมะขาม จากนั้น เจาะเมล็ดมะขามให้เป็นโพรง ภายในโพรงด้วงงวงเจาะรูเพื่อทำการวางไข่ฟองเดี่ยว ๆ โดยในหนึ่งโพรง จะวางไข่ 4-16 ฟอง เมื่อวางไข่แล้วทำการปิดปากรูด้วยไข วงจรชีวิตจากระยะไข่จนถึงระยะตัวเต็มวัย ประมาณ 5 สัปดาห์ในมะขามหนึ่งเมล็ดพบด้วงงวงสูงสุดถึง 34 ตัว การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจาย เขตร้อนและเขตอบอุ่น มีรายงานพบในทวีปอเมริกา เมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย ฤดูการระบาด พบได้ตลอดทั้งปี พืชอาหาร มะขาม ศัตรูธรรมชาติ แตนเบียน ได้แก่Theocolax elegans (Westwood)
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 55 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ตัวเต็มวัย ดักแด้ ไข่ หนอน วงจรชีวิตด้วงงวงมะขาม Sitophilus linearis Herbst 3-6 วัน 6-7 วัน 20-25 วัน 34-208 วัน
56 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ตัวเต็มวัย ดักแด้ ไข่ หนอน วงจรชีวิตผีเสื้อข้าวเปลือก Sitotroga cerealella (Olivier) 4-6 วัน 5 วัน 19-26 วัน 5-7 วัน
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 57 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ผีเสื้อข้าวเปลือก (Angoumois grain moth) ชื่ออื่น ๆ Angoumois grain moth, Rice grain moth, Rice moth ชื่อวิทยาศาสตร์ Sitotroga cerealella (Olivier) (Lepidoptera : Gelechiidae) ความสำคัญและลักษณะการทำลาย เป็นแมลงศัตรูสำคัญที่สุดของข้าวเปลือก และเป็นแมลงที่ทำความเสียหายให้แก่ข้าวเปลือกในยุ้งฉาง นอกจากนี้ยังสามารถทำลายข้าวฟ่าง ข้าวโพด และธัญพืชอื่น ๆ ที่มีรอยแผล ลักษณะการทำลาย ตัวเต็มวัยเพศเมีย บินไปวางไข่ที่เมล็ดข้าวเปลือกตั้งแต่ยังอยู่ในนาข้าว และขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนในยุ้งและโรงสีการทำลายเพิ่มสูงขึ้น เมื่อทำการเก็บเกี่ยวข้าวล่าช้ากว่าปกติและเมื่อมีความชื้นในเมล็ดข้าวเปลือกสูงการทำลายของผีเสื้อข้าวเปลือกเพิ่มขึ้น แต่ถ้าความชื้นต่ำลงการทำลายจะลดลงมาก เฉพาะตัวหนอนเท่านั้นที่เข้าทำลาย โดยหลังจากฟักออกจากไข่จะเจาะ เข้าสู่เมล็ดข้าวเปลือก กัดกินและเจริญเติบโตอยู่ภายในเมล็ด จนข้าวเปลือกเหลือแต่เปลือก รูปร่างลักษณะชีวประวัติและอุปนิสัย ไข่ มีสีขาว ลักษณะยาวรีระยะไข่ประมาณ 4-6 วัน หนอน มีลำตัวสีขาว ส่วนหัวมีขนาดเล็ก สีเหลือง อมน้ำตาล ลอกคราบ 4-5ครั้ง ที่อุณหภูมิ30 º C และความชื้นสัมพัทธ์80% ระยะหนอนประมาณ 19-26 วัน ดักแด้เข้าดักแด้อยู่ภายในเมล็ด หนอนจะกัดเปลือกข้าวเป็นรูปวงกลมจนเหลือแต่เยื่อบาง ๆ แล้วจึงเข้าดักแด้ ระยะดักแด้ประมาณ 5 วัน เมื่อเป็นตัวเต็มวัยเจาะผิวเมล็ดออกมาทำให้เมล็ดเป็นรู ตัวเต็มวัย มีขนาดเล็ก สีน้ำตาลอ่อน ขนาดลำตัวยาว 5.0-7.0 มิลลิเมตร เมื่อกางปีกออกยาวประมาณ 10.0-16.0 มิลลิเมตร ปีกหลัง มีสีออกเทา ตามปีกมีขนยาว ๆ เป็นแผง ซึ่งมีความยาวมากกว่าความกว้างของปีก ปลายปีกโค้งแหลมยื่นออกไป ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่เป็นกลุ่มหรือเดี่ยวครั้งละประมาณ 20 ฟอง บนเมล็ดข้าวเปลือก โดยทั่วไปเพศเมีย วางไข่ได้มากถึง 200 ฟอง ระยะตัวเต็มวัยประมาณ 5-10 วัน อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสม สำหรับการเจริญเติบโต คือ อุณหภูมิ25 º C และความชื้นสัมพัทธ์70% วงจรชีวิตจากระยะไข่ถึงระยะ ตัวเต็มวัยประมาณ 25-29 วัน อุปนิสัย ตัวหนอนเจาะเข้าไปทำลายและเจริญเติบโตภายในเมล็ดข้าวเปลือก เพียงเมล็ดเดียว สำหรับตัวเต็มวัยเพศเมียเมื่อวางไข่แล้วมีการปล่อยสารเหนียวให้ไข่ยึดติดกัน และยึดติดกับ วัสดุที่วางไข่ ถ้าหากเข้าไปในยุ้งเก็บข้าวเปลือกจะเห็นตัวเต็มวัยผีเสื้อข้าวเปลือกบินหรือเกาะอยู่บนกองข้าว เนื่องจากชอบทำลายเฉพาะส่วนบนของกองข้าว การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจาย ทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยพบในยุ้งข้าวเปลือกและโรงสีฤดูการระบาด ตลอดปี พืชอาหาร ข้าวเปลือกข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าวสาลีและเมล็ดธัญพืชชนิดอื่น ศัตรูธรรมชาติ แตนเบียน ได้แก่ Bracon hebetor Say, Dibrachys carus (Walker), Proconura minusa Narendran, Anisopteromalus calandrae (Howard) และ Trichogramma spp. ตัวห้ำ ได้แก่ Anomalochrysa maclachlani Blackburn และ Xylocoris flavipes (Reuter)
