The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา ระดับประถมศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rawa_30, 2021-12-07 11:14:40

หลักสูตรสถานศึกษา ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศึกษา ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับ ประถมศกึ ษา ห น้ า | 128

ที่ หัวเรอ่ื ง ตัวช้วี ัด เนือ้ หา เวลา
(ชั่วโมง)

2. บอกสาเหตุ และปจั จัยการเกิดอุทกภัย และ 3.2.1 สาเหตุและปัจจัยการเกิดอทุ กภยั และดนิ โคลน

ดินโคลนถลม่ ถล่ม

3. บอกผลกระทบทเ่ี กดิ จากอุทกภยั และดิน 3.2.2 ผลกระทบทเี่ กิดจากอุทกภัย และดินโคลนถลม่

โคลนถลม่ 3.2.3 สญั ญาณบอกเหตกุ ่อนเกดิ อุทกภัย และดินโคลน

4. ตระหนกั ถงึ ภัยและผลกระทบทเี่ กิดจาก ถลม่

อุทกภยั และดนิ โคลนถล่ม 3.2.4 พื้นท่ีเส่ยี งภยั ต่อการเกิดอุทกภัย และดนิ โคลน

5. บอกสญั ญาณบอกเหตกุ ่อนเกดิ อทุ กภยั และ ถลม่ ในประเทศไทย

ดินโคลนถลม่ 3.3 สถานการณ์อุทกภยั และดนิ โคลนถล่ม
6. บอกพ้นื ที่เสี่ยงภยั ต่อการเกดิ อุทกภยั และ 3.3.1 สถานการณอ์ ุทกภยั และดนิ โคลนถล่มในประเทศ
ดินโคลนถลม่ ในประเทศไทย
6. บอกสถานการณ์อทุ กภยั และดินโคลนถลม่ ไทย
ในประเทศไทย
7. บอกสถิติการเกิดอุทกภัย และดินโคลนถลม่ 3.3.2 สถติ กิ ารเกดิ อทุ กภัย และดนิ โคลนถลม่ ใน
ของประเทศไทย
8. บอกวธิ กี ารเตรียมความพร้อมรับสถาน ประเทศไทย
การณก์ ารเกดิ อทุ กภยั และดนิ โคลนถล่ม
9. บอกวิธีการปฏบิ ัตขิ ณะเกดิ อุทกภัย และดนิ 3.4 แนวทางการปอ้ งกันและการแกไ้ ขปญั หา
โคลนถล่ม ผลกระทบที่เกิดจากอุทกภัย และดนิ โคลนถลม่
3.4.1 การเตรยี มความพรอ้ มรบั สถานการณก์ ารเกิด

อทุ กภัย และดินโคลนถลม่

3.4.2 การปฏิบัตขิ ณะเกดิ อุทกภยั และดินโคลนถลม่

3.4.3 การปฏิบตั ิหลงั เกิดอุทกภยั และดินโคลนถล่ม

10. บอกวิธกี ารปฏิบัติหลังเกิดอุทกภัย และดนิ

โคลนถล่ม

4 ไฟปา่ 1. บอกความหมายของไฟปา่ 4.1 ความหมายของไฟปา่ 10

2. บอกสาเหตุ และปัจจัยการเกิดไฟปา่ - ความหมายของไฟป่า

3. บอกชนิดของไฟปา่ 4.2 ลกั ษณะการเกิดไฟปา่
4. บอกผลกระทบทเี่ กดิ จากไฟปา่ 4.2.1 สาเหตแุ ละปัจจัยการเกิดไฟป่า
5. ตระหนักถงึ ภยั และผลกระทบทเ่ี กิดจากไฟ 4.2.2 ชนิดของไฟป่า
ปา่ 4.2.3 ผลกระทบที่เกิดจากไฟป่า
6. บอกฤดกู าลการเกดิ ไฟปา่ ในแต่ละพน้ื ท่ีของ 4.2.4 ฤดูกาลการเกดิ ไฟป่าในแตล่ ะพื้นทข่ี องประเทศ
ประเทศไทย ไทย

7. อธิบายสถานการณไ์ ฟปา่ ในประเทศไทย 4.3 สถานการณไ์ ฟปา่
8. บอกสถิติการเกิดไฟปา่ ของประเทศไทย 4.3.1 สถานการณ์ไฟป่าในประเทศไทย
9. บอกวิธกี ารเตรียมความพร้อมรับ
สถานการณ์การเกดิ ไฟปา่ 4.3.2 สถิติการเกดิ ไฟปา่ ในประเทศไทย
10. บอกวิธกี ารปฏบิ ตั ขิ ณะเกดิ ไฟป่า
11. บอกวิธีการปฏบิ ัติหลังเกดิ ไฟป่า 4.4 แนวทางการปอ้ งกันและการแกไ้ ขปญั หา
ผลกระทบท่เี กดิ จากไฟป่า
4.4.1 การเตรียมความพร้อมรบั สถานการณ์การเกิดไฟ

ป่า

4.4.2 การปฏบิ ตั ขิ ณะเกิดไฟปา่

4.4.3 การปฏบิ ัติหลงั เกิดไฟป่า

ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ ประถมศกึ ษา ห น้ า | 129

ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชว้ี ดั เน้ือหา เวลา
(ชั่วโมง)

5 หมวกควนั 1. บอกความหมายของหมอกควนั 5.1 ความหมายของหมอกควนั 10

2. บอกสาเหตุ และปัจจัยการเกิดหมอกควัน - ความหมายของหมอกควนั

3. บอกผลกระทบท่เี กดิ จากหมอกควัน 5.2 ลกั ษณะการเกดิ หมอกควนั
4. ตระหนักถึงภยั และผลกระทบท่เี กดิ จาก 5.2.1 สาเหตแุ ละปจั จยั การเกิดหมอกควนั
หมอกควัน 5.2.2 ผลกระทบทเ่ี กดิ จากหมอกควนั
5. บอกพน้ื ทพ่ี ืน้ ทท่ี ี่ไดร้ บั ผลกระทบจากหมอก 5.2.3 พ้ืนที่ทไี่ ด้รบั ผลกระทบจากหมอกควนั ในประเทศ
ควันในประเทศไทย ไทย
6. บอกสถานการณ์หมอกควนั ในประเทศไทย
7. บอกสถิติการเกดิ หมอกควันในประเทศไทย 5.3 สถานการณ์หมอกควัน
8. บอกวิธีการเตรยี มความพร้อมรับ 5.3.1 สถานการณห์ มอกควันในประเทศไทย
สถานการณก์ ารเกิดหมอกควนั 5.3.2 สถิติการเกิดหมอกควนั ในประเทศไทย
9. บอกวิธีการปฏิบัติขณะเกดิ หมอกควัน
10. บอกวธิ กี ารปฏิบัตหิ ลงั เกิดหมอกควัน 5.4 แนวทางการป้องกนั และการแก้ไขปัญหา
ผลกระทบที่เกดิ จากหมอกควัน
5.4.1 การเตรยี มความพร้อมรบั สถานการณ์การเกิด
หมอกควนั

5.4.2 การปฏิบัตขิ ณะเกิดหมอกควนั

5.4.3 การปฏิบตั หิ ลงั เกิดหมอกควัน

6 แผ่นดินไหว 1. อธบิ ายความหมายของแผน่ ดนิ ไหว 6.1 ความหมายของแผน่ ดนิ ไหว 10

2. บอกสาเหตุ และปัจจัยการเกดิ แผน่ ดินไหว - ความหมายของแผ่นดนิ ไหว

3. บอกผลกระทบทเ่ี กดิ จากแผน่ ดนิ ไหว 6.2 ลกั ษณะการเกดิ แผ่นดนิ ไหว
4. ตระหนกั ถงึ ภัยและผลกระทบทีเ่ กิดจาก 6.2.1 สาเหตแุ ละปัจจัยการเกดิ แผน่ ดนิ ไหว
แผน่ ดินไหว 6.2.2 ผลกระทบท่ีเกดิ จากแผน่ ดินไหว
5. บอกพื้นท่ีเส่ยี งภยั ต่อการเกดิ แผ่นดนิ ไหวใน 6.2.3 พ้ืนที่เสีย่ งภัยตอ่ การเกดิ แผ่นดนิ ไหวในประเทศ
ประเทศไทย ไทย

6. บอกสถานการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทย 6.3 สถานการณ์แผน่ ดินไหว
7. บอกสถติ ิการเกดิ แผ่นดนิ ไหวของประเทศ 6.3.1 สถานการณแ์ ผ่นดินไหวในประเทศไทย
ไทย 6.3.2 สถิติการเกดิ แผ่นดินไหวของประเทศไทย
6.4 แนวทางการป้องกันและการแกไ้ ขปญั หา

ผลกระทบท่ีเกดิ จากแผ่นดินไหว

8. บอกวิธีการเตรยี มความพร้อม รบั 6.4.1 การเตรียมความพรอ้ มรบั สถานการณก์ ารเกิด
สถานการณ์การเกดิ แผ่นดนิ ไหว แผ่นดนิ ไหว
9. บอกวิธกี ารปฏบิ ตั ขิ ณะเกิดแผ่นดนิ ไหว 6.4.2 การปฏิบตั ขิ ณะเกดิ แผ่นดินไหว
10. บอกวิธีการปฏบิ ัตหิ ลังเกิดแผ่นดนิ ไหว 6.4.3 การปฏิบัติหลงั เกดิ แผน่ ดินไหว

7 สนึ ามิ 1. บอกความหมายของสนึ ามิ 7.1 ความหมายของสนึ ามิ 10
2. บอกสาเหตุ และปจั จัยการเกิดสนึ ามิ - ความหมายของสนึ ามิ

3. บอกสัญญาณบอกเหตุก่อนเกิดสึนามิ 7.2 ลักษณะการเกดิ สึนามิ
4. บอกผลกระทบทีเ่ กิดจากสึนามิ 7.2.1 สาเหตแุ ละปัจจัยการเกดิ สนึ ามิ
5. ตระหนกั ถึงภัยและผลกระทบทเ่ี กิดจาก 7.2.2 สัญญาณบอกเหตุก่อนเกิดสึนามิ
สนึ ามิ 7.2.3 ผลกระทบทเี่ กิดจากสนึ ามิ

ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั ประถมศกึ ษา ห น้ า | 130

ที่ หัวเร่อื ง ตัวช้ีวดั เน้ือหา เวลา
(ชว่ั โมง)
6. บอกพน้ื ท่เี ส่ยี งภัยต่อการเกดิ สึนามใิ น 7.2.4 พนื้ ท่ีเสย่ี งภัยตอ่ การเกดิ สนึ ามใิ นประเทศไทย
ประเทศไทย 3
7. บอกสถานการณส์ นึ ามิ ในประเทศไทย 7.3 สถานการณ์สนึ ามิ
8. บอกสถติ ิการเกิดสนึ ามขิ องประเทศไทย 7.3.1 สถานการณ์สนึ ามิในประเทศไทย
9. บอกวธิ ีการเตรยี มความพรอ้ มรับ
สถานการณก์ ารเกิดสนึ ามิ 7.3.2 สถติ กิ ารเกิดแผน่ ดินไหวของประเทศไทย
10. บอกวธิ กี ารปฏบิ ตั ิขณะเกดิ สึนามิ
11. บอกวธิ ีการปฏิบตั หิ ลังเกิดสึนามิ 7.4 แนวทางการปอ้ งกันและการแกไ้ ขปัญหา
ผลกระทบท่ีเกดิ จากสึนามิ
8 บุคลากรและ 1. ระบบุ คุ ลากรที่เก่ียวข้องกับการ ใหค้ วาม 7.4.1 การเตรียมความพร้อมรับสถานการณก์ ารเกิดสนึ า
หนว่ ย งานที่ ช่วยเหลือผ้ปู ระสบภยั ธรรมชาติตา่ ง ๆ มิ
เกี่ยว ขอ้ งกบั 2. ระบหุ น่วยงานทเี่ กยี่ วข้องกับการให้ความ 7.4.2 การปฏบิ ตั ขิ ณะเกดิ สึนามิ
การใหค้ วาม ชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบภัยธรรมชาตติ ่าง ๆ 7.4.3 การปฏบิ ตั ิหลังเกดิ สึนามิ
ช่วย เหลอื การ
ประสบภัย 8.1 บุคลากรทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั การให้ความช่วยเหลอื
ธรรมชาติ ผปู้ ระสบภัยธรรมชาติตา่ ง ๆ
ต่าง ๆ 8.2 หน่วยงานท่ีเกีย่ วข้องกบั การใหค้ วามชว่ ยเหลือ
ผูป้ ระสบภัยธรรมชาตติ า่ ง ๆ

คำอธิบายรายวิชา สค 13007 การศึกษาประวัติศาสตร์สมัยสโุ ขทัย จำนวน 3 หน่วยกิต
ระดับประถมศึกษา

มาตรฐานที่ 1.1 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติที่ดตี ่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ศึกษาและฝึกทกั ษะเกี่ยวกบั เรอื่ งตอ่ ไปนี้

ศกึ ษายุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ความสาคญั ของสถาบันพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยสมัยสุโขทัย ภมู ิปัญญาไทยและ
วฒั นธรรมไทย ผลงานบคุ คลสาคญั วิธกี ารทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการของชนชาติไทย เหตุการณ์สาคัญของประวตั ศิ าสตร์
ไทย โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ กระบวนการสร้างความรคู้ วามเขา้ ใจ กระบวนการทางประวตั ศิ าสตร์ กระบวนการ
วิเคราะห์ กระบวนการตดั สนิ ใจ เพอื่ ใหม้ คี ุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ใฝเ่ รยี นรู้ รกั ความเปน็ ไทย ซ่ือสตั ย์
สจุ ริต

ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับ ประถมศึกษา ห น้ า | 131

การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้
ควรจดั ในลกั ษณะของการบรู ณาการทกั ษะตา่ ง ๆ ไปพร้อมกบั การสร้างสถานการณใ์ นการเรียนรู้อย่างสรา้ งสรรค์

เพอ่ื ฝกึ ให้ผูเ้ รยี นมีเจตคติ ทีด่ ีตอ่ การเรียนร้ดู ้วยตนเองทที่ ำใหก้ ารเรยี นรดู้ ้วยตนเองประสบความสำเรจ็ และนำความรไู้ ปใช้ใน
วถิ ีชีวิตใหเ้ หมาะสมกบั ตนเอง และชมุ ชน สังคม

การวดั และประเมนิ ผล
ใช้การประเมนิ จากสภาพจริงของผ้เู รยี นทแี่ สดงออกเกี่ยวกบั การทำกจิ กรรมและทำแบบประเมนิ ผล

รายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า สค 13007 การศกึ ษาประวัติศาสตรส์ มยั สุโขทัย จำนวน 3 หนว่ ยกิต
ระดบั ประถมศึกษา

มาตรฐานที่ 1.1 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

ท่ี หัวเร่ือง ตัวชวี้ ัด เน้อื หา จำนวน
(ชั่วโมง)
1 ประวตั ิศาสตร์สมัย 1. อธิบายความหมาย ความสาคญั ของเวลาและการ 1. ความหมาย ความสำคญั ของ
40
สโุ ขทัย แบง่ ยคุ สมยั ทางประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัย
40
2. สรา้ งองคค์ วามรูใ้ หมท่ างประวัติศาสตรไ์ ทย โดยใช้ 2. กระบวนการสรา้ งองคค์ วามรู้

วิธกี ารทางประวัตศิ าสตรอ์ ย่างเปน็ ระบบ อย่างเป็นระบบ

3. วิเคราะหเ์ หตกุ ารณส์ ำคญั ต่างๆ ของประวตั ิศาสตร์ 3. วเิ คราะหพ์ ฒั นาการของชนชาติ

ไทยทสี่ ่งผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม เศรษฐกิจ ไทย

และการเมือง 4. วิเคราะหผ์ ลกระทบของการขยาย

อทิ ธพิ ลของประเทศในยโุ รป

ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ห น้ า | 132

4. วเิ คราะหผ์ ลกระทบของการขยายอิทธิพลของ 5. วเิ คราะห์ความสาคญั ของสถาบนั 40
ประเทศในยุโรปไปยังประเทศไทย พระมหากษัตริย์ตอ่ ชาติไทย
5. วิเคราะหป์ ระเด็นสำคญั ของประวตั ศิ าสตร์ไทยสมยั 6. วิเคราะห์ผลงานของบคุ คลสาคัญ
สุโขทยั ทั้งชาวไทยและต่างประเทศท่มี ีสว่ น
6. วเิ คราะหค์ วามสาคญั ของสถาบันพระมหากษตั ริย์ สร้างสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและ
ต่อชาตไิ ทยสมยั สโุ ขทัย ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
7. วเิ คราะห์ผลงานของบุคคลสาคญั ทั้งชาวไทยและ 7. แนวทางและมสี ว่ นรว่ มการ
ตา่ งประเทศที่มสี ว่ นสร้างสรรค์วฒั นธรรมไทยและ อนุรักษ์ภูมปิ ัญญาไทยและวฒั นธรรม
ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ไทย
8. วางแผนกาหนดแนวทางและมีสว่ นรว่ มการอนรุ ักษ์
ภูมปิ ญั ญาไทยและวฒั นธรรมไทย

คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชา สค13043 ประชาธิปไตยพื้นฐานสำหรับครอบครัวและชมุ ชน
จำนวน 3 หน่วยกติ ระดบั ประถม

มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดับ
มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักถงึ ปญั หาสำคญั ของสังคมไทย ประชาธิปไตยในวถิ ชี วี ิตประจำวัน

การเสริมสรา้ งวัฒนาธรรมประชาธปิ ไตยในครอบครวั ชมุ ชน และสามารถนำหลักธรรมตามรอยพระยุคลบาท ๑0 ประการมา
ปรับใชใ้ นการดำเนินชวี ติ ประจำวันได้

ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเกี่ยวกับเร่ืองดังตอ่ ไปน้ี
1. ปัญหาสำคญั ของสงั คมไทย
2. ประชาธปิ ไตยในวิถีชีวิตประจำวนั
3. การเสริมสรา้ งวัฒนาธรรมประชาธิปไตยในครอบครวั ชมุ ชน

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับ ประถมศกึ ษา ห น้ า | 133

4. หลักธรรมตามรอยพระยคุ ลบาท ๑0 ประการ

การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
จัดใหม้ กี ารค้นคว้าหาความรู้ จากสื่อเอกสาร ตำรา สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ภมู ิปญั ญา แหลง่ วชิ าการ การทำโครงงาน

การจดั กลุ่มอภปิ รายแลกเปล่ยี นเรียนรู้ การวเิ คราะห์ สถานการณจ์ ำลอง การสรุปผลการเรยี นร้แู ละนำเสนอในรปู แบบตา่ ง ๆ

การวัดและประเมนิ ผล
ประเมินจากการทดสอบ การสังเกต การประเมนิ การมีส่วนรว่ มในการทำกจิ กรรมและการตรวจผลงาน ฯลฯ

รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา สค13043 ประชาธิปไตยพนื้ ฐานสำหรับครอบครัวและชุมชน
จำนวน 3 หน่วยกติ ระดบั ประถม

มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ
มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักถงึ ปัญหาสำคัญของสังคมไทย ประชาธิปไตยในวถิ ีชวี ิตประจำวันการเสริมสร้าง

วฒั นาธรรมประชาธิปไตยในครอบครัว ชุมชนและสามารถนำหลกั ธรรมตามรอยพระยคุ ลบาท ๑0 ประการ มาปรบั ใช้ในการ

ดำเนนิ ชีวติ ประจำวนั ได้

ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ช้วี ัด เนือ้ หา จำนวน
1 ปัญหาสำคญั ของ -มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนกั เกี่ยวกบั 1. ปญั หาของสังคมไทยในอดีตถงึ ปัจจบุ ัน (ช่วั โมง)

10

สังคมไทย ปัญหาของสงั คมไทย

2 ประชาธปิ ไตยในวิถี - มีความรู้ ความเขา้ ใจถึงหลกั การปกครอง 1.หลกั การปกครองในระบอบประชาธิปไตย 30

ชีวติ ประจำวนั ในระบอบประชาธิปไตย 2.แนวทางการปฏบิ ตั ิตนในการดำเนินชีวติ

ทส่ี อดคลอ้ งกบั หลกั การปกครองในระบอบ

ประชาธปิ ไตย

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับ ประถมศกึ ษา ห น้ า | 134

- มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั แนวทางการ 3.การมสี ่วนร่วมทางการเมือง

ปฏบิ ัตติ นในการดำเนนิ ชวี ติ ที่สอดคลอ้ งกับ

หลักการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย

- สามารถอธบิ ายความสำคญั และความสำ

พันธ์ระหว่าง “การเมอื ง”กับ”การดำเนนิ

ชวี ิต”ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

3 การเสริมสรา้ งวฒั นาธรรม -มคี วามรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึง 1.บทบาทของสมาชกิ ในครอบครวั 30
30
ประชาธิปไตยใน บทบาทและสิทธิหนา้ ทขี่ องสมาชิกใน 2.กฎหมายคุม้ ครองสิทธิ เดก็ สตรีและ 20

ครอบครัว ครอบครวั เยาวชน

-มคี วามรู้ ความเขา้ ใจกฎหมายทเี่ ก่ยี วข้อง 3.แนวทางปอ้ งกนั ปัญหาทเ่ี กิดข้นึ จากการ