58 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ผีเสื้อข้าวสาร (Rice moth) ชื่ออื่น ๆ Rice meal moth ชื่อวิทยาศาสตร์ Corcyra cephalonica Stainton (Lepidoptera : Gelleriidae) ความสำคัญและลักษณะการทำลาย เป็นแมลงศัตรูที่สำคัญของข้าวสาร โดยเฉพาะข้าวที่เก็บไว้เป็นเวลานานทำให้ข้าวสารมีลักษณะ เป็นก้อนไม่น่าดูและเสื่อมคุณภาพ จนบางครั้งนำไปบริโภคไม่ได้ซึ่งเกิดจากตัวหนอนของผีเสื้อข้าวสาร ไปชักใยอยู่ระหว่างเมล็ดข้าว ทำให้ข้าวสารติดกันเป็นก้อน ลักษณะการทำลาย ตัวหนอนอาศัยแทะเล็ม ข้าวสารอยู่ภายในใยนั้น พร้อมทั้งขับถ่ายของเสียออกมาเป็นเม็ดเล็ก ๆ กระจายอยู่เต็มกองข้าว นอกจากนี้ สามารถทำลายธัญพืชอื่น ๆ เช่น ผลไม้แห้ง เครื่องเทศ ถั่วบางชนิด และช็อกโกแลตได้อีกด้วย รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ไข่ มีสีขาว ลักษณะเป็นรูปไข่ ระยะไข่ประมาณ 4-5 วัน หนอน มีสีขาว ส่วนหัวของหนอนมี สีน้ำตาลเข้ม หนอนมักสร้างใยปกคลุมตัวเองไว้เพื่อป้องกันตัว ระยะหนอนประมาณ 28-41 วัน ดักแด้ เข้าดักแด้ในปลอกที่สร้างขึ้น ระยะดักแด้ประมาณ 6-13 วัน ตัวเต็มวัย เป็นผีเสื้อที่มีขนาดใหญ่กว่าผีเสื้อ ที่พบในโรงเก็บทั้งหมด ตัวเต็มวัยเมื่อกางปีกมีขนาด 15.0-25.0 มิลลิเมตร มีสีน้ำตาลปนเทา ลำตัวยาว 12.0-15.0 มิลลิเมตร ปีกคู่หน้ามีสีน้ำตาลอมเทาและมีลายเส้นสีน้ำตาลเข้มพาดบนปีก ปีกคู่หลังมีสีครีม เวลาเกาะอยู่ปีกหุบขนานกับลำตัว ในตัวเมีย labial pulp จะตรงไปข้างหน้า ในตัวผู้labial pulp จะทู่ และสั้นมองไม่ชัดเจน เพศเมียสามารถผลิตสารเหนียวเพื่อให้ไข่ติดแน่นกับอาหาร วางไข่ประมาณ 44-370 ฟอง มักวางไข่เดี่ยว ๆ เมื่อตัวเต็มวัยเพศเมียผสมพันธุ์และวางไข่แล้วจะตายทันทีผีเสื้อข้าวสารไม่ชอบความชื้น โดยอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโต คือ อุณหภูมิ30-32.5 º C และ ความชื้นสัมพัทธ์70% วงจรชีวิตจากระยะไข่ถึงระยะตัวเต็มวัยประมาณ 30-40 วัน การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจาย พบแพร่ระบาดทั่วโลก โดยเฉพาะในเขตร้อน ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทวีปแอฟริกา ในประเทศไทยพบทั่วไปตามโรงสีและโรงอาหารสัตว์ฤดูการระบาด พบระบาดตลอดปี พืชอาหาร ข้าวสาร ผลิตภัณฑ์จากข้าว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ข้าวโพด ข้าวฟ่าง โกโก้ผลไม้แห้ง ขนมปัง แป้ง เครื่องเทศ และเนื้อมะพร้าวแห้ง ศัตรูธรรมชาติ แตนเบียน ได้แก่ Telenomus remus Nixon, Trichogramma sp., Bracon hebetor Say, Proconura caryobori (Hanna) และ Antrocephalus mitys (Walker) ตัวห้ำ ได้แก่ Amphibolus venator (Klug), Blattisocius keegani Fox, B. tarsalis (Berlese), แมลงช้างปีกใส Chrysoperla carnea (Stephens), แมลงช้างปีกใส Mallada basalis (Walker) และ Xylocoris flavipes (Reuter)
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 59 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ตัวเต็มวัย ดักแด้ ไข่ หนอน วงจรชีวิตผีเสื้อข้าวสาร Corcyra cephalonica Stainton 4-5 วัน 6-13 วัน 28-41 วัน 7-14 วัน
60 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ตัวเต็มวัย หนอน วงจรชีวิตผีเสื้อข้าวโพด Ephestia cautella Walker
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 61 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ผีเสื้อข้าวโพด (Tropical warehouse moth) ชื่ออื่น ๆ Almond moth, Fig moth, Flour moth ชื่อวิทยาศาสตร์ Ephestia cautella Walker (Lepidoptera : Phycitidae) ชื่อเดิม Cadra cautella Walker ความสำคัญและลักษณะการทำลาย เป็นแมลงศัตรูที่สำคัญของเมล็ดข้าวโพดและถั่วเขียวรองจากด้วงงวงข้าวโพดและด้วงถั่ว ลักษณะ การทำลาย ตัวหนอนชักใยอยู่ระหว่างเมล็ดและบนผิวเมล็ด ทำให้เมล็ดติดกันเป็นก้อน หลังจากนั้น ตัวหนอนกัดกินและอาศัยอยู่ภายในใยนั้น เมื่อมีปริมาณการทำลายสูงทำให้เมล็ดมีสภาพสกปรกไม่น่าดู และเสื่อมคุณภาพในที่สุด ตัวเต็มวัยไม่ทำลายผลิตผลเกษตร รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ไข่ มีสีขาวหรือสีชมพูเคลือบด้วยสารเหนียวขนาด 0.30 มิลลิเมตร ไข่ฟักเป็นตัวหนอนใน 3-6 วัน หนอน มีสีขาวปนเทา ลำตัวยาว เคลื่อนไหวรวดเร็ว ระยะหนอนประมาณ 22-24 วัน ดักแด้เข้าดักแด้ ในปลอกที่ตัวหนอนสร้างขึ้นเป็นเวลา 7-8 วัน จึงกลายเป็นตัวเต็มวัย ตัวเต็มวัย มีขนาดเล็กสีเทา ลำตัวยาว ประมาณ 13.0 มิลลิเมตร เมื่อกางปีกกว้าง 11.0-20.0 มิลลิเมตร ที่ปีกคู่หน้ามีแถบซิกแซ็กสีดำพาดขวางปีก 2 แถบ ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่สูงถึงประมาณ 300 ฟอง ตามรอยแตกแยกของเมล็ดหรือบนกระสอบบรรจุเมล็ด ตัวเต็มวัยมีชีวิตสั้นประมาณ 3-5 วัน ที่อุณหภูมิ35 º C วงจรชีวิตจากระยะไข่ถึงระยะตัวเต็มวัยประมาณ 29-33 วัน การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจาย พบแพร่กระจายอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะในเขตอบอุ่นและเขตร้อน ฤดูการระบาด ตลอดปี พืชอาหาร แป้งชนิดต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ข้าวสาร ข้าวโพด ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ผลไม้แห้ง โกโก้เครื่องเทศ และเนื้อมะพร้าวแห้ง ศัตรูธรรมชาติ แตนเบียนทำลายหนอน ได้แก่Bracon hebetor Say และ Anisopteromalus calandrae (Howard) ตัวห้ำ ได้แก่Blattisocius tarsalis (Berlese)
62 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ผีเสื้อผ้า (Clothes moth) ชื่อวิทยาศาสตร์ Tinea sp. (Lepidoptera : Tineidae) ความสำคัญและลักษณะการทำลาย เป็นแมลงศัตรูที่กินเชื้อรา ผม หนัง ฝุ่น กระดาษ ทำลายผ้าขนสัตว์ผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติเช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้ายที่เก็บไว้นาน ๆ แต่ไม่ทำลายผ้าที่มีส่วนผสมของใยสังเคราะห์ เช่น ไนลอน โพลีเอสเตอร์ เป็นต้น ผ้าที่สกปรกเปื้อนน้ำมันจากผม เหงื่อ และเศษอาหารมักถูกทำลายได้ง่าย นอกจากนั้นหนอนทำลาย หมวกขนนก พรมขนสัตว์ลักษณะการทำลาย ทำลายในระยะตัวหนอนเท่านั้น สำหรับระยะตัวเต็มวัย ไม่ทำลายสิ่งของดังกล่าว ในประเทศไทยพบหนอนผีเสื้อชนิดนี้เดินตามผนังบ้านเรือน โรงเรือน โรงเก็บ เมื่อหนอนเข้าดักแด้มักหยุดเดิน หยุดกินอาหารและอยู่ในปลอกซึ่งปลอกนั้นติดอยู่ตามผนัง รอยแตกหรือ รอยห้อยตามเพดาน ทำให้บ้านเรือน โรงเก็บผลิตผล หรือผลิตภัณฑ์ดูสกปรก และบางครั้งอาจปนเปื้อน ไปในผลิตผลเกษตร หรือผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศพบหลายชนิด เช่น T. dubiella และ T. pellionella ทำให้เกิด ปัญหากับสินค้าจำพวกสิ่งทอ ผ้าขนสัตว์พรม และปนเปื้อนไปกับผลิตผลเกษตร รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ไข่ระยะไข่ประมาณ 4-7 วัน หนอน ลำตัวสีขาว มีส่วนหัว และขา 3 คู่สีน้ำตาลเข้ม มีแผ่นสีน้ำตาลเข้ม อยู่ด้านบน (dorsum) ส่วนอก หนอนสร้างเส้นใยหุ้มลำตัวเป็นปลอก ระหว่างเดินหาอาหารกิน และนำเศษขยะ ที่เป็นฝุ่นผงมาติดที่ปลอกหุ้มลำตัว เวลาหนอนเดินเห็นหัวและขาโผล่ยื่นออกมานอกเปลือก ระยะหนอน ประมาณ 68-87 วัน ดักแด้ระยะดักแด้ประมาณ 9-19 วัน ตัวเต็มวัย เป็นผีเสื้อกลางคืนสีน้ำตาล ขนาด 3.0-5.0 มิลลิเมตร กางปีกเต็มที่มีขนาด 6.0-11.0 มิลลิเมตร ที่ส่วนหัวของผีเสื้อมีขนหยาบ ๆ ผีเสื้อมีปาก (proboscis) ที่เล็ก บางครั้งไม่เจริญ ดังนั้น ระยะตัวเต็มวัยจึงไม่ทำลายสิ่งของ ตัวเต็มวัยเพศเมีย 1 ตัว วางไข่ได้37-48 ฟอง โดยวางไข่ตามรอยแตก ตัวเต็มวัยมีอายุ4-6 วัน การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจาย พบในเขตอบอุ่น เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา อเมริกากลาง อเมริกาใต้ยุโรป แอฟริกา เอเชีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย พืชอาหาร ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าขนสัตว์ผ้าลินิน พรมขนสัตว์และเชื้อรา ศัตรูธรรมชาติ -
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 63 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ตัวเต็มวัย ดักแด้ ไข่ หนอน วงจรชีวิตผีเสื้อผ้า Tinea sp. 4-7 วัน 9-19 วัน 4-6 วัน 68-87 วัน
64 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ตัวเต็มวัย ตัวอ่อน ไข่ วงจรชีวิตเหาหนังสือ Liposcelis spp. 6-14 วัน 7-9 วัน 37-173 วัน
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 65 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร เหาหนังสือ (Psocids) ชื่ออื่น ๆ Book lice, Dust louse ชื่อวิทยาศาสตร์ Liposcelis spp. (Psocoptera : Liposcelidae) ความสำคัญและลักษณะการทำลาย เป็นแมลงศัตรูของเมล็ดพืชและผลิตภัณฑ์จากพืช โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีความชื้นสูง ฝุ่นที่ติด ที่เมล็ด กาวที่ใช้ติดหนังสือ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเหาหนังสือ ลักษณะการทำลาย กัดกินตรงด้านข้างของเมล็ด ใกล้จุดงอก รวมทั้งชอบกินแป้งและเศษอาหารที่เกิดจากการทำลายของแมลงชนิดอื่น ๆ รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย เหาหนังสือมีการเจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (incomplete metamorphosis) โดย ตัวอ่อน มีลักษณะเหมือนตัวเต็มวัยทุกประการแต่ตัวเล็กกว่า ลำตัวใส สีเหลืองอ่อนหรือสีขาว ตัวอ่อนลอกคราบ 3-4 ครั้ง จึงเป็น ตัวเต็มวัย ขนาดเล็กมากประมาณ 1.0-2.0 มิลลิเมตร ลำตัวนิ่มมีสีเทาอ่อนหรือเหลืองอ่อน ปนน้ำตาล และลำตัวมักแบ่งเป็นปล้องให้เห็นโดยชัดเจน เหาหนังสืออาจมีปีกหรือไม่มีปีก มีหัวขนาดใหญ่ และมีตาที่ยังไม่ค่อยสมบูรณ์ลำตัวเรียวยาว หนวดมีลักษณะคล้ายเส้นด้าย (filiform) การขยายพันธุ์เป็น แบบ parthenogenesis คือ ตัวเต็มวัยเพศเมียสามารถวางไข่ได้โดยไม่ต้องผสมพันธุ์ตัวเต็มวัยเพศเมีย 1 ตัว วางไข่ได้เฉลี่ย ประมาณ 100 ฟอง แต่ที่อุณหภูมิ15-32 º C วางไข่ได้เฉลี่ย 57 ฟอง ระยะไข่ 7 วัน วงจรชีวิต ของแมลงและจำนวนไข่ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิเป็นสำคัญ ในเดือนที่มีอากาศค่อนข้างเย็นวงจรชีวิตยาวกว่า ในเดือนที่มีอากาศอบอุ่น ไม่สามารถมีชีวิตได้ในที่มีความชื้นต่ำกว่า 50% วงจรชีวิตจากระยะไข่ถึงระยะตัว เต็มวัยประมาณ 24 วัน อุปนิสัย เป็นแมลงที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว นอกจากนี้พบว่าเป็นตัวห้ำกินไข่ผีเสื้อ ข้าวเปลือก การแพร่กระจายและฤดูการระบาด การแพร่กระจาย ในเขตร้อน และเขตอบอุ่น พืชอาหาร เมล็ดพืชที่แตกหัก เช่น ข้าวสาร ข้าวเปลือก ข้าวโพด ข้าวฟ่าง แป้ง มันสำปะหลัง รำข้าว เชื้อรา เห็ดหลินจือแห้ง ไข่ผีเสื้ออินเดีย (Plodia interpunctella) ไข่ผีเสื้อข้าวเปลือก ซากแมลง เศษข้าว และ เศษเมล็ดพืช ศัตรูธรรมชาติ แตนเบียน ได้แก่ Alaptus globosicornis Girault ตัวห้ำ ได้แก่Blattisocius keegani Fox, Cheyletus malaccensis (Oudemans) และ แมงป่องเทียม (Pseudoscorpion)
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร
แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 67 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงศัตรูธรรมชาติ แตนเบียน แตนเบียนที่เป็นศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรูผลิตผลเกษตร ที่พบในประเทศไทยระหว่างปี2542-2547 มี21 ชนิด จาก 7 วงศ์ดังนี้ Chalcididae, Eurytomidae, Pteromalidae, Eulophidae, Evaniidae Braconidae และ Bethylidae แต่ชนิดที่สำคัญและพบมากคือ Bracon hebetor, Anisopteromalus calandrae, Theocolax elegans, Proconura minusa, P. caryobori, Cerocephala dinoderi, Lariophagus distinguendus, Cephalonomia tarsalis และ Holepyris sylvanidisดังแสดงในตารางที่1 ตารางที่1 แสดงชนิดของแตนเบียนที่พบในโรงเก็บข้าวในประเทศไทย Family Species Chalcididae Proconura minusa Narendran* Proconura caryobori (Hanna)* Antrocephalus mitys (Walker) Notaspidiella clavata Narendran & Konishi Notaspidium thailandicum Narendran & Konishi Hockeria spp. (3 species) Eurytomidae Eurytoma sp. Pteromalidae Theocolax elegans (Westwood)* Cerocephala dinoderi Gahan* Anisopteromalus calandrae (Howard)* Lariophagus distinguendus (Förster)* Eulophidae Aprostocetus (Tetrastichodes) hagenowii (Ratzeburg) Evaniidae Evania sp. Braconidae Bracon hebetor Say* Bethylidae Cephalonomia tarsalis (Ashmead)* Cephalonomia sp. Plastanoxus sp. Holepyris sylvanidis (Brèthes)* Holepyris sp. * พบมาก
68 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แตนเบียนดำเล็ก ชื่อวิทยาศาสตร์ Proconura minusa Narendran (Hymenoptera : Chalcididae) รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 1.7-2.7 มิลลิเมตร ลำตัวสีดำ ปีกคู่หน้าไม่มีเซลล์และเส้นปีกไม่แตะ ขอบปีกคู่หน้า โคนขาหลังมีขนาดใหญ่ โดยขอบด้านในของโคนขาเป็นฟันหวียาวเกินครึ่งของขอบด้านใน ขอบด้านหลังของแผ่น scutellum กลม และด้านบนของ first metasomal tergite ราบเรียบ ไม่มีหลุม และมีสันนูนสองเส้น ชี้เข้าหากัน ตัวเต็มวัยเพศเมียหนวดจะเรียวเล็กกว่าหนวดตัวเต็มวัยเพศผู้ ซึ่งมีหนวดใหญ่ ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่ 1 ฟอง ในดักแด้ผีเสื้อข้าวเปลือก หลังจากนั้นหนอนจะเจริญเติบโตอยู่ภายใน ดักแด้ผีเสื้อข้าวเปลือกประมาณ 12 วัน จึงกลายเป็นตัวเต็มวัยเจาะออกมาจากซากดักแด้ผีเสื้อข้าวเปลือก เขตการแพร่กระจาย อินเดีย (ทมิฬนาฑู) มาเลเซีย (ซาราวัก) และไทย แมลงอาศัย ผีเสื้อข้าวเปลือก Sitotroga cerealella (Olivier)
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 69 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร หนวดเพศเมีย หนวดเพศผู้ ด้านข้างเพศเมีย ด้านข้างเพศผู้ แตนเบียนดำเล็ก Proconura minusa Narendran
70 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ด้านข้างเพศเมีย ด้านข้างเพศผู้ แตนเบียนดำใหญ่Proconura caryobori (Hanna)
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 71 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แตนเบียนดำใหญ่ ชื่อวิทยาศาสตร์ Proconura caryobori (Hanna) (Hymenoptera : Chalcididae) ชื่อเดิม Euchalcidia caryobori รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 2.1-3.7 มิลลิเมตร คล้ายแตนเบียนดำเล็กมาก ต่างกันที่แตนเบียนดำใหญ่ มีขนาดใหญ่กว่า และส่วนบนของ first metasomal tergite มีหลุมเล็กๆ(puncture) ตรงกลาง และมีสันนูน ขนาดเท่ากัน 2 เส้นขนานกัน เป็นแตนเบียนภายใน (endoparasitoid) ของดักแด้ผีเสื้อข้าวสาร แตน 1 ตัว เข้าทำลายดักแด้1 ตัว ในประเทศไทยพบมากในโรงเก็บข้าวสาร นอกจากนี้ยังสามารถวางไข่บนดักแด้ของ ด้วงขาโต Caryedon pallidus ได้ เขตการแพร่กระจาย สหราชอาณาจักร อินเดีย ซูดาน และไทย แมลงอาศัย ผีเสื้อข้าวสาร Corcyra cephalonica Stainton และด้วงขาโต Caryedon pallidus (Olivier)
72 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร Antrocephalus mitys (Walker) ชื่อวิทยาศาสตร์ Antrocephalus mitys (Walker) (Hymenoptera : Chalcididae) ชื่อเดิม Halticella mitys ชื่อพ้อง Antrocephalus aethiopicus, Antrocephalus humilis, Anthorocephalus mahensis, Antrocephalus vitatus, Chalcis pandens, Halticella divisicornis, Halticella simplex, Stomatoceras bergeraci, Stomatoceras sulcata รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 5.6-5.9 มิลลิเมตร ปีกคู่หน้ามีเส้น vein แตะขอบด้านหน้าของปีก โคนขาหลัง (hind femur) มีขนาดใหญ่ ตรงขอบด้านล่างขาหลังมีลักษณะคล้ายฟัน ยาวมากกว่าครึ่งหนึ่ง ของโคนขาหลัง โดยทั่วไปแตนเบียนเพศเมียมีอายุเฉลี่ยนานกว่าเพศผู้โดยเพศเมียมีอายุได้นานถึง 55.48± 4.00 วัน และเพศผู้มีอายุได้นานถึง 47.50±2.54 วัน แต่ถ้าหากแตนเบียนไม่ได้รับอาหารเลยหรืออดอาหาร แตนเบียนเพศเมียจะมีอายุเฉลี่ยได้เพียง 10.00±2.50 วัน ส่วนเพศผู้มีอายุเฉลี่ย 6.58±1.56 วัน นอกจากนี้ ยังเป็นแตนเบียนที่ทำลายภายในดักแด้ผีเสื้อข้าวสารได้แต่พบน้อยในยุ้งเก็บข้าวในประเทศไทย เขตการแพร่กระจาย ออสเตรเลีย บราซิล อินเดีย อิสราเอล ฟิลิปปินส์โซมาเลีย ศรีลังกา Seychelles (เซเชลส์) Sierra Leone (เซียร์ราลีโอน) Mauritus (มอริเชียส) ไทย มาเลเซีย ปากีสถาน เคนยาและสหรัฐอเมริกา แมลงอาศัย ผีเสื้อข้าวสาร Corcyra cephalonica Stainton, Dichomeris acuminata (Staudinger), Ectomyelois ceratoniae (Zeller), ผีเสื้อข้าวโพด Ephestia cautella Walker และ Macalla moncusalis (Walker)