กับตนเองและผ้อู ่ืน ใช้ความรนุ แรงในครอบครัว

-อธบิ ายและสามารถปอ้ งกันปญั หาทเี่ กิดขึน้

จากการใช้ความรุนแรงในครอบครวั

4 การเสริมสรา้ งวฒั นธรรม -มคี วามรู้ ความเข้าใจและตระหนักถงึ 1.บทบาทหนา้ ทข่ี องสมาชกิ ในชมุ ชน

ประชาธปิ ไตยในชุมชน บทบาทและสิทธิหนา้ ทข่ี องสมาชิกใน 2.ปัญหาของชุมชนและแนวทางแกไ้ ข

ครอบครัว ปัญหา

-มคี วามรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั และ 3.คณุ ลกั ษณะสำคญั ของผู้นำทีด่ ี

สามารถวิเคราะหป์ ญั หาพรอ้ มเสนอแนว

ทางแกไ้ ขปญั หาของชมุ ชนได้

-สามารถเสนอคุณลักษณะของผนู้ ำชุมชนใน

การแกป้ ญั หาท่สี ำคัญได้

5 หลกั ธรรมตามรอยพระ -มีความรู้ ความเขา้ ใจความหมาย 1.ความหมายความสำคัญของหลักธรรม

ยุคลบาท ๑0 ประการ ความสำคญั ของหลักธรรมตามรอยพระยุค ตามรอยพระยคุ คลบาท ๑0 ประการ

คลบาท ๑0 ประการและสามารถนำความรู้

ทไี่ ด้รบั ไปประยกุ ต์ใช้ได้กบั ชีวติ ประจำวนั ได้

คำอธิบายรายวชิ า สค13044 หน้าท่แี ละศลี ธรรมพื้นฐานในการดำเนินชีวติ จำนวน 3 หน่วยกิต
ระดบั ประถมศึกษา

มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ
มคี วามรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณคา่ และสบื ทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี เพ่ือการอย่รู ่วมกนั อยา่ งสนั ติ

ศึกษาและฝกึ ทักษะเกยี่ วกับเร่ืองดงั ต่อไปน้ี
1. หน้าที่พลเมือง
2. ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี
3. ความหมายของเบญจศีลและคุณธรรมพนื้ ฐาน 9 ประการ

การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั ประถมศกึ ษา ห น้ า | 135

จัดใหม้ กี ารคน้ ควา้ จากเอกสารใบความรู้ สอ่ื เอกสาร ตำรา อนิ เตอร์เน็ตและสอื่ ต่างๆ การศึกษาจากแหล่งเรยี นรู้
แหลง่ วชิ าการ การทำโครงงาน การจดั กล่มุ อภิปรายแลกเปลีย่ นเรียนรู้ การวเิ คราะห์ สถานการณ์จำลอง การสรุปผลการ
เรียนรู้และนำเสนอในรปู แบบตา่ ง ๆ

การวดั และประเมนิ ผล
ประเมนิ จากการทดสอบ การสงั เกต การประเมินการมีสว่ นร่วมในการทำกจิ กรรมและการตรวจสอบผลงาน ฯลฯ

รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวชิ า หน้าท่ีและศลี ธรรมพ้นื ฐานในการดำเนินชวี ิต จำนวน 3 หน่วยกิต

ระดบั ประถมศึกษา
มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ

มคี วามรู้ ความเข้าใจ เห็นคณุ ค่า และสืบทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี เพอื่ การอยรู่ ว่ มกนั อย่างสนั ติ

ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชวี้ ัด เนื้อหา จำนวน
1 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 1.รแู้ ละเข้าใจในเรอ่ื งสทิ ธเิ สรีภาพ 1.1 ความหมายของประชาธปิ ไตย (ช่ัวโมง)

40

บทบาทหน้าทแ่ี ละคุณค่าของความเป็น 1.2 สทิ ธิ เสรภี าพบทบาทหนา้ ทขี่ องพลเมืองใน

พลเมอื งดตี ามแนวทางประชาธปิ ไตย วิถปี ระชาธิปไตย

2.ตระหนกั ในคณุ คา่ ของการปฏบิ ัตติ น 2.1การมสี ว่ นรว่ มในการปฏบิ ัตติ นตามกฎหมาย

เป็นพลเมอื งดตี ามวิถปี ระชาธิปไตย 3.1ปญั หาและสถานการณก์ ารเมอื งการ

3.แยกแยะปญั หา และสถานการณ์ ปกครองที่เกิดขึน้ ในชุมชน

การเมืองการปกครองท่ีเกดิ ข้ึนในชุมชน

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอสวรรคโลก

หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ห น้ า | 136

4.รแู้ ละเขา้ ใจสาระทั่วไปเกี่ยวกบั 4.1กฎหมายทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั ตนเองและและ

กฎหมาย ครอบครวั

5.นำความร้กู ฎหมายทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั 5.1 หมายท่เี กีย่ วขอ้ งกบั ชุมชน

ตนเอง ครอบครัวชมุ ชน และ 6.1กฎหมายอืน่ ๆ เชน่ กฎหมายแรงงานและ

ประเทศชาติไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ สวสั ดิการ กฎหมายวา่ ด้วยสิทธเิ ดก็ และสตรี

6.เหน็ คณุ คา่ และประโยชนข์ องการ

ปฏิบัติตนตามกฎหมาย

2 ศาสนา วฒั นธรรม 2.เห็นประโยชนใ์ นการนำหลกั ธรรมคำ 2.1หลักธรรมในแตล่ ะศาสนาท่ีทำให้อย่รู ว่ มกับ 30
30
ประเพณี สอนในศาสนาทตี่ นนบั ถอื มาประพฤติ ศาสนาอ่ืนไดอ้ ย่างมีความสุข

ปฏิบัตติ น เพ่อื ให้เป็นคนดใี นสงั คม -ศาสนาพทุ ธ คือ พรหมวิหาร 4 ,

3.มีสว่ นร่วมในการปฏบิ ตั ติ นตาม สังฆราวาสธรรม ฯลฯ

วัฒนธรรมของประเพณีของท้องถิ่น 3.1การประพฤตติ นปฏิบัติตน เพื่อการอนรุ ักษ์

และสืบสานวัฒนธรรมประเพณี ของประเทศ

ไทย และประเทศในเอเชยี )

3 ความหมายของเบญจ 4.มีความรู้ ความเขา้ ใจ ความหมายของ 4.1ประวัตแิ ละความสำคัญของเบญจศลี

ศีลและคุณธรรม เบญจศลี และคณุ ธรรม - องคป์ ระกอบของเบญจศลี 5

พ้นื ฐาน 9 ประการ - ข้อพึงปฏบิ ัติของเบญจศลี

- ความหมายของเบญจศีล

- ความหมายคณุ ธรรม 9 ประการ

คำอธบิ ายรายวิชา คณุ ธรรมพื้นฐานในการดำรงชีวิต รหสั สค13012
ระดับประถมศึกษา จำนวน 1 หนว่ ยกิต ( 40 ช่ัวโมง )

มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ
มีความรูค้ วามเขา้ ใจเหน็ คุณคา่ และสืบทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณีของทอ้ งถนิ่ และประเทศไทย

มาตรฐานท่ี 5.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณคา่ และสืบทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี ของท้องถ่นิ และประเทศไทย
ผลการเรียนร้ทู ่คี าดหวัง

1. อธบิ ายประวัติ หลักคำสอน และการปฏบิ ัตติ นตามหลักศาสนาทตี่ นนบั ถือ
1. ปฏบิ ัตติ นตามหลักธรรมทางศาสนาวฒั นธรรม ประเพณี
2. ยอมรบั และปฏบิ ตั ิตนเพอื่ การอย่รู ว่ มกนั อยา่ งสนั ติสขุ ในสงั คม ที่มคี วามหลากหลายทางศาสนา วัฒนธรรม

ประเพณี
ศึกษาและฝกึ ทักษะเกีย่ วกับเรอื่ งต่อไปนี้

1. ความหมายของเบญจศลี และคณุ ธรรมพ้ืนฐาน

ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอสวรรคโลก

หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั ประถมศกึ ษา ห น้ า | 137

2. เบญจศีล
3. คณุ ธรรมพน้ื ฐาน 9 ประการ

การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้
1. ศึกษาค้นควา้ จากเอกสารใบความรู้ แหลง่ เรยี นรตู้ ่าง ๆ เช่น หอ้ งสมดุ การสบื คน้ จากอินเตอรเ์ น็ตและสอื่ ตา่ ง ๆ

2. การรวมกลมุ่ ระดมความคดิ
3. การฝึกปฏิบัตจิ รงิ
4. การศกึ ษาจากแหลง่ เรียนรู้
5. การทำแบบฝึกหัด แบบทดสอบ

6. ตรวจผลงาน

การวดั ผลและประเมินผล
1. การสังเกต การเขา้ ร่วมกิจกรรม
2. ตรวจงานทีม่ อบหมาย
3. การสังเกตพฤตกิ รรมของนักศึกษา
4. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

คำอธิบายรายวชิ า
รหัสวชิ า สค13012 ชอื่ รายวิชา คุณธรรมพนื้ ฐานในการดำรงชีวิต จำนวน 1 หน่วยกิต

ระดบั ประถมศึกษา

มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ ประถมศึกษา
มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเห็นคุณค่าและสืบทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณีของทอ้ งถ่ินและประเทศไทย

ท่ี หวั เร่อื ง ตัวช้วี ดั เน้ือหา จำนวน
ชั่วโมง
1 ความหมายของเบญจศลี และ 1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจความหมาย 1.ความหมายของเบญจศลี 10 ชั่วโมง

คณุ ธรรมพื้นฐาน 9 ประการ ของเบญจศีลและคณุ ธรรม 2. ความหมายคุณธรรมพื้นฐาน 9 ประการ 20 ชว่ั โมง

2 เบญจศีล 1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจความสำคัญ 1.ประวตั แิ ละความสำคัญของเบญจศีล 10
ชั่วโมง
ของเบญจศีล 2. องคป์ ระกอบของเบญจศีล - ศีล 5

2. ปฏบิ ตั ติ นตามหลักของศลี 5 3. ขอ้ พงึ ปฏิบัตขิ องเบญจศลี

3 คณุ ธรรมพืน้ ฐาน 9 ประการ 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจคุณธรรม 1. คุณธรรมพื้นฐาน 9 ประการ

พ้นื ฐาน 9 ประการ 2. ความสำคญั ของคุณธรรม

ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับ ประถมศึกษา ห น้ า | 138

3. องคป์ ระกอบของคุณธรรมพน้ื ฐาน 9
ประการ
- ความขยัน - ความประหยดั
- ความซ่อื สัตย์ -ความมวี ินัย
- ความสภุ าพ - ความสะอาด
- ความสามัคคี -ความมีน้ำใจ
- ความกตัญญูกตเวที

คำอธบิ ายรายวชิ า สค12001 ภยั แลง้ จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดบั ประถมศึกษา

มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ
มีความรู้ ความเข้าใจตระหนกั เกี่ยวกับภมู ศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในทอ้ งถนิ่

ประเทศ และนำมาปรับใชใ้ นการดำเนนิ ชีวติ เพอ่ื ความมน่ั คงของชาติ

ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเกยี่ วกบั เรือ่ งตอ่ ไปนี้
1. สาเหตุการเกดิ ภยั แล้ง
2. ผลกระทบจากการเกิดภัยแล้ง
3. องค์กรและหนว่ ยงานที่เก่ยี วข้องทท่ี ำหน้าทปี่ อ้ งกันและช่วยเหลือ

การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอสวรรคโลก

หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ห น้ า | 139

ให้ผเู้ รียนไปศึกษาเอกสาร คน้ ควา้ ทางอนิ เทอร์เนต็ ศกึ ษาจากหนว่ ยงาน แหลง่ วชิ าการทเ่ี กย่ี วขอ้ ง จัดกลุ่ม
อภปิ รายแลกเปลี่ยนเรียนรใู้ นประเดน็ ทเี่ ก่ยี วกบั ภัยแล้งในชมุ ชนของตน

การวดั และประเมินผล
จากรายงาน การปฏบิ ัติงานกลมุ่ การมสี ว่ นรว่ มนำเสนอ อธบิ ายกลุ่ม ถ่ายทอดความรซู้ ่ึงกนั และกัน

รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า สค12001 ภัยแล้ง จำนวน 1 หน่วยกิต

ระดับประถมศึกษา

มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ
มคี วามรู้ ความเข้าใจตระหนกั เกย่ี วกบั ภูมิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื งการปกครองในท้องถิน่

ประเทศ และนำมาปรับใชใ้ นการดำเนนิ ชวี ติ เพือ่ ความมนั่ คงของชาติ

ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวชวี้ ัด เนอ้ื หา จำนวน
1 ภยั แลง้ 1. อธิบายสาเหตุการเกดิ ภยั แลง้ 1 สาเหตกุ ารเกดิ ภัยแลง้ (ชวั่ โมง)

40

2. อธิบายและตระหนกั ถึงผลกระทบทเี่ กิดจาก 2. ผลกระทบจากการเกดิ ภัยแล้ง

ภัยแลง้ 3. การปอ้ งกนั ภยั แลง้

3. ป้องกนั การเกดิ ภัยแลง้ และแสวงหาขอ้ มลู จาก 3.1 การคน้ หาขอ้ มูล

องค์กรทีเ่ กี่ยวข้อง 3.2 องคก์ ร หนว่ ยงานที่เก่ยี วขอ้ งทีท่ ำหนา้ ที่

4. ปฏบิ ัตติ นเตรยี มความพร้อมในการเกดิ ภยั แล้ง ปอ้ งกันและช่วยเหลือ

5. วเิ คราะห์กรณีศกึ ษาภัยแลง้ ที่เกิดในชมุ ชน/ 4. การปฏิบัตติ น เตรียมความพร้อมในการ

สังคม ปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หาเม่ือเกดิ ภัยแล้ง

5. กรณีศกึ ษาภยั แลง้ ในชมุ ชน/สงั คม

คำอธิบายรายวชิ า สค12002 อทุ กภยั จำนวน 1 หนว่ ยกิต

ระดบั ประถมศึกษา

มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ
มคี วามรู้ ความเข้าใจตระหนัก เกย่ี วกับภูมศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในทอ้ งถ่นิ

ประเทศ และนำมาปรบั ใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ เพื่อความมั่นคงของชาติ

ศึกษาและฝกึ ทักษะเกีย่ วกบั เรอ่ื งตอ่ ไปน้ี
1. สาเหตกุ ารเกดิ อุทกภัย

2. ผลกระทบจากการเกิดอุทกภยั

3. องค์กรและหนว่ ยงานทเี่ ก่ียวข้องทท่ี ำหน้าท่ีป้องกันและช่วยเหลอื

การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้
ใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาเอกสาร คน้ ควา้ ทางอนิ เทอรเ์ นต็ ศึกษาจากหน่วยงาน แหลง่ วชิ าการท่ีเกีย่ วข้อง และเขยี นรายงาน

สง่ รายบุคคล หรืองานกลมุ่ เสวนาสถานการณอ์ ทุ กภยั ท่ีเกดิ มาแล้ว มีสาเหตุ มาจากอะไร และจะป้องกันได้อยา่ งไร

ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ ประถมศกึ ษา ห น้ า | 140

การวดั และประเมินผล
จากรายงาน การปฏิบัตงิ านกล่มุ การมสี ว่ นร่วมนำเสนอ การอภปิ รายกลุม่

รายละเอยี ดคำอธิบายรายวชิ า สค12002 อุทกภัย จำนวน 1 หน่วยกิต

ระดับประถมศกึ ษา
มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ

มีความรู้ ความเขา้ ใจตระหนัก เกยี่ วกบั ภมู ิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในท้องถน่ิ

ประเทศ และนำมาปรบั ใช้ในการดำเนนิ ชีวติ เพ่ือความมน่ั คงของชาติ

ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชี้วัด เน้อื หา จำนวน
1 อุทกภัย 1. อธบิ าย สาเหตกุ ารเกิดอุทกภัย 1. สาเหตุการเกดิ อุทกภยั (ชว่ั โมง)

40

2. อธบิ ายและตระหนกั ถงึ ผลกระทบท่เี กิดจาก 2. ผลกระทบจากการเกดิ อุทกภยั

อุทกภัย 3. การปอ้ งกันอุทกภัย

3. ปอ้ งกนั การเกดิ อุทกภัยและแสวงหาขอ้ มลู จาก 3.1 การค้นหาขอ้ มลู

องค์กรที่เกีย่ วข้อง 3.2 องคก์ ร หนว่ ยงานท่ีเก่ยี วขอ้ งท่ีทำหนา้ ท่ี

4. มีทกั ษะการป้องกันตนเอง ทรัพย์สินเมื่อเกิด ปอ้ งกันและช่วยเหลือ

อทุ กภัย 4. ปฏบิ ัติตน เตรยี มความพร้อมในการปอ้ งกนั

5. ดแู ล และรกั ษาสภาพแวดลอ้ มธรรมชาติ เพอ่ื และแกไ้ ขปัญหาเมอื่ เกิดอทุ กภยั

ลดอุทกภยั 5. การรักษาสภาพแวดล้อมเพ่ือชว่ ยลดอุทกภยั

คำอธบิ ายรายวิชา อันตรายจากการใชส้ ารเคมีทางการเกษตร จำนวน 1 หน่วยกติ
ระดบั ประถมศกึ ษา

มาตรฐานที่ 5.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจ เห็นความสำคัญของหลักการพัฒนา และสามารถพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม

ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
บทที่ 1 ความหมายและความสำคญั ของสารเคมีทางการเกษตร
เร่อื งท่ี 1 ความหมายของสารเคมีทางการเกษตร
เรื่องท่ี 2 ความสำคัญของสารเคมที างการเกษตร
บทที่ 2 ประเภทของสารเคมที างการเกษตร
เรอ่ื งที่ 1 ชนดิ ของสารเคมีกำจดั ศตั รูพชื
บทที่ 3 อนั ตรายของสารเคมีทางการเกษตร
เรอ่ื งที่ 1 การได้รับพิษ และผลกระทบของสารเคมที างการเกษตร
เรื่องท่ี 2 ผลกระทบจากการใชส้ ารพษิ ทางการเกษตร
- อันตรายตอ่ สง่ิ มชี ีวิต
- อันตรายตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม

ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับ ประถมศกึ ษา ห น้ า | 141

- อันตรายต่อเศรษฐกิจ
บทท่ี 4 หลักและวิธกี ารใช้สารเคมีอยา่ งมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

เรื่องท่ี 1 ทำความเข้าใจฉลาก
เรือ่ งท่ี 2 หลักการใชส้ ารเคมที างการเกษตร
เรื่องที่ 3 การทำลายภาชนะ
เรื่องที่ 4 หลักปฏิบัติในการใชส้ ารเคมปี ้องกันกำจัดศัตรูพืช
เร่ืองที่ 5 การปฐมพยาบาลเม่อื ได้รบั อนั ตรายจากสารเคมี

การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้
ให้ผเู้ รยี นศึกษาค้นควา้ ทดลอง จำแนก อธิบาย อภปิ ราย นำเสนอด้วยการจดั กระบวนการเรียนรโู้ ดยการพบกลุ่ม

แบบชนั้ เรียน ตามอัธยาศัย การสอนเสรมิ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง การทำรายงาน การศึกษาจากแหลง่ เรียนรปู้ ระสบการณ์

โดยตรง ใชส้ ถานการณ์จรงิ ประสบการณ์การเรยี น และการเรยี นรู้โดยโครงงาน

การวัดและประเมนิ ผล
การสงั เกต การอภปิ ราย การสัมภาษณ์ ทักษะปฏบิ ตั ิ รายงาน การทดลอง การมีส่วนร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรู้

ผลงาน การทดสอบ การประเมิน และการนำไปใช้ประโยชน์

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอสวรรคโลก

หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับ ประถมศึกษา ห น้ า | 142

รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา
อันตรายจากการใชส้ ารเคมที างการเกษตร จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั ประถมศกึ ษา

มาตรฐานที่ 5.4 มีความรู้ ความเข้าใจ เหน็ ความสำคัญของหลกั การพฒั นา และสามารถพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน

สงั คม

ท่ี หัวเรอ่ื ง ตัวช้วี ัด เน้ือหา จำนวน
1 ความหมายและ 1. รเู้ ขา้ ใจความหมายและ 1. ความหมายของสารเคมที างการเกษตร (ช่ัวโมง)

5

ความสำคญั ของ ความสำคญั ของสารเคมีทาง 2. ความสำคัญของสารเคมที างการเกษตร

สารเคมีทางการเกษตร การเกษตร

2 ประเภทของสารเคมี 2. บอกหรืออธบิ ายประเภทของ 1. ชนดิ ของสารเคมกี ำจัดศตั รูพชื 5

ทางการเกษตร สารเคมีทางการเกษตรได้

3 อนั ตรายของสารเคมี 3. อธบิ าย อันตรายของสารเคมี 1. การไดร้ ับพิษ และผลกระทบของสารเคมีทาง 15

ทางการเกษตร ทางการเกษตรได้ การเกษตร

2. ผลกระทบจากการใชส้ ารพษิ ทางการเกษตร

- อนั ตรายต่อสงิ่ มชี วี ติ

- อนั ตรายต่อสิ่งแวดลอ้ ม

- อนั ตรายต่อเศรษฐกิจ

4 หลักและวธิ กี ารใช้ 4. สามารถใช้สารเคมไี ด้อยา่ ง 1. ทำความเขา้ ใจฉลาก 15
สารเคมอี ย่างมี ถูกต้องและปลอดภัย ป้องกัน 2. หลักการใชส้ ารเคมีทางการเกษตร
ประสทิ ธิภาพและ ตนเองจากอนั ตรายของสารเคมี 3. การทำลายภาชนะ
ปลอดภัย ทางการเกษตรได้ 4. หลักปฏิบัตใิ นการใชส้ ารเคมปี ้องกนั กำจัดศตั รูพชื
5. การปฐมพยาบาลเมอื่ ได้รับอันตรายจากสารเคมี