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 73 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร Antrocephalus mitys (Walker) ด้านข้างเพศผู้ ด้านข้างเพศเมีย
74 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ด้านข้างเพศเมีย ด้านข้างเพศเมีย ด้านข้างเพศเมีย Notaspidium thailandicum Hockeria spp. Narendran & Konishi Notaspidiella clavata Narendran & Konishi
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 75 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร Notaspidiella clavata Narendran & Konishi ชื่อวิทยาศาสตร์ Notaspidiella clavata Narendran & Konishi (Hymenoptera : Chalcididae) รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 2.7-3.1 มิลลิเมตร แตกต่างจาก chalcidid ชนิดอื่น คือ ขอบด้านหลัง ของ scutellum แหลม เขตการแพร่กระจาย ประเทศไทย แมลงอาศัย - Notaspidium thailandicum Narendran & Konishi ชื่อวิทยาศาสตร์ Notaspidium thailandicum Narendran & Konishi (Hymenoptera : Chalcididae) รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 2.2-2.3 มิลลิเมตร แตกต่างจาก chalcidid ชนิดอื่น คือ เส้น vein ของปีกคู่หน้าไม่แตะขอบหน้าของปีก โคนขาหลังมีฟันหวียาวครึ่งหนึ่งของขอบด้านล่าง เขตการแพร่กระจาย ประเทศไทย แมลงอาศัย - Hockeria spp. ชื่อวิทยาศาสตร์ Hockeria spp. (Hymenoptera : Chalcididae) เขตการแพร่กระจาย พบเล็กน้อยในโรงเก็บข้าวสาร ในประเทศไทยพบในเขตภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ แมลงอาศัย ผีเสื้อขนาดเล็ก
76 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แตนเบียนด้วง ชื่อวิทยาศาสตร์ Theocolax elegans (Westwood) (Hymenoptera : Pteromalidae) ชื่อเดิม Choetospila elegans ชื่อพ้อง Cerocephala oryzae, Spalangia metallica, Spalangia rhizoperthae, Spalangiomorpha fasciatipennis รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 1.0-2.1 มิลลิเมตร ลำตัวสีน้ำตาลแดง มีแถบพาดสีดำ ปีกคู่หน้า มีขนแข็งสีดำ และมีแถบสีน้ำตาลตรงกลางปีก มีpetiole และ ovipositor สั้น บางครั้งไม่มีปีก วงจรชีวิตของแตนเบียน ประมาณ 15 วัน ไข่ มีลักษณะยาวรีและสีขาวใส ระยะไข่ ใช้เวลาประมาณ 2 วัน หนอน รูปร่างแบบ hymenopteriform ไม่มีขา ดักแด้มีรูปร่างแบบ exarate อายุประมาณ 7-8 วัน ระยะตัวเต็มวัยมีอายุ ประมาณ 10-15 วัน ที่อุณหภูมิ32 º C โดยส่วนใหญ่แตนเบียนเพศเมียจะมีชีวิตได้นานกว่าเพศผู้แตนเบียน เพศผู้มีขนาดความยาวปล้องหนวดสั้นกว่าเพศเมีย ลักษณะปลายหนวดปล้องสุดท้ายของเพศเมีย เรียกว่า club เป็นอวัยวะใช้รับสัมผัส (sensory organs) เช่น ใช้ในการหาอาหาร แตนเบียนชนิดนี้เป็นแตนเบียนที่อาศัยอยู่ ภายนอกของหนอนด้วงที่ทำลายเมล็ด แตน 1 ตัว ทำลายหนอน 1 ตัว (solitary ectoparasitoid) พบมาก ทั้งในข้าวเปลือกและข้าวสาร ในการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์แตนเบียน อุณหภูมิสูงจะส่งผลให้การเจริญ เติบโตของแตนเบียนไวขึ้น แตนเบียนเพศผู้จะเจริญเติบโตได้เร็วกว่าแตนเบียนเพศเมีย เขตการแพร่กระจาย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา ฝรั่งเศส คองโก เคนยา เยอรมนีฮอนดูรัส อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ ไนจีเรีย ปากีสถาน ปานามา เปรู เครือรัฐเปอร์โตริโก เซเนกัล แอฟริกาใต้สวีเดน ไทย โตโก สหราชอาณาจักร อุรุกวัย อิหร่าน อิตาลีและสหรัฐอเมริกา แมลงอาศัย ด้วงถั่วแดง Acanthoscelides obtectus (Say), Caulophilus oryzae (Gyllenhal), Callosobruchus analis (Fabricius), ด้วงถั่วเหลือง Callosobruchus chinensis (Linnaeus), ด้วงถั่วเขียว Callosobruchus maculatus (Fabricius), มอดหนวดยาว Cryptolestes ferrugineus (Stephens), มอดยาสูบ Lasioderma serricorne (Fabricius), Prostephanus truncatus (Horn), มอดข้าวเปลือก Rhyzopertha dominica (Fabricius), ด้วงงวงข้าวสาลีSitophilus granarius (Linnaeus), Sitophilus linearis (Herbst), ด้วงงวงข้าว Sitophilus oryzae Linnaeus, ด้วงงวงข้าวโพด Sitophilus zeamais Motschulsky, ผีเสื้อข้าวเปลือก Sitotroga cerealella (Olivier), มอดสมุนไพร Stegobium paniceum (Linnaeus), Zabrotes subfasciatus (Boheman) และด้วงอิฐ Trogoderma granarium Everts
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 77 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แตนเบียนด้วง Theocolax elegans (Westwood) ด้านข้างเพศเมียที่มีปีกยาว ด้านข้างเพศผู้ที่มีปีกยาว ด้านข้างเพศเมียที่มีปีกสั้น ด้านข้างเพศผู้ที่มีปีกสั้น