คำอธิบายรายวิชา มารยาทในสังคมไทย รหัสวิชา สค13015 จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดับประถมศึกษา

ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอสวรรคโลก

หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ห น้ า | 143

มาตรฐานท่ี 1.1 เขา้ ใจและปฏบิ ัตติ นตามหนา้ ที่ของการเปน็ พลเมอื งดี มีคา่ นิยมที่ดีงาม และ ธำรงรกั ษาประเพณีและ
วฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยู่ร่วมกนั ในสังคมไทย และ สังคมโลกอย่างสันตสิ ขุ

ศึกษาเกี่ยวกับเร่ืองต่อไปนี้
- ความหมาย ความสำคัญ ของมารยาทในสังคมไทย
- ประเภทของมารยาทในสังคมไทย
- วธิ เี พิม่ เสน่ห์ เข้าสังคมไทย ดว้ ยมารยาทไทย

การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้
ควรจัดในลกั ษณะของการบูรณาการทกั ษะต่าง ๆ ไปพรอ้ มกับการสร้างสถานการณ์ในการเรียนร้อู ย่าง

สรา้ งสรรค์ เพอื่ ฝึกให้ผูเ้ รียนได้ฝกึ ปฏิบตั มิ ารยาทในสงั คมไทย และมเี จตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง และนำความรไู้ ปใช้ใน
วถิ ีชวี ติ ใหเ้ หมาะสมกบั ตนเอง และชุมชน สงั คม

การวดั และประเมนิ ผล
ใช้การประเมนิ จากสภาพจริงของผู้เรยี นที่แสดงออกเกี่ยวกบั กาฝึกปฏิบตั มิ ารยาทในสังคมไทย

รายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า มารยาทในสงั คมไทย รหสั วิชา สค13015 จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดบั ประถมศึกษา

มาตรฐานท่ี 1.1 เข้าใจและปฏิบตั ติ นตามหน้าท่ขี องการเป็นพลเมอื งดี มคี ่านยิ มทดี่ ีงาม และธำรงรกั ษา ประเพณีและ

ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดบั ประถมศกึ ษา ห น้ า | 144

วฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยูร่ ่วมกนั ในสังคมไทย และ สังคมโลกอย่าง สันตสิ ุข จำนวน
(ชวั่ โมง)
ที่ หัวเรือ่ ง ตัวชีว้ ัด เนื้อหา
40
1 - ความหมายมารยาทใน 1. รูเ้ ขา้ ใจความหมายและ 1. ความหมาย ความสำคัญมารยาทไทย

สังคมไทย ความสำคญั ของมารยาทไทย 2. มารยาทในสังคมไทย

- ความสำคญั ในสังคมไทย 2. บอกหรอื อธิบายมารยาทใน - มารยาททางกาย

- มารยาทในสังคมไทย สังคมไทยได้ - มารยาทในการเคลอ่ื นไหว

-การเข้าสังคมไทยด้วย 3. สามารถปรบั ตัวเขา้ สงั คมไทย - มารยาททางกายเฉพาะดา้ น

มารยาทไทย ได้ ด้วยมารยาทไทย - มารยาททางวาจา

- มารยาทในการแนะนำ

- มารยาทในการสนทนา

- มารยาทในการใชโ้ ทรศพั ท์

- มารยาทเกยี่ วกบั นามบตั ร

- มารยาทเกย่ี วกับงานเล้ยี ง

- มารยาทในท่ีประชุม

3. การเขา้ สังคมไทยดว้ ยมารยาทไทย

- การรจู้ ักวางตวั

- การรจู้ กั ประมาณตน

- การรจู้ ัก การพดู จา

- การรู้จักควบคมุ อารมณ์

-การสำรวมกริ ิยา เมื่อเดนิ ผ่านผู้ใหญ่

- การรจู้ กั ควบคุมอริ ยิ าบถ

- ความมีนำ้ ใจไมตรอี นั ดงี าม

- การชว่ ยเหลือผู้อนื่

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอสวรรคโลก

หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ห น้ า | 145

กจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชีวติ

กจิ กรรม พฒั นาคุณภาพชีวติ หรือ กพช. เปน็ กิจกรรมที่ส่งเสริม สนบั สนุน ให้นกั ศึกษาเป็นผู้รจู้ ักคดิ รจู้ กั
ทำ เป็นผ้คู ดิ เปน็ ทำเปน็ และแกป้ ัญหาเปน็ โดยนักศกึ ษาสามารถเลือกทำกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ตามความ
สนใจ หรือความถนัด เนน้ การนำความรู้ ทักษะ และประสบการณท์ ีไ่ ดจ้ ากการศึกษาเรียนรู้ไปสกู่ ารปฏิบตั ทิ ี่
สอดคล้องกบั วถิ ี ชวี ิต เพือ่ พัฒนาตนเอง ครอบครวั ชุมชน สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ ม รวมถึงมกี ารปลกู ฝงั คุณลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์ ในแตล่ ะระดับการศกึ ษาจะตอ้ งปฏิบัติกจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตรวมแล้วไม่น้อย กว่า 200 ชั่วโมง
โดยมีขอบขา่ ยเน้อื หาทง้ั ในภาคทฤษฎี และภาคปฏบิ ตั ิ

องคป์ ระกอบกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต ประกอบด้วย
1. ความรู้พนื้ ฐาน เป็นกิจกรรมการเรียนรูท้ ม่ี ขี อบขา่ ยเนอื้ หาเกี่ยวกบั

- โครงสรา้ งและประโยชนข์ อง กพช.
- แนวทางการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน สงั คม
- กระบวนการกลมุ่
- กระบวนการคดิ เปน็ ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น และการนำไปใชใ้ นการดำเนินชีวติ
- การประสานเครือขา่ ย
- การเปน็ ผู้นำ ผู้ตาม
- การวางแผน และประโยชน์ของการวางแผน
- มนษุ ยสัมพนั ธ์
- การเขยี นโครงการ
2. กิจกรรมโครงการ เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ทใี่ ห้ผู้เรยี นได้ลงมือปฏิบตั ิจรงิ ในการทำกจิ กรรม โครงการท่ีเกย่ี วกบั การ
พัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม

ลักษณะกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ติ แบ่งเปน็ 2 ประเภท ดงั น้ี
1. กจิ กรรมการเรยี นรู้ที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะชีวติ ของตนเองและครอบครัว โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรู้แบบ

มสี ่วนร่วมของผู้เรยี น และตอ้ งพิจารณาในประเดน็ สำคัญๆ ดังน้ี
- ประโยชนท์ ่ีตนเอง ครอบครวั ไดร้ ับ ซงึ่ เป็นกจิ กรรมทสี่ ามารถสร้าง/พฒั นาทักษะการดำเนินชีวิตใหต้ นเอง /

ครอบครัวอยไู่ ด้อยา่ งมีความสขุ
- การมสี ่วนร่วมของผู้เรยี นและครอบครัว เปน็ กิจกรรมทดี่ ำเนินการแลว้ ผู้เรียนและครอบครัวเห็นความสำคญั

และให้ความร่วมมือ
- การใชก้ ระบวนการกลุ่ม เป็นกจิ กรรมทท่ี ำให้เกดิ ความรว่ มมือในการดำเนนิ งาน มีการประสานงาน ความ

รับผดิ ชอบ เสียสละ และจติ บรกิ าร

ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอสวรรคโลก

หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดบั ประถมศกึ ษา ห น้ า | 146

- ความเหมาะสมในการใชร้ ะยะเวลาในการปฏิบตั งิ านตามโครงการ
- ปจั จยั ท่ีเออ้ื ตอ่ ความสำเรจ็ ได้แก่ ความรู้ แหลง่ ข้อมลู วสั ดุ งบประมาณและการเลือกใชท้ รัพยากรได้อยา่ ง
เหมาะสม ประหยดั
- ความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ เป็นการคดิ สิง่ ใหมๆ่ ทเี่ ป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและครอบครวั

2. กิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่มุ่งเนน้ การพฒั นาชุมชนและสังคม โดยใชก้ ระบวนการมสี ว่ นร่วมของชุมชน และพิจารณา
ในประเด็นสำคญั ๆ ดังน้ี

- ประโยชน์ทีช่ มุ ชนและสังคมจะได้รับหรอื บริการท่ีช่วยเสรมิ หรือพฒั นาคุณภาพชวี ิตทางดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม
การเมือง การปกครอง ตลอดจนสนับสนนุ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั และอน่ื ๆ ที่ตอบสนอง
นโยบายการพัฒนาประเทศ

- การมสี ว่ นร่วมของคนในชุมชน เป็นกจิ กรรมท่ีดำเนนิ การแลว้ คนในชมุ ชนเห็นความสำคัญและให้ความร่วมมือ
ทง้ั ดา้ นความคดิ แรงงาน วสั ดอุ ุปกรณ์ และอน่ื ๆที่เก่ียวข้อง

- การใช้กระบวนกลมุ่ เป็นกิจกรรมทท่ี ำให้เกิดความรว่ มมือในการทำงาน เสียสละ จติ บรกิ ารตามวถิ ี
ประชาธปิ ไตย

- การใช้ระยะเวลาในการปฏบิ ตั ิงาน เป็นกิจกรรมที่ใชร้ ะยะเวลาในการปฏบิ ัตงิ านให้มีความเหมาะสมกบั
กิจกรรมโครงงานที่นำเสนอ

- ปจั จัยทเี่ อือ้ ตอ่ ความสำเรจ็ ในการจัดกจิ กรรม เช่น บุคคลากร วสั ดุ งบประมาณ และการใช้ทรพั ยากรทมี่ อี ยู่
ในชมุ ชนใหเ้ ป็นไปอย่างประหยัด และประยกุ ต์ใช้อยา่ งเหมาะสม

- มคี วามคดิ ริเริม่ สรา้ งสรรค์ เปน็ การคดิ ส่ิงใหม่ๆ ทเี่ ปน็ ประโยชน์และทำให้เกิดการพัฒนาได้อยา่ งต่อเน่อื งและ
อย่างยั่งยนื

ข้ันตอนการดำเนินกิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต มขี ้นั ตอนดังนี้
1. ผ้เู รียนลงทะเบยี นกจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ (แบบ กพช 1)
2. ผูเ้ รียนดำเนนิ การตามโครงการ พร้อมทงั้ บนั ทึกกจิ กรรม หรือการปฏิบตั งิ านเป็นรายบุคคล
3. ผ้เู รยี นจัดทำเอกสารรายงานผลการดำเนนิ งานตามโครงการสง่ เมอ่ื ส้นิ สดุ โครงการ

เกณฑก์ ารผ่านกจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชีวิต
1. ผเู้ รยี นต้องเข้าร่วมกิจกรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิตและปฏิบตั ิโครงการไมน่ อ้ ยกว่า 200 ชั่วโมง

2. โครงการต้องบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ โดยมชี ้นิ งาน ร่องรอย และหรอื เอกสารรายงาน

3. เกณฑ์การพจิ ารณาตัดสนิ การประเมนิ โครงการพฒั นาคุณภาพชีวิตผูเ้ รียนตอ้ งได้คะแนนรวมไมน่ อ้ ยกวา่

70 จงึ จะถอื ว่า “ผา่ น”

ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอสวรรคโลก

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั ประถมศกึ ษา ห น้ า | 147

การจัดหลักสูตรสถานศึกษาของกศน. อำเภอสวรรคโลก

การจัดหลกั สตู รสถานศึกษาของกศน.อำเภอสวรรคโลก ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย สอดคล้องกบั ปรัชญา
วิสัยทศั น์ พันธกิจ ของสถานศกึ ษา และปรชั ญา วิสัยทัศน์ พนั ธกจิ ของหลกั สูตรมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ของ
หลักสตู รสถานศึกษา เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของผ้เู รยี น ชุมชน สงั คม ซ่งึ โครงสรา้ งของหลักสตู รมีความ
หลากหลายสอดคล้องกับกลมุ่ เป้าหมาย

ผู้เรยี นสามารถเลือกเรยี นวชิ าเลอื กได้ตามความต้องการ ซึง่ ให้ครบตามจำนวนหน่วยกติ ตามจำนวนท่ี
กำหนดในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย โดยในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เรยี นไมน่ อ้ ยกวา่ 76 หนว่ ยกิต แบง่ เป็น
วิชาบังคับ 44 หน่วยกิต และวชิ าเลือกไมน่ ้อยกว่า 32 หนว่ ยกิต

ผเู้ รียนทกุ คนต้องเรยี นให้ครบถ้วนตามโครงสร้างของหลักสตู รการจดั การเรียนรู้ในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอน
ปลาย ตอ้ งมีการจดั ทำโครงงาน จากรายวชิ าเลอื ก อยา่ งนอ้ ย 3 หนว่ ยกิต และในการจดั การเรยี นรู้ สามารถดั ได้ทัง้
รายบคุ คลหรือรายกลุ่ม ทั้งน้ี การวางแผนจดั การเรียนรู้ให้ผเู้ รียนลงทะเบยี นเรียนในแตล่ ะภาคเรียน

วธิ ีการจดั การเรียนรู้

1. วิธกี ารจัดการเรียนรู้
การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐานมีวธิ กี ารจดั การเรยี นรูท้ ่หี ลากหลายดงั น้ี

1) การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง เปน็ วธิ กี ารจดั การเรียนรทู้ ีผ่ เู้ รยี นกำหนดแผนการเรียนร้ขู องตนเอง
ตามรายวชิ าที่ลงทะเบยี นเรยี น โดยมีครเู ปน็ ท่ีปรึกษาและให้คำแนะนำในการการศกึ ษาหาความรดู้ ว้ ยตนเอง ภมู ิ
ปัญญา ผูร้ ู้ และสือ่ ต่าง ๆ

2) การเรียนรแู้ บบพบกลุ่ม เป็นวิธกี ารจัดการเรียนรทู้ ่กี ำหนดให้ผ้เู รียนมาพบกนั โดยมีครู
เป็นผ้ดู ำเนินการให้เกดิ กระบวนการกลุ่ม เพ่อื ให้มีการอภปิ รายแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ และหาขอ้ สรปุ ร่วมกนั

3) การเรยี นรแู้ บบทางไกล เป็นวธิ กี ารจัดการเรยี นร้จู ากส่ือต่าง ๆ โดยที่ผู้เรยี นและครูจะ
สื่อสารกันทางสื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ ปน็ ส่วนใหญ่ หรือถ้ามีความจำเปน็ อาจพบกนั เปน็ ครง้ั คราว

4 ) การเรยี นร้แู บบช้ันเรียน เปน็ วธิ กี ารจัดการเรียนรทู้ ีส่ ถานศึกษากำหนดรายวชิ า เวลาเรียน
และสถานที่ ที่ชัดเจน ซง่ึ วธิ กี ารจัดการเรยี นรเู้ หมาะสำหรบั ผเู้ รียนท่มี ีเวลามาเข้าชัน้ เรียน

5 ) การเรยี นรู้ตามอธั ยาศยั เป็นวธิ กี ารจัดการเรียนรู้ที่ผูเ้ รยี นสามารถเรยี นรไู้ ด้ตามความ
ต้องการ และความสนใจ จากสือ่ เอกสาร สอื่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ หรือจากการฝึกปฏิบตั ติ ามแหล่งเรียนร้ตู ่าง ๆ
แลว้ นำความรแู้ ละประสบการณม์ าเทียบโอนเขา้ สู่หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน
พทุ ธศกั ราช 2551

6 ) การเรียนรู้จากการทำโครงงาน เป็นวิธีการจดั การเรียนรทู้ ผี่ ู้เรยี นกำหนดเรอื่ งโดยสมคั รใจ
ตามความสนใจ ความต้องการ หรอื สภาพปัญหา ที่จะนำไปส่กู ารศึกษาค้นคว้า ทดลอง ลงมอื ปฏิบัตจิ ริง และมกี าร
สรปุ ผลการดำเนินการตามโครงการ โดยมีครเู ป็นผู้ใหค้ ำปรึกษา แนะนำ อำนวยความสะดวกในการเรยี นรู้ และ
กระตุน้ เสรมิ แรงใหเ้ กิดการเรียนรู้

ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอสวรรคโลก

หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ ประถมศกึ ษา ห น้ า | 148

7 ) การเรียนรู้รปู แบบอืน่ ๆ สถานศกึ ษาสามารถออกแบบวิธีการจัดการเรียนรูใ้ นรูปแบบ
อื่นๆ ไดต้ ามความตอ้ งการของผ้เู รียน

การจัดกระบวนการเรียนรู้

การจดั กระบวนการเรียนร้ตู ามหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
มุ่งพัฒนาให้ผ้เู รยี นสูค่ วามเป็นคน “คิดเปน็ ” โดยเน้นพัฒนาทกั ษะการแสวงหาความรู้ ประยุกต์ใช้ความรู้ และสร้าง
องค์กรความรสู้ ำหรับตนเอง และชุมชน สังคม ซ่งึ กำหนดการจัดกระบวนการเรยี นรู้ กศน. หรือ ONIE MODEL ซึ่ง
เป็นกระบวนการเรียนร้ทู ี่จดั ขึน้ อยา่ งเปน็ ระบบตามปรัชญา “คิดเปน็ ” ประกอบดว้ ย 4 ข้นั ตอน ดังนี้

ขัน้ ที่ 1 กำหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O: Orientation)
ข้นั ท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ (N: New ways of learning)
ขั้นท่ี 3 ปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ (I: Implementation)
ขัน้ ที่ 4 ประเมินผลการเรียนรู้ (E: Evaluation)

ข้ันที่ 1 กำหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรียนรู้ (O: Orientation)
เปน็ การเรียนรจู้ ากสภาพ ปัญหา หรอื ความต้องการของผู้เรียน และชมุ ชน สังคม โดยให้เชือ่ มโยงกบั

ประสบการณเ์ ดมิ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสตู ร

ข้ันตอนการเรยี นรู้
1) ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกันกำหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรียนรู้ ซึ่งอาจจะไดม้ าจากสถานการณ์
ในขณะน้นั หรอื เป็นเรื่องทีเ่ กดิ ขน้ึ ในชวี ติ จริง หรอื เปน็ ประเดน็ ทกี่ ำลังขัดแยง้ และกำลงั อยใู่ นความสนใจของชมุ ชน

ซ่งึ จะช่วยกระตนุ้ ใหผ้ ้เู รียนกระตอื รอื ร้นท่ีคดิ จะหาทางออกของปญั หา หรอื ความตอ้ งการน้ัน ๆ

2) ทำความเขา้ ใจกับสภาพ ปัญหา ความต้องการในสิ่งท่ีต้องการเรียนรู้ โดยดงึ ความรแู้ ละ

ประสบการณ์เดิมของผู้เรยี น เน้นการมสี ่วนรว่ ม มกี ารแลกเปลย่ี นเรียนร้สู ะท้อนความคิดและอภิปรายโดยให้

เช่ือมโยงกบั ความรใู้ หม่
3) วางแผนการเรยี นร้ทู เ่ี หมาะสม โดยกิจกรรมการเรยี นรทู้ ีก่ ำหนดสามารถมองเหน็ แนวทางในการ

ค้นพบความรู้หรอื คำตอบได้ด้วยตนเอง

ขัน้ ที่ 2 ขน้ั แสวงหาขอ้ มลู และจัดการเรียนรู้ (N: New ways of learning)
การแสวงหาขอ้ มูล และจดั การเรยี นรู้ โดยศกึ ษา คน้ คว้าหาความรู้ และรวบรวมข้อมลู ของตนเอง ข้อมูล

ของชมุ ชน สงั คม และข้อมลู ทางวชิ าการ จากส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ทีห่ ลากหลายมีการระดมความคิดเห็น วิเคราะห์
สงั เคราะห์ข้อมลู และสรุปเป็นความรู้

ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ ประถมศึกษา ห น้ า | 149

ข้นั ตอนการเรยี นรู้
1) ผู้เรียนแสวงหาความรู้ตามแผนการเรียนรทู้ ่ีกำหนดไว้ โดยเน้นการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การเรยี นรผู้ า่ น

ประสบการณ์ กระบวนการกล่มุ ศึกษาจากผูร้ ู้ /ภูมปิ ญั ญาและวิธีอ่นื ๆ ทเ่ี หมาะสม

2) ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกนั แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ และสรุปความร้เู บอ้ื งต้น โดยใช้คำถามปลายเปิดในการชวน

คิด ชวนคยุ เปน็ เครอื่ งมือ ดว้ ยกระบวนการการระดมสมอง สะท้อนความคดิ และอภิปราย
3) ผู้เรยี นนำความรู้ทไี่ ดไ้ ปตรวจสอบความถกู ต้อง เพ่อื ประเมนิ ความเปน็ ไปไดโ้ ดยวิธตี ่าง ๆ เช่น การ

ทดลอง การทดสอบ การตรวจสอบกับผ้รู ู้

ข้นั ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ลละนำไปประยุกตใ์ ช้ ( I: Implementation)
นำความรู้ทไ่ี ดไ้ ปปฏบิ ัติ และประยกุ ตใ์ ช้ให้สอดคล้องกบั สถานการณ์ เหมาะสมกับวัฒนธรรมและสงั คม