78 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ด้านข้างเพศเมีย ด้านข้างเพศผู้ ด้านข้างเพศผู้ Cerocephala dinoderi Gahan
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 79 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร Cerocephala dinoderi Gahan ชื่อวิทยาศาสตร์ Cerocephala dinoderi Gahan (Hymenoptera : Pteromalidae) ชื่อพ้อง Proamotura anselmi รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 0.9-2.4 มิลลิเมตร ลักษณะทั่วไปคล้าย Theocolax elegans ลักษณะที่แตกต่างคือ มีpetiole และ ovipositor ยาว เป็นแตนเบียนที่อาศัยอยู่ภายนอกเหยื่อ พบมาก ทั้งในข้าวเปลือกและข้าวสาร เขตการแพร่กระจาย ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย เปรูฟิลิปปินส์ศรีลังกา ไทย และฮาวาย แมลงอาศัย มอดไม้ไผ่ Dinoderus minutus (Fabricius) และด้วงงวงข้าว Sitophilus oryzae Linnaeus –
80 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร Lariophagus distinguendus (Förster) ชื่อวิทยาศาสตร์ Lariophagus distinguendus (Förster) (Hymenoptera : Pteromalidae) ชื่อเดิม Pteromalus distinguendus ชื่อพ้อง Meraporus utibilis, Nasonia miltoni, Pteromalus calamis, Pteromalus oryzinus, Uriellomyia resolute รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 1.2-2.5 มิลลิเมตร ลำตัวสีเขียวเข้มเป็นมันแวววาว ปีกคู่หน้าไม่มีขน ไม่มีแถบสีน้ำตาล โคนขาสีเหลืองถึงเหลืองอมแดง metasoma (ส่วนท้อง) ไม่มีแถบขาว เป็นแตนเบียน ที่ทำลายอยู่ภายนอกเหยื่อ ซึ่งได้แก่หนอนของมอดที่ทำลายเมล็ด เขตการแพร่กระจาย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา ชิลีจีน สาธารณรัฐเช็ก อียิปต์ เยอรมนีฮังการี อิสราเอล อิตาลีญี่ปุ่น เกาหลีเลบานอน เม็กซิโก โมร็อกโก เนปาล นิวซีแลนด์รัสเซีย สโลวะเกีย สวีเดน ไทย สหรัฐอเมริกา ยูเครน สหราชอาณาจักร อุรุกวัย ฮ่องกง และยูโกสลาเวีย แมลงอาศัย Bruchus brachialis Fahraeus, ด้วงถั่วเหลือง Callosobruchus chinensis (Linnaeus), ด้วงถั่วเขียว Callosobruchus maculatus (Fabricius), Gibbium psylloides (Czempinski), มอดยาสูบ Lasioderma serricorne (Fabricius), Mayetiola phalaris Barnes, Nicobium schneideri Reitter, Oligomerus ptilinoides (Wollaston), Ptinus fur (Linnaeus), Ptinus tectus (Boieldieu), มอดข้าวเปลือก Rhyzopertha dominica (Fabricius), ด้วงงวงข้าวสาลีSitophilus granarius (Linnaeus), ด้วงงวงข้าว Sitophilus oryzae Linnaeus, ด้วงงวงข้าวโพด Sitophilus zeamais Motschulsky, มอดสมุนไพร Stegobium paniceum (Linnaeus) และ Venturia canescens Gravenhorst
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 81 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ด้านบนเพศผู้ ด้านข้างเพศผู้ Lariophagus distinguendus (Förster) ด้านบนเพศเมีย ด้านข้างเพศเมีย
82 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แตนเบียนมอด Anisopteromalus calandrae (Howard) ด้านข้างเพศเมีย ด้านบนเพศเมีย ด้านข้างเพศผู้ ด้านบนเพศผู้
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 83 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แตนเบียนมอด ชื่อวิทยาศาสตร์ Anisopteromalus calandrae (Howard) (Hymenoptera : Pteromalidae) ชื่อเดิม Pteromalus calandrae ชื่อพ้อง Aplastomorpha pratti, Bruchobius medius, Meraporus vandinei, Neocatolaccus australiensis, Neocatolaccus indicus, Neocatolaccus mamezophagus, Pteromalus oryzae รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 1.0-2.8 มิลลิเมตร ลักษณะทั่วไปคล้าย Lariophagus distinguendus ต่างกันที่โคนขา (femur) สีน้ำตาลหรือดำ และ Metasoma ของส่วนท้องของตัวเต็มวัย เพศผู้มีแถบสีขาวเป็นบริเวณกว้าง ไข่ มีสีขาวใส และลักษณะยาวรีระยะไข่ เฉลี่ย 1 วัน หนอนรูปร่าง แบบ hymenopteriform มีลักษณะข้อปล้องที่ชัดเจน (segment) ไม่มีขา ใช้เวลาเฉลี่ย 5-6 วัน ดักแด้มีรูปร่าง แบบ exarate วงจรชีวิตของแตนเบียน จากระยะไข่จนเป็นตัวเต็มวัย ใช้เวลาประมาณ 14 วัน ส่วนตัวเต็มวัย มีชีวิตอยู่ได้นานราว 12 วัน เป็นแตนเบียนที่ทำลายอยู่ภายนอกหนอนของมอดและด้วง อัตรา 1 ต่อ 1 (solitary ectoparasitoid) พบทำลายผีเสื้อข้าวเปลือกด้วย นอกจากนี้พบว่าแตนเบียนชนิดนี้มีพฤติกรรมที่ ไม่ชอบมุดลงเบียนหนอนของด้วงที่อยู่ระดับความลึกมาก ๆ จากพื้นผิว ปัจจุบันมีการผลิตเป็นการค้าใน สหรัฐอเมริกาแล้ว เขตการแพร่กระจาย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย ออสเตรีย บังกลาเทศ เบอร์มิวดา โบลิเวีย บราซิล โคลอมเบีย สาธารณรัฐเช็ก คิวบา อียิปต์ เอลซัลวาดอร์ฝรั่งเศส กรีซ กายอานา ฮังการีอินเดีย อิรัก อิสราเอล อิตาลีจาเมกา ญี่ปุ่น เคนยา เกาหลีมาลาวีมาเลเซีย เม็กซิโก โมร็อกโก พม่า นิวซีแลนด์ไนจีเรีย ปากีสถาน