ขั้นตอนการเรยี นรู้ ผเู้ รียนปฏบิ ัตติ ามขน้ั ตอน โดยสงั เกตปรากฏการณ์ จดบนั ทึก และสรุปผล เกบ็ รวบรวมไวใ้ นแฟ้ม

สะสมงาน ระหวา่ งดำเนินการต้องมีการตรวจสอบหาข้อบกพรอ่ ง และรวบรวมไวใ้ นแฟ้มสะสมงาน

ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
ประเมิน ทบทวน แกไ้ ขขอ้ บกพร่อง ผลจากการนำความรไู้ ปประยุกตใ์ ช้แลว้ สรุปเปน็ ความรู้ใหม่ พร้อมกับ

เผยแพรผ่ ลงานขนั้ ตอนการเรยี นรู้ ครู และผเู้ รยี นนำแฟ้มสะสมงาน และผลงานทไี่ ด้จากกการปฏิบัตมิ าใช้เปน็
สารสนเทศในการประเมินคุณภาพการเรยี นรู้

1) ครแู ละผูเ้ รยี นรว่ มกนั สร้างเกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพการเรียนรู้
2) ครู ผ้เู รยี นและผเู้ กีย่ วข้องร่วมกนั ประเมนิ พัฒนาการเรียนรใู้ ห้เป็นไปตามเกณฑค์ ุณภาพการเรยี นรู้
การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ทง้ั 4 ขัน้ ตอนเป็นวงจรของกระบวนการเรยี นรู้ ตามปรัชญาคิดเปน็ ซง่ึ
สถานศึกษาสามารถปรบั ใช้ ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามสภาพของรายวิชา หรอื เงอ่ื นไขอ่ืน ๆ ตามความ
ต้องการของผเู้ รียน

ส่ือการเรียนรู้

ในการจัดการเรียนร้เู น้นใหผ้ ูเ้ รียนแสวงหาความรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง โดยการใช้สอื่ การเรยี นรทู้ ่ี

หลากหลาย ได้แก่ สื่อสิ่งพมิ พ์ สอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์ ส่อื บคุ คล ภมู ปิ ญั ญา แหล่งเรยี นรูท้ ่ีมีอยู่ในทอ้ งถิ่น ชมุ ชนและ
แหลง่ เรยี นรู้อน่ื ๆ ผู้เรียน ครู สามารถพัฒนาสอ่ื การเรยี นรูข้ ้ึนเองหรอื นำส่อื ตา่ ง ๆ ที่มอี ย่ใู กลต้ ัวและข้อมลู

สารสนเทศทีเ่ ก่ยี วขอ้ งมาใช้ในการเรียนรู้ โดยใชว้ ิจารณญาณในการเลือกใช้สื่อตา่ ง ๆ ซ่ึงจะชว่ ยสง่ เสรมิ ให้การเรียนรู้

เปน็ ไปอยา่ งมคี ณุ คา่ นา่ สนใจ ชวนคดิ ชวนตดิ ตาม เข้าใจง่าย เปน็ การากระตนุ้ ใหผ้ เู้ รยี นร้จู ักวธิ ีการแสวงหา

ความรู้ เกิดการเรียนรู้อยา่ งกว้างขวาง ลกึ ซง้ึ และตอ่ เน่ืองตลอดเวลา

การเทยี บโอน

ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั ประถมศกึ ษา ห น้ า | 150

สถานศึกษาตอ้ งจดั ให้มกี ารเทียบโอนผลการเรียน หรือเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ของผู้เรียน ให้
เปน็ สว่ นหน่งึ ของผลการเรยี นตามหลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 โดย
สถานศกึ ษาตอ้ งจดั ทำระเบยี บหรอื แนวปฏบิ ัติการเทยี บโอนใหส้ อดคล้องกบั แนวทางการเทยี บโอนที่สำนกั งาน กศน.
กำหนด

การวัดผลและประเมินผล

กศน.อำเภอสวรรคโลก ได้จัดทำระเบยี บวา่ ด้วยการประเมินผลการเรียน โดยมแี นวคิด หลกั การ
ดังต่อไปนี้

แนวคิด
การวัดผลและประเมนิ ผลผูเ้ รียน กศน.อำเภอสวรรคโลก ตอ้ งใหม้ ีการวดั ผลขณะจัดการเรียนรโู้ ดยวิธกี าร
วัดผลต้องหลากหลายวธิ ี เน้นการปฏิบัติจรงิ สอดคลอ้ งกับธรรมชาติรายวชิ า และผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวัง ในแต่ละ
สาระการเรยี นร้แู ละวดั ผลรวมความสำเรจ็ เม่ือเสรจ็ สิ้นในแตล่ ะภาคเรียน โดยยึดแนวทางตารางการวเิ คราะห์ของ
นกั งาน กศน. ตลอดจนสอดคล้องกบั ระดบั การศกึ ษาของแตล่ ะสาระการเรยี นรู้

หลกั การ
1. กศน.อำเภอสวรรคโลก เปน็ ผรู้ บั ผิดชอบการวัดและประเมินผลการเรยี นของผู้เรยี น
2. เปิดโอกาสให้ผเู้ ก่ียวข้องมสี ่วนร่วมในการวัดและประเมินผลการเรยี น
3. ใหม้ กี ารประเมนิ ผลการเรียนเปน็ รายวิชาตามโครงสรา้ งหลักสูตร
4. ใหด้ ำเนินการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ควบคไู่ ปกบั กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยตอ้ ง
ดำเนนิ การด้วยวธิ กี ารและเคร่อื งมือทห่ี ลากหลาย ให้อดคล้องกบั ระดบั การศึกษาและธรรมชาตริ ายวิชารวมทัง้ ผล
การเรียนรู้ท่คี าดหวงั
5. ต้องเปิดโอกาสให้มกี ารเทียบโอนผลการเรยี นระหวา่ งสถานศึกษาและรูปแบบการศึกษาต่างๆ
6. การวดั และประเมนิ ผลตอ้ งไดม้ าตรฐานและมคี ุณภาพตามที่หน่วยงานต้นสังกดั กำหนด

กรอบการวัดและประเมินผล
3.1 การวัดและประเมนิ ผลรายวิชา กศน.อำเภอสวรรคโลก ตอ้ งดำเนินการวดั และประเมนิ ผล เพอื่ ดู

ความกา้ วหนา้ ท้งั ด้านความรู้ ทกั ษะเจตคติ คุณธรรม จรยิ ธรรม ด้วยวธิ ีการที่หลากหลาย สอดคล้องกบั ธรรมชาติ
ของรายวชิ า โดยสถานศึกษาหรือครเู ป็นผดู้ ำเนินการวัดผล นอกจากนี้ กศน.อำเภอสวรรคโลกตอ้ งประเมนิ ผลปลาย
ภาคหรอื ประเมนิ ผลรวมเปน็ ไปตามตารางการวิเคราะหห์ ลักสตู รที่สำนักงาน กศน.กำหนด

เกณฑ์การวัดและประเมินผลรายวชิ า กำหนดเปน็ 8 ระดับ ดังนี้
ใหค้ ะแนนรอ้ ยละ 80 – 100 ใหร้ ะดับ 4 หมายถงึ ดเี ยย่ี ม

ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับ ประถมศึกษา ห น้ า | 151

ใหค้ ะแนนร้อยละ 75 – 79 ใหร้ ะดบั 3.5 หมายถงึ ดีมาก
ใหค้ ะแนนร้อยละ 70 – 74 ใหร้ ะดบั 3 หมายถึง ดี
ใหค้ ะแนนรอ้ ยละ 65 – 69 ใหร้ ะดบั 2.5 หมายถึง ค่อนข้างดี
ใหค้ ะแนนรอ้ ยละ 60 – 64 ใหร้ ะดบั 2 หมายถงึ ปานกลาง
ใหค้ ะแนนรอ้ ยละ 55 – 59 ใหร้ ะดับ 1.5 หมายถึง พอใช้
ใหค้ ะแนนร้อยละ 50 – 54 ใหร้ ะดบั 1 หมายถงึ ผ่านเกณฑข์ น้ั ตำ่ ท่กี ำหนด
ใหค้ ะแนนร้อยละ 0 – 49 ใหร้ ะดบั 0 หมายถงึ ต่ำกวา่ เกณฑ์ข้นั ต่ำที่กำหนด

การประเมินคณุ ธรรม
กศน.อำเภอสวรรคโลก ตอ้ งแตง่ ตั้งคณะกรรมการประเมินคุณธรรมเบื้องตน้ โดยยดึ หลักการกระตนุ้

จิตสำนึกและใหม้ ีการปฏบิ ัตอิ ย่างยัง้ ยืน ด้วยวธิ กี ารสอนในระดบั รายวิชาและกจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ คุณธรรม

เพอ่ื การพฒั นาคนท่สี ำคัญ ไดแ้ ก่ ความสะอาด ความ สภุ าพ ความกตัญญกู ตเวที คุณธรรมเพอ่ื การพฒั นาการ

ทำงาน ได้แก่ ความขยนั ประหยัด ความซอ่ื สัตย์ และคุณธรรมเพ่อื การพัฒนาการอยรู่ ่วมกันในสังคมไดแ้ ก่

ความสามัคคี ความมีนำ้ ใจ และความมวี ินัย

เกณฑ์การประเมินเกณฑก์ ารประเมนิ คุณธรรม มดี งั นี้
ดมี าก หมายถงึ ผเู้ รียนมพี ฤติกรรมตามตัวบง่ ช้ี รอ้ ยละ 90 ขน้ึ ไป ของพฤติกรรมบง่ ช้ใี นแต่ละคุณธรรม
ดี หมายถงึ ผ้เู รียนมีพฤตกิ รรมตามตัวบง่ ช้ี รอ้ ยละ 70-89 ของพฤติกรรมบ่งชใี้ นแตล่ ะคณุ ธรรม
พอใช้ หมายถึง ผู้เรยี นมพี ฤตกิ รรมตามตวั บ่งชี้ ร้อยละ 50-69 ของพฤตกิ รรมบง่ ชีใ้ นแตล่ ะคณุ ธรรม
ปรบั ปรงุ หมายถงึ ผูเ้ รียนมพี ฤติกรรมตามตวั บ่งชี้ รอ้ ยละ 0-49 ของพฤตกิ รรมบง่ ช้ีในแต่ละคณุ ธรรม

ระยะเวลาการประเมิน
ใหด้ ำเนนิ การประเมนิ นกั ศึกษาเป็นรายบคุ คลในระหว่างภาคเรียนและให้สรปุ ผลการประเมนิ ในแต่ละภาค