ปาปัวนิวกินีเปรู ไต้หวัน แทนซาเนีย ไทย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเวเนซูเอลา แมลงอาศัย ด้วงถั่วแดง Acanthoscelides obtectus (Say), ด้วงกาแฟ Araecerus fasciculatus De Geer, ด้วงถั่วเหลือง Callosobruchus chinensis (Linnaeus), ด้วงถั่วเขียว Callosobruchus maculatus (Fabricius), ด้วงปีกตัด Carpophilus obsoletus Erichson, Ephestia elutella (Hübner), ผีเสื้อข้าวโพด Ephestia cautella Walker, Ephestia kuehniella (Zeller), มอดยาสูบ Lasioderma serricorne (Fabricius), มอดฟันเลื่อย Oryzaephilus surinamensis Linnaeus, Piezotrachelus varius Wagner, Prostephanus truncatus (Horn), มอดข้าวเปลือก Rhyzopertha dominica (Fabricius), ด้วงงวงข้าวสาลีSitophilus granarius (Linnaeus), ด้วงงวงข้าว Sitophilus oryzae Linnaeus, ด้วงงวงข้าวโพด Sitophilus zeamais Motschulsky, ผีเสื้อข้าวเปลือก Sitotroga cerealella (Olivier), มอดสมุนไพร Stegobium paniceum (Linnaeus), มอดแป้ง Tribolium castaneum (Herbst) และด้วงอิฐ Trogoderma granarium Everts
84 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร Cephalonomia tarsalis (Ashmead) ชื่อวิทยาศาสตร์ Cephalonomia tarsalis (Ashmead) (Hymenoptera : Bethylidae) ชื่อเดิม Ateleopterus tarsalis ชื่อพ้อง Cephalonomia carinata, Cephalonomia kiefferi รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 1.2-1.9 มิลลิเมตร ตัวเต็มวัยเพศเมียจะต่อย (ปล่อยพิษ) หนอนหรือ ดักแด้ของมอดฟันเลื่อยทำให้เป็นอัมพาต หลังจากนั้นจะวางไข่ 2 ฟอง ตรงส่วนอกของเหยื่อ ซึ่งไข่ 2 ฟองนี้ ฟองหนึ่งเป็นเพศเมีย อีกฟองเป็นเพศผู้ไข่จะฟักเป็นตัวหนอนภายใน 1 วัน หลังจากนั้น หนอนของแตนเบียน จะดูดกินน้ำเลี้ยงจากเหยื่อประมาณ 4 วัน จึงสร้างใยหุ้มตัว และเข้าดักแด้ประมาณ 10 วัน ตัวเต็มวัย จึงออกสู่ภายนอก ตัวเต็มวัยเพศเมียมีชีวิตอยู่นาน 35 วัน วางไข่ประมาณ 85 ฟอง ตัวเต็มวัยเพศผู้มีชีวิต อยู่นานเพียง 6 วัน ตัวเต็มวัยไม่กินอาหาร แตนเบียนสามารถเติบโตได้ในช่วงอุณหภูมิ17.5-32.5 º C แต่อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และมีโอกาสรอดชีวิตในระยะหนอนที่ดีอยู่ในช่วงอุณหภูมิ 20-30 º C โดยทั่วไปแตนเบียนตัวแม่หากไม่ได้รับการผสมพันธุ์จะออกลูกเป็นเพศเมียทั้งหมด แต่ถ้าได้รับ ได้ผสมพันธุ์จากเพศผู้รุ่นลูกที่ออกมาจะมีทั้งเพศผู้และเพศเมีย เขตการแพร่กระจาย ทั่วโลก แมลงอาศัย มอดฟันเลื่อย Oryzaephilus surinamensis Linnaeus Cephalonomia sp. ชื่อวิทยาศาสตร์ Cephalonomia sp. (Hymenoptera : Bethylidae) รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 1.1-1.7 มิลลิเมตร การจำแนกเพศผู้และเพศเมีย เมื่อมองทางด้านหน้า ส่วนหัวเพศเมียมีลักษณะยาวกว่าเพศผู้ เขตการแพร่กระจาย ประเทศไทย แมลงอาศัย มอดยาสูบ Lasioderma serricorne (Fabricius)
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 85 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร Cephalonomia tarsalis (Ashmead) ด้านข้างเพศผู้ ด้านข้างเพศเมีย Cephalonomia sp. ด้านข้างเพศผู้ ด้านข้างเพศเมีย
86 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร Holepyris sylvanidis (Brèthes) Plastanoxus sp. ด้านข้างเพศผู้ ด้านข้างเพศผู้ ด้านข้างเพศเมีย ด้านข้างเพศเมีย
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 87 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร Plastanoxus sp. ชื่อวิทยาศาสตร์ Plastanoxus sp. (Hymenoptera : Bethylidae) รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 0.9-1.4 มิลลิเมตร ด้านหน้าของส่วนหัวเพศเมียยาวกว่าเพศผู้ เขตการแพร่กระจาย ประเทศไทย แมลงอาศัย - Holepyris sylvanidis (Brèthes) ชื่อวิทยาศาสตร์ Holepyris sylvanidis (Brèthes) (Hymenoptera : Bethylidae) ชื่อเดิม Parepyris sylvanidis ชื่อพ้อง Rhabdepyris zeae รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัยมีขนาดลำตัวยาว 1.7-3.1 มิลลิเมตร แตนเบียนเพศเมียจะต่อยเหยื่อให้เป็นอัมพาต แล้วจะนำเหยื่อไปที่อาศัย หลังจากนั้นจะวางไข่ โดยจำนวนไข่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวน และขนาด ของเหยื่อ แตนเบียนชนิดนี้มักลงเบียนเหยื่อในวัย 2-3 เพื่อเป็นอาหารและวางไข่ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อ เหยื่อมีอายุเข้าวัย 5-6 แตนเบียนจะเบียนเหยื่อเพื่อการวางไข่เท่านั้น อุปนิสัย แตนเบียนชนิดนี้ มีความ สามารถของการล่าเหยื่อที่อาศัยอยู่ในแป้งหรือปลายข้าว ได้ในระดับความลึกที่ไม่ลึกจากพื้นผิวมากนัก เขตการแพร่กระจาย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บังกลาเทศ บาร์เบโดส บราซิล อินเดีย อิหร่าน อิสราเอล ญี่ปุ่น ไทย ตรินิแดดและโตเบโก สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร แมลงอาศัย มอดฟันเลื่อย Oryzaephilus surinamensis Linnaeus, Oryzaephilus mercator Fauvel, ด้วงงวงข้าว Sitophilus oryzae Linnaeus และมอดแป้ง Tribolium confusum Duval
88 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร Holepyris sp. ชื่อวิทยาศาสตร์ Holepyris sp. (Hymenoptera : Bethylidae) รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 2.1-2.2 มิลลิเมตร เขตการแพร่กระจาย ประเทศไทย แมลงอาศัย - Aprostocetus (Tetrastichodes) hagenowii (Ratzeburg) ชื่อวิทยาศาสตร์ Aprostocetus (Tetrastichodes) hagenowii (Ratzeburg) (Hymenoptera : Eulophidae) ชื่อเดิม Entedon hagenowii ชื่อพ้อง Elachistus aequalis, Elachistus aequatus, Epitetrastichus longfellowi, Epitetrastichus nympha, Epomphaloides viridis, Neotetrastichodes robustus, Tetrastichodes browni, Tetrastichus cesirae, Tetrastichus floridanus รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 1.2-2.1 มิลลิเมตร เป็นแตนเบียนไข่ของแมลงสาบ ปัจจุบันมีการผลิต เป็นการค้าในยุโรป มีการรายงานว่าแตนเบียนชนิดนี้เป็นแตนเบียนที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีอัตราการ เจริญเติบโตที่รวดเร็ว และอัตราการขยายพันธุ์สูง อุปนิสัยของแตนเบียนชนิดนี้ไม่ได้มีพฤติกรรมหรือความชอบ ที่จะลงเบียนไข่ของแมลงสาบที่ช่วงอายุไข่เฉพาะเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น เขตการแพร่กระจาย ทั่วโลก แมลงอาศัย แมลงสาบ Blatta orientalis Linnaeus, แมลงสาบเยอรมัน Blattella germanica Linnaeus, Eurycotis biolleyi Rehn & J.A.G, Eurycotis floridana (Walker), Neostylopyga rhombifolia (Stoll), Parcoblatta pennsylvanica (De Geer), Parcoblatta virginica (Brunner), แมลงสาบ อเมริกัน Periplaneta americana Linnaeus, Periplaneta australasiae Fabricius, Periplaneta brunnea Burmeister, Periplaneta fuliginosa Serville และ Periplaneta japonica (Karny) ด้านข้างเพศผู้
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 89 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ด้านข้างเพศผู้ Holepyris sp. ด้านข้างเพศเมีย ด้านข้างเพศผู้ Aprostocetus (Tetrastichodes) hagenowii (Ratzeburg)
90 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แตนเบียนผีเสื้อข้าวสาร Bracon hebetor Say ด้านข้างเพศเมีย ด้านข้างเพศผู้
กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด 91 กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร แตนเบียนผีเสื้อข้าวสาร ชื่อวิทยาศาสตร์ Bracon hebetor Say (Hymenoptera : Braconidae) ชื่อพ้อง Bracon breviantennatus, Bracon dorsator, Bracon juglandis, Habrobracon beneficientior รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 1.6-3.3 มิลลิเมตร แตนเบียนชนิดนี้อาศัยอยู่ภายนอกเหยื่อ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นหนอนผีเสื้อ โดยแตนเบียนเพศเมียจะต่อยหนอนให้เป็นอัมพาต จากนั้นจะวางไข่หลายฟองบนลำตัวหนอน หนอนแตนเบียนจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากภายนอก ตลอดอายุขัยตัวเต็มวัยเพศเมีย 1 ตัว จะวางไข่ประมาณ 100 ฟอง เป็นศัตรูธรรมชาติที่สำคัญของผีเสื้อข้าวสาร ในประเทศไทยพบมากในข้าวสาร ปัจจุบันประเทศ สหรัฐอเมริกาได้ผลิตแตนเบียนชนิดนี้เป็นการค้าแล้ว แตนเบียนชนิดนี้สามารถเบียนเหยื่อและทำให้เหยื่อ ตายได้มากกว่า 90% อุปนิสัยสามารถลงเบียนในผีเสื้อข้าวโพด Ephestia cautella, ผีเสื้ออินเดีย Plodia interpunctellaและผีเสื้อข้าวสาร Corcyra cephalonica ได้เป็นอย่างดีหรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นแหล่งอาหาร ที่ดีและเหมาะสมต่อการผลิตแตนเบียนชนิดนี้ เขตการแพร่กระจาย ทั่วโลก แมลงอาศัย ผีเสื้อข้าวสาร Corcyra cephalonica Stainton, ผีเสื้อข้าวโพด Ephestia cautella Walker, Ephestia elutella (Hübner), Ephestia kuehniella (Zeller), Galleria mellonella Linnaeus, Laetilia coccidivora (Comstock), ผีเสื้อเจาะหัวมันฝรั่ง Phthorimaea operculella (Zeller), ผีเสื้อ อินเดีย Plodia interpunctella (Hübner), ผีเสื้อข้าวเปลือก Sitotroga cerealella (Olivier), Vitula edmansae (Packard), ด้วงขาโต Caryedon serratus (Olivier), ผีเสื้ออัลมอนด์ Cadra cautella Walker, Cadra figulilella (Gregson)
92 แมลงที่พบในผลิตผลเกษตรและการป้องกันกำจัด กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร Eurytoma sp. ชื่อวิทยาศาสตร์ Eurytoma sp. (Hymenoptera : Eurytomidae) รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 1.4-2.9 มิลลิเมตร แตนเบียนชนิดนี้พบร่วมกับแตนเบียน Proconura minusa ดังนั้น จึงอาจเป็นแตนเบียนของ P. minusa เขตการแพร่กระจาย ประเทศไทย แมลงอาศัย - Evania sp. ชื่อวิทยาศาสตร์ Evania sp. (Hymenoptera: Evaniidae) รูปร่างลักษณะ ชีวประวัติและอุปนิสัย ตัวเต็มวัย มีขนาดลำตัวยาว 6.9-8.7 มิลลิเมตร เป็นแตนเบียนไข่ของแมลงสาบ แตนเบียนเพศเมีย วางไข่1 ฟองต่อไข่แมลงสาบ 1 กลุ่ม และหนอนแตนเบียนจะทำลายไข่ทั้งหมดในกลุ่มนั้น เขตการแพร่กระจาย ประเทศไทย แมลงอาศัย -