นำผลการประเมนิ ไปใชใ้ นการพัฒนาคณุ ธรรมผูเ้ รยี นในภาคเรียนถดั ไป และให้ใช้ผลการประเมินในภาคเรียนสดุ ท้าย
ก่อนจบระดับการศกึ ษา ในการนำไปประกอบการศกึ ษาต่อในระดบั ที่สงู ขึ้น

ในกรณที ีน่ กั ศกึ ษายา้ ยสถานศึกษา ให้สถานศึกษาจดั ทำรายละเอียดผลการประเมินในแต่ละภาคเรยี นแนบ
พรอ้ มกบั ระเบยี นแสดงผลการเรยี น

สถานศึกษาพงึ แจง้ ผลการประเมินในระหวา่ งภาคเรยี นใหน้ กั ศกึ ษาทราบถงึ ระดับผลการประเมนิ ท่ีตนเอง
ไดร้ บั และมขี อ้ เสนอแนะหรอื จัดกจิ กรรมให้นกั ศกึ ษาไดพ้ ัฒนาตนเองใหบ้ รรลตุ ามเกณฑท์ ี่กำหนด

การประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชีวิต

ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ ประถมศึกษา ห น้ า | 152

กศน.อำเภอสวรรคโลกต้องประเมินกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพชีวติ ท่เี กดิ ขึ้นในผูเ้ รียนดา้ นการพฒั นาตนเอง
และครอบครัวและการพฒั นาชมุ ชนและสังคม จำนวนไมน่ อ้ ยกวา่ 200 ช่ัวโมง ในแต่ละระดบั การศกึ ษา โดยผา่ น
การประเมินแบบมีส่วนรว่ ม

การประเมินคณุ ภาพการศึกษานอกรระบบระดบั ชาติ
กศน.อำเภอสวรรคโลกตอ้ งจดั ใหผ้ ู้เรียนทุกคน เขา้ รับการประเมนิ คุณภาพศึกษานอกระบบระดบั ชาติ ใน

ภาคเรยี นสดุ ท้ายของการศึกษามธั ยมศึกษาตอนปลาย โดยตอ้ งนำผลการประเมนิ คณุ ภาพการศึกษานอกระบบ

ระดับชาติมาปรับปรงุ พฒั นาผ้เู รียน และปรับปรงุ การจดั การเรยี นรขู้ องครู

เกณฑ์การจบหลกั สูตร

งานทะเบยี นจะออกหลักฐานการจบหลกั สูตรใหก้ ับผเู้ รยี นตามเกณฑ์การจบหลกั สตู รโดยผูเ้ รียนเรียนครบ
ตามโครงสร้างของหลักสตู รแต่ละระดบั ดังนี้

1.ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ การเรียนรรู้ ายวชิ าในแต่ละระดับการศกึ ษาตามโครงร้างหลักสูตร คือ
1.1 ระดบั ประถมศึกษา ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต แบ่งเปน็ วชิ าบังคบั 36 หน่วยกิต และวชิ า

เลือก ไมน่ อ้ ยกว่า 12 หน่วยกิต
1.2 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ไมน่ ้อยกว่า 56 หน่วยกิต แบ่งเปน็ วชิ าบังคบั 40 หน่วยกิต

และวชิ าเลือก ไม่นอ้ ยกวา่ 16 หน่วยกิต
1.3 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ไมน่ ้อยกวา่ 76 หนว่ ยกิต แบ่งเปน็ วชิ าบงั คบั 44 หน่วยกิต

และวิชาเลือก ไมน่ ้อยกว่า 32 หนว่ ยกติ
2. ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพชีวติ (กพช.) ไม่นอ้ ยกว่า 200 ชวั่ โมง
3. ผ่านเกณฑก์ ารประเมินคุณธรรมในระดบั พอใช้ขนึ้ ไป
4. เข้ารบั การประเมินคุณภาพการศกึ ษานอกระบบระดับชาติ
5. ผา่ นการทดสอบคอมเบือ้ งต้น
6. ผา่ นการเข้าค่ายฯ
7. ผ่านการประเมนิ โครงการ

เอกสารหลกั ฐานการศึกษา

กศน.อำเภอสวรรคโลก ใช้เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา ไดแ้ ก่

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสวรรคโลก

หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ ประถมศึกษา ห น้ า | 153

1. ระเบียบแสดงผลการเรยี น
2. หลกั ฐานแสดงวฒุ ิการศึกษา (ประกาศนยี บัตร) และ
3. แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา
นอกจากน้ีเอกสารหลักฐานการศึกษาอนื่ ๆ กศน.อำเภอสวรรคโลก ตอ้ งจัดทใหส้ อดคลอ้ งกับกิจกรรมหรอื
โครงการตามโครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศึกษาของกศน.อำเภอสวรรคโลก เช่น
1. บนั ทึกผลการพฒั นาผู้เรียน (กศน.4)
2. แบบรายงานสรปุ ผลการเรยี น (กศน.5)
3. แบบอนมุ ัตกิ ารจบหลักสูตร
4. แบบรายงานแสดงผลการเรียนเฉลยี่ (GPA) ของผูเ้ รียนระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
5. แบบรบั รองผลการเรยี น (กศน.6)
6. อ่นื ๆ

การบริหารหลักสูตรสถานศึกษา

กศน.อำเภอสวรรคโลก ต้องมแี ผนการบริหารหลักสูตรสถานศกึ ษาทีเ่ น้นการบรหิ ารแบบมีส่วนรว่ มของ
ผู้เก่ียวขอ้ งควบคกู่ บั การบรหิ ารอย่างเปน็ ระบบ(PDCA) ดงั น้ี

1. ขน้ั วางแผน (Plan) มกี ิจกรรมทรี่ ะบไุ ว้ในแผนดงั นี้
1.1 ระบบร่างหลักสูตร
1.1.1 รวบรวมข้อมูลทเ่ี ป็นสิง่ กำหนดหลักสตู ร
1.1.2 จัดทำร่างหลักสูตรสถานศึกษาภาพรวม
1.1.3 จดั ทำประชาพจิ ารณ์ และปรับปรงุ หลักสูตร
1.1.4 ตรวจสอบคุณภาพหลกั สตู รโดยผ้เู ชยี่ วชาญ
1.1.5 จัดทำหลกั สูตรสถานศึกษาระดับชนั้ เรยี น
1) หนว่ ยการเรยี นรู้
2) แผนการจดั การเรยี นรู้
1.1.6 ตรวจสอบคุณภาพหลักสูตรสถานศกึ ษาระดับชนั้ เรยี น โดยคณะกรรมการ

ตรวจสอบคุณภาพสถานศกึ ษาพร้อมปรับปรุง
1.2 ระบบใช้หลกั สตู ร
1.2.1 ขออนมุ ัติใชห้ ลกั สตู รสถานศกึ ษาระดบั ช้ันเรียน
1) ผา่ นความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษา
2) ไดร้ บั การอนมุ ตั จิ ากผบู้ ริหารสถานศกึ ษาประกาศให้ใชห้ ลักสูตรสถานศกึ ษา
1.2.2 ประชาสัมพันธห์ ลกั สูตร
1.2.3 พัฒนาบุคลากร
1.2.4 จดั สรรงบประมาณสนบั สนุน

ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอสวรรคโลก

หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ห น้ า | 154

1) กจิ กรรมในระบบรา่ งหลกั สูตร
2) จัดสรรงบประมาณสนบั สนุนกิจกรรมในระบบใช้หลักสูตร
3) จัดสรรงบประมาณสนบั สนนุ กิจกรรมในระบบประเมนิ ผลหลักสูตร
1.2.5 จัดเตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ อาคาร สถานที
1.2.6 จัดตารางการพบกลุ่มจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
1.2.7 ดำเนนิ การใช้หลกั สูตรสถานศกึ ษาตามแผน
1.2.8 นเิ ทศ ติดตาม ตรวจสอบการใชห้ ลกั สตู รสถานศกึ ษา
1.3 ระบบประเมนิ หลกั สตู ร
กจิ กรรมในระบบประเมนิ ผลหลกั สูตร
1.3.1 ประเมนิ เอกสารหลกั สตู ร
1) ประเมนิ เอกสารหลกั สูตรระดบั สถานศกึ ษา (ปีท่ื 3 ของการใชห้ ลักสูตร
สถานศึกษาไดแ้ ก่ ปีการศกึ ษา 2555)
2) ประเมนิ เอกสารหลักสูตรระดับช้นั เรยี น ทกุ ภาคการศกึ ษา
1.3.2 ประเมนิ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนของผเู้ รียนทกุ ภาคเรียน
1.3.3 ประเมินผลผสู้ อนทกุ ภาคการศกึ ษา
1.3.4 ประเมินการบริหารหลกั สูตร (ผู้บรหิ ารและเจา้ หน้าที่ผู้รบั ผิดชอบ)
1.3.5 ประเมนิ ตดิ ตามผลเสร็จการศกึ ษาของผเู้ รยี นทจี่ บไปแลว้
1.3.6 เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ของขอ้ 1.3.1 – 1.3.5
1.3.7 วิเคราะห์ข้อมลู
1.3.8 รายงานผลการประเมนิ หลกั สตู ร
(1) ประเมินเอกสารหลกั สูตร
(2) ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นของผูเ้ รยี น
(3) ประเมนิ ครู
(4) ประเมนิ การบริหารหลักสตู ร
(5) ประเมนิ ติดตามผลสำเร็จของผู้เรียนที่จบไปแล้ว
2. ขัน้ ปฏิบัติ (Do) ผู้บรหิ าร เจา้ หนา้ ทีผ่ รู้ ับผิดชอบ และครู นำแผนและกิจกรรมที่กำหนดในร่างหลักสตู ร
ปฏิบัติตามปฏิทนิ ท่กี ำหนดไว้
3.ข้ันตรวจสอบคุณภาพ (Chcek) ผู้บรหิ ารหลกั สูตรติดตามนิเทศกจิ กรรมท่ีระบไุ ว้
4.ขัน้ ตอนการปรับปรุงและพฒั นา (Act) นำขอ้ มูลจากการตรวจอบตดิ ตามมาตรวจอบมาตรฐานการศกึ ษา

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอสวรรคโลก

คณะผจู้ ดั ทำ

ท่ปี รกึ ษา นายจิรพงศ์ ผลนาค ผอ.กศน.อำเภอสวรรคโลก
คณะทำงาน
1. นายพลั ลภ ฮุนพานิช ครู
2. นางสมจติ ร์ โตนชัยภูมิ ครอู าสาสมัคร
3. นางสาววชิรญา ศรสี วัสด์ิ ครู กศน.ตำบล
4. นายกลยุทธ รจนา ครู กศน.ตำบล
5. นางสาวธิดารัตน์ จรยิ า ครู ศรช.
6. นายสมเกยี รติ ใจหนกั ครู ศรช.

รวบรวมและจัดพมิ พ์

นางสาวนงค์นุช บัวเพ็ง

ออกแบบปกรปู เลม่

นางสาวนงค์นชุ บวั เพ็ง


Click to View FlipBook